00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice เด็กๆทุกคนที่ไปสอบนะครับมีความ
00:00:08 → 00:00:10 คาดหวังว่าเมื่อเขาได้สอบและผ่านเข้าไป
00:00:10 → 00:00:13 ได้เขาจะได้สิ่งที่เป็นเป็นข้อได้เปรียบ
00:00:13 → 00:00:15 เกี่ยวกับการเรียนเกี่ยวกับสังคมเกี่ยว
00:00:15 → 00:00:17 กับชื่อเครดิตของโรงเรียนที่เขาเรียนหรือ
00:00:17 → 00:00:20 การทำงานในอนาคตแต่สิ่งนี้ไม่ได้การันตี
00:00:20 → 00:00:21 เรื่องเกี่ยวกับความสำเร็จในอาชีพการงาน
00:00:21 → 00:00:23 ถ้าเราดูในสนามจริงอ่ะครับบางคนอาจจะ
00:00:23 → 00:00:25 เรียนเก่งแต่กลายเป็นว่าพอเข้ามาทำงาน
00:00:26 → 00:00:28 เนี่ยเาอาจจะไม่สามารถทำงานเชิงปฏิบัติ
00:00:28 → 00:00:30 ได้เก่งก็ได้เพราะเอาจจะเก่งทวิชาการจะ
00:00:30 → 00:00:34 ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าเด็กคนนี้มี EQ มี
00:00:34 → 00:00:37 เอ่อวิธีคิดหรือแม้กระทั่งทักษะในการปรับ
00:00:37 → 00:00:40 ตัวเข้ากับคนอื่นเข้ากับสังคมเข้ากับการ
00:00:40 → 00:00:43 ทำงานอาจจะไม่ได้บ่งบอกสิ่งนั้นก็
00:00:43 → 00:00:47 ได้ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟัง
00:00:47 → 00:00:51 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:51 → 00:00:55 This Is Toy PBS podcast เอาล่ะค่ะ
00:00:55 → 00:00:57 คุณผู้ฟังคะวันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่อง
00:00:57 → 00:01:00 ของการรับมือกับความกดดันนะฮะในการแข่ง
00:01:00 → 00:01:04 ขันไม่ว่าเราจะยังเป็นเด็กก็มีการแข่งขัน
00:01:04 → 00:01:05 ละทุกวันนี้นะคะหรือเป็นผู้ใหญ่ก็ตาม
00:01:05 → 00:01:08 เนี่ยนะเราจะรับมือกับความกดดันในด้านนี้
00:01:08 → 00:01:11 ได้อย่างไรคุยกับดรสุววุฒิวงษ์ทางสวัสดิ์
00:01:11 → 00:01:14 ค่ะณจิตวิทยาการปรึกษาสวัสดีค่ะคุณเอิ้น
00:01:14 → 00:01:16 ครับสวัสดีครับคุณรีสวัสดีครับคุณผู้ฟัง
00:01:16 → 00:01:19 อืนั่นอยากจะร้องเพลงเอาไม่ได้เดี๋ยวติด
00:01:19 → 00:01:22 ลิขสิทธิ์เออเพลงอะไรนั่นแหละคือความกด
00:01:22 → 00:01:25 ดันออที่ชันต้องเจอคือการแข่งขันทุกวัน
00:01:26 → 00:01:28 นี้เนี่ยนะคะไม่ใช่เพียงแค่ว่าเราทำงาน
00:01:28 → 00:01:31 เจอความกดดันมาแข่งขันกันแต่เดี๋ยวนี้
00:01:31 → 00:01:34 เนี่ยน้องๆเด็กๆนะนักเรียนเองอ่ะก็ต้องมา
00:01:34 → 00:01:37 แข่งขันนะคะความกดดันจากการที่จะต้องสอบ
00:01:37 → 00:01:41 ให้ได้่จากพ่อแม่อีกเนาะเออหลายทางอผม
00:01:41 → 00:01:43 เห็นตามหน้าข่าวที่แบบเด็กๆแห่กันไปสอบ
00:01:43 → 00:01:45 แข่งขันเข้าโรงเรียนที่นึงเนาะแบบโอ้โห
00:01:45 → 00:01:48 แบบเยอะนะหลายพันไม่รู้ถึงหมืคนว่าถึงใช่
00:01:48 → 00:01:51 มั้ยฮะน่าจะถึงอยู่นะเออถึงแล้วเด็กๆเป็น
00:01:51 → 00:01:54 หมืแล้วก็รวมพ่อแม่ก็อาจจะแบบ 2-3 ,000
00:01:54 → 00:01:56 รวมญาติพี่น้องที่มาเชียร์คือถ้าเกิดไป
00:01:56 → 00:01:58 สอบด้วยกันได้ก็จะสอบด้วยแล้วแต่คือแบบ
00:01:58 → 00:02:01 ว่าแสดงว่าการแข่งขันมันในการที่จะได้
00:02:01 → 00:02:04 สิ่งที่คิดว่าดีที่สุดเนี่ยมันมันเยอะมาก
00:02:04 → 00:02:07 จริงๆนะความกดดันต่างๆเหล่านี้ว่ายิ่งคน
00:02:07 → 00:02:10 แข่งขันเยอะเนี่ยบางทีออย่างถ้าเด็กๆ
00:02:10 → 00:02:14 เนี่ยเขาจะต้องรับมือยังไงอืบอกไปเห็น
00:02:14 → 00:02:17 สนามปุ๊บโหคนเยอะขนาดนั้นน่ะอมันต้อง
00:02:17 → 00:02:19 ประมามันต้องมีความกังวลบ้างแหละแล้วรับ
00:02:19 → 00:02:23 จำนวนไม่มากอย่างเงี้ยกรณีแบบเนี้ยเป็น
00:02:23 → 00:02:26 เด็กเขาจะยังไงได้บ้างเค้าเรับมือยาก
00:02:26 → 00:02:28 เหมือนกันนะเพราะว่าเหมือนกับเค้าเรียก
00:02:28 → 00:02:31 อะไรมันเป็นการที่เราไม่รู้อนาคตนะครับ
00:02:31 → 00:02:33 การสอบเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคู่แข่งขันของ
00:02:33 → 00:02:35 เราเป็นยไงคนที่จะแข่งเข้าไปเนี่ยมันจะมี
00:02:35 → 00:02:39 ระดับเทพๆกี่คนแล้วตัวเราจะต้องสู้ 1 ต่อ
00:02:39 → 00:02:41 เท่าไหร่ในการจะได้แย่งเข้ามาในพื้นที่
00:02:41 → 00:02:44 นั้นผมว่ามันมีความกลัวเหมือนกันเนาะ
00:02:44 → 00:02:46 เพราะว่าบางทีเขาจะมีความรู้สึกว่าถ้า
00:02:46 → 00:02:49 เกิดสอบไม่ติดอนาคตของเขาอาจจะไม่ได้ดี
00:02:49 → 00:02:52 อย่างที่คิดผมว่าเด็กๆทุกคนที่ไปสอบ่ะ
00:02:52 → 00:02:55 ครับมีความคาดหวังว่าเมื่อเขาได้สอบและ
00:02:55 → 00:02:57 ผ่านเข้าไปได้เาจะได้สิ่งที่เป็นเป็นข้อ
00:02:57 → 00:03:00 ได้เปรียบเกี่ยวกับการเรียนเกี่ยวกับกับ
00:03:00 → 00:03:02 สังคมเกี่ยวกับชื่อเครดิตของโรงเรียนที่
00:03:02 → 00:03:05 เขาเรียนหรือการทำงานในอนาคตอือตรงเมัน
00:03:05 → 00:03:07 เป็นความคาดหวังอยากจะมีชีวิตที่ดีอ่ะ
00:03:07 → 00:03:11 ครับว่าถ้าฉันสอบได้ฉันก็จะมีอะไรการันตี
00:03:11 → 00:03:13 บางอย่างว่าฉันมีเส้นทางมีใบผ่านที่ดี
00:03:13 → 00:03:16 กว่าอืทีนี้พอคำว่าดีกว่าปั๊บในมุมนึงอาจ
00:03:16 → 00:03:18 จะมีความรู้สึกว่างั้นถ้าเกิดฉันไม่ได้
00:03:18 → 00:03:21 บัตรผ่านนี้ล่ะบางคนอาจจะรู้สึกว่านี่คือ
00:03:21 → 00:03:24 ความล้มเหลวเลยก็ได้อ้อใช่ใช่เพราะว่าบาง
00:03:24 → 00:03:26 คนนะครับในการไปสอบเนี่ยบางคนไปสอบเผื่อ
00:03:26 → 00:03:28 ฟลุ๊กก็มีนะคือไม่รู้หรอกได้มั้ยแต่แบบ
00:03:28 → 00:03:32 อ่ะถ้าได้ก็ดีเผื่อฟลุคได้แสดงว่าตัวเขา
00:03:32 → 00:03:34 จะมีการประเมินว่าไอ้สนามแข่งเนี้ยมันอาจ
00:03:34 → 00:03:37 จะไม่ได้การันตีว่าเขาจะได้แน่เขมีความ
00:03:37 → 00:03:40 เผื่อใจมาก่อนล่วงหน้าอการสอบไม่ได้อาจจะ
