00:00:00 → 00:00:03 ตัวที่กระตุ้นเทโลเมียแล้วยาวขึ้นตัวแรก
00:00:03 → 00:00:06 อยู่ในสูตรยาอายุวัฒนะฮ่องเต้มานานมาก
00:00:06 → 00:00:08 แล้ว
00:00:08 → 00:00:10 อย่างแรกก็คือควบคุมแคลอรี่ที่บริโภค 2
00:00:10 → 00:00:13 การออกกำลังกาย 3 นอนให้เป็นเวลาตื่นให้
00:00:13 → 00:00:16 เป็นเวลามันก็คืออยู่ในจีนหรืออยู่ใน
00:00:16 → 00:00:17 โครโมโซมเหมือนแท่งปลาท่องโก๋อ่ะคราวนี้
00:00:17 → 00:00:19 ปลาท่องโก๋เนี่ยเราเปลี่ยนแปลงไม่ได้แต่
00:00:19 → 00:00:21 ส่วนประกอบข้างนอกปลาท่องโก๋เช่นจะเอาไป
00:00:21 → 00:00:23 จิ้มนมจิ้มช็อกโกแลตจิ้มอะไรเราเปลี่ยน
00:00:23 → 00:00:25 แปลงได้อิน
00:00:25 → 00:00:27 ทำให้ชะลอไว mtor ทำให้ aging เราก็มัก
00:00:27 → 00:00:29 คิดว่าเฮ้ยก็เพิ่มโซิอินดิก็ลดเอทorต่อไป
00:00:29 → 00:00:32 เรื่อยๆแต่เจอว่าถ้าเอ็มถอดรถมากเกินไปมี
00:00:32 → 00:00:34 ปัญหาเซ็ก์เสื่อม
00:00:34 → 00:00:36 ฝาแฝดไข่เดียวกันรหัสพันธุกรรมทุกอย่าง
00:00:36 → 00:00:38 เหมือนกันหมดแต่ใช้ชีวิตต่างกันคนนึงแก่
00:00:38 → 00:00:41 ไวกว่าอีกคนนึงอะไรที่เป็นตัวกำหนดชะตา
00:00:41 → 00:00:42 ชีวิตทั้งๆที่ 2 คนเนี้ยพิมพ์เขียวเหมือน
00:00:43 → 00:00:46 กันเด๊ะถ้าอายุมากขึ้นเกิน 35 ไปซึ่งอุ่ม
00:00:46 → 00:00:47 คุณยังไม่เกินน่ะนะ
00:00:47 → 00:00:51 >> สาธุไม่รู้นก็คือต้อง
00:00:51 → 00:00:53 >> แทนที่เราจะเอาโรสฮอร์โมนมาซ่อมแซมร่าง
00:00:53 → 00:00:56 กายเราดันใช้โรสฮอร์โมนเข้าผับการเต้นทำ
00:00:56 → 00:00:58 ให้เราไม่แฮงอะไรพวกเนี้ยเราใช้ผิดประเภท
00:00:58 → 00:01:01 >> เราถลุงผมฮอร์โมนไปตลอดชีวิตดังนั้นตอนเ
00:01:01 → 00:01:04 ปรับตัวใหม่ดูแลสุขภาพดีๆกินให้ถูกใช้
00:01:04 → 00:01:07 ชีวิตให้ถูกเนี่ยเราส่งผ่านepิติดีๆไปถึง
00:01:07 → 00:01:09 ลูกหลานได้เราแก้ชะตาชีวิตของลูกหลานเรา
00:01:09 → 00:01:12 ได้โดยเราใช้ชีวิตให้ดีอันนี้เป็นสิ่ง
00:01:12 → 00:01:14 สำคัญมาก
00:01:14 → 00:01:16 >> สวย Story พcสกับหมุมโอลิเวียสวัสดีค่ะ
00:01:16 → 00:01:18 รายการที่เราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญตัวจริงมา
00:01:18 → 00:01:21 พูดคุยในเรื่องของสุขภาพแล้วก็ความสวย
00:01:21 → 00:01:24 ความงามกันค่ะวันนี้เนี่ยผมก็มีโอกาสอยู่
00:01:24 → 00:01:26 กับพี่จัหรือว่าอาจารย์จัของเรานะคะที่จะ
00:01:26 → 00:01:29 มาให้ความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับการปรับ
00:01:29 → 00:01:32 เปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อที่จะฝื้นชะตาของ
00:01:32 → 00:01:35 พันธุกรรมของเราค่ะซึ่งก็ดูหน้านะคะเชื่อ
00:01:35 → 00:01:39 ได้เลยว่าทุกคนทายุผิดหมดค่ะนี้สวัสดีค่ะ
00:01:39 → 00:01:39 พี่แ
00:01:39 → 00:01:42 >> สวัสดีครับสวัสดีครับขอบคุณน้องอุ๋มที่
00:01:42 → 00:01:44 เชิญมานะครับวันนี้ตอนแรกคิดว่าจะแต่งตัว
00:01:44 → 00:01:45 เรียบร้อยแต่อุ๋มบอกว่าไม่ต้องใส่เชื้อ
00:01:45 → 00:01:47 กาวพี่แบบนี้ได้เลยมันก็ดีอันนี้ก็คือ
00:01:47 → 00:01:50 ความเป็นความเป็นชนวัตรอ่ะคือแบบนี้แหละ
00:01:50 → 00:01:52 >> ขออนุญาตให้เ่อพี่สัตว์แนะนำตัวเองแบบยาว
00:01:52 → 00:01:53 ๆ
00:01:53 → 00:01:56 >> อ๋อครับชื่อนายแพทย์ชนวัฒน์สุวรรณปิยสิริ
00:01:56 → 00:01:59 นะครับจบอ่าผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังมานะ
00:01:59 → 00:02:02 ครับแล้วก็ไปจบปริญญาเอกทางภูมิคุ้มกัน
00:02:02 → 00:02:05 ที่อเมริกานะครับแล้วก็เป็นเฟโลทางภูมิ
00:02:05 → 00:02:07 คุ้มกันผิวหนังที่อเมริกาด้วยนะครับ
00:02:07 → 00:02:12 ปัจจุบันก็เป็นรองประธานศูนย์ความเป็น
00:02:12 → 00:02:14 เลิศนะครับที่มหาวิทยาลัยรังสิตนะครับก็
00:02:14 → 00:02:16 ทำงานด้านวิจัยด้านอะไรพวกนี้ครับ
00:02:16 → 00:02:17 >> ความจริงยาวกว่านี้
00:02:18 → 00:02:22 >> ครับ
00:02:22 → 00:02:24 >> ผมอยากจะขอให้พี่จัช่วยอธิบายความแตกต่าง
00:02:24 → 00:02:27 ระหว่าง 3 คำนี้ค่ะคำว่า Wellness and
00:02:27 → 00:02:29 High aging แล้วก็ longivity
00:02:29 → 00:02:32 >> คือจริงๆ 3 อย่างเนี้ยมันมันเกี่ยวเนื่อง
00:02:32 → 00:02:35 กันมากนะครับเพราะว่า Wellness ก็คือการ
00:02:35 → 00:02:39 การดูแลสุขภาพให้เรามีสุขภาพดีก็คือป้อง
00:02:39 → 00:02:42 กันก่อนที่จะเกิดปัญหาคือโรคตามมานะฮะ
00:02:42 → 00:02:45 longevity ก็คือทำยังไงเราถึงจะอายุยืน
00:02:45 → 00:02:47 นะครับถึงมาอยู่ได้นานๆมันก็โยงกับ
00:02:47 → 00:02:49 wellness คือถ้าป้องกันโรคได้ดีเนี่ย
00:02:49 → 00:02:52 ภาวะโรคต่างๆตามมาน้อยหรือตามมาช้าเนี่ย
00:02:52 → 00:02:55 มันก็อยู่ได้นานขึ้นนะครับ anti aging
00:02:55 → 00:02:56 ก็เหมือนกันเพราะเรารู้ว่าการที่เรามี
00:02:56 → 00:02:59 ความชราชราภาพหรือมี aging เนี่ยมันทำให้
00:02:59 → 00:03:01 เซลล์ตายร่างกายแก่ดังนั้นถ้า anti aging
00:03:01 → 00:03:04 มันก็จะยับยั้งการชารภาพของร่างกายมันจะ
00:03:04 → 00:03:06 ไปด้วยกันเสมอนะครับ Wellness ถ้า
00:03:06 → 00:03:09 wellness ดีดูแลสุขภาพดีเนี่ย anti
00:03:09 → 00:03:12 agaging ก็ตามมา longevity ก็ตามมา
00:03:12 → 00:03:13 >> มันตามมาแบบอัตโนมัติเลยมั้คะ
00:03:13 → 00:03:16 >> ตามมาทันทีเลยมันจะมาด้วยกันถ้าเราดูแล
00:03:16 → 00:03:18 สุขภาพดีเนี่ยใช้ชีวิตดีใช้ชีวิตให้ถูก
00:03:18 → 00:03:20 ต้องมีไลฟ์สไตล์ที่ถูกต้องที่เหมาะสม
00:03:20 → 00:03:22 เนี่ยมันตามมาทั้ง 3 อย่าง
00:03:22 → 00:03:24 >> แสดงว่าจริงๆแล้ว 3 อันเนี้ก็คือแยกกัน
00:03:24 → 00:03:25 ไม่ได้
00:03:25 → 00:03:27 >> มันมันแยกกันไม่ได้นะครับแต่คราวนี้คือ
00:03:27 → 00:03:30 ถ้าเป็น Wellness เนี่ยหลังๆเนี่ยเขาจะ
00:03:30 → 00:03:33 เจาะไปที่เวชศาสตร์
00:03:33 → 00:03:35 วิถีชีวิตมั้งไสล medicine อ
00:03:35 → 00:03:38 >> จะเป็นแบบนั้นซึ่งมันจะมีเรื่องการนอนการ
00:03:38 → 00:03:40 ดูแลสุขภาพอะไรพวกเนี้ยในขณะ anti
00:03:40 → 00:03:42 agaging เนี่ยเขาจะมุ่งในแง่การกินและ
00:03:42 → 00:03:44 การบริโภคพวกsupลementอาหารเสริมต่างๆมาก
00:03:44 → 00:03:47 กว่านะครับแต่สุดท้ายก็คือถ้า wellness
00:03:47 → 00:03:49 ดี anti aging เหมาะสมเนี่ย longivity
00:03:49 → 00:03:50 ตามมาแน่นอน
00:03:50 → 00:03:52 >> ก็คือแสดงว่าเราก็ต้องมีพื้นฐานมาจากสิ่ง
00:03:52 → 00:03:54 เหล่านี้เราถึงจะมีชีวิตที่ยืนยาวแล้วก็
00:03:54 → 00:03:57 มีคุณภาพชีวิตที่ดีใช่ก็คือพูดง่ายๆไม่มี
00:03:57 → 00:03:59 ใครอยากป่วยไม่มีใครอยากตายพูดง่ายๆนะ
00:03:59 → 00:04:02 ครับดังนั้นคือทำยังไงจะไม่ป่วยทำยังไงจะ
00:04:02 → 00:04:04 ตายช้าลงทำไม่ตายคงเป็นไม่ได้หรอกทำไงจะ
00:04:04 → 00:04:07 ตายช้าลงมันถึงเกิดสาขาวิชาของ Wellness
00:04:07 → 00:04:10 Lifestyle Medicine เวศาสตร์วิถีชีวิต
00:04:10 → 00:04:13 แล้วก็เวชศาสตร์ชะลอ aning ตามมา
00:04:13 → 00:04:16 >> เราก็จะมาเจาะลึกกันที่ว่าทุกคนเนี่ยมี
00:04:16 → 00:04:19 ยีนเหมือนเป็นรหัสพันธุกรรมของเรา
00:04:19 → 00:04:21 >> แล้วเราก็รู้อยู่แล้วแหละว่าจริงๆแล้ว
00:04:21 → 00:04:24 เนี่ยลักษณะพ่อแม่เราเป็นยังไงเราก็มี
00:04:24 → 00:04:27 โอกาสที่จะเกิดโรคหรือว่ามีโอกาสที่จะ
00:04:27 → 00:04:30 เอ่อเดินไปตามแนวทางที่พ่อแม่เป็น
00:04:30 → 00:04:32 >> ใช่ครับเพราะว่ายีนเนี่ยหรือรหัส
00:04:32 → 00:04:34 พันธุกรรมเนี่ยมันเหมือนพิมพ์เขียวพิมพ์
00:04:34 → 00:04:37 เขียวที่กำหนดชะตาชีวิตเราว่าเราจะเป็น
00:04:37 → 00:04:39 แบบไหนไอ้พิมพ์เขียวอันเนี้ยมันแก้ไขไม่
00:04:39 → 00:04:42 ได้เพราะถ้าแก้ไขเราจะกลายเป็น X-Men น่ะ
00:04:42 → 00:04:44 จะเป็นมนุษย์กลายพันธุเพราะว่ารหัสกรมมัน
00:04:44 → 00:04:47 จะเปลี่ยนไปนะครับดังนั้นคนก็จะบอกว่า
00:04:47 → 00:04:50 เอ้ยชะตากรรมกำหนดมาแบบเนี้ยชีวิตก็ต้อง
00:04:50 → 00:04:53 แบบเนี้ยจริงๆไม่ใช่นะครับไอ้มันมีมันมี
00:04:53 → 00:04:55 ศาสตร์ใหม่ขึ้นมาจริงๆไม่ใหม่มากอ่ะแต่
00:04:55 → 00:04:58 ว่ากำลังฮือฮากันนะครับบอกว่าเราเปลี่ยน
00:04:58 → 00:05:01 แปลงรหัสพันธุกรรมไม่ได้ก็จริงแต่เรา
00:05:01 → 00:05:04 เปลี่ยนแปลงตัวที่ควบคุมการแสดงออกหรือ
00:05:04 → 00:05:06 ยับยั้งรหัสพันธุกรรมบางอย่างได้
00:05:06 → 00:05:08 >> ออ
00:05:08 → 00:05:10 ลองลองขยายความให้ฟังนิดนึง
00:05:10 → 00:05:12 >> ง่ายๆนะครับคือไอ้ตัวพิมพ์เขียวรหัส
00:05:12 → 00:05:15 พันธุกรรมเนี่ยมันก็เหมือนมันก็คืออยู่ใน
00:05:15 → 00:05:16 จีนหรืออยู่ในโครโมโซมเหมือนแท่งปลา
00:05:16 → 00:05:18 ท่องโก๋อ่ะถ้าเรามีความรู้สวิสัต์มันจะ
00:05:18 → 00:05:20 เหมือนแท่งปลาท่องโก๋นะครับคราวนี้ปลา
00:05:20 → 00:05:22 ท่องโก๋เนี่ยเราเปลี่ยนแปลงไม่ได้นะครับ
00:05:22 → 00:05:25 แต่ส่วนประกอบข้างนอกปลาท่องโก๋เช่นจะเอา
00:05:25 → 00:05:26 ไปจิ้มนมจิ้มช็อกโกแลตจิ้มอะไรเราเปลี่ยน
00:05:26 → 00:05:27 แปลงได้
00:05:27 → 00:05:27 >> ออ
00:05:27 → 00:05:30 >> หลักการแบบนั้นเลยใช่ครับดังนั้นคือเรา
00:05:30 → 00:05:32 เปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมไม่ได้แต่เรา
00:05:32 → 00:05:35 เลือกที่จะใช้ชีวิตให้ดีขึ้นได้
00:05:35 → 00:05:37 >> อ่าแล้วมันมีปัจจัยอะไรยังไงบ้างที่จะ
00:05:37 → 00:05:39 ช่วยให้เราเปลี่ยนแปลงได้
00:05:39 → 00:05:42 >> อย่างแรกนะครับก็คือว่าการดูแลสุขภาพให้
00:05:42 → 00:05:44 ดีนะครับไม่ว่าจะเป็นการนอนให้เพียงพอออก
00:05:44 → 00:05:46 กำลังกายสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งที่เราเรียน
00:05:46 → 00:05:48 ตั้งแต่เราเรียนสุขศึกษามา
00:05:48 → 00:05:50 >> เป็นสิ่งที่ใช้ได้ตลอดเพราะว่าไอ้พวก
00:05:50 → 00:05:53 เนี้ยชีวิตดีขึ้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงรหัส
00:05:53 → 00:05:56 พันธุกรรมก็จริงแต่มันเข้าไปเปลี่ยนแปลง
00:05:56 → 00:05:59 การแสดงออกของรหัสพันธุกรรมคุณบออุมคงเคย
00:05:59 → 00:06:01 เห็นฝาแฝดฝาแฝดไข่เดียวกันรหัสพันธุกรรม
00:06:01 → 00:06:04 ทุกอย่างเหมือนกันหมดแต่ใช้ชีวิตต่างกัน
00:06:04 → 00:06:07 คนนึงแก่ไวกว่าอีกคนนึงทั้งๆที่รหัส
00:06:07 → 00:06:08 ปันธุกรรมก็เหมือนกันเป๊ะนะก็แฝดไข่เบ
00:06:08 → 00:06:10 เดียวกันมันเหมือนกันเป๊ะเลยใช้ชีวิตต่าง
