00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:04 world vi The
00:00:04 → 00:00:08 Voice เบาหวานเนี่ยต้องบอกก่อนว่าเป็น
00:00:08 → 00:00:11 โรคที่แทบจะมีทุกบ้านนะจะเป็นจากพฤติกรรม
00:00:12 → 00:00:14 นี่แหละที่เรากินเนี่ยเป็นหลักซึ่งทางการ
00:00:14 → 00:00:17 แพทย์เนี่ยครับมีจุดตัดของระดับน้ำตาลใน
00:00:17 → 00:00:19 เลือดเวลาเราไปตรวจที่ว่าเอ้ยงดน้ำงด
00:00:19 → 00:00:22 อาหาร 8-10 ช่วโมงนะแล้วไปเจาะเลือดตรวจ
00:00:22 → 00:00:25 ถ้าใครมีค่าเลือดอยู่ที่ระดับ 126
00:00:25 → 00:00:28 มิลกรัมเดซิลิตรขึ้นไปอันนี้จะถูก
00:00:28 → 00:00:30 วินิจฉัยแล้วว่าคุณเป็นเบาหวานนะแต่ถ้า
00:00:30 → 00:00:31 ใครอยู่ในช่วง
00:00:31 → 00:00:34 100-15 นั่นคือภาวะก่อนเบาหวานเปรียบ
00:00:34 → 00:00:37 เสมือนช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อและเพราะน้ำตาล
00:00:37 → 00:00:39 ในเลือดเนี่ยไม่ควรเกินรเพราะเมื่อไหร่ก็
00:00:39 → 00:00:42 ตามที่คุณเป็นเบาหวานแล้วคุณต้องรักษาแต่
00:00:42 → 00:00:46 เดชบุญการแพทย์ปัจจุบันนี้เขาพบว่าเบา
00:00:46 → 00:00:49 หวานเนี่ยหาย
00:00:49 → 00:00:53 ได้ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง
00:00:53 → 00:00:57 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:57 → 00:01:00 This Is Toy PBS podcast ติดตามกัน
00:01:00 → 00:01:03 สำหรับในวันนี้นะคะเกี่ยวกับเรื่องของพืช
00:01:03 → 00:01:06 ผักสมุนไพรห่างไกลเบาหวานนะคะอันนี้เป็น
00:01:06 → 00:01:08 เรื่องที่น่าสนใจมากจริงๆใครที่เป็นเบา
00:01:09 → 00:01:11 หวานต้องฟังเลยทีเดียวค่ะหรือใครที่ยัง
00:01:11 → 00:01:13 ไม่ได้เป็นก็ต้องฟังเช่นเดียวกันนะคะคุย
00:01:13 → 00:01:16 กับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราชบำรุงพืช
00:01:16 → 00:01:19 จากวิทยาลัยการแพทย์บูรณาการมหาวิทยาลัย
00:01:19 → 00:01:21 ธุรกิจบัณฑิตค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์ค่ะครับ
00:01:21 → 00:01:25 สวัสดีครับผมเรื่องของเบาหวานนะคะแน่นอน
00:01:25 → 00:01:29 ว่าเออก็เรียกว่ามีใครหลายๆคนถือว่าเป็น
00:01:29 → 00:01:32 โรคประจำตัวกันไปเลยก็มีกินยากันตลอด
00:01:32 → 00:01:35 ชีวิตก็เยอะนะคะส่วนคนที่ยังไม่เป็นก็ยัง
00:01:35 → 00:01:38 ไม่อยากเป็นค่ะอาจารย์เนาะเอาหาอะไรใกล้ๆ
00:01:38 → 00:01:41 ตัวดีกว่านะด้วยแบบพืชผักสมุนไพรที่อยู่
00:01:41 → 00:01:45 ใกล้ตัวอยู่ในตู้เย็นอเอ่ออยู่ริมรั้ว
00:01:45 → 00:01:49 หรือเปล่าสวนครัวที่บ้านได้เลยครับผมมี
00:01:49 → 00:01:51 อะไรบ้างคะอาจารยอ่ามีอะไรบ้างก่อนที่พูด
00:01:51 → 00:01:54 ถึงว่าเ้ยมีอะไรบ้างเนี่ยอยากจะอยากให้
00:01:54 → 00:01:56 ทุกท่านเนี่ยตระหนักถึงเรื่องของโรคเบา
00:01:56 → 00:02:00 หวานนิดนึงก่อนว่าเป็นภัยเงียบใกล้ตัวที่
00:02:00 → 00:02:03 ร้ายแรงแต่เวลามันเป็นเนี่ยเนาะคือเบา
00:02:04 → 00:02:06 หวานเนี่ยต้องบอกก่อนว่าเป็นโรคที่แทบจะ
00:02:06 → 00:02:11 มีทุกบ้านนะเออ่าจะเป็นจากเอ่อพฤติกรรม
00:02:11 → 00:02:14 นี่แหละที่เรากินเนี่ยเป็นหลักค่ะนะจาก
00:02:14 → 00:02:17 โดยเฉพาะเรื่องของความอ้วนอ้วนลงพุงนะไข
00:02:17 → 00:02:20 มันในช่องท้องที่ทำให้เราเนี่ยอเกิดภาวะ
00:02:20 → 00:02:23 ดื้อต่ออินซูลินนะคำว่าดื้อต่ออินซูลินก็
00:02:23 → 00:02:25 คืออินซูลินเนี่ยหลายๆท่านคงเคยได้ยินว่า
00:02:25 → 00:02:28 เป็นฮอร์โมนที่ตับอ่อนหรือร่างกายของเรา
00:02:28 → 00:02:31 สร้างขึ้นมาเพื่อเก็บน้ำตาลจากเลือดเนี่ย
00:02:31 → 00:02:34 เข้าไปสู่เซลล์ไปใช้ในเซลล์อแล้วถ้าดื้อ
00:02:34 → 00:02:36 เมื่อไหร่ปุ๊บน้ำตาลมันก็ไม่ถูกเก็บเข้า
00:02:36 → 00:02:39 ไปในเซลล์ค่ะมันก็ลอยตุ้งแหน่งๆแหน่งอยู่
00:02:39 → 00:02:42 ในกระแสเลือดทำให้น้ำตาลในเลือดขึ้นสูง
00:02:42 → 00:02:45 ซึ่งทางการแพทย์เนี่ยครับเขาจะมีจุดตัด
00:02:45 → 00:02:48 ของระดับน้ำตาลในเลือดเวลาเราไปตรวจฟาติ
00:02:48 → 00:02:50 พลาสมากลูโคสในเลือดเนี่ยที่ว่าเอ้ยงดน้ำ
00:02:50 → 00:02:53 งดอาหาร 8-10 ชั่วโมงนะแล้วไปเจาะเลือด
00:02:53 → 00:02:57 ตรวจถ้าใครมีค่าเลือดอยู่ที่ระดับ 126
00:02:57 → 00:03:00 มิลกรัม per เดซิขึ้นไปอันนี้จะถูก
00:03:00 → 00:03:02 วินิจฉัยแล้วว่าคุณเป็นเบาหวานนะออ่าแต่
00:03:02 → 00:03:04 ถ้าใครอยู่ในช่วง
00:03:04 → 00:03:08 100-15 นั่นคือภาวะที่เราเรียกว่าพไิ
00:03:08 → 00:03:11 ภาวะก่อนเบาหวานซึ่งภาวะเนี้ยเป็นภาวะที่
00:03:11 → 00:03:13 สำคัญมากครับพูดง่ายๆว่าเปรียบเสมือนช่วง
00:03:13 → 00:03:16 หัวเลี้ยวหัวต่อและจะเป็นหรือไม่เป็นนะ