00:03:40 → 00:03:42 ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายแล้วเขาอาจ
00:03:42 → 00:03:45 จะรู้สึกว่าไม่เป็นไรคิดมาอยู่แล้วว่าอาจ
00:03:45 → 00:03:47 จะสอบไม่ติดออถูกมั้ยครับแต่เด็กบางคนคือ
00:03:47 → 00:03:50 คาดหวังและคาดคั้นว่าจะต้องเอาให้ได้และ
00:03:50 → 00:03:52 อาจจะไม่ได้เผื่อทางเลือกอื่นว่าถ้าเกิด
00:03:52 → 00:03:54 อันนี้ไม่ติดแล้วจะไปทางไหนต่อคือเหมือน
00:03:54 → 00:03:58 เขามีเอ่อจุดหมายปลายทางเป้าหมายที่ชัด
00:03:58 → 00:04:02 เจนมากแล้วก็อมั่นใจในระดับนึงแหละว่าจะ
00:04:02 → 00:04:04 ต้องได้แต่ว่าการแข่งขันด้วยความที่มัน
00:04:05 → 00:04:07 มันจำนวนเยอะการแข่งขันสูงอย่าเงี้ยใช่
00:04:07 → 00:04:10 ครับกับจำนวนที่จะรับเข้าเนี่ยมันสัดส่วน
00:04:10 → 00:04:14 มันมันได้อืก็เลยแบบเชื่อว่าหลายคนก็มี
00:04:14 → 00:04:17 ความพยายามอยู่แล้วแหละแต่ความกดดันจาก
00:04:17 → 00:04:19 ตัวเองมันก็ในระดับนึงเนาะเอใช่มั้ยคะ
00:04:19 → 00:04:23 แล้วไหนจะคนรอบข้างคนรอบข้างพ่อแม่งี้พ่อ
00:04:23 → 00:04:25 แม่อ่าเพื่อนข้าง
00:04:25 → 00:04:28 บ้านรเพื่อนข้างบ้านอาจจะไม่รวมเท่าไหร่
00:04:28 → 00:04:30 อาจจะเป็นเพื่อนในชั้นเดียวกันเพื่อรม
00:04:30 → 00:04:32 เพื่อนร่มโเรียค่ะอ่าเพราะว่ามันจะมี
00:04:32 → 00:04:34 เหมือนกันนะครับว่าเอ่อในชั้นเรียนนั้น
00:04:34 → 00:04:37 น่ะครับทุกคนในในห้องเรียนตอนที่เราจะสอบ
00:04:37 → 00:04:39 เข้าเนี่ยก่อนจะสอบเข้าอย่างเช่นสมมุติ
00:04:39 → 00:04:41 เราอยู่มัธยมต้นเราจะสอบเข้ามัธยมปลาย
00:04:41 → 00:04:44 อย่างเงี้ยครับเพื่อนในห้องคือทุกคนตั้ง
00:04:44 → 00:04:46 เป้าหมายว่าจะเข้าโรงเรียนเดียวกันเนี้ย
00:04:46 → 00:04:49 หมดเลยเพราะอาจจะอยากเป็นหมอก็ได้อืทุกคน
00:04:49 → 00:04:51 ในห้องนี้สายวิทย์อยากเป็นหมอเพราะงั้น
00:04:51 → 00:04:53 การจะไปเป็นหมอได้เนี่ยบางทีการเข้าโรง
00:04:53 → 00:04:57 เรียนที่แบบเป็นอะไรนะสิ่งที่มันแบบค่อน
00:04:57 → 00:04:59 ข้างเป็นชั้นนำอะไรเงี้ยครับไม่กล้าพูด
00:04:59 → 00:05:01 ชื่อโรงเรียนเดี๋ยวจะหาว่าแบบอย่างงู้น
00:05:01 → 00:05:03 อย่างงี้ก็อาจจะแบบเป็นสิ่งที่อยากจะเข้า
00:05:03 → 00:05:05 ไปด้วยกันเ้าก็ต้องแข็งขันกันก็มีความกด
00:05:05 → 00:05:09 ดันออือือก็ไม่ไม่แปลกหรอกที่ค่านิยมหรือ
00:05:09 → 00:05:12 ว่าในการที่จะเข้าไปอยู่ในโรงเรียนต่างๆ
00:05:12 → 00:05:14 ที่มีชื่อเสียงหรือสถาบันที่มีชื่อเสียง
00:05:14 → 00:05:17 เนี่ยมันก็เป็นการการันตีในระดับหนึ่งได้
00:05:17 → 00:05:20 เวลาที่ออกไปฝึกงานหรือทำงานเพราะว่าอัน
00:05:20 → 00:05:22 นี้ต้องเข้าใจในความเป็นจริงเหมือนกันนะ
00:05:22 → 00:05:25 คะคุณผู้ฟังว่าอแม้กระทั่งเด็กฝึกงานเอง
00:05:25 → 00:05:29 เนี่ยเคก็ต้องถามถึงสถาบันที่อ่าใช่เนี่ย
00:05:29 → 00:05:31 มันมีมันมีผลตรงนี้ด้วยเหมือนกันใช่ครับ
00:05:31 → 00:05:33 ใช่ซึ่งซึตรงนี้หมายความว่ามันเกิดความ
00:05:33 → 00:05:35 เหลื่อมล้ำทางการศึกษาขึ้นจริงๆในประเทศ
00:05:35 → 00:05:39 เราอ่ะครับถึงทำให้วิธีการมองของคนที่แบบ
00:05:39 → 00:05:41 เอ่อมองชื่อมหาวิทยาลัยว่าโรงเรียนไหน
00:05:41 → 00:05:43 อะไรอย่าเงี้ยครับมันมีผลต่อความรู้สึก
00:05:43 → 00:05:46 จริงๆว่าที่นี่เด็กน่าจะแบบเอ่อเเรียก
00:05:46 → 00:05:49 อะไรนะมีต้นทุนที่ดีกว่าเด็กอาจจะมีวินัย
00:05:49 → 00:05:51 มากกว่าหรืออาจจะมีความเข้าใจทางวิชาการ
00:05:51 → 00:05:54 มากกว่าก็ได้แต่สิ่งนี้ไม่ได้การันตี
00:05:54 → 00:05:56 เรื่องเกี่ยวกับความสำเร็จในอาชีพการงาน
00:05:56 → 00:05:58 เพราะว่าถ้าเราถ้าเราดูในสนามจริงอ่ะครับ
00:05:58 → 00:06:00 เอ่อบางคนอาจจะเรียนเก่งแต่กลายเป็นว่าพอ
00:06:00 → 00:06:02 เข้ามาทำงานเนี่ยเคอาจจะไม่สามารถทำงาน
00:06:02 → 00:06:05 เชิงปฏิบัติได้เก่งก็ได้เพราะเขาคอาจจะ
00:06:05 → 00:06:07 เก่งทางวิชาการแต่พอมันปฏิบัติปั๊บเอาจจะ
00:06:07 → 00:06:09 รู้สึกคือในที่ทำงานบางที่เนาะจะรู้สึก
00:06:09 → 00:06:13 ว่าเฮ้ยเด็กบางคนที่อาจจะจบปวชปวสหรืออาจ
00:06:13 → 00:06:15 จะจบโรงเรียนกลางๆเนี่ยหรือมหาวิทยาลัย
00:06:15 → 00:06:18 กลางๆอาจจะดูปฏิบัติงานหรือพร้อมปรับตัว
00:06:18 → 00:06:20 ได้ดีกว่าเด็กที่เก่งทางวิชาการซะอีกอัน
00:06:20 → 00:06:23 นี้เป็นเรื่องที่แบบแยกแยกออกจากเรื่อง
00:06:23 → 00:06:25 วิชาการเพราะว่าการสอบแข่งขันนะครับการ
00:06:25 → 00:06:27 เข้าโรงเรียนชั้นนำมันเป็นเรื่องของการ
00:06:27 → 00:06:30 แข่งขันทางวิชาการแต่อาจจะไม่ได้เป็นตัว
00:06:30 → 00:06:35 ชี้วัดว่าเด็กคนนี้มี EQ มีเอ่อวิธีคิด
00:06:35 → 00:06:37 หรือแม้กระทั่งทักษะในการปรับตัวเข้ากับ
00:06:37 → 00:06:40 คนอื่นเข้ากับสังคมเข้ากับการทำงานอาจจะ
00:06:40 → 00:06:43 ไม่ได้บ่งบอกสิ่งนั้นก็ได้ค่ะอืเหมือนตอน
00:06:43 → 00:06:47 เมื่อไม่นานมานี้เหมือนกันที่ไปดูงาน
00:06:47 → 00:06:49 สถาบันแห่งหนึ่งนะคะก็ไม่ได้เป็นระดับ
00:06:49 → 00:06:52 มหาวิทยาลัยอะไรขนาดนั้นแต่ว่าวิธีการ
00:06:52 → 00:06:56 เรียนการสอนเขาอ่ะเหมือนกับได้ไปปฏิบัติ
00:06:56 → 00:06:58 จริงเพราะว่าในทุกชั้นปีเนี่ยเขาจะมีส่ง
00:06:58 → 00:07:00 เด็กไปฝึกงานอ
00:07:00 → 00:07:04 อหลายๆเดือนให้เขได้เรียนรู้ว่าพอเวลาออก
00:07:04 → 00:07:07 ไปทำงานจริงแล้วเนี่ยเต้องเจอกับอะไรบ้าง
00:07:07 → 00:07:12 ครับอ่าหัวหน้างานรูปแบบงานนะคะปัญหาที่
00:07:12 → 00:07:14 เกิดขึ้นหรืออะไรก็แล้วแต่เนี่ยแล้วเขาก็
00:07:15 → 00:07:17 จะเจออย่างเงี้ยคือตลอด 4 ปีที่เรียน
