00:00:00 → 00:00:02 จริงๆคนที่แข็งแรงมาตลอดอ่ะจะชอบละเลย
00:00:02 → 00:00:04 ชีวิตไม่รู้ว่าความป่วยคืออะไรพอเราไม่
00:00:04 → 00:00:07 ระวังมันจะทรุดเราก็จะป่วยกำเริบหลายๆโรค
00:00:07 → 00:00:09 ได้ง่ายทำไมเราโมโหเรารู้สึกว่าโอ๊ยปวด
00:00:09 → 00:00:12 ขมับหูอื้อขึ้นมามันมันแรงดันขึ้นทำอะไร
00:00:13 → 00:00:15 ก็จะสมาธิไม่ดีถ้าเกิดว่าเราอ่ะเป็นคนที่
00:00:15 → 00:00:18 มีนิสัยคิดมากจะกินอันดีหรือจะกินอันดี
00:00:18 → 00:00:20 หรือว่าคิดมากทุกเรื่องการเจริญอาหารของ
00:00:20 → 00:00:22 เราจะแย่ลงยิ่งกินยิ่งอ้วนแต่พอหยุดกิน
00:00:22 → 00:00:24 ปุ๊บก็ยิ่งอ้วนเข้าไปอีกทำก็พะเขาว่าอ่อน
00:00:24 → 00:00:26 แอร์ไปแล้วถ้าเกิดว่าเราดูแลอารมณ์ได้ดี
00:00:26 → 00:00:28 สัมพันธ์กับการนอนที่ดีก็ทำให้ภูมิกันของ
00:00:28 → 00:00:30 เราฟื้นฟูขึ้นมา
00:00:30 → 00:00:35 เกลาแก้โรคเกลานิสัยห่างไกล
00:00:35 → 00:00:38 โรคสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะวันนี้อยู่กับคุณ
00:00:39 → 00:00:41 หมอการแพทย์แผนจีนนะคะเดี๋ยวรบกวนคุณหมอ
00:00:41 → 00:00:43 แนะนำตัวเองนิดนึงค่ะใช่ค่ะแพทย์จีน
00:00:43 → 00:00:46 ณัฐการโสภาวิการค่ะปกติก็จะไม่มีคนรู้จัก
00:00:46 → 00:00:50 ชื่อจริงจะเรียกว่าเป็นหมอการอ่าคุณหมอมี
00:00:50 → 00:00:53 ช่องด้วยใช่ค่ะก็คือตอนนี้ก็จะเปลี่ยน
00:00:53 → 00:00:56 เป็นชื่อเพจเพจ Facebook ก็จะเป็นนักการ
00:00:56 → 00:00:59 โอสถค่ะใน tiktok ก็จะเป็นดรการมู่จื่อ
00:00:59 → 00:01:02 ถังอ่าหลายๆคนอาจจะเคยเห็นคทนของคุณหมอใน
00:01:02 → 00:01:04 tiktok ใช่เดี๋ยววันนี้เรามาคุยกันยาวๆ
00:01:04 → 00:01:07 เลยคำถามแรกค่ะคุณหมอแน่นอนเดี๋ยววันนี้
00:01:07 → 00:01:09 เราอยากจะมาคุยกันในเรื่องของการสร้าง
00:01:09 → 00:01:12 ภูมิคุ้มกันอ่าในทางศาสตร์การแพทย์แผนจีน
00:01:12 → 00:01:14 ค่ะหนูอยากรู้ว่าเราสามารถที่จะสังเกต
00:01:14 → 00:01:17 ร่างกายจากภายนอกได้มคะเช่นผิวพรรณหน้าตา
00:01:17 → 00:01:19 ผมอะไรอย่างเงี้ยว่าตอนนี้เรามีสุขภาพยัง
00:01:19 → 00:01:22 ไงบ้างถ้าเกิดว่าสังเกตจากภายนอกอ่ะจริงๆ
00:01:22 → 00:01:25 ร่างกายของเราข้างในเริ่มสุดแล้วอ่ะเราจะ
00:01:25 → 00:01:28 มีอวัยวะทั้ง 5 ที่สะท้อนออกทางร่างกาย
00:01:28 → 00:01:31 ภายนอกยกตัวอย่างเสีหน้าถ้าเกิดว่าเราดู
00:01:31 → 00:01:33 แลตัวเองไม่ดีสีหน้าจะหมองค้ำได้ง่ายไม่
00:01:33 → 00:01:35 ใช่ตากแดกแล้วดำนะบางคนก็คือไม่ได้ตากแดก
00:01:36 → 00:01:39 แต่เขาก็จะดูหมองค้ำอมเขียวอมม่วงหรือว่า
00:01:39 → 00:01:42 อยู่ๆหน้าแดงค้างไว้ไม่หายซะทีก็จะแสดง
00:01:42 → 00:01:45 ถึงภายในส่วนใหญ่สีหน้าจะแสดงถึงหัวใจหัว
00:01:45 → 00:01:48 ใจจะดูแลเรื่องเลือดและหลอดเลือดทถ้าเกิด
00:01:48 → 00:01:50 ภูมิคุ้มกันเนี่ยหลายคนจะคิดถึงปอดใช่
00:01:50 → 00:01:53 มั้ยคะปอดเนี่ยเขาจะดูแลสิ่งสะท้อนที่มอง
00:01:54 → 00:01:55 ว่าปอดแข็งแรงก็จะเป็นเรื่องของผิวหนัง
00:01:55 → 00:01:58 แล้วก็ขนถ้าเกิดว่าผิวหนังขนของเราแข็ง
00:01:58 → 00:02:01 แรงดีเนี่ยเราจะสามารถต้านทานต่อสภาอากาศ
00:02:01 → 00:02:05 แวดล้อม PM 2.5 อากาศร้อนอากาศเย็นเราจะ
00:02:05 → 00:02:07 ไม่แพ้ง่ายแต่ถ้าเกิดว่าปอดอ่อนแอเนี่ย
00:02:07 → 00:02:09 ไอ้พวกเยมันก็จะทำงานได้ไม่ดีเราโดนนิด
00:02:09 → 00:02:12 โดนหน่อยก็จะแพ้อันนี้ก็จะเป็นตัวสังเกต
00:02:12 → 00:02:15 ว่าปอดเริ่มไม่ดีผมของเราเนี่ยจะสะท้อนไต
00:02:15 → 00:02:19 อืใช่ค่ะถ้าเกิดว่าผมร่วงผมขาวค่ะจริงๆ
00:02:19 → 00:02:22 ถ้าเกิดว่าอาการแบบเนี้ยไตกับตับเขาจะทำ
00:02:22 → 00:02:25 งานสัมพันธ์กันมันจะมีความเครียดนอนไม่พอ
00:02:25 → 00:02:27 ไตเนี่ยจะเป็นตัวเก็บสารจริงสารจริงจะ
00:02:27 → 00:02:30 เป็นเป็นคำเรียกของแพทยแผนจีนจะเป็นตัว
00:02:30 → 00:02:33 หล่อเลี้ยงสร้างเซลล์ร่างกายนี้พอสารจริง
00:02:33 → 00:02:35 ของไตอ่อนแอไปเนี่ยเขาก็จะไม่สามารถช่วย
00:02:35 → 00:02:37 ไปผลิตเลือดเลือดกับสารจริงเขาจะเป็น
00:02:37 → 00:02:41 เหมือนคู่กันยพอตับเก็บเลือดได้ไม่ดีผม
00:02:41 → 00:02:43 เนี่ยเป็นส่วนเกินของเลือดเลือดไม่พอ
00:02:43 → 00:02:47 เลือดไม่ดีผมมันก็เลยแห้งขาดร่วงหรือขาว
00:02:47 → 00:02:49 ได้ง่ายโดยเฉพาะคนที่วัยทำงานเริ่มเครียด
00:02:49 → 00:02:52 นอนไม่พอมันมันก็จะแสดงถึงเส้นผมที่
00:02:52 → 00:02:55 เปลี่ยนไปอพอรออายุเยอะขึ้นผมก็เลยบังลง
00:02:55 → 00:02:57 ได้ง่ายใช้หัวสมองเยอะก็จะบังลงได้ง่ายอ
00:02:57 → 00:03:00 อันนี้หนูถามเพิ่มค่ะบางคนยังไม่ได้อายุ
00:03:00 → 00:03:02 เยอะเลยอ่ะแต่ผมหอกแล้วผมข่าวแล้วถ้าใน
00:03:02 → 00:03:05 ปัจจุบันเนี่ยเขาจะพูดถึง 2 อันอันแรกก็
00:03:05 → 00:03:08 คือพันธุกรรมอือ่าแต่จริงๆแล้วถ้าเราอยาก
00:03:08 → 00:03:11 ดูแลเส้นผมของเราซึ่งบางคนเนี่ยพอดูแลตัว
00:03:11 → 00:03:14 เองได้ดีผมขาวก็กลับมาดำได้โดยเฉพาะในวัย
00:03:14 → 00:03:17 เด็กแล้วเราบอกเอ้ยทำไมอายุแค่ 10 กว่า 20
00:03:17 → 00:03:19 กว่าทำไมผมขาวแล้วเขาดูแลพฤติกรรมได้ดี
00:03:19 → 00:03:23 เนี่ยผมที่จขาวสามารถกลับมาดำได้งการที่
00:03:23 → 00:03:26 ดูแลเส้นผมของเราให้กลับมาดกดำแล้วก็ไม่
00:03:26 → 00:03:29 แห้งก็ต้องดูแลตับกับไตอย่างที่กล่าไป
00:03:29 → 00:03:31 เมื่อสักคู่นี้ตับเป็นตัวเก็บเลือดแล้วก็
00:03:31 → 00:03:33 ไตเป็นตัวเก็บสารจริงถ้าเกิดว่าตัวของตับ
00:03:33 → 00:03:35 เองเนี่ยเขาจะสัมพันธ์กับเรื่องอารมณ์
00:03:35 → 00:03:39 แล้วก็การนอนหลับงั้นเด็กๆสมัยนี้ก็คือ
00:03:39 → 00:03:41 อาจจะใช้เสษตาเยอะก็จะเป็นการทำลายเลือด
00:03:41 → 00:03:43 เลือดไม่พอก็จะไม่มีพลังงานเพียงพอไป
00:03:43 → 00:03:46 สร้างเป็นผมอเพราะว่าภายในเยังใช้ไม่พอ
00:03:46 → 00:03:48 เลยเขาก็จะภายนอกของเราอ่ะมันก็เลยดูชรา
00:03:48 → 00:03:52 ก่อนไวใช่เขาจะดึงพลังงานไปไปซ่อมแซมข้าง
00:03:52 → 00:03:53 ในเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าเราอยากให้ปรับ
00:03:54 → 00:03:56 ให้ผมกลับมาสวยงามเนี่ยก็ต้องปรับ
00:03:56 → 00:03:58 พฤติกรรมการกินการนอนการใช้ชีวิตก็จะทำ
00:03:58 → 00:04:01 ให้ร่างกายของเรากลับมาคือเขาบอกว่าภาย
00:04:01 → 00:04:03 ภายในสู่ภายนอกใช่มั้ย้าภายในมันพอมันก็
00:04:03 → 00:04:06 จะไปเลี้ยงภายนอกได้พอนิยามของคำว่าสวย
00:04:06 → 00:04:09 จากภายในสู่ภายนอกที่แดใช่ถ้าเกิดว่าข้าง
00:04:09 → 00:04:11 ในมันเต็มแล้วจริงๆเขาก็จะไปสร้างภายนอก
00:04:11 → 00:04:13 ให้เราได้ดีเมื่อสักครู่นี้น้องถามถึง
00:04:13 → 00:04:16 เรื่องผิวหนังก็คือพอผิวหนังของเราอักเสบ
00:04:16 → 00:04:19 เนี่ยจะเป็นเรื่องของปอดใช่มั้ยคะทีเนี้ย
00:04:19 → 00:04:22 ปอดที่แพ้ได้ง่ายเนี่ยเขาก็จะย้อนกลับไป
00:04:22 → 00:04:25 ว่าเส้นลมปรานอะไรที่ทำร้ายปอดบ้างก่อน
00:04:25 → 00:04:28 หน้าที่จะถึงเส้นลมปานของปอดเนี่ยจะเป็น
00:04:28 → 00:04:30 เส้นลปานของตับซึ่งเป็นตัวตัวเก็บเลือด
00:04:30 → 00:04:32 ถ้าเกิดว่าเรานอนได้ไม่ดีมีความเครียดก็
00:04:32 → 00:04:35 จะกระตุ้นทำให้ภูมิคุ้มกันของเราอ่อนแออ
00:04:35 → 00:04:38 จะเกิดความอักเสบได้มากในร่างกายแล้วเขา
00:04:38 → 00:04:41 ก็จะปะทุออกทางผิวหนังแล้วก็จะมีพวกลมพิษ
00:04:41 → 00:04:44 ผื่นคันถ้าเกิดว่าคนที่เป็นเลือดกำเดาไหล
00:04:44 → 00:04:47 หรือว่าแพ้อากาศง่ายพักผ่อนไม่พอก็จะทำ
00:04:47 → 00:04:50 ให้อาการเหล่าเนี้ยกำเริบได้ง่ายจริงๆก็
00:04:50 → 00:04:53 คือสัมพันธ์กันหมดเลยเนาะข้างในใช่ใช่ค่ะ
00:04:53 → 00:04:56 อ่าเมื่อกี้ไปสังเกตหลายๆอย่างแล้วเนาะที
00:04:56 → 00:04:59 นี้พูดถึงการแพร่แผนจีนเราจะได้ยินกันว่า
