00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีค่ะหมอแดงแพทยแผนไทยค่ะวันนี้ก็มา
00:00:02 → 00:00:05 พบกับแขกรับเชิญคนที่ 3 ของรายการหมอแดง
00:00:05 → 00:00:07 ชวนคุยนะคะแขกรับเชิญท่านนี้ก็ต้องบอกว่า
00:00:07 → 00:00:09 รู้จักกันมาหลายปีแล้วเหมือนกันนะคะก็
00:00:09 → 00:00:12 เป็นอีกคนนึงที่แดงชื่นชมในเรื่องของมุม
00:00:12 → 00:00:14 มองความคิดนะคะฝี่หมยลายมือในการเขียน
00:00:14 → 00:00:16 เนาะแล้วก็วินัยนะคะต้องเล่าให้ฟังอย่า
00:00:16 → 00:00:18 งี้ก่อนว่าก่อนหน้าเ 5-6 ปีก่อนเนี่ยแดง
00:00:18 → 00:00:20 เคยเขียนเพจนะคะ dacy inspire ก่อนที่จะ
00:00:20 → 00:00:23 มาเป็นช่องเป็นเพจสุขภาพว่าแดงเขียนเพจ
00:00:23 → 00:00:25 นี้มาก่อนแบบให้กำลังใจเกี่ยวกับเรื่อง
00:00:25 → 00:00:27 ของชีวิตที่เราได้อ่านหนังสือมาเอามาถ่าย
00:00:27 → 00:00:30 ทอดเนาะซึ่งเขียนแบบหลายวันมากนะคะเขียน
00:00:30 → 00:00:32 เป็น 1000 ตอนเหมือนกันนะก็ได้แรงบันดาล
00:00:32 → 00:00:34 ใจมาจากเพจของคุณคนนี้นั่นแหละนะคะเพราะ
00:00:34 → 00:00:36 ฉะนั้นเดี๋ยวใครที่สนใจอยากจะได้เรื่อง
00:00:36 → 00:00:39 ของมุมมองชีวิตหรือว่าการเขียนใครที่ตาม
00:00:39 → 00:00:41 เพจเอยู่แล้วนะคะมีคนติดตามประมาณ 80,000
00:00:41 → 00:00:44 กว่าคนเลยนะเยอะมากแล้วปกติเนี่ยแขกท่าน
00:00:45 → 00:00:47 เนี่ยก็อาจจะไม่ได้ค่อยได้พบเจอเ้าในช่อง
00:00:47 → 00:00:49 อื่นๆนะคะเราจะสื่อสารกับเาผ่านการเขียน
00:00:49 → 00:00:52 ผ่านทั้งข้อความใช่มยวันนี้จะชวนมานั่ง
00:00:52 → 00:00:54 คุยตัวเป็นๆเลยส่วนในภาพของการทำงานนะคะ
00:00:54 → 00:00:57 แขกรับืท่านนี้ก็เป็นอีกท่านนึงที่ไม่ได้
00:00:57 → 00:01:00 ทำงานตรงกับสายที่จบมาเนาะแต่ว่าก็เติบโต
00:01:00 → 00:01:02 มากๆเลยในองค์กรใครที่อาจจะทำงานอยู่เนาะ
00:01:03 → 00:01:04 อยากจะพัฒนาตัวเองก็เดี๋ยวเราลองมาคุยกับ
00:01:04 → 00:01:07 เขาด้วยในเรื่องนี้นะคะวันนี้ก็แขกรับ
00:01:07 → 00:01:09 เชิญนั่งรอเราอยู่แล้วนะคะคุณรุฒค่ะอ้า
00:01:10 → 00:01:15 ยายก้องก่อนสวัสดีค่ะสวัดีสวัสดีครับมาอื
00:01:15 → 00:01:18 ขอบคุณมากเลยที่รุสละเวลามาเราก็จะชวนคุย
00:01:18 → 00:01:22 ไปแล้วเราก็จัดกล้องไปได้สบายๆสบายๆสบายๆ
00:01:22 → 00:01:24 เดี๋ยวให้รุแนะนำตัวนิดนึงแล้วก็ทำงาน
00:01:24 → 00:01:26 อะไรอยู่บ้างอายุเท่าไหร่อย่างงี้ค่ะอ
00:01:26 → 00:01:28 โอเคอ่าชื่อรุฒนะครับอานนท์วมคพิทักษ์ตอน
00:01:28 → 00:01:31 นี้เป็น VP of people ที่มนวงในนะครับ
00:01:31 → 00:01:35 อายุก็ใกล้จะ 44 ปีละอื 44 อ่าฮะแกกว่า
00:01:35 → 00:01:39 เรานิดนึงอือๆๆไม่เป็นไรโอเคอ่ะอย่างงั้น
00:01:39 → 00:01:41 ถามก่อนให้รุแนะนำตัวเพิ่มเติมว่าเท่าที่
00:01:41 → 00:01:45 เรารู้มาคือรุจบวิศวะเนาะแต่ปัจจุบันทำ
00:01:45 → 00:01:47 Head of People เออมันเป็นมายังไงก็
00:01:47 → 00:01:51 เหตุผลเดียวคือรู้จักเจ้าของไมนวงในคือก็
00:01:51 → 00:01:54 คือจบวิไฟฟ้ามาแล้วก็รู้ตัวไม่ชอบไฟฟ้าก็
00:01:54 → 00:01:56 เลยมาทำงานเป็นโปรแกรมเมอรคือ Engineer เ
00:01:56 → 00:01:58 เรียกว่า developer เนาะทำไปสักแป๊บก็รู้
00:01:59 → 00:02:01 ว่าตัวไม่ชอบเปรก็เลยไปทำงานเป็นสาย
00:02:01 → 00:02:03 ซัพพอร์ตก็คือว่าเป็น Technical supp อื
00:02:03 → 00:02:05 แล้วก็รู้ตัวไม่ชอบซัพพอร์ตอีกก็ย้ายมา
00:02:05 → 00:02:08 เลยไปทำสื่อสารองค์กรอ้ออ่าซึ่งก็ได้รู้
00:02:08 → 00:02:10 จักกับแดงตอนที่ไปไปเรียนเข้าคอร์สอะไร
00:02:10 → 00:02:12 สักอย่างใช่มั้ยเอตอนนั้นเขไปไปเรียนเ
00:02:12 → 00:02:16 สัมมนาสักอย่างแล้วก็ใช่แล้วก็ทำอยู่สก็
00:02:16 → 00:02:18 ทำงานอยู่สายนั้นอยู่สัก 6-7 ปีในสายสื่อ
00:02:19 → 00:02:21 สารองค์กรแล้วค่อยย้ายมาทำงานสาย HR ซึ่ง
00:02:21 → 00:02:24 ก็คือเจ้านายคนเนี่ยปัจจุบันก็คือคุณยอด
00:02:24 → 00:02:26 ชีสุภกลที่เป็น CEO แล้วโคฟาวเดอร์ของไมน
00:02:26 → 00:02:30 วงในเนี่ยชวนมาทำที่ที่วงในอืทีม People
00:02:30 → 00:02:33 นะตอนนั้นที่พนักงาน 120 คนมีทีม People
00:02:33 → 00:02:36 แค่ 3 คนรวมตัวแล้วแล้วนะอืประมาณนั้นโห
00:02:36 → 00:02:40 สอัพสุดๆอ่ะ 2017 ใช่ใช่ๆแล้วปัจจุบันตอน
00:02:40 → 00:02:43 นี้พนักงาน 1000 คนนะก็ใช่ก็ทีมก็ใหญ่พอ
00:02:43 → 00:02:45 สมควรเ 30 กว่าคนละเพราะไม่มีพนักงาน
00:02:45 → 00:02:46 ประจำ 1000 คนแล้วมีอซออีกหลายร้อยคน
00:02:46 → 00:02:49 เหมือนกันอะไรอย่าเงี้อือือๆรุก็ทำงาน
00:02:49 → 00:02:51 ด้าน HR มามานานเนาะอะไรที่ทำให้เรายังคง
00:02:51 → 00:02:55 แบบอทำงานด้านนี้มาเรื่อยๆก็งานมันก็สนุก
00:02:55 → 00:02:58 แล้วก็ได้เ่อเรื่องคนมันไม่มีวันจบอละมัน
00:02:58 → 00:03:01 ก็จะได้แก้ไปเรื่อยๆแล้วก็จะให้เห็นความ
00:03:01 → 00:03:04 มันก็มันมีบางจุดที่มันก็อ่าปวดหัวบางจุด
00:03:04 → 00:03:07 ที่มันก็เค้าเรียกนะเติมเต็มเหมือนกัน
00:03:07 → 00:03:08 อะไรอย่าเงี้ยเวลาเราเห็นคนที่เรารับเข้า
00:03:08 → 00:03:11 มาแล้วเเติบโตขึ้นเรื่อยๆทั้งในทีมตัวเอง
00:03:11 → 00:03:13 แล้วก็คนทีมอื่นๆเนะที่เาเติบโตขึ้นเก่ง
00:03:13 → 00:03:15 ขึ้นแล้วก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารได้มันก็
00:03:15 → 00:03:18 ช่วยให้หลสเออเราเราช่วยให้องค์กรมีคนที่
00:03:18 → 00:03:20 ดีขึ้นแล้วก็เขาเองก็มีชีวิตที่ดีขึ้น
00:03:20 → 00:03:21 แล้วก็ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยอะไร
00:03:21 → 00:03:23 อย่างเงี้ยมันก็เลยมันก็ค่อนข้างที่จะ
00:03:23 → 00:03:26 เอ่อตอบโจทย์ในแง่ที่ว่าอยากทำงานที่มัน
00:03:26 → 00:03:28 มี Impact แล้วมันก็ make a difference
00:03:28 → 00:03:30 ได้ใช่ป่ะช่วยให้มันมีความเปลี่ยนแปลงใน
00:03:30 → 00:03:32 องค์กรได้อะไรอย่างเงี้ยในฐานะที่อยู่ใน
00:03:32 → 00:03:37 แวดวงนี้มาก็ 7 ปีเนาะอะไรที่แบบว่า
00:03:37 → 00:03:39 เปลี่ยนไปมากเลยอ่ะในในมุมของคนทำงานใน
00:03:39 → 00:03:42 องค์กรอ่ะกับไม่ว่าจะอีกกี่ปีก็จะไม่
00:03:42 → 00:03:44 เปลี่ยนไปก็จะเป็นอย่างงี้แหละอ๋เรื่อง
00:03:44 → 00:03:46 ที่มันเปลี่ยนแปลงเยอะสุดคงเรเรื่องโควิด
00:03:46 → 00:03:50 มยที่มันทำให้อ่าคนยอมทำงานเ่อออฟฟิศหลาย
00:03:50 → 00:03:52 ที่ยอมให้ทำงานที่บ้านได้อะไรเงี้แต่ก่อน
00:03:52 → 00:03:54 ที่จะมีโควิดในวงในแต่ก่อนเป็นวงในเก่อน
00:03:54 → 00:03:56 จะเมกับลายแมนลายแมนวงในเนี่ยวงในก็มีให้
00:03:56 → 00:03:59 ทำงานที่บ้านอยู่แล้วบ้างบางส่วนอาจจะ
00:03:59 → 00:04:01 เดือนละ 2 23 วันอะไรงแล้วแต่ว่ามีความ
00:04:01 → 00:04:03 จำเป็นหรรือเปล่าใช่มแต่พอมาเป็นโควิด
00:04:04 → 00:04:06 ปุ๊บมีล็อกดาวน์ก็คือทำงานที่บ้านเต็ม 5
00:04:06 → 00:04:08 วันทุกต่อสัปดาห์ทุกวันเลยเป็นเวลาเป็นปี
00:04:08 → 00:04:10 เลยจนกระทั่งปีแล้วก็เริ่มให้กับพ้ามาทำ
00:04:10 → 00:04:13 งานที่ออฟฟิศแบ 2 วันต่อสัปดาห์เฉพาะทีม
00:04:13 → 00:04:14 ที่เป็นทีม Business นะถ้าทีมที่เป็นทีม
00:04:15 → 00:04:17 เทคก็ยังไม่เข้าก็ได้อะไรอย่างเงี้ยนะ
00:04:17 → 00:04:19 ความเปลี่ยนแปลงก็คือว่าพอมันไม่ได้เข้า
00:04:19 → 00:04:23 ออฟฟิศบ่อยๆมันก็คนก็รู้จักกันน้อยลงไอ้
00:04:23 → 00:04:26 สังคมของที่ทำงานมันก็จะค่อนข้างบางงนิด
00:04:26 → 00:04:27 นึงเพราะว่ามันไม่ได้เจอหน้ากันหรือว่า
00:04:27 → 00:04:29 ไม่ได้ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันเท่าไหร่
00:04:30 → 00:04:31 นักอะไรอย่างเงี้ยก็เป็นสิ่งที่น่าเสีย
00:04:31 → 00:04:33 ดายแต่ข้อดีก็คือว่าคนที่มีครอบครัวแล้ว
00:04:33 → 00:04:34 ก็มีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้นไม่ต้องเดิน
00:04:34 → 00:04:37 ทางใช่ป่ะอย่างเราก็มีเวลาไปส่งลูกทุกวัน
00:04:37 → 00:04:40 ตอนเช้าอะไรเงี้ยตอนบ่ายให้พ่อแม่ไปรับมี
00:04:40 → 00:04:42 เวลาสเปนกับลูกๆมากขึ้นไม่ไม่เหนื่อยกับ
00:04:42 → 00:04:45 การเดินทางใช่ป่ะแต่ขณะเดียวกันก็พอทำงาน
00:04:45 → 00:04:47 อยู่ที่บ้านแล้วก็ติดติดกับที่ว่าทำงาน
00:04:47 → 00:04:50 แล้วไม่มีเวลาเลิกงานบางทีทำงานจะถึง 19
00:04:50 → 00:04:52 20:00 นแล้วลูกๆก็จะมาเอแดดดี้มากินอะไร
00:04:52 → 00:04:54 กันเถอะเราก็จะเอ้ยอย่าเพิ่งขออีกนิดนึง
00:04:54 → 00:04:55 อะไรอย่าเงี้ยมันทำให้ไม่มีเส้นแบก
00:04:56 → 00:04:58 ระหว่างเวลางานเวลาส่วนตัวนั้นก็คือ
00:04:58 → 00:05:00 เรื่องของเลเส้นมันเบลออยู่แล้วตอนนี้
00:05:00 → 00:05:02 เบลอกว่าเดิมในเรื่องของการแบ่งเวลางาน
00:05:02 → 00:05:04 เวลาส่วนตัวใช่ป่ะหลังจากมีโควิดแล้วอะไร
00:05:04 → 00:05:06 อย่างเงี้ยนะฮะนัคือสิ่งที่เเปลี่ยนแปลง
00:05:06 → 00:05:08 ไปมากที่สุดแล้วก็อส่วนสิ่งที่ไม่เปลี่ยน
00:05:08 → 00:05:12 ไปเลยก็คิดว่าคนก็ยังต้องการเรื่องเดิมๆ
00:05:12 → 00:05:15 นะเวลาเราบอกว่าเด็กรุ่นใหม่มองหาอะไรอ่ะ
00:05:15 → 00:05:17 เหมือนก็ไม่ได้ต่างจากคนรุ่นก่อนเท่าไหร่
00:05:17 → 00:05:19 หรอกก็คือต้องการงานที่มันมีความหมายมัน
00:05:19 → 00:05:21 ท้าทายใช่มต้องการ culture ที่ดีหมายถึง
00:05:21 → 00:05:23 ว่าเพื่อนร่วมงานที่ดีัวหน้าที่ดีก็คือ
00:05:24 → 00:05:26 เรื่องของเคาเจอร์แล้วก็ต้องการค่าตอบแทน
00:05:26 → 00:05:28 ที่เหมาะสมอแล้วเหมาะสมแต่ละคนก็ไม่
00:05:28 → 00:05:30 เหมือนกันนะสมของเด็กฉันต้องการเงินเดน
00:05:30 → 00:05:33 แสนนภายในอายุก่อน 30 ปีขณาที่คนที่ทำงาน
