00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีค่ะทุกคนกลับเข้าสู่ช่องของหมอฟ้า
00:00:02 → 00:00:05 วันนี้พุธblูซone thailand นะคะสัปดาห์
00:00:05 → 00:00:08 นี้จริงๆตอนแรกอ่ะฟ้าตั้งใจว่าจะมาเล่า
00:00:08 → 00:00:10 เรื่องเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ปรับความดันยัง
00:00:10 → 00:00:14 ไงเนาะแต่ว่าเผอิญเช้านี้เลยเนาะตื่นขึ้น
00:00:14 → 00:00:18 มาแล้วก็ได้เห็นฟีดฟีดนึงขึ้นมาในเอ่อ
00:00:18 → 00:00:20 Facebook ของตัวเองแล้วก็รู้สึกว่าเป็น
00:00:20 → 00:00:22 เรื่องราวดีๆที่ฟ้าอยากเอามาแชร์ให้กับ
00:00:22 → 00:00:24 ทุกคนค่ะแล้วก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ
00:00:24 → 00:00:28 สุขภาพนั่นก็คือศาสตราจารย์เอ่อนายแพทย์
00:00:28 → 00:00:31 ทีรินลิ่วลักษณ์นะคะซึ่งเป็นคุณหมอชาวไทย
00:00:31 → 00:00:33 ค่ะแต่ว่าปัจจุบันเนี่ยท่านดำรงตำแหน่ง
00:00:33 → 00:00:34 เป็น
00:00:34 → 00:00:36 ศาสตราจารย์ทางด้านปราสาทวิทยาแล้วก็มี
00:00:36 → 00:00:39 ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับความชำนาญการ
00:00:39 → 00:00:40 เกี่ยวกับเรื่องของพวกกล้ามเนื้อนะคะแล้ว
00:00:40 → 00:00:43 ก็ท่านเนี่ยทำงานค่ะเป็นคุณหมออยู่ที่
00:00:43 → 00:00:46 มาโยคclลินซึ่งถือว่าเป็นโรงพยาบาลที่ได้
00:00:46 → 00:00:49 รับการจัดอันดับเนี่ยเป็นอันดับ 1 ในโลก
00:00:49 → 00:00:52 เนาะก็มีข่าวลงในเอ่อของเรียกว่ามาโยนิวส
00:00:52 → 00:00:56 Network ว่าคุณหมอกับทีมเนี่ยสามารถให้
00:00:56 → 00:00:58 การรักษาผู้ป่วยค่ะที่เป็นโรคกล้ามเนื้อ
00:00:59 → 00:01:02 อ่อนแรงแรงแล้วก็ได้มีการเค้าเรียกว่าค้น
00:01:02 → 00:01:06 พบโรคโรคใหม่เออเป็นที่แรกในโลกก็นับว่า
00:01:06 → 00:01:09 เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยแล้วก็ทางการ
00:01:09 → 00:01:11 แพทย์แล้วก็เลยรู้สึกว่าอยากจะมาเล่าให้
00:01:11 → 00:01:14 ทุกคนฟังเพราะว่าได้แรงบันดาลใจ 2 อย่าง 1
00:01:14 → 00:01:17 ทำความเข้าใจโรคโรคนี้ให้มันมากขึ้นเพราะ
00:01:17 → 00:01:20 ว่าเป็นโรคเนี่ยที่เพิ่งค้นพบใหม่และ
00:01:20 → 00:01:22 ปัจจุบันเนี่ยตั้งแต่มีการตีพิมพ์มานะคะ
00:01:22 → 00:01:25 ก็มีการค้นพบเพิ่มเติมทั่วโลกเลยนะอีกแค่
00:01:25 → 00:01:28 4 รายเท่านั้นเองค่ะนอกจากนั้นแล้วเนี่ย
00:01:28 → 00:01:30 กระบวนการที่ทำให้คุณหมอและทีมเนี่ย
00:01:30 → 00:01:33 สามารถค้นพบโรคใหม่ขึ้นมาได้เนี่ยฟ้าว่า
00:01:33 → 00:01:36 เป็นแรงบันดาลใจที่ดีมากๆเลยทีเดียวตามไป
00:01:36 → 00:01:39 ฟังกันค่ะก็เรื่องราวนี้นะคะก็มีการตี
00:01:39 → 00:01:41 พิมพ์เหมือนที่ฟ้าบอกไปแล้วค่ะในมาโย
00:01:41 → 00:01:44 Network ค่ะก็เรื่องราวเก็เป็นเรื่อง
