อาหารที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กคืออะไร

[PODCAST] Food Choice | EP.21 - อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคโลหิตจาง

จากช่อง : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 [เสียงดนตรี]

00:00:0300:00:06 You're listening to Mahidol Channel Podcast.

00:00:0600:00:08 Listen for a better life.

00:00:0800:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

00:00:1100:00:14 และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel

00:00:1400:00:16 โดย มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:1600:00:22 [เสียงดนตรี]

00:00:2200:00:24 วันนี้คุณกินอะไร

00:00:2400:00:29 อาหารที่คุณกินจะส่งผลดี ส่งผลเสีย กับสุขภาพของคุณอย่างไร

00:00:2900:00:31 วันนี้หมอจะชวนทุกคนมาพูดคุย

00:00:3100:00:35 เกี่ยวกับรูปแบบของการกินอาหาร ที่ปลอดภัยกับสุขภาพของเรา

00:00:3500:00:40 กับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋

00:00:4000:00:42 แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:00:4200:00:46 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:4600:00:49 [เสียงดนตรี]

00:00:4900:00:55 วันนี้ เราจะมาคุยกันในเรื่องของ อาหารสำหรับโรคโลหิตจาง

00:00:5500:00:57 พอเราพูดถึงโรคโลหิตจางหรือว่าซีดนะคะ

00:00:5700:00:59 หรือว่าขาดเลือดอย่างนี้

00:00:5900:01:00 เราก็จะได้ยินบ่อย ๆ เลยนะคะ

00:01:0100:01:04 อันแรกถามว่าเจอบ่อยไหม เจอบ่อยนะคะในเมืองไทยนี่

00:01:0400:01:05 เจอในกลุ่มไหนได้บ้าง

00:01:0500:01:09 อันแรกที่เจอเยอะ ๆ เลย ก็จะเป็นพวกของเด็กที่กำลังโตนะคะ

00:01:0900:01:12 เพราะฉะนั้นนี่ กลุ่มนี้ก็อาจจะกินอาหารได้ไม่เพียงพอ

00:01:1200:01:14 ก็จะทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง

00:01:1400:01:15 เด็กกำลังโตด้วย

00:01:1500:01:17 ต้องการสร้างเม็ดเลือด

00:01:1700:01:21 กลุ่มที่ 2 ก็จะเป็นกลุ่มของวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีประจำเดือน

00:01:2100:01:23 เราจะมีการเสียเลือดไปใช่ไหมคะ

00:01:2300:01:26 เอาง่าย ๆ เลย ถ้าใครเคยไปบริจาคเลือด

00:01:2600:01:27 พอบริจาคเลือดเสร็จแล้วได้อะไรคะ

00:01:2800:01:31 จะต้องได้ยาถุงเล็ก ๆ มา ที่มีเม็ดสีแดง ๆ

00:01:3100:01:32 ถามว่าทำไม

00:01:3200:01:34 เพราะว่าทุกครั้งที่เราเสียเลือดไปนี่

00:01:3400:01:36 มันก็จะทำให้เราเสียธาตุเหล็กไป

00:01:3600:01:38 เขาก็จะให้ธาตุเหล็กเรากลับมา

00:01:3800:01:41 ทีนี้คำถามคือ เอ๊ะ มันมีแค่ธาตุเหล็กหรือเปล่า

00:01:4100:01:45 ที่ทำให้เราเกิดโลหิตจาง หรือว่าทำให้เราซีดนะคะ

00:01:4500:01:47 เดี๋ยววันนี้เราจะมาคุยกันนะคะว่า

00:01:4700:01:50 อะไรทำให้เกิดเรื่องของภาวะโลหิตจาง

00:01:5000:01:54 แล้วเราสามารถจะแก้ไข ด้วยการปรับอาหารอย่างไรบ้างค่ะ

00:01:5400:02:00 เราจะมาพูดกันในเรื่องของภาวะโลหิตจาง หรือภาษาอังกฤษใช้คำว่า Anemia

