00:00:00 → 00:00:02 เราจะไปพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใน
00:00:02 → 00:00:07 เรื่องของโรคกลัวการขาดโทรศัพท์มือถือ
00:00:07 → 00:00:10 กันสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก
00:00:10 → 00:00:11 เลยนะ
00:00:11 → 00:00:18 [เพลง]
00:00:18 → 00:00:22 คะอุบัติการณ์ของโรคกลัวการขาดโทรศัพท์
00:00:23 → 00:00:26 มือถือหรือว่าโนโมโฟเบียเป็นอย่างไรบ้าง
00:00:26 → 00:00:30 คะคือโรคโนโมโฟเบียหรือว่าการกลัวการขาด
00:00:30 → 00:00:34 ขาดโทรศัพท์มือถือนะคะอันเนี้ยก็คือพบได้
00:00:34 → 00:00:36 เรื่อยๆแต่ว่าถ้าสมมุติว่าพบจนใช้คำว่า
00:00:36 → 00:00:39 ป่วยอย่างเงี้ยค่ะอุบัติกาก็จะไม่ได้ต่าง
00:00:39 → 00:00:42 กันกับโรคโฟเบียหรือโรคกลัวเฉพาะทางค่ะ
00:00:42 → 00:00:45 ซึ่งโรคโฟเบียโดยทั้งหมดเนี่ยอาจจะสามารถ
00:00:45 → 00:00:48 พบได้ในคนถึง 5-10 เพของคนทั่วไปไม่ว่าจะ
00:00:48 → 00:00:50 เป็นกลัวอะไรก็ตามอย่างเช่นกลัวความสูง
00:00:50 → 00:00:53 กลัวเลือดกลัวงูแต่ว่าในส่วนของ
00:00:53 → 00:00:56 โนโมโฟเบียค่ะต้องบอกว่าอ่ามันขึ้นอยู่
00:00:56 → 00:00:58 กับว่าความเยอะด้วยว่าอันเนี้ยมันเยอะจน
00:00:58 → 00:01:00 ในระดับของความเป็นโรคเลยหรือว่าเป็นแค่
00:01:00 → 00:01:03 ความรู้สึกว่าไม่สบายใจเฉยๆถ้าไม่มีมือ
00:01:03 → 00:01:07 ถืออะไรเงี้ยค่ะแล้วโรคกลัวการขาด
00:01:07 → 00:01:11 โทรศัพท์มือถือคืออะไรคะโรคกลัวการขาดมือ
00:01:11 → 00:01:14 ถือค่ะเป็นโรคกลัวเฉพาะอย่างประเภทนึงแต่
00:01:14 → 00:01:16 ว่าอย่างที่บอกว่าจริงๆอ่ะค่ะมันไม่ได้
00:01:16 → 00:01:18 เป็นเหมือนการกลัวมือถือทางกายภาพแต่ว่า
00:01:18 → 00:01:21 เป็นการกลัวข้อมูลบางอย่างคือกลัวตกข่าว
00:01:21 → 00:01:23 ถ้าพูดง่ายๆคือกลัวตกข่าวด้วยความที่สมัย
00:01:23 → 00:01:27 เนี้ยค่ะข่าวมันมันเยอะเยอะจนบางอย่างเรา
00:01:27 → 00:01:30 ไม่ได้อยากเสพมันก็เข้าเข้ามาหาเราเอง
00:01:30 → 00:01:32 อะไรเงี้ค่ะแล้วบางทีบางทีถามว่าเอ๊ยการ
00:01:32 → 00:01:34 ที่เรากลัวตกข่าวบางทีเราอาจจะไม่ได้เป็น
00:01:34 → 00:01:37 คนที่ชอบเสพข่าวหรือเสพดราม่าหรอกแต่ว่า
00:01:37 → 00:01:39 เราอาจจะรู้สึกว่าอุ๊ยเดี๋ยวเราจะไม่เข้า
00:01:39 → 00:01:42 พวกหมายถึงทำไมคนนู้นคนนี้เขาคุยกัน
00:01:42 → 00:01:43 เรื่องนู้นเรื่องนี้เรื่องนั้นรู้เรื่อง
00:01:43 → 00:01:46 กันหมดเลยแล้วเราแบบเอมีเรื่องนี้ด้วยหรอ
00:01:46 → 00:01:48 ไม่รู้เรื่องอะไรเงี้ยค่ะหรือว่าแบบอย่าง
00:01:48 → 00:01:50 เช่นเอ๊ะไม่ได้อ่าน LINE กลุ่มหรอทำไม
00:01:50 → 00:01:52 แต่งตัวมาผิดตีมอะไรอย่างเงี้ยค่ะคือมัน
00:01:53 → 00:01:56 เป็นความกังวลใจในพวกอย่างนี้มากกว่าค่ะ
00:01:56 → 00:01:59 ใครคะคือกลุ่มเสียงของโรคกลัวการขาดท
00:01:59 → 00:02:03 ศัพท์มือถืออย่างที่บอกค่ะว่าในการเรื่อง
00:02:03 → 00:02:06 ของโมโฟเบียหรือโรคกลัวการขาดมือถือมันก็
00:02:06 → 00:02:09 จะไปซ้อนๆกันกับพวกของโฟโมหรือว่าคนที่
00:02:09 → 00:02:11 กลัวการตกข่าว Fear of Missing Out
00:02:11 → 00:02:13 เพราะฉะนั้นหลายๆคนที่จะเป็นกลุ่มเสี่ยง
00:02:13 → 00:02:15 จริงๆอ่ะค่ะก็คือจะเป็นคนที่ตรงไปตรงมา
00:02:16 → 00:02:19 ว่าติดมือถือติดการที่จะต้องแบบอยู่ใน
00:02:19 → 00:02:22 สังคมจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนจะต้องทัน
