00:00:00 → 00:00:05 สวัสดีครับผมคิดว่าหลายคนนะครับน่าจะเคย ได้ยินคำกล่าวที่ว่าถ้าเราทานอาหารไม่ตรง
00:00:05 → 00:00:10 เวลาแล้วเนี่ยมันจะทำให้เราเกิดโรค กระเพาะได้จริงมั้ยครับคำกล่าวนี้เนี่ย
00:00:10 → 00:00:15 มันมีส่วนถูกบ้างนะครับแต่ว่าเอาจริงๆ แล้วเนี่ยโรคกระเพาะของคนเราเนี่ยมันเกิด
00:00:15 → 00:00:20 เพราะว่าเชื้อแบคทีเรียตัวนึชื่อว่า Helicobacter pylori นะครับเชื้อตัวนี้
00:00:20 → 00:00:26 มันคืออะไรมันติดมาได้อย่างไรมีวิธีในการ ตรวจแล้วก็รักษาอย่างไรติดซ้ำได้อีกหรือ
00:00:26 → 00:00:30 เปล่ามันเกี่ยวข้องกับโรคอะไรบ้างวันนี้ ผมก็จะเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ทุกคนฟังกัน
00:00:30 → 00:00:34 เลยนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธนีย์ ธนียวัน เป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศ
00:00:34 → 00:00:40 สหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอด การปลูกถ่าย ปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ สำหรับเชื้อ
00:00:40 → 00:00:46 Helicobacter pylori นั้นถ้าผมบอกไปเนี่ย หลายคนจะต้องตกใจแน่เพราะว่าเกือบครึ่ง
00:00:46 → 00:00:51 ค่อนโลกของเราเนี่ยนะครับมีเชื้อตัวนี้ อยู่ในกระเพาะ
00:00:51 → 00:00:57 อ่าปริมาณเยอะมากเลยนะครับที่มีเชื้อตัว นี้อยู่ในกระเพาะแต่มันไม่ใช่ทุกคนจะแสดง
00:00:57 → 00:01:02 อาการออกมานะครับปัจจุบันเรายังไม่แน่ใจ เลยว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้คนๆนึงเนี่ยแสดง
00:01:02 → 00:01:10 อาการของการติดเชื้อ HP ในกระเพาะออกมานะ ครับเชื้อตัวนี้มันมีความพิเศษนะครับคือ
00:01:10 → 00:01:17 มันจะอาศัยคนนี่แหละครับเป็นตัวเพาะเชื้อ นะครับแล้วก็ส่งต่อเชื้อไปให้คนอื่นๆด้วย
00:01:17 → 00:01:22 กันนะครับดังนั้นการที่เรารับประทานอาหาร ร่วมกันเนี่ยบางทีอาจจะมีส่วนตัวนี้
00:01:22 → 00:01:27 เหมือนกันแต่ว่าลักษณะหลักๆเลยนะครับคือ เชื้อตัวเนี้ยมันจะขับถ่ายออกมาทาง
00:01:27 → 00:01:31 อุจจาระนะครับหลังจากนั้นถ้ามันไปปน เปื้อนกับอะไรสักอย่างก็แล้วแต่นะครับ
00:01:31 → 00:01:36 แล้วมีการกินเข้าไปเนี่ยก็จะทำให้อีกคน นึงสามารถได้รับเชื้อตัวนี้ไปนะครับเรา
00:01:36 → 00:01:42 เรียกว่า F oral Root Transmission นะ ครับทีนี้มันก็แปลว่าประเทศที่มี
00:01:42 → 00:01:48 สาธารณสุขที่ไม่ค่อยดีนะครับโอกาสในการ ติดเชื้อตัวนี้ก็จะสูงนะครับถ้าเป็นใน
00:01:48 → 00:01:52 ประเทศที่มีปัญหาเรื่องสาธารณสุขมากๆ เนี่ยส่วนใหญ่เด็กเกือบทุกคนน่ะ 10 ขวบ
00:01:52 → 00:01:57 มันก็มีเชื้อตรงนี้ในกระเพาะหมดและนะครับ แต่ในประเทศที่การสาธารณสุขของเขาคเนี่ย
00:01:57 → 00:02:01 มีความเจริญสูงมากๆเนี่ยมักจะเจอการติด เชื้อในผู้ใหญ่ซะมากกว่านะครับไม่ค่อยเจอ
00:02:01 → 00:02:07 ในเด็กเท่าไหร่นะครับเออนั่นแหละคือเป็น สาเหตุหลักเลยว่าเอ้ยเชื้อตัวนี้มันมันมา
00:02:07 → 00:02:13 จากไหนตอนนี้เราคงรู้แล้วใช่มั้ยครับต่อ มาทำไมมันจึงทนกรดในกระเพาะได้นะครับ
