00:00:00 → 00:00:02 ครับครับสวัสดีครับครับคุณหมอครับก่อน
00:00:02 → 00:00:05 อื่นต้องขอกราบสวัสดีปีใหม่ไทยคุณหมอก่อน
00:00:05 → 00:00:07 เลยนะครับแล้วก็ขอบพระคุณมากๆที่ให้
00:00:07 → 00:00:09 เกียรติกับรายการของเราในช่วงยามค่ำคืน
00:00:09 → 00:00:11 แบบนี้นะครับสวัสดีคขอบพระคุณมากค่ะคุณ
00:00:11 → 00:00:14 หมอค่ะสวัสดีคิเช่นกันครับครับคุณหมอได้
00:00:14 → 00:00:15 หยุดมั้ยครับคุณหมอครับช่วงวันสงกรานต์
00:00:16 → 00:00:18 ที่ผ่านมาครับอ๋อออได้ได้หยุดอยู่ครับโห
00:00:18 → 00:00:20 ได้หยุดอยู่ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆนะครับ
00:00:20 → 00:00:23 เพราะว่าอาชีพคุณหมอนี่เป็นอาชีพที่หนัก
00:00:23 → 00:00:26 หนาสาหะจริงๆใช่การได้พักผ่อนนี่ถือว่า
00:00:26 → 00:00:28 เป็นอะไรที่แหช้าพลังได้ดีจริงๆนะครับอ่ะ
00:00:28 → 00:00:31 พี่นกค่ะคุณหมอคะอาการที่เรียกว่าชาบางคน
00:00:31 → 00:00:34 ก็เรียกว่าเหน็บชาอย่างเงี้นะคะปลายมือ
00:00:34 → 00:00:39 ปลายเท้าเนี่ยหรือบางคนก็จะเกิดเป็นส่วนๆ
00:00:39 → 00:00:42 เป็นลักษณะของท่อนท่อนแขนคนบอกว่านอนทับ
00:00:42 → 00:00:45 ไปหรืออะไรอย่างนี้นะคะเป็นการส่งสัญญาณ
00:00:45 → 00:00:47 ว่าร่างกายเราเป็นอย่างไรคะคุณหมอหรือว่า
00:00:47 → 00:00:50 คุณหมอจะอธิบายเบื้องต้นก่อนว่าลักษณะ
00:00:50 → 00:00:53 อาการชามันเป็นยังไงคะคุณหมอครับจริงๆ
00:00:53 → 00:00:55 อาการชาปลายมือปลายเท้าก็ส่วนใหญ่ก็เป็น
00:00:56 → 00:00:58 สาเหตุที่เกิดจากโรคของเส้นประสานนะครับ
00:00:58 → 00:01:01 เพียงแต่ว่าคำว่าชาในภาษาไทยนี่มันจะค่อน
00:01:01 → 00:01:05 ข้างแบบเอ่อกว้างมากใช่ค่ะอาจจะแบบปวดๆ
00:01:05 → 00:01:09 ตึงๆเหน็บๆอะไรก็เรียกชาหมดอะไรพวกนี้นะ
00:01:09 → 00:01:12 ครับอถ้าทางการแพทย์ก็คำว่าช้าคือการรับ
00:01:12 → 00:01:15 ความรู้สึกมันลดน้อยลงนะครับความรู้สึกก็
00:01:15 → 00:01:18 จะเหมือนประมาณแบบหนาๆเหมือนรูปสัมผัสไม่
00:01:18 → 00:01:19 ค่อยรู้สึกเหมือนเวลาเราอารมณ์เหมือนเรา
00:01:19 → 00:01:21 ฉีดชาๆอะไรประมาณเนี้ยครับจะเป็นประมาณ
00:01:21 → 00:01:25 นั้นอืนะครับซึ่งก็อาจจะมีอาการปวดร่วม
00:01:25 → 00:01:28 ด้วยได้อะไรพวกนี้นะครับฮะทีนี้เราก็มาดู
00:01:28 → 00:01:31 ก่อนว่าการชาี่เป็นอารชาาจริงมนะครับถ้า
00:01:31 → 00:01:34 เกิดว่ามีความสึกดน้อยลงจริงก็น่าจะก็น่า
00:01:34 → 00:01:37 จะมีการชาจริงนะครับก็ต้องมาดูว่าสาเหตุ
00:01:37 → 00:01:40 มันเกิดจากอะไรนะครับถ้าเกิดชาจากปลายมือ
00:01:40 → 00:01:43 ปลายเท้าทั้ง 2 ข้างแบบสมมาตรกันทั้งใกล้
00:01:43 → 00:01:46 เคียงกันเงี้นะครับส่วนใหญ่ก็เป็นโรคจาก
00:01:46 → 00:01:48 ลักษณะของโรคที่เกิดจากโรคเส้นประสาทนะ
00:01:48 → 00:01:50 ครับแต่ว่ามันเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ
00:01:50 → 00:01:53 ไม่ใช่แค่พวกปลายประสาทอักเสบอย่างเดียว
00:01:53 → 00:01:56 ส่วนใหญ่เราจะพูดว่าเป็นโรคไปาาอแต่การ
00:01:56 → 00:01:58 อักเสบนี่ถึงว่าการที่มีการอักเสบเช่นมี
00:01:58 → 00:02:01 เมเลึกขาวเข้ามาทำลายเส้นประสาทอะไรมาณ
00:02:01 → 00:02:03 นั้นแต่จริๆมันเกิดได้จากสาเหตุอื่นมาก
00:02:03 → 00:02:06 กว่านั้นนะครับค่ะคำคำว่าชาถ้าเราจะพูด
00:02:06 → 00:02:09 ได้ในลักษณะของความเข้าใจทั่วไปคือเอ่อ
00:02:09 → 00:02:11 เลือดมันไม่ไปหล่อเลี้ยงเหรอคะคุณหมอมา
00:02:11 → 00:02:12 ถึงได้ไม่มีความรู้สึกตรงนั้นเอมันก็คือ
00:02:12 → 00:02:15 เส้นประสาทมันก็ทำหน้าที่รับรับสัญญาณรับ
00:02:15 → 00:02:17 ความรู้สึกอนะครับถ้าเกิดว่ามีการบาดเจ็บ
00:02:17 → 00:02:20 มันก็เอ่อหรือว่ามันมีความตีของเส้นภสาก็
00:02:20 → 00:02:22 ทำให้การรับความรู้สึกมันลดน้อยลงทำให้
00:02:22 → 00:02:26 เรารู้สึกหนาๆใชนะครับซึ่งสาเหตุมันก็อาจ
00:02:26 → 00:02:27 จะไม่ได้เกิดจากการที่เลือดไปเลี้ยงน้อย
00:02:27 → 00:02:30 ลงอย่างเดียวอาจจะเกิดจากเรื่องของตัวพวก
00:02:30 → 00:02:35 เอ่อสารอาหารโรคของโรคทางกายบางอย่างี้
00:02:35 → 00:02:36 อย่างเช่นเบาหวานเนี่ยนะครับนมันก็เป็น
00:02:36 → 00:02:39 สาเหตุของอาการชาปลายมือปลายเท้าที่เจอ
00:02:39 → 00:02:41 ได้บ่อยอันนึงนะครับอืคือก็คือเป็นเรื่อง
00:02:41 → 00:02:44 ของเส้นประสาทเลยอืใช่ครับคือเมื่อกี้ที่
00:02:44 → 00:02:49 คุณหมออธิบายว่าถ้าชาเอ่อทั้ง 2 ข้าง
00:02:49 → 00:02:51 เนี่ยอย่างเท่าเทียมกันอะไรเงี้ยอธิบาย
00:02:51 → 00:02:54 ซ้ำอีกทีเออมันมันมันมันเป็นยังไงมันมัน
00:02:54 → 00:02:56 ต้องเป็นยังไงคุณบอกคือมันมันปวดเท่ากัน
00:02:56 → 00:03:00 มันหรือว่าข้างใดข้างหนึ่งทั้งมือทั้งที่
00:03:00 → 00:03:03 เท้ายังไงคะริงจริงๆความติดของโรคเส้น
00:03:03 → 00:03:06 ประสานมาได้หลายรูปแบบอนะครับเ่อถ้าถ้า
00:03:06 → 00:03:09 เป็นการกดทับก็อาจจะเป็นการชาของเส้น
00:03:09 → 00:03:11 ประสาทเชนใเชนนึงเส้นนึงอะไรพวกนี้นะครับ
00:03:11 → 00:03:13 อย่างเช่นเราเรานอนทับแขนอะไรพวกนี้นะ
00:03:13 → 00:03:15 ครับมันก็จะชาที่เฉพาะแขนอย่างเดียวใช่ม
00:03:15 → 00:03:17 สมมตเรานอนทับแขนขวาเราก็จะใช้เฉพาะแขน
00:03:17 → 00:03:19 ขวามือขวาเป็นประจำเลยค่ะอย่างเงี้ค่ะคุณ
00:03:19 → 00:03:21 หมอนะครับอันนี้ก็คือเป็นโรคของเส้น
00:03:21 → 00:03:23 ประสาทเส้นเส้นเดียวอะไรงี้นะครับนะแต่
00:03:23 → 00:03:25 ถ้าเกิดว่าเป็นโรคของเส้นประสาทหลายเส้น
00:03:25 → 00:03:27 นะครับอย่างเช่นพวกเบาหวานเงี้เวลาเราน้ำ
00:03:28 → 00:03:30 ตาลมันขึ้นมันไปทำปายเส้นประสาททั้งตัว
00:03:30 → 00:03:34 ทั้งมือทั้งเ้ามันางใจะมีอาการชาที่เ่อ
00:03:34 → 00:03:36 ปลายมือปลายเท้า 2 ข้างเป็นพร้อมๆกันนะ
00:03:36 → 00:03:40 ครับลักษณะใกล้เคียงกันเช่นขาอนิชาจาก
00:03:40 → 00:03:43 ปลายเท้าถึงตรงข้อเท้าก็ทั้งข้างซ้ายข้าง
00:03:43 → 00:03:45 ขวาก็ใกล้เคียงกันอะไรประมาณเนะครับเรียก
00:03:45 → 00:03:47 ว่าเป็นแบบสมมาตนะครับซึ่งมันก็จะบ่งบอก
00:03:47 → 00:03:50 สาเหตุของโรคได้ถ้าเป็นเช่นเป็นเส้นใด
00:03:50 → 00:03:54 เส้นหนึ่งนะครับือเป็นเอ่อแขนยางใดลยาง
00:03:54 → 00:03:56 หนึ่งเนี่ยก็อาจจะเกิดจากการกรดทับซึ่ง
00:03:56 → 00:03:58 สาเหตุที่เจอได้ปล่อยซเช่นเรื่องของตัว
00:03:58 → 00:04:02 พังผืดเส้นประสาทที่ข้อมือนะครับหรือว่า
00:04:02 → 00:04:05 บางคนชอบเอามือไปเท้าศอกเท้าโต๊ะก็อาจจะ
00:04:05 → 00:04:08 มีเส้นประสาทถกดทับที่ข้อศอกอะไพวกเนะ
00:04:08 → 00:04:10 ครับหรือว่ามันอาจจะมีลักษณะของตัวหมอรอง
00:04:10 → 00:04:12 กระดูกคอเสื่อมแล้วไปกดทับเส้นประสาทที่
00:04:12 → 00:04:15 บรเวณเอหรือที่ต้นคออะไรพวกนี้นะครับก็จะ
00:04:15 → 00:04:18 มาด้วยอาการชาข้างใดข้างหนึ่งได้นะเ่อ
00:04:18 → 00:04:20 หรือระยางใดระยางหนึ่งได้นะแต่ถ้าเป็นโรค
00:04:20 → 00:04:23 ที่เป็นแบบส่งผลต่อทางกายโดยภาพรวมเช่น
00:04:23 → 00:04:24 โรคเบาหวานอย่างเงี้ยนะครับมันก็จะมี
00:04:24 → 00:04:28 อาการชาที่ปลายเท้า 2 ข้างพอๆกันแล้วก็
00:04:28 → 00:04:32 ถ้ามันเราตายไม่ดีมันชามากขึ้นมันก็จะ
00:04:32 → 00:04:35 ค่อยๆลามขึ้นมามากขึ้นเช่นจากเติมชาแค่
00:04:35 → 00:04:37 ปลายเท้าถึงข้อเท้าก็อาจจะลามขึ้นมาถึง
00:04:37 → 00:04:40 เข่าอะไรพวกเนะครับอาจจะมีการชามือตามมา
00:04:40 → 00:04:42 นะครับหรืออย่างเช่นเอ่อผู้สูงอายุบางคน