00:07:17 → 00:07:20 เนี่ยเขาต้องไปฝึกงานแบบเนี้ยค่อนข้างจะ
00:07:20 → 00:07:23 ตลอดเวลาครับพอออกไปปุ๊บเขาก็จะได้ลงสนาม
00:07:23 → 00:07:26 ได้แบบว่าโดยที่ไม่ต้องกังวลเพราะว่าเอ
00:07:26 → 00:07:28 เคยฝึกงานอย่างงี้มาเจออย่างงี้อยู่แล้ว
00:07:29 → 00:07:31 พอพอเปรียบเทียบกันแล้วแบบวันเนี้ยที่เรา
00:07:31 → 00:07:35 ผ่านในจุดที่มีการแข่งขันอือแบบเอ่อ
00:07:35 → 00:07:38 เรื่องทางวิชาการมาเนี่ยพอมาในวันนี้ที่
00:07:38 → 00:07:40 เราไปดูงานในเด็กรุ่นใหม่เนี่ยเฮ้ยมันดี
00:07:40 → 00:07:44 นะอืมันทำให้เด็กไม่ต้องกดดันมากแล้วก็
00:07:44 → 00:07:46 สามารถมาเจอกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นจริงใน
00:07:46 → 00:07:50 ชีวิตจริงได้จัดการได้รู้ว่าต้องทำยังไง
00:07:50 → 00:07:53 แต่ทีนี้บางทีแบบความสำเร็จตรงเยมันไม่
00:07:53 → 00:07:56 ได้อยู่ที่เด็กคนเดียวมันไปถึงความรู้สึก
00:07:56 → 00:07:59 ของพ่อแม่ด้วยอ่าใช่ครับเพราะเรื่องนี้
00:07:59 → 00:08:01 มันไม่ใช่แค่เด็กที่จะหวังว่าเค้าจะมี
00:08:01 → 00:08:03 ชีวิตที่ดีเนาะแต่บางครั้งมันเป็นเรื่อง
00:08:03 → 00:08:05 ตัวเขาคเองก็หวังอยากจะให้พ่อแม่ภูมิใจ
00:08:05 → 00:08:08 กับตัวเค้าด้วยออก็มีหรืออาจจะเป็นพ่อแม่
00:08:08 → 00:08:12 ก็รู้สึกว่าถ้าลูกฉันเอ่อเข้าโรงเรียนที่
00:08:12 → 00:08:14 แบบมีชื่อได้ฉันจะรู้สึกโล่งใจเหมือน
00:08:14 → 00:08:17 คล้ายๆลูกฉันไปอยู่ถูกที่ละอือมันกลาย
00:08:17 → 00:08:20 เป็นว่าตัวพ่อแม่อ่ะครับอาจจะมองว่าเอ่อ
00:08:20 → 00:08:22 สิ่งที่อยากผลักดันให้ลูกสำเร็จได้เนี่ย
00:08:22 → 00:08:24 มันเป็นเพราะว่ามันมาจากพื้นฐานความอยาก
00:08:24 → 00:08:27 สบายใจของเขาค่ะเมีความกลัวบางอย่างกลัว
00:08:27 → 00:08:30 ว่าลูกจะแบบอ่ะถ้าไปไม่ได้เรียนที่นี่
00:08:30 → 00:08:32 อนาคตอาจจะไม่ดีเท่าไหร่อาจจะได้สังคม
00:08:32 → 00:08:35 เพื่อนที่แบบไม่ได้เป็นชั้นนำอะไรก็แล้ว
00:08:35 → 00:08:37 แต่มันกลายเป็นว่าพ่อแม่หยึดติดกับความ
00:08:37 → 00:08:40 อยากให้ตัวเองสบายใจมากไปหน่อยอืก็เลย
00:08:40 → 00:08:42 กลายเป็นความคาดคั้นอยากให้ลูกทำในสิ่ง
00:08:42 → 00:08:45 ที่ตัวเองจะได้สบายใจอ่ะค่ะอ่าหรือบางที
00:08:45 → 00:08:48 มีเรื่องการแข่งขันก็มีนะครับเพราะว่าบาง
00:08:48 → 00:08:51 ทีพ่อแม่ก็อาจจะมีเพื่อนเพื่อนๆของเค้า
00:08:51 → 00:08:54 หรือญาติพี่น้องของเคอาฮะที่แบบเปรียบ
00:08:54 → 00:08:57 เทียบแข่งขันกันอ่าแล้วไม่อยากจะรู้สึก
00:08:57 → 00:08:59 ด้อยไม่อยากจะรู้สึกเสียหน้าอยากจะชนะคน
00:08:59 → 00:09:00 อื่น
00:09:00 → 00:09:02 ก็มีหรือบางคนนอาจจะคล้ายๆเราเคยได้ยิน
00:09:02 → 00:09:05 เรื่องนี้แบบนี้บ่อยๆเช่นเอ่อในวัยเด็ก
00:09:05 → 00:09:08 คุณพ่อคุณแม่อาจจะอยากเรียนอะไรบางอย่าง
00:09:08 → 00:09:12 แล้วอาจจะสอบแข่งขันไม่ชนะค่ะเออหรือสอบ
00:09:12 → 00:09:14 เทียบสอบสู้คนอื่นไม่ได้เลยเลยทำให้ตัว
00:09:14 → 00:09:17 เองไม่สามารถเข้าได้ก็เลยให้ลูกเป็นคนที่
00:09:17 → 00:09:20 ทำหน้าที่นี้แทนตัวเองอ๋ออ่าอย่างเช่น
00:09:20 → 00:09:23 อยากเข้าหมอเข้าไม่ได้อ่ะแกไปเรียนเป็น
00:09:23 → 00:09:26 หมอให้แม่หน่อยนะอือๆใช่ๆมีเคยได้ยินคำ
00:09:26 → 00:09:28 อย่างงี้เหมือนกันนะใช่ครับเคยได้ยินเนา
00:09:28 → 00:09:30 ว่าเป็นอันนี้ให้หน่อยเป็นอันนั้นให้
00:09:30 → 00:09:32 หน่อยใช่แต่คำถามคือได้ถามเด็กมั้ยว่าเค
00:09:32 → 00:09:35 อยากเป็นหรือเปล่าไม่น่าถามอ่ะเออไม่น่า
00:09:35 → 00:09:38 จะได้ถามถมันเลยกายเป็นว่าเป็นความกดดัน
00:09:38 → 00:09:40 ซ้อนกดดันไปอีกทีนึงครับเพราะว่าผมว่าอ
00:09:40 → 00:09:43 สมมุตินะถ้าเด็กรู้จักตัวเองแล้วเด็กได้
00:09:43 → 00:09:46 เอ่อเลือกสอบเลือกเรียนในสาขาที่เขาชอบ
00:09:46 → 00:09:48 ยังไงเต้องเจอการแข่งขันอยู่แล้วถูกมั้ย
00:09:48 → 00:09:50 ครับเป็นความกดดันที่ต่อให้เขาเจอที่ตัว
00:09:50 → 00:09:52 เองชอบยังไงก็ต้องแข่งขันเข้าอยู่ดีแต่
00:09:52 → 00:09:55 ถ้าสมมุติว่าเอ่อไม่รู้จักตัวเองด้วยซ้ำ
00:09:55 → 00:09:58 ว่าตัวเองชอบอะไรหรือต่อให้รู้ก็ไม่มีไม่
00:09:58 → 00:10:02 มีสิทธิ์เพราะพ่อแม่ไม่อนุญาตอืมันก็กลาย
00:10:02 → 00:10:04 เป็นว่านอกจากต้องกดดันเรื่องการแข่งขัน
00:10:04 → 00:10:05 ต้องสอบไว้เนี่ยยังต้องไปกดดันกับการ
00:10:05 → 00:10:08 เรียนในสิ่งที่ตัวเองไม่สนใจด้วยค่ะกดดัน
00:10:08 → 00:10:11 ซ้อนกดดันใช่คือแค่กดดันของพ่อแม่ก็
00:10:11 → 00:10:14 เหนื่อยแล้วนะเพราว่าทำยังไงก็อ้าๆก็ทำ
00:10:14 → 00:10:17 ให้มันเรียนตั้ง 4 ปีอ่ะถ้าเกิดในระดับ
00:10:17 → 00:10:20 มัธยมก็ 4 ปีีออมันต้องออกมาแบบตามความ
00:10:20 → 00:10:22 ฝันของพ่อแม่หรือเข้าโรงเรียนเนี่ย 6 ปี
00:10:22 → 00:10:25 บวกสมมุติมีสิ่งที่มหาวิทยาลัยที่อยาก
00:10:25 → 00:10:27 เรียนอีกของคุณพ่อคุณแม่หรืออย่าเงี้ยอ 10
00:10:27 → 00:10:31 ปีเลยนะใช่ครับโอ้โหยาวมันถึงมันถึงทำให้
00:10:31 → 00:10:33 เราได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการที่นักศึกษา
00:10:33 → 00:10:35 ครับบางทีเข้ามหาวิทยาลัยไปเนาะแล้วก็ตัด
00:10:35 → 00:10:38 สินใจลาออกก็มีซิ่วเปลี่ยนสาขาก็มีหรือ
00:10:38 → 00:10:41 ว่าขอโยกย้ายกันภายในก็มีค่ะอ่าจริงๆผม
00:10:41 → 00:10:44 ว่ายุคเนี้ยครับเอ่อมหาวิทยาลัยหรือระบบ
00:10:44 → 00:10:47 ต่างๆเริ่มเปิดตรงนี้เพื่อเรียกว่าอำนวย
00:10:47 → 00:10:49 ความสะดวกให้นักศึกษาที่มาค้นพบตัวเองที
00:10:50 → 00:10:52 หลังเนี่ยสามารถมีสิทธิ์ในการยกย้ายภายใน
