00:00:06 → 00:00:08 สวัสดีครับผมหมอประเวศเป็นจิตแพทย์ครับ
00:00:08 → 00:00:11 เราพบกันทุกคืนวันอาทิตย์เวลา 2 ทุ่ม
00:00:11 → 00:00:15 สำหรับวันอาทิตย์นี้วันที่ 9 เมษายน
00:00:15 → 00:00:18 พุทธศักราช 2566
00:00:18 → 00:00:23 เรามีนัดกันในหัวข้อค้นหาแรงบันดาลใจใน
00:00:23 → 00:00:26 วันที่หมดกำลังใจ
00:00:26 → 00:00:31 หัวข้อนี้เป็นข้อเสนอจากสมาชิกในรอบที่
00:00:31 → 00:00:34 แล้วนะครับปรับหัวข้อเล็กน้อยนะครับให้
00:00:34 → 00:00:36 มันมีจุดโฟกัสให้ชัดขึ้น
00:00:36 → 00:00:40 ผมอยากจะเริ่มต้นว่าชีวิตคนเรามันจะต้อง
00:00:40 → 00:00:43 เจอปัญหาทุกๆคนต้องเจอนะครับแล้วก็จะมี
00:00:43 → 00:00:48 บางปัญหาที่เป็นระดับที่เข้มข้นรุนแรงก่อ
00:00:48 → 00:00:50 วิกฤตในชีวิตได้
00:00:50 → 00:00:53 คำว่าวิกฤตหมายถึงว่าปัญหานั้นมันใหญ่
00:00:53 → 00:00:57 เกินกว่าความสามารถและทรัพยากรที่เรามีจะ
00:00:57 → 00:00:59 เข้าไปจัดการได้
00:00:59 → 00:01:02 เราจึงจำเป็นต้องหาวิธีอื่น
00:01:02 → 00:01:05 มีแหล่งช่วยเหลืออื่นเข้ามาช่วยแก้ปัญหา
00:01:05 → 00:01:06 นั้นนะครับ
00:01:06 → 00:01:11 ซึ่งในกรณีของการเกิดเจอปัญหาและวิกฤตบาง
00:01:11 → 00:01:14 คนก็จะมีพลังในการต่อสู้กับปัญหาและ
00:01:14 → 00:01:17 อุปสรรคต่างๆได้ดีมากแล้วก็เติบโตจาก
00:01:17 → 00:01:20 ปัญหาและวิกฤตนั้นนะครับซึ่งตรงนี้เราคง
00:01:20 → 00:01:22 คุ้นเคยกันดี
00:01:22 → 00:01:25 แต่บางคนก็อยู่ในสภาวะที่จะท้อใจได้ง่าย
00:01:25 → 00:01:28 ซึ่งการท้อใจได้ง่ายเนี่ยอาจจะเป็นไปได้
00:01:28 → 00:01:31 ว่าโจทก์ที่เข้ามากระทบมันไปที่จุดอ่อน
00:01:31 → 00:01:35 ของเขาพอดีนะครับ
00:01:35 → 00:01:38 การที่คนเราจะท้อใจเนี่ยก็จะเกิดจาก
00:01:38 → 00:01:41 ปัจจัยภายนอกเช่นลักษณะของปัญหา
00:01:41 → 00:01:44 หรือปัจจัยภายในคือความเป็นตัวคนๆนั้น
00:01:45 → 00:01:48 ซึ่งรวมถึงปมจากอดีตที่เขาอาจจะมีนะครับ
00:01:48 → 00:01:51 เช่นในบางคนถ้าเป็นปัญหาในที่ทำงานเขาจะ
00:01:51 → 00:01:53 ไม่มีปัญหาอะไรเลยเขาจะจัดการได้เขาจะสู้
00:01:53 → 00:01:56 ได้ดีนะครับแต่พอเป็นปัญหาความรักนี่มัน
00:01:56 → 00:01:59 จะกระแทกใจเขาแรงเพราะมันเป็นจุดอ่อน
00:01:59 → 00:02:01 ประจำตัวนะครับ
00:02:01 → 00:02:04 แล้วก็จะมีบางคนครับที่มักจะเจอปัญหาซ้ำ
00:02:04 → 00:02:09 ซากซึ่งกรณีนี้ปัญหาที่ซ้ำซากแล้วแก้ไม่
00:02:09 → 00:02:12 จบแล้วก็ยังเกิดซ้ำๆเนี่ยหลายครั้งมัน
00:02:12 → 00:02:15 เกิดจากวิธีแก้ปัญหาของคนๆนั้นที่ทำให้
00:02:15 → 00:02:18 เขารู้สึกว่ามันแก้ยังไงก็ไม่จบแล้วก็มี
00:02:18 → 00:02:22 บางคนครับที่อยู่ในช่วงชะตาชีวิตดวงไม่
00:02:22 → 00:02:25 ค่อยดีนะครับก็จะมีปัญหาซ้ำเติม
00:02:25 → 00:02:28 รุกเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนอาจจะเกิดความ
00:02:28 → 00:02:31 รู้สึกท้อและหมดกำลังใจได้นะครับ
00:02:31 → 00:02:34 หัวข้อวันนี้เนี่ยที่พูดถึงการค้นหาแรง
00:02:34 → 00:02:37 บันดาลใจในวันที่หมดกำลังใจเนี่ยมันเป็น
00:02:37 → 00:02:40 หัวข้อที่สื่อความหมายเหมือนเราจะคาดหวัง
00:02:40 → 00:02:45 ว่าแม้ในเวลาที่จิตใจเรากำลังแฟบอยู่เรา
00:02:45 → 00:02:49 อยากจะมีวิธีการในการค้นหาพลังจากข้างใน
00:02:49 → 00:02:50 นะครับ
00:02:50 → 00:02:52 ซึ่งอันนี้ต้องบอกว่าก็เป็นเรื่องยากอยู่
00:02:52 → 00:02:55 เหมือนกันแต่ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติของ
00:02:55 → 00:02:58 กำลังใจของมนุษย์เข้าใจธรรมชาติของแรง
00:02:58 → 00:03:02 บันดาลใจเราก็จะออกแบบเส้นทางเดินออกจาก
00:03:02 → 00:03:06 สภาวะทางจิตใจที่รบอย่างสุดๆคือหมดกำลัง
00:03:06 → 00:03:07 ใจ
00:03:07 → 00:03:10 มาค้นหาคำตอบที่เป็นบวกมากๆเช่นค้นเจอ
00:03:10 → 00:03:13 แหล่งบันดาลใจนะครับ
00:03:13 → 00:03:16 คำถามสำคัญเริ่มต้นก็ต้องอยู่ที่ว่ากำลัง
00:03:16 → 00:03:19 ใจของมนุษย์เราเนี่ยมันเกิดขึ้นจากอะไรนะ
00:03:19 → 00:03:22 ครับการมีเป้าหมายบางอย่างที่เราอยากไป
00:03:22 → 00:03:27 ให้ถึงก็เป็นกำลังใจเป็นแรงบันดาลใจนะ
00:03:27 → 00:03:30 ครับการมองเห็นความเป็นไปได้ที่จะไปให้
00:03:30 → 00:03:32 ถึงเป้าหมายนั้น
00:03:32 → 00:03:35 แม้จะยังมองไม่ออกก็ต้องทำยังไงบ้างแต่
00:03:35 → 00:03:39 เขามีความเชื่อว่าเขาทำได้นะครับตัวนี้ก็
00:03:39 → 00:03:42 มีกำลังใจมีแรงบันดาลใจนะครับ
00:03:42 → 00:03:46 ดังนั้นไอ้ตัวเริ่มต้นก็คือการมีเป้าหมาย
00:03:46 → 00:03:48 นะครับหรือจุดมุ่งหมายก็ได้คำพวกนี้มันจะ
00:03:48 → 00:03:52 ซ้อนๆกันนะครับการมองเห็นเส้นทางเดินหรือ
00:03:52 → 00:03:54 ถ้ามองไม่ชัดอย่างน้อยเรามีความเชื่อมั่น
00:03:54 → 00:03:56 อยู่ภายใน
00:03:56 → 00:04:00 ว่าเราจะเดินไปปรับไปแล้วก็ไปถึงสิ่งที่
00:04:00 → 00:04:03 เราต้องการได้ในบางกรณีก็อาจจะต้องอาศัย
00:04:03 → 00:04:06 แหล่งกำลังใจจากคนรอบตัวนะครับเช่นแม่
00:04:06 → 00:04:10 จำนวนมากก็จะมีกำลังใจจากลูกนะครับคนรัก
00:04:10 → 00:04:13 ก็ให้กำลังใจกันลูกบางคนก็มีกำลังใจจาก
00:04:13 → 00:04:17 พ่อแม่เพื่อนที่เข้าใจกันก็เป็นแหล่ง
00:04:17 → 00:04:20 กำลังใจกันที่ดีนะครับบางคนก็อาศัยผู้
00:04:20 → 00:04:23 เชี่ยวชาญช่วยให้เขาเห็นและเข้าใจโจทย์
00:04:23 → 00:04:26 ของเขาและเห็นวิธีการเดินทางว่าจะไปสู่
00:04:26 → 00:04:29 จุดหมายได้ยังไงกรณีก็เกิดกำลังใจขึ้นมา
00:04:30 → 00:04:31 ได้
00:04:31 → 00:04:36 หรือเขาอาจจะมีแบบอย่างที่เขามีโอกาสรับ
00:04:36 → 00:04:38 รู้และทำให้มีความเชื่อมั่นว่ามันมีความ
00:04:38 → 00:04:42 เป็นไปได้นะครับส่วนผสมของการจะเกิดเป็น
00:04:42 → 00:04:46 กำลังใจให้คนเราฮึดในการสู้มันจึงมีส่วน
00:04:46 → 00:04:49 ผสมหลายอย่างและแต่ละคนเนี่ยสภาวะที่ทำ
00:04:49 → 00:04:52 ให้คนเราหมดกำลังใจก็จะมีตัวกระตุ้นที่ทำ
00:04:52 → 00:04:55 ให้เราตกไปอยู่ตรงจุดนั้นที่แตกต่างกัน
00:04:55 → 00:04:56 ได้นะครับ
00:04:56 → 00:05:00 ในคนที่ไม่มีกำลังใจหมดกำลังใจเนี่ยก็จะ
00:05:00 → 00:05:03 อาจจะอยู่ในสภาวะที่มองไม่เห็นว่าฝั่งมัน
00:05:03 → 00:05:05 อยู่ตรงไหนนะครับเป้าหมายมันอยู่ตรงไหนนะ
00:05:05 → 00:05:07 ครับเขาเรียกว่ามองไม่เห็นฝั่ง
00:05:07 → 00:05:10 หรืออาจจะมองไม่ออกว่าเราจะไปถึงสุดทาง
00:05:10 → 00:05:14 ปลายทางนั้นได้ยังไงและที่สำคัญก็คือเขา
00:05:14 → 00:05:17 ไม่มีความเชื่อมั่นไม่มีความมั่นใจในความ
00:05:17 → 00:05:20 สามารถของตัวเอง
00:05:20 → 00:05:23 หรือเข้าอยู่ในสภาวะที่โดดเดี่ยวไม่มีใคร
00:05:23 → 00:05:27 ทำให้ชีวิตดูเหมือนมันอะไรมันก็ไม่มีความ
00:05:27 → 00:05:28 หมาย
00:05:28 → 00:05:32 ไม่มีแหล่งกำลังใจจากคนรอบตัวนะครับส่วน
00:05:32 → 00:05:37 ผสมไม่เหมือนกันแต่ละคนจึงต้องสังเกตตี
00:05:37 → 00:05:41 โจทย์ของตัวเองและถอดรหัสสำหรับตัวเองที่
00:05:41 → 00:05:43 แตกต่างกันนะครับแนวคิดวันนี้ก็จะเป็นแนว
00:05:43 → 00:05:47 คิดที่เป็นหลักการใหญ่ๆนะครับแต่จะลงราย
00:05:47 → 00:05:49 ละเอียดของตัวอย่างด้วยนะครับโดยหวังว่า
00:05:49 → 00:05:53 จะทำให้ทุกท่านที่ฟังจะได้ข้อคิดกับการ
00:05:53 → 00:05:56 ที่จะเสริมสร้างกำลังใจหรือว่าค้นหาแรง
00:05:56 → 00:05:58 บันดาลใจขึ้นมา
00:05:58 → 00:06:01 สิ่งหนึ่งที่คนหมดกำลังใจมักจะมองไม่เห็น
00:06:01 → 00:06:05 คือเขามักจะไม่เห็นว่าวิธีคิดหรือความ
00:06:05 → 00:06:07 เชื่อหรือไม่เซ็ทของเขาเนี่ย
00:06:07 → 00:06:11 มีส่วนทำให้เขาหมดกำลังใจได้ยังไง
00:06:11 → 00:06:13 เมื่อไม่นานมานี้ผมมีโอกาสคุยกับผู้หญิง
00:06:13 → 00:06:16 วัย 18 ปีคนหนึ่งนะครับเขากำลังอยู่ใน
00:06:16 → 00:06:19 ช่วงของการเตรียมสอบเข้ามาวิทยาลัยออกจาก
00:06:19 → 00:06:21 โรงเรียนประจำเพื่อมาเตรียมตัวสอบเองนะ
00:06:21 → 00:06:24 ครับเนื่องจากปัจจุบันมันมีทางเลือกในการ
00:06:24 → 00:06:27 ไปสอบเทียบอีกระบบหนึ่งแล้วก็ทำให้เข้า
00:06:27 → 00:06:30 มหาวิทยาลัยได้ซึ่งหลายคนก็จะใช้เป็น
00:06:30 → 00:06:34 โอกาสในการข้ามเวลาการเรียนชั้นมปลายออก
00:06:34 → 00:06:36 ไปนะครับในระหว่างที่เขาเตรียมสอบเนี่ย
00:06:36 → 00:06:39 ก่อนหน้านี้นะครับเมื่อหลายเดือนก่อนเขา
00:06:39 → 00:06:42 ก็วางแผนจะต้องทำตนสิ่งนี้ตอนนั้นตอนนี้
00:06:42 → 00:06:44 นะครับเพื่อเตรียมตัวสอบเตรียมตัวทำ
00:06:44 → 00:06:47 portfolio ของตัวเขาเพื่อไปยื่นกรรมการ
00:06:47 → 00:06:50 สอบนะครับแต่ถึงเวลาจริงๆผ่านมาหลายเดือน
00:06:50 → 00:06:52 ก็เพราะว่าเขาไม่สามารถทำได้ตามแผนของเขา
00:06:52 → 00:06:56 นะครับยิ่งใกล้วันสอบก็ยิ่งเครียดแล้วก็
00:06:56 → 00:06:58 เริ่มรู้สึก
00:06:58 → 00:07:01 ตกใจแล้วก็หมดกำลังใจไม่รู้ว่าจะทำยังไง
00:07:01 → 00:07:02 นะครับ
00:07:02 → 00:07:05 เวลาที่เจอสภาวะที่เป็นโจทย์แบบนี้นะครับ
00:07:05 → 00:07:09 ผมจะเริ่มต้นจากการชวนเขาทบทวนสิ่งที่
00:07:09 → 00:07:13 เกิดขึ้นเพื่อทำความเข้าใจกับสถานะที่
00:07:13 → 00:07:16 เป็นอยู่กับความเป็นมาเป็นไปนะครับหลาย
00:07:16 → 00:07:19 ครั้งก็จะพบว่าเวลาที่เราทบทวนเนี่ยเจ้า
00:07:19 → 00:07:22 ตัวก็จะเริ่มเห็นถึงรูปแบบหรืออาการที่ทำ
00:07:22 → 00:07:25 ให้เขามาอยู่ในจุดนี้นะครับอย่างที่เรา
00:07:25 → 00:07:27 มักจะถามตัวเองว่าเรามาอยู่จุดนี้ได้ยัง
00:07:27 → 00:07:30 ไงคำถามแบบนี้บางคนไม่ได้พูดเพื่อเป็นคำ
00:07:30 → 00:07:33 ถามนะครับเขาพูดเพราะความท้อใจ
00:07:33 → 00:07:37 แต่กรณีนี้เนี่ยผมคุยเพื่อให้เขาเห็นตัว
00:07:37 → 00:07:39 เองมากขึ้นนะครับ
00:07:39 → 00:07:42 ก็ทบทวนกันครับเขาก็โดยเหตุผลเขารู้ดีว่า
00:07:42 → 00:07:44 การเตรียมตัวสอบสำคัญมาก
00:07:44 → 00:07:48 แล้วก็สำคัญมากกับอนาคตแต่พอจะลงมือทำเขา
00:07:48 → 00:07:51 เริ่มสังเกตได้จากการพูดคุย
00:07:51 → 00:07:56 นะครับจากการถามของผมนะครับแล้วก็เริ่ม
00:07:56 → 00:07:58 ตระหนักว่าในช่วงเวลาที่ยังมีเวลาอยู่
00:07:58 → 00:08:01 เนี่ยเขาจะพูดกับตัวเองแบบหนึ่งก็คือ ord
00:08:01 → 00:08:04 ตั้งหลายวันกว่าจะถึงเอาไว้ก่อนก็ได้วัน
00:08:04 → 00:08:07 นี้ไปเรียนพิเศษมาแล้วเราพักก่อนละกัน
00:08:07 → 00:08:10 เสร็จแล้วพอถึงใกล้วันสอบเขาก็เริ่ม
00:08:10 → 00:08:11 เครียดมากขึ้นเรื่อยๆ
00:08:11 → 00:08:14 แล้วเขาจะเริ่มรู้ว่าเขานั้นน่าจะทำไม่
00:08:14 → 00:08:17 ทันละมันก็จะมีคำชุดคำพูดอีกชุดนึงวิ่ง
00:08:17 → 00:08:20 เข้ามาก็คือจะไว้เหรอไม่ทันแล้ว
00:08:20 → 00:08:24 ซึ่งทั้งสองชุดคำพูดนี้เนี่ยเขาตระหนักดี
00:08:24 → 00:08:29 ว่ามันเป็นกระบวนการภายในใจของเขาฝ่ายที่
00:08:29 → 00:08:32 ส่งเสียงดังมากตลอดเวลาในระหว่างที่เขา
00:08:32 → 00:08:33 เตรียมตัวสอบ
00:08:33 → 00:08:35 โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงช่วงแรกก็คือยังไม่
00:08:35 → 00:08:38 เป็นไรมีเวลาเหลือเยอะอีกช่วงหนึ่งก็คือ
00:08:38 → 00:08:41 ไม่เหลือเวลาแล้วนะครับตอนมีเวลาเหลือ
00:08:41 → 00:08:43 เยอะทำยังไงไปเล่นโซเชียลมีเดียไปเล่นเกม
00:08:43 → 00:08:46 ตอนไม่เหลือเวลาทำยังไงเครียดมากก็ไปเล่น
00:08:46 → 00:08:49 โซเชียลมีเดียไปเล่นเกม
00:08:49 → 00:08:51 แต่การทบทวนตัวนี้ก็ทำให้เขาเริ่มเห็นว่า
00:08:51 → 00:08:55 เขาเขาคิดยังไงรู้สึกยังไงแล้วเขาทำอะไร
00:08:55 → 00:08:57 แล้วมันเกิดรูปแบบอะไรขึ้นเพราะเขาเห็น
00:08:57 → 00:09:01 ปุ๊บเขาก็ตระหนักครับว่าการดู Social
00:09:01 → 00:09:02 Media การเล่นเกมของเขาเป็นวิธีการหนี
00:09:02 → 00:09:06 ความกดดันความเครียดอย่างหนึ่งโดยมีเสียง
00:09:06 → 00:09:08 ที่คุยกับตัวเองเป็นตัวหลอกล่อให้หนีแรง
00:09:09 → 00:09:12 กดดันโดย 2 ช่วงเวลานั้นเนี่ยใช้เสียงพูด
00:09:12 → 00:09:15 ที่ไม่เหมือนกันผมถามว่าเสียงที่รู้ว่า
00:09:15 → 00:09:18 การสอบเป็นเรื่องดีเป็นเรื่องสำคัญต้อง
00:09:18 → 00:09:19 เตรียมตัว
00:09:19 → 00:09:23 มันพูดว่ายังไงเขาบอกว่าเขาไม่ได้ยิน
00:09:23 → 00:09:25 เสียงนั้นเลยนะครับกรณีนี้ก็เป็นตัวอย่าง
00:09:25 → 00:09:27 ของ
00:09:27 → 00:09:32 สภาวะที่มีอะไรบางอย่างข้างในใจเราพาเรา
00:09:32 → 00:09:34 ไปสู่จุดที่เรารู้สึกตื่นตระหนกหมดกำลัง
00:09:34 → 00:09:39 ใจโดยกลไกภายในจิตใจของเราเองที่คอยหลอก
00:09:39 → 00:09:42 ล่อเราหนีความทุกข์ความเครียดความกดดัน
00:09:42 → 00:09:44 จากการต้องเตรียมตัวสอบ
00:09:44 → 00:09:48 ด้วยการไปเล่นโซเชียลมีเดียเล่นเกมหนี
00:09:48 → 00:09:49 ความรู้สึกที่ไม่ชอบ
00:09:49 → 00:09:53 แต่มันนำไปสู่ปัญหาที่เครียดกดดันแล้วก็
00:09:53 → 00:09:54 ทำให้เขาหนีสิ่งที่เขาไม่ชอบด้วยการไป
00:09:54 → 00:09:56 เล่นโซเชียลมีเดียไปเล่นเกมอีกเหมือนกัน
00:09:56 → 00:10:00 นะครับกรณีทางออกแบบนี้นี่นะครับแน่นอน
00:10:00 → 00:10:04 เวลาที่เหลือน้อยลงเราก็จะต้องดูว่าเราจะ
00:10:04 → 00:10:08 ทำไงให้เธอมีกำลังใจในการสู้ต่อไป
00:10:08 → 00:10:12 ผมจึงถามเธอว่าในชีวิตเธอที่โตมาเนี่ยมัน
00:10:12 → 00:10:14 มีช่วงเวลาไหนบ้างที่เธอรู้สึกว่าเธอจัด
00:10:14 → 00:10:16 การตัวเองได้ดีไม่ถูกเสียงแบบนี้มาหลอก
00:10:16 → 00:10:19 ล่อนะครับเธอก็บอกเป็นช่วงเตรียมตัวสอบ
00:10:19 → 00:10:22 เข้าม 1 ตอนนั้นท็อปฟอร์มนะครับผมเราสรุป
00:10:22 → 00:10:25 ปัจจัยและทำให้เธอเห็นว่า 1 ในตอนนั้น
00:10:25 → 00:10:29 เนี่ยการไปการไปโรงเรียนเนี่ยที่มีกฎ
00:10:29 → 00:10:32 ระเบียบมีการบ้านต้องส่งต้องรีบตื่นตอน
00:10:32 → 00:10:34 เช้าเพื่อไปโรงเรียนให้ทัน
00:10:34 → 00:10:37 และในช่วงนั้นเธอยังไม่ได้เล่นโทรศัพท์
00:10:37 → 00:10:41 มือถือยังไม่มีการเล่นเกมเป็นช่วงเวลาที่
00:10:41 → 00:10:42 ดีที่สุดสำหรับเธอ
00:10:42 → 00:10:43 นะครับ
00:10:43 → 00:10:46 แต่ว่าในวันนี้ในวันที่เธอเติบโตขึ้นมา
00:10:46 → 00:10:48 อีกหลายปี
00:10:48 → 00:10:52 เธอเลือกที่จะมีอิสรภาพโดยไม่ไปโรงเรียน
00:10:52 → 00:10:54 เรียนแต่ไปสอบเทียบเอา
00:10:54 → 00:10:59 เธอพบว่าเพียงการนอนดึกตื่นสายมันทำให้
00:10:59 → 00:11:02 ทุกอย่างล้มตามไปเลยนะครับเพราะอะไรก็
00:11:02 → 00:11:04 เพราะว่าทันทีที่เธอตื่นสายเธอก็จะไม่
00:11:04 → 00:11:07 เหลือเวลาทำอะไรได้มากแล้วนะครับแล้วก็
00:11:07 → 00:11:11 ทุกอย่างมันตามมาจากการที่เธอเข้านอนแล้ว
00:11:11 → 00:11:14 ตื่นนอนไม่ถูกเวลาแล้วเอาเวลาไปเริ่มเล่น
00:11:14 → 00:11:18 เพื่อหนีความเครียดนะครับด้วยวงจรแค่นี้
00:11:18 → 00:11:21 ถ้าเราเห็นตัวเองนะครับมันก็จะเกิดการ
00:11:21 → 00:11:23 เห็นทางออก
00:11:23 → 00:11:27 คนจำนวนมากเนี่ยอยากมีอิสรภาพครับแต่ว่า
00:11:27 → 00:11:30 พอมีอิสรภาพขึ้นมาจริงๆเขาไม่สามารถจัด
00:11:30 → 00:11:33 การตัวเองให้ทำสิ่งที่มีคุณค่าและมีความ
00:11:33 → 00:11:36 สำคัญสำหรับชีวิตเขาได้มันมีสิ่งดึงดูด