00:04:42 → 00:04:45 มีปัญหาเรื่องการทานพวกเนื้อสัตว์อะไรพวก
00:04:45 → 00:04:48 เนะครับเพราะฟันไม่ค่อยดีแต่ทำให้เอ่อขาด
00:04:48 → 00:04:51 วิตามินนะฮะพวกวิตามิน B1 B12 อะไรพวก
00:04:51 → 00:04:54 เนี้ยนะครับมันก็เอ่อซึ่งหลักๆก็จะเป็น B2
00:04:54 → 00:04:55 ซึ่งอยู่ในเนื้อสัตว์นะนะครับก็ทำให้มี
00:04:55 → 00:04:58 อาการชาไฟมือไฟเท้าอะไรพวกนี้ได้นะครับ
00:04:58 → 00:05:02 พวกนี้เป็นลักษณะแบบสสมาตนะครับอืมอันนี้
00:05:02 → 00:05:05 คือแบบสมมาตรมีแบบสมมาตแล้วมีแบบเป็นจุดๆ
00:05:05 → 00:05:08 เป็นจุดกดทับใช่ใช่เหมือนคนนั่งขวห้าง
00:05:08 → 00:05:11 อย่าเงี้ยครับขาข้างเดียวอะไรประมาณเนี้ย
00:05:11 → 00:05:14 ครับนานเกินไปใช่มั้ยคะใช่ครับใช่ครับอื
00:05:14 → 00:05:17 เพราะฉะนั้นเราจะสังเกตลักษณะอิริยาบถของ
00:05:17 → 00:05:20 เราได้ถ้าสมมุตินอนแล้วก็มีการชาด้วยการ
00:05:21 → 00:05:24 ทับใช่หลายๆคนอาจจะตื่นเช้ามารู้สึกว่า
00:05:24 → 00:05:26 แบบช่าแขนช่ามืออะไรมาเนี่ยครับกั้งคืน
00:05:26 → 00:05:29 บางทีเราอาจจะเผลอนอนทับแขนหรือว่าเราอาจ
00:05:29 → 00:05:32 จะเผลอแบบนอนแล้วมีขักหรืองอข้อมือโดยที่
00:05:32 → 00:05:35 ไม่รู้ตัวทำให้เส้นประสาทถูกกดทับนะครับ
00:05:35 → 00:05:38 การนอนตะแคงปกติอ่ะเราเราจะทับไหล่หรือ
00:05:38 → 00:05:42 ว่าทางแขนของของคนเราข้างนึงอยู่แล้วที
00:05:42 → 00:05:45 นี้ในระบบกลไกอัตโนมัติอ่ะเมื่อเมื่อเรา
00:05:45 → 00:05:47 หลับโดยเราไม่รู้สึกตัวเราจะพลิกกลับมา
00:05:47 → 00:05:50 นอนหงายหรือพลิกไปอีกด้านนึงโดยอัตโนมัติ
00:05:50 → 00:05:53 มั้ยคะคุณหมอคนส่วนมากเอ่าส่วนใหญ่เราก็
00:05:53 → 00:05:55 จะมีการพลิกขยับตัวไปแล้วเพราะเราพอเรา
00:05:55 → 00:05:58 รู้สึกแบบพอมันทับนานเกินไปมันเริ่มเป็น
00:05:58 → 00:06:00 เด็บอะไรเงี้ยเราก็อือบางทีเราก็จะพลิก
00:06:00 → 00:06:03 ตัวโดยที่เราไม่รู้สึกตัวนะครับนะแต่ว่า
00:06:03 → 00:06:06 ก็คนไข้บางบางกลุ่มก็อาจจะหลับลึกจน
00:06:07 → 00:06:09 กระทั่งกลไกตรงนี้มันลดน้อยลงอย่างเช่นคน
00:06:09 → 00:06:12 ไข้ที่อ่าทานเหล้าเยอะจนเมาหรือว่าคนไข้
00:06:12 → 00:06:15 ที่เอ่อทานยารอนหลับร่วมด้วยหรือมียาที่
00:06:15 → 00:06:18 มีฤทธิ์ง่วงนอนร่วมด้วยเนี่ยก็ทำให้เหลับ
00:06:18 → 00:06:20 ทำให้ทำให้กนไกตรงนี้มันลดน้อยลงได้นะ
00:06:20 → 00:06:22 ครับก็จะนอนอยู่ในท่าเดิมนานๆโดยที่ไม่
00:06:22 → 00:06:25 ได้เปลี่ยนท่าตื่นเช้ามาก็อาจจะเป็นเหน็บ
00:06:25 → 00:06:27 เป็นชาอะไรประมาณนี้ครับแต่อาการอย่าง
00:06:27 → 00:06:30 งั้นเนี่ยก็ไม่ใช่สัญญาณที่เราจั่วหัวไว้
00:06:30 → 00:06:32 ว่าอันตรายอะไรอันนั้นเป็นลักษณะปกติที่
00:06:32 → 00:06:35 จะหายไปใช่มยคะคุณหมอเอ่อขึ้นอยู่กับขึ้น
00:06:35 → 00:06:37 อยู่กับระยะเวลาที่ถูกกดทับครับถ้าระยะ
00:06:37 → 00:06:40 เวลาที่มันถูกกดทมันไม่นานมากเนี่ยนะครับ
00:06:40 → 00:06:43 เอ่อพอเราตื่นขึ้นมาเราขยับเยอริยาบถซัก
00:06:43 → 00:06:46 พักก็จะดีขึ้นนะครับแต่ถ้าสึเราถูกกดทับ
00:06:46 → 00:06:49 นานกว่าเดิมนานมากๆเยาจจะใช้เวลาเป็น
00:06:49 → 00:06:53 ชั่วโมงหรือบางทีอาจจะเป็นวันในการที่ที่
00:06:53 → 00:06:57 ที่อ่าที่เราจะซืนตัวหรืออย่างของใช่บาง
00:06:57 → 00:07:00 คนที่กินเหล้าเมานึกมันจะมีโรคที่เเรียก
00:07:00 → 00:07:03 ว่าเป็นพวก Z paly นะครับคือกินเหล้าเมา
00:07:03 → 00:07:06 จนหลับฟุกกระโต๊ะอะไรพวกเนะครับเส้นภักษา
00:07:06 → 00:07:08 ก็ถูกกดทับทั้งคืนตื่นมาก็อาจจะมีข้อมือ
00:07:08 → 00:07:11 ตกได้นิ้วมือกระดกไม่ขึ้นได้ซึ่งพวกนี้
00:07:11 → 00:07:13 ถ้ากดทับนานๆเนี่ยใช้เวลาเป็นสัปดาห์เป็น
00:07:13 → 00:07:17 เดือนกว่าจะครับบางคนนก็อาจจะฟื้นตัวแบบ
00:07:17 → 00:07:21 ไม่ดีไม่ 100% ก็มีนะครับโอหนี่ผมนี่เป็น
00:07:21 → 00:07:24 โรคชนิดนึงเลยเหมือนกันเนาะเพรู้ค่ะผมนึก
00:07:24 → 00:07:27 ภาพออกเลยคนเมาอ่ะอ๋อแล้วเฟุบลงไปเมาแบบ
00:07:27 → 00:07:30 เมาแบบเมาเละเทะเนี่ยคืออาจจะนอนแบบในท่า
00:07:30 → 00:07:34 ที่มันแบบว่าคอหักอะไรเงี้ยใช่ครับคุณหมอ
00:07:34 → 00:07:37 คือมันต้องมันต้องมันต้องนานขนาดไหนครับ
00:07:37 → 00:07:39 คุณหมอมันถึงมีอาการในลักษณะอย่างที่คุณ
00:07:39 → 00:07:42 หมอได้อธิบายไปสำหรับในกรณีของของคนที่
00:07:42 → 00:07:46 เมาจนแบบไม่ได้สติเลยฮะคุณหมอฮะจริงๆพวก
00:07:46 → 00:07:49 นี้ถ้าถ้าถ้าคือถ้ากดไม่นานมากอ่ะมันก็จะ
00:07:49 → 00:07:52 แค่เป็นชาอะไรเฉยๆอาการอ่อนแรงก็อาจจะ
00:07:52 → 00:07:54 เป็นแค่ชั่วคราวไปอย่างที่คนเมานี่บางที
00:07:54 → 00:07:57 เมาแบบเป็นหลายชั่วโมงใช่มั้เช่นกลางดึก
00:07:57 → 00:08:00 แล้วตื่นมาอทีสายๆวขึ้นแล้วเงี้โดยที่
00:08:00 → 00:08:02 อยู่ท่าเดิมเนี่ยพวกที่ตื่นมาก็มีข้อมือ
00:08:02 → 00:08:05 ตกกระดกไม่ขึ้นได้เลยได้ครับโอข้อมือตก
00:08:05 → 00:08:08 กระดกไม่ขึ้นื้นกันนานเลยใช่มั้ยคะใช้
00:08:08 → 00:08:10 เวลาค่ะใช่ครับใช่ครับเป็นสัปดาห์เป็น
00:08:10 → 00:08:11 เดือนนะครับแล้วอย่างที่บอกบางทีก็อาจจะ
00:08:11 → 00:08:16 ฟื้นตัวไม่ดีไม่ 100% ครับไม่ 100% ด้วย
00:08:16 → 00:08:18 แมแม้ในขณะที่เป็นครั้งแรกเนี่ยนะคะคุณ
00:08:18 → 00:08:21 หมอสมมุติใช่ๆครับขึ้นอยู่กับระยะเวลากดท
00:08:21 → 00:08:24 ฮะนะครับออเตั้งชื่อเป็นเท paly เพราะว่า
00:08:24 → 00:08:26 ฝรั่งเขชอบกินเหล้ากันคืนวันเสารใช่มั้ย
00:08:26 → 00:08:28 กินแล้วเมา
00:08:28 → 00:08:32 อ๋อก็ซี่โอ้โหนี่น่าสนใจเหมือนกันอ่า
00:08:32 → 00:08:34 เดี๋ยวๆคไว้ค่อยเก็บเก็บมาคุยกันคุณหมอ
00:08:35 → 00:08:37 ครับเรื่องของอาการชาครับทีนี้มันมันมัน
00:08:37 → 00:08:43 มันมีชาแบบไหนที่อืเราควรจะต้องสังเกตตัว
00:08:43 → 00:08:45 เองและว่ามันมันอาจจะเป็นสัญญาที่ไม่ไม่
00:08:46 → 00:08:48 ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่แล้วฮะคุณหมอฮะ
00:08:48 → 00:08:51 จริงๆถ้ามีอาการชาก็ก็ถ้ามีอาการชาที่
00:08:51 → 00:08:54 จริงๆจังหถึงความรู้สึกมันลนน้อยลงก็คง
00:08:54 → 00:08:56 ต้องหาสาเหตุอนะครับซึ่งมันก็มีตั้งแต่
00:08:56 → 00:08:59 สาเหตุที่เอ่ออาจจะไม่ได้มีความลุ้นแรง
00:08:59 → 00:09:01 หรือมีความรุนแรงมันก็ขึ้นอยู่กับการ
00:09:01 → 00:09:04 ดำเนินโลกนะครับถ้าโลกส่วนใหญ่ที่แบบไม่
00:09:04 → 00:09:06 ค่อยมีความรุนแรงมันก็อาจจะค่อยๆเป็นค่อย
00:09:06 → 00:09:08 ๆไปจนที่เราโดยที่เราช่วงแรกอาจจะไม่รู้
00:09:08 → 00:09:11 สึกนะครับหรือว่าเมื่อเรารู้สึกแล้วเนี่ย
00:09:11 → 00:09:13 การดำเนินโลคมันก็ยังไม่ได้ดำเนินโลคเร
00:09:13 → 00:09:15 เช่น 2 เดือน 3 เดือน 4 เดือนผ่านไปมันก็
00:09:15 → 00:09:18 ยังชาพอๆเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักพวก
00:09:18 → 00:09:20 นี้ก็การดำเนินโลกอาจจะไม่ได้รุนแรงมาก
00:09:20 → 00:09:23 นักนะครับก็แต่ยังไงก็คงต้องมาตรวจเช่น
00:09:23 → 00:09:25 สาเหตุที่เจอได้บ่อยก็เป็นพวกเบาหวานอะไร
00:09:25 → 00:09:27 พวกเนะครับนะแล้วก็ต้องไปดูสาเหตุอย่าง
00:09:27 → 00:09:31 อื่นเช่นเ่ามีมีพวกภาวะขายวิตามินที่อะไร
00:09:31 → 00:09:34 พวกนี้มนะครับมีประวัติแบบกินเจกินมังซา
00:09:34 → 00:09:36 วิรัสหรือเปล่าหรือว่ามีปัญหาเรื่องของเ
00:09:36 → 00:09:40 การที่ลำไส้มันอ่าลำไส้มันไม่สามารถดูด