00:01:44 → 00:01:47 เกี่ยวกับของคนไข้คนนึงเนาะเป็นคุณผู้ชาย
00:01:47 → 00:01:50 ค่ะซึ่งมีอาชีพเนี่ยก็คือเขา้าเรียกว่า
00:01:50 → 00:01:52 เอ่อทำงานเป็นพวก construction เรื่องการ
00:01:52 → 00:01:55 ก่อสร้างนะตัวของคุณเค้าเนี่ยก็ชื่อว่า
00:01:55 → 00:01:58 hose viลต้าค่ะซึ่งคุณโฮลต้าเนี่ยก็เป็น
00:01:58 → 00:02:00 หัวหน้าครอบครัวนะมาโดยตลอดชีวิตเลยแล้ว
00:02:00 → 00:02:03 ก็มีความภาคภูมิใจในการที่เค้าเรียกว่า
00:02:03 → 00:02:05 เป็นเสาหลักของครอบครัวค่ะแต่ว่าพอช่วง
00:02:05 → 00:02:08 ที่เค้าเนี่ยอายุเนี่ยแย่งเข้าช่วง 40 ปี
00:02:08 → 00:02:11 ค่ะอยู่ดีๆเนี่ยก็เริ่มมีอาการอ่อนแรงอื
00:02:11 → 00:02:13 กล้ามเนื้อเนี่ยเริ่มไม่ไม่ค่อยมีแรงเป็น
00:02:13 → 00:02:17 จากที่ตรงขาก่อนนะคะจากที่ทำให้ทำงาน
00:02:17 → 00:02:20 เนี่ยก็เหมือนแบบแรงเนี่ยมันลดลงนะแล้ว
00:02:20 → 00:02:22 หลังจากนั้นเนี่ยก็แยกขึ้นเรื่อยๆจน
00:02:22 → 00:02:25 กระทั่งถึงขั้นต้องนั่งรถเข็นค่ะณวันที่
00:02:25 → 00:02:28 เอ่อคุณโฮเซ่แล้วก็ภรรยาคุณซิวี่เนี่ย
00:02:28 → 00:02:31 ไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลมาโยเนี่ยเขาบอก
00:02:31 → 00:02:34 ว่าอาการก็หนักถึงขั้นที่แขนเนี่ยยกอะไร
00:02:34 → 00:02:36 ขึ้นมาจับเองไม่ได้แล้วแล้วคอเนี่ยก็พับ
00:02:37 → 00:02:40 ตลอดเวลาภรรยาเค้าเนี่ยให้คำอธิบายถึงภาพ
00:02:40 → 00:02:44 สามีตอนนั้นว่าเหมือนเป็นตุ๊กตาเลยคือไม่
00:02:44 → 00:02:47 มีแรงพอที่จะขยับเขยื้อนแล้วก็เอ่อเค้า
00:02:47 → 00:02:50 เรียกว่าทรงตัวของร่างกายเอาไว้ได้แล้วก็
00:02:50 → 00:02:53 ในช่วงแรกเนี่ยก่อนที่คุณโฮเซ่และภรรยา
00:02:53 → 00:02:57 เนี่ยจะมาพบคุณหมอที่มาโยนะคะก็ไปพยายาม
00:02:57 → 00:03:00 เนี่ยไปหาคุณหมอมาหลายที่เริ่มตั้งแต่คุณ
00:03:00 → 00:03:02 หมอบางท่านบอกว่าขาดวิตามินไปกินวิตามิน
00:03:02 → 00:03:05 ให้มันเยอะขึ้นมีการไปรักษาโดยการฝังเข็ม
00:03:05 → 00:03:07 นะคะมีการรักษาโดยการใช้พวกเค้าเรียกว่า
00:03:07 → 00:03:09 กระแสไฟฟ้าเป็นพวกอิเลectทricช็อะไรอย่าง
00:03:09 → 00:03:11 เงี้ยเพื่อให้กล้ามเนื้อมันกลับมาทำงาน
00:03:11 → 00:03:13 ปกติแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ยก็ไม่มีอะไร
00:03:13 → 00:03:16 ทำแล้วดีขึ้นโรคเนี่ยกลับค่อยๆดำเนินแล้ว
00:03:16 → 00:03:21 ก็อาการแย่ลงเรื่อยๆพอตอนมาที่มาโยอ่ะค่ะ
00:03:21 → 00:03:23 ก็ได้รับการรักษานะคะคุณหมอที่เป็นเจ้า
00:03:23 → 00:03:25 ของไข้เนี่ยเป็นคุณหมอผู้หญิงค่ะชื่อคุณ
00:03:25 → 00:03:28 หมอแอชลียซันทิี่ค่ะตอนนั้นนี่ก็ทำมี
00:03:28 → 00:03:30 ตำแหน่งเ้าเรียกว่าเป็นคุณหมอเฟโลนะก็คือ
00:03:30 → 00:03:33 เป็นคุณหมอที่เรียนไปที่เฉพาะทางและแล้ว
00:03:33 → 00:03:36 ก็ทำงานเนี่ยอยู่ under อาจารย์ทีรินที่
