การดื่มน้ำส้มสายชูหมักมีผลเสียต่อฟันหรือไม่

หมอภทร Podcast Talk ตอน 🍎 น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล (ACV) : ความจริง ประโยชน์ และความเสี่ยง

จากช่อง : Advanced LCHF longevity


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 ขอต้อนรับสู่หมอพัทรพcast Talk ความรู้

00:00:0300:00:06 สุขภาพลึกและฟรีมีที่นี่

00:00:0600:00:09 >> น้ำส้มสายชู้ Apple หรือที่เรียกกันติด

00:00:0900:00:13 ปากว่า ACV โอ้โหได้ยินกันบ่อยมากเลยใช่

00:00:1300:00:16 มั้ครับสรรพคุณนี่มาเต็มเลยนะทั้งช่วยเผา

00:00:1600:00:20 ผลาญไขมันลดเบาหวานหรือบางคนบอกว่าทำให้

00:00:2000:00:24 อายุยืนเลยก็มีเอแล้วตกลงมันจะจริงแค่ไหน

00:00:2400:00:26 กันล่ะเนี่ยวันนี้ล่ะครับเราจะมาเจาะลึก

00:00:2600:00:29 ทุกหลักฐานที่มีอยู่ตอนนี้เพื่อหาคำตอบไป

00:00:2900:00:33 ด้วยกันใช่ครับคำถามสำคัญมันก็อยู่ตรงนี้

00:00:3300:00:37 แหละที่ได้ยินกันมาเนี่ยตกลงว่า ACV มัน

00:00:3700:00:40 เป็นยาวิเศษจริงๆหรือว่าเป็นแค่กระแสคิด

00:00:4000:00:44 ในอินเทอร์เน็ตกันแน่เอาล่ะเรามาสวมบทนัก

00:00:4400:00:46 สืบกันหน่อยดีกว่ามาแยกกันให้ออกเลยครับ

00:00:4700:00:49 ระหว่างคำกล่าวอ้างกับข้อเท็จจริงทาง

00:00:4900:00:53 วิทยาศาสตร์โอเคก่อนที่เราจะไปกันไกลกว่า

00:00:5300:00:56 นี้เนี่ยเรามาเริ่มจากจุดที่เบสิคที่สุด

00:00:5600:00:59 กันก่อนเลยครับไอ้เจ้า ACV ที่อยู่ในขวด

00:00:5900:01:01 ที่เราเห็นกันเนี่ยแท้จริงแล้วมันคืออะไร

00:01:0200:01:05 กันแน่จะบอกว่ามันไม่ใช่อาหารเสริมที่ซับ

00:01:0500:01:07 ซ้อนอะไรเลยนะคือจริงๆแล้วมันก็คือน้ำ

00:01:0700:01:10 แอปเปิ้ลหมักธรรมดาๆดานี่เองครับแล้วหัว

00:01:1000:01:13 ใจสำคัญเลยที่ทำให้มันมีเรื่องราวมี

00:01:1300:01:16 สรรพคุณต่างๆนานาก็คือสารตัวเอกที่ชื่อ

00:01:1600:01:19 ว่ากรดอเซตินี่แหละแล้วกระบวนการทำของมัน

00:01:1900:01:22 นะโหง่ายแบบไม่น่าเชื่อเลยครับมีแค่ 2

00:01:2200:01:25 สเต็ปเท่านั้นเองคือ 1 เขาจะเอายีสใส่ลง

00:01:2500:01:28 ไปใน apple บดยีสก็จะไปกินน้ำตาลแล้ว

00:01:2800:01:30 เปลี่ยนให้เป็นแอลกอฮอล์พอก่อนจากนั้น

00:01:3000:01:33 สเต็ปที่ 2 ก็จะมีแบคทีเรียอีกชนิดนึง

00:01:3300:01:35 เข้ามาจัดการเปลี่ยนแอลกอฮอล์นั้นให้กลาย

00:01:3500:01:39 เป็นกรดอซิติกจบเลยง่ายๆแค่นี้เลยครับย้ำ

00:01:3900:01:42 อีกทีนะครับว่ากรดอซิติกนี่แหละคือพระเอก

00:01:4200:01:45 ของเรื่องทั้งหมดเลยมันเป็นตัวการที่ทำ

00:01:4500:01:48 ให้ ACV มีกลิ่นฉุนๆมีรสเปรี้ยวจี๊ดและ

00:01:4800:01:52 ที่สำคัญคืออาจจะมีผลดีต่อร่างกายของเรา

00:01:5200:01:55 ซึ่งเรากำลังจะไปเจาะลึกกันนี่แหละครับที

00:01:5500:01:57 นี้มาถึงจุดที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ

00:01:5700:02:00 เลยนะครับคือภาพพีของมันเนี่ยอยู่ที่

00:02:0000:02:04 ประมาณ 2-3 เท่านั้นเองซึ่งถือว่ามีความ

00:02:0400:02:08 เป็นกรดสูงมากๆเลยนะครับลองนึกภาพตามนะ

00:02:0800:02:11 น้ำเปล่าคือ 7 กรดในแบตเตอรี่คือ 1 นี่

00:02:1100:02:13 อยู่ใกล้ฝั่งแบตเตอรี่เลยนะจำตัวเลขนี้

00:02:1300:02:16 ไว้ให้ดีๆนะคะเพราะมันจะกลับมามีบทบาท

00:02:1600:02:19 สำคัญมากๆตอนที่เราจะคุยกันเรื่องข้อควร

00:02:1900:02:23 ระวังโดยเฉพาะกับฟันของเราเลยเอาล่ะครับ

00:02:2300:02:26 ถึงเวลาของไฮไลท์แล้วเรามาดูหลักฐานที่

00:02:2600:02:29 ต้องบอกว่าแข็งแกร่งที่สุดของ ACV กันเลย

00:02:2900:02:32 ดีกว่านั่นก็คือเรื่องการควบคุมน้ำตาลใน

00:02:3200:02:35 เลือดครับซึ่งเป็นประเด็นที่มันทำได้โดด

00:02:3500:02:38 เด่นแล้วก็น่าทึ่งที่สุดแล้วเลข 25 ที่

00:02:3800:02:41 เห็นอยู่นี่นะครับไม่ใช่ว่ามาจากการทดลอง

00:02:4100:02:44 แค่งานเดียวนะแต่มันคือจำนวนการทดลองทาง

00:02:4400:02:47 คลินิกที่เขารวบรวมมาวิเคราะห์ภาพใหญ่เลย

00:02:4700:02:50 หรือที่เรียกว่า meta analysis ซึ่งมีคน

00:02:5000:02:54 เข้าร่วมทดลองทั้งหมดเนี่ยมากกว่า 1,300

00:02:5400:02:57 คนแล้วผลที่ได้ก็คือชัดเจนมากครับว่าการ

00:02:5700:03:01 กิน ACV เนี่ยสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลใน

00:03:0100:03:04 เลือดตอนที่เราท้องว่างได้อย่างมีนัยยะ

00:03:0400:03:07 สำคัญเลยโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่เป็นเบาหวาน

00:03:0700:03:11 เอแล้วมันทำงานยังไงล่ะคำเปรียบเทียบนี้

00:03:1100:03:14 อธิบายได้เห็นภาพสุดๆเลยครับลองนึกภาพตาม

00:03:1400:03:18 นะว่า ACV เนี่ยมันทำตัวเหมือนแป้นเบรก

00:03:1800:03:21 คือเจ้ากรดอซิติกจะเข้าไปช่วยชะลอการทำ

00:03:2100:03:24 งานของเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ย่อยแป้งให้

00:03:2400:03:27 กลายเป็นน้ำตาลผลก็คือแทนที่น้ำตาลใน

00:03:2700:03:30 เลือดจะพุ่งปรี๊ดขึ้นไปหลังกินข้าวมันก็

00:03:3000:03:33 จะค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆแล้วก็ไม่สูง

00:03:3300:03:36 เท่าเดิมด้วยเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นไปอีก