00:11:36 → 00:11:38 เรามากกว่ายิ่งในโลกยุคปัจจุบันสิ่งดึง
00:11:38 → 00:11:41 ดูดนี้มีพลังมาก Social Media และการ
00:11:41 → 00:11:45 เล่นเกมหรืออื่นๆนะครับเช่นการชอบออนไลน์
00:11:45 → 00:11:48 เพราะฉะนั้นในคนที่มีประสิทธิผลในชีวิต
00:11:48 → 00:11:51 คือสามารถทำงานได้ผลที่ดี
00:11:51 → 00:11:53 เขาจะรู้ดีว่า
00:11:53 → 00:11:57 ในบางงานเขาต้องการอิสรภาพแต่ในบางงานก็
00:11:57 → 00:12:00 ต้องการสิ่งแวดล้อมที่ช่วยกำกับตัวเขา
00:12:00 → 00:12:02 เหมือนกับนักศึกษาหรือนักเรียนที่ไปเลือก
00:12:02 → 00:12:05 อ่านหนังสือในห้องสมุดนะครับเขารู้ดีว่า
00:12:05 → 00:12:08 เขาต้องการสิ่งแวดล้อมที่ช่วยให้เขา
00:12:08 → 00:12:11 บังคับตัวเองได้ดีขึ้นหรือเข้าเลือกที่จะ
00:12:11 → 00:12:15 ไปนั่งติวกับเพื่อนนะครับการเลือกเอาตัว
00:12:15 → 00:12:18 เราไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่จะช่วยให้เราทำ
00:12:18 → 00:12:20 สิ่งที่เรารู้ว่าดีก็จะเป็นตัวกระตุ้นที่
00:12:20 → 00:12:25 สำคัญเพราะคนจำนวนหนึ่งจะจัดการตัวเองไม่
00:12:25 → 00:12:29 ได้และยิ่งในสิ่งแวดล้อมที่มีตัวกระตุ้น
00:12:29 → 00:12:32 ดึงเราออกนอกไปนอกเส้นทางได้ง่ายมากเท่า
00:12:32 → 00:12:35 ไหร่เรายิ่งต้องการสิ่งแวดล้อมที่ดีในการ
00:12:35 → 00:12:38 ที่ทำให้เราเข้าร่องเข้ารอยซึ่งในวันนั้น
00:12:38 → 00:12:43 ผมกับเธอก็ได้ออกแบบร่วมกันว่าเราจะมีแผน
00:12:43 → 00:12:45 จัดการยังไงแน่นอนเธอต้องการสิ่งควบคุม
00:12:45 → 00:12:48 ภายนอกที่ช่วยเธอไม่ได้เล่นคอมพิวเตอร์
00:12:48 → 00:12:52 ไม่ได้เล่นเกมและไม่ไปดู Social Media
00:12:52 → 00:12:55 เธอพร้อมที่จะไม่มีโทรศัพท์และ
00:12:55 → 00:12:57 คอมพิวเตอร์ในช่วงเวลาที่เธอเลือก
00:12:57 → 00:12:59 ที่เธอจะต้องเตรียมสอบนะครับ
00:12:59 → 00:13:05 แต่เป็นการเลือกไปอยู่ในที่บังคับจากการ
00:13:05 → 00:13:06 ออกแบบของตัวเธอเอง
00:13:06 → 00:13:10 ซึ่งตรงนี้ถือเป็นความสามารถนะครับเพราะ
00:13:10 → 00:13:13 ว่าถ้าเรารู้ดีว่าสิ่งแวดล้อมที่ดีสำหรับ
00:13:13 → 00:13:16 เราคือสิ่งแวดล้อมที่ต้องมีการบังคับเรา
00:13:16 → 00:13:20 บางอย่างครับมันช่วยให้เราทำสิ่งที่สำคัญ
00:13:20 → 00:13:23 มันพาเราไปสู่เป้าหมายมันทำให้เรามีกำลัง
00:13:23 → 00:13:26 ใจครับซึ่งเธอบอกได้เลยว่าตอนที่เธออยู่
00:13:26 → 00:13:29 ในช่วงม 1 ตอนนั้นเตรียมตัวสอบเนี่ยเธอพบ
00:13:29 → 00:13:32 ว่าจริงๆเธอไม่ได้ชอบหรอกที่ต้องตื่นเช้า
00:13:32 → 00:13:35 ไปโรงเรียนแต่เธอพบว่าการถูกบังคับให้
00:13:35 → 00:13:37 ต้องตื่นเช้าไปโรงเรียนเนี่ยกลายเป็นตัว
00:13:37 → 00:13:40 แล้วก็การทำหลายๆอย่างโดยไม่ต้องคิดเลยนะ
00:13:40 → 00:13:40 ครับ
00:13:40 → 00:13:43 มันเป็น automatic เนี่ยมันกลายเป็นตัวทำ
00:13:43 → 00:13:45 ให้เธอท็อปฟอร์มทำอะไรได้ดีที่สุดในช่วง
00:13:45 → 00:13:46 นั้น
00:13:46 → 00:13:50 และนี่คือกรณีที่ 1 ก็คือปัญหาเกิดจาก
00:13:50 → 00:13:53 ข้างในกลไกภายในจิตใจของเรา
00:13:53 → 00:13:56 และทางแก้เกิดจากความตระหนักนำไปสู่การ
00:13:56 → 00:14:01 ออกแบบตัวบังคับเราและแผนการดำเนินงานที่
00:14:01 → 00:14:04 ทำให้เราเชื่อได้ว่าเรายังมีความหวังแน่
00:14:04 → 00:14:08 นอนเธอเสียเวลามาเยอะแล้วแต่เธอยังรู้ดี
00:14:08 → 00:14:12 ว่าตอนนี้ดีที่สุดก็คือเธอต้องลุยนะครับ
00:14:12 → 00:14:15 อีกตัวอย่างหนึ่งครับเป็นตัวอย่างที่เกิด
00:14:15 → 00:14:17 จากสถานการณ์ภายนอกเมื่อกี้เหมือนเป็น
00:14:17 → 00:14:20 สถานการณ์ภายในอยู่พอสมควรนะครับเพราะ
00:14:20 → 00:14:23 อิสรภาพมีหมดทุกอย่างอีกตัวอย่างเป็นกรณี
00:14:23 → 00:14:25 ของสถานการณ์ภายนอกที่เป็นโจทย์เข้ามา
00:14:25 → 00:14:28 กระทบอย่างต่อเนื่องจนเราอาจจะมองไม่เห็น
00:14:28 → 00:14:32 ทางออกในภาวะวิกฤตนั้นนะครับเช่นช่วงของ
00:14:32 → 00:14:35 การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดเมื่อหลายปี
00:14:35 → 00:14:38 ก่อนที่ดำเนินมาจนถึงเริ่มคลี่คลายในปี
00:14:38 → 00:14:39 นี้เนี่ย
00:14:39 → 00:14:43 เราจะพบว่าคนจำนวนมากตกงานไม่มีเงินมี
00:14:43 → 00:14:45 หนี้สินซึ่งส่งผลกระทบหลายอย่างกับชีวิต
00:14:45 → 00:14:49 ของเขาความสัมพันธ์สุขภาพความภาคภูมิใจ
00:14:49 → 00:14:53 ความรู้สึกอายเพื่อนอายสังคมนะครับและที่
00:14:53 → 00:14:57 สำคัญก็คือหลายคนมองไม่เห็นทางออกไม่รู้
00:14:57 → 00:15:00 ว่าจะหารายได้จากช่องทางอื่นอย่างไร
00:15:00 → 00:15:02 แต่ละคนก็จะมีวิธีการในการปรับตัวและมีบท
00:15:02 → 00:15:06 เรียนแฝงอยู่ในนั้นนะครับแต่ที่แน่ๆโจทย์
00:15:06 → 00:15:08 ที่เป็นสถานการณ์ภายนอกที่เข้ามากระทบและ
00:15:08 → 00:15:11 เป็นวิกฤตครั้งใหญ่ของทั่วโลกเนี่ยทุกคน
00:15:11 → 00:15:15 รู้ดีว่ามันต้องอาศัยความอดทนต้องเลือก
00:15:15 → 00:15:18 ว่าเราจะไปอยู่รอตรงไหนแล้วอาจจะเลือกทำ
00:15:18 → 00:15:21 เล็กๆในสิ่งอะไรก็ได้ที่เราทำได้ไปก่อน
00:15:21 → 00:15:25 และรู้ว่ามันจะผ่านไปได้นะครับตรงนี้
00:15:25 → 00:15:28 คล้ายๆกับกรณีของคุณหมอวิคเตอร์ frankle
00:15:28 → 00:15:30 ที่ถูกจับไปอยู่ในค่ายนาซีที่เราคุยกัน
00:15:30 → 00:15:31 บ่อยว่า
00:15:31 → 00:15:34 เขาถูกปฏิบัติเหมือนไม่ใช่มนุษย์แต่เขา
00:15:34 → 00:15:37 รู้ดีว่าวันหนึ่งมันจะต้องจบลงสงครามวัน
00:15:37 → 00:15:40 หนึ่งก็ต้องจบลงไม่ช้าก็เร็วและเขาใช้
00:15:40 → 00:15:43 ความเชื่อความคิดตัวนี้แหละครับเป็นแหล่ง
00:15:43 → 00:15:45 ให้กำลังใจกับตัวเขา
00:15:45 → 00:15:48 ผมมีอากาศคุยกับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก
00:15:48 → 00:15:51 ท่านหนึ่งนะครับเป็นธุรกิจที่อยู่ในช่วง
00:15:51 → 00:15:54 ขาลงตั้งแต่ก่อนมีการแพร่ระบาดของโควิด
00:15:54 → 00:15:58 เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่นะครับ
00:15:58 → 00:16:00 เธอทำงานที่เกี่ยวข้องกับ
00:16:00 → 00:16:03 เหล็กนะครับอุตสาหกรรมเหล็กเป็นร้านเล็กๆ
00:16:03 → 00:16:06 ที่รับจ้างตัดเหล็กนะครับเป็นชิ้นตามความ
00:16:06 → 00:16:10 ต้องการของลูกค้าแล้วราคาของเหล็กก็มีการ
00:16:10 → 00:16:12 เปลี่ยนแปลงนะครับก่อนหน้านี้ก็พอเลี้ยง
00:16:12 → 00:16:16 ตัวได้แต่ไม่ได้มีกำไรมากแต่พอมีโควิด
00:16:16 → 00:16:20 เข้ามาเนี่ยธุรกิจก็แทบจะหยุดชะงักลงเขา
00:16:20 → 00:16:23 มีอายุ 60 กว่าแล้วนะครับแล้วก็เป็น
00:16:23 → 00:16:26 ธุรกิจเก่าแก่ที่ทำมานานแล้วก็ไม่รู้จะไป
00:16:26 → 00:16:28 ทำอะไรนะครับโดยเฉพาะในวัยนี้เขาก็ยิ่ง
00:16:28 → 00:16:31 ไม่รู้จะไปทำอะไรเงินเก็บก็ถูกเอาออกมา
00:16:31 → 00:16:36 ใช้แล้วก็มีความกังวลว่ารุ่นลูกของเขาจะ
00:16:36 → 00:16:39 อยู่ได้ยังไงนะครับยิ่งลูกกำลังมีหลานออก
00:16:39 → 00:16:43 มามันก็ยิ่งเป็นความกังวลนะครับกรณีเช่น
00:16:43 → 00:16:46 นี้เนี่ยเราก็จะเห็นนะครับว่าถ้าเราถอยไป
00:16:46 → 00:16:49 ดูได้เราก็จะรู้ว่าแนวทางหรือกลยุทธ์ใน
00:16:49 → 00:16:50 การจัดการ
00:16:50 → 00:16:53 ก็คือก็คงต้องค่อยๆก้าวเดินรักษาสภาพ
00:16:53 → 00:16:57 และรอคอยสถานการณ์ที่คลี่คลายซึ่งหลังจาก
00:16:57 → 00:17:00 ที่โควิดคลี่คลายธุรกิจเขาก็เริ่มกลับมา
00:17:00 → 00:17:04 ได้แต่ว่าก็ยังไม่ได้ดีนะครับแล้วอย่าง
00:17:04 → 00:17:07 หนึ่งที่ต้องทำใจแน่ๆก็คือธุรกิจนี้ไม่
00:17:07 → 00:17:10 ช้าก็เร็วก็ต้องปิดกิจการครับส่วนเรื่อง
00:17:10 → 00:17:12 ลูกเรื่องหลานก็ต้องยกให้เป็นหน้าที่ของ
00:17:12 → 00:17:16 ลูกในวันที่เขาตัดสินใจได้ว่าเรื่องนี้ก็
00:17:16 → 00:17:18 คงต้องเป็นหน้าที่ของลูกเนี่ยก็จะเหมือน
00:17:18 → 00:17:21 กับการยกภูเขาออกจากอกเพราะมันไม่ใช่หน้า
00:17:21 → 00:17:24 ที่ของคนวัย 60 กว่าที่จะต้องมาคิดว่าลูก
00:17:24 → 00:17:28 จะทำธุรกิจอะไรแต่แน่นอนนะครับคนที่ทำ
00:17:28 → 00:17:29 ธุรกิจมา
00:17:29 → 00:17:33 และอยู่ได้เลี้ยงชีพได้ก็มักจะหวังว่า
00:17:33 → 00:17:37 ธุรกิจนี้จะช่วยลูกให้เขามีการก้าวเดิน
00:17:37 → 00:17:40 ที่ง่ายเพราะรุ่นพ่อแม่ได้ยากลำบากเพื่อ
00:17:40 → 00:17:42 ตั้งธุรกิจขึ้นมาแล้วนะครับ
00:17:42 → 00:17:44 เพียงแต่การส่งมาให้แบบนี้
00:17:44 → 00:17:47 หลายบ้านลูกไม่ได้อยากมารับนะครับและใน
00:17:47 → 00:17:51 กรณีนี้ต่อให้ลูกจากมารับพ่อแม่ก็ไม่มี
00:17:51 → 00:17:54 สิ่งที่เป็นธุรกิจที่เป็นมรดกที่จะส่งให้
00:17:54 → 00:17:58 ลูกได้ตรงนี้ก็คือต้องทำใจกับการที่ลูกจะ
00:17:58 → 00:18:01 ต้องไปหาเส้นทางชีวิตของเขา
00:18:01 → 00:18:04 โดยสภาพที่คนเราจะหมดกำลังใจเนี่ยมันจึง
00:18:04 → 00:18:06 อาจจะเกิดจากปัจจัยภายในตัวเองก็ได้นะ
00:18:06 → 00:18:10 ครับกลไกทางจิตที่หลอกล่อเราให้เราหนีจาก
00:18:10 → 00:18:13 สิ่งที่ควรจะต้องทำไปสู่สิ่งที่เป็นการ
00:18:13 → 00:18:17 หลีกเลี่ยงจนกระทั่งกลายเป็นดินพอกหางหมู
00:18:17 → 00:18:21 แล้วก็ยิ่งหมดกำลังใจหรืออาจจะเกิดจากภัย
00:18:21 → 00:18:25 ปัจจัยภายนอกที่ผ่านเข้ามากระทบอาจจะ
00:18:25 → 00:18:27 กระทบไม่แรงแต่มันจี้จุดอ่อนของเราหรือ
00:18:27 → 00:18:32 อาจจะกระทบแรงแบบซ้ำกระหน่ำรุนแรงก็ได้
00:18:32 → 00:18:36 ทั้ง 2 วิธีนี้เนี่ยการแก้ไขก็ไม่เหมือน
00:18:36 → 00:18:39 กันนะครับและที่สำคัญหลายครั้งมันเป็น
00:18:39 → 00:18:42 ปัจจัยสองอย่างปนๆกันครับภายนอกก็มีโจทย์
00:18:42 → 00:18:44 ภายในก็มีโจทย์
00:18:44 → 00:18:49 แล้วสภาวะเช่นนี้เราจะค้นหาแรงบันดาลใจ
00:18:49 → 00:18:52 ยังไงเพื่อให้เราเดินหน้าต่อได้
00:18:52 → 00:18:55 เรามาลองดูนะครับว่าไอ้การค้นหาแรงบันดาล
00:18:55 → 00:18:58 ใจเนี่ยมันต้องหามันต้องอาศัยอะไรบ้างนะ
00:18:58 → 00:19:02 ครับผมจะลองพูดจากความเข้าใจของผมนะครับ
00:19:02 → 00:19:06 อันนี้นึกเรียบเรียงขึ้นเองเลย
00:19:06 → 00:19:09 เมื่อสักครู่นี้นะครับประมาณสักตอนก่อน
00:19:09 → 00:19:12 ทุ่มนึงนั่งเรียบเรียงสไลด์หน้านี้ขึ้นมา
00:19:12 → 00:19:15 เอาไว้ใช้เป็นแนวการพูด
00:19:15 → 00:19:18 1 ก็คือเรื่องของแรงบันดาลใจมันเป็นภาพ
00:19:18 → 00:19:22 ในระยะยาวไม่ใช่เรื่องของสิ่งที่เกิดขึ้น
00:19:22 → 00:19:23 เป็นรายวัน
00:19:24 → 00:19:26 นะครับคุณเห็นด้วยไม่เห็นด้วย 6 ได้นะ
00:19:27 → 00:19:29 ครับ 2 ก็คือแรงบันดาลใจ
00:19:29 → 00:19:32 มันต้องมีความเข้ากันได้กับความเป็นตัว
00:19:32 → 00:19:33 เรา
00:19:33 → 00:19:36 ซึ่งแปลว่าเราต้องรู้จักตัวเองดีในระดับ
00:19:36 → 00:19:37 หนึ่ง
00:19:37 → 00:19:40 และเราไม่ได้กำลังวิ่งตามความคาดหวังของ
00:19:40 → 00:19:44 คนอื่นนะครับเพราะที่เจอแรงบันดาลใจก็จะ
00:19:44 → 00:19:45 เป็นคนที่สามารถ
00:19:45 → 00:19:48 ก้าวพ้นความคาดหวังคนอื่นออกมา
00:19:48 → 00:19:52 แล้วรู้จักตัวเองได้ดีในระดับหนึ่งถึงจะ
00:19:52 → 00:19:56 เจอแรงบันดาลใจจากภายในได้นะครับ 3 สิ่ง
00:19:56 → 00:19:59 ที่เป็นแรงบันดาลใจมันไม่ใช่ทางเดินที่
00:19:59 → 00:20:04 ง่ายสะดวกแต่มันเป็นทางเดินที่เรามีความ
00:20:04 → 00:20:08 พร้อมที่จะเผชิญกับความยากลำบากเพราะมัน
00:20:08 → 00:20:11 มีพลังบางอย่างที่เราอยากจะไปให้ถึง
00:20:11 → 00:20:14 สิ่งเหล่านั้นมันจะตอบคำต้องการในส่วนลึก
00:20:14 → 00:20:17 ของจิตใจเราทางใดทางหนึ่งนะครับ
00:20:17 → 00:20:20 ซึ่งนี่คือธรรมชาติของแรงบันดาลใจคือมัน
00:20:20 → 00:20:23 เป็นภาพระยะยาวมันต้องเข้ากับตัวเรามัน
00:20:24 → 00:21:26 ไม่ใช่ทางที่ง่าย
00:21:26 → 00:21:29 แต่การจะสร้างแรงบันดาลใจหรือคำตอบใหญ่ๆ
00:21:29 → 00:21:31 ในชีวิตเนี่ย
00:21:31 → 00:21:34 มันต้องอาศัยวินัยในการคิดวินัยในการทำ
00:21:34 → 00:21:38 ครับงั้นกระบวนการยิงต้องมีสภาวะทางจิต
00:21:38 → 00:21:41 ที่เอื้อนะครับคือมีวินัยแล้วก็มีช่วง
00:21:41 → 00:21:44 เวลาที่คลายออกจากความเข้มข้นเครียดนะ
00:21:44 → 00:21:45 ครับ
00:21:45 → 00:21:48 ค่อยๆปะติดปะต่อแล้วก็ในบางกรณีส่วนใหญ่
00:21:48 → 00:22:45 ในชีวิตก็จะต้องอาศัยการทดลองทำ
00:22:45 → 00:22:47 จึงอยู่กับความไม่แน่นอนได้
00:22:47 → 00:22:51 และเข้าอยู่ยังไงครับเขาอยู่กับความไม่
00:22:51 → 00:22:54 แน่นอนด้วยกันได้ทดลองสิ่งต่างๆและทดสอบ
00:22:54 → 00:22:57 ดูว่ามันได้ผลไม่ได้ผลทำอย่างนี้แล้วมัน
00:22:57 → 00:23:00 เป็นยังไงมีความสนุกกับการได้ทดลองเพราะ
00:23:00 → 00:23:04 ทัศนะของการมองชีวิตเป็นการทดลองถ้าได้ผล
00:23:04 → 00:23:07 เรารู้สึกดีว่ามันได้ผลถ้าไม่ได้ผลเราก็
00:23:07 → 00:23:09 รู้สึกดีเพราะเราได้เรียนรู้นะครับตรงนี้
00:23:09 → 00:23:12 ทำให้กระบวนการเดินกระบวนการสร้างแรง
00:23:12 → 00:23:13 บันดาลใจ
00:23:13 → 00:23:17 มันเกิดขึ้นด้วยความสนุกท้าทายมันจึงไม่
00:23:17 → 00:23:19 ได้ลอยลงมาเหมือนกันปิ๊งแว้บที่เกิดขึ้น
00:23:19 → 00:23:22 โดยที่ไม่ต้องทำอะไร
00:23:22 → 00:23:25 แต่มันจะต้องมีกระบวนการดังนั้นสิ่งสำคัญ
00:23:25 → 00:23:29 ในการค้นหาแรงบันดาลใจมันไม่ใช่การบอกว่า
00:23:29 → 00:23:31 ฉันไม่มี passion ท่านต้องหา passion ให้
00:23:31 → 00:23:32 เจอนะครับ
00:23:32 → 00:23:36 เพราะการหา passion อาจจะไม่ใช่ทางผ่าน
00:23:36 → 00:23:40 ที่จะเจอแรงบันดาลใจก็ได้
00:23:40 → 00:23:42 หลายครั้งคนมีแรงบันดาลใจไม่ได้เกิดจาก
00:23:42 → 00:23:45 passion ด้วยนะครับผมเคยคุยเรื่องนี้
00:23:45 → 00:23:48 แล้วเมื่อไหร่ตอนก่อนประมาณสักปีสองปีนะ
00:23:48 → 00:23:50 ครับว่าหลายครั้งจุดเริ่มต้นมันเกิดจาก
00:23:51 → 00:23:53 การที่เราเห็นว่าสิ่งนี้น่าทำแล้วเรารู้
00:23:53 → 00:23:55 สึกว่ามันมีเป็นสิ่งที่ดีมีคุณค่าเรายัง
00:23:55 → 00:23:58 ไม่ได้มี passion อะไรมากแล้วเราอาจจะ
00:23:58 → 00:24:00 เริ่มต้นเพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ช่วยเรา
00:24:00 → 00:24:01 อยู่รอดได้ทางการเงิน
00:24:01 → 00:24:05 แต่หลังจากเราทำไปแล้วเนี่ยความการค้นพบ
00:24:05 → 00:24:10 ตัวเองกับการค้นพบวิถีจากการได้ทดลองทำ
00:24:10 → 00:24:12 อย่างต่อเนื่องมันทำให้เรารู้จักตัวเอง
00:24:12 → 00:24:15 มากขึ้นมันทำให้เราเข้าใจเงื่อนไขของ
00:24:15 → 00:24:17 เรื่องนั้นๆหรือความเป็นจริงของชีวิตมาก
00:24:17 → 00:24:21 ขึ้นฐานของแรงบันดาลใจมันมาจากโลกของความ
00:24:21 → 00:24:26 เป็นจริงผสมกับกระบวนการผสมกับการที่เรา
00:24:26 → 00:24:30 รู้จักตัวเองนะครับดังนั้นถ้าคุณอยู่ใน
00:24:30 → 00:24:33 สภาวะที่หมดกำลังใจและคุณอยากจะค้นหาแรง
00:24:33 → 00:24:37 บันดาลใจเนี่ยมันเป็นช่องว่างที่ไกลพอสม
00:24:37 → 00:24:40 ควรนะครับเพราะว่าสภาวะที่ใจสบายๆและจด
00:24:40 → 00:24:43 จ่อกับเรื่องที่เรากำลังค้นคว้าอยู่ได้ทด
00:24:43 → 00:24:45 ลองได้
00:24:45 → 00:24:50 มันในสภาวะที่เราเครียดมากๆเนี่ยมันยาก
00:24:50 → 00:24:53 ที่เราจะจดจ่อแล้วก็สบายๆได้นะครับ
