00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับผมคิดว่าหลายๆคนนะครับน่าจะเคย
00:00:03 → 00:00:06 มีอาการตากระตุกสักครั้งหนึ่งในชีวิตนี้
00:00:06 → 00:00:09 แหละครับไม่มากก็น้อยแล้วเราก็อาจจะเคย
00:00:09 → 00:00:13 ได้ยินคำว่าขวาร้ายซ้ายดีหมายความว่าถ้า
00:00:13 → 00:00:15 มันเป็นข้างขวากระตุกเนี่ยจะมีเรื่องร้าย
00:00:15 → 00:00:18 เกิดขึ้นแล้วถ้ามันเป็นข้างซ้ายกระตุกมัน
00:00:18 → 00:00:21 ก็มักจะมีเรื่องโชคดีแต่วันนี้ครับผมจะมา
00:00:21 → 00:00:24 เล่าให้ฟังว่าไอ้อาการตากระตุกเนี่ยทำไม
00:00:24 → 00:00:28 มันถึงเป็นนะครับแล้วก็มันมีกรณีไหนบ้าง
00:00:28 → 00:00:30 ที่ขวาก็ไม่ร้าย
00:00:30 → 00:00:34 ซ้ายก็ไม่มีปัญหาหรือมันอาจจะเป็นกรณีขวา
00:00:34 → 00:00:37 ก็ร้ายซ้ายก็ไม่ดีก็ได้นะครับวันนี้ผมจะ
00:00:37 → 00:00:39 เล่าให้ทุกคนฟังกันเลยนะครับพบกับผมนะ
00:00:39 → 00:00:42 ครับนายแพทย์ธานีธนียวันเป็นอาจารย์แพทย์
00:00:42 → 00:00:44 อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรค
00:00:44 → 00:00:47 ปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ
00:00:47 → 00:00:50 ก่อนอื่นนะครับผมต้องขออธิบายก่อนว่า
00:00:50 → 00:00:53 กล้ามเนื้อที่มันกระตุกเนี่ยนะครับมัน
00:00:53 → 00:00:56 เป็นกล้ามเนื้อที่อยู่รอบตาเราเรียกว่า
00:00:56 → 00:00:59 orbicularis oculi นะครับเป็นกล้าม
00:00:59 → 00:01:01 เนื้อกลมๆที่อยู่รอบตาตรงนี้นะครับมันมี
00:01:01 → 00:01:03 ทั้งส่วนที่อยู่กลมๆแล้วก็ส่วนที่เป็น
00:01:03 → 00:01:06 กล้ามเนื้อของเปลือกตาตรงนี้นะฮะนี่กล้าม
00:01:06 → 00:01:08 เนื้อเปลือกตาตรงนี้ข้างล่างแล้วก็ข้างบน
00:01:08 → 00:01:10 นะครับแล้วมันจะมีกล้ามเนื้อตรงหัวตาที่
00:01:10 → 00:01:12 อยู่ข้างหลังอีกมันก็คือกล้ามเนื้อมัด
00:01:12 → 00:01:13 เดียวกันแต่มันเป็นส่วนที่เชื่อมกับตัว
00:01:13 → 00:01:17 ต่อมน้ำตานั่นเองนะฮะนี่ส่วนที่มักจะ
00:01:17 → 00:01:19 กระตุกบ่อยที่สุดก็คือส่วนที่มันเป็น
00:01:19 → 00:01:22 เปลือกตาตรงนี้นะรอบๆเปลือกตานะฮะเราจะ
00:01:22 → 00:01:25 เรียกว่าเป็น pulpal Part ของ
00:01:25 → 00:01:26 orbicularis
00:01:27 → 00:01:30 oculi นี่นะครับ orbicularis ก็ก็คือกลม
00:01:30 → 00:01:35 ๆอูคืออูคือตานะมันมีคำแปลเสมอเลยนะฮะดัง
00:01:35 → 00:01:37 นั้นอาการตากระตุกเนี่ยส่วนมากเนี่ยมัน
00:01:38 → 00:01:39 มักจะเป็นข้างเดียวใช่มั้ยเพราะว่าไม่
