อาหารที่ผ่านการปรุงแต่งและถนอมอาหารมีอันตรายอย่างไร?

5 อาหารเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรังตลอดชีวิต | EP228

จากช่อง : Doctor Top


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:01 โรคเรื้อรังมีอะไรบ้าง

00:00:0100:00:05 ก็ไขมัน เบาหวาน ความดัน โรคไตนู่นนี่เยอะแยะ

00:00:0500:00:10 ถ้าท่านไม่อยากเป็นโรคนี้ ท่านจะต้องลดการทานอาหาร 5 อย่างนี้

00:00:1800:00:21 สวัสดีครับ ผมหมอท๊อป และนี่คือ DOCTORTOP Channel

00:00:2100:00:24 รายการสุขภาพที่ทั้งสนุกและมีสาระ

00:00:2500:00:28 วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง โรคเรื้อรัง

00:00:2800:00:29 โรคเรื้อรังมีอะไรบ้าง

00:00:2900:00:33 ก็ไขมัน เบาหวาน ความดัน โรคไตนู่นนี่เยอะแยะ

00:00:3300:00:38 ถ้าท่านไม่อยากเป็นโรคนี้ ท่านจะต้องลดการทานอาหาร 5 อย่างนี้

00:00:3800:00:43 เพียงแค่ลดไม่จำเป็นต้องงด มาดูกันว่าอาหาร 5 อย่างนี้มีอะไรบ้าง

00:00:4300:00:44 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share

00:00:4400:00:47 กด Subscribe และกดกระดิ่ง ขอบคุณครับ

00:00:4700:00:49 สำหรับท่านที่มีเวลาน้อย

00:00:4900:00:52 ผมขออนุญาตให้กระโดดไปที่ 3 นาทีสุดท้าย

00:00:5200:00:54 ผมสรุปได้เรียบร้อยแล้ว

00:00:5400:00:58 ส่วนท่านที่มีเวลา เราไปพร้อมๆ กันเลย

00:00:5900:01:03 สำหรับเรื่องของอาหารทั้ง 5 ชนิด

00:01:0300:01:06 ถ้าเกิดท่านทานอาหารทั้ง 5 ชนิดนี้เยอะเกินไป

00:01:0600:01:11 รับรองโรคต่างๆ จะถามหาท่านแบบเพียบมากๆ

00:01:1100:01:16 ไม่ว่าจะเป็นไขมัน ความดัน เบาหวาน โรคไต ไตวาย ไตวายเรื้อรัง

00:01:1600:01:18 อาจจะต้องฟอกไตตลอดชีวิต

00:01:1800:01:21 เยอะมากๆ เลย มาดูกันว่าอาหาร 5 ชนิดนี้มีอะไรบ้าง

00:01:2100:01:26 อาหารชนิดแรก นั่นก็คือแป้งและน้ำตาลนั่นเอง

00:01:2600:01:28 ฟังดูมันอาจจะแบบก็รู้อยู่แล้ว

00:01:2800:01:32 แต่ถามบอกว่าให้เรารู้ในรายละเอียดจริงหรือเปล่า

00:01:3200:01:35 แป้งและน้ำตาล จริงๆ แล้วมันก็คือกลุ่มคาร์โบไฮเดรตนั่นเอง

00:01:3500:01:40 และคาร์โบไฮเดรตนั้นมีส่วนสำคัญในการที่นำไปหล่อเลี้ยงสมอง

00:01:4000:01:45 ทำให้ร่างกายเราสดชื่นมีแรงมากขึ้น ทำให้ออกกำลังกายได้มากขึ้น

00:01:4500:01:49 เขาไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย เพียงแต่ว่าการทานเขาแบบผิดวิธี

00:01:4900:01:51 นั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายต่างหาก

00:01:5100:01:54 หมายความว่ายังไง หมายความว่าแป้งและน้ำตาลในปัจจุบัน

00:01:5400:02:00 ได้ผ่านกระบวนการต่างๆ ทำให้มันห่างไกลจากความเป็นธรรมชาติของมันมาก