00:03:3600:03:38 นะครับสมมุติว่ามีคน 2 คนกินเบเกิ้ล

00:03:3900:03:41 เหมือนกันเป๊ะๆเลยคนที่ไม่ได้กิน ACV

00:03:4100:03:44 เข้าไปเนี่ยระดับน้ำตาลอาจจะพุ่งไปถึง 180

00:03:4400:03:48 เลยนะแต่คนที่กิน ACV ก่อนมื้ออาหารจุดพี

00:03:4800:03:50 ของน้ำตาลอาจจะอยู่ที่ประมาณ 140 เท่า

00:03:5000:03:52 นั้นเองเห็นมั้ครับว่าต่างกันเยอะเลยซึ่ง

00:03:5200:03:54 อันนี้ต้องย้ำนะว่ามันไม่ได้หมายความว่า

00:03:5400:03:57 มันรักษาโรคเบาหวานนะแต่มันเหมือนเข้าไป

00:03:5700:03:59 ช่วยลดภาระให้กับร่างกายของเราได้อย่าง

00:03:5900:04:03 ชัดเจนมากๆแล้วมันไม่ได้มีแค่นั้นนะใน

00:04:0300:04:06 ระดับเซลล์ก็มีอีกกลไกนึงที่น่าสนใจมากๆ

00:04:0600:04:09 เลยค่ะลองจินตนาการว่าเซลล์กล้ามเนื้อของ

00:04:0900:04:12 เราเนี่ยมันเหมือนเป็นประตูที่ล็อคอยู่

00:04:1200:04:14 แล้วอินซูลินก็คือกุญแจในภาวะดื้อ

00:04:1400:04:17 อินซูลินเนี่ยกุญแจมันจะไข่ยากมากเหมือน

00:04:1700:04:20 แม่กุญแจมันขึ้นสนิมน่ะค่ะเจ้ากรดอซิติก

00:04:2000:04:23 เนี่ยแหละจะเข้าไปทำหน้าที่เหมือนหยอดน้ำ

00:04:2300:04:26 มันให้แม่กุญแจพอหยอดแล้วเป็นไงครับประตู

00:04:2600:04:29 ก็เปิดง่ายขึ้นทำให้เซลล์ของเราดึงน้ำตาล

00:04:2900:04:32 เข้าไปใช้ได้ดีขึ้นนั่นเองเอาล่ะครับมา

00:04:3200:04:35 ถึงหัวข้อที่หลายคนน่าจะรอคอยกันอยู่นั่น

00:04:3500:04:38 ก็คือเรื่องการลดน้ำหนักแล้วก็คำกล่าว

00:04:3800:04:41 อ้างอื่นๆที่เราได้ยินกันบ่อยๆเรามาดูกัน

00:04:4100:04:43 แบบตรงไปตรงมาเลยดีกว่าครับว่ามันมีหลัก

00:04:4300:04:45 ฐานในมนุษย์มายืนยันเรื่องพวกนี้มากน้อย

00:04:4500:04:50 แค่ไหนพอเราไปดูหลักฐานจริงๆนะครับก็จะ

00:04:5000:04:53 เห็นว่าสำหรับเรื่องลดน้ำหนักเนี่ยผลที่

00:04:5300:04:55 ได้มันน้อยมากๆเลยครับเรียกเรียกว่าเป็น

00:04:5600:04:58 แค่ตัวช่วยเสริมเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง

00:04:5800:05:00 แล้วก็ยังไม่มีข้อมูลระยะยาวที่น่าเชื่อ

00:05:0000:05:03 ถือด้วยส่วนเรื่องต้านการติดเชื้อกับ

00:05:0300:05:06 เรื่องชะลอวัยเนี่ยหลักฐานที่เรามีอยู่

00:05:0600:05:09 ตอนนี้มันยังอยู่ในขั้นทดลองในห้องแลบกับ

00:05:0900:05:11 ในสัตว์เท่านั้นเองครับยังไม่มีการยืนยัน

00:05:1100:05:15 ในมนุษย์เลยแม้แต่น้อยคือก็ต้องยอมรับนะ

00:05:1500:05:18 ครับว่าในประวัติศาสตร์เนี่ยมีการใช้น้ำ

00:05:1800:05:21 ส้มใ่ชูเป็นยาฆ่าเชื้อเป็นพันๆปีแล้วจริง

00:05:2100:05:24 ๆนะอย่างที่ฮิปโปคริติบิดาแห่งการแพทย์ก็

00:05:2400:05:28 เคยใช้รักษาสาแผลแต่ต้องย้ำนะครับว่านั่น

00:05:2800:05:31 คือบริบทของยุคโบราณเลยในยุคปัจจุบัน

00:05:3100:05:33 เนี่ยเรายังไม่มีการทดลองทางคลินิกใน

00:05:3300:05:36 มนุษย์ที่สามารถมายืนยันสรรพคุณด้านนี้

00:05:3600:05:39 ได้แบบชัดๆเลยครับโอเคเรารู้เรื่อง

00:05:3900:05:41 ประโยชน์ของมันไปแล้วโดยเฉพาะเรื่องน้ำตา

00:05:4100:05:44 ในเลือดทีนี้มาดูอีกด้านนึงที่สำคัญไม่

00:05:4400:05:47 แพ้กันเลยนั่นก็คือความเสี่ยงแล้วก็กดใน

00:05:4700:05:50 การใช้ครับเรามาดูกันดีกว่าว่าจะใช้ ACV

00:05:5000:05:54 ยังไงให้ปลอดภัยที่สุดข้อกังวลที่ใหญ่ที่

00:05:5400:05:57 สุดเลยนะครับคือเรื่องฟันจำเรื่องค่า pH

00:05:5700:06:00 2-3 ที่เราคุยกันตอนแรกได้มั้ครับความ

00:06:0000:06:03 เป็นกรดที่สูงขนาดนั้นของ ACV เนี่ยมัน

00:06:0300:06:05 สามารถกัดกร่อนเคลือบฟันของเราได้เลยนะ

00:06:0500:06:09 ครับโดยเฉพาะถ้าดื่มแบบเข้มข้นไม่เจือจาง

00:06:0900:06:12 แล้วที่น่ากลัวคือความเสียหายแบบนี้มัน

00:06:1200:06:14 เกิดขึ้นแล้วเกิดขึ้นเลยนะครับเอากลับคืน

00:06:1400:06:18 มาไม่ได้ด้วยเพราะฉะนั้นวิธีที่จะป้องกัน

00:06:1800:06:21 ปัญหานี้ได้ก็มี 3 ข้อง่ายๆเลยครับจำง่าย

00:06:2100:06:24 ๆเลยนะ 1 คือต้องเจือจาง

00:06:2400:06:28 เสมอเลยนะผสมกับน้ำแก้วใหญ่ๆไปเลย 2 คือ

00:06:2800:06:31 ป้องกันฟันของเราด้วยการใช้หลอดดูดเพื่อ

00:06:3100:06:35 ลดการสัมผัสโดยตรงและ 3 คือจับเวลาให้ถูก

00:06:3500:06:39 ครับก็คือดื่มก่อนมื้ออาหารที่มีพวกแป้ง

00:06:3900:06:41 หรือคาร์โบไฮเดรตเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

00:06:4100:06:45 ที่สุดนั่นเองแล้วปริมาณที่เหมาะสมล่ะควร

00:06:4500:06:48 จะกินเท่าไหร่ดีคำตอบจากงานวิจัยส่วนใหญ่

00:06:4800:06:51 ก็คือไม่เกิน 1 ช้อนโต๊ครับหรือประมาณ 15

00:06:5100:06:55 มลต่อวันนี่คือปริมาณที่เขาใช้ในการศึกษา

00:06:5500:06:57 กันแล้วก็ต้องจำไว้อย่างนึงนะครับว่าเรา

00:06:5700:06:59 ยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัยในระยะยาวๆเลย

00:07:0000:07:02 นะที่นานเกิน 12 สัปดาห์ขึ้นไปเนี่ยยัง

00:07:0200:07:07 ไม่มีใครรู้เอาล่ะครับมาถึงบทสรุปกันแล้ว

00:07:0700:07:09 ถ้าจะให้พูดแบบฟันธงในประโยคเดียวเลยก็

00:07:0900:07:13 คือ ACV เนี่ยเป็นแค่เครื่องมือตัวช่วย

00:07:1300:07:17 เล็กๆนะครับไม่ใช่ยาวิเศษแต่อย่างใดสรุป

00:07:1700:07:20 จากหลักฐานทั้งหมดที่เราดูกันมานะครับ ACV

00:07:2000:07:23 ถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์นะราคาไม่

00:07:2300:07:26 แพงแล้วก็ค่อนข้างปลอดภัยด้วยถ้าใช้ใน

00:07:2600:07:29 ปริมาณที่เหมาะสมแล้วก็ในระยะเวลาที่ไม่

00:07:2900:07:31 นานเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งเลยสำหรับคน

