00:00:00 → 00:00:02 อยากให้พ่อแม่ฟิตแล้วก็อยู่กับเราไปนานๆ
00:00:02 → 00:00:05 ลูกๆจะต้องทำอย่างไรแล้วลูกๆจะรู้ได้
00:00:05 → 00:00:07 อย่างไรว่าพ่อแม่เราฟิตหรือว่าแข็งแรง
00:00:07 → 00:00:09 หรือเปล่านี่คือหัวข้อที่เราจะคุยกันใน
00:00:09 → 00:00:12 บุพการีที่เคารพคู่มือการดูแลพ่อแม่ของคน
00:00:12 → 00:00:15 เจนลูกในวันนี้นะ
00:00:15 → 00:00:18 ครับเราก็ไม่สามารถฝืนสังขารที่อายุเยอะ
00:00:19 → 00:00:21 ขึ้นได้นะครับแต่เราก็จะสามารถชะลอความ
00:00:21 → 00:00:24 เสื่อมหรือความแก่ได้คือแล้วจะทำอย่างไร
00:00:24 → 00:00:27 ให้มันเสือบช้าหรือเสื่อมน้อยที่สุดล่ะ
00:00:27 → 00:00:30 ครับ
00:00:30 → 00:00:33 คนที่มีค่า vi 2 Max สูงเสียชีวิตช้า
00:00:33 → 00:00:36 กว่าคนที่มีค่า vi Max ต่ำถ้านายอได้รับ
00:00:36 → 00:00:40 ออกซิเจนได้เยอะได้สูงกว่ามากกว่าใน B
00:00:40 → 00:00:43 แสดงว่าใน a นี่แข็งแรงกว่าแข็งแรงกว่ามี
00:00:43 → 00:00:48 เปอร์เซ็นต์การเสียชีวิตต่ำกว่า
00:00:48 → 00:00:52 เยอะแล้วถ้าสมมุติว่าเรามาวัดแล้วอ่ะครับ
00:00:52 → 00:00:56 ครับฮอตว่าค่า vo2 Max ของเรานี้น้อยอ่า
00:00:56 → 00:01:00 กรณีแบบนี้มันมีสิทธิ์เพิ่มได้มครับได้
00:01:00 → 00:01:02 โดยเฉพาะกับตัวผู้สูงอายุเองได้ครับได้
00:01:02 → 00:01:04 ครับนอกเหนือจากมีเงินในบัญชีเยอะๆก็ต้อง
00:01:04 → 00:01:10 เก็บออมค่า vi to Max ด้วยใช่
00:01:10 → 00:01:14 ๆวันนี้บุพการีที่เคารพคู่มือการดูแลพ่อ
00:01:14 → 00:01:16 แม่ของคน 7 ลูกจะคุยกันเรื่องความแข็งแรง
00:01:16 → 00:01:19 ความฟิตของคุณพ่อคุณแม่นะครับว่าลูกๆจะดู
00:01:19 → 00:01:22 แลอย่างไรบ้างปกติเรื่องนี้เราก็จะคุยกับ
00:01:22 → 00:01:24 คุณหมอนะครับแต่ว่ารอบนี้เราจะคุยกับผู้
00:01:24 → 00:01:26 เชี่ยวชาญซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์การกีฬา
00:01:26 → 00:01:29 นะครับคุณฮอตพีรพัฒน์ศิรีเรืองนะครับเป็น
00:01:29 → 00:01:31 นักวิทยาศาสตร์ศาการกีฬาจาก help
00:01:31 → 00:01:33 Performance Team สวัสดีครับพอตสวัสดี
00:01:33 → 00:01:35 ครับพี่ประสานครับสวัสดีครับผมอ่าต้อง
00:01:35 → 00:01:37 ขอบคุณมากๆนะครับที่วันนี้มาให้ความรู้
00:01:37 → 00:01:40 กันครับยินดีมากครับผมคำถามแรกเลยครับนัก
00:01:40 → 00:01:42 วิทยาศาสตร์การกีฬาคืออะไรก่อนนัก
00:01:42 → 00:01:46 วิทยาศาสตร์การกีฬาก็คือก็วิทยาศาสตร์อื
00:01:46 → 00:01:50 การกีฬาก็คือเอาวิทยาศาสตร์มาเป็นแบอให้
00:01:50 → 00:01:53 กับกีฬาเพื่อทำให้คนๆนึงมีสมรรถนะที่เป็น
00:01:53 → 00:01:56 เลิศได้สมถนะทางร่างกายร่างกายอ่าทำให้
00:01:56 → 00:01:59 เหมือนแบบที่เวลาทำทำให้คนคนนึงที่แบบ
00:01:59 → 00:02:01 สมมุตแล้ววิ่งวิ่งไกลๆแล้วก็สามารถวิ่ง
00:02:02 → 00:02:03 ได้อึดได้ทนอะไรมากขึ้นอะไรงี้ใช่มั้ย
00:02:03 → 00:02:04 ครับถครับใช่ครับ
00:02:04 → 00:02:10 [เพลง]
00:02:10 → 00:02:14 ผมเ้ามาคำถามแรกก่อนครับพอเรามีอายุมาก
00:02:14 → 00:02:17 ขึ้นคนก็จะตั้งคำถามว่าแก่แล้วร่างกายจะ
00:02:17 → 00:02:20 ต้องเสื่อมแน่นอนฮเออแต่คำถามก็คือว่า
00:02:20 → 00:02:22 เวลาเสื่อมนี่อะไรมันเสื่อมบ้างเวลาคน
00:02:22 → 00:02:25 อายุมากๆ
00:02:25 → 00:02:29 ขึ้นก็เราจะยกตัวอย่างง่ายๆนะครับอย่าง
00:02:29 → 00:02:34 เช่น 4 อย่างหัวใจอืปอดครับกล้ามเนื้อ
00:02:34 → 00:02:37 แล้วก็เรื่องสมองครับหัวใจปอดกล้ามเนื้อ
00:02:37 → 00:02:40 สมองหลักๆก่อนแล้วกันครับก็คือหัวใจเนี่ย
00:02:40 → 00:02:42 มันก็จะมีเขาเรียกว่าเป็นหลอดเลือดแดงที่
00:02:42 → 00:02:45 สำคัญเขาเรียกว่าเอออต้าอครับเส้นเลือด
00:02:45 → 00:02:47 เนี้ยจะหลอดเลือดเนี่ยจะอยู่ใกล้ๆกับหัว
00:02:47 → 00:02:50 ใจมีหน้าที่ในการนำเลือดและออกซิเจนไป
00:02:50 → 00:02:52 เลี้ยงอวัยวะเนื้อเยื่อส่วนต่างๆของร่าง
00:02:52 → 00:02:55 กายขนส่งสารอาหารให้ร่างกายเนี่ยมี
00:02:55 → 00:02:58 ประสิทธิภาพในการดำเนินชีวิตต่อไปเรื่อยๆ
00:02:58 → 00:03:02 อืในขณะที่ที่เรามีความแก่ตัวลงลภาพเข้า
00:03:02 → 00:03:05 มาสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือจะมีคราบไขมันคราบ
00:03:05 → 00:03:07 จุลินทรีย์เนี่ยมาเกาะตามหลอดเลือด
00:03:08 → 00:03:11 เอออต้าซึ่งทำให้การไหลเวียนของเลือดเอง
00:03:11 → 00:03:15 หรือว่าเอ่อความยืดหยุ่นของหลอดเลือดแดง
00:03:15 → 00:03:18 นั้นเนี่ยมีความแข็งตัวขึ้นไหลเวียนเลือด
00:03:18 → 00:03:22 ได้ยากครับเอ่อพอชลผ้าไปสิ่งที่เกิดขึ้น
00:03:22 → 00:03:24 ก็คือความดันโลหิตสูงขึ้นอันนี้คือเรื่อง
00:03:24 → 00:03:26 หัวใจอันนี้ใช่มั้ยที่เขาจะต้องไปทำหลอด
00:03:26 → 00:03:29 เลือดหัวใจไปทำบาลูนไปทำอะไรอย่างงี้ใช้
00:03:29 → 00:03:32 ใชอบอลลูนอะไรพวกเนี้ยใช่ครับผม 2 ก็จะ
00:03:32 → 00:03:35 เป็นเรื่องปอร์ดอือถ้าเราซูมเข้าไปในปอด
00:03:35 → 00:03:38 ลึกๆเราจะเห็นครับเอ่อสิ่งนึงที่เขาเรียก