00:04:59 → 00:05:02 การจับชีพจรนะคะคุณหมอจะสามารถบอกโรคหรือ
00:05:02 → 00:05:05 ว่าบอกภายในของเราได้ทำไมถึงเป็นอย่าง
00:05:05 → 00:05:07 นั้นนะคะเอ่อชีพจรเนี่ยเป็นการจับเส้น
00:05:07 → 00:05:11 เลือดแล้วก็ดูการเต้นของเลือดงั้นหัวใจ
00:05:11 → 00:05:13 เนี่ยเราจะเปรียบเป็นเ่อห่องเต้ของร่าง
00:05:13 → 00:05:16 กายหัวใจดูแลหลอดเลือดและเลือดที่เราจับ
00:05:16 → 00:05:19 เนี่ยเราจะจับสิ่งเป็นของหัวใจอ่ะเส้น
00:05:19 → 00:05:21 เลือดของเขาเนี่ยจะแพร่กระจายทั่วทางร่าง
00:05:21 → 00:05:24 กายข้างซ้ายข้างขวาเนี่ยจะจับบอกไม่
00:05:24 → 00:05:27 เหมือนกันใช่ค่ะถ้าเกิดว่าเป็นข้างซ้าย
00:05:28 → 00:05:32 เนี่ยก็คือเป็นจุดของหัวใจของตับแล้วก็
00:05:32 → 00:05:35 ของไตแล้วถ้าเป็นข้างขวาเนี่ยจะจับของปอด
00:05:35 → 00:05:38 ของม้ามแล้วก็ของไตไตจะมีไตยินกับไตหยาง
00:05:38 → 00:05:41 พลังหยินพลังหยางแต่คนที่จะจับเรารู้ก็
00:05:41 → 00:05:43 ต้องเป็นคุณเป็นคุณหมอใช่แต่ว่าได้ยินว่า
00:05:43 → 00:05:46 แพทแผ่นไทยก็มีเหมือนกันนะใช่ค่ะแล้วก็
00:05:46 → 00:05:49 แต่ละจุดเนี่ยแบบความตึงของเส้นลมปานก็จะ
00:05:49 → 00:05:51 บอกถึงความเครียดได้แล้วชีพจรที่จับแล้ว
00:05:51 → 00:05:54 เจอบ่อยๆก็คือเส้นลมปานที่เรียกว่าเฉียน
00:05:54 → 00:05:56 ไหม้ก็คือเส้นลพันมันตึงเหมือนเราจับ
00:05:56 → 00:05:58 กีตาร์อย่างเงี้ยเพราะหลายคนจะมีความ
00:05:58 → 00:06:01 เครียดพอคุณไข้มาก็คือเส้นมันจะตึงแบบ
00:06:01 → 00:06:04 นั้นได้เลยเอ่อตำรายาจีนเขาก็จะอธิบาย
00:06:04 → 00:06:08 เส้นลมปานต่างๆว่าเหมือนไข่มุกก็คือแบบ
00:06:08 → 00:06:12 เลือดลมมันไหลฟวดีหรือว่าเหมือนเส้นเอ็น
00:06:12 → 00:06:15 เส้นกีตาร์อะไรอย่างเงี้ยก็จะตึงเป็นความ
00:06:15 → 00:06:18 เครียดเป็นต้นนะค่ะก็สามารถสะท้อนได้
00:06:18 → 00:06:21 ระดับหนึ่งแต่ว่าหลายคนจะบอกว่าหมอแมะ
00:06:21 → 00:06:23 หน่อยว่าเป็นอะไรจริงๆแล้วในการตรวจแบบ
00:06:23 → 00:06:26 แพทยแผนจีนเนี่ยการจับชีพจรก็มีมาหลายพัน
00:06:26 → 00:06:29 ปีใช่มั้ยคะแต่ว่ายุคต่อมาเนี่ยจะเป็นยุค
00:06:29 → 00:06:33 ของอาจารย์จาจ้งจิ่นเขาจะพูดถึงการตรวจ
00:06:33 → 00:06:35 อยู่ 4 อย่างก็คือการมองสีหน้าเอาเดิน
00:06:35 → 00:06:38 เข้ามาสีหน้าแจ่มใสเววตาสดใสยิ้มแล้วค่ะ
00:06:38 → 00:06:40 จังหวะนี้อ่าแบบนี้ก็คือสุขภาพภายในค่อน
00:06:40 → 00:06:43 ข้างดีจิตใจดีใช่มคะแล้วก็ลักษณะท่าเทิง
00:06:43 → 00:06:45 ท่าเนไม่ได้ดูปวดไม่ได้ดูเบี้ยวอะไรอย่าง
00:06:45 → 00:06:48 เงี้ยอก็จะบอกถึงภายในการเดินกระดูกอะไร
00:06:48 → 00:06:52 ของเราดีแล้วก็เป็นการสัมผัสสัมผัสชีพจร
00:06:52 → 00:06:55 สัมผัสท้องว่ามีสิ่งผิดปกติไหมแล้วก็เป็น
00:06:55 → 00:06:58 การดูลิ้นอ่ะดูลิ้นก็จะสะท้อนอวภายในได้
00:06:58 → 00:07:01 ใช่จริงๆแล้วแพ่แผนจเราจะทั้งถามทั้งดู
00:07:01 → 00:07:04 ทั้งสัมผัสกว่าจะวิเคราะห์ว่าเป็นโรคอะไร
00:07:04 → 00:07:07 อืใช่ค่ะค่ะเพราะว่าถ้าเราคนทั่วไปก็คือ
00:07:07 → 00:07:10 แบบแค่จับแล้วนับอย่างยากเลยอใช่ๆๆมันก็
00:07:10 → 00:07:12 จะมีหลายๆอย่างค่ะเราคุยกันไปเรื่อยๆ
00:07:12 → 00:07:14 เนี่ยหนูว่าน่าจะมีศัพท์การแพร่แผนจีน
00:07:14 → 00:07:17 หลุดออกมาแต่คำเนี้ยหนูอาจจะต้องขอให้คุณ
00:07:17 → 00:07:20 หมอช่วยอธิบายก่อนหนูว่าน่าจะมีการพูดถึง
00:07:20 → 00:07:23 เรื่อยๆก็คือคำว่าชี่อ่ามันจะมีเรื่องของ
00:07:23 → 00:07:25 ชี่กับเลือดซึ่งเลือดเนี่ยเราน่าจะรู้จัก
00:07:25 → 00:07:27 กันอยู่แล้วเราชี่ในทางการแพทย์แผนจีน
00:07:27 → 00:07:29 หมายถึงอะไรคะก็คือพลังชี่เนี่ยเขาจะจะ
00:07:29 → 00:07:31 เป็นตัวช่วยผลักดันให้เลือดไหลเวียนถ้า
00:07:31 → 00:07:33 ชี่กับเลือดเนี่ยจะต้องอยู่ด้วยกันเวลาคน
00:07:34 → 00:07:36 มาบอกว่าอุ้ยหมอขอบำรุงเลือดหน่อยหมอก็
00:07:36 → 00:07:38 ต้องดูว่าชี่เา้าดีไหมเพราะถ้าชดีเขาจะ
00:07:38 → 00:07:40 ผลิตเลือดได้ถ้าชี้ดีแล้วเลือดจะไหล่
00:07:40 → 00:07:43 เวียนดีได้หลายคนจะแบบอยากบำรุงเลือด
00:07:43 → 00:07:45 อย่างเดียวแต่จริงๆแล้วเมีความสัมพันธ์
00:07:45 → 00:07:48 กันแต่ถ้าเกิดว่าพลังชีของเรา Flow ดี
00:07:48 → 00:07:50 พลังชีพเนี่ยจะมาจากปอดอ่ะเลือดเนี่ยหัว
00:07:50 → 00:07:54 ใจดูแลสูบฉีดหัวใจเนี่ยเป็นตัวดูแลเลือด
00:07:54 → 00:07:56 และหลอดเลือดของเราใช่มั้ยแล้วเาพอแล้วเา
00:07:56 → 00:07:58 ได้รับสารอาหารจากกระเพาะม้ามขึ้นมาเป็น
00:07:58 → 00:08:01 ตัวผลิตเลือดให้เราแล้วหัวใจก็จะส่งต่อไป
00:08:01 → 00:08:03 ปอดปอดรับออกซิเจนเข้ามาแล้วก็ส่งต่อไป
00:08:03 → 00:08:06 ทั่วทางร่างกายอันนี้ก็เป็นแพทแผนจีนก็
00:08:06 → 00:08:08 กล่าวแล้วก็อาตี่ปัจจุบันก็พูดเช่นเดียว
00:08:08 → 00:08:11 กันปอดเนี่ยเป็นตัวดูแลพลังชีทั้งหมดเข้า
00:08:11 → 00:08:13 เลือดแล้วเลือดถึงจะไหลฟดีเถ้าเกิดว่าบาง
00:08:13 → 00:08:17 คนเนี่ยกินไม่ดีม้ำผลิตพลังชีดและเลือด
00:08:17 → 00:08:20 ไม่ได้เราก็จะเหนื่อยเพลียหน้าซีดผมร่วง
00:08:20 → 00:08:23 ขี้หลงขี้ลืมก็จะมาจากการกินที่ไม่ดีได้
00:08:23 → 00:08:26 ด้วยเถ้าหลายคนอยากบำรุงพลังชและเลือดก็
00:08:26 → 00:08:30 ต้องดูแลการกินให้ดีอพลังชอยากกระตุ้นให้
00:08:30 → 00:08:32 เขาไหลเวียนดีก็ต้องออกกำลังกายใช่ถ้า
00:08:32 → 00:08:34 เกิดว่าเรานั่งเฉยๆกินอย่างเดียวไม่ขยับ
00:08:34 → 00:08:36 ร่างกายจะยิ่งกินยิ่งเหนื่อยเราก็ต้อง
00:08:36 → 00:08:38 ขยับร่างกายเพื่อให้พลังชีไหลเวียนดีแล้ว
00:08:38 → 00:08:41 ก็เขาจะไปช่วยผลิตกันและกันดูแลกันและกัน
00:08:41 → 00:08:43 ได้คุณผู้ชมอาจจะไม่เห็นนะคะแต่แต่ตอนนี้
00:08:43 → 00:08:47 หลังกล้องเราขยับกันไม่หยุดแล้วค่ะเหมือน
00:08:47 → 00:08:50 จะโดนนะคะคุณหมอคะเมื่อกี้พูดถึงพลังชี
00:08:50 → 00:08:52 เรื่องเลือดต่างๆอยากรู้ว่าแล้วในกรณีของ
00:08:52 → 00:08:55 คนที่เป็นโลหิตจางหรือว่าเลือดจางอ่ะค่ะ
00:08:55 → 00:08:57 เขาจะมีวิธีดูแลตัวเองยังไงเลือดมันจะ
00:08:57 → 00:09:00 กลับมาแบบคุณภาพดีมันจะมีอยู่ 2 อันก็คือ
00:09:00 → 00:09:03 คนที่เขาเป็นโรคทางพันธุกรรมค่ะก็คือถ้า
00:09:03 → 00:09:05 เกิดว่าเกิดมาแล้วเขาเป็นซีเมียได้รับ
00:09:05 → 00:09:08 พันธุกรรมมาแบบนี้อันนี้จะต้องดูแลอีกแบบ
00:09:08 → 00:09:10 นึงมันก็จะมีหลายเลเวลอีกคนที่เขาเป็น
00:09:10 → 00:09:12 หนักแล้วจนถึงขั้นให้เลือดเนี่ยเขาไม่
00:09:12 → 00:09:14 ต้องเติมธาตุเหล็กเข้าไปเพราะเป็นการให้
00:09:14 → 00:09:16 เลือดะอ่าเข้าทางหลอดเลือดของเขาการกิน
00:09:17 → 00:09:19 เนี่ยคุณหมอเขาจะอาจจะให้กินยาที่มันไป
00:09:19 → 00:09:22 ช่วยขับธาตุหลิกออกไปด้วยซ้ำเพราะฉะนั้น
00:09:22 → 00:09:25 ในกลุ่มเนี้ยจะฟังวันนี้ได้ไม่หมดแต่ว่า
00:09:25 → 00:09:28 ในคนที่อยู่ๆก็เลือดจางเอ้าอุ้ยเกิดมาก็
00:09:28 → 00:09:30 ปกติดีนะแต่ว่าทำทำงานไปทำงานมาอยู่ๆ
00:09:30 → 00:09:33 เลือดจางหรือว่าคนแบบป่วยเรื้อรังแล้ว
00:09:33 → 00:09:34 ร่างกายของเราไม่สามารถผลิตเม็ดเลือดได้
00:09:35 → 00:09:37 เหมือนเดิมฟังวันนี้ได้ถ้าเกิดว่าเราอยาก
00:09:37 → 00:09:39 บำรุงเลือดให้เกิดขึ้นมาเราก็ต้องรู้ว่า
00:09:39 → 00:09:42 เลือดของเรามาจากไหนบ้างในทางร่างกายของ
00:09:42 → 00:09:45 เราเนี่ยตั้งแต่เราเกิดมาเราจะมีคำว่าสาร
00:09:45 → 00:09:48 จริงของไตในตัวผลิตภายในให้เราแต่หลังจาก
00:09:48 → 00:09:50 ที่เราคลอดออกมาแล้วเนี่ยเราจะต้องใช้ทาง
00:09:50 → 00:09:52 เดินอาหารในการหล่อเลี้ยงร่างกายของเรา
00:09:52 → 00:09:54 งั้นทางเดินอาหารก็คือมมกะพอที่จะช่วย
00:09:54 → 00:09:57 ผลิตพลังชีและเลือดทั้งหมดเลยให้เรานะคะ
