00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีค่ะหมอนุ่มนะคะกับคุยเรื่องสมองกับ
00:00:03 → 00:00:05 หมอนุ่มนะคะวันนี้เรากลับมาไลฟ์กันอีก
00:00:05 → 00:00:08 แล้วนะคะวันนี้มาชวนคุยกันเรื่องเข้าใจ
00:00:08 → 00:00:12 สมองเข้าใจไมเกรนค่ะเพราะว่าโรคไมเกร็งก็
00:00:12 → 00:00:15 เป็นโรคที่แบบเจอเยอะมากๆเลยนะคะแล้วก็
00:00:15 → 00:00:19 อันนี้วันนี้จะมาชวนคุยในมุมมองของโรค
00:00:19 → 00:00:21 ไมเกรนอีกอันนึงที่คิดว่าน่าจะไม่เคยพูด
00:00:21 → 00:00:24 มาก่อนนะคะปกติก็จะมีพูดเรื่องของอาการ
00:00:24 → 00:00:26 การรักษาอะไรแต่ว่าวันนี้อยากจะมาอธิบาย
00:00:26 → 00:00:30 ถึงกลไกของสมองนะคะของคนไข้ไมเกรนให้เข้า
00:00:30 → 00:00:32 ใจนะคะเพราะว่าจากประสบการณ์ที่หมอรักษา
00:00:32 → 00:00:36 คนไข้มานะคะเพราะว่าคนไข้เองหรือแม้
00:00:36 → 00:00:38 กระทั่งญาติหรือคนใกล้ตัวหรือคนที่พามา
00:00:38 → 00:00:41 เนี่ยยังมีการเข้าใจคำว่าไมเกรนเนี่ยไม่
00:00:41 → 00:00:43 ถูกต้องอยู่นะคะเนาะส่วนใหญ่เนี่ยคนจะ
00:00:43 → 00:00:46 เข้าใจว่าคำว่าไมเกรนเหมือนปวดหัวไมเกรน
00:00:46 → 00:00:48 กดหัวไมเกรนเวลาวันไหนปวดหัวมากไม่สบาย
00:00:48 → 00:00:50 ปวดตุ๊บๆปวดจนอาเจียนก็บอกว่าไมเกรน
00:00:50 → 00:00:54 กำเริบนะคะแต่ว่าอาจจะไม่ค่อยมีคนนึกถึง
00:00:54 → 00:00:56 ว่าจริงๆแล้วเนี่ยพอไมเกรนกำเริบบ่อยๆอ่ะ
00:00:56 → 00:00:59 จริงๆแล้วมันคือโรคโรคนึงนะที่อาจจะต้อง
00:00:59 → 00:01:03 มารักษานะคะซึ่งความเข้าใจผิดตรงนี้ก็ส่ง
00:01:03 → 00:01:05 ผลเสียหลายอย่างนะคะอย่างในมุมของคนไข้
00:01:05 → 00:01:07 เองเนี่ยจากการที่เขาคิดว่าแบบเหมือน
00:01:07 → 00:01:10 ไมเกรนเป็นแค่อาการปวดหัวอย่างนึงนะคะที่
00:01:10 → 00:01:12 หมอเคยเจอมาแบบสำหรับคนไข้ที่แบบเป็นมา
00:01:12 → 00:01:15 แบบเป็นสิบๆปีอะไรอย่างนี้ค่ะคือเขานึก
00:01:15 → 00:01:18 ว่ามันก็เป็นอาการนึงปวดหัวนึงซึ่งอาจจะ
00:01:18 → 00:01:21 เกิดจากตอนงานเยอะนอนน้อยอะไรก็แล้วแต่นะ
00:01:21 → 00:01:23 คะจะทำให้รู้สึกว่าเออชีวิตนี้คงไม่หาย
00:01:23 → 00:01:25 จากไมเกรนแล้วล่ะก็ต้องอยู่กับมันไปให้
00:01:25 → 00:01:29 ได้นะคะเนาะก็ทำให้แบบเหมือนบางคนก็บอก
00:01:29 → 00:01:31 ว่าเป็นโรคเวรโรคกรรมหรืออะไรจนรู้สึกว่า
00:01:31 → 00:01:34 ก็ต้องทนกับอาการไมเกรนไปนะคะหรือบางคน
00:01:34 → 00:01:37 กลายเป็นโรควิตกกังวลโรคซึมเศร้าก็มี
00:01:37 → 00:01:39 เพราะว่าไมเกรนมาบ่อยมากๆจริงๆจนเหมือนใน
00:01:39 → 00:01:42 ชีวิตประจำวันแทบจะทำอะไรไม่ได้ละนะคะแบบ
00:01:42 → 00:01:44 กลัวการออกไปข้างนอกกลัวการอยู่กลางแจ้ง
00:01:44 → 00:01:46 บางคนก็กลัวแบบไม่กล้าไปเที่ยวไม่กล้าไป
00:01:46 → 00:01:48 เที่ยวทะเลหรืออะไรอย่างนี้ไปเลยก็มีนะคะ
00:01:48 → 00:01:52 ในมุมของคนที่พามาหรือว่าคนใกล้ตัวเองก็
00:01:52 → 00:01:55 เช่นกันนะคะพอพอเข้าใจว่าไมเกรนเป็นแค่
00:01:55 → 00:01:56 เหมือนอาการปวดหัวอย่างนึงเนี่ยกลายเป็น
00:01:56 → 00:01:59 ว่าแบบพอมีคนที่บอกว่าปวดหัวไมเกรนอย่าง
00:01:59 → 00:02:02 เงี้ยค่ะรู้สึกว่าปวดอีกแล้วหรอทำไมปวด
00:02:02 → 00:02:04 บ่อยจังมันปวดได้ถี่ขนาดนั้นหรอหรือว่า
00:02:04 → 00:02:07 หมอเคยเจอแบบว่าคนที่แบบปวดหัวไมเกรนทุก
00:02:07 → 00:02:10 วันจริงๆอ่ะค่ะบางคนก็ถามว่าแบบโลกไมเกรน
00:02:10 → 00:02:12 มันสามารถทำให้ปวดหัวได้ทุกวันเลยได้จริง
00:02:12 → 00:02:14 ๆหรออะไรอย่างนี้ค่ะเขาซึ่งวันนี้เราจะมา
00:02:14 → 00:02:18 อธิบายตรงนี้กันนะคะว่าทำไมไมเกรนถึงเป็น
00:02:18 → 00:02:21 โรคทางสมองแล้วทำไมถึงบางคนคนบางคนนะคะ
00:02:21 → 00:02:24 ถึงมีอาการไมเกรนได้ทุกวันจริงๆนะคะเนาะ
00:02:24 → 00:02:28 ไหนขอลองเช็คภาพเช็คเสียงนิดนึงก่อนนะคะ
00:02:28 → 00:02:31 ก่อนที่จะอธิบายการ
00:02:31 → 00:02:32 โอเค
00:02:32 → 00:02:36 นะคะน่าจะได้แล้วแหละงั้นก่อนอื่นก่อนที่
00:02:36 → 00:02:39 หมอจะอธิบายเรื่องเอ่อสมองของไมเกรนนะคะ
00:02:39 → 00:02:42 เดี๋ยวจะให้ดูวิดีโอนึงนะคะซึ่งทางเอ่อ
00:02:42 → 00:02:44 ต่างประเทศเค้าทำไว้ดีมากๆนะคะเดี๋ยวหมอ
00:02:44 → 00:02:47 จะเปิดให้ดูแล้วก็จะอธิบายไปพร้อมๆกันนะ
00:02:47 → 00:02:49 คะเรื่องนี้อาจจะเข้าใจยากสักนิดนึงนะคะ
00:02:49 → 00:02:52 แต่ว่าอยากให้ทุกคนนะคะที่เป็นไมเกรนหรือ
00:02:52 → 00:02:54 ว่ามีคนใกล้ตัวเป็นไมเกรนเนี่ยอยากได้ลอง
00:02:54 → 00:02:56 ฟังกันดูนะคะเพราะว่าถ้าเราเข้าใจมากขึ้น
00:02:56 → 00:02:58 เนี่ยเราจะรู้ว่าเราจะต้องดูแลรักษาตัว
00:02:58 → 00:03:07 เองหรือว่ารักษาโรคนี้ยังไงนะคะเนาะโอเค
00:03:07 → 00:03:11 อันนี้เป็นวีดีโอของเอ่อ association ของ
00:03:11 → 00:03:14 ไมเกรนดิออเดอร์นะคะเดี๋ยวเดี๋ยวหมอจะขอ
00:03:14 → 00:03:20 อ่าเปิดอันนี้นะคะ
00:03:21 → 00:03:24 นี่เลยคำถามแรกนะคะก็คือว่าไมเกรนคืออะไร
00:03:24 → 00:03:31 นะคะ
00:03:31 → 00:03:34 เดี๋ยวจะขออนุญาตแบบเปิดเป็นภาษาอังกฤษไป
00:03:34 → 00:03:36 ก่อนแล้วเดี๋ยวหมอจะอธิบายให้ฟังตามทีละ
00:03:36 → 00:03:48 ท่อนนะคะ
00:03:48 → 00:03:55 ตรงนี้นะคะก็คือเขาเกริ่นว่าไมเกรย์
00:03:55 → 00:03:58 อธิบายว่าจริงๆแล้วเนี่ยคือสมองของเรา
00:03:58 → 00:04:00 เวลาจะทำงานน่ะค่ะมันก็จะต้องมีการเชื่อม
00:04:00 → 00:04:02 ต่อข้อมูลส่งต่อข้อมูลการสมมุติว่าเรา
00:04:02 → 00:04:04 อยากจะทำอะไรสักอย่างนึงเนี่ยมันก็จะมี
00:04:04 → 00:04:07 การสั่งการจับสมองไปสู่ตรงตัวก้านสมอง
00:04:07 → 00:04:10 แล้วก็ลงไปสู่ไขสันหลังนะคะซึ่งสมองของ
00:04:10 → 00:04:14 เราเนี่ยสื่อสารกันโดยใช้ตัวเซลล์ประสาท
00:04:14 → 00:04:25 แบบนี้นะคะ
00:04:25 → 00:04:41 ขอโทษค่ะ
00:04:41 → 00:04:43 Stop ไม่ได้
00:04:43 → 00:04:51 เดี๋ยวนะคะ
00:04:51 → 00:04:54 OK ได้แล้วก็คือตรงนี้นะคะเขาบอกว่าปกติ
00:04:54 → 00:04:57 เวลาเซลล์สัญญาณประสาทของเราเนี่ยสื่อสาร
00:04:57 → 00:05:02 กันใช่ไหมคะ
00:05:02 → 00:05:05 ตรงปลายตรงปลายระหว่างเซลล์กันเนี่ยมันจะ
00:05:05 → 00:05:10 มีการทำงานของช่องๆเหมือนเป็นทางทาง
00:05:10 → 00:05:12 เชื่อมระหว่างเซลล์นะคะเราก็เรียกตรงนี้
00:05:12 → 00:05:13 ว่าไอออน Channel นะคะซึ่งตรงไอออน
00:05:13 → 00:05:16 Channel เนี่ยก็จะมีสารสื่อประสาทต่างๆ
00:05:16 → 00:05:19 มากมายเลยที่มีหลายชนิดเลยชนิดนี้เกี่ยว
00:05:19 → 00:05:21 กับเรื่องนี้อย่างเช่นเราจะได้ยินว่าโรค
00:05:21 → 00:05:23 ทางสมองก็คือโรคทางสารสื่อประสาทอย่าง
00:05:23 → 00:05:26 หนึ่งแบบโพไซโทนินโดรมีนอะไรก็แล้วแต่
00:05:26 → 00:05:28 ขึ้นอยู่กับว่าตำแหน่งของสมองตรงนั้น
00:05:28 → 00:05:31 เนี่ยเอ่อทำหน้าที่อะไรและมีสารสื่อ
00:05:31 → 00:05:54 ประสาทอะไรบ้างนะคะ
00:05:54 → 00:05:58 ตอนนี้เขาก็บอกว่าการที่เราแบบว่าจะสั่ง
00:05:58 → 00:05:59 การของสมองอะไรสักอย่างนึงได้เนี่ยก็จะ
00:05:59 → 00:06:02 ต้องเป็นการทำงานของสมองการสมองนะคะแล้ว
00:06:02 → 00:06:05 ก็ลองไปสู่ไขสันหลังร่วมกันนะคะซึ่งการทำ
00:06:05 → 00:06:08 งานของตัวกล้ามสมองส่วนไหนก็จะควบคุม
00:06:08 → 00:06:11 เกี่ยวกับพวกการนอนนะคะอารมณ์
00:06:11 → 00:06:19 การหายใจอะไรต่างๆนะคะ
00:06:19 → 00:06:23 ที่ตัวสารสื่อประสาทหรือว่าตัวการส่ง
00:06:23 → 00:06:46 สัญญาณประสาทในสมองเนี่ยมันผิดปกติไปนะคะ
00:06:46 → 00:06:50 โอเคตรงนี้นะคะก็คือเขาอธิบายว่าคือหมอ
00:06:51 → 00:06:52 เจอหลายคำถามเลยนะคะเพราะว่าทำไมเราถึง
00:06:52 → 00:06:55 ต้องเป็นไมเกรนนะคะซึ่งจริงๆเนี่ยไมเกรน
00:06:55 → 00:06:58 เป็นโรคที่ปวดหัวที่เจอได้บ่อยในช่วงอายุ
00:06:58 → 00:07:01 ประมาณสักช่วงประมาณ 20-40 ปีนะคะคือค่อน
00:07:01 → 00:07:04 ข้างแบบจำเพาะแล้วก็กับช่วงอายุแล้วก็มัก
00:07:04 → 00:07:07 จะเจอในผู้หญิงมากกว่าได้ถึงประมาณแบบ 7
00:07:07 → 00:07:09 สมมุติว่า 10 คนอาจจะเป็นผู้หญิงสัก 70%
00:07:09 → 00:07:13 ผู้ชายสัก 30% นะคะซึ่งสาเหตุที่ทำให้คน
00:07:13 → 00:07:15 คนนึงเป็นไมเกรนจริงๆยังไม่มีการอธิบาย
00:07:15 → 00:07:18 ได้อย่างแน่ชัดว่าทำไมนะคะว่าเราถึงต้อง
00:07:18 → 00:07:21 เป็นไมเกรนแต่ว่าด้วยความที่เจอในผู้หญิง
00:07:21 → 00:07:23 เยอะนะคะเจอในช่วงอายุนึงเยอะเนี่ยเราก็
00:07:24 → 00:07:25 สันนิษฐานว่ามันก็น่าจะเกี่ยวข้องกับ
00:07:25 → 00:07:28 ปัจจัยอะไรบางอย่างแหละเรื่องของฮอร์โมน
00:07:28 → 00:07:31 ด้วยนะคะเรื่องของเพศด้วยอะไรต่างๆนะคะ
00:07:31 → 00:07:33 แต่ตรงเมื่อกี้ที่เขาบอกว่าอีกปัจจัยนึง
00:07:33 → 00:07:36 เลยนะคะที่เป็นส่วนที่ทำให้เราเป็นไมเกรน
00:07:36 → 00:07:39 ก็คือเรื่องของพันธุกรรมนะคะอันนี้จะเห็น
00:07:39 → 00:07:41 ว่าคนไข้ที่เป็นไมเกรนนะคะจะมีกลุ่มนึง
00:07:41 → 00:07:44 เลยที่มีประวัติคนในครอบครัวนะคะมีอาการ
00:07:44 → 00:07:46 ปวดหัวเหมือนกันอย่างเช่นคุณแม่เป็นพี่
00:07:46 → 00:07:50 สาวเป็นนะคะซึ่งตรงนี้เขาอธิบายว่าตรงตัว
00:07:50 → 00:07:51 พันธุกรรมของเราเนี่ยถ้าเวลาเรามี
00:07:51 → 00:07:53 พันธุกรรมบางอย่างที่มันผิดปกติมันจะทำ
00:07:53 → 00:07:56 ให้ไอออน Channel ช่องตรงนี้ว่าตรงเมื่อ
00:07:56 → 00:07:58 กี้ค่ะที่เขาพยายามอธิบายว่าสารสื่อ
00:07:58 → 00:08:00 ประสาทสารสื่อประสาทมันจะทำงานเชื่อมถึง
00:08:00 → 00:08:02 กันเนี่ยมันจะมีการทำงานของตัว Channel
00:08:02 → 00:08:04 ตรงนี้นะคะซึ่งถ้าเกิดสมมุติว่าคนที่เป็น
00:08:04 → 00:08:07 ไมเกรนเนี่ยน่าจะมีแนวโน้มปัจจัยทาง
00:08:07 → 00:08:09 พันธุกรรมบางอย่างที่ทำให้ Channel ตรง
00:08:09 → 00:08:12 นี้มันทำงานผิดปกติไปหรือที่เราเรียกว่า
00:08:12 → 00:08:14 hypersensitive hypersensitive ก็คือ
00:08:14 → 00:08:17 มันไวนะคะฉะนั้นเนี่ยสมองของคนเป็น
00:08:17 → 00:08:20 ไมเกรนเนี่ยจะไวกว่าสมองของคนปกติต่อสิ่ง
00:08:20 → 00:08:23 แวดล้อมนะคะไม่ว่าจะเป็นอาการเสียงกลิ่น
00:08:23 → 00:08:25 การพักผ่อนหรืออะไรก็แล้วแต่นะคะทำให้
00:08:25 → 00:08:28 สมองของคนที่เป็นไมเกรนเนี่ยอยู่ในภาวะ
00:08:28 → 00:08:40 ที่เหมือนพร้อมจะถูกกระตุ้นตลอดเวลานะคะ
00:08:40 → 00:08:43 เขาบอกว่าแบบมันไม่สามารถอธิบายได้ว่าแบบ
00:08:43 → 00:08:46 ปัจจัยพันธุกรรมอะไรกันแน่หรือว่าตัว
00:08:46 → 00:08:49 Mutation ตรงไหนเนี่ยที่มันจะอธิบายการ
00:08:49 → 00:08:51 เกิดไมเกรนได้อย่างชัดเจนแต่ว่าคิดว่าน่า
00:08:51 → 00:08:54 จะมีหลายส่วนหลาย part-bay ร่วมๆกันนั่น
00:08:54 → 00:08:57 เป็นเหตุผลว่าทำไมอาการไมเกรนของคนไข้แต่
00:08:57 → 00:09:00 ละคนเนี่ยค่อนข้างหลากหลายมากๆนะคะถ้า
00:09:00 → 00:09:03 เกิดเราจัดโรคไมเกรนจริงๆแล้วดูชนิดย่อย
00:09:03 → 00:09:05 ของไมเกรนจริงๆจะเห็นว่าแบบไมเกรนมีหลาย
00:09:05 → 00:09:08 ชนิดเลยทั้งเป็นไมเกรนชนิดที่มีออร่าเช่น
00:09:08 → 00:09:11 มีเห็นแสงผิดปกติหรือชนิดที่ไม่มีออร่า
00:09:11 → 00:09:14 หรือบางคนเป็นไมเกรนแบบแปลกๆนะคะเช่นเป็น
00:09:14 → 00:09:16 ไมเกรนที่มาด้วยเวียนหัวหรือที่เรียกว่า
00:09:16 → 00:09:19 westera ไมเกรนนะคะเป็นไมเกรนที่มาด้วย
00:09:19 → 00:09:22 อาการทางด้านสมองเป็นบริเวณ STEM ไมเกรน
00:09:22 → 00:09:24 เป็นเซรั่มไมเกรนอย่างเงี้ยก็มีนะคะซึ่ง
00:09:24 → 00:09:41 อาการมันหลากหลายมากๆเลยนะคะ
00:09:41 → 00:09:43 นั่นเป็นเหตุผลว่านะคะทำไมคนไข้
00:09:43 → 00:09:45 ไมเกรนเนี่ยถึงเนื่องจากมันเป็นสารสื่อ
00:09:45 → 00:09:49 ประสาทที่ผิดปกติแล้วหลายๆตัวผิดปกตินะคะ
00:09:49 → 00:09:52 เพราะฉะนั้นไมเกรนเป็นโรคที่ค่อนข้างซับ
00:09:52 → 00:09:54 ซ้อนหรือว่า Complex นะคะก็คืออาจจะไม่
00:09:54 → 00:09:56 ได้มาด้วยอาการปวดหัวอย่างเดียวนะแต่
00:09:56 → 00:09:58 ไมเกรนเนี่ยมักจะเจอร่วมกับโรคอื่นๆที่
00:09:58 → 00:10:00 อาจจะเกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาทที่ผิด
00:10:00 → 00:10:02 ปกติด้วยนะคะอย่างเช่นเรื่องของความวิตก
00:10:02 → 00:10:06 กังวลโรคซึมเศร้านะคะหรือเป็นโรคลมชักก็
00:10:06 → 00:10:08 มีนะคะก็คือมีเคสบางเคสเนี่ยเป็นไมเกรน
00:10:09 → 00:10:11 ด้วยเป็นโรคลมชักด้วยเนื่องจากกลไกการ
00:10:11 → 00:10:13 เกิดโรคนี้มันคล้ายๆกันนะคะเวลาปวดหัว
00:10:13 → 00:10:15 ขึ้นมาก็อาจจะมีอาการคล้ายๆอาการชักได้
00:10:15 → 00:10:18 เลยนะคะอาจจะสัมพันธ์กับพวกโรคฮอร์โมนบาง
00:10:18 → 00:10:21 อย่างเช่นเรื่องของไทรอยด์ต่ำนะคะหรือ
00:10:21 → 00:10:25 อาการพวกกลุ่มปวดเรื้อรังนะคะเช่นตรวจ
00:10:25 → 00:10:26 เอ่อ
00:10:26 → 00:10:29 ไมโอซาชีพเพนโปรดไฟโบใน LG นะคะก็คือคน
00:10:29 → 00:10:30 ไข้ไม่เกรนเนี่ยส่วนใหญ่มักจะมีอาการปวด
00:10:30 → 00:10:33 คอปวดบ่าปวดไหล่ปวดหลังปวดตัวร่วมด้วย
00:10:33 → 00:10:36 หรือมักจะมีอาการเรื่องของการทำงานของลำ
00:10:36 → 00:10:38 ไส้ผิดปกติอะไรอย่างนี้ร่วมด้วยนะคะซึ่ง
00:10:38 → 00:10:41 ตรงนี้เนี่ยอย่างเรื่องของวิตกกังวลหรือ
00:10:41 → 00:10:45 มันเจอร่วมกับไมเกรนเยอะมากๆเลยนะคะแบบ
00:10:45 → 00:10:48 เกือบถึง 50% เลยประมาณ 30-50% ได้เลยนะ
00:10:48 → 00:10:50 คะซึ่งที่เท่าที่หมอเจอมันก็เป็นปัจจัย
00:10:50 → 00:10:52 ทั้งสองอย่างอย่างแรกก็คืออาจจะเป็น
00:10:52 → 00:10:54 ปัจจัยเรื่องของพันธุกรรมหรือว่าสอนสื่อ
00:10:54 → 00:10:56 ประสาทนะคะอย่างที่ 2 ก็คือเรื่องของ
00:10:56 → 00:10:58 ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมเองนี่แหละคนไข้
00:10:58 → 00:11:02 ไมเกรนเองที่ปวดหัวบ่อยมากๆนะคะปวดจนถ้า
00:11:02 → 00:11:04 คนที่ปวดหัวแทบเกือบจะทุกวันนะคะเขาจะรู้
00:11:04 → 00:11:06 สึกว่าเดือนทั้งเดือนแนะนำไม่มีวันที่
00:11:06 → 00:11:09 เหมือนมีความสุขเลยหรือว่ามีวันที่หัวมัน
00:11:09 → 00:11:11 โล่งเลยนะคะคนเราที่ต้องอยู่กับอาการปวด
00:11:12 → 00:11:14 มานานๆโดยเฉพาะอาการปวดเรื้อรังนะคะส่วน
00:11:14 → 00:11:16 ใหญ่มักจะมีอารมณ์ที่ผิดปกติร่วมด้วยอยู่
00:11:16 → 00:11:19 แล้วมีวิตกกังวลมีซึมเศร้าหรือว่าบางทีก็
00:11:19 → 00:11:21 อาจจะมีปัญหากับคนรอบข้างเพื่อนที่ทำงาน
00:11:21 → 00:11:23 หรือคนในครอบครัวนะคะตรงนี้ก็ยิ่งเป็น
00:11:23 → 00:11:25 ปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้ไมเกรนเนี่ยมักจะ
00:11:25 → 00:11:27 เจอร่วมกับปัญหาเรื่องของอารมณ์อื่นๆร่วม
00:11:27 → 00:11:44 ด้วยนะคะ
00:11:44 → 00:11:47 อันนี้เขาบอกนะคะว่าก็เลยนั่นก็เลยเป็น
00:11:47 → 00:11:49 เหตุผลว่าไมเกรนส่วนใหญ่นะคะมักจะมีอาการ
00:11:49 → 00:11:52 ประมาณ 4 ระยะนะคะซึ่งตรงนี้เนี่ยเดี๋ยว
00:11:52 → 00:11:55 หมอจะอธิบายต่ออีกทีนึงนะคะว่าทำไมไมเกรน
00:11:55 → 00:11:57 ถึงไม่ใช่มีแค่ปวดหัวนะจริงๆที่ต้องการ
00:11:57 → 00:12:01 ให้รู้คือเวลาเราปวดหัวค่ะด้วยสาเหตุอื่น
00:12:01 → 00:12:03 ๆอย่างเช่นเราปวดหัวจากเราอดนอนหรือว่า
00:12:03 → 00:12:08 เราปวดหัวจากเป็นไข้ไข้สูงไม่สบายตรงนั้น
00:12:08 → 00:12:11 เนี่ยก็คือจะมีอาการแค่ปวดหัวจริงๆแต่
00:12:11 → 00:12:13 สำหรับคนไข้ไมเกรย์นะคะจริงๆเนี่ยมันมี
00:12:13 → 00:12:16 การกระตุ้นของสมองหรือว่าการทำงานของสมอง
00:12:16 → 00:12:18 ที่ผิดปกตินำมาก่อนอยู่แล้วนะคะเกิดเป็น
00:12:18 → 00:12:22 ระยะอาการนำอาการก่อนปวดหัวอาการปวดหัว
00:12:22 → 00:12:25 แล้วก็อาการหลังปวดหัวนะคะทำให้คนไข้
00:12:25 → 00:12:27 ไมเกรนเนี่ยไม่ใช่แค่มีปวดหัวอย่างเดียว
00:12:27 → 00:12:29 นะแต่จริงๆแล้วเนี่ยก่อนที่เขาจะปวดหัว
00:12:29 → 00:12:32 ขึ้นมามันมีความผิดปกติอย่างอื่นนำมาก่อน
00:12:32 → 00:12:33 อยู่แล้วล่ะทำให้เขามีอาการที่เหมือนแบบ
00:12:33 → 00:12:36 จริงๆปวดหัวแค่อาจจะวันสองวันแต่เวลาระยะ
00:12:36 → 00:12:38 โดยรวมทั้งหมดจริงๆอ่ะอาจจะกินเวลานาน
00:12:38 → 00:12:46 กว่านั้นนะคะ
00:12:47 → 00:12:50 อาการนำก่อนที่จะมีอาการปวดหัวได้ก็มีได้
00:12:50 → 00:12:53 ตั้งแต่แบบบางคนก็จะรู้สึกว่าง่วงหาวๆนะ
00:12:53 → 00:12:55 คะอ่อนเพลียอารมณ์ผิดปกตินะคะบางคนก็
00:12:55 → 00:12:58 ปัสสาวะบ่อยปวดตัวเริ่มรู้สึกคอแข็งๆก็มี
00:12:58 → 00:13:00 นะคะถ้าเกิดบางคนรู้สึกกล้ามเนื้อเริ่ม
00:13:00 → 00:13:04 ตึงและเดี๋ยววันสองวันไมเกรนมาก็มีนะคะ
00:13:04 → 00:13:16 [เพลง]
00:13:16 → 00:13:19 ระยะที่ 2 คือก่อนจะปวดหัวและก็คือจะเกิด
00:13:19 → 00:13:21 ขึ้นก่อนปวดหัวประมาณสัก 5 นาทีหรือไม่
00:13:21 → 00:13:24 เกิน 1 ชั่วโมงนะคะเราก็ต้องมีอาการปวด
00:13:24 → 00:13:26 หัวตามมาเนี่ยส่วนใหญ่แล้วเราก็จะเลือก
00:13:26 → 00:13:28 ตรงนี้ระยะตรงนี้ว่าเป็นออร่านะคะหลายคน
00:13:28 → 00:13:31 ก็จะรู้จักนะคะยิ่งโดยเฉพาะออร่าที่เจอ
00:13:31 → 00:13:33 บ่อยที่สุดเนี่ยจะเป็นออร่าทางตานะคะซึ่ง
00:13:33 → 00:13:36 คนไข้ก็อาจจะรู้สึกว่ามันเริ่มมีเห็นแสง
00:13:36 → 00:13:38 ผิดปกติแล้วนะแสงที่เห็นอาจจะเป็นเหมือน
00:13:38 → 00:13:41 แสงซิกแซกเหมือนซ่าๆนะคะหรือบางทีเห็น
00:13:41 → 00:13:43 เหมือนเป็น 4 รุ้งนะคะแล้วสักพักนึงก็
00:13:43 → 00:13:47 ไมเกรนมาถ้าใครที่มีออร่าแบบนี้นะคะค่อน
00:13:47 → 00:13:48 ข้างแบบวินิจฉัยได้ชัดเจนเลยว่าเป็น
00:13:48 → 00:13:51 ไมเกรนนะคะก็จะเป็นแบบอาการที่ค่อนข้าง
00:13:51 → 00:13:53 บอกได้ว่าเออน่าจะเป็นไมเกรนแน่ๆแหละไม่
00:13:53 → 00:13:56 น่าใช่ปวดหัวอย่างอื่นแล้วนะคะส่วนอาการ
00:13:56 → 00:13:58 ออร่าอื่นๆที่เจอได้แต่ว่าจะเจอน้อยกว่า
00:13:58 → 00:14:01 ก็อย่างเช่นอาจจะมาด้วยออร่าแบบมีชานำมา
00:14:01 → 00:14:04 ก่อนนะคะบางคนอาจจะดูเหมือนเบลอๆสับสนพูด
00:14:04 → 00:14:07 ไม่รู้เรื่องแล้วก็ปวดหัวนะคะหรือบางคนก็
00:14:07 → 00:14:10 รู้สึกเหมือนแขนขาไม่มีแรงหรืออาจจะมา
00:14:10 → 00:14:12 ด้วยเวียนหัวบ้านหมุนก็ได้นะคะโดยเฉพาะ
00:14:12 → 00:14:27 กลุ่มที่เป็นกลุ่มไมเกรนหัวนะคะ
00:14:27 → 00:14:29 ตรงนี้บอกเขาไปเร็วๆแล้วกันนะคะก็คือเขา
00:14:29 → 00:14:32 ก็จะเริ่มอธิบายแล้วแหละว่าก็พอระยะปวด
00:14:32 → 00:14:34 หัวเนาะก็จะเหมือนอย่างที่เรารู้กันนะคะ
00:14:34 → 00:14:36 ว่าส่วนไหนปวดหัวไมเกรนกำลังจะปวดข้าง
00:14:36 → 00:14:40 เดียวปวดค่อนข้างรุนแรงนะคะปวดเนี่ยสมมติ
00:14:40 → 00:14:42 ว่าคะแนนเต็ม 10 เนี่ยคนไข้ไมเกรนเนี่ย
00:14:42 → 00:14:46 มักจะปวดคะแนนแบบอยู่ในช่วงประมาณ 7 8 9
00:14:46 → 00:14:49 10 ขึ้นไปถ้ามันปวดระยะที่ปวดหัวจริงๆนะ
00:14:49 → 00:14:52 คะจะไม่ใช่อาการปวดแบบปวดพอรำคาญปวดมึนๆ
00:14:52 → 00:14:55 นะคะเพราะฉะนั้นเวลาไมเกรนกำเริบขึ้นมา
00:14:55 → 00:14:57 เนี่ยคนไข้ส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าต้องอยู่
00:14:57 → 00:14:59 นิ่งๆอยู่เฉยๆนอนพักอยู่เงียบๆนะคะอาจจะ
00:15:00 → 00:15:03 มีคลื่นไส้อาเจียนอะไรร่วมด้วยได้นะคะและ
00:15:03 → 00:15:05 ที่สำคัญกว่านั้นก็คือจะเป็นระยะหลังปวด
00:15:05 → 00:15:08 หัวนะคะก็คือพอเราปวดหัวเสร็จเนี่ยอาจจะ
00:15:08 → 00:15:11 กินเวลาสักประมาณช่วง 4-4 ชั่วโมงถึง
00:15:11 → 00:15:14 ประมาณไม่เกิน 2-3 วันเนี่ยแต่พอเราหาย
00:15:14 → 00:15:17 ปวดหัวเสร็จนะคะกลายเป็นว่าเรามีระยะตาม
00:15:17 → 00:15:19 หลักขึ้นมาอีกนะคะซึ่งทำไมถึงเป็นแบบนี้
00:15:19 → 00:15:21 เดี๋ยวหมอจะมีภาพอธิบายให้ฟังนะคะว่าทำไม
00:15:21 → 00:15:25 เอ่อคนไข้เวลาปวดหัวไมเกหมายถึงมีอย่าง
00:15:25 → 00:15:28 นี้ได้นะคะแต่อาการ 4 ระยะของไมเกรนตรง
00:15:28 → 00:15:30 นี้นะคะก็จะเป็นอาการแบบที่ไม่ได้เจอใน
00:15:30 → 00:15:32 ทุกคนไม่จำเป็นว่าทุกคนจะต้องมี 1 2 3
00:15:32 → 00:15:34 4 แล้วค่อยบอกว่าเป็นไมเกรนนะคะบางคนมี
00:15:34 → 00:15:38 แค่ 1 ก็มีบางคนมีแค่ออร่าก็มีไม่มีปวด
00:15:38 → 00:15:40 หัวตามมาหรือบางคนก็มีแต่ปวดหัวไม่มี
00:15:40 → 00:15:43 อาการอะไรนำมาก่อนเลยนะคะก็แล้วแต่อาการ
00:15:43 → 00:15:46 ของแต่ละคนอีกทีนึงนะคะเนาะงั้นเดี๋ยวขอ
00:15:46 → 00:15:50 จบตรงวีดีโอตรงนี้ไว้ก่อนนะคะเนาะเดี๋ยว
00:15:50 → 00:15:54 จะยาวเกินไปทีนี้ก็คือวีดีโอเมื่อกี้ค่ะ
00:15:54 → 00:15:57 คือหมออยากให้ทุกคนเห็นภาพว่าการที่
00:15:57 → 00:16:00 ไมเกรนมันจะเกิดขึ้นมาได้อ่ะค่ะมันไม่ใช่
00:16:00 → 00:16:03 แค่แบบเราคิดไปเองนะแบบเอ้ยวันนี้เรานอน
00:16:03 → 00:16:05 ไม่พอวันนี้เราเครียดมากหรือว่าเราแบบเจอ
00:16:05 → 00:16:08 ปัญหาอะไรสักอย่างไปเจอกลางแจ้งตากแดดมาก
00:16:08 → 00:16:11 ๆทำงานหนักมากๆแล้วก็ไมเกรนก็มาแต่จริงๆ
00:16:11 → 00:16:14 แล้วเนี่ยก่อนที่ไมเกรนมันจะมาค่ะมันมี
00:16:14 → 00:16:16 การกระตุ้นการทำงานของสมองที่ผิดปกติมี
00:16:16 → 00:16:19 สารสื่อประสาทบางตัวที่มันเริ่มผิดปกติละ
00:16:19 → 00:16:21 แล้วค่อยเกิดเป็นระยะปวดหัวแล้วหลังจาก
00:16:21 → 00:16:24 นั้นมันก็จะค่อยๆหายนะคะ
00:16:24 → 00:16:26 ถ้าเราเห็นภาพตรงนี้เราจะรู้ว่าจริงๆแล้ว
00:16:27 → 00:16:29 เนี่ยไมเกรนมันมากกว่าแค่ปวดหัวนะมันคือ
00:16:29 → 00:16:32 เหมือนแบบเป็นโรคเหมือนโรคโรคนึงเลยที่
00:16:32 → 00:16:35 แบบมีการอธิบายไว้ชัดเจนว่ามันจะเกิดอะไร
00:16:35 → 00:16:38 ขึ้นแล้วเกิดอะไรตามมานะคะเนาะอย่างภาพ
00:16:38 → 00:16:42 นี้ค่ะก็หมออยากให้เห็นว่าแบบเออการคือ
00:16:42 → 00:16:44 จริงๆอ่ะมันจะดูยากมากเลยนะคะเพราะว่า
00:16:44 → 00:16:47 จริงๆแล้วก่อนที่จะเป็นหมอสมองเนี่ยหมอ
00:16:47 → 00:16:50 ว่าก็ดูแทบจะไม่เข้าใจนะคะแต่ว่าหมอ
00:16:50 → 00:16:53 ต้องการสื่อให้เห็นว่ากลไกการเกิดโรค
00:16:53 → 00:16:55 ไมเกรนเนี่ยมันเกี่ยวข้องกับสมองหลายส่วน