00:03:36 → 00:03:38 ฟ้าเล่าให้ฟังนั่นเองแล้วอาจารย์ทีริน
00:03:38 → 00:03:41 เนี่ยท่านก็ได้รับการเทรนนะคะโดยเอ่อคุณ
00:03:41 → 00:03:45 หมอที่ชื่อดังมากๆนะก็คือดร.แรrew Angle
00:03:45 → 00:03:47 ค่ะซึ่งท่านเนี่ยก็เสียชีวิตไปแล้วแหละ
00:03:47 → 00:03:49 แต่ว่าท่านเนี่ยก็เป็นเา้าเรียกว่าผู้บุก
00:03:49 → 00:03:51 เบิกโรคความผูกปกติต่างๆเกี่ยวกับกล้าม
00:03:51 → 00:03:55 เนื้อเนี่ยเยอะแยะมากมายค่ะแล้วก็ทีมนะคะ
00:03:55 → 00:03:58 ของตัวคุณหมอแอชลียเองเนี่ยกับดร.ีริน
00:03:58 → 00:04:01 เนี่ยพอเขาเจอคนไข้ปุ๊บเนี่ยอันดับแรกเลย
00:04:01 → 00:04:04 เนี่ยเค้าก็คุยกันบอกว่าอ่าโรคของคุณ
00:04:04 → 00:04:07 ยูต้าเนี่ยหรือว่าคุณโฮเซเนี่ยนะมันไม่
00:04:07 → 00:04:09 น่าจะเป็นโรคที่มาจากพันธุกรรมค่ะเนื่อง
00:04:09 → 00:04:12 จากว่าถ้าเป็นโรคจากพันธุกรรมเนี่ยที่มา
00:04:12 → 00:04:15 ตั้งแต่กำเนิดเนี่ยมันไม่ควรจะเกิดช้า
00:04:15 → 00:04:18 ขนาดนี้ตอนช่วงอายุ 40 อย่างมากเนี่ยก็
00:04:18 → 00:04:20 อาจจะเกิดได้ช่วงที่อ่ะเค้าเรียกว่าเป็น
00:04:20 → 00:04:23 ช่วงวัยเด็กอ่ะตอนต้นซึ่งอันนั้นน่ะควรจะ
00:04:23 → 00:04:25 เริ่มมีอาการแล้วแต่วันเนี่ยอาการเยมัน
00:04:25 → 00:04:27 เกิดขึ้นตอนวัยช่วง 40 เลยเพราะฉะนั้น
00:04:27 → 00:04:29 เนี่ยเค้าก็คิดถึงโรคเกี่ยวกับเรื่องทาง
00:04:29 → 00:04:31 พันธุกรรมเนี่ยที่เป็นสาเหตุเนี่ยค่อน
00:04:31 → 00:04:34 ข้างน้อยแต่ว่าพอจะไปดูว่าเอ้ยไอ้ไอ้ความ
00:04:34 → 00:04:36 ผิดปกติที่ทำให้กล้ามเนื้อมันมีปัญหา
00:04:36 → 00:04:38 เนี่ยมันคืออะไรเค้าก็เลยต้องตัดชิ้น
00:04:38 → 00:04:40 เนื้อใช่มั้ยคะเค้าเรียกว่าตัดชิ้นของ
00:04:40 → 00:04:42 กล้ามเนื้อเนี่ยไปดูค่ะว่าอ่ะมันมีความ
00:04:42 → 00:04:45 ผิดปกติอะไรบ้างทางทีมเนี่ยก็เซอร์ไพรส์
00:04:45 → 00:04:47 ค่ะตกใจเพราะบอกว่าพอไปดูเนี่ย 2 กล้อง
00:04:48 → 00:04:51 ชุลทัศน์เนี่ยก็ไปเจอว่าในเซลล์กล้าม
00:04:51 → 00:04:54 เนื้อของคุณโฮเซเนี่ยหรือเนี่ยมี
00:04:54 → 00:04:57 ไมโตคอนเดรียที่มันอ้วนแล้วก็ใหญ่มากใช้
00:04:57 → 00:04:59 คำว่าเป็นไอไมโตคอนเดรียค่ะซึ่ง
00:04:59 → 00:05:01 ไมโตคอนเดรียเนี่ยถ้าใครตามช่องฟ้ามาตั้ง
00:05:01 → 00:05:04 แต่แรกๆเราจะเล่ากันอยู่เรื่อยๆเนาะว่า
00:05:04 → 00:05:06 เจ้าไมโทคอนเดรียเนี่ยมันเป็นเหมือน
00:05:06 → 00:05:09 อวัยวะภาษาอังกฤษเค้าเรียกว่าอรานาเล็กๆ
00:05:09 → 00:05:11 ที่มันอยู่ในเซลล์ซึ่งเป็นหน่วยย่อยที่
00:05:11 → 00:05:14 เล็กที่สุดของร่างกายมนุษย์เราค่ะแล้ว
00:05:14 → 00:05:15 เจ้าไมโตคอนรียเนี่ยมันทำหน้าที่เป็น
00:05:16 → 00:05:20 เหมือนโรงงานผลิตพลังงานให้กับเซลล์ต่างๆ
00:05:20 → 00:05:23 ของร่างกายเรานะคะพอเไปเจอแบบนั้นปุ๊บ