00:03:38 → 00:03:41 ว่าซีรียอ่าซีรียก็คือจะทำหน้าที่เป็นใบ
00:03:41 → 00:03:45 พัดครับในปอดพอเราเป็นวัยหนุ่มสาวเนี่ย
00:03:45 → 00:03:48 เครื่องใบพัเนี่ยมันยังทำงานได้เร็วมี
00:03:48 → 00:03:51 ประสิทธิภาพแต่เมื่อไหร่พอเราเอ่อชลภาพ
00:03:51 → 00:03:53 สิ่งที่เกิดขึ้นคือตัวซีเรียมันก็จะทำงาน
00:03:53 → 00:03:56 ได้ช้าลงอืการเคลียร์เปรียบเทียบได้ไง
00:03:56 → 00:03:58 เหมือนพัดลมที่มันหมุนๆช้าลงอะไรงี้เหรอ
00:03:58 → 00:04:02 ใช่ครับครับเสมหะหรือว่าฝุ่นต่างๆก็จะ
00:04:02 → 00:04:04 เคลียร์ได้ช้าสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือความ
00:04:04 → 00:04:08 เสี่ยงที่จะติดเชื้อไครหวัดใหญ่ซาโควิดก็
00:04:08 → 00:04:10 จะมีได้ง่ายกว่าคนหนุ่มสาวอันนี้เป็น
00:04:10 → 00:04:12 เรื่องปอดอันนี้หรือเปล่าที่บางทีเราเห็น
00:04:12 → 00:04:17 เมื่อกเห็นคนมีอายุแกแอมรู้สึกว่ามีมีสลด
00:04:17 → 00:04:19 มีอะไรอย่างเงี้ยหืองั้นใช่บวกกับเรื่อง
00:04:19 → 00:04:21 สูบบุหรี่ด้วยจะสังเกตได้ว่าคนที่มีสูบ
00:04:21 → 00:04:26 บุหรี่ก็จะมีค่อนข้างการขากเสมหะเสียงดัง
00:04:26 → 00:04:29 ครับผมอ่าครับอ่าเมื่อกี้ไปแล้วหัวใจปอด
00:04:29 → 00:04:32 ต่อไปเป็นเรื่องสมองสมองเมื่อเราอายุเยอะ
00:04:32 → 00:04:35 ขึ้นแน่นอนครับเซลล์สมองก็จะมีจำนวนน้อย
00:04:35 → 00:04:39 ลงส่งผลให้การส่งสัญญาณเรื่องปฏิกิริยา
00:04:39 → 00:04:42 ตอบสนองเนี่ยก็จะช้าลงเราอาจจะสังเกตว่า
00:04:42 → 00:04:46 ถ้าสมมุติขวดน้ำล้มในวัยหนุ่มสาวเราอาจจะ
00:04:46 → 00:04:49 คว้าได้ทันทีอ่าใช่ในวัยผู้สูงอายุล้ม
00:04:49 → 00:04:52 ปึ๊บอาจจะใช้เวลานิดนึงะคว้ามาอซึ่งเรา
00:04:52 → 00:04:56 อาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องตลกอืมันเป็นแบบ
00:04:56 → 00:04:59 การลดหรือการเสื่อมลงแบบระยะมิลลิเซกหรือ
00:04:59 → 00:05:03 เสี้ยววินาทีอืแต่อย่างไรก็ตามพอมี
00:05:03 → 00:05:07 สถานการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาอ่าเดินสะดุด
00:05:07 → 00:05:11 ครับตกบันไดถ้าเป็นวัยหนุ่มสาวคว้าทันใช่
00:05:11 → 00:05:13 แต่ถ้าเป็นผู้สูงอายุเนี่ยเสี้ยววินาที
00:05:13 → 00:05:17 นึงมันพอคว้าไม่ทันก็การฟอการกระดูกแตก
00:05:17 → 00:05:19 กระดูกหักมันก็เกิดขึ้นได้ง่ายอ่าใช่นั่น
00:05:19 → 00:05:21 คือเหตุผลที่ทำไมบางทีผู้สูงอายุเกิด
00:05:21 → 00:05:23 อุบัติเหตุแล้วจะมีอาการมีความรุนแรงมาก
00:05:23 → 00:05:25 กว่าคนหนุ่มสาวนะใช่ใช่ครับเราอาจจะมอง
00:05:25 → 00:05:28 เสี้ยววิมันเป็นเรื่องตลกในโรกธรรมดาแต่
00:05:28 → 00:05:31 พอเกิดเหตุการณ์ไม่คาดปัมันมันเกิดขึ้น
00:05:31 → 00:05:34 น่ากลัวจริงอ่าครับต่อไป 4 ก็เรื่องกล้าม
00:05:34 → 00:05:37 เนื้อตามหลักบทความวิชาการทั่วๆไปก็จะบอก
00:05:37 → 00:05:40 ว่าทุกๆ 1 ปีหลังจากอายุ 60 จะมีการลดลง
00:05:40 → 00:05:44 ของมวลกล้ามเนื้อ 0.1 กกอืเราอาจจะมองว่า
00:05:44 → 00:05:48 0.1 กกมันโอ้โหนิดนิดเดียวเองอย่างไรก็
00:05:48 → 00:05:51 ตามพอเราเอาหลายๆเหตุการณ์มาผนวกกัน
00:05:51 → 00:05:56 สมมุติว่าผู้สูงอายุขับรถมีคนเดินตัดหน้า
00:05:56 → 00:05:59 มีรถมอเตอร์ไซค์จักรยานยนต์อครับจากที่
00:05:59 → 00:06:02 เคยเคยเหยียบเบรกมีพาเวอร์มีพลังสูงอสมอง
00:06:02 → 00:06:05 มีปฏิกิริยารวดเร็วแบบวัยหนุ่มสาวแต่พอมา
00:06:05 → 00:06:09 เจอเหตุการณ์นี้อเหยียบเบรกช้าลงสัก
00:06:09 → 00:06:13 เสี้ยววินาทีอกล้ามมวนกล้ามเนื้อหาย 0.1
00:06:13 → 00:06:16 กกเหยียบไม่แรงเหยียบช้าโอกาสที่เกิด
00:06:16 → 00:06:19 อุบัติเหตุได้ก็จะมีสูงออครับเพราะฉะนั้น
00:06:19 → 00:06:24 แล้วถ้าเราลองเอาหัวใจปอดกล้ามเนื้ออื
00:06:24 → 00:06:26 แล้วก็เรื่องสมองมารวมกันเนี่ยครับถ้าเรา
00:06:27 → 00:06:29 ใช้ชีวิตประจำวันเราอาจจะมองไม่เห็นอื
00:06:29 → 00:06:33 เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นครับรถปาด
00:06:33 → 00:06:36 หน้าเดินสะดุดอยู่ดีๆเบ่งอุจจาระแล้ว
00:06:36 → 00:06:40 กล้ามเนื้อไขมันมันเกิดกำเริบขึ้นมาอือๆๆ
00:06:40 → 00:06:42 พวกเครับมันก็จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาด
00:06:42 → 00:06:44 ฝันความเสื่อมมักจะมองเห็นในเหตุการณ์ที่
00:06:44 → 00:06:47 ไม่ให้คาดฝันมากกว่าชีวิตประจำวัน
00:06:47 → 00:06:49 [เพลง]
00:06:49 → 00:06:53 ใช่เขาบอกว่าตอนนี้คนทั่วโลกไม่ใช่แค่คน
00:06:53 → 00:06:56 ไทยอย่างเดียวจะอายุยืนขึ้นอ่าเราคจะพูด
00:06:56 → 00:06:58 ถึงว่าไม่ใช่สังคมสูงอายุละจะเป็นสังคม
00:06:58 → 00:07:01 อายุยืนเครับผมเก็เลยเริ่มมีคำที่จะพูด
00:07:01 → 00:07:03 ถึงเรื่องว่าเออแล้วจะทำยังไงให้อายุยืน
00:07:03 → 00:07:06 แล้วมันมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยครับครับจะ
00:07:06 → 00:07:10 มี 2 คำก็คือ Life span อกับ Health