00:10:52 → 00:10:54 ได้อแบบเรื่องนี้ผมก็ได้ยินประจำครับว่า
00:10:54 → 00:10:56 ยุรุ่นหลังๆอาจารย์ก็เริ่มเปิดรับถ้าเป็น
00:10:56 → 00:10:59 ยุคก่อนๆเนี่ยอาจจะบอกว่าไม่เธอต้องอดทน
00:10:59 → 00:11:02 เธอต้องสู้แต่พยุคเนี้ยะเหมือนกับวิธีคิด
00:11:02 → 00:11:04 ทางการศึกษามันเริ่มเปลี่ยนว่าเราอยากจะ
00:11:04 → 00:11:07 ส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักตัวเองแล้วก็ได้
00:11:07 → 00:11:09 ค้นพบสิ่งที่เขาอยากจะเรียนอยากจะเป็นค่ะ
00:11:09 → 00:11:13 อ่าเอ่อในในหมู่อาจารย์หรือแม้กระทั่งครู
00:11:13 → 00:11:15 ก็เริ่มมีแนวคิดในการคุยกับผู้ปกครองให้
00:11:15 → 00:11:18 อืว่าเฮ้ยเราส่งเสริมลูกไปทางนั้นทางนี้
00:11:18 → 00:11:20 ดีมั้ยอ่าแต่ไม่ได้ร่วมกดดันไปกับผู้ปก
00:11:20 → 00:11:22 ครองอะไรเงี้ยครับก็จะส่งเสริมให้เด็กๆ
00:11:23 → 00:11:26 สามารถโยกย้ายโอนสาขากันภายในได้เอ้อดีนะ
00:11:26 → 00:11:30 แบบนี้คืออย่างน้อยก็ลดทอนความกดดันใช่ทำ
00:11:30 → 00:11:35 ให้ใจเบขึ้นอืโล่งขึ้นนะฮะแล้วก็แบบอย่าง
00:11:35 → 00:11:38 น้อยที่สุดแล้วเนี่ยพ่อแม่ก็จะต้องรู้ขีด
00:11:38 → 00:11:41 จำกัดขีดความสามารถของลูกตัวเองด้วยคือ
00:11:41 → 00:11:44 เข้าใจว่าพ่อแม่ก็หวังดีเนาะอยากจะให้แบบ
00:11:44 → 00:11:46 อ่ะต่อไปถ้าวันนึงไม่มีพ่อไม่มีแม่แล้ว
00:11:46 → 00:11:49 เนี่ยเขาสามารถที่จะเดินหน้าต่อไปได้
00:11:49 → 00:11:51 อย่างมีคุณภาเดินในเส้นทางที่เขารู้สึก
00:11:52 → 00:11:54 ภูมิใจแล้วก็เส้นทางที่เขาถนัดผมว่านี้
00:11:54 → 00:11:56 สำำคัญเนาะเพราะฉะนั้นไอเรื่องการรับมือ
00:11:56 → 00:11:58 เรื่องพวกเยครับผมว่าผู้ปกครองจริงๆสำคัญ
00:11:58 → 00:12:02 มากค่ะค่ะเรื่องของการมีสติมีสติมากๆ
00:12:02 → 00:12:04 เพราะว่าบางครั้งหับความหวาดกลัวของตัว
00:12:04 → 00:12:07 เองเนาะเช่นแบบกลัวลูกจะไม่มีอนาคตกลัว
00:12:07 → 00:12:09 ว่าแบบจะโดนเป็นขี้ปากอะไรก็แล้วแต่อะไร
00:12:09 → 00:12:11 เงี้ยครับหรือแม้กระทั่งที่ตัวเองอาจจะ
00:12:11 → 00:12:14 เคยมีปมไม่สามารถเรียนได้ไอ้พวกเนี้ยพอ
00:12:14 → 00:12:16 เราถูกความคิดชุดพวกนี้หรือความกลัวพวก
00:12:16 → 00:12:19 นี้ครอบงำนะครับมันจะทำให้เราเห็นแต่ความ
00:12:19 → 00:12:22 ปรารถนาของตัวเองค่ะแต่เราจะไม่เห็นใจของ
00:12:22 → 00:12:24 ลูกไม่เห็นความปรารถนาของลูกไม่ได้เห็น
00:12:24 → 00:12:27 ความทุกข์ของลูกว่าแบบจริงๆตัวเขในฐานะ
00:12:27 → 00:12:29 เด็กวัยรุ่นคนนึงอ่ะที่ยังไม่สามารถแบบหา
00:12:29 → 00:12:32 ทำมาหากินหรือพึ่งพาตัวเองได้เขาอาจจะแค่
00:12:32 → 00:12:34 ต้องวิ่งไปตามระบบที่โหดร้ายเหมือนกันนะ
00:12:34 → 00:12:37 ค่ะผมว่าเด็กๆทุกคนที่สอบอะไเงี้ยครับอาจ
00:12:37 → 00:12:40 จะก็ทุกคนล้วนปรารถนาอยากจะมีชีวิตที่ดี
00:12:40 → 00:12:42 แต่บังเอิญที่นั่งมันจำกัดผมว่าตรงนี้
00:12:42 → 00:12:44 เป็นความกดดันค่อนข้างสูงและถ้าเกิดเด็กๆ
00:12:44 → 00:12:48 เผลอเอาการสอบผ่านตรงเนี้ยครับไปเชื่อม
00:12:48 → 00:12:50 กับคุณค่าในตัวเองมันจะกลายเป็นว่าการสอบ
00:12:50 → 00:12:52 ไม่ผ่านเหมือนชีวิตเขาแบบล้มเหลวไปเลยอ่ะ
00:12:52 → 00:12:55 อืเขาเป็นคนที่ดีไม่พอเขาเป็นคนที่มีปม
00:12:55 → 00:12:57 ว่าเขาไม่สามารถที่จะทำให้พ่อแม่ภูมิใจ
00:12:57 → 00:13:01 หรือว่ามีอนาคตที่ดีได้ก็เหมือนกับที่อ
00:13:01 → 00:13:03 เห็นในโซเชียลอ่ะค่ะที่ว่ามีเด็กคนนึงอ่ะ
00:13:04 → 00:13:08 เรียนได้ 3 จุดกว่า 3.9 กว่าๆนะแต่แค่ว่า
00:13:08 → 00:13:11 ไม่ได้ 4 อ่ะเ้ายังรู้สึกแบบผผิดหวังกับ
00:13:11 → 00:13:14 ตัวเองอ่ะแล้วกลายเป็นแบบจุดดั่งพร้อยใน
00:13:14 → 00:13:17 ชีวิตใช่ทั้งที่เขาจริงๆโอแค่นี้คือเก่ง
00:13:17 → 00:13:20 แล้วนะอ่าอะไรอย่างเงี้ยมันใช่ครับทีนี้
00:13:20 → 00:13:23 มันเลยขึ้นอยู่กับว่าเราเราเซตระดับความ
00:13:23 → 00:13:25 คาดหวังลูกเราไว้ยังไงด้วยอขึ้นขึ้นกับ
00:13:25 → 00:13:27 ตัวเราเลี้ยงดูยังไงแล้วเราถ่ายทอดแนวคิด
00:13:27 → 00:13:30 อะไรให้เขาด้วยนะนะพ่อแม่ครับถ้าเราถ้า
00:13:30 → 00:13:33 เราแบบคล้ายๆตั้งสแตนดาร์ดให้กับลูกไว้
00:13:33 → 00:13:37 สูงมากว่าอ่ะทำดีเสมอตัวต่อให้เราเต็ม
00:13:37 → 00:13:40 4.00 ก็คือเสมอตัวอไม่ชมหรอะไรเงี้แสดง
00:13:40 → 00:13:43 ว่าไม่มีอะไรจะน่าภูมิใจหรือจะน่าแบบ
00:13:43 → 00:13:46 เรียกอะไรนะรู้สึกภูมิใจได้อ่ะเพราะเพราะ
00:13:46 → 00:13:48 การทำได้เกรดเต็มมันเป็นแค่การเอาตัวรอด
00:13:48 → 00:13:51 ได้เฉยๆค่ะเราจะไม่สามารถชื่นชมยิงดีกับ
00:13:51 → 00:13:54 อะไรได้เลยครับโอ้โหอ่าแต่ถ้าเราพอจะแบบ
00:13:54 → 00:13:57 เอ้ยการได้ 2 ได้ 3 เรียนผ่านเรียนพอรู้
00:13:57 → 00:14:00 เรื่องอ่ะถือว่าใช้ได้อืฮะการได้เกด 3.7
00:14:00 → 00:14:03 3.8 อาจจะแบบโอโหนี่มันเรื่องเหนือความ
00:14:03 → 00:14:05 คาดหมายนี่มันเรื่องที่แบบดีกับชีวิต
00:14:05 → 00:14:07 เหลือเกินอาฮะบางทีเขาก็จะเป็นเด็กที่
00:14:07 → 00:14:10 เศร้ายากผมว่าอันนี้สำคัญนะการที่เด็กๆจะ
00:14:10 → 00:14:12 แบบคล้ายๆไม่ไม่คาดหวังอะไรบางอย่างที่
00:14:12 → 00:14:15 สูงเกินจริงอครับแล้วก็มีความถ่อมตัวบาง
00:14:15 → 00:14:18 อย่างว่าเอ้ยตัวเราถ้าทำได้ก็ดีค่ะแต่ถ้า
00:14:18 → 00:14:21 ทำได้ประมาณนี้ก็พอใจก็ได้กำลังรู้สึกว่า
00:14:21 → 00:14:25 พ่อแม่ควรเว้นพื้นที่ว่างให้เขาได้มีพื้น
00:14:25 → 00:14:27 ที่ของเขาบ้างใช่ครับควรควรมีเพราะงั้น
00:14:27 → 00:14:29 ตรงนี้สำคัญมากเพราะว่าเด็กๆบางทีเยังไม่
00:14:29 → 00:14:31 ได้เติบโตมากอ่ะครับเค้าอาจจะยังไม่ได้มี