00:24:53 → 00:24:56 ดังนั้นถ้าคุณรู้ตัวว่าคุณมีความเครียด
00:24:56 → 00:24:59 และแรงกดดันหรือมีสภาวะที่ท้อหรือขาด
00:24:59 → 00:25:02 กำลังใจเนี่ยคนอาจจะต้องกลับมาเริ่มต้น
00:25:02 → 00:25:05 ที่สิ่งพื้นฐานของชีวิตก่อนนะครับก็คือ
00:25:05 → 00:25:07 กลับมาอยู่กับตัวเองนะครับวิธีกลับไปอยู่
00:25:07 → 00:25:09 กับตัวเองก็มีหลากหลายวิธีหนึ่งดังนั้นก็
00:25:09 → 00:25:12 คือวางทุกเรื่องลงแล้วก็อาจจะใช้สิ่งแวด
00:25:12 → 00:25:15 ล้อมช่วยคุณในการทำให้คุณได้เชื่อมต่อกับ
00:25:15 → 00:25:18 ตัวเองได้ดีขึ้นเชื่อมต่อกับชีวิตได้ดี
00:25:18 → 00:25:21 ขึ้นลองทบทวนดูนะครับว่าวิธีคิดของตัว
00:25:21 → 00:25:23 เราทัศนคติของเรา
00:25:23 → 00:25:27 mindset ของเรามันต้องปรับตรงไหนบ้างนะ
00:25:27 → 00:25:29 ครับเราคุยกันใหม่เสร็จหลายๆครั้งนะครับ
00:25:29 → 00:25:31 เราคิดว่าเราตกเป็นเหยื่อหรือเปล่าถ้าใช่
00:25:31 → 00:25:34 ตัวนี้ต้องแก้นะครับเรา
00:25:34 → 00:25:38 เชื่อในการปิ๊งแว้บและเราชอบชีวิตที่สุข
00:25:38 → 00:25:40 สบายและเราไม่พร้อมที่จะผ่านความยากลำบาก
00:25:40 → 00:25:43 หรือเปล่าถ้าใช่ตัวนี้ต้องเปลี่ยนความ
00:25:43 → 00:25:45 เชื่อใหม่ครับเพราะโรคความเป็นจริงความ
00:25:45 → 00:25:48 สำเร็จหรือสิ่งดีๆมันต้องอาศัยความมุ่ง
00:25:48 → 00:25:51 มั่นความพยายามครับ
00:25:51 → 00:25:55 มีปัจจัยภายนอกอะไรบ้างที่เราจะต้องเข้า
00:25:55 → 00:25:56 ใจธรรมชาติของมัน
00:25:56 → 00:25:58 บางเรื่องเราอาจจะต้องเรียนรู้ที่จะยอม
00:25:58 → 00:26:01 รับและอยู่กับมันให้ได้บางเรื่องหรือถ้า
00:26:01 → 00:26:03 เราไม่อยากอยู่กับมันเราอาจจะต้องเดินออก
00:26:03 → 00:26:06 มาจากจุดนั้นเลือกสิ่งแวดล้อมใหม่ที่
00:26:06 → 00:26:09 เหมาะสมกับเรานะครับเพื่อให้เรามีปัจจัย
00:26:09 → 00:26:12 เกื้อหนุนจากภายนอกเพื่อให้เรามีฐานในการ
00:26:12 → 00:26:15 ค้นพบคำตอบจากข้างใน
00:26:15 → 00:26:19 และมีอะไรที่เราลงมือทำได้มีแหล่งช่วย
00:26:19 → 00:26:21 เหลืออะไรที่เราอาจจะต้องการไปพูดคุย
00:26:21 → 00:26:24 ปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือนะครับคู่กันไป
00:26:24 → 00:26:27 กับสิ่งนี้นะครับตัวพื้นฐานที่สำคัญมากก็
00:26:27 → 00:26:31 คือระบบชีวภาพของมนุษย์เพราะสมองมนุษย์
00:26:31 → 00:26:34 เป็นส่วนที่ใช้ในการ
00:26:34 → 00:26:37 ค้นหาแรงบันดาลใจเป็นส่วนที่ใช้ในการ
00:26:37 → 00:26:39 สร้างกำลังใจ
00:26:39 → 00:26:42 เป็นส่วนที่เป็นฐานของการมีความสุขความพอ
00:26:42 → 00:26:43 ใจ
00:26:43 → 00:26:46 เราจึงจำเป็นต้องกลับมาดูแลพื้นฐานของ
00:26:46 → 00:26:49 ชีวิตซึ่งผมพูดประจำคือกินนอนออกกำลังกาย
00:26:49 → 00:26:52 นะครับวันนี้ก็ยังจะต้องพูดอีกเพราะว่าใน
00:26:52 → 00:26:55 สภาวะที่เราอาจจะขาดกำลังใจอาจจะรู้สึก
00:26:55 → 00:27:00 ท้อใจอาจจะรู้สึกเครียดเรื้อรังไม่มีพลัง
00:27:00 → 00:27:04 3 สิ่งนี้กินนอนออกกำลังกายเป็นตัวเติม
00:27:04 → 00:27:07 พลังให้เราได้เป็นพื้นฐานที่สุดและถ้า
00:27:07 → 00:27:09 ผ่านด่านนี้ได้แล้วด่านหนึ่งก็จะง่ายขึ้น
00:27:09 → 00:27:12 นะครับคู่กันไปก็อาจจะเป็นเรื่องของความ
00:27:12 → 00:27:15 สามารถในการอยู่กับตัวเองมีวิธีจัดการ
00:27:15 → 00:27:18 ความเครียดที่ดีนะครับหรือเลือกสิ่งแวด
00:27:18 → 00:27:21 ล้อมที่ช่วยเราเช่นธรรมชาตินะครับการอด
00:27:21 → 00:27:25 นอนนะครับทำให้สมองเราเหมือนมีแอลกอฮอล์
00:27:25 → 00:27:27 อยู่ในตัวมันทำให้เราคิดไม่ออกพลังงานก็
00:27:27 → 00:27:31 ไม่มีคุณจึงจำเป็นต้องนอนให้เพียงพอ
00:27:31 → 00:27:35 การกินไม่ถูกสุขภาพอารมณ์ก็เสียด้วยนะ
00:27:35 → 00:27:39 ครับพลังทั้งกายและใจก็ไม่มี
00:27:39 → 00:27:41 การไม่ออกกำลังกายก็จะสุขภาพร่างกายอ่อน
00:27:41 → 00:27:44 แอไม่มีแรงไม่สดชื่นแล้วมันยังทำให้เรา
00:27:44 → 00:27:47 ติดอยู่กับร่องความคิดเดิมๆไม่สามารถหลุด
00:27:47 → 00:27:49 ออกจากมุมมองเก่าๆได้
00:27:49 → 00:27:51 และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เรามองไม่เห็น
00:27:51 → 00:27:53 ทางออกเพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนวิธีคิด
00:27:53 → 00:27:56 ของเราได้แต่ทันทีที่เรามีข้อมูลเช่นเรา
00:27:56 → 00:27:59 ทบทวนสิ่งพื้นฐานอย่างกรณีของนักเรียนวัย
00:28:00 → 00:28:03 16 18 ปีท่านนั้นเนี่ยนะครับท่านที่ที่
00:28:03 → 00:28:05 เราเห็นรูปแบบตัวเองแล้วเราเห็นทางที่เรา
00:28:05 → 00:28:07 จะปรับเปลี่ยนเพื่อทำให้เราเดินได้ดีขึ้น
00:28:07 → 00:28:11 ตรงนั้นกำลังใจมันจะมาครับพอกำลังใจมา
00:28:11 → 00:28:14 แล้วเราได้เริ่มเดินนะครับเราก็จะเริ่ม
00:28:15 → 00:28:18 ค่อยๆรู้จักตัวเองมากขึ้นเราเริ่มค้นพบ
00:28:18 → 00:28:22 เส้นทางที่อาจจะเป็นเส้นทางที่ใช่สำหรับ
00:28:22 → 00:28:22 เรา
00:28:22 → 00:28:25 เราผ่านการทดลองแล้วตัวนี้ก็คือกระบวนการ
00:28:25 → 00:28:29 ไปสู่การสร้างแรงบันดาลใจซึ่งเป็นภาพระยะ
00:28:29 → 00:28:33 ยาวครับมันไม่ใช่ภาพรายวันไม่ใช่ภาพราย
00:28:33 → 00:28:35 สัปดาห์ไม่ใช่ภาพรายเดือนครับ
00:28:35 → 00:28:39 โจทย์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันเราจึงจำเป็น
00:28:39 → 00:28:42 ต้องทบทวนโจทย์ของตัวเองให้ชัดเจนก่อน
00:28:42 → 00:28:46 แล้วลองเลือกข้อคิดที่ผมนำมาแบ่งปันวัน
00:28:46 → 00:28:49 นี้ไปลองใช้ดูนะครับ
00:28:49 → 00:28:51 อันนี้คือเนื้อหาที่ผมเตรียมมาสำหรับการ
00:28:51 → 00:28:52 พูดคุยในวันนี้นะครับ
00:28:52 → 00:28:58 ตอนนี้จะมาเริ่มต้นจากการดู
00:28:58 → 00:29:03 โพสต์ของผมที่ YouTube ว่ามีใครส่งเข้ามา
00:29:03 → 00:29:05 บ้าง 21 comment นะครับ
00:29:05 → 00:29:09 ผ่านมาด้วยเวลาและความอดทนแต่ก็ยังขึ้นๆ
00:29:09 → 00:29:13 ลงๆรอฟังเพื่อพัฒนาแบบถาวรยาวๆ
00:29:13 → 00:29:15 เพื่อเติมกำลังใจ
00:29:15 → 00:29:23 อาทิตย์หน้าจะมีไลฟ์ไหมลุ้นต่อนะครับ
00:29:23 → 00:29:25 ดูเหมือนคุณไม่ได้ตั้งคำถามอะไรเฉพาะนะ
00:29:25 → 00:29:27 ครับแล้วผมหวังว่าสิ่งที่พูดจะทำให้คุณ
00:29:27 → 00:29:32 เห็นหลายครั้งเราเดินแล้วเราใจร้อนเรา
00:29:32 → 00:29:34 เดินแล้วเราตัดสินตัวเองไปด้วยจะเป็นอีก
00:29:34 → 00:29:36 ตัวหนึ่งที่ทำให้เราหมดกำลังใจนะครับใช้
00:29:36 → 00:29:39 เป็นกระบวนการใช้มองมันเป็นการทดลองของ
00:29:39 → 00:29:40 ชีวิต
00:29:40 → 00:29:43 สำหรับอาทิตย์หน้าผมไม่มีแผนที่จะไม่ร้าย
00:29:43 → 00:29:48 นะครับมีแผนที่จะพูดตามปกติครับท่านที่ 2
00:29:48 → 00:29:51 นะครับหาแรงบันดาลใจจากไลฟ์คุณหมอตามฟัง
00:29:51 → 00:29:53 ในทุกรายบางเคสใกล้เคียงกับความทุกข์ใจ
00:29:53 → 00:29:57 ที่มีนำมาปรับใช้ให้ชีวิตลื่นไหลไปได้
00:29:57 → 00:30:00 ผ่อนหนักเป็นเบาขอบพระคุณคุณหมอ
00:30:00 → 00:30:04 เป็นคนทำงานด้านศิลปะบางครั้งรายได้ลดทำ
00:30:04 → 00:30:07 งานได้ไม่ดีเหมือนเดิมด้วยเวลาน้อยและ
00:30:07 → 00:30:11 ภาระมากขาดสมาธิมีผลทำให้กำลังใจหมดครับ
00:30:11 → 00:30:15 เงินทุกบาททำงานเพื่อลูกและภรรยาเวลาทำ
00:30:15 → 00:30:17 งานคือทำตอนไหนก็ได้ไม่มีงานเข้าแต่ทุก
00:30:17 → 00:30:20 ครั้งหลังหมดกำลังใจจะกลับมาได้เสมอแต่
00:30:20 → 00:30:24 ไม่ชอบความกลัดกลุ้มระทมใจในช่วงที่หมด
00:30:24 → 00:30:26 กำลังใจเลยครับนึกดูแล้วเหมือนเสียเวลา
00:30:26 → 00:30:29 ช่วงนั้นไปเปล่าๆ
00:30:29 → 00:30:32 ถ้าเช่นนั้นผมมีแกชวนคุณทบทวนช่วงเวลาที่
00:30:32 → 00:30:35 คุณทำได้ดีกับช่วงเวลาที่คุณรู้สึกหมด
00:30:35 → 00:30:36 กำลังใจ
00:30:36 → 00:30:39 ลองดูว่ามีปัจจัยภายนอกอะไรบ้างมีอะไร
00:30:39 → 00:30:42 เข้ามากระทบชีวิตของคุณมันมักจะเป็น
00:30:42 → 00:30:45 เรื่องอะไรที่ทำให้คุณหมดกำลังใจนะครับ
00:30:45 → 00:30:48 ฉะนั้นลองดูว่ากระบวนการทางความคิดและ
00:30:48 → 00:30:51 ความรู้สึกของคุณเนี่ยคุณเห็นอะไรบ้างใน
00:30:51 → 00:30:54 ตัวเองมันอาจจะทำให้คุณเจอ
00:30:54 → 00:30:58 จุดที่จะช่วยป้องกันคุณไม่ให้ใจมันตกไป
00:30:58 → 00:31:01 อยู่ในจุดนั้นได้หรืออาจจะช่วยคุณรู้ว่า
00:31:01 → 00:31:03 คุณจะลุกขึ้นมาใหม่ได้เร็วขึ้นได้ยังไงนะ
00:31:03 → 00:31:05 ครับ
00:31:05 → 00:31:08 รอฟังค่ะที่ผ่านมาเจอกับปัญหามากมายฟัง
00:31:08 → 00:31:11 แล้วมีความรู้เพิ่มรู้จักตัวเองเข้าใจคน
00:31:11 → 00:31:13 ที่อยู่รอบข้างเอามาปรับใช้ในชีวิตประจำ
00:31:13 → 00:31:14 วันดีมาก
00:31:14 → 00:31:18 หัวข้อถูกใจขอบพระคุณรอฟังรอเดี๋ยวไปชวน
00:31:18 → 00:31:20 เพื่อนมาฟังด้วยขอบคุณคุณหมอผมได้
00:31:20 → 00:31:22 ประโยชน์มากขอให้คุณหมอครอบครัวมีแต่ความ
00:31:22 → 00:31:25 สุขจำประโยชน์นึงที่คุณหมอเคยพูดไว้ว่า
00:31:25 → 00:31:28 ให้อดเปรี้ยวไว้กินหวานเวลาท้อใจก็ใช้คำๆ
00:31:28 → 00:31:30 นี้ครับ
00:31:30 → 00:31:33 ขอบคุณจะรอฟังลูกสาว 10 ขวบ
00:31:33 → 00:31:36 ส่งเข้าเรียนเปียโนแล้วว่ายน้ำมาตั้งแต่
00:31:36 → 00:31:39 เล็กตามความคิดว่าให้มีดนตรี 1 อย่างกีฬา
00:31:39 → 00:31:42 1 อย่างติดตัวเด็กไปตอนนี้เขาไม่สนใจ
00:31:42 → 00:31:46 ทั้งดนตรีกีฬาถ้าทีเบื่อที่จะทำผมยังไม่
00:31:46 → 00:31:48 สังเกตเห็นว่าเขาสนใจหรือชอบอะไรเป็น
00:31:48 → 00:31:51 พิเศษยกเว้นเกมหน้าจอซึ่งไม่อยากให้ทำ
00:31:51 → 00:31:55 เยอะอยากถามว่าควรฝืนให้เขาทำต่อไปหรือ
00:31:55 → 00:31:58 ไม่หรือว่าให้หยุดแต่ก็เสียดายที่
00:31:58 → 00:32:00 อุตส่าห์เรียนมานานยังอยากให้เขาได้ดนตรี
00:32:00 → 00:32:03 กีฬาติดตัวไป
00:32:03 → 00:32:05 ข้อนี้เป็นเรื่องของการชั่งน้ำหนักข้อดี
00:32:05 → 00:32:08 ข้อเสียครับและเป็นเรื่องของการหลอกล่อ
00:32:08 → 00:32:10 และต่อรอง
00:32:10 → 00:32:13 แน่นอนนะครับว่าการเรียนเปียโนการว่ายน้ำ
00:32:13 → 00:32:17 เป็นสิ่งที่ไม่ได้สนุก
00:32:17 → 00:32:21 แล้วคนโดยพื้นฐานไม่ได้อยากที่จะทำสิ่ง
00:32:21 → 00:32:23 ที่ไม่สนุก
00:32:23 → 00:32:26 แต่บนเส้นทางนี้มันมีรางวัลบางอย่าง
00:32:26 → 00:32:28 ทำความรู้สึกได้
00:32:28 → 00:32:31 ขึ้นกับว่ารางวัลนั้นมีพลังสำหรับเขามาก
00:32:31 → 00:32:33 แค่ไหนนะครับ
00:32:33 → 00:32:39 ส่วนเกมหน้าจอเป็นตัวที่น่ากลัวมากมันมี
00:32:39 → 00:32:43 พลังในการดึงดูดให้เราหลงเข้าไปในโลก
00:32:43 → 00:32:48 ไซเบอร์นั้นโดยที่เราอาจจะลืมเวลาแล้วมัน
00:32:48 → 00:32:51 ถูกออกแบบมาโดยคนที่เข้าใจว่าจะหลอกล่อ
00:32:51 → 00:32:56 กระตุ้นความสนุกความตื่นเต้นได้อย่างไรนะ
00:32:56 → 00:32:59 ครับตัวผมเองไม่มีคำตอบในเรื่องนี้นะครับ
00:32:59 → 00:33:03 แต่ต้องบอกอ้างอิงว่า 1
00:33:03 → 00:33:09 คนในสารคดีเรื่อง Social คนที่เป็นระดับ
00:33:09 → 00:33:13 บริหารของ Social Media 3-4 คนที่ออกมา
00:33:13 → 00:33:14 ให้สัมภาษณ์
00:33:14 → 00:33:16 เขาไม่ให้ลูกเล่น
00:33:16 → 00:33:19 ไม่ให้ลูกมีการเข้าถึงโซเชียลมีเดียนะ
00:33:19 → 00:33:22 ครับ
00:33:22 → 00:33:24 ผมคิดว่ามันเป็นตัวเลือกที่คุณต้องรู้ว่า
00:33:24 → 00:33:29 จะทำยังไงนะครับตอนที่ลูกผมยังเล็กผมตั้ง
00:33:30 → 00:33:31 เป้าว่า
00:33:31 → 00:33:33 ถ้ายังอายุไม่ 16 ก็ยังไม่ให้มีโทรศัพท์
00:33:33 → 00:33:35 มือถือนะครับ
00:33:35 → 00:33:37 เพราะว่าดับเบิ้ลโชว์แนะนำไว้อย่างนั้น
00:33:37 → 00:33:40 แต่ว่าต้องยอมรับว่าโทรศัพท์มือถือนี่มัน
00:33:40 → 00:33:42 ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารด้วยดังนั้น
00:33:42 → 00:33:47 ก็รอจนอยู่ในชั้นมัธยมถึงให้เขาได้ใช้
00:33:47 → 00:33:51 ดังนั้นคุณอาจจะต้องชั่งน้ำหนักนะครับแต่
00:33:51 → 00:33:53 แกนกลางที่สำคัญที่สุดผมยังเชื่อว่าเป็น
00:33:53 → 00:33:56 เรื่องของความสัมพันธ์และการมีกิจกรรมที่
00:33:56 → 00:33:59 หลากหลายครับดังนั้นถ้าเขาเลือกที่จะไม่
00:33:59 → 00:34:01 เรียนเปียโนและไม่ว่ายน้ำต้องถามว่าเขาจะ
00:34:01 → 00:34:05 ทำอะไรเพื่อทำให้เขาได้มีชีวิตอยู่ในโลก
00:34:05 → 00:34:09 ภายนอกที่อยู่กับธรรมชาติให้มากนะครับ
00:34:09 → 00:34:12 แล้วก็ต้องดูพัฒนาการด้านอื่นควบคู่กันไป
00:34:12 → 00:34:13 นะครับ
00:34:13 → 00:34:17 การจะบังคับให้เรียนในแบบที่เขาไม่อยาก
00:34:17 → 00:34:18 เรียน
00:34:18 → 00:34:24 ผมรู้สึกบวกลบนะครับแต่ก็รู้ดีว่า
00:34:24 → 00:34:27 จริงๆผมมีตัวอย่างลูก 2 คนคนหนึ่งก็เรียง
00:34:27 → 00:34:30 ไปจนไปสอบได้หลายเกรดแต่จริงเวลาเขาก็
00:34:30 → 00:34:32 เลิกรับตอนเขาทำงานนะครับอีกคนนึงก็เรียน
00:34:32 → 00:34:34 ไปถึงจุดหนึ่งประมาณมต้นแล้วเขาก็เลิก
00:34:34 → 00:34:37 เหมือนกันนะครับแล้ว 2 คนก็ไม่ได้สนใจ
00:34:37 → 00:34:40 ทั้งสองเรื่องแต่แต่ละคนจะมีไลฟ์สไตล์บาง
00:34:40 → 00:34:45 อย่างที่เราพยายามสนับสนุนนะครับก็คือการ
00:34:45 → 00:34:48 ไปในที่ธรรมชาติการเป็นเคลื่อนไหวออก
00:34:48 → 00:34:51 กำลังกายซึ่งคนโตติดลมบนแล้วแต่คนเล็กยัง
00:34:51 → 00:34:54 อยู่ในช่วงของการต้องเรียกว่าต้อง
00:34:54 → 00:34:58 เชฟต้องจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นไปอยู่
00:34:58 → 00:35:00 เรื่อยๆนะครับ
00:35:00 → 00:35:06 มันเป็นทางออกที่แต่ละบ้านต้องหาดูนะครับ
00:35:06 → 00:35:09 วันหนึ่งเมื่อเขาเห็นความสำคัญของสุขภาพ
00:35:09 → 00:35:12 ซึ่งจะนานมากกว่าจะเป็นเช่นนั้น
00:35:12 → 00:35:14 หรือเห็นความสำคัญของส่วนที่เป็นส่วนผสม
00:35:15 → 00:35:19 อื่นซึ่งก็อีกนานมากเขาถึงจะอยากทำ
00:35:19 → 00:35:22 ถ้าเขายังมีเวลานะครับ
00:35:22 → 00:35:25 ดังนั้นตอนนี้เป็นเรื่องที่
00:35:25 → 00:35:28 คุณอาจจะต้องเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้อง
00:35:28 → 00:35:31 กิจกรรมเพื่อดึงให้เข้าอยู่ตรงกิจกรรม
00:35:31 → 00:35:35 นั้นได้ดีนะครับเช่นถ้าจะให้เขาว่ายน้ำ
00:35:35 → 00:35:38 คุณต้องลงว่ายน้ำกับเขานะครับ
00:35:38 → 00:35:41 ผมเจอที่สระว่ายน้ำในหมู่บ้านผมนะครับ
00:35:41 → 00:35:46 จะมีคนที่เป็นผู้ใหญ่ลงเล่นน้ำน้อยมากผม
00:35:46 → 00:35:48 เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่อยู่ในสระว่ายน้ำ
00:35:48 → 00:35:49 นะครับ
00:35:49 → 00:35:53 ที่เหลือนะครับเป็นพ่อแม่ที่พาลูกเล็กมา
00:35:53 → 00:35:55 ส่งเรียนกับครูแล้วก็นั่งดูโทรศัพท์มือ
00:35:55 → 00:35:59 ถือรอให้ครูสอนเสร็จนะครับหรือบางทีก็เอา
00:35:59 → 00:36:01 โทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปลูกถ่ายวีดีโอลูก
00:36:01 → 00:36:03 เล่นแต่เขาไม่ลงด้วย
00:36:03 → 00:36:06 ซึ่งในทัศนะผม
00:36:06 → 00:36:10 รวมทั้งตัวผมเองด้วยผมไม่ได้ให้ลูกเรียน
00:36:10 → 00:36:13 กับครูครับผมลงไปในสระสอนลูกด้วยตัวเอง
00:36:13 → 00:36:15 แล้วก็เล่นกับเขาด้วยนะครับ
00:36:15 → 00:36:17 ตรงนี้เป็นทางเลือกทั้งนั้นเลยนะครับแต่
00:36:17 → 00:36:19 สิ่งที่จะบอกก็คือ
