00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:07 world vi The Voice พะนมเนี่ยมันเป็น
00:00:07 → 00:00:10 แหล่งของสารอาหารทั้งคาร์โบไฮเดรตโปรตีน
00:00:10 → 00:00:12 ไขมันวิตามินแล่ธาตุทั้งหลายแหล่แต่มัน
00:00:12 → 00:00:16 มักมีปัญหาเรื่องของการย่อยน้ำตาลในนมได้
00:00:16 → 00:00:18 ยากซึ่งคนส่วนใหญ่ก็เข้าใจว่าแพ้นมนะจริง
00:00:18 → 00:00:21 ๆแล้วเนี่ยเราเรียกว่าภาวะที่ไม่ทนต่อน้ำ
00:00:21 → 00:00:26 ตาลแลคโตสจากการสำรวจเนี่ยเพบว่ามีสูงถึง
00:00:26 → 00:00:29 80% เลยนะครับในคนไทยเราคือกินนมแล้วแบบ
00:00:29 → 00:00:31 ว่าเฮ้ยยได้ยากแต่อาการแต่ละคนเนี่ยมี
00:00:31 → 00:00:35 ตั้งแต่แบบว่าเล็กน้อยปานกลางมากมากหน่อย
00:00:35 → 00:00:37 คือหลังจากกินปุ๊บโอโหแบบปดดปูดปาดเลยแต่
00:00:37 → 00:00:41 บางคนก็โอ๊ยไม่ค่อยสบายท้องอ่ะนี่แหละ
00:00:41 → 00:00:44 เพราะคุณขาดหรือคุณเอนไซมแลคเตสที่จะ
00:00:44 → 00:00:46 ไปย่อย
00:00:46 → 00:00:50 แลคโตสฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทย
00:00:50 → 00:00:54 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพร
00:00:54 → 00:00:56 ค่ะ
00:00:56 → 00:01:00 PS มาค่ะคุณผู้ฟังคติดตามรับฟังาระดีๆ
00:01:00 → 00:01:02 เกี่ยวกับสุขภาพกับโรงหมอของเราในวันนี้
00:01:03 → 00:01:06 เป็นเรื่องของนมค่ะนมเยอะมากเลยนะคะ
00:01:06 → 00:01:09 เดี๋ยวนี้สารพัดอย่างอยู่บนเชลที่ขายของ
00:01:09 → 00:01:11 ในร้านสะดวกซื้อหรือซุเปอร์ Store หรือ
00:01:11 → 00:01:14 อะไรก็แล้วแต่นะเพียบบางทีเฮ้ยแล้วจะ
00:01:14 → 00:01:18 เลือกดื่มอะไรดีอ่ะทั้งนมแพะนมบัวนมพืช
00:01:18 → 00:01:21 เอ้ยสารพัดนมเลยนะคะอ่ะรู้แหละว่ามี
00:01:21 → 00:01:22 ประโยชน์แต่มีประโยชน์ยังไงแล้วก็เหมาะ
00:01:23 → 00:01:25 กับเราหรือเปล่าเอ๊ะหรือว่าเราไม่ควรอัน
00:01:25 → 00:01:27 ไหนดีน้าหรือว่าเราเคยกินอันนี้ได้แล้ว
00:01:27 → 00:01:29 กินไม่ได้แล้วกินอะไรแทนได้หรือเปล่านะคะ
00:01:29 → 00:01:31 เดี๋ยวคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราช
00:01:31 → 00:01:34 บำรุงพืชจากวิทยาลัยการแพทย์บูรณการ
00:01:34 → 00:01:36 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตค่ะสวัสดีค่ะ
00:01:36 → 00:01:39 อาจารย์ขาสวัสดีคีสวัสดีครับผมคุยกัน
00:01:39 → 00:01:42 เรื่องสารพัดนมค่ะโอโหเพียบเลยเดี๋ยวนี้
00:01:42 → 00:01:45 มาให้แบบเลือกกันเป็นทางเลือกในของผู้
00:01:45 → 00:01:48 บริโภคเลยแหละเมื่อก่อนก็จะเป็นนมวัวเนาะ
00:01:48 → 00:01:51 ขายกันเต็มเลยเดี๋ยวนี้เริ่มมีนมแพ้เป็น
00:01:51 → 00:01:54 สัตว์เศรษฐกิจสมัยก่อนอ่ามาแล้วก็เริ่ม
00:01:54 → 00:01:57 เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้วต้องมีนมพืชเฮ้ยพืชมี
00:01:57 → 00:02:01 นมด้วยหรอยไปเอามาจากตรงไหนก่อนอะไรคือนม
00:02:01 → 00:02:06 พืชนะคะสารพัดนมก็ไม่รู้ว่าแบบไหนดื่ม
00:02:06 → 00:02:08 แล้วดีหรือเหมาะกับเรามยหรือว่าถ้าแบบ
00:02:08 → 00:02:11 อย่างบางคนเคยดื่มนมวัวได้เนาะพออายุมาก
00:02:11 → 00:02:16 ขึ้นเอ้าอยู่ๆกินแล้วท้องเสียก็มีอถูก
00:02:16 → 00:02:18 ต้องครับอย่างงี้คือกินนมไม่ได้อีกต่อไป
00:02:18 → 00:02:20 แล้วเหรอหรือยังไงเออก็ต้องมามันก็เลยมี
00:02:20 → 00:02:25 นมทางเลือกขึ้นมาทั้งนมแพะนมพืชเนานมพืช
00:02:25 → 00:02:29 ก็สารพัดเลยนมถั่วเหลืองนมอัลมอนนมข้าว
00:02:29 → 00:02:33 โอ๊ตอะไรแบบที่เราเห็นเยอะแยะมากมายเลยนะ
00:02:33 → 00:02:35 แล้วก็ลุกลามไปถึงคาเฟ่ทั้งหลายแหล่ที่มี
00:02:35 → 00:02:39 เอานมอื่นๆมาใช้เนาะก่อนอื่นเนี่ยต้องบอก
00:02:39 → 00:02:43 ก่อนครับว่านมเนี่ยเป็นอะไรที่อยู่คู่กับ
00:02:43 → 00:02:46 สังคมไทยมานานและเนาะเพราะนมเนี่ยมันเป็น
00:02:46 → 00:02:48 แหล่งของสารอาหารที่ค่อนข้างที่จะครบถ้วน
00:02:48 → 00:02:51 และมีประโยชน์นะทั้งคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไข
00:02:51 → 00:02:54 มันวิตามินแล่ธาตุทั้งหลายแหล่นะครับแล้ว
00:02:54 → 00:02:57 เราก็เลยแนะนำเลยว่าโอยให้ดื่มนมนะวันละ 2
00:02:57 → 00:03:01 แก้วถึง 3 แก้วนะตั้งแต่เด็กเรื่อยมาเลย
00:03:01 → 00:03:04 นะครับแต่มันมักมีปัญหาครับคือพอดื่มนม
00:03:04 → 00:03:07 เนี่ยนมในที่นี้พอพูดนมเฉยๆคนก็จะหมายถึง
00:03:07 → 00:03:10 นมวัวเป็นหลักและนะครับก็จะมีปัญหาเรื่อง
00:03:10 → 00:03:14 ของการย่อยน้ำตาลในนมได้ยากซึ่งคนส่วน
00:03:14 → 00:03:17 ใหญ่ก็เข้าใจว่าแพ้นมค่ะนะจริงๆแล้วเนี่ย
00:03:17 → 00:03:21 เราเรียกว่าภาวะ lactose intolerance
00:03:21 → 00:03:23 ภาษาอังกฤษหรือภาษาการแพทย์วิชาการเรียก
