00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับปัจจุบันหลายคนก็คงจะได้ข่าว
00:00:03 → 00:00:06 หลายๆครั้งว่ามีคนที่แน่นอกหัวใจหยุดเต้น
00:00:06 → 00:00:09 นะครับไม่ว่าจะเป็นจากออกกำลังกายหรือเคส
00:00:09 → 00:00:12 ของคุณกีรติที่มีปัญหาอยู่ที่บ้านแล้วก็
00:00:12 → 00:00:14 มาถึงโรงพยาบาลและหัวใจหยุดเต้นนะครับ
00:00:14 → 00:00:18 หลายคนก็คงคิดว่าเขาโชคดีนะไปที่เกิดที่
00:00:18 → 00:00:21 โรงพยาบาลพอดีคำถามก็คงจะมีทุกคนครับว่า
00:00:21 → 00:00:24 ถ้าเกิดเรามีอาการแบบนั้นแล้วเราอยู่คน
00:00:24 → 00:00:27 เดียวล่ะจะทำยังไงให้รอดนะครับวันนี้ผมก็
00:00:27 → 00:00:29 เลยอยากจะเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังนะครับ
00:00:29 → 00:00:34 แล้วผมจะเล่าถึง 5 อาการที่ท่านมีวิธีใน
00:00:34 → 00:00:36 การดูแลตัวเองก่อนที่จะไปถึงมือหมอแล้วก็
00:00:36 → 00:00:38 เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตให้ท่านมากที่สุด
00:00:38 → 00:00:42 อาการแรกก็คือเจ็บหน้าอกจากโรคหัวใจอาการ
00:00:42 → 00:00:46 ที่ 2 หอบหืดหรือว่าถุงลมโป่งพองกำเริบทำ
00:00:46 → 00:00:50 ให้หายใจไม่ออกอันที่ 3 คืออาการที่ท่าน
00:00:50 → 00:00:53 สำลักนะครับสำหรับเราอะไรไปติดคอนะครับ
00:00:53 → 00:00:56 แล้วอยู่คนเดียวทั้งการที่ 4 คืออาการใจ
00:00:56 → 00:01:00 สั่นแบบรุนแรงนะครับอาการที่ 5 คือ planet
00:01:00 → 00:01:03 ผมก็จะเล่าวิธีที่จะสามารถทำให้ท่านมี
00:01:03 → 00:01:06 โอกาสรอดชีวิตมากที่สุดจนกระทั่งมีคนมา
00:01:06 → 00:01:09 ช่วยเหลือหรือถึงมือหมอนะครับก็พบกับผมนะ
00:01:09 → 00:01:11 ครับนายแพทย์ธานินทร์ธนียวรรณนะครับเป็น
00:01:11 → 00:01:12 อาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
00:01:12 → 00:01:15 เชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤต
00:01:15 → 00:01:16 บำบัดนะครับ
00:01:16 → 00:01:19 เริ่มกันที่อาการแรกก่อนก็คืออาการที่
00:01:19 → 00:01:22 เจ็บแน่นหน้าอกจากโรคหัวใจนะครับสำหรับคน
00:01:22 → 00:01:25 ที่เคยเป็นโรคหัวใจมาก่อนหรือมีโรคกล้าม
00:01:25 → 00:01:28 เนื้อหัวใจขาดเลือดเส้นเลือดไปอุดตันเส้น
00:01:28 → 00:01:29 เลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจเนี่ยมันโดนอุดตัน
00:01:30 → 00:01:32 ไปนะครับท่านก็คงจะทราบดีว่าอาการมันเป็น
00:01:32 → 00:01:34 เช่นอะไรนะครับสำหรับท่านซึ่งไม่ทราบ
00:01:34 → 00:01:37 อาการแน่นหน้าอกจากการที่กล้ามเนื้อหัวใจ
00:01:37 → 00:01:41 มันขาดเลือดนั้นมันจะมีลักษณะจุกเจ็บแน่น
00:01:41 → 00:01:44 หน้าอกตรงกลางตรงนี้เหมือนมีอะไรมากดทับ
00:01:44 → 00:01:47 นะครับหนักๆเลยเหมือนมีคนมายืนอยู่บนหน้า
00:01:47 → 00:01:49 อกของท่านนะครับ
00:01:49 → 00:01:52 และที่สำคัญคือมันเป็นตรงกลางนะครับไม่
00:01:52 → 00:01:54 ใช่ด้านสายหลายคนเข้าใจไม่ถูกต้องก็คือ
00:01:54 → 00:01:57 ว่าเรารู้ว่าหัวใจของเราเนี่ยมันอยู่ด้าน
00:01:57 → 00:01:59 ซ้ายดังนั้นเวลาที่เป็นโรคหัวใจมันก็ควร
00:01:59 → 00:02:01 จะเก็บด้านซ้ายอันนั้นไม่ถูกต้องนะครับ
00:02:01 → 00:02:05 มันจะเจ็บตรงกลางหนักๆนะครับไม่ใช่ไม่ใช่
00:02:05 → 00:02:08 เหมือนกับมีดมาแทงหรืออะไรนะครับไม่ได้
00:02:08 → 00:02:10 เป็นตอนหายใจแต่มันจะหนักๆเหมือนมีคนมา