00:07:3100:07:34 ที่มีความกังวลเรื่องภาวะดื้อต่ออินซูลิน

00:07:3400:07:36 อย่างเช่นกลุ่มเสี่ยงเบาหวานหรือคนที่

00:07:3600:07:39 เป็นเบาหวานอยู่แล้วและคำถามสุดท้ายที่

00:07:3900:07:42 อยากจะทิ้งไว้ให้ไปคิดกันต่อก็คือผลลัพธ์

00:07:4200:07:45 เล็กๆน้อยๆที่มันช่วยได้เนี่ยมันคุ้มค่า

00:07:4500:07:47 พอที่จะทำให้เราต้องสร้างมันขึ้นมาเป็น

00:07:4700:07:50 นิสัยในทุกๆวันหรือเปล่าคำตอบนี้ก็คงต้อง

00:07:5000:07:52 ขึ้นอยู่กับเป้าหมายด้านสุขภาพของแต่ละคน

00:07:5200:07:55 แล้วล่ะครับ

00:07:5500:07:58 >> สวัสดีครับยินดีต้อนรับสู่การเจาะลึกข้อ

00:07:5800:08:00 มูลกันอีกครั้งนะครับวันนี้เราจะมาคุยกัน

00:08:0000:08:04 เรื่องที่เอ่อเรียกว่าอยู่ในกระแสเลยก็

00:08:0400:08:07 ว่าได้นะฮะน้ำส้มใสชูหมักจาก Apple หรือ

00:08:0700:08:10 ที่เรียกกันติดปากว่า Apple Sider Fine

00:08:1000:08:13 ACV นั่นแหละครับคือหลายคนน่าจะเคยได้

00:08:1300:08:16 ยินหรือบางทีอาจจะลองใช้กันมาบ้างแล้ว

00:08:1600:08:18 ด้วยซ้ำเพราะข้อมูลเกี่ยวกับสรรพคุณนี่

00:08:1800:08:22 โอ้โหเยอะมากทั้งในเน็ตทั้งแบบว่าบอกต่อๆ

00:08:2200:08:25 กันมาช่วยเผาผลาญไขมั่นบ้างล่ะควบคุมน้ำ

00:08:2500:08:28 ตาลในเลือดต่อต้านเชื้อโรคหรือแม้กระทั่ง

00:08:2800:08:31 ช่วยให้อายุยืนขึ้นก็มีผมจำได้เลยตอน

00:08:3100:08:35 เรียนหมอนะตอนนั้นมอง ACV เหมือนเอ่อภูมิ

00:08:3500:08:38 ปัญญาชาวบ้านหรือพวกการรักษาทางเลือกที่

00:08:3800:08:42 แบบยังไม่มีหลักฐานชัดๆมารองรับเท่าไหร่

00:08:4200:08:45 คำถามสำคัญวันนี้เลยก็คือสรุปแล้วเนี่ย

00:08:4500:08:47 ACV มันเป็นยาวิเศษจริงอย่างที่เขา้าว่า

00:08:4700:08:51 กันหรือว่าเป็นแค่กระแสวันนี้เราจะมาคุย

00:08:5100:08:54 กันให้เคลียร์เจาะลึกข้อมูลงานวิจัยล่า

00:08:5400:08:57 สุดเลยมาแยกกันดูว่าอะไรจริงอะไรแค่เชื่อ

00:08:5700:09:01 ต่อๆกันมาแล้วก็ที่สำคัญเลยมีความเสี่ยง

00:09:0100:09:02 อะไรที่เราต้องรู้บ้าง

00:09:0200:09:07 >> ค่ะก็เริ่มกันที่ว่า ACV คืออะไรก่อนเนาะ

00:09:0700:09:09 จริงๆแล้วกระบวนการทำก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร

00:09:0900:09:13 เลยค่ะมันก็คือเอาง่ายๆน้ำแอปเปิ้ลหมัก

00:09:1300:09:16 เนี่ยแหละค่ะเริ่มจากบดแอปเปิ้ลคั้นเอา

00:09:1600:09:19 น้ำแล้วก็เติมยีสลงไปยีสก็จะเข้าไปกินน้ำ

00:09:1900:09:22 ตาลในแอปเปิ้ลนะคะแล้วก็เปลี่ยนเป็น

00:09:2200:09:25 แอลกอฮอล์ก่อนคล้ายๆกับทำเบียร์ทำไวนเลย

00:09:2500:09:28 ค่ะจากนั้นก็จะมีแบคทีเรียอีกกลุ่มเข้ามา

00:09:2800:09:31 ค่ะที่ชื่ออซิโตบคเตอร์กลุ่มนี้แหละค่ะ

00:09:3100:09:34 ที่จะเปลี่ยนแอลกอฮอล์ต่อให้กลายเป็นกรด

00:09:3400:09:37 อซิติหรือแอซิดซึ่งเจ้านี่แหละค่ะคือหัว

00:09:3700:09:41 ใจสำคัญเลยที่ทำให้ ACV มีกลิ่นฉุน

00:09:4100:09:43 เปรี้ยวๆที่เป็นเอกลักษณ์แล้วก็เป็นสาร

00:09:4300:09:46 ออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลักที่เราเชื่อว่าเอ่อ

00:09:4600:09:48 เกี่ยวข้องกับประโยชน์สุขภาพต่างๆที่เรา

00:09:4800:09:50 จะคุยกันต่อไปเนี่ยแหละค่ะอีกเรื่องที่

00:09:5100:09:53 ต้องรู้ไว้เลยคือเรื่องความเป็นกรดนะคะ

00:09:5300:09:57 ค่าพีของ ACV เนี่ยจะอยู่ประมาณ 2-3

00:09:5700:09:59 >> โหเปรี้ยวจัดเลยนะนั่น

00:09:5900:10:02 >> ใช่ค่ะกรดค่อนข้างแรงเลยถ้าเทียบกับน้ำ

00:10:0200:10:05 เปล่าที่เป็นกลาง PH7 หรือกรดในกระเพาะ

00:10:0500:10:09 เราที่ประมาณ 1.5-3.5 5 ก็ถือว่าใกล้

00:10:0900:10:12 เคียงกันเลยซึ่งประเด็นเจะสำคัญมากตอนที่

00:10:1200:10:15 เราพูดถึงข้อควรระวังโดยเฉพาะผลต่อฟัน

00:10:1500:10:18 หรือคนที่มีปัญหากรดไหลย้อนค่ะ

00:10:1800:10:21 >> โอเคครับเข้าใจพื้นฐานแล้วทีนี้มาเข้า

00:10:2100:10:24 เรื่องหลักกันเลยดีกว่าประเด็นแรกที่เอ่อ

00:10:2400:10:26 ดูเหมือนจะมีงานวิจัยรองรับเยอะสุดเลยใช่

00:10:2700:10:29 มั้ยครับเรื่องผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาล

00:10:2900:10:30 ในเลือด

00:10:3000:10:33 >> ถูกต้องเลยค่ะอันนี้ถือเป็นจุดแข็งหรือ

00:10:3300:10:35 ว่าเป็นด้านที่ข้อมูลค่อนข้างไปในทิศทาง

00:10:3500:10:38 เดียวกันมากที่สุดแล้วค่ะมีงานวิจัยดีๆ

00:10:3800:10:42 แบบ RCTS เยอะพอสมควรเลยแล้วก็ที่สำคัญ

00:10:4200:10:45 คือมีการวิเคราะห์แบบ Meta Analysis ล่า

00:10:4500:10:48 สุดออกมาอันนี้คือเค้ารวบรวมผลจากเอ่อ 25

00:10:4800:10:51 การทดลองทางคลินิกเลยนะคะคนเข้าร่วมเป็น

00:10:5100:10:55 พันกว่าคนผลสรุเนี่ยชี้ชัดเลยว่าการกิน

00:10:5500:10:58 ACV ช่วยลดระดับน้ำตาลตอนอดอาหารได้จริง

00:10:5800:11:02 ลดน้ำตาลสะสมหรือ HBA1C ได้ด้วย

00:11:0200:11:04 >> อ๋อลดน้ำตาลสะสมได้ด้วย

00:11:0400:11:07 >> ค่ะแล้วก็ยังช่วยลดไขมันไตรกลีซรายได้

00:11:0700:11:10 ด้วยอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติเลยโดย

00:11:1000:11:12 เฉพาะในกลุ่มที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2