00:09:57 → 00:10:00 ถ้าเกิดว่าเราอยากฟื้นฟูให้เราเลือดไม่
00:10:00 → 00:10:02 จางเลือดของเราเต็มดีก็ต้องกลับมาอยู่ที่
00:10:02 → 00:10:05 การกินคนไข้หลายครั้งที่เป็นโรคเลือดจาง
00:10:05 → 00:10:08 เพราะพฤติกรรมเนี่ยก็เพะการกินเลยไม่กิน
00:10:08 → 00:10:10 อันนั้นไม่กินอันนี้จะชอบกินนแต่อาหาร
00:10:10 → 00:10:12 ประเภทเดียวแบบนี้พอเราได้รับสารอาหารไม่
00:10:12 → 00:10:15 เพียงพอก็จะทำให้เราขาดอ่ามันก็จะไม่มี
00:10:15 → 00:10:17 พลังงานไปสร้างเม็ดเลือดให้เราได้อันนี้
00:10:18 → 00:10:20 อันที่ 1 ก็คือการกินใช่มอันที่ 2 ก็คือ
00:10:20 → 00:10:22 การนอนเพราะว่าตับเนี่ยเขาจะทำงานตอนกลาง
00:10:22 → 00:10:24 คืนแต่ว่าต้องการให้เราพักผ่อนถ้าเกิดว่า
00:10:24 → 00:10:26 เรายังใช้พลังงานการใช้เสตาเนี่ยเป็นการ
00:10:26 → 00:10:29 ใช้เลือดออ่าถ้าเราใช้ตั้งแต่เช้าจนถึงต 2
00:10:29 → 00:10:32 อย่างเงี้ยไม่นอนอ่าไม่นอนเลือดมันจะ
00:10:32 → 00:10:34 เลยแล้วตับจะเก็บเลือดได้ไม่ดีเลือดของ
00:10:34 → 00:10:37 ตับจะร้อนอักเสบแห้งก็ทำให้เราเกิดเป็น
00:10:37 → 00:10:39 โรคได้แล้วก็มันจะสัมพันธ์อีกพอเราเลือด
00:10:39 → 00:10:42 น้อยเลือดไม่ดีเราก็จะหงุดหงิดง่ายนอนไม่
00:10:42 → 00:10:45 หลับใจสั่นอาการต่างๆก็จะตามมางั้นถ้าหมอ
00:10:45 → 00:10:48 แนะนำง่ายๆ 2 อันก็คือดูแลการกินให้ดี
00:10:48 → 00:10:51 แล้วก็ดูแลการนอนให้ดีใช่ก็จะทำให้ฟื้นฟู
00:10:51 → 00:10:54 เลือดกลับมาได้ง่ายเราจะได้ยินว่าการกิน
00:10:54 → 00:10:57 เครื่องในจะช่วยอ่าจริงๆเครื่องในเนี่ย
00:10:57 → 00:10:59 เขามีธาตุเหล็กจริงๆเขาจะพูดถึงธาตุเหล็ก
00:11:00 → 00:11:02 ในอาหารเขาก็เลยแนะนำให้ทานอาหารที่ธาตุ
00:11:02 → 00:11:04 เหล็กสูงเนี่ยอาจจะไม่ใช่เครื่องในอย่าง
00:11:04 → 00:11:06 เดียวก็ได้เราจะพบว่าเห็ดหุนหนูดำจะมี
00:11:07 → 00:11:09 ปริมาณธาตุเหล็กสูงกว่าตับหมูอีกอืใน
00:11:09 → 00:11:12 ปริมาณ 100 กรัมเท่ากันเพราะฉะนั้นพอเรา
00:11:12 → 00:11:15 ศึกษาสารอาหารแต่ละหมวดหมูเพิ่มขึ้นเนี่ย
00:11:15 → 00:11:17 เราจะพบว่าจริงๆเราอาจจะไม่ต้องทาน
00:11:17 → 00:11:20 เครื่องในทุกคนก็ได้คือบางคนที่เขามี
00:11:20 → 00:11:22 คอเลสเตอรอลสูงแล้วเขาจะทานเครื่องในไม่
00:11:22 → 00:11:24 ได้แต่เราสามารถไปทานผักใบเขียวอ่าเห็ด
00:11:24 → 00:11:27 บางชนิดหรือว่าถั่วธัญพืชในการเสริมาต
00:11:27 → 00:11:30 เหล็กให้เราบำรุงเลือดให้เราแต่ว่าในคน
00:11:30 → 00:11:33 ปกติดียังสามารถทานเครื่องในนิดหน่อยเป็น
00:11:33 → 00:11:36 ประจำได้นะคะก็คือจริงๆเราเราก็ควรที่จะ
00:11:36 → 00:11:39 กินให้หลากหลายใช่ๆค่ะแต่ว่าถ้าเรามีลูก
00:11:39 → 00:11:41 ประจำตัวอะไรที่มันไม่สามารถทานอาหาร
00:11:41 → 00:11:44 ประเภทนั้นได้เราก็หุ่นเอาหารประเภทอื่น
00:11:44 → 00:11:46 แล้วเรื่องของอุณหภูมิอาหารล่ะคะอาหาร
00:11:46 → 00:11:49 ร้อนจัดเย็นจัดมีผลต่อเลือดและชีในร่าง
00:11:49 → 00:11:52 กายเราไหมคะถ้าเกิดว่าร้อนจัดเนี่ยเคยมี
00:11:52 → 00:11:56 งานวิจัยของคนจีนญี่ปุ่นกินช้าชอบกินช้า
00:11:56 → 00:11:59 ร้อนๆทำให้เป็นมะเร็งลำพองออใช่ก็คือผิว
00:11:59 → 00:12:01 หนังของเราเนี่ยจะรับความร้อนได้ไม่มาก
00:12:01 → 00:12:05 ข้างในเหมือนกันพอโดนร้อนๆมันก็จะเกิดการ
00:12:05 → 00:12:08 บาดเจ็บอ่าแล้วมันก็จะเป็นก้อนออกมาได้
00:12:08 → 00:12:10 งั้นร้อนจัดก็ไม่ดีเย็นจัดเกินไปถ้าเรา
00:12:10 → 00:12:12 เคยกินน้ำแข็งหรือกินน้ำปั่นเย็นๆดูดที
00:12:13 → 00:12:15 เดียวแล้วมันจี๊ดขึ้นสมองเส้นลมปานตรง
00:12:15 → 00:12:17 เนี้ยมันจะต่อกันระหว่างเส้นลปานเริ่น
00:12:17 → 00:12:19 ไหม้กับเส้นลปานตูไหม้เริ่นไหม้จะเป็น
00:12:19 → 00:12:21 เส้นลปานพลังหยินอันนี้จะเป็นเส้นลปาน
00:12:21 → 00:12:23 พลังหยางเงพอเรากินข้าวปากเข้าไปแล้วย้อน
00:12:23 → 00:12:26 กลับเส้นลมปานตูไม่มันขึ้นสมองงั้นกิน
00:12:26 → 00:12:29 เย็นจัดเกินไปในปริมาณเยอะๆก็จะทำลเราได้
00:12:29 → 00:12:31 ทีนี้ถ้าเกิดว่าเรายกินเย็นจัดในปริมาณ
00:12:31 → 00:12:33 ที่ไม่เยอะหรือไม่ได้เย็นจัดเกินไปมันจะ
00:12:33 → 00:12:36 เย็นวาบที่หัวใจเย็นวาบที่ทรวงอกอถ้าใคร
00:12:36 → 00:12:38 รู้สึกแบบนี้ก็จะบอกว่าการกินเย็นแบบ
00:12:38 → 00:12:41 เนี้ยจะทำร้ายพลังหยางในร่างกายของเราแต่
00:12:41 → 00:12:43 ทีนี้เราอาจจะไม่ได้กินเย็นจัดขนาดนั้น
00:12:43 → 00:12:45 แต่เรากินเย็นเป็นประจำเลยอ่ะความเย็นมัน
00:12:45 → 00:12:49 จะมีฤทธิ์ในการชะงักหยุดชะงักสังเกตเขาจะ
00:12:49 → 00:12:52 เอาปลาไปน็อคน้ำแข็งใช่มมันหยุดชะงักได้
00:12:52 → 00:12:54 เลือดของเราก็เหมือนกันพอเรากินปริมาณน้ำ
00:12:54 → 00:12:56 เย็นโดยเฉพาะอยู่ในห้องแอร์แล้วก็กินแต่
00:12:56 → 00:12:59 น้ำเย็นเราจะสามารถโอ้ยทำไมอยู่ๆมือเย็น
00:12:59 → 00:13:01 ขึ้นมาได้เพราะว่าเลือดของเราขาดความอบ
00:13:01 → 00:13:03 อุ่นละร่างกายจะต้องดึงพลังงานไปช่วยไป
00:13:03 → 00:13:06 จัดการกับความเย็นที่เรากินเข้ามาก็จะทำ
00:13:06 → 00:13:08 ให้เรามีปัญหาได้งั้นจริงๆแพทยแผนจีนจะ
00:13:08 → 00:13:10 ไม่ค่อยแนะนำให้กินน้ำเย็นแต่ว่าต้องอยู่
00:13:10 → 00:13:12 แต่ละสิ่งแวดล้อมถ้าเราทำงานก่อสร้างหรือ
00:13:12 → 00:13:15 ทำงานกลางแจ้งหรือถ้าเราเป็นคนที่มีดด
00:13:15 → 00:13:17 ร้อนมีพลังหยางในร่างกายเยอะเราก็กินน้ำ
00:13:17 → 00:13:20 เย็นได้ก็อยู่แต่ละสถานการณ์วิธีสังเกต
00:13:20 → 00:13:22 ง่ายๆก็คือเรากินน้ำอะไรแล้วเรารู้สึกไม่
00:13:22 → 00:13:26 ทรมานอ่ามันก็จะเป็นน้ำที่เข้ากับเราณตอน
00:13:26 → 00:13:29 นั้นแต่เราต้องเป็นจิตที่ใสจริงๆนะ
00:13:29 → 00:13:32 อติหน่อยใช่ๆค่ะบางคนคือแบบว่ากินน้ำ
00:13:32 → 00:13:34 อุณภูมิห้องไม่ได้เลยรู้สึกกินไม่ลงมันจะ
00:13:34 → 00:13:36 แบบแน่นอกขึ้นมาเราอาจจะกินน้ำที่อุ่น
00:13:36 → 00:13:39 ขึ้นได้หรือบางคนคือแบบโออยู่ในอากาศแบบ
00:13:39 → 00:13:42 นี้กินน้ำอุณหภูมิห้องกินไม่ลงจะต้องกิน
00:13:42 → 00:13:44 น้ำย็นนิดนึงถึงจะรู้สึกสดชื่นอ่ะอันนี้
00:13:44 → 00:13:46 ก็เป็นตัวสังเกตได้ว่าช่วงเวลาไหนเราควร
00:13:46 → 00:13:49 จะกินน้ำแบบไหนแต่ว่าร้อนจัดหรือเย็นจัด
00:13:49 → 00:13:52 ก็ไม่ได้ดีทั้งคู่ใช่ก็คือเราเราต้องดู
00:13:52 → 00:13:55 แต่ละสถานการณ์แต่ว่าเกินไปอ่ะไม่ดีแต่
00:13:55 → 00:13:56 เราจะกินเย็นหน่อยหรืออุ่นหน่อยเนี่ยก็
00:13:57 → 00:14:00 อยู่ที่แต่ละสถานการณ์แต่ละคนแล้วการกิน
00:14:00 → 00:14:02 เผ็ดล่ะคนที่เขาชอบกินเผ็ดอันเนี้ยเกี่ยว
00:14:02 → 00:14:04 กับเรื่องความร้อนด้วยยคะพูดถึงตะกี้
00:14:04 → 00:14:06 เนี่ยพูดถึงอุณหภูมิเนาะอุณหภูมิร้อน
00:14:06 → 00:14:08 อุณหภูมิเย็นมันจะมีอาหารที่มีฤทธ์ร้อน
00:14:08 → 00:14:11 ฤทธิ์เย็นรสเผ็ดก็มันมักจะมากับเผ็ดร้อน
00:14:11 → 00:14:13 อ่าพอกินแล้วมันจะแบบขับเหงื่ออย่าง
00:14:13 → 00:14:16 ประเทศไทยเป็นประเทศที่ร้อนชื้นเมืองโฉง
00:14:17 → 00:14:19 ชิ่งที่จีนน่ะก็จะเป็นเมืองที่ชื้นชื้น
00:14:19 → 00:14:22 เย็นอากาศเขาจะอึมๆเมืองนั้นน่ะเขาจะชอบ
00:14:22 → 00:14:25 กินหมาร่าหล่าเนี่ยมันจะเป็นตัวขับความ
00:14:25 → 00:14:28 ชื้นในร่างกายส่วนประเทศเราชอบกินอต้มขิง
00:14:28 → 00:14:31 ขาตะไคร้เป็นเพราะว่าเขาจะมีรสเผ็ดนะคะ
00:14:31 → 00:14:33 พวกนี้มันก็จะช่วยขับความชื้นออกจากร่าง
00:14:33 → 00:14:36 กายของเราจริงๆเราทานในปริมาณที่พอดีโอเค
00:14:36 → 00:14:40 อยู่แต่ถ้าใครกินเผ็ดจนหูดับรู้สึกจี๊ด
00:14:40 → 00:14:43 ขึ้นสมองอันเนี้ยจะเป็นความเผ็ดร้อนนั้น
00:14:43 → 00:14:46 น่ะกระตุ้นหลอดเลือดอือ่าทำให้มีปัญหาดัน