00:02:22 → 00:02:25 ข่าวจะต้องไม่ตกข่าวไม่เป็นคนที่เรารู้
00:02:25 → 00:02:27 สึกว่าอุ๊ยอันนี้ทำไมเราพลาดอะไรเงี้ยค่ะ
00:02:27 → 00:02:30 ซึ่งหลักๆตอนเนี้ยก็คืออาจจะไม่ได้เป็น
00:02:30 → 00:02:32 ใครหรือใครเป็นพิเศษแต่ว่าคนที่ติดมือถือ
00:02:33 → 00:02:35 หลักๆตอนเอยากก็ต้องบอกว่าอ่าส่วนใหญ่
00:02:35 → 00:02:37 เรื่องของเจนก็มีมีผลเยอะเหมือนกันเพราะ
00:02:37 → 00:02:39 ว่าอ่าเติบโตมาอย่างที่เมื่อกี้บอกไปว่า
00:02:39 → 00:02:42 บางบางท่านอาจจะไม่ทันด้วยซ้ำสมัยที่ยัง
00:02:42 → 00:02:44 ไม่มีมือถือคือเกิดมาก็เป็นเด็กยุค
00:02:44 → 00:02:46 มิลเลนเนียมแล้วมีมือถืออะไรเงี้ยค่ะ
00:02:46 → 00:02:49 เพราะฉะนั้นคือคนที่อยู่กับมันจนเป็นเวลา
00:02:49 → 00:02:51 ที่ 5 เป็นเเป็นปัจจัยที่ 5 ของเราอะไร
00:02:51 → 00:02:54 เงี้ยค่ะพอมันขาดมันก็อาจจะรู้สึกกลัวรู้
00:02:54 → 00:02:58 สึกกังวลรู้สึกเหมือนอุ๊ยวันนี้แบบลืม
00:02:58 → 00:03:02 อะไรไปอย่างสำคัญมากๆมากอะไรเงี้ยค่ะค่ะ
00:03:02 → 00:03:04 แล้วอาการแบบไหนคะอาจารย์ที่เข้าข่ายเป็น
00:03:04 → 00:03:08 โรคกลัวการขาดโทรศัพท์มือถือก็คือก็ต้อง
00:03:08 → 00:03:10 บอกเลยว่าถ้าเมื่อไหร่ที่เป็นคำว่าโรค
00:03:10 → 00:03:12 หรือเป็นแบบอ่าถ้าไม่ใช่แค่ภาวะแต่เป็น
00:03:12 → 00:03:14 โรคที่รู้สึกว่าอุ้ยต้องมาหาแล้วหรือว่า
00:03:14 → 00:03:16 เข้าขายเป็นเรื่องของโฟเบียหรือความกลัว
00:03:16 → 00:03:20 เฉพาะเจาะโจงใดๆก็ตามเค่ะมันอาจจะไม่ใช่
00:03:20 → 00:03:22 ความความรู้สึกแค่ว่าแบบเอ้ยวันนี้ไม่มี
00:03:22 → 00:03:25 มือถือแล้วไม่ค่อยสบายใจหรือว่าไม่ได้
00:03:25 → 00:03:27 เป็นความแค่รู้สึกว่าวันเนี้ยลืมเอามือ
00:03:27 → 00:03:29 ถือมาแล้วก็บอกเพื่อนที่ทำงานว่าวันเนี้
00:03:29 → 00:03:31 ฉันแบบเอามือถือมานะแต่อาจจะเป็นความกลัว
00:03:31 → 00:03:33 เยอะๆจนรู้สึกว่าแบบบางคนอาจจะต้องแบบ
00:03:33 → 00:03:36 กลับบ้านไปเลยกลับบ้านไปเอาโทรศัพท์หรือ
00:03:36 → 00:03:39 ว่าบางคนคือกลัวจนอาจจะมีเหมือนปฏิริยา
00:03:39 → 00:03:41 ทางกายไม่ใช่แค่ไม่สบายใจแต่ว่าอาจจะมี
00:03:41 → 00:03:43 ลักษณะของความรู้สึกว่าพอไม่มีแล้วมัน
00:03:43 → 00:03:47 กระสับกระส่ายใจสั่นกระวนกระวายอะไรแบบ
00:03:47 → 00:03:49 เนี้ยค่ะซึ่งถ้าถ้าเป็นเยอะขนาดนั้นแบบ
00:03:50 → 00:03:53 ว่าต้องมีตลอดเวลาไม่มีไม่ได้เลยหรือว่า
00:03:53 → 00:03:56 แม้แต่จะนอนก็ยังต้องออนไลน์ตลอดไม่
00:03:56 → 00:03:59 สามารถที่จะปิดแน Mode หรืออะไรได้เลย
00:03:59 → 00:04:01 อย่างเงี้ยค่ะจนแบบมันรู้สึกว่ารบกวน
00:04:01 → 00:04:04 ชีวิตประจำวันอาจจะใช้ชีวิตอยู่บนโลก
00:04:04 → 00:04:07 ออนไลน์โลกในมือถือมากไปกว่าโลกออฟไลน์
00:04:07 → 00:04:09 หรือโลกจริงแล้วอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:04:09 → 00:04:11 อันเนี้ยก็อาจจะต้องเข้าข่าว่าเอ๊ะมันรบ
00:04:11 → 00:04:16 กวนชีวิตแล้วนะค่ะการติดมือถือค่ะกับการ
00:04:16 → 00:04:19 ที่เป็นโรคกลัวการขาดโทรศัพท์มือถือ
00:04:19 → 00:04:23 เหมือนกันหรือว่าแตกต่างกันอย่างไรคะก็
00:04:23 → 00:04:25 คืออย่างที่เมื่อกี้เล่าไปค่ะว่าถ้า
00:04:25 → 00:04:28 สมมุติว่ามันถึงกับว่าเป็นโลกเลยก็คืออาจ
00:04:28 → 00:04:31 จะไม่ใช่แค่ว่าอ่าชอบดูมือถือบ่อยๆแต่อาจ