00:09:40 → 00:09:43 ซึมวิตามินบีได้อะไรได้นะครับจริงๆก็ต้อง
00:09:43 → 00:09:46 มีตวจมันก็จะมีสาเหตุโรคทางกายอย่างอื่น
00:09:46 → 00:09:48 อีกที่ที่อาจจะมาด้วยอาการชาได้ซึ่งอัน
00:09:49 → 00:09:51 นี้แพทย์ก็จะช่วยซักประวัตแล้วก็แล้วก็
00:09:52 → 00:09:55 อ่าแล้วก็ทำการท่งตรวจเพิ่มเติมนะครับ
00:09:55 → 00:09:57 เพราะว่าจริงๆแล้วถ้าไปดูสาเหตุของอาการ
00:09:57 → 00:10:00 ชาเนี่ยมีเยอะแยะมากมายเลยนะครับแล้วก็
00:10:00 → 00:10:03 เอ่อทุกทุกโรคก็มาด้วยการใกล้เคียงกันก็
00:10:04 → 00:10:06 คือการชาปลายมือปลายเท้าเพราะงั้นจริงๆ
00:10:06 → 00:10:08 แล้วเนี่ยการส่งตรวจแล้วเราไม่สามารถส่ง
00:10:08 → 00:10:12 ตรวจแบบหวานๆได้นะก็าต้องสักกว่าตรวจร่าง
00:10:12 → 00:10:13 กายเบื้องต้นก่อนเพื่อที่จะได้รู้ว่าเรา
00:10:13 → 00:10:16 สงสัยโรคอะไรนะครับเพราะเราไม่สามารถส่ง
00:10:16 → 00:10:18 ตรวจทุกอย่างได้ในครั้งเดียวกันหมดเพราะ
00:10:18 → 00:10:22 ว่าค่าใช้จ่ายจะสูงมากนะครับตงนั้นอ๋อ
00:10:22 → 00:10:25 ต้องมีความเชื่อมโยงถามประวัติของผู้ป่วย
00:10:25 → 00:10:28 ด้วยก่อนใช่ครับคุณหมอคะอย่างอาการอาการ
00:10:28 → 00:10:32 ชาที่บอกว่ามันจะมันจะไม่รู้สึกมันจะแบบ
00:10:32 → 00:10:36 เอ่อด้านๆอะไรไปทำนองเนี้ยมันมันมีลักษณะ
00:10:36 → 00:10:38 ที่เรียกว่าร้อนๆร่วมด้วยบ้างมั้ยคะบาง
00:10:38 → 00:10:42 ครั้งเเรียกคุณผู้ฟังถามมาว่าฝ่าเท้าร้อน
00:10:42 → 00:10:44 อือันนั้นก็เป็นก็เป็นอาการหนึ่งของโรค
00:10:44 → 00:10:46 เส้นประสาทนะครับโรคเส้นประสาทมันก็จะมี
00:10:46 → 00:10:49 อาการได้ 2 อย่างก็คือก็คือกลุ่มแรกคือ
00:10:49 → 00:10:51 กลุ่มที่เเรียกว่าเป็นกลุ่มอาการ Positive
00:10:51 → 00:10:53 symptom และอาการบวกนะครับนะหรือว่า
00:10:53 → 00:10:55 กลุ่มที่เป็นอีกกลุ่มกลุ่มที่เป็น
00:10:55 → 00:10:57 Negative symptom หรืออาการลบนะครับนะ
00:10:57 → 00:11:00 อืคำคำว่าความรู้สึกชหนาๆความการรับความ
00:11:00 → 00:11:02 รู้สึกลดน้อยลงก็คือเป็น Negative
00:11:02 → 00:11:05 symptom อนะครับออแต่ว่าอาการทั้ง้าบวก
00:11:05 → 00:11:07 เนี่ยก็จะมี 2 อย่างคือ 1 ก็คือปวดนะครับ
00:11:07 → 00:11:09 อย่างที่เราปวดไฟมือไฟเท้าปวดเหมือนไฟ
00:11:09 → 00:11:12 ช็อตอะไรพวกเนะครับเหมือนดนๆนลวกแล้วเี่
00:11:12 → 00:11:14 ก็เป็นอาการปวดอีกกลุ่มนึงก็จะเป็นอาการ
00:11:14 → 00:11:18 ที่เอ่อก่อให้เกิดความรำคาญแต่ไม่ใช่ปวด
00:11:18 → 00:11:21 นะฮบางคนก็อาจรู้สึกแบบร้อนๆเท้าบางคนก็
00:11:21 → 00:11:23 รู้สึกแบบเย็นๆเท้าบางคนรู้สึกเหมือนมด
00:11:23 → 00:11:25 ใส่เท้าอะไรประมาณเนี้ยนะครับแต่มันไม่
00:11:25 → 00:11:27 ปวดแต่มันก่อให้เกิดความำคัญพวกนี้ก็เป็น
00:11:27 → 00:11:30 อาการหนึ่งของอาการอาการของโรคของเส้น
00:11:30 → 00:11:32 ประสาทนะครับซึ่งเจอได้ทั้ง 2 อย่างอใช่
00:11:32 → 00:11:35 อืครับทั้งอาการบวกทั้งอาการลบนะครับอื
00:11:35 → 00:11:38 ส่วนใหญ่ครับคุณหมอครับอาการลักษณะอย่าง
00:11:38 → 00:11:40 ที่คุณหมอว่าเนี่ยมันมักจะเกิดขึ้นกับคน
00:11:40 → 00:11:44 วัยไหนมากเป็นพิเศษนะคุณหมอค่ะเอ่อจริงๆ
00:11:44 → 00:11:47 ส่วนใหญ่ถ้าถ้าเอาตามสถิติเลยเนี่ยก็เจอ
00:11:47 → 00:11:49 ในผู้สูงอายุอนะครับเพราะว่าโรคประจำตัว
00:11:49 → 00:11:52 หลายๆอย่างก็ก่อให้เกิดอาการช้าได้นะครับ
00:11:52 → 00:11:55 ถ้าถ้าเราดูตามข้อมูลสาเหตุของโรคของ
00:11:55 → 00:11:57 อาการช้าที่จะได้บ่อยที่สุดคือโรคเบาหวาน
00:11:57 → 00:11:58 นนะ
00:11:58 → 00:12:00 ครับเพรานั้นอย่างน้อยก็ควรต้องไปตรวจ
00:12:00 → 00:12:03 เช็คดูว่าเอ๊ะเรามีน้ำตาลสูงหรือเปล่าเรา
00:12:03 → 00:12:05 มีเป็นเบาหวานหรือเปล่าอะไรพวกเนี้ยนะ
00:12:05 → 00:12:07 ครับเพราะหลายๆท่านอาจจะไม่ได้ตรวจสภาพ
00:12:07 → 00:12:10 ทุกปีอะไรประมาณนี้นะครับออันนี้ก็เป็น
00:12:10 → 00:12:13 สายที่เจอได้บ่อยที่สุดอนะครับลักษณะน้ำ
00:12:13 → 00:12:16 ตาลถ้าเกินตรวจปีละครั้งอย่างเงี้ยจะรู้
00:12:16 → 00:12:19 ได้ว่าเป็นเบาหวานเลยใช่มั้ยคะน้ำตาลเกิน
00:12:19 → 00:12:22 เกิน 100 มั้ยคะคุณหมออ่ใช่ครับก็ก็ส่วน
00:12:22 → 00:12:25 ใหญ่เราก็ใช้วิธีสนิโดยการตรวจเอ่องดน้ำ
00:12:25 → 00:12:29 วดอาหารมาแล้วก็มาตรวจน้ำตาลตอนตอนเช้านะ
00:12:29 → 00:12:31 ครับอันนี้ก็ช่วยบอกได้ครับนะครับแต่
00:12:31 → 00:12:33 เดี๋ยวนี้หลายๆท่านอาจจะตรวจพวกค่าเฉลี่ย
00:12:33 → 00:12:36 น้ำตาลสะสมร่วมด้วยนะครับมันเป็นการดูค่า
00:12:36 → 00:12:39 น้ำตาลสะสม 3 เดือนประกอบกันนะครับก็อาจ
00:12:39 → 00:12:42 จะช่วยให้การวินิจฉัยมันมันมันแม่นยำมาก
00:12:42 → 00:12:46 ขึ้นนะครับอืคุณหมอผมเคยไปอ่านเจอข้อมูล
00:12:46 → 00:12:49 เกี่ยวกับเรื่องของอาการชาทั้งหลายทั้ง
00:12:49 → 00:12:52 แหลเนี่ยคุณหมอครับคือมันจะมีบริเวณที่
00:12:52 → 00:12:56 แต่ละจุดเนี่ยมันก็จะเป็นการบ่งบอกว่าอ่ะ
00:12:56 → 00:13:00 อ่าอย่างกรณียกตัวอย่างนะคุณหมอฮะชามือ
00:13:00 → 00:13:04 แต่ไม่ชาเท้ามันก็จะบ่งบอกถึงการเป็นโรค
00:13:04 → 00:13:07 อีกโรคนึงชาปลายนิ้วมือเกือบทุกนิ้วแต่
00:13:07 → 00:13:10 นิ้วก้อยไม่ช้าหรือช้าน้อยที่สุดก็มัน
00:13:10 → 00:13:12 เป็นการบ่งบอกถึงอีกโรคนึงคุณหมอครับไอ้
00:13:13 → 00:13:16 ไอพวกลักษณะแบบนี้เนี่ยมันสามารถบ่งบอก
00:13:17 → 00:13:20 ชนิดของโรคที่อาจจะสะสมอยู่ในร่างกายของ
00:13:20 → 00:13:23 เราอยู่ได้ได้มากน้อยขนาดไหน่ะฮะคุณหมอฮะ
00:13:23 → 00:13:27 มันมันบอกได้ได้ได้ระดับนึงครับเพราะว่า
00:13:27 → 00:13:29 เพราะว่าอย่างที่บอกลักษณะของการช้เกิด
00:13:29 → 00:13:31 จากเส้นประสาทใช่ยครับแต่เส้นประสาทมันมี
00:13:31 → 00:13:35 ได้ได้หลายสาเหตุถ้ามันชาอย่างเช่นเอ่อชา
00:13:35 → 00:13:38 เฉพาะนิ้วโป้งนิ้วชี้นิ้วกลางอะไรเงี้ยนะ
00:13:38 → 00:13:41 ครับนะแต่นิ้วนางไม่นิ้วนางนิ้วค้อยไม่ชา
00:13:41 → 00:13:44 เงี้นะครับนะนั้นก็เป็นตำแหน่งที่เ่าเส้น
00:13:44 → 00:13:46 ประสาทที่มาเลี้ยงคือเส้นประสาน med เนฟ
00:13:46 → 00:13:49 นะครับนะอันนี้สาเหตุส่วนใหญ่ก็เกิดจาก
00:13:49 → 00:13:52 การกดทับนะครับก็ที่เรารู้จักกันในโรกตัว
00:13:52 → 00:13:55 ไอ้ตัวค tal Syndrome นะครับจริๆเราก็
00:13:55 → 00:13:58 เคยคุยถึงโรคนี้มาะนะครับแต่ถ้าเกิดว่าชา
00:13:58 → 00:14:00 มือทั้ง 2 ข้างเลยพร้อมกันมันก็าจะเป็น
00:14:00 → 00:14:04 โรคกลุ่มเส้นประสาทหลายๆเส้นกลุ่มอื่นนะ
00:14:04 → 00:14:08 ครับนะซึ่งก็อาจจะเป็นโรคภูมทุกอะไรพวก
00:14:08 → 00:14:10 นี้ก็ได้นะครับเพราะว่าถ้าเป็นโรคอย่าง
00:14:10 → 00:14:12 เช่นพวกเบาหวานเนี่ยทั่วๆไปเนี่ยมันจะ
00:14:12 → 00:14:15 เริ่มที่เท้าก่อนนะครับส่วนใหญ่โรคที่
00:14:15 → 00:14:18 เป็นแบบพวกเบาหวานพวกโรคของที่เกิดจากการ
00:14:18 → 00:14:21 ขาดสารอาหารหรือเกิดจากการทานเหล้าอะไรพว
00:14:21 → 00:14:25 เยนะครับนะบมจะเกิดที่ที่เท้าก่อน 2 ข้าง
00:14:25 → 00:14:27 แล้วค่อยลามขึ้นมานะครับแล้วก็ลามขึ้นมา
00:14:27 → 00:14:30 ถึงเข่าแล้วค่อยมีอาการชานะครับอันนั้นก็
00:14:30 → 00:14:33 จะเป็นโรคอีกกลุ่มนึงนะครับถ้าเกิดว่า
00:14:33 → 00:14:36 เป็นโรคที่แบบอ่าโดนชามือก่อนแล้วค่อยชา
00:14:36 → 00:14:39 เท้าภายหลังอะไพวกเยนะครับมันอาจจะเป็น