00:02:10 → 00:02:13 เหยียบหน้าอกนะครับแล้วอาการเนี้ยมันจะมี
00:02:13 → 00:02:16 อาการร้าวไปบริเวณอื่นได้เช่นกลางหลัง
00:02:16 → 00:02:19 ไหล่ทั้งสองข้างโดยเฉพาะแขนข้างซ้ายนะ
00:02:19 → 00:02:23 ครับอาจจะมีอาการล้าๆแขนข้างซ้ายปวดร้าว
00:02:23 → 00:02:26 ลงมาที่แขนข้างซ้ายหรือบางคนมีอาการชาแขน
00:02:26 → 00:02:28 ข้างซ้ายรู้สึกเหมือนยกไม่ค่อยขึ้นนะครับ
00:02:28 → 00:02:31 อันนั้นก็ต้องระวังมากๆแล้วว่าเป็นจาก
00:02:31 → 00:02:34 ภาวนานี้นะครับมันจะปวดร้าวไปบริเวณคอได้
00:02:34 → 00:02:36 แล้วก็กรามก็ได้เช่นกันนะครับนั่นคือ
00:02:36 → 00:02:39 อาการเจ็บปวดที่เกิดจากโรคหัวใจส่วนมาก
00:02:39 → 00:02:42 มันมักจะเกิดเวลาที่เรากำลังออกแรงอะไร
00:02:42 → 00:02:45 บางอย่างอยู่นะครับแต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไป
00:02:45 → 00:02:48 อีกอย่างหนึ่งซึ่งจะเจอคู่กันก็คือจะมี
00:02:48 → 00:02:52 อาการเหงื่อออกนะครับตัวเย็นเหงื่อออก
00:02:52 → 00:02:55 เหมือนจะหน้ามืดและบางคนมีอาการใจสั่น
00:02:55 → 00:02:59 ร่วมด้วยนี่คืออาการของการเจ็บจากโรคหัว
00:02:59 → 00:03:02 ใจที่มีเลือดติดลิ่มเลือดไปอุดตันเส้น
00:03:02 → 00:03:05 เลือดที่เลี้ยงหัวใจนะครับถ้าเราเป็นแบบ
00:03:05 → 00:03:08 นี้ขึ้นมาแล้วแล้วก็สิ่งแรกที่ต้องทำเลย
00:03:08 → 00:03:13 นะครับรีบโทรศัพท์ให้คนมาช่วยนะครับอัน
00:03:13 → 00:03:17 นี้อันที่ 1 เลยนะครับอย่าออกแรงอย่าไป
00:03:17 → 00:03:19 เดินอย่าไปพยายามทำอะไรให้มันดีขึ้นเพราะ
00:03:19 → 00:03:21 มันจะไม่ดีขึ้นมันจะมีแต่แย่ลงนะครับให้
00:03:21 → 00:03:24 นั่งลงนะครับนั่งลงกับพื้นหาอะไรผิดนะ
00:03:24 → 00:03:26 ครับ
00:03:26 → 00:03:31 เราต้องพยายามให้ไม่หมดสติถ้าเราเดินๆ
00:03:31 → 00:03:33 อยู่เนี่ยเราหัวใจมันขาดเลือดมากๆเราอาจ
00:03:33 → 00:03:35 จะหมดสติล้มไปอันนั้นจบแล้วครับไม่มี
00:03:35 → 00:03:38 ชีวิตรอดนะฮะเราต้องพยายามให้เราไม่หมด
00:03:38 → 00:03:40 สติก็คือพยายามนั่งลงนะครับ
00:03:40 → 00:03:43 มีโทรศัพท์เนี่ยเวลาเราโทรแล้วเปิดค้าง
00:03:43 → 00:03:46 ไว้เลยไม่ต้องวางโทรศัพท์นะครับให้เขาให้
00:03:46 → 00:03:49 ปลายสายสามารถที่จะรับรู้ตลอดเวลาว่าเรา
00:03:49 → 00:03:52 อาการเป็นอย่างไรได้เขาก็จะพูดนะครับแล้ว
00:03:52 → 00:03:55 เราบอกไปว่าเราอยู่ที่ไหนนะครับอ่าต่อมา
00:03:55 → 00:03:58 คือคนที่ใส่เสื้อที่รัดให้คลายออกให้หมด
00:03:58 → 00:04:02 เลยครับใส่ท้ายเอาเนคไทออกนะครับใส่เสื้อ
00:04:03 → 00:04:06 คอแน่นๆต้องปลดออกให้หมดนะครับแล้วนั่ง
00:04:06 → 00:04:09 อยู่ตรงนั้นนะฮะถ้าท่านมี aspirin นะครับ
00:04:09 → 00:04:12 ให้เคี้ยว asine เข้าไป
00:04:12 → 00:04:15 Asking ขนาดที่เราต้องการก็คือ 325
00:04:15 → 00:04:20 มิลลิกรัมนะครับเม็ดโตๆๆแล้วเกิดลงไปไม่
00:04:20 → 00:04:22 ใช่กลืนลงไปตอนที่ยังไม่เคี้ยวนะครับต้อง
00:04:22 → 00:04:24 เคี้ยวก่อนเพราะว่าการเคี้ยวจะทำให้
00:04:24 → 00:04:26 aspirin มันทำงานได้เดี๋ยวนั้นเลยนะครับ
00:04:26 → 00:04:29 มันจะถูกดูดซึมด้วยเส้นเลือดซึ่งอยู่ใต้
00:04:29 → 00:04:32 ลิ้นของเราเนี่ยมันจะสามารถทำให้เกิดการ
00:04:32 → 00:04:34 ดูดซึมแล้วก็ได้ผลทันทีเดี๋ยวนั้นนะครับ