00:11:1200:11:14 หรือว่ามีภาวะอ้วนร่วมด้วยค่ะ

00:11:1400:11:18 >> โหผลลัพธ์น่าสนใจมากเลยครับแล้วเอ่อกลไก

00:11:1900:11:21 มันทำงานยังไงทำไมกรดอซิติกมันถึงช่วย

00:11:2100:11:23 เรื่องน้ำตาลได้ครับ

00:11:2300:11:26 >> ค่ะมีหลายกลไกที่อธิบายได้นะคะอย่างแรก

00:11:2600:11:29 ที่ค่อนข้างชัดเจนเลยคือกรดอซิติกเนี่ย

00:11:2900:11:31 มันทำตัวเหมือนเป็นเบรกอ่อนๆในระบบย่อย

00:11:3100:11:35 อาหารเราค่ะมันจะเข้าไปเอ่อชะลอการทำงาน

00:11:3500:11:37 ของเอนไซม์บางตัวที่ย่อยแป้งให้เป็นน้ำ

00:11:3700:11:38 ตาล

00:11:3800:11:40 >> อ๋อเหมือนไปขัดขวางนิดหน่อย

00:11:4100:11:44 >> ใช่ค่ะผลก็คือแป้งมันจะถูกย่อยช้าลงน้ำ

00:11:4400:11:46 ตาลก็จะค่อยๆถูกดูดซึมเข้าเลือดไม่พุ่ง

00:11:4600:11:49 ปรี๊ดหลังกินข้าวโดยเฉพาะมื้อที่แป้งเยอะ

00:11:4900:11:50 ๆนี่เห็นผลชัดค่ะ

00:11:5000:11:53 >> นึกภาพตามเลยครับเหมือนกับว่าสมมุติเรา

00:11:5300:11:56 กินข้าวมื้อใหญ่ๆปกติน้ำตาลอาจจะพุ่งจาก

00:11:5600:12:00 90 ไป 180 พรวดเดียวแต่ถ้ามี ACV ช่วย

00:12:0000:12:03 มันอาจจะค่อยๆขึ้นไปแค่ 140 หรือ 150

00:12:0300:12:06 อะไรแบบนี้ลดความแรงของการสวิงลง

00:12:0600:12:09 >> ใช่ค่ะประมาณนั้นเลยคือมันไปลดไกลซิคโหลด

00:12:0900:12:12 หลังมืออาหารนั่นเองค่ะนอกจากนั้นนะคะใน

00:12:1200:12:15 ระดับเซลล์เนี่ยกรดอซิติกก็มีผลที่น่าสน

00:12:1500:12:18 ใจอีกอย่างแรกคือมันช่วยเพิ่มความไวของ

00:12:1800:12:20 เซลล์ต่ออินซูลินค่ะโดยเฉพาะที่เซลล์

00:12:2000:12:23 กล้ามเนื้อซึ่งเป็นตัวหลักเลยที่ดึงน้ำ

00:12:2300:12:23 ตาลไปใช้

00:12:2300:12:26 >> เพิ่มความไวต่ออินซูลินหมายความว่าไงครับ

00:12:2600:12:30 >> คือลองนึกภาพนะคะอินซูลินเหมือนกุญแจ

00:12:3000:12:34 เซลล์เหมือนประตูที่มีแม่กุญแจในคนที่มี

00:12:3400:12:36 ภาวะดื้ออินซูลินเนี่ยแม้กุญแจมันอาจจะ

00:12:3600:12:40 ฝืดๆหรือน้อยลงกุญแจก็เลยเปิดประตูยากน้ำ

00:12:4000:12:43 ตาลก็เลยเข้าเซลล์ไม่ได้ค้างอยู่ในเลือด

00:12:4300:12:47 สูงกรดอะซิติกเนี่ยดูเหมือนจะไปช่วยให้

00:12:4700:12:49 เอ่อกระบวนการส่งสัญญาณของอินซูลินมันดี

00:12:4900:12:52 ขึ้นคล้ายๆไปหยอดน้ำมันให้แม่กุญแจทำให้

00:12:5200:12:55 เซลล์เปิดรับน้ำตาลได้ง่ายขึ้นค่ะ

00:12:5500:12:57 >> อ๋อเข้าใจแล้วครับทำให้เซลล์ตอบสนองดี

00:12:5700:12:58 ขึ้นนั่นเอง

00:12:5800:13:01 >> ค่ะแล้วก็มีกลไกที่เกี่ยวกับตับด้วยค่ะ

00:13:0100:13:04 คือปกติตับเราจะผลิตน้ำตาลออกมาเมื่อร่าง

00:13:0400:13:07 กายต้องการใช่มั้ยคะแต่ในคนที่เป็นเบา

00:13:0700:13:09 หวานหรือดื้ออินซูลินเนี่ยตับอาจจะทำงาน

00:13:0900:13:12 ผิดปกติคือสร้างน้ำตาลออกมาเยอะเกินทั้งๆ

00:13:1200:13:14 ที่น้ำตาลในเลือดก็สูงอยู่แล้ว

00:13:1400:13:16 >> อ้าวยิ่งแย่ไว้กันใหญ่เลยสิครับ

00:13:1600:13:19 >> ใช่ค่ะก็มีหลักฐานว่ากรดอะซีติกเนี่ยอาจ

00:13:1900:13:22 จะช่วยลดการผลิตน้ำตาลส่วนเกินจากตับตรง

00:13:2200:13:24 นี้ได้ด้วยซึ่งก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่

00:13:2400:13:27 ช่วยให้น้ำตาลตอนอดอาหารมันลดลงและอีก

00:13:2700:13:31 กลไกที่เอ่อมีการศึกษาเยอะเหมือนกันคือ

00:13:3100:13:33 กรดอซิติกสามารถไปกระตุ้นเอนไซม์ตัวนึง

00:13:3300:13:36 ชื่อว่า AMPK ค่ะ

00:13:3600:13:37 >> AMPK

00:13:3700:13:41 >> ค่ะ AMP activated โปรสเอนไซม์ตัวนี้

00:13:4100:13:44 อยู่ในเซลล์ทั่วร่างกายเลยโดยเฉพาะกล้าม

00:13:4400:13:47 เนื้อมันเหมือนเป็นสวิตช์ใหญ่ควบคุมพลัง

00:13:4700:13:50 งานในเซลล์เลยค่ะพอ AMPK ถูกกระตุ้นมันจะ

00:13:5000:13:52 ส่งสัญญาณให้เซลล์เนี่ยเอาน้ำตาลกับไขมัน

00:13:5200:13:55 ไปเผาเป็นพลังงานมากขึ้นแล้วก็ลดการเก็บ

00:13:5500:13:58 สะสมลงผลมันจะคล้ายๆกับเวลาเราออกกำลัง

00:13:5800:14:00 กายสม่ำเสมอเลยค่ะ

00:14:0000:14:01 >> เฮ้ยน่าสนใจมาก

00:14:0100:14:04 >> ที่น่าสนใจกว่านั้นคือกลไกกระตุ้น

00:14:0400:14:07 เนี่ยมันเป็นช่องทางเดียวกับที่ยาเบาหวาน

00:14:0700:14:10 ที่ใช้กันเยอะๆอย่างเม็ดforมอกด้วยนะคะ

00:14:1000:14:14 >> โหฟังดูดีมากเลยมีกลไกเยอะแยะไปหมดเลยนะ

00:14:1400:14:16 ครับแถมยังคล้ายยาเมดฟมิอีกแสดงว่า

00:14:1600:14:21 ศักยภาพมันก็น่าจะดีสิครับแต่ทำไมเอ่อมัน

00:14:2100:14:23 ถึงยังไม่ถูกเอามาใช้ในวงการแพทย์แบบจริง

00:14:2300:14:24 จังล่ะครับถ้ามันดีขนาดนั้น

00:14:2500:14:27 >> เป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะคือต้องเข้าใจว่า