00:02:0000:02:04 คือแต่ก่อนมันอาจจะมีสีสันไม่สวยงาม เขาก็เอามาขัดเอามานู่นนี่

00:02:0400:02:09 เอามาให้มันสีขาว สวย นุ่ม น่าทาน เช่น ข้าวขาว เป็นต้น

00:02:0900:02:11 หรือว่าน้ำตาลทรายขาว เป็นต้น

00:02:1100:02:14 ถามว่าทานได้ไหม ได้ แต่ว่าอย่ามากเกินไป

00:02:1400:02:17 พวกนี้เวลาสะสมในร่างกายนานๆ แล้ว

00:02:1700:02:21 มันจะทำให้เราเป็นโรคต่างๆ มากมาย เช่น โรคเบาหวาน

00:02:2100:02:24 ถามว่าทำไมมันถึงให้เป็นโรคเบาหวาน น้ำตาล

00:02:2400:02:28 น้ำตาลเวลาทานเข้าไปมากๆ โดยเฉพาะน้ำตาลพวกกลุ่มขัดสีต่างๆ พวกนี้

00:02:2800:02:32 พวกสีขาวๆ สวยๆ จะทำให้น้ำตาลในเลือดออกพุ่งสูงเร็วมาก

00:02:3200:02:34 แตกต่างจากน้ำตาลที่ไม่ขัดสี

00:02:3400:02:37 หรือว่าข้าวที่เป็นพวกข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอรี่

00:02:3700:02:40 พวกนี้น้ำตาลจะไม่ขึ้นเร็ว พอน้ำตาลขึ้นเร็วเกิดอะไรขึ้น

00:02:4000:02:46 ตับอ่อนบอกว่าน้ำตาลขึ้นเร็ว สร้างอินซูลินมาเต็มที่เลยมาสู้กับน้ำตาล

00:02:4600:02:48 ไม่ให้น้ำตาลในเลือดสูงจนเกินไป

00:02:4800:02:52 สิ่งที่เกิดขึ้นมาคือตับอ่อนทำงานแบบนี้ไปเรื่อยๆ

00:02:5200:02:57 นานเข้าๆ ตับอ่อนหมดแรง ตับอ่อนเสื่อมสภาพกลายเป็นเบาหวาน

00:02:5700:03:02 น้ำตาลที่เราทานเข้าไปสะสมในร่างกาย สะสมกลายเป็นนู่นนี่นั่น

00:03:0200:03:06 มีความอ้วนเกิดขึ้น ความดันไขมันสูง

00:03:0600:03:08 แบบนี้ทำให้เราเสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง

00:03:0800:03:13 หัวใจ โรคหลอดเลือดสมองตีบ โรคไตวายเรื้อรัง

00:03:1300:03:18 เพราะฉะนั้นแล้วเพียงแค่ท่านลดอาหาร หรือว่าเลือกคาร์โบไฮเดรต

00:03:1800:03:20 หรือน้ำตาลให้ถูกต้อง

00:03:2000:03:23 ปริมาณที่แนะนำของน้ำตาลต่อวันคือ

00:03:2300:03:29 ไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน แปลว่าถ้าท่านทาน 3 มื้อ มื้อละ 2 ช้อนชา

00:03:2900:03:33 ถ้าท่านทานวันละ 2 มื้อ มื้อละ 3 ช้อนชา ไม่เกินนี้

00:03:3300:03:38 ถ้าท่านทานชานมไข่มุกได้อาทิตย์ละ 1-2 แก้ว

00:03:3800:03:39 แล้วแทบไม่ต้องเติมน้ำตาลเลย

00:03:3900:03:45 เพราะว่าชานมไข่มุกแก้วนึง บางแก้วมีน้ำตาล 10-15 ช้อนชานั่นเอง

00:03:4500:03:51 มาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 2 บ้าง ที่จะทำให้ท่านเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรัง

00:03:5100:03:54 หรืออาจจะทำให้ท่านเสียชีวิตในระยะยาวได้เลย

00:03:5400:03:57 นั่นก็คือน้ำตาลเทียมนั่นเอง

00:03:5700:04:01 ตัวน้ำตาลเทียมแล้วจริงๆ เขาก็ไม่ได้ให้แคลอรี่อะไร

00:04:0100:04:04 คือท่านกินเป็นกระสอบ ท่านก็ไม่อ้วนขึ้น

00:04:0400:04:08 หมายถึงว่าน้ำหนักไม่ขึ้นจากแคลอรี่ แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นคืออะไร

00:04:0800:04:12 ตัวน้ำตาลเทียมนี้ก็ยังสามารถที่จะกระตุ้นให้ตัวตับอ่อนสร้างอินซูลิน