00:07:10 → 00:07:13 span ยกตัวอย่างเช่น Life span ก็คือ
00:07:13 → 00:07:16 คุณพ่อคุณแม่ผมอาจจะมีอายุไขอยู่ที่ 85
00:07:16 → 00:07:20 ปีครับแลท่านก็เสียชีวิตอืแต่ถ้า Health
00:07:20 → 00:07:22 span เนี่ยเราจะมาดูว่าในแต่ละช่วงอายุ
00:07:22 → 00:07:27 ไข 55-60 60-70 หรือ 70 -85 เนี่ยท่าน
00:07:27 → 00:07:30 ยังมีสุขภาพแข็งแรงหหรือไม่สุขภาพจิตดี
00:07:30 → 00:07:33 หรือเปล่าหรือว่ามีเจ็บไข้ได้ป่วยอะไร
00:07:34 → 00:07:36 หรือไม่เพราะฉะนั้นแล้วอนอกเหนือจากที่
00:07:36 → 00:07:38 เราจะมองแต่อายุไข Life span เนี่ยเรา
00:07:38 → 00:07:40 ต้องเอา Health span เข้ามาเกี่ยวข้อง
00:07:40 → 00:07:43 ด้วยเพื่อดูว่าท่านเนี่ยมีสุขภาพจิตและ
00:07:43 → 00:07:45 สุขภาพกายที่ดีหรือเปล่าในช่วงนั้นคือ
00:07:45 → 00:07:48 หมายความว่าคนเราบางทีอายุยืนก็ไม่ได้
00:07:48 → 00:07:50 หมายความว่าคุณภาพชีวิตดีใช่ครับเช่น
00:07:50 → 00:07:53 สมมุติว่าอาจจะอายุยืนถึง 85 แต่ว่า
00:07:53 → 00:07:55 Health span นี่มันแบบคุณอ่อนแอร์ตั้ง
00:07:55 → 00:07:58 แต่คุณอายุ 65 เงี้ยบางทีคุณอาจจะติด
00:07:58 → 00:08:01 เตียงตั้งแต่ 75 ใช่ใช่ครับผมออเพราะ
00:08:01 → 00:08:04 ฉะนั้นไอ้ตัวนี้เลยของของฮอก็เลยแนะนำว่า
00:08:04 → 00:08:06 เป็นเป็นตัวที่เราจะต้องคำนึงถึงมันเนาะ
00:08:06 → 00:08:07 ถูกต้องครับอืถูกต้อง
00:08:07 → 00:08:10 [เพลง]
00:08:10 → 00:08:13 ครับในเมื่อพอบอกความเสื่อมคนก็จะตั้งคำ
00:08:13 → 00:08:16 ถามต่อไปว่าเออแล้วจะทำอย่างไรให้มัน
00:08:16 → 00:08:19 เสื่อมช้าหรือเสื่อมน้อยที่สุดล่ะครับ
00:08:19 → 00:08:22 ครับก็จริงๆเราก็ไม่สามารถฝืนสังขารที่
00:08:22 → 00:08:25 อายุเยอะขึ้นได้นะครับแต่เราก็จะสามารถ
00:08:25 → 00:08:28 ชะลอความเสื่อมหรือความแก่ได้ด้วยการออก
00:08:28 → 00:08:30 กำลังกาย
00:08:30 → 00:08:33 อย่างสม่ำเสมอรับประทานอาหารที่เหมาะสมมี
00:08:33 → 00:08:36 สุขภาพจิตที่ดีอครับอีกทั้งมีการเช็ค
00:08:36 → 00:08:40 สุขภาพทุกๆปีเพื่อประเมินความเสื่อมแล้ว
00:08:40 → 00:08:43 ก็ชะลอความเสื่อม
00:08:43 → 00:08:47 ได้ก็ถ้าเป็นสมัยก่อนหรือว่าคนปัจจุบัน
00:08:47 → 00:08:49 แล้วะกันก็ดูว่าเฮ้ยคนนี้ร่างกายดีดูยัง
00:08:49 → 00:08:55 ไงผูใหญ่โหงเฮ้งหน้าดีอ่าน่าอิ่มมีความ
00:08:55 → 00:08:58 สุขเดินได้คล่องจริงๆแล้วมันเป็นแบบ Super
00:08:58 → 00:09:02 facial มากอือือๆในการดูสมรรถภาพของคนึง
00:09:02 → 00:09:05 หรือในสมัยก่อนอาจจะประเมินผู้ป่วยด้วย
00:09:05 → 00:09:08 เดินขึ้นบันดาแล้วหอบหรือเปล่าหายใจแรง
00:09:08 → 00:09:11 หรือเปล่าแต่สมัยนี้มันมีค่าค่านึงที่
00:09:11 → 00:09:14 สามารถวัดได้โดยตรงเลยเขาเรียกว่าค่า vo2
00:09:14 → 00:09:18 Max หรืออัตราการใช้ออกซิเจนสูงสุดในขณะ
00:09:18 → 00:09:22 ออกกำลังกาย vo2 Max ใช่ครับผมอ่าครับ
00:09:22 → 00:09:24 ไอ้ตัวนี้เราจะเห็นบ่อยๆสำหรับคนที่ใส่
00:09:24 → 00:09:28 พวกกีฬานาฬิกาออกกำลังกายเอ smart watch
00:09:28 → 00:09:30 มันจะขึ้้นตัวเลขแล้วจริงๆไอ้ตัว vo2 Max
00:09:30 → 00:09:33 นี่มันคือ
00:09:33 → 00:09:38 อะไรครับถ้ามองค่า vo2 Max ในบทความ
00:09:38 → 00:09:41 วิชาการว่ามีความสำคัญยังไงกับเรื่องผู้
00:09:41 → 00:09:44 สูงไวยก็คือว่าในทางฝั่งยุโรปหรืออเมริกา
00:09:44 → 00:09:48 เองเนี่ยเขาจะมีค่ามาตรฐานบอกว่าถ้า
00:09:48 → 00:09:51 สมมุติค่าซับ vo2 Max ของคุณเนี่ยอยู่
00:09:51 → 00:09:55 ที่ต่ำกว่า 12 ML ต่อกิกัของน้ำหนักตัว
00:09:55 → 00:09:58 เนี่ยและพ่วงด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดถ้า
00:09:58 → 00:10:00 เจ็บไข้ได้ป่วย
00:10:00 → 00:10:03 ต้องโยงเข้าห้อง ICU อืและในจำนวน 153 คน
00:10:04 → 00:10:06 ที่ถูกเข้าห้อง ICU เนี่ยมีอัตราการเสีย
00:10:06 → 00:10:10 ชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด 7 คนอืๆใน
00:10:10 → 00:10:13 ขณะคนที่มีค่าซับ vo2 Max ครับสูงกว่า 12
00:10:13 → 00:10:16 ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บด้านหัวใจและหลอดเลือด
00:10:16 → 00:10:19 ฮะเก็บไข้ได้ป่วยเข้าวอดธรรมดาสิ่งที่
00:10:19 → 00:10:22 เกิดขึ้นคือไม่มีเปอร์เซ็นต์ zer เ์ในการ
00:10:22 → 00:10:24 เสียชีวิตด้วยร่วมหัวใจและหลอดเลือดไม่มี
00:10:24 → 00:10:27 เลยครับเพราะฉะนั้นค่า B2 Max เนี่ยนอก
00:10:27 → 00:10:29 เหนือจากเป็นความฟิตในนักกีฬาแล้วยังเป็น
00:10:29 → 00:10:33 ค่าที่ชี้เป็นชี้ตายให้กับคนเจ็บไข้ได้
00:10:33 → 00:10:36 ป่วยด้วยเช่นกันอเอานาย a กับนาย B ออก
00:10:36 → 00:10:38 กำลังกายเนี่ยแสดงว่าถ้าใน a ได้รับ
00:10:38 → 00:10:42 ออกซิเจนได้เยอะได้สูงกว่ามากกว่าใน B
00:10:42 → 00:10:45 แสดงว่าใน a นี่แข็งแรงกว่าแข็งแรงกว่ามี
00:10:45 → 00:10:49 เปอร์เซ็นต์การเสียชีวิตต่ำกว่าเยอะมันจะ
00:10:49 → 00:10:51 มีงานวิจัยของฝั่งสแกนดิเนเวียเป็นงาน