00:14:31 → 00:14:33 การประสบผ่านประสบการณ์ชีวิตเท่าไหร่หรือ
00:14:33 → 00:14:35 เขคอาจจะยังไม่ได้ตกผลึกกับชีวิตเา้ามาก
00:14:35 → 00:14:37 ว่าเค้าควรคิดยังไงกับการใช้ชีวิตที่นี่
00:14:37 → 00:14:40 อ่าอะไรเงี้ยฮะเพราะงั้นแนวคิดผู้ปกครอง
00:14:40 → 00:14:43 เลยสำคัญมากผมเลยตั้งต้นว่าผู้ปกครองต้อง
00:14:43 → 00:14:46 มีสติมากๆเลยนะดึงสติกันก่อนแล้วดึงสติ
00:14:46 → 00:14:49 มากๆเลยนะสำคัญที่ว่าเรายังพอจดจำได้มั้ย
00:14:49 → 00:14:52 ว่าเรารักลูกเราอ่ะเออหรือจริงๆเรารักตัว
00:14:52 → 00:14:56 เองมากเกินไปอืเราเลยไปเกื้อกูลแบบก้าว
00:14:56 → 00:14:58 ก่ายไม่ใช่สิเรียกว่าไปก้าวก่ายเแต่ไม่
00:14:58 → 00:15:01 ได้ได้เกื้อกูลเค้าค่ะอ่าเราเลยเข้าไป
00:15:01 → 00:15:03 แทรกแซงอครับความปรารถนาดีของเราเข้าไป
00:15:03 → 00:15:06 แทรกแซงเค้าเลยไม่ได้มอบสิ่งที่พอดีให้
00:15:06 → 00:15:10 เค้าอืมลืมไปลืมมองไปลืมๆใช่มันขัดความพอ
00:15:10 → 00:15:12 ดีไปใช่ใช่แล้วผมว่าที่มากกว่านั้นบางที
00:15:13 → 00:15:15 ระบบการศึกษาบ้านเราก็สำคัญเหมือนตะกี้
00:15:15 → 00:15:17 ที่เราคุยกันนะครับว่าการที่เด็กแห่กันไป
00:15:17 → 00:15:19 แย่งสอบเข้าโรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่งมัน
00:15:19 → 00:15:21 กำลังสะท้อน
00:15:21 → 00:15:25 อะไรกำลังสะท้อนว่ามันเกิดการจัดจัดเกรด
00:15:25 → 00:15:29 จัดลำดับของสถาบันอยู่จริงๆอครับใช่เออ
00:15:29 → 00:15:31 เป็นเรื่องค่านิยมเป็นเรื่องของคุณภาพ
00:15:31 → 00:15:33 ซึ่งอาจจะมีจริงก็ได้ซึ่งซึ่งถ้าเราลอง
00:15:33 → 00:15:35 เทียบอ่ะครับมันเหมือนกับอ่ะสมมุติโรง
00:15:35 → 00:15:39 พยาบาลรัฐเอกชนโรงพยาบาลรัฐโรงพยาบาลต่าง
00:15:39 → 00:15:41 จังหวัดมันมันมันมีการเปรียบเทียบตลอด
00:15:41 → 00:15:44 แล้วมันมีมันมีแบบระดับระดับของวัตถุดิบ
00:15:44 → 00:15:48 ต้นทุนเอ่อคุณภาพอะไรก็แล้วแต่เพราะงั้น
00:15:48 → 00:15:50 โรงโรงเรียนก็เหมือนกันมหาวิทยาลัยก็
00:15:50 → 00:15:52 เหมือนกันผมว่าเราอยู่ในประเทศไทยอ่ะครับ
00:15:52 → 00:15:54 เราน่าจะแบบเห็นความจริง้อนี้อยู่แล้วละ
00:15:54 → 00:15:57 ว่าว่าคความเหลื่อมล้ำมีอยู่จริงใช่ใช่นะ
00:15:57 → 00:15:59 ครับเพราะงั้นเรื่องเนี้ยครับครับแรงกด
00:15:59 → 00:16:01 ดันจะสามารถลดได้สมมุติถ้าเกิดภาครัฐอะไร
00:16:01 → 00:16:03 เงี้ยฮะสามารถทำให้คุณภาพของโรงเรียน
00:16:03 → 00:16:07 เนี่ยมันไปพอๆกันได้ระดับนึงแบบที่ไม่รู้
00:16:07 → 00:16:09 สึกว่าแบบโอ้โหทำไมมันห่างชั้นกันระดับ
00:16:09 → 00:16:12 นั้นอือ่าแล้วถ้าเกิดที่โรงเรียนมันมี
00:16:12 → 00:16:14 พื้นที่มากพอนะครับอันนี้ผมก็คิดไปใน
00:16:14 → 00:16:16 เรื่องของการกระจายเเรียกว่าความเสมอภาค
00:16:16 → 00:16:19 ทางการศึกษาไปอีกค่ะว่าบางทีมันจะเห็น
00:16:19 → 00:16:22 เนาะว่าเด็กบางคนต้องถ่อมาจากต่างจังหวัด
00:16:22 → 00:16:25 ไกลโพนนะครับเพื่อมาใช้ชีวิตในเมืองอ่า
00:16:25 → 00:16:28 ใช่จริงอันนี้เรื่องจริงเลยเออแล้วแล้วก็
00:16:28 → 00:16:30 จะกลายเป็นว่าว่าทุกคนก็แห่กันเข้ามาอัด
00:16:30 → 00:16:31 อยู่ใน
00:16:31 → 00:16:34 กทมแสดงว่าศูนย์ูนรวมความเจริญหลายๆอย่าง
00:16:34 → 00:16:36 อครับหรือสูนย์รวมคุณภาพหลายๆอย่างมันมา
00:16:36 → 00:16:40 แหาที่กรุงเทพฯอ่าเออสิ่งที่จะเกิดขึ้น
00:16:40 → 00:16:43 คืออะไรเด็กๆก็ต้องห่างพ่อแม่ค่ะการเข้า
00:16:43 → 00:16:45 มาอยู่กรุงเทพฯนอกจากห่างกันแล้วเนาะยัง
00:16:45 → 00:16:48 มีรายจ่ายที่สูงขึ้นด้วยตรงนี้ก็เป็นการ
00:16:48 → 00:16:51 ทำให้เอ่อพ่อแม่ผู้ปกครองก็ต้องแบกภาระ
00:16:51 → 00:16:53 ค่าใช้จ่ายหนักขึ้นไปอีกค่ะสร้างความห่าง
00:16:53 → 00:16:56 เหินในครอบครัวผมเข้าใจแหละว่าการแข่งขัน
00:16:56 → 00:16:58 อาจจะทำให้คนแกร่งขึ้นแต่บางครั้งมันก็ทำ
00:16:58 → 00:17:00 ให้เกิดช่องว่างบางอย่างที่มากขึ้นเหมือน
00:17:00 → 00:17:02 กันอืเอ่อสมมุติว่าถ้าระบบการศึกษาไทย
00:17:02 → 00:17:04 ครับสามารถกระจายความเจริญทางการศึกษา
00:17:04 → 00:17:07 หรือการเข้าถึงเนี่ยไปตามโรงเรียนหลักๆใน
00:17:07 → 00:17:10 จังหวัดได้ผมว่าอย่างน้อยเนี่ยโอเคใน
00:17:10 → 00:17:12 เรื่องเขตชนบทเขตเมืองอ่ะถ้ามันอยู่ใน
00:17:13 → 00:17:14 จังหวัดเดียวกันนะครับอย่างน้อยมันยังพอ
00:17:14 → 00:17:17 ลดระยะทางในการเดินทางได้บ้างอือแต่ถ้า
00:17:17 → 00:17:19 เกิดสมมุติว่าต่างจังหวัดไม่มีคุณภาพอะไร
00:17:20 → 00:17:22 เลยอย่าเงี้ยฮะเราต้องแห่กันไปเข้าแบบ
00:17:22 → 00:17:24 กรุงเทพฯอย่างเดียวผมว่าระยะทางมันยิ่ง
00:17:24 → 00:17:26 ไกลกว่าเดิมคือเหมือนกับว่าในระดับ
00:17:26 → 00:17:29 จังหวัดเนี่ยมันก็มีส่วนหนึงนะแล้วก็แบบ
00:17:29 → 00:17:31 ต่างอำเภอก็เข้ามาเรียนในจังหวัดใช่มั้ย
00:17:31 → 00:17:33 คะแล้วก็ในระดับจังหวัดพอวันนึงเด็กโต
00:17:33 → 00:17:36 ขึ้นก็ต้องเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯอยู่แล้ว
00:17:36 → 00:17:38 ล่ะเพราะว่ามันเหมือนกับแหล่งรวมสถาบัน
00:17:38 → 00:17:41 การศึกษาแหล่งรวมใช่ๆครับชั้นนำหลายๆที่
00:17:41 → 00:17:43 เหมือนกันใช่แต่ทีนี้จะทำยังไงอยู่ที่ว่า
00:17:43 → 00:17:45 จะกระจายออกไปยังไงได้บ้างอือืแต่เรื่อง
00:17:45 → 00:17:48 นี้ก็เป็นเรื่องของเอ่อนโยบายภาครัฐอะไร
00:17:48 → 00:17:50 งี้แหละผมอาจจะไม่ได้มีความรู้มากอันนี้
00:17:50 → 00:17:52 อาจจะเป็นแค่ความคิดเห็นก็เป็นความหวัง
00:17:52 → 00:17:55 ว่าต่อไปในอนาคตน่าจะใช่มั้ยคะใช่ใช่ครับ