00:06:11 → 00:06:15 กันคนนึงนอนนอนเร็วตื่นเช้าออกกำลังกาย
00:06:15 → 00:06:17 ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่หน้าก็ไม่ค่อย
00:06:17 → 00:06:19 ชราภาพไม่ค่อยแก่ริ้วรอยไม่มีสุขภาพดีใน
00:06:19 → 00:06:21 ขณะที่คนหากันเหมือนกันเป๊ะแต่เขากิน
00:06:21 → 00:06:24 เหล้าสูบบุหรี่นอนดึกตื่นสายไม่ออกกำลัง
00:06:24 → 00:06:26 กายนะครับโรคต่างๆตามมาเยอะเบาหวานความ
00:06:27 → 00:06:29 ดันโรคอ้วนนะครับคอเลสเตอรอลสูงทั้งๆที่ 2
00:06:29 → 00:06:32 คนเหมือนกันเป๊ะแต่ใช้ชีวิตต่างกันทำให้
00:06:32 → 00:06:34 ชะตาชีวิตออกมาต่างกันอีกอันนึงที่เปรียบ
00:06:34 → 00:06:37 เทียบได้ง่ายมากคือเราก็รู้ว่าผึ้งเนี่ย
00:06:37 → 00:06:40 มันมี 2 อย่างนางพญาผึ้งกับผึ้งงาน
00:06:40 → 00:06:40 >> อื
00:06:40 → 00:06:42 >> เห็นมั้ยผึ้งงานคือทำหน้าที่หาทำหน้าที่
00:06:42 → 00:06:45 สร้างรังทำหน้าที่ออกไปหาเกสรดอกไม้ออกมา
00:06:45 → 00:06:48 ผลิตน้ำผึ้งทำงานทั้งวันนะครับในขณะนาง
00:06:48 → 00:06:50 พญาผึ้งอยู่เฉยๆทำหน้าที่แค่ผสมพันธุแล้ว
00:06:50 → 00:06:53 ออกไข่ก็คือออกออกลูกพึหลานผึ้งมาไม่เคย
00:06:53 → 00:06:57 มีใคนคนน้อยคนที่จะรู้ว่าจริงๆผึ้งงานกับ
00:06:57 → 00:06:59 นางพญาผึ้งเนี่ยเป็นตัวเมียและพันธุกรรม
00:06:59 → 00:07:01 เหมือนกันเด๊ะเลยนะ
00:07:01 → 00:07:01 >> อ๋อเหรอคะ
00:07:01 → 00:07:03 >> ใช่มันพันธุกรรมเหมือนกันเด๊ะเลยเป็นตัว
00:07:03 → 00:07:04 เมียทั้งคู่และพันธุกรรมเหมือนกันเด๊ะ
00:07:04 → 00:07:05 ทั้งคู่
00:07:05 → 00:07:07 >> เมื่อก่อนเราคิดว่าผึ่งงานเนี่ยมันก็มัน
00:07:07 → 00:07:10 ก็หาน้ำึงแล้วมันคงมาสลับเวียนมาผสม
00:07:10 → 00:07:11 พันธุ์นางพญาผึ้ง
00:07:11 → 00:07:14 >> เพื่อให้ดัดออกมาไม่ใช่พึ่งงานทำงานอย่าง
00:07:14 → 00:07:14 เดียว
00:07:14 → 00:07:17 >> นะครับในขณะที่ผึ้งนางพญาจะไม่ทำงานแต่ทำ
00:07:17 → 00:07:19 หน้าที่ผลิตลูกหลานออกมา
00:07:19 → 00:07:19 >> อื
00:07:19 → 00:07:22 >> คราวนี้รหัสพันธุกรรมมันเหมือนกันเด๊ะมัน
00:07:22 → 00:07:24 เหมือนกันเด๊ะเลยคราวนี้ทำไมชะตาชีวิตนึง
00:07:24 → 00:07:26 กำหนดว่าคุณต้องเป็นผึ้งงานคุณต้องเป็น
00:07:26 → 00:07:29 นางพญาผึ้งแล้วการใช้ชีวิตต่างกันมากพึ่ง
00:07:29 → 00:07:31 งานเนี่ยเนื่องจากทำงานหามลุมหามค่ำมัน
00:07:31 → 00:07:33 อยู่ได้ประมาณ 6 สัปดาห์ทั้งเดือนครึ่งก็
00:07:33 → 00:07:37 ตายไปนางพญาเพิ่งอยู่ได้ประมาณ 3-5 ปี
00:07:37 → 00:07:37 >> อู้ตาย
00:07:37 → 00:07:40 >> อะไรที่เป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตทั้งๆที่ 2
00:07:40 → 00:07:42 คน 2 คนเนี้ยพิมพ์เขียวเหมือนกันเด๊ะ
00:07:42 → 00:07:43 >> โอนั่นสิค่ะแล้วอะไร
00:07:43 → 00:07:46 >> ใช่อะไรล่ะเราบอกไม่ได้เพราะว่าไอ้ผึ้ง
00:07:46 → 00:07:48 เนี่ยมันไม่ออกกำลังกายอยู่แล้วถูกมั้
00:07:48 → 00:07:50 ผึ้งคงไม่ไปกินผักผลไม้อะไรพวกนี้มันก็จะ
00:07:50 → 00:07:52 ชีวิตแบบพึ่งอ่ะแต่มันเป็นตัวที่กำหนดมา
00:07:52 → 00:07:54 ว่าพันธุกรรมที่เหมือนกันไม่ได้บอกว่า
00:07:54 → 00:07:56 ชะตาชีวิตจะเหมือนกัน
00:07:56 → 00:07:57 >> ออ
00:07:57 → 00:07:59 >> เออครับแปลว่ามันมีอะไรที่นอกเหนือพิมพ์
00:07:59 → 00:08:00 เขียว
00:08:00 → 00:08:02 >> ที่เราอาจจะไม่ต้องมีชะตาชีวิตตามพิมพ์
00:08:02 → 00:08:03 เขียวก็ได้
00:08:03 → 00:08:05 >> อันนี้ที่เขาเรียกว่าEpิ Genetic มั้ย
00:08:05 → 00:08:07 >> ใช่ Epigen Genetic พี่พยายามหาคำที่
00:08:07 → 00:08:10 เป็นคำไทยอ่ะไม่รู้อุมเคยเจอพี่ยังไม่เจอ
00:08:10 → 00:08:13 พี่ก็ EP Genetic ก็คือบางคนใช่คำว่า
00:08:13 → 00:08:15 เหนือเหนือพันธุกรรมพี่ฟังดูพี่ไม่ make
00:08:15 → 00:08:16 เซenseอ่ะ
00:08:17 → 00:08:20 >> มันมันก็คืออนิสะเออก็น่าจะดีสุดแล้วเออ
00:08:20 → 00:08:23 ความรู้จากทำไมคนราวแฝด 8 ไข่เดียวกันไม่
00:08:23 → 00:08:25 เหมือนกันผึ้งเหมือนกันพันธุกรรมเหมือน
00:08:25 → 00:08:27 กันแต่สุดท้ายไม่เหมือนกันตัวที่เปลี่ยน
00:08:27 → 00:08:30 แปลงคือ epigenetic ไอ้ตัวพิมพ์เขียวคือ
00:08:30 → 00:08:32 Genetic Epigen Genic คือที่อยู่ข้างๆ
00:08:32 → 00:08:34 พิมพ์เขียว
00:08:34 → 00:08:36 >> แล้วคราวนี้เนี่ยมันมีหลักฐานทางการแพทย์
00:08:37 → 00:08:40 อะไรบ้างมั้ยคะที่จะมาช่วยแบบเหมือนอาจจะ
00:08:40 → 00:08:43 มีงานวิจัยมาแล้วว่าให้เราปรับเปลี่ยน
00:08:43 → 00:08:47 พฤติกรรมแบบนี้แหละและก็เราเนี่ยก็จะแข็ง
00:08:47 → 00:08:49 แรงไม่เหมือนกับพ่อแม่
00:08:49 → 00:08:52 >> มันมี 3 อย่างนะครับที่มีงานวิจัยเยอะแยะ
00:08:52 → 00:08:56 พิสูจน์นะครับ 3 อย่างอย่างแรกก็คือว่า
00:08:56 → 00:08:58 การควบคุมแคลอรี่ที่บริโภค
00:08:58 → 00:08:59 >> มันก็คือ IF มั้คะ
00:08:59 → 00:09:00 >> ใช่เหมือน IF
00:09:00 → 00:09:03 >> อันที่ 2 ก็คือการออกกำลังกาย
00:09:03 → 00:09:04 >> อื
00:09:04 → 00:09:06 >> นะครับอันที่ 3 แต่อันที่ 3 เนี่ยอาจจะมี
00:09:06 → 00:09:09 งานวิจัยทำได้ยากก็คือข้อมูลน้อยหน่อยแต่
00:09:09 → 00:09:11 มันก็มาทางบวกเรื่อยๆคือนอนให้เป็นเวลา
00:09:11 → 00:09:14 ตื่นให้เป็นเวลาถ้าเอาตามศัพท์ทางการ
00:09:14 → 00:09:16 แพทย์การควบคุมอาหารก็คือ caloric
00:09:16 → 00:09:18 restriction ควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่เอา
00:09:18 → 00:09:19 เข้าร่างกาย
00:09:19 → 00:09:22 >> ออกกำลังกายก็ exercise นะครับไอ้ตัวตื่น
00:09:22 → 00:09:24 ให้เป็นเวลานอนให้เป็นเวลาทำอะไรให้เป็น
00:09:24 → 00:09:27 เวลาเเรียกcircึมปรับนาฬิกาชีวภาพของร่าง
00:09:27 → 00:09:31 กายมันจะช่วยได้ดังนั้นก็คือ IF เนี่ยถ้า
00:09:31 → 00:09:35 ย้อนกลับไปนะพระพุทธเจ้าเก่งมากนะคือท่าน
00:09:35 → 00:09:37 พูดถึง IF มานานแล้วอ่ะ
00:09:37 → 00:09:39 >> นะครับก็คือการ IF พระภิกษุเนี่ยโอโหก็
00:09:39 → 00:09:43 คือ 4:20 เลยมั้งพระพระฉันได้ไม่เกิน 4
00:09:43 → 00:09:44 ช่โมงอ่ะเอาที่ว่าเริ่มฉัน 8:00 น.ไม่
00:09:44 → 00:09:46 เกินเที่ยงก็ต้องหยุดและแล้ว 20 ชั่วโมง
00:09:46 → 00:09:49 ไม่ฉันเลยอันเนี้ยเป็น IF เพราะฉะนั้นคือ
00:09:49 → 00:09:51 car restriction ลดแคลอี่เนี่ยมันเป็น
00:09:51 → 00:09:53 สิ่งที่พิสูจน์มานานแล้ว
00:09:53 → 00:09:56 >> นะครับแล้วก็ไอ้ตัว IF แรกๆ Study ในหนู
00:09:56 → 00:09:58 มีการศึกษาในหนูเจอว่าไอ้หนูที่ให้มันอด
00:09:59 → 00:10:02 อาหารเนี่ยนะครับมันดูแข็งแรงขึ้นทั้งๆ
00:10:02 → 00:10:04 ที่อายุเท่ากันนะอายุตามตามบัตรประชาชน
00:10:04 → 00:10:07 หนูอ่ะก็คือเท่ากันเกิดพร้อมกันแต่ว่าไอ้
00:10:07 → 00:10:09 หนูที่ให้กินเต็มที่กับหนูที่อดอาหาร
00:10:09 → 00:10:12 เนี่ยหนูที่อดอาหารมี longity คืออยู่ได้
00:10:12 → 00:10:14 นานกว่าแล้วก็ป่วยน้อยกว่าไอ้หนูที่กิน
00:10:14 → 00:10:15 เต็มที่
00:10:15 → 00:10:16 >> โอน่าสนใจมาก
00:10:16 → 00:10:18 >> ใช่exer์ซiseก็แน่นอนอยู่แล้วเราก็รู้
00:10:18 → 00:10:20 อยู่แล้วexerร์ซiseที่เหมาะสมนะครับแล้ว
00:10:20 → 00:10:20 ก็
00:10:20 → 00:10:22 >> แต่เค้ามีมั้คะexerร์ซiseเฉพาะอย่างมย
00:10:22 → 00:10:25 เพราะว่าเค้าพูดกันมากเลยในโซเชียลมีดี
00:10:25 → 00:10:26 >> ว่า
00:10:26 → 00:10:30 >> ว่า exercise ไหนที่ช่วย longevity ช่วย
00:10:30 → 00:10:35 anti agaging อย่างเช่นเอ่อโยคะพิลาทิส
00:10:35 → 00:10:37 >> คือเอาง่ายๆ exercise หลักๆเนี่ยอย่างแรก
00:10:37 → 00:10:39 คือคาร์ดิโอต้องทำต้องทำอยู่แล้วเพราะทำ
00:10:39 → 00:10:41 ให้กล้ามเนื้อกล้ามกล้ามเนื้อแข็งแรง
00:10:41 → 00:10:43 กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงอันที่ 2 ถ้าอายุ
00:10:43 → 00:10:46 มากขึ้นเกิน 35 ไปซึ่งอุ่มคุณยังไม่เกิด
00:10:46 → 00:10:47 น่ะนะ
00:10:47 → 00:10:49 >> อ่าถูกไม่รู้
00:10:49 → 00:10:52 >> ก็คือต้องต้องมีเค้าเรียกอะไร resistance
00:10:52 → 00:10:54 เราต้องยกเวทเออยกเวทเพราะทำให้กล้าม
00:10:54 → 00:10:55 เนื้อแข็งแรงทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น
00:10:56 → 00:10:57 >> คือเราต้องรักษามวลกล้ามเนื้อ
00:10:57 → 00:10:59 >> อ่าดังนั้นคือถ้าอายุมากขึ้นเนี่ยต้องเวท
00:10:59 → 00:11:00 แต่ถ้าอายุน้อยๆคุณจะแค่คาร์ดิโออย่าง
00:11:00 → 00:11:01 เดียวก็ได้
00:11:01 → 00:11:03 >> อายุมากต้องเวทนะครับเพราะมันจะมีคำว่า
00:11:03 → 00:11:06 ซาโคเนียกล้ามเนื้อมันหายไปตามนั้นนะครับ
00:11:06 → 00:11:09 ดังนั้นก็คือคาร์ดิโอแล้วก็เวทนะครับ
00:11:09 → 00:11:12 strชingเป็นอะไรที่ดีมากพี่ได้กับตัวเอง
00:11:12 → 00:11:12 เลย
00:11:12 → 00:11:13 >> อือื
00:11:13 → 00:11:16 >> นะครับเพราะว่าพอทำโยคะคือเมื่อก่อนพี่
00:11:16 → 00:11:18 เปิดคลินิกแล้วพอปิดคลินิกพี่ปิดคลินิกมา
00:11:18 → 00:11:20 4 ปีแล้วมันว่ามีอะไรทำก็เลยเล่นโยคะนะ
00:11:20 → 00:11:23 ครับการเล่นโยคะเนี่ยทำให้สมัยก่อนเเอา
00:11:23 → 00:11:25 งี้ง่ายๆเลยพี่เป็นอฟิศsyนrมอลาวออฟฟิศ
00:11:26 → 00:11:28 syndrมบ่อยมากปวดสะบัดเหมือนมีดปักเข้าไป
00:11:28 → 00:11:29 ข้างหลังอะไรเงี้ยแล้วก็ไปนวดนวดทุก
00:11:29 → 00:11:32 สัปดาห์คลินิกอยู่ข้างบนไอ้ร้านนวดอยู่
00:11:32 → 00:11:34 ข้างล่างอ่ะเอาบัตร VIP เรลงมานวด
00:11:34 → 00:11:36 >> นวดทุกสัปดาห์ก็ยังไม่หายมันดีประมาณ 2
00:11:36 → 00:11:38 ชั่วโมงมั้งแต่ตั้งแต่พี่เล่นโยคะมา 4 ปี
00:11:38 → 00:11:41 เล่นสัปดาห 2 ครั้งนะ 4 ปีเพี่ไม่เคยนวด
00:11:41 → 00:11:42 แผนโบราณอีกเลย
00:11:42 → 00:11:42 >> โอ้โหโ
00:11:42 → 00:11:45 >> ไม่เคยนวดอีกเลยแล้วงานประชุมล่าสุดพูด
00:11:45 → 00:11:47 ง่ายๆเป็น MC งานประชุมพี่ยืนทั้งวันมัน
00:11:47 → 00:11:49 มันเริ่มยึดหลังเริ่มยึดเชื่อมการที่พี่
00:11:49 → 00:11:51 รู้สึกเหมือนมีอะไรปักหลังเนี่ยแล้วตอน
00:11:51 → 00:11:55 เบรคพี่แค่พี่แค่ไปยืนแล้วก้มเอามือแตะ
00:11:55 → 00:11:58 ปลายเท้าแล้วนับ 1-20 อ่ะแล้วก็พอยิงขึ้น
00:11:58 → 00:12:00 มาพี่หายปวดหลัง
00:12:00 → 00:12:03 >> แปลว่ากล้ามเนื้อเรามันหดตัวมันสปารซมัน
00:12:03 → 00:12:05 อะไรตลอดเวลาแค่strชชingมันช่วยได้
