00:00:03 → 00:00:07 med cmu podcast fung for
00:00:07 → 00:00:10 Hell ัง for Health
00:00:10 → 00:00:13 podcast รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราว
00:00:13 → 00:00:16 ของสุขภาพและแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์
00:00:16 → 00:00:20 ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยศาสตร์
00:00:20 → 00:00:22 มหาวิทยาลัย
00:00:22 → 00:00:28 เชียงใหม่เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:00:28 → 00:00:32 เราสวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง
00:00:32 → 00:00:35 for Health podcast ค่ะรายการที่จะมา
00:00:35 → 00:00:38 พูดคุยเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพและแบ่ง
00:00:38 → 00:00:41 ปันประสบการณ์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคณะ
00:00:41 → 00:00:44 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะวันนี้
00:00:44 → 00:00:47 คุณผู้ฟังทุกท่านอยู่กับทิปสมัชญาหน่อล่า
00:00:47 → 00:00:50 จากงานประชาสัมพันธ์คณะแพทยยาศาสตร์
00:00:50 → 00:00:53 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นะคะผู้ฟังทุกท่านคะ
00:00:53 → 00:00:56 ช่วงนี้ถ้าพูดถึงสภาพอากาศบ้านเราต้องบอก
00:00:56 → 00:00:59 ว่าร้อนจัดกันเลยนะคะบางวัน 40 กว่าอง์
00:00:59 → 00:01:02 องศาค่ะเพราะฉะนั้นช่วงนี้เรามักจะได้ยิน
00:01:02 → 00:01:06 คำว่าฮ Stroke หรือว่าโรคลมแดดอยู่บ่อย
00:01:06 → 00:01:09 ครั้งและที่สำคัญพบผู้ป่วยด้วยอาการ
00:01:09 → 00:01:12 ฮิสโตกหรือว่าโรคลมแดดเพิ่มขึ้นอย่างต่อ
00:01:12 → 00:01:15 เนื่องในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ด้วยนะคะดัง
00:01:15 → 00:01:18 นั้นเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่เราจะพูด
00:01:18 → 00:01:21 คุยกันในวันนี้นั่นก็คือโรคลมแดดหรือฮิ
00:01:21 → 00:01:25 สตกอากาศร้อนต้องระวังเลยล่ะค่ะสาเหตุของ
00:01:25 → 00:01:29 การเกิดโรคนี้มีอะไรบ้างและอาการเป็นแบบ
00:01:29 → 00:01:32 ไหนไเราจะมีวิธีสังเกตอาการตัวเองและคน
00:01:32 → 00:01:36 ใกล้ตัวอย่างไรรวมไปถึงมีวิธีป้องกันตัว
00:01:36 → 00:01:39 หรือไม่นะคะวันนี้เราจะได้พูดคุยกันกับ
00:01:39 → 00:01:41 อาจารย์หมอค่ะขอต้อนรับผู้ช่วย
00:01:41 → 00:01:44 ศาสตราจารย์นายแพทย์กิตติเทียนขาวอาจารย์
00:01:44 → 00:01:47 ประจำหน่วยประสาทวิทยาภาควิชาอายุรศาสตร์
00:01:48 → 00:01:51 คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ
00:01:51 → 00:01:54 อาจารย์สวัสดีค่ะครับสวัสดีครับถ้าพูดถึง
00:01:54 → 00:01:57 สาเหตุของการเกิดโรคลมแดดหรือว่าฮิสโตก
00:01:57 → 00:02:00 สาเหตุจริงๆแล้วมีอะไรบ้างคะอาจารย์จริงๆ
00:02:00 → 00:02:04 ฮกส่วนภาษาไทยก็คือลมแดดนะครับเนาะก็เอ่อ
00:02:04 → 00:02:06 สาเหตุจริงๆก็คือเกิดจากการที่ร่างกายเรา
00:02:06 → 00:02:10 มีอุณหภูมิกายเนี่ยสูงมากผิดปกติอย่างรวด
00:02:10 → 00:02:13 เร็วนะครับโดยตัวเลขที่เอ่อเขานิยามไว้ก็
00:02:13 → 00:02:17 คืออาจจะเกิน 40 -4.5 องศเซซขึ้นไปยังก็
00:02:17 → 00:02:20 ต้องไปดูต่อว่าอะไรที่ทำให้อุณหภูมิกาย
00:02:20 → 00:02:23 เราเนี่ยฮะสูงเกินมาขนาดนั้นเพราะว่าจริง
00:02:23 → 00:02:27 ๆโดยปกติร่างกายเราก็จะมีการปรับอ่า
00:02:27 → 00:02:30 เปลี่ยนแปลงนะครับปรับปรับตัวเองอยู่แล้ว
00:02:30 → 00:02:32 เพื่อที่จะตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมนะครับ
00:02:32 → 00:02:34 เนาะให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่ที่เรา
00:02:34 → 00:02:37 อยู่แต่ว่าเอ่อมันก็จะมีภาวะบางอย่างที่
00:02:37 → 00:02:39 สุดท้ายแล้วร่างกายเราปรับไม่ไม่ทันนะ
00:02:39 → 00:02:42 ครับเนาะหรือว่าเอ่อทำให้อุณหภูมิกายเรา
00:02:42 → 00:02:44 เนี่ยมันสูงขึ้นไปถึงขนาดนั้นนะครับ 40
00:02:44 → 00:02:47 -4.5 อะไรอย่างเงี้ยครับซึ่งสาเหตุหลักๆ
00:02:47 → 00:02:49 เลยก็อาจจะมีสัก 2-3 อย่างนะครับอันดับ
00:02:49 → 00:02:52 แรกเลยก็คือเอ่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ค่อน
00:02:52 → 00:02:55 ข้างเอ่อมีความชื้นสูงหรือว่ามีความร้อน
00:02:55 → 00:02:57 ค่อนข้างมากนะครับนะอันนี้ก็จะส่งผลให้
00:02:57 → 00:02:59 เอ่อคนไข้บางคนที่อาจจะเป็นกลุ่มเสี่ง
00:03:00 → 00:03:02 อยู่เดิมซึ่งเดี๋ยวจะพูดต่อไปอนะครับมี
00:03:02 → 00:03:05 เอ่ออ่าการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมเนี่ยที่
00:03:05 → 00:03:08 ที่ไม่ทันนะครับเนาะก็อาจจะทำให้เอ่อ
00:03:08 → 00:03:10 อุณหภูมิกายเขาสูงขึ้นขนาดนั้นแล้วก็เกิด
00:03:10 → 00:03:13 อาการของลมแดดหรือฮีสกได้นะครับเนาะหรือ
00:03:13 → 00:03:15 อีกกรณีนึงก็คืออีกสาเหตุนึงก็คืออาจจะ
00:03:15 → 00:03:19 เจอในคนไข้บางกลุ่มที่เอ่อไปทำงานหรือไป
00:03:19 → 00:03:21 ใช้ชีวิตหรือไปทำกิจกรรมในสภาพแวดล้อมที่
00:03:21 → 00:03:24 ไม่เหมาะสมนะครับเนาะเช่นออกออกไปทำงาน
00:03:24 → 00:03:27 เอ่อกลางแดดกลางแจ้กือสภาพแวดล้อมที่ที่
00:03:27 → 00:03:30 มันเอ่อ extrem หรือหรือร้อนมากเกินไปนะ
00:03:30 → 00:03:32 ครับในสภาวะที่ตัวเองอาจจะไม่ได้เตรียม
00:03:32 → 00:03:35 ตัวให้เหมาะสมด้วยเช่นเรื่องของการดื่ม
00:03:35 → 00:03:37 น้ำให้เพียงพอหรือว่าการใส่เสื้อผ้าที่
00:03:37 → 00:03:40 เหมาะสมกับสภาพอากาศเหล่าเนะครับอันนี้ก็
00:03:40 → 00:03:43 จะเป็น 2 2 สาเหตุหลักๆที่ที่เจอในคนไข
00:03:43 → 00:03:46 ที่เป็นฮิรค่ะอันนี้คือสาเหตุของการเกิด
00:03:46 → 00:03:49 โรคส่วนใหญ่ที่มาหาอาจารย์หมอนะคะแล้วที
00:03:49 → 00:03:52 นี้พูดถึงอาการมาค่ะอาจารย์หมออาการของ
00:03:52 → 00:03:55 ผู้ป่วยที่มาด้วยโรคลมแดดส่วนใหญ่จะมี
00:03:55 → 00:03:59 อาการแบบไหนที่เป็นอาการบ่งชัดเลยว่าถ้า
00:03:59 → 00:04:01 มีอาการตานี้คือเป็นโรคลมแดดแน่นอนไงค่ะ
00:04:01 → 00:04:03 คือต้องบอกว่าตัวโรคลมแดดเนี่ยก็จะต่าง
00:04:03 → 00:04:06 กับสติจักอย่างอื่นทั่วไปตรงที่ 1 เลยก็
00:04:06 → 00:04:08 คือตัวลมแดดความรุนแรงจะค่อนข้างค่อนข้าง
00:04:08 → 00:04:11 เยอะนะครับต้องอาศัยการตรวจวินิฉัยที่รวด
00:04:11 → 00:04:13 เร็วแล้วก็การผสมพยาบาลเบื้องต้นที่อย่าง
00:04:13 → 00:04:15 ถูกต้องแล้วก็เหมาะสมอย่างทันท่วงทีนะ
00:04:15 → 00:04:18 ครับทีนี้เนี่ยตัวอาการหลักๆของตัวลมแดด
00:04:18 → 00:04:22 ก็คือเอ่อตัววเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกาย
00:04:22 → 00:04:25 เรามีอุณหภูมิกายเนี่ยสูงมากเกิน 40 -4.5
00:04:25 → 00:04:29 องศเซซขึ้นไปเนี่ยเอ่ออวัยวะที่ที่จะมีมี
00:04:29 → 00:04:31 ปัญหานะครับที่เรากลัวแล้วก็จะทำให้คนไข้
00:04:31 → 00:04:34 มีอาการแลเป็นอาการที่นำมานอกนอกเหนือจาก
00:04:34 → 00:04:37 การที่เรา detect อุณหภูมิร่างกายคนไข้
00:04:37 → 00:04:38 อุณหภูมิกายคนไข้เนี่ยสูงมากอยู่แล้ว
00:04:38 → 00:04:41 เนี่ยครับก็จะมีอาการทางระบบต่างๆที่อาจ
00:04:41 → 00:04:44 จะเป็นตัวบ่งชี้ได้ซึ่งระบบนั้นที่ที่เรา
00:04:44 → 00:04:46 กังวลก็คือเป็นระบบที่สำคัญของร่างกาย
00:04:46 → 00:04:49 ประมาณสัก 4-5 ระบบนะครับอันดับแรกเลยก็
00:04:49 → 00:04:52 คือสมองอันดับที่ 2 ก็คือระบบเอ่อหัวใจ
00:04:52 → 00:04:55 และปอดนะครับอันดับที่ 3 ก็เป็นระบบกล้าม
00:04:55 → 00:04:58 เนื้อแลอันที่ 4 ก็เป็นระบบไตนะครับก็
00:04:58 → 00:05:01 เอ่อนอกเโดยสรุปก็คืออาการที่ที่เราจะ
00:05:01 → 00:05:04 เอ่อวินิจฉัยหรือว่าตรวจคนไข้เนี่ยก็คือ 1
00:05:04 → 00:05:07 ดูจากเอ่อปัจจัยเสี่ยงที่คนไข้มีบวกกับ
00:05:07 → 00:05:10 อุณหภูมิกายคนไข้ที่ค่อนข้างสูงนะครับ
00:05:10 → 00:05:13 เนาะอาจจะเกิน 40 -4.5 บวกกับมีอาการตาม
00:05:13 → 00:05:16 ระบบเหล่านี้นะครับเนาะซึ่งอ่าตัวระบบที่
00:05:16 → 00:05:18 ที่สำคัญที่กล่าวไปอย่างเช่นอาการทางระบบ
00:05:18 → 00:05:20 ประสาทหรือสมองเนี่ยครับเนาะคนไข้ก็อาจจะ
00:05:20 → 00:05:23 มีไล่ตั้งแต่เล็กน้อยปานกามไปถึงรุรุนแรง
00:05:23 → 00:05:26 ได้นะครับเนาะเช่นอาจจะมีแค่กระสับ
00:05:26 → 00:05:28 กระส่ายอันนี้เบื้องต้นแต่ถ้าเป็นเยอะ
00:05:28 → 00:05:31 ขึ้นนะครับเนาะคนใ้ก็อาจจะมีอาการสับสน
00:05:31 → 00:05:34 อ่าพูดไม่รู้เรื่องมีอาการเพ้อหรือในบาง
00:05:34 → 00:05:38 รายถ้าเป็นมากๆก็อาจจะหมดสติค่ะได้เลยนะ
00:05:38 → 00:05:41 ครับเนาะเอ่อระบบที่ 2 ที่มักจะมาร่วมกัน
00:05:41 → 00:05:43 ก็คือระบบหัวใจและระบบการหายใจนะครับเนาะ
00:05:43 → 00:05:46 เพราะว่าถ้าเอ่ออุณหภูมิร่างกายสูงมาก
00:05:46 → 00:05:49 ขนาดนั้นก็จะส่งผลให้ระบบเ่อไเวียนโลหิต
00:05:49 → 00:05:51 หรือว่าระบบหายใจเนี่ยมีปัญหาได้คนไข้อาจ
00:05:51 → 00:05:54 จะมีปัญหาเรื่องการหายใจผิดปกติมีหายใจ
00:05:54 → 00:05:56 เรวได้มีหอบเหนื่อยได้นะครับเนาะหรือบาง
00:05:56 → 00:05:59 รายอาจจะมีเรื่องของระบบหายใจล้มเหลวได้
00:05:59 → 00:06:01 หรือถ้าเป็นระบบหัวใจคนไข้ก็ในช่วงแรกอาจ
00:06:01 → 00:06:04 จะมีแค่เรื่องของหัวใจเต้นเร็วนะครับเนาะ
00:06:04 → 00:06:06 ในบางรายที่ถ้าเป็นเยอะแล้วก็ไม่ได้รับ
00:06:06 → 00:06:08 การรักษาอย่างทางทงทีก็อาจจะมีเรื่องของ
00:06:08 → 00:06:12 ระบบเอ่อลความล้มเหลวของระบบหัวใจตามมา
00:06:12 → 00:06:15 ได้นะครับเนาะสุดท้ายเลยก็คือเป็นอาการ
00:06:15 → 00:06:19 ทางระบบของเอ่อกล้ามเนื้อแล้วก็ระบบไตอัน
00:06:19 → 00:06:21 นี้ก็จะมาคู่กันเพราะว่าในบางรายที่อาการ
00:06:21 → 00:06:23 เป็นรุนแรงมากเนี่ยครับเนาะก็อาจจะมี
00:06:23 → 00:06:26 อาการบาดเจ็บหรือการสลายของกล้ามเนื้อลาย
00:06:26 → 00:06:29 ในร่างกายได้ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า risis
00:06:29 → 00:06:34 เนี่ยนะครับค่ะก็่านี้ซึ่งของกล้ามเนื้อ
00:06:34 → 00:06:38 บางนจะสผลให้มีภาวะแทรกซ้อนตามมาที่สำคัญ
00:06:38 → 00:06:41 ก็คืออาจจะมีภาวะไตวายเฉียบลันปัสสาวะ
00:06:41 → 00:06:43 เปลี่ยนสีอะไรอย่างเงี้ได้นะครับเเป็นสี
00:06:43 → 00:06:45 เข้มขึ้นจากที่เป็นสีเหลืองอ่อนเงี้นะ
00:06:45 → 00:06:48 ครับอันนี้ก็จะเป็นตัวที่ที่ที่เราเอาไว้
00:06:48 → 00:06:50 วินิจฉัยเบื้องต้นว่าอาการคนไข้ก็จะมา
00:06:50 → 00:06:52 ด้วยกลุ่มอาการเหล่านี้ซึ่งก็แล้วแต่คน
00:06:52 → 00:06:55 แล้วแต่ความรุนแรงบางคนก็ถ้ารุนแรงมากก็
00:06:55 → 00:06:58 อาจจะมารวดเร็วด้วยทุกระบบได้เลยนะครับ
00:06:58 → 00:07:00 แต่ถ้าอาการไม่ได้รุงมากในช่วงแรกก็อาจจะ
00:07:00 → 00:07:03 ค่อยๆมาทีละระบบแล้วก็เป็นจากเล็กน้อยปาน
00:07:03 → 00:07:06 กลางไปจนถึงรุนแรงได้ครับรุนแรงนี้ถึง
00:07:06 → 00:07:08 ขั้นเสียชีวิตดีนะคะมีรายงานครับมีรายงาน
00:07:08 → 00:07:11 ถ้าสมมุติว่าอาการเป็นเยอะแล้วก็การรักษา
00:07:11 → 00:07:14 ในช่วงแรกมาช้าการปฐมยาบาลเบื้องต้นไม่
00:07:14 → 00:07:17 ถูกต้องหรือว่าเจอในคนไข้ที่เป็นกลุ่ม
00:07:17 → 00:07:21 เสี่ยงนะครับเนาะเช่นอายุน้อยมากๆเช่นใน
00:07:21 → 00:07:24 เด็กเล็กหรือว่าในคนไข้อายุเยอะมากๆเช่น
00:07:24 → 00:07:26 กลุ่มผู้ป่วยสูงอายุอย่าเงี้ยครับก็อาจจะ
00:07:26 → 00:07:28 เป็นกลุ่มเปราะบางมากกว่าคนไข้วัยทำงาน
00:07:28 → 00:07:31 หรือบางคนคนมีโรคร่วมอย่างที่บอกครับว่า
00:07:31 → 00:07:34 อาการของฮิกถ้าเป็นเยอะๆก็จะไปแทคหรือไป
00:07:34 → 00:07:37 กระทบกับระบบสมองหัวใจหายใจแล้วก็ไตเพราะ
00:07:38 → 00:07:41 ฉะนั้นถ้าคนไข้คนไหนอาจจะอายุเยอะรวมทั้ง
00:07:41 → 00:07:43 มีโรคร่วมเหล่านี้อยู่เดิมเช่นมีโรคหลอด
00:07:43 → 00:07:46 เลือดสมองมีโรคลมชักมีเรื่องของอ่อโรค
00:07:47 → 00:07:49 หลอดเลิศหัวใจระบบหัวใจและปอดอยู่ผิดปกติ
00:07:49 → 00:07:52 อยู่เดิมกลุ่มนี้เนี่ยก็มีความเสี่ยงถ้า