00:04:31 → 00:04:34 จะเหมือนแบบถ้าขาดคือขาดไม่ได้เลยเหมือน
00:04:34 → 00:04:37 สมมุติว่าแม้แต่เข้าประชุมก็ยังต้องเอา
00:04:37 → 00:04:39 มือถือมาหรือแม้แต่แบบสมมุติว่าบางคนคือ
00:04:39 → 00:04:42 แบบถ้าสมมุติต้องไปคอร์สปฏิบัติธรรมหรือ
00:04:42 → 00:04:44 อะไรที่ไม่มีมือถือไม่ได้เลยหรือพอลืม
00:04:44 → 00:04:47 ปุ๊บยอมยอมที่จะนั่งรถกลับบ้านไปเอา
00:04:47 → 00:04:50 โทรศัพท์เลยทันทีทันใดอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:04:50 → 00:04:53 คือรู้สึกเดือดร้อนทุกข์ร้อนมากแต่ว่าถ้า
00:04:53 → 00:04:55 เป็นติดอย่างเงี้ยค่ะบางทีมันก็อาจจะยัง
00:04:55 → 00:04:57 ไม่ได้ถึงระดับนั้นอาจจะยังอยู่ในระดับ
00:04:57 → 00:05:00 ที่รู้ว่าเราชอบแต่ว่าเรายังสามารถอดทน
00:05:00 → 00:05:03 อย่างเช่นสามารถพอประชุมหรือปิดมือถือใน
00:05:03 → 00:05:06 โรงหนังปิดแบบปิดจริงๆหรือว่าอะไรอย่าง
00:05:06 → 00:05:09 นี้ได้อะไรเงี้ยค่ะอาจารย์คะในเมื่อ
00:05:09 → 00:05:12 เรื่องของการใช้โซเชียลมีเดียเนี่ยมีทั้ง
00:05:12 → 00:05:15 ผลดีและก็ผลเสียเราจะมีวิธีในการใช้
00:05:15 → 00:05:18 โซเชียล Media อย่างไรบ้างคะถึงส่งผลดี
00:05:18 → 00:05:21 ได้การใช้โซเชียล Media ก็คือเหมือน
00:05:21 → 00:05:23 เหมือนการอยู่ในสังคมทั่วไปอ่ะค่ะคือการ
00:05:24 → 00:05:26 มีปฏิสัมพันธ์ไม่ว่าจะปฏิสัมพันธ์ออฟไลน์
00:05:26 → 00:05:28 หรือปฏิสัมพันธ์ออนไลน์หรือการที่เรารับ
00:05:28 → 00:05:31 รู้สิ่งต่างๆก็คือมันส่งผลต่อจิตใจได้
00:05:31 → 00:05:34 ทั้งในแง่บวกแล้วก็ในแง่ลบทั่วไปเลยค่ะ
00:05:34 → 00:05:36 มันเพราะฉะนั้นมันสิ่งที่สำคัญก็คือการ
00:05:36 → 00:05:40 กลั่นกรองสติในการเสพแล้วก็วิจารณญาณคือ
00:05:40 → 00:05:43 อะไรที่มันเป็นคนที่มันเป็นบวกอย่างเงี้ย
00:05:43 → 00:05:45 ค่ะแต่ว่าในขณะเดียวกันอย่างที่บอกว่ามัน
00:05:45 → 00:05:47 ขึ้นอยู่กับเสพอย่างมีสติแล้วก็การเลือก
00:05:47 → 00:05:49 การคัดกรองของเราเพราะว่าทุกวันเนี้ข้อ
00:05:49 → 00:05:52 มูลมันเข้ามาทุกอย่างทุกทางมากๆบางข้อมูล
00:05:52 → 00:05:55 มันก็ไม่ได้ต่างกันกับข้อมูลในโลกออฟไลน์
00:05:55 → 00:05:56 เองซึ่งถ้าสมมุติเราอยู่กับอะไรที่มัน
00:05:57 → 00:05:59 ท็อกซิกหรือว่ามันเป็นพิษมากๆอันเนี้ยมัน
00:05:59 → 00:06:01 ก็ส่งผลทำให้เราเกิดความเครียดความกดดัน
00:06:01 → 00:06:04 เก็บกดแล้วก็ทำให้จิตตกได้เหมือนกันค่ะ
00:06:04 → 00:06:08 อาจารย์คะความถี่ในการใช้โซเชียล Media
00:06:08 → 00:06:11 เนี่ยจะส่งผลต่อสุขภาพจิตหรือไม่คะถามว่า
00:06:11 → 00:06:14 ความถี่ในการเสพส่งผลมก็ต้องบอกว่าอ่าส่ง
00:06:15 → 00:06:17 ผลค่ะเพราะว่าไม่ใช่แค่โซเชียลมีเดียแต่
00:06:17 → 00:06:19 ว่าทุกอย่างค่ะอะไรที่มันสุดโต่งไม่ว่าจะ
00:06:19 → 00:06:22 น้อยเลยหรือมากเลยมันก็คงไม่ใช่นะค่ะเวลา
00:06:22 → 00:06:25 เราจะใช้มันก็คงต้องใช้อย่างที่พอเหมาะพอ
00:06:25 → 00:06:29 ควรโรคกลัวการขาดโทรศัพท์มือถือรักษาได้
00:06:29 → 00:06:32 อย่างไรบ้างคะหลักๆอ่ะค่ะส่วนใหญ่โรคกลัว
00:06:32 → 00:06:34 หลักๆอ่ะเราจะใช้เป็นลักษณะของการใช้
00:06:34 → 00:06:37 พฤติกรรมบำบัดค่ะซึ่งพฤติกรรมบำบัดอ่ะก็
00:06:37 → 00:06:39 ค่ะก็คือเป็นลักษณะของการที่เราอาจจะค่อย
