00:00:01 → 00:00:04 สวัสดีครับวันนี้ผมนายแพทย์ธนินิจ
00:00:04 → 00:00:06 อิรพันธ์นะครับจะมาเล่าให้ท่านฟังเกี่ยว
00:00:06 → 00:00:08 กับเรื่องของอาการปวดหลังนะครับอาการปวด
00:00:08 → 00:00:10 หลังเนี่ยส่วนใหญ่เนี่ยมักจะเริ่มมีอาการ
00:00:10 → 00:00:13 ปวดตั้งแต่บริเวณของชายโคงด้านหลังบางที
00:00:13 → 00:00:15 อาจจะมีอาการปวดบริเวณของบ้านเอวอาจจะมี
00:00:15 → 00:00:18 อาการปวดร้าวโรงเรียนของสะโพกแล้วก็ร้าว
00:00:18 → 00:00:21 ลงบริเวณของต้นขาลงน่องแล้วก็อาจจะมี
00:00:21 → 00:00:24 อาการชาตรงบริเวณของหลังเท้าร่วมด้วยนะ
00:00:24 → 00:00:27 ครับอาการปวดหลังเนี่ยเป็นได้ทุกเพศทุก
00:00:27 → 00:00:29 วัยนะครับส่วนใหญ่อาจจะเริ่มตั้งแต่ตอน
00:00:29 → 00:00:32 วัยรุ่นนะครับอายุประมาณสัก 20 กว่าปีจน
00:00:32 → 00:00:34 ถึงอายุประมาณ 60 70 80 ปีนี้เกิดอาการ
00:00:34 → 00:00:37 ปวดหลังได้ทั้งหมดซึ่งสาเหตุในแต่ละเพศ
00:00:38 → 00:00:41 แต่ละวัยก็มีความแตกต่างกันส่วนใหญ่ในวัย
00:00:41 → 00:00:44 เพศอ่าอายุประมาณสัก 20-30 ปีเนี่ยมักจะ
00:00:44 → 00:00:47 เกิดจากไปก้มยกของหนักและอาจจะทำให้ 1 มี
00:00:47 → 00:00:51 การฉี่ขาดของกล้ามเนื้ออันที่ 2 อาจจะมี
00:00:51 → 00:00:53 ทำให้มีการเคลื่อนของหมอนรองกระดูกแล้วไป
00:00:53 → 00:00:56 กดทับเส้นประสาทจึงทำให้มีอาการปวดชาล้า
00:00:56 → 00:00:59 ลงขาได้สำหรับในคนสูงอายุก็มักจะเกิดจาก
00:00:59 → 00:01:01 การเสื่อมกระบวนการเสื่อมของหมอนรอง
00:01:01 → 00:01:03 กระดูกนะครับเราลองมาดูที่เรื่องของหมอน
00:01:03 → 00:01:06 รองกระดูกกันนะครับในส่วนของหมอนรอง
00:01:06 → 00:01:08 กระดูกสันหลังเนี่ยอันที่ 1 ก็คือบริเวณ
00:01:08 → 00:01:11 ของอ่าหมอนรองกระดูกสันหลังตรงบริอันนี้
00:01:11 → 00:01:14 คือหมอนรองจะเป็นลักษณะของเจลนะครับซึ่ง
00:01:14 → 00:01:16 ปกติไอ้เจลตรงนี้จะทำหน้าที่ในการลดแรง
00:01:16 → 00:01:18 กระแทกต่างๆที่เกิดขึ้นกับบริเวณของ
00:01:18 → 00:01:21 กระดูกสันหลังนะครับอันนี้ส่วนที่ขาวๆนี่
00:01:21 → 00:01:23 คือกระดูกนะครับงั้นในเจลในส่วนของเจล
00:01:23 → 00:01:25 เนี่ยปกติเนี่ยจะเต็มไปด้วยน้ำนะฮะจะเต็ม
00:01:25 → 00:01:27 ไปด้วยน้ำทั้งหมดซึ่งน้ำตรงนี้จะให้ความ
00:01:28 → 00:01:30 สูงของกระดูกกระดูกสลังถามว่าหมอนรอง
00:01:30 → 00:01:32 กระดูกเสื่อมหมายความว่ายังไงหมายความว่า
00:01:32 → 00:01:34 เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
00:01:34 → 00:01:36 เนี่ยปริมาณน้ำของหมอนรองกระดูกนะฮะถ้า
00:01:36 → 00:01:38 เกิดว่าท่านเทียบกันดูเนี่ยปริมาณนะ
00:01:38 → 00:01:41 ปริมาณน้ำในของหมอนรองกระดูกตรงเนี้ยจะลด
00:01:41 → 00:01:43 ลงอันนี้มากอันนี้ปกติพออายุมากขึ้นมาก
00:01:43 → 00:01:45 ขึ้นเนี่ยปริมาณน้ำในหมอนรองกระดูกเนี่ย
00:01:45 → 00:01:48 จะค่อยๆลดตัวลงนะฮะพอลดลงเสร็จปุ๊บเนี่ย
00:01:48 → 00:01:51 มันก็มีการเสื่อมก็มีการอ่าทำให้เกิด
00:01:51 → 00:01:53 กล้ามเนื้อมันเกร็งตัวพยายามที่จะรักษา
00:01:53 → 00:01:55 สมดุลของร่างกายก็ทำให้มีการปวดหลังได้
00:01:56 → 00:01:58 นอกจากนั้นเนี่ยเมื่อมีการเคลื่อนมีการ
00:01:58 → 00:02:00 เสื่อมแล้วเนี่ยมันก็จะอาจจะทำให้มีการ
00:02:00 → 00:02:02 เคลื่อนตัวของหมอนรองกระดูกด้านในเนี่ย
00:02:02 → 00:02:05 ออกมาสู่เรทของด้านนอกซึ่งพอเคลื่อนออกมา
00:02:06 → 00:02:08 ด้านนอกแล้วเนี่ยมันก็จะมีการไปกดทับเส้น
00:02:08 → 00:02:10 ประสาทนะครับงั้นถ้าเกิดในวัยหนุ่มเนี่ย
00:02:10 → 00:02:13 ไปก้มยกของหนักมากๆพอก้มยกของหนักมากๆ
00:02:13 → 00:02:16 เสร็จปุ๊บเนี่ยหลังจากนั้นปุ๊บเนี่ยก็จะ
00:02:16 → 00:02:17 ทำให้มีการเคลื่อนไหวของหมอนรองกระดูกตัว
00:02:18 → 00:02:20 นี้เคลื่อนออกมาแล้วไปกดทับเส้นประสาทพอ
00:02:20 → 00:02:22 กดทับเส้นประสาทเส้นประสาทจะมีอาการบวม
00:02:22 → 00:02:24 ค่อนข้างจะเยอะพอเส้นประสาทมีการบวมก็จะ
00:02:24 → 00:02:27 ทำให้มีการปวดร้าวนะครับมีปวดร้าวลง
00:02:27 → 00:02:33 บริเวณของสะโพกต้นขาน่องรวมถึงมีอาการชา
00:02:33 → 00:02:37 ที่บริเวณของหลังเท้าหรือฝ่าเท้าร่วมด้วย
00:02:37 → 00:02:39 เวลาเส้นประสาทโดนกดนอกจากมีการปวด 1 ปวด
00:02:39 → 00:02:42 นะครับ 2 มีอาการชา 3 มีอาการปวดร้าวลง
00:02:42 → 00:02:45 ข่าแล้วเนี่ยก็อาจจะมีอาการอ่อนแรงร่วม
00:02:45 → 00:02:47 ด้วยถ้าเกิดเป็นมากๆเนี่ยในกลุ่มที่เป็น
00:02:47 → 00:02:52 มากๆคือกดจนทำให้เกิดมีการกดทับของบริเวณ
00:02:52 → 00:02:55 ประสาทเนี่ยอาจจะทำให้มีการอุจจาระ
00:02:55 → 00:02:57 ปัสสาวะลำบากซึ่งการอุจจาระปัสสาวะลำบาก
00:02:57 → 00:02:59 เนี่ยก็จะเป็นข้อบ่งชี้อย่างนึงที่จำเป็น
