00:00:00 → 00:00:05 โน้ท
00:00:05 → 00:00:09 are
00:00:09 → 00:00:12 you How are you IS คืออะไรถ้าแปล
00:00:12 → 00:00:15 ตรงตัวก็คงจะเป็นทางอย่างไรได้อย่างนั้น
00:00:15 → 00:00:17 นะคะก็คงจะเป็นประโยชน์ที่เอาไว้เตือนใจ
00:00:17 → 00:00:22 เนาะให้อยากดูแลสุขภาพนะคะ
00:00:22 → 00:00:25 ร่างกายเราเนี่ยแต่เราไว้ก็จะมีความ
00:00:25 → 00:00:28 ต้องการที่ไม่เท่ากันก็เริ่มต้นตั้งแต่
00:00:28 → 00:00:31 วัยทารกหมายถึงแรกเกิดถึง 6 เดือนนะคะใน
00:00:31 → 00:00:33 ช่วงวัยนี้เนี่ยก็ต้องยอมรับว่านมแม่คือ
00:00:33 → 00:00:36 อาหารที่ดีที่สุดนะคะมีสารอาหารครบถ้วน
00:00:36 → 00:00:39 แล้วก็เพียงพอเท่าที่ทารกต้องการนะคะทัก
00:00:39 → 00:00:42 มาในวัยเด็กพอโตขึ้นเนี่ยเราก็จะต้อง
00:00:42 → 00:00:44 เสื่อมเป็นอาหารที่บดละเอียดนะคะแล้วก็
00:00:44 → 00:00:47 ค่ะน้องโตขึ้นเริ่มมีฟันนะคะก็จะเป็น
00:00:47 → 00:00:50 อาหารที่คำเล็กนะคะชิ้นเล็กในมือเล็กๆนะ
00:00:50 → 00:00:53 คะซึ่งในช่วงวัยนี้จริงๆก็อยากที่จะให้
00:00:53 → 00:00:55 คุณพ่อคุณแม่นะคะส่งเสริมให้ได้เก็บเนี่ย
00:00:55 → 00:00:58 ฝึกในการกินผักนะคะรวมไปถึงอยากที่จะให้
00:00:58 → 00:01:01 สังเกตนะคะอาการแพ้อาหารนะคะที่พบได้ตั้ง
00:01:01 → 00:01:04 แต่ช่วงใหม่มีเช่นกันค่ะอ่ะ
00:01:04 → 00:01:07 ข้อถัดมาก็จะเป็นเด็กวัยเรียนนะคะก็อยาก
00:01:07 → 00:01:09 ที่จะให้น้องๆนะคะรับประทานอาหารเนี่ยให้
00:01:09 → 00:01:12 ครบทั้ง 5 หมู่แล้วก็อยากจะให้เด็กๆให้
00:01:12 → 00:01:14 ความสำคัญกับมื้อเช้านะคะเพราะว่ามือเช้า
00:01:14 → 00:01:17 เนี้ยจะเป็นแหล่งพลังงานทั้งพลังงานของ
00:01:17 → 00:01:19 ร่างกายแล้วก็พลังงานของสมองก็อยากที่จะ
00:01:19 → 00:01:22 ให้น้องๆเนี่ยลืมนมนะคะพนมเนี่ยเป็นแหล่ง
00:01:22 → 00:01:24 ที่ดีของอาหารให้คุณผมโปรตีนแล้วก็
00:01:24 → 00:01:27 แคลเซียมนะคะที่จะแนะนำก็อยากให้น้องๆทาง
00:01:27 → 00:01:30 เป็นนมจืดค่ะในส่วนของวัยรุ่นนะคะไว้นี้
00:01:30 → 00:01:32 เนี่ยก็อย่างเช่นในช่วงม.ต้นหรือว่าปลาย
00:01:32 → 00:01:35 นะคะก็จะช่วงที่ร่างกายเนี่ยมีการเจริญ
00:01:35 → 00:01:37 เติบโตอย่างรวดเร็วต้องการอาหารที่มีพลัง
00:01:37 → 00:01:40 งานสูงนะคะเพราะฉะนั้นก็จะทานได้อย่าง
00:01:40 → 00:01:43 เป็นที่กินให้ครบ 5 หมู่กันในขณะเดียวกัน