00:03:23 → 00:03:27 lactose intolerance ภาษาไทยแปลว่า
00:03:27 → 00:03:31 เรียกว่าภาวะที่ไม่ทนต่อนน้ำตาลแลคโตสคือ
00:03:31 → 00:03:34 ฉันไม่ทนเธออ่ะแล้วเมื่อฉันไม่ทนเธอฉันก็
00:03:34 → 00:03:38 ปล่อยเธอไปค่ะก็คืออุจจาระออกไปแล้วทำให้
00:03:38 → 00:03:41 เราท้องเสียถ่ายท้องเวลาเรากินนมพวกที่
00:03:41 → 00:03:43 ไม่ทนต่อน้ำตาลแลคโตสเนี่ยจากการสำรวจ
00:03:43 → 00:03:47 เนี่ยเพบว่ามีสูงถึง 80% เลยนะครับในคน
00:03:47 → 00:03:51 ไทยเราออุ้ยคือกินน้ำตาลกินนมแล้วแบบว่า
00:03:51 → 00:03:53 เฮ้ยย่อยได้ยากแต่อาการแต่ละคนเนี่ยมี
00:03:53 → 00:03:57 ตั้งแต่แบบว่า my modulate seev คือ
00:03:57 → 00:04:00 เล็กน้อยปานกลางมากมากหน่อยคือหลังจากกิน
00:04:00 → 00:04:03 ปุ๊บโอโหแบบปดปาดเลยปูดปาดเลยแต่บางคนก็
00:04:03 → 00:04:06 โอ๊ยไม่ค่อยสบายท้องอ่ะนี่แหละเพราะคุณ
00:04:06 → 00:04:09 ขาดหรือคุณเอนไซม์แลคเตสที่จะไปย่อย
00:04:09 → 00:04:13 แลคโตสอ้าแต่ว่าเรากแล้วคนคิดว่าแพ้จริงๆ
00:04:13 → 00:04:15 แล้วไม่ได้แพ้แพ้คือแพ้โปรตีนแพ้แพ้
00:04:15 → 00:04:18 โปรตีนในนมวัวเลยแต่อันเนี้ยคือย่อยได้
00:04:18 → 00:04:22 ยากอ่าอันเนี้ยคือคือเป็นปัญหาหลักเลย
00:04:23 → 00:04:26 ส่วนใหญ่ที่เป็นปัญหากันว่าโอฉันแบบเอ่อ
00:04:26 → 00:04:28 ย่อยได้ยากจริงๆแล้วสารอาหารมันดีอ่ะคุณ
00:04:28 → 00:04:31 ค่าทางโภชนาการดีเพราะทุกวันนี้เรากินนม
00:04:31 → 00:04:35 เราต้องการอะไรครับเราต้องการแคลเซียมค่ะ
00:04:35 → 00:04:39 ในนมอาฮะเราต้องการโปรตีนในนมหลักๆเนี้ย
00:04:39 → 00:04:41 ค่ะพูดง่ายๆเราต้องการ 2 ตัวเนี้ยคือ
00:04:42 → 00:04:44 แคลเซียมเพราะเราเน้นเรื่องของความสูงถูก
00:04:44 → 00:04:47 มั้ยครับตั้แต่เด็กเลยอ่ะผู้หญิงตั้งครัน
00:04:47 → 00:04:52 ก็เอาไปสร้างทารกเบบี๋ค่ะพอคลอดออกมานม
00:04:52 → 00:04:55 แม่ก็ให้ลูกกินใช่มั้ยครับ 6 เดือนแรก
00:04:55 → 00:04:58 ต้องนมแว่เท่านั้นนะครับแล้วหลังจากนั้น
00:04:58 → 00:05:00 ก็อาจจะเสริมนมนู่นนมนี่ก็ว่ากันไปนะ
00:05:00 → 00:05:03 เพราะเราต้องการแคลเซียมเพื่อให้เสริม
00:05:03 → 00:05:07 สร้างความแข็งแรงและความสูงนะให้กับเด็ก
00:05:07 → 00:05:09 จนถึงวัยรุ่นเป็นผู้ใหญ่แต่ผู้ใหญ่อย่าง
00:05:10 → 00:05:13 เราๆเราไม่สูงแล้วใช่มั้ยครับเรามีแต่
00:05:13 → 00:05:16 ทรุดก็คือไม่ให้เราทรุดอไม่ให้กระดูกเรา
00:05:16 → 00:05:20 เราบางนะงั้นแล้วเนี่ยก็ต้องการคุณค่าของ
00:05:20 → 00:05:22 นมเนี่ยต้องการแคลเซียมเป็นหลักนะแล้วก็
00:05:22 → 00:05:27 ต้องการโปรตีนอ่าเพราะว่านม 1 ส่วนนะนัก
00:05:27 → 00:05:29 โภชนาการนับกำหนดอาหารมักจะเรียกเป็นส่วน
00:05:29 → 00:05:33 นม 1 ส่วนเนี่ยก็คือประมาณถ้าใส่แก้วนะ
00:05:33 → 00:05:36 ครับก็คือ 200 ซีซอือ่าถ้าเป็นกล่องก็คือ
00:05:36 → 00:05:39 กล่องประมาณ 200 220 ซีซีค่ะเนี่ยก็จะ
00:05:39 → 00:05:43 ให้โปรตีนน่ะประมาณ 7 กรัมให้แคลเซียม
00:05:43 → 00:05:47 เนี่ยประมาณสัก 200 มิลลิกรัมอือ่าซึ่ง
00:05:47 → 00:05:50 ปริมาณความต้องการแคลเซียมของเราเนี่ยต่อ
00:05:50 → 00:05:53 วันนะครับคืออยู่ที่ประมาณ 800 จนถึง
00:05:53 → 00:05:56 1,000 มิลลิกรัมแล้วเราต้องกินนมเพราะ
00:05:56 → 00:05:59 เราต้องการแคลเซียมค่ะนะเราไม่กินนมโ
00:05:59 → 00:06:01 แหล่งของแคลเซียมอื่นๆเนี่ยมีอยู่น้อยนะ
00:06:01 → 00:06:04 เช่นเอานมไปทำโยเกิร์ตให้โปรไบโอติกอ่ะ
00:06:04 → 00:06:06 มันใช้น้ำตาลในนมเนี่ยไปก่อนเพราะ
00:06:06 → 00:06:09 โปรไบโอติกมันมีเอนไซม์แลคเตสมาย่อย
00:06:09 → 00:06:12 แลคโตสน้ำตาลในนมย่อยแทนเราอ่ะอันเนี้ย
00:06:12 → 00:06:16 คือไม่ใช่แฟนก็ทำแทนได้ครับทำแทนเราไงอ่า
00:06:16 → 00:06:18 ย่อยแทนเราเพื่อเรากินแล้วเราสบายท้อง
00:06:18 → 00:06:21 ขึ้นคอ่าไม่ต้องมาแบบมีปัญหาเรื่องของแคส
00:06:22 → 00:06:25 อนแต่บางคนก็กินโยเกิดก็มีปัญหาก็มีนะอ่า
00:06:25 → 00:06:28 มันขึ้นอยู่กับระดับการย่อยน้ำตาลนมของ
00:06:28 → 00:06:31 แต่ละคนที่แตกต่างกันไปอ้าแล้วทำไมมัน
00:06:31 → 00:06:34 กลายเป็นว่าพอเราอเริ่มอายุมากขึ้นอย่าง
00:06:34 → 00:06:37 เงี้ยบางคนก็จากที่เคยดื่มได้ในวัวดื่ม
00:06:37 → 00:06:40 ไม่ได้เป็นครับอาจารย์ก็เป็นอ้าทำไมก็
00:06:40 → 00:06:42 สมัยวัยรุ่นสมัยเรียนปริญญาตรีเนี่ย
00:06:42 → 00:06:48 เฟชชี่โอ๊กินนมทุกวันมัวทุกวันอนะคือตอน
00:06:48 → 00:06:52 นั้นน้ำย่อยของเราเอนไซม์ของเรายังมีผลิต
00:06:52 → 00:06:55 ได้ปกติดีอยู่อสามารถย่อยได้แต่พออายุ
00:06:55 → 00:07:00 เพิ่มมากขึ้นการผลิตเอนไซม์ลดน้อยลงมันก็
00:07:00 → 00:07:04 เสื่อมไปตามวัยก็ย่อยไม่ได้อ๋อ
00:07:04 → 00:07:07 อ่ามันก็ตกค้างซึ่งมันก็ไม่ดีกับสุขภาพ