00:17:55 → 00:17:57 แล้วก็อีกส่วนอาจจะเป็นเรื่องเด็กๆมั้ง
00:17:57 → 00:17:59 เด็กๆเนาะที่อาจจะต้องทำความเข้าใจคุณพ่อ
00:17:59 → 00:18:02 คุณแม่ของเราเอาเด็กต้องทำความเข้าใจใช่
00:18:03 → 00:18:06 ครับเข้าใจว่าทำไมพ่อแม่เราถึงคาดหวังนะ
00:18:06 → 00:18:09 อืเด็กจะเข้าใจใช่มยเค้าต้องทำความเข้าใจ
00:18:09 → 00:18:11 ใช่มั้ยเนี่ยทีนี้ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า
00:18:11 → 00:18:13 เด็กๆอ่ะครับเด็กบางคนเขจะมีความไวในการ
00:18:13 → 00:18:16 เข้าใจชีวิตได้เร็วแต่เด็กบางคนอาจจะเข้า
00:18:16 → 00:18:18 ใจไม่ทันก็จะมีความค่อนข้างแกว่งเหมือน
00:18:18 → 00:18:20 กันผมว่าอันเนี้ยขึ้นอยู่กับว่าทางทางคุณ
00:18:20 → 00:18:23 ครูอะไรเงี้ยครับหรือแม้กระทั่งภาคสังคม
00:18:23 → 00:18:26 ของพวกเราอ่ะจะจะเรียกว่านำเสนอแนวคิด
00:18:26 → 00:18:29 อะไรไปให้เด็กๆได้บ้างเพื่อให้เขาครู้สึก
00:18:29 → 00:18:31 ว่าจริงๆแล้วเนี่ยการที่พ่อแม่คาดหวังพ่อ
00:18:31 → 00:18:34 แม่เค้าก็จะมีโจทย์ของเขาคมีความกังวลของ
00:18:34 → 00:18:38 เขาคมีความอาจจะมีปมของเขาแล้วแต่เด็กๆ
00:18:38 → 00:18:40 อาจจะรู้เท่าทันสักหน่อยว่าเรื่องเนี้ย
00:18:40 → 00:18:43 เขาจะทำให้พ่อแม่ระดับไหนอืที่เขาจะไม่
00:18:43 → 00:18:45 สูญเสียความเป็นตัวเองด้วยอ่ะครับเพราะ
00:18:45 → 00:18:48 สิ่งที่น่าห่วงมากๆก็คือเด็ก่ะครับก็อยาก
00:18:48 → 00:18:51 ให้พ่อแม่ถูกใจอยากให้พ่อแม่สบายใจก็เลย
00:18:51 → 00:18:54 เลือกที่จะคล้ายๆเอ่อเก็บความต้องการของ
00:18:54 → 00:18:57 ตัวเองที่แท้จริงแล้วทำให้ผู้ปกครองถูกใจ
00:18:57 → 00:18:59 ชะอือฮึเออสุดท้ายมันกลายเป็นว่าตัวเก็ทำ
00:18:59 → 00:19:02 ให้พ่อแม่จนกระทั่งตัวเองก็ลืมสิ่งที่ตัว
00:19:02 → 00:19:05 เองต้องการไปค่ะปัญหาคือผมเจอเคสที่แบบ
00:19:05 → 00:19:08 ว่าเอ่อเรียนไประยะยาวจนกระทั่งเอ่อจบ
00:19:08 → 00:19:11 มหาวิทยาลัยแล้วอืทำอาชีพแล้วมาปรึกษาผม
00:19:11 → 00:19:15 ตอนอายุ 30 กว่าๆว่าอยากเปลี่ยนอาชีพอ้า
00:19:15 → 00:19:17 แต่ทำมาตั้งแต่ทำมาตั้งหลาย 8 8-9 ปี
00:19:17 → 00:19:20 แล้วอ่ะเออเออเขาคบอกว่าไม่ไม่เคยมีความ
00:19:20 → 00:19:22 สุขเลยตั้งแต่เรียนะแล้วเค้าก็เป็นฟิมเ้า
00:19:22 → 00:19:25 อยู่แล้วเาก็รับประทานยาค่ะเออแต่เขาก็
00:19:25 → 00:19:27 แบบบอกว่าการจะเปลี่ยนอาชีพก็ยากเพราะเขา
00:19:27 → 00:19:30 ทำแต่สิ่งเนี้ยมา 10 กว่าปีอือฮึประเด็น
00:19:30 → 00:19:33 คือจะมาเปลี่ยนอาชีพตอนเนี้ยทำอะไรอ่ะ
00:19:33 → 00:19:35 เหมือนกับกึ่งๆจะเป็นเซฟโซนไปแล้วว่าถ้า
00:19:35 → 00:19:39 เิดใช่ได้เงินได้เงินแต่ไม่ได้ความสุขการ
00:19:39 → 00:19:41 ทำงานระหว่างวันคือเขาไม่ไม่รู้สึกเลยว่า
00:19:41 → 00:19:44 แบบนี่คือตัวเขาแล้วเรู้รู้ตั้งแต่ตอน
00:19:44 → 00:19:47 เข้าเรียนปริญญาตรีะว่าสิ่งนี้ไม่ใช่เค้า
00:19:47 → 00:19:52 โอแต่ก็ทำมาตลอดทำมาตลอดโอ้โหใช่ครับสุด
00:19:52 → 00:19:55 ท้ายก็ต้องไปหายูเทินเอาที่อื่นออเออแต่
00:19:55 → 00:19:58 ถ้าถามว่าทำได้มั้ยก็ได้ก็คือเอาจจะต้อง
00:19:58 → 00:20:01 วางแผนว่าเค้าจะเก็บเงินสะสมเงินยังไงเออ
00:20:01 → 00:20:03 เพื่อให้เค้ามีต้นทุนมากพอในการที่จะตั้ง
00:20:03 → 00:20:06 ต้นใหม่ก็อาจจะต้องแบบอดทนอีกสักระยะนึง
00:20:06 → 00:20:08 ก็ได้เนาะในการที่แบบว่าหรือใช่ครับหรือ
00:20:08 → 00:20:10 เขาอาจจะยังไม่ไม่ขนาดเปลี่ยนอาชีพถาวรก็
00:20:10 → 00:20:13 ได้เาอาจจะเริ่มค่อยๆลดสัดส่วนของอาชีพ
00:20:13 → 00:20:17 เดิมให้มันน้อยลงแต่ยังพอมีรายได้มีอะไร
00:20:17 → 00:20:19 ที่มันแบบยังคงได้ประคองเขาไว้อยู่แล้วก็
00:20:19 → 00:20:21 อาจจะเพิ่มส่วนที่เขาศึกษาเพิ่มเติม
00:20:21 → 00:20:23 เกี่ยวกับอาชีพใหม่ที่เขาอาจจะเพิ่งรู้
00:20:23 → 00:20:26 จักตัวเองเเริ่มอยากทำอือะไรเงี้ยฮะค่อยๆ
00:20:26 → 00:20:27 ขยายขึ้นจนกระทั่งสัดส่วนเนี้ยมันสามารถ
00:20:27 → 00:20:30 ตั้งเป็นการงานได้จริงเราค่อยๆทดแทนงาน
00:20:30 → 00:20:32 เก่าได้เผลอๆบางทีทำไปได้ทั้ง 2 อย่าง 2
00:20:32 → 00:20:35 อย่างควบคู่กันก็ได้แต่ว่าตัวเป้าหมายอาจ
00:20:35 → 00:20:37 จะคนละอย่างอันนึงอาจจะเป็นเพื่อการงาน
00:20:37 → 00:20:39 การเงินเพื่อความมั่นคงทางการเงินอีกด้าน
00:20:39 → 00:20:41 นึงอาจจะเป็นการตอบโจทย์เรื่องคุณค่าทาง
00:20:41 → 00:20:44 ใจก็ได้ใช่เออแต่จริงๆเดี๋ยวเนี้ยคือ
00:20:44 → 00:20:47 เรื่องของการสร้างคุณค่าในตัวเองอ่ะหลาย
00:20:47 → 00:20:49 คนน่ะด้อยค่าในตัวเองไปค่อนข้างมากกับ
00:20:49 → 00:20:52 เรื่องของการที่เนี่ยอย่างที่คุณเอิ้นบอก
00:20:52 → 00:20:54 คือบางทีทำงานไม่ได้อย่างที่เราอยากจะทำ
00:20:54 → 00:20:57 หรอกมันทำแล้วมันไม่มีความสุขอ่ะออือๆแต่
00:20:57 → 00:20:59 มันต้องทำอ่ะต้องทำแล้วจะเราจะมานั่งบั่น
00:20:59 → 00:21:02 ทอนคือแบบคนอื่นมาด้อยฆ่าเราก็มากพอละ
00:21:02 → 00:21:05 แล้วเราล่ะใช่ไมคะเพราะฉะนั้นก็ต้องหาจุด
00:21:05 → 00:21:08 ที่มันสามารถทำให้เวทความรู้สึกเราได้ว่า
00:21:08 → 00:21:10 เออไม่เป็นไรเราก็ยังมีอีกจุดนึงที่เรา
00:21:10 → 00:21:13 สบายใจมีความสุขในการที่จะทำไม่เสียราย
00:21:13 → 00:21:15 ได้ไปเพราะว่างานไม่ได้หาง่ายนะเดี๋ยว
00:21:15 → 00:21:18 เนี้ยอใช่ครับไม่ง่ายชีวิตมันจะมีหนทาง
00:21:18 → 00:21:20 อื่นแหละแต่แค่เราจะต้องเปิดสายตาแล้วก็
00:21:20 → 00:21:22 ต้อนรับมันบ้างนะครับอย่างเด็กๆสอบแข่ง
00:21:22 → 00:21:24 ขันอย่างเงี้ยผมว่าก็จะมีคนที่แบบสอบไม่
00:21:24 → 00:21:27 ผ่านสอบไม่ติดค่ะเออเราอย่าเพิ่งไปคิดว่า