00:01:43 → 00:01:45 ก็อยากที่จะให้น้องๆเนี่ยรับประทานอาหาร
00:01:45 → 00:01:47 ที่มีประโยชน์ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย
00:01:47 → 00:01:50 นะคะเราก็จะได้เจริญเติบโตอย่างแข็งแรง
00:01:50 → 00:01:52 แล้วก็สมบูรณ์ค่ะ
00:01:52 → 00:01:54 นะคะเราจะโทรเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วเนี่ย
00:01:54 → 00:01:58 ก็เป็นวัยที่ควรจะต้องเลือกโดยที่จำเป็น
00:01:58 → 00:02:00 ที่จะต้องรับประทานโปรตีนนะคะในปริมาณที่
00:02:01 → 00:02:03 เพียงพอแต่ว่าในกลุ่มของคาร์โบไฮเดรตหรือ
00:02:03 → 00:02:06 ข้าวแป้งเนี่ยก็อยากจะให้เลือกรับประทาน
00:02:06 → 00:02:09 เป็นข้าวแป้งที่ไม่ขัดสีนะคะก็จะมี
00:02:09 → 00:02:12 ประโยชน์มากกว่านะคะรวมถึงรับประทานอาหาร
00:02:12 → 00:02:15 ในกลุ่มของ Fiber หรือว่ากากใยเช่นจากผัก
00:02:15 → 00:02:18 และก็ผลไม้เนี่ยให้มากขึ้นนะคะในส่วนของ
00:02:18 → 00:02:21 ที่อยากให้ลดหรือว่าเรียกเนี่ยก็คงจะเป็น
00:02:21 → 00:02:25 ในกลุ่มของไขมันนะคะขนมแล้วก็น้ำตาลควรจะ
00:02:25 → 00:02:27 ต้องมีการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่
00:02:27 → 00:02:29 เหมาะสมด้วยค่ะสุดท้ายนะคะก็จะเป็นกลุ่ม
00:02:29 → 00:02:33 วัยสูงอายุหรือว่าวัยชรานะคะในวัยนี้เอง
00:02:33 → 00:02:36 นะจริงๆแล้วเนี่ยมักที่จะมีกิจกรรมทาง
00:02:36 → 00:02:39 ร่างกายนะคะที่น้อยลงร่วมกับร่างกายก็คง
00:02:39 → 00:02:42 จะต้องมีความเสื่อมถอยเกิดขึ้นนะคะเพราะ
00:02:42 → 00:02:44 ฉะนั้นโภชนาการที่เหมาะก็คงจะต้องเป็น
00:02:44 → 00:02:48 อาหารที่เคี้ยวง่ายย่อยง่ายนะคะแต่มีคุณ
00:02:48 → 00:02:51 ค่าทางโภชนาการไม่รู้ตัวอย่างเช่นใครต้อง
00:02:51 → 00:02:54 หุ้นเนื้อหาหรือว่าเป็นเนื้อปลานะคะแล้ว
00:02:54 → 00:02:57 ก็เป็นผักผลไม้ที่เอ่อเนื้อนิ่มนะคะ
00:02:57 → 00:03:01 เคี้ยวง่ายสักนิดนึงแต่ว่าถ้าหากผู้ใหญ่
00:03:01 → 00:03:03 ผู้สูงอายุอย่างที่จะรับประทานผักที่
00:03:03 → 00:03:05 เนื้อแข็งนะคะก็ทำได้ด้วยการต้มให้นิ่มนะ
00:03:05 → 00:03:09 คะแล้วก็หั่นเป็นชิ้นเล็กๆค่ะ
00:03:09 → 00:03:12 คำถามที่มันจะได้ยินบ่อยๆนะคะก็คือ you
00:03:12 → 00:03:15 are what you eat คืออะไรนะคะยังใช้
00:03:15 → 00:03:18 ได้ไหมจริงๆต้องบอกว่าเป็นประโยคค่อนข้าง
