00:00:00 → 00:00:01 แต่
00:00:01 → 00:00:06 เชื่อไหมครับว่าเดี๋ยวนี้มะเร็งลำไส้พบใน
00:00:06 → 00:00:11 คนอายุน้อยลงเรื่อยๆอยากรู้ไหมครับว่า
00:00:11 → 00:00:15 สาเหตุเป็นเพราะอะไรมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป
00:00:15 → 00:00:21 ถึงได้เกิดมะเร็งลำไส้ในคนอายุในน้อยๆมา
00:00:21 → 00:00:22 ฟังกันนะครับ
00:00:22 → 00:00:29 [เพลง]
00:00:29 → 00:00:33 สวัสดีครับทุกท่านเหตุหมอเฉพาะทางบาท
00:00:33 → 00:00:35 เดียวและ YouTube Channel หมอเศร้าทาง
00:00:35 → 00:00:38 บาทเดียวนะครับวันนี้ก็กลับมาในเรื่องของ
00:00:38 → 00:00:43 คนดังกับโลกนะครับนะอ่าเรื่องที่จะมาพูด
00:00:43 → 00:00:45 ถึงเนี่ยก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับมะเร็งลำ
00:00:45 → 00:00:48 ไส้เหตุผลที่พูดเรื่องมะเร็งลำไส้ในเป็น
00:00:48 → 00:00:52 เพราะว่าอ่ามีแฟนคลับนะครับนะอ่ามา
00:00:52 → 00:00:56 คอมเม้นนะในคลิปวีดีโอว่าอยากให้หมอพูด
00:00:56 → 00:01:00 เกี่ยวกับมะเร็งลำไส้ในคนอายุน้อยนะครับ
00:01:00 → 00:01:02 จะสังเกตเห็นว่าเอ๊ะทำไมเดี๋ยวนี้เนี่ย
00:01:02 → 00:01:06 มะเร็งลำไส้พบในคนอายุน้อยลงนะครับนะ
00:01:06 → 00:01:13 อย่างคุณบอยสมภพเนี่ยอายุแค่ 30 ต้นเองก็
00:01:13 → 00:01:16 ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้และเป็นระยะที่ 3 นะ
00:01:16 → 00:01:20 ครับนะส่วนคุณนุชคุณมืดไข่มุกเนี่ยเอ่อ
00:01:20 → 00:01:23 ท่านอายุประมาณสัก 60 กว่าและป่วยเป็น
00:01:23 → 00:01:27 มะเร็งลำไส้ขึ้นต้องบอกว่าในสมัยที่หมอ
00:01:27 → 00:01:31 Training นะก็จะพบว่าเออถ้าจะพูดเกี่ยว
00:01:31 → 00:01:33 กับมะเร็งลำไส้แน่นมากจะพูดเป็นคนที่อยู่
00:01:33 → 00:01:38 สัก 45 ปีขึ้นไปบอกว่าเออเป็นมะเร็งลำไส้
00:01:38 → 00:01:41 ถ้าอยู่น้อยกว่านะเนี่ยมักจะไม่พบนะครับ
00:01:41 → 00:01:43 นะอะ
00:01:43 → 00:01:46 คราวนี้มันเกิดอะไรบ้างเขาบอกว่าเมื่อปี
00:01:46 → 00:01:50 2017 ก็คือประมาณสัก 5 ปีเกาะเนี่ยมีการ
00:01:50 → 00:01:55 รวบรวมสถิติพบว่าอะไรพบว่ามีการเพิ่มขึ้น
00:01:55 → 00:02:00 ของมะเร็งลำไส้ในคนอายุน้อยต่ำกว่าเนื้อ
00:02:00 → 00:02:02 ที่จำนวนสูงขึ้น
00:02:02 → 00:02:05 และพบ
00:02:05 → 00:02:11 มะเร็งลำไส้ในคนที่อายุมากกว่า 50 ปีน้อย
00:02:11 → 00:02:12 ลง
00:02:12 → 00:02:16 แต่คะด้วยบอกว่าอะไรโดยบอกว่า
00:02:16 → 00:02:21 มะเร็งลำไส้เนี่ยจะพบว่าในคนที่อยู่น้อย
00:02:21 → 00:02:27 กว่า 50 ปีเนี่ยมีหนึ่งในสิบคนเออแสดงว่า
00:02:27 → 00:02:32 อัตราการเกิดของมะเร็งลำไส้พบในคนอายุ
00:02:32 → 00:02:36 น้อยลงเรื่อยๆมันเพราะอะไร
00:02:36 → 00:02:41 ด้วยเขาบอกนี้ก็บอกว่าในคนที่ 20 ถึง 34
00:02:41 → 00:02:45 ปีโหอายุน้อยขนาดนั้นเลยหรอพบว่ามีมะเร็ง
00:02:45 → 00:02:49 ลำไส้ใหญ่นะมะเร็งลำไส้ใหญ่
00:02:49 → 00:02:52 เพิ่มขึ้น 90%
00:02:52 → 00:02:56 ส่วนมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลายและทวารหนัก
00:02:56 → 00:03:00 พบขึ้นถึง 100
00:03:00 → 00:03:01 อ่า
00:03:01 → 00:03:05 อันนี้มันเป็นสถิติถึงทั่วโลกและเมืองไทย
00:03:05 → 00:03:10 เป็นมั้ยอ้ะเรามาพบว่าอะไรอย่างน้องใหม่
00:03:10 → 00:03:14 เนี่ยประดิษฐ์นักวอลเลย์บอลอายุเนี้ย 25
00:03:14 → 00:03:18 26 เองนะครับตอนป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ส่วน
00:03:18 → 00:03:23 น้องที่เป็นยูทูปเปอร์ชื่อดังเสียชีวิต
00:03:23 → 00:03:26 ด้วยมะเร็งลำไส้แล้วเนี่ยตอนที่เสียชีวิต
00:03:26 → 00:03:30 อายุ 30 กว่าปีเองซึ่งต้องบอกว่า
00:03:30 → 00:03:34 การที่เป็นมะเร็งลำไส้เนี่ยพบในคนอายุ
00:03:34 → 00:03:38 น้อยลงเรื่อยๆแถมมะเร็งยังดุมากขึ้นด้วย
00:03:38 → 00:03:43 โดยเฉพาะพบในคนอื่นๆน้อยๆแฮะ
00:03:43 → 00:03:48 อ่ะก่อนอื่นเราต้องมาเข้าใจกันก่อนว่าลำ
