00:00:00 → 00:00:03 ขอต้อนรับสู่หมอพัทรพcast Talk ความรู้
00:00:03 → 00:00:06 สุขภาพลึกและฟรีมีที่นี่
00:00:06 → 00:00:09 >> สวัสดีครับวันนี้เราจะมาชวนคุยกันเรื่อง
00:00:09 → 00:00:12 นาฬิกาที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของเราครับว่า
00:00:12 → 00:00:14 มันส่งผลต่ออาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละ
00:00:14 → 00:00:18 มื้อยังไงบ้างเคยสงสัยกันมั้ครับว่าทำไม
00:00:18 → 00:00:21 บางทีเวลาที่เรากินข้าวเนี่ยมันถึงรู้สึก
00:00:21 → 00:00:25 ว่าสำคัญไม่แพ้อะไรที่เรากินเข้าไปเลยมัน
00:00:25 → 00:00:27 เหมือนกับว่าร่างกายเรามีตารางเวลาส่วน
00:00:27 → 00:00:30 ตัวอยู่นะครับว่าช่วงเวลานี้แหละคือช่วง
00:00:30 → 00:00:34 เวลาทองของการกินเอาล่ะครับเพื่อจะเข้าใจ
00:00:34 → 00:00:36 เรื่องนี้เนี่ยเราต้องไปทำความรู้จักกับ
00:00:36 → 00:00:39 ตัวละครเอกของเราก่อนเลยเขาคือฮอร์โมนที่
00:00:39 → 00:00:42 ชื่อว่าอินซูลินครับแต่เพื่อให้เห็นภาพ
00:00:42 → 00:00:45 ชัดๆวันนี้เราจะให้ฉายาเขาสักหน่อยว่าคุณ
00:00:45 → 00:00:48 พ่ออินซูลินเป็นเหมือนผู้จัดการส่วนตัว
00:00:48 → 00:00:51 สุดขยันประจำร่างกายของเราเลยวันทำงานของ
00:00:51 → 00:00:54 คุณพ่ออินซูลินเนี่ยนะครับมันน่าสนใจมากๆ
00:00:54 → 00:00:58 เลยคือเขาทำงานเป็น 2 กะครับเช้ากะนึง
00:00:58 → 00:00:59 เย็นกะนึง
00:00:59 → 00:01:03 แล้วที่พีคนั้นคือนาฬิกาปลุกของแต่ละกะ
00:01:03 → 00:01:07 เนี่ยมันคือแสงคนละสีกันด้วยเอาล่ะเราไป
00:01:07 → 00:01:10 ดูภารกิจกะเช้าของเขากันก่อนเลยดีกว่า
00:01:10 → 00:01:13 นาฬิกาปลุกแกรกเนี่ยจะดังขึ้นช่วงประมาณ
00:01:13 → 00:01:16 10:00 น.ถึงเที่ยงครับมันคือแสงสีม่วง
00:01:16 → 00:01:19 ที่มากับแดดอ่อนๆตอนสายๆนั่นแหละครับพอ
00:01:19 → 00:01:22 ร่างกายได้รับแสงนี้ปุ๊บมันก็เหมือนเป็น
00:01:22 → 00:01:25 สัญญาณได้เวลาทำงานแล้วตับอรก็จะรีบส่ง
00:01:26 → 00:01:28 คุณพ่ออินซูลินออกมาทันทีเลยครับซึ่งต้อง
00:01:28 → 00:01:31 บอกว่าช่วงเช้านี่แหละคือช่วงที่เขาฟิต
00:01:31 → 00:01:34 ปั๋งตื่นตัวและพร้อมทำงานได้เต็ม
00:01:34 → 00:01:38 ประสิทธิภาพที่สุดแล้วงานหลักของเขาในกะ
00:01:38 → 00:01:41 เช้าคืออะไรมาดูตรงนี้กันครับโฟกัสหลัก
00:01:41 → 00:01:46 เลยคือการจัดเก็บสารอาหารครับคือกว่า 80%
00:01:46 → 00:01:49 ของพลังงานทั้งหมดเนี่ยคุณพ่ออินซูลินจะ
00:01:49 → 00:01:53 ทุ่มเทไปกับการคัดแยกวิตามินแร่ธาตุของดี
00:01:53 → 00:01:56 ๆจากอาหารมื้อแรกแล้วเอาไปเก็บไว้ที่ตับ
00:01:56 → 00:01:59 ส่วนอีก 20% ที่เหลือค่อยเอาไปเป็นพลัง
00:01:59 → 00:02:02 งานนิดๆหน่อยๆนั่นแปลว่าอะไรครับก็แปลว่า
00:02:02 → 00:02:06 ช่วงเวลานี้แหละครับคือนาทีทองของการกิน
00:02:06 → 00:02:09 ของที่มีสารอาหารแน่นๆมีประโยชน์สูงๆเลย
00:02:09 → 00:02:12 ในทางวิทยาศาสตร์เขาก็มีชื่อเรียกเฉพาะ
00:02:12 → 00:02:15 ของสภาวะนี้นะครับแต่ถ้าให้สรุปง่ายๆเลย
00:02:15 → 00:02:18 มันก็คือสัญญาณที่ร่างกายบอกเราว่าเฮ้ตอน
00:02:18 → 00:02:20 นี้ฉันพร้อมรับสรรอาหารแบบเต็มที่แล้วนะ
00:02:20 → 00:02:24 จัดมื้อแรกมาได้เลยเอาล่ะครับพอตกเย็น