00:12:05 → 00:12:08 >> แล้วพอเล่นโยคะพี่เล่นตอนกลางคืนนะครับพอ
00:12:09 → 00:12:11 เล่นโยคะปุ๊บเนี่ยเราจะง่วงโดยอัตโนมัติ
00:12:11 → 00:12:11 >> อือื
00:12:11 → 00:12:14 >> มันจะง่วงทันทีเลยแล้วก็เราจะใครมีปัญหา
00:12:14 → 00:12:16 ขับถ่ายเนี่ยโยคะจะขับถ่ายดีมาก
00:12:16 → 00:12:18 >> พี่เล่นพี่ไม่มีปัญหาขับถ่ายนะแต่เล่น
00:12:18 → 00:12:20 โยคะเสร็จพี่จะใช้เวลาขับถ่ายอยู่ในห้อง
00:12:20 → 00:12:22 น้ำประมาณครึ่งชั่วโมง
00:12:22 → 00:12:24 >> มันคงไปบิดลำไส้หรือว่าท่าอะไรก็ตามมันจะ
00:12:24 → 00:12:27 ได้เพราะนั้นคือมันมันได้ผลจริงๆนะครับ
00:12:27 → 00:12:30 ดังนั้นการstrชingหรือโยคะเนี่ยมันได้ผล
00:12:30 → 00:12:33 ที่ว่ามันทำให้เราได้นอนตามเวลาและทำให้
00:12:34 → 00:12:36 เราลดเพราะว่าเรารู้ว่าอฟิศ syndrome
00:12:36 → 00:12:38 หรือไอ้โรคสะบักจมอะไรสักอย่างเนี่ยมัน
00:12:38 → 00:12:41 ปวดเพราะว่ามันมีการอักเสบของบริเวณ
00:12:41 → 00:12:41 อ่าเป็น
00:12:41 → 00:12:43 >> มีการคั่งของอนุบูลอิสระบริเวณนั้นถ้ามัน
00:12:43 → 00:12:46 ปวดน้อยลงแปลว่าอนุบูลอิสระคุณน่าจะโดน
00:12:46 → 00:12:48 เคลียร์ไปโดยระบบการไหลเวียนโลหิตน้ำ
00:12:48 → 00:12:49 เหลืองอะไรก็แล้วแต่
00:12:49 → 00:12:52 >> มันถึงช่วยได้จริงแล้วก็ stretching ต้อง
00:12:52 → 00:12:53 บอกเลยว่า stretching ต้อง stretching
00:12:53 → 00:12:55 จริงๆถ้า stretching time มันมีแผ่นไอ้
00:12:55 → 00:12:57 พวกออกกำลังกายคาร์ดิโอเสร็จแล้ว
00:12:57 → 00:12:59 stretching ยกขายกแขนแค่นั้นมันไม่ช่วย
00:12:59 → 00:13:02 หรอกสุดท้ายตื่นมาวันลุกขึ้นตึงเหมือน
00:13:02 → 00:13:04 เดิมโยคะคือ overstetching
00:13:04 → 00:13:04 >> ออ
00:13:04 → 00:13:07 >> การเล่นโยคะมันคือยืดมากกว่ากล้ามเนื้อ
00:13:07 → 00:13:09 ปกติที่คุณจะยืดได้
00:13:09 → 00:13:09 >> อื
00:13:09 → 00:13:11 >> ถูกมั้ยดังนั้นก็คือต้อง overstretching
00:13:11 → 00:13:15 ถึงจะช่วยได้ก็คือพีทิสโยคะแน่นอนอยู่
00:13:15 → 00:13:18 แล้วแต่ว่าพาทิสเนี่ยมันจะมีการใช้กล้าม
00:13:18 → 00:13:19 เนื้อมีการเกร็งเยอะดังนั้นพลาทิสเนี่ย
00:13:20 → 00:13:22 มันจะเหมือนคนเล่นเวทแต่มันใช้บอดี้เวท
00:13:22 → 00:13:23 มันใช้กล้ามเนื้อตัวเองถูกมั้ฮะมันต้องไป
00:13:23 → 00:13:26 แขวนบนอากาศอะไรเงี้ยสุดท้ายพีราธิสถ้าจะ
00:13:26 → 00:13:29 ให้ดีก็ต้องตามด้วยโยคาต้องstrชingออ
00:13:29 → 00:13:32 >> อืใช่ดังนั้นต้องทำนะครับ stretching
00:13:32 → 00:13:36 ช่วยได้จริงการตื่นและนอนเป็นเวลานี้ช่วย
00:13:36 → 00:13:37 ได้จริง
00:13:37 → 00:13:40 >> ตื่นและนอนเป็นเวลาในที่นี้เนี่ยคือต้อง
00:13:40 → 00:13:42 ตามพระอาทิตย์ด้วยมั้คะหรือบางคนแบบ
00:13:42 → 00:13:43 >> ถ้าอาจจะให้ดีต้องตามนั้นเพราะมันมี
00:13:43 → 00:13:45 นาฬิกาชีวภาพของร่างกายเราที่ biological
00:13:45 → 00:13:46 clock
00:13:46 → 00:13:49 >> นะครับมันจะทำงานประหลาดๆซึ่งบางทีเราก็
00:13:49 → 00:13:52 ไม่รู้แต่แน่นอนเวลาเราบินข้าม time
00:13:52 → 00:13:54 zซoneนะครับเราจะมีปัญหาเจ็แลคทันที
00:13:54 → 00:13:55 >> อ๋อใช่ๆ
00:13:55 → 00:13:57 >> นะครับเพราะว่านานนาฬิกาชีวภาพเราปรับ
00:13:57 → 00:13:59 เปลี่ยนอะไรสักอย่างไม่รู้ที่คนต้องใช้
00:13:59 → 00:14:02 เมลตินินช่วยอะไรพวกเนี้ยพอพี่พี่ทำ IF
00:14:02 → 00:14:05 แล้วพี่เล่นโยคะเชื่อมั้ยพี่เดินทางล่า
00:14:05 → 00:14:08 สุดไปสเปนไปสวิตพี่ไม่เคยเจ็คเลยมันหลับ
00:14:08 → 00:14:08 อ่ะ
00:14:08 → 00:14:09 >> โอหโอ
00:14:09 → 00:14:11 >> เออก็คืออยู่บนเครื่องอ่ะพี่ก็ไม่หลับนะ
00:14:11 → 00:14:12 เพราะพี่เป็นคนที่ไม่หลับบนเครื่องอยู่
00:14:12 → 00:14:15 แล้วพี่ก็ดูหนังไปแต่พอไปเหยียบพื้นที่
00:14:15 → 00:14:17 เขาแล้วทำงานตอนกลางคืนพี่หลับตามปกติ
00:14:17 → 00:14:19 อะไรบางอย่างซึ่งถ้าแIC restriction เรา
00:14:19 → 00:14:21 ทำ Exercise พี่ทำสม่ำเสมอแล้วพี่เป็นคน
00:14:21 → 00:14:24 ที่กินและนอนเป็นเวลาร่างกายมันพี่ไม่รู้
00:14:24 → 00:14:26 มันปรับได้ยังไงอ่ะพี่ไม่เคยมีปัญหา
00:14:26 → 00:14:28 เจ็แลคเลยตอนพี่ไปเรียนอเมริกาน่ะตอนนั้น
00:14:28 → 00:14:31 ยังไม่ได้คุมอาหารนะครับยังริงแอลกอฮอล์
00:14:31 → 00:14:33 แหลกเลยตอนนั้นแล้วไม่ออกกำลังกายพี่ก็
00:14:33 → 00:14:35 ไม่เจแลกตอนอเมริกา
00:14:35 → 00:14:38 >> เออมันก็คงอยู่ที่บางคนน่ะแต่หลังๆพออายุ
00:14:38 → 00:14:39 มากขึ้นมันควรจะเจ็แลกนึกออกมั้อายุมาก
00:14:39 → 00:14:41 ขึ้นมันต่างกันเยอะเหตุการณ์ผ่านมาเป็น
00:14:41 → 00:14:43 เกือบ 20 ปีอ่ะมันก็ดีขึ้นเพราะว่าพี่
00:14:44 → 00:14:46 พยายามดูแลตัวเองมากขึ้นดังนั้นการตื่น
00:14:46 → 00:14:48 และนอนเป็นเวลามันช่วยเราก็รู้อยู่แล้ว
00:14:48 → 00:14:52 ว่ามันจะมีฮอร์โมนฮอร์โมนมันจะออกช่วง
00:14:52 → 00:14:54 ง่ายๆคือมันตีประมาณ 22:00 น. - 2:00 น.
00:14:54 → 00:14:56 ดังนั้นก็คือถ้าเรานอนช่วงเนี้ยเราจะรับ
00:14:56 → 00:14:58 โสฮอร์โมนเต็มๆ
00:14:58 → 00:14:59 >> อื
00:14:59 → 00:15:01 >> นะครับซึ่งคนที่อายุมากแบบพี่อ่ะโท
00:15:01 → 00:15:03 ฮอร์โมนมันก็ยังสร้างนะต่อมใต้สมองมันก็
00:15:03 → 00:15:05 ยังอุตส่าห์สร้างโรสฮอร์โมนมันแต่มันไม่
00:15:05 → 00:15:07 ได้สร้างเพื่อให้เจริญเติบโตให้สูงขึ้น
00:15:07 → 00:15:10 ให้มีกล้ามมากขึ้นและมันสร้างเพื่อซ่อม
00:15:10 → 00:15:13 แซมสิ่งที่สึกหรอตามวัยที่มันเกิดขึ้นนะ
00:15:13 → 00:15:14 ครับดังนั้นพอ
00:15:14 → 00:15:14 >> อ
00:15:14 → 00:15:17 >> ถ้าเรานอนช่วงไม่เกิน 22:00 น.มันจะได้
00:15:17 → 00:15:19 รับโรสฮอร์โมนเต็มแล้วมันจะทำให้เราตื่น
00:15:19 → 00:15:22 เช้าตื่นเช้าคือสดชื่นนึกออกมาออกกำลัง
00:15:22 → 00:15:24 กายตอนเช้าได้แดดยังไม่แรงไม่ต้องเจอ UV
00:15:24 → 00:15:27 มากมันดีขึ้นทุกอย่างสังเกตมาตั้งนานและ
00:15:27 → 00:15:29 อย่างสมัยก่อนที่ยังเที่ยวอยู่สังเกตว่า
00:15:29 → 00:15:31 เวลาเที่ยวอ่ะตอนเที่ยง 1:00 นจะสดชื่น
00:15:32 → 00:15:34 มากเพราะโรสฮอร์โมนมันช่วยให้เราสดชื่น
00:15:34 → 00:15:37 >> แต่เราดันถลุงโสฮอร์โมนไปกับการปาร์ตี้
00:15:37 → 00:15:40 >> แล้วพอ 3:00 น.ปุ๊บเนี่ยเราจะแป๊กและ
00:15:40 → 00:15:42 เพราะโรสฮอร์โมนมันหยุดแล้วแทนที่เราจะ
00:15:42 → 00:15:45 เอาโรสฮอร์โมนมาซ่อมแซมร่างกายเราดันใช้
00:15:45 → 00:15:48 โสฮอร์โมนเข้าผับการเต้นทำให้เราไม่แฮง
00:15:48 → 00:15:50 อะไรพวกเนี้ยเราใช้ผิดประเภท
00:15:50 → 00:15:50 >> โอ้โห
00:15:50 → 00:15:52 >> เราถลุงโรสฮอร์โมนไปตลอดชีวิตดังนั้นตอน
00:15:52 → 00:15:54 เนี้ยปรับตัวใหม่
00:15:54 → 00:15:55 >> เห็นภาพ
00:15:55 → 00:15:56 >> เออใช่
00:15:56 → 00:15:58 >> แต่ก็ต้องบอกว่าไม่สายเกินไป
00:15:58 → 00:16:00 >> ทำได้ทำได้ตลอดทำได้ตลอดนะครับมันมันไม่
00:16:00 → 00:16:02 ใช่สายเกินไปหรอกเออใช่ร่างกายเรา
00:16:02 → 00:16:04 อุตส่าห์ให้สิ่งดีๆมาเราก็ใช้หน่อยไม่ใช่
00:16:04 → 00:16:07 เอาไปใช้ไม่ถูกต้องอ่ะก็สังเกตพี่สังเกต
00:16:07 → 00:16:10 หลายคนนะพอ 2:00 น.อ่ะจะง่วงทั้งๆที่
00:16:10 → 00:16:12 ชั่วโมงที่แล้วมันยังเฮาปาร์ตี้ยังเต้น
00:16:12 → 00:16:14 อยู่ทำม 2:00 3:00 น.อ๋อมันเหมือนมันมัน
00:16:14 → 00:16:17 ได้รับยาบ้ายาบ้าของมันคือโสฮอร์โมน
00:16:17 → 00:16:17 >> ออ
00:16:17 → 00:16:20 >> ใช่เรื่องจริงเรื่องจริงครับ
00:16:20 → 00:16:22 >> แล้วพวกอาหารเสริมอ่ะคะที่เขาบอกว่าดี
00:16:22 → 00:16:24 นั่นนี่นั่นแล้วก็แบบโหเป็นกระแสแรงมาก
00:16:24 → 00:16:25 เลยช่วงนี้
00:16:25 → 00:16:27 >> เอางี้ถ้าเอาแง่เอาแง่ของหัวข้อ Epigenic
00:16:28 → 00:16:33 นะครับอาหารเสริมที่มีพูดในEpิeticเยอะ
00:16:33 → 00:16:35 คือ 2 ตัวนอกนั้นเป็นยา
00:16:35 → 00:16:38 >> นะครับอาหารเสริมตัวแรกที่มีวิจัยเยอะมาก
00:16:38 → 00:16:39 คือ Restatol
00:16:39 → 00:16:39 >> โอ
00:16:39 → 00:16:42 >> ที่มันอยู่ในองุ่นแดงอยู่ในวายแดงอะไรพวก
00:16:42 → 00:16:46 เยแต่อย่าเอาคิดว่ากินวายแดงและไม่คุณ
00:16:46 → 00:16:48 ต้องกินวายแดงเป็นลิตรอ่ะถึงจะได้restทอ
00:16:48 → 00:16:49 ซึ่งมันไม่คุ้มหรอกตับแข็งก่อน
00:16:49 → 00:16:53 >> ออแต่มีมีผลจริงเพราะว่ามีงานวิจัยเยอะ
00:16:53 → 00:16:56 มาก restat เนี่ยมันจะเป็นอันนี้ขอศัพท์
00:16:56 → 00:16:59 การแพทย์เ้าเรียกว่า statin activated
00:16:59 → 00:17:02 compound มันกระตุ้นเtuเราก็รู้ว่าถ้า
00:17:02 → 00:17:04 เtuมากขึ้นเนี่ยมันมักจะดีแต่ต้องไม่มาก
00:17:04 → 00:17:06 เกินไปคือร่างกายของเราอ่ะจะมี balance
00:17:06 → 00:17:09 อยู่แล้วนะครับปัญหาสำคัญคือเฮ้ยถ้าตัว
00:17:09 → 00:17:13 นี้ดีเราเติมไปให้มากๆไม่ใช่ไม่ใช่ยิ่ง
00:17:13 → 00:17:14 มากยิ่งดี
00:17:14 → 00:17:14 >> อ๋อ
00:17:14 → 00:17:16 >> เพราะร่างกายจะมีว่าเทนี่มากเกินไปปุ๊บ
00:17:16 → 00:17:17 มันจะมีตัวที่มากด
00:17:17 → 00:17:17 >> อ๋อ
00:17:18 → 00:17:20 >> ดังนั้นถ้าถ้าเราไปเราไปรบกวนบาลานซือ
00:17:20 → 00:17:22 สมนุลร่างกายเมื่อไหร่จะเกิดปัญหาทันที
00:17:22 → 00:17:23 >> อื
00:17:23 → 00:17:26 >> นะครับเพราะว่าเuินเนี่ยมันจะทำงานตรง
00:17:26 → 00:17:27 ข้ามกับตัวนึงที่ชื่อ Mor
00:17:27 → 00:17:28 >> อือ
00:17:28 → 00:17:31 >> เออซึ่งถ้าเราคิดว่าจะเพิ่มเทีin Mtor
00:17:31 → 00:17:34 ไม่ค่อยดีเินทำให้ชะลอไวMor่อทำให้ aging
00:17:34 → 00:17:36 ทำให้ชราภาพเราก็มักคิดว่าเฮ้ยก็เพิ่ม
00:17:36 → 00:17:39 โทอินดิไม่ก็ลด Mor ไปเรื่อยๆแต่เจอว่า
00:17:39 → 00:17:42 ถ้า Mtor ลดมากเกินไปมีปัญหาหาเซ็ก์
00:17:42 → 00:17:43 เสื่อม
00:17:43 → 00:17:43 >> อ้า
00:17:43 → 00:17:46 >> ไม่ไม่กระชุ่มกระชวยไม่กระปรี้กระเป๋าดัง
00:17:46 → 00:17:48 นั้นคือมันบาanceซกันอยู่แล้วตามร่างกาย
00:17:48 → 00:17:49 ของเรา
00:17:49 → 00:17:52 >> นะครับดังนั้นคือเสริมrestทalได้แต่ไม่
00:17:52 → 00:17:55 ใช่ทยอยกินวันเป็นกรรมเลยเพนั้นมันจะ
00:17:55 → 00:17:56 เมื่อไหร่ก็ตามคือร่างกายเรามันฉลาดมัน
00:17:57 → 00:17:59 พยายามbบalanceซพยายามรักษาสมดุลถ้าเมื่อ
00:17:59 → 00:18:01 ไหร่ก็ตามเราไปรบกวนสมดุลแต่ถ้าไม่มาก
