00:00:00 → 00:00:02 การลดน้ำหนักแบบ If คืออะไรทำยังไงนะครับ
00:00:02 → 00:00:05 ทำไมบางคนถึงทำแล้วลดได้ 5-10 กิโลเลยใน 1
00:00:05 → 00:00:08 เดือนนะครับคลิปนี้มีคำตอบชมให้จบนะครับ
00:00:08 → 00:00:10 หมอหนึ่งรวบรวมทุกแง่มุมของการทำ If มา
00:00:10 → 00:00:12 อยู่ในคลิปนี้แล้วนะครับสวัสดีครับผมหมอ
00:00:12 → 00:00:14 หนึ่งเฮลตี้ฮีโร่นะครับลดน้ำหนักครั้งสุด
00:00:14 → 00:00:16 ท้ายในชีวิตคิดถึงหมอ 1 Healthy Hero
00:00:16 → 00:00:18 นะครับแต่ก่อนอื่นก่อนจะไปชมคลิปนี้นะ
00:00:18 → 00:00:20 ครับอย่าลืมกดไลค์กดแชร์และที่สำคัญอย่า
00:00:20 → 00:00:22 ลืมกดติดตามหรือกด Subscribe นะครับไม่
00:00:22 → 00:00:24 ว่าจะเป็นทางช่องทาง Facebook YouTube
00:00:24 → 00:00:26 หรือว่า tiktok นะครับคุณจะได้ไม่พลาด
00:00:26 → 00:00:28 คลิปความรู้ดีๆเกี่ยวกับการลดน้ำหนักและ
00:00:28 → 00:00:31 เรื่องสุขภาพนะครับคันนี้สิ่งที่เราจะคุย
00:00:31 → 00:00:33 กันวันนี้นะครับในเรื่องของ If เนาะคนที่
00:00:33 → 00:00:35 เคยรู้แล้วนะครับนะจะได้รู้แง่มุมอื่นๆ
00:00:35 → 00:00:37 เกี่ยวกับ If เพิ่มเติมว่าคุณพลาดอะไรไป
00:00:37 → 00:00:39 ส่วนคนที่ไม่เคยรู้เลยนะครับ is เนี่ยมัน
00:00:39 → 00:00:41 ย่อมาจากคำว่า intermittent fasting
00:00:41 → 00:00:44 intermittent แปลว่าเป็นช่วงๆ fasting
00:00:44 → 00:00:45 ไม่ได้แปลว่าเร็วนะ Fast ในที่นี้แปลว่า
00:00:45 → 00:00:48 อดอาหารเพราะฉะนั้นพอเอามารวมกันนะครับคำ
00:00:48 → 00:00:50 ว่า intermittent fasting เลยแปลว่าการ
00:00:50 → 00:00:53 อดอาหารเป็นช่วงๆเป็นช่วงๆยังไงเป็นช่วงๆ
00:00:53 → 00:00:56 ใน 24 ชั่วโมงหรือใน 1 วันนั่นเองหมาย
00:00:56 → 00:00:58 ความว่าเราจะแบ่งช่วงเวลาใน 24 ชั่วโมง
00:00:58 → 00:01:00 ออกเป็นช่วงที่คุณกินกับช่วงที่คุณหยุด
00:01:00 → 00:01:03 กินแต่ก่อนอื่นที่คุณจะไปรู้ว่า If หรือ
00:01:03 → 00:01:05 การแบ่งช่วงเวลาการกินกับการหยุดกินเนี่ย
00:01:05 → 00:01:08 มันทำให้คุณผอมลงได้ยังไงสุขภาพดีขึ้นได้
00:01:08 → 00:01:10 ยังไงคุณจะต้องรู้ก่อนว่าทำไมคุณถึงอ้วน
00:01:10 → 00:01:13 ขึ้นไม่งั้นคุณจะไม่รู้เลยว่าทำไมการทำ If
00:01:13 → 00:01:15 ถึงทำให้คุณผอมลงถูกไหมครับคราวนี้ร่าง
00:01:15 → 00:01:17 กายของคุณเนี่ยอ้วนขึ้นได้ยังไงนะครับถ้า
00:01:17 → 00:01:19 ย้อนกลับไปที่ 30-40 ปีที่แล้วเนอะเราก็
00:01:19 → 00:01:23 จะมีความเชื่อว่าการที่เราจะผอมลงได้เรา
00:01:23 → 00:01:25 จะต้องกินพลังงานเข้าไปน้อยๆและใช้พลัง
00:01:25 → 00:01:27 งานออกมาเยอะๆหรือที่หลายๆคนเคยได้ยินว่า
00:01:27 → 00:01:29 แคลอรี่อินน้อยกว่าแคลอรี่ Out นะเป็น
00:01:29 → 00:01:31 เรื่องของการนับแคลอรี่ถูกไหมครับแต่จริง
00:01:31 → 00:01:33 ๆแล้วเนี่ยพอมาถึงปัจจุบันเนี่ยเราเริ่ม
00:01:33 → 00:01:36 รู้แล้วว่ามันไม่ใช่ปัจจัยหลักปัจจัยหลัก
00:01:36 → 00:01:38 จริงๆเนี่ยมันเป็นเรื่องของสารอาหารและ
00:01:38 → 00:01:41 เวลาของการที่เราทานเข้าไปด้วยอ้าเพราะ
00:01:41 → 00:01:44 ฉะนั้นถ้าคุณจะลดน้ำหนักได้ดีนะครับการทำ
00:01:44 → 00:01:47 If เนี่ยมันเลยช่วยคุณได้เพราะว่าคุณลอง
00:01:47 → 00:01:50 จินตนาการนะครับว่าถ้าสมมุติว่าคุณตื่นมา
00:01:50 → 00:01:52 8:00 นแล้วเริ่มกินตั้งแต่ 8:00 นเลย
00:01:52 → 00:01:54 แล้วก็กินเที่ยงกิน 4 โมงเย็นกิน 2 ทุ่ม
00:01:54 → 00:01:57 แล้วเข้านอนเที่ยงคืนก่อนนอนเที่ยงคืนคุณ
00:01:57 → 00:02:00 ก็ยังกินอยู่ไอ้ช่วงที่คุณกินตั้งแต่โมง
00:02:00 → 00:02:02 เช้าจนเที่ยงคืนตอนคุณนอนเนี่ยร่างกายจะ
00:02:02 → 00:02:04 ใช้พลังงานจากสีที่คุณกินเข้าไปเพราะ
00:02:04 → 00:02:07 ฉะนั้นถามว่าคุณจะมีโอกาสได้เอาไขมันสะสม
00:02:07 → 00:02:09 มาใช้ระหว่างวันไหมน้อยมากนะครับเพราะว่า
00:02:09 → 00:02:11 มีแค่ช่วงระหว่างมื้อสั้นๆที่ร่างกาย