00:14:46 → 00:14:49 ขึ้นไฟความร้อนเนี่ยจะดันขึ้นหัวเสมอใคร
00:14:49 → 00:14:51 เคยกินแล้วแบบว่ารู้สึกแกนกลางเนี่ยมัน
00:14:51 → 00:14:53 วาบๆหมดเลยอันนี้จะไม่ดีมันจะไปกระตุ้น
00:14:53 → 00:14:56 หลอดเลือดของเราหมอจะให้ทานทานเผ็ดได้
00:14:56 → 00:14:59 อย่างเหมาะสมจริงๆรถเผ็ดเนี่ยเข้าปอดนะ
00:14:59 → 00:15:01 อ่าพอกินเผ็ดแล้วรู้สึกเหงื่อออกขับ
00:15:01 → 00:15:03 เหงื่อดีใช่มแต่ถ้ามากเกินไปอ่ะความร้อน
00:15:03 → 00:15:05 นั้นมันจะกระตุ้นหัวใจอ่ะมันก็จะทำให้
00:15:05 → 00:15:08 เป็นเกิดผิษในร่างกายได้เมื่อกี้คุยถึง
00:15:08 → 00:15:10 เรื่องอุณหภูมิะแล้วนิสัยล่ะคะถ้าสมมุติ
00:15:10 → 00:15:13 เราเป็นคนที่มีนิสัยใจร้อนหัวร้อนแบบ
00:15:13 → 00:15:15 เนี้ยมันเกี่ยวกับการที่เราเป็นคนมีเลือด
00:15:15 → 00:15:18 ร้อนมยคะคุณหมออาจจะบอกได้เหมือนกันเอา
00:15:18 → 00:15:20 ไว้ว่าภายในของเราเนี่ยสิ่งที่เป็นธาตุไฟ
00:15:20 → 00:15:23 คือหัวใจสิ่งที่ชอบไปกระตุ้นให้ไฟหัวใจ
00:15:23 → 00:15:25 เกินคือตับตับเนี่ยเขาจะเป็นตัวเก็บเลือด
00:15:25 → 00:15:28 อ่าแล้วเขาจะเป็นตัวทลายพลังชีส่วนเกิน
00:15:28 → 00:15:30 ออกไปไม่ให้เกินขึ้นหัวถ้าเกิดว่าความ
00:15:30 → 00:15:33 โมโหทำไมเราโมโหเรารู้สึกว่าโอ๊ยปวดขมับ
00:15:33 → 00:15:37 หูอื้อขึ้นมามันมันแรงดันขึ้นอันเนี้ยคือ
00:15:37 → 00:15:40 พลังชีของตับมันเกินคือความโกรธกระทบพลัง
00:15:40 → 00:15:42 ชของตับแล้วมันจะดันขึ้นหัวงั้นความโกรธ
00:15:42 → 00:15:46 จะกระทบแรงดันแรงดันเนี่ยความดันโลหิตมัน
00:15:46 → 00:15:47 เกี่ยวกับหัวใจนะคะแต่ว่าอะไรเป็นตัว
00:15:47 → 00:15:51 กระตุ้นก็คืออารมณ์ของตับเนี่ยไปกระตุ้น
00:15:51 → 00:15:53 เพรางั้นถ้าถามว่าอารมณ์ของเราเนี่ยมีผล
00:15:53 → 00:15:57 ไหมใช่ไหมมก็มีมากๆคนที่อารมณ์ร้อนมันก็
00:15:57 → 00:16:01 จะเกี่ยวกับไฟของตับเกินไปกระทบไฟหัวใจนะ
00:16:01 → 00:16:04 มันก็จะนอนไม่หลับหงุดหงิดโมโหง่ายทำอะไร
00:16:04 → 00:16:07 ก็จะสมาธิไม่ดีจะนิดๆหน่อยๆก็จะโมโหไปหมด
00:16:07 → 00:16:10 ตาเห็นอะไรไม่ถูกใจก็จะโมโหไปหมดอตับเปิด
00:16:10 → 00:16:12 ถวาที่ดวงตาสิ่งที่เราไม่อยากเห็นแล้วเรา
00:16:12 → 00:16:15 ได้เห็นเราจะไม่พอใจใช่อันนี้ก็คือคนที่
00:16:15 → 00:16:18 ฟังหัวร้อนเนาะแต่คนที่ใจเย็นมองอะไรก็
00:16:18 → 00:16:21 มันเป็นอย่างนั้นแหละเออปล่อยไปแล้วก็ทำ
00:16:21 → 00:16:23 ได้เท่าที่เราทำไหวเราไม่ได้ละเความ
00:16:23 → 00:16:26 พยายามแต่ว่าเราก็เห็นว่าเรากำลังได้เท่า
00:16:26 → 00:16:29 ไหนแล้วค่อยๆทำไปอันนี้ก็จะเป็นคนที่จะ
00:16:29 → 00:16:31 ไม่มีโรคหัวใจได้ง่ายแล้วคนที่อารมณ์ร้อน
00:16:31 → 00:16:34 เนี่ย 1 ก็คือโรคหัวใจ 2 ก็คือโรคความดัน
00:16:34 → 00:16:38 มาแน่ๆถ้าเกิดว่าอีกอันนึงก็คือเป็นทาง
00:16:38 → 00:16:42 จิตเวทละก็คือแพนิคซึมเศร้าก็จะมาได้นะคน
00:16:42 → 00:16:44 ที่แบบใจสบายๆเนี่ยหัวใจเขาจะไม่มีปัญหา
00:16:44 → 00:16:47 เลยการไหลเวของเลิศก็จะปกติไม่มีตัวไป
00:16:47 → 00:16:49 กระตุ้นไฟเขาเกินขึ้นมาเราต้องเช็คตัวเอง
00:16:49 → 00:16:51 แล้วล่ะตอนนี้ว่าเราเป็นคนที่มีนิสัยใจ
00:16:51 → 00:16:53 ร้อนมหรือเป็นคนใจเย็นนะเพราะว่านิสัย
00:16:53 → 00:16:55 เหล่านี้คุณหมอก็บอกว่ามันมีผลเกี่ยวกับ
00:16:55 → 00:16:59 การเกิดโรคเหมือนกันมีผลเยอะเลยเยอะจริงๆ
00:16:59 → 00:17:01 เราอยู่กับนิสัยของเราอ่ะตลอดเวลาแล้วถ้า
00:17:01 → 00:17:04 นิสัยของเราอ่ะขึ้นๆลงๆตลอดเนี่ยหัวใจของ
00:17:04 → 00:17:07 เราก็จะไม่ปกติสังเกตได้ลองสังเกตองฟัง
00:17:07 → 00:17:10 หัวใจถ้าเกิดว่าเรามีสติแบบแยกสติได้มาก
00:17:10 → 00:17:12 พอเนาตอนที่เราโมโหมากๆตอนที่เราดีใจมากๆ
00:17:12 → 00:17:15 เนี่ยหัวใจมันจะสวิงตามงั้นการไหลของหลอด
00:17:15 → 00:17:18 เลือดก็จะผิดปกติตามกับคนที่มีจังหวะหัว
00:17:18 → 00:17:20 ใจที่สม่ำเสมอหรือว่าออกกำลังกายเป็น
00:17:20 → 00:17:23 ประจำสม่ำเสมอเงี้ยหัวใจที่โอเคกว่าหนู
00:17:23 → 00:17:26 สงสัยว่าแล้วอย่างเงี้ยมันเกิดจากการที่
00:17:26 → 00:17:28 เราเป็นคนมีนิสัยนั้นแล้วทำให้เกิดโรค
00:17:28 → 00:17:30 หรือว่าโรคนั่นแหละมันทำให้เราเป็นคนมี
00:17:30 → 00:17:32 นิสัยนั้นอมันเป็นตัวสร้างกันและกันเลย
00:17:32 → 00:17:34 อ่าถ้าเกิดว่าเริ่มต้นเนี่ยเรายังไม่มี
00:17:34 → 00:17:37 โรคเราเกิดมาเป็นคนที่แข็งแรง 100% ใช่
00:17:37 → 00:17:39 ไหมถ้าเกิดว่าเราไม่ได้เกิดมาแบบมีปัญหา
00:17:39 → 00:17:41 อะไรอย่างเงี้ยนิสัยของเราพฤติกรรมของเรา
00:17:41 → 00:17:44 ในแต่ละวันความคิดของเราในแต่ละวันเนี่ย
00:17:44 → 00:17:48 เป็นตัวสร้างโรคเลยความคิดใช่เขาบอกว่า
00:17:48 → 00:17:50 หัวใจเังสาไพจีนดูแลเลือดและหลอดเลือดจำ
00:17:50 → 00:17:53 ได้นะแล้วก็อีกตัวนึงเนี่ยก็คือดูแล
00:17:53 → 00:17:56 เรื่องจิตเราจะเรียกว่าเสินเสินก็คือแบบ
00:17:56 → 00:17:58 เรามองแววตาแล้วสดใสเปลี่ยงประกายดีเหร
00:17:58 → 00:18:00 เราลองสังสังเกตคนที่ทานแอลกอฮอล์หรือว่า
00:18:00 → 00:18:03 เสพยาเสพติดดวงตาเขาจะแข็งก้าวหรือว่ามอง
00:18:03 → 00:18:05 เข้าไปไม่เห็นคนในนั้นน่ะเราจะรู้สึกว่า
00:18:05 → 00:18:08 ดวงตานั้นมันว่างเปล่าใช่อันนี้ก็คือเป็น
00:18:08 → 00:18:12 ตัวจิตที่เราจะมองออกงั้นคนที่มีหัวใจที่
00:18:12 → 00:18:15 ดีมีจิตใจที่ดีเขาจะส่งต่อถึงเลือดเลย
00:18:15 → 00:18:17 หลายคนจะแยกออกจิตใจกับร่างกายใช่มั้ยแต่
00:18:17 → 00:18:19 จริงๆแล้วมันคือเรื่องเดียวกันทางาต์ไพ่
00:18:19 → 00:18:21 แผนจีนน่ะเขาจะพูดถึงหัวใจแค่ 2 ข้อนี้
00:18:21 → 00:18:23 เลยก็คือดูแลเรื่องเลือดกับลอตเลือดแล้ว
00:18:23 → 00:18:26 ก็ดูแลเรื่องจิตเป็นตัวหัวใจเดียวกันที
00:18:26 → 00:18:29 นี้พอหัวใจดวงเนี้ยเขาเป็นจิตใจที่ดีเขา
00:18:29 → 00:18:33 ก็จะควบคุมเลือดการไหลเวของเลือดแล้วก็
00:18:33 → 00:18:35 เลือดที่ดีนั้นไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆอ่าเ
00:18:35 → 00:18:37 ร่างกายของเราก็จะไม่เกิดความอักเสบหลาย
00:18:37 → 00:18:40 คนจะชอบลดการอักเสบความอักเสบเนี่ยจะแปล
00:18:40 → 00:18:42 เป็นภาษาจีนว่าไปเกินหรือพลังอย่างเกิน
00:18:42 → 00:18:45 ได้ใช่ค่ะถ้าเกิดว่าเรามีคนที่จิตใจดีก็
00:18:45 → 00:18:48 จะช่วยป้องกันโรคได้มากหรือเราค้นพบแล้ว
00:18:48 → 00:18:50 อุ๊ยเกิดโรคร้ายขึ้นแต่ว่าหัวใจเรายังมี
00:18:50 → 00:18:54 กำลังอเรายังมีสติแล้วเราก็ค่อยๆจัดการ
00:18:54 → 00:18:56 ชีวิตเราในแต่ละวันอันนี้คือมีกำลังใจถ้า
00:18:56 → 00:19:00 เราไม่มีกำลังใจที่ดีเราจะสุดอืหลายคนฟัง
00:19:00 → 00:19:02 ปุ๊บเสียงที่คุณหมอพูดมาว่าเราเป็นโรค
00:19:02 → 00:19:05 อะไรปุ๊บแล้วเราก็ดิ่งเลยอันนี้ก็อันนี้
00:19:05 → 00:19:07 ก็จะป่วยได้ง่ายแต่ถ้าเกิดว่าเราฟังคุณ
00:19:07 → 00:19:09 หมอแล้วคุณหมอเราเริ่มเห็นแนวโน้นว่าคุณ
00:19:09 → 00:19:11 หมออาจจะพูดคำไม่ดีออกมาให้เราหายใจขอก
00:19:11 → 00:19:15 ยาวๆพยายามทำจิตใจให้เราสบายพิดจากการได้
00:19:15 → 00:19:17 ยินนั้นจะไม่ทำร้ายเรามากทุกครั้งที่เรา
00:19:17 → 00:19:19 อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีหรือได้ยินสิ่ง
00:19:19 → 00:19:21 ที่เราไม่ดีเข้ามาแล้วเรารับมันเต็มๆ
00:19:21 → 00:19:24 เนี่ยมันจะไปสะสมที่หัวใจหัวใจก็จะเดิน
00:19:25 → 00:19:27 เลือดให้เราได้ไม่ดีอ่าเซลล์ของเราก็จะ
00:19:27 → 00:19:32 แย่ไปคนที่มีนินิสัยแบบขี้โมโหขี้ร้อนฟัง
00:19:32 → 00:19:36 มาปุ๊บออกทางสีหน้าทันทีหรือว่าเอาไปคิด
00:19:36 → 00:19:39 เป็นอีก 3-4 วันกว่าจะลืมเรื่องนั้นเนี่ย
00:19:39 → 00:19:41 ก็จะเป็นเซลล์มันก็จะไม่ดีตามคถ้าเราเป็น