00:05:23 → 00:05:25 เนี่ยเอ่อในภาษาอังกฤษเนี่ยไอ้ตัวไอ
00:05:25 → 00:05:27 เมตตอนเนี่ยเขาจะมีสัตว์ที่เรียกว่า
00:05:27 → 00:05:29 Megก้าโคนียมก้าที่มันแปลว่าใหญ่
00:05:29 → 00:05:32 เหมือนก้าบางนาเนอะแล้วก็โคเนียที่มัน
00:05:32 → 00:05:35 เป็นโคนนะเพราะว่าเชฟของมันนะคะซึ่งจริงๆ
00:05:35 → 00:05:38 แล้วเนี่ยไอ้ตัวเมกาโคเนียหรือว่าไอ้ตัว
00:05:38 → 00:05:40 ไมโตคอเรนียขนาดยักษ์เนี่ยจริงๆมันมักจะ
00:05:40 → 00:05:43 เจอในโรคทางพันธุกรรมมากกว่าค่ะเพราะ
00:05:43 → 00:05:46 ฉะนั้นเนี่ยเอ่อคุณหมอเค้าก็เลยเกิดข้อ
00:05:46 → 00:05:49 สงสัยแล้วว่าเอ๊ะออนเซตของอาการมันไม่
00:05:49 → 00:05:52 เหมือนแท้แต่ดันไปเจอว่าพยาธิสภาพเนี่ยใน
00:05:52 → 00:05:54 ตัวเซลล์ชิ้นเนื้อที่มันเค้าเรียกว่าเอา
00:05:55 → 00:05:57 มาส่องเนี่ยมันดันเหมือนกับโรคโรคทาง
00:05:57 → 00:05:59 พันธุกรรมก็เริ่มน่าสนใจแล้วว่าอะไรเนี่ย
00:05:59 → 00:06:02 มันจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดปกติ
00:06:02 → 00:06:05 แบบนี้ได้บ้างนะคะเค้าก็เลยตามต่อค่ะว่า
00:06:05 → 00:06:07 อ่ะในเมื่อลักษณะของไอ้ตัวเมก้าโคเนีย
00:06:07 → 00:06:09 เนี่ยจริงๆมันมักจะมีความสัมพันธ์นะกับ
00:06:09 → 00:06:12 ความผิดปกติทางยีนบางตัวยีนตัวนั้นเนี่ย
00:06:12 → 00:06:16 เราเรียกว่า CHKB ยีนค่ะซึ่งมันจะส่งผลทำ
00:06:16 → 00:06:19 ให้เกิดความเค้าเรียกว่าเสื่อมของกล้าม
00:06:19 → 00:06:21 เนื้อเนาะเอ่อตั้งแต่กำเนิดเขาก็เลยเพื่อ
00:06:21 → 00:06:24 ให้มั่นใจว่าไม่พลาดแน่ๆก็อ่ะในเมื่อ
00:06:24 → 00:06:27 ไบอปซี่มาชิ้นเนื้อเหมือนเขาก็เลยส่งไอ้
00:06:27 → 00:06:31 ตัวผลเค้าเรียกว่าการตรวจของคุณโฮเซ่
00:06:31 → 00:06:33 เนี่ยไปส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อที่
00:06:33 → 00:06:35 จะไปดูเรื่องยีนเพิ่มเติมว่ามีความผิด
00:06:36 → 00:06:40 ปกติของยีนไอ้ CHKB นี้ไหมก็ปรากฏว่าทาง
00:06:40 → 00:06:44 ห้องแลบก็ออกมายืนยันค่ะว่าคุณโฮเซ่เนี่ย
00:06:44 → 00:06:47 ไม่ได้มีความผิดปกติของยีนตัวนี้อ่าเขาก็
00:06:47 → 00:06:50 เลยยิ่งอ่ะต้องตั้งคำถามมากกว่าเดิมถ้า
00:06:50 → 00:06:52 อย่างนั้นแล้วอ่ะมันมีความถุกติดอะไรได้
00:06:52 → 00:06:54 บ้างที่มันทำให้ไอ้ตัวไมโตคอนเรียเนี่ย
00:06:54 → 00:06:58 มันเกิดลักษณะแบบนี้ได้อืเขาก็เลยกลับไป
00:06:58 → 00:07:01 ดูที่ชิ้นเนื้อค่ะของคุณโฮซวิลอต้าอีก
00:07:01 → 00:07:03 ครั้งนึงทางทีมเนี่ยเขาก็เลยพยายามไปทำ
00:07:03 → 00:07:06 การค้นหาสาเหตุเพิ่มเติมนะนอกจากดูชิ้น
00:07:06 → 00:07:08 เนื้อแล้วเนี่ยนะคะก็มีการตรวจเ้าเรียก
00:07:08 → 00:07:11 ว่าสมรรถภาพของกล้ามเนื้อที่เราเรียกว่า
00:07:11 → 00:07:14 ดูเ้าเรียกว่าเอ่อเป็นการนำกระแสไฟฟ้าว่า