00:16:55 → 00:16:58 นะคะแล้วก็เกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาท
00:16:58 → 00:17:01 หลายๆตัวเลยนะคะปกติเนี่ยพอเวลาเรามีตัว
00:17:01 → 00:17:03 กระตุ้นอะไรมาบางอย่างเนี่ยมันก็จะไป
00:17:03 → 00:17:05 กระตุ้นสมองของเรานะคะพอสมองของเราเนี่ย
00:17:05 → 00:17:08 ได้รับสิ่งกระตุ้นเร้ามาเนื่องจากภาวะ
00:17:08 → 00:17:10 ไมเกรนเป็นภาวะที่สมองเนี่ยมันไวต่อการ
00:17:10 → 00:17:12 ถูกกระตุ้นมากๆอยู่แล้วนะคะเพราะฉะนั้น
00:17:12 → 00:17:15 เนี่ยพอเจอตัวกระตุ้นปุ๊บมันจะมีการหลั่ง
00:17:15 → 00:17:18 สารที่ผิดปกติสารสื่อประสาทที่ผิดปกติ
00:17:18 → 00:17:21 หลายตัวเลยนะคะแต่ว่าพระเอกตัวนึงเลยที่
00:17:21 → 00:17:24 แบบตอนหลังเขาเจอว่าเกี่ยวข้องกับการเกิด
00:17:24 → 00:17:27 ไมเกรนมากๆเลยเราก็เรียกว่าเป็นสาร cgrp
00:17:27 → 00:17:30 นะคะซึ่งตัว cgrp ตรงนี้มันจะไปออกฤทธิ์
00:17:30 → 00:17:34 นะคะตรงนี้ค่ะเห็นรูปนี้ไหมคะที่ในวีดีโอ
00:17:34 → 00:17:37 เนี่ยเขาบอกแล้วว่ากว่าเซลล์ประสาทแต่ละ
00:17:37 → 00:17:40 ตัวจะคุยกันได้มันจะมีตรงปลายเนิบเส้น
00:17:40 → 00:17:43 ประสาทเนี่ยที่เป็นช่องช่องส่งสัญญาณ
00:17:43 → 00:17:45 ประสาทแล้วก็มีสารสื่อประสาทต่างๆมากมาย
00:17:45 → 00:17:46 นะคะ
00:17:46 → 00:17:50 cgrt ตรงนี้นะคะมันจะไปออกฤทธิ์ที่กล้าม
00:17:50 → 00:17:52 เนื้อหลอดเลือดค่ะคือหลอดเลือดของคนเราก็
00:17:52 → 00:17:54 จะมีกล้ามเนื้อที่คอยควบคุมการหดขยายตัว
00:17:54 → 00:17:58 หดขยายตัวนะคะดังนั้นพอเวลาคนไข้ไม่เกรง
00:17:58 → 00:18:01 มีตัวกระตุ้นมามีการกระตุ้นของสมองสมอง
00:18:01 → 00:18:04 เกิดการกระตุ้นต่อไปเรื่อยๆจนหลั่งสาร
00:18:04 → 00:18:07 สื่อประสาทที่ผิดปกติโดยเฉพาะตัว cgrp
00:18:07 → 00:18:10 cgrp ก็ไปทำให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัว
00:18:10 → 00:18:14 นะคะแล้วก็ร่างกายก็จะเกิดการตอบสนอง
00:18:14 → 00:18:16 อัตโนมัติต่างๆตามมาเกิดการหลั่งสารเสพ
00:18:16 → 00:18:19 ต่างๆตามมาพยายามหดตัวหดขยายหดขยายก็เลย
00:18:19 → 00:18:22 เกิดเป็นความปวดหัวขึ้นมานะคะซึ่งตรง
00:18:22 → 00:19:14 เนี้ยจากการที่
00:19:14 → 00:20:24 [เพลง]
00:20:24 → 00:20:26 เองก็แบบถ้ายิ่งถ้าเป็นคนที่ต้องทำงานแบบ
00:20:26 → 00:20:29 อยู่ในที่ที่ทำงานคนเยอะๆนะคะก็แบบกลาย
00:20:29 → 00:20:32 เป็นอดทนเอาเพราะว่ารู้สึกว่าการที่แบบจะ
00:20:32 → 00:20:35 บอกกับคนอื่นว่าเราปวดหัวเราต้องหนีไปนอน
00:20:35 → 00:20:37 หรือว่าไปพักเนี่ยยิ่งถ้ามันเป็นบ่อยๆมาก
00:20:37 → 00:20:40 ๆมันก็จะรู้สึกว่าเกิดความเกรงใจไม่อยาก
00:20:40 → 00:20:42 จะบอกหรือว่าแบบบางทีก็อาจจะโดนมองว่า
00:20:42 → 00:20:45 เอ๊ะทำไงทำไมทำงานไม่ได้ไม่เต็มที่อะไร
00:20:45 → 00:20:48 อย่างเงี้ยค่ะซึ่งจริงๆแล้วแบบนั้นเนี่ย
00:20:48 → 00:20:50 ไม่ถูกต้องนะคะเพราะว่าถ้าเกิดสมมุติว่า
00:20:50 → 00:20:52 เป็นไมเกรนขึ้นมาจริงๆอ่ะแล้วเรายิ่งแบบ
00:20:52 → 00:20:55 โดนตัวกระตุ้นเข้าไปเรื่อยๆค่ะเช่นสมมุติ
00:20:55 → 00:20:58 ว่าแบบอยู่ทำงานอยู่ดูแสงดูคอมอยู่แล้ว
00:20:58 → 00:21:00 ปวดไมเกรนขึ้นมาแล้วยังฝืนทำต่อไปเนี่ย
00:21:00 → 00:21:03 ส่วนใหญ่จากการที่สมองบรรจุกระตุ้นหรือ
00:21:03 → 00:21:05 ว่ามันมีการหลั่งสารการอักเสบมากขึ้น
00:21:05 → 00:21:08 เรื่อยๆเนี่ยมันจะเลยทำให้รอบไมเกรนรอบ
00:21:08 → 00:21:11 นั้นเนี่ยแทนที่จะแบบหายปวดเร็วอ่ะอาจจะ
00:21:11 → 00:21:14 ปวดนานกว่าปกติก็ได้นะคะน้องเพราะฉะนั้น
00:21:14 → 00:21:16 ถ้าเกิดคนเป็นไมเกรนจริงๆก็อาจจะต้อง
00:21:16 → 00:21:18 เหมือนแบบถ้าเกิดมันมีระยะอาการปวดหัว
00:21:18 → 00:21:21 ขึ้นมาและก็ต้องแบบพยายามดูแลตัวเองให้
00:21:21 → 00:21:25 หายจากรอบ attack รอบเริ่มรอบนั้นให้เร็ว
00:21:25 → 00:21:29 ที่สุดนะคะเนาะนี่ก็เป็นภาพที่อยากให้
00:21:29 → 00:21:31 เห็นเข้าใจง่ายๆอ่ะค่ะว่าแบบเนี่ยคนไข้
00:21:31 → 00:21:34 สมองไมเกรนนะคะนึกภาพตามว่าแบบถ้าคนเป็น
00:21:34 → 00:21:36 ไมเกรนก็คือสมองของเราเนี่ยค่อนข้าง
00:21:36 → 00:21:39 sensitive อยู่ละเวลาแบบมันจะไวกับตัว
00:21:39 → 00:21:41 กระตุ้นหรืออะไรบางอย่างอยู่แล้วนะคะเนอะ
00:21:41 → 00:21:44 พอมีตัวกระตุ้นเข้ามาจริงๆโดยเฉพาะแดด
00:21:44 → 00:21:47 อากาศเปลี่ยนนะคะอากาศเปลี่ยนในที่นี้แบบ
00:21:47 → 00:21:49 บางทีไม่ใช่แดดร้อนจัดนะแต่เป็นช่วงแบบ
00:21:49 → 00:21:53 ครึ้มฟ้าครึ้มฝนหนาวๆร้อนๆอยู่กลางแจ้ง
00:21:53 → 00:21:56 จัดแล้วมาเข้าห้องแอร์เย็นจัดอะไรอย่าง
00:21:56 → 00:21:59 เงี้ยค่ะหรือกลิ่นหรือว่าเสียงหรือว่าการ
00:21:59 → 00:22:02 อดนอนอะไรก็แล้วแต่เนี่ยก็สมองก็จะไปเกิด
00:22:02 → 00:22:05 การกระตุ้นระบบสมองเกิดการรังสรรค์ต่างๆ
00:22:05 → 00:22:08 นะคะจนไปกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติแล้ว
00:22:08 → 00:22:10 ก็เส้นประสาทใบหน้าตรงเนี้ยเราเรียกว่า
00:22:10 → 00:22:12 ไตเจมิโนบาสคาร่า System ตรงนี้นะคะทำให้
00:22:12 → 00:22:16 เกิดการหลั่งสาร cgrp ที่ออกมามากเกินไป
00:22:16 → 00:22:19 แล้วก็เกิดเป็นหลอดเลือดขยายตัวกรุ๊บๆๆๆ
00:22:19 → 00:22:24 นะคะซึ่งอันนี้ส่วนใหญ่ค่ะเวลาหมอที่ที่
00:22:24 → 00:22:26 ต้องอธิบายให้คนไข้เข้าใจนะคะโดยเฉพาะคน
00:22:26 → 00:22:31 ไข้ที่เป็นคนไข้กลุ่มเรื้อรังนะคะที่เวลา
00:22:31 → 00:22:34 คนไข้มารักษาเนี่ยบางทีคนเขาจะถามว่าแล้ว
00:22:34 → 00:22:37 แล้วอย่างแบบทุกวันนี้ที่เขากินยาแก้ปวด
00:22:37 → 00:22:38 อยู่อ่ะค่ะ
00:22:38 → 00:22:41 มันต่างยังไงกับที่ว่าถ้าเกิดสมมุติว่า
00:22:41 → 00:22:44 เรารักษาเนี่ยเราก็กลับกลายต้องเป็นกินยา
00:22:44 → 00:22:48 รักษามันต่างกันยังไงกับในเมื่อเราเขากิน
00:22:48 → 00:22:50 ยาแก้ปวดเราให้ปวดหัวเราก็กินยาแก้ปวดมัน
00:22:50 → 00:22:53 ก็หายอยู่ละกับอีกอันนึงก็คือแบบอ้าวมัน
00:22:53 → 00:22:55 ยังไม่ปวดหัวจะต้องมากินยาป้องกันกินทุก
00:22:55 → 00:22:58 วันเลยนะคะความต่างก็คืออยู่ตรงนี้ล่ะค่ะ
00:22:58 → 00:23:02 ตอนพวกกลุ่มยาแก้ปวดอ่ะค่ะใดๆก็แล้วแต่
00:23:02 → 00:23:04 ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มปวดทั่วไปกลุ่มปวด
00:23:04 → 00:23:07 เอ็นเสกเช่นพวกไอโฟนอะไรแล้วแต่หรือว่า
00:23:07 → 00:23:09 กลุ่มปวดไมเกรนโดยเฉพาะอย่างเช่นพวกเอ่อ
00:23:09 → 00:23:13 กลุ่มเออเกาะหรือว่ากลุ่มทริปแทนต่างๆนะ
00:23:13 → 00:23:13 คะ
00:23:14 → 00:23:17 วัตถุประสงค์ของเขาก็คือคนไข้มีอาการการ
00:23:17 → 00:23:20 สมรถูกกระตุ้นแล้วเกิดอาการเต้นตุบๆขึ้น
00:23:20 → 00:23:24 มานะคะยาแก้ปวดจะมีหน้าที่คือไประงับนะคะ
00:23:24 → 00:23:29 ใช่หายปวดนะคะซึ่งโดยกลไกก็จะอะไรก็แล้ว
00:23:29 → 00:23:33 แต่ก็ขึ้นกับยาแต่ละชนิดนะคะยาในกลุ่มที่
00:23:33 → 00:23:35 เป็นยาไมเกรนโดยจำเพาะอย่างเช่นกลุ่มพวก
00:23:35 → 00:23:38 กัปตันมินเช่นพวกโทโก้
00:23:38 → 00:23:41 ต่างๆเนี่ยมันเลยออกฤทธิ์ได้ค่อนข้างดี
00:23:41 → 00:23:43 เพราะว่ามันไปออกฤทธิ์หดหลอดเลือดตรงนี้
00:23:43 → 00:23:46 โดยตรงนะคะผ่านกลไกสารสื่อประสาทอะไรต่าง
00:23:46 → 00:23:49 ๆนะคะเนาะทำให้แบบคนไข้ที่ปวดหัวไมเกรน
00:23:49 → 00:23:51 อยู่อ่ะค่ะพอกินยากลุ่มนี้ก็เลยรู้สึกว่า
00:23:51 → 00:23:53 เออมันระงับปวดได้เร็วกว่าเมื่อเทียบกับ
00:23:53 → 00:23:56 กลุ่มอื่นๆที่อาจจะไม่ค่อยๆเหมือนลดการ
00:23:56 → 00:23:57 อักเสบนะคะ
00:23:57 → 00:24:01 เวลาเรากินยากลุ่มพวกนี้ค่ะยิ่งกินน่ะค่ะ
00:24:01 → 00:24:03 คือกินเพื่อให้ระงับปวดเมื่อมีอาการ
00:24:03 → 00:24:05 กำเริบขึ้นมาแล้วคือให้เราหายให้เร็วที่
00:24:05 → 00:24:09 สุดนะคะเพราะฉะนั้นข้อข้อที่เจอมาส่วน
00:24:09 → 00:24:12 ใหญ่จะมี 2 แบบนะคะแบบแรก
00:24:12 → 00:24:15 ปวดปุ๊บกินปั๊บเลยเพราะว่าอยู่กับไมเกรน
00:24:15 → 00:24:17 มานานรู้ว่าถ้าไม่กินเนี่ยเดี๋ยวไปต่อแน่
00:24:17 → 00:24:20 ๆนะคะหมอนึกภาพไม่เห็นง่ายๆก็จะบอกว่าถ้า
00:24:20 → 00:24:22 เกิดสมมติไมเกรนมานานแล้วเนี่ยก็คือ
00:24:22 → 00:24:25 เหมือนไฟไหม้ละนะคะไฟมันแบบลุกขึ้นมาแล้ว
00:24:25 → 00:24:29 ผึกละฉะนั้นเนี่ยเราก็ต้องรีบรีบระงับปวด
00:24:29 → 00:24:32 หยุดไฟไหม้ดับไฟให้เร็วที่สุดนะคะเพราะ
00:24:32 → 00:24:34 ฉะนั้นคนไข้ที่อยู่กับไมเกรนมานานๆจะรู้
00:24:34 → 00:24:39 ว่าถ้าไม่ทำอะไรต่อไปรามแน่ๆนะคะก็จะรีบ
00:24:39 → 00:24:41 ใช้ยาแก้ปวดรีบระงับปวดให้เร็วที่สุดนะคะ
00:24:41 → 00:24:45 เนาะแต่ถ้าเกิดคนที่ยังแบบเอ่อไม่ชินกับ
00:24:45 → 00:24:47 อาการปวดหรือเพิ่งเป็นมาไม่นานหรือกลัว
00:24:48 → 00:24:50 การกินยาแก้ปวดเยอะเนี่ยก็พอเวลามีอาการ
00:24:50 → 00:24:53 ปวดมาบางทีจะรอดูนะคะเช่นรอดูไปกับ 3
00:24:53 → 00:24:55 ชั่วโมง 4 ชั่วโมงอ่าพอเริ่มมั่นใจแล้ว
00:24:55 → 00:24:57 ว่าไม่หายก็ค่อยกินยา
00:24:57 → 00:25:00 นะคะเนาะซึ่งทั้ง 2 แบบเนี่ยมันมีข้อดี
00:25:00 → 00:25:02 ข้อเสียต่างกันนะคะแบบแรกก็คือคนปลดปุ๊บ
00:25:02 → 00:25:04 กินปั๊บเลยเนี่ยอันนี้ก็ดีก็คือลดการ
00:25:04 → 00:25:06 อักเสบได้เร็วทำให้ไม่เกณฑ์ที่กำเริบรอบ
00:25:06 → 00:25:09 เนี่ยจบเร็วนะคะป้องกันระยะที่เราเรียก
00:25:09 → 00:25:11 ว่าระยะ postom หรือว่าหลังปวดหัวเนี่ย
00:25:11 → 00:25:14 ให้อาการมันหายเร็วขึ้นเพราะว่าสารอักเสบ
00:25:14 → 00:25:16 ต่างๆอะไรมันก็หลั่งน้อยนะคะ
00:25:16 → 00:25:19 ข้อเสียคือว่าคนที่ทำแบบนี้นะคะถ้าเกิด
00:25:19 → 00:25:23 ปวดหัวบ่อยจะเสี่ยงต่อการติดยาแก้ปวดนะคะ
00:25:23 → 00:25:26 ไมเกรนเป็นโรคที่ติดยาแก้ปวดเยอะที่สุดนะ
00:25:26 → 00:25:29 คะมันมีภาวะที่เราเรียกว่า medication ou
00:25:29 → 00:25:32 height ที่หมอเคยพูดไปเนี่ยก็คือว่าเจอ
00:25:32 → 00:25:34 ในคนไข้ไมเกรนเยอะที่สุดเพราะอะไรเพราะ
00:25:34 → 00:25:36 ว่าคนไข้ในเกมเวลาปวดหัวขึ้นมาค่ะเขาปวด
00:25:36 → 00:25:40 รุนแรงพอไม่กินยาเนี่ยก็จะรู้ว่ามันหลาย
00:25:40 → 00:25:42 วันแน่ๆหรือว่าหลายชั่วโมงแน่ๆทำอะไรไม่
00:25:42 → 00:25:45 ได้ฉะนั้นคนไข้ไม่เกรงจะติดกับว่าถ้าปวด
00:25:45 → 00:25:47 หัวมาต้องใช้ยานะคะแต่ถ้าเกิดใครที่ปวด
00:25:47 → 00:25:50 หัวบ่อยแล้วต้องใช้ยาในกลุ่มยาแก้ปวดนะคะ
00:25:50 → 00:25:53 ก็ส่วนใหญ่ก็เกินประมาณสัก 10-15 เม็ดต่อ
00:25:53 → 00:25:56 เดือนขึ้นกับอ่าแต่ละชนิดยานะคะก็จะถือ
00:25:56 → 00:25:59 ว่าเริ่มมีภาวะปวดหัวจากใช้ยาแก้ปวดเกิน
00:25:59 → 00:26:03 ขนาดละนะคะเนาะทำไมถึงเป็นแบบนี้ก็อธิบาย
00:26:03 → 00:26:06 ได้จากกลไกภาวะของสมองเนี่ยแหละค่ะว่าจะ
00:26:06 → 00:26:10 บอกคนไข้ไม่เกรนเนี่ยมันเป็นภาวะที่สาร
00:26:10 → 00:26:12 สื่อประสาทหรือว่าเซลล์ประสาทของเขาเนี่ย
00:26:12 → 00:26:15 มันมีภาวะที่มันพร้อมจะไวต่อตัวถูก
00:26:15 → 00:26:17 กระตุ้นอยู่แล้วแล้วนะคะทำให้เหมือนแบบพอ
00:26:17 → 00:26:20 เราเจอยาแก้ปวดบ่อยๆเข้าอ่ะมันเกิดการ
00:26:20 → 00:26:23 เปลี่ยนแปลงของสมองนะคะทำให้สมองยิ่งไว
00:26:23 → 00:26:28 กว่าเดิมอีกนะคะเคยมีคนถามว่าอย่างกินยา
00:26:28 → 00:26:30 แก้ปวดอย่างนี้ค่ะสมมติว่าหมอบอกว่าห้าม
00:26:30 → 00:26:33 กินไอบูโพรเฟนเกินเดือนละ 15 เม็ดใช่ไหม
00:26:33 → 00:26:36 คะมันก็จะมีคนไข้ไมเกรนถ้ากินยาเกินทำไม
00:26:36 → 00:26:39 ถึงบอกว่าเป็นติดยาแก้ปวดแล้วเป็นปวดหัว
00:26:39 → 00:26:43 จากยาแก้ปวดในขณะที่คนๆนึงอ่ะค่ะสมมุติ
00:26:43 → 00:26:45 ว่าเขากินยาแก้ปวดด้วยสาเหตุอื่นเช่นปวด
00:26:45 → 00:26:49 เข่าคนไข้เข่าเสื่อมคนไข้หลังกระดูกหลัง
00:26:49 → 00:26:52 เสื่อมกลุ่มนี้นะคะบางทีก็กินยากินยาแก้
00:26:52 → 00:26:55 ปวดทุกวันนะคะกินเยอะก็ไม่กินอีกแต่ทำไม
00:26:55 → 00:26:59 ไม่ปวดหัวนะคะเพราะว่าเนี่ยค่ะคือมันเป็น
00:26:59 → 00:27:01 เรื่องของการทำงานของสมองหรือว่าสมองที่
00:27:01 → 00:27:04 มันไวอ่ะค่ะที่เซลล์ประสาทมันถูกกระตุ้น
00:27:04 → 00:27:07 ได้ง่ายในคนไข้ในเกรนนะคะในขณะที่คนที่
00:27:07 → 00:27:09 ไม่ได้เป็นไมเกรนเขาจะไม่มีภาวะตรงนี้
00:27:09 → 00:27:11 เพราะฉะนั้นกินยาแก้ปวดเยอะไปเนี่ยมันไม่
00:27:11 → 00:27:13 ได้ไปทำให้เขาปวดหัวหรือว่าเกิดอาการปวด
00:27:13 → 00:27:16 หัวขึ้นมานะคะแต่จะเป็นข้อเสียอย่างอื่น
00:27:16 → 00:27:20 แทนเช่นกันกระเพาะไตค่าไตผิดปกติอะไรก็
00:27:20 → 00:27:23 ว่ากันไปนะคะในทางกลับกันนะคะถ้าคนไข้
00:27:23 → 00:27:26 ไมเกรนนะคนไข้ไม่เกรซจะมองเป็นคนไข้
00:27:26 → 00:27:27 ไมเกรน
00:27:27 → 00:27:30 อาจจะปวดหัวไมเกรนไม่ได้บ่อยเป็นไมเกรน
00:27:30 → 00:27:32 อาจจะปวดหัวแค่อาทิตย์ละครั้งกินยา
00:27:32 → 00:27:35 อาทิตย์ละครั้งแต่คนไข้คนนี้เป็นไมเกรน
00:27:35 → 00:27:37 แต่มีแบบสมมุติเข่าเสื่อมร่วมด้วยมีปวด
00:27:37 → 00:27:39 กระดูกร่วมด้วยหรือแบบกระดูกหักกลายเป็น
00:27:39 → 00:27:42 ว่าไปกินยาแก้ปวดด้วยสาเหตุอื่นน่ะค่ะแบบ
00:27:42 → 00:27:45 นี้ก็ทำให้คนไข้คนนี้เสี่ยงต่อการปวดหัว
00:27:45 → 00:27:47 เยอะขึ้นเหมือนกันนะคะเพราะว่ากลไกของ
00:27:47 → 00:27:50 สมองที่มันเกิดการปรับตัวค่ะทำให้เกิดแบบ
00:27:51 → 00:27:54 สมองมันยิ่งมีความไวต่อการถูกกระตุ้นได้
00:27:54 → 00:27:57 ง่ายนั่นเองนะคะเนาะอ่ะอันที่ 2 เมื่อกี้
00:27:57 → 00:28:00 นะคะก็คือว่ากินยาแก้ปวดเยอะอ่ากินยาแก้
00:28:00 → 00:28:04 ปวดเร็วข้อดีก็คืออ่าดีไหมดีทำให้ไมเกรน
00:28:04 → 00:28:08 รอบนั้นน่ะหายเร็วแต่ข้อเสียคืออาจจะ
00:28:08 → 00:28:10 เสี่ยงต่อการติดยาแก้ปวดหรือว่ามีภาวะปวด
00:28:10 → 00:28:12 หัวจากยาแก้ปวดเกินขนาดนะคะเพราะฉะนั้น
00:28:12 → 00:28:14 เนี่ยถ้าใครที่รู้ตัวว่าปวดหัวเกิน
00:28:14 → 00:28:18 อาทิตย์ละประมาณ 1 ครั้งนะคะ 1-2 ครั้ง
00:28:18 → 00:28:20 เสี่ยงติดยาแล้วค่ะเพราะว่าคัดรอบนึงก็
00:28:20 → 00:28:22 ต้องกินประมาณสัก 1-2 เม็ดเนาะเพราะ
00:28:22 → 00:28:24 ฉะนั้นถ้าเกิดปวดเกินอาทิตย์ละครั้งสอง
00:28:24 → 00:28:26 ครั้งนะคะโดยทั่วไปก็เนี่ยเอา 4 ครั้งต่อ
00:28:26 → 00:28:29 เดือนนะคะหรือกินยาแก้ปวดเกินประมาณ 10-15
00:28:29 → 00:28:32 เม็ดต่อเดือนจะถือว่ามีความเสี่ยงต่อการ
00:28:32 → 00:28:34 ติดยาแก้ปวดแล้วแล้วจะเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยว
00:28:34 → 00:28:37 จะอธิบายต่อไปนะคะส่วนกลุ่มที่ 2 ที่ที่
00:28:37 → 00:28:39 บอกนะคะก็คือกลุ่มกินยาแก้ปวดช้ากลุ่มนี้
00:28:39 → 00:28:42 มีข้อเสียคือข้อดีก็คือจะไม่เสี่ยงติดยา
00:28:42 → 00:28:44 แก้ปวดแต่ข้อเสียคืออย่างที่บอกค่ะเวลา
00:28:44 → 00:28:46 ไมเกรนกำเริบขึ้นมาหลอดเลือดตุ๊กๆแล้ว
00:28:46 → 00:28:49 เนาะมันเหมือนแบบไฟไหม้แล้วอ่ะยิ่งเราแบบ
00:28:49 → 00:28:51 ปล่อยให้ไฟไหม้สมมุติว่าไฟไหม้บ้านเรา
00:28:51 → 00:28:53 ขึ้นมาอย่างเงี้ยแล้วเราปล่อยแบบปล่อยให้
00:28:53 → 00:28:55 มันไหม้ไปเรื่อยๆแล้วแบบรอสัก 2-3
00:28:55 → 00:28:57 ชั่วโมงอ่ะแล้วค่อยเดี๋ยวเอาน้ำไปดับสิ
00:28:57 → 00:28:59 เพราะฉะนั้นเนี่ยความเสียหายที่เกิดขึ้น
00:29:00 → 00:29:03 นะคะมันจะมากกว่านะคะเพราะฉะนั้นการอ่า
00:29:03 → 00:29:05 สารการอักเสบอะไรต่างๆมันจะมากกว่านะคะคน
00:29:05 → 00:29:07 ไข้ก็ถ้าเป็นคนไข้กลุ่มนี้นะคะจะทำให้
00:29:07 → 00:29:10 ความรู้สึกว่าเอ๊ะทำไมรอบเนี่ยกินยาแล้ว
00:29:10 → 00:29:12 มันไม่หายปวดนะคะเพราะบางทีสารอักเสบต่าง
00:29:12 → 00:29:16 ๆมันล้างออกมามากและหรือหายปวดก็จริงแต่
00:29:16 → 00:29:18 ทำไมรู้สึกเหมือนคล้ำเหมือนมีความเสียหาย
00:29:18 → 00:29:20 เกิดขึ้นนะคะก็คือแบบหายปวดหัวแต่รู้สึก
00:29:20 → 00:29:23 จับจับหนังศีรษะไม่ได้เจ็บไปหมดเลยเหมือน
00:29:23 → 00:29:26 ช้ำเหมือนระบมไปหมดเลยนะคะเนาะซึ่งตรงนี้
00:29:26 → 00:29:28 เนี่ยก็คือถ้าเกิดสมมุติว่าคนไข้กลุ่มยา
00:29:28 → 00:29:32 แก้ปวดอ่ะค่ะถ้ากินยาแก้ปวดนะคะบ่อยๆต้อง
00:29:32 → 00:29:34 ใช้บ่อยๆนะคะหมอก็ยังบอกกับคนไข้ไมเกรน
00:29:34 → 00:29:38 ทุกคนนะว่าถ้าไมเกรนมาแล้วเราต้องยอมนะคะ
00:29:38 → 00:29:40 เพราะว่ามันเหมือนไฟไหม้แล้วอ่ะทำไงก็ได้
00:29:40 → 00:29:42 ให้มันรีบแบบระงับให้เร็วที่สุดเราต้อง
00:29:42 → 00:29:45 ยอมนะคะยิ่งปล่อยไว้ช้าจะยิ่งทำให้รอบ
00:29:45 → 00:29:47 นั้นเนี่ยหายช้าแล้วก็อาจจะต้องใช้ยาใน
00:29:47 → 00:29:49 รอบนั้นมากขึ้นนะคะเพราะฉะนั้นถ้าไมเกรน
00:29:49 → 00:29:53 มาต้องรีบทำให้หายแต่ถ้าไมเกรนมาบ่อยนั่น
00:29:53 → 00:29:56 นำไปสู่การที่ว่าทำไมเราจะต้องใช้ยารักษา
00:29:56 → 00:29:59 หรือใช้ยาป้องกันนะคะเนาะเพื่อที่จะได้
00:29:59 → 00:30:01 ป้องกันภาวะตรงนี้ล่ะค่ะไม่ให้เกิดการ
00:30:01 → 00:30:03 เปลี่ยนแปลงของสมองที่มันไวต่อการกระตุ้น
00:30:03 → 00:30:07 มากเกินไปนะคะ
00:30:07 → 00:30:10 อันนี้ก็เป็น 4 ระยะของอาการปวดไมเกรนนะ
00:30:10 → 00:30:12 คะซึ่งตรงนี้เนี่ยก็เหมือนเมื่อกี้ที่เขา
00:30:12 → 00:30:15 พยายามจะอธิบายนะคะเนาะเอ่ออีกทีนึงก็ได้
00:30:15 → 00:30:18 ก็คือระยะก่อนคนไข้คนไข้ไม่เกรงคนนึง
00:30:18 → 00:30:21 เนี่ยจะมีอาการปวดหัวขึ้นมามันจะนำมาก่อน
00:30:21 → 00:30:24 ตั้งแต่ประมาณ 2 วัน 2 วันบางคนนะคะไม่
00:30:24 → 00:30:26 ใช่ทุกคนบางคนอาจจะมีโพรงนำมาแล้วก็คือ
00:30:26 → 00:30:30 แบบเริ่มตัวหงุดหงิดอารมณ์แปรปรวนซึม
00:30:30 → 00:30:34 เศร้าหิวบ่อยถ้ากินไม่ตรงเวลาปุ๊บจะเริ่ม
00:30:34 → 00:30:38 รู้สึกแบบผิดปกติละนะคะปวดตัวคอแข็งโดย
00:30:38 → 00:30:39 เฉพาะคนที่มีออฟฟิศซินโดรมอยู่แล้วบางที
00:30:39 → 00:30:42 จะรู้สึกเหมือนแบบกล้ามเนื้อมันตึงมากเรา
00:30:42 → 00:30:44 รู้แล้วเดี๋ยวอีกวันสองวันไมเกรนมาแน่นะ
00:30:44 → 00:30:47 คะอันนี้เราเรียกว่าระยะเอ่อก่อนมีอาการ
00:30:47 → 00:30:51 ปวดหัวที่เรียกว่าโพโดนะคะเนาะซึ่งเอ่อ
00:30:51 → 00:30:54 ตรงเนี้ยมันก็อธิบายได้จากการกลไกของสมอง
00:30:54 → 00:30:56 ที่ผิดปกติเหมือนกันนะคะเดี๋ยวหมอจะ
00:30:56 → 00:30:59 อธิบายต่อไปนะคะเนาะพอเสร็จระยะที่ 2 ก็
00:30:59 → 00:31:01 คือเป็นด้วยว่าระยะ Aura นะคะระยะ Aura
00:31:01 → 00:31:04 ก็เมื่อกี้ที่บอกก็คือแบบเอ่อที่เจอได้
00:31:04 → 00:31:06 เยอะสุดเราสังเกตได้ง่ายสุดก็จะเป็นออร่า
00:31:06 → 00:31:09 ทางตาเนาะแต่เห็นจุดด่างเห็นแสงซิกแซก
00:31:09 → 00:31:12 เห็นสีรุ้งเห็นแสงสีขาวอะไรก็แล้วแต่นะคะ
00:31:12 → 00:31:15 หรือมีอาการชาผิดปกติมีอาการเวียนหัวร่วม
00:31:15 → 00:31:17 ด้วยได้แล้วก็เป็นระยะปวดแล้วก็เป็นระยะ
00:31:17 → 00:31:20 หลังปวดนะคะระยะหลังปวดเนี่ยทำให้คนไข้
00:31:20 → 00:31:21 หลายคน
00:31:21 → 00:31:25 เกิดความสงสัยว่าปวดหัวไมเกรนแล้วแล้ว
00:31:25 → 00:31:29 ทำไมมันยังไม่สดชื่นนะคะมันยังอ่อนเพลีย
00:31:29 → 00:31:32 หรือบางทีรู้สึกว่าหนังศีรษะมันยังเจ็บๆ
00:31:32 → 00:31:35 อยู่นะคะเนาะแล้วก็เหมือนเอ่อซึ่งตรงนี้
00:31:35 → 00:31:38 มันเป็นปัญหาเหมือนกันนะคะเพราะว่าถ้า
00:31:38 → 00:31:40 เกิดบางคนที่แบบเขาปวดหัวขึ้นมาอ่ะแล้วมี
00:31:40 → 00:31:42 ระยะโพสต์โดมตรงนี้ด้วยเนี่ยซึ่งส่วนใหญ่
00:31:42 → 00:31:45 ก็จะกินเวลาประมาณสัก 1-2 วันเนี่ยเอ่อ
00:31:45 → 00:31:48 มันๆทำให้แบบเวลาคนปวดหัวเสร็จอ่ะหายปวด
00:31:48 → 00:31:51 หัวแล้วอ่ะแต่บางทีอ่ะเขายังฟังก์ชันได้
00:31:51 → 00:31:53 ไม่เหมือนเดิมยังแบบกลับไปเรียนไม่ได้
00:31:53 → 00:31:55 หรือว่าทำงานแล้วก็อาจจะยังรู้สึกว่าเบลอ
00:31:55 → 00:31:57 ๆนะคะซึ่งถ้าเกิดแบบบางทีคนรอบข้างไม่ไม่
00:31:57 → 00:32:00 รู้ว่าเพิ่งตัดไมเกรนกำเริบมาอาจจะสงสัย
00:32:00 → 00:32:04 ว่าเอ๊ะทำไมดูแบบไม่สดชื่นหรือว่าแบบทำ
00:32:04 → 00:32:06 งานมีปัญหาอะไรอย่างงี้ได้เหมือนกันนะคะ
00:32:06 → 00:32:10 เนาะซึ่งตรงนี้นะคะจะอธิบายได้จากกลไกของ
00:32:10 → 00:32:12 สมองเหมือนกันนะคะตั้งแต่ระยะ Polo เลย
00:32:12 → 00:32:16 เนี่ยเราเชื่อว่าไมเกรนก่อนที่ที่เมื่อ
00:32:16 → 00:32:18 กี้หมอบอกใช่ไหมคะว่าแบบเวลามีตัวกระตุ้น
00:32:18 → 00:32:21 มีแสงแดดมีอะไรมาแล้วก็เกิดการกระตุ้นให้
00:32:21 → 00:32:24 หลั่งสารผิดปกติโดยเฉพาะ 4grp เนี่ยเขา
00:32:24 → 00:32:27 เชื่อว่าก่อนหน้านั้นเนี่ยมันมีการทำงาน
00:32:27 → 00:32:30 ของสมองส่วนหนึ่งผิดปกติก่อนอยู่แล้วนะคะ
00:32:30 → 00:32:32 หรือที่เราเรียกว่า hypothalamus เนี่ย
00:32:32 → 00:32:36 เป็นสมองเล็กๆส่วนเล็กๆของสมองนะคะแต่ว่า
00:32:36 → 00:32:38 มีความสำคัญมากๆส่วนใหญ่จะทำหน้าที่
00:32:38 → 00:32:41 เกี่ยวกับพวกแบบการควบคุมการนอนหลับนะคะ
00:32:41 → 00:32:44 วงจรการนอนหลับของเรานะคะที่ที่
00:32:44 → 00:32:46 serenadeum หรือที่เราเรียกว่านาฬิกา
00:32:46 → 00:32:49 ชีวิตอ่าเกี่ยวกับอารมณ์นะคะเกี่ยวกับ
00:32:49 → 00:32:52 ศูนย์ควบคุมความหิวความอิ่มความสุขอะไร
00:32:52 → 00:32:55 ต่างๆนะคะนั่นเป็นเหตุผลว่าเอ่อทำไมคนไข้
00:32:55 → 00:32:57 ไม่เกรงก่อนที่จะโผล่หัวบางทีมันมีอาการ
00:32:57 → 00:33:01 ผิดปกติของสมองส่วนนี้นำมาก่อนอยู่แล้วนะ
00:33:01 → 00:33:03 คะทำให้นอนผิดปกตินอนไม่หลับบ้างทำให้แบบ
00:33:03 → 00:33:06 รู้สึกหิวบ่อยบ้างถ้ากินอาหารไม่ตรงเวลา
00:33:06 → 00:33:09 ก็มากระตุ้นนะคะซึ่งตอนนี้เราอยู่ในช่วง
00:33:09 → 00:33:11 แบบเหมือนมีงานวิจัยสนับสนุนออกมา
00:33:12 → 00:33:13 สนับสนุนตรงนี้มากขึ้นเรื่อยๆว่าคนไข้
00:33:13 → 00:33:15 ไมเกรย์น่าจะมีการทำงานของสมองส่วนนี้
00:33:15 → 00:33:18 เชื่อผิดปกติอยู่ก่อนแล้วนะก่อนที่จะเกิด