00:03:48 → 00:03:52 ไส้มันแบ่งเป็นกี่ส่วนลำไส้ใหญ่และกัน
00:03:52 → 00:03:56 หลักๆเลยเนี่ยต้องบอกว่าทางการแพทย์เขา
00:03:57 → 00:04:00 แบ่งลำไส้เป็น 2 ฝั่งแล้วกันฝั่งต่อไปจะ
00:04:00 → 00:04:06 ฝั่งขวานะครับนะโดยต้องบอกว่าฝั่งซ้ายนะ
00:04:06 → 00:04:08 ครับน้าฝั่งซ้ายก็คือ
00:04:08 → 00:04:13 เป็นฝั่งที่รวบรวมอุจจาระส่วนฝั่งขวา
00:04:13 → 00:04:16 เนี่ยเป็นฝั่งที่รับ
00:04:16 → 00:04:21 อาหารจากลำไส้เล็กของเหลวเนี่ยที่เรากิน
00:04:21 → 00:04:23 ทหารที่เรากินเข้าไปเนี่ยมันจะกลายเป็น
00:04:23 → 00:04:27 ของเหลวถูกย่อยแต่พอถูกย่อยแล้วเนี่ยผ่าน
00:04:27 → 00:04:29 ลำไส้เล็กเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ทางด้านขวานะ
00:04:29 → 00:04:33 จากความไส้เล็กไปสู่ลำไส้ใหญ่ทางด้านขวา
00:04:33 → 00:04:36 เนี่ยมันจะถูกหยุดน้ำออกเพื่อให้กลายเป็น
00:04:37 → 00:04:40 กากทหารและกายเป็นอุจจาระอยู่ทางด้านลำ
00:04:40 → 00:04:46 ไส้ทางด้านซ้าย ok นะเข้าใจตรงกันนะอ่ะ
00:04:46 → 00:04:50 คราวนี้เขาบอกว่าถ้าเรากินอาหารเนื้อแดง
00:04:50 → 00:04:53 นะหรืออาหารแปรรูปเนี่ยจะเสี่ยงเป็น
00:04:53 → 00:04:55 มะเร็งลำไส้ใหญ่ซึ่งเป็นเรื่องจริงเพราะ
00:04:55 → 00:05:00 อะไรหลายคนก็เออกินอาหารเนื้อแดงกินอาหาร
00:05:00 → 00:05:03 ตัวแปรรูปเป็นมะเร็งลำไส้ยาเข้าเราก็เข้า
00:05:03 → 00:05:06 ใจแต่ว่าเราไม่รู้ว่ามันเพราะอะไรมันถึง
00:05:06 → 00:05:10 ได้กลายเป็นมะเร็งนะอะเช้านี้
00:05:10 → 00:05:14 จากที่ไปให้เข้าใจในระดับเซลล์
00:05:14 → 00:05:19 ก็คือว่าในเนื้อแดงนะครับนะเนื้อหาแฟนรูป
00:05:19 → 00:05:23 เนี่ยมันจะมีเปิดตัวเขาเรียกว่าสารที่
00:05:23 → 00:05:27 ชื่อว่าฮิมก็แล้วกันในตัวฮีมเนี่ยอ่าทีม
00:05:27 → 00:05:30 ก็ให้เข้าใจง่ายๆรู้จักกี่โมงบินใช่ไหม
00:05:30 → 00:05:35 กี่โมงบวกกับโกบิ้นทีมกับโกบิ้นโตเนี่ย
00:05:35 → 00:05:38 เป็นตัวที่เอ่อเม็ดเลือดแดงเนี่ย
00:05:38 → 00:05:41 ฮีโมโกลบินอยู่ในเม็ดเลือดแดงเนาะเป็นตัว
00:05:41 → 00:05:44 ฮีมได้เป็นตัวรับออกซิเจนอันนี้เราจะรู้
00:05:44 → 00:05:47 แล้วล่ะอ้อเป็นตัวออกซิเจนแครีออกซิเจนนะ
00:05:47 → 00:05:49 แต่ตัวยืมตัวนี้เนี่ยมันก็อยู่ในตัวกล้าม
00:05:49 → 00:05:52 เนื้อด้วยเนื้อที่เรากินมันเป็นกล้าม
00:05:52 → 00:05:56 เนื้อนะไมโก้บิดเหมือนกันมันจะมีตัวฮีม
00:05:56 → 00:05:59 อยู่ไหมเนี่ยนะครับนะตัวยืมตัวนี้มันจะมี
00:05:59 → 00:06:04 ตัวในและไนเตรทในคือตัวสำคัญเลยไม่เตรท
00:06:04 → 00:06:08 เนี่ยในตัวกล้ามเนื้อมันจะเมื่อเมื่อถูก
00:06:09 → 00:06:12 ย่อยแล้วไนเตรทมันจะเปลี่ยนเป็นไนตรัส
00:06:12 → 00:06:17 ออกไซด์ไนตรัสออกไซด์เนี่ยจะถูกผสมรวมกับ
00:06:17 → 00:06:24 ตัวเอม MMI นะครับนะและกลายเป็นใน toso
00:06:24 → 00:06:27 compound เอาง่ายๆก็คือ
00:06:27 → 00:06:29 สารใน
00:06:29 → 00:06:37 ในเนื้อหรืออาหารแปรรูปเช่นพวกไส้กรอกแฮม
00:06:37 → 00:06:42 อะไรก็แล้วแต่ที่ใส่ไนเตรทเข้าไปในเนื้อ
00:06:42 → 00:06:46 จำนวนไนเตรทนั้นเนี่ยจะเป็นตัวที่เปลี่ยน
00:06:46 → 00:06:49 เป็นไนตรัสออกไซด์และตัวไนตรัสออกไซด์
00:06:49 → 00:06:54 เนี่ยจะถูกเปลี่ยนเป็นในโตโซซึ่งตัวในตัว
00:06:54 → 00:06:59 โซนิเป็นคาสิโนจีนิคเป็นตัวที่ทำให้
00:07:00 → 00:07:03 มีไส้ใหญ่มันเกิดการอักเสบ
00:07:03 → 00:07:07 และเมื่อลำไส้ใหญ่เกิดการอักเสบอยู่นานๆ
00:07:07 → 00:07:11 เซลมันก็จะกลายเป็นมะเร็งเข้าใจตรงกัน
00:07:11 → 00:07:14 เนาะอา
00:07:14 → 00:07:18 อันนี้อธิบายให้ฟังอย่างที่บอกว่าทีมอยู่
00:07:18 → 00:07:21 ในเม็ดเลือดจะมีอยู่ 4 มาเลกุลถ้าอยู่ใน
00:07:21 → 00:07:24 ไมโอโกลบินหรืออยู่ในเนื้อจะมีแค่ยุทธ 1
00:07:24 → 00:07:30 โมเลกุลใน 1 ทีมจะมี 4 ไนโตรเจนอะไรนะอ่า
00:07:30 → 00:07:34 ซึ่ง 4 ไนโตรเจนตัวนี้นี้จะเปลี่ยนเป็น 4