00:07:52 → 00:07:54 สมมุติว่าอาการรุนแรงและไม่ได้รับการ
00:07:54 → 00:07:56 รักษาที่ถูกต้องอย่างทันทุกทีก็อาจจะส่ง
00:07:56 → 00:07:59 ผลให้ผลลัพธ์ของการรักษาไม่ดีแล้วก็เกิด
00:07:59 → 00:08:02 การเสียชีวิตได้ค่ะถือว่าเป็นอีกหนึ่งโรค
00:08:02 → 00:08:05 ที่มีความรุนแรงมากๆแล้วจะต้องอาศัยความ
00:08:05 → 00:08:08 รวดเร็วในการมาพบแพทย์ยิ่งมาหาคุณหมอเร็ว
00:08:08 → 00:08:11 เท่าไหร่ก็จะยิ่งช่วยรักษาอาการได้เท่า
00:08:11 → 00:08:14 นั้นนะคะคุณผู้ฟังหลายท่านอาจจะสงสัยว่า
00:08:14 → 00:08:19 เอ๊ะโรคลมแดดฮิสโตกกับโรคเป็นลมปกติมัน
00:08:19 → 00:08:22 แตกต่างกันยังไงแล้วเรามีวิธีสังเกตยังไง
00:08:22 → 00:08:24 คะอาจารย์เอ่อจริงๆถ้าเป็นอันดับแรกเลยก็
00:08:24 → 00:08:28 คือดูที่ที่อ่าความรุนแรงของตัวโรกนะครับ
00:08:28 → 00:08:30 ถ้าเป็นตมแดดเนี่ยจะค่อนข้างชัดได้ว่า
00:08:30 → 00:08:33 อาการจะค่อนข้างรุนแรงนะครับเนาะแล้วก็มี
00:08:33 → 00:08:36 อาการตามระบบอื่นๆร่วมด้วยมากกว่าที่จะไป
00:08:36 → 00:08:38 แค่เป็นลมหมดสติธรรมดาอย่างที่ผมกล่าวไป
00:08:38 → 00:08:40 นะครับหรืออันที่ 2 เราอาจจะสังเกตจาก
00:08:40 → 00:08:44 เอ่อปัจจัยเสี่ยงหลักๆของคนไข้รวมทั้ง
00:08:44 → 00:08:46 เรื่องของเอ่อสภาพแวดล้อมที่คนไข้อยู่นะ
00:08:46 → 00:08:48 ครับเพราะว่าจริงๆเราลมแดดเนี่ยเราก็แบ่ง
00:08:48 → 00:08:51 เป็น 2 กลุ่มย่อยๆก็คือเป็นกลุ่มที่ลมแดด
00:08:51 → 00:08:54 ที่สัมพันธ์กับการการทำงานที่อยู่ในสภาพ
00:08:54 → 00:08:56 แวดล้อมที่ไม่เหมาะสมเช่นอย่างที่ผมบอกไป
00:08:56 → 00:08:59 ว่าไปอยู่ในกลุ่มคนไข้ที่ไปทำงานใช้ชีวิต
00:08:59 → 00:09:01 วิตอยู่ในสภาพแวดล้อมกลางแดดนานๆหรือบาง
00:09:01 → 00:09:03 คนก็อาจจะเป็นกลุ่มที่ที่ 2 ที่เราเรียก
00:09:03 → 00:09:05 ว่าเป็นกลุ่มลมแดดแบบปกติก็คือไม่จำเป็น
00:09:05 → 00:09:08 จะต้องไปไปอยู่กลางแดดทำงานนานๆแต่ว่า
00:09:08 → 00:09:11 อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมนะครับที
00:09:11 → 00:09:15 นี้เนี่ยตัวเอ่อตัวที่จะเน้นย้ำนิดนึงก็
00:09:15 → 00:09:18 คือเรื่องของกลุ่มคนไข้ที่มีปัจจัยเสียง
00:09:18 → 00:09:21 แล้วกันว่าอันนี้อาจจะใช้แยกได้กับกับตัว
00:09:21 → 00:09:23 การเป็นลมธรรมดานะครับเนาะเพราะว่าถ้า
00:09:23 → 00:09:25 เป็นลมแดดหรือฮีกเนี่ยเอ่อคนไข้มักจะมี
00:09:25 → 00:09:28 ปัจจัยเสี่ยงบางอย่างขึ้นมาได้บ้างยกตัว
00:09:28 → 00:09:31 อย่างเช่นอย่างที่อันดับแรกเลยเรื่องอายุ
00:09:31 → 00:09:33 นะครับถ้าเป็นคนไข้อายุเด็กมากๆเป็นผู้
00:09:33 → 00:09:35 ป่วยสูงอายุหรือว่ามีโรคร่วมตามระบบที่
00:09:35 → 00:09:37 กล่าวไปนี้ก็อาจจะเป็นกลุ่มที่อาจจะต้อง
00:09:37 → 00:09:40 ระวังว่าเขาอาจจะมีความเสี่ยงได้อันที่ 2
00:09:40 → 00:09:44 ก็คือบางคนอาจจะเป็นคนไข้บางกลุ่มที่ไป
00:09:44 → 00:09:47 ใช้ยาบางอย่างแล้วทำให้การตอบสนองของร่าง
00:09:47 → 00:09:50 กายเวลาเกิดเกิดอุณหภูมิร่างกายสูงเนี่ย
00:09:50 → 00:09:53 ไม่เป็นไปตามปกตินะยกตัวอย่างเช่นเอ่อคน
00:09:54 → 00:09:58 ไข้ใช้เอ่อยากลุ่มบางกลุ่มที่รักษาโรคบาง
00:09:58 → 00:10:01 โรคที่ทำให้เกิดหลอดเลือดส่วนปลายหดตัว
00:10:01 → 00:10:04 เพราะโดยปกติเวลาร่างกายเราเราเจอภาวะแวด
00:10:04 → 00:10:07 ล้อมที่อุณหภูมิสูงมากๆร่างกายเราก็จะมี
00:10:07 → 00:10:09 การปรับตัวในการระบายความร้อนออกจากร่าง
00:10:09 → 00:10:12 กายอยู่ละเช่นมีการขยายตัวของหลอดเลือด
00:10:12 → 00:10:14 ส่วนปลายที่แขนขามือเพิ่มเหงื่อเพิ่มการ
00:10:14 → 00:10:16 ระบายความร้อนออกจากผิวหนังอะไอย่างเงี้
00:10:16 → 00:10:19 นะครับทีนี้ถ้าสมมุติว่าคนไข้บางคนมีข้อ
00:10:19 → 00:10:22 บ่งจีที่ต้องได้รับการรักษาด้วยยาโรคหัว
00:10:22 → 00:10:24 ใจโรคสมองบางอย่างที่ทำให้เกิดหลอดเลือ
00:10:24 → 00:10:27 ส่วนปลายหดตัวได้หรือภาษาอังกฤษเรียกว่าว
00:10:27 → 00:10:29 constriction เนี่ยนะครับยิ่งโรคทางระบบ
00:10:29 → 00:10:31 ประประสาทเองเช่นคนไข้ไมเกรนบางคนต้องได้
00:10:31 → 00:10:34 รับยารักษาไมเกรนบางตัวที่ทำให้มีฤทธิ์ใน
00:10:34 → 00:10:37 การรักษาไมเกรนโดยการลดอ่อเป็นการการหด
00:10:37 → 00:10:40 ตัวของหลอดเลือดอย่างเงี้ยนะครับเวลาเขา
00:10:40 → 00:10:42 ไปโดนอุณหภูมิร้อนๆมากๆเนี่ยการตอบสนอง
00:10:43 → 00:10:45 อันนี้เขาก็จะไม่เท่ากับคนปกติก็อาจจะมี
00:10:45 → 00:10:48 แนวโน้มที่อาจจะเกิดอาการได้ง่ายหรือบาง
00:10:48 → 00:10:51 คนได้รับการรักษาด้วยยาบางอย่างเช่นยาขับ
00:10:51 → 00:10:53 ปัสสาวะอย่างเงี้ยครับเนาะเขาก็อาจจะมี
00:10:53 → 00:10:55 แนวโน้มในการที่จะสูญเสียน้ำและเกือแร่
00:10:55 → 00:10:58 ได้ง่ายกว่าคนทั่วไปก็อาจจะเป็นกลุ่ม
00:10:58 → 00:11:00 เสี่ยงที่ต้องระวังว่าว่าอาจจะเป็นกลุ่ม
00:11:00 → 00:11:03 ที่มีแนวโน้มจะเกิดตัวฮีสหรืออันสุดท้าย
00:11:03 → 00:11:05 เลยก็คืออันนี้บ้านเราอาจจะเจอน้อยหน่อย
00:11:05 → 00:11:07 แต่ว่าถ้าใครเคยอ่านรายงานข่าวเมื่อสัก 2
00:11:07 → 00:11:11 ปีก่อนที่ฝั่งยุโรปหรือ UK เจอ heat Wave
00:11:11 → 00:11:13 ที่เข้ามาฝั่งนั้นนะฮะก็คือเกิดการ
00:11:13 → 00:11:15 เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วในบาง
00:11:15 → 00:11:17 ภูมิประเทศอย่างเงี้ยครับที่เขาไม่ได้
00:11:17 → 00:11:19 เป็นเมืองร้อนอยู่เดิมอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:11:19 → 00:11:22 ครับแล้วมีคลื่นความร้อนแบบรุนแรงเข้ามา
00:11:22 → 00:11:24 กระทบสักครั้งนึงเขาก็จะปรับตัวได้น้อย
00:11:24 → 00:11:27 อันนี้ก็จะเป็นเป็นอีกกลุ่มนึงที่ที่อาจ
00:11:27 → 00:11:30 จะต้องเฝ้าระวังเพราะฉะนั้นถ้าพูดถึง
00:11:30 → 00:11:33 กลุ่มเสี่ยงหลักๆบ้านเราก็จะมีเป็นเด็ก
00:11:33 → 00:11:36 เป็นผู้สูงอายุแล้วก็ผู้ที่มีโรคประจำตัว
00:11:36 → 00:11:38 โรวมครับแล้วก็ช้ยาบางอย่างที่อาจจะต้อง
00:11:38 → 00:11:40 เฝ้าระวังดังนั้นถ้าเกิดว่าฟังแบบนี้แล้ว
00:11:41 → 00:11:43 ค่ะอาจารย์หลายคนบอกว่าเอ๊ะแล้วเราจะป้อง
00:11:43 → 00:11:46 กันตัวเองได้ไมคะเรามีแนวทางหรือว่ามี
00:11:46 → 00:11:48 วิธีป้องกันได้ยังไงบ้างค่ะครับอันนี้ก็
00:11:48 → 00:11:50 เป็นอีกจุดนึงที่เราต้องเน้นย้ำว่าเรา
00:11:50 → 00:11:53 ป้องกันไว้ดีกว่าดีกว่าไปให้เกิดโรคเนาะ
00:11:53 → 00:11:56 ทีนี้ตัวการป้องกันอันดับแรกเลยก็คือทั้ง
00:11:56 → 00:11:59 ตัวคนไข้หรือบุคคลทั่วไปเองรวมทั้งบุคคล
00:11:59 → 00:12:00 รอบข้างเนี่ยอาจจะต้องสังเกตเบื้องต้น
00:12:01 → 00:12:03 อย่างที่บอกไปว่าคนรอบข้างเราหรือตัวเรา
00:12:03 → 00:12:05 เองเนี่ยเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ที่มีแนวโน้ม
00:12:05 → 00:12:08 จะเกิดอาการได้หรือเปล่าทีนี้ถ้ามีกลุ่ม
00:12:08 → 00:12:10 เสี่ยงปึ๊บอาจจะต้องเฝ้าระวังเรื่องของ
00:12:10 → 00:12:12 การใช้ชีวิตหรือว่าการทำงานโดยเฉพาะถ้าไป
00:12:12 → 00:12:14 อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มัน Extreme หรือว่า
00:12:14 → 00:12:17 มีมีอุณหภูมิที่สูงมากๆนะครับเนาะก็คือ
00:12:17 → 00:12:20 ต้องต้องอ่อถ้าต้องไปอยู่ก็อาจจะอยู่ใน
00:12:20 → 00:12:23 ระยะเวลาที่ไม่นานมากเราก็อาจจะต้องมีการ
00:12:23 → 00:12:25 ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเท่าที่จำเป็นนะ
00:12:25 → 00:12:29 ครับเนาะหรือเ่ออีกอันนึงก็คือเอ่อเ่อบาง
00:12:29 → 00:12:32 คนอาจจะต้องดูเรื่องของการป้องกันในอย่าง
00:12:32 → 00:12:35 อื่นเบื้องต้นเช่นถ้าสมมุติว่ารู้ตัวแล้ว
00:12:35 → 00:12:38 ว่าอาจจะต้องไปอยู่ในสภาพลอมที่มันมันมัน
00:12:38 → 00:12:40 ร้อนมากๆหรือว่าทำงานกลางแดดอาจจะต้อง
00:12:40 → 00:12:43 เอ่อเฝ้าระวังการขาดน้ำอาจจะต้องดื่มน้ำ
00:12:43 → 00:12:45 ให้มากกว่าปกติหรือว่าอย่างน้อยๆก็ต้อง
00:12:45 → 00:12:48 เท่ากับที่เล็กอ่าแนะนำต่อวัน 8-10 แก้ว
00:12:48 → 00:12:51 ต่อวันอะไรอย่างเงี้ยนะครับรวมทั้งอาจจะ
00:12:51 → 00:12:55 ดูเรื่องของเอ่ออุปกรณ์ป้องกันต่างๆไม่
00:12:55 → 00:12:57 ว่าจะเป็นหมวกแว่นหรือว่าการใส่เสื้อผ้า
00:12:57 → 00:12:59 ที่เหมาะสมที่มันสามารถที่ที่จะระบายความ
00:12:59 → 00:13:02 ร้อนได้ค่อนข้างดีนะครับเนาะอันนี้ก็เป็น
00:13:02 → 00:13:04 เป็นวิธีเบื้องต้นว่าหนึเราก็จะต้องรู้
00:13:04 → 00:13:07 ตัวเองก่อนว่าเราจะต้องเเป็นกลุ่มเสี่ยง
00:13:07 → 00:13:09 ไมแล้วเราจะต้องไปอยู่ในสภาพแวดล้อมดัง
00:13:09 → 00:13:12 กล่าวมากน้อยขนาดไหนแล้วก็จะต้องป้องกัน
00:13:12 → 00:13:14 อย่างที่บอกครับก็ดูเรื่องของการอุปกรณ์
00:13:14 → 00:13:17 ป้องกันต่างๆแล้วก็การเฝ้าระวังการขัดน้ำ
00:13:17 → 00:13:20 ฮที่จำเป็นแล้วก็สังเกตอาการตัวเองถ้า
00:13:20 → 00:13:21 สมมุติว่าตัวเองยังมีความจำเป็นจะต้อง
00:13:22 → 00:13:24 อยู่ในสภาพแวดล้อมนั้นนๆจริงๆไม่ว่าจะ
00:13:24 → 00:13:26 เหตุด้วยของการทำงานอย่างเงี้ยนะครับก็
00:13:26 → 00:13:29 อาจจะต้องสังเกตอาการอย่างที่ผมบอกไปเนา
00:13:29 → 00:13:32 ถ้ารู้สึกว่าเริ่มมีหายใจผิดปกติเริ่มมี
00:13:32 → 00:13:35 เอ่ออาการวิงเวียนมีหน้ามืดหรือว่ามี
00:13:35 → 00:13:38 เรื่องของอาการเมื่อยล้าปวดเมื่อยกล้าม
00:13:38 → 00:13:40 เนื้อที่ผิดปกติอะไรพวกนี้ครับก็เป็น
00:13:40 → 00:13:42 อาการเตือนตามระบบที่สำคัญที่ผมบอกไปอัน
00:13:42 → 00:13:45 นี้ก็อาจจะต้องเอ่อรีบเอาตัวเองออกมาจาก
00:13:45 → 00:13:47 สภาพแวดล้อมนั้นแล้วก็ให้การผฐมพยาบาล
00:13:47 → 00:13:51 เบื้องต้นก่อนค่ะอันนี้คือวิธีป้องกันตัว
00:13:51 → 00:13:53 เองถ้าเกิดว่าอย่างในกรณีที่ต้องทำงาน
00:13:53 → 00:13:55 กลางแจ้งจริงๆมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็อาจจะ
00:13:55 → 00:13:58 ต้องหาตัวช่วยอย่างอื่นให้ช่วยลดในเรื่อง
00:13:58 → 00:13:59 ของ
00:13:59 → 00:14:02 คามรนที่จะเข้าสู่ร่างกายนอกจากเรื่องของ
00:14:02 → 00:14:04 การป้องกันตัวค่ะอาจารย์การปฐมพยาบาล
00:14:04 → 00:14:07 เบื้องต้นเราป้องกันตัวเองเแล้วแต่ในกรณี
00:14:07 → 00:14:10 ที่เราไปเจอผู้ที่เป็นโรคลมแดดเราจะมี
00:14:11 → 00:14:13 วิธีปฐมพยาบาลหรือว่าช่วยเหลือยังไงบ้าง
00:14:13 → 00:14:15 คะอันนี้ก็เป็นอีกพ์นึงที่สำคัญนะครับ
00:14:15 → 00:14:17 เพราะว่าอย่างที่บอกไปว่าการหัวใจของการ
00:14:17 → 00:14:20 รักษาก็คือการให้การรักษาเบื้องต้นหรือ
00:14:20 → 00:14:22 First aged หรือการผปฐมพยาบาลเบื้องต้น
00:14:22 → 00:14:25 เพราะว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสการลดภาวะแทรก
00:14:25 → 00:14:27 ซ้อนแล้วก็เพิ่มการรอดชีวิตให้กับคนไข
00:14:27 → 00:14:29 เพราะฉะนั้นการให้การปฐมพยาบาลอย่างถูก
00:14:29 → 00:14:31 ต้องและเหมาะสมก็เป็นสิ่งที่จำเป็นแล้วก็
00:14:31 → 00:14:33 เป็นความรู้พื้นฐานที่บุคคลทั่วไปอาจจะ
00:14:33 → 00:14:36 ต้องพอทราบไว้นิดนึงนะครับเนาะอันดับแรก
00:14:36 → 00:14:38 เลยก็คือถ้าเราไปพบคนไข้เอ่อจริงเหล่า
00:14:38 → 00:14:40 นั้นนะครับเนาะก็คืออย่างที่ผมบอกไปนะ
00:14:40 → 00:14:42 ครับมีอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เข้าได้มี
00:14:42 → 00:14:45 อุณหภูมิไกลที่สูงแล้วก็มีอาการเ่อที่
00:14:45 → 00:14:47 เข้าได้อาจจะเพ้อสับสนกระสับกระส่ายหมด
00:14:47 → 00:14:50 สติหายใจติดขัดหัวใจเต้นเร็วกลุ่มนั้น
00:14:50 → 00:14:52 เนี่ย 1 เลยก็คือจะต้องเอาเขาออกมาจากใน
00:14:52 → 00:14:55 ซีนก่อนก็คือฟเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มัน
00:14:55 → 00:14:59 ปลอดโปร่งแล้วก็อุณหภูมิลดลงถอยู่กลางแดง
00:14:59 → 00:15:01 กลางแดดก็อาจจะต้องเอาเข้าในที่ร่มที่มี
00:15:01 → 00:15:04 อากาศไถยเทค่อนข้างดีนะครับเนาะอันที่ 2
00:15:04 → 00:15:07 ก็คือจัดท่านอนปกติแล้วก็เอ่อดูเรื่องของ