00:33:18 → 00:33:22 ระยะปวดหัวจริงๆนะคะระยะออร่าก็เช่นกันนะ
00:33:22 → 00:33:25 คะพอมีการทำงานของสมองส่วน hypertainment
00:33:25 → 00:33:28 ที่ผิดปกติแล้วเนี่ยนะคะอยู่ตรงแถวๆนี้พอ
00:33:28 → 00:33:31 เกิดบางคนที่มีออร่านะคะหรือถ้าบางคนไม่
00:33:31 → 00:33:33 มีออร่าก็จะอาจจะข้ามไปเลยแต่ถ้าคนที่มี
00:33:33 → 00:33:36 ออร่าเนี่ยออร่าส่วนใหญ่ของไมเกรย์เนี่ย
00:33:36 → 00:33:39 เวลาเกิดการกระตุ้นสมองอ่ะมันจะมักจะมา
00:33:39 → 00:33:43 จากไทยทอยถ้าคนไข้ไมเกรนที่อาการคริติคอล
00:33:43 → 00:33:47 แบบมากๆจริงๆที่แบบค่อนข้างมีคนไข้จะรู้
00:33:47 → 00:33:50 สึกแล้วว่ามันหนักที่หัวหนักๆที่ท้ายทอย
00:33:50 → 00:33:54 รู้สึกเหมือนมีอะไรแปลกๆละแล้วจะพักนึงก็
00:33:54 → 00:33:57 จะเกิดเหมือนกันๆขึ้นมาแล้วก็มาจบที่
00:33:57 → 00:34:01 แล้วก็รู้สึกคลื่นไส้อาเจียนแล้วก็มาเต็ม
00:34:01 → 00:34:03 อาการเลยนะคะเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเนี่ย
00:34:03 → 00:34:05 การกระตุ้นสมองมันจะเกิดตรงสมองส่วนหลัง
00:34:05 → 00:34:08 ก่อนนะคะซึ่งสมองส่วนหลังเป็นสมองเรา
00:34:09 → 00:34:11 เรียกว่า oxypital load ก็จะเป็นสมองที่
00:34:11 → 00:34:13 ควบคุมเกี่ยวกับพวกการมองเห็นต่างๆนั่น
00:34:13 → 00:34:16 เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมออร่ามาเลยมาร์คจะมี
00:34:16 → 00:34:19 อาการทางตามากที่สุดนะคะด้วยเหตุผลอันนี้
00:34:19 → 00:34:23 นะคะก็คือพอมีสมองส่วน Hyper อัตโนมัติ
00:34:23 → 00:34:25 เริ่มทำงานผิดปกติเจอตัวกระตุ้นเข้าไปอีก
00:34:25 → 00:34:28 ปุ๊บเกิดการกระตุ้นของสมองนะคะโดยเฉพาะ
00:34:28 → 00:34:31 สมองส่วนหลังก็เกิดการส่งสัญญาณนะคะไป
00:34:31 → 00:34:34 ปุ๊บๆๆจนกระทั่งไปกระตุ้นระบบประสาท
00:34:34 → 00:34:38 อัตโนมัติแล้วก็หลอดเลือดบริเวณใบหน้านะ
00:34:38 → 00:34:40 คะเกิดการหลั่งสารสื่อประสาทต่างๆออกมา
00:34:40 → 00:34:43 โดยเฉพาะ cgrp ปุ๊บแล้วก็ทำให้หลอดเลือด
00:34:43 → 00:34:46 หดขยายหดขยายหดขยายนะคะรวมไปถึงสารสื่อ
00:34:46 → 00:34:49 ประสาทหรือศาลการอักเสบอื่นๆด้วยนะคะเนาะ
00:34:49 → 00:34:52 พอจบตรงนี้ปุ๊บระยะปวดหัวประมาณสัก 4
00:34:52 → 00:34:55 ชั่วโมงถึง 72 ชมปุ๊บก็มาเป็นระยะหลังปวด
00:34:55 → 00:34:58 หัวให้นึกภาพว่าเวลามันมีแบบอ่ะเหมือนมี
00:34:58 → 00:35:00 ไฟไหม้ขึ้นมาก่อนจะไหม้เนี่ยบางทีมัน
00:35:00 → 00:35:04 เริ่มมันเริ่มมีอะไรแบบนิดนึงละไฟเริ่มจะ
00:35:04 → 00:35:06 ช็อตและเราอาจจะเริ่มเห็นอะไรบางอย่างละ
00:35:06 → 00:35:09 นะคะจนสุดท้ายแบบพอไฟช็อตจริงๆไฟมันก็ไม่
00:35:09 → 00:35:12 ขึ้นมาไหม้ขึ้นมาเนี่ยถ้าดับได้เร็วความ
00:35:12 → 00:35:15 เสียหายก็น้อยแต่ทำไมนานเลยดับช้าความ
00:35:15 → 00:35:19 เสียหายจะเยอะระยะโพสต์โดมก็จะยิ่งหนักนะ
00:35:19 → 00:35:23 คะอันนี้คือคนไข้ไมเกรนนะคะซึ่งคนไข้
00:35:23 → 00:35:24 ไมเกรน
00:35:24 → 00:35:28 ทำไมจะต้องมารักษานะคะมันเป็นเพราะตรงนี้
00:35:28 → 00:35:32 ค่ะเมื่อไรที่คนไข้มีอาการกำเริบตรงนี้
00:35:32 → 00:35:35 บ่อยๆขึ้นนะคะมีอาการปวดหัวกำเริบขึ้นมา
00:35:35 → 00:35:40 มีเอ่อเหมือนไฟไหม้บ่อยๆขึ้นมาสิ่งที่
00:35:40 → 00:35:42 สำคัญที่สุดก็คือเราต้องไปติดตั้งระบบ
00:35:42 → 00:35:47 เซฟตี้ความปลอดภัยนะคะทำยังไงก็ได้ให้ไม่
00:35:47 → 00:35:50 เกิดไฟไหม้ไม่เกิดอาการปวดหัวไมเกรน
00:35:50 → 00:35:52 กำเริบให้ได้มากที่สุดนะคะเปรียบง่ายๆก็
00:35:52 → 00:35:55 เหมือนแบบอ่าก็ถ้าเกิดสมมุติว่าเป็นการ
00:35:55 → 00:35:57 ป้องกันไฟไหม้ก็คือเราก็ต้องติดตั้งอ่า
00:35:57 → 00:36:01 ระบบเซฟตี้คัทอะไรต่างๆนะคะถ้าเป็นคนไข้
00:36:01 → 00:36:05 ไมเกรนเราก็ต้องทำการที่จะไม่ให้เกิด
00:36:05 → 00:36:07 อาการกำเริบเนี่ยทำทำอะไรได้บ้างก็คือการ
00:36:07 → 00:36:11 ป้องกันการหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นนะคะเช่น
00:36:11 → 00:36:15 การนอนให้พออย่านอนดึกนะพยายามไม่เครียด
00:36:15 → 00:36:18 จนเกินไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอใครมี
00:36:18 → 00:36:20 ตัวกระตุ้นเป็นอะไรก็ต้องหลีกเลี่ยงตัว
00:36:20 → 00:36:22 กระตุ้นนั้นๆเช่นบางคนกลิ่นน้ำหอมบางคน
00:36:22 → 00:36:25 อาหารบางอย่างนะคะเพราะเมื่อไรที่เราแบบ
00:36:25 → 00:36:27 ใส่ตัวกระตุ้นเข้าไปมันก็มีโอกาสที่จะ
00:36:27 → 00:36:30 เกิดอาการแบบนี้ตามมานะคะเกิดแล้วเป็นยัง
00:36:30 → 00:36:31 ไง
00:36:31 → 00:36:35 ถ้าเป็นคนไข้ทั่วๆไปนะคะที่สมมุติว่าเป็น
00:36:35 → 00:36:37 ปวดหัวหรือเป็นอย่างอื่นจากสาเหตุอื่น
00:36:37 → 00:36:41 หรือจากความเครียดอย่างอื่นค่ะมันก็อาจจะ
00:36:41 → 00:36:45 ไม่ว่าเราเกิดเอ่อปวดหัวจากความเครียดอ่ะ
00:36:45 → 00:36:47 ช่วงนี้เครียดเลยปวดหัวเยอะแต่ถ้าช่วงนี้
00:36:47 → 00:36:50 พอไม่เครียดก็อาจจะหายไปแต่คนไข้ไม่เกรง
00:36:50 → 00:36:52 ไม่ใช่แบบนั้นนะคะคนไข้ไม่เกร็งเนี่ยถ้า
00:36:52 → 00:36:54 เกิดสมมุติว่าเกิดอาการปวดหัวบ่อยขึ้น
00:36:54 → 00:36:57 กำเริบบ่อยขึ้นเรื่อยๆเมื่อไหร่วันนึงมัน
00:36:57 → 00:36:59 จะเกิดภาวะที่เราเรียกว่าแบบการสับ
00:36:59 → 00:37:01 เปลี่ยนแปลงของสมองที่มันเกิดขึ้นนะคะ
00:37:01 → 00:37:04 เนาะยิ่งยิ่งถูกกระตุ้นมากขึ้นไอ้ความไว
00:37:04 → 00:37:07 ของสมองตัวถ้าหน้าตาเมื่อกี้นะคะก็คือ
00:37:07 → 00:37:10 สมองเราอยู่ในภาวะที่มันไวกับตัวกระตุ้น
00:37:10 → 00:37:13 อยู่แล้วสารสื่อประสาทก็พร้อมที่จะทำงาน
00:37:13 → 00:37:15 ผิดปกติอยู่แล้วยิ่งเกิดบ่อยขึ้นเท่าไหร่
00:37:15 → 00:37:17 บ่อยขึ้นเท่าไหร่บ่อยขึ้นเท่าไหร่ความไว
00:37:17 → 00:37:19 มันก็ยิ่งมากขึ้นมากขึ้นมากขึ้นนะคะ
00:37:19 → 00:37:22 เหมือนภาพนี้ค่ะก็คือจะแสดงให้เห็นว่า
00:37:22 → 00:37:24 ยิ่งมีไมเกรนกำเริบ
00:37:24 → 00:37:28 เท่าไหร่นะคะไอ้วงจรของสมองที่มันถูก
00:37:28 → 00:37:31 กระตุ้นเมื่อกี้ค่ะมีการหลั่งสารต่างส่ง
00:37:31 → 00:37:33 สัญญาณประสาทต่างๆไปยังสมองส่วนต่างๆ
00:37:33 → 00:37:37 เนี่ยมันก็เกิดถี่ขึ้นฉี่ขึ้นบ่อยขึ้นนะ
00:37:37 → 00:37:40 คะยิ่งไมเกรนกำเริบกำเริบกำเริบกำเริบก็
00:37:40 → 00:37:43 จะยิ่งทำให้วงจรเนี่ยมันไวมากๆจนสุดท้าย
00:37:43 → 00:37:45 อ่ะค่ะหมอก็จะเจอคนไข้ไมเกรนที่แบบโดย
00:37:45 → 00:37:47 เฉพาะเป็นมานานนะคะเป็นมาสัก 10 ปีอย่าง
00:37:47 → 00:37:50 เงี้ยค่ะปวดทุกวันละเขาก็จะบอกว่าไม่ต้อง
00:37:50 → 00:37:53 มีตัวการ์ตูนอะไรอีกต่อไปล่ะค่ะแบบอยู่ดี
00:37:53 → 00:37:55 ๆก็คือตื่นมาปวดหัวเลยนะคะหรือช่วงนี้ก็
00:37:55 → 00:37:57 ไม่ได้เครียดนะแต่ก็ยังมีอาการปวดหัวทุก
00:37:57 → 00:38:00 วันได้นะคะเพราะว่าตรงเนี้ยเราเรียกว่า
00:38:00 → 00:38:03 มันเหมือนสมองของเรานะคะอยู่ในภาวะที่มัน
00:38:03 → 00:38:06 มีภาวะที่พร้อมจะถูกกระตุ้นตลอดเวลาแรกๆ
00:38:06 → 00:38:08 เนี่ยที่คนที่เป็นไมเกรนนานๆทีเป็นที
00:38:08 → 00:38:11 เนี่ยเราก็จะเรียกว่าเหมือนแบบต้องมีตัว
00:38:11 → 00:38:15 กระตุ้นก่อนก็ค่อยมีอาการไมเกรนนะคะคนไข้
00:38:15 → 00:38:16 กลุ่มนี้เราจะเรียกว่า epsonic ไมเกรนก็
00:38:16 → 00:38:19 คือเป็นไมเกรนค้างคาวเรามีตัวกระตุ้น
00:38:19 → 00:38:21 ไมเกรนมาเรามีตัวกระตุ้นไมเกรนมานะคะซึ่ง
00:38:21 → 00:38:24 คำว่าไมเกรนค้างคาวเป็นครั้งคราวเนี่ยเรา
00:38:24 → 00:38:27 ก็จะเอาว่าแบบไม่ปวดไม่เกินประมาณซัก 15
00:38:27 → 00:38:30 วันต่อเดือนนะคะแต่ว่าของหมอจริงๆเลย
00:38:30 → 00:38:33 เนี่ยคือหมอไม่ได้ดูตามตัวเลขเป๊ะๆอ่ะค่ะ
00:38:33 → 00:38:35 ส่วนใหญ่หมอก็จะดูว่าคนไข้เนี่ยเริ่มมี
00:38:36 → 00:38:38 อาการถี่แล้วหรือยังหรือว่าอาการไมเกรน
00:38:39 → 00:38:41 นั้นเนี่ยมันเริ่มแบบรบกวนการทำงานของ
00:38:41 → 00:38:43 ชีวิตเขาหรือยังหรือเขาไวต่อตัวกระตุ้น
00:38:43 → 00:38:46 มากๆแล้วหรือยังเพราะคนที่เป็นเป็นไมเกรน
00:38:46 → 00:38:48 ค้างคาวจริงๆนะคะที่เป็นอีกกลุ่ม epsonic
00:38:48 → 00:38:50 ในเกมจริงๆเขาจะรู้ว่ามันต้องมีตัว
00:38:50 → 00:38:52 กระตุ้นก่อนแล้วเดี๋ยวมันค่อยมาเช่นประจำ
00:38:52 → 00:38:55 เดือนจะมาอ่ะแล้วก็ค่อยมาอาจจะเดือนละ
00:38:55 → 00:38:57 ครั้งสองครั้งหรือช่วงนี้งานเยอะช่วงนี้
00:38:57 → 00:39:01 นอนดึกอ่ะแบบปวดหัวนะคะแต่คนที่กลุ่มที่
00:39:01 → 00:39:04 เป็นอ่า Episode อีกในหนึ่งในครั้งคราว
00:39:04 → 00:39:06 เนี่ยพอถูกกระตุ้นบ่อยขึ้นบ่อยขึ้นบ่อย
00:39:06 → 00:39:09 กับภาพนี้ค่ะที่วงจรของสมองมันเกิดการ
00:39:09 → 00:39:12 เปลี่ยนแปลงไปจนไวต่อความถูกกระตุ้นมากๆ
00:39:12 → 00:39:15 แล้วเนี่ยเขาจะกลายเป็นสู่ภาวะไมเกรน
00:39:15 → 00:39:19 เรื้อรังนะคะถ้าตามการแพทย์จริงๆก็คือเอา
00:39:19 → 00:39:21 เกิน 15 วันต่อเดือนนะคะแต่จริงๆประมาณ
00:39:21 → 00:39:23 สักเกิน 10 วันต่อเดือนบอกว่าคนไข้ก็
00:39:23 → 00:39:27 เริ่มไวไวแบบต่อการอาการปวดหัวมากๆแล้ว
00:39:27 → 00:39:31 เขาพบว่าคนไข้ที่เป็นไมเกรนค้างคาวนะคะ
00:39:31 → 00:39:34 ถ้าปล่อยให้ตัวกระตุ้นหรือเป็นบ่อยๆบ่อยๆ
00:39:34 → 00:39:36 ถิๆขึ้นเนี่ยเกิดการเปลี่ยนแปลงของสมอง
00:39:36 → 00:39:40 แล้วเนี่ยประมาณสัก 3-5% ต่อปีค่ะจะกลาย
00:39:40 → 00:39:43 เป็นในกลุ่มไมเกรนามซึ่งกลุ่มไมเกรน
00:39:43 → 00:39:45 เรื้อรังเนี่ยก็เลยเป็นกลุ่มที่เหมือนไม่
00:39:45 → 00:39:47 ต้องมีตัวกระตุ้นใดๆอีกต่อไปเพราะว่าสมอง
00:39:47 → 00:39:50 เกิดความไวเกิดการเปลี่ยนแปลงจนมัน
00:39:50 → 00:39:53 sensitive มากนะคะหรือถ้ายิ่งมีตัว
00:39:53 → 00:39:55 กระตุ้นเพิ่มเข้ามาอีกเช่นเป็นไมเกรน
00:39:55 → 00:39:58 ประมาณ 20 วันต่อเดือนอยู่แล้วแต่ช่วงนี้
00:39:58 → 00:40:01 งานเยอะด้วยช่วงนี้นอนน้อยด้วยก็ยิ่งทำ
00:40:01 → 00:40:04 ให้มันไวขึ้นไวขึ้นไวขึ้นไปอีกนะคะนั่น
00:40:04 → 00:40:08 เป็นเหตุผลว่าทำไมมีคนไข้ไมเกรนถึงเป็น
00:40:08 → 00:40:11 โรคของสมองนะคะเพราะว่าถ้าเกิดสมมุติว่า
00:40:11 → 00:40:14 เราปล่อยให้คนไข้ที่ปวดค้างคาวเนี่ยปวด
00:40:14 → 00:40:16 มากขึ้นเรื่อยๆๆจนเป็นไมเกรนเรื้อรังไป
00:40:16 → 00:40:20 แล้วอ่ะค่ะอันนี้ถ้าไม่รักษานะคะคนไข้จะ
00:40:20 → 00:40:23 ไม่สามารถกลับไปสู่ภาวะไม่เกรงครั้งคราว
00:40:23 → 00:40:26 ด้วยตัวเองอีกต่อไปละนะคะต่อให้แบบหันมา
00:40:26 → 00:40:29 ดูแลตัวเองเต็มที่ออกกำลังกายไม่อดนอน
00:40:29 → 00:40:33 แล้วนอนดึกนะคะแต่สมองมันมีความไวมากๆ
00:40:33 → 00:40:36 เนี่ยมันก็มักจะยังมีอาการปวดหัวได้อยู่
00:40:36 → 00:40:39 นะคะเนาะหรือโอเคถ้าบางคนที่ยังเป็นไม่
00:40:39 → 00:40:41 ได้ถี่มากหรือไม่ได้มีภาวะติดยาแก้ปวด
00:40:41 → 00:40:43 ร่วมด้วยเนี่ยบางทีพอเราเริ่มรู้ตัวแล้ว
00:40:43 → 00:40:46 ว่าเราเป็นกลุ่มที่เราเป็นไมเกรนที่มันไว
00:40:46 → 00:40:48 มากๆและเริ่มจะเป็นไมเกรนระยะเรื้อรัง
00:40:48 → 00:40:50 แล้วเนี่ยแล้วเรารีบดูแลตัวเองดีๆนะคะ
00:40:50 → 00:40:53 หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นดีๆนะคะมันสามารถ
00:40:53 → 00:40:56 กลับไปสู่ไมเกรนค้างคาวได้อยู่นะคะเนาะ
00:40:56 → 00:40:59 ฉะนั้นเนี่ยอันเนี้ยนะคะถ้าเกิดใครฟังนะ
00:40:59 → 00:41:02 คะหรือว่าเข้าใจมาถึงตรงนี้ได้นะคะจะรู้
00:41:02 → 00:41:06 ว่าไมเกรนทุกคนไม่ได้ต้องมาหาหมอนะคะเนาะ
00:41:06 → 00:41:08 เป็นโรคอื่นๆเลยนะคะอย่างเช่นบางคนที่
00:41:08 → 00:41:12 เริ่มมีเบาหวานหรือว่าเริ่มมีความดัน
00:41:12 → 00:41:14 โลหิตสูงใช่ไหมคะช่วงแรกสมมุติว่าความดัน
00:41:14 → 00:41:18 อาจจะ 130 บ้าง 140 บ้างทุกคนจะได้รับการ
00:41:18 → 00:41:21 บอกจากคุณหมอว่างั้นเนี่ยความดันเริ่ม
00:41:21 → 00:41:24 ขึ้นแล้วนะงั้นเอาไปดูแลตัวเองนะงดอาหาร
00:41:24 → 00:41:28 เค็มนะออกกำลังกายนะนะคะแต่วันนึงที่มัน
00:41:28 → 00:41:30 เป็นมากขึ้นมากขึ้นหลอดเลือดแข็งตัวมาก
00:41:30 → 00:41:32 ขึ้นจนกลายเป็นความดันแบบสูงตลอดเวลา
00:41:32 → 00:41:34 อย่างเงี้ยค่ะอันนั้นก็ต้องกินยารักษา
00:41:34 → 00:41:37 แล้วนะคะเหมือนกับไมเกรนเลยค่ะด้วยความ
00:41:37 → 00:41:39 ที่ไมเกรนก็เป็นโรคทางสมองโล่งนึงใช่ไหม
00:41:39 → 00:41:42 คะเนื้อคนไข้ไมเกรนที่เป็นระยะเริ่มแรก
00:41:42 → 00:41:46 โดยเฉพาะประมาณส่วนใหญ่ประมาณ 2-3 ปีแรก
00:41:46 → 00:41:47 ของการเป็นไมเกรนนะคะกลุ่มนี้จะยังไม่
00:41:47 → 00:41:50 ค่อยมาหาหมอเนื่องจากว่ามักจะยังเป็นแค่
00:41:50 → 00:41:53 เป็นไมเกรนครั้งคราวอยู่ต้องมีตัวกระตุ้น
00:41:53 → 00:41:56 แล้วค่อยไมเกรนมานะคะซึ่งกลุ่มนี้นะคะเรา
00:41:56 → 00:41:58 จะยังไม่ต้องมาพบแพทย์ก็ได้นะคะส่วนใหญ่
00:41:58 → 00:42:00 แล้วก็คือให้เราเริ่มดูแล้วแหละว่า 1 เรา
00:42:00 → 00:42:02 มีไมเกรนนะแล้วเราต้องเริ่มดูแลตัวเอง
00:42:02 → 00:42:05 แล้วเพราะถ้าเกิดเราปล่อยให้ไม่เกมมัน
00:42:05 → 00:42:08 กำเริบบ่อยขึ้นไปเรื่อยๆวันนึงเราอาจจะ
00:42:08 → 00:42:10 กลายเป็นไมเกรนเรื้อรังได้นะคะเพราะ
00:42:10 → 00:42:12 ฉะนั้นกลุ่มนี้นะคะก็ต้องเริ่มดูแลตัวเอง
00:42:12 → 00:42:15 อย่าอดนอนอย่านอนดึกจนเกินไปออกกำลังกาย
00:42:15 → 00:42:17 ให้สม่ำเสมอหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นไมเกรน
00:42:17 → 00:42:19 อาหารที่ทำให้เรากระตุ้นไมเกรนนะคะและ
00:42:19 → 00:42:22 เมื่อมีอาการไมเกรนกำเริบขึ้นมานึกภาพนะ
00:42:22 → 00:42:26 คะรีบระงับให้เร็วที่สุดแต่เมื่อไรที่ใช้
00:42:26 → 00:42:29 ยาเริ่มบ่อยนะคะส่วนใหญ่หมอก็บอกว่าแผง
00:42:29 → 00:42:30 นึง 10 เม็ดเนี่ยเมื่อไรที่เริ่มใช้เกิน
00:42:30 → 00:42:34 เดือนละแผงต้องรีบลงมัดระวังและว่าเราอาจ
00:42:34 → 00:42:36 จะเริ่มกลายเป็นสูงไมเกรนเรื้อรังแล้วนะ
00:42:36 → 00:42:40 ก็ต้องรีบมาพบหมอนะคะส่วนใครที่กลายเป็น
00:42:40 → 00:42:42 กลุ่มไมเกรนเรื้อรังแล้วนะคะก็คือปวดเกิน
00:42:42 → 00:42:45 ประมาณ 15 วันต่อเดือนแน่ๆนะคะหรือมีการ
00:42:45 → 00:42:48 ใช้ยาแก้ปวดเกินประมาณ 15 เม็ดต่อเดือน
00:42:48 → 00:42:50 10-15 เม็ดต่อเดือนแล้วแต่ชั้นนี้เนี่ย
00:42:50 → 00:42:52 อันนี้ก็ถือว่าเป็นไมเกรนเรื้อรังละนะคะ
00:42:52 → 00:42:55 ก็เป็นกลุ่มที่มันมีการเปลี่ยนแปลงของ
00:42:55 → 00:42:57 เซลล์สมองหรือว่าสมองมันถูกไวกับการ
00:42:57 → 00:42:59 กระตุ้นมากๆแล้วนะคะกลุ่มนี้ต้องมารักษา
00:42:59 → 00:43:03 นะคะเพื่อให้ความไวของสมองลดลงไม่ถูก
00:43:03 → 00:43:06 กระตุ้นได้ง่ายและกลับกลายเป็นบริเวณ
00:43:06 → 00:43:09 ค้างคาวนะคะเนาะอันนี้ก็จะเป็นการตอบคำ
00:43:09 → 00:43:12 ถามด้วยค่ะหลายๆคนที่ชอบถามว่าเป็นไมเกรน
00:43:12 → 00:43:16 แล้วหายได้ไหมหายขาดได้ไหมนะคะถ้าเข้าใจ
00:43:16 → 00:43:20 ตรงนี้เราก็จะเข้าใจคำตอบตรงนี้เลยคำตอบ
00:43:20 → 00:43:23 ตรงนี้เลยนะคะก็คือสมมุติว่าคนไข้ไมเกรน
00:43:23 → 00:43:26 เรื้อรังมาหาหมอแล้วถามว่าหายได้ไหมหมอจะ
00:43:26 → 00:43:29 บอกว่าก็ตอนนี้คือเรามีภาวะโรคที่มัน
00:43:29 → 00:43:32 กำเริบเยอะมากนะคะก็คือ Active มากแล้วไว
00:43:32 → 00:43:34 ต่อตัวกระตุ้นมากๆเพราะฉะนั้นวัตถุ
00:43:34 → 00:43:37 ประสงค์ของการรักษาตอนนี้คือทำยังไงก็ได้
00:43:37 → 00:43:40 ให้เรากลับไปสู่เป็นไมเกรนครั้งคราวเป็น
00:43:40 → 00:43:43 ไมเกรนชั่วครั้งชั่วคราวพออย่าเป็นไมเกรน
00:43:43 → 00:43:46 ทุกวันต้องเลิกยาแก้ปวดให้ได้ไม่ติดยาแก้
00:43:46 → 00:43:50 ปวดนะคะแล้วกลับไปสู่การดูแลตัวเองนะคะ
00:43:50 → 00:43:53 ปฏิบัติการปฏิบัติตัวอะไรต่างๆนะคะถ้าเรา
00:43:53 → 00:43:56 ย้อนกลับไปสู่จากความรักในเกมและกำลัง
00:43:56 → 00:43:59 กลับไปสู่ไมเกรนที่นานๆทีเป็นทีได้เราก็
00:43:59 → 00:44:03 จะไม่ได้ไวต่อการปวดหัวมากนะคะถามว่าหาย
00:44:03 → 00:44:06 ขาดไหมจริงๆแล้วไมเกรนอย่างถ้าเข้าใจก็
00:44:06 → 00:44:09 ตัดคลิปแรกตอนแรกเริ่มเลยมันมีปัจจัย
00:44:09 → 00:44:10 เรื่องของพันธุกรรมมาเกี่ยวข้องหรือว่า
00:44:10 → 00:44:14 การทำงานของช่องในสถานศึกษาสมองของคนนั้น
00:44:14 → 00:44:17 ที่มันผิดปกติเพราะฉะนั้นเนี่ยถามว่าคนๆ
00:44:18 → 00:44:21 นั้นก็อาจจะยังมีคำว่าไมเกรนติดตัวไว้
00:44:21 → 00:44:25 อยู่เมื่อไรที่ไปตากแดดมากๆอดนอนเครียด
00:44:25 → 00:44:28 จัดก็อาจจะยังมีอาการปวดหัวอยู่ได้บ้าง
00:44:28 → 00:44:31 เนาะเหมือนคนไข้แบบโรคภูมิแพ้อย่างนี้ค่ะ
00:44:31 → 00:44:33 ถามว่าแบบเป็นภูมิแพ้ต้องเป็นภูมิแพ้ตลอด
00:44:33 → 00:44:36 เวลาไหมไม่ใช่เป็นภูมิแพ้อาจจะมีช่วงที่
00:44:36 → 00:44:40 ภูมิแพ้กำเริบมากๆเลยแล้วก็รักษาดีขึ้นจน
00:44:40 → 00:44:43 หายไปหายไปหลายๆปีเลยก็ได้นะคะวันนึงฝุ่น
00:44:43 → 00:44:46 เยอะมาก PM 2.5 มาเขาก็อาจจะมีความ
00:44:46 → 00:44:48 เสี่ยงที่อาจจะเกิดอาการกำเริบกลับมาใหม่
00:44:48 → 00:44:51 ได้ไมเกรนก็เช่นเดียวกันค่ะถ้าตอนที่มัน
00:44:51 → 00:44:52 เป็นไมเกรนเรื้อรังหรือว่าเป็นไมเกรน
00:44:52 → 00:44:55 Active มากๆเนี่ยคนไข้ใช้ชีวิตไม่ได้
00:44:55 → 00:44:58 อยู่ไม่ได้ทำงานไม่ได้มีปัญหากับคนรอบ
00:44:58 → 00:45:01 ข้างแน่นอนเพราะว่าอาการปวดหัวมันจะเป็น
00:45:01 → 00:45:04 แทบตลอดเวลาแล้วถ้าเรารู้ว่าระยะปวดหัว
00:45:04 → 00:46:06 มันไม่ใช่แค่ปวดหัวค่ะเพราะ
00:46:06 → 00:46:09 ตรงนี้นะคะภาพนี้เลยก็เลยเป็นการอธิบาย
00:46:09 → 00:46:12 ให้คนเข้าใจเหมือนกันว่าอ๋อก็ในเมื่อถ้า
00:46:12 → 00:46:14 สมมุติว่าเรารักษาแล้วนะคะสมมุติว่าหมอ
00:46:14 → 00:46:17 รักษาคนไข้แล้วกลับไปสู่เป็นไมเกรนชั่ว
00:46:17 → 00:46:19 ครั้งชั่วคราวและนานๆทีเป็นทีแต่ถ้าเรา
00:46:19 → 00:46:23 อ่ะค่ะเอาตัวเองหรือว่าใช้ชีวิตแบบที่มัน
00:46:23 → 00:46:26 เสี่ยงต่อภาวะที่มันเกิดโหลดมากๆนะคะ
00:46:26 → 00:46:28 stress มากๆความเครียดมากๆเช่นแบบว่า
00:46:28 → 00:46:33 อุ๊ยพอหายปวดหัวงั้นทำงานถึงตี 3 กลับไป
00:46:33 → 00:46:35 กินสมมุติบางคนกลับไปดื่มแอลกอฮอล์หรือ
00:46:35 → 00:46:38 ว่ากินอาหารที่มันกลับมากระตุ้นใหม่เจอ
00:46:38 → 00:46:41 ความเครียดเยอะๆคิดเยอะไม่ค่อยออกกำลัง
00:46:41 → 00:46:44 กายก็สมองของเรามันก็อาจจะมีกลับไปเป็น
00:46:44 → 00:46:47 ไมเกรนที่ Active ได้อีกนะคะงั้นก็สุด
00:46:47 → 00:46:50 ท้ายก็คือการดูแลตัวเองก็คือสำคัญมากๆนะ
00:46:50 → 00:46:56 คะเนาะอันนี้นะคะเป็นเหมือนภาพสรุปนะคะ
00:46:56 → 00:46:59 ว่าคนๆนึงที่จากคนที่เขาเป็นไมเกรนชั่ว
00:46:59 → 00:47:03 ครั้งชั่วคราวตรงนี้เนี่ยค่ะทำยังไงเขามี
00:47:03 → 00:47:06 อะไรบ้างปัจจัยอะไรบ้างที่เขาจะกายเป็น
00:47:06 → 00:47:09 ไมเกรนเรื้อรังได้นะคะนี่เลยตั้งแต่อัน
00:47:09 → 00:47:12 แรกนะคะก็คือกำเริบบ่อยนะคะยิ่งกำเริบ
00:47:12 → 00:47:15 บ่อยเท่าไหร่สมองก็ถูกกระตุ้นแล้วก็จะ
00:47:15 → 00:47:17 ยิ่งไวต่อการกระตุ้นมากขึ้นนะคะเนาะ
00:47:17 → 00:47:21 เหมือนไฟช็อตเหมือนไฟช็อตเกิดไฟไหม้ยิ่ง
00:47:21 → 00:47:24 ทำให้ช็อตยิ่งไม่มันก็ยิ่งเสี่ยงต่อการ
00:47:24 → 00:47:27 เกิดไฟช็อตง่ายขึ้นเรื่อยๆนะคะและนอกจาก
00:47:27 → 00:47:29 ที่ไมเกรนกำเริบบ่อยขึ้นแล้วจะเกิดการ
00:47:29 → 00:47:31 เปลี่ยนแปลงของสมองที่มันไวต่อตัวการ์ตูน
00:47:31 → 00:47:34 มากขึ้นแล้วเนี่ยยังเสี่ยงต่อการใช้ยาแก้
00:47:34 → 00:47:37 ปวดเกินขนาดนะคะเพราะฉะนั้นคนที่ไมเกรน
00:47:37 → 00:47:39 โปรดกำเริบบ่อยมากๆอ่ะค่ะจะกลายเป็น
00:47:39 → 00:47:41 ไมเกรนเรื้อรังด้วย 2 เหตุผลหลักๆเลยอัน
00:47:41 → 00:47:43 แรกคือการกำเริบที่บ่อยขึ้นแล้วทำให้สมอง
00:47:43 → 00:47:46 เกิดการเปลี่ยนแปลงอันที่ 2 คือติดยาแก้
00:47:46 → 00:47:48 ปวดและมีภาวะปวดหัวจากยาแก้ปวดเยอะเกินไป
00:47:48 → 00:47:51 ด้วยนะคะส่วนปัจจัยอื่นๆเนี่ยก็จะเป็น
00:47:51 → 00:47:54 เรื่องของความเครียดการอดนอนนอนไม่พอนะคะ
00:47:54 → 00:47:56 ถ้าเป็นไมเกรนจะรู้เลยว่านอนดึกเมื่อไหร่
00:47:56 → 00:48:00 มานะคะหรืออีกอันนึงเลยที่เขาเจอร่วมกัน
00:48:00 → 00:48:04 นะคะเป็นเป็นเหมือนอีกภาวะนึงเลยที่
00:48:04 → 00:48:06 เสี่ยงต่อทำให้คนไข้ไมเกรนเป็นอาการเป็น
00:48:06 → 00:48:09 หนักคือภาวะน้ำหนักเกินค่ะซึ่งอันนี้หลาย
00:48:09 → 00:48:12 คนไม่รู้นะคะคนไข้ที่น้ำหนักตัวไม่มากนัก
00:48:12 → 00:48:15 เนี่ยมักจะไมเกรนกำเริบน้อยกว่าถ้าไม่ได้
00:48:15 → 00:48:17 มีปัจจัยกระตุ้นรุนแรงเมื่อเทียบกับคนไข้
00:48:17 → 00:48:19 ที่น้ำหนักตัวเกินนะคะเป็นอีกหนึ่งปัจจัย
00:48:19 → 00:48:21 ที่ทำให้ไมเกรนของเราถูกกระตุ้นได้ง่าย
00:48:21 → 00:48:24 ขึ้นนะคะเพราะส่วนใหญ่เวลาหมอก็จะแนะนำ
00:48:24 → 00:48:26 ให้ดูแลตัวเองนะเริ่มอาจจะต้องคุมอาหาร
00:48:26 → 00:48:30 ออกกำลังกายนอนให้พอกินน้ำให้เยอะ
00:48:30 → 00:48:32 พยายามควบคุมความเครียดตัวเองไม่ให้แบบ
00:48:32 → 00:48:34 เครียดหนักจนเกินไปเมื่อไหร่ที่รู้ว่าเรา
00:48:34 → 00:48:38 เริ่มมีภาวะเครียดมากๆและก็ต้องหาวิธีจัด
00:48:38 → 00:48:40 การปล่อยออกมาเพื่อให้ไมเกรนเราไม่ถูก
00:48:40 → 00:48:43 กำเริบนะคะเนาะแล้วก็อีกอันนึงเลยสุดท้าย
00:48:43 → 00:48:46 ที่เจอบ่อยมากๆเลยก็คือเรื่องของกล้าม
00:48:46 → 00:48:48 เนื้อนะคะกล้ามเนื้อตึงตัวอ่า
00:48:48 → 00:48:51 ไมโอซาเชลเพลสหรือที่คนรู้จักกันใน
00:48:51 → 00:48:54 ออฟฟิศซินโดรมเจอคู่กันบ่อยมากๆเลยค่ะ
00:48:54 → 00:48:56 แล้วก็เป็นสาเหตุที่กระตุ้นกันไปกระตุ้น
00:48:56 → 00:49:00 กันมานะคะคนไข้ไมเกรนเองเวลาปวดหัวจะมี