00:02:24 → 00:02:27 ปุ๊บบทบาทของคุณพ่ออินซูลินนี่เรียกว่า
00:02:27 → 00:02:30 พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับเราไปดู
00:02:30 → 00:02:32 กันต่อว่าภารกิจนกกะที่ 2 ของเขาคืออะไร
00:02:33 → 00:02:35 นาฬิกาปลุกเรือนที่ 2 ของเขาจะดังขึ้น
00:02:35 → 00:02:39 ช่วงประมาณ 17:00 น. - 18:00 น.คราวนี้
00:02:39 → 00:02:42 ไม่ใช่แสงสีม่วงแล้วแต่เป็นแสงสีแดงจาก
00:02:42 → 00:02:46 พระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินครับสัญญาณนี้
00:02:46 → 00:02:48 จะเรียกคุณพ่ออินซูลินกลับมาข้อกะอีก
00:02:48 → 00:02:53 ครั้งแต่ภารกิจในรอบนี้แตกต่างจากตอนเช้า
00:02:53 → 00:02:56 แบบคนละเรื่องเลยครับเห็นภาพชัดเลยใช่มั้
00:02:56 → 00:02:59 ครับการจัดสรรงานมันสลับกันเลยตอนเช้า
00:02:59 → 00:03:03 เน้นสารอาหารแต่พอตกเย็นโฟกัสหลักเปลี่ยน
00:03:03 → 00:03:07 มาเป็นการเก็บสะสมพลังงานครับคือกว่า 80%
00:03:07 → 00:03:10 ของงานในกะนี้คือการดึงพลังงานจากมื้อ
00:03:10 → 00:03:13 เย็นไปตุนไว้ที่ตับกับกล้ามเหนือเพื่อ
00:03:13 → 00:03:15 เป็นเชื้อเพลิงให้ร่างกายใช้ซ่อมแซนตัว
00:03:15 → 00:03:18 เองตอนที่เรากำลังหลับนั่นเองครับแน่นอน
00:03:18 → 00:03:21 ว่าสภาวะนี้ก็มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์
00:03:21 → 00:03:24 เหมือนกันซึ่งมันก็คือสัญญาณบอกเรานั่น
00:03:24 → 00:03:27 แหละครับว่าโอเคได้เวลากินมื้อเย็นแล้วนะ
00:03:27 → 00:03:30 ร่างกายพร้อมจะเก็บพลังงานไปใช้ซ่อมแซม
00:03:30 → 00:03:34 ตอนกลางคืนแล้วทีนี้พอเราเอาการทำงานทั้ง
00:03:34 → 00:03:37 2 กะมาวางเทียบกันแบบนี้โอ้โหโหเห็นภาพ
00:03:37 → 00:03:40 ชัดเจนเลยใช่ไหมมั้ครับดูในตารางนี้สิ
00:03:40 → 00:03:43 ครับสรุปไว้เป๊ะมากตอนเช้าตัวกระตุ้นคือ
00:03:43 → 00:03:47 แสงสีม่วงงานหลักคือเก็บสารอาหารแต่พอตก
00:03:47 → 00:03:50 เย็นตัวกระตุ้นคือแสงสีแดงงานหลักคือเก็บ
00:03:50 → 00:03:53 พลังงานสัดส่วนก็สลับกันเลยคือร่างกายเรา
00:03:53 → 00:03:55 มันฉลาดมากนะครับปรับเปลี่ยนหน้าที่ของ
00:03:55 → 00:03:58 อินซูลินตามช่วงเวลาของวันได้แบบน่าทึ่ง
00:03:58 → 00:04:01 จริงๆเพราะฉะนั้นประเด็นสำคัญที่สุดของ
00:04:01 → 00:04:03 เรื่องนี้ก็คือเวลาที่เรากินนี่แหละครับ
00:04:03 → 00:04:06 มันคือตัวกำหนดเลยว่าร่างกายจะเอาอาหาร
00:04:06 → 00:04:08 มื้อนั้นไปทำอะไรกันแน่จะเน้นเก็บสาร
00:04:08 → 00:04:11 อาหารดีๆหรือจะเน้นเก็บเป็นพลังงานสำรอง
00:04:11 → 00:04:14 และเรื่องทั้งหมดนี้ก็นำมาสู่คำถามสุด
00:04:14 → 00:04:16 ท้ายที่น่าคิดมากๆเลยครับว่าถ้าเกิดเรา
00:04:16 → 00:04:19 ใช้ชีวิตสวนทางกับนาฬิกาธรรมชาตินี้ล่ะ
00:04:19 → 00:04:23 เช่นไปกินมื้อหนักๆตอนดึกๆหรืออดมื้อเช้า
00:04:23 → 00:04:28 มันจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเรากันแน่
00:04:28 → 00:04:32 เอ่อเคยสงสัยกันมั้คะว่าทำไมบางทีเนี่ย
00:04:32 → 00:04:34 การกินมื้อเช้ามันให้ความรู้สึกหรือว่า
00:04:34 → 00:04:37 ส่งผลต่อร่างกายเราต่างจากมื้อเย็นจังเลย
00:04:37 → 00:04:41 ทั้งๆที่แบบอาจจะกินคล้ายๆกันวันนี้เรามี
00:04:41 → 00:04:44 ข้อมูลที่แบบน่าสนใจมากๆค่ะที่อาจจะให้คำ