00:15:07 → 00:15:09 เครื่องแต่งกายอาจจะต้องคลายถ้าบางคนใส่
00:15:09 → 00:15:11 เสื้อผ้าที่รัดหรือว่ายังปกปิดค่อนข้าง
00:15:11 → 00:15:14 เยอะอยู่เพราะว่าจะไปขัดขวางการระบายความ
00:15:14 → 00:15:17 ร้อนของร่างกายอาจจะต้องคลายเสื้อครับให้
00:15:17 → 00:15:20 ให้ให้ผ่อนคลายมากขึ้นนะครับเนาะอันที่ 3
00:15:20 → 00:15:23 ก็คือลดอุณหภูมิกายให้ให้กับคนไข้นะครับ
00:15:23 → 00:15:26 วิธีที่ง่ายที่สุดเลยก็คือการเช็ดตัวครับ
00:15:26 → 00:15:29 ก็อาจจะใช้ผ้าชุบน้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำ
00:15:29 → 00:15:31 เย็นเนี่ยนะครับเนาะเช็ดร่างกายโดยเฉพาะ
00:15:31 → 00:15:33 บริเวณที่ช่วยในการระบายความร้อนได้ดีนะ
00:15:33 → 00:15:36 ครับเนาะเช่นบริเวณคอค้อพับต่างๆที่เป็น
00:15:37 → 00:15:39 จุดรวมของชีพจรนะครับเนาะเช่นข้ออ่า
00:15:39 → 00:15:42 รักแร้ขาหนีบอะไรเหล่านี้นะครับแล้วก็อ่า
00:15:42 → 00:15:45 จากนั้นก็นำผู้ป่วยส่งสถานพยาบาลใกล้บ้าน
00:15:45 → 00:15:48 ที่ที่เร็วที่สุดนะครับแต่ในกรณีที่คนไข้
00:15:48 → 00:15:50 อาจจะฟื้นตัวขึ้นมาก่อนหรือว่าตื่นขึ้นมา
00:15:50 → 00:15:53 ได้กรณีตอนที่ตอนแรกอาจจะมีอาการคล้ายๆ
00:15:53 → 00:15:56 เพ้อสับสนหรือไม่ค่อยรู้สติแต่ว่าตอนหลัง
00:15:56 → 00:15:59 กลับมาตื่นได้นะครับก็มีอีกพอย์นึงที่อาจ
00:15:59 → 00:16:03 จะแนะนำก็คือเรื่องของการดื่มน้ำครับ
00:16:03 → 00:16:05 เพราะว่าก็อันนี้เพราะว่าคนไข้กลุ่มนี้ก็
00:16:05 → 00:16:07 จะมีโอกาสที่จะเสียน้ำได้ค่อนข้างเยอะก็
00:16:07 → 00:16:11 ถ้าคนไข้รู้ตัวดีสามารถเอ่อรับประทานหรือ
00:16:11 → 00:16:13 ดื่มได้อย่างเงี้ยครับก็ถ้าาจะในเบื้อง
00:16:13 → 00:16:17 ต้นจะให้ก็คือให้เป็นน้ำอุณหภูมิปกติได้
00:16:17 → 00:16:18 เพราะว่าบางคนอาจจะให้น้ำเย็นซึ่งอันนี้
00:16:18 → 00:16:20 อาจจะเป็นข้อควรระวังว่าถ้าดื่มน้ำเย็น
00:16:20 → 00:16:24 มากๆในช่วงแรกก็อาจจะทำให้ระบบภายในมี
00:16:24 → 00:16:27 ปัญหาโดยเฉพาะเรื่องของการหดตัวต่างๆของ
00:16:27 → 00:16:29 หลอดเลือดภายในหรือว่าการการหดเกรงของ
00:16:29 → 00:16:32 อวัยวะภายในเช่นกระเพาะนี้ก็อาจจะทำให้คน
00:16:32 → 00:16:34 ไข้มีอาการแจกซ้อนมีคลื้นไทรมีอาเจียน
00:16:34 → 00:16:37 หรือว่ามีอาการเผิดปกติของระบบทางเดิน
00:16:37 → 00:16:40 อาหารตามมาได้ครับค่ะอ่าก็แล้วก็นำผู้
00:16:40 → 00:16:43 ป่วยส่งเ่อโรงพยาบาลอย่างรวดเรวนะครับทาง
00:16:43 → 00:16:46 แพทย์ก็จะมีการดูแลเบื้องต้นอย่างอื่นต่อ
00:16:46 → 00:16:48 นะครับเนาะเช่นการให้สารน้ำการตรวจติดตาม
00:16:48 → 00:16:51 อาการทั้งระบบหายใจระบบเ่อระบบหัวใจและ
00:16:51 → 00:16:54 หลอดเลือดแล้วก็เกลือรต่างๆกันทำงานของไต
00:16:54 → 00:16:57 เหล่านี้ครับนี่ถือว่าเป็นวิธีปฐมพยาบาล
00:16:57 → 00:17:00 เบื้องต้นที่เราทุกคนจะต้องรู้ไว้จริงๆนะ
00:17:00 → 00:17:03 คะเพราะไม่แน่ว่าวันนึงเราอาจจะไปเจอผู้
00:17:03 → 00:17:06 ที่เป็นโรคลมแดดเราก็จะได้เข้าไปช่วย
00:17:06 → 00:17:08 เหลือแต่ดีที่สุดก็คือระหว่างที่เราปฐม
00:17:08 → 00:17:12 พยาบาลเบื้องต้นก็คือโทรเรียก 1669 เพื่อ
00:17:12 → 00:17:15 จะให้รถไปรับด้วยนะคะทีนี้เรื่องของโรค
00:17:15 → 00:17:18 แทรกซ้อนลคะอาจารย์คะพอเป็นโรคนี้แล้ว
00:17:18 → 00:17:20 ตื่นขึ้นมาฟื้นขึ้นมาเรามีโอกาสเป็นโรค
00:17:21 → 00:17:23 แทรกซ้อนอย่างอื่นตามมาได้ไคะเอ่อภาวะ
00:17:23 → 00:17:27 แทรกซอนที่เอ่อที่เราต้องเฝ้าระวังแล้วก็
00:17:27 → 00:17:29 มีโอกาสที่จะเกิดได้ก็เอาไว้วะหลักๆที่
00:17:29 → 00:17:32 ที่เรากลัวก็จะมีเรื่องของเอ่อระบบประสาท
00:17:32 → 00:17:34 และสมองนะครับเพราะว่าอย่างที่บอกไปว่า
00:17:34 → 00:17:39 บางคนอาจจะเป็นรุนแรงนะครับมีภาวะชักได้
00:17:39 → 00:17:41 มีภาวะหมดสติเป็นระยะเวลานานซึ่งพวกนี้
00:17:41 → 00:17:44 อาจจะส่งผลให้เกิดถ้าคนไข้ชักมีอาการ
00:17:44 → 00:17:46 อย่างเงี้ยก็อาจจะส่งผลให้มีภาวะเ่อสมอง
00:17:46 → 00:17:49 ขาดออกซิเจนชั่วขณะได้บ้างอันนี้ก็ส่งผล
00:17:49 → 00:17:52 ในเอ่อการทำงานของระบบประสาทในระยะยาวได้
00:17:52 → 00:17:55 อีกอันนึงก็คือเรื่องของการทำงานของไตและ
00:17:55 → 00:17:57 กล้ามเนื้ออย่างที่บอกไปครับว่าถ้าสมมุติ
00:17:57 → 00:17:59 ว่าเป็นรุนแรงมากๆอาจจะมีการการสลของ
00:17:59 → 00:18:01 กล้ามเนื้อแล้วก็ไอ้ตัวผลของการสสลกล้าม
00:18:01 → 00:18:04 เนื้อเนี่ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน
00:18:04 → 00:18:07 เช่นการทำงานของไตผิดปกติที่เป็นภาวะไต
00:18:07 → 00:18:10 วายเฉียบพันการทำงานผิดปกติแบบเฉียบพันธ
00:18:10 → 00:18:13 ของไตได้นะครับอันนี้ก็เป็นภาวะที่เจอได้
00:18:13 → 00:18:16 ซึ่งเราก็จะมีวิธีการอ่าตรวจติดตามแล้วก็
00:18:16 → 00:18:18 ป้องกันอยู่แล้วนะครับเนาะอย่างเช่นการ
00:18:18 → 00:18:21 ให้สั่นน้ำกับคนไข้ที่เพียงพอการตรวจติด
00:18:21 → 00:18:24 ตามการทำงานของไตแล้วก็การดูอาการทางระบบ
00:18:24 → 00:18:26 ประสาทระบบหัวใจและหลอดเลือดอย่างต่อ
00:18:26 → 00:18:29 เนื่องครับอันนี้ก็เป็นเป็นเป็นอวัยวะ
00:18:29 → 00:18:31 หลักๆที่เราอาจจะต้องต้องเฝ้าระวังครับ
00:18:31 → 00:18:34 ค่ะมาถึงช่วงท้ายของรายการแล้วนะคะอยากจะ
00:18:34 → 00:18:37 ให้อาจารย์หมอฝากทิ้งท้ายถึงคุณผู้ฟังที่
00:18:37 → 00:18:40 กำลังรับฟังรายการเราอยู่เราจะมีวิธีหรือ
00:18:40 → 00:18:43 ว่าเทคนิคในการดูแลตัวเองหรือสังเกตอาการ
00:18:43 → 00:18:47 รวมไปถึงวิธีปฐมพยาบาลอย่างไรในช่วงที่
00:18:47 → 00:18:49 อากาศร้อนแบบนี้ถ้าเกิดว่าเป็นรมแดดนะคะ
00:18:49 → 00:18:52 อยากจะให้อาจารย์หมอได้ฝากถึงคุณผู้ฟัง
00:18:52 → 00:18:54 ทางบ้านสักนิดนึงค่ะโดยสรุปก็คืออาจจะ
00:18:54 → 00:18:57 ต้องเอ่อเฝ้าระวังอาการเหล่านี้นะครับใน
00:18:57 → 00:19:00 คนไข้ที่ไม่ว่าจะเป็นตัวเองหรือว่าบุคคล
00:19:00 → 00:19:02 ใกล้ใกลชิดเราญาติพี่น้องหรือเพื่อนร่วม
00:19:02 → 00:19:04 งานนะครับถ้าเป็นคนไข้ที่มีปัจจัยเสี่ยง
00:19:04 → 00:19:07 ดังกล่าวนะครับเนาะก็อาจจะต้องพยายามเฝ้า
00:19:07 → 00:19:09 ระวังตัวเองไม่เอาไม่ไม่ไม่เอาตัวเองไป
00:19:09 → 00:19:12 อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงมากนาน
00:19:12 → 00:19:14 ๆนะครับเนาะเราก็สังเกตอาการเบื้องต้นที่
00:19:14 → 00:19:16 จำเป็นนะครับเนาะเช่นอุณหภูมิกายสูงผิด
00:19:16 → 00:19:19 ปกติอย่างรวดเร็วหายใจผิดปกตินะครับเนาะ
00:19:19 → 00:19:22 หรือว่าเริ่มมีอาการหน้ามืดวิ่งเวียนอะไร
00:19:22 → 00:19:24 กลุ่มนี้นะครับก็คือถ้ามีอาการที่สงสัย
00:19:24 → 00:19:27 เข้าได้เนี่ยครับอาจจะต้องรีบให้การรักษา
00:19:27 → 00:19:29 เบื้องต้นโดยการปฐมพยาบาเบื้องต้นอย่าง
00:19:29 → 00:19:32 รวดเร็วและทันท่วมทีในกรณีที่มีอาการรุน
00:19:32 → 00:19:35 แรงก็อ่าหลังจากผสมพยาบาลก็ต้องรีบนำส่ง
00:19:35 → 00:19:37 โรงพยาบาลหรือว่าใช้บริการของการแพร่ฉุก
00:19:37 → 00:19:41 ฉวน 1 6 9 ครับค่ะนี่ถือว่าเป็นเรื่อง
00:19:41 → 00:19:44 ราวเกี่ยวกับสุขภาพเรื่องของลมแดดวันนี้
00:19:44 → 00:19:46 เราคุยกับอาจารย์หมอต้องบอกว่าครอบคลุม
00:19:46 → 00:19:49 ทุกประเด็นนะคะก็เชื่อได้ว่าอย่างน้อยๆ
00:19:49 → 00:19:52 วันนี้เราจะได้รู้ถึงที่มาถึงสาเหตุและ
00:19:52 → 00:19:56 เราจะได้ดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคลมแดด
00:19:56 → 00:19:59 และที่สำคัญในกรณีที่เราไปเจอพผู้ป่วยนะ
00:19:59 → 00:20:01 คะที่เป็นโรคลมแดดเราจะสามารถปฐมพยาบาล
00:20:01 → 00:20:04 ช่วยเหลือเขาได้เบื้องต้นด้วยนะคะวันนี้
00:20:04 → 00:20:07 ขอบพระคุณอาจารย์หมอมากๆนะคะขอบคุณค่ะ
00:20:07 → 00:20:11 ขอบคุณครับ cmu podcast Fun for help
00:20:11 → 00:20:17 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัวเรา
00:00:03 → 00:00:07 med cmu podcast fung for
00:00:07 → 00:00:10 Hell ัง for Health
00:00:10 → 00:00:13 podcast รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราว
00:00:13 → 00:00:16 ของสุขภาพและแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์
00:00:16 → 00:00:20 ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยศาสตร์
00:00:20 → 00:00:22 มหาวิทยาลัย
00:00:22 → 00:00:28 เชียงใหม่เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:00:28 → 00:00:32 เราสวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง
00:00:32 → 00:00:35 for Health podcast ค่ะรายการที่จะมา
00:00:35 → 00:00:38 พูดคุยเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพและแบ่ง
00:00:38 → 00:00:41 ปันประสบการณ์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคณะ
00:00:41 → 00:00:44 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะวันนี้
00:00:44 → 00:00:47 คุณผู้ฟังทุกท่านอยู่กับทิปสมัชญาหน่อล่า
00:00:47 → 00:00:50 จากงานประชาสัมพันธ์คณะแพทยยาศาสตร์
00:00:50 → 00:00:53 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นะคะผู้ฟังทุกท่านคะ
00:00:53 → 00:00:56 ช่วงนี้ถ้าพูดถึงสภาพอากาศบ้านเราต้องบอก
00:00:56 → 00:00:59 ว่าร้อนจัดกันเลยนะคะบางวัน 40 กว่าอง์
00:00:59 → 00:01:02 องศาค่ะเพราะฉะนั้นช่วงนี้เรามักจะได้ยิน
00:01:02 → 00:01:06 คำว่าฮ Stroke หรือว่าโรคลมแดดอยู่บ่อย
00:01:06 → 00:01:09 ครั้งและที่สำคัญพบผู้ป่วยด้วยอาการ
00:01:09 → 00:01:12 ฮิสโตกหรือว่าโรคลมแดดเพิ่มขึ้นอย่างต่อ
00:01:12 → 00:01:15 เนื่องในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ด้วยนะคะดัง
00:01:15 → 00:01:18 นั้นเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่เราจะพูด
00:01:18 → 00:01:21 คุยกันในวันนี้นั่นก็คือโรคลมแดดหรือฮิ
00:01:21 → 00:01:25 สตกอากาศร้อนต้องระวังเลยล่ะค่ะสาเหตุของ
00:01:25 → 00:01:29 การเกิดโรคนี้มีอะไรบ้างและอาการเป็นแบบ
00:01:29 → 00:01:32 ไหนไเราจะมีวิธีสังเกตอาการตัวเองและคน
00:01:32 → 00:01:36 ใกล้ตัวอย่างไรรวมไปถึงมีวิธีป้องกันตัว
00:01:36 → 00:01:39 หรือไม่นะคะวันนี้เราจะได้พูดคุยกันกับ
00:01:39 → 00:01:41 อาจารย์หมอค่ะขอต้อนรับผู้ช่วย
00:01:41 → 00:01:44 ศาสตราจารย์นายแพทย์กิตติเทียนขาวอาจารย์
00:01:44 → 00:01:47 ประจำหน่วยประสาทวิทยาภาควิชาอายุรศาสตร์
00:01:48 → 00:01:51 คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ
00:01:51 → 00:01:54 อาจารย์สวัสดีค่ะครับสวัสดีครับถ้าพูดถึง
00:01:54 → 00:01:57 สาเหตุของการเกิดโรคลมแดดหรือว่าฮิสโตก
00:01:57 → 00:02:00 สาเหตุจริงๆแล้วมีอะไรบ้างคะอาจารย์จริงๆ
00:02:00 → 00:02:04 ฮกส่วนภาษาไทยก็คือลมแดดนะครับเนาะก็เอ่อ
00:02:04 → 00:02:06 สาเหตุจริงๆก็คือเกิดจากการที่ร่างกายเรา
00:02:06 → 00:02:10 มีอุณหภูมิกายเนี่ยสูงมากผิดปกติอย่างรวด
00:02:10 → 00:02:13 เร็วนะครับโดยตัวเลขที่เอ่อเขานิยามไว้ก็
00:02:13 → 00:02:17 คืออาจจะเกิน 40 -4.5 องศเซซขึ้นไปยังก็
00:02:17 → 00:02:20 ต้องไปดูต่อว่าอะไรที่ทำให้อุณหภูมิกาย
00:02:20 → 00:02:23 เราเนี่ยฮะสูงเกินมาขนาดนั้นเพราะว่าจริง
00:02:23 → 00:02:27 ๆโดยปกติร่างกายเราก็จะมีการปรับอ่า
00:02:27 → 00:02:30 เปลี่ยนแปลงนะครับปรับปรับตัวเองอยู่แล้ว
00:02:30 → 00:02:32 เพื่อที่จะตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมนะครับ
00:02:32 → 00:02:34 เนาะให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่ที่เรา
00:02:34 → 00:02:37 อยู่แต่ว่าเอ่อมันก็จะมีภาวะบางอย่างที่
00:02:37 → 00:02:39 สุดท้ายแล้วร่างกายเราปรับไม่ไม่ทันนะ
00:02:39 → 00:02:42 ครับเนาะหรือว่าเอ่อทำให้อุณหภูมิกายเรา
00:02:42 → 00:02:44 เนี่ยมันสูงขึ้นไปถึงขนาดนั้นนะครับ 40