00:04:34 → 00:04:37 ถ้าท่านไม่มี aspirin ชนิดชนิดที่ 325
00:04:37 → 00:04:41 มิลลิกรัมให้ท่านเลือกชนิด aspirin แบบ 81
00:04:41 → 00:04:44 มิลลิกรหรือ Baby astrend นะครับเคี้ยว 4
00:04:44 → 00:04:46 เม็ด 4 เม็ดนะครับแล้วกลืนลงไปเลยนะครับ
00:04:46 → 00:04:51 ถ้าท่านมียาอมใต้ลิ้นในตัวกลีเซอรีนก็อม
00:04:51 → 00:04:53 เข้าไปนะครับมันจะสามารถช่วยท่านได้นะ
00:04:53 → 00:04:55 ครับอมได้ทุกๆประมาณ 5 นาทีนะครับทั้งหมด
00:04:55 → 00:04:59 3 ครั้งนะได้แค่นั้นเลยนะฮะที่เหลือคือ
00:04:59 → 00:05:02 จะต้องรอคนมาช่วยเหลือนะครับแล้วระหว่าง
00:05:02 → 00:05:05 นี้พยายามพยายามนะครับผมรู้ว่ามันยาก
00:05:06 → 00:05:09 พยายามสงบสติอารมณ์ให้มากที่สุดนะครับทำ
00:05:09 → 00:05:11 สมาธิให้มากที่สุดเพราะว่าถ้าท่านยิ่ง
00:05:11 → 00:05:14 ตื่นตระหนกตกใจหัวใจของท่านมันจะติ้งยิ่ง
00:05:14 → 00:05:17 เต้นเร็วขึ้นการเต้นเร็วขึ้นมันใช้พลัง
00:05:17 → 00:05:19 งานมากขึ้นแต่ว่าเลือดที่มันไปเลี้ยง
00:05:19 → 00:05:23 เนี่ยมันไม่ค่อยมีพอมันไม่ค่อยมีแล้วมัน
00:05:23 → 00:05:25 เต้นเร็วมันต้องใช้พลังงานเยอะเกิดอะไร
00:05:25 → 00:05:28 ขึ้นครับหัวใจหยุดเต้นครับแล้วก็จะเสีย
00:05:28 → 00:05:30 ชีวิตทันที
00:05:30 → 00:05:33 มีอย่างหนึ่งซึ่งมีคนแชร์ข้อมูลทาง LINE
00:05:33 → 00:05:36 แล้วผมเคยเห็นนะครับว่าถ้าหากท่านมีอาการ
00:05:36 → 00:05:38 เช่นนั้นหรือรู้สึกว่าหัวใจมันหวิวๆนะ
00:05:38 → 00:05:42 ครับให้พยายามหายใจลึกๆแล้วไอแรงๆเพื่อ
00:05:42 → 00:05:44 เป็นการกระตุ้นหัวใจมันเหมือนเป็นการช็อค
00:05:45 → 00:05:47 ไฟฟ้าหัวใจหรือการกดนวดหัวใจแบบที่เวลา
00:05:47 → 00:05:51 หมอทำเวลาเรามาเจอหมอทำ CPR นะครับสิ่งๆ
00:05:51 → 00:05:55 นี้บอกเลยครับอย่าทำเด็ดขาดอย่าหาทำนะ
00:05:55 → 00:05:58 ครับมันมีอันตรายแล้วมันก็ไม่มีประโยชน์
00:05:58 → 00:06:02 ใดๆทั้งสิ้นการหายใจลึกๆแล้วไอไม่สามารถ
00:06:02 → 00:06:04 ช่วยกระตุ้นให้หัวใจทำงานได้ครับอันนี้
00:06:04 → 00:06:07 เนี่ยอันที่ 1 เลยอันที่ 2 อาจจะมี
00:06:07 → 00:06:10 อันตรายได้อันตรายอะไรที่เกิดขึ้นได้การ
00:06:10 → 00:06:13 ที่เราไอนะครับโดยเฉพาะไอแรงไอลึกหรือไอ
00:06:13 → 00:06:16 ต่อเนื่องมันจะสามารถไปกระตุ้นเส้นประสาท
00:06:16 → 00:06:19 อันนึงของเราชื่อว่า Vegas Nerf นะครับ
00:06:19 → 00:06:22 กระตุ้นเส้นประสาทตัวนี้แล้วสิ่งที่เกิด
00:06:22 → 00:06:25 ขึ้นก็คือหัวใจมันจะเต้นช้าลงเส้นเลือด
00:06:25 → 00:06:28 มันจะขยายทำให้เลือดเนี่ยอันนี้ไม่ใช่
00:06:28 → 00:06:29 เส้นเลือดที่เลี้ยงหัวใจมันขยายนะครับแต่
00:06:29 → 00:06:33 เป็นซึ่งนำเลือดกลับมาสู่หัวใจมันขยายทำ
00:06:33 → 00:06:35 ให้เลือดไม่สามารถเข้าสู่หัวใจได้เพราะ
00:06:35 → 00:06:38 ว่าเวลาเลือดที่เข้าสู่หัวใจเนี่ยเป็น
00:06:38 → 00:06:42 เลือดดำถ้าเส้นเลือดมันขยายนะครับเลือด
00:06:42 → 00:06:44 มันก็กรองอยู่ในเส้นเลือดพวกนี้แหละครับ
00:06:44 → 00:06:47 มันไม่ไปที่หัวใจสักทีดังนั้นหัวใจจะมี
00:06:47 → 00:06:50 เลือดที่ลดลงเต้นช้าลงบางคนก็หมดสติไปเลย
00:06:50 → 00:06:54 นะครับเพราะเลือดเข้าหัวใจลดลงเลือดไป
00:06:54 → 00:06:57 เลี้ยงสมองเป็นไงครับลดลงโอกาสหมดสติก็
00:06:57 → 00:07:01 สูงขึ้นดังนั้นการไอไม่ควรทำมันมีโอกาสทำ