00:01:39 → 00:01:41 งั้นเราคงไม่เคยได้ยินขวาร้ายซ้ายดีหรอก
00:01:41 → 00:01:44 นะฮะถูกต้องครับมันมักจะเป็นข้างเดียว
00:01:44 → 00:01:47 แล้วมันอาจจะมีการสลับไปสลับมาก็ได้แต่
00:01:47 → 00:01:49 มันจะไม่เป็น 2 ข้างพร้อมกันนะครับมันจะ
00:01:49 → 00:01:51 เป็นข้างใดข้างหนึ่งเนี่ยภาวะนี้มีภาษา
00:01:51 → 00:01:55 ทางการแพทย์เรียกว่าไมโอไมยนะครับคำว่า
00:01:55 → 00:01:58 ไมโอแปลว่ากล้ามเนื้อไครเมียเนี่ยแปลว่า
00:01:58 → 00:02:00 คลื่นไมโอไคยคือกล้ามเนื้อกระตุกเป็น
00:02:00 → 00:02:03 คลื่นนะครับมักจะเป็นข้างใดข้างหนึ่งเหตุ
00:02:03 → 00:02:07 ผลที่มันเป็นเช่นนั้นเนี่ยนะครับมีจากการ
00:02:07 → 00:02:10 ที่เส้นประสาทตรงตาตรงเนี้ยมันมีการปล่อย
00:02:10 → 00:02:13 กระแสที่มันผิดปกติไปนะฮะแล้วมันก็จะเกิด
00:02:13 → 00:02:17 ขึ้นในภาวะต่างๆต่อไปนี้ข้อแรกที่เจอบ่อย
00:02:17 → 00:02:20 ที่สุดก็คือการใช้สายตาที่มากจนเกินไป
00:02:20 → 00:02:23 เดี๋ยวนี้เนี่ยยิ่งเป็นใหญ่นะครับเพราะ
00:02:23 → 00:02:27 ว่าเราอ่านหนังสือธรรมดามั้ยเราไม่อ่าน
00:02:27 → 00:02:29 ครับเราอ่านจาก iPad เราดูคอมพิวเตอร์มี
00:02:30 → 00:02:32 แสงเข้าตาเยอะๆนะครับเราอยู่ข้างๆหน้าจอ
00:02:32 → 00:02:34 ตลอดเวลาแล้วเด็กรุ่นใหม่เนี่ยใช้ iPad
00:02:34 → 00:02:38 จนจนเป็นชีวิตจิตใจเลยถูกมั้ยครับดังนั้น
00:02:38 → 00:02:41 ก็จะมีภาวะนี้ได้ง่ายมากขึ้นนะครับถ้าเรา
00:02:41 → 00:02:45 นอนไม่พออันนี้ยิ่งเป็นใหญ่เลยถ้าเรา
00:02:45 → 00:02:49 เครียดก็จะเป็นได้ง่ายขึ้นนะฮะหรือถ้าเรา
00:02:49 → 00:02:52 ทานคาเฟอีนทานกาแฟเยอะเกินไปบางคนก็เป็น
00:02:52 → 00:02:55 เช่นนั้นเหมือนกันนะฮะในบางคนก็จะมีโรค
00:02:55 → 00:02:58 ประจำตัวเช่นโรคไทรรอยด์เป็นพิษอ่าอาจจะ
00:02:58 → 00:03:03 เจอพวกนี้ได้ง่ายขึ้นนะครับทีนี้วิธีใน
00:03:03 → 00:03:07 การดูแลภาวะไมโคมหรือตากระตุกข้างใดข้าง
00:03:07 → 00:03:11 หนึ่งนะครับมันไม่ยากมากนะครับข้อแรกโอเค
00:03:11 → 00:03:13 แน่นอนถ้าเราเครียดมากใช่มั้ยครับเราก็
00:03:13 → 00:03:15 ต้องมีการไปปลดปล่อยความเครียดเราอาจจะไป
00:03:15 → 00:03:18 ออกกำลังกายนะครับไปเล่นดนตรีไปพักผ่อน
00:03:18 → 00:03:20 ฟังเพลงนะฮะอยู่กับธรรมชาติพวกนี้ก็จะทำ
00:03:20 → 00:03:25 ให้อาการมันดีขึ้นนะฮะถ้าเกิดว่าเราอ่า
00:03:25 → 00:03:28 นอนหลับไม่เพงพอเราก็แน่นอนว่าต้องไปนอน
00:03:28 → 00:03:30 หลับให้เพียงพอถูกมั้ยครับถ้าเกิดเรานอน
00:03:30 → 00:03:32 หลับเพียงพอแล้วแต่เราตื่นมาแล้วมันยัง