00:19:41 → 00:19:44 คนที่รับมาง่ายปล่อยง่ายค่ะมันก็จะไม่
00:19:44 → 00:19:47 กระทบเรามากอืค่ะเมื่อเมื่อสักครู่เนี่ย
00:19:47 → 00:19:49 มีสิ่งที่น่าสนใจ 2 อย่างก็คือเรื่องของ
00:19:49 → 00:19:51 อารมณ์ที่มันมีผลกับอีกเรื่องนึงคือ
00:19:52 → 00:19:54 เรื่องของการสร้างกำลังใจอ่ะหนูขออนุญาต
00:19:54 → 00:19:56 ถามถึงเรื่องของการสร้างกำลังใจก่อนว่า
00:19:56 → 00:19:58 เราจะมีวิธีการสร้างกำลังใจยังไงแล้ว
00:19:58 → 00:20:01 สมาธิเนี่ยช่วยได้มยคะช่วยได้มากนะคะปอด
00:20:01 → 00:20:03 เนี่ยเขาคดูแลพลังชีทั้งหมดในร่างกายของ
00:20:03 → 00:20:07 เราใช่ไหมมแล้วเขาก็เป็นตัวดูแลพงจมูกที
00:20:07 → 00:20:11 นี้พอเราหายใจเข้าหายใจออกหัวใจที่เป็น
00:20:11 → 00:20:14 ตัวดูแลเลือดเขาจะรับพลังชีพจากปอดเข้ามา
00:20:14 → 00:20:17 เก็จะมีพลังชีพที่พอใจของเรามันก็จะไม่
00:20:17 → 00:20:20 โวงเหวงง่ายเอาพลังชีพมันเต็มแรงของเลือด
00:20:20 → 00:20:25 มันเต็มลองหายใจเข้าอยาวๆาช้าๆอือเราก็จะ
00:20:25 → 00:20:28 รู้สึกว่าเออมันเบาลงจากเรื่องที่เมื่อ
00:20:28 → 00:20:30 สักครู่นี้เราอาจจะได้รับเรื่องที่ไม่ดี
00:20:30 → 00:20:34 เข้ามาให้เราลองหายใจคือพะไม่อยากให้ไปทำ
00:20:34 → 00:20:36 อะไรที่มันยากเกินไปแค่เราลองหายใจดีๆ
00:20:36 → 00:20:39 เนี่ยมันจะช่วยเราได้มากๆแล้วพอเรามีสติ
00:20:39 → 00:20:41 ละหายใจได้ดีละแล้วกำลังใจเดี๋ยวเรามันจะ
00:20:42 → 00:20:45 ค่อยๆมาก็คือเราจะโฟกัสที่ความรักให้กับ
00:20:45 → 00:20:47 ตัวเองอ่ามันเราก็จะมีกำลังใจให้กับตัว
00:20:47 → 00:20:50 เองได้เยอะขึ้นแน่นอนว่ามันเกี่ยวกับสิ่ง
00:20:50 → 00:20:51 แวดล้อมด้วยแต่ถ้าสิ่งแวดล้อมของเราไม่ดี
00:20:51 → 00:20:54 จริงๆเราก็ต้องให้กำลังใจตัวเองอ่ะเริ่ม
00:20:54 → 00:20:57 ต้นที่การหายใจอ่ะถ้าเราหายใจค่อยๆไปสติ
00:20:57 → 00:20:59 ก็จะมาเ่าที่ฟังก็ก็คือร่างกายเรามันมี
00:20:59 → 00:21:02 กลไกที่เขาจะจัดการหลายๆอย่างแหละแต่เรา
00:21:02 → 00:21:04 ต้องช่วยเาใช่เราแค่ต้องรู้ว่าเขาทำได้
00:21:04 → 00:21:07 จริงๆปอดเนี่ยหน้าที่ของเขาอีกอันนึงเเรา
00:21:07 → 00:21:10 จะเรียกว่าจู่จื้อเจี๋ก็คือเป็นการปรับ
00:21:10 → 00:21:13 สมดุลในร่างกายของเราถ้าเกิดว่าเราแบบ
00:21:13 → 00:21:15 อยากได้ยาวิเศษในการปรับสมดุลเนี่ยให้ฝึก
00:21:15 → 00:21:18 ลมหายใจทางของฝรั่งเขาคก็จะมีศาสตร์การ
00:21:18 → 00:21:21 หายใจละแต่ว่าจริงๆตำราแพทย์แผนจีนน่ะถ้า
00:21:21 → 00:21:23 เราไปอ่านลึกซึ้งเขาก็จะพูดถึงเรื่องนี้
00:21:23 → 00:21:26 มาตำราเนี่ยเป็นเป็นพันปีแล้วเหมือนกัน
00:21:26 → 00:21:28 คือแค่เรารู้จักการหายใจเนี่ยหหลายอย่าง
00:21:28 → 00:21:31 มันจะเบาลงคุณหมอพอจะสาธิตได้มั้คะหายใจ
00:21:31 → 00:21:33 แบบไหนถ้าเกิดหมอเนี่ยเรียนโยคะหมอก็เลย
00:21:34 → 00:21:36 จะหายใจแบบโยคะในวันที่หนักอเราจะหายใจ
00:21:36 → 00:21:39 เข้าช้า
00:21:39 → 00:21:43 ๆพอสุดหายใจให้สุดถึงจุดป่าหุ้ยอ่ะแล้ว
00:21:43 → 00:21:48 เราก็ค่อยๆผ่อนยาวๆแต่ว่าเป็นเสียงคลื่น
00:21:48 → 00:21:53 ทะเลอ๊จริงด้วยทุกคนเวลาหายใจออกออกให้
00:21:53 → 00:21:55 สุดถึงเราจะเรียกว่าจุดชหายจะอยู่ที่ท้อง
00:21:55 → 00:21:59 น้อยของเราอ่ะเวลาหายใจเข้าเข้าลึกถึง
00:21:59 → 00:22:02 ป่ายหุ้ยเราจะดึงเลือดพลังชีพไปถึงกาง
00:22:02 → 00:22:04 กระหม่อมของเราได้ดีแล้วหายใจออกหายใจออก
00:22:04 → 00:22:07 ให้ออกจากทางท้องน้อยออกให้หมดเราทำแบบ
00:22:07 → 00:22:11 เนี้ยช้าๆค่อยๆทำไปแล้วมันจะผ่อนพลังงาน
00:22:11 → 00:22:13 ในร่างกายของเราได้คือความอักเสบอ่ะมันจะ
00:22:13 → 00:22:16 ทำให้เราร้อนหล่นอ่าแต่ถ้าเกิดว่าเราหาย
00:22:16 → 00:22:18 ใจได้ดีอ่ะมันจะทำให้เรานิ่งขึ้นแล้วหลาย
00:22:18 → 00:22:21 ๆเรื่องมันก็จะกลับมาได้ดีแต่หลายคนพอแบบ
00:22:21 → 00:22:24 เจอปัญหาชีวิตเจอโรคไภไข้เจ็บปุ๊บก็ร้อน
00:22:24 → 00:22:27 ลนละแล้วก็ลืมไปเลยว่าควรจะหายใจยังไงมัน
00:22:27 → 00:22:29 ก็เลยเหมือนจะยิ่งเจอแต่แต่เรื่องหลายๆ
00:22:29 → 00:22:32 เข้ามาแต่เราลองแบบตัดบดก่อนลองหายใจก่อน
00:22:32 → 00:22:35 แล้วมันจะพาเราเไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้
00:22:35 → 00:22:38 ทุกอย่างมันเกี่ยวกันหมดเลยอือลองดูนะคะ
00:22:38 → 00:22:41 เพราะว่าลองง่ายมากแล้วน่าจะได้ผลดีด้วย
00:22:41 → 00:22:43 ใช่ค่ะอือค่ะเมื่อกีุ้อยากรู้ว่าทำไมเรา
00:22:43 → 00:22:46 ต้องผ่อนลมหายใจออกมาเป็นเสียงทะเลด้วย
00:22:46 → 00:22:48 ล่ะคะเขาจะช่วยให้เราเหมือนคล
00:22:48 → 00:22:51 คาร์บอนไดออกไซด์ออกไปได้ดีขึ้นแล้วก็จะ
00:22:51 → 00:22:53 เป็นตัวช่วยผ่อนคลายทุกครั้งที่เราผลักลม
00:22:54 → 00:22:56 หายใจออกมาเนี่ยมันจะเหมือนเป็นการขับพิษ
00:22:56 → 00:22:58 ออกจากในร่างกายของเราแล้วก็ถ้าเกิดว่า
00:22:58 → 00:23:00 เราไปเจอเสียงที่เราไม่อยากได้ยินให้เรา
00:23:00 → 00:23:03 หายใจออกไปนานๆออกยาวหน่อยเไอ้เสียงที่
00:23:03 → 00:23:05 มันจะมากระทบหรือสิ่งแวดล้อมที่จะมากระทบ
00:23:05 → 00:23:06 เราอ่ะมันจะทำร้ายเราไม่มากเพราะเรา
00:23:06 → 00:23:10 เหมือนเอาพลังงานเอาลมปรานไม่ดีออกไป
00:23:10 → 00:23:12 เสียงที่ออกจากคลื่นทะเลเขาจะออกเหมือนจะ
00:23:12 → 00:23:15 เป็นตัวกลั่นจากที่เส้นเสียงลำคอออกไปมัน
00:23:15 → 00:23:18 จะไม่ไม่ใช่หายใจออกธรรมดาถ้าอย่างเงี้ก็
00:23:18 → 00:23:22 จบะหายใจออกแต่เราค่อยๆเหมือนกลั้น
00:23:22 → 00:23:25 เสียงเสียงมันจะแบบไปที่หูกะโหลกก่อนแล้ว
00:23:25 → 00:23:28 มันลมมันจะค่อยๆหมุนออกมาก่อนเพราะว่ามัน
00:23:28 → 00:23:30 ต้องฝึกไงเพราะบางคนอาจจะแบบเสียงทะเล
00:23:30 → 00:23:32 เป็นยังไงเราต้องพยายามทำยังไงให้เป็น
00:23:32 → 00:23:35 เสียงทะเลนะใช่มันมันจะผ่านลำคอของเราออก
00:23:35 → 00:23:37 มาแล้วเราจะมีสมาธิด้วยป่ะอ๋อนี่เราหายใจ
00:23:37 → 00:23:39 ออกอยู่เราจะได้ยินอ่าแต่ถ้าเกิดว่าเรา
00:23:39 → 00:23:43 แบบหายใจออกจบและมันก็มันก็ต่อไม่ได้เนาะ
00:23:43 → 00:23:46 มันก็ไม่ยาวน่าสนใจมากก็เดี๋ยวไปลองฝึก
00:23:46 → 00:23:48 กันได้นะคะทุกคนฝึกแล้วเป็นยังไงคอมเมนต์
00:23:48 → 00:23:51 บอกกันได้นะคะรายงานผลได้นะคะอ่ะต่อไปค่ะ
00:23:51 → 00:23:54 คุณหมอหนูอยากรู้เรื่องของอารมณ์คุณหมอ
00:23:54 → 00:23:56 ได้พูดไปแล้วแหลว่าจริงๆเราก็น่าจะรู้นะ
00:23:56 → 00:23:58 ว่าอารมณ์ที่ดีเนี่ยก็จะทำให้สุขภาพเรา
00:23:58 → 00:24:00 เราดีอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีอาจจะทำให้สุขภาพ
00:24:00 → 00:24:02 เราไม่ค่อยดีแต่ว่าอยากให้คุณหมอขยายความ
00:24:02 → 00:24:05 หน่อยว่ามันทำงานยังไงค่ะอารมณ์กับภูมิ
00:24:05 → 00:24:08 คุมกล่นใช่มคใช่ค่ะจริงๆจะเราจะแบ่งภูมิ
00:24:08 → 00:24:10 กันออกเป็น 2 อันคะภูมิคุ้มกันที่ปอดผิว
00:24:10 → 00:24:13 หนังก็คือแพ้อากาศกับภูมิคุ้มกันระดับลึก
00:24:13 → 00:24:15 เราจะเรียกว่าออโตอิมมูนภูมิคุ้มกันทำ
00:24:15 → 00:24:17 ร้ายตัวเองอ่ะทั้งหมดเยจริงๆแล้วคนที่
00:24:17 → 00:24:21 เป็นออโตอิมมูนเนี่ยจะค่อนข้างได้รับพิษ
00:24:21 → 00:24:24 จากอารมณ์ค่อนข้างมากอ่ะอารมณ์อันนึงก็
00:24:24 → 00:24:27 คือความโมโหความเครียดอทำให้พลังชเลือด
00:24:27 → 00:24:30 ติดขัดถ้าพูดถึงอารมณ์ที่ทำร้ายเอาไว้เอา
00:24:30 → 00:24:33 ภายในทั้งหมดความเศร้าเนี่ยทำร้ายปอดโดย
00:24:33 → 00:24:36 ตรงอ่าถ้าเกิดว่าเราแบบใครที่เป็นโควิด
00:24:36 → 00:24:39 อยู่แล้วดูซีรีส์ร้องไห้หนักๆเนี่ยระวัง
00:24:39 → 00:24:42 พลังชีพของปอดจะยิ่งตกเราจะยิ่งป่วยไม่
00:24:42 → 00:24:45 หายหรือว่าไอไม่หายอเพราะงั้นเ๋เราอยากไป