00:18:01 → 00:18:04 เกินไปร่างกายมันยังปรับตัวได้แต่ถ้ามาก
00:18:04 → 00:18:07 เกินไปก็จะมีปัญหาตามมาเหมือนล่าสุดที่มี
00:18:07 → 00:18:10 จำไม่ได้ CEO ดังคนนึงน่ะเกิน
00:18:10 → 00:18:11 >> อ๋อ
00:18:11 → 00:18:13 >> มันเป็นตัวชะลอรอไวเค้ากินมา 5 ปีตอนนี้
00:18:13 → 00:18:13 เค้าหยุดกินแล้ว
00:18:14 → 00:18:15 >> มันเป็นกลุ่มยาถูกมั้ยคะ
00:18:15 → 00:18:17 >> ใช่กลุ่มยาเนี่ยมันไปเกี่ยวกับเอ็ม
00:18:17 → 00:18:20 >> นะครับเ้าบอกว่าเ้ากิน 5 ปีเนี่ยแก่ไว
00:18:20 → 00:18:21 กว่าเดิม
00:18:21 → 00:18:22 >> เอ้า
00:18:22 → 00:18:25 >> ใช่ข่าวดังชื่อจำไม่ได้เพิ่งเค้าเเพิ่ง
00:18:25 → 00:18:27 เร็วๆนี้เองดังนั้นเรามันต้องคิดbalanceซ
00:18:27 → 00:18:29 >> โอแล้วอย่างงี้ใครถ้าเกิดสนใจจะทาน
00:18:29 → 00:18:32 respatอเงี้ยเขาควรจะทานโดสประมาณเท่า
00:18:32 → 00:18:32 ไหร่
00:18:32 → 00:18:36 >> เอางี้ง่ายสุดง่ายสุดไปแก้ 3 อย่างก่อน
00:18:36 → 00:18:36 >> อือ
00:18:36 → 00:18:39 >> อาหาร caric restriction exercise แล้ว
00:18:39 → 00:18:42 ก็rึมของร่างกายในการตื่นการนอนการทำให้
00:18:42 → 00:18:45 เป็นเวลานะครับอาหารเสริมก็คือ Restat
00:18:45 → 00:18:48 เนี่ยตัวที่จะได้ผลนะครับก็คือต้องไม่ต่ำ
00:18:48 → 00:18:49 กว่า 500 มลกรัม
00:18:49 → 00:18:50 >> อื
00:18:50 → 00:18:52 >> 2,000 มิลลิกัก็โอเคมันมีบางแบรนด์ที่
00:18:52 → 00:18:54 เป็น 2,000 มิลกรัมขายก็ได้วันละเม็ดพออื
00:18:54 → 00:18:56 ครับมันช่วยได้ช่วยได้จริงแต่ง่ายๆสุดคือ
00:18:56 → 00:18:59 ทำอะไรที่ต้องไม่สไม่ต้องเสียเงินต้อง
00:18:59 → 00:19:01 เสียเงินซื้อกินอาหารให้ลดลง
00:19:01 → 00:19:02 >> ประยัดด้วย
00:19:02 → 00:19:04 >> เออใช่ exercise สม่ำเสมอนอนให้เป็นเวลา
00:19:04 → 00:19:06 อันนี้ไม่ต้องเสียเงินซื้อเลย
00:19:06 → 00:19:08 >> นะครับแล้วก็อาหารอาหารเนี่ยก็เป็นสิ่ง
00:19:08 → 00:19:13 ที่น่าสนใจคนชอบบอกทำนะแต่สิ่งที่ช่วงที่
00:19:13 → 00:19:15 เค้ากินได้สมมุติเค้ากินได้ 6 ช่โมงไม่
00:19:15 → 00:19:18 กิน 18 ชั่วโมงช่วงที่กินได้ข้าวขาหมู
00:19:18 → 00:19:23 ข้าวมันไก่ขนมหวานๆชานมไข่มุกอะไรก็ถูก
00:19:23 → 00:19:24 หลักถูกมั้ล่ะก็กินแค่เนี้ย 6 ชั่วโมงก็
00:19:24 → 00:19:26 กินได้เต็มที่มันก็ไม่ได้
00:19:26 → 00:19:31 >> เพราะว่าการกินหวานและกินมันและกินของทอด
00:19:31 → 00:19:34 ที่เป็นพวกทานfฟatอะไรก็ตามหรือว่าอาหาร
00:19:34 → 00:19:36 process food เรียกว่าอะไรวะอาหารอะไร
00:19:36 → 00:19:38 ไม่รู้ Ultra Process Food ไส้กรอก
00:19:38 → 00:19:40 เบคอนอะไรพวกเนี้ยมันไม่ดีต่อสุขภาพดัง
00:19:40 → 00:19:42 นั้นไม่ใช่ว่า 6 ชม.หรือ 4 ช่โมที่คุณกิน
00:19:42 → 00:19:44 ไม่ใช่คุณอยากกินอะไรกินได้หมดไม่ใช่เรา
00:19:45 → 00:19:47 ก็ต้องกินให้ดีด้วยพอมาตามดูเนี่ยทุกปี
00:19:47 → 00:19:51 เนี่ยมันจะมีเรติ้งของว่าอาหารสูตรไหนดี
00:19:51 → 00:19:52 ที่สุด
00:19:52 → 00:19:56 >> ออไอ้ตัวที่ได้เรติ้งดีมาประมาณอย่างต่าง
00:19:56 → 00:19:59 ๆ 6 ปีซ้อนคือMediterิอเนียนDietอต
00:19:59 → 00:19:59 >> อ๋อ
00:19:59 → 00:20:03 >> Medิอรเรนเนียนคือประเทศที่อยู่ข้างทะเล
00:20:03 → 00:20:04 >> ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
00:20:04 → 00:20:07 >> ใช่ดังนั้นก็คือสัตว์น้ำเ้าเยอะ
00:20:07 → 00:20:10 เมดิเตอร์เรเนียนเนี่ยมันมีฐานซึ่งใหญ่
00:20:10 → 00:20:13 มากแต่ฐานที่ขึ้นมาที่ 2 ก็คือผักผลไม้
00:20:13 → 00:20:16 อากาศมันดีอ่ะมีผักผลไม้สดๆเยอะ
00:20:16 → 00:20:20 >> ผักผลไม้มาแล้วขึ้นมาคือโปรตีนจากสัตว์
00:20:20 → 00:20:23 น้ำพ่นปลานะครับแล้วก็ขึ้นมาอีกสเต็ปคือ
00:20:23 → 00:20:26 โอเคกินชีสกินขนมปังได้แต่ต้องเป็นโฮวี
00:20:27 → 00:20:28 เพราะนั้นสเต็ปคือผักผลไม้เยอะอ
00:20:29 → 00:20:32 >> นะครับแล้วก็โปรตีนโปรตีนจากปลาปลาเนื้อ
00:20:32 → 00:20:34 ขาวเช่นไอ้พวกซีบาสก็ได้หรือปลาเนื้อแดง
00:20:34 → 00:20:36 พวกแซลมอนก็ได้แล้วแต่
00:20:36 → 00:20:39 >> หรือส้มแซลมอนแล้วขึ้นมาอีกทีเป็นพวกชีส
00:20:39 → 00:20:42 หรือโฮวีทไอ้ที่น้อยสุดนะครับก็คือของ
00:20:42 → 00:20:44 หวานและเนื้อแดง
00:20:44 → 00:20:44 >> อื
00:20:44 → 00:20:46 >> นะครับแต่ฐานที่ใหญ่สุดคือ physical
00:20:46 → 00:20:49 contact มีปฏิสัมพันธ์ในสังคม
00:20:49 → 00:20:53 >> อ๋ออันนี้พอ Mark of Aging ตัวใหม่ที่
00:20:53 → 00:20:57 มันเพิ่มพมาปีก็คือMediterrเนียนเนี่ยไม่
00:20:57 → 00:20:59 มีสูตรไหนที่เพิ่มที่มี Physical contact
00:20:59 → 00:21:02 Medเรียนมีตั้งนานแล้วคือคทactสังคมเยอะๆ
00:21:02 → 00:21:05 นะครับแล้วก็กินผักผลไม้กินโปรตีนจากปลา
00:21:05 → 00:21:09 แล้วก็กินชีสกินโฮวีได้บ้างเนื้อแดงกับ
00:21:09 → 00:21:12 ไอ้พวกผลไอ้พวกขนมหวังนานๆทีแล้ว
00:21:12 → 00:21:15 Mediterran เนื่องจากฐานใหญ่สุดคือ
00:21:15 → 00:21:17 Physical Contact Social ดังนั้นคือ
00:21:17 → 00:21:18 เขาถึงให้กินวายแดงได้
00:21:19 → 00:21:19 >> เพราะจะได้โซเชียล
00:21:19 → 00:21:23 >> ใช่ถูกต้องนะครับแต่วายแดงคือบอกว่า Once
00:21:23 → 00:21:24 or Twice a week
00:21:24 → 00:21:25 >> อื
00:21:25 → 00:21:27 >> สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งดังนั้นเนี่ยเชนะเลิศ
00:21:27 → 00:21:28 มาตลอด
00:21:28 → 00:21:30 >> นะครับแล้วก็พอหลักอันดับ 2 คือ DAS
00:21:30 → 00:21:34 diage DAS เนี่ยเป็นสูตรที่ NH คือ NH
00:21:34 → 00:21:37 ของอเมริกานะครับพี่จำชื่อไทยไม่ได้และนะ
00:21:37 → 00:21:39 ครับอะไรสักอย่างเนี่ยเค้าตั้งขึ้นมา
00:21:39 → 00:21:41 เพื่อสำหรับใช้คนที่เป็นโรคความนันหรือ
00:21:42 → 00:21:44 โรคหัวใจเพราะฉะนั้นDasชเนี่ยจะเหมือน
00:21:44 → 00:21:46 เมดิเตอรเรเนียนแต่ว่าจะลดเค็ม
00:21:46 → 00:21:46 >> อ๋อ
00:21:46 → 00:21:49 >> ดังนั้นแดชจะไม่มีพวกชีสอาหารที่คนทำอยู่
00:21:50 → 00:21:53 แต่ได้ติดอันดับโลๆทุกปีเลยคือคีโตไดเอต
00:21:53 → 00:21:56 คีโตพาพาอะไรพาลิโอทริกอะไรสักอย่างที่
00:21:56 → 00:21:59 อาหารตามนั้นน่ะแล้วก็เอออาหารพวกไอ้พวก
00:21:59 → 00:22:03 อาหารกล่องอ่ะแต่คีโตนี่คือได้ต่ำเพราะ
00:22:03 → 00:22:05 ว่าเขาบอกว่าออแkin diet ที่กินโปรตีน
00:22:05 → 00:22:06 เยอะๆ
00:22:06 → 00:22:06 >> อื
00:22:06 → 00:22:09 >> คือคอนเซปตของคีโตและแinก็เหมือนว่าถ้า
00:22:09 → 00:22:12 เรากินขาสาไปกินคาร์โบไฮเดรตไปเนี่ยมันจะ
00:22:12 → 00:22:14 กลายเป็นแฟแล้วเคอนเซปก็คือร่างกายเรา
00:22:14 → 00:22:17 เนี่ยมันมี 2 โรงงานในการผลิตแคลอรี่
00:22:17 → 00:22:21 >> โรงงานแรกคือผลิตแคลอรี่จากคาร์โบไฮเดรต
00:22:21 → 00:22:24 >> อีกโรงงานนึงคือผลิตแคลอรี่จากแฟช
00:22:24 → 00:22:24 >> ค่ะ
00:22:24 → 00:22:26 >> นะครับดังนั้นคีโตถึงกินแฟชเยอะ
00:22:26 → 00:22:26 >> อ่า
00:22:26 → 00:22:29 >> แล้วไม่กินขาบเพราะว่าเขาจะปิดโรงงานที่
00:22:29 → 00:22:32 ผลิตแคลอรี่จากขาบแต่สนับสนุนการทำงานของ
00:22:32 → 00:22:34 โรงงานที่ผลิตแคลอรี่จากแฟตแ
00:22:34 → 00:22:37 >> นะครับแล้วคีโตไดเอตใช้ได้มันลดน้ำหนัก
00:22:37 → 00:22:40 เร็วจริงนะครับไอ้พวกหมู 3 ชั้น 1 อะไร
00:22:40 → 00:22:42 พวกนี้มันลดหนักเร็วจริงๆแต่ว่าใช้ระยะ
00:22:42 → 00:22:44 ยาวไม่ได้เพราะถ้ากินเนี่ยกินของมันกิน
00:22:44 → 00:22:47 แฟลชยาวๆเนี่ยหมอโลกหัวใจยิ้มเลย
00:22:47 → 00:22:49 >> เดี๋ก็มาเดี๋ก็มาให้สวนหัวใจแล้วอะไร
00:22:49 → 00:22:52 เงี้ยนะครับดังนั้นคือทำได้ในกรณีคีตอได
00:22:52 → 00:22:54 หรือแinน่ะทำได้ช่วงสั้นๆที่เราต้องลดน้ำ
00:22:54 → 00:22:56 หนักเช่นจะถ่ายแบบจะลดน้ำหนักมาจะได้รีน
00:22:56 → 00:22:57 เต็มที่
00:22:57 → 00:22:57 >> อื
00:22:57 → 00:23:00 >> นะครับแต่ว่าทำระยะยาวไม่ได้
00:23:00 → 00:23:00 >> อื
00:23:00 → 00:23:02 >> ดังนั้นสรุปก็คือเราควรจะกิน
00:23:02 → 00:23:05 เมดิเตอร์เรเนียนผักผลไม้เป็นหลักนะครับ
00:23:05 → 00:23:07 แล้วก็นานๆถ้าสมมุติว่า enjoy ไปลงมาฐาน
00:23:07 → 00:23:09 ล่าง physical contact เยอะเกินเกินไป
00:23:09 → 00:23:11 ออกปราศิเกินไปก็ใช้คีโตบ้างเป็นช่วงๆได้
00:23:11 → 00:23:14 ประมาณ 5 วัน 7 วันคนที่กินคีโตไดเอ็ด
00:23:14 → 00:23:17 เนี่ยปัญหาสำคัญก็คือเวลาที่กินไปมันจะมี
00:23:17 → 00:23:18 กลิ่นตัวกลิ่นคีโตน
00:23:18 → 00:23:19 >> อ๋อ
00:23:19 → 00:23:23 >> พี่เคยอ่านมีดาราฮอลลีวูดชื่อดังเลยเกิน
00:23:23 → 00:23:26 คีโตไอดหุ่นดีมากแต่พอใส่เสื้อผ้าเนี่ยคน
00:23:26 → 00:23:28 ที่ใช้เสื้อผ้าต่อเบอกเหม็นมากกลิ่น
00:23:28 → 00:23:31 รักแร้กลิ่นเหงื่อกลิ่นปากออกมามันก็จะมี
00:23:31 → 00:23:32 ปัญหาถึงกินระยะยาวไม่ได้
00:23:32 → 00:23:35 >> แล้วจริงๆแล้วไม่แน่ใจว่าเคยเจอคนที่ทาน
00:23:35 → 00:23:37 คีโตไดเอตแล้วเป็นผื่นบ้างมั้ยคะ
00:23:37 → 00:23:38 >> มีคีโตส
00:23:38 → 00:23:40 พี่เจอคีโตชก็เจอเป็นระยะๆะ
00:23:40 → 00:23:41 >> อือ
00:23:41 → 00:23:43 >> นะครับแต่บางทีอ่ะพูดตรงๆบางทีถ้าคนไข้
00:23:43 → 00:23:46 เยอะอ่ะเราก็รักษาเหมือนเกษบทั่วไปเซิไม่
00:23:46 → 00:23:48 มีเวลาคุยไงแต่ถ้าคนไหนเราคนไข้ไม่เยอะ
00:23:48 → 00:23:51 เรามีเวลาคุยพอซักไปอ๋อกินคีโตไดเอตเพราะ
00:23:51 → 00:23:53 ฉะนั้นส่วนใหญ่ก็คือเจอไปบ่อยคีโตรชเจอ
00:23:53 → 00:23:54 บ่อยมาก
00:23:54 → 00:23:54 >> ใช่มั้คะ
00:23:54 → 00:23:57 >> อ่าใช่ซึ่งมันก็ไม่ได้มันก็ไม่ได้หนักหนา
00:23:57 → 00:23:59 สาหัสอะไรหรอกเพียงแต่ว่ามันจะทำให้เกิด
00:23:59 → 00:24:00 ความรำคาญ
00:24:00 → 00:24:03 >> นะครับคีโตยังดีกว่าแinแkinเนี่ยไอ้ตัวขา
00:24:03 → 00:24:06 แป้งไม่กินเลยแฟชก็ห้ามกินแต่โปรตีนอย่าง
00:24:06 → 00:24:08 เดียวคิดดูกินโปรตีนอย่างเดียวไตทำงาน
00:24:08 → 00:24:09 หนักขนาดไหนอ่ะ
00:24:09 → 00:24:09 >> อื
00:24:09 → 00:24:13 >> อืเพราะฉะนั้นแอดกินเนี่ยจะจะตายไวกว่านะ
00:24:13 → 00:24:15 ครับคือกินโปรตีนเป็นหลักนะครับแอดกินจะ
00:24:15 → 00:24:17 เหมือนมนุษย์ถ้ำมนุษย์ถ้ำไอ้พารไดเอต
00:24:17 → 00:24:19 เนี่ยเเรียกพาริโอไดเอตแล้วกันกินเหมือน
00:24:19 → 00:24:22 คนถ้ำคือคนถ้ำเนี่ยเพราะปลูกยังไม่ได้