00:04:1200:04:17 เพราะว่าความหวานที่เกิดขึ้นในร่างกายที่เรารับรู้ไป

00:04:1700:04:18 มันก็กระตุ้นให้ตับอ่อนทำงาน

00:04:1900:04:21 พอตับอ่อนทำงานมากๆ ก็กลายเป็นตับอ่อนเสื่อม

00:04:2100:04:23 มีโอกาสเป็นเบาหวานเหมือนกัน

00:04:2300:04:26 และตัวน้ำตาลเทียมนี้จะทำให้เราติดหวาน

00:04:2600:04:28 หมายความว่าเราต้องกินอาหารหวานตลอด

00:04:2800:04:32 พอเราเลิกทานน้ำตาลเทียม เราทานอาหารอย่างอื่น

00:04:3200:04:35 อาหารอย่างอื่นมันไม่หวาน เราก็เติมน้ำตาล เติมนู่นเป็นนี่เติมนั่น

00:04:3500:04:38 ยิ่งหนักกว่าเดิม ยิ่งอ้วนขึ้นกว่าเดิม

00:04:3800:04:41 ทำให้เราอยากอาหารหวานมากกว่าเดิม

00:04:4100:04:43 คุณน้ำหนักก็ไม่ได้ เบาหวานก็ถามหา

00:04:4300:04:45 ไขมันก็ถามหา ความดันก็ถามหา

00:04:4500:04:48 ไตวายก็ถามหา เพราะฉะนั้นเรามัดระวัง

00:04:4800:04:51 กินได้นิดหน่อย แต่อย่ามากจนเกินไป

00:04:5100:05:00 มาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 3 ที่จะทำให้ท่านเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ

00:05:0000:05:05 จนถึงแก่ชีวิตได้นั้นนั่นก็คืออาหารที่ผ่านการปรุงแต่ง

00:05:0500:05:10 ใส่สารเติมแต่ง ใส่สารสังเคราะห์ และผ่านการถนอมอาหารเยอะๆ

00:05:1000:05:12 ให้คิดง่ายๆ ว่าในแต่ก่อน

00:05:1200:05:16 ในอดีตเลยแล้วกัน 50 ปี 100 ปี

00:05:1600:05:19 เขาไม่มีหรอกเบาหวาน ความดัน ไขมัน เบาหวาน

00:05:1900:05:22 เพราะอะไร เพราะว่าเขาทานอาหารที่มาจากธรรมชาติ

00:05:2200:05:25 ไม่ผ่านการปรุงแต่ง ไม่ค่อยผ่านการสังเคราะห์

00:05:2500:05:32 สังเคราะห์เป็นรสอันนั้นรสอันนี้ รสมะนาว รสส้ม เต็มไปหมด

00:05:3200:05:35 เขาเรียกอะไร ผงรสหมู ผงรสไก่ ผงรสเนื้อ มีทุกผง

00:05:3500:05:39 แต่ว่าไม่ได้มาจากธรรมชาติ เป็นสารแต่งสี แต่งกลิ่นสังเคราะห์ต่างๆ

