อะไรคือความหมายของคำว่า noซibo ที่พูดถึงในวิดีโอ

Manifest แบบนี้ชีวิตดีทุกด้าน! สุขภาพ การงาน การเงิน ความรัก | เกลาแก้โรค EP.35 หมอฟ้า สมาธิศาสตร์

จากช่อง : Klaoshow


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:02 ความเชื่อของเราอ่ะมันทำให้เราเปลี่ยน

00:00:0200:00:06 ร่างกายของเราได้แต่สิ่งที่ทำให้แบบไปได้

00:00:0600:00:10 ไวกว่าคือNoซebไม่ได้มีตัวที่ทำให้เกิด

00:00:1000:00:13 โรคแต่ความคิดทำให้เกิดโรคความคิดที่เกิด

00:00:1300:00:16 ขึ้นซ้ำๆมีผลต่อร่างกายมีผลต่อชีวิตของ

00:00:1600:00:19 เราด้วยตอนแรกเราป่วยแล้วมันหาสาเหตุไม่

00:00:1900:00:22 ได้ก็เลยกลับมานั่งทำสมาธิกลับมาพักแล้ว

00:00:2200:00:24 ก็กลับมาอยู่กับตัวเองแล้วจุดนั้นน่ะเป็น

00:00:2400:00:27 จุดที่ทำให้เราอ่ะค่อยๆหายเขาเรียกว่า

00:00:2700:00:30 เป็น plivo ออ่าสัมพันธ์กับจักระกระบวน

00:00:3100:00:33 การmanสอ่ะไม่ใช่กระบวนการที่เกิดขึ้นแบบ

00:00:3400:00:37 1 วัน 2 วันมันเป็นรองเกมมันเป็นระยะยาว

00:00:3700:00:39 เพราะว่า manifest มันไม่ใช่ความคิดแต่

00:00:3900:00:42 คิดซ้ำๆอ่ะถึงลงมือทำลงมือทำซ้ำๆเป็น

00:00:4200:00:44 นิสัยเพราะฉะนั้นถ้าไม่ได้เปลี่ยนนิสัยก็

00:00:4400:00:47 ไม่สามารถได้รับในสิ่งนั้นได้ไม่มีทางลัด

00:00:4700:00:50 เนาไม่มีทางลัดทางลัดคือทำไปเรื่อยๆทุกคน

00:00:5000:00:52 ก็อยากได้แบบ Passive Income แต่ไม่ใช่

00:00:5200:00:55 ทุกคนที่จะได้อยู่ที่ว่าเราลงมือทำจนเป็น

00:00:5500:00:58 นิสัยความคิดที่เขากลัวร่างกายสามารถผิด

00:00:5800:01:01 เพี้ยนไปได้หมดเลยตามความคิดของเขานี่มัน

00:01:0100:01:03 เป็นร่างกายของเราเราเป็นคนที่อยู่กับตัว

00:01:0300:01:06 เราตลอดเวลามันจะดีมยถ้าเรากลับมาบอกรัก

00:01:0600:01:09 ร่างกายเอ้ยขอบคุณนะขอบคุณร่างกายความคิด

00:01:0900:01:12 ที่มันส่งไปอ่ะมันส่งผลต่อเซลล์ในร่างกาย

00:01:1200:01:16 การทำสิ่งเนี้ยไม่มีอะไรเสีย

00:01:1600:01:22 หายเกลาแก้โรคเกลานิสัยห่างไกล

00:01:2200:01:26 โรคสวัสดีค่ะยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการ

00:01:2600:01:28 เกลาแก้โรคค่ะวันนี้นะคะแพนด้าอยากจะพา

00:01:2800:01:31 ทุกท่านมาดึงดูดสุขภาพดีๆไปด้วยกันค่ะแต่

00:01:3100:01:33 ว่าจะดึงดูดยังไงให้ได้ผลเนี่ยต้องรบกวน

00:01:3300:01:35 ปรึกษาคุณหมอท่านนี้แล้วล่ะค่ะวันนี้

00:01:3500:01:37 แพนด้าอยู่กับคุณหมอฟ้าจากเพจหมอฟ้า

00:01:3700:01:41 สมาธิศาสตร์ค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอสวัสดีค่ะ

00:01:4100:01:44 น้องแพนด้าวันนี้ก็พลังงานดีๆมาเลยอ่า

00:01:4400:01:47 เพราะว่าจริงๆอยากคุยในเรื่องของการที่

00:01:4700:01:49 ยุคเนี้ยเราจะได้ยินเนาะอย่างปี 2024 ที่

00:01:4900:01:52 ผ่านมาค่ะจะเป็นยุคของการ manifest อ่า

00:01:5200:01:55 เราจะได้ยินเป็นคำประจำปีเลยเดี๋วันนี้

00:01:5500:01:57 เราอยากจะคุยกันในเรื่องนี้ค่ะว่าเอ้ยเรา

00:01:5700:02:01 จะสุขภาพดีได้มั้ยอ่าก่อนอื่นค่ะแพนด้า

00:02:0100:02:04 อยากรู้ว่าแล้วอย่างเจ้าความคิดอ่ะค่ะ

00:02:0400:02:07 ความคิดลบเนี่ยค่ะมันมีผลต่อการเจ็บไข้

00:02:0700:02:10 ไม่สบายของเราได้มั้คะมีผลมากๆเลยพี่อยาก

00:02:1000:02:13 จะเล่าเคสพี่แล้วกันจริงๆอ่ะค่ะช่องหมอ

00:02:1300:02:16 ฟ้าสมาธิศาสตร์ไม่ได้เกิดจากการที่แบบโอ้

00:02:1600:02:19 ชีวิตดีแล้วออกมาทำช่องไม่ใช่จุดเริ่มต้น

00:02:1900:02:22 ของเขาเกิดมาจากการที่พี่ป่วยคือความคิด

00:02:2200:02:25 ของพี่อ่ะทำให้พี่ป่วยตอนนั้นน่ะคือเราทำ

00:02:2500:02:29 งานตลอดเวลา 9:00 น.เช้าถึง 20:00 น.ทำ

00:02:2900:02:32 งานทุกวันอาทิตย์ละ 6 วัน 7 วันตลอดและที

00:02:3200:02:34 เนี้ยมันถึงจุดที่พี่อย่าเบิร์น out ตอน

00:02:3400:02:36 แรกก็แค่เบิร์น out รู้สึกแบบไม่อยากไปทำ

00:02:3600:02:39 งานอะไรเงี้ยสักพักเริ่มนอนไม่ได้เริ่มมี

00:02:3900:02:43 ภาวะซึมเศร้าจนสุดท้ายอ่ะพี่ไปเป็นโรคที่

00:02:4300:02:45 แบบหาสาเหตุไม่ได้อ่ะเออคือหมอไม่สามารถ

00:02:4500:02:48 วินิจฉัยได้ว่าเราเป็นอะไรเพราะว่าตอน

00:02:4800:02:51 นั้นน่ะค่ะพี่แบบไม่ชอบชีวิตตัวเองเลยรู้

00:02:5100:02:54 สึกไม่ดีไอ้ความคิดนั้นของพี่อ่ะมันทำลาย

00:02:5400:02:56 พี่หรือว่าสร้างโลกให้พี่ทั้งๆที่มันไม่

00:02:5600:02:58 สามารถวินิจฉัยได้แต่ถ้าเกิดว่าในเชิงของ

00:02:5800:03:00 วิทยาศาสตร์อ่ะเขาจะเรียกสิ่งนี้ว่าเป็น

00:03:0000:03:04 noซbroคือ no คือไม่มีไม่ได้มีตัวที่ทำ

00:03:0400:03:06 ให้เกิดโรคแต่ความคิดทำให้เกิดโรคมีคุณ

00:03:0700:03:10 ลุงคนนึงชื่อคุณตาแซมลอนแต่ว่าในหลายปีมา

00:03:1000:03:12 แล้วนะคะคือคุณตาเนี่ยเขาไปหาหมอหมอบอก

00:03:1200:03:16 ว่าเฮ้ยเนี่ยคุณตาเป็นแบบมะเร็งหลอดอาหาร

00:03:1600:03:17 คุณตาหลังจากที่รู้ว่าเป็นมะเร็งหลอด

00:03:1800:03:20 อาหารน่ะค่ะจากตอนแรกอ่ะก็แบบมีความสุขดี

00:03:2000:03:23 ใช่ป่ะก็คือแบบดาวลงมาเรื่อยๆคุณตาคิดว่า

00:03:2300:03:26 ตัวเองเป็นและคนในบ้านก็คิดว่าคุณตาเป็น

00:03:2600:03:28 มะเร็งหลอนอาหารด้วยหลังจากนั้นอีกประมาณ

00:03:2800:03:32 2-3 อาทิตย์อ่ะคุณตาเสียชีวิตลงพอคุณตา

00:03:3200:03:34 เสียชีวิตลงไปใช่มั้คะเขาก็เลยเอาไป

00:03:3400:03:37 ชันสูตรสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือคุณตาไม่ได้

00:03:3700:03:40 เป็นมะเร็งหนอนอาหารคือเขาเป็นแค่แบบจุด

00:03:4000:03:42 ในปอดอ่ะค่ะซึ่งสิ่งที่ทำให้คนสงสัยก็คือ

00:03:4200:03:45 ว่าสิ่งที่คุณตาเป็นน่ะมันไม่สามารถทำให้

00:03:4500:03:49 คนนึงอ่ะเสียชีวิตได้แต่อะไรที่ทำให้คน

00:03:4900:03:52 นึงเสียชีวิตสิ่งนั้นก็คือความเชื่อของ

00:03:5200:03:55 คุณตาว่าเขาจะต้องแบบแน่เลยอะไรอย่าง

00:03:5500:03:57 เงี้ยแล้วสิ่งแวดล้อมก็คือทุกคนคิดว่าคุณ

00:03:5700:03:59 ตาแบบไม่รอดแน่เลยอ่ะค่ะเพราะฉะนั้นความ

00:03:5900:04:01 คิดอ่ะมันไม่ใช่แค่ความคิดความคิดที่เกิด

00:04:0100:04:05 ขึ้นซ้ำๆมีผลต่อร่างกายมีผลต่อชีวิตของ

00:04:0500:04:07 เราเลยเมื่อกี้ที่พี่ฟ้าบอกคือเขาถูก

00:04:0700:04:10 วินิจฉัยตอนแรกใช่เ้าวินิจฉัยตอนแรกว่า

00:04:1000:04:12 เป็นแต่เหมือนแบบมีการผิดพลาดทางการ

00:04:1200:04:15 วินิจฉัยอ่ะแล้วพอพอเขาแบบไปชนสูตรตอน

00:04:1500:04:17 หลังอ่ะมันไม่ได้เป็นแบบนั้นคือเหมือนกับ

00:04:1700:04:19 วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งแต่ว่าอาจจะเป็นแค่

00:04:1900:04:21 แบบเล็กๆอ่ะที่ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้

00:04:2100:04:24 คนนึงอ่ะต้องเสียชีวิตลงอืค่ะเออแพนด้า

00:04:2400:04:27 ถามแทนคนที่ฟังอยู่เพราะว่าต้องมีคนหลายๆ

00:04:2800:04:30 คนแย้งขึ้นมาแน่ๆว่าอ้าวก็คุณหมอเป็นคน

00:04:3000:04:32 บอกเราว่าเราป่วยนี่เราก็มีสิทธิ์ที่จะ

00:04:3200:04:34 เชื่อตามนั้นเพราะว่าคุณหมอเป็นคน

00:04:3400:04:36 วินิจฉัยแล้วแล้วบอกว่าเราอ่ะป่วยใช่อ่า

00:04:3600:04:39 คุณตาก็ไม่ผิดที่เชื่อมั้คะใช่อันเนี้ย

00:04:3900:04:42 ไม่ผิดที่เชื่อแต่สิ่งเนี้ยมันบอกว่าความ

00:04:4200:04:45 เชื่อของเราอ่ะมันทำให้เราเปลี่ยนร่างกาย

00:04:4500:04:48 ของเราได้คือเขาอ่ะไม่ผิดที่เชื่อหมอ

00:04:4800:04:50 อันเนี้ยใช่แต่ไอ้ตรงความเชื่อที่เขา

00:04:5000:04:53 เชื่อกับตัวเองอ่ะมันทำให้เขาอ่ะอยู่หรือ

00:04:5300:04:56 ไปได้ความเชื่อเขามีพลังมากขนาดแปลว่าถ้า

00:04:5600:04:59 สมมุติเราไม่ได้เป็นอะไรเลยตอนนี้คือเรา

00:04:5900:05:01 ตรวจสุขภาพมาแล้วเราก็เป็นคนที่มีร่างกาย

00:05:0100:05:04 แข็งแรงคนนึงล่ะแต่ว่าเราอาจจะมีความวิตก

00:05:0400:05:06 กังวลหรือว่าอย่างทุกวันนี้เห็นโรคมาก

00:05:0600:05:10 ขึ้นออกไปเจอฝุ่นเจออะไรแล้วบางครั้ง

00:05:1000:05:13 เนี่ยเรากังวลมากเกินกว่าความเป็นจริงใช่

00:05:1300:05:17 ๆอ่าเราก็มีโอกาสที่จะป่วยใช่ใช่หรือลอง

00:05:1700:05:21 นึกย้อนไปตอนโควิดจำได้มั้คะตอนโควิดอ่ะ

00:05:2100:05:25 เชื้อส่วนนึงนะแต่สิ่งที่ทำให้แบบไปได้ไว

00:05:2500:05:28 กว่าคือความกลัวเพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่