00:02:59 → 00:03:02 ต้องรีบผ่าตัดอย่างเร่งด่วนนะครับเพราะ
00:03:02 → 00:03:05 ฉะนั้นไอ้ในคนหนุ่มเนี่ยส่วนใหญ่ก็มักจะ
00:03:05 → 00:03:07 เกิดจากการเคลื่อนตรงนี้ออกมาแต่ในคนสูง
00:03:07 → 00:03:10 อายุเนี่ยนอกจากมีการเสื่อมตรงนี้แล้วข้อ
00:03:10 → 00:03:12 ต่อกระดูกข้อต่อตรงบริเวณกระดูกสลังตรง
00:03:12 → 00:03:15 นี้นะครับก็อาจจะมีการอักเสบร่วมด้วยซึ่ง
00:03:15 → 00:03:16 ถ้าเกิดมีการอักเสบของโรงเรียนตรงนี้มา
00:03:17 → 00:03:19 โดยรวมแล้วเนี่ย 1 ปริมาณน้ำของหมอนรอง
00:03:19 → 00:03:22 กระดูกลดลงนะครับอันที่ 2 ก็คือมีการ
00:03:22 → 00:03:25 อักเสบของกระดูกข้อต่อตรงด้านหลังนี้โดย
00:03:25 → 00:03:27 รวมเนี่ยมันจะทำให้ช่องที่เส้นประสาท
00:03:27 → 00:03:30 ประสาสีเหลืองๆเนี่ยออกมาเนี่ยแคบลงพอ
00:03:30 → 00:03:32 ช่องที่เส้นเหลืองอ่าที่เส้นประสาทออกมา
00:03:32 → 00:03:35 แคบลงปุ๊บมันก็จะทำให้มีการกดเส้นประสาท
00:03:35 → 00:03:37 พอกดเส้นประสาทปุ๊บเนี่ยก็จะทำให้มีปัญหา
00:03:37 → 00:03:39 คือว่าอันที่ 1 เนี่ยในคนสูงอายุจะมี
00:03:39 → 00:03:42 อาการปวดชาร้าวลงขาอันที่ 2 อาการอีก
00:03:42 → 00:03:44 อย่างนึงที่เป็นก็คือว่าคนไข้เนี่ยจะก้าว
00:03:44 → 00:03:48 ขาไม่ค่อยออกนะเวลาเดสักแป๊บนึงเนี่ยหลัง
00:03:48 → 00:03:51 จากที่เดินไปแล้วเนี่ยจะมีอาการก้าวขาไม่
00:03:51 → 00:03:53 ค่อยออกต้องนั่งพักพอนั่งพักสักแป๊บก็จะ
00:03:53 → 00:03:56 สามารถเดินต่อได้อันนี้คือเป็นพยานทยิป
00:03:56 → 00:03:58 สภาพที่เกิดจากเรื่องโรคอาการปวดหลังที่
00:03:58 → 00:04:01 เกิดจากการเสื่อมนะครับเพราะฉะนั้นถามว่า
00:04:01 → 00:04:03 แนวทางในการรักษาอาการปวดหลังเนี่ยทำ
00:04:03 → 00:04:05 อย่างไรได้บ้างอันที่ 1 ก็คือการปรับ
00:04:05 → 00:04:08 พฤติกรรมนะครับพฤติกรรมสำคัญที่สุดในการ
00:04:08 → 00:04:10 ปรับก็คือ 1 เรื่องของน้ำหนักตัวถ้าเกิด
00:04:10 → 00:04:13 น้ำหนักตัวสูงน้ำหนักตัวมากก็ต้องลดน้ำ
00:04:13 → 00:04:15 หนักนะครับวิธีการลดน้ำหนักที่ดีที่สุด
00:04:15 → 00:04:18 คือ 1 ลดอาหารจำพวกแป้งลดหลีกเลี่ยงอาหาร
00:04:18 → 00:04:22 พวกไขมันของทอดแกงกะทินะครับอันนี้คือ
00:04:22 → 00:04:24 เรื่องของการลดน้ำหนักการออกกำลังกายเป็น
00:04:24 → 00:04:27 สิ่งที่ดีว่ายน้ำจะเป็นกีฬาที่เหมาะสม
00:04:27 → 00:04:29 สำหรับเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยที่มี
00:04:29 → 00:04:32 อาการปวดหลังนะครับอันที่ 2 คือพฤติกรรม
00:04:32 → 00:04:34 เกี่ยวกับเรื่องของการนั่งนะฮะปกติเนี่ย
00:04:34 → 00:04:36 สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่ควรจะนั่งกับ
00:04:36 → 00:04:38 พื้นนะครับการนั่งที่ถูกต้องเนี่ยควรจะ
00:04:38 → 00:04:40 นั่งกับเก้าอี้ที่มีพำนักพิงนะครับ
00:04:41 → 00:04:43 เก้าอี้ที่มีพนักพิงเนี่ยคืออันที่สำคัญ
00:04:43 → 00:04:45 ที่สุดคือเวลานั่งทำงานโดยเฉพาะคนที่นั่ง
00:04:45 → 00:04:48 ทำงานกับคอมพิวเตอร์หรือว่านั่งทำงานโต๊ะ
00:04:48 → 00:04:50 หรือว่าที่ทำงานออฟฟิศต่างๆเนี่ยสำคัญที่
00:04:50 → 00:04:52 สุดคือการนั่งการนั่งเนี่ยพยายามต้องนั่ง
00:04:52 → 00:04:55 ก้นให้ลึกๆนะครับแล้วก็อันที่ 2 คือให้มี
00:04:55 → 00:04:59 เก้าอี้ที่มาอ่าซัพพอร์ตหรือว่าให้มีหลัง
00:04:59 → 00:05:02 เนี่ยได้พิงไว้นะครับแล้วก็ที่สำคัญคือ
00:05:02 → 00:05:04 ที่นั่งผิดก็คือนั่งโน้มตัวไปด้านหน้า
00:05:04 → 00:05:06 เนี่ยฮะแล้วก็ไม่ได้ใช้หลังพิงแล้วก็นั่ง
00:05:06 → 00:05:08 ทำงานกับโต๊ะคอมพิวเตอร์แบบเนี้ยนะครับ
00:05:08 → 00:05:10 ซึ่งการนั่งแบบนี้ปุ๊บเนี่ยจะทำให้น้ำ
00:05:10 → 00:05:11 หนักเนี่ยลงในเรือนของส่วนหลังเนี่ยค่อน
00:05:11 → 00:05:14 ข้างจะเยอะพอน้ำหนักลง 2 ข้างตรงนี้เยอะ
00:05:14 → 00:05:16 ก็จะทำให้คนไข้เนี่ยมีอาการปวดหลังเนี่ย
00:05:16 → 00:05:18 ค่อนข้างจะมากนะครับเพราะงั้นการนั่งที่
00:05:18 → 00:05:22 ถูกต้องคือต้องนั่งชิดพิงแล้วก็เคลื่อน
00:05:22 → 00:05:24 โต๊ะให้ไปใกล้กับคอมพิวเตอร์แล้วก็ทำงาน
00:05:24 → 00:05:27 อย่างสบายโดยการพิงหลังให้ได้เป็นท่าแบบ
00:05:27 → 00:05:31 นี้นะครับแล้วก็ท่าหลีกอ่าท่านั่งพื้น
00:05:31 → 00:05:33 เนี่ยท่านทุกท่านควรจะหลีกเลี่ยงการนั่ง
00:05:33 → 00:05:35 กับพื้นนะครับว่าการนั่งกับพื้นเนี่ยจะทำ
00:05:35 → 00:05:37 ให้ท่านเนี่ยมีอาการปวดหลังมากขึ้นเพราะ
00:05:37 → 00:05:39 ในท่านั่งกับพื้นเนี่ยน้ำหนักทุกอย่าง
00:05:39 → 00:05:41 เนี่ยมันจะลงไปตรงเวียนของกระดูกสันหลัง
00:05:41 → 00:05:43 ตรงเวียนของข้อต่อทั้ง 2 ข้างตรงนี้ทั้ง
00:05:43 → 00:05:46 หมดนะครับเพราะฉะนั้นการนั่งเป็นสิ่งที่