00:24:22 → 00:24:22 >> อื
00:24:22 → 00:24:24 >> มามนุษย์ถ้ำน่ะมนุษย์ถ้ำล่าสัตว์
00:24:24 → 00:24:26 >> ขุดหัวเผือกหัวมัน
00:24:26 → 00:24:26 >> อื
00:24:26 → 00:24:29 >> แต่ปลูกปลูกมะเขือเทศปลูกอะไรยังไม่ได้
00:24:29 → 00:24:31 มันต้องปลูกถูกมั้ดังนั้นคือมนุษย์อ่ะ
00:24:31 → 00:24:33 เา้าจะกินเนื้อสัตว์เป็นหลัก
00:24:33 → 00:24:33 >> เออ
00:24:33 → 00:24:35 >> แล้วก็เาจะกินหัวเผือกของมันเป็นหลัก
00:24:35 → 00:24:36 เพราะขุดมาได้
00:24:36 → 00:24:37 >> อ๋อออ
00:24:37 → 00:24:41 >> เออคือการกินพออ่ะกินเหมือนมนุษย์ก่อนที่
00:24:41 → 00:24:42 จะรู้จักการเพาะปลูกอ
00:24:42 → 00:24:44 >> เหมือนที่อยู่ในถ้ำแล้วก็ไปตีหัวสัตว์นึง
00:24:44 → 00:24:46 เข้ามาอะไรเงี้ยตีหัวผู้หญิงล่าเข้ามาใน
00:24:46 → 00:24:48 ถ้ำเราเป็นเมียอะไรเงี้ยหลักการเดียวกัน
00:24:48 → 00:24:49 เพราะฉะนั้นคือพูดง่ายๆคือแล้วก็ล่าสุด
00:24:49 → 00:24:51 อ่ะพี่เพิ่งคุยกับโอ๊ค
00:24:51 → 00:24:52 >> โอ๊คอาจารย์สมิเรานี่แหละ
00:24:52 → 00:24:54 >> เ้าพี่เพิ่งรู้ว่าคือโอ๊คเนี่ยเค้าอ่าน
00:24:54 → 00:24:57 เปเปอร์เยอะมากต้องขอชื่นชมนะครับเบอกว่า
00:24:57 → 00:25:00 ปัจจุบันเทรนด์มันเปลี่ยนผักผัก 40%
00:25:00 → 00:25:04 โปรตีนและขาบเนี่ย 25
00:25:04 → 00:25:06 10 คือผลไม้เพราะผลไม้มีความหวานเราก็
00:25:06 → 00:25:09 รู้ว่าหวานกับมันเนี่ยไม่ดีต่อร่างกายดัง
00:25:09 → 00:25:11 นั้นคือผักเมื่อก่อนผักและผลไม้
00:25:11 → 00:25:13 >> ผักและผลไม้ปัจจุบันผักและผักอยู่นี่
00:25:13 → 00:25:14 ผลไม้อยู่นู่นแหละ
00:25:14 → 00:25:14 >> อื
00:25:14 → 00:25:18 >> เออผัก 40% และโปรตีนและขาบได้ขาบขึ้นมา
00:25:18 → 00:25:20 เท่า 25% เท่าโปรตีนเลยนะเพียงแต่ว่าขาบ
00:25:20 → 00:25:22 เนี่ยอ่ะโฮวีท
00:25:22 → 00:25:24 >> ข้าวซ้อมมือข้าวมันปูแล้วแต่
00:25:24 → 00:25:25 >> เป็นเชิงซ้อน
00:25:25 → 00:25:27 >> อ่าใช่ไม่ใช่ข้าวมันไก่อะไรเงี้ยเออ
00:25:27 → 00:25:30 โปรตีนและขาบซึ่งเป็นขาบที่ดีใช่ complex
00:25:30 → 00:25:33 คาร์โบไฮเดรตแล้วก็ผลไม้เนี่ยแค่ 10%
00:25:33 → 00:25:35 >> ซึ่งมันก็ดีนะมันก็ช่วยจริงๆเพราะ make
00:25:35 → 00:25:36 sense น่ะคือผลไม้บ้านเราผลไม้มันหวาน
00:25:36 → 00:25:38 มากอ่ะคุมน้ำหนักดีกินแต่ผักผลไม้ผลไม้
00:25:38 → 00:25:41 อยู่ซัดอะไรอ่ะส้มหวานๆมะม่วงหวานๆมะม่วง
00:25:41 → 00:25:43 อกร่องมะม่วงน้ำดอกไม้น้ำตาลเข้าไปเท่า
00:25:43 → 00:25:43 ไหร่ล่ะ
00:25:43 → 00:25:46 >> ทุเรียนเงาะเหมือนบอกตัวเองเลยใช่
00:25:46 → 00:25:47 >> ขอบคุณ
00:25:47 → 00:25:49 >> ทุเรียนไม่รู้พี่พี่ไม่คายพี่ไม่อยากว่า
00:25:49 → 00:25:51 พี่ไม่อยากเรียกทุเรียนว่าเป็นผลไม้นะมัน
00:25:51 → 00:25:53 เป็นอะไรที่แปลกมากมันเหมือนตระกูล
00:25:53 → 00:25:58 คัสตารดอ่ะของหวานน่ะเออ
00:25:58 → 00:26:02 เอทอเป็นตัวที่มีงานวิจัยมากที่สุดอาหาร
00:26:02 → 00:26:04 เสริมตัวอื่นเออ NAD
00:26:04 → 00:26:07 >> ใช่ๆนี้คิด NA เนี่ยพูดง่ายๆคือพี่เคยตี
00:26:07 → 00:26:11 นึกออกมั้พี่เคยตี NA ดิฟว่าไม่ได้ผลแต่
00:26:11 → 00:26:14 พอพี่อ่านมรรควิจัยมากขึ้นน่ะพี่เลิกตีะ
00:26:14 → 00:26:15 เฮ้ยมันช่วย
00:26:15 → 00:26:15 >> ออ
00:26:15 → 00:26:18 >> แต่มันมันช่วยพิสูจน์มาว่ามันช่วยทั้งเอา
00:26:18 → 00:26:21 งี้พูดไปมันจะทำให้เชียร์คนไปดิบมากขึ้น
00:26:21 → 00:26:24 หรือเปล่าแต่มันมีงานวิจัยว่าช่วยได้จริง
00:26:24 → 00:26:26 >> คือแค่พี่เกริ่นมาแค่เนี้ยค่ะยังรู้สึก
00:26:26 → 00:26:27 ว่าเดี๋ยวๆฉันลงไปฉันจะไปดิบะ
00:26:27 → 00:26:30 >> เออมันจริงแล้วก็ทั้งกินได้
00:26:30 → 00:26:33 >> ข้อมูลเยอะมากคือ NAD กับไอ้ตัว
00:26:33 → 00:26:36 >> แต่คราวนี้ NA ในเมืองไทยเนี่ยเข้ายาห้าม
00:26:36 → 00:26:38 ฉีดอย่างมันยังถูกต้องการดริบวิตามิน
00:26:38 → 00:26:41 >> แต่ที่ผมกังวลก็คือว่าพอมันยังไม่ผ่านอย.
00:26:41 → 00:26:44 เพราะฉะนั้นแหล่งที่มามันก็จะแบบอ่าเราก็
00:26:44 → 00:26:46 ต้องยากแล้วก็มันยากนี้ยากเพราะว่าการควบ
00:26:46 → 00:26:50 คุมคุณภาพมันยากเพราะอย่าง resol มันก็มี
00:26:50 → 00:26:52 หลายฟอร์มซึ่งฟอร์มบางฟอร์มก็ได้ผลบาง
00:26:52 → 00:26:53 ฟอร์มก็ไม่ได้ผลส่วนใหญ่ฟอร์มที่ได้ผล
00:26:54 → 00:26:56 เนี่ยก็คือส่วนใหญ่จะต้องเป็นไอ้แคปซูล
00:26:56 → 00:26:58 นิ่มอ่ะเจล
00:26:58 → 00:27:01 >> ซอเจลจะได้ผลแง่การดูดซึมเพราะเเจอว่า
00:27:01 → 00:27:04 redทalเนี่ยถ้าอยู่ในสภาพที่ดูดซึมไม่ดี
00:27:04 → 00:27:06 มันจะไปกองที่ลำไส้เล็กส่วนต้น
00:27:06 → 00:27:06 >> อื
00:27:06 → 00:27:08 >> ร่างกายไม่เอาเข้าไป
00:27:08 → 00:27:08 >> อ๋อ
00:27:08 → 00:27:10 >> นะครับดังนั้นต้องเป็นฟอร์มที่ดีร่างกาย
00:27:10 → 00:27:12 ถึงจะดูซึมเข้าไปได้
00:27:12 → 00:27:14 >> NA อีกอันนึงเนี่ยเวลาที่คนจะทานนะคะเขา
00:27:14 → 00:27:19 ก็จะงงกันว่าเอ๊ะจะ NA นิโคตินาม NMN
00:27:19 → 00:27:20 >> สารพัด
00:27:20 → 00:27:23 >> มันก็สุดท้าย NAD อ่ะมันคือตัวแม่แล้วมัน
00:27:23 → 00:27:25 เข้าร่างกายมันก็ไปแปลงเป็นอ่ะ NAD
00:27:25 → 00:27:26 เหมือนเ้าเรียกภาษาแพทย์เค้าเรียก
00:27:26 → 00:27:27 precursor
00:27:27 → 00:27:30 >> แล้วมันจะกลายเป็นอนุมูล Active
00:27:30 → 00:27:32 Metaboliz มันจะถูกแปลงในร่างกายดังนั้น
00:27:32 → 00:27:35 ตัวที่มีงานวิจัยคือ NAD บวกแหละ NAD
00:27:35 → 00:27:37 >> ที่เป็นดิบซะส่วนใหญ่ไม่ใช่ตัว
00:27:37 → 00:27:39 >> เป็นดิบแล้วก็ฟอร์มกินก็น่าจะมีแต่ว่าการ
00:27:39 → 00:27:41 ดูดซึม NAD ถ้าฟอร์มกินกินไปมันก็ยังดู
00:27:41 → 00:27:44 ซึมน้อยก็พูดง่ายๆถ้าได้ผลต้องดิบอ่ะแต่
00:27:44 → 00:27:47 ก็อย่าดิบเปิดเผยอย่าโฆษณาอะไรเปิดเผย
00:27:47 → 00:27:51 แล้วก็หาโปรดักที่ที่มีที่มาน่าเชื่อถือ
00:27:51 → 00:27:54 ได้ดีๆนะครับมีการควบคุม GPO ดีๆก็น่าจะ
00:27:54 → 00:27:55 โอเค
00:27:55 → 00:27:58 >> อันนี้เป็นคำถามในใจผมเองไงอ่ะคะคือเวลา
00:27:58 → 00:28:02 ที่เราไปดิบ NAD เนี่ยมันจะราคาสูงมาก
00:28:02 → 00:28:02 >> อื
00:28:02 → 00:28:05 >> อ่ะคราวนี้เนี่ยSซฟเฟectอันนึงเนี่ยเวลา
00:28:05 → 00:28:08 ที่เราไปดริบอ่ะค่ะจะรู้สึกได้ถึงหัวใจ
00:28:08 → 00:28:10 เต้นแรงหัวใจเต้นเร็วอ
00:28:10 → 00:28:11 >> อ่า
00:28:11 → 00:28:14 >> ในขณะเดียวกันเนี่ยไอ้เราเนี่ยก็เคยดูแล
00:28:14 → 00:28:16 คนไข้ที่เป็นพวกหนังแข็งแล้วต้องกิน
00:28:16 → 00:28:19 นิโคตินามที่เป็นยารักษา
00:28:19 → 00:28:21 >> เาก็มีflัชingเก็มี
00:28:21 → 00:28:21 >> ใช่
00:28:21 → 00:28:23 >> เอ่อฮาร์ด rate ที่เพิ่มขึ้นได้
00:28:23 → 00:28:25 >> แต่มันไม่เยอะเยอะใช่
00:28:25 → 00:28:28 >> อ๋อหมายความว่าจริงๆแล้วอ่ะกินไอ้พวกนั้น
00:28:28 → 00:28:29 เข้าไปมันก็ไปเปลี่ยนอยู่ดี
00:28:30 → 00:28:32 >> ใช่เปลี่ยนอยู่ดีใช่ๆแล้วคราวนี้คือ NAD
00:28:32 → 00:28:35 ปัญหาสำคัญคือถ้าสมมุติว่า Flusing แล้ว
00:28:35 → 00:28:36 ก็อะไรอีกอันนึงที่อ๋อุมบอก
00:28:36 → 00:28:37 >> เป็น Tacky Cardia
00:28:37 → 00:28:39 >> Ty Cardia คือลดเรท
00:28:39 → 00:28:39 อ่า
00:28:39 → 00:28:41 >> ลดอัตราเร็วในการดิบก็เหมือนเวลาเราให้
00:28:41 → 00:28:43 น้ำเกลือเร็วๆพูดง่ายๆคือหัวใจเต้นเร็ว
00:28:43 → 00:28:46 ใช่ป่ะมีฟัชิได้ดิบน้ำเกลือธรรมดาเหมือน
00:28:46 → 00:28:48 กันแค่ลดลดอัตราเร็วในการดริบ
00:28:48 → 00:28:51 >> คำถามก็คือว่าแทนที่เราจะไปเสียเงินแพง
00:28:51 → 00:28:54 เนี่ยเรากินไอ้ตัวนิโคตินาม
00:28:54 → 00:28:56 >> ที่ราคาย่อมมันเป็นตัวลูกแล้ว
00:28:56 → 00:28:56 >> เป็นตัวลูก
00:28:56 → 00:28:58 >> มันเป็นตัวลูกแล้วใช่ NA ไปได้หลายตัวมัน
00:28:58 → 00:29:01 เป็นตัวแม่แต่นิโคตนามเราเอาตัวลูกตัวนึง
00:29:01 → 00:29:04 มาใช้ดังนั้นไอ้ลูกอื่นๆน่ะเราไม่ได้
00:29:04 → 00:29:05 >> ซึ่งมาทำงานคู่กัน
00:29:05 → 00:29:07 >> ใช่ดังนั้นเอาเราเอาตัวแม่มากกว่าเอาตัว
00:29:07 → 00:29:09 แม่มาน่าจะดีกว่า
00:29:09 → 00:29:09 >> อ่า
00:29:09 → 00:29:11 >> อืครับ
00:29:11 → 00:29:13 >> แล้วพวกอาหารเสริมที่เขา้าบอกว่าช่วยยืด
00:29:13 → 00:29:14 ความยาวเทโรเมียค่ะ
00:29:14 → 00:29:17 >> อ๋อมันมีตัวที่พูดถึงเยอะมากอุ่มคุ้นตัว
00:29:17 → 00:29:19 ไหนลองเอ่ยชื่อมาซิ
00:29:19 → 00:29:21 >> เอ่ออุ่มคุ้นตัว Ta จุดๆ
00:29:21 → 00:29:25 >> อ่าใช่ TA ใช่ป่ะเออใช่มันมีเอางี้ตัว
00:29:25 → 00:29:28 กระตุ้นความยาวของเทโรเมียอันนี้ก็มีข้อ
00:29:28 → 00:29:30 มูลพิสูจน์เยอะมากนะครับเพราะว่าเวลาอายุ
00:29:30 → 00:29:33 มากขึ้นปุ๊บเทโลเมียมันจะสั้นลงนะครับ
00:29:33 → 00:29:35 เทโรเมียสั้นลงดังนั้นทำให้ทำให้เราเกิด
00:29:35 → 00:29:37 ความชราภาพ
00:29:37 → 00:29:40 >> นะครับเเจอว่าในเซลล์ร่างกายปกติเนี่ยมัน
00:29:40 → 00:29:42 จะแต่ละเซลล์จะแบ่งตัวได้ไม่เกิน 40-60
00:29:43 → 00:29:44 ครั้งไอ้ตัวเลขเนี้ยทางวิสาเเรียกเฟริก
00:29:45 → 00:29:45 ลิมิ
00:29:45 → 00:29:48 >> เฮตัวคุณเฮฟริกก็ไม่รู้หรอกว่าว่าทำไมมัน
00:29:48 → 00:29:50 ถึงแบ่งตัวได้เท่านี้แต่เขารู้ว่าที่คน
00:29:50 → 00:29:53 เราแก่เพราะว่าเซลล์มันจะมีข้อจำกัดในการ
00:29:53 → 00:29:56 แบ่งตัวแต่เขาเจอแล้วว่า 40-60 ครั้งแบ่ง
00:29:56 → 00:29:58 ได้แค่นี้แล้วเซลล์ตายไปเพราะเทโลเมียมัน
00:29:58 → 00:30:00 สั้นลงคุณเฮฟริกเนี่ยยังไม่รู้จัก
00:30:00 → 00:30:02 เทโรเมียเทโลเมียมาเจอข้างหลังแล้วก็
00:30:02 → 00:30:05 อธิบายว่าเฟริกลิมิทำไมถึงอยู่ที่ 40-60
00:30:05 → 00:30:06 นะครับแต่ปัจจุบันน่ะมันมีวิทยาการซึ่ง
00:30:06 → 00:30:09 ข้ามเฮฟลิกลิมิตไปแล้วแต่คิพูดถึงมันดี
00:30:09 → 00:30:11 เกินไปนะครับคราวนี้กลับมาเทโรเมียมัน
00:30:11 → 00:30:14 สั้นลงนะครับตัวที่กระตุ้นเทโลเมียแล้ว
00:30:14 → 00:30:18 ยาวขึ้นตัวแรกอยู่ในแพทย์แผนจีนชื่อ
00:30:18 → 00:30:19 แสตราการัส
00:30:19 → 00:30:23 >> แอสตราการัสอยู่ในสูตรยาอายุวัฒนะฮ่องเต้
00:30:23 → 00:30:24 มานานมากแล้ว
00:30:24 → 00:30:24 >> โหจริงหรอ
00:30:24 → 00:30:26 >> มันเป็นหน่อไม้อะไรสักอย่างไม่รู้
00:30:26 → 00:30:27 แอสตราการัส
00:30:27 → 00:30:28 >> เค้าเรียกปัค
00:30:28 → 00:30:30 >> เออนั่นแหละมันอยู่ในกลุ่นตระกูลเนี้ยมัน
00:30:30 → 00:30:32 อยู่ตระกูลคล้ายๆคลอสากัสของจีนอะไรสัก
00:30:32 → 00:30:34 อย่างนึงแหละเออใช่แต่มันอยู่ในอยู่ใน
00:30:34 → 00:30:36 สูตรอาหารยายาวอายุวัฒนะ
00:30:36 → 00:30:37 >> มันเหมือนเป็นไม้ค่ะ
00:30:37 → 00:30:39 >> เออใช่มันเหมือนหน่อไม้ใช่ป่ะ
00:30:39 → 00:30:42 >> ไม่คือไอ้ตอนที่มันสดๆหนูไม่เคยเห็น
00:30:42 → 00:30:44 เหมือนกันเห็นมันเป็นเหมือนคล้ายๆเปลือก
00:30:44 → 00:30:44 ไม้
00:30:44 → 00:30:45 >> เออ
00:30:45 → 00:30:47 >> แต่ว่ามันอาจจะเป็นหน่อไม้แล้วมันแห้งได้
00:30:47 → 00:30:49 แสกัสแค่แอสปารากัส
00:30:49 → 00:30:52 >> มันอาจจะคนละอย่างกันแต่คือเป็นพืชอ่ะ
00:30:52 → 00:30:54 แล้วก็มันมีหลายบริษัทซึ่งมีasraการั
00:30:54 → 00:30:56 extract สกัดมาขายตั้งนานแล้ว
00:30:56 → 00:30:57 >> อใช่
00:30:57 → 00:31:00 >> นะครับแล้วก็หลังๆเนี่ยมันจะมีหลายตัว
00:31:00 → 00:31:03 ซึ่งมามาช่วยได้นะครับถามว่าช่วยได้จริง
00:31:03 → 00:31:06 มั้ยเอางี้ตัวที่ตัวที่ขายตามท้องน้อง
00:31:06 → 00:31:10 ตลาดเนี่ยถ้าแบรนด์ดังๆเนี่ยมันมันก็น่า
00:31:10 → 00:31:13 จะช่วยได้จริงกระตุ้นเทรเมียได้จริงนะ
00:31:13 → 00:31:15 ครับแล้วก็บางคนกลัวว่ากระตุ้นเทโรเมีย
00:31:16 → 00:31:18 มากๆถ้าเซลล์ไม่ตายจะเป็นมะเร็งมั้ยเออ
00:31:18 → 00:31:21 ร่างกายร่างกายเราฉลาดกว่านั้นร่างกายเรา
00:31:21 → 00:31:24 จะมีการยับยั้งการแสดงกายพันธุ์ของยีน
00:31:24 → 00:31:27 มะเร็งเช่นเซลล์ที่อายุมากขึ้นไม่ยอมตาย
00:31:27 → 00:31:28 เนี่ยไม่ใช่ว่าต้องกลายเป็นเซลล์มะเร็ง
00:31:28 → 00:31:29 ตลอด
00:31:29 → 00:31:32 >> มันจะมีการปิดเปิดปิดสวิตช์บางอย่างก็คือ
00:31:32 → 00:31:34 >> ปิดสวิตช์ที่ทำให้เกิดมะเร็งแต่เปิด
00:31:34 → 00:31:36 สวิตช์ยับยั้งการเกิดมะเร็ง
00:31:36 → 00:31:36 >> อืออื
00:31:36 → 00:31:40 >> อืมันจะมีความมันจะมีความฉลาดของร่างกาย
00:31:40 → 00:31:42 นะครับเพราะอย่าลืมว่าแอสตราการัสหรือ
00:31:42 → 00:31:45 กระตุ้นการการกระตุ้นการช่วยเพิ่มความยาว
00:31:45 → 00:31:48 เทโรเมียมันไม่ได้อยู่ในยามันอยู่ในอาหาร
00:31:48 → 00:31:49 เสริม
00:31:49 → 00:31:49 >> อื
00:31:49 → 00:31:51 >> ดังนั้นถ้าอาหารเสริมเนี่ยเราบริโภคใน
00:31:51 → 00:31:53 ปริมาณที่พอเหมาะร่างกายมันปรับตัวได้มัน
00:31:53 → 00:31:54 adjust ได้
00:31:54 → 00:31:57 >> ต้องพอเหมาะอ่ะค่ะมันแพง
00:31:57 → 00:31:59 >> ก็อย่างงั้นน่ะแต่ว่ามีเปเปอร์ช่วยได้
00:31:59 → 00:32:02 จริงasกาลัสเนี่ยครับ
00:32:02 → 00:32:04 >> ความเครียดบ้างคะความเครียดเนี่ยส่งผล
00:32:04 → 00:32:05 ด้วยมั้คะ
00:32:05 → 00:32:07 >> คือความเครียดเครียดเนี่ยมันเป็นสิ่งที่
00:32:07 → 00:32:09 เรารู้มานานแล้วว่าความเครียดเนี่ยมัน
00:32:09 → 00:32:12 เปลี่ยนแปลงได้ทั้ง genetic และตัว Genic
00:32:12 → 00:32:13 เลยเพราะว่า
00:32:13 → 00:32:14 >> Gen เลย
00:32:14 → 00:32:17 >> อนุมูลอิสระทำให้เกิดความเครียดได้นะครับ
00:32:17 → 00:32:21 แล้วมันมีงานวิจัยเจอว่าประชากรที่อยู่ใน
00:32:21 → 00:32:23 สิ่งแวดล้อมที่มีความเครียดไม่ว่าจะ
00:32:23 → 00:32:26 เครียดจากมลภาวะเครียดจากสงครามอะไรก็ตาม
00:32:27 → 00:32:30 เนี่ยทำให้มีลูกที่เกิดออกมาเนี่ยมีโรค
00:32:30 → 00:32:32 ต่างๆมากขึ้น
00:32:32 → 00:32:32 >> โห
00:32:32 → 00:32:35 >> นะครับแล้วก็มันจะมีไอ้ตัวลำดับของยีน
00:32:35 → 00:32:37 เนี่ยเปลี่ยนแปลงไปได้แต่เปลี่ยนแปลงได้
00:32:37 → 00:32:39 ไม่เยอะเพราะว่าจีนของเราเนี่ยต้องเข้าใจ
00:32:39 → 00:32:41 ว่าไอ้ตัวพิมพ์เขียวของเรามันไม่ได้อยู่
00:32:41 → 00:32:45 สภาพนี้ตลอดนะครับเวลาที่เราใช้ชีวิตไป
00:32:45 → 00:32:48 เรื่อยๆเนี่ยมันจะมีการแทรกของท่อน
00:32:48 → 00:32:50 พันธุกรรมสั้นๆไปตลอดเวลายีนเรามีการ
00:32:50 → 00:32:52 เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี่เป็นเหตุผลที่ว่า
00:32:52 → 00:32:56 ทำไมเวลาเราคนสมัยเนี้ยถึงไม่เจ็บป่วยและ
00:32:56 → 00:32:59 ตายแบบคนสมัยก่อนเวลาเจอโรคบางอย่างเพราะ
00:32:59 → 00:33:03 ว่าในคนสมัยก่อนเวลาที่เค้ามีรหัส
00:33:03 → 00:33:05 พันธุกรรมของเค้าติดเชื้อไวรัสสมมุติพูด
00:33:05 → 00:33:07 ง่ายๆติดเชื้อไวรัสนะครับได้รับไวรัสเข้า
00:33:07 → 00:33:11 ไปในร่างกายมันจะมีชิ้นส่วนของไวรัสเนี่ย
00:33:11 → 00:33:12 แทรกเข้าไป
00:33:12 → 00:33:14 >> ในยีนของเรา
00:33:14 → 00:33:14 >> อื
00:33:14 → 00:33:17 >> แล้วพอถ่ายทอดมาถึงรุ่นหลานมันก็จะสร้าง
00:33:17 → 00:33:19 ภูมิต้านทานต่อไวรัสได้
00:33:19 → 00:33:19 >> อ๋อ
00:33:20 → 00:33:22 >> ดังนั้นยีนของร่างกายเราเนี่ย
00:33:22 → 00:33:24 >> พี่จำไม่ได้ตัวเลขกี่เปอร์เซ็นต์แต่ส่วน
00:33:24 → 00:33:25 หนึ่งจะเป็นยีนของไวรัส
00:33:25 → 00:33:26 >> อ่าเราใช้น่าสนใจ
00:33:26 → 00:33:29 >> นะครับแล้วก็ร่างกายของเราเนี่ยเราไม่ได้
00:33:29 → 00:33:33 ใช้ยีนจากของเรา 100% เกินครึ่งใช้ยีนจาก
00:33:33 → 00:33:35 แบคทีเรียในร่างกาย
00:33:35 → 00:33:38 ใช้จีนจากโปรติดังนั้นนี่เป็นเป็นมันก็
00:33:38 → 00:33:40 มันก็ make sense ว่าเราปฏิสัมพันธ์กับ
00:33:40 → 00:33:42 สิ่งแวดล้อมอยู่ตลอดเวลาใช่มฮเรากินนู่น
00:33:42 → 00:33:45 กินนี่เรากินไอ้พวกโปรไบโอติกไปกินนู่น
00:33:45 → 00:33:48 กินนี่ไปมันก็มีก็มีพันธุกรรมของไอ้พวก
00:33:48 → 00:33:50 เชื้อแบคทีเรียต่างๆเข้าไปมันก็มีการ
00:33:50 → 00:33:52 เปลี่ยนแปลงได้ในนั้นนี่เป็นเหตุผลที่ว่า
00:33:52 → 00:33:55 ทำไมมันถึงเปลี่ยนแปลงยีนได้เพราะว่าเวลา
00:33:55 → 00:33:57 ที่เขาไปเจอสิ่งแวดล้อมเจอพันธุกรรมที่
00:33:57 → 00:34:00 ไม่เจอเจอ pollution เจอมลภาวะที่ไม่ดี
00:34:00 → 00:34:02 หรืออยู่ในสภาพที่ไม่ดีเนี่ยมันถึงมีส่วน
00:34:03 → 00:34:05 ที่แทรกไปในยีนแล้วก็เปลี่ยนแปลงชะตา
00:34:05 → 00:34:06 ชีวิตเขาได้
00:34:06 → 00:34:07 >> น่าสนใจมากๆ
00:34:07 → 00:34:09 >> ใช่ครับอนุบูลอิสระจากความเครียดเนี่ยมัน
00:34:09 → 00:34:13 เป็นสิ่งมีข้อมูลเยอะมากว่าเกิดมีผลทั้ง
00:34:13 → 00:34:14 genetic และ epigenetic
00:34:14 → 00:34:16 >> ดังนั้นเนี่ยก็เลยมีเรื่องของการจัดการ
00:34:16 → 00:34:17 ความเครียด
00:34:17 → 00:34:19 >> ใช่ๆ
00:34:19 → 00:34:21 >> จัดการความเครียดมันก็มีหลายแบบนะครับการ
00:34:21 → 00:34:24 จัดการความเครียดที่ถูกต้องก็คือถ้าเอา
00:34:24 → 00:34:27 ตาม 3 อย่างของที่พี่บอกนะครับจัดการความ
00:34:27 → 00:34:30 เครียดแคtionไม่ได้แล้วคนจะคนเครียดว่าจะ
00:34:30 → 00:34:33 กินเราก็ออกกำลังกายแทนหรือว่านอนไปเลย
00:34:33 → 00:34:35 เออใช่แต่เครียบมักจะนอนไม่หลับนั้นออก
00:34:35 → 00:34:40 กำลังกายดีที่สุดนะครับได้เป็น 1 1 ขั้ว
00:34:40 → 00:34:42 ของการดูแลสุขภาพด้วยแล้วก็ระบายเหงื่อ
00:34:43 → 00:34:44 บ้าระบายความบ้าออกไปจากการออกกำลังกาย
00:34:44 → 00:34:47 แทนลดความเครียดได้ก็คือกลับเข้ามาสู่ 3
00:34:47 → 00:34:50 อันเนี้ยนะครับมันจะช่วยได้บางคนจัดการ
00:34:50 → 00:34:52 ความเครียดที่ไม่ดีคือบางคนอย่างไปดูหนัง
00:34:52 → 00:34:54 แล้วดูหนังดราม่าดูหนังอะไรก็ตามยิ่ง
00:34:54 → 00:34:55 เครียดนึกออกมั้
00:34:55 → 00:34:57 >> คุณเครียดอยู่แล้วและอนุอิสระมันสร้างมาก
00:34:58 → 00:35:00 ขึ้นก็ยิ่งเครียดกว่าเดิมบางคนไปเครียด
00:35:00 → 00:35:02 มากกินเหล้าจนเครียดกินเหล้าจนเครียด
00:35:02 → 00:35:04 สุบุหรี่มันก็ยิ่งยิ่งทำลายตัวเองมันมี
00:35:04 → 00:35:06 วิธี Stress Management ในการจัดการความ
00:35:06 → 00:35:09 เครียดที่ไม่ใช่ไม่ใช่วิถีในการทำลายตัว
00:35:09 → 00:35:09 เอง
00:35:10 → 00:35:10 >> อื
00:35:10 → 00:35:11 >> เยอะแยะ
00:35:11 → 00:35:13 >> แต่นี้ก็ได้พอย์นะคะว่าจริงๆแล้วเนี่ยสาย
00:35:13 → 00:35:15 นอนดึกดูซีรียส์เนี่ย
00:35:16 → 00:35:17 >> แน่นมากเลย
00:35:17 → 00:35:19 >> พี่เป็นคนที่ไม่ดูซีรีส์เลยเพราะพี่เคยดู
00:35:19 → 00:35:22 ซีรีส์ทีแล้วพี่นอน 3:00 น.ตั้พี่บอกโอ๊ย
00:35:22 → 00:35:24 วันแล้ววันรุ่งขึ้นตื่นมาทำงานพี่รู้สึก
00:35:24 → 00:35:26 ไม่แฮปปี้อ่ะทำไมมันเหมือนรับกรรมอ่ะตื่น
00:35:26 → 00:35:28 มาเพื่อรับกรรมนะครับแล้วหลังๆในทุกวัน
00:35:28 → 00:35:29 นี้พี่พยายามนอนไม่เกิน 22:00 น.บางที
00:35:29 → 00:35:31 21:30 น.พี่ก็หลับแล้วก็ตื่น 5:00 น.ถึง
00:35:31 → 00:35:33 มาออกกำลังกายชีวิตแฮปปี้ขึ้นเยอะมีเวลา
00:35:33 → 00:35:35 ทำอะไรต่อมีอะไรเยอะแยะมาก
00:35:35 → 00:35:37 >> อื
00:35:37 → 00:35:40 และอีกกระแสนึงที่กำลังมานะคะก็คือเรื่อง
00:35:40 → 00:35:42 ของ mindfulness Meditation
00:35:42 → 00:35:44 >> Meditation ช่วยอยู่แล้วนะครับเพียงแต่
00:35:44 → 00:35:46 จะ Meditate แบบไหน Meditation ช่วยแน่ๆ
00:35:46 → 00:35:49 เพราะว่าการนั่งสมาธิคลื่นสมองมันจะ
00:35:49 → 00:35:52 เปลี่ยนเป็นอีกเวฟนึงซึ่งมันจะทำให้เรา
00:35:52 → 00:35:55 สงบลงแล้วก็ที่สำคัญคือหัวใจจะเต้นช้าลง
00:35:55 → 00:35:58 พอหัวใจเต้นช้าลงปุ๊บเนี่ยไอ้เค้าเรียก
00:35:58 → 00:36:01 การเผาผลาญมันก็ลดลงพอการเผาผลานลดลงนะ
00:36:01 → 00:36:04 ครับของเสียร่างกายก็ลดลงนะครับมันก็ได้
00:36:04 → 00:36:07 ผลทั้งหมดนะครับมันมีล่าสุดนะครับพี่อ่าน
00:36:07 → 00:36:10 เปอะเจอประมาณ 3-4 เดือนและทหารอเมริกัน
00:36:10 → 00:36:12 หรืออังกฤษนี่แหละก่อนที่เขาจะฝึกทหาร
00:36:12 → 00:36:14 เนี่ยเค้าให้meditเทต 20 นาทีก่อน
00:36:14 → 00:36:15 >> อื
00:36:15 → 00:36:17 >> ก่อนที่จะนั่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการ
00:36:17 → 00:36:18 เรียนและการทำงาน
00:36:18 → 00:36:20 >> เพราะฉะนั้นที่เขาบอกว่าให้นั่งสมาธิตอน
00:36:20 → 00:36:22 เช้าเนี่ยก็จะช่วยประสิทธิภาพในการทำงาน
00:36:22 → 00:36:22 ทั้งวัน
00:36:22 → 00:36:25 >> มันใช่มันช่วยจริงนะครับแล้วก็ก่อนนอนก็
00:36:26 → 00:36:29 ช่วยคือก่อนนอนเนี่ยเราไม่ควรจะแตะมือถือ
00:36:29 → 00:36:32 ประมาณ 1 ช่โมงก่อนนอนเพราะว่ามันทำให้ไถ
00:36:32 → 00:36:34 ไปเรื่อทำให้เรายังอินกับสิ่งนั้นของพี่