00:06:39 → 00:06:42 ๆถอยค่อยๆห่างคืออาจจะเป็นลักษณะของว่า
00:06:42 → 00:06:46 อ่ะแทนที่จะแบบต้องให้ห่างไปเลยอาจจะให้
00:06:46 → 00:06:48 ปิด Notification ปิดแจ้งเตือนให้น้อยลง
00:06:48 → 00:06:51 มยหรือเก็บไว้ในลิ้นชักใต้โต๊ะอะไรอย่าง
00:06:51 → 00:06:53 นี้มยค่อยๆถอยไปเป็นในลักษณะของพิกรบันร
00:06:53 → 00:06:56 บัดรวมถึงการหากิจกรรมอื่นทดแทนอะไรเงี้ย
00:06:56 → 00:07:00 ค่ะอยากให้อาจารย์แนะคุณผู้ชมทางบ้านค่ะ
00:07:00 → 00:07:03 ในวิธีการแบ่งเวลาการใช้ชีวิตในแต่ละวัน
00:07:04 → 00:07:06 ก็คือปกติอ่ะค่ะชีวิตก็คือต้องใช้ชีวิต
00:07:06 → 00:07:09 ให้สมดุลอ่ะค่ะมันอาจจะไม่ได้หมายถึงว่า
00:07:09 → 00:07:11 ไม่ได้ต้องแบบนอนกี่โมงตื่นกี่โมงขนาด
00:07:11 → 00:07:13 นั้นแต่ว่าเหมือนชีวิตเราอ่ะค่ะมันมันจะ
00:07:13 → 00:07:15 มีด้านหลักๆอยู่ประมาณ 3 ด้านก็คือด้าน
00:07:16 → 00:07:18 เวิร์คด้าน Love ด้าน Play ควรจะต้องมี
00:07:18 → 00:07:21 ความสมดุลของชีวิตแล้วก็อย่างที่บอกว่า
00:07:21 → 00:07:24 ต้องพยายามสร้างเอ่อหมายถึงว่าสร้างสร้าง
00:07:24 → 00:07:27 ปฏิสัมพันธ์ในโลกในโลกจริงๆได้มาเจอหน้า
00:07:27 → 00:07:30 แล้วคุยคุยแบบเห็นหน้ากันจริงๆแค่ 10
00:07:30 → 00:07:32 นาทีบางทีมันรู้สึกว่ามันเติมเต็มกว่า
00:07:32 → 00:07:36 เยอะกว่าการที่เราจะนั่งคุยไปแบบชั่วโมง
00:07:36 → 00:07:40 ครึ่งกับคนอื่นๆบนโลกออนไลน์อะไเงี้ยค่ะ
00:07:40 → 00:07:43 และสุดท้ายค่ะอยากให้อาจารย์ฝากถึงคุณผู้
00:07:43 → 00:07:47 ชมทางบ้านว่าจะทำอย่างไรให้ห่างไกลจากโรค
00:07:47 → 00:07:49 กลัวการขาดโทรศัพท์มือถือและใช้
00:07:49 → 00:07:52 โซเชียลมีเดียอย่างมีสติได้คะสำคัญสุดก็
00:07:52 → 00:07:55 คือเสพอย่างมีสติอ่ะค่ะค่อยๆกลั่นกรอง
00:07:55 → 00:07:57 แล้วอะไรที่สมมุติว่ามันเป็นดราม่าเรา
00:07:57 → 00:07:59 อ่านอย่างอย่างบางข่าวเงี้ยค่ะอ่านไปแล้ว
00:07:59 → 00:08:01 มันก็หดหู่ใจมันก็คงไม่ได้จำเป็นต้องไป
00:08:01 → 00:08:04 อ่านซ้ำๆแล้วในขณะเดียวกันเราก็ต้องรับ
00:08:04 → 00:08:06 ผิดชอบต่อสังคมบาง Content ที่เรารู้สึก
00:08:06 → 00:08:09 ว่ามันเป็นคเนที่มันเป็นพิก็ไม่ควรที่จะ
00:08:09 → 00:08:12 ไปแชร์ไปไลฟ์เพื่อที่คือไม่ควรไปสนับสนุน
00:08:12 → 00:08:15 คทนเหล่านั้นอย่างเงี้ยค่ะ Social ดีททำ
00:08:15 → 00:08:17 ยังไงอาจจะเริ่มอย่างค่อยๆปิด
00:08:17 → 00:08:19 Notification ออย่างบางคนอาจจะรู้สึกว่า
00:08:19 → 00:08:22 อุ๊ยไม่ถ้าให้ลบแอปหรืออะไรไปเลยก็คงทำ
00:08:22 → 00:08:25 ไม่ได้ใช้เวลาให้ห่างหรือว่าเดี๋ยวนี้มือ
00:08:25 → 00:08:27 ถือหลายๆรุ่นก็จะมีตั้งเตือนว่าเอ้ยคุณดู
00:08:27 → 00:08:30 หน้าจอมากเกินไปแล้วนะเราก็อาจจะต้อง
00:08:30 → 00:08:32 พยายามที่จะลองทำแบบนั้นค่อยๆห่างลงแล้ว
00:08:32 → 00:08:35 อย่างที่พูดค่ะว่าถ้ามันมีกิจกรรมที่มัน
00:08:35 → 00:08:39 อยู่นอกจอเยอะเราก็จะพึ่งพาอะไรที่อยู่ใน
00:08:39 → 00:08:43 จอน้อยลงอยู่แล้วค่ะขอบคุณนะคะสำหรับการ
00:08:43 → 00:08:46 รับชมรายการ TNN Health ค่ะและอย่าลืม
00:08:46 → 00:08:50 ค่ะกด Subscribe กดไลคกดแชร์ในทุกช่องทาง
00:08:50 → 00:08:53 ออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่
00:08:53 → 00:08:57 พลาดการรับชมรายการสดคลิปวดีโอที่น่าสนใจ
00:08:57 → 00:09:02 ของทาง TNN นะคะ y