00:02:13 → 00:02:17 เพราะว่าทุกๆครั้งที่เราพูดกันเนี่ยเรา บอกว่าเออเนี่ยถ้ากรดเพราะมันมีกรดเยอะๆ
00:02:17 → 00:02:22 เชื้อโรคอะไรตกลงไปมันก็ต้องตายแต่ไอ้ตัว นี้มันไม่ตายนะครับเหตุผลที่มันไม่ตายก็
00:02:22 → 00:02:30 เพราะว่ามันสามารถที่จะทำลายยูเรียที่ เป็นเอ่อส่วนประกอบของเยื่อเมือกในผนัง
00:02:30 → 00:02:34 กระเพาะของเรานะครับทำลายแล้วมันก็แยกให้ ออกมาเป็นเ่อตัวแอมโมเนียแอมโมเนียเนี่ย
00:02:34 → 00:02:40 มันมีฤทธิ์เป็นด่างนะครับทำให้ตัวมันเอง เนี่ยมีเกราะคุ้มกันภัยจากกรดในกระเพาะ
00:02:40 → 00:02:45 แล้วก็อยู่ตรงนั้นได้แล้วมันไม่ได้อยู่ เฉยๆนะครับมันก็ก่อให้เกิดการอักเสบใน
00:02:45 → 00:02:51 บริเวณข้างเคียงนะฮะแล้วก็มีผลต่อการ หลั่งกรดของกระเพาะพอมันมีผลแบบนี้แล้ว
00:02:51 → 00:02:56 เนี่ยหลังจากนั้นปุ๊บมันก็จะเกิดปัญหาละ เกิดแผลในกระเพาะเกิดกระเพาะอักเสบหรือ
00:02:56 → 00:03:01 บางกรณีกลายเป็นเป็นมะเร็งบางชนิดได้นะ ครับนั่นนั่นคือปัญหาของตัวเชื้อ
00:03:01 → 00:03:07 helicobacter paral นะครับปัจจุบันเรา ยังไม่แน่ใจว่าทำไมบางคนถึงมีอาการแล้ว
00:03:07 → 00:03:13 บางคนถึงไม่มีอาการนะครับแต่ถ้าเกิดคนที่ ไม่มีอาการเราไม่ต้องรักษานะครับเราจะ
00:03:13 → 00:03:19 ตรวจก็ต่อเมื่อเราสงสัยว่าเป็นโรคอะไรสัก อย่างแล้วการรักษาจะช่วยเรื่องโรคอันนั้น
00:03:19 → 00:03:25 ได้นะครับโรคอะไรบ้างที่เราจะต้องตรวจนะ ครับคนไหนที่เราควรจะต้องตรวจหาเชื้อ
00:03:25 → 00:03:30 Helicobacter pylori แล้วเดี๋ยวเราจะพูดกันว่ามัน ตรวจได้ยังไงบ้างนะครับอันแรกถ้าท่านมี
00:03:30 → 00:03:35 อาการปวดท้องโรคกระเพาะอันนี้แน่นอนอยู่ และปวดท้องโรคกระเพาะมันเป็นยังไงนะครับ
00:03:35 → 00:03:40 ส่วนใหญ่มันก็จะมีอาการแสบบริเวณลิ้นปี่ นะครับลิ้นปี่ก็คือตรงกลางของเ่อตรงเนี้ย
00:03:40 → 00:03:44 นะครับคือถ้าขึ้นมานิดนึงมันจะเป็นกระดูก หน้าอกใต้ตรงนั้นลงไปนิดนึงเนี่ยเป็นที่
00:03:44 → 00:03:51 อยู่ของกระเพาะนะครับแล้วเวลาแสบเนี่ยมัน แสบตรงบริเวณนี้นะฮะอ่าแสบตรงบริเวณนี้
00:03:51 → 00:03:56 แล้วบางคนเนี่ยตอนหิวมากๆก็จะยิ่งแสบบาง คนประมาณสัก 1:00 น 2:00 นเนี่ยตื่นมา
00:03:56 → 00:04:01 แล้วแสบท้องอันนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นนะ ครับอีกกรณีนึงก็คือเวลาที่เราทานอาหาร
00:04:01 → 00:04:06 เข้าไปอิ่มๆบางคนก็แสบมากขึ้นกว่าเดิมอัน นี้ก็สามารถที่จะเป็นอาการของโรคกระเพาะ
00:04:06 → 00:04:12 ได้นะครับหรือจริงๆทางษาทางการแพทย์เราจะ เรียกมันว่า peptic ulcer นะครับนั่นแหละ
00:04:12 → 00:04:16 ที่เราจะต้องส่องกล้องเข้าไปดูเราถึงจะ บอกได้แต่ว่ายังไงก็ต้องทดสอบหาเชื้อตัว
00:04:16 → 00:04:22 นี้เพราะว่าการรักษามันจะทำให้ภาวะนี้ดี ขึ้นได้นะครับนี่คือกรณีเกิดแผลในกระเพาะ
00:04:22 → 00:04:27 อีกกรณีนึงก็คือกระเพาะทั่วๆเนี่ยมัน อักเสบหมดเลยนะครับเราจะเรียกมันว่า
00:04:27 → 00:04:31 chronic gastritis นะครับก็คือการ อักเสบเรื้อรังของกระเพาะจากเชื้อตัวนี้
00:04:31 → 00:04:36 นั่นเองนะฮะบางกรณีมันทำให้เรามีการเสีย เลือดปริมาณน้อยๆไปเรื่อยๆแล้วก็สุดท้าย