00:07:01 → 00:07:03 ให้ท่านหมดสตินะครับซึ่งเราเรียกภาวะนี้
00:07:03 → 00:07:06 ว่า resour bagan Copy นะครับซึ่งถ้า
00:07:06 → 00:07:10 เกิดพร้อมกับกล้องหัวใจขาดเลือดแล้วก็อัน
00:07:10 → 00:07:12 นั้นจบเลยครับจบเลยนะฮะ
00:07:12 → 00:07:15 นอกเหนือจากนี้ยังมีอันตรายอื่นอีกเช่น
00:07:15 → 00:07:17 บางคนเจ็บแน่นหน้าอกจากโรคหัวใจจริงแต่
00:07:18 → 00:07:21 ว่ามันเกิดเพราะว่ามีหลอดเลือดแดงใหญ่มัน
00:07:21 → 00:07:24 ปริกขาดนะครับคือหัวใจของเราเนี่ยมันจะมี
00:07:24 → 00:07:26 หลอดเลือดแดงที่ออกมาจากหัวใจเรานี้เราจะ
00:07:26 → 00:07:28 เรียกว่าหลอดเลือดเอวต้านะครับหลอดเลือด
00:07:28 → 00:07:31 เนี่ยบางคนมันโป่งพอเป็นกระป๋องแล้วบางคน
00:07:31 → 00:07:34 มันเนี่ยอาจจะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก
00:07:34 → 00:07:37 แบบนั้นได้บางคนพอปีกมากๆคล้ายๆกับจะ
00:07:37 → 00:07:40 เหมือนร่างกายของเราโดนฉีดออกจากกันทั้ง 2
00:07:40 → 00:07:42 ส่วนนะครับแล้วมันจะเจ็บมาก
00:07:42 → 00:07:46 การไอเนี่ยนะครับมันอาจจะทำให้ที่ปริแตก
00:07:46 → 00:07:49 ไปเลยถ้าแตกจบกันแล้วครับนั่นเสียชีวิต
00:07:49 → 00:07:52 100% ไม่ต้องไม่ใช่ 99.99 แล้วครับ 100%
00:07:52 → 00:07:56 ที่บ้านนะครับดังนั้นยาไอแบบนั้นเด็ดขาด
00:07:56 → 00:07:59 มันแตกได้นะครับมันแตกได้
00:07:59 → 00:08:01 แล้วถ้าบังเอิญเป็นกรณีอย่างคุณกีรติที่
00:08:01 → 00:08:03 อาการแน่นหน้าอกของเขาเนี่ย
00:08:03 → 00:08:07 เป็นจากการที่มีลิ่มเลือดไปอุดตันหัวใจ
00:08:07 → 00:08:10 ห้องล่างขวาหรือบางคนเข้าไปในปอดการไอแบบ
00:08:10 → 00:08:11 นั้น
00:08:11 → 00:08:15 มันจะทำให้หมดสติได้หมดสติแล้วเกิดอะไร
00:08:15 → 00:08:18 ขึ้นครับช็อคตายเลยความดันตกเสียชีวิตดัง
00:08:18 → 00:08:23 นั้นไม่ควรไอลึกๆอย่าทำเด็ดขาดนะครับนั่ง
00:08:23 → 00:08:25 เฉยๆสงบสติอารมณ์เอาไว้โทรหาคนมาช่วย
00:08:25 → 00:08:29 เคี้ยวแอสไพรินถ้ามีนะครับแล้วก็อมยา
00:08:29 → 00:08:31 ไซส์ลินถ้ามีทำเสื้อผ้าให้หลวมๆเข้าไว้
00:08:31 → 00:08:35 แล้วก็มีสติทำสมาธินะครับนี่คือการเจ็บ
00:08:35 → 00:08:39 แน่นอกที่เกิดจากโรคหัวใจนะครับต่อมา
00:08:39 → 00:08:43 อาการซึ่งมีอาการหอบเหนื่อยหายใจไม่ออก
00:08:43 → 00:08:47 ที่เกิดจากโรคถุงลมโป่งพองหรือหอบหืดนะ
00:08:47 → 00:08:49 ครับพวกนี้เนี่ยอากาศมันจะเข้าไปได้แต่
00:08:49 → 00:08:52 มันออกมาไม่ได้สิ่งที่เกิดตามมาก็คือพอ
00:08:52 → 00:08:54 มันเข้าไปได้ออกมาไม่ได้เนี่ยอากาศจะค้าง
00:08:54 → 00:08:56 อยู่ในปอดเยอะขึ้นเยอะขึ้นเยอะขึ้นทำให้
00:08:56 → 00:08:59 อากาศใหม่มันเข้าไปไม่ได้เข้าไปไม่ได้พอ
00:08:59 → 00:09:01 จนถึงจุดนึงมันก็หายใจไม่ได้เลยอันนั้นก็
00:09:01 → 00:09:05 จะหมดสติละนะครับดังนั้นเหมือนกับกรณีแรก
00:09:05 → 00:09:09 โทรศัพท์เรียกคนช่วยนะครับก่อนเลยนั่งลง
00:09:09 → 00:09:13 พิงอย่ายืนนะครับอย่าให้หมดสตินั่งลงพิง
00:09:13 → 00:09:17 นะครับตัวตั้งตรงไว้นะครับแล้วก็ถ้าท่าน
00:09:17 → 00:09:21 มีอะไรที่มันรัดก็รีบขายออกนะครับถ้ามียา
00:09:21 → 00:09:24 พ่นขยายเอาลมให้ใช้ยาพ่นขยายเราลมอย่ากิน
00:09:24 → 00:09:27 ไม่ได้ผลต้องเป็นยาพ่นเท่านั้นถึงจะได้ผล
00:09:27 → 00:09:30 นะครับอย่าพ่นเท่านั้นถึงได้ผล