00:14:39 → 00:14:41 โรคที่เกี่ยวกับเรื่องของกลุ่มปอประสาท
00:14:41 → 00:14:43 หรือว่ากลุ่มเรื่องของการอักเสบอะไรพวกเ
00:14:43 → 00:14:45 นะครับแต่ว่าเราก็ต้องอาศัยอย่าลักษณะ
00:14:45 → 00:14:46 อย่างอื่นร่วมด้วยนอกจากอาการชามันจะมี
00:14:46 → 00:14:49 เรื่องของตัวอาการอ่อนแรงครับนะครับอาการ
00:14:49 → 00:14:51 อ่อนแรงของโรคเส้นประสาทส่วนใหญ่เนี่ยมัก
00:14:51 → 00:14:53 จะอย่างเช่นเบาหวานเนี่ยมักจะชาที่มจะ
00:14:53 → 00:14:56 อ่อนแรงที่บริเวณส่วนปลายก่อนเช่นจะมี
00:14:56 → 00:14:58 อาการอ่อนแรงที่ถ้ามีอาการอ่อนแรงก็มี
00:14:58 → 00:15:00 อาการอ่อนแรงที่ปลายเท้าก่อนแต่ส่วนที่
00:15:00 → 00:15:02 ต้นขาเนี่ยไม่ค่อยมีปัญหาไม่ค่อยมีอาการ
00:15:02 → 00:15:05 อ่อนแรงนะครับแต่ถ้าเกิดว่าเป็นมีอาการ
00:15:05 → 00:15:09 อ่อนแรงทั้งต้นขาแล้วก็ส่วนปลายเท้าหรือ
00:15:09 → 00:15:12 ต้นแขนกับปลายนิ้วมือร่วมด้วยเนี่ยก็อาจ
00:15:12 → 00:15:14 จะเป็นโรคของอีกกลุ่มอีกกลุ่มหนึนะครับ
00:15:14 → 00:15:17 ซึ่งรายละเอียดค่อนข้างเยอะนิดนึงครับแต่
00:15:17 → 00:15:21 ว่าโดยโดยทั่วๆไปเนี่ยลักษณะของอาการชานะ
00:15:21 → 00:15:24 ครับลักษณะของอาการปวดตำแหน่งที่มีอาการ
00:15:24 → 00:15:27 ชาตำแหน่งที่มีอาการอ่อนแรงรวมถึงเอ่อการ
00:15:27 → 00:15:29 ตรวจรีเฟกคือการตอบสนองของกล้ามเนื้อเวลา
00:15:29 → 00:15:33 เราเวลาไปหาหมอจะเห็นว่าหมอใช้ค้อค้อตาม
00:15:33 → 00:15:35 เขาตามแขนอะไรพวกเยนะครับแล้วดูกล้าม
00:15:35 → 00:15:37 เนื้อมันจะกระตุกอะไรพวกเยนะครับอันนี้ก็
00:15:38 → 00:15:41 จะช่วยบอกโรคได้นะครับนะจะช่วยกายเราถึง
00:15:41 → 00:15:45 หาสาเหตุของโรคได้ซึ่งอย่างที่บอกว่าเอ่อ
00:15:45 → 00:15:47 เรามักจะต้องซักกวะตรวจร่างกายก่อนเพราะ
00:15:47 → 00:15:49 ว่าเอ่อเราไม่สามารถตรวจทุกอย่างได้ใน
00:15:49 → 00:15:52 เวลาเดียวกันพอนี้พอเราได้ไอเดียมารับ
00:15:52 → 00:15:54 ระดับนว่าน่าจะเป็นโรคกลุ่มนี้นะเราก็ส่ง
00:15:54 → 00:15:57 ตรวจกลุ่มนี้ก่อนพวกเนะครับประมาณนั้น
00:15:57 → 00:15:59 ครับถ้าสมมุติว่าคุณผู้ฟังมีอาการอย่าง
00:15:59 → 00:16:04 ที่บอกไปนะคะตั้งแต่เริ่มของชาเริ่มหนาๆ
00:16:04 → 00:16:07 เริ่มเอ่ออาจจะรู้สึกที่ปลายเท้าหรือบาง
00:16:07 → 00:16:09 คนก็รู้สึก 2 ข้างเลยหรือรู้สึกที่แขน
00:16:09 → 00:16:13 เนี่ยก็เริ่มจากไปไปหาคุณหมอทั่วไปก่อน
00:16:14 → 00:16:16 ใช่มั้ยคะแล้วบอกเใช่ครับอใช่ครับเพื่อทำ
00:16:17 → 00:16:19 การสปตรวจร่างกายก่อนนะครับอือตรวจน้ำตาล
00:16:19 → 00:16:22 ตรวจอะไรก่อนอืใช่เบื้องต้นก่อนถ้าเกิด
00:16:22 → 00:16:24 ว่าตรวจแล้วเบื้องต้นไม่เจอมันก็จะมีการ
00:16:24 → 00:16:28 ตรวจที่ละเอียดต่ออีกขั้นหนึ่งครับมัน
00:16:28 → 00:16:29 ต้องมันมันต้องเป็น
00:16:30 → 00:16:33 กันนานขนาดไหนคุณหมอครับมันต้องเป็นสะสม
00:16:33 → 00:16:36 นานขนาดไหนถึงเราจะสังเกตของเราเองเฮ้ย
00:16:36 → 00:16:39 ควรจะต้องไปพบแพทย์ดีกว่าปล่อยไว้อันนี้
00:16:39 → 00:16:42 ชักจะไม่ปกติแล้วฮะคุณหมอฮะคือหนึก็ต้อง
00:16:42 → 00:16:44 ดูว่าเอ๊ะมันชาจริงหรือเปล่าเพราะว่าบาง
00:16:44 → 00:16:48 ทีเราไปยกไปเล่นออกกำลังกายยกยกน้ำหนัก
00:16:48 → 00:16:50 อะไรเี้ยนะครับนะหรือวิ่งหนักๆเนี่ยมันก็
00:16:51 → 00:16:53 อาจจะมีอาการปวดปึงกล้ามเนื้อได้มันรู้
00:16:53 → 00:16:56 สึกแบบหน่วงๆเหน็บๆอะไรประมาณเนี้ยนะครับ
00:16:56 → 00:16:59 เรามันไม่ใช่ความรู้สึกเราน้อยลงนะครับ
00:16:59 → 00:17:01 อาการช้าคือการที่มีความรู้สึกลดน้อยลง
00:17:01 → 00:17:04 เราก็อาจจะเทสเทสเทสเบื้องต้นได้เช่นเรา
00:17:04 → 00:17:07 จะใช้มจิ้มฟันจิ้มส่วนที่เรารู้สึกว่า
00:17:07 → 00:17:09 ปกติเทียบกับส่วนที่เรารู้สึกว่าผิดปกติ
00:17:09 → 00:17:11 ว่ามันความรู้สึกมันแตกต่างกันไนะครับใช้
00:17:12 → 00:17:13 มือลูกสัมผัสดูตำแหน่งที่เรารู้สึกว่า
00:17:13 → 00:17:16 ปกติเช่นเราชาปลายเท้าก็รูปที่ต้นขาด
00:17:16 → 00:17:18 เทียบกับปลายเท้ารู้ความสสึมันแตกต่าง
00:17:18 → 00:17:22 หรือเปล่านะครับถ้าอาการมันเป็นแบบเป็นๆ
00:17:22 → 00:17:25 หายๆนี้มันก็อาจจะไม่ชัดเจนถ้าเกิดว่า
00:17:25 → 00:17:27 อาการชามันเป็นตลอดหรือเป็นมากขึ้นเนี่ย
00:17:27 → 00:17:32 ก็ต้องมาพบแะจังครับคุณหมอคะเรื่องของฝ่า
00:17:32 → 00:17:34 เท้าเนี่ยเคยตัวเองเนี่ยเคยมีความรู้สึก
00:17:34 → 00:17:39 เหยียบๆไปที่พื้นแล้วก็เอ๊ะเหมือนกับมัน
00:17:39 → 00:17:42 มันมีหลอดไฟอยู่ที่ที่ชั้นล่างหรือเปล่า
00:17:42 → 00:17:45 จริงๆนะมันก็ไม่ใช่มันก็หายไปอันนั้นน่ะ
00:17:45 → 00:17:48 ใช่ฝ่าเท้าร้อนเพื่อนบอกว่าใช่ใช่มั้ยคะ
00:17:48 → 00:17:53 สักพักนึงเป็นประมาณซักอืมนานๆครั้งแล้ว
00:17:53 → 00:17:56 ในปัจจุบันเเป็นหลายเดือนแล้วมันก็หายไป
00:17:56 → 00:17:58 คุณหมออันนี้ก็คือไม่ใช่ที่มันเป็นยาวนาน
00:17:58 → 00:18:01 ต่อเนื่องใช่ใช่มั้ยคะเส้นประสาทใช่มั้ย
00:18:01 → 00:18:03 คะบนเป็นสใช่ครับก็ต้องไปดูเอ๊จริงมัน
00:18:03 → 00:18:06 เป็นอาการเจ็บหรือเปล่าเจ็บที่ป่าเ้าหรือ
00:18:06 → 00:18:08 เปล่าเช่นอาจจะเป็นรองช้ำเป็นอะไรพวกนี้
00:18:08 → 00:18:11 ก็ได้นะครับไม่อาจจะเป็นถ้าเป็นลักษณะ
00:18:11 → 00:18:13 หมอนรองดูทับเส้นประสาทอะไรพวกเมันก็มัก
00:18:13 → 00:18:16 จะเป็นแบบมีปวดปวดเอวร้าวลงขาด้วยอะไรพวก
00:18:16 → 00:18:18 เนะครับนะหรือว่าประวัติแบบประมาณว่าถ้า
00:18:18 → 00:18:21 เดินนานๆหรือยินนานๆแล้วมันปวดหรือชา
00:18:21 → 00:18:23 เพิ่มมากขึ้นอะไรพวกเยนะครับออันนี้ก็อาจ
00:18:23 → 00:18:27 จะเป็นตัวช่วยนะครับอืแต่ถ้ามันหายไปแล้ว
00:18:27 → 00:18:29 มันไม่ปรากฏอาการอีกเลยหลายเดือนนี่คือ
00:18:29 → 00:18:31 ไม่ใช่แล้วใช่มั้ยคะก็ไม่มันอาจจะเกี่ยว
00:18:31 → 00:18:33 ข้องกับ activity เรามากกว่าเช่นวันนั้น
00:18:33 → 00:18:36 อาจจะใส่าที่มันไม่สบายหรือว่าวันนั้นเรา
00:18:36 → 00:18:38 เดินเยอะเกินไปหรือใช้งานมันเยอะเกินไป
00:18:38 → 00:18:42 มันอาจจะมีความรู้สึกที่มันผิดปกติได้แต่
00:18:42 → 00:18:46 พอวันหลังไปานั้นเราไม่ได้ไปทำกิจกรรมแบบ
00:18:46 → 00:18:49 เดิมอีกว่าเราละไว้มันก็อาจจะไม่มีอาการ
00:18:49 → 00:18:52 อะไรพนี้นะครับอ๋อนี่คืออาการที่ร้อนของ
00:18:52 → 00:18:55 ฝาเท้าใช่มั้ครับคือช่นั้นมันเป็นถี่
00:18:55 → 00:18:56 เหมือนกันนี้ก็สอดคล้องกับที่คุณผู้ฟัง
00:18:56 → 00:18:59 ทางบ้านเนี่ยสอบาม
00:18:59 → 00:19:02 ถ้าเป็นคืออย่าที่คุณหมอก็คือต้องไปดูต้น
00:19:02 → 00:19:06 ตก่อนว่าวันนั้นจริงๆเราอาจจะเลือกใส่รอง
00:19:06 → 00:19:09 เท้าไปทำกิจกรรมที่อาจจะไม่ค่อยจะ
00:19:09 → 00:19:12 ซัพพอร์ตเท้าไม่ค่อยจะสบายอาจจะแข็งเกิน
00:19:12 → 00:19:14 ไปนิ่มเกินไปแบบนี้ก่อนใช่มครับคุณหมอ
00:19:14 → 00:19:17 ครับอใช่ครับแต่ถ้ามันเป็นเป็นไหายหรือ
00:19:17 → 00:19:20 มันเป็นทีบ่อยขึ้นเนี่ยเราก็ต้องมาตรวจดู
00:19:20 → 00:19:23 ครับนะครับแต่ถ้านานๆเป็นทีอาจจะไม่ค่อย
00:19:23 → 00:19:26 ชัดเจนมากนะเพราะว่า 1 คือความรู้สึกเมัน
00:19:26 → 00:19:29 เป็นอะไรที่มันจับต้องไม่ได้ครับครับให้
00:19:29 → 00:19:32 รู้สึกมันจะไม่ได้เอ่อหลักฐานจะไม่ได้ชัด
00:19:32 → 00:19:34 เจนมากนักเหมือนกับเช่นว่าถ้าเกิดว่ามัน
00:19:34 → 00:19:37 มีอาการอ่อนแรงร่วมด้วยอะไรพวกเครับนะอัน