00:03:32 → 00:03:34 ง่วงอันนี้ก็ควรจะเป็นตรวจเรื่องของการ
00:03:34 → 00:03:36 นอนหลับด้วยเพราะว่าบางคนจะมีการหยุดหาย
00:03:36 → 00:03:39 ใจในขณะหลับทำให้มีอาการเหล่านั้นตามมา
00:03:39 → 00:03:41 ได้นะครับ
00:03:41 → 00:03:45 อ่าทีนี้บางคนก็อาจจะมีการใช้สายตามากจน
00:03:45 → 00:03:49 เกินไปผมก็อยากจะให้คุณลองใช้หลัก 20 20
00:03:49 → 00:03:53 20 หมายความว่าเราดูหน้าจอไปสักประมาณ 20
00:03:53 → 00:03:57 นาทีให้เราหันไปมองทางอื่นนะครับทางอื่น
00:03:57 → 00:04:01 ก็คือความไกลประมาณ 20 ฟุตนะนะครับหรือจะ
00:04:01 → 00:04:04 ไกลกว่านั้นก็ได้สักประมาณ 20 วินาทีนะ
00:04:04 → 00:04:07 ครับหรือบางคนจะหลับตาสัก 20 วินาทีก็
00:04:07 → 00:04:10 สามารถที่จะทำได้เช่นกันนะฮะถ้าเกิดว่า
00:04:10 → 00:04:14 เราต้องมองจามองจอบ่อยๆเนี่ยเราอาจจะใช้
00:04:14 → 00:04:17 การหยอดน้ำตาเทียมเพื่อช่วยทำให้เราอ่า
00:04:17 → 00:04:20 สบายตามากขึ้นอันนี้ก็อาจจะสามารถช่วยลด
00:04:20 → 00:04:24 ภาวะตากระตุกได้มากขึ้นเช่นกันนะฮะภาวะ
00:04:24 → 00:04:27 นี้ไม่อันตรายแล้วมันก็มักจะหายเองบางคน
00:04:27 → 00:04:28 อาจจะอยู่นานเป็นวันบางคนอาจจะเป็น
00:04:28 → 00:04:33 อาทิตย์แต่มันจะมีภาวะนึงที่ไม่ว่าจะเป็น
00:04:33 → 00:04:36 กระตุกข้างไหนก็ตามมันจะมีปัญหาอันนี้คือ
00:04:36 → 00:04:39 ภาวะที่เราเรียกว่าขวาก็ร้ายซ้ายก็ไม่ดี
00:04:39 → 00:04:42 นั่นหมายความว่าถ้าคุณมีอาการตรากระตุแบบ
00:04:42 → 00:04:47 เนี้ยเกิน 2-3 สัปดาห์เป็นต้นไปหรือมี
00:04:47 → 00:04:49 อาการอื่นร่วมด้วยเช่นไม่เพียงแต่ตามัน
00:04:49 → 00:04:51 กระตุกเท่านั้นนะครับแต่ว่ายังมีการมอง
00:04:51 → 00:04:55 เห็นที่ผิดปกติไปมีอาการเจ็บปวดหรือมี
00:04:55 → 00:04:57 บริเวณอื่นที่มีการกระตุกด้วยเช่นหน้ามัน
00:04:57 → 00:04:58 กระตุกไปทั้งอันอย่างเงี้ยมีไม่ใช่แค่ตา
00:04:58 → 00:05:01 แล้วมีทั้งหน้าหน้าเลยนะฮะอย่างเงี้ย
00:05:01 → 00:05:04 อันเนี้ยอาจจะต้องระวังละหรือมีอาการอ่อน
00:05:04 → 00:05:07 แรงของกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งของหน้า
00:05:07 → 00:05:11 หรือของร่างกายหรือการรับรู้ทางด้าน
00:05:11 → 00:05:14 สัมผัสมันมีปัญหาอะไรสักอย่างพวกนี้คือ
00:05:15 → 00:05:17 ไม่ว่าจะเป็นข้างขวาหรือข้างซ้ายมันก็ไม่
00:05:17 → 00:05:20 ดีทั้งคู่แปลว่าอาจจะต้องไปตรวจเพิ่มเติม
00:05:20 → 00:05:23 ดูซิว่ามีปัญหาโรคประจำตัวอย่างอื่นโดย