00:14:2700:14:31 ถึงแม้กลไกมันจะดูดีดูน่าสนใจหรือคล้ายยา

00:14:3100:14:34 เนี่ยแต่ขนาดของผลหรือเอฟเฟคsiซที่เกิด

00:14:3400:14:38 ขึ้นจริงๆจากการกิน ACV ในปริมาณที่เรา

00:14:3800:14:40 แนะนำกันเนี่ยมันอาจจะไม่ได้เอ่อไม่ได้

00:14:4000:14:43 แรงเท่ากับการใช้ยาโดยตรงนะคะอย่างงาน

00:14:4300:14:46 Meta Analysis ที่เล่าไปถึงแม้จะบอกว่า

00:14:4600:14:49 ผลมันมีนัยยะสำคัญทางสถิติคือเห็นความแตก

00:14:4900:14:52 ต่างชัดเจนแต่ในทางปฏิบัติจริงๆการลดลง

00:14:5200:14:55 ของน้ำตาลหรือ HBA1C เนี่ยอาจจะอยู่ใน

00:14:5500:14:58 ระดับปานกลางเท่านั้นไม่ได้มากมายขนาดจะ

00:14:5800:15:00 มาแทนยาหลักได้ค่ะ

00:15:0000:15:03 >> อ๋อเข้าใจแล้วครับคือมีผลจริงแต่ไม่ได้

00:15:0300:15:05 แรงเท่า

00:15:0500:15:08 >> ใช่ค่ะมันเลยถูกมองมันแค่ตัวช่วยเสริมมาก

00:15:0800:15:11 กว่าจะเป็นยารักษาที่สำคัญคือผลลัพธ์ใน

00:15:1100:15:13 แต่ละคนก็อาจจะไม่เท่ากันด้วยค่ะ

00:15:1300:15:17 >> ชัดเจนครับสรุปคือ ACV ไม่ใช่ยาวิเศษ

00:15:1700:15:20 รักษาเบาหวานแต่ว่าด้วยกลไกหลายๆอย่างที่

00:15:2000:15:24 ว่ามาโดยเฉพาะเรื่องชะลอการดูดซึมน้ำตาล

00:15:2400:15:26 เพิ่มความไวอินซูลินมันก็ดูเหมือนจะมี

00:15:2600:15:29 ประโยชน์ในการช่วยจัดการน้ำตาลหลังมื้อ

00:15:2900:15:32 อาหารได้โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงหรือคนที่

00:15:3200:15:33 มีปัญหาหาดื้ออินซูลินอยู่แล้ว

00:15:3300:15:34 >> ถูกต้องค่ะ

00:15:3400:15:38 >> โอเคครับงั้นไปต่อประเด็นถัดไปที่ฮิตไม่

00:15:3800:15:42 แพ้กันเลยเรื่องลดน้ำหนักอันนี้เป็นยังไง

00:15:4200:15:44 บ้างครับหลักฐานแน่นพอมั้ย

00:15:4400:15:48 >> เรื่องลดน้ำหนักนี่เอ่อก็มีงานวิจัยอยู่

00:15:4800:15:51 บ้างนะคะมี RCT ที่น่าสนใจอันนึงจาก

00:15:5100:15:55 ญี่ปุ่นทำเมื่อปี 2009 ค่ะขอให้คนที่มี

00:15:5500:15:57 ภาวะอ้วนเนี่ยดื่มเครื่องดื่มที่ผสมน้ำ

00:15:5700:16:00 ส้มใสชูเทียบกับกลุ่มที่ดื่มยาหลอกทุกวัน

00:16:0000:16:04 เลยนะเป็นเวลา 12 สัปดาห์หรือ 3 เดือนผล

00:16:0400:16:07 ก็คือกลุ่มที่ดื่มน้ำส้มใสชูเนี่ยน้ำหนัก

00:16:0700:16:11 ตัวลดลงเส้นรอบเอวลดมวลไขมันก็ลดลงเล็ก

00:16:1100:16:14 น้อยแต่ว่ามีนัยยะสำคัญทางสถิติเมื่อ

00:16:1400:16:16 เทียบกับกลุ่มยาหลอกค่ะ

00:16:1600:16:18 >> ลดลงประมาณเท่าไหร่เหรอครับ

00:16:1800:16:21 >> กลุ่มที่ได้กรดอซิติกเยอะหน่อยลดได้

00:16:2100:16:25 เฉลี่ยเกือบๆ 2 กกัค่ะใน 3 เดือนกลุ่มที่

00:16:2500:16:28 ได้น้อยลงมาหน่อยก็ลดไปประมาณกลนิดๆค่ะ

00:16:2800:16:33 1.2 กก.โห 3 เดือนลดเกือบ 2 กลฟังดูก็

00:16:3300:16:34 ไม่เลวนะครับ

00:16:3400:16:38 >> ค่ะฟังดูหมันจะดีนะคะแต่ว่าพอเรามองภาพ

00:16:3800:16:41 รวมเอาผลจากหลายๆงานวิจัยมารวมกันมา

00:16:4100:16:43 วิเคราะห์ใหม่ใน Systematic Reviews

00:16:4300:16:46 หรือ Meta Analysis ล่าสุดเนี่ยข้อสรุป

00:16:4600:16:49 มันยังเหมือนเดิมค่ะคือหลักฐานณปัจจุบัน

00:16:4900:16:52 ยังไม่พอค่ะที่จะสนับสนุนให้ใช้ ACV

00:16:5200:16:54 เพื่อลดน้ำหนักแบบจริงๆจังๆ

00:16:5400:16:58 >> ออะไม่เลอะครับทั้งๆที่มีงานวิจัยที่เห็น

00:16:5800:17:00 ผลอยู่บ้างใช่มั้ยเหรอ

00:17:0000:17:03 คือปัญหามันอยู่ที่ข้อจำกัดของงานวิจัย

00:17:0300:17:06 เดิมๆค่ะส่วนใหญ่เป็นงานวิจัยขนาดเล็กคน

00:17:0600:17:10 เข้ารุ่งน้อยไประยะเวลาศึกษาก็สั้นไปส่วน

00:17:1000:17:12 ใหญ่ก็แค่ 12 สัปดาห์นี่แหละค่ะมันบอกผล

00:17:1300:17:17 ระยะยาวไม่ได้แล้วก็เอ่อวิธีการศึกษาก็

00:17:1700:17:19 ต่างกันเยอะกลุ่มคนที่ศึกษาก็ต่างกัน

00:17:2000:17:23 ปริมาณ ACV ที่ใช้ก็ไม่เท่ากันที่สำคัญ

00:17:2300:17:26 คือการควบคุมปัจจัยอื่นที่มีผลกับน้ำหนัก

00:17:2600:17:29 เช่นคุมอาหารมยออกกำลังกายหรือเปล่าตรง

00:17:2900:17:30 นี้มันคุมได้ไม่ดีพอค่ะ

00:17:3000:17:35 >> อ๋อเลยไม่แน่ใจว่าที่ลดลงเนี่ยเพราะ ACV

00:17:3500:17:37 จริงๆหรือเพราะอย่างอื่นกันแน่

00:17:3700:17:40 >> ใช่ค่ะผลที่เห็นมันก็น้อยมากๆด้วยซ้ำทำ

00:17:4000:17:42 ให้ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ก็เลยยังไม่แนะนำ

00:17:4200:17:45 ให้ใช้ ACV เป็นตัวหลักในการลดน้ำหนักค่ะ

00:17:4500:17:49 >> เข้าใจแล้วครับสรุปคืออาจจะพอมีผลบ้างนิด

00:17:4900:17:53 หน่อยจริงๆแต่หลักฐานโดยรวมยังอ่อนมากยัง

00:17:5300:17:56 ห่างไกลคำว่าตัวช่วยลดน้ำหนักที่มี

00:17:5600:17:58 ประสิทธิภาพก็แปลกดีนะครับที่เรื่องนี้

00:17:5800:18:01 ยังฮิตอยู่อาจจะเพราะมันง่ายมั้งหาซื้อ

00:18:0100:18:05 ง่ายราคาไม่แพงคนก็เลยหวังว่าจะช่วยได้

00:18:0500:18:08 ง่ายๆก็อาจจะเป็นไปได้ค่ะแล้วก็อาจจะมีผล

00:18:0800:18:11 ทั้งอ้อมเล็กๆน้อยๆเช่นบางคนบอกว่าดื่ม

00:18:1100:18:13 แล้วรู้สึกอิ่มเร็วกว่าเดิมนิดหน่อยก็อาจ

00:18:1300:18:16 จะทำให้กินน้อยลงไปบ้างแต่ผลตรงนี้ก็ยัง

00:18:1600:18:18 ไม่ชัดเจนค่ะไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกคน

00:18:1800:18:21 >> ครับผมงั้นประเด็นถัดไปที่ได้ยินบ่อยๆ

00:18:2100:18:23 เหมือนกันคือเรื่องข่าเชื้อต่อสู้กับการ

00:18:2400:18:26 ติดเชื้ออันนี้ข้อมูลเป็นไงบ้างครับนึก

00:18:2600:18:28 ถึงสมัยก่อนเค้าก็ใช้น้ำส้มสายซัวทำความ

00:18:2800:18:29 สะอาดกันอยู่แล้วนะ

00:18:2900:18:32 >> ใช่เลยค่ะเรื่องใช้ค่าเชื้อนี่มีมานาน

00:18:3200:18:35 แล้วในทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันนะคะถ้าเป็น

00:18:3500:18:37 การทดลองในห้องแลบหรือ invitro เนี่ยชัด

00:18:3700:18:41 เจนเลยค่ะว่า ACV กับกรดอซิติกมีฤทธิ์ยับ

00:18:4100:18:43 ยั้งการโตของเชื้อจุลินทรีย์ได้หลายตัว

00:18:4300:18:46 เลยทั้งแบคทีเรียอย่างอีโคไลนที่ทำให้

00:18:4600:18:49 ท้องเสียสตฟิโลคออกคัสออสที่ทำให้ติด

00:18:4900:18:52 เชื้อตามผิวหนังหรือแม้แต่สายพันธุ์ดื้อ

00:18:5200:18:56 ยา MRSA นะคะสูโดโมนASก็ด้วยแล้วก็เชื้อ

00:18:5600:18:58 ราอย่างแคนID้าที่ทำให้เกิดเชื้อราในช่อง

00:18:5800:19:00 คลอดหรือในปากก็โดนยับยั้งได้เหมือนกัน

00:19:0000:19:03 ค่ะผลในหลอดทดลองนี่ค่อนข้างดีเลย

00:19:0300:19:06 >> ฟังดูดีมากเลยครับในหลอดทดลองแต่คำถาม

00:19:0600:19:10 เดิมเลยแล้วมันแปลผลมาสู่การใช้ในตัวคน

00:19:1000:19:13 เราจริงๆได้มั้ครับทำไมสิ่งที่ฆ่าเชื้อใน

00:19:1300:19:16 จานทดลองพอมากินเข้าไปอาจจะไม่ได้ผล

00:19:1600:19:17 เหมือนเดิม

00:19:1700:19:19 >> นี่แหละค่ะคือประเด็นสำคัญเลยการที่สาร

00:19:1900:19:22 อะไรสักอย่างมันฆ่าเชื้อได้ในจานเพาะ

00:19:2200:19:25 เลี้ยงหรือบนพื้นผิวเนี่ยมันไม่ได้แปลว่า

00:19:2500:19:27 พอกินเข้าไปแล้วมันจะไปออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อ

00:19:2700:19:30 ข้างในร่างกายเราได้เหมือนกันมันมีปัจจัย

00:19:3000:19:34 ต่างๆเยอะมากเลยค่ะเช่นอย่างแรกเลยคือ

00:19:3400:19:37 ความเข้มข้นในหลอดทดลองเราอาจจะใช้แบบ

00:19:3700:19:40 เข้มข้นเลยแต่พอดื่มเข้าไปปุ๊บมันโดนน้ำ

00:19:4000:19:43 ลายน้ำย่อยอะไรต่างๆเจือจางหมดความเข้ม

00:19:4300:19:45 ข้นมันลดลงไปเยอะมากค่ะ

00:19:4500:19:47 >> อ๋อมันเจื่อจางลงไปเยอะ

00:19:4700:19:50 >> ใช่ค่ะแล้วสภาพแวดล้อมในร่างกายเรามันก็

00:19:5000:19:54 ซับซ้อนกว่าเยอะมีพีต่างกันมีเอนไซม์มี

00:19:5400:19:57 อะไรต่างๆที่อาจจะไปลดฤทธิ์ของกรดอซิติก

00:19:5700:20:00 ได้แล้วพอถูกดูดซึมเข้าเลือดไปแล้วมันก็

00:20:0000:20:02 กระจายไปทั่วร่างกายอีกความเข้มข้นที่จะ

00:20:0300:20:05 ไปถึงตรงที่ติดเชื้อจริงๆเนี่ยอาจจะน้อย

00:20:0500:20:07 เกินไปจนฆ่าเชื้อไม่ได้แล้วค่ะ

00:20:0700:20:10 >> เข้าใจเลยครับมันไม่เหมือนกับการเอาไปลาด

00:20:1000:20:12 ใส่เชื้อโดยตรงในจานทดลอง

00:20:1200:20:15 >> ถูกต้องค่ะแล้วตำแหน่งที่ติดเชื้ออีกล่ะ

00:20:1500:20:18 คะถ้าติดเชื้อในอวัยวะข้างในลึดการดื่ม

00:20:1800:20:21 ACV มันอาจจะไปไม่ถึงเลยก็ได้ด้วยเหตุผล

00:20:2100:20:24 พวกนี้ล่ะค่ะทำให้จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มี

00:20:2400:20:28 งานวิจัยดีๆในคนที่น่าเชื่อถือพอจะมายืน

00:20:2800:20:31 ยันได้ว่าการดื่ม ACV เนี่ยมันช่วยรักษา

00:20:3100:20:33 หรือป้องกันการติดเชื้อต่างๆภายในร่างกาย

00:20:3300:20:36 ได้จริงๆดังนั้นเรื่องสรรพคุณด้านนี้ก็

00:20:3600:20:39 เลยยังเอ่อยังขาดหลักฐานในคนรองรับอยู่

00:20:3900:20:40 ค่ะ

00:20:4000:20:43 >> ชัดเจนมากครับอธิบายความต่างระหว่างผลใน

00:20:4300:20:48 แลบกับในคนได้ดีเลยสรุปคือฤทธิ์ฆ่าเชื้อ

00:20:4800:20:51 ในหลอดทดลองอ่ะมีจริงแต่ยังไม่มีหลักฐาน

00:20:5100:20:54 ว่ามันจะช่วยรักษาการติดเชื้อในคนได้จริง

00:20:5400:20:54

00:20:5400:20:55 >> ค่ะ

00:20:5500:20:57 >> อีกเรื่องที่เห็นแชร์กันเยอะเลยโดยเฉพาะ

00:20:5700:21:01 ในกลุ่มคนรักสุขภาพสายชะลอวัยคือเรื่อง

00:21:0100:21:04 ประโยชน์ด้านอายุยืน antiaging อันนี้

00:21:0400:21:05 แหละครับจริงแค่ไหน

00:21:0500:21:08 >> สำหรับเรื่องชะลอวัยอายุยืนอันนี้ต้องบอก

00:21:0800:21:11 ว่าหลักฐานยิ่งน้อยลงไปอีกค่ะคือมันจำกัด

00:21:1100:21:14 อยู่แค่ในสัตว์ทดลองตัวเล็กๆอย่างพวกหนู

00:21:1400:21:17 หรือหนอนตัวกล่อมๆที่ชื่อ se elegance

00:21:1700:21:19 แล้วก็เป็นการทดลองในระดับเซลล์หรือใน

00:21:1900:21:22 หลอดทดลองเท่านั้นเลยยังไม่มีการศึกษาใน

00:21:2200:21:23 คนเลยแม้แต่งานเดียวค่ะ

00:21:2300:21:27 >> อ้าวหรอครับมีแค่แค่ในสัตว์ทดลองเองหรอ

00:21:2700:21:30 >> ใช่ค่ะอย่างเช่นเขาไปศึกษาในหนูแก่ๆแล้ว

00:21:3000:21:33 พบว่ากรดอะซิติกอาจจะมีผลกับยีนที่เกี่ยว

00:21:3300:21:36 กับกล้ามเนื้อฟอหรือการทำงานของไมโทคเรีย

00:21:3600:21:39 ที่มันจะเสื่อมไปตามอายุหรือศึกษาในหนอน

00:21:3900:21:42 ซี elegant แล้วพบว่ามันอาจจะอายุยืนขึ้น

00:21:4200:21:45 นิดหน่อยหรือมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระปก

00:21:4500:21:48 ป้องเซลล์ประสาทในแบบจำลองโรคสมองเสื่อม

00:21:4800:21:50 ในสัตว์อะไรทำนองนี้ค่ะแต่ที่ต้องย้ำมากๆ

00:21:5000:21:54 เลยคือผลในสัตว์ทดลองพวกนี้เอามาสรุปกับ

00:21:5400:21:57 คนไม่ได้เลยนะคะร่างกายคนเรากระบวนการแก่

00:21:5700:22:00 มันซับซ้อนกว่านั้นเยอะมากเพราะฉะนั้นณ

00:22:0000:22:03 ตอนนี้คือไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่