00:19:37 → 00:19:39 นี้เราต้องใช้ลักษณะหลายๆอย่างประกอบกัน
00:19:39 → 00:19:41 นะครับแต่ถ้าเมื่อไหร่ผมว่าถ้าเรารู้สึก
00:19:41 → 00:19:44 ว่ามันเป็นถี่แบบบ่อยขึ้นอะไรเงี้ยนะครับ
00:19:44 → 00:19:46 หรือว่ามันเป็นถาวรเอันนี้ก็ควรจะมาตรวจ
00:19:46 → 00:19:50 ให้มันชัวร์ดีกว่าว่ามันเ่อว่ามันเป็น
00:19:50 → 00:19:53 เป็นหายสงสัยนะจริงหรือไม่ใช่มีตัวนึงที่
00:19:53 → 00:19:56 เขาก็นิยมที่จะให้ผู้สูงอายุหรือว่าอาจจะ
00:19:56 → 00:20:00 วยทำงานก็ได้ที่จะกินเพื่อจะช่วยของระบบ
00:20:00 → 00:20:03 ประสาทเส้นประสาทที่ที่นิยมกันก็คือ
00:20:03 → 00:20:07 วิตามินบีคุณหมออมันมันมีความครอบคลุม
00:20:07 → 00:20:10 เรื่องของเส้นประสาทแล้วเราควรจะเอ่อกิน
00:20:10 → 00:20:14 วิตามินบีกันในวัยไหนหรือขาดไม่ได้เลยยัง
00:20:14 → 00:20:17 ไงคะคุณหมอจริงๆถ้าถ้าถ้าเราไม่ได้มี
00:20:17 → 00:20:19 ปัญหาเรื่องของการดูซึมเช่นเราไม่คเคย
00:20:19 → 00:20:22 เป็นโรคกระเพาะหรือเป็นเคยมีการผ่าตัดลำ
00:20:22 → 00:20:24 ไส้มาก่อนอะไรพวกเนะครับึมันเป็นส่วนที่
00:20:24 → 00:20:26 ช่วยในการดูดซึมวิตามินเนี่ยส่วนใหญ่ถ้า
00:20:26 → 00:20:29 เรากินอาหารครบ 5 หมู่มันก็จะิดเพียงพอนะ
00:20:29 → 00:20:32 ครับนะไม่ไม่ขาดจริงๆการเป็นคนที่ไม่ขาด
00:20:32 → 00:20:34 ในการทายวิตามินก็อาจจะไม่ได้ไม่ได้ช่วย
00:20:34 → 00:20:36 อะไรนะครับเพราะว่าส่วนเครืองเนี่ยมันก็
00:20:36 → 00:20:40 อาจจะถูกอ่าอ่าเ่าเ้าเรียกว่าอะไรดีถูก
00:20:40 → 00:20:43 ไม่ถูกดุดซึมก็ถูกขับข่ายออกมานะครับอ
00:20:43 → 00:20:46 ครับนะครับถ้าสังเกตกถามสังเกตว่าหลายๆ
00:20:46 → 00:20:48 ครั้งที่ผมจะพูดว่าแนะนำให้กินอาหารครบ 5
00:20:48 → 00:20:51 หมู่เพราะว่าวิตามินมันมีอยู่ในทั้ง B1
00:20:51 → 00:20:54 12 อะไรนี้มันมีอยู่ในอาหารอยู่ะเช่นพวก
00:20:54 → 00:20:57 ธัญพืชพวกเนื้อสัตว์ผลิตภัณฑ์จากสัตว์
00:20:57 → 00:20:59 หรืออะไรพวกเนี้ยนะครับแต่ถ้าเป็นกลุ่ม
00:20:59 → 00:21:02 ที่มันมีความหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นคนไข้
00:21:02 → 00:21:04 บางคนเเป็นโรคที่มันอ่ามีปัญหาทำให้ไม่
00:21:04 → 00:21:07 สามารถดูดซึมวิตามินบีได้หรือว่าเป็นคน
00:21:07 → 00:21:09 ใช้ที่เขาเคร่งมากเช่นกินเจหรือกินบังซา
00:21:09 → 00:21:12 อีแล้วตลอดเนเนื้อสรว่าผู้สูงอายุเนี่ย
00:21:12 → 00:21:14 อันนี้ต้องก็อาจจะช่วยนะครับแต่เราก็ต้อง
00:21:14 → 00:21:17 ดูปริมาณวิตามินบีด้วยนะครับเพราะว่าเรา
00:21:17 → 00:21:19 ส่วนใหญ่เราก็คิดว่าเอ๊ะกินวิตามินมันไม่
00:21:19 → 00:21:23 มีไม่มีโทษอะไรเออทานทานไปเฉยๆได้มั้ยคะ
00:21:23 → 00:21:26 กินไปแบบอ่าแต่จริงๆมันมีโทษเหมือนกันนะ
00:21:26 → 00:21:29 ครับอ๋อค่ะนะฮะถ้าจริงๆข้อมูลนี้ถ้าเป็น
00:21:29 → 00:21:32 วิตามิน B1 กับ 12 เนี่ยไม่ได้มีปัญหามาก
00:21:32 → 00:21:35 นักนะครับแต่มันก็จะมีวิตามิน b6 ที่ถ้า
00:21:35 → 00:21:37 เรากินเยอะเกินไปมันก็ทำให้เกิดโรคได้
00:21:37 → 00:21:40 เหมือนกันออนะครับถ้าเราไปเสิร์ช Google
00:21:40 → 00:21:42 ดูอะไรเงี้ยนะเรื่องของวิตามิน b6
00:21:42 → 00:21:44 intoxication เนี่ยก็จะมีพูดถึงไปอยู่นะ
00:21:44 → 00:21:46 ครับเพราะฉะนั้นจริงๆเไม่ได้แนะนำให้ทาน
00:21:46 → 00:21:51 มากนักนะครับนะครับเอ่อมันจะมาอืมันจะมา
00:21:51 → 00:21:54 ในภาพวิตามินบีรวมมีทุกอย่างเลยมาในเม็ด
00:21:54 → 00:21:57 เดียวกันใช่ใต้องไปดูข้างกล่องว่ามันส่วน
00:21:57 → 00:21:59 ใหญ่มันจะเป็น b รวมอยู่แล้วเป็น 1 62
00:21:59 → 00:22:02 หรือปคกอะไรพวกเงี้ยนะครับนะนี้เราก็ต้อง
00:22:02 → 00:22:04 ดูด้วยแล้วก็ต้องจริงๆคุณต้องปรึกษาคุณ
00:22:04 → 00:22:07 หมอที่ดูแลอยู่ว่าทานได้มอะไรพวกนี้นะ
00:22:07 → 00:22:11 ครับนะแต่ก็เอ่อจะจะจะเรียนอย่างอย่างนึง
00:22:11 → 00:22:14 ก็คือว่าการทานไม่ดีมากเกินไปก็อย่างเช่น
00:22:14 → 00:22:17 b6 ก็จะมีโทษได้เหมือนกันนะครับไม่ใช่
00:22:17 → 00:22:20 ว่าไม่มีโทษเลยนะครับเพราะเราในเซ้นเรา
00:22:20 → 00:22:22 ส่วนใหญ่ไม่จะเข้าใจว่าการทวิไม่มีปัญหา
00:22:22 → 00:22:26 อะไรใช่ใช่อ๋อไม่ไม่ควรทานพร่ำเพื่อเลย
00:22:26 → 00:22:30 ใช่มั้ยคะอย่าอย่ามาเสิอขที่มดีกว่าครับ
00:22:30 → 00:22:32 ต้องมาปรึกษาคุณหมอเนาะในขณะที่เหมาะสมดี
00:22:32 → 00:22:35 กว่าใช่ครับถามได้มั้ยคุณหมอครับว่าไอ้ b6
00:22:35 → 00:22:38 ที่อาจจะกินเยอะเกินไปเนี่ยวันนึงไม่ควร
00:22:38 → 00:22:40 จะต้องเกินเท่าไหร่เผื่อว่าผมเชื่อว่า
00:22:40 → 00:22:43 หลายคนเนี่ยเลือกใช้วิธีการอย่างที่พี่นุ
00:22:43 → 00:22:46 บอกใช่ครับเลือกกินวิตามินเสริมเข้าไป
00:22:46 → 00:22:48 เพราะ
00:22:48 → 00:22:51 ว่า่ไม่แน่ใจว่าวันนึงวันนึงเนี่ยเราทาน
00:22:52 → 00:22:54 อาหารครบ 5 หมู่แล้วก็ได้สารอาหารเพียงพอ
00:22:54 → 00:22:58 หรือเปล่า 1 ทางเลือกที่คนยุคนี้เนี่ยอ
00:22:58 → 00:23:00 เลือกกันก็คือวิตามินทั้งหลายทั้งแหลเลย
00:23:00 → 00:23:03 หลายกระปุกเลยอ่าใช่โอโหบางคนกินเป็น 10
00:23:03 → 00:23:07 เม็ดต่อวันอะไรอย่างเงี้ยเออฮะคุณหมอฮะ
00:23:07 → 00:23:09 ครับก็ก็ถ้าไปดูตามข้อมูลของ fda ของ
00:23:09 → 00:23:12 อเมริกาเก็แนะนำให้กินไม่เกินวันละ 100
00:23:12 → 00:23:14 มิลิกรัมต่อวันอันนี้หมายถึงเฉพาะ b6
00:23:14 → 00:23:16 เหรอครับคุณหมอครับปี 6 ใช่เฉพาปี 6 ใช่
00:23:16 → 00:23:19 ครับออย่างจริงๆปี 12 ก็มีสมัยก่อนก็มี
00:23:20 → 00:23:22 ข้อมูลมาดีเบตว่าเอ่อกินแล้วทำให้เป็น
00:23:22 → 00:23:24 กระดูกบางหรือเปล่าอะไรเงี้ยแต่ว่าช่วง
00:23:24 → 00:23:28 หลังๆก็มันก็มันก็ข้อมูลนี้ก็หายไปะว่า
00:23:28 → 00:23:31 มันไม่ชัดเจนนะครับนะงั้นถึงเน้นว่าเรา
00:23:31 → 00:23:33 จริงๆเรากินธรรมชาติดีกว่านะครับกินอาหาร
00:23:33 → 00:23:36 ครบ 5 หมูเนี่ยดีที่สุดละออกกำลังกายนะ
00:23:36 → 00:23:39 ครับถ้าถ้าจะกินอาหารครบ 5 หมู่มันก็จะ
00:23:39 → 00:23:42 กว้างสมมุติว่าในวิตามินบีที่ที่อาหารตัว
00:23:42 → 00:23:47 ไหนที่พอที่เราจะเป็นเอ่อเป็นธงนำให้เรา
00:23:47 → 00:23:49 กินได้มันบ่อยๆคือธัญพืชมั้ยคะคุณหมอหรือ
00:23:49 → 00:23:51 ว่าข้าวซ้อมมือเป็นธัญพืชหรือเป็นข้าว
00:23:51 → 00:23:54 ซ้อมมืออะไรประนี้ก็จะเป็นพวก B1 ใช่มั้ย
00:23:54 → 00:23:57 ครับประมาณนั้นอนะครับแล้วก็ถ้าเป็น B2
00:23:57 → 00:23:59 ก็จะเป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์สัตว์ทั้งหลาย
00:23:59 → 00:24:02 เลยทั้งเนื้อสัตว์นะครับนมชีสไข่เงี้นะ
00:24:02 → 00:24:07 ครับก็จะมีอปอยู่ใช่ครับประมาณนั้นนมกิน
00:24:07 → 00:24:10 บ้างแต่ก็ไม่ใช่ว่าใช่ครับไม่ใช่ว่าจะ
00:24:10 → 00:24:13 ต้องทุกวันซึ่งพวกนี้มันก็จะมีวิตามินบี
00:24:13 → 00:24:16 ประเภทอื่นคนอยู่ะนะครับนะซึ่งซึ่งเราก็
00:24:16 → 00:24:20 จะจริงๆเราก็จะมีความต้องการของเราเนี่ย
00:24:20 → 00:24:23 ในการกินวิตามินในการต้องการวิตามินแต่ละ
00:24:23 → 00:24:25 วันเมันไม่ได้ไม่ได้มากนะถ้าเรากินอาหาร
00:24:25 → 00:24:28 ครบ้าหมตามปกติเยังไงมันก็ครบมันก็ได้นะ
00:24:28 → 00:24:31 ครับใช่ครับว่าแต่รเป็นโรคบางอย่างเช่น
00:24:31 → 00:24:34 เอ่อถูกตัดลำไส้เพราะวิตามิน B12 เมันตัด
00:24:34 → 00:24:37 มันดูดซึมที่ลำไส้เล็กอะไรพวกเยนะนะก็อัน