00:36:19 → 00:36:22 ถ้าคุณอยากให้ลูกทำอะไรคุณต้องลองไปทำกับ
00:36:22 → 00:36:25 เขาด้วยจะดีกว่าที่จะส่งเข้าไปเรียนแล้ว
00:36:25 → 00:36:27 ก็นั่งเฝ้าอยู่ข้างนอกอย่างเดียวนะครับ
00:36:27 → 00:36:30 หวังว่าคงจะได้ข้อคิดบ้างนะครับ
00:36:30 → 00:36:32 ผ่านมาได้ด้วยกำลังใจจากตัวเองและ
00:36:32 → 00:36:34 ครอบครัวรวมทั้งเครื่องมือที่คุณหมอให้
00:36:34 → 00:36:36 ด้วยขอบคุณนะครับ
00:36:36 → 00:36:38 เราสามารถมีชีวิตได้โดยไม่ต้องมีความหมาย
00:36:38 → 00:36:40 หรือแรงบันดาลใจได้ไหมหรือความหมายแรง
00:36:40 → 00:36:45 บันดาลใจทำให้เรามีชีวิต
00:36:45 → 00:36:47 ทุกครั้งที่มีคำถามแบบนี้ผมจะกลับไปที่
00:36:47 → 00:36:48 พื้นฐานของมนุษย์ครับ
00:36:48 → 00:36:54 มนุษย์มีแรงขับเคลื่อนของการอยู่รอดการมี
00:36:54 → 00:36:57 อาหารการกินการหนีจากสัตว์อันตรายและสิ่ง
00:36:57 → 00:36:59 ที่จะเป็นภัยคุกคาม
00:36:59 → 00:37:02 การมีเพศสัมพันธ์เพื่อแพร่พันธุ์ต่อไป
00:37:02 → 00:37:05 การเข้ากลุ่มอันนี้คือชุดแรกนี้เป็นสมอง
00:37:05 → 00:37:06 ส่วนล่างนะครับ
00:37:06 → 00:37:10 การเข้ากลุ่มการได้รับการยอมรับการมีความ
00:37:10 → 00:37:12 ผูกพันความรักอันนี้เป็นสมองส่วนกลาง
00:37:12 → 00:37:15 สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสมองส่วนบนก็คือมัน
00:37:15 → 00:37:19 มีการวางแผนระยะไกลมันมีการออกแบบชีวิต
00:37:19 → 00:37:20 เพื่อ
00:37:20 → 00:37:24 ได้ทำสิ่งที่มีความหมายและท้าทาย
00:37:24 → 00:37:26 เพื่อความสนุก
00:37:26 → 00:37:29 นะครับหรือมีความหมายที่ลึกซึ้งไปกว่า
00:37:29 → 00:37:30 นั้น
00:37:30 → 00:37:33 ด้วยการตั้งคำถามว่าชีวิตนี้มีไปเพื่อ
00:37:33 → 00:37:35 อะไร
00:37:35 → 00:37:37 มันขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากจะใช้สมองส่วน
00:37:37 → 00:37:40 ไหนในการขับเคลื่อนชีวิตของคุณ
00:37:40 → 00:37:43 ถ้าในคนที่มีปัญญาทุกคนซึ่งผมเชื่อว่าคุณ
00:37:43 → 00:37:46 มีคุณถึงถามคำถามนี้
00:37:46 → 00:37:49 เราก็อยากจะใช้สมองทั้ง 3 ระดับนะครับ
00:37:49 → 00:37:53 สมองที่ขับเคลื่อนตามชีวภาพเราเลี่ยงไม่
00:37:53 → 00:37:54 ได้นะครับ
00:37:54 → 00:37:59 การกินการหายใจการดูแลตัวเองเพื่อความ
00:37:59 → 00:38:01 ปลอดภัย
00:38:01 → 00:38:03 นะครับซึ่งเราต้องยังชีพได้หรือถึงตอบ
00:38:03 → 00:38:06 ความต้องการนี้ได้ดังนั้นมันก็มีแรงขับ
00:38:06 → 00:38:08 เคลื่อนในเรื่องของการยังชีพ
00:38:08 → 00:38:12 ความสัมพันธ์ความผูกพันเป็นตัวที่ดีมาก
00:38:12 → 00:38:15 กับสุขภาพความสุขและอายุขัยของมนุษย์เลย
00:38:15 → 00:38:19 นะครับส่วนสมองส่วนบนสุดมันเป็นเรื่องของ
00:38:19 → 00:38:23 จินตนาการความคิดสร้างสรรค์ที่ต้องเชื่อม
00:38:23 → 00:38:26 ต่อกับตัวล่างนะครับสมองส่วนล่างกับการ
00:38:26 → 00:38:29 ควบคุมตัวเองมีวินัยบังคับตัวเองทำสิ่ง
00:38:29 → 00:38:31 ที่ไม่ชอบแต่รู้ว่ามันจะพาไปสู่ผลลัพธ์
00:38:31 → 00:38:35 ที่ดีอันนี้ต้องอาศัยส่วนของส่วนบนนะครับ
00:38:35 → 00:38:38 คราวนี้ถ้ากลับมาตอบโจทย์คุณว่าเรามี
00:38:38 → 00:38:41 ชีวิตโดยไม่ต้องมีความหมายได้ไหม
00:38:41 → 00:38:44 ได้ครับมันเป็นตัวเลือก
00:38:44 → 00:38:47 หรือความหมายทำให้เรามีชีวิต
00:38:47 → 00:38:51 ไม่ครับผมคิดว่ามนุษย์ที่ไม่มีไม่ได้ค้น
00:38:51 → 00:38:53 หาความหมายก็มีชีวิตเพราะเขายังอยากมี
00:38:53 → 00:38:55 ชีวิตอยู่เนื่องจากมันอยู่ในระดับเสียง
00:38:55 → 00:38:57 ชัดแต่ยานนะครับมันอยู่ในระดับของสัตว์
00:38:57 → 00:39:00 เลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานก็มีครับไม่ต้องมี
00:39:00 → 00:39:03 ความหมายมันก็มีชีวิตรอดนะครับ
00:39:03 → 00:39:05 นั้นมนุษย์จึงเป็นสัตว์ที่พัฒนาการ
00:39:06 → 00:39:08 วิวัฒนาการมาอีกจุดที่เรามีคำถามกับชีวิต
00:39:08 → 00:39:10 เยอะครับ
00:39:10 → 00:39:12 แต่ตัวที่ร้ายกว่านั้นก็คือเราได้สร้าง
00:39:12 → 00:39:16 สิ่งแวดล้อมที่ทำให้เราท้อใจที่ทำให้เรา
00:39:16 → 00:39:19 หมดกำลังใจที่ทำให้เรารู้สึกเครียด
00:39:19 → 00:39:23 เรื้อรังได้จากอาหารการกินจากแสงที่ทำให้
00:39:23 → 00:39:25 เรานอนไม่เป็นปกติแล้วก็จากสิ่งแวดล้อม
00:39:25 → 00:39:27 ที่ทำให้เรานั่งมากกว่าเดิมเคลื่อนไหวนะ
00:39:27 → 00:39:30 ครับกินนอนออกกำลังกายมันถูก disruct หมด
00:39:30 → 00:39:32 เลยจากวิถีชีวิตของโลกปัจจุบัน
00:39:32 → 00:39:35 มันก็อาจทำให้เราไปอยู่ในจุดที่รู้สึกไม่
00:39:35 → 00:39:38 ค่อยมีแรงได้นะครับ
00:39:38 → 00:39:41 ถามให้ลูกเราอยู่ฝรั่งเศสลูกชายไม่รู้ว่า
00:39:41 → 00:39:44 เขาชอบงานด้านไหนต้องทำไงดีแนะนำเขายังไง
00:39:44 → 00:39:47 อายุ 23 เรียนงานบริการในร้านอาหารมา 2
00:39:47 → 00:39:50 ปีทำงานได้ 3 ปีก็เลิกไม่ชอบต้องเข้างาน
00:39:50 → 00:39:54 วันละ 2 รอบคือรอบเที่ยงกับรอบเย็นเลิก
00:39:54 → 00:39:56 ดึกฉะนั้นก็มาเรียนด้านการประปาติดตั้ง
00:39:56 → 00:39:59 ระบบเขาคิดว่าเขาชอบปีที่แล้วก็ได้ทำงาน
00:40:00 → 00:40:03 กับบริษัทจนจบสัญญาปีนี้ได้ทำกับอีก
00:40:03 → 00:40:06 บริษัทหนึ่งยากกว่าที่เรียนมาทำให้เขาผิด
00:40:06 → 00:40:08 หวังเลยลาออกกลับมาบ้านบอกจะไม่ทำงานนี้
00:40:08 → 00:40:11 อีกเขาบอกว่าไม่อยากให้ใครมองว่าเขาไม่
00:40:11 → 00:40:14 เก่ง
00:40:14 → 00:40:17 ตอนนี้เริ่มลงโพสต์แมนให้เอามาซอนได้
00:40:17 → 00:40:21 ภาวนาว่าอย่าลาออกฝรั่งเศสของแพงมากส่วน
00:40:21 → 00:40:23 พ่อเขาอยากให้กลับไปเรียนเพิ่มประปาเพราะ
00:40:23 → 00:40:25 มันน่าสนใจและสร้างอะไรให้ตัวเองได้ใน
00:40:25 → 00:40:26 อนาคต
00:40:26 → 00:40:29 รวมทั้งสามารถเปิดบริษัทเล็กๆได้ส่วน
00:40:29 → 00:40:32 ดิฉันลูกทำอะไรก็ได้
00:40:32 → 00:40:35 อยากให้เขาเจองานที่ถนัดนะครับอย่าลาออก
00:40:35 → 00:40:36 ดื้อๆ
00:40:36 → 00:40:39 ตอนนี้มันมีแนวโน้มของคนรุ่นใหม่ที่มี
00:40:39 → 00:40:42 ความเชื่อว่าเขาอยากจะมีอิสรภาพและอยากจะ
00:40:42 → 00:40:43 เลือกเส้นทางตัวเอง
00:40:43 → 00:40:47 มันทำให้บางครั้งเขาไม่ได้ฝืนความ
00:40:47 → 00:40:50 ยากลำบากของชีวิตนะครับ
00:40:50 → 00:40:54 แต่การที่เขาไม่อยากรู้สึกว่าเขาไม่เก่ง
00:40:54 → 00:40:57 ตอนฝึกเนี่ยจริงๆเราจะเก่งอะไรได้เราต้อง
00:40:57 → 00:41:00 เริ่มต้นจากการไม่เก่งก่อนนะครับ
00:41:00 → 00:41:02 ผมคิดว่า
00:41:02 → 00:41:06 ถ้ามองในภาพรวมถอยไปหน่อยนึงข้อคิดของ
00:41:06 → 00:41:08 สามีคุณน่าสนใจ
00:41:08 → 00:41:11 เพราะผมเจอว่าการเป็นช่าง
00:41:11 → 00:41:16 หารายได้ได้ตลอดชีวิตนะครับผมอยู่ในเมือง
00:41:16 → 00:41:20 ไทยอยู่ในเขตเมืองจะหาช่างฝีมือดีที่ราคา
00:41:20 → 00:41:23 เหมาะสมแล้วก็ไว้ใจได้หายาก
00:41:23 → 00:41:27 กลายเป็นต้องรอคิวกันเป็นเดือนนะครับ
00:41:27 → 00:41:31 เข้าใจว่าต่างประเทศงานกลุ่มนี้กับยิ่งดี
00:41:31 → 00:41:33 กว่าเมืองไทยด้วยซ้ำเพราะว่ามันเป็น
00:41:33 → 00:41:36 ช่องว่างของรายได้มันมีไม่มากเท่ากับใน
00:41:36 → 00:41:37 เมืองไทยนะครับ
00:41:37 → 00:41:40 แต่เขาจะชอบไม่ชอบเนี่ยผมคิดว่าไม่ได้
00:41:40 → 00:41:42 อยู่ที่ว่าเขาถนัดอะไรอย่างเดียวมันอยู่
00:41:42 → 00:41:47 ที่ว่าเขามีความอดทนไหมซึ่งตรงนี้เนี่ย
00:41:47 → 00:41:51 ความสามารถในการอดทนมันเป็นคุณสมบัติที่
00:41:51 → 00:41:56 ฝึกตั้งแต่ตอนเด็กส่วนหนึ่งแล้วก็
00:41:56 → 00:41:59 ถ้าอยากจะเพิ่มในตอนปัจจุบันการออกกำลัง
00:41:59 → 00:42:01 กายประจำจะช่วยให้เรามีความอดทนได้มาก
00:42:01 → 00:42:02 ขึ้น
00:42:02 → 00:42:05 ดังนั้นถ้าเกิดเขายังไม่ทำอะไรผมก็จะ
00:42:05 → 00:42:08 เชียร์ให้เขาได้ไปผจญภัยไปหาตัวเอง
00:42:08 → 00:42:12 ไปปีนป่ายนะครับเผื่อเขาจะเข้าใจชีวิตมาก
00:42:12 → 00:42:13 ขึ้น
00:42:13 → 00:42:15 แต่อันนี้เป็นเพียงตัวเลือกที่ผมคิดออกใน
00:42:15 → 00:42:18 เวลาสั้นๆนะ
00:42:18 → 00:42:20 ครับถ้าผมคุยกับคนที่เจอโจทย์แบบนี้นะ
00:42:20 → 00:42:21 ครับ
00:42:21 → 00:42:25 ผมจะใช้เวลาสักพักนึงเลยกว่าจะคลำทางถูก
00:42:25 → 00:42:28 ว่าจุดไหนที่เราควรจะ
00:42:28 → 00:42:30 ช่วยให้เขาเห็นตัวเองแล้วก็ช่วยเขาเกิด
00:42:30 → 00:42:33 แผนในการทดลองกับชีวิตเพื่อจะได้ค้นหาตัว
00:42:33 → 00:42:35 เองเจอ
00:42:35 → 00:42:37 ขอบคุณอาจารย์หมอที่เลือกหัวข้อและเตรียม
00:42:37 → 00:42:40 เนื้อหามาจุดประกายสร้างความหวังเจิดจรัส
00:42:40 → 00:42:43 จรัสเจิดจ้านะครับในการดำเนินชีวิต
00:42:43 → 00:42:46 ตอนนี้กราฟของความท้อใจผ่านจุดต่ำสุดไป
00:42:46 → 00:42:49 แล้วไปปฏิบัติธรรมมาก็ดีขึ้นกินนอนออก
00:42:49 → 00:42:53 กำลังกายตามหมอแนะนำหลบหนีจากคนในวงในที่
00:42:53 → 00:42:57 กระทบใจที่สุดไปก่อนอย่าไปพบนักจิตบำบัด
00:42:57 → 00:42:59 เพื่อแก้ปมแต่ไม่มั่นใจว่าจะหาได้จากที่
00:42:59 → 00:43:02 ไหนเคยไปพบนักจิตวิทยาประจำอำเภอก่อน
00:43:02 → 00:43:06 โควิดแต่รู้สึกแย่ลงและไม่อยากไปอีกครับ
00:43:06 → 00:43:09 คุณอาจจะต้องการการเจอนักจิตบำบัดที่มี
00:43:09 → 00:43:13 คุณภาพซึ่งในตอนนี้นะครับตัว Facebook
00:43:13 → 00:43:15 ของสมาคม
00:43:15 → 00:43:19 เพื่อการพัฒนาศักยภาพมนุษย์และจิตบำบัด
00:43:19 → 00:43:21 แนวสักทีเนี่ยผมก็จะว่าเขาจะเริ่มขึ้น
00:43:21 → 00:43:24 ชื่อของคนที่จบหลักสูตรการเป็นนักบำบัด
00:43:24 → 00:43:27 สายซะทีนะครับ
00:43:27 → 00:43:30 อันนั้นเป็นแหล่งหนึ่งที่คุณอาจจะพบส่วน
00:43:30 → 00:43:32 เรื่องปมข้างใจผมยังคิดว่าแหล่งที่ง่าย
00:43:32 → 00:43:34 ที่สุดสำหรับคุณยังคงเป็นการมาเรียนใน
00:43:34 → 00:43:37 หลักสูตรบทเรียนแค่ปมทางใจนะครับใน
00:43:37 → 00:43:39 ระหว่างที่มันไม่มีตัวเลือกอื่นนะครับ
00:43:39 → 00:43:42 เป็นไบโพลาร์รักษามา 3 ปีปรับยาจนดีขึ้น
00:43:42 → 00:43:45 เพราะหมอลดยาลงเมื่อ 2 เดือนก่อนอาการก็
00:43:45 → 00:43:48 ปกติตอนนี้ทำท่าจะดิ่งเหมือนเริ่มสนุกไม่
00:43:48 → 00:43:51 สนุกไม่อยากออกกำลังกายไม่อยากอาหารเริ่ม
00:43:51 → 00:43:53 ท้อควรทำยังไง
00:43:53 → 00:43:55 ผมแนะนำให้กลับไปใช้ยาครับ
00:43:55 → 00:43:58 เพราะว่าไบโพลาร์เนี่ย
00:43:58 → 00:44:01 หลายคนหยุดยาไม่ได้แต่ว่าครั้งนี้ก็จะทำ
00:44:01 → 00:44:02 ให้คุณรู้ว่า
00:44:02 → 00:44:05 เราอาจจะต้องลดยาลงแต่อาจจะไม่ถึงกับหยุด
00:44:05 → 00:44:07 นะครับอันนั้นเป็นตัวเลือกที่หนึ่งที่น่า
00:44:07 → 00:44:10 ต้องทำแน่ๆ 2 ก็คือในการกลับไปรับยาเพิ่ม
00:44:10 → 00:44:13 เนี่ยกลับมาใหม่เนี่ยคนอาจจะต้องทบทวนว่า
00:44:13 → 00:44:16 ครั้งนี้เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่านะครับคือ
00:44:16 → 00:44:18 ตอนที่คุณหยุดยา 2 เดือนแรกที่ไม่เกิด
00:44:18 → 00:44:20 อะไรเนี่ยมันไม่ได้เกิดจากว่าคุณไม่ต้อง
00:44:21 → 00:44:23 กินยาแล้วนะครับแต่ยาที่มันอยู่ในตัวเรา
00:44:23 → 00:44:25 เนี่ยมันยังมีฤทธิ์ในการรักษาอยู่แม้ว่า
00:44:25 → 00:44:28 เราจะหยุดไปสักพักนึงแล้วถ้าคุณมาเจอเหตุ
00:44:28 → 00:44:30 เครียดมันจะกระตุ้นให้เกิดป่วยขึ้นมาได้
00:44:30 → 00:44:33 นะครับงั้นตอนนี้มันต้องดูปัจจัยในเรื่อง
00:44:33 → 00:44:34 ของ
00:44:34 → 00:44:37 สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณด้วยกับการบอก
00:44:37 → 00:44:39 ว่ายาคุณอาจจะยังหยุดไม่ได้ในตอนนี้นะ
00:44:39 → 00:44:40 ครับ
00:44:40 → 00:44:43 งานได้เงินงานทำ
00:44:43 → 00:44:46 เป็นหัวข้อที่ยากมากเลยครับแต่ละคนมีพื้น
00:44:46 → 00:44:49 ฐานความเป็นมาแตกต่างกันแม้แต่พี่น้อง
00:44:49 → 00:44:51 ครอบครัวเดียวกันความคิดทัศนคติก็ต่างกัน
00:44:51 → 00:44:55 คำตอบมันเฉพาะมากสำหรับคนคนหนึ่งบางคนอาจ
00:44:55 → 00:44:57 ไม่เจอทั้งชีวิตปูเสื่อรอ
00:44:57 → 00:45:00 ที่คุณพูดก็จริงเลยครับแล้วถ้าคุณสังเกต
00:45:00 → 00:45:03 ดีๆคุณก็อาจจะเห็นด้วยนะครับว่า
00:45:03 → 00:45:08 เรากับพี่น้องของเราในบ้านเราเองก็ไม่ใช่
00:45:08 → 00:45:10 เหมือนกันตัวผมเองก็สังเกตเห็นนะครับว่า
00:45:10 → 00:45:14 ผมกับพี่น้องเนี่ยก็ไม่เหมือนกัน
00:45:14 → 00:45:17 เอาล่ะครับตอนนี้จะมาดูที่ Facebook นะ
00:45:17 → 00:45:19 ครับ
00:45:19 → 00:45:22 Facebook มีคนส่งเข้ามา 33
00:45:22 → 00:45:26 ข้อความนะครับรอครับอยู่บ้านสองทุ่มอีก
00:45:26 → 00:45:29 แล้วขอบคุณคุณหมอมาก
00:45:29 → 00:45:32 เป็นหัวข้อที่กำลังต้องการฟังในช่วงนี้
00:45:32 → 00:45:34 เพราะอยู่ในช่วงที่หัวหน้าครอบครัวเป็น
00:45:34 → 00:45:37 ที่รักกำลังจะจากไปเพราะโรคมะเร็งส่วนตัว
00:45:37 → 00:45:40 เองก็หมดแรงที่จะทำงานทั้งๆที่กำลังไปได้
00:45:40 → 00:45:42 ดีทำอยู่ตอนนี้คือพยายามทำหน้าที่แม่และ
00:45:42 → 00:45:45 หัวหน้าครอบครัวให้ดีในวงเล็บอยู่ต่าง
00:45:45 → 00:45:49 ประเทศ
00:45:49 → 00:45:52 มันเป็นการเตรียมใจในการสูญเสียหัวหน้า
00:45:52 → 00:45:56 ครอบครัวที่เป็นที่รักของคุณ
00:45:56 → 00:45:59 มันก็จึงมีภาระทางความรู้สึกหลายอย่าง
00:45:59 → 00:46:03 ทั้งในแง่ของการเตรียมใจเห็นความทุกข์ของ
00:46:03 → 00:46:06 เขาแล้วก็สะเทือนใจเรา
00:46:06 → 00:46:09 นอกจากนี้เราก็ยังมีความกังวลถึงอนาคตที่
00:46:09 → 00:46:12 จะตามมา
00:46:12 → 00:46:14 ไอ้ภาระความรู้สึกเหล่านี้เวลาที่มันมี
00:46:14 → 00:46:17 เยอะๆเราจะไม่เหลือแรงมากนักนะครับ
00:46:17 → 00:46:20 ในช่วงเวลาที่เรามีภาระทางใจหลายๆเรื่อง
00:46:20 → 00:46:22 เนี่ยหลายครั้งผมจะแนะนำให้กินอาหารเสริม
00:46:22 → 00:46:25 อย่างต่ำสุดก็จะเป็นวิตามินรวม
00:46:25 → 00:46:29 เพราะว่าเวลาที่เราเครียดเรื้อรังเรามัก
00:46:29 → 00:46:32 จะใช้สารอาหารเหล่านี้มากขึ้นนะครับอย่า
00:46:32 → 00:46:34 ถามว่ายี่ห้ออะไรนะครับเอายี่ห้อที่มี
00:46:34 → 00:46:37 ส่วนผสมเยอะๆรวมถึงประเภทที่มีแมกนีเซียม
00:46:37 → 00:46:38 แมงกานีส
00:46:38 → 00:46:42 ประเภทนี้นะครับใส่เข้าไปด้วยซิงค์ด้วยนะ
00:46:42 → 00:46:45 ครับสังกะสี
00:46:45 → 00:46:47 คราวนี้การที่คุณพยายามทำหน้าที่แม่และ
00:46:47 → 00:46:49 หัวหน้าครอบครัวให้ดีที่สุดนะเป็นเรื่อง
00:46:49 → 00:46:51 ที่ดีแล้วขอให้โฟกัสตัวนี้นะครับสิ่งที่
00:46:51 → 00:46:54 จะแนะนำเพิ่มได้ก็คงเป็นเรื่องของการดูแล
00:46:54 → 00:46:59 ระบบชีวภาพของคุณ
00:46:59 → 00:47:02 ที่เหลือก็คงเป็นเรื่องของการค่อยๆเดินไป
00:47:02 → 00:47:05 ทีละก้าวครับในช่วงเวลาที่ยากลำบากเนี่ย
00:47:05 → 00:47:09 หัวใจสำคัญที่สุดก็คือเรามีความตระหนัก
00:47:09 → 00:47:12 ว่าเราต้องค่อยๆเดินทีละขั้นทีละขั้นไปนะ
00:47:12 → 00:47:13 ครับ
00:47:13 → 00:47:16 แล้วก็หลายครั้งเราจะมองภาพไกลไม่ออก
00:47:16 → 00:47:19 เพราะมันมันไม่ใช่ชีวิตที่เราจะนึกไว้
00:47:19 → 00:47:20 ล่วงหน้า