00:49:00 → 00:49:02 การหลั่งสารการอักเสบออกมาและทำให้กล้าม
00:49:02 → 00:49:05 เนื้อตึงคนไข้ไมเกรนเวลาปวดหัวจะรู้สึก
00:49:05 → 00:49:08 ว่า Office Snow กำเริบด้วยนะคะหรือหาย
00:49:08 → 00:49:10 ปวดหัวแล้วทำไมคอยังตึงอยู่เลยวันรุ่ง
00:49:10 → 00:49:13 ขึ้นก็เลยต้องไปนวดหรือว่าไปกายภาพต่อนะ
00:49:13 → 00:49:16 คะในขณะเดียวกันคนไข้ที่เป็นกล้าม
00:49:16 → 00:49:18 ออฟฟิศซินโดรมนานากล้ามเนื้อเกร็งมากๆนะ
00:49:18 → 00:49:22 คะพอเกร็งมามากๆเข้าก็กลายเป็นมากระตุ้น
00:49:22 → 00:49:24 ไม่เคลมได้เหมือนกันนะคะเพราะฉะนั้นก็ถ้า
00:49:24 → 00:49:27 เกิดใครที่มีทั้งไมเกรนด้วยมีทั้งปวด
00:49:27 → 00:49:29 กล้ามเนื้อกล้ามเนื้อตึงร่วมด้วยส่วนใหญ่
00:49:29 → 00:49:32 ต้องรักษาคู่กันไปนะคะเพื่อที่จะได้คุม
00:49:32 → 00:49:36 อาการไมเกรนของเราไม่ให้กำเริบนะคะเนาะ
00:49:36 → 00:49:43 โอเคก็คือวันนี้นะคะแบบเจาะลึกไมเกรนมากๆ
00:49:43 → 00:49:45 นะคะคือแบบหมอแบบอยากพูดเรื่องนี้มานาน
00:49:45 → 00:49:48 มากๆแล้วเพราะว่าส่วนใหญ่เนี่ยเวลาเจอคน
00:49:48 → 00:49:50 ไข้จริงๆนะที่เป็นคนไข้แบบคนไข้เรื้อรัง
00:49:50 → 00:49:54 และปวดแบบปวดแทบทุกวันนะคะหมอจะอธิบายภาพ
00:49:54 → 00:49:57 นี้ให้คนไข้ฟังนะคะเพื่อที่เขาจะได้เข้า
00:49:57 → 00:50:00 ใจก่อนว่า 1 เขาคือโรคนะคะเป็นโรคไมเกรน
00:50:00 → 00:50:02 ไม่ใช่แค่ไมเกรนที่เราคิดไปเองแล้วนะนะคะ
00:50:02 → 00:50:05 ว่าแบบเฮ้ยเครียดอดนอนแล้วไมเกรนมานะคะ
00:50:05 → 00:50:07 แต่มันคือโรคที่ต้องรักษาโรคนึงเหมือนคน
00:50:07 → 00:50:10 ไข้ความดันนะคะจุดนึงที่ความดัน 180 190
00:50:10 → 00:50:13 อ่ะคงไม่ออกกำลังกายอย่างเดียวและคงไม่
00:50:13 → 00:50:15 ได้แค่งดอาหารเค็มอย่างเดียวละก็คือต้อง
00:50:15 → 00:50:17 รักษานะคะไม่งั้นจะเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
00:50:17 → 00:50:20 ตามมาไมเกรนเองก็เช่นกันนะคะงั้นให้คนไข้
00:50:20 → 00:50:24 เห็นภาพนี้ว่าเขาคือโรคเรานะโรคโรคนึงที่
00:50:24 → 00:50:27 มัน Active มากๆกำเริบมากๆจนที่จะต้อง
00:50:27 → 00:50:31 รักษาแล้วนะคะเนาะแล้วก็ในขณะที่เอ่อถ้า
00:50:31 → 00:50:34 ใครที่ได้ฟังแต่ไม่ได้เป็นไมเกรย์นะคะอ่ะ
00:50:34 → 00:50:37 จะเข้าใจคนรอบตัวที่เป็นไมเกรนมากขึ้นนะ
00:50:37 → 00:50:41 คะว่าทำไมคนเป็นไมเกรนถึงถึงดูปวดหัวเยอะ
00:50:41 → 00:50:44 จังปวดได้ขนาดนั้นจริงๆหรอนะคะแบบหรือ
00:50:44 → 00:50:47 เอ๊ะทำไมหายปวดหัวแล้วแต่แต่ทำไมยังดูแบบ
00:50:47 → 00:50:50 ไม่ปกตินะคะก็จะได้เข้าใจได้มากขึ้นแล้ว
00:50:50 → 00:50:52 ก็ยิ่งร่วมกับถ้าเกิดสมมุติว่าใครมีคนใน
00:50:52 → 00:50:54 ครอบครัวเป็นไมเกรนเนี่ยก็อาจจะต้องดูแล
00:50:54 → 00:50:58 คอยสังเกตนะคะเรื่องของจิตใจด้วยว่าคนไข้
00:50:58 → 00:51:00 หรือว่าคนในครอบครัวเราที่เป็นไมเกรนหนัก
00:51:00 → 00:51:03 ๆเป็นมากๆเนี่ยเขาเริ่มมีเหมือนภาวะซึม
00:51:03 → 00:51:05 เศร้าภาวะวิตกกังวลหรือว่าภาวะอื่นๆร่วม
00:51:05 → 00:51:07 ด้วยแล้วหรือยังนะคะเพราะว่าถ้าเกิดเริ่ม
00:51:07 → 00:51:09 มีร่วมกันเนี่ยมันก็ต้องรักษาควบคู่กันไป
00:51:09 → 00:51:11 นะคะไมเกรนถึงจะดีขึ้นได้ไม่งั้นเนี่ย
00:51:12 → 00:51:14 เหมือนรักษาไมเกรนอย่างเดียวแต่ถ้ายังมี
00:51:14 → 00:51:16 วิตกกังวลหรือซึมเศร้าอยู่อ่ะค่ะสุดท้าย
00:51:16 → 00:51:19 ดอกไมเกรนก็จะกลับมากำเริบอีกเหมือนกันนะ
00:51:19 → 00:51:27 คะเนาะอ่าไหนดูซิว่ามีคำถามอะไรไหมนะคะ
00:51:27 → 00:52:38 โอเคสวัสดีค่ะ
00:52:38 → 00:52:42 นะคะกลไกของแมกนีเซียมแมกนีเซียมก็จะไปลด
00:52:42 → 00:52:45 สารสื่อประสาทบางตัวนะคะที่มันทำงานเยอะ
00:52:45 → 00:52:47 เกินไปนะเช่นอย่างเช่นพวก glutamate อะไร
00:52:47 → 00:52:50 อย่างนี้ค่ะทำให้สมองของเราเนี่ยไม่อยู่
00:52:50 → 00:52:53 ไม่เป็นภาวะที่ไวต่อตัวกระตุ้นมากจนเกิน
00:52:53 → 00:52:56 ไปนะคะแล้วก็ยังช่วยรักษาพวกเรื่องของ
00:52:56 → 00:52:58 อาการปวดกล้ามเนื้อหรืออะไรต่างๆที่มาจะ
00:52:58 → 00:53:00 เจอในเกณฑ์ร่วมด้วยได้นะคะนอกจาก
00:53:00 → 00:53:03 แมกนีเซียมก็ยังอาจจะมีสารอื่นๆนะคะที่มี
00:53:03 → 00:53:05 ข้อมูลว่าช่วยลดอาการไมเกรนได้อย่างเช่น
00:53:05 → 00:53:09 พวกโคเอนไซม์คิวเทนนะคะพวกปี 2 ปี 12 นะ
00:53:09 → 00:53:11 คะพวกนี้ค่ะก็จะมีข้อมูลมากกว่าหรือรวมไป
00:53:12 → 00:53:15 ถึงพวกถ้าเป็นแนวสมุนไพรก็จะเป็นพวกสาร
00:53:15 → 00:53:17 สกัดจากขิงอะไรเงี้ยค่ะก็จะมีข้อมูลมา
00:53:17 → 00:53:19 ช่วยลดไมเกรนกำเริบแล้วก็ลดความรุนแรง
00:53:19 → 00:53:21 หรือว่าลดอาการคลื่นไส้อาเจียนตอนไมเกรน
00:53:21 → 00:53:23 กำเริบได้นะคะ
00:53:23 → 00:53:26 กดขนาดก่อนจะมาจะมีประจำเดือนค่ะเป็นบ่อย
00:53:26 → 00:53:28 มากเลยค่ะอันนี้ต้องสังเกตนะคะก็คือว่า
00:53:28 → 00:53:32 ถ้าเกิดอ่าเป็นอาการปวดหัวในช่วงที่ใกล้ๆ
00:53:32 → 00:53:35 รอบเดือนจะมานะคะจะมีได้ 2 แบบเลยนะคะอัน
00:53:36 → 00:53:39 แรกคือก็เป็นอาการก่อนกลุ่มอาการก่อนมี
00:53:39 → 00:53:41 ประจำเดือนนะคะโดยที่เราเรียกว่า
00:53:41 → 00:53:44 pms นะคะเป็นพรีเมนโน
00:53:44 → 00:53:47 perryments นะคะก็คือเป็นกลุ่มอาการช่วง
00:53:47 → 00:53:51 ที่จะมีประจำเดือนตรงนี้อาการจะคล้ายๆ
00:53:51 → 00:53:54 โพโดมของไมเกรนได้เลยค่ะก็คือตั้งแต่ปวด
00:53:54 → 00:53:58 ตัวหิวบ่อยอารมณ์ไม่ดีหงุดหงิดง่ายนะคะคน
00:53:58 → 00:54:01 ส่วนใหญ่ผู้หญิงก่อนมีประจำเดือนก็จะ
00:54:01 → 00:54:03 เริ่มรู้แล้วว่าเมนจะมานะคะเนาะซึ่งตรง
00:54:03 → 00:54:05 นี้เนี่ยบางคนก็อาจจะมีอาการปวดหัวได้
00:54:05 → 00:54:08 เหมือนกันนะคะแต่ถ้ามันปวดปวดจนแบบปวดมาก
00:54:09 → 00:54:11 ๆปวดจนเหมือนหลอดเลือดเต้นปวดข้างเดียว
00:54:11 → 00:54:14 ปวดจนมีลักษณะอื่นๆของไมเกรนร่วมด้วยที่
00:54:14 → 00:54:17 บอกอาจจะมีออร่าหรือว่ามีคลื่นไส้อาเจียน
00:54:17 → 00:54:21 รู้สึกว่าตาสู้แสงไม่ได้หรือไม่อยากจะได้
00:54:21 → 00:54:24 ยินเสียงดังนะคะหรือว่าถ้าปวดขึ้นมาแล้ว
00:54:24 → 00:54:27 ต้องนอนพักนิ่งๆนอนครบเย็นแล้วรู้สึกดี
00:54:27 → 00:54:30 ขึ้นอันนั้นก็คืออาจจะเป็นกลุ่มปวดไมเกรน
00:54:30 → 00:54:33 ละนะคะก็คือเป็นไมเกรนที่สัมพันธ์กับช่วง
00:54:33 → 00:54:37 รอบเดือนนะคะซึ่งการรักษาก็จะต่างกันนะคะ
00:54:37 → 00:54:40 น้อยอย่างถ้าเป็นกลุ่มอาการ pms ก่อนมี
00:54:40 → 00:54:42 ประจำเดือนอย่างเดียวค่ะเราก็อาจจะป้อง
00:54:42 → 00:54:45 กันโดยการแบบพอรู้ว่าเมนส์จะมาปวดเริ่ม
00:54:45 → 00:54:47 ปวดหัวละหนึ่งต้องกินน้ำให้เยอะนะคะเพราะ
00:54:47 → 00:54:50 ว่าผู้หญิงก่อนประจำเดือนจะมาต้องการน้ำ
00:54:50 → 00:54:53 ที่เยอะมากขึ้นนะคะนอนให้พออย่าอดนอนนะคะ
00:54:53 → 00:54:55 แมกนีเซียมก็อาจจะช่วยได้นะคะเนาะแต่ถ้า
00:54:55 → 00:54:58 เกิดเป็นกลุ่มปวดหัวไมเกรนช่วงมีประจำ
00:54:58 → 00:55:00 เดือนที่เกิดจากการฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงและ
00:55:00 → 00:55:03 และเป็นบ่อยเป็นรุนแรงอันนี้อาจจะต้อง
00:55:03 → 00:55:05 รักษาโดยการรักษาเหมือนรักษาไมเกรนใช้ยา
00:55:06 → 00:55:10 ป้องกันหรือวิธีอื่นๆต่อไปนะคะ
00:55:10 → 00:55:14 อยากให้คุณหมอแนะนำวิธีถอนยาแก้ปวดหน่อย
00:55:14 → 00:55:17 ค่ะคุณกิ๊กบอกนะคะเอ่อจริงๆแล้วนะคะถ้า
00:55:17 → 00:55:20 เกิดคนไข้มีภาวะติดยาแก้ปวดหรือว่าปวดหัว
00:55:20 → 00:55:24 จากยาแก้ปวดแล้วนะคะการรักษาที่ดีที่สุด
00:55:24 → 00:55:27 นะคะก็คือต้องหยุดยาแก้ปวดนะคะก็คือตรงไป
00:55:27 → 00:55:29 ตรงมาเลยเนาะเหมือนติดเหล้าก็ต้องถอดเรา
00:55:29 → 00:55:32 ติดบุหรี่ต้องถอนบุหรี่นะคะติดยาแก้ปวดก็
00:55:32 → 00:55:36 ต้องถอนยาแก้ปวดนะคะซึ่งตรงนี้เนี่ยเอ่อ
00:55:36 → 00:55:39 คนไข้นะคะถ้าเป็นคนไข้ในเกณฑ์จริงๆแล้วมี
00:55:39 → 00:55:43 ภาวะติดยาแก้ปวดนะคะ
00:55:43 → 00:55:49 ถ้าถ้าเอาผักดิบก็คือคนถ้าตามแบบตามในเขา
00:55:49 → 00:55:52 เรียกอะไรตามในแนวทฤษฎีเขาบอกให้หักดิบ
00:55:52 → 00:55:54 หักดิบก็คือต้องหยุดการใช้ยาแก้ปวดเลยนะ
00:55:54 → 00:55:58 คะคนไข้จะมี
00:55:58 → 00:56:01 deproundhs ก็คือปวดหัวมากขึ้นกับมาใน
00:56:01 → 00:56:04 ช่วงแรกคือบางคนถึงกับแบบพอสมมติว่ากินยา
00:56:04 → 00:56:06 รู้ว่ารู้ตัวแล้วว่าติดยาแก้ปวดกินยาแก้
00:56:06 → 00:56:09 ปวดเยอะนะคะก็คือหักดิบนะคะคนไข้ก็จะแบบ
00:56:09 → 00:56:12 ทุรนโทไลปวดหัวมากขึ้นอาเจียนมากขึ้นนะคะ
00:56:12 → 00:56:15 หลักการเหมือนกับถอนอื่นๆเหมือนกันค่ะ
00:56:15 → 00:56:17 เช่นสมมุติว่าคนติดเหล้าเราถอนเหล้าค่ะ
00:56:17 → 00:56:19 วันแรกๆก็คือแบบอาจจะแบบมีอาการเยอะมาก
00:56:19 → 00:56:21 ขึ้นกระสับกระส่ายจนชักได้เลยไมเกรนก็
00:56:21 → 00:56:23 เหมือนกันถ้าติดยาแก้ปวดแล้วอยู่ดีๆเราไป
00:56:23 → 00:56:25 หยุดเลยนะคะคนไข้เราจะมีอาการปวดหัวมาก
00:56:25 → 00:56:28 ขึ้นนะคะแล้วก็อาการปวดหัวก็จะรุนแรงมาก
00:56:28 → 00:56:31 เพราะฉะนั้นถ้าเป็นกลุ่มที่หักดิบบางเคส
00:56:31 → 00:56:34 นะคะอาจจะจำเป็นต้องทำในโรงพยาบาลก็คือ
00:56:34 → 00:56:37 ต้องนอนโรงพยาบาลเลยค่ะถอดยาแก้ปวดแล้ว
00:56:37 → 00:56:40 ถ้ามีอาการกำเริบใช้ยาฉีดหรือว่ายาแก้
00:56:40 → 00:56:41 อาเจียนหรือว่ายาประคับประคองอะไรก็แล้ว
00:56:41 → 00:56:45 แต่นะคะหรืออีกวิธีหนึ่งที่ส่วนใหญ่หมอ
00:56:45 → 00:56:48 อาจจะชอบใช้มากกว่านะคะก็คือ
00:56:48 → 00:56:50 แต่อันนี้เป็นเป็นจากประสบการณ์ส่วนตัว
00:56:50 → 00:56:54 แล้วนะคะก็คือต้องให้ยาป้องกันไมเกรนเข้า
00:56:54 → 00:56:57 ไปก่อนนะคะคนไข้มีติดยาแก้ปวดเราต้องให้
00:56:57 → 00:56:59 ยาป้องกันไมเกรนเข้าไปก่อนเพื่อเป็นรส
00:56:59 → 00:57:03 ภาวะความไวของสมองเมื่อกี้ค่ะภาวะที่สมอง
00:57:03 → 00:57:05 มันถูกไวตัวต่อตัวกระตุ้นมากๆนะคะหรือว่า
00:57:05 → 00:57:08 สารสื่อประสาทบางตัวคือเราเข้าไปควบคุม
00:57:08 → 00:57:11 ให้ได้ก่อนในระดับหนึ่งนะคะและในขณะเดียว
00:57:11 → 00:57:14 กันก็คือต้องลดการใช้ยาแก้ปวดไปด้วยนะคะ
00:57:14 → 00:57:19 ส่วนใหญ่ถ้าทำแบบนี้คนไข้มักจะพอทนไหวไม่
00:57:19 → 00:57:22 ถึงกับขั้นต้องแบบโหนอนโรงพยาบาลปวดหัว
00:57:22 → 00:57:26 มากขึ้นนะคะแล้วก็อ่าแต่ๆอันเนี้ยคนไข้จะ
00:57:26 → 00:57:29 ต้องร่วมมือหรือเข้าใจกลไกหรือว่าเข้าใจ
00:57:29 → 00:57:31 ว่าเออเรากำลังรักษาภาวะติดยาแก้ปวดอยู่
00:57:31 → 00:57:34 นะเพราะฉะนั้นเนี่ยสุดท้ายท้ายที่สุดเรา
00:57:34 → 00:57:37 จะต้องใช้ยาแก้ปวดให้ไม่เกินขนาดใช้ให้
00:57:37 → 00:57:39 น้อยที่สุดนะคะแต่จะมีกลุ่มนึงนะคะที่
00:57:39 → 00:57:42 เหมือนแบบว่าพอให้ยาป้องกันไปแล้วอ่ะค่ะ
00:57:42 → 00:57:45 ให้ไปแล้วก็จริงอ่ะค่ะแต่ว่าคนไข้อ่ะไม่
00:57:45 → 00:57:48 กล้าลดยาแก้ปวดด้วยความที่แบบคือวันนี้
00:57:48 → 00:57:51 เขาอยู่กับมันมา 20-30 ปีค่ะแบบกินยาแก้
00:57:51 → 00:57:54 ปวดก็กินทุกวันแบบตื่นมาก็คือกินเลยเม็ด
00:57:54 → 00:57:56 นึงทุกวันกินมาทำแบบนี้มา 20 ปีแล้วอ่ะ
00:57:56 → 00:57:59 แล้วอยู่ดีๆวันนึงก็คือแบบพอให้ยาป้องกัน
00:57:59 → 00:58:01 แล้วก็บอกเขาว่าอ่าไมเกรน่าจะคุมได้แล้ว
00:58:01 → 00:58:03 งั้นลองหยุดคือคนไข้ไม่กล้าอ่ะค่ะเหมือน
00:58:03 → 00:58:06 แบบกลัวว่ามันจะปวดเยอะอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:58:06 → 00:58:09 ซึ่งกลุ่มนี้สุดท้ายก็คือต้องก็ต้องให้
00:58:09 → 00:58:11 ความหนักแน่นแล้วก็ให้ความมั่นใจกับคนไข้
00:58:11 → 00:58:12 ว่าก็ต้องหยุดให้ได้นะเพราะว่าเมื่อไหร่
00:58:12 → 00:58:15 ที่ยังใช้ยาแก้ปวดเยอะไอ้ที่เรารักษากัน
00:58:15 → 00:58:18 ไปมันก็เหมือนวงจรมันวนเวียนน่ะค่ะจากที่
00:58:18 → 00:58:20 เราพยายามจะทำให้แบบไมเกรนกลับไปเป็น
00:58:20 → 00:58:22 ไมเกรนไม่กำเริบอ่ะเดี๋ยวพอใช้ยาแก้ปวด
00:58:22 → 00:58:24 เยอะเดี๋ยวมันก็กลับมาใหม่นะคะเนาะเพราะ
00:58:24 → 00:58:28 ฉะนั้นวิธีการการรักษาการใช้ยามันหลาก
00:58:28 → 00:58:30 หลายขึ้นกับอาการของแต่ละคนแล้วก็ขึ้นของ
00:58:30 → 00:58:33 ปัจจัยแต่ละคนด้วยเช่นแบบคนไข้ยังทำงาน
00:58:33 → 00:58:34 อยู่หรือเปล่าอายุเท่าไหร่อะไรอย่างเงี้ย
00:58:34 → 00:58:36 ค่ะเพราะว่าตอนที่เราถอนยาแก้ปวดเนี่ย
00:58:36 → 00:58:38 อาการของแต่ละคนก็อาจจะไม่เหมือนกันนะคะ
00:58:38 → 00:58:41 ถ้ารู้สึกว่ามีภาวะติดยาแก้ปวดอยู่อาจจะ
00:58:41 → 00:58:44 ต้องปรึกษาคุณหมอดีกว่านะคะเนาะ
00:58:44 → 00:58:48 ฉีดยาคุม dmpa ทุกๆ 3 เดือนระยะยาวมีผลทำ
00:58:48 → 00:58:50 ให้ปวดหัวบ่อยขึ้นไหมคะจริงๆตัวยาฉีดไม่
00:58:51 → 00:58:55 ค่อยมีผลนะคะถ้าเป็นไมเกรนที่สัมพันธ์กับ
00:58:55 → 00:58:58 รอบประจำเดือนเนี่ยตัวที่เวลาทำให้ไมเกรน
00:58:58 → 00:59:00 กำเริบมากๆคือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนนะ
00:59:00 → 00:59:03 คะโดยเฉพาะเอสโตรเจนนะคะตอนที่ประจำเดือน
00:59:03 → 00:59:05 จะมาจะมีการเปลี่ยนแปลงแล้วช่วงที่
00:59:05 → 00:59:09 เอสโตรเจนมันระดับมันลงเร็วมากๆบางทีมัน
00:59:09 → 00:59:11 อาจจะทำให้แบบลึกขึ้นลงเร็วมากๆเนี่ยมัน
00:59:11 → 00:59:13 ทำให้คนไข้เกิดอาการกระตุ้นอาการปวดหัว
00:59:13 → 00:59:16 ขึ้นมานะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยยาคุมแบบฉีด
00:59:16 → 00:59:18 ส่วนใหญ่เป็น
00:59:18 → 00:59:22 โปรเจสเทอโรนนะคะเท่าที่เจอคนไข้มักจะไม่
00:59:22 → 00:59:25 ค่อยมีผลกับอาการปวดไมเกรนมากนักนะคะแต่
00:59:25 → 00:59:27 ถ้าเป็นยาคุมแบบชนิดรับประทานนะคะที่มี
00:59:27 → 00:59:29 เอสโตรเจนเป็นส่วนประกอบด้วยอันนี้อาจจะ
00:59:29 → 00:59:32 มีบางคนกระตุ้นอาการปวดหัวได้นะคะ
00:59:32 → 00:59:37 อยากได้ชื่อยาไมเกรนค่ะอันนี้อ่ามีหลาย
00:59:37 → 00:59:41 แบบเลยนะคะแต่ว่าอ่าอยากอ่าเดี๋ยวเดี๋ยว
00:59:41 → 00:59:43 หมาแปะลิงก์ไว้ให้นะคะคุณอมรัตน์ก็คือหมอ
00:59:43 → 00:59:48 เคยไลฟ์เรื่องคลิปยาวจัดเต็มยาไมเกรน 2
00:59:48 → 00:59:51 ชั่วโมง 2 ชั่วโมงนานมากแต่ว่าในนั้นก็
00:59:51 → 00:59:53 คือจะประกอบไปด้วยตั้งแต่ยาแก้ปวดเลยนะคะ
00:59:54 → 00:59:56 ว่ายาที่เรากินอยากให้เช็คว่ายาที่เรากิน
00:59:56 → 00:59:59 อยู่เรากินตัวไหนข้อเสียที่ต้องระวังของ
00:59:59 → 01:00:02 ระวังของแต่ละตัวมีอะไรบ้างนะคะส่วนใน
01:00:02 → 01:00:04 ส่วนของที่เป็นพาร์ทยาต้องการอันนี้ไม่
01:00:04 → 01:00:06 คืออยากให้ฟังอยากให้รู้ว่ามันมียารักษา
01:00:06 → 01:00:10 มียาอะไรบ้างและจะต้องทำยังไงบ้างแต่ยา
01:00:10 → 01:00:13 ป้องกันนะคะใครที่ฟังคลิปนี้อยู่แล้วก็
01:00:13 → 01:00:16 คลิปนู้นด้วยนะคะหมอไม่แนะนำให้ไปซื้อยา
01:00:16 → 01:00:19 ทานเองนะคะเพราะมันเหมือนเรารักษาโรคเอง
01:00:19 → 01:00:22 อ่ะค่ะเหมือนคนไข้สมมุติเราเป็นเบาหวาน
01:00:22 → 01:00:24 เนาะเราก็รู้แหละว่าเบาหวานต้องกินยาตัว
01:00:24 → 01:00:27 เนี้ยแต่ก็คงไม่มีใครที่แบบไปซื้อยาตัว
01:00:27 → 01:00:31 นี้มาทานเองโดยที่ไม่ไปหาคุณหมอนะคะบางที
01:00:31 → 01:00:33 คนไข้รู้สึกว่ามันเป็นโรคปวดหัวที่แบบ
01:00:33 → 01:00:36 เอ้ยคงไม่มีอะไรมั้งนะคะแล้วบางทีแบบเอ้ย
01:00:36 → 01:00:39 เห็นคนนี้กินตัวนี้แล้วดีเราเลยลองไปซื้อ
01:00:39 → 01:00:41 มาทานได้แต่จริงๆไม่แนะนำนะคะเพราะว่าแต่
01:00:41 → 01:00:44 ละคนเนี่ยอาจจะต้องใช้ยาในการรักษาการ
01:00:44 → 01:00:48 ป้องกันที่แตกต่างกันไปตามภาวะโรคร่วม
01:00:48 → 01:00:51 อื่นๆนะคะเช่นบางคนมีความดันร่วมด้วยบาง
01:00:51 → 01:00:54 คนมีข้อห้ามของใช้ยาตัวนี้บางคนมีอาการ
01:00:54 → 01:00:56 อารมณ์ผิดปกติร่วมด้วยก็ควรจะใช้ตัวนี้
01:00:56 → 01:00:59 อะไรอย่างนี้ค่ะซึ่งอันนี้ให้คุณหมอนะคะ
01:00:59 → 01:01:02 ที่ดูแลเป็นคนพิจารณาน่าจะปลอดภัยกว่า
01:01:02 → 01:01:04 แล้วก็จะได้ติดตามด้วยว่ายาแต่ละตัวที่
01:01:04 → 01:01:06 เราทานเราต้องดูผลข้างเคียงเรื่องอะไร
01:01:06 → 01:01:09 บ้างนะคะลองฟังดูได้นะคะในคลิปนั้นนะคะ
01:01:09 → 01:01:13 เพื่อรู้เป็นข้อมูลไว้ว่าปัจจุบันการ
01:01:13 → 01:01:15 รักษาไมเกรนมันมีอะไรบ้างละนะคะเนาะแล้ว
01:01:15 → 01:01:19 ก็ถ้าเกิดมีอาการไมเกรนกำเริบบ่อยมากจริง
01:01:19 → 01:01:20 ๆหรือเป็นกลุ่มไมเกรนเรื้อรังก็แนะนำ
01:01:20 → 01:01:23 ปรึกษาแพทย์ก่อนดีกว่านะคะ
01:01:23 → 01:01:26 เอ่อกินยาไมเกรนทุกวันค่ะมียาป้องกันไหม
01:01:26 → 01:01:29 คะถ้ากินยาไมเกรนแก้ปวดทุกวันอันนี้ก็
01:01:29 → 01:01:30 เข้าข่ายแล้วนะคะว่าเป็นไมเกรนเรื้อรัง
01:01:30 → 01:01:33 หรือว่าเสี่ยงต่อการกิตติยาแก้ปวดแล้วก็
01:01:33 → 01:01:35 ต้องใช้ยาป้องกันนะคะเหมือนเมื่อกี้เลย
01:01:35 → 01:01:37 ค่ะถ้าใครเป็นกลุ่มนี้นะคะหมอแนะนำปรึกษา
01:01:37 → 01:01:40 คุณหมอนะคะอาจจะเป็นคุณหมอใกล้บ้านหรือ
01:01:40 → 01:01:41 ว่า
01:01:41 → 01:01:44 คุณหมอที่ถ้ามีคุณหมอเฉพาะทางด้านสมอง
01:01:45 → 01:01:47 ระบบประสาทอย่างเงี้ยก็ปรึกษานะคะให้ตรง
01:01:47 → 01:01:50 จุดนะคะเพื่อที่เราจะได้ดูอันดับแรกเลย
01:01:50 → 01:01:52 รู้ก่อนด้วยว่าใช่ไมเกรนจริงหรือเปล่านะ
01:01:52 → 01:01:55 คะเพราะที่เจอบ่อยเหมือนกันก็คือเราเข้า
01:01:55 → 01:01:58 ใจว่าเราเป็นไมเกรนมาตลอดเลยค่ะแบบบางที
01:01:58 → 01:02:00 คนไข้ปวดหัวข้างเดียวอ่ะค่ะแล้วก็เข้าใจ
01:02:00 → 01:02:02 ว่าเออน่าจะไมเกรนไมเกรนก็คือซื้อยามาทาน
01:02:02 → 01:02:06 เองตลอดเลยนะคะแต่สุดท้ายอ่ะไม่ใช่เมเกรน
01:02:06 → 01:02:08 ก็มีนะคะก็คือเกิดจากที่แบบกล้ามเนื้อมัน
01:02:08 → 01:02:11 ตึงมากอ่ะค่ะคอมันตึงมากๆแล้วพอคอตึงมาก
01:02:11 → 01:02:13 ก็ปวดร้าวขึ้นขมับตลอดแต่ไม่ได้มีลักษณะ
01:02:13 → 01:02:16 หรือไม่ได้มีอาการบ่งชี้อื่นๆเลยที่บอก
01:02:16 → 01:02:18 ว่าจะเป็นไมเกรนอย่างเงี้ยก็ไม่ใช่ไมเกรน
01:02:18 → 01:02:22 นะคะซึ่งการรักษาก็จะคนละแบบกันเลยนะคะก็
01:02:22 → 01:02:23 คือต้องไปเคลียร์กล้ามเนื้อรักษากล้าม
01:02:24 → 01:02:27 เนื้ออาจจะใช้เอ่อการกายภาพยาป้องกันถ้า
01:02:27 → 01:02:29 ไม่อยากเป็นยาป้องกันก็จะเป็นคนละตัวกัน
01:02:29 → 01:02:32 หรืออะไรเงี้ยค่ะหรือว่าเอ่อการใช้การฉีด
01:02:32 → 01:02:34 botulinomoxin หรืออะไรอย่างนี้ต่างๆมาก
01:02:34 → 01:02:36 มายเดี๋ยวนี้มีวิธีการรักษาต่างๆนะคะ
01:02:36 → 01:02:38 เพราะฉะนั้นคนไข้กลุ่มปวดหัวเรื้อรังแล้ว
01:02:38 → 01:02:41 เนี่ยก็คือเป็นโรคโรคนึงแล้วที่ 1 ต้องไป
01:02:41 → 01:02:43 หาสาเหตุก่อนว่าเราเป็นไปเป็นปวดหัว
01:02:43 → 01:02:45 เรื้อรังอะไรเป็นจากไมเกรนเป็นจากกล้าม
01:02:45 → 01:02:47 เนื้อเป็นจากความเครียดหรือเป็นจากโรค
01:02:47 → 01:02:50 สมองอื่นๆนะคะแล้วก็ไม่ควรซื้อยาทานเองนะ
01:02:50 → 01:02:53 คะ
01:02:53 → 01:03:02 โอเคคำถามน่าจะหมดแล้วนะคะ
01:03:02 → 01:03:04 คุณเอ๋บอกว่าเป็นอยู่ค่ะเป็นเนื้องอกใน
01:03:04 → 01:03:07 สมองอันนี้อาจจะไม่ใช่ไมเกรนแต่ว่าเป็น
01:03:07 → 01:03:09 กำลังใจให้นะคะขอให้อาการดีขึ้นจากโรคโดย
01:03:09 → 01:03:11 เร็วนะคะ
01:03:11 → 01:03:14 โอเคค่ะงั้นก็วันนี้นะคะก็
01:03:14 → 01:03:17 จบคลิปเพียงเท่านี้นะคะวัตถุประสงค์ของ
01:03:17 → 01:03:19 คลิปนี้คือคลิปนี้เนี่ยหมอคิดว่าน่าจะหา
01:03:19 → 01:03:23 ฟังยากนะแบบว่าไม่ได้รู้กลไกลึกของสมอง
01:03:23 → 01:03:27 ของไมเกรนจริงๆนะคะเนาะอาจจะฟังแล้วเร็ว
01:03:27 → 01:03:29 ไปหรือว่ารู้สึกว่าไม่เข้าใจเลยอันนี้ไม่
01:03:29 → 01:03:33 ปกติมากๆนะคะเพราะว่าเป็นเรื่องเหมือนแบบ
01:03:33 → 01:03:35 ค่อนข้างเรื่องลึกแล้วก็เรื่องเฉพาะทางนะ
01:03:35 → 01:03:38 คะเนาะกว่าจะมาเข้าใจตรงนี้ได้ส่วนไหนก็
01:03:38 → 01:03:40 ต้องแบบเนี่ยหมอก็ต้องเป็นหมอสมองอยู่กับ
01:03:40 → 01:03:43 คนไข้มานานแล้วก็รักษามานานถึงจะแบบเข้า
01:03:43 → 01:03:45 ใจกลไกต่างๆตรงนี้นะคะแต่ว่าวัตถุประสงค์
01:03:45 → 01:03:49 ของคลิปนี้คืออยากให้รู้เลยค่ะว่าไมเกรน
01:03:49 → 01:03:52 ไม่ใช่แค่อาการปวดหัวไม่ใช่แค่เราคิดไป
01:03:52 → 01:03:56 เองนะคะแต่มันคือโรคโรคนึงโรคทางสมองโรค
01:03:56 → 01:03:59 นึงเลยที่จำเป็นจะต้องได้รับการรักษาหาก
01:03:59 → 01:04:01 เรามีภาวะที่เป็นไมเกรนเรื้อรังหรือว่ามี
01:04:01 → 01:04:04 ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆแล้วนะคะเนาะและที่
01:04:04 → 01:04:07 สำคัญที่สุดเหมือนทุกๆโรคเลยค่ะก็คือการ
01:04:07 → 01:04:09 ดูแลตัวเองนะคะสำคัญที่สุดนะคะตั้งแต่
01:04:09 → 01:04:13 พยายามออกออกกำลังกายการออกกำลังกายนี้
01:04:13 → 01:04:14 คือป้องกันได้ทุกโรคจริงๆไม่ว่าจะเป็นโรค
01:04:14 → 01:04:17 หลอดเลือดโรคอัลไซเมอร์โรกปวดหัวโรคหัวใจ
01:04:17 → 01:04:21 โรคอะไรต่างๆนะคะเนาะการนอนให้พอนะคะอย่า
01:04:21 → 01:04:23 นอนดึกจนเกินไปนะคะพยายามทานอาหารที่มี
01:04:23 → 01:04:25 ประโยชน์อะไรรู้แต่ว่ามันไม่ค่อยดีมันทำ
01:04:25 → 01:04:28 ร้ายสุขภาพก็พยายามเลี่ยงนะคะเนาะแล้วก็
01:04:28 → 01:04:32 เอ่อหลีกเลี่ยงปัจจัยตัวกระตุ้นไมเกรนให้
01:04:32 → 01:04:34 ได้มากที่สุดนะคะก็ทำให้เราห่างไกลจาก
01:04:34 → 01:04:37 ไมเกรนแล้วก็สามารถมีอาการไมเกรนที่ดี
01:04:37 → 01:04:39 ขึ้นได้ก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไม่ต้อง
01:04:39 → 01:04:42 กลัวว่าเมื่อไหร่ไมเกรนจะมาอีกต่อไปนะคะ
01:04:42 → 01:04:45 ก็วันนี้จบคลิปเพียงเท่านี้นะคะจบไลฟ์
01:04:45 → 01:04:47 เท่านี้นะคะเดี๋ยวไว้มาเจอกันใหม่นะคะ
01:04:47 → 01:04:49 สวัสดีค่ะ
