00:00:00 → 00:00:03 เราจะมาพูดถึงเรื่องของเช็คก่อนสายภาวะ
00:00:03 → 00:00:06 หัวใจวายเฉียบพลันคนแข็งแรงก็เป็นได้และ
00:00:06 → 00:00:09 อย่างที่เกริ่นไปในช่วงที่แล้วนะคะว่าวัน
00:00:09 → 00:00:12 นี้เราจะมาพบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน
00:00:12 → 00:00:15 โรคหัวใจและหลอดเลือดกันอาจารย์จะมาให้
00:00:15 → 00:00:18 ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของภาวะหัวใจไว
00:00:18 → 00:00:20 และการป้องกันนะคะว่าแล้วก็ไปพบกับ
00:00:20 → 00:00:23 อาจารย์กันดีกว่าค่ะสวัสดีค่ะ
00:00:23 → 00:00:28 [เพลง]
00:00:28 → 00:00:34 อาจารย์
00:00:34 → 00:00:38 อาจารย์คะภาวะหัวใจวายคืออะไรคะครับก่อน
00:00:38 → 00:00:41 อื่นนะครับต้องเข้าใจว่าคำว่าหัวใจวาน
00:00:41 → 00:00:43 เนี่ยเป็นคำที่ประชาชนทั่วไปหรือชาวบ้าน
00:00:43 → 00:00:46 ใช้กันนะครับเพราะว่าถ้าเราไปดูความหมาย
00:00:46 → 00:00:49 คำว่า Y เนี่ยนะราชบัณฑิตนะฮะบัญญัติไว้
00:00:49 → 00:00:54 ว่าเป็นภาวะที่สิ้นไปนะตามกำหนดเวลาเช่น
00:00:54 → 00:00:57 ไตวายหรือว่าตลาดวายเงี้ยนะครับแต่หัวใจ
00:00:57 → 00:01:00 ถ้าสิ้นไปก็คือตายไปเลยนะครับเพหัวใจไม่
00:01:00 → 00:01:03 ทำงานนะครับเพราะฉะนั้นเป็นภาวะซึ่งในทาง
00:01:03 → 00:01:06 การแพทย์เราไม่ได้ใช้คำนี้โดยตรงเราใช้คำ
00:01:06 → 00:01:10 ว่าเฉพาะลงไปเลยเช่นมีภาวะหลอดเลือดหัวช
00:01:10 → 00:01:12 เฉียบพันธอย่างเงี้ยเป็นต้นนะครับที่เรา
00:01:13 → 00:01:16 เจอกันบ่อยนะหรือมีความผิดปกติของการเต้น
00:01:16 → 00:01:19 หัวใจรุนแรงจนกระทั่งมีอาการเฉียบพันอะไร
00:01:19 → 00:01:21 อย่าเงี้ยซึ่งส่วนใหญ่มันหมายถึงภาวะที่
00:01:21 → 00:01:24 เฉียบพันเพราะเรามีภาวะซึ่งเป็นเรื้อรัง
00:01:24 → 00:01:27 ด้วยนะครับอย่างเช่นไตรวายเฉียบพันธ์ไตร
00:01:27 → 00:01:30 วายเรื้อรังก็มีนะะแต่หัวใจควายเนี่ยความ
00:01:30 → 00:01:33 หมายหมายถึงภาวะหัวใจต่างๆที่ผิดปกติ
00:01:33 → 00:01:36 อย่างเฉียบพันก็คงเป็นความหมายนั้นนะครับ
00:01:36 → 00:01:38 นะซึ่งบางครั้งถ้าเป็นเรื้อรังเราอาจะมีก
00:01:39 → 00:01:41 ชื่อนึงเช่นเรียกว่าหัวใจล้มเหลวพวกนี้
00:01:41 → 00:01:44 หัวใจล้มเหลวเฉียบพันธุก็มีหัวใจล้มเหลว
00:01:44 → 00:01:46 เรื้อรังก็มีอย่างเงี้เป็นต้นนะครับเพราะ
00:01:46 → 00:01:48 ฉะนั้นตรงนี้ต้องเข้าใจความหมายตรงนี้นะ
