00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:09 Voice ทางโภชนาการการกำหนดอาหารเขาจะให้
00:00:09 → 00:00:12 กล้วยเนี่ยอยู่ในหมวดหมู่ของผลไม้โดย 1
00:00:12 → 00:00:15 ส่วนของผลไม้เนี่ยจะให้คาร์โบไฮเดรตเนี่ย
00:00:15 → 00:00:18 15 กรัมกล้วยทอดนั่นต้องบอกเลยว่าพระ
00:00:18 → 00:00:20 เจ้าช่วยเลยเพราะอะไรเพราะว่าเราได้แป้ง
00:00:20 → 00:00:23 แล้วได้น้ำมันอมมาสูงมากซึ่งกินกล้วยทอด 1
00:00:23 → 00:00:25 ชิ้นนี่ต้องกว่าจะเบิร์นออกหมดเนี่ยต้อง
00:00:25 → 00:00:28 วิ่งรอบสนาม 1 รอบเลยนะเพราะว่าเราไป
00:00:28 → 00:00:31 เพิ่มแคลอรี่ไงอืเพิ่มพลังงานเข้าไปจาก
00:00:31 → 00:00:34 น้ำมันที่มันอมจากแป้งที่เราไปเคลือบไป
00:00:34 → 00:00:36 ชุบมัน
00:00:37 → 00:00:41 ไว้ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟัง
00:00:41 → 00:00:44 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:44 → 00:00:46 This Is to pvs
00:00:46 → 00:00:49 podcast วันนี้ค่ะคุณผู้ฟังคะเราจะคุย
00:00:49 → 00:00:52 กันถึงเรื่องของกล้วยนะคะกล้วยที่ไม่
00:00:52 → 00:00:55 กล้วยอย่างที่คิดเลยความที่สีต่างกันของ
00:00:55 → 00:00:58 กล้วยนะคะเคยเห็นใช่่มั้คะมีความดิบความ
00:00:58 → 00:01:00 ห่ามความสุขสีก็ต่างกัน
00:01:00 → 00:01:02 แล้วสีต่างกันอย่างนี้มีประโยชน์ยังไง
00:01:02 → 00:01:04 บ้างเดี๋ยวคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร
00:01:04 → 00:01:07 เอกราชบำรุงพืชจากวิทยาลัยการแพทย์
00:01:07 → 00:01:09 บูรณาการมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตค่ะ
00:01:09 → 00:01:12 สวัสดีค่ะอาจารย์ค่ะครับสวัสดีครับผมวัน
00:01:12 → 00:01:14 นี้มาเรามาคุยกันเรื่องกล้วยๆชีวิตจะได้
00:01:14 → 00:01:18 แบบว่าเป็นนัยยะอ่าให้ได้กล้วยๆบ้ากล
00:01:18 → 00:01:21 กล้วยง่ายๆเนาะเพราะเป็นหนึ่งในผลไม้มงคล
00:01:22 → 00:01:26 ถอ่าสังเกตคนที่แบบเอ้ยชอบไหว้จะเป็นเอ่อ
00:01:26 → 00:01:30 คนไทยคนจีนก็ตามแต่มักจะมีกล้วยถูกต้อง
00:01:30 → 00:01:34 อ่าเพราะมันจะได้ทำอะไรก็ง่ายๆกล้วยๆนะ
00:01:34 → 00:01:37 ครับแต่จริงๆแล้วเนี่ยมันเป็นผลไม้ชนิด
00:01:37 → 00:01:41 นึงที่ให้คุณค่าทางโภชนาการเนี่ยสูงอือ่า
00:01:42 → 00:01:45 ซึ่งก่อนที่จะไปลงเรื่องของความสุขความ
00:01:45 → 00:01:49 เอ่อห่าความดิบทั้งหลายแหล่เนาะที่ผลเอ่อ
00:01:49 → 00:01:51 ของกล้วยเองเนี่ยมีสีหลากหลายอย่างที่คุณ
00:01:51 → 00:01:54 รีได้เรียนแจ้งคุณผู้ฟังไปเนี้ยจริงๆแล้ว
00:01:54 → 00:01:57 กล้วยเนี่ยมันก็มีหลากหลายชนิดใช่มั้ครับ
00:01:57 → 00:02:01 ไม่ว่าจะเป็นกล้วยหอมกล้วยน้ำวฟ้ากล้วย
00:02:01 → 00:02:04 ไข่กล้วยเล็บมือนางโอ้โหสารพัดกล้วยอยู่
00:02:04 → 00:02:06 สารพัดกล้วยใช่กล้วยทอดเกี่ยวมั้ยคะกล้วย
00:02:06 → 00:02:09 ทอดกล้วยทอดนั้นต้องบอกเลยว่าพระเจ้าช่วย
00:02:09 → 00:02:12 เลยเพราะอะไรเพราะว่าเราได้แป้งแล้วได้
00:02:12 → 00:02:16 น้ำมันอือมมาสูงมากซึ่งกินกล้วยทอด 1
00:02:16 → 00:02:17 ชิ้นนี่ต้องกว่าจะเบิร์นออกหมดเนี่ยต้อง
00:02:18 → 00:02:21 วิ่งรอบสนาม 1 รอบเลยนะุดเป็นเล่นอาจารย์
00:02:21 → 00:02:23 แค่ 1 ชิ้นน่ะนะ 400 มต
00:02:23 → 00:02:28 เลยเพราะว่าเราไปเพิ่มแคลอรี่ไงอืเพิ่ม
00:02:28 → 00:02:31 พลังงานเข้าไปจากนน้ำมันที่มันอมจากแป้ง
00:02:31 → 00:02:34 ที่เราไปเคลือบไปชุบมันไว้ค่ะอ่าทีนี้
00:02:34 → 00:02:37 กล้วยเนี่ยแต่ละชนิดเนี่ยคุณค่าทาง
00:02:37 → 00:02:41 โภชนาการมันก็จะแตกต่างกันไปนะครับคือถ้า
00:02:41 → 00:02:45 ทางโภชนาการทางการกำหนดอาหารเขาจะให้
00:02:45 → 00:02:48 กล้วยเนี่ยอยู่ในหมวดหมู่ของผลไม้โดย 1
00:02:48 → 00:02:51 ส่วนของผลไม้เนี่ยจะให้คาร์โบไฮเดรตเนี่ย
00:02:51 → 00:02:54 15 กรัมบางคนเรียก 1 ส่วน 1 คาบนะครับก็
00:02:54 → 00:02:58 คือมีคาร์โบเดรตเนี่ย 15 กรัมนะถ้าเป็น
00:02:58 → 00:03:01 กล้วยหอมลูกมันก็ก็ยาวหน่อยใช่มั้ยครับอ
00:03:01 → 00:03:03 แล้ว 1 ลูกของกล้วยหอมเนี่ยที่เราเห็นตาม
00:03:03 → 00:03:06 ร้านสะดวกซื้อเนี่ยมันคือ 2 ส่วนของควเดช
00:03:06 → 00:03:09 ค่ะอ๋ออ่า 1 ส่วนเนี่ย 15 กรัมเท่ากับกิน
00:03:09 → 00:03:13 ข้าว 1 ทัพพีกินบะหมี่ 1 ก้อนกินขนมปัง 1
00:03:13 → 00:03:18 แผ่นนั่นคือพลังงานค่ะนะครับประมาณ 60
00:03:18 → 00:03:21 แคลอรี่นะประมาณเนี้ยของผลไม้ 1 ส่วนก็
00:03:21 → 00:03:24 คือคาร์โบไฮเดรต 15 กรัมงั้นแล้วเนี่ยถ้า
00:03:24 → 00:03:29 เรากินกล้วยกล้วยหอม 1 ลูกอ่างั้นแล้วมัน
00:03:29 → 00:03:31 ก็จะให้ประประมาณ 2 ส่วนแต่ถ้ากล้วยน้ำ