00:24:37 → 00:24:40 นั้นก็คนพวกนั้นก็อาจจะแค่กินก็ไม่พอต้อง
00:24:40 → 00:24:43 ฉีดอะไรพวกเนะครับฉีดข้าวสะโพกเพราะว่า
00:24:43 → 00:24:46 กินไปไม่ดูซึมอะไรพวกนี้นะครับอืแต่ว่าใน
00:24:46 → 00:24:48 คนปกติถ้าไม่ได้มีปัญหาอะไรการทานอาหาร
00:24:48 → 00:24:51 ครบผ้าหมูก็ก็เพียงพอแล้วครับอืก็เพียงพอ
00:24:51 → 00:24:55 นะครับอครับนี่คือผมก็ได้ยินสิ่งที่ไม่
00:24:55 → 00:24:58 ว่าจะเป็นคุณหมอแขนงไหนนะไอ้พวกอาหาร
00:24:58 → 00:24:59 เสริมหรือว่าวิตามินอะไรอย่าเงี้ยไม่
00:24:59 → 00:25:02 จำเป็นเพียงแค่ขอให้กินอาหารให้ครบ 5
00:25:02 → 00:25:05 หมู่ใช่อย่างคุณหมอบอกมันก็อยู่ในแวดวง
00:25:05 → 00:25:09 ของอาหารในทุกๆจานที่เราเห็นอยู่เนาะเส้น
00:25:09 → 00:25:12 ข้าวเราก็อาจจะมีข้าวเข้ากล้องข้าวซ้ำมือ
00:25:12 → 00:25:15 เรามาปนอยู่บ้างกับเปลี่ยนจากข้าวขาวเป็น
00:25:15 → 00:25:17 ข้าวกล้องอะไรู้ถึงประโยชน์ของมันหรือว่า
00:25:17 → 00:25:19 น้ำเต้าหู้ได้ใช่มั้ยคะคุณหมอถั่วเหลือง
00:25:19 → 00:25:21 ครับได้ครับบางคนก็บางคนกินข้าวกล้อง
00:25:21 → 00:25:24 อย่างเดียวแล้วมีปัญหาว่าท้องผูกเลยก็อาจ
00:25:24 → 00:25:26 จะเป็นข้าวขาวผสมข้าวกล้องก็ได้อะไรประมา
00:25:26 → 00:25:28 นะครับอ๋อกลับกลายเป็นท้องผูกเหรอฮะเออ
00:25:28 → 00:25:31 ใช่ๆหลายคนหลายคนผู้สูงอายุคนอไม่ไม่
00:25:31 → 00:25:34 เหมือนกับเรามีปัญหาคนทั่วไปหลายคนมี
00:25:34 → 00:25:37 ปัญหาจริงๆครับคุณหมอพอดีว่ามีคำถามจาก
00:25:37 → 00:25:39 คุณผู้ฟังทางบ้านเนี่ยสอบถามมาก็ฟังที่
00:25:39 → 00:25:43 คุณหมอได้อธิบายมาตั้งแต่ตอนต้นก็แหมเรา
00:25:43 → 00:25:45 ก็มีอาการชากันอาจจะเป็นกังวลอาจจะเป็น
00:25:45 → 00:25:48 กังวลได้ดีกว่าคือคุณผู้ฟังท่านนี้บอกว่า
00:25:48 → 00:25:51 เป็นโรคเบาหวานครับมีอาการชาที่มือไม่
00:25:51 → 00:25:57 เท่ากันชาที่เท้าบ้างมือบ้างชาบ้างไม่ชา
00:25:57 → 00:26:00 บ้างแบบเนี้ยถือว่าผิดปกติมยครับหรือว่า
00:26:00 → 00:26:05 มันเป็นปกติของคนที่มีอาการที่เป็นโรคเบา
00:26:05 → 00:26:08 หวานรวมอยู่ด้วยฮะคือเบาหวานเนี่ยมันมัน
00:26:08 → 00:26:11 มันมาได้หลายรูปแบบครับครับโดยตัวโรคเบา
00:26:11 → 00:26:13 หวานเองเนี่ยส่วนใหญ่ถ้ามีอาการปลาย
00:26:13 → 00:26:15 ปราศาสเนี่ยมันจะมีอาการชาที่ปลายเท้า
00:26:15 → 00:26:17 ก่อนนะครับทั้ง 2 ข้างซึ่งอย่างที่บอกถ้า
00:26:17 → 00:26:19 มันเป็นน้อยๆมันอาจจะเป็นในหายหือมันไม่
00:26:19 → 00:26:21 ชัดเจนครับนะครับแต่ถ้าเกิดว่าเป็นมาก
00:26:21 → 00:26:24 ขึ้นมันอาจจะชาถาวรหรือว่าพกรามมากขึ้น
00:26:24 → 00:26:26 ได้นะครับทีนี้โรคเบาหวานเองเนี่ยมันก็
00:26:26 → 00:26:29 เป็นความเสี่ยงของการเกิดพวกเส้นประสาส
00:26:29 → 00:26:31 ถูกกดทับด้วยนั้นคนไข้เบาหวานบางคนก็จะมี
00:26:31 → 00:26:34 การชามือซึ่งพวกนี้ส่วนใหญ่ที่เกิดก็คือ
00:26:34 → 00:26:37 เกิดจากการที่มันมีพังผืนไปทับเส้นประสาท
00:26:37 → 00:26:40 เพราะบาหวามันกระตุ้นให้เกิดการการบาด
00:26:40 → 00:26:44 เจ็บได้ง่ายขึ้นนะครับแล้วก็เช่นเพวกคนม
00:26:44 → 00:26:46 อะไรพวกเนะครับเพราะงั้นคนไข้บาวาหลายคน
00:26:46 → 00:26:48 ก็อาจจะมีอาการชามือร่วมด้วยนะครับตรงนี้
00:26:48 → 00:26:50 ซึ่งจริงๆแล้วหลายๆท่านที่เป็นบาหวานอยู่
00:26:50 → 00:26:54 ก็อาจจะวิตกกังวลว่าว่าว่าเอ่อจะป้องกัน
00:26:55 → 00:26:58 ยังไงจริงที่วิธีการที่ดีที่สุดก็คืออ่า
00:26:58 → 00:27:01 คุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกตินะครับ
00:27:01 → 00:27:03 ให้ให้ให้ได้มากที่สุดตรงนี้ก็จะเป็นการ
00:27:03 → 00:27:06 ช่วยป้องกันได้หรือว่าในผู้ป่วยที่มี
00:27:06 → 00:27:08 อาการชาอยู่แล้วอะไรอย่าเงี้ยนะครับมี
00:27:08 → 00:27:10 อาการประสาทอยู่แล้วนะครับการที่เราคุม
00:27:11 → 00:27:14 น้ำตาลได้ดีอ่าอย่างน้อยเนี่ยมันก็ป้อง
00:27:14 → 00:27:16 กันไม่ให้โรคมันเป็นมากขึ้นได้หรือว่ามัน
00:27:16 → 00:27:20 แย่ลงเร็วขึ้นอะไรพวกนี้นะครับอืือันนี้
00:27:20 → 00:27:22 สำหรับกรณีของคนที่เป็นโรคเบาวานคือเป็น
00:27:22 → 00:27:26 อาการชาที่แกอาจจะมองคุณาจจะมมันเป็นคู่
00:27:26 → 00:27:30 กับอาการชาอยู่แล้วเราได้ยากแต่ว่าแต่ว่า
00:27:30 → 00:27:32 สิ่งที่เราสามารถทำได้ดีที่สุดก็คือคุม
00:27:32 → 00:27:35 น้ำตาลให้ดีนะครับจะสังเกตว่าเอ๊ะทำไมไป
00:27:35 → 00:27:39 โรงพยาบาลคุณหมอจะชอบจ้ำี้จ้ำชัยว่าตเวลา
00:27:39 → 00:27:42 เราคุมน้ำตาลไม่ดีหมอเรู้ว่าถ้าคุมน้ำตาล
00:27:42 → 00:27:44 ไม่ดีมันจะมีอะไรตามมามันมีทั้งเบาหวาน
00:27:44 → 00:27:48 ขึ้นจอตามมีทั้งเบาหวานลงไกมีทั้งปลาย
00:27:48 → 00:27:52 ประสาทหลายๆอย่างนะครับงนี้นะครับแล้วมัน
00:27:52 → 00:27:55 ก็หมอเขหวาดีมันมันจะอยู่คู่ไปตลอดกับคน
00:27:55 → 00:27:57 ที่เป็นเบาหวานร่ะคะอาการชาเนี่ยค่ะคุณ
00:27:57 → 00:28:00 หมอครับมันก็มันก็คือเป็นตามเวลาครับยิ่ง
00:28:00 → 00:28:02 เป็นเบาหวานนานขึ้นโอกาสก็จะเจอปลาย
00:28:02 → 00:28:05 ประสาทเยอะขึ้นนะครับถ้าเกิดเป็นเบาหวาน
00:28:05 → 00:28:08 เพิ่งเริ่มแรกก็อาจจะอาการอาจะไม่ชัดเจน
00:28:08 → 00:28:11 นะครับแต่ถ้าคุมน้ำตาลได้มันก็จะไม่มากก็
00:28:11 → 00:28:14 ชะลอใช่ถ้าเรามี 2 คนเริ่มต้นเป็นบหวาน
00:28:14 → 00:28:16 พร้อมกันคนนึงคุมน้ำตาลได้ดีเลยอีกคนนึง
00:28:16 → 00:28:19 คุมน้ำตาลไม่ดีเลยอือคนที่คุมน้ำตาลไม่ดี
00:28:19 → 00:28:21 ก็อาจจะมีภาวะแซกก็มีโอกาสจะเกิดภาวะ
00:28:21 → 00:28:24 แซกซอนจะเบาหวานเยอะกว่านะครับอื้อหืออโอ
00:28:24 → 00:28:26 เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องของการคุมน้ำตาล
00:28:26 → 00:28:29 เนี่ยถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากคุณผู้ฟังจะ
00:28:29 → 00:28:31 วิตกเรื่องของการที่แบบที่อธิบายว่าสมมาต
00:28:32 → 00:28:34 ไม่สมมาตแล้วแกไม่ใช่อะไรอย่างงั้นไม่ไม่
00:28:34 → 00:28:37 เป็นไรคือคุมน้ำตาลไปก่อนเดีเจอแบบนั้น
00:28:37 → 00:28:40 ใช่ครับเพราะโษาที่เจอได้บสุดคือเบาหวาน
00:28:40 → 00:28:43 ครับอ๋อเบาหวานเลยใช่มกญชาเป็นเป็นผลพวง
00:28:43 → 00:28:46 ของของเบาหวานใช่ครับแล้วถ้าอย่างโรคอื่น
00:28:46 → 00:28:49 นะฮะคุณหมอครับคือก็มีคุณผู้ฟังหลายท่าน
00:28:49 → 00:28:51 ก็แอบกังวลมาเหมือนกันอะไรเงี้เรองของ
00:28:51 → 00:28:53 ประสาทใช่มั้เออเรื่องของเกี่ยวกับโรคประ
00:28:53 → 00:28:56 เพราะว่าอตมาน่ใหญส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่
00:28:56 → 00:29:02 อยู่ในวัยค่อนข้างที่จะมี
00:29:02 → 00:29:08 ใชหครับก็สสก็จะเป็นสาเหตุจะเกิดจากความ
00:29:08 → 00:29:11 เสื่อมของเหมือนกับการเกิดจากการใช้งานนะ
00:29:11 → 00:29:14 ครับอย่างเช่นสาเหตุที่เจอได้บ่อยอันนี้
00:29:14 → 00:29:16 ก็เป็นพวกหมอดกทสิ้นประสาทที่เอที่คออะไ
00:29:16 → 00:29:20 พวกเนะครับหถ้าคนไปทำงานก็เกิดจากคล้ายๆ
00:29:20 → 00:29:24 พวกอมพฤติกรรมการนั่งอยู่ท่าเดิมนานๆนะ
00:29:24 → 00:29:27 ครับไขวห้างมือเท้าโต๊ะใช้งานข้อมือเยอะๆ
00:29:27 → 00:29:30 อะไรเนะครับพวกนี้ก็เป็นโรคที่เจอได้บ่อย
00:29:30 → 00:29:34 นะครับอืแล้วต้องปรับพฤติกรรมเราใช่ครับ
00:29:34 → 00:29:37 ปรับพฤติกรรมถ้าผู้สูงอายุเค้าจะใช้วิธี
00:29:37 → 00:29:41 ยืดเหยียดเขจะแบบทำให้อาการเสื่อมเมันลด