00:10:51 → 00:10:54 วิจัยเป็นมาสเตอร์พีซคือแทรคคนๆนึงที่มา
00:10:54 → 00:10:58 ตรวจ vi 2 Max ถึง 45 ปีเพื่อมาดูว่า
00:10:58 → 00:11:01 สูงหรือต่ำอันไหนจะเสียชีวิตเร็วกว่ากัน
00:11:01 → 00:11:04 คนที่มีค่า vi to Max สูงเสียชีวิตช้า
00:11:04 → 00:11:06 กว่าคนที่มีค่า vi to Max ต่ำแต่ปกติ
00:11:06 → 00:11:09 เวลาเราพูดถึงตัว vo2 Max เนี่ยเราก็จะ
00:11:09 → 00:11:12 คิดว่ามันจะอยู่ในแวดวงของคนเล่นกีฬาที่
00:11:12 → 00:11:15 เขาจะที่เขาจะมาวัดกันแล้วจริงๆสำหรับตัว
00:11:15 → 00:11:18 ผู้สูงอายุอ่ะครับเออสามารถวัดได้มั้ยได้
00:11:18 → 00:11:20 ครับได้ก็ต้องบอกก่อนว่า vi 2 Max
00:11:20 → 00:11:22 เนี่ยคนจะคิดว่ามันเหมาะกับนักวิ่ง
00:11:22 → 00:11:26 มาราธอนที่ต้องการเอ่อวิ่งให้เร็วขึ้น
00:11:26 → 00:11:28 หรือว่านักกีฬาฟุตบอลต้องการทำให้มีความ
00:11:28 → 00:11:30 อึดขึ้นในระหว่างการเล่นฟุตบอลตลอด 90
00:11:30 → 00:11:34 นาทีอย่างไรก็ตามในเชิงผู้สูงอายุเนี่ย
00:11:34 → 00:11:38 ถ้าหลักๆแล้วเราไม่รู้ว่าสมมุติว่าคุณพ่อ
00:11:38 → 00:11:42 คุณแม่ผมอืออกไปทำสวนทุกวันครับเดินรอบ
00:11:42 → 00:11:45 หมู่บ้านวันละชั่วโมงนึงอ่าๆออกไปตีกอล์ฟ
00:11:45 → 00:11:48 18 หลุมได้ 3 วันต่อสัปดาห์อ้อใช่มันก็
00:11:48 → 00:11:51 ไม่ได้สามารถบงบอกว่าคุณพ่อคุณแม่ผมมี
00:11:51 → 00:11:55 ความฟิตหรือเปล่าเพราะว่ากิจกรรมทางกาย
00:11:55 → 00:11:58 หรือ physical activity นั้นเนี่ยมันสูง
00:11:58 → 00:12:01 พอหรือไม่ที่จะทำให้ระบบหัวใจและหลอด
00:12:01 → 00:12:03 เลือดเขมีการพัฒนาหลักๆแล้วเนี่ยก็จะมีคน
00:12:03 → 00:12:06 เข้ามาเทสแบบเนี้ตลอดครับแล้วก็จะบอกว่า
00:12:06 → 00:12:11 เดินทุกวันทำส่วนทุกวันตีกอฟได้สบายอือ
00:12:11 → 00:12:14 แต่พอมาเทสจริงค่า vi to Max เาต่ำ
00:12:14 → 00:12:16 เพราะว่า physical activity เขาเนี่ยมัน
00:12:16 → 00:12:19 ยังไม่สูงพอที่จะพัฒนาระบบหัวใจและหลอด
00:12:19 → 00:12:21 เลือดของเขาอืครับครับเราก็เลยต้องอธิบาย
00:12:21 → 00:12:24 ให้เข้าใจว่าการที่จะทำให้ระบบหัวใจและ
00:12:24 → 00:12:26 หลอดเลือดมันมีการพัฒนาขึ้นเนี่ยมันต้อง
00:12:26 → 00:12:29 ออกกำลังกายให้ตรงความหนักของงานนะกรณี
00:12:29 → 00:12:31 ตัวเลขมันต่ำกว่าเกณฑเนี่ยร่างกายมันจะนำ
00:12:31 → 00:12:35 ไปสู่อะไรกรณีนี้ก็จะมีเคสผู้สูงอายุท่าน
00:12:35 → 00:12:38 นึงนะครับที่มาเทสกับเราตอนนี้ท่านอายุ 82
00:12:38 → 00:12:43 ะเขามาเทสกับเราตอนอายุอ 78 ครับครับตอน
00:12:43 → 00:12:45 แรกท่านก็มาเทสโที่ว่าไม่รู้ว่าการทดสอบ
00:12:45 → 00:12:48 สมรถภาพคืออะไรอืแต่พอเทสเสร็จท่านได้ค่า
00:12:48 → 00:12:50 view 2 Max แล้วครับเราก็บอกท่านว่า
00:12:50 → 00:12:55 เอ่อรู้มว่าอายุมากขึ้นปีนึงเนี่ยการลดลง
00:12:55 → 00:12:58 ของ V2 Max จะลดลง 1-3 หน่วยอเพราะ
00:12:58 → 00:13:00 ฉะนั้นการลดลง 1 หน่วยจะเท่ากับการมีความ
00:13:00 → 00:13:02 เสี่ยงจะเสียชีวิตด้วยโลกหัวใจและหลอด
00:13:02 → 00:13:06 เลือด 10-12 per อืท่านคนนั้นก็ตั้งโก
00:13:06 → 00:13:10 ไว้ว่าโอเคเดี๋ยวปีหน้าเนี่ยจะกลับมาจะ
00:13:10 → 00:13:12 ให้ค่า vi 2 Max ที่เขาออกกำลังกายมัน
00:13:12 → 00:13:16 สวนกับความแก่ของอายุของเขาออครับเขาก็มา
00:13:16 → 00:13:20 ทุกปีเป็นตตลอดระยะเวลา 4 ปีมันกลายเป็น
00:13:20 → 00:13:22 ว่าค่าเนี้ยเป็นค่าแรงจูงใจหรือปักธงให้
00:13:23 → 00:13:25 เขาเนี่ยอยากจะออกกำลังกายให้มันหนักขึ้น
00:13:25 → 00:13:28 มากขึ้นเพราะเขารู้ว่าการเพิ่มขึ้นของ B2
00:13:28 → 00:13:30 Max คือการเพิ่มความยั่งยืนของชีวิตของ
00:13:30 → 00:13:34 เขาออครับครับผมแล้วเรามีตัวเลขบอกมครับ
00:13:34 → 00:13:37 ว่าเช่นถ้าเราอายุ 50 คุรมีเท่าไหร่ 60
00:13:37 → 00:13:38 ควรมีเท่าไหร่มันมีมันมีค่าเฉลี่ยมาตรฐาน
00:13:38 → 00:13:40 อยู่มั้ยครับก็ตามหลักของ American Heart
00:13:40 → 00:13:43 association ก็คือคนที่มี vo2 Max สูง
00:13:43 → 00:13:46 กว่า 30 ml ต่อนาทีต่อกิโลกรัมของน้ำ
00:13:47 → 00:13:49 หนักตัวก็ถือว่าเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง
00:13:49 → 00:13:51 แล้วอสูงวันนี้ก็ถือว่าแข็งแรงแล้วถูก
00:13:51 → 00:13:54 ต้องครับใช่ครับผมเปรียบเทียบง่ายๆสมมุติ
00:13:54 → 00:13:57 นะครับสมมุติว่าเอาคนอายุ 40 ครับมา
00:13:57 → 00:14:01 เปรียบเทียบกับคนอายุ 60 นะคนอายุ 40 ถ้า
00:14:01 → 00:14:03 สมมุติว่าไม่ร่างกายไม่แข็งแรงก็มี
00:14:03 → 00:14:05 เปอร์เซ็นต์ที่จะมีน้อยกว่า 30 ครับในขณะ
00:14:05 → 00:14:06 ที่คน 60 อาจจะมีเปอร์เซ็นต์มากกว่าก็ได้
00:14:06 → 00:14:10 ใชใช่ครับๆเรามีเคสนักวิ่งท่านนึง
00:14:10 → 00:14:14 อายุน่าจะ 70 หรือ 65 เนี่จำไม่ได้ะแต่
00:14:14 → 00:14:18 ค่า vi to Max 50 อืมฮะครับซึ่งน้อยคน
00:14:18 → 00:14:21 มากที่จะมีค่า View to Max แตะ 50 ได้