00:02:44 → 00:02:47 -4.5 อะไรอย่างเงี้ยครับซึ่งสาเหตุหลักๆ
00:02:47 → 00:02:49 เลยก็อาจจะมีสัก 2-3 อย่างนะครับอันดับ
00:02:49 → 00:02:52 แรกเลยก็คือเอ่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ค่อน
00:02:52 → 00:02:55 ข้างเอ่อมีความชื้นสูงหรือว่ามีความร้อน
00:02:55 → 00:02:57 ค่อนข้างมากนะครับนะอันนี้ก็จะส่งผลให้
00:02:57 → 00:02:59 เอ่อคนไข้บางคนที่อาจจะเป็นกลุ่มเสี่ง
00:03:00 → 00:03:02 อยู่เดิมซึ่งเดี๋ยวจะพูดต่อไปอนะครับมี
00:03:02 → 00:03:05 เอ่ออ่าการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมเนี่ยที่
00:03:05 → 00:03:08 ที่ไม่ทันนะครับเนาะก็อาจจะทำให้เอ่อ
00:03:08 → 00:03:10 อุณหภูมิกายเขาสูงขึ้นขนาดนั้นแล้วก็เกิด
00:03:10 → 00:03:13 อาการของลมแดดหรือฮีสกได้นะครับเนาะหรือ
00:03:13 → 00:03:15 อีกกรณีนึงก็คืออีกสาเหตุนึงก็คืออาจจะ
00:03:15 → 00:03:19 เจอในคนไข้บางกลุ่มที่เอ่อไปทำงานหรือไป
00:03:19 → 00:03:21 ใช้ชีวิตหรือไปทำกิจกรรมในสภาพแวดล้อมที่
00:03:21 → 00:03:24 ไม่เหมาะสมนะครับเนาะเช่นออกออกไปทำงาน
00:03:24 → 00:03:27 เอ่อกลางแดดกลางแจ้กือสภาพแวดล้อมที่ที่
00:03:27 → 00:03:30 มันเอ่อ extrem หรือหรือร้อนมากเกินไปนะ
00:03:30 → 00:03:32 ครับในสภาวะที่ตัวเองอาจจะไม่ได้เตรียม
00:03:32 → 00:03:35 ตัวให้เหมาะสมด้วยเช่นเรื่องของการดื่ม
00:03:35 → 00:03:37 น้ำให้เพียงพอหรือว่าการใส่เสื้อผ้าที่
00:03:37 → 00:03:40 เหมาะสมกับสภาพอากาศเหล่าเนะครับอันนี้ก็
00:03:40 → 00:03:43 จะเป็น 2 2 สาเหตุหลักๆที่ที่เจอในคนไข
00:03:43 → 00:03:46 ที่เป็นฮิรค่ะอันนี้คือสาเหตุของการเกิด
00:03:46 → 00:03:49 โรคส่วนใหญ่ที่มาหาอาจารย์หมอนะคะแล้วที
00:03:49 → 00:03:52 นี้พูดถึงอาการมาค่ะอาจารย์หมออาการของ
00:03:52 → 00:03:55 ผู้ป่วยที่มาด้วยโรคลมแดดส่วนใหญ่จะมี
00:03:55 → 00:03:59 อาการแบบไหนที่เป็นอาการบ่งชัดเลยว่าถ้า
00:03:59 → 00:04:01 มีอาการตานี้คือเป็นโรคลมแดดแน่นอนไงค่ะ
00:04:01 → 00:04:03 คือต้องบอกว่าตัวโรคลมแดดเนี่ยก็จะต่าง
00:04:03 → 00:04:06 กับสติจักอย่างอื่นทั่วไปตรงที่ 1 เลยก็
00:04:06 → 00:04:08 คือตัวลมแดดความรุนแรงจะค่อนข้างค่อนข้าง
00:04:08 → 00:04:11 เยอะนะครับต้องอาศัยการตรวจวินิฉัยที่รวด
00:04:11 → 00:04:13 เร็วแล้วก็การผสมพยาบาลเบื้องต้นที่อย่าง
00:04:13 → 00:04:15 ถูกต้องแล้วก็เหมาะสมอย่างทันท่วงทีนะ
00:04:15 → 00:04:18 ครับทีนี้เนี่ยตัวอาการหลักๆของตัวลมแดด
00:04:18 → 00:04:22 ก็คือเอ่อตัววเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกาย
00:04:22 → 00:04:25 เรามีอุณหภูมิกายเนี่ยสูงมากเกิน 40 -4.5
00:04:25 → 00:04:29 องศเซซขึ้นไปเนี่ยเอ่ออวัยวะที่ที่จะมีมี
00:04:29 → 00:04:31 ปัญหานะครับที่เรากลัวแล้วก็จะทำให้คนไข้
00:04:31 → 00:04:34 มีอาการแลเป็นอาการที่นำมานอกนอกเหนือจาก
00:04:34 → 00:04:37 การที่เรา detect อุณหภูมิร่างกายคนไข้
00:04:37 → 00:04:38 อุณหภูมิกายคนไข้เนี่ยสูงมากอยู่แล้ว
00:04:38 → 00:04:41 เนี่ยครับก็จะมีอาการทางระบบต่างๆที่อาจ
00:04:41 → 00:04:44 จะเป็นตัวบ่งชี้ได้ซึ่งระบบนั้นที่ที่เรา
00:04:44 → 00:04:46 กังวลก็คือเป็นระบบที่สำคัญของร่างกาย
00:04:46 → 00:04:49 ประมาณสัก 4-5 ระบบนะครับอันดับแรกเลยก็
00:04:49 → 00:04:52 คือสมองอันดับที่ 2 ก็คือระบบเอ่อหัวใจ
00:04:52 → 00:04:55 และปอดนะครับอันดับที่ 3 ก็เป็นระบบกล้าม
00:04:55 → 00:04:58 เนื้อแลอันที่ 4 ก็เป็นระบบไตนะครับก็
00:04:58 → 00:05:01 เอ่อนอกเโดยสรุปก็คืออาการที่ที่เราจะ
00:05:01 → 00:05:04 เอ่อวินิจฉัยหรือว่าตรวจคนไข้เนี่ยก็คือ 1
00:05:04 → 00:05:07 ดูจากเอ่อปัจจัยเสี่ยงที่คนไข้มีบวกกับ
00:05:07 → 00:05:10 อุณหภูมิกายคนไข้ที่ค่อนข้างสูงนะครับ
00:05:10 → 00:05:13 เนาะอาจจะเกิน 40 -4.5 บวกกับมีอาการตาม
00:05:13 → 00:05:16 ระบบเหล่านี้นะครับเนาะซึ่งอ่าตัวระบบที่
00:05:16 → 00:05:18 ที่สำคัญที่กล่าวไปอย่างเช่นอาการทางระบบ
00:05:18 → 00:05:20 ประสาทหรือสมองเนี่ยครับเนาะคนไข้ก็อาจจะ
00:05:20 → 00:05:23 มีไล่ตั้งแต่เล็กน้อยปานกามไปถึงรุรุนแรง
00:05:23 → 00:05:26 ได้นะครับเนาะเช่นอาจจะมีแค่กระสับ
00:05:26 → 00:05:28 กระส่ายอันนี้เบื้องต้นแต่ถ้าเป็นเยอะ
00:05:28 → 00:05:31 ขึ้นนะครับเนาะคนใ้ก็อาจจะมีอาการสับสน
00:05:31 → 00:05:34 อ่าพูดไม่รู้เรื่องมีอาการเพ้อหรือในบาง
00:05:34 → 00:05:38 รายถ้าเป็นมากๆก็อาจจะหมดสติค่ะได้เลยนะ
00:05:38 → 00:05:41 ครับเนาะเอ่อระบบที่ 2 ที่มักจะมาร่วมกัน
00:05:41 → 00:05:43 ก็คือระบบหัวใจและระบบการหายใจนะครับเนาะ
00:05:43 → 00:05:46 เพราะว่าถ้าเอ่ออุณหภูมิร่างกายสูงมาก
00:05:46 → 00:05:49 ขนาดนั้นก็จะส่งผลให้ระบบเ่อไเวียนโลหิต
00:05:49 → 00:05:51 หรือว่าระบบหายใจเนี่ยมีปัญหาได้คนไข้อาจ
00:05:51 → 00:05:54 จะมีปัญหาเรื่องการหายใจผิดปกติมีหายใจ
00:05:54 → 00:05:56 เรวได้มีหอบเหนื่อยได้นะครับเนาะหรือบาง
00:05:56 → 00:05:59 รายอาจจะมีเรื่องของระบบหายใจล้มเหลวได้
00:05:59 → 00:06:01 หรือถ้าเป็นระบบหัวใจคนไข้ก็ในช่วงแรกอาจ
00:06:01 → 00:06:04 จะมีแค่เรื่องของหัวใจเต้นเร็วนะครับเนาะ
00:06:04 → 00:06:06 ในบางรายที่ถ้าเป็นเยอะแล้วก็ไม่ได้รับ
00:06:06 → 00:06:08 การรักษาอย่างทางทงทีก็อาจจะมีเรื่องของ
00:06:08 → 00:06:12 ระบบเอ่อลความล้มเหลวของระบบหัวใจตามมา
00:06:12 → 00:06:15 ได้นะครับเนาะสุดท้ายเลยก็คือเป็นอาการ
00:06:15 → 00:06:19 ทางระบบของเอ่อกล้ามเนื้อแล้วก็ระบบไตอัน
00:06:19 → 00:06:21 นี้ก็จะมาคู่กันเพราะว่าในบางรายที่อาการ
00:06:21 → 00:06:23 เป็นรุนแรงมากเนี่ยครับเนาะก็อาจจะมี
00:06:23 → 00:06:26 อาการบาดเจ็บหรือการสลายของกล้ามเนื้อลาย
00:06:26 → 00:06:29 ในร่างกายได้ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า risis
00:06:29 → 00:06:34 เนี่ยนะครับค่ะก็่านี้ซึ่งของกล้ามเนื้อ
00:06:34 → 00:06:38 บางนจะสผลให้มีภาวะแทรกซ้อนตามมาที่สำคัญ
00:06:38 → 00:06:41 ก็คืออาจจะมีภาวะไตวายเฉียบลันปัสสาวะ
00:06:41 → 00:06:43 เปลี่ยนสีอะไรอย่างเงี้ได้นะครับเเป็นสี
00:06:43 → 00:06:45 เข้มขึ้นจากที่เป็นสีเหลืองอ่อนเงี้นะ
00:06:45 → 00:06:48 ครับอันนี้ก็จะเป็นตัวที่ที่ที่เราเอาไว้
00:06:48 → 00:06:50 วินิจฉัยเบื้องต้นว่าอาการคนไข้ก็จะมา
00:06:50 → 00:06:52 ด้วยกลุ่มอาการเหล่านี้ซึ่งก็แล้วแต่คน
00:06:52 → 00:06:55 แล้วแต่ความรุนแรงบางคนก็ถ้ารุนแรงมากก็
00:06:55 → 00:06:58 อาจจะมารวดเร็วด้วยทุกระบบได้เลยนะครับ
00:06:58 → 00:07:00 แต่ถ้าอาการไม่ได้รุงมากในช่วงแรกก็อาจจะ
00:07:00 → 00:07:03 ค่อยๆมาทีละระบบแล้วก็เป็นจากเล็กน้อยปาน
00:07:03 → 00:07:06 กลางไปจนถึงรุนแรงได้ครับรุนแรงนี้ถึง
00:07:06 → 00:07:08 ขั้นเสียชีวิตดีนะคะมีรายงานครับมีรายงาน
00:07:08 → 00:07:11 ถ้าสมมุติว่าอาการเป็นเยอะแล้วก็การรักษา
00:07:11 → 00:07:14 ในช่วงแรกมาช้าการปฐมยาบาลเบื้องต้นไม่
00:07:14 → 00:07:17 ถูกต้องหรือว่าเจอในคนไข้ที่เป็นกลุ่ม
00:07:17 → 00:07:21 เสี่ยงนะครับเนาะเช่นอายุน้อยมากๆเช่นใน
00:07:21 → 00:07:24 เด็กเล็กหรือว่าในคนไข้อายุเยอะมากๆเช่น
00:07:24 → 00:07:26 กลุ่มผู้ป่วยสูงอายุอย่าเงี้ยครับก็อาจจะ
00:07:26 → 00:07:28 เป็นกลุ่มเปราะบางมากกว่าคนไข้วัยทำงาน
00:07:28 → 00:07:31 หรือบางคนคนมีโรคร่วมอย่างที่บอกครับว่า
00:07:31 → 00:07:34 อาการของฮิกถ้าเป็นเยอะๆก็จะไปแทคหรือไป
00:07:34 → 00:07:37 กระทบกับระบบสมองหัวใจหายใจแล้วก็ไตเพราะ
00:07:38 → 00:07:41 ฉะนั้นถ้าคนไข้คนไหนอาจจะอายุเยอะรวมทั้ง
00:07:41 → 00:07:43 มีโรคร่วมเหล่านี้อยู่เดิมเช่นมีโรคหลอด
00:07:43 → 00:07:46 เลือดสมองมีโรคลมชักมีเรื่องของอ่อโรค
00:07:47 → 00:07:49 หลอดเลิศหัวใจระบบหัวใจและปอดอยู่ผิดปกติ
00:07:49 → 00:07:52 อยู่เดิมกลุ่มนี้เนี่ยก็มีความเสี่ยงถ้า
00:07:52 → 00:07:54 สมมุติว่าอาการรุนแรงและไม่ได้รับการ
00:07:54 → 00:07:56 รักษาที่ถูกต้องอย่างทันทุกทีก็อาจจะส่ง
00:07:56 → 00:07:59 ผลให้ผลลัพธ์ของการรักษาไม่ดีแล้วก็เกิด
00:07:59 → 00:08:02 การเสียชีวิตได้ค่ะถือว่าเป็นอีกหนึ่งโรค
00:08:02 → 00:08:05 ที่มีความรุนแรงมากๆแล้วจะต้องอาศัยความ
00:08:05 → 00:08:08 รวดเร็วในการมาพบแพทย์ยิ่งมาหาคุณหมอเร็ว
00:08:08 → 00:08:11 เท่าไหร่ก็จะยิ่งช่วยรักษาอาการได้เท่า
00:08:11 → 00:08:14 นั้นนะคะคุณผู้ฟังหลายท่านอาจจะสงสัยว่า
00:08:14 → 00:08:19 เอ๊ะโรคลมแดดฮิสโตกกับโรคเป็นลมปกติมัน
00:08:19 → 00:08:22 แตกต่างกันยังไงแล้วเรามีวิธีสังเกตยังไง
00:08:22 → 00:08:24 คะอาจารย์เอ่อจริงๆถ้าเป็นอันดับแรกเลยก็
00:08:24 → 00:08:28 คือดูที่ที่อ่าความรุนแรงของตัวโรกนะครับ
00:08:28 → 00:08:30 ถ้าเป็นตมแดดเนี่ยจะค่อนข้างชัดได้ว่า
00:08:30 → 00:08:33 อาการจะค่อนข้างรุนแรงนะครับเนาะแล้วก็มี
00:08:33 → 00:08:36 อาการตามระบบอื่นๆร่วมด้วยมากกว่าที่จะไป
00:08:36 → 00:08:38 แค่เป็นลมหมดสติธรรมดาอย่างที่ผมกล่าวไป
00:08:38 → 00:08:40 นะครับหรืออันที่ 2 เราอาจจะสังเกตจาก
00:08:40 → 00:08:44 เอ่อปัจจัยเสี่ยงหลักๆของคนไข้รวมทั้ง
00:08:44 → 00:08:46 เรื่องของเอ่อสภาพแวดล้อมที่คนไข้อยู่นะ
00:08:46 → 00:08:48 ครับเพราะว่าจริงๆเราลมแดดเนี่ยเราก็แบ่ง
00:08:48 → 00:08:51 เป็น 2 กลุ่มย่อยๆก็คือเป็นกลุ่มที่ลมแดด
00:08:51 → 00:08:54 ที่สัมพันธ์กับการการทำงานที่อยู่ในสภาพ
00:08:54 → 00:08:56 แวดล้อมที่ไม่เหมาะสมเช่นอย่างที่ผมบอกไป
00:08:56 → 00:08:59 ว่าไปอยู่ในกลุ่มคนไข้ที่ไปทำงานใช้ชีวิต
00:08:59 → 00:09:01 วิตอยู่ในสภาพแวดล้อมกลางแดดนานๆหรือบาง
00:09:01 → 00:09:03 คนก็อาจจะเป็นกลุ่มที่ที่ 2 ที่เราเรียก
00:09:03 → 00:09:05 ว่าเป็นกลุ่มลมแดดแบบปกติก็คือไม่จำเป็น
00:09:05 → 00:09:08 จะต้องไปไปอยู่กลางแดดทำงานนานๆแต่ว่า
00:09:08 → 00:09:11 อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมนะครับที
00:09:11 → 00:09:15 นี้เนี่ยตัวเอ่อตัวที่จะเน้นย้ำนิดนึงก็
00:09:15 → 00:09:18 คือเรื่องของกลุ่มคนไข้ที่มีปัจจัยเสียง
00:09:18 → 00:09:21 แล้วกันว่าอันนี้อาจจะใช้แยกได้กับกับตัว
00:09:21 → 00:09:23 การเป็นลมธรรมดานะครับเนาะเพราะว่าถ้า
00:09:23 → 00:09:25 เป็นลมแดดหรือฮีกเนี่ยเอ่อคนไข้มักจะมี
00:09:25 → 00:09:28 ปัจจัยเสี่ยงบางอย่างขึ้นมาได้บ้างยกตัว
00:09:28 → 00:09:31 อย่างเช่นอย่างที่อันดับแรกเลยเรื่องอายุ
00:09:31 → 00:09:33 นะครับถ้าเป็นคนไข้อายุเด็กมากๆเป็นผู้
00:09:33 → 00:09:35 ป่วยสูงอายุหรือว่ามีโรคร่วมตามระบบที่
00:09:35 → 00:09:37 กล่าวไปนี้ก็อาจจะเป็นกลุ่มที่อาจจะต้อง
00:09:37 → 00:09:40 ระวังว่าเขาอาจจะมีความเสี่ยงได้อันที่ 2
00:09:40 → 00:09:44 ก็คือบางคนอาจจะเป็นคนไข้บางกลุ่มที่ไป
00:09:44 → 00:09:47 ใช้ยาบางอย่างแล้วทำให้การตอบสนองของร่าง
00:09:47 → 00:09:50 กายเวลาเกิดเกิดอุณหภูมิร่างกายสูงเนี่ย
00:09:50 → 00:09:53 ไม่เป็นไปตามปกตินะยกตัวอย่างเช่นเอ่อคน
00:09:54 → 00:09:58 ไข้ใช้เอ่อยากลุ่มบางกลุ่มที่รักษาโรคบาง
00:09:58 → 00:10:01 โรคที่ทำให้เกิดหลอดเลือดส่วนปลายหดตัว
00:10:01 → 00:10:04 เพราะโดยปกติเวลาร่างกายเราเราเจอภาวะแวด
00:10:04 → 00:10:07 ล้อมที่อุณหภูมิสูงมากๆร่างกายเราก็จะมี
00:10:07 → 00:10:09 การปรับตัวในการระบายความร้อนออกจากร่าง
00:10:09 → 00:10:12 กายอยู่ละเช่นมีการขยายตัวของหลอดเลือด
00:10:12 → 00:10:14 ส่วนปลายที่แขนขามือเพิ่มเหงื่อเพิ่มการ
00:10:14 → 00:10:16 ระบายความร้อนออกจากผิวหนังอะไอย่างเงี้
00:10:16 → 00:10:19 นะครับทีนี้ถ้าสมมุติว่าคนไข้บางคนมีข้อ
00:10:19 → 00:10:22 บ่งจีที่ต้องได้รับการรักษาด้วยยาโรคหัว
00:10:22 → 00:10:24 ใจโรคสมองบางอย่างที่ทำให้เกิดหลอดเลือ
00:10:24 → 00:10:27 ส่วนปลายหดตัวได้หรือภาษาอังกฤษเรียกว่าว
00:10:27 → 00:10:29 constriction เนี่ยนะครับยิ่งโรคทางระบบ