00:04:36 → 00:04:43 นำไปสู่ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ได้นะครับการขาดธาตุเหล็กหลายๆคนอาจจะเคย
00:04:43 → 00:04:47 ได้ยินว่าเอ๊ะมันทำให้โลหิตจางได้นะครับ แต่มันก็สามารถที่จะทำให้เป็นโรคอื่นได้
00:04:47 → 00:04:53 ยกตัวอย่างเช่นมีอาการแขนขากระตุกในเวลา กลางคืนนะครับบางคนก็มีอาการผมร่วงได้นะ
00:04:53 → 00:04:58 ครับพวกนี้ก็มีความเกี่ยวข้องกันหมดนะฮะ งั้นพวกนี้ก็มีความสำคัญที่เราจำเป็นจะ
00:04:58 → 00:05:03 ต้องไปตรวจถ้าเรามีพภาวะโลหิตจางที่หา สาเหตุไม่ได้เราก็ต้องหาเชื้อตัวนี้ด้วย
00:05:03 → 00:05:09 นะครับอีกอย่างนึงเนื่องจากว่ามันไปยุ่ง กับกระบวนการอักเสบในกระเพาะอาหารมันก็จะ
00:05:09 → 00:05:14 สามารถทำให้เกิดมะเร็งของกระเพาะอาหารได้ ยกตัวอย่างเช่นมะเร็งของเซลล์กระเพาะนะ
00:05:14 → 00:05:19 ครับเราก็จะเรียกมันว่า gastric adenocarcinoma นะครับมะเร็งอีกชนิด
00:05:19 → 00:05:24 หนึ่งในกระเพาะก็คือมะเร็งที่มันเกี่ยว ข้องกับเนื้อเยื่อน้ำเหลืองซึ่งมีอยู่ใน
00:05:24 → 00:05:29 กระเพาะเรานะครับเราจะเรียกมันว่าลิฟนั่น เองนะครับก็จะมี 2 ชนิดหลักๆที่มีความ
00:05:29 → 00:05:34 เกี่ยวข้องกับเชื้อตัวนี้ตัวนึงก็คือ gastric marginal zone lymphoma นะ
00:05:34 → 00:05:40 ครับกับอีกชนิดนึงคือ gastric mucosal associated lymphoid tissue lymphoma นะครับ
00:05:40 → 00:05:46 อันเนี้ย 2 อันนี้ก็เป็นมะเร็งกระเพาะที่ มันมีความเกี่ยวข้องกับตัวเชื้อ H pylori
00:05:46 → 00:05:51 แล้วการรักษาเชื้อ H pylori นี้ทำให้ เรื่องพวกเนี้ยมันดีขึ้นได้ด้วยนะครับที
00:05:51 → 00:05:56 นี้มันก็จะมีอีกกรณีนึงซึ่งหลายๆคนอาจจะ ไม่ค่อยคิดถึงเท่าไหร่มีอีก 2 กรณีที่ไม่
00:05:56 → 00:06:02 ค่อยคิดถึงกรณีแรกคือภาวะที่เรามีเกล็ด เลือดต่ำจากการที่มีเ่อภูมิพุกันไปทำลาย
00:06:02 → 00:06:08 มันหรือภาษาทางการแพทย์เราจะเรียกว่าโรค ITP นะครับ idiopathic thrombocytopenia
00:06:08 → 00:06:14 นะครับอันเนี้ยบางกรณีมีความเกี่ยวข้อง กับเชื้อ H pyloril นะการรักษาแล้วบาง
00:06:14 → 00:06:19 ครั้งทำให้ดีขึ้นได้นะฮะและสุดท้ายท่าน ที่ต้องกินยาอะไรก็แล้วแต่ที่มันมีการกัด
00:06:19 → 00:06:24 กระเพาะระยะยาวยกตัวอย่างเช่นยาเอ็นเสด ที่ผมพูดบ่อยๆนี่แหละครับ nonsteroidal
00:06:24 → 00:06:30 anti-inflammatory drug ยกตัวอย่างเช่น Ibuprofen naproxen นะครับครับอย่าง
00:06:30 → 00:06:36 เงี้ยนะครับพสนกินนันๆ mefenamic acid ไดฟีคนะครับพวกเนี้ยกินยาวๆนานๆเนี่ยแนะ
00:06:36 → 00:06:40 นำว่าควรจะต้องตรวจหาเชื้อตัวนี้ก่อน เพราะว่าถ้าท่านกินไอ้พวกนั้นเข้าไปเนี่ย
00:06:40 → 00:06:45 เนื่องจากว่ายามันกัดกระเพาะอยู่แล้วถ้า หากท่านมีเชื้อตัวนี้อยู่มันอาจจะทำให้
00:06:45 → 00:06:51 ท่านมีปัญหาทางด้านของเลือดออกในกระเพาะ อาหารได้อีกประการนึงคือคนที่ต้องกินแสปน
00:06:51 → 00:06:58 เป็นเวลานานๆนะครับ อ่ายกตัวอย่างเช่นคน ที่มีปัญหาเรื่องของหลอดเลือดหัวใจ