00:07:34 → 00:07:39 ไนตรัสออกไซด์ 4 ไนตรัสออกไซด์จะถูก
00:07:39 → 00:07:44 เปลี่ยนไปเองเป็นในโตโซซึ่งในโทนจะเป็น
00:07:44 → 00:07:50 พิษกับผนังเยื่อบุลำไส้ใหญ่และเมื่อเกิด
00:07:50 → 00:07:53 การอักเสบเป็นระยะเวลานานๆก็จะกลายเป็น
00:07:53 → 00:07:58 มะเร็งแค่นั้นเองนะครับนะอ่ะ
00:07:58 → 00:08:02 คราวนี้ถ้าเรารู้แล้วว่า
00:08:02 → 00:08:06 มะเร็งมันเกิดขึ้นอย่างไรก็ต้องมาดูที่
00:08:06 → 00:08:09 ฟังก์ชั่นการทำงานของลำไส้
00:08:09 → 00:08:14 ลำไส้โดยปกติอย่างที่พูดตอนต้นก็คือรับ
00:08:14 → 00:08:17 ของเหลวจากลำไส้เล็กเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ทาง
00:08:17 → 00:08:21 ด้านขวาจะไม่นะว่าขวาพนันทางด้านขวาเนี่ย
00:08:21 → 00:08:25 อุจจระส่วนใหญ่จะยังไม่เป็นอุจจระจะเป็น
00:08:25 → 00:08:29 น้ำที่รับมาจากเป็นเป็นสารอาหารก็จะที่
00:08:29 → 00:08:32 เป็นของเหลวที่รับมาจากลำไส้เล็ก
00:08:32 → 00:08:36 ตรงบริเวณหมายเลข 1 เนี่ยจะเริ่มมีการดูด
00:08:36 → 00:08:42 เอาน้ำกลับเข้าไปในร่างกายนะตรงตำแหน่ง
00:08:42 → 00:08:45 ที่ 2 จะมีเรื่องของแบคทีเรียสำคัญนะ
00:08:45 → 00:08:49 แบคทีเรียเขาเรียกว่าเขาเรียกว่ากัด
00:08:49 → 00:08:53 ไมโครไบโอมหรือกาไรก็แล้วแต่เอาง่ายๆก็
00:08:53 → 00:08:53 คือ
00:08:53 → 00:08:57 แบคทีเรียที่เรารู้จักกันดีๆถ้าเป็นแบบ
00:08:57 → 00:09:01 จเรเจ้าเมืองพวกโปรไบโอก็แล้วกันแต่เขา
00:09:01 → 00:09:02 เรียกว่าจัด
00:09:02 → 00:09:06 Micro Bio น้ำพวกนี้มีความสำคัญอย่างไร
00:09:06 → 00:09:09 ก็อย่างที่บอกว่ามันก็เป็นแบคทีเรียดีใช่
00:09:09 → 00:09:12 ไหมเปลี่ยนตัวอุจจาระ
00:09:12 → 00:09:16 กำจัดตัวไนตรัสออกไซด์
00:09:16 → 00:09:20 ต่อคราวนี้มาถึงหมายเลข 3
00:09:20 → 00:09:25 ก็เกิดอุจจาระขึ้นมาแล้วนะครับนั้นและก็
00:09:25 → 00:09:28 พอเป็นตำแหน่งที่สี่อุ่นชนะก็ถูกขับออกไป
00:09:28 → 00:09:32 อ่ะคราวนี้ด้านแต่ละด้านก็จะเกี่ยวข้อง
00:09:32 → 00:09:37 กับมะเร็งลำไส้อย่างที่บอก
00:09:37 → 00:09:42 ทางด้านขวาโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้น้อยกว่า
00:09:42 → 00:09:46 ทางด้านซ้ายเพราะอะไรเหตุผลอย่างที่บอกก็
00:09:46 → 00:09:50 คือว่าทางด้านขวามันยังเป็นของเหลวอยู่
00:09:50 → 00:09:52 ใช่ไหมมันยังไม่จ่ายเป็นอุจจาระ
00:09:52 → 00:09:56 ลำไส้ทางด้านขวามีหน้าที่แค่ดูดน้ำเข้าใจ
00:09:56 → 00:10:00 ไหมครับนะนางนั้นอุจจระจะถูกก่อสร้างขึ้น
00:10:00 → 00:10:05 มาอยู่ในลำไส้ทางด้านซ้ายและถ้าสมมติว่า
00:10:05 → 00:10:10 เราเป็นคนท้องผูกอุจจาระก็จะค้างอยู่ในลำ
00:10:10 → 00:10:13 ไส้ใหญ่ทางด้านซ้ายเมื่ออุจจาระค้างอยู่
00:10:13 → 00:10:16 ในลำไส้ใหญ่ต่างด้านซ้ายเป็นระยะเวลานานๆ
00:10:16 → 00:10:19 จำเรื่องไนตรัสออกไซด์ได้ใช่มะ
00:10:19 → 00:10:24 ไนเตรทไนไตรท์สไนโต So พวกนี้ก็จะไปทำลาย
00:10:24 → 00:10:29 เยื่อบุลำไส้ทางด้านซ้ายให้เกิดการอักเสบ
00:10:29 → 00:10:33 และเมื่อมันอยู่นานๆถูกค้างไม่ได้ขับออก
00:10:33 → 00:10:37 มันก็ทำลายหรือทำให้เกิดการอักเสบเป็น
00:10:37 → 00:10:41 ระยะเวลานานๆและก็ทำให้เกิดการเป็นมะเร็ง
00:10:41 → 00:10:47 ที่เยื่อบุลำไส้ทางด้านซ้ายคณะว่าทำไมมัน
00:10:47 → 00:10:52 เกิดมะเร็งต่างด้านซ้ายมากกว่าทางด้านขวา
00:10:52 → 00:10:57 อะไรนะอ่ะ
00:10:57 → 00:11:02 คราวนี้เมื่อมันเกิดมามีแต่ถามว่ามะเร็ง
00:11:02 → 00:11:07 มันเกิดได้ทั้ง 2 ฝั่งได้ไหมบอกว่าได้แต่
00:11:07 → 00:11:10 สาเหตุมันแตกต่างกันและอาการก็แตกต่างกัน
00:11:10 → 00:11:16 ด้วยมะเร็งทั้งด้านซ้ายมักจะเกิดจากกลไก
00:11:16 → 00:11:19 ที่หมอเล่าให้ฟังก็คืออยู่กินอาหารอาหาร
00:11:19 → 00:11:23 ถูกเปลี่ยนแปลงไปกินเนื้อสัตว์เยอะแยะใน
00:11:23 → 00:11:28 ตั๊ดไนตรัสออกไซด์ในตัวโตและอาหารที่ถูก