00:24:45 → 00:24:47 ปรุงแต่งอารมณ์มากอ่ะความเศร้าทำร้ายปอด
00:24:47 → 00:24:51 นะคะความดีใจเกินไปความประหลาดใจอุ๊ยดีใจ
00:24:51 → 00:24:54 จังเลยถูกหวยแล้วก็หัวใจช็อกวายไปอันนี้
00:24:54 → 00:24:58 คือทำร้ายหัวใจความโกรธทำร้ายตับความคิด
00:24:58 → 00:25:01 มากอ่ะเราคิดมากวิตกกังวลมากจะทำร้ายหม
00:25:01 → 00:25:03 ท้องเราจะอืดกินข้าวไม่ลงอันนี้จะเกี่ยว
00:25:03 → 00:25:06 กับภูมิคมกันหมดเลยใช่เพราะว่าถ้าเรากิน
00:25:06 → 00:25:09 ไม่ดีเนี่ยร่างกายก็จะไม่มีพลังงานใหม่ไป
00:25:09 → 00:25:11 เลี้ยงหรือถ้าเรากินมากเกินไปหรือกินน้อย
00:25:11 → 00:25:14 เกินไปก็จะผิดสมดุลในร่างกายอเราก็เหลือ
00:25:14 → 00:25:17 ไตไตก็คือแบบความกลัวความกลัวแล้วสังเกต
00:25:17 → 00:25:20 นะถ้าเราแบบไปทำให้เราตกใจเนี่ยพลังชีพ
00:25:20 → 00:25:22 มันจะลงภาษาไทยก็เลยพูดว่าตกใจเนาะหัวใจ
00:25:22 → 00:25:26 มันตกไปถึงตะกุนใช่พออยู่ๆเนี่ยพลังชีพ
00:25:26 → 00:25:29 เราดันลงวูบหัวใจมันจะขาดเลือดอเราจะรู้
00:25:29 → 00:25:32 สึกใจสั่นได้ง่ายทพอเด็กๆให้เขาตกใจกลัว
00:25:32 → 00:25:35 บ่อยๆหรือไปทำให้ผู้สูงอายุตกใจกลัวบ่อยๆ
00:25:35 → 00:25:37 เขาก็จะป่วยได้ง่ายได้เลยอ่ะเขาจะแบบเป็น
00:25:37 → 00:25:41 ไข้หวัดง่ายไอจามไม่หายหรือว่าเป็นคน
00:25:41 → 00:25:44 สะดุ้งตื่นหรือปัสสาวะราชก็คือควบคุมการ
00:25:44 → 00:25:47 ปัสสวะอุจจระไม่ได้เพรางั้นอารมณ์เนี่ย
00:25:47 → 00:25:49 สัมพันธ์กับร่างกายมากๆทีนี้เราจะเจาะไป
00:25:49 → 00:25:52 ที่ภูมิคุ้มกันหาว่าอารมณ์ไหนทำค่อนข้าง
00:25:52 → 00:25:54 ทำร้ายภูมิคมกันตอนนี้หนูกำลังอารมณ์ตื่น
00:25:54 → 00:25:57 เต้นเลยค่ะว้าวมากค่ะพอทีนี้เพะถ้าเกิด
00:25:57 → 00:25:59 ว่าเราอยากให้ภูมิคุ้มกันของเราแข็งแรงดี
00:25:59 → 00:26:03 จริงๆอหมอจะให้เป็นคนที่แบบสมูทนะถ้า
00:26:03 → 00:26:05 อารมณ์เรามันสวิงมากเนี่ยยังไงก็ป่วยอาจ
00:26:05 → 00:26:07 เราจะเจอดลึกว่าถ้าเราไปทำให้ร่างกายของ
00:26:07 → 00:26:10 เราเศร้ามากๆจากผิวหนังข้างนอกก็จะดูหมอง
00:26:10 → 00:26:15 ค้ำซีดไม่สดใสอ่ะปอดมันถูกทำร้ายพลังชีก็
00:26:15 → 00:26:17 จะไหลเวียนไปถึงผิวได้ไม่ดีผิวขาด
00:26:17 → 00:26:21 ออกซิเจนถ้าเกิดว่าเราเป็นคนที่เ่อขี้
00:26:21 → 00:26:24 โมโหมากๆพอเราโมโหมากๆแล้วเรานอนหลับพัก
00:26:24 → 00:26:27 ผ่อนไม่ดีอ่ะเป็นคนที่เครียดขี้โมโหกลาง
00:26:27 → 00:26:30 คืนก็นอนไม่หลับมันจะสัมพันธ์กันมันก็ทำ
00:26:30 → 00:26:33 ให้ร่างกายของเราฟื้นฟูระบบภูมคุ้มกันไม่
00:26:33 → 00:26:36 ได้เราจะเปรียบตอนกลางคืนเ่ะเป็นพลังหยิน
00:26:36 → 00:26:39 กลางวันเป็นพลังหยางกลางวันเราใช้ Energy
00:26:39 → 00:26:41 แล้วก็กลางคืนเนี่ยให้นอนหลับพักผ่อนที
00:26:41 → 00:26:43 นี้พอเราเป็นคนที่กลางวันก็ขี้โมโหเครียด
00:26:43 → 00:26:46 ง่ายแล้วก็ไฟนั้นเกิดไฟหัวใจขึ้นกลางคืน
00:26:46 → 00:26:49 นอนไม่หลับพอกลางคืนไม่ยอมนอนเนี่ยความ
00:26:49 → 00:26:51 ร้อนมันจะเกินอ่าเหมือนกับเราเปิดมอเตอร์
00:26:51 → 00:26:53 ตลอดเวลาแล้วเราไม่ได้ปิดสวิตช์เลยกลาง
00:26:53 → 00:26:56 คืนถ้าเรานอนหลับจะเป็นตัวปิดสวิตช์ทีนี้
00:26:56 → 00:26:58 พอเราไม่ปิดสวิตช์เลยเครื่องมันร้อนเกิน
00:26:58 → 00:27:01 อ่ะมันก็จะทำให้เรากลางวันเนี่ยเป็นผื่น
00:27:01 → 00:27:04 คันภูมิแพ้แพ้อากาศง่ายภูมิกันันตกขั้น
00:27:04 → 00:27:07 ที่ 1 พอเรามีพฤติกรรมแบบเนี้ยไปยาวๆมัน
00:27:07 → 00:27:09 จะมีโอกาสไปทำร้ายภูมิคุ้มกันเราจะเรียก
00:27:09 → 00:27:12 ออโตอิมมูนก็คือกลุ่มโรคภูมิคุ้มกันบก
00:27:12 → 00:27:17 พร่องก็คือจะเป็นแบบ sle ผื่นแดงเป็นปวด
00:27:17 → 00:27:20 ข้อเป็นต้นได้เลยเพราะงั้นถ้าเกิดว่าเรา
00:27:20 → 00:27:23 ดูแลอารมณ์ได้ดีสัมพันธ์กับการนอนที่ดีก็
00:27:23 → 00:27:25 ทำให้ภูมิคกันของเราฟื้นฟูขึ้นมาขออีกอัน
00:27:25 → 00:27:28 นึงก็คือมมก็คือการกินถ้าเกิดว่าเราอ่ะ
00:27:28 → 00:27:31 เป็นคนที่มีนิสัยคิดมากมากๆวิตกกังวลนะคะ
00:27:31 → 00:27:33 จะกินอันดีหรือจะกินอันดีหรือว่าคิดมาก
00:27:33 → 00:27:36 ทุกเรื่องคิดมากทุกเรื่องอาการเจริญอาหาร
00:27:36 → 00:27:38 ของเราจะแย่ลงความเจริญอาหารก็คือถ้าเกิด
00:27:39 → 00:27:41 ว่าเราทานอาหารเข้ามากระเพาะย่อยเก่งม้ำ
00:27:41 → 00:27:43 ดุดซึมเก่งเราจะผลิตพลังชีพและเลือดได้พอ
00:27:43 → 00:27:45 พลังชีและเลือดนี้ไปเลี้ยงหัวใจแล้วปอด
00:27:45 → 00:27:47 อ่ะภูมิคุมกันของเราก็จะแข็งแรงแต่พอเรา
00:27:47 → 00:27:50 คิดมากปุ๊บกพอก็ย่อยไม่ดีมมก็ดูดซึมไม่ดี
00:27:50 → 00:27:53 ก็ไม่มีพลังงานไปเปลี่ยนเป็นพลังชีพและ
00:27:53 → 00:27:55 เลือดปอดได้รับพลังชีพไม่พอหัวใจได้รับ
00:27:55 → 00:27:58 เลือดไม่พออ่ะภูมิคการเราก็จะตุกได้ง่าย
00:27:58 → 00:28:00 กลับกันถ้าเกิดว่าคนกินเยอะเกินไปอีกมัน
00:28:00 → 00:28:02 หนักเกินไปเขาก็ไม่มีแรงในการไปเผาผลา
00:28:02 → 00:28:04 ร่างกายของเราก็จะขาดได้เหมือนกันเพราะ
00:28:04 → 00:28:06 งั้นบางคนน่ะยิ่งกินยิ่งอ้วนแต่พอหยุดกิน
00:28:06 → 00:28:08 ปุ๊บก็ยิ่งอ้วนเข้าไปอีกเพราะว่าำกพอเขา
00:28:08 → 00:28:11 ว่าอ่อนแอรไปแล้วตั้งแต่เรากินมากๆงั้น
00:28:11 → 00:28:13 เราก็ต้องค่อยๆปรับพฤติกรรมกำลังว้าวอยู่
00:28:13 → 00:28:16 ค่ะทุกคนคือหนูว้าวเพราะว่าบางอย่างมัน
00:28:16 → 00:28:18 เป็นพฤติกรรมที่เราไม่ได้คิดว่ามันจะนำไป
00:28:18 → 00:28:21 สู่โลกอ่ะคือแบบอันนี้หนูยกตัวอย่างเช่น
00:28:21 → 00:28:23 อ่าคุณหมอพูดมาว่าตอนกลางคืนจริงๆเราควร
00:28:23 → 00:28:25 จะพักผ่อนเนาะเพราะว่ามันเป็นช่วงของพลัง
00:28:25 → 00:28:28 หินก็คือพลังเย็นๆน่ะต้องพักแล้วเราแบบ
00:28:28 → 00:28:30 เราทำงานทั้งวันไงยังไม่ได้แบบผ่อนคลาย
00:28:30 → 00:28:32 เลยตอนกลางคืนขอดูซีรีส์หน่อยหรือบางคน
00:28:32 → 00:28:35 หนักกว่านั้นค่ะเดี๋ยวนี้นิยมดูหนังผี
00:28:35 → 00:28:38 นิยมฟังเรื่องผีอันนี่ทำให้ตกใจกลัวนะใช่
00:28:38 → 00:28:40 มันคือพฤติกรรมการเลือกของเราด้วยนะเพราะ
00:28:40 → 00:28:42 เขาไม่รู้หรือเปล่าอ่ะแล้วการที่เลือกดู
00:28:42 → 00:28:44 แบบเยค่ะคุณหมออ่ะสมมุติเลือกดูซีรีส์
00:28:44 → 00:28:47 ร้องไห้ก็คือความเศร้าใช่ค่ะหนังผีกัวก็
00:28:48 → 00:28:50 ความกลัวใช่ขมขวัญตัวเองแล้วอ่ะแล้วสิ่ง
00:28:50 → 00:28:53 ที่เราได้มาจากการที่เราไม่รู้มันจะสะสม
00:28:53 → 00:28:55 เป็นนิสัยของเราเราอาจจะคิดว่าเอ้ยดูแล้ว
00:28:55 → 00:28:57 มันแบบตื่นเต้นสนุกในตอนนั้นแต่ว่ามันจะ
00:28:57 → 00:28:59 เริ่มทำให้เราอาจจะเป็นคนที่ขี้กลัวได้
00:28:59 → 00:29:02 ง่ายหรือว่านอนหลับไม่สนิทหรือว่าบางที
00:29:02 → 00:29:04 เราสะดุ้งตื่นหรือตื่นบ่อยๆเพราะว่าขวัญ
00:29:04 → 00:29:06 ของเราภาษาไทยมันจะค่อนข้างเป็นคำที่ดี
00:29:06 → 00:29:09 มากเราจะแยกเป็นออกจากจิตเนาะถ้าขวัญของ
00:29:09 → 00:29:12 เรามันไม่นิ่งไม่สงบมันเหมือนกับถูก
00:29:12 → 00:29:14 กระตุ้นมาคือเราก็รู้แหละเหมือนสมองเราก็
00:29:14 → 00:29:16 รู้แหว่าอันนี้มันเรื่องปลอมหรือว่าอัน
00:29:16 → 00:29:18 นี้มันดูมาไม่ใช่เราไม่ได้เจอจริงๆแต่ว่า
00:29:18 → 00:29:20 มันข่มขวัญเราไปแล้วเรารู้สึกจริงๆไปแล้ว
00:29:20 → 00:29:22 ตอนที่เราดูมันก็คือยังไงก็ทำร้ายหัวใจ
00:29:22 → 00:29:24 ของเราตอนที่เราอายุน้อยๆแล้วเราไปฟัง
00:29:24 → 00:29:26 อะไรแบบเนี้ยอ่ะเราอาจจะรู้สึกว่าไม่ค่อย
00:29:26 → 00:29:29 เป็นอะไรแต่จริงๆพอเราไปขมขวัญของไตมากๆ
00:29:30 → 00:29:32 ไตเนี่ยจะดูแลกระดูกคเรื่องการเจริญเติบ
00:29:32 → 00:29:36 โตไตจะขึ้นดนึงสารอาหารไปเลี้ยงสมองช่วย