00:04:44 → 00:04:46 ตอบที่ซ่อนอยู่ในแสงแดดรอบตัวเรานี่เองนะ
00:04:46 → 00:04:49 คะเราจะมาเอ่อเจาะลึกกันนะเรื่องความ
00:04:49 → 00:04:51 เชื่อมโยงที่อาจจะไม่เคยนึกถึงเลยระหว่าง
00:04:52 → 00:04:55 แสงอาทิตย์นาฬิกาชีวภาพในตัวเราแล้วก็
00:04:55 → 00:04:58 กลไกสำคัญอย่างอินซูลินซึ่งดูเหมือนจะมี
00:04:58 → 00:05:00 ตารางเวลาทำงานของตัวเองที่อาจส่งผลต่อ
00:05:00 → 00:05:03 ช่วงเวลาที่ร่างกายเราพร้อมรับมือกับ
00:05:03 → 00:05:05 อาหารตลมมือมากที่สุดนะคะข้อมูลที่ที่เรา
00:05:05 → 00:05:08 ได้มาเนี่ยใช้ชื่อว่านาฬิกาอินซูลินกับ
00:05:08 → 00:05:12 เวลาอาหารค่ะอืมแค่ชื่อก็น่าคิดตามแล้วนะ
00:05:12 → 00:05:15 คะพอได้อ่านข้อมูลชุดนี้คำถามมันผุดขึ้น
00:05:15 → 00:05:18 มาในหัวเลยค่ะว่าเอ๊ะแสงแดดที่มันเปลี่ยน
00:05:18 → 00:05:20 ไปในแต่ละช่วงของวันเนี่ยมันส่งผลต่อการ
00:05:20 → 00:05:23 ทำงานของฮอร์โมนตัวเดียวอย่างอินซูลินให้
00:05:23 → 00:05:26 แตกต่างกันได้ยังไงแล้วความแตกต่างนี้มัน
00:05:26 → 00:05:28 บอกอะไรเราเกี่ยวกับการตอบสนองของร่างกาย
00:05:28 → 00:05:31 ต่ออาหารที่เรากินเข้าไปในมื้อเช้ากับ
00:05:31 → 00:05:34 มื้อเย็นคือมันเหมือนมีกลไกซับซ้อนที่
00:05:34 → 00:05:36 เชื่อมโยงเรากับธรรมชาติอย่างน่าทึ่งอยู่
00:05:36 → 00:05:37 ลึกลงไปนะคะ
00:05:37 → 00:05:40 >> ประเด็นนี้น่าสนใจอย่างยิ่งเลยครับคือ
00:05:40 → 00:05:43 ร่างกายมนุษย์เราเนี่ยเป็นระบบที่ซับซ้อน
00:05:44 → 00:05:46 อย่างไม่น่าเชื่อเลยนะครับโดยเฉพาะในการ
00:05:46 → 00:05:49 จัดการพลังงานแล้วก็สารอาหารที่ได้รับ
00:05:49 → 00:05:52 ซึ่งตามปกติเราอาจจะคิดถึงแค่เรื่อง
00:05:52 → 00:05:55 แคลอรiesหรือประเภทอาหารใช่มั้ครับแต่ข้อ
00:05:55 → 00:05:58 มูลชุดนี้กำลังชี้ไปที่มิติของเวลาแล้วก็
00:05:58 → 00:06:01 จังหวะที่สัมพันธ์กับปัจจัยภายนอกอย่าง
00:06:01 → 00:06:04 แสงอาทิตย์ด้วยการทำความเข้าใจกลไกที่ข้อ
00:06:04 → 00:06:05 มูลนี้นำเสนอ
00:06:05 → 00:06:07 อาจจะทำให้เราต้องมองเรื่องการกินแล้วก็
00:06:07 → 00:06:10 การใช้ชีวิตประจำวันในมุมที่ต่างออกไปเลย
00:06:10 → 00:06:13 ก็ได้ครับอืมมันท้าทายความเข้าใจเดิมๆของ
00:06:13 → 00:06:15 เราพอสมควรเลย
00:06:15 → 00:06:18 >> โอเคค่ะงั้นการพูดคุยของเราวันเนี้ยเป้า
00:06:18 → 00:06:21 หมายก็คือการพยายามทำความเข้าใจกลไก
00:06:21 → 00:06:25 นาฬิกาอินซูลินนี้ให้ลึกซึ้งขึ้นว่ามันทำ
00:06:25 → 00:06:28 ยังไงในช่วงเวลาต่างๆของวันตามที่ข้อมูล
00:06:28 → 00:06:31 ได้บอกไว้อะไรคือความแตกต่างที่สำคัญแล้ว
00:06:31 → 00:06:34 ทำไมเรื่องนี้ถึงน่าสนใจโดยเฉพาะประเด็น
00:06:34 → 00:06:37 ที่ว่าเอ๊ะแสงสีม่วงแล้วก็แสงสีแดงจากดวง
00:06:37 → 00:06:39 อาทิตย์เนี่ยมันเข้ามาเกี่ยวกับเรื่อง
00:06:39 → 00:06:42 ระดับฮอร์โมนในร่างกายเราได้ยังไงฟังดู
00:06:42 → 00:06:45 เหมือนนิยายวิทยาศาสตร์นิดๆนะคะแต่ข้อมูล
00:06:45 → 00:06:48 นี้ยืนยันว่ามันเป็นกลไกทางชีวภาพจริงๆ
00:06:48 → 00:06:51 งั้นเรามาค่อยๆแกะรอยเรื่องนี้กันค่ะ
00:06:51 → 00:06:54 เริ่มกันที่ช่วงแรกของวันนะคะตามข้อมูล
00:06:54 → 00:06:57 บอกว่าประมาณช่วงสายๆตั้งแต่สัก 10:00 น.