00:07:14 → 00:07:16 ไอ้ตัวกล้ามเนื้อมันตอบสนองยังไงบ้างเนาะ
00:07:16 → 00:07:18 ดูการนำกระแสไฟฟ้าของเส้นประสาทไปที่
00:07:18 → 00:07:21 กล้ามเนื้ออะไรต่างๆก็เรียกว่าพยายามตรวจ
00:07:21 → 00:07:23 ไม่ให้พลาดเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างที
00:07:23 → 00:07:25 นี้เนี่ยเคสของคุณโฮเซ่เนี่ยอาจารย์ธีริน
00:07:25 → 00:07:28 ก็บอกว่าเหมือนเดจาวูทำให้ 1 นึกถึง
00:07:28 → 00:07:32 อาจารย์ทีรินเ่ะนึกถึงเคสเคสนึงว่าเคยเจอ
00:07:32 → 00:07:35 คนไข้เคสนึงค่ะในอดีตที่อาจารย์เคยดูแล
00:07:35 → 00:07:39 เนี่ยเอ่อเป็นช่วงที่เขาเรียกว่าศึกษาโรค
00:07:39 → 00:07:42 ของกล้ามเนื้ออักเสบเป็น sever
00:07:42 → 00:07:44 inflammation of muscle เป็นการอักเสบ
00:07:44 → 00:07:47 ของกล้ามเนื้ออย่างนึงซึ่งในเคสนั้นณตอน
00:07:47 → 00:07:49 นั้นเนี่ยที่อาจารย์ทีรินมีโอกาสไปเอ่อทำ
00:07:49 → 00:07:53 การศึกษาด้วยหรือว่าดูแลเนี่ยก็เจอว่าใน
00:07:53 → 00:07:56 กรณีที่คนไข้เนี่ยมีในเรื่องของการอักเสบ
00:07:56 → 00:07:58 ของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรงเคสนั้นเนี่ยพอ
00:07:58 → 00:08:01 ไปซี่นะก็จำได้ว่าเจอว่าเหมือนว่าจะมี
00:08:01 → 00:08:03 ไมโตคอนเดรียเนี่ยขนาดใหญ่แบบนี้เหมือน
00:08:03 → 00:08:06 กันค่ะเพราะฉะนั้นเนี่ยก็เลยเป็นเหมือน
00:08:06 → 00:08:08 จุดที่แบบเตือนอาจารย์ทิวินว่าเอ๊หรือว่า
00:08:08 → 00:08:10 มันจะมีอะไรสัมพันธ์กันมั้นะระหว่างไอ้
00:08:10 → 00:08:13 โรคกล้ามเนื้ออักเสบเนี่ยกับไอ้การที่เรา
00:08:13 → 00:08:16 เจอไอ้ตัวไมโตคอเดียอ้วนๆนี่อาจารย์ก็เลย
00:08:16 → 00:08:20 ไปซักประวัติแล้วก็หาคำตอบเพิ่มเติมนะคะ
00:08:20 → 00:08:22 ซึ่งในเคสนั้นเนี่ยตอนนั้นเนี่ยที่
00:08:22 → 00:08:25 อาจารย์ทีรินเจอเนี่ยความน่าสนใจคือจริงๆ
00:08:25 → 00:08:28 แล้วเนี่ยคนไข้นะที่มีไอ้เรื่อง
00:08:28 → 00:08:31 ไมโตคอนตียตัวอ้วนเนี่ยมีโรคประจำตัวพื้น
00:08:31 → 00:08:33 ฐานอยู่แล้วก็คือเผอิญว่าเธอเนี่ยเป็นผู้
00:08:33 → 00:08:36 หญิงนะคะเราก็ป่วยเป็นมะเร็งค่ะซึ่งพอ
00:08:36 → 00:08:38 ป่วยเป็นมะเร็งปุ๊บเนี่ยเรามีอาการกล้าม
00:08:38 → 00:08:41 เนื้ออ่อนแรงเนี่ยกว่าจะมารู้ว่าอ่ามีใน
00:08:41 → 00:08:43 เรื่องของกล้ามเนื้ออักเสบมันก็เลยอาจจะ
00:08:43 → 00:08:46 เป็นในช่วงเค้าเรียกว่าตอนท้ายๆของโรค
00:08:46 → 00:08:48 แล้วเพราะมันมีอาการอย่างอื่นเนี่ยที่มัน
00:08:48 → 00:08:51 เค้าเรียกว่าโดนเค้าเรียกว่าโดนบังเอาไว้
00:08:51 → 00:08:53 จากโรคประจำตัวอยู่เดิมซึ่งสุดท้ายแล้ว
00:08:53 → 00:08:55 เนี่ยถึงแม้ว่าการรักษาเนี่ยพอไปเจอว่า
00:08:55 → 00:08:57 ไอ้กล้ามเนื้ออ่อนแรงในเคสคุณผู้หญิงคน