00:03:18 → 00:03:21 คลาสสิคนะคะถ้าแปลตรงตัวก็คงจะเป็นทาง
00:03:21 → 00:03:24 อย่างไรได้อย่างนั้นนะคะถ้าเราเลือกรับ
00:03:24 → 00:03:26 ประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์นะคะแล้วก็จะ
00:03:26 → 00:03:31 มีสุขภาพที่ดีตามมาด้วยค่ะ
00:03:31 → 00:03:35 ก็ในส่วนของอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงกลุ่ม
00:03:35 → 00:03:37 แล้วเนี่ยก็คงจะเป็นเนื้อแปรลูกไม่ว่าจะ
00:03:37 → 00:03:41 เป็นแฮมไส้กรอกนะคะคุณเชียร์เพราะว่าใน
00:03:41 → 00:03:44 การแปลลูกเนี่ยก็จะมีการทั้งอบเลือนะคะรม
00:03:44 → 00:03:48 ควันหรือว่ามีการอบแห้งซึ่งในการออกเลือน
00:03:48 → 00:03:50 ก็จะมาพร้อมกับเกลือหรือว่าโซเดียมคลอ
00:03:50 → 00:03:53 ไรด์นะคะซึ่งมีอย่ามาเกินไปเนี่ยก็จะไม่
00:03:53 → 00:03:56 มีอาการบวมน้ำแล้วก็ไม่เป็นผลดีกับผู้
00:03:56 → 00:03:59 ป่วยโรคใต้โรคความดันโลหิตสูงแล้วก็โรค
00:03:59 → 00:04:02 หัวใจนะคะทีนี้ในส่วนของเนื้อแปรรูปเนี่ย
00:04:02 → 00:04:05 จะมีสารที่เรียกว่าไนโตรซามีนนะคะซึ่ง
00:04:05 → 00:04:07 กลุ่มนี้ค่ะเป็นสารก่อมะเร็งหากเราก็รับ
00:04:07 → 00:04:10 ประทานในปริมาณที่มากนะคะแล้วก็ระยะเวลา
00:04:10 → 00:04:13 ที่นานเนี่ยก็น่าจะมีความเสี่ยงต่อการ
00:04:13 → 00:04:16 เกิดโรคมะเร็งนะคะโดยเฉพาะมะเร็งลำไส้
00:04:16 → 00:04:19 ใหญ่ค่ะกลุ่มประมาณที่อยากให้หลีกเลี่ยง
00:04:19 → 00:04:22 นะคะก็คือจะเป็นกลุ่มของเข้าขาวนะคะน้ำ
00:04:22 → 00:04:25 ตาลขาวหรือว่าแป้งกลุ่มนี้จึงต้องบอกว่า
00:04:25 → 00:04:27 ข้าวแป้งน้ำตาลเนี่ยเป็นอาหารกลุ่มที่เรา
00:04:27 → 00:04:30 เรียกว่าคาร์โบไฮเดรตเป็นกลุ่มที่เมื่อ
00:04:30 → 00:04:32 ทานเข้าไปในก็จะมีการให้พลังงานนะคะดัง
00:04:32 → 00:04:35 นั้นหากรับประทานมากเกินกว่าที่ร่างกาย
00:04:35 → 00:04:38 เนี่ยจะใช้ไปในแต่ละวันนะคะร่างกายก็จะ
00:04:38 → 00:04:40 เก็บสะสมพลังงานส่วนเกินในรูปของไขมัน
00:04:40 → 00:04:42 อยู่ดีค่ะเพราะฉะนั้นทางเรารับประทาน
00:04:42 → 00:04:44 อาหารกลุ่มนี้มากเกินไปเนี่ยก็จะมีไขมัน
00:04:44 → 00:04:48 สะสมนะคะก่อให้เกิดภาวะน้ำหนักเกินนะคะ
00:04:48 → 00:04:51 โรคอ้วนนะคะอีกอย่างคือการที่เราบริโภค
00:04:51 → 00:04:53 น้ำตาลเนี่ยหมอนัดทุกครั้งที่บริโภคเนี่ย