00:11:28 → 00:11:31 เปลี่ยนไปกองเป็นอุจจาระอยู่ที่ลำไส้ด้าน
00:11:31 → 00:11:35 ซ้ายอันนี้คือโปรเซสโดยทั่วไป
00:11:35 → 00:11:40 แต่ทางด้านขวาจะมีอีกโปรเซสหนึ่งก็คือมี
00:11:40 → 00:11:44 การเปลี่ยนแปลงของจีนของร่างกายไม่เกี่ยว
00:11:44 → 00:11:47 กับเรื่องอุจจาระโดยตรงและทำให้เกิดการ
00:11:47 → 00:11:53 อักเสบเกิดขึ้นที่อุจจาระที่ที่ลำไส้ทาง
00:11:53 → 00:11:56 ด้านขวาอ่ะ
00:11:56 → 00:12:00 ไปอย่างที่บอกลำไส้ขวา
00:12:00 → 00:12:02 หลังจากนั้นขวาเกิดเป็นมะเร็งได้ไหมเกิด
00:12:02 → 00:12:06 ได้ประมาณ 30% อาการไม่เหมือนกันอาการจะ
00:12:06 → 00:12:10 เป็นอาการซีดไม่ทราบสาเหตุมีการปวดท้องมี
00:12:10 → 00:12:15 การคลื่นไส้แต่ที่สำคัญคือมักพบในผู้หญิง
00:12:15 → 00:12:18 อาถ้าเป็นผู้หญิง
00:12:18 → 00:12:23 อาจปวดท้องทั้งนั้นปวดท้องทั้งนั้นขวาอาจ
00:12:23 → 00:12:28 จะไม่ใช่ติ่งเสมอไปแล้วนะอาจจะไม่ใช่เหรอ
00:12:28 → 00:12:32 ติดมดลูกเสมอไปแล้วอาจจะเป็นเนื้อร้ายก็
00:12:32 → 00:12:34 ได้นะครับนะ
00:12:34 → 00:12:37 และถ้าสมมุติว่าเป็น
00:12:37 → 00:12:42 นำไส้ทางด้านซ้ายซึ่งเกิดมากกว่าเกิด 65
00:12:42 → 00:12:45 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์มีอาการอะไรแน่นท้อง
00:12:45 → 00:12:49 ท้องอืดท้องผูกสลับท้องเสียลำไส้ลำ
00:12:49 → 00:12:53 อุจจาระเล็กลงถ่ายเป็นเลือดมักพบในผู้ชาย
00:12:53 → 00:12:56 อ่ะอย่างที่หมอบ
00:12:56 → 00:13:00 ทำไมอาการถึงได้แตกต่างกันมาฟังทาง 1 นาย
00:13:00 → 00:13:03 ชนะอย่างที่บอกว่าทางด้านซ้าย
00:13:03 → 00:13:07 ร่างกายเริ่มสร้างเป็นอุจจาระและใช่มั้ย
00:13:07 → 00:13:10 ถ้าเราไม่ได้ถ่ายอุจจาระนั้นก็จะถูกดูด
00:13:10 → 00:13:15 น้ำออกไปอุจจระจะแข็งหนาไว้กูจะล้างแข็ง
00:13:15 → 00:13:17 ก็จะท้องผูก
00:13:17 → 00:13:19 ท้องผูกละ
00:13:19 → 00:13:24 ขายไม่ออกแต่น้ำเนี่ยมันยังมาเรื่อยๆจาก
00:13:24 → 00:13:28 ที่เรากินถูกป่ะมันเลยกลายเป็นว่าน้ำส่วน
00:13:28 → 00:13:32 หนึ่งเนี่ยที่มากับอุจจาระมันก็จะมาค้าง
00:13:32 → 00:13:35 เอาไว้ตามท่อของมันอ่ะมาอั้น
00:13:35 → 00:13:40 เพราะเราถ่ายออกไปเจาะถ่ายตอนแข็งเอาไป
00:13:40 → 00:13:43 ได้ไอ้ส่วนที่เป็นน้ำที่ยังไม่ใช่ฟอร์ม
00:13:43 → 00:13:47 เป็นตู้จะแล้วก็ไหลตามออกมามันก็เลยกัน
00:13:47 → 00:13:49 ท้องผูกสลับท้องเสีย
00:13:49 → 00:13:52 ยิ่งถ้าสมมติว่าเรามีก้อนมะเร็งอยู่ทาง
00:13:52 → 00:13:56 ด้านซ้ายก็มะเร็งก็จะไปทำให้ทางเดินของลำ
00:13:56 → 00:14:00 ไส้เราดนตรีแคบใช่ไหมสิ่งที่ค้างอยู่คะ
00:14:00 → 00:14:03 ดังนั้นก็มีทั้งน้ำแล้วก็คงจะรักส่วนที่
00:14:03 → 00:14:06 เป็นของแข็งก็ผ่านไปได้ก่อนครั้งนี้ของ
00:14:06 → 00:14:09 เหลวค่อยตามลงมาเมื่อของแข็งถูกหักไปแล้ว
00:14:09 → 00:14:13 ก็เลยเต็มท้องผูกสลับท้องเสียมีถ่ายเป็น
00:14:13 → 00:14:14 เลือดได้บ้าง
00:14:15 → 00:14:18 บางคนจะสับสนส่วนใหญ่ในอย่างที่บอกว่า
00:14:18 → 00:14:22 ถ่ายเป็นเลือดเป็นมะเร็งได้ไหมบอกว่าเป็น
00:14:22 → 00:14:25 ได้แต่เป็นอย่างอื่นมากกว่ามะเร็งได้ไหม
00:14:25 → 00:14:28 ก็บอกว่าเป็นได้เป็นเล่นสีดวงได้ไหมเป็น
00:14:28 → 00:14:31 ได้เป็นกระเป๋าลำไส้อักเสบได้มั้ยเป็นได้
00:14:31 → 00:14:38 และจะพบมากกว่าในมาอ่า
00:14:38 → 00:14:41 คราวนี้เราก็มาดู
00:14:41 → 00:14:43 ถ้าสมมติว่า
00:14:43 → 00:14:47 เราจะต้องเลือกว่าเป็นมะเร็งทางด้านขวา
00:14:47 → 00:14:50 หรือเป็นมะเร็งทางด้านซ้ายอยากเป็นมะเร็ง
00:14:50 → 00:14:53 ทางด้านไหนมากกว่ากันอะไรรักษาง่ายรักษา
00:14:53 → 00:14:56 ยากมากกว่ากัน
00:14:56 → 00:15:00 มาดูเครื่อง
00:15:00 → 00:15:03 แต่ถ้าเป็นมะเร็งทางด้านซ้ายนะถ้าเป็น
00:15:03 → 00:15:07 มะเร็งทำนั่งซ้ายในส่วนที่ชื่อว่า
00:15:07 → 00:15:09 ซิกมอยด์โคลอน 50 cm เลย descending