00:08:57 → 00:08:59 นี้เนี่ยน่าจะมาจากการที่กล้ามเนื้อ
00:08:59 → 00:09:01 อักเสบเนี่ยก็เลยให้การรักษาโดยเค้าเรียก
00:09:01 → 00:09:03 ว่าภูมิคุ้มกันบำบัดไปเนี่ยแล้วเธอถึงจะ
00:09:03 → 00:09:06 อาการดีขึ้นแต่สุดท้ายเธอก็ยังคงเสีย
00:09:06 → 00:09:08 ชีวิตเนาะด้วยโรคมะเร็งที่คลาดเธอไปอยู่
00:09:08 → 00:09:12 ดีค่ะแต่พอจำเคสเก่าเขึ้นมาได้ปุ๊บเนี่ย
00:09:12 → 00:09:15 อาจารย์ทีรินก็เลยเริ่มเค้าเรียกว่า
00:09:15 → 00:09:18 เหมือนจุดประกายแล้วว่าเออหรือว่าไอ้
00:09:18 → 00:09:20 เรื่องกล้ามในอักเสบนี่อาจจะเป็นสาเหตุก็
00:09:20 → 00:09:23 เลยกลับมาตั้งใจดูในเคสของคุณเอ่อโฮ
00:09:23 → 00:09:26 วิลต้าอีกครั้งนึงนะคะแล้วก็เลยไปเอ่อ
00:09:26 → 00:09:29 เค้าเรียกว่าทำการวิเคราะห์ชิ้นเนื้อของ
00:09:29 → 00:09:32 กล้ามเนื้อของคุณโฮเซวิลต้าใหม่ค่ะโดย
00:09:32 → 00:09:34 พยายามดูทั้งในเรื่องของโครงสร้างของ
00:09:34 → 00:09:36 กล้ามเนื้อเป็นยังไงมีความผิดปกติอะไร
00:09:36 → 00:09:38 บ้างในระดับเค้าเรียกว่าเซลล์ของกล้าม
00:09:38 → 00:09:41 เนื้อว่านอกจากที่จะมีเรื่องของ
00:09:41 → 00:09:44 ไมโตคอนเดรียที่มันใหญ่มากๆมีไอ้เมกะคนเ
00:09:44 → 00:09:46 ที่ใหญ่มากๆแล้วนั้นเนี่ยมันมีความผิด
00:09:46 → 00:09:49 ปกติอย่างอื่นด้วยมยพอสงสัยว่าเอ๊ะอาจจะ
00:09:49 → 00:09:51 เกี่ยวกับเรื่องของตัวการอักเสบเนี่ยก็
00:09:51 → 00:09:55 เลยไปย้อมสีก็เจอว่าเออเออในเซลล์กล้าม
00:09:55 → 00:09:57 เนื้อของคุณโฮเซลต้าเนี่ยนอกจากไอ้ตัว
00:09:57 → 00:10:00 ไมโตคอนตที่อ้วนใหญ่แล้วเนี่ยเขาก็ไปเจอ
00:10:00 → 00:10:03 ว่ามีหลักฐานของการอักเสบในกล้ามเนื้อ
00:10:03 → 00:10:06 อยู่จริงค่ะซึ่งบ่งบอกว่าน่าจะเป็นโรค
00:10:06 → 00:10:09 ภูมิคุ้มกันตัวเองหรือว่าออโติมมูนนั่น
00:10:09 → 00:10:13 เองนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยตอนนี้ทางทีมของ
00:10:13 → 00:10:16 ดร.ทีนเนาะแล้วก็คุณหมอแอชลียก็เลยคิดว่า
00:10:16 → 00:10:19 อ่ะงั้นจริงๆแล้วเนี่ยไอ้โรคของคุณวาต้า
00:10:19 → 00:10:21 เราตัดออกไปแล้วไม่ใช่โรคทำพันธุกรรมหรอก
00:10:21 → 00:10:23 แต่ว่าไอ้การผิดปกติที่เกิดขึ้นเนี่ยมัน
00:10:23 → 00:10:26 น่าจะเกิดจากการที่ภูมิคุ้มกันของคุณ
00:10:26 → 00:10:29 ยูต้าเนี่ยเข้าใจผิดค่ะว่าไอ้ตัวกล้าม
00:10:30 → 00:10:32 เนื้อนี่แหละเป็นเค้าเรียกว่าผู้ก่อการ
00:10:32 → 00:10:35 ร้ายอยู่ในร่างกายภูมิเมันก็เลยไปทำร้าย
00:10:35 → 00:10:38 กล้ามเนื้อของคุณโฮเซลวิลต้าค่ะซึ่งจาก
00:10:38 → 00:10:41 เค้าเรียกว่าสมมุติฐานนี้เองนะคะทั้งเอ่อ
00:10:41 → 00:10:44 2 ท่านทั้งทีมเนี่ยก็เลยให้การรักษาคุณ
00:10:44 → 00:10:47 วรต้าโดยการรักษาโดยภูมิคุ้มกันบำบัดเช่น
00:10:47 → 00:10:52 กันค่ะซึ่งณตอนนั้นเนี่ยอาจารย์ทีรินแกก็