00:02:11 → 00:02:13 พยายามจะดึงไขมันสะสมออกมาใช้แต่แป๊บนึง
00:02:13 → 00:02:15 คุณก็กินมื้อถัดไปแล้วถูกไหมนะครับเพราะ
00:02:15 → 00:02:17 ฉะนั้นคนที่อ้วนเนี่ยมักจะเป็นคนที่กิน
00:02:17 → 00:02:20 ตั้งแต่ตื่นยันนอนเลยใช้เวลาในช่วง 1 วัน
00:02:20 → 00:02:22 กินเยอะมากๆแล้วช่วงไหนล่ะที่ร่างกาย
00:02:22 → 00:02:24 เริ่มเอาไขมันสะสมมาใช้นะครับมันก็คือ
00:02:24 → 00:02:26 ช่วงที่คุณเนี่ยไม่ได้กินหรือเมื่อกี้ที่
00:02:26 → 00:02:28 หมอหนึ่งยกตัวอย่างก็คือช่วงเที่ยงคืนถึง
00:02:28 → 00:02:30 8 โมงเช้าที่คุณนอนน่ะอ่าช่วงนั้นน่ะคือ
00:02:30 → 00:02:33 ช่วงที่ร่างกายเอาไขมันสะสมออกมาใช้แต่
00:02:33 → 00:02:36 มันจะนานมากพอที่ร่างกายจะใช้ไขมันจนทำ
00:02:36 → 00:02:37 ให้คุณผอมลงหรือเปล่านี่อีกเรื่องนึงนะ
00:02:37 → 00:02:40 ครับเพราะฉะนั้นถามว่าทุกคนเนี่ยทำไอเอส
00:02:40 → 00:02:42 อยู่แล้วหรือเปล่าในช่วงแบ่งการกินการ
00:02:42 → 00:02:45 หยุดกินอยู่แล้วหรือเปล่ามีครับแต่แต่ละ
00:02:45 → 00:02:47 คนไม่เท่ากันบางคนกินตั้งแต่ 8:00 นเช้า
00:02:47 → 00:02:49 ยันเที่ยงคืนก็คือกิน 16 ชั่วโมงเลยหยุด
00:02:49 → 00:02:52 กินแค่ 8 ชั่วโมงที่นอนบางคนเนี่ยมีช่วง
00:02:52 → 00:02:55 หยุดกิน 12 ชั่วโมงแล้วก็กิน 12 ชมคือกิน
00:02:55 → 00:02:58 8:00 นนะแต่หยุดกินตอน 20:00 นโอเคหลัง
00:02:58 → 00:03:00 20:00 นไม่กินแล้วกินแต่หรือเปล่าอย่าง
00:03:00 → 00:03:02 นี้แต่ละคนมีช่วงเวลาของการกินกับการหยุด
00:03:02 → 00:03:05 กินไม่เท่ากันก็เลยใช้พลังงานสะสมไม่
00:03:05 → 00:03:07 เหมือนกันนะครับเดี๋ยวเราจะไปดูต่อว่าราย
00:03:07 → 00:03:08 ละเอียดมันเป็นยังไงแต่ให้เข้าใจพื้นฐาน
00:03:08 → 00:03:11 แบบนี้ก่อนเนอะว่าช่วงที่คุณกินร่างกาย
00:03:11 → 00:03:13 ใช้พลังงานจากสิ่งที่คุณกินเข้าไปส่วน
00:03:13 → 00:03:15 ช่วงที่คุณไม่ได้กินร่างกายก็ไปเอาพลัง
00:03:15 → 00:03:17 งานสะสมมาใช้ง่ายๆแค่นี้เองนี่คือพื้นฐาน
00:03:17 → 00:03:20 ของมันนะครับคราวนี้คำถามก็คือแล้วถ้า
00:03:20 → 00:03:23 สมมุติว่าคุณอยากจัดเวลาการทานอยากทำ If
00:03:23 → 00:03:26 พูดง่ายๆนะครับที่จะนานเท่าไหร่ถึงจะทำ
00:03:26 → 00:03:28 ให้ร่างกายใช้พลังงานสะสมได้ดีใช้ไขมัน
00:03:28 → 00:03:30 สะสมได้ดีที่เหมือนหนึ่งพูดไปว่าแต่ละคน
00:03:30 → 00:03:32 ทำให้เท่ากันถูกมั้ยถ้าย้อนกลับไปนะครับ
00:03:32 → 00:03:35 มีงานวิจัยนะครับนะที่ดังมากๆเลยที่ออกมา
00:03:35 → 00:03:37 ในช่วงปลายปี 2019 นะครับตอนนั้นเนี่ยเขา
00:03:37 → 00:03:39 บอกเลยว่าจากการทำงานวิจัยเนี่ยเข้าพบว่า
00:03:39 → 00:03:43 ร่างกายเนี่ยจะใช้ไขมันสะสมได้ดีก็ต่อ
00:03:43 → 00:03:46 เมื่อมีการหยุดทานนะประมาณ 12 ชั่วโมง
00:03:46 → 00:03:49 ขึ้นไปคือพอเราเริ่มหยุดทานปั๊บสมมุติ
00:03:49 → 00:03:51 เริ่มหยุดทานตอน 20:00 นผ่านไปเรื่อยๆ
00:03:51 → 00:03:53 เค้าก็เจาะเลือดเพื่อดูว่าในเลือดเนี่ยมี
00:03:53 → 00:03:54 สารตัวนึงที่หลุดออกมาไหมเราเรียกสารตัว
00:03:54 → 00:03:57 นั้นว่าคีโตนแน่คุณจำชื่อสารไม่ได้ช่าง
00:03:57 → 00:04:00 มันนะแต่ไอ้สารตัวนี้มันเกิดจากการที่
00:04:00 → 00:04:02 ร่างกายสลายไขมันออกมาถ้าสลายไขมันออกมา
00:04:02 → 00:04:04 ได้ดีก็จะเกิดสารตัวนี้ในร่างกาย
00:04:05 → 00:04:07 เพราะฉะนั้นพอเขาเจาะไปเรื่อยๆเรื่อยๆ
00:04:07 → 00:04:10 ตรวจติดตามไปเรื่อยๆก็พบว่าณชั่วโมงที่
00:04:10 → 00:04:12 ประมาณที่ 12 เนี่ยร่างกายเริ่มตรวจเจอ
00:04:12 → 00:04:14 สารตัวนี้เยอะเขาเลยเริ่มเพราะว่าอ๋อถ้า
00:04:14 → 00:04:17 คุณหยุดทานในช่วงเวลาของการหยุดทานไม่ได้
00:04:17 → 00:04:19 กินอะไรจากภายนอกเข้าไปเป็นพลังงานเนี่ย
00:04:19 → 00:04:21 ตั้งแต่ 12 ชั่วโมงขึ้นไปร่างกายจะเริ่ม
00:04:21 → 00:04:24 ใช้ไขมันสะสมได้ดีก็เลยเป็นที่มาของการทำ
00:04:24 → 00:04:26 If นะครับว่าอ๋อแบบนี้แสดงว่าถ้าคุณอยาก