00:05:3900:05:41 หรือผ่านการถนอมอาหารต่างๆ

00:05:4100:05:45 เช่น ของที่หมักดองนานๆ จนเกินไป เป็นต้น

00:05:4500:05:50 ทานได้พวกนี้ไม่ได้ห้ามนะ เพียงแต่ว่าอยากทานมันทุกมื้อทุกวัน

00:05:5000:05:53 อาทิตย์นึงท่านจะทานสัก 2-3 มื้อ

00:05:5300:05:56 มันไม่ได้ซีเรียส มันไม่ได้ถึงกับจะเป็นจะตาย

00:05:5600:06:00 แต่ถ้าเกิดท่านทาน 7 วัน ท่านทานทั้ง 7 วันเลย

00:06:0000:06:02 ทานทุกมื้อเลย อย่างนี้มีปัญหาแน่นอน

00:06:0200:06:04 หรือว่าแต่งกินน้ำผลไม้ต่างๆ

00:06:0400:06:10 เช่น ผลไม้แต่งกินส้ม สับปะรด สตรอเบอรี่

00:06:1000:06:14 ในนั้นหวานก็หวาน แถมยังมีสารแต่งกลิ่นมากมาย

00:06:1400:06:18 เพราะฉะนั้นมันอันตรายมากเลย เบาหวานก็ถามหา ไขมันก็ถามหา

00:06:1800:06:21 เพียบ ไตวายก็ถามหา มะเร็งยังถามหาเลย

00:06:2100:06:23 เพราะว่าไม่มีสารแต่งอะไรต่างๆ มากมาย

00:06:2300:06:26 เพราะฉะนั้นระมัดระวังสำหรับอาหารตัวที่ 3 นี้

00:06:2600:06:29 ก็คือเรื่องของการปรุงแต่ง สังเคราะห์ต่างๆ

00:06:2900:06:32 ลองดูดิมีการปรุงแต่งสีแปลกๆ หรือเปล่า

00:06:3200:06:37 หรือว่ามีการถนอมอาหารที่มันแบบนานจนเกินไป ก็อย่าไปกินมากนะ

00:06:3700:06:39 อาหารแช่แข็ง อาหารฟรีซ การถนอมอาหาร

00:06:3900:06:42 พวกแฮม ไส้กรอก เบคอน นานๆ ที

00:06:4200:06:44 ไม่ห้าม แต่ลดลงน้อยหน่อย

00:06:4400:06:49 มาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 4 นั่นก็คืออาหารที่มีไขมันไม่ดีนั่นเอง

00:06:4900:06:52 ไขมันจริงๆ แล้วจำเป็นกับร่างกายมนุษย์มากนะ

00:06:5200:06:55 ห้ามไม่ทานนะ ห้ามไม่ทานผมเน้นตรงนี้เลย

00:06:5500:06:59 คนเราควรจะทานไขมัน 1 กรัม ต่อ 1 กิโลของเรา

00:06:5900:07:03 เช่น หนัก 50 ก็ควรทานไขมัน 50 กรัมต่อวัน

00:07:0300:07:07 น้อยไปกว่านี้ผิวหนังท่านจะไม่ชุ่มชื้น เล็บแตกง่าย

00:07:0700:07:09 วิตามินดูดซึมไม่ได้ โรคเพียบ

00:07:0900:07:14 เพียงแต่ว่าไม่ใช่ท่านไปกินไขมัน เช่น ไก่ทอดหนังกรอบ

00:07:1400:07:17 ลอกหนังกินหนังอย่างเดียว หมูสามชั้นอย่างนี้

00:07:1800:07:21 ไข่เจียวแบบน้ำมันท่วมอย่างนี้ไม่ได้

00:07:2100:07:25 น้ำมันแบบนี้อันตราย ทำให้สารอนุมูลอิสระในร่างกายเราสูงมาก

00:07:2500:07:28 แล้วก็ทำให้เราแก่เร็วด้วยนะ เยอะแยะไปหมดเลย

00:07:2800:07:30 แล้วยังไม่พอ ทำให้เกิดโรคสะสมต่างๆ

00:07:3000:07:35 โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ส่งผลไปให้เกิดอัมพฤกษ์อัมพาต