00:05:2800:05:30 เรากลัวค่ะมันจะทำให้ปุมต้านทานของมนุษย์

00:05:3000:05:33 อ่ะต่ำลงพอต่ำลงปุ๊บอ่ะสิ่งที่แบบมันอาจ

00:05:3300:05:36 จะเป็นอะไรเล็กๆอ่ะมันส่งผลต่อร่างกายเรา

00:05:3600:05:38 มากกว่าเดิมเพราะฉะนั้นน่ะความกลัวเป็น

00:05:3800:05:41 ตัวเหมือนแบบขยายโรคอ่ะอันนี้พี่ก็เลยใช้

00:05:4100:05:45 ในการผ่านพ้นทุกซีรียส์ของโควิดมาทั้งๆ

00:05:4500:05:47 ที่เราอ่ะทำงานเป็นหมอฟันแล้วเราแบบอยู่

00:05:4700:05:51 กับปากคนแต่ว่าเราสามารถแบบเอออยู่กับเขา

00:05:5100:05:53 ได้โดยที่ไม่กลัวแล้วเราก็แบบเออไม่ติด

00:05:5300:05:56 โควิดจริงๆอือทั้งๆที่เราใกล้ชิดกับอาจจะ

00:05:5600:05:59 มีโอกาสเป็นมากกว่าคนปกติด้วยใช่ใช่ค่ะขอ

00:05:5900:06:01 แค่เราอยู่กับเขาได้อ่ะไม่ต้องกลัวหรือ

00:06:0100:06:04 ว่าตื่นตระหนกอ่ะค่ะแล้วทีเนี้ยค่ะอยาก

00:06:0400:06:07 ถามถึงคนสุขภาพดีบ้างว่าแพนด้าจะเคยเห็น

00:06:0700:06:10 บางคนเนาะว่าเาเดินมาหรือว่าเราเจอเ้า

00:06:1000:06:13 แล้วเรารู้สึกว่าเฮ้ยคนเนี้ยมีออร่าออ่า

00:06:1300:06:15 ไอ้ออร่าที่เกิดขึ้นเนี่ยมันคืออะไรแล้ว

00:06:1500:06:17 ออร่าเนี่ยจำเป็นมั้ที่จะต้องเกิดขึ้นกับ

00:06:1700:06:20 คนสุขภาพดีเท่านั้นจริงๆแล้วอ่ะไอ้คำว่า

00:06:2000:06:24 ออร่ามักจะพูดในเชิงของจิตวิญญาณเออว่า

00:06:2400:06:27 อันเนี้ยแบบออร่าดีหรือว่าคนนี้ดูแบบพลัง

00:06:2700:06:31 งานดีจริงๆแล้วอ่ะค่ะออร่าสัมพันธ์กับ

00:06:3100:06:34 จักระจักระคือไม่ไม่ได้มีในร่างกายมนุษย์

00:06:3400:06:37 นะเ้าเหมือนเป็นศูนย์ของพลังงานแต่มัน

00:06:3700:06:39 เชื่อมโยงกับร่างกายมนุษย์คือเป็นระบบ

00:06:3900:06:41 ฮอร์โมนถ้าเกิดว่าใครแบบได้ศึกษาเรื่อง

00:06:4100:06:44 เนี้ยเขาจะบอกว่าจักรกะมันเป็น 7 จักรกะ

00:06:4400:06:46 แต่จริงๆมีมากกว่านั้นนะคะแต่ศูนย์จักรกะ

00:06:4600:06:49 มี 7 จักรกะแต่จุดสำคัญก็คือว่าแต่ละที่

00:06:4900:06:52 สัมพันธ์กับต่อมที่สร้างฮอร์โมนของแต่ละ

00:06:5200:06:55 ร่างกายเช่นจักที่ 2 จะเกี่ยวข้องกับระบบ

00:06:5500:06:57 สืบพันธุ์จักกะที่ 3 เกี่ยวข้องกับช่อง

00:06:5700:07:00 ท้องอย่างเงี้ยค่ะหรือว่าจักกัดที่ 4

00:07:0000:07:02 เกี่ยวข้องกับหัวใจจักกะที่ 5 คือเนี่ย

00:07:0200:07:04 ไทรรอยด์ก็จะเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน

00:07:0400:07:07 ไทรรอยด์จักที่ 6 อ่ะคือไเนียลแกนส่วน

00:07:0700:07:09 จักกะที่ 7 คือพิทูอิตาลีแกนเพราะฉะนั้น

00:07:0900:07:12 พวกเนี้ยถ้าเกิดว่าออร่าดีนั่นหมายความ

00:07:1200:07:16 ว่าฮอร์โมนของเราอ่ะสมดุลถ้าเราสุขภาพดี

00:07:1600:07:19 กินอิ่มนอนหลับมีความสุขฮอร์โมนเราสมดุล

00:07:1900:07:22 ถ้าเป็นผู้หญิงก็เป็นประจำเดือนปกติก่อน

00:07:2200:07:24 เป็นประจำเดือนไม่ได้เหวี่ยงไม่ได้วีนเรา

00:07:2400:07:27 สามารถกินได้นอนได้แสดงว่าเราอยู่ในความ

00:07:2700:07:30 สมดุลถ้าอยู่ในความสมดุลฮอร์โมนก็สมดุล

00:07:3000:07:33 เพราะฉะนั้นฮอร์โมนที่สมดุลออล่าก็สมดุล

00:07:3300:07:35 ไปด้วยสังเกตมยอย่างเช่นอย่างผู้หญิงอ่ะ

00:07:3500:07:37 ค่ะจะเห็นชัดถ้าเกิดบางคนแบบประจำเดือน

00:07:3700:07:40 ไม่มาประเจิมเดือนมาไม่ปกติผิวเราก็จะไม่

00:07:4000:07:42 ค่อยดีเคยเป็นมั้ยหรือว่าก่อนประจำเดือน

00:07:4200:07:45 มาเราจะแบบเป็นสิวเพราะว่าฮอร์โมนมัน

00:07:4500:07:48 เกี่ยวข้องกับออร่าของเราคือออร่าคือ

00:07:4800:07:51 เรื่องของสมดุลฮอร์โมนมากกว่าอือืก็

00:07:5100:07:53 เกี่ยวกับสุขภาพร่างกายเพราะว่าใช่

00:07:5300:07:56 ฮอร์โมนก็มีส่วนทำให้ร่างกายเราแข็งแรง

00:07:5600:07:59 หรือไม่แข็งแรงด้วยการทำงานโมากมากๆเลย

00:07:5900:08:02 ค่ะฮอร์โมนนี่คือเขาเป็นสารเคมีที่วิ่ง

00:08:0200:08:05 อยู่ในร่างกายเราแต่ว่าถ้าเกิดว่าชัดอ่ะ

00:08:0500:08:07 จะเห็นในผู้หญิงเพราะผู้หญิงอ่ะฮอร์โมนจะ

00:08:0700:08:09 มีผลเยอะเพราะว่าเรามีรอบเดือนเรามีประจำ

00:08:0900:08:12 เดือนใช่มั้อืเราสังเกตถ้าเกิดว่าแบบทำไม

00:08:1200:08:15 ก่อนเป็นประจำเดือนทำไมเราถึงหงุดหงิดมาก

00:08:1500:08:17 แม้แต่สิ่งเล็กๆที่เราเรียกว่าแบบมันอาจ

00:08:1700:08:19 จะดูไม่มีอะไรอ่ะแต่ทำไมผู้หญิงบางคนถึง

00:08:1900:08:22 แบบโอปวดท้องขนาดนั้นน่ะเพราะว่าฮอร์โมน

00:08:2200:08:23 มันไม่สมดุลอ่ะฮอร์โมนอาจจะเป็นเรื่อง

00:08:2300:08:27 เล็กๆแต่ว่ามันส่งผลกับชีวิตเราแบบเยอะอื

00:08:2700:08:30 ค่ะฮอร์โมนก็ถ้าในเชิงวิทยาศาสตร์ก็คือ

00:08:3000:08:32 มันคือเรื่องของออร่าคือจักรกะอใช่

00:08:3200:08:35 ฮอร์โมนเกี่ยวข้องกับจักรกะจักรกะจริงๆ

00:08:3500:08:37 เป็นศูนย์พลังงานที่ไม่ได้มีในร่างกายแต่

00:08:3700:08:39 เกี่ยวข้องกับอวัยวะที่สร้างฮอร์โมนนั้นๆ

00:08:3900:08:42 เพราะฉะนั้นถ้าจักกะสมดุลฮอร์โมนก็สมดุล

00:08:4200:08:45 คนก็ร่างกายแข็งแรงไปด้วยอออค่ะใครที่

00:08:4500:08:47 อยู่สาย spirititual เนี่ยอาจจะเคยได้ยิน

00:08:4700:08:49 เรื่องของออ่าเรื่องของจักระจริงๆก็คือ

00:08:4900:08:51 มันก็เกี่ยวข้องกับสุขภาพร่างกายเนาะ

00:08:5100:08:53 อย่างที่คุณหมอบอกไปเลยว่าบางครั้งแล้ว

00:08:5300:08:57 การที่เรามาดูแลร่างกายก็จะทำให้ออร่า

00:08:5700:09:00 หรือจักรกะเราดีขึ้นใช่อือจริงๆก็บน

00:09:0000:09:03 เรื่องเดียวกันเรื่องเดียวกันพี่ไม่ได้

00:09:0300:09:05 มองว่าแบบเอ้ย spiritual คือเรื่องนอกตัว

00:09:0500:09:08 จริงๆแล้วอ่ะคือเรื่องร่างกายเราถ้าเราดู

00:09:0800:09:11 แลร่างกายเราดีพลังงานเราดีออร่าเราก็ดี

00:09:1100:09:14 ตามไปด้วยสมมุติว่าร่างกายเราดีอ่ะค่ะเรา

00:09:1400:09:16 ก็จะรู้สึกดีกับตัวเองเวลาคนที่เข้ามาแบบ

00:09:1600:09:18 ใกล้ชิดกับเราเขาก็จะสัมผัสได้ถึงพลังงาน

00:09:1800:09:22 ดีๆจากเราอ่ะเอออืเราจะเคยได้ยินคำว่าคิด

00:09:2200:09:25 แบบไหนก็ได้แบบนั้นแล้วมันเป็นอย่างนั้น

00:09:2500:09:29 จริงๆมั้คะออันเนี้ยสำคัญถ้าคิดแล้วไม่

00:09:2900:09:31 ได้คิดซ้ำๆอ่ะไม่ได้เป็นแต่สิ่งที่เรา

00:09:3100:09:34 เกิดขึ้นก็คือสิ่งที่เราคิดซ้ำๆนำมาสู่

00:09:3400:09:38 รู้สึกซ้ำๆรู้สึกแล้วทำให้เกิดการลงมือทำ

00:09:3800:09:41 ลงมือทำแล้วกลายเป็นนิสัยจริงๆอ่ะคิดแล้ว

00:09:4100:09:44 เป็นแบบนั้นน่ะค่ะเกิดจากการที่คิดซ้ำๆจน

00:09:4400:09:48 เป็นนิสัยของเราเออเราก็เลยได้สิ่งนั้น

00:09:4800:09:50 อย่างคนที่แบบมีนิสัยชอบออกกำลังกายอ่ะ

00:09:5000:09:54 เขาก็มีซิแพคเห็นป่ะคิดว่าอยากมีซแพคแต่

00:09:5400:09:57 เกิดจากการคิดแล้วก็ทำซ้ำๆจนมีซิแพคเขา

00:09:5700:10:01 เลยเป็นคนที่มีซกแพคอคิดแล้วเลยได้สิ่ง

00:10:0100:10:04 นั้นเออเห็นมั้คะมันไม่ได้เกิดจากความคิด

00:10:0400:10:07 อย่างเดียวแต่คิดซ้ำๆอ่ะมันนำมาสู่

00:10:0700:10:10 โมเมนตัมโมเมนตัมที่ใหญ่ขึ้นที่นำมาสู่

00:10:1000:10:13 การลงมือทำและกลายเป็นการเป็นของเราแล้ว

00:10:1300:10:14 อย่างอย่างเมื่อกี้เนี่ยเป็นตัวอย่างของ

00:10:1400:10:17 การที่ในด้านที่ดีเนาะคิดในเชิงที่อยาก

00:10:1700:10:21 พัฒนาร่างกายมีซกแพคแล้วอย่างกรณีคนที่

00:10:2100:10:25 คิดซ้ำๆในด้านที่ไม่ค่อยดีอ่ามันจะได้แบบ

00:10:2500:10:28 นั้นคือจะได้แบบไหนคะออย่างเช่นถ้าเรา

00:10:2800:10:31 กลัวหรือว่าวิตกกังวลซ้ำๆแบบเนี้ยค่ะสิ่ง

00:10:3100:10:34 ที่เกิดขึ้นก็คือพอมันเป็นซ้ำๆอ่ะจะเป็น

00:10:3400:10:36 คนที่ภูมิตกหรือว่าเป็นคนที่เป็นภูมิแพ้

00:10:3600:10:40 ง่ายบางอย่างไม่ควรจะแพ้ก็แพ้แบบเนี้ยค่ะ

00:10:4000:10:42 เพราะว่าเราอยู่กับความกลัวหรือว่าความ

00:10:4200:10:45 คิดแบบนั้นซ้ำๆอ่ะเออก็จะเป็นอันนี้แบบ

00:10:4500:10:48 อาจจะยกตัวอย่างน้องฟักก็ได้ค่ะเพราะว่า

00:10:4800:10:50 แบบใกล้ตัวเนาะไม่กล้าไม่กล้าไปพูดเรื่อง

00:10:5000:10:53 ของคนอื่นคือน้องฟ้าน่ะอันนี้ฟักขอเขามา

00:10:5300:10:55 แล้วนะมีอยู่ช่วงนึงที่เขา้าแบบเครียดเออ

00:10:5500:10:59 แล้วเขาคิดซ้ำๆอ่ะแล้วเชื่อไหมว่าเค้าอ่ะ

00:10:5900:11:03 เป็นแบบทอนซินอักเสบเฉยๆช็อกเข้า ICU เลย

00:11:0300:11:06 อ่ะคือสิ่งที่เป็นน่ะเขาแบบไม่ได้สอด

00:11:0600:11:10 คล้องกับรอยโลกอ่ะค่ะเหมือนนิดนึงแต่ว่า

00:11:1000:11:12 มันส่งผลเยอะเพราะว่าอยู่ในช่วงที่เขา

00:11:1200:11:14 ภูมิตกเอออาจจะมีความกลัวความกังวลแล้ว

00:11:1500:11:18 ภูมิมันตกอ่ะอืเออเราก็อาจจะเป็นนิดเดียว

00:11:1800:11:20 หรือช่วงเนี้ยใครที่เป็นเยอะอย่างเช่น

00:11:2000:11:22 เมื่อก่อนน่ะเป็นหวัด 3-4 วันหายและ

00:11:2200:11:24 เดี๋ยวเนี้ยเป็นกันเป็นอาทิตย์ 2 อาทิตย์

00:11:2400:11:27 เพราะว่าภูมิเราตกเรากลัวหรือว่าอยู่ใน

00:11:2700:11:29 สิ่งแวดล้อมที่มีความกลัวค่ะมันก็เลยทำ

00:11:2900:11:31 ให้สิ่งนั้นน่ะไม่หายสักทีหรือเป็นก็เป็น

00:11:3100:11:34 หนักขึ้นอย่างเงี้ยโอแม้กระทั่งมันเสมอไป

00:11:3400:11:36 มั้ยคะเช่นก็เป็นคนที่กลัวนะเพราะก็ไม่

00:11:3600:11:39 ได้อยากป่วยใช่มั้ยคะเก็กลัวแต่ว่าพอเา

00:11:3900:11:41 เป็นอย่างอย่างเป็นหวัดเาก็ดูแลตัวเองดี

00:11:4100:11:44 ค่ะคือก็มีความกลัวอยู่นะแล้วก็ก็ดูแลตัว

00:11:4400:11:46 เองกินยาคือทำทุกอย่างเลยเพื่อที่จะให้

00:11:4600:11:48 หายอ่ะค่ะอือ่าในเมื่อเขาดูแลตัวเองดี

00:11:4900:11:50 ขนาดนี้แล้วแต่มีความกลัวอยู่ด้วยเนี่ย

00:11:5000:11:52 แปลว่าเขาจะหายช้าขึ้นหรอคะใช่จับด้วย

00:11:5200:11:55 ความรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำอ่ะเราทำด้วย

00:11:5500:11:59 ความรักหรือว่าทำด้วยความกลัวเราแบบกินดี

00:11:5900:12:01 เพราะเรากลัวเพราะว่าความกลัวนั้นน่ะมัน

00:12:0100:12:04 ทำให้เราแบบภูมิต้านทานเราต่ำอือให้ทำแต่

00:12:0400:12:07 ว่าทำด้วยความรักเป็นก็ยอมรับแล้วก็อาจ

00:12:0700:12:09 ใช้เหมือนแบบกินยาแล้วก็บอกรักตัวเองไป

00:12:0900:12:11 ด้วยอะไรอย่างเงี้ยค่ะเพราะว่าทุกคำที่

00:12:1100:12:13 สื่อสารน่ะเซลล์เขาก็ได้ยินนะให้เช็คความ

00:12:1300:12:16 รู้สึกว่าเราทำด้วยความรักหรือว่าทำด้วย

00:12:1600:12:18 ความกลัวถ้าทำด้วยความกลัวมันก็จะหายช้า

00:12:1800:12:21 อยู่ดีอือืค่ะก็คือเป็นอีกทางเลือกนึง

00:12:2100:12:23 เอ่อเพราะว่าเวลาที่เราป่วยเนี่ยเราก็

00:12:2300:12:26 ต้องดูแลตัวเองอยู่แล้วล่ะต้องกินยาอยู่

00:12:2600:12:28 แล้วเนาะอย่างที่หมอฟ้าบอกก็คือเพิ่มอีก

00:12:2800:12:31 นิดนึงก็คือใส่ความรู้สึกขอบคุณหรือว่า

00:12:3100:12:33 รู้สึกดีรู้สึกแบบว่าอยากให้เขาหายอยาก

00:12:3300:12:36 ให้ร่างกายเนี้ยกลับมาเป็นปกติ

00:12:3600:12:38 แล้วก็เวลาที่เราป่วยเนี่ยค่ะเราไม่ควรจะ

00:12:3800:12:41 โทษร่างกายที่ป่วยด้วยใช่มั้คะใช่เรา

00:12:4100:12:42 เหมือนจะต้องเป็นคนที่แบบเหมือนเป็น

00:12:4300:12:45 เพื่อนน่ะเออคือถ้าเรารู้สึกว่าคนนี้เป็น

00:12:4500:12:47 เพื่อนน่ะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราจะอยู่