00:05:33 → 00:05:35 รุ่น Gen X geny เ้ยเงินเดือน 780,000
00:05:35 → 00:05:37 ก็โอเคแล้วสมมุตินะอันนี้คือแต่ก่อนก็คือ
00:05:37 → 00:05:39 ไม่ได้รีบที่จะต้องเติบโตหรือว่ารีบรวย
00:05:39 → 00:05:40 ขนาดนั้นแต่คนรุ่นใหม่ก็มีทางเรื่องใน
00:05:41 → 00:05:44 ชีวิตเยอะเก็อยากจะเห็นเพื่อนๆมีมีรายได้
00:05:44 → 00:05:46 หลายๆทางใช่ป่ะมันเาก็มีโอกาสที่เขาอยาก
00:05:46 → 00:05:49 จะมองหาสิ่งที่ดีกว่าเสมออยู่แล้วอะไร
00:05:49 → 00:05:51 อย่างเงี้ยดังนั้นก็กลายเป็นว่าผู้ใหญ่จะ
00:05:51 → 00:05:53 มองว่าเด็กรุ่นใหม่มีความอดทนแต่จริงๆ
00:05:53 → 00:05:55 แล้วเราว่าเป็นแค่ว่าเด็กรุ่นใหม่เมีทาง
00:05:55 → 00:05:56 เลือกมากกว่าคนรุ่นเก่าอะไนั้นเองมันก็
00:05:56 → 00:05:58 เลยไม่จำเป็นต้องทนกับสิ่งที่ไม่ได้ make
00:05:58 → 00:06:01 sense ต่อเขาอะไรงอย่าเงี้ยใช่ป่ะอก็เลย
00:06:01 → 00:06:04 คิดว่าสิ่งก็คือถ้ากลับมาที่ว่าพื้นฐานก็
00:06:04 → 00:06:06 คือว่าคนต้องการงานที่มันดีงานทำแล้วมี
00:06:06 → 00:06:08 ความมีความสุขมีแล้วมีทำู้สึกว่าเออตัว
00:06:08 → 00:06:10 เองได้ใช้ได้มีคุณค่าแล้วก็ได้ใช้ความ
00:06:10 → 00:06:12 สามารถใช่ป่ะอันที่ 2 ก็คือเรื่องของ
00:06:12 → 00:06:14 เพื่อร่มงานที่ดีหัวหน้างานที่ดีเรื่อง
00:06:14 → 00:06:16 ของ culture อง์กรอันที่ 3 ก็คือมีเงินไป
00:06:16 → 00:06:19 เลี้งดูครอบครัวได้อือันนี้ไม่เปลี่ยนแน่
00:06:19 → 00:06:21 นอนตลอด 5 ปีที่ผ่านมาเลย 15 ปีต่อจากนี้
00:06:21 → 00:06:24 อะไรอย่างเงี้ยอย่างงี้คำถามต่อไปอาจจะ
00:06:24 → 00:06:27 แตะเรื่องคนอีกนิดนึงก็คือว่าอถ้าเกิดว่า
00:06:27 → 00:06:30 เราใส่ในหมวก HR เนาะอือเนของพนักงานที่
00:06:30 → 00:06:33 องค์กรต้องการคือเดี๋ยวมันก็จะมีแะเอ้ย AI
00:06:33 → 00:06:36 จะมาสภาพแวดล้อมปัจจัยกดดันคนเรางานที่
00:06:36 → 00:06:39 ฉันทำอยู่ยังจะมีอยู่ยอะไรเงี้ยอๆในฐานะ
00:06:39 → 00:06:41 ที่รุเป็นใส่หมวก HR เงี้ยอะไรที่คุณไม่
00:06:41 → 00:06:45 ต้องกลัวหรอกอือยังไงคุณก็ไม่ตกงานอือๆมี
00:06:45 → 00:06:48 งานทำแน่นอนถ้าคุณมีทักษะตรงนี้อืเอางี้
00:06:48 → 00:06:50 ก่อนเวลามีคนถามว่าถ้าจะอยู่หลายแมงนแล้ว
00:06:50 → 00:06:52 เติบโตได้ดีเนี่ยต้องมีอะไรบ้างที่จะพูด
00:06:52 → 00:06:55 ตลอดนะถ้าอยู่ที่นี่เติบตัวได้ดี 1 คือ
00:06:55 → 00:06:59 ต้องขยัน 2 คือฉลาดฉลาดคือมี poen มีสถูก
00:06:59 → 00:07:02 ป่ะอถ้าถ้าขยันแล้วไม่ฉลาดเนี่ยเพื่อนๆก็
00:07:02 → 00:07:04 เหนื่อยเพราต้องตามตามแก้งานอือถ้าฉลาด
00:07:04 → 00:07:06 แต่ไม่ขยันก็คือกินแรงเพื่อนเหมือนกันก็
00:07:06 → 00:07:08 คือมันมีความไม่ไม่แฟรหรือไม่ค่อย resp
00:07:08 → 00:07:10 เพื่อนๆร่วมงานนะต้องต้องมีทั้งคู่คือ
00:07:10 → 00:07:13 ทั้งขยะฉลาดใช่ป่ะแล้วก็อันที่ 3 คือจิต
00:07:13 → 00:07:15 ใจดีก็คือเรื่องของ mind ที่ดีแหละจิตใจ
00:07:15 → 00:07:17 ดีคือเป็นคนดีอ่ะอถ้านิสัยไม่ดีุบมันก็
00:07:18 → 00:07:20 ท็อกซิกกับเพื่อนร่วมงานใช่ป่ะสุดท้ายคือ
00:07:20 → 00:07:25 จิตแข็งเพราะว่าองค์กรที่มันมันงในมัน
00:07:25 → 00:07:27 แข่งขันกับแข่งขันสูงมากตลาด Food
00:07:27 → 00:07:29 delivery ใช่ป่ะมันมีการเปลี่ยนแปลงตลอด
00:07:29 → 00:07:31 เวลาเวลามีความกดดันสูงมากๆถ้าคุณจิตไม่
00:07:31 → 00:07:34 แข็งพอต่อให้คุณขยันฉลาดนิสัยดีอ่ะคุณก็
00:07:34 → 00:07:36 อาจจะแกได้เหมือนกันหมายถึงว่าทนความกด
00:07:36 → 00:07:39 ดันไม่ไหวอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็อืเอออาจจะ
00:07:39 → 00:07:42 ไม่ค่อยมีสติเป็นก็ได้นก็ต้องมีฝี้าในกัน
00:07:42 → 00:07:45 ขยันฉลาดนิสัยดีแล้วก็แล้วก็จิตแข็งอะไร
00:07:45 → 00:07:47 อย่างเงี้ยซึ่งก็คิดว่าน่าจะ Apply ได้
00:07:47 → 00:07:50 กับองค์กรส่วนใหญ่นะหมายถึงว่าถ้าคุณมี 4
00:07:51 → 00:07:54 ข้อนี้แล้วแล้วความหมายของการขยันคือขยัน
00:07:54 → 00:07:55 ในการที่จะเรียนรู้อยู่เสมอได้เนาเพราะ
00:07:55 → 00:07:58 ว่าเรารู้แล้วอ่ะมีแชท gvt มี J เข้ามา
00:07:58 → 00:08:00 ปุ๊บแล้วก็เรามีการฝึกใช้ตัวพวกนี้ในการ
00:08:00 → 00:08:03 ที่จะเข้ามาอ่าช่วยในการทำงานหรือเปล่า
00:08:03 → 00:08:05 เป็นต้นอะไรอย่างเงี้ยคือไม่มีใครกล้าที่
00:08:05 → 00:08:07 จะพยากรณ์หรอกว่า AI มันจะเปลี่ยนอะไร
00:08:07 → 00:08:09 อะไรอไปบ้างใช่ป่ะแต่ก็ต้องกลับมาดูที่
00:08:09 → 00:08:12 ว่าเราจะสามารถที่จะอ่าเรียนรู้แล้วก็
00:08:12 → 00:08:14 เป็นเพื่อนกับมันได้หรือเปล่าเป็นมิตรก
00:08:14 → 00:08:15 กันมันได้หรือเปล่าถ้าเกิดเรามปฏิเสษปุ๊บ
00:08:15 → 00:08:17 เราก็อาจจะตกขบวนหรืออะไรก็ได้อย่างนี้
00:08:17 → 00:08:20 เป็นต้นใช่ป่ะขณะเดียวกันก็ต้องมีความ
00:08:20 → 00:08:22 เข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้งประมาณนึงว่า
00:08:22 → 00:08:24 อะไรคือสิ่งที่เหมาะกับเราอะไรที่ทำแล้ว
00:08:24 → 00:08:27 มันเครียดเพราะว่าเด็กรุ่นใหม่ใช้คำเด็ก
00:08:27 → 00:08:28 รุ่นใหม่ก็ได้แต่เป็นอันนี้อาจจะเป็น
00:08:28 → 00:08:31 เทรนดที่เห็นชัดค่อนข้างชัดคือว่าเด็ก
00:08:31 → 00:08:33 รุ่นใหม่มีโอกาสเป็นซึมเศร้ามากกว่าเด็ก
00:08:33 → 00:08:35 รุ่นพรุ่นพวกเรารุ่นพวกเราไม่ค่อยมีใคร
00:08:35 → 00:08:38 เป็นอาจจะ 1 ใน 20 คนเลยี่แบบ 1 ในฉัน
00:08:38 → 00:08:41 เป็นอยู่ออไม่ใช่เป็น 1 ใน 3 1 ใน 4 จะ
00:08:41 → 00:08:43 ต้องมีเ็กเป็นซึมเศร้าอะไรซึ่งไม่รู้ว่า
00:08:43 → 00:08:45 มันเกิดจากการที่เขาอยู่หน้าคอมเยอะเกิน
00:08:45 → 00:08:46 ไปอยู่กับมือถือเยอะเกินไปหรือเปล่าซึ่ง
00:08:46 → 00:08:48 น่าจะมีปัจจัยนิดนึงเนาะกับการที่เขาทำ
00:08:48 → 00:08:51 งานแต่ที่บ้านไม่ค่อยได้เจอธรรมชาติไม่
00:08:51 → 00:08:53 ค่อยได้เจอผู้คนอะไรอย่างเงี้แล 3 มื่อ
00:08:53 → 00:08:55 เขาหมดพอเหมดแต่เสพทุกอย่างที่เข้ามาไม่
00:08:55 → 00:08:57 ว่าจะเป็น tiktok Facebook YouTube
00:08:57 → 00:08:59 เนี่ยเไม่มีเวลาคุยกับตัวเองมากเพียงพอ
00:08:59 → 00:09:03 มันทำให้เขาเอ่ออาจจะไม่ได้มีสติสมชัญญา
00:09:03 → 00:09:05 มากเพียงพรในการที่จะมีเวลารีเฟลกแล้วก็
00:09:05 → 00:09:07 นั่งคุยกับตัวเองให้มันให้มันตกผลึกว่า
00:09:08 → 00:09:09 อะไรคือสิ่งที่เขาเหมาะไม่เหมาะอะไรอย่าง
00:09:09 → 00:09:13 เงี้ยดังนั้นก็เลยคิดว่าเอ่อถ้าเกิดเรา
00:09:13 → 00:09:16 เด็กๆมีตรงนี้มากขึ้นแบ่งเวลาให้ว่างๆเฉย
00:09:16 → 00:09:18 ๆบ้างแต่ก่อนถ้าเป็นวกเวลาเวลานัดเจอ
00:09:18 → 00:09:20 เพื่อนแต่ก่อนไม่มีมือถือเนาะไปนั่งรอ
00:09:20 → 00:09:22 เพื่อนแล้วเพื่อนศาก็ต้องนั่งนั่งเบื่อๆ
00:09:22 → 00:09:23 ไปไหนก็ไม่ได้นึกออกป่ะแต่สมัยนี้มันคือ
00:09:23 → 00:09:25 ไม่มีทังที่จะว่างได้ต้องนั่งเล่นมือถือ
00:09:25 → 00:09:27 ไปเรื่อยๆอย่างเงี้ยคือไม่มีดาว Time เลย
00:09:27 → 00:09:29 คนสมัยนี้คือมันจะต้องสมองมจะวิ่งตลอด
00:09:29 → 00:09:32 เวลาบางทีมันก็ทำให้เคมีในร่างกายไม่
00:09:32 → 00:09:34 สมดุลก็ได้เช่นกันแต่แต่เจอมากขึ้นจริงๆ
00:09:34 → 00:09:37 ใช่มั้จริงๆๆจริงๆใน HR เห็นเลยว่าเด็ก
00:09:37 → 00:09:40 เด็กเป็น depress มากขึ้นค่อนข้างชัดมาก
00:09:40 → 00:09:42 ซึไอ้เราทำไมไม่ค่อยเป็นหรเราแต่ก่อนเรา
00:09:42 → 00:09:44 ไม่ได้ยอมรับกันเลยก็ไม่น่าใช่เพราะว่า
00:09:44 → 00:09:48 มันมันชัดมากๆว่าคนรุ่นใหม่เป็นซึมเศร้า
00:09:48 → 00:09:50 มากขึ้นแล้วแล้วในมุมของ HR เองเราเรา
00:09:50 → 00:09:53 ต้องอะไรยังไงเรื่องนี้ยังไงมยก็เราก็มี
00:09:53 → 00:09:56 สมัครสมัครพวกเอ่อบริการที่เขาเป็นที่
00:09:56 → 00:09:59 ปรึกษาอ่าไม่ว่าจะเป็นจิตแพทย์หรือทจิต
00:09:59 → 00:10:03 ที่เนักอ่าคนทำงานเราสามารถติดต่อไปไปได้
00:10:03 → 00:10:05 ใช้บริการฟรีอะไรอย่างเงี้ยก็คือเป็น
00:10:05 → 00:10:07 หนึ่งในสวัสดิการในพนักงานที่จะคุยกับคน
00:10:07 → 00:10:09 เหล่านี้ได้เพราะจะได้ช่วยปลดอะไรบาง
00:10:09 → 00:10:12 อย่างในจิตใจอะไรอย่างเงี้ยเออๆเอจริงๆ
00:10:12 → 00:10:14 เราว่า HR ก็เป็นพารสำคัญเลยแหละคือมัน
00:10:14 → 00:10:17 เหมือนกับว่าถ้าเกิดเราอยากได้งานเนาะแต่
00:10:17 → 00:10:20 สุขภาพจิตมันมันไม่ได้แล้วยิ่งเทรนด์
00:10:20 → 00:10:22 ปัจจุบันน่ะมันไม่ใช่โรคแบบเหมือนโรคหลอ
00:10:22 → 00:10:24 เลือดหัวใจ ncd หรืออะไรแล้วมันกลับกลาย
00:10:24 → 00:10:27 มาเป็นโรคทางตรงเนี้ย HR ก็ต้องเหมือน
00:10:27 → 00:10:29 ปรับตัวเหมือนกันว่าเอ้ยสวัสการหรืออะไร
00:10:29 → 00:10:32 ยังไงที่มันจะมาช่วยให้เสุขภาพดีเพื่อที่
00:10:32 → 00:10:34 เขาสามารถทำงานได้แบบขยันฉลาดได้อ่ะ
00:10:34 → 00:10:36 สุขภาพไม่ดีจะมาขยันฉลาดมันก็จะคงจะแบบ
00:10:36 → 00:10:39 ไม่ได้รูวะใช่ๆซึ่งเอาอีกอย่างออย่างนึง
00:10:39 → 00:10:41 ก็คือว่าสุภาพกายเนี่ยก็เหมือนเด็กรุ่น
00:10:41 → 00:10:44 ใหม่ก็พังเลยกว่าเด็กรุ่นเรานะว่าแบบแบบ
00:10:44 → 00:10:48 อายุแค่ 20 25 ก็อะไรนะคอรอลเกิน
00:10:48 → 00:10:50 คอเลสเตอรอลเกิน 200 แล้วอนมหนักๆแล้ว
00:10:50 → 00:10:52 อะไรเงี้คือแบบเหมือนแกะเร็วกับพวกเราอ่ะ
00:10:52 → 00:10:54 เหมือนคามว่าเหมือนคว่าเราต้องอายุสัก 30
00:10:54 → 00:10:57 กว่าเลยมีอาการพวกนี้เนาะแต่นี่เ 27 28
00:10:57 → 00:11:00 ก็เป็นกันหมดแล้วะเหถว่าเป็นคสูงมีเป็น
00:11:00 → 00:11:02 อินมต้องไปหาหมอตลอดเวลาอะไรอย่างเงี้ย
00:11:02 → 00:11:05 เพราะว่าอาจจะนั่งทำงานมากขึ้นแล้วก็