00:04:26 → 00:04:29 เริ่มต้นทำ If นะคุณต้องมีช่วงเวลาของการ
00:04:29 → 00:04:31 กินกับการหยุดกินเนี่ยนะอย่างน้อยเนี่ย
00:04:31 → 00:04:33 หยุดกินต้อง 12 ชั่วโมงขึ้นไปนะยกตัว
00:04:33 → 00:04:35 อย่างง่ายๆนะครับถ้าคุณตื่นมาแล้วคุณกิน
00:04:35 → 00:04:38 อาหารคำแรกเข้าปากที่ให้พลังงานเนี่ยตอน 8
00:04:38 → 00:04:41 โมงเช้าถ้าคุณอยากทำ If นะคุณต้องนับไปนะ
00:04:41 → 00:04:44 ครับนะแล้วก็หยุดกินตอน 20:00 นหรือเร็ว
00:04:44 → 00:04:46 กว่านั้นได้ยิ่งดีถ้าคุณเริ่มกิน 8:00 น
00:04:46 → 00:04:48 หยุดกินตอน 20:00 นหมายความว่าหลัง 20:00
00:04:48 → 00:04:51 นไปจนถึง 8:00 นอีกวันนึง 12 ชั่วโมงคือ
00:04:51 → 00:04:53 ช่วงเวลาของการหยุดทาน 12 ชั่วโมงนี้ร่าง
00:04:54 → 00:04:56 กายจะเริ่มเอาไขมันมาใช้และจะเริ่มใช้ได้
00:04:56 → 00:04:58 ดีเมื่อเป็นเวลา 12 ชั่วโมงขึ้นไปดังนั้น
00:04:58 → 00:05:01 ถ้าคุณเริ่มถึง 8 โมงเช้าคุณหยุดตอน 6
00:05:01 → 00:05:03 โมงเย็นคุณได้กำไรไหมได้กำไรนะครับเพราะ
00:05:03 → 00:05:05 นับตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไปจนถึง 8
00:05:05 → 00:05:07 โมงเช้าอีกวันนึงก็คือประมาณ 14 ชั่วโมง
00:05:07 → 00:05:10 ร่างกายคุณจะใช้ไขมันได้นานขึ้นพอเห็นภาพ
00:05:10 → 00:05:13 ไหมนะครับเนาะเพราะฉะนั้นอันนี้คือพื้น
00:05:13 → 00:05:15 ฐานของการทำ is นั่นเองนี่ก็เลยเป็นเหตุ
00:05:15 → 00:05:17 ผลว่าทำไมบางคนที่เขากินตั้งแต่ 8 โมง
00:05:17 → 00:05:20 เช้ายันเที่ยงคืนเขาเลยผอมยากมากเพราะว่า
00:05:20 → 00:05:23 ช่วงเวลาที่เขาใช้พลังงานสะสมเนี่ยใช้ไข
00:05:23 → 00:05:25 มันสะสมในร่างกายนะอยากจะผอมลงจังเลยแต่
00:05:25 → 00:05:27 ร่างกายเอาไขมันสะสมมาใช้ได้แค่เที่ยงคืน
00:05:27 → 00:05:29 จนถึง 8:00 นมันก็เป็นเวลาแค่ 8 ชั่วโมง
00:05:29 → 00:05:32 เองถูกไหมครับแล้วมันไม่สามารถจะนานมากพอ
00:05:32 → 00:05:34 ที่ร่างกายจะใช้ไขมันสะสมได้ดีนั่นเอง
00:05:34 → 00:05:35 เนาะเพราะฉะนั้นอย่างต่ำนะครับ 12
00:05:35 → 00:05:38 ชั่วโมงขึ้นไปนะคราวนี้หลายคนก็เลยถามว่า
00:05:38 → 00:05:40 มล 1 ครั้งพี่เคยได้ยินนะหนูเคยได้ยินนะ
00:05:40 → 00:05:44 คะว่ามันมีคนที่ทำ If 16/8 มันคืออะไรนะ
00:05:44 → 00:05:46 ครับนะก่อนที่คุณจะไปเข้าใจคุณก็ต้องเข้า
00:05:46 → 00:05:49 ใจตัวเลข 2 ตัวก่อน If มันคือการแบ่งเวลา
00:05:49 → 00:05:50 การทานถูกมั้ยนะครับมีช่วงกินกับช่วงหยุด
00:05:51 → 00:05:53 กินส่วนไอ้ตัวเลขเนี่ย 16 กับ 8 เนี่ยเลข
00:05:53 → 00:05:57 ตัวหน้าคือเลขช่วงเวลาที่คุณเนี่ยหยุดทาน
00:05:57 → 00:05:59 สังเกตมันบวกกันได้ 24 นะ 16 + 8 ได้ 24
00:05:59 → 00:06:02 คือเวลาใน 1 วันถูกไหมครับตัวหน้า 16 คือ
00:06:02 → 00:06:04 ช่วงเวลาของการหยุดทานหรือคุณจะเข้าใจ
00:06:04 → 00:06:06 เวลาไปคุยกับคนอื่นนะครับว่าตัวหน้าเรา
00:06:06 → 00:06:09 เรียกว่าช่วงเวลาของการฟาสฟาสแปลว่าอด
00:06:09 → 00:06:10 อาหารเพราะฉะนั้นช่วงของการปวดคือ 16
00:06:10 → 00:06:12 ชั่วโมงส่วนข้างหลัง 8 ชั่วโมงเนี่ยคือ
00:06:12 → 00:06:15 ช่วงเวลาใน 1 วันที่คุณกินเราเรียกช่วง
00:06:15 → 00:06:17 นี้ว่าช่วงกินหรือช่วงปีก fweet แปลว่า
00:06:18 → 00:06:19 ให้อาหารหรือแปลว่ากินนั่นแหละเพราะ
00:06:19 → 00:06:22 ฉะนั้นจะมีตัวเลข 2 ตัว If 16/8 เลยหมาย
00:06:22 → 00:06:24 ความว่าหยุดกิน 16 ชั่วโมงกิน 8 ชั่วโมง
00:06:24 → 00:06:27 แต่คุณอย่าเข้าใจผิดนะว่าอ๋อหลายๆคนเลย
00:06:27 → 00:06:30 บอกว่าให้เริ่มกิน 8 โมงเช้าแล้วหยุดกิน
00:06:30 → 00:06:33 ตอน 4 โมงเย็นแต่ว่าเราไม่สามารถทำได้เรา
00:06:33 → 00:06:35 ทำงานไม่เป็นเวลาจะทำยังไงดีคือจริงๆมัน
00:06:35 → 00:06:37 ไม่ได้ฟิตว่าคุณจะต้องกิน 8:00 นถึง 16:00
00:06:37 → 00:06:40 นนะครับแต่ If 16/8 เนี่ยมันคือ 16
00:06:40 → 00:06:43 ชั่วโมงที่หยุดทานคุณจะเริ่มกินกี่โมงก็