00:05:46 → 00:05:49 สำคัญน้ำหนักแล้ว 1 ลดน้ำหนักนะครับ 2
00:05:49 → 00:05:52 ท่านั่งอันที่ 3 คือการยกของนะฮะการก้มยก
00:05:52 → 00:05:53 ของกับพื้นเนี่ยส่วนใหญ่เนี่ยยกไม่ค่อย
00:05:53 → 00:05:56 ถูกท่านะครับซึ่งปกติเนี่ยถ้าเกิดการก้ม
00:05:56 → 00:05:58 ยกที่ถูกวิธีเนี่ยก็คือจะต้องค่อยๆนั่ง
00:05:58 → 00:06:00 ย่อเข่าลงไปนะครับค่อยๆย่อเข่าลงไปกับ
00:06:00 → 00:06:03 พื้นแล้วก็ก้มยกของขึ้นมาแต่บางท่านเนี่ย
00:06:03 → 00:06:05 ที่เวลายกเนี่ยก็คือก้มแบบเนี้ยอันนี้
00:06:05 → 00:06:07 เป็นท่าที่ไม่ถูกต้องนะครับท่าที่ถูกต้อง
00:06:07 → 00:06:10 คือต้องย่อเขาลงไปแล้วก็ค่อยๆยกของขึ้นมา
00:06:10 → 00:06:14 โดยทำให้หลังอยู่ท่าตรงอีกประการนึงเวลา
00:06:14 → 00:06:16 ท่านจามหรือว่าท่านไอเนี่ยเวลาส่วนใหญ่
00:06:16 → 00:06:18 เนี่ยเวลาจามหรือไอเยอะๆเนี่ยมันจะมีการ
00:06:18 → 00:06:20 เพิ่มความดันในช่องท้องเยอะงั้นบางครั้ง
00:06:20 → 00:06:22 เนี่ยบางคนหลังจากที่ไอหรือจามแรงๆแล้วจะ
00:06:22 → 00:06:24 มีอาการปวดหลังมากเพราะอะไรเพราะเวลาท่าน
00:06:24 → 00:06:27 จามทั้งไอท่านก้มตัวเยอะพอก้มตัวมากๆปุ๊บ
00:06:27 → 00:06:30 จามหรือว่าไอแรงๆเนี่ยอาจจะทำให้หมอนรอง
00:06:30 → 00:06:31 กระดูกเนี่ยมันเคลื่อนออกมาแล้วไปกดทับ
00:06:31 → 00:06:34 เส้นประสาทอย่างนี้ได้นะครับเพราะฉะนั้น
00:06:34 → 00:06:36 การไอหรือจามเนี่ยพยายามอย่าไปก้มตัวเยอะ
00:06:36 → 00:06:38 ในขณะที่ไอหรือจามอันนี้เป็นเรื่องของ
00:06:38 → 00:06:42 พฤติกรรมนะครับที่เกี่ยวกับเรื่องของควร
00:06:42 → 00:06:44 จะหลีกเลี่ยงอีกอย่างหนึ่งคือการไปนวดนะ
00:06:44 → 00:06:47 ครับการไปนวดนะฮะเวลาไปนวดเนี่ท่านไปนอน
00:06:47 → 00:06:49 คว่ำการนอนคว่ำเนี่ยก็จะทำให้กระดูกสัน
00:06:49 → 00:06:51 หลังตรงบริเวณด้านหลังเนี่ยรับน้ำหนัก
00:06:51 → 00:06:53 มากงั้นการนวดในท่านอนคว่ำเนี่ยเป็นสิ่ง
00:06:53 → 00:06:56 ที่ไม่ดีไม่ควรจะทำควรจะหลีกเลี่ยงไม่ควร
00:06:56 → 00:06:59 จะทำนะครับงั้นการนวดเนี่ยเป็นการนวด
00:06:59 → 00:07:01 วัตถุประสงค์ในการนวดคือเพื่อให้กล้าม
00:07:01 → 00:07:02 เนื้อเนี่ยมีเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้
00:07:03 → 00:07:05 ดีขึ้นงั้นถ้าเกิดท่านปวดมากหรือว่ามีการ
00:07:05 → 00:07:08 อักเสบมากการนวดนี่จะไม่ช่วยอะไรท่านเลย
00:07:08 → 00:07:08 นะ
00:07:08 → 00:07:11 ครับหลังจากที่ปรับพฤติกรรมแล้ว 1 เรื่อง
00:07:11 → 00:07:13 น้ำหนักตัวต้องลดน้ำหนักตัวอันที่ 2 หลีก
00:07:13 → 00:07:15 เลี่ยงการนั่งกับพื้นอันที่ 3 หลีกเลี่ยง
00:07:15 → 00:07:17 การนอนคว่ำอันที่ 4 ก็คือหลีกเลี่ยงการยก
00:07:18 → 00:07:19 ของหนักพฤติกรรมต่างๆเหล่านี้เป็น
00:07:19 → 00:07:21 พฤติกรรมประจำวันที่เรามักจะคุ้นเคยคุ้น
00:07:21 → 00:07:25 ชินที่จะทำกันอย่างผิดๆตลอดเวลานะครับต่อ
00:07:25 → 00:07:28 มาคืออันที่ 2 คือยาที่ใช้ในการรักษา
00:07:28 → 00:07:31 เรื่องอ่าอาการปวดหลังเนี่ก็จะมียาอยู่
00:07:31 → 00:07:33 หลายกลุ่มเช่นกันก็คือ 1 ก็คือเป็นยาลด
00:07:33 → 00:07:38 การอักเสบของกล้ามเนื้อของกระดูกข้อต่อนะ
00:07:38 → 00:07:40 ครับซึ่งยาลดอาการอักเสบนี้เวลาใช้เนี่ย
00:07:40 → 00:07:42 ไม่ควรจะใช้นานมากเพราะว่ายาในกลุ่มนี้
00:07:42 → 00:07:45 เวลาใช้นานๆมากๆเนี่ยจะทำให้ท่านมีอาการ
00:07:45 → 00:07:47 ปวดท้องได้นะเวลาทานยาแล้วมีอาการปวดท้อง
00:07:47 → 00:07:50 มีผลต่อกระเพาะอาหารถ้าเกิดใช้ไปนานๆก็
00:07:50 → 00:07:53 อาจจะมีผลทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของ
00:07:53 → 00:07:56 ไตไปตามมาได้นะครับงั้นยากลุ่มนี้ไม่ควร
00:07:56 → 00:07:59 จะทานนานเกิน 2-4 สัปดาห์นะครับยากลุ่ม
00:07:59 → 00:08:02 ที่ 2 ที่ใช้ก็คือเป็นยาลดปวดต่างๆซึ่ง
00:08:02 → 00:08:05 กลไกในการลดปวดเนี่ยมีมากมายหลายกลไกมาก
00:08:05 → 00:08:08 มายนะครับในปัจจุบันเนี่ยการใช้ยาเนี่ยก็
00:08:08 → 00:08:10 คือจะใช้ยาหลายๆตัวเนี่ยร่วมกันซึ่งยาแก้
00:08:10 → 00:08:13 ปวดเนี่ยก็จะมีแก้ปวดปลายประสาทนะครับ
00:08:13 → 00:08:15 หรือยาแก้ปวดโดยตรงนะครับหรือว่ายากลุ่ม
00:08:15 → 00:08:17 ที่คล้ายๆกับมอร์ฟินแต่ว่าเป็นอนุพันธ์
00:08:17 → 00:08:19 ของมอร์ฟินแต่ว่าไม่ค่อยเสพติดเท่าไหร่นะ
00:08:19 → 00:08:21 ครับกลุ่มนี้ก็สามารถจะเอามาใช้ในการ
00:08:21 → 00:08:24 รักษาการปวดหลังเหลือเนี่ยได้เป็นอย่างดี
00:08:24 → 00:08:27 นะครับเพราะงั้นอันที่ 1 ก็คือปรับ
00:08:27 → 00:08:30 พฤติกรรมอันที่ 2 คือการใช้ยาอันที่ 3 ก็
00:08:30 → 00:08:32 คือถ้าเกิดรักษาด้วยการปรับพฤติกรรมแล้ว
00:08:32 → 00:08:34 ใช้ยาแล้วไม่ดีขึ้นเนี่ยอีกวิธีนึงก็คือ