00:29:41 → 00:29:43 น้อยลงไม่กดทับได้ใช่มรเราก็ต้องระวัง
00:29:43 → 00:29:45 อย่างเช้นหลังเนี่ยเราต้องระวังเรื่องการ
00:29:45 → 00:29:47 ยกของหนักด้วยอะไพวกเยนะเพราะส่วนใหญ่
00:29:48 → 00:29:51 เวลาเรายกสมัยหนุ่มๆเราก็ก้มยกของหนัก
00:29:51 → 00:29:54 สบายๆไม่มีปัญหาอะไร่เแต่พออายุเยอะมาก
00:29:54 → 00:29:57 ขึ้นเราก็ต้องระมัดระวังพยายามหลีกเลี่ยง
00:29:57 → 00:30:00 อะไรพวกนี้นะครับเอี้ยวตัวอใช่ครับเป็นกม
00:30:00 → 00:30:06 หน้าไปยกยกอะไรยกกระสอบดินอะไรหลายๆคนที่
00:30:06 → 00:30:09 ชอบทำสวนใช่มั้ยฮะซื้อดินซื้ออะไรมายก
00:30:09 → 00:30:11 กระสอบเองยกกระถางเองอะไรเงี้ยนะครับแล้ว
00:30:11 → 00:30:16 ยกผิดท่านะครับนะก็ทำให้มันหมอองกดูมัน
00:30:16 → 00:30:18 เสื่อมมากขึ้นแล้วก็กดทับเส้นประสาทได้
00:30:18 → 00:30:21 อะไพวกนี้ได้นะครับอคุณหมอครับทีนี้มีคำ
00:30:21 → 00:30:24 ถามจากคุณผู้ฟังทางบ้านเนี่ยคืออยากจะขอ
00:30:24 → 00:30:28 คำแนะนำจากคุณหมอหน่อยคือเป็นผู้สูงวและ
00:30:28 → 00:30:32 อือฮึถามคุณหมอว่าคุณหมอพอจะมีคำแนะนำ
00:30:32 → 00:30:35 เรื่องของท่านอนที่ถูกต้องมั้ยครับท่านอน
00:30:36 → 00:30:40 ไหนถึงจะไม่ทำให้เราเนี่ยไปทับแขนแล้วก็
00:30:40 → 00:30:42 อาจจะทำให้ไหล่เราติดได้ครับคุณหมอครับ
00:30:42 → 00:30:45 อ๋อจริงๆอันนี้ก็มันเป็นแล้วแต่สไตล์ของ
00:30:45 → 00:30:48 แต่ละคนมันเป็นธรรมชาติไปเวลาหลับมันก็
00:30:48 → 00:30:51 ไม่รู้นะเพราะว่าเพราะว่าบางคนมันคนเรามี
00:30:51 → 00:30:55 ความชอบไม่เหมือนกันชอบชอบนอนตะแคงบางคน
00:30:55 → 00:30:58 ชอบนอนหงายบางคนชอบหมอนเปี้ยบางคนชอบชอบ
00:30:58 → 00:31:01 บอสูงบางคนชอบเตียงนิ่มบางคนชอบเตียงแข็ง
00:31:01 → 00:31:04 เลยพวกนี้นะครับว่าเหลนี้ก็ก็ต้องดูว่า
00:31:04 → 00:31:08 ส่วนตัวเราชอบอะไรนะครับท่าไหนก็แต่ว่าก็
00:31:08 → 00:31:10 เอาท่าที่เราสบายที่สุดอนะครับแล้วก็ไม่
00:31:10 → 00:31:13 ไม่ไม่ผิดธรรมชาติมากเกินไปเช่นเอามือ
00:31:13 → 00:31:17 เท้าสอเอาเอาเค้าเรียกอะไรฮะเอาเหมือนเอา
00:31:17 → 00:31:22 มือไปหนุนเอาเอาแขนไปหนุนคออะไรใชนึกออก
00:31:22 → 00:31:25 นึกออกครับเอาแนผมก็ชอบทำผมก็ชอบทำเอาแขน
00:31:25 → 00:31:30 ไปซุกไว้บางทีก็จะเกิดเน็ตใช่ๆๆๆหรือว่า
00:31:30 → 00:31:35 แบบประมาณแบบนั่งเล่นไผง iPad ก็เก้าอี้
00:31:35 → 00:31:38 หรือว่าที่นั่งมันอาจจะไม่เหมาะสมบางที
00:31:38 → 00:31:42 หลังกับคอมันก็อยู่ในท่าที่หักหรืองอมาก
00:31:42 → 00:31:45 เกินไปอันนี้ก็มีปัญหาได้ไอ้กระดูกคอใน
00:31:45 → 00:31:48 ลักษณะการนอนเนี่ยหมอนเนี่ยมันเป็นปัญหา
00:31:48 → 00:31:51 มากเลยนะคะคุณหมออย่างหมอนสุขภาพบางครั้ง
00:31:51 → 00:31:53 ที่เราซื้อมาไม่รู้ตั้งกี่ใบแต่กี่ใบมัน
00:31:53 → 00:31:57 ก็ไม่เห็นเที่จะแก้ปัญหาอะไรได้เท่าที่
00:31:57 → 00:32:00 ควรเคุณหมอเราควรทำยังไงดีต้องไปลองเอง
00:32:00 → 00:32:03 ครับหมอนี่คตเพราะคนไข้หลายคนใช้ใช้หมอ
00:32:03 → 00:32:06 สุขภาพออกว่าดีแต่บางคนซื้อไม่ใช้แล้วก็
00:32:06 → 00:32:09 บอกว่าไม่ดีไม่สบายอะไเงี้ยหมอนนี้ต้อง
00:32:09 → 00:32:11 ต้องลองเองต้องต้องลองุดูครับไม่มีหลัก
00:32:11 → 00:32:15 การอะไรที่แน่นอนใช่เพราะหมอนธรรมดาก็แบบ
00:32:15 → 00:32:18 แข็งนิ่มไม่เท่ากันหนาบางไม่เท่ากันอัน
00:32:18 → 00:32:20 นี้ต้องแล้วแต่คนเอาค่าที่เราสบายนะครับ
00:32:20 → 00:32:22 แต่ว่าที่ที่เราสามารถนั่นได้คืออย่าอย่า
00:32:22 → 00:32:24 อยู่ท่าเดิมซ้ำๆก็ต้องเปลี่ยนอิริยาบถไป
00:32:24 → 00:32:28 เรื่อยๆนะครับอ่ะครับแล้วที่นอนนิ่มหรือ
00:32:28 → 00:32:31 แข็งที่จะดีบางคนก็บอกว่าน่าจะแข็งหน่อย
00:32:31 → 00:32:34 ใช่มั้ยคะใช่บางคนบอกว่าที่นอนแข็งแล้วดี
00:32:34 → 00:32:37 ว่าอีกคนบางคนนอนแล้วเจ็บหลังอะไรผมว่า
00:32:37 → 00:32:40 มันเป็นมันก็ต้องแล้วแต่อีกอย่างคุณผู้
00:32:40 → 00:32:43 ฟังก็คงคิดเรื่องของการที่จะเอ่อมีท่า
00:32:44 → 00:32:46 อะไรมั้ยหรือว่าเอาเอาหมอนข้างไปไปประกบ
00:32:46 → 00:32:50 ไว้ข้างหลังมั้ยบางคนเบอกว่าเตะแคงแล้ว
00:32:50 → 00:32:53 แล้วไปทับใช่มั้ยก็เอาอะไรมาเอนเอนหลัง
00:32:53 → 00:32:56 ไว้อีกทีนึงก็ไม่ควรจะไปตึงกำลังอะไรมาก
00:32:56 → 00:32:58 ใช่มั้ยคุณหมอตอนนอนเนี่ยน่านอนไม่ค่อยมี
00:32:58 → 00:32:59 ปัญหาหรอกครับเพราะส่วนใหญ่เรามักจะ
00:32:59 → 00:33:02 เปลี่ยนพริกแขตัวโดยที่เราไม่รู้สึกตัว
00:33:02 → 00:33:05 อยู่แล้วใช่ครับเพียแต่ว่าเราก็อย่ากินยา
00:33:05 → 00:33:09 ที่มันมีฤทธทำให้เราง่วงหรือหลับหรือซึม
00:33:09 → 00:33:12 มากเกินไปทำให้เราอยู่ในท่าเดิมนานๆอะไร
00:33:12 → 00:33:15 พวกเนะครับอย่างงคนทานยานอนหลับหลายตัว
00:33:15 → 00:33:18 เงี้หลับลึกเลยคราวนี้ไม่ไม่ขยับเลยอะไร
00:33:18 → 00:33:21 ประมาณนี้นะครับอือย่าเผลอเลยอย่าเผลอเลย
00:33:21 → 00:33:23 อันอันนี้น่ากลัวนะไอ้ยาแก้แพ้ยาอะไรบาง
00:33:23 → 00:33:26 ทีมันก็ทำให้เราหลับไหลอันนี้เราก็เลยนึก
00:33:26 → 00:33:28 ถึงกรณีที่คุณหมอได้ยกตัวอย่างไว้เมื่อ
00:33:28 → 00:33:30 ตอนต้นรายการเรื่องไอ้ที่เมาอ่ะไออาการด
00:33:30 → 00:33:33 อาจจะหลับอาจจะหลับโดยที่แบบว่าเราไปทับ
00:33:34 → 00:33:36 นู่นนั่นนี่อะไรอย่างเงี้ยก็เป็นไปได้โดย
00:33:36 → 00:33:37 ที่เราอาจจะแบบหลับลึกไม่รู้ตัวอะไรอย่าง
00:33:37 → 00:33:40 งี้เลยนะโลกโๆแบบนี้คนไทยมีมั้ยคะคุณหมอ
00:33:40 → 00:33:43 ที่ฝรั่งเป็นได้เพราะเราก็บางทีก็กินกิน
00:33:43 → 00:33:46 เลแล้วก็เผลอซุกกับโต๊ะอะไรนี้ได้ระยะระ
00:33:46 → 00:33:50 ให้กับดีนี่ไงช่วงสงกรานต์ไงโอ้โหทุกซุ้ม
00:33:50 → 00:33:53 เลยอ่ะไปที่ไหนก็ได้เนี่ยคุณหมอครับเนี่ย
00:33:53 → 00:33:55 มีคุณผู้ฟังทางบ้านเนี่ยถามไปเหมือนกัน
00:33:55 → 00:33:57 ว่าเนี่ยกินยาแก้เหน็บชาเนี่ยทานยังไงก็
00:33:57 → 00:34:00 ไม่หายชาเหมือนเดิมโดยเฉพาะช่วงที่ใกล้จะ
00:34:00 → 00:34:02 ตื่นนอนเนี่ยชอบชามือตลอดเลยคุณหมครับใ
00:34:02 → 00:34:05 ใกล้ตื่นนอนจะเป็นมีอาการชาตลอดคุณหมออ
00:34:05 → 00:34:07 ไอ้เรื่องของการทานยานี่มันก็ไม่ได้ดี
00:34:07 → 00:34:10 ด้วยเหรอคะเออนั่นน่ะสิฮะเอจริงๆถ้าถ้า
00:34:10 → 00:34:12 ถ้าถ้าถามว่าตื่นนอนแล้วชามมือเนี่ยส่วน
00:34:13 → 00:34:15 ใหญ่ก็จะเป็นลักษณะของตัวพวก carpal
00:34:15 → 00:34:17 Syndrome อนะครับมีทางผืนทับที่เส้น
00:34:17 → 00:34:20 ประสาทที่ข้อมือนะครับซึ่งสาเหตุมันเกิด
00:34:20 → 00:34:23 จากการกดทับอนะครับจริงๆถ้าเราเอาตาม
00:34:23 → 00:34:25 สาเหตุจริงก็ต้องไปรักษาด้วยการผ่าอนะ
00:34:25 → 00:34:26 ครับนะ
00:34:26 → 00:34:29 อุยเไม่ได้ายขายวิตามินถูกมั้ยฮะเราไปกิน
00:34:29 → 00:34:32 วิตามินมันก็อาจจะไม่ได้แก้ปัญหาที่ถูก
00:34:32 → 00:34:35 จุดมากนักงั้นมันก็อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรนะ
00:34:35 → 00:34:39 ครับนะถ้าถ้าถ้าเป็นโรคนี้จริงเนี่ยเไม่
00:34:39 → 00:34:42 อยากผาตัเนี่ยบางคนเขาก็คุณหมอบางท่านเขา
00:34:42 → 00:34:44 ก็แนะนำให้ใส่เหมนพวกเฝือกอ่ะนะครับนะ
00:34:44 → 00:34:47 เหมือนเป็นเฝือกที่เป็นเหล็กที่เป็นเฝือก
00:34:47 → 00:34:49 ที่สามารถถอดได้นะครับนจะเป็นเหล็กที่ดา
00:34:49 → 00:34:52 มือให้อยู่ในท่าตรงไว้ไม่ให้หักไปให้งอก็