00:05:23 → 00:05:26 เฉพาะโรคในสมองนะครับเช่นอาจจะมีเนื้องอก
00:05:26 → 00:05:28 ในสมองหรือบางคนมีภาวะทางระบบประสาทที่
00:05:28 → 00:05:31 เราเรียกว่าเ multiple sclerosis นะครับ
00:05:31 → 00:05:34 ภาวะนี้ก็จะทำให้มีการเกิดตากระตุกแล้วก็
00:05:34 → 00:05:36 มีอาการอย่างอื่นร่วมด้วยก็ได้อย่างไรก็
00:05:36 → 00:05:39 ตาม multiple sosis นั้นไม่จำเป็นจะต้อง
00:05:39 → 00:05:41 มีอาการตากระตุกนะครับมันอาจจะมีอาการ
00:05:41 → 00:05:44 อย่างอื่นก็ได้นะฮะหลายๆอย่างร่วมกันก็
00:05:44 → 00:05:47 แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะมีปัญหาตรงไหนของสมอง
00:05:47 → 00:05:50 นะครับนอกจากนี้อย่างที่บอกไปนะครับบางคน
00:05:50 → 00:05:53 มีปัญหาทางด้านของอ่าการทานคาเฟอีนมากจน
00:05:53 → 00:05:55 เกินไปเราก็จะต้องหลีกเลี่ยงการดื่ม
00:05:55 → 00:05:57 คาเฟอีนเยอะเกินไปไม่มฉะนั้นก็จะเกิด
00:05:57 → 00:06:01 อาการตากระตุกแล้วมันก็ไม่ไม่หายนะฮะอ่า
00:06:01 → 00:06:05 อย่างไรก็ตามถ้ามันเป็นเยอะๆแล้วเนี่ยเรา
00:06:05 → 00:06:07 ทำทุกวิถีทางแล้วก็พักผ่อนแล้วไม่ค่อยใช้
00:06:07 → 00:06:11 สายตาแล้วนอนก็เพียงพอนะฮะกาแฟก็ไม่ดื่ม
00:06:11 → 00:06:13 แล้วนะครับแล้วมันก็ไม่มีอาการอย่างอื่น
00:06:13 → 00:06:15 เลยเนี่ยนะเราอาจจะต้องไปตรวจนิดนึงว่า
00:06:15 → 00:06:17 เอ๊เรามีไทรรอยด์มีปัญหาหรือเปล่าแล้วก็
00:06:17 → 00:06:20 วิธีในการแก้บางคนกินแมกนีเซียมก็สามารถ
00:06:20 → 00:06:22 ที่จะช่วยทำให้ภาวะนี้มันดีขึ้นได้นะครับ
00:06:22 → 00:06:26 แต่ถ้าเราทำแล้วมันไม่หายก็หาหมอตาครับ
00:06:26 → 00:06:29 เค้าจะมีการใช้การฉีดโบท็อกซ์เข้าไปตรง
00:06:29 → 00:06:31 กล้ามเนื้อตรงนั้นนะฮะมันจะทำให้อาการตา
00:06:32 → 00:06:35 กระตุกดีขึ้นได้นะครับภาวะนี้ไมโอเมีย
00:06:35 → 00:06:38 ส่วนใหญ่แล้วไม่อันตรายนะครับขวาก็ไม่
00:06:38 → 00:06:42 ร้ายซ้ายก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างที่บอกมันมี
00:06:42 → 00:06:45 ภาวะที่ขวาก็ร้ายซ้ายก็ไม่ดีอยู่ด้วยนะ
00:06:45 → 00:06:48 ครับอย่างที่บอกไปเมื่อกี้ทีนี้ผมจะเล่า
00:06:48 → 00:06:51 ให้ฟังอีกภาวะหนึ่งซึ่งเป็นภาวะที่มี
00:06:51 → 00:06:53 กล้ามเนื้อตามันกระตุกแต่มันเป็น 2 ข้าง
00:06:54 → 00:06:56 และไอ้นี่แหละที่จะมีปัญหาคือตัวมันเอง
00:06:56 → 00:06:58 เนี่ยไม่ได้อันตรายนะครับไม่ได้บ่งชี้ว่า
00:06:58 → 00:07:01 คุณมีเนื้องอกอยู่ตรงไหนของสมองนะแต่ว่า