00:03:16 → 00:03:17 ตรงนี้อจะเป็นหรือไม่เป็นเพราะน้ำตาลใน
00:03:17 → 00:03:19 เลือดเนี่ยไม่ควรเกิน 100 แต่คุณน่ะอยู่
00:03:19 → 00:03:23 ในช่วง 100-15 ซึ่งเป็นช่วงบอเดอร์ลนเลยอ
00:03:23 → 00:03:26 อ่าว่าเฮ้ยใกล้แล้วนะใกล้จะไปเป็นเบาหวาน
00:03:26 → 00:03:29 แล้วนะอ่าคือแบบเหมือนเตือนอ่ะสัญญาณ
00:03:29 → 00:03:32 เตือนแล้วไฟเหลืองอ่าถ้าเป็นเบาหวานตื๊ด
00:03:32 → 00:03:34 ขึ้นแดงเลยงแล้วไอ้ช่วงเหลืองนี่แหละครับ
00:03:34 → 00:03:38 ที่เราต้องใช้อาหารเป็นยานะช่วยในการ
00:03:38 → 00:03:41 บำบัดใช้โภชนะบำบัดโดยเฉพาะพืชผักสมุนไพร
00:03:41 → 00:03:43 เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเป็นเบาหวาน
00:03:43 → 00:03:47 แล้วคุณต้องรักษาแต่เดชบุญต้องบอกอย่าง
00:03:47 → 00:03:50 งี้ครับการแพทย์ปัจจุบันนี้เขาพบว่าเบา
00:03:50 → 00:03:55 หวานเนี่ยหายได้เบาหวานเข้าสู่ระยะสงบได้
00:03:55 → 00:03:58 เขาเรียก diabetes remission แล้วคนที่
00:03:58 → 00:04:01 เป็นเบาหวานโปรดฟังทางนี้ท่านสามารถทำให้
00:04:01 → 00:04:04 หายได้แต่มันก็สามารถที่จะฟุ้งกลับคืน
00:04:04 → 00:04:06 ขึ้นมาได้เช่นเดียวกันอืมอย่างงี้จะบอก
00:04:06 → 00:04:09 ว่าหายได้มันก็ไม่หายจริงหายแต่ไม่หายขาด
00:04:09 → 00:04:13 ถูกต้องครับแล้วคำว่าเบาหวานหายได้เนี่ย
00:04:13 → 00:04:15 โดยความเห็นส่วนตัวของอาจารย์เนี่ยคือ
00:04:15 → 00:04:19 ต้องบอกว่ามันก็มันก็ยังแบบไม่ได้หายขาด
00:04:19 → 00:04:23 อย่างที่คุณรีว่าเลยแล้วคอีกคำนึงที่เขา
00:04:23 → 00:04:26 ใช้กันในแง่วิชาการคือเบาหวานเข้าสู่ระยะ
00:04:26 → 00:04:30 สงบอืน่าระยะสงบก็คือ
00:04:30 → 00:04:33 มันไม่เกินขึ้นมาน้ำตาลในเลือดไม่สูงเกิน
00:04:33 → 00:04:36 ค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสมก็สำคัญว่าเอ้ยเราไม่
00:04:36 → 00:04:40 ควรเกิน 5.7 อ่าบางคนน้ำตาลในเลือดหมอจะ
00:04:40 → 00:04:43 นัดตรวจน้ำตาลแล้ววันจันทร์เสาร์อาทิตย์
00:04:43 → 00:04:46 ค่ะอ่าคุณลุงคุณป้าพ่อแม่ปู่ย่าตายายห
00:04:46 → 00:04:49 เอ้ยไม่กินงดของหวานไปก่อนเพราะเดี๋ยวจะ
00:04:49 → 00:04:52 เป็นไงครับตรวจน้ำตาลในเลือดเฮ้ยเหมือน
00:04:52 → 00:04:54 คุมน้ำตาลได้ดีนะเพราะมันเป็นน้ำตาลที่
00:04:54 → 00:04:58 เราฟาสติ้งมาแค่วัน 2 วันก่อนตรวจมันก็จะ
00:04:58 → 00:05:02 ควบคุมได้และอาจจะแบบว่าตบตาคุณหมออ่าแต่
00:05:02 → 00:05:05 น้ำตาลสะสมนี่แหละมันจะสะท้อนให้เห็นว่า
00:05:05 → 00:05:08 เฮยที่ผ่านมาคุณมีพฤติกรรมในการดูแล
00:05:08 → 00:05:11 สุขภาพโดยเฉพาะพฤติกรรมการกินได้ดีมาก
00:05:11 → 00:05:13 น้อยแค่ไหนอ่าั้นแล้วเรื่องของอาหารการ
00:05:13 → 00:05:16 กินถึงสำคัญว่าเฮ้ยเราต้องป้องกันก่อนนะ
00:05:16 → 00:05:18 ไม่ให้ไม่ให้ควนน้ำตาลเกินรอยเมื่อไหร่ก็
00:05:18 → 00:05:22 ตามที่ร้อยปื๊ดน่าไฟเหลืองมาและชีวิตเรา
00:05:22 → 00:05:26 ต้องหัดอ่อนหวานและอ่าควบคุมเรื่องของ
00:05:26 → 00:05:30 เอ่อน้ำตรงน้ำตาลนะแล้วก็ใช้พูผักสมุนไพร
00:05:30 → 00:05:32 ทั้งหลายแหล่มาเป็นตัวช่วยในลักษณะของ
00:05:32 → 00:05:35 โภชนะบำบัดเพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เบาหวาน
00:05:35 → 00:05:39 เป็นปุ๊บต่อให้หายได้คือคนส่วนใหญ่อ่ะไม่
00:05:39 → 00:05:40 ค่อยตระหนักเพราะมันอยู่ในเลือดไงครับคุณ
00:05:40 → 00:05:43 ลีนึกออกมั้ยครับอ่าถ้ามีอาหารเนี่ย
00:05:43 → 00:05:45 อันเนี้ยช่วยเรื่องของการควบคุมน้ำตาลกับ
00:05:46 → 00:05:50 อีกอันนึงเนี่ยบำรุงผิวพรรณความงามบำถูก
00:05:50 → 00:05:52 ต้องคนจะเลือกแล้วอุยฉันจะกินเพื่อบำรุง
00:05:52 → 00:05:55 ผิวพรรณความงามไอ้น้ำตาลเนี่ยมันอยู่ข้าง
00:05:55 → 00:05:58 ในอใช่อ่าแต่หารู้ไม่ว่าโอ้โหมันมีความ
00:05:58 → 00:06:00 เป็นพิษมันมีอันตรายกับสุขภาพร่างกายเรา
00:06:00 → 00:06:03 มากเลยนะน้ำตาลเนี่ยมีการศึกษาวิจัยครับ
00:06:03 → 00:06:07 ว่าเอ้ยมันมีผลเลยว่าไปทำให้ไม่ใช่แค่เบา
00:06:07 → 00:06:09 หวานอย่างเดียวอ้วนลงพุงอย่างเดียวความ
00:06:09 → 00:06:12 ดันไขมันในเลือดสูงคือสารพัดกลุ่มโรคเบอิ
00:06:12 → 00:06:15 Syndrome นี่แหละนะก็เกิดขึ้นจากส่วนนึง
00:06:15 → 00:06:18 ก็คือจากตัวน้ำตาลเป็นหลักแต่นอกเหนือจาก
00:06:18 → 00:06:22 นี้นะครับตัวน้ำตาลเยอะๆเนี่ยมันไปมีผล
00:06:22 → 00:06:25 ครับทำให้สมองเราเนี่ยมันเสื่อมมันฝ่อมัน
00:06:25 → 00:06:27 เหี่ยวลีฟีฝ่อไปนะเซลล์สมองเนี่ยเขาเอา
00:06:27 → 00:06:31 ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานนะครับค่ะมาผ่าตัด
00:06:31 → 00:06:34 เอาสมองออกมาดูกับคนที่ปกติไม่ได้เป็นเบา
00:06:34 → 00:06:38 หวานพบว่ากลุ่มที่เป็นเบาหวานเนี่ยสมอง