00:10:52 → 00:10:55 ในบทความเก็บอกเลยว่าจริงๆเราก็ไม่สามารถ
00:10:55 → 00:10:58 ที่จะรับรองเนอะหรือว่าทำนายได้ว่าผลลับ
00:10:58 → 00:11:00 จะออกมาเป็นยังไงนะคะเพราะว่ามันก็เป็น
00:11:01 → 00:11:03 โรคใหม่เกิดเอ่อกระบวนการเกิดโรคแบบใหม่
00:11:03 → 00:11:06 ซึ่งยังไม่มีใครเคยเจอมาก่อนเนาะแต่ก็
00:11:06 → 00:11:10 ปรากฏว่าไอ้ตัววิธีการรักษาเนี่ยพบว่า
00:11:10 → 00:11:13 ช่วยทำให้คุณโฮสเตล้าเนี่ยกลับมากล้าม
00:11:13 → 00:11:15 เนื้อกลับมามีเรี่ยวมีแรงอีกครั้งนึงค่ะ
00:11:16 → 00:11:18 ก็เป็นเรื่องที่น่าดีใจมากๆแล้วก็นี่ก็
00:11:18 → 00:11:20 เลยเป็นสาเหตุว่าคุณโฮเซลเวลต้าเนี่ยก็
00:11:20 → 00:11:24 เลยเป็นคนแรกนะคะเป็นคนไข้คนแรกที่ได้รับ
00:11:24 → 00:11:25 การ
00:11:25 → 00:11:28 รักษาด้วยโรคใหม่ที่เขาเพิ่งเจอก็คือเป็น
00:11:28 → 00:11:30 โรคออโติมมูนคือภูมิคุ้มกันของตัวเอง
00:11:30 → 00:11:33 เนี่ยไปทำลายเซลล์กล้ามเนื้อของตัวเอง
00:11:33 → 00:11:36 แล้วก็มีพยาพยาธิภาพก็คือมีไมโตคอนเดรีย
00:11:36 → 00:11:38 ขนาดใหญ่อยู่ในเซลล์กล้ามเนื้อแล้วก็เจอ
00:11:38 → 00:11:40 ว่ามีสัญญาณของการอักเสบในกล้ามเนื้อโรค
00:11:40 → 00:11:43 นี้ทางทีมของอาจารย์คีินริ้วเนี่ยก็เลย
00:11:43 → 00:11:48 ตั้งชื่อให้ว่า I m หรือว่าอิมนั่นเองนะ
00:11:48 → 00:11:51 คะแต่ว่าคือ i แล้วก็ m 3 ตัวนะคะมาจาก
00:11:51 → 00:11:55 immมmediated mea myopathy
00:11:55 → 00:11:59 ค่ะก็พอให้การรักษาด้วยกันเ้าเรียกว่าให้
00:11:59 → 00:12:02 ตัวเอ่อภูมิคุ้มกันเนาะบำบัดไปเรื่อยๆกับ
00:12:02 → 00:12:04 ร่วมกับการให้สเตอรอยด์เนี่ยก็คุณเซลต้า
00:12:05 → 00:12:09 ก็อาการดีขึ้นค่ะซึ่งที่มาที่ไปเนี่ยผล
00:12:09 → 00:12:11 จากการรักษาอันนี้ได้เนี่ยเค้าบอกว่าอัน
00:12:11 → 00:12:14 ที่เป็นประโยคที่ฟ้าประทับใจมากๆนะที่คิด
00:12:14 → 00:12:17 ว่าเป็นคีย์เวิร์ดที่น่าจะเป็นแรงบันดาล
00:12:17 → 00:12:20 ใจไม่ว่าจะกับคนอาชีพไหนคืออาจารย์ทีริน
00:12:20 → 00:12:24 บอกว่าจำได้เลยว่าตอนที่เรียนกับเอ่อ
00:12:24 → 00:12:26 Professเซอรเอองเกลซึ่งท่านเสียไปแล้ว
00:12:26 → 00:12:29 เนี่ยท่านบอกว่าเราเนี่ยจำเป็นที่จะต้อง
00:12:29 → 00:12:34 เป็นคนที่ใจกว้างมี Open Mind อยู่เสมอ
00:12:34 → 00:12:38 เพราะว่าในโลกเอ่อไม่ใช่ในโรคต่างๆแล้วก็
00:12:38 → 00:12:41 ในโลกทางการแพทย์อ่ะค่ะยังมีเรื่องราว
00:12:41 → 00:12:45 ใหม่ๆที่เราจะต้องคอยเรียนรู้แล้วก็ยังมี
00:12:45 → 00:12:47 เรื่องราวใหม่ๆที่มันยังรอการถูกค้นพบ
00:12:47 → 00:12:51 อยู่เพราะฉะนั้นเนี่ยอย่าไปยึดอะไรตาม
00:12:51 → 00:12:54 องค์ความรู้เดิมว่ามันเป็นไบเบิลซะที
00:12:54 → 00:12:56 เดียวการ keep open mind เนี่ยฟาว่า