00:02:0000:02:04 หรือบางคนจะเรียกว่าซีด หรือบางคนจะบอกว่าเลือดน้อยอะไรก็แล้วแต่

00:02:0400:02:06 สำหรับสาเหตุนะคะ เอาง่าย ๆ เลย

00:02:0700:02:09 ร่างกายเรานี่ เม็ดเลือดถูกสร้างที่ไขกระดูก

00:02:0900:02:14 เราจะแบ่งสาเหตุของคนที่จะเกิด เรื่องของโลหิตจางได้เป็น 3 กลุ่ม

00:02:1400:02:18 กลุ่มแรกก็คือว่า การสร้างเม็ดเลือดนี่มันทำไม่ได้ทำไม่ดี

00:02:1800:02:19 หรือทำไม่พอนะคะ

00:02:2000:02:22 ในส่วนของวัตถุดิบ ที่จะเอามาสร้างเม็ดเลือดนะคะ

00:02:2200:02:24 ก็จะมีอยู่ 3-4 ตัว

00:02:2400:02:25 ก็จะเป็นธาตุเหล็กใช่ไหมคะ

00:02:2500:02:28 โฟลิก, บี 12 นะคะ

00:02:2800:02:31 หรือว่าพวกของโปรตีน แล้วก็คอปเปอร์ แล้วก็สังกะสีนะคะ

00:02:3100:02:34 ทีนี้เวลาที่เราขาดสารอาหารพวกนี้

00:02:3400:02:36 หรือว่าขาดวัตถุดิบนี่ มันขาดได้จากอะไรบ้าง

00:02:3600:02:39 อันแรกเลยก็คือ กินไม่ได้ กินได้น้อย

00:02:3900:02:44 หรืออันที่ 2 ก็จะเป็นกลุ่มที่กินเข้าไป แต่ว่าดูดซึมไม่ได้

00:02:4400:02:46 ดูดซึมไม่ได้เช่นอะไร

00:02:4600:02:48 เรากินไปร่วมกับอาหารบางอย่าง

00:02:4800:02:51 แล้วมันไปยับยั้งการดูดซึมของสาร ตัวที่เราต้องการอันนั้น

00:02:5100:02:54 หรือสอง ลำไส้เรามีปัญหา

00:02:5400:02:57 เราอาจจะถูกตัดลำไส้ไปนะคะ ลำไส้เราสั้น

00:02:5800:03:01 หรือว่าคนไข้ที่มีการผ่าตัดกระเพาะ ผ่าตัดลำไส้

00:03:0100:03:02 ทำให้ลำไส้มันสั้น

00:03:0200:03:06 แล้วก็การดูดซึมสารอาหารในบริเวณนั้น มันลดลง

00:03:0600:03:09 หรือคนไข้คนนี้มีโรคของลำไส้

00:03:0900:03:11 ทำให้การดูดซึมสารอาหารเสียไป

00:03:1100:03:15 มีโรค อย่างเช่น คนไข้มีปัญหาเรื่องท้องเสียเรื้อรัง

00:03:1500:03:17 กินอะไรเข้าไปก็ดูดซึมไม่ได้ อย่างนี้ค่ะ

00:03:1700:03:20 อันนี้ก็อาจจะทำให้เกิดการขาดสารอาหาร

00:03:2000:03:22 ซึ่งจะเป็นวัตถุดิบในการเอาไปสร้างเม็ดเลือด

00:03:2200:03:24 และทำให้คน ๆ นั้นซีดได้ค่ะ

00:03:2400:03:27 อันที่ 2 ก็คือ เม็ดเลือดสร้างออกมาได้ค่ะ

00:03:2700:03:29 แต่ว่าเม็ดเลือดนี่มีอายุสั้นลง

00:03:2900:03:33 พอเม็ดเลือดอายุสั้นลง ไม่ว่าจะถูกทำลายไปหรืออะไรก็แล้วแต่

00:03:3400:03:37 อันนี้ก็จะทำให้มีภาวะโลหิตจางได้

00:03:3700:03:38 แล้วอันสุดท้ายค่ะ

00:03:3800:03:41 ก็คือไขกระดูกสร้างได้ เม็ดเลือดอายุปกติเลย

00:03:4100:03:44 แต่เราเสียเลือดออกไปจากร่างกาย

00:03:4400:03:46 อย่างเช่น ถ่ายดำ ถ่ายเป็นเลือด ใช่ไหมคะ

00:03:4600:03:48 หรือบางคนมีริดสีดวงทวาร

00:03:4800:03:50 ผู้หญิงมีประจำเดือนมาก

00:03:5000:03:54 อันนี้ก็จะทำให้เกิดเรื่องของโลหิตจาง หรือว่าซีดลงได้เหมือนกันค่ะ

00:03:5400:03:58 ในส่วนของโรคอะไรก็ตาม ที่บอกว่าเข้าไปที่ไขกระดูก

00:03:5800:04:00 แล้วทำให้ไขกระดูกทำงานไม่ได้นี่

00:04:0000:04:02 มันก็จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม

00:04:0200:04:07 กลุ่มแรกก็คือมันลุกลามเข้าไป เช่น มะเร็ง หรือว่าโรคติดเชื้อ หรือแม้กระทั่งยา

00:04:0700:04:11 แต่มีอีกอันหนึ่งที่เจอบ่อยเหมือนกัน ก็คือ โรคไต

00:04:1100:04:14 โดยเฉพาะไตวายหรือไตเสื่อมเรื้อรังนะคะ

00:04:1400:04:18 กลุ่มนี้เหตุผลก็เพราะว่า ไตเรามีหน้าที่จะสร้างฮอร์โมนตัวหนึ่ง

00:04:1900:04:23 แล้วฮอร์โมนอันนี้มีหน้าที่ไปกระตุ้น ให้ไขกระดูกเราสร้างเม็ดเลือด

00:04:2300:04:26 ถ้าไตมันเสื่อม ฮอร์โมนก็จะสร้างน้อยลง

00:04:2600:04:30 เมื่อฮอร์โมนสร้างน้อยลง ไขกระดูกเราก็จะสร้างเม็ดเลือดน้อยลงด้วย

00:04:3000:04:35 เพราะฉะนั้นในคนไข้ไตวายหลาย ๆ คน หรือว่าไตเสื่อมระยะท้าย ๆ หน่อย

00:04:3500:04:37 จะถูกฉีดยา

00:04:3700:04:41 เพื่อจะไปกระตุ้นตัวการสร้างของเม็ดเลือด ที่ไขกระดูกนะคะ

00:04:4100:04:45 อันนี้ก็จะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่แบบ เอ๊ะ ทำไมคนไข้โรคไตแล้วถึงมีปัญหาซีดลง

00:04:4600:04:50 ทีนี้พอเรามาสนใจว่า เอ๊ะ เราอาจจะมีปัญหา เรื่องของโลหิตจางหรือเปล่า

00:04:5000:04:52 เราจะซีดหรือเปล่า เรามีอาการเพลียง่าย

00:04:5200:04:53 เรามีอาการเยอะแยะเลย

00:04:5300:04:55 แล้วเราก็ไม่แน่ใจ ถามว่าเราจะรู้ได้อย่างไร

00:04:5500:04:58 อันแรก เราดูจากอาการเนอะ เราดูจากการตรวจร่างกาย

00:04:5800:05:02 ก็จะดูบริเวณของเยื่อบุในตา ที่ตรงบริเวณของเปลือกตาล่าง

00:05:0200:05:05 อันที่ 2 เราดูในบริเวณของริมฝีปากก็ได้

00:05:0500:05:07 แต่ว่าบนผู้หญิงที่ไม่ได้ทาลิปสติกนะคะ

00:05:0800:05:09 เพราะว่าถ้าทาลิปสติก ก็จะมองไม่เห็น

00:05:0900:05:12 ริมฝีปาก ดูว่ามันมีความซีดอยู่หรือเปล่า

00:05:1200:05:14 จริง ๆ แล้วมันควรจะต้องเป็นสีชมพูเนอะ

00:05:1400:05:19 ถัดมาก็คือจะดูในบริเวณของเยื่อบุ ในกระพุ้งแก้มหรือว่าที่ลิ้นเรานะคะ

00:05:1900:05:20 ว่าจะต้องไม่ซีดเนอะ

00:05:2000:05:22 ถ้าสมมุติเราดูแล้วเรายังไม่แน่ใจ

00:05:2200:05:26 วิธีการที่จะดูได้ชัดขึ้นก็คือ มีการเจาะเลือดเพื่อจะตรวจ

00:05:2600:05:28 ถ้าใครเคยไปบริจาคเลือด

00:05:2800:05:31 เคยไหมคะที่เขาเจาะเลือด แล้วเขาก็จุ่มแบบ...ใส่ลงไปในน้ำยาอันหนึ่ง

00:05:3200:05:34 แล้วดูว่ามันเลือดลอยหรือว่าเลือดมันจม

00:05:3400:05:37 อันนี้ก็เป็นอันหนึ่งที่ดูคร่าว ๆ ค่ะ ว่าซีดหรือเปล่า

00:05:3700:05:41 ถ้าเลือดมันลอย หลายคนก็อาจจะต้องแบบ…ไปตรวจดูนิดนึงเนอะ

00:05:4100:05:43 ว่ามีเรื่องของโลหิตจางหรือเปล่า

00:05:4300:05:47 เวลาที่เราตรวจ เราจะเรียกว่าเป็นลักษณะของ การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด

00:05:4700:05:49 เวลาไปตรวจเสร็จแล้วนี่ มันจะดูได้หมดเลย

00:05:4900:05:53 ทั้งเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง และเกล็ดเลือด

00:05:5300:05:56 เวลาที่ดูนี่ เราจะดูความเข้มข้นของเลือด

00:05:5600:05:58 ถ้าสมมุติว่าความเข้มข้นของเลือดมันต่ำ

00:05:5800:06:02 เราก็จะบอกว่า คน ๆ นี้มีเรื่องของโลหิตจาง

00:06:0200:06:06 ซึ่งหลาย ๆ ทีนี่ เวลาเราไปตรวจสุขภาพ คุณหมอก็จะบอกเรานะคะ

00:06:0600:06:09 นอกเหนือจากนั้น ในกลุ่มของ การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดนี่