00:06:58 → 00:07:04 อุดตันนะมีทำ Stent มา เป็นเบาหวานที่ต้องกิน aspirin ปัญหาเรื่องหลอดเลือดของเราเนี่ย
00:07:04 → 00:07:08 มันแข็งตัวแล้วก็มีไขมันไปอุดตันแล้วต้อง กิน aspirin
00:07:08 → 00:07:14 มีเส้นเลือดสมองมันตีบแล้วต้องกิน aspirin เนี้ยนะครับในทางการแพทย์จริงๆ
00:07:14 → 00:07:20 ถ้าเป็นไปได้เนี่ยเรามักจะตรวจหาไอ้เชื้อ ตัวนี้ก่อนนะครับนี่คือกรณีที่ตรวจแล้วก็
00:07:20 → 00:07:26 มีอีกกรณีนึงคือถ้าในประวัติครอบครัวของ ท่านเนี่ยมีคนเป็นมะเร็งกระเพาะอยู่นะโดย
00:07:26 → 00:07:30 เฉพาะคนเอเชียเนี่ยหลายๆครั้งเราก็แนะนำ ว่าการตรวจแล้วก็ไปเจอเชื้อตัวนี้ก่อน
00:07:30 → 00:07:35 เนี่ยการรักษาอาจจะช่วยป้องกันไม่ให้ มะเร็งมันเกิดขึ้นในตัวท่านก็ได้นะครับ
00:07:35 → 00:07:39 ดังนั้นสิ่งเหล่านี้คือเหตุผลที่เรา จำเป็นจะต้องตรวจนะครับไม่ได้ตรวจทุกคน
00:07:39 → 00:07:44 แต่ว่าต้องตรวจเมื่อมีอาการนะครับมีปัญหา เรื่องของมะเร็งกระเพาะหรือมีความเสี่ยง
00:07:44 → 00:07:49 ในครอบครัวว่าจะเป็นมะเร็งกระเพาะนะครับ มีภาวะกลดเลือดต่ำที่เรียกว่า itp แล้วก็
00:07:49 → 00:07:54 คนที่ต้องกินยาที่มันกัดกระเพาะนานๆเช่น ยากลุ่มเอ็นเสดยาแสปนไม่ว่าจะขนาดต่ำแค่
00:07:54 → 00:08:01 ไหนก็มีคำแนะนำว่าควรจะต้องตรวจนะครับที นี้เวลาเราตรวจแล้วเตรวจอะไรล่ะนะครับมัน
00:08:01 → 00:08:06 ก็จะมีการตรวจหลักๆอยู่ 4 วิธีด้วยกัน วิธีแรกตรงไปตรงมาเราส่องกล้องเข้าไปใน
00:08:06 → 00:08:10 กระเพาะอาหารนะครับแล้วก็ไปตัดชิ้นเนื้อ มาแล้วเอาชิ้นเนื้อเนี่ยเอาไปย้อมสีเอาไป
00:08:10 → 00:08:16 เพาะหรือเอาไปดูก็ได้นะครับว่ามันจะมี เชื้อตัวนี้อยู่หรือเปล่านะครับวิธีที่ 2
00:08:16 → 00:08:22 เป็นวิธีที่เราเรียกว่า uria Breath Test นะครับคือเนื่องจากเชื้อตัวนี้เมัน
00:08:22 → 00:08:27 สามารถย่อยยูเรียได้แล้วก็เปลี่ยนแปลงไป เป็นแอมโมเนียกับคาร์บอนไดออกไซด์ใช่มั้ย
00:08:27 → 00:08:31 ครับในทางการแพทย์เนี่ยเราก็จะมีไอ้ตัว แอมโมเนียตัวเนี้ยแต่ว่าจะเป็นแอมโมเนีย
00:08:31 → 00:08:36 ชนิดพิเศษที่เราใส่คาร์บอนตัวพิเศษเข้าไป นะครับเราให้คนไข้กินเข้าไปเชื้อตัวนี้
00:08:36 → 00:08:39 ถ้ามันอยู่ในนั้นนะครับมันก็จะย่อยยูเรีย ตัวนี้แล้วก็พอมันย่อยกลายไปเป็น
00:08:39 → 00:08:43 แอมโมเนียกับคาร์บอนไดออกไซด์เราก็จะหาย ใจคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งมันประกอบไปด้วย
00:08:43 → 00:08:48 คาร์บอนพิเศษที่เราใส่เข้าไปนี่แหละครับ แล้วก็เครื่องจะตรวจจับได้ถ้ามันเป็นบวก
00:08:48 → 00:08:54 อ่าเราก็จะรู้ว่าคนๆเนี้ยมีการติดเชื้อ อยู่นะครับวิธีที่ 3 คือการที่เราตรวจใน
00:08:54 → 00:09:00 อุจจาระเลยหาเชื้อตัวนี้นะครับแล้วก็วิธี สุดท้ายคือการตรวจหาแอนติบี้ซึ่งไม่แนะนำ
00:09:00 → 00:09:05 เท่าไหร่เพราะว่าการที่เรามีแอนติบอดี้ ต่อเชื้อตัวนี้ในร่างกายเนี่ยมันแปลว่า
00:09:05 → 00:09:09 เราเคยมีการติดเชื้อมาก่อนไม่ได้แปลว่า เชื้อมันยังอยู่หรือว่าเชื้อมันตายไปแล้ว
00:09:09 → 00:09:15 บอกไม่ได้นะครับส่วนใหญ่ผมก็ไม่เคยใช้การ ตรวจแบบแอนติบอดี้เลยนะฮะทีนี้มีข้อควร