00:00:00 → 00:00:02 เราจะไปพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใน
00:00:02 → 00:00:07 เรื่องของโรคกลัวการขาดโทรศัพท์มือถือ
00:00:07 → 00:00:10 กันสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก
00:00:10 → 00:00:11 เลยนะ
00:00:11 → 00:00:18 [เพลง]
00:00:18 → 00:00:22 คะอุบัติการณ์ของโรคกลัวการขาดโทรศัพท์
00:00:23 → 00:00:26 มือถือหรือว่าโนโมโฟเบียเป็นอย่างไรบ้าง
00:00:26 → 00:00:30 คะคือโรคโนโมโฟเบียหรือว่าการกลัวการขาด
00:00:30 → 00:00:34 ขาดโทรศัพท์มือถือนะคะอันเนี้ยก็คือพบได้
00:00:34 → 00:00:36 เรื่อยๆแต่ว่าถ้าสมมุติว่าพบจนใช้คำว่า
00:00:36 → 00:00:39 ป่วยอย่างเงี้ยค่ะอุบัติกาก็จะไม่ได้ต่าง
00:00:39 → 00:00:42 กันกับโรคโฟเบียหรือโรคกลัวเฉพาะทางค่ะ
00:00:42 → 00:00:45 ซึ่งโรคโฟเบียโดยทั้งหมดเนี่ยอาจจะสามารถ
00:00:45 → 00:00:48 พบได้ในคนถึง 5-10 เพของคนทั่วไปไม่ว่าจะ
00:00:48 → 00:00:50 เป็นกลัวอะไรก็ตามอย่างเช่นกลัวความสูง
00:00:50 → 00:00:53 กลัวเลือดกลัวงูแต่ว่าในส่วนของ
00:00:53 → 00:00:56 โนโมโฟเบียค่ะต้องบอกว่าอ่ามันขึ้นอยู่
00:00:56 → 00:00:58 กับว่าความเยอะด้วยว่าอันเนี้ยมันเยอะจน
00:00:58 → 00:01:00 ในระดับของความเป็นโรคเลยหรือว่าเป็นแค่
00:01:00 → 00:01:03 ความรู้สึกว่าไม่สบายใจเฉยๆถ้าไม่มีมือ
00:01:03 → 00:01:07 ถืออะไรเงี้ยค่ะแล้วโรคกลัวการขาด
00:01:07 → 00:01:11 โทรศัพท์มือถือคืออะไรคะโรคกลัวการขาดมือ
00:01:11 → 00:01:14 ถือค่ะเป็นโรคกลัวเฉพาะอย่างประเภทนึงแต่
00:01:14 → 00:01:16 ว่าอย่างที่บอกว่าจริงๆอ่ะค่ะมันไม่ได้
00:01:16 → 00:01:18 เป็นเหมือนการกลัวมือถือทางกายภาพแต่ว่า
00:01:18 → 00:01:21 เป็นการกลัวข้อมูลบางอย่างคือกลัวตกข่าว
00:01:21 → 00:01:23 ถ้าพูดง่ายๆคือกลัวตกข่าวด้วยความที่สมัย
00:01:23 → 00:01:27 เนี้ยค่ะข่าวมันมันเยอะเยอะจนบางอย่างเรา
00:01:27 → 00:01:30 ไม่ได้อยากเสพมันก็เข้าเข้ามาหาเราเอง
00:01:30 → 00:01:32 อะไรเงี้ค่ะแล้วบางทีบางทีถามว่าเอ๊ยการ
00:01:32 → 00:01:34 ที่เรากลัวตกข่าวบางทีเราอาจจะไม่ได้เป็น
00:01:34 → 00:01:37 คนที่ชอบเสพข่าวหรือเสพดราม่าหรอกแต่ว่า
00:01:37 → 00:01:39 เราอาจจะรู้สึกว่าอุ๊ยเดี๋ยวเราจะไม่เข้า
00:01:39 → 00:01:42 พวกหมายถึงทำไมคนนู้นคนนี้เขาคุยกัน
00:01:42 → 00:01:43 เรื่องนู้นเรื่องนี้เรื่องนั้นรู้เรื่อง
00:01:43 → 00:01:46 กันหมดเลยแล้วเราแบบเอมีเรื่องนี้ด้วยหรอ
00:01:46 → 00:01:48 ไม่รู้เรื่องอะไรเงี้ยค่ะหรือว่าแบบอย่าง
00:01:48 → 00:01:50 เช่นเอ๊ะไม่ได้อ่าน LINE กลุ่มหรอทำไม
00:01:50 → 00:01:52 แต่งตัวมาผิดตีมอะไรอย่างเงี้ยค่ะคือมัน
00:01:53 → 00:01:56 เป็นความกังวลใจในพวกอย่างนี้มากกว่าค่ะ
00:01:56 → 00:01:59 ใครคะคือกลุ่มเสียงของโรคกลัวการขาดท
00:01:59 → 00:02:03 ศัพท์มือถืออย่างที่บอกค่ะว่าในการเรื่อง
00:02:03 → 00:02:06 ของโมโฟเบียหรือโรคกลัวการขาดมือถือมันก็
00:02:06 → 00:02:09 จะไปซ้อนๆกันกับพวกของโฟโมหรือว่าคนที่
00:02:09 → 00:02:11 กลัวการตกข่าว Fear of Missing Out
00:02:11 → 00:02:13 เพราะฉะนั้นหลายๆคนที่จะเป็นกลุ่มเสี่ยง
00:02:13 → 00:02:15 จริงๆอ่ะค่ะก็คือจะเป็นคนที่ตรงไปตรงมา
00:02:16 → 00:02:19 ว่าติดมือถือติดการที่จะต้องแบบอยู่ใน
00:02:19 → 00:02:22 สังคมจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนจะต้องทัน