00:01:49 → 00:01:52 ครับสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจวายเกิด
00:01:52 → 00:01:56 จากอะไรคะครับการที่เกิดภาวะผิดปกติของ
00:01:56 → 00:01:58 หัวใจเฉียบพันธนะครับซึ่งเราเรียกกันว่า
00:01:58 → 00:02:02 หัวใจวายอ่ะพง่าๆนะครับชาทั่วๆไปนะก็ตั้ง
00:02:02 → 00:02:05 แต่ว่าดูการทำงานของหัวใจเป็นหลักนะครับ
00:02:05 → 00:02:09 เช่นหัวใจมีหน้าที่บีบกับคายใช่มครับบีบ
00:02:09 → 00:02:12 กับคายแล้วมันอันที่ 2 คือต้องตามจังหวะ
00:02:12 → 00:02:15 นะครับเพราะฉะนั้นการบีบหรือคายที่ผิด
00:02:15 → 00:02:19 ปกติไปนะครับหรือการเต้นของการจังหวะที่
00:02:19 → 00:02:22 ผิดปกติไปก็ทำให้การทำงานเนี้ยไม่ได้
00:02:22 → 00:02:25 สามารถถูกฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆร่าง
00:02:25 → 00:02:29 กายไม่พอนะครับเช่นหลอดเลือดหัวใจนะถึง
00:02:29 → 00:02:31 เจอกันบ่อยถ้าเกิดหลอดเลือดหัวใจมันเกิด
00:02:31 → 00:02:35 ตีบตันเฉียบพันขึ้นมาทันทีนะครับหัวใจก็
00:02:35 → 00:02:39 ขาดเลือดภาวะหัวใจขาดเลือดเ่ะทำให้หัวใจ
00:02:39 → 00:02:42 มันร้องขึ้นมานะผมเรียกว่าหัวใจเป็นอวยวะ
00:02:42 → 00:02:44 ที่ร้องได้เวลามันขาดเลือดเพราะฉะนั้นมัน
00:02:44 → 00:02:47 ก็จะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเวลาเราทำอะไร
00:02:47 → 00:02:51 ยกของเดินขึ้นบันไดนะใช้แรงขึ้นมาเนี่ย
00:02:51 → 00:02:53 มันมีอาการแน่นหน้าอกอันนี้เป็นลักษณะของ
00:02:53 → 00:02:56 หัวใจขาดเลือดนะครับนอกจากนี้แล้วก็จะมี
00:02:56 → 00:02:59 อาการที่หัวใจบีบและคายที่ผิดปกติไปไม่
00:02:59 → 00:03:02 ว่าจะด้วยของกล้ามเนื้อหัวใจนะครับหรือ
00:03:02 → 00:03:06 ลิ้นหัวใจนะครับหรือแม้แต่เยี่ยวหุ้มหัว
00:03:06 → 00:03:08 ใจอย่างเงี้ยนะครับิดปกติหรือการเต้นผิด
00:03:08 → 00:03:11 จังหวะที่ผิดจังหวะรุนแรงมากก็ทำให้ช้า
00:03:11 → 00:03:14 เกินไปเร็วเกินไปเต้นผิดจังหวะมากเลือด
00:03:14 → 00:03:16 ที่ออกจากหัวใจก็น้อยลงเพราะฉะนั้นก็ไป
00:03:16 → 00:03:19 เลี้ยงส่วนต่างๆน้อยลงไปเลี้ยงสมองน้อยลง
00:03:19 → 00:03:21 ก็จะมึนๆซึมๆนะครับไปเลี้ยงอวยวะต่างๆ
00:03:22 → 00:03:25 น้อยลงนะก็จะเกิดอาการเหนื่อยมากขึ้นใน
00:03:25 → 00:03:28 ขณะที่เลือดมันออกจากหัวใจน้อยลงมันก็ไป
00:03:28 → 00:03:32 ค้างที่ปอดนะค้างอยู่ที่ที่เท้าเราก็จะ
00:03:32 → 00:03:35 เหนื่อยมากขึ้นมีอาการของน้ำท่วมปอดอย่าง
00:03:35 → 00:03:38 ที่เราคงทราบนั้นนอนลาบไม่ได้นะครับหรือ