00:29:36 → 00:29:38 เรื่องความทรงจำทีนี้ถ้าเกิดว่าเราอ่ะไป
00:29:38 → 00:29:41 ข่มขวัญของไตมากๆในเด็กเล็กอ่ะเด็กเล็ก
00:29:41 → 00:29:44 ต่ำกว่า 14 ปีชอบดูหนังผีตอนกลางคืนไม่
00:29:44 → 00:29:47 ยอมนอนจะทำให้พลังงานของไตอาจจะต่ำจนทำ
00:29:47 → 00:29:49 ให้เราสูงไม่พอแล้วความจำอาจจะยังไม่ดี
00:29:49 → 00:29:52 ด้วยหนูก็ไม่ได้ดูหนังผีทำไมหนูไม่สูงนอน
00:29:52 → 00:29:56 ดึกมั้ยกันสุดยอดเลยค่ะค่ะเเมื่อกี้ก็คือ
00:29:56 → 00:29:58 พฤติกรรมที่เราเลือกเนาะจริงๆมันก็คือส่ง
00:29:59 → 00:30:01 ผลหมดเลยถ้าเป็นวัยผู้ใหญ่ล่ะคะคุณหมอผู้
00:30:02 → 00:30:03 ใหญ่ขึ้นมาหน่อยอาจจะไม่ได้ดูซีรีส์ไม่
00:30:03 → 00:30:05 ได้ฟังหนังผีและแต่ว่าหนูอยากรู้ว่าการ
00:30:06 → 00:30:10 เสพข่าวข่าวคราวต่างๆอ่ะมีผลต่ออารมณ์และ
00:30:10 → 00:30:13 มีผลต่อการเกิดโรคเรามยคะมีมากๆเลยหมอจะย
00:30:13 → 00:30:16 ช่วงตัวอย่างโควิดค่ะโควิดเนี่ยเราเสพ
00:30:16 → 00:30:20 ข่าวที่ด้านลบมากเกินไปจริงๆแล้วมันอาจจะ
00:30:20 → 00:30:23 ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่ข่าวบอกแต่เราอ่ะไป
00:30:23 → 00:30:26 เครียดไปก่อนนะในช่วงโควิดอ่ะเราอาจจะ
00:30:26 → 00:30:28 ป่วยเป็นโควิดเพราะความเครียดได้ความ
00:30:28 → 00:30:31 เครียดจะทำให้เซลล์ยิ่งอักเสบอักเสบปุ๊บ
00:30:31 → 00:30:34 ภูมิของเราก็จะตกคนที่เขาแข็งแรงจริงๆ
00:30:34 → 00:30:37 เนี่ยเรับพิษเขาอาจจะไม่ป่วยแบบเขาว่าผิด
00:30:37 → 00:30:39 ทำร้ายเขาไม่ได้แต่พอเราเกิดความเครียด
00:30:39 → 00:30:42 เซลล์อักเสบอ่ะมันไม่มีเซลล์ดีๆในการต้าน
00:30:42 → 00:30:46 ทานโรคแล้วเราก็ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มี
00:30:46 → 00:30:47 พิษเนี่ยพิษมันก็จะเข้ามาได้ง่ายเพราะ
00:30:47 → 00:30:49 งั้นความเครียดการเสียบขาวที่มากเกินไป
00:30:49 → 00:30:54 แล้วเราจิตตกยังไงก็มีผลต่อร่างกายอือฮึ
00:30:54 → 00:30:57 อ่านอกจากการเสบเมื่อกี้มีซีรี่ส์มีดูนัง
00:30:58 → 00:31:00 ผีมีเสพขาวแล้วมีพฤติกรรมอะไรอีกบ้างคะ
00:31:00 → 00:31:02 ที่มันอาจจะทำให้ร่างกายเราเนี่ยภูมิคุ้ม
00:31:02 → 00:31:06 กันตกแล้วหมอจะสรุปไล่สั้นๆเลยตั้งแต่ตอน
00:31:06 → 00:31:09 เช้าตื่นมาถ้าเรากินอาหารที่ดีเข้าไปมก็
00:31:09 → 00:31:12 พอจะดูดซึมสารอาหารให้เราได้ดีแต่้าตอน
00:31:12 → 00:31:14 เช้าเราไม่กินอาหารหรือกินอาหารที่ไม่ดี
00:31:14 → 00:31:17 ก็คือพวกแปรรูปมก็เพราะอ่อนแอเขาจะไม่มี
00:31:17 → 00:31:19 กำลังส่งไปให้ปอดอันนี้ก็จะเป็นภูมิแพ้
00:31:19 → 00:31:22 หลายคนจะกินอาหารไม่ดีจนภูมิแพ้กำเริบกิน
00:31:22 → 00:31:25 เย็นเกินไปกินแป้งเยอะเกินไปเดี๋ยวก็มี
00:31:25 → 00:31:28 ผืนคันเดี๋ยวก็หายใจไม่ออกพอเรากินเสร็จ
00:31:28 → 00:31:31 เรื่องการขับถ่ายถ้าเกิดว่าเรามีพฤติกรรม
00:31:31 → 00:31:34 การขับถ่ายที่ไม่ดีเลยอ่ะบางคนคือถ่าย
00:31:34 → 00:31:36 เหลียวกินปุ๊บถ่ายปั๊บอันเนี้ยก็คือกำลัง
00:31:36 → 00:31:39 ของมาไม่ดีแต่ถ้าเกิดว่าเรา 3-4 วันไม่
00:31:39 → 00:31:42 ถ่ายอ่ะลำไส้ร้อนเกินไปลำไส้ใหญ่กับปอด
00:31:42 → 00:31:44 เขาจะทำงานประสานกันร่างกายของเราจำเป็น
00:31:44 → 00:31:47 ที่จะต้องขับถ่ายออกไปเพื่อไม่ให้กักเก็บ
00:31:47 → 00:31:50 ความร้อนอักเสบจนกระทบปอดงั้นหลายคนที่
00:31:50 → 00:31:52 ปอดอักเสบง่ายหรือผิวอักเสบง่ายเพราะว่า
00:31:52 → 00:31:56 ขับถ่ายได้ไม่ดีไฟมันก็ตีขึ้นตีขึ้นปอดพอ
00:31:56 → 00:31:59 ็กินดีแล้วขับถ่ายดีแล้วนะคะระหว่างวัน
00:31:59 → 00:32:02 จิบน้ำบ่อยๆอ่ะหลายคนไม่ยอมทานน้ำเลยมัน
00:32:02 → 00:32:04 ก็จะทำให้ร่างกายของเราไม่มีสารหล่อ
00:32:04 → 00:32:06 เลี้ยงร่างกายของเราก็จะทำงานได้ยากขึ้น
00:32:06 → 00:32:08 เลือดของเราก็จะไหล่เว้นได้แย่ขึ้นพอเรา
00:32:08 → 00:32:10 ขับถ่ายได้ดีแต่ว่าไม่ปัสสาวะชอบกลั้น
00:32:10 → 00:32:13 ปัสสาวะอ่าเสนมปานกระเพาะปัสสาวะเนี่ยเขา
00:32:13 → 00:32:16 จะเป็นยาวตั้งแต่หัวตาผ่านแผ่นหลังไปจน
00:32:16 → 00:32:19 ถึงปลายเท้าทีเนี้ยคนที่เป็นภูมิแพ้มากๆ
00:32:19 → 00:32:22 ก็คือโดนอากาศโดนหลังไม่ได้เลยโดนไหลไม่
00:32:22 → 00:32:24 ได้เลยจะจามมีน้ำมูกเพราะเส้นรมปาน
00:32:24 → 00:32:26 กระเพาะปัสสาวะเขาคอ่อนแอสาเหตุนึงเนี่ย
00:32:26 → 00:32:29 นอกจากการกินน้ำก็ก็คือการกลั้นปัสสาวะทำ
00:32:29 → 00:32:31 ให้เส้นโมปานพลังชีพของเขาติดขัดต่อมาก็
00:32:31 → 00:32:33 คือการนอนละก็คือกลางคืนถ้าเกิดว่าเรามี
00:32:34 → 00:32:37 พฤติกรรมการนอนไม่ดีดูใช้เสตาเยอะดูจอมาก
00:32:37 → 00:32:40 อ่าเราพักผ่อนไม่พอก็ทำให้ภูมิปกันของเรา
00:32:40 → 00:32:42 อ่อนแอได้มากก็ไล่ตั้งแต่ตอนเช้าจนถึง
00:32:42 → 00:32:46 กลางคืนเลยซึ่งเป็นรูทีนที่ใครหลายๆคนก็
00:32:46 → 00:32:48 เป็นอย่างงั้นอยู่นะใช่ไม่ปรับแล้วก็หลาย
00:32:48 → 00:32:51 คนมทำไมไม่หายซะทีเพราะว่าเรายังไม่ดูแล
00:32:51 → 00:32:53 พฤติกรรมของเราแล้วคนที่เป็นภูมิแพ้หนู
00:32:53 → 00:32:56 อยากรู้ว่าบางคนเเป็นมาตั้งแต่เด็กเลยอ่ะ
00:32:56 → 00:32:59 สามารถหายได้มแล้วก็ก็ทำไมบางคนจู่ๆวัน
00:32:59 → 00:33:01 นึงก็ถึงเป็นขึ้นมาขึ้นมาใช่ค่ะอ่ะถ้า
00:33:01 → 00:33:05 เกิดว่าแลกเกิดอเราบอกเด็กคนนี้แลกเกิดมา
00:33:05 → 00:33:07 แล้วเขาก็มีอาการของปอดมีอาการภูมิแพ้
00:33:07 → 00:33:10 หรือไปเหิดหอบตั้งแต่กำเนิดอันนี้จะมอง
00:33:10 → 00:33:13 ว่าตั้งแต่อยู่ในคันมารดาเนี่ยพลังงานของ
00:33:13 → 00:33:15 ไตเติบโตไม่เต็มที่คือเราจะแยกออกเป็น 2
00:33:15 → 00:33:18 ส่วนก่อนที่เราจะคลอดออกมาคือไตดูแลเขาจะ
00:33:18 → 00:33:22 คอยสร้างเซลล์เยื่อข้างในถ้าพ่อแม่ได้ให้
00:33:22 → 00:33:27 ผลิตผลที่ดีอสุจิดีไขดีมาบ่มเพาะในคัน
00:33:27 → 00:33:30 มารดาที่เป็นรดาที่กินอาหารดีเดินดี
00:33:30 → 00:33:33 อารมณ์ดีน้องในคันเนี่ยจะแข็งแรงแต่ถ้า
00:33:33 → 00:33:35 กลับกันเรามีพฤติกรรมที่ไม่ดีมีความ
00:33:35 → 00:33:38 เครียดระหว่างตั้งันอะไรแบบเนี้ยก็จะทำ
00:33:38 → 00:33:40 ให้น้องที่เกิดมาเขาสร้างเซลล์ได้ไม่พอ
00:33:40 → 00:33:43 ไม่เสร็จเขาก็จะเกิดมาป่วยแต่ว่าถามว่า
00:33:43 → 00:33:47 หายได้ไหมหายได้อ่ามันก็จะมีโอกาสที่หาย
00:33:47 → 00:33:49 ได้ถ้าเราดูแลระบบม้ามกระเพาะที่ดีไต
00:33:49 → 00:33:51 เนี่ยเป็นตัวดูแลก่อนกำเนิดม้ามจะเป็นตัว
00:33:51 → 00:33:54 ดูแลหลังกำเนิดหลังกำเนิดเนี่ยทุกคนสร้าง
00:33:54 → 00:33:57 ได้คนที่กินไม่ดีก็ป่วยอถ้ากินดีก็หายได้
00:33:57 → 00:34:00 ถ้าเด็กคนนั้นคุณแม่รู้แล้วว่าน้องไม่
00:34:00 → 00:34:03 ค่อยแข็งแรงระวังการกินให้เขาระวังการใช้
00:34:03 → 00:34:05 ชีวิตการนอนให้เขาให้เขาออกกำลังกายเด็ก
00:34:05 → 00:34:08 ที่เคยเป็นหืดหอบตั้งแต่กำเนิดจะสามารถ
00:34:08 → 00:34:11 ให้โรคสงบได้ตราบใดที่เขายังดูแลตัวเอง
00:34:11 → 00:34:13 ได้ดีเนี่ยภูมิแพ้ก็จะไม่กำเริบได้อันนี้
00:34:13 → 00:34:17 ก็จะมีเคสหน้าร้านก็คือเขาพอเขาไม่สบายมา
00:34:17 → 00:34:19 ตั้งแต่เด็กๆนะพอเขาเริ่มปรับพฤติกรรมออก
00:34:19 → 00:34:22 กำลังกายอาการของโรคเขาจะเบาขึ้นแล้วก็
00:34:22 → 00:34:25 อยู่ๆป่วยโหเกิดมาแข็งแรงมากเลยหมอแต่ว่า
00:34:25 → 00:34:28 พออายุขนาดนี้แล้วอยู่ๆก็ป่วยนั่นป่วยนี่
00:34:28 → 00:34:30 จริงๆคนที่แข็งแรงมาตลอดอ่ะจะชอบละเลย
00:34:30 → 00:34:33 ชีวิตนะอืก็คือไม่รู้ว่าความป่วยคืออะไร
00:34:33 → 00:34:35 แล้วก็ทำอะไรมันก็ไม่ป่วยหรอกกินอันนั้น
00:34:35 → 00:34:37 ก็ได้กินนี้ก็ได้อะไรอย่าเงี้ยพอเราไม่
00:34:37 → 00:34:40 ระวังจนถึงจุดที่เราตกผู้หญิงเนี่ยจะ
00:34:40 → 00:34:43 เริ่มตกตอน 35 ผู้ชายจะเริ่มตกตอนประมาณ