00:12:56 → 00:12:59 เป็นประโยคซึ่งไม่น่าเชื่อว่าอาจารย์ท่าน
00:12:59 → 00:13:02 นึงสอนส่งมาสู่อาจารย์อีกท่านนึงแล้วฟ้า
00:13:02 → 00:13:04 ก็มั่นใจว่าคุณหมอแอชลียก็จะจำเคสนี้ไปจน
00:13:04 → 00:13:07 ตายแล้วก็น่าจะเป็นคุณหมอที่น่าจะมีผลงาน
00:13:07 → 00:13:09 อะไรออกมาดีๆให้เราได้ติดตามชื่นชมอย่าง
00:13:09 → 00:13:13 แน่นอนนะคะอืซึ่งณปัจจุบันเนี่ยถึงแม้ว่า
00:13:13 → 00:13:16 คุณโฮเซ่เนี่ยจะไม่ได้กลับมาดี 100%
00:13:16 → 00:13:19 เหมือนก่อนที่จะป่วยนะคะแต่ว่าก็ดีขึ้นใน
00:13:19 → 00:13:22 ระดับที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้โดยทาง
00:13:22 → 00:13:25 ทีมของคุณหมอแอชลียเนี่ยที่เป็นผู้ดูแล
00:13:25 → 00:13:29 คุณหมอก็ได้ให้ข้อคิดเอาไว้ดีมากๆเลยว่า
00:13:29 → 00:13:31 จริงๆแล้วอ่ะก็คงการันตีไม่ได้อยู่แล้ว
00:13:31 → 00:13:33 ว่าจะดีขึ้น 100% หรือเปล่าแต่ว่าถ้าหาก
00:13:33 → 00:13:36 คุณหมอเนี่ยสามารถจะช่วยให้คุณโฮเซ่เนี่ย
00:13:36 → 00:13:40 สามารถได้แรงความเป็นอิสระความสามารถใน
00:13:40 → 00:13:42 การดูแลตัวเองที่หายไปเนี่ยได้กลับมาสัก
00:13:42 → 00:13:45 10% เนี่ยคุณหมอก็ดีใจมากๆแล้วนั่นก็คือ
00:13:45 → 00:13:46 สาเหตุที่คุณหมอเลือกที่จะเข้ามาเป็น
00:13:47 → 00:13:50 แพทย์ค่ะฟาก็หวังว่าเรื่องราวในสัปดาห์
00:13:50 → 00:13:52 นี้นะจะเป็นเรื่องราวสนุกๆที่เอามาเล่า
00:13:52 → 00:13:54 ให้ทุกคนฟังถ้าอยากอ่านเพิ่มเติมนะคะ
00:13:54 → 00:13:55 เพราะจริงๆมีรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยว่า
00:13:55 → 00:13:57 กำลังทำการศึกษาอะไรอยู่บ้างสำหรับโรค
00:13:57 → 00:13:59 ใหม่นี้ว่ามันมีความสัมพันธ์กับโรคอะไร
00:13:59 → 00:14:01 อย่างอื่นอีกหรือเปล่าว่าก็น่าสนใจมากเลย
00:14:01 → 00:14:05 ทีเดียวก็คิดว่าเป็นเหมือนน้ำหยดเล็กๆเนอ
00:14:05 → 00:14:07 ให้พวกเราดีใจในช่วงที่มีแต่ข่าวอะไรก็
00:14:07 → 00:14:10 ไม่รู้ว่าอ่ามีเรื่องราวที่น่าภูมิใจนอก
00:14:10 → 00:14:12 จากน้องลิซ่าของเราก็ยังมีคุณหมอไทยของ
00:14:12 → 00:14:14 เราที่เก่งๆนะคะแล้วก็เป็นเรื่องราวดีๆ
00:14:14 → 00:14:17 ว่าตราบใดถ้าเรายัง Open Mind เนาะคือ
00:14:17 → 00:14:20 เปิดใจกว้างนะคะแล้วก็ยังมีเป้าหมายในการ
00:14:20 → 00:14:23 ที่จะดูแลให้คนคุณภาพชีวิตดีขึ้นเนี่ยมัน
00:14:23 → 00:14:25 ก็น่าจะมีเรื่องราวดีๆอะไรมาทำให้พวกเรา
00:14:25 → 00:14:27 รู้สึกแฮปปี้อย่างแน่นอนก็ยังไงอย่าลืมกด
00:14:28 → 00:14:29 ติดตามช่อง Blue Zone Thailand ของหมอ
00:14:29 → 00:14:31 ฟ้าด้วยนะคะสัปดาห์หน้าเราค่อยกลับมาคุย
00:14:31 → 00:14:33 กันใหม่เรื่องไลฟ์สไตล์เพื่อป้องกัน
00:14:34 → 00:14:36 Hypertensชionหรือว่าความดันโลหิตสูงค่ะ
00:14:36 → 00:14:40 สวัสดีค่ะ