00:02:22 → 00:02:25 ข่าวจะต้องไม่ตกข่าวไม่เป็นคนที่เรารู้
00:02:25 → 00:02:27 สึกว่าอุ๊ยอันนี้ทำไมเราพลาดอะไรเงี้ยค่ะ
00:02:27 → 00:02:30 ซึ่งหลักๆตอนเนี้ยก็คืออาจจะไม่ได้เป็น
00:02:30 → 00:02:32 ใครหรือใครเป็นพิเศษแต่ว่าคนที่ติดมือถือ
00:02:33 → 00:02:35 หลักๆตอนเอยากก็ต้องบอกว่าอ่าส่วนใหญ่
00:02:35 → 00:02:37 เรื่องของเจนก็มีมีผลเยอะเหมือนกันเพราะ
00:02:37 → 00:02:39 ว่าอ่าเติบโตมาอย่างที่เมื่อกี้บอกไปว่า
00:02:39 → 00:02:42 บางบางท่านอาจจะไม่ทันด้วยซ้ำสมัยที่ยัง
00:02:42 → 00:02:44 ไม่มีมือถือคือเกิดมาก็เป็นเด็กยุค
00:02:44 → 00:02:46 มิลเลนเนียมแล้วมีมือถืออะไรเงี้ยค่ะ
00:02:46 → 00:02:49 เพราะฉะนั้นคือคนที่อยู่กับมันจนเป็นเวลา
00:02:49 → 00:02:51 ที่ 5 เป็นเเป็นปัจจัยที่ 5 ของเราอะไร
00:02:51 → 00:02:54 เงี้ยค่ะพอมันขาดมันก็อาจจะรู้สึกกลัวรู้
00:02:54 → 00:02:58 สึกกังวลรู้สึกเหมือนอุ๊ยวันนี้แบบลืม
00:02:58 → 00:03:02 อะไรไปอย่างสำคัญมากๆมากอะไรเงี้ยค่ะค่ะ
00:03:02 → 00:03:04 แล้วอาการแบบไหนคะอาจารย์ที่เข้าข่ายเป็น
00:03:04 → 00:03:08 โรคกลัวการขาดโทรศัพท์มือถือก็คือก็ต้อง
00:03:08 → 00:03:10 บอกเลยว่าถ้าเมื่อไหร่ที่เป็นคำว่าโรค
00:03:10 → 00:03:12 หรือเป็นแบบอ่าถ้าไม่ใช่แค่ภาวะแต่เป็น
00:03:12 → 00:03:14 โรคที่รู้สึกว่าอุ้ยต้องมาหาแล้วหรือว่า
00:03:14 → 00:03:16 เข้าขายเป็นเรื่องของโฟเบียหรือความกลัว
00:03:16 → 00:03:20 เฉพาะเจาะโจงใดๆก็ตามเค่ะมันอาจจะไม่ใช่
00:03:20 → 00:03:22 ความความรู้สึกแค่ว่าแบบเอ้ยวันนี้ไม่มี
00:03:22 → 00:03:25 มือถือแล้วไม่ค่อยสบายใจหรือว่าไม่ได้
00:03:25 → 00:03:27 เป็นความแค่รู้สึกว่าวันเนี้ยลืมเอามือ
00:03:27 → 00:03:29 ถือมาแล้วก็บอกเพื่อนที่ทำงานว่าวันเนี้
00:03:29 → 00:03:31 ฉันแบบเอามือถือมานะแต่อาจจะเป็นความกลัว
00:03:31 → 00:03:33 เยอะๆจนรู้สึกว่าแบบบางคนอาจจะต้องแบบ
00:03:33 → 00:03:36 กลับบ้านไปเลยกลับบ้านไปเอาโทรศัพท์หรือ
00:03:36 → 00:03:39 ว่าบางคนคือกลัวจนอาจจะมีเหมือนปฏิริยา
00:03:39 → 00:03:41 ทางกายไม่ใช่แค่ไม่สบายใจแต่ว่าอาจจะมี
00:03:41 → 00:03:43 ลักษณะของความรู้สึกว่าพอไม่มีแล้วมัน
00:03:43 → 00:03:47 กระสับกระส่ายใจสั่นกระวนกระวายอะไรแบบ
00:03:47 → 00:03:49 เนี้ยค่ะซึ่งถ้าถ้าเป็นเยอะขนาดนั้นแบบ
00:03:50 → 00:03:53 ว่าต้องมีตลอดเวลาไม่มีไม่ได้เลยหรือว่า
00:03:53 → 00:03:56 แม้แต่จะนอนก็ยังต้องออนไลน์ตลอดไม่
00:03:56 → 00:03:59 สามารถที่จะปิดแน Mode หรืออะไรได้เลย
00:03:59 → 00:04:01 อย่างเงี้ยค่ะจนแบบมันรู้สึกว่ารบกวน
00:04:01 → 00:04:04 ชีวิตประจำวันอาจจะใช้ชีวิตอยู่บนโลก
00:04:04 → 00:04:07 ออนไลน์โลกในมือถือมากไปกว่าโลกออฟไลน์
00:04:07 → 00:04:09 หรือโลกจริงแล้วอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:04:09 → 00:04:11 อันเนี้ยก็อาจจะต้องเข้าข่าว่าเอ๊ะมันรบ
00:04:11 → 00:04:16 กวนชีวิตแล้วนะค่ะการติดมือถือค่ะกับการ
00:04:16 → 00:04:19 ที่เป็นโรคกลัวการขาดโทรศัพท์มือถือ
00:04:19 → 00:04:23 เหมือนกันหรือว่าแตกต่างกันอย่างไรคะก็
00:04:23 → 00:04:25 คืออย่างที่เมื่อกี้เล่าไปค่ะว่าถ้า
00:04:25 → 00:04:28 สมมุติว่ามันถึงกับว่าเป็นโลกเลยก็คืออาจ
00:04:28 → 00:04:31 จะไม่ใช่แค่ว่าอ่าชอบดูมือถือบ่อยๆแต่อาจ