00:04:53 → 00:04:56 ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนชนิดหนึ่งออกมาชื่อ
00:04:56 → 00:04:58 ว่าอินซูลินนะคะอินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ทำ
00:04:58 → 00:05:01 หน้าที่ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดนะ
00:05:01 → 00:05:03 คะที่นี่หากเรารับประทานอาหารในกลุ่มน้ำ
00:05:03 → 00:05:07 ตาลนะคะมากเกินไปในระยะเวลาที่นานเนี่ย
00:05:07 → 00:05:10 ร่างกายก็จะก่อให้เกิดภาวะดื้ออินซูลินนะ
00:05:10 → 00:05:13 คะซึ่งภาวะนี้เนี่ยในอนาคตต่อไปก็จะมี
00:05:13 → 00:05:15 ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานนี้อนาคต
00:05:15 → 00:05:18 ได้ค่ะอาหารที่กลุ่มหนึ่งที่อยากให้หลีก
00:05:18 → 00:05:20 เลี่ยงนะคะก็คืออาหารในกลุ่มของไขมันนะคะ
00:05:20 → 00:05:24 ไม่ว่าจะเป็นไขมันอิ่มตัวนะคะกันอาหารทอด
00:05:24 → 00:05:27 ซ้ำนะคะภาคเรารับประทานอาหารในกลุ่มไขมัน
00:05:27 → 00:05:29 เนี่ยที่มากเกินไปนะคะก็จะเสี่ยงต่อการ
00:05:29 → 00:05:33 เกิดโรคอ้วนนะคะโรคไขมันในเลือดสูงนะคะ
00:05:33 → 00:05:35 โดยเฉพาะความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจใน
00:05:35 → 00:05:37 อนาคตค่ะอาหารกลุ่มต่อมาที่อยากให้หลีก
00:05:37 → 00:05:39 เลี่ยงนะคะก็คืออาหารที่มีการปนเปื้อนของ
00:05:39 → 00:05:42 สารพิษต่างๆนะคะไม่ว่าจะเป็นเชื้อราก
00:05:42 → 00:05:46 แบคทีเรียนะคะหรือว่ายาฆ่าแมลงนะคะยกตัว
00:05:46 → 00:05:48 อย่างเช่นในส่วนของเชื้อรานะคะที่มักพบ
00:05:48 → 00:05:50 บ่อยๆก็จะเป็นเชื้อราที่ติดมากับอาหาร
00:05:50 → 00:05:54 แห้งนะคะไม่ว่าก็เป็นเอ่อกระเทียมพริก
00:05:54 → 00:05:57 แห้งหรือว่าถั่วนะคะในอาหารกลุ่มเนี้ยถ้า
00:05:57 → 00:06:00 มีเชื้อราเนี่ยถักรับประทานเข้าไปนะคะก็
00:06:00 → 00:06:02 อาทิจะรับประทานสารพิษชนิดหนึ่งที่เรียก
00:06:02 → 00:06:05 ว่าอัลฟ่าท็อกซินนะคะซึ่งอากร้าท็อกซิน
00:06:05 → 00:06:07 เนี่ยเพราะว่ามีความเสี่ยงต่อกันเกิด
00:06:07 → 00:06:10 มะเร็งตับด้วยนะคะกลุ่มต่อมาที่อยากให้
00:06:10 → 00:06:12 หลีกเลี่ยงนะคะก็คืออาหารปิ้งย่างค่ะก็จะ
00:06:12 → 00:06:15 มีสารที่ชื่อว่า p a s นะคะซึ่งศาล
00:06:15 → 00:06:18 p.a.s. เนี่ยก็เกิดจากการที่ที่เวลาเรา
00:06:18 → 00:06:20 ปิ้งย่างมีการเผาไหม้ของไขมันที่อยู่ใน