00:06:57 → 00:06:59 เช้าไปจนถึงเที่ยงวันเนี้ยเป็นช่วงเวลา
00:06:59 → 00:07:02 ที่น่าสนใจมากเขาบอกว่าตอนนี้แหละที่ดวง
00:07:02 → 00:07:06 อาทิตย์เริ่มแผลคลื่นรังสีหรือแสงที่มอง
00:07:06 → 00:07:09 เห็นได้ในย่านสีม่วงหรือ Violet ไลออกมา
00:07:09 → 00:07:13 มากขึ้นแล้วเจ้ารังสีสีม่วงนี่เองที่ทำ
00:07:13 → 00:07:15 หน้าที่เหมือนเป็นนาฬิกาปลุกตามธรรมชาติ
00:07:15 → 00:07:18 ไปกระตุ้นให้ตับอ่อนของเราเริ่มหลั่ง
00:07:18 → 00:07:19 อินซูลินออกมาค่ะ
00:07:19 → 00:07:22 >> ใช่เลยครับเป็นการกระตุ้นให้เกิดการหลั่ง
00:07:22 → 00:07:25 อินซูลินตามธรรมชาติรอบแรกของวันข้อมูล
00:07:25 → 00:07:29 ใช้คำเปรดเปรได้น่าสนใจนะครับว่าเหมือน
00:07:29 → 00:07:32 ปลุกตัวพ่อซึ่งก็หมายถึงอินซูลินให้ตื่น
00:07:32 → 00:07:35 มาเริ่มทำงานอินซูลินที่หลั่งออกมาช่วง
00:07:35 → 00:07:38 นี้จะเป็นระดับพื้นฐานหรือที่เรียกว่า
00:07:38 → 00:07:41 ซ่อo insulin level นะครับแต่จุดสำคัญ
00:07:41 → 00:07:44 เนี่ยไม่ได้อยู่ที่ปริมาณเท่าไหร่แต่อยู่
00:07:44 → 00:07:47 ที่ความไวของอินซูลินในช่วงเวลานี้ครับ
00:07:47 → 00:07:50 ข้อมูลระบุว่านี่เป็นช่วงที่อินซูลินมี
00:07:50 → 00:07:53 ความไวสูงสุดหรือ highest insulin
00:07:53 → 00:07:56 sensitivity สำหรับหน้าที่หลักอย่างนึง
00:07:56 → 00:07:57 ของมัน
00:07:57 → 00:08:00 >> หน้าที่หลักที่ว่านั้นคืออะไรหรอคะใช่
00:08:00 → 00:08:03 เรื่องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดแบบที่
00:08:03 → 00:08:05 เราคุ้นเคยกันหรือเปล่าคะ
00:08:05 → 00:08:07 >> การควบคุมน้ำตาลในเลือดอันนั้นเป็นหน้า
00:08:08 → 00:08:10 ที่ของอินซูลินอยู่แล้วครับแต่ข้อมูลนี้
00:08:11 → 00:08:14 คนเน้นไปที่บทบาทเด่นในแต่ละช่วงเวลา
00:08:14 → 00:08:18 สำหรับช่วงสายนี้บทบาทเด่นคือการเก็บกัก
00:08:18 → 00:08:21 สารอาหารหรือ Nutrient Storage จากมื้อ
00:08:21 → 00:08:24 แรกของวันไม่ว่าจะเป็นโปรตีนไขมันดี
00:08:25 → 00:08:27 วิตามินหรือแร่ธาตุต่างๆโดยมีเป้าหมาย
00:08:27 → 00:08:30 หลักคือการนำไปเก็บไว้ทิศตับครับเหมือน
00:08:30 → 00:08:33 การเติมเสบียงให้คลังหลักของร่างกายหลัง
00:08:33 → 00:08:35 จากเราอดอาหารมาทั้งคืน
00:08:35 → 00:08:39 >> อ๋อเน้นที่การเก็บสารอาหารที่ตับเป็นหลัก
00:08:39 → 00:08:42 นี่เองน่าสนใจมากเลยค่ะเพราะปกติเรามักจะ
00:08:42 → 00:08:45 คิดว่ากินมื้อเช้าเพื่อให้ได้พลังงานทัน
00:08:45 → 00:08:48 ทีแต่ข้อมูลนี้กลับชี้ว่าบทบาทเด่นของ
00:08:48 → 00:08:51 อินซูลินตอนสายคือการสะสมวัตถุดิบก่อนข้อ
00:08:52 → 00:08:54 มูลลงรายละเอียดชัดเจนเลยนะคะว่าถ้าให้
00:08:54 → 00:08:56 คะแนนหน้าที่อินซูลินเต็ม 100% ในช่วงนี้
00:08:56 → 00:08:59 เนี่ยประมาณ 80% คือการจัดการกับสารอาหาร
00:08:59 → 00:09:02 ต่างๆให้เข้าที่เข้าทางในตับส่วนอีกราวๆ
00:09:02 → 00:09:05 20% หรืออาจจะน้อยกว่านั้นถึงจะเป็น
00:09:05 → 00:09:07 เรื่องของการจัดการพลังงาน
00:09:07 → 00:09:10 >> ถูกต้องเลยครับมันเป็นการจัดลำดับความ
00:09:10 → 00:09:13 สำคัญของร่างกายตามธรรมชาติคือพอได้รับ
00:09:13 → 00:09:15 อาหารมื้อแรกเนี่ยร่างกายจะให้ความสำคัญ
00:09:15 → 00:09:18 กับการตุนสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงาน
00:09:18 → 00:09:22 ของเซลล์และระบบต่างๆก่อนส่วนพลังงานที่
00:09:22 → 00:09:24 ได้จากมื้อนั้นก็จะถูกจัดสรรไปใช้งาน
00:09:24 → 00:09:27 ระหว่างวันแต่ข้อมูลก็มีรายละเอียดเสริม
00:09:27 → 00:09:30 นิดหน่อยที่น่าสนใจว่าพลังงานหลักบางส่วน
00:09:30 → 00:09:33 อาจถูกส่งผ่านระบบน้ำเหลืองด้วยซึ่งอัน
00:09:33 → 00:09:35 นี้เป็นรายละเอียดทางสรีรวิทยาที่ค่อน
00:09:35 → 00:09:37 ข้างเฉพาะเจาะจงอาจจะต้องไปดูบริบทใน
00:09:37 → 00:09:39 แหล่งข้อมูลต้นฉบับเพิ่มเติมว่าเขาเน้น
00:09:39 → 00:09:42 ย้ำประเด็นนี้ยังไงแต่ภาพรวมก็คือเน้น
00:09:42 → 00:09:43 เก็บสารอาหารที่ตับก่อนครับ
00:09:44 → 00:09:47 >> แล้วข้อมูลก็ใช้คำศัพท์เฉพาะทางด้วยใช่
00:09:47 → 00:09:50 ไหมคะสำหรับสภาวะความไวของอินซูลินในช่วง
00:09:50 → 00:09:51 นี้
00:09:51 → 00:09:53 >> ใช่ครับเขาเรียกว่า Physiologic baso
00:09:53 → 00:09:55 insulin Sensitivity for nutrient
00:09:55 → 00:09:58 dense ซึ่งถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆก็คือเป็น
00:09:58 → 00:10:00 สภาวะความไวของอินซูลินในระดับพื้นฐานตาม
00:10:00 → 00:10:04 กลไกธรรมชาติที่เอ่อเชี่ยวชาญเป็นพิเศษใน
00:10:04 → 00:10:07 การจัดการกับอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหาร
00:10:07 → 00:10:09 หรือ nutrient dense ไม่ใช่แค่พลังงาน
00:10:09 → 00:10:11 อย่างเดียวนะครับคำว่า nutrient den
00:10:11 → 00:10:14 dance นี่สำคัญมากมันชี้ว่าร่างกายตอนใส
00:10:14 → 00:10:17 ๆเนี่ยพร้อมรับมือกับอาหารที่มีคุณค่าทาง
00:10:17 → 00:10:18 โภชนาการสูงๆ
00:10:18 → 00:10:21 >> เข้าใจชัดเจนขึ้นเลยค่ะมันเหมือนกับว่า
00:10:21 → 00:10:24 ร่างกายส่งสัญญาณมาว่าเอาสารอาหารดีๆมา
00:10:24 → 00:10:27 เลยตอนเนี้ยฉันพร้อมจัดการและเก็บเข้า
00:10:27 → 00:10:30 คลังแล้วอะไรแบบนี้ข้อมูลถึงกับสรุปช่วง
00:10:30 → 00:10:34 นี้ไว้เลยว่าได้เวลาของการเริ่มกินเป็น
00:10:34 → 00:10:37 สัญญาณไฟเขียวสำหรับมื้อแรกที่ควรจะเน้น
00:10:37 → 00:10:40 คุณภาพสารอาหารจริงๆอ้อแล้วก็มีจุดที่
00:10:40 → 00:10:42 ต้องย้ำเตือนกันด้วยใช่มั้คะข้อมูลเน้น
00:10:42 → 00:10:45 ว่าคลื่นรังสีสีม่วง Violet Light ที่
00:10:45 → 00:10:49 พูดถึงเนี่ยไม่ใช่รังสี UV ultตra violet
00:10:49 → 00:10:51 ที่เรากลัวกันเรื่องผิวไหม้นะคะอันนั้น
00:10:51 → 00:10:55 คือรังสีเหนือม่วงเป็นคนประเภทกันเลยแค่
00:10:55 → 00:10:56 ชื่อคล้ายกันเท่านั้นเอง
00:10:56 → 00:10:59 >> เป็นการขยายความที่สำคัญมากครับเพราะคำ
00:10:59 → 00:11:02 ว่าม่วงจากแสงอาทิตย์เนี่ยมักจะทำให้คน
00:11:02 → 00:11:05 นึกถึง UV ก่อนเลยแต่ในบริบทของกลไกที่
00:11:05 → 00:11:08 ข้อมูลนี้นำเสนอเรากำลังพูดถึงแสงสีม่วง
00:11:09 → 00:11:11 ที่ตามมองเห็นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ
00:11:11 → 00:11:14 สเปกตรัมแสงอาทิตย์นะครับและมีบทบาทในการ
00:11:14 → 00:11:17 กระตุ้นการทำงานของอินซูลินตามที่ระบุมา
00:11:17 → 00:11:19 ซึ่งเป็นกลไกที่น่าทึ่งมากนะครับที่ร่าง
00:11:19 → 00:11:22 กายเราสามารถรับรู้แล้วก็ตอบสนองต่อ
00:11:22 → 00:11:24 คุณภาพแสงที่แตกต่างกันได้ขนาดนี้
00:11:24 → 00:11:27 >> เอาล่ะค่ะนั่นคือเรื่องราวของอินซูลินใน