00:06:43 → 00:06:45 ได้นะครับอย่างหมอหนึ่งหมอหนึ่งเริ่มกิน
00:06:45 → 00:06:47 ตอนเที่ยงก็มาถึงร่องที่เริ่มกินตอน
00:06:47 → 00:06:49 เที่ยงแล้วไปหยุดกินตอน 2 ทุ่มตั้งแต่
00:06:49 → 00:06:52 20:00 นเป็นต้นไปจนถึงเที่ยงอีกวันนึง
00:06:52 → 00:06:54 อันนี้ 16 ชั่วโมงก็เป็นช่วงฟ้าถามว่า
00:06:54 → 00:06:56 ร่างกายได้ใช้ไขมันมากขึ้นมั้ยได้ใช้ไข
00:06:56 → 00:06:58 มันมากขึ้นครับเพราะว่าตั้งแต่ 12
00:06:58 → 00:06:59 ชั่วโมงขึ้นไปร่างกายก็เริ่มใช้ไขได้ดี
00:06:59 → 00:07:02 ขึ้นแล้วเห็นภาพเนาะแล้วในช่วง 8 ชั่วโมง
00:07:02 → 00:07:05 ที่กินตั้งแต่เที่ยงจนถึง 2 ทุ่มแล้วก็มา
00:07:05 → 00:07:07 จัดสารอาหารให้ดีอีกทีเห็นภาพนะครับนะ
00:07:07 → 00:07:10 หรือบางคนเนี่ยอาจจะทำ S แบบอื่นก็ได้
00:07:10 → 00:07:13 หมายความว่าอะไรไม่ได้มีแต่ 16/8 นะถ้า
00:07:13 → 00:07:15 สมมุติว่าคุณเนี่ยอย่าใช้เวลาในการหยุด
00:07:15 → 00:07:18 ทานให้มากขึ้นอาจจะเป็น If 18/6 ก็ได้
00:07:18 → 00:07:21 18/6 หมายความว่ามีช่วงการหยุดทาน 18
00:07:21 → 00:07:24 ชั่วโมงแล้วมีช่วงการทานแค่ 6 ชั่วโมงถาม
00:07:24 → 00:07:26 ว่าร่างกายใช้ไขมันได้มากขึ้นไหมใช้ได้
00:07:26 → 00:07:28 มากขึ้นสิเพราะว่าคุณหยุดทานต้อง 18
00:07:28 → 00:07:31 ชั่วโมงแล้วกินแค่ 6 ชั่วโมงไงก็เลยมีคน
00:07:31 → 00:07:32 เริ่มเข้าใจว่าเฮ้ยงั้นถ้าอย่างนั้นเนี่ย
00:07:32 → 00:07:36 เราทำ If 20/4 ได้ไหมหยุดกิน 20 ชั่วโมง
00:07:36 → 00:07:39 แล้วก็กินแค่ 4 ชั่วโมงเช่นบางคนเนี่ย
00:07:39 → 00:07:42 ตื่นมากิน 8:00 นกินถึงเที่ยงหลังเที่ยง
00:07:42 → 00:07:46 ไม่กินแล้วอ่าถามว่าผอมไหมผอมนะแต่มีข้อ
00:07:46 → 00:07:48 ควรระวังเดี๋ยวม. 1 จะอธิบายให้ฟังว่าคน
00:07:48 → 00:07:51 ระวังอะไรนะเพราะว่าถ้าคุณหลงคิดไปว่า
00:07:51 → 00:07:54 ยิ่งกดนานๆยิ่งผอมบางคนก็จะบอกว่าเฮ้ย
00:07:54 → 00:07:57 งั้นถ้าอย่างนั้นฉันทำ 23/1 แล้วกันหมอ
00:07:57 → 00:08:01 23/1 คือใน 1 วัน 24 ชั่วโมงหยุดกิน 23
00:08:01 → 00:08:04 ชั่วโมงและกินแค่ชั่วโมงเดียวถ้ากินแค่
00:08:04 → 00:08:05 ชั่วโมงเดียวหมายความว่า 1 วันคุณแทบจะ
00:08:05 → 00:08:08 กินแค่ 1 มื้อหรือในภาษาคนลดน้ำหนักนะ
00:08:08 → 00:08:10 ครับนะเราจะเรียกการทำแบบนี้ว่าการทำ
00:08:10 → 00:08:12 โอมาร์ทโอมาร์ท
00:08:12 → 00:08:16 omade คือ1เดย์คือกินแค่วันละ 1 มื้อถาม
00:08:16 → 00:08:19 ว่าผอมไหมในช่วงแรกมันจะผอมลงแต่ข้อควร
00:08:19 → 00:08:22 ระวังคือคนส่วนใหญ่ทำไม f แล้วไม่ได้ผล
00:08:22 → 00:08:25 เพราะเข้าใจแค่ว่ายิ่งอดนานยิ่งผอมอย่าง
00:08:25 → 00:08:28 นี้คนที่อดข้าว 3 วันก็ผอมกว่าอดข้าว 7
00:08:28 → 00:08:30 วันยิ่งผอมเลยสิถูกไหมแต่ระบบเผาผลาญคุณ
00:08:30 → 00:08:33 จะพังเพราะการทำ If เป็นแค่การจัดเวลาการ
00:08:33 → 00:08:36 ทานเฉยๆว่าเออถ้าสมมุติว่าเรามีช่วงการ
00:08:36 → 00:08:38 หยุดทานนานกว่า 12 ชั่วโมงร่างกายจะใช้
00:08:38 → 00:08:41 พลังงานจากไขมันสะสมได้ดีขึ้นนะคุณมี
00:08:41 → 00:08:44 โอกาสผอมลงนะแต่ร่างกายของคุณอย่าลืมว่า
00:08:44 → 00:08:47 ต้องได้สารอาหารด้วยเพราะฉะนั้นคนๆนึงที่
00:08:47 → 00:08:50 ทำ If 16/8 กับอีกคนนึงที่ทำ If 20
00:08:50 → 00:08:53 ครับ 4 คนนึงหยุดกิน 16 ชั่วโมงและกินแค่
00:08:53 → 00:08:56 8 ชั่วโมงอีกคนนึงหยุดกิน 20 ชั่วโมงกิน
00:08:56 → 00:08:59 แค่ 4 ชั่วโมงคนที่ทำ 16/8 อาจจะผอมกว่า
00:08:59 → 00:09:01 ก็ได้เพราะเขามีช่วงเวลาของการทานทั้งหมด
00:09:01 → 00:09:03 8 ชั่วโมงเขาอาจจะได้สารอาหารที่ดีกว่า
00:09:03 → 00:09:06 แต่อีกคนนึงที่ทำ 20/4 เขาอาจจะผอมหรือ
00:09:06 → 00:09:09 ไม่ผอมก็ได้ถ้า 4 ชั่วโมงนั้นเขากินแบบคน
00:09:09 → 00:09:12 อดอาหารคือสารอาหารไม่พอ 4 ชั่วโมงที่กิน
00:09:12 → 00:09:15 บางทีก็กินได้แค่ 2 มื้อแป้งก็ไม่ค่อยกิน