00:06:1000:06:12 เราก็อาจจะดูขนาดของเม็ดเลือดได้ด้วยนะคะ

00:06:1300:06:14 เวลาดูขนาดของเม็ดเลือดนี่

00:06:1400:06:17 มันจะบอกอะไรได้บ้าง เช่น ถ้าเม็ดเลือดตัวเล็ก

00:06:1700:06:21 เม็ดเลือดตัวเล็กเจอได้ในกรณีไหนบ้าง อันแรกเลยคือ ธาลัสซีเมีย

00:06:2100:06:25 อันที่ 2 ก็คือ โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก

00:06:2500:06:28 เพราะว่าเราไม่มีวัตถุดิบ เม็ดเลือดเราก็เลยต้องตัวเล็กลง

00:06:2800:06:30 อันที่ 2 ค่ะ ถ้าเม็ดเลือดตัวโตเกินไป

00:06:3100:06:34 ตัวโตเกินไป บางทีก็อาจจะขาดวัตถุดิบเหมือนกัน

00:06:3400:06:37 แต่จะเป็นกลุ่มของโฟเลต หรือว่า B12 นะคะ

00:06:3700:06:41 เพราะฉะนั้นอันนี้ก็จะพอบอกได้คร่าว ๆ เวลาที่เราดูเริ่มต้น

00:06:4100:06:43 แล้วสุดท้ายเราก็จะไปหาว่า

00:06:4300:06:48 คน ๆ นี้เขามีเหตุผลที่จะทำให้ มีโลหิตจางหรือเปล่า

00:06:4800:06:51 ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราสงสัยว่า เขาจะมีการเสียเลือด

00:06:5100:06:52 เราอาจจะไปตรวจอุจจาระ

00:06:5300:06:55 แล้วดูว่าเม็ดเลือดแดง มันมีปนในอุจจาระหรือเปล่า

00:06:5500:06:59 ถ้ามี ก็แสดงว่าเขาอาจจะมีการเสียเลือดไปทาง ทางเดินอาหาร

00:07:0000:07:02 โดยที่อาจจะเป็นการเสียเลือดเรื้อรัง โดยที่เขามองไม่เห็น

00:07:0200:07:04 อาจจะปริมาณน้อย ๆ

00:07:0400:07:07 ถามว่า ถ้ามันมีเยอะ จะทำให้เห็นอย่างไร

00:07:0700:07:09 เวลาเลือดมันอยู่ในทางเดินอาหารนี่

00:07:0900:07:11 เวลาที่ถ่ายออกมานะคะ

00:07:1100:07:14 มันจะมีตั้งแต่ว่า ถ้าเกิดเลือดอยู่ในทางเดินอาหารนาน ๆ

00:07:1400:07:16 จะถ่ายออกมาเป็นสีดำ

00:07:1600:07:17 เพราะฉะนั้น ถ้าถ่ายออกมาเป็นสีดำ

00:07:1700:07:19 เราจะสงสัยว่ามีเลือดออกในทางเดินอาหาร

00:07:1900:07:22 โดยเฉพาะทางเดินอาหารส่วนต้น

00:07:2200:07:24 แต่ถ้าสมมุติว่าเราถ่าย แล้วมันเป็นเลือดสดเลย

00:07:2500:07:27 อันนี้แสดงว่า เลือดมันไม่ค่อยได้ค้างอยู่ในทางเดินอาหาร

00:07:2700:07:29 มันน่าจะอยู่ปลาย ๆ

00:07:2900:07:31 ถ้าถ่ายแล้วเป็นเลือดสดเลยนะคะ

00:07:3100:07:33 ก็ให้สงสัยกลุ่มของริดสีดวงทวาร

00:07:3300:07:36 หรือแผลที่ตรงบริเวณทางเดินทวารหนัก อย่างนี้นะคะ

00:07:3600:07:38 ถ้าสมมุติเป็นแผลนี่จะเจ็บ

00:07:3800:07:40 แต่ริดสีดวงทวาร ส่วนใหญ่ไม่เจ็บ

00:07:4000:07:42 แล้วก็อาจจะคลำได้ก้อนด้วย อย่างนี้เป็นต้นค่ะ

00:07:4200:07:47 [เสียงดนตรี]

00:07:4700:07:50 การรักษาโลหิตจางนะคะ เรามาไล่ตามสาเหตุเลย

00:07:5000:07:52 อันแรกนี่เป็นโรคของไขกระดูก

00:07:5200:07:55 เราก็ไปดู แล้วก็รักษาสาเหตุนะคะ

00:07:5500:07:56 ไขกระดูกฝ่อรักษายังไง

00:07:5600:08:00 มีโรคหรือมีภาวะอะไร ที่ทำให้ไขกระดูกทำงานไม่ได้

00:08:0000:08:02 เราก็จะรักษาไปตามนั้น

00:08:0200:08:05 อันที่ 2 ก็คือว่า เอ๊ะ คนนี้ไขกระดูกโอเคเนอะ

00:08:0500:08:09 แต่มันไม่มีวัตถุดิบ เช่น ขาดธาตุเหล็ก ขาด B12 ขาดโฟเลต

00:08:1000:08:13 เราก็จะต้องให้โฟเลต B12 หรือว่าธาตุเหล็ก

00:08:1300:08:14 จะให้ในรูปแบบไหน

00:08:1400:08:18 จะให้เป็นอาหารก็ได้ หรือจะให้ในรูปแบบของยาเม็ดก็ได้ค่ะ

00:08:1800:08:20 ทีนี้สมมุติว่าถ้าคน ๆ นั้นนี่

00:08:2000:08:22 มันดูดซึมไม่ได้ใช่ไหมคะ

00:08:2200:08:24 หรือว่ากินเข้าไปไม่ได้เลย

00:08:2400:08:28 สิ่งที่เราจะทำก็คือ เราให้ค่ะ แต่เราให้ในรูปแบบที่เป็นยาฉีด

00:08:2900:08:32 หรือสุดท้ายถ้าไม่ได้จริง ๆ เราก็จะเติมเลือดไป

00:08:3200:08:36 เพราะฉะนั้นอันนี้คือเป็นวิธีการรักษา ที่จะไล่ไปตามแต่ละชนิด

00:08:3600:08:38 ถ้าสมมุติเป็นคนไข้ที่เป็นธาลัสซีเมีย

00:08:3800:08:41 เนื่องจากเขาเป็นโรคทางกรรมพันธุ์นะคะ

00:08:4100:08:42 เม็ดเลือดแดงเขาแตก

00:08:4200:08:45 เราไปดูนิดนึง ถ้าเม็ดเลือดแดงเขาแตก เนื่องจากว่าเขาติดเชื้อ

00:08:4500:08:48 หรือเขาได้ยา หรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วทำให้เม็ดเลือดแดงเขาแตก

00:08:4900:08:54 กลุ่มนี้เราก็จะพยายามทำให้เขา ดูแลสุขภาพให้ดี อย่าให้มีการติดเชื้อ

00:08:5500:08:58 แล้วถ้าเม็ดเลือดแดงเขาแตกมาก จนกระทั่งทำให้เขามีอาการ

00:08:5800:09:00 เราค่อยมีพิจารณาเรื่องของการให้เลือด

00:09:0000:09:04 เพื่อจะทำให้เขาไม่มีอาการ เนื่องมาจากการซีดค่ะ

00:09:0400:09:07 ในแง่ของยาที่ใช้ ในเรื่องของการรักษาโลหิตจาง

00:09:0700:09:09 จริง ๆ ก็คือเหมือนตามสาเหตุเลย

00:09:0900:09:12 ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสมมุติเรารู้ว่า