00:07:01 → 00:07:04 มันจะมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากเลย
00:07:04 → 00:07:07 เนื่องจากว่ามันเป็นอยู่เรื่อยๆนะครับ
00:07:07 → 00:07:11 อันเนี้ยเราจะเรียกว่า bff spasum bff
00:07:11 → 00:07:13 เนี่ยคือหนังตา spasum เนี่ยมีการหกเกร็ง
00:07:13 → 00:07:16 นะครับมันจะเป็นทั้ง 2 ข้างพร้อมกันเสมอ
00:07:16 → 00:07:20 นะครับอย่างเงี้ยนะฮะคนไข้เนี่ยจะลืมตา
00:07:20 → 00:07:23 ได้ยากมากบางทีเราบอกให้เค้าลืมตาค้างไวเ
00:07:23 → 00:07:25 เคทำไม่ได้เลยนะเค้าเจะอย่างเงี้ตลอดเวลา
00:07:25 → 00:07:28 นะครับจะหลับตาอย่างนี้ตลอดเวลานะแล้วมัน
00:07:28 → 00:07:31 จะรำคาญมากมันใช้ชีวิตลำบากหรือบางคนมัน
00:07:31 → 00:07:33 ตามันอย่างเงี้ยนะครับลืมไม่ขึ้นแล้วมัน
00:07:33 → 00:07:36 ก็จะยิกๆยิๆตลอดเวลาทำให้รู้สึกเสีย
00:07:36 → 00:07:39 บุคคลิกภาพแล้วก็บางทีเนี่ยอาจจะทำให้การ
00:07:39 → 00:07:41 มองเห็นเนี่ยมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะ
00:07:41 → 00:07:44 มันมันลืมได้แค่เเท่านั้นเองนะครับก็จะมี
00:07:44 → 00:07:50 ปัญหาได้นะภาวะนี้เนี่ยบางคนจะสังเกตว่า
00:07:50 → 00:07:52 ถ้ามีการกระทำบางอย่างไอ้อาการแบบนี้จะดี
00:07:52 → 00:07:55 ขึ้นได้เช่นบางคนกักฟันตามันจะสามารถลืม
00:07:55 → 00:07:58 ได้บางคนลูบๆอย่างเงี้ยตามันสามารถลืมได้
00:07:58 → 00:08:00 แต่พอเลิกรูปมันก็เป็นเหมือนเดิมอย่างนี้
00:08:00 → 00:08:03 อีกนะครับแล้วก็มันจะมีการกระตุ้นได้ด้วย
00:08:03 → 00:08:05 ภาวะอย่างเดียวกับไมโอไคมเมื่อตะกี้เลยก็
00:08:05 → 00:08:09 คือถ้าคุณอดหลับอดนอนคุณเครียดคุณอ่าสูบ
00:08:09 → 00:08:12 บุหรี่หรือดื่มชากาแฟเยอะเกินไปอาการพวก
00:08:12 → 00:08:15 นี้ก็จะเยอะนะครับหรือบางคนถ้ามีตาอักเสบ
00:08:15 → 00:08:18 ด้วยก็ยิ่งเยอะใหญ่เลยนะฮะอ่าก็จะเจอภาวะ
00:08:18 → 00:08:21 bff spasum ได้ทีนี้ไอ้ bff spasum
00:08:21 → 00:08:24 ตัวมันเองเนี่ยมันไม่ได้อันตรายอะไรนะ
00:08:24 → 00:08:26 ครับอย่างไรก็ตามเหตุผลที่มันเกิดเนี่ย
00:08:26 → 00:08:29 แตกต่างจากไมโคมเมื่อตะกี้ก็คือมันมักจะ
00:08:29 → 00:08:32 มีความผิดปกติของส่วนลึกๆในสมองที่เรา
00:08:32 → 00:08:35 เรียกว่าเซอแงเกรียนนะครับกับเส้นประสาท
00:08:35 → 00:08:36 ที่มาควบคุมกล้ามเนื้อตรงนี้ก็คือเส้น
00:08:37 → 00:08:41 ประสาทสมองคู่ที่ 7 แต่มันไปแก้ไขด้วยยา
00:08:41 → 00:08:43 ไม่ค่อยได้นะครับคือมันใช้ยาเพื่อแปล้ง