00:09:15 → 00:09:21 ระวังอะไรบ้างกับการตรวจพวกนี้นะครับถ้า ท่านกินยารดกรดหรือกินยาฆ่าเชื้ออะไรก็
00:09:21 → 00:09:25 แล้วแต่เนี่ยมันจะทำให้ผลพวกเนี้ยผิด เพี้ยนไปได้นะครับส่วนใหญถ้าท่านกินยารด
00:09:25 → 00:09:29 กรดอยู่แล้วยังไม่ได้หยุดมาเนี่ยนะครับ มันอาจจะได้ผลเป็นลบก็ได้จากการตรวจพวก
00:09:29 → 00:09:33 นี้นะครับหรือการกินยาฆ่าเชื้อก็ทำให้มัน เป็นลบได้เหมือนกันดังนั้นเนี่ยก่อนจะไป
00:09:33 → 00:09:38 ตรวจเนี่ยหมอเจะมีคำแนะนำว่าเออถ้าเรากิน ยาลดกรดอยู่นะกลุ่มพวกโปรตอนปั๊ม
00:09:38 → 00:09:42 อินฮิบิเตอร์พวกเนี้ยเราต้องหยุดไปสัก ประมาณ 2 สัปดาห์ถ้าเรากินยาพวกยาฆ่า
00:09:42 → 00:09:47 เชื้อต่างๆหรือว่าเคยรักษามาก่อนเราต้อง หยุดไปอย่างน้อยก็เดือนนึงนะครับอ่ะทีนี้
00:09:47 → 00:09:52 พอเรารู้ว่าเราตรวจวิธีไหนได้แล้วบ้างนะ ครับวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการตรวจ uria
00:09:52 → 00:09:56 breast Test พวกนี้แต่ว่าตามโรงพยาบาล ต่างจังหวัดมันทำกันไม่ได้นะครับตรวจ
00:09:56 → 00:10:00 อุจระก็ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้ตรวจกันได้ หรือเปล่าถ้าไม่ได้ก็อาจจำเป็นจะต้องส่อง
00:10:00 → 00:10:06 กล้องในกรณีที่มีความเสี่ยงสูงนะครับหรือ ในบางกรณีถ้าตรวจแอนติบอดี้ก็อาจจะช่วยใน
00:10:06 → 00:10:10 บางกรณีเช่นถ้าเราสงสัยว่าเอ๊ะเรามี มะเร็งกระเพาะอะไรอย่างเงี้ยนะครับแล้ว
00:10:10 → 00:10:17 เราจำเป็นจะต้องหาเหตุเราก็อาจจะตรวจพวก นี้ได้บ้างนะครับอ่ะแล้วยังไงต่อหลังจาก
00:10:17 → 00:10:23 เราตรวจแล้วยังไงต่อถ้าตรวจมันแปลว่าเรา ต้องการรักษาถูกมั้ยครับแล้วเรารักษา
00:10:23 → 00:10:28 รักษาได้ด้วยยังไงบ้างตรงนี้แหละครับที่ คุณสำคัญมากๆเวลาที่เรารักษานะครับมันจะ
00:10:28 → 00:10:34 ต้องประกอบไปด้วยยาลดกรดตัวนึงแล้วก็ยา ฆ่าเชื้ออีกอย่างน้อย 2 ตัวนะครับระยะ
00:10:34 → 00:10:39 เวลาที่เรากินยาพวกเนี้ยมันจะอยู่ที่ ประมาณซัก 10-14 วันแต่เดี๋ยวเนี้แนะนำ
00:10:39 → 00:10:45 ว่า 14 วันจะปลอดภัยที่สุดเพราะว่าอะไร เพราะว่าโอกาสที่เชื้อตัวเนี้ยมันดื้อยา
00:10:45 → 00:10:51 มันสูงมากขึ้นเยอะเลยนะครับสมัยก่อนตอนผม เรียนเป็นนิสิตแพทย์เนี่ยไอ้เรื่องของการ
00:10:51 → 00:10:56 ดื้อยาของเชื้อตงนี้ยังไม่ค่อยได้เด่น เท่าไหร่สูตรที่เราจำกันก็ยาสูตไม่ค่อยมี
00:10:56 → 00:11:02 อะไรเท่าไหร่นะครับง่ายๆแต่ตอนเนี้ยมันมี การเชื้อดือยาเกิดขึ้นนะครับเพราะว่าอะไร
00:11:02 → 00:11:06 เพราะว่ามันมีการใช้ยาฆ่าเชื้ออย่างไม่สม เหตุสมผลกันค่อนข้างที่จะเยอะหรือบางกรณี
00:11:06 → 00:11:12 สมเหตุสมผลนั่นแหละแต่ว่ามันก็มีโอกาสทำ ให้เกิดเชื้อด้วยาเช่นในกลุ่มยาที่เรา
00:11:12 → 00:11:19 ต้องกินฆ่าเชื้อเนี่ยมันจะมียาตัวนึงชื่อ ว่าคิมินะครับคิมิเป็นยากลุ่มที่เราเรียก
00:11:19 → 00:11:25 ว่าแครนแอบตินะครับดังนั้นถ้าท่านเคยกิน ยากลุ่มเดียวกันเนี่ยไม่ว่าจะเพราะอะไรก็
00:11:25 → 00:11:33 แล้วแต่เช่นเจ็บคอหมอให้อ่าอโมซินมากิน ให้ซิมิมากินมันเป็นยากลุ่มแมคโครซึ่งก็