00:22:0300:22:07 น่าเชื่อถือในคนเลยมาสนับสนุนว่า ACV

00:22:0700:22:10 ช่วยชะลอแก่หรือทำให้อายุยืนได้เรื่องนี้

00:22:1000:22:11 ยังห่างไกลมากค่ะ

00:22:1100:22:15 >> เข้าใจเลยครับเรียกว่าเป็นประเด็นที่เอ่อ

00:22:1500:22:17 ห่างไกลจากความจริงในคนมากสุดเลยในบรรดา

00:22:1700:22:19 เรื่องที่เราคุยกันมาเป็นเรื่องความหวัง

00:22:1900:22:22 การตลาดมากกว่าวิทยาศาสตร์ตอนนี้

00:22:2200:22:23 >> ประมาณนั้นเลยค่ะ

00:22:2300:22:25 >> เอาล่ะครับเราไล่ได้เรียงสรรพคุณต่างๆมา

00:22:2600:22:28 พอสมควรแล้วทีนี้มาถึงเรื่องที่อาจจะ

00:22:2800:22:32 สำคัญที่สุดเลยแต่คนอาจจะมองข้ามไปคือ

00:22:3200:22:34 เรื่องความปลอดภัยครับอันนี้มีอะไรต้อง

00:22:3400:22:37 กังวลหรือระวังเป็นพิเศษบ้างมั้ครับ

00:22:3700:22:40 >> ข้อกังวลหลักเลยนะคะที่ชัดเจนสุดแล้วก็มี

00:22:4000:22:43 หลักฐานค่อนข้างดีเลยคือผลกระทบต่อเคลือบ

00:22:4300:22:44 ฟันค่ะ

00:22:4400:22:46 >> อ๋อเรื่องฟันศึกนี้เอง

00:22:4600:22:49 >> ใช่ค่ะอย่างที่บอกไปว่า ACV มันมีความ

00:22:4900:22:53 เป็นกรดสูงมากพ 2-3 เนี่ยการที่ฟันเรา

00:22:5300:22:55 สัมผัสกับกรดระดับเบ่อยๆโดยตรงมันกัด

00:22:5600:22:58 กร่อนเคลือบฟันได้ค่ะเคลือบฟันเป็นชั้น

00:22:5800:23:02 นอกสุดที่แข็งๆปกป้องฟันเราอยู่พอมันโดน

00:23:0200:23:05 กัดกร่อนบ่อยๆก็จะบางลงอ่อนแอลงนำไปสู่

00:23:0500:23:08 ปัญหาฟันผุเสียวฟันฟันสึกได้ง่ายขึ้นโดย

00:23:0800:23:12 เฉพาะเลยนะคะถ้าดื่มแบบเข้มข้นไม่เจือจาง

00:23:1200:23:14 หรือดื่มเสร็จแล้วไปแปรงฟันทันทีอันนี้

00:23:1400:23:15 ยิ่งเสี่ยงเลยค่ะ

00:23:1500:23:17 >> เรื่องฟันนี่เรื่องใหญ่เลยนะครับแล้วมีคำ

00:23:1700:23:20 แนะนำมั้ครับว่าควรกินยังไงให้ปลอดภัย

00:23:2000:23:23 ขึ้นปริมาณเท่าไหร่ผสมยังไงดี

00:23:2300:23:27 >> ค่ะก็มีคำแนะนำที่พอจะอิงตามงานวิจัยส่วน

00:23:2700:23:29 ใหญ่ที่เขาใช้กันแล้วไม่ค่อยเจอผลข้าง

00:23:2900:23:33 เคียงรุนแรงในระยะสั้นนะคะคือปริมาณเนี่ย

00:23:3300:23:36 ไม่ควรเกินวันละ 1-2 ช้อนโต๊ะหรือประมาณ

00:23:3600:23:40 15-30 ml ค่ะแต่ส่วนใหญ่จะแนะนำให้

00:23:4000:23:44 เริ่มน้อยๆก่อนเช่น 1 ช้อนชา 5 ml ถึง 1

00:23:4400:23:47 ช้อนโต๊ะ 15 ml ต่อวันก็พอแล้วก็หัวใจ

00:23:4700:23:51 สำคัญเลยต้องเจือจางค่ะอันนี้ย้ำเลยห้าม

00:23:5100:23:53 ดื่มเพียวๆเด็ดขาด

00:23:5300:23:55 ต้องผสมในน้ำเปล่าแก้วใหญ่ๆเลยอย่างน้อย

00:23:5600:23:57 ก็ 240-300

00:23:5800:24:01 ml หรือประมาณ 8-10 ออนซก่อนดื่มเสมอ

00:24:0100:24:03 >> ต้องเจื่อจางเยอะๆเลยนะครับ

00:24:0300:24:06 >> ใช่ค่ะส่วนเวลาดื่มถ้าอยากหวังผลเรื่อง

00:24:0600:24:09 คุมน้ำตาลก็แนะนำดื่มก่อนมื้ออาหารโดย

00:24:0900:24:12 เฉพาะมื้อที่มีแป้งเยอะๆแต่ถ้าใครดื่ม

00:24:1200:24:15 ก่อนแล้วรู้สึกไม่สบายท้องปวดท้องก็อาจจะ

00:24:1500:24:17 ลองปรับเป็นดื่มพร้อมอาหารหรือหลังอาหาร

00:24:1700:24:21 แทนก็ได้ค่ะแล้วก็วิธีดื่มนะคะเพื่อลดการ

00:24:2100:24:24 สัมผัสกับฟันโดยตรงก็แนะนำให้ใช้หลอดดูด

00:24:2400:24:27 ค่ะพยายามให้เครื่องดื่มมันผ่านเข้าคอไป

00:24:2700:24:30 เลยสัมผัสฟันให้น้อยที่สุดพอหลังจากดื่ม

00:24:3000:24:33 เสร็จแล้วก็ให้บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าสะอาดๆ

00:24:3300:24:36 เพื่อล้างกรดที่อาจจะค้างอยู่แต่อย่า

00:24:3600:24:39 เพิ่งแปรงฟันทันทีนะคะควรรออย่างน้อยสัก

00:24:3900:24:42 30 นาทีให้เคลือบฟันมันได้คืนสภาพก่อน

00:24:4200:24:43 ค่อยแปรงค่ะ

00:24:4300:24:47 >> ออมีเทคนิคเยอะเหมือนกันนะเนี่ยใช้หลอด

00:24:4700:24:49 บ้วนปากรอค่อยแปลง

00:24:5000:24:52 >> ค่ะนอกเหนือจากเรื่องฟันแล้วผลข้างเคียง

00:24:5200:24:55 อื่นที่อาจจะเจอได้ในบางคนก็คืออาการไม่

00:24:5500:24:59 สบายท้องคลื่นไส้หรือแสบร้อนกลางอกอันนี้

00:24:5900:25:01 ก็เพราะกรดมันอาจจะไประคายเคืองเยื่อบุ

00:25:0100:25:04 หลอดอาหารหรือกระเพาะอาหารได้โดยเฉพาะคน

00:25:0400:25:08 ที่เอ่อมีโรคกรดไหลย้อนเกิดอยู่แล้วเนี่ย

00:25:0800:25:10 การดื่ม ACV อาจจะไปกระตุ้นให้อาการมัน

00:25:1000:25:12 แย่ลงได้ในบางคนค่ะ

00:25:1200:25:14 >> แล้วความรุนแรงของผลข้างเคียงพวกนี้ล่ะ

00:25:1400:25:15 ครับมันอันตรายมั้ย

00:25:1600:25:18 >> ส่วนใหญ่จากงานวิจัยนะคะที่ใช้ในปริมาณ

00:25:1800:25:21 ที่แนะนำแล้วก็มักจะศึกษาไม่เกิน 12

00:25:2100:25:24 สัปดาหดาเนี่ยก็ไม่ค่อยมีรายงานผลข้าง

00:25:2400:25:26 เคียงที่รุนแรงค่ะหรือถ้ามีก็ไม่ต่างจาก

00:25:2600:25:28 กลุ่มที่ได้ยาหลอกเท่าไหร่อันนี้ก็อาจจะ

00:25:2800:25:30 พอเป็นข่าวดีได้บ้างค่ะ

00:25:3000:25:34 >> แสดงว่าถ้าใช้ถูกวิธีในระยะสั้นๆก็น่าจะ

00:25:3400:25:36 พอปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่แต่ที่น่าห่วง