00:10:29 → 00:10:31 ประประสาทเองเช่นคนไข้ไมเกรนบางคนต้องได้
00:10:31 → 00:10:34 รับยารักษาไมเกรนบางตัวที่ทำให้มีฤทธิ์ใน
00:10:34 → 00:10:37 การรักษาไมเกรนโดยการลดอ่อเป็นการการหด
00:10:37 → 00:10:40 ตัวของหลอดเลือดอย่างเงี้ยนะครับเวลาเขา
00:10:40 → 00:10:42 ไปโดนอุณหภูมิร้อนๆมากๆเนี่ยการตอบสนอง
00:10:43 → 00:10:45 อันนี้เขาก็จะไม่เท่ากับคนปกติก็อาจจะมี
00:10:45 → 00:10:48 แนวโน้มที่อาจจะเกิดอาการได้ง่ายหรือบาง
00:10:48 → 00:10:51 คนได้รับการรักษาด้วยยาบางอย่างเช่นยาขับ
00:10:51 → 00:10:53 ปัสสาวะอย่างเงี้ยครับเนาะเขาก็อาจจะมี
00:10:53 → 00:10:55 แนวโน้มในการที่จะสูญเสียน้ำและเกือแร่
00:10:55 → 00:10:58 ได้ง่ายกว่าคนทั่วไปก็อาจจะเป็นกลุ่ม
00:10:58 → 00:11:00 เสี่ยงที่ต้องระวังว่าว่าอาจจะเป็นกลุ่ม
00:11:00 → 00:11:03 ที่มีแนวโน้มจะเกิดตัวฮีสหรืออันสุดท้าย
00:11:03 → 00:11:05 เลยก็คืออันนี้บ้านเราอาจจะเจอน้อยหน่อย
00:11:05 → 00:11:07 แต่ว่าถ้าใครเคยอ่านรายงานข่าวเมื่อสัก 2
00:11:07 → 00:11:11 ปีก่อนที่ฝั่งยุโรปหรือ UK เจอ heat Wave
00:11:11 → 00:11:13 ที่เข้ามาฝั่งนั้นนะฮะก็คือเกิดการ
00:11:13 → 00:11:15 เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วในบาง
00:11:15 → 00:11:17 ภูมิประเทศอย่างเงี้ยครับที่เขาไม่ได้
00:11:17 → 00:11:19 เป็นเมืองร้อนอยู่เดิมอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:11:19 → 00:11:22 ครับแล้วมีคลื่นความร้อนแบบรุนแรงเข้ามา
00:11:22 → 00:11:24 กระทบสักครั้งนึงเขาก็จะปรับตัวได้น้อย
00:11:24 → 00:11:27 อันนี้ก็จะเป็นเป็นอีกกลุ่มนึงที่ที่อาจ
00:11:27 → 00:11:30 จะต้องเฝ้าระวังเพราะฉะนั้นถ้าพูดถึง
00:11:30 → 00:11:33 กลุ่มเสี่ยงหลักๆบ้านเราก็จะมีเป็นเด็ก
00:11:33 → 00:11:36 เป็นผู้สูงอายุแล้วก็ผู้ที่มีโรคประจำตัว
00:11:36 → 00:11:38 โรวมครับแล้วก็ช้ยาบางอย่างที่อาจจะต้อง
00:11:38 → 00:11:40 เฝ้าระวังดังนั้นถ้าเกิดว่าฟังแบบนี้แล้ว
00:11:41 → 00:11:43 ค่ะอาจารย์หลายคนบอกว่าเอ๊ะแล้วเราจะป้อง
00:11:43 → 00:11:46 กันตัวเองได้ไมคะเรามีแนวทางหรือว่ามี
00:11:46 → 00:11:48 วิธีป้องกันได้ยังไงบ้างค่ะครับอันนี้ก็
00:11:48 → 00:11:50 เป็นอีกจุดนึงที่เราต้องเน้นย้ำว่าเรา
00:11:50 → 00:11:53 ป้องกันไว้ดีกว่าดีกว่าไปให้เกิดโรคเนาะ
00:11:53 → 00:11:56 ทีนี้ตัวการป้องกันอันดับแรกเลยก็คือทั้ง
00:11:56 → 00:11:59 ตัวคนไข้หรือบุคคลทั่วไปเองรวมทั้งบุคคล
00:11:59 → 00:12:00 รอบข้างเนี่ยอาจจะต้องสังเกตเบื้องต้น
00:12:01 → 00:12:03 อย่างที่บอกไปว่าคนรอบข้างเราหรือตัวเรา
00:12:03 → 00:12:05 เองเนี่ยเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ที่มีแนวโน้ม
00:12:05 → 00:12:08 จะเกิดอาการได้หรือเปล่าทีนี้ถ้ามีกลุ่ม
00:12:08 → 00:12:10 เสี่ยงปึ๊บอาจจะต้องเฝ้าระวังเรื่องของ
00:12:10 → 00:12:12 การใช้ชีวิตหรือว่าการทำงานโดยเฉพาะถ้าไป
00:12:12 → 00:12:14 อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มัน Extreme หรือว่า
00:12:14 → 00:12:17 มีมีอุณหภูมิที่สูงมากๆนะครับเนาะก็คือ
00:12:17 → 00:12:20 ต้องต้องอ่อถ้าต้องไปอยู่ก็อาจจะอยู่ใน
00:12:20 → 00:12:23 ระยะเวลาที่ไม่นานมากเราก็อาจจะต้องมีการ
00:12:23 → 00:12:25 ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเท่าที่จำเป็นนะ
00:12:25 → 00:12:29 ครับเนาะหรือเ่ออีกอันนึงก็คือเอ่อเ่อบาง
00:12:29 → 00:12:32 คนอาจจะต้องดูเรื่องของการป้องกันในอย่าง
00:12:32 → 00:12:35 อื่นเบื้องต้นเช่นถ้าสมมุติว่ารู้ตัวแล้ว
00:12:35 → 00:12:38 ว่าอาจจะต้องไปอยู่ในสภาพลอมที่มันมันมัน
00:12:38 → 00:12:40 ร้อนมากๆหรือว่าทำงานกลางแดดอาจจะต้อง
00:12:40 → 00:12:43 เอ่อเฝ้าระวังการขาดน้ำอาจจะต้องดื่มน้ำ
00:12:43 → 00:12:45 ให้มากกว่าปกติหรือว่าอย่างน้อยๆก็ต้อง
00:12:45 → 00:12:48 เท่ากับที่เล็กอ่าแนะนำต่อวัน 8-10 แก้ว
00:12:48 → 00:12:51 ต่อวันอะไรอย่างเงี้ยนะครับรวมทั้งอาจจะ
00:12:51 → 00:12:55 ดูเรื่องของเอ่ออุปกรณ์ป้องกันต่างๆไม่
00:12:55 → 00:12:57 ว่าจะเป็นหมวกแว่นหรือว่าการใส่เสื้อผ้า
00:12:57 → 00:12:59 ที่เหมาะสมที่มันสามารถที่ที่จะระบายความ
00:12:59 → 00:13:02 ร้อนได้ค่อนข้างดีนะครับเนาะอันนี้ก็เป็น
00:13:02 → 00:13:04 เป็นวิธีเบื้องต้นว่าหนึเราก็จะต้องรู้
00:13:04 → 00:13:07 ตัวเองก่อนว่าเราจะต้องเเป็นกลุ่มเสี่ยง
00:13:07 → 00:13:09 ไมแล้วเราจะต้องไปอยู่ในสภาพแวดล้อมดัง
00:13:09 → 00:13:12 กล่าวมากน้อยขนาดไหนแล้วก็จะต้องป้องกัน
00:13:12 → 00:13:14 อย่างที่บอกครับก็ดูเรื่องของการอุปกรณ์
00:13:14 → 00:13:17 ป้องกันต่างๆแล้วก็การเฝ้าระวังการขัดน้ำ
00:13:17 → 00:13:20 ฮที่จำเป็นแล้วก็สังเกตอาการตัวเองถ้า
00:13:20 → 00:13:21 สมมุติว่าตัวเองยังมีความจำเป็นจะต้อง
00:13:22 → 00:13:24 อยู่ในสภาพแวดล้อมนั้นนๆจริงๆไม่ว่าจะ
00:13:24 → 00:13:26 เหตุด้วยของการทำงานอย่างเงี้ยนะครับก็
00:13:26 → 00:13:29 อาจจะต้องสังเกตอาการอย่างที่ผมบอกไปเนา
00:13:29 → 00:13:32 ถ้ารู้สึกว่าเริ่มมีหายใจผิดปกติเริ่มมี
00:13:32 → 00:13:35 เอ่ออาการวิงเวียนมีหน้ามืดหรือว่ามี
00:13:35 → 00:13:38 เรื่องของอาการเมื่อยล้าปวดเมื่อยกล้าม
00:13:38 → 00:13:40 เนื้อที่ผิดปกติอะไรพวกนี้ครับก็เป็น
00:13:40 → 00:13:42 อาการเตือนตามระบบที่สำคัญที่ผมบอกไปอัน
00:13:42 → 00:13:45 นี้ก็อาจจะต้องเอ่อรีบเอาตัวเองออกมาจาก
00:13:45 → 00:13:47 สภาพแวดล้อมนั้นแล้วก็ให้การผฐมพยาบาล
00:13:47 → 00:13:51 เบื้องต้นก่อนค่ะอันนี้คือวิธีป้องกันตัว
00:13:51 → 00:13:53 เองถ้าเกิดว่าอย่างในกรณีที่ต้องทำงาน
00:13:53 → 00:13:55 กลางแจ้งจริงๆมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็อาจจะ
00:13:55 → 00:13:58 ต้องหาตัวช่วยอย่างอื่นให้ช่วยลดในเรื่อง
00:13:58 → 00:13:59 ของ
00:13:59 → 00:14:02 คามรนที่จะเข้าสู่ร่างกายนอกจากเรื่องของ
00:14:02 → 00:14:04 การป้องกันตัวค่ะอาจารย์การปฐมพยาบาล
00:14:04 → 00:14:07 เบื้องต้นเราป้องกันตัวเองเแล้วแต่ในกรณี
00:14:07 → 00:14:10 ที่เราไปเจอผู้ที่เป็นโรคลมแดดเราจะมี
00:14:11 → 00:14:13 วิธีปฐมพยาบาลหรือว่าช่วยเหลือยังไงบ้าง
00:14:13 → 00:14:15 คะอันนี้ก็เป็นอีกพ์นึงที่สำคัญนะครับ
00:14:15 → 00:14:17 เพราะว่าอย่างที่บอกไปว่าการหัวใจของการ
00:14:17 → 00:14:20 รักษาก็คือการให้การรักษาเบื้องต้นหรือ
00:14:20 → 00:14:22 First aged หรือการผปฐมพยาบาลเบื้องต้น
00:14:22 → 00:14:25 เพราะว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสการลดภาวะแทรก
00:14:25 → 00:14:27 ซ้อนแล้วก็เพิ่มการรอดชีวิตให้กับคนไข
00:14:27 → 00:14:29 เพราะฉะนั้นการให้การปฐมพยาบาลอย่างถูก
00:14:29 → 00:14:31 ต้องและเหมาะสมก็เป็นสิ่งที่จำเป็นแล้วก็
00:14:31 → 00:14:33 เป็นความรู้พื้นฐานที่บุคคลทั่วไปอาจจะ
00:14:33 → 00:14:36 ต้องพอทราบไว้นิดนึงนะครับเนาะอันดับแรก
00:14:36 → 00:14:38 เลยก็คือถ้าเราไปพบคนไข้เอ่อจริงเหล่า
00:14:38 → 00:14:40 นั้นนะครับเนาะก็คืออย่างที่ผมบอกไปนะ
00:14:40 → 00:14:42 ครับมีอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เข้าได้มี
00:14:42 → 00:14:45 อุณหภูมิไกลที่สูงแล้วก็มีอาการเ่อที่
00:14:45 → 00:14:47 เข้าได้อาจจะเพ้อสับสนกระสับกระส่ายหมด
00:14:47 → 00:14:50 สติหายใจติดขัดหัวใจเต้นเร็วกลุ่มนั้น
00:14:50 → 00:14:52 เนี่ย 1 เลยก็คือจะต้องเอาเขาออกมาจากใน
00:14:52 → 00:14:55 ซีนก่อนก็คือฟเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มัน
00:14:55 → 00:14:59 ปลอดโปร่งแล้วก็อุณหภูมิลดลงถอยู่กลางแดง
00:14:59 → 00:15:01 กลางแดดก็อาจจะต้องเอาเข้าในที่ร่มที่มี
00:15:01 → 00:15:04 อากาศไถยเทค่อนข้างดีนะครับเนาะอันที่ 2
00:15:04 → 00:15:07 ก็คือจัดท่านอนปกติแล้วก็เอ่อดูเรื่องของ
00:15:07 → 00:15:09 เครื่องแต่งกายอาจจะต้องคลายถ้าบางคนใส่
00:15:09 → 00:15:11 เสื้อผ้าที่รัดหรือว่ายังปกปิดค่อนข้าง
00:15:11 → 00:15:14 เยอะอยู่เพราะว่าจะไปขัดขวางการระบายความ
00:15:14 → 00:15:17 ร้อนของร่างกายอาจจะต้องคลายเสื้อครับให้
00:15:17 → 00:15:20 ให้ให้ผ่อนคลายมากขึ้นนะครับเนาะอันที่ 3
00:15:20 → 00:15:23 ก็คือลดอุณหภูมิกายให้ให้กับคนไข้นะครับ
00:15:23 → 00:15:26 วิธีที่ง่ายที่สุดเลยก็คือการเช็ดตัวครับ
00:15:26 → 00:15:29 ก็อาจจะใช้ผ้าชุบน้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำ
00:15:29 → 00:15:31 เย็นเนี่ยนะครับเนาะเช็ดร่างกายโดยเฉพาะ
00:15:31 → 00:15:33 บริเวณที่ช่วยในการระบายความร้อนได้ดีนะ
00:15:33 → 00:15:36 ครับเนาะเช่นบริเวณคอค้อพับต่างๆที่เป็น
00:15:37 → 00:15:39 จุดรวมของชีพจรนะครับเนาะเช่นข้ออ่า
00:15:39 → 00:15:42 รักแร้ขาหนีบอะไรเหล่านี้นะครับแล้วก็อ่า
00:15:42 → 00:15:45 จากนั้นก็นำผู้ป่วยส่งสถานพยาบาลใกล้บ้าน
00:15:45 → 00:15:48 ที่ที่เร็วที่สุดนะครับแต่ในกรณีที่คนไข้
00:15:48 → 00:15:50 อาจจะฟื้นตัวขึ้นมาก่อนหรือว่าตื่นขึ้นมา
00:15:50 → 00:15:53 ได้กรณีตอนที่ตอนแรกอาจจะมีอาการคล้ายๆ
00:15:53 → 00:15:56 เพ้อสับสนหรือไม่ค่อยรู้สติแต่ว่าตอนหลัง
00:15:56 → 00:15:59 กลับมาตื่นได้นะครับก็มีอีกพอย์นึงที่อาจ
00:15:59 → 00:16:03 จะแนะนำก็คือเรื่องของการดื่มน้ำครับ
00:16:03 → 00:16:05 เพราะว่าก็อันนี้เพราะว่าคนไข้กลุ่มนี้ก็
00:16:05 → 00:16:07 จะมีโอกาสที่จะเสียน้ำได้ค่อนข้างเยอะก็
00:16:07 → 00:16:11 ถ้าคนไข้รู้ตัวดีสามารถเอ่อรับประทานหรือ
00:16:11 → 00:16:13 ดื่มได้อย่างเงี้ยครับก็ถ้าาจะในเบื้อง
00:16:13 → 00:16:17 ต้นจะให้ก็คือให้เป็นน้ำอุณหภูมิปกติได้
00:16:17 → 00:16:18 เพราะว่าบางคนอาจจะให้น้ำเย็นซึ่งอันนี้
00:16:18 → 00:16:20 อาจจะเป็นข้อควรระวังว่าถ้าดื่มน้ำเย็น
00:16:20 → 00:16:24 มากๆในช่วงแรกก็อาจจะทำให้ระบบภายในมี
00:16:24 → 00:16:27 ปัญหาโดยเฉพาะเรื่องของการหดตัวต่างๆของ
00:16:27 → 00:16:29 หลอดเลือดภายในหรือว่าการการหดเกรงของ
00:16:29 → 00:16:32 อวัยวะภายในเช่นกระเพาะนี้ก็อาจจะทำให้คน
00:16:32 → 00:16:34 ไข้มีอาการแจกซ้อนมีคลื้นไทรมีอาเจียน
00:16:34 → 00:16:37 หรือว่ามีอาการเผิดปกติของระบบทางเดิน
00:16:37 → 00:16:40 อาหารตามมาได้ครับค่ะอ่าก็แล้วก็นำผู้
00:16:40 → 00:16:43 ป่วยส่งเ่อโรงพยาบาลอย่างรวดเรวนะครับทาง
00:16:43 → 00:16:46 แพทย์ก็จะมีการดูแลเบื้องต้นอย่างอื่นต่อ
00:16:46 → 00:16:48 นะครับเนาะเช่นการให้สารน้ำการตรวจติดตาม
00:16:48 → 00:16:51 อาการทั้งระบบหายใจระบบเ่อระบบหัวใจและ
00:16:51 → 00:16:54 หลอดเลือดแล้วก็เกลือรต่างๆกันทำงานของไต
00:16:54 → 00:16:57 เหล่านี้ครับนี่ถือว่าเป็นวิธีปฐมพยาบาล
00:16:57 → 00:17:00 เบื้องต้นที่เราทุกคนจะต้องรู้ไว้จริงๆนะ
00:17:00 → 00:17:03 คะเพราะไม่แน่ว่าวันนึงเราอาจจะไปเจอผู้
00:17:03 → 00:17:06 ที่เป็นโรคลมแดดเราก็จะได้เข้าไปช่วย
00:17:06 → 00:17:08 เหลือแต่ดีที่สุดก็คือระหว่างที่เราปฐม
00:17:08 → 00:17:12 พยาบาลเบื้องต้นก็คือโทรเรียก 1669 เพื่อ
00:17:12 → 00:17:15 จะให้รถไปรับด้วยนะคะทีนี้เรื่องของโรค
00:17:15 → 00:17:18 แทรกซ้อนลคะอาจารย์คะพอเป็นโรคนี้แล้ว
00:17:18 → 00:17:20 ตื่นขึ้นมาฟื้นขึ้นมาเรามีโอกาสเป็นโรค
00:17:21 → 00:17:23 แทรกซ้อนอย่างอื่นตามมาได้ไคะเอ่อภาวะ
00:17:23 → 00:17:27 แทรกซอนที่เอ่อที่เราต้องเฝ้าระวังแล้วก็
00:17:27 → 00:17:29 มีโอกาสที่จะเกิดได้ก็เอาไว้วะหลักๆที่
00:17:29 → 00:17:32 ที่เรากลัวก็จะมีเรื่องของเอ่อระบบประสาท
00:17:32 → 00:17:34 และสมองนะครับเพราะว่าอย่างที่บอกไปว่า
00:17:34 → 00:17:39 บางคนอาจจะเป็นรุนแรงนะครับมีภาวะชักได้
00:17:39 → 00:17:41 มีภาวะหมดสติเป็นระยะเวลานานซึ่งพวกนี้
00:17:41 → 00:17:44 อาจจะส่งผลให้เกิดถ้าคนไข้ชักมีอาการ