00:15:09 → 00:15:14 โคลอน 10 cm เนี่ยพวกนี้รักษาง่าย
00:15:14 → 00:15:18 สามารถตัดแล้วก็ต่อลำไส้ได้เลยคนไข้ยัง
00:15:18 → 00:15:20 อุจจาระได้ตามปกติ
00:15:20 → 00:15:23 ไม่มีถุงที่หน้าท้องอ่าตอนนี้เข้าใจแล้ว
00:15:23 → 00:15:27 นะหรือถ้าเป็นนานๆขวาแต่ว่าเป็นได้ไหม
00:15:27 → 00:15:32 เป็นได้พวกนี้หมอศัลยแพทย์ตัดแล้วก็ต่อลำ
00:15:33 → 00:15:37 ไส้ได้เลยไม่ต้องถ่ายทางหน้าท้องมะเร็งลำ
00:15:37 → 00:15:40 ไส้ไม่ใช่ว่าตัดลำไส้แล้วต้องถ่ายทางหน้า
00:15:40 → 00:15:45 ท้องเสมอไปแต่ถ้าเป็นมะเร็งลำไส้ในส่วน 4
00:15:45 → 00:15:48 cm ด้านล่างเนี่ยในส่วนที่เรียกว่าเล็ก
00:15:48 → 00:15:52 ตั้งหรือ a เน่าคือลำไส้ใหญ่ส่วนปลายและ
00:15:52 → 00:15:56 ทวารหนักถ้าเป็นตรงบริเวณนี้ส่วนใหญ่แล้ว
00:15:56 → 00:16:01 จะต้องตัดและต้องมาถ่ายไปที่หน้าท้อง
00:16:01 → 00:16:05 เพราะมันไม่สามารถต่อกับได้
00:16:05 → 00:16:09 ใส่ไหมคือเวลาเราตัดมะเร็งลำไส้เนี่ยเรา
00:16:09 → 00:16:12 ไม่ได้ตัดเฉพาะก้อนลำมะเร็งออกนะเราต้อง
00:16:12 → 00:16:16 ตัดขึ้นไปเหนือตัวก้อนมะเร็ง 5 cm และ
00:16:16 → 00:16:20 ต่ำกว่าตัวก็เลยค่าเสร็จใช่ไหมเพราะ
00:16:20 → 00:16:23 ฉะนั้นระยะที่ตัดเนี่ยมันอย่างน้อย 10
00:16:23 → 00:16:27 เสร็จถ้าหมดเรามีมะเร็งในส่วนของด้านล่าง
00:16:27 → 00:16:31 มากๆเนี่ยส่วนของทวารหนักเล็บตรวจที่อยู่
00:16:31 → 00:16:34 ในอุ้งเชิงกรานเนี่ยโอกาสที่เราจะต่อใน
00:16:34 → 00:16:38 มันก็จะยากนอกใช่ไหมส่วนใหญ่เราก็มักจะ
00:16:38 → 00:16:42 ต้องเย็บติดไปและเอาลำไส้มาเปิดที่หน้า
00:16:42 → 00:16:46 ท้องแท้แต่ถ้าต่อได้
00:16:46 → 00:16:50 ส่วนใหญ่หมอเขาจะพยายามต่อให้ต่อให้มัน
00:16:50 → 00:16:53 ลึกแค่ไหนนะต่อให้มันยากแค่ไหนเนี่ยหมอ
00:16:53 → 00:16:56 ศัลยแพทย์เขาจะพยายามต่อลำไส้ให้เราได้
00:16:56 → 00:16:58 ถ่ายตามปกติ
00:16:58 → 00:17:00 แต่มา
00:17:00 → 00:17:02 แต่
00:17:02 → 00:17:06 คราวนี้มาดูวันนี้ภาพนี้คืออะไรคืออย่าง
00:17:06 → 00:17:11 ที่บอกว่าจำได้ไหมอ่าเนื้อ Red Meat ใช่
00:17:11 → 00:17:14 เปล่าทานเข้าไปแล้วเนี่ยร่างกายจะเปลี่ยน
00:17:14 → 00:17:19 เอาตัวในตั๊ดใช่ปะเป็นในตึกออกไซด์ในตึก
00:17:19 → 00:17:21 ออกไซด์เป็นใน toso ใน toso เป็นสารก่อ
00:17:21 → 00:17:25 มะเร็งไปทำให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุลำ
00:17:25 → 00:17:29 ไส้อันนี้ทุกคนเข้าใจแต่มันก็มีกระบวนการ
00:17:29 → 00:17:35 คือถ้าสมมุติว่าเราทานนมทานผักผลไม้ทาน
00:17:35 → 00:17:39 วิตามินซีวิตามินอีให้พวกเนี้ยจะไปหยุด
00:17:39 → 00:17:43 กระบวนการที่มันจะไปเปลี่ยนแปลง
00:17:43 → 00:17:48 ให้เกิดการอักเสบของมะเร็งติดให้เกิดการ
00:17:48 → 00:17:51 อักเสบของลำไส้อย่างนะคะนั้นเนี่ยที่บอก
00:17:51 → 00:17:54 ว่าเขาถึงแนะนำว่าเฮ้ยถ้าเรากินด้วยพวก
00:17:54 → 00:18:00 เนี้ยถามว่าห้ามได้ห้ามไหมก็ห้ามนะแต่ว่า
00:18:00 → 00:18:03 แต่มันก็ต้องกินหรือเปล่าหมูเนี่ยเป็น
00:18:03 → 00:18:07 เนื้อแดงใช่ไหมจะต้องกินถ้าเรากินเรากิน
00:18:07 → 00:18:11 ผักผลไม้กินวิตามินซีวิตามินอีมันก็จะ
00:18:11 → 00:18:16 ช่วยลดโอกาสในการเกิดมะเร็งของเราถ้าเรา
00:18:16 → 00:18:20 ไม่ท้องผูกโอกาสท้องแต่โอกาสเป็นมะเร็ง
00:18:20 → 00:18:24 เราก็จะลดลงเพราะการสัมผัสต่อไนตรัสในตึก
00:18:24 → 00:18:28 ออกไซด์ก็จะลดลงเข้าใจแล้วนะคะนั้นตอน
00:18:28 → 00:18:32 เนี้ยจะจากเข้าใจเหตุผลและว่าถ้าไม่ได้
00:18:32 → 00:18:36 ท้องผูกร่างขนาดลำไส้ไม่ต้องไปสัมผัสกับ
00:18:36 → 00:18:40 ตัวในตัดในติดออกไซด์อะไรก็แล้วแต่เราก็
00:18:40 → 00:18:45 จะปกอาจเป็นมะเร็งน้อยหรือเรากินอาหารที่
00:18:45 → 00:18:48 ไปหยุดกระบวนการที่ไปเปลี่ยนแปลงในตัด
00:18:48 → 00:18:52 เป็นไนตริกออกไซด์เช่นพวกแคลเซียมจากนม
00:18:52 → 00:18:57 เออผักผลไม้วิตามินซีวิตามินดี