00:21:27 → 00:21:29 การสอบไม่ติดจะเป็นหายของชีวิตหรือว่ามัน
00:21:29 → 00:21:31 คือหมดอนาคตนะครับเพราะจริงๆแล้วครับถ้า
00:21:31 → 00:21:33 เราหันไปมองกว้างๆเนาะลองตัวอย่างของคนใน
00:21:33 → 00:21:36 สังคมอ่ะคนที่บางครั้งไม่ได้เรียนสูงแต่
00:21:36 → 00:21:39 เขาอาจจะมีความสำเร็จในการงานอาชีพก็มีอ
00:21:39 → 00:21:42 เขาอาจจะรวยกว่าคนเรียนสูงซอีกถูกมยฮะก็
00:21:42 → 00:21:44 จะรวยกว่าก็ได้นั่นหมายความว่าจริงๆแล้ว
00:21:44 → 00:21:47 ครับการศึกษาในภาคบังคับการศึกษาในระบบ
00:21:47 → 00:21:50 เนี่ยมันเป็นเครื่องมือชิ้นนึงที่ที่อาจ
00:21:50 → 00:21:52 จะเป็นสังคมพยายามหยิบยื่นเครื่องมือหลัก
00:21:52 → 00:21:54 ให้เราค่ะแต่จริงๆแล้วมันมีเครื่องมือทด
00:21:54 → 00:21:56 แทนอื่นๆอีกเพื่อให้เราสามารถประกอบอาชีพ
00:21:56 → 00:21:59 และสำเร็จในชีวิตได้อืโดยที่บางทีเราอาจ
00:21:59 → 00:22:00 จะไม่ต้องไม่จำเป็นต้องหยิบเครื่องมือ
00:22:00 → 00:22:03 หลักที่ที่สังคมพยายามมอบให้เราก็ได้ค่ะ
00:22:03 → 00:22:06 อือือเราก็มีโอกาสประสบความสำเร็จในจาก
00:22:06 → 00:22:09 หลายๆทางได้นะถ้าตรงนี้ไม่ได้แต่มีมีทาง
00:22:09 → 00:22:12 อื่นที่เราถนัดบางทีจุดนั้นมันอาจจะทำให้
00:22:12 → 00:22:15 เราได้ใชได้อะไรที่มากกว่าที่เราคิดด้วย
00:22:15 → 00:22:18 ซ้ำไปอใช่ครับ่สำคัญที่ว่าค้นพบว่าตัวเอง
00:22:18 → 00:22:20 มีความสุขกับการทำอะไรหรือว่ามีแรงบันดาล
00:22:20 → 00:22:22 ใจกับอะไรไอ้ตรงนั้นแหละมันจะเป็นตัวช่วย
00:22:22 → 00:22:24 ให้ทำให้เรายืนระยะกับสิ่งที่เรากำลัง
00:22:24 → 00:22:27 พยามพยายามพัฒนาตัวเองได้ดีอือฮึเพราะ
00:22:27 → 00:22:29 ฉะนั้นคืออยากจะบอกน้องน้องๆว่าจริงๆแล้ว
00:22:29 → 00:22:31 เนี่ยการแข่งขันเนี่ยมันไม่ได้จบลงสิ้น
00:22:31 → 00:22:34 สุดแค่การเข้าไปเรียนสถาบันแห่งหนึ่งหรือ
00:22:34 → 00:22:37 ว่ามหาวิทยาลัยแห่งหนึงที่มีชื่อเสียง
00:22:37 → 00:22:40 เท่านั้นแต่ว่าเรายังต้องพอโตขึ้นมาเนี่ย
00:22:40 → 00:22:43 อยู่ในวัยทำงานเนี่ยมันมีการแข่งขันในอีก
00:22:43 → 00:22:46 รูปแบบหนึ่งใช่ครับด้วยซ้ำไปใช่มั้ยคะใน
00:22:46 → 00:22:48 การจะเลื่อนขั้นเลื่อนเงินเดือนหรือการจะ
00:22:48 → 00:22:51 ต้องแบบเอ่อพิสูจน์ตัวเองในการที่จะต้อง
00:22:51 → 00:22:55 ประเมินงานอะไรโอหมันมันมีตลอดเวลาแต่ถ้า
00:22:55 → 00:22:57 เกิดเราสามารถจะพอที่จะคิดหรือปรับความ
00:22:57 → 00:23:01 รู้สึกเราได้ไม่ไม่กดดันมากเกินไปอมันจะ
00:23:01 → 00:23:04 ดีกว่ามยฝึกไว้ตั้งแต่เด็กๆเลยเนาะใช่ๆ
00:23:04 → 00:23:06 ฝึกไว้ก็มองให้มีความหวังอ่ะครับให้มี
00:23:06 → 00:23:08 ความหวังไว้ก่อนแล้วก็อย่าอย่าเพิ่งแบบไป
00:23:08 → 00:23:11 จดจ่ออยู่กับแค่แบบสอบผ่านไม่ผ่านความ
00:23:11 → 00:23:13 สำเร็จมันไม่ได้อยู่แค่เอ่อผลการสอบอย่าง
00:23:13 → 00:23:17 เดียวนะใช่ใช่ครับเออเราลองดูตัวอย่างใช้
00:23:17 → 00:23:19 คำนี้แล้วกันถ้าถ้าน้องๆมองภาพอนาคตไม่
00:23:19 → 00:23:21 ออกให้ลองมองคนที่โตกว่าเราอ่ะครับที่
00:23:22 → 00:23:24 เา้าผ่านช่วงสอบหรือแม้กระทั่งเริ่มทำงาน
00:23:24 → 00:23:26 ไปแล้วเนี่ยอาจจะลองคุยกับใครสักคนที่มี
00:23:26 → 00:23:28 ประสบการณ์ชีวิตมากกว่าเราหรือหรืออาจจะ
00:23:28 → 00:23:31 คยใครใครสักคนที่แบบเคยผ่านระบบการสอบมา
00:23:31 → 00:23:34 และแล้วเขาอาจจะมีหน้าตาของความสำเร็จใน
00:23:34 → 00:23:36 ชีวิตแบบที่เขาพอใจอสุดท้ายผมต้องบอกงี้
00:23:36 → 00:23:39 ครับทุกคนทุกคนวิ่งหาความความพอใจในชีวิต
00:23:39 → 00:23:42 เสมอแหละเราหวังว่าถ้าสอบผ่านเราจะพอใจ
00:23:42 → 00:23:45 กับชีวิตเราหวังว่าถ้าเรามีงานทำที่ดีเรา
00:23:45 → 00:23:47 ก็จะพอใจกับชีวิตอะไรก็ตามมันเกี่ยวข้อง
00:23:47 → 00:23:49 กับความพอใจอ่ะค่ะทีนี้สมมุติว่าถ้าเรียน
00:23:49 → 00:23:52 เราไม่พอใจแสดงว่ามันอาจจะไม่ตรงกับเป้า
00:23:52 → 00:23:55 หมายอือฮเอ่อหรือถ้าเกิดเราอนาคตจบไปได้
00:23:55 → 00:23:57 ทำงานแล้วเจอเส้นทางที่เราพอใจได้อแสดง
00:23:57 → 00:24:00 ว่าเรามาถูกทางอืต่อให้ไม่ต้องเรียนจบ
00:24:00 → 00:24:03 เอ่อสอบสถาบันที่แบบแข่งขันกันอยู่เรามี
00:24:03 → 00:24:05 ทางอื่นแต่สุดท้ายเราค้นพบว่าปลายทางเรา
00:24:05 → 00:24:07 พอใจกับชีวิตที่เป็นเราชอบชีวิตแบบนี้ค่ะ
00:24:07 → 00:24:10 แสดงว่ามันมีถนนเส้นอื่นให้เราไปอ่ะครับ
00:24:10 → 00:24:12 อืออ่าไม่ต้องจดจ่อกับเฉพาะที่เราจะสอบก็
00:24:12 → 00:24:14 ได้อือคืออันนี้ไม่ได้บอกว่าให้มองใจตัว
00:24:14 → 00:24:16 เองเป็นใหญ่จนไม่ได้มองอะไรรอบข้างนะคะ
00:24:16 → 00:24:19 ความหวังของพ่อแม่มันก็ยังมีอยู่แหละนะคะ
00:24:19 → 00:24:21 ความหวังดีอ่ะนะแต่ว่าบางทีเราอาจจะต้อง
00:24:21 → 00:24:25 แบบอเวทน้ำหนักกันนิดนึงชั่งให้มันพอๆกัน
00:24:25 → 00:24:28 เสมอกันไม่อไม่ให้รู้สึกว่าผิดว่าหังเกิน
00:24:28 → 00:24:31 ไปตัวเราก็ไม่ต้องไปแย่ด้วยเหมือนกันอื
00:24:31 → 00:24:33 ยังต้องเจออะไรกันอีกเยอะเลยเดีวเอาจะ
00:24:33 → 00:24:35 ช่วยเด็กๆทุกคนแล้วก็เอาจะช่วยผู้ใหญ่ทุก
00:24:35 → 00:24:40 คนครับนะมันมีอะไรให้กดดันเยอะโพอจบออกมา
00:24:40 → 00:24:43 นี่ก็ความกดดันก็อีกแบบนึงยิ่งโตยิ่งยิ่ง
00:24:43 → 00:24:47 สูงยิ่งหนาวอ่ะเออใช่มั้ยคะอ่ะก็เป็นแนว
00:24:47 → 00:24:49 ทางไว้นะคะพ่อแม่ก็ดึงสติกันนิดนึงนะดึง
00:24:49 → 00:24:51 สติสำคัญสำคัญมากอ่าเด็กๆก็ต้องเข้าใจนะ
00:24:51 → 00:24:54 เออพ่อแม่ก็คาดหวังก็อย่างงี้แหละถ้าวัน
00:24:54 → 00:24:56 นึงเราเป็นพ่อแม่เราก็จะเป็นแบบเขานี่