00:11:05 → 00:11:07 โอกาสในการเสพมากขึ้นเหมือนว่าเสพทั้ง
00:11:07 → 00:11:10 สื่อเสพทั้งอาหารเนาะมันก็เลยทำให้สุขภาพ
00:11:10 → 00:11:12 มีโอกาสุดเร็วถ้าเกิดเราไม่มีการชยับยัง
00:11:12 → 00:11:15 ช่างใจมากเพียงพอแล้วกันเอออืประมาณนี้
00:11:15 → 00:11:18 ใช่โอเคจริงๆเรื่องคนน่ะพูดตำตรงคุยอีก
00:11:18 → 00:11:20 ชั่วโมงนึงก็คุยไม่จบใช่ๆๆเออแต่วันนี้
00:11:20 → 00:11:22 จริงๆมีหลายเรื่องอยากมาคุยกับรถอยากวกมา
00:11:23 → 00:11:25 อันนี้อันนึงก็คือเรื่องของบล็อกอ่าบล็อก
00:11:25 → 00:11:28 อคุเขียนบล็อกมากี่ปีละตั้งแต่ปีถ้าแบบ
00:11:28 → 00:11:31 เขียนจริงจังคือ 2015 แต่ก่อนเกือบ 10 ปี
00:11:31 → 00:11:33 แล้วนะใช่แต่ถ้าเกิดเริ่มเปิดเปิดบล็อก
00:11:33 → 00:11:35 เลยน่าจะ 2012 หรือ 2013 แต่ว่าเขียนแบบ
00:11:35 → 00:11:39 ปีละ 3-4 ตอนนัเองแค่สแต่จุดเริ่มต้นจริง
00:11:39 → 00:11:43 ๆคือ 2015 วันปีใหม่วันนี้ 2 มกราคมอืก็
00:11:43 → 00:11:46 หลายปีและอยากอยากให้แบบเล่านิดนึงว่าอ
00:11:46 → 00:11:48 เอาคำถามง่ายๆก่อนเลยคือเขียนมาแดงว่าน่า
00:11:48 → 00:11:50 จะเป็น 1000 บทความแล้วมั้ยใช่ 3,000
00:11:50 → 00:11:52 กว่าบทความแล้วถ้าให้นึกเร็วๆแบบเอ้ยเออ
00:11:52 → 00:11:55 บทความนี้แบบพิเศษจะในแง่ดีหรือไม่ดีก็
00:11:55 → 00:11:57 ได้นะแต่แบบนึกเร็วๆเงี้ยมีมีอันไหนที่
00:11:57 → 00:12:00 อยู่ในความทรงจำของเราก็ถ้าเกเป็นบทบท
00:12:00 → 00:12:02 ความที่มีคนอ่านเอาเอา 2 บทความแล้วกันนะ
00:12:02 → 00:12:04 บทความที่เป็นจุดพลิกของบ็อกแล้วกันเรา
00:12:04 → 00:12:07 เปิดบล็อกมกราคม 2015 ใช่ป่ะแล้วเขียนทุก
00:12:07 → 00:12:10 เขียนทุกวันใช่ป่ะเขียนทุกวันวลตอนเงี้จน
00:12:10 → 00:12:12 ก็มีคนแชร์บ้างมีแชร์บ้างอะไรเงี้ยแต่จุด
00:12:12 → 00:12:13 ที่เป็นจุดเปลี่ยนคือเดือนสิงหาคมคือ
00:12:13 → 00:12:15 เขียนหลังเขียนมาสักประมาณสัก 200 กว่า
00:12:15 → 00:12:19 ตอนะก็คือไปอ่านหนังสือชื่ออ่า The Magic
00:12:19 → 00:12:21 the Life Changing Magic of tiding
00:12:21 → 00:12:23 up ของ Maria cond ก็คือชีวิตดีขึ้นทุก
00:12:23 → 00:12:25 ด้านในการจากบ้านแค่ครั้งเดียวที่มันดัง
00:12:25 → 00:12:27 มากๆในเมืองไทยแต่ตอนเราเราอ่านนี่คือคน
00:12:27 → 00:12:30 ไทยไม่รู้จักแต่ว่าเราไปซื้อจากคิโนคุนยา
00:12:30 → 00:12:32 สาขาพารากอนนมามาอ่านดูอะไรอย่าเงี้ยแล้ว
00:12:32 → 00:12:35 เขียนถึงถึงเรื่องเนี้ยจนมีคนแชร์เป็น
00:12:35 → 00:12:37 เป็นหลายน่าจะหลายพันหลายหมื่นแชร์อะไร
00:12:37 → 00:12:39 เงี้ยทำให้คนรู้จักบล็อกเราเป็นครั้งแรก
00:12:39 → 00:12:41 แล้วก็ได้รับเชิญไปออกทีวีด้วยออกรายการ
00:12:41 → 00:12:44 ทีวีแฟนก็แสบว่าห้องยังดูแลไม่เรียบร้อย
00:12:44 → 00:12:46 เลยไปออกราการทีวีสอนสอนเรื่องการจัดบ้าน
00:12:46 → 00:12:48 อะไรเงี้ยนคือคือจุดเปลี่ยนหนของบล็อก
00:12:48 → 00:12:50 แล้วกันคือเรื่องของการเขียนสรุปหนังสือ
00:12:50 → 00:12:53 นะฮะส่วนบทความที่มีคนอ่านมากที่สุดตลอด
00:12:53 → 00:12:56 กาก็คือบทความตอนที่เขียนอ่า 3 วันหลัง
00:12:56 → 00:13:00 จากที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 สจสวรรคตนะคือ
00:13:00 → 00:13:02 เขียนมาตอนนี้คนไทยเศร้ามากใช่มั้ยทุกคน
00:13:02 → 00:13:04 น้ำตานองตลอดเวลาแล้วก็เลยเขียนอีกมุมที่
00:13:04 → 00:13:07 คิดว่าให้มีกำลังใจแล้วก็ให้หมยมุมนึง
00:13:07 → 00:13:09 อะไรเงี้ยก็มีคนแชร์เยอะพอสมควรน่าจะมีคน
00:13:09 → 00:13:12 อ่านประมาณสัก 4 4 500,000 ครั้งอะไร
00:13:12 → 00:13:14 อย่าเงี้ยก็เป็นบทที่บความที่คนอ่านเยอะ
00:13:14 → 00:13:17 ที่สุดตลอดตลอดการที่เมาใช่ออันนี้ก็จะ
00:13:17 → 00:13:21 เป็นมุมที่เรานึกถึงว่าเออคนเขาเชอบเแเขา
00:13:21 → 00:13:23 ได้อะไรจากตรงนี้เาแล้วถ้าเกิดมองในมุม
00:13:23 → 00:13:26 ตัวเองล่ะอฮหลายปีที่ผ่านมากับการเขียน
00:13:26 → 00:13:29 บล็อกแบบเออทุกวันอยู่ช่วงนึงนะเออคิดว่า
00:13:29 → 00:13:32 รุถได้อะไรจากมันน่าจะช่วยเรา
00:13:32 → 00:13:35 อ่ามองอะไรละเอียดขึ้นแล้วกันคือมือก็จะ
00:13:35 → 00:13:38 มองมาใเอ้ยเอมีแง่มุมอย่างนี้เราก็จะแบบ
00:13:38 → 00:13:40 พยายามที่จะเอามาถ่ายทอดใช่ป่ะสการเวลา
00:13:40 → 00:13:42 เราเขียนเนี่ยมันก็ทำให้เราเข้าใจตัวเอง
00:13:42 → 00:13:44 มากขึ้นด้วยอยู่แล้วใช่มั้ยก็เหมือนการ
00:13:44 → 00:13:46 เขียนไดอารี่อะไรอย่างเงี้ยแต่ 2 ก็คือ
00:13:46 → 00:13:48 ว่าพอเราเข้าใจตัวมากขึ้นปุ๊บทำให้เรา
00:13:48 → 00:13:50 สื่อสารแล้วก็เลือกคำพูดที่มันเหมาะสมกับ
00:13:50 → 00:13:52 สอดคล้องกับความคิดเราได้มากขึ้นแล้วกัน
00:13:52 → 00:13:54 เพราะว่ามันต้องฝึกตลอดเวลาใช่ป่ะบางที
00:13:54 → 00:13:55 บางคนจะพูดอะไรบางอย่างแล้วเคคิดคำไม่ออก
00:13:56 → 00:13:58 เงี้ยเราเอ้ยคำนี้ใช่มั้ยพูดแทนเได้เก็จะ
00:13:58 → 00:14:00 เหมือนเรารู้ว่าเราจะจะใช้คำสื่อสารยังไง
00:14:00 → 00:14:02 ให้มันเหมาะสมกับความคิดหรือความรู้สึก
00:14:02 → 00:14:04 มากที่สุดอะไรอย่างเงี้ืนี้ 3 น่าจะเป็น
00:14:04 → 00:14:06 เรื่องของโอกาสที่เข้ามาอ่ามันก็อาจจะ
00:14:06 → 00:14:09 เป็นคนให้ให้ไปเชิญให้ไปสอนนู่นสอนนี่ไป
00:14:09 → 00:14:11 ออกรายการนู่นนี่นั่นอะไรอย่างเงี้ยก็ได้
00:14:11 → 00:14:13 โอกาสได้เจอคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอมาก
00:14:13 → 00:14:16 ขึ้นด้วยอะไรเงี้เอ้ยแต่แต่อันที่ 2 เรา
00:14:16 → 00:14:18 ชื่นชมเลยอ่ะเออจริงเรื่องของการใช้ภาษา
00:14:18 → 00:14:22 เาเรียกฝีไม้ลายมือลีลาหรือคำพูดหรือการ
00:14:23 → 00:14:26 แบบรอยเรียงอ่ะเออมันในฐานะที่อันนี้ก็
00:14:26 → 00:14:29 เป็นแฟนคลับนะคะคืออ่านติดต่อมาหลายปี
00:14:29 → 00:14:31 เห็นได้ชัดเจนจริงๆว่ามันแบบมันน่าอ่าน
00:14:31 → 00:14:33 มากขึ้นมันไม่ฝึกเรื่อยๆแล้วเราก็จะเริ่ม
00:14:33 → 00:14:35 รู้ว่าอ๋อแบบนี้คือแบบนี้อาจจะเวิร์คหมาย
00:14:35 → 00:14:38 ถึงว่าโซเชียลชอบแต่เราไม่อยากได้ละไม่
00:14:38 → 00:14:41 อยากทำแบบนี้นะเราอยากจะองพยายามที่ expl
00:14:41 → 00:14:42 ไปในมุมที่มันลึกขึ้นหรืออะไรมากขึ้นอยาก
00:14:42 → 00:14:44 จะไม่ได้แสมากแต่รู้สึกว่าเราเคียนแล้ว
00:14:44 → 00:14:47 เราภูมิใจมากขึ้นอะไรอย่างเงี้ยเออยังไงเ
00:14:47 → 00:14:49 ขยายความเช่นอ่าสสมัยก่อนถ้าอยากจะเขียน
00:14:49 → 00:14:52 ให้บทความให้มันปังๆคนแชร์เยอะก็คืออ้า 27
00:14:52 → 00:14:54 ข้อจากหนังสือที่ได้เรียนอะไรอย่างเงี้ย
00:14:54 → 00:14:55 ที่เหมือนแบบได้เรียนรู้จากหนังสือเล่ม
00:14:55 → 00:14:58 นี้หรือว่า 20 เรื่องที่ควรที่ควรหยุดทำ
00:14:58 → 00:14:59 ถ้าคุณอยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้นอะไรอย่าง
00:14:59 → 00:15:01 เงี้ยมันคือการเขียนแบบเค้าเรียกว่า tical
00:15:01 → 00:15:04 คือเขียนเป็นลิขึ้นมา 15 คอ่านง่ายสั้นๆ
00:15:04 → 00:15:06 คนไม่ต้องคิดเยอะอ่านเร็วๆก็จบอะไรอย่าง
00:15:06 → 00:15:08 เงี้ยใช่ป่ะซึ่งมันก็คนแชร์เยอะแหละแต่
00:15:08 → 00:15:11 ว่ามันก็มันก็โอเคอาจะช่วยเพจโตบ้างอะไร
00:15:11 → 00:15:13 อย่าเงี้ยแต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องการ
00:15:13 → 00:15:15 เขียนในสิ่งที่เราคิดว่าเราแคร์มันจริงๆ
00:15:15 → 00:15:17 ใช่มก็เราก็เลยรู้สึกว่าอาจจะเขียนใน
00:15:17 → 00:15:19 เรื่องที่แบบคนอาจจะไม่ค่อยได้พูดถึงหร
00:15:19 → 00:15:21 หรือเรื่องมันยากขึ้นแล้วมันก็คนอาจจะไม่
00:15:21 → 00:15:23 ได้อินหรืออาจจะไม่ได้เห็นด้วยกับเราแต่
00:15:23 → 00:15:26 สมว่าเรามันสำคัญที่จะพูดถึงก็เลยอ่ะ
00:15:26 → 00:15:28 เริ่มมาเขียนพวกนี้มากขึ้นไม่ได้เขียน
00:15:28 → 00:15:30 เพื่อที่จะจะสะสมยอดไลก์ยอดแชร์หรือยอด
00:15:30 → 00:15:33 fer ละแต่เป็นการเขียนเพื่อที่จะสะสม
00:15:33 → 00:15:36 เรื่องที่เราจะกลับมาดูเอ้อภูมิใจที่ได้
00:15:36 → 00:15:38 เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วมีคนที่เขาได้
00:15:38 → 00:15:40 ประโยชน์จากมันมากขึ้นเลยอย่างเงี้ยอืก็
00:15:40 → 00:15:43 คืออ่าเราเคยบอกที่เราที่ที่แดงบอกว่าเรา
00:15:43 → 00:15:44 เคยเขียนทุกวันใช่ป่ะซึ่งปีที่แล้วก็
00:15:44 → 00:15:46 เริ่มอ่ะจะเริ่มเขียนแค่แบบสัปดาห์ละ 5 6
00:15:46 → 00:15:49 วันะเอ้ยลดน้อยลงเหลือสัปดาห์ละ 4 5
00:15:49 → 00:15:50 ครั้งตอนนี้เหลือแค่สัปดาห์ 2 ตอนแล้วคือ
00:15:50 → 00:15:52 เขียนเอยากจะเขียนจริงๆก็คือพยายามที่จะ
00:15:52 → 00:15:55 เขียนให้มันลึกขึ้นแล้วก็เป็นโปิที่เรา
00:15:55 → 00:15:59 แคร์มันจริงๆละอืประมาณนั้นออเออๆๆเราเรา
00:15:59 → 00:16:02 ว่ามันเป็นการเติบโตเหมือนกันเนาะใช่คือ
00:16:02 → 00:16:04 คือช่วงนึงอ่ะมันอาจจะต้องเป็นอย่างงั้น
00:16:04 → 00:16:06 แหละมันเป็นเหมือนเราต้องก่ออิฐก่อนน่ะ
00:16:06 → 00:16:08 เออลักหาเหมือนให้พอมีเค้าลังให้เราได้
00:16:08 → 00:16:11 รู้จักตัวเองเราก็จะสังเกตเหมือนกันว่า
00:16:11 → 00:16:14 ข้อเขียนของรุแรกๆเลยอ่ะมันก็จะออกแนวแบบ
00:16:14 → 00:16:14 เหมือน
00:16:15 → 00:16:17 productive เออแต่ช่วงเนี้ยมันก็จะแบบ
00:16:17 → 00:16:20 ลุ่มลึกมากขึ้นซึ่งมันแน่นอนมันต้องใช้
00:16:20 → 00:16:23 เวลาแต่ไอ้ช่วงเปลี่ยนผ่านอ่ะรุอมีความ
00:16:23 → 00:16:25 รู้สึกยังไงมั้ยอ๋อยากมากว่าการเปลี่ยน
00:16:25 → 00:16:27 อัตลักษณ์ว่าเราเคยเป็นคนที่เฮ้ยคุยทุกคน