00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีค่ะหมอนุ่มนะคะกับคุยเรื่องสมองกับ
00:00:03 → 00:00:05 หมอนุ่มนะคะวันนี้เรากลับมาไลฟ์กันอีก
00:00:05 → 00:00:08 แล้วนะคะวันนี้มาชวนคุยกันเรื่องเข้าใจ
00:00:08 → 00:00:12 สมองเข้าใจไมเกรนค่ะเพราะว่าโรคไมเกร็งก็
00:00:12 → 00:00:15 เป็นโรคที่แบบเจอเยอะมากๆเลยนะคะแล้วก็
00:00:15 → 00:00:19 อันนี้วันนี้จะมาชวนคุยในมุมมองของโรค
00:00:19 → 00:00:21 ไมเกรนอีกอันนึงที่คิดว่าน่าจะไม่เคยพูด
00:00:21 → 00:00:24 มาก่อนนะคะปกติก็จะมีพูดเรื่องของอาการ
00:00:24 → 00:00:26 การรักษาอะไรแต่ว่าวันนี้อยากจะมาอธิบาย
00:00:26 → 00:00:30 ถึงกลไกของสมองนะคะของคนไข้ไมเกรนให้เข้า
00:00:30 → 00:00:32 ใจนะคะเพราะว่าจากประสบการณ์ที่หมอรักษา
00:00:32 → 00:00:36 คนไข้มานะคะเพราะว่าคนไข้เองหรือแม้
00:00:36 → 00:00:38 กระทั่งญาติหรือคนใกล้ตัวหรือคนที่พามา
00:00:38 → 00:00:41 เนี่ยยังมีการเข้าใจคำว่าไมเกรนเนี่ยไม่
00:00:41 → 00:00:43 ถูกต้องอยู่นะคะเนาะส่วนใหญ่เนี่ยคนจะ
00:00:43 → 00:00:46 เข้าใจว่าคำว่าไมเกรนเหมือนปวดหัวไมเกรน
00:00:46 → 00:00:48 กดหัวไมเกรนเวลาวันไหนปวดหัวมากไม่สบาย
00:00:48 → 00:00:50 ปวดตุ๊บๆปวดจนอาเจียนก็บอกว่าไมเกรน
00:00:50 → 00:00:54 กำเริบนะคะแต่ว่าอาจจะไม่ค่อยมีคนนึกถึง
00:00:54 → 00:00:56 ว่าจริงๆแล้วเนี่ยพอไมเกรนกำเริบบ่อยๆอ่ะ
00:00:56 → 00:00:59 จริงๆแล้วมันคือโรคโรคนึงนะที่อาจจะต้อง
00:00:59 → 00:01:03 มารักษานะคะซึ่งความเข้าใจผิดตรงนี้ก็ส่ง
00:01:03 → 00:01:05 ผลเสียหลายอย่างนะคะอย่างในมุมของคนไข้
00:01:05 → 00:01:07 เองเนี่ยจากการที่เขาคิดว่าแบบเหมือน
00:01:07 → 00:01:10 ไมเกรนเป็นแค่อาการปวดหัวอย่างนึงนะคะที่
00:01:10 → 00:01:12 หมอเคยเจอมาแบบสำหรับคนไข้ที่แบบเป็นมา
00:01:12 → 00:01:15 แบบเป็นสิบๆปีอะไรอย่างนี้ค่ะคือเขานึก
00:01:15 → 00:01:18 ว่ามันก็เป็นอาการนึงปวดหัวนึงซึ่งอาจจะ
00:01:18 → 00:01:21 เกิดจากตอนงานเยอะนอนน้อยอะไรก็แล้วแต่นะ
00:01:21 → 00:01:23 คะจะทำให้รู้สึกว่าเออชีวิตนี้คงไม่หาย
00:01:23 → 00:01:25 จากไมเกรนแล้วล่ะก็ต้องอยู่กับมันไปให้
00:01:25 → 00:01:29 ได้นะคะเนาะก็ทำให้แบบเหมือนบางคนก็บอก
00:01:29 → 00:01:31 ว่าเป็นโรคเวรโรคกรรมหรืออะไรจนรู้สึกว่า
00:01:31 → 00:01:34 ก็ต้องทนกับอาการไมเกรนไปนะคะหรือบางคน
00:01:34 → 00:01:37 กลายเป็นโรควิตกกังวลโรคซึมเศร้าก็มี
00:01:37 → 00:01:39 เพราะว่าไมเกรนมาบ่อยมากๆจริงๆจนเหมือนใน
00:01:39 → 00:01:42 ชีวิตประจำวันแทบจะทำอะไรไม่ได้ละนะคะแบบ
00:01:42 → 00:01:44 กลัวการออกไปข้างนอกกลัวการอยู่กลางแจ้ง
00:01:44 → 00:01:46 บางคนก็กลัวแบบไม่กล้าไปเที่ยวไม่กล้าไป
00:01:46 → 00:01:48 เที่ยวทะเลหรืออะไรอย่างนี้ไปเลยก็มีนะคะ
00:01:48 → 00:01:52 ในมุมของคนที่พามาหรือว่าคนใกล้ตัวเองก็
00:01:52 → 00:01:55 เช่นกันนะคะพอพอเข้าใจว่าไมเกรนเป็นแค่
00:01:55 → 00:01:56 เหมือนอาการปวดหัวอย่างนึงเนี่ยกลายเป็น
00:01:56 → 00:01:59 ว่าแบบพอมีคนที่บอกว่าปวดหัวไมเกรนอย่าง
00:01:59 → 00:02:02 เงี้ยค่ะรู้สึกว่าปวดอีกแล้วหรอทำไมปวด
00:02:02 → 00:02:04 บ่อยจังมันปวดได้ถี่ขนาดนั้นหรอหรือว่า
00:02:04 → 00:02:07 หมอเคยเจอแบบว่าคนที่แบบปวดหัวไมเกรนทุก
00:02:07 → 00:02:10 วันจริงๆอ่ะค่ะบางคนก็ถามว่าแบบโลกไมเกรน
00:02:10 → 00:02:12 มันสามารถทำให้ปวดหัวได้ทุกวันเลยได้จริง
00:02:12 → 00:02:14 ๆหรออะไรอย่างนี้ค่ะเขาซึ่งวันนี้เราจะมา
00:02:14 → 00:02:18 อธิบายตรงนี้กันนะคะว่าทำไมไมเกรนถึงเป็น
00:02:18 → 00:02:21 โรคทางสมองแล้วทำไมถึงบางคนคนบางคนนะคะ
00:02:21 → 00:02:24 ถึงมีอาการไมเกรนได้ทุกวันจริงๆนะคะเนาะ
00:02:24 → 00:02:28 ไหนขอลองเช็คภาพเช็คเสียงนิดนึงก่อนนะคะ
00:02:28 → 00:02:31 ก่อนที่จะอธิบายการ
00:02:31 → 00:02:32 โอเค
00:02:32 → 00:02:36 นะคะน่าจะได้แล้วแหละงั้นก่อนอื่นก่อนที่
00:02:36 → 00:02:39 หมอจะอธิบายเรื่องเอ่อสมองของไมเกรนนะคะ
00:02:39 → 00:02:42 เดี๋ยวจะให้ดูวิดีโอนึงนะคะซึ่งทางเอ่อ
00:02:42 → 00:02:44 ต่างประเทศเค้าทำไว้ดีมากๆนะคะเดี๋ยวหมอ
00:02:44 → 00:02:47 จะเปิดให้ดูแล้วก็จะอธิบายไปพร้อมๆกันนะ
00:02:47 → 00:02:49 คะเรื่องนี้อาจจะเข้าใจยากสักนิดนึงนะคะ
00:02:49 → 00:02:52 แต่ว่าอยากให้ทุกคนนะคะที่เป็นไมเกรนหรือ
00:02:52 → 00:02:54 ว่ามีคนใกล้ตัวเป็นไมเกรนเนี่ยอยากได้ลอง
00:02:54 → 00:02:56 ฟังกันดูนะคะเพราะว่าถ้าเราเข้าใจมากขึ้น
00:02:56 → 00:02:58 เนี่ยเราจะรู้ว่าเราจะต้องดูแลรักษาตัว
00:02:58 → 00:03:07 เองหรือว่ารักษาโรคนี้ยังไงนะคะเนาะโอเค
00:03:07 → 00:03:11 อันนี้เป็นวีดีโอของเอ่อ association ของ
00:03:11 → 00:03:14 ไมเกรนดิออเดอร์นะคะเดี๋ยวเดี๋ยวหมอจะขอ
00:03:14 → 00:03:20 อ่าเปิดอันนี้นะคะ
00:03:21 → 00:03:24 นี่เลยคำถามแรกนะคะก็คือว่าไมเกรนคืออะไร
00:03:24 → 00:03:31 นะคะ
00:03:31 → 00:03:34 เดี๋ยวจะขออนุญาตแบบเปิดเป็นภาษาอังกฤษไป
00:03:34 → 00:03:36 ก่อนแล้วเดี๋ยวหมอจะอธิบายให้ฟังตามทีละ
00:03:36 → 00:03:48 ท่อนนะคะ
00:03:48 → 00:03:55 ตรงนี้นะคะก็คือเขาเกริ่นว่าไมเกรย์
00:03:55 → 00:03:58 อธิบายว่าจริงๆแล้วเนี่ยคือสมองของเรา
00:03:58 → 00:04:00 เวลาจะทำงานน่ะค่ะมันก็จะต้องมีการเชื่อม
00:04:00 → 00:04:02 ต่อข้อมูลส่งต่อข้อมูลการสมมุติว่าเรา
00:04:02 → 00:04:04 อยากจะทำอะไรสักอย่างนึงเนี่ยมันก็จะมี
00:04:04 → 00:04:07 การสั่งการจับสมองไปสู่ตรงตัวก้านสมอง
00:04:07 → 00:04:10 แล้วก็ลงไปสู่ไขสันหลังนะคะซึ่งสมองของ
00:04:10 → 00:04:14 เราเนี่ยสื่อสารกันโดยใช้ตัวเซลล์ประสาท
00:04:14 → 00:04:25 แบบนี้นะคะ
00:04:25 → 00:04:41 ขอโทษค่ะ
00:04:41 → 00:04:43 Stop ไม่ได้
00:04:43 → 00:04:51 เดี๋ยวนะคะ
00:04:51 → 00:04:54 OK ได้แล้วก็คือตรงนี้นะคะเขาบอกว่าปกติ
00:04:54 → 00:04:57 เวลาเซลล์สัญญาณประสาทของเราเนี่ยสื่อสาร
00:04:57 → 00:05:02 กันใช่ไหมคะ
00:05:02 → 00:05:05 ตรงปลายตรงปลายระหว่างเซลล์กันเนี่ยมันจะ
00:05:05 → 00:05:10 มีการทำงานของช่องๆเหมือนเป็นทางทาง
00:05:10 → 00:05:12 เชื่อมระหว่างเซลล์นะคะเราก็เรียกตรงนี้
00:05:12 → 00:05:13 ว่าไอออน Channel นะคะซึ่งตรงไอออน
00:05:13 → 00:05:16 Channel เนี่ยก็จะมีสารสื่อประสาทต่างๆ
00:05:16 → 00:05:19 มากมายเลยที่มีหลายชนิดเลยชนิดนี้เกี่ยว
00:05:19 → 00:05:21 กับเรื่องนี้อย่างเช่นเราจะได้ยินว่าโรค
00:05:21 → 00:05:23 ทางสมองก็คือโรคทางสารสื่อประสาทอย่าง
00:05:23 → 00:05:26 หนึ่งแบบโพไซโทนินโดรมีนอะไรก็แล้วแต่
00:05:26 → 00:05:28 ขึ้นอยู่กับว่าตำแหน่งของสมองตรงนั้น
00:05:28 → 00:05:31 เนี่ยเอ่อทำหน้าที่อะไรและมีสารสื่อ
00:05:31 → 00:05:54 ประสาทอะไรบ้างนะคะ
00:05:54 → 00:05:58 ตอนนี้เขาก็บอกว่าการที่เราแบบว่าจะสั่ง
00:05:58 → 00:05:59 การของสมองอะไรสักอย่างนึงได้เนี่ยก็จะ
00:05:59 → 00:06:02 ต้องเป็นการทำงานของสมองการสมองนะคะแล้ว
00:06:02 → 00:06:05 ก็ลองไปสู่ไขสันหลังร่วมกันนะคะซึ่งการทำ
00:06:05 → 00:06:08 งานของตัวกล้ามสมองส่วนไหนก็จะควบคุม
00:06:08 → 00:06:11 เกี่ยวกับพวกการนอนนะคะอารมณ์
00:06:11 → 00:06:19 การหายใจอะไรต่างๆนะคะ
00:06:19 → 00:06:23 ที่ตัวสารสื่อประสาทหรือว่าตัวการส่ง
00:06:23 → 00:06:46 สัญญาณประสาทในสมองเนี่ยมันผิดปกติไปนะคะ
00:06:46 → 00:06:50 โอเคตรงนี้นะคะก็คือเขาอธิบายว่าคือหมอ
00:06:51 → 00:06:52 เจอหลายคำถามเลยนะคะเพราะว่าทำไมเราถึง
00:06:52 → 00:06:55 ต้องเป็นไมเกรนนะคะซึ่งจริงๆเนี่ยไมเกรน
00:06:55 → 00:06:58 เป็นโรคที่ปวดหัวที่เจอได้บ่อยในช่วงอายุ
00:06:58 → 00:07:01 ประมาณสักช่วงประมาณ 20-40 ปีนะคะคือค่อน
00:07:01 → 00:07:04 ข้างแบบจำเพาะแล้วก็กับช่วงอายุแล้วก็มัก
00:07:04 → 00:07:07 จะเจอในผู้หญิงมากกว่าได้ถึงประมาณแบบ 7
00:07:07 → 00:07:09 สมมุติว่า 10 คนอาจจะเป็นผู้หญิงสัก 70%
00:07:09 → 00:07:13 ผู้ชายสัก 30% นะคะซึ่งสาเหตุที่ทำให้คน
00:07:13 → 00:07:15 คนนึงเป็นไมเกรนจริงๆยังไม่มีการอธิบาย
00:07:15 → 00:07:18 ได้อย่างแน่ชัดว่าทำไมนะคะว่าเราถึงต้อง
00:07:18 → 00:07:21 เป็นไมเกรนแต่ว่าด้วยความที่เจอในผู้หญิง
00:07:21 → 00:07:23 เยอะนะคะเจอในช่วงอายุนึงเยอะเนี่ยเราก็
00:07:24 → 00:07:25 สันนิษฐานว่ามันก็น่าจะเกี่ยวข้องกับ
00:07:25 → 00:07:28 ปัจจัยอะไรบางอย่างแหละเรื่องของฮอร์โมน
00:07:28 → 00:07:31 ด้วยนะคะเรื่องของเพศด้วยอะไรต่างๆนะคะ
00:07:31 → 00:07:33 แต่ตรงเมื่อกี้ที่เขาบอกว่าอีกปัจจัยนึง
00:07:33 → 00:07:36 เลยนะคะที่เป็นส่วนที่ทำให้เราเป็นไมเกรน
00:07:36 → 00:07:39 ก็คือเรื่องของพันธุกรรมนะคะอันนี้จะเห็น
00:07:39 → 00:07:41 ว่าคนไข้ที่เป็นไมเกรนนะคะจะมีกลุ่มนึง
00:07:41 → 00:07:44 เลยที่มีประวัติคนในครอบครัวนะคะมีอาการ
00:07:44 → 00:07:46 ปวดหัวเหมือนกันอย่างเช่นคุณแม่เป็นพี่
00:07:46 → 00:07:50 สาวเป็นนะคะซึ่งตรงนี้เขาอธิบายว่าตรงตัว
00:07:50 → 00:07:51 พันธุกรรมของเราเนี่ยถ้าเวลาเรามี
00:07:51 → 00:07:53 พันธุกรรมบางอย่างที่มันผิดปกติมันจะทำ
00:07:53 → 00:07:56 ให้ไอออน Channel ช่องตรงนี้ว่าตรงเมื่อ
00:07:56 → 00:07:58 กี้ค่ะที่เขาพยายามอธิบายว่าสารสื่อ
00:07:58 → 00:08:00 ประสาทสารสื่อประสาทมันจะทำงานเชื่อมถึง
00:08:00 → 00:08:02 กันเนี่ยมันจะมีการทำงานของตัว Channel
00:08:02 → 00:08:04 ตรงนี้นะคะซึ่งถ้าเกิดสมมุติว่าคนที่เป็น
00:08:04 → 00:08:07 ไมเกรนเนี่ยน่าจะมีแนวโน้มปัจจัยทาง
00:08:07 → 00:08:09 พันธุกรรมบางอย่างที่ทำให้ Channel ตรง
00:08:09 → 00:08:12 นี้มันทำงานผิดปกติไปหรือที่เราเรียกว่า
00:08:12 → 00:08:14 hypersensitive hypersensitive ก็คือ
00:08:14 → 00:08:17 มันไวนะคะฉะนั้นเนี่ยสมองของคนเป็น
00:08:17 → 00:08:20 ไมเกรนเนี่ยจะไวกว่าสมองของคนปกติต่อสิ่ง
00:08:20 → 00:08:23 แวดล้อมนะคะไม่ว่าจะเป็นอาการเสียงกลิ่น
00:08:23 → 00:08:25 การพักผ่อนหรืออะไรก็แล้วแต่นะคะทำให้
00:08:25 → 00:08:28 สมองของคนที่เป็นไมเกรนเนี่ยอยู่ในภาวะ
00:08:28 → 00:08:40 ที่เหมือนพร้อมจะถูกกระตุ้นตลอดเวลานะคะ
00:08:40 → 00:08:43 เขาบอกว่าแบบมันไม่สามารถอธิบายได้ว่าแบบ
00:08:43 → 00:08:46 ปัจจัยพันธุกรรมอะไรกันแน่หรือว่าตัว
00:08:46 → 00:08:49 Mutation ตรงไหนเนี่ยที่มันจะอธิบายการ
00:08:49 → 00:08:51 เกิดไมเกรนได้อย่างชัดเจนแต่ว่าคิดว่าน่า
00:08:51 → 00:08:54 จะมีหลายส่วนหลาย part-bay ร่วมๆกันนั่น
00:08:54 → 00:08:57 เป็นเหตุผลว่าทำไมอาการไมเกรนของคนไข้แต่
00:08:57 → 00:09:00 ละคนเนี่ยค่อนข้างหลากหลายมากๆนะคะถ้า
00:09:00 → 00:09:03 เกิดเราจัดโรคไมเกรนจริงๆแล้วดูชนิดย่อย
00:09:03 → 00:09:05 ของไมเกรนจริงๆจะเห็นว่าแบบไมเกรนมีหลาย
00:09:05 → 00:09:08 ชนิดเลยทั้งเป็นไมเกรนชนิดที่มีออร่าเช่น
00:09:08 → 00:09:11 มีเห็นแสงผิดปกติหรือชนิดที่ไม่มีออร่า
00:09:11 → 00:09:14 หรือบางคนเป็นไมเกรนแบบแปลกๆนะคะเช่นเป็น
00:09:14 → 00:09:16 ไมเกรนที่มาด้วยเวียนหัวหรือที่เรียกว่า
00:09:16 → 00:09:19 westera ไมเกรนนะคะเป็นไมเกรนที่มาด้วย
00:09:19 → 00:09:22 อาการทางด้านสมองเป็นบริเวณ STEM ไมเกรน
00:09:22 → 00:09:24 เป็นเซรั่มไมเกรนอย่างเงี้ยก็มีนะคะซึ่ง
00:09:24 → 00:09:41 อาการมันหลากหลายมากๆเลยนะคะ
00:09:41 → 00:09:43 นั่นเป็นเหตุผลว่านะคะทำไมคนไข้
00:09:43 → 00:09:45 ไมเกรนเนี่ยถึงเนื่องจากมันเป็นสารสื่อ
00:09:45 → 00:09:49 ประสาทที่ผิดปกติแล้วหลายๆตัวผิดปกตินะคะ
00:09:49 → 00:09:52 เพราะฉะนั้นไมเกรนเป็นโรคที่ค่อนข้างซับ
00:09:52 → 00:09:54 ซ้อนหรือว่า Complex นะคะก็คืออาจจะไม่
00:09:54 → 00:09:56 ได้มาด้วยอาการปวดหัวอย่างเดียวนะแต่
00:09:56 → 00:09:58 ไมเกรนเนี่ยมักจะเจอร่วมกับโรคอื่นๆที่
00:09:58 → 00:10:00 อาจจะเกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาทที่ผิด
00:10:00 → 00:10:02 ปกติด้วยนะคะอย่างเช่นเรื่องของความวิตก
00:10:02 → 00:10:06 กังวลโรคซึมเศร้านะคะหรือเป็นโรคลมชักก็
00:10:06 → 00:10:08 มีนะคะก็คือมีเคสบางเคสเนี่ยเป็นไมเกรน
00:10:09 → 00:10:11 ด้วยเป็นโรคลมชักด้วยเนื่องจากกลไกการ
00:10:11 → 00:10:13 เกิดโรคนี้มันคล้ายๆกันนะคะเวลาปวดหัว
00:10:13 → 00:10:15 ขึ้นมาก็อาจจะมีอาการคล้ายๆอาการชักได้
00:10:15 → 00:10:18 เลยนะคะอาจจะสัมพันธ์กับพวกโรคฮอร์โมนบาง
00:10:18 → 00:10:21 อย่างเช่นเรื่องของไทรอยด์ต่ำนะคะหรือ
00:10:21 → 00:10:25 อาการพวกกลุ่มปวดเรื้อรังนะคะเช่นตรวจ
00:10:25 → 00:10:26 เอ่อ
00:10:26 → 00:10:29 ไมโอซาชีพเพนโปรดไฟโบใน LG นะคะก็คือคน
00:10:29 → 00:10:30 ไข้ไม่เกรนเนี่ยส่วนใหญ่มักจะมีอาการปวด
00:10:30 → 00:10:33 คอปวดบ่าปวดไหล่ปวดหลังปวดตัวร่วมด้วย
00:10:33 → 00:10:36 หรือมักจะมีอาการเรื่องของการทำงานของลำ
00:10:36 → 00:10:38 ไส้ผิดปกติอะไรอย่างนี้ร่วมด้วยนะคะซึ่ง
00:10:38 → 00:10:41 ตรงนี้เนี่ยอย่างเรื่องของวิตกกังวลหรือ
00:10:41 → 00:10:45 มันเจอร่วมกับไมเกรนเยอะมากๆเลยนะคะแบบ
00:10:45 → 00:10:48 เกือบถึง 50% เลยประมาณ 30-50% ได้เลยนะ
00:10:48 → 00:10:50 คะซึ่งที่เท่าที่หมอเจอมันก็เป็นปัจจัย
00:10:50 → 00:10:52 ทั้งสองอย่างอย่างแรกก็คืออาจจะเป็น
00:10:52 → 00:10:54 ปัจจัยเรื่องของพันธุกรรมหรือว่าสอนสื่อ
00:10:54 → 00:10:56 ประสาทนะคะอย่างที่ 2 ก็คือเรื่องของ
00:10:56 → 00:10:58 ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมเองนี่แหละคนไข้
00:10:58 → 00:11:02 ไมเกรนเองที่ปวดหัวบ่อยมากๆนะคะปวดจนถ้า
00:11:02 → 00:11:04 คนที่ปวดหัวแทบเกือบจะทุกวันนะคะเขาจะรู้
00:11:04 → 00:11:06 สึกว่าเดือนทั้งเดือนแนะนำไม่มีวันที่
00:11:06 → 00:11:09 เหมือนมีความสุขเลยหรือว่ามีวันที่หัวมัน
00:11:09 → 00:11:11 โล่งเลยนะคะคนเราที่ต้องอยู่กับอาการปวด
00:11:12 → 00:11:14 มานานๆโดยเฉพาะอาการปวดเรื้อรังนะคะส่วน
00:11:14 → 00:11:16 ใหญ่มักจะมีอารมณ์ที่ผิดปกติร่วมด้วยอยู่
00:11:16 → 00:11:19 แล้วมีวิตกกังวลมีซึมเศร้าหรือว่าบางทีก็
00:11:19 → 00:11:21 อาจจะมีปัญหากับคนรอบข้างเพื่อนที่ทำงาน
00:11:21 → 00:11:23 หรือคนในครอบครัวนะคะตรงนี้ก็ยิ่งเป็น
00:11:23 → 00:11:25 ปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้ไมเกรนเนี่ยมักจะ
00:11:25 → 00:11:27 เจอร่วมกับปัญหาเรื่องของอารมณ์อื่นๆร่วม
00:11:27 → 00:11:44 ด้วยนะคะ
00:11:44 → 00:11:47 อันนี้เขาบอกนะคะว่าก็เลยนั่นก็เลยเป็น
00:11:47 → 00:11:49 เหตุผลว่าไมเกรนส่วนใหญ่นะคะมักจะมีอาการ
00:11:49 → 00:11:52 ประมาณ 4 ระยะนะคะซึ่งตรงนี้เนี่ยเดี๋ยว
00:11:52 → 00:11:55 หมอจะอธิบายต่ออีกทีนึงนะคะว่าทำไมไมเกรน
00:11:55 → 00:11:57 ถึงไม่ใช่มีแค่ปวดหัวนะจริงๆที่ต้องการ
00:11:57 → 00:12:01 ให้รู้คือเวลาเราปวดหัวค่ะด้วยสาเหตุอื่น
00:12:01 → 00:12:03 ๆอย่างเช่นเราปวดหัวจากเราอดนอนหรือว่า
00:12:03 → 00:12:08 เราปวดหัวจากเป็นไข้ไข้สูงไม่สบายตรงนั้น
00:12:08 → 00:12:11 เนี่ยก็คือจะมีอาการแค่ปวดหัวจริงๆแต่
00:12:11 → 00:12:13 สำหรับคนไข้ไมเกรย์นะคะจริงๆเนี่ยมันมี
00:12:13 → 00:12:16 การกระตุ้นของสมองหรือว่าการทำงานของสมอง
00:12:16 → 00:12:18 ที่ผิดปกตินำมาก่อนอยู่แล้วนะคะเกิดเป็น
00:12:18 → 00:12:22 ระยะอาการนำอาการก่อนปวดหัวอาการปวดหัว
00:12:22 → 00:12:25 แล้วก็อาการหลังปวดหัวนะคะทำให้คนไข้
00:12:25 → 00:12:27 ไมเกรนเนี่ยไม่ใช่แค่มีปวดหัวอย่างเดียว
00:12:27 → 00:12:29 นะแต่จริงๆแล้วเนี่ยก่อนที่เขาจะปวดหัว
00:12:29 → 00:12:32 ขึ้นมามันมีความผิดปกติอย่างอื่นนำมาก่อน
00:12:32 → 00:12:33 อยู่แล้วล่ะทำให้เขามีอาการที่เหมือนแบบ
00:12:33 → 00:12:36 จริงๆปวดหัวแค่อาจจะวันสองวันแต่เวลาระยะ
00:12:36 → 00:12:38 โดยรวมทั้งหมดจริงๆอ่ะอาจจะกินเวลานาน
00:12:38 → 00:12:46 กว่านั้นนะคะ
00:12:47 → 00:12:50 อาการนำก่อนที่จะมีอาการปวดหัวได้ก็มีได้
00:12:50 → 00:12:53 ตั้งแต่แบบบางคนก็จะรู้สึกว่าง่วงหาวๆนะ
00:12:53 → 00:12:55 คะอ่อนเพลียอารมณ์ผิดปกตินะคะบางคนก็
00:12:55 → 00:12:58 ปัสสาวะบ่อยปวดตัวเริ่มรู้สึกคอแข็งๆก็มี
00:12:58 → 00:13:00 นะคะถ้าเกิดบางคนรู้สึกกล้ามเนื้อเริ่ม
00:13:00 → 00:13:04 ตึงและเดี๋ยววันสองวันไมเกรนมาก็มีนะคะ
00:13:04 → 00:13:16 [เพลง]
00:13:16 → 00:13:19 ระยะที่ 2 คือก่อนจะปวดหัวและก็คือจะเกิด
00:13:19 → 00:13:21 ขึ้นก่อนปวดหัวประมาณสัก 5 นาทีหรือไม่
00:13:21 → 00:13:24 เกิน 1 ชั่วโมงนะคะเราก็ต้องมีอาการปวด
00:13:24 → 00:13:26 หัวตามมาเนี่ยส่วนใหญ่แล้วเราก็จะเลือก
00:13:26 → 00:13:28 ตรงนี้ระยะตรงนี้ว่าเป็นออร่านะคะหลายคน
00:13:28 → 00:13:31 ก็จะรู้จักนะคะยิ่งโดยเฉพาะออร่าที่เจอ
00:13:31 → 00:13:33 บ่อยที่สุดเนี่ยจะเป็นออร่าทางตานะคะซึ่ง
00:13:33 → 00:13:36 คนไข้ก็อาจจะรู้สึกว่ามันเริ่มมีเห็นแสง
00:13:36 → 00:13:38 ผิดปกติแล้วนะแสงที่เห็นอาจจะเป็นเหมือน
00:13:38 → 00:13:41 แสงซิกแซกเหมือนซ่าๆนะคะหรือบางทีเห็น
00:13:41 → 00:13:43 เหมือนเป็น 4 รุ้งนะคะแล้วสักพักนึงก็
00:13:43 → 00:13:47 ไมเกรนมาถ้าใครที่มีออร่าแบบนี้นะคะค่อน
00:13:47 → 00:13:48 ข้างแบบวินิจฉัยได้ชัดเจนเลยว่าเป็น
00:13:48 → 00:13:51 ไมเกรนนะคะก็จะเป็นแบบอาการที่ค่อนข้าง
00:13:51 → 00:13:53 บอกได้ว่าเออน่าจะเป็นไมเกรนแน่ๆแหละไม่
00:13:53 → 00:13:56 น่าใช่ปวดหัวอย่างอื่นแล้วนะคะส่วนอาการ
00:13:56 → 00:13:58 ออร่าอื่นๆที่เจอได้แต่ว่าจะเจอน้อยกว่า
00:13:58 → 00:14:01 ก็อย่างเช่นอาจจะมาด้วยออร่าแบบมีชานำมา
00:14:01 → 00:14:04 ก่อนนะคะบางคนอาจจะดูเหมือนเบลอๆสับสนพูด
00:14:04 → 00:14:07 ไม่รู้เรื่องแล้วก็ปวดหัวนะคะหรือบางคนก็
00:14:07 → 00:14:10 รู้สึกเหมือนแขนขาไม่มีแรงหรืออาจจะมา
00:14:10 → 00:14:12 ด้วยเวียนหัวบ้านหมุนก็ได้นะคะโดยเฉพาะ
00:14:12 → 00:14:27 กลุ่มที่เป็นกลุ่มไมเกรนหัวนะคะ
00:14:27 → 00:14:29 ตรงนี้บอกเขาไปเร็วๆแล้วกันนะคะก็คือเขา
00:14:29 → 00:14:32 ก็จะเริ่มอธิบายแล้วแหละว่าก็พอระยะปวด
00:14:32 → 00:14:34 หัวเนาะก็จะเหมือนอย่างที่เรารู้กันนะคะ
00:14:34 → 00:14:36 ว่าส่วนไหนปวดหัวไมเกรนกำลังจะปวดข้าง
00:14:36 → 00:14:40 เดียวปวดค่อนข้างรุนแรงนะคะปวดเนี่ยสมมติ
00:14:40 → 00:14:42 ว่าคะแนนเต็ม 10 เนี่ยคนไข้ไมเกรนเนี่ย
00:14:42 → 00:14:46 มักจะปวดคะแนนแบบอยู่ในช่วงประมาณ 7 8 9
00:14:46 → 00:14:49 10 ขึ้นไปถ้ามันปวดระยะที่ปวดหัวจริงๆนะ
00:14:49 → 00:14:52 คะจะไม่ใช่อาการปวดแบบปวดพอรำคาญปวดมึนๆ
00:14:52 → 00:14:55 นะคะเพราะฉะนั้นเวลาไมเกรนกำเริบขึ้นมา
00:14:55 → 00:14:57 เนี่ยคนไข้ส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าต้องอยู่
00:14:57 → 00:14:59 นิ่งๆอยู่เฉยๆนอนพักอยู่เงียบๆนะคะอาจจะ
00:15:00 → 00:15:03 มีคลื่นไส้อาเจียนอะไรร่วมด้วยได้นะคะและ
00:15:03 → 00:15:05 ที่สำคัญกว่านั้นก็คือจะเป็นระยะหลังปวด
00:15:05 → 00:15:08 หัวนะคะก็คือพอเราปวดหัวเสร็จเนี่ยอาจจะ
00:15:08 → 00:15:11 กินเวลาสักประมาณช่วง 4-4 ชั่วโมงถึง
00:15:11 → 00:15:14 ประมาณไม่เกิน 2-3 วันเนี่ยแต่พอเราหาย
00:15:14 → 00:15:17 ปวดหัวเสร็จนะคะกลายเป็นว่าเรามีระยะตาม
00:15:17 → 00:15:19 หลักขึ้นมาอีกนะคะซึ่งทำไมถึงเป็นแบบนี้
00:15:19 → 00:15:21 เดี๋ยวหมอจะมีภาพอธิบายให้ฟังนะคะว่าทำไม
00:15:21 → 00:15:25 เอ่อคนไข้เวลาปวดหัวไมเกหมายถึงมีอย่าง
00:15:25 → 00:15:28 นี้ได้นะคะแต่อาการ 4 ระยะของไมเกรนตรง
00:15:28 → 00:15:30 นี้นะคะก็จะเป็นอาการแบบที่ไม่ได้เจอใน
00:15:30 → 00:15:32 ทุกคนไม่จำเป็นว่าทุกคนจะต้องมี 1 2 3
00:15:32 → 00:15:34 4 แล้วค่อยบอกว่าเป็นไมเกรนนะคะบางคนมี
00:15:34 → 00:15:38 แค่ 1 ก็มีบางคนมีแค่ออร่าก็มีไม่มีปวด
00:15:38 → 00:15:40 หัวตามมาหรือบางคนก็มีแต่ปวดหัวไม่มี
00:15:40 → 00:15:43 อาการอะไรนำมาก่อนเลยนะคะก็แล้วแต่อาการ
00:15:43 → 00:15:46 ของแต่ละคนอีกทีนึงนะคะเนาะงั้นเดี๋ยวขอ
00:15:46 → 00:15:50 จบตรงวีดีโอตรงนี้ไว้ก่อนนะคะเนาะเดี๋ยว
00:15:50 → 00:15:54 จะยาวเกินไปทีนี้ก็คือวีดีโอเมื่อกี้ค่ะ
00:15:54 → 00:15:57 คือหมออยากให้ทุกคนเห็นภาพว่าการที่
00:15:57 → 00:16:00 ไมเกรนมันจะเกิดขึ้นมาได้อ่ะค่ะมันไม่ใช่
00:16:00 → 00:16:03 แค่แบบเราคิดไปเองนะแบบเอ้ยวันนี้เรานอน
00:16:03 → 00:16:05 ไม่พอวันนี้เราเครียดมากหรือว่าเราแบบเจอ
00:16:05 → 00:16:08 ปัญหาอะไรสักอย่างไปเจอกลางแจ้งตากแดดมาก
00:16:08 → 00:16:11 ๆทำงานหนักมากๆแล้วก็ไมเกรนก็มาแต่จริงๆ
00:16:11 → 00:16:14 แล้วเนี่ยก่อนที่ไมเกรนมันจะมาค่ะมันมี
00:16:14 → 00:16:16 การกระตุ้นการทำงานของสมองที่ผิดปกติมี
00:16:16 → 00:16:19 สารสื่อประสาทบางตัวที่มันเริ่มผิดปกติละ
00:16:19 → 00:16:21 แล้วค่อยเกิดเป็นระยะปวดหัวแล้วหลังจาก
00:16:21 → 00:16:24 นั้นมันก็จะค่อยๆหายนะคะ
00:16:24 → 00:16:26 ถ้าเราเห็นภาพตรงนี้เราจะรู้ว่าจริงๆแล้ว
00:16:27 → 00:16:29 เนี่ยไมเกรนมันมากกว่าแค่ปวดหัวนะมันคือ
00:16:29 → 00:16:32 เหมือนแบบเป็นโรคเหมือนโรคโรคนึงเลยที่
00:16:32 → 00:16:35 แบบมีการอธิบายไว้ชัดเจนว่ามันจะเกิดอะไร
00:16:35 → 00:16:38 ขึ้นแล้วเกิดอะไรตามมานะคะเนาะอย่างภาพ
00:16:38 → 00:16:42 นี้ค่ะก็หมออยากให้เห็นว่าแบบเออการคือ
00:16:42 → 00:16:44 จริงๆอ่ะมันจะดูยากมากเลยนะคะเพราะว่า
00:16:44 → 00:16:47 จริงๆแล้วก่อนที่จะเป็นหมอสมองเนี่ยหมอ
00:16:47 → 00:16:50 ว่าก็ดูแทบจะไม่เข้าใจนะคะแต่ว่าหมอ
00:16:50 → 00:16:53 ต้องการสื่อให้เห็นว่ากลไกการเกิดโรค
00:16:53 → 00:16:55 ไมเกรนเนี่ยมันเกี่ยวข้องกับสมองหลายส่วน