00:09:1200:09:14 จริง ๆ การที่จะใช้ยารักษาโลหิตจางนี่

00:09:1400:09:16 อันแรกต้องดูก่อนว่า ยาตัวนั้นทำให้โลหิตจางหรือเปล่า

00:09:1600:09:18 ถ้ายาตัวนั้นไปกดไขกระดูก

00:09:1800:09:21 เราจะหลีกเลี่ยง ก็คือหยุดยาตัวนั้นนะคะ

00:09:2100:09:23 อันที่ 2 ก็คือยาที่จะให้

00:09:2300:09:28 เหมือนที่บอกเมื่อสักครู่ค่ะ ว่าจะเป็นธาตุเหล็ก เป็น B12 เป็นโฟเลต

00:09:2800:09:29 อันนี้ก็จะสามารถให้ได้

00:09:3000:09:34 โดยเฉพาะในกรณีที่คนไข้ อาจจะกินไม่ได้ กินไม่พอ เราก็จะให้เป็นยา

00:09:3400:09:37 แล้วก็อันที่ 3 ก็คือจะเป็นการให้ฮอร์โมน

00:09:3800:09:42 ยกตัวอย่างเช่น คนไข้โรคไตวาย หรือว่าไตเสื่อมเรื้อรัง

00:09:4200:09:46 อันนี้นี่เขาจะสร้างฮอร์โมนตัวนึงไม่ได้ ชื่อว่า Erythropoietin

00:09:4600:09:49 สิ่งที่เราทำก็คือ เราฉีดฮอร์โมนตัวนี้เข้าไป

00:09:4900:09:50 พอฉีดเข้าไปปุ๊บนี่

00:09:5000:09:54 มันก็จะไปกระตุ้น ทำให้ร่างกายมีการสร้างเม็ดเลือดได้ดีขึ้น

00:09:5400:09:57 อันนี้การใช้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์นะคะ

00:09:5700:10:00 ว่าจะใช้ในกรณีของผู้ป่วยคนไหนค่ะ

00:10:0000:10:02 ในกรณีของธาลัสซีเมียนะคะ

00:10:0200:10:06 ก็จะมีคนสับสนอยู่พอสมควรเลยว่า เอ๊ะ เราเป็นอะไรนะ

00:10:0600:10:09 เคยได้ยินคำว่าธาลัสซีเมีย ได้ยินคำว่าโรคเลือด

00:10:0900:10:15 จริง ๆ แล้วนี่ ธาลัสซีเมีย เป็นโรคที่มีการส่งผ่านทางกรรมพันธุ์

00:10:1500:10:17 เพราะฉะนั้นนี่ เวลาที่เราจะเป็นโรคนี่

00:10:1800:10:23 เอาง่าย ๆ เลย เราจะต้องได้มาจากคุณพ่อคุณแม่ ที่มีความผิดปกติอันนี้นะคะ

00:10:2300:10:24 คุณหมอสมมุติง่าย ๆ เลยค่ะ

00:10:2400:10:29 สมมุติว่าถ้าเรามีโครโมโซม เป็นเหมือนปาท่องโก๋สองข้าง

00:10:2900:10:32 ทีนี้นี่ถ้าสมมุติว่าโครโมโซมเรามาจาก ทั้งคุณพ่อคุณแม่

00:10:3200:10:36 ถ้าความผิดปกติอันนั้น เกิดขึ้นทั้งสองข้างของโครโมโซม

00:10:3600:10:38 อันนี้เราจะเรียกว่าเป็นโรค

00:10:3800:10:41 พอเป็นโรคปุ๊บนี่ หมายความว่าเม็ดเลือดที่สร้างออกมานี่

00:10:4100:10:43 มันจะมีตัวเล็ก แล้วมันจะแตกง่าย

00:10:4400:10:45 พอมันแตกง่ายปุ๊บ

00:10:4500:10:46 ก็จะทำให้เขาซีดลง

00:10:4700:10:48 อันนี้โอเคนะคะ

00:10:4800:10:50 อันที่ 2 คือสมมุติว่า

00:10:5000:10:53 ถ้าหากว่าโครโมโซมของเขานี่ ที่เป็นปาท่องโก๋นี่

00:10:5300:10:56 เป็นคนปกติ ก็คือไม่มีความผิดปกติเลย

00:10:5600:10:59 หรือมันมีความผิดปกติ แต่มันมีแค่ข้างเดียว

00:10:5900:11:02 เอามาจากคุณพ่อก็ได้ เอามาจากคุณแม่ก็ได้ หรืออะไรก็แล้วแต่

00:11:0300:11:06 สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ คน ๆ นี้เป็นแค่พาหะ

00:11:0600:11:09 พาหะคืออะไร พาหะคือเขาไม่ซีดนะคะ

00:11:0900:11:11 ความเข้มข้นเม็ดเลือดเขาปกติ

00:11:1100:11:14 แต่ว่าเขาอาจจะส่งพันธุกรรมอันนี้

00:11:1400:11:17 ส่งต่อไปยังรุ่นลูก รุ่นหลานได้

00:11:1700:11:21 อันที่ 2 คือเวลาที่เราตรวจเลือด เราอาจจะเห็นว่าเม็ดเลือดเขาตัวเล็กค่ะ

00:11:2100:11:24 เม็ดเลือดตัวเล็กก็จริง แต่ปริมาณเม็ดเลือดมีพอ

00:11:2400:11:26 อันนี้เราจะเรียกว่า อาจจะเป็นพาหะ

00:11:2600:11:27 อันนี้คือดูคร่าว ๆ เนอะ

00:11:2800:11:32 ในรายละเอียด เราอาจจะต้องไปตรวจเพิ่มเติมว่า เขาเป็นพาหะธาลัสซีเมียหรือเปล่า

00:11:3200:11:34 ทีนี้ในกรณีของธาลัสซีเมียนี่

00:11:3400:11:36 ถ้าสมมุติว่าเขาเป็นโรคค่ะ

00:11:3600:11:37 แล้วเขาซีดค่ะ

00:11:3700:11:41 สิ่งที่เราอาจจะเห็นก็คือ เวลาเขาเจ็บป่วยไม่สบาย เขาจะซีดลงได้

00:11:4100:11:45 อันที่ 2 เขาอาจจะมีประวัติว่า เขาต้องได้รับเลือด

00:11:4500:11:48 ซึ่งถ้าอันนี้ค่ะ เราจะบอกว่าเป็นโรคธาลัสซีเมีย

00:11:4800:11:52 นอกจากนี้นะคะ ถ้าสมมุติว่าเราสงสัย ว่าจะเป็นเรื่องของธาลัสซีเมีย