00:07:07 → 00:07:11 อือฮึก็อาจจะเกิดปัญหาลิกกี้กัดลำไส้รั่ว
00:07:11 → 00:07:13 นะเพราะอะไรที่มันไม่ถูกย่อยมันตกค้าง
00:07:13 → 00:07:15 อยู่ที่ลำไส้ของเราเนี่ยอันนี้ถือว่าไม่
00:07:15 → 00:07:19 ดีออกับสุขภาพนะเกิดลำไส้รั่วขึ้นมาได้นะ
00:07:19 → 00:07:22 ครับะแล้วเนี่ยเรื่องของนมวัวเนาะเราก็
00:07:22 → 00:07:24 ต้องการแคลเซียมเพราะทุกวันเนี้ยอย่างที่
00:07:24 → 00:07:26 เรารู้ว่าโอยแคลเซียมเราต้องกิน 800 จน
00:07:26 → 00:07:29 ถึง 1,000 อืมิลลิกรัมต่อวันแต่ทุกวัน
00:07:29 → 00:07:33 เนี้ยคนไทยกินไม่ค่อยถึงหรอกจากการสำรวจ
00:07:33 → 00:07:35 เนี่ยวันนึงคนไทยได้ 300 กว่ามิลลิกรัม
00:07:35 → 00:07:38 ประมาณครึ่งนึงอ่ะอาจารย์ถามคุณลีง่ายๆ
00:07:38 → 00:07:41 เลยว่าเนี่ยผ่านไปแล้ว 2 มื้อที่เรามา
00:07:41 → 00:07:43 นั่งคุยกันเนี่ยค่ะคุณลีได้รับอาหารที่
00:07:43 → 00:07:45 เป็นแหล่งของแคลเซียมมากน้อยแค่ไหนครับ
00:07:45 → 00:07:48 โอ้ไม่เห็นเลยค่ะยังไม่เห็นเลยค่ะกินนมไป
00:07:48 → 00:07:50 บ้างยังวันนี้ยังอ่ากินปลาเล็กปลาน้อย
00:07:50 → 00:07:53 มั้ยไม่มีผักใบเขียวไม่
00:07:53 → 00:07:56 เห็นแล้วมันจะเหลืออะไรกินอะไรไปวะวันนี้
00:07:56 → 00:07:59 แคลเซียมไม่มีตอนนี้เรานั่งสลายแคลเ
00:07:59 → 00:08:01 เสี้ยมจากกระดูกออกมาเล่นๆอยู่นะเนี่ยไม่
00:08:01 → 00:08:04 เล่นนะสลจริงเลยไม่น่าลร่วงตามพื้นใช่ไม่
00:08:04 → 00:08:07 รู้ไม่รู้สึกว่าส่วนสูงมันก็จะดูทรุดๆลง
00:08:07 → 00:08:10 ใช่พอแบบตัวเริ่มแบบว่าเอ้ยเตี้ยลงอะไร
00:08:10 → 00:08:12 อย่างเงี้ยเพราะความแข็งแรงของกระดูกมัน
00:08:13 → 00:08:16 ก็จะลดน้อยลงแล้วมันก็เป็นปัจวันนึงแทน
00:08:16 → 00:08:18 ที่จะกินแคอาหารที่เป็นแหล่งของแคลเซียม
00:08:18 → 00:08:21 ให้เพียงพอเอ้ยเรากินไม่พอเพราะนมนมเถึง
00:08:21 → 00:08:25 ยืนพื้นเลยครับว่าวันนึงเนี่ย 2 แก้วแก้ว
00:08:25 → 00:08:29 ละ 200 ซีซีหรือ 2 กล่องใหญ่อ่ะนะให้ได้
00:08:29 → 00:08:33 โอหเคยเคยกินแบบเป็นขวดที่มันแบบอ่าไซไซ
00:08:33 → 00:08:37 กลางๆเออแต่ไม่แบบเป็นครึลิก็ด้วยความที่
00:08:37 → 00:08:40 ไม่ได้ดื่มนมนานก็เลยคิดว่าเอ้ออ่ะซะ
00:08:40 → 00:08:42 หน่อยเหอะอะไรอย่างงี้แล้วเป็นไงครับท้อง
00:08:42 → 00:08:46 เสียตบทันทีเลยบางคนเก็นักโภชนาการบาง
00:08:46 → 00:08:48 ท่านก็อาจจะแนะนำให้ค่อยๆดื่มนมบวยเนี่ย
00:08:48 → 00:08:51 ค่อยๆเริ่มวันละนิดอือวันละจิบ 2 จิบแล้ว
00:08:51 → 00:08:54 ค่อยๆเริ่มเพิ่มมากขึ้นเพื่ออิเนาะแต่
00:08:54 → 00:08:56 จริงๆแล้วเนี่ยมันขึ้นอยู่กับยีนด้วยนะ
00:08:56 → 00:08:58 ทุกวันนี้มันทำเนติ Test ตรวจยีนได้ว่า
00:08:58 → 00:09:02 เรามีมีเอนไซม์ยีนที่ผลิตเอนไซม์ในการ
00:09:02 → 00:09:05 ย่อยนมอ่ะเรามีเป็นแบบจีโนไทป์แบบไหน
00:09:05 → 00:09:08 เพื่อจะได้รู้เลยว่าเฮ้ยมันเป็นมาแต่ยีน
00:09:08 → 00:09:11 ของเราเลยผลิตแล้วย่อยน้ำตาลในนมได้ยาก
00:09:11 → 00:09:15 ค่ะอันเนี้ยเราก็ต้องเลี่ยงนมบัวไปนมทาง
00:09:15 → 00:09:17 เลือกอ่าอ่าเพราะยังไงเราก็ต้องการ
00:09:17 → 00:09:19 แคลเซียมครับอย่างเงี้ยอาจารย์ถามคุณลี 2
00:09:19 → 00:09:21 มื้อที่ผ่านมามื้อเช้ามื้อกลางวันคุณลี
00:09:21 → 00:09:23 ยังไม่ได้รับรับทานอาหารที่เป็นแหล่งของ
00:09:23 → 00:09:26 แคลเซียมเลยก็มีโอกาสขาดสูงแล้วคุณลีกิน
00:09:26 → 00:09:31 ชากาแฟด้วยมั้ยด้วยอันเชากาแฟมีผลเนาะใน
00:09:31 → 00:09:34 การขับแคลเซียมออกจากร่างกายครับมันมี
00:09:34 → 00:09:37 ความเป็นกดค่ะอ่าฉะนั้นแล้วกินเข้าไป
00:09:37 → 00:09:39 เนี่ยร่างกายของเรามันก็ต้องปรับความ
00:09:39 → 00:09:42 สมดุลความเป็นกดด่างเขาก็ไปสลายแคลเซียม
00:09:42 → 00:09:47 อืมาเป็นบัฟเฟอร์สะเทินความเป็นกรดค่ะอ่า
00:09:47 → 00:09:50 มันก็แคลเซียมเราก็ถูกสลายออกจากกระดูก
00:09:50 → 00:09:54 ค่ะในขณะเดียวกันชากาแฟมีคาเฟอีนฤทธิ์ของ
00:09:54 → 00:09:57 คาเฟอีนคือมันจะออกฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ
00:09:57 → 00:10:01 เป็นไดยูเรติกอใช่ใช่ะแล้วกินชากินกาแฟ
00:10:01 → 00:10:03 คุณผู้ฟังก็จะฉี่บ่อยนึกออกมั้ยครับไป
00:10:03 → 00:10:06 ปัสสาวะบ่อยฉี่บ่อยมันก็ขับน้ำและ
00:10:06 → 00:10:09 แคลเซียมออกด้วยค่ะแล้วเราก็เสี่ยงเสี่ยง
00:10:09 → 00:10:11 ต่อการสูญเสียแคลเซียมมากขึ้นอีกบางคนชอบ
00:10:11 → 00:10:14 กินน้ำอัดลมอ่าเหมือนกันครับมีความเป็น
00:10:14 → 00:10:18 กรดสูงน้ำตาลอย่างเงี้ยเหล้าสปายวาย
00:10:18 → 00:10:20 เบียร์แอลกอฮอล์ทั้งหลายแหล่นะหรือกิน
00:10:20 → 00:10:22 เนื้อสัตว์เยอะๆโปรตีนมากๆมีความเป็นกรด
00:10:22 → 00:10:25 สูงก็อทำให้ร่างกายสูญเสียแคลเซียมมาก