00:03:31 → 00:03:35 ว้าก็จะเหลือ 1 ส่วนมยสวนถูกมันเล็กกว่า
00:03:35 → 00:03:39 ถูกใช่ขนาดมันก็จะเล็กกว่าค่ะอ่าในแต่ละ
00:03:39 → 00:03:42 กล้วยทีนี้ความสุกงอมของมันนะที่เราคุย
00:03:42 → 00:03:45 กันว่าเอ๊เรื่องของความสุกงอมเนี่ยระยะ
00:03:45 → 00:03:49 เวลาความสุขเนาะตั้งแต่กล้วยดิบเลยอ่าเรา
00:03:49 → 00:03:52 ก็จะเห็นใช่มั้ยครับว่าเขียวๆใช่คุณลีเคย
00:03:52 → 00:03:54 กินมั้ยครับไม่
00:03:54 → 00:03:58 กินอาจารย์เคยกินเป็นยังไงคะแต่ไม่ใช่ว่า
00:03:58 → 00:04:01 ปอกกล้วยดิบแล้วก็กัดเข้าปากยางกล้วยติด
00:04:01 → 00:04:07 ปากนะเอามาแกงอือ่าเพิญอยู่ต่างจังหวัดไง
00:04:07 → 00:04:10 ตอนเด็กๆเป็นเด็กชาวบ้านต่างจังหวัดแกง
00:04:10 → 00:04:13 แล้วก็ใส่กล้วยดิบเนี่ยครับเอากล้วยดิบมา
00:04:13 → 00:04:17 หั่นก็จะแกงแบบแกงเผ็ดอ่ะครับค่ะใส่ในแกง
00:04:17 → 00:04:22 เป็ดอ่าใส่ในแกงป่าทั้งหลายแหละก็จะมี
00:04:22 → 00:04:26 กล้วยดิบที่แบบอุยอร่อยอ่าแต่เราเนี่ยมา
00:04:26 → 00:04:30 ทำให้สุกเพราะมันอยู่ในอยู่ในแกงไงออ่า
00:04:30 → 00:04:33 มันก็ผ่านการต้มการอะไรให้สุกและทีนี้ใน
00:04:33 → 00:04:37 กล้วยดิบเนี่ยอคุณค่าหรือคุณประโยชน์ทาง
00:04:37 → 00:04:40 ด้านของเอ่อโภชนาการเนี่ยนะตัวกล้วยดิบ
00:04:41 → 00:04:44 เองเนี่ยมันจะฝาดใช่มั้ยครับไอ้สารที่มี
00:04:44 → 00:04:48 รดฝาดที่อยู่ในพวกพืชผักผลไม้เอ่อทั้ง
00:04:48 → 00:04:51 หลายแหล่เนี้ยก็จะมีในกลุ่มของพวกสารที่
00:04:51 → 00:04:54 เราเรียกว่าแทนนินอืออ่าเจ้าสารแทนนิน
00:04:54 → 00:04:57 เนี่ยมีรสชาติฝาดค่ะซึ่งความฝาดนั้นเนี่ย
00:04:57 → 00:05:01 เอ่อถ้าเราได้รับไปเยอะนะครับอันนี้สิ่ง
00:05:01 → 00:05:05 ที่ต้องพึงระวังคือมันทำให้ท้องผูกได้อื
00:05:05 → 00:05:08 อ่าแต่ข้อดีเนี่ยของศาลแทนนินเนี่ยคือมัน
00:05:09 → 00:05:10 ช่วยในเรื่อง
00:05:10 → 00:05:16 ของลดอาการอุจจาระร่วงนะท้องร่วงท้องเสีย
00:05:16 → 00:05:19 ทั้งหลายแหล่นะครับอันเนี้ยมันช่วยได้
00:05:19 → 00:05:23 แล้วกล้วยดิบเองค่ะเข้ามีการเอาไปแปรรูป
00:05:23 → 00:05:26 เป็นผงกล้วยดิบอันเนี้ยเป็นประโยชน์มากอ
00:05:26 → 00:05:30 เคยยเคยได้ยินเคยได้ยินมครับอาจารยึาเอ่อ
00:05:30 → 00:05:34 ปริญญาโทแอนไท aging เนี่ยเป็นเภสัชแล้ว
00:05:34 → 00:05:39 เขาทำศึกษาในเรื่องของผงกล้วยดิบช่วยลด
00:05:39 → 00:05:43 เรื่องของกดไหลย้อนอ๋ออ่าลดอาการเรื่อง
00:05:43 → 00:05:47 ของกดไหลย้อนและก็ช่วยในเรื่องของการ
00:05:47 → 00:05:52 บรรเทาพวกแผลกระเพาะอาหารทางเดือนอาหารอื
00:05:52 → 00:05:56 อ่าฉะนั้นแล้วเนี่ยมันก็จะไปเหมือนเคลือบ
00:05:56 → 00:05:59 ไปสมานนะแล้วไปลดอาการของกรดไหลย้อนกรณี
00:06:00 → 00:06:02 ของผงกล้วยดิบนะซึ่งบางคนก็เอามาชงน้ำ
00:06:02 → 00:06:05 ดื่มค่ะอ่าถ้าคุณผู้ฟังฟังอยู่อาจจะใช้
00:06:05 → 00:06:08 ประโยชน์ตรงเนี้ยมาก็ได้แต่อาจารย์ไม่แนะ
00:06:08 → 00:06:11 นำให้กินกล้วยแบบดิบๆอย่างขนาดนั้นดิบๆ
00:06:11 → 00:06:14 แล้วก็เอาแบบกล้วยดิบเอ่อมากินเลยนะฮะ
00:06:14 → 00:06:19 เพราะว่ามันมันมันถ้าจะกินก็ต้องเอาไปใส่
00:06:19 → 00:06:22 ในเมนูอาหารในแกงอย่างเงี้ยอย่างที่บอกอ๋
00:06:22 → 00:06:24 คือไปทำให้มันสุกไปอไปสุบก่อนเอาไปต้ม
00:06:24 → 00:06:28 ก่อนเอาไปใส่ในแกงนะส่วนใหญ่ก็จะใส่ในแกง
00:06:28 → 00:06:32 หรือเอาไปบางคนก็เอาไปตากเอาไปบดอือ่าทำ
00:06:32 → 00:06:35 แห้งแล้วก็มากินเป็นลักษณะของแบบเฮ้ยเป็น
00:06:35 → 00:06:37 โผงกล้วยเพราะว่ากล้วยดิบเนี่ยอย่างที่
00:06:37 → 00:06:41 บอกแหลว่าเฮ้ยมันมันไม่เหมาะสำหรับการกิน
00:06:41 → 00:06:44 ไอ้นี่เลยเพราะว่าถ้ามันดิบมากมันก็อาจจะ
00:06:44 → 00:06:48 ทำให้ท้องอืดได้อืโอ๊แต่คงไม่มีใครมากิน
00:06:48 → 00:06:50 กล้วยดิบขนาดนั้นมั้งคะอาจารย์แต่ว่าใน
00:06:50 → 00:06:53 อย่างในแหนมเนืองอ่ะค่ะอ่าฮะเอ๊มันเหมือน
00:06:53 → 00:06:56 จะมีกล้วยดิบอันอ่าก็จะมีกล้วยดิบเล็กๆ
00:06:56 → 00:07:00 กินอยู่ถูกต้องเลยครับอ่าอันนั้นก็ถ้าเรา
00:07:00 → 00:07:02 กินแบบหั่นไปเล็กๆอย่างเงี้ยก็กินได้แต่
00:07:02 → 00:07:05 ถ้าเกิดว่าหูครุณลีจะมาปอกกล้วยดิบแล้วก็
00:07:05 → 00:07:09 กินเลยเอออันนั้นน่ะเหมือนไอแหนมเนือง
00:07:09 → 00:07:11 แหละที่เวลาเขาใส่ในแกงอ่ะครับเขาก็จะ
00:07:11 → 00:07:14 หั่นเป็นแบบอาให้มันชิ้นเล็กๆเล็กๆแล้วก็
00:07:14 → 00:07:18 ใส่ลงไปในแกงอ่าก็จะแบบเฮ้ยชิ้นเล็กๆอะไร
00:07:18 → 00:07:21 อย่างเงี้ยครับแล้วก็เอาไปต้มแล้วเอาไป
00:07:21 → 00:07:24 แกงแล้วนะครับมันก็จะมันก็จะได้คุณ