00:47:20 → 00:47:23 ดังนั้นคุณก็ค่อยๆเดินไปแล้วค่อยๆปะติดปะ
00:47:23 → 00:47:28 ต่อภาพสำหรับอนาคตไปโดยไม่ต้องรีบ
00:47:28 → 00:47:31 ขอบคุณครับคุณหมอรอฟังทุกวันนี้พยายามนำ
00:47:31 → 00:47:34 สิ่งที่หมอสอนมาใช้มีปัญหาครอบครัวผ่านมา
00:47:34 → 00:47:38 ปียังไม่ดีเท่าไหร่ยังทำตามคำแนะนำอยู่
00:47:38 → 00:47:40 ตลอดบางครั้งก็เผลอคิดวนทำให้หมดกำลังใจ
00:47:40 → 00:47:45 นะครับรอฟังเมื่อปี 16 ผมไม่ได้ทำงานหา
00:47:45 → 00:47:46 รายได้อะไรทั้งปี
00:47:46 → 00:47:50 รู้สึกไม่มีค่ามากๆตอนแฟนไปทำงานต้องอยู่
00:47:50 → 00:47:52 บ้านพักที่พักคนเดียวรู้สึกเบื่อเศร้า
00:47:52 → 00:47:56 ทำไมชีวิตมันเป็นแบบนี้จนปลายปีแฟนบอกให้
00:47:56 → 00:48:00 ออกไปวิ่งอย่าอยู่เฉยๆเริ่มต้นวิ่งมันยาก
00:48:00 → 00:48:03 มากเลยสุดๆแต่พอผ่านมาได้มันทำให้เราผ่อน
00:48:03 → 00:48:06 คลายลงคิดได้ว่าชีวิตยังมีด้านอื่นที่น่า
00:48:06 → 00:48:08 สนใจถ้าเปิดใจรับ
00:48:08 → 00:48:10 กำลังใจที่จะมีอยู่ก็เริ่มดีขึ้นหลายๆ
00:48:10 → 00:48:13 อย่างเริ่มออกเริ่มมีทางออกหลังจากผ่านไป
00:48:13 → 00:48:15 1 ปีนะครับ
00:48:15 → 00:48:18 ต้องชื่นชมเพราะว่า
00:48:18 → 00:48:20 สิ่งที่คุณทำมันเป็นตัวอย่างที่ดีด้วย
00:48:20 → 00:48:24 แล้วขอบคุณที่มาแบ่งปันนะครับการกินนอน
00:48:24 → 00:48:27 ออกกำลังกายมันเป็นตัวรักษาฐานของระบบ
00:48:27 → 00:48:28 ชีวภาพของเรา
00:48:28 → 00:48:31 ซึ่งอย่างน้อยเราก็ยังรู้ว่าเรากำลังดูแล
00:48:31 → 00:48:34 ตัวเราได้ดีนะครับในบางครั้งผมเห็นคนที่
00:48:35 → 00:48:38 ออกจากงานและหางานทำยังไม่ได้มันเป็น
00:48:38 → 00:48:40 สภาวะที่บีบคั้นมาก
00:48:40 → 00:48:43 ซึ่งในบางจังหวะมันอยู่ที่ความถนัดความ
00:48:43 → 00:48:46 เชี่ยวชาญในอาชีพของเราด้วยเพราะมันมี
00:48:46 → 00:48:49 จังหวะที่เข้ากันได้ไหมกับกับงานนะครับ
00:48:49 → 00:48:52 ดังนั้นมันไม่ใช่อยู่ที่ตัวเรามันอยู่ที่
00:48:52 → 00:48:56 ความเข้ากันระหว่างตัวเรากับสิ่งแวดล้อม
00:48:56 → 00:48:59 ในบางอาชีพเนี่ยอาจจะต้องเตรียมตัวด้วย
00:48:59 → 00:49:03 ซ้ำนะครับว่าเราจะมีอาชีพอื่นเป็นอาชีพ
00:49:03 → 00:49:07 ที่ 2 ยังไงในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็ว
00:49:07 → 00:49:11 หัวข้อน่าสนใจรอฟังจากนอร์เวย์เป็นหัวข้อ
00:49:11 → 00:49:41 ที่อยากฟังกราบขอบพระคุณ
00:49:41 → 00:49:44 ซึ่งในระบบไทรอยด์จริงๆอย่างที่เราเคยคุย
00:49:44 → 00:49:46 กันเรื่อง mindet โรคเรื้อรัง
00:49:46 → 00:49:49 ความเจ็บป่วยมันเป็นสภาวะที่เกิดจากหลาย
00:49:49 → 00:49:52 ปัจจัยนะครับแต่เวลาไปเจอด้วยโรคโรคหนึ่ง
00:49:52 → 00:49:56 คำอธิบายในการป่วยเป็นโรคมันจะเป็นคำ
00:49:56 → 00:50:00 อธิบายของขั้นตอนท้ายๆของการทำงานของร่าง
00:50:00 → 00:50:03 กายซึ่งก่อให้เกิดเป็นโรคนะครับยกตัว
00:50:03 → 00:50:05 อย่างไปแล้วถ้าคุณยังไม่ได้ฟังไปลองฟังดู
00:50:05 → 00:50:08 นะครับแต่กลับมาที่กรณีของไทรอยด์
00:50:08 → 00:50:12 ก็ผมก็คุยกับหมอรุ่นน้องที่ทำงานได้
00:50:12 → 00:50:16 ฮอร์โมนนะครับเขาแล้วก็ถามเขาว่ามันมีสาร
00:50:16 → 00:50:19 อาหารอะไรที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้ได้มี
00:50:19 → 00:50:21 วิถีชีวิตอะไรที่มีงานวิจัยเพราะว่า
00:50:21 → 00:50:23 เกี่ยวข้องกับโรคนี้ได้นะครับเพราะโดย
00:50:23 → 00:50:25 ความเชื่อของผมก็คือ
00:50:25 → 00:50:28 วิถีชีวิตที่ดีกับสุขภาพมันเป็นฐานในการ
00:50:28 → 00:50:32 ป้องกันโรคและฐานในการรักษาทุกโรคคล้าย
00:50:32 → 00:50:35 กันแต่แต่ละโรคอาจจะมีสารหรือมีวิธีบาง
00:50:35 → 00:50:37 อย่างที่เฉพาะเพิ่มเติมนะครับ
00:50:37 → 00:50:41 กรณีนี้ก็เจอครับกรณีนี้ในไทรอยด์ที่มี
00:50:41 → 00:50:42 มากเกิน
00:50:42 → 00:50:46 เขาก็พบว่าสารที่มักจะมีการขาดในร่างกาย
00:50:46 → 00:50:50 คือเซเรเนียมซึ่งไม่ใช่ชื่อที่ผมจะคุ้น
00:50:50 → 00:50:52 น่ะผมก็
00:50:53 → 00:50:57 ไปค้นต่อแล้วก็พบว่าอ้อจริงๆการปรับระบบ
00:50:57 → 00:51:00 ชีวิตด้วยตัวอื่นทั้งหมดอย่างสำคัญแต่ว่า
00:51:00 → 00:51:04 กรณีนี้ให้คิดถึงตัวเฉพาะด้วยโรคแต่โรคก็
00:51:04 → 00:51:07 อาจจะมีลักษณะคล้ายๆกันคือมันจะมีภาพรวม
00:51:07 → 00:51:09 ที่คล้ายกันในการเยียวยากินนอนออกกำลัง
00:51:09 → 00:51:13 กายกับความเครียดกับเรื่องสายสัมพันธ์กับ
00:51:13 → 00:51:15 เรื่องความสุข
00:51:15 → 00:51:18 กับสารบางตัวที่อาจจะมีความจำพอกกับโรค
00:51:18 → 00:51:22 นั้นๆซึ่งตัวนี้เป็นสิ่งที่เราค้นหาได้นะ
00:51:22 → 00:51:23 ครับ
00:51:23 → 00:51:26 หรืออย่างน้อยก็สอบถามได้
00:51:26 → 00:51:30 แล้วผมก็พบว่ามีสารเคมีบางตัวที่อาจจะ
00:51:30 → 00:51:33 ช่วยในภาพรวมได้ด้วยเช่นกันแต่ส่วนใหญ่
00:51:33 → 00:51:36 มันอยู่ในกลุ่มของสารต้านอนุมูลอิสระนะ
00:51:36 → 00:51:39 ครับซึ่งคุณก็หาได้โดยเช่นกัน
00:51:39 → 00:51:43 ดังนั้นจึงอยากจะชวนคุณมองในแง่ของการเรา
00:51:43 → 00:51:46 จะระบบชีวิตและลองดูว่าภาวะฮอร์โมน
00:51:46 → 00:51:48 เปลี่ยนแปลงของคุณเนี่ยมันมีสารอะไรเฉพาะ
00:51:48 → 00:51:51 ที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องได้บ้างนะครับแต่
00:51:51 → 00:51:53 ถ้าคุณกำลังพูดถึงภาวะใกล้หมดประจำเดือน
00:51:53 → 00:51:54 นะครับ
00:51:54 → 00:51:57 ให้รู้อย่างหนึ่งนะครับว่า
00:51:57 → 00:52:00 มุมมองทางการแพทย์กับมุมมองทางสังคม
00:52:00 → 00:52:06 กับมนุษยวิทยาจะไม่เหมือนกันนะครับถ้าคุณ
00:52:06 → 00:52:09 กำลังดูทางเลือกลองค้นความมุมมองที่หลาก
00:52:09 → 00:52:12 หลายดูนะครับเช่นเรื่องของการใช้ฮอร์โมน
00:52:12 → 00:52:15 เข้าไปช่วยรักษามันก็มีทั้งบวกและลบซึ่ง
00:52:15 → 00:52:18 ต้องชั่งน้ำหนักในแต่ละคน
00:52:18 → 00:52:22 ชีวิตขาลงรอฟังนะคะเผื่อจะได้แนวคิดใหม่ๆ
00:52:22 → 00:52:25 อยากมีอะไรทำใหม่ๆบ้างชีวิตจะได้มีค่ามาก
00:52:25 → 00:52:28 ขึ้น
00:52:28 → 00:52:31 ผมหวังว่าสิ่งที่ผมพูดไปแม้จะไม่ได้แตก
00:52:31 → 00:52:34 เรื่องเส้นทางอาชีพการงานแต่มันอาจจะให้
00:52:34 → 00:52:36 ข้อคิดกับคุณได้นะครับ
00:52:36 → 00:52:40 ทำไงให้มีแรงบันดาลใจกลับมาจากสมาชิกปม 3
00:52:40 → 00:52:43 นะครับซึ่งเคยจัดไปแล้วเพียงครั้งเดียวใน
00:52:43 → 00:52:46 ปี 2022 นะครับ
00:52:46 → 00:52:50 ได้ช่วยคนไข้ในยามที่ตัวเองหมดแรงได้
00:52:50 → 00:52:53 เริ่มหัดวิ่งท้าทายตัวเองลองมีค่าดูสิค่า
00:52:53 → 00:52:56 คอนโดผ่อนรถ
00:52:56 → 00:53:01 รอมีค่ารอคอยและอดทนช้อปปิ้งเห็นแววตาของ
00:53:01 → 00:53:04 ลูกมีเป้าหมายในชีวิตตั้งแต่ชัดเจนตั้ง
00:53:04 → 00:53:07 แต่ยังเด็กเลยไม่หมดแรงดมกลิ่นหัวลูกหลัง
00:53:07 → 00:53:10 สระผมนะครับคุณไม่ได้พูดถึงกระบวนการภาย
00:53:10 → 00:53:13 ในนะครับแต่ผมรู้ดีว่าคุณมีการจัดการ
00:53:13 → 00:53:16 กระบวนการภายในด้วยซึ่งตอนนั้นเป็นสิ่ง
00:53:16 → 00:53:19 ที่หาไม่ได้จากภายนอกในพื้นที่ทั่วไปใน
00:53:19 → 00:53:20 สังคมนะครับ
00:53:20 → 00:53:24 น่าสนใจรอฟังกับคุณหมอเป็นหัวข้อน่าสนใจ
00:53:24 → 00:53:27 ในวันที่คนรอบข้างไม่ให้กำลังใจเราต้อง
00:53:27 → 00:53:30 ให้กำลังใจตัวเองต้องเมตตาและรักตัวเองนะ
00:53:30 → 00:53:34 ครับพึ่งถูกใจสิ่งนี้
00:53:34 → 00:53:37 อ๋อครับพึ่งในที่นี้คือผึ้งที่เป็นชื่อ
00:53:37 → 00:53:40 คุณนะครับน่าสนใจมากครับ
00:53:40 → 00:53:43 หัวข้อน่าสนใจมากสำหรับคนทำงานมานานมี
00:53:43 → 00:53:47 ชีวิตใหม่กี่ครั้งใครจะรู้คำนี้อยู่ในใจ
00:53:47 → 00:53:51 เสมอค่ะคุณหมอผ่านเรื่องแย่ๆมาได้
00:53:51 → 00:53:55 มีชีวิตใหม่ตรีกี่ครั้งใครจะรู้
00:53:55 → 00:54:00 สวัสดีค่ะรอฟังรอฟังจะได้นำไปแบ่งปันพูด
00:54:00 → 00:54:02 ให้คนที่เรารักซึ่งป่วยเป็นตับอักเสบอยู่
00:54:02 → 00:54:06 ในระดับ 8 เขาหมดกำลังใจนอนร้องไห้
00:54:06 → 00:54:10 ภายใต้นั้นนะครับมันอาจจะมีความกลัวความ
00:54:10 → 00:54:14 ทุกข์ทรมานทางร่างกายความไม่ชอบและไม่รู้
00:54:14 → 00:54:17 จะหนีไปได้ยังไงเพราะว่ามันอยู่ในตัวเขา
00:54:17 → 00:54:20 กับสารพัดความคิดที่วิ่งอยู่ในหัวซึ่งมัน
00:54:21 → 00:54:23 อาจจะเป็นแหล่งสร้างความทุกข์มากไปกว่า
00:54:23 → 00:54:26 การป่วยเป็นโรคนะครับ
00:54:26 → 00:54:28 ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยก็ได้มากๆอาจจะเป็น
00:54:28 → 00:54:32 การได้กลับมานิ่งๆอยู่กับตัวเองซึ่งในคน
00:54:32 → 00:54:34 ที่ไม่มีทักษะอาจจะต้องฝึกตัวนี้ขึ้นมา
00:54:34 → 00:54:38 อาจจะใช้ดนตรีหรืออาจจะใช้สิ่งอื่นแต่นี่
00:54:38 → 00:54:41 ไม่ใช่สูตรสำเร็จนะครับดีที่สุดก็คือต้อง
00:54:41 → 00:54:44 มีโอกาสได้พูดคุยและได้ดูว่าโจทย์ของเขา
00:54:44 → 00:54:45 อยู่ตรงไหนนะครับ
00:54:45 → 00:54:48 ฟังเพื่อเป็นวัคซีนให้มีพลังก้าวไปข้าง
00:54:48 → 00:54:49 หน้า
00:54:49 → 00:54:54 หมดกำลังใจค่ะคนรอบข้างตอบย้ำความผิดพลาด
00:54:54 → 00:54:57 ผมงงกับความคิดแปลกแยกของตนเอง
00:54:57 → 00:55:01 คือคิดลบมีอิทธิพลเหนือเหตุผลใดๆ
00:55:01 → 00:55:03 เกษียณมา 2 เดือนพบว่าการอยู่คนเดียวไม่
00:55:03 → 00:55:06 ใช่เรื่องง่ายระหว่างรอรับส่งลูกสาวแม้
00:55:06 → 00:55:09 พยายามหาหนังสือดนตรีไปอ่านค่าเล่นฆ่า
00:55:09 → 00:55:10 เวลา
00:55:10 → 00:55:13 เงินทองหาสะสมไว้มากที่จะอยู่ได้ไม่มี
00:55:13 → 00:55:15 หนี้สินแต่กลับไม่อยากใช้ไม่อยากกินไม่
00:55:15 → 00:55:17 อยากเที่ยวไม่อยากในทุกสิ่ง
00:55:17 → 00:55:21 มีที่พักหลายที่มีเครื่องดนตรีสะสมมากมาย
00:55:21 → 00:55:24 มีหนังสือเป็นหมื่นเล่มแต่เวลาความรู้สึก
00:55:24 → 00:55:27 ดำดิ่งไม่มีอะไรมาช่วย
00:55:27 → 00:55:30 ก่อนหน้านี้ยึดติดหลงหลายอยากทำโน่นอยาก
00:55:30 → 00:55:33 ทำนี่ลงมือทำจริงๆจนสำเร็จในความอยากบัด
00:55:33 → 00:55:35 นี้หมดความอยากในทุกเรื่อง
00:55:35 → 00:55:37 ผลกำลังหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น
00:55:37 → 00:55:42 หวังรายการตอน 2 ทุ่มอาจมีคำตอบแต่ใจก็
00:55:42 → 00:55:44 ลังเลปัญหาเกิดขึ้นที่ตัวเราอ่านหนังสือ
00:55:44 → 00:55:46 มันก็เยอะสอนคนอื่นมาก็มากทำไมยังหา
00:55:46 → 00:55:51 สาเหตุหาทางแก้ไม่เจอ
00:55:51 → 00:55:54 ถ้าจะให้ผมเดามันคือโจทย์ข้างในซึ่งเป็น
00:55:54 → 00:55:57 โจทย์ที่เรามองหาจากข้างนอกไม่ได้ครับ
00:55:57 → 00:56:01 และที่คุณตระหนักว่าคุณมีความคิดลบผมอยาก
00:56:01 → 00:56:04 จะแนะนำให้เรียบเรียงความคิดลบนั้นออกมา
00:56:04 → 00:56:08 แล้วดูว่าคุณเห็นด้วยกับความคิดล้มนั้น
00:56:08 → 00:56:11 มากแค่ไหนนะครับถ้าคุณยังคิดอะไรไม่ได้ผม
00:56:11 → 00:56:15 อยากจะชวนคุณดูแลที่ระบบชีวภาพของคุณก่อน
00:56:15 → 00:56:18 แต่ผมมีสมมติฐานด้วยครับว่าถ้าคุณเกษียณ
00:56:18 → 00:56:19 ออกมา
00:56:19 → 00:56:22 แล้วต้องอยู่คนเดียว
00:56:22 → 00:56:27 ในช่วงเวลาหนึ่งของแต่ละวัน
00:56:27 → 00:56:29 มันจะมีหลายอย่างที่ขาดหายไปในชีวิตของ
00:56:29 → 00:56:30 คุณ
00:56:30 → 00:56:32 เช่น
00:56:32 → 00:56:36 ความภาคภูมิใจในตอนที่คุณยังมีรายได้
00:56:36 → 00:56:38 สายสัมพันธ์ทางสังคมในตอนที่คุณยังมีงาน
00:56:38 → 00:56:40 และเครือข่าย
00:56:40 → 00:56:43 โครงสร้างการใช้เวลาเพราะคุณต้องทำงาน
00:56:43 → 00:56:46 มันมีหลายอย่างที่เกิดขึ้นในเวลาที่เราทำ
00:56:46 → 00:56:48 งานแล้วเราสูญเสียไปเยอะมากเวลาที่เรา
00:56:48 → 00:56:51 หยุดงานนะครับถ้าคุณไม่ได้เตรียมตัวหรือ
00:56:51 → 00:56:54 ไม่ได้ออกแบบไว้คุณอาจจะรู้สึกเคว้งอยู่
00:56:54 → 00:56:57 พักหนึ่งครับแต่บางครั้งทันทีที่เราเริ่ม
00:56:57 → 00:56:59 รู้สึกเคว้งมันจะมีความคิดเข้ามาพัวพัน
00:56:59 → 00:57:04 ต่อว่าตำหนิหรือวิจารณ์ซึ่งจะเป็นตัวเติม
00:57:04 → 00:57:07 พลังให้มันยิ่งดีลงได้
00:57:07 → 00:57:09 ผมคิดว่าคุณอาจจะต้องการพื้นที่ทำความคิด
00:57:09 → 00:57:12 ที่ได้คุยกับคนที่ฟังคุณแล้วคุณได้รีบ
00:57:12 → 00:57:14 เรียงความรู้สึกนึกคิดออกมานะครับเพื่อ
00:57:14 → 00:57:17 ให้คุณได้เห็นตัวเองคนอาจจะเห็นคำตอบได้
00:57:17 → 00:57:20 ด้วยตัวเองจากการเรียบเรียงตรงนั้นนะครับ
00:57:20 → 00:57:23 ตัวเองสั่นผ่านสภาวะทนอยู่กับพี่ชาย
00:57:23 → 00:57:27 อาละวาดเพราะไบโพล่าติดยาเขาไม่ยอมรับตัว
00:57:27 → 00:57:30 เองไม่รักษากำเริบเลิกกับเมียข้อหาทำร้าย
00:57:30 → 00:57:34 ร่างกายแม่ป่วยตัวเองดูแลแม่เป็นมะเร็ง
00:57:34 → 00:57:37 ตับระยะ 3 เคมี 2 ครั้งท่านแพ้เจ็บปวด
00:57:37 → 00:57:41 ทรมานจมทุกข์โทษทุกคนโทษทุกอย่างตัวเอง
00:57:41 → 00:57:44 รับแรงกระแทกทนอยู่ 5 เดือนตอนนี้ถอยมา
00:57:44 → 00:57:47 ตั้งหลักห่างๆ 1 เดือนรับรู้ทางโทรศัพท์
00:57:48 → 00:57:50 คำถามเมื่อต้องกลับไปจะมีวิธีพูดยังไงให้
00:57:50 → 00:57:54 ทั้งสองคนยอมรับความจริงและลดอัตราลงผม
00:57:54 → 00:57:57 ไม่มีเลยครับแล้วผมพบว่า
00:57:57 → 00:58:01 การที่จะเริ่มต้นด้วยกันเปลี่ยนคนข้างตัว
00:58:01 → 00:58:05 มักจะให้ความรู้สึกไม่สำเร็จเพราะเปลี่ยน
00:58:05 → 00:58:06 ยากมาก
00:58:06 → 00:58:10 แต่ผมกับมีคำถามท้าทายคุณถ้าคุณเลือกที่
00:58:10 → 00:58:11 จะกลับไป
00:58:11 → 00:58:17 ว่าทำอย่างไรเมื่อคุณกลับไปแล้ว
00:58:17 → 00:58:20 คุณจะอยู่กับท่าทีของแม่เช่นนั้นได้โดย
00:58:20 → 00:58:23 ไม่รู้สึกว่าคำพูดนั้นมันกระทบใจคุณหรือ
00:58:23 → 00:58:24 กระทบให้น้อยที่สุด
00:58:24 → 00:58:28 คุณจะสร้างพื้นที่ปลอดภัย
00:58:28 → 00:58:32 และการพี่ชายคุณให้คุณรู้สึกปลอดภัยใน
00:58:32 → 00:58:34 บ้านหลังนั้นได้ยังไงอันนี้น่าจะเป็น
00:58:34 → 00:58:35 โจทย์ที่
00:58:35 → 00:58:38 อยู่ในวิสัยที่อาจจะมีคำตอบได้ง่ายกว่า 2
00:58:38 → 00:58:41 ข้อที่คุณทำผมนะครับ
00:58:41 → 00:58:45 นี่เป็นสิ่งที่เป็นความจริงจริงๆเพราะว่า
00:58:45 → 00:58:48 คนส่วนใหญ่มักคิดมักเข้าใจว่าจิตแพทย์จะ
00:58:48 → 00:58:51 มีวิธีพูดนะครับแต่จริงๆการพูดกับคนที่
00:58:51 → 00:58:54 fix ในความคิดของตัวเองเนี่ยไม่มีใครไป
00:58:54 → 00:58:56 เปลี่ยนแปลงได้ถ้าเขาเลือกที่จะไม่ฟังนะ
00:58:56 → 00:59:00 ครับ
00:59:00 → 00:59:03 ช่วงที่ไม่สบายจนไม่สามารถขับรถ
00:59:03 → 00:59:04 ไปทำงานได้
00:59:04 → 00:59:08 ทำให้ยากต้องมาช่วยดูแลอยู่คนเดียวเพราะ
00:59:09 → 00:59:12 สามีเสียชีวิต 3 เดือนที่ไม่สบายมีช่วง
00:59:12 → 00:59:14 ที่ท้อแท้หมดกำลังใจอ้างว้างโดดเดี่ยว
00:59:14 → 00:59:17 ท่ามกลางญาติพี่น้องมากมาย
00:59:17 → 00:59:19 แม้มีคนอยู่ด้วยจะรู้สึกไม่อบอุ่นปลอดภัย
00:59:19 → 00:59:22 เท่าตอนอยู่กับสามีตอนนี้กลับมาใช้ชีวิต
00:59:22 → 00:59:25 ได้ตามปกติแล้วเจ็บป่วยครั้งนี้ทำให้เรา
00:59:25 → 00:59:27 รู้ซึ้งแก่ใจว่าไม่มีใครรักเราเท่าตัวเอง
00:59:27 → 00:59:31 ไม่มีใครเจ็บปวดแทนเราได้หันกลับมารักตัว