00:10:25 → 00:10:29 ขึ้นหวานจัดเค็มจัดมีผลต่อร่างกายที่ขับ
00:10:29 → 00:10:32 แคลเซียมออกหมดเลยโอ้โหนี่คุยเรื่อง
00:10:32 → 00:10:34 เรื่องนมนะเนี่ยอ่าเรื่องนมอย่างเดียว
00:10:34 → 00:10:36 เพราะเรองนมมันเป็นแหล่งของแคลเซียมไง
00:10:36 → 00:10:38 ครับแล้วยิ่งอายุที่เพิ่มมากขึ้นค่ะผู้
00:10:38 → 00:10:42 หญิง 50 บวกอือพบอาการดูซึมแคลเซียมเนี่ย
00:10:42 → 00:10:45 จะลดน้อยลงอุ๊ยต้องรีบกินตูนซะละฉะนั้น
00:10:45 → 00:10:48 แล้วเนี่ยเราก็เลยต้องแบบเฮ้ยทำไงเล่า
00:10:48 → 00:10:51 แคลเซียมฉันน้อยฉันก็ต้องไปหากินนมนมวัว
00:10:52 → 00:10:55 นะคุณค่าทางโพชนาการโอหดีมากเลยมีโปรตีน
00:10:55 → 00:10:57 มีแคลเซียมมีฟอสฟอรัสสำคัญมากสำหรับ
00:10:57 → 00:11:01 กระดูกนะนะค่ะแต่ในนมวัวดันมีน้ำตาล
00:11:01 → 00:11:07 แลคโตสซึ่งเราย่อยได้ยากก็ซึ่งก็ไม่ดีใช่
00:11:07 → 00:11:08 อต้องเปลี่ยนต้องเรี่ยงเลยมันก็ต้อง
00:11:09 → 00:11:12 เลี่ยงไปอีกเงี้ยและอีกตัวนึงคือเคซีน
00:11:12 → 00:11:16 เคซีนเป็นโปรตีนที่อยู่ในนมวัวเหมือนกัน
00:11:16 → 00:11:19 ซึ่งผู้สูงอายุจะย่อยได้ยากครับค่ะอ่าก็
00:11:19 → 00:11:22 บางทีกินแล้วท้องอืดอ๋อใช่ๆโปรตีนที่อยู่
00:11:22 → 00:11:25 ในนมวัวหลักๆเนี่ยจะมีเวโปรตีนค่ะกับ
00:11:25 → 00:11:28 เคซีนโปรตีนอ่าเวโปรตีนเนี่ยที่เขาสกัด
00:11:29 → 00:11:31 ดึงออกไปเอามาทำเป็นอาหารเสริมอาหารทาง
00:11:31 → 00:11:34 การแพทย์ทั้งหลายแหล่นะส่วนเคซีนเนี่ยมัน
00:11:34 → 00:11:37 ก็มีปัญหาคนย่อยยากเหมือนกันออันเนี้ยใน
00:11:37 → 00:11:42 นมในนมวัวเองเนี่ยก็จะมีเคซีนที่ย่อยได้
00:11:42 → 00:11:47 ยากอนะครับโครงสร้างเป็น A 1 หรือ A1
00:11:47 → 00:11:52 เคซีนนะครับในขณะที่นมแพะมีคุณค่าทางภ
00:11:52 → 00:11:56 ชนาการใกล้เคียงกับนมวัวเลยนะอือ่าพลัง
00:11:56 → 00:12:00 งานนะสารอาหารทั้งโปรตีนทั้งแคลเซียมใกล้
00:12:00 → 00:12:03 เคียงกับนมบัวแต่นมแพะเนี่ยจะย่อยได้ง่าย
00:12:03 → 00:12:05 ดูดซึมได้เร็วเนื่องจากโครงสร้างโมเลกุล
00:12:05 → 00:12:07 ของไอ้เคซีนที่อาจารย์บอกอ่ะเป็นโปรตีน
00:12:07 → 00:12:10 ที่อยู่ในนมบัวเนี่ยค่ะนะในนมแพะเองเนี่ย
00:12:10 → 00:12:15 นมบัวมีเป็น A1 นมแพะมีเป็น A2 ซึ่ง A2
00:12:15 → 00:12:18 เนี่ยเาพบว่าร่างกายย่อยและดูซึมไปใช้ได้
00:12:18 → 00:12:22 ง่ายอได้เร็วแล้วคนกินนมแพะปัญหาท้องอืด
00:12:22 → 00:12:26 ก็จะน้อยกว่าค่ะแต่ปริมาณน้ำตาลแลคโตส
00:12:26 → 00:12:30 น้อยกว่ากันไม่เยอะนมแพะก็ยังมีแลคโตสก็
00:12:30 → 00:12:32 มีอยู่ถูกต้องงั้นแล้วมันขึ้นอยู่กับว่า
00:12:32 → 00:12:36 เฮ้ยเราเป็นปัญหาตรงไหนต่อให้คุณ
00:12:36 → 00:12:41 ย่อยตัวแลคโตสได้แต่ก็ต้องดูว่าแบบเฮ้ยอ
00:12:41 → 00:12:45 เคซีนล่ะอ่าถ้ามีปัญหาตรงโปรตีนเคซีนค่ะ
00:12:45 → 00:12:49 แล้วเรากินนมแพะเฮ้ยดีอ่ะเอออ่าก็ย่อยได้
00:12:49 → 00:12:51 ง่ายขึ้นแล้วในนมแพะเองเนี่ยกดไขมันในนม
00:12:51 → 00:12:54 แพะเนี่ยมันเป็นกดไขมันที่เราเรียกว่า
00:12:54 → 00:12:57 เป็นกรดไขมันสายปานกลางหรือ medium เน
00:12:57 → 00:13:01 ไกินค่ะแล้วร่างกายจะย่อยแล้วดูดซึมแล้ว
00:13:01 → 00:13:04 ไปเผาผลาญเป็นพลังงานได้เร็วครับั้นเรานม
00:13:04 → 00:13:06 แพกก็ย่อยง่ายดูดซึมเป็นพลังงานเผาผลาได้
00:13:06 → 00:13:10 เร็วค่ะแล้วในนมแพะเองเนี่ยมันยังมีสาร
00:13:10 → 00:13:14 อาหารพวกโอริโกแซคคาไรด์ซึ่งเป็น
00:13:14 → 00:13:17 พรีไบโอติกเป็นอาหารให้กับพวกโปรไบโอติก
00:13:17 → 00:13:21 ค่ะแล้วหลังๆนมแพะก็เลยเป็นที่นิยมนะ
00:13:21 → 00:13:23 เพราะว่าคุณค่าทางโภชนาการทั้งแคลเซียม
00:13:23 → 00:13:26 โปรตีนพลังงานใกล้เคียงกับนมบัวนะน้ำตาล
00:13:26 → 00:13:29 แลคโตสต่ำกว่านิดนึงนะครับและแล้วโปรตีน
00:13:29 → 00:13:32 เคซีนเนี่ยโครงสร้างโมเลกุลเป็น A2 ซึ่ง
00:13:32 → 00:13:36 ย่อยได้ง่ายออ่ามันก็เลยแบบเยคนก็เลยแบบ
00:13:36 → 00:13:38 อ่าเป็นทางเลือกแล้วที่สำคัญเลยในนมแพะ
00:13:38 → 00:13:41 เนี่ยมีสารตัวนึงเขาเรียกว่าโพี่เอมีน
00:13:41 → 00:13:46 ซึ่งเหมือนกับสารอาหารในนมแม่เลยจะช่วยลด
00:13:46 → 00:13:49 การแพ้อาหารของเด็กได้อโออ่านั่นแล้วนม
00:13:50 → 00:13:53 แพะมันก็เลยเริ่มที่จะฮิต Hot popula นะ
00:13:53 → 00:13:55 อย่างที่ต่างประเทศนิวซีลงนิวซีแลนด์อะไร
00:13:55 → 00:13:58 พวกเนี้ยเขาก็นิยมกันนะครับแต่ทั้งนี้
00:13:58 → 00:14:02 ทั้งนั้นถ้ามีปัญหาเรื่องของแลคโตสในนม
00:14:02 → 00:14:06 แพะมันก็ยังมีอยู่นะครับแต่ก็มีทางเลือก
00:14:06 → 00:14:10 เพิ่มเติมคือทุกวันนี้ก็จะมีนมที่แลคโตส
00:14:10 → 00:14:15 ฟรีอ่าใช่อ่าไม่ใช่ให้แลคโตสฟรีๆนะหยว่า