00:04:31 → 00:04:34 จะเหมือนแบบถ้าขาดคือขาดไม่ได้เลยเหมือน
00:04:34 → 00:04:37 สมมุติว่าแม้แต่เข้าประชุมก็ยังต้องเอา
00:04:37 → 00:04:39 มือถือมาหรือแม้แต่แบบสมมุติว่าบางคนคือ
00:04:39 → 00:04:42 แบบถ้าสมมุติต้องไปคอร์สปฏิบัติธรรมหรือ
00:04:42 → 00:04:44 อะไรที่ไม่มีมือถือไม่ได้เลยหรือพอลืม
00:04:44 → 00:04:47 ปุ๊บยอมยอมที่จะนั่งรถกลับบ้านไปเอา
00:04:47 → 00:04:50 โทรศัพท์เลยทันทีทันใดอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:04:50 → 00:04:53 คือรู้สึกเดือดร้อนทุกข์ร้อนมากแต่ว่าถ้า
00:04:53 → 00:04:55 เป็นติดอย่างเงี้ยค่ะบางทีมันก็อาจจะยัง
00:04:55 → 00:04:57 ไม่ได้ถึงระดับนั้นอาจจะยังอยู่ในระดับ
00:04:57 → 00:05:00 ที่รู้ว่าเราชอบแต่ว่าเรายังสามารถอดทน
00:05:00 → 00:05:03 อย่างเช่นสามารถพอประชุมหรือปิดมือถือใน
00:05:03 → 00:05:06 โรงหนังปิดแบบปิดจริงๆหรือว่าอะไรอย่าง
00:05:06 → 00:05:09 นี้ได้อะไรเงี้ยค่ะอาจารย์คะในเมื่อ
00:05:09 → 00:05:12 เรื่องของการใช้โซเชียลมีเดียเนี่ยมีทั้ง
00:05:12 → 00:05:15 ผลดีและก็ผลเสียเราจะมีวิธีในการใช้
00:05:15 → 00:05:18 โซเชียล Media อย่างไรบ้างคะถึงส่งผลดี
00:05:18 → 00:05:21 ได้การใช้โซเชียล Media ก็คือเหมือน
00:05:21 → 00:05:23 เหมือนการอยู่ในสังคมทั่วไปอ่ะค่ะคือการ
00:05:24 → 00:05:26 มีปฏิสัมพันธ์ไม่ว่าจะปฏิสัมพันธ์ออฟไลน์
00:05:26 → 00:05:28 หรือปฏิสัมพันธ์ออนไลน์หรือการที่เรารับ
00:05:28 → 00:05:31 รู้สิ่งต่างๆก็คือมันส่งผลต่อจิตใจได้
00:05:31 → 00:05:34 ทั้งในแง่บวกแล้วก็ในแง่ลบทั่วไปเลยค่ะ
00:05:34 → 00:05:36 มันเพราะฉะนั้นมันสิ่งที่สำคัญก็คือการ
00:05:36 → 00:05:40 กลั่นกรองสติในการเสพแล้วก็วิจารณญาณคือ
00:05:40 → 00:05:43 อะไรที่มันเป็นคนที่มันเป็นบวกอย่างเงี้ย
00:05:43 → 00:05:45 ค่ะแต่ว่าในขณะเดียวกันอย่างที่บอกว่ามัน
00:05:45 → 00:05:47 ขึ้นอยู่กับเสพอย่างมีสติแล้วก็การเลือก
00:05:47 → 00:05:49 การคัดกรองของเราเพราะว่าทุกวันเนี้ข้อ
00:05:49 → 00:05:52 มูลมันเข้ามาทุกอย่างทุกทางมากๆบางข้อมูล
00:05:52 → 00:05:55 มันก็ไม่ได้ต่างกันกับข้อมูลในโลกออฟไลน์
00:05:55 → 00:05:56 เองซึ่งถ้าสมมุติเราอยู่กับอะไรที่มัน
00:05:57 → 00:05:59 ท็อกซิกหรือว่ามันเป็นพิษมากๆอันเนี้ยมัน
00:05:59 → 00:06:01 ก็ส่งผลทำให้เราเกิดความเครียดความกดดัน
00:06:01 → 00:06:04 เก็บกดแล้วก็ทำให้จิตตกได้เหมือนกันค่ะ
00:06:04 → 00:06:08 อาจารย์คะความถี่ในการใช้โซเชียล Media
00:06:08 → 00:06:11 เนี่ยจะส่งผลต่อสุขภาพจิตหรือไม่คะถามว่า
00:06:11 → 00:06:14 ความถี่ในการเสพส่งผลมก็ต้องบอกว่าอ่าส่ง
00:06:15 → 00:06:17 ผลค่ะเพราะว่าไม่ใช่แค่โซเชียลมีเดียแต่
00:06:17 → 00:06:19 ว่าทุกอย่างค่ะอะไรที่มันสุดโต่งไม่ว่าจะ
00:06:19 → 00:06:22 น้อยเลยหรือมากเลยมันก็คงไม่ใช่นะค่ะเวลา
00:06:22 → 00:06:25 เราจะใช้มันก็คงต้องใช้อย่างที่พอเหมาะพอ
00:06:25 → 00:06:29 ควรโรคกลัวการขาดโทรศัพท์มือถือรักษาได้
00:06:29 → 00:06:32 อย่างไรบ้างคะหลักๆอ่ะค่ะส่วนใหญ่โรคกลัว
00:06:32 → 00:06:34 หลักๆอ่ะเราจะใช้เป็นลักษณะของการใช้
00:06:34 → 00:06:37 พฤติกรรมบำบัดค่ะซึ่งพฤติกรรมบำบัดอ่ะก็
00:06:37 → 00:06:39 ค่ะก็คือเป็นลักษณะของการที่เราอาจจะค่อย