00:59:31 → 00:59:34 เองใส่ใจสุขภาพเป็นอยู่อย่างแรงขอบคุณที่
00:59:34 → 00:59:36 เข้ามาแบ่งปันนะครับ
00:59:36 → 00:59:39 ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นตอนไหนยังไงมารู้ตัว
00:59:39 → 00:59:42 ตอนโควิดก็คือหมดไฟในการทำงานรู้สึกท้อ
00:59:42 → 00:59:46 แท้เราเกิดมาทำไมเกิดมาทำงานใช้หนี้บุญ
00:59:46 → 00:59:48 คุณหนี้สินที่ไม่ได้ก่อแล้วก็ตายไปแค่
00:59:48 → 00:59:49 นั้นหรือ
00:59:49 → 00:59:52 ไปหาหมอได้ยาต้านเศร้ามากินจนถึงทุกวัน
00:59:52 → 00:59:55 นี้แม้จะได้รับความรักความเข้าใจจากคนรอบ
00:59:55 → 00:59:58 ข้างคอยให้กำลังใจช่วยเหลือเรากลับไม่
00:59:58 → 01:00:00 สามารถปลุกไฟในตัวได้เลยไม่ชอบตัวเองที่
01:00:00 → 01:00:03 เป็นแบบนี้แต่ไม่รู้จะทำยังไงทางฝั่ง
01:00:03 → 01:00:05 ธรรมะอ่านหนังสือให้กำลังใจแต่ไม่ดีขึ้น
01:00:05 → 01:00:06 เลย
01:00:06 → 01:00:10 ผมได้ยินเสียงที่คุณต่อว่าตัวเองซึ่งเป็น
01:00:10 → 01:00:14 เหตุที่ทำให้คุณรู้สึกแย่
01:00:14 → 01:00:18 แต่จุดเริ่มต้นของการหมดไฟคืออะไรข้อนี้
01:00:18 → 01:00:20 ยากที่จะรู้ได้นะครับ
01:00:20 → 01:00:24 แต่ดูเหมือนคุณมีความขุ่นเคืองใจด้วยที่
01:00:24 → 01:00:28 คุณต้องมาใช้หนี้สินที่ไม่ได้ก่อซึ่งตรง
01:00:28 → 01:00:31 นี้ความขุ่นเคืองใจที่อยู่ข้างในก็สามารถ
01:00:31 → 01:00:33 เป็นตัวเผาความรู้สึกของเราได้ด้วยเช่น
01:00:33 → 01:00:35 กัน
01:00:35 → 01:00:38 ยาแก้เศร้าจึงเป็นยาที่ช่วยรักษาเรื่อง
01:00:38 → 01:00:41 อารมณ์ในขั้นตอนท้ายๆในระบบชีวภาพแต่จะ
01:00:41 → 01:00:44 ไม่แก้ปัญหาในชีวิตของคุณและคุณไม่สามารถ
01:00:44 → 01:00:47 หวังได้ว่ายาจะแก้ปัญหาความเศร้าของคุณ
01:00:47 → 01:00:48 ได้
01:00:48 → 01:00:51 เพราะกลไกความเศร้าของคุณน่าจะมีอยู่หลาย
01:00:51 → 01:00:54 กลไกนะครับผมพูดเรื่องความเศร้าไว้แล้ว
01:00:54 → 01:00:57 กลไกความเศร้าไว้หลายหลายโอกาสนะครับคุณ
01:00:57 → 01:00:59 ลองฟังดู
01:00:59 → 01:01:03 แต่อยากให้กำลังใจและอยากจะชวนกลับมาอยู่
01:01:03 → 01:01:06 ที่เบสิคก่อนนะครับ
01:01:06 → 01:01:09 โหท่านถัดมาเขียนยาวมากเลยนะครับผมจะขอ
01:01:09 → 01:01:12 อนุญาตอ่านแบบกระโดดนะครับขอแบ่งปัน
01:01:12 → 01:01:15 ประสบการณ์อายุ 63 เป็นคาทอลิกต้องดูแล
01:01:15 → 01:01:18 ผู้ป่วยที่เป็นชาวพุทธจึงไปฝึกจิตที่วัด
01:01:18 → 01:01:22 แล้วก็ช่วยพัฒนาได้แนะนำผู้ป่วย
01:01:22 → 01:01:26 นะครับแต่คนสุดท้ายคุณพ่อคุณแม่สามีเรียง
01:01:26 → 01:01:29 กันเสียชีวิตทุก 2 ปีนะครับ
01:01:29 → 01:01:32 แล้วก็ไปเข้าธรรมะออนไลน์นะครับ
01:01:32 → 01:01:36 เสร็จแล้วก็เล่าถึงการเสียชีวิตแล้วก็บอก
01:01:36 → 01:01:39 ว่าไม่มีน้ำตาสักหยดเข้าใจว่าทุกอย่าง
01:01:39 → 01:01:40 เป็นสิ่งสมมุติ
01:01:40 → 01:01:43 ที่จริงการมีน้ำตาก็ไม่ใช่สิ่งเสียหายนะ
01:01:43 → 01:01:44 ครับ
01:01:44 → 01:01:47 เพราะว่าอารมณ์ความเศร้ามันเป็นส่วนหนึ่ง
01:01:47 → 01:01:49 ของชีวิตมนุษย์
01:01:49 → 01:01:54 ผมเคยอยู่กับอาจารย์ที่สอนกรรมฐาน
01:01:54 → 01:01:59 เรียกว่าแนวเจริญสตินะครับเขาได้พูดถึง
01:01:59 → 01:02:02 อาจารย์ของเขาและเขาก็ซาบซึ้งในความรู้
01:02:02 → 01:02:04 สึกน้ำตาเขาก็ไหลครับ
01:02:04 → 01:02:07 เขาก็ยังเช็คเพราะว่าเขาไม่รู้สึกว่า
01:02:07 → 01:02:10 อารมณ์เป็นสิ่งที่ต้องปฏิเสธนะครับแต่มัน
01:02:10 → 01:02:13 มาแล้วก็ไปตัวนี้สำคัญกว่าแต่ของคุณผมไม่
01:02:13 → 01:02:15 รู้ประสบการณ์รายละเอียดนะครับ
01:02:15 → 01:02:18 ไม่มีอะไรเป็นของเราคุณกำลังพูดถึงธรรมะ
01:02:18 → 01:02:22 มากนะครับแล้วก็คุณบอกว่าคุณจะสรรชีวิตนะ
01:02:22 → 01:02:24 ครับอยู่กับปัจจุบันทำวันนี้ให้ดีที่สุด
01:02:24 → 01:02:28 แล้วก็ขอชื่นชมให้เครดิตกับพระอาจารย์ที่
01:02:28 → 01:02:32 ฉะเชิงเทรานะครับแล้วขอขอบคุณหมอนะครับ
01:02:32 → 01:02:35 แล้วก็แกร่งคุณโดยข่าวสารหลักก็คือคุณ
01:02:35 → 01:02:38 เป็นคาทอลิกแต่คุณได้มาค้นพบการปฏิบัติ
01:02:38 → 01:02:40 ธรรมที่ช่วยคุณ
01:02:40 → 01:02:44 ใช้มันได้กับการเผชิญหน้ากับโจทย์ต่างๆ
01:02:44 → 01:02:47 ของชีวิตซึ่งก็ยินดีด้วยนะครับ
01:02:47 → 01:02:49 ขออภัยที่ไม่ได้อ่านทั้งหมดนะครับมันยาว
01:02:49 → 01:02:52 มากเอาล่ะครับนั่นคือทั้งหมดที่ส่งมาล่วง
01:02:52 → 01:02:55 หน้านะครับตอนนี้ผมเหลือเวลาอยู่ครึ่ง
01:02:55 → 01:03:04 ชั่วโมง
01:03:04 → 01:03:07 ผมจะอ่านแต่ส่วนที่เป็นเนื้อหาทักมาแล้ว
01:03:07 → 01:03:11 ก็ขอบคุณทุกท่านที่ส่งมาทักทายนะครับ
01:03:11 → 01:03:14 ท่านนี้บอกว่าดิฉันมีปมจากอดีตเยอะตั้ง
01:03:14 → 01:03:16 แต่เด็กจน 49
01:03:16 → 01:03:20 คุณจัดการมันเถอะครับเพราะว่า
01:03:20 → 01:03:23 มันเป็นปมจากอดีตก็จริงแต่มันส่งผลกับการ
01:03:23 → 01:03:25 ทำงานของร่างกายและจิตใจของคนในปัจจุบัน
01:03:25 → 01:03:26 อยู่
01:03:26 → 01:03:30 การไม่มีเป้าหมายอะไรเลยผิดปกติไหมคือคุณ
01:03:30 → 01:03:33 อาจจะคิดว่าคุณไม่มีเป้าหมายนะครับแต่คุณ
01:03:33 → 01:03:35 ก็มีเป้าหมายบางอย่างซึ่งคุณไม่รู้ตัว
01:03:35 → 01:03:39 อย่างที่ผมบอกว่ามนุษย์ในธรรมชาติก็ต้อง
01:03:39 → 01:03:42 อยู่รอดปลอดภัยต้องมีกินต้องมีอันตราย
01:03:42 → 01:03:45 นั่นคือเป้าหมายพื้นฐานของชีวิตมนุษย์และ
01:03:45 → 01:03:47 ชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกอย่างเพราะฉะนั้น
01:03:47 → 01:03:50 คุณมีเป้าหมายบางอย่างคุณอาจจะมีเป้าหมาย
01:03:50 → 01:03:52 ที่เป็นตามสังคมก็ได้แต่คุณก็ไม่รู้เพราะ
01:03:52 → 01:03:54 ไม่ได้คิดว่ามันเป็นเป้าหมาย
01:03:54 → 01:03:58 มันเป็นกระบวนการที่เราไม่ต้องคิดมันก็
01:03:58 → 01:04:00 เกิดเป้าหมายนั้นขึ้นนะครับแต่มันมีเป้า
01:04:00 → 01:04:03 หมายอีกแบบหนึ่งที่เกิดจากการตั้งใจเลือก
01:04:03 → 01:04:06 ที่จะคิดหาที่เป็นเป้าหมายสำหรับตัวเรา
01:04:06 → 01:04:10 ตรงนั้นคนจำนวนไม่น้อยก็ไม่มีครับแต่ว่า
01:04:10 → 01:04:16 ถ้ามีเนี่ยการใช้ชีวิตจะสนุกขึ้นได้
01:04:16 → 01:04:19 ดีใจจังวันนี้มาทันนะครับจะค้นหาเป้าหมาย
01:04:19 → 01:04:25 ยามชราต้องเข้าเรียนเรื่องอะไร
01:04:25 → 01:04:27 ผมคิดว่า
01:04:27 → 01:04:29 สิ่งที่คุณน่าเรียนมากๆก็คือการเรียนรู้
01:04:29 → 01:04:32 การอยู่กับตัวเองครับ
01:04:32 → 01:04:34 ซึ่งถ้าหมายถึงหลักสูตรที่ผมจัดหลักสูตร
01:04:34 → 01:04:35 ที่ใกล้ที่สุดจะเป็นหลักสูตรเรื่องความ
01:04:35 → 01:04:38 สุขนะครับเพราะมันเป็น basic ของการอยู่
01:04:38 → 01:04:41 กับตัวเอง
01:04:41 → 01:04:44 ปีหน้าจะมาอีกรอบนึงครับ
01:04:44 → 01:04:46 มีปัญหาครอบครัวตั้งแต่เด็กจำทุกเรื่อง
01:04:46 → 01:04:49 ราวร้องไห้ทุกวันจนเป็นวัยรุ่นและมีปัญหา
01:04:49 → 01:04:51 เกี่ยวกับความรัก
01:04:51 → 01:04:55 ปัญหาเกี่ยวกับความรักในตอนโตถูกวางราก
01:04:55 → 01:04:58 ฐานจากความสัมพันธ์ในตอนเด็กครับเพราะมี
01:04:58 → 01:05:01 งานศึกษามากพอที่จะบอกได้ว่าความสัมพันธ์
01:05:01 → 01:05:06 ในวัยเด็กของเราในบ้านของเราส่งผลต่อวิธี
01:05:06 → 01:05:08 การที่เราสร้างสัมพันธ์กับคนอื่นๆนอกบ้าน
01:05:08 → 01:05:11 ของเรานะครับงั้นถ้าคุณตระหนักว่าคุณมี
01:05:11 → 01:05:14 ปัญหาความรักในตอนโตขอให้คุณกลับไป
01:05:14 → 01:05:17 เยียวยาโจทย์จากวัยเด็กของคุณนะครับคุณจะ
01:05:17 → 01:05:20 พบว่าคุณจะเปลี่ยนรูปแบบการมีความ
01:05:20 → 01:05:22 สัมพันธ์กับคนอื่นได้ดีขึ้น
01:05:22 → 01:05:25 บางครั้ง Panic พอเข้ามาฟังคุณหมอรู้สึก
01:05:25 → 01:05:29 สบายอุ่นใจอย่างน่าประหลาดขอบคุณที่รัก
01:05:29 → 01:05:33 ทุกอาทิตย์ตรงเวลาให้เกียรติผู้ฟังมาก
01:05:33 → 01:05:35 เป้าหมายที่ดีคือเป้าหมายที่ทำเพื่อชีวิต
01:05:35 → 01:05:38 ตัวเองเปลี่ยนจากเป้าหมายในการทำเพื่อคน
01:05:38 → 01:05:41 อื่นสิ่งอื่น
01:05:41 → 01:05:43 และเป้าหมายที่ดีไปกว่านั้นคือการทำเพื่อ
01:05:43 → 01:05:45 ตอบความต้องการตัวเองเพื่อเป็นประโยชน์
01:05:45 → 01:05:49 กับคนอื่นด้วยนะครับเพราะว่ามันเป็นส่วน
01:05:49 → 01:05:51 หนึ่งของธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ที่
01:05:51 → 01:05:54 ต้องการการอยู่ร่วมกันและเกื้อกูลกันนะ
01:05:54 → 01:05:57 ครับและความสุขก็เกิดจากการให้เพียงแต่
01:05:57 → 01:05:59 เราต้องตระหนักว่ามันเป็นการตอบความ
01:05:59 → 01:06:02 ต้องการของเราด้วยอันนั้นก็เป็นสิ่งที่
01:06:02 → 01:06:04 ไม่ได้ขัดกันกับที่คุณพูดนะครับ
01:06:04 → 01:06:07 เคยหมดกำลังใจบ้างแต่ก็ดึงตัวเองจากความ
01:06:07 → 01:06:10 คิดนั้นได้ทุกครั้งถ้าเป็นนาน Performance
01:06:10 → 01:06:14 เราจะเสียคนพร้อมจะเสียบการแข่งขันสูงจึง
01:06:14 → 01:06:17 ต้องขยันสร้างศักยภาพให้มาก
01:06:17 → 01:06:23 ธรรมะจัดสรรอนุโมทนาสาธุ
01:06:23 → 01:06:27 สวัสดีคุณหมอจากบางกระสอนนทบุรี
01:06:27 → 01:06:31 เจออยู่ครับสภาพแวดล้อมถาโถมทำจิตตกเมื่อ
01:06:31 → 01:06:34 ได้เห็นด้วยปัญญาว่าโลกนี้ไม่มีค่าอะไร
01:06:34 → 01:06:38 มากไปกว่าเศษหญ้าเศษไม้เมื่อนั้นเขาย่อม
01:06:38 → 01:06:40 ไม่ปรารถนาสิ่งใดนอกจากสิ่งที่ไม่มีการ
01:06:40 → 01:06:44 เกิดใหม่อีกต่อไปสาธุครับ
01:06:44 → 01:06:47 ผมเป็นนักกีฬาเวลาถึงจุด Climax จะรู้สึก
01:06:47 → 01:06:51 กดดันและทำได้ไม่ดีเท่าตอนซ้อมขอปรึกษา
01:06:51 → 01:06:53 แนวคิดใหม่ครับ
01:06:53 → 01:06:58 คือให้ความสามารถในการดูแลสภาวะจิตในช่วง
01:06:58 → 01:07:02 ที่มีการกดดันเป็นหนึ่งในการศึกษาทาง
01:07:02 → 01:07:04 จิตวิทยาการกีฬาที่ว่าด้วยเรื่องของการ
01:07:04 → 01:07:07 เข้าถึงขีดความสามารถสูงสุดนะครับ
01:07:07 → 01:07:11 ผมแนะนำให้คุณไปค้นและอ่านบทความเนื่อง
01:07:11 → 01:07:14 จากมันเป็นเรื่องที่ยาวพอสมควรที่สะกดว่า
01:07:14 → 01:07:17 Flow หรือแปลว่าการไหลนะครับมันเป็นการ
01:07:17 → 01:07:19 นักจิตวิทยาที่ศึกษาเรื่องของ Peak
01:07:19 → 01:07:22 Performance หรือการเข้าถึงศักยภาพสูง
01:07:22 → 01:07:24 สุดในขณะนั้น
01:07:24 → 01:07:27 มันเป็นการสมดุลระหว่างสภาวะที่เรามี
01:07:27 → 01:07:31 โจทย์ที่ท้าทายกับทักษะของเรากับการจดจ่อ
01:07:31 → 01:07:34 โดยไม่ต้องกังวลกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น
01:07:34 → 01:07:37 ซึ่งอันนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนสภาวะจิตด้วย
01:07:37 → 01:07:40 นั่นเป็นเหตุที่นักกีฬาชั้นนำจำนวนมาก
01:07:40 → 01:07:44 เข้าฝึกสมาธิด้วยนะครับอย่างไรก็ตามผมไม่
01:07:44 → 01:07:46 รู้ว่าคุณมีต้นทุนตรงไหนบ้างคุณลองไปค้น
01:07:46 → 01:07:49 ชีวิตยาเรื่องนี้ดูนะครับปัจจุบัน
01:07:49 → 01:07:51 จิตวิทยาการกีฬาในประเทศไทยก็โตขึ้นนะ
01:07:51 → 01:07:54 ครับมีหลักสูตรระดับปริญญาเปิดสอนอยู่
01:07:54 → 01:07:59 เข้าใจว่ามีมากกว่า 1 มหาวิทยาลัยด้วย
01:07:59 → 01:08:03 กำลังใจจากคนรอบโตกว่าเวลาเจอปัญหาเรื่อง
01:08:03 → 01:08:07 แบ่งเวลาอยากดูแลพ่อแม่อยู่ในช่วง
01:08:07 → 01:08:12 แซนด์วิชเลยพ่อแม่แก่ 76-78 ลูก 14-17 คน
01:08:12 → 01:08:15 ละจังหวัดรู้สึกทำหน้าที่ลูกได้ไม่ดีเท่า
01:08:15 → 01:08:18 ที่ควรอันนี้เป็นโจทย์ที่ยากด้วยนะครับใน
01:08:18 → 01:08:20 โจทย์แซนวิชที่คุณอยู่ในวัยตรงกลาง
01:08:20 → 01:08:23 ระหว่างพ่อแม่กับลูกของคุณแล้วผู้หญิงที่
01:08:23 → 01:08:27 เป็นเราเรียกว่าเป็นเล่น 2 บทบาทคือบทบาท
01:08:27 → 01:08:29 ในบ้านกับบทบาทในที่ทำงานอันนี้เหมือนฉีก
01:08:29 → 01:08:31 ตัวเองออกไปนะครับ
01:08:31 → 01:08:33 แล้วต่อให้คุณเป็นแม่บ้านเต็มเวลานะครับ
01:08:33 → 01:08:37 การวิ่งรอบการดูแล 2 บ้านก็ไม่ง่ายครับ
01:08:37 → 01:08:40 รอฟังอยู่ที่อยู่ที่นอร์เวย์ดีใจมากที่
01:08:40 → 01:08:46 ได้เข้ามาฟังคุณหมอขอ
01:08:46 → 01:08:50 มาให้ข้อคิดออกจากความทุกข์ของคนอายุ 62
01:08:50 → 01:08:53 เขามาเป็นเวลามากหลังจากที่ได้มาฟังคุณ
01:08:53 → 01:08:55 หมอและได้มาทำความรู้อ๋อดีขึ้นมากโอเค
01:08:55 → 01:08:59 ครับถ้าเกิดว่าคุณมาฟังแล้วก็ดีขึ้นใช่
01:08:59 → 01:09:01 ไหมครับ
01:09:01 → 01:09:04 เข้าใจแล้วเพราะว่าคำสะกดของคุณมันมันผิด
01:09:04 → 01:09:06 ผิดถูกถูกตามธรรมดานะครับมันอาจจะจิ้มผิด
01:09:06 → 01:09:10 จิ้มถูกได้เคยสมัครสอบวิชาชีพ 1 รอบนั้น
01:09:10 → 01:09:13 เป็นหนึ่งในสิบคนที่สอบผ่านช่วงเตรียมสอบ
01:09:13 → 01:09:15 ใช้วิธีที่มีคนแนะนำอ่านหนังสือทุกวัน
01:09:15 → 01:09:18 อ่านมากอ่านน้อยก็ตามนะครับ
01:09:18 → 01:09:20 ในสถานที่ที่สบายใจ
01:09:20 → 01:09:23 อยู่แบบอื่นมาหลายปีเร็วๆนี้ส่องกล้องทาง
01:09:23 → 01:09:26 เดินอาหารเจอโรคเพียบคราวนี้ยิ่งหนักกิน
01:09:26 → 01:09:29 ยาปฏิชีวนะเกิดอาการข้างเคียงเจ็บป่วย
01:09:29 → 01:09:32 อื่นโผล่มาให้หน่อย
01:09:32 → 01:09:34 ผลเสียของยาปฏิชีวนะมันน่ากลัวขึ้นก็คือ
01:09:34 → 01:09:37 การที่ส่วนหนึ่งมันเกิดจากการไปฆ่าเชื้อ
01:09:37 → 01:09:40 จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์อยู่ในลำไส้ของ
01:09:40 → 01:09:43 เราตัวผมเองจะเห็นเหมือนกันว่าช่วงที่เคย
01:09:43 → 01:09:46 ป่วยและกินยาสุขภาพตกลง
01:09:46 → 01:09:49 แต่ในบางกรณีมันก็เป็นยารักษาชีวิตที่เรา
01:09:49 → 01:09:52 ต้องแลกกันเราค่อยมาฟื้นฟูลำไส้ของเราที
01:09:52 → 01:09:53 หลังได้
01:09:53 → 01:09:56 พยายามปรับชี้ว่าจิตสังคมและสุขอนามัยตาม
01:09:56 → 01:09:58 กรรมแนะนำหมอได้เดือนกว่ายังไม่เคยเห็นผล
01:09:58 → 01:10:01 นอนไม่ค่อยดีเพราะนอนไม่ดีกฎก็หลั่งรู้
01:10:01 → 01:10:04 สึกเริ่มรักษารู้สึกเครียดเบื่อชีวิตยิ่ง
01:10:04 → 01:10:07 กว่าก่อนคนอาจจะต้องกินตัวที่ช่วยในการ
01:10:07 → 01:10:09 หลับนะครับตัวง่ายๆที่อาจจะลองดูนะครับ
01:10:09 → 01:10:13 บางคนชอบบางคนไม่ชอบก็คืออย่างเมล่อน
01:10:13 → 01:10:17 มันเป็นยาที่ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระที่
01:10:17 → 01:10:21 แรงด้วยมันเป็นมันใช่ยาสารอาหารที่ช่วย
01:10:21 → 01:10:24 ให้คุณหลับแต่บางคนจะหลับแล้วฝันมากขึ้น
01:10:24 → 01:10:26 และตื่นมางัวเงียนะครับคุณต้องลองดูว่า
01:10:26 → 01:10:28 คุณชอบไม่ชอบ
01:10:28 → 01:10:33 ตอนผมเรียนผมมีผมรู้สึกมีพลังผลักดัน
01:10:33 → 01:10:37 เพราะเรียนจบไม่ค่อยมีกำลังใจทำงาน
01:10:37 → 01:10:40 มีน้องป่วยติดเตียงไม่มีครอบครัวพ่อแม่
01:10:40 → 01:10:42 อายุมากขึ้นดูแลไม่ไหวเราเองก็ต้องทำงาน
01:10:42 → 01:10:45 มีครอบครัวตัวเองต้องดูแล
01:10:45 → 01:10:48 คนมีวิธีคิดแล้วรับมืออย่างไรมันเป็นไป
01:10:48 → 01:10:50 ตามโจทย์เลยครับโจทย์แต่ละข้อคุณจะหาตัว
01:10:50 → 01:10:53 ช่วยยังไงคุณจะหยิบทรัพยากรอะไรมาดูแล
01:10:53 → 01:10:56 แต่ว่าการดูแลคนหลายคนที่อยู่ในภาวะพึ่ง
01:10:56 → 01:10:58 พิงพร้อมกันหลายคนในบ้านเป็นเรื่องยากมาก