00:17:44 → 00:17:46 อย่างเงี้ยก็อาจจะส่งผลให้มีภาวะเ่อสมอง
00:17:46 → 00:17:49 ขาดออกซิเจนชั่วขณะได้บ้างอันนี้ก็ส่งผล
00:17:49 → 00:17:52 ในเอ่อการทำงานของระบบประสาทในระยะยาวได้
00:17:52 → 00:17:55 อีกอันนึงก็คือเรื่องของการทำงานของไตและ
00:17:55 → 00:17:57 กล้ามเนื้ออย่างที่บอกไปครับว่าถ้าสมมุติ
00:17:57 → 00:17:59 ว่าเป็นรุนแรงมากๆอาจจะมีการการสลของ
00:17:59 → 00:18:01 กล้ามเนื้อแล้วก็ไอ้ตัวผลของการสสลกล้าม
00:18:01 → 00:18:04 เนื้อเนี่ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน
00:18:04 → 00:18:07 เช่นการทำงานของไตผิดปกติที่เป็นภาวะไต
00:18:07 → 00:18:10 วายเฉียบพันการทำงานผิดปกติแบบเฉียบพันธ
00:18:10 → 00:18:13 ของไตได้นะครับอันนี้ก็เป็นภาวะที่เจอได้
00:18:13 → 00:18:16 ซึ่งเราก็จะมีวิธีการอ่าตรวจติดตามแล้วก็
00:18:16 → 00:18:18 ป้องกันอยู่แล้วนะครับเนาะอย่างเช่นการ
00:18:18 → 00:18:21 ให้สั่นน้ำกับคนไข้ที่เพียงพอการตรวจติด
00:18:21 → 00:18:24 ตามการทำงานของไตแล้วก็การดูอาการทางระบบ
00:18:24 → 00:18:26 ประสาทระบบหัวใจและหลอดเลือดอย่างต่อ
00:18:26 → 00:18:29 เนื่องครับอันนี้ก็เป็นเป็นเป็นอวัยวะ
00:18:29 → 00:18:31 หลักๆที่เราอาจจะต้องต้องเฝ้าระวังครับ
00:18:31 → 00:18:34 ค่ะมาถึงช่วงท้ายของรายการแล้วนะคะอยากจะ
00:18:34 → 00:18:37 ให้อาจารย์หมอฝากทิ้งท้ายถึงคุณผู้ฟังที่
00:18:37 → 00:18:40 กำลังรับฟังรายการเราอยู่เราจะมีวิธีหรือ
00:18:40 → 00:18:43 ว่าเทคนิคในการดูแลตัวเองหรือสังเกตอาการ
00:18:43 → 00:18:47 รวมไปถึงวิธีปฐมพยาบาลอย่างไรในช่วงที่
00:18:47 → 00:18:49 อากาศร้อนแบบนี้ถ้าเกิดว่าเป็นรมแดดนะคะ
00:18:49 → 00:18:52 อยากจะให้อาจารย์หมอได้ฝากถึงคุณผู้ฟัง
00:18:52 → 00:18:54 ทางบ้านสักนิดนึงค่ะโดยสรุปก็คืออาจจะ
00:18:54 → 00:18:57 ต้องเอ่อเฝ้าระวังอาการเหล่านี้นะครับใน
00:18:57 → 00:19:00 คนไข้ที่ไม่ว่าจะเป็นตัวเองหรือว่าบุคคล
00:19:00 → 00:19:02 ใกล้ใกลชิดเราญาติพี่น้องหรือเพื่อนร่วม
00:19:02 → 00:19:04 งานนะครับถ้าเป็นคนไข้ที่มีปัจจัยเสี่ยง
00:19:04 → 00:19:07 ดังกล่าวนะครับเนาะก็อาจจะต้องพยายามเฝ้า
00:19:07 → 00:19:09 ระวังตัวเองไม่เอาไม่ไม่ไม่เอาตัวเองไป
00:19:09 → 00:19:12 อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงมากนาน
00:19:12 → 00:19:14 ๆนะครับเนาะเราก็สังเกตอาการเบื้องต้นที่
00:19:14 → 00:19:16 จำเป็นนะครับเนาะเช่นอุณหภูมิกายสูงผิด
00:19:16 → 00:19:19 ปกติอย่างรวดเร็วหายใจผิดปกตินะครับเนาะ
00:19:19 → 00:19:22 หรือว่าเริ่มมีอาการหน้ามืดวิ่งเวียนอะไร
00:19:22 → 00:19:24 กลุ่มนี้นะครับก็คือถ้ามีอาการที่สงสัย
00:19:24 → 00:19:27 เข้าได้เนี่ยครับอาจจะต้องรีบให้การรักษา
00:19:27 → 00:19:29 เบื้องต้นโดยการปฐมพยาบาเบื้องต้นอย่าง
00:19:29 → 00:19:32 รวดเร็วและทันท่วมทีในกรณีที่มีอาการรุน
00:19:32 → 00:19:35 แรงก็อ่าหลังจากผสมพยาบาลก็ต้องรีบนำส่ง
00:19:35 → 00:19:37 โรงพยาบาลหรือว่าใช้บริการของการแพร่ฉุก
00:19:37 → 00:19:41 ฉวน 1 6 9 ครับค่ะนี่ถือว่าเป็นเรื่อง
00:19:41 → 00:19:44 ราวเกี่ยวกับสุขภาพเรื่องของลมแดดวันนี้
00:19:44 → 00:19:46 เราคุยกับอาจารย์หมอต้องบอกว่าครอบคลุม
00:19:46 → 00:19:49 ทุกประเด็นนะคะก็เชื่อได้ว่าอย่างน้อยๆ
00:19:49 → 00:19:52 วันนี้เราจะได้รู้ถึงที่มาถึงสาเหตุและ
00:19:52 → 00:19:56 เราจะได้ดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคลมแดด
00:19:56 → 00:19:59 และที่สำคัญในกรณีที่เราไปเจอพผู้ป่วยนะ
00:19:59 → 00:20:01 คะที่เป็นโรคลมแดดเราจะสามารถปฐมพยาบาล
00:20:01 → 00:20:04 ช่วยเหลือเขาได้เบื้องต้นด้วยนะคะวันนี้
00:20:04 → 00:20:07 ขอบพระคุณอาจารย์หมอมากๆนะคะขอบคุณค่ะ
00:20:07 → 00:20:11 ขอบคุณครับ cmu podcast Fun for help
00:20:11 → 00:20:17 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัวเรา
00:00:03 → 00:00:07 med cmu podcast fung for
00:00:07 → 00:00:10 Hell ัง for Health
00:00:10 → 00:00:13 podcast รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราว
00:00:13 → 00:00:16 ของสุขภาพและแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์
00:00:16 → 00:00:20 ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยศาสตร์
00:00:20 → 00:00:22 มหาวิทยาลัย
00:00:22 → 00:00:28 เชียงใหม่เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:00:28 → 00:00:32 เราสวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง
00:00:32 → 00:00:35 for Health podcast ค่ะรายการที่จะมา
00:00:35 → 00:00:38 พูดคุยเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพและแบ่ง
00:00:38 → 00:00:41 ปันประสบการณ์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคณะ
00:00:41 → 00:00:44 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะวันนี้
00:00:44 → 00:00:47 คุณผู้ฟังทุกท่านอยู่กับทิปสมัชญาหน่อล่า
00:00:47 → 00:00:50 จากงานประชาสัมพันธ์คณะแพทยยาศาสตร์
00:00:50 → 00:00:53 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นะคะผู้ฟังทุกท่านคะ
00:00:53 → 00:00:56 ช่วงนี้ถ้าพูดถึงสภาพอากาศบ้านเราต้องบอก
00:00:56 → 00:00:59 ว่าร้อนจัดกันเลยนะคะบางวัน 40 กว่าอง์
00:00:59 → 00:01:02 องศาค่ะเพราะฉะนั้นช่วงนี้เรามักจะได้ยิน
00:01:02 → 00:01:06 คำว่าฮ Stroke หรือว่าโรคลมแดดอยู่บ่อย
00:01:06 → 00:01:09 ครั้งและที่สำคัญพบผู้ป่วยด้วยอาการ
00:01:09 → 00:01:12 ฮิสโตกหรือว่าโรคลมแดดเพิ่มขึ้นอย่างต่อ
00:01:12 → 00:01:15 เนื่องในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ด้วยนะคะดัง
00:01:15 → 00:01:18 นั้นเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่เราจะพูด
00:01:18 → 00:01:21 คุยกันในวันนี้นั่นก็คือโรคลมแดดหรือฮิ
00:01:21 → 00:01:25 สตกอากาศร้อนต้องระวังเลยล่ะค่ะสาเหตุของ
00:01:25 → 00:01:29 การเกิดโรคนี้มีอะไรบ้างและอาการเป็นแบบ
00:01:29 → 00:01:32 ไหนไเราจะมีวิธีสังเกตอาการตัวเองและคน
00:01:32 → 00:01:36 ใกล้ตัวอย่างไรรวมไปถึงมีวิธีป้องกันตัว
00:01:36 → 00:01:39 หรือไม่นะคะวันนี้เราจะได้พูดคุยกันกับ
00:01:39 → 00:01:41 อาจารย์หมอค่ะขอต้อนรับผู้ช่วย
00:01:41 → 00:01:44 ศาสตราจารย์นายแพทย์กิตติเทียนขาวอาจารย์
00:01:44 → 00:01:47 ประจำหน่วยประสาทวิทยาภาควิชาอายุรศาสตร์
00:01:48 → 00:01:51 คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ
00:01:51 → 00:01:54 อาจารย์สวัสดีค่ะครับสวัสดีครับถ้าพูดถึง
00:01:54 → 00:01:57 สาเหตุของการเกิดโรคลมแดดหรือว่าฮิสโตก
00:01:57 → 00:02:00 สาเหตุจริงๆแล้วมีอะไรบ้างคะอาจารย์จริงๆ
00:02:00 → 00:02:04 ฮกส่วนภาษาไทยก็คือลมแดดนะครับเนาะก็เอ่อ
00:02:04 → 00:02:06 สาเหตุจริงๆก็คือเกิดจากการที่ร่างกายเรา
00:02:06 → 00:02:10 มีอุณหภูมิกายเนี่ยสูงมากผิดปกติอย่างรวด
00:02:10 → 00:02:13 เร็วนะครับโดยตัวเลขที่เอ่อเขานิยามไว้ก็
00:02:13 → 00:02:17 คืออาจจะเกิน 40 -4.5 องศเซซขึ้นไปยังก็
00:02:17 → 00:02:20 ต้องไปดูต่อว่าอะไรที่ทำให้อุณหภูมิกาย
00:02:20 → 00:02:23 เราเนี่ยฮะสูงเกินมาขนาดนั้นเพราะว่าจริง
00:02:23 → 00:02:27 ๆโดยปกติร่างกายเราก็จะมีการปรับอ่า
00:02:27 → 00:02:30 เปลี่ยนแปลงนะครับปรับปรับตัวเองอยู่แล้ว
00:02:30 → 00:02:32 เพื่อที่จะตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมนะครับ
00:02:32 → 00:02:34 เนาะให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่ที่เรา
00:02:34 → 00:02:37 อยู่แต่ว่าเอ่อมันก็จะมีภาวะบางอย่างที่
00:02:37 → 00:02:39 สุดท้ายแล้วร่างกายเราปรับไม่ไม่ทันนะ
00:02:39 → 00:02:42 ครับเนาะหรือว่าเอ่อทำให้อุณหภูมิกายเรา
00:02:42 → 00:02:44 เนี่ยมันสูงขึ้นไปถึงขนาดนั้นนะครับ 40
00:02:44 → 00:02:47 -4.5 อะไรอย่างเงี้ยครับซึ่งสาเหตุหลักๆ
00:02:47 → 00:02:49 เลยก็อาจจะมีสัก 2-3 อย่างนะครับอันดับ
00:02:49 → 00:02:52 แรกเลยก็คือเอ่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ค่อน
00:02:52 → 00:02:55 ข้างเอ่อมีความชื้นสูงหรือว่ามีความร้อน
00:02:55 → 00:02:57 ค่อนข้างมากนะครับนะอันนี้ก็จะส่งผลให้
00:02:57 → 00:02:59 เอ่อคนไข้บางคนที่อาจจะเป็นกลุ่มเสี่ง
00:03:00 → 00:03:02 อยู่เดิมซึ่งเดี๋ยวจะพูดต่อไปอนะครับมี
00:03:02 → 00:03:05 เอ่ออ่าการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมเนี่ยที่
00:03:05 → 00:03:08 ที่ไม่ทันนะครับเนาะก็อาจจะทำให้เอ่อ
00:03:08 → 00:03:10 อุณหภูมิกายเขาสูงขึ้นขนาดนั้นแล้วก็เกิด
00:03:10 → 00:03:13 อาการของลมแดดหรือฮีสกได้นะครับเนาะหรือ
00:03:13 → 00:03:15 อีกกรณีนึงก็คืออีกสาเหตุนึงก็คืออาจจะ
00:03:15 → 00:03:19 เจอในคนไข้บางกลุ่มที่เอ่อไปทำงานหรือไป
00:03:19 → 00:03:21 ใช้ชีวิตหรือไปทำกิจกรรมในสภาพแวดล้อมที่
00:03:21 → 00:03:24 ไม่เหมาะสมนะครับเนาะเช่นออกออกไปทำงาน
00:03:24 → 00:03:27 เอ่อกลางแดดกลางแจ้กือสภาพแวดล้อมที่ที่
00:03:27 → 00:03:30 มันเอ่อ extrem หรือหรือร้อนมากเกินไปนะ
00:03:30 → 00:03:32 ครับในสภาวะที่ตัวเองอาจจะไม่ได้เตรียม
00:03:32 → 00:03:35 ตัวให้เหมาะสมด้วยเช่นเรื่องของการดื่ม
00:03:35 → 00:03:37 น้ำให้เพียงพอหรือว่าการใส่เสื้อผ้าที่
00:03:37 → 00:03:40 เหมาะสมกับสภาพอากาศเหล่าเนะครับอันนี้ก็
00:03:40 → 00:03:43 จะเป็น 2 2 สาเหตุหลักๆที่ที่เจอในคนไข
00:03:43 → 00:03:46 ที่เป็นฮิรค่ะอันนี้คือสาเหตุของการเกิด
00:03:46 → 00:03:49 โรคส่วนใหญ่ที่มาหาอาจารย์หมอนะคะแล้วที
00:03:49 → 00:03:52 นี้พูดถึงอาการมาค่ะอาจารย์หมออาการของ
00:03:52 → 00:03:55 ผู้ป่วยที่มาด้วยโรคลมแดดส่วนใหญ่จะมี
00:03:55 → 00:03:59 อาการแบบไหนที่เป็นอาการบ่งชัดเลยว่าถ้า
00:03:59 → 00:04:01 มีอาการตานี้คือเป็นโรคลมแดดแน่นอนไงค่ะ
00:04:01 → 00:04:03 คือต้องบอกว่าตัวโรคลมแดดเนี่ยก็จะต่าง
00:04:03 → 00:04:06 กับสติจักอย่างอื่นทั่วไปตรงที่ 1 เลยก็
00:04:06 → 00:04:08 คือตัวลมแดดความรุนแรงจะค่อนข้างค่อนข้าง
00:04:08 → 00:04:11 เยอะนะครับต้องอาศัยการตรวจวินิฉัยที่รวด
00:04:11 → 00:04:13 เร็วแล้วก็การผสมพยาบาลเบื้องต้นที่อย่าง
00:04:13 → 00:04:15 ถูกต้องแล้วก็เหมาะสมอย่างทันท่วงทีนะ
00:04:15 → 00:04:18 ครับทีนี้เนี่ยตัวอาการหลักๆของตัวลมแดด
00:04:18 → 00:04:22 ก็คือเอ่อตัววเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกาย
00:04:22 → 00:04:25 เรามีอุณหภูมิกายเนี่ยสูงมากเกิน 40 -4.5
00:04:25 → 00:04:29 องศเซซขึ้นไปเนี่ยเอ่ออวัยวะที่ที่จะมีมี
00:04:29 → 00:04:31 ปัญหานะครับที่เรากลัวแล้วก็จะทำให้คนไข้
00:04:31 → 00:04:34 มีอาการแลเป็นอาการที่นำมานอกนอกเหนือจาก
00:04:34 → 00:04:37 การที่เรา detect อุณหภูมิร่างกายคนไข้
00:04:37 → 00:04:38 อุณหภูมิกายคนไข้เนี่ยสูงมากอยู่แล้ว
00:04:38 → 00:04:41 เนี่ยครับก็จะมีอาการทางระบบต่างๆที่อาจ
00:04:41 → 00:04:44 จะเป็นตัวบ่งชี้ได้ซึ่งระบบนั้นที่ที่เรา
00:04:44 → 00:04:46 กังวลก็คือเป็นระบบที่สำคัญของร่างกาย
00:04:46 → 00:04:49 ประมาณสัก 4-5 ระบบนะครับอันดับแรกเลยก็
00:04:49 → 00:04:52 คือสมองอันดับที่ 2 ก็คือระบบเอ่อหัวใจ
00:04:52 → 00:04:55 และปอดนะครับอันดับที่ 3 ก็เป็นระบบกล้าม
00:04:55 → 00:04:58 เนื้อแลอันที่ 4 ก็เป็นระบบไตนะครับก็
00:04:58 → 00:05:01 เอ่อนอกเโดยสรุปก็คืออาการที่ที่เราจะ
00:05:01 → 00:05:04 เอ่อวินิจฉัยหรือว่าตรวจคนไข้เนี่ยก็คือ 1
00:05:04 → 00:05:07 ดูจากเอ่อปัจจัยเสี่ยงที่คนไข้มีบวกกับ
00:05:07 → 00:05:10 อุณหภูมิกายคนไข้ที่ค่อนข้างสูงนะครับ
00:05:10 → 00:05:13 เนาะอาจจะเกิน 40 -4.5 บวกกับมีอาการตาม
00:05:13 → 00:05:16 ระบบเหล่านี้นะครับเนาะซึ่งอ่าตัวระบบที่