00:24:56 → 00:24:57 แหละแล้วก็ปล่อยวางบ้างแล้วก็ปล่อยให้เค
00:24:57 → 00:25:01 ผิดบเป็นเรื่องของพ่อแม่บ้างแต่เรายังคง
00:25:01 → 00:25:03 ใสดีนะพยายามทำชีวิตให้ดีใช่ๆไม่ใช่แบบ
00:25:04 → 00:25:07 ว่าโอ้โหปล่อยแบบเอปล่อยเลเไม่ใช่แล้วได้
00:25:07 → 00:25:09 นะคะอ่ะวันนี้ก็ได้แนวทางกันไปแล้วกับ
00:25:09 → 00:25:12 วิธีรับมือกับความกดดันนะคะในภาคของการ
00:25:12 → 00:25:14 แข่งขันไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตามขอบคุณคุณ
00:25:14 → 00:25:17 เอิ้นค่ะสวัสดีค่ะหมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้
00:25:17 → 00:25:19 ฟังพบกันใหม่ครั้งหน้านะคะวันนี้ลาไปก่อน
00:25:20 → 00:25:23 สวัสดีค่ะ This Is Toy PBS podcast
00:25:23 → 00:25:26 น้ำดีถุงน้ำดีและนิ่วมีความสัมพันธ์กัน
00:25:26 → 00:25:29 อย่างไรอาการใดที่ที่บ่งบอกว่าเป็นนิ่วใน
00:25:29 → 00:25:32 ถุงน้ำดีในายแพทย์ศรีรสลาหทยศัลยแพทย์
00:25:32 → 00:25:36 เฉพาะทางโรงพยาบาลสิครินมาเล่าให้ฟังครับ
00:25:36 → 00:25:39 ถุงน้ำดีเนี่ยก็จะมีขนาดเป็นประมาณสัก
00:25:39 → 00:25:42 กำปั้นนะครับก็จะอยู่ข้างใต้ตับริเวณของ
00:25:42 → 00:25:45 มันเก็อยู่ประมาณหน้าท้องนะครับในช่อง
00:25:45 → 00:25:48 ท้องส่วนขวาบนหรือว่าใต้ชายโครงขวาครับ
00:25:48 → 00:25:50 ตัวถุงน้ำดีทำหน้าที่คือกักเก็บน้ำดีที่
00:25:50 → 00:25:53 สร้างออกมาจากตับพอสร้างออกมาจากตับปั๊บ
00:25:53 → 00:25:54 หลังจากนั้นเนี่ยมันก็จะไปเก็บที่ถุงน้ำ
00:25:54 → 00:25:57 ดีแล้วมันก็จะทำให้น้ำดีเนี่ยมีความเข้ม
00:25:57 → 00:26:00 ข้นมากขึ้นพอเวลาเราทานอาหารเข้าไปตัวถุง
00:26:00 → 00:26:02 น้ำดีเนี่ยมันก็จะบีบตัวเพื่อที่จะปล่อย
00:26:02 → 00:26:04 น้ำดีออกมาย่อยไขมันและร่างกายเราก็จะดุ
00:26:05 → 00:26:08 สึมออกเข้าไปน้ำดีเนี่ยก็จะประกอบด้วยสาร
00:26:08 → 00:26:10 ประกอบหลายๆอย่างนะครับคือทีนี้เนี่ยเวลา
00:26:10 → 00:26:12 ความเข้มข้นของสารแต่ละอย่างเนี่ยไม่
00:26:12 → 00:26:16 สมดุลนะครับมันก็จะเริ่มทำให้มันข้นมาก
00:26:16 → 00:26:19 ขึ้นพอสักพักนึงเพอมันเริ่มจับตัวกันมาก
00:26:19 → 00:26:21 ขึ้นแข็งขึ้นมันก็ไเริ่มกลายเป็นเหมือน
00:26:21 → 00:26:24 กับเป็นก้อนกรวดแล้วค่อยๆเป็นใกล้เป็น
00:26:24 → 00:26:27 ก้อนหินอืแล้วก็ในบางคนเนี่ยเราจะเห็นได้
00:26:27 → 00:26:29 ว่าขนามันค่อนข้างใหญ่มากหมอเห็นตั้งแต่
00:26:29 → 00:26:31 อาจจะจะเป็นบางคนที่มีแค่ลักษณะเหมือน
00:26:31 → 00:26:34 โคลนแล้วก็ทำให้มีอาการเริ่มปวดได้ละนะ
00:26:34 → 00:26:36 ครับแต่ในบางคนเนี่ยเริ่มมีอาการเป็นก้อน
00:26:36 → 00:26:39 กวดก้อนกวดเนี่ยบางทีมันก็อาจจะหลุดลงไป
00:26:39 → 00:26:41 ลงไปในทางท่อน้ำดีหรือว่าบางคนจะไม่มี
00:26:41 → 00:26:44 อาการอะไรต่างๆตามมาได้ค่อนข้างเยอะที่
00:26:44 → 00:26:46 เจอได้บ่อยนะครับในปัจจุบันนะครับก็คือ
00:26:46 → 00:26:49 พวกนิ้วคอเลสเตอรอลก็เกิดจากว่าเรากิน
00:26:49 → 00:26:51 อาหารอะไรเข้าไปนะครับที่อาจจะมี
00:26:51 → 00:26:53 คอเลสเตอรอลสูงนะครับหรือมีคอเลสเตอรอลใน
00:26:53 → 00:26:56 เลือดสูงนะครับสุดท้ายแล้วมันก็จะอเข้าไป
00:26:56 → 00:26:58 อยู่ที่ตรงบริเวณที่น้ำดีออกมา
00:26:58 → 00:27:01 นะครับพอคความนดีเยนไปมันก็จะเป็นนิ่ว
00:27:01 → 00:27:03 ชนิดคอเลสเตอรอลหรือนิ่วบางชนิดที่มัน
00:27:03 → 00:27:06 เกิดได้ก็คือคนเรานะครับเม็ดเลือดแดง
00:27:06 → 00:27:07 เนี่ยจะเรียกว่าฮีโมโกลบินมันจะมีสาร
00:27:07 → 00:27:10 ประกอบที่เรียกว่าฮีโมโกบินนะครับอในบาง
00:27:10 → 00:27:12 คนที่เม็ดเลือดแดงแตกง่ายนะครับมันก็จะมี
00:27:12 → 00:27:14 สารที่มันเรียกว่าฮีมไอ้สารที่เรียกว่า
00:27:14 → 00:27:16 ฮีมเนี่ยมันคสูมันก็จะเป็นสารประกอบนึง
00:27:16 → 00:27:18 ที่มันอยู่ในตัวน้ำดีอยู่แล้วพวกเยมันก็
00:27:18 → 00:27:20 เลยทำให้ความเข้มข้นผิดปกติไปมันก็จะ
00:27:21 → 00:27:23 เรียกไปว่าเป็นนิ่วอีกชนิดหนึ่งกับอีก
00:27:23 → 00:27:25 อย่างนึงมันก็จะมีเป็นพวกการติดเชื้อใน
00:27:25 → 00:27:28 ท่อน้ำดีแต่ว่าจริงๆแล้วเนี่ยที่เรามี
00:27:28 → 00:27:30 นิ่วกันนะครับส่วนใหญ่เราจะไม่ค่อยมี
00:27:30 → 00:27:33 อาการหรือมีอาการแต่เราไม่รู้ว่ามันคือ
00:27:33 → 00:27:35 อาการของนิ่วถ้าเกิดว่าอาการที่ชัดๆนะ
00:27:35 → 00:27:38 ครับก็อย่างเช่นกินข้าวนะครับแล้วก็ปวด
00:27:38 → 00:27:42 ท้องจุกแน่นด้านขวาบน้าไปสะบักขวาหรือ
00:27:42 → 00:27:45 ไหล่ขวานะครับบางคน้าไปหลังพอผ่านไป 30-60
00:27:45 → 00:27:47 นาทีแล้วก็ดีขึ้นอันนี้คือเป็นอาการที่
00:27:47 → 00:27:51 ชัดมากแต่กลับกันบางคนเนี่ยถ้าเกิดว่า
00:27:51 → 00:27:53 เป็นอาการน้อยจะมีแค่อืดแน่นทองนิดหน่อย
00:27:53 → 00:27:56 หลังกินข้าวโดยเฉพาะอาหารมันหรือบางทีเรา
00:27:56 → 00:27:58 ถามเลยว่าเนี่ยเวลาสมมุติไปกินฟแล้วเป็น
00:27:58 → 00:28:01 ไงแน่นท้องบางทีแน่นนิดๆหน่อยๆแล้วบอกว่า
00:28:01 → 00:28:04 ออเป็นโรคกระเพาะออเป็นกดไหลย้อนแต่จริงๆ
00:28:04 → 00:28:07 แล้วเนี่ยอาจจะไม่ใช่ก็
00:28:07 → 00:28:12 ได้ This Is Toy PBS
00:28:12 → 00:28:15 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:28:15 → 00:28:18 แอปพลิเคชันของ Thai PBS podcast
00:28:18 → 00:28:21 spotify soundcloud Google podcast
00:28:21 → 00:28:24 Apple podcast และ YouTube Channel
00:28:24 → 00:28:28 Thai PBS podcast Thai PBS podcast
00:28:28 → 00:28:31 View the world via The
00:28:31 → 00:28:39 [เพลง]
00:28:39 → 00:28:42 Voice