00:11:27 → 00:11:30 ช่วงสายที่ถูกปลุกด้วยแสงสีม่วงแล้วก็
00:11:30 → 00:11:34 เน้นทำหน้าที่เก็บสะสมสารอาหารเป็นหลักที
00:11:34 → 00:11:37 นี้พอเวลาผ่านไปจนถึงช่วงเย็นสถานการณ์ก็
00:11:37 → 00:11:39 เปลี่ยนไปอีกครั้งข้อมูลบอกว่าประมาณ 1700
00:11:39 → 00:11:43 น. - 18:00 น.คราวนี้แสงอาทิตย์จะแผ่
00:11:43 → 00:11:46 คลื่นนาสีหรือแสงในย่านสีแดง Red Light
00:11:46 → 00:11:49 ออกมาเด่นชัดขึ้นและเช่นเดียวกันแสงสีแดง
00:11:49 → 00:11:52 นี้ก็จะไปกระตุ้นให้ตับอ่อนหลังอินซูลิน
00:11:52 → 00:11:54 ออกมาอีกรอบตามธรรมชาติค่ะ
00:11:54 → 00:11:57 >> ครับผมเหมือนกับว่าอินซูลินได้รับสัญญาณ
00:11:57 → 00:12:00 ปลุกให้กลับมาทำงานอีกครั้งในช่วงเย็นข้อ
00:12:00 → 00:12:03 มูลระบุว่าอินซูลินจะกลับเข้าสู่สภาวะที่
00:12:03 → 00:12:07 มีความไวหรือ insulin sensitivity อีก
00:12:07 → 00:12:10 รอบนึงคล้ายๆตอนเช้าเลยแต่สิ่งที่แตกต่าง
00:12:10 → 00:12:13 อย่างชัดเจนคือบทบาทหลักหรือภารกิจของ
00:12:13 → 00:12:17 อินซูลินในรอบบ่ายแก่ๆหรือช่วงเย็นนี้ข้อ
00:12:17 → 00:12:19 มูลใช้คำเรียกลักษณะความไวนี้ว่า
00:12:20 → 00:12:22 Physiologic Normal Insulin
00:12:22 → 00:12:25 Sensitivity ซึ่งอาจจะตีความได้ว่าเป็น
00:12:25 → 00:12:28 ความไวของอินซูลินในระดับปกติทั่วไปตาม
00:12:28 → 00:12:31 สรีอวิทยาแต่เป้าหมายการทำงานหลักเนี้ย
00:12:31 → 00:12:33 มันเปลี่ยนไปจากตอนเช้าแล้วครับ
00:12:33 → 00:12:36 >> เป้าหมายที่เปลี่ยนไปคืออะไรคะถ้าเทียบ
00:12:36 → 00:12:38 เป็นเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิมมันต่างจากตอน
00:12:38 → 00:12:40 เช้ายังไงบ้างคะ
00:12:40 → 00:12:42 >> ต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญเลยครับถ้าให้
00:12:42 → 00:12:46 เต็ม 100% เท่าเดิมเนี่ยข้อมูลระบุว่าใน
00:12:46 → 00:12:49 ช่วงเย็นนี้ประมาณ 80% ของหน้าที่หลัก
00:12:49 → 00:12:52 อินซูลินจะเปลี่ยนเป็นเน้นที่การเก็บพลัง
00:12:52 → 00:12:56 งานสะสมหรือ energy storage ทั้งในรูป
00:12:56 → 00:12:59 ของไกลโคเจนที่ตับและก็โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
00:12:59 → 00:13:02 ที่กล้ามเนื้อครับเน้นว่าเป็นการส่งพลัง
00:13:02 → 00:13:05 งานไปให้กล้ามเนื้อที่ต้องการการซ่อมแซม
00:13:05 → 00:13:08 และสร้างใหม่หลังจากใช้งานมาทั้งวันส่วน
00:13:08 → 00:13:11 อีกประมาณ 20% ที่เหลืออินซูลินถึงจะทำ
00:13:11 → 00:13:14 หน้าที่เก็บสะสมสารอาหารเพิ่มเติมที่อาจ
00:13:14 → 00:13:17 จะยังขาดอยู่หรือได้รับไม่เพียงพอจากมื้อ
00:13:17 → 00:13:19 ก่อนในระหว่างวันนะครับ
00:13:19 → 00:13:22 >> โอ้โหพลิกบทบาทกันเลยนะคะจากตอนเช้าที่
00:13:23 → 00:13:26 เน้นเก็บสารอาหาร 80% ตอนเย็นกลายเป็น
00:13:26 → 00:13:29 เน้นเก็บพลังงาน 80% แทนโดยเฉพาะที่กล้าม
00:13:29 → 00:13:32 เนื้อเพื่อการซ่อมแซมนี่มันแสดงว่าร่าง
00:13:32 → 00:13:35 กายเราฉลาดมากเลยนะคะในการปรับเปลี่ยนการ
00:13:35 → 00:13:37 ทำงานให้เข้ากับจังหวะของวัน
00:13:37 → 00:13:41 >> ใช่ครับสิ่งที่น่าทึ่งคือการเปลี่ยนโฟกัส
00:13:41 → 00:13:45 ที่ชัดเจนอันนี้แหละครับจากนักสะสมสาร
00:13:45 → 00:13:49 อาหารในตอนเช้ากลายเป็นผู้จัดการพลังงาน