00:07:24 → 00:07:26 ประโยชน์อย่างน้อยเฮ้ยใยอาหารเนี่ยมันก็
00:07:26 → 00:07:30 มีอยู่สูงอ่าอันเนี้ยกรณีของกล้วยดิบเนาะ
00:07:30 → 00:07:32 เรากินในแหนมเนืองแล้วก็กินแบบชิ้นเล็ก
00:07:32 → 00:07:36 ไม่ได้กินแบบอหูทั้งลูกแบบปริมาณแบบเยอะๆ
00:07:36 → 00:07:39 อะไรอย่างเงี้ยครับอันเนี้ยคือกรณีของของ
00:07:39 → 00:07:43 กล้วยดิบค่ะอ่าอืก็เรื่องของกระเพาะเนาะ
00:07:43 → 00:07:46 ช่วยได้ใช่ครับเน้นกระเพาะเอ่อเน้นเรื่อง
00:07:46 → 00:07:49 ของทางเดินอาหารเรื่องของกดไหลย้อนเพราะ
00:07:49 → 00:07:52 มันช่วยบรรเทาอาการเอ่อกดไหลย้อนหรือลด
00:07:52 → 00:07:55 เรื่องของกดไหลย้อนได้อืถ้าใครมีอาการ
00:07:55 → 00:07:57 อย่างเงี้ยแบบว่าเอากล้วยดิบมามาหรือหรือ
00:07:57 → 00:08:00 ซื้อเป็นผงก็ได้กล้วยบ
00:08:00 → 00:08:06 เอออืออันเนี้ยคุณแม่อาจารย์รองเลยค่ะลอง
00:08:06 → 00:08:09 กินเผอิญเราอ่ามีนักศึกษาทำวิจัยแล้วเรา
00:08:09 → 00:08:12 ไปมีโอกาสเอ่อไปช่วยโครงการของกรมส่ง
00:08:12 → 00:08:15 เสริมอุตสาหกรรมที่ไปแปรรูปผลิตภัณฑ์เอ่อ
00:08:15 → 00:08:18 ทางการเกษตรค่ะอ่าให้มันเป็นผลิตภัณฑ์
00:08:18 → 00:08:21 เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มอเพื่อได้ประโยชน์
00:08:21 → 00:08:23 ในเชิงพาณิชย์เพราะบางทีราคากล้วยก็ถูก
00:08:23 → 00:08:26 อ่าใช่อ่าเราก็แบบเฮ้ยมาช่วยแปรรูปเอามา
00:08:26 → 00:08:30 เป็นผงนี่แหละแล้วใช้ในลักษณะของของอาหาร
00:08:30 → 00:08:34 เป็นยาก็พบว่าเฮ้ยมันมันช่วยได้เอออ่ามัน
00:08:34 → 00:08:37 มีทั้งเอ่อ evidence Base ในแง่ของการ
00:08:37 → 00:08:40 ศึกษาวิจัยทางคลินิกให้คนลองกินผงกล้วย
00:08:40 → 00:08:44 ดิบและมีทั้ง experience Base ก็คือคน
00:08:44 → 00:08:48 ที่บ้านอ่าได้ลองแบบเ้ยเช้ามาเอาผงกล้วย
00:08:48 → 00:08:52 ดิบใส่ในน้ำอุ่นละลายๆแล้วก็เ้ยดื่มออ่า
00:08:53 → 00:08:55 อันเนี้ยก็เกิดประโยชน์ในการแบบเฮ้ยช่ว
00:08:55 → 00:08:58 บรเทาอาการกดไหล่ย้อนได้ค่ะแล้วต้องปรุง
00:08:58 → 00:09:00 แต่งรสชาติมั้ยคะเพราะว่าแบบพอมันเป็นผง
00:09:00 → 00:09:03 แล้วมาแบบเอ๊รสชาตินึกไม่ออกเลยมันก็จะ
00:09:03 → 00:09:06 แบบเหมือนเฟื่อนๆฝาดๆนิดๆแต่ก็ไม่ได้แบบ
00:09:06 → 00:09:08 แล้วแต่แล้วแต่คนเลยนะครับกุลีอาจจะแบบ
00:09:08 → 00:09:14 ว่าเฮ้ยไปใส่เอ่อในชาเขียวอือ่าที่กิน
00:09:14 → 00:09:21 หรือใส่ในเก๊กฮวยอ๋ออ้าแบบหอมๆอ่อนๆแล้ว
00:09:21 → 00:09:24 ก็ใส่ละลายน้ำแล้วเราก็เฮ้ยสามารถที่จะ
00:09:24 → 00:09:27 ดื่มได้อ่าก็จะส่งเสริมเรื่องของระบบทาง
00:09:27 → 00:09:31 เดินอาหารค่ะสุขภาพลำไส้กระเพาะอาหาร
00:09:31 → 00:09:34 อย่างเงี้ยโดยเฉพาะคนที่บางทีผู้สูงอายุ
00:09:34 → 00:09:36 มีปัญหากดไหลย้อนกันเยอะเรื่องของระบบการ
00:09:36 → 00:09:40 ย่อยเอยอะไรเอยแล้วบางคนแบบอ่ากินของมัน
00:09:40 → 00:09:44 เยอะกินของทอดมากค่ะกินกาแฟอะไรพวกเนี้ย
00:09:44 → 00:09:48 ล้วนแล้วแต่เป็นการกระตุ้นเรื่องของกดไหล
00:09:48 → 00:09:51 ย้อนนะไอ้ผงกล้วยดิบเนี่ยยก็จะมีประโยชน์
00:09:51 → 00:09:54 ตอบโจทย์ตรงส่วนนี้อืโอดีจังเลยนี่ขนาด
00:09:54 → 00:09:57 แค่เริ่มต้นจากคำว่าดิบก่อนเลยอ่าดิบก่อน
00:09:58 → 00:10:02 เลยว่าเอ้ยดิบเราก็กินได้นะอ่าแต่ว่าก็
00:10:02 → 00:10:04 แล้วแต่ประโยชน์อันนี้คือประโยชน์ของ
00:10:04 → 00:10:06 กล้วยดิบอย่างนึงกล้วยดิบถูกต้องครับผม
00:10:06 → 00:10:12 อ่าทีนี้ดิบมาแล้วก็ต้องมาที่ห่ามะห่าม
00:10:12 → 00:10:14 ถูกต้องครับกล้วยห่ามเนี่ยก็คือเริ่มที่
00:10:14 → 00:10:17 จะกินได้และกล้วยห่ามเนี่ยมันก็จะมีสี
00:10:17 → 00:10:20 เขียวแล้วก็ปนเหลืองเรื่อๆเพราะมันเริ่ม
00:10:20 → 00:10:25 สุกแล้วออาจารย์ชอบหรอคะชอบแบบนี้อใช่
00:10:25 → 00:10:27 อาจารย์ชอบแบบนี้เลยเพราะว่ามันห่ามๆ
00:10:27 → 00:10:29 หน่อยเนี่ยอาจารย์จะบอกว่าปริมาณน้ำตาล
00:10:29 → 00:10:33 มันก็ยังน้อยอยู่ออเพราะวันเวลามันสุกอ่ะ
00:10:33 → 00:10:35 มันอ่าแป้งจะเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลสูงแล้ว
00:10:35 → 00:10:39 ไงพอเราสุกๆปุ๊บโอหมันหวานอ่ะยิ่งงอมเรา
00:10:39 → 00:10:43 ชอบพูดงอมๆใช่มยยิ่งหวานเลยอแล้วเนี่ยค่ะ
00:10:43 → 00:10:49 ห่ามๆน้ำตาลก็จะน้อยใยอาหารก็จะสูงอือ่า
00:10:49 → 00:10:52 ใยอาหารมันก็จะสูงมันก็จะมีคุณสมบัติใน
00:10:52 → 00:10:56 การเป็นพวกพรีไบโอติกค่ะอ่าพวกพรีไบโอติก
00:10:56 → 00:10:58 ก็คือพวก
00:10:58 → 00:11:01 เอ่อใยอาหารนี่แหละแล้วมันเป็นอาหารของ
00:11:01 → 00:11:04 จุลินทรีย์ที่ดีที่มีชีวิตแล้วสิงสถิต
00:11:04 → 00:11:08 อยู่ในลำไส้เล็กเราลำไส้ใหญ่เรานะไม่ว่า
