00:00:19 → 00:00:44 [เพลง]
00:00:59 → 00:01:04 เฮ
00:01:04 → 00:01:44 [เพลง]
00:02:28 → 00:02:31 เฮ
00:02:31 → 00:02:47 [เพลง]
00:02:47 → 00:02:56
00:02:56 → 00:02:58 [เพลง]
00:02:58 → 00:03:02 เฮ
00:03:02 → 00:03:28 [เพลง]
00:03:28 → 00:03:30 เฮ
00:03:30 → 00:03:47 [เพลง]
00:03:47 → 00:04:09
00:04:09 → 00:04:17 لا
00:04:17 → 00:04:28 [เพลง]
00:04:28 → 00:04:34 เฮ
00:04:34 → 00:04:51 [เพลง]
00:04:57 → 00:04:59 เฮ
00:04:59 → 00:05:46 [เพลง]
00:05:46 → 00:05:48 สวัสดีค่ะต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการ
00:05:48 → 00:05:51 สุขภาพดีกับหมอสวนดอกค่ะรายการสุขภาพจาก
00:05:51 → 00:05:54 คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นะคะ
00:05:54 → 00:05:56 วันนี้ก็พบกันเช่นเคยนะคะอยู่กับทิพย์
00:05:56 → 00:05:59 สมัชยาหน่อล่าค่ะนักประชาสัมพันธ์จากงาน
00:05:59 → 00:06:01 ประชาสัมพันธ์คณะแพทยาศาสตร์มหาวิทยาลัย
00:06:01 → 00:06:04 เชียงใหม่คุณผู้ชมสามารถติดตามรับชมสดๆ
00:06:04 → 00:06:07 ตอนนี้พร้อมกันได้นะคะผ่านทางช่องทาง
00:06:07 → 00:06:10 YouTube นะคะสวนดอก Channel ของเรานะคะ
00:06:10 → 00:06:12 ขออนุญาตประชาสัมพันธ์เลยะกันนะคะสำหรับ
00:06:12 → 00:06:15 รายการสุขภาพดีกับหมอสนอกของเราพบกันทุก
00:06:15 → 00:06:19 สัปดาห์สัปดาห์ละ 1 วันนะคะตอนนี้เราจะ
00:06:19 → 00:06:22 ได้ย้ายไปไลฟ์ผ่านทางช่องทาง YouTube
00:06:22 → 00:06:24 ส่วน Channel เพราะฉะนั้นท่านไหนที่เป็น
00:06:24 → 00:06:27 FC อยู่ทางเพจนะคะก็อย่าลืมลืมเข้าไปติด
00:06:27 → 00:06:30 ตามรับชมทางช่องทาง YouTube ของเราด้วยนะ
00:06:30 → 00:06:33 คะก็จะเจอกันทุกสัปดาห์เลยนะคะวันนี้พบ
00:06:33 → 00:06:37 กันวันพุธที่ 2 กรกฎาคม 256
00:06:37 → 00:06:41 ค่ะกับประเด็นสุขภาพรู้ทันสัญญาณเตือน
00:06:41 → 00:06:45 สโตรกรักษาไม่ทันอันตรายถึงชีวิตนะคะวัน
00:06:45 → 00:06:48 นี้เราจะมาพูดคุยกันกับอาจารย์หมอถึงราย
00:06:48 → 00:06:51 ละเอียดนะคะทั้งเรื่องของการรักษาการป้อง
00:06:51 → 00:06:54 กันรวมไปถึงอาการจะสังเกตยังไงบ้างว่า
00:06:54 → 00:06:56 เนี่ยอาการเราเป็นแบบเนี้ยเข้าขายแล้วควร
00:06:56 → 00:06:59 จะรีบไปหาหมอแล้วนะคะทั้งหมดนี้เดี๋ยว
00:06:59 → 00:07:01 กลับมาพูดคุยกันกับอาจารย์หมอนะคะแต่ว่า
00:07:01 → 00:07:03 ช่วงนี้ไปติดตามข่าวประชาสัมพันธ์กันก่อน
00:07:03 → 00:07:05 ค่ะ
00:07:05 → 00:07:07 เริ่มต้นกันที่ข่าวแรกนะคะเนื่องในโอกาส
00:07:07 → 00:07:10 วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระ
00:07:10 → 00:07:14 วชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวนะคะ 28 กรกฎาคม 256
00:07:14 → 00:07:17 ค่ะงานธนาคารเลือดโรงพยาบาลมหาราชนคร
00:07:17 → 00:07:20 เชียงใหม่นะคะขอเชิญชวนทุกท่านค่ะร่วม
00:07:21 → 00:07:24 กิจกรรมบริจาคโลหิตจิตอาสาทำความดีบริจาค
00:07:24 → 00:07:27 โลหิตเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระ
00:07:27 → 00:07:30 ปรเมนทรามาธิบดีศรีสิลป์มหาวชิราลงกรณ์