00:16:55 → 00:16:58 นะคะแล้วก็เกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาท
00:16:58 → 00:17:01 หลายๆตัวเลยนะคะปกติเนี่ยพอเวลาเรามีตัว
00:17:01 → 00:17:03 กระตุ้นอะไรมาบางอย่างเนี่ยมันก็จะไป
00:17:03 → 00:17:05 กระตุ้นสมองของเรานะคะพอสมองของเราเนี่ย
00:17:05 → 00:17:08 ได้รับสิ่งกระตุ้นเร้ามาเนื่องจากภาวะ
00:17:08 → 00:17:10 ไมเกรนเป็นภาวะที่สมองเนี่ยมันไวต่อการ
00:17:10 → 00:17:12 ถูกกระตุ้นมากๆอยู่แล้วนะคะเพราะฉะนั้น
00:17:12 → 00:17:15 เนี่ยพอเจอตัวกระตุ้นปุ๊บมันจะมีการหลั่ง
00:17:15 → 00:17:18 สารที่ผิดปกติสารสื่อประสาทที่ผิดปกติ
00:17:18 → 00:17:21 หลายตัวเลยนะคะแต่ว่าพระเอกตัวนึงเลยที่
00:17:21 → 00:17:24 แบบตอนหลังเขาเจอว่าเกี่ยวข้องกับการเกิด
00:17:24 → 00:17:27 ไมเกรนมากๆเลยเราก็เรียกว่าเป็นสาร cgrp
00:17:27 → 00:17:30 นะคะซึ่งตัว cgrp ตรงนี้มันจะไปออกฤทธิ์
00:17:30 → 00:17:34 นะคะตรงนี้ค่ะเห็นรูปนี้ไหมคะที่ในวีดีโอ
00:17:34 → 00:17:37 เนี่ยเขาบอกแล้วว่ากว่าเซลล์ประสาทแต่ละ
00:17:37 → 00:17:40 ตัวจะคุยกันได้มันจะมีตรงปลายเนิบเส้น
00:17:40 → 00:17:43 ประสาทเนี่ยที่เป็นช่องช่องส่งสัญญาณ
00:17:43 → 00:17:45 ประสาทแล้วก็มีสารสื่อประสาทต่างๆมากมาย
00:17:45 → 00:17:46 นะคะ
00:17:46 → 00:17:50 cgrt ตรงนี้นะคะมันจะไปออกฤทธิ์ที่กล้าม
00:17:50 → 00:17:52 เนื้อหลอดเลือดค่ะคือหลอดเลือดของคนเราก็
00:17:52 → 00:17:54 จะมีกล้ามเนื้อที่คอยควบคุมการหดขยายตัว
00:17:54 → 00:17:58 หดขยายตัวนะคะดังนั้นพอเวลาคนไข้ไม่เกรง
00:17:58 → 00:18:01 มีตัวกระตุ้นมามีการกระตุ้นของสมองสมอง
00:18:01 → 00:18:04 เกิดการกระตุ้นต่อไปเรื่อยๆจนหลั่งสาร
00:18:04 → 00:18:07 สื่อประสาทที่ผิดปกติโดยเฉพาะตัว cgrp
00:18:07 → 00:18:10 cgrp ก็ไปทำให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัว
00:18:10 → 00:18:14 นะคะแล้วก็ร่างกายก็จะเกิดการตอบสนอง
00:18:14 → 00:18:16 อัตโนมัติต่างๆตามมาเกิดการหลั่งสารเสพ
00:18:16 → 00:18:19 ต่างๆตามมาพยายามหดตัวหดขยายหดขยายก็เลย
00:18:19 → 00:18:22 เกิดเป็นความปวดหัวขึ้นมานะคะซึ่งตรง
00:18:22 → 00:19:14 เนี้ยจากการที่
00:19:14 → 00:20:24 [เพลง]
00:20:24 → 00:20:26 เองก็แบบถ้ายิ่งถ้าเป็นคนที่ต้องทำงานแบบ
00:20:26 → 00:20:29 อยู่ในที่ที่ทำงานคนเยอะๆนะคะก็แบบกลาย
00:20:29 → 00:20:32 เป็นอดทนเอาเพราะว่ารู้สึกว่าการที่แบบจะ
00:20:32 → 00:20:35 บอกกับคนอื่นว่าเราปวดหัวเราต้องหนีไปนอน
00:20:35 → 00:20:37 หรือว่าไปพักเนี่ยยิ่งถ้ามันเป็นบ่อยๆมาก
00:20:37 → 00:20:40 ๆมันก็จะรู้สึกว่าเกิดความเกรงใจไม่อยาก
00:20:40 → 00:20:42 จะบอกหรือว่าแบบบางทีก็อาจจะโดนมองว่า
00:20:42 → 00:20:45 เอ๊ะทำไงทำไมทำงานไม่ได้ไม่เต็มที่อะไร
00:20:45 → 00:20:48 อย่างเงี้ยค่ะซึ่งจริงๆแล้วแบบนั้นเนี่ย
00:20:48 → 00:20:50 ไม่ถูกต้องนะคะเพราะว่าถ้าเกิดสมมุติว่า
00:20:50 → 00:20:52 เป็นไมเกรนขึ้นมาจริงๆอ่ะแล้วเรายิ่งแบบ
00:20:52 → 00:20:55 โดนตัวกระตุ้นเข้าไปเรื่อยๆค่ะเช่นสมมุติ
00:20:55 → 00:20:58 ว่าแบบอยู่ทำงานอยู่ดูแสงดูคอมอยู่แล้ว
00:20:58 → 00:21:00 ปวดไมเกรนขึ้นมาแล้วยังฝืนทำต่อไปเนี่ย
00:21:00 → 00:21:03 ส่วนใหญ่จากการที่สมองบรรจุกระตุ้นหรือ
00:21:03 → 00:21:05 ว่ามันมีการหลั่งสารการอักเสบมากขึ้น
00:21:05 → 00:21:08 เรื่อยๆเนี่ยมันจะเลยทำให้รอบไมเกรนรอบ
00:21:08 → 00:21:11 นั้นเนี่ยแทนที่จะแบบหายปวดเร็วอ่ะอาจจะ
00:21:11 → 00:21:14 ปวดนานกว่าปกติก็ได้นะคะน้องเพราะฉะนั้น
00:21:14 → 00:21:16 ถ้าเกิดคนเป็นไมเกรนจริงๆก็อาจจะต้อง
00:21:16 → 00:21:18 เหมือนแบบถ้าเกิดมันมีระยะอาการปวดหัว
00:21:18 → 00:21:21 ขึ้นมาและก็ต้องแบบพยายามดูแลตัวเองให้
00:21:21 → 00:21:25 หายจากรอบ attack รอบเริ่มรอบนั้นให้เร็ว
00:21:25 → 00:21:29 ที่สุดนะคะเนาะนี่ก็เป็นภาพที่อยากให้
00:21:29 → 00:21:31 เห็นเข้าใจง่ายๆอ่ะค่ะว่าแบบเนี่ยคนไข้
00:21:31 → 00:21:34 สมองไมเกรนนะคะนึกภาพตามว่าแบบถ้าคนเป็น
00:21:34 → 00:21:36 ไมเกรนก็คือสมองของเราเนี่ยค่อนข้าง
00:21:36 → 00:21:39 sensitive อยู่ละเวลาแบบมันจะไวกับตัว
00:21:39 → 00:21:41 กระตุ้นหรืออะไรบางอย่างอยู่แล้วนะคะเนอะ
00:21:41 → 00:21:44 พอมีตัวกระตุ้นเข้ามาจริงๆโดยเฉพาะแดด
00:21:44 → 00:21:47 อากาศเปลี่ยนนะคะอากาศเปลี่ยนในที่นี้แบบ
00:21:47 → 00:21:49 บางทีไม่ใช่แดดร้อนจัดนะแต่เป็นช่วงแบบ
00:21:49 → 00:21:53 ครึ้มฟ้าครึ้มฝนหนาวๆร้อนๆอยู่กลางแจ้ง
00:21:53 → 00:21:56 จัดแล้วมาเข้าห้องแอร์เย็นจัดอะไรอย่าง
00:21:56 → 00:21:59 เงี้ยค่ะหรือกลิ่นหรือว่าเสียงหรือว่าการ
00:21:59 → 00:22:02 อดนอนอะไรก็แล้วแต่เนี่ยก็สมองก็จะไปเกิด
00:22:02 → 00:22:05 การกระตุ้นระบบสมองเกิดการรังสรรค์ต่างๆ
00:22:05 → 00:22:08 นะคะจนไปกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติแล้ว
00:22:08 → 00:22:10 ก็เส้นประสาทใบหน้าตรงเนี้ยเราเรียกว่า
00:22:10 → 00:22:12 ไตเจมิโนบาสคาร่า System ตรงนี้นะคะทำให้
00:22:12 → 00:22:16 เกิดการหลั่งสาร cgrp ที่ออกมามากเกินไป
00:22:16 → 00:22:19 แล้วก็เกิดเป็นหลอดเลือดขยายตัวกรุ๊บๆๆๆ
00:22:19 → 00:22:24 นะคะซึ่งอันนี้ส่วนใหญ่ค่ะเวลาหมอที่ที่
00:22:24 → 00:22:26 ต้องอธิบายให้คนไข้เข้าใจนะคะโดยเฉพาะคน
00:22:26 → 00:22:31 ไข้ที่เป็นคนไข้กลุ่มเรื้อรังนะคะที่เวลา
00:22:31 → 00:22:34 คนไข้มารักษาเนี่ยบางทีคนเขาจะถามว่าแล้ว
00:22:34 → 00:22:37 แล้วอย่างแบบทุกวันนี้ที่เขากินยาแก้ปวด
00:22:37 → 00:22:38 อยู่อ่ะค่ะ
00:22:38 → 00:22:41 มันต่างยังไงกับที่ว่าถ้าเกิดสมมุติว่า
00:22:41 → 00:22:44 เรารักษาเนี่ยเราก็กลับกลายต้องเป็นกินยา
00:22:44 → 00:22:48 รักษามันต่างกันยังไงกับในเมื่อเราเขากิน
00:22:48 → 00:22:50 ยาแก้ปวดเราให้ปวดหัวเราก็กินยาแก้ปวดมัน
00:22:50 → 00:22:53 ก็หายอยู่ละกับอีกอันนึงก็คือแบบอ้าวมัน
00:22:53 → 00:22:55 ยังไม่ปวดหัวจะต้องมากินยาป้องกันกินทุก
00:22:55 → 00:22:58 วันเลยนะคะความต่างก็คืออยู่ตรงนี้ล่ะค่ะ
00:22:58 → 00:23:02 ตอนพวกกลุ่มยาแก้ปวดอ่ะค่ะใดๆก็แล้วแต่
00:23:02 → 00:23:04 ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มปวดทั่วไปกลุ่มปวด
00:23:04 → 00:23:07 เอ็นเสกเช่นพวกไอโฟนอะไรแล้วแต่หรือว่า
00:23:07 → 00:23:09 กลุ่มปวดไมเกรนโดยเฉพาะอย่างเช่นพวกเอ่อ
00:23:09 → 00:23:13 กลุ่มเออเกาะหรือว่ากลุ่มทริปแทนต่างๆนะ
00:23:13 → 00:23:13 คะ
00:23:14 → 00:23:17 วัตถุประสงค์ของเขาก็คือคนไข้มีอาการการ
00:23:17 → 00:23:20 สมรถูกกระตุ้นแล้วเกิดอาการเต้นตุบๆขึ้น
00:23:20 → 00:23:24 มานะคะยาแก้ปวดจะมีหน้าที่คือไประงับนะคะ
00:23:24 → 00:23:29 ใช่หายปวดนะคะซึ่งโดยกลไกก็จะอะไรก็แล้ว
00:23:29 → 00:23:33 แต่ก็ขึ้นกับยาแต่ละชนิดนะคะยาในกลุ่มที่
00:23:33 → 00:23:35 เป็นยาไมเกรนโดยจำเพาะอย่างเช่นกลุ่มพวก
00:23:35 → 00:23:38 กัปตันมินเช่นพวกโทโก้
00:23:38 → 00:23:41 ต่างๆเนี่ยมันเลยออกฤทธิ์ได้ค่อนข้างดี
00:23:41 → 00:23:43 เพราะว่ามันไปออกฤทธิ์หดหลอดเลือดตรงนี้
00:23:43 → 00:23:46 โดยตรงนะคะผ่านกลไกสารสื่อประสาทอะไรต่าง
00:23:46 → 00:23:49 ๆนะคะเนาะทำให้แบบคนไข้ที่ปวดหัวไมเกรน
00:23:49 → 00:23:51 อยู่อ่ะค่ะพอกินยากลุ่มนี้ก็เลยรู้สึกว่า
00:23:51 → 00:23:53 เออมันระงับปวดได้เร็วกว่าเมื่อเทียบกับ
00:23:53 → 00:23:56 กลุ่มอื่นๆที่อาจจะไม่ค่อยๆเหมือนลดการ
00:23:56 → 00:23:57 อักเสบนะคะ
00:23:57 → 00:24:01 เวลาเรากินยากลุ่มพวกนี้ค่ะยิ่งกินน่ะค่ะ
00:24:01 → 00:24:03 คือกินเพื่อให้ระงับปวดเมื่อมีอาการ
00:24:03 → 00:24:05 กำเริบขึ้นมาแล้วคือให้เราหายให้เร็วที่
00:24:05 → 00:24:09 สุดนะคะเพราะฉะนั้นข้อข้อที่เจอมาส่วน
00:24:09 → 00:24:12 ใหญ่จะมี 2 แบบนะคะแบบแรก
00:24:12 → 00:24:15 ปวดปุ๊บกินปั๊บเลยเพราะว่าอยู่กับไมเกรน
00:24:15 → 00:24:17 มานานรู้ว่าถ้าไม่กินเนี่ยเดี๋ยวไปต่อแน่
00:24:17 → 00:24:20 ๆนะคะหมอนึกภาพไม่เห็นง่ายๆก็จะบอกว่าถ้า
00:24:20 → 00:24:22 เกิดสมมติไมเกรนมานานแล้วเนี่ยก็คือ
00:24:22 → 00:24:25 เหมือนไฟไหม้ละนะคะไฟมันแบบลุกขึ้นมาแล้ว
00:24:25 → 00:24:29 ผึกละฉะนั้นเนี่ยเราก็ต้องรีบรีบระงับปวด
00:24:29 → 00:24:32 หยุดไฟไหม้ดับไฟให้เร็วที่สุดนะคะเพราะ
00:24:32 → 00:24:34 ฉะนั้นคนไข้ที่อยู่กับไมเกรนมานานๆจะรู้
00:24:34 → 00:24:39 ว่าถ้าไม่ทำอะไรต่อไปรามแน่ๆนะคะก็จะรีบ
00:24:39 → 00:24:41 ใช้ยาแก้ปวดรีบระงับปวดให้เร็วที่สุดนะคะ
00:24:41 → 00:24:45 เนาะแต่ถ้าเกิดคนที่ยังแบบเอ่อไม่ชินกับ
00:24:45 → 00:24:47 อาการปวดหรือเพิ่งเป็นมาไม่นานหรือกลัว
00:24:48 → 00:24:50 การกินยาแก้ปวดเยอะเนี่ยก็พอเวลามีอาการ
00:24:50 → 00:24:53 ปวดมาบางทีจะรอดูนะคะเช่นรอดูไปกับ 3
00:24:53 → 00:24:55 ชั่วโมง 4 ชั่วโมงอ่าพอเริ่มมั่นใจแล้ว
00:24:55 → 00:24:57 ว่าไม่หายก็ค่อยกินยา
00:24:57 → 00:25:00 นะคะเนาะซึ่งทั้ง 2 แบบเนี่ยมันมีข้อดี
00:25:00 → 00:25:02 ข้อเสียต่างกันนะคะแบบแรกก็คือคนปลดปุ๊บ
00:25:02 → 00:25:04 กินปั๊บเลยเนี่ยอันนี้ก็ดีก็คือลดการ
00:25:04 → 00:25:06 อักเสบได้เร็วทำให้ไม่เกณฑ์ที่กำเริบรอบ
00:25:06 → 00:25:09 เนี่ยจบเร็วนะคะป้องกันระยะที่เราเรียก
00:25:09 → 00:25:11 ว่าระยะ postom หรือว่าหลังปวดหัวเนี่ย
00:25:11 → 00:25:14 ให้อาการมันหายเร็วขึ้นเพราะว่าสารอักเสบ
00:25:14 → 00:25:16 ต่างๆอะไรมันก็หลั่งน้อยนะคะ
00:25:16 → 00:25:19 ข้อเสียคือว่าคนที่ทำแบบนี้นะคะถ้าเกิด
00:25:19 → 00:25:23 ปวดหัวบ่อยจะเสี่ยงต่อการติดยาแก้ปวดนะคะ
00:25:23 → 00:25:26 ไมเกรนเป็นโรคที่ติดยาแก้ปวดเยอะที่สุดนะ
00:25:26 → 00:25:29 คะมันมีภาวะที่เราเรียกว่า medication ou
00:25:29 → 00:25:32 height ที่หมอเคยพูดไปเนี่ยก็คือว่าเจอ
00:25:32 → 00:25:34 ในคนไข้ไมเกรนเยอะที่สุดเพราะอะไรเพราะ
00:25:34 → 00:25:36 ว่าคนไข้ในเกมเวลาปวดหัวขึ้นมาค่ะเขาปวด
00:25:36 → 00:25:40 รุนแรงพอไม่กินยาเนี่ยก็จะรู้ว่ามันหลาย
00:25:40 → 00:25:42 วันแน่ๆหรือว่าหลายชั่วโมงแน่ๆทำอะไรไม่
00:25:42 → 00:25:45 ได้ฉะนั้นคนไข้ไม่เกรงจะติดกับว่าถ้าปวด
00:25:45 → 00:25:47 หัวมาต้องใช้ยานะคะแต่ถ้าเกิดใครที่ปวด
00:25:47 → 00:25:50 หัวบ่อยแล้วต้องใช้ยาในกลุ่มยาแก้ปวดนะคะ
00:25:50 → 00:25:53 ก็ส่วนใหญ่ก็เกินประมาณสัก 10-15 เม็ดต่อ
00:25:53 → 00:25:56 เดือนขึ้นกับอ่าแต่ละชนิดยานะคะก็จะถือ
00:25:56 → 00:25:59 ว่าเริ่มมีภาวะปวดหัวจากใช้ยาแก้ปวดเกิน
00:25:59 → 00:26:03 ขนาดละนะคะเนาะทำไมถึงเป็นแบบนี้ก็อธิบาย
00:26:03 → 00:26:06 ได้จากกลไกภาวะของสมองเนี่ยแหละค่ะว่าจะ
00:26:06 → 00:26:10 บอกคนไข้ไม่เกรนเนี่ยมันเป็นภาวะที่สาร
00:26:10 → 00:26:12 สื่อประสาทหรือว่าเซลล์ประสาทของเขาเนี่ย
00:26:12 → 00:26:15 มันมีภาวะที่มันพร้อมจะไวต่อตัวถูก
00:26:15 → 00:26:17 กระตุ้นอยู่แล้วแล้วนะคะทำให้เหมือนแบบพอ
00:26:17 → 00:26:20 เราเจอยาแก้ปวดบ่อยๆเข้าอ่ะมันเกิดการ
00:26:20 → 00:26:23 เปลี่ยนแปลงของสมองนะคะทำให้สมองยิ่งไว
00:26:23 → 00:26:28 กว่าเดิมอีกนะคะเคยมีคนถามว่าอย่างกินยา
00:26:28 → 00:26:30 แก้ปวดอย่างนี้ค่ะสมมติว่าหมอบอกว่าห้าม
00:26:30 → 00:26:33 กินไอบูโพรเฟนเกินเดือนละ 15 เม็ดใช่ไหม
00:26:33 → 00:26:36 คะมันก็จะมีคนไข้ไมเกรนถ้ากินยาเกินทำไม
00:26:36 → 00:26:39 ถึงบอกว่าเป็นติดยาแก้ปวดแล้วเป็นปวดหัว
00:26:39 → 00:26:43 จากยาแก้ปวดในขณะที่คนๆนึงอ่ะค่ะสมมุติ
00:26:43 → 00:26:45 ว่าเขากินยาแก้ปวดด้วยสาเหตุอื่นเช่นปวด
00:26:45 → 00:26:49 เข่าคนไข้เข่าเสื่อมคนไข้หลังกระดูกหลัง
00:26:49 → 00:26:52 เสื่อมกลุ่มนี้นะคะบางทีก็กินยากินยาแก้
00:26:52 → 00:26:55 ปวดทุกวันนะคะกินเยอะก็ไม่กินอีกแต่ทำไม
00:26:55 → 00:26:59 ไม่ปวดหัวนะคะเพราะว่าเนี่ยค่ะคือมันเป็น
00:26:59 → 00:27:01 เรื่องของการทำงานของสมองหรือว่าสมองที่
00:27:01 → 00:27:04 มันไวอ่ะค่ะที่เซลล์ประสาทมันถูกกระตุ้น
00:27:04 → 00:27:07 ได้ง่ายในคนไข้ในเกรนนะคะในขณะที่คนที่
00:27:07 → 00:27:09 ไม่ได้เป็นไมเกรนเขาจะไม่มีภาวะตรงนี้
00:27:09 → 00:27:11 เพราะฉะนั้นกินยาแก้ปวดเยอะไปเนี่ยมันไม่
00:27:11 → 00:27:13 ได้ไปทำให้เขาปวดหัวหรือว่าเกิดอาการปวด
00:27:13 → 00:27:16 หัวขึ้นมานะคะแต่จะเป็นข้อเสียอย่างอื่น
00:27:16 → 00:27:20 แทนเช่นกันกระเพาะไตค่าไตผิดปกติอะไรก็
00:27:20 → 00:27:23 ว่ากันไปนะคะในทางกลับกันนะคะถ้าคนไข้
00:27:23 → 00:27:26 ไมเกรนนะคนไข้ไม่เกรซจะมองเป็นคนไข้
00:27:26 → 00:27:27 ไมเกรน
00:27:27 → 00:27:30 อาจจะปวดหัวไมเกรนไม่ได้บ่อยเป็นไมเกรน
00:27:30 → 00:27:32 อาจจะปวดหัวแค่อาทิตย์ละครั้งกินยา
00:27:32 → 00:27:35 อาทิตย์ละครั้งแต่คนไข้คนนี้เป็นไมเกรน
00:27:35 → 00:27:37 แต่มีแบบสมมุติเข่าเสื่อมร่วมด้วยมีปวด
00:27:37 → 00:27:39 กระดูกร่วมด้วยหรือแบบกระดูกหักกลายเป็น
00:27:39 → 00:27:42 ว่าไปกินยาแก้ปวดด้วยสาเหตุอื่นน่ะค่ะแบบ
00:27:42 → 00:27:45 นี้ก็ทำให้คนไข้คนนี้เสี่ยงต่อการปวดหัว
00:27:45 → 00:27:47 เยอะขึ้นเหมือนกันนะคะเพราะว่ากลไกของ
00:27:47 → 00:27:50 สมองที่มันเกิดการปรับตัวค่ะทำให้เกิดแบบ
00:27:51 → 00:27:54 สมองมันยิ่งมีความไวต่อการถูกกระตุ้นได้
00:27:54 → 00:27:57 ง่ายนั่นเองนะคะเนาะอ่ะอันที่ 2 เมื่อกี้
00:27:57 → 00:28:00 นะคะก็คือว่ากินยาแก้ปวดเยอะอ่ากินยาแก้
00:28:00 → 00:28:04 ปวดเร็วข้อดีก็คืออ่าดีไหมดีทำให้ไมเกรน
00:28:04 → 00:28:08 รอบนั้นน่ะหายเร็วแต่ข้อเสียคืออาจจะ
00:28:08 → 00:28:10 เสี่ยงต่อการติดยาแก้ปวดหรือว่ามีภาวะปวด
00:28:10 → 00:28:12 หัวจากยาแก้ปวดเกินขนาดนะคะเพราะฉะนั้น
00:28:12 → 00:28:14 เนี่ยถ้าใครที่รู้ตัวว่าปวดหัวเกิน
00:28:14 → 00:28:18 อาทิตย์ละประมาณ 1 ครั้งนะคะ 1-2 ครั้ง
00:28:18 → 00:28:20 เสี่ยงติดยาแล้วค่ะเพราะว่าคัดรอบนึงก็
00:28:20 → 00:28:22 ต้องกินประมาณสัก 1-2 เม็ดเนาะเพราะ
00:28:22 → 00:28:24 ฉะนั้นถ้าเกิดปวดเกินอาทิตย์ละครั้งสอง
00:28:24 → 00:28:26 ครั้งนะคะโดยทั่วไปก็เนี่ยเอา 4 ครั้งต่อ
00:28:26 → 00:28:29 เดือนนะคะหรือกินยาแก้ปวดเกินประมาณ 10-15
00:28:29 → 00:28:32 เม็ดต่อเดือนจะถือว่ามีความเสี่ยงต่อการ
00:28:32 → 00:28:34 ติดยาแก้ปวดแล้วแล้วจะเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยว
00:28:34 → 00:28:37 จะอธิบายต่อไปนะคะส่วนกลุ่มที่ 2 ที่ที่
00:28:37 → 00:28:39 บอกนะคะก็คือกลุ่มกินยาแก้ปวดช้ากลุ่มนี้
00:28:39 → 00:28:42 มีข้อเสียคือข้อดีก็คือจะไม่เสี่ยงติดยา
00:28:42 → 00:28:44 แก้ปวดแต่ข้อเสียคืออย่างที่บอกค่ะเวลา
00:28:44 → 00:28:46 ไมเกรนกำเริบขึ้นมาหลอดเลือดตุ๊กๆแล้ว
00:28:46 → 00:28:49 เนาะมันเหมือนแบบไฟไหม้แล้วอ่ะยิ่งเราแบบ
00:28:49 → 00:28:51 ปล่อยให้ไฟไหม้สมมุติว่าไฟไหม้บ้านเรา
00:28:51 → 00:28:53 ขึ้นมาอย่างเงี้ยแล้วเราปล่อยแบบปล่อยให้
00:28:53 → 00:28:55 มันไหม้ไปเรื่อยๆแล้วแบบรอสัก 2-3
00:28:55 → 00:28:57 ชั่วโมงอ่ะแล้วค่อยเดี๋ยวเอาน้ำไปดับสิ
00:28:57 → 00:28:59 เพราะฉะนั้นเนี่ยความเสียหายที่เกิดขึ้น
00:29:00 → 00:29:03 นะคะมันจะมากกว่านะคะเพราะฉะนั้นการอ่า
00:29:03 → 00:29:05 สารการอักเสบอะไรต่างๆมันจะมากกว่านะคะคน
00:29:05 → 00:29:07 ไข้ก็ถ้าเป็นคนไข้กลุ่มนี้นะคะจะทำให้
00:29:07 → 00:29:10 ความรู้สึกว่าเอ๊ะทำไมรอบเนี่ยกินยาแล้ว
00:29:10 → 00:29:12 มันไม่หายปวดนะคะเพราะบางทีสารอักเสบต่าง
00:29:12 → 00:29:16 ๆมันล้างออกมามากและหรือหายปวดก็จริงแต่
00:29:16 → 00:29:18 ทำไมรู้สึกเหมือนคล้ำเหมือนมีความเสียหาย
00:29:18 → 00:29:20 เกิดขึ้นนะคะก็คือแบบหายปวดหัวแต่รู้สึก
00:29:20 → 00:29:23 จับจับหนังศีรษะไม่ได้เจ็บไปหมดเลยเหมือน
00:29:23 → 00:29:26 ช้ำเหมือนระบมไปหมดเลยนะคะเนาะซึ่งตรงนี้
00:29:26 → 00:29:28 เนี่ยก็คือถ้าเกิดสมมุติว่าคนไข้กลุ่มยา
00:29:28 → 00:29:32 แก้ปวดอ่ะค่ะถ้ากินยาแก้ปวดนะคะบ่อยๆต้อง
00:29:32 → 00:29:34 ใช้บ่อยๆนะคะหมอก็ยังบอกกับคนไข้ไมเกรน
00:29:34 → 00:29:38 ทุกคนนะว่าถ้าไมเกรนมาแล้วเราต้องยอมนะคะ
00:29:38 → 00:29:40 เพราะว่ามันเหมือนไฟไหม้แล้วอ่ะทำไงก็ได้
00:29:40 → 00:29:42 ให้มันรีบแบบระงับให้เร็วที่สุดเราต้อง
00:29:42 → 00:29:45 ยอมนะคะยิ่งปล่อยไว้ช้าจะยิ่งทำให้รอบ
00:29:45 → 00:29:47 นั้นเนี่ยหายช้าแล้วก็อาจจะต้องใช้ยาใน
00:29:47 → 00:29:49 รอบนั้นมากขึ้นนะคะเพราะฉะนั้นถ้าไมเกรน
00:29:49 → 00:29:53 มาต้องรีบทำให้หายแต่ถ้าไมเกรนมาบ่อยนั่น
00:29:53 → 00:29:56 นำไปสู่การที่ว่าทำไมเราจะต้องใช้ยารักษา
00:29:56 → 00:29:59 หรือใช้ยาป้องกันนะคะเนาะเพื่อที่จะได้
00:29:59 → 00:30:01 ป้องกันภาวะตรงนี้ล่ะค่ะไม่ให้เกิดการ
00:30:01 → 00:30:03 เปลี่ยนแปลงของสมองที่มันไวต่อการกระตุ้น
00:30:03 → 00:30:07 มากเกินไปนะคะ
00:30:07 → 00:30:10 อันนี้ก็เป็น 4 ระยะของอาการปวดไมเกรนนะ
00:30:10 → 00:30:12 คะซึ่งตรงนี้เนี่ยก็เหมือนเมื่อกี้ที่เขา
00:30:12 → 00:30:15 พยายามจะอธิบายนะคะเนาะเอ่ออีกทีนึงก็ได้
00:30:15 → 00:30:18 ก็คือระยะก่อนคนไข้คนไข้ไม่เกรงคนนึง
00:30:18 → 00:30:21 เนี่ยจะมีอาการปวดหัวขึ้นมามันจะนำมาก่อน
00:30:21 → 00:30:24 ตั้งแต่ประมาณ 2 วัน 2 วันบางคนนะคะไม่
00:30:24 → 00:30:26 ใช่ทุกคนบางคนอาจจะมีโพรงนำมาแล้วก็คือ
00:30:26 → 00:30:30 แบบเริ่มตัวหงุดหงิดอารมณ์แปรปรวนซึม
00:30:30 → 00:30:34 เศร้าหิวบ่อยถ้ากินไม่ตรงเวลาปุ๊บจะเริ่ม
00:30:34 → 00:30:38 รู้สึกแบบผิดปกติละนะคะปวดตัวคอแข็งโดย
00:30:38 → 00:30:39 เฉพาะคนที่มีออฟฟิศซินโดรมอยู่แล้วบางที
00:30:39 → 00:30:42 จะรู้สึกเหมือนแบบกล้ามเนื้อมันตึงมากเรา
00:30:42 → 00:30:44 รู้แล้วเดี๋ยวอีกวันสองวันไมเกรนมาแน่นะ
00:30:44 → 00:30:47 คะอันนี้เราเรียกว่าระยะเอ่อก่อนมีอาการ
00:30:47 → 00:30:51 ปวดหัวที่เรียกว่าโพโดนะคะเนาะซึ่งเอ่อ
00:30:51 → 00:30:54 ตรงเนี้ยมันก็อธิบายได้จากการกลไกของสมอง
00:30:54 → 00:30:56 ที่ผิดปกติเหมือนกันนะคะเดี๋ยวหมอจะ
00:30:56 → 00:30:59 อธิบายต่อไปนะคะเนาะพอเสร็จระยะที่ 2 ก็
00:30:59 → 00:31:01 คือเป็นด้วยว่าระยะ Aura นะคะระยะ Aura
00:31:01 → 00:31:04 ก็เมื่อกี้ที่บอกก็คือแบบเอ่อที่เจอได้
00:31:04 → 00:31:06 เยอะสุดเราสังเกตได้ง่ายสุดก็จะเป็นออร่า
00:31:06 → 00:31:09 ทางตาเนาะแต่เห็นจุดด่างเห็นแสงซิกแซก
00:31:09 → 00:31:12 เห็นสีรุ้งเห็นแสงสีขาวอะไรก็แล้วแต่นะคะ
00:31:12 → 00:31:15 หรือมีอาการชาผิดปกติมีอาการเวียนหัวร่วม
00:31:15 → 00:31:17 ด้วยได้แล้วก็เป็นระยะปวดแล้วก็เป็นระยะ
00:31:17 → 00:31:20 หลังปวดนะคะระยะหลังปวดเนี่ยทำให้คนไข้
00:31:20 → 00:31:21 หลายคน
00:31:21 → 00:31:25 เกิดความสงสัยว่าปวดหัวไมเกรนแล้วแล้ว
00:31:25 → 00:31:29 ทำไมมันยังไม่สดชื่นนะคะมันยังอ่อนเพลีย
00:31:29 → 00:31:32 หรือบางทีรู้สึกว่าหนังศีรษะมันยังเจ็บๆ
00:31:32 → 00:31:35 อยู่นะคะเนาะแล้วก็เหมือนเอ่อซึ่งตรงนี้
00:31:35 → 00:31:38 มันเป็นปัญหาเหมือนกันนะคะเพราะว่าถ้า
00:31:38 → 00:31:40 เกิดบางคนที่แบบเขาปวดหัวขึ้นมาอ่ะแล้วมี
00:31:40 → 00:31:42 ระยะโพสต์โดมตรงนี้ด้วยเนี่ยซึ่งส่วนใหญ่
00:31:42 → 00:31:45 ก็จะกินเวลาประมาณสัก 1-2 วันเนี่ยเอ่อ
00:31:45 → 00:31:48 มันๆทำให้แบบเวลาคนปวดหัวเสร็จอ่ะหายปวด
00:31:48 → 00:31:51 หัวแล้วอ่ะแต่บางทีอ่ะเขายังฟังก์ชันได้
00:31:51 → 00:31:53 ไม่เหมือนเดิมยังแบบกลับไปเรียนไม่ได้
00:31:53 → 00:31:55 หรือว่าทำงานแล้วก็อาจจะยังรู้สึกว่าเบลอ
00:31:55 → 00:31:57 ๆนะคะซึ่งถ้าเกิดแบบบางทีคนรอบข้างไม่ไม่
00:31:57 → 00:32:00 รู้ว่าเพิ่งตัดไมเกรนกำเริบมาอาจจะสงสัย
00:32:00 → 00:32:04 ว่าเอ๊ะทำไมดูแบบไม่สดชื่นหรือว่าแบบทำ
00:32:04 → 00:32:06 งานมีปัญหาอะไรอย่างงี้ได้เหมือนกันนะคะ
00:32:06 → 00:32:10 เนาะซึ่งตรงนี้นะคะจะอธิบายได้จากกลไกของ
00:32:10 → 00:32:12 สมองเหมือนกันนะคะตั้งแต่ระยะ Polo เลย
00:32:12 → 00:32:16 เนี่ยเราเชื่อว่าไมเกรนก่อนที่ที่เมื่อ
00:32:16 → 00:32:18 กี้หมอบอกใช่ไหมคะว่าแบบเวลามีตัวกระตุ้น
00:32:18 → 00:32:21 มีแสงแดดมีอะไรมาแล้วก็เกิดการกระตุ้นให้
00:32:21 → 00:32:24 หลั่งสารผิดปกติโดยเฉพาะ 4grp เนี่ยเขา
00:32:24 → 00:32:27 เชื่อว่าก่อนหน้านั้นเนี่ยมันมีการทำงาน
00:32:27 → 00:32:30 ของสมองส่วนหนึ่งผิดปกติก่อนอยู่แล้วนะคะ
00:32:30 → 00:32:32 หรือที่เราเรียกว่า hypothalamus เนี่ย
00:32:32 → 00:32:36 เป็นสมองเล็กๆส่วนเล็กๆของสมองนะคะแต่ว่า
00:32:36 → 00:32:38 มีความสำคัญมากๆส่วนใหญ่จะทำหน้าที่
00:32:38 → 00:32:41 เกี่ยวกับพวกแบบการควบคุมการนอนหลับนะคะ
00:32:41 → 00:32:44 วงจรการนอนหลับของเรานะคะที่ที่
00:32:44 → 00:32:46 serenadeum หรือที่เราเรียกว่านาฬิกา
00:32:46 → 00:32:49 ชีวิตอ่าเกี่ยวกับอารมณ์นะคะเกี่ยวกับ
00:32:49 → 00:32:52 ศูนย์ควบคุมความหิวความอิ่มความสุขอะไร
00:32:52 → 00:32:55 ต่างๆนะคะนั่นเป็นเหตุผลว่าเอ่อทำไมคนไข้
00:32:55 → 00:32:57 ไม่เกรงก่อนที่จะโผล่หัวบางทีมันมีอาการ
00:32:57 → 00:33:01 ผิดปกติของสมองส่วนนี้นำมาก่อนอยู่แล้วนะ
00:33:01 → 00:33:03 คะทำให้นอนผิดปกตินอนไม่หลับบ้างทำให้แบบ
00:33:03 → 00:33:06 รู้สึกหิวบ่อยบ้างถ้ากินอาหารไม่ตรงเวลา
00:33:06 → 00:33:09 ก็มากระตุ้นนะคะซึ่งตอนนี้เราอยู่ในช่วง
00:33:09 → 00:33:11 แบบเหมือนมีงานวิจัยสนับสนุนออกมา
00:33:12 → 00:33:13 สนับสนุนตรงนี้มากขึ้นเรื่อยๆว่าคนไข้
00:33:13 → 00:33:15 ไมเกรย์น่าจะมีการทำงานของสมองส่วนนี้
00:33:15 → 00:33:18 เชื่อผิดปกติอยู่ก่อนแล้วนะก่อนที่จะเกิด