00:36:34 → 00:36:36 พี่ไม่แตะ 2 ช่โมก่อนนอนเลยนะ
00:36:36 → 00:36:36 >> อื
00:36:36 → 00:36:38 >> เออแล้วพี่อ่านหนังสืออ่านอะไรไปมันก็มัน
00:36:38 → 00:36:39 ก็หลับเอง
00:36:39 → 00:36:39 >> ออ
00:36:39 → 00:36:42 >> นะครับ Meditate ช่วยนะครับช่วยก่อนนอน
00:36:42 → 00:36:44 เพราะช่วยให้เราหลับดีแล้วก็ได้ Deep
00:36:45 → 00:36:47 Sleep Deep Sleep สำคัญที่สุด Quality
00:36:47 → 00:36:49 การนอนจะคุณภาพการนอนจะดีไม่ดีอยู่ที่
00:36:49 → 00:36:50 หลับลึก
00:36:50 → 00:36:50 >> อื
00:36:50 → 00:36:52 >> เพราะหลับลึกเป็นสิ่งที่เราใช้ในการซ่อม
00:36:52 → 00:36:56 แซบร่างกายของเราดังนั้นจะก่อนนอนจะตื่น
00:36:56 → 00:36:59 นอนแล้วแต่เราเรานั่งก่อนนอนเพื่อเราจะ
00:36:59 → 00:37:01 ได้หลับดีขึ้นเรานั่งตั้งตอนตื่นนอนเพื่อ
00:37:01 → 00:37:02 เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเราในวัน
00:37:02 → 00:37:03 นั้นๆ
00:37:03 → 00:37:05 >> แล้วมีเวลามั้คะว่าแบบเอ้ยอย่างน้อยควรจะ
00:37:05 → 00:37:07 เท่านี้ถึงจะดี
00:37:07 → 00:37:10 >> ไม่มีอ่ะมันอยู่ที่ว่าอ้าถ้าเราถ้าเราจะ
00:37:10 → 00:37:12 เอาแบบบรรลุณปรักผลนิพพานอาจจะต้องนับ
00:37:12 → 00:37:15 เป็นชั่วโมงถูกมั้ยแต่ถ้าจะเอาแค่สุขภาพ
00:37:15 → 00:37:17 สัก 10-15 นาทีก็ได้คนอยู่กับตัวเองนิ่งๆ
00:37:17 → 00:37:19 สงบๆไม่ต้องคิดเรื่องอื่นเพราะนั่งสมาธิ
00:37:19 → 00:37:21 คือห้ามคิดเรื่องอื่นใช่มั้ไม่งั้นแล้ว
00:37:21 → 00:37:24 คุณนั่งชั่วโมงนะแต่คิดเฮ้ยบัตรเครดิตจะ
00:37:24 → 00:37:25 มาหรือว่าจะจ่ายเท่าไหร่วะค่าผ่อนบ้าน
00:37:25 → 00:37:27 เท่าไหร่มันก็ไม่ใช่นั่งสมาธิอ่ะนั่ง 1
00:37:27 → 00:37:28 ชั่วโมงมันก็ไม่สงบอ่ะมันคุยกับตัวเอง
00:37:28 → 00:37:30 ตลอดเวลาว่าจะหาเงินที่ไหนค่าเราเรียนลูก
00:37:30 → 00:37:32 มาแล้วอะไรเงี้ยแต่ถ้า 10 นาทีคุณไม่คุย
00:37:32 → 00:37:34 กับตัวเองเลยมันได้คุณภาพมากกว่า
00:37:34 → 00:37:35 >> อ่า
00:37:35 → 00:37:35 >> อื
00:37:35 → 00:37:38 >> ขนาดนี้แค่ 10 นาทีแต่คุณภาพที่แล้วแต่
00:37:38 → 00:37:40 เอาคุณภาพเป็นหลักนะครับอาวะสงบเป็นหลัก
00:37:40 → 00:37:42 ใช่
00:37:42 → 00:37:45 >> เทรนด์อื่นๆในปัจจุบันนะคะอย่างเช่นไบ
00:37:45 → 00:37:47 >> ไiceบารเนี่ยมันช่วยเป็นเหมือนช็อกร่าง
00:37:47 → 00:37:48 กายอ่ะ
00:37:48 → 00:37:48 >> อื
00:37:48 → 00:37:51 >> ช็อกร่างกายคือสมมุติบางคนน่ะแบบโหดมาก
00:37:51 → 00:37:54 จากร้อนๆมาเมืองบ้านเรามันร้อนอยู่แล้ว
00:37:54 → 00:37:56 เราไม่ต้องไปอาบน้ำร้อนหรอกเราไปไอซบาส
00:37:56 → 00:37:59 มันช็อกร่างกายเปรียบเทียบง่ายๆคือผักอ่ะ
00:37:59 → 00:38:00 มันจะกรอบมากถ้าเรามาช็อกมันด้วยน้ำเย็น
00:38:00 → 00:38:03 นึกออกมั้เราลวกมาลวกผักมาแล้วช็อกน้ำ
00:38:03 → 00:38:04 เย็นมันกรอบทันทีอ
00:38:04 → 00:38:05 >> อ๋อมันหลักการเดียวกัน
00:38:06 → 00:38:08 >> หลักการเดียวกันคือมันทำให้ quality
00:38:08 → 00:38:09 คุณภาพมันดีขึ้น
00:38:09 → 00:38:10 >> ออ
00:38:10 → 00:38:13 >> เออใช่เพราะการที่ผักที่นิ่มๆจากเราล้วน
00:38:13 → 00:38:15 ร้อนแล้วมาช็อกอ่ะมันทำให้ texture ไอ้
00:38:15 → 00:38:17 เส้นใยของผักหรือความกรอบต่างๆมันดีขึ้น
00:38:17 → 00:38:19 แล้วสารอาหารมันดีขึ้น
00:38:19 → 00:38:20 >> ออ
00:38:20 → 00:38:23 >> เออใช่ดังนั้นก็คือการช็อกร่างกายโดยไบส
00:38:23 → 00:38:26 ช่วยได้จริงแต่แต่ไบสมันก็ต้องมีลิมิตนะ
00:38:26 → 00:38:28 ครับไม่ใช่โอ้โหไบบาสดียแช่ครึ่งชั่วโมง
00:38:28 → 00:38:31 ได้มั้คุณคนปอบบวมตายก่อนจะมาสุขภาพดีเอา
00:38:31 → 00:38:33 เท่าที่ร่างกายไหว
00:38:33 → 00:38:35 >> นะครับตัวเลขไม่มีมันจะมีคำว่า listen to
00:38:35 → 00:38:36 body talk
00:38:37 → 00:38:38 >> ร่างกายคุณไหวแค่ไหน
00:38:38 → 00:38:38 >> อ๋อ
00:38:38 → 00:38:40 >> นะครับมันมันช่วยได้จริง
00:38:40 → 00:38:42 >> แล้วไอ้คนที่แบบรู้สึกว่าอึดอ่ะไปเรื่อยๆ
00:38:43 → 00:38:45 หรือทำทุกๆวันโอมาเห็นบางรายการเมาแช่
00:38:45 → 00:38:48 ไอซบาสแล้วก็คุยกันนานเชียว
00:38:48 → 00:38:50 >> การไiceบาแล้วคุยกันน่ะมันไม่ได้ผลเพราะ
00:38:50 → 00:38:53 ไiceบคุณเพื่อร่างกายการที่คุณลงไiceบาส
00:38:53 → 00:38:56 ปุ๊บคุณลดอัตราการเผาผลันของร่างกายคือลด
00:38:56 → 00:39:00 เมบล rate ร่างกายร่างกายสงบคุณควรจะอยู่
00:39:00 → 00:39:03 เฉยๆไม่ควรแม้กระทั่งคุยกันหรือเล่นมือ
00:39:03 → 00:39:03 ถือ
00:39:03 → 00:39:06 >> เพราะมันจะทำให้พอคุยกันปุ๊บเนี่ยเราต้อง
00:39:06 → 00:39:08 ใส่สมองในการคุยอัตราการเผาผลาญไม่ได้
00:39:08 → 00:39:10 แล้วว่าสมองต้องใช้งานในการเผาผลาญอาหาร
00:39:10 → 00:39:12 เพื่อ
00:39:12 → 00:39:14 >> ในการพูดคุยควรจะสงบเพื่อให้มันต่ำมากที่
00:39:14 → 00:39:16 สุดเหมือนจำศีลน่ะเหมือนพวกหมีแล้วกบจำ
00:39:16 → 00:39:18 ศีลจำศีลหน้าหนาวนั่นแหละมันไอซบาสโดยตัว
00:39:18 → 00:39:19 มันเอง
00:39:19 → 00:39:20 >> อ๋อ
00:39:20 → 00:39:22 >> ไอ้กบจำสีหมีจำสีมันก็ไม่ไปปาร์ตี้กันนึก
00:39:22 → 00:39:23 ออกมั้ยมันก็อยู่ของมันน่ะดังนั้นเหมือน
00:39:23 → 00:39:25 กันไอซบาสต้องเป็นหลักการนี้
00:39:25 → 00:39:26 >> นะครับไม่ใช่ว่าไอซบาสเหมือนปาร์ตี้ไม่
00:39:26 → 00:39:29 ใช่ถ้าอย่างงั้นนะคุณเอาข้าล่างดีกว่า
00:39:29 → 00:39:31 physical contact นั่งกินไinkกันยังดี
00:39:31 → 00:39:31 กว่าเลย
00:39:31 → 00:39:32 >> อื
00:39:32 → 00:39:35 >> เออใช่ไบไม่ใช่ปาร์ตี้ไiceคือต้องเป็น
00:39:35 → 00:39:38 ต่างคนต่างทำมันคือเวลาความสงบที่คุณจะ
00:39:38 → 00:39:41 เยียวยาฮีลิ่งร่างกายกลับมาอยู่กับร่าง
00:39:41 → 00:39:44 กายเพื่อลดการเผาผลานของร่างกายลดการเผา
00:39:44 → 00:39:46 ผลานลดการก่อฟืนไฟในร่างกายในการเผาผลาญ
00:39:46 → 00:39:48 อาหารอนุบูลอิสระลดลง
00:39:48 → 00:39:50 >> อืก็คือมีประโยชน์นั่นแหละ
00:39:50 → 00:39:53 >> ใช่มีประโยชน์แน่ๆแต่ว่าอย่าแช่มากเช่น
00:39:53 → 00:39:55 ถ้า 5 นาทีไม่ไหวก็แค่ 5 นาทีพอแต่ถามว่า
00:39:55 → 00:39:58 ได้ผลมั้ยได้ผลดีมากทำทุกวันได้มั้ยก็ได้
00:39:58 → 00:39:59 ในเวลาที่เหมาะสม
00:39:59 → 00:40:01 >> อ๋อ
00:40:01 → 00:40:04 Smart Watch หรือว่า Smart Ring
00:40:04 → 00:40:06 >> เออพี่ยังใช้อยู่เลยนะ
00:40:06 → 00:40:08 >> พี่เมื่อก่อนพี่นอนพี่ไม่เคยสนใจพี่ก็นอน
00:40:08 → 00:40:10 ไปพอมี Smart Watch อ่ะมันเหมือนมัน
00:40:10 → 00:40:14 เหมือนเราอุปทานน่ะบางทีนะคืนนึงพี่ตื่น
00:40:14 → 00:40:16 มาดูพี่ตื่นมาเฮ้ยเฟรชมากเลยวันเนี้ยหลับ
00:40:16 → 00:40:19 ดีมากSmartวบอกหลับจริงแค่ 4 ช่โมงพี่
00:40:19 → 00:40:21 เหี่ยวเลยว่ะพี่รู้สึกเฮ้ยพี่นอนไม่พอตอน
00:40:21 → 00:40:23 แรกมันก็มันก็รู้สึกว่าเฮ้ยเรานอนพอแต่พอ
00:40:23 → 00:40:25 Smart Watch มันเหมือนให้นอนไม่พอเพราะ
00:40:25 → 00:40:27 มันอ่านแค่เนี้ยคือเอางี้ต้องเข้าใจว่า
00:40:27 → 00:40:29 Deep Sleep Smart Watch อ่ะกัดเชิง
00:40:29 → 00:40:31 จริงๆไม่ใช่ไอ้ Deep Sleep ของเาเดูตาม
00:40:31 → 00:40:34 อัตราหายใจแล้วก็ดูการขยับตัวเช่นถ้า
00:40:34 → 00:40:38 สมมุติว่าเราลุกอายุมากขึ้นลุกไปฉี่นะ
00:40:38 → 00:40:40 ครับหรือว่าหายใจเร็วหายใจแรงขยับตัวบ่อย
00:40:40 → 00:40:43 พลิกตัวบ่อยเนี่ยมันจะไม่ฟleและเพราะไอ้
00:40:43 → 00:40:45 ไอ้ตัวนาฬิกามันไม่ฉลาดรู้หรอกว่าสมองเบน
00:40:45 → 00:40:47 Wave ในสมองคลื่นสมองเราเป็นยังไงมันก็
00:40:47 → 00:40:50 ต้องวัดจากหยาบๆ movement การขยับตัวกับ
00:40:50 → 00:40:52 การหายใจดังนั้นถ้ามีการเปลี่ยนแปลงปุ๊บ
00:40:52 → 00:40:54 เนี่ยจะมีปัญหาอย่างเช่นบางคนเนี่ยฝัน
00:40:54 → 00:40:56 เยอะฝันเยอะแต่จะสลีฟห่วยมากเพราะฝันส่วน
00:40:56 → 00:40:58 ใหญ่อยู่ใน REF มันจะมีการขยับตัวบ่อยจะ
00:40:58 → 00:41:00 อะไรพวกเนี้ยนะครับดังนั้นคือ SM ก็ช่วย
00:41:00 → 00:41:03 ได้นะช่วยได้ในแง่ที่ว่าออกกำลังกายมัน
00:41:03 → 00:41:05 ช่วยได้จริงแต่ก็ระดับหนึ่งบางทีออกกำลัง
00:41:05 → 00:41:08 กายเหนือเทบตายแต่ Watch จะเริ่มนับเมื่อ
00:41:08 → 00:41:09 อยู่เป็นคาร์ดิโอ
00:41:09 → 00:41:10 >> อื
00:41:10 → 00:41:12 >> ดังนั้นบางคนนะไม่เป็นคาร์ดิโอยกเวทแทบ
00:41:12 → 00:41:14 ตายSmartวไม่ขึ้น
00:41:14 → 00:41:14 >> อื
00:41:14 → 00:41:17 >> เพราะ Smart Watch มันจะมีว่าอ่า warm
00:41:17 → 00:41:19 Fat Burning แล้วคดิโอ
00:41:19 → 00:41:21 >> คุณยกเวทแทบตายปุ๊บเนี่ยยกไปชั่วโมงนึง
00:41:21 → 00:41:23 Smart Watch อาจจะอ่านว่าคุณออกกำลัง
00:41:23 → 00:41:24 กายแค่ครึ่งชั่วโมงเพราะมันอยู่ในเรของ
00:41:25 → 00:41:27 Fat Burning ก็เป็นตัวที่ช่วยไกดเราได้
00:41:27 → 00:41:29 บางอย่างแค่นั้นเอง Smart Ring เนี่ยพี่
00:41:29 → 00:41:31 วาดSmartวเชื่อถือได้มากกว่าเยอะเพราะว่า
00:41:31 → 00:41:32 พี่เคยใส่ Smart Watch และ Smart Ring
00:41:32 → 00:41:34 นอนเราก็เห่อนะของใหม่ Smart Ring
00:41:34 → 00:41:35 >> ออ
00:41:35 → 00:41:38 >> อยากรู้มันไม่เหมือนกันSmartวจะเชื่อถือ
00:41:38 → 00:41:39 ได้มากกว่า Smart Ring เนี่ยพี่ตื่นมา
00:41:39 → 00:41:42 แล้วอ่ะตื่นมาล้างหน้าแปลงฟันเรียบร้อย
00:41:42 → 00:41:44 มันยังบอกเลยว่าพี่อยู่ในภาวะไ Sleep นี้
00:41:44 → 00:41:47 พี่ล้างหน้าแปลงฟันแล้วนะคือมาดูSmartว
00:41:47 → 00:41:50 เนี่ยมักจะมักจะตรงกับมันจะมีแอปในมือถือ
00:41:50 → 00:41:52 อันนึงที่เป็นแอปสุขภาพSmartวมักจะตรงกับ
00:41:52 → 00:41:54 นั่นมากกว่าในขณะ Smart Ring มันจับอะไร
00:41:54 → 00:41:55 ของมันก็ไม่รู้
00:41:55 → 00:41:57 >> เพราะเซ็นเซอร์มันอาจจะใหญ่กว่าหรือเปล่า
00:41:57 → 00:41:58 >> อาจจะแบบนั้นพี่ว่าอาจจะแบบนั้นแล้วมัน
00:41:58 → 00:42:01 อยู่ใกล้ใกล้ชีพจรมากกว่า SM อาจจะอาจจะ
00:42:01 → 00:42:03 ไกลแต่ที่ง่ายๆคือ listen to your body
00:42:03 → 00:42:05 อ่ะคนรุ่นพ่อรุ่นแม่เราก็ไม่มี Smart
00:42:05 → 00:42:07 Watch เใช้ชีวิตได้อย่างปกติถูกมั้ไม่
00:42:07 → 00:42:08 ต้องมาดูตัวเลขอะไรก็ตาม
00:42:08 → 00:42:09 >> จิร
00:42:09 → 00:42:11 >> บางทีSmartวทำให้เราหมดกำลังใจฉันว่าฉัน