00:11:33 → 00:11:38 คือกลุ่มเดียวกับ ไมซินมันจะทำให้โอกาสที่ท่านจะรักษาเชื้อ
00:11:38 → 00:11:46 HP ในกระเพาะท่านด้วยยากลุ่มคมินเนี่ย ไม่ได้ผลนะครับไม่ได้ผลนะหรือบางคนเป็น
00:11:46 → 00:11:52 ท้องเสียทีไรก็ต้องกิน norfloxacin ทุกทีเลย นะครับ norfloxacin เป็นยากลุ่มที่เราเรียก
00:11:52 → 00:11:56 ว่า quinolone antibiotic นะครับดังนั้น เนี่ยมันจะมียาบางกลุ่มที่ใช้ในการรักษา
00:11:56 → 00:12:03 เชื้อ HP ชื่อ fluoquinolone ตัวนึง ชื่อว่า levofloxacin แปลว่าถ้าท่านเคยกิน
00:12:03 → 00:12:09 ยาท้องเสียกินไอ้นี่ทุกทีเลยเวลาป่วยกิน ไอ้นี่ก็อาจจะใช้ไม่ได้หรือบางคนมีการติด
00:12:09 → 00:12:16 เชื้อในทางเดินปัสสาวะกินกินยา ciprofloxacin ซึ่งก็คือยากลุ่มเดียวกับ levofloxacin ดัง
00:12:16 → 00:12:20 นั้นเวลาที่ท่านป่วยขึ้นมาจริงๆท่านก็จะ ใช้ยากลุ่มนี้ไม่ได้อีกต่างหากนั่นคือ
00:12:20 → 00:12:27 ปัญหานะครับดังนั้นส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้นะ ครับในอเมริกาเนี่ยเวลาที่เราจะรักษาโรค
00:12:27 → 00:12:34 กลุ่มเนี้ยเรามักจะใช้ยา 4 ตัวคู่กันเลย 4 ตัวนะของอเมริกานะครับของไทยผมไม่รู้จะ
00:12:34 → 00:12:38 เป็นแบบนี้หรือเปล่าแต่ที่อเมริกาทำไม ต้องใช้ยา 4 ตัวนี้เพราะว่ามันมีโอกาส
00:12:38 → 00:12:46 ดื้อยาสูงมาก ยา 4 ตัวนี้ประกอบไปด้วย 1 ยา
00:12:46 → 00:12:52 ลดกรดกลุ่มที่เรียก Proton pump inhibitor เช่น omeprazole esomeprazole pantoprazole rabeprazole พวกนี้เป็นต้น
00:12:52 → 00:12:59 ตัวที่ 2 bismuth subcitrate และ bismuth subsalicylate นะครับ ตัวใดตัว
00:12:59 → 00:13:03 หนึ่งนะครับ แต่สองตัวนี้กินไปแล้วอุจจาระ ท่านอาจจะดำๆหน่อยนะครับ แต่ว่ามันก็เป็น
00:13:03 → 00:13:10 ตัวที่ต้องทานเข้าไป ตัวที่ 3 คือเป็นยา ฆ่าเชื้อและยาฆ่าเชื้อตัวนี้เช่น
00:13:10 → 00:13:18 กลุ่ม metronidazole นะครับแล้วก็ตัวที่ 4 คือยา tetracycline/ doxycycline สำหรับยา metronidazole นั้น
00:13:18 → 00:13:22 ห้ามกินกับเหล้าเลยทีเดียวถ้าเคยกินกับ เหล้าเข้าไปนะมันอาจจะมีอาการวูบวาบนะ
00:13:22 → 00:13:27 ครับใจสั่นนะครับเหมือนจะตายเลยนะครับก็ อยากกินคู่กับเหล้าเด็ดขาดห้ามกินนะฮะ
00:13:27 → 00:13:32 จริงๆเหล้าก็ไม่คกินตอนที่ท่านเป็นโรค กระเพาะอยู่แล้วนะครับเซตัวมันเองคือบาง
00:13:32 → 00:13:37 คนกินแล้วจะคลื่นแส่อาเจียนนะบางคนจะมี รู้สึกลิ้มลิ้มรสมันประหลาดประหลาดไป
00:13:37 → 00:13:42 เหมือนกับเราลิ้มลิ้มรสพวกเหล็กอะไรอย่าง เงี้ยนะครับแล้วก็ doxycycline กับ tetracycline
00:13:42 → 00:13:45 จะเป็นตัวใดตัวหนึ่งก็ได้แต่พวกนี้ ถ้ากินเข้าไปแล้วเนี่ยต้องอย่าไปเจอแสง
00:13:45 → 00:13:50 แดดเยอะนะไม่งั้นมันจะมีปัญหาได้แล้วถ้า กินก็ต้องเลือกยาที่มันไม่หมดอายุนะเพราะ
00:13:50 → 00:13:55 ไม่ฉะนั้นอันตรายมากๆยาพวกนี้กิน 4 ตัว เนี่ยต่อเนื่องกัน 2 สัปดาห์เป็นต้อง 2
00:13:55 → 00:14:00 สัปดาห์ด้วยนะห้ามกินกินหยุดๆเด็ดขาดหรือ กินไม่ครบเนี่ยเไม่ได้เพราะว่าโอกาสหาย