00:03:38 → 00:03:40 นอนไปแล้วหายใจไม่สะดวกต้องลุกมานั่งนะ
00:03:40 → 00:03:43 ครับหรือถ้าภาวะที่หัวใจเต้นผิดจังหวะ
00:03:43 → 00:03:46 รุนแรงนะเราธรรมดามันก็เต้นเราไม่รู้สึก
00:03:46 → 00:03:48 นะครับแต่อะไรก็ตามมันอยู่มันเต้นเร็วจี๋
00:03:48 → 00:03:51 เลยหรือมันช้าเกินไปหรือไม่ก็เต้นผิด
00:03:51 → 00:03:54 จังหวะเราจะรู้สึกรู้สึกว่าใจมันสั่นใจ
00:03:54 → 00:03:56 มันเต้นไม่ไม่เหมือนปกติอ่ะอย่างเงี้ยนะ
00:03:56 → 00:03:59 ครับถึงอาจจะมีอาการพร้อมกับอาการเจ็บ
00:03:59 → 00:04:03 หน้าอกเศีรษะหรือแม้แต่เลือดไปเลี้ยงสมอง
00:04:03 → 00:04:06 ไม่พอนะครับหรือว่าเหนื่อยมากขึ้นนะอัน
00:04:06 → 00:04:08 นี้ก็เป็นอาการใหญ่ๆที่เราเจอนะครับใน
00:04:08 → 00:04:12 ภาวะเฉียพันธุ์เครับอาจารย์คะแล้วผู้ป่วย
00:04:12 → 00:04:15 ที่มีภาวะหัวใจไว้จะมีอาการอย่างไรบ้างคะ
00:04:15 → 00:04:19 ครับอาการก็ที่เจอบ่อยๆแล้วแต่สาเหตุใช่
00:04:19 → 00:04:22 มั้ครับถ้าสาเหตุจากหลอดเลือดมันติดตันนะ
00:04:22 → 00:04:26 ครับตรงนี้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆนะร่าง
00:04:26 → 00:04:28 กายโดยเฉพาะหัวใจไม่พอก็จะเกิดการเจ็บ
00:04:28 → 00:04:32 แน่นหน้าอกมานะครับบางคนก็บอกมันเหมือน
00:04:32 → 00:04:35 อะไรมาทับที่หน้าอกแต่บางครั้งก็ไม่แน่ฮะ
00:04:35 → 00:04:37 อาการถ้าสงสัยเราก็ต้องสงสัยไว้ก่อนว่า
00:04:38 → 00:04:41 เป็นภาวะหัวใจเฉียบพันธนะครับอันที่ 2 ก็
00:04:41 → 00:04:43 คือมีภาวะที่เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆร่าง
00:04:43 → 00:04:47 กายไม่พอนะครับก็เช่นว่าเวียนหัวลุกขึ้น
00:04:47 → 00:04:50 มาจะหน้ามืดเป็นลมนะครับอย่างเงี้ยแล้วก็
00:04:50 → 00:04:53 ในขณะเดียวกันเลือดมันก็ผ่านหัวใจไม่ได้
00:04:53 → 00:04:56 ดีนะครับก็ค้างอยู่ที่ปอดเราก็จะเหนื่อย
00:04:56 → 00:04:58 ง่ายขึ้นทำอะไรไม่เคยเหนื่อยเดินขึ้น
00:04:58 → 00:05:01 บันไดยกของก็จะรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นอย่าง
00:05:01 → 00:05:04 เงี้ยเวลาเราใช้หัวใจทำงานมากขึ้นให้มัน
00:05:04 → 00:05:06 เต้นเร็วขึ้นแรงขึ้นเนี่ยจะรู้สึกเหนื่อย
00:05:06 → 00:05:08 มากขึ้นนะครับแล้วถ้าภาวะที่เลือดไป
00:05:08 → 00:05:12 เลี้ยงสมองไม่พอเป็นมากพออาจจะมีอาการจะ
00:05:12 → 00:05:15 เป็นลมบางทีึงหมือสติโดยเฉพาะถ้ามีภาวะ
00:05:15 → 00:05:17 หัวใจเต้นผิดจังหวะร่วมด้วยเนี่ยนะบางคน
00:05:17 → 00:05:20 เสียชีวิตเฉียบพันธก็มีล้มหมดสติไปเลย
00:05:20 → 00:05:22 อย่างเงี้ยนะครับแล้วถ้าเราไม่ได้ช่วย
00:05:22 → 00:05:26 กลับมาก็อาจจะถึงกับเสียชีวิตได้นะครับ
00:05:26 → 00:05:30 ภาวะหัวใจวายมีวิธีการรักษาหรือไม่คะครับ
00:05:30 → 00:05:34 วิธีการดูแลรักษานะครับก็คือการไปแก้ที่
00:05:34 → 00:05:36 ต้นเหตุเป็นหลักนะครับเพราะบางครั้งการ
00:05:36 → 00:05:40 แก้ปลายเหตุก็กรณีที่ฉุกเฉินมากๆเลยนะ
00:05:40 → 00:05:43 ฉุกเฉินมากที่สุดก็คือคนไข้หมดสติทำชีพ
00:05:43 → 00:05:46 จ้อนไม่ได้นะะหลุดหายใจอะไรงงี้นะครับก็
00:05:46 → 00:05:49 ต้องปั๊มหัวใจกันนะครับอันนั้นก็เป็น
00:05:49 → 00:05:52 เรื่องของการกู้ชีวิตนะครับซึ่งจะช่วยทำ
00:05:52 → 00:05:55 ให้คนไข้รอดพ้นจากภาวะที่เลือดไม่ไป
00:05:55 → 00:05:58 เลี้ยงส่วนต่างๆร่างกายเพียงพอนะครับแล้ว
00:05:58 → 00:06:01 ลองลงมาก็เป็นเรื่องเรื่องของการที่มีต้น
00:06:01 → 00:06:03 เหตุจากากหลอดเลือดมันตีบบ้างกล้ามเนื้อ
00:06:03 → 00:06:07 หัวใจลิ้นหัวใจนะครับมันทำงานผิดปกติและ
00:06:07 → 00:06:10 ทำให้เกิดอาการเจ็บแน่นหน้าอกนะฮะอย่าง
00:06:10 → 00:06:14 เงี้ยหรืออาการที่เลือดค้างอยู่ในปอดพวก
00:06:14 → 00:06:16 นี้ก็ต้องรับตาตามต้นเหตุตรงนั้นเช่นให้
00:06:16 → 00:06:19 ขยายหลอดเลือดให้ยาละลายลิ่มเลือดหรือแม้
00:06:19 → 00:06:22 แต่ให้ใช้บรูนเข้าไป่างหลอดเลือดที่มัน
00:06:22 → 00:06:26 ตีบมันตันอย่างเงี้ยอันนี้ก็จะช่วยนะครับ
00:06:26 → 00:06:28 หรือว่าน้ำในปอดมันมากเกินไปเราก็อาจจะ
00:06:28 → 00:06:33 ต้องให้อเจนช่วยแลให้ขับน้ำออกขับส่วนที่
00:06:33 → 00:06:36 เกินออกคนไข้ก็จะอาการดีขึ้นอันนี้ก็เป็น
00:06:36 → 00:06:39 อาการรักษาโดยทั่วไปสุดท้ายก็ไปรักษาต้น
00:06:39 → 00:06:42 เหตุครับว่าเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดตรง
00:06:42 → 00:06:44 เนี้ยต้องไปแก้ป้องกันไม่ให้มันเป็นครับ
00:06:44 → 00:06:48 อาจารย์คะแล้วการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อ
00:06:48 → 00:06:50 พบผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจวายจะต้องทำอย่าง
00:06:50 → 00:06:54 ไรบ้างคะครับก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของ
00:06:54 → 00:06:58 ผู้ป่วยที่เราไปพบนะครับโดยทั่วไปอันที่
00:06:58 → 00:07:01 รุนแรงที่สุดนะครับก็คือลักษณะที่คนไข้
