00:00:00 → 00:00:03 รู้เท่าทันโรคความดันโลหิตสูงภัยเงียบที่
00:00:04 → 00:00:06 ไม่ควรชะล่าใจอันตรายกว่าที่
00:00:06 → 00:00:10 คิดเปิดแนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูง
00:00:10 → 00:00:12 ที่เริ่มต้นง่ายๆได้ด้วยตัว
00:00:12 → 00:00:16 เองรู้จักก้าวสมุนไพรใกล้ตัวช่วยลดความ
00:00:16 → 00:00:19 ดันโลหิตเสริมความแข็งแรงให้ร่างกายติด
00:00:19 → 00:00:22 ตามเรื่องราวทั้งหมดได้ในรายการที่ and
00:00:22 → 00:00:27 Health วัน
00:00:27 → 00:00:31 นี้สวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสสู่รายการ TNN
00:00:31 → 00:00:34 Health เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิ
00:00:34 → 00:00:37 คุ้มกันรู้ทันโลคไปกับ TNN Health นะคะ
00:00:37 → 00:00:40 และดิฉันหมอดาวแพทย์หญิงฉัตดาวจังวังกร
00:00:40 → 00:00:43 แพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวค่ะ
00:00:43 → 00:00:46 พร้อมที่จะรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ
00:00:46 → 00:00:51 พาคุณผู้ชมมาเข้าถึงสาระสุขภาพดีๆกันค่ะ
00:00:51 → 00:01:01 [เพลง]
00:01:01 → 00:01:04 สำหรับสัปดาห์นี้นะคะเราจะมารู้จักภัย
00:01:04 → 00:01:08 เงียบค่ะนั่นก็คือความดันโลหิตสูงอย่า
00:01:08 → 00:01:11 ปล่อยไว้อันตรายกว่าที่คิดความดันโลหิต
00:01:11 → 00:01:14 สูงนะคะหลายท่านอาจจะเคยได้ยินมาแล้วก็
00:01:14 → 00:01:16 คิดว่าเป็นเรื่องของความดันที่สูงเป็น
00:01:16 → 00:01:19 ธรรมดาแต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลยไปฟังพร้อมๆ
00:01:19 → 00:01:24 กันค่ะความดันโลหิตคืออะไรความดันโลหิต
00:01:24 → 00:01:26 คือค่าความดันภายในหลอดเลือดแดงซึ่งเกิด
00:01:26 → 00:01:29 จากการบีบตัวของหัวใจส่งผ่านหลอดเลือด
00:01:29 → 00:01:32 เพื่อนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่าง
00:01:32 → 00:01:35 กายมี 2 ค่าคือค่าความดันตัวบนเป็นค่า
00:01:36 → 00:01:38 ความดันขนาที่หัวใจบีบ
00:01:38 → 00:01:42 ตัวและค่าความดันตัวล่างเป็นค่าขณะที่หัว
00:01:42 → 00:01:47 ใจคลายตัวแล้วแบบไหนที่เรียกว่าความดัน
00:01:47 → 00:01:51 โลหิตสูงโรคความดันโลหิตสูงหรือไฮเปอร์
00:01:51 → 00:01:54 tension นั้นเกิดจากการที่มีความดัน
00:01:54 → 00:01:58 เลือดสูงกว่าปกติคือค่าที่มากกว่าหรือ
00:01:58 → 00:02:03 เท่ากับ 140 มมปอดในค่าความดันตัวบนและ
00:02:03 → 00:02:07 หรือมากกว่าหรือเท่ากับ 90 มมปอดในค่า
00:02:07 → 00:02:10 ความดันตัวล่างค่ะติดต่อกันเป็นระยะเวลา
00:02:10 → 00:02:13 นานมักไม่แสดงอาการแต่ส่งผลเสียต่อหลอด
00:02:13 → 00:02:16 เลือดและหัวใจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่
00:02:16 → 00:02:20 รุนแรงถึงชีวิตหรือพิการได้ทั้งนี้โดย
00:02:20 → 00:02:24 ปกติแล้วหากวัดค่าความดันโลหิตค่าปกติที่
00:02:24 → 00:02:28 เหมาะสมนั้นค่าความดันตัวบนจะต่ำกว่า 120
00:02:28 → 00:02:32 มมปอดในขณะที่ค่าความดันตัวล่างจะต่ำกว่า
00:02:32 → 00:02:37 80 มมปอดอย่างไรก็ตามหากค่าความดันตัวบน
00:02:37 → 00:02:43 อยู่ระหว่าง 120 -19 มมตอและตัวล่างอยู่
00:02:43 → 00:02:45 ระหว่าง
00:02:45 → 00:02:49 80-84 มมปอดนั้นยังถือว่าเป็นค่าปกตินะ
00:02:49 → 00:02:54 คะแต่ถ้าค่าความดันอยู่ในช่วงระหว่าง 130
00:02:54 → 00:03:00 ถึง 139 มมปอดในค่าความดันตัวบนและหรือ 80
00:03:00 → 00:03:04 15-8 มมปรอดในค่าความดันตัวล่างนั้นจะ
00:03:04 → 00:03:08 ถือว่าเป็นค่าปกติที่เริ่มสูงแล้วหรือ
00:03:08 → 00:03:11 ภาษาอังกฤษเรียกว่า High Normal ดังนั้น
00:03:11 → 00:03:15 ต้องเฝ้าระวังกันค่ะความดันโลหิตสูงสำคัญ
00:03:15 → 00:03:19 อย่างไรโรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่มี
00:03:19 → 00:03:22 ความสำคัญมากๆเนื่องจากผู้ป่วยเกินกว่า
00:03:22 → 00:03:25 ครึ่งมักจะไม่มีอาการใดๆจึงเป็นภัยเงียบ