00:42:11 → 00:42:14 นอนดีนะอ้าทำไมมันอย่างว่าไม่ดีวะ
00:42:14 → 00:42:16 >> พันธุกรรมบางอย่างเนี่ยก็จะทำให้เราเกิด
00:42:16 → 00:42:17 โรคได้อย่างเช่น
00:42:17 → 00:42:18 >> อ่าใช่ครับ
00:42:18 → 00:42:20 >> พ่อแม่เป็นภูมิแพ้เราก็มีโอกาสเป็นภูมิ
00:42:20 → 00:42:23 แพ้แบบนี้เนี่ยเราสามารถแบบเปลี่ยนอะไร
00:42:23 → 00:42:24 ยังไงได้มั้ย
00:42:24 → 00:42:27 >> คือพวกเนี้ยมันมันมันมาถ่ายทอดได้ 2
00:42:27 → 00:42:29 อย่างแน่นอนพันธุกรรมหรือพิมพ์เขียวมัน
00:42:29 → 00:42:30 ถ่ายทอดได้อยู่แล้วใช่มครับถ้ามี
00:42:30 → 00:42:32 พันธุกรรมของมะเร็งพ่อแม่เรามีโอกาสเป็น
00:42:32 → 00:42:35 มะเร็งมากขึ้นภูมิแพ้ก็เหมือนกันแต่คราว
00:42:35 → 00:42:38 นี้ Epenetic มันก็ถ่ายทอดได้เหมือนกัน
00:42:38 → 00:42:38 >> อือ
00:42:38 → 00:42:41 >> คือถ้าเราใช้ชีวิตที่ดีนะครับดูแลสุขภาพ
00:42:41 → 00:42:44 ดีๆกินให้ถูกใช้ชีวิตให้ถูกเนี่ยเราส่ง
00:42:44 → 00:42:46 ผ่านEpิติดีๆไปถึงลูกหลานได้
00:42:46 → 00:42:47 >> อ๋อ
00:42:47 → 00:42:49 >> แต่นั้นคือสิ่งที่ผ่ายถ่ายทอดได้ไม่ใช่
00:42:49 → 00:42:51 แค่พันธุกรรมไม่ใช่แค่เราใช้ชีวิตดีๆแล้ว
00:42:51 → 00:42:54 มันจะจบแค่เราอีติถ่ายทอดได้เหมือนกัน
00:42:54 → 00:42:55 >> อ๋อออ
00:42:55 → 00:42:58 >> ดังนั้นคือบางทีมันมันไม่ใช่ลงลงทุนเพื่อ
00:42:58 → 00:43:01 ตัวเองเราลงทุนเพื่อลูกหลานของเราด้วย
00:43:01 → 00:43:01 >> ออ
00:43:01 → 00:43:05 >> ไอ้จีนที่ไม่ดีอาจจะถ่ายทอดมาถึงเราแต่
00:43:05 → 00:43:08 ถ้าเราทำ epigenic ที่ดี epigenic อาจจะ
00:43:08 → 00:43:12 ไปปิดยีนที่ไม่ดีทำให้ถึงลูกหลานเราแล้ว
00:43:12 → 00:43:14 ไม่ออกไม่แสดงออกมาของยีนนั้นเราแก้ชะตา
00:43:14 → 00:43:15 ชีวิตของลูกหลานเราได้โดยเราใช้ชีวิตให้
00:43:16 → 00:43:17 ดีอันนี้เป็นสิ่งสำคัญมากนะครับดังนั้น
00:43:17 → 00:43:20 ถึงบอกว่าEpิ Genetic เป็นข้อมูลที่บอก
00:43:20 → 00:43:24 ว่าเราเลือกที่จะใช้ชีวิตและสามารถกำหนด
00:43:24 → 00:43:26 ชะตาชีวิตเราได้ระดับหนึ่งไม่ได้กำหนดได้
00:43:26 → 00:43:28 ทั้งหมดอยู่แล้วแต่กำหนดชีวิตเราได้ไม่
00:43:28 → 00:43:30 ใช่ต้องปล่อยชีวิตไปตามยถากรรมที่พิมพ์
00:43:30 → 00:43:32 เขียวมายังไงยีนเป็นยังไงเราก็ต้องปล่อย
00:43:32 → 00:43:33 ไปตามนั้นไม่ใช่
00:43:33 → 00:43:35 >> อ๋ออย่างเช่นแบบพ่อแม่เราอาจจะไม่สูงเรา
00:43:35 → 00:43:37 ก็สามารถสูงได้
00:43:37 → 00:43:39 >> ใช่แต่มันก็จะมีลิมิตอันนึงของมันนะครับ
00:43:39 → 00:43:42 ไม่ใช่พ่อ 150 ลูก 190 มันก็อาจจะยากนะ
00:43:42 → 00:43:44 มันก็มีลิมิตร่างกายนึงที่มันมันปรับได้
00:43:44 → 00:43:48 พ่อพี่เป็นความดันสูงและเบาหวานแต่พอพี่
00:43:48 → 00:43:51 พี่พอพี่เรียนหมอพี่ก็ใช้ชีวิตค่อนข้างดี
00:43:51 → 00:43:53 ในระดับหนึ่งมานานแล้วพี่ก็ไม่เป็นความ
00:43:53 → 00:43:55 นันสูญพี่ก็ไม่เป็นเบาหวานนะถ้าพวกนี้มัน
00:43:55 → 00:43:58 ถ่ายทอดทางพันธุคำได้เพราะพี่แก้ไขพี่
00:43:58 → 00:43:58 >> ได้
00:43:59 → 00:44:02 >> อืในชีวิตในทางที่เราพอยทำได้โดยที่เรา
00:44:02 → 00:44:04 ยังมี Happy Life ได้เพราะถ้าสริกเกินไป
00:44:04 → 00:44:07 เนี่ยไปบวชดีกว่ามั้ย
00:44:07 → 00:44:09 >> คุมได้คุมอาหารด้วยออกกำลังกายด้วยคือกิน
00:44:09 → 00:44:13 ข้าวเช้าเสร็จก็ไปทำกุไปถูกุฏิไปสร้าง
00:44:13 → 00:44:15 ศาลาอะไรพวกนี้เออแล้วก็นอนเป็นเวลาถูก
00:44:15 → 00:44:17 มั้เออมันก็ได้
00:44:17 → 00:44:19 >> แต่ถ้าไม่มีความสุขก็คือไปบวชเถอะได้บุญ
00:44:19 → 00:44:22 ด้วยแต่ถ้าใช้ชีวิตมีความสุขเราปรับ
00:44:22 → 00:44:24 เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตได้พี่ถึงชอบ
00:44:24 → 00:44:26 Mediterranean Diet มากไง
00:44:26 → 00:44:26 >> อื
00:44:26 → 00:44:29 >> เพราะว่า Physical Social Contact นะ
00:44:29 → 00:44:31 ครับแล้วก็ต่อไปต่อไปมันเป็นอะไรที่ make
00:44:31 → 00:44:33 sense ดีมากไม่งั้นมันไม่เจ๋งถึงขนาดได้
00:44:33 → 00:44:35 รางวัลมา 6-7 ปีซ้อนแล้วละพี่ว่าปีหน้าก็
00:44:35 → 00:44:36 ยังได้อีก
00:44:36 → 00:44:39 >> อื
00:44:39 → 00:44:41 แต่ก็ต้องขออนุญาตแบบเคลมนิดนึงได้มั้ย
00:44:41 → 00:44:43 ว่ารับรองไม่มีใครเดาอายุพี่จัถูกเลย
00:44:43 → 00:44:47 >> อออันนี้เออเรื่องอายุก็ดีนะคือปัจจุบัน
00:44:47 → 00:44:50 เนี่ยลงมาโยงเรื่องนี้ได้นะครับมันมีคำ
00:44:50 → 00:44:52 ว่า Biological Age กับ Chronological
00:44:52 → 00:44:54 Age Chron Chronological age ก็คือ
00:44:54 → 00:44:57 อายุจริงตามบัตรประชาชนตามทะเบียนบ้าน
00:44:57 → 00:44:59 เอ่อ Biological age คืออายุตาม
00:44:59 → 00:45:01 epigenetic ดังนั้นบางคนก็บางคนก็คือ
00:45:01 → 00:45:03 chronological age ดูแก่แต่ว่า
00:45:03 → 00:45:05 biological age เยังน้อยซึ่งอาจจะเป็น
00:45:05 → 00:45:07 แบบที่อายุเยอะแต่ดู
00:45:07 → 00:45:10 >> เออใช่ซึ่งบางคนก็ถามว่ามันมีวิธีการวัด
00:45:10 → 00:45:12 เค้าเรียกepidิจicในงานประชุมเบอกอาจารย์
00:45:12 → 00:45:15 ไอ้แผ่นคลอกเนี่ยซื้อที่ไหนเคงคิดว่าแผ่น
00:45:15 → 00:45:18 ที่เหมือนหมุนน่ะเหมือนว่าถ้าเมนถ้าเมนมา
00:45:18 → 00:45:21 วันนี้จะจะตกไข่เมื่อไหร่จะอะไรมันไม่ใช่
00:45:21 → 00:45:24 มันไม่ใช่แผ่นหมุนแบบนั้นนะ EP Genic
00:45:24 → 00:45:27 Cอกจะดูอายุทางชีวภาพ Biological Age
00:45:27 → 00:45:29 ได้ต้องเจาะเลือดส่งไปทำแลAPซึ่งค่าเจาะ
00:45:29 → 00:45:30 ปัจจุบันเยังเป็นหมื่น
00:45:30 → 00:45:31 >> ออ
00:45:31 → 00:45:32 >> เพราะเค้าเจะต้องวัดไอ้สิ่งที่เรียกว่า
00:45:32 → 00:45:34 Millation นะครับดังนั้นก็คือพูดง่ายๆ
00:45:34 → 00:45:37 ไม่ต้องไปวัดหรอกมันแพงนะครับแล้วเมือง
00:45:37 → 00:45:39 ไทยก็ยังมีประมาณ 4-5 แลบมั้งที่วัดได้
00:45:39 → 00:45:41 เราใช้ชีวิตไปแล้วเราจะรู้เองเวลาที่เรา
00:45:41 → 00:45:44 ออกเลี้ยงรุ่นทีนึงหรือเวลาตรวจสุขภาพเรา
00:45:44 → 00:45:47 จะรู้เองว่าเราอ่ะสามารถจะย้อนไวได้
00:45:47 → 00:45:49 >> นะครับเพราะฉะนั้นคือเราสามารถเปลี่ยน
00:45:49 → 00:45:52 แปลงอายุของเราจริงๆข้างในเนี่ยให้น้อย
00:45:52 → 00:45:55 กว่าอายุตามบัตรประชาชนได้โดยการใช้ชีวิต
00:45:55 → 00:45:56 ของเรา
00:45:56 → 00:45:59 >> อ่ายอดเยี่ยมมากๆค่ะก็ต้องบอกว่าพี่จันท
00:45:59 → 00:46:01 ก็ปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างเนาะ
00:46:01 → 00:46:03 >> พยายามทำฮะถ้าพยายามทำอยู่เรื่องนอนเี่
00:46:03 → 00:46:05 ได้แน่ๆเรื่องกินยังมีบ้างเวลาเจออะไร
00:46:05 → 00:46:08 อร่อยๆก็ยังมีบ้างพกิมไข่เต่าอะไรเงี้ยก็
00:46:08 → 00:46:11 ยังพวกขนมไทยบางอย่างก็ยังแบบ
00:46:11 → 00:46:13 >> ในกรุ๊กเนี่ยพี่จันทร์ก็คอยแนะนำเมนูอยู่
00:46:13 → 00:46:15 นะคะแนะนำร้านอาหารอยู่เรื่อยๆ
00:46:15 → 00:46:17 >> อ่าก็ไม่ค่อยมีแล้วครับตอนนี้ไม่เพราะว่า
00:46:17 → 00:46:20 หลังๆก็คือกินผักกินผักอยู่บ้านนะไม่ค่อย
00:46:20 → 00:46:22 ได้กินอะไรเท่าไหร่
00:46:22 → 00:46:24 เป็นรายการที่ได้คุยเยอะนะเพราะว่าที่
00:46:24 → 00:46:26 ผ่านมาเลคเชอร์บรรยายอิเจนติกได้พูด 15
00:46:26 → 00:46:28 นาทีเองมั้งวันนี้เหมือนสิ่งที่เตรียมใน
00:46:28 → 00:46:30 งานประชุมได้ใช้มากขึ้นเพียงแต่ว่ามามา
00:46:30 → 00:46:33 ย่อมา simplify มากขึ้นสำหรับผู้ชมทั่วไป
00:46:33 → 00:46:35 อันนี้คืองานหมอแล้วก็แล้วก็พูดให้มันยาก
00:46:35 → 00:46:36 หน่อย
00:46:36 → 00:46:37 >> แต่นี่คือเหมือนว่าได้เอามาใช้ก็คือ
00:46:37 → 00:46:38 ขอบคุณมากที่
00:46:38 → 00:46:41 >> ที่ได้ได้ใช้สิ่งที่เจมมาได้พูดเต็มที่
00:46:41 → 00:46:43 >> ขอบพระคุณเช่นเดียวกันค่ะที่มาเยี่ยม
00:46:43 → 00:46:44 เยียน
00:46:44 → 00:46:47 >> ขอคีย์เวิร์ดสั้นๆค่ะที่ใครอยากจะดูเด็ก
00:46:47 → 00:46:49 กว่าอายุจริงพี่จัเนี่ยแนะนำอะไรบ้างคะ
00:46:49 → 00:46:52 >> เอ่อ 3 อย่างควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่
00:46:52 → 00:46:55 บริโภคเข้าไปนะครับและเลือกชนิดของ
00:46:55 → 00:46:56 แคลอรี่ที่ดี
00:46:56 → 00:46:57 >> ก็คือคุณภาพของอาหารที่ดี
00:46:57 → 00:46:58 >> คุณภาพของอาหารที่ดี
00:46:58 → 00:47:01 >> ใช่นะครับอันที่ 2 ออกกำลังกายสม่ำเสมอนะ
00:47:01 → 00:47:03 ครับจากคาร์ดิโอจากเวท training อะไรก็
00:47:03 → 00:47:06 แล้วแต่ตามสังขารและตามวัยของเราและนอน
00:47:06 → 00:47:09 ให้เป็นเวลากินให้เป็นเวลา 3 อย่างเนี้ย
00:47:09 → 00:47:12 ครับก็คือหลักการตามepิเลยแล้วก็แก้ไข
00:47:12 → 00:47:14 ชะตาชีวิตแก้ไขชะตากรรมเราได้ในระดับ
00:47:14 → 00:47:17 หนึ่งซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
00:47:17 → 00:47:20 >> ก็วันนี้ขอบคุณพี่ซันมากๆนะคะที่สละเวลา
00:47:20 → 00:47:23 มาให้ความรู้กับทุกคนสามารถติดตามความรู้
00:47:23 → 00:47:24 จากพี่จัได้จากช่องทางไหนบ้าง
00:47:24 → 00:47:27 >> โอเคครับติดตามถ้าอยากอ่านความรู้นะครับ
00:47:27 → 00:47:29 ซึ่งก็บางทีก็สลับนะความรู้บ้างได้สาระ
00:47:29 → 00:47:32 บ้างนะครับก็ Facebook ชนวัฒสุวรรณ
00:47:32 → 00:47:34 ปิยสิรินะครับเสิร์ชไปคำว่าชนวัตรอ่ะมัน
00:47:34 → 00:47:35 ก็ขึ้น
00:47:35 → 00:47:38 >> ก็ถ้ายังไงใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติมนะคะก็
00:47:38 → 00:47:41 สามารถคอมเมนต์กันไว้ด้านล่างได้เลยคำถาม
00:47:41 → 00:47:44 เหล่านี้เนี่ยเราจะถูกรวบรวมมาหัวข้อ
00:47:44 → 00:47:45 เหล่านี้เนี่ยเป็นหัวข้อที่ทุกคนกำลังให้
00:47:46 → 00:47:49 ความสนใจมากๆแล้วก็มีความรู้ในโซเชียลมี
00:47:49 → 00:47:52 เยอะมากแต่ว่าถ้าเราได้รับความรู้จากผู้
00:47:52 → 00:47:54 เชี่ยวชาญตัวจริงแล้วล่ะก็เราก็จะได้
00:47:54 → 00:47:57 เลือกทำหรือว่าเลือกใช้สิ่งที่ถูกต้อง
00:47:57 → 00:48:00 เนาะไม่ได้ไปตามกระแสหรือว่าคำโฆษณาฝาก
00:48:00 → 00:48:03 ติดตามสวย Story พcสในตอนต่อไปด้วยนะคะ
00:48:03 → 00:48:05 วันนี้อุ๋มแล้วก็พี่สัตว์ขออนุญาตลากันไป
00:48:05 → 00:48:12 ก่อนค่ะนี้สวัสดีค่ะ
00:48:12 → 00:48:16 [เพลง]
00:48:16 → 00:48:17 [ปรบมือ]
00:48:17 → 00:48:24 [เพลง]