00:06:20 → 00:06:24 เนื้อสัตว์นะคะพอน้ำมันตัวนั้นหยดลงไปบน
00:06:24 → 00:06:27 ถาดนะคะพี่มีไฟล์เนี่ยก็จะเกิดความและ
00:06:27 → 00:06:30 ความอันนี้แหละค่ะคือพันธุ์ที่มีพิษก็จะ
00:06:30 → 00:06:33 ลอยมาจากเนื้อที่เรายังอยู่บนเตานะคะหาก
00:06:33 → 00:06:37 เรารับประทานอาหารกลุ่มนี้ในปริมาณที่มาก
00:06:37 → 00:06:40 นะคะแล้วก็เป็นระยะเวลานานๆนะคะก็จะเข้า
00:06:40 → 00:06:42 ไปสะสมในร่างกายก่อให้เกิดเป็นสารก่อ
00:06:42 → 00:06:44 มะเร็งได้ค่ะกลุ่มถัดมานะคะก็คือจะเป็น
00:06:44 → 00:06:48 อาหารสุดๆเพราะว่าอาหารสุกดิบเนี่ยอาจจะ
00:06:48 → 00:06:50 มีสิ่งไม่พึงประสงค์นะคะที่แจ้งเข้ามา
00:06:50 → 00:06:52 เช่น
00:06:52 → 00:06:55 มีใบไม้ก็จะทำให้เกิดโรคพยาธิใบไม้ในปาก
00:06:55 → 00:06:57 นะคะแล้วก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
00:06:57 → 00:07:00 มะเร็งท่อทางเดินน้ำนี่ด้วยในส่วนของ
00:07:00 → 00:07:03 เนื้อหมูเนื้อวัวว่าก็จะมีพยาธิเหมือนกัน
00:07:03 → 00:07:07 ก็ตามชื่อเนื้อเลยค่ะเอ่อเนื้อหมูก็อาจจะ
00:07:07 → 00:07:10 เจอตืดหมูนะคะเนื้อว่าจะเจอตื่นตัวนะคะที
00:07:10 → 00:07:13 นี้ในส่วนของเนื้อหมูดิบเนี่ยก็เพิ่มความ
00:07:13 → 00:07:15 เสี่ยงต่อการเป็นโรคไข้หูดับนะคะเพราะใน
00:07:15 → 00:07:17 เนื้อหมูดิบเนี่ยอาจจะมีการเตือนเปื้อน
00:07:17 → 00:07:19 ของแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เราเรียกว่า
00:07:19 → 00:07:23 สเตรปโตคอคคัส suis ได้ค่ะสุดท้ายนะคะที่
00:07:23 → 00:07:24 อยากให้หลีกเลี่ยงเนี่ยก็จะเป็นเครื่อง
00:07:24 → 00:07:28 ดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์นะคะก็ก็
00:07:28 → 00:07:30 เป็นที่รู้กันว่ากันถึงเครื่องดื่มที่มี
00:07:30 → 00:07:33 แอลกอฮอล์นะคะก็จะทำให้มีภาวะตับอักเสบนะ
00:07:33 → 00:07:35 คะแล้วก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง
00:07:35 → 00:07:38 ตับได้ค่ะ
00:07:38 → 00:07:42 ถ่ายท่านใดที่อยากปรึกษาเรื่องโภชนาการนะ
00:07:42 → 00:07:44 คะหรือว่ามีปัญหาสุขภาพนะคะสามารถติดต่อ
00:07:44 → 00:07:47 เข้ารับบริการได้นะคะที่คลินิกเวชศาสตร์
00:07:47 → 00:07:52 ครอบครัวนะคะอาคารภปรชั้น 13 โรงช่วงเวลา
00:07:52 → 00:07:57 ลงกรณ์สภากาชาดไทยค่ะอ่ะ
00:07:57 → 00:08:14 [เพลง]