00:09:30 → 00:09:34 นอกเหนือจากนี้เมื่อกี้ผมบอกว่าอากาศมัน
00:09:34 → 00:09:37 ค้างในช่องปอดละเราทำยังไงให้มันออกมา
00:09:37 → 00:09:40 เราเรียกว่าการทำ perslip Reading หรือ
00:09:40 → 00:09:43 การเม้มปากตอนหายใจออกครับปกติหายใจเข้า
00:09:43 → 00:09:46 แล้วแต่ตามสบายตอนหายใจออกให้เม้มปากแล้ว
00:09:46 → 00:09:50 ปล่อยลมออกทางปาก
00:09:50 → 00:09:53 ช้าๆยาวๆยาวที่สุดยิ่งท่านทำช้าทำยาวที่
00:09:53 → 00:09:55 สุดลมมันจะออกมาได้มากขึ้นแล้วจะทำให้
00:09:55 → 00:09:57 อาการของท่านดีขึ้นได้หรืออย่างน้อยก็
00:09:57 → 00:10:00 บรรเทาอาการนะครับหัดทำเพอร์สหรือ Reading
00:10:00 → 00:10:03 ไว้ผมแนะนำว่าให้ท่านหัดตั้งแต่ตอนที่
00:10:03 → 00:10:05 ท่านยังไม่กำเริบนั่นแหละครับมันจะได้รู้
00:10:05 → 00:10:07 ว่าทำอย่างไรและเวลามันเกิดขึ้นมาจริงๆจะ
00:10:07 → 00:10:09 ได้ไม่ตื่นตกใจเพราะว่ายิ่งตื่นตกใจท่าน
00:10:09 → 00:10:12 จะยิ่งอาการแย่มันจะยิ่งหายใจเร็วหายใจ
00:10:12 → 00:10:16 เร็วก็ยิ่งเป็นนะครับดังนั้นพวกนี้โทรให้
00:10:16 → 00:10:19 คนช่วยนั่งลงนะครับใช้ยาพ่นขยายเราลมทำ
00:10:19 → 00:10:22 เพอร์สผลิตนิ่งแล้วก็
00:10:22 → 00:10:26 สมาธิสำคัญสุดมีสติสำคัญสุดนะครับอ่าอัน
00:10:27 → 00:10:29 นี้เป็นเรื่องของโรคปอดที่หายใจไม่ออก
00:10:29 → 00:10:31 อาการที่ 3
00:10:31 → 00:10:34 ถ้าเรากินอะไรอยู่แล้วเราสำรับติดคอทำยัง
00:10:34 → 00:10:37 ไงอันนี้น่ากลัวละเพราะว่ามันจะหายใจไม่
00:10:37 → 00:10:39 ออกเลยนะครับไม่มีเสียงด้วยโทรให้ใคร
00:10:39 → 00:10:42 เรียกโทรให้ใครมาช่วยก็ไม่ได้ด้วยเพราะ
00:10:42 → 00:10:44 ว่าท่านกดโทรแล้วท่านไม่พูดอะไรเลยปลาย
00:10:44 → 00:10:46 สายก็คิดว่าเอ้ยมันโทรมาแกล้งหรือเปล่านะ
00:10:46 → 00:10:50 ครับมันไม่ได้นะครับมันมันโทรไปไม่ได้นะ
00:10:50 → 00:10:52 ครับยกเว้นท่านยังพอมีเสียงอันนี้รีบโทร
00:10:52 → 00:10:54 เลยนะครับถ้าท่านยังพอออกเสียงมาได้รีบ
00:10:54 → 00:10:57 โทรเลยนะครับและประการแรกที่ควรทำก็คือ
00:10:57 → 00:11:01 การไออันนี้จะแตกต่างจากภาวะจัดเจ็บหัวใจ
00:11:01 → 00:11:02 แล้วอันนี้ต้องพยายามไอออกมาให้มากที่สุด
00:11:02 → 00:11:05 นะครับเพราะมันจะเป็นการไล่เอาสิ่งที่ติด
00:11:05 → 00:11:07 เนี่ยออกมาให้ได้ไอที่แรงที่สุดเท่าที่จะ
00:11:07 → 00:11:11 เป็นไปได้นะครับถ้าไอไม่ได้สิ่งที่ท่าน
00:11:11 → 00:11:13 ควรจะทำก็คือ
00:11:13 → 00:11:16 การเดินไปหาบริเวณที่มีโต๊ะนะครับหรือมี
00:11:16 → 00:11:19 อะไรที่มันสูงขึ้นมาหน่อยนะครับมีเหลี่ยม
00:11:19 → 00:11:22 มีมุมแหลมๆยิ่งดีเลยนะครับเช่นสมมุติว่า
00:11:22 → 00:11:23 ผม
00:11:23 → 00:11:27 มีตรงนี้เป็นโต๊ะเป็นหนังสือแล้วกันนะ
00:11:27 → 00:11:29 ครับให้เราเดินไปนะครับแล้วก็ไปโน้มตัว
00:11:29 → 00:11:32 ข้างบนให้มุมมันอยู่ตรงบริเวณท้องด้านบน
00:11:32 → 00:11:35 ของเรานะครับโดยเราจับตรงนี้ก็ได้หน้าอก
00:11:35 → 00:11:37 ของเราจะเป็นกระดูกนะครับเลยกระดูกของแฟน
00:11:37 → 00:11:40 จะมีนิ่มๆอันนั้นจะเป็นท้องนะครับลิ้นปี่
00:11:40 → 00:11:43 เรานั่นแหละครับตรงลิ้นปี่เราเนี่ยให้เอา
00:11:43 → 00:11:46 ของที่มันมีมุมๆเนี่ยพวกโต๊ะพวกอะไรก็
00:11:46 → 00:11:48 แล้วแต่ที่มันแข็งแรงหน่อยอ่ะแล้วเราโน้ม