00:07:01 → 00:07:03 ไม่รู้ตัวอย่างเช่นนอนอยู่กับพื้นอย่าง
00:07:03 → 00:07:06 เงี้ยแล้วเราก็ไม่รู้นะครับแรกก็คือต้อง
00:07:06 → 00:07:10 ไปปลุกดูว่าตื่นมอย่างนี้นะครับนะหรือลอง
00:07:10 → 00:07:12 ยกแข้งยกขาถ้าตกลงมาเลยอย่างเงี้ยก็เป็น
00:07:12 → 00:07:15 อันที่บอกว่าเขาไม่ไม่รู้ตัวอย่างเงี้ย
00:07:15 → 00:07:18 เป็นต้นนะครับและถ้าเราสามารถที่จะคำชิ
00:07:18 → 00:07:20 ประจรได้หรือรู้การเต้นหัวใจได้เราก็
00:07:20 → 00:07:22 ประเมินแต่ถ้าประเมินไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
00:07:22 → 00:07:26 ครับนะถ้าปลูกไม่ตื่นอะไรเงี้ยก็ดูที่ว่า
00:07:26 → 00:07:28 เราจะต้องทำคู้ชีวิตมโดยการปั๊มหัวใจ
00:07:28 → 00:07:30 อย่างเงี้ยเป็นต้นนะครับอันนั้นเป็น
00:07:30 → 00:07:33 เรื่องของการกู้ชีวิตซึ่งตรงนั้นก็จะเป็น
00:07:33 → 00:07:38 มีอ่าวิธีการทามลำดับนะฮะเราเราลงมาก็
00:07:38 → 00:07:40 เป็นเรื่องของผู้ป่วยที่มีเขาเรียกว่า
00:07:40 → 00:07:44 สัญญาณชีพที่เป็นปกติค่ะนะครับก็คืออย่าง
00:07:44 → 00:07:47 เช่นเราวัดความดันแล้วมันต่ำนะโดยเฉพาะ
00:07:47 → 00:07:49 ต่ำกว่า 100 ตัวบนนะครับลงมาเนี่ยนะครับ
00:07:49 → 00:07:52 แล้วคนไข้ไม่ค่อยรู้ตัวหรือว่าเนี่ยเลือด
00:07:52 → 00:07:55 ไปเลี้ยงถ่วนต่างๆไม่พอละนะครับอันนี้ถ้า
00:07:55 → 00:07:58 เป็นไปได้ก็ต้องนอนลาบยกเถาวสูงเพื่อให้
00:07:58 → 00:08:00 เลือดกลับหัวใจมากขึ้นจะเพิ่มความดัน
00:08:00 → 00:08:03 อย่างเงี้เป็นต้นหรือเรามีสาเหตุอะไรที่
00:08:03 → 00:08:06 ทำให้เกิดการเต้นผิดจังหวะอย่างเงี้ยนะ
00:08:06 → 00:08:10 ครับเราก็ต้องหลีกเลี่ยงหรือแก้ไขนะฮะตรง
00:08:10 → 00:08:13 นี้นะอันนั้นก็จะเป็นอันที่เราต้อง
00:08:13 → 00:08:16 ประเมินดูแล้วดูสาเหตุตรงนั้นแล้วก็รักษา
00:08:16 → 00:08:19 ตามตนเหตุนะเดียวกันถ้าอันไหนที่รุนแรง
00:08:19 → 00:08:22 เราต้องทำตรงนั้นก่อนนะเพื่อที่ให้เขรอด
00:08:22 → 00:08:25 พ้นจากภาวะที่อันตรายฉุกเฉินแล้วก็มาดูิ
00:08:25 → 00:08:28 ว่าเราจะช่วยป้องกันตรงไหนได้แค่ไหนนะ
00:08:28 → 00:08:30 ครับโดยทั่วไปหลการง่ายๆก็คือผู้ป่วย
00:08:31 → 00:08:33 กำลังคิดพูดทำอะไรอยู่แล้วเกิดอาการนะ
00:08:33 → 00:08:36 ครับให้หยุดสิ่งนั้นหยุดสิ่งนั้นไว้ก่อน
00:08:36 → 00:08:40 แล้วถ้าเป็นไปได้นอนลาภยกเท้าสูงโดยเฉพาะ
00:08:40 → 00:08:43 ในส่วนที่ความดันต่ำจะผิดจังหวะเงี้ยนะ