00:11:5200:11:54 เราก็อาจจะเจาะดู

00:11:5400:11:58 เช่น ดูซิว่าชนิดของฮีโมโกลบิน หรือว่าไป screening แล้วกันเนอะ

00:11:5800:12:00 สงสัยว่าเป็นธาลัสซีเมียหรือเปล่า

00:12:0000:12:02 ถ้าเราสงสัยว่าขาดเหล็ก

00:12:0200:12:05 เราก็จะเจาะดูระดับของธาตุเหล็กได้

00:12:0500:12:10 สงสัยว่า B12 หรือโฟเลตขาด เราก็ดูระดับ B12 หรือโฟเลตได้นะ

00:12:1000:12:13 เพราะฉะนั้นขึ้นกับว่าคนนี้เขามีภาวะโลหิตจาง

00:12:1300:12:16 อันแรกเราก็จะต้องวินิจฉัยให้ได้ก่อนว่า

00:12:1600:12:17 เขามีโลหิตจางจริงหรือเปล่า

00:12:1700:12:18 พอโลหิตจางเสร็จปุ๊บ

00:12:1800:12:23 เราก็จะมาสเต็ปที่สองว่า โลหิตจางอันนี้เกิดจากสาเหตุอะไรนะคะ

00:12:2300:12:26 เราก็จะคอนเฟิร์ม เช่น เราสงสัยว่า ขาดธาตุเหล็กใช่ไหมคะ

00:12:2600:12:28 เราก็จะเจาะเรื่องของธาตุเหล็ก

00:12:2800:12:31 ถ้าสงสัยว่า B12 เราก็จะไปเจาะ B12 เจาะโฟเลต

00:12:3100:12:33 แล้วถ้าสมมุติว่าเราสงสัยว่า

00:12:3300:12:37 เอ๊ะ คนนี้ขาดธาตุเหล็กเนื่องจากการที่ มีการเสียเลือดไปจากทางไหนหรือเปล่า

00:12:3700:12:39 ไปดูซิว่าประจำเดือนมาเยอะไหม

00:12:3900:12:43 มีเลือดออกทางเดินอาหารหรือเปล่า มีการเสียเลือดที่ไหนหรือเปล่า

00:12:4300:12:46 อันนี้ก็จะเป็นวิธีการวินิจฉัยในแต่ละรายไป

00:12:4600:12:49 เพราะฉะนั้น การเกิดโลหิตจาง มันเกิดได้หลายสาเหตุ

00:12:4900:12:50 เวลาที่เราจะหาสาเหตุ

00:12:5000:12:55 เราก็จะหาตามข้อบ่งชี้จากประวัติ แล้วก็การตรวจร่างกาย รวมถึงผลแล็บค่ะ

00:12:5500:12:58 แล้วสุดท้ายนะคะ ถ้าสมมุติว่าเราสงสัยว่า

00:12:5800:13:02 คน ๆ นี้จะมีโรคหรือมีภาวะผิดปกติ ที่เกิดขึ้นที่ไขกระดูก

00:13:0300:13:08 อันนี้ก็อาจจะมีการตรวจในแง่ที่เราเรียกว่า เป็นการเจาะตรวจเรื่องของไขกระดูก

00:13:0800:13:10 ซึ่งอันนี้ก็จะมีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ

00:13:1000:13:13 เช่น เป็นคุณหมอโรคเลือด หรือคุณหมออายุรกรรมเป็นคนดูแลอีกนะคะ

00:13:1400:13:19 [เสียงดนตรี]

00:13:1900:13:20 ทีนี้เราพูดกันมานี่

00:13:2000:13:24 ลงรายละเอียดในเรื่องของการรักษา การวินิจฉัย หรืออะไรก็แล้วแต่

00:13:2400:13:26 คำถามคือเราจะกินอะไรดี

00:13:2600:13:30 หัวข้อเรื่องของวันนี้คือ อาหารสำหรับรักษาเรื่องของโลหิตจางใช่ไหมคะ

00:13:3000:13:31 เราต้องมาแยกนะคะ

00:13:3100:13:36 คงไม่ได้บอกว่า มีอะไรที่กินอันเดียว แล้วได้ทุกอย่างครอบจักรวาล

00:13:3600:13:40 สมมุติว่าคน ๆ นี้นี่ เป็นลักษณะของคนไข้ที่มีภาวะขาดเหล็ก

00:13:4000:13:43 ง่าย ๆ เลยก็คือ อาจจะมีถ่ายดำ

00:13:4300:13:44 คนไข้อาจจะประจำเดือนมามาก

00:13:4400:13:48 หรือว่าในเด็กเล็กที่กำลังโต ซึ่งอาจจะกินได้ไม่พอ

00:13:4800:13:50 กลุ่มนี้เราจะแนะนำให้กินธาตุเหล็กเพิ่มนะคะ

00:13:5000:13:52 ธาตุเหล็กมาจากอะไร

00:13:5200:13:55 ง่าย ๆ เลยค่ะ ธาตุเหล็กแบ่งเป็น 2 กลุ่มนะ

00:13:5500:13:58 กลุ่มแรกมาจากพืช กลุ่มที่ 2 มาจากสัตว์นะคะ

00:13:5800:14:00 กลุ่มที่มาจากสัตว์ก่อน พวกนี้ดูดซึมได้ดี

00:14:0000:14:01 อยู่ในไหนบ้าง

00:14:0200:14:04 ง่าย ๆ เลยเนอะ ก็คือเราจะกินเลือด

00:14:0400:14:07 ไม่ใช่บอกไปกินเลือดสัตว์นะคะ แต่ว่าหมายถึงว่า

00:14:0700:14:10 อาจจะเป็นต้มเลือดหมูอย่างนี้ค่ะ เป็นเลือดของสัตว์นะคะ

00:14:1000:14:12 อันที่ 2 เป็นพวกของตับ

00:14:1200:14:14 อันที่ 3 จะเป็นพวกเนื้อแดง

00:14:1400:14:15 แล้วก็ไข่แดง

00:14:1500:14:18 กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่มีธาตุเหล็ก ค่อนข้างสูง

00:14:1800:14:21 อาหารทะเลหลาย ๆ ตัว ก็จะมีธาตุเหล็กค่อนข้างสูง

00:14:2100:14:24 เมนูอาหาร ยกตัวอย่างเช่น เราจะกินผัดตับ

00:14:2400:14:26 ตับผัดใบกุยช่ายใช่ไหมคะ

00:14:2600:14:27 หรือว่าจะกินเป็นต้มเลือดหมู

00:14:2700:14:30 หรือจะเป็นพวกของไข่ก็ได้ค่ะ

00:14:3000:14:34 กินไข่ทั้งฟองเนอะ ไม่ใช่แค่ไข่ขาว อันนี้ก็จะมีเรื่องของธาตุเหล็กพอนะคะ

00:14:3500:14:38 อันที่ 2 ก็จะเป็นธาตุเหล็กที่ได้มาจากพืช

00:14:3800:14:40 เมื่อกี้เราบอกมาจากสัตว์แล้วใช่ไหมคะ

00:14:4000:14:41 อันที่ 2 ก็มาจากพืช

00:14:4100:14:45 ในพืชเอง เวลาที่เรารับประทานนี่ ก็จะมีธาตุเหล็กเหมือนกันนะคะ

00:14:4500:14:47 สังเกตง่าย ๆ เลยค่ะ ผักที่มีสีเขียวเข้ม ๆ

00:14:4700:14:50 กลุ่มนี้จะมีธาตุเหล็กค่อนข้างสูง

00:14:5000:14:53 มีข้อเสียนิดเดียว ก็คือกลุ่มที่มาจากพืชนี่

00:14:5300:14:57 มันจะดูดซึมได้ไม่หมด ดูดซึมได้ไม่ 100%

00:14:5700:14:59 แล้วที่สำคัญคือ ถ้าเรากินอาหารบางอย่าง

00:14:5900:15:03 มันจะไปยับยั้งการดูดซึมของธาตุเหล็ก ที่อยู่ในอาหารด้วย

00:15:0300:15:07 เพราะฉะนั้นเวลาที่เราจะกินอาหาร ที่เป็นธาตุเหล็ก มาจากพืชนะคะ

00:15:0700:15:11 เราควรจะต้องระวังด้วยว่า จะต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางอย่าง