00:14:00 → 00:14:07 เนี่ยมันจะยากนะครับส่วนบางทีเราอาจจะใช้ ยา 3 ตัวก็ได้แต่ว่าโอกาสดื้อยามันสูงก็คือ
00:14:07 → 00:14:14 ยากลุ่มลดกรด ppi นะครับยา clarithromycin นะครับ แล้วก็เป็นยา amoxicillin อีกตัวนึงซึ่งสามารถ
00:14:14 → 00:14:18 ที่จะกินเข้าไปได้นะครับยาฆ่าเชื้อเนี่ย มันมีไม่กี่ตัวที่เราจะเอาเลือกมารวมกัน
00:14:18 → 00:14:30 ก็จะมี clarithromycin, amoxicillin, levofloxacin tetracycline/doxycycline, metronidazole นะครับแล้วก็ในบางกรณีที่ดื้อ
00:14:30 → 00:14:35 มากๆเนี่ยมันจะต้องใช้ยาพิเศษตัวนึงชื่อ rifabutin นะครับจริงๆก็มีตัวอื่น
00:14:35 → 00:14:39 อีกนะครับแต่ตรงนี้ให้หมอที่เขารักษาเป็น คนตัดสินใจแล้วกันนะครับรักษาไป 2
00:14:39 → 00:14:46 อาทิตย์แล้วไงต่อรักษาไป 2 อาทิตย์แล้ว ท่านหยุดยาครับหยุดแล้วไงต่อท่านจะต้อง
00:14:46 → 00:14:54 ตรวจติดตามว่ามันหายแล้วแน่ๆนะครับโดยรอ ไป 1 เดือนแล้วจึงตรวจซ้ำนะครับตรวจซ้ำ
00:14:54 → 00:14:59 ด้วยอะไรอาจจะตรวจซ้ำด้วย urea breath คือกินเข้าไปแล้วก็ก็ตรวจลมหายใจท่านก็
00:14:59 → 00:15:03 ได้หรือตรวจอุจจาระก็ได้ 2 วิธีเนี้ยเป็น วิธีที่ไม่ต้องส่องกล้องนะครับแล้วถ้า
00:15:03 → 00:15:08 เชื้อมันยังอยู่ ล่ะเชื้อมันยังอยู่เราก็อาจจะต้องกินอีก
00:15:08 → 00:15:13 ครั้งหนึ่งนะครับแต่คราวนี้ก็อาจจะต้องมี การปรับสูตบ้างนะครับแล้วถ้า 2 ครั้งอ่ะ
00:15:13 → 00:15:19 กินครั้งที่ 2 เสร็จปุ๊บครบแล้วรออีก เดือนเชื้อมันยังอยู่ล่ะไอ้อย่างเงี้ยอาจ
00:15:19 → 00:15:25 จะต้องมีการส่องกล้องเข้าไปซ้ำนะครับแล้ว ก็ไปตัดชิ้นเนื้อเอาเชื้อเนี่ยมาเพาะเลย
00:15:25 → 00:15:30 ดูซิว่ามันดื้อยาตัวไหนบ้างเราจะได้เลือก ยาให้ถูกต้องนะครับงั้นนี่คือวิธีในการ
00:15:30 → 00:15:34 รักษาจะต้องมียาหลายสูตรหน่อยมันขึ้นอยู่ กับว่ากรณีของคุณเมันเป็นซ้ำแล้วซ้ำอีก
00:15:34 → 00:15:39 ได้ไหมนะครับดังนั้นเนี่ยที่ผมพูดเมื่อ กี้บอกว่าเอ๊ะทำไมเราต้องตรวจซ้ำทำไมบาง
00:15:39 → 00:15:45 ทีเราต้องส่องกล้องซ้ำมันตอบคำถามอะไรคุณ อย่างหนึ่งครับมันตอบคำถามว่าการติดเชื้อ
00:15:45 → 00:15:52 ตัวเนี้ยโอกาสหายเนี่ยมันมีแต่มันมีไม่ 100% ถูกมั้ยครับจริงๆแล้วในการรักษา
00:15:52 → 00:15:56 เนี่ยครับจะมีสักประมาณ 20% ที่มันไม่หาย แล้วต้องมากินยาอีกรอบนึงดังนั้นบางคน
00:15:56 → 00:16:00 เนี่ยทำไมกินยาไปเสร็จปุ๊บเนี่ยมันเหมือน กับว่าปลวดท้องมันจะดีขึ้นนะทำไมมันเป็น
00:16:00 → 00:16:04 อีกอ่ะนะเป็นอีกก็ไปหายาแก้ปลดท้องหรือไป หาหมอท่านอื่นแล้วถ้าหมอที่เขาไม่เข้าใจ
00:16:04 → 00:16:09 เรื่องพวกเก็จะคิดว่าเออมันคงเป็นปวดจาก อย่างอื่นมั้งเพราะเชื้อตัวนี้มันคงตายไป
00:16:09 → 00:16:13 แล้วนะครับเปล่าเลยครับมันยังไม่ตายนะ ครับอีกอย่างนึงซึ่งเกี่ยวข้องกับการที่
00:16:13 → 00:16:19 ผมเล่าเรื่องนี้ก็เพราะว่าการที่คุณกินยา พวกเนี้ยคุณจะรู้ได้ยังไงว่ามันเป็นเชื้อ
00:16:19 → 00:16:25 ตัวเดิมหรือเป็นเชื้อตัวใหม่ที่ติดเข้าไป ใหม่เออต้องบอกอย่างนี้ก่อนครับจากการ