00:08:43 → 00:08:46 อันต่อไปที่ผู้ป่วยจะดูแลตนเองได้ก็คือ
00:08:46 → 00:08:49 คุณหมอเคยบอกไมยว่าถ้าเกิดกรณีฉุกเฉินให้
00:08:49 → 00:08:52 ทำอะไรบ้างตัวอย่างเช่นคนไข้หล่อเลิ่กหัว
00:08:52 → 00:08:55 ใจตีบหัวใจขาดเลือดเนี่ยหรือเคยเป็นกล้าม
00:08:55 → 00:08:58 นืหัวใจตายคุณหมอมักจะให้ยาอมใต้ลิ้นติด
00:08:58 → 00:09:00 ตัวไว้เลยหรือบางคนก็เป็นพ่นใช่มั้ครับ
00:09:00 → 00:09:02 พ่นากเงี้ยนะครับซึ่งตรงนั้นน่ะก็จะเป็น
00:09:02 → 00:09:05 อันนึงซึ่งถ้าเราคิดอะไรอยู่พูดอะไรอยู่
00:09:05 → 00:09:07 ทำอะไรอยู่ให้หยุดพักแล้วจะนั่งพักหรือ
00:09:07 → 00:09:09 นอนพักก็ได้แล้วแต่อันไหนสบายกว่ากันนะ
00:09:09 → 00:09:12 ครับบางคนนอนแล้วอาจจะไม่สบายก็ได้นะครับ
00:09:12 → 00:09:16 แล้วเสร็จแล้วก็อมแอมใต้ลิ้นอ่ามใ้ลิ้น
00:09:16 → 00:09:18 นี่อมแล้วต้องซ่าถ้าไม่ซ่าแปลว่ามันหมด
00:09:18 → 00:09:21 อายุแล้วเอมาเปลี่ยนนะครับแล้วก็รอสัก 10
00:09:21 → 00:09:24 นาทีแล้วดูอาการมันดีขึ้นมยถ้าอาการไม่ดี
00:09:24 → 00:09:28 ขึ้นอมอเม็ดนึงรอ 10 นาทีนะครับแต่เวลาอม
00:09:28 → 00:09:31 นี่ห้ามยืนนะครับเพราะความดันอาจจะต่ำ
00:09:31 → 00:09:33 เพราะจะเป็นลมเพราะฉะนั้นเวลาจะอมยาอมใต้
00:09:33 → 00:09:36 ลิ้นต้องนั่งหรือนอนนะครับเพราะฉะนั้นถ้า
00:09:36 → 00:09:39 อมไปแล้ว 2 เม 20 นาทีอันนั้นเป็นตัวบอก
00:09:39 → 00:09:42 คนไข้ว่าไปโรงพยาบาลครับนะครับเพราะอัน
00:09:42 → 00:09:44 นั้นเป็นภาวะฉุกเฉินซึ่งเขาดูแลตัวเองไม่
00:09:44 → 00:09:47 ได้แล้วตรงนี้ต้องรีบไปหรือไปตรงไหนก็ได้
00:09:47 → 00:09:50 ที่ทำขึ้นไฟฟ้าหัวใจได้คุณหมอก็จะรู้ว่า
00:09:50 → 00:09:52 เกิดอะไรเฉียบพันธุขึ้นซึ่งบางครั้งเรา
00:09:52 → 00:09:55 ต้องแก้ไขภายใน 4-6 ช่วโมงอย่างเงี้ยเป็น
00:09:55 → 00:09:59 ต้นนะครับอันนี้ก็เป็นการดูแลคร่าวๆในใน
00:09:59 → 00:10:02 แง่ของความดูแลเบื้องต้นครับอาจารย์คะ
00:10:02 → 00:10:04 แล้วเราจะมีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดภาวะหัว
00:10:04 → 00:10:08 ใจไววายได้อย่างไรบ้างครับส่วนใหญ่ปัญหา
00:10:08 → 00:10:10 ที่หัวใจเฉียบพันธนะครับเป็นเรื่องของ
00:10:10 → 00:10:13 หลอดเลือดหัวใจที่มันตีบตันเฉียบพันธ์น่ะ
00:10:13 → 00:10:16 นะครับตัวการใหญ่ๆหรือปัจจัยสำคัญเลยก็มี
00:10:16 → 00:10:19 5 ตัวนะครับเบาหวานความดันไขมันบุหรี่