00:06:38 → 00:06:41 น้ำหนักสมองจะน้อยสมองฝ่อครับเอ้าความจำ
00:06:41 → 00:06:44 เสื่อมมันสัมพันธ์กันนะเกี่ยวกับเรื่อง
00:06:44 → 00:06:46 ของสมองไม่ใช่แค่สมองเสื่อมอย่างเดียวโรค
00:06:46 → 00:06:50 หลอดเลือดสมองอือ่าสตกทั้งหลายแหลกก็
00:06:50 → 00:06:52 เพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นนอกจากนี้ครับมี
00:06:52 → 00:06:57 การเอ่อศึกษาวิจัยนะพึ่งตีพิมพ์ออกมา
00:06:57 → 00:07:00 เมื่อปีที่แล้วหมาดๆเลยเพบว่าการที่เรา
00:07:00 → 00:07:03 กินน้ำตาลเข้าไปเยอะๆนะน้ำตาลในเลือดขึ้น
00:07:03 → 00:07:07 สูงเนี่ยสัมพันธ์กับการเกิดโรค depress
00:07:07 → 00:07:10 ซึมเศร้าหะเบาหวานนนะเบาหวานสัมพันธ์กับ
00:07:10 → 00:07:13 ซึมเศร้าครับมันคือเอาจริงๆนะคะเวลาที่
00:07:13 → 00:07:16 เราแบบว่ามีความภาวะความเครือดหรือว่ามี
00:07:16 → 00:07:18 อะไรอย่างเงี้ยคือการได้กินของหวานๆมันจะ
00:07:18 → 00:07:20 ทำให้เรารู้สึกแบบแฮปปี้มีความสุขนะคะ
00:07:20 → 00:07:23 อาจารย์มันจะไป deess ยังไงอ่ะใช่อแฮปปี้
00:07:23 → 00:07:27 มีความสุขแต่มันสุขชั่วคราวอือ่ามันอาจจะ
00:07:27 → 00:07:33 สุขชั่วคราวค่ะแต่ว่าระยะยาวอาจจะทุกข์
00:07:33 → 00:07:35 เพราะว่าเราเป็นโรคเบาหวานอย่าเงี้เหรอ
00:07:35 → 00:07:37 ถูกต้องครับผมแล้วก็ไอ้ผลของน้ำตาลที่
00:07:37 → 00:07:39 เข้าไปมากเกินเนี่ยมันมีการศึกษาวิจัยว่า
00:07:39 → 00:07:42 การได้รับน้ำตาลสูงๆเกินมีผลต่อเรื่องของ
00:07:42 → 00:07:44 cognitive ฟังก์ชันการเรียนรู้ความจำ
00:07:44 → 00:07:47 ทั้งหลายแหล่และไปมีผลต่อเรื่องของการ
00:07:47 → 00:07:50 สร้างสารสื่อประสาทอืมีผลต่อสมดุล
00:07:50 → 00:07:53 จุลินทรีย์ที่ลำไส้ค่ะอ่าแล้วผลิตสารสื่อ
00:07:53 → 00:07:56 ประสาทขึ้นมาเนี่ยแล้วมีผลความผิดปกติของ
00:07:56 → 00:07:59 เรื่องระบบประสาทและสมองไปจนถึงโรคซึม
00:07:59 → 00:08:04 เศร้าอ๋ออ่านะแล้วกินหวานมากหรือผู้ป่วย
00:08:04 → 00:08:06 เบาหวานจะสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการ
00:08:06 → 00:08:09 เกิดปัญหา deess ด้วยเรื่องของสมองด้วย
00:08:09 → 00:08:12 เห็นมั้ยครับแล้วอันตรายค่อนข้างเยอะเลย
00:08:12 → 00:08:15 นะแล้วมีอุบัติการณ์ความชุกเนี่ยเพิ่มสูง
00:08:15 → 00:08:17 ขึ้นสูงขึ้นสูงขึ้นทุกปีเลยนะคนที่เป็น
00:08:17 → 00:08:20 เบาหวานเนี่ยอืคือแต่ละอย่างเนี่ยไม่ว่า
00:08:20 → 00:08:22 จะเป็น depress คือซึมเศร้าหรือว่าจะเป็น
00:08:22 → 00:08:25 เบาหวานมันก็มีตัวเลขของของแต่ละอย่างสูง
00:08:25 → 00:08:28 อยู่แล้วใช่แล้วยิ่งเบาวานสัมพันธกันกับ
00:08:28 → 00:08:31 รสอีกเอออ่าซึมเศร้าเข้าไปอีกนะแล้วแล้ว
00:08:31 → 00:08:33 คนที่เป็นซึมเศร้าเขาถึงบอกไงคุณต้องควบ
00:08:33 → 00:08:37 คุมน้ำตาลนะค่ะอ่าเพราะว่ามันก็มีผลช่วย
00:08:37 → 00:08:41 ได้ถ้าคุณไม่ควบคุมน้ำตาล depress กำเริบ
00:08:41 → 00:08:45 เอออ้าแต่ว่าอันเนี้ยเดี๋ยวทำความเข้าใจ
00:08:45 → 00:08:47 ก่อนว่าไม่ใช่ว่ากินเบาหวานแล้ว deess
00:08:47 → 00:08:50 กำเริบแล้วใครกินหวานมากๆไม่ไม่ใช่นะอ่ะ
00:08:50 → 00:08:53 มันมีปัจจัยหลายอย่างอื่นด้วยนะจริงๆหลาย
00:08:53 → 00:08:55 ๆปัจจัยไม่ใช่แค่ปัจจัยเดียวเพราะอาจารย์
00:08:55 → 00:08:59 จะพูดเน้นย้ำเสมอว่าปัญหาสุขภาพหรือระบบ
00:08:59 → 00:09:01 สุขภาพร่างกายของเราเนี่ยมันมีหลายจิ๊ก
00:09:01 → 00:09:04 หลายชิ้นของจิ๊กซอที่ประกอบกันเป็นภาพรวม
00:09:04 → 00:09:08 อ่ามันไม่ใช่แค่เรื่องใดเรื่องหนึ่งชิ้น
00:09:08 → 00:09:11 เดียวอ่าคือแต่ละจิ๊กซอมันประกอบกันทั้ง
00:09:11 → 00:09:14 เรื่องของการกินเรื่องของการนอนเรื่องของ
00:09:14 → 00:09:18 การเอ่อออกกำลังเรื่องของอารมณ์ออ่า
00:09:18 → 00:09:21 เรื่องของจิตใจคือทุกอย่างมันมันเป็นองค์
00:09:21 → 00:09:25 ประกอบสำคัญที่ทำให้เกิดได้หมดเลยและลด
00:09:25 → 00:09:27 ความเสี่ยงได้หมดเลยอ่าอันนี้ก็เป็นอีก
00:09:27 → 00:09:30 หนึ่งชิ้นจิ๊กซอที่สำคญเลยเรื่องของน้ำ
00:09:30 → 00:09:33 ตาลเบาหวานนี่แหละถึงบอกว่ามันเป็นภัย
00:09:33 → 00:09:37 เงียบแฝงที่ส่งผลต่อสมองส่งผลต่อสายตานะ
00:09:37 → 00:09:40 อ่าอย่างที่เราบอกอุยเป็นไงครับเบาหวาน
00:09:40 → 00:09:45 ขึ้นตาค่ะอ่าก็จะมีปัญหาและอุ้ยปัญหา
00:09:45 → 00:09:48 เรื่องของสายตานะเบาหวานขึ้นตาเบาหวานลง
00:09:48 → 00:09:52 ไตอย่างเงี้ยต้องแบบโอโหไตทำงานหนักต้อง
00:09:52 → 00:09:58 ไปล้างไตนะแล้วก็เบาหวานรงเท้าอืนะตาไต
00:09:58 → 00:10:01 แล้วก็อีกอีกตอนึงข้างล่างเนี่ยนะเาของ
00:10:01 → 00:10:05 เราเนี่ยนะก็เป็นแผลแล้วหายากเห็นมยเอ่อ