00:34:52 → 00:34:55 อาจพอช่วยบรรเทาอาการได้แต่มันก็อาจจะ
00:34:55 → 00:34:57 เหมาะสำหรับคนไข้ที่อาการเป็นไม่เยอะไม่
00:34:58 → 00:35:01 รุนแรงนะครับนี่พูดถึงข้อมือใช่มั้ยคะใช่
00:35:01 → 00:35:04 ครับอถ้าเป็นส่วนใหญ่คนมเนี่ยก็อย่างที่
00:35:04 → 00:35:06 เราเคยคุยกันมันก็จะชาที่นิ้วโป้งนิ้วชี้
00:35:06 → 00:35:09 นิ้วกลางอาจจะมีบางส่วนของนิ้วนางเงี้
00:35:09 → 00:35:12 ตื่นเช้ามาก็อาจจะมีอาการชาที่นิ้วมือ
00:35:12 → 00:35:14 สะบัดๆัมือแล้วดีขึ้นอะไรพวกเงี้ยหรืออาจ
00:35:14 → 00:35:16 จะบางคนถ้าเป็นเยอะอาจจะมีอาการปวดร่วม
00:35:16 → 00:35:18 ด้วยอะไรพวกเงี้นะครับอันนี้ก็เป็นลักษณะ
00:35:18 → 00:35:21 ของตัว Car Syndrome เพราะว่ากลางคืนเรา
00:35:21 → 00:35:23 มักจะเผลอนอนแล้วหักหรืองอข้อมือโดยที่
00:35:23 → 00:35:27 เราไม่รู้ตัวนะครับอืออืฟังแล้วก็เหมือน
00:35:27 → 00:35:30 จะเป็นเหมือนกันแต่มันยังไม่ค่อยบ่อยอัน
00:35:30 → 00:35:33 นี้ต้องถามปรึกษาคุณหมอได้โอนี่แหละถึง
00:35:33 → 00:35:37 เป็นประเด็นของชาอย่าเฉยนี่เออใช่คุณหมอ
00:35:37 → 00:35:40 เมื่อกี้เ่าที่คุณหมอแนะนำเรื่องของอ่ะ
00:35:40 → 00:35:42 ถ้าอายุเยอะละอ่าเรื่องของการยกน้ำหงน้ำ
00:35:42 → 00:35:44 หนักอะไรอย่างเงี้ยอย่าไปยกเยอะมันมีความ
00:35:44 → 00:35:46 สุ่มเสี่ยงอะไรเงี้ยก็เลยมีคุณผู้ฟังทาง
00:35:46 → 00:35:49 บ้านเนี่ยสอบถามคุณหมอมาเหมือนกันอันนี้
00:35:49 → 00:35:54 ไม่แน่ใจว่าคุณหมอเออจะตอบพอจะไขข้อกระจั
00:35:54 → 00:35:56 ได้มั้ยคือถ้ายกของหนักให้ปลอดภัยต้องยก
00:35:57 → 00:36:00 ประมาณักักขนาดไหนครับถึงจะปลอดภัยคุณหมอ
00:36:00 → 00:36:03 ครับโอหดูเป็นคำถามที่กว้างมากเลยครับคุณ
00:36:03 → 00:36:06 หมอค่อนข้างก้าดจะเป็นดูท่าดีกว่านะ
00:36:06 → 00:36:09 สังเกตถ้าเคยหลายๆคงเคยใชคำแนะนำมาแล้ว
00:36:10 → 00:36:13 ว่าเวลายกของเราจะไม่ได้ก้มให้ก้มแล้วยก
00:36:13 → 00:36:16 ของเราจะให้นั่งยองๆแล้วให้ตงใช่มฮะแล้ว
00:36:16 → 00:36:19 ก็ใช้มือประคองของขึ้นมาแล้วยืตัวตงขึ้น
00:36:19 → 00:36:24 มาในท่านั้นมากกว่าอย่าไปก้มที่แบบตัวตัว
00:36:24 → 00:36:27 ยืนขาตรงอย่างงั้นไม่ใช่ไม่ใช่แบบยืนขา
00:36:27 → 00:36:30 ตรงแล้วก็งอตัวแล้วไปหยิบของขึ้นมาไม่ใช่
00:36:30 → 00:36:33 เราจะต้องยืดตัวตรงหลังกับเอวนี่อยู่ใน
00:36:33 → 00:36:36 แนวเดียวกันตรงแล้วก็ย่อตัวลงไปอือใช่มั้
00:36:36 → 00:36:39 ฮะเราใช้มือประคองของขึ้นมานะครับก็โดย
00:36:39 → 00:36:41 ที่ตัวไม่ได้ข้มไม่ได้หงอกนั้นก็จะช่วยพอ
00:36:41 → 00:36:44 บรรเทาเราได้นะครับคือร่างกายเราไม่ได้
00:36:44 → 00:36:46 เป็นผู้เยนี่มันก็แล้วแต่คนอ่ะนะครับ
00:36:46 → 00:36:49 อย่างผู้สูงอายุบางท่านก็ออกกำลังกายมา
00:36:49 → 00:36:52 ตลอดก็ร่างกายแข็งแรงข้ามเืแข็งแรงก็น้ำ
00:36:52 → 00:36:55 หนักก็มากกว่าคนที่ปกติไม่หอมแห้งแรงน้อย
00:36:55 → 00:36:58 ไม่ได้ออกกำลังกายอยู่ละครับตรงนี้ก็ไม่
00:36:58 → 00:37:00 ได้มีตัวเลขตายตัวอก็คงให้ดูท่าดีกว่านะ
00:37:00 → 00:37:04 เออว่ายกท่าไหนจะปลอดภัยกับเอ่อร่างกาย
00:37:04 → 00:37:06 ของเรามากที่สุดมากถึงช่วงท้ายๆแล้วครับ
00:37:06 → 00:37:09 คุณหมอครับอยากจะให้คุณหมอช่วยฝากคำแนะนำ
00:37:09 → 00:37:13 อะไรให้กับคนฟังรายการของเรานิดนึงว่าอ่ะ
00:37:13 → 00:37:17 ทำอย่างไรเออควรจะต้องไปพบแพทย์และ
00:37:17 → 00:37:22 อ่าครับก็ 1 ก็คือมันเป็นเอ่อความรู้สึก
00:37:22 → 00:37:25 ที่ลดน้อยลงนะครับใช่มั้ยฮะนะครับไม่จะ
00:37:25 → 00:37:27 ไม่ใช่แบบเหมือนเน็ตอะไรทั่วๆไปก็คือเป็น
00:37:28 → 00:37:30 รู้สึกว่าเอ้ยมันหนาๆสัมผัสแล้วมันรู้สึก
00:37:30 → 00:37:33 ลดลงมันอาจจะไม่ถึงขั้นว่าไม่รู้สึกเลย
00:37:33 → 00:37:35 แต่ว่าอาจจะสัมผัสไม่เท่าความรู้สึกไม่
00:37:35 → 00:37:38 เท่ากับตำแหน่งอื่นที่ปกตินะครับถ้ามันดู
00:37:38 → 00:37:42 เป็นแบบดูเป็นเป็นห่ายๆแต่มันผีขึ้นหือ
00:37:42 → 00:37:44 เป็นตลอดหรือเป็นมากขึ้นนะครับนะหรือว่า
00:37:44 → 00:37:48 ต่อยาวนานอใช่หรือมันมีโรคกับอาการอื่น
00:37:48 → 00:37:50 เช่นอ่อนแรงหรืออารป่วดอะไรพวกนี้นะครับ
00:37:51 → 00:37:53 นะก็ได้นำมาพบแพทย์เพื่อเพื่อหาสาเหตุนะ
00:37:53 → 00:37:57 ครับส่วนสำหรับสาเหตุเนี่ยเรื่องเรื่อง
00:37:57 → 00:37:59 เรื่องการหาสาเหตุเนี่ยจริงๆมันโรคมัน
00:37:59 → 00:38:01 ค่อนข้างกว้างมีลายโรคเพราะนั้นส่วนใหญ่
00:38:01 → 00:38:04 ก็คุณหมอก็จะซักปัดตนร่างกายก่อนก็จะมี
00:38:04 → 00:38:07 ไอเดียว่าเควรจะทำไรต่อนะครับแต่ว่าถ้า
00:38:07 → 00:38:10 ให้ข้อมูลในภาพรวมก็สาเหตโลกของปายประสาท
00:38:10 → 00:38:13 ที่จะได้บ่อยสุดก็ในทั่วๆทั้งทั่วโลกนะ
00:38:13 → 00:38:15 ครับคือปวานะครับเพราะฉะนั้นใครที่เป็น
00:38:15 → 00:38:18 ปวาอยู่แล้วก็ไม่ต้องวิตกกังวลนะครับถ้า
00:38:18 → 00:38:21 เราคุมน้ำตาลได้ดีอะไรเงี้นะครับนะแล้วก็
00:38:21 → 00:38:24 กินอาหารครบ5ผหมูไม่ขาดวิตามินอะไรพวกนี้
00:38:24 → 00:38:26 นะครับออกกำลังกายสม่ำเสมอมันก็ช่วยช่วย
00:38:26 → 00:38:29 ชะลออของโลกได้นะครับนะโลกมันอาจจะไม่ได้
00:38:29 → 00:38:32 แย่อย่างที่เรากังวลนะครับอืคุณหมอคะสอบ
00:38:32 → 00:38:35 ถามนิดนึงอย่างสถาบันปราสาทวิทยาเรา
00:38:35 → 00:38:39 สามารถเป็นเหมือนโรงพยาบาลแห่งนึงที่เรา
00:38:39 → 00:38:41 สามารถจะไปพบคุณหมอได้มั้ยคะเราจะวิตก
00:38:41 → 00:38:44 จริตไปมั้ยว่าเออเราไปหาคุณหมอในด้านของ
00:38:44 → 00:38:47 ผู้เชี่ยวชาญด้านด้านประสาทที่นี่เลยหรือ
00:38:47 → 00:38:49 เราควรไปโรงพยาบาลธรรมดาก็ได้คะคุณหมอ
00:38:49 → 00:38:51 จริงๆก็เริ่มจากโรงพยาบาลใกล้บ้านเหมือน
00:38:51 → 00:38:54 ก็ได้นะครับแล้วก็แล้วก็ถ้าสุดท้ายถ้าหา
00:38:54 → 00:38:56 แล้วแล้วมันมีปัญหาจริงริหรือหาเราไม่เจอ
00:38:56 → 00:39:00 อะไรก็จะมีการส่งต่อเป็นทอดๆนะครับนะนะ
00:39:00 → 00:39:03 ครับอืก็เริ่มจากใกล้บ้านก่อนอ่าแล้ว
00:39:03 → 00:39:07 เดี๋ยวค่อยไปถ้ามันถ้ามันรุนแรงหรือว่า
00:39:07 → 00:39:09 อาจจะหนักหนาสาหัสก็เดี๋ยวจะมีการส่งต่อ
00:39:09 → 00:39:11 ไปที่โรงพยาบาลประสาทเพื่อที่จะไป
00:39:11 → 00:39:14 วินิจฉัยโรคต่อไปนะครับก็จริงๆก็มีหลาย
00:39:14 → 00:39:16 โรงพยาบาลที่สามารถตรวจได้นะครับเห็นว่า
00:39:16 → 00:39:19 โรงพยาบาลขนาดใหญ่เดี๋ยวนี้กระทรวงเก็
00:39:19 → 00:39:23 พัฒนาไปเยอะของแวิถีของกรมการแพทย์เออโรง
00:39:23 → 00:39:26 พยาบาลศูนย์ตามต่างจังหวัดโรงพยาบาลใหญ่ๆ
00:39:26 → 00:39:28 เงี้ยเออก็ได้อยู่เหมือนกันนะครับโรง
00:39:28 → 00:39:30 พยาบาลจังหวัดก็เป็นโรงพยาบาลศูนหมดหือเ
00:39:30 → 00:39:34 นะครับอ่าใช่ๆๆเพราะฉะนั้นก็สามารถไปที่
00:39:34 → 00:39:37 โรงพยาบาลใกล้บ้านกนได้ใช่ถ้าหากมีอาการ
00:39:37 → 00:39:38 นะอย่าปล่อยทิ้งไว้นะครับเพราะว่ามันอาจ
00:39:38 → 00:39:42 จะมีอะไรที่แอบซ่อนอยู่ในร่างกายของเรา
00:39:42 → 00:39:44 ที่เราคาดไม่ถึงก็เป็นก็ขอให้แข็งแรงแข็ง
00:39:44 → 00:39:46 แรงกันทุกท่านใช่ครับผมวันนี้ต้องขอ
00:39:46 → 00:39:48 ขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะครับที่มาให้ความ
00:39:48 → 00:39:50 รู้กับเราค่ำคืนวันนี้นะครับคุณหมอครับ
00:39:50 → 00:39:52 ขอบพระคุณมากค่ะกราขอบพระคุณมากครับคุณ
00:39:52 → 00:39:55 หมอครับสวัสดีครับสดี