00:16:27 → 00:16:29 ได้ชั้บางคนเขนบอกทุกทุกวันนะแลการ
00:16:29 → 00:16:31 เปลี่ยนจากคนที่เขนบอกทุกวันมาเป็นเขนบอก
00:16:31 → 00:16:33 แค่ว่าสัดาละตอนหรือ 2 ตอนเนี่ยมันก็เป็น
00:16:33 → 00:16:36 ช่วงที่ยากพอสมควรที่เราจะอยู่กับมัน
00:16:36 → 00:16:39 เหมือนว่าจะปรับความรู้สึกหรือว่าไม่รู้
00:16:39 → 00:16:41 สึกผิดกับมันได้อะไรอย่างเงี้ยอเอแล้ว
00:16:41 → 00:16:44 ผ่านมายังไงอาจจะด้วยความจำเป็นเพราะว่า
00:16:44 → 00:16:46 ตอนที่เราเขียนต้นๆปีเขียนสรุปหนังสือ
00:16:46 → 00:16:47 เรื่องอ lef ซึ่งอาจจะได้คุยกันหนังสือ
00:16:47 → 00:16:50 อลีฟคือหนังสือการโดสุขภาพเนี่ยซึ่งมัน
00:16:50 → 00:16:52 เอ่อทิมันยากมากแล้วเนื้อหามันค่อนข้าง
00:16:52 → 00:16:55 ที่จะวิชาการมากมันก็เลยมีแรงเขียนได้แค่
00:16:55 → 00:16:58 สัปดาห์ละตอนอืเออก็แล้วก็ช่วงนั้นก็ช่วง
00:16:58 → 00:17:00 ต้นปีก็การยุ่งมากๆยก็เลยแบบไม่ได้เหลือ
00:17:00 → 00:17:02 พลังที่จะมาเขียนบทความเยอะแล้วก็เลยอ่ะ
00:17:02 → 00:17:05 เขียนแค่สัปดาห์ละตอนมาประมาณ 2-3 เดือน
00:17:05 → 00:17:06 มั้งมันก็ช่วยเปลี่ยนตัวเราจากคนที่เขียน
00:17:07 → 00:17:10 บอกทุกวันมาเป็นบลอกแค่สัปดาห์ละอ่า 23
00:17:10 → 00:17:12 ตอนต่อสัปดาห์อะไรอย่างเงี้ยเป็นต้นมันก็
00:17:12 → 00:17:14 เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่มันมาจังหวะพอดี
00:17:14 → 00:17:16 แหละมากกว่าอืแล้วตอนนี้ก็ไม่ได้คิดจะ
00:17:16 → 00:17:18 กลับไปเขียนทุกวันแล้วนะเพราะคิดว่าตอน
00:17:18 → 00:17:20 นี้ก็คือเจอิมที่กำลังเหมาะแล้วก็เพิ่ม
00:17:20 → 00:17:22 ให้แล้วก็เริ่มมีอิสรภาพมากกขึ้นในการจะ
00:17:22 → 00:17:24 ใช้ว่าตอนเช้าทำอะไรเพราะว่าปีนี้ก็เริ่ม
00:17:24 → 00:17:26 ออกกำลังกายมากขึ้นด้วยมันก็เลยมาทดแทน
00:17:26 → 00:17:28 การการเขียนหลอกด้วยอะไรอย่างเงี้ยอ
00:17:28 → 00:17:30 เดี๋ยวเรื่องสุขภาพน่าจะเป็นอีกพทนึงนี่
00:17:30 → 00:17:32 แหละที่จะชวนคุยเนาะเออแต่ว่าแต่ว่าก็ชอบ
00:17:32 → 00:17:34 ตรงนี้แหละว่าทุกคนน่ะมันต้องเจอเหมือน
00:17:34 → 00:17:36 กันว่าเราก็เปลี่ยนไปทุกวันเราเติบโตขึ้น
00:17:36 → 00:17:39 ทุกวันเราอาจจะไม่ได้เป็นคนเดิมในแบบที่
00:17:39 → 00:17:41 เราเคยเชื่อเมื่อก่อนแต่มันก็ไม่ได้มี
00:17:41 → 00:17:44 อะไรผิดเออมันมันเพียงแต่ว่าไอ้การเติบโต
00:17:44 → 00:17:47 จากตรงนี้ไปอีกจุดนึงอ่ะแบตรงนี้มันอาจจะ
00:17:47 → 00:17:50 ยากแต่ทุกคนก็ต้องผ่านใช่อก็เหมือนของแดง
00:17:50 → 00:17:52 ที่แต่ก่อนแก็เปิดเพจเเขียนใช่มั้ยเขียน
00:17:52 → 00:17:55 มาตลอดเลยขยันมากเลยจุดที่ทำให้แดง
00:17:55 → 00:17:56 เปลี่ยนใจไปทำ YouTube หรือเริ่มคิดทำ
00:17:57 → 00:18:00 YouTube เพราะอะไรตนั้นเราว่ามันมีพ์นึง
00:18:00 → 00:18:03 เหมือนกันนะคือเราอไปลงเขียนโรงเรียนกับอ
00:18:03 → 00:18:08 เอ่อี่เออแล้วมีพี่แต่แต่จำไม่ได้ว่าใน
00:18:08 → 00:18:10 พี่คนใดคนนึง 2 คนเยพี่เนกับพี่ปาเอ้พี่
00:18:10 → 00:18:13 เนสกับพี่อะไรนะกับพี่โจ้เออมีท่านนึงอ่ะ
00:18:13 → 00:18:15 อ่านงานเขียนของเราแล้วเาก็คอมเมนต์บอก
00:18:15 → 00:18:18 ว่ามันดีนะมันมันดูสลากสลวยมันดูแบบเป็น
00:18:18 → 00:18:21 อะไรที่แบบเป็นพลังงานดีๆแต่คนไม่รู้อ่ะ
00:18:21 → 00:18:23 ว่าคนนี้เป็นคนขินมันเหมือนเป็นบทความที่
00:18:23 → 00:18:26 ใครก็เขียนได้เออเราก็เลยรู้สึกว่าเออมัน
00:18:26 → 00:18:29 อาจจะไม่ใช่เหมือนไม่ใช่ทางของเราอ่ะไม่
00:18:29 → 00:18:31 ใช่ที่ทางของเราอ่ะไม่ใช่ว่าเราไม่ดีหรือ
00:18:31 → 00:18:33 ไม่เก่งหรือไม่ขยันหรือไม่อะไรใดๆทั้ง
00:18:33 → 00:18:35 สิ้นเพียงแต่มันอาจจะไม่ใช่ที่ทางของเรา
00:18:35 → 00:18:38 แล้วเผอิญมันก็มีจุดอีกเหมือนกันที่ว่า
00:18:38 → 00:18:40 เราก็ไม่สบายเองแล้วเราก็เลยแบบเออเฮ้ยมี
00:18:40 → 00:18:43 คนแบบว่าทำไมไม่เอามาอัดแบ่งปันล่ะก็เลย
00:18:43 → 00:18:45 มาเป็นที่มาก็เลยแค่มีความคิดว่าแบบเออ
00:18:45 → 00:18:48 มันอาจจะไม่ได้มีสูตรสำเร็จหรืออะไรแต่
00:18:48 → 00:18:50 ว่ามันเป็นมันเป็น Journey เนาะที่แบบทำ
00:18:51 → 00:18:54 ให้สุดท้ายถ้าเรามองมันดีๆเราอาจจะได้เจอ
00:18:54 → 00:18:57 จุดที่เหมาะสมกับตัวเราเองอใช่ใช่เพราะ
00:18:57 → 00:19:00 ว่าเพราะว่าไอ้ถึงว่าช่วงที่เปิดเพจตแๆ
00:19:00 → 00:19:02 ที่แดงเขียทุกวันมันอาจจะไม่ได้มีคนแชร์
00:19:02 → 00:19:03 เยอะหรือไม่ได้มีคนเห็นเยะแต่มันก็คือ
00:19:03 → 00:19:05 เกาะอิฐเหมือนกันในการที่จะเป็นการเป็น
00:19:05 → 00:19:07 เตรียมพร้อมในการเป็นคนสร้างคทนซึ่งไม่
00:19:07 → 00:19:09 น่าจะมาตอบโจทย์ในการทำ YouTube ทีหลัง
00:19:09 → 00:19:11 อยู่ดีอะไรอย่างเงี้ยก็ว่าเออใช่มมันทำ
00:19:11 → 00:19:13 ให้เราเป็นคนที่เอ้ยเก็บเกี่ยวหรคอยคิด
00:19:13 → 00:19:15 ว่าจะทำจะแบ่งปันเรื่องอะไรดีตลอดแล้วไอ้
00:19:15 → 00:19:18 ความรู้สึกอย่างแบ่งปันเมันก็ส่งต่อมาจน
00:19:18 → 00:19:20 ถึง YouTube Channel ที่มีคนตาม 200,000
00:19:20 → 00:19:22 กกว่าคนแล้วใช่ป่ะเอออะไรอย่างเงี้ใช่ม
00:19:22 → 00:19:25 เออแต่เราแต่เราหัวคนคนทำคทนเราก็จะเข้า
00:19:25 → 00:19:27 ใจตรงกันหรือว่าแบบบางทีไอ้ความที่ต้อง
00:19:27 → 00:19:30 แบบละเอียดสังเกตอะไเงี้บางทีมันก็แมเออ
00:19:30 → 00:19:33 เหนื่อยๆๆนะอาจจะต้องแบบมีจุดที่แบบพัก
00:19:33 → 00:19:37 หรือแบบเงียบๆบ้างอออะไรอย่างอ่ะคราวนี้
00:19:37 → 00:19:39 ถ้าพูดถึงการเขียนน่ะสิ่งที่ไม่พูดไม่ได้
00:19:39 → 00:19:42 เลยก็คือการอ่านอือๆๆแต่ทุกวันเนี้ยสื่อ
00:19:42 → 00:19:45 มันเยอะมากเลยอ่ะรุอือๆๆๆรุก็ยังคงเป็นคน
00:19:45 → 00:19:47 อ่านอยู่อ่ะรุรุมองว่าทำไมคนเรายังคง
00:19:47 → 00:19:49 จำเป็นต้องอ่านหนังสือเรารับจากสื่ออื่น
00:19:49 → 00:19:52 มันก็เหมือนกันมย
00:19:52 → 00:19:55 อ๋ออาจจะเพราะเราคนรุ่นเก่าได้มั้ยเหมือน
00:19:55 → 00:19:57 เริ่มตัวเองเริ่มเริ่มสึกแก่ใช่ป่ะแล้ว
00:19:57 → 00:19:58 แล้วที่มาของการอ่านก่อนแล้วกันเนาะตอน
00:19:58 → 00:20:00 เด็กๆไม่ได้อ่านหนังสือมากกนักคืออ่านแต่
00:20:00 → 00:20:04 การ์ตูนเป็นหลักนกบอลวันพีอะไรเงี้อ่าน
00:20:04 → 00:20:06 แต่การ์ตูนใช่ป่ะจนกระทั่งไปนิวซีแลนด์ไป
00:20:06 → 00:20:09 เรียนนิวซีแลนด์ตอนปี 1994 ถ 1997 คือ
00:20:09 → 00:20:12 ช่วงที่ไปเรียนช่วงมปลายอะไรอย่างเงี้ย
00:20:12 → 00:20:14 มันเอาการ์ตูนไปไม่ได้มันที่ไม่พอก็เลย
00:20:14 → 00:20:16 แล้วมันใช้ไม่คุ้มหมายถึงว่ามันมันมัน
00:20:16 → 00:20:18 อ่านไปแป๊บเดียวก็จบแล้วก็เลยแม่ก็เลยอ่ะ
00:20:18 → 00:20:20 ลองซื้อนิยายไปมั้ยหรือซื้อหนังสือที่
00:20:20 → 00:20:22 เป็นหนังสือเป็นเป็น text ไปนก็อ่าเริ่ม
00:20:22 → 00:20:25 เอานิยายของพพัสอนเสวิกุลไปอ่านอะไรหลายๆ
00:20:25 → 00:20:27 คนที่เป็นเรื่องนิยายแล้วก็พูดหนังสือ
00:20:27 → 00:20:30 ธรรมะของมุตธาตุอะไรเงี้ยก็ก็ขนไปนะอ่าน
00:20:30 → 00:20:32 บ้างไม่อ่านบ้างอะไรอย่างเงี้ยก็เลยเริ่ม
00:20:32 → 00:20:34 อ่านหนังสือจริงจังตอนที่อยู่ที่นู่นมาก
00:20:34 → 00:20:36 กว่าอ่านหนังสือไทยจะได้ไม่ลืมภาษาไทย
00:20:36 → 00:20:38 ด้วยอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็ตอนนั้นก็คือ
00:20:38 → 00:20:40 สมัครไม่ได้ชนสุสัปดาห์ส่งมาทุกสัปดาห์
00:20:40 → 00:20:43 เลยมาอ่านอไปแว่าเรารู้ข่าวสารเมืองไทย
00:20:43 → 00:20:45 มากกว่าคนที่เมืองไทยเพราะว่าเราตติดตาม
00:20:45 → 00:20:48 ข่าวพวกนั้นเป็นตลอดมาใช่ป่ะพอกลับมาที่
00:20:48 → 00:20:50 เมืองไทยก็เริ่มอ่าก็เริ่มอ่านหนังสือแบบ
00:20:50 → 00:20:52 เป็นหนังสือหนานๆได้มากขึ้นแล้วก็ไม่ได้
00:20:52 → 00:20:54 ไม่ได้กลัวหนังสือนานๆแล้วก็เลยก็เลยเก็บ
00:20:54 → 00:20:56 หนังสือก็ไม่ตอนอยู่มาก็ไม่ได้อ่านเยอะ
00:20:56 → 00:20:58 หรอกก็ส่วนใหญ่เล่นมากกว่าทำกิจกรรมเล่น
00:20:58 → 00:21:01 ดนตรีเตะเตะบอลใช่ป่ะแต่พอจบมาทำงานปุ๊บ
00:21:01 → 00:21:03 แล้วก็มันมีช่วงที่พอเปิดรถไฟฟ้าใต้ดิน
00:21:04 → 00:21:05 เนี่ยแล้วก็เลยเปลี่ยนแต่ก่อนเราขับรถไป
00:21:05 → 00:21:08 ทำงานก็เปลี่ยนเป็นนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินแทน
00:21:08 → 00:21:10 ซึ่งจากก่อนจะขึ้นใต้ดินก็คือต้องนั่งรถ
00:21:10 → 00:21:14 รถไฟรถไฟหวานเย็นนะจากสถานีแถวๆบ้านคือ
00:21:14 → 00:21:16 หัวหมากมันลงแถวลงเค้าเรียกว่าที่อยู่รถ
00:21:16 → 00:21:19 อโศกซึ่งมันตัดกับอ่ารถใต้ดินเพชตัดใหม่
00:21:19 → 00:21:22 รถรถไฟจริงๆใช่ปรถไฟจริงๆเลยที่ละ 2 บาท
00:21:22 → 00:21:25 เออตั๋วเดือน 36 บาทอะไรเงี้ยคุ้มมากถูก
00:21:25 → 00:21:26 มากเป็นการเดินทางที่ถูกที่สุดในในชีวิต
00:21:26 → 00:21:30 แล้วเออแล้วก็คือก็คือก็คือจากรถไฟเป็นจน
00:21:30 → 00:21:32 จบรถใต้ดินเนี่ยมันมีเวลาอ่านหนังสือ
00:21:32 → 00:21:34 ประมาณสักเกือบชั่วโมงนึงอ่ะงั้นทุก
00:21:34 → 00:21:36 สัปดาห์จะอ่านหนังสือจบ 1 เล่มเป็นอย่าง
00:21:36 → 00:21:38 น้อยใช่มั้ยเป็นเวลา 10 ปีนะในช่วงที่
00:21:39 → 00:21:41 เดินทางได้รถไฟใต้ดินก่อนที่จะแต่งงานมี
00:21:41 → 00:21:42 ลูกเนี่ยก็คืออ่านหนังสือน่าจะไม่ต่ำกว่า
00:21:42 → 00:21:45 4500 เล่มอืมันก็เป็นการสะสมซึ่งตอนนี้
00:21:45 → 00:21:47 ไม่ได้เขียนบอกด้วยนะเอก็คือเป็นการสะสม
00:21:47 → 00:21:50 สิ่งที่เราเรารู้แล้วก็เราเราเห็นมามันทำ
00:21:50 → 00:21:52 ให้เราเป็นเป็นเชื้อเพิมในการเขียนบอกใน