00:10:05 → 00:10:08 คือแทบไม่มีอะไรที่มันดีเลยฉะนั้นแล้วเรา
00:10:08 → 00:10:12 ป้องกันได้ใครที่ยังไม่เป็นป้องกันได้นะ
00:10:12 → 00:10:14 ครับค่ะอ่าคือศาสตร์แห่งการป้องกันอันนี้
00:10:14 → 00:10:17 สำคัญมากเลยเอ่อ preventive Medicine
00:10:17 → 00:10:19 เนี้ยเพราะเราป้องกันเพื่อไม่ให้เป็นโรค
00:10:19 → 00:10:22 แล้วแล้วมันปิ่มๆเราใช้อาหารในการที่จะ
00:10:22 → 00:10:26 ป้องกันได้แต่ถ้าใครเป็นแล้วครับก็ป้อง
00:10:26 → 00:10:29 กันระมันมี 3 ระดับการป้องกันเนี่ยครับ
00:10:29 → 00:10:32 อ่าระดับแรกคือป้องกันไม่ให้เป็นโรคค่ะ
00:10:32 → 00:10:35 อาหารก็มีผลในการป้องกันโรคได้อืออ่า
00:10:35 → 00:10:38 ระดับที่ 2 คือเป็นโรคแล้วนะแต่ป้องกัน
00:10:38 → 00:10:39 ไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเช่นเป็นเบาหวาน
00:10:40 → 00:10:42 และแต่ฉันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเบาหวาน
00:10:42 → 00:10:45 ไม่ขึ้นตาไม่ลงไตอ่าหรือไม่ทำให้เกิด
00:10:45 → 00:10:48 สโตรกหลอดเลือดสมองเนาะเพราะส่วนใหญ่ก็มา
00:10:48 → 00:10:51 จากปัญหาเบาหวานนี่แหละอค่ะนะครับงั้น
00:10:51 → 00:10:54 แล้วเราป้องกันภาวะแทรกซ้อนนะหรือเกิด
00:10:54 → 00:10:58 ภาวะแทรกซ้อนแล้วนะเช่นเป็นเบาหวานแล้ว
00:10:58 → 00:11:01 เกิดสตกขึ้นมาหลอดเลือดอุตันขึ้นมาอืเรา
00:11:01 → 00:11:05 ก็ป้องกันไม่ให้เสียชีวิตเร็วค่ะอ่ามัน
00:11:05 → 00:11:07 ป้องกันได้หลายระดับแต่ระดับที่ดีที่สุด
00:11:07 → 00:11:10 คือระดับแรกเลยไม่ให้เป็นค่ะดีกว่าอ่าถูก
00:11:10 → 00:11:11 ต้องครับถ้าเป็นแล้วไม่ให้เกิดภาวะแทรก
00:11:11 → 00:11:14 ซ้อนถ้าเกิดภาวะแทรกซ้อนแล้วไม่ให้ตาย
00:11:14 → 00:11:17 เร็วเสียชีวิตเร็วเห็นมั้ยมี 3 ระดับเอา
00:11:17 → 00:11:20 ป้องกันดีกว่าเพราะว่ามาป้องกันระดับแรก
00:11:20 → 00:11:23 สุดใช่มั้ยครับไี่แรกสุดถ้าเกิดมาระยะ 2
00:11:23 → 00:11:25 ระยะ 3 มันเริ่มเหนื่อยแล้วค่ะมันเป็น
00:11:25 → 00:11:27 แล้วไงมันเหนื่อยแล้วอ่ะใช่ๆพอมันเป็น
00:11:27 → 00:11:30 แล้วมันก็ต้องกป้องกันภาวะแทรกซ้อนขึ้นมา
00:11:30 → 00:11:32 อย่างเงี้ยครับเพราะภาวะแทรกซ้อนเนี่ยมัน
00:11:32 → 00:11:34 มีหลายอย่างไงบางคนเป็นโรคซึมเศร้าร่วม
00:11:34 → 00:11:38 ด้วยบางคนมีความดันร่วมด้วยบางคนไขมัน
00:11:38 → 00:11:42 ร่วมด้วยโอ้โหมันยิ่งคุมลำบากเลยนะปัญหา
00:11:42 → 00:11:46 ต่างๆมันแทรกซ้อนขึ้นมาใช่นะครับฉะนั้น
00:11:46 → 00:11:49 แล้วเนี่ยมันก็ต้องไปหยุดที่อะไรครับป้อง
00:11:49 → 00:11:51 กันก่อนดีกว่าถูกต้องเลยไปที่เหตุแห่ง
00:11:51 → 00:11:55 ทุกข์ถ้าพิจารณาอริยสัจ 4 ถูกมั้ยครับ
00:11:55 → 00:11:59 เหตุแห่งทุกข์ที่มันจะมาหลายสเต็ปเนี่ย
00:11:59 → 00:12:02 จุดตั้งต้นมานี่แหละก็คือป้องกันไม่ให้
00:12:02 → 00:12:06 เป็นอือ่าแต่ว่าการป้องกันไม่ให้เป็น
00:12:06 → 00:12:09 เนี่ยเออความพยายามมันก็จะมีอยู่ในระยะ
00:12:09 → 00:12:13 นึงครับผมในบางครั้งนะคะคือรู้แหละรู้
00:12:13 → 00:12:16 แหละว่ามันไม่ได้ดีนะไอ้เรื่องของความ
00:12:16 → 00:12:18 หวานมากเพราะว่าอ่ะแม้กระทั่งเดี๋ยวนี้ก็
00:12:18 → 00:12:21 เก็บภาษีน้ำตาลเออเครื่องด่งเครื่องดื่ม
00:12:21 → 00:12:23 อะไรพวกนี้ก็มีการเก็บภาษีเภาษีเพิ่มขึ้น
00:12:23 → 00:12:27 แต่ช่วยได้มั้ยครับไม่ๆๆถูกต้องครับยน้
00:12:27 → 00:12:31 อาจารย์เห็นในเหตุนึงลงทุนเอ่อเกี่ยวข้อง
00:12:31 → 00:12:34 กับเรื่องของเศรษฐกิจค่ะอ่าการลงทุนอะไร
00:12:34 → 00:12:38 พวกนี้อปีนึงอาจารย์นั่งบวกตัวเลขรายได้
00:12:38 → 00:12:43 ของโรงงานน้ำตาลต่างๆค่ะเกือบแสนล้านครับ
00:12:43 → 00:12:46 โอ้โหแสดงว่าเือแสนล้านนี่คือรายได้นะ
00:12:46 → 00:12:48 อุตสาหกรรมนี้มันยังมีการขับเคลื่อนใน
00:12:48 → 00:12:51 ปริมาณเยอะๆอยู่เลยนะเถึงได้ขนาดนี้เยก
00:12:51 → 00:12:53 เพราะคนไทยกินหวานเยอะมากวันนึงเรารู้ว่า
00:12:53 → 00:12:56 ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชาหรือ 24 กรัมในผู้
00:12:56 → 00:12:59 ใหญ่นะค่ะอ่าในเด็กก็อีกอีกตัวเลขนึงนะ
00:12:59 → 00:13:02 ต้องน้อยกว่านี้นะอ่าในผู้ใหญ่เนี่ย 6
00:13:02 → 00:13:06 ช้อนชาหรือ 24 กรัมเนี้ยค่ะทุกวันเนี้ยคน
00:13:06 → 00:13:09 ไทยกินโดยเฉลี่ยเนี่ยประมาณ 28 ช้อนชา
00:13:09 → 00:13:12 ว้ายเห็นมั้ยครับกี่เท่างั้นแล้วตัวเลข
00:13:12 → 00:13:15 ขายน้ำตาลถึงได้เป็นแสนล้านต่อปีต่อให้
00:13:15 → 00:13:18 คุณจะมีมาตรการในการที่จะเพิ่มภาษีน้ำตาล
00:13:18 → 00:13:22 อืแต่เป็นไงครับเกาไม่ถูกที่คันนะอ่าคือ
00:13:22 → 00:13:25 มันก็อาจจะเป็นมาตรการนึงแต่ท้ายที่สุด