00:14:15 → 00:14:17 มีมันปราศจากน้ำตาลแลคโตสเพราะเขามี
00:14:17 → 00:14:19 กระบวนการในอุตสาหกรรมอาหารที่ไปย่อยน้ำ
00:14:19 → 00:14:23 ตาลแลคโตสออกไปแล้วอค่ะอ่าก็จะไม่มีปัญหา
00:14:23 → 00:14:25 เรื่องของท้องอืดแลคโตสแต่ก็ต้องสังเกต
00:14:25 → 00:14:28 ปริมาณน้ำตาลด้วยนะเพราะน้ำตาลแลคโตสถูก
00:14:28 → 00:14:31 ย่อยไปเนี่ยแลคโตสเป็นโมเลกุลโครงสร้าง
00:14:31 → 00:14:33 น้ำตาลโมเลกุลคู่ก็คือเกิดจากกลูโคสจับ
00:14:33 → 00:14:37 กับกาแลคโตสนะแล้วถ้าเราตัดแลคโตสปุ๊บออก
00:14:37 → 00:14:39 ไปมันก็จะกลายเป็นน้ำตาลกลูโคสและน้ำตาล
00:14:39 → 00:14:42 กาแลคโตสเพิ่มขึ้นค่ะเอเวลาเราตรวจน้ำตาล
00:14:42 → 00:14:45 ในอาหารมันก็จะมีปริมาณน้ำตาลอยู่อยู่สูง
00:14:45 → 00:14:48 อยู่เราก็ต้องสังเกตปริมาณน้ำตาลเนาะว่า
00:14:48 → 00:14:51 คนเนี่ยอย่างเราๆผู้ใหญ่เนี่ยโคต้าได้ 6
00:14:51 → 00:14:54 ช้อนชา 1 ช้อนชามี 4 กรัมนะแล้ววันนึงไม่
00:14:54 → 00:14:58 ควรเกิน 24 กรัมแต่ในเด็กโดยเฉพาะเด็ก
00:14:58 → 00:14:59 เล็ก
00:14:59 → 00:15:01 แค่ 12 กรัมค่ะไม่ใช่เด็กก็โควต้าเท่ากับ
00:15:01 → 00:15:04 ผู้ใหญ่นะเด็กโควต้าน้อยกว่ากว่าอ่าั้น
00:15:04 → 00:15:07 แล้วเราก็ต้องควบคุมเรื่องของปริมาณน้ำ
00:15:07 → 00:15:10 ตาลด้วยนะครับอ่าอันนี้คือเรื่องของการนม
00:15:10 → 00:15:14 วัวนมแพะอส่วนนมพืชล่ะอาจารย์นมพืชนมพืช
00:15:14 → 00:15:16 เดี๋ยวก่อนเอาพืชเอานมมาจากตรงไหนพืชเอา
00:15:16 → 00:15:18 นมมาจากตรงไหนจริงๆแล้วมันเหมือนกับ
00:15:18 → 00:15:21 อารมณ์คล้ายกับชาที่ไม่ได้เอามาจากใบชา
00:15:21 → 00:15:25 เช่นชากระเจี๊ยบชาอัญชันเออแต่เเรเป็นชา
00:15:25 → 00:15:28 เหมือนกันนึกออกใช่มั้ยครับนมก็เหมือนกัน
00:15:28 → 00:15:32 นมพืชนมถั่วนมข้าวอ้ามันเอามาจากไหนอ่าฮะ
00:15:32 → 00:15:35 อ่าคือจริงๆแล้วลักษณะของมันเนี่ยเหมือน
00:15:35 → 00:15:42 กับนมให้สีกินรสอืคล้ายกับนมค่ะจริงๆแล้ว
00:15:42 → 00:15:46 มันคือเครื่องดื่มทดแทนนมอ๋อแต่เค้าก็เร
00:15:46 → 00:15:49 เรียกว่านมแต่เราก็เรียกว่านมเหมือนกับชา
00:15:49 → 00:15:52 กระเจี๊ยบชาอัญชันที่อาจารย์บอกครับค่ะ
00:15:52 → 00:15:55 อ่าเราเรียกชาชาจริงๆแล้วเนี่ยชาคือใบ
00:15:55 → 00:15:58 ชานะคาเรียนเอามาใส่น้ำรงน้ำร้อนก็เราใส่
00:15:58 → 00:16:01 น้ำร้อนก็เหมือนชานมก็เหมือนกันจริงๆแล้ว
00:16:01 → 00:16:05 เเอาถั่วเหลืองเนี่ยไปทำอืผ่านกระบวนการ
00:16:05 → 00:16:09 เหมือนเอาถั่วเหลืองเอาอัลมอนเอาข้าวโอ๊ต
00:16:09 → 00:16:13 เอาพิตาชิโอต่างๆเมล็ดธัญพืชอ่ะไปทำแล้ว
00:16:13 → 00:16:15 ก็มีลักษณะเป็นเครื่องลืมคล้ายกับนมเราก็
00:16:15 → 00:16:19 เลยเรียกนมแต่มันไม่ได้ออกมาจากเต้า
00:16:19 → 00:16:23 เหมือนกับนมคนนมบัวนมแพะเอออ่าอันนั้นคือ
00:16:23 → 00:16:26 เต้าอันนี้เอทำไมถั่วเหลืองไม่เห็นมีเต้า
00:16:26 → 00:16:29 เลยนะมันก็ไม่มี
00:16:29 → 00:16:34 เตเตเออเออได้ก็เป็นเต้านะแล้วแล้วนมถั่ว
00:16:34 → 00:16:36 เหลืองถามว่าอาจารย์มันเป็นนมทางเลือกอ่ะ
00:16:36 → 00:16:38 อเราไม่กินนมวัวเราไม่กินนมแพะเพราะมี
00:16:38 → 00:16:41 แลคโตสอ่ะแล้วไปกินนมถั่วเหลืองได้มั้ย
00:16:41 → 00:16:44 ได้ได้นมถั่วเหลืองให้โปรตีนสูงใกล้เคียง
00:16:44 → 00:16:47 กับนมวัวอือใกล้เคียงกับนมแพะแต่นมถั่ว
00:16:47 → 00:16:51 เหลืองแคลเซียมต่ำอือ่านะแล้วปัจจุบันเอง
00:16:51 → 00:16:53 เราจะเห็นเลยว่านมถั่วเหลืองเองเนี่ยเขา
00:16:53 → 00:16:56 จะมีการเติมแคลเซียมเข้าไปเตมใช่ๆอ่า
00:16:56 → 00:16:59 เพื่ออะไรครับเพื่อให้มันใกล้ใเคียงให้
00:16:59 → 00:17:02 มันทดแทนนมวัวเพราะฉันแบบย่อยน้ำตาล
00:17:02 → 00:17:06 แลคโตสได้ยากกินนมจากวัวกินนมจากแพะไม่
00:17:07 → 00:17:10 ได้ก็ไปกินนมถั่วเหลืองออ่าเพื่อที่จะแบบ
00:17:10 → 00:17:12 เป็นทางเลือกให้ได้โปรตีนใกล้เคียงนมวัว
00:17:12 → 00:17:16 นะให้ได้แคลเซียมใกล้เคียงแต่ต้องเติมนะ
00:17:16 → 00:17:18 และสิ่งที่ต้องพึงระวังในนมถั่วเหลืองก็
00:17:18 → 00:17:21 คือพวก gmo เพราะถั่วเหลืองเนี่ยบ้านเรา
00:17:21 → 00:17:23 เนี่ยพวก gmo เยอะมากอแล้วเราก็ต้องเลือก
00:17:23 → 00:17:26 ถั่วเหลืองที่เป็นออร์แกนิคหรือมีการเคลม
00:17:26 → 00:17:30 บนฉลากผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนเลยว่า non gmo
00:17:30 → 00:17:33 ถูกต้องอันนี้เราก็จะกินได้อย่างปลอดภัย
00:17:33 → 00:17:36 สบายใจขึ้นมานี่ gmo นี่คือตั้งแต่สมัย
00:17:36 → 00:17:40 เรียนมหาวิทยาลัยค่ะทำเอ่อทีสิทครับผมจะ
00:17:40 → 00:17:44 ไม่ใช่ไม่ใช่ทีสิทขนาดนั้นนะคะเอ่อสานิพล
00:17:44 → 00:17:48 เอ่อแเรื่อง gmo ตอนสมัยนั้นที่เรียนน่ะ