00:21:53 → 00:21:56 ในเวลาต่อมาอะไรอย่างเงี้ยอือกลับคำตอบคำ
00:21:56 → 00:21:59 ถามแดงว่าหนังสือมันยังดีกว่าอย่างอื่น
00:21:59 → 00:22:01 ยังไงบ้างมันก็คือการที่มีหนังสือมันทำ
00:22:01 → 00:22:04 ให้เราได้อยู่กับตัวเองได้ยินเสียงตัวเอง
00:22:04 → 00:22:06 ชัดขึ้นเพราะเวลาเราอ่านแล้วก็เหมือนจะมี
00:22:06 → 00:22:09 เสียงในหัวถูกป่ะขาที่ถ้าเราดู YouTube
00:22:09 → 00:22:12 หรือดู tiktok มันมันคือมันรับรับสด
00:22:12 → 00:22:14 ประสาทเข้ามาทั้งหมดอะไรอย่างเงี้ยเออบาง
00:22:14 → 00:22:16 คนเคยอ่านนิยายมาปุ๊บไปดูหนังเว้ยมันไม่
00:22:16 → 00:22:18 ไม่สนุกตอทดูอ่านนิยายเว้ยอะไรอย่างงี้
00:22:18 → 00:22:20 เป็นต้นมันก็จะมีบางอย่างงมิติที่
00:22:20 → 00:22:24 จินตนาการเรามันดีกว่าสิ่งที่คนอื่นทำให้
00:22:24 → 00:22:26 ก็ได้เช่นกันถูกมังนั้นการอ่านหนังสือมัน
00:22:26 → 00:22:28 คือการได้ฝึกฝนจินตนาการ
00:22:28 → 00:22:31 ได้ได้ฝึกคิดได้ฝึกที่จะได้ฟังเสียงตัว
00:22:31 → 00:22:32 เองมากขึ้นอะไรอย่างเงี้ยซึ่งถ้าเราไม่
00:22:32 → 00:22:35 ได้แตะตรงนั้นเลยเราเเซแต่สิ่งที่มันเป็น
00:22:35 → 00:22:37 ภาพยนตร์หรือเป็นที่มีทั้งเสียงและรูปภาพ
00:22:37 → 00:22:41 เนี่ยมันอาจจะทำให้เราขาดในบางมุมไปเท่า
00:22:41 → 00:22:42 นั้นเองแต่ไม่ได้บอกมันดีกว่าหรือแยะกว่า
00:22:42 → 00:22:44 ยังไงเพียงแต่ว่าการอ่านหนังสือมันช่วย
00:22:44 → 00:22:47 เรามีสมาธิมากขึ้นด้วยถ้าเกิดเราถ้าเกิด
00:22:47 → 00:22:49 เราเสบไ TT ที่มันเปลี่นทุกๆ 15 วทีใช่
00:22:49 → 00:22:52 ป่ะคิดว่าสิ่งเหล่าเมันทำให้คือตนี้เรา
00:22:52 → 00:22:55 โดนออมอ่าครอบครองหมดแล้วทั้ง Facebook
00:22:55 → 00:22:58 Ed YouTube suggestion ที่ขึ้นอ
00:22:58 → 00:23:00 อย่างเงี้ยแล้วจะไม่ต้องคิดะไม่ต้องคิด
00:23:00 → 00:23:03 อะไรเลยแล้วคือรอเราแล้วเหมือนเราเป็น
00:23:03 → 00:23:06 เป็นหนึ่งในแค่เ User ของบริษัทเกเหล่า
00:23:06 → 00:23:09 นี้ที่เขาออกแบบ produc ของเออกมาให้มัน
00:23:10 → 00:23:12 ให้เราเซฟต่อไปเรไม่ให้หยุดเพราะเเทำเงิน
00:23:12 → 00:23:14 จากการที่เราไม่หยุดไม่หยุดดูถูกป่ะแต่
00:23:14 → 00:23:16 การอ่านหนังสื่อคือเราจะอ่านเมื่อไหร่ก็
00:23:16 → 00:23:19 ได้หยุดเมื่อไหร่ก็ได้มันก็มีอิสรภาพหรือ
00:23:19 → 00:23:21 ความเป็นเอกราชนิดนึงในการในการเสพสื่อ
00:23:21 → 00:23:23 สิ่งนี้อะไรอย่างเงี้ยก็เลยคิดว่ายังเป็น
00:23:23 → 00:23:27 สื่อที่มันยังมีความเสน่ห์ที่อะไรก็ทดแทน
00:23:27 → 00:23:29 ไม่ได้แล้วะกันเนาะที่บ้านลูกมีใครดูมี
00:23:29 → 00:23:32 แนวโน้มแบบเออๆชอบอ่านเหมือนคุณพ่อมั้ย
00:23:32 → 00:23:35 เอ่อคนโตเริ่มเริ่มอ่านได้ล่ะแต่คนเล็ก
00:23:35 → 00:23:38 ยังไม่ได้อินมากแต่ก็ก็เพิ่งเริ่มฝึก
00:23:38 → 00:23:40 เหมือนกันคนตัวก็ตอนนี้ก็อ่านหนังสือวัน
00:23:40 → 00:23:42 ละ 20 หน้าอืเอ่าก็เริ่มอ่านหนังสือที่
00:23:42 → 00:23:44 เป็นเป็นหนังสือแบบวัยรุ่นหน่อยแบบเด็ก 10
00:23:45 → 00:23:46 ครอ่านภาษาอังกฤษเนาะเพราะเคอ่านไทยยัง
00:23:46 → 00:23:48 ไม่ค่อยเก่งเอะไรอะไรเงี้ยก็เลยก็เลยก็
00:23:48 → 00:23:51 เลยคิดว่าเราเชื่อว่าพอเราทำให้เขคดูอ่ะ
00:23:51 → 00:23:53 เดี๋ยวเขาก็จะรู้สึกทำไปเองเหมือนที่ที่
00:23:53 → 00:23:54 เราอ่านหนังสือเพราะว่าพ่อแม่ก็อ่าน
00:23:54 → 00:23:56 หนังสือเหมือนกันมันก็เลยซึมซับมาโดยที่
00:23:56 → 00:23:58 ไม่ต้องไปสอนเ้ามากนะอะไรอย่าเงี้ยเออถาม
00:23:58 → 00:24:00 ว่า Daddy ทำไมหนังสือเยอะจังเลยบอกเอก็
00:24:00 → 00:24:03 เป็นสิ่งที่ทำให้ Daddy มีความรู้มาทำงาน
00:24:03 → 00:24:05 แล้วก็จะมีเงินมาเลี้ยงปลายฝนไงลูกชื่อ
00:24:05 → 00:24:08 ชื่อปลายฝนนะอะไรอย่างเงี้ยออืประมาณนี้
00:24:08 → 00:24:11 โอเคคราวนี้เมื่อกี้ที่รุบอกก็คือว่าตอน
00:24:11 → 00:24:14 แรกเลยที่บทความที่มีคนอ่านเยอะๆอันนึงก็
00:24:14 → 00:24:16 คือเราไปอ่านหนังสือภาษาต่างประเทศแล้วก็
00:24:16 → 00:24:18 เอามามาสรุปความมาแปลเอออันเนี้ยมันก็
00:24:18 → 00:24:21 เป็นจุดนึงเหมือนกันที่ทำให้บล็อกมีคนแบบ
00:24:21 → 00:24:23 สนใจมากขึ้นมันเป็นทิศทางใหม่ของบล็อกเรา
00:24:23 → 00:24:26 มยหรือว่ามันมันเกิดมาอะไรยังไงแล้วมัน
00:24:26 → 00:24:29 มันดียังไงเป็นทางทงใหม่มเป็นทิศทางที่มี
00:24:29 → 00:24:31 มานานแล้วคือเราไปพออ่านหนังสือเยอะปุ๊บ
00:24:31 → 00:24:33 เฮ้ยเล่มนี้คนไทยยังไม่รู้จักเลยแล้วมัน
00:24:33 → 00:24:35 มีบาง Concept ที่มันคนนไทยอาจจะไม่ได้
00:24:35 → 00:24:36 คุ้นเคยหรืออาจจะไม่ได้รู้มาก่อนแล้วคิด
00:24:36 → 00:24:38 เฮ้ยมันน่าจะมีประโยชนมีประโยชน์มากๆก็
00:24:38 → 00:24:40 เลยเอามาเล่าไม่ว่าจะเป็นการจัดบ้านแบบค
00:24:40 → 00:24:42 mari ใช่ป่ะหรือเรื่องอย่างเปี้ที่เรา
00:24:42 → 00:24:44 เขียนคนแรกๆในเมืองไทยเหมือนกันเขนบ้า
00:24:44 → 00:24:46 พลังมากเขียน 20 ตอนตอนนึงใช้เวลา 3-4
00:24:46 → 00:24:49 ชมงก็คือเขียนทุกวันเสาร์จนแฟนบ่นทำไมทำ
00:24:49 → 00:24:51 วันเสาร์ไม่ทำอะไรทำนั้เขียนแต่บล็อกอะไร
00:24:51 → 00:24:53 อย่างเงี้ยซึ่งมันก็พิสูจน์ว่ามันคือ
00:24:53 → 00:24:55 หนังสือที่ซรคลาสสิกอะไรอย่างเงี้ใช่ป่ะ
00:24:55 → 00:24:57 อ่า psychology of money 4000 Week
00:24:57 → 00:25:00 อะไรเงี้ยเอาีฟอะไรพวกเนี้ยก็คิดว่ามัน
00:25:00 → 00:25:03 เป็นหนังสือที่ถ้าเรียนรู้แล้วก็เอาบาง
00:25:03 → 00:25:05 อย่างมาประยุกต์ใช้มันก็จะมีประโยชน์กับ
00:25:05 → 00:25:07 ชีวิตแน่ๆอืก็เลยก็เลยทำขึ้นมาเพราะว่า
00:25:07 → 00:25:10 รู้สึกว่ามันก็น่าจะมีมันการการเมหมดแล
00:25:10 → 00:25:12 การทำ YouTube มันคือทำ 1 ทีแล้วมันใช้
00:25:12 → 00:25:14 กินได้ยาวๆไม่ใช่เรากินนะแต่คนอื่นก็มา
00:25:14 → 00:25:16 กินต่อได้เรื่อยๆแล้วมันไม่หมดไงมันกิน
00:25:16 → 00:25:18 เท่าไหร่ก็ไม่หมดเพราะก็เลยคิดว่ามันคือ
00:25:18 → 00:25:20 การใช้การ leverage Technology ให้มัน
00:25:20 → 00:25:22 เกิดประโยชน์ต่อคนหมู่มากแล้วกันก็เลยคิด
00:25:22 → 00:25:24 ว่ามันเป็นสิ่งที่ทำแล้วมันน่าจะน่าจะมี
00:25:24 → 00:25:27 ประโยชน์เยอะๆก็เลยก็เลยเขียนขึ้นมาแล้ว
00:25:27 → 00:25:30 ก็ใช้พลังในการสรุปเดี๋ยวเดี๋ยวจะจะถาม
00:25:30 → 00:25:32 อันต่อไปแล้วว่าแบบมีมีทริกมีอะไรไงเพราะ
00:25:32 → 00:25:34 ทำไมมันยากเหมือนกันแต่ว่าอันเนี้ยอยากจะ
00:25:34 → 00:25:37 แบบเออที่เมื่อกี้รุบอกว่าใช้พลังสูงมาก
00:25:37 → 00:25:41 ในการทำอ่ะเออเห็นด้วยในแง่ที่ว่าพอเรา
00:25:41 → 00:25:43 มองย้อนกลับไปอ่ะบางคลิปหรืออะไรที่เราทำ
00:25:43 → 00:25:46 อ่ะเราก็ไม่คิดเหมือนกันว่าฉันทำกันมา
00:25:46 → 00:25:48 เยอะขนาดนั้นเลยหรออะไรเงี้ยเนาะมันเป็น
00:25:48 → 00:25:49 เรื่องที่น่าขอบคุณเหมือนกันเนอะว่าตอน
00:25:49 → 00:25:52 นั้นเราแบบเฮ้ยเราทำไปได้ยังไงวะแรง 20
00:25:52 → 00:25:55 ตน 20 ตอนใช่ๆตอนนั้นมันตอนคนไทยก็ยังไม่
00:25:55 → 00:25:57 รู้จัก้วนะก็คือสมันดีมากอยากจะเขียนสรุป
00:25:57 → 00:26:00 อะไรบางทีก็แชร์แบบ 10 กว่าแชร์อะไรอย่าง
00:26:00 → 00:26:02 เงี้ยบางบางตอนในเปี้นอะไรอย่างเงี้นะอเอ
00:26:02 → 00:26:04 ก็ต้องเขียนต่อเพว่าเราเราเริ่มก็ต้องเอา
00:26:04 → 00:26:06 ให้จบเวยอะไรอย่างเงี้ยก็เลยคิดว่าคือ
00:26:06 → 00:26:09 เหมือนก็เริ่มเชื่อใจตัวเองว่าเราเราน่า
00:26:09 → 00:26:11 จะมองอะไรขาดพอสมควรได้ว่าถ้าหนังสือเล
00:26:11 → 00:26:14 นี่มันดีอ่ะมันก็จะดีดีๆแน่ๆแล้วจะมีคน
00:26:14 → 00:26:16 เห็นคุณค่ามันทีหลังอะไรอย่างเงี้ยซึ่งก็
00:26:16 → 00:26:18 ไม่ค่อยพลาดเท่าไหร่อทำเออจริงเห็นด้วย
00:26:18 → 00:26:21 เห็นด้วยเห็นด้วยชื่นชมตรงนี้อ่ะแล้วเอ่อ
00:26:21 → 00:26:23 เนื่องจากมันเป็นการแปลแล้วสรุปความมันมี
00:26:23 → 00:26:25 มันมีเทคนิคอะไรยังไงมในถนะที่ทำมาหลาย
00:26:25 → 00:26:28 เล่มละเพราะมันก็ยากเหมือนกันนะใช่ก็จริง
00:26:28 → 00:26:30 ๆก็ไม่ได้มีเทคนิคเวลาอ่านหนังสือเราก็จะ
00:26:30 → 00:26:33 มีไฮไลท์เนาะมันจะไฮไลท์แบบมีมีวิธไฮไลท์
00:26:33 → 00:26:35 3 แบบแล้วกันก็คือไฮไลท์แบบแค่ธรรมดาก็
00:26:35 → 00:26:38 จะขีดชน 2 2 ขีดข้างๆพาฟนั่นตรงที่เป็น
00:26:38 → 00:26:40 พื้นที่ว่างอะไรเงี้ยขีดธรรมดาปอันนี้
00:26:40 → 00:26:43 พราฟที่สำคัญนะแต่ถ้าเกิดบางประเด็นที่
00:26:43 → 00:26:45 เฮ้ยอันนี้หน้าไปเขียนบลอกก็จะเขียนตัว B
00:26:45 → 00:26:49 ไว้ข้างๆอืหรือบางบที่บเอนี่สำคัญมากๆมัน
00:26:49 → 00:26:51 น่าจะเป็น Key Inside ของหนังสือเล่นี้
00:26:51 → 00:26:53 คือเป็นดอกจันก็จะมี 3 แบบคือขีธรรมดาดอก
00:26:53 → 00:26:56 จันแล้วก็ตัว B ใช่มยถ้าอยากจะเขียนบล็อก
00:26:56 → 00:26:57 เอ้ยวันนี้เขียนอันคิดไม่ออกก็ไปดูว่า
00:26:58 → 00:27:00 เฮ้ยมีหน้าที่เขียนเป็น b ไว้บ้างอเราจะ
00:27:00 → 00:27:03 เขียนอกซไว้ข้างหน้าด้วยว่า b คือหน้า 17
00:27:03 → 00:27:05 25 49 อะไรเงี้ยเราก็จะพลิกดูได้ง่ายๆ
00:27:05 → 00:27:09 ในกันเอมาเข็มหลอกแต่อยอยากจะสรุปหนังสือ
00:27:09 → 00:27:10 ก็คือดูที่ว่าเป็นดอกจันมีหน้าไหนบ้าง
00:27:10 → 00:27:13 ปึ๊บๆๆๆๆขึ้นมาแต่แน่นอนว่าแต่ละบทก็ต้อง
00:27:13 → 00:27:15 พยายามที่จะร้อยเรียงให้มันให้มันคนอ่าน
00:27:15 → 00:27:19 แล้วไม่ไม่งงใช่ป่ะเออแล้วก็จุดแข็งอัน
00:27:19 → 00:27:21 หนึของเราคือเรารู้ว่าคือเราพอเป็นคนที่
00:27:21 → 00:27:23 เป็น HR มันจะมี empathy หรือความเข้าใจ