00:15:1100:15:14 ซึ่งจะไปทำให้มีการยับยั้งการดูดซึม

00:15:1400:15:16 ก็จะเป็นพวกผักสีเขียวเข้ม ๆ นะคะ

00:15:1600:15:17 ยกตัวอย่างเช่น เป็นบรอกโคลีก็ได้

00:15:1700:15:19 เป็นพวกผักโขม เป็นพวกหน่อไม้ฝรั่ง

00:15:1900:15:24 กลุ่มนี้ก็จะเป็นผักที่มีสีเขียวเข้ม ๆ อันนี้ก็จะมีธาตุเหล็กค่อนข้างสูงค่ะ

00:15:2400:15:28 สามารถที่จะเลือกรับประทานผักกลุ่มนี้ ในปริมาณที่มากขึ้นนะคะ

00:15:2800:15:31 ก็จะช่วยทำให้ร่างกาย ได้รับธาตุเหล็กที่เพียงพอได้ค่ะ

00:15:3100:15:35 กลุ่มที่ 2 ที่จะช่วยในเรื่องของ การสร้างเม็ดเลือด ก็จะเป็นกลุ่มของโฟลิก

00:15:3500:15:36 โฟเลตอยู่ในไหนบ้าง

00:15:3600:15:40 โฟเลตอยู่ในถั่วนะคะ อยู่ในไข่ได้ แล้วก็อยู่ในผักได้นะคะ

00:15:4000:15:43 เพราะฉะนั้นนี่ ถ้าเราเลือกกินอาหารกลุ่มนี้

00:15:4300:15:45 เราก็จะมีโฟเลตได้นะคะ

00:15:4500:15:47 ก็อาจจะเป็นรูปแบบของสลัดก็ได้ค่ะ

00:15:4700:15:48 หรือว่าใส่ไข่แดงลงไป

00:15:4800:15:53 อันนี้ก็จะสามารถที่จะได้รับโฟเลต เพียงพอได้ในแต่ละวันนะคะ

00:15:5300:15:57 นอกเหนือจากกลุ่มที่เป็นโฟเลต หรือว่าพวกของธาตุเหล็กแล้วนี่

00:15:5800:15:59 ก็จะมี B12 เนอะ

00:15:5900:16:01 B12 เอาง่าย ๆ เลย B12 มาจากเนื้อสัตว์

00:16:0100:16:07 B12 นี่จะมีปัญหามากที่สุดก็คือ กลุ่มที่กินเป็นมังสวิรัติอย่างเคร่งครัด

00:16:0700:16:08 หรือว่าเป็นกลุ่มวีแกน

00:16:0800:16:10 กลุ่มนี้มีโอกาสที่จะขาด B12 นะคะ

00:16:1000:16:13 เพราะฉะนั้น ถ้าเรากินกลุ่มที่มาจากเนื้อสัตว์นี่

00:16:1300:16:14 พวกนี้ก็จะไม่ขาด B12 นะคะ

00:16:1400:16:17 หรือว่าจะเป็นพวกของไข่แดงก็ได้ อันนี้ก็จะช่วยได้

00:16:1700:16:19 เพราะฉะนั้นเวลาที่เรากิน

00:16:1900:16:23 กลุ่มที่เป็นเนื้อสัตว์ ก็จะได้ทั้งธาตุเหล็ก แล้วก็จะได้ทั้ง B12 นะคะ

00:16:2300:16:26 นอกเหนือจาก 3 แร่ธาตุหลัก ที่เราพูดมาเมื่อสักครู่นี้

00:16:2700:16:29 ในเรื่องของการสร้างเม็ดเลือดนี่

00:16:2900:16:31 ก็จะมีอีกตัวหนึ่งชื่อว่าคอปเปอร์นะคะ

00:16:3100:16:35 ในส่วนของคอปเปอร์เจอในไหน คอปเปอร์เจอในอาหารทะเลนะคะ

00:16:3500:16:37 เจอในกลุ่มของหอยนางรมก็ได้นะคะ

00:16:3700:16:40 หรือว่าเจอในไข่แดงก็ยังได้นะคะ

00:16:4000:16:43 อีกอันหนึ่งที่จะเจอก็คือพวกของอัลมอนด์ ช็อกโกแลต

00:16:4300:16:46 อันนี้ก็จะมีพวกของคอปเปอร์นะคะ หรือว่าทองแดงอยู่

00:16:4600:16:49 เรากินในปริมาณไม่ต้องเยอะมากก็ได้ค่ะ

00:16:4900:16:51 ทีนี้คนที่จะขาดคอปเปอร์คืออะไร

00:16:5100:16:52 ก็คือดูดซึมได้ไม่ดี

00:16:5200:16:54 ตัดกระเพาะไปนะคะ

00:16:5400:16:58 หรืออีกกลุ่มหนึ่งค่ะ คือคนที่ได้รับสังกะสีเยอะ ๆ

00:16:5800:16:59 เหตุผลเพราะว่าร่างกายเรานี่

00:16:5900:17:01 สังกะสีกับคอปเปอร์นี่

00:17:0100:17:03 เขาจะดูดซึมไปด้วยกัน

00:17:0300:17:05 ทีนี้ถ้าสมมุติเราได้สังกะสีเยอะ ๆ ปุ๊บนี่

00:17:0500:17:08 มันจะไปปิดที่ ไปแย่งที่

00:17:0800:17:11 ทำให้การดูดซึมของคอปเปอร์ หรือทองแดงมันลดลงนะคะ

00:17:1100:17:14 เพราะฉะนั้น ถ้าใครที่ได้รับสังกะสีมากเกินไป

00:17:1400:17:18 ก็ต้องระวังที่จะมีเรื่องของ การขาดทองแดงด้วยเช่นกันค่ะ

00:17:1900:17:24 [เสียงดนตรี]

00:17:2400:17:27 ในกรณีที่ถามว่าเราควรจะกินอะไร แล้วเราควรจะเลี่ยงอะไร

00:17:2800:17:29 ทีนี้ต้องมาดูทีละอย่างเนอะ

00:17:2900:17:32 สมมุติในกรณีของคนที่กินธาตุเหล็กเมื่อกี้ค่ะ

00:17:3200:17:34 ที่บอกว่าเรากินอาหารที่มีแร่ธาตุ ธาตุเหล็กเนอะ

00:17:3400:17:36 แล้วพูดว่าการที่จะดูดซึมธาตุเหล็กนี่

00:17:3700:17:40 บางทีนี่มันจะถูกยับยั้งด้วยอาหารบางตัว

00:17:4000:17:43 โดยเฉพาะก็คือถ้าเรากินธาตุเหล็กที่มาจากพืช

00:17:4300:17:47 การกินพวกของชากาแฟนี่ จะยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็ก