00:11:48 → 00:11:50 ตัวไปบนนี้นะครับ
00:11:50 → 00:11:53 โน้มไปข้างบนนะครับอย่างนี้เลยแล้วก็ทิ้ง
00:11:53 → 00:11:56 ตัวลงไปเลยนะครับเราต้องการให้เหมือนมี
00:11:56 → 00:11:59 อะไรมากระแทกตรงบริเวณนี้แรงๆนะครับตอน
00:11:59 → 00:12:02 ที่กระแทกเนี่ยให้เราไอออกมานะฮะมันจะ
00:12:02 → 00:12:05 เป็นการดันเอาของที่อยู่ข้างในออกมานะ
00:12:05 → 00:12:08 ครับทำจนกว่าจะออกเพราะว่านั่นคือฝั่ง
00:12:08 → 00:12:10 เส้นสุดท้ายที่ท่านจะสามารถมีชีวิตรอดได้
00:12:10 → 00:12:12 แล้วท่านจะต้องทำแบบนั้นจนกระทั่งมันออก
00:12:12 → 00:12:16 มาได้นะครับผมเคยสอนวิธีในการทำช่วยเหลือ
00:12:16 → 00:12:20 คนที่มีอาหารติดคอนะครับถ้ามี 2 คนอันนี้
00:12:20 → 00:12:23 ง่ายขึ้นมาหน่อยก็คือว่าท่านอ้อมไปด้าน
00:12:23 → 00:12:25 หลังนะครับอ้อมไปด้านหลังคนที่เขาสำลัก
00:12:25 → 00:12:29 อยู่นะครับคนพวกนี้เขาจะจับคอเขาจะหายใจ
00:12:29 → 00:12:32 ไม่ออกนะครับให้ทำมือเป็นกำปั้นแบบนี้ใน
00:12:32 → 00:12:35 มือหนึ่งก็อุ้มไว้อย่างนี้ก็ได้นะครับมา
00:12:35 → 00:12:38 ที่ลิ้นปี่นะครับแล้วก็ดันแรงๆดึงเข้าหา
00:12:38 → 00:12:40 ตัวแรงๆสมมุติเรากอดเขาจากด้านหลังเนี่ย
00:12:40 → 00:12:43 ให้ดึงเข้าหาตัวแรงๆนะครับโดยวิธีในการ
00:12:43 → 00:12:46 ดึงเนี่ยคือดึงเข้าหาตัวแล้วก็ยกขึ้นนะ
00:12:46 → 00:12:48 ครับเฉียงขึ้น 45 องศาแบบนี้ตรงบริเวณ
00:12:48 → 00:12:53 ลิ้นปี่แรงๆเลยนะครับอ่าแรงๆหนึ่งสองสาม
00:12:53 → 00:12:54 สี่ห้าทำไปเรื่อยๆจนกว่ามันจะออกมาให้ได้
00:12:54 → 00:12:57 นะครับแต่ถ้าท่านอยู่คนเดียวท่านก็ต้อง
00:12:57 → 00:13:00 โน้มตัวไปบนอ่าโต๊ะหรือเก้าอี้หรือโซฟา
00:13:00 → 00:13:02 หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันดูมันแข็งๆอ่ะมี
00:13:02 → 00:13:04 เหลี่ยมมีมุมหน่อยแล้วก็ทำแบบนั้นจนกว่า
00:13:04 → 00:13:07 มันจะออกนะครับอันนี้เป็นสิ่งที่ท่านทำ
00:13:07 → 00:13:09 ได้เท่านั้นนอกเหนือจากนั้นไม่มีวิธีอื่น
00:13:09 → 00:13:10 แล้วนะครับ
00:13:10 → 00:13:15 อาการที่ 4 อาการใจสั่นนะครับอาการใจสั่น
00:13:15 → 00:13:17 เนี่ยบางครั้งมันเป็นอาการใจสั่นแบบที่
00:13:17 → 00:13:19 น่ากลัวได้นะครับขึ้นอยู่กับว่าท่านเป็น
00:13:19 → 00:13:22 โรคอะไรมาก่อนนะครับมันมีหลากหลายซึ่งผม
00:13:22 → 00:13:25 เคยพูดเรื่องของอาการใจสั่นเช่นอาการที่
00:13:25 → 00:13:27 เกิดจาก atrial fifiration อาการที่เกิด
00:13:27 → 00:13:32 จาก svt อาการที่เกิดจากมี Pac PVC ต่าง
00:13:33 → 00:13:35 ๆซึ่งมันไม่เหมือนกันเลยท่านก็ลองไปทบทวน
00:13:35 → 00:13:38 ดูว่าอาการเนี่ยมันเป็นอย่างไรในแต่ละ
00:13:38 → 00:13:40 ประเภทนะครับแต่ถ้าเกิดอยู่ๆเนี่ยการใจ
00:13:40 → 00:13:43 สั่นมันเป็นอย่างรวดเร็วเลยมันใจเส้นๆๆ
00:13:43 → 00:13:46 แล้วท่านรู้สึกว่ามันจะหมดสติหรือว่าเรา
00:13:46 → 00:13:50 จะมันหายใจไม่ออกหรือมันจะตายนะครับวิธี
00:13:50 → 00:13:53 แรกนะครับเหมือนกับทุกๆครั้งเลยโทรศัพท์
00:13:53 → 00:13:57 ก่อนให้ปลายสายรู้ว่าเอ่อเราเป็นยังไง
00:13:57 → 00:13:59 บ้างบอกว่าอยู่ที่ไหนนะครับแล้วก็เปิด
00:13:59 → 00:14:02 โทรศัพท์ค้างไว้ไม่ต้องวางนะครับนั่งลงนะ
00:14:02 → 00:14:05 ครับสงบสติอารมณ์ตัวเองไว้ให้ดีนะครับ
00:14:05 → 00:14:08 นั่นเป็นสิ่งที่ท่านทำได้เท่านั้นไม่มี