00:03:25 → 00:03:28 ที่กว่าจะรู้ตัวว่ามีความดันโลหิตสูงก็
00:03:28 → 00:03:31 เกิดภาวะแทรกซที่รุนแรงขึ้นแล้วโดยเฉพาะ
00:03:31 → 00:03:34 โรคหลอดเลือดหัวใจตีบทำให้เกิดกล้ามเนื้อ
00:03:34 → 00:03:38 หัวใจขาดเลือดกล้ามเนื้อหัวใจหนาภาวะหัว
00:03:38 → 00:03:42 ใจวายภาวะไตวายเรื้อรังหลอดเลือดสมองตีบ
00:03:42 → 00:03:45 หรือแตกเกิดอัมพฤกษ์อัมพาตตามมาค่ะจนถึง
00:03:45 → 00:03:48 ขั้นเสียชีวิตได้ดังนั้นการที่เรารู้ว่า
00:03:48 → 00:03:51 เป็นโรคความดันโลหิตสูงตั้งแต่ระยะแรกๆ
00:03:51 → 00:03:54 สามารถควบคุมความดันโลหิตที่สูงให้กลับมา
00:03:54 → 00:03:57 สู่ระดับปกติได้ก็จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อน
00:03:57 → 00:04:02 ที่รุนแรงความดันลลสูงจำแนกตามสาเหตุได้ 2
00:04:02 → 00:04:05 ชนิดค่ะ 1 ความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบ
00:04:05 → 00:04:08 สาเหตุพบได้ประมาณร้อยละ 95 ในผู้ป่วยโรค
00:04:08 → 00:04:11 ความดันโลหิตสูงทั้งหมดส่วนใหญ่พบในผู้
00:04:11 → 00:04:15 ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและพบในเพศหญิงมาก
00:04:15 → 00:04:18 กว่าเพศชายแม้ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุ
00:04:18 → 00:04:21 ที่แน่ชัดอย่างไรก็ตามคณะกรรมการร่วมแห่ง
00:04:21 → 00:04:23 ชาติด้านการประเมินและรักษาโรคความดัน
00:04:23 → 00:04:26 โลหิตสูงของสหรัฐอเมริกาพบว่ามีปัจจัย
00:04:26 → 00:04:29 เสี่ยงต่างๆที่เกี่ยวข้องและทำให้เกิดโรค
00:04:29 → 00:04:33 ความดันโลหิตสูงได้แก่่กรรมพันธ์ความอ้วน
00:04:33 → 00:04:36 ภาวะน้ำหนักเกินการมีไขมันในเลือดสูงการ
00:04:36 → 00:04:39 รับประทานอาหารที่มีรสเค็มสัดการไม่ออก
00:04:39 → 00:04:42 กำลังกายการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์การ
00:04:42 → 00:04:46 สูบบุหรี่ความเครียดอายุที่มากขึ้นและมี
00:04:46 → 00:04:49 ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจและหลอด
00:04:49 → 00:04:52 เลือด 2 ความดันโลหิตสูงชนิดที่ทราบ
00:04:52 → 00:04:55 สาเหตุตรงนี้พบได้น้อยคือประมาณร้อยละ
00:04:55 → 00:04:59 5-10 ค่ะส่วนใหญ่เกิดจากการมีพญาธิสภาพ
00:04:59 → 00:05:02 ของอวัยวะต่างๆในร่างกายโดยจะส่งผลให้
00:05:02 → 00:05:05 เกิดแรงดันเลือดสูงส่วนใหญ่อาจเกิดจากพญา
00:05:05 → 00:05:09 ที่สภาพที่ไตต่อหมวกไตโรคหรือความผิดปกติ
00:05:09 → 00:05:12 ของระบบประสาทความผิดปกติของฮอร์โมนโรค
00:05:12 → 00:05:15 ของตำไรท่อโรคคันเป็นพิษการบาดเจ็บของ
00:05:15 → 00:05:19 ศีรษะการใช้ยาและการถูกสารเคมีเป็นต้น
00:05:19 → 00:05:22 ทั้งนี้เมื่อแพทย์ตรวจพบว่าเกิดจากสาเหตุ
00:05:22 → 00:05:25 ใดการรักษาที่สาเหตุก็จะทำให้ระดับความ
00:05:25 → 00:05:30 ดันโลหิตลดลงอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติได้
00:05:30 → 00:05:33 สำหรับโรคความดันโลหิตสูงค่ะคุณผู้ชม
00:05:33 → 00:05:36 สามารถที่จะจำแนกได้อีกค่ะเป็นระยะความ
00:05:36 → 00:05:40 รุนแรงโดยที่ดูตัวเลขของค่าความดันระยะ
00:05:40 → 00:05:45 แรกนะคะก็คือค่าความดันตัวบนค่ะ 140 ถ 159
00:05:45 → 00:05:50 มมปลอดหรือค่าความดันตัวล่างนะคะตั้งแต่
00:05:50 → 00:05:53 90 ค่ะจนถึง 99 มม
00:05:53 → 00:05:57 ปลอดระดับที่ 2 ความดันโลหิตสูงระยะปาน
00:05:58 → 00:06:02 กลางค่าความดันโลหิตจะอยู่ที่ระหว่าง 160
00:06:02 → 00:06:08 -19 มมปลอดในความดันตัวบนและ 100 ถึง 109
00:06:08 → 00:06:12 มมปลอดในความดันตัวล่างระดับที่ 3 ความ
00:06:13 → 00:06:16 ดันโลหิตสูงระยะรุนแรงค่าความดันโลหิตจะ
00:06:16 → 00:06:21 มากกว่า 180 มมปอในความดันตัวบนและ 110
00:06:21 → 00:06:24 มมปอในความดันตัวล่างทั้งนี้การวัดความ
00:06:25 → 00:06:28 ดันโลหิตควรจะวัดขณะนั่งพักอย่างน้อย 30
00:06:28 → 00:06:32 นาทีงดคากาแฟก่อนที่จะวัดอย่างน้อย 2 ชมง
00:06:32 → 00:06:35 วัดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องค่ะและควรวัดซ้ำ
00:06:35 → 00:06:37 2-3 ครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นความดัน
00:06:37 → 00:06:42 โลหิตสูงจริงๆอาการของโรคความดันโลหิตสูง
00:06:42 → 00:06:45 ปรากฏได้หลายอย่างดังนี้ 1 ปวดศีรษะ 2
00:06:45 → 00:06:48 เวียนศีรษะมักพบว่าเกิดร่วมกับอาการปวด
00:06:48 → 00:06:52 ศีรษะด้วย 3 เลือดกำเดาไหล 4 เหนื่อยหอบ
00:06:52 → 00:06:55 ขณะทำงานหรือมีอาการเหนื่อยหอบจนนอนราบ
00:06:55 → 00:06:58 ไม่ได้แสดงถึงการมีภาวะหัวใจห้องล่างซ้าย
00:06:58 → 00:07:02 ล้มเหลว 5 อาการอื่นๆที่อาจพบร่วมได้แก่
00:07:02 → 00:07:05 อาการเจ็บหน้าอกสัมพันธ์กับภาวะกล้าม
00:07:05 → 00:07:07 เนื้อหัวใจขาดเลือดจากการมีเสื้อเลือดหัว
00:07:07 → 00:07:10 ใจตีบหรือจากการมีกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัว
00:07:10 → 00:07:13 มากจากภาวะความดันโยสูงที่เป็นมานานหรือ
00:07:13 → 00:07:18 ที่เรียกว่าภาวะหัวใจโตได้รู้จักโรคความ
00:07:18 → 00:07:21 ดันโลหิตสูงกันในเบื้องต้นนะคะและในช่วง
00:07:21 → 00:07:24 นี้นะคะเรายังอยู่กันที่โรคความดันโลหิต
00:07:24 → 00:07:27 สูงภัยเงียบอย่าาปล่อยไว้อันตรายกว่าที่
00:07:27 → 00:07:30 คิดและในช่วงนี้นะคะเราจะไปพูดคุยกับ
00:07:30 → 00:07:34 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้
00:07:34 → 00:07:38 กันสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก
00:07:38 → 00:07:40 เลยนะ
00:07:40 → 00:07:45 [เพลง]
00:07:45 → 00:07:50 คะอาจารย์คะระดับความดันโลหิตเท่าไหร่ถึง
00:07:50 → 00:07:53 เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงคะความดัน
00:07:53 → 00:07:56 โลหิตนะคะของปกติเลยเนี่ยความดันตัวบน
00:07:56 → 00:08:00 เนี่ยจะต้องน้อยกว่า 120 มลมตลอดนะคะความ
00:08:00 → 00:08:03 ดันตัวล่างเนี่ยถ้าปกติจะต้องน้อยกว่า 80
00:08:03 → 00:08:06 มมตลอดนะคะดังนั้นถ้าเมื่อไหร่ที่ความดัน
00:08:06 → 00:08:10 เนี่ยเกิน 12080 มมตลอดเกินหรือว่าเท่า
00:08:10 → 00:08:13 กับนะคะถือว่าเริ่มมีความเสี่ยงกับความ
00:08:13 → 00:08:16 ดันสูงค่ะแต่ส่วนใหญ่นะคะเราจะวินิจฉัย
00:08:16 → 00:08:19 ความดันสูงเนี่ยจะเอาความดันตัวบนที่เท่า
00:08:19 → 00:08:22 กับหรือมากกว่า 140 มลมตลอดแล้วก็ตัวล่าง
00:08:22 → 00:08:25 มากกว่าหรือเท่ากับ 90 มมปลอดนะคะเพื่อ
00:08:25 → 00:08:27 เป็นการวินิจฉัยความดันโลหิตสูงโดยความ
00:08:27 → 00:08:29 ดันอันเนี้ยหมายถึงความดันที่โรงพยาบาลนะ
00:08:29 → 00:08:31 คะถ้าเป็นความดันที่บ้านอาจจะใช้เลขแค่
00:08:32 → 00:08:35 135 85 ที่เอาเป็นความดันสูงค่ะแล้วโรค
00:08:35 → 00:08:38 ความดันโลหิตสูงค่ะมักเกิดขึ้นกับคนกลุ่ม
00:08:38 → 00:08:42 ใดคะอาจารย์ความดันโลหิตสูงนะคะถ้าที่เจอ
00:08:42 → 00:08:45 บ่อยๆเนี่ยมันก็ขึ้นกับ 1 นะคะปัจจัยก็
00:08:45 → 00:08:48 คืออายุที่มากขึ้นนะคะยิ่งสูงอายุความดัน
00:08:48 → 00:08:51 ก็มีสิทธิ์ที่จะสูงมากขึ้นนะคะข้อที่ 2
00:08:51 → 00:08:54 ก็คือเช่นน้ำหนักตัวที่มากนะคะข้อที่ 3
00:08:54 → 00:08:57 ก็คือประวัติครอบครัวนะคะถ้าเรามีประวัติ
00:08:57 → 00:09:00 ครอบครัวเป็นความดันสูงสัก 1 1-2 คน
00:09:00 → 00:09:02 เนี่ยเราจะมีความเสี่ยงกับความดันเนี่ย
00:09:02 → 00:09:05 เกือบ 2 เท่าจากคนอื่นนะคะนอกจากนั้นก็
00:09:05 → 00:09:08 คือพวกโรคประจำตัวเช่นเป็นโรคไตก็เพิ่ม
00:09:08 → 00:09:10 โอกาสเป็นความดันสูงหรือว่าการใช้ชีวิต
00:09:10 → 00:09:14 เช่นไม่ออกกำลังกายการดื่มเหล้าการพัก
00:09:14 → 00:09:16 ผ่อนน้อยนะคะก็เพิ่มโอกาสเป็นความดันสูง
00:09:16 → 00:09:20 ได้ค่ะเราควรตรวจวัดความดันบ่อยแค่ไหนคะ
00:09:20 → 00:09:23 ถ้าเป็นความดันนะคะปัจจุบันคำแนะนำเนี่ย
00:09:23 → 00:09:26 จะให้คนที่อายุ 18 ปีขึ้นไปนะคะวัดความ
00:09:26 → 00:09:29 ดันอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งค่ะแต่ถ้าสมมุติ
00:09:29 → 00:09:31 ว่ามีความเสี่ยงกับการเป็นความดันสูงก็
00:09:31 → 00:09:34 คือปัจจัยที่ว่านะคะอาจจะให้วัดอย่างน้อย
00:09:34 → 00:09:37 ปีละ 2 ครั้งขึ้นไปค่ะการวัดความดันโลหิต
00:09:37 → 00:09:41 เองที่บ้านควรทำอย่างไรบ้างคะก็คือ 1 การ
00:09:41 → 00:09:43 วัดความดันเนี่ยจะต้องประกอบด้วยเครื่อง
00:09:43 → 00:09:47 วัดความดันที่เป็นมาตรฐานนะคะแล้วก็ได้
00:09:47 → 00:09:50 รับการ validate นะคะ cate เรียบร้อยนะคะ
00:09:50 → 00:09:52 แล้วก็สายก็คือไอ้ตัวผ้าพันธุ์นะคะหรือ
00:09:52 → 00:09:55 ว่าเรียกว่าคัฟเนี่ยจะต้องขนาดพอเหมาะกับ
00:09:55 → 00:09:58 แขนของเรานะคะโดยเครื่องวัดความดันเนี่ย
00:09:58 → 00:10:01 จะระบุคขนาดของแขนที่ที่พอเหมาะกับขนาด
00:10:01 → 00:10:04 ของสายรัดอยู่แล้วนะคะดังนั้น 1 เครื่อง
00:10:04 → 00:10:06 วัดจะต้องถูกต้องนะคะข้อที่ 2 ก็คือว่า
00:10:06 → 00:10:10 ถ้าวัดนะคะเราจะต้องวัดเนี่ยจะต้องนั่ง
00:10:10 → 00:10:12 ที่เก้าอี้นะคะขาจะต้องแตะพื้น 2 ข้าง
00:10:13 → 00:10:16 ห้ามนั่งไขวห้างนะคะหลังจะต้องพิงเก้าอี้
00:10:16 → 00:10:18 นะคะแขนเนี่ยจะต้องวางที่โต๊ะแล้วก็สาย
00:10:18 → 00:10:21 ที่รัดที่แขนอ่ะค่ะจะต้องอยู่ระดับเดียว
00:10:21 → 00:10:24 กับหัวใจนะคะแล้วก็เวลาวัดความดันเนี่ย
00:10:24 → 00:10:27 ต้องห้ามดื่มชากาแฟสูบบุหรี่หรือออกกำลัง
00:10:27 → 00:10:30 กายก่อนวัดครึ่งชั่วโมงนะคะแล้วก็เวลาวัด
00:10:30 → 00:10:33 แนะนำให้วัดประมาณซักเอ่อ 2 ครั้งติดห่าง
00:10:33 → 00:10:36 กันประมาณ 1 นาทีนะคะปกติหมอก็จะแนะนำให้
00:10:36 → 00:10:39 วัดตอนเช้าตื่นขึ้นมาไปเข้าห้องน้ำไม่
00:10:39 → 00:10:41 กั้นปัสสาวะมาวัดความดันนะคะอีกทีนึงอาจ
00:10:41 → 00:10:43 จะเป็นวัดช่วงเย็นหรือก่อนนอนอีกสักครั้ง
00:10:43 → 00:10:47 หนึ่งค่ะถ้าเราวัดความดันโลหิตตัวเอง 1
00:10:47 → 00:10:50 ครั้งค่ะอาจารย์แล้วพบว่าเข้าเกณฑ์ได้กับ
00:10:50 → 00:10:53 ความดันโลหิตสูงเลยจะถือว่าเป็นโรคความ
00:10:53 → 00:10:57 ดันโลหิตสูงหรือไม่คะเป็นคำถามที่ดีนะคะ
00:10:57 → 00:11:00 เพราะว่าความดันน่ะค่ะมันจะแค้ายความดัน
00:11:00 → 00:11:02 ของเราเนี่ยมันจะแปรปรวนขึ้นกับหลายสภาวะ
00:11:02 → 00:11:05 นะคะดังนั้น 1 อ่ะถ้าเราวัดที่บ้านนะคะ
00:11:05 → 00:11:08 แล้วเป็นการวัดที่ถูกต้องนะคะอย่างที่หมอ
00:11:08 → 00:11:10 บอกเครื่องถูกต้องถ้าวัดถูกต้องวิธีการ
00:11:10 → 00:11:13 วัดถูกต้องนะคะจริงๆก็น่าจะวินิจฉัยความ
00:11:13 → 00:11:16 ดันสูงได้นะคะแต่ว่าจริงๆความดันของคนเรา
00:11:16 → 00:11:18 อ่ะค่ะมันจะขึ้นอยู่กับหลายภาวะเช่น
00:11:18 → 00:11:21 สมมุติว่าตอนนั้นพักผ่อนน้อยมีความเครียด
00:11:21 → 00:11:24 มีการทานยาบางอย่างก็อาจจะมีความดันขึ้น
00:11:24 → 00:11:26 ชั่วคราวนะคะดังนั้นส่วนใหญ่เรามักจะลอง
00:11:26 → 00:11:29 วัดความดันหลายๆครั้งเพื่อคอนเฟิร์มหรือ
00:11:29 → 00:11:31 เพื่อวินิจฉัยความดันโลหิตสูงนะคะอันนี้
00:11:32 → 00:11:34 คือความดันที่บ้านนะคะแต่ถ้าเป็นความดัน
00:11:34 → 00:11:36 ที่โรงพยาบาลนะค่ะถ้าสมมุติว่าเราวัด
00:11:36 → 00:11:39 ครั้งแรกแล้วเกิน 180 120 เลยก็วินิจฉัย
00:11:39 → 00:11:42 ได้เพราะว่าสูงมากนะคะแต่ถ้าเกณฑ์ไม่ถึง
00:11:42 → 00:11:46 แต่ว่าพบโรคร่วมของความดันนะคะเช่นไปเจอ
00:11:46 → 00:11:49 กล้ามเนื้อหัวใจหนาที่น่าจะเป็นผลจากความ
00:11:49 → 00:11:52 ดันก็วินิจฉัยได้เลยนะคะแต่ถ้าไม่พบทั้ง
00:11:52 → 00:11:55 เอ่อโรคที่เป็นผลจากความดันความดันก็ไม่
00:11:55 → 00:11:58 ได้สูงมากนะคะมันอาจจะมีภาวะที่เรียกว่า
00:11:58 → 00:12:02 ไว้โส hypertension นะคะก็คือความดันสูง
00:12:02 → 00:12:05 เฉพาะตอนที่มาโรงพยาบาลนะคะซึ่งถ้าอย่าง
00:12:05 → 00:12:07 นั้นเนี่ยเราอาจจะแนะนำให้คนไข้ไปวัดความ
00:12:07 → 00:12:10 ดันที่บ้านนะคะหรือว่าถ้าจะเอาวินิจฉัย
00:12:10 → 00:12:13 ความดันสูงโดยที่ไม่วัดที่บ้านนะคะก็ต้อง
00:12:13 → 00:12:15 อย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไปความดันที่สูงที่
00:12:15 → 00:12:18 โรงพยาบาลถึงจะวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดัน
00:12:18 → 00:12:21 สูงได้ค่ะอาจารย์คะและหากตรวจพบว่าเป็น
00:12:21 → 00:12:24 โรคความดันโลหิตสูงค่ะแต่ยังไม่มีอาการ
00:12:24 → 00:12:28 ผิดปกติใดๆเลยจำเป็นต้องเข้ารับการรักษา
00:12:28 → 00:12:31 หรือไม่คะจำเป็นเลยค่ะคืออย่างงี้โลคความ
00:12:31 → 00:12:34 ดันน่ะค่ะระยะเอาเป็นว่าส่วนใหญ่เลยดี
00:12:34 → 00:12:37 กว่าไม่ค่อยมีอาการนะคะอาการที่ว่าปวดหัว
00:12:37 → 00:12:39 นะคะหรือว่าอาการที่เป็นพวกเส้นเลือดมี
00:12:40 → 00:12:43 ปัญหาเนี่ยเจอได้น้อยนะคะส่วนใหญ่คนที่
00:12:43 → 00:12:45 เป็นความดันเนี่ยไม่มีอาการนะคะแต่ว่า
00:12:45 → 00:12:49 เอ่อถ้าเรารักษาช้ามันจะมีผลแทรกซ้อนของ
00:12:49 → 00:12:52 ความดันนะคะดังนั้นเนี่ยแนะนำว่าถ้ามี
00:12:52 → 00:12:55 ความดันสูงถึงจะยังไม่มีอาการแนะนำให้มา
00:12:55 → 00:12:57 พบแพทย์ก่อนนะคะแพทย์จะพิจารณาว่าควรจะ
00:12:57 → 00:13:00 เริ่มรักษาเลยหรือเปล่านะคะเพราะว่าถ้า
00:13:00 → 00:13:03 ช้าไปเนี่ยมันอาจจะอันตรายแล้วก็มีผลแทรก
00:13:03 → 00:13:06 ซ้อนที่รุนแรงได้เลยค่ะผู้ที่เป็นโรคความ
00:13:06 → 00:13:09 ดันโลหิตสูงค่ะหากปล่อยไว้นานไม่รักษาจะ
00:13:09 → 00:13:13 ส่งผลเสียอย่างไรได้คะผลแทรกซ้อนของความ
00:13:13 → 00:13:15 ดันนะคะอาแบ่งว่าถ้าเป็นของหัวใจนะคะ
00:13:15 → 00:13:19 อย่างแรกคือกล้ามเนื้อหัวใจจะหนาขึ้นนะคะ
00:13:19 → 00:13:21 กล้ามเนื้อมันก็จะต้องปรับหนาขึ้นเพื่อ
00:13:21 → 00:13:24 สู้กับความดันของเราที่สูงนะคะแต่กล้าม
00:13:24 → 00:13:26 เนื้อที่หนาของหัวใจจเนี่ยไม่ได้ดีเหมือน
00:13:26 → 00:13:28 กล้ามเนื้อของเราที่หนาขึ้นนะคะมันก็จะทำ
00:13:28 → 00:13:31 ให้เกิดภาวะหัวใจวายง่ายขึ้นมีอาการ
00:13:31 → 00:13:34 เหนื่อยง่ายขึ้นนะคะแล้วก็ความดันที่สูง
00:13:34 → 00:13:36 ก็ยังเพิ่มโอกาสทำให้เกิดเป็นพวกหลอเลือด
00:13:36 → 00:13:38 หัวใจตีบนะคะซึ่งเป็นโรคที่อันตรายถึงแก่
00:13:38 → 00:13:41 ชีวิตนะคะอันที่ 2 ถ้าเป็นทางสมองก็จะ
00:13:41 → 00:13:44 เกิดพวกเส้นเลือดสมองตีบหรือว่าเป็นพวก
00:13:44 → 00:13:46 เลือดออกในสมองได้นะคะอย่างที่เคยได้ยิน
00:13:46 → 00:13:49 ว่าอยู่ดีๆมีเลือดออกในสมองแล้วก็ุบไปเลย
00:13:49 → 00:13:52 นะคะก็เป็นจากความดันสูงได้นะคะอันสุด
00:13:52 → 00:13:55 ท้ายที่เจอบ่อยๆเลยก็คือไตวายนะคะความดัน
00:13:55 → 00:13:58 สูงเนี่ยสามารถทำให้ไตวายจนต้องไปล้างไต
00:13:58 → 00:14:01 ได้เลยนะคะคะซึ่งความดันเนี่ยแหละก็เป็น
00:14:01 → 00:14:04 โรคที่อันตรายมากเหมือนกันค่ะปัจจุบันค่ะ
00:14:04 → 00:14:07 มีวิธีการรักษาโรคความดันโลหิตสูงอย่างไร
00:14:07 → 00:14:10 บ้างคะคือวิธีการรักษาความดันนะคะเอ่อ
00:14:10 → 00:14:13 แบ่งง่ายๆก็คือ 1 เป็นการรักษาที่ไม่ต้อง
00:14:13 → 00:14:16 ใช้ยานะคะเอ่อการรักษาที่ไม่ต้องใช้ยา
00:14:16 → 00:14:19 เนี่ยก็จะเน้นการลดน้ำหนักนะคะการลดน้ำ
00:14:19 → 00:14:21 หนักคือถ้าน้ำหนักเกินเนี่ยการลดน้ำหนัก 1
00:14:21 → 00:14:24 กกสามารถลดความได้ความดันได้ประมาณ 1 มลม
00:14:24 → 00:14:27 ตลอดนะคะดังนั้นเอ่อแนะนำให้ลดน้ำหนักข้อ
00:14:28 → 00:14:30 ที่ 2 ก็คือว่าเอ่อจะแนะนำถ้าเกิดสมมุติ
00:14:30 → 00:14:33 ว่าดื่มแอลกอฮอล์มากก็ลดปริมาณแอลกอฮอล์
00:14:33 → 00:14:37 ลงนะคะต่อมาก็คือการคลุมโซเดียมคุมเกลือ
00:14:37 → 00:14:41 นะคะอันต่อมาคือการทานอาหารที่ดีกับโรค
00:14:41 → 00:14:45 ความดันนะคะอันนี้คือการรักษาที่ไม่ใช้ยา
00:14:45 → 00:14:47 นะคะนอกจากนั้นการออกกำลังกายใช่การออก
00:14:47 → 00:14:50 กำลังกายอีกอันนึงนะคะก็ช่วยลดความดันได้
00:14:50 → 00:14:53 นะคะอันต่อมาก็คือการรักษาที่ใช้ยานะคะยา
00:14:53 → 00:14:56 เนี่ยมันมีหลายกลุ่มมากนะคะซึ่งแต่ละ
00:14:56 → 00:14:58 กลุ่มก็เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนก็อันนี้
00:14:58 → 00:15:01 ต้องให้แพทย์เป็นผู้เลือกใช้นะคะแล้วก็
00:15:01 → 00:15:04 อันสุดท้ายค่ะก็เป็นวิธีใหม่นะคะวิธีที่
00:15:04 → 00:15:06 ว่าเนี่ยคือการคล้ายๆจี้ไฟฟ้าที่เส้น
00:15:06 → 00:15:09 เลือกที่ไตนะคะจะใช้ในคนที่เราให้ยาความ
00:15:09 → 00:15:12 ดันปริมาณมากและคลุมไม่ได้นะคะหรือว่าไม่
00:15:12 → 00:15:15 สามารถทานยาความดันได้ด้วยผลข้างเคียงของ
00:15:15 → 00:15:18 ยานะคะหรือว่าอาจจะใช้ในบางคนจริงๆที่ไม่
00:15:18 → 00:15:22 อยากทานยานะคะแล้วผู้ที่เป็นความดันโลหิต
00:15:22 → 00:15:25 สูงค่ะควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไหนบ้างคะ
00:15:25 → 00:15:28 หลักๆหนึก็คือว่าต้องพยายามเลี่ยงเกลือ
00:15:28 → 00:15:29 หรือว่าโซ
00:15:29 → 00:15:32 นะคะเอ่ออาหารที่มีโซเดียมอยู่สูงเนี่ย
00:15:32 → 00:15:35 มักจะเป็นอาหารพวกอาหารสำเร็จรูปนะคะดัง
00:15:35 → 00:15:37 นั้นเราจะแนะนำให้คนไข้เนี่ยเลี่ยงอาหาร
00:15:37 → 00:15:40 ที่ทำมาสำเร็จรูปนะคะเช่นพวกอาหารกระป๋อง
00:15:40 → 00:15:43 อาหารที่แช่แข็งอาหารซองๆหรือพวกขนมถุงๆ
00:15:43 → 00:15:47 ซองๆนะคะอันต่อมาเนี่ยพยายามเลี่ยงพวกซอส
00:15:47 → 00:15:50 พวกซอสพริกซอสมะเขือเทศนะคะพวกน้ำปลา
00:15:50 → 00:15:53 เงี้ยต้องเลี่ยงนะคะต่อมาก็คืออาหารที่
00:15:53 → 00:15:55 เป็นคล้ายๆอาหาร process Food อ่ะค่ะจะ
00:15:55 → 00:15:57 เป็นพวกแฮมไส้กรอกพวกเยค่ะอาจจะต้อง
00:15:57 → 00:16:00 เรี่ยงเหมือนกันนะคะนอกจากนั้นพวกอาหารใน
00:16:00 → 00:16:03 ร้านอาหารเขาก็จะแนะนำว่าอย่าทานอาหารใน
00:16:03 → 00:16:06 ร้านอาหารเยอะให้พยายามประกอบอาหารเองนะ
00:16:06 → 00:16:09 คะก็จะได้ลดเอ่อโซเดียมลงนะคะหรือว่าเวลา
00:16:09 → 00:16:12 เราทานเนี่ยถ้าไปดูฉลากข้างหลังค่ะจริงๆ
00:16:12 → 00:16:14 ปัจจุบันพวกฉลากของอาหารเนี่ยมันจะมีการ
00:16:14 → 00:16:17 เขียนปริมาณโซเดียมอยู่นะคะเนาะอันนี้คือ
00:16:17 → 00:16:20 อาหารที่ควรจะต้องเลี่ยงนะคะจริงๆต่อมา
00:16:20 → 00:16:22 เนี่ยมันมีอาหารที่ดีกับโรคความดันด้วยนะ
00:16:22 → 00:16:25 คะนะคะเขาจะเรียกว่า Dash Diet เป็น
00:16:25 → 00:16:28 อาหารที่ดีต่อความดันมันจะเป็นกลุ่มอาหาร
00:16:28 → 00:16:30 กลุ่มที่ว่าเนี่ยก็คือเป็นกลุ่มที่ประกอบ
00:16:30 → 00:16:35 ไปด้วยเน้นผักผลไม้นะคะเน้นปลาสัตว์ปีกนะ
00:16:35 → 00:16:37 คะแล้วก็พยายามเลี่ยงพวกเนื้อแดงหรือว่า
00:16:37 → 00:16:40 พวกของหวานนะคะเอ่อเน้นพวกถั่วที่ไม่ใส่
00:16:40 → 00:16:43 เกลือนะคะพวกเนี้ยก็จะสามารถทำให้ความดัน
00:16:43 → 00:16:47 ลงได้ค่ะทำอย่างไรค่ะอาจารย์เพื่อที่จะ
00:16:47 → 00:16:51 ป้องกันไม่ให้เป็นโรคความดันโลหิตสูงควบ
00:16:51 → 00:16:54 คุมอาหารก็คือเลือกอาหารที่ดีต่อโรคความ
00:16:54 → 00:16:57 ดันนะคะหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นพวก process
00:16:57 → 00:16:59 Food หรืออาหารที่มีการเติมกเรือนะคะ
00:16:59 → 00:17:02 อาหารสำเร็จรูปนะคะพยายามออกกำลังกายเป็น
00:17:02 → 00:17:06 ประจำนะคะพักผ่อนให้พอนะคะต้องอย่าเครียด
00:17:06 → 00:17:10 มากนะคะแล้วก็พยายามวัดความดันสม่ำเสมอนะ
00:17:10 → 00:17:12 คะถ้าเรามีความเสี่ยงพยายามวัดความดัน
00:17:12 → 00:17:15 สม่ำเสมอนะคะแล้วก็ถ้ามันมีความดันสูงก็
00:17:15 → 00:17:18 ผกแพทย์เพื่อรักษาค่ะขอบพระคุณอาจารย์ที่
00:17:18 → 00:17:20 มาให้ความรู้ความเข้าใจนะคะในเรื่องของ
00:17:20 → 00:17:23 โรคความดันโลหิตสูงค่ะและในช่วงนี้นะคะ
00:17:23 → 00:17:27 เราจะไปรู้จักกับ 9 สมุนไพรใกล้ตัวที่
00:17:27 → 00:17:30 ช่วยลดความดันโลหิตสูงกันค่ะไปชมพร้อมๆ
00:17:30 → 00:17:34 กัน 1 กระเทียมสดมีขนาดหัวเล็กมีฤทธิ์ลด
00:17:35 → 00:17:37 ไขมันในหลอดเลือดเพิ่มการไหลเวียนเลือด
00:17:37 → 00:17:41 ขยายหลอดเลือดเพิ่ม hdl ลด ldl แต่หากผู้
00:17:41 → 00:17:44 ป่วยรับประทานยาลดอาการแข็งตัวของเลือด
00:17:44 → 00:17:47 อยู่ให้ระวังการรับประทานกระเทียมเพราะจะ
00:17:47 → 00:17:51 ทำให้เลือดหยุดไหลยากขึ้นใบกระเพราค่ะใบ
00:17:51 → 00:17:53 กระเพราคุณผู้ชมอาจจะนึกไม่ถึงนะคะว่า
00:17:53 → 00:17:56 ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้โดยที่ใบกะเพรา
00:17:56 → 00:17:59 นั้นนะคะสามารถนำมาประกอบอาหารได้ได้นอก
00:17:59 → 00:18:02 จากนี้แล้วค่ะใบกะเพรานะคะถ้านำมาตากแห้ง
00:18:02 → 00:18:06 และนำมาชงเป็นชาก็จะมีคุณสมบัติในการช่วย
00:18:06 → 00:18:09 ลดความดันโลหิตสูงได้เช่นเดียวกันค่ะ 3
00:18:09 → 00:18:11 ขิงจะเพิ่มการไหลเวียนของเลือดเหมือนกับ
00:18:11 → 00:18:14 การรับประทานยาลดความดันค่ะซึ่งมีผลลด
00:18:14 → 00:18:17 ความดันโลหิตและช่วยลดอาการปวดเมื่อยปวด
00:18:17 → 00:18:19 ข้อคนที่เป็นนิ่้วให้ระวังการรับประทาน
00:18:19 → 00:18:23 ขิงเพราะจะบีบนิ่วออกมาจากถุงน้ำดีทำให้
00:18:23 → 00:18:26 ปวดท้องและผู้ป่วยที่รับประทานยาลดอาการ
00:18:26 → 00:18:28 แข็งตัวของหลอดเลือดอยู่ไม่แนะนำให้รับ
00:18:28 → 00:18:31 ประทานขิงเช่นเดียวกับกระเทียมหรือถ้าหาก
00:18:31 → 00:18:34 จะรับประทานต้องระวังเป็นพิเศษนะคะ 4
00:18:34 → 00:18:37 กระเจี๊ยบแดงมีแร่ธาตุและวิตามินจะใช้
00:18:37 → 00:18:40 กลีบเลี้ยงหรือดอกที่มีสีแดงต้มน้ำดื่มมี
00:18:41 → 00:18:43 ฤทธิ์ขับปัสสาวะและกรดยูริกค่ะเพื่อลด
00:18:43 → 00:18:46 ความดันโลหิตหากผู้ป่วยเป็นโรคไต่ให้
00:18:46 → 00:18:48 ระวังการกินกระเจี๊ยบด้วยเพราะจะมี
00:18:48 → 00:18:52 โพแทสเซียมสูง 5 ขึ้นช่ายมีฤทธิ์เย็นช่วย
00:18:52 → 00:18:55 ขับปัสสาวะลดบวมลดความดันต้านการอักเสบ
00:18:56 → 00:19:00 ได้รับประทานง่ายๆวันละ 4 ต้น 6 ใบบัวบก
00:19:00 → 00:19:02 มีฤทธิ์เย็นบำรุงหลอดเลือดช่วยลดอาการ
00:19:02 → 00:19:05 อักเสบเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปบำรุงสมอง
00:19:05 → 00:19:09 แก้ค่ายแก้ร้อนในบำรุงหัวใจบำรุงสมองฟื้น
00:19:09 → 00:19:11 ฟูสุขภาพสามารถนำไปใช้ทำเครื่องสำอาง
00:19:11 → 00:19:14 บำรุงผิวได้เป็นอย่างดีเช่นกันค่ะเพื่อลด
00:19:14 → 00:19:18 การเกิดการแพ้ของผิวรดริ้วรอยบำรุงผิวได้
00:19:18 → 00:19:21 และยังรับประทานใบสดแกล้มน้ำพริกหรือจะ
00:19:21 → 00:19:25 คันน้ำดื่มเป็นประจำก็ได้ 7 มะรุมใบและ
00:19:25 → 00:19:27 รากช่วยลดความดันโลหิตสูงช่วยต้านการ
00:19:27 → 00:19:31 อักเสบต้านมะเร็งลดไขมันป้องกันตับอักเสบ
00:19:31 → 00:19:34 ป้องกันแผลในกระเพาะอาหารลดน้ำตาลในเลือด
00:19:34 → 00:19:38 วิธีการรับประทานนำใบและรากมาต่ำและบีบ
00:19:38 → 00:19:41 น้ำรับประทานผสมกับน้ำผึ้งวันละ 2 ครั้ง
00:19:41 → 00:19:44 ห้ามใช้ในกลุ่มผู้ป่วยตั้งรและผู้ป่วยตับ
00:19:44 → 00:19:47 อักเสบผู้ป่วยที่มีค่าตับผิดปกตินะคะและ
00:19:47 → 00:19:51 ผู้ป่วยที่มีการเต้นของหัวใจผิดปกติ 8
00:19:51 → 00:19:54 ตะไคร้มีสรรพคุณในการขับปัสสาวะขับลมและ
00:19:54 → 00:19:57 ยังช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วยส่วนกลิ่น
00:19:57 → 00:20:00 จากน้ำมันหอมระเหิดยังช่วยบรเทาอาการปวด
00:20:00 → 00:20:03 ศีรษะที่เกิดจากความเครียดได้สามารถจะนำ
00:20:03 → 00:20:06 มาต้มเป็นชาสมุนไพรลดความดัน 9 มะกรูด
00:20:07 → 00:20:09 เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาช่วยลดความ
00:20:09 → 00:20:12 ดันโลหิตสูงและยังช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย
00:20:12 → 00:20:15 นอกจากนี้ยังนิยมนำใบและน้ำของผลมะกรูดมา
00:20:15 → 00:20:18 ใช้ในการประกอบเมนูอาหารไทยได้หลายชนิด
00:20:18 → 00:20:21 นอกจากนี้นะคะหมอดาวยังมีวิธีการลดความ
00:20:21 → 00:20:24 ดันโลหิตแบบธรรมชาติมาฝากคุณผู้ชมกันด้วย
00:20:24 → 00:20:28 ค่ะ 1 ลดน้ำหนักส่วนเกินและลดรอบเอวการลด
00:20:28 → 00:20:31 น้ำหนักส่งผลให้ระดับความดันโลหิตลดลงได้
00:20:31 → 00:20:34 โดยน้ำหนักที่ลดลงทุกๆ 10 กกจะช่วยลดความ
00:20:34 → 00:20:39 ดันโลหิตตัวบนเฉลี่ย 5-20 มมตลอด 2 ออก
00:20:39 → 00:20:43 กำลังกายสม่ำเสมอการออกกำลังกายวันละ 30
00:20:43 → 00:20:45 นาทีสัปดาห์ละ 5 วันสามารถช่วยลดระดับ
00:20:45 → 00:20:49 ความดันโลหิตได้ถึงประมาณ 5-8 มมตลอดลด
00:20:49 → 00:20:52 การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยโซเดียมค่ะ
00:20:52 → 00:20:55 คุณผู้ชมโซเดียมนะคะอยู่ในอาหารต่างๆไม่
00:20:55 → 00:20:57 ว่าจะเป็นอาหารที่มีรสชาติเค็มหรือแม้
00:20:57 → 00:20:59 กระทั่งอาหารที่ที่เป็นเบเกอรี่ก็คือเป็น
00:20:59 → 00:21:03 โซเดียมหวานสำหรับโซเดียมนะคะในคนทั่วๆไป
00:21:03 → 00:21:06 นั้นไม่ควรรับประทานเกิน 2,300 มกรค่ะใน
00:21:06 → 00:21:09 ขณะที่ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง
00:21:09 → 00:21:11 จะต้องรับประทานโซเดียมให้น้อยกว่านั้นก็
00:21:11 → 00:21:15 คือน้อยกว่า 1,500 มกรต่อวันค่ะ 4 ดื่ม
00:21:15 → 00:21:18 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่พอดีแค่ดื่มแต่พอ
00:21:18 → 00:21:21 ดีก็ช่วยลดระดับความดันโลหิตได้ประมาณ 4
00:21:21 → 00:21:24 มมปรอดโดยผู้หญิงไม่ควรดื่มเกินวันละ 1
00:21:24 → 00:21:27 ดื่มมาตรฐานส่วนคุณผู้ชายไม่ควรดื่มเกิน
00:21:27 → 00:21:30 วันละ 2 ดื่มมาตรฐานโดย 1 ดื่มมาตรฐาน
00:21:30 → 00:21:36 เท่ากับเบียร์ประมาณ 350 มล Y 150 มล
00:21:36 → 00:21:38 หรือเครื่องดื่มที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ร้อย
00:21:38 → 00:21:43 ละ 40 ประมาณ 45 มลการสูบบุหรี่ในแต่ละ
00:21:43 → 00:21:46 ครั้งทำให้ความดัดโลหิตสูงขึ้นอย่างต่อ
00:21:46 → 00:21:49 เนื่องและจากการศึกษาที่ผ่านมาคนที่เลิก
00:21:49 → 00:21:53 บุหรี่มักมีอายุยืนกว่าคนที่สูบบุหรี่ค่ะ
00:21:53 → 00:21:56 6 ลดความเครียดเพราะฮอร์โมนความเครียด
00:21:56 → 00:21:59 ส่งผลให้หลอดเลือดหดตัวแคบลงและอาจทำให้
00:22:00 → 00:22:03 ความดันโลหิตสูงขึ้นชั่วคราวได้เป็นอย่าง
00:22:03 → 00:22:07 ไรกันบ้างคะกับสาระสุขภาพดีๆที่ TNN hth
00:22:07 → 00:22:10 นำมาฝากคุณผู้ชมกันในวันนี้หวังเป็นอย่าง
00:22:10 → 00:22:13 ยิ่งว่าคุณผู้ชมจะสามารถนำสาระสุขภาพดีๆ
00:22:13 → 00:22:16 ที่ได้นะคะไปดูแลตัวเองและครอบครัวให้
00:22:16 → 00:22:19 แข็งแรงปลอดภัยจากโรคร้ายกันค่ะและขอบคุณ
00:22:19 → 00:22:22 คุณผู้ชมนะคะที่ติดตามรับชมรายการ TNN
00:22:22 → 00:22:25 Health มาตลอดทั้งรายการคุณผู้ชมสามารถ
00:22:25 → 00:22:28 ติดตามรับชมรายการ TNN Health ค่ะเป็น
00:22:28 → 00:22:32 ประจำนะคะทุกวันเสาร์ค่ะเวลาดี 15 น-
00:22:32 → 00:22:37 15:30 นที่นี่ TNN ช่อง 16 ที่สำคัญค่ะ
00:22:37 → 00:22:40 ต้องไม่ลืมค่ะกดไลค์กดแชร์กด Subscribe
00:22:40 → 00:22:43 นะคะกดกระดิ่งติดตามด้วยเพื่อเป็นกำลังใจ
00:22:43 → 00:22:46 ให้หมอดาและทีมงาน TNN Health ในช่องทาง
00:22:46 → 00:22:48 โซเชียล Network ต่างๆไม่ว่าจะเป็น
00:22:49 → 00:22:51 YouTube tiktok Facebook Instagram
00:22:51 → 00:22:54 และ LINE official เพื่อที่จะเข้าถึงทุก
00:22:54 → 00:22:57 สาระสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้ทันโรคแล้ว
00:22:57 → 00:23:00 วันนี้นะคะหมอดาวและทีมงาน TE Health
00:23:00 → 00:23:03 ต้องขอตัวลาคุณผู้ชมไปก่อนสำหรับวันนี้
00:23:03 → 00:23:05 สวัสดีค่ะ
00:23:05 → 00:23:28 [เพลง]
00:23:28 → 00:23:31 เ