00:13:49 → 00:13:52 และช่างซ่อมบำรุงในตอนเย็นเพื่อเตรียม
00:13:52 → 00:13:55 ร่างกายให้พร้อมสำหรับการพักผ่อนการฟื้น
00:13:55 → 00:13:58 ฟูแล้วก็การซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่างๆที่
00:13:58 → 00:14:01 จะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืนรวมทั้งการเติม
00:14:01 → 00:14:05 สารอาหารที่อาจยังตกหล่นไปให้เต็มด้วย
00:14:05 → 00:14:07 มันสะท้อนให้เห็นกลไกการจัดสรรทรัพยากร
00:14:07 → 00:14:10 หรือ resource Allation ของร่างกายที่
00:14:10 → 00:14:14 ซับซ้อนและปรับเปลี่ยนได้ตามช่วงเวลาซึ่ง
00:14:14 → 00:14:16 ดูเหมือนจะถูกควบคุมโดยสัญญาณจากแสง
00:14:16 → 00:14:17 ธรรมชาตินี่เองครับ
00:14:17 → 00:14:21 >> แสดงว่าแม้เราจะกินอาหารในช่วงเย็นร่าง
00:14:21 → 00:14:23 กายก็ยังคงจัดการได้ด้วยอินซูลินแต่เป้า
00:14:24 → 00:14:26 หมายหลักมันเปลี่ยนไปแล้วคือเน้นสำรอง
00:14:26 → 00:14:29 พลังงานไว้ใช้ซ่อมแซมตอนกลางคืนแล้วก็
00:14:29 → 00:14:31 เติมสารอาหารที่ขาดมากกว่าจะเน้นเก็บสาร
00:14:31 → 00:14:35 อาหารใหม่เหมือนตอนสายๆข้อมูลก็สรุปคล้าย
00:14:35 → 00:14:39 ๆเดิมนะคะว่าได้เวลาของอาหารมื้อเย็นแล้ว
00:14:39 → 00:14:41 แต่ภายใต้บริบทการทำงานของอินซูลินที่แตก
00:14:41 → 00:14:43 ต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย
00:14:43 → 00:14:46 >> ถูกต้องครับมันเป็นการให้ข้อมูลเชิงลึก
00:14:46 → 00:14:49 ว่าร่างกายอาจตอบสนองต่อสารอาหารและพลัง
00:14:49 → 00:14:52 งานจากมื้อเย็นในลักษณะที่แตกต่างจากมื้อ
00:14:52 → 00:14:55 แรกของวันอย่างชัดเจนโดยมีเป้าหมายเพื่อ
00:14:55 → 00:14:57 การฟื้นฟูและเตรียมพร้อมสำหรับวันต่อไป
00:14:57 → 00:14:59 นี่เป็นมุมมองที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับ
00:14:59 → 00:15:02 จังหวะเวลาของการกินนะครับที่อาจจะไม่ได้
00:15:02 → 00:15:05 มีแค่เรื่องความหิวหรือความสะดวกเท่านั้น
00:15:05 → 00:15:08 แต่ยังมีเรื่องของความพร้อมของกลไกภายใน
00:15:08 → 00:15:10 ร่างกายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
00:15:10 → 00:15:12 >> พอเราได้ไล่เรียงข้อมูลตามลำดับเวลาแบบ
00:15:12 → 00:15:15 นี้แล้วภาพมันชัดเจนขึ้นมากเลยนะคะว่าการ
00:15:15 → 00:15:17 ตอบสนองของอินซูลินในร่างกายเราเนี่ยมัน
00:15:17 → 00:15:21 ไม่ใช่ค่าคงที่แต่มันมีพลวัตมีจังหวะขึ้น
00:15:21 → 00:15:24 ลงและที่สำคัญคือมีหน้าที่หลักที่เปลี่ยน
00:15:24 → 00:15:27 ไปตามช่วงเวลาอย่างชัดเจนซึ่งทั้งหมดนี้
00:15:27 → 00:15:29 ตามข้อมูลที่เรามีดูเหมือนจะได้รับ
00:15:29 → 00:15:31 อิทธิพลโดยตรงจากคุณภาพของแสงอาทีที่
00:15:31 → 00:15:34 เปลี่ยนไปคือแสงสีม่วงในช่วงสายและแสงสี
00:15:34 → 00:15:36 แดงในช่วงเย็นน่ะค่ะ
00:15:36 → 00:15:39 >> ใช่ครับสรุปหัวใจสำคัญได้ดีมากเลยความแตก
00:15:39 → 00:15:42 ต่างในภารกิจหลักนี่แหละครับคือจุดที่น่า
00:15:42 → 00:15:46 สนใจที่สุดตามข้อมูลนี้ช่วงสายหลัง 10:00
00:15:46 → 00:15:49 น.อินซูลินที่ถูกกระตุ้นด้วยแสงสีม่วงจะ
00:15:49 → 00:15:53 ไวต่อการเก็บสารอาหารโดยมีตับเป็นเป้า
00:15:53 → 00:15:56 หมายหลักเหมือนการเติมคลังวัตถุดิบส่วน
00:15:56 → 00:15:59 ช่วงเย็นประมาณ 5-6 น.อินซูลินที่ถูก