00:14:08 → 00:14:09 ทางอื่น
00:14:09 → 00:14:12 มีข้อยกเว้นบางอย่างนะครับก็คือคนที่รู้
00:14:12 → 00:14:16 ตัวเองว่าเป็น sbt นะครับ svt นี่คืออะไร
00:14:16 → 00:14:20 svt เนี่ยมันย่อมาจากคำว่า supera
00:14:20 → 00:14:23 taking carrier คืออาการมันจะเป็นตอน
00:14:23 → 00:14:26 แรกหัวใจท่านก็เต้นปกติ
00:14:26 → 00:14:30 ขึ้นมามันจะเร็วขึ้นมากระทันหันเลยคือจาก
00:14:30 → 00:14:34 สมมุติตอนแรกเต้นซัก 60 ตกนาทีมันจะกลาย
00:14:34 → 00:14:37 เป็น 180 ต่อนาทีทันทีเลยมันจะไม่ใช่ค่อย
00:14:37 → 00:14:40 ๆขึ้นนะครับไม่ใช่ 60 70 80 90 100
00:14:40 → 00:14:42 120 แล้วก็ขึ้นไปเรื่อยๆมันไม่ใช่แบบนี้
00:14:42 → 00:14:45 นะครับมันจะอยู่ๆขึ้นมากระทันหันเลยแล้ว
00:14:45 → 00:14:48 ก็จะเป็นอย่างนี้ค้างอยู่เรื่อยๆถ้าท่าน
00:14:48 → 00:14:51 เป็นแบบนี้นะครับวิธีก็คือนั่งลงหายใจ
00:14:51 → 00:14:54 เข้าเต็มที่
00:14:54 → 00:14:57 กั้นปิดปากปิดจมูกเราเบ่งเหมือนเด้งอ่ะ
00:14:57 → 00:14:58 ครับเบ่ง
00:14:58 → 00:15:02 เลยนะครับเบ่งแรงๆเลยอันนี้มันจะเป็นการ
00:15:03 → 00:15:06 กระตุ้นที่ทำให้สามารถหยุดการเต้นของหัว
00:15:06 → 00:15:09 ใจที่ผิดปกติแบบ svt ได้นะครับมันสามารถ
00:15:09 → 00:15:12 ที่จะทำได้นะครับแต่ท่านต้องพยายามฝึกนะ
00:15:12 → 00:15:14 ครับอันนี้มันเป็นการกระตุ้นเส้นประสาท
00:15:14 → 00:15:16 Vegas นะครับหรือเวกัสซึ่งเมื่อกี้เรา
00:15:16 → 00:15:19 พูดถึงนั่นแหละครับในกรณีที่เราเป็นโรค
00:15:19 → 00:15:21 หัวใจแล้วเจ็บแน่นออกจากโรคหัวใจอย่าไป
00:15:21 → 00:15:24 กระตุ้นมันแต่ถ้าเป็นกรณีแบบนี้การ
00:15:24 → 00:15:26 กระตุ้นมันช่วยทำให้หัวใจที่มันเต้นเร็ว
00:15:26 → 00:15:28 จนเกินไปเนี่ยมันชะลอลงมาได้แล้วก็หยุด
00:15:28 → 00:15:31 ได้เลยในบางครั้งแล้วหยุดแล้วก็อย่าเพิ่ง
00:15:31 → 00:15:33 นิ่งนอนใจนะครับต้องไปโรงพยาบาลเสมอเพราะ
00:15:33 → 00:15:35 ว่ามันอาจจะกลับเป็นซ้ำได้รับครั้งที่ 2
00:15:35 → 00:15:37 อาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนในตอนแรกแล้วนะ
00:15:37 → 00:15:40 ครับอ่าดังนั้นอันนี้ก็ควรจะต้องรู้ไว้นะ
00:15:40 → 00:15:43 ครับแล้วต้องใจเย็นไว้เสมอเลยนะครับอย่า
00:15:43 → 00:15:45 ไปใจร้อนแล้วก็อย่าไปพยายามเดินไปเดินมา
00:15:45 → 00:15:47 คิดว่าเดี๋ยวจะดีขึ้นเองมันไม่ดีขึ้นเอง
00:15:47 → 00:16:50 นะครับต้องระวังตรงนี้นะครับมีสตินะฮะ
00:16:50 → 00:16:53 หายใจแบบนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเส้น
00:16:53 → 00:16:55 เลือดสมองเนี่ยนะครับเวลาที่เราขาดคำแล้ว
00:16:55 → 00:16:59 ออกไซด์มากๆเนี่ยมันจะหดตัวหดตัวแล้วเกิด
00:16:59 → 00:17:01 อะไรขึ้นเลือดเลี้ยงสมองไม่พอเลือดเลี้ยง
00:17:01 → 00:17:03 สมองไม่พอเกิดอะไรขึ้นอาการต่างๆที่ท่าน
00:17:03 → 00:17:06 พูดมานั่นแหละครับดังนั้นภาวะนี้แก้ไข
00:17:06 → 00:17:09 ด้วยการหายใจให้มันช้าที่สุดนะครับช้าที่
00:17:09 → 00:17:11 สุดเพื่อจะเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ไว้ในร่าง
00:17:11 → 00:17:14 กายถ้าท่านทำเองไม่ได้นะครับก็เอาถุง
00:17:14 → 00:17:17 กระดาษถุงพลาสติกมาเราก็ครอบปากครอบจมูก
00:17:17 → 00:17:19 หายใจเข้าออกเข้าออกในนั้นแหละครับสักพัก