00:10:19 → 00:10:23 อ้วนพลีมีพุง 5 ตัวนะครับเพราะฉะนั้นตรง
00:10:23 → 00:10:26 เนี้ย 5 ตัวถ้าใครมีครบนะฮะก็เตรียมพร้อม
00:10:26 → 00:10:29 ที่อาจจะมีอาการพวกนี้ได้นะครับเบาหวาน
00:10:29 → 00:10:31 น้ำตาลสูงใช่มั้ยครับเพราะฉะนั้นมันเกิด
00:10:31 → 00:10:33 การอักเสบของหลอดเลือดได้ง่ายเนื่องจาก
00:10:33 → 00:10:37 น้ำตาลที่สูงนะครับนะความดันที่สูงก็เป็น
00:10:37 → 00:10:40 อันที่ทำให้หลอดเลือดมันหนาตัวขึ้นตรงนี้
00:10:40 → 00:10:45 นะครับนะไขมันที่ผิดปกติไขมันที่ไม่ดี ldl
00:10:45 → 00:10:48 ก็จะไปพอกหลอดเลือดพอกตรงที่อักเสบแล้ว
00:10:48 → 00:10:51 ครับมันไปพอกมากๆนะครับความดันสูงกระแทก
00:10:51 → 00:10:54 หลอดเลือดอยู่ตลอดนะครับหลอดเลือดก็จะ
00:10:54 → 00:10:57 เป็นแผลในหลอดเลือดพอเป็นแผลปั๊บก็มีลิ่ม
00:10:57 → 00:11:00 เลือดมาปิดปากแผลเหมือนเราตัวมีดบาดแล้ว
00:11:00 → 00:11:03 มีเลือดมาปิดนิ่มเลือดก็จะโตขึ้นถ้าเรา
00:11:03 → 00:11:07 เป็นคนที่เลือดข้นหรือเราไม่ได้กินอ่าผัก
00:11:07 → 00:11:10 ผลไม้เลยเนี่ยเลือดมันจะข้นแล้วก็มันจะ
00:11:10 → 00:11:13 ละลาลิ้มเลือดได้ช้านะครับเพราะฉะนั้น
00:11:13 → 00:11:15 ก้อนเลือดก็จะโตขึ้นเรื่อยๆถ้าตันไปเลยนะ
00:11:15 → 00:11:18 ครับกล้ามเนื้อหัวใจนะไม่เกิน 6 ช่วโมงก็
00:11:18 → 00:11:21 ตายอย่างเงี้เป็นต้นบางคนถึงกับขาดเลือด
00:11:21 → 00:11:24 นะครับแล้วบางคนก็เต้มเผ็ดผิดจังหวะเสีย
00:11:24 → 00:11:28 ชีวิตทันทีก็มีนะครับแล้วในส่วนอ่าบุหรี่
00:11:28 → 00:11:31 ก็เป็นตัวทำให้หลอดเลือดมันข้นขึ้นความ
00:11:31 → 00:11:34 อ้วนก็เป็นคนทำให้น้ำตาลสูงขขมันผิดปกติ
00:11:34 → 00:11:36 ความดันขึ้นเห็นมั้ฮะเพราะฉนั้น 5 ตัว
00:11:36 → 00:11:39 ครับเป็นตัวหลักถ้าเราจะป้องกันตัวเองฮะ
00:11:39 → 00:11:41 ให้มีสุขภาพดีโดยเฉพาะสุขภาพหัวใจหลอด
00:11:41 → 00:11:44 เรือนก็เบาหวานความดันไขมันบุรี่อ้วนพีมี
00:11:44 → 00:11:46 พุง 5 ตัวนี้ดูแลให้ดี
00:11:46 → 00:11:51 ครับขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมรายการ TNN
00:11:51 → 00:11:54 Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด Subscribe กด
00:11:54 → 00:11:57 ไลค์กดแชร์ในทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN
00:11:57 → 00:12:00 ช่อง 16 ค่ะเพื่อเพื่อที่จะไม่พลาดการรับ
00:12:00 → 00:12:04 ชมรายการสดคลิปวีีดีโอที่น่าสนใจของทาง
00:12:04 → 00:12:08 TNN นะคะ