00:11:08 → 00:11:11 จะเป็นแลคโตบาซิลัสไบฟิโดแบคทีเรียมคงเคย
00:11:11 → 00:11:13 ได้ยินใช่มั้ครับอ่าอันเนี้ยที่มันมี
00:11:13 → 00:11:15 ประโยชน์มันก็อาศัยไอ้กล้วยที่เรากิน
00:11:15 → 00:11:19 เนี่ยอืเป็นอาหารมันด้วยอ๋อแล้วอาหารที่
00:11:19 → 00:11:22 เรากินเนี่ยไม่ได้ป้อนแค่เรานะทุกวันนี้
00:11:22 → 00:11:26 ที่เรากินน่ะสิ่งมีชีวิตที่นอกเหนือจาก
00:11:26 → 00:11:30 กายเราเซลล์เราค่ะที่สิงสถิตอยู่ในตัวเรา
00:11:31 → 00:11:33 อหรือเราอาจจะสิงสถิตอยู่ในเขาก็ไม่รู้นะ
00:11:33 → 00:11:36 ค่ะเพราะว่ารวมกันแล้วเนี่ยจำนวนเซลล์ของ
00:11:36 → 00:11:39 เขาเนี่ยมีมากกเยอะกว่าเราเยอะกว่าเราอีก
00:11:39 → 00:11:43 อ่านะแล้วเราอาจจะแบบคิดเป็นเพียงแบบ 10%
00:11:43 → 00:11:46 นะแล้วเราอ่ะไปฟีดเขาซึ่งไอ้จุลินทรีย์
00:11:46 → 00:11:49 เหล่าเนี้ยเราเรียกไอ้ไมโครไบโอต้าเนี่ย
00:11:49 → 00:11:51 หรือจุลินทรีย์ที่อยู่ในในลำโดยเฉพาะในลำ
00:11:51 → 00:11:55 ไส้ของเราหนักเป็นกิโลนะครับอือ่าที่สิงห
00:11:55 → 00:11:58 สถิตอยู่แล้วเราก็ไปป้อนเขาเนี้ยน้ำหนัก
00:11:58 → 00:12:02 เยอะิคือเพราะจินซีก็ฟาดไปกลึงแล้วอไป
00:12:02 → 00:12:05 กลึงแล้วกอ่าเป็นน้ำหนักของจุลินทรีย์ที่
00:12:05 → 00:12:10 อยู่ที่ลำไส้ของเราอออ่าซึ่งมันมีมหาศาล
00:12:10 → 00:12:13 มากอแล้วไอ้กล้วยที่มันห่ามเนี่ยมันก็จะ
00:12:13 → 00:12:17 มีพวกน้ำตาลต่ำมันก็จะมีพวกพรีไบโอติกสูง
00:12:17 → 00:12:20 ออ่ามันก็จะช่วยในเรื่องของเอ่อระบบขับ
00:12:20 → 00:12:25 ถ่ายทั้งหลายแหล่ค่ะอ่าแล้วแทนนินมันก็คง
00:12:25 → 00:12:27 ยังมีอยู่บ้างเล็กน้อยมันจะไม่ถึงกับขนาด
00:12:27 → 00:12:30 ฝาที่เป็นดิบเลยค่ะแทนนินมันก็ช่วยใน
00:12:30 → 00:12:35 เรื่องของคนที่มีปัญหาเอ่อท้องเสียค่ะอ่า
00:12:35 → 00:12:37 มันก็ช่วยได้อปรับสมดุลจุลินทรีย์ที่ลำ
00:12:37 → 00:12:40 ไส้ได้ด้วยแล้วมีสารที่ช่วยในเรื่องของ
00:12:40 → 00:12:42 ท้องเสียได้ด้วยแต่ถ้าเรากินเยอะไอ้เจ้า
00:12:42 → 00:12:44 แทนนินที่มีรสฝาดเนี่ยอะไรที่เรากินฝาด
00:12:45 → 00:12:49 เยอะๆชาเอยฝรั่งเอยพุทซาเอยที่มีรสฝาดรส
00:12:49 → 00:12:53 ขมไอ้พวกเนี้ยมันจะทำให้ท้องเราผูกได้นะ
00:12:53 → 00:12:56 อออ่างั้นแล้วเนี่ยแต่ถ้าเราแบบเฮ้ยเล็กๆ
00:12:56 → 00:12:58 น้อยๆที่มีอยู่ในกล้วยห่ามอันนี้ก็จะแบบ
00:12:58 → 00:13:01 อ่าเปลี่ยนประโยชน์สำหรับสุขภาพร่างกาย
00:13:01 → 00:13:04 ของเราคำว่าห่ามเนี่ยค่ะอาจารย์บางคนอาจ
00:13:04 → 00:13:07 จะแบบเอ๊ะห่ามนี่คือหมายถึงว่าส่วนของ
00:13:07 → 00:13:10 กล้วยที่เป็นสีเขียวสีเหลืองเนี่ยมันมัน
00:13:10 → 00:13:12 ต้องเป็นยังไงอันไหนมันควรจะ 50 50 เลือ
00:13:12 → 00:13:16 ๆอ่าบางคนก็อาจจะแบบเฮ้ยเริ่มเหลือง 60
00:13:16 → 00:13:18 แล้วนะอฮเพราะถ้าเหลืองเต็มรอยปุ๊บมันจะ
00:13:18 → 00:13:21 กลายเป็นกล้วยสุกแล้วไงคือเดี๋ยวเนี้ยเพ
00:13:21 → 00:13:24 ถ้าเกิดสังเกตไปตามห้างใหญ่ๆอ่ะค่ะอ่าฮึ
00:13:24 → 00:13:26 กล้วยเนี่ยคือบางคนอาจจะเลือกไม่ถูกเขามี
00:13:26 → 00:13:29 บรรจุพันธุ์ที่แบบให้เราเลือกได้เลยว่า
00:13:29 → 00:13:33 เทียบสีเลยกล้วยนี้กำลังห่ามนะกำลังสุกนะ
00:13:33 → 00:13:36 ถูกต้องพวกกล้วยสีทองอะไรพวกนี้หรือเปล่า
00:13:36 → 00:13:38 ไม่แน่ใจถูกต้อง Packaging เค้าแบบทำไว้
00:13:38 → 00:13:41 ดีมากเลยมันมันก็จะแบบเฮ้ยทำให้เราเนี่ย
00:13:41 → 00:13:45 เลือกได้อ่าตรงตามความต้องการของเราเลยย
00:13:45 → 00:13:48 ใช่อ่าเพราะบางบางทีเยที่บ้านอาจารย์คน
00:13:48 → 00:13:51 นึงชอบกินแบบอย่างอาจารย์ชอบกินห่หน่อย
00:13:51 → 00:13:54 ค่ะมันไม่หวานมากอืแป้งก็ไม่ได้ไอ้น้ำตาล
00:13:54 → 00:13:59 ก็ไม่ได้สูงค่ะนะแต่คนที่บ้านเฮ้ยชอบกิน
00:13:59 → 00:14:03 แบบสุกเพราะมันก็จะแบบเฮ้ยหวานขึ้นอลูกก็
00:14:03 → 00:14:06 ชอบกินสุกเฮ้ยหานขึ้นต้องไม่ต้องมาเจอฝาด
00:14:06 → 00:14:10 อ่าไม่ต้องมาเจอฝาดเพราะไอ้ความสุขเนี่ย
00:14:10 → 00:14:13 มันจะมีปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นและค่ะ
00:14:13 → 00:14:16 อ่าในกรณีที่สุขเนื้อมันก็นุ่มย่อยได้
00:14:16 → 00:14:19 ง่ายช่วยในเรื่องของการระบายนะแล้วใน
00:14:19 → 00:14:22 กล้วยสุกเองเนี่ยจริงๆแล้วมันก็มีตั้งแต่
00:14:22 → 00:14:25 กล้วยแบบเอ่อห่ามอยู่แล้วด้วยแหละนะครับ
00:14:25 → 00:14:29 ก็คือมันก็จะมีพวกโพแทสเซียมอยู่สูงออ
00:14:29 → 00:14:32 โพแทสเซียมซึ่งดีต่อใจโพแทสเซียมเนี่ยนะ
00:14:32 → 00:14:37 ก็คือมันจะช่วยในการควบคุมความดันโลหิตนะ
00:14:37 → 00:14:40 บางคนความดันสูงนะครับอาหารที่เป็นแหล่ง