00:05:16 → 00:05:18 ที่สำคัญที่กล่าวไปอย่างเช่นอาการทางระบบ
00:05:18 → 00:05:20 ประสาทหรือสมองเนี่ยครับเนาะคนไข้ก็อาจจะ
00:05:20 → 00:05:23 มีไล่ตั้งแต่เล็กน้อยปานกามไปถึงรุรุนแรง
00:05:23 → 00:05:26 ได้นะครับเนาะเช่นอาจจะมีแค่กระสับ
00:05:26 → 00:05:28 กระส่ายอันนี้เบื้องต้นแต่ถ้าเป็นเยอะ
00:05:28 → 00:05:31 ขึ้นนะครับเนาะคนใ้ก็อาจจะมีอาการสับสน
00:05:31 → 00:05:34 อ่าพูดไม่รู้เรื่องมีอาการเพ้อหรือในบาง
00:05:34 → 00:05:38 รายถ้าเป็นมากๆก็อาจจะหมดสติค่ะได้เลยนะ
00:05:38 → 00:05:41 ครับเนาะเอ่อระบบที่ 2 ที่มักจะมาร่วมกัน
00:05:41 → 00:05:43 ก็คือระบบหัวใจและระบบการหายใจนะครับเนาะ
00:05:43 → 00:05:46 เพราะว่าถ้าเอ่ออุณหภูมิร่างกายสูงมาก
00:05:46 → 00:05:49 ขนาดนั้นก็จะส่งผลให้ระบบเ่อไเวียนโลหิต
00:05:49 → 00:05:51 หรือว่าระบบหายใจเนี่ยมีปัญหาได้คนไข้อาจ
00:05:51 → 00:05:54 จะมีปัญหาเรื่องการหายใจผิดปกติมีหายใจ
00:05:54 → 00:05:56 เรวได้มีหอบเหนื่อยได้นะครับเนาะหรือบาง
00:05:56 → 00:05:59 รายอาจจะมีเรื่องของระบบหายใจล้มเหลวได้
00:05:59 → 00:06:01 หรือถ้าเป็นระบบหัวใจคนไข้ก็ในช่วงแรกอาจ
00:06:01 → 00:06:04 จะมีแค่เรื่องของหัวใจเต้นเร็วนะครับเนาะ
00:06:04 → 00:06:06 ในบางรายที่ถ้าเป็นเยอะแล้วก็ไม่ได้รับ
00:06:06 → 00:06:08 การรักษาอย่างทางทงทีก็อาจจะมีเรื่องของ
00:06:08 → 00:06:12 ระบบเอ่อลความล้มเหลวของระบบหัวใจตามมา
00:06:12 → 00:06:15 ได้นะครับเนาะสุดท้ายเลยก็คือเป็นอาการ
00:06:15 → 00:06:19 ทางระบบของเอ่อกล้ามเนื้อแล้วก็ระบบไตอัน
00:06:19 → 00:06:21 นี้ก็จะมาคู่กันเพราะว่าในบางรายที่อาการ
00:06:21 → 00:06:23 เป็นรุนแรงมากเนี่ยครับเนาะก็อาจจะมี
00:06:23 → 00:06:26 อาการบาดเจ็บหรือการสลายของกล้ามเนื้อลาย
00:06:26 → 00:06:29 ในร่างกายได้ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า risis
00:06:29 → 00:06:34 เนี่ยนะครับค่ะก็่านี้ซึ่งของกล้ามเนื้อ
00:06:34 → 00:06:38 บางนจะสผลให้มีภาวะแทรกซ้อนตามมาที่สำคัญ
00:06:38 → 00:06:41 ก็คืออาจจะมีภาวะไตวายเฉียบลันปัสสาวะ
00:06:41 → 00:06:43 เปลี่ยนสีอะไรอย่างเงี้ได้นะครับเเป็นสี
00:06:43 → 00:06:45 เข้มขึ้นจากที่เป็นสีเหลืองอ่อนเงี้นะ
00:06:45 → 00:06:48 ครับอันนี้ก็จะเป็นตัวที่ที่ที่เราเอาไว้
00:06:48 → 00:06:50 วินิจฉัยเบื้องต้นว่าอาการคนไข้ก็จะมา
00:06:50 → 00:06:52 ด้วยกลุ่มอาการเหล่านี้ซึ่งก็แล้วแต่คน
00:06:52 → 00:06:55 แล้วแต่ความรุนแรงบางคนก็ถ้ารุนแรงมากก็
00:06:55 → 00:06:58 อาจจะมารวดเร็วด้วยทุกระบบได้เลยนะครับ
00:06:58 → 00:07:00 แต่ถ้าอาการไม่ได้รุงมากในช่วงแรกก็อาจจะ
00:07:00 → 00:07:03 ค่อยๆมาทีละระบบแล้วก็เป็นจากเล็กน้อยปาน
00:07:03 → 00:07:06 กลางไปจนถึงรุนแรงได้ครับรุนแรงนี้ถึง
00:07:06 → 00:07:08 ขั้นเสียชีวิตดีนะคะมีรายงานครับมีรายงาน
00:07:08 → 00:07:11 ถ้าสมมุติว่าอาการเป็นเยอะแล้วก็การรักษา
00:07:11 → 00:07:14 ในช่วงแรกมาช้าการปฐมยาบาลเบื้องต้นไม่
00:07:14 → 00:07:17 ถูกต้องหรือว่าเจอในคนไข้ที่เป็นกลุ่ม
00:07:17 → 00:07:21 เสี่ยงนะครับเนาะเช่นอายุน้อยมากๆเช่นใน
00:07:21 → 00:07:24 เด็กเล็กหรือว่าในคนไข้อายุเยอะมากๆเช่น
00:07:24 → 00:07:26 กลุ่มผู้ป่วยสูงอายุอย่าเงี้ยครับก็อาจจะ
00:07:26 → 00:07:28 เป็นกลุ่มเปราะบางมากกว่าคนไข้วัยทำงาน
00:07:28 → 00:07:31 หรือบางคนคนมีโรคร่วมอย่างที่บอกครับว่า
00:07:31 → 00:07:34 อาการของฮิกถ้าเป็นเยอะๆก็จะไปแทคหรือไป
00:07:34 → 00:07:37 กระทบกับระบบสมองหัวใจหายใจแล้วก็ไตเพราะ
00:07:38 → 00:07:41 ฉะนั้นถ้าคนไข้คนไหนอาจจะอายุเยอะรวมทั้ง
00:07:41 → 00:07:43 มีโรคร่วมเหล่านี้อยู่เดิมเช่นมีโรคหลอด
00:07:43 → 00:07:46 เลือดสมองมีโรคลมชักมีเรื่องของอ่อโรค
00:07:47 → 00:07:49 หลอดเลิศหัวใจระบบหัวใจและปอดอยู่ผิดปกติ
00:07:49 → 00:07:52 อยู่เดิมกลุ่มนี้เนี่ยก็มีความเสี่ยงถ้า
00:07:52 → 00:07:54 สมมุติว่าอาการรุนแรงและไม่ได้รับการ
00:07:54 → 00:07:56 รักษาที่ถูกต้องอย่างทันทุกทีก็อาจจะส่ง
00:07:56 → 00:07:59 ผลให้ผลลัพธ์ของการรักษาไม่ดีแล้วก็เกิด
00:07:59 → 00:08:02 การเสียชีวิตได้ค่ะถือว่าเป็นอีกหนึ่งโรค
00:08:02 → 00:08:05 ที่มีความรุนแรงมากๆแล้วจะต้องอาศัยความ
00:08:05 → 00:08:08 รวดเร็วในการมาพบแพทย์ยิ่งมาหาคุณหมอเร็ว
00:08:08 → 00:08:11 เท่าไหร่ก็จะยิ่งช่วยรักษาอาการได้เท่า
00:08:11 → 00:08:14 นั้นนะคะคุณผู้ฟังหลายท่านอาจจะสงสัยว่า
00:08:14 → 00:08:19 เอ๊ะโรคลมแดดฮิสโตกกับโรคเป็นลมปกติมัน
00:08:19 → 00:08:22 แตกต่างกันยังไงแล้วเรามีวิธีสังเกตยังไง
00:08:22 → 00:08:24 คะอาจารย์เอ่อจริงๆถ้าเป็นอันดับแรกเลยก็
00:08:24 → 00:08:28 คือดูที่ที่อ่าความรุนแรงของตัวโรกนะครับ
00:08:28 → 00:08:30 ถ้าเป็นตมแดดเนี่ยจะค่อนข้างชัดได้ว่า
00:08:30 → 00:08:33 อาการจะค่อนข้างรุนแรงนะครับเนาะแล้วก็มี
00:08:33 → 00:08:36 อาการตามระบบอื่นๆร่วมด้วยมากกว่าที่จะไป
00:08:36 → 00:08:38 แค่เป็นลมหมดสติธรรมดาอย่างที่ผมกล่าวไป
00:08:38 → 00:08:40 นะครับหรืออันที่ 2 เราอาจจะสังเกตจาก
00:08:40 → 00:08:44 เอ่อปัจจัยเสี่ยงหลักๆของคนไข้รวมทั้ง
00:08:44 → 00:08:46 เรื่องของเอ่อสภาพแวดล้อมที่คนไข้อยู่นะ
00:08:46 → 00:08:48 ครับเพราะว่าจริงๆเราลมแดดเนี่ยเราก็แบ่ง
00:08:48 → 00:08:51 เป็น 2 กลุ่มย่อยๆก็คือเป็นกลุ่มที่ลมแดด
00:08:51 → 00:08:54 ที่สัมพันธ์กับการการทำงานที่อยู่ในสภาพ
00:08:54 → 00:08:56 แวดล้อมที่ไม่เหมาะสมเช่นอย่างที่ผมบอกไป
00:08:56 → 00:08:59 ว่าไปอยู่ในกลุ่มคนไข้ที่ไปทำงานใช้ชีวิต
00:08:59 → 00:09:01 วิตอยู่ในสภาพแวดล้อมกลางแดดนานๆหรือบาง
00:09:01 → 00:09:03 คนก็อาจจะเป็นกลุ่มที่ที่ 2 ที่เราเรียก
00:09:03 → 00:09:05 ว่าเป็นกลุ่มลมแดดแบบปกติก็คือไม่จำเป็น
00:09:05 → 00:09:08 จะต้องไปไปอยู่กลางแดดทำงานนานๆแต่ว่า
00:09:08 → 00:09:11 อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมนะครับที
00:09:11 → 00:09:15 นี้เนี่ยตัวเอ่อตัวที่จะเน้นย้ำนิดนึงก็
00:09:15 → 00:09:18 คือเรื่องของกลุ่มคนไข้ที่มีปัจจัยเสียง
00:09:18 → 00:09:21 แล้วกันว่าอันนี้อาจจะใช้แยกได้กับกับตัว
00:09:21 → 00:09:23 การเป็นลมธรรมดานะครับเนาะเพราะว่าถ้า
00:09:23 → 00:09:25 เป็นลมแดดหรือฮีกเนี่ยเอ่อคนไข้มักจะมี
00:09:25 → 00:09:28 ปัจจัยเสี่ยงบางอย่างขึ้นมาได้บ้างยกตัว
00:09:28 → 00:09:31 อย่างเช่นอย่างที่อันดับแรกเลยเรื่องอายุ
00:09:31 → 00:09:33 นะครับถ้าเป็นคนไข้อายุเด็กมากๆเป็นผู้
00:09:33 → 00:09:35 ป่วยสูงอายุหรือว่ามีโรคร่วมตามระบบที่
00:09:35 → 00:09:37 กล่าวไปนี้ก็อาจจะเป็นกลุ่มที่อาจจะต้อง
00:09:37 → 00:09:40 ระวังว่าเขาอาจจะมีความเสี่ยงได้อันที่ 2
00:09:40 → 00:09:44 ก็คือบางคนอาจจะเป็นคนไข้บางกลุ่มที่ไป
00:09:44 → 00:09:47 ใช้ยาบางอย่างแล้วทำให้การตอบสนองของร่าง
00:09:47 → 00:09:50 กายเวลาเกิดเกิดอุณหภูมิร่างกายสูงเนี่ย
00:09:50 → 00:09:53 ไม่เป็นไปตามปกตินะยกตัวอย่างเช่นเอ่อคน
00:09:54 → 00:09:58 ไข้ใช้เอ่อยากลุ่มบางกลุ่มที่รักษาโรคบาง
00:09:58 → 00:10:01 โรคที่ทำให้เกิดหลอดเลือดส่วนปลายหดตัว
00:10:01 → 00:10:04 เพราะโดยปกติเวลาร่างกายเราเราเจอภาวะแวด
00:10:04 → 00:10:07 ล้อมที่อุณหภูมิสูงมากๆร่างกายเราก็จะมี
00:10:07 → 00:10:09 การปรับตัวในการระบายความร้อนออกจากร่าง
00:10:09 → 00:10:12 กายอยู่ละเช่นมีการขยายตัวของหลอดเลือด
00:10:12 → 00:10:14 ส่วนปลายที่แขนขามือเพิ่มเหงื่อเพิ่มการ
00:10:14 → 00:10:16 ระบายความร้อนออกจากผิวหนังอะไอย่างเงี้
00:10:16 → 00:10:19 นะครับทีนี้ถ้าสมมุติว่าคนไข้บางคนมีข้อ
00:10:19 → 00:10:22 บ่งจีที่ต้องได้รับการรักษาด้วยยาโรคหัว
00:10:22 → 00:10:24 ใจโรคสมองบางอย่างที่ทำให้เกิดหลอดเลือ
00:10:24 → 00:10:27 ส่วนปลายหดตัวได้หรือภาษาอังกฤษเรียกว่าว
00:10:27 → 00:10:29 constriction เนี่ยนะครับยิ่งโรคทางระบบ
00:10:29 → 00:10:31 ประประสาทเองเช่นคนไข้ไมเกรนบางคนต้องได้
00:10:31 → 00:10:34 รับยารักษาไมเกรนบางตัวที่ทำให้มีฤทธิ์ใน
00:10:34 → 00:10:37 การรักษาไมเกรนโดยการลดอ่อเป็นการการหด
00:10:37 → 00:10:40 ตัวของหลอดเลือดอย่างเงี้ยนะครับเวลาเขา
00:10:40 → 00:10:42 ไปโดนอุณหภูมิร้อนๆมากๆเนี่ยการตอบสนอง
00:10:43 → 00:10:45 อันนี้เขาก็จะไม่เท่ากับคนปกติก็อาจจะมี
00:10:45 → 00:10:48 แนวโน้มที่อาจจะเกิดอาการได้ง่ายหรือบาง
00:10:48 → 00:10:51 คนได้รับการรักษาด้วยยาบางอย่างเช่นยาขับ
00:10:51 → 00:10:53 ปัสสาวะอย่างเงี้ยครับเนาะเขาก็อาจจะมี
00:10:53 → 00:10:55 แนวโน้มในการที่จะสูญเสียน้ำและเกือแร่
00:10:55 → 00:10:58 ได้ง่ายกว่าคนทั่วไปก็อาจจะเป็นกลุ่ม
00:10:58 → 00:11:00 เสี่ยงที่ต้องระวังว่าว่าอาจจะเป็นกลุ่ม
00:11:00 → 00:11:03 ที่มีแนวโน้มจะเกิดตัวฮีสหรืออันสุดท้าย
00:11:03 → 00:11:05 เลยก็คืออันนี้บ้านเราอาจจะเจอน้อยหน่อย
00:11:05 → 00:11:07 แต่ว่าถ้าใครเคยอ่านรายงานข่าวเมื่อสัก 2
00:11:07 → 00:11:11 ปีก่อนที่ฝั่งยุโรปหรือ UK เจอ heat Wave
00:11:11 → 00:11:13 ที่เข้ามาฝั่งนั้นนะฮะก็คือเกิดการ
00:11:13 → 00:11:15 เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วในบาง
00:11:15 → 00:11:17 ภูมิประเทศอย่างเงี้ยครับที่เขาไม่ได้
00:11:17 → 00:11:19 เป็นเมืองร้อนอยู่เดิมอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:11:19 → 00:11:22 ครับแล้วมีคลื่นความร้อนแบบรุนแรงเข้ามา
00:11:22 → 00:11:24 กระทบสักครั้งนึงเขาก็จะปรับตัวได้น้อย
00:11:24 → 00:11:27 อันนี้ก็จะเป็นเป็นอีกกลุ่มนึงที่ที่อาจ
00:11:27 → 00:11:30 จะต้องเฝ้าระวังเพราะฉะนั้นถ้าพูดถึง
00:11:30 → 00:11:33 กลุ่มเสี่ยงหลักๆบ้านเราก็จะมีเป็นเด็ก
00:11:33 → 00:11:36 เป็นผู้สูงอายุแล้วก็ผู้ที่มีโรคประจำตัว
00:11:36 → 00:11:38 โรวมครับแล้วก็ช้ยาบางอย่างที่อาจจะต้อง
00:11:38 → 00:11:40 เฝ้าระวังดังนั้นถ้าเกิดว่าฟังแบบนี้แล้ว
00:11:41 → 00:11:43 ค่ะอาจารย์หลายคนบอกว่าเอ๊ะแล้วเราจะป้อง
00:11:43 → 00:11:46 กันตัวเองได้ไมคะเรามีแนวทางหรือว่ามี
00:11:46 → 00:11:48 วิธีป้องกันได้ยังไงบ้างค่ะครับอันนี้ก็
00:11:48 → 00:11:50 เป็นอีกจุดนึงที่เราต้องเน้นย้ำว่าเรา
00:11:50 → 00:11:53 ป้องกันไว้ดีกว่าดีกว่าไปให้เกิดโรคเนาะ
00:11:53 → 00:11:56 ทีนี้ตัวการป้องกันอันดับแรกเลยก็คือทั้ง
00:11:56 → 00:11:59 ตัวคนไข้หรือบุคคลทั่วไปเองรวมทั้งบุคคล
00:11:59 → 00:12:00 รอบข้างเนี่ยอาจจะต้องสังเกตเบื้องต้น
00:12:01 → 00:12:03 อย่างที่บอกไปว่าคนรอบข้างเราหรือตัวเรา
00:12:03 → 00:12:05 เองเนี่ยเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ที่มีแนวโน้ม
00:12:05 → 00:12:08 จะเกิดอาการได้หรือเปล่าทีนี้ถ้ามีกลุ่ม
00:12:08 → 00:12:10 เสี่ยงปึ๊บอาจจะต้องเฝ้าระวังเรื่องของ
00:12:10 → 00:12:12 การใช้ชีวิตหรือว่าการทำงานโดยเฉพาะถ้าไป
00:12:12 → 00:12:14 อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มัน Extreme หรือว่า
00:12:14 → 00:12:17 มีมีอุณหภูมิที่สูงมากๆนะครับเนาะก็คือ
00:12:17 → 00:12:20 ต้องต้องอ่อถ้าต้องไปอยู่ก็อาจจะอยู่ใน
00:12:20 → 00:12:23 ระยะเวลาที่ไม่นานมากเราก็อาจจะต้องมีการ
00:12:23 → 00:12:25 ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเท่าที่จำเป็นนะ
00:12:25 → 00:12:29 ครับเนาะหรือเ่ออีกอันนึงก็คือเอ่อเ่อบาง
00:12:29 → 00:12:32 คนอาจจะต้องดูเรื่องของการป้องกันในอย่าง
00:12:32 → 00:12:35 อื่นเบื้องต้นเช่นถ้าสมมุติว่ารู้ตัวแล้ว
00:12:35 → 00:12:38 ว่าอาจจะต้องไปอยู่ในสภาพลอมที่มันมันมัน
00:12:38 → 00:12:40 ร้อนมากๆหรือว่าทำงานกลางแดดอาจจะต้อง
00:12:40 → 00:12:43 เอ่อเฝ้าระวังการขาดน้ำอาจจะต้องดื่มน้ำ
00:12:43 → 00:12:45 ให้มากกว่าปกติหรือว่าอย่างน้อยๆก็ต้อง
00:12:45 → 00:12:48 เท่ากับที่เล็กอ่าแนะนำต่อวัน 8-10 แก้ว