01:10:58 → 01:11:00 ๆจริงๆครับ
01:11:00 → 01:11:06 คำแนะนำข้อเดียวก็คืออย่าทำคนเดียว
01:11:06 → 01:11:09 ต้องหาตัวช่วยและก็อีกข้อหนึ่งก็คือคุณ
01:11:09 → 01:11:12 ต้องมีเวลาเป็นของตัวเองซึ่ง 2 ข้อนี้มัน
01:11:12 → 01:11:15 จะทำให้คุณดูแลคนที่จำเป็นได้นานกว่าที่
01:11:15 → 01:11:19 แล้วก็ดีขึ้นคือคุณต้องมีเวลาไปเติมพลัง
01:11:19 → 01:11:20 ให้ตัวเอง
01:11:20 → 01:11:22 ความเชื่อว่าถ้าทำวันนี้ให้ดีมันจะไป
01:11:22 → 01:11:25 เรื่อยๆทุกวันท้ายที่สุดระยะยาวชีวิตต้อง
01:11:25 → 01:11:28 เคลื่อนตัวออกจากจุด
01:11:28 → 01:11:31 ผมใช้ความเชื่อที่ว่าถ้าเราทำวันนี้ให้ดี
01:11:31 → 01:11:34 เราก็จะผ่านจากจุดที่แย่ที่สุดไปได้แน่
01:11:34 → 01:11:37 นอนช่องของคุณหมอก็เป็นกำลังใจที่ดีในวัน
01:11:37 → 01:11:40 ที่หมดไฟหรือหมดกำลังใจการออกไปเดินในที่
01:11:40 → 01:11:44 ใกล้น้ำจะได้กำลังใจดีๆอีกอย่างนึกถึง
01:11:44 → 01:11:46 หน้าที่กับลูกๆเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมา 10
01:11:46 → 01:11:47 กว่าปี
01:11:47 → 01:11:51 แรงบันดาลใจในการเรียนวัยเด็กคือสักวัน
01:11:51 → 01:11:53 ความทุกข์ทรมานจะสิ้นสุดอยู่ในครอบครัว
01:11:53 → 01:11:56 เป็นพิษที่มีแต่ความคาดหวังแต่ไม่
01:11:56 → 01:11:58 สนับสนุนปัจจุบันประสบความสำเร็จแต่พบว่า
01:11:58 → 01:12:01 ตัวเองมีปมข้างใจคาดหวังพ่อแม่ปฏิบัติตาม
01:12:01 → 01:12:05 ใจเราแต่ก็ไม่ใช่เลยถ้าคุณยอมรับความจริง
01:12:05 → 01:12:08 แล้วคุณรู้ว่ามีปมและเยียวยาตัวเองเขาจะ
01:12:08 → 01:12:11 เป็นเรื่องที่ดีสำหรับอนาคตในเวลาที่คุณ
01:12:11 → 01:12:12 ยังมีอยู่นะครับ
01:12:12 → 01:12:17 อาการ Panic หายยากมากครับมาๆหายๆบั่นทอน
01:12:17 → 01:12:23 การใช้ชีวิตมากหลายๆครั้งรู้สึกท้อ
01:12:23 → 01:12:25 คุณอาจจะต้องสังเกตดูว่ามีอะไรมาเป็นตัว
01:12:25 → 01:12:28 กระตุ้นกระตุ้นแล้วมันเกิดปฏิกิริยายังไง
01:12:28 → 01:12:29 นะครับ
01:12:29 → 01:12:32 ก่อนหน้านี้ผมจะมีสูตรในการรักษาการแทน
01:12:32 → 01:12:35 อีกให้รู้ทันร่างกายผ่อนคลายเป็นรู้ทัน
01:12:35 → 01:12:37 ความคิดจัดการความคิดอยากให้ตื่นตระหนก
01:12:37 → 01:12:40 แล้วก็เปิดรับอารมณ์ที่เกิดขึ้น
01:12:40 → 01:12:43 แต่พอผมทำเรื่องปมเยอะๆผมก็พบว่าอีกส่วน
01:12:43 → 01:12:45 ใหญ่มันมาจากกรมบางอย่างที่เราถูกกระตุ้น
01:12:45 → 01:12:48 ได้ด้วยซึ่งคุณต้องเข้าใจไอ้ตัวรอยต่อ
01:12:48 → 01:12:51 ระหว่างสิ่งกระตุ้นภายนอกอาการของคุณกับ
01:12:51 → 01:12:53 การที่มันเป็นกระตุ้นปมที่อยู่ลึกลงไปสัก
01:12:53 → 01:12:55 หน่อยนึงนะครับ
01:12:55 → 01:12:58 กำลังใจจากสามีเคียงข้างมาตั้งแต่โควิด
01:12:58 → 01:13:01 เพราะทำงานต่างชาติวันนี้ 3 ปีแล้วการดู
01:13:01 → 01:13:04 แลการเงินงานใหม่
01:13:04 → 01:13:08 อยู่ได้ไม่มีปัญหานะครับ
01:13:08 → 01:13:10 ถ้าเราตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่มีความรุน
01:13:10 → 01:13:13 แรงหลีกเลี่ยงได้ยากเราเงียบและไม่ได้ให้
01:13:13 → 01:13:16 ความสำคัญอีกฝ่ายหนึ่งยังคาดคั้นเอาคำตอบ
01:13:16 → 01:13:19 เมื่อตอบไปกับแปลคำตอบไปในทางลบควรจะ
01:13:19 → 01:13:20 ปฏิบัติกับคนเช่นอย่างไร
01:13:20 → 01:13:23 ถ้าเขาใช้ความรุนแรงนะครับ
01:13:23 → 01:13:26 คำแนะนำแรกก็คือคุณควรเดินออกมาจากความ
01:13:26 → 01:13:28 สัมพันธ์นี้
01:13:28 → 01:13:30 แต่ถ้าคุณเดินออกมาไม่ได้ด้วยเหตุอะไรก็
01:13:30 → 01:13:34 ตามซึ่งมีหลายคนที่อยู่ในสภาวะที่ความ
01:13:34 → 01:13:36 สัมพันธ์นั้นมีการทำร้ายกันและเขาเดินออก
01:13:36 → 01:13:38 มาไม่ได้ส่วนใหญ่จะเกิดจากปมครั้งบาง
01:13:38 → 01:13:39 อย่างข้างในใจ
01:13:39 → 01:13:43 หรืออาจจะเดินออกมาไม่ได้เพราะว่าไม่มี
01:13:43 → 01:13:46 ติดอยู่ที่ภารกิจบางอย่างในชีวิตของคุณ
01:13:46 → 01:13:51 เช่นถ้าคนคนนั้นเป็นพ่อหรือแม่ของคุณ
01:13:51 → 01:13:54 และนั่นเป็นทางเลือก
01:13:54 → 01:13:57 พฤติกรรมนอนก่ายหน้าผากมีอะไรเกี่ยวข้อง
01:13:57 → 01:14:00 กับอารมณ์ความคิดคุณภาพการนอนไหม
01:14:00 → 01:14:04 สมัยก่อนผมรู้แต่ว่าเขาไม่ให้ทำแบบนี้แต่
01:14:04 → 01:14:06 ผมก็คิดว่ามันเป็นคนละความเชื่อกันเพราะ
01:14:06 → 01:14:09 เขาเชื่อว่าหน้าผากของเรามันมีพลังที่
01:14:09 → 01:14:12 ป้องกันสิ่งเลวร้ายนะครับ
01:14:12 → 01:14:16 ผมคิดว่าถ้าคุณรู้ตัวแล้วคุณเอามือลงก็
01:14:16 → 01:14:18 น่าจะเป็นเรื่องดีแต่ผมไม่รู้ข้อมูลอื่น
01:14:18 → 01:14:21 ที่ตอบคำถามคุณได้นะครับเพราะยังไม่เคย
01:14:21 → 01:14:23 อ่านเจอนะครับ
01:14:23 → 01:14:26 คลิปวันนี้โดนใจผู้คนมากมายนะครับคลิปนี้
01:14:26 → 01:14:29 Live นี้ตอบโจทย์ในปัจจุบันมากปิ้งแวป
01:14:29 → 01:14:32 มันคือการหยั่งรู้ที่บ้านมีปัญหาคดีความ
01:14:32 → 01:14:34 จะวางใจอย่างไรไม่ให้เครียดและมีพลังสู้
01:14:35 → 01:14:38 รวมถึงต้องส่งพลังให้คนอื่นไม่กลัวสู้และ
01:14:38 → 01:14:39 มีกำลังใจ
01:14:39 → 01:14:43 คือตัวนี้มันต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ
01:14:43 → 01:14:46 เรื่องข้อกฎหมายซึ่งคุณอาจจะต้องมีผู้รู้
01:14:46 → 01:14:47 ช่วยนะครับ
01:14:47 → 01:14:51 แล้วก็คุณอาจจะต้องคิดถึง
01:14:51 → 01:14:55 ทางบวกและลบเรียกก็เป็น senorio นะครับ
01:14:55 → 01:14:57 คิดถึงทางเลือกที่อาจจะเกิดขึ้นแล้วก็มี
01:14:57 → 01:15:00 แนวทางในการจัดการถ้ามันเกิดพอคิดเสร็จ
01:15:00 → 01:15:02 แล้วอย่าไปคิดวนกับมันนะครับจากนั้นก็ใช้
01:15:03 → 01:15:05 ชีวิตแต่ละวันเดินไปทีละขั้น
01:15:05 → 01:15:10 ผมคิดได้แค่นี้ในเวลาแค่นี้นะครับ
01:15:10 → 01:15:12 ขอบคุณคุณหมอสำหรับความรู้และวิธีปฏิบัติ
01:15:12 → 01:15:14 ที่ทำได้ใช้ได้จริงนะครับ
01:15:14 → 01:15:17 อดนอนหลายวันคนทานยาให้หลับเพื่อพักผ่อน
01:15:17 → 01:15:20 เต็มที่ดีไหมคือถ้าร่างกายคุณอดนอนและคุณ
01:15:20 → 01:15:22 หลับได้คุณไม่ต้องไปใช้ยาช่วยนะครับ
01:15:22 → 01:15:26 โดยหลักแล้วก็แค่อย่าไปกินสารกระตุ้นสมอง
01:15:26 → 01:15:29 คุณก็จะหลับได้ดีอยู่แล้ว
01:15:29 → 01:15:32 ใช่ค่ะกินนอนออกกำลังกายดูลมหายใจเข้าออก
01:15:32 → 01:15:35 ช่วยได้เสมอในวันที่อ่อนแอแต่มีพลังเงียบ
01:15:35 → 01:15:37 ๆที่คิดจะลองทำสิ่งใหม่
01:15:37 → 01:15:40 ฟังจากสเปนรอฟังทุกอาทิตย์บ่าย 3 ขอบคุณ
01:15:40 → 01:15:43 ที่ให้ความรู้นะครับมีประโยชน์มากเหมือน
01:15:43 → 01:15:47 มีแผนที่ชีวิตอยู่ในมือเคยได้ยินว่าคนที่
01:15:47 → 01:15:50 ทำงานที่รักเป็นโชคดีแต่ในชีวิตจริงมัน
01:15:50 → 01:15:53 ยากมากเหมือนมีทางออกทางเลือกอาชีพน้อยใน
01:15:53 → 01:15:57 สังคมเฮ้ยต้องยังชีพได้ด้วย
01:15:57 → 01:16:00 แต่อยากฟังทัศนะคุณหมอ
01:16:00 → 01:16:05 คือการเลือกการเลือกงานที่ตรงกับความเป็น
01:16:05 → 01:16:08 ตัวเรา
01:16:08 → 01:16:10 มันมีปัจจัยหลายอย่างนะครับ
01:16:10 → 01:16:14 แล้วก็บางครั้งเราหาตัวเองยังไม่เจอ
01:16:14 → 01:16:17 แล้วบางทีเราคิดว่ามันต้องเป็นงานตามรูป
01:16:17 → 01:16:21 แบบแต่จริงๆถึงจุดหนึ่งบางทีเราต้องออก
01:16:21 → 01:16:23 แบบส่วนผสมของงานเอาเองนะครับ
01:16:23 → 01:16:27 มันจึงเป็นเรื่องยากจริงครับผมเห็นด้วย
01:16:27 → 01:16:30 แต่ผมก็เชื่อว่าถึงที่สุดยังไงการรู้จัก
01:16:30 → 01:16:31 ตัวเอง
01:16:31 → 01:16:34 การเข้าใจสิ่งที่เราทำได้ดีสิ่งที่จะทำ
01:16:34 → 01:16:37 ให้มีความสุขสิ่งที่ทำให้เรามีความรู้สึก
01:16:37 → 01:16:41 มีคุณค่าเนี่ยยังคงเป็นข้อมูลที่เป็น
01:16:41 → 01:16:43 ประโยชน์กับการเลือกเส้นทางการงาน
01:16:43 → 01:16:46 เราพยายามจับให้มันเข้ากันได้ให้มากที่
01:16:46 → 01:16:50 สุดเท่าที่ทำได้แต่จะให้มันดีเต็มร้อยก็
01:16:50 → 01:16:52 อาจจะยากอยู่เหมือนกัน
01:16:52 → 01:16:55 ฟังแล้วโดนใจกับสิ่งที่กำลังเจอใน
01:16:55 → 01:16:58 ปัจจุบันได้แนวทางไปใช้
01:16:58 → 01:17:02 เป็นครั้งแรกที่ได้ฟังสดหัวข้อถูกใจนะ
01:17:02 → 01:17:04 ครับ
01:17:04 → 01:17:06 เรื่องโซเชียลมีเดียทำให้เกิดปัญหาเช่น
01:17:06 → 01:17:10 กันเป็นการหลบหลีกความเครียดโดยไม่รู้ตัว
01:17:10 → 01:17:15 เราสามารถดูแลพ่อแม่วัย 65
01:17:15 → 01:17:18 โดยใช้วิธีทางชีวิตยาวแบบเลี้ยงเด็กโตได้
01:17:18 → 01:17:18 ไหม
01:17:18 → 01:17:21 ควรใช้วิธีอย่างไรในการสื่อสารเพราะแก
01:17:21 → 01:17:22 ดื้อเหมือนกัน
01:17:22 → 01:17:25 อายุ 65 นี้ก็มากกว่าผมหน่อยเดียวนะครับ
01:17:25 → 01:17:29 ผมไม่คิดว่าเราต้องดูแลเขามากปล่อยให้เขา
01:17:29 → 01:17:32 มีพื้นที่ของเขาตราบใดที่เขามีสุขภาพแข็ง
01:17:32 → 01:17:33 แรงดี
01:17:33 → 01:17:36 แล้วเขาจะมีนิสัยของเขาที่คุณอาจจะรู้ว่า
01:17:36 → 01:17:36 ไม่ดี
01:17:36 → 01:17:39 ก็ไม่ต้องไปยุ่งครับปล่อยให้เขามีพื้นที่
01:17:39 → 01:17:40 เดิม
01:17:40 → 01:17:42 สิ่งที่คุณจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องเนี่ยก็
01:17:42 → 01:17:44 คือสิ่งที่เขาออกปากขอความช่วยเหลือหรือ
01:17:44 → 01:17:47 สิ่งที่เขารู้ว่าคุณรู้ว่าถ้าเสนอไปแล้ว
01:17:47 → 01:17:49 เขายอมนะครับที่เหลืออย่าไปเสียเวลาสู้
01:17:49 → 01:17:53 กันเลยครับบางครั้งเราเจตนาดีแต่ว่ามันนำ
01:17:53 → 01:17:56 ไปสู่ความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น
01:17:56 → 01:17:59 เรื่องนี้ลูกที่รักพ่อแม่จะเจอประจำ
01:17:59 → 01:18:02 เหมือนกับพ่อแม่ที่รักลูกก็เจอประจำครับ
01:18:02 → 01:18:04 คือมันคิดไม่เหมือนกัน
01:18:04 → 01:18:06 วิธีที่ดีก็คือมีพื้นที่ของตัวเองแล้วก็
01:18:06 → 01:18:11 พร้อมที่จะให้การสนับสนุนช่วยเหลือกัน
01:18:11 → 01:18:13 เหนื่อยเครียดจากการเจ็บป่วยระยะสุดท้าย
01:18:13 → 01:18:16 ของสามีโชคดีที่ได้รู้จักคุณหมอจาก
01:18:16 → 01:18:18 YouTube ท้อแท้หมดกำลังใจหลายครั้งได้
01:18:18 → 01:18:22 ฟังแล้วรู้สึกดีขึ้นมากยินดีนะครับคุณหมอ
01:18:22 → 01:18:24 เคยทราบเรื่องการเช็คความถนัดด้วยฟินก็
01:18:24 → 01:18:28 print ใหม่ครับขอความเห็น
01:18:28 → 01:18:30 ผมเคยได้ยินแล้วก็รู้ว่ามันเป็นธุรกิจ
01:18:30 → 01:18:32 ชนิดหนึ่ง
01:18:32 → 01:18:35 แล้วก็มีคนบอกว่าบางคนก็บอกว่าแม่นนะครับ
01:18:35 → 01:18:39 แต่ว่าผมยังไม่ค่อยซื้อแนวคิดนี้เนื่อง
01:18:39 → 01:18:44 จากผมหาข้อมูลที่สนับสนุนเป็นงานวิจัยไม่
01:18:44 → 01:18:45 มีนะครับ
01:18:45 → 01:18:48 ผมเชื่อว่ามันมีในระดับหนึ่งแต่ว่ามันไม่
01:18:48 → 01:18:51 ได้ภาษาภาษาอังกฤษที่เรียกว่าไม่ได้เร็ว
01:18:51 → 01:18:54 มันไม่ใช่วิชาการที่
01:18:54 → 01:18:58 มั่นคงแน่นอนแล้วที่สำคัญเวลาที่คุณจะใช้
01:18:58 → 01:19:01 ตัววัดทางชีวภาพมากำหนดอนาคตคนเนี้ย
01:19:01 → 01:19:03 อันตรายมาก
01:19:03 → 01:19:05 สมมุติคุณตรวจเจอว่าคุณมีความถนัดแบบ
01:19:05 → 01:19:07 หนึ่งแล้วคุณเชื่อว่าคุณต้องเดินเส้นทาง
01:19:07 → 01:19:11 นี้โดยที่คุณไม่เชื่อในการสังเกตตัวเองนะ
01:19:11 → 01:19:13 ครับแค่นี้ก็เป็นอันตรายมากแล้วนะครับ
01:19:13 → 01:19:16 เหมือนกับหมอดูมาบอกคุณว่าชีวิตคุณจะต้อง
01:19:16 → 01:19:18 เป็นอย่างนั้นอย่างนี้แล้วคุณก็เลยไม่ได้
01:19:18 → 01:19:20 คิดว่าคุณจะต้องออกแบบชีวิตของคุณเพราะ
01:19:20 → 01:19:22 เดี๋ยวมันก็จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้อัน
01:19:22 → 01:19:25 นี้น่ากลัวไหมครับดังนั้นแม้ต่อให้มันมี
01:19:25 → 01:19:29 ความแม่นในระดับ 60% นะครับขึ้นไปซึ่งถือ
01:19:29 → 01:19:32 ว่าดีนะครับตัวเลขนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษนะ
01:19:32 → 01:19:33 ครับ
01:19:33 → 01:19:36 ผมก็ยังคิดว่าต้องระวังอันตรายของมัน
01:19:36 → 01:19:38 เพราะว่าอันตรายของมันก็คือมันทำให้คน
01:19:38 → 01:19:41 หยุดกระบวนการสังเกตและค้นหาตัวเอง
01:19:41 → 01:19:44 ถ้ามันเป็นอย่างนั้นผมคิดว่าอย่าเสียเงิน
01:19:44 → 01:19:45 ไปทำครับ
01:19:45 → 01:19:47 แต่พ่อแม่เนี่ย
01:19:47 → 01:19:50 มักจะพยายามหาคำตอบให้ชีวิตลูกแล้วก็ยอม
01:19:50 → 01:19:53 เสียเงินเป็นหมื่นไปทำแล้วก็พยายามจะจับ
01:19:53 → 01:19:56 ลูกเข้าร่องนั้นนะครับ
01:19:56 → 01:19:58 คุณเห็นผลเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นไหมครับ
01:19:58 → 01:20:00 ถ้าพ่อแม่คิดว่าเขามีคำตอบสำหรับชีวิตลูก
01:20:00 → 01:20:03 เขาแล้วไม่เปิดโอกาสให้ลูกเขาได้ค้นหาตัว
01:20:03 → 01:20:05 เองครับ
01:20:05 → 01:20:08 แต่ถ้าเรารู้จักใช้แล้วมันมีความแม่นยำ
01:20:09 → 01:20:11 ซึ่งไม่มีหลักฐานที่ผมรู้นะครับ
01:20:11 → 01:20:12 แล้วมันมีความแม่นยำ
01:20:12 → 01:20:15 ตัวนั้นก็เป็นเหมือนข้อมูลหนึ่งที่มา
01:20:15 → 01:20:18 ประกอบนะครับมันอยู่ตรงที่ว่าเขาโฆษณายัง
01:20:18 → 01:20:19 ไง
01:20:19 → 01:20:22 แล้วพ่อแม่เชื่อมันมากแค่ไหนเพราะผมเจอ
01:20:22 → 01:20:25 พ่อแม่ที่เชื่อมันจนกระทั่งเขาสูญเสีย
01:20:25 → 01:20:30 สามัญสำนึกแล้วก็สูญเสียทิ้งโอกาสที่ลูก
01:20:30 → 01:20:32 จะรู้จักตัวเองผ่านกระบวนการทดลองกับ
01:20:32 → 01:20:35 ชีวิตไปซึ่งในความเห็นผมผมคิดว่าเรื่อง
01:20:35 → 01:20:38 นั้นสำคัญกว่า
01:20:38 → 01:20:41 ผมกำลังเขียนรายงานเกี่ยวกับ nis การตอบ
01:20:41 → 01:20:43 ปัญหาสุขภาพจิตระดับโลกว่าเราจะเข้าถึง
01:20:43 → 01:20:47 บุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านเฉพาะด้านในปัญหา
01:20:47 → 01:20:50 อันนี้ข้อความหลุดหายไปนะครับ
01:20:50 → 01:20:54 นิยมแก้เด็กผู้ชายอายุ 15 แล้ว
01:20:54 → 01:20:57 นิสัยแย่มากพูดหยาบตะคอกใส่แม่ทิ้งข้าว
01:20:57 → 01:20:59 เพ่นพ่านแก้ยังไงโจทย์นี้แก้ไม่ได้เลย
01:20:59 → 01:21:01 ครับหมายความว่าผมไม่สามารถเอาข้อมูลที่
01:21:01 → 01:21:03 มีอยู่บ่อยๆได้ว่า 1 2 3
01:21:03 → 01:21:06 เพราะพฤติกรรมทุกอย่างมันมีที่มาที่ไป
01:21:06 → 01:21:08 ครับ
01:21:08 → 01:21:11 แล้วก็ความก้าวร้าวในบ้านก็ไม่ได้ลอยขึ้น
01:21:11 → 01:21:13 มาเฉยๆครับมันต้องมีอะไรบางอย่างเป็นตัว
01:21:13 → 01:21:17 ปัจจัยซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่เห็นปัจจัย
01:21:17 → 01:21:19 เหล่านั้นถึงแก้ไม่ถูกแต่เขาก็เห็นสิ่ง
01:21:19 → 01:21:22 ที่คิดว่าเป็นปัญหาคือพฤติกรรมที่ไม่ดี
01:21:22 → 01:21:25 แต่ไม่มีปัจจัยที่อยู่ในนั้นคำแนะนำของผม
01:21:25 → 01:21:27 อย่างเดียวก็คือให้คุณสังเกตให้มากแล้วก็
01:21:27 → 01:21:30 ลองสังเกตปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันสังเกตว่า
01:21:30 → 01:21:32 ความก้าวร้าวเกิดขึ้นตอนไหน
01:21:32 → 01:21:34 แล้วเวลาเกิดความก้าวร้าวแล้วคนในบ้านทำ
01:21:34 → 01:21:37 ยังไงนะครับและอย่ามองตอนอายุ 15 นะครับ
01:21:37 → 01:21:40 ให้ดูตลอดชีวิตเขาตั้งแต่เล็กด้วยเพราะ