00:14:40 → 00:14:41 ของ
00:14:41 → 00:14:45 โพแทสเซียมอย่างนึงที่มีอยู่สูงมากนะก็
00:14:45 → 00:14:48 คือในตัวกล้วยนี่แหละครับอือ่าที่เป็น
00:14:48 → 00:14:51 แหล่งของโพแทสเซียมแล้วกล้วมันอยู่มัน
00:14:51 → 00:14:54 อยู่ในโพแทสเซียมอยู่ในกล้วยทุกชนิดเลย่า
00:14:54 → 00:14:57 ทุกชนิดเลยอ่าทุกชนิดเลยแต่ในกล้วยหอม
00:14:57 → 00:14:59 เนี่ยมันอาจจะมีเยอะเพราะปริมาณที่กิน
00:14:59 → 00:15:02 เนี่ยมันเยอะบางทีมันเยอะอ๋ออ่ามันเยอะ
00:15:02 → 00:15:08 แต่ถ้าแง่โภชนาการของตัวเอ่อชนิดของเอ่อ
00:15:08 → 00:15:12 ไฟเอ่อปริมาณของไฟเบอร์นะต่างกันเนี่ยใน
00:15:12 → 00:15:14 กล้วยน้ำว้าเนี่ยจะมีไฟเบอร์ค่อนข้างสูง
00:15:14 → 00:15:17 กว่าอืเพราะเรากินเวลาเรากินเนี่ยเห็น
00:15:17 → 00:15:20 มั้ยครับมันจะมีเนื้อสัมผัสที่มันต่างกับ
00:15:20 → 00:15:24 กล้วยหอมนะใช่ๆถ้ากล้วยน้ำว้าเนี่ยอ่าอ่า
00:15:24 → 00:15:27 คุณกุลีจะแบบว่าเฮ้ยมันจะมีเนื้อสัมผัส
00:15:27 → 00:15:30 ที่มันแบบแน่นกว่าค่ะมันมีปริมาณใยอาหาร
00:15:30 → 00:15:33 ที่สูงกว่าอือันนี้ที่เราแบบไม่สามารถ
00:15:33 → 00:15:36 สัมผัสได้จากเนื้อสัมผัสค่ะแต่ถ้าเกิดมัน
00:15:36 → 00:15:39 เอ่อสุกแล้วนะมันก็จะมีน้ำตาลที่เยอะขึ้น
00:15:39 → 00:15:42 แล้วแต่มันก็ง่ายอ่ะสำหรับผู้สูงอายุที่
00:15:42 → 00:15:44 จะกินออเพราะว่าแบบว่าฟันเฟืออะไรอาจจะ
00:15:44 → 00:15:47 ไม่ค่อยดใช่ระบบการบดเคี้ยวทั้งหลายแหล่
00:15:47 → 00:15:51 แล้วตัวกล้วยเองเนี่ยนะโดยเฉพาะกล้วยสุก
00:15:51 → 00:15:54 เนี้ยน้ำตาลก็จะสูงขึ้นแลแต่มันก็กินง่าย
00:15:54 → 00:15:57 มันก็เฮ้ยรับประทานได้ง่ายแล้วมันก็มี
00:15:57 → 00:16:00 โพแทสเซียมที่สูงก็ดีต่อเรื่องของความดัน
00:16:00 → 00:16:03 โลหิตเพราะมันช่วยควบคุมความดันโลหิตค่ะ
00:16:03 → 00:16:06 อ่ามันจะตรงกันข้ามกับตัวโซเดียมโซเดียม
00:16:06 → 00:16:07 เนี่ยเรารู้ว่าเฮ้ยเรากินเยอะเป็นไงครับ
00:16:08 → 00:16:11 ความดันขึ้นสูงความดันตัวบวมอ่าตัวบวมแต่
00:16:12 → 00:16:15 ตัวโพแทสเซียมเองอ่ะช่วยขับโซเดียมนะอ้า
00:16:15 → 00:16:18 ออๆช่วยขับโซเดียมถ้างั้นเดี๋ยววันไหนไป
00:16:18 → 00:16:20 กินก๋วยเตี๋ยวหรือกินน้ำก๋วยเตี๋ยวเยอะ
00:16:20 → 00:16:23 กินกล้วยถูกเอ่อก็ได้นะแต่เราก็จะได้แป้ง
00:16:23 → 00:16:26 เข้ามาด้วยได้ได้ได้คาร์โบไฮเดรตเข้ามา
00:16:26 → 00:16:29 ด้วยแล้วแล้วบางคนลดน้ำหนักอ่ะก็กินกิน
00:16:29 → 00:16:31 แต่กล้วยลๆล้วยเนี่ยคุณอย่าลืมนะว่ามันก็
00:16:31 → 00:16:35 เป็นคาร์โบไฮเดรต 1 1 ส่วนก็คือ
00:16:35 → 00:16:38 คาร์โบไฮเดรตเท่ากับข้าว 1 ทัพพีกำลังคิด
00:16:38 → 00:16:42 ว่าเคือผลไม้อ่าเคือเค้าคือผลไม้แต่มันก็
00:16:42 → 00:16:45 มีคาร์โบไฮเดรตมันก็มีแป้งงั้นแล้วพวกที่
00:16:45 → 00:16:49 กินตามแนวทางของคีโตโรขาบค่ะกล้วยเนี่ยก็
00:16:49 → 00:16:52 ต้องนับอยู่ในขาบด้วยถ้ากินกล้วยหอม 1
00:16:52 → 00:16:55 รูปคือ 2 ขาบเลยนะโอ๊ยอ่าก็แบบ
00:16:55 → 00:16:58 คาร์โบไฮเดรต 30 กรัมเราก็ต้องนับแต่ไม่
00:16:58 → 00:17:02 ใช่ว่าโอ้กินไม่ได้ถ้าเราแบบเฮ้ยสุขภาพดี
00:17:02 → 00:17:05 นะไม่ได้ไปลดน้ำน่งน้ำหนักอะไรอยู่ใน
00:17:05 → 00:17:08 เกณฑ์เราก็สามารถกินกล้วยได้อย่างอย่าง
00:17:08 → 00:17:12 แฮปปี้อือ่าทีนี้มันมีข้อพึงระวังอีก
00:17:12 → 00:17:14 อย่างนึงคือในกรณีของไอ้ตัวโพแทสเซียม
00:17:14 → 00:17:16 เนี่ยเรารู้ว่าเฮ้ยโพแทสเซียมเนี่ยสูง
00:17:16 → 00:17:22 เนี่ยนะคือเอ่อมันช่วยในการควบคุมความดัน
00:17:22 → 00:17:24 โลหิตใช่มั้ยครับเพราะมันตรงกันข้ามกับ
00:17:24 → 00:17:28 โซเดียมอแต่ในกรณีของคนไข้ที่หรือผู้ป่วย
00:17:28 → 00:17:31 ที่ความดันสูงแล้วกินยาที่ยาบางกลุ่มนะ
00:17:31 → 00:17:36 ครับมันมีผลทำให้เอ่อโพแทสเซียมเนี่ยใน
00:17:36 → 00:17:38 เลือดสูงเช่นเดียวกันคือยามีผลทำให้
00:17:38 → 00:17:41 โพแทสเซียมในเลือดสูงแล้วเรากินกล้วยเข้า
00:17:41 → 00:17:45 ไปอีกถูกต้องครับอเรามันจะเกิดภาวะ
00:17:45 → 00:17:48 ไฮเปอร์โพแทสเซียมนีเมียคือโพแทสเซียมใน
00:17:48 → 00:17:51 เลือดสูงเกินเยอะเกินไปเยอะเกินความดัน
00:17:51 → 00:17:54 เราก็จะต่ำมากเกินอ้าหัวใจก็อาจจะเต้นผิด
00:17:54 → 00:17:59 ปกติอ้าโอเพราะต่ำเกินไปค่ะอือาจค่อยๆแบบ
00:17:59 → 00:18:05 ลงดลงดลงโอ้โหเออจริงๆมันต้องดูเรื่อง
00:18:05 → 00:18:08 ของยาที่กินด้วยครับอันเนี้ยกับผลไม้
00:18:08 → 00:18:10 เพราะเเอ่อเขาเรียก Food and Duck
00:18:10 → 00:18:14 interaction ปฏิสัมพันธ์ระหว่างอาหารและ