00:27:23 → 00:27:27 คนอื่นพอสมควรว่าเขาต้องการเาจะเต้องการ
00:27:27 → 00:27:29 อะไรจากเรานั้นก็จะพยายามเขียนให้มันให้
00:27:29 → 00:27:31 คนอ่านตามแล้วไม่ได้งงอะไรอย่างเงี้ยก็จะ
00:27:32 → 00:27:34 ต้องพยายามที่จะปูเรื่องให้มันคนเก็ดด้วย
00:27:34 → 00:27:36 อะไรอย่างเงี้ยอืประมาณเออๆแต่เราอันอัน
00:27:36 → 00:27:37 นี้ได้ประโยชน์นะคือเหมือนกับว่าอ่านอะไร
00:27:38 → 00:27:40 มาเยอะๆบางทีมันก็หลงลือเหมือนกันคือถ้า
00:27:40 → 00:27:42 ไปเขียนเอาไว้เลยว่าเอเราจะได้ตรงนี้นะ้า
00:27:42 → 00:27:44 เรากลับมาอ่านมันมันก็จะง่ายตรงนี้แหละ
00:27:44 → 00:27:47 ถ้าเกิดใครอยากที่จะลองเอาไปทำบ้างก็อลอง
00:27:47 → 00:27:49 เอาไปเขียนกันได้นะคะอ่ะคราวนี้ก่อนที่จะ
00:27:49 → 00:27:52 ข้ามไปพารทชีวิตสุขภาพมุมมองชีวิตอยากจะ
00:27:53 → 00:27:56 ให้เอ่อรุแชร์ในคำว่าวินัยนิดนึงเหมือน
00:27:56 → 00:27:59 กันว่ามันเปลี่ยนไปมยในในในแต่ละช่วงวัย
00:27:59 → 00:28:02 คือคำว่าวินัยมันในมมองของรุในในวัยเนี้ย
00:28:02 → 00:28:07 มันเป็นยังไงบ้างอคำนี้ก็จริงๆถ้าเกิดเอา
00:28:07 → 00:28:10 ตัวตนจริงๆไม่ใช่คนมีวินัยนะเออแต่ว่าตัว
00:28:10 → 00:28:12 ตนจริงๆคือเป็นคนพยายามรักเป็นคนที่ชอบ
00:28:12 → 00:28:16 รักษาคำพูดมากกว่าอืนั้นก็คือก็คือพอเรา
00:28:16 → 00:28:18 บอกเฮ้ยเราประกาศแล้วว่าเราจะเขียนบอกทุก
00:28:18 → 00:28:21 วันไปตลอดกเท่าที่มีแรงทำตอนนั้นคือตอน
00:28:21 → 00:28:23 2015 เริ่มเขียนวันละตอนใช่มั้ยพอครบ 1
00:28:23 → 00:28:25 พอครบ 100 ตอนปุ๊บก็เลยบอกจะเขียนบอกไป
00:28:25 → 00:28:26 ทุกวันแล้วนะครับอะไรอย่างเงี้ยก็คือ
00:28:26 → 00:28:28 พยายามที่จะรักษาคำพูดมากกว่าคือบางวันก็
00:28:28 → 00:28:31 ไม่ได้อยากเขียนเลยนะแต่ก็อาจต้องพยายาม
00:28:31 → 00:28:34 ที่จะไปเค้นหรือว่าไปพยายามหาเล่นรนในการ
00:28:34 → 00:28:36 ที่จะเขียนบอกออกมาให้ได้ก็เลยเป็นการ
00:28:36 → 00:28:38 รักษาคำพูดจนถึงจุดที่พปีที่แล้วว่าเฮ้ย
00:28:38 → 00:28:41 เราจะไม่เขียนทุกวันะขอไปปรับปรับสไตล์
00:28:41 → 00:28:42 หรือปรับความเร็วให้มันเหมาะกับชีวิตเรา
00:28:42 → 00:28:45 ตอนณตอนนี้อะไรอย่างเงี้ยก็คือเป็นเอ่อ
00:28:45 → 00:28:47 เป็นเรื่องของการรักษาสัจจะมากกว่าการ
00:28:47 → 00:28:51 รักษาวินัยนะฮะอือีกประเด็นนึงก็คือเวลา
00:28:51 → 00:28:53 ที่เราอ่าตื่นมาวิ่งตอนเช้าเพื่อจะไปวิ่ง
00:28:53 → 00:28:56 แข่งมาราธอนหรือแข่งฮมาราธอนอย่างเงี้ย
00:28:56 → 00:28:58 คือคนเป็นคนที่วิ่งอยู่ก็ไม่เกิดจากวินัย
00:28:58 → 00:29:00 แต่เกิดจากว่าถ้าเกิดเราไม่ทำเดี๋ยวตอน
00:29:00 → 00:29:03 ตอนปลายทางกูกูแย่แน่ๆมันก็เลยเป็นการ
00:29:03 → 00:29:06 วิ่งหนีวิ่งวิ่งหนีความแย่ในวันสุดท้าย
00:29:06 → 00:29:08 ที่ต้องไปวิ่งงานก็เลยพยายามที่จะสะสม
00:29:08 → 00:29:11 ความพร้อมไปเรื่อยๆมากกว่ามันเลยข้างนอก
00:29:11 → 00:29:12 ดูเหมือนเป็นวินัยแต่จริงๆข้างในมันเป็น
00:29:12 → 00:29:14 เรื่องอื่นที่มันถูกที่มันฟมากกว่าว่ามัน
00:29:14 → 00:29:16 เป็นเรื่องของการรักษาสัจจะเรื่องของการ
00:29:16 → 00:29:18 เอาตัวรอดในวันแข็งมากกว่าอะไรอย่างเงี้ย
00:29:18 → 00:29:22 ดังนั้นก็ก็ไม่ได้ก็แน่นอนเจะชอบพูดว่า
00:29:22 → 00:29:25 อะไรนะอ่าอีเลียดคิโกเกที่นักวิ่งมาทำบอก
00:29:25 → 00:29:28 ว่าวินัยจะทำให้คุณอิสระใช่ป่ะเออ Only
00:29:28 → 00:29:29 The discipline are free อะไรอย่า
00:29:29 → 00:29:32 เงี้ก็ก็เข้าใจแต่ก็พอถึงจุดนึงก็พออายุ
00:29:33 → 00:29:36 40 กว่าแล้วก็รู้สึกว่าบางทีก็ไม่ต้องไป
00:29:36 → 00:29:38 จริงจังหันก็ได้มยอะไรอย่างเงี้ยเราก็แฉะ
00:29:38 → 00:29:41 ๆบ้างก็ได้ใช่มยแต่ก่อนมันจะมีที่เราเคย
00:29:41 → 00:29:43 ทำในสอนใน Time management ก็คือว่าอ่ะ
00:29:43 → 00:29:45 กิจกรรมทั้งหมดมี 4 อย่างด้วยกันคือ q1
00:29:45 → 00:29:48 คือสำคัญและเร่งด่วน Q2 สำคัญไม่เร่งด่วน
00:29:48 → 00:29:50 q3 ไม่สำคัญแต่เร่งด่วนแล้วก็ q4 คือไม่
00:29:50 → 00:29:53 สำคัญและไม่เร่งด่วนใช่มั้ q1 เช่นแบบไฟ
00:29:53 → 00:29:56 ไหม้ระบบร่มต้องรีบเข้าไปแก้ทันที Q2 คือ
00:29:56 → 00:29:59 การออกกำลังกายอ่านหนังสือใช้เวลาคนที่
00:29:59 → 00:30:03 เรารักใช่มยอ่า q3 คือเร่งหน่วนแต่ไม่
00:30:03 → 00:30:05 สำคัญเช่นเฮ้ยต้องรีบอ่า 111 แล้วต้อง
00:30:05 → 00:30:07 เข้าไปซื้อของไป f คองอะไรเงี้ยคือต้อง
00:30:07 → 00:30:09 รีบทำที่มันไม่ได้สำคัญแต่มันก็มีเวลา
00:30:09 → 00:30:11 จำกัด q4 คือเรื่องที่แบบว่าไม่ค่อยมี
00:30:12 → 00:30:15 สาระอ่าดูที่ดู netflix หรือว่าไปเม้ามอย
00:30:15 → 00:30:17 ชาวบ้านอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็หรืออะไรก็
00:30:17 → 00:30:20 แล้วแต่ใช่ป่ะเอ่อแต่ก่อนเราก็จะสำคัญมาก
00:30:20 → 00:30:23 คือเราอยากจะโฟกัสที่ QQ 2 มาๆว่าทำงาน
00:30:23 → 00:30:25 เอ้คือทำสิ่งนี้สำคัญแต่เป็นเร่งด่วนออก
00:30:25 → 00:30:28 กำลังกายอ่านหนังสือเขียนบทความคือเป็น
00:30:28 → 00:30:31 การสร้างกำแพงเมืองจีนด้วยการก่ออีกทีละ
00:30:31 → 00:30:33 ก้อนใช่ป่ะซึ่งเราก็เชื่อมาตลอดแล้วมันก็
00:30:33 → 00:30:35 ทำให้ชีวิตมันดีขึ้นมาตลอดใช่ป่ะแต่ไอ้
00:30:35 → 00:30:37 หนังสือไ้ 4, weeks เนี่ยที่มันพูด
00:30:37 → 00:30:40 เรื่องว่าชีวิตคนเรามีแค่ 15 สัปดาห์
00:30:40 → 00:30:42 เนี่ยมันก็มีบางมุมที่เออที่ผ่านมาเรา
00:30:42 → 00:30:45 พยายามที่จะสร้างอนาคตจนเราหมดโอกาสที่จะ
00:30:45 → 00:30:48 มีความสุขกับปัจจุบันอ่ามันก็เป็นจุดที่
00:30:48 → 00:30:50 เฮ้ยเออจริงด้วยเพราะเราหมดแสร้างอนาคต
00:30:50 → 00:30:51 ซึ่งมันก็ไม่รู้จะเหลือเมื่อไห่ลเหลือ
00:30:51 → 00:30:53 เท่าไหร่มันก็น้อยลงทุกทีใช่ป่ะสร้างไว้
00:30:53 → 00:30:55 เรว่าเอ้ยเพื่อให้อนาคตมันดีขึ้นแต่ว่า
00:30:55 → 00:30:57 เฮ้ยแต่จริงๆแล้วเราการที่เราสร้างอนาคต
00:30:57 → 00:30:59 เนี่ยเพื่อที่วันนึงเราจะได้มี QQ สเยอะ
00:30:59 → 00:31:02 ไม่ใช่มันจะมีเวลาในการแบบนอนเฉยๆนอนโง่ๆ
00:31:02 → 00:31:04 ดู netflix หรือว่าเวลาเล่นกับลูกไม่ได้
00:31:04 → 00:31:06 มีสาระอะไรไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นหรือมี
00:31:06 → 00:31:08 เงินมากขึ้นหรือเปล่ามันก็การว่ามันก็
00:31:08 → 00:31:10 ฟลิปนิดนึงว่าพออายุ 40 กว่าพอเราเห็นว่า
00:31:10 → 00:31:13 คนรอบข้างเริ่มเจ็บเริ่มตายกันแล้วก็ไม่
00:31:13 → 00:31:16 ได้มีแรงทำเหมือนแต่ก่อนแล้วเงี้ยเราก็
00:31:16 → 00:31:18 กลับมาดูเฮ้ยหรือจริงๆแล้วเราเราที่ผ่าน
00:31:18 → 00:31:20 มาเราโฟกัสกับ Q 2 มากเกินไปหรือเปล่า
00:31:20 → 00:31:22 โฟกัสในสิ่งที่มันสำคัญแต่ไม่เร่วนมาก
00:31:22 → 00:31:24 เกินไปจนเราหลงลืมที่จะมีความสุขหรือ
00:31:24 → 00:31:26 Enjoy กับปัจจุบันหรรือเปล่าอซึ่งเราก็
00:31:26 → 00:31:29 ไม่รู้ว่าปัจจุบันตอนนี้มันจะมีอีกยาวไกล
00:31:29 → 00:31:31 แค่ไหนถูกมยมันก็เลยทำให้เรากลับมาให้
00:31:31 → 00:31:34 ความสำคัญกับการที่ไม่ต้องสร้างอนาคตก็
00:31:34 → 00:31:37 ได้ขอแค่สร้างปัจจุบันให้ดีแล้วก็ enj
00:31:37 → 00:31:39 คือมันคือการ Balance ระหว่าง Q2 และ q4
00:31:39 → 00:31:41 แหละว่าทั้งทั้งเรื่องมีสาระและไม่มีสาระ
00:31:41 → 00:31:44 มากขึ้นแลกันอันนี้คือเป็นจุดนึงที่เรา
00:31:44 → 00:31:46 เปลี่ยนความคิดในช่วงที่อ่านหนังสือ 4
00:31:46 → 00:31:48 Week เมื่อ 2 ปีที่แล้วแล้วกันก็คือไม่
00:31:48 → 00:31:50 ได้ไม่ได้โฟกัสจการทำแต่สิ่งที่มีสาระละ
00:31:50 → 00:31:52 ขอทำสิ่งไม่สาบ้างที่มันทำให้เรามีความ
00:31:53 → 00:31:54 สุขก็พอแล้วอะไรอย่างเงี้ยแล้วแล้วผลของ
00:31:54 → 00:31:57 การปรับตรงนี้มันทำให้ชีวิตมันมันก็น่าจะ
00:31:57 → 00:32:00 ช่วยให้มีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นนะเริ่ม
00:32:00 → 00:32:02 แต่ก่อนคืออ่ะแฟนนอนดู netflix ดูซีรี่
00:32:02 → 00:32:05 เกาหลีเงี้ยแล้วก็ไม่สนใจไงบอกไม่ได้ไม่
00:32:05 → 00:32:08 ได้กกอกไม่ได้ productive อะไรตอนนี้ก็
00:32:08 → 00:32:10 นอนดูได้ไม่รู้สึกผิดเออก็นอนแฉะๆบ้างก็
00:32:10 → 00:32:13 ได้อะไรอย่างเงี้ยมันก็ทำให้เรามีกิจกรรม
00:32:13 → 00:32:15 กับแฟนมากขึ้นอะไรอย่างงี้เป็นต้นใช่ป
00:32:15 → 00:32:17 เข้าใจคมากขึ้ว่าเกำลังอินกับเรื่องไหน
00:32:17 → 00:32:19 อยู่อะไรอย่างเงี้เป็นต้นใช่มั้ยเออเริ่ม
00:32:19 → 00:32:21 กลับมาเล่นเกมมากขึ้นอะไรอย่างเงี้ยเออ
00:32:21 → 00:32:23 เป็นต้นคือที่ผ่านมามันก็ดีนะมันคือว่า
00:32:23 → 00:32:25 เฮ้ยเอ่อเราเราขยันขันๆเพื่อจะสร้างอนาคต
00:32:25 → 00:32:28 แต่บางทีมันก็กลายว่าเราไม่ได้อนุญาตให้
00:32:28 → 00:32:30 มีความสุขมากเพียงพออืใช่มั้มันก็เลยทำ
00:32:30 → 00:32:32 ให้เราต้องต้องบานกันระหว่าง 2 สิ่งนี้
00:32:32 → 00:32:35 อะไรอย่างเงี้ยเป็นตเออจริงๆมันอาจจะไม่
00:32:35 → 00:32:37 ได้มีสูตรสำเร็จเนาะมันเหมือนเป็นการ
00:32:37 → 00:32:40 เรียนรู้แล้วก็ปรับตัวของตัวรุเองเนาะอ
00:32:40 → 00:32:43 ใช่ใช่อแล้วก็แล้วแต่แล้วแล้วแต่เฟสของ
00:32:43 → 00:32:44 แต่ละคนเนี่ยนะว่าตอนนี้คุณชีวิตคุณอยู่
00:32:44 → 00:32:47 ในสเจไหนอ่ะเราอยู่ในระดับที่เป็นผู้
00:32:47 → 00:32:50 บริหารแล้วการงานค่อนข้างโอเคใช่ป่ะแล้ว
00:32:50 → 00:32:52 ก็มีก็คือไม่ได้เดือดร้อนทางการเงินอะไร
00:32:52 → 00:32:54 อย่างเงี้ยทำให้เราสามารถที่จะไม่ต้องคิด