00:07:31 → 00:07:34 วชิราเกล้าเจ้าอยู่หัวนะคะก็จัดกิจกรรมนะ
00:07:34 → 00:07:38 คะวันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 256 ตั้งแต่
00:07:38 → 00:07:41 เวลา 8:00 น.เช้านะคะไปจนถึงเที่ยงวันที่
00:07:41 → 00:07:44 บริเวณโถงกิจกรรมชั้น 1 อาคารเฉลิมพระ
00:07:44 → 00:07:47 บารมีคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
00:07:47 → 00:07:49 นะคะงานธนาคารเลือดก็ฝากมาประชาสัมพันธ์
00:07:50 → 00:07:53 ท่านไหนที่สะดวกนะคะก็สามารถมาร่วม
00:07:53 → 00:07:56 กิจกรรมบริจาคโลหิตกันได้ในวันศุกร์ที่ 25
00:07:56 → 00:08:00 กรกฎาคมนี้นะคะไปกันต่อนะคะกับพิธีทำบุญ
00:08:00 → 00:08:04 ทอดผ้าป่างานบุญของเรานะคะที่จะเกิดขึ้น
00:08:04 → 00:08:07 ในวันที่ 31 กรกฎาคมถึง 1 สิงหาคมนี้กับ
00:08:07 → 00:08:10 พิธีทำบุญทอดทอดผ้าป่าโรงพยาบาลสงฆ์แห่ง
00:08:10 → 00:08:15 โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ประจำปี 256
00:08:15 → 00:08:18 ค่ะผ้าป่านี้จัดขึ้นเพื่ออะไรนะคะเพื่อจะ
00:08:18 → 00:08:21 สมทบทุนมูลนิธิส่งอาพาธเป็นค่ารักษา
00:08:21 → 00:08:25 พยาบาลค่ะค่ายาค่าเวชภัธฑ์ค่าพัตาหารค่า
00:08:26 → 00:08:28 จัดซื้อครุพันธ์แล้วก็ค่าอื่นๆที่เกี่ยว
00:08:28 → 00:08:32 ข้องนะคะของพระภิกษุสามเณรอาพาธที่มารับ
00:08:32 → 00:08:35 การรักษาที่โรงพยาบาลสงฆ์แห่งโรงพยาบาล
00:08:35 → 00:08:38 มหาราชนครเชียงใหม่ของเรานะคะก็จัด 2 วัน
00:08:38 → 00:08:42 ด้วยกันค่ะ 31 กรกฎาคมถึง 1 สิงหาคมนี้นะ
00:08:42 → 00:08:45 คะแน่นอนนะคะพอมีทำบุญแล้วก็อยากจะเชิญ
00:08:45 → 00:08:48 ชวนท่านที่มีจิตศรัทธานะคะได้ร่วมกันออก
00:08:48 → 00:08:51 โรงทานนะคะไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่มขนมหรือว่า
00:08:51 → 00:08:55 อาหารนะคะสำหรับกิจกรรมออกโรงทานในพิธีทำ
00:08:55 → 00:08:58 บุญทอดผ้าป่า 31 กรกฎาคมมีช่วงเช้านะคะ
00:08:58 → 00:09:01 ช่วงกลางวันแล้วก็ช่วงเย็นส่วนวันที่ 1
00:09:01 → 00:09:04 สิงหาคมนะคะเป็นเช้าแล้วก็กลางวันนะคะ
00:09:04 → 00:09:07 ท่านไหนที่สนใจมีจิตศรัทธาอยากจะมาออกโรง
00:09:07 → 00:09:10 ทานอยากจะมาทำบุญร่วมกันก็ติดต่อได้นะคะ
00:09:10 → 00:09:13 ที่งานบริหารโรงพยาบาลโรงพยาบาลมหาราชนคร
00:09:13 → 00:09:15 เชียงใหม่เบอร์โทรศัพท์ขึ้นอยู่หน้าจอตอน
00:09:15 → 00:09:19 นี้นะคะปิดท้ายกันที่ทรายนักวิ่งกันบ้าง
00:09:19 → 00:09:23 กับงานนี้นะคะมหิดลรัน 2025 มาแล้วนะคะ
00:09:23 → 00:09:27 กิจกรรมเราจะเกิดขึ้นในวันที่ 7 กันยายน
00:09:27 → 00:09:28
00:09:28 → 00:09:32 ที่สนามกีฬากลางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่นะคะ
00:09:32 → 00:09:35 ก็ท่านไหนที่สนใจนะคะก็สามารถสมัครกัน
00:09:35 → 00:09:37 เข้ามาได้นะคะเปิดรับสมัครตั้งแต่ 16
00:09:37 → 00:09:40 มิถุนายนที่ผ่านมาแล้วนะคะมี 2 ระยะด้วย
00:09:40 → 00:09:43 กันค่ะมินิมาราธอนแล้วก็ Family Run นะ
00:09:43 → 00:09:46 คะอ่าค่าสมัครกล้อง 500 บาท VP 1,500
00:09:46 → 00:09:49 บาทนะคะติดตามรายละเอียดผ่านทางเพจ