00:18:14 → 00:18:18 ยาเออเรื่องนี้น่าสนใจอไว้รอบเราติดตาม
00:18:18 → 00:18:21 กันได้คราวหน้าว่าเอ๊ะปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
00:18:21 → 00:18:23 อาหารและยาเนี่ยว่าเอ้ยต้องพึงระวังอะไร
00:18:23 → 00:18:25 บ้างนะไม่ใช่ว่าเฮ้ยกินไม่ได้เพราะบาง
00:18:25 → 00:18:29 อย่างเนี่ยมันต้องกินให้ห่างจากอาหาร
00:18:29 → 00:18:31 อย่างเงี้ยอ่ะถ้าเราจะกินโอหก็ต้องห่าง
00:18:31 → 00:18:34 จากยาที่มีผลทำให้โพแทสเซียมในเลือสูงนะ
00:18:34 → 00:18:36 อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงขึ้นไปอย่างเงี้ย
00:18:36 → 00:18:38 หรือคนละคนละมื้อเลยถ้าเรากินยามื้อเย็น
00:18:38 → 00:18:41 อ่ะเรากินตอนเช้ากลางวันก็ยังโอเคอยู่นะ
00:18:41 → 00:18:43 แต่ไม่ใช่ว่าโอกินพร้อมกับอาหารหรือกิน
00:18:43 → 00:18:46 ใกล้เคียงกับอาหารนั้นๆที่ไปมีผลเห็นมั้ย
00:18:46 → 00:18:50 ครับะแล้วเนี่ยเรารู้แหละว่าถ้าเราใช้
00:18:50 → 00:18:54 อาหารเป็นยาอันเนี้ยมันโอเคก็คือมันมีมัน
00:18:54 → 00:18:57 ช่วยในเรื่องของการควบคุมความดันได้ค่ะ
00:18:57 → 00:18:59 อ่าอาหารเป็น
00:18:59 → 00:19:01 เป็นยาแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรากินยาด้วย
00:19:01 → 00:19:03 แล้วกินอาหารด้วยเท่ากับเหมือนเป็นยาและ
00:19:03 → 00:19:06 ยานึกออกมยครับอ่าอาหารก็เป็นยาแล้วยาที่
00:19:06 → 00:19:11 เรากินลดความดันอีกอือมันก็เลยมีผลทำให้
00:19:11 → 00:19:14 ความดันต่ำมากเกินก็อันตรายอีกงั้นแล้ว
00:19:14 → 00:19:18 เนี่ยก็ฝากไว้ในกรณีของเอ่อผู้ที่รับ
00:19:18 → 00:19:22 ประทานยาลดความดันในกลุ่มของโสม sping
00:19:22 → 00:19:25 เฟคที่มีผลทำให้โพแทสเซียมในเลือดสูงแล้ว
00:19:25 → 00:19:29 คุณอาจจะกินกล้วยคุณอาจจะกินน้ำมะพร้าวซม
00:19:29 → 00:19:31 ก็สูงถูกมครับน้ำมะพร้าวที่เราใช้ล้าง
00:19:31 → 00:19:34 หน้ากันเนี่ยมรณานุสติเนี่ยนะแล้วคุณอาจ
00:19:34 → 00:19:38 จะไปกินน้ำปลาโซเดียมอ่าเครื่องปรุงรส
00:19:38 → 00:19:41 โซเดียมทุกวันนี้มีขายเพื่อสุขภาพแต่
00:19:41 → 00:19:43 โซเดียมเนี่ยเขาอาจจะเป็นไโพแทสเซียมใช้
00:19:43 → 00:19:46 เกลือโพแทสเซียมแทนโพแทสเซียมเยอะสูงเกิน
00:19:46 → 00:19:48 ไปอีกดเบิลเข้าไปอีกทริปเปิลเข้าไปอีกใช่
00:19:48 → 00:19:51 ครับมันก็เลยกลายเป็นปัญหาทำให้
00:19:51 → 00:19:54 โพแทสเซียมในเลือดสูงมากเกินอีกเห็นมั้ย
00:19:54 → 00:19:56 ครับอันนี้ก็ต้องฝากคุณผู้ฟังว่าเฮ้ยเวลา
00:19:56 → 00:19:58 เราจะกินอ
00:19:58 → 00:20:01 อาหารและยาเนี่ยก็ต้องพึงระวังในเรื่อง
00:20:01 → 00:20:03 เหล่านี้ด้วยเช่นเดียวกันอ่ามันมี
00:20:04 → 00:20:07 ประโยชน์แหละถ้าเรายังไม่ได้ไปกินยาเอ่อ
00:20:07 → 00:20:10 ลดความดันกลุ่มนี้แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่
00:20:10 → 00:20:12 เราเคยกินยาลดความดันกลุ่มนี้แล้วเราก็
00:20:12 → 00:20:15 ต้องพึงระวังอาหารที่โพแทสเซียมสูงซึ่ง
00:20:15 → 00:20:17 กล้วยก็เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งแต่ถ้าคุณรีแบบ
00:20:17 → 00:20:20 เฮ้ยความดันเริ่มสูงยังไม่ได้กินยาอมันมี
00:20:20 → 00:20:24 ประโยชน์อ๋ออ่ามันมีประโยชน์นะฮะเพราะ
00:20:24 → 00:20:27 ฉะนั้นคืออย่างถ้าคุณผู้ฟังมีมียาที่ต้อง
00:20:27 → 00:20:30 กินก็คุยกับคุณหมอก่อนใช่ยารถความดันก็
00:20:30 → 00:20:33 คุยกับคุณหมอก่อนว่าเอ๊จะกินยารถความดัน
00:20:33 → 00:20:37 ต้องระวังอะไรบ้างนะอ่าเอ่อผักผลไม้อะไร
00:20:37 → 00:20:39 กลุ่มไหนต้องระวังอย่างเงี้ยคุณหมอหรือ
00:20:39 → 00:20:42 เภสัชกรก็จะให้คำแนะนำต่างๆเหล่านี้ได้นะ
00:20:42 → 00:20:47 ในเรื่องของปฏิสัมพันธ์ระหว่างอาหารและยา
00:20:47 → 00:20:50 อืน้อยเกินไปก็ไม่ดีมากเกินไปก็ไม่ดี
00:20:50 → 00:20:53 อาจารย์เอกราชย้ำเสมอว่าเดินทางสายกลาง
00:20:53 → 00:20:57 ถูกต้องสุดนะคะแต่ว่าทางสายกลางของกล้วย
00:20:57 → 00:20:59 เนี่ยังไม่หมดค่ะยังไม่หมดครับยังยังมี
00:20:59 → 00:21:03 ความงอมยังมีความงอมยังมีความความงอมอีก
00:21:03 → 00:21:06 เพราะว่ามันตั้งแต่ดิบแล้วก็ไปห่ามใช่
00:21:06 → 00:21:11 แล้วก็มาสุกอซึ่งแต่ละเลเวลอ่าแต่ละเลเวล
00:21:11 → 00:21:15 ก็มีความคุณสมบัติเฉพาะแตกต่างกันไปค่ะ
00:21:15 → 00:21:19 ใช่นะครับอ่าซึ่งไอ้เจ้าสุกเนี่ยมีงาน
00:21:19 → 00:21:22 วิจัยนะครับอันนึงที่น่าสนใจคือมันสามารถ
00:21:22 → 00:21:26 ที่จะช่วยเพิ่มปริมาณเมลาโทนินอ้าวเหรอทำ
00:21:26 → 00:21:30 ให้หลับได้ดีขึ้นโอกล้วยเนี่ยแสดงว่าพลาด
00:21:30 → 00:21:33 มาตลอดเลยค่ะอาจารย์อ้าเค้าบอกกเ้าทดลอง
