00:00:00 → 00:00:02 อายุเป็นเพียงตัวเลขนะคะแต่ว่าคุณภาพ
00:00:02 → 00:00:04 ชีวิตที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าเราจะ
00:00:04 → 00:00:07 สามารถมีสุขภาพที่แข็งแรงไปจนวันสุดท้าย
00:00:07 → 00:00:10 ของชีวิตได้หรือไม่ไestล Medicine คือ
00:00:10 → 00:00:13 อะไรแล้วเราจะดูแลตัวเองด้วยวิธีแบบไสไตล
00:00:13 → 00:00:16 Medicine ได้อย่างไรบ้างนี่ก็คือหัวข้อ
00:00:16 → 00:00:18 ที่เราจะพูดคุยกันในบุปการีที่เคารพวัน
00:00:18 → 00:00:20 นี้ค่ะ
00:00:20 → 00:00:23 [เพลง]
00:00:23 → 00:00:25 ในวันที่ค่าเฉลี่ยอายุของคนไทยยืนยาวขึ้น
00:00:25 → 00:00:27 เรามีความพร้อมในการเตรียมตัวชีวิตอย่าง
00:00:27 → 00:00:29 ไรบ้างในเมื่อสังคมไทยก้าวเข้าสู่สังคม
00:00:29 → 00:00:32 สูงวัยมีเทรนด์อะไรใหม่ๆเกิดขึ้นบ้างและ 6
00:00:32 → 00:00:35 ปีของมนุษย์ต่างวัยมีinsไซตอะไรที่น่าสน
00:00:35 → 00:00:37 ใจทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จะถูกพูดถึงในงาน
00:00:37 → 00:00:41 มนุษย์ต่าง wfest 2025 ชีวิตดีชีวิตซีซั
00:00:41 → 00:00:43 2 okay to be you ที่จะจัดขึ้นในวัน
00:00:43 → 00:00:47 ที่ 21-22 มิถุนายนนี้ที่ Impact
00:00:47 → 00:00:49 Exhibition Center Hall 8 นะครับถาม
00:00:49 → 00:00:51 ว่าทำไมต้องเป็นชีวิตซีซั 2 ก็เพราะเรา
00:00:51 → 00:00:53 เชื่อว่าชีวิตนั้นก็เหมือนกับซีรียส์ดีๆ
00:00:53 → 00:00:56 เรื่องนึงนะครับแต่ละซีซั่นนั้นก็มี
00:00:56 → 00:00:58 เรื่องที่น่าสนใจและมีความรู้ใหม่ๆที่เรา
00:00:58 → 00:01:00 จะต้องค้นหานะครับงานนี้เข้าฟรีนะครับ
00:01:00 → 00:01:03 เพราะฉะนั้นไปพบกันนะครับวันที่ 21-22
00:01:03 → 00:01:05 มิถุนายนนี้นะครับที่ Impact Exhibition
00:01:05 → 00:01:09 Center Hall 8 นะครับกับงานมนุษย์ต่าง
00:01:09 → 00:01:13 WF25 แล้วพบกันนะครับมีใครเคยจินตนาการ
00:01:13 → 00:01:15 บ้างมั้ยคะหรือว่านึกภาพมั้ยคะว่าเวลาที่
00:01:15 → 00:01:18 เราอายุมากขึ้นเวลาที่เราสูงวัยขึ้นอาจจะ
00:01:18 → 00:01:21 อายุ 80 หรือว่า 90 ปีนะคะเราจะเป็นคนสูง
00:01:21 → 00:01:25 อายุแบบไหนจะเป็นคนสูงอายุที่อ่อนแรงอ่อน
00:01:25 → 00:01:28 แอแล้วก็มีโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้าเรื้อรัง
00:01:28 → 00:01:30 หรือว่าเราจะเป็นคนแก่ที่ยังคงแข็งแรง
00:01:30 → 00:01:33 กระฉับกระเฉงยังมีแรงที่จะอุ้มหลานมีแรง
00:01:33 → 00:01:36 ที่จะออกไปเที่ยวหรือว่าไปทำกิจกรรมที่ใจ
00:01:36 → 00:01:39 เราอยากจะทำได้อย่างอิสระเชื่อว่าหลายๆคน
00:01:39 → 00:01:41 ก็คงจะเลือกอย่างหลังใช่มั้คะแต่ว่าจะมี
00:01:41 → 00:01:43 ความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่เราจะยิ่ง
00:01:43 → 00:01:46 อายุมากขึ้นแต่ว่าเรายังคงมีสุขภาพที่
00:01:46 → 00:01:48 แข็งแรงเหมือนเดิมเราจะทำยังไงเพื่อให้มี
00:01:48 → 00:01:52 สุขภาพแบบนั้นวันนี้เราก็เลยชวนคุณหมอเทม
00:01:52 → 00:01:55 นะคะคุณหมอพงษ์พากรสรธนรัฐแพทย์เวชศาสตร์
00:01:55 → 00:01:58 ชะลอวัยจากสวนสุขภาพอรุณสหคลินมาพูดพูด
00:01:58 → 00:02:01 คุยในบุพการีที่เคารพคู่มือดูแลพ่อแม่
00:02:01 → 00:02:04 สำหรับคนเจนลูกค่ะมาคุยกันค่ะว่าจะทำยัง
00:02:04 → 00:02:07 ไงให้ช่วงที่เจ็บไข้ได้ป่วยหรือว่าช่วง
00:02:07 → 00:02:10 ที่ร่างกายถดถอยนั้นสั้นที่สุดวันนี้คุณ
00:02:10 → 00:02:12 หมออยู่กับเราแล้วนะคะสวัสดีค่ะคุณหมอเทม
00:02:12 → 00:02:15 คะสวัสดีค่ะพูดถึงเรื่องของเวลาที่เรา
00:02:15 → 00:02:19 อายุมากขึ้นบางคนก็จะออดๆแอดๆเนาะแล้วก็
00:02:19 → 00:02:23 ร่างกายเราก็แรงมันก็น้อยลงถดถอยลงแล้วก็
00:02:23 → 00:02:25 อาจจะไม่แข็งแรงเหมือนเดิมบางคนก็มีคำพูด
00:02:25 → 00:02:27 เลยว่านั่นน่ะเป็นโรคคนแก่หรือว่าโรคชรา
00:02:27 → 00:02:30 จริงๆแล้วมันเป็นโรคหรือว่ามันสามารถที่
00:02:30 → 00:02:34 จะแก้ไขรั้วป้องกันได้มั้คะจริงๆเรื่อง
00:02:34 → 00:02:37 ความชราเรามองว่ามันเป็นกลไกปกติของร่าง
00:02:37 → 00:02:41 กายนะครับแต่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างด้วย
00:02:41 → 00:02:44 สภาพแวดล้อมพฤติกรรมการใช้ชีวิตมันทำให้
00:02:44 → 00:02:47 ร่างกายเราเสื่อมเร็วกว่าความเป็นจริงออ
00:02:47 → 00:02:48 ค่ะอย่างเดี๋ยวนี้เราเมื่อก่อนเราไม่ค่อย
00:02:48 → 00:02:51 รู้จักพวกความดันโลหิตสูงหรือว่าไขมันสูง
00:02:52 → 00:02:54 ในคนไข้อายุน้อยๆนะฮะค่ะนี้ตั้งแต่ 30 ก็
00:02:54 → 00:02:57 ป่วยกันเป็นโรคหัวใจกันแล้วค่ะเราเห็นว่า
00:02:57 → 00:03:00 ความชรามันเร่งตัวมากขึ้นมากๆเลยอคือมัน
00:03:00 → 00:03:03 แก่เร็วกว่าที่ธรรมชาติมันเป็นพูดอย่าง
00:03:03 → 00:03:04 งั้นได้มั้ยเหมือนกับว่าจริงๆแต่ละปีที่
00:03:04 → 00:03:07 ผ่านไปแต่ละวันที่เราใช้ชีวิตร่างกายมัน
00:03:07 → 00:03:09 ก็จะค่อยๆเสื่อมเสื่อมลงเป็นธรรมดาอยู่
00:03:09 → 00:03:11 แล้วแต่ว่าพอมันมีปัจจัยพวกนี้เข้ามา
00:03:11 → 00:03:13 เนี่ยมันก็เลยทำให้ความเสื่อมนี้มันเร่ง
00:03:13 → 00:03:15 ตัวขึ้นอย่างงั้นใช่มั้คะใช่ถูกต้องครับ
00:03:15 → 00:03:17 ทางการแพทย์ปัจจุบันเราก็เลยมองมันเป็น
00:03:17 → 00:03:21 โรคมากขึ้นออเพราะว่าพอเราตั้งมันเป็นโรค
00:03:21 → 00:03:24 แล้วเนี่ยเราพยายามไปหาวิธีรักษาแล้วก็
00:03:24 → 00:03:26 จัดการกับความชราเพราะฉะนั้นวันนี้มันมี
00:03:26 → 00:03:30 มีวิธีรักษาโรคชราแล้วใช่มั้ยคะมีเยอะเลย
00:03:30 → 00:03:34 ถ้าเกิดจะพูดถึงการชะลอหรือว่าถ้าเราจะ
00:03:34 → 00:03:37 พูดไปเลยว่าเราอยากจะมีร่างกายที่แข็งแรง
00:03:37 → 00:03:39 โดยที่เราไม่เป็นโรคชราเลยเนี่ยมันเป็นไป
00:03:39 → 00:03:41 ได้มั้คะเราจะแข็งแรงไปจนวันสุดท้ายของ
00:03:41 → 00:03:43 ชีวิตเนี่ยความเป็นไปได้มันมีแค่ไหนคะ
00:03:43 → 00:03:46 ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าเอ่อเกิดแก่เจ็บตาย
00:03:46 → 00:03:50 นะครับคือเราเราไม่สามารถหนีธรรมชาติได้
00:03:50 → 00:03:53 แต่เราสามารถชะลอความชราแล้วก็เรียกว่า
00:03:53 → 00:03:55 รักษาประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายให้
00:03:55 → 00:03:58 มันเสื่อมชัที่สุดอืหรือจริงๆแม้แต่คนที่
00:03:58 → 00:04:01 เสื่อมแล้วแล้วเราก็สามารถทำให้มันกลับมา
00:04:01 → 00:04:03 มีประสิทธิภาพได้อีกครั้งนึงมันสามารถจะ
00:04:03 → 00:04:05 กลับมาได้มากแค่ไหนคะยกยกตัวอย่างแล้วกัน
00:04:05 → 00:04:08 นะครับผมเอ่อมองเป็นวัยแล้วมันเห็นภาพไม่
00:04:08 → 00:04:11 ชัดแต่บางคนที่อย่างเช่นต้องนั่งรถเข็น
00:04:11 → 00:04:14 ไม่สามารถลุกเดินได้เดินขึ้นบันไดชั้น
00:04:14 → 00:04:17 เดียวก็เหนื่อยคนกลุ่มเนี้ยเราสามารถทำ
00:04:17 → 00:04:19 ให้เค้ากลับมาแข็งแรงเดินเหินได้สะดวก
00:04:19 → 00:04:22 หรือบางคนที่เคยเป็นพวกโรคอัมพฤกษอัมพาต
00:04:22 → 00:04:24 ก็สามารถกลับไปวิ่งได้ครับโอขนาดนั้นเลย
00:04:24 → 00:04:27 นะคะใช่ครับค่ะก็คือแต่ว่าอันนั้นมันต้อง
00:04:27 → 00:04:29 เป็นความร่วมมือระหว่างคนไข้และคุณหมอ
00:04:29 → 00:04:32 ด้วยจริงๆเอ่อในเรื่องของโรคที่เกี่ยวกับ
00:04:32 → 00:04:35 ความชราแล้วก็โรคเรื้อรังที่เรารู้จักกัน
00:04:35 → 00:04:38 ในนาม NCD คือ Noncommunicable Dase โรค
00:04:38 → 00:04:42 พวกนี้ครับผมบอกว่าหมอเนี่ยมีส่วนน้อยมาก
00:04:42 → 00:04:44 อือเพราะว่าคนไข้มาเจอหมอก็อาจจะเดือนละ
00:04:44 → 00:04:47 ครั้ง 3 เดือนครั้งแต่ว่าเวลาที่เขาใช้
00:04:47 → 00:04:50 ชีวิตอยู่ที่เหลือที่เป็นหลายๆเดือนเลยเ
00:04:50 → 00:04:52 ต้องทำด้วยตัวเองแล้วก็อาศัยความร่วมมือ
00:04:52 → 00:04:55 ของญาติแล้วก็ผู้ดูแลอแล้วในประสบการณ์
00:04:55 → 00:04:58 ของคุณหมอเองที่เจอคนไข้มาเยอะคุณหมอมี
00:04:58 → 00:05:00 เคยเจอคนไข้ที่เ้ามีความเชื่อหรือว่ามี
00:05:00 → 00:05:04 วิถีชีวิตอะไรที่มันมันไม่เอื้อต่อการที่
00:05:04 → 00:05:07 เขาจะมีสุขภาพที่แข็งแรงเอาความเชื่อแบบ
00:05:07 → 00:05:09 ไทยๆแล้วกันครับเนื่องจากผมดูแลผู้สูงวัย
00:05:09 → 00:05:13 เยอะเนาะก็เราจะเห็นเช่นผู้สูงวัยเาจะชอบ
00:05:13 → 00:05:17 พูดกันบอกว่าเอ๊อย่าไปทำอะไรเยอะมันหรือ
00:05:17 → 00:05:20 ว่าผู้สูงอายุต้องนอนชั้น 1 อออย่าเดิน
00:05:20 → 00:05:23 ขึ้นบันไดใช่ๆเอออย่าไปทำนู่นทำนี่ห้าม
00:05:23 → 00:05:26 ขับรถห้ามออกกำลังกายได้นักๆเพราะว่าเา
00:05:26 → 00:05:29 เป็นห่วงเรื่องของการบาดเจ็บที่อาจจะเกิด
00:05:29 → 00:05:31 ขึ้นในกิจกรรมเหล่านั้นครับซึ่งมันเป็น
00:05:31 → 00:05:34 ไก่และไข่หมายความว่าใช่พอเราห่วงมากไป
00:05:34 → 00:05:38 เราจำกัดกิจกรรมมากไปจะมันไปเร่งเรื่อง
00:05:38 → 00:05:40 ของความเสื่อมค่ะคือร่างกายพอเราไม่ใช้
00:05:40 → 00:05:43 มันก็ยิ่งเสื่อมครับพอเราไปจำกัดกิจกรรม
00:05:43 → 00:05:45 พวกเนี้ยเราก็เสื่อมเร็วขึ้นแล้วก็ทำให้
00:05:45 → 00:05:49 จากเดิมอาจจะทำได้ค่ะพอเราไปจำกัดปุ๊บก็
00:05:49 → 00:05:51 ร่างกายเสื่อมลงแล้วก็ไม่สามารถทำได้จริง
00:05:51 → 00:05:54 ๆอืคือแค่การแค่เราอยู่เฉยๆนี่มันก็ทำให้
00:05:54 → 00:05:56 ร่างกายของเราเสื่อมลงได้ถูกต้องครับถึง
00:05:57 → 00:05:59 แม้ว่าเราจะกินดีอยู่ดีรับประทานอาหาร
00:05:59 → 00:06:02 อย่างเอ่อหลากหลายครบถ้วนพักผ่อนยังเพียง
00:06:02 → 00:06:05 พออยู่ในบ้านในสภาพแวดล้อมที่ดีมันก็ไม่
00:06:05 → 00:06:07 สู้การออกไปทำอะไรใช่มั้ยคะถูกต้องครับ
00:06:07 → 00:06:10 การออกไปทำอะไรเหมือนเดิมเหมือนตอนที่ยัง
00:06:10 → 00:06:13 อยู่ในวัยที่ยังสามารถทำได้คือจริงๆถ้า
00:06:13 → 00:06:15 อย่างงั้นพูดอย่างี้ก็คือหมายความว่าคุณ
00:06:15 → 00:06:17 หมอเทมแนะนำว่าเคยทำอะไรมาให้ทำเหมือน
00:06:17 → 00:06:20 เดิมไปตลอดอย่างงั้นเหรอคะอืจริงๆเรื่อง
00:06:20 → 00:06:22 นึงที่ชะลอไว้ผมชอบพูดอย่างงี้นะครับให้
00:06:22 → 00:06:26 เห็นภาพคือตอนเด็กเราทำอะไรได้ค่ะเมื่อ
00:06:26 → 00:06:29 อายุเยอะวัยชราแล้วเราก็ควรจะทำแบบที่
00:06:29 → 00:06:31 เหมือนตอนเด็กทำได้อืตอนเด็กที่บอกนี่ก็
00:06:32 → 00:06:34 คือวัย 1 สาวอออาจจะเป็นตอนเด็กเลยครับ
00:06:34 → 00:06:37 ตอนเด็กเลยเหรอคะเด็กๆเรานั่งเล่นบนหาด
00:06:37 → 00:06:40 ทรายใช่มั้ก็นั่งย้อนปีวิ่งเล่นปีนห้อย
00:06:40 → 00:06:43 โหนอันนั้นคือเรามีพลังงานแล้วก็มีความ
00:06:43 → 00:06:47 แข็งแรงอค่ะมากพอค่ะพอสูงวัยแล้วเราถ้า
00:06:47 → 00:06:49 เราสามารถทำได้แบบนั้นซึ่งเราสามารถผลัก
00:06:49 → 00:06:52 ให้ร่างกายของเราทำแบบนั้นได้มันสามารถทำ
00:06:52 → 00:06:54 แบบนั้นได้จริงๆทำแบบนั้นมันมีวิธีเดี๋
00:06:54 → 00:06:56 เราจะค่อยๆคุยกันไปนะคะอันนี้เรื่องของ
00:06:56 → 00:06:58 แค่การใช้ชีวิตนะการใช้ชีวิตในประจำวัน
00:06:58 → 00:07:00 ที่คุณหมอบอกว่าเคยทำอะไรก็ควรจะทำแบบ
00:07:00 → 00:07:03 นั้นขยับตัวออกจากบ้านไปเที่ยวไปอะไรก็
00:07:03 → 00:07:05 แล้วแต่ทำกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่อันนี้
00:07:05 → 00:07:07 เรื่องของวิถีชีวิตเรื่องของการใช้ชีวิต
00:07:07 → 00:07:09 แล้วเรื่องของการกินการออกกำลังกายล่ะคะ
00:07:09 → 00:07:13 พูดให้เห็นภาพนะครับคือวิถีชีวิตของคนใน
00:07:13 → 00:07:16 ยุคนี้แล้วมันขัดกับความเป็นธรรมชาติทุก
00:07:16 → 00:07:19 อย่างยังไงคะเริ่มตั้งแต่เรื่องกินครับ
00:07:20 → 00:07:23 ถ้าสมัยก่อนมนุษย์เราก็จะกินอาหารจากผัก
00:07:23 → 00:07:28 ผลไม้เห็ดหรือว่าผักใต้ดินเพราะว่าเรา
00:07:28 → 00:07:31 อาหารมันหาไม่ได้ง่ายขนาดนั้นครับหรือแม้
00:07:31 → 00:07:33 แต่ล่าสัตว์เราก็ต้องออกไปล่าสัตว์กว่าจะ
00:07:33 → 00:07:35 ได้สัตว์มาตัวนึงอืก็ต้องออกแรงก็ต้องออก
00:07:35 → 00:07:38 แรงแต่ปัญหาคืออุตสาหกรรมอาหารทุกวัน
00:07:38 → 00:07:40 เนี้ยครับมันทำให้เรามีอาหารที่เรียกว่า
00:07:41 → 00:07:44 เกินไปมากๆอืคือโหเมื่อก่อนกว่าจะผลิตน้ำ
00:07:45 → 00:07:47 ตาลได้น้ำตาลนี่เป็นของชนชั้นสูงนะครับ
00:07:47 → 00:07:50 คือเราหาไม่ได้นอกจากว่าเรารวยแต่
00:07:50 → 00:07:52 ปัจจุบันคือใครก็สามารถเข้าถึงน้ำตาลได้
00:07:52 → 00:07:55 อือเราเดินไปก็มีร้านขายเครื่องดื่มที่มี
00:07:55 → 00:07:59 น้ำตาลเต็มไปหมดค่ะคืออาหารมีเยอะมากเกิน
00:07:59 → 00:08:02 ที่มนุษย์จะจำเป็นต้องใช้ค่ะแล้วในขณะ
00:08:02 → 00:08:05 เดียวกันกิจกรรมต่างๆของเราการขยับ
00:08:05 → 00:08:07 เคลื่อนไหวที่เราควรจะต้องไปล่าสัตว์
00:08:07 → 00:08:11 สร้างบ้านแบกซุงอก็หายไปหมดเรานั่งแต่
00:08:11 → 00:08:14 หน้าคอมพิวเตอร์นั่งแต่หน้าจอโทรทัศน์ค่ะ
00:08:14 → 00:08:17 เราไม่ได้ขยับเคลื่อนไหวร่างกายพลังงาน
00:08:17 → 00:08:21 ที่เราใช้ลดลงในขณะที่การรับประทานอาหาร
00:08:21 → 00:08:24 ของเรามีเนี่ยเพิ่มสูงเพิ่มสูงขึ้นอืแค่ 2
00:08:24 → 00:08:26 เรื่องเนี้ยสิ่งที่ตามมาที่เห็นได้ชัดเลย
00:08:26 → 00:08:29 ก็คือเรื่องของภาวะอ้วนหรือว่าโรคอ้วนที่
00:08:29 → 00:08:33 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากอืถ้าเราย้อนไป
00:08:33 → 00:08:37 ปีประมาณ 1970 เนี่ยครับทั่วโลกมีประชากร
00:08:37 → 00:08:40 ที่อยู่ในภาวะอ้วนเนี่ยสัก 10% แต่
00:08:40 → 00:08:44 ปัจจุบันเนี่ยตัวเลขน่าจะ 3-40% แล้วอื
00:08:44 → 00:08:47 คือเพิ่มมา 3-4 เท่า 50 ปีในช่วงแค่ 50
00:08:47 → 00:08:49 ปีครับก็คือทั้งชนิดอาหารแล้วก็ปริมาณที่
00:08:49 → 00:08:52 เราบริโภคเข้าไปเรื่องของอาหารการกินมัน
00:08:52 → 00:08:54 ก็มีผลกับร่างกายของเราเยอะในการเสื่อม
00:08:54 → 00:08:57 ถอยใช่มั้คะในลักษณะของการเสื่อมถอยแล้ว
00:08:58 → 00:09:00 เรื่องของการออกกำลังกายก็เหมือนกันก็ก็
00:09:00 → 00:09:03 เข้ามาพบก็ก็มาเกี่ยวพันด้วยเหมือนกันที่
00:09:03 → 00:09:04 บอกว่าโดยธรรมชาติเมื่อก่อนเราต้องออกไป
00:09:04 → 00:09:07 ล่าสัตว์แต่เดี๋ยวนี้เราก็มีการออกกำลัง
00:09:07 → 00:09:10 กายแล้วมันมีความเชื่ออะไรเกี่ยวกับการ
00:09:10 → 00:09:12 ออกกำลังกายที่มันไม่ค่อยสัมพันธ์กับการ
00:09:12 → 00:09:15 ที่เราจะมีสุขภาพแข็งแรงคะอันนี้น่าจะ
00:09:15 → 00:09:18 เป็นอันที่เราเห็นกันบ่อยที่สุดแล้วว่า
00:09:18 → 00:09:21 เอ่อสูงอายุไม่ควรทำอะไรหนักๆอตั้งแต่ยก
00:09:21 → 00:09:24 น้ำหนักเยอะๆค่ะเอ่อไม่ควรวิ่งค่ะเออาจจะ
00:09:24 → 00:09:28 แค่เดินเร็วอืซึ่งจริงๆยิ่งสูงวัยยิ่งทำ
00:09:28 → 00:09:31 กิจกรรมที่หนักได้ก็จะยิ่งมีสุขภาพแข็ง
00:09:31 → 00:09:34 แรงแล้วก็ชะลอความเสื่อมได้ค่ะอืเรื่อง
00:09:34 → 00:09:37 ของการออกกำลังกายให้ได้ประโยชน์ครับผม
00:09:37 → 00:09:40 อยากให้มองเหมือนยาอยาจะได้ประโยชน์เ้า
00:09:40 → 00:09:43 เรียกว่าโดสหรือว่าขนาดต้องถึงค่ะการออก
00:09:43 → 00:09:46 กำลังกายก็เช่นเนี่ยนะครับถ้าเราทำเบาไป
00:09:46 → 00:09:48 เราก็ไม่ได้ประโยชน์จากการออกกำลังกายค่ะ
00:09:48 → 00:09:51 เพราะฉะนั้นโดสมันต้องคือมีความหนักมาก
00:09:51 → 00:09:54 เพียงพออืถ้าเราออกไปทำกิจกรรมเช่นเรื่อง
00:09:54 → 00:09:56 ของเดินเร็วหรือวิ่งเราก็ต้องทำจนเหนื่อย
00:09:56 → 00:09:59 ถ้าเรายกน้ำหนักก็ต้องยกให้มากพอที่กล้าม
00:09:59 → 00:10:02 เนื้อจะเกิดการพัฒนาค่ะแล้วมีข้อห้ามแล้ว
00:10:02 → 00:10:04 คงมากเกินไปมั้ยคะคุณหมอบอกว่าต้องถึงโดส
00:10:04 → 00:10:05 แล้วมันมีoverวรdoseได้มั้ยการออกกำลัง
00:10:05 → 00:10:08 กายมีoverวรdoseได้แน่นอนครับทีนี้คนที่
00:10:08 → 00:10:11 จะตอบคำถามเหล่านี้ได้ก็คือคนที่อาจจะ
00:10:11 → 00:10:14 เป็นผู้เชี่ยวชาญเช่นวิทยาศาสตร์การกีฬา
00:10:14 → 00:10:17 เทรนเนอร์หรือว่าแม้แต่แพทย์เองอค่ะแล้ว
00:10:17 → 00:10:19 เจ้าตัวเองสามารถรู้สึกได้ด้วยตัวเองมั้ย
00:10:19 → 00:10:22 คะว่าเอ๊ะเราจะแค่ไหนถึงจะพอการออกกำลัง
00:10:22 → 00:10:27 กายอะไรที่พอดีกับเราครับจริงๆก็บอกได้นะ
00:10:27 → 00:10:30 ครับคือคือถ้าเราคุยเรื่องออกกำลังกายว่า
00:10:30 → 00:10:33 มากเกินไปน้อยเกินไปเนี่ยแล้วเราคำแนะนำ
00:10:33 → 00:10:37 มาตรฐานสากลของทางพวกองค์การอนามัยโลก
00:10:37 → 00:10:40 แล้วกันค่ะเราควรมีกิจกรรมการออกกำลังกาย
00:10:40 → 00:10:43 แบบแอรบิอืที่มีความเข้มข้นปานกลาง 150
00:10:43 → 00:10:47 นาทีต่อสัปดาห์เป็นอย่างน้อยแobบิกก็คือ
00:10:47 → 00:10:49 ทำต่อเนื่องครับเช่นเราไปเดินปั่นจักรย
00:10:49 → 00:10:53 ยานว่ายน้ำวิ่งเต้นอค่ะเออทำอะไรก็ได้ที่
00:10:53 → 00:10:56 เราขยับตัวต่อเนื่องตลอดอือเออ 1 เราต้อง
00:10:56 → 00:10:59 ทำให้ได้อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ 150
00:10:59 → 00:11:01 นาทีจะแบ่งยังไงก็ได้เลยหรือว่าคุณหมอมี
00:11:01 → 00:11:03 คำแนะนำว่าแบบไหนที่เหมาะสมค่ะจึงทำให้
00:11:03 → 00:11:06 สม่ำเสมอดีที่สุดนะครับถ้าแอรบิแต่ว่าเรา
00:11:06 → 00:11:09 จะแบ่งมันพวกนี้มันขึ้นกับความสะดวกของ
00:11:09 → 00:11:12 เราด้วยถ้าเราสะดวกแค่สัปดาห์ละ 2-3 วัน
00:11:12 → 00:11:15 เราทำแค่นั้นก็เพียงพออือๆก็คืออย่างน้อย
00:11:15 → 00:11:17 สัปดาห์นึงก็ต้อง 3 วันน่ะเนาะอย่างน้อย
00:11:17 → 00:11:19 แล้วก็ครั้งนึงก็ต้องอย่างน้อย 30 นาที
00:11:19 → 00:11:22 อันนี้ที่เป็นเป็นเหมือนมาตรฐานที่มักจะ
00:11:22 → 00:11:25 บอกกันเนาะใช่มั้คะอืแล้วเรื่องของการออก
00:11:25 → 00:11:28 กำลังกายนี่มันมีผลกับอายุไขมั้ยคะมันจะ
00:11:28 → 00:11:31 ทำให้เอ่อเราสามารถยืดอายุไขของเราออกไป
00:11:31 → 00:11:34 ได้มั้ยได้มากน้อยแค่ไหนค่ะครับถ้าคุย
00:11:34 → 00:11:38 เรื่องอายุไขเออผมเรียกว่า spand ค่ะ
00:11:38 → 00:11:41 อันเนี้ยมันมีปัจจัยกำหนดเยอะมากอือือ
00:11:41 → 00:11:44 ตั้งแต่พันธุกรรมของเราเลยค่ะอาหารการกิน
00:11:44 → 00:11:47 เรามีโรคอะไรมั้ยทุกอย่างเนี่ยสามารถ
00:11:47 → 00:11:50 กำหนดตัวอายุอายุไขของเราได้ค่ะการบอกว่า
00:11:50 → 00:11:53 เอ๊ออกกำลังกายเนี่ยเพิ่มอายุไขได้มั้ย
00:11:53 → 00:11:55 อาจจะได้หรือไม่ได้ค่ะนะครับแต่สิ่งนึง
00:11:55 → 00:11:58 ที่ออกกำลังกายและเป็นอย่างแทบจะเป็น
00:11:58 → 00:12:01 อย่างเดียวเลยที่ทำได้คือเพิ่ม Health SP
00:12:02 → 00:12:06 ค่ะคืออายุช่วงอายุที่เรามีสุขภาพดีแข็ง
00:12:06 → 00:12:08 แรงแล้วไม่ต้องพึ่งพิงคนอื่นคือสามารถ
00:12:08 → 00:12:11 ช่วยเหลือตัวเองได้อันเนี้ยออกกำลังกาย
00:12:11 → 00:12:13 แทบจะเป็นเครื่องมือเดียวเลยที่สามารถทำ
00:12:13 → 00:12:17 ให้เราไปถึงจุดนั้นได้ครับอืค่ะแล้วก็บาง
00:12:17 → 00:12:20 คนนี่เ้าบอกว่าเราจะเคยได้ยินบ่อยๆนะบาง
00:12:20 → 00:12:23 คนที่เขาบอกว่าเออพอถามอายุกันแล้วบอกว่า
00:12:23 → 00:12:25 เอ๊ะแต่คุณดูเหมือนอ่อนไหวเนาะคุณดูไม่
00:12:25 → 00:12:27 ถึงไม่ว่าจะเป็นความกระฉับกระเฉงหรือว่า
00:12:27 → 00:12:30 ความแข็งแรงหรือว่าอาจจะเป็นรูปลักษณ์ภาย
00:12:30 → 00:12:33 นอกด้วยเหมือนกันน่ะนะคะบางคนอาจจะดูแล้ว
00:12:33 → 00:12:36 ลักษณะทางกายภาพเนี่ยอ่อนกว่าอายุจริงแต่
00:12:36 → 00:12:39 บางคนก็สูงกว่าอายุจริงถ้าเราเข้าใจความ
00:12:39 → 00:12:42 แก่ความชรานะฮะอยากให้รู้จัก 2 อย่างอัน
00:12:42 → 00:12:45 แรกเขาเรียกว่าการแก่ตามปฏิทินอ่าเ้า
00:12:45 → 00:12:47 เรียก chronological age อันนี้ก็ไม่มี
00:12:47 → 00:12:50 อะไรเราเกิดวันไหนวันนี้เราอายุเท่านั้น
00:12:50 → 00:12:53 ค่ะซึ่งในทางการแพทย์มันก็มีความสำคัญ
00:12:53 → 00:12:56 ระดับนึงแต่ไม่ได้สำคัญมากเท่าไหร่จริงๆ
00:12:56 → 00:12:59 อันที่สำคัญกว่าเราเรียกว่า Biological
00:12:59 → 00:13:02 Age ค่ะก็คืออายุชีวภาพอซึ่งเดี๋ยวนี้
00:13:02 → 00:13:04 มันมีวิธีวัดหลากหลายนะครับตรวจไปถึงยีน
00:13:04 → 00:13:07 ถึงพันธุกรรมเอแต่ว่าจริงๆเราคุยหรือว่า
00:13:07 → 00:13:10 เรานั่งมองคนนึงเราก็เห็นแหละคนนี้ดู
00:13:10 → 00:13:13 หนุ่มดูสาวดูอ่อนกว่าวัยฮะซึ่งอันเนี้ยก็
00:13:13 → 00:13:17 คือที่เราคุยกันไปตอนต้นว่าโอเคความชรา
00:13:17 → 00:13:19 เนี่ยคือสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้อืแต่
00:13:19 → 00:13:23 เราสามารถชะลอมันได้เราก็จะเห็นเลยคนที่
00:13:23 → 00:13:26 กินดีอยู่ดีมีกิจกรรมแคtiveตลอดแล้วก็ดู
00:13:26 → 00:13:29 จะหนุ่มสาวมีพลังงานมากกว่าเออแก่ชราช้า
00:13:29 → 00:13:32 กว่าแล้วเก็มีโรคน้อยกว่าอันนี้คือมัน
00:13:32 → 00:13:34 สามารถตรวจสอบได้เป็นวิทยาศาสตร์เลยใช่
00:13:34 → 00:13:36 มั้คะเป็นได้เลยครับแล้วก็จริงๆเออเราอาจ
00:13:37 → 00:13:40 จะไม่ต้องใช้วิธีการตรวจไฮเทคอะไรมากมาย
00:13:40 → 00:13:43 จริงๆเราสามารถบอกได้จากการตรวจสุขภาพ
00:13:43 → 00:13:46 พื้นฐานของเราอืเอ่อสัญญาณพวกน้ำตาลใน
00:13:46 → 00:13:50 เลือดเพิ่มสูงไขมันในเลือดความดันโลหิต
00:13:50 → 00:13:52 ต่างๆพวกนี้ครับเป็นตัวชี้วัดนึงของความ
00:13:52 → 00:13:56 ชราอืยิ่งเรามีโรคอย่างความดันโลหิตสูง
00:13:56 → 00:14:00 เบาหวานก็จะเร่งความชราของร่างกายอืแล้ว
00:14:00 → 00:14:03 เราควรจะรู้ข้อมูลพวกนี้เร็วแค่ไหนคะ
00:14:03 → 00:14:05 เพื่อที่เราจะสามารถดูแลตัวเองให้เป็นคน
00:14:05 → 00:14:09 ที่อ่อนกว่าอ่อนกว่าไว
00:14:09 → 00:14:13 อืถ้าคุยกันเรื่องเมื่อไหร่นะครับยิ่ง
00:14:14 → 00:14:17 เร็วยิ่งดีเร็วขนาดไหนคะเร็วขนาดไหน
00:14:17 → 00:14:21 เดี๋ยวนี้พ่อแม่บางคนนะครับที่สนใจเรื่อง
00:14:21 → 00:14:25 สุขภาพจริงๆอ่ะเเริ่มกันตั้งแต่ก่อนที่จะ
00:14:25 → 00:14:28 มีลูกค่ะนะครับคือเราสามารถดูแลสุขภาพ
00:14:28 → 00:14:30 มนุษย์คนนึงเนี่ยได้ตั้งแต่ยังไม่ตั้ง
00:14:30 → 00:14:34 ครรภ์เลยก็คือการวางแผนงานมีครอบครัวให้
00:14:34 → 00:14:36 คุณแม่ได้รับสารอาหารเพียงพอตรวจ
00:14:36 → 00:14:40 พันธุกรรมตรวจว่าโอเคเด็กที่เกิดมาจะไม่
00:14:40 → 00:14:43 มีโรคอะไรอค่ะนะแล้วเราก็สามารถเลือกได้
00:14:43 → 00:14:45 ด้วยนะบางทีที่ไฮเทคมากๆเนาะอเลือกขนาด
00:14:45 → 00:14:48 ไหนเลือกขนาดที่แบบอ่ะเดี๋ยวจะเอาไข่ใบ
00:14:48 → 00:14:51 นั้นใบนี้เออที่มีความสมบูรณ์ที่สุดนะอๆ
00:14:51 → 00:14:53 ซึ่งเรื่องเรๆ่เรื่องเรื่องจริยธรรมค่อย
00:14:53 → 00:14:55 ไปว่ากันอ่ะแต่ว่าเราสามารถทำได้ขนาดนั้น
00:14:55 → 00:14:59 แหละนะครับคือเริ่มตั้งแต่ยังไม่ยังไม่
00:14:59 → 00:15:01 เกิดเป็นยังไม่ปฏิสนธิเลยเราสามารถเริ่ม
00:15:01 → 00:15:04 ได้ไวขนาดนั้นอเพราะว่าสุขภาพอ่ะครับมัน
00:15:04 → 00:15:08 เป็นเรื่องที่สะสมมาอือย่างอย่างเด็กหรือ
00:15:08 → 00:15:10 นักกีฬาที่เขาดูแลร่างกายแข็งแรงมาแต่
00:15:10 → 00:15:13 เด็กคนกลุ่มเนี้ยแนวโน้มที่จะมีศักยภาพ
00:15:13 → 00:15:17 ร่างกายแล้วก็ชอบออกกำลังกายอือายุก็ยืน
00:15:17 → 00:15:20 กว่าความแข็งแรงจนในบ้านปลายชีวิตเก็มาก
00:15:20 → 00:15:23 กว่าอครับเราสามารถทำได้ตั้งแต่ตั้งแต่
00:15:23 → 00:15:26 เกิดตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดอือยิ่งเริ่ม
00:15:26 → 00:15:29 เร็วยิ่งดีครับค่ะเพราะฉะนั้นเร็วที่สุด
00:15:29 → 00:15:32 ก็ดีที่สุดใช่ครับค่ะแล้วเราจะถ้าสมมุติ
00:15:32 → 00:15:35 อ่ะเราไม่ได้เรามาถึงอายุขนาดนี้ะเรา
00:15:35 → 00:15:38 เริ่มย้อนหลังกลับไปไม่ได้ละถ้าสมมุติว่า
00:15:38 → 00:15:42 เราจะเริ่มดูแลเราต้องการที่จะชะลอวัยของ
00:15:42 → 00:15:45 เราไปถึงแม้ว่าวันนี้เราจะ 55 56 แล้ว
00:15:45 → 00:15:48 เรายังต้องการที่จะให้มันดูอ่อนเยาวแบบ
00:15:48 → 00:15:51 นี้หรือว่าอ่อนเยาวกว่านี้อีกเราสามารถทำ
00:15:51 → 00:15:54 ได้ใช่มั้คะผมเฟรมคำถามให้ใหม่ค่ะเออ
00:15:54 → 00:15:56 เมื่อกี้เราคุยกันว่าอายุเร็วที่สุดที่
00:15:56 → 00:16:00 ควรเริ่มที่ควรเริ่มค่ะทีนี้มันมีอายุช้า
00:16:00 → 00:16:02 ที่สุดที่
00:16:02 → 00:16:05 เราเริ่มได้มั้ยคือหมายความว่าเกินไม่ไหว
00:16:05 → 00:16:08 แล้วอ่ามีอะไรช้าเกินไปมั้ยอันเนี้ยตอบ
00:16:08 → 00:16:10 ว่าไม่มีครับคือเราเริ่มที่อายุเท่าไหร่
00:16:10 → 00:16:14 ก็ได้เราสามารถที่จะพัฒนาร่างกายสู้กับ
00:16:14 → 00:16:17 ความเสื่อมได้ตลอดเวลาอือๆแต่ว่าแม้แม้
00:16:17 → 00:16:20 วันนี้จะ 80- 90 คุณย่าคุณยาย 80-90 ก็
00:16:20 → 00:16:24 ยังสามารถที่จะยังทำได้ทำได้ครับผมอืทำ
00:16:24 → 00:16:27 ได้มากแค่ไหนคะทำได้มากแค่ไหนเออขึ้นอยู่
00:16:27 → 00:16:30 กับอะไรขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างเลยครับค่ะ
00:16:30 → 00:16:32 เนี่ยอย่างอายุ 80 เราอาจจะอายุไม่เท่า
00:16:32 → 00:16:36 กันค่ะคนที่ยังร่างกายยังฟังก์ชันดียัง
00:16:36 → 00:16:39 แข็งแรงยังทำกิจกรรมต่างๆได้คนกลุ่มเนี้ย
00:16:39 → 00:16:42 มีโอกาสในการพัฒนามากกว่าเยอะออผมเทียบ
00:16:42 → 00:16:45 ให้เห็นภาพสุดโต่งอีกทางคือถ้าเรานั่ง
00:16:45 → 00:16:48 อยู่บนรถเข็นติดเตียงกลุ่มเนี้ยโอกาสที่
00:16:48 → 00:16:51 จะพัฒนากลับมาเนี่ยยากมากเพราะว่าเราไม่
00:16:51 → 00:16:55 สามารถเข็นร่างกายเราไปทำอะไรได้อืค่ะก็
00:16:55 → 00:16:58 คือต้องดูความสามารถที่เราจะขยับเขยื้อน
00:16:58 → 00:17:01 ร่างกายของเราคือถ้ายิ่งคุณทำอะไรได้มาก
00:17:01 → 00:17:04 นั่นหมายถึงว่าโอกาสที่คุณจะฟื้นฟูมัน
00:17:04 → 00:17:07 กลับขึ้นมาชะลอไวขึ้นมามันก็มีโอกาสมาก
00:17:07 → 00:17:10 กว่าถูกต้องครับใช่มั้ยคะเพราะฉะนั้นวัน
00:17:10 → 00:17:13 นี้ถ้าเกิดว่าคุณยังแข็งแรงคุณยิ่งเริ่ม
00:17:13 → 00:17:15 เร็วเท่าไหร่คุณจะแข็งแรงได้มากกว่าเดิม
00:17:15 → 00:17:18 ที่คุณเป็นถูกต้องครับก็เรื่องที่เราเน้น
00:17:18 → 00:17:20 กันมาตลอดแล้วก็เป็นแนวทางของที่นี่ด้วย
00:17:20 → 00:17:23 ครับก็คือว่าการป้องกันมันสำคัญกว่า
00:17:23 → 00:17:26 เรื่องของการรักษาค่ะผมเทียบง่ายๆอย่าง
00:17:26 → 00:17:29 แก้วที่แตกแล้วครับเราซ่อมยังไงมันก็ให้
00:17:29 → 00:17:31 กลับมาเป็นเหมือนเดิมบิซาบิไปค่ะคุณหมออ
00:17:31 → 00:17:35 ถูกต้องครับอแต่ว่าดีที่สุดก็คืออย่าให้
00:17:35 → 00:17:38 มันแตกแต่แรกใช่หรือถ้าในคนถ้าภาพที่ใกล้
00:17:38 → 00:17:41 เคียงกันที่สุดก็คือการหกล้มครับอือถ้า
00:17:41 → 00:17:45 เราหกล้มกระดูกหักค่ะบางคนข้อสะโพกหักบาง
00:17:45 → 00:17:48 คนอาจจะต้องติดรถเข็นไปตลอดชีวิตอือแล้ว
00:17:48 → 00:17:51 มันย้อนไม่ได้อหรือบางคนเป็นอัมพฤกษ์
00:17:51 → 00:17:54 อัมพาตมันฟื้นฟูได้ไม่เต็มร้อยอืเพราะ
00:17:54 → 00:17:56 ฉะนั้นรักษายังไงก็ไม่เหมือนเดิมค่ะแต่
00:17:57 → 00:18:00 ถ้าเราป้องกันมันแต่แรกอ่ะอือมันทั้งเออ
00:18:00 → 00:18:03 เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าแล้วเราก็ไม่
00:18:03 → 00:18:06 ต้องไปทุกข์ทรมานแล้วเราก็ทำให้มันดียิ่ง
00:18:06 → 00:18:09 ขึ้นคืออันนู้นไม่สามารถกลับมาเป็น 100%
00:18:09 → 00:18:11 แต่ว่าณตอนนี้เราสามารถเพิ่มเป็น 100 150
00:18:12 → 00:18:15 200% ได้อืค่ะแล้วถ้าพูดถึงเรื่องของการ
00:18:15 → 00:18:19 ชะลอวัยนะคะถ้าพูดถึง aning เอาคำเนี้ย
00:18:19 → 00:18:21 เรามักจะนึกถึงเรื่องของความสวยความงามซะ
00:18:21 → 00:18:24 มากกว่าเนาะการไปทำศัลยกรรมอะไรก็แล้วแต่
00:18:24 → 00:18:27 ที่มันจะใช้เครื่องไม้เครื่องมือใช้ยาฉีด
00:18:27 → 00:18:29 อะไรเข้าไปก็แล้วแต่ที่ทำให้มันชะลอไวลง
00:18:29 → 00:18:32 ได้แต่ว่าถ้าพูดถึงร่างกายของเราล่ะค่ะ
00:18:32 → 00:18:34 การชะลอวัยของเราแบบเนี้ยมันมันหมายถึง
00:18:34 → 00:18:37 อะไรบ้างเรื่องของชะลอวัยนะครับมันมี
00:18:37 → 00:18:40 นิยามเยอะมากเลยแล้วก็แต่ละคนก็เข้าใจ
00:18:40 → 00:18:43 ต่างกันใช่อันนี้ผมก็อาจจะพูดในนิยามที่
00:18:43 → 00:18:47 ผมคุ้นเคยแล้วกันการชะลอไวของผมก็คือ
00:18:47 → 00:18:52 เรื่องของว่าเราสามารถที่จะชะลอโรคและ
00:18:52 → 00:18:55 ภาวะต่างๆที่มากับความเสื่อมได้ไม่ใช่แค่
00:18:55 → 00:18:58 โรคเรื้อรังที่เราคุยความดันเบาหวานพวก
00:18:58 → 00:19:01 นี้เราก็ต้องชะลอมันได้แต่รวมถึงความ
00:19:01 → 00:19:03 สามารถที่ถดถอยลงของเราในแต่ละวันอือเช่น
00:19:03 → 00:19:07 เราเดินช้าลงเราเหนื่อยง่ายขึ้นเราขึ้น
00:19:07 → 00:19:10 บันไดลำบากขึ้นพวกนี้ก็คือความเสื่อมอีก
00:19:10 → 00:19:13 ค่ะการชะลอไวก็คือทำอย่างไรก็ได้ให้ภาวะ
00:19:13 → 00:19:17 พวกเนี้ยมันถูกถอยออกไปให้ไกลที่สุดอืคือ
00:19:17 → 00:19:21 เราไม่มีโรคค่ะเรามีสุขภาพมีร่างกายแข็ง
00:19:21 → 00:19:24 แรงพอที่แม้แต่ 8-90 ผมอาจจะอยากไปไฮกิ้ง
00:19:24 → 00:19:27 ผมก็สามารถทำได้ผมไปปีนเขาเลยเราสามารถ
00:19:27 → 00:19:31 ผลักร่างกายให้เราไปขณะนั้นได้เลยอืนะฮะ
00:19:31 → 00:19:34 หรือถ้าเคยเห็นข่าวเนี่ยมีนักวิ่งคนหนึ่ง
00:19:34 → 00:19:37 เชื่อสิงห์ค่ะเ้าวิ่งจบมาราธอนตอนอายุ 100
00:19:37 → 00:19:40 ปีค่ะนะก็คือร่างกายมนุษย์คือเรียกว่าไม่
00:19:40 → 00:19:44 มีขีดจำกัดอือการชะลอวัยก็คือเราใช้หลัก
00:19:44 → 00:19:47 การทางวิทยาศาสตร์เพื่อทำยังไงก็ได้ให้
00:19:47 → 00:19:49 ร่างกายเราเสื่อมน้อยที่สุดแล้วสิ่งที่
00:19:49 → 00:19:52 เราคาดหวังจากการชะลอวัยก็คือเรื่องของ
00:19:52 → 00:19:55 Health Span อืคือเรามีอายุไขยืนยาวไป
00:19:56 → 00:19:59 จนแล้วก็ความแข็งแรงเพียงพอไปจนวันสุด
00:19:59 → 00:20:02 ท้ายของชีวิตเราไม่ต้องพึ่งพิงใครไม่ต้อง
00:20:02 → 00:20:05 ขอความช่วยเหลือของใครนะครับซึ่งเป็นสิ่ง
00:20:05 → 00:20:07 ที่สำคัญมากโดยเฉพาะเมื่อทั้งโลกกำลัง
00:20:07 → 00:20:10 เข้าสู่สังคมสูงวัยค่ะหลายคนอยากจะเป็น
00:20:10 → 00:20:12 แบบนั้นล่ะคุณหมออยากจะมีสุขภาพแข็งแรง
00:20:12 → 00:20:14 แบบนั้นมันเป็นเรื่องเฉพาะตัวมยหรือว่า
00:20:14 → 00:20:17 จริงๆทุกคนสามารถทำได้ทุกคนสามารถทำได้
00:20:17 → 00:20:20 ครับอืนึกว่าจริงๆถ้าเราเอาพื้นฐานเนี่ย
00:20:20 → 00:20:23 คือเอ่อพอคุยเรื่องชะลอชะลอวัยควรจะนึก
00:20:23 → 00:20:26 ถึงทำความสวยความงามค่ะวิตามินอาหารเสริม
00:20:26 → 00:20:30 อะไรดีต้องใช้เงินมหาศาลเป็นเรื่องของ
00:20:30 → 00:20:33 privilege คือเป็นของคนมีเงินครับจริงๆ
00:20:33 → 00:20:36 เรื่องชะลอวัยเนี่ยทุกคนสามารถทำได้แล้ว
00:20:36 → 00:20:39 ก็ไม่ได้ต้องใช้เงินอะไรมากมายอืถ้าเรา
00:20:39 → 00:20:42 ใช้หลักของ Medicine ใช่หรือว่าเวทศาสตร์
00:20:42 → 00:20:45 วิถีชีวิตการปรับเปลี่ยนวิธีที่เราใช้
00:20:45 → 00:20:47 ชีวิตเนี่ยเพื่อให้เรามีสุขภาพร่างกาย
00:20:47 → 00:20:51 แข็งแรงห่างไกลจากโรคอืเวชศาสตร์วิถี
00:20:51 → 00:20:52 ชีวิตที่คุณหมอพูดเมื่อสักครู่ก็คือ
00:20:52 → 00:20:54 Lifesty Medicine ที่เราจะคุยกันวันนี้
00:20:54 → 00:20:57 นะคะคุณหมออธิบายละเอียดกว่านี้อีกหน่อย
00:20:57 → 00:20:59 ได้มั้ให้คนเห็นภาพว่าไสล medicine มัน
00:20:59 → 00:21:02 คืออะไรคะครับก็ผมเริ่มจากนิยามของคำนี้
00:21:02 → 00:21:05 แล้วกันนะครับตัวเวชศาสตร์วิถีชีวิตมัน
00:21:05 → 00:21:10 แปลว่าการที่เราไปจัดการกับวิถีชีวิตหรือ
00:21:10 → 00:21:13 พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนหนึ่งค่ะเพื่อ
00:21:13 → 00:21:17 ป้องกันค่ะและรักษาโรคโรคที่ในที่นี้ก็
00:21:17 → 00:21:19 หมายถึงกลุ่มโรค NCD โรคไม่ติดต่อเรื้อ
00:21:19 → 00:21:22 รังค่ะความดันเบาหวานไขมันไปจนโรคมะเร็ง
00:21:22 → 00:21:25 เลยโดยสิ่งสำคัญที่สุดคือใช้ข้อมูลหลัก
00:21:25 → 00:21:29 ฐานทางวิทยาศาสตร์มีงานวิจัยรองรับว่าได้
00:21:29 → 00:21:32 ผลที่เน้นมากๆเลยเรารู้ว่าความรู้อย่าง
00:21:32 → 00:21:35 เดียวเนี่ยไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของคน
00:21:35 → 00:21:38 ได้ค่ะใช่เรารู้หมดสูบบุหรี่ไม่ดีกินอัน
00:21:38 → 00:21:42 นี้ไม่ดีออกกำลังกายดีไม่ทำเกินห้ามใจ
00:21:42 → 00:21:45 เกินห้ามใจเพราะฉะนั้นหลักของเวทศาสตร์
00:21:45 → 00:21:46 วิถีชีวิตครับเลยมีเรื่องของ
00:21:46 → 00:21:49 พฤติกรรมศาสตร์อือคือทำอย่างไรให้เรา
00:21:49 → 00:21:51 สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์คนหนึ่งได้
00:21:51 → 00:21:55 สำเร็จมันจะมีพารทของจิตวิทยาค่ะอ่า
00:21:55 → 00:21:58 เรื่องของแรงจูงใจเรื่องของการโคachิทำ
00:21:58 → 00:22:01 อย่างไรให้คนนั้นมีแรงจูงใจอยากลุกขึ้นมา
00:22:01 → 00:22:04 ดูแลสุขภาพออือปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตปรับ
00:22:04 → 00:22:07 เปลี่ยนพฤติกรรมซึ่งเป็นเรื่องยากใช่
00:22:07 → 00:22:09 เรื่องยากมากจริงๆพูดก็พูดนะทุกวันนี้
00:22:09 → 00:22:12 เนี่ยทุกคนรู้หมดแหละว่าจะดูแลสุขภาพยัง
00:22:12 → 00:22:14 ไงอาหารคุณจะกินยังไงเพราะมันหาได้ง่าย
00:22:14 → 00:22:17 เสิร์ชในมือถือทุกคนก็จะรู้ได้หมดแต่สิ่ง
00:22:17 → 00:22:19 ที่สำคัญคือจะทำยังไงให้ลุกขึ้นมาทำใช่
00:22:19 → 00:22:23 มั้คะอันนี้ต้องใช้ใครช่วยจะทำยังไงดีตัว
00:22:23 → 00:22:26 เองจะอยู่ทำยังไงให้มีแรงจูงใจขึ้นมาบาง
00:22:26 → 00:22:29 คนเองก็อาจจะรู้สึกว่าก็ไม่เป็นไรไม่ต้อง
00:22:29 → 00:22:31 อายุยืนมากก็ได้นี่หรือบางคนอาจจะมี
00:22:31 → 00:22:33 ปัจจัยอย่างอื่นที่ทำให้ไม่อยากจะมีอายุ
00:22:33 → 00:22:36 ยืนเราควรจะมีมุมมองยังไงหรือว่ามีmindsต
00:22:36 → 00:22:38 ยังไงดีเกี่ยวกับการที่เราจะต้องมีอายุ
00:22:38 → 00:22:40 ยืนอย่างแข็งแรงปกติผมถามคนสักประมาณ 100
00:22:40 → 00:22:45 คนสมมุติผมถามไปว่าอยากมีอายุยืนมั้ยอื
00:22:45 → 00:22:49 ตอบว่าไงคะส่วนใหญ่ไม่ไม่ไม่คือไม่มีใคร
00:22:49 → 00:22:52 อยากที่จะมีอายุไขหรือ span ที่อยากค่ะ
00:22:52 → 00:22:55 แต่ถ้าถามว่าทุกคนอยากมีสุขภาพดีช่วย
00:22:55 → 00:22:58 เหลือตัวเองได้ไม่เป็นภาระใครจนวันสุด
00:22:58 → 00:22:59 ท้ายของชีวิตใหม่ทุกคนจะตอบแบบเดียวกัน
00:22:59 → 00:23:03 ว่าอันนี้ 100% เนาะ 100% 100% ไม่ต้อง
00:23:03 → 00:23:05 สงสัยเลยเออซึ่งอันเนี้เป็นสิ่งที่เรา
00:23:05 → 00:23:08 สามารถจัดการได้ด้วย Lifestyle Medicine
00:23:08 → 00:23:10 คือปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตของเราตั้งแต่
00:23:10 → 00:23:13 วันนี้อแล้วถ้าจะชราภาพอย่างมีคุณภาพแข็ง
00:23:13 → 00:23:17 แรงจำนวนสุดท้ายของชีวิตนี่จะต้องยังไงดี
00:23:17 → 00:23:20 ครับค่ะก็พื้นฐานเราก็ต้องกลับมาที่
00:23:20 → 00:23:23 พฤติกรรมสุขภาพพวกเนี้ยทำอย่างไรให้มันดี
00:23:23 → 00:23:27 ทุกด้านนะครับไม่ใช่ดีด้านเดียวค่ะเออ
00:23:27 → 00:23:30 เมื่อก่อนเรามันชอบมีคำถามเนาะเออเรากิน
00:23:30 → 00:23:32 ปรับการกินอย่างเดียวไม่ไปออกกำลังได้
00:23:32 → 00:23:35 มั้ยเออเอากินดีๆเลยกินแบบที่คุณหมอแนะนำ
00:23:35 → 00:23:39 เลยหลีกเลี่ยงสัตว์เนื้อแดงกินปลากินผัก
00:23:39 → 00:23:43 เยอะกินข้าวกล้องอืใช่บางคนก็กินดีออก
00:23:43 → 00:23:46 กำลังกายดีแต่ว่าเป็นคนแบบโปรtiveมากเลย
00:23:46 → 00:23:49 ต้องทำงานตลอดเวลาไม่นอนอค่ะนะคนกับนี้ก็
00:23:49 → 00:23:52 สุขภาพดีไม่ได้อืเออคีย์คีย์หลักก็คือว่า
00:23:52 → 00:23:55 เราต้องดูแลสุขภาพทุกด้านฮะอือค่ะคือถ้า
00:23:55 → 00:23:59 เรานอนน้อยเราก็ไม่มีแรงไปออกกำลังกาย
00:23:59 → 00:24:01 แล้วเราก็จะมีพฤติกรรมความยับยั้งช่างใจ
00:24:01 → 00:24:04 เราไม่ดีเบลออยู่การนอนไม่พอแล้วก็จะ
00:24:04 → 00:24:07 เลือกอาหารไม่ดีต่อสุขภาพเนาะแล้วก็กลับ
00:24:07 → 00:24:10 กันนอนไม่พอก็มีผลเรื่องความเครียดเพราะ
00:24:10 → 00:24:14 คือเรื่องของพฤติกรรมสุขภาพทุกอย่างมัน
00:24:14 → 00:24:17 ตัวมันเองส่งผลต่อสุขภาพโดยตรงแต่ว่าแต่
00:24:17 → 00:24:20 ละพฤติกรรมก็ส่งผลต่อพฤติกรรมแล้วก็
00:24:20 → 00:24:23 สาเหตุอื่นๆอือืเพราะฉะนั้นเราต้องดูแล
00:24:23 → 00:24:26 ให้ดีค่ะทุกด้านค่ะถ้าอย่างงั้นยกตัว
00:24:26 → 00:24:29 อย่างเลยว่าให้คุณหมอยกตัวอย่างให้เห็น
00:24:29 → 00:24:32 ภาพชัดๆอ่ะนะคะตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน
00:24:32 → 00:24:36 เลยอืการที่เราจะมีคุณภาพชีวิตที่วันนี้
00:24:36 → 00:24:38 เราควรจะต้องแยกด้วยมั้ยคะว่าในแต่ละช่วง
00:24:38 → 00:24:41 วัยเนี่ยมันจะมีไลฟ์สไตล์หรือว่าวิถี
00:24:41 → 00:24:45 ชีวิตที่มันจะทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดี
00:24:45 → 00:24:47 ไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตเนี่ยมันแตก
00:24:47 → 00:24:49 ต่างกันมั้คะหมายถึงว่าช่วงวัยแต่ละช่วง
00:24:49 → 00:24:51 วัยมันจะต้องมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน
00:24:51 → 00:24:54 มั้ยคือจริงๆเรื่องช่วงวัยมันอาจจะมีความ
00:24:54 → 00:24:58 แตกต่างเล็กๆน้อยๆแต่ว่าภาพใหญ่ในการดูแล
00:24:58 → 00:25:01 สุขภาพนะมันไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ตัว
00:25:01 → 00:25:04 เมนเหมือนกันใช่ครับถ้าเราดูเอ่อผมเอ่อ
00:25:04 → 00:25:06 เวลาเราคุยเรื่องเวทชศาสตร์วิถีชีวิตมัน
00:25:06 → 00:25:09 จะมีด้วยกันอยู่ 6 ด้านค่ะนะครับก็คือ
00:25:09 → 00:25:13 เรื่องของอาหารการออกกำลังกายอือการนอน
00:25:13 → 00:25:16 ค่ะการจัดการความเครียดค่ะการเลี่ยงสาร
00:25:16 → 00:25:19 พิษอืแล้วก็เรื่องของความสัมพันธ์หรือ
00:25:19 → 00:25:22 สัมพันธภาพ relationhip นะฮะถ้าเราอยาก
00:25:22 → 00:25:27 ให้สุขภาพเราดีขอให้ 6 อย่างนี้ดีอืตื่น
00:25:27 → 00:25:31 นอน schedule ในแต่ละวันจะเป็นยังไงก็ได้
00:25:31 → 00:25:34 เราจะกินอาหารมาแล้ว 1 มื้อ 2 มื้อ 3
00:25:34 → 00:25:37 มื้อแล้วแต่ถ้าเรากินอาหารได้ปริมาณเหมาะ
00:25:37 → 00:25:42 สมค่ะและคุณภาพดีค่ะเราก็เช็คบ็อกไป 1
00:25:42 → 00:25:45 ด้านอือเรื่องถัดมาก็คือเรื่องของการออก
00:25:45 → 00:25:48 กำลังกายค่ะเวลาพูดถึงเรื่องออกกำลังกาย
00:25:48 → 00:25:51 คนก็จะนึกถึงอย่างแรกเลยวิ่งอืเออหรืออาจ
00:25:51 → 00:25:54 จะเดินเร็วยอดนิยมค่ะหรือว่าเข้ายิมค่ะ
00:25:54 → 00:25:57 จริงๆเรื่องของการออกกำลังกายครับถ้าลึกๆ
00:25:57 → 00:26:01 เนี่ยเราพูดถึงเรื่องของกิจกรรมทางกายอื
00:26:01 → 00:26:03 คือออกกำลังกายมันจะต้องเป็น sess อื
00:26:03 → 00:26:06 ครึ่งชั่วโมงชั่วโมงนี้ทำเท่านี้จริงๆถ้า
00:26:06 → 00:26:09 เรามีกิจกรรมทางกายเราทำสวนเรายกหามของ
00:26:09 → 00:26:14 เราไปไฮกิ้งเราพาสุนัขไปวิ่งไปเล่นกับ
00:26:14 → 00:26:17 ร้านได้หมดเลยพวกนี้นับเป็นกิจกรรมทางกาย
00:26:17 → 00:26:19 ค่ะเพราะฉะนั้นความหลากหลายของมันจะเยอะ
00:26:19 → 00:26:22 กว่าเดิมเยอะและค่ะแต่ว่าสิ่งสำคัญก็คือ
00:26:22 → 00:26:25 เราขอให้ได้ 1 คือคุณภาพค่ะคือความหนัก
00:26:25 → 00:26:29 เพียงพออืก็คือเช่นถ้าเราอยากได้สุขภาพ
00:26:29 → 00:26:32 หัวใจเราต้องเหนื่อยค่ะถ้าเราอยากได้
00:26:32 → 00:26:35 กล้ามเนื้อแข็งแรงแงไอ้อะไรก็ตามที่ต้อง
00:26:35 → 00:26:39 หนักพอต้องลาอือแล้วที่คุณหมอบอกว่าเอ่อ
00:26:39 → 00:26:42 มันต้องเหนื่อยบางคนพอเล่นแป๊บนึงเหนื่อย
00:26:42 → 00:26:44 แล้วอ่ะอืเราควรจะหยุดหรือว่าเราควรจะ
00:26:44 → 00:26:47 ต้องไปต่อจนเรารู้สึกว่าไม่ไหวคือความ
00:26:47 → 00:26:50 หนักในการออกกำลังกายมันมีหลายเลเวลหลาย
00:26:50 → 00:26:55 ระดับเรตั้งแต่เบาค่ะปานกลางแล้วก็หนักที
00:26:55 → 00:26:58 นี้คือถ้าเบาง่ายๆคือเราเดินอยู่เฉยๆอื
00:26:58 → 00:27:01 อันนี้เราทำได้ทั้งวันใช่เดินสบายๆอย่าง
00:27:01 → 00:27:03 งี้อันนี้ถือเป็นการออกกำลังกายมั้อื
00:27:03 → 00:27:05 เรียกว่าไม่ไม่เหรอคือเพราะมันไม่เหนื่อย
00:27:05 → 00:27:08 ใช่มั้คะใช่มันแทบไม่มีประโยชน์ทีนี้ถ้า
00:27:08 → 00:27:10 จะให้มันได้ประโยชน์ในเชิงหลอดเลือดหัวใจ
00:27:10 → 00:27:13 ต้องเหนื่อยก็คือตั้งแต่ปานกลางถึงหนัก
00:27:13 → 00:27:16 ค่ะทีนี้ถามว่าเราควรทำไปนานแค่ไหนอถ้า
00:27:16 → 00:27:19 เราออกหนักไปเลยครับเช่นหอบแฮกๆเราอาจจะ
00:27:20 → 00:27:22 ทำได้แค่ 5 นาที 10 นาทีใช่ค่ะเออเราก็
00:27:22 → 00:27:25 คือทำได้แค่นั้นอืออทีแต่นี้ถ้าเราทำแค่
00:27:25 → 00:27:28 ปานกลางเราจะทำได้ 20 30
00:27:28 → 00:27:32 นาทีเราก็ทำเท่าที่เราทำไว้อือคือเราต้อง
00:27:32 → 00:27:35 เหนื่อยอยู่ตลอด 30 นาทีอืคำถามว่ายาวแค่
00:27:35 → 00:27:38 ไหนมันขึ้นอยู่กับสมรรถภาพร่างกายความฟิต
00:27:38 → 00:27:42 ของเราค่ะแรกๆอาจจะได้ 10 นาที 15 นาที
00:27:42 → 00:27:44 มันจะเพิ่มแต่ถ้าเราทำสม่ำเสมอมันจะเพิ่ม
00:27:44 → 00:27:47 ขึ้นไปเรื่อยๆอันนี้เป็นธรรมชาติของร่าง
00:27:47 → 00:27:49 กายเลยเนาะใช่ครับร่างกายเราพัฒนาได้แล้ว
00:27:49 → 00:27:52 ก็ที่ผมพูดไปเนาะคือเราคุยกันเรื่องขั้น
00:27:52 → 00:27:56 ต่ำของการออกกำลังกายค่ะแบบไอ้แอรบิเนี่ย
00:27:56 → 00:27:58 นะให้กระตุ้นหัวใจขั้นต่ำคือ 150 นาทีต่อ
00:27:58 → 00:28:02 สัปดาห์แล้วถามว่ามีมากเกินไปมั้ยค่ะคือ
00:28:02 → 00:28:04 เราเจอว่าประโยชน์ของมันเนี่ยเพิ่มได้จน
00:28:04 → 00:28:07 กระทั่ง 600 นาทีต่อสัปดาห์อคือเราจะยิ่ง
00:28:07 → 00:28:10 ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นค่ะแต่ว่า
00:28:10 → 00:28:13 มันจะเริ่มเป็นอย่างี้เนาะกราฟมันจะเริ่ม
00:28:13 → 00:28:15 plato คือยิ่งทำเยอะประโยชน์จะยิ่งน้อย
00:28:16 → 00:28:18 และอ๋อคือคนที่จากเดิมนิ่งๆเลยแล้วไปขยับ
00:28:18 → 00:28:20 เนี่ยอันนี้ได้ประโยชน์เยอะที่สุดค่ะนะฮะ
00:28:20 → 00:28:23 อือๆอันนี้ก็ก็เป็นลักษณะของการออกกำลัง
00:28:23 → 00:28:26 กายข้อที่ 2 ที่คุณจะต้องทำให้ดีอันนี้
00:28:26 → 00:28:29 จำเป็นสำคัญย้อนไปนิดนึงคือเรื่องการออก
00:28:29 → 00:28:32 กำลังกายครับเราจะคุยได้ยินคำนี้ตลอดออก
00:28:32 → 00:28:35 กำลังกาย 150 นาทีต่อสัปดาห์ค่ะจริงๆในคำ
00:28:35 → 00:28:38 แนะนำสากลนะครับมันมีเรื่องของอีกเรื่อง
00:28:38 → 00:28:41 คือการกิจกรรมเรื่องเสริมสร้างความแข็ง
00:28:41 → 00:28:44 แรงของกล้ามเนื้อค่ะอย่างน้อย 2 วันต่อ
00:28:44 → 00:28:47 สัปดาห์เพื่อให้กล้ามเนื้อเราแข็งแรงอัน
00:28:47 → 00:28:50 นี้จำเป็นหรอคะนี่ไอ้นี่คือแนะนำว่าควรจะ
00:28:50 → 00:28:53 ต้องจริงๆคำแนะนำเครับเริ่มตั้งแต่ในเด็ก
00:28:54 → 00:28:57 อืเด็กควรมีกิจกรรมเสริมสร้างความแข็งแรง
00:28:57 → 00:29:01 ไปจนผู้สูงอายุและก็ต้องมีคือเป็นใช้คำ
00:29:01 → 00:29:05 ว่า must ต้องต้องอืเออคือเราแนะนำมาคู่
00:29:05 → 00:29:09 กันตลอดครับเออแต่ว่าไปประมาณมันเหลือแต่
00:29:09 → 00:29:12 เอ่อไปแอรบิสิไอ้อีอย่างหลังนี่มันหายไป
00:29:12 → 00:29:16 ไหนไม่ลูกเออแต่จริงๆมันสำคัญเท่ากัน
00:29:16 → 00:29:18 เพราะว่าเรื่องของการออกกำลังกายนะครับ
00:29:18 → 00:29:21 มันมีความจำเพาะแอโรบิหรือคาร์ดิโอเราได้
00:29:21 → 00:29:23 หัวใจหลอดเลือดค่ะแต่กล้ามเนื้อได้
00:29:23 → 00:29:25 ประโยชน์น้อยมากค่ะออันนี้เราทำให้กล้าม
00:29:26 → 00:29:28 เนื้อเราแข็งแรงเราลุกจากเก้าอี้เดินขึ้น
00:29:28 → 00:29:31 บันไดอันนี้ต้องอาศัยการฝึกความแข็งแรง
00:29:31 → 00:29:33 แล้วคุณหมอแนะนำยังไงคะในการออกกำลังกาย
00:29:33 → 00:29:36 เพื่อที่จะสร้างกล้ามเนื้ออันนี้มันมีราย
00:29:36 → 00:29:39 ละเอียดค่อนข้างเยอะค่ะแต่ว่าโดยทั่วไปก็
00:29:39 → 00:29:42 คือเราต้องออกกำลังกายแบบกล้ามเนื้อทุก
00:29:42 → 00:29:47 มัดนะครับอืแล้วก็มีความหนักพอเวลาหนักพอ
00:29:47 → 00:29:50 เราจะใช้จำนวนครั้งเป็นตัวกำหนดอืเช่นผม
00:29:50 → 00:29:52 squat หรือลุกจากเก้าอี้อย่างเงี้ยอ่า
00:29:52 → 00:29:55 ถ้าทั่วไปเอาให้ได้ 8-15 ครั้งแล้วหมดแรง
00:29:55 → 00:29:59 อือ่าอันนั้นคือความหนักกำลังดีค่ะนะฮะก็
00:29:59 → 00:30:01 คือถ้าผมลุกได้เป็น 100 ทีแปลว่าอันนี้
00:30:01 → 00:30:04 ไม่ค่อยได้ประโยชน์อืเออมันก็เลยเป็น
00:30:04 → 00:30:06 สาเหตุที่เราต้องมีน้ำหนักเอ่อเครื่อง
00:30:06 → 00:30:09 นู่นเครื่องนี่มาเพื่อถ่วงให้หนักเพื่อ
00:30:09 → 00:30:12 ให้น้ำหนักมันมากพอที่กระตุ้นให้กล้าม
00:30:12 → 00:30:14 เนื้อของเราเกิดการพัฒนาและเราจะแข็งแรง
00:30:14 → 00:30:17 ขึ้นอค่ะแล้วเราต้องสร้างกล้ามเนื้ออะไร
00:30:17 → 00:30:20 บ้างคะแขนขาทั้งตัวครับทั้งตัวทั้งตัวคือ
00:30:20 → 00:30:24 คือคำแนะนำสากลคือเราแนะนำว่าต้องเล่นเ้า
00:30:24 → 00:30:27 เรียกว่ากล้ามเนื้อมัดใหญ่หรือทุกมัดแหละ
00:30:27 → 00:30:31 นะตั้งแต่กล้ามเนื้อที่บริเวณอกอืไหล่
00:30:31 → 00:30:36 หลังแกนกลางลำตัวไปจนขาอืน่องค่ะก็คือ
00:30:36 → 00:30:38 ทั้งตัวครับอือเพราะว่ากล้ามเนื้อทุกส่วน
00:30:38 → 00:30:42 เนี่ยมันมีผลกับสุขภาพเราหมดโอ้โหอย่าง
00:30:42 → 00:30:45 งี้ถ้าเกิดคนนึกภาพว่านึกนึกภาพตามคุณหมอ
00:30:46 → 00:30:47 นะบอกว่าต้องออกกำลังกายแค่ข้อเดียวเนี่ย
00:30:47 → 00:30:51 นะต้องทั้งคาร์ดิโอต้องทั้งกล้ามเนื้อ
00:30:51 → 00:30:54 ด้วยวันนึงเราต้องใช้เวลาในการออกกำลัง
00:30:54 → 00:30:56 กายขนาดไหนค่ะหรือเราจะมีวิธียังไงที่มัน
00:30:57 → 00:30:59 จะรวบยอดเอาให้เห็นภาพชัดๆเลยค่ะสมมุติ
00:30:59 → 00:31:02 เราอยากออกกำลังกายแบบแอโรบิให้ได้ 150
00:31:02 → 00:31:05 นาทีต่อสัปดาห์อือแล้วเราอยากเสริมสร้าง
00:31:05 → 00:31:08 กล้ามเนื้อ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ค่ะนะเอาให้
00:31:08 → 00:31:10 เห็นภาพชัดที่สุดนะครับคือเราใช้เวลาวัน
00:31:10 → 00:31:16 ละครึ่งชั่วโมงอื 5 วันเราทำแอรบิกค่ะอีก
00:31:16 → 00:31:18 2 วันไอ้ที่ผมพูดเหมือนรายละเอียดจะเยอะ
00:31:18 → 00:31:21 จริงๆครึ่งชั่วโมงเนี่ยสามารถจบเessการ
00:31:21 → 00:31:24 ออกกำลังกายได้แหละแบบได้ประโยชน์พัฒนา
00:31:24 → 00:31:27 ร่างกายได้ค่ะเพราะฉะนั้นเราใช้เวลาเพียง
00:31:27 → 00:31:30 แค่วันละ 30 นาที 30 นาทีเท่านั้นหรือ
00:31:30 → 00:31:33 เอ่อแปลง่ายๆนะครับ 2% ของเวลาในแต่ละวัน
00:31:33 → 00:31:37 ของเราอืก็เพียงพอแล้วค่ะอมันถ้ามันรู้
00:31:38 → 00:31:40 วิธีเนาะอันนี้ก็อยู่ที่ว่าให้รู้วิธีใน
00:31:41 → 00:31:43 การที่จะออกกำลังกายให้มันได้ประโยชน์สูง
00:31:43 → 00:31:45 สุดมันใช้เวลาไม่ได้เยอะอย่างที่คิดใช่
00:31:45 → 00:31:48 ครับมันใช้เวลาน้อยมากเลยน้อยมากอ่ะสมมติ
00:31:48 → 00:31:50 ถ้าจะพูดไปว่าครึ่งชั่วโมงต่อวันเนี่ยมัน
00:31:50 → 00:31:52 น้อยมากกับการที่เราจะไปทำอะไรอีกตั้ง
00:31:52 → 00:31:54 เยอะแยะนะในชีวิตประจำวันของเราข้อต่อไป
00:31:54 → 00:31:57 ก็คือเรื่องของการนอนการพักผ่อน
00:31:57 → 00:32:00 ต้องทำยังไงคะถึงจะเสริมสร้างสุขภาพได้ดี
00:32:00 → 00:32:03 ที่สุดครับก็จริงๆเรื่องของการนอนผมเน้น
00:32:03 → 00:32:07 หลัก 3 เรื่องนะครับค่ะกลับมาที่เรื่อง
00:32:07 → 00:32:13 เดิมคุณภาพค่ะนะ 2 เวลานะแล้วก็ 3 คือ
00:32:13 → 00:32:15 ความสม่ำเสมอนอนนี่มันขึ้นกับวัยครับถ้า
00:32:15 → 00:32:19 อย่างวัยผู้ใหญ่อายุ 18 ประมาณ 64 ก็เรา
00:32:19 → 00:32:23 แนะนำที่โดยเฉลี่ย 7-9 ชมงต่อคืนค่ะนะ
00:32:23 → 00:32:27 ครับโดยที่ต้องมีคุณภาพด้วยค่ะคุณภาพเรา
00:32:27 → 00:32:29 ก็อาจจะวัดได้จากหลายอย่างนะครับเดี๋ยว
00:32:29 → 00:32:32 นี้มีนาฬิกาอะไรวัดก็ตรงบ้างไม่ตรงบ้าง
00:32:32 → 00:32:34 แต่ที่วัดได้ดีที่สุดก็คือเราดูตัวเองใน
00:32:34 → 00:32:37 แต่ละวันนะครับอืเพราะเราตื่นมาแล้วสด
00:32:37 → 00:32:40 ชื่นดีไม่ง่วงเหงาหาวนอนระหว่างวันมี
00:32:40 → 00:32:44 สมาธิในการทำงานไม่ใช่ขับรถไปก็ง่วงหลับ
00:32:44 → 00:32:47 ในไปอันนี้แปลว่าคุณภาพการนอนไม่ดีแหละ
00:32:47 → 00:32:51 คือต้องดีทั้งระยะเวลาคุณภาพแล้วก็ความ
00:32:51 → 00:32:53 สม่ำเสมอครับถ้าคุณภาพได้เวลาไม่ได้หรอคะ
00:32:53 → 00:32:55 เพราะบางคนเราก็จะได้ยินเยอะนะบางคนบอก
00:32:55 → 00:32:58 ว่านอน 4-5 ชั่วโมงรู้สึกสดชื่นละคุณภาพ
00:32:58 → 00:33:01 ชีวิตในแต่ละวันก็โอเคครับอันนี้มันอาจจะ
00:33:01 → 00:33:02 ไม่เข้ากับคุณหมอที่บอกว่ามันจะต้องมี
00:33:02 → 00:33:05 คุณภาพแล้วก็มีเรื่องของเวลาด้วยใช่มั้คะ
00:33:05 → 00:33:07 แหมเรื่องเรเรื่องเรื่องคือเวลาเราคุย
00:33:07 → 00:33:10 เรื่องคุณภาพเป็นความรู้สึกอ่ะบางคนเอาจ
00:33:10 → 00:33:15 จะแบบแหมเป็นคน energiz active ตลอดเวลา
00:33:15 → 00:33:18 นะครับทีนี้เรากลับมาที่ข้อมูลแล้วกันคือ
00:33:18 → 00:33:23 ข้อมูลเนี่ยเพบว่าคนที่นอนน้อยคือเอ่อการ
00:33:23 → 00:33:25 นอนกับสุขภาพมันมีความสำสัมพันธ์กันแบบ
00:33:25 → 00:33:30 กราฟตัว U คือที่แถวๆ 7-9 ชม.นะครับโอกาส
00:33:30 → 00:33:34 เสียชีวิตการเกิดโรคเนี่ยต่ำที่สุดอืเออ
00:33:34 → 00:33:37 แต่ถ้าเรานอนมากไปหรือว่านอนน้อยไปค่ะเออ
00:33:37 → 00:33:39 พวกความเสี่ยงพวกเนี้ยมันจะเริ่มเพิ่ม
00:33:39 → 00:33:43 ขึ้นนะคือโอเคคุณอาจจะรู้สึกเฟรชซึ่งถ้า
00:33:43 → 00:33:46 เราไปวัดจริงๆไม่รู้ดีหรือเปล่านะถ้าเรา
00:33:46 → 00:33:49 ไปวัดแบบ objective คือวัดแบบเอ่อเขา
00:33:49 → 00:33:52 เรียกว่า stage ระยะของการนอนไปวัด sleep
00:33:52 → 00:33:55 cycle ค่ะเอไปวัดข้อมูลเชิงลึกอ่ะครับ
00:33:55 → 00:33:57 เอาง่ายๆนะว่ามันดีจริงหรือเปล่าแต่ที่
00:33:57 → 00:34:00 เรารู้แน่ๆคือถ้าระยะเวลานอนน้อยเนี่ย
00:34:00 → 00:34:03 โอเคคุณมีความเสี่ยงเรื่องของการเกิดโรค
00:34:03 → 00:34:06 ต่างๆมากขึ้นอแล้วถ้าสมมุติเอ่อนอนน้อยคน
00:34:07 → 00:34:09 สูงวัยจะเป็นเยอะนอนน้อยตื่นเร็วอย่างที่
00:34:09 → 00:34:11 คุณหมอบอกแต่กลางวันมีการงีบอันนี้มันจะ
00:34:11 → 00:34:13 ช่วยชดเชยแล้วก็ถือว่าเป็นการนอนที่มี
00:34:13 → 00:34:16 คุณภาพได้มั้คะครับเเรียกว่าเป็นธรรมชาติ
00:34:16 → 00:34:19 แล้วกันนะของสูงวัยค่ะมักจะมีระยะเวลานอน
00:34:20 → 00:34:23 ที่สั้นลงสั้นใช่ทีนี้เราไปดูคำแนะนำสากล
00:34:23 → 00:34:25 นะครับเอเมื่อกี้ผู้ใหญ่เราคุยเรื่อง 7-9
00:34:25 → 00:34:30 ชมงค่ะของสูงวัยมันจะถูกลดให้เหลือ 7-8
00:34:30 → 00:34:33 ชม.อ๋อก็ยังต้อง 7-8 ชม.เค้าก็ยังแนะนำ
00:34:34 → 00:34:37 ว่าแถวๆ 7 ชม.อยู่ดีนะครับแถวๆ 7 ชม.อยู่
00:34:37 → 00:34:41 ดีเออเพราะฉะนั้นส่งไวก็ยังต้องนอนเยอะ
00:34:41 → 00:34:44 แต่ 7-8 ช่มงไม่ใช่ว่าแยกเป็น 2 ช่วงอือ
00:34:44 → 00:34:46 ไม่ใช่ต้องเป็นช่วงเดียวอ๋อครับเพราะว่า
00:34:46 → 00:34:48 การนอนของเราเนี่ยมันเป็นเค้าเรียกว่ามัน
00:34:48 → 00:34:51 จะมีไซเคิลรอบคืนนึงนี่มันมีประมาณ 4-5
00:34:51 → 00:34:54 รอบนะครับแล้วไอ้ไอ้เ้าเรียกว่าแต่ละรอบ
00:34:54 → 00:34:57 เนี่ยหน้าตามันไม่เหมือนกันช่วงช่วงแรก
00:34:57 → 00:35:00 ของการนอนเราจะหลับลึกนานอืช่วงหลังของ
00:35:00 → 00:35:03 การนอนเราจะหลับฝันนานอืซึ่งทั้งการหลับ
00:35:03 → 00:35:07 ลึกแล้วก็หลับฝันเนี่ยครับมันสำคัญพันต่อ
00:35:07 → 00:35:11 สุขภาพเราทั้งคู่มันบอกจะนอน 4-5 ช่โมง
00:35:11 → 00:35:14 แล้วหลับลึกค่ะแต่คุณไม่ได้ช่วงหลับฝัน
00:35:14 → 00:35:17 ของอระยะการนอนช่วงหลังอันนี้ก็ไม่ดีต่อ
00:35:17 → 00:35:19 สุขภาพโดยเฉพาะเรื่องของโรคที่เกี่ยวข้อง
00:35:19 → 00:35:22 กับสมองเสื่อมอีก 3 ข้อนี่คืออะไรบ้างคะ
00:35:22 → 00:35:24 ก็มีเรื่องของการจัดการความเครียดค่ะนะ
00:35:24 → 00:35:26 แล้วก็เรื่องเลี่ยงสารพิษก็คือบุหรี่
00:35:26 → 00:35:29 เหล้าหรือว่า PM 2.5 5 เนี่ยฮะแล้วสุด
00:35:29 → 00:35:31 ท้ายเรื่องความสัมพันธ์อค่ะความสัมพันธ์
00:35:31 → 00:35:34 กับคนรอบข้างถูกต้องครับเออเรื่องพวกนี้
00:35:34 → 00:35:37 มันเอ่อรายละเอียดมันเยอะมากแล้วก็แต่ละ
00:35:37 → 00:35:39 บุคคลมากอันนี้ผมอาจจะไม่ได้ลงรายละเอียด
00:35:39 → 00:35:42 นะฮะแต่ว่าเรื่องการจัดการความเครียดคือ
00:35:42 → 00:35:44 ความเครียดเนี่ยมันส่งผลต่อทุกด้านอือส่ง
00:35:44 → 00:35:47 ผลต่อการกินของเราเวลาเครียดเราอาจจะกิน
00:35:47 → 00:35:50 มากขึ้นส่งผลต่อการนอนนอนไม่หลับหรือส่ง
00:35:50 → 00:35:52 ผลต่อพลังงานเราไม่มีแรงไปออกกำลังเพราะ
00:35:53 → 00:35:54 ฉะนั้นเรื่องของความเครียดก็เป็นสิ่งที่
00:35:54 → 00:35:58 เราต้องหาทางจัดการแต่ละวิธีแต่ละคนมี
00:35:58 → 00:36:01 วิธีไม่เหมือนกันบางคนอาจจะไปทำสมาธิฝึก
00:36:01 → 00:36:04 เจริญสติบางคนไปออกกำลังกายเอ่อหลากหลาย
00:36:04 → 00:36:07 มากนะครับแต่เป็นสิ่งที่คนมักจะมองข้าม
00:36:07 → 00:36:10 ค่ะตัวความเครียดเองอ่ะครับมันส่งผลต่อ
00:36:10 → 00:36:13 ร่างกายเราได้โดยตรงคือเวลาเราเครียดร่าง
00:36:13 → 00:36:16 กายก็จะหลังพวกฮอร์โมนคอร์ติซอลฮอร์โมน
00:36:16 → 00:36:18 ความเครียดเพิ่มการเต้นของหัวใจเพิ่มความ
00:36:18 → 00:36:21 ดันเพิ่มน้ำตาลทำให้เรามีความเสี่ยงโรค
00:36:21 → 00:36:24 เรือรังตามมาอได้ค่ะก็เป็นสิ่งที่จะต้อง
00:36:24 → 00:36:27 ดูแลความเครียดนะคะแล้วก็เรื่องบุหรี่
00:36:27 → 00:36:30 เหล้านี่เราละไว้ในฐานที่เข้าใจว่าไม่ดี
00:36:30 → 00:36:33 อยู่แล้วอ่าใช่แล้วก็สารพิษจากสภาพแวด
00:36:33 → 00:36:35 ล้อมต่างๆเนาะเรื่องของยาฆ่าแมลงอาจจะ
00:36:35 → 00:36:37 อยู่ในปนเปื้อนในสารอาหารอันในอาหารที่
00:36:37 → 00:36:40 เราก็ต้องเลือกเหมือนกันครับผมค่ะแล้วก็
00:36:40 → 00:36:42 สุดท้ายแล้วก็เรื่องสุดท้ายสำคัญมากๆฮะ
00:36:42 → 00:36:46 ความสัมพันธคือเอ่ออันนี้ผมไม่พูดเยอะแต่
00:36:46 → 00:36:49 ว่ายกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆสมมุติเอ่อสามี
00:36:49 → 00:36:52 ภรรยาทะเลาะกันครับเราไม่ต้องคุยเรื่องดู
00:36:52 → 00:36:55 แลสุขภาพเลยอือเออคือไม่อยากทำอะไรแล้ว
00:36:55 → 00:36:58 ตอนนี้ใช่เราอยากเคลียร์กันตรงนั้นก่อน
00:36:58 → 00:37:00 แล้วถ้าเราติดอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ดี
00:37:00 → 00:37:03 นะครับเราไม่สามารถที่จะมีสุขภาพดีได้เลย
00:37:03 → 00:37:05 เพราะว่าความสัมพันธ์โดยเฉพาะกับคนใกล้
00:37:05 → 00:37:08 ชิดมันจะเป็นปัจจัยสนับสนุนพฤติกรรม
00:37:09 → 00:37:11 สุขภาพทั้งหมดก่อนหน้านี้ที่เราคุยกันมา
00:37:11 → 00:37:14 อืฟังดูเบาๆแต่จริงเป็นเรื่องสำคัญมากเออ
00:37:14 → 00:37:17 เรื่องใหญ่มากค่ะเอาอย่างงี้ถ้าสมมุติว่า
00:37:17 → 00:37:20 เรามีพ่อแม่หรือว่าแม้แต่ตัวเราเองเรา
00:37:20 → 00:37:23 อยากจะรู้ว่าวันนี้เนี่ยสุขภาพกายของเรา
00:37:23 → 00:37:28 เนี่ยมันแข็งแรงแค่ไหนเราจะทำยังไงบ้างคะ
00:37:28 → 00:37:31 เราเราตรวจวัดได้มั้ยแล้วเราเราควรจะวาง
00:37:31 → 00:37:34 แผนใช้ชีวิตยังไงคะครับผมพูดดูเรื่องการ
00:37:34 → 00:37:37 ดูแลสุขภาพโดยรวมนะครับปกติเราจะคุ้นเคย
00:37:37 → 00:37:40 การไปวัดความดันตรวจเลือดพอผลออกมาดีเรา
00:37:40 → 00:37:44 ก็แฮปปี้ใช่เออสุขภาพดีแต่ผมอยากจะชวนทุก
00:37:44 → 00:37:47 คนนะครับคือมาดูเรื่องของความแข็งแรงของ
00:37:47 → 00:37:50 ร่างกายอือืคือไอ้เรื่องเหล่าเนี้ยครับ
00:37:51 → 00:37:53 ถ้าเราอายุยัง 4-50 มันยังไม่ค่อยมีผลแต่
00:37:53 → 00:37:56 เมื่อไหร่ที่เราแตะเลข 7 เลข 8 คนที่แข็ง
00:37:56 → 00:37:59 แรงกว่ากับคนที่ไม่แข็งแรงเนี่ยเราเหมือน
00:37:59 → 00:38:01 หนังคนละม้วนเลยครับคือคนนึงเดินเหินได้
00:38:01 → 00:38:05 ดีอีกคนนึงอาจจะนั่งบนรถเข็นแล้วค่ะอแล้ว
00:38:05 → 00:38:07 ก็วิธีที่ดีที่สุดที่เราจะป้องกันไม่ให้
00:38:07 → 00:38:10 เราเป็นอย่างกรณีหลังคือทำไว้ให้มันดี
00:38:10 → 00:38:12 ตั้งแต่วันนี้เราจะมีวิธีการตรวจบัตรได้
00:38:12 → 00:38:15 ใช่มั้คะว่าวันนี้สุขภาพกายเราเป็นยังไง
00:38:15 → 00:38:17 เราต้องสร้างเสริมยังไงถ้ามาหาคุณหมอคุณ
00:38:17 → 00:38:20 หมอจะมีวิธีตรวจวัดหรือจะมีการวางโปรแกรม
00:38:20 → 00:38:22 สำหรับการเสริมสร้างสุขภาพยังไงบ้างคะ
00:38:22 → 00:38:26 ครับปกติการตรวจวัดเรื่องของสมรรถภาพกาย
00:38:26 → 00:38:29 มันขึ้นกับพื้นฐานเดิมของแต่ละคนนะแต่ตัว
00:38:29 → 00:38:32 ชี้วัดที่มีข้อมูลทางงานวิจัยเยอะว่ามัน
00:38:32 → 00:38:35 สัมพันธ์กับสุขภาพต่างๆเนี่ยก็เช่นเรื่อง
00:38:35 → 00:38:38 ของการวัดแรงบีบมืออืเออที่มันสามารถบอก
00:38:38 → 00:38:42 พละกำลังบอกการทำงานของสมองได้นะครับคน
00:38:42 → 00:38:45 ที่มีแรงบีบมือน้อยก็มีแนวโน้มที่จะความ
00:38:45 → 00:38:49 แข็งแรงทางร่างกายน้อยในเชิงหัวใจเราก็จะ
00:38:49 → 00:38:53 มีเทสแบบทดสอบมากมายเลยเช่นให้เดินสายพาน
00:38:53 → 00:38:56 เดินขึ้นกล่องเดินขึ้นสต็ปนะครับเพื่อเรา
00:38:56 → 00:39:00 อยากวัดค่าตัวหนึ่งคือเรื่องของ VO2 Max
00:39:00 → 00:39:02 ค่ะคืออัตราการใช้ออกซิเจนสูงสุดนะครับ
00:39:02 → 00:39:05 อันเนี้มันสามารถบอกประสิทธิภาพการทำงาน
00:39:05 → 00:39:09 ของหัวใจได้อือยิ่งคนที่มี VO2 Max สูง
00:39:09 → 00:39:13 จะยิ่งอายุยืนสุขภาพดีอืออันนี้ก็เป็นตัว
00:39:13 → 00:39:16 หนึ่งที่สำคัญครับแล้วก็อันนึงที่ผมเน้น
00:39:16 → 00:39:20 มากๆคือเรื่องของความแข็งแรงในการลุกความ
00:39:20 → 00:39:23 เร็วในการเดินเพราะว่าพวกเนี้ยนะครับยิ่ง
00:39:23 → 00:39:27 สูงไวมันจะเป็นสิ่งที่สามารถบ่งชี้ได้ว่า
00:39:27 → 00:39:29 เรามีความเสี่ยงในการหกล้มมากน้อยแค่ไหน
00:39:29 → 00:39:33 ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของผู้ส่งวัยอืค่ะอัน
00:39:33 → 00:39:36 นี้ก็คือสามารถตรวจวัดได้เลยใช่ฮะแล้วก็
00:39:36 → 00:39:39 หลังจากที่ตรวจวัดแล้วเอ่อพบว่าสุขภาพ
00:39:39 → 00:39:41 ร่างกายเป็นยังไงคุณจะต้องสร้างเสริมยัง
00:39:41 → 00:39:44 ไงคุณหมอมีการวางโปรแกรมสำหรับการฟื้นฟู
00:39:44 → 00:39:47 ร่างกายใช่มั้คะใช่ครับปกติการวางโปรแกรม
00:39:47 → 00:39:49 ไอ้พวกการตรวจเนี่ยครับเราใช้เหมือนเป็น
00:39:49 → 00:39:52 ตัววัดว่าโปรแกรมของเราได้ผลมากน้อยแค่
00:39:52 → 00:39:55 ไหนอืแต่คนที่จะมาเข้าโปรแกรมเราก็จะคุย
00:39:55 → 00:39:57 เรื่องเป้าหมายในการดูแลสุขภาพอีกทีนึง
00:39:58 → 00:40:00 เฮ้ยคุณอยากทำอะไรได้เออคุณต้องแข็งแรงไป
00:40:00 → 00:40:04 แค่ไหนออือและณปัจจุบันร่างกายคุณมีปัญหา
00:40:04 → 00:40:08 อะไรมั้ยเช่นข้อเข่าเสื่อมเจ็บตรงนั้นตรง
00:40:08 → 00:40:11 นี้ขาไม่แข็งแรงแขนไม่แข็งแรงเอ่อการ
00:40:11 → 00:40:13 เคลื่อนไหวเราก็จะประเมินไปจนถึงการ
00:40:13 → 00:40:15 เคลื่อนไหวว่าการเคลื่อนไหวเนี่ยมี
00:40:15 → 00:40:19 ประสิทธิภาพเพียงใดนะครับทำสquอทำท่านู้น
00:40:19 → 00:40:22 ท่านี้ได้มั้ยซึ่งโปรแกรมจะออกมาหน้าตา
00:40:22 → 00:40:24 ยังไงก็ขึ้นกับผลการตรวจประเมินที่เรา
00:40:24 → 00:40:28 ตรวจพบอืแล้วหลังจากที่วางโปรแกรมแล้วการ
00:40:28 → 00:40:31 ทำการออกกำลังกายพวกนี้เนี่ยสามารถกลับไป
00:40:31 → 00:40:35 ทำเองที่บ้านได้ใช่มั้คะใช่ครับอก็ถ้าทำ
00:40:35 → 00:40:38 ได้หลากหลายมากทำที่นี่ก็ได้เออเออบางคน
00:40:38 → 00:40:40 ที่เขาอยู่ไกลบางคนมาจากต่างจังหวัดเราก็
00:40:41 → 00:40:44 ให้เป็นโฮมโปรแกรมเราก็จะแนะนำว่าเอ้ยมี
00:40:44 → 00:40:47 ใครที่สามารถช่วยเหลือคุณได้อีกเพราะ
00:40:47 → 00:40:49 เดี๋ยวนี้ก็มีเอ่อเทรนเนอร์นักกายภาพที่
00:40:49 → 00:40:52 สามารถไปทำตามบ้านได้ด้วยสุดท้ายนี้คุณ
00:40:52 → 00:40:54 หมอพูดพูดสร้างแรงจูงใจให้คนอยากจะดูแล
00:40:54 → 00:40:56 สุขภาพให้แข็งแรงไปจนวันสุดท้ายของชีวิต
00:40:56 → 00:41:00 ค่ะคุณหมอจะอยากจะบอกยังไงคะอืครับเป็นคำ
00:41:00 → 00:41:04 ถามที่ดีครับทุกวันเนี้ยครับคือประชากร
00:41:04 → 00:41:07 แทบจะทั่วโลกรวมทั้งไทยเองอ่ะเรามักจะ
00:41:07 → 00:41:12 พึ่งหมอค่ะนะครับพึ่งคนอื่นพึ่งอย่างอื่น
00:41:12 → 00:41:14 เช่นเอ่ออาหารเสริมอะไรก็แล้วแต่ไอ้ของ
00:41:14 → 00:41:17 พวกนี้ครับมันมีผลน้อยมากหรือแม้แต่หมอ
00:41:17 → 00:41:19 เองเนี่ยก็ไม่สามารถช่วยคุณได้อนะครับ
00:41:19 → 00:41:23 เพราะว่าตัวเราอยู่กับร่างกายเราค่ะแทบจะ
00:41:23 → 00:41:27 ตลอด 24 ชมงคนที่จะดูแลสุขภาพของตัวเอง
00:41:27 → 00:41:30 ได้ดีที่สุดก็คือตัวเราเองฮะอือแล้วถาม
00:41:30 → 00:41:33 ว่าเราจะดูแลยังไงก็คือ 6 ด้านวิถีชีวิต
00:41:33 → 00:41:36 ที่เราคุยกันมาค่ะถ้าเราอยากมีที่จะมี
00:41:36 → 00:41:41 สุขภาพดีมีอายุยืนและมีความแข็งแรงไม่
00:41:41 → 00:41:44 ต้องพึ่งพาใครจนวันสุดท้ายของชีวิตนั่น
00:41:44 → 00:41:47 คือสิ่งที่เราต้องการจริงๆเราก็ต้องหันมา
00:41:47 → 00:41:49 เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้แล้วก็มีแค่
00:41:49 → 00:41:52 เราเท่านั้นครับที่ทำได้ไม่มีคนอื่นมาทำ
00:41:52 → 00:41:54 แทนได้ใช่อือแล้วเมื่อไหร่ที่เรามีความ
00:41:54 → 00:41:57 แข็งแรงเมื่อนั้นเราจะมีอิสระในการที่จะ
00:41:57 → 00:41:59 ทำอะไรก็ได้นะคุณหมอนะใช่ครับซึ่งผมคิด
00:41:59 → 00:42:02 ว่าคือถ้าเรามีชีวิตอยู่บนรถเข็นบนเตียง
00:42:02 → 00:42:04 อันนั้นไม่เรียกว่าชีวิตครับชีวิตคือเราอ
00:42:04 → 00:42:07 มีชีวิตคือเราสามารถทำอะไรก็ได้อย่างที่
00:42:07 → 00:42:11 เราต้องการและร่างกายเราเอื้อให้เราทำค่ะ
00:42:11 → 00:42:12 แล้วเมื่อไหร่ที่เรายังแข็งแรงช่วยตัวเอง
00:42:12 → 00:42:16 ได้มีอิสระได้เราจะบอกว่าเราไม่แก่เพราะ
00:42:16 → 00:42:18 ว่าเราทำอะไรก็ได้ใช่มั้คะใช่แล้ววันนี้
00:42:18 → 00:42:21 ขอบคุณคุณหมอมากเลยค่ะสวัสดีค่ะครับ
00:42:21 → 00:42:25 สวัสดีครับ
00:42:25 → 00:42:28 บุพการีที่เคารพคู่มือการดูแลพ่อแม่ของคน
00:42:28 → 00:42:30 เจนลูกถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ก็อย่าลืมกด
00:42:30 → 00:42:34 subscribe ไว้ด้วยนะครับ