00:34:43 → 00:34:46 40 ตง 2 วัยเนี่ยถ้าเราดูแลตอนต้นไม่ดี
00:34:46 → 00:34:49 เนี่ยมันจะทรุดนแล้วเราก็จะป่วยกำเริบ
00:34:49 → 00:34:51 หลายๆโรคได้ง่ายถ้าเกิดว่าเราไม่อยากอยู่
00:34:51 → 00:34:53 ๆป่วยเราก็ต้องดูแลตัวให้ดีใช่มั้ยแต่ถ้า
00:34:53 → 00:34:56 ป่วยแล้วก็ดูแลระบบร่างกายของเราอ่ะอย่าง
00:34:56 → 00:34:59 ที่เราเล่ากันมาเนาะให้ดีทีนี้เรื่องของ
00:34:59 → 00:35:02 โรคภูมิแพ้หนูไปศึกษามาค่ะคุณหมอคนใน
00:35:02 → 00:35:04 ประเทศไทยจะเป็นภูมิแพ้ที่เป็นเยอะๆเนี่ย
00:35:04 → 00:35:07 ก็คือจะมี 2 อย่างคือแพ้อากาศกับแพ้ฝุ่น
00:35:07 → 00:35:10 แพ้อากาศก็คือในเรื่องของร้อนเย็นใช่มั้ย
00:35:10 → 00:35:12 คะอ่ะคุณหมออธิบายเพิ่มหน่อยก็ได้ค่ะร่าง
00:35:12 → 00:35:14 กายของเราเนี่ยจะมีพลังชีตัวหนึ่งเราจะ
00:35:14 → 00:35:16 เรียกว่าเว่ยชีจะเป็นพลังชีที่จะเป็นตัว
00:35:16 → 00:35:19 เกาะป้องกันต่อเราต่อสภาพอากาศแวดล้อมอ่า
00:35:19 → 00:35:22 จำได้ไมมว่าพลังชีเนี่ยคือปอดดูแลใช่มั้ย
00:35:22 → 00:35:24 พลังชีพตัวนึงที่เรียกว่าเวยชีเงคนที่แพ้
00:35:24 → 00:35:27 อากาศอพอเจออากาศร้อนจัดเย็นจัดหรืออยู่
00:35:28 → 00:35:30 ในห้องแอร์แป๊บนึงก็โอ๊ยจามละหายใจไม่ออก
00:35:30 → 00:35:33 อยู่ๆก็รูจมูกตีบขึ้นมาเลยหายใจไม่เข้าเพ
00:35:33 → 00:35:36 ความอบอุ่นไม่พอในการไหลเวียนเลือดเเขา
00:35:36 → 00:35:40 ต้องใช้แรงในการสูดลมหายใจอมันก็จะมีหาย
00:35:40 → 00:35:42 ใจไม่เข้าหายใจไม่ออกเพราะมันตีบเข้ามา
00:35:42 → 00:35:44 ความเย็นมีผลเราจะมองว่าพลังหยงชี่ในร่าง
00:35:45 → 00:35:47 กายของเขาไม่เพียงพอเขาก็เลยไม่สามารถ
00:35:47 → 00:35:50 ปรับสมดุลต่อสภาพแวดล้อมได้อ่ะแล้วคนๆ
00:35:50 → 00:35:52 เนี้ยออกไปเจออากาศร้อนจัดก็อยู่ไม่ได้
00:35:52 → 00:35:55 อีกก็จามอีกเพราะว่าไอ้เวยชอันเนี้ยมัน
00:35:55 → 00:35:58 ปรับสมดุลร้อนเย็นได้ไม่เก่งถถ้าเกิดว่า
00:35:58 → 00:36:01 เราต้องการให้เราดีขึ้นกับการแพ้อาการเรา
00:36:01 → 00:36:04 ก็เลยต้องกระตุ้นพลังชีขึ้นมาทุกคนมีพลัง
00:36:04 → 00:36:07 ชหมดอยู่ที่เราใช้ไมหลายคนก็คือตื่นมา
00:36:07 → 00:36:11 ปุ๊บทำงานแล้วก็นอนก็คือไม่ได้มีการเดิน
00:36:11 → 00:36:13 ที่มากพอไม่ได้ออกกำลังกายมากพอพลังชีไม่
00:36:13 → 00:36:16 ได้ถูกดึงเข้ามาใช้มันก็เลยอ่อนแอมันก็
00:36:16 → 00:36:18 เลยไม่มาป้องกันโรคให้เรางั้นถ้าเกิดว่า
00:36:18 → 00:36:21 เราต้องการให้แพ้อากาศดีขึ้นแนะนำให้ออก
00:36:21 → 00:36:23 กำลังกายอย่างพอดีอ่าอย่างพอดีก็คือไม่
00:36:23 → 00:36:25 ให้เหงื่อออกมากจนเกินไปหรือไม่ให้ออก
00:36:25 → 00:36:28 กำลังกายนานต่อเนื่องมากเกินไปเพราะส่วน
00:36:28 → 00:36:30 ที่มากเกินไปเนี่ยมันก็จะย้อนกลับไปดึง
00:36:30 → 00:36:33 พลังงานของเรามาใช้จะทำให้เรายิ่งออนแอร์
00:36:33 → 00:36:35 ได้งั้นออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอที่
00:36:35 → 00:36:38 ไม่มากเกินไปแล้วจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกัน
00:36:38 → 00:36:40 แพ้อากาศได้ดีขึ้นเราหลายคนแพ้ฝุ่นแพ้
00:36:40 → 00:36:43 ฝุ่นเนี่ยเราสูดเข้าไปทางพวงจมูกความแข็ง
00:36:43 → 00:36:46 แรงของปอดอยู่ที่ขนเส้นขนจริงๆแล้วในโวง
00:36:46 → 00:36:49 จมูของเราก็จะมีเส้นขนในการดักแต่เพราะ PM
00:36:49 → 00:36:52 2.5 เนี่ยมันเล็กมากจนสามารถมันเข้าหลอด
00:36:52 → 00:36:54 เลือดของเราได้เลยอันนี้ทางสาพแผ่นจีนจะ
00:36:54 → 00:36:57 มีคำนึงที่เป็นคำคลาสสิคมากเขาจะพูดว่า
00:36:57 → 00:37:00 เจิ้งชี่เนยฉุนเสียผู้เขอการก็คือเจิ้ง
00:37:00 → 00:37:03 ชี่คือพลังที่ดีในร่างกายของเราถ้ามันมี
00:37:03 → 00:37:05 อยู่แล้วในร่างกายของเราอย่างเต็มเปี่ยมเ
00:37:05 → 00:37:08 เสียชีก็คือพิษภายนอกจะไม่สามารถเข้ามาทำ
00:37:08 → 00:37:11 อะไรได้งั้นหลายคนเป็นภูมิแพ้แต่ว่าหลาย
00:37:11 → 00:37:14 คนไม่เป็นในสภาพอากาศเดียวกันเป็นเพราะ
00:37:14 → 00:37:16 อะไรก็เพราะว่าแต่ละคนพลังเจิงชี่ไม่เท่า
00:37:16 → 00:37:19 กันก็คือพฤติกรรมของเขาเนี่ยไม่เหมือนกัน
00:37:19 → 00:37:22 ทำให้เขาคนนึงแพ้ง่ายคนนึงไม่แพ้งั้นเรา
00:37:22 → 00:37:25 ก็เลยต้องพยายามสร้างเจิ้งชี่หรือพลัง
00:37:25 → 00:37:28 ภูมิคุ้มกันของเราอ่ะขึ้นมางั้นขนของเรา
00:37:28 → 00:37:31 จะทำงานได้ดีอ่าหรือว่าแรงภายในร่างกาย
00:37:31 → 00:37:34 เนี่ยจะต้านขับพิษออกมาได้ทำให้พิษเหล่า
00:37:34 → 00:37:36 นั้นจะทำร้ายเราได้ไม่มากหรือเข้าลงไปได้
00:37:36 → 00:37:39 ไม่ลึกอันนี้เป็นความแตกต่างของคนที่ภูมิ
00:37:39 → 00:37:42 คู่กันดีกับภูมิคกันไม่ดีถ้าในกรณีที่เรา
00:37:42 → 00:37:44 เป็นภูมิแพ้เรื่องฝุ่นอะไรอย่างงี้นิสัย
00:37:45 → 00:37:47 อย่างนึงที่หนูว่าคนที่เป็นภูมิแพ้จะมี
00:37:47 → 00:37:50 โดยปริยายคืออาจจะรักสะอาดหรือเปล่าคะอืม
00:37:50 → 00:37:54 ก็เกี่ยวเหมือนกันอใช่ๆทีพอเราจะรักสะอาด
00:37:54 → 00:37:57 ก็จะทำให้เราพูมิแพ้ไม่กำเริบได้แล้วคน
00:37:57 → 00:38:00 ที่ไม่ดูแลเลยถ้าเขาแข็งแรงเนี่ยเาจะยัง
00:38:00 → 00:38:02 ไม่เป็นอะไรอยู่ตราบจนที่เขาวันนึงภูมิ
00:38:02 → 00:38:04 เขาตกจริงๆเนี่ยจากที่เราเคยอยู่ได้ก็จะ
00:38:05 → 00:38:07 อยู่ไม่ได้ในสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปเรื่อง
00:38:07 → 00:38:10 นิสัยเรื่องโรคเรื่องพฤติกรรมทุกอย่างหนู
00:38:10 → 00:38:12 เกี่ยวกันหมดเลยอ่ะใช่เกี่ยวพันกันยาวเลย
00:38:12 → 00:38:14 ใช่แต่ถ้าเราไม่รู้ว่าแบบอันนี้มันสามารถ
00:38:14 → 00:38:16 ก่อให้เกิดอย่านี้นะเราก็อาจจะยังทำ
00:38:16 → 00:38:18 พฤติกรรมที่มันนำไปสู่โลกอยู่ใช่ไม่คิด
00:38:18 → 00:38:21 ว่ามันจะเกี่ยวกันอ่าค่ะวันนี้หนูว่าได้
00:38:21 → 00:38:24 ความรู้แล้วก็ได้อะไรใหม่ๆในศาสตร์การ
00:38:24 → 00:38:26 แพทย์แผนจีนที่แบบน่าจะมีประโยชน์มากๆ
00:38:26 → 00:38:29 แล้วก็คุณหมอพูดถึงเรื่องของสมาธิไปด้วย
00:38:29 → 00:38:32 ว่าเรื่องลมหายใจการฝึกลมหายใจนี่ก็มี
00:38:32 → 00:38:35 ส่วนช่วยอย่างมากในเรื่องของภายในเราใช่
00:38:35 → 00:38:38 ปรับสมดุลได้ใช่อค่ะสุดท้ายค่ะอยากให้คุณ
00:38:38 → 00:38:40 หมอฝากอะไรนิดนึงค่ะว่าเกี่ยวกับเรื่อง
00:38:40 → 00:38:43 ของการดูแลร่างกายเพื่อสร้างภูมิูมิกัน
00:38:43 → 00:38:46 ว่าเราควรจะฝึกนิสัยยังไงที่เป็นนิสัยที่
00:38:46 → 00:38:48 ดีที่จะทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายเราแข็ง
00:38:48 → 00:38:51 แรงค่ะถ้าพูดถึงภูมิคุ้มกันจริงๆก็คือ
00:38:51 → 00:38:54 สัมพันธ์กับปอดซึ่งปอดสัมพันธ์กับลมหายใจ
00:38:54 → 00:38:58 ขอข้อเดียวเลยก็คือลองฝึกลมหายใจ
00:38:58 → 00:39:00 ถ้าเรามีเวลาก็ไปออกกำลังกายแล้วพลังชี
00:39:00 → 00:39:03 ของปอดจะแข็งแรงขึ้นความต้านทานโรคของเรา
00:39:04 → 00:39:06 อ่ะจะมีมากขึ้นฝากไว้สั้นๆเลยแน่นอนว่า
00:39:06 → 00:39:08 วันนี้ทุกคนได้ประโยชน์อย่างยิ่งนะคะแล้ว
00:39:08 → 00:39:11 ก็ท่านไหนฟังแล้วก็ชอบตรงไหนเป็นพิเศษ
00:39:11 → 00:39:12 หรือว่ารู้สึกว่าเฮ้ยอันนี้ไม่เคยรู้มา
00:39:12 → 00:39:14 ก่อนสามารถคอมเมนต์บอกเราแล้วก็คอมเมนต์
00:39:14 → 00:39:16 ให้กำลังใจคุณหมอได้นะคะแล้วก็ให้กำลังใจ
00:39:16 → 00:39:20 แพนด้าด้วยค่ะค่ะวันนี้ก็เดี๋ยวขอลาไป
00:39:20 → 00:39:22 ก่อนนะคะมี EP หน้าๆอีกแน่นอนที่ยังอยู่
00:39:22 → 00:39:25 กับคุณหมอการแพร่แผนจีนนะคะมารอติดตามกัน
00:39:25 → 00:39:27 ว่าจะเป็นโรคอะไรถ้าใครมีคำถามอะไรนะคะ
00:39:27 → 00:39:29 คอมเมนต์เอาไว้ได้เลยนะคะเดี๋ยวมาเจอกัน
00:39:29 → 00:39:33 ค่ะขอบคุณค่ะคุณหมอขอบคุณค่ะ
00:39:33 → 00:39:54 [เพลง]