00:17:4700:17:49 หรือพวกแคลเซียมก็ตาม

00:17:4900:17:51 พวกนี้จะทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กลดลง

00:17:5100:17:56 อันที่ 2 อาหารที่เราเรียกว่าไฟเตต แทนนิน ออกซาเลต ซึ่งมีอยู่ในผัก

00:17:5600:17:59 พวกนี้จะทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กลดลง

00:17:5900:18:01 ดังนั้น ในผักบางอย่างนี่

00:18:0100:18:03 ถึงแม้ว่าเขาจะมีธาตุเหล็กเยอะ

00:18:0400:18:05 แต่เขาดูดซึมไปใช้ได้นิดเดียว

00:18:0500:18:08 เนื่องจากว่ามันมีสารอาหารตัวอื่นร่วมด้วย

00:18:0800:18:12 เราก็เลยบอกว่า ถ้างั้นแปลว่า เราไม่ต้องกินหรือเปล่า หรืออะไรหรือเปล่า

00:18:1200:18:14 เปล่าค่ะ เราแค่รู้

00:18:1400:18:19 เสร็จแล้วนี่เวลาที่เราจะกิน แล้วเราคาดหวังว่าเราจะได้ธาตุเหล็กจากพวกผัก

00:18:1900:18:22 เราอาจจะคาดหวังได้ไม่ 100% ยกตัวอย่างเช่น

00:18:2200:18:25 เรากินเข้าไป 100 เราอาจจะดูดซึมได้แค่ประมาณ 50

00:18:2500:18:29 เพราะฉะนั้น วิธีการแก้ไขก็คือ กินให้เพิ่มขึ้นนะคะ

00:18:2900:18:30 แล้วก็พยายามหลีกเลี่ยง

00:18:3000:18:33 ไม่ใช่กินชากาแฟร่วมไปด้วย หรือกินแคลเซียมร่วมไปด้วย

00:18:3300:18:35 อันนี้ก็จะดูดซึมน้อยลง

00:18:3500:18:38 มีอะไรไหมที่จะช่วยเพิ่ม การดูดซึมของธาตุเหล็ก

00:18:3800:18:39 ก็คือวิตามินซีค่ะ

00:18:3900:18:43 บางทีเวลาเรากินพวกนี้ แล้วเราอาจจะใส่เป็นพวกของผลไม้ร่วมด้วย

00:18:4300:18:46 ผลไม้อาจจะไม่ได้มีธาตุเหล็กเยอะ แต่ผลไม้มีวิตามินซี

00:18:4600:18:50 จะช่วยทำให้เพิ่มการดูดซึม ของตัวธาตุเหล็กได้ค่ะ

00:18:5000:18:54 นอกจากนี้นะคะ ธาตุเหล็กจะดูดซึมได้ดีนี่ จะต้องอยู่ในภาวะที่เป็นกรด

00:18:5400:18:57 เพราะฉะนั้นถ้าใครที่กินพวกยาลดกรดใช่ไหมคะ

00:18:5800:19:00 ก็อาจจะมีผลกับการดูดซึมธาตุเหล็กนะคะ

00:19:0100:19:05 แล้วก็ถ้าใครที่โดนตัดกระเพาะไป ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม

00:19:0500:19:08 อันนี้การดูดซึมธาตุเหล็กก็จะลดลงเช่นกันค่ะ

00:19:0800:19:12 ทีนี้ถามว่า เอ๊ะ เราฟังดูเหมือนกับ ธาตุเหล็กก็ดีเนอะ ควรจะกินเยอะ ๆ

00:19:1300:19:17 มีคนกลุ่มไหนไหมที่ห้าม หรือไม่ควรที่จะกินธาตุเหล็กนะคะ

00:19:1800:19:21 กลุ่มที่ไม่ควรจะกินธาตุเหล็ก คือกลุ่มคนไข้ที่เม็ดเลือดแดงแตกเยอะ ๆ

00:19:2100:19:24 ยกตัวอย่างเช่น โรคธาลัสซีเมีย

00:19:2400:19:29 ฟังดี ๆ นะคะ เราย้ำว่า “โรคธาลัสซีเมีย” ไม่ใช่พาหะธาลัสซีเมียนะ

00:19:2900:19:31 โรคธาลัสซีเมีย พอเม็ดเลือดแดงเขาแตก

00:19:3100:19:32 พอเม็ดเลือดแตกปุ๊บ

00:19:3200:19:35 ธาตุเหล็กที่อยู่ในเม็ดเลือดแดง มันออกมาเต็มเลยค่ะ

00:19:3600:19:38 เพราะฉะนั้นร่างกายไม่ได้ขาดธาตุเหล็ก นึกภาพออกนะคะ

00:19:3800:19:40 ถ้าเรายังเติมธาตุเหล็กลงไปเยอะ ๆ

00:19:4000:19:45 สิ่งที่เกิดขึ้น ร่างกายจะเอาธาตุเหล็ก ที่ออกมาจากเม็ดเลือดแดงไปสะสม

00:19:4500:19:47 ไปสะสมที่ไหน

00:19:4700:19:50 ไปสะสมที่ตับ ไปสะสมที่ตับอ่อน

00:19:5000:19:53 หรืออาจจะไปสะสมมากเกินไปที่บริเวณของสมอง

00:19:5300:19:56 แล้วทำให้เกิดความผิดปกติได้

00:19:5600:19:59 เพราะฉะนั้น กลุ่มของคนไข้ที่ได้เลือดเยอะ ๆ

00:19:5900:20:02 กลุ่มของคนไข้ที่เม็ดเลือดแดงแตกเยอะ ๆ

00:20:0200:20:06 กลุ่มนี้เราจะบอกว่า ไม่ให้เติมธาตุเหล็กลงไปอีกนะคะ

00:20:0600:20:08 เพราะถ้าเติมลงไปนี่ โอกาสที่จะเกิดผลเสีย

00:20:0800:20:11 สะสมที่ตับเยอะ ๆ เกิดอะไร ทำให้ตับแข็งได้

00:20:1100:20:13 สะสมที่สมองเยอะ ๆ เกิดอะไร

00:20:1300:20:15 ทำให้การทำงานของสมองผิดปกติ

00:20:1500:20:17 อาจจะทำให้มีมือสั่น

00:20:1700:20:20 อาจจะทำให้มีอาการ เหมือนคล้าย ๆ พาร์กินสันก็ได้

00:20:2000:20:23 แล้วถ้าสะสมที่ตับอ่อนเยอะ ๆ เกิดอะไรขึ้น

00:20:2300:20:26 ก็จะทำให้คน ๆ นั้นกลายเป็น เรื่องของเบาหวานได้

00:20:2600:20:30 เพราะฉะนั้นกลุ่มที่ห้ามนะคะ ก็คือกลุ่มที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย

00:20:3000:20:32 หรือว่าได้รับเลือดเยอะ ๆ

00:20:3200:20:34 กลุ่มนี้ไม่ควรที่จะได้รับธาตุเหล็กเพิ่มขึ้น

00:20:3500:20:39 แล้วหลังจากที่เราบอกว่า คนกลุ่มนี้ไม่ควรที่จะได้รับธาตุเหล็กเยอะ ๆ