00:16:25 → 00:16:30 สำรวจทั้งหมดเนี่ยโอกาสในการติดเชื้อตัว ใหม่ซ้ำเข้าไปหลังจากที่เรารักษาหายแล้ว
00:16:30 → 00:16:37 เนี่ยอยู่ที่ประมาณ 2% ต่อปีซึ่งน้อยมากๆ มันหมายความว่าจริงๆแล้วถ้าเรายังเจอ
00:16:37 → 00:16:41 เชื้ออยู่หลังจากที่เรารักษาไปแล้วเนี่ย มันมักจะเป็นไอ้เชื้อตัวเดิมนั่นแหละครับ
00:16:41 → 00:16:47 ที่มันยังไม่ตายนะครับถ้าเรารักษาจน กระทั่งมันหายไปหมดเรียบร้อยแล้วเนี่ย
00:16:47 → 00:16:53 แล้วไปตรวจซ้ำอีกรอบนึงมันยังอยู่อันนั้น น่ะเชื้อเก่าครับไม่ใช่เชื้อใหม่นะโอกาส
00:16:53 → 00:16:59 ติดเชื้อใหม่มันเป็นได้ยากมากแต่ว่าเราก็ ยังไม่แน่ใจว่าเหตุผลที่ที่มันติดเชื้อ
00:16:59 → 00:17:03 ใหม่ได้ยากมากมันเป็นเพราะอะไรในทางการ แพทย์เราคิดว่ามันน่าจะเป็นจากการที่เอ่อ
00:17:03 → 00:17:08 ร่างกายของเราเนี่ยสามารถที่จะสร้างภูมิ ต้านทานที่จะป้องกันไม่ให้เชื้อมันกลับมา
00:17:08 → 00:17:12 ใหม่ได้นะครับอันนี้ก็เป็นความเข้าใจใน ปัจจุบันนี้แต่ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริง
00:17:12 → 00:17:18 หรือเปล่าก็คงจะต้องรอดูข้อมูลต่อไปใน อนาคตนะครับดังนั้นวันนี้ก็หวังว่าทุก
00:17:18 → 00:17:22 ท่านนะครับคงจะเข้าใจแล้วว่าเอ๊โรค กระเพาะเนี่ยจริงๆแล้วนะครับหลักหลักของ
00:17:22 → 00:17:28 เขาคเนี่ยเกิดจากเชื้อตัว H parol นะ ครับซึ่ง H parol ในคนนะครับมันมักจะ
00:17:28 → 00:17:34 อยู่ในคนนี้แหละแล้วก็มีแค่บางคนเท่านั้น ที่แสดงอาการคนที่ต้องตรวจหาเชื้อตัวนี้
00:17:34 → 00:17:38 ก็คนที่เป็นโรคกระเพาะแน่นอนต้องตรวจนะ ครับคนที่มีมะเร็งกระเพาะชนิดต่างๆนะครับ
00:17:38 → 00:17:42 หรือมีประวัติว่าครอบครัวเป็นมะเร็ง กระเพาะคนที่มีโรคกลิตเลือต่ำที่เรียกว่า
00:17:42 → 00:17:49 itp คนที่มีประวัติที่จะต้องกินยาเ่อที่ กัดกระเพาะนานๆเช่นยากลุ่มเอดนะครับแล้ว
00:17:49 → 00:17:56 ก็ยาแอปนะพวกนี้ต้องตรวจนะครับตรวจแล้วก็ รักษารักษานี้ต้องกินยาให้ครบนะครับยาพวก
00:17:56 → 00:18:00 นี้เนี่ยมันจะมีผลข้างเคียงแน่นอนนะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของกระเพาะอาหารจะมี
00:18:00 → 00:18:06 การคลื่นไส้อาเจียนบางคนท้องผูกบางคนท้อง เสียบางคนถ่ายดำจากยาบางตัวแต่ว่าก็ต้อง
00:18:06 → 00:18:11 ทานนะครับถ้าทานไม่ครบเนี่ยมันจะเกิด ปัญหาต่างๆตามมาได้นะแล้วพอครบเสร็จปุ๊บ
00:18:11 → 00:18:16 หลังจากนั้น 1 เดือนต้องไปตรวจซ้ำว่ามัน หายไปแล้วแน่ๆนะครับถ้ายังไม่หายอาจจะ
00:18:16 → 00:18:20 ต้องเปลี่ยนสูตรยานะครับถ้าเปลี่ยนสูตร มากกว่า 2 สูตรแล้วอันนี้อาจจะต้องส่อง
00:18:20 → 00:18:25 กล้องเข้าไปดูแล้วก็เอาเชื้อมาเพาะเลยว่า มันดื้อยาตัวไหนจะได้ปรับยาให้ถูกต้องนะ
00:18:25 → 00:18:30 ครับเชื้อตัวนี้โอกาสการติดซ้ำใหม่น้อย มากนะครับคือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยว่ามัน
00:18:30 → 00:18:35 จะมีการติดช้ำใหม่นะโอเควันนี้ก็เล่าให้ ฟังเพียงเท่านี้นะครับถ้าเกิดว่าใครสงสัย
00:18:35 → 00:18:40 อะไรก็สอบถามมาแล้วกันนะครับขอบคุณมาก ครับสวัสดีครับ