00:12:4700:12:50 ข้างๆเใช่มั้ยในวันที่เค้าอ่อนแอเราก็คือ

00:12:5000:12:52 โอเคเราก็กลับไปอยู่กับเขาว่าเออไม่เป็น

00:12:5200:12:55 ไรถึงเวลาที่จะต้องพักก็ต้องพักร่างกาย

00:12:5500:12:58 เนี่ยเขามีปัญญาของเขาคือเขาแบบเขาจะค่อย

00:12:5800:13:01 ๆบอกเราว่าเราควรจะทำอะไรสังเกตมั้ยคะโรค

00:13:0100:13:04 ไข้หวัดใหญ่อ่ะจริงๆแล้วอ่ะไม่ได้มียา

00:13:0400:13:06 รักษาเพราะว่าไข้หวัดใหญ่เขาเกิดจากไวรัส

00:13:0600:13:08 อย่างบางอันเนี่ยมาจากเชื้อแบคทีเรียเขา

00:13:0900:13:11 จะมีแอนตี้บอติกที่เรากินยาเข้าไปแต่เวลา

00:13:1100:13:13 เป็นไข้หวัดใหญ่อ่ะเราจะรู้สึกว่าอะไรเรา

00:13:1300:13:16 อยากนอนน้องแพนด้าเคยเป็นไข้หวัดใหญ่มั้

00:13:1600:13:19 คะน่าจะเคยค่ะจำไม่จับไม่ได้แล้วใช่มจริง

00:13:1900:13:21 ๆไข้หวัดใหญ่อ่ะค่ะเขาไม่ได้มีตัวเชื้อ

00:13:2100:13:24 โรคนะเอออย่างบางโรคอ่ะก็คือมันมีเชื้อ

00:13:2400:13:27 แบคทีเรียเราก็จะกินยาปฏิชีวนะแต่ไข้วัด

00:13:2700:13:29 ใหญ่อ่ะลองสังเกตค่ะเวลาที่เราเป็นไข้อ่ะ

00:13:2900:13:32 เราจะอยากนอนเพราะว่าร่างกายอ่ะเขากำลัง

00:13:3200:13:35 พาตัวเราอ่ะมาพักเพียงแต่ว่าเราอ่ะไม่รู้

00:13:3500:13:38 ว่าเอ้ยมันต้องพักอ่ะเราเป็นนิดๆอ่ะเราก็

00:13:3800:13:41 แบบอุ้ยฉันไหวเออฉันไหวแล้วก็ไปต่อมันก็

00:13:4100:13:43 เลยเป็นเยอะเพราะเราไม่ได้กลับมาฟังเสียง

00:13:4300:13:46 ร่างกายตัวเราเองถ้าเราฟังอ่ะเราก็รู้สึก

00:13:4600:13:48 ว่าอ๋อแค่ง่วงเราก็นอนพอนอนไปสักพักอ่ะ

00:13:4900:13:51 เราก็จะหายโดยที่เราไม่ต้องกินยาก็ได้อื

00:13:5100:13:54 เอออ๋อจริงๆร่างกายก็ค่อนข้างมหัศจรรย์

00:13:5400:13:56 เนาะเค่อนข้างจะมีกลไกในการที่จะรักษาตัว

00:13:5600:14:00 เองใช่อ่าเพียงแต่เราก็ต้องฟังเสียงร่าง

00:14:0000:14:03 กายของเราให้ใช่ใช่ค่ะเเป็นสิ่งที่

00:14:0300:14:06 มหัศจรรย์ที่สุดละเมีกลไกในการปกป้องแล้ว

00:14:0600:14:09 ก็ดูแลตัวเองแต่เราอ่ะไม่ได้ยินแสดงว่า

00:14:0900:14:12 เวลาที่เราป่วยเราจะแค่กินยาอย่างเดียว

00:14:1200:14:14 แล้วไม่ไม่ให้เวลาในการพักผ่อนพักฟื้นเลย

00:14:1400:14:17 อันนี้ก็อาจจะไม่ได้ทำให้หายอาจจะพูดยาก

00:14:1700:14:20 ถ้าถามว่าหายมบางทีก็หายค่ะแต่เราอาจจะ

00:14:2000:14:24 ใช้ยานานกว่าเดิมเราอาจจะใช้ยาโดสแบบมาก

00:14:2400:14:27 กว่าเดิมพี่รู้สึกว่ายังไงอ่ะตัวเราอ่ะ

00:14:2700:14:29 การที่เราค่อยๆกลับมารักษาร่างกายหรือว่า

00:14:2900:14:32 กลับมาดูแลเขาอ่ะร่วมกับยาไปด้วยมัน

00:14:3200:14:34 เหมือนร่วมด้วยช่วยกันน่ะทำให้มันง่ายใช่

00:14:3400:14:38 ง่วงก็นอนใช่ง่วงก็นอนแล้วก็เหนื่อยก็พัก

00:14:3800:14:41 ตามจังหวะของเราอะไรอย่างเงี้ยแล้วมันจะ

00:14:4100:14:44 ไม่ได้เกิดอะไรใหญ่ๆอ่ะส่วนมากโลกที่เรา

00:14:4400:14:46 รู้สึกว่าเป็นอะไรใหญ่ๆอ่ะมักจะมาจาก

00:14:4600:14:49 เสียงเล็กๆแต่เราไม่ได้ยินอย่างที่ตอนแรก

00:14:4900:14:51 ที่แพนด้าพูดถึงเนาะว่าเอ้ยเราจะสามารถ

00:14:5100:14:54 ดึงดูดหรือ manifest สุขภาพดีได้ไหมก่อน

00:14:5400:14:56 อื่นต้องถามคุณหมอก่อนค่ะว่าการ manifest

00:14:5600:14:58 เนี่ยคืออะไร manifest อ่ะคือการเปลี่ยน

00:14:5900:15:01 ความคิดให้กลายเป็นความจริงก็คือเหมือน

00:15:0100:15:03 เปลี่ยนสิ่งที่อยู่ในหัวเราอ่ะให้กลาย

00:15:0300:15:04 เป็นความจริงไม่ว่าเฮ้ยฉันอยากมีสุขภาพ

00:15:0500:15:07 ที่ดีกว่านี้ฉันอยากมีเงินมากกว่านี้อะไร

00:15:0700:15:08 อย่างเงี้ยค่ะแล้วเปลี่ยนเป็นสิ่งที่เรา

00:15:0800:15:11 แบบจับต้องได้เห็นในโลกที่เราเป็นจริงอัน

00:15:1100:15:14 นั้นคือ manifest ใช่แต่ว่ากระบวนการของ

00:15:1400:15:17 การ manifest พูดคร่าวๆมันก็คือการขอ

00:15:1700:15:19 เชื่อแล้วก็รับที่เขาพูดกันใช่มั้ยคะการ

00:15:2000:15:22 ขอก็คือเราต้องส่งออกไปก่อนหรือว่าเรา

00:15:2200:15:25 เห็นภาพว่าเราอ่ะจะเอาอะไรเราเห็นภาพตัว

00:15:2500:15:27 เองเป็นแบบไหนเช่นเราเห็นภาพตัวเองเป็นคน

00:15:2700:15:30 ที่มีซิแพคอันนี้คือเราส่งออกไปละเชื่อ

00:15:3000:15:32 คือการลงมือทำพอเราเห็นเสร็จปุ๊ว่าเออฉัน

00:15:3300:15:36 แบบมีหุ่นแบบนี้นะฉันมีสุขภาพดีแบบนี้ฉัน

00:15:3600:15:38 ก็ลงมือปรับเปลี่ยนนี่คือความเชื่อค่ะ

00:15:3800:15:41 ความเชื่อไม่ใช่แบบเชื่อๆแต่เชื่อที่แท้

00:15:4100:15:44 จริงอ่ะคือเราลงมือทำอ่ะฉันลงไปฟิตเนสฉัน

00:15:4400:15:46 กินอาหารที่ดีขึ้นฉันกินโปรตีนกินให้ถึง

00:15:4600:15:49 มันก็เลยสอดคล้องไค่ะขอก็คือเห็นภาพและ

00:15:4900:15:51 เชื่อเราลงมือทำแล้วเราก็ได้รับเราทำแบบ

00:15:5100:15:54 ไหนเราก็ได้รับแบบนั้นเอออืค่ะเพราะว่า

00:15:5400:15:56 ขั้นตอนของความเชื่อเนี่ยถ้าจะให้เชื่อ

00:15:5600:15:59 จริงๆมันต้องมีหลักฐานถูกมั้ยคะออืใช่เรา

00:15:5900:16:01 ไม่ได้เชื่อจากการแบบโอ๊ยนั่งสมาธิเรา

00:16:0100:16:05 เชื่อแต่มันเชื่อจากการที่เราลืมตาลงมือ

00:16:0500:16:08 ทำให้สอดคล้องเราถึงจะเกิดความเชื่อขึ้น

00:16:0800:16:11 มาค่ะแล้วการตั้งจิตอธิษฐานอย่างเงี้ยค่ะ

00:16:1100:16:13 ถือเป็นการ manifest มั้คะการตั้งจิตอ่ะ

00:16:1300:16:16 มันคือการส่งแรงปรารถนาหนาเออมันคือส่วน

00:16:1600:16:19 หนึ่งของการ manifest แต่ถ้าเราส่งอย่าง

00:16:1900:16:21 เดียวฉันจะเอาซpคอย่างเดียวแต่เราไม่ได้

00:16:2100:16:24 ลงมือทำอ่ะมันก็ไม่สามารถเกิดในสิ่งที่

00:16:2400:16:26 เราจับต้องได้เพราะฉะนั้นน่ะการตั้ง

00:16:2600:16:29 จิตฐานเป็นส่วนหนึ่งแค่แบบส่วนเล็กๆอ่ะ

00:16:2900:16:31 ค่ะเออแต่ไม่ใช่ทั้งหมดของการ manifest

00:16:3100:16:35 manifest ไม่ได้ลงมือทำก็ไม่มีทางเกิด

00:16:3500:16:37 เหมือนเรานึกภาพอยากได้ซิแพคอ่ะแต่เราไม่

00:16:3700:16:39 ได้ปรับอะไรเลยอ่ะเราก็ยังเหมือนเดิมจริง

00:16:3900:16:42 ๆการตั้งจิตอธิษฐานนี่ก็ต้องลงมือทำอย่าง

00:16:4200:16:45 ที่บอกเพราะบางทีขออย่างเดียวมันก็ไม่ได้

00:16:4500:16:47 อมันก็จะไปโทษเป็นภาระของสิ่ง

00:16:4700:16:49 ศักดิ์สิทธิ์อีกใช่แต่ว่ามันจะดีตรงที่

00:16:5000:16:52 ว่าเวลาที่เราตั้งจิตอธิษฐานน่ะหรือว่าขอ

00:16:5200:16:54 อ่ะมันเป็นกระบวนการโฟกัสค่ะอย่างเช่นแบบ

00:16:5400:16:57 มันเกิดการโฟกัสว่าฉันจะเอาซิแพคอันเนี้ย

00:16:5700:16:59 เพราะฉะนั้นฉันจะได้ทำทุกอย่างเพื่อให้

00:16:5900:17:02 สอดคล้องกับซกแพคอันนี้จะเอาหุ่นแบบนี้ก็

00:17:0200:17:04 ต้องออกกำลังกายแบบนี้จะเอาหุ่นอีกแบบนึง

00:17:0400:17:06 ก็ออกกำลังกายแบบนึงเพราะฉะนั้นน่ะมันคือ

00:17:0600:17:09 การโฟกัสว่าจะเอาอะไรเฉยๆแต่ว่าโฟกัส

00:17:0900:17:10 อย่างเดียวอ่ะแต่เราไม่ได้ทำอ่ะมันไม่

00:17:1000:17:12 สามารถให้สิ่งนั้นน่ะมันเกิดขึ้นในแบบ

00:17:1200:17:15 ชีวิตจริงของเราได้มีคำถามถามค่ะว่าแล้ว

00:17:1500:17:18 อย่างเงี้ย manifest คือตัณหามั้ยคะถ้า

00:17:1800:17:21 เกิดว่าตัณหาเท่ากับความอยากใช่มยอยากได้

00:17:2100:17:23 ก็คือเราส่งไปจริงๆแล้วอ่ะค่ะ Manifest

00:17:2400:17:27 อ่ะคือกฎแห่งธรรมชาติเราอ่ะไม่ได้ในสิ่ง

00:17:2700:17:30 ที่เราอยากเราได้ในสิ่งที่เราควรพี่ยกตัว

00:17:3000:17:32 อย่างง่ายๆอย่างวันเนี้ยเราอยากได้เงิน

00:17:3200:17:35 ล้านเราส่งไปว่าเราอยากได้เงินล้านแต่ถ้า

00:17:3500:17:38 เราเงินล้านเงินล้านเงินล้านแต่เราไม่ได้

00:17:3800:17:41 กลับมาเปลี่ยน่ะเราอยู่คนละระดับกัน

00:17:4100:17:43 manifest คือการจูนคลื่นหรือว่าเหมือน

00:17:4300:17:45 เราจูนคลื่นวิทยุอยู่ให้อยู่ในร่องเดียว

00:17:4500:17:47 กันแล้วเราได้รับในสิ่งนั้นสมมุติว่าเงิน

00:17:4700:17:49 ล้านมันจูนคือ 100 อ่ะค่ะแต่เราอยากคือ

00:17:4900:17:52 เราเป็นศูนย์น่ะเราไม่ได้นะคะการที่เราจะ

00:17:5200:17:54 manifest ได้คือการที่เรากลับมาตัวเอง

00:17:5400:17:57 ฉันทำอะไรได้ในตอนนี้แล้วลงมือทำให้มัน

00:17:5700:17:59 สอดคล้องเพื่อไปจูนคลื่นเดียวกันให้มัน

00:17:5900:18:01 ตรงเราถึงจะได้เพราะฉะนั้นสำหรับพี่

00:18:0100:18:04 Manifest ไม่ได้เป็นความอยากอยากเป็นการ

00:18:0400:18:06 ส่งแต่เราไม่ได้ในสิ่งที่อยากเราได้ใน

00:18:0600:18:10 สิ่งที่เราคู่ควรที่จะได้รับเมื่อเราลง

00:18:1000:18:12 มือทำสอดคล้องกับสิ่งนั้นเราถึงจะได้รับ

00:18:1200:18:14 เพราะฉะนั้น Manifest ก็คือกดกฎธรรมชาติ

00:18:1400:18:18 การเหตุและผลทำอะไรได้แบบนั้นอย่างเงี้ย

00:18:1800:18:21 อืเรามาเพื่อสุขภาพที่ดีกันแล้วเนี่ยนะคะ

00:18:2100:18:23 เราก็ต้องมาสร้างเหตุที่ดีกันด้วยค่ะด้วย

00:18:2300:18:25 การดูแลร่างกายแล้วก็ดูแลผิวพรรณของเรา

00:18:2500:18:28 ให้ดีนะคะหากใครที่มีปัญหาเรื่องมีเวลา

00:18:2800:18:30 น้อยนะคะแล้วก็อยากหาสกินแคร์ที่มี

00:18:3000:18:32 ประสิทธิภาพเนี่ยก็จะแนะนำเป็นสกินแคร์

00:18:3200:18:35 ที่มีส่วนผสมของ PLA หรือว่า

00:18:3500:18:38 Plaเจนและชะลอความเสื่อมของผิวค่ะ PLA

00:18:3900:18:40 หรือว่า Penla เนี่ยเป็นส่วนผสมที่มีอยู่

00:18:4000:18:43 ในสโคปaคล้ายๆโบท็อกค่ะแต่ว่าฮอตัวเนี่ย

00:18:4300:18:46 สามารถทำให้เราใช้เพล่าได้ทุกวันเลยค่ะที

00:18:4600:18:49 นี้สำหรับบางท่านที่อาจจะเคย manifest

00:18:4900:18:51 หรือว่าเคยทำกระบวนการแบบนี้เนาะแล้วก็

00:18:5100:18:53 เฮ้ยบางเรื่องเรา manifest สำเร็จกับบาง

00:18:5300:18:56 เรื่องนะเช่นแบบว่าเราเป็นคนมีหน้าที่การ

00:18:5600:18:58 งานที่โอเคละสำเร็จละแต่ทำไมกับอย่างอีก

00:18:5800:19:00 บางเรื่องเช่นความสัมพันธ์ไม่สำเร็จสักที

00:19:0000:19:02 นึงอ่ามันเป็นเพราะอะไรคะมันติดอยู่ที่

00:19:0200:19:04 ขั้นตอนไหนหรือเปล่าส่วนมากที่เรา

00:19:0400:19:06 manifest ได้มักจะเป็นเรื่องที่เราไม่

00:19:0600:19:09 ค่อยคาดหวังเป็นเรื่องแบบเล็กๆลองสังเกต

00:19:0900:19:12 นะคะว่าเรื่องที่เรา manifest ได้ที่เรา

00:19:1200:19:15 สร้างได้มักจะเป็นเรื่องง่ายๆที่เราไม่

00:19:1500:19:17 คาดหวังหรือว่าเรารู้สึกว่าเรื่องนี้เอา

00:19:1700:19:19 อยู่แต่ว่าเรื่องที่เราแบบ manifest ไม่

00:19:1900:19:21 ได้อ่ะมักจะเป็นเรื่องที่ใหญ่เป็นเรื่อง

00:19:2100:19:24 ที่เราอยากเป็นเรื่องที่เราแบบต้องลงมือ

00:19:2400:19:27 ทำมากอีกนิดนึงเกิน comfor zโซนน่าสนใจ

00:19:2700:19:29 มากค่ะคือเรื่องที่เรามักจะ manifest

00:19:2900:19:30 สำเร็จมันเป็นเรื่องที่เรามีความรู้สึก

00:19:3000:19:33 ว่าเฮ้ยเรื่องเเราเอาอยู่เอาอยู่คือไม่

00:19:3300:19:36 ได้รู้สึกกังวลอะไรกับตรงนั้นฉันจะผ่านไป

00:19:3600:19:39 ได้ฉันจะทำได้แน่ๆคือการวางใจใช่มั้คะอ

00:19:3900:19:42 ใช่หรือว่าเรื่องที่แบบได้ก็ได้ไม่ได้ก็

00:19:4200:19:46 ไม่เป็น

00:19:4600:19:50 มันก็ไม่เป็นอย่างเงี้ค่ะเราก็จะวางใจได้

00:19:5000:19:53 ง่ายกว่าแต่ถ้าเกิดว่าถ้าไม่ได้เงินแสน

00:19:5300:19:56 สิ้นเดือนเนี้ยไม่มีเงินจ่ายค่าบ้านโอ้โห

00:19:5600:19:59 มันมีความอยากมันต้องได้มันมีความเครียด

00:19:5900:20:02 ตั้งแต่แรกแล้วอ่ะค่ะมันก็เลยทำให้เราอ่ะ

00:20:0200:20:05 ได้ยากขึ้นมันมีแรงต้านเยอะอือืแต่มันก็

00:20:0500:20:07 เป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็นใช่มั้ยคะไอ้