00:08:43 → 00:08:45 ปลิ่นสมองตัวนั้นไม่ได้แล้วก็ไม่มีความ
00:08:45 → 00:08:48 จำเป็นที่เราต้องไปทำ MRI สมองหรือทำ CT
00:08:49 → 00:08:50 สแกนสมองแต่อย่างใดเพราะว่าทำไปมันก็ไม่
00:08:51 → 00:08:53 ได้บอกอะไรเราเหมือนกันนะครับภาวะนี้หมอ
00:08:53 → 00:08:55 ตาเ้ามองปุ๊บเก็รู้เลยว่ามันคืออะไรไม่
00:08:55 → 00:08:59 จำเป็นจะต้องตรวจเพิ่มเติมแต่มันจะมีภาวะ
00:08:59 → 00:09:03 นึงครับครับเป็นภาวะที่มีความเป็นปกติของ
00:09:03 → 00:09:05 กล้ามเนื้อที่มากไปกว่าตานะครับอันเนี้ย
00:09:05 → 00:09:09 เราจะเรียกว่า make Syndrome นะครับ make
00:09:09 → 00:09:11 Syndrome เนี่ยจะเป็นความผิดปกติที่อยู่
00:09:12 → 00:09:15 ในกลุ่มกล้ามเนื้อทำงานได้มากทำงานได้ผิด
00:09:15 → 00:09:17 ปกติไปเราจะเรียกภาวะ dystonia นะครับ
00:09:17 → 00:09:19 make Syndrome คือ dystonia ประเภท
00:09:19 → 00:09:22 หนึ่งซึ่งมันอาจจะมีอาการที่นอกเหนือไป
00:09:22 → 00:09:25 จากลูกตานะครับเช่นมีอาการหน้ามันเกร็ง
00:09:26 → 00:09:28 ขึ้นมาอย่างนี้หรือลิ้นมันเกร็งหรือบางคน
00:09:28 → 00:09:30 รู้สึกกล้ามเนื้อในพมันเกรงทำให้หายใจไม่
00:09:30 → 00:09:33 ได้กลืนแล้วมันติดมันลำบากมันเจ็บนะฮะอ่า
00:09:33 → 00:09:36 ก็จะเป็นแบบนี้ได้มีการนอกเหนือจากตัวตา
00:09:36 → 00:09:38 นะครับตาเนี่ยเป็น 2 ข้างนะหน้าบางทีเ
00:09:38 → 00:09:40 เป็นไปทั้งหมดเลยลิ้นก็เป็นเป็นทั้งอัน
00:09:40 → 00:09:43 เลยนะครับทำให้เรารู้สึกเหมือนว่าไอ้คนๆ
00:09:43 → 00:09:44 เนี้เวลาเราเห็นหน้าเค้าแล้วเราแบบเฮ้มัน
00:09:45 → 00:09:48 กวนเราหรือเปล่ามันงี้งี้ตลอดเวลานะฮะเรา
00:09:48 → 00:09:50 ก็จะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาแต่ว่าอันนั้น
00:09:50 → 00:09:53 คือมันเป็นโรคจริงๆนะครับแล้วไอ้โรคพวก
00:09:53 → 00:09:55 เนี้ยถ้ามันเป็นทีเดียวทั้งหน้าเนี่ยมัน
00:09:55 → 00:09:59 จะมีโรคอาจจะมีสาเหตุอื่นเช่นบางคนเป็นาิ
00:09:59 → 00:10:03 สันบางชนิดนะครับบางคนเกิดจากยาบางตัวบาง
00:10:03 → 00:10:05 คนเป็นโรคที่เราเรียกว่า hy facial
00:10:05 → 00:10:09 spasm นะครับก็จะเป็นแบบนั้นได้นะพวก
00:10:09 → 00:10:12 นั้นก็จะต้องอาศัยการรักษาด้วยยาส่วนใหญ่
00:10:12 → 00:10:14 ก็จะเป็นยากลุ่มยากัญชักที่จะลดอาการ
00:10:14 → 00:10:18 เหล่านั้นได้นะครับอ่าถ้าคนทานแมกนีเซียม
00:10:18 → 00:10:21 บางคนอาจจะเบาลงแต่ก็ไม่เสมอไปนะฮะแล้ว
00:10:21 → 00:10:24 พวกนั้นแหละที่จะต้องไปตรวจเพิ่มเติมอ่ะ