00:18:57 → 00:19:00 มันก็จะไม่เปลี่ยนเป็นในตัดก็หมายถึงใน
00:19:00 → 00:19:04 toso คณะอ่ะ
00:19:04 → 00:19:07 คราวนี้อย่างที่บอกอันนี้ภาพนี้คืออะไร
00:19:07 → 00:19:12 ทาบนี้ก็คือเขาบอกว่ามะเร็งลำไส้ในแต่ละ
00:19:12 → 00:19:16 ฝั่งคือฝั่งขวาจะเป็นสี
00:19:16 → 00:19:20 ชมพูออกส้มนะฝั่งซ้ายจะเป็นสีไอ้ฝั่งซ้าย
00:19:20 → 00:19:24 สมัยสีเขียวเขาบอกว่ามันก็เกี่ยวกับการ
00:19:24 → 00:19:28 เปลี่ยนแปลงของ DNA ที่แตกต่างกัดขนาด
00:19:28 → 00:19:30 นั้นใจอย่างที่บอกว่า
00:19:30 → 00:19:34 คือถ้าถามว่ามะเร็งลําไส้เกิดจากเรียน A
00:19:34 → 00:19:37 ได้มั้ยเกิดจากพันธุกรรมได้ไหมบางคนไปคิด
00:19:37 → 00:19:41 ว่าพอเขาอายุน้อยเขามีพันธุกรรมเลยการ
00:19:41 → 00:19:45 เป็นมะเร็งลำไส้มันไม่เสมอไปนะแต่ต้องบอก
00:19:45 → 00:19:45 ว่า
00:19:45 → 00:19:50 มันมีส่วนอื่นอย่างอาหารเนี่ยเนื้อแดง
00:19:50 → 00:19:53 เนี่ยมันมีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้
00:19:53 → 00:19:57 กระบวนการต่างๆมันเกิดขึ้นเร็วในการเป็น
00:19:57 → 00:20:01 มะเร็งคือเอาง่ายอ่านมีคนโอ้นี่ยีนที่ผิด
00:20:01 → 00:20:02 ปกติ
00:20:02 → 00:20:07 ถ้าเขาดำรงชีวิตแบบไม่มีท้องครูเม็ดกิน
00:20:07 → 00:20:10 ผักผลไม้เยอะๆไม่ได้กินเนื้อสัตว์มาก
00:20:10 → 00:20:13 โอกาสที่เขาเป็นมะเร็งก็เป็นน้อยนะเขาไม่
00:20:13 → 00:20:16 จำเป็นต้องเป็นมะเร็งเสมอไปแต่ถ้าเขามี
00:20:16 → 00:20:20 ยินที่ติดปกติแล้วเขายังใช้ชีวิตแบบนั้น
00:20:20 → 00:20:25 คือกินเนื้อแดงเยอะกินสารที่มันก่อเกิด
00:20:25 → 00:20:28 ให้เกิดมะเร็งมากโอกาสที่เขาจะเป็นมะเร็ง
00:20:28 → 00:20:34 เร็วก็มีไม่เข้าใจเนาะ
00:20:34 → 00:20:36 คราวนี้
00:20:36 → 00:20:42 เห็นสีเอ่อชมพูส้มนั้นอ่ะสมุดส้มกับสี
00:20:42 → 00:20:44 เขียวกันและกันมาสีแดงสีเขียวกันและกัน
00:20:44 → 00:20:46 อ่ะ
00:20:46 → 00:20:48 อย่างที่เขาบอกว่าอ่ามันมีส่วนเกี่ยวข้อง
00:20:48 → 00:20:52 ในการเกิดมะเร็งกินแอลกอฮอล์สูบบุหรี่กิน
00:20:52 → 00:20:56 เนื้อแดงกินผักน้อยหรือว่าอ้วนทำให้เกิด
00:20:56 → 00:21:01 เป็นมะเร็งลำไส้ได้นะเบาและก็ทำให้เกิด
00:21:01 → 00:21:04 เป็นมะเร็งลำไส้ได้นะ
00:21:04 → 00:21:08 แต่ต้องสีเขียวนี้สำคัญอยากจะให้ดูตรงสี
00:21:08 → 00:21:11 เขียวมันมีอะไรแปลกๆคือก็ไม่เชิงแปลกว่า
00:21:11 → 00:21:14 มันเป็นอะไรใหม่ๆอยากให้รู้ก็บอกว่า
00:21:14 → 00:21:19 physical activity สำคัญเชื่อไม่ว่าการ
00:21:19 → 00:21:21 นั่งอยู่เฉยหรือว่าออฟฟิศนั่งอยู่เป็น
00:21:21 → 00:21:23 พนักงานออฟฟิศนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์
00:21:23 → 00:21:27 อยู่เฉยๆไม่ได้ออกกำลังกายโรยโอกาสเป็น
00:21:27 → 00:21:29 มะเร็งลำไส้ใหญ่สูง
00:21:29 → 00:21:34 เพราะอะไรเออฮ่าๆเดี๋ยวจะมีอะไรให้ดูเขา
00:21:34 → 00:21:39 บอกว่าให้กิน Fish in Test ไว้มิดคือ
00:21:39 → 00:21:44 เนื้อขาวมากกว่าเนื้อแดงอันนี้เข้าใจได้
00:21:44 → 00:21:48 คำถามว่านกไก่เนี่ยถือว่าเป็นเนื้อขาว
00:21:48 → 00:21:50 เนื้อแดง
00:21:50 → 00:21:53 ต่อไป search มาแล้วไก่ที่เรากินเนี่ยมัน
00:21:53 → 00:21:56 ถือว่าเป็นไว้มิดบอกว่ามันทอดแล้วเป็นสี
00:21:56 → 00:22:01 ขาวถือว่าเป็นไว้มิดกินได้ก็วันนั้นกิน
00:22:01 → 00:22:06 ไก่ได้กินหนูน้อยลงกินเนื้อวัวน้อยลงเออ
00:22:06 → 00:22:10 กินปลาเยอะๆอ่าอย่างนี้โอเค
00:22:10 → 00:22:14 เขานี้อีกอันนึงที่น่าสนใจคือเขาบอกว่า
00:22:14 → 00:22:19 การรับประทานแอสไพริน nsaids เอ็นเสดก็ยา
00:22:19 → 00:22:23 แก้การอักเสบเนาะที่ไม่ใช่อัศรินทร์นะ
00:22:23 → 00:22:30 หรือกินยาคอม่นหลังหมดประจำเดือนและการ
00:22:30 → 00:22:35 กินยาสแตตินสแตตินพวกคนสูงวัยรู้คือยาลด
00:22:35 → 00:22:36 ไขมัน