00:13:25 → 00:13:29 ปุ๊บต้องสร้างความรอบรู้สุขภาพหือ He
00:13:29 → 00:13:34 racy เป็นสิ่งสำคัญเลยที่จะทำให้ประชาชน
00:13:34 → 00:13:36 ผู้บริโภคเขาเกิดความตระหนักของเขาเองอ
00:13:36 → 00:13:38 คือไม่ได้บอกว่าจะไม่ให้กินหวานอะไรกัน
00:13:38 → 00:13:40 ขนาดนั้นเลยเพราะว่าคือยังไงร่างกายก็
00:13:40 → 00:13:43 ต้องการน้ำตานใช่เข้าใจอาจารยอาจารย์เข้า
00:13:43 → 00:13:45 ใจดีเลยว่าเฮ้ยคนส่วนใหญ่แบบว่าเอ้ย
00:13:45 → 00:13:47 ต้องการแบบความหวานใช่แต่หลายคนก็บอกว่า
00:13:47 → 00:13:50 โหถ้าเกิดว่ามีกินขนมหวานน่ะถ้ามันไม่
00:13:50 → 00:13:53 หวานมันก็ไม่ใช่ขนมหวานอะไรประมาณนี้ก็
00:13:53 → 00:13:56 หวานน้อยหน่อยแล้วก็ใช้พวกพืชผักสมุนไพร
00:13:56 → 00:13:59 ไทยนี่แหละที่เราบอกว่าเออช่วยในการการ
00:13:59 → 00:14:01 ควบคุมน้ำตาลในเลือดช่วยในการที่จะต้าน
00:14:01 → 00:14:04 เบาหวานเออ่าทีนี้มีอะไร
00:14:04 → 00:14:08 บ้างแลกสุดเลยที่คนส่วนใหญ่โอคงเคยได้ยิน
00:14:08 → 00:14:11 หวานเป็นลมขมเป็นยาใช่มั้ยครับคือมะระขี้
00:14:11 → 00:14:16 นกอ๋ออ่ามะระขี้นกที่พอจะมีการศึกษาวิจัย
00:14:16 → 00:14:20 ว่าเอ๊ะมันมีสารออกฤทธิ์สำคัญพวกชานิน
00:14:20 → 00:14:23 ซึ่งสารตัวเนี้ยมันออกฤทธิ์ในการที่จะ
00:14:23 → 00:14:27 เอ่อทำให้การเก็บน้ำตาลนะการนำไปใช้น้ำ
00:14:27 → 00:14:29 ตาลเนี่ยเพิ่มมากขึ้นนะคล้ายกับฮอร์โมน
00:14:29 → 00:14:32 อินซูลินแล้วมันก็จะไปมีผลช่วยในการควบ
00:14:32 → 00:14:35 คุมน้ำตาลในเลือดได้อ่าพวกมะลักขี้นกบาง
00:14:35 → 00:14:40 คนกินน้ำคั้นสดนะก็จะขุมขมไม่ได้ดยอดนะ
00:14:40 → 00:14:43 อ่าแต่ส่วนใหญ่อาจารย์ก็แนะนำนะคุณจะเอา
00:14:43 → 00:14:47 มาผัดไข่ก็ได้ออ่าเอามาต้มก็ได้นะคือกิน
00:14:47 → 00:14:50 มันวนไปมันไม่ใช่อย่างเดียวซ้ำๆบางคนก็
00:14:50 → 00:14:53 เบื่อก็เข้าใจนะมันยังมีพืชผักอื่นๆอีก
00:14:53 → 00:14:56 เช่นตำลึงอย่างเงี้ยครับอ๋อแกงจืดตำลึง
00:14:56 → 00:15:00 ได้นะแกงจืดตำลึงอาจารย์เพิ่งฟาดมา
00:15:00 → 00:15:03 นะเพิ่งกินมาแกงจืตำลึงอย่างเงี้ยครับอ่า
00:15:03 → 00:15:06 เราก็จะได้สารคิวบินซึ่งสารเยมันอยู่ใน
00:15:06 → 00:15:09 ตำลึงนะครับพอเราบอกเฮ้ยพูดถึงตำลึงปุ๊บ
00:15:09 → 00:15:14 เราก็นึกถึงแต่พวกวิตามินเออ่าเบต้าแีน
00:15:14 → 00:15:17 เพราะเรานึกถึงตำลึงบดให้เด็กกินบำรุงสาย
00:15:17 → 00:15:21 ตาอ่าเซิมพุมๆกันแต่หารู้ไม่ว่าตำลึง
00:15:21 → 00:15:23 เนี่ยมันมีฤทธิ์ในการควบคุมน้ำตาลในเลือด
00:15:23 → 00:15:26 ได้ค่ะอ่าไม่ใช่แค่แกงจืดตำลึงอย่างเดียว
00:15:26 → 00:15:30 นะครับอีกหนึเมนูที่อาจารย์ชอบก็คือตำลึง
00:15:30 → 00:15:33 ผัดผัดเอาผัดกับ
00:15:33 → 00:15:36 เอ่อน้ำมันเนี่ยแหละครับอ่าจะเป็นน้ำมัน
00:15:36 → 00:15:39 งาน้ำมันรำข้าวอะไรอย่างเงี้ยได้หมดเลยนะ
00:15:39 → 00:15:43 ผัดแล้วอาจบางคนอาจจะมีแบบอ่าใส่หมูสับ
00:15:43 → 00:15:46 ไก่สับหรือเต้าหู้ไปค่ะอ่าจะมีร้านโปรด
00:15:46 → 00:15:48 อาจารย์อาจารย์ก็จะสั่งประจำอันนี้แหละนะ
00:15:48 → 00:15:52 ก็คือผัดกระเทียมลงไปนะใส่ตำลึงลงไปอ่า
00:15:52 → 00:15:56 แล้วก็นะน้ำมันนิดนึงเนาะตอนผัดกระเทียม
00:15:56 → 00:15:58 เนี่ยเพราะว่าน้ำมันเนี่ยอาจารย์บอกเลย
00:15:58 → 00:16:00 ว่าถ้าถ้าเราเลือกน้ำมันที่ดีมันก็มีผลใน
00:16:00 → 00:16:03 การที่จะช่วยในการที่จะควบคุมการทำงาน
00:16:03 → 00:16:07 เอ่อของอินซูลินนะทำให้การเก็บน้ำตาลเข้า
00:16:07 → 00:16:09 ไปใช้เนี่ยได้ดีขึ้นอย่างน้ำมันลำข้าวน้ำ
00:16:09 → 00:16:11 มันมะกอกอย่างเงี้ยแต่น้ำมันมะกอกเราก็
00:16:11 → 00:16:14 ไม่แนะนำให้ผ่านความร้อนนะครับอันเนี้ย
00:16:14 → 00:16:17 เนี่ยถ้าเรากินกับพวกพืชผักเหล่าเนี้ยสาร
00:16:17 → 00:16:19 สำคัญบางอย่างมันต้องอาศัยน้ำมันในการดูด
00:16:19 → 00:16:23 ซึมอือ่าโดยเฉพาะกลุ่มของวิตามินที่ละลาย
00:16:23 → 00:16:27 ในไขมันค่ะอ่านะแล้วเราผัดเล็กๆน้อยๆ
00:16:27 → 00:16:29 อย่างเงี้ยอ่าอันนี้เยมันก็ช่วยให้สาร
00:16:29 → 00:16:32 สำคัญเนี่ยดูดซึมแล้วออกฤทธิ์ได้ดีอ่าเรา
00:16:32 → 00:16:35 ไม่ต้องถึงขั้นที่แบบอุ๊ยฉันกินครีนไม่มี
00:16:35 → 00:16:38 น้ำมันเลยก็ไม่ได้นะเพราะร่างกายเราก็ยัง
00:16:38 → 00:16:43 ต้องการไขมันค่ะอ่าโกรธไขมันที่จำเป็นเออ
00:16:43 → 00:16:45 นะสำหรับร่างกายอยู่ไม่ใช่แบบเฮ้ยฉันกิน
00:16:45 → 00:16:50 คลีนบางทีกินข้าวแบบคลีนบางทีนี่แบบโอ้โห
00:16:50 → 00:16:52 นึกว่ากินแกบอ่ะคุณีเพราะมันไม่คล่องคอ
00:16:52 → 00:16:55 เลยมันฝืคอมันแห้งมันไม่มีน้ำมันเลยอย่าง
00:16:55 → 00:16:57 เงี้ยนะมันก็กลายเป็นว่าเฮ้ยมันไม่ได้