00:21:33 → 00:21:38 เลยนะอืเอ่อที่คณะเภสัชนะครับเค้าทำการ
00:21:38 → 00:21:42 ศึกษาวิจัยนะว่าให้กินกล้วยช่วงเย็นกล้วย
00:21:42 → 00:21:46 หอมเนี่ยแหละครับค่ะอ่าประมาณ 1 ลูกนะใน
00:21:46 → 00:21:49 มื้อเย็นเฮ้ยตอนกลางคืนเนี่ย
00:21:49 → 00:21:51 เมลาโทนินสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้กินอุ๊ย
00:21:51 → 00:21:55 กล้วยหอม 1 ลูกเไงนะอ้าถูกต้องครับโอนะ
00:21:55 → 00:21:59 คือโทีนี้ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่
00:21:59 → 00:22:01 กับแต่ละคนเนาะอส่วนใหญ่อาจารย์ก็จะแนะนำ
00:22:01 → 00:22:03 เฮ้ยกินมื้อเย็นก็ไม่เกิน 18:00 นนะเพราะ
00:22:03 → 00:22:05 อาจารย์ไม่อยากให้แบบคุยกินข้าวไปแล้ว
00:22:05 → 00:22:07 สมมุตินะคุลีกินข้าวไปแล้ว 2 ทัพพีกิน
00:22:07 → 00:22:10 กล้วยหอมอีก 1 ลูกก็อีกเท่าไหร่ครับไปอีก
00:22:10 → 00:22:14 15 อ้า 1 ลูกของกล้วยหอม 2 ส่วนมันก็
00:22:14 → 00:22:16 กลายเป็นเหมือนโอ้โหฟาดคาร์โบเดตไปแล้ว 4
00:22:16 → 00:22:19 ส่วนนะนึกออกมั้ยครับมันก็อาจจะ
00:22:19 → 00:22:22 โอเวอร์โหลดไปถ้าในกรณีคนที่เป็นเบาหวาน
00:22:22 → 00:22:25 หรือเอ่อเริ่มอ้วนไขมก็มันคาร์โบไฮเดรต
00:22:25 → 00:22:27 มันก็เยอะเกินมันก็ไม่ดีอีกอย่างเงี้ยเรา
00:22:28 → 00:22:29 ก็บริารอาหารจัดการได้ถูกว่าเอ้ยตอนมื้อ
00:22:30 → 00:22:32 เย็นเราอาจจะกินคาร์โบเดรตสัก 1 ทัพพี
00:22:32 → 00:22:34 ข้าวสัก 1 ทับพีเป็นข้าวกล้องข้าว
00:22:34 → 00:22:39 ไรเบอร์รี่อะไรก็ได้แล้วมือเอ่อกินกล้วย
00:22:39 → 00:22:40 เพราะเรารู้แล้วว่าเฮ้ยเราจะกินกล้วยใน
00:22:40 → 00:22:43 มื้อเย็นอย่างเงี้ยแล้วก็บริหารจัดการ
00:22:43 → 00:22:45 อาหารในมื้อนั้นได้โดยที่ไม่โหลด
00:22:45 → 00:22:47 คาร์โบไฮเดรตเข้าไปมากเกินมากเกินไปแต่
00:22:47 → 00:22:50 ว่าได้เมลาโทนินด้วยสำหรับกล้วยใช่มันจะ
00:22:50 → 00:22:54 ช่วยบูทเมลาโทนินได้อ่าในกรณีกล้วยสุกนี่
00:22:54 → 00:22:56 แหละครับคุณคุณลีกล้วยสุกนี่แหละอ่างอม
00:22:56 → 00:22:59 ถามว่าเฮ้ยงอมเนี่ยมันก็หวานมากขึ้นเนาะ
00:22:59 → 00:23:03 น้ำตาลก็แบบมันก็จะสูงขึ้นนะบางคนก็เริ่ม
00:23:03 → 00:23:06 เอาไปทำโค้งทำเค้กทั้งหลายแหล่นะเค้ก
00:23:06 → 00:23:09 กล้วยหงสกล้วยหอมทั้งหลายแหล่นะแล้วใน
00:23:09 → 00:23:12 กล้วยมันก็จะมีพวกเอ่อเบต้าลีนด้วยนะหื
00:23:12 → 00:23:15 อ่าในกล้วยเนี่ยกล้วยสีเหลืองถูกต้องครับ
00:23:15 → 00:23:18 แต่เบต้าแคโรทีนสีส้มสีแดงอะไรงี้เอ่าสี
00:23:18 → 00:23:21 ส้มสีฟักทองก็เหลืองนะก็ไม่ได้ส้มเสมอไป
00:23:21 → 00:23:25 นึกออกมั้ยครับอ่าตำลึงเขียวก็มีเบต้ารีน
00:23:25 → 00:23:28 นะอือ่านั้นแล้วเบต้ารีนมันมีทั้งเหลือง
00:23:28 → 00:23:32 ทั้งส้มทั้งเขียวค่ะอได้ถูกต้องครับแล้ว
00:23:32 → 00:23:36 ถ้าเรากินกล้วยที่มันมันงอมและน้ำอันนี้
00:23:36 → 00:23:39 น้ำตาลก็จะสูงแต่มันอาจจะดีสำหรับกลุ่ม
00:23:39 → 00:23:43 ที่อไปออกกำลังกำลังจะไปเวทเทนนิ่งอค่ะ
00:23:43 → 00:23:46 เขากินกล้วยกันไงอ่าใช่ๆเพราะเขาจะได้มี
00:23:46 → 00:23:49 แรงในการยกเวทเพราะมันได้เป็นพลังงานทัน
00:23:49 → 00:23:52 ทีอาจารย์มันมหัศจรรยเกินไปเปล่าคือเพึ่ง
00:23:52 → 00:23:54 กินไปน่ะนะมันเป็นพลังงานได้เลยเหรอถูก
00:23:54 → 00:23:57 ต้องเพราะมันเพราะมันงอมไงน้ำตาลมันสูงออ
00:23:57 → 00:23:59 เอาไปใช้ทันทีถูกต้องครับมันก็กลายเป็นพ
00:23:59 → 00:24:02 พลังงานที่เหมือนหลังมืออาหารอ่ะหลังจาก
00:24:02 → 00:24:04 เรากินอย่างเงี้ยก่อนที่จะไปเวทสัก
00:24:04 → 00:24:07 ชั่วโมงนึงเราอ่ะกินกล้วยเข้าไปอย่าง
00:24:07 → 00:24:10 เงี้ยกินก่อนไปออกกำลังกายไปออกกำลังกาย
00:24:10 → 00:24:13 ไม่ใช่กินเสร็จแล้วไปนั่งๆนอนๆไม่ได้ไม่
00:24:13 → 00:24:16 ได้เอาไปใช้เป็นพลังงานในการยกเวทออก
00:24:16 → 00:24:21 กำลังมันก็กลายเป็นไขมันสะสมอือ่าฉะนั้น
00:24:21 → 00:24:25 แล้วเนี่ยมันก็จะมีระดับของมันซึ่งถ้าเรา
00:24:25 → 00:24:28 กินอย่างเหมาะสมค่ะมันก็จะเกิดประโยชน์
00:24:28 → 00:24:32 ตั้งแต่กล้วยดิบไล่เรียงมายังกล้วยห่าม
00:24:32 → 00:24:35 ค่ะนะที่มีพรีไบโอติกสูงจนไปถึงกล้วยสุก
00:24:35 → 00:24:39 ที่มีคุณประโยชน์ที่หลากหลายนะครับนะแล้ว
00:24:39 → 00:24:43 กินให้มันพอเหมาะอนะพอเหมาะเพราะว่าถ้า
00:24:43 → 00:24:45 กินมากเกินไปอย่าลืมว่ามันก็คือ
00:24:45 → 00:24:48 คาร์โบไฮเดรตอือ่าไม่ใช่แบบวันโอกล้วยมี
00:24:48 → 00:24:51 ประโยชน์มากเลยฟาดวันละครึ่งหวีอย่าง
00:24:51 → 00:24:54 เงี้ยมันก็มันก็ไม่ไหวนะเช้ากลางวันเย็น
00:24:54 → 00:24:57 ก็กินแต่กล้วยมันก็ไม่ได้ร่างกายเราก็