00:25:3600:25:38 คือผลระยะยาว

00:25:3800:25:40 >> ถูกต้องเลยค่ะอันนั้นคือข้อจำกัดใหญ่มากๆ

00:25:4000:25:44 เลยคือเรายังไม่มีข้อมูลเลยค่ะเรื่องความ

00:25:4400:25:47 ปลอดภัยของการกิน ACV เป็นประจำนานๆเกิน 3

00:25:4700:25:50 เดือนหรือ 12 สัปดาห์เราไม่รู้เลยว่าการ

00:25:5000:25:53 ได้รับกรดอซิติกทุกวันๆเป็นปีๆเนี่ยมันจะ

00:25:5300:25:55 ส่งผลเสียอะไรกับร่างกายในระยะยาวหรือ

00:25:5500:25:58 เปล่าเช่นกับกระดูกกับระดับโพแทสเซียมใน

00:25:5800:26:01 เลือดหรือกับอวัยวะอื่นๆดังนั้นถึงแม้

00:26:0100:26:03 ระยะสั้นจะดูโอเคแต่ระยะยาวยังมีความไม่

00:26:0300:26:05 แน่นอนสูงมากค่ะ

00:26:0500:26:07 >> เป็นประเด็นที่ต้องระวังจริงๆครับ

00:26:0700:26:10 >> ค่ะเพราะฉะนั้นคำแนะนำที่สำคัญที่สุดเลย

00:26:1000:26:14 นะคะคือถ้าใครมีโรคประจำตัวอยู่แล้วเช่น

00:26:1400:26:17 โรคไตกระดูกทรุ่นหรือกินยาบางอย่างอยู่

00:26:1700:26:20 โดยเฉพาะยาขับปัสสาวะยาเบาหวานหรือยาโรค

00:26:2000:26:24 หัวใจบางตัวควรปรึกษาหมอหรือเพศสัชกรก่อน

00:26:2400:26:27 เลยนะคะก่อนที่จะเริ่มกิน ACV เป็นประจำ

00:26:2700:26:30 เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่ไปตีกับยาหรือ

00:26:3000:26:33 กระทบการรักษาหลักอย่าคิดว่าเอ๊ะของ

00:26:3300:26:36 ธรรมชาติน่าจะปลอดภัยเสมอไปไม่ใช่แบบนั้น

00:26:3600:26:36 ค่ะ

00:26:3600:26:39 >> ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องความปลอดภัย

00:26:3900:26:42 ครับละเอียดและสำคัญมากๆเลยสรุปภาพรวม

00:26:4200:26:45 ทั้งหมดที่เราเจาะลึกกันมาวันนี้น้ำส้ม

00:26:4500:26:48 สายชูหมักจาก Apple หรือ ACV เนี่ยสรุป

00:26:4800:26:51 ว่าไม่ใช่ยาวิเศษครอบจักรวาลอย่างที่อาจ

00:26:5100:26:53 จะเข้าใจกันนะครับประโยชน์ที่ดูจะมีหลัก

00:26:5300:26:55 ฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับค่อนข้างชัดเจน

00:26:5500:26:58 ที่สุดก็คือด้านการช่วยควบคุมระดับน้ำตาล

00:26:5800:27:01 ในเลือดหลังมื้ออาหารอันนี้อาจจะมี

00:27:0100:27:03 ประโยชน์เสริมสำหรับคนที่มีภาวะดื้อ

00:27:0300:27:05 อินซูลินเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 หรืออยู่ใน

00:27:0600:27:06 กลุ่มเสี่ยง

00:27:0600:27:07 >> ใช่ค่ะ

00:27:0700:27:10 >> ส่วนเรื่องลดน้ำหนักหลักฐานยังอ่อนมากผล

00:27:1000:27:13 ก็น้อยไม่พอจะแนะนำเป็นตัวหลักได้เรื่อง

00:27:1300:27:16 ต่อต้านเชื้อโรคก็มีฤทธิ์แค่ในหลอดทดลอง

00:27:1600:27:20 ยังพิสูจน์ในคนไม่ได้แล้วเรื่องชะลอวัย

00:27:2000:27:23 อายุยืนอันนี้ยิ่งห่างไกลเลยมีแค่ในสัตว์

00:27:2400:27:25 ทดลองเท่านั้น

00:27:2500:27:27 >> ถูกต้องค่ะแล้วก็ต้องย้ำเรื่องความปลอด

00:27:2700:27:32 ภัยมากๆการใช้ให้ถูกวิธีทั้งปริมาณการ

00:27:3200:27:35 เจือจางการใช้หลอดสำคัญมากถ้าจะลองใช้นะ

00:27:3500:27:39 คะถึงแม้ ACV จะหาซื้อง่ายราคาไม่แพงดู

00:27:3900:27:42 เหมือนจะปลอดภัยในระยะสั้นแต่การขาดข้อ

00:27:4200:27:44 มูลระยะยาวก็ยังเป็นข้อจำกัดใหญ่ที่ต้อง

00:27:4400:27:47 คิดถึงเสมอจากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญส่วน

00:27:4700:27:50 ใหญ่ในข้อมูลที่เราดูกันมานะคะการแนะนำ

00:27:5000:27:52 ให้ใช้ ACV เนี่ยก็เลยมักจะจำกัดอยู่ใน

00:27:5200:27:55 กลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องดื้ออินซูลินหรือ

00:27:5500:27:57 ต้องการตัวช่วยเสริมเรื่องคุมน้ำตาลหลัง

00:27:5700:28:00 อาหารเท่านั้นจริงๆค่ะด้านอื่นๆนี่ยังยาก

00:28:0000:28:02 ที่จะแนะนำอย่างมั่นใจได้ในตอนนี้

00:28:0200:28:06 >> เป็นข้อสรุปที่เคล็ดบนพื้นฐานของหลักฐาน

00:28:0600:28:10 จริงๆครับทีนี้ก่อนจะจบกันไปมีประเด็นนึง

00:28:1000:28:13 ที่น่าสนใจชวนให้คิดต่อนะครับคือในเมื่อ

00:28:1300:28:16 กรดิติมันคือตัวสำคัญที่ให้ประโยชน์โดย

00:28:1600:28:18 เฉพาะเรื่องน้ำตาลใช่มั้ยครับซึ่งจริงๆ

00:28:1800:28:21 แล้วกรดอซิติกเนี่ยมันก็มีอยู่ในน้ำส้ม

00:28:2100:28:24 สายชูชนิดอื่นๆด้วยไม่ว่าจะเป็นน้ำส้มสาย

00:28:2400:28:28 ชูจากข้าวไวนเวนก้าหรือจากเมาส์พวกนี้ก็

00:28:2800:28:29 มีกรดอะซีติกเหมือนกัน

00:28:2900:28:31 >> ใช่ค่ะมีเหมือนกัน

00:28:3100:28:34 >> คำถามคือแล้วน้ำส้มสายชูชนิดอื่นมันอาจจะ

00:28:3400:28:38 มีประโยชน์คล้ายๆ ACV หรือเปล่าทำไม ACV

00:28:3800:28:41 มันถึงดังกว่าเพื่อนล่ะหรือว่าความเป็น

00:28:4100:28:44 Apple เองมันมีอะไรพิเศษซ่อนอยู่มีสาร

00:28:4400:28:47 อื่นเช่นพวกpoิฟนอลหรืออะไรบางอย่างที่

00:28:4700:28:50 มันทำงานเสริมกันกับกรดอซิติกหรือมี

00:28:5000:28:52 ประโยชน์ที่วิทยาศาสตร์ยังไม่รู้

00:28:5200:28:55 >> นั่นสิค่ะน่าคิดเหมือนกัน

00:28:5500:28:58 >> ก็น่าซูมใจนะครับอาจจะเกี่ยวกับการตลาดรส

00:28:5800:29:01 ชาติหรืออาจจะมีอะไรจริงๆก็ได้ใครจะรู้

00:29:0100:29:03 ทิ้งไว้เป็นคำถามให้ลองไปหาข้อมูลกันต่อ

00:29:0300:29:07 หรือลองคิดกันดูเล่นๆนะ

00:29:0700:29:12 เฮ

00:29:1200:29:21 [เพลง]

00:29:2100:29:23 Yeah.