00:16:58 → 00:17:01 ทั้งอรรถรสในการกินรสชาติเนื้อสัมผัสงั้น
00:17:01 → 00:17:03 เราเราก็ใส่แต่พอดีแต่ไม่ใช่โอ้โหน้ำมัน
00:17:03 → 00:17:07 มันย่มเลยท่วมเลยอันนี้ก็เกินพอดีอีกเกิน
00:17:07 → 00:17:10 งามไปอีกนะครับอแล้วกลุ่มของตำลึงอย่างง
00:17:10 → 00:17:13 นี้อันนี้ก็มีมีประโยชน์นะครับช่วยในการ
00:17:13 → 00:17:17 ควบคุมต้านเบาหวานได้อนะอีกหนึ่งพืชผัก
00:17:17 → 00:17:20 ที่โอ้โหคนชอบกินกันมากเลยนะแต่สั่งใน
00:17:20 → 00:17:22 กรุงเทพฯทีไรนะได้เป็นเหมือนวิญญานทุกที
00:17:23 → 00:17:28 เลยคือใบกระเพราครับเ้าอ่าใบกระเพราเนี่ย
00:17:28 → 00:17:32 มีฤทธิ์ในการลดน้ำตาลได้นะครับเอออ้าผัด
00:17:32 → 00:17:35 กะเพราเนี่ยที่เราชอบกินเนี่ยแต่จริงมั้ย
00:17:35 → 00:17:37 อย่างอาจารย์ว่ามถ้าอยู่ต่างจังหวัดเนี่ย
00:17:37 → 00:17:41 โอหใบกะเพราเต็มหมดเลยหลังบ้านอาจารย์เ
00:17:41 → 00:17:44 ที่ต่างจังหวัดเออนะแต่พพอยู่ในกรุงเทพฯ
00:17:44 → 00:17:47 บางทีแบบใบมีนิดๆหน่อยๆใส่มาอย่างเงี้ย
00:17:47 → 00:17:51 ครับค่ะกระเพรานี่ก็มีฤทธิ์ช่วยควบคุมน้ำ
00:17:51 → 00:17:53 ตาลลดน้ำตาลได้นะอค่ะแล้วลดความเครียดได้
00:17:53 → 00:17:56 ด้วยนะครับโอ้โหเดี๋ยวจะไปแพ้กะเพราเล่น
00:17:56 → 00:17:57 นะค่ะอ่าผัดกะเพราเป็นเมนูประจำหมอ
00:17:58 → 00:18:00 อาจารย์เลยแทบจะกินแบบว่าแทบจะเป็นไม่
00:18:00 → 00:18:03 เบื่อครับโอแต่บางบางคนเรียกเมนูสิ้นคิด
00:18:03 → 00:18:05 แต่เราก็แบบว่าเฮ้ยก็เราไม่เบื่อได้
00:18:05 → 00:18:07 ประโยชนเออมันมีประโยชน์ในการที่จะช่วย
00:18:08 → 00:18:11 ควบคุมน้ำตาลได้นะช่วยในการที่จะแบบลด
00:18:11 → 00:18:13 ความเครียดได้นะมีการศึกษาวิจัยทางคลินิก
00:18:13 → 00:18:15 ด้วยนะครับวัดเรื่องของคลื่นสมองเลยหลัง
00:18:15 → 00:18:18 กินใบกะเพราเอขนาดนั้นเลยเหรอคะอาจารยใช่
00:18:18 → 00:18:21 ครับถึงบอกเอ้ยมันต้านเครียดได้นะเออ่า
00:18:21 → 00:18:23 ฉะนั้นแล้วเนี่ยมีประโยชน์เยอะเลยช่วง
00:18:23 → 00:18:26 โควิดมันก็เสริมภูมิคุ้มกันได้นะออ่ามี
00:18:27 → 00:18:29 พี่ที่เป็นนักกำหนดอาหารน่ะพี่แกเกษียณ
00:18:29 → 00:18:33 แล้วก็ทำน้ำกะเพราหุยรสชน้ำใบเตยใส่ใบ
00:18:33 → 00:18:37 กะเพราอ่าอาจารย์ก็แบบเออมันก็หอมๆดีนะ
00:18:37 → 00:18:40 พี่แต่ดูเหมือนไม่ใส่ย้าหวาหรอห้างกล้วย
00:18:40 → 00:18:44 พวกเนี้ยต้มกับใบเตยแล้วใส่กะเพราเข้าไป
00:18:44 → 00:18:46 นี้ก็ได้ครับได้หรอคะได้ครับช่วยควบคุม
00:18:46 → 00:18:49 น้ำตาบางคนเราเราแบบว่าเอ้ยวันนี้เรากิน
00:18:49 → 00:18:52 ตำลึงวันนี้เรากินกระเพราวันนี้เรากินผัด
00:18:52 → 00:18:55 มะระขี้นกอย่างเงี้ยคือเราก็กินพืชผัก
00:18:55 → 00:18:58 เหล่าเยวนลงไปแล้วผัดกระเพราเนี่ยส่วน
00:18:58 → 00:19:01 ใหญ่มีอีก 1 สิ่งที่มีสารสำคัญเลยอันนี้
00:19:01 → 00:19:04 เป็นงานวิจัยของที่คณะแพทย์จุฬาเลยนะค่ะ
00:19:04 → 00:19:08 คือพริกครับพริกขี้หนูนี่แหละอ่าเผ็ดจริง
00:19:08 → 00:19:12 ๆเลยนะตัวแค่นี้เอองั้นแล้วมันจะร้อนจะ
00:19:12 → 00:19:14 แรงอย่างงั้นตัวนิดเดียวเพราะว่ามันมี
00:19:14 → 00:19:17 แคปไซซินสารเนี่ยครับเม็ดพริกนั่นแหละ
00:19:17 → 00:19:20 เม็ดพริกนัช่วยเพิ่มการเผาผลาไขมันแล้ว
00:19:20 → 00:19:22 เนี่ยมันยังมีงานวิจัยว่ามันสามารถออก
00:19:22 → 00:19:25 ฤทธิ์ในการควบคุมน้ำตาลในเลือดได้โองี้ก็
00:19:25 → 00:19:27 เป็นประโยชน์สำหรับคนกินเผ็ดมากๆเลยถูก
00:19:28 → 00:19:31 ต้องอาจารย์ชอบเลยแทบจะแบบวิดไอ้นี่เลย
00:19:31 → 00:19:36 พริกเนี่ยใส่เข้าไปเลยทุกแบบถ้ามีน้ำปลา
00:19:36 → 00:19:39 พริกนะอ่าก็จะน้ำปลานี้แทบจะไม่ตักหรอก
00:19:39 → 00:19:42 โกยอ๋อเอาแต่พริกคิดว่าอาจารยจะน้ำมัน
00:19:42 → 00:19:45 ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดได้อแล้ววันนึง
00:19:45 → 00:19:49 เนี่ยอาจจะซักแบบ 3-5 เม็ดเล็กน้อยอ่าถ้า
00:19:49 → 00:19:53 คนกินพริกกินเผ็ดได้ก็โอเคเลยค่ะอ่าเป็น
00:19:53 → 00:19:55 เมนูเป็นเมนูแบบว่าเฮ้ยเบสิคมากเลยหรือ
00:19:55 → 00:19:58 แม้กระทั่งกระเจี๊ยบเขียวโอโอ้โหอันนี้
00:19:58 → 00:20:01 ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดีมากแล้ว
00:20:01 → 00:20:04 เหมาะมากสำหรับคนที่น้ำตาลในเลือดสูงหรือ
00:20:04 → 00:20:06 คนที่เป็นเบาหวานเพราะมันจะช่วยกระตุ้น
00:20:06 → 00:20:09 การสร้างกลูต้าไทโอนที่ตับได้ด้วยค่ะอ่า
00:20:09 → 00:20:12 จะช่วยในการต้านอนุมูลอิสระอืนะแล้วก็
00:20:12 → 00:20:16 ช่วยในการดีท็อกซ์ตับนะอ่าเพราะคนเป็นเบา
00:20:16 → 00:20:18 หวานส่วนใหญ่ก็จะสัมพันธ์กับพวกไขมันพอก