00:09:49 → 00:09:52 Facebook วิ่งมหิดลเชียงใหม่รวมไปถึงแน่
00:09:52 → 00:09:56 นอนค่ะเชิญชวนบุคลากรทุกๆท่านนะคะ 7 +1
00:09:56 → 00:09:59 ที่เห็นอยู่ก็คือ 7 คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ
00:09:59 → 00:10:01 และอีก 1 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ
00:10:01 → 00:10:04 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขอเชิญชวนบุคลากรทุก
00:10:04 → 00:10:07 ท่านเลยนะคะเข้าร่วมกิจกรรมนี้ 7 กันยายน
00:10:07 → 00:10:10 นี้เจอกันในมหิดลรัน
00:10:10 → 00:10:13 2025 นะคะ
00:10:13 → 00:10:16 อ่ะทั้งหมดนี้ก็เป็นข่าวสารประชาสัมพันธ์
00:10:16 → 00:10:19 ให้กับทุกท่านได้รับทราบนะคะในวันนี้มี
00:10:19 → 00:10:22 กิจกรรมมากมายหลากหลายที่เกิดขึ้นนะคะและ
00:10:22 → 00:10:24 แน่นอนค่ะกลับเข้าสู่รายการของเรานะคะก็
00:10:24 → 00:10:27 มีความรู้ที่หลากหลายให้ทุกท่านได้ติดตาม
00:10:27 → 00:10:29 เป็นประจำทุกสัปดาห์เช่นเดียวกันนะคะ
00:10:30 → 00:10:34 สัปดาห์นี้หัวข้อก็คือรู้ทันสัญญาณเตือน
00:10:34 → 00:10:37 สตรกนะคะถ้าเกิดว่ารักษาไม่ทันเนี่ยอาจจะ
00:10:38 → 00:10:40 อันตรายถึงชีวิตเอ๊ะมันเป็นแบบนั้นจริงๆ
00:10:40 → 00:10:42 หรือเปล่าเดี๋ยววันนี้พูดคุยกันกับ
00:10:42 → 00:10:45 อาจารย์หมอนะคะวันนี้เราได้เรียนเชิญ
00:10:45 → 00:10:48 อาจารย์ประจำหน่วยวิชาปราสาทวิทยาภาควิชา
00:10:48 → 00:10:50 อายุศาสตร์คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย
00:10:50 → 00:10:53 เชียงใหม่มาพูดคุยให้ความรู้กับเราในราย
00:10:53 → 00:10:55 การต้อนรับท่านอาจารย์นายแพทย์ชยาศักดิ์
00:10:55 → 00:10:58 วันทนียวงศ์กับรายการของเราด้วยนะคะ
00:10:58 → 00:11:00 สวัสดีค่ะอาจารย์คะสวัสดีครับต้อนรับ
00:11:01 → 00:11:03 อาจารย์เข้าสู่รายการของเราด้วยนะคะวัน
00:11:03 → 00:11:06 นี้อย่างที่หัวข้อบอกเลยค่ะอาจารย์รู้ทัน
00:11:06 → 00:11:09 สัญญาณการเตือนสตรกรักษาไม่ทันอันตรายถึง
00:11:09 → 00:11:11 ชีวิตถามก่อนเลยค่ะอาจารย์ถ้ารักษาไม่ทัน
00:11:12 → 00:11:14 เนี่ยอันตรายถึงชีวิตจริงมั้คะครับในอ่า
00:11:14 → 00:11:17 ในบางในบางกรณีก็อาจอันตรายถึงชีวิตได้
00:11:17 → 00:11:22 ครับยกตัวอย่างเช่นในคนที่อ่าเดี๋ยวเราจะ
00:11:22 → 00:11:24 อาจจะต้องมาพูดถึงชนิดของโรคหลอดเลือด
00:11:24 → 00:11:26 สมองเฉียดกันหรือว่าสโตรกก่อนนะครับก็คือ
00:11:27 → 00:11:30 ชนิดหลักๆเนี่ยเราแบ่งเป็น 2 ชนิดก็คือมี
00:11:30 → 00:11:31 สมองขาดเลือดหรือว่าหลอดเลือดสมองตีบ
00:11:31 → 00:11:35 เฉียบอ่าเฉียบพลันนะครับหรือว่าชนิดที่ 2
00:11:35 → 00:11:38 ก็คือเป็นเ่อโรคเลือดออกในสมองนะครับหรือ
00:11:38 → 00:11:41 ว่าหลอดเลือดสมองแตกเฉียบพลันนะครับซึ่ง
00:11:41 → 00:11:44 ถ้าใน 2 กรณีนี้เนี่ยอ่าอย่างแรกก็คือถ้า
00:11:44 → 00:11:47 สมองขาดเลือดเป็นบริเวณกว้างขนาดใหญ่นะ
00:11:47 → 00:11:50 ครับก็มีโอกาสทำให้เกิดสมองบวมแล้วก็ไปกด
00:11:50 → 00:11:53 สมองที่ควบคุมการหายใจก็อาจจะเป็นอันตราย
00:11:53 → 00:11:56 ถึงชีวิตได้นะครับหรือในทางใกล้เคียงกัน
00:11:56 → 00:11