00:22:36 → 00:22:41 ช่วยลดโอกาสในการเกิดเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
00:22:41 → 00:22:47 จึงมะมาดูนะ
00:22:47 → 00:22:51 หาเขาบอกว่ามีการสตาร์ทดี้บอกว่าการที่
00:22:51 → 00:22:54 เรานั่งอยู่เฉยๆเนี่ยทำให้มีโอกาสเกิด
00:22:54 → 00:23:00 มะเร็งลำไส้สูงเหตุผลเพราะอะไรอ่ะ
00:23:00 → 00:23:03 หมอลำไส้ของเราเนี่ยมันจะทำงานหรือไม่ทำ
00:23:03 → 00:23:06 งานเนี่ยมันอยู่กับ activity ของเราด้วย
00:23:06 → 00:23:10 คือถ้าเราขยับตัวเดินไปเดินมาลำไส้ใหญ่
00:23:10 → 00:23:15 ของเราก็จะมีการบีบตัวเมื่อลำไส้มันมีการ
00:23:15 → 00:23:19 บีบตัวก็ทำให้เราปวดถ่ายอยากเข้าห้องน้ำ
00:23:19 → 00:23:22 เมื่อเราถ่ายเข้าห้องน้ำเราก็ไม่ท้องผูก
00:23:22 → 00:23:25 ไหมเมื่อเราไม่ท้องผูก
00:23:25 → 00:23:30 ไอ้พวกสารในตั๊ดใน toso อะไรก็แล้วแต่มัน
00:23:30 → 00:23:34 ก็มีโอกาสสัมผัสกับเยื่อบุลำไส้เราน้อย
00:23:34 → 00:23:39 ดังนั้นอย่างที่บอกว่าคนที่ที่เป็นคนที่
00:23:39 → 00:23:43 ต้องนอนอยู่เฉยๆไม่ว่าจะเป็นอัมพฤกษ์
00:23:43 → 00:23:46 อัมพาตลำไส้ขยับตัวน้อยเนี่ยโอกาสที่เขา
00:23:46 → 00:23:50 จะเกิดมะเร็งก็เยอะหรือแม้แต่หนุ่มสาว
00:23:50 → 00:23:56 อายุ 20-30 เอาแต่นั่งอยู่หน้าจอคอมไม่ไป
00:23:56 → 00:24:00 ทำแล้วชีวิตีอะไรเลยโอกาสเกิดมะเร็งและก็
00:24:00 → 00:24:04 เยอะนะมีส่วนเกี่ยวข้องนะมีส่วนเกี่ยว
00:24:04 → 00:24:08 ข้องนะว่าอายุในน้อยๆนั่งนิ่งไม่ขยับ
00:24:08 → 00:24:13 ลำไส้ก็ไม่ขยับเกิดท้องผูกท้องภูก็ทำให้
00:24:13 → 00:24:18 เกิดมะเร็งจากการที่ศาลไนตรัสออกไซด์
00:24:18 → 00:24:22 สัมผัสกับเยื่อบุลำไส้เยอะ
00:24:22 → 00:24:24 สอง
00:24:24 → 00:24:29 เขาบอกว่าการกินแอสไพรินการกินเสพ
00:24:29 → 00:24:32 อย่างแอสไพรินอยากรู้บอกว่าไอ้แอสไพรินใน
00:24:32 → 00:24:35 มันช่วยเรื่องพวกหลอดเลืใช่ไหมคนที่เป็น
00:24:35 → 00:24:39 พวกเส้นเลือดตีบเนี้ยทานแอสไพรินบอกคน
00:24:39 → 00:24:42 อายุเกิน 50 กินแอสไพรินจะช่วยเข้าไป
00:24:42 → 00:24:45 search เข้าไปหาข้อมูลมาว่าไม่มีการทำ
00:24:45 → 00:24:49 วิจัยก็จะบอกว่าการกินแอสไพรินช่วยลดต่อ
00:24:49 → 00:24:51 เนื่องต้องกิน at ปริญต่อเนื่องกัน 5 ปี
00:24:51 → 00:24:58 นะจะช่วยลดโอกาสในการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
00:24:58 → 00:25:02 3 มาถึง 40% เอ๊ยคุ้มนะ
00:25:02 → 00:25:07 เพราะไหร่อย่างที่บอกในปั๊บออกไซด์ใช่ปะ
00:25:07 → 00:25:11 ใน toso ทำให้เกิดการอักเสบกับเยื่อบุลำ
00:25:11 → 00:25:15 ไส้รับเกิดมะเร็งแต่
00:25:15 → 00:25:19 เอ็นเสดหรือแอสไพรินมันเป็นแอนตี้ inframe
00:25:19 → 00:25:20 คืนลดการอักเสบ
00:25:21 → 00:25:25 นะเพราะฉะนั้นมันจะไปหยุดยั้งกระบวนการทำ
00:25:25 → 00:25:28 ให้เกิดการอักเสบของลำไส้จะหยุดยั้ง
00:25:28 → 00:25:30 กระบวนการนั้นเกาะ
00:25:30 → 00:25:35 ทำให้ร่างจะลำไส้ไม่เกิดการอักเสบก็หยุด
00:25:35 → 00:25:38 ยั้งกระบวนการเป็นมะเร็งใช่ไหมคิดตรงไป
00:25:38 → 00:25:46 ตรงมานะเข้านี้แล้วตัวนั้นล่ะสแตตินยาลด
00:25:46 → 00:25:51 ไขมันเขาบอกว่าอิสราเอลศึกษามาว่าถ้าคุณ
00:25:51 → 00:25:54 กินยาลดไขมันต่อเนื่องกัน 5 ปีลดโอกาส
00:25:54 → 00:26:00 เกิดมะเร็งลำไส้ 50% โอ้โหดีกว่าอีกอ่ะ
00:26:00 → 00:26:01 ผู้แปล
00:26:01 → 00:26:05 ยากลุ่มสแตตินนั้นเนี่ยมันมีคอมพิวเตอร์
00:26:05 → 00:26:10 ช่างนนะคืออันนี้พูดต่างๆเนาะก็คือบางคน
00:26:10 → 00:26:14 ไม่ได้พบทุกคนบางคนกินเหล้าเกิดภาวะกล้าม
00:26:14 → 00:26:17 เนื้ออักเสบปวดเมื้อยกล้ามเนื้อ
00:26:17 → 00:26:20 เออเพราะฉะนั้นอย่างที่บอกว่า
00:26:20 → 00:26:24 ทั้งเอ็นเสดแล้วกลุ่มแสดงติดเนี่ยมันเป็น
00:26:24 → 00:26:25 สารเคมีเนาะ
00:26:25 → 00:26:30 ถ้าจะรับประทานก็ต้องระวังให้ดีๆกลุ่ม
00:26:30 → 00:26:34 nsaids มันทำให้เลือดจุดยากเมื่อถูก