00:32:54 → 00:32:56 เรื่องอนาคตมากก็ได้กลับมา Enjoy
00:32:56 → 00:33:00 ปัจจุบันบ้างก็ได้อืเป็นก่อนหน้านี้ไม่
00:33:00 → 00:33:02 รู้คือทำตอย่างเพื่ออนาคตอย่างเดียวเลย
00:33:02 → 00:33:05 เพื่อจะให้ชีวิตดีขึ้นให้พ่อให้ให้ไอลูก
00:33:05 → 00:33:08 เรามีเ่อมีที่เล่นที่ดีๆใช่มให้ให้พ่อแม่
00:33:08 → 00:33:09 สบายอะไรอย่างเงี้ยใช่ป่ะคือตอนนี้ก็คือ
00:33:10 → 00:33:12 เน้นกับการพาพ่อแม่ไปกินข้าวเจอเจอพ่อพ่อ
00:33:12 → 00:33:14 แม่บ่อยขึ้นอะไรอย่าเงี้ยเป็นเวลากับคน
00:33:14 → 00:33:17 ที่เราที่เรารักแล้วะกันมากขึ้นแล้วกันอื
00:33:17 → 00:33:19 เวลมาอโอเคตคือตอนแรกว่าจะถามว่าแบบเออ
00:33:19 → 00:33:22 มันมีอะไรที่แบบเอามาแชร์ได้มั้ยเป็น
00:33:22 → 00:33:24 เทคนิคได้มั้ยแต่แสดงว่าจะไม่ถามแล้ว
00:33:24 → 00:33:26 เพราะว่าแดงว่ามันเป็นการเรียนรู้เฉพาะ
00:33:26 → 00:33:28 ตัวเพราะสตของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกันแดง
00:33:28 → 00:33:31 ว่าลองดูว่าอะไรที่มันจะแมชกับชีวิตของ
00:33:31 → 00:33:33 เราในตอนนี้ถ้าอะไรที่มันดูเหนื่อยกันไป
00:33:33 → 00:33:36 แสดงว่าถึงจุดนึงอ่ะเราก็จะรู้ตัวเองแหละ
00:33:36 → 00:33:38 ว่าแบบเออๆมันต้องปรับแล้วว่ะแบบนี้อาจจะ
00:33:38 → 00:33:41 ไม่เวิร์คกับตอนนี้ออใช่ใช่สิ่งสำคัญคือ
00:33:41 → 00:33:44 เราอย่าไปฟังข้างนอกมากเกินไปมันต้องฟัง
00:33:44 → 00:33:46 ข้างในให้ให้เยอะขึ้นอันนี้คือจุดที่เรา
00:33:46 → 00:33:48 คิดว่าคนส่วนใหญ่อาจจะไม่ค่อยมีจังหวะ
00:33:48 → 00:33:51 หรือมีเวลาในการคุยหรือฟังเสียงของตัวเอง
00:33:51 → 00:33:54 ซึ่งมันอาจจะคิบๆบอกเบาๆแต่เราไม่ค่อยได้
00:33:54 → 00:33:56 ได้ยินเราจะได้ยินจากเสียงน้องน้องเฮ้ยทำ
00:33:56 → 00:33:58 ทำอย่างงี้สิถึงจะดีทำไม่งั้นสิถึงจะดี
00:33:58 → 00:34:00 อะไรอย่าเงี้ยทำให้บางทีมันก็เราก็ไปใช้
00:34:00 → 00:34:04 ชีวิตตามความคาดหวังหรือตามคำโฆษณาของคน
00:34:04 → 00:34:07 อื่นโดยที่เราไม่รู้ตัวอะไรอืรุดแบ่งเวลา
00:34:07 → 00:34:08 อยู่กับตัวเองยังไงอ่ะเพราะว่างานก็เยอะ
00:34:08 → 00:34:11 เนาะลูกก็มีอีกอ่ะภรรยาอีกพ่อแม่อีกแล้ว
00:34:11 → 00:34:13 แล้วเวลาที่จะมาฟังเสียงตัวเองแล้วเราร
00:34:13 → 00:34:16 อะไรยังไงแบ่งยังไงมั้ช่วงเช้าช่วงเช้า
00:34:16 → 00:34:17 เป็นเวลาให้ตัวเองก็คือเราแบ่งเวลาเป็น 3
00:34:17 → 00:34:20 ช่วงอ่ะช่วงเช้าให้การทำช่วงเช้าคือ 5:30
00:34:20 → 00:34:22 นถึง 8:00 น 7:30 นแล้วกันก็ไม่ดูแลให้
00:34:22 → 00:34:25 ตัวเองในการที่จะออกกำลังกายเขนบล็อกหา
00:34:25 → 00:34:28 หนังสืออะไรก็แล้วแต่พอ 7:3 ปุ๊บปุ๊บอ่า
00:34:28 → 00:34:30 เตรียมส่งรูไปเรียนไปเรียนหนังสือละอ่าไป
00:34:30 → 00:34:33 เรส่งเรียนปุ๊บกลับมาก็ทำงานจนถึง 19
00:34:33 → 00:34:35 19:30 นอะไรอย่างเงี้ย 20:00 นเป็นต้นไป
00:34:35 → 00:34:37 ก็มีเวลาให้กับลูกเป็นเป็นหลักอะไรอย่า
00:34:37 → 00:34:40 เงี้ยอก็คือตอนเช้าให้ตัวเองกลางวันให้
00:34:40 → 00:34:42 งานตอนค่ำให้ลูกอ่ะสาทิก็ค่อนข้างจะว่าง
00:34:42 → 00:34:45 ไม่ค่อยมีอะไรก็คือก็คือจะมีเวลาว่างค่อน
00:34:45 → 00:34:47 ข้างเยอะแต่ก่อนก็คือสาที่ว่างปุ๊บก็ต้อง
00:34:47 → 00:34:50 แไปโรงเรียนหรือไปเปิดคอร์สสอนหาเงิน
00:34:50 → 00:34:53 สร้างอนาคตทำคว 2 ตอนนี้คือสาที่นี่คือ q4
00:34:53 → 00:34:56 เต็มๆนอนดู harry พตอะไรอย่างเงี้ยมันก็
00:34:56 → 00:34:59 จะแบเป็นช่วงเวลาแบบที่เราทำงานหนักก็
00:34:59 → 00:35:01 เพื่อจะมีเวลา Enjoy กับสิ่งนี้ไม่ใช่
00:35:01 → 00:35:03 เหรออะไรอย่างเงี้ยอืเป็นต้นออ่ะอย่าง
00:35:04 → 00:35:06 งั้นความสุขกับความทุกข์ของรุในในในวัย
00:35:06 → 00:35:10 เนี้ยอเออเป็นยังไงบ้างความทุกข์ตอนนี้
00:35:10 → 00:35:12 อาจจะเป็นเรื่องของสุขภาพนะเดี๋อาจเช่น
00:35:12 → 00:35:15 ตรงนี้ปวดหลังร่างหรือขามันมีอาการชาๆ
00:35:15 → 00:35:17 หน่อยหรือเข่าไม่ค่อยดีอะไรเงี้ยเป็น
00:35:17 → 00:35:20 เรื่องสุขภาพเป็นหลักเอ่อความสุขความ
00:35:20 → 00:35:22 ทุกข์อื่นไม่ค่อยมีเพราะเราเป็นคนไม่ได้
00:35:22 → 00:35:26 มีความฝันยิ่งใหญ่อะไรแล้วก็ไม่ได้มีเป้า
00:35:26 → 00:35:28 หมายอะไรที่แบบว่าต้องไปถึงอะไรคือไม่ได้
00:35:28 → 00:35:30 เป็นคนที่ดิ้นรนหรือมีความเทยทะยานขนาด
00:35:30 → 00:35:35 นั้นอะไรอย่างเงี้ยความสุข
00:35:35 → 00:35:39 ก็ความสุขเหรออ่านหนังสือดีๆแล้วมันเฮ้ย
00:35:39 → 00:35:41 มันดีจังเลยอ่ะอันนี้คือช่วงต้นปีเป็น
00:35:41 → 00:35:43 ช่วงที่มีความสุขมากในการอ่านหนังสือมัน
00:35:43 → 00:35:45 มาเจอแต่หนังสือที่แบบเฮ้ยไม่เคยรู้
00:35:45 → 00:35:46 เรื่องนี้มาก่อนเลยแล้วมันอ่านแล้วมันแบบ
00:35:46 → 00:35:49 ซึมซับแล้วมันแบบอ๋อเออมุมนี้ไม่เคยคิดมา
00:35:49 → 00:35:51 ก่อนเลยเว้ยอะไรอย่างเงี้ยมันมีอันนี้คือ
00:35:51 → 00:35:53 หนังสือนี้ช่วยมีความสุขได้แน่ๆ 1 เรื่อง
00:35:53 → 00:35:55 อันที่ 2 คือเรื่องของการใช้เวลากับ
00:35:55 → 00:35:58 ครอบครัวนี่แหละกับกับพ่อแม่กับกับแฟนกับ
00:35:58 → 00:36:00 ลูกนี่แหละเป็นความสุขอันนึงอันที่ 3 ก็
00:36:00 → 00:36:02 คือเรื่องของการที่ว่าเราทำงานออกมาแล้ว
00:36:02 → 00:36:05 เฮ้ยก็ชมตัวเองว่าฉันก็เก่งกันนะเว้ยอะไร
00:36:05 → 00:36:07 เงี้ยคิดคิดมาละเอียดจนเราพีเซนหหัวหน้า
00:36:08 → 00:36:10 แล้วเาเ approve เราอะไรงเป็นต้นหรือการ
00:36:10 → 00:36:12 ทำแล้วแบบเราคิดมาอย่างดีแล้วรู้สึกว่า
00:36:12 → 00:36:14 เราเอาความรู้ความสามารถที่มันมีทั้งหมด
00:36:14 → 00:36:16 มามันทำให้เกิดความแตกต่างได้อะไรอย่าง
00:36:16 → 00:36:18 เงี้ยนั่นก็คือความสุขหนึ่งที่รู้สึกว่า
00:36:18 → 00:36:21 ค่อนข้างที่จะได้พบบ่อยขึ้นในช่วงปี 2 ปี
00:36:21 → 00:36:23 ที่ผ่านมาแล้วกันอืเมื่อกี้รุพูดถึง
00:36:23 → 00:36:25 หนังสือเนาะที่แบบว่าต้นปีที่ผ่านมาอ่าน
00:36:25 → 00:36:28 แล้วแบบเอ้ยมันมีมด้วยเหรอวะขอสักอันนึง
00:36:28 → 00:36:31 ได้มที่รู้สึกว่าออก็หนังสืออันนึงที่
00:36:31 → 00:36:33 เพิ่งเขียนบบทความไปเมื่อสักเดือนที่แล้ว
00:36:33 → 00:36:36 คือเรื่องฟลุกก็คือหนังสือที่บอกว่าชีวิต
00:36:36 → 00:36:39 คนเราฟุกมากกว่าที่คิดหมายถึงว่าหลาย
00:36:39 → 00:36:41 สิ่งอย่างมากคือเอาที่เริ่มเริ่มต้นยังไง
00:36:41 → 00:36:43 ดีคือเราจะไม่นั่งตรงนี้ถ้าเกิดเราไม่ได้
00:36:43 → 00:36:45 เจออกันที่ที่งานที่เราไปสัมมนานึกออกไป
00:36:45 → 00:36:48 เออแล้วก็แดอาจจะไม่ได้เขียนบล็อกก็ได้อจ
00:36:48 → 00:36:50 จะไม่มี YouTube Channel ก็ได้นอกใช่เออ
00:36:50 → 00:36:52 มันคือมันแค่บางจุดเหมือนเราเจอกันแค่วัน
00:36:52 → 00:36:54 เดียวเองเป่าเหมือนแวันแล้ววันที่ 2
00:36:54 → 00:36:56 เหมือนกระโดดป่ะจำไม่ได้แล้วเอใช่เหมือน
00:36:56 → 00:36:58 ไม่เห็นแล้วอ่ะเอแล้วแล้วมาต่อกันอีกรอบ
00:36:58 → 00:37:00 นึงแล้วยังไงยังำไม่ได้เลยู้ไม่รู้เหมือน
00:37:00 → 00:37:02 กันใช่มันก็คือมันมีบางอย่างที่มัน
00:37:02 → 00:37:05 เปลี่ยนชีวิตคนเราได้โดยที่เรามวงกลับไป
00:37:05 → 00:37:06 เอออถ้าเกิดไม่มีอันนี้เกิดขึ้นเราก็จะ
00:37:06 → 00:37:08 ไม่มาถึงจุดนี้ได้นะอะไรอย่างเงี้ยพอคิด
00:37:08 → 00:37:10 กลับไปเอก็ขนลุกเหมือนกันว่าเออการที่เรา
00:37:10 → 00:37:14 เจออ่านี่เจอภรรยาได้ยังไงหรือการที่เรา
00:37:14 → 00:37:16 เกิดมาแล้วยังอย่างพ่อแม่เราก็ไปอยู่
00:37:16 → 00:37:18 เมืองไปอยู่เมืองจีนมาเพราะว่ามีข้าวป่า
00:37:18 → 00:37:21 เพเเป็นคนที่เป็นนักศึกษาเคลื่อนไหวช่วง
00:37:21 → 00:37:23 เดือนตุลาคมเดือนตุลาคปี 16 อะไรอย่าง
00:37:23 → 00:37:25 เงี้ยแล้วต้องดีเข้าป่าช่วงกก่อนปี 19 ก็
00:37:25 → 00:37:28 เลยไปเนี่ยไปเกิดที่เมืืองจีจืนอย่างเรา
00:37:28 → 00:37:31 อะไรอย่างเงี้ยเออก็ช่วงที่อยู่ป่าก็ก็ก็
00:37:31 → 00:37:33 ต้องไปเจออะไรที่แบบอันตรายหลายๆอย่างใช่
00:37:33 → 00:37:35 มั้ยก็เกือบจะไม่ได้เกิดมาะเพราะว่าเพราะ
00:37:35 → 00:37:38 ว่าการที่เขาต้องไปลเร่ร่อนอะไรอย่าง
00:37:38 → 00:37:40 เงี้ยใช่ป่ะนั้นเอ่อหนังสือเรื่องเที่
00:37:40 → 00:37:42 ชื่อฟุกบอกว่าเอ่อหลายสิ่งหลายอย่างใน
00:37:42 → 00:37:44 ชีวิตเราทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่ร้าย
00:37:44 → 00:37:46 นะมันเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ได้รู้ตัวแล้ว
00:37:46 → 00:37:49 ก็ไม่ได้มีส่วนในการเกี่ยวข้องดังนั้นเรา
00:37:49 → 00:37:52 อย่าไปคิดว่าเราจะควบคุมทุกอย่างได้ความ
00:37:52 → 00:37:53 สำเร็จทุกอย่างที่มันที่เรามีอยู่ทุกวัน
00:37:54 → 00:37:55 เนี้ยอาจจะเกิดจากฝีมือเราแค่ 20% ที่
00:37:56 → 00:37:57 เหลืออาจจะเกิดจากการที่คนอื่นเขาช่วย
00:37:58 → 00:37:59 เหลือเราจอุปธรรมเราเป็นต้นอะไรอย่าง
00:37:59 → 00:38:02 เงี้ยใช่มแม้กระทั่งเรื่องที่อ่าได้ทำงาน
00:38:02 → 00:38:05 ที่วงนะก็พ่อได้รู้จักกับยอดใช่ป่ะที่เขา
00:38:05 → 00:38:08 ชนเรามาทำซึ่งถ้าสอนย้อนกลับไปก็จะเจอ
00:38:08 → 00:38:11 เกิดที่ว่าไปเจอแต่ก่อนเเราไม่ได้อยู่ทีม
00:38:11 → 00:38:13 ยอดเราอยู่อีกทีมนึงแล้วก็เตรียมไปย้ายไป
00:38:13 → 00:38:15 อยู่สมมติเราได้ไปอยู่ทีมเป็น engineering
00:38:15 → 00:38:18 เป็น Engineer ก่อนใช่ป่ะแล้วก็กำลังจะ
00:38:18 → 00:38:20 ย้ายไปอยู่ทีมซัพพอร์ตซึ่งมี 2 ทีมตอนแรก
00:38:20 → 00:38:23 จะย้ายไปอยู่ทีม a แต่ว่าพอดีไปเจอเพื่อน
00:38:23 → 00:38:26 คนนึงที่รถรถใต้ดินบอกเฮ้ยทีม a ไม่ดี
00:38:26 → 00:38:28 หรอกมาอยู่ทีม B ดีกว่าเพราะว่าทีมบมัน
00:38:29 → 00:38:30 น่าจะเหมาะกับเรามากกว่าอะไรอย่างเงี้ยก็
00:38:30 → 00:38:33 เลยได้มาอยู่ทีม B ที่เป็นทีมของยอดก็เลย
00:38:33 → 00:38:35 ต่อยอดได้มาทำงานที่วงในได้มาเป็น
00:38:35 → 00:38:37 ปัจจุบันที่เป็น VP ฟรีเพื่อที่แลนงในใช่
00:38:37 → 00:38:40 ป่ะถ้าวันนั้นเราไปช้าแค่ 2 นาทีแล้ว
00:38:40 → 00:38:42 เพื่อนคนนี้ไม่ได้เจอเพื่อนที่รถใต้ดิน
00:38:42 → 00:38:44 เพื่อนก็คงไม่ได้ชวนเราคงไปอยู่ทีม a
00:38:44 → 00:38:46 แล้วชีวิตเราคงไปอีกแบบนึงไปเลยใช่ปมัน
00:38:46 → 00:38:49 แค่เกิดจากการแค่ไปรถใต้ดินช้าหรือเร็ว
00:38:49 → 00:38:50 กว่าแค่ 2 อาทีมันก็ไม่มีชีวิตเหมือนเดิม
00:38:51 → 00:38:53 ะมันคือเหมือนเป็นความฟุกในชีวิตที่องมอง
00:38:53 → 00:38:55 กลับไปทำให้รู้สึกว่ามันต้องขอบคุณสิ่ง
00:38:55 → 00:38:57 ที่เกิดขึ้นที่พ้าเรามาถึงจุดนี้ได้อะไร
00:38:57 → 00:38:59 อย่างเงี้ยแล้วก็ไม่ต้องไปให้เครดิตตัว
00:39:00 → 00:39:01 เองกันไปในการที่เราสำเร็จขึ้นมาเพราะมัน
00:39:01 → 00:39:04 มีหลายปัจจัยที่เราคุมไม่ได้ขณะเดียวกัน
00:39:04 → 00:39:06 ถ้าเกิดเรามีอะไรที่มันผิดพลาดหรือว่ามัน
00:39:06 → 00:39:08 ซวยขึ้นมาก็อย่าโทษตัวเองมากเกินไปเพราะ
00:39:08 → 00:39:10 มันก็มีหลายปัจจัยที่เราคมไม่ได้เหมือน
00:39:10 → 00:39:14 กันอะไรอย่างเงี้ยอือใช่อีกมุมนึงก็คือ
00:39:14 → 00:39:16 ว่าแค่การที่เราได้เกิดมาเป็นตัวเราอย่าง
00:39:16 → 00:39:18 เงี้ยมันก็เป็นความฟุกเหมือนกันคือถ้า
00:39:18 → 00:39:21 เกิดพ่อแม่เราเข้าห้องนอนเช้านี้ 5 นาที
00:39:21 → 00:39:23 คนได้เกิดมาเป็นอีกคนนึงแหละอืนึกออกป่ะ
00:39:23 → 00:39:25 เพราะมันเสืวาทีในการที่ว่าอะไรจะจะเจาะ
00:39:25 → 00:39:28 ังไขได้ก่อนนออกป่ะมันก็ทุกอย่างมันเกิด
00:39:28 → 00:39:30 จากการที่เอ่อทุกๆอย่างมันต้องเกิดขึ้น
00:39:30 → 00:39:33 ตามมันเป๊ะๆเราถึงได้มาเป็นเราทุกวันนี้
00:39:33 → 00:39:36 อะไรอย่างเงี้ยออือคือขอบคุณในสิ่งที่เออ
00:39:36 → 00:39:39 เรามีเราเป็นวันนี้แล้วก็เวลาที่ทำอะไรดี
00:39:39 → 00:39:42 สำเร็จหรือว่าผิดพลาดก็อาจจะไม่ได้จะต้อง
00:39:42 → 00:39:45 มาอะไรกับตัวเองมากเนไปใช่ๆเพราะว่าเรา
00:39:45 → 00:39:47 ชีวิตของคนเรามันมีความเชื่อมโยงมากกว่า
00:39:47 → 00:39:51 ที่เราคิดั้นมันก็คือทำให้เราขอบคุณคนรอบ
00:39:51 → 00:39:53 ตัวแล้วก็สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่าน
00:39:53 → 00:39:55 มามากขึ้นเลยมันทำให้เรามี grit มากขึ้น
00:39:55 → 00:39:57 มีความรสึกขอบคุณแล้วก็รู้สึกว่าเราเรา
00:39:57 → 00:39:59 เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่มันใหญ่กว่านั้น
00:39:59 → 00:40:03 อะไรอย่างเงี้ยอืออ่ะท้ายๆและอยากให้รุ
00:40:03 → 00:40:07 ฝากถึงน้องๆคือคือช่องแดงก็จะมีคนดู 30
00:40:07 → 00:40:10 อัพอะไรก็มีคนทำงานก็มีเยอะอยากให้ลองฝาก
00:40:10 → 00:40:12 ถึงน้องๆในวัยเนี้ยค่ะในฐานะที่เราก็ทำ
00:40:12 → 00:40:15 งาน HR ด้วยแล้วก็เป็นรุ่นพี่เขาเอออยาก
00:40:15 → 00:40:17 จะฝากอะไรถึงเด็กๆในวัยเยค่ะอถใช่ฝากแค่
00:40:17 → 00:40:19 เรื่องเดียวคือเรื่องดูแลสุขภาพแล้วกัน
00:40:19 → 00:40:21 เพราะเด็กๆรุ่นนี้มันพังเร็วง่ายเพราะว่า
00:40:21 → 00:40:23 มันสั่งอะไรกินเมื่อไหร่ก็ได้ใช่มั้ยอ่า
00:40:23 → 00:40:26 สั่งไแมนมาก็ได้โอสนนิดนึงสมุก็กินได้ทุก
00:40:26 → 00:40:28 อย่างที่อยากกินใช่ป่ะป่ะทำงานแต่ที่บ้าน
00:40:28 → 00:40:30 ไม่ได้ออกไปไม่ได้ออกไปไหนใช่มั้อาจจะไม่
00:40:30 → 00:40:32 ค่อยได้ออกกำลังกายอย่างเงี้ยมันมันก็เลย
00:40:32 → 00:40:35 อย่างที่บอกไอ้คสก็สูงเร็วอิเมก็ก็ก็ก็
00:40:35 → 00:40:38 อาการแย่กว่าแย่ได้รวดเร็วมากเหมือนกัน
00:40:38 → 00:40:40 ใช่มยแล้วก็เรื่องต่างๆที่ทำให้สุขภาพมัน
00:40:40 → 00:40:42 เสื่อมโรมได้อากาศก็ไม่ค่อยดีด้วยถูกป่ะ
00:40:42 → 00:40:44 นั้นถ้าเกิดคุณไม่ได้กลับมาสนใจนักสุขภาพ
00:40:44 → 00:40:48 เนี่ยภายใน 5 ปี 10 ปีคุณก็จะสุขภาพคุณจะ
00:40:48 → 00:40:52 แย่แล้วคุณก็เอ๊ยมันก็จะลิมิอ่าโอกาสใน
00:40:52 → 00:40:54 การใช้ชีวิตพอสมควรนะก็คือให้กลับมาดูแล
00:40:55 → 00:40:57 เรื่องการกินให้ดีขึ้นนอนให้เพียงพอออก
00:40:57 → 00:41:00 กำลังกายให้เยอะขึ้นน่าจะเป็น 3 อย่างที่
00:41:00 → 00:41:02 ทุกคนรู้อยู่แล้วว่ามันดีแต่ว่าก็ชะลาใจ
00:41:02 → 00:41:05 แล้วก็ประมาทนะฮะซึ่งเราอาจจะไม่ได้เห็น
00:41:05 → 00:41:07 ข้อเสียจนกระทั่งอายุเกิน 35 ก็ได้อืถ้า
00:41:08 → 00:41:09 เกิดตอนนี้คุณอายุ 30 กว่าเริ่มสังเกต
00:41:09 → 00:41:11 เห็นความเปลี่ยนแปลงในร่างกายแล้วเนี่ยก็
00:41:11 → 00:41:13 คุณจะเริ่มกลับมาใส่ใจให้มากขึ้นเรื่อง
00:41:13 → 00:41:15 สุขภาพไอ้เรื่องความบันเทิงเรื่องการ
00:41:15 → 00:41:18 สร้างอนาคตอ่ะเพลาลงก็ได้เพราะเราทำทำ
00:41:18 → 00:41:20 เยอะอยู่แล้วแต่เรื่องของการดูแลวันนี้
00:41:20 → 00:41:22 ให้มันดีเรื่องของการที่แบให้ร่างกายเรา
00:41:22 → 00:41:24 มีพลังงานที่ดีแล้วก็กินสิ่งที่ดีนอนแล้ว
00:41:24 → 00:41:26 ก็มีการนอนที่ดีเนี่ยมันแล้วว่ามันเป็น
00:41:26 → 00:41:29 สิ่งที่ทำแล้วมันคุ้มค่ายิ่งกว่าเรื่อง
00:41:29 → 00:41:31 อื่นๆคือการลงทุนในตัวเองเนาะอ่าบางคน
00:41:31 → 00:41:33 ต้องลงทุนในความรู้โอเคสำคัญแต่ว่าลงทุน
00:41:33 → 00:41:36 ในสุขภาพก่อนเราจะได้เราจะได้มีแรงมาทำ
00:41:36 → 00:41:37 อย่างอื่นได้เพราะสุดท้ายถ้าเกิดเรา
00:41:37 → 00:41:39 สุขภาพไม่ดีทุกอย่างก็พังหมดอยู่แล้วใช่
00:41:39 → 00:41:42 ป่ะก็ให้ระวังอย่าอย่าประมาทแลอย่าคิด
00:41:42 → 00:41:45 เข้าข้างตัวเองว่าฉันจะแกะไปโดยชั้นที่
00:41:45 → 00:41:47 แข็งแรงอยู่อะไรอย่างเงี้ยอืออือันนี้
00:41:47 → 00:41:49 เป็นเป็นประสบการณ์ตรงจากคนที่ผ่านมาแล้ว
00:41:49 → 00:41:51 นะคะจริงๆมันเป็นเรื่องที่เราต้องให้ความ
00:41:51 → 00:41:54 สำคัญจริงๆค่ะใช่อืโอเคได้อย่างงั้นวัน
00:41:54 → 00:41:57 นี้ก็น่าจะประมาณนี้รมีอะไรอยากจะฝากอีก
00:41:57 → 00:42:01 มั้ยฝากอะไรอีกมยเหรออ่าก็ฝากให้ให้ให้
00:42:01 → 00:42:03 แรงได้คุยกับคนเยอะๆเราจะได้มาเป็นไอัน
00:42:03 → 00:42:05 นี้คือมันเหมือนเป็นเหมือนอีก Content
00:42:05 → 00:42:07 อีกแบบนึงแต่ก่อนเราคุยแต่เรื่องสุขภาพ
00:42:07 → 00:42:09 ใช่มั้ยนี่คุยกับเรื่องของการที่จะได้ไป
00:42:09 → 00:42:12 คุยกับคนที่ที่แดงสนใจแล้วก็น่าจะมีมุม
00:42:12 → 00:42:15 มองที่ที่คนข้างๆคนรอบๆที่ได้มาติดตาม
00:42:15 → 00:42:17 Channel แดงเได้ความรู้ที่มันกว้างกว่า
00:42:17 → 00:42:19 เรื่องแค่สุขภาพะเป็นเรื่องของการใช้
00:42:19 → 00:42:21 ชีวิตเรื่องของการเรื่องของมุมมองบาง
00:42:21 → 00:42:23 อย่าางซึ่งก็คิดว่าถ้าแดงทำต่อไปก็น่าจะ
00:42:23 → 00:42:25 น่าจะเจออีกกลุ่มเป้าหมายนึงที่เขาจะมา
00:42:26 → 00:42:29 Enjoy Channel ของแดงแล้วกันให้กำลังใจ
00:42:29 → 00:42:31 ที่เราเห็นแแดงตั้งแต่วันแรกที่เปิดเพจ
00:42:31 → 00:42:35 dacy นะเออก็ดีที่ก็เห็นก็เป็นหนึที่ว่า
00:42:35 → 00:42:38 เราเวลาเราไปเล่าเอ่อในบางตอนที่ไปไปสอน
00:42:38 → 00:42:40 ก็จะมียเคสงแดงมาให้ฟังเนี่ยแต่ก่อนเ
00:42:40 → 00:42:42 เริ่มจากการเปิดเพจนะเราค่อยๆหาเจอสิ่ง
00:42:42 → 00:42:44 ที่เหมาะที่เหมาะตัวเองคือการทำ YouTube
00:42:44 → 00:42:46 Channel อย่างเงี้ยนะก็คือการที่เรา
00:42:46 → 00:42:48 สร้าง Content แล้วก็อ่าใช้ใช้ประโยชน์
00:42:48 → 00:42:50 จากเทคโนโลยีให้มันเกิดประโยชน์เนี่ยมัน
00:42:50 → 00:42:53 ทำให้เรามีโอกาสเข้ามาในชีวิตมากขึ้นก็
00:42:53 → 00:42:55 คือเป็นสิ่งที่เด็กๆควรจะทำมากขึ้นนะฮะ
00:42:55 → 00:42:57 อย่าแต่แค่อย่าแค่เสพอย่างเดียวแต่สร้าง
00:42:57 → 00:42:59 ด้วยเป็นทั้งเป็นเป็นครีเอเตอร์แล้วคุณก็
00:42:59 → 00:43:01 จะมีที่ทางบนโลกใบนี้แน่ๆอะไรอย่างเงี้ย
00:43:01 → 00:43:05 อือืขอบคุณมากก็จะทำต่อไปอย่างที่บอกถ้า
00:43:05 → 00:43:07 เกิดว่าใครมีคนไหนที่อยากจะให้ไปคุยนะคะ
00:43:07 → 00:43:10 มีประโยชน์ก็แนะนำมาได้รถก็เหมือนกัน
00:43:10 → 00:43:12 เผื่อใครมีพลังชีวิตอย่างเงี้ยค่ะอยากให้
00:43:12 → 00:43:14 แไปคุยด้วยเพราะแดงคนนึงอ่ะหลังๆอแดงก็
00:43:14 → 00:43:17 ชอบอ่านบทความหรือของใครก็ตามที่อายุมาก
00:43:17 → 00:43:19 แล้วนะแต่ก็ยังดูมีพลังชีวิตอยู่นะคะถ้า
00:43:19 → 00:43:21 ใครที่รู้จักคนแบบนั้นนะคะแนะนำมาได้เนา
00:43:21 → 00:43:24 วันนี้ก็ขอบคุณรุมากๆเลยสละเวลาอันแบบว่า
00:43:24 → 00:43:27 บีซี่นะคะมาคุยกับเราเราเรามีของเล็กๆ
00:43:27 → 00:43:32 น้อยๆให้อมีของด้วยโอเคอึชโอ้โหชิ้นใหญ่
00:43:32 → 00:43:34 มากชิ้นใหญ่มากเป็นของเพื่อสุขภาพจากร้าน
00:43:34 → 00:43:38 สบายใจนะคะก็ใครสนใจสินค้าสุขภาพเพื่อ
00:43:38 → 00:43:40 สุขภาพกายสุขภาพใจก็ไปที่ร้านสบายใจกัน
00:43:40 → 00:43:43 อยู่แวไหนนะครับร้านสบายใจมีอยู่ที่ห้าง
00:43:43 → 00:43:46 สรรพสินค้าหลายสาขาเลยค่ะนะคะลองไปดูได้
00:43:46 → 00:43:49 ก็วันนี้ขอบคุณรุมากแล้วเดี๋ยวครั้งต่อไป
00:43:49 → 00:43:51 จะพาไปคุยกับใครอีกก็อย่าลืมติดตามกันนะ
00:43:51 → 00:43:53 คะวันนี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะสวัสดีครับ
00:43:53 → 00:43:57 สวัสดีครับ