00:14:21 → 00:14:25 แม้กระทั่งคนอายุ 30-40 ปีก็ตามครับครับ
00:14:25 → 00:14:28 ออแสดงว่าไอ้ตัว vo 2 Max นี่ขึ้นอยู่
00:14:28 → 00:14:30 กับความแข็งแรงของร่างกายบางทีอาจจะไม่
00:14:30 → 00:14:32 ได้ขึ้นอยู่กับอายุด้วยก็ได้ใช่มั้ยใช่
00:14:33 → 00:14:35 ครับขึ้นอยู่กับความแข็งแรงแสดงว่าการรู้
00:14:35 → 00:14:36 ตรงนี้มันก็จะทำให้เรารู้เรื่องความแข็ง
00:14:36 → 00:14:39 แรงของร่างกายของเราว่าว่าเป็นยังไงบ้าง
00:14:39 → 00:14:41 ใช่ครับใช่ครับผมกรณีนี้ฮะถ้าเรารู้ว่า
00:14:41 → 00:14:43 มันเพิ่มมากขึ้นหรือว่ามันสูงมากขึ้น
00:14:43 → 00:14:45 เนี่ยกำลังบอกอะไรกับร่างกายของเราว่า
00:14:45 → 00:14:47 ร่างกายของเราเนี่ยอะไรมันดีขึ้นบ้างครับ
00:14:47 → 00:14:50 หัวใจเแข็งแรงการแลกเปลี่ยนก็คือปอดที่
00:14:50 → 00:14:52 แข็งแรงครับเพราะฉะนั้นพอเรื่องปอดเรื่อง
00:14:52 → 00:14:54 หัวใจมันตอบโจทย์ได้แล้วสิ่งที่ตามมาก็
00:14:54 → 00:14:57 คือเรื่องกล้ามเนื้อเพราะฉะนั้นค่ามxสูง
00:14:57 → 00:15:00 ขึ้นมันตอบตอบโจทย์ทุกอวัยวะในร่างกายที่
00:15:00 → 00:15:03 มันพัฒนาขึ้นอืครับนั่นหมายถึงว่าถ้าเรา
00:15:03 → 00:15:06 ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกสิ่งทุกอย่าง
00:15:06 → 00:15:08 ในอ่าร่างกายเราแข็งแรงหัวใจหลอดเลือด
00:15:08 → 00:15:10 ต่างๆเราแข็งแรงรักษามันไว้ดีๆค่า vi
00:15:11 → 00:15:13 automax ของเรามันก็จะมันก็จะไม่ลดลงมัน
00:15:13 → 00:15:16 ก็จะคงมันก็จะมันก็จะสูงขึ้นได้ใช่ครับผม
00:15:16 → 00:15:18 แล้วการวัด vi 2 Maxx นี่มีกี่แบบครับ
00:15:18 → 00:15:21 แล้วต้องทำยังไงบ้างหลักๆแล้วถ้าเป็น dir
00:15:21 → 00:15:26 ก็จะมี 2 แบบก็คือการวิ่งบนเดมกับปั่น
00:15:26 → 00:15:29 จักรยานอืก็เพิ่มความหนักของงานเป็นกมต่อ
00:15:29 → 00:15:32 ชมเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆจนกระทั่งไม่ไหวอาจ
00:15:32 → 00:15:36 จะเพิ่มจาก 3 กมต่อชมจนกระทั่งไปถึงแบบ 15
00:15:36 → 00:15:39 กมต่อชั่วโมงจนกระทั่งไม่ไหวอตัวเลขต่างๆ
00:15:39 → 00:15:41 จะบอกอะไรบ้างครับตัวเลขก็จะมีบอกเกี่ยว
00:15:41 → 00:15:44 กับเรื่องาร Rate เป็นอย่างไรความเร็วของ
00:15:44 → 00:15:48 ลูกวิ่งการบีบตัวของหัวใจการแลกเปลี่ยนกา
00:15:48 → 00:15:51 ออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ครับมันก็จะ
00:15:51 → 00:15:54 บอกหมดเลยว่าใช้ไขมันใช้คาร์โบไฮเดรตเท่า
00:15:54 → 00:15:58 ไหร่ประมาณเครับผมอืๆอ๋อในระหว่างวิ่งมัน
00:15:58 → 00:16:00 ก็จะมีตัวเลขแบบนี้บอกแล้วถูกต้องครับผม
00:16:00 → 00:16:02 นอกเหนือจากเรื่องสมรถภาพแล้วนะครับก็จะ
00:16:02 → 00:16:05 เป็นการดูว่ามีภาวะหัวใจโตหัวใจหนาหัวใจ
00:16:05 → 00:16:08 ขาดเลือดหัวใจเต้นผิดจังหวะในขณะออกกำลัง
00:16:08 → 00:16:10 กายหรือเปล่าครับสิ่งนี้จะเป็นสิ่งสำคัญ
00:16:10 → 00:16:13 เพราะว่าหลายๆคนอาจจะเห็นพ่อแม่เราฟิต
00:16:13 → 00:16:17 จริงแต่มันเป็นแบบสิ่งที่เรามองไม่เห็น
00:16:17 → 00:16:19 การ Test vi to Max ก็จะเป็นการกรอง
00:16:19 → 00:16:21 ความเสี่ยงเรื่องโรคหัวใจและหลอดเลือดใน
00:16:21 → 00:16:23 ขณะออกกำลังกายได้ด้วยครับอือๆอ๋อถ้าเรา
00:16:23 → 00:16:25 รู้ก่อนก็ถ้าเรารู้ก่อนมันก็เหมือนจะเป็น
00:16:25 → 00:16:28 การเรื่องของการป้องกันได้ก่อนใช่ครับ
00:16:28 → 00:16:31 ส่วน ind dir ก็จะมีเยอะแยะอย่างเช่นการ
00:16:31 → 00:16:35 เดิน 6 นาทีเดินให้เร็วที่สุดเดินได้กี่
00:16:35 → 00:16:38 กิโลหรือเดินได้กี่เมตรก็จะมา Convert
00:16:38 → 00:16:40 ว่าคุณมี vo2 Max เท่าไหร่อันนี้เป็น ind
00:16:40 → 00:16:42 อ่าอันนี้โดยที่ไม่ต้องใช้ไม่ต้องใช้
00:16:42 → 00:16:45 อุปกรณ์อะไรพวกนี้อ๋อแสดงว่าเค้าก็สามารถ
00:16:45 → 00:16:47 วัดได้ด้วยตัวเองใช่ครับแต่ความเบี่ยงเบ
00:16:47 → 00:16:49 มาตรฐานความ Error ก็อาจจะมีเยอะกว่าการ
00:16:49 → 00:16:53 เทสแบบ dir อ่าครับมันทำได้เองมั้ยอย่าง
00:16:53 → 00:16:55 กรณีอดกสมมุติว่าอยู่บ้านทดลองเองทำได้
00:16:55 → 00:16:57 มั้ยครับอใชครับก็ให้คุณพ่อคุณแม่เนี่ย
00:16:57 → 00:17:00 เดิน 6 นาทีเนี่ยเดินได้เร็วที่สุดกี่
00:17:00 → 00:17:04 เมตรแล้วมันก็จะมีตารางมาโยงว่าเป็นผู้
00:17:04 → 00:17:07 ชายหรือผู้หญิงครับน้ำหนักเท่าไหร่อายุ
00:17:07 → 00:17:09 เท่าไหร่แล้วก็เป็นเส้นตัดมาว่าคุณมีค่า
00:17:09 → 00:17:11 vo2 Max เท่าไหร่อออันนี้มันก็ต้องไป
00:17:11 → 00:17:13 เทียบกับสูตรอีกทีนึงใช่ครับซึ่งไม่ยาก
00:17:13 → 00:17:15 ครับผมครับเราสามารถทำเองได้ทำได้ที่บ้าน
00:17:15 → 00:17:18 ได้เลยครับหรือการมีเขาเรียกว่า harvard
00:17:18 → 00:17:22 Step Test ก็คือเดินขึ้นสเต็ปครับภายใน
00:17:22 → 00:17:25 2 นาทีเดินได้กี่ครั้งแล้วก็โยงสูตรไป
00:17:25 → 00:17:27 ว่าค่า vi to Max คุณเท่าไหร่ประมาณนี้
00:17:27 → 00:17:31 ครับผม
