00:00:00 → 00:00:01 ม.ค
00:00:01 → 00:00:03 ก็
00:00:03 → 00:00:10 [ปรบมือ]
00:00:10 → 00:00:24 [เพลง]
00:00:24 → 00:00:28 สวัสดีค่ะน้องๆชาว
00:00:28 → 00:00:33 ไลฟ์เลคเชอร์ทุกคนนะคะก่อนอื่นนะคะพี่ขอ
00:00:33 → 00:00:37 แนะนำตัวเองก่อนนะคะชื่อพี่เมินนะคะพี่ดา
00:00:37 → 00:00:41 หาชัยภูมิเป็นจิตแพทย์และนักแต่งเพลงรัก
00:00:41 → 00:00:44 ที่น้องอาจจะคุ้นเคยกันนะคะอย่างเช่นเพลง
00:00:44 → 00:00:47 ไม่เคยจะห่างกันของวิน sqweez animal
00:00:47 → 00:00:52 ทำไมต้องรักเธอยังอยากรู้เจ็บกระจกมาก
00:00:52 → 00:00:54 กว่ารักหรือคนไม่น่าสงสารนะคะแล้วก็อื่นๆ
00:00:54 → 00:00:57 อีกมากมายเลยเพราะว่าหมอเองเนี่ยก็ทำงาน
00:00:57 → 00:01:00 ตั้งแต่อายุ 18 แล้วนะก่อนที่จะมาเป็นหมอ
00:01:00 → 00:01:04 จะได้ซ้ำนะคะมีอันเนี่ยการทำงานมาเยอะค่ะ
00:01:04 → 00:01:08 แล้วก็เรียนมาเยอะเหมือนกันนะคะพี่หมอค้น
00:01:08 → 00:01:12 พบความจริงอย่างนึงนะคะที่คิดว่าแหมเรา
00:01:12 → 00:01:15 เนี่ยน่าจะเรียนเรื่องนี้นานแล้วนะคะแทน
00:01:15 → 00:01:19 ที่จะมาเรียนตอนหลังจากเรียนจบแล้วนั้นก็
00:01:19 → 00:01:21 คือการเรียนรู้ตัวเองค่ะนั้นก็คือเป็น
00:01:21 → 00:01:24 เหตุผลสำคัญเหตุผลหนึ่งเลยนะคะที่ก็ไม่
00:01:24 → 00:01:27 พี่หมอเองนะคะเลือกที่จะเรียนเฉพาะทาง
00:01:27 → 00:01:30 หลังจากที่จบแพ้ 6 ปีแล้วนะคะเป็นผู้
00:01:30 → 00:01:35 เ****วชาญทางด้านจิตเวชค่ะนะเนี้ยการที่
00:01:35 → 00:01:38 ได้มารู้เรื่องราวของจิตใจผู้คนนี้ล่ะค่ะ
00:01:38 → 00:01:41 แล้วก็รวมทั้งจิตใจตัวเองด้วยทำให้หมอนะ
00:01:41 → 00:01:45 คะยืนยันได้แน่นอนเลยนะคะว่าการที่เรามี
00:01:45 → 00:01:49 ความรู้เกี่ยวกับตัวเองแล้วก็ใช้ศักยภาพ
00:01:49 → 00:01:52 ของตัวเองได้นะคะมันจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำ
00:01:52 → 00:01:55 ให้เราประชุมความสำเร็จได้เร็วขึ้นแล้วก็
00:01:55 → 00:01:58 มีความสุขได้อย่างยั่งยืนมากขึ้นค่ะแต่
00:01:58 → 00:02:02 ถ้าเกิดว่าเราจะเริ่มต้นที่นักเรียนรู้
00:02:02 → 00:02:06 จักตัวเองจริงๆนะคะในวันนี้เนี่ยก่อนที่
00:02:06 → 00:02:12 น้องๆเองจะก้าวข้ามผ่านประตูนะคะไปยังโลก
00:02:12 → 00:02:18 ของการทำงานน้องจะเริ่มต้นจากตรงไหนคะก็
00:02:18 → 00:02:21 อยากจะขอแนะนำนี้ค่ะว่าสิ่งที่อยากจะ
00:02:21 → 00:02:24 เริ่มต้นเนี่ยก็คือมีอยู่ 2 อย่างนะคะที่
00:02:24 → 00:02:28 หนูคิดว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะทำ
00:02:28 → 00:02:31 ให้น้องๆได้เรียนรู้ตัวเองไปเรียนรู้คน
00:02:31 → 00:02:34 อื่นไปเรียนรู้โลกภายนอกไปแล้วก็เข้าใจ
00:02:34 → 00:02:36 ตัวเองมากขึ้นเพราะการเรียนรู้นั้น
00:02:36 → 00:02:40 เครื่องมือสำคัญ 2 อย่างนั่นก็คือ 1
00:02:40 → 00:02:44 เซลล์อะแวเนสค่ะคงเคยได้ยินกันอยู่แล้วนะ
00:02:44 → 00:02:49 นะคะและอันที่สองก็คือ Self Concept ค่ะ
00:02:49 → 00:02:54 นั้นวันนี้เราจะใช้เวลาสั้นๆประมาน 30
00:02:54 → 00:02:58 นาทีในการพูดคุยเรื่องนี้กันนะคะอ่ะ
00:02:58 → 00:03:02 แต่ก่อนที่น้องๆเนี่ยจะรู้เรื่องของเซลล์
00:03:02 → 00:03:06 คอนเซปนะคะพี่หมออยากแนะนำให้ยังน้องรู้
00:03:06 → 00:03:09 ความจริงเกี่ยวกับจิตใจของพวกเราทุกคน
00:03:09 → 00:03:12 ก่อนนะคะว่าเราทุกคนเนี่ยต่างมีความ
00:03:12 → 00:03:15 ต้องการบางอย่างที่ไม่ได้แตกต่างกันเนอะ
00:03:15 → 00:03:18 ไม่ว่าใครความต้องการนั้นคืออะไรบ้างเช่น
00:03:18 → 00:03:22 ความต้องการที่จะมีความปลอดภัยค่ะการ
00:03:22 → 00:03:26 ต้องการที่จะมั่นคงปลอดภัยต้องการความรัก
00:03:26 → 00:03:30 ต้องการการยอมรับนะคะต้องการที่จะมีความ
00:03:30 → 00:03:33 สุขสิ่งเหล่านี้เนี่ยมันเป็นความต้องการ
00:03:33 → 00:03:37 พื้นฐานที่มาว่าใครก็มีเหมือนกันแต่ว่า
00:03:37 → 00:03:41 รูปร่างหน้าตาลักษณะการแปลความอาจจะแตก
00:03:41 → 00:03:44 ต่างกันนะคะแล้วก็ที่สำคัญเนี่ยแต่ละความ
00:03:44 → 00:03:46 ต้องการนี้ก็ขึ้นอยู่กับวัยของเราด้วยนะ
00:03:46 → 00:03:51 อย่างตอนนี้เองนะคะน้องๆเนี่ยอยู่ในช่วง
00:03:51 → 00:03:55 จากกำลังจะเปลี่ยนถ่ายนะจากวัยรุ่นนะคะจน
00:03:55 → 00:03:58 ถึงช่วงผู้ใหญ่ตอนต้นเนี่ยช่วงนี้เนี่ย
00:03:58 → 00:04:01 และช่วงทีเรามีพลังเยอะแยะมากมายนะคะแล้ว
00:04:01 → 00:04:06 มีทั้งพลังกายมีทั้งพลังใจมีทั้งพลังความ
00:04:06 → 00:04:10 คิดนะคะและในช่วงวัยของการมีพลังเนี่ยอ่ะ
00:04:10 → 00:04:13 ค่ะเป็นช่วงวัยที่เหมาะมากๆเลยนะคะที่เรา
00:04:13 → 00:04:17 จะเรียนรู้ตัวเองโลกใบนี้แล้วก็เรียนรู้
00:04:17 → 00:04:21 ที่จะใช้ศักยภาพของตัวเองนะคะให้เป็น
00:04:21 → 00:04:24 ประโยชน์สูงที่สุดห๊ะอย่างที่บอกค่ะถ้า
00:04:24 → 00:04:26 เราเนี่ยจะเริ่มต้นในการเรียนรู้ตัวเอง
00:04:26 → 00:04:29 เครื่องมือสองอย่างคือเซลล์โอเน็ตกับ Cell
00:04:29 → 00:04:34 Concept ในวันนี้สำหรับเซลล์
00:04:34 → 00:04:38 มีอวตาร Ace นะคะนั้นก็คือการที่เรา
00:04:38 → 00:04:42 ตระหนักรู้ความจริงในตัวเองความจริงในที่
00:04:42 → 00:04:46 นี้คืออะไรนะคะอ่ะให้เห็นภาพง่ายๆนะนั่น
00:04:46 → 00:04:50 ก็คือการที่เรานะคะเปรียบเสมือนว่าเรา
00:04:50 → 00:04:53 เนี่ยมีดวงตาอีกดวงหนึ่งที่อยู่ในตัวเรา
00:04:53 → 00:04:57 เนาะนั้นเรามีดวงตาภายนอกที่มองเห็นคน
00:04:57 → 00:04:59 อื่นเดี๋ยวนี้ใช่ไหมคะน้องๆมองเห็นหน้า
00:04:59 → 00:05:02 พี่หมอนะเรามองเห็นอารมณ์ของคนอื่นแล้ว
00:05:02 → 00:05:04 มองเห็นพฤติกรรมของคนอื่นนะคะแต่เราไม่
00:05:04 → 00:05:08 ค่อยมองเห็นข้างตัวเราเองใช่ไหมคะงั้นเรา
00:05:08 → 00:05:11 เนี่ยถูกออกแบบว่าแบบนี้นะแต่จริงๆดวงตา
00:05:11 → 00:05:13 ที่อยู่ข้างในเนี่ยมันสุดได้เรามองเห็น
00:05:13 → 00:05:17 ได้และมันเป็นประตูวันแรกที่จะทำให้เรา
00:05:17 → 00:05:19 เข้าใจตัวเองนะคะเซลล์ว่าเนี่ยมันก็เลย
00:05:19 → 00:05:23 เหมือนกับเป็นดวงตาค่ะถ่ายในของเราที่ทำ
00:05:23 → 00:05:27 ให้เรามองเห็นอารมณ์ความคิดพฤติกรรมความ
00:05:27 → 00:05:32 ต้องการของเรานะคะโดยที่เราไม่ได้ตัดสิน
00:05:32 → 00:05:36 นะไม่ได้ตัดสีม่วงมั่นผิดมันธถ้ามันดีมัน
00:05:36 → 00:05:38 ไม่ดีมันคิดอย่างนี้ได้คิดอย่างนี้ไม่ได้
00:05:38 → 00:05:43 นะคะอันเนี้ยมันก็จะทำให้เราเห็นความจริง
00:05:43 → 00:05:45 ของตัวเองมากขึ้นตอนนี้ฉันกำลังรู้สึกยัง
00:05:45 → 00:05:49 ไงหนูอยากให้ตัวเองรู้สึกก็ได้นะเอ่อฉัน
00:05:49 → 00:05:53 กำลังคิดอะไรอยู่เจอเหตุการณ์นี้แล้วเรา
00:05:53 → 00:05:57 รู้สึกยังไงเราต้องการให้มันเป็นยังไงนะ
00:05:57 → 00:06:00 คะสิ่งเหล่านี้นะคะก็เรียกว่าเซลล์เอาวัน
00:06:00 → 00:06:04 เดือนแน่นอนว่าอ่ะส่วนครั้งนะว่าน้องๆก็
00:06:04 → 00:06:08 ต้องมีทักษะในการที่ช้าลงนะคะหยุดนิ่งมอง
00:06:08 → 00:06:12 เห็นความคิดความรู้สึกความต้องการแล้วก็
00:06:12 → 00:06:16 พฤติกรรมของตัวเองตามความเป็นจริงโดยไม่
00:06:16 → 00:06:19 ตัดสินผิดถูกๆค่ะ
00:06:19 → 00:06:20 มา
00:06:20 → 00:06:25 แล้วแหมถ้าอยากรู้จักตัวเองฝึกเซลล์
00:06:25 → 00:06:29 อะแวเนสเนี่ยจะต้องทำตลอดเวลาเลยไหมก็คง
00:06:29 → 00:06:33 จะไม่นะคะเอาเป็นว่าเท่าที่เรารู้สึกตัว
00:06:33 → 00:06:37 และกันเมื่อไรรู้สึกตัวอย่างตอนนี้หายใจ
00:06:37 → 00:06:41 อยู่รู้สึกไหมตอนนี้นั่งอยู่รู้สึกไหมตอน
00:06:41 → 00:06:45 นี้ฟังพี่หมออยู่รู้สึกไหมนะคะเอาที่พอ
00:06:45 → 00:06:48 เรารู้ตัวแล้วกลับมารู้สึกกับตัวเองสัก
00:06:48 → 00:06:50 แป๊บนึงก็ได้นะเพราะว่าโดยธรรมชาติใจรอ
00:06:50 → 00:06:53 แป๊บเดียวมันก็ไปอีกแล้วนะคะแต่ว่าถ้า
00:06:53 → 00:06:56 เกิดเราเนี่ยอยากฝึกให้มันสม่ำเสมอพี่หมอ
00:06:56 → 00:06:59 แนะนำ 3 ทริคสำคัญนะคะที่จะทำให้น้องๆ
00:06:59 → 00:07:02 เนี่ยลองฝึก sale A NET ของตัวเองได้นะ
00:07:02 → 00:07:06 คะนั่นก็คืออันที่ 1 นะคะเราก็ต้องเปิดใจ
00:07:06 → 00:07:09 มองเห็นมันก่อนเนาะเราไม่เปิดใจมองเห็นนะ
00:07:09 → 00:07:12 คะอย่างที่บอกเอาแค่ว่าช่วงไหนเนี่ยเรา
00:07:12 → 00:07:15 เริ่มรู้สึกตัวเราก็กลับมามองตัวเองข้าง
00:07:15 → 00:07:19 ในนะคะอันที่สองนะคะก็คือตั้งใจนี้ตั้งใจ
00:07:19 → 00:07:21 แม้ว่าเราอาจจะมี
00:07:21 → 00:07:24 ไดอารี่ checklist ของเราน่าอยู่เช่นใน
00:07:24 → 00:07:28 ทุกๆวันเนี่ยในช่วงแรกที่เหมาะฝึกไงหนูก็
00:07:28 → 00:07:31 จะถามตัวเองว่าเห้ยวันนี้เนี่ยอะไรที่ฉัน
00:07:31 → 00:07:34 ทำได้ดีเอาซัก 3 อย่างก็พอนะอะไรที่ฉัน
00:07:34 → 00:07:37 รู้สึกว่าฉันอยากจะตกลงตัวเองเราถึงอย่าง
00:07:37 → 00:07:41 ก็พอนะนะคะทบทวนอย่างนี้ค่ะทุกวันหรือวัน
00:07:41 → 00:07:44 นี้เนี่ยเอ่อ
00:07:44 → 00:07:47 ถ้าฉันมีความขัดแย้งยังไงอารมณ์ของฉันมี
00:07:48 → 00:07:51 ความขัดแย้งกับความคิดยังไงบ้างอะไรอย่าง
00:07:51 → 00:07:56 นี้ค่ะนั้นน้องๆก็ก็อาจจะลองตั้งใจนะคะ
00:07:56 → 00:07:59 ลองทบทวนตัวเองสั้นๆนิดๆในแต่ละวันโดย
00:07:59 → 00:08:03 เฉพาะก่อนเข้านอนดีมากเลยนะต่อมานะคะเรา
00:08:03 → 00:08:08 อาจจะเรียนรู้ตัวเองผ่านการสะท้อนของคน
00:08:08 → 00:08:11 อื่นบ้างก็ได้นะแต่คนคนนั้นเนี่ยต้อง
00:08:11 → 00:08:14 เลือกหน่อยนะว่าก็ต้องเป็นคนที่
00:08:14 → 00:08:18 ไว้วางใจปรารถนาดีกับเราที่สำคัญเขามี
00:08:19 → 00:08:22 ทักษะในการสื่อสารมากพอที่จะทำให้เราไม่
00:08:22 → 00:08:25 เจ็บปวดมากนะคะถ้าเกิดหาไม่ได้ไม่เป็นไร
00:08:25 → 00:08:29 นะแต่ถ้าเกิดว่าตอนนี้เนี่ยใครที่อะมี
00:08:29 → 00:08:32 เพื่อนข้างใกล้ดีอยู่คนในครอบครัวนะคะที่
00:08:32 → 00:08:35 สื่อสารกันได้มองเห็นบางอย่างนี้ตัวเรา
00:08:35 → 00:08:37 ได้เราอาจจะ
00:08:37 → 00:08:42 ติดตั้งใจมีกินน่อ of to จูนะคะนั่นก็
00:08:42 → 00:08:46 คือการที่เราอาจจะลองทานอาหารด้วยกันนะ
00:08:46 → 00:08:51 แล้วเราก็พูดคุยกันด้วยคุณภาพแล้วก็ลอง
00:08:51 → 00:08:53 ให้เขาสะท้อนนะคะว่า
00:08:53 → 00:08:58 เห็นว่าเราเป็นยังไงนะคะมีอะไรที่เราควร
00:08:58 → 00:09:01 จะปรับปรุงตัวเองไหมมีอะไรที่เขารู้สึก
00:09:01 → 00:09:05 เป็นห่วงมีตัวเรามั้ยนะคะที่สำคัญเนี่ยก็
00:09:05 → 00:09:08 ต้องเปิดใจรับฟังนะแต่ถ้าเกิดไม่คล้อมข้อ
00:09:08 → 00:09:12 นี้อาจจะยังไม่ทำก็ได้นะคะ
00:09:12 → 00:09:14 ติดลบเพราะอะไรกันเข้าใจตัวเองเนี่ยมัน
00:09:14 → 00:09:18 ถึงสำคัญนะคะกับชีวิตที่บอกว่าถ้าเรา
00:09:18 → 00:09:21 ต้องการประสบความสำเร็จเราต้องการจะมี
00:09:21 → 00:09:22 ความสุข
00:09:22 → 00:09:27 ก็ต้องบอกว่าสำคัญมากๆเลยเอาเป็นว่าใน
00:09:27 → 00:09:29 องค์ประกอบของความสำเร็จเนี่ยนะพี่หมอจะ
00:09:29 → 00:09:31 บอกให้ว่าองค์ประกอบของความสำเร็จเนี่ย
00:09:32 → 00:09:35 แน่นอนเราสำเร็จคนเดียวได้ใช่ไหมเราก็
00:09:35 → 00:09:38 ต้องมีคนอื่นด้วยใช่ไหมคะเราทำงานเราก็
00:09:38 → 00:09:40 ต้องมีเพื่อนร่วมนะแม่ข้างโรงเรียนเราก็
00:09:40 → 00:09:43 มีเพื่อนร่วมห้องเพื่อนร่วมชั้นใช่ไหมคะ
00:09:43 → 00:09:48 เราก็ต้องมีเรื่องของนานแล้วทำงานอะไรเรา
00:09:48 → 00:09:51 ทำงานอย่างไรเราประสบความสำเร็จกับงาน
00:09:51 → 00:09:53 นั้นได้แค่ไหนมีเรื่องของสังคมสิ่งแวด
00:09:53 → 00:09:57 ล้อมแน่นอนทั้ง 4 อย่างเนาะคือตัวเราคน
00:09:57 → 00:10:00 อื่นแล้วก็งานแล้วก็สังคมสิ่งแวดล้อมสิ่ง
00:10:00 → 00:10:04 เหล่านี้คือองค์ประกอบของความสำเร็จค่ะ
00:10:04 → 00:10:08 แต่โดยส่วนใหญ่ผู้คนจะโฟกัสกันตรงไหนคะ
00:10:08 → 00:10:11 เขาก็จะโฟกัสกันที่คนอื่นบ้างใช่ไหมอย่าง
00:10:11 → 00:10:14 ที่บอกแต่พอเราบางทีเนี่ยเราไม่มีทักษะใน
00:10:14 → 00:10:16 การสะท้อนตัวเองและอาจจะมองเห็นตัวเองยาก
00:10:16 → 00:10:19 แล้วก็ไม่ผิดหรอกนะคะงั้นเราอาจจะใช้เวลา
00:10:19 → 00:10:24 ในการที่เราให้ความสำคัญกับคนอื่นการจัด
00:10:24 → 00:10:27 การคนอื่นซึ่งถามว่าถ้าเราไม่มีความสุขนะ
00:10:27 → 00:10:31 เราอยู่กับใครแล้วก็ไม่มีความสุขทุกนะคะ
00:10:31 → 00:10:35 เราไม่มีความสุขนะเราทำงานอะไรเราก็ไม่มี
00:10:35 → 00:10:39 ความสุขถ้าเราไม่มีความสุขเราอยู่ที่ไหน
00:10:39 → 00:10:43 เราก็ไม่มีความสุขดังนั้นการเข้าใจตัวเอง
00:10:43 → 00:10:47 และการจัดการและก็บริหารตัวเองได้มันก็
00:10:47 → 00:10:52 เลยเรียกว่ามีเปอร์เซ็นต์นะคะต่อความสุข
00:10:52 → 00:10:56 และความสำเร็จอย่างมากๆในชีวิตค่ะ
00:10:56 → 00:11:00 ตอนนี้น้องๆเคยรู้สึกไหมคะว่าเอ๊ะพอเรา
00:11:00 → 00:11:03 อยากจะเข้าใจตัวเองเนี่ยแต่บางครั้งเราก็
00:11:03 → 00:11:05 สบสนนะตกลงเราเป็นคนยังไงกันแน่แล้วเป็น
00:11:05 → 00:11:09 คนคิดมากเราเป็นคนคิดน้อยเราเป็นคนใจร้อน
00:11:09 → 00:11:13 เราเป็นคนใจเย็นนะคะเอ่อเราเป็นคนใจดี
00:11:13 → 00:11:17 หรือเราเป็นคนเห็นแก่ตัวนะคะอ่ะถ้ามันไป
00:11:17 → 00:11:19 ได้ทั้งนั้นนะคะเพราะว่าจริงๆตัวเราเนี่ย
00:11:19 → 00:11:22 มีหลายมิตินะนั้นเดี๋ยวพี่หมอถอดรหัสมา
00:11:22 → 00:11:26 ให้นะคะนั้นกลมเนี่ยนะจริงๆก็คือตัวเรา
00:11:26 → 00:11:28 มันจักรวาลเลยใช่ไหมนะประกอบด้วยอะไรบ้าง
00:11:28 → 00:11:31 มิติของเราเนี่ยมันก็ประกอบไปด้วยเรื่อง
00:11:31 → 00:11:34 ของเร็วเซลล์ค่ะเร็ว Self นั่นคือความ
00:11:34 → 00:11:37 จริงที่เราเป็นเนอะแล้วเกิดมาเป็นใครคะ
00:11:37 → 00:11:41 เราเกิดมาเป็นลูกของคุณพ่ออะไรคุณแม่ลาย
00:11:41 → 00:11:45 เราเกิดในประเทศอะไรแล้วเกิดในจังหวัด
00:11:45 → 00:11:49 อะไรทั้งหมดเนี่ยมีผลต่อตัวเราทั้งนั้น
00:11:49 → 00:11:53 ต่อประสบการณ์เราทั้งนั้นใช่ไหมคะต่อมานะ
00:11:53 → 00:11:55 คะก็คือเดียวเซลล์ ideal Self เนี่ยก็
00:11:55 → 00:11:59 คือสิ่งที่เราคิดฝันค่ะเป็นภาพฝันว่าเรา
00:11:59 → 00:12:02 อยากจะเป็นต้องบอกว่าถ้าเราใช้มาดีๆนะคะ
00:12:02 → 00:12:05 มันก็เป็นแรงบันดาลใจที่ได้น้องๆว่าคน
00:12:05 → 00:12:08 อยากจะเหมือนไอ้ตูนเราไม่จำเป็นต้องเป็น
00:12:08 → 00:12:11 เหมือนพี่ตูนเลยนะแต่เราสามารถมาใช้แรง
00:12:11 → 00:12:14 บันดาลใจในการที่เค้าหน่ะทำดีได้ใช้
00:12:14 → 00:12:17 ศักยภาพตัวเองนะคะเผื่อแผ่และสังคมอย่าง
00:12:17 → 00:12:20 นี้ค่ะเราเช่นเป็นแรงบันดาลใจได้มีข้อพอ
00:12:20 → 00:12:24 ดีของไอเดียวแล้วนะงั้นถ้าเกิดว่าเราใช้
00:12:24 → 00:12:27 มันไม่ดีเนี่ยมันจะทำให้เราเกิดการเปรียบ
00:12:27 → 00:12:29 เทียบและเกิดความทุกข์จากการเปรียบเทียบ
00:12:29 → 00:12:33 มากๆได้นะคะไม่ต้องระวังให้ดีเนาะต่อมานะ
00:12:33 → 00:12:36 คะก็คือเรื่องของเซลล์ EMS EV เมตรนั่น
00:12:36 → 00:12:39 ก็คือว่าภาพที่เราอยากจะเป็น
00:12:39 → 00:12:42 ภาพที่เราอยากจะให้คนอื่นเขามองเรา
00:12:42 → 00:12:47 สังเกตว่าอย่างเวลาที่เราเนี่ยมีความรัก
00:12:47 → 00:12:49 นะตกหลุมรักแล้วเราอยากได้ความรักจากใคร
00:12:49 → 00:12:53 นะรู้อยากให้ใครบางคนเนี่ยเขาจะช่วยเหลือ
00:12:53 → 00:12:56 เรานะหรือทำประโยชน์ให้เราบางทีเราจะขาด
00:12:56 → 00:13:00 ความเป็นตัวเองไปนะคะแล้วเราก็จะมีผ้าที่
00:13:00 → 00:13:04 เราอยากให้เขาจำเรานะคะต่อมาเนี่ยก็คือ
00:13:04 → 00:13:08 เรื่องของ self-concept นะคะ self-concept
00:13:08 → 00:13:11 เนี่ยอันนี้ง่ายหน่อยมันเป็นสิ่งที่ตอบคำ
00:13:11 → 00:13:15 ถามง่ายเลยว่าถ้าเกิดมีคนถามเราว่าฉันคือ
00:13:15 → 00:13:19 ใครอ่ะแต่เราเลือกที่จะมองว่าตัวเองเป็น
00:13:19 → 00:13:22 ยังไงแล้วเจ้าข้อเสียบอย่างมันเป็นสิ่ง
00:13:22 → 00:13:25 ที่เราเลือกแล้วนะเราเลือกที่จะรับรู้
00:13:25 → 00:13:28 แล้วว่าเราจะจะบอกตัวเองแบบเนี้ยเราจะ
00:13:28 → 00:13:29 เป็นแบบนี้
00:13:29 → 00:13:33 แล้วก็ตัวสุดท้ายค่ะวงในสุดเรียกว่าเป็น
00:13:33 → 00:13:38 ความลึกลับนะของชีวิตและตัวเรานะคะซึ่ง
00:13:38 → 00:13:41 ต้องระวังให้ดีเหมือนกันนะคะบางทีเนี่ยนะ
00:13:41 → 00:13:45 คะเราอาจจะมีพฤติกรรมอะไรที่เกิดขึ้นโดย
00:13:45 → 00:13:49 อัตโนมัติไม่รู้ตัวเคยเป็นไหมบางทีแล้วทำ
00:13:49 → 00:13:54 ไปแล้วแหมมารู้สึกเสียใจทีหลังหรือมัน
00:13:54 → 00:13:57 ผ่านไปแล้วรู้สึกว่าให้ทำไมนี้ยังไม่ทำ
00:13:57 → 00:14:01 หรือบางทีมีคนมาทักเราว่าเออกูที่กดใครมา
00:14:01 → 00:14:05 หรอหรือเปล่าฉันไม่ได้โกรธอะไรเนี่ย
00:14:05 → 00:14:08 แต่คนอื่นเขาเห็นนะแต่เรากลับไม่เห็นตัว
00:14:08 → 00:14:11 เองนี่ล่ะค่ะอันนี้เนี่ยเรียกว่า Hit The
00:14:11 → 00:14:14 Self ค่ะต้องบอกว่าในระดับของที่ The
00:14:14 → 00:14:18 Self นะคะหรือว่าต่อตัวเราที่เราไม่ค่อย
00:14:18 → 00:14:22 รู้เนี่ยนะมันเป็นตัวเราที่อยู่ในระดับ
00:14:22 → 00:14:26 เรียกว่าจิตใต้สำนึกในคะซึ่งมันจะส่งผล
00:14:26 → 00:14:29 ต่อเอ่อหยิบพฤติกรรมนิสัยที่เป็น
00:14:29 → 00:14:32 อัตโนมัติมากพอสมควรทีเดียว
00:14:32 → 00:14:36 เขาบอกว่าถ้าเกิดว่าอื่นๆมันยากเกินไปนะ
00:14:36 → 00:14:40 แนะนำเลยแนะนำเลยว่าพอเราใช้ทักษะเรื่อง
00:14:40 → 00:14:44 เซลล์ airnet ในการมองตัวเองแล้วนะคะเรา
00:14:44 → 00:14:48 มาใช้ self-concept ค่ะในการเป็นไกด์ไลน์
00:14:48 → 00:14:50 ต้องบอกว่า self-concept เนี่ยมันเป็น
00:14:50 → 00:14:53 เหมือนไกลหลายๆนะที่น่าใช้มากเลยที่มัน
00:14:53 → 00:14:55 น่าใช้กว่าอะไรทั้งนั้นเพราะว่าเลยรู้ไหม
00:14:55 → 00:14:58 ก็อย่างที่บอกแหละเพราะเราเลือกแล้วว่า
00:14:58 → 00:15:01 เราจะมองตัวเองเป็นคนแบบนี้นั้นเราใช้
00:15:01 → 00:15:03 สิ่งที่เราเลือกแล้วล่ะค่ะว่าเราจะเป็นคน
00:15:03 → 00:15:07 แบบนี้เราใช้ชีวิตแบบนี้แล้วต่อยอดค่ะต่อ
00:15:07 → 00:15:11 ยอดจากสิ่งที่เรารับรู้ไปสู่สิ่งที่เรา
00:15:11 → 00:15:13 ไม่รู้นะคะอ่ะ
00:15:13 → 00:15:16 ว่า self-concept เนี่ยนอกจากมันจะเป็น
00:15:16 → 00:15:23 การตอบคำถามว่าฉันคือใครนะคะ
00:15:23 → 00:15:27 We Are คำว่าคือใครเนี่ยมันยังหมายถึง
00:15:27 → 00:15:31 การที่เราได้ทบทวนตัวเองนะว่าในชีวิตนี้
00:15:31 → 00:15:35 นะคะที่เรารับรู้เนี่ยเราให้คุณค่ากับ
00:15:35 → 00:15:39 อะไรชีวิตนะคะแล้วการให้คุณค่านั้นเนี่ย
00:15:39 → 00:15:42 ส่วนใหญ่นะส่วนใหญ่มันก็จะส่งผลกับ
00:15:42 → 00:15:46 บุคลิกภาพของตัวเรานะคะอ่ะพี่หมอยกตัว
00:15:46 → 00:15:48 อย่างนะคะ
00:15:48 → 00:15:54 บางคนเนี่ยนะให้คุณค่าในชีวิตกับการท้ายๆ
00:15:54 → 00:16:00 กับการแข่งขันการท้าทายความเสี่ยงมีเงิน
00:16:00 → 00:16:04 ได้นะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยในบุคลิกแบบนี้
00:16:04 → 00:16:07 เขาก็จะกล้าได้กล้าเสียใช่ไหมนะคะแล้วถ้า
00:16:07 → 00:16:10 เกิดว่าเขาเริ่มต้นนะจากการที่มาลองทำ
00:16:10 → 00:16:14 ธุรกิจนะคะหรือ
00:16:14 → 00:16:17 ลองทัพที่ถูกกฎหมายนะอาจจะมีความเสี่ยงนะ
00:16:17 → 00:16:22 คะแต่รองรับได้นะคะแล้วเนี่ยมีบุคลิกแบบ
00:16:22 → 00:16:25 นี้เนี่ยอ่ะมีการเริ่มต้นงานในสายธุรกิจ
00:16:25 → 00:16:30 ก็อาจจะเหมาะใช่ไหมคะแต่ว่าอย่างเช่นบาง
00:16:30 → 00:16:35 คนเนี่ยคือชอบความสนุกสนานมากกว่าชอบ
00:16:35 → 00:16:38 อิสระมากกว่าชอบที่จะคิดนู่นคิดนี่มีความ
00:16:38 → 00:16:42 คิดสร้างสรรค์อยู่นิ่งไม่ได้นะคะไม่ชอบ
00:16:42 → 00:16:45 การมีกรอบนั้นลักษณะแบบนี้เนี่ยถ้าจะ
00:16:45 → 00:16:49 เริ่มต้นทำงานเริ่มต้นอะไรไม่ถูกใจมากดี
00:16:49 → 00:16:53 คะเดี๋ยวนี้ลักษณะงานก็อาจจะเป็นพิธีได้
00:16:53 → 00:16:57 มั้ยเนาะนะคะการทำงานศิลปะได้ไหมการเป็น
00:16:57 → 00:17:00 เอ่อ
00:17:00 → 00:17:03 ถ้าเจ้านายตัวเองทำ Digital Marketing
00:17:03 → 00:17:08 ได้ไหมนะคะอันนี้เกาะแล้วแต่ในค่ะงั้นอัน
00:17:08 → 00:17:11 นี้ก็คือว่าเป็นลักษณะงานที่อาจจะเหมาะ
00:17:11 → 00:17:15 กับบุคลิกภาพของเรานั้นคิดดูนะถ้ารัก
00:17:15 → 00:17:19 อิสระขณะนี้แล้วไปทำงานประจำที่มันมีกฎ
00:17:19 → 00:17:21 ระเบียบ
00:17:21 → 00:17:26 เป๊ะๆนะคะมันก็อาจจะอึดอัดใช่ไหมแต่ว่า
00:17:26 → 00:17:29 ไม่ได้หมายความว่าไม่น่าลองนะจะลองก็ได้
00:17:29 → 00:17:35 นะคะบางคนบางคนให้คุณค่ากับการที่ได้ช่วย
00:17:35 → 00:17:39 เหลือผู้คนการที่ได้เทคแคร์เธอจะมา
00:17:39 → 00:17:43 บุคลิกภาพของเพื่อนๆที่แหมเพื่อนยังไม่
00:17:43 → 00:17:46 ได้พูดอะไรเลยเนี่ยน้ำถึงเข้าถึงซะแล้ว
00:17:46 → 00:17:48 มนุษย์คนบุคลิกภาพอย่างนี้ก็จะมีความสุข
00:17:49 → 00:17:53 กันเลยคะการดิได้ทำงานที่เทคแคร์ใช่ไหมคะ
00:17:53 → 00:17:54 เขาเนี่ย
00:17:54 → 00:17:57 เขาเรียกว่าไม่ต้องสอนเรื่องของงานบริการ
00:17:57 → 00:18:00 อะไรมากมายเลยนะเพราะการบริการเนี่ยมัน
00:18:00 → 00:18:03 แทบจะออกมาเป็นอัตโนมัติอยู่แล้วใช่ไหมคะ
00:18:03 → 00:18:08 ต่อมานะคะหรือว่าบางคนนะของคนคนเนี่ยให้
00:18:08 → 00:18:12 คุณค่ากับความปลอดภัยมากๆความถูกต้องปลอด
00:18:12 → 00:18:16 ภัยช้าไม่ว่าแต่ผิดไม่ได้
00:18:16 → 00:18:19 อันเนี้ยกลุ่มนี้เนี่ยเขาก็ชอบความมั่นคง
00:18:19 → 00:18:23 ใช่ไหมคะมันกันมาทำงานประจำหรืออาจจะอยู่
00:18:23 → 00:18:28 ในหน่วยงานหรือองค์กรที่มีความเคร่งครัด
00:18:28 → 00:18:31 หน่อยหรือทำงานที่นิดหน่อยอย่างเช่นการ
00:18:31 → 00:18:35 เป็น QC อะไรอย่างนี้ค่ะมันก็จะเหมาะกับ
00:18:35 → 00:18:39 การที่ได้ใช้ศักยภาพที่ตัวเองมีอยู่แล้ว
00:18:39 → 00:18:43 นะคะจะได้เพิ่มเติมเรื่องความรู้นิดหน่อย
00:18:43 → 00:18:46 เท่านั้นเองเพื่ออะไรเนี่ยในระหว่างเวลา
00:18:46 → 00:18:48 ทำงานแล้วก็จะรู้สึกว่าเราไม่ได้ฝืนตัว
00:18:48 → 00:18:53 เองจนเกินไปนะคะเรายังมีการใช้ศักยภาพของ
00:18:53 → 00:18:57 ตัวเองและเราก็สามารถที่จะต่อยอดได้ที่
00:18:57 → 00:19:00 มากขึ้นนั้นในคิดในมุมกลับกันนะคิดในมุม
00:19:00 → 00:19:06 กลับกันว่าถ้าเกิดว่าเป็นบุคลิกภาพที่แหม
00:19:06 → 00:19:11 เป็นคนที่กลัวนะคะตังค์ขี้กังวลแล้วกลัว
00:19:11 → 00:19:14 ในเรื่องของความเสี่ยงมากๆแต่ต้องไปทำ
00:19:14 → 00:19:17 ธุรกิจเฮ้ยก็คงจะเครียดมากเลยใช่ไหมคะ
00:19:17 → 00:19:21 งั้นอันนี้นะคะก็คือเป็นตัวอย่างหนึ่งนะ
00:19:21 → 00:19:26 คะที่เซลล์การที่เรามองเห็น Self Concept
00:19:26 → 00:19:30 ของเรานะคะใช้เซวาเรสในการมองเห็น Self
00:19:30 → 00:19:33 Concept ของเรานะคะแล้วเอาไปประยุกต์ใช้
00:19:33 → 00:19:36 กับสิ่งที่เราจะเลือกว่าเราจะทำอะไรเราจะ
00:19:36 → 00:19:39 เป็นอะไรมันก็จะเริ่มขึ้น
00:19:39 → 00:19:43 ตอนนี้นอกจากการที่เซลล์คอนเซปเนี่ยทำให้
00:19:43 → 00:19:47 เราบอกเห็นโลกของคุณค่าอีกอย่างนึงที่พี่
00:19:47 → 00:19:50 หมออย่าชวนให้เราทบทวนเนี่ยเรื่องของเจอ
00:19:50 → 00:19:53 คอนเซปนะนั่นก็คือเรื่องของ mind Set
00:19:53 → 00:19:55 ที่เรามีกับตัวเองคะ
00:19:55 → 00:19:59 อันนี้สำคัญมากๆเลยนะเมื่อกี้นี้เนี่ยมัน
00:19:59 → 00:20:01 อาจจะเป็นเรื่องของงานเรื่องของความ
00:20:01 → 00:20:05 สำเร็จที่น้องๆจะต่อยอดได้ง่ายแต่ว่าอัน
00:20:05 → 00:20:08 นี้มันเป็นเรื่องของความสุขเลยทีเดียวพี่
00:20:08 → 00:20:09 บ่เคย
00:20:09 → 00:20:15 ได้รับคำถามนึงนะคะบอกว่าคุณหมอครับเอ่อ
00:20:15 → 00:20:20 ถ้าพ่อผมเนี่ยเคยพูดว่าผมทำอะไรก็ไม่
00:20:20 → 00:20:24 สำเร็จหรอกหลังจากนั้นเนี่ยผมก็รู้สึกว่า
00:20:24 → 00:20:28 แล้วตัวเองทำอะไรก็คงไม่สำเร็จ
00:20:28 → 00:20:30 หมอเขาจะแก้ยังไงดี
00:20:30 → 00:20:34 อ่ะอันนี้เนี่ยคำถามนี้สะท้อนไรสะท้อนถึง
00:20:34 → 00:20:39 ใหม่เสร็จขาดสะท้อนถึงมุมมองของตัวเองที่
00:20:39 → 00:20:42 มีแต่ตัวเองอันนี้จะสังเกตนะคะเมื่อไหร่
00:20:42 → 00:20:46 ก็ตามที่เรามี My Set ต่อตัวเองที่ไม่ดี
00:20:46 → 00:20:47 อย่างเช่น
00:20:47 → 00:20:51 พอเสียงนะคะของคนเราข้างเข้ามาแบบนี้บอก
00:20:51 → 00:20:54 ว่าเธอทำอะไรก็ไม่สมเด็จหรอกแล้วเราก็
00:20:54 → 00:20:58 เลือกที่จะเชื่อมันจะด้วยสินะคะเราก็จะมี
00:20:58 → 00:20:59 กล้าทำอะไรเลย
00:20:59 → 00:21:02 รายการที่มีกล้าทำอะไรเราก็ไม่มีโอกาสได้
00:21:02 → 00:21:04 ใช้ศักยภาพตัวเองใช่ไหมคะแล้วเราก็ไม่
00:21:04 → 00:21:07 กล้าที่จะมองเห็นด้วยสุดท้ายเราก็เก็บ
00:21:07 → 00:21:12 ความรู้สึกของความมั่นใจในตัวเองไว้มี
00:21:12 → 00:21:16 อะไรผิดพลาดเราก็จะอ่อนไหวง่ายเราจะเศร้า
00:21:16 → 00:21:20 ได้ง่ายเราจะเคลียร์เป็นไงแต่ในขณะเดียว
00:21:20 → 00:21:24 กันนะกับคำคำเดียวกันเลยเธอทำอะไรก็ไม่มี
00:21:24 → 00:21:29 ทางสำเร็จหรอกแต่ถ้าเราเลือกนะคะที่จะมอง
00:21:29 → 00:21:33 ตัวเองว่าฉันมีศักยภาพและอยู่ฉันจะทำให้
00:21:33 → 00:21:35 ดู
00:21:35 → 00:21:38 มีแค่มุมเงี้ยเปลี่ยนแล้วนะนั่นหมายความ
00:21:38 → 00:21:42 ว่าเราจะมีพลังขึ้นมาเลยนะในการที่เราจะ
00:21:42 → 00:21:46 มีพิสูจน์นะว่าเราเนี่ยเป็นคนมีศักยภาพ
00:21:46 → 00:21:51 แล้วเราจะลุกมาใช้ศักยภาพนะคะของตัวเอง
00:21:51 → 00:21:53 ดังนั้น
00:21:53 → 00:21:57 มีการเริ่มต้นนะคะที่กระทบทวนตัวเองในวัน
00:21:57 → 00:22:01 นี้นะคะเรื่องของเซลล์คอนเซปพี่หมออยาก
00:22:01 → 00:22:05 ชวนให้ทบทวนในเรื่องของตอนนี้น้องๆให้คุณ
00:22:05 → 00:22:11 ค่าอะไรกับชีวิตนะคะน้องๆขนัดอะไรน้องๆ
00:22:11 → 00:22:12 ไม่ถนัดอะไร
00:22:12 → 00:22:16 ถ้ามีอะไรบ้างที่เราทำแล้วคนรอบข้างรู้
00:22:16 → 00:22:21 สึกชื่นชมแล้วมีอะไรบ้างที่เราทำแล้วมัก
00:22:21 → 00:22:27 จะได้รับคำเตือนเสมอค่ะและมุมมองที่เรามี
00:22:27 → 00:22:32 ต่อตัวเองในวันนี้เป็นอย่างไรคะถ้าเราพบ
00:22:32 → 00:22:35 ว่ามุมมองในวันนี้ที่เรามีต่อตัวเองเนี่ย
00:22:35 → 00:22:40 มันแหมช่างสรรคอนความมั่นใจในตัวเรานะคะ
00:22:40 → 00:22:45 ลองคิดในมุมกลับกันนะว่าเราจะมองตัวเองใน
00:22:45 → 00:22:50 แง่ดีได้อย่างไรนะคะเอาแล้วค่ะคราวนี้พอ
00:22:50 → 00:22:54 มองเห็นภาพไหมคะว่าเซลล์ว่าเนี่ยเป็นยัง
00:22:54 → 00:22:57 ไงให้ self-concept เป็นยังไงทบทวนอีก
00:22:57 → 00:23:00 ครั้งนะคะเซลล์เนี่ยนั่นก็คือดวงตาภายใน
00:23:00 → 00:23:03 ของเราเนาะที่เราเอาไว้มองตัวเองตามความ
00:23:03 → 00:23:06 เป็นจริงไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ความคิด
00:23:06 → 00:23:10 พฤติกรรมความต้องการคะโดยที่ไม่ตัดสินมัน
00:23:10 → 00:23:12 เป็นยังไงก็มองมันอย่างนั้นแหละนะคะคะ
00:23:12 → 00:23:15 แล้วก็มองมานี่เห็นถึง self-concept นะ
00:23:15 → 00:23:18 self-concept เนี่ยพี่หมอชวนให้ทวนนะ
00:23:18 → 00:23:22 เดี๋ยวเรื่องของในวันนี้เนี้ยน้องๆให้คุณ
00:23:22 → 00:23:26 ค่ากับอะไรนะคะแล้วอะไรที่มันเป็นสิ่งที่
00:23:26 → 00:23:32 เราถนัดและทำได้ดีนะคะต่อยอดจากนั้นค่ะ
00:23:32 → 00:23:35 แต่สิ่งที่ง่ายที่สุดและจะทำให้เรามีความ
00:23:35 → 00:23:39 สุขมั่นคงที่สุดนะคะนั่นก็คือการที่เรา
00:23:39 → 00:23:43 เปิดโอกาสให้ตัวเองค่ะได้ใช้จุดแข็งที่
00:23:43 → 00:23:47 เรามีได้ใช้ศักยภาพที่เรามีนะคะในการต่อ
00:23:47 → 00:23:52 ยอดชีวิตของเรานั้นเนี่ยเนี่ยก็ไม่ได้
00:23:52 → 00:23:56 หมายความว่าเราจะหลงลืมจุดด้อยไปนะคะแต่
00:23:56 → 00:24:01 การที่ใช้ช่วงเวลาของชีวิตในการถมจุดถอย
00:24:01 → 00:24:04 ของตัวเองเนี่ยที่เราคิดว่าเราจะใช้พลัง
00:24:04 → 00:24:07 งานชีวิตอย่างมหาศาลเลยค่ะแล้วผลลัพธ์ที่
00:24:07 → 00:24:10 ได้อาจจะไม่ได้ปุ่มกันมากนักแต่ในทางกลับ
00:24:10 → 00:24:15 กันนะคะถ้าน้องๆต่อยอดนะคะจากศักยภาพหรือ
00:24:15 → 00:24:19 จุดแข็งที่เรามีแล้วไม่หลงลืมว่าเราจะ
00:24:19 → 00:24:23 พัฒนาจุดด้อยของตัวเองอยู่เสมอเสมอนะคะ
00:24:23 → 00:24:26 ความสุขและความสำเร็จที่ร้องร้องได้รับ
00:24:26 → 00:24:30 รองว่ามันจะเป็นความสุขและความสำเร็จที่
00:24:30 → 00:24:33 มั่นคงและยังอยู่ที่สุดเลยค่ะแต่ถึงแม้
00:24:33 → 00:24:37 ว่ามันจะไม่ได้รวดเร็วนะแต่มันมาช้าๆแต่
00:24:37 → 00:24:42 มันจะงดงามกับชีวิตน้องๆจนวันสุดท้ายของ
00:24:42 → 00:24:46 ชีวิตเลยค่ะค่ะสำหรับใครนะคะที่มีคำถาม
00:24:46 → 00:24:51 อะไรนะคะเนี่ยเขาก็สามารถที่จะติดต่อนะคะ
00:24:51 → 00:24:54 หรือว่าทิ้งคำถามไว้ได้นะคะตามช่องทางการ
00:24:54 → 00:24:58 สื่อสารตามนี้นะนะคะเป็นกำลังใจให้กับ
00:24:58 → 00:25:03 น้องๆทุกคนนะคะขอให้น้องมีความสุขและเดิน
00:25:03 → 00:25:07 ไปถึงจุดหมายที่น้องๆมองไว้ถึงแม้ว่ามัน
00:25:07 → 00:25:10 จะไม่รวดเร็วแต่ขอให้มันเป็นจุดหมายที่
00:25:10 → 00:25:14 ยั่งยืนนะคะสำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ
00:25:14 → 00:25:16 ม.ค
00:25:16 → 00:25:24 [ปรบมือ]
00:25:24 → 00:25:30 [เพลง]