00:08:34 → 00:08:37 มีการใช้ก็คือการฉีดยาเข้าไปในโพรงประสาท
00:08:37 → 00:08:39 ด้านหลังนะครับการฉีดยาเข้าโพรงประสาท
00:08:39 → 00:08:42 ด้านหลังก็คือว่าในเมื่อว่ามีการอักเสบ
00:08:42 → 00:08:43 ของเส้นประสาทตรงเนี้ยที่ท่านเห็นอยู่
00:08:43 → 00:08:46 แล้วเนี่ยมีการอักเสบค่อนข้างจะมากนะครับ
00:08:46 → 00:08:48 ถ้าเกิดสมมุติว่าเราฉีดยาเข้าไปในโพรง
00:08:48 → 00:08:50 ประสาทเนี่ยวัตถุประสงค์ในการฉีดยาก็คือ
00:08:50 → 00:08:53 เพื่อให้ยาเข้าไปลดลดการอักเสบโดยตรงที่
00:08:54 → 00:08:56 เส้นประสาทยาที่ใช้เนี่ยส่วนใหญ่เรามักจะ
00:08:56 → 00:08:59 ใช้สเตรอยด์นะครับร่วมกับยาชาแต่ว่ายา
00:08:59 → 00:09:01 สเตอรอยด์ที่เราใช้เนี่ยเราได้ไม่ได้ใช้
00:09:01 → 00:09:03 ปริมาณมากนะครับเราใช้ยาปริมาณเล็กน้อย
00:09:04 → 00:09:05 เท่านั้นนะฮะเล็กน้อยเท่านั้นเพราะถ้า
00:09:05 → 00:09:08 เกิดเทียบกับสมัยก่อนเนี่ยจากงานวิจัยที่
00:09:08 → 00:09:10 เราทำอยู่เนี่ยพบว่าปริมาณยาเล็กน้อย
00:09:10 → 00:09:13 เนี่ยก็ได้ผลดีเทียบเทียบเท่ากับยาที่จะ
00:09:13 → 00:09:15 ใช้ปริมาณมากๆเพราะฉะนั้นเพื่อลดผลข้าง
00:09:15 → 00:09:18 เคียงจากการใช้ยาสเตอยดยาที่เราจะใช้
00:09:18 → 00:09:20 เนี่ยก็ปริมาณไม่มากเท่าไหร่น้อยมากนะ
00:09:20 → 00:09:23 ครับถามว่าบางคนบางท่านถามถามว่าเอ๊ะฉีด
00:09:23 → 00:09:25 ยาเข้าไปปุ๊บเนี่ยยามันออกฤทธิ์ยังไงบ้าง
00:09:25 → 00:09:27 นะครับยาในการออกฤทธิ์ก็คือลดการอักเสบ
00:09:27 → 00:09:29 ของปลายประสาทตรงนี้พอลดการอักเสบแล้ว
00:09:30 → 00:09:32 เนี่ยอันที่ 2 เนี่ยถามว่ามีผลข้างเคียง
00:09:32 → 00:09:34 อย่างอื่นมั้ยคือหลังจากฉีดเนี่ยเนื่อง
00:09:34 → 00:09:37 จากยาเนี่ยมีส่วนผสมของยาชาบางครั้งเอง
00:09:37 → 00:09:39 เนี่ยเวลาเราฉีดยาเข้าไปในโพรงประสาท
00:09:39 → 00:09:41 เนี่ยในโพรงประสาทจะมีเส้นเลือดค่อนข้าง
00:09:41 → 00:09:43 เยอะๆนะเพราะฉะนั้นบางครั้งเนี่ยยาชา
00:09:44 → 00:09:46 เนี่ยมันเข้าไปในเส้นเลือดอาจจะทำให้หลัง
00:09:46 → 00:09:49 จากฉีดเนี่ยอาจจะมีอาการคลื่นไส้วิงเวียน
00:09:49 → 00:09:52 ปวดศีรษะได้สักประมาณสัก 10 15 นาทีดี
00:09:52 → 00:09:54 หลังจากนั้นอาการต่างๆก็จะดีขึ้นนะครับ
00:09:54 → 00:09:56 หลังจากฉีดยาแล้วคุณจะต้องนั่งพักประมาณ
00:09:56 → 00:09:59 สัก 30 นาทีเพื่อเพราะว่าหลังจากฉีดยา
00:09:59 → 00:10:02 แล้วอาจจะมีอาการอ่อนแรงของขาบริเวณของ
00:10:02 → 00:10:04 ส่วนล่างนะครับออาจจะมีอาการชาแล้วถ้า
00:10:04 → 00:10:07 เกิดไปเดินเลยอาจจะทำให้หกล้มได้ง่ายการ
00:10:07 → 00:10:09 ฉีดยาเนี่ยถามว่าจะช่วยได้มากน้อยขนาดไหน
00:10:09 → 00:10:12 การฉีดยาส่วนใหญ่มันขึ้นอยู่กับผลของการ
00:10:12 → 00:10:14 ฉีดยาเนี่ยขึ้นอยู่กับ 1 ระดับความรุนแรง
00:10:14 → 00:10:17 ของโรคที่เป็นอันที่ 2 ก็คือขึ้นอยู่กับ
00:10:17 → 00:10:20 พฤติกรรมของคนไข้ถ้าเกิดโรคเป็นไม่มากนัก
00:10:20 → 00:10:23 พฤติกรรมไข้สามารถปรับอย่างที่ผมกล่าวไป
00:10:23 → 00:10:26 แล้วเนี่ยส่วนใหญ่มากกว่า 80% ได้ผลดีจาก
00:10:26 → 00:10:29 การรักษาด้วยวิธีการฉีดยาจะมีส่วนน้อย
00:10:29 → 00:10:31 ประมาณสัก 10% นะครับที่จำเป็นอาจจะ
00:10:31 → 00:10:33 จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเพราะฉะนั้น
00:10:33 → 00:10:36 ส่วนใหญ่เนี่ยการรักษาเรื่องอาการปวดหลัง
00:10:36 → 00:10:38 หมอนรองกระดูกหลังเสื่อมสามารถใช้ได้ผล
00:10:38 → 00:10:41 ได้ดีด้วยการรักษาอย่างที่วิธีกล่าวก็คือ
00:10:41 → 00:10:44 1 ปรับพฤติกรรม 2 ทานยา 3 ฉีดยาเข้าพง
00:10:44 → 00:10:46 ประสาทด้านหลังนะครับมีจำนวนน้อยนักนะ
00:10:46 → 00:10:49 ครับประมาณน้อยกว่า 10% ที่จำเป็นต้อง
00:10:49 → 00:10:51 รักษาด้วยการผ่าตัดซึ่งส่วนใหญ่ถ้าเกิด
00:10:51 → 00:10:53 รักษาด้วยการปรับพฤติกรรมทานยาเนี่ยส่วน
00:10:53 → 00:10:55 ใหญ่จะใช้เวลานานประมาณ 5-6 เดือนอาการ
00:10:55 → 00:10:58 ผู้ป่วยก็จะค่อยๆดีขึ้นอย่างช้าๆเรื่อยๆ
00:10:58 → 00:11:01 นะครับส่วนการผ่าตัดนี้ก็จะเหมาะสำหรับ
00:11:01 → 00:11:04 กรณีที่ว่าอันที่ 1 มีการกดเส้นประสาทมาก
00:11:05 → 00:11:07 จนทำให้มีปัญหาเรื่องของอุจจาระปัสสาวะ
00:11:07 → 00:11:10 ลำบากอันที่ 2 คือหลังจากที่กล่าวมาทั้ง
00:11:10 → 00:11:13 หมดแล้วเนี่ยไม่ว่าจะทานยาฉีดยาปรับ
00:11:13 → 00:11:15 พฤติกรรมแล้วประมาณ 5-6 เดือนแล้วอาการ
00:11:15 → 00:11:19 ไม่ดีขึ้นเลยนะครับไม่สามารถทำงานได้ก็
00:11:19 → 00:11:21 เดินก้าวขาไม่ออกอันนี้ก็เป็นพ่อควรแนะนำ
00:11:21 → 00:11:24 ที่จะไปรักษาด้วยการผ่าตัดครับขอบคุณนะ
00:11:24 → 00:11:27 ครับสำหรับเรื่องอาการปวดหลัง