00:20:3900:20:41 ไม่ว่าจะเป็นจากอาหารก็ตามนะคะ

00:20:4100:20:44 ดังนั้นนี่ เวลาที่เรารู้สึกว่า เอ๊ะ เราอยากจะบำรุงเลือด

00:20:4400:20:47 เรารู้สึกว่ามันไม่ดี แล้วเราไปซื้อเอานี่

00:20:4700:20:51 บางทีนี่ค่ะ ในยาบำรุงเลือดซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นยาที่จะมีธาตุเหล็กเสริมอยู่

00:20:5200:20:55 กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ ไม่ควรจะไปซื้อมาเสริมกินเองนะคะ

00:20:5500:20:58 เพราะว่าจะได้รับธาตุเหล็กมากจนเกินไป

00:20:5800:21:00 ยาบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็กนี่

00:21:0000:21:04 ส่วนใหญ่เนอะ ก็จะเห็นเป็นเม็ดสีออกแดง ๆ อาจจะไม่ใช่ก็ได้

00:21:0400:21:07 ที่สังเกตง่าย ๆ ก็คือ เวลาที่เรากินยาบำรุงเลือดนี่

00:21:0700:21:09 มักจะถ่ายออกมาเป็นสีดำค่ะ

00:21:0900:21:11 แต่ว่าจะเป็นสีดำที่ออกจะค่อนข้างแข็ง ๆ

00:21:1100:21:15 แล้วสีดำมันจะออกแบบ...ดำเขียว ๆ ไม่ได้แบบดำเข้มค่ะ

00:21:1500:21:19 ถ้าสมมุติว่าถ่ายออกมานะคะ เป็นสีดำเหมือนยางมะตอยเลย

00:21:1900:21:20 หรือว่าถ่ายออกมาแล้วเหลว ๆ

00:21:2000:21:24 อันนี้ให้สงสัยไว้ก่อนว่า อาจจะมีเรื่องของเลือดออกในทางเดินอาหาร

00:21:2500:21:26 โดยเฉพาะทางเดินอาหารส่วนต้น

00:21:2700:21:31 แต่ถ้าถ่ายออกมาแล้วเป็นสีดำ ออกเขียว ๆ หน่อย ก้อนแข็ง ๆ

00:21:3100:21:36 อันนี้แล้วก็กินยาอยู่นะคะ ก็ให้สงสัยว่า ยาที่เรากินอยู่นี่มีธาตุเหล็กอยู่

00:21:3600:21:38 ยาหรือว่าแร่ธาตุเหล็กเสริมนี่

00:21:3800:21:40 ส่วนใหญ่เวลากินให้ระวังนิดนึง

00:21:4000:21:41 หลายคนจะทนไม่ค่อยไหว

00:21:4100:21:44 เพราะว่าอาจจะมีปัญหากับระบบทางเดินอาหาร

00:21:4400:21:48 ไม่ว่าจะเป็นท้องผูก หรือไม่ว่าจะเป็นท้องเสียนะคะ

00:21:4800:21:49 อันนี้เจอได้บ่อยนะคะ

00:21:4900:21:51 ถ้าสมมุติกินยาอยู่แล้วมีอาการพวกนี้

00:21:5100:21:53 แนะนำว่าไปปรึกษาคุณหมอนะคะ

00:21:5300:21:55 อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของยาค่ะ

00:21:5600:21:59 ดังนั้น เวลาที่เราพูดถึงเรื่องโลหิตจางนี่ จริง ๆ สาเหตุมันมีเยอะเนอะ

00:21:5900:22:02 แล้วเวลาที่เราจะเลือกกินหรือเราจะดูแลตัวเอง

00:22:0200:22:06 ก็ขึ้นกับว่าเราคิดว่าโลหิตจางของคน ๆ นั้น เป็นแบบไหน

00:22:0600:22:08 ถ้าสมมุติว่าเราไม่ได้มีปัญหา เรื่องของธาลัสซีเมีย

00:22:0900:22:11 ไม่เคยต้องเติมเลือดเลย บ้านเราไม่มีประวัติกรรมพันธุ์เลย

00:22:1100:22:14 แล้วเราซีดลง หรือว่าประจำเดือนเรามาเยอะ

00:22:1400:22:17 อันนี้เราควรจะต้องไปเลือกอาหาร ที่มีธาตุเหล็กเยอะขึ้น

00:22:1700:22:21 อันที่สอง สมมุติว่าคน ๆ นี้ มีประวัติกรรมพันธุ์เรื่องของโรคเลือดเนอะ

00:22:2100:22:25 มีเลือดออกบ่อย ๆ หรือว่ามีเรื่องของต้องให้เลือดบ่อย ๆ

00:22:2500:22:27 อันนี้กลุ่มนี้ก็ควรจะต้องทานโฟเลตเพิ่มขึ้น

00:22:2700:22:29 แล้วก็ไม่ควรที่จะเติมพวกของธาตุเหล็ก

00:22:2900:22:32 ถ้าเตรียมตัวจะตั้งครรภ์ ตั้งแต่เตรียมตัวเลยนะ

00:22:3200:22:34 ก็ควรจะกินโฟเลตเพิ่มขึ้น

00:22:3400:22:36 แล้วถ้าสมมุติว่าท้องแล้ว

00:22:3600:22:40 ก็ควรจะต้องได้ทั้งโฟเลต B12 แล้วก็เรื่องของธาตุเหล็กนะคะ

00:22:4000:22:43 เพราะว่ามันจะต้องเพิ่มให้กับลูกด้วย

00:22:4300:22:47 ถ้าคน ๆ นั้นมีประวัติเรื่องของการผ่าตัด กระเพาะลำไส้

00:22:4700:22:49 การดูดซึมสารอาหารลดลง

00:22:4900:22:53 กลุ่มนี้อาจจะต้องได้หลายตัวร่วมกันเลย ไม่ใช่แค่ธาตุเหล็กตัวเดียว

00:22:5300:22:55 อาจจะต้องได้หลายอย่างร่วมกัน

00:22:5500:23:00 ถ้าคน ๆ นั้นเป็นมังสวิรัติเข้มข้น ผ่าตัดกระเพาะหรือผ่าตัดลำไส้

00:23:0000:23:04 อันนี้อาจจะต้องระวังว่าอาจจะขาดเรื่องของ วิตามินบี 12 ค่ะ

00:23:0400:23:06 ดังนั้น การเลือก ไม่ว่าจะเป็นอาหาร

00:23:0600:23:10 หรือรวมกระทั่งกลุ่มของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็ตาม

00:23:1000:23:13 ก็ควรจะต้องดูให้เหมาะสมเป็นราย ๆ ไปนะคะ

00:23:1300:23:19 ไม่ใช่ว่าทุกคนสามารถที่จะกินธาตุเหล็ก หรือว่าสามารถที่จะกิน B12 ไปได้เลย

00:23:1900:23:23 พบกับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้

00:23:2400:23:26 ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.

00:23:2600:23:28 ที่ Mahidol Channel Podcast

00:23:2800:23:30 ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel

00:23:3000:23:32 YouTube Mahidol Channel

00:23:3200:23:33 Apple Podcasts

00:23:3300:23:34 Spotify

00:23:3400:23:35 Anchor

00:23:3500:23:36 Joox

00:23:3900:23:44 ดำเนินรายการโดยหมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:23:4400:23:47 [เสียงดนตรี]