00:17:48 → 00:17:50 ที่ทำเนี่ยคือแบบโอ้โหอาจารย์ได้ทำเรื่อง
00:17:51 → 00:17:53 อะไรเนี่ยทำไมมันดูไกลตัวไกลตัวใช่มั้ย
00:17:53 → 00:17:56 พืชชีโอข้าวพ่งข้าวโพดอะไรพวกเนี้ยดตัด
00:17:56 → 00:17:58 ต่อหรือดัดแปลงพันธุกรรมกันเยอะมากใช่แต่
00:17:58 → 00:18:01 ตอนนี้มันน่าจะแบบมีเข้ามามากขึ้นแล้ว
00:18:01 → 00:18:04 แหละเดี๋ยวเนี้ยเพราะเมื่อก่อนเแบบเอออาจ
00:18:04 → 00:18:06 จะหายากหรืออะไรเงี้ยมันใหม่ๆอยู่อ่ะ
00:18:06 → 00:18:08 เดี๋ยวนี้นี่แฝงอยู่กับสิ่งที่เรากินโดย
00:18:08 → 00:18:12 ที่เราไม่รู้ตัวเยอะมากใช่โอโพืช gmo อัน
00:18:12 → 00:18:14 แล้วเนี่ยพวกถั่วเหลืองก็เหมือนกันเนาะก็
00:18:14 → 00:18:18 ต้องระมัดระวังแต่มันก็เป็นตัวนมตัวนม
00:18:18 → 00:18:22 ถั่วเหลืองเนี่ยก็เป็นเป็นเอ่อแรงของ
00:18:22 → 00:18:26 โปรตีนเนาะที่ดีนะให้สารอาหารที่ที่ที่มี
00:18:26 → 00:18:29 ประโยชน์สำหรับร่างกายนี่แหละแต่ขอให้
00:18:29 → 00:18:31 เลือก gmo แล้วก็เติมแคลเซียมเข้าไปอือนะ
00:18:31 → 00:18:33 ครับเพื่ออะไรครับเพื่อให้มันใกล้เคียง
00:18:33 → 00:18:36 กับนมวัวนะอย่างลูกอาจารย์เหมือนกันก็กิน
00:18:36 → 00:18:38 นมถั่วเหลืองนะที่เสริมแคลเซียมแล้วนอน
00:18:38 → 00:18:41 gmo อย่างเงี้ยอ๋อโก็ต้องต้องอ่านฉลาก
00:18:41 → 00:18:44 เลยทีนี้ต้องอ่านนะใช่ครับผมถูกต้องอแต่
00:18:44 → 00:18:49 บางคนเนี่ยแพ้ถั่วค่ะก็ไปกินนมอะไรรู้
00:18:49 → 00:18:54 มั้ยครับนมข้าวอ๋อเช่นนมข้าวโอ๊ตนมข้าวนม
00:18:54 → 00:18:57 ข้าวครับนมข้าวโอ๊ตนมข้าวพพพวกข้าวอ่ะ
00:18:57 → 00:19:02 ครับอนโอ๊ตเนี่ยโอโหฮิตมากตอนนี้นมโอ๊ต
00:19:02 → 00:19:06 เนี่ยแคลเซียมสูงนะครับอืแคลเซียมสูงแบบ
00:19:06 → 00:19:11 ใกล้เคียงนมวัวเลยค่ะแต่ในนมโอ๊ตเนี่ยจะ
00:19:11 → 00:19:14 มีโปรตีนต่ำต่ำมากกองใหญ่ๆเนี่ยบางที
00:19:14 → 00:19:17 โปรตีนแค่ 2 กรัมเห็นมั้ยครับมันไม่มี
00:19:17 → 00:19:21 อะไรที่แบบทดแทนกันได้ออันแล้วเนี่ยพอกิน
00:19:21 → 00:19:24 นมโอ๊ตปุ๊บโยได้แคลเซียมสูงอ่ะแต่ได้
00:19:24 → 00:19:28 โปรตีนต่ำค่ะบางทีกล่องนึงอ่ะโปรตีนแค่กำ
00:19:28 → 00:19:32 ค่ะน้อยมากๆเอออ่าแต่แคลเซียมสูงนะ
00:19:32 → 00:19:35 อาจารย์ก็เลยใช้วิธีการให้ลูกเนี่ยกินนม
00:19:35 → 00:19:38 ถั่วเหลืองบ้างกินนมโอ๊ตบ้างแลส่วนตัวไม่
00:19:38 → 00:19:42 ค่อยได้กินนมบัวอค่ะเวลาใส่ในกาแฟใส่นม
00:19:42 → 00:19:45 เนี่ยอาจารย์จะบอกเลยว่าใส่นมถั่วเหลือง
00:19:45 → 00:19:48 ครึ่งนึงใส่นมโอ๊ตครึ่งนึงอ๋อเพื่ออะไร
00:19:48 → 00:19:50 ครับนมถั่วเหลืองได้โปรตีนค่ะนมโอ๊ตได้
00:19:50 → 00:19:54 แคลเซียมอ่าเราก็ต้องผสานกันสาและสินหยิน
00:19:54 → 00:19:57 กับหยางมันอร่อยใช่มั้ยคะอร่อยครับเดี๋ยว
00:19:57 → 00:20:00 ผสมแล้วรองได้เอาไปรองได้นมโอ๊ตเนี่ยยัง
00:20:00 → 00:20:02 ไงก็ต้องใส่เข้าไปเพราะอย่าลืมยิ่งกิน
00:20:02 → 00:20:05 กาแฟนะเราขาดอะไรครับอแคลเซียมมันทำให้
00:20:05 → 00:20:08 เราขาดแคลเซียมพร่องแคลเซียมขับแคลเซียม
00:20:08 → 00:20:10 ออกจากร่างกายเราก็ต้องเติมแคลเซียมเห็นม
00:20:10 → 00:20:13 ไม่กินแล้วกาแฟอ่ากาแฟกินได้ครับแต่ใส่นม
00:20:13 → 00:20:17 โอ๊ทเข้าไปโอ้โหตามร้านที่เข้าไปเนี่ยมัน
00:20:17 → 00:20:21 ไม่มีนมโอ๊ตให้มีๆครับก็เพิ่ม 20 บาทหมาย
00:20:21 → 00:20:24 ถึงไม่หยิมมาจากตรงนั้นหรือไม่ก็ต้องพกไป
00:20:24 → 00:20:27 เองคนะบางร้านไหนไม่มีก็ต้องพกไปเองหรอ
00:20:27 → 00:20:30 แต่แต่ส่วนใหญ่ทุกวันนี้จะมีกันและหลาย
00:20:30 → 00:20:33 ที่เลยแต่ต้องเพิ่มเงินอเพิ่มเงินบางที
00:20:33 → 00:20:36 แบบโหแก้วนึงแบบจาก 80 บาทเป็น 100 นค่ะ
00:20:36 → 00:20:38 กินข้าวได้แล้ว
00:20:38 → 00:20:43 นเนี่ยนมโอ๊ตซึ่งเฉกเช่นเดียวกับนมอัลมอน
00:20:43 → 00:20:47 อืนมอัลมอนก็โปรตีนต่ำครับนมอัลมอนเนี่ย
00:20:47 → 00:20:50 นะให้ปริมาณโปรตีนไม่เยอะนะครับแต่
00:20:51 → 00:20:55 แคลเซียมเนี่ยค่อนข้างสูงค่ะอ่าก็เป็นทาง
00:20:55 → 00:20:59 เลือกอันนึงนะครับนมอัลมอนเนี่ยนะแต่ก็
00:20:59 → 00:21:01 ต้องเลือกที่มันเป็นออร์แกนิคเพราะบางที
00:21:01 → 00:21:04 เนี่ยมาตรวจแล้วเนี่ยอาจารย์เจอนะให้นัก
00:21:04 → 00:21:07 ศึกษาทำการศึกษาวิจัยเนี่ยนักศึกษาโภชน
00:21:07 → 00:21:12 วิยาที่มหิดลเนี่ยนักศึกษาปริญญาตรีสำรวจ
00:21:12 → 00:21:16 ผลิตภัณฑ์ออแกนิคที่อยู่ในท้องตลาดแล้วมี
00:21:16 → 00:21:20 กลุ่มของนมด้วยถูกต้องออ่าพบว่านมอัลมอน
00:21:20 → 00:21:23 เนี่ยบางยี่ห้อเนี่ยเขียนเลยว่าโออัลมอน
00:21:23 → 00:21:28 ออร์แกนิคแต่แต่ตรวจพบยาค้าแมลงตกค้างว้า
00:21:28 → 00:21:31 เอากันอีกตรงไหนก่อนแล้วยังมีอีกหนึงาน