00:00:01 → 00:00:04 สวัสดีครับวันนี้ผมนายแพทย์ธนินิจ
00:00:04 → 00:00:06 อิรพันธ์นะครับจะมาเล่าให้ท่านฟังเกี่ยว
00:00:06 → 00:00:08 กับเรื่องของอาการปวดหลังนะครับอาการปวด
00:00:08 → 00:00:10 หลังเนี่ยส่วนใหญ่เนี่ยมักจะเริ่มมีอาการ
00:00:10 → 00:00:13 ปวดตั้งแต่บริเวณของชายโคงด้านหลังบางที
00:00:13 → 00:00:15 อาจจะมีอาการปวดบริเวณของบ้านเอวอาจจะมี
00:00:15 → 00:00:18 อาการปวดร้าวโรงเรียนของสะโพกแล้วก็ร้าว
00:00:18 → 00:00:21 ลงบริเวณของต้นขาลงน่องแล้วก็อาจจะมี
00:00:21 → 00:00:24 อาการชาตรงบริเวณของหลังเท้าร่วมด้วยนะ
00:00:24 → 00:00:27 ครับอาการปวดหลังเนี่ยเป็นได้ทุกเพศทุก
00:00:27 → 00:00:29 วัยนะครับส่วนใหญ่อาจจะเริ่มตั้งแต่ตอน
00:00:29 → 00:00:32 วัยรุ่นนะครับอายุประมาณสัก 20 กว่าปีจน
00:00:32 → 00:00:34 ถึงอายุประมาณ 60 70 80 ปีนี้เกิดอาการ
00:00:34 → 00:00:37 ปวดหลังได้ทั้งหมดซึ่งสาเหตุในแต่ละเพศ
00:00:38 → 00:00:41 แต่ละวัยก็มีความแตกต่างกันส่วนใหญ่ในวัย
00:00:41 → 00:00:44 เพศอ่าอายุประมาณสัก 20-30 ปีเนี่ยมักจะ
00:00:44 → 00:00:47 เกิดจากไปก้มยกของหนักและอาจจะทำให้ 1 มี
00:00:47 → 00:00:51 การฉี่ขาดของกล้ามเนื้ออันที่ 2 อาจจะมี
00:00:51 → 00:00:53 ทำให้มีการเคลื่อนของหมอนรองกระดูกแล้วไป
00:00:53 → 00:00:56 กดทับเส้นประสาทจึงทำให้มีอาการปวดชาล้า
00:00:56 → 00:00:59 ลงขาได้สำหรับในคนสูงอายุก็มักจะเกิดจาก
00:00:59 → 00:01:01 การเสื่อมกระบวนการเสื่อมของหมอนรอง
00:01:01 → 00:01:03 กระดูกนะครับเราลองมาดูที่เรื่องของหมอน
00:01:03 → 00:01:06 รองกระดูกกันนะครับในส่วนของหมอนรอง
00:01:06 → 00:01:08 กระดูกสันหลังเนี่ยอันที่ 1 ก็คือบริเวณ
00:01:08 → 00:01:11 ของอ่าหมอนรองกระดูกสันหลังตรงบริอันนี้
00:01:11 → 00:01:14 คือหมอนรองจะเป็นลักษณะของเจลนะครับซึ่ง
00:01:14 → 00:01:16 ปกติไอ้เจลตรงนี้จะทำหน้าที่ในการลดแรง
00:01:16 → 00:01:18 กระแทกต่างๆที่เกิดขึ้นกับบริเวณของ
00:01:18 → 00:01:21 กระดูกสันหลังนะครับอันนี้ส่วนที่ขาวๆนี่
00:01:21 → 00:01:23 คือกระดูกนะครับงั้นในเจลในส่วนของเจล
00:01:23 → 00:01:25 เนี่ยปกติเนี่ยจะเต็มไปด้วยน้ำนะฮะจะเต็ม
00:01:25 → 00:01:27 ไปด้วยน้ำทั้งหมดซึ่งน้ำตรงนี้จะให้ความ
00:01:28 → 00:01:30 สูงของกระดูกกระดูกสลังถามว่าหมอนรอง
00:01:30 → 00:01:32 กระดูกเสื่อมหมายความว่ายังไงหมายความว่า
00:01:32 → 00:01:34 เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
00:01:34 → 00:01:36 เนี่ยปริมาณน้ำของหมอนรองกระดูกนะฮะถ้า
00:01:36 → 00:01:38 เกิดว่าท่านเทียบกันดูเนี่ยปริมาณนะ
00:01:38 → 00:01:41 ปริมาณน้ำในของหมอนรองกระดูกตรงเนี้ยจะลด
00:01:41 → 00:01:43 ลงอันนี้มากอันนี้ปกติพออายุมากขึ้นมาก
00:01:43 → 00:01:45 ขึ้นเนี่ยปริมาณน้ำในหมอนรองกระดูกเนี่ย
00:01:45 → 00:01:48 จะค่อยๆลดตัวลงนะฮะพอลดลงเสร็จปุ๊บเนี่ย
00:01:48 → 00:01:51 มันก็มีการเสื่อมก็มีการอ่าทำให้เกิด
00:01:51 → 00:01:53 กล้ามเนื้อมันเกร็งตัวพยายามที่จะรักษา
00:01:53 → 00:01:55 สมดุลของร่างกายก็ทำให้มีการปวดหลังได้
00:01:56 → 00:01:58 นอกจากนั้นเนี่ยเมื่อมีการเคลื่อนมีการ
00:01:58 → 00:02:00 เสื่อมแล้วเนี่ยมันก็จะอาจจะทำให้มีการ
00:02:00 → 00:02:02 เคลื่อนตัวของหมอนรองกระดูกด้านในเนี่ย
00:02:02 → 00:02:05 ออกมาสู่เรทของด้านนอกซึ่งพอเคลื่อนออกมา
00:02:06 → 00:02:08 ด้านนอกแล้วเนี่ยมันก็จะมีการไปกดทับเส้น
00:02:08 → 00:02:10 ประสาทนะครับงั้นถ้าเกิดในวัยหนุ่มเนี่ย
00:02:10 → 00:02:13 ไปก้มยกของหนักมากๆพอก้มยกของหนักมากๆ
00:02:13 → 00:02:16 เสร็จปุ๊บเนี่ยหลังจากนั้นปุ๊บเนี่ยก็จะ
00:02:16 → 00:02:17 ทำให้มีการเคลื่อนไหวของหมอนรองกระดูกตัว
00:02:18 → 00:02:20 นี้เคลื่อนออกมาแล้วไปกดทับเส้นประสาทพอ
00:02:20 → 00:02:22 กดทับเส้นประสาทเส้นประสาทจะมีอาการบวม
00:02:22 → 00:02:24 ค่อนข้างจะเยอะพอเส้นประสาทมีการบวมก็จะ
00:02:24 → 00:02:27 ทำให้มีการปวดร้าวนะครับมีปวดร้าวลง
00:02:27 → 00:02:33 บริเวณของสะโพกต้นขาน่องรวมถึงมีอาการชา
00:02:33 → 00:02:37 ที่บริเวณของหลังเท้าหรือฝ่าเท้าร่วมด้วย
00:02:37 → 00:02:39 เวลาเส้นประสาทโดนกดนอกจากมีการปวด 1 ปวด
00:02:39 → 00:02:42 นะครับ 2 มีอาการชา 3 มีอาการปวดร้าวลง
00:02:42 → 00:02:45 ข่าแล้วเนี่ยก็อาจจะมีอาการอ่อนแรงร่วม
00:02:45 → 00:02:47 ด้วยถ้าเกิดเป็นมากๆเนี่ยในกลุ่มที่เป็น
00:02:47 → 00:02:52 มากๆคือกดจนทำให้เกิดมีการกดทับของบริเวณ
00:02:52 → 00:02:55 ประสาทเนี่ยอาจจะทำให้มีการอุจจาระ
00:02:55 → 00:02:57 ปัสสาวะลำบากซึ่งการอุจจาระปัสสาวะลำบาก
00:02:57 → 00:02:59 เนี่ยก็จะเป็นข้อบ่งชี้อย่างนึงที่จำเป็น
00:02:59 → 00:03:02 ต้องรีบผ่าตัดอย่างเร่งด่วนนะครับเพราะ
00:03:02 → 00:03:05 ฉะนั้นไอ้ในคนหนุ่มเนี่ยส่วนใหญ่ก็มักจะ
00:03:05 → 00:03:07 เกิดจากการเคลื่อนตรงนี้ออกมาแต่ในคนสูง
00:03:07 → 00:03:10 อายุเนี่ยนอกจากมีการเสื่อมตรงนี้แล้วข้อ
00:03:10 → 00:03:12 ต่อกระดูกข้อต่อตรงบริเวณกระดูกสลังตรง
00:03:12 → 00:03:15 นี้นะครับก็อาจจะมีการอักเสบร่วมด้วยซึ่ง
00:03:15 → 00:03:16 ถ้าเกิดมีการอักเสบของโรงเรียนตรงนี้มา
00:03:17 → 00:03:19 โดยรวมแล้วเนี่ย 1 ปริมาณน้ำของหมอนรอง
00:03:19 → 00:03:22 กระดูกลดลงนะครับอันที่ 2 ก็คือมีการ
00:03:22 → 00:03:25 อักเสบของกระดูกข้อต่อตรงด้านหลังนี้โดย
00:03:25 → 00:03:27 รวมเนี่ยมันจะทำให้ช่องที่เส้นประสาท
00:03:27 → 00:03:30 ประสาสีเหลืองๆเนี่ยออกมาเนี่ยแคบลงพอ
00:03:30 → 00:03:32 ช่องที่เส้นเหลืองอ่าที่เส้นประสาทออกมา
00:03:32 → 00:03:35 แคบลงปุ๊บมันก็จะทำให้มีการกดเส้นประสาท
00:03:35 → 00:03:37 พอกดเส้นประสาทปุ๊บเนี่ยก็จะทำให้มีปัญหา
00:03:37 → 00:03:39 คือว่าอันที่ 1 เนี่ยในคนสูงอายุจะมี
00:03:39 → 00:03:42 อาการปวดชาร้าวลงขาอันที่ 2 อาการอีก
00:03:42 → 00:03:44 อย่างนึงที่เป็นก็คือว่าคนไข้เนี่ยจะก้าว
00:03:44 → 00:03:48 ขาไม่ค่อยออกนะเวลาเดสักแป๊บนึงเนี่ยหลัง
00:03:48 → 00:03:51 จากที่เดินไปแล้วเนี่ยจะมีอาการก้าวขาไม่
00:03:51 → 00:03:53 ค่อยออกต้องนั่งพักพอนั่งพักสักแป๊บก็จะ
00:03:53 → 00:03:56 สามารถเดินต่อได้อันนี้คือเป็นพยานทยิป
00:03:56 → 00:03:58 สภาพที่เกิดจากเรื่องโรคอาการปวดหลังที่
00:03:58 → 00:04:01 เกิดจากการเสื่อมนะครับเพราะฉะนั้นถามว่า
00:04:01 → 00:04:03 แนวทางในการรักษาอาการปวดหลังเนี่ยทำ
00:04:03 → 00:04:05 อย่างไรได้บ้างอันที่ 1 ก็คือการปรับ
00:04:05 → 00:04:08 พฤติกรรมนะครับพฤติกรรมสำคัญที่สุดในการ
00:04:08 → 00:04:10 ปรับก็คือ 1 เรื่องของน้ำหนักตัวถ้าเกิด
00:04:10 → 00:04:13 น้ำหนักตัวสูงน้ำหนักตัวมากก็ต้องลดน้ำ
00:04:13 → 00:04:15 หนักนะครับวิธีการลดน้ำหนักที่ดีที่สุด
00:04:15 → 00:04:18 คือ 1 ลดอาหารจำพวกแป้งลดหลีกเลี่ยงอาหาร
00:04:18 → 00:04:22 พวกไขมันของทอดแกงกะทินะครับอันนี้คือ
00:04:22 → 00:04:24 เรื่องของการลดน้ำหนักการออกกำลังกายเป็น
00:04:24 → 00:04:27 สิ่งที่ดีว่ายน้ำจะเป็นกีฬาที่เหมาะสม
00:04:27 → 00:04:29 สำหรับเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยที่มี
00:04:29 → 00:04:32 อาการปวดหลังนะครับอันที่ 2 คือพฤติกรรม
00:04:32 → 00:04:34 เกี่ยวกับเรื่องของการนั่งนะฮะปกติเนี่ย
00:04:34 → 00:04:36 สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่ควรจะนั่งกับ
00:04:36 → 00:04:38 พื้นนะครับการนั่งที่ถูกต้องเนี่ยควรจะ
00:04:38 → 00:04:40 นั่งกับเก้าอี้ที่มีพำนักพิงนะครับ
00:04:41 → 00:04:43 เก้าอี้ที่มีพนักพิงเนี่ยคืออันที่สำคัญ
00:04:43 → 00:04:45 ที่สุดคือเวลานั่งทำงานโดยเฉพาะคนที่นั่ง
00:04:45 → 00:04:48 ทำงานกับคอมพิวเตอร์หรือว่านั่งทำงานโต๊ะ
00:04:48 → 00:04:50 หรือว่าที่ทำงานออฟฟิศต่างๆเนี่ยสำคัญที่
00:04:50 → 00:04:52 สุดคือการนั่งการนั่งเนี่ยพยายามต้องนั่ง
00:04:52 → 00:04:55 ก้นให้ลึกๆนะครับแล้วก็อันที่ 2 คือให้มี
00:04:55 → 00:04:59 เก้าอี้ที่มาอ่าซัพพอร์ตหรือว่าให้มีหลัง
00:04:59 → 00:05:02 เนี่ยได้พิงไว้นะครับแล้วก็ที่สำคัญคือ
00:05:02 → 00:05:04 ที่นั่งผิดก็คือนั่งโน้มตัวไปด้านหน้า
00:05:04 → 00:05:06 เนี่ยฮะแล้วก็ไม่ได้ใช้หลังพิงแล้วก็นั่ง
00:05:06 → 00:05:08 ทำงานกับโต๊ะคอมพิวเตอร์แบบเนี้ยนะครับ
00:05:08 → 00:05:10 ซึ่งการนั่งแบบนี้ปุ๊บเนี่ยจะทำให้น้ำ
00:05:10 → 00:05:11 หนักเนี่ยลงในเรือนของส่วนหลังเนี่ยค่อน
00:05:11 → 00:05:14 ข้างจะเยอะพอน้ำหนักลง 2 ข้างตรงนี้เยอะ
00:05:14 → 00:05:16 ก็จะทำให้คนไข้เนี่ยมีอาการปวดหลังเนี่ย
00:05:16 → 00:05:18 ค่อนข้างจะมากนะครับเพราะงั้นการนั่งที่
00:05:18 → 00:05:22 ถูกต้องคือต้องนั่งชิดพิงแล้วก็เคลื่อน
00:05:22 → 00:05:24 โต๊ะให้ไปใกล้กับคอมพิวเตอร์แล้วก็ทำงาน
00:05:24 → 00:05:27 อย่างสบายโดยการพิงหลังให้ได้เป็นท่าแบบ
00:05:27 → 00:05:31 นี้นะครับแล้วก็ท่าหลีกอ่าท่านั่งพื้น
00:05:31 → 00:05:33 เนี่ยท่านทุกท่านควรจะหลีกเลี่ยงการนั่ง
00:05:33 → 00:05:35 กับพื้นนะครับว่าการนั่งกับพื้นเนี่ยจะทำ
00:05:35 → 00:05:37 ให้ท่านเนี่ยมีอาการปวดหลังมากขึ้นเพราะ
00:05:37 → 00:05:39 ในท่านั่งกับพื้นเนี่ยน้ำหนักทุกอย่าง
00:05:39 → 00:05:41 เนี่ยมันจะลงไปตรงเวียนของกระดูกสันหลัง
00:05:41 → 00:05:43 ตรงเวียนของข้อต่อทั้ง 2 ข้างตรงนี้ทั้ง
00:05:43 → 00:05:46 หมดนะครับเพราะฉะนั้นการนั่งเป็นสิ่งที่