00:20:18 → 00:20:22 ตับอจอ่ากันเยอะมากงั้นแล้วเนี่ยตัว
00:20:22 → 00:20:24 กระเจี๊ยบเขียวเองก็จะมีเมือกเห็นเป็น
00:20:24 → 00:20:27 เมือกๆมั้ยครับมันก็จะเคลือบลำไส้ของเรา
00:20:27 → 00:20:30 ไว้ชะลอการดูดซึมน้ำตาลได้ด้วยอ๋ออ่า
00:20:30 → 00:20:32 ฉะนั้นแล้วกระเจี๊ยบเขียวเนี่ยลวกจิ้มน้ำ
00:20:32 → 00:20:36 พริกก็ได้ใส่ในแกงก็ได้อ่ากับอีก 1 ผักก็
00:20:36 → 00:20:39 คือผักเชียงดาเคยได้ยินมั้ยครับผักทางภาค
00:20:39 → 00:20:41 เหนือของไทยเราเอามาผัดไข่ก็ได้เคยยินอ
00:20:41 → 00:20:44 อ่าหรือใส่ในต้มเติ้มอะไรของเราแล้วแต่
00:20:44 → 00:20:46 เลยอันนี้ก็เป็นผักที่มีฤทธิ์ต้านน้ำตาล
00:20:46 → 00:20:50 ได้ดีเอ่อต้านเบาหวานได้ดีครับต่างประเทศ
00:20:50 → 00:20:53 เนี่ยครูณีจะเห็นเยอะมากเลยอที่อเมริกา
00:20:53 → 00:20:56 หรือแม้กระทั่งอินเดียเขามีผักเคียงดา
00:20:56 → 00:20:59 สกัดขายเป็นเม็ดแคปซูเลยนะโเอาไว้ลดน้ำ
00:20:59 → 00:21:03 ตาลในเลือดแต่เรากินกินเป็นอาหารนี่แหละ
00:21:03 → 00:21:05 อ่าก็คือกินเป็นอาหารเป็นยานี่แหละที่
00:21:05 → 00:21:09 ช่วยได้นะนอกจากนี้แล้วเนี่ยยังมีพวกใบ
00:21:09 → 00:21:12 หม่อนรู้จักมั้ยครับใบหม่อนอ่ามีสารพวก
00:21:12 → 00:21:16 dnj นะเป็นสารที่ช่วยในการที่จะเอ่อลด
00:21:16 → 00:21:19 การดูดซึมน้ำตาลหลังมืออาหารแล้วก็เพิ่ม
00:21:19 → 00:21:21 ความไวในการทำงานของอินซูลินนะแล้วมันจะ
00:21:21 → 00:21:24 ทำให้การเก็บน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดดี
00:21:24 → 00:21:29 ขึ้นหรือแม้กระทั่งขมิ้นชันออขมิ้นชันออล
00:21:29 → 00:21:31 ที่มีการศึกาวิจัว่าเ้ยมันช่วยป้องกันเบา
00:21:31 → 00:21:34 หวานได้ด้วยนะเให้กลุ่มนึงกินขมิ้นชันอีก
00:21:34 → 00:21:36 กลุ่มนึงไม่ได้กินขมิ้นชันแล้วเป็นเบา
00:21:36 → 00:21:40 หวานแฝงอ่ะมีภาวะก่อนเบาหวานก็คือน้ำตาล
00:21:40 → 00:21:43 100-15 กลุ่มนึงให้กินขมิ้นชันเลยติดตาม
00:21:43 → 00:21:47 ไป 9 เดือนอีกกลุ่มนึงกินยาหลอกแล้วก็ดู
00:21:47 → 00:21:49 ซิผล Before After พบว่ากลุ่มที่กิน
00:21:49 → 00:21:52 ขมิ้นชันไม่เป็นไรเลยไม่เป็นเบาหวานแต่
00:21:52 → 00:21:54 กลุ่มที่กินยาหลอกเป็นเบาหวานถึง 16%
00:21:54 → 00:21:58 ครับวายเห็นมยเวลาผ่านไป 9 เดือนจาก
00:21:58 → 00:22:01 คนที่เป็นเบาหวานแฝงภาวะก่อนเบาหวานน้ำ
00:22:01 → 00:22:04 ตาลปริ่มๆเนี่ยคุณได้เลื่อนวิทยฐานะเลย
00:22:04 → 00:22:08 ครับเป็นเบาหวานจริงเลยทันทีเอ๊ะฉันควรไป
00:22:08 → 00:22:10 ทดลองแบบนั้นดีมั้ยอ่าฉะนั้นแล้วเนี่ยมัน
00:22:10 → 00:22:13 ก็โบ่งชี้ว่าเอ้ยมันมีผลในการที่จะควบคุม
00:22:13 → 00:22:18 น้ำตาลในเลือดได้หรือแม้กระทั่งใบชะพูใบ
00:22:18 → 00:22:20 ชะพูอ่าที่บางคนชอบกินกับอะไรครับเป็น
00:22:21 → 00:22:23 เมี่ยงเมี่ยงครับถูกต้องเลยเพราะอะไรรู้
00:22:23 → 00:22:26 มั้ยครับชอบมากเลยมันเป็นภูมิปัญญาชาว
00:22:26 → 00:22:30 บ้านนะเมี่ยงเนี่ยเรามีอะไรครับน้ำน้ำ
00:22:30 → 00:22:35 หวานๆหวานๆน้ำตาลทั้งนั้นเลยก็เอาฤทธิ์
00:22:35 → 00:22:38 ไอ้ใบชะพูนี่แหละค่ะอ่าที่มีสารสำคัญ
00:22:38 → 00:22:41 โพลีฟีนอลต่างๆช่วยในการลดน้ำตาลได้อ่ะ
00:22:41 → 00:22:44 อือเอามากินแก้กันไงครับอ้าแล้วในเมี่ยง
00:22:44 → 00:22:47 คำส่วนใหญ่มีอะไรด้วยครับพริกพริกเออใช่ๆ
00:22:47 → 00:22:51 อ่ากระเทียมอย่างเงี้ยอ่าก็แก้กันนะใส่ไป
00:22:51 → 00:22:53 แก้กันนั่นคือภูมิปัญญาชาวบ้านภูมิปัญญา
00:22:53 → 00:22:55 ไทยนะครับสมุนไพรทั้งนั้นเลยเดี๋ยวนี้หา
00:22:55 → 00:22:58 ทานยากแล้วค่ะอาารถูกต้องครับหรือแม้ก
00:22:58 → 00:23:03 กระทั่งเรากินสะเดาน้ำปลาหวานอ่าอ่าสะเดา
00:23:03 → 00:23:05 เองก็มีสารสำคัญควบคุมน้ำตาลลดน้ำตาลได้
00:23:05 → 00:23:07 นะดอกซาดาอะไรงี้ใช่มใช่ครับฉะนั้นแล้ว
00:23:07 → 00:23:09 เนี่ยเรากินอย่างเงี้ยหรือแม้กระทั่งกับ
00:23:09 → 00:23:13 ปลาดุกอ่าใช่มั้ยเพราะมีโอเมก้า 3 ไงก็ดี
00:23:13 → 00:23:16 ต่อระบบหัวใจแลหล่อเลือดมันกินแก้กันนั่น
00:23:16 → 00:23:18 คือภูมิปัญญาของชาวบ้านเองครับฉะนั้นแล้ว
00:23:18 → 00:23:21 เนี่ยฝากคุณผู้ฟังไว้ทุกท่านเลยว่าเฮ้ย
00:23:22 → 00:23:25 ทุกมื้ออาหารของเราถ้าอยากที่จะควบคุมน้ำ
00:23:25 → 00:23:28 ตาลป้องกันเบาหวานเราก็จะต้องมีพืชผัก
00:23:29 → 00:23:31 สมุนไพรเหล่านี้แหละอ่าที่เรากินเราใช้ใน
00:23:31 → 00:23:35 โครเรือนทั้งหลายแหลไม่ต้องไปสรรหาพวกสาร
00:23:35 → 00:23:38 สกงสารสกัดอะไรบเพราะบางทีเนี่ยเราได้ไม่
00:23:38 → 00:23:40 คุ้มเสียครับมันมีฤทธิ์รสน้ำตาลก็จริงแต่
00:23:40 → 00:23:43 กลายเป็นว่ามันอาจจะมีอะไรที่มันแฝงอยู่
00:23:43 → 00:23:44 แฝง
00:23:44 → 00:23:47 อยู่อะไรขึึ้นถูกต้องครับอแล้วเรากิน
00:23:47 → 00:23:50 อาหารเป็นยาได้เลยทุกมื้ออ่าอย่างที่สส
00:23:50 → 00:23:53 รณรงค์ว่าสสสลลงว่าผักครึ่งนึงอย่างอื่น
00:23:54 → 00:23:56 ครึ่งนึงอย่างนี้แหละนะก็มีพวกพืชผัก
00:23:56 → 00:23:58 เหล่าเนี้หมุนเวียนกันไปในแต่ละวันก็จะทำ
00:23:58 → 00:24:02 ให้ทุกท่านเนี่ยสุขภาพดีปลอดภัยห่างไกล
00:24:02 → 00:24:04 เบาหวานได้ครับถูกต้องค่ะเพราะฉะนั้นลอง
00:24:04 → 00:24:09 ดูนะคะวันนี้ได้วิธีการที่จะเอาของอยู่
00:24:09 → 00:24:11 ใกล้ตัวอยู่ในตู้เย็นเนี่ยมาใช้เรื่องของ
00:24:12 → 00:24:14 อาหารการกินกินอาหารให้เป็นยานะคะอขอบคุณ
00:24:14 → 00:24:18 อาจารย์เอกราชค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีครับอ้า
00:24:18 → 00:24:20 หมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่ครั้ง
00:24:20 → 00:24:23 หน้าค่ะวันนี้ลาไปก่อนนะคะสวัสดีค่ะ This
00:24:23 → 00:24:26 Is Toy PBS podcast ในความสัมพันธ์
00:24:26 → 00:24:28 สำหรับคนที่มีรูปร่างอวบืออ้วน 5 อันดับ
00:24:28 → 00:24:31 ความกลัวของคนกลุ่มนี้มีเรื่องอะไรบ้าง
00:24:31 → 00:24:33 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรจันทวิภาฎกสัมพันธ์
00:24:33 → 00:24:36 ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์และครอบครัว
00:24:36 → 00:24:40 มาเล่าให้ฟังครับแว่าเราจะมีรูปลักษณแบบ
00:24:40 → 00:24:44 ใดนะคะความรักนี่มันก็ไม่เคยปราณีใครนะคะ
00:24:44 → 00:24:47 ทุกคนก็มีความรักแล้วตัวที่จะเชื่อมใน
00:24:47 → 00:24:50 เรื่องของความสัมพันธ์ในเรื่องของความรัก
00:24:50 → 00:24:53 ให้มันแนบแน่นมากขึ้นก็คือในเรื่องของ
00:24:53 → 00:24:56 เซ็กซ์ถูกมคะทั้งๆที่จริงๆแล้วเนี่ยคน
00:24:56 → 00:25:00 อ้วนเนี่ยนะคะจะมีบุคลิกที่ดูอบอุ่นนะน่า
00:25:00 → 00:25:03 โกรธอ่ะนะฮะอารมณ์ก็มักจะเป็นคนอารมณ์ดี
00:25:04 → 00:25:07 นะคะเวลาเวลามีอะไรก็จะรู้สึกจริงใจอะไร
00:25:07 → 00:25:10 ต่างๆเหล่านี้เป็นต้นนะคะแต่คนอ้วนเนี่ย
00:25:10 → 00:25:13 ค่ะก็มักจะประมานะคะโดยเฉพาะในเรื่องของ
00:25:13 → 00:25:17 ร่างกายในขณะที่มีความสัมพันธ์กันหรือมี
00:25:17 → 00:25:20 เซ็กซ์กันเนี่ยสิ่งที่คนอ้วนน่ะนะคะหรือ
00:25:20 → 00:25:22 สาวอวบระยะสุดท้ายเนี่ยกลัวกันมากที่สุด
00:25:22 → 00:25:25 เนี่ยคืออะไรนะคะเค้าบอกว่าจัดอันดับไว้ 5
00:25:25 → 00:25:28 อันดับนะคะอันดับแรกก็คือกลัวที่สุดเลย
00:25:28 → 00:25:31 กลัวน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆนะคะอัน
00:25:31 → 00:25:35 ที่ 2 ก็คือกลัวการออกเดทค่ะนะฮะก็มักจะ
00:25:35 → 00:25:37 ถูกล้อเรียนมาแล้วอะไรมาแล้วเนี่ยมาตลอด
00:25:37 → 00:25:39 ทำให้ความเชื่อมั่นในตัวเองเนี่ยมันแย่นะ
00:25:40 → 00:25:43 คะอันที่ 3 กลัวการมีเซ็กซ์ค่ะถ้าเทียบใน
00:25:43 → 00:25:45 ต่างประเทศที่เขาเป็นสังคมฟรีเซ็กซเนี่ย
00:25:45 → 00:25:48 นะคะก็จะพบว่าหญิงอ้วนทั้งหลายเนี่ยบางที
00:25:48 → 00:25:51 อ่ะกว่าจะมีประสบการณ์ทางเพศเนี่ยอายุ
00:25:51 → 00:25:53 เยอะขึ้นเยอะขึ้นเยอะขึ้นก็มีความรู้สึก
00:25:53 → 00:25:56 ว่าไม่กล้านะคะเพราะฉะนั้นกลัวการมีเดท
00:25:56 → 00:25:58 แล้วก็กลัวเรื่องการมีเเซ็กซ์ด้วยติดมา 3
00:25:58 → 00:26:01 อันดับและอันดับที่ 4 พอมีเซ็ก์แล้วกลัว
00:26:01 → 00:26:04 อะไรคะกลัวเตียงหักคำว่าเตียงหักทีนี้ไม่
00:26:04 → 00:26:06 ได้แปลว่าแยกกันอย่าล้างกันนะเตียงหัก
00:26:06 → 00:26:11 จริงๆนะคะนั่นก็คือว่ากลัวว่าสภาพเตียง
00:26:11 → 00:26:13 เนี่ยเอ๊ะมันจะรับน้ำหนักเราได้มยนะคะ
00:26:13 → 00:26:16 เพราะมันต้องมีกิจกรรมแล้วก็สุดท้ายที่
00:26:16 → 00:26:19 สุดก็คือกลัวการถูกทอดทิ้งนี่แหละค่ะ
00:26:19 → 00:26:21 เพราะว่าหลายคนเนี่ยมักจะอกหักอกหักจาก
00:26:21 → 00:26:24 อะไรอกหักจากการที่เคหรือเธอคนนั้นน่ะไป
00:26:24 → 00:26:27 เจอคนใหม่ที่หุ่นดีกว่าเรานึกออกมั้ยค
00:26:27 → 00:26:31 แล้วเก็ทอดทิ้งเราไปก็จะมีคนอ้วนทั้งหลาย
00:26:31 → 00:26:34 หญิงอ้วนชายอ้วนเนี่ยที่มักจะอกหักกัน
00:26:34 → 00:26:37 อยู่
00:26:37 → 00:26:41 เรื่อย This Is Toy PBS
00:26:41 → 00:26:45 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:26:45 → 00:26:48 แอปพลิเคชันของ Thai PBS podcast
00:26:48 → 00:26:51 spotify soundcloud Google podcast
00:26:51 → 00:26:53 Apple podcast และ YouTube Channel
00:26:53 → 00:26:58 Thai PBS podcast Thai PBS podcast
00:26:58 → 00:27:00 View the world via The
00:27:00 → 00:27:08 [เพลง]
00:27:08 → 00:27:11 Voice