00:17:31 → 00:17:33 แล้วถ้าสมมุติว่าเรามาวัดแล้วอ่ะครับครับ
00:17:33 → 00:17:38 ฮอว่าค่า vo2 Max ของเรานี้น้อยอ่ากรณี
00:17:38 → 00:17:41 แบบนี้มันมีสิทธิ์เพิ่มได้มั้ครับได้ครับ
00:17:41 → 00:17:43 โดยเฉพาะกับตัวผู้สูงอายุเองได้ครับได้
00:17:44 → 00:17:46 ครับนะครับเราสามารถพัฒนา vi 2 Max
00:17:46 → 00:17:49 เนี่ยได้ 3 มิติอื 1 คือการที่น้ำหนักตัว
00:17:49 → 00:17:53 ลดลงออเอาไขมันออกอื vi 2 Max มันก็จะ
00:17:53 → 00:17:56 สูงขึ้น 2 ก็คือการออกกำลังกายที่มี
00:17:56 → 00:17:59 intensity หรือความหนักที่สูงอืจะเพิ่ม
00:17:59 → 00:18:02 ค่า View to Max ได้ครับกับ 3 ิการออก
00:18:02 → 00:18:05 กำลังกายที่เป็นนาทีที่มีคุณภาพแล้วตาราง
00:18:05 → 00:18:08 การออกแบบแบบเนี้ยมันจะต้องออกแบบยังไง
00:18:08 → 00:18:10 หรือว่ามันขึ้นอยู่กับกับใครกรณีแบบนี้
00:18:10 → 00:18:13 ครับครับจริงๆแล้วเนี่ยเอ่อคำว่าฟิในเชิง
00:18:13 → 00:18:18 วิทยาศาสตร์การกีฬาเนี่ยมันย่อมาจาก F I
00:18:18 → 00:18:22 T FT ครับก็เราจะเข้าใจว่าเอคือ Fi ใช่
00:18:22 → 00:18:26 มั้ยไม่ใช่ครับครับสมมุติว่า F แรกก็คือ
00:18:26 → 00:18:29 frequency ความถี่ครับในวหนุ่มสาวเราอาจ
00:18:29 → 00:18:32 จะออกกำลังกายแค่ 1-2 วันต่อสัปดาห์อืนะ
00:18:32 → 00:18:36 ครับ intensity ความหนักของงานจะเบาจะปาน
00:18:36 → 00:18:40 กลางจะหนักก็ได้อื T type ก็คือการไปเตะ
00:18:40 → 00:18:43 ฟุตบอลการไปตีแบต Time อาจจะออกกำลังกาย
00:18:43 → 00:18:46 นมันแค่ 20-30 นาทีอืในวัยหนุ่มสาวอาจจะ
00:18:46 → 00:18:49 ดูเชฟดีเพราะว่า metabolism การเผาผลาญ
00:18:49 → 00:18:51 ยังดีอยู่อ่าใช่แต่เมื่อเราเปลี่ยนเป็น
00:18:51 → 00:18:54 ผู้สูงวัยครับคำว่าฟิตเราต้องใช้ฟิตให้
00:18:54 → 00:18:58 มันชานฉลาดมากขึ้นอื frequency อย่างแรก
00:18:58 → 00:19:01 แน่นอนเกษียณสำราญเอ่อมีเวลาออกกำลังกาย
00:19:01 → 00:19:04 มากขึ้นจาก 1-2 วันต่อสัปดาห์ก็เปลี่ยน
00:19:04 → 00:19:06 เป็น 4 อาจจะถึง 6 วันต่อสัปดาห์ครับก็
00:19:06 → 00:19:10 ได้อ typ อาจจะเตะฟุตบอลไม่ได้ละตีแบตไม่
00:19:10 → 00:19:12 ได้แล้วเพราะมันเป็นการ Change Direction
00:19:12 → 00:19:15 เยอะก็เปลี่ยนเป็นการวิ่งหรือการเดินหรือ
00:19:15 → 00:19:18 การปั่นจักรยานที่มีความเข้มข้นอื Time
00:19:18 → 00:19:21 มีเวลาเยอะขึ้นออกกำลังกายให้มีเวลาที่
00:19:21 → 00:19:24 มันมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะฉะนั้นแล้ว
00:19:24 → 00:19:27 การที่เราแกกตัวลงไปไม่ได้หมายความว่าคน
00:19:27 → 00:19:31 ออกกำลังกายเบาขึ้นขึ้แต่ควรใช้คำว่า fwt
00:19:31 → 00:19:35 เนี่ยให้มันมีคุณภาพและเปลี่ยนแปลง Fi wt
00:19:35 → 00:19:38 เนี่ยให้มันเหมาะสมกับวัยที่แก่ลงแก่ลง
00:19:38 → 00:19:41 ครับผมออครับเพราะฉะนั้นบางทีคนจะเข้าใจ
00:19:41 → 00:19:44 ว่าอายุเยอะมากแล้วเบาๆเดินเบาๆอย่างงี้
00:19:44 → 00:19:46 ก็พอจริงๆก็อาจจะไม่ใช่ก็ได้ใช่มแต่ว่าแม
00:19:46 → 00:19:49 เราชวนลูกเพจเราคุยเหมือนกันถามว่ามีบ้าน
00:19:49 → 00:19:52 ไหนชวนคุณพ่อคุณแม่ไปออกกำลังกายแล้วแบบ
00:19:52 → 00:19:54 ประสบความสำเร็จในการชวนพ่อแม่ไปออกกำลัง
00:19:54 → 00:19:56 กายมากขึ้นปรากฏว่าส่วนใหญ่จะจะตอบกันว่า
00:19:56 → 00:19:59 อ๋อจริงๆพ่อแม่เป็นคนชวนมากกว่าคือจริงๆ
00:19:59 → 00:20:01 พู้ดสูงวัยก็ดูเหมือนว่าจะมีความใส่ใจใน
00:20:01 → 00:20:04 การดูแลสุขภาพมากกว่าซะด้วยซ้ำไปเนาะใช่
00:20:04 → 00:20:06 ครับเรื่องการใส่ใจในการออกกำลังกายมันก็
00:20:06 → 00:20:08 โยงถึงหลักจิตวิทยาการกีฬาได้เหมือนกัน
00:20:08 → 00:20:11 เหรอยังไงครับถ้าสมมุติว่าคุณพ่อคุณแม่ยก
00:20:11 → 00:20:13 ตัวอย่างคุณพ่อคุณแม่ผมครับถ้าคุณพ่อคุณ
00:20:13 → 00:20:15 แม่ผมเนี่ยเขาเรียกว่าเป็นงานวิจัยเขา
00:20:15 → 00:20:18 เรียก Self determination เี่หลักแรงจูง
00:20:18 → 00:20:23 ใจของศาสตราจารย์เซี่ and ไันปี 1984
00:20:23 → 00:20:27 มหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์เขาจะบอกว่าถ้าคุณ
00:20:27 → 00:20:29 พ่อคุณแม่ผมเนี่ยออกกำลังกายเพราะว่ามัน
00:20:29 → 00:20:31 เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเอื intricate
00:20:31 → 00:20:34 regulation อันเนี้ยถือว่าดีมากออืหมาย
00:20:34 → 00:20:35 ถึงว่า intricate นี่คือทำทำให้มันเข้ามา
00:20:35 → 00:20:38 อยู่ในส่วนหนึ่งของชีวิตใช่คือปล่อยท่าน
00:20:38 → 00:20:41 ออกไปเลยครับหรือ 2 identify regulation
00:20:41 → 00:20:43 ก็คือออกกำลังกายเพราะว่าท่านอยากมี
00:20:43 → 00:20:46 สุขภาพที่ดีออันนี้ก็ปล่อยท่านออกไปได้
00:20:46 → 00:20:49 เลยอ่าแต่ถ้าเมื่อไหร่แรงจูงใจมันตกมา
00:20:49 → 00:20:50 อยู่
00:20:50 → 00:20:54 ที่ inject regulation สมมุติว่าคุณแม่
00:20:54 → 00:20:57 ผมออกกำลังกายเพราะว่าอยู่ดีมีคนทักว่า