00:33:18 → 00:33:22 ระยะปวดหัวจริงๆนะคะระยะออร่าก็เช่นกันนะ
00:33:22 → 00:33:25 คะพอมีการทำงานของสมองส่วน hypertainment
00:33:25 → 00:33:28 ที่ผิดปกติแล้วเนี่ยนะคะอยู่ตรงแถวๆนี้พอ
00:33:28 → 00:33:31 เกิดบางคนที่มีออร่านะคะหรือถ้าบางคนไม่
00:33:31 → 00:33:33 มีออร่าก็จะอาจจะข้ามไปเลยแต่ถ้าคนที่มี
00:33:33 → 00:33:36 ออร่าเนี่ยออร่าส่วนใหญ่ของไมเกรย์เนี่ย
00:33:36 → 00:33:39 เวลาเกิดการกระตุ้นสมองอ่ะมันจะมักจะมา
00:33:39 → 00:33:43 จากไทยทอยถ้าคนไข้ไมเกรนที่อาการคริติคอล
00:33:43 → 00:33:47 แบบมากๆจริงๆที่แบบค่อนข้างมีคนไข้จะรู้
00:33:47 → 00:33:50 สึกแล้วว่ามันหนักที่หัวหนักๆที่ท้ายทอย
00:33:50 → 00:33:54 รู้สึกเหมือนมีอะไรแปลกๆละแล้วจะพักนึงก็
00:33:54 → 00:33:57 จะเกิดเหมือนกันๆขึ้นมาแล้วก็มาจบที่
00:33:57 → 00:34:01 แล้วก็รู้สึกคลื่นไส้อาเจียนแล้วก็มาเต็ม
00:34:01 → 00:34:03 อาการเลยนะคะเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเนี่ย
00:34:03 → 00:34:05 การกระตุ้นสมองมันจะเกิดตรงสมองส่วนหลัง
00:34:05 → 00:34:08 ก่อนนะคะซึ่งสมองส่วนหลังเป็นสมองเรา
00:34:09 → 00:34:11 เรียกว่า oxypital load ก็จะเป็นสมองที่
00:34:11 → 00:34:13 ควบคุมเกี่ยวกับพวกการมองเห็นต่างๆนั่น
00:34:13 → 00:34:16 เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมออร่ามาเลยมาร์คจะมี
00:34:16 → 00:34:19 อาการทางตามากที่สุดนะคะด้วยเหตุผลอันนี้
00:34:19 → 00:34:23 นะคะก็คือพอมีสมองส่วน Hyper อัตโนมัติ
00:34:23 → 00:34:25 เริ่มทำงานผิดปกติเจอตัวกระตุ้นเข้าไปอีก
00:34:25 → 00:34:28 ปุ๊บเกิดการกระตุ้นของสมองนะคะโดยเฉพาะ
00:34:28 → 00:34:31 สมองส่วนหลังก็เกิดการส่งสัญญาณนะคะไป
00:34:31 → 00:34:34 ปุ๊บๆๆจนกระทั่งไปกระตุ้นระบบประสาท
00:34:34 → 00:34:38 อัตโนมัติแล้วก็หลอดเลือดบริเวณใบหน้านะ
00:34:38 → 00:34:40 คะเกิดการหลั่งสารสื่อประสาทต่างๆออกมา
00:34:40 → 00:34:43 โดยเฉพาะ cgrp ปุ๊บแล้วก็ทำให้หลอดเลือด
00:34:43 → 00:34:46 หดขยายหดขยายหดขยายนะคะรวมไปถึงสารสื่อ
00:34:46 → 00:34:49 ประสาทหรือศาลการอักเสบอื่นๆด้วยนะคะเนาะ
00:34:49 → 00:34:52 พอจบตรงนี้ปุ๊บระยะปวดหัวประมาณสัก 4
00:34:52 → 00:34:55 ชั่วโมงถึง 72 ชมปุ๊บก็มาเป็นระยะหลังปวด
00:34:55 → 00:34:58 หัวให้นึกภาพว่าเวลามันมีแบบอ่ะเหมือนมี
00:34:58 → 00:35:00 ไฟไหม้ขึ้นมาก่อนจะไหม้เนี่ยบางทีมัน
00:35:00 → 00:35:04 เริ่มมันเริ่มมีอะไรแบบนิดนึงละไฟเริ่มจะ
00:35:04 → 00:35:06 ช็อตและเราอาจจะเริ่มเห็นอะไรบางอย่างละ
00:35:06 → 00:35:09 นะคะจนสุดท้ายแบบพอไฟช็อตจริงๆไฟมันก็ไม่
00:35:09 → 00:35:12 ขึ้นมาไหม้ขึ้นมาเนี่ยถ้าดับได้เร็วความ
00:35:12 → 00:35:15 เสียหายก็น้อยแต่ทำไมนานเลยดับช้าความ
00:35:15 → 00:35:19 เสียหายจะเยอะระยะโพสต์โดมก็จะยิ่งหนักนะ
00:35:19 → 00:35:23 คะอันนี้คือคนไข้ไมเกรนนะคะซึ่งคนไข้
00:35:23 → 00:35:24 ไมเกรน
00:35:24 → 00:35:28 ทำไมจะต้องมารักษานะคะมันเป็นเพราะตรงนี้
00:35:28 → 00:35:32 ค่ะเมื่อไรที่คนไข้มีอาการกำเริบตรงนี้
00:35:32 → 00:35:35 บ่อยๆขึ้นนะคะมีอาการปวดหัวกำเริบขึ้นมา
00:35:35 → 00:35:40 มีเอ่อเหมือนไฟไหม้บ่อยๆขึ้นมาสิ่งที่
00:35:40 → 00:35:42 สำคัญที่สุดก็คือเราต้องไปติดตั้งระบบ
00:35:42 → 00:35:47 เซฟตี้ความปลอดภัยนะคะทำยังไงก็ได้ให้ไม่
00:35:47 → 00:35:50 เกิดไฟไหม้ไม่เกิดอาการปวดหัวไมเกรน
00:35:50 → 00:35:52 กำเริบให้ได้มากที่สุดนะคะเปรียบง่ายๆก็
00:35:52 → 00:35:55 เหมือนแบบอ่าก็ถ้าเกิดสมมุติว่าเป็นการ
00:35:55 → 00:35:57 ป้องกันไฟไหม้ก็คือเราก็ต้องติดตั้งอ่า
00:35:57 → 00:36:01 ระบบเซฟตี้คัทอะไรต่างๆนะคะถ้าเป็นคนไข้
00:36:01 → 00:36:05 ไมเกรนเราก็ต้องทำการที่จะไม่ให้เกิด
00:36:05 → 00:36:07 อาการกำเริบเนี่ยทำทำอะไรได้บ้างก็คือการ
00:36:07 → 00:36:11 ป้องกันการหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นนะคะเช่น
00:36:11 → 00:36:15 การนอนให้พออย่านอนดึกนะพยายามไม่เครียด
00:36:15 → 00:36:18 จนเกินไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอใครมี
00:36:18 → 00:36:20 ตัวกระตุ้นเป็นอะไรก็ต้องหลีกเลี่ยงตัว
00:36:20 → 00:36:22 กระตุ้นนั้นๆเช่นบางคนกลิ่นน้ำหอมบางคน
00:36:22 → 00:36:25 อาหารบางอย่างนะคะเพราะเมื่อไรที่เราแบบ
00:36:25 → 00:36:27 ใส่ตัวกระตุ้นเข้าไปมันก็มีโอกาสที่จะ
00:36:27 → 00:36:30 เกิดอาการแบบนี้ตามมานะคะเกิดแล้วเป็นยัง
00:36:30 → 00:36:31 ไง
00:36:31 → 00:36:35 ถ้าเป็นคนไข้ทั่วๆไปนะคะที่สมมุติว่าเป็น
00:36:35 → 00:36:37 ปวดหัวหรือเป็นอย่างอื่นจากสาเหตุอื่น
00:36:37 → 00:36:41 หรือจากความเครียดอย่างอื่นค่ะมันก็อาจจะ
00:36:41 → 00:36:45 ไม่ว่าเราเกิดเอ่อปวดหัวจากความเครียดอ่ะ
00:36:45 → 00:36:47 ช่วงนี้เครียดเลยปวดหัวเยอะแต่ถ้าช่วงนี้
00:36:47 → 00:36:50 พอไม่เครียดก็อาจจะหายไปแต่คนไข้ไม่เกรง
00:36:50 → 00:36:52 ไม่ใช่แบบนั้นนะคะคนไข้ไม่เกร็งเนี่ยถ้า
00:36:52 → 00:36:54 เกิดสมมุติว่าเกิดอาการปวดหัวบ่อยขึ้น
00:36:54 → 00:36:57 กำเริบบ่อยขึ้นเรื่อยๆเมื่อไหร่วันนึงมัน
00:36:57 → 00:36:59 จะเกิดภาวะที่เราเรียกว่าแบบการสับ
00:36:59 → 00:37:01 เปลี่ยนแปลงของสมองที่มันเกิดขึ้นนะคะ
00:37:01 → 00:37:04 เนาะยิ่งยิ่งถูกกระตุ้นมากขึ้นไอ้ความไว
00:37:04 → 00:37:07 ของสมองตัวถ้าหน้าตาเมื่อกี้นะคะก็คือ
00:37:07 → 00:37:10 สมองเราอยู่ในภาวะที่มันไวกับตัวกระตุ้น
00:37:10 → 00:37:13 อยู่แล้วสารสื่อประสาทก็พร้อมที่จะทำงาน
00:37:13 → 00:37:15 ผิดปกติอยู่แล้วยิ่งเกิดบ่อยขึ้นเท่าไหร่
00:37:15 → 00:37:17 บ่อยขึ้นเท่าไหร่บ่อยขึ้นเท่าไหร่ความไว
00:37:17 → 00:37:19 มันก็ยิ่งมากขึ้นมากขึ้นมากขึ้นนะคะ
00:37:19 → 00:37:22 เหมือนภาพนี้ค่ะก็คือจะแสดงให้เห็นว่า
00:37:22 → 00:37:24 ยิ่งมีไมเกรนกำเริบ
00:37:24 → 00:37:28 เท่าไหร่นะคะไอ้วงจรของสมองที่มันถูก
00:37:28 → 00:37:31 กระตุ้นเมื่อกี้ค่ะมีการหลั่งสารต่างส่ง
00:37:31 → 00:37:33 สัญญาณประสาทต่างๆไปยังสมองส่วนต่างๆ
00:37:33 → 00:37:37 เนี่ยมันก็เกิดถี่ขึ้นฉี่ขึ้นบ่อยขึ้นนะ
00:37:37 → 00:37:40 คะยิ่งไมเกรนกำเริบกำเริบกำเริบกำเริบก็
00:37:40 → 00:37:43 จะยิ่งทำให้วงจรเนี่ยมันไวมากๆจนสุดท้าย
00:37:43 → 00:37:45 อ่ะค่ะหมอก็จะเจอคนไข้ไมเกรนที่แบบโดย
00:37:45 → 00:37:47 เฉพาะเป็นมานานนะคะเป็นมาสัก 10 ปีอย่าง
00:37:47 → 00:37:50 เงี้ยค่ะปวดทุกวันละเขาก็จะบอกว่าไม่ต้อง
00:37:50 → 00:37:53 มีตัวการ์ตูนอะไรอีกต่อไปล่ะค่ะแบบอยู่ดี
00:37:53 → 00:37:55 ๆก็คือตื่นมาปวดหัวเลยนะคะหรือช่วงนี้ก็
00:37:55 → 00:37:57 ไม่ได้เครียดนะแต่ก็ยังมีอาการปวดหัวทุก
00:37:57 → 00:38:00 วันได้นะคะเพราะว่าตรงเนี้ยเราเรียกว่า
00:38:00 → 00:38:03 มันเหมือนสมองของเรานะคะอยู่ในภาวะที่มัน
00:38:03 → 00:38:06 มีภาวะที่พร้อมจะถูกกระตุ้นตลอดเวลาแรกๆ
00:38:06 → 00:38:08 เนี่ยที่คนที่เป็นไมเกรนนานๆทีเป็นที
00:38:08 → 00:38:11 เนี่ยเราก็จะเรียกว่าเหมือนแบบต้องมีตัว
00:38:11 → 00:38:15 กระตุ้นก่อนก็ค่อยมีอาการไมเกรนนะคะคนไข้
00:38:15 → 00:38:16 กลุ่มนี้เราจะเรียกว่า epsonic ไมเกรนก็
00:38:16 → 00:38:19 คือเป็นไมเกรนค้างคาวเรามีตัวกระตุ้น
00:38:19 → 00:38:21 ไมเกรนมาเรามีตัวกระตุ้นไมเกรนมานะคะซึ่ง
00:38:21 → 00:38:24 คำว่าไมเกรนค้างคาวเป็นครั้งคราวเนี่ยเรา
00:38:24 → 00:38:27 ก็จะเอาว่าแบบไม่ปวดไม่เกินประมาณซัก 15
00:38:27 → 00:38:30 วันต่อเดือนนะคะแต่ว่าของหมอจริงๆเลย
00:38:30 → 00:38:33 เนี่ยคือหมอไม่ได้ดูตามตัวเลขเป๊ะๆอ่ะค่ะ
00:38:33 → 00:38:35 ส่วนใหญ่หมอก็จะดูว่าคนไข้เนี่ยเริ่มมี
00:38:36 → 00:38:38 อาการถี่แล้วหรือยังหรือว่าอาการไมเกรน
00:38:39 → 00:38:41 นั้นเนี่ยมันเริ่มแบบรบกวนการทำงานของ
00:38:41 → 00:38:43 ชีวิตเขาหรือยังหรือเขาไวต่อตัวกระตุ้น
00:38:43 → 00:38:46 มากๆแล้วหรือยังเพราะคนที่เป็นเป็นไมเกรน
00:38:46 → 00:38:48 ค้างคาวจริงๆนะคะที่เป็นอีกกลุ่ม epsonic
00:38:48 → 00:38:50 ในเกมจริงๆเขาจะรู้ว่ามันต้องมีตัว
00:38:50 → 00:38:52 กระตุ้นก่อนแล้วเดี๋ยวมันค่อยมาเช่นประจำ
00:38:52 → 00:38:55 เดือนจะมาอ่ะแล้วก็ค่อยมาอาจจะเดือนละ
00:38:55 → 00:38:57 ครั้งสองครั้งหรือช่วงนี้งานเยอะช่วงนี้
00:38:57 → 00:39:01 นอนดึกอ่ะแบบปวดหัวนะคะแต่คนที่กลุ่มที่
00:39:01 → 00:39:04 เป็นอ่า Episode อีกในหนึ่งในครั้งคราว
00:39:04 → 00:39:06 เนี่ยพอถูกกระตุ้นบ่อยขึ้นบ่อยขึ้นบ่อย
00:39:06 → 00:39:09 กับภาพนี้ค่ะที่วงจรของสมองมันเกิดการ
00:39:09 → 00:39:12 เปลี่ยนแปลงไปจนไวต่อความถูกกระตุ้นมากๆ
00:39:12 → 00:39:15 แล้วเนี่ยเขาจะกลายเป็นสู่ภาวะไมเกรน
00:39:15 → 00:39:19 เรื้อรังนะคะถ้าตามการแพทย์จริงๆก็คือเอา
00:39:19 → 00:39:21 เกิน 15 วันต่อเดือนนะคะแต่จริงๆประมาณ
00:39:21 → 00:39:23 สักเกิน 10 วันต่อเดือนบอกว่าคนไข้ก็
00:39:23 → 00:39:27 เริ่มไวไวแบบต่อการอาการปวดหัวมากๆแล้ว
00:39:27 → 00:39:31 เขาพบว่าคนไข้ที่เป็นไมเกรนค้างคาวนะคะ
00:39:31 → 00:39:34 ถ้าปล่อยให้ตัวกระตุ้นหรือเป็นบ่อยๆบ่อยๆ
00:39:34 → 00:39:36 ถิๆขึ้นเนี่ยเกิดการเปลี่ยนแปลงของสมอง
00:39:36 → 00:39:40 แล้วเนี่ยประมาณสัก 3-5% ต่อปีค่ะจะกลาย
00:39:40 → 00:39:43 เป็นในกลุ่มไมเกรนามซึ่งกลุ่มไมเกรน
00:39:43 → 00:39:45 เรื้อรังเนี่ยก็เลยเป็นกลุ่มที่เหมือนไม่
00:39:45 → 00:39:47 ต้องมีตัวกระตุ้นใดๆอีกต่อไปเพราะว่าสมอง
00:39:47 → 00:39:50 เกิดความไวเกิดการเปลี่ยนแปลงจนมัน
00:39:50 → 00:39:53 sensitive มากนะคะหรือถ้ายิ่งมีตัว
00:39:53 → 00:39:55 กระตุ้นเพิ่มเข้ามาอีกเช่นเป็นไมเกรน
00:39:55 → 00:39:58 ประมาณ 20 วันต่อเดือนอยู่แล้วแต่ช่วงนี้
00:39:58 → 00:40:01 งานเยอะด้วยช่วงนี้นอนน้อยด้วยก็ยิ่งทำ
00:40:01 → 00:40:04 ให้มันไวขึ้นไวขึ้นไวขึ้นไปอีกนะคะนั่น
00:40:04 → 00:40:08 เป็นเหตุผลว่าทำไมมีคนไข้ไมเกรนถึงเป็น
00:40:08 → 00:40:11 โรคของสมองนะคะเพราะว่าถ้าเกิดสมมุติว่า
00:40:11 → 00:40:14 เราปล่อยให้คนไข้ที่ปวดค้างคาวเนี่ยปวด
00:40:14 → 00:40:16 มากขึ้นเรื่อยๆๆจนเป็นไมเกรนเรื้อรังไป
00:40:16 → 00:40:20 แล้วอ่ะค่ะอันนี้ถ้าไม่รักษานะคะคนไข้จะ
00:40:20 → 00:40:23 ไม่สามารถกลับไปสู่ภาวะไม่เกรงครั้งคราว
00:40:23 → 00:40:26 ด้วยตัวเองอีกต่อไปละนะคะต่อให้แบบหันมา
00:40:26 → 00:40:29 ดูแลตัวเองเต็มที่ออกกำลังกายไม่อดนอน
00:40:29 → 00:40:33 แล้วนอนดึกนะคะแต่สมองมันมีความไวมากๆ
00:40:33 → 00:40:36 เนี่ยมันก็มักจะยังมีอาการปวดหัวได้อยู่
00:40:36 → 00:40:39 นะคะเนาะหรือโอเคถ้าบางคนที่ยังเป็นไม่
00:40:39 → 00:40:41 ได้ถี่มากหรือไม่ได้มีภาวะติดยาแก้ปวด
00:40:41 → 00:40:43 ร่วมด้วยเนี่ยบางทีพอเราเริ่มรู้ตัวแล้ว
00:40:43 → 00:40:46 ว่าเราเป็นกลุ่มที่เราเป็นไมเกรนที่มันไว
00:40:46 → 00:40:48 มากๆและเริ่มจะเป็นไมเกรนระยะเรื้อรัง
00:40:48 → 00:40:50 แล้วเนี่ยแล้วเรารีบดูแลตัวเองดีๆนะคะ
00:40:50 → 00:40:53 หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นดีๆนะคะมันสามารถ
00:40:53 → 00:40:56 กลับไปสู่ไมเกรนค้างคาวได้อยู่นะคะเนาะ
00:40:56 → 00:40:59 ฉะนั้นเนี่ยอันเนี้ยนะคะถ้าเกิดใครฟังนะ
00:40:59 → 00:41:02 คะหรือว่าเข้าใจมาถึงตรงนี้ได้นะคะจะรู้
00:41:02 → 00:41:06 ว่าไมเกรนทุกคนไม่ได้ต้องมาหาหมอนะคะเนาะ
00:41:06 → 00:41:08 เป็นโรคอื่นๆเลยนะคะอย่างเช่นบางคนที่
00:41:08 → 00:41:12 เริ่มมีเบาหวานหรือว่าเริ่มมีความดัน
00:41:12 → 00:41:14 โลหิตสูงใช่ไหมคะช่วงแรกสมมุติว่าความดัน
00:41:14 → 00:41:18 อาจจะ 130 บ้าง 140 บ้างทุกคนจะได้รับการ
00:41:18 → 00:41:21 บอกจากคุณหมอว่างั้นเนี่ยความดันเริ่ม
00:41:21 → 00:41:24 ขึ้นแล้วนะงั้นเอาไปดูแลตัวเองนะงดอาหาร
00:41:24 → 00:41:28 เค็มนะออกกำลังกายนะนะคะแต่วันนึงที่มัน
00:41:28 → 00:41:30 เป็นมากขึ้นมากขึ้นหลอดเลือดแข็งตัวมาก
00:41:30 → 00:41:32 ขึ้นจนกลายเป็นความดันแบบสูงตลอดเวลา
00:41:32 → 00:41:34 อย่างเงี้ยค่ะอันนั้นก็ต้องกินยารักษา
00:41:34 → 00:41:37 แล้วนะคะเหมือนกับไมเกรนเลยค่ะด้วยความ
00:41:37 → 00:41:39 ที่ไมเกรนก็เป็นโรคทางสมองโล่งนึงใช่ไหม
00:41:39 → 00:41:42 คะเนื้อคนไข้ไมเกรนที่เป็นระยะเริ่มแรก
00:41:42 → 00:41:46 โดยเฉพาะประมาณส่วนใหญ่ประมาณ 2-3 ปีแรก
00:41:46 → 00:41:47 ของการเป็นไมเกรนนะคะกลุ่มนี้จะยังไม่
00:41:47 → 00:41:50 ค่อยมาหาหมอเนื่องจากว่ามักจะยังเป็นแค่
00:41:50 → 00:41:53 เป็นไมเกรนครั้งคราวอยู่ต้องมีตัวกระตุ้น
00:41:53 → 00:41:56 แล้วค่อยไมเกรนมานะคะซึ่งกลุ่มนี้นะคะเรา
00:41:56 → 00:41:58 จะยังไม่ต้องมาพบแพทย์ก็ได้นะคะส่วนใหญ่
00:41:58 → 00:42:00 แล้วก็คือให้เราเริ่มดูแล้วแหละว่า 1 เรา
00:42:00 → 00:42:02 มีไมเกรนนะแล้วเราต้องเริ่มดูแลตัวเอง
00:42:02 → 00:42:05 แล้วเพราะถ้าเกิดเราปล่อยให้ไม่เกมมัน
00:42:05 → 00:42:08 กำเริบบ่อยขึ้นไปเรื่อยๆวันนึงเราอาจจะ
00:42:08 → 00:42:10 กลายเป็นไมเกรนเรื้อรังได้นะคะเพราะ
00:42:10 → 00:42:12 ฉะนั้นกลุ่มนี้นะคะก็ต้องเริ่มดูแลตัวเอง
00:42:12 → 00:42:15 อย่าอดนอนอย่านอนดึกจนเกินไปออกกำลังกาย
00:42:15 → 00:42:17 ให้สม่ำเสมอหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นไมเกรน
00:42:17 → 00:42:19 อาหารที่ทำให้เรากระตุ้นไมเกรนนะคะและ
00:42:19 → 00:42:22 เมื่อมีอาการไมเกรนกำเริบขึ้นมานึกภาพนะ
00:42:22 → 00:42:26 คะรีบระงับให้เร็วที่สุดแต่เมื่อไรที่ใช้
00:42:26 → 00:42:29 ยาเริ่มบ่อยนะคะส่วนใหญ่หมอก็บอกว่าแผง
00:42:29 → 00:42:30 นึง 10 เม็ดเนี่ยเมื่อไรที่เริ่มใช้เกิน
00:42:30 → 00:42:34 เดือนละแผงต้องรีบลงมัดระวังและว่าเราอาจ
00:42:34 → 00:42:36 จะเริ่มกลายเป็นสูงไมเกรนเรื้อรังแล้วนะ
00:42:36 → 00:42:40 ก็ต้องรีบมาพบหมอนะคะส่วนใครที่กลายเป็น
00:42:40 → 00:42:42 กลุ่มไมเกรนเรื้อรังแล้วนะคะก็คือปวดเกิน
00:42:42 → 00:42:45 ประมาณ 15 วันต่อเดือนแน่ๆนะคะหรือมีการ
00:42:45 → 00:42:48 ใช้ยาแก้ปวดเกินประมาณ 15 เม็ดต่อเดือน
00:42:48 → 00:42:50 10-15 เม็ดต่อเดือนแล้วแต่ชั้นนี้เนี่ย
00:42:50 → 00:42:52 อันนี้ก็ถือว่าเป็นไมเกรนเรื้อรังละนะคะ
00:42:52 → 00:42:55 ก็เป็นกลุ่มที่มันมีการเปลี่ยนแปลงของ
00:42:55 → 00:42:57 เซลล์สมองหรือว่าสมองมันถูกไวกับการ
00:42:57 → 00:42:59 กระตุ้นมากๆแล้วนะคะกลุ่มนี้ต้องมารักษา
00:42:59 → 00:43:03 นะคะเพื่อให้ความไวของสมองลดลงไม่ถูก
00:43:03 → 00:43:06 กระตุ้นได้ง่ายและกลับกลายเป็นบริเวณ
00:43:06 → 00:43:09 ค้างคาวนะคะเนาะอันนี้ก็จะเป็นการตอบคำ
00:43:09 → 00:43:12 ถามด้วยค่ะหลายๆคนที่ชอบถามว่าเป็นไมเกรน
00:43:12 → 00:43:16 แล้วหายได้ไหมหายขาดได้ไหมนะคะถ้าเข้าใจ
00:43:16 → 00:43:20 ตรงนี้เราก็จะเข้าใจคำตอบตรงนี้เลยคำตอบ
00:43:20 → 00:43:23 ตรงนี้เลยนะคะก็คือสมมุติว่าคนไข้ไมเกรน
00:43:23 → 00:43:26 เรื้อรังมาหาหมอแล้วถามว่าหายได้ไหมหมอจะ
00:43:26 → 00:43:29 บอกว่าก็ตอนนี้คือเรามีภาวะโรคที่มัน
00:43:29 → 00:43:32 กำเริบเยอะมากนะคะก็คือ Active มากแล้วไว
00:43:32 → 00:43:34 ต่อตัวกระตุ้นมากๆเพราะฉะนั้นวัตถุ
00:43:34 → 00:43:37 ประสงค์ของการรักษาตอนนี้คือทำยังไงก็ได้
00:43:37 → 00:43:40 ให้เรากลับไปสู่เป็นไมเกรนครั้งคราวเป็น
00:43:40 → 00:43:43 ไมเกรนชั่วครั้งชั่วคราวพออย่าเป็นไมเกรน
00:43:43 → 00:43:46 ทุกวันต้องเลิกยาแก้ปวดให้ได้ไม่ติดยาแก้
00:43:46 → 00:43:50 ปวดนะคะแล้วกลับไปสู่การดูแลตัวเองนะคะ
00:43:50 → 00:43:53 ปฏิบัติการปฏิบัติตัวอะไรต่างๆนะคะถ้าเรา
00:43:53 → 00:43:56 ย้อนกลับไปสู่จากความรักในเกมและกำลัง
00:43:56 → 00:43:59 กลับไปสู่ไมเกรนที่นานๆทีเป็นทีได้เราก็
00:43:59 → 00:44:03 จะไม่ได้ไวต่อการปวดหัวมากนะคะถามว่าหาย
00:44:03 → 00:44:06 ขาดไหมจริงๆแล้วไมเกรนอย่างถ้าเข้าใจก็
00:44:06 → 00:44:09 ตัดคลิปแรกตอนแรกเริ่มเลยมันมีปัจจัย
00:44:09 → 00:44:10 เรื่องของพันธุกรรมมาเกี่ยวข้องหรือว่า
00:44:10 → 00:44:14 การทำงานของช่องในสถานศึกษาสมองของคนนั้น
00:44:14 → 00:44:17 ที่มันผิดปกติเพราะฉะนั้นเนี่ยถามว่าคนๆ
00:44:18 → 00:44:21 นั้นก็อาจจะยังมีคำว่าไมเกรนติดตัวไว้
00:44:21 → 00:44:25 อยู่เมื่อไรที่ไปตากแดดมากๆอดนอนเครียด
00:44:25 → 00:44:28 จัดก็อาจจะยังมีอาการปวดหัวอยู่ได้บ้าง
00:44:28 → 00:44:31 เนาะเหมือนคนไข้แบบโรคภูมิแพ้อย่างนี้ค่ะ
00:44:31 → 00:44:33 ถามว่าแบบเป็นภูมิแพ้ต้องเป็นภูมิแพ้ตลอด
00:44:33 → 00:44:36 เวลาไหมไม่ใช่เป็นภูมิแพ้อาจจะมีช่วงที่
00:44:36 → 00:44:40 ภูมิแพ้กำเริบมากๆเลยแล้วก็รักษาดีขึ้นจน
00:44:40 → 00:44:43 หายไปหายไปหลายๆปีเลยก็ได้นะคะวันนึงฝุ่น
00:44:43 → 00:44:46 เยอะมาก PM 2.5 มาเขาก็อาจจะมีความ
00:44:46 → 00:44:48 เสี่ยงที่อาจจะเกิดอาการกำเริบกลับมาใหม่
00:44:48 → 00:44:51 ได้ไมเกรนก็เช่นเดียวกันค่ะถ้าตอนที่มัน
00:44:51 → 00:44:52 เป็นไมเกรนเรื้อรังหรือว่าเป็นไมเกรน
00:44:52 → 00:44:55 Active มากๆเนี่ยคนไข้ใช้ชีวิตไม่ได้
00:44:55 → 00:44:58 อยู่ไม่ได้ทำงานไม่ได้มีปัญหากับคนรอบ
00:44:58 → 00:45:01 ข้างแน่นอนเพราะว่าอาการปวดหัวมันจะเป็น
00:45:01 → 00:45:04 แทบตลอดเวลาแล้วถ้าเรารู้ว่าระยะปวดหัว
00:45:04 → 00:46:06 มันไม่ใช่แค่ปวดหัวค่ะเพราะ
00:46:06 → 00:46:09 ตรงนี้นะคะภาพนี้เลยก็เลยเป็นการอธิบาย
00:46:09 → 00:46:12 ให้คนเข้าใจเหมือนกันว่าอ๋อก็ในเมื่อถ้า
00:46:12 → 00:46:14 สมมุติว่าเรารักษาแล้วนะคะสมมุติว่าหมอ
00:46:14 → 00:46:17 รักษาคนไข้แล้วกลับไปสู่เป็นไมเกรนชั่ว
00:46:17 → 00:46:19 ครั้งชั่วคราวและนานๆทีเป็นทีแต่ถ้าเรา
00:46:19 → 00:46:23 อ่ะค่ะเอาตัวเองหรือว่าใช้ชีวิตแบบที่มัน
00:46:23 → 00:46:26 เสี่ยงต่อภาวะที่มันเกิดโหลดมากๆนะคะ
00:46:26 → 00:46:28 stress มากๆความเครียดมากๆเช่นแบบว่า
00:46:28 → 00:46:33 อุ๊ยพอหายปวดหัวงั้นทำงานถึงตี 3 กลับไป
00:46:33 → 00:46:35 กินสมมุติบางคนกลับไปดื่มแอลกอฮอล์หรือ
00:46:35 → 00:46:38 ว่ากินอาหารที่มันกลับมากระตุ้นใหม่เจอ
00:46:38 → 00:46:41 ความเครียดเยอะๆคิดเยอะไม่ค่อยออกกำลัง
00:46:41 → 00:46:44 กายก็สมองของเรามันก็อาจจะมีกลับไปเป็น
00:46:44 → 00:46:47 ไมเกรนที่ Active ได้อีกนะคะงั้นก็สุด
00:46:47 → 00:46:50 ท้ายก็คือการดูแลตัวเองก็คือสำคัญมากๆนะ
00:46:50 → 00:46:56 คะเนาะอันนี้นะคะเป็นเหมือนภาพสรุปนะคะ
00:46:56 → 00:46:59 ว่าคนๆนึงที่จากคนที่เขาเป็นไมเกรนชั่ว
00:46:59 → 00:47:03 ครั้งชั่วคราวตรงนี้เนี่ยค่ะทำยังไงเขามี
00:47:03 → 00:47:06 อะไรบ้างปัจจัยอะไรบ้างที่เขาจะกายเป็น
00:47:06 → 00:47:09 ไมเกรนเรื้อรังได้นะคะนี่เลยตั้งแต่อัน
00:47:09 → 00:47:12 แรกนะคะก็คือกำเริบบ่อยนะคะยิ่งกำเริบ
00:47:12 → 00:47:15 บ่อยเท่าไหร่สมองก็ถูกกระตุ้นแล้วก็จะ
00:47:15 → 00:47:17 ยิ่งไวต่อการกระตุ้นมากขึ้นนะคะเนาะ
00:47:17 → 00:47:21 เหมือนไฟช็อตเหมือนไฟช็อตเกิดไฟไหม้ยิ่ง
00:47:21 → 00:47:24 ทำให้ช็อตยิ่งไม่มันก็ยิ่งเสี่ยงต่อการ
00:47:24 → 00:47:27 เกิดไฟช็อตง่ายขึ้นเรื่อยๆนะคะและนอกจาก
00:47:27 → 00:47:29 ที่ไมเกรนกำเริบบ่อยขึ้นแล้วจะเกิดการ
00:47:29 → 00:47:31 เปลี่ยนแปลงของสมองที่มันไวต่อตัวการ์ตูน
00:47:31 → 00:47:34 มากขึ้นแล้วเนี่ยยังเสี่ยงต่อการใช้ยาแก้
00:47:34 → 00:47:37 ปวดเกินขนาดนะคะเพราะฉะนั้นคนที่ไมเกรน
00:47:37 → 00:47:39 โปรดกำเริบบ่อยมากๆอ่ะค่ะจะกลายเป็น
00:47:39 → 00:47:41 ไมเกรนเรื้อรังด้วย 2 เหตุผลหลักๆเลยอัน
00:47:41 → 00:47:43 แรกคือการกำเริบที่บ่อยขึ้นแล้วทำให้สมอง
00:47:43 → 00:47:46 เกิดการเปลี่ยนแปลงอันที่ 2 คือติดยาแก้
00:47:46 → 00:47:48 ปวดและมีภาวะปวดหัวจากยาแก้ปวดเยอะเกินไป
00:47:48 → 00:47:51 ด้วยนะคะส่วนปัจจัยอื่นๆเนี่ยก็จะเป็น
00:47:51 → 00:47:54 เรื่องของความเครียดการอดนอนนอนไม่พอนะคะ
00:47:54 → 00:47:56 ถ้าเป็นไมเกรนจะรู้เลยว่านอนดึกเมื่อไหร่
00:47:56 → 00:48:00 มานะคะหรืออีกอันนึงเลยที่เขาเจอร่วมกัน
00:48:00 → 00:48:04 นะคะเป็นเป็นเหมือนอีกภาวะนึงเลยที่
00:48:04 → 00:48:06 เสี่ยงต่อทำให้คนไข้ไมเกรนเป็นอาการเป็น
00:48:06 → 00:48:09 หนักคือภาวะน้ำหนักเกินค่ะซึ่งอันนี้หลาย
00:48:09 → 00:48:12 คนไม่รู้นะคะคนไข้ที่น้ำหนักตัวไม่มากนัก
00:48:12 → 00:48:15 เนี่ยมักจะไมเกรนกำเริบน้อยกว่าถ้าไม่ได้
00:48:15 → 00:48:17 มีปัจจัยกระตุ้นรุนแรงเมื่อเทียบกับคนไข้
00:48:17 → 00:48:19 ที่น้ำหนักตัวเกินนะคะเป็นอีกหนึ่งปัจจัย
00:48:19 → 00:48:21 ที่ทำให้ไมเกรนของเราถูกกระตุ้นได้ง่าย
00:48:21 → 00:48:24 ขึ้นนะคะเพราะส่วนใหญ่เวลาหมอก็จะแนะนำ
00:48:24 → 00:48:26 ให้ดูแลตัวเองนะเริ่มอาจจะต้องคุมอาหาร
00:48:26 → 00:48:30 ออกกำลังกายนอนให้พอกินน้ำให้เยอะ
00:48:30 → 00:48:32 พยายามควบคุมความเครียดตัวเองไม่ให้แบบ
00:48:32 → 00:48:34 เครียดหนักจนเกินไปเมื่อไหร่ที่รู้ว่าเรา
00:48:34 → 00:48:38 เริ่มมีภาวะเครียดมากๆและก็ต้องหาวิธีจัด
00:48:38 → 00:48:40 การปล่อยออกมาเพื่อให้ไมเกรนเราไม่ถูก
00:48:40 → 00:48:43 กำเริบนะคะเนาะแล้วก็อีกอันนึงเลยสุดท้าย
00:48:43 → 00:48:46 ที่เจอบ่อยมากๆเลยก็คือเรื่องของกล้าม
00:48:46 → 00:48:48 เนื้อนะคะกล้ามเนื้อตึงตัวอ่า
00:48:48 → 00:48:51 ไมโอซาเชลเพลสหรือที่คนรู้จักกันใน
00:48:51 → 00:48:54 ออฟฟิศซินโดรมเจอคู่กันบ่อยมากๆเลยค่ะ
00:48:54 → 00:48:56 แล้วก็เป็นสาเหตุที่กระตุ้นกันไปกระตุ้น
00:48:56 → 00:49:00 กันมานะคะคนไข้ไมเกรนเองเวลาปวดหัวจะมี