00:24:57 → 00:25:00 ต้องการสารอาหารที่หลากหลายต้องการโปรตีน
00:25:00 → 00:25:03 ต้องการไขมันดีอ่าก็กินให้หลากหลายเนาะ
00:25:03 → 00:25:07 แล้วก็เลือกรับประทานกล้วยตามความสุขนะ
00:25:07 → 00:25:10 ให้เหมาะสมนะครับมันก็จะได้เกิดประโยชน์
00:25:10 → 00:25:13 กับสุขภาพร่างกายเราอย่างเต็มที่ครับผมโห
00:25:13 → 00:25:14 ฟังแบบนี้แล้ววันนี้เดี๋ยวจะไปซื้อกล้วย
00:25:14 → 00:25:17 แล้วแหละไม่ได้กินมานานค่ะตอนนี้ต้องหัน
00:25:17 → 00:25:20 กลับมากินบ้างแล้วนะคะอ่ะวันนี้ก็ได้
00:25:20 → 00:25:22 ประโยชน์สำหรับเรื่องของข้อมูลเกี่ยวกับ
00:25:22 → 00:25:24 เรื่องของกล้วยนะไม่กล้วยจริงๆนะคะ
00:25:24 → 00:25:26 ประโยชน์เยอะนะแต่ถกินแล้วดีนะคะขอบคุณ
00:25:26 → 00:25:30 อาจารย์เอกราชค่ะสวัสดีสวัสดีครับเอาล่ะ
00:25:30 → 00:25:32 ค่ะคุณผู้ฟังหมดเวลาแล้วค่ะเราจะกลับมาพบ
00:25:32 → 00:25:35 กันใหม่ครั้งหน้านะคะกับรายการโรงหมอทาง
00:25:35 → 00:25:37 ไทย PBS podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อน
00:25:37 → 00:25:41 สวัสดีค่ะ This Is Toy PBS
00:25:41 → 00:25:43 podcast ความรักสามารถเกิดได้หลากหลาย
00:25:43 → 00:25:46 รูปแบบและหลากหลายวัยแต่มุมมองของแต่ละ
00:25:46 → 00:25:48 วัยกลับมองไม่เหมือนกันผู้ช่วย
00:25:48 → 00:25:50 ศาสตราจารย์ดรจันทวิภาดิลกสัมพันธ์ผู้
00:25:50 → 00:25:53 ช่วยชาญด้านความสัมพันธ์มาบอกให้รู้ครับ
00:25:53 → 00:25:56 ความรักแบบผู้ใหญ่เเขาจะมองว่าความรัก
00:25:56 → 00:26:00 เนี่ยมันคือของขวัญฟรีที่คนอีกฝ่ายนึงมอบ
00:26:00 → 00:26:03 ให้เราอ่ะนะฮะเพราะฉะนั้นเนี่ยเราจะรู้
00:26:03 → 00:26:06 สึกว่าขอบคุณเค้าแล้วก็รู้สึกว่าทุกคนที่
00:26:07 → 00:26:09 ทำดีกับอีกฝ่ายนึงเนี่ยนะคะไม่ว่าจะเป็น
00:26:09 → 00:26:13 การดูแลห่วงใยใส่ใจเนี่ยนะคะมันเป็นสิ่ง
00:26:13 → 00:26:16 ดีๆที่ทำให้กันเวลาที่คนเรารักกันเพราะ
00:26:16 → 00:26:19 นั้นจะรู้สึกขอบคุณแต่ไม่ยึดใช้คำว่าอะไร
00:26:19 → 00:26:21 อ่ะเธอต้องให้ฉันสิเพราะฉันให้เธอขนาดนี้
00:26:22 → 00:26:24 เธอต้องให้ฉันสิอ๋อแบบมีตอบแทนอ่ามันไม่
00:26:25 → 00:26:27 ใช่อย่างงั้นแต่ให้คิดว่าเราเป็นฝ่ายที่
00:26:27 → 00:26:30 ขอบคุณเค้านะคะเาก็จะรู้สึกขอบคุณเรา
00:26:30 → 00:26:35 เหมือนกันที่ขอบคุณนะที่มาเจอกันขอบคุณนะ
00:26:35 → 00:26:38 ที่เรามาให้สิ่งดีๆด้วยกันแบบเนี้ยเวลา
00:26:38 → 00:26:41 ที่คนเรารักกันแบบเด็กๆจารย์วิภาไม่ได้
00:26:41 → 00:26:43 พูดถึงอายุนะขอย้ำอีกครั้งนึงนะคนที่เรา
00:26:43 → 00:26:46 รักกันแบบเด็กๆเนี่ยเราจะชอบโพสต์ให้
00:26:46 → 00:26:49 โซเชียลเห็นเห็นจนกระทั่งบางทีเราลืมไป
00:26:49 → 00:26:52 เลยว่าเราก็มีความสุขว่าเออคนเขาก็จะมามา
00:26:53 → 00:26:56 อะไรล่ะชื่นชมไกับเราด้วยแต่เวลาที่เรา
00:26:56 → 00:26:59 ทะเลาะกันเนี่ยค่ะก็คมักจะโพสต์อะไรที่
00:26:59 → 00:27:02 โจมตีอีกฝ่ายนึงโดยเอาข้อเสียเนี่ยมา
00:27:02 → 00:27:05 ประจานในทำนองเดียวกันค่ะแต่ถ้าเป็นความ
00:27:05 → 00:27:07 รักแบบผู้ใหญ่เนี่ยเขาจะไม่โพสต์อะไรเลย
00:27:07 → 00:27:10 ค่ะมันจะไม่ได้ช่วยในเรื่องของการประสาน
00:27:10 → 00:27:12 หรือการประคับประคองความสัมพันธ์เอาไว้
00:27:12 → 00:27:14 เลยในการโพสต์เนี่ยนะมันเป็นการประกาศให้
00:27:14 → 00:27:18 คนอื่นรู้แล้วมันจะยิ่งแย่และยิ่งเป็นการ
00:27:18 → 00:27:21 ซ้ำเติมเป็นการให้ร้ายกันอีกในเวลากรณี
00:27:21 → 00:27:24 ที่เราเกิดโกรดกันขึ้นมานะฮะประเภทงอนกัน
00:27:24 → 00:27:27 ไปงอนกันมาเนี่ยอะไรอย่างเงี้ยนะคะโจมตี
00:27:27 → 00:27:30 กันของความรักเนี่ยมันควรจะเก็บความรู้
00:27:30 → 00:27:33 สึกดีๆเอาไว้นะฮะและความรู้สึกแย่ๆต่อกัน
00:27:33 → 00:27:36 เนี่ยเราก็ต้องมาคุยกัน 2 คนปรึกษาหารือ
00:27:36 → 00:27:39 กันหรืออาจจะปรึกษากับเพื่อนสนิทและอื่นๆ
00:27:39 → 00:27:42 เยอะแยะไปได้หมดเลยที่ไม่จำเป็นต้องโพสต์
00:27:42 → 00:27:44 ในโซเชียลประสบการณ์เนี่ยมันช่วยให้เรา
00:27:44 → 00:27:48 มองเห็นเหตุผลได้ชัดเจนขึ้นนะคะเห็นของผล
00:27:48 → 00:27:52 การกระทำได้ชัดเจน
00:27:52 → 00:27:58 ขึ้น This Is Toy PBS podcast
00:27:58 → 00:28:01 ตามรายการทางเว็บไซต์และ Application ของ
00:28:01 → 00:28:04 Thai PBS podcast spotify soundcloud
00:28:04 → 00:28:07 Google podcast Apple podcast และ
00:28:07 → 00:28:10 YouTube Channel Thai PBS podcast
00:28:10 → 00:28:13 Thai PBS podcast View the world
00:28:13 → 00:28:15 via The Voice
00:28:15 → 00:28:20 [เพลง]