00:20:57 → 00:21:01 อุ้ยคุณอเออรู้สึกเดินอุ้ยอ้ายขึ้นครับ
00:21:01 → 00:21:04 คุณแม่ผมเลยเฮ้ยมีแรงไปออกกำลังกายแต่ถ้า
00:21:04 → 00:21:07 เมื่อไหร่คนเลิกทักก็ไม่ไปออกแล้วกลับมา
00:21:07 → 00:21:10 เป็นเชฟก็ไม่ออกแล้วอีกอันนึงคือ External
00:21:10 → 00:21:13 regulation อันนี้คือแย่สุดเลยสมมุติว่า
00:21:13 → 00:21:16 คุณแม่ผมออกไปตีเทนนิสเพราะว่าเพื่อนชวน
00:21:16 → 00:21:19 ไปแต่เมื่อไหร่พอเพื่อนไม่ชวนคุณแม่ก็ไม่
00:21:19 → 00:21:21 อยากออกเพราะฉะนั้นแล้วถ้าเมื่อไหร่
00:21:22 → 00:21:25 พฤติกรรมมันตกอยู่ใน 2 แรงจูงใจอันหลัง
00:21:25 → 00:21:28 เนี่ยครับอันเนี้ยเราต้องรีบบูสแรงจูงใจ
00:21:28 → 00:21:31 ให้เขาเนี่ยเพิ่มขึ้นออครับผมผมชอบ
00:21:31 → 00:21:35 คอมเมนต์นึงที่ในเพจมนุษย์ต่างวัยบอกว่า
00:21:35 → 00:21:38 คุณพ่อคุณแม่ไม่ออกกำลังกายเลยอืแต่พอมี
00:21:38 → 00:21:41 ลูกล่อลูกชนว่าจะพาไปเชียงใหม่อ่าต้อง
00:21:41 → 00:21:44 เดินเยอะนะอคุณพ่อคุณแม่เลยตัดสินใจออกมา
00:21:44 → 00:21:48 ออกกำลังกายออเพราะฉะนั้นแล้วดีแล้วครับ
00:21:48 → 00:21:50 แต่ก็ต้องบอกท่านว่าไม่ใช่กลับจาก
00:21:50 → 00:21:52 เชียงใหม่แล้วไม่ออกใช่มั้ยเอใช่ๆเรา
00:21:52 → 00:21:55 ต้องการสุขภาพการออกกำลังกายคือสุขภาพไม่
00:21:55 → 00:21:57 ใช่ว่าแบบเอาปัจจัยภายนอกมาส่งเสริมเพราะ
00:21:57 → 00:22:00 ฉะนั้นเราต้องมีลูกล่อลูกชนในการยกระดับ
00:22:00 → 00:22:03 แรงจูงใจครับเพราะว่าการที่เราสามารถ
00:22:03 → 00:22:05 ประเมินพฤติกรรมเขาได้เราก็จะสามารถรู้
00:22:06 → 00:22:08 จักแรงจูงใจของท่านๆ
00:22:08 → 00:22:11 [เพลง]
00:22:11 → 00:22:14 ได้วันนี้เราคุยกับเรื่อง vo2 Max ซึ่ง
00:22:14 → 00:22:16 บางทีอาจจะดูมีความยากซับซ้อนนิดนึง
00:22:16 → 00:22:18 สำหรับคุณผู้ฟังที่อาจจะยังไม่คุ้นกัน
00:22:18 → 00:22:22 เนาะคำถามก็คือว่าแล้วถ้าสมมุติว่าเรา
00:22:22 → 00:22:24 สุขภาพเราดีอยู่แล้วเป็นคนที่ออกกำลังกาย
00:22:24 → 00:22:26 สม่ำเสมออะไรพวกนี้อยู่แล้วนะครับในกรณี
00:22:26 → 00:22:28 พูดถึงผู้สูงอายุในบ้านนะเราเราจำเป็น
00:22:28 → 00:22:32 ต้องรู้มั้ย vo2 Max เนี่ยก็คิดว่า
00:22:32 → 00:22:35 จำเป็นต้องรู้เพราะว่ามันก็เป็นหนึ่งใน
00:22:35 → 00:22:38 ตัวเลขที่สามารถบอกความยั่งยืนของชีวิต
00:22:38 → 00:22:42 ได้อืครับผมครับๆเพราะมันจะบอกสิ่งต่างๆ
00:22:42 → 00:22:45 อวัยวะต่างๆในร่างกายของได้ใช่ครับใช่
00:22:45 → 00:22:47 ครับก็จะสามารถพยากรณ์ความยั่งยืนของ
00:22:47 → 00:22:51 ชีวิตได้ดีครับอคือพูดได้ว่ารู้ก็ดีรู้ก็
00:22:51 → 00:22:53 ดีใช่รู้ก็ดีนะเพราะว่ามันจะช่วยดูแล
00:22:53 → 00:22:57 สุขภาพในระยะยาวได้ใช่หรือว่าถ้าจะเป็น
00:22:57 → 00:23:01 การเทสแบบ ind ก็ได้จากเดิน 6 นาทีถ้าปี
00:23:01 → 00:23:05 นี้เดินได้ 600 มปีหน้าจะต้องควรจะเดิน
00:23:05 → 00:23:07 ได้ 650 -700 เมตอันนี้ก็คือว่าเราต้อง
00:23:08 → 00:23:10 พยายามมอนิเตอร์ท่านอยู่เรื่อยๆอ้อครับ
00:23:11 → 00:23:12 เพราะว่าไม่งั้นเดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดใช่
00:23:12 → 00:23:15 มั้ยอย่างว่าพอแก่แล้วเดินได้น้อยลงเราก็
00:23:15 → 00:23:17 คิดว่าเอ้าก็เพราะอายุมากแต่ในความเป็น
00:23:17 → 00:23:20 จริงแล้วอายุมากขึ้นอาจจะเดินได้เยอะขึ้น
00:23:20 → 00:23:23 ก็ได้ใช่มใช่่ครับใช่ครับออเออประเด็นนี้
00:23:23 → 00:23:25 ผมว่าประเด็นนี้น่าสนใจเนาะนะครับเพราะ
00:23:25 → 00:23:27 ว่าเพราะว่าไม่งั้นเดี๋ยวบางทีลูกๆหลานๆ
00:23:27 → 00:23:30 จะเข้าใจผิดว่าอ้อพอเคยเดินได้ 500 เมต
00:23:30 → 00:23:34 อย่างเงี้ยตอนอายุ 60 แต่พออายุ 65 เดิน
00:23:34 → 00:23:36 ได้น้อยลงเราก็ไปเข้าใจว่าอ้อก็เพราะอายุ
00:23:36 → 00:23:39 มากขึ้นเลยเดินได้น้อยลงครับอืแต่ในความ
00:23:39 → 00:23:41 เป็นจริงคือไอ้ความฟิตในร่างกายเนี่ยมัน
00:23:41 → 00:23:44 ไม่ได้ถูกพัฒนาใช่ครับครับอ่าสุดท้ายแล้ว
00:23:44 → 00:23:46 ครับจริงๆเข้าใจว่าเราน่าจะทำความเข้าใจ
00:23:46 → 00:23:49 เรื่องตัว vo2 Max ได้ว่าเออถ้าเรารู้
00:23:49 → 00:23:50 มันจะมีประโยชน์กับเรายังไงแล้วถ้าสมมุติ
00:23:50 → 00:23:54 ว่าคุณลูกอยากจะพาคุณพ่อคุณแม่มาลองเช็ค
00:23:54 → 00:23:58 ก็เข้ามาได้มาติดต่อกับทางอ่าเข้ามาทาง
00:23:58 → 00:24:00 เพจใช่มครับเข้ามาทางเพจ help
00:24:00 → 00:24:02 Performance อ่าเข้ามาลองเช็คดูได้แต่ใน
00:24:02 → 00:24:05 กรณีที่เกบเรู้สึกว่าเออยังไม่พร้อมยัง
00:24:05 → 00:24:07 ไม่มียังไม่สามารถที่มาเดินโหเป็นเครื่อง
00:24:08 → 00:24:10 มืออะไรแบบนี้ได้อยากจะวัดแบบง่ายๆรู้แบบ
00:24:10 → 00:24:13 เบื้องต้นก่อนมีมีคำแนะนำยครับมีครับก็
00:24:13 → 00:24:16 แนะนำให้ใช้แอป
00:24:16 → 00:24:18 sppb
00:24:18 → 00:24:21 spp B ใช่ครับ Short physical
00:24:21 → 00:24:24 Performance Battery Test โอชื่อยาง