00:10:24 → 00:10:26 อย่างไรก็ตามถ้าคุณเป็นแค่ลูกตาอย่าง
00:10:26 → 00:10:28 เดียวที่มันอย่างเงี้ยตลอดเวลานะครับลืม
00:10:28 → 00:10:29 ไม่ค่อยขึ้นอย่างเงี้ยนะครับนะฮะแล้วมัน
00:10:29 → 00:10:33 ขยิบๆอย่างเงี้ยมันมีปัญหาเยอะนะครับวิธี
00:10:33 → 00:10:36 ในการรักษาเนี่ยคือการไปหาหมอตาครับฉีด
00:10:36 → 00:10:38 โบท็อกซ์เข้าไปตรงตามันจะดีขึ้นนะพวกนี้
00:10:38 → 00:10:41 อาจจะต้องฉีดทุกๆประมาณ 3-4 เดือนนะฮะแต่
00:10:41 → 00:10:43 ถ้าเกิดว่าฉีดโบท็อกซ์เข้าไปแล้วเนี่ยมัน
00:10:43 → 00:10:46 ไม่ดีแล้วอ่ะมันไม่ได้ดีขึ้นเนี่ยอาจจะ
00:10:46 → 00:10:49 ต้องมีการผ่าตัดกล้ามเนื้อตรงนี้นะครับ
00:10:49 → 00:10:52 ให้มันบางลงนะฮะมันจะได้ไม่มีการกระตุก
00:10:52 → 00:10:55 เยอะแล้วเราก็จะไม่มีอาการตาขยิบอย่างนี้
00:10:55 → 00:10:58 ตลอดเวลานะครับดังนั้นโดยสรุปเนี่ยทั้ง 2
00:10:58 → 00:11:02 ภาวะนะไมโคมมันจะเป็นข้างใดข้างหนึ่งเท่า
00:11:02 → 00:11:04 นั้นนะฮะจะไม่เป็น 2 ข้างพร้อมกันอาจจะ
00:11:04 → 00:11:06 สลับไปสลับมาได้แต่มันจะไม่เป็น 2 ข้าง
00:11:06 → 00:11:10 พร้อมกันเฟัเนี่ยเป็น 2 ข้างพร้อมกันเป็น
00:11:10 → 00:11:12 กล้ามเนื้อมัดเดียวกันนะเป็น 2 ข้างพร้อม
00:11:12 → 00:11:15 กันนะฮะทั้ง 2 อันนี้โดยส่วนใหญ่แล้วไม่
00:11:15 → 00:11:18 มีปัญหาอะไรแต่ถ้ามันเป็นนานมากๆนะ 2-3
00:11:18 → 00:11:21 อาทิตย์ไอ้เนี้ยคือถ้าเป็นตากระตุกข้างใด
00:11:21 → 00:11:23 ข้างหนึ่ง 2-3 อาทิตย์นี่ต้องไปหาสาเหตุ
00:11:23 → 00:11:27 อื่นแล้วนะครับแล้วก็ถ้าเป็นฟัมคือ 2
00:11:27 → 00:11:30 ข้างเนี่ยแล้วมันมีอาการอย่าอื่นร่วมด้วย
00:11:30 → 00:11:32 อันนี้ก็ต้องไปหาโรคอื่นด้วยเช่นกันนะ
00:11:32 → 00:11:35 ครับโอเควันนี้ผมหวังว่าเรื่องนี้นี่ก็จะ
00:11:35 → 00:11:38 ได้รับคำตอบไปหลายๆคนนะครับเพราะว่าแน่
00:11:38 → 00:11:41 นอนว่าหลายคนในชีวิตนี้ต้องเคยมีตากระตุก
00:11:41 → 00:11:43 กันสักครั้งนึงนี่แหละแล้วก็ถามอยู่
00:11:43 → 00:11:45 เรื่อยๆนะโอ้ยทำไมมันถึงเป็นได้มันขวา
00:11:45 → 00:11:47 ร้ายซ้ายดีหรือยังไงกันแน่วันนี้เอามาเฉย
00:11:47 → 00:11:51 เลยนะครับว่ามันมีทั้งกรณีที่เป็นขวาก็
00:11:51 → 00:11:55 ร้ายซ้ายก็ไม่ดีแล้วก็มีกรณีที่มันเป็น
00:11:55 → 00:12:00 ขวาก็ดีซ้ายก็ไม่มีปัญหานะครับโอเควันนี้
00:12:00 → 00:12:02 เท่านี้นะครับใครมีอะไรสงสัยก็สอบถามมานะ
00:12:02 → 00:12:06 ครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