00:15:59 → 00:16:01 กระตุ้นด้วยแสงสีแดงจะเปลี่ยนมาไวต่อการ
00:16:01 → 00:16:04 เก็บพลังงานที่ตับและโดยเฉพาะกล้างเนื้อ
00:16:04 → 00:16:07 เพื่อใช้ในการซ่อมแซมตอนกลางคืนพร้อมกับ
00:16:07 → 00:16:10 เก็บตกสารอาหารที่อาจยังขาดสิ่งที่น่า
00:16:10 → 00:16:13 ทึ่งตรงนี้คือมันเหมือนร่างกายมีระบบจัด
00:16:13 → 00:16:16 ตารางเวลาภายในที่มันซิงคกับสัญญาณจากดวง
00:16:16 → 00:16:18 อาทิตย์เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรให้
00:16:18 → 00:16:20 เหมาะสมที่สุดในแต่ละช่วงของวันเลยครับ
00:16:20 → 00:16:23 >> เป็นแนวคิดที่น่าทึ่งแล้วก็ชวนให้คิดต่อ
00:16:23 → 00:16:27 จริงๆค่ะการที่เราได้รับรู้ถึงจังหวะการ
00:16:27 → 00:16:29 ทำงานของอิอินซูลินที่อาจจะเชื่อมโยงกับ
00:16:29 → 00:16:32 แสงธรรมชาติตามข้อมูลชุดนี้มันก็อาจจะส่ง
00:16:32 → 00:16:35 ผลต่อมุมมองของเราเกี่ยวกับการเลือกเวลา
00:16:35 → 00:16:38 หรือแม้กระทั่งประเภทของอาหารในแต่ละมื้อ
00:16:38 → 00:16:41 ได้เหมือนกันนะคะไม่ใช่แค่ว่าหิวตอนไหนก็
00:16:41 → 00:16:44 กินตอนนั้นหรือกินอะไรก็ได้แต่เป็นการ
00:16:44 → 00:16:47 พิจารณาว่าเอ๊ะเราจะกินให้สอดคล้องกับ
00:16:47 → 00:16:49 สิ่งที่ร่างกายกำลังพร้อมที่จะจัดการได้
00:16:49 → 00:16:52 อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในขณะนั้นได้ยัง
00:16:52 → 00:16:55 ไงบ้างตามกลไกที่ข้อมูลนี้เสนอมาแน่นอน
00:16:55 → 00:16:57 ว่านี่เป็นเพียงข้อมูลชุดหนึ่งแต่ก็น่าสน
00:16:57 → 00:16:59 ใจมากๆเลยค่ะ
00:16:59 → 00:17:02 >> เป็นประเด็นที่เปิดมุมมองแล้วก็น่าจะนำไป
00:17:02 → 00:17:05 สู่การศึกษาเพื่อนเติมได้อีกเยอะเลยครับ
00:17:05 → 00:17:07 และเพื่อเป็นการกระตุ้นความคิดต่อยอดจาก
00:17:07 → 00:17:09 ข้อมูลที่เราคุยกันมาเนี่ยผมขอทิ้งท้าย
00:17:09 → 00:17:12 ด้วยคำถามชวนคิดสักหน่อยนะครับในเมื่อ
00:17:12 → 00:17:15 กลไกนาฬิกาอินซูลินที่ข้อมูลนี้กล่าวถึง
00:17:15 → 00:17:18 มันดูเหมือนจะเชื่อมโยงอย่างแนบแน่นกับวง
00:17:18 → 00:17:21 จรแสงธรรมชาติในแต่ละวันคือแสงสีม่วงที่
00:17:21 → 00:17:24 เข้มข้นขึ้นยามสายและแสงสีแดงที่เด่นชัด
00:17:24 → 00:17:27 ขึ้นยามเย็นลองจินตนาการต่อกันดูมั้ครับ
00:17:27 → 00:17:30 ว่าในวิถีชีวิตยุคปัจจุบันของเราที่ผู้คน
00:17:30 → 00:17:33 จำนวนมากใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในอาคารได้
00:17:33 → 00:17:35 รับแสงธรรมชาติไม่เต็มที่หรือต้องเผชิญ
00:17:35 → 00:17:38 กับแสงประดิษฐ์หลายรูปแบบในเวลากลางคืน
00:17:38 → 00:17:41 รวมถึงมีตารางการทำงานการนอนแล้วก็การกิน
00:17:41 → 00:17:43 ที่ไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับเวลาพระ
00:17:43 → 00:17:46 อาทิตย์ขึ้นลงเสมอไปปัจจัยเหล่านี้ของ
00:17:46 → 00:17:49 ชีวิตสมัยใหม่มันอาจจะส่งผลกระทบหรือรบ
00:17:49 → 00:17:51 กวนกลไกการทำงานของนาฬิกาอินซูลินที่
00:17:51 → 00:17:54 สัมพันธ์กับแสงธรรมชาตินี้ได้อย่างไรบ้าง
00:17:54 → 00:17:56 นี่เป็นคำถามที่ข้อมูลชุดนี้ไม่ได้ให้คำ
00:17:56 → 00:17:58 ตอบโดยตรงนะครับแต่เป็นสิ่งที่เราอาจจะ
00:17:58 → 00:18:01 ต้องนำกลับไปขบคิดและสังเกตการในบริบทของ
00:18:01 → 00:18:03 ชีวิตจริงของเราต่อไปครับ
00:18:03 → 00:18:21 [เพลง]