00:24:24 → 00:24:26 มากเลยแอปนี้ใช่ครับใช่อันนี้คือเป็นแอป
00:24:26 → 00:24:29 ที่ใช้แพร่หลายในทงฝั่งยุโรปทางฝั่ง
00:24:29 → 00:24:33 อังกฤษเพื่อมาประเมินผู้สูงอายุนะครับแอป
00:24:33 → 00:24:35 เนี้ยถ้าโหลดได้ตาม iOS หรือ Android ได้
00:24:36 → 00:24:40 เลยครับก็จะแบ่งเป็น 3 หมวดหลักๆครับหมวด
00:24:40 → 00:24:44 แรกคือหมวด Balance อืก็คือให้ผู้สูงอายุ
00:24:44 → 00:24:49 นะครับยืน 10 วินีใน 3 ท่าเป็นท่าที่เท้า
00:24:49 → 00:24:54 ชิดกันครับเท้าครึ่งเท้าอืแล้วก็เป็นเท้า
00:24:54 → 00:24:56 ต่อเท้าเพื่อมาดูว่า Balance เนี่ยดีห
00:24:56 → 00:24:59 เป่าแล้วก็ 2 เนี่ยจะเป็นเกี่ยวกับเรื่อง
00:24:59 → 00:25:02 ฟังก์ชันการเคลื่อนไหว mobility ครับให้
00:25:02 → 00:25:05 ผู้สูงอายุเดินไปกลับ 4 เมตรเป็นระยะเวลา
00:25:05 → 00:25:08 3 เที่ยวอืในความเร็วที่เหมาะสมที่ท่าน
00:25:08 → 00:25:11 เดินอยู่ปัจจุบันครับเพื่อดูว่า 4 เมตร
00:25:11 → 00:25:15 เนี่ยเดินได้เร็วหรือเปล่าแล้วก็ 3 เป็น
00:25:15 → 00:25:19 การลุกนั่งบนเก้าอี้ครับนะครับเป็นระยะ
00:25:19 → 00:25:22 เวลา 5 ครั้งอืเพื่อมาดูว่า 5 ครั้งเนี่ย
00:25:23 → 00:25:27 ลุกขึ้นลุกลงเร็วสุดใช้เวลากี่วินาทีอ่า
00:25:27 → 00:25:30 ครับพอกดทำเทสเสร็จหมดแล้วมันก็จะมีคะแนน
00:25:30 → 00:25:33 ประเมินออกมาครับถ้าได้ 12 เต็มแปลว่า
00:25:33 → 00:25:37 ร่างกายฟิตมากอืเพราะฉะนั้นแล้วถ้าได้ 12
00:25:37 → 00:25:42 ก็เอาไปใช้ได้เรื่อยๆแต่ถ้าเมื่อไหร่ 12
00:25:42 → 00:25:45 มันลดลงเหลือ 10 ออ่าครับในงานวิจัยก็บอก
00:25:45 → 00:25:48 ว่าถ้าลดลงเหลือ 10 ความเสี่ยงที่จะมีการ
00:25:48 → 00:25:52 fall หรือมีการสะดุดก็จะสูงขึ้น 20 -30%
00:25:52 → 00:25:54 ออครับเพราะฉะนั้นอันนี้เป็นวิธีการแวด
00:25:54 → 00:25:57 แบบง่ายๆก่อนใช่ครับมอนิเตอร์ท่านได้ทุก
00:25:57 → 00:26:00 เดือนแล้วก็ใช้ฟรีด้วยครับแล้วถ้าสมมุติ
00:26:00 → 00:26:03 กรณีที่ว่าเคยทำเคยวัดครั้งแรกคุณพ่อคุณ
00:26:03 → 00:26:06 แม่ได้ 12 เต็มเลยแข็งแรงผ่านไป 1 ปีเฮ้ย
00:26:06 → 00:26:08 มาวัดอีกทีเหลือ 10 แสดงว่าเราต้องพาท่าน
00:26:08 → 00:26:11 ไปฟิตใช่ครับร่างกายให้มันแข็งแรงขึ้นมา
00:26:11 → 00:26:13 ใช่มั้ยครับใช่ค่าก็จะมีบอกว่ามันไม่ฟิต
00:26:13 → 00:26:16 เพราะว่า Balance ไม่ดีหรือเปล่าอ
00:26:16 → 00:26:18 mobility การเดินการเคลื่อนไหวไม่ดีหรือ
00:26:18 → 00:26:21 เปล่าหรือว่าลุกนั่งสงไม่แข็งแรงหรือ
00:26:21 → 00:26:24 เปล่าอันนี้เจะแยกเป็นข้อๆได้เลยอ่าครับ
00:26:24 → 00:26:26 แล้วเราถ้าสมมุติเราเห็นว่าน้อยลงเราก็พา
00:26:26 → 00:26:30 ไปฟื้นใชครับไปฟื้นสุสุขภาพเช่นไปทำให้
00:26:30 → 00:26:33 อ่ากล้ามเนื้อดีขึ้นอใชกายภาพนัก
00:26:33 → 00:26:35 วิทยาศาสตร์การกีฬาว่าตอนนี้ Balance ไม่
00:26:35 → 00:26:39 ดีแล้วนะ mobility ไม่ดี Strength low
00:26:39 → 00:26:41 Strength กล้ามเนื้อขาไม่ดีแล้วช่วย
00:26:41 → 00:26:43 เพิ่มสมัถภาพให้หน่อยอ่าครับอันนี้ก็เป็น
00:26:43 → 00:26:46 วิธีการวัดแบบพื้นฐานนะครับแต่ต้องถ้า
00:26:46 → 00:26:48 ต้องการแบบอะไรที่มันดู Accurate มากๆที่
00:26:48 → 00:26:52 มันแบบว่าตรงมากๆอันนี้ก็มาลองวัดตัว vi
00:26:52 → 00:26:54 2 Max ดูว่าเป็นยังไงบ้างนะครับถ้า
00:26:54 → 00:26:57 สมมุติว่าวัดเสร็จเอ้ยอยู่ในสภาพร่างกาย
00:26:57 → 00:26:59 ที่แข็งแรงก็พพยายามจะีปความแข็งแรงให้
00:26:59 → 00:27:02 อยู่กับเราไปนานๆแต่ถ้าปีถัดไปมาวัดอีก
00:27:02 → 00:27:05 ปรากฏอ่ะเ้าค่า otomax มันดันต่ำลงมานั่น
00:27:05 → 00:27:07 หมายถึงว่าเราก็ต้องรีบกลับไปฟื้นฟู
00:27:08 → 00:27:10 สุขภาพร่างกายของเราใช่นอกเหนือจากมีเงิน
00:27:10 → 00:27:12 ในบัญชีเยอะๆก็ต้องเก็บออมค่า vi to Max
00:27:13 → 00:27:15 ด้วยใช่ๆอันนี้อันนี้สำคัญเพราะฉะนั้นฟัง
00:27:15 → 00:27:17 ไว้จนถึงตอนนี้ถ้าหากว่าคุณผู้ชมสงสัยว่า
00:27:17 → 00:27:20 เอค่า vix มันสำคัญยังไงถ้าสรุปกันง่ายๆ
00:27:20 → 00:27:22 คือมันเป็นตัวบอกความฟิตความแข็งแรงใน
00:27:22 → 00:27:25 ร่างกายของเรานี่แหละความให้มันยั่งยืน
00:27:25 → 00:27:27 ครับเพราะฉะนั้นมันไม่ได้หมายความว่าแก่
00:27:27 → 00:27:30 แล้วร่างกายต้องอ่อนแอนะจริงๆแก่แล้วร่าง
00:27:30 → 00:27:33 เราอาจจะยังสามารถีปความแข็งแรงให้มันมาก
00:27:33 → 00:27:35 ขึ้นเรื่อยๆได้ใช่ครับผมครับเอาล่ะครับ
00:27:35 → 00:27:37 วันนี้ขอบคุณมากนะครับฮอที่มาให้ความรู้
00:27:37 → 00:27:40 เป็นความรู้ใหม่มากๆนะครับขอบคุณมากครับ
00:27:40 → 00:27:41 ขอบคุณครับขอบคุณ
00:27:41 → 00:27:43 [เพลง]
00:27:43 → 00:27:48 [ปรบมือ]
00:27:48 → 00:27:52 ครับบุพการีที่เคารพคู่มือการดูแลพ่อแม่
00:27:52 → 00:27:55 ของคนเจนลูกถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ก็อย่าลืม
00:27:55 → 00:27:59 กด Subscribe ไว้ด้วยนะครับ