00:07:3500:07:38 หัวใจขาดเลือด ไตวายเรื้อรัง เพียบ

00:07:3800:07:43 ไขมันดี ควรกินไขมันดีมีอะไรบ้างก็เช่น ไขมันจากพวกปลา

00:07:4300:07:47 ปลาทะเลลึกๆ จะเป็นปลาทู ปลาแซลมอน ปลาแล้วก็เอาเหอะ

00:07:4700:07:51 จากถั่วต่างๆ ถั่วลิสง ถั่ววอลนัท ถั่วอัลมอนด์ ได้หมด

00:07:5100:07:54 พวกพืชผัก เช่น อะโวคาโด ไขมันดีผมชอบทานมาก

00:07:5400:07:57 ก็ลองทานได้จะเป็นของเมืองนอกของไทยก็ราคาไม่แพง

00:07:5700:08:00 ทานได้มีประโยชน์เหมือนกันเอาที่ชอบ

00:08:0000:08:02 แล้วมาต่ออาหารกลุ่มสุดท้าย อาหารกลุ่มที่ 5

00:08:0200:08:06 นั่นก็คืออาหารที่มีความเค็มที่มากกว่านั่นเอง

00:08:0600:08:09 อาหารที่มีความเค็มที่มากไปค่อนข้างที่จะอันตรายมากๆ เลย

00:08:0900:08:12 เพราะว่าความเค็มนี่นำไปสู่อะไร

00:08:1200:08:15 นำไปสู่โรคไตวายเรื้อรัง ความดันโลหิตสูงเรื้อรัง

00:08:1500:08:16 แล้วเวลาเราทานอาหารเค็มมากๆ

00:08:1600:08:19 เรามักจะทานพวกคาร์โบไฮเดรตตามเข้าไปเยอะ

00:08:1900:08:22 เช่น พวกใส่พริกน้ำปลาเยอะๆ แล้วก็กินข้าวเยอะๆ

00:08:2200:08:24 น้ำพริกที่มีความเค็มมากๆ เราก็กินข้าวไปเยอะ

00:08:2400:08:28 มันก็ยิ่งควบคุมน้ำหนักไม่ได้ คาร์โบไฮเดรตสูง เบาหวานก็ขึ้น

00:08:2800:08:33 เพราะฉะนั้นความเค็มมันสอดแทรกความอันตรายอย่างรุนแรงเลย

00:08:3300:08:36 แล้วก็ในปัจจุบันในการที่เขาเรียกว่าเก็บข้อมูล

00:08:3600:08:40 พบว่าคนไทยกินเค็มมากกว่าที่แนะนำ 2 เท่าต่อวัน

00:08:4000:08:44 ก็คือเราแนะนำประมาณความเค็มไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน

00:08:4400:08:47 หรือเกลือไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน

00:08:4700:08:50 แต่คนไทยกินประมาณเกือบประมาณ 12 ช้อนชาต่อวัน

00:08:5000:08:52 ซึ่งถือว่าเยอะมากๆ และอันตรายมากๆ

00:08:5200:08:56 เพราะฉะนั้นแล้วถ้าท่านอยากห่างไกลการฟอกไตเรื้อรัง

00:08:5600:08:59 ความดันโลหิตสูงเรื้อรัง เป็นเบาหวาน เป็นความดัน

00:08:5900:09:03 เป็นอัมพาต เป็นอัมพฤกษ์ หัวใจขาดเลือดต่างๆ

00:09:0300:09:09 ให้ท่านลดเค็ม ไม่ได้ห้ามทาน ไม่ได้ต้องทานจืดสนิทชีวิตแย่

00:09:0900:09:12 แต่ให้ลดเค็มลงมา เดี๋ยวสักพักนึงลิ้นท่านจะปรับ

00:09:1200:09:16 รสปากที่ลิ้น มันจะรับลดความเค็มด้วยดีขึ้น

00:09:1600:09:19 เวลาท่านกลับไปกินเค็มมากๆ

00:09:1900:09:22 หลังจากที่ท่านคุมความเค็มแล้ว ท่านรู้สึกมันเค็มมากเกินไป

00:09:2200:09:24 นั่นแหละก็คือสัญญาณบ่งบอกว่า

00:09:2400:09:29 อนาคตน่าจะสุขภาพดีมีอายุยืนเป็นร้อยปี

00:09:2900:09:31 คราวนี้ผมขออนุญาตสรุป

00:09:3100:09:37 5 อาหารที่ควรลด ถ้าท่านไม่อยากเป็นโรคเรื้อรังไปตลอดชีวิต

00:09:3700:09:40 ถ้าท่านไม่อยากไตวายเรื้อรังต้องฟอกไตตลอดชีวิต

00:09:4000:09:42 ถ้าท่านไม่อยากเป็นโรคความดันสูงตลอดชีวิต

00:09:4200:09:44 ถ้าท่านไม่อยากเป็นโรคไขมันสูงตลอดชีวิต

00:09:4400:09:48 ถ้าท่านไม่อยากเป็นโรคเบาหวานตลอดชีวิต ไม่ต้องกินยาตลอดเวลา

00:09:4800:09:51 เพียงแค่ท่านลด 5 อย่างนี้ ชีวิตจะดีขึ้นมาก

00:09:5100:09:56 อย่างแรกนั่นก็คือแป้งและน้ำตาลที่ขัดสีขาวสวยงาม

00:09:5600:09:58 แป้งและน้ำตาลไม่ใช่ตัวร้าย

00:09:5800:10:02 การทานที่ผิดและไม่ถูกวิธีตั้งหากนั่นคือตัวร้าย

00:10:0200:10:05 แป้งและน้ำตาลสามารถที่จะให้พลังงานเรา

00:10:0500:10:07 ทำให้เราออกกำลังกายได้แข็งแรง

00:10:0700:10:10 ไปเลี้ยงสมอง ทำให้สมองสดใส คิดงานต่างๆ ได้ดี

00:10:1000:10:13 แต่ถ้าท่านทานมากไปมันจะเป็นโทษ

00:10:1300:10:17 และตัวที่เป็นโทษมากๆ ก็คือพวกข้าวขัดสีขาวจั๊วะ

00:10:1700:10:20 หรือว่าพวกน้ำตาลขัดสีขาวจั๊วะ

00:10:2000:10:24 ปริมาณที่ทานวันหนึ่งก็ไม่ควรที่จะมากเกินไปนัก

00:10:2400:10:28 อย่างเช่นน้ำตาล เราแนะนำให้ท่านทานไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา

00:10:2800:10:32 แปลว่าถ้าท่านทาน 3 มื้อ ก็ทานมื้อแรกเพียง 2 ช้อนชา

00:10:3200:10:36 ถ้าท่านทานชานมไข่มุกก็ไม่ต้องทานน้ำตาลเพิ่มเลย

00:10:3600:10:40 เพราะชานมไข่มุกแก้วนึง มีน้ำตาลบางที่ 10-15 ช้อนชา

00:10:4000:10:45 อันตรายมากๆ เอาว่าอาทิตย์นึงทานครั้ง 2 ครั้งแล้วกัน อย่าเกินนี้

00:10:4500:10:49 มาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 2 บ้าง นั่นก็คือน้ำตาลเทียม

00:10:4900:10:51 บางท่านคิดว่าฉันทานน้ำตาลเทียมก็ได้

00:10:5100:10:54 ไม่มีแคลอรี่ มันน่าจะสุขภาพสุดๆ

00:10:5400:10:57 มันถูกเพียงแค่ครึ่งเดียว นั่นก็คือมันไม่มีแคลอรี่

00:10:5700:11:01 แต่มันไม่ได้ทำให้ท่านผอม และมันไม่ได้ทำให้ท่านไม่เป็นเบาหวาน

00:11:0100:11:06 เพราะอะไร เพราะว่าน้ำตาลเทียมนี้จะทำให้น้ำตาลในเลือดของท่าน

00:11:0600:11:08 เขาเรียกว่าร่างกายติดรสหวาน

00:11:0800:11:11 พอติดรสหวาน ท่านไปทำอย่างอื่นมันไม่หวาน

00:11:1100:11:14 พอมันไม่หวานปุ๊บ ท่านก็จะไปหาของหวานๆ ทาน

00:11:1400:11:18 ไปทานผลไม้หวานๆ ไปทานขนมเค้กหวานๆ ไปทานเบเกอรี่หวานๆ

00:11:1800:11:22 เวลาทานก๋วยเตี๋ยวกินก็จืดไปหมด ต้องเติมน้ำตาลๆ

00:11:2200:11:28 สักพักนึงท่านติดหวาน แล้วก็กลายเป็นโรคเบาหวานได้อย่างง่ายๆ เลย

00:11:2800:11:30 นี่ก็คือความอันตรายของน้ำตาลเทียม

00:11:3000:11:31 ทานได้ไหม ได้แต่นิดหน่อย

00:11:3100:11:35 และต้องลดการทานหวานอย่างอื่นด้วย

00:11:3500:11:38 มาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 3 บ้าง

00:11:3800:11:42 นั่นก็คืออาหารที่ผ่านการปรุงแต่ง กลิ่นสี สังเคราะห์ต่างๆ

00:11:4200:11:49 และผ่านการถนอมอาหารมามากๆ เช่น ปรุงแต่งรส รสผลไม้ต่างๆ

00:11:4900:11:51 หรือว่าเป็นรสเนื้อสัตว์

00:11:5100:11:53 พวกสารปรุงแต่งพวกนี้เป็นสารสังเคราะห์ทั้งหมด

00:11:5300:11:56 อะไรที่สังเคราะห์ อะไรที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติ

00:11:5600:12:00 ให้คิดเลยว่ามีโอกาสมีผลต่อร่างกายของเรา

00:12:0000:12:01 ทำให้ร่างกายเราเสื่อมโทรม

00:12:0100:12:04 การถนอมอาหาร ไส้กรอก แฮม เบคอน ต่างๆ

00:12:0400:12:09 เป็นอาหารที่นานๆ ทานได้ แต่อย่าทานบ่อยไม่ค่อยดีต่อสุขภาพ

00:12:0900:12:13 มาต่ออาหารชนิดที่ 4 นั่นก็คืออาหารที่มีไขมันไม่ดีสูงๆ

00:12:1300:12:17 จริงๆ แล้วไขมันดีต่อสุขภาพมากและท่านต้องทาน

00:12:1800:12:21 ถามว่าต้องทานแค่ไหน ก็คือน้ำหนัก 50 กิโล

00:12:2100:12:24 ก็ทาน 50 กรัมต่อวัน น้ำหนัก 60 กิโลกรัม 60 กรัมต่อวัน

00:12:2400:12:29 ก็คือ 1 กรัมต่อกิโลกรัมนั่นเองง่ายๆ แต่ควรจะเลือกไขมันที่ดี

00:12:2900:12:32 ไขมันไม่ดีอะไร ก็เช่นที่มันอร่อยมากๆ เลย

00:12:3200:12:38 เช่น มันหมู ไข่เจียวที่แบบฟูๆ มีน้ำมันเยอะๆ

00:12:3800:12:45 หรือว่าพวกหมูสามชั้น หมูพะโล้ ขาหมู อย่างนี้ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่

00:12:4500:12:49 แต่ไขมันดีแนะนำมากๆ มีอยู่ในไหน ถั่วต่างๆ จะถั่วอะไรก็ได้

00:12:4900:12:52 ถั่วอัลมอนด์ ถั่วลิสง ถั่วนู่นถั่วนี่

00:12:5200:12:55 หรือพวกพืชผักต่างๆ เช่น อะโวคาโดต่างๆ ก็ได้

00:12:5500:12:59 หรือเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูงในกลุ่มพวกปลาทะเลต่างๆ

00:12:5900:13:02 เช่น ปลาแซลมอนก็ทานได้

00:13:0200:13:05 มาต่อกันที่อาหารกลุ่มที่ 5

00:13:0500:13:07 ที่จะทำให้ท่านเป็นโรคเรื้อรังตลอดชีวิตได้ง่ายๆ

00:13:0700:13:11 นั่นคืออาหารที่มีความเค็มที่มากเกินไป

00:13:1100:13:14 มากเกินไปแค่ไหน เอาง่ายๆ ว่าใน 1 วัน

00:13:1400:13:18 เราแนะนำให้ท่านทานเค็มไม่เกิน 1 ช้อนชา

00:13:1800:13:19 เกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา

00:13:1900:13:22 ถ้าเป็นซอสปรุงรสก็ประมาณสัก 2-3 ช้อนชา

00:13:2200:13:26 ก็ถือว่าเป็นการควบคุมความเค็มที่ดี แปลว่าอะไร

00:13:2600:13:29 แปลว่าโดยปกติแล้วถ้าท่านทาน 3 มื้อ

00:13:2900:13:33 ท่านก็เติมพวกน้ำตรงน้ำปลาได้มื้อละ 1 ช้อนชา

00:13:3300:13:37 ให้คิดง่ายๆ แค่นี้เลยแล้วกัน แต่ถ้าท่านปรุงรสมาในอาหารแล้ว

00:13:3700:13:39 แนะนำว่าอาจจะไม่ควรที่จะเติมเพิ่มเติมไปเลย

00:13:3900:13:42 เพราะว่ามันจะเค็มมาก และความเค็มทำให้เป็นไร

00:13:4200:13:46 เป็นโรคความดันโลหิตสูงเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักๆ ของไตวายเรื้อรัง

00:13:4600:13:49 ทำให้ต้องฟอกไตตลอดชีวิตนั่นเอง

00:13:4900:13:54 และนี่ก็คืออาหาร 5 อย่างที่แนะนำให้ลดลง

00:13:5400:13:58 ไม่ได้ห้าม ให้ลดลง ถ้าไม่อยากเป็นโรคเรื้อรังไปตลอดชีวิต

00:13:5800:14:00 ไม่อยากเป็นเบาหวาน ไม่อยากเป็นความดัน ไม่อยากเป็นไขมัน

00:14:0000:14:03 และไม่อยากฟอกไตตลอดชีวิต ต้องลดอาหาร 5 อย่างนี้

00:14:0300:14:05 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share

00:14:0500:14:08 กด Subscribe และกดกระดิ่ง ขอบคุณครับ