00:26:34 → 00:26:38 กระทบกระเทือนนักโดยใช้ hk ดินเมื่อมีแผล
00:26:38 → 00:26:43 เลือดอาจจะออกยากไม่ตอบปอกง่ายหยุดยากหมอ
00:26:43 → 00:26:46 เคยเจอเคสอย่างกินแอสไพรินน่ะแค่กินข้าว
00:26:46 → 00:26:49 แล้วไปกัดลิ้นน่ะโอ้โหเลือดไหลไม่หยุดเลย
00:26:49 → 00:26:52 ต้องมานั่งเย็บอ่ะไม่หยุดเองนะ
00:26:52 → 00:26:55 อย่างแซ่บตีนอย่างที่บอกว่าบางคนกินแล้ว
00:26:55 → 00:26:58 ปวดเมื้อยกล้ามเนื้อมีการทำลายกล้ามเนื้อ
00:26:58 → 00:27:01 คนโชคไม้แม่ก็
00:27:01 → 00:27:07 กินแล้วก็มีก้านอักเสบอักเสบรุนแรงนะ
00:27:07 → 00:27:13 อ่ะสุดท้ายเรื่องของกับ
00:27:13 → 00:27:17 ไมโครไบโอมจำได้ไหมที่ผู้ตอนต้นบอกว่า
00:27:17 → 00:27:20 เอ๊ยลำไส้ส่วนที่ 2 และย้อนไปกับลำไส้
00:27:20 → 00:27:22 ส่วนที่ 2
00:27:22 → 00:27:25 ลำไส้ส่วนที่ 2 น่ะแบคทีเรีย Action
00:27:25 → 00:27:25 เนี่ย
00:27:25 → 00:27:29 ต้องนี้เป็นหน้าที่ของจัดไมโครไบโอมคือ
00:27:29 → 00:27:34 อะไรคือถ้าสมมุติว่า
00:27:34 → 00:27:38 ในลำไส้ของเราเนี่ยมีแบคทีเรียใช่ไหม
00:27:38 → 00:27:42 แบคทีเรียเนี่ยถ้ามันไปทำหน้าที่กำจัดใน
00:27:42 → 00:27:45 ปั๊ดออกไซด์ไนเตรทอะไรพวกเนี้ยหรือในโต
00:27:45 → 00:27:49 ที่เกิดขึ้นเนี่ยเมื่อมันเป็นจำกัดหรือลด
00:27:49 → 00:27:52 จำนวนมันก็ทำให้เกิดการอักเสบของลำไส้
00:27:52 → 00:27:53 ใหญ่
00:27:53 → 00:27:57 ขนาดลำไส้ใหญ่ลดลงตบป่ะก็จะไม่เกิดมะเร็ง
00:27:57 → 00:28:01 แต่ประเด็นคืออะไรหรือเปล่าแต่ประเด็นคือ
00:28:01 → 00:28:05 แบคทีริยาเนี่ยมันมีทั้งดีและไม่ดีกัด
00:28:05 → 00:28:08 ไมโครไบโอมเนี่ยมีทั้งดีและไม่ดีมีบาง
00:28:08 → 00:28:13 ชนิดที่ดีและบางชนิดที่มีดีซึ่งมันจะเป็น
00:28:13 → 00:28:18 คำตอบตรงที่ว่าให้ชนิดที่ไม่ดีเนี่ยแตกที
00:28:18 → 00:28:22 เรียที่ไม่ดีในลำไส้ใหญ่เนี่ยมันเขาพบว่า
00:28:22 → 00:28:26 มันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้
00:28:26 → 00:28:29 ใหญ่ในคนอายุน้อย
00:28:30 → 00:28:32 เขาบอกว่าด็อกเตอร์เบญจมินทร์แวนเบิก
00:28:32 → 00:28:38 เนี่ยเขาไปศึกษามะเร็งลำไส้ในคนอายุน้อย
00:28:38 → 00:28:41 แล้วเขาไปตรวจสอบไมโครไบโอมก็คือ
00:28:41 → 00:28:44 แบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ของคนอายุน้อยพวก
00:28:44 → 00:28:48 เนี้ยเขาพบว่าเจอแบคทีเรียที่ชื่อว่า
00:28:48 → 00:28:51 f.com uc นะ
00:28:51 → 00:28:56 มันมีชื่อของมันชื่อไม่โทรไบโอมน้ำมันมี
00:28:56 → 00:28:59 เป็นไฟลัมเลยคือมหาศาลเดี๋ยวจะพูดเกี่ยว
00:28:59 → 00:29:04 กับมีโปรไบโอติกด้วยนะยาคูลท์อะไรพวก
00:29:04 → 00:29:07 เนี้ยคือต้องบอกนะว่าไม่ใช่บ่โอ้หมอบอก
00:29:07 → 00:29:10 ว่าเฮ้ยต้องไปเพิ่มแบคทีเรียในลำไส้แล้ว
00:29:10 → 00:29:13 ไปซื้อให้พวกนี้มากินนะคุณกินคุณกินถูกก็
00:29:13 → 00:29:15 โชคดีไปนะกินผิดเนี่ยจะเจอแบคทีเรียติด
00:29:15 → 00:29:18 เนี่ยมันไม่ทำให้ก่อให้เกิดเป็นมะเร็งลำ
00:29:18 → 00:29:21 ไส้ต้องมีนะเพราะฉะนั้นต้องเลือก
00:29:21 → 00:29:24 แบคทีเรียด้วยนะถ้าจะกินให้พวกโปร espoir
00:29:24 → 00:29:28 ติดอ่ะเดี๋ยวจะมาพูดในคลิปถัดไปนั้นอย่าง
00:29:28 → 00:29:33 ที่บอกว่าจัดไมโครไบโอมมีส่วนสำคัญในการ
00:29:33 → 00:29:38 ที่ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ในคนที่อายุ
00:29:38 → 00:29:43 น้อยๆนะครับนะแล้วก็สระฟังว่าสาระความรู้
00:29:43 → 00:29:45 ดีๆจากเพจหมอทางบาทเดียวและ YouTube ชนะ
00:29:45 → 00:29:49 หมอต่างแบบเดียวจะช่วยให้การดำรงชีวิต
00:29:49 → 00:29:53 หลีกเลี่ยงกับการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
00:29:53 → 00:29:54 นะครับขอบคุณครับสวัสดีครับ
00:29:54 → 00:29:57 [เพลง]
00:29:57 → 00:30:00 ฝากกดติดตามและสั่นกระดิ่งเพื่อให้กำลัง
00:30:00 → 00:30:05 ใจให้หมอในคลิปถัดไปด้วยนะครับขอบคุณครับ