00:21:31 → 00:21:35 วิจัยที่ให้นักศึกษาปริญญาโทเอ่อชะลอ
00:21:35 → 00:21:39 วัยที่ธุรกิจบัณฑิตเนี่ยนะทำตรวจเครื่อง
00:21:39 → 00:21:43 ดื่มธัญพืชเลยค่ะนะที่เป็นออร์แกนิคอออ่า
00:21:43 → 00:21:46 ว่าเอ้ยเนี่ยเครื่องดื่มธัญพืชเหล่าเนี้ย
00:21:46 → 00:21:48 มันมีความเป็นออร์แกนิคเนี่ยจริงหรือ
00:21:48 → 00:21:51 เปล่าอ่าเพราะมันแบบว่าบางทีเนี่ยมันไม่
00:21:52 → 00:21:54 ออร์แกนิคที่แท้จริงโอก็พบหลายยี่ห้อนะ
00:21:54 → 00:21:56 เอาธัญพืชมาโดยเฉพาะเลยอ่ะอาจารย์ตรวจ
00:21:56 → 00:22:02 เป็นแบบโหเยอะมากนะร่วม 20 ยี่ห้อนะครับ
00:22:02 → 00:22:05 ที่ดูว่าเอ๊ะมันมีความเป็นออร์แกนิคเนี่ย
00:22:05 → 00:22:08 จริงมั้ยนะครับก็พบหลายยี่ห้อเลยว่าไม่
00:22:08 → 00:22:11 ออร์กานิกแต่บางยี่ห้อก็รู้สึกแบบเออโอเค
00:22:11 → 00:22:14 โล่งใจหน่อยเพราะว่าบางยี่ห้อเนี่ยมัน
00:22:14 → 00:22:18 เป็นยี่ห้อที่ค่อนข้างแมสก็คืออขายใน
00:22:18 → 00:22:21 ประเทศไทยเนี่ยแบบเยอะมากนึกออกมั้ยครับ
00:22:21 → 00:22:23 ที่มันแบบโอ๊ยกองนึงไม่กี่บาทไม่ถึง 10
00:22:23 → 00:22:27 บาทเราก็แบบเออรู้สึกใจชื้นหน่อยว่าอย่าง
00:22:27 → 00:22:32 น้อยคนไทยเนี่ยที่เป็นกลุ่มที่ที่ไม่ได้
00:22:32 → 00:22:36 แบบกลุ่มหาซื้อนมแพงๆได้นมพืชแพงๆได้ก็
00:22:37 → 00:22:40 เขาก็ยังแบบอ่ายังไม่มียาฆ่าแมลงตกค้าง
00:22:40 → 00:22:42 เนาะเพราะบางทีเนี่ยโอ้โหมันตกค้างอยู่
00:22:42 → 00:22:45 เนี่ยมันมันส่งผลกระทบต่อสุขภาพนะบางที
00:22:45 → 00:22:47 บอกว่าเอ้ยมันมีระดับที่ปลอดภัยนะในนมพืช
00:22:47 → 00:22:50 เนี่ยว่ายา้ามแมลงเนี่ยตกค้างได้ไม่ไม่
00:22:50 → 00:22:53 ควนเกินเท่าไหร่นะครับแต่จะบอกว่าไอ้
00:22:53 → 00:22:56 ระดับความปลอดภัยนั้นเนี่ยถ้าเกิดว่าหยิง
00:22:56 → 00:23:00 ตั้งครรภ์หญิงให้นมบุตอืออ่าหรือกลุ่ม
00:23:00 → 00:23:03 เด็กเล็กผู้สูงอายุถ้าเขากินเยอะๆต่อ
00:23:03 → 00:23:06 เนื่องมันก็อันตรายได้นะครับอันแล้วเนี่ย
00:23:06 → 00:23:10 ที่ตรวจพบนะมีนมอัลมอนนะที่ตรวจพบยาฆ่า
00:23:10 → 00:23:14 แมลงตกค้างนะกลุ่มกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟตและ
00:23:14 → 00:23:16 คาเมนี่เปิดผลวิจัยดูเลยนะเนี่ยอ่าเพราะ
00:23:17 → 00:23:19 เราเซฟเก็บไว้นะมีนมข้าวโอ๊ตก็มีแต่
00:23:19 → 00:23:22 อาจารย์ไม่สามารถบอกยี่ห้อได้นะค่ะอ่ามี
00:23:22 → 00:23:28 นมอัลมอนมีนมข้าวโอ๊ตค่ะนะครับอ่าแล้วก็
00:23:28 → 00:23:33 มีนมข้าวโพดเฮ้ยที่เจอฉะนั้นแล้วเนี่ยน้า
00:23:33 → 00:23:39 คุณผู้ฟังง่ายๆเลยแนะนำหลักการง่ายๆกิน
00:23:39 → 00:23:43 มันวนไปหลายๆยี่ห้อค่ะอ่าอยากกินยี่ห้อ
00:23:43 → 00:23:46 ซ้ำๆเพราะเราไม่รู้นี่ว่ายี่ห้อไหนมันตก
00:23:46 → 00:23:50 ค้างค่ะอ่าถ้าอยากรู้นี่ต้องหลังไมค์มา
00:23:50 → 00:23:53 ถามคุณลีเดี๋ยวอาจารย์ให้ผล
00:23:53 → 00:23:56 คุณลีเออใช่เพราะว่าแต่ละล็อตก็ไม่เหมือน
00:23:56 → 00:24:00 กันนะแต่ละใช่วัตถุดิบที่เขผลิตมาอะไร
00:24:00 → 00:24:02 อย่างเงี้ยอันเนี้ยคือสิ่งที่ที่เราเจอ
00:24:02 → 00:24:05 แล้วเราแบบว่าโอ้โหแบบต้องพึงระวังเลยเ
00:24:05 → 00:24:07 อาจารย์นิดนึงไหนๆก็เรื่องนมแล้วคือนม
00:24:07 → 00:24:09 เนี่ยเราจะเห็นเขาวางไว้ในเชลที่แบบว่า
00:24:10 → 00:24:12 อ่ะเย็นหน่อยหรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะหรือ
00:24:12 → 00:24:15 อ่าบางอันก็ไม่ได้อยู่ในเชลที่แช่เย็นแต่
00:24:15 → 00:24:19 ก็วางในในห้องอากาศเย็นๆนั่นแหละห้องแอร์
00:24:19 → 00:24:22 อะไรเงี้ยอถ้าเอามาทำอุ่น
00:24:22 → 00:24:25 ร้อนมันคุณค่าทางโภชนาการมันจะยังเหลือ
00:24:25 → 00:24:29 อยู่มคะพวกุ่นร้อนเอามาแบบวิตามินสูญหาย
00:24:29 → 00:24:33 ครับถ้ามาอุ่นร้อนเนี่ยวิตามินอ่าสูญหาย
00:24:33 → 00:24:36 แต่ก็ยังพอมีอยู่บ้างแต่ว่าโปรตีนเอยสาร
00:24:36 → 00:24:38 อาหารอื่นๆยังมีอยู่ครับอ๋อก็เผื่ออยาก
00:24:38 → 00:24:43 กินใครแบบดื่มนมอุ่นๆนมร้อนก่อนนอนอ่ะก็
00:24:43 → 00:24:48 ไหวอยู่ใช่แต่วิตามินๆใช่ๆไปกินผักแทนอ่ะ
00:24:48 → 00:24:51 ไปเราก็ไปกินผักกินอะไรแทนเออนะคะอ่ะนี่
00:24:51 → 00:24:54 ก็ได้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับนมแล้วนะคะที
00:24:54 → 00:24:58 นี้รู้ละในใจละว่าจะกินนมอะไรดีเดี๋ยวไป
00:24:58 → 00:25:01 หาซื้อนะคะนมวัวโถอดเลยนะคะโตมาตั้งโต
00:25:02 → 00:25:04 ด้วยนมวัวนี่แหละค่ะหรือไม่ก็นมข้นนม
00:25:04 → 00:25:07 กระป๋องอะไรนะคะขอบคุณอาจารย์เอกราชค่ะ
00:25:07 → 00:25:10 สวัสดีค่ะเอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่
00:25:10 → 00:25:12 ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอนะคะวันนี้ลาไป