00:17:19 → 00:17:22 มันจะดีขึ้นแต่ถ้าท่านไม่มีให้ท่านทำมือ
00:17:22 → 00:17:25 แบบนี้นะครับข้อปรับข้อมูลตัวเองอย่างนี้
00:17:25 → 00:17:28 นะครับหายใจเข้าออกในปากจมูกตัวนี้ยัง
00:17:28 → 00:17:31 อย่างนี้นะครับสักพักแล้วมันจะดีขึ้นนะ
00:17:31 → 00:17:34 ครับอย่างไรก็ตามตรงนี้เนี่ยถ้าท่านเป็น
00:17:34 → 00:17:36 แพนิคแน่นอนว่าควรจะต้องไปพบจิตแพทย์
00:17:36 → 00:17:40 เพื่อทำการรักษาแต่ก่อนที่จะรักษาน่ะก็
00:17:40 → 00:17:42 เขาก็จะมีการตรวจดูว่าท่านไม่เป็นโรค
00:17:42 → 00:17:44 อย่างอื่นแน่ๆนะครับในการที่มีอาการแบบ
00:17:45 → 00:17:46 นั้นขึ้นมาถ้าตรวจอะไรไม่เจอแล้วเจอว่า
00:17:46 → 00:17:50 เป็นแพนิคตรงนี้รักษาได้นะครับแต่ผมพูดใน
00:17:50 → 00:17:52 กรณีที่ท่านมีอาการแบบนั้นแล้วก็จะต้อง
00:17:52 → 00:17:55 แก้ไขเบื้องต้นนะครับอ่า
00:17:55 → 00:17:58 งั้นหวังว่าอาการวันนี้ที่ผมเล่ามาคงจะ
00:17:58 → 00:18:00 เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับสำหรับการ
00:18:00 → 00:18:02 ช่วยเหลือตัวเองเพื่อที่จะเพิ่มโอกาสรอด
00:18:02 → 00:18:06 ชีวิตให้มากที่สุดนะครับอ่าทีนี้มันอาจจะ
00:18:06 → 00:18:08 มีอาการบางอย่างที่ผมไม่ได้กล่าวในที่นี้
00:18:08 → 00:18:10 เช่นบางคนมีอาการแน่นหน้าอกแต่ไม่รู้แน่น
00:18:10 → 00:18:13 จากอะไรบางคนแน่นลิ้นปี่แต่ไม่รู้แน่นจาก
00:18:13 → 00:18:17 อะไรบางคนแน่นท้องน้อยด้านบนหรือท้องด้าน
00:18:17 → 00:18:19 ขวาบนในแล้วไม่รู้ว่ามันเป็นจากอะไรกัน
00:18:19 → 00:18:22 แน่นะครับบอกสาเหตุไม่ได้กรณีแบบนั้นน่ะ
00:18:22 → 00:18:25 ถ้าท่านไม่แน่ใจในสาเหตุนะครับรีบโทรให้
00:18:25 → 00:18:28 รถพยาบาลมารับนะครับดีที่สุดแล้วระหว่าง
00:18:28 → 00:18:31 นั้นก็สังเกตตัวเองพยายามมีสติแล้วก็นั่ง
00:18:31 → 00:18:35 ลงนะครับนั่งลงถ้าคิดอะไรไม่ออกไม่รู้ว่า
00:18:35 → 00:18:37 มันเป็นจากอะไรนั่งลงมีสติโทรศัพท์
00:18:38 → 00:18:39 แค่นั้นเลย
00:18:39 → 00:18:42 นะครับแค่นั้นเลยที่เหลือสังเกตตัวเองว่า
00:18:42 → 00:18:44 มีอาการมันไปเข้าได้กับอะไรหรือเปล่าถ้า
00:18:44 → 00:18:46 มีอาการเข้าได้กับสิ่งที่เมื่อกี้ผมบอกไป
00:18:46 → 00:18:49 5 อย่างเราก็แก้ไขตามนั้นแต่ถ้ามันไม่
00:18:49 → 00:18:51 ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยมันมีอาการอย่างนั้น
00:18:51 → 00:18:54 น่ะไปเรื่อยๆรอจนกระทั่งรถพยาบาลมารับไป
00:18:54 → 00:18:57 ที่โรงพยาบาลแล้วก็ตรวจเดี๋ยวก็จะพอทราบ
00:18:57 → 00:19:00 ได้ว่าอาการของท่านนั้นมันเป็นจากอะไรนะ
00:19:00 → 00:19:02 ครับโอเควันนี้ก็หวังว่าได้ประโยชน์ไม่
00:19:02 → 00:19:06 มากก็น้อยนะครับแล้วก็ขอให้ทุกคนอ่าเอา
00:19:06 → 00:19:08 ความรู้นี้ไปใช้นะครับถ้าใช้ได้ดีก็ดีเลย
00:19:08 → 00:19:11 นะครับก็ฝากบอกต่อสำหรับคนอื่นที่ทำด้วย
00:19:11 → 00:19:15 นะครับแล้วก็ข้อมูลทางไลน์อันนี้อย่าไป
00:19:15 → 00:19:16 หลงเชื่อมันมากนะครับเพราะว่ามันมีหลาย
00:19:16 → 00:19:19 ครั้งที่มันข้อมูลมันไม่ถูกต้องเช่นการไอ
00:19:19 → 00:19:21 เพื่อช่วยเหลือชีวิตอันนี้ไม่ช่วยอะไรเรา
00:19:21 → 00:19:23 เผลอๆมันทำให้แย่ได้ด้วยนะครับโอเควันนี้
00:19:23 → 00:19:27 ก็เท่านี้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