00:20:0700:20:11 พลังงานพวกนี้หมายถึงเออแรงต้านต่างๆจริง

00:20:1100:20:14 ๆมันก็ก็มีอยู่ตลอดนะลองไปกลับไปที่

00:20:1400:20:16 เรื่องลดน้ำหนักก็ได้เราแบบลดน้ำหนักมา

00:20:1600:20:18 ตั้งกี่ครั้งแล้วอ่ะการที่บอกว่าเราอ่ะจะ

00:20:1800:20:20 ลดน้ำหนักได้มากกว่าเนี้ยแต่สุดท้ายพอเรา

00:20:2000:20:23 ทำอ่ะเราก็กลับไปเหมือนเดิมหรือฉันจะตื่น

00:20:2300:20:25 5:00 น.ฉันเขียน New Year Resolu ตอน

00:20:2500:20:28 เช้าว่าฉันจะตื่น 5:00 น.มานั่งสมาธิอ่ะ

00:20:2800:20:30 ค่ะเราทำไปประมาณ 1 เดือนน่ะสุดท้ายเรา

00:20:3000:20:32 กลับไปเป็นเหมือนเดิมเพราะมันมีแรงต้าน

00:20:3200:20:35 เออมันมีสิ่งที่ดึงเราสู่จุดเดิมอ่ะค่ะ

00:20:3500:20:37 มันก็คือไอ้ตรงความเชื่อจำกัดตรงนี้นี่

00:20:3700:20:40 แหละแล้วเราจะมีวิธียังไงในการที่จะลดแรง

00:20:4000:20:42 ต้านตรงนั้นมั้คะเพื่อทำให้เราเนี่ย

00:20:4200:20:44 manifest สำเร็จมากขึ้นน่ะสำหรับพี่นะลง

00:20:4400:20:47 มือทำความเชื่อไม่ได้ถูกลบล้างด้วยการ

00:20:4800:20:50 นั่งแล้วบอกว่าแบบรู้สึกดีแต่ความเชื่อ

00:20:5000:20:53 ถูกลบล้างเมื่อเราลงมือทำค่ะในวันที่แบบ

00:20:5300:20:57 อุ๊ยเราวางซิแพคไว้ไกลมากอ่ะแต่ความเชื่อ

00:20:5700:20:59 นั้นน่ะมันจะแบบเฮ้ยฉันทำได้อ่ะเมื่อเรา

00:20:5900:21:01 เริ่มลงมือทำเมื่อเราลงมือทำอาจจะเล็ก

00:21:0100:21:04 น้อยแค่ไหนก็ตามอาจจะออกไปเดินเปลี่ยนการ

00:21:0400:21:06 กินเล็กๆน้อยๆอ่ะมันจะทำให้แรงต้านตรง

00:21:0600:21:09 เนี้ยมันน้อยลงความเชื่อไม่ได้ถูกกำจัด

00:21:0900:21:12 หรือว่าทำให้น้อยลงผ่านการนั่งเฉยๆผ่าน

00:21:1200:21:15 การเรียนไม่ใช่ต้องทำด้วยตัวเราเองเพราะ

00:21:1500:21:18 ว่าการทำอ่ะก่อให้เกิดประสบการณ์แล้วตรง

00:21:1800:21:21 นั้นถึงจะค่อยๆทลายความเชื่อลงไปค่ะอ่า

00:21:2100:21:24 แล้วอย่างกรณีที่เราจะ manifest อะไรสัก

00:21:2400:21:27 อย่างค่ะมันจะต้องเป็นสิ่งที่เรารู้ว่า

00:21:2700:21:29 สิ่งเนี้ยเป็นไปได้ด้วยมั้คะคืออย่าง

00:21:2900:21:32 สมมุตินะอยู่ๆวันนี้ manifest ว่าฉันจะ

00:21:3300:21:36 เป็นเจ้าของ NASA อ่าอย่างเงี้ยอืแล้วก็

00:21:3600:21:39 เราจะทำสำเร็จได้มั้อ่ะอจริงๆอ่ะมันได้

00:21:3900:21:42 หมดเลยอ่ะไอ้ตรงที่เราส่งไปอ่ะได้หมดเลย

00:21:4200:21:45 แต่คำถามคือตอนที่เราส่งไปความเชื่อที่

00:21:4500:21:48 เรามีต่อสิ่งนั้นน่ะมันได้ไหมแล้วกระบวน

00:21:4800:21:50 การ manifest อ่ะไม่ใช่กระบวนการที่เกิด

00:21:5000:21:54 ขึ้นแบบ 1 วัน 2 วันมันเป็นรองเกมมันเป็น

00:21:5400:21:56 ระยะยาวอ่ะค่ะเพราะฉะนฉะนั้นเราอาจจะแบบ

00:21:5600:21:59 เอ้ยฉันจะไปทำงานนาซ่าเอ้ยเราทำได้นะหรือ

00:21:5900:22:02 ว่าเราตั้งเป้าหมายได้นะแต่ประเด็นคือพูด

00:22:0200:22:04 แล้วอ่ะเรารู้สึกเชื่อได้ไหมเพราะถ้าเรา

00:22:0400:22:07 เชื่อปุ๊บอ่ะเดี๋ยวเราจะหาทางสักอย่างนึง

00:22:0700:22:09 เพื่อไปถึงตรงนั้นน่ะอแปลว่าตั้งแต่

00:22:0900:22:12 กระบวนการขอเนี่ยถ้าตรงที่ขอเราจะรู้อยู่

00:22:1200:22:14 แล้วหรอว่าอันเนี้ยเราคิดว่ามันจะเป็นไป

00:22:1400:22:16 ได้จริงหรือเปล่าใช่มั้คะอ่ากับบางอย่าง

00:22:1700:22:19 อย่างเมื่อกี้ที่้ายกตัวอย่างคือมันดูสุด

00:22:1900:22:22 ต่งไปเลยใช่มั้สุดมากเออพอย์ก็คือว่าแบบ

00:22:2200:22:25 พอมันสุดต่งมากอเราก็เชื่อไม่ได้อ่ะพอเรา

00:22:2500:22:28 เชื่อในตัวเองไม่ได้จริงๆไม่ผิดเลยนะคือ

00:22:2800:22:30 ส่งได้ทุกอย่างแต่ว่าพอเราเชื่อไม่ได้

00:22:3000:22:33 เนี่ยมันก็ไม่เกิดการลงมือทำที่สอดคล้อง

00:22:3300:22:36 อ่ะงั้นมีแบบแซ่นิดนึงค่ะพี่รู้สึกว่า

00:22:3600:22:38 จริงๆแล้วกระบวนการ manifest อ่ะเวลาที่

00:22:3800:22:41 เราส่งอะไรไปอ่ะมักจะเป็นสิ่งที่เรายัง

00:22:4100:22:43 ไม่เคยได้รับอ่าเช่นชีวิตที่มี passive

00:22:4300:22:46 income ชีวิตที่มีอิสระมีร่างกายที่อุดม

00:22:4600:22:49 สมบูรณ์เพราะฉะนั้นน่ะสิ่งที่เราส่งไปอ่ะ

00:22:4900:22:52 มักจะออกจากคฟตโซนเรานิดนึงแต่อย่าให้ไกล

00:22:5200:22:55 เกินกว่าเราไม่เชื่อสิ่งนั้นมันไม่ใช่

00:22:5500:22:57 อยู่ใน comfort โซนแน่นอนถ้าเรายังทำงาน

00:22:5700:22:59 ประจำเราคงไม่ manifest ทำงานประจำอ่ะ

00:22:5900:23:01 เพราะเราได้รับมันแล้วไงเราเป็นสิ่งนั้น

00:23:0100:23:03 ไปแล้วส่วนมากถ้าเรายังทำงานประจำเราก็

00:23:0300:23:06 อยากที่จะมีชีวิตอิสระใช่มยให้ออกจาก

00:23:0600:23:09 comfort zโซนแต่อย่าไกลเกินไปที่เราไม่

00:23:0900:23:12 เชื่อว่าเราจะทำได้ค่อยๆขยับจากแบบโอเคทำ

00:23:1200:23:15 งานประจำอาจจะขยายหรือว่าเริ่มทำธุรกิจ

00:23:1500:23:17 อ่ะสเกล 1 ล้าน 10 ล้านให้เรารู้สึกว่า

00:23:1700:23:20 เอ้ยเราค่อยๆไปแบบเนี้ยค่ะอืค่ะอ๋อจริงๆ

00:23:2000:23:23 อย่างที่บอกเลยเนาะว่าไม่ว่าจะขอใหญ่แค่

00:23:2300:23:26 ไหนไม่ได้แปลว่าจะไม่สำแต่มันมีกระบวนการ

00:23:2600:23:29 ที่ว่าอาจจะต้องถอยมาให้มันเป็นสเต็ปไป

00:23:2900:23:31 ก่อนเพื่อให้เข้าใกล้สิ่งนั้นไปเรื่อยๆอ

00:23:3100:23:34 ใช่จริงๆคำว่าเข้าใกล้อ่ะคือมันเป็นการ

00:23:3400:23:37 พัฒนาความเชื่อเราอ่ะเฉยๆอย่างเช่นถ้าเรา

00:23:3700:23:41 ไม่เคยได้ 1 ล้านเลยอ่ะแล้วเราไป manifest

00:23:4100:23:44 แบบ 100 ล้านอ่ะยากที่เราแบบจะเชื่อในวัน

00:23:4400:23:46 ที่แบบเราเงินเดือน 15,000 กับ 100 ล้าน

00:23:4600:23:48 น่ะมันแบบมันไกลมากอ่ะค่ะแต่ถ้าเรา

00:23:4800:23:52 manifest ร้านแรกแล้วเราทำล้านแรกได้อ่ะ

00:23:5200:23:54 เราเปลี่ยนจากมนุษย์เงินหมื่นเป็นมนุษย์

00:23:5400:23:56 เงินล้านแล้วเพราะว่าเราเชื่อว่าเราทำได้

00:23:5600:23:59 แล้วอ่ะล้านนึงไป 100 ล้านมันก็เลยเหมือน

00:23:5900:24:02 ทำให้เราทำมันสั้นลงอ่ะค่ะพอยคือความ

00:24:0200:24:05 เชื่อของเราตัวตนเรามันถูกขยายว่าฉันทำ

00:24:0500:24:09 สิ่งนี้ได้แล้วอค่ะก็มีวิธีการในการที่จะ

00:24:0900:24:12 ตั้งเป้าหมายหรือว่าการขอเหมือนกันเนาะ

00:24:1200:24:15 เพราะว่าบางครั้งถ้าตั้งอะไรที่มันยังไม่

00:24:1500:24:17 สมควรจะตั้งในตอนนี้มันอาจจะทำให้เราเข้า

00:24:1700:24:20 ใจผิดว่าเราไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะทำ

00:24:2000:24:23 สิ่งนั้นได้เมื่อก่อนน่ะคนจะถามพี่ว่า

00:24:2300:24:25 เอ้ย manifest ต้องใช้กระบวนการอะไรจะ

00:24:2600:24:29 ต้องมีขั้นตอนอะไรบ้างอะไรเงี้ยแต่จริงๆ

00:24:2900:24:32 แล้วอ่ะ manifest คือการเป็นการเป็นคือ

00:24:3200:24:35 นิสัยเมื่อไหร่ก็ตามอ่ะค่ะสมมุติว่าเรา

00:24:3500:24:38 ส่งไปว่าเราเป็นคนสุขภาพดีแต่เราจะได้รับ

00:24:3800:24:41 สิ่งนั้นเมื่อเราลงมือทำใช่ป่ะจนเราเป็น

00:24:4100:24:44 คนที่นิสัยสุขภาพดีคือเป็นคนกินผักเป็น

00:24:4400:24:47 นิสัยเป็นคนแบบออกกำลังกายเป็นนิสัยอ่ะ

00:24:4700:24:50 เราถึงได้รับสิ่งนั้นจริงๆแล้ว manifest

00:24:5000:24:53 ไม่ใช่กระบวนการ manifest คือการพัฒนา

00:24:5300:24:56 พัฒนาตัวเราอ่ะจนเราขยายการเป็นหรือว่า

00:24:5600:24:58 เป็นนิสัยใหม่อ่ะแล้วเราจะได้รับสิ่งใหม่

00:24:5800:25:00 โดยที่เราไม่ต้องใช้กระบวนการ manifest

00:25:0000:25:04 เลยอืเราจะไม่กลับมาถามว่าขอแบบนี้ได้มย

00:25:0400:25:07 เชื่อยังไงได้รับยังไงเราจะไม่มีกระบวน

00:25:0700:25:09 การเลยเพราะว่ามันเป็นการเป็นของเราไป

00:25:0900:25:12 แล้วคือ manifest เกี่ยวกับนิสัยว่าเรา

00:25:1200:25:15 พัฒนาตัวเองพัฒนานิสัยเราเพื่อที่สมควรจะ

00:25:1500:25:18 เป็นคนๆนั้นที่เราต้องการใช่ใช่หมายความ

00:25:1800:25:20 ว่าจริงๆแล้วอ่ะคะมันก็เป็นสิ่งที่ต้อง

00:25:2100:25:24 แลกเหมือนกันใช่มั้ยคะไม่ใช่ได้ฟรี

00:25:2400:25:27 อือาจจะต้องถามว่าเราแลกกับอะไรมากกว่า

00:25:2700:25:29 เพราะว่าสุดท้ายแล้วอ่ะสิ่งที่เรา

00:25:2900:25:32 manifest ก็เป็นชีวิตที่เราต้องการอยู่

00:25:3200:25:34 แล้วเราคงไม่ได้ manifest ในเชิงลบแต่

00:25:3400:25:36 ส่วนใหญ่อ่ะเราจะ manifest อัตโนมัติเรา

00:25:3600:25:38 จะได้ผลลบเพราะว่าสิ่งแวดล้อมหรือว่าสิ่ง

00:25:3800:25:41 ที่เราอยู่อ่ะมันทำให้เรา manifest

00:25:4100:25:43 อัตโนมัติจริงๆแล้วมนุษย์ทุกคน manifest

00:25:4400:25:47 ตลอดเวลาอืเพียงแต่สิ่งที่เราได้รับเป็น

00:25:4700:25:51 สิ่งที่เราไม่ได้เลือกเช่นเราออกไปแบบดู

00:25:5100:25:53 ข่าวเราก็จะเจออะไรที่เพื่อนเป็นโซนลบ

00:25:5300:25:56 หรือว่าเขาอาชญากรรมมันเลยทำให้เราอ่ะ

00:25:5600:25:58 อยู่ในโซนลบเออให้รู้ไว้ว่าตอนเนี้ยเรา

00:25:5800:26:01 กำลัง manifest อยู่เพียงแต่ว่าสิ่งนั้น

00:26:0100:26:03 เราไม่ได้เลือกแต่เวลาที่เราแบบตั้งจิต

00:26:0400:26:05 แล้วเรา manifest อ่ะเป็นชีวิตที่เรา

00:26:0500:26:07 เลือกแล้วอ่ะแล้วเราลงมือทำแบบนั้นมันก็

00:26:0700:26:12 เลยเป็นจุดโฟกัสอืนั่นหมายความว่าถ้า

00:26:1200:26:16 สมมุติเรื่องของการมีสุขภาพดีเรา manifest

00:26:1600:26:18 เนี่ยดึงดูดเลยเราอยากเป็นคนที่มีสุขภาพ

00:26:1800:26:20 ดีแต่เราไม่ได้เปลี่ยนนิสัยไม่ได้เปลี่ยน

00:26:2000:26:23 พฤติกรรมตัวเองระหว่างนี้ให้เป็นคนที่สม

00:26:2300:26:27 ควรจะเป็นคนที่มีสุขภาพดีนั่นหมายความว่า

00:26:2700:26:29 เราก็คงไปไม่ถึงสิ่งที่เราต้องการนั่นเอง

00:26:2900:26:31 ไม่มีทางใช่เพราะว่า manifest มันไม่ใช่

00:26:3100:26:34 ความคิดอ่ะค่ะแต่คิดซ้ำๆอ่ะถึงลงมือทำลง

00:26:3400:26:37 มือทำซ้ำๆเป็นนิสัยเพราะฉะนั้นถ้าไม่ได้

00:26:3700:26:40 เปลี่ยนนิสัยก็ไม่สามารถได้รับในสิ่งนั้น

00:26:4000:26:43 ได้ไม่มีทางลัดเนาะไม่มีทางลัดทางลัดคือ

00:26:4300:26:46 ทำไปเรื่อยๆค่ะมันก็เลยกลับไปตอบคำถาม

00:26:4600:26:48 เดิมที่ว่าจริงๆแล้วอ่ะ manifest ไม่ใช่

00:26:4800:26:51 แบบตัณหาหมายถึงว่าไม่ใช่เป็นความอยาก

00:26:5100:26:53 เพราะว่าเราไม่ได้ในสิ่งที่เราอยากเราอาจ

00:26:5300:26:55 จะอยากหุ่นดีทุกคนก็อยากได้แบบ passive

00:26:5500:26:58 income แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้อยู่ที่