00:12:48 → 00:12:51 ต่อวันอะไรอย่างเงี้ยนะครับรวมทั้งอาจจะ
00:12:51 → 00:12:55 ดูเรื่องของเอ่ออุปกรณ์ป้องกันต่างๆไม่
00:12:55 → 00:12:57 ว่าจะเป็นหมวกแว่นหรือว่าการใส่เสื้อผ้า
00:12:57 → 00:12:59 ที่เหมาะสมที่มันสามารถที่ที่จะระบายความ
00:12:59 → 00:13:02 ร้อนได้ค่อนข้างดีนะครับเนาะอันนี้ก็เป็น
00:13:02 → 00:13:04 เป็นวิธีเบื้องต้นว่าหนึเราก็จะต้องรู้
00:13:04 → 00:13:07 ตัวเองก่อนว่าเราจะต้องเเป็นกลุ่มเสี่ยง
00:13:07 → 00:13:09 ไมแล้วเราจะต้องไปอยู่ในสภาพแวดล้อมดัง
00:13:09 → 00:13:12 กล่าวมากน้อยขนาดไหนแล้วก็จะต้องป้องกัน
00:13:12 → 00:13:14 อย่างที่บอกครับก็ดูเรื่องของการอุปกรณ์
00:13:14 → 00:13:17 ป้องกันต่างๆแล้วก็การเฝ้าระวังการขัดน้ำ
00:13:17 → 00:13:20 ฮที่จำเป็นแล้วก็สังเกตอาการตัวเองถ้า
00:13:20 → 00:13:21 สมมุติว่าตัวเองยังมีความจำเป็นจะต้อง
00:13:22 → 00:13:24 อยู่ในสภาพแวดล้อมนั้นนๆจริงๆไม่ว่าจะ
00:13:24 → 00:13:26 เหตุด้วยของการทำงานอย่างเงี้ยนะครับก็
00:13:26 → 00:13:29 อาจจะต้องสังเกตอาการอย่างที่ผมบอกไปเนา
00:13:29 → 00:13:32 ถ้ารู้สึกว่าเริ่มมีหายใจผิดปกติเริ่มมี
00:13:32 → 00:13:35 เอ่ออาการวิงเวียนมีหน้ามืดหรือว่ามี
00:13:35 → 00:13:38 เรื่องของอาการเมื่อยล้าปวดเมื่อยกล้าม
00:13:38 → 00:13:40 เนื้อที่ผิดปกติอะไรพวกนี้ครับก็เป็น
00:13:40 → 00:13:42 อาการเตือนตามระบบที่สำคัญที่ผมบอกไปอัน
00:13:42 → 00:13:45 นี้ก็อาจจะต้องเอ่อรีบเอาตัวเองออกมาจาก
00:13:45 → 00:13:47 สภาพแวดล้อมนั้นแล้วก็ให้การผฐมพยาบาล
00:13:47 → 00:13:51 เบื้องต้นก่อนค่ะอันนี้คือวิธีป้องกันตัว
00:13:51 → 00:13:53 เองถ้าเกิดว่าอย่างในกรณีที่ต้องทำงาน
00:13:53 → 00:13:55 กลางแจ้งจริงๆมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็อาจจะ
00:13:55 → 00:13:58 ต้องหาตัวช่วยอย่างอื่นให้ช่วยลดในเรื่อง
00:13:58 → 00:13:59 ของ
00:13:59 → 00:14:02 คามรนที่จะเข้าสู่ร่างกายนอกจากเรื่องของ
00:14:02 → 00:14:04 การป้องกันตัวค่ะอาจารย์การปฐมพยาบาล
00:14:04 → 00:14:07 เบื้องต้นเราป้องกันตัวเองเแล้วแต่ในกรณี
00:14:07 → 00:14:10 ที่เราไปเจอผู้ที่เป็นโรคลมแดดเราจะมี
00:14:11 → 00:14:13 วิธีปฐมพยาบาลหรือว่าช่วยเหลือยังไงบ้าง
00:14:13 → 00:14:15 คะอันนี้ก็เป็นอีกพ์นึงที่สำคัญนะครับ
00:14:15 → 00:14:17 เพราะว่าอย่างที่บอกไปว่าการหัวใจของการ
00:14:17 → 00:14:20 รักษาก็คือการให้การรักษาเบื้องต้นหรือ
00:14:20 → 00:14:22 First aged หรือการผปฐมพยาบาลเบื้องต้น
00:14:22 → 00:14:25 เพราะว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสการลดภาวะแทรก
00:14:25 → 00:14:27 ซ้อนแล้วก็เพิ่มการรอดชีวิตให้กับคนไข
00:14:27 → 00:14:29 เพราะฉะนั้นการให้การปฐมพยาบาลอย่างถูก
00:14:29 → 00:14:31 ต้องและเหมาะสมก็เป็นสิ่งที่จำเป็นแล้วก็
00:14:31 → 00:14:33 เป็นความรู้พื้นฐานที่บุคคลทั่วไปอาจจะ
00:14:33 → 00:14:36 ต้องพอทราบไว้นิดนึงนะครับเนาะอันดับแรก
00:14:36 → 00:14:38 เลยก็คือถ้าเราไปพบคนไข้เอ่อจริงเหล่า
00:14:38 → 00:14:40 นั้นนะครับเนาะก็คืออย่างที่ผมบอกไปนะ
00:14:40 → 00:14:42 ครับมีอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เข้าได้มี
00:14:42 → 00:14:45 อุณหภูมิไกลที่สูงแล้วก็มีอาการเ่อที่
00:14:45 → 00:14:47 เข้าได้อาจจะเพ้อสับสนกระสับกระส่ายหมด
00:14:47 → 00:14:50 สติหายใจติดขัดหัวใจเต้นเร็วกลุ่มนั้น
00:14:50 → 00:14:52 เนี่ย 1 เลยก็คือจะต้องเอาเขาออกมาจากใน
00:14:52 → 00:14:55 ซีนก่อนก็คือฟเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มัน
00:14:55 → 00:14:59 ปลอดโปร่งแล้วก็อุณหภูมิลดลงถอยู่กลางแดง
00:14:59 → 00:15:01 กลางแดดก็อาจจะต้องเอาเข้าในที่ร่มที่มี
00:15:01 → 00:15:04 อากาศไถยเทค่อนข้างดีนะครับเนาะอันที่ 2
00:15:04 → 00:15:07 ก็คือจัดท่านอนปกติแล้วก็เอ่อดูเรื่องของ
00:15:07 → 00:15:09 เครื่องแต่งกายอาจจะต้องคลายถ้าบางคนใส่
00:15:09 → 00:15:11 เสื้อผ้าที่รัดหรือว่ายังปกปิดค่อนข้าง
00:15:11 → 00:15:14 เยอะอยู่เพราะว่าจะไปขัดขวางการระบายความ
00:15:14 → 00:15:17 ร้อนของร่างกายอาจจะต้องคลายเสื้อครับให้
00:15:17 → 00:15:20 ให้ให้ผ่อนคลายมากขึ้นนะครับเนาะอันที่ 3
00:15:20 → 00:15:23 ก็คือลดอุณหภูมิกายให้ให้กับคนไข้นะครับ
00:15:23 → 00:15:26 วิธีที่ง่ายที่สุดเลยก็คือการเช็ดตัวครับ
00:15:26 → 00:15:29 ก็อาจจะใช้ผ้าชุบน้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำ
00:15:29 → 00:15:31 เย็นเนี่ยนะครับเนาะเช็ดร่างกายโดยเฉพาะ
00:15:31 → 00:15:33 บริเวณที่ช่วยในการระบายความร้อนได้ดีนะ
00:15:33 → 00:15:36 ครับเนาะเช่นบริเวณคอค้อพับต่างๆที่เป็น
00:15:37 → 00:15:39 จุดรวมของชีพจรนะครับเนาะเช่นข้ออ่า
00:15:39 → 00:15:42 รักแร้ขาหนีบอะไรเหล่านี้นะครับแล้วก็อ่า
00:15:42 → 00:15:45 จากนั้นก็นำผู้ป่วยส่งสถานพยาบาลใกล้บ้าน
00:15:45 → 00:15:48 ที่ที่เร็วที่สุดนะครับแต่ในกรณีที่คนไข้
00:15:48 → 00:15:50 อาจจะฟื้นตัวขึ้นมาก่อนหรือว่าตื่นขึ้นมา
00:15:50 → 00:15:53 ได้กรณีตอนที่ตอนแรกอาจจะมีอาการคล้ายๆ
00:15:53 → 00:15:56 เพ้อสับสนหรือไม่ค่อยรู้สติแต่ว่าตอนหลัง
00:15:56 → 00:15:59 กลับมาตื่นได้นะครับก็มีอีกพอย์นึงที่อาจ
00:15:59 → 00:16:03 จะแนะนำก็คือเรื่องของการดื่มน้ำครับ
00:16:03 → 00:16:05 เพราะว่าก็อันนี้เพราะว่าคนไข้กลุ่มนี้ก็
00:16:05 → 00:16:07 จะมีโอกาสที่จะเสียน้ำได้ค่อนข้างเยอะก็
00:16:07 → 00:16:11 ถ้าคนไข้รู้ตัวดีสามารถเอ่อรับประทานหรือ
00:16:11 → 00:16:13 ดื่มได้อย่างเงี้ยครับก็ถ้าาจะในเบื้อง
00:16:13 → 00:16:17 ต้นจะให้ก็คือให้เป็นน้ำอุณหภูมิปกติได้
00:16:17 → 00:16:18 เพราะว่าบางคนอาจจะให้น้ำเย็นซึ่งอันนี้
00:16:18 → 00:16:20 อาจจะเป็นข้อควรระวังว่าถ้าดื่มน้ำเย็น
00:16:20 → 00:16:24 มากๆในช่วงแรกก็อาจจะทำให้ระบบภายในมี
00:16:24 → 00:16:27 ปัญหาโดยเฉพาะเรื่องของการหดตัวต่างๆของ
00:16:27 → 00:16:29 หลอดเลือดภายในหรือว่าการการหดเกรงของ
00:16:29 → 00:16:32 อวัยวะภายในเช่นกระเพาะนี้ก็อาจจะทำให้คน
00:16:32 → 00:16:34 ไข้มีอาการแจกซ้อนมีคลื้นไทรมีอาเจียน
00:16:34 → 00:16:37 หรือว่ามีอาการเผิดปกติของระบบทางเดิน
00:16:37 → 00:16:40 อาหารตามมาได้ครับค่ะอ่าก็แล้วก็นำผู้
00:16:40 → 00:16:43 ป่วยส่งเ่อโรงพยาบาลอย่างรวดเรวนะครับทาง
00:16:43 → 00:16:46 แพทย์ก็จะมีการดูแลเบื้องต้นอย่างอื่นต่อ
00:16:46 → 00:16:48 นะครับเนาะเช่นการให้สารน้ำการตรวจติดตาม
00:16:48 → 00:16:51 อาการทั้งระบบหายใจระบบเ่อระบบหัวใจและ
00:16:51 → 00:16:54 หลอดเลือดแล้วก็เกลือรต่างๆกันทำงานของไต
00:16:54 → 00:16:57 เหล่านี้ครับนี่ถือว่าเป็นวิธีปฐมพยาบาล
00:16:57 → 00:17:00 เบื้องต้นที่เราทุกคนจะต้องรู้ไว้จริงๆนะ
00:17:00 → 00:17:03 คะเพราะไม่แน่ว่าวันนึงเราอาจจะไปเจอผู้
00:17:03 → 00:17:06 ที่เป็นโรคลมแดดเราก็จะได้เข้าไปช่วย
00:17:06 → 00:17:08 เหลือแต่ดีที่สุดก็คือระหว่างที่เราปฐม
00:17:08 → 00:17:12 พยาบาลเบื้องต้นก็คือโทรเรียก 1669 เพื่อ
00:17:12 → 00:17:15 จะให้รถไปรับด้วยนะคะทีนี้เรื่องของโรค
00:17:15 → 00:17:18 แทรกซ้อนลคะอาจารย์คะพอเป็นโรคนี้แล้ว
00:17:18 → 00:17:20 ตื่นขึ้นมาฟื้นขึ้นมาเรามีโอกาสเป็นโรค
00:17:21 → 00:17:23 แทรกซ้อนอย่างอื่นตามมาได้ไคะเอ่อภาวะ
00:17:23 → 00:17:27 แทรกซอนที่เอ่อที่เราต้องเฝ้าระวังแล้วก็
00:17:27 → 00:17:29 มีโอกาสที่จะเกิดได้ก็เอาไว้วะหลักๆที่
00:17:29 → 00:17:32 ที่เรากลัวก็จะมีเรื่องของเอ่อระบบประสาท
00:17:32 → 00:17:34 และสมองนะครับเพราะว่าอย่างที่บอกไปว่า
00:17:34 → 00:17:39 บางคนอาจจะเป็นรุนแรงนะครับมีภาวะชักได้
00:17:39 → 00:17:41 มีภาวะหมดสติเป็นระยะเวลานานซึ่งพวกนี้
00:17:41 → 00:17:44 อาจจะส่งผลให้เกิดถ้าคนไข้ชักมีอาการ
00:17:44 → 00:17:46 อย่างเงี้ยก็อาจจะส่งผลให้มีภาวะเ่อสมอง
00:17:46 → 00:17:49 ขาดออกซิเจนชั่วขณะได้บ้างอันนี้ก็ส่งผล
00:17:49 → 00:17:52 ในเอ่อการทำงานของระบบประสาทในระยะยาวได้
00:17:52 → 00:17:55 อีกอันนึงก็คือเรื่องของการทำงานของไตและ
00:17:55 → 00:17:57 กล้ามเนื้ออย่างที่บอกไปครับว่าถ้าสมมุติ
00:17:57 → 00:17:59 ว่าเป็นรุนแรงมากๆอาจจะมีการการสลของ
00:17:59 → 00:18:01 กล้ามเนื้อแล้วก็ไอ้ตัวผลของการสสลกล้าม
00:18:01 → 00:18:04 เนื้อเนี่ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน
00:18:04 → 00:18:07 เช่นการทำงานของไตผิดปกติที่เป็นภาวะไต
00:18:07 → 00:18:10 วายเฉียบพันการทำงานผิดปกติแบบเฉียบพันธ
00:18:10 → 00:18:13 ของไตได้นะครับอันนี้ก็เป็นภาวะที่เจอได้
00:18:13 → 00:18:16 ซึ่งเราก็จะมีวิธีการอ่าตรวจติดตามแล้วก็
00:18:16 → 00:18:18 ป้องกันอยู่แล้วนะครับเนาะอย่างเช่นการ
00:18:18 → 00:18:21 ให้สั่นน้ำกับคนไข้ที่เพียงพอการตรวจติด
00:18:21 → 00:18:24 ตามการทำงานของไตแล้วก็การดูอาการทางระบบ
00:18:24 → 00:18:26 ประสาทระบบหัวใจและหลอดเลือดอย่างต่อ
00:18:26 → 00:18:29 เนื่องครับอันนี้ก็เป็นเป็นเป็นอวัยวะ
00:18:29 → 00:18:31 หลักๆที่เราอาจจะต้องต้องเฝ้าระวังครับ
00:18:31 → 00:18:34 ค่ะมาถึงช่วงท้ายของรายการแล้วนะคะอยากจะ
00:18:34 → 00:18:37 ให้อาจารย์หมอฝากทิ้งท้ายถึงคุณผู้ฟังที่
00:18:37 → 00:18:40 กำลังรับฟังรายการเราอยู่เราจะมีวิธีหรือ
00:18:40 → 00:18:43 ว่าเทคนิคในการดูแลตัวเองหรือสังเกตอาการ
00:18:43 → 00:18:47 รวมไปถึงวิธีปฐมพยาบาลอย่างไรในช่วงที่
00:18:47 → 00:18:49 อากาศร้อนแบบนี้ถ้าเกิดว่าเป็นรมแดดนะคะ
00:18:49 → 00:18:52 อยากจะให้อาจารย์หมอได้ฝากถึงคุณผู้ฟัง
00:18:52 → 00:18:54 ทางบ้านสักนิดนึงค่ะโดยสรุปก็คืออาจจะ
00:18:54 → 00:18:57 ต้องเอ่อเฝ้าระวังอาการเหล่านี้นะครับใน
00:18:57 → 00:19:00 คนไข้ที่ไม่ว่าจะเป็นตัวเองหรือว่าบุคคล
00:19:00 → 00:19:02 ใกล้ใกลชิดเราญาติพี่น้องหรือเพื่อนร่วม
00:19:02 → 00:19:04 งานนะครับถ้าเป็นคนไข้ที่มีปัจจัยเสี่ยง
00:19:04 → 00:19:07 ดังกล่าวนะครับเนาะก็อาจจะต้องพยายามเฝ้า
00:19:07 → 00:19:09 ระวังตัวเองไม่เอาไม่ไม่ไม่เอาตัวเองไป
00:19:09 → 00:19:12 อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงมากนาน
00:19:12 → 00:19:14 ๆนะครับเนาะเราก็สังเกตอาการเบื้องต้นที่
00:19:14 → 00:19:16 จำเป็นนะครับเนาะเช่นอุณหภูมิกายสูงผิด
00:19:16 → 00:19:19 ปกติอย่างรวดเร็วหายใจผิดปกตินะครับเนาะ
00:19:19 → 00:19:22 หรือว่าเริ่มมีอาการหน้ามืดวิ่งเวียนอะไร
00:19:22 → 00:19:24 กลุ่มนี้นะครับก็คือถ้ามีอาการที่สงสัย
00:19:24 → 00:19:27 เข้าได้เนี่ยครับอาจจะต้องรีบให้การรักษา
00:19:27 → 00:19:29 เบื้องต้นโดยการปฐมพยาบาเบื้องต้นอย่าง
00:19:29 → 00:19:32 รวดเร็วและทันท่วมทีในกรณีที่มีอาการรุน
00:19:32 → 00:19:35 แรงก็อ่าหลังจากผสมพยาบาลก็ต้องรีบนำส่ง
00:19:35 → 00:19:37 โรงพยาบาลหรือว่าใช้บริการของการแพร่ฉุก
00:19:37 → 00:19:41 ฉวน 1 6 9 ครับค่ะนี่ถือว่าเป็นเรื่อง
00:19:41 → 00:19:44 ราวเกี่ยวกับสุขภาพเรื่องของลมแดดวันนี้
00:19:44 → 00:19:46 เราคุยกับอาจารย์หมอต้องบอกว่าครอบคลุม
00:19:46 → 00:19:49 ทุกประเด็นนะคะก็เชื่อได้ว่าอย่างน้อยๆ
00:19:49 → 00:19:52 วันนี้เราจะได้รู้ถึงที่มาถึงสาเหตุและ
00:19:52 → 00:19:56 เราจะได้ดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคลมแดด
00:19:56 → 00:19:59 และที่สำคัญในกรณีที่เราไปเจอพผู้ป่วยนะ
00:19:59 → 00:20:01 คะที่เป็นโรคลมแดดเราจะสามารถปฐมพยาบาล
00:20:01 → 00:20:04 ช่วยเหลือเขาได้เบื้องต้นด้วยนะคะวันนี้
00:20:04 → 00:20:07 ขอบพระคุณอาจารย์หมอมากๆนะคะขอบคุณค่ะ
00:20:07 → 00:20:11 ขอบคุณครับ cmu podcast Fun for help
00:20:11 → 00:20:17 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัวเรา