00:00:00 → 00:00:02 มีใครกำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่บ้างคะ

00:00:02 → 00:00:06 ออกกำลังกายแทบตายคุมอาหารแทบตายแต่ทำไม

00:00:06 → 00:00:10 น้ำหนักไม่ลงต่อหรือบางคนน้ำหนักเพิ่ม

00:00:10 → 00:00:13 ขึ้นด้วยซ้ำอย่าเพิ่งกังวลไปค่ะมาฟังคลิป

00:00:13 → 00:00:16 นี้กันนะคะสวัสดีค่ะหมอเมย์ May I help

00:00:16 → 00:00:19 you นะคะคงมีบางคนค่ะที่กำลังนอยอยู่

00:00:19 → 00:00:23 แล้วว่าฉันลดน้ำหนักแทบตายออกกำลังกายแทบ

00:00:23 → 00:00:26 ตายคุมอาหารก็แล้วไม่ว่าจะเป็นการลดข้าว

00:00:26 → 00:00:30 ลดแป้งลดน้ำตาลงดของหวานต่างๆหรือแม้

00:00:30 → 00:00:34 กระทั่งพยายามทานโปรตีนเข้าไปทำไมทำไมน้ำ

00:00:34 → 00:00:38 หนักของหนูถึงไม่ลดต่อสำหรับยังจะเพิ่ม

00:00:38 → 00:00:40 ขึ้นมาด้วยค่ะคุณหมอหนูจะทำยังไงดีหนู

00:00:40 → 00:00:43 ต้องกังวลหรือเปล่าอย่าเพิ่งกังวลไปนะคะ

00:00:43 → 00:00:46 มาฟังคลิปนี้กันก่อนเพราะว่าการลดน้ำหนัก

00:00:46 → 00:00:49 ของเราเนี่ยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของน้ำ

00:00:49 → 00:00:53 หนักใน 3 ส่วนด้วยกันค่ะอันแรกนะคะคือน้ำ

00:00:53 → 00:00:56 หนักของน้ำค่ะอย่างที่ 2 คือน้ำหนักของไข

00:00:56 → 00:00:59 มันอย่างที่ 3 คือน้ำหนักของกล้ามเนื้อ

00:00:59 → 00:01:02 นั่นเองค่ะซึ่งในคนแต่ละคนเนี่ยก็จะมีสัด

00:01:02 → 00:01:05 ส่วนของทั้ง 3 อย่างนี้แตกต่างกันไปค่ะ

00:01:05 → 00:01:09 ลองนึกภาพง่ายๆนะคะในคนที่น้ำหนักประมาณ

00:01:09 → 00:01:12 90 กิโลกรัมค่ะจะมีคนอยู่ 2 กลุ่มค่ะ

00:01:12 → 00:01:17 กลุ่มแรกคือคนที่เป็น 90 กิโลแบบอวบๆอ้วน

00:01:17 → 00:01:20 ๆรู้สึกนุ่มนิ่มหนุบหนับไปหมดเลยนั่นก็ 90

00:01:21 → 00:01:24 กิโลเหมือนกันในขณะที่อีกกลุ่มนึงค่ะเป็น

00:01:24 → 00:01:28 90 กิโลแบบกล้ามเนื้อลิ่มๆแน่นๆเป็นนัก

00:01:28 → 00:01:32 กล้ามนั่นก็ 90 กิโลเหมือนกันนะดังนั้นจะ

00:01:32 → 00:01:35 เห็นได้ว่าตัวเลขบนตาชั่งหรือแม้กระทั่ง

00:01:35 → 00:01:39 BMI อาจจะไม่ได้บอกถึงความสำเร็จในการลด

00:01:39 → 00:01:42 น้ำหนักเพียงอย่างเดียวเสมอไปค่ะเราต้อง

00:01:42 → 00:01:46 ดูอย่างอื่นประกอบกันด้วยแต่ทำไมคน 2

00:01:46 → 00:01:49 กลุ่มนี้ถึงมีน้ำหนักที่เท่ากันแต่รูป

00:01:49 → 00:01:53 ร่างหน้าตาต่างกันได้ขนาดนี้นั่นเกิดจาก

00:01:53 → 00:01:56 การที่น้ำหนักของไขมันและน้ำหนักของกล้าม

00:01:56 → 00:01:59 เนื้อนั้นไม่เท่ากันนั่นเองค่ะอันดับแรก

00:01:59 → 00:02:03 เลยเลยคือน้ำหนักของไขมันค่ะน้ำหนักของไข

00:02:03 → 00:02:06 มันกลับน้ำหนักของกล้ามเนื้อถ้าเรามองใน

00:02:06 → 00:02:10 น้ำหนักที่เท่ากันนะคะไขมันจะกินพื้นที่

00:02:10 → 00:02:14 ในปริมาณที่เยอะกว่ากล้ามเนื้อค่ะทำให้คน

00:02:14 → 00:02:17 ที่มีไขมันเยอะจะมีรูปร่างที่อวบอ้วนมาก

00:02:17 → 00:02:20 กว่าคนที่มีกล้ามเนื้อเยอะนั่นเองค่ะซึ่ง

00:02:20 → 00:02:23 กล้ามเนื้อเนี่ยนอกจากจะใช้พื้นที่น้อย

00:02:23 → 00:02:26 กว่าแล้วนะคะเขายังเป็นเตาเผาที่สำคัญของ

00:02:26 → 00:02:30 ร่างกายเราได้อีกด้วยพูดแบบนี้หลายๆท่าน

00:02:30 → 00:02:33 อาจจะนึกภาพลำบากลองนึกง่ายๆเหมือนเวลา

00:02:33 → 00:02:36 เราไปซื้อหมูที่ตลาดค่ะเราสั่งเนื้อหมู

00:02:36 → 00:02:40 เขา 1 กิโลระหว่างเนื้อหมูไม่ติดมันกับ

00:02:40 → 00:02:43 เนื้อหมูติดมันเราจะได้ปริมาณอันไหนมาก

00:02:43 → 00:02:46 กว่ากันคะแน่นอนค่ะหลายคนรู้คำตอบอยู่

00:02:46 → 00:02:50 แล้วเราจะได้ปริมาณของเนื้อหมูติดมันมาก

00:02:50 → 00:02:53 กว่าเนื้อหมูไม่ติดมันนั่นเองค่ะซึ่ง

00:02:53 → 00:02:56 ปริมาณที่เพิ่มขึ้นมานั่นคือปริมาณของไข

00:02:56 → 00:03:00 มันที่มีขนาดใหญ่กว่านั่นเองค่ะเอาค่ะเรา

00:03:00 → 00:03:04 มาดูกันที่ความหมายของน้ำหนักในแต่ละส่วน

00:03:04 → 00:03:07 นะคะส่วนแรกคือน้ำหนักจากน้ำค่ะน้ำหนัก

00:03:07 → 00:03:10 จากน้ำเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในช่วงเวลา

00:03:10 → 00:03:14 ของวันมากที่สุดเลยค่ะเพราะมันเกิดผล

00:03:14 → 00:03:16 กระทบได้จากหลายๆอย่างค่ะไม่ว่าจะเป็นการ

00:03:16 → 00:03:20 ดื่มน้ำการกินเกลือที่เยอะเกินไปหรือแม้

00:03:20 → 00:03:23 กระทั่งการออกกำลังกายที่ทำให้เรามีการ

00:03:23 → 00:03:26 เสียเหงื่อนั่นก็ทำให้น้ำหนักน้ำในร่าง

00:03:26 → 00:03:28 กายของเราเกิดการเปลี่ยนแปลงนั่นเองค่ะ

00:03:28 → 00:03:31 จึงทำให้การชั่งน้ำหนักในช่วงเช้าของวัน

00:03:31 → 00:03:35 และการชั่งน้ำหนักในช่วงก่อนนอนจึงมีค่า

00:03:35 → 00:03:38 ที่คลาดเคลื่อนไม่เท่ากันนั่นเองไม่ต้อง

00:03:38 → 00:03:41 แปลกใจนะคะในกลุ่มถัดไปค่ะข้อที่ 2 น้ำ

00:03:42 → 00:03:45 หนักของไขมันค่ะเวลาเราเริ่มลดน้ำหนักแรก

00:03:45 → 00:03:48 ๆหรือมีการออกกำลังกายหนักๆคุมอาหารดีๆจะ

00:03:48 → 00:03:51 เกิดการเผาผลาญไขมันมีการใช้มวลน้ำออกไป

00:03:51 → 00:03:55 จึงทำให้น้ำหนักเราลดลงได้อย่างรวดเร็วใน

00:03:55 → 00:03:57 ช่วงแรกนั่นคือน้ำหนักของน้ำและไขมันนั่น

00:03:57 → 00:04:01 เองค่ะแต่จะสังเกตว่าว่าพอเราตั้งใจลดน้ำ

00:04:01 → 00:04:03 หนักไปเรื่อยๆน้ำหนักเราจะเริ่มคงที่ค่ะ

00:04:03 → 00:04:07 เพราะว่าปริมาณไขมันของเราถูกแทนที่ด้วย

00:04:07 → 00:04:11 กล้ามเนื้อนั่นเองค่ะจึงมาสู่ข้อที่ 3 นะ

00:04:11 → 00:04:14 คะมวลของกล้ามเนื้อค่ะมวลของกล้ามเนื้อ

00:04:14 → 00:04:16 เป็นสิ่งที่สำคัญมากเลยค่ะซึ่งเป็นสิ่ง

00:04:16 → 00:04:19 ที่หมออยากจะให้ทุกคนพยายามเพิ่มมวลของ

00:04:19 → 00:04:22 กล้ามเนื้อกันนะเพราะว่าอะไรมวลของกล้าม

00:04:22 → 00:04:25 เนื้อนอกจากเขาจะกินเนื้อที่น้อยกว่ามวล

00:04:25 → 00:04:29 ของไขมันแล้วเขายังเป็นเตาเผาที่สำคัญที่

00:04:29 → 00:04:31 จะทำให้ร่างกายของเรามีการเผาผลาญพลังงาน

00:04:31 → 00:04:34 อยู่ตลอดเวลาแม้จะเป็นในช่วงที่เรานั่ง

00:04:34 → 00:04:37 อยู่กับที่ไม่ได้ใช้แรงไม่ได้ออกกำลังก็

00:04:37 → 00:04:40 ตามจึงจะทำให้การลดน้ำหนักของเรามันยั่ง

00:04:40 → 00:04:43 ยืนนั่นเองค่ะซึ่งการเพิ่มมวลของกล้าม

00:04:43 → 00:04:46 เนื้อนี้นะคะสามารถทำได้โดยการออกกำลัง

00:04:46 → 00:04:49 กายเวทเทรนนิ่งร่วมกับการรับประทานโปรตีน

00:04:49 → 00:04:53 ในปริมาณที่เหมาะสมนั่นเองค่ะมวลของกล้าม

00:04:53 → 00:04:57 เนื้อจะมีน้ำหนักมากกว่ามวลของไขมันจึง

00:04:57 → 00:05:00 ไม่น่าแปลกใจค่ะในคนที่ออกกำลังกายมาได้

00:05:00 → 00:05:03 ซักระยะหนึ่งร่วมกับการทานอาหารที่เหมาะ

00:05:03 → 00:05:06 สมทานโปรตีนที่พอเหมาะจึงทำให้มีน้ำหนัก

00:05:06 → 00:05:10 ที่เพิ่มขึ้นจากมวลของกล้ามเนื้อที่เพิ่ม

00:05:10 → 00:05:13 ขึ้นนั่นเองค่ะดังนั้นเพื่อนๆทุกคนอย่าตก

00:05:13 → 00:05:16 ใจไปนะคะที่การออกกำลังกายของเราน้ำหนัก

00:05:16 → 00:05:19 เราเริ่มไม่ลงต่อแต่สัดส่วนเราเริ่มดี

00:05:19 → 00:05:23 ขึ้นอย่าเพ่งไปที่ตัวเลขน้ำหนักบนตาชั่ง

00:05:23 → 00:05:26 เพียงอย่างเดียวนะคะอยากจะให้มองถึงอย่าง

00:05:26 → 00:05:28 อื่นด้วยไม่ว่าจะเป็นทั้งสัดส่วนความ

00:05:28 → 00:05:31 กระชับหรือความแข็งแรงความทนในการออก

00:05:31 → 00:05:34 กำลังกายของเรานั่นก็เป็นสิ่งดีที่เราได้

00:05:34 → 00:05:37 จากการออกกำลังเช่นกันค่ะแต่นี่ก็เป็น

00:05:37 → 00:05:40 เพียงแค่ 1 ในอีกหลายๆสาเหตุนะคะที่เป็น

00:05:40 → 00:05:43 สาเหตุที่ทำให้เราเข้าสู่ช่วง pato Phase

00:05:43 → 00:05:46 หรือช่วงที่น้ำหนักของเราค้างหลังจากการ

00:05:46 → 00:05:49 ลดน้ำหนักเดี๋ยวในคลิปถัดๆไปหมอจะมาพูด

00:05:49 → 00:05:53 ถึงสาเหตุอื่นๆที่ทำให้เราลดน้ำหนักต่อ

00:05:53 → 00:05:57 ไม่ลงนั่นเองค่ะถ้าเพื่อนๆคนไหนนะคะชอบ

00:05:57 → 00:06:00 เนื้อหาสาระดีๆเข้าใจง่ายๆแบบแบบนี้อย่า

00:06:00 → 00:06:02 ลืมกด like กด Share กด Subscribe และ

00:06:02 → 00:06:04 อย่าลืมกดกระดิ่งกรุ๊งกริ๊งเอาไว้จะได้

00:06:04 → 00:06:08 ไม่พลาดเรื่องราวดีๆจากหมอนะคะ