00:26:5800:27:01 ว่าเราลงมือทำจนเป็นนิสัยเรามยเออนิสัย

00:27:0100:27:04 ความรับผิดชอบนิสัยแบบล้มแล้วลุกขึ้นมา

00:27:0400:27:06 ใหม่นิสัยอะไรพวกเนี้ยค่ะที่ทำให้เราไป

00:27:0600:27:08 ได้รับสิ่งนั้นน่ะคล้ายๆกับอันนึงที่เขา

00:27:0800:27:11 จะบอกว่าถ้าเราอยากได้ผลลัพธ์ใหม่แต่เรา

00:27:1100:27:13 ยังทำวิธีการเดิมเนี่ยไม่มีทางที่มันจะ

00:27:1300:27:15 เกิดผลลัพธ์ใหม่ขึ้นได้ใช่จริงๆก็คือ

00:27:1500:27:17 เรื่องเดียวกันเพราะว่าเป็นเรื่องแบบ

00:27:1700:27:20 ธรรมชาติเออออยากถามว่าในระหว่างที่เรา

00:27:2100:27:23 ตั้งเป้าหมายแล้วค่ะแล้วก็อาจจะมีการลง

00:27:2300:27:26 มือทำอย่างเข้มข้นมีวินัยมากขึ้นหรือ

00:27:2600:27:27 กำลังเปลี่ยนนิสัยเปลี่ยนตัวเองเปลี่ยน

00:27:2700:27:30 พฤติกรรมเนี่ยค่ะมันอาจจะมีความเครียด

00:27:3000:27:33 เกิดขึ้นบ้างเพราะว่ามันต้องสู้กับนิสัย

00:27:3300:27:36 เดิมๆเนาะอ่าอาจจะต้องมีคำการฝืนหรือหลาย

00:27:3600:27:39 ๆอย่างค่ะอยากรู้ว่าระหว่างที่ทำไปแล้ว

00:27:3900:27:41 เครียดกดดันตัวเองไปด้วยก็จะได้ผลลัพธ์

00:27:4100:27:45 เหมือนกันมั้ยคะมันจะติดหลูเท่าที่พี่เจอ

00:27:4500:27:48 นะถ้าเกิดว่าทำแล้วแบบทำไมฉันทำไม่ได้อ่ะ

00:27:4800:27:51 มันทำให้เราไปต่อไม่ได้เพราะฉะนั้นนั้น

00:27:5100:27:54 น่ะมันคือการทำรับรู้ว่าเออตอนนี้ไม่ได้

00:27:5400:27:57 แล้วแบบไปต่ออ่ะเหมือนกลับมาคิลิ่งตัวเอง

00:27:5700:27:59 แล้วก็แบบไปต่อเพราะฉะนั้นถ้าเกิดทำแล้ว

00:27:5900:28:02 แบบเครียดทำด้วยความอยากทำไมฉันทำไม่ได้

00:28:0200:28:04 ดีมากกว่าเนี้ยค่ะมันจะทำให้เราอยู่โซน

00:28:0500:28:07 ล่างอ่ะอยู่ในอารมณ์ที่แบบเป็นเชิงลบอ่ะ

00:28:0700:28:09 แล้วมันทำให้เราไปต่อไม่ได้นั่นหมายความ

00:28:1000:28:12 ว่าระหว่างที่เรากำลังเปลี่ยนกำลังปรับ

00:28:1200:28:14 เราก็ต้องมีการวางใจด้วยมั้คะโออันนี้

00:28:1400:28:17 สำคัญมากจริงๆเป็นกระบวนการที่แบบคนแบบ

00:28:1700:28:20 80-90% ติดเพราะว่ากระบวนการวางใจอ่ะ

00:28:2000:28:22 เวลา Manifest อ่ะค่ะเรา manifest สิ่ง

00:28:2200:28:24 ที่ยิ่งใหญ่กว่าเราเพราะฉะนั้นน่ะสิ่งที่

00:28:2400:28:26 คนติดคือความอยากแก้ด้วยการแบบรู้สึกวาง

00:28:2600:28:30 ใจแต่เราจะวางใจไม่ได้นะคะถ้าเราอยู่เฉยๆ

00:28:3000:28:32 เราจะวางใจได้เมื่อเราลงมือทำเท่านั้นมัน

00:28:3200:28:35 ทำให้ระยะสั้นลงเพราะว่าพอลงมือทำปุ๊บอ่ะ

00:28:3500:28:37 มันกลับมาเติมความเชื่อเราพอมาเติมความ

00:28:3700:28:39 เชื่อมันทำให้ไอ้เส้นที่มันเคยแบบ 100

00:28:3900:28:41 กก.ตัวอ่ะมันลดเหลือเหลือแบบ 80 อ่ะแล้ว

00:28:4100:28:43 มันสั้นลงไปเรื่อยๆเพราะฉะนั้นการวางใจ

00:28:4300:28:46 ไม่ได้เกิดจากการที่นั่งเฉยๆแล้วบอกตัว

00:28:4600:28:49 เองว่าวางใจแต่เกิดจากการลืมตาไปใช้ชีวิต

00:28:4900:28:53 แล้วก็ลงมือทำไปเรื่อยๆค่ะทำให้ความเชื่อ

00:28:5300:28:56 แข็งแรงขึ้นการวางใจจะมากขึ้นอค่ะการวาง

00:28:5600:28:57 ใจก็เหมือนกับที่เราคุยกันไปก่อนหน้านี้

00:28:5700:29:00 ว่าบางเรื่องที่มัน manifest สำเร็จก็คือ

00:29:0000:29:02 เพราะว่าเราคิดเราวางใจเราเชื่อว่าเราเอา

00:29:0200:29:04 อยู่อ่าอันนี้ก็เช่นกันคือระหว่างกระบวน

00:29:0400:29:06 การขั้นตอนที่เราจะไปถึงสิ่งที่เราตั้งใจ

00:29:0600:29:09 เรากำลังเปลี่ยนหรืออะไรก็ตามขอให้เชื่อ

00:29:0900:29:12 มั่นละกันว่าเออวันนึงเราจะไปถึงแหละใช่

00:29:1200:29:15 อ่าอย่างตอนแรกค่ะที่เราคุยกันแล้วคุณหมอ

00:29:1500:29:18 ฟ้าพูดถึงเรื่องของ noble คือคนที่ไม่ได้

00:29:1800:29:20 ป่วยแต่ว่าคิดว่าป่วยก็เลยเกิดเอฟเฟคกับ

00:29:2000:29:23 ร่างกายทีนี้อยากรู้ว่าแล้วมีคนไหนที่เขา

00:29:2300:29:27 ป่วยจริงๆแล้วสามารถหายได้ด้วยการทำสมาธิ

00:29:2700:29:30 หรือว่าสามารถหายได้ด้วยพลังใจบ้างมอ่ะ

00:29:3000:29:33 ค่ะอืพี่เองนี่แหละเออคือตอนแรกเราป่วย

00:29:3300:29:36 แล้วมันหาสาเหตุไม่ได้พอหาสาเหตุไม่ได้

00:29:3600:29:38 เนี่ยหมอเขาก็เลยเหมือนแบบเออจะต้องพัก

00:29:3800:29:41 นิดนึงและไอ้ช่วงนั้นน่ะด้วยความที่มัน

00:29:4100:29:43 ไม่มีทางแก้ในโลกข้างนอกแล้วอ่ะคะพี่ก็

00:29:4300:29:46 เลยกลับมานั่งทำสมาธิคือกลับมาอาจจะแบบ

00:29:4600:29:48 ไม่ได้นั่งสมาธิทั้งวันทั้งคืนนะคะแต่

00:29:4800:29:51 กลับมาพักแล้วก็กลับมาอยู่กับตัวเองแล้ว

00:29:5100:29:55 จุดนั้นน่ะเป็นจุดที่ทำให้เราอ่ะค่อยๆหาย

00:29:5500:29:57 จากตอนแรกอ่ะเรานอนเองไม่ได้เริ่มกลับมา

00:29:5700:30:01 นอนเองได้เออแล้วก็เริ่มลดยาวิตกกังวลไป

00:30:0100:30:04 เรื่อยๆอ่ะค่ะแล้วแค่ระยะเวลาประมาณ 2-3

00:30:0400:30:06 เดือนอะไรประมาณเนี้ยไอ้ตรงโรคที่เราแบบ

00:30:0600:30:09 เป็นอยู่ตรงนั้นน่ะมันหายเองพี่เลยมี

00:30:0900:30:11 inspiration ตรงนั้นน่ะเป็นจุดศึกษาว่า

00:30:1100:30:13 เฮ้ยจริงๆแล้วความคิดของเราหรือว่าสิ่ง

00:30:1300:30:15 ที่เรารู้สึกอ่ะมันไม่ใช่แค่ความรู้สึก

00:30:1500:30:17 แล้วนะมันสามารถทำให้เราป่วยแล้วมันไม่มี

00:30:1700:30:20 ขับวินิจฉัยได้และเป็นสิ่งที่ทำให้เราหาย

00:30:2000:30:22 ได้ซึ่งอันเนี้ยพอเราไปศึกษาเขาเรียกว่า

00:30:2200:30:25 เป็นplaซไอ้ตอนที่แบบความคิดทำให้เราป่วย

00:30:2500:30:28 เขาเรียกว่าnoซiboแต่ความคิดทำให้เราหาย

00:30:2800:30:31 เขาเรียกว่า passible เออ passible ก็คือ

00:30:3100:30:33 มันเป็นการทดลองเหมือนเขาเรียกว่ายาหลอก

00:30:3300:30:36 คือเหมือนแบ่งคนไข้ออกเป็น 2 กลุ่มกลุ่ม

00:30:3600:30:39 นึงอ่ะได้ยาจริงเช่นคนไข้เป็นเบาหวานแล้ว

00:30:3900:30:41 ก็ให้ยาจริงๆค่ะแล้วก็วัดปริมาณน้ำตาล

00:30:4100:30:45 ส่วนคือให้นางกินแป้งแต่ผลก็คือน้ำตาลรด

00:30:4500:30:48 เหมือนกันอันนี้คือยาหลอกแป้งที่บอกนี่

00:30:4800:30:51 คือไม่ใช่แบบว่ากินกินแป้งนะคะเป็นเม็ด

00:30:5100:30:55 แป้งที่ทำเป็นเหมือนยาแล้วคนไข้อ่ะเข้าใจ

00:30:5500:30:58 ว่าอันนี้คือยาแต่จริงๆไม่ใช่ยาเป็นแค่

00:30:5800:31:02 เม็ดแป้งเฉยๆแต่สิ่งที่รักษาเขา้าอ่ะคือ

00:31:0200:31:05 จิตใจหรือว่าความคิดของเขาเองมีเคสไหนอีก

00:31:0500:31:08 มั้คะที่รักษาด้วยในในฐานะที่พี่เป็นหมอ

00:31:0800:31:11 ฟันเนาะอาจจะแบบไม่ไม่ใช่เป็นเชิงรักษา

00:31:1100:31:14 แต่ว่าเล่าแบบตลกๆแล้วกันค่ะส่วนมากเนี่ย

00:31:1400:31:18 คนจะกลัวเวลามาหาหมอฟันมีความทรงจำอันเลว

00:31:1800:31:20 ร้ายอะไรอย่างเงี้ยโดยเฉพาะพารทแบบผ่าฟัน

00:31:2000:31:23 ครุดอ่ะถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คนไข้เดินมา

00:31:2300:31:25 ด้วยความกลัวนะยาชาไม่เคยชาเลย

00:31:2500:31:29 ประสบการณ์ตรงเลยคือยาชาปกติฉีดแล้วอ่ะ

00:31:2900:31:33 ต้องชาเพราะว่ามันเป็นเฉพาะที่ไงคะมันไม่

00:31:3300:31:36 ควรมีกลไกอื่นแล้วอ่ะแต่พี่เคยเจอแบบคน

00:31:3600:31:39 ไข้ปวดแล้วแบบกลัวกลัวพอกลัวปุ๊บอ่ะเรา

00:31:3900:31:42 ใส่ยาชาไปแบบ 3 หลอด 4 หลอดแล้วอ่ะคนไข้

00:31:4300:31:45 ไม่ชาค่ะเพราะว่าความกลัวที่คนไข้สร้าง

00:31:4500:31:48 ขึ้นความคิดที่เขากลัวมันทำให้ระบบการช้า

00:31:4800:31:51 ไม่ช้าร่างกายสามารถผิดเพี้ยนไปได้หมดเลย

00:31:5100:31:55 ตามความคิดของเขาออือืแหลกเหมือนกันนะเออ

00:31:5500:31:59 ใช่โหทีนี้จริงๆอันนี้เป็นสิ่งที่เกิด

00:31:5900:32:02 ขึ้นจริงๆเนาะที่เรามาพูดก็คือมีคนที่หาย

00:32:0200:32:05 ได้ด้วยการทำสมาธิหรือหายได้ด้วยพลังใจ

00:32:0500:32:08 แต่ว่าเราก็ไม่ได้หมายความว่าท่านที่

00:32:0800:32:11 กำลังมีการรักษาอยู่จะหยุดการรักษาแล้วมา

00:32:1100:32:14 ทำแบบนี้เลยอย่างี้ใช่มั้คะอ๋อใช่อันนี้

00:32:1400:32:18 พี่แบบไม่สนับสนุนมากๆถ้ามีโรคอะไรอยู่

00:32:1800:32:21 หรือว่าดูแลตัวเองยังไงไปหาหมอแบบไหนอ่ะ

00:32:2100:32:24 ค่ะทำไปตามนั้นเพียงแต่ว่าที่เรามาคุยกัน

00:32:2400:32:26 ในวันเนี้ยค่ะเพื่อเป็นจุดว่าอ๋อจริงๆ

00:32:2600:32:29 แล้วเนี่ยความคิดเราเขาสามารถรักษาร่าง

00:32:2900:32:32 กายเราได้เราช่วยคุณหมอเขาด้วยเออคือนี่

00:32:3200:32:35 มันเป็นร่างกายของเราเราอาจจะไปเจอหมอแบบ

00:32:3500:32:37 เดือนละครั้งอ่ะแต่เราเป็นคนที่อยู่กับ

00:32:3800:32:41 ตัวเราตลอดเวลามันจะดีมยถ้าโอเคเราได้กิน

00:32:4100:32:44 ยาซึมเศร้านะเรามีภาวะวิโตกังวลนะเรากิน

00:32:4400:32:47 ไปแต่ว่าเรากลับมาบอกรักร่างกายเรามยเรา

00:32:4700:32:49 กลับมาดูแลร่างกายในส่วนที่เราทำได้เพื่อ

00:32:4900:32:52 เสริมเค้าอ่ะค่ะและถ้าตรงนี้เค้าดีอ่ะ

00:32:5200:32:54 เดี๋ยวคุณหมอเขาจะเป็นคนลดยาเองไม่ได้

00:32:5400:32:56 สนับสนุนว่าโอ้ทุกคนจะต้องลุกขึ้นมาทำ

00:32:5700:33:00 สมาธิแล้วจะต้องมาแบบรักษาตัวเองค่อยๆไป

00:33:0000:33:02 ตามจังหวะถ้าอะไรที่ต้องอยู่ในวงการแพทย์

00:33:0200:33:06 ทำตามนั้นแต่ช่วยร่างกายเราด้วยจากที่แบบ

00:33:0600:33:08 โอ๊ยเราอาจจะกินยายาวกว่านี้เราอาจจะกิน

00:33:0800:33:10 ยาสั้นลงแล้วเดี๋ยวคุณหมอเขาจะลดไปเองค่ะ

00:33:1000:33:13 ถ้าอาการดีเขาจะปล่อยแบบลดยาเองแต่ไม่

00:33:1300:33:16 ต้องแบบไปทำเองอะไรอย่างเงี้ยอยากรู้ว่า

00:33:1600:33:19 สมาธิเนี่ยเ้ามีกระบวนการยังไงที่ทำให้

00:33:1900:33:23 อาการป่วยดีขึ้นได้อ่าคือทำงานยังไงกับ

00:33:2300:33:26 ร่างกายอ่ะค่ะออืจริงๆอ่ะสมาธิอ่ะเป็นจุด

00:33:2600:33:29 ของปัจจุบันขณะอืไม่ได้มีอะไรซับซ้อน

00:33:2900:33:33 สมมุติว่าเราเคยป่วยแบบนี้เราจะมีความคิด

00:33:3300:33:36 แบบนี้จนทำให้เราป่วยอย่างบางคนคิดมากอ่ะ

00:33:3600:33:38 เราจะคิดวนอยู่กับเรื่องเดิมๆแล้วพอเรา

00:33:3800:33:41 คิดวนอยู่ซ้ำๆอ่ะค่ะมันทำให้เราว่าวนซ้ำๆ

00:33:4100:33:43 อันเนี้ยทำให้เราเป็นโรคนี้แต่เวลาที่เรา

00:33:4300:33:45 ฝึกสมาธิอ่ะเวลามีความคิดเรากลับมาที่ลม

00:33:4600:33:48 หายใจเวลามีความคิดเรากลับมาที่จุดศูนย์

00:33:4800:33:51 กลางมันทำให้เราอ่ะไม่ได้ไปเลือกไอ้ความ

00:33:5100:33:54 คิดวนนั้นและทำให้เราเลือกเส้นทางใหม่เฉย

00:33:5400:33:57 ๆงั้นพี่มองว่าสมาธิคือจุดสำคัญที่ทำให้

00:33:5700:33:59 เรากลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะเพื่อให้เรา