00:09:15 → 00:09:18 โปรตีนเกิดกินน้อยไขมันก็ไม่กินมันกลาย
00:09:18 → 00:09:20 เป็นการอดอาหารเพราะฉะนั้นอันนี้เราจะไม่
00:09:20 → 00:09:23 ได้เรียกว่า If พอเห็นภาพไหมนะครับเพราะ
00:09:23 → 00:09:26 ฉะนั้น If แบบไหนดีที่สุดทำยังไงถึงจะได้
00:09:26 → 00:09:29 ผลคำตอบก็คืออย่างน้อยในช่วงเวลาของการ
00:09:29 → 00:09:32 หยุดทานให้หยุดทานมากกว่า 12 ชั่วโมงถ้า
00:09:32 → 00:09:34 ตามประสบการณ์หมอหนึ่งก็คือประมาณ 15
00:09:34 → 00:09:36 ชั่วโมงถึง 18 ชั่วโมงเนี่ยช่วงนี้กำลัง
00:09:36 → 00:09:38 ดีนะครับแต่ถ้าคุณจะหยุดทานนานกว่านั้น
00:09:38 → 00:09:41 คือนานกว่า 18 ชั่วโมงขึ้นไปคุณจะต้อง
00:09:41 → 00:09:43 เริ่มคิดแล้วว่าเฮ้ยแล้วถ้าหยุดทาน 20
00:09:43 → 00:09:45 ชั่วโมงแล้วกินแค่ 4 ชั่วโมงต่อวันสาร
00:09:45 → 00:09:48 อาหารคุณถึงแน่นะคุณกินแป้งโปรตีนไขมัน
00:09:48 → 00:09:50 ได้เพียงพอแน่นะพอเห็นภาพเนาะนะครับนะ
00:09:50 → 00:09:53 เพราะฉะนั้นถามว่าแบบไหนดีกว่ากันไม่มี
00:09:53 → 00:09:54 แบบไหนดีที่สุดปรับให้เข้ากับการใช้ชีวิต
00:09:54 → 00:09:57 ประจำวันให้ได้อย่าอดนานเกินไปจนกลายเป็น
00:09:57 → 00:10:01 คนอดอาหารและก็พยายามปลดให้นานมากพอคือ
00:10:01 → 00:10:03 สัก 15 ชั่วโมงถึง 18 ชั่วโมงร่างกาย
00:10:03 → 00:10:05 กำลังใช้ไขมันได้ดีนั่นเองนะครับคราวนี้
00:10:05 → 00:10:07 ก็เลยมีหลายๆคนถามว่าแล้ว If จริงๆมัน
00:10:07 → 00:10:10 ต้องกินกี่มื้อจัดตารางอาหารยังไงดีนะ
00:10:10 → 00:10:12 ครับอย่างที่บอกนะครับว่าแต่ละคนเนี่ยมี
00:10:12 → 00:10:14 วิถีชีวิตไม่เหมือนกันถูกไหมเพราะฉะนั้น
00:10:14 → 00:10:18 ในคนที่ทำ is แบบ 16/8 คือมีช่วงเวลาของ
00:10:18 → 00:10:21 การกิน 8 ชั่วโมงคุณอาจจะกิน 2 มื้อก็ได้
00:10:21 → 00:10:22 เพราะบางคนไม่ว่างกินมื้อกลางวันถูกไหม
00:10:22 → 00:10:25 หรือคุณอาจจะกิน 3 มื้อได้ไหมได้หรือบาง
00:10:25 → 00:10:27 คนอาจจะกิน 2 มื้อแล้วบวก 1 มื้อย่อยได้
00:10:27 → 00:10:30 ไหมได้เหมือนกันไม่มีตายตัวนะครับแต่
00:10:30 → 00:10:32 พยายามอย่ากินจุกจิกพยายามกินให้ร่วมมือ
00:10:32 → 00:10:35 เนาะหรืออย่างของหมอหนึ่งเนี่ยนะครับตอน
00:10:35 → 00:10:37 หมอหนึ่งตรวจคนไข้เนี่ยหมอ 1 เริ่มกิน
00:10:37 → 00:10:40 เนี่ยมื้อแรกตอนเที่ยงเลยอ่าระหว่างตอน
00:10:40 → 00:10:42 เช้าก็กินน้ำเปล่ากินกาแฟดำคือช่วงที่เรา
00:10:42 → 00:10:43 หยุดกินไม่ได้หมายความว่าคุณกินไม่ได้นะ
00:10:43 → 00:10:46 คุณยังกินได้แต่คุณกินได้แค่น้ำเปล่าชา
00:10:46 → 00:10:49 ที่ไม่มีน้ำตาลแล้วก็กาแฟดำนะพวกนี้จะไม่
00:10:49 → 00:10:52 มีแคลอรี่ไม่กระตุ้นการสะสมไขมันนะครับ
00:10:52 → 00:10:54 เพราะฉะนั้นคุณกินได้นะตลอดทั้งวันเนี่ย
00:10:54 → 00:10:56 ช้าไม่มีน้ำตาลกาแฟดำแล้วก็น้ำเปล่ากิน
00:10:57 → 00:10:58 ได้เลยนะครับเพราะฉะนั้นหมอหนึ่งก็จะกิน
00:10:58 → 00:11:00 อย่างเงี้ยแล้วก็ก็ตอนเที่ยงเริ่มกินมื้อ
00:11:00 → 00:11:03 แรกแล้วก็กินอีกมื้อนึงตอน 6 โมงเย็นแต่
00:11:03 → 00:11:05 แบบนี้มีโอกาสที่ได้กิน 2 มื้อโปรตีนจะ
00:11:05 → 00:11:07 น้อยไปไหมนะครับเพราะว่าคนปกติโดยทั่วไป
00:11:07 → 00:11:09 ที่ไม่มีโรคประจำตัวควรกินโปรตีนให้ได้
00:11:09 → 00:11:11 ประมาณ 1 เท่าของน้ำหนักตัวอย่างหมอหนึ่ง
00:11:11 → 00:11:13 น้ำหนักประมาณ 70 ก็จะกินโปรตีนให้ได้
00:11:13 → 00:11:15 ประมาณ 70 หรืออาจจะบวกมากกว่านั้นนิด
00:11:15 → 00:11:17 หน่อยเวลาที่หมอดึงออกกำลังกายแบบ
00:11:17 → 00:11:18 เวทเทรนนิ่งสร้างกล้ามเนื้อนะครับเพราะ
00:11:18 → 00:11:20 ฉะนั้น 2 มื้ออาจจะไม่โอเคก็อาจจะเพิ่ม
00:11:20 → 00:11:23 มื้อตอนบ่าย 3 ไปเป็นมื้อย่อยๆเติมโปรตีน
00:11:23 → 00:11:25 ให้อิ่มเห็นภาพไหมนะครับนะเพราะฉะนั้น
00:11:25 → 00:11:28 เนี่ยก็แล้วแต่แต่ละคนจะจัดจะสองมือก็ได้
00:11:28 → 00:11:30 3 มื้อก็ได้ 2 มื้อบวกโปรตีนมื้อย่อยอีก
00:11:30 → 00:11:33 มื้อนึงก็ได้หมดเลยนะครับซึ่งหากใครอยาก
00:11:33 → 00:11:34 จะเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของสารอาหารมาก
00:11:34 → 00:11:37 ขึ้นก็ลองไปดูคลิปอื่นๆในช่องของหมอหนึ่ง
00:11:37 → 00:11:38 หรือในเพจ Facebook ของหมอหนึ่งได้นะครับ
00:11:38 → 00:11:40 มีอธิบายเกี่ยวกับเรื่องของสารอาหารไว้
00:11:40 → 00:11:42 เยอะมากๆเลยนะส่วนคำถามถัดไปที่หลายๆคน
00:11:42 → 00:11:46 ชอบถามก็คือ If กินอะไรได้บ้างอ่านะครับ
00:11:46 → 00:11:48 If in อะไรได้บ้างต้องแบ่งแบบนี้นะครับ
00:11:48 → 00:11:51 ว่าจริงๆเนี่ยกินได้ทั้งช่วงที่เรากินคือ
00:11:51 → 00:11:53 ช่วงฟีดและกินช่วงที่หยุดกินคือช่วงฟ้า
00:11:54 → 00:11:57 กินได้ทั้งคู่แต่ช่วงที่คุณฟ้าหรือช่วง
00:11:57 → 00:11:59 ที่คุณหยุดกินเนี่ยสิ่งที่คุณกินจะต้อง
00:11:59 → 00:12:02 ไม่มีแคลอรี่ไม่กระตุ้นการสะสมไขมันพูด
00:12:03 → 00:12:04 ง่ายๆเลยก็คือให้จำง่ายๆ 3 อย่างนะครับ
00:12:04 → 00:12:08 ช่วงที่คนอดนะน้ำเปล่าชามไม่มีน้ำตาลกาแฟ
00:12:08 → 00:12:10 ดำ 3 อันนี้เนาะนะครับนะสามารถกินได้ใน
00:12:10 → 00:12:13 ช่วงฟ้าส่วนอีกอันนึงนะครับในช่วงฟีดบอก
00:12:13 → 00:12:15 แล้วว่าคุณจะลดน้ำหนักได้ดีไม่ใช่ว่าคุณ
00:12:15 → 00:12:18 กดนานให้มากที่สุดแล้วคุณจะผอมถ้าช่วงฟีด
00:12:18 → 00:12:20 หรือช่วงที่คุณกินในระหว่างวันคุณกินไม่
00:12:20 → 00:12:23 ดีเป็นคนอดอาหารระบบเผาผลาญคุณก็พังได้ใน
00:12:24 → 00:12:26 ช่วงกินกินยังไงนะครับอันที่ 1 สำคัญมาก
00:12:26 → 00:12:28 ที่สุดเลยอาหารที่มีน้ำตาลให้งดไปก่อน
00:12:28 → 00:12:30 เพราะอะไรเอ่ยเพราะว่าระบบพลังงานในร่าง
00:12:30 → 00:12:32 กายของคุณเนี่ยมันจะใช้ไม่น้ำตาลกับแป้ง
00:12:32 → 00:12:35 ก็ใช้ไขมันเป็นหลักโปรตีนในที่คุณกินเข้า
00:12:35 → 00:12:37 ไปเนี่ยมันไม่ได้ถูกอ้างอิงเป็นพลังงาน
00:12:37 → 00:12:39 หลักนะมันทำหน้าที่ที่แป้งกับไขมันมันไม่
00:12:39 → 00:12:42 สามารถทำได้ก็คือมันซ่อมแซมร่างกายคอย
00:12:42 → 00:12:43 สร้างกล้ามเนื้อเพราะกล้ามเนื้อเปรียบ
00:12:43 → 00:12:45 เสมือนเตาเผาเนาะนะครับเปรียบเสมือนเตา
00:12:45 → 00:12:48 เผาพลังงานของร่างกายคุณจำเป็นที่จะต้อง
00:12:48 → 00:12:50 กินโปรตีนให้ร่างกายคุณแข็งแรงส่วนใน
00:12:50 → 00:12:51 เรื่องการให้พลังงานจะเป็นหน้าที่หลักของ
00:12:51 → 00:12:54 น้ำตาลกับแป้งแล้วก็ไขมันดังนั้นถ้าคุณ
00:12:54 → 00:12:56 อยากใช้ไขมันสะสมคุณต้องลดการกินน้ำตาล
00:12:56 → 00:12:59 กับแป้งลงนะครับดังนั้นข้อที่ 1 ในช่วง
00:12:59 → 00:13:01 กินยังไงนะงดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลไป
00:13:01 → 00:13:04 ก่อนเปลี่ยนน้ำอัดลมเปลี่ยนกาแฟใส่นมใส่
00:13:04 → 00:13:07 น้ำตาลมาเป็นน้ำเปล่าชากาแฟดำ 3 อันโอเค
00:13:07 → 00:13:10 ไหม 3 อันนะครับส่วนอันถัดมาในเรื่องของ
00:13:10 → 00:13:12 แป้งนะครับให้คุณลดปริมาณแป้งจากที่เคย
00:13:12 → 00:13:15 กินคือคนส่วนใหญ่ที่อ้วนไม่ได้อ้วนเพราะ
00:13:15 → 00:13:17 แป้งนะอยากเข้าใจผิดว่ากินแป้งแล้วอ้วนนะ
00:13:17 → 00:13:20 แต่คุณอ้วนเพราะคุณกินแป้งมากเกินไปมาก
00:13:20 → 00:13:22 กว่าที่ร่างกายต้องการแต่ถ้าจะอธิบายว่า
00:13:22 → 00:13:24 คุณน้ำหนักเท่านี้กินแป้งเท่าไหร่มันจะ
00:13:24 → 00:13:26 ยาวมากนะครับคุณต้องมีความรู้พื้นฐานก่อน
00:13:26 → 00:13:28 ดังนั้นถ้าอยากเริ่มต้นทำไงรู้ไหมนะครับ
00:13:28 → 00:13:31 เคยกินแป้งเท่าไหร่ลดลงครึ่งนึงเคยกิน
00:13:31 → 00:13:33 ข้าวมื้อละ 2 ทัพพีเหลือ 1 ทัพพีเฮ้ยหมอ
00:13:33 → 00:13:35 แล้วมันจะอิ่มหรอการกินแป้งไม่ได้ทำให้
00:13:35 → 00:13:37 คุณอิ่มสิ่งที่จะทำให้คุณอิ่มคือคุณต้อง
00:13:37 → 00:13:40 กินโปรตีนให้อิ่มนะครับแล้วก็กินพวกผัก
00:13:40 → 00:13:42 กินใยอาหารแล้วคุณถึงจะอิ่มคุณไม่สามารถ
00:13:42 → 00:13:45 กินข้าวขาวแล้วทำให้คุณอิ่มได้นะครับใคร
00:13:45 → 00:13:46 เคยกินข้าวจะรู้ว่ากินข้าวได้เรื่อยๆเติม
00:13:46 → 00:13:49 ได้เรื่อยๆถูกมั้ยเนาะแต่โปรตีนกับใย
00:13:49 → 00:13:50 อาหารจะทำให้คุณอิ่มนะครับนะเพราะฉะนั้น
00:13:50 → 00:13:53 ลดปริมาณแป้งลงครึ่งนึงพยายามไม่กินแป้ง
00:13:53 → 00:13:56 ซ้ำซ้อนเช่นถ้าคุณกินข้าวแล้วไม่กินผลไม้
00:13:56 → 00:13:59 ถ้าเลือกกินผลไม้แล้วไม่กินข้าวถ้าคุณหัก
00:13:59 → 00:14:01 หัวกินฟักทองแล้วเอาข้าวออกมื้อไหนกินขนม
00:14:01 → 00:14:04 ปังโฮลวีตมื้อนั้นเอาข้าวขาวออกเพราะเห็น
00:14:04 → 00:14:06 ภาพเนาะนี่คือเรียกว่าไม่กินแป้งซ้ำซ้อน
00:14:06 → 00:14:08 นะครับและในส่วนของโปรตีนนะครับก็พยายาม
00:14:08 → 00:14:10 กินให้ได้อย่างน้อย 1 เท่าของน้ำหนักตัว
00:14:10 → 00:14:13 เนาะอย่างหมอหนึ่งน้ำหนัก 70 ก็กิน 70
00:14:13 → 00:14:15 ถ้าใครออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งด้วยก็
00:14:15 → 00:14:17 กินเพิ่มขึ้นนะครับนะส่วนไขมันกินได้ไหม
00:14:17 → 00:14:20 กินได้ครับบอกเลยนะว่ากินได้การลดน้ำหนัก
00:14:20 → 00:14:21 ที่ดีมันควรจะเป็นการลดน้ำหนักที่เราใช้
00:14:21 → 00:14:24 ชีวิตประจำวันได้ปกติเนาะเพราะฉะนั้นถ้า
00:14:24 → 00:14:26 วันไหนที่อยากกินมันๆทอดๆเราก็ไปลดพลัง
00:14:27 → 00:14:30 งานไปลดการกินพวกแป้งลงนะร่างกายจะได้ใช้
00:14:30 → 00:14:31 ไขมันได้ดีขึ้นเพราะว่าหมอหนึ่งบอกแล้ว
00:14:31 → 00:14:33 ว่าร่างกายใช้พลังงานจากไม่น้ำตาลกับแป้ง
00:14:33 → 00:14:36 ก็ไขมันเป็นหลักถูกมั้ยมื้อไหนกินชาบู
00:14:36 → 00:14:38 ปิ้งย่างนักเรียนหมอหนึ่งในกลุ่ม VIP นะ
00:14:38 → 00:14:40 วันไหนกินชาบูปิ้งย่างวันนั้นลดแป้งวัน
00:14:40 → 00:14:42 ไหนที่อยากกินแป้งแต่เลือกกินแป้งชนิดดี
00:14:42 → 00:14:45 หน่อยนะครับมื้อนั้นก็ลดไขมันลงแค่นั้น
00:14:45 → 00:14:48 เองอ่ะเราก็สามารถลดน้ำหนักแบบมีความสุข
00:14:48 → 00:14:50 ได้แล้วนะครับเนาะเพราะฉะนั้นอันนี้ใน
00:14:50 → 00:14:52 ช่วงฟีดนะก็กินแบบนี้ส่วนช่วงฟัดก็น้ำ
00:14:52 → 00:14:54 เปล่าชากาแฟดำโอเคเนาะคราวนี้ก่อนที่จะไป
00:14:54 → 00:14:57 เริ่มทำนะครับหมอหนึ่งบอกก่อนว่าการทำ If
00:14:57 → 00:15:00 เนี่ยมันจะมีคนอยู่บางกลุ่มกลุ่มที่อาจจะ
00:15:00 → 00:15:02 ต้องทำภายใต้การดูแลของหมอนะคือไม่ใช่ทุก
00:15:02 → 00:15:05 คนที่จะบอกกับการทำ If นะครับคนที่อาจจะ
00:15:05 → 00:15:08 ไม่เหมาะเลยกับการทำ If คือคนที่ผอมอยู่
00:15:08 → 00:15:10 แล้วนะครับเพราะว่าร่างกายคุณไขมันน้อย
00:15:10 → 00:15:13 อยู่แล้วยิ่งคุณทำ If ไขมันในร่างกายคุณ
00:15:13 → 00:15:15 ก็จะยิ่งออกมาอีกไม่ได้หมายความว่ายิ่ง
00:15:15 → 00:15:18 ผอมไขมันไม่มีเลยยิ่งดีนะครับเพราะว่าไข
00:15:18 → 00:15:20 มันมันมีประโยชน์นะมันให้ความอบอุ่นร่าง
00:15:20 → 00:15:22 กายและมันเป็นสารตั้งต้นในการเอาไปสร้าง
00:15:22 → 00:15:26 ฮอร์โมนด้วยนะบางคนเนี่ยผอมมากๆจนฮอร์โมน
00:15:26 → 00:15:29 หายไปเพราะฉะนั้นข้อนี้สำคัญมากๆคนที่ผอม
00:15:29 → 00:15:32 อยู่แล้วรู้ได้ไงครับว่าผอมเราตัดที่ BMI
00:15:32 → 00:15:35 นะครับประมาณ 18.5 คือถ้าต่ำกว่า 18.5
00:15:35 → 00:15:37 เรายังอยู่ในเกณฑ์ผอมละนะครับใครที่อยาก
00:15:37 → 00:15:40 รู้ว่า BMI คิดยังไงนะครับเราเอาน้ำหนัก
00:15:40 → 00:15:43 นะหารด้วยส่วนสูงที่เป็นเมตรยกกำลัง 2 นะ
00:15:43 → 00:15:45 ครับถ้าต่ำกว่า 18.5 คือคุณเข้าเกณฑ์ผอม
00:15:45 → 00:15:48 แล้วล่ะคุณไม่เหมาะจะทำ If โอเคไหมนะส่วน
00:15:48 → 00:15:50 คนกลุ่มอื่นๆที่ควรจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อน
00:15:50 → 00:15:52 ได้แก่คนที่มีโรคประจำตัวโดยเฉพาะอย่าง
00:15:52 → 00:15:55 เบาหวานบางคนกินยาอยู่การทำ f จะทำให้น้ำ
00:15:55 → 00:15:57 ตาลคุณต่ำลงพูดง่ายๆคือสุขภาพคุณจะดีขึ้น
00:15:57 → 00:16:00 นะแต่การที่คุณกินยาไปด้วยเนี่ยนะครับมัน
00:16:00 → 00:16:02 จะทำให้ระดับน้ำตาลของคุณเนี่ยมันเปลี่ยน
00:16:02 → 00:16:05 แปลงค่อนข้างเร็วควรจะต้องทำภายใต้การดู
00:16:05 → 00:16:07 แลของหมอนะครับแล้วก็ในกลุ่มที่เป็นเด็ก
00:16:07 → 00:16:10 เด็กที่อ้วนเนี่ยถามว่าทำไม f ได้ไหมควร
00:16:10 → 00:16:13 จะต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์นะครับแล้วก็
00:16:13 → 00:16:16 ในกลุ่มคนท้องกับคนที่ให้นมบุตรนะครับควร
00:16:16 → 00:16:18 จะต้องอยู่ในภายใต้การดูแลของหมอเนาะนะ
00:16:18 → 00:16:20 ครับนะ 4 กลุ่มนี้เนาะส่วนคนอื่นนะครับนะ
00:16:20 → 00:16:22 อันไหนที่ไม่มั่นใจก็พิมพ์ถามไว้นะครับ
00:16:22 → 00:16:25 ว่าทำได้ไหมแต่ว่าถ้าไม่ได้อยู่ในกลุ่ม
00:16:25 → 00:16:27 แบบนี้เป็นคนปกติเลยนะครับทำได้นะครับดี
00:16:27 → 00:16:30 กับสุขภาพคุณด้วยดังนั้นสรุปนะครับว่าลด
00:16:30 → 00:16:33 ไขมันด้วย If ดีจริงไหมนะครับนะต้องบอก
00:16:33 → 00:16:35 เลยนะครับว่าดีจริงๆนะครับแล้วก็เป็นการ
00:16:35 → 00:16:37 ทำที่คุณแทบจะไม่ต้องเสียเงินเลยแม้แต่
00:16:37 → 00:16:39 บาทเดียวอ่ะเพราะมันคือการจัดเวลาการทาน
00:16:39 → 00:16:41 ถูกไหมแต่ขอให้คุณมีความรู้ที่ถูกต้อง
00:16:41 → 00:16:43 เท่านั้นเองนะครับอย่างนักเรียนของหมอ
00:16:43 → 00:16:45 หนึ่งนะครับนะที่อยู่ในกลุ่ม VIP เนี่ยพอ
00:16:45 → 00:16:47 เขาเข้าใจแล้วเค้าเอาไปปรับทำนะแต่ละคน
00:16:47 → 00:16:49 เนี่ยชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมากๆเลยเดี๋ยวให้
00:16:49 → 00:16:51 ดูคนแรกนะครับคุณจะได้มีกำลังใจในการเอา
00:16:51 → 00:16:54 ไปทำเนาะอย่างคนแรกนะครับนะคนนี้นะลดไป
00:16:54 → 00:16:56 แล้ว 3 กิโลกรัมหลังจากที่เข้าไปในกลุ่ม
00:16:56 → 00:16:58 VIP ของ 1 กับ 10 วันเริ่มเข้าใจเรื่อง
00:16:58 → 00:17:00 สารอาหารแบบที่หมดเลยอธิบายไปเมื่อกี้นะ
00:17:00 → 00:17:02 ว่าน้ำหนักของเขาเท่านี้ส่วนสูงเท่านี้
00:17:02 → 00:17:04 เขาต้องกินประมาณเท่าไหร่ 10 วันเขาลดไป 3
00:17:04 → 00:17:07 กิโลกรัมว้าวไหมว้าวนะครับนะเพราะฉะนั้น
00:17:07 → 00:17:09 นะออกความรู้ตรงนี้ไปทำเนาะอีกคนนึงเนี่ย
00:17:09 → 00:17:12 อายุ 60 แล้วบางคนบอกว่าอายุเราเยอะแล้ว
00:17:12 → 00:17:15 เราจะทำได้หรออายุ 60 แล้วเนี่ยค่อยๆทำ
00:17:15 → 00:17:17 ตามผมไปเรื่อยๆๆตอนแรกๆก็แบบเฮ้ยไม่มั่น
00:17:17 → 00:17:20 ใจว่าจะทำได้ไหมสุดท้ายลด 88 กกกลับไป
00:17:20 → 00:17:23 สุขภาพดีเลยเนาะนะครับส่วนอีกคนนึงเนี่ย
00:17:23 → 00:17:25 คนที่เป็นลูกศิษย์ของผมอยู่จากอเมริกานะ
00:17:25 → 00:17:27 ครับคนนี้ลดไป 7 กิโลแล้วที่สำคัญคือเคย
00:17:27 → 00:17:30 เป็นความดันคือคนที่เป็นความดันหรือว่า
00:17:30 → 00:17:31 เป็นเบาหวานถ้าไม่ได้เป็นตั้งแต่เกิดนะ
00:17:31 → 00:17:33 แล้วมาเป็นจากการที่คุณเนี่ยอ้วนขึ้นนะ
00:17:33 → 00:17:35 มันสามารถกลับไปดีขึ้นได้นะครับอย่างคน
00:17:35 → 00:17:38 เนี้ยนะลดไป 7 กมความดันกลับมาปกติเลยดัง
00:17:38 → 00:17:40 นั้นถ้าคนอื่นทำได้คุณก็ทำได้นะครับลอง
00:17:40 → 00:17:42 เอาความรู้ดีๆในวันนี้ไปปรับใช้ดูนะครับ
00:17:42 → 00:17:45 คุณสามารถรับชมคลิปอื่นๆที่เกี่ยวกับการ
00:17:45 → 00:17:47 ลดน้ำหนักและสุขภาพได้นะครับโดยที่กดที่
00:17:47 → 00:17:49 คลิปทางด้านนี้นะครับแต่สำหรับใครที่อยาก
00:17:49 → 00:17:51 รู้ว่าน้ำหนักเท่านี้ส่วนสูงเท่านี้นะ
00:17:51 → 00:17:53 ครับจะปรับการกินยังไงนะครับหมอหนึ่งมี
00:17:53 → 00:17:55 กลุ่มเรียนนะครับที่ชื่อว่าคอร์สลดน้ำ
00:17:55 → 00:17:56 หนักครั้งสุดท้ายในชีวิตกลุ่ม VIP นะครับ
00:17:56 → 00:17:59 สามารถดูรายละเอียดได้ที่ด้านนี้นะครับนะ
00:17:59 → 00:18:00 ครับในกลุ่มจะเป็นคลิปที่หมอหนึ่งเรียง
00:18:00 → 00:18:02 ลำดับมาให้แล้วว่าคุณต้องทำอะไรบ้างตาม
00:18:02 → 00:18:05 น้ำหนักของคุณนะครับแล้วพบกันนะครับ