00:49:00 → 00:49:02 การหลั่งสารการอักเสบออกมาและทำให้กล้าม
00:49:02 → 00:49:05 เนื้อตึงคนไข้ไมเกรนเวลาปวดหัวจะรู้สึก
00:49:05 → 00:49:08 ว่า Office Snow กำเริบด้วยนะคะหรือหาย
00:49:08 → 00:49:10 ปวดหัวแล้วทำไมคอยังตึงอยู่เลยวันรุ่ง
00:49:10 → 00:49:13 ขึ้นก็เลยต้องไปนวดหรือว่าไปกายภาพต่อนะ
00:49:13 → 00:49:16 คะในขณะเดียวกันคนไข้ที่เป็นกล้าม
00:49:16 → 00:49:18 ออฟฟิศซินโดรมนานากล้ามเนื้อเกร็งมากๆนะ
00:49:18 → 00:49:22 คะพอเกร็งมามากๆเข้าก็กลายเป็นมากระตุ้น
00:49:22 → 00:49:24 ไม่เคลมได้เหมือนกันนะคะเพราะฉะนั้นก็ถ้า
00:49:24 → 00:49:27 เกิดใครที่มีทั้งไมเกรนด้วยมีทั้งปวด
00:49:27 → 00:49:29 กล้ามเนื้อกล้ามเนื้อตึงร่วมด้วยส่วนใหญ่
00:49:29 → 00:49:32 ต้องรักษาคู่กันไปนะคะเพื่อที่จะได้คุม
00:49:32 → 00:49:36 อาการไมเกรนของเราไม่ให้กำเริบนะคะเนาะ
00:49:36 → 00:49:43 โอเคก็คือวันนี้นะคะแบบเจาะลึกไมเกรนมากๆ
00:49:43 → 00:49:45 นะคะคือแบบหมอแบบอยากพูดเรื่องนี้มานาน
00:49:45 → 00:49:48 มากๆแล้วเพราะว่าส่วนใหญ่เนี่ยเวลาเจอคน
00:49:48 → 00:49:50 ไข้จริงๆนะที่เป็นคนไข้แบบคนไข้เรื้อรัง
00:49:50 → 00:49:54 และปวดแบบปวดแทบทุกวันนะคะหมอจะอธิบายภาพ
00:49:54 → 00:49:57 นี้ให้คนไข้ฟังนะคะเพื่อที่เขาจะได้เข้า
00:49:57 → 00:50:00 ใจก่อนว่า 1 เขาคือโรคนะคะเป็นโรคไมเกรน
00:50:00 → 00:50:02 ไม่ใช่แค่ไมเกรนที่เราคิดไปเองแล้วนะนะคะ
00:50:02 → 00:50:05 ว่าแบบเฮ้ยเครียดอดนอนแล้วไมเกรนมานะคะ
00:50:05 → 00:50:07 แต่มันคือโรคที่ต้องรักษาโรคนึงเหมือนคน
00:50:07 → 00:50:10 ไข้ความดันนะคะจุดนึงที่ความดัน 180 190
00:50:10 → 00:50:13 อ่ะคงไม่ออกกำลังกายอย่างเดียวและคงไม่
00:50:13 → 00:50:15 ได้แค่งดอาหารเค็มอย่างเดียวละก็คือต้อง
00:50:15 → 00:50:17 รักษานะคะไม่งั้นจะเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
00:50:17 → 00:50:20 ตามมาไมเกรนเองก็เช่นกันนะคะงั้นให้คนไข้
00:50:20 → 00:50:24 เห็นภาพนี้ว่าเขาคือโรคเรานะโรคโรคนึงที่
00:50:24 → 00:50:27 มัน Active มากๆกำเริบมากๆจนที่จะต้อง
00:50:27 → 00:50:31 รักษาแล้วนะคะเนาะแล้วก็ในขณะที่เอ่อถ้า
00:50:31 → 00:50:34 ใครที่ได้ฟังแต่ไม่ได้เป็นไมเกรย์นะคะอ่ะ
00:50:34 → 00:50:37 จะเข้าใจคนรอบตัวที่เป็นไมเกรนมากขึ้นนะ
00:50:37 → 00:50:41 คะว่าทำไมคนเป็นไมเกรนถึงถึงดูปวดหัวเยอะ
00:50:41 → 00:50:44 จังปวดได้ขนาดนั้นจริงๆหรอนะคะแบบหรือ
00:50:44 → 00:50:47 เอ๊ะทำไมหายปวดหัวแล้วแต่แต่ทำไมยังดูแบบ
00:50:47 → 00:50:50 ไม่ปกตินะคะก็จะได้เข้าใจได้มากขึ้นแล้ว
00:50:50 → 00:50:52 ก็ยิ่งร่วมกับถ้าเกิดสมมุติว่าใครมีคนใน
00:50:52 → 00:50:54 ครอบครัวเป็นไมเกรนเนี่ยก็อาจจะต้องดูแล
00:50:54 → 00:50:58 คอยสังเกตนะคะเรื่องของจิตใจด้วยว่าคนไข้
00:50:58 → 00:51:00 หรือว่าคนในครอบครัวเราที่เป็นไมเกรนหนัก
00:51:00 → 00:51:03 ๆเป็นมากๆเนี่ยเขาเริ่มมีเหมือนภาวะซึม
00:51:03 → 00:51:05 เศร้าภาวะวิตกกังวลหรือว่าภาวะอื่นๆร่วม
00:51:05 → 00:51:07 ด้วยแล้วหรือยังนะคะเพราะว่าถ้าเกิดเริ่ม
00:51:07 → 00:51:09 มีร่วมกันเนี่ยมันก็ต้องรักษาควบคู่กันไป
00:51:09 → 00:51:11 นะคะไมเกรนถึงจะดีขึ้นได้ไม่งั้นเนี่ย
00:51:12 → 00:51:14 เหมือนรักษาไมเกรนอย่างเดียวแต่ถ้ายังมี
00:51:14 → 00:51:16 วิตกกังวลหรือซึมเศร้าอยู่อ่ะค่ะสุดท้าย
00:51:16 → 00:51:19 ดอกไมเกรนก็จะกลับมากำเริบอีกเหมือนกันนะ
00:51:19 → 00:51:27 คะเนาะอ่าไหนดูซิว่ามีคำถามอะไรไหมนะคะ
00:51:27 → 00:52:38 โอเคสวัสดีค่ะ
00:52:38 → 00:52:42 นะคะกลไกของแมกนีเซียมแมกนีเซียมก็จะไปลด
00:52:42 → 00:52:45 สารสื่อประสาทบางตัวนะคะที่มันทำงานเยอะ
00:52:45 → 00:52:47 เกินไปนะเช่นอย่างเช่นพวก glutamate อะไร
00:52:47 → 00:52:50 อย่างนี้ค่ะทำให้สมองของเราเนี่ยไม่อยู่
00:52:50 → 00:52:53 ไม่เป็นภาวะที่ไวต่อตัวกระตุ้นมากจนเกิน
00:52:53 → 00:52:56 ไปนะคะแล้วก็ยังช่วยรักษาพวกเรื่องของ
00:52:56 → 00:52:58 อาการปวดกล้ามเนื้อหรืออะไรต่างๆที่มาจะ
00:52:58 → 00:53:00 เจอในเกณฑ์ร่วมด้วยได้นะคะนอกจาก
00:53:00 → 00:53:03 แมกนีเซียมก็ยังอาจจะมีสารอื่นๆนะคะที่มี
00:53:03 → 00:53:05 ข้อมูลว่าช่วยลดอาการไมเกรนได้อย่างเช่น
00:53:05 → 00:53:09 พวกโคเอนไซม์คิวเทนนะคะพวกปี 2 ปี 12 นะ
00:53:09 → 00:53:11 คะพวกนี้ค่ะก็จะมีข้อมูลมากกว่าหรือรวมไป
00:53:12 → 00:53:15 ถึงพวกถ้าเป็นแนวสมุนไพรก็จะเป็นพวกสาร
00:53:15 → 00:53:17 สกัดจากขิงอะไรเงี้ยค่ะก็จะมีข้อมูลมา
00:53:17 → 00:53:19 ช่วยลดไมเกรนกำเริบแล้วก็ลดความรุนแรง
00:53:19 → 00:53:21 หรือว่าลดอาการคลื่นไส้อาเจียนตอนไมเกรน
00:53:21 → 00:53:23 กำเริบได้นะคะ
00:53:23 → 00:53:26 กดขนาดก่อนจะมาจะมีประจำเดือนค่ะเป็นบ่อย
00:53:26 → 00:53:28 มากเลยค่ะอันนี้ต้องสังเกตนะคะก็คือว่า
00:53:28 → 00:53:32 ถ้าเกิดอ่าเป็นอาการปวดหัวในช่วงที่ใกล้ๆ
00:53:32 → 00:53:35 รอบเดือนจะมานะคะจะมีได้ 2 แบบเลยนะคะอัน
00:53:36 → 00:53:39 แรกคือก็เป็นอาการก่อนกลุ่มอาการก่อนมี
00:53:39 → 00:53:41 ประจำเดือนนะคะโดยที่เราเรียกว่า
00:53:41 → 00:53:44 pms นะคะเป็นพรีเมนโน
00:53:44 → 00:53:47 perryments นะคะก็คือเป็นกลุ่มอาการช่วง
00:53:47 → 00:53:51 ที่จะมีประจำเดือนตรงนี้อาการจะคล้ายๆ
00:53:51 → 00:53:54 โพโดมของไมเกรนได้เลยค่ะก็คือตั้งแต่ปวด
00:53:54 → 00:53:58 ตัวหิวบ่อยอารมณ์ไม่ดีหงุดหงิดง่ายนะคะคน
00:53:58 → 00:54:01 ส่วนใหญ่ผู้หญิงก่อนมีประจำเดือนก็จะ
00:54:01 → 00:54:03 เริ่มรู้แล้วว่าเมนจะมานะคะเนาะซึ่งตรง
00:54:03 → 00:54:05 นี้เนี่ยบางคนก็อาจจะมีอาการปวดหัวได้
00:54:05 → 00:54:08 เหมือนกันนะคะแต่ถ้ามันปวดปวดจนแบบปวดมาก
00:54:09 → 00:54:11 ๆปวดจนเหมือนหลอดเลือดเต้นปวดข้างเดียว
00:54:11 → 00:54:14 ปวดจนมีลักษณะอื่นๆของไมเกรนร่วมด้วยที่
00:54:14 → 00:54:17 บอกอาจจะมีออร่าหรือว่ามีคลื่นไส้อาเจียน
00:54:17 → 00:54:21 รู้สึกว่าตาสู้แสงไม่ได้หรือไม่อยากจะได้
00:54:21 → 00:54:24 ยินเสียงดังนะคะหรือว่าถ้าปวดขึ้นมาแล้ว
00:54:24 → 00:54:27 ต้องนอนพักนิ่งๆนอนครบเย็นแล้วรู้สึกดี
00:54:27 → 00:54:30 ขึ้นอันนั้นก็คืออาจจะเป็นกลุ่มปวดไมเกรน
00:54:30 → 00:54:33 ละนะคะก็คือเป็นไมเกรนที่สัมพันธ์กับช่วง
00:54:33 → 00:54:37 รอบเดือนนะคะซึ่งการรักษาก็จะต่างกันนะคะ
00:54:37 → 00:54:40 น้อยอย่างถ้าเป็นกลุ่มอาการ pms ก่อนมี
00:54:40 → 00:54:42 ประจำเดือนอย่างเดียวค่ะเราก็อาจจะป้อง
00:54:42 → 00:54:45 กันโดยการแบบพอรู้ว่าเมนส์จะมาปวดเริ่ม
00:54:45 → 00:54:47 ปวดหัวละหนึ่งต้องกินน้ำให้เยอะนะคะเพราะ
00:54:47 → 00:54:50 ว่าผู้หญิงก่อนประจำเดือนจะมาต้องการน้ำ
00:54:50 → 00:54:53 ที่เยอะมากขึ้นนะคะนอนให้พออย่าอดนอนนะคะ
00:54:53 → 00:54:55 แมกนีเซียมก็อาจจะช่วยได้นะคะเนาะแต่ถ้า
00:54:55 → 00:54:58 เกิดเป็นกลุ่มปวดหัวไมเกรนช่วงมีประจำ
00:54:58 → 00:55:00 เดือนที่เกิดจากการฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงและ
00:55:00 → 00:55:03 และเป็นบ่อยเป็นรุนแรงอันนี้อาจจะต้อง
00:55:03 → 00:55:05 รักษาโดยการรักษาเหมือนรักษาไมเกรนใช้ยา
00:55:06 → 00:55:10 ป้องกันหรือวิธีอื่นๆต่อไปนะคะ
00:55:10 → 00:55:14 อยากให้คุณหมอแนะนำวิธีถอนยาแก้ปวดหน่อย
00:55:14 → 00:55:17 ค่ะคุณกิ๊กบอกนะคะเอ่อจริงๆแล้วนะคะถ้า
00:55:17 → 00:55:20 เกิดคนไข้มีภาวะติดยาแก้ปวดหรือว่าปวดหัว
00:55:20 → 00:55:24 จากยาแก้ปวดแล้วนะคะการรักษาที่ดีที่สุด
00:55:24 → 00:55:27 นะคะก็คือต้องหยุดยาแก้ปวดนะคะก็คือตรงไป
00:55:27 → 00:55:29 ตรงมาเลยเนาะเหมือนติดเหล้าก็ต้องถอดเรา
00:55:29 → 00:55:32 ติดบุหรี่ต้องถอนบุหรี่นะคะติดยาแก้ปวดก็
00:55:32 → 00:55:36 ต้องถอนยาแก้ปวดนะคะซึ่งตรงนี้เนี่ยเอ่อ
00:55:36 → 00:55:39 คนไข้นะคะถ้าเป็นคนไข้ในเกณฑ์จริงๆแล้วมี
00:55:39 → 00:55:43 ภาวะติดยาแก้ปวดนะคะ
00:55:43 → 00:55:49 ถ้าถ้าเอาผักดิบก็คือคนถ้าตามแบบตามในเขา
00:55:49 → 00:55:52 เรียกอะไรตามในแนวทฤษฎีเขาบอกให้หักดิบ
00:55:52 → 00:55:54 หักดิบก็คือต้องหยุดการใช้ยาแก้ปวดเลยนะ
00:55:54 → 00:55:58 คะคนไข้จะมี
00:55:58 → 00:56:01 deproundhs ก็คือปวดหัวมากขึ้นกับมาใน
00:56:01 → 00:56:04 ช่วงแรกคือบางคนถึงกับแบบพอสมมติว่ากินยา
00:56:04 → 00:56:06 รู้ว่ารู้ตัวแล้วว่าติดยาแก้ปวดกินยาแก้
00:56:06 → 00:56:09 ปวดเยอะนะคะก็คือหักดิบนะคะคนไข้ก็จะแบบ
00:56:09 → 00:56:12 ทุรนโทไลปวดหัวมากขึ้นอาเจียนมากขึ้นนะคะ
00:56:12 → 00:56:15 หลักการเหมือนกับถอนอื่นๆเหมือนกันค่ะ
00:56:15 → 00:56:17 เช่นสมมุติว่าคนติดเหล้าเราถอนเหล้าค่ะ
00:56:17 → 00:56:19 วันแรกๆก็คือแบบอาจจะแบบมีอาการเยอะมาก
00:56:19 → 00:56:21 ขึ้นกระสับกระส่ายจนชักได้เลยไมเกรนก็
00:56:21 → 00:56:23 เหมือนกันถ้าติดยาแก้ปวดแล้วอยู่ดีๆเราไป
00:56:23 → 00:56:25 หยุดเลยนะคะคนไข้เราจะมีอาการปวดหัวมาก
00:56:25 → 00:56:28 ขึ้นนะคะแล้วก็อาการปวดหัวก็จะรุนแรงมาก
00:56:28 → 00:56:31 เพราะฉะนั้นถ้าเป็นกลุ่มที่หักดิบบางเคส
00:56:31 → 00:56:34 นะคะอาจจะจำเป็นต้องทำในโรงพยาบาลก็คือ
00:56:34 → 00:56:37 ต้องนอนโรงพยาบาลเลยค่ะถอดยาแก้ปวดแล้ว
00:56:37 → 00:56:40 ถ้ามีอาการกำเริบใช้ยาฉีดหรือว่ายาแก้
00:56:40 → 00:56:41 อาเจียนหรือว่ายาประคับประคองอะไรก็แล้ว
00:56:41 → 00:56:45 แต่นะคะหรืออีกวิธีหนึ่งที่ส่วนใหญ่หมอ
00:56:45 → 00:56:48 อาจจะชอบใช้มากกว่านะคะก็คือ
00:56:48 → 00:56:50 แต่อันนี้เป็นเป็นจากประสบการณ์ส่วนตัว
00:56:50 → 00:56:54 แล้วนะคะก็คือต้องให้ยาป้องกันไมเกรนเข้า
00:56:54 → 00:56:57 ไปก่อนนะคะคนไข้มีติดยาแก้ปวดเราต้องให้
00:56:57 → 00:56:59 ยาป้องกันไมเกรนเข้าไปก่อนเพื่อเป็นรส
00:56:59 → 00:57:03 ภาวะความไวของสมองเมื่อกี้ค่ะภาวะที่สมอง
00:57:03 → 00:57:05 มันถูกไวตัวต่อตัวกระตุ้นมากๆนะคะหรือว่า
00:57:05 → 00:57:08 สารสื่อประสาทบางตัวคือเราเข้าไปควบคุม
00:57:08 → 00:57:11 ให้ได้ก่อนในระดับหนึ่งนะคะและในขณะเดียว
00:57:11 → 00:57:14 กันก็คือต้องลดการใช้ยาแก้ปวดไปด้วยนะคะ
00:57:14 → 00:57:19 ส่วนใหญ่ถ้าทำแบบนี้คนไข้มักจะพอทนไหวไม่
00:57:19 → 00:57:22 ถึงกับขั้นต้องแบบโหนอนโรงพยาบาลปวดหัว
00:57:22 → 00:57:26 มากขึ้นนะคะแล้วก็อ่าแต่ๆอันเนี้ยคนไข้จะ
00:57:26 → 00:57:29 ต้องร่วมมือหรือเข้าใจกลไกหรือว่าเข้าใจ
00:57:29 → 00:57:31 ว่าเออเรากำลังรักษาภาวะติดยาแก้ปวดอยู่
00:57:31 → 00:57:34 นะเพราะฉะนั้นเนี่ยสุดท้ายท้ายที่สุดเรา
00:57:34 → 00:57:37 จะต้องใช้ยาแก้ปวดให้ไม่เกินขนาดใช้ให้
00:57:37 → 00:57:39 น้อยที่สุดนะคะแต่จะมีกลุ่มนึงนะคะที่
00:57:39 → 00:57:42 เหมือนแบบว่าพอให้ยาป้องกันไปแล้วอ่ะค่ะ
00:57:42 → 00:57:45 ให้ไปแล้วก็จริงอ่ะค่ะแต่ว่าคนไข้อ่ะไม่
00:57:45 → 00:57:48 กล้าลดยาแก้ปวดด้วยความที่แบบคือวันนี้
00:57:48 → 00:57:51 เขาอยู่กับมันมา 20-30 ปีค่ะแบบกินยาแก้
00:57:51 → 00:57:54 ปวดก็กินทุกวันแบบตื่นมาก็คือกินเลยเม็ด
00:57:54 → 00:57:56 นึงทุกวันกินมาทำแบบนี้มา 20 ปีแล้วอ่ะ
00:57:56 → 00:57:59 แล้วอยู่ดีๆวันนึงก็คือแบบพอให้ยาป้องกัน
00:57:59 → 00:58:01 แล้วก็บอกเขาว่าอ่าไมเกรน่าจะคุมได้แล้ว
00:58:01 → 00:58:03 งั้นลองหยุดคือคนไข้ไม่กล้าอ่ะค่ะเหมือน
00:58:03 → 00:58:06 แบบกลัวว่ามันจะปวดเยอะอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:58:06 → 00:58:09 ซึ่งกลุ่มนี้สุดท้ายก็คือต้องก็ต้องให้
00:58:09 → 00:58:11 ความหนักแน่นแล้วก็ให้ความมั่นใจกับคนไข้
00:58:11 → 00:58:12 ว่าก็ต้องหยุดให้ได้นะเพราะว่าเมื่อไหร่
00:58:12 → 00:58:15 ที่ยังใช้ยาแก้ปวดเยอะไอ้ที่เรารักษากัน
00:58:15 → 00:58:18 ไปมันก็เหมือนวงจรมันวนเวียนน่ะค่ะจากที่
00:58:18 → 00:58:20 เราพยายามจะทำให้แบบไมเกรนกลับไปเป็น
00:58:20 → 00:58:22 ไมเกรนไม่กำเริบอ่ะเดี๋ยวพอใช้ยาแก้ปวด
00:58:22 → 00:58:24 เยอะเดี๋ยวมันก็กลับมาใหม่นะคะเนาะเพราะ
00:58:24 → 00:58:28 ฉะนั้นวิธีการการรักษาการใช้ยามันหลาก
00:58:28 → 00:58:30 หลายขึ้นกับอาการของแต่ละคนแล้วก็ขึ้นของ
00:58:30 → 00:58:33 ปัจจัยแต่ละคนด้วยเช่นแบบคนไข้ยังทำงาน
00:58:33 → 00:58:34 อยู่หรือเปล่าอายุเท่าไหร่อะไรอย่างเงี้ย
00:58:34 → 00:58:36 ค่ะเพราะว่าตอนที่เราถอนยาแก้ปวดเนี่ย
00:58:36 → 00:58:38 อาการของแต่ละคนก็อาจจะไม่เหมือนกันนะคะ
00:58:38 → 00:58:41 ถ้ารู้สึกว่ามีภาวะติดยาแก้ปวดอยู่อาจจะ
00:58:41 → 00:58:44 ต้องปรึกษาคุณหมอดีกว่านะคะเนาะ
00:58:44 → 00:58:48 ฉีดยาคุม dmpa ทุกๆ 3 เดือนระยะยาวมีผลทำ
00:58:48 → 00:58:50 ให้ปวดหัวบ่อยขึ้นไหมคะจริงๆตัวยาฉีดไม่
00:58:51 → 00:58:55 ค่อยมีผลนะคะถ้าเป็นไมเกรนที่สัมพันธ์กับ
00:58:55 → 00:58:58 รอบประจำเดือนเนี่ยตัวที่เวลาทำให้ไมเกรน
00:58:58 → 00:59:00 กำเริบมากๆคือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนนะ
00:59:00 → 00:59:03 คะโดยเฉพาะเอสโตรเจนนะคะตอนที่ประจำเดือน
00:59:03 → 00:59:05 จะมาจะมีการเปลี่ยนแปลงแล้วช่วงที่
00:59:05 → 00:59:09 เอสโตรเจนมันระดับมันลงเร็วมากๆบางทีมัน
00:59:09 → 00:59:11 อาจจะทำให้แบบลึกขึ้นลงเร็วมากๆเนี่ยมัน
00:59:11 → 00:59:13 ทำให้คนไข้เกิดอาการกระตุ้นอาการปวดหัว
00:59:13 → 00:59:16 ขึ้นมานะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยยาคุมแบบฉีด
00:59:16 → 00:59:18 ส่วนใหญ่เป็น
00:59:18 → 00:59:22 โปรเจสเทอโรนนะคะเท่าที่เจอคนไข้มักจะไม่
00:59:22 → 00:59:25 ค่อยมีผลกับอาการปวดไมเกรนมากนักนะคะแต่
00:59:25 → 00:59:27 ถ้าเป็นยาคุมแบบชนิดรับประทานนะคะที่มี
00:59:27 → 00:59:29 เอสโตรเจนเป็นส่วนประกอบด้วยอันนี้อาจจะ
00:59:29 → 00:59:32 มีบางคนกระตุ้นอาการปวดหัวได้นะคะ
00:59:32 → 00:59:37 อยากได้ชื่อยาไมเกรนค่ะอันนี้อ่ามีหลาย
00:59:37 → 00:59:41 แบบเลยนะคะแต่ว่าอ่าอยากอ่าเดี๋ยวเดี๋ยว
00:59:41 → 00:59:43 หมาแปะลิงก์ไว้ให้นะคะคุณอมรัตน์ก็คือหมอ
00:59:43 → 00:59:48 เคยไลฟ์เรื่องคลิปยาวจัดเต็มยาไมเกรน 2
00:59:48 → 00:59:51 ชั่วโมง 2 ชั่วโมงนานมากแต่ว่าในนั้นก็
00:59:51 → 00:59:53 คือจะประกอบไปด้วยตั้งแต่ยาแก้ปวดเลยนะคะ
00:59:54 → 00:59:56 ว่ายาที่เรากินอยากให้เช็คว่ายาที่เรากิน
00:59:56 → 00:59:59 อยู่เรากินตัวไหนข้อเสียที่ต้องระวังของ
00:59:59 → 01:00:02 ระวังของแต่ละตัวมีอะไรบ้างนะคะส่วนใน
01:00:02 → 01:00:04 ส่วนของที่เป็นพาร์ทยาต้องการอันนี้ไม่
01:00:04 → 01:00:06 คืออยากให้ฟังอยากให้รู้ว่ามันมียารักษา
01:00:06 → 01:00:10 มียาอะไรบ้างและจะต้องทำยังไงบ้างแต่ยา
01:00:10 → 01:00:13 ป้องกันนะคะใครที่ฟังคลิปนี้อยู่แล้วก็
01:00:13 → 01:00:16 คลิปนู้นด้วยนะคะหมอไม่แนะนำให้ไปซื้อยา
01:00:16 → 01:00:19 ทานเองนะคะเพราะมันเหมือนเรารักษาโรคเอง
01:00:19 → 01:00:22 อ่ะค่ะเหมือนคนไข้สมมุติเราเป็นเบาหวาน
01:00:22 → 01:00:24 เนาะเราก็รู้แหละว่าเบาหวานต้องกินยาตัว
01:00:24 → 01:00:27 เนี้ยแต่ก็คงไม่มีใครที่แบบไปซื้อยาตัว
01:00:27 → 01:00:31 นี้มาทานเองโดยที่ไม่ไปหาคุณหมอนะคะบางที
01:00:31 → 01:00:33 คนไข้รู้สึกว่ามันเป็นโรคปวดหัวที่แบบ
01:00:33 → 01:00:36 เอ้ยคงไม่มีอะไรมั้งนะคะแล้วบางทีแบบเอ้ย
01:00:36 → 01:00:39 เห็นคนนี้กินตัวนี้แล้วดีเราเลยลองไปซื้อ
01:00:39 → 01:00:41 มาทานได้แต่จริงๆไม่แนะนำนะคะเพราะว่าแต่
01:00:41 → 01:00:44 ละคนเนี่ยอาจจะต้องใช้ยาในการรักษาการ
01:00:44 → 01:00:48 ป้องกันที่แตกต่างกันไปตามภาวะโรคร่วม
01:00:48 → 01:00:51 อื่นๆนะคะเช่นบางคนมีความดันร่วมด้วยบาง
01:00:51 → 01:00:54 คนมีข้อห้ามของใช้ยาตัวนี้บางคนมีอาการ
01:00:54 → 01:00:56 อารมณ์ผิดปกติร่วมด้วยก็ควรจะใช้ตัวนี้
01:00:56 → 01:00:59 อะไรอย่างนี้ค่ะซึ่งอันนี้ให้คุณหมอนะคะ
01:00:59 → 01:01:02 ที่ดูแลเป็นคนพิจารณาน่าจะปลอดภัยกว่า
01:01:02 → 01:01:04 แล้วก็จะได้ติดตามด้วยว่ายาแต่ละตัวที่
01:01:04 → 01:01:06 เราทานเราต้องดูผลข้างเคียงเรื่องอะไร
01:01:06 → 01:01:09 บ้างนะคะลองฟังดูได้นะคะในคลิปนั้นนะคะ
01:01:09 → 01:01:13 เพื่อรู้เป็นข้อมูลไว้ว่าปัจจุบันการ
01:01:13 → 01:01:15 รักษาไมเกรนมันมีอะไรบ้างละนะคะเนาะแล้ว
01:01:15 → 01:01:19 ก็ถ้าเกิดมีอาการไมเกรนกำเริบบ่อยมากจริง
01:01:19 → 01:01:20 ๆหรือเป็นกลุ่มไมเกรนเรื้อรังก็แนะนำ
01:01:20 → 01:01:23 ปรึกษาแพทย์ก่อนดีกว่านะคะ
01:01:23 → 01:01:26 เอ่อกินยาไมเกรนทุกวันค่ะมียาป้องกันไหม
01:01:26 → 01:01:29 คะถ้ากินยาไมเกรนแก้ปวดทุกวันอันนี้ก็
01:01:29 → 01:01:30 เข้าข่ายแล้วนะคะว่าเป็นไมเกรนเรื้อรัง
01:01:30 → 01:01:33 หรือว่าเสี่ยงต่อการกิตติยาแก้ปวดแล้วก็
01:01:33 → 01:01:35 ต้องใช้ยาป้องกันนะคะเหมือนเมื่อกี้เลย
01:01:35 → 01:01:37 ค่ะถ้าใครเป็นกลุ่มนี้นะคะหมอแนะนำปรึกษา
01:01:37 → 01:01:40 คุณหมอนะคะอาจจะเป็นคุณหมอใกล้บ้านหรือ
01:01:40 → 01:01:41 ว่า
01:01:41 → 01:01:44 คุณหมอที่ถ้ามีคุณหมอเฉพาะทางด้านสมอง
01:01:45 → 01:01:47 ระบบประสาทอย่างเงี้ยก็ปรึกษานะคะให้ตรง
01:01:47 → 01:01:50 จุดนะคะเพื่อที่เราจะได้ดูอันดับแรกเลย
01:01:50 → 01:01:52 รู้ก่อนด้วยว่าใช่ไมเกรนจริงหรือเปล่านะ
01:01:52 → 01:01:55 คะเพราะที่เจอบ่อยเหมือนกันก็คือเราเข้า
01:01:55 → 01:01:58 ใจว่าเราเป็นไมเกรนมาตลอดเลยค่ะแบบบางที
01:01:58 → 01:02:00 คนไข้ปวดหัวข้างเดียวอ่ะค่ะแล้วก็เข้าใจ
01:02:00 → 01:02:02 ว่าเออน่าจะไมเกรนไมเกรนก็คือซื้อยามาทาน
01:02:02 → 01:02:06 เองตลอดเลยนะคะแต่สุดท้ายอ่ะไม่ใช่เมเกรน
01:02:06 → 01:02:08 ก็มีนะคะก็คือเกิดจากที่แบบกล้ามเนื้อมัน
01:02:08 → 01:02:11 ตึงมากอ่ะค่ะคอมันตึงมากๆแล้วพอคอตึงมาก
01:02:11 → 01:02:13 ก็ปวดร้าวขึ้นขมับตลอดแต่ไม่ได้มีลักษณะ
01:02:13 → 01:02:16 หรือไม่ได้มีอาการบ่งชี้อื่นๆเลยที่บอก
01:02:16 → 01:02:18 ว่าจะเป็นไมเกรนอย่างเงี้ยก็ไม่ใช่ไมเกรน
01:02:18 → 01:02:22 นะคะซึ่งการรักษาก็จะคนละแบบกันเลยนะคะก็
01:02:22 → 01:02:23 คือต้องไปเคลียร์กล้ามเนื้อรักษากล้าม
01:02:24 → 01:02:27 เนื้ออาจจะใช้เอ่อการกายภาพยาป้องกันถ้า
01:02:27 → 01:02:29 ไม่อยากเป็นยาป้องกันก็จะเป็นคนละตัวกัน
01:02:29 → 01:02:32 หรืออะไรเงี้ยค่ะหรือว่าเอ่อการใช้การฉีด
01:02:32 → 01:02:34 botulinomoxin หรืออะไรอย่างนี้ต่างๆมาก
01:02:34 → 01:02:36 มายเดี๋ยวนี้มีวิธีการรักษาต่างๆนะคะ
01:02:36 → 01:02:38 เพราะฉะนั้นคนไข้กลุ่มปวดหัวเรื้อรังแล้ว
01:02:38 → 01:02:41 เนี่ยก็คือเป็นโรคโรคนึงแล้วที่ 1 ต้องไป
01:02:41 → 01:02:43 หาสาเหตุก่อนว่าเราเป็นไปเป็นปวดหัว
01:02:43 → 01:02:45 เรื้อรังอะไรเป็นจากไมเกรนเป็นจากกล้าม
01:02:45 → 01:02:47 เนื้อเป็นจากความเครียดหรือเป็นจากโรค
01:02:47 → 01:02:50 สมองอื่นๆนะคะแล้วก็ไม่ควรซื้อยาทานเองนะ
01:02:50 → 01:02:53 คะ
01:02:53 → 01:03:02 โอเคคำถามน่าจะหมดแล้วนะคะ
01:03:02 → 01:03:04 คุณเอ๋บอกว่าเป็นอยู่ค่ะเป็นเนื้องอกใน
01:03:04 → 01:03:07 สมองอันนี้อาจจะไม่ใช่ไมเกรนแต่ว่าเป็น
01:03:07 → 01:03:09 กำลังใจให้นะคะขอให้อาการดีขึ้นจากโรคโดย
01:03:09 → 01:03:11 เร็วนะคะ
01:03:11 → 01:03:14 โอเคค่ะงั้นก็วันนี้นะคะก็
01:03:14 → 01:03:17 จบคลิปเพียงเท่านี้นะคะวัตถุประสงค์ของ
01:03:17 → 01:03:19 คลิปนี้คือคลิปนี้เนี่ยหมอคิดว่าน่าจะหา
01:03:19 → 01:03:23 ฟังยากนะแบบว่าไม่ได้รู้กลไกลึกของสมอง
01:03:23 → 01:03:27 ของไมเกรนจริงๆนะคะเนาะอาจจะฟังแล้วเร็ว
01:03:27 → 01:03:29 ไปหรือว่ารู้สึกว่าไม่เข้าใจเลยอันนี้ไม่
01:03:29 → 01:03:33 ปกติมากๆนะคะเพราะว่าเป็นเรื่องเหมือนแบบ
01:03:33 → 01:03:35 ค่อนข้างเรื่องลึกแล้วก็เรื่องเฉพาะทางนะ
01:03:35 → 01:03:38 คะเนาะกว่าจะมาเข้าใจตรงนี้ได้ส่วนไหนก็
01:03:38 → 01:03:40 ต้องแบบเนี่ยหมอก็ต้องเป็นหมอสมองอยู่กับ
01:03:40 → 01:03:43 คนไข้มานานแล้วก็รักษามานานถึงจะแบบเข้า
01:03:43 → 01:03:45 ใจกลไกต่างๆตรงนี้นะคะแต่ว่าวัตถุประสงค์
01:03:45 → 01:03:49 ของคลิปนี้คืออยากให้รู้เลยค่ะว่าไมเกรน
01:03:49 → 01:03:52 ไม่ใช่แค่อาการปวดหัวไม่ใช่แค่เราคิดไป
01:03:52 → 01:03:56 เองนะคะแต่มันคือโรคโรคนึงโรคทางสมองโรค
01:03:56 → 01:03:59 นึงเลยที่จำเป็นจะต้องได้รับการรักษาหาก
01:03:59 → 01:04:01 เรามีภาวะที่เป็นไมเกรนเรื้อรังหรือว่ามี
01:04:01 → 01:04:04 ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆแล้วนะคะเนาะและที่
01:04:04 → 01:04:07 สำคัญที่สุดเหมือนทุกๆโรคเลยค่ะก็คือการ
01:04:07 → 01:04:09 ดูแลตัวเองนะคะสำคัญที่สุดนะคะตั้งแต่
01:04:09 → 01:04:13 พยายามออกออกกำลังกายการออกกำลังกายนี้
01:04:13 → 01:04:14 คือป้องกันได้ทุกโรคจริงๆไม่ว่าจะเป็นโรค
01:04:14 → 01:04:17 หลอดเลือดโรคอัลไซเมอร์โรกปวดหัวโรคหัวใจ
01:04:17 → 01:04:21 โรคอะไรต่างๆนะคะเนาะการนอนให้พอนะคะอย่า
01:04:21 → 01:04:23 นอนดึกจนเกินไปนะคะพยายามทานอาหารที่มี
01:04:23 → 01:04:25 ประโยชน์อะไรรู้แต่ว่ามันไม่ค่อยดีมันทำ
01:04:25 → 01:04:28 ร้ายสุขภาพก็พยายามเลี่ยงนะคะเนาะแล้วก็
01:04:28 → 01:04:32 เอ่อหลีกเลี่ยงปัจจัยตัวกระตุ้นไมเกรนให้
01:04:32 → 01:04:34 ได้มากที่สุดนะคะก็ทำให้เราห่างไกลจาก
01:04:34 → 01:04:37 ไมเกรนแล้วก็สามารถมีอาการไมเกรนที่ดี
01:04:37 → 01:04:39 ขึ้นได้ก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไม่ต้อง
01:04:39 → 01:04:42 กลัวว่าเมื่อไหร่ไมเกรนจะมาอีกต่อไปนะคะ
01:04:42 → 01:04:45 ก็วันนี้จบคลิปเพียงเท่านี้นะคะจบไลฟ์
01:04:45 → 01:04:47 เท่านี้นะคะเดี๋ยวไว้มาเจอกันใหม่นะคะ
01:04:47 → 01:04:49 สวัสดีค่ะ