00:33:5900:34:02 ไม่ได้ไปเลือกในสิ่งที่เราเคยเลือกแล้ว

00:34:0300:34:05 มันสร้างโลกให้เราอ่ะอ่าทำให้เราแบบเลือก

00:34:0500:34:09 ใหม่และอีกจุดนึงที่สำคัญมากๆคือเวลาที่

00:34:0900:34:11 เราฝึกสมาธิอ่ะค่ะมันเกี่ยวข้องกับลมหาย

00:34:1100:34:14 ใจคือเราจะสังเกตมถ้าเราทำสมาธิไปเรื่อยๆ

00:34:1400:34:17 ลมหายใจเราจะช้าลงเราจะหายใจได้แบบ

00:34:1700:34:20 ละเอียดขึ้นพอลมหายใจดีอ่ะมันดันไปสอด

00:34:2000:34:23 คล้องกับการทำงานของร่างกายก็คล้ายๆกับ

00:34:2300:34:26 เราคุยกันไปแล้วใน EP ที่แล้วเนาะว่าลม

00:34:2600:34:28 หายใจสัมพันธ์สอดคล้องกับการทำงานของร่าง

00:34:2800:34:31 กายยังไงถ้าท่านไหนยังไม่ได้ฟังนะคะก็ตาม

00:34:3100:34:33 ไปฟังกันได้นะคะสุดท้ายค่ะแพนด้ามีคำถาม

00:34:3300:34:35 นึงอยากถามคุณหมอมากมากแล้วแพนด้าว่าคุณ

00:34:3500:34:38 หมอน่าจะเป็นคนที่มีประสบการณ์ตรงด้วยก็

00:34:3800:34:41 คือการขอบคุณร่างกายเนี่ยสำคัญยังไงและ

00:34:4100:34:43 การขอบคุณร่างกายเนี่ยจะทำให้เราสุขภาพดี

00:34:4400:34:46 ขึ้นได้ด้วยไหมอันเนี้ยมันอาจจะไม่ได้มี

00:34:4600:34:49 แบบโอวิจัยที่ออกมาชัดเจนเพราะว่ามันทำ

00:34:4900:34:53 กับร่างกายมนุษย์นะคะแต่ว่าสิ่งที่พี่ทำ

00:34:5300:34:55 มาโดยตลอดตอนนั้นน่ะตัวที่พี่แบบว่ามี

00:34:5500:34:58 ภาวะซึมเศร้าอ่ะแล้วขึ้นมาได้อ่ะเกิดจาก

00:34:5800:35:01 การกลับมาขอบคุณร่างกายเพราะว่าเรารู้ว่า

00:35:0100:35:03 ทุกเสียงทุกความคิดที่มันส่งไปอ่ะมันส่ง

00:35:0400:35:06 ผลต่อเซลล์ในร่างกายหลายคนอาจจะแบบเอ้ย

00:35:0600:35:08 แล้วมันมีแบบงานวิจัยมั้ยหรืออะไรมั้ย

00:35:0800:35:10 สำหรับพี่พี่รู้สึกว่าการทำสิ่งเนี้ยไม่

00:35:1000:35:14 มีอะไรเสียหายพี่หายมาได้จากการที่เรา

00:35:1400:35:16 กลับมาขอบคุณเค้าแล้วเวลาที่เราขอบคุณไป

00:35:1600:35:20 เรื่อยๆอ่ะเรากำลังฝึกตัวเองให้ชินกับการ

00:35:2000:35:22 ขอบคุณซึ่งสิ่งนั้นน่ะมันเป็นคลื่นพลัง

00:35:2200:35:24 งานบวกอยู่แล้วงั้นพอเราเริ่มชินกับการ

00:35:2400:35:28 ขอบคุณน่ะสารเคมีในร่างกายเราก็ชินกับ

00:35:2800:35:30 พลังงานบวกเราก็เลยค่อยๆแบบรู้สึกดีขึ้น

00:35:3000:35:32 แล้วก็ใช้สิ่งเในการกลับมา healing หรือ

00:35:3200:35:35 ว่ากลับมาเยียวยาร่างกายได้ค่ะแล้วเราจะ

00:35:3500:35:37 มีวิธีในการขอบคุณร่างกายที่คุณหมออยาก

00:35:3700:35:40 แนะนำแล้วก็สามารถทำตามได้ง่ายๆบ้างไหมคะ

00:35:4000:35:43 ตอนนั้นที่พี่ทำนะคือตอนเช้ากับก่อนนอน

00:35:4300:35:46 น่ะพี่จะกลับมาที่ร่างกายก่อนเออแล้วก็

00:35:4600:35:49 กลับมาแบบเอ้ยขอบคุณนะขอบคุณร่างกายอะไร

00:35:4900:35:52 อย่างเงี้ยค่ะแล้วก็ใช้แบบทุกกิจวัตรหรือ

00:35:5200:35:54 ว่าสิ่งที่เราทำอ่ะเป็นการกลับมาขอบคุณ

00:35:5400:35:57 ทุกอย่างเลยเช่นในวันที่กินข้าวเราต้อง

00:35:5700:36:00 กินข้าวอยู่แล้วใช่มั้ยคะเวลากินข้าวเรา

00:36:0000:36:02 จะกินด้วยความภาวนาหรือว่ากินด้วยความ

00:36:0200:36:04 ขอบคุณเพราะว่าจริงๆข้าวก็มาจากแผ่นดิน

00:36:0400:36:06 น่ะค่ะเค้าหล่อเลี้ยงเราเพราะฉะนั้นน่ะ

00:36:0700:36:10 เรากินเหมือนแบบค่อยๆกินไม่ต้องรีบแล้วก็

00:36:1100:36:14 ขอบคุณในขณะที่กินข้าวดื่มน้ำหรือว่าทำ

00:36:1500:36:16 อะไรถ้าเรานึกได้เราจะให้เหมือนกับคำ

00:36:1700:36:19 ขอบคุณเนี้ยอยู่ในวิถีชีวิตเราเลยไม่ว่า

00:36:1900:36:21 เราจะทำอะไรก็ตามอย่างเงี้ยไปเรื่อยๆอ่ะ

00:36:2100:36:24 แรกๆมันก็ดูขัดๆอ่ะแต่พอทำไปเรื่อยๆทุก

00:36:2400:36:26 ครั้งที่เรากินข้าวแล้วก็แบบทำสิ่งนี้จน

00:36:2600:36:29 มันชินไปแล้วอ่ะเพื่อสร้างเส้นทางในสมอง

00:36:2900:36:32 ใหม่สร้างสารเคมีในร่างกายใหม่อ่ะเอออค่ะ

00:36:3200:36:35 โอเป็นการขอบคุณขอบคุณทั้งร่างกายขอบคุณ

00:36:3500:36:38 ทุกอย่างเออมันจะทำให้เรารู้สึกว่าจริงๆ

00:36:3800:36:41 แล้วเราก็เป็นคนนึงที่ได้รับและเป็นเออ

00:36:4100:36:44 เพราะว่าบางครั้งเนี่ยเรามีหลายๆอย่างแต่

00:36:4400:36:46 พอเราไม่เคยขอบคุณหรือแม้กระทั่งร่างกาย

00:36:4600:36:49 ตัวเองที่เราก็มีอยู่อย่างจริงๆอ่ะแต่ว่า

00:36:4900:36:52 เราพอเราไม่ได้ขอบคุณเนาะเรามองข้ามเขา

00:36:5200:36:56 เกินไปอ่าจริงๆก็มีผลต่อกันหมดเลยอใช่ค่ะ

00:36:5600:36:58 ทั้งหมดที่เราคุยกันมาในวันนี้ค่ะใน

00:36:5800:37:01 เรื่องของการที่จะดึงดูดสุขภาพดีเนี่ย

00:37:0100:37:04 เอ่อจริงๆแล้วทุกๆคนสามารถที่จะทำได้อ่า

00:37:0400:37:07 แต่ว่าจะมา manifest ยังไงให้สำเร็จหรือ

00:37:0700:37:08 อะไรก็ตามอันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องไปถาม

00:37:0900:37:13 ตัวเองแล้วก็ขอในสิ่งที่เราก็คิดว่าเฮ้ย

00:37:1300:37:17 เราจะมีความเชื่อว่าเราจะได้รับแล้วก็ลง

00:37:1700:37:20 มือทำนิสัยเปลี่ยนพฤติกรรมให้เรามีความ

00:37:2000:37:23 เชื่อมีหลักฐานในการเชื่อแล้ววันนึงมันก็

00:37:2300:37:26 จะสำเร็จแล้วก็ในการขอสิ่งใดสิ่งนั้นก็

00:37:2600:37:28 ต้องเป็นสิ่งที่เราก็คือออกจากเซฟโซนออก

00:37:2800:37:30 จาก comfort โซนหน่อยอ่าแต่อาจจะไม่ใช่

00:37:3000:37:33 สิ่งที่ไกลตัวมากเกินไปเพราะว่าพอเราตั้ง

00:37:3300:37:35 อะไรที่ไกลตัวมากเกินอาจจะทำให้บั่นทอน

00:37:3500:37:38 ตัวเองอ่าค่ะอันนี้ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป

00:37:3800:37:42 เนาะรวมถึงเรื่องของnoซo plo ด้วยความคิด

00:37:4200:37:45 ของเราเนี่ยมีผลต่อร่างกายของเราแม้ว่า

00:37:4500:37:47 ตอนนี้เราอาจจะไม่ได้เจ็บป่วยแต่ว่าเรามี

00:37:4700:37:49 ความคิดที่ว่าเราป่วยหรือคิดไม่ดีคิดเชิง

00:37:4900:37:52 ลบกับสุขภาพร่างกายก็เอ้ยเราก็อาจจะป่วย

00:37:5200:37:54 ขึ้นมาจริงๆกับอีกอย่างนึงคือถ้าสมมุติ

00:37:5400:37:57 เราป่วยอยู่ก็อาจจะลอง plo มันคือการวาง

00:37:5700:37:59 ใจแล้วก็เชื่อว่าร่างกายเนี้ยจะ healing

00:37:5900:38:02 จะรักษาตัวเขาเองได้ในขณะเดียวกันคือท่าน

00:38:0200:38:05 ไหนที่มีการรักษาอยู่ก็ทำควบคู่กันไปนะคะ

00:38:0500:38:08 ไม่ได้บอกให้หยุดการรักษาอะไรเนาะเพราะ

00:38:0800:38:10 ว่าทำควบคู่กันไปไม่มีอะไรเสียหายแล้ววัน

00:38:1000:38:12 นี้ค่ะเชื่อว่าคุณหมอน่าจะได้ใช้สิ่งนี้

00:38:1200:38:15 ทางกรองมีหมวกมามอบให้ค่ะอ่าเอาไว้ใส่ไป

00:38:1600:38:18 สถานที่ต่างๆหรือว่าเข้าป่าอะไรอย่างี้

00:38:1800:38:21 เนาะไว้บังแดดค่ะสมมุติท่านไหนนะคะที่สน

00:38:2100:38:24 ใจหมวกแบบนี้นะคะสามารถสั่งซื้อได้ที่ใต้

00:38:2400:38:27 description นี้นะคะแล้วก็ยังมีเสื้อนะ

00:38:2700:38:29 คะแล้วก็กระเป๋าผ้าของเราด้วยค่ะฝากอุด

00:38:2900:38:31 หนุนเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะคะ EP นี้

00:38:3100:38:33 นะคะฝากฟังแล้วเป็นยังไงกันบ้างอยากให้

00:38:3300:38:36 ช่วยคอมเมนต์บอกหน่อยเนาะว่าเฮ้ยฟัง EP

00:38:3600:38:38 นี้แล้วเนี่ยได้อะไรกันบ้างหรือว่าทุกๆ

00:38:3800:38:41 ท่านตั้งใจจะ manifest สุขภาพเรื่องไหน

00:38:4100:38:43 คอมเมนต์บอกกันเอาไว้ได้นะคะเป็นการตั้ง

00:38:4300:38:46 แบบสัจจะอธิษฐานกับพวกเราอะไรประมาณนั้น

00:38:4600:38:48 เนาะอย่าลืมกดไลก์กดแชร์นะคะเป็นกำลังใจ

00:38:4900:38:50 ให้พวกเราด้วยนะแล้วก็กด Subscribe เอา

00:38:5000:38:53 ไว้นะคะเพราะว่าเรายังมี EP ต่อไปของหมอ

00:38:5300:38:55 ฟ้าให้ทุกท่านได้ฟังอีกแน่นอนค่ะแล้วก็

00:38:5500:38:58 ถ้าท่านไหนนะคะยังไม่จุใจเนาะจริงๆคุณหมอ

00:38:5800:39:01 ก็มีอ่าเรื่องของสมาธิศาสตร์แล้วก็เรื่อง

00:39:0100:39:04 ของหลายหลายอย่างที่สามารถไปติดตามกันได้

00:39:0400:39:07 ทางแฟนเพจค่ะช่องหมอฟ้าสมาธิศาสตร์ค่ะค่ะ

00:39:0700:39:10 ก็ติดตามกันได้นะคะเพราะว่าการพัฒนาตัว

00:39:1000:39:12 เองหรือการ manifest จริงๆเราต้องทำไป

00:39:1200:39:14 เรื่อยๆอ่าใช่แล้วค่ะสำหรับวันนี้ก็ต้อง

00:39:1400:39:17 ขอขอบคุณคุณหมอมากๆเลยนะคะขอบคุณค่ะ

00:39:1700:39:19 ขอบคุณค่ะ

00:39:1900:39:43 [เพลง]