00:25:12 → 00:25:15 ก่อนสวัสดีค่ะ This Is Toy PBS
00:25:15 → 00:25:18 podcast หนองนายปอดเกิดจากอะไรเป็นตัว
00:25:18 → 00:25:21 กระตุ้นอาการของผู้ป่วยเป็นอย่างไรทำไม
00:25:21 → 00:25:23 เสี่ยงเสียชีวิตผู้ช่วยศาสตราจารย์นาย
00:25:23 → 00:25:26 แพทย์ศิระลาหไทยแพทย์ศัลยกรรมประสาททรวง
00:25:26 → 00:25:29 อกเฉพาะทางมาเล่าให้ฟัง
00:25:29 → 00:25:32 ครับอาการของตัวหนองในปอนะครับผู้ป่วย
00:25:32 → 00:25:37 เนี่ยมักจะมาด้วยอาการ 3 อันเลยนะครับไข้
00:25:37 → 00:25:41 ไอแล้วก็เหนื่อยไข้ไอหอหรือไข้ไอเหนื่อย
00:25:41 → 00:25:44 นะฮะทีนี้เนี่ยก็มันจะมันจะแยกกันแยก
00:25:44 → 00:25:47 ระหว่างว่าคนไข้เนี่ยเป็นไข้หวัดใหญ่นะ
00:25:47 → 00:25:50 ครับหรือว่าเป็นเป็นไข้หวัดนะครับหรือว่า
00:25:50 → 00:25:52 เป็นปอดอักเสบพวกนี้จะมาหน้าตาเหมือนกัน
00:25:52 → 00:25:55 เลยคคำว่าไข้เนี่ยมันเกิดจากการอักเสม
00:25:55 → 00:25:57 ขึ้นมาของร่างกายนะครับไม่ว่าจะมีสิ่งแป
00:25:57 → 00:26:00 ปลอมอะไรก็ตามเช่นเป็นแบคทีเรียไวรัสหรือ
00:26:01 → 00:26:02 อะไรก็ตามนะครับพวกนี้เนี่ยทำให้เกิด
00:26:02 → 00:26:05 กระตุ้นให้เกิดเป็นไข้ได้อย่างที่ 2 ถ้า
00:26:05 → 00:26:07 สมมุติมีอาการที่มันลงปอดขึ้นมาเนี่ยคุณ
00:26:07 → 00:26:11 ไขก็มีอาการเหนื่อยเกิดขึ้นนะครับไม่เช่น
00:26:11 → 00:26:13 การที่มีอาการในปอดอย่างเช่นมันเกิดติด
00:26:13 → 00:26:15 เชินให้ปลอเป็นปัดอักเสบขึ้นมานะครับพวก
00:26:15 → 00:26:17 นี้เนี่ยก็สมผลทำให้เกิดอาการเหนื่อยได้
00:26:18 → 00:26:20 หรือว่ามันเกิดเป็นน้ำขึ้นมาทำให้เกิด
00:26:20 → 00:26:22 เป็นเหนื่อยได้เช่นเดียวกันนะครับทีเนี้
00:26:22 → 00:26:26 ไอ้คำไอ้คำว่าหนองในปอดหรือว่าบางคนก็จะ
00:26:26 → 00:26:28 เรียกว่าหนองในเยื่อหุปอนดเนี่ยนะครับพวก
00:26:28 → 00:26:31 นี้เนี่ยหรือว่าฝีในปอนดพวกนี้ก็จะมีความ
00:26:31 → 00:26:33 คล้ายคืนกันแตกต่างกันนิดหน่อยนะครับพวก
00:26:33 → 00:26:35 นี้มันจะเริ่มต้นเลยเริ่มต้นจากการที่
00:26:35 → 00:26:39 ร่างกายเราเนี่ยสูดดมสิ่งแปลกปลอมเข้าไกล
00:26:39 → 00:26:41 นะครับเกิดปอดติดเชื้อขึ้นมาพอมันเกิด
00:26:41 → 00:26:43 ปลอดติดเชื้อขึ้นมาปุ๊บสิ่งที่เกิดขึ้น
00:26:43 → 00:26:45 ขึ้นมาเนี่ยมันก็จะมีอาการเาเรียกว่ามี
00:26:45 → 00:26:48 ปอดอักเสบขึ้นมานะครับพอมันเกิดร่างกาย
00:26:48 → 00:26:50 ปอดอักเสบหรือปอดติดเชื้อขึ้นมาปุ๊บเนี่ย
00:26:50 → 00:26:53 ร่างกายก็จะมีการกระตุ้นขึ้นมาที่ทำให้
00:26:53 → 00:26:55 เกิดน้ำหรือเกิดหนองบริเวณเยืหุ้มปอดเกิด
00:26:55 → 00:26:58 ขึ้นหหรือในบางรายเนี่ยอาจจะเป็นน้ำในตัว
00:26:58 → 00:27:01 เนื้อปอดเองก็ตามซึ่งเป็นฝีพอมันปล่อย
00:27:01 → 00:27:03 ทิ้งไว้คั่งไปเรื่อยๆคั่งไปเรื่อยๆเนี่ย
00:27:03 → 00:27:06 พวกนี้คนไข้ก็จะมีน้ำเกิดขึ้นแล้วมันก็จะ
00:27:06 → 00:27:08 เหมือนกับเหมือนกับเวลาเราน้ำเนี่ยที่มัน
00:27:08 → 00:27:10 ฝังเนี่ยอยู่ในตรงพื้นหรือตรงอะไรพวก
00:27:10 → 00:27:12 เนี้ยมันก็เริ่มทำการเป็นไงมันก็จะเริ่ม
00:27:12 → 00:27:15 เน่าขึ้นมาเพราะนี้มันก็จะจากน้ำอักเสบ
00:27:15 → 00:27:17 ธรรมดาใสๆก็จะเริ่มกลายเป็นหนองอฉะนั้น
00:27:17 → 00:27:20 ผู้ป่วยเนี่ยก็จะเข้ามาปรึกษาเราด้วย
00:27:20 → 00:27:23 อาการที่มาด้วยไข้ไอเหนื่อยแล้วเสร็จแล้ว
00:27:23 → 00:27:25 แล้วเราจะรู้ยไงว่าผู้ป่วยเเราสงสัยว่า
00:27:25 → 00:27:28 เป็นหนองหรือเป็นอะไรก็ตามเนี่ยข้อที่ 1
00:27:28 → 00:27:30 นอกจากอาการที่เกิดขึ้นเนี่ยคนไข้อาจจะ
00:27:30 → 00:27:33 เริ่มมีอาการไอไอออกมาเป็นสมหะเป็นหนอง
00:27:33 → 00:27:36 และไข้เนี่ยไข้ที่มันสูงเนี่ยมันจะไม่ใช่
00:27:36 → 00:27:38 ไข้สูงธรรมดานะครับมันจะเป็นไข้สูงเป็น
00:27:38 → 00:27:41 แบบฟันปลาเลยคำว่าฟันปลาหมายความว่าไข้
00:27:41 → 00:27:45 สูง 38 39 นะครับมีอาการหนาวสั่นร่วม
00:27:45 → 00:27:48 ด้วยแล้วก็กินยาก็ไม่ลดพวกนี้เนี่ยโอ้โห
00:27:48 → 00:27:50 ไข้สูงปี๊ดเลยกินยาเท่าไหร่ก็ไม่หายทุก
00:27:50 → 00:27:53 อย่างเท่าไหร่ก็ไม่หายพวกนี้เนี่ยมี
00:27:53 → 00:27:56 อันตรายถึงแก่ชีวิตได้
00:27:56 → 00:28:01 เลย This Is Toy PBS
00:28:01 → 00:28:04 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:28:04 → 00:28:07 Application ของ Thai PBS podcast
00:28:08 → 00:28:10 spotify soundcloud Google podcast
00:28:10 → 00:28:13 Apple podcast และ YouTube Channel
00:28:13 → 00:28:17 Thai PBS podcast Thai PBS podcast
00:28:17 → 00:28:20 View the world via The
00:28:20 → 00:28:26 [เพลง]
00:28:26 → 00:28:29 Voice
00:28:29 → 00:28:32 อ