00:05:46 → 00:05:49 สำคัญน้ำหนักแล้ว 1 ลดน้ำหนักนะครับ 2
00:05:49 → 00:05:52 ท่านั่งอันที่ 3 คือการยกของนะฮะการก้มยก
00:05:52 → 00:05:53 ของกับพื้นเนี่ยส่วนใหญ่เนี่ยยกไม่ค่อย
00:05:53 → 00:05:56 ถูกท่านะครับซึ่งปกติเนี่ยถ้าเกิดการก้ม
00:05:56 → 00:05:58 ยกที่ถูกวิธีเนี่ยก็คือจะต้องค่อยๆนั่ง
00:05:58 → 00:06:00 ย่อเข่าลงไปนะครับค่อยๆย่อเข่าลงไปกับ
00:06:00 → 00:06:03 พื้นแล้วก็ก้มยกของขึ้นมาแต่บางท่านเนี่ย
00:06:03 → 00:06:05 ที่เวลายกเนี่ยก็คือก้มแบบเนี้ยอันนี้
00:06:05 → 00:06:07 เป็นท่าที่ไม่ถูกต้องนะครับท่าที่ถูกต้อง
00:06:07 → 00:06:10 คือต้องย่อเขาลงไปแล้วก็ค่อยๆยกของขึ้นมา
00:06:10 → 00:06:14 โดยทำให้หลังอยู่ท่าตรงอีกประการนึงเวลา
00:06:14 → 00:06:16 ท่านจามหรือว่าท่านไอเนี่ยเวลาส่วนใหญ่
00:06:16 → 00:06:18 เนี่ยเวลาจามหรือไอเยอะๆเนี่ยมันจะมีการ
00:06:18 → 00:06:20 เพิ่มความดันในช่องท้องเยอะงั้นบางครั้ง
00:06:20 → 00:06:22 เนี่ยบางคนหลังจากที่ไอหรือจามแรงๆแล้วจะ
00:06:22 → 00:06:24 มีอาการปวดหลังมากเพราะอะไรเพราะเวลาท่าน
00:06:24 → 00:06:27 จามทั้งไอท่านก้มตัวเยอะพอก้มตัวมากๆปุ๊บ
00:06:27 → 00:06:30 จามหรือว่าไอแรงๆเนี่ยอาจจะทำให้หมอนรอง
00:06:30 → 00:06:31 กระดูกเนี่ยมันเคลื่อนออกมาแล้วไปกดทับ
00:06:31 → 00:06:34 เส้นประสาทอย่างนี้ได้นะครับเพราะฉะนั้น
00:06:34 → 00:06:36 การไอหรือจามเนี่ยพยายามอย่าไปก้มตัวเยอะ
00:06:36 → 00:06:38 ในขณะที่ไอหรือจามอันนี้เป็นเรื่องของ
00:06:38 → 00:06:42 พฤติกรรมนะครับที่เกี่ยวกับเรื่องของควร
00:06:42 → 00:06:44 จะหลีกเลี่ยงอีกอย่างหนึ่งคือการไปนวดนะ
00:06:44 → 00:06:47 ครับการไปนวดนะฮะเวลาไปนวดเนี่ท่านไปนอน
00:06:47 → 00:06:49 คว่ำการนอนคว่ำเนี่ยก็จะทำให้กระดูกสัน
00:06:49 → 00:06:51 หลังตรงบริเวณด้านหลังเนี่ยรับน้ำหนัก
00:06:51 → 00:06:53 มากงั้นการนวดในท่านอนคว่ำเนี่ยเป็นสิ่ง
00:06:53 → 00:06:56 ที่ไม่ดีไม่ควรจะทำควรจะหลีกเลี่ยงไม่ควร
00:06:56 → 00:06:59 จะทำนะครับงั้นการนวดเนี่ยเป็นการนวด
00:06:59 → 00:07:01 วัตถุประสงค์ในการนวดคือเพื่อให้กล้าม
00:07:01 → 00:07:02 เนื้อเนี่ยมีเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้
00:07:03 → 00:07:05 ดีขึ้นงั้นถ้าเกิดท่านปวดมากหรือว่ามีการ
00:07:05 → 00:07:08 อักเสบมากการนวดนี่จะไม่ช่วยอะไรท่านเลย
00:07:08 → 00:07:08 นะ
00:07:08 → 00:07:11 ครับหลังจากที่ปรับพฤติกรรมแล้ว 1 เรื่อง
00:07:11 → 00:07:13 น้ำหนักตัวต้องลดน้ำหนักตัวอันที่ 2 หลีก
00:07:13 → 00:07:15 เลี่ยงการนั่งกับพื้นอันที่ 3 หลีกเลี่ยง
00:07:15 → 00:07:17 การนอนคว่ำอันที่ 4 ก็คือหลีกเลี่ยงการยก
00:07:18 → 00:07:19 ของหนักพฤติกรรมต่างๆเหล่านี้เป็น
00:07:19 → 00:07:21 พฤติกรรมประจำวันที่เรามักจะคุ้นเคยคุ้น
00:07:21 → 00:07:25 ชินที่จะทำกันอย่างผิดๆตลอดเวลานะครับต่อ
00:07:25 → 00:07:28 มาคืออันที่ 2 คือยาที่ใช้ในการรักษา
00:07:28 → 00:07:31 เรื่องอ่าอาการปวดหลังเนี่ก็จะมียาอยู่
00:07:31 → 00:07:33 หลายกลุ่มเช่นกันก็คือ 1 ก็คือเป็นยาลด
00:07:33 → 00:07:38 การอักเสบของกล้ามเนื้อของกระดูกข้อต่อนะ
00:07:38 → 00:07:40 ครับซึ่งยาลดอาการอักเสบนี้เวลาใช้เนี่ย
00:07:40 → 00:07:42 ไม่ควรจะใช้นานมากเพราะว่ายาในกลุ่มนี้
00:07:42 → 00:07:45 เวลาใช้นานๆมากๆเนี่ยจะทำให้ท่านมีอาการ
00:07:45 → 00:07:47 ปวดท้องได้นะเวลาทานยาแล้วมีอาการปวดท้อง
00:07:47 → 00:07:50 มีผลต่อกระเพาะอาหารถ้าเกิดใช้ไปนานๆก็
00:07:50 → 00:07:53 อาจจะมีผลทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของ
00:07:53 → 00:07:56 ไตไปตามมาได้นะครับงั้นยากลุ่มนี้ไม่ควร
00:07:56 → 00:07:59 จะทานนานเกิน 2-4 สัปดาห์นะครับยากลุ่ม
00:07:59 → 00:08:02 ที่ 2 ที่ใช้ก็คือเป็นยาลดปวดต่างๆซึ่ง
00:08:02 → 00:08:05 กลไกในการลดปวดเนี่ยมีมากมายหลายกลไกมาก
00:08:05 → 00:08:08 มายนะครับในปัจจุบันเนี่ยการใช้ยาเนี่ยก็
00:08:08 → 00:08:10 คือจะใช้ยาหลายๆตัวเนี่ยร่วมกันซึ่งยาแก้
00:08:10 → 00:08:13 ปวดเนี่ยก็จะมีแก้ปวดปลายประสาทนะครับ
00:08:13 → 00:08:15 หรือยาแก้ปวดโดยตรงนะครับหรือว่ายากลุ่ม
00:08:15 → 00:08:17 ที่คล้ายๆกับมอร์ฟินแต่ว่าเป็นอนุพันธ์
00:08:17 → 00:08:19 ของมอร์ฟินแต่ว่าไม่ค่อยเสพติดเท่าไหร่นะ
00:08:19 → 00:08:21 ครับกลุ่มนี้ก็สามารถจะเอามาใช้ในการ
00:08:21 → 00:08:24 รักษาการปวดหลังเหลือเนี่ยได้เป็นอย่างดี
00:08:24 → 00:08:27 นะครับเพราะงั้นอันที่ 1 ก็คือปรับ
00:08:27 → 00:08:30 พฤติกรรมอันที่ 2 คือการใช้ยาอันที่ 3 ก็
00:08:30 → 00:08:32 คือถ้าเกิดรักษาด้วยการปรับพฤติกรรมแล้ว
00:08:32 → 00:08:34 ใช้ยาแล้วไม่ดีขึ้นเนี่ยอีกวิธีนึงก็คือ