00:06:39 → 00:06:42 ๆถอยค่อยๆห่างคืออาจจะเป็นลักษณะของว่า
00:06:42 → 00:06:46 อ่ะแทนที่จะแบบต้องให้ห่างไปเลยอาจจะให้
00:06:46 → 00:06:48 ปิด Notification ปิดแจ้งเตือนให้น้อยลง
00:06:48 → 00:06:51 มยหรือเก็บไว้ในลิ้นชักใต้โต๊ะอะไรอย่าง
00:06:51 → 00:06:53 นี้มยค่อยๆถอยไปเป็นในลักษณะของพิกรบันร
00:06:53 → 00:06:56 บัดรวมถึงการหากิจกรรมอื่นทดแทนอะไรเงี้ย
00:06:56 → 00:07:00 ค่ะอยากให้อาจารย์แนะคุณผู้ชมทางบ้านค่ะ
00:07:00 → 00:07:03 ในวิธีการแบ่งเวลาการใช้ชีวิตในแต่ละวัน
00:07:04 → 00:07:06 ก็คือปกติอ่ะค่ะชีวิตก็คือต้องใช้ชีวิต
00:07:06 → 00:07:09 ให้สมดุลอ่ะค่ะมันอาจจะไม่ได้หมายถึงว่า
00:07:09 → 00:07:11 ไม่ได้ต้องแบบนอนกี่โมงตื่นกี่โมงขนาด
00:07:11 → 00:07:13 นั้นแต่ว่าเหมือนชีวิตเราอ่ะค่ะมันมันจะ
00:07:13 → 00:07:15 มีด้านหลักๆอยู่ประมาณ 3 ด้านก็คือด้าน
00:07:16 → 00:07:18 เวิร์คด้าน Love ด้าน Play ควรจะต้องมี
00:07:18 → 00:07:21 ความสมดุลของชีวิตแล้วก็อย่างที่บอกว่า
00:07:21 → 00:07:24 ต้องพยายามสร้างเอ่อหมายถึงว่าสร้างสร้าง
00:07:24 → 00:07:27 ปฏิสัมพันธ์ในโลกในโลกจริงๆได้มาเจอหน้า
00:07:27 → 00:07:30 แล้วคุยคุยแบบเห็นหน้ากันจริงๆแค่ 10
00:07:30 → 00:07:32 นาทีบางทีมันรู้สึกว่ามันเติมเต็มกว่า
00:07:32 → 00:07:36 เยอะกว่าการที่เราจะนั่งคุยไปแบบชั่วโมง
00:07:36 → 00:07:40 ครึ่งกับคนอื่นๆบนโลกออนไลน์อะไเงี้ยค่ะ
00:07:40 → 00:07:43 และสุดท้ายค่ะอยากให้อาจารย์ฝากถึงคุณผู้
00:07:43 → 00:07:47 ชมทางบ้านว่าจะทำอย่างไรให้ห่างไกลจากโรค
00:07:47 → 00:07:49 กลัวการขาดโทรศัพท์มือถือและใช้
00:07:49 → 00:07:52 โซเชียลมีเดียอย่างมีสติได้คะสำคัญสุดก็
00:07:52 → 00:07:55 คือเสพอย่างมีสติอ่ะค่ะค่อยๆกลั่นกรอง
00:07:55 → 00:07:57 แล้วอะไรที่สมมุติว่ามันเป็นดราม่าเรา
00:07:57 → 00:07:59 อ่านอย่างอย่างบางข่าวเงี้ยค่ะอ่านไปแล้ว
00:07:59 → 00:08:01 มันก็หดหู่ใจมันก็คงไม่ได้จำเป็นต้องไป
00:08:01 → 00:08:04 อ่านซ้ำๆแล้วในขณะเดียวกันเราก็ต้องรับ
00:08:04 → 00:08:06 ผิดชอบต่อสังคมบาง Content ที่เรารู้สึก
00:08:06 → 00:08:09 ว่ามันเป็นคเนที่มันเป็นพิก็ไม่ควรที่จะ
00:08:09 → 00:08:12 ไปแชร์ไปไลฟ์เพื่อที่คือไม่ควรไปสนับสนุน
00:08:12 → 00:08:15 คทนเหล่านั้นอย่างเงี้ยค่ะ Social ดีททำ
00:08:15 → 00:08:17 ยังไงอาจจะเริ่มอย่างค่อยๆปิด
00:08:17 → 00:08:19 Notification ออย่างบางคนอาจจะรู้สึกว่า
00:08:19 → 00:08:22 อุ๊ยไม่ถ้าให้ลบแอปหรืออะไรไปเลยก็คงทำ
00:08:22 → 00:08:25 ไม่ได้ใช้เวลาให้ห่างหรือว่าเดี๋ยวนี้มือ
00:08:25 → 00:08:27 ถือหลายๆรุ่นก็จะมีตั้งเตือนว่าเอ้ยคุณดู
00:08:27 → 00:08:30 หน้าจอมากเกินไปแล้วนะเราก็อาจจะต้อง
00:08:30 → 00:08:32 พยายามที่จะลองทำแบบนั้นค่อยๆห่างลงแล้ว
00:08:32 → 00:08:35 อย่างที่พูดค่ะว่าถ้ามันมีกิจกรรมที่มัน
00:08:35 → 00:08:39 อยู่นอกจอเยอะเราก็จะพึ่งพาอะไรที่อยู่ใน
00:08:39 → 00:08:43 จอน้อยลงอยู่แล้วค่ะขอบคุณนะคะสำหรับการ
00:08:43 → 00:08:46 รับชมรายการ TNN Health ค่ะและอย่าลืม
00:08:46 → 00:08:50 ค่ะกด Subscribe กดไลคกดแชร์ในทุกช่องทาง
00:08:50 → 00:08:53 ออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่
00:08:53 → 00:08:57 พลาดการรับชมรายการสดคลิปวดีโอที่น่าสนใจ
00:08:57 → 00:09:02 ของทาง TNN นะคะ y