01:21:40 → 01:21:43 มันสะสมมาตลอดนะครับโจทย์แบบนี้เผลอๆใช้
01:21:43 → 01:21:47 เวลาหลายครั้งกว่าจะประเมินได้ด้วยซ้ำ
01:21:47 → 01:21:49 ขอบคุณมากเลยนะครับสำหรับข้อคิดเรื่องราว
01:21:49 → 01:21:51 ดีๆ
01:21:51 → 01:21:54 หากสักวันมนุษย์ต่างดาวมาปรากฏตัวจริง
01:21:54 → 01:21:56 มนุษย์จะมีปฏิกิริยาความคิดยังไง
01:21:56 → 01:22:00 จะมีความโกลาหลหรือไม่ผมไม่อยากทำนายครับ
01:22:00 → 01:22:02 ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่ามนุษย์จะมีการตอบ
01:22:02 → 01:22:05 สนองที่ไม่เหมือนกันในแต่ละคนนะครับ
01:22:05 → 01:22:07 เพิ่งผ่านความผิดหวังมารู้สึกว่าความ
01:22:07 → 01:22:10 ทุกข์เกิดจากความคาดหวังแต่ก็ไม่รู้ว่า
01:22:10 → 01:22:13 ชีวิตจะมีอยู่โดยปราศจากความคาดหวังได้
01:22:13 → 01:22:15 ยังไงคือความคาดหวังเนี่ยมันจะล็อคสเปค
01:22:15 → 01:22:19 ที่ตัวบุคคลและการกระทำและสถานที่เวลาแต่
01:22:19 → 01:22:22 ความปรารถนาหรือแรงบันดาลใจนี้มันจะยืด
01:22:22 → 01:22:26 หยุ่นกว่าครับให้คุณค้นหาตัวหลังแล้วคลาย
01:22:26 → 01:22:28 ความคาดหวังไว้จะสุขได้มากกว่าครับ
01:22:28 → 01:22:32 ชื่นชมการตอบคำถามมากขอบคุณนะครับพออายุ
01:22:32 → 01:22:37 มากขึ้นเริ่มแรงบันดาลใจน้อยลงเพราะอะไร
01:22:37 → 01:22:40 ผมไม่คิดว่าอายุมากขึ้นแรงบันดาลใจจะน้อย
01:22:40 → 01:22:41 ลงนะครับ
01:22:41 → 01:22:46 ดังนั้นคุณต้องสังเกตดูว่ามันเกิดอะไร
01:22:46 → 01:22:47 ขึ้นมากกว่า
01:22:47 → 01:22:50 เพราะว่าอายุโดยตัวมันเอง
01:22:50 → 01:22:54 สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือเราอาจจะหยุดเรียน
01:22:54 → 01:22:55 รู้
01:22:55 → 01:22:59 ซึ่งนั่นจะทำให้สมองเรายิ่งแย่ลงเร็ว
01:22:59 → 01:23:01 ถ้าคุณไม่หยุดเรียนรู้เนี่ยผมยังเชื่อว่า
01:23:01 → 01:23:05 แรงบันดาลใจเนี่ยมันยังมีได้เพียงแต่แรง
01:23:05 → 01:23:08 กายเนี่ยมันอาจจะน้อยลงนะครับอันนี้เวลา
01:23:08 → 01:23:11 แรงกายน้อยลงเนี่ยให้แรงบันดาลใจเนี่ยมัน
01:23:11 → 01:23:15 อาจจะถูกจำกัดโดยสภาพแรงกายได้แต่แรง
01:23:15 → 01:23:18 บันดาลใจในส่วนของการพัฒนาภายในที่ไม่
01:23:18 → 01:23:21 ต้องใช้แรงกายเนี่ยผมเชื่อว่ามันไม่มีข้อ
01:23:21 → 01:23:23 จำกัดนะครับ
01:23:24 → 01:23:26 ดังนั้นถ้าจะตอบคุณก็อาจจะตอบว่า
01:23:26 → 01:23:28 มันอาจจะสัมพันธ์กันกับการหยุดเรียนรู้
01:23:28 → 01:23:32 กับการมีข้อจำกัดทางด้านร่างกายนะครับ
01:23:32 → 01:23:37 เวลาเราได้มีแรงบันดาลใจจะทำอะไรจะถูกดับ
01:23:37 → 01:23:42 จากแฟนและคนทางบ้านคิดว่าเราทำไม่ได้
01:23:42 → 01:23:46 ให้ตระหนักแล้วรู้ว่า
01:23:46 → 01:23:48 คุณมีทางเลือก
01:23:48 → 01:23:51 ที่จะฟังเขามากแค่ไหน
01:23:51 → 01:23:54 คุณลองสังเกตดูว่าเวลาที่เขาพูดแล้วคุณ
01:23:54 → 01:23:57 ฟังเนี่ยข้างในใจคุณพูดว่ายังไง
01:23:57 → 01:23:59 นะครับ
01:23:59 → 01:24:00 ถ้าคุณ
01:24:00 → 01:24:02 สู้กันกับข้างใน
01:24:02 → 01:24:05 ด้วยความรู้สึกที่เป็นปฏิกิริยาความน้อย
01:24:05 → 01:24:07 ใจเสียใจ
01:24:07 → 01:24:11 หรือไม่ได้รับความเข้าใจคุณจะฟ้องครับ
01:24:11 → 01:24:16 แต่ถ้าคุณตระหนักว่าพูดก็พูดไปฉันได้ยิน
01:24:16 → 01:24:20 เธอแต่ฉันไม่เอาเข้ามาในใจฉันฉันยังคงยืน
01:24:20 → 01:24:22 ยันได้ตัวนี้เสียงนั้นมันก็ไม่ส่งผลกับ
01:24:22 → 01:24:23 เรา
01:24:23 → 01:24:26 อย่างไรก็ตามถ้าเราเติบโตมาในบ้านหลังไหน
01:24:26 → 01:24:52 ก็ตาม
01:24:52 → 01:24:55 ขอชื่อเพจสำหรับติดต่อนักจิตบำบัดได้ไหม
01:24:55 → 01:24:57 ตอนนี้อยู่ในสังคมที่แย่มาก
01:24:57 → 01:25:01 เลี่ยงไม่ได้เขาคือแม่และครอบครัวผมจำ
01:25:01 → 01:25:05 ชื่อที่จำเพาะไม่ได้คุณลองค้นคำว่าสมาคม
01:25:05 → 01:25:09 พัฒนาศักยภาพมนุษย์และจิตบำบัดแนวซาเคีย
01:25:09 → 01:25:12 ดูนะครับ
01:25:12 → 01:25:14 หนูเสพติดการดื่มทุกครั้งที่ดื่มสู้กับ
01:25:15 → 01:25:17 ตัวเองตลอดว่าไม่ต้องการแต่ก็ยังทำด่าตัว
01:25:18 → 01:25:20 เองทุกวันบอกตัวเองทุกวันว่าไม่ดีทุก
01:25:20 → 01:25:22 ครั้งที่ดื่มเหมือนกับมันสบายมีไอเดีย
01:25:22 → 01:25:26 ต่างๆเกิดขึ้นครับผมคิดว่าการเสพติดของ
01:25:26 → 01:25:30 คุณการเสพการดื่มของคุณเนี่ยมันต้องการลด
01:25:30 → 01:25:33 ความเครียดลงแล้วมันต้องการปลดปล่อย
01:25:33 → 01:25:37 ไอเดียแต่มันเสี่ยงมากกับผลเสียนะครับคุณ
01:25:37 → 01:25:40 ต้องการการเยียวยาเรื่องการจัดการอารมณ์
01:25:40 → 01:25:42 ภายใน
01:25:42 → 01:25:46 ผมอยากให้คุณไปลองฟังตอนที่ผมพูดถึงคุณ
01:25:46 → 01:25:49 หมอกำลังเต้ที่เขาพูดถึงเรื่องการเสพติด
01:25:49 → 01:25:52 ด้วยนะครับแล้วกรณีเช่นนี้ถ้าให้ผมเดามัน
01:25:52 → 01:25:55 มีปมจากวัยเด็กได้เพราะการเสพติดเป็น
01:25:55 → 01:25:58 อาการที่เกิดจากปมจากวัยเด็กทั้งนั้นเลย
01:25:58 → 01:26:02 นะครับแต่เวลาเขาแก้ก็ไปแก้ที่กลไกสุด
01:26:02 → 01:26:05 ท้ายนะครับส่วนใหญ่ถ้าไปรักษาทุกวันนี้
01:26:05 → 01:26:07 ถูกเพื่อนบ้านนินทาไม่ได้ทำงานหงุดหงิด
01:26:07 → 01:26:10 กับคนในบ้านคนในบ้านไม่เข้าใจมองว่าเรา
01:26:10 → 01:26:13 นิสัยไม่ดีเราพยายามอยู่ให้ได้กับเสียงคน
01:26:13 → 01:26:16 ต่อว่า
01:26:16 → 01:26:19 นอกจากจะต่อสู้กับตัวเราเองยังไม่พอต้อง
01:26:19 → 01:26:21 ต่อสู้กับสิ่งแวดล้อมอนาคตมนุษย์อาจต้อง
01:26:21 → 01:26:25 เสียค่าออกซิเจน
01:26:25 → 01:26:28 ผมหวังว่าประเด็นเรื่องฝุ่น pm2.5 ซึ่ง
01:26:28 → 01:26:30 เป็นประเด็นใหญ่ของสังคมไทยและมีพรรคการ
01:26:30 → 01:26:33 เมืองบางพรรคเริ่มพยายามจะชูประเด็น
01:26:33 → 01:26:36 จะกลายเป็นประเด็นที่มีการแก้ไขอย่างจริง
01:26:36 → 01:26:40 จังในหลังเลือกตั้งนะครับแต่อันนี้เป็น
01:26:40 → 01:26:42 ความฝันอันหนึ่ง
01:26:42 → 01:26:46 เพราะว่ามันส่งผลเสียมากแล้วมันส่งผล
01:26:46 → 01:26:48 กระทบกับเศรษฐกิจแน่นอนถ้าเรียงปล่อยให้
01:26:48 → 01:26:50 เป็นแบบนี้นะครับไม่ต้องพูดถึงเรื่อง
01:26:50 → 01:26:53 สุขภาพที่รุนแรงมาก
01:26:53 → 01:26:56 ผมรู้สึกเป็นคนมีสมาธิแข็งมากเมื่อจะทำ
01:26:56 → 01:26:59 อะไรมักจะไม่สนใจอย่างอื่นเลย
01:26:59 → 01:27:01 จนกระทั่งตระหนักได้ว่าเป็นปัญหาในการ
01:27:01 → 01:27:05 เข้าสังคมมีคำแนะนำไหม
01:27:05 → 01:27:09 ความตระหนักในสิ่งแวดล้อมรอบตัว
01:27:09 → 01:27:11 คือตัวนี้มันอาจจะเป็นสไตล์ของคุณนะครับ
01:27:11 → 01:27:14 ความตระหนักในสิ่งแวดล้อมรอบตัวเป็นตัว
01:27:14 → 01:27:17 ที่คุณต้องฝึกครับผมไม่มีคำแนะนำโดยตรง
01:27:17 → 01:27:22 นอกจากการหาเพื่อนที่คุณไว้ใจมาช่วยสะกิด
01:27:22 → 01:27:25 แล้วก็ค่อยๆแนะนำนะครับหาเพื่อนที่คุณไว้
01:27:25 → 01:27:27 ใจมาติวคุณดีกว่านะครับ
01:27:27 → 01:27:30 การกินวิตามินรวมช่วยเรื่องอารมณ์ด้วยไหม
01:27:30 → 01:27:32 ครับคุณหมออย่างที่บอกกินวิตามินรวมแล้ว
01:27:32 → 01:27:35 อ้วนจริงไหมมันมีวิตามินบางตัวที่กินและ
01:27:35 → 01:27:37 กระตุ้นความอยากอาหารนะครับ
01:27:37 → 01:27:40 และก็ถ้าจะช่วยเรื่องอารมณ์มันมีเฉพาะที่
01:27:40 → 01:27:42 ผมเคยพูดไปแล้วนะครับเช่นแมกนีเซียมอย่าง
01:27:42 → 01:27:46 นี้นะครับเกี่ยว Fish Oil ก็มีบางกรณีนะ
01:27:46 → 01:27:49 ครับคุณลองกลับไปฟังดูเรื่องของอาหารที่
01:27:49 → 01:27:52 ผมพูด If ก็เกี่ยวครับการทำอินเตอร์เน็ต
01:27:52 → 01:27:55 ก็ช่วยเรื่องอารมณ์ได้
01:27:55 → 01:27:57 ออกกำลังกายช่วยได้จริง
01:27:57 → 01:28:00 หงุดหงิดกับคนในบ้าน
01:28:00 → 01:28:02 ดีใจมากที่เข้ามาทัน
01:28:02 → 01:28:05 เวลาฝึกหายใจบางครั้งรู้สึกตัวเองกลั้น
01:28:05 → 01:28:08 เหมือนต้องบังคับนั่นเป็น
01:28:08 → 01:28:13 ความเกร็งในการฝึกครับคนลองจัดฝึกในท่า
01:28:13 → 01:28:15 นอนดูก่อนคุณจะพบว่ามันง่ายขึ้น
01:28:15 → 01:28:19 วันนี้ใช้ชีวิตแบบไม่มีเป้าหมายชีวิตถูก
01:28:19 → 01:28:22 บล็อกต้องให้กำลังใจตัวเองตลอดคุณลองดู
01:28:22 → 01:28:24 ว่าเนื้อหาวันนี้ช่วยอะไรคุณได้บ้างนะ
01:28:24 → 01:28:25 ครับ
01:28:25 → 01:28:28 การให้กำลังใจและแรงบันดาลใจต้องใช้พลัง
01:28:28 → 01:28:32 งานมากครับ
01:28:32 → 01:28:34 ต่อหลายวิธี
01:28:34 → 01:28:36 มีลูกชายคนเดียวเพิ่งรู้ว่าเขาชอบผู้ชาย
01:28:36 → 01:28:39 ด้วยกันเครียดมาก
01:28:39 → 01:28:41 ปัจจุบันการยอมรับเรื่องนี้มีสูงขึ้นมาก
01:28:41 → 01:28:42 นะครับ
01:28:42 → 01:28:46 แล้วก็ถ้าพูดตรงๆสาเหตุเรายังไม่รู้ 100%
01:28:46 → 01:28:50 แต่กรณีชายรักชายนี่มีข้อมูลทางชีวภาพนะ
01:28:50 → 01:28:52 ครับผมไม่ได้ตามมานานแล้วแต่ว่าก่อนหน้า
01:28:52 → 01:28:55 นั้นที่ผมตามก็คือสมองของเกย์ผู้ชายเนี่ย
01:28:55 → 01:28:57 จะมีลักษณะที่อยู่ตรงกลางระหว่างผู้หญิง
01:28:57 → 01:29:01 กับผู้ชายนะครับลักษณะเซลล์ของมัน
01:29:01 → 01:29:04 ใช้ดนตรีแต่ไม่ใช่สูตรสำเร็จเราต้องค้นหา
01:29:04 → 01:29:07 แรงบันดาลหายใจให้เจอผ่านมาหลายปี
01:29:07 → 01:29:11 ตอนหมดกำลังใจ
01:29:11 → 01:29:14 แล้วเป็นไงดีขึ้น
01:29:14 → 01:29:17 หลายคำถามที่คุณหมออ่านถ้าไม่รู้ว่าสังคม
01:29:17 → 01:29:19 เราต้องการบุคลากรอย่างคุณหมอผู้ช่วยชี้
01:29:19 → 01:29:23 ทางออก
01:29:23 → 01:29:25 มนุษย์ไม่มีอะไรที่เหนือกว่าความว่าง
01:29:25 → 01:29:29 เปล่าถ้ารู้ว่าว่างควรจะทำสิ่งใดถ้าไม่
01:29:29 → 01:29:32 ว่างก็ไม่สามารถรับอะไรได้
01:29:32 → 01:29:35 คอร์สแก้ปมเดือนพฤษภาคมเต็มหรือยังยัง
01:29:35 → 01:29:39 ครับถ้าสนใจรีบมาได้นะครับคุณหมอมีคนบอก
01:29:39 → 01:29:42 ว่าให้เจริญสติและชีวิตจะดีขึ้นหมายถึง
01:29:42 → 01:29:45 อะไรเรื่องใหญ่เลยนะครับ
01:29:45 → 01:29:47 ขออนุญาตไม่ตอบเรื่องนี้เลยนะครับแต่ว่า
01:29:48 → 01:29:50 ผมกำลังคิดอยู่ว่าผมควรจะหยิบเอาหัวข้อ
01:29:50 → 01:29:51 นี้มาพูดไหม
01:29:51 → 01:29:54 เนื่องจากผมได้อ้างอิงพาดพิงอยู่บ้าง
01:29:54 → 01:29:57 เหมือนกันนะครับแล้วก็มีคนเขียนภาษา
01:29:57 → 01:30:00 อังกฤษมาว่าทรงผมใหม่ดูดีนะครับขอบคุณฝึก
01:30:00 → 01:30:03 เจริญสติใช่ที่วัดผาแปดริ้วไหมเมื่อสัก
01:30:03 → 01:30:06 ครู่นี้ท่านที่พูดถึงว่าเขาเป็นคาทอลิก
01:30:06 → 01:30:09 เขาพูดถึงวัดผาแปดริ้วครับ
01:30:09 → 01:30:12 ถ้าใจบ่อยอยู่ต่างประเทศวัฒนธรรมต่างชม
01:30:12 → 01:30:15 จากนอร์เวย์ชัดเจนมากขอบคุณมากแอบฟังมา
01:30:15 → 01:30:18 ได้พักหนึ่งไม่ต้องแอบก็ได้ครับ
01:30:18 → 01:30:21 ท้อใจบ่อยเหมือนกันอยู่ต่างประเทศขอคำแนะ
01:30:21 → 01:30:22 นำด้วย
01:30:22 → 01:30:25 คือการปรับตัวกับต่างประเทศต่างวัฒนธรรม
01:30:25 → 01:30:29 เนี่ยมันต้องเปิดมากเลยนะครับเพราะว่ามัน
01:30:29 → 01:30:31 มีปัจจัยหลายอย่างมาก
01:30:31 → 01:30:35 มันซับซ้อนเกินกว่าที่จะพูดได้ในตอนคำตอบ
01:30:35 → 01:30:38 คำถามแบบนี้นะครับแต่อย่างหนึ่งที่ผมแนะ
01:30:38 → 01:30:41 นำได้เลยก็คือในทุกประเทศจะมีเครือข่ายคน
01:30:41 → 01:30:42 ไทย
01:30:42 → 01:30:44 แล้วก็ถ้าเป็นในยุโรปก็จะมีที่ที่มีหลาย
01:30:45 → 01:30:47 ประเทศนะครับเห็นในยุโรปในญี่ปุ่นเนี่ย
01:30:47 → 01:30:51 2 โซนนี้นะครับก็จะมีกลุ่มคนไทยที่พัฒนา
01:30:51 → 01:30:53 ฝีมือในการช่วยเหลือกันเองด้วยคุณอาจจะ
01:30:53 → 01:30:56 ต้องการคนที่เคยอยู่มาก่อนแล้วก็คนที่
01:30:56 → 01:30:58 ปรับตัวได้แล้วก็เพื่อนฝูง
01:30:58 → 01:31:01 แต่เลือกแล้วกันนะครับเพราะมีบางคนก็ไม่
01:31:01 → 01:31:03 ได้อยากเจอคนไทย
01:31:03 → 01:31:08 ในภาพรวมแต่มีคนที่เขาให้เวลากับการช่วย
01:31:08 → 01:31:10 เหลือคนอื่นอยู่นะครับลองไปค้นดูในพื้น
01:31:10 → 01:31:12 ที่ของคุณ
01:31:12 → 01:31:15 สู่สุคติคือสิ่งที่มนุษย์ต้องการ
01:31:15 → 01:31:18 ขอบคุณที่ให้คำแนะนำและอ่าน Comment ของ
01:31:18 → 01:31:19 ผม
01:31:19 → 01:31:23 จากพุทธบูชา 44 60 ปีสายเกินไปไหมที่จะ
01:31:23 → 01:31:26 คิดขุดโคกหนองนาเกษียณแล้ว 6 เดือนยังหา
01:31:27 → 01:31:30 จุดยืนไม่ได้สับสนถ้ากินนั่งนอนเหมือนคน
01:31:30 → 01:31:34 ไม่มีค่ายังปรับตัวไม่ได้ถ้า 60 จะเรียน
01:31:34 → 01:31:36 อะไรก็ได้ครับเพียงแต่ว่าคุณควรจะเรียน
01:31:36 → 01:31:40 จากสิ่งที่มีต้นทุนบางอย่างในตัวคุณแล้ว
01:31:40 → 01:31:42 ก็ต้องรู้ว่าอะไรที่ช่องใช้แรงกายอย่าง
01:31:42 → 01:31:45 เงี้ยถ้าคุณไม่ถนัดคุณอาจจะคิดแต่ว่าไม่
01:31:45 → 01:31:47 ได้ลงมือทำด้วยตัวเองนะครับแต่ผมมี
01:31:47 → 01:31:50 อาจารย์ท่านหนึ่งเป็นผู้บริหารในกระทรวง
01:31:50 → 01:31:53 ศึกษาธิการหลังจากเขาเกษียณแล้วนี่ไม่รู้
01:31:53 → 01:31:55 ฟังอยู่ด้วยหรือเปล่านะเขาก็ไปทำสวนที่
01:31:55 → 01:31:59 บ้านเกิดเขาครับแล้วเขาก็ส่งภาพมาโชว์ผม
01:31:59 → 01:32:00 เป็นประจำเลย
01:32:00 → 01:32:03 เป็นสิ่งที่เขาภาคภูมิใจในชีวิตด้วยนะ
01:32:03 → 01:32:07 ครับแล้วเขาบอกเขาทำเองด้วยนะผมคิดว่ามัน
01:32:07 → 01:32:08 เป็นเรื่องของการทดลอง
01:32:08 → 01:32:11 ถ้าคุณยังไม่ชัดอย่าเพิ่งลงทุนก้อนใหญ่นะ
01:32:11 → 01:32:14 ครับทดลองเล็กๆเพื่อดูว่ามันใช่ไหมที่คุณ
01:32:14 → 01:32:16 ต้องการ
01:32:16 → 01:32:19 blent มากหากอยู่ในงานที่เป็นระบบราชการ
01:32:19 → 01:32:22 ควรวางแผนการงานอย่างไรให้มีแรงบันดาลใจ
01:32:22 → 01:32:25 โดยไม่ถูกกลืน
01:32:25 → 01:32:28 หัวข้อนี้ผมเคยพูดไว้ในเรื่องของหมดไฟใน
01:32:28 → 01:32:30 การทำงานนะครับอยากจะให้ลองกลับไปค้นดู
01:32:30 → 01:32:34 มันจะละเอียดกว่าที่ผมพูดขอบคุณคุณหมอที่
01:32:34 → 01:32:36 แบ่งปันช่วงหนึ่งอาทิตย์ฟังคุณหมอตลอด
01:32:36 → 01:32:39 ช่วงเวลาว่างเพราะมีภาวะเครียดไปพบ
01:32:39 → 01:32:41 จิตแพทย์มาฟังคุณหมอแล้วช่วยเข้าใจชีวิต
01:32:41 → 01:32:45 และมุมมองได้มากขึ้นนะครับกราบขอบคุณ
01:32:45 → 01:32:48 ขอบคุณพยายามค้นใน Google Flow
01:32:48 → 01:32:51 จิตวิทยาการกีฬายังหาที่เด็ดๆไม่เจอครับ
01:32:51 → 01:32:56 ขอพรให้อาจารย์นะครับมาช้าเป็นชั่วโมง
01:32:56 → 01:33:00 เวลาคุณหมออ่านแล้วตอบมันติดกันจนฟังไม่
01:33:00 → 01:33:03 รู้เรื่องว่าไหนถามอันไหนตอบงงนะครับ
01:33:03 → 01:33:06 สำหรับท่านที่ส่งคำถามมานะครับพยายาม
01:33:06 → 01:33:07 เขียนให้ผมอ่านออกด้วยส่วนหนึ่งนะครับ
01:33:07 → 01:33:10 ส่วนเวลาผมเปลี่ยนผมก็ไม่อยากบอกว่าคำคน
01:33:10 → 01:33:13 ต่อไปคนต่อไปสงสัยคำทักของคุณจะทำให้ผม
01:33:13 → 01:33:16 ต้องอ่านว่าคนต่อไปหรือเปล่านะครับนั่น
01:33:16 → 01:33:18 คือทั้งหมดที่เราจะคุยกันในวันนี้นะครับ
01:33:18 → 01:33:21 ในหัวข้อค้นหาแรงบันดาลใจในวันที่หมด
01:33:21 → 01:33:24 กำลังใจนะครับขอบคุณที่เข้ามาพูดคุยแลก
01:33:24 → 01:33:26 เปลี่ยนกันนะครับวันนี้สวัสดีสำหรับ
01:33:26 → 01:33:30 อาทิตย์หน้ายังมี Live ตามปกตินะครับวัน
01:33:30 → 01:33:33 นี้สวัสดีทุกท่านครับ