00:08:34 → 00:08:37 มีการใช้ก็คือการฉีดยาเข้าไปในโพรงประสาท
00:08:37 → 00:08:39 ด้านหลังนะครับการฉีดยาเข้าโพรงประสาท
00:08:39 → 00:08:42 ด้านหลังก็คือว่าในเมื่อว่ามีการอักเสบ
00:08:42 → 00:08:43 ของเส้นประสาทตรงเนี้ยที่ท่านเห็นอยู่
00:08:43 → 00:08:46 แล้วเนี่ยมีการอักเสบค่อนข้างจะมากนะครับ
00:08:46 → 00:08:48 ถ้าเกิดสมมุติว่าเราฉีดยาเข้าไปในโพรง
00:08:48 → 00:08:50 ประสาทเนี่ยวัตถุประสงค์ในการฉีดยาก็คือ
00:08:50 → 00:08:53 เพื่อให้ยาเข้าไปลดลดการอักเสบโดยตรงที่
00:08:54 → 00:08:56 เส้นประสาทยาที่ใช้เนี่ยส่วนใหญ่เรามักจะ
00:08:56 → 00:08:59 ใช้สเตรอยด์นะครับร่วมกับยาชาแต่ว่ายา
00:08:59 → 00:09:01 สเตอรอยด์ที่เราใช้เนี่ยเราได้ไม่ได้ใช้
00:09:01 → 00:09:03 ปริมาณมากนะครับเราใช้ยาปริมาณเล็กน้อย
00:09:04 → 00:09:05 เท่านั้นนะฮะเล็กน้อยเท่านั้นเพราะถ้า
00:09:05 → 00:09:08 เกิดเทียบกับสมัยก่อนเนี่ยจากงานวิจัยที่
00:09:08 → 00:09:10 เราทำอยู่เนี่ยพบว่าปริมาณยาเล็กน้อย
00:09:10 → 00:09:13 เนี่ยก็ได้ผลดีเทียบเทียบเท่ากับยาที่จะ
00:09:13 → 00:09:15 ใช้ปริมาณมากๆเพราะฉะนั้นเพื่อลดผลข้าง
00:09:15 → 00:09:18 เคียงจากการใช้ยาสเตอยดยาที่เราจะใช้
00:09:18 → 00:09:20 เนี่ยก็ปริมาณไม่มากเท่าไหร่น้อยมากนะ
00:09:20 → 00:09:23 ครับถามว่าบางคนบางท่านถามถามว่าเอ๊ะฉีด
00:09:23 → 00:09:25 ยาเข้าไปปุ๊บเนี่ยยามันออกฤทธิ์ยังไงบ้าง
00:09:25 → 00:09:27 นะครับยาในการออกฤทธิ์ก็คือลดการอักเสบ
00:09:27 → 00:09:29 ของปลายประสาทตรงนี้พอลดการอักเสบแล้ว
00:09:30 → 00:09:32 เนี่ยอันที่ 2 เนี่ยถามว่ามีผลข้างเคียง
00:09:32 → 00:09:34 อย่างอื่นมั้ยคือหลังจากฉีดเนี่ยเนื่อง
00:09:34 → 00:09:37 จากยาเนี่ยมีส่วนผสมของยาชาบางครั้งเอง
00:09:37 → 00:09:39 เนี่ยเวลาเราฉีดยาเข้าไปในโพรงประสาท
00:09:39 → 00:09:41 เนี่ยในโพรงประสาทจะมีเส้นเลือดค่อนข้าง
00:09:41 → 00:09:43 เยอะๆนะเพราะฉะนั้นบางครั้งเนี่ยยาชา
00:09:44 → 00:09:46 เนี่ยมันเข้าไปในเส้นเลือดอาจจะทำให้หลัง
00:09:46 → 00:09:49 จากฉีดเนี่ยอาจจะมีอาการคลื่นไส้วิงเวียน
00:09:49 → 00:09:52 ปวดศีรษะได้สักประมาณสัก 10 15 นาทีดี
00:09:52 → 00:09:54 หลังจากนั้นอาการต่างๆก็จะดีขึ้นนะครับ
00:09:54 → 00:09:56 หลังจากฉีดยาแล้วคุณจะต้องนั่งพักประมาณ
00:09:56 → 00:09:59 สัก 30 นาทีเพื่อเพราะว่าหลังจากฉีดยา
00:09:59 → 00:10:02 แล้วอาจจะมีอาการอ่อนแรงของขาบริเวณของ
00:10:02 → 00:10:04 ส่วนล่างนะครับออาจจะมีอาการชาแล้วถ้า
00:10:04 → 00:10:07 เกิดไปเดินเลยอาจจะทำให้หกล้มได้ง่ายการ
00:10:07 → 00:10:09 ฉีดยาเนี่ยถามว่าจะช่วยได้มากน้อยขนาดไหน
00:10:09 → 00:10:12 การฉีดยาส่วนใหญ่มันขึ้นอยู่กับผลของการ
00:10:12 → 00:10:14 ฉีดยาเนี่ยขึ้นอยู่กับ 1 ระดับความรุนแรง
00:10:14 → 00:10:17 ของโรคที่เป็นอันที่ 2 ก็คือขึ้นอยู่กับ
00:10:17 → 00:10:20 พฤติกรรมของคนไข้ถ้าเกิดโรคเป็นไม่มากนัก
00:10:20 → 00:10:23 พฤติกรรมไข้สามารถปรับอย่างที่ผมกล่าวไป
00:10:23 → 00:10:26 แล้วเนี่ยส่วนใหญ่มากกว่า 80% ได้ผลดีจาก
00:10:26 → 00:10:29 การรักษาด้วยวิธีการฉีดยาจะมีส่วนน้อย
00:10:29 → 00:10:31 ประมาณสัก 10% นะครับที่จำเป็นอาจจะ
00:10:31 → 00:10:33 จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเพราะฉะนั้น
00:10:33 → 00:10:36 ส่วนใหญ่เนี่ยการรักษาเรื่องอาการปวดหลัง
00:10:36 → 00:10:38 หมอนรองกระดูกหลังเสื่อมสามารถใช้ได้ผล
00:10:38 → 00:10:41 ได้ดีด้วยการรักษาอย่างที่วิธีกล่าวก็คือ
00:10:41 → 00:10:44 1 ปรับพฤติกรรม 2 ทานยา 3 ฉีดยาเข้าพง
00:10:44 → 00:10:46 ประสาทด้านหลังนะครับมีจำนวนน้อยนักนะ
00:10:46 → 00:10:49 ครับประมาณน้อยกว่า 10% ที่จำเป็นต้อง
00:10:49 → 00:10:51 รักษาด้วยการผ่าตัดซึ่งส่วนใหญ่ถ้าเกิด
00:10:51 → 00:10:53 รักษาด้วยการปรับพฤติกรรมทานยาเนี่ยส่วน
00:10:53 → 00:10:55 ใหญ่จะใช้เวลานานประมาณ 5-6 เดือนอาการ
00:10:55 → 00:10:58 ผู้ป่วยก็จะค่อยๆดีขึ้นอย่างช้าๆเรื่อยๆ
00:10:58 → 00:11:01 นะครับส่วนการผ่าตัดนี้ก็จะเหมาะสำหรับ
00:11:01 → 00:11:04 กรณีที่ว่าอันที่ 1 มีการกดเส้นประสาทมาก
00:11:05 → 00:11:07 จนทำให้มีปัญหาเรื่องของอุจจาระปัสสาวะ
00:11:07 → 00:11:10 ลำบากอันที่ 2 คือหลังจากที่กล่าวมาทั้ง
00:11:10 → 00:11:13 หมดแล้วเนี่ยไม่ว่าจะทานยาฉีดยาปรับ
00:11:13 → 00:11:15 พฤติกรรมแล้วประมาณ 5-6 เดือนแล้วอาการ
00:11:15 → 00:11:19 ไม่ดีขึ้นเลยนะครับไม่สามารถทำงานได้ก็
00:11:19 → 00:11:21 เดินก้าวขาไม่ออกอันนี้ก็เป็นพ่อควรแนะนำ
00:11:21 → 00:11:24 ที่จะไปรักษาด้วยการผ่าตัดครับขอบคุณนะ
00:11:24 → 00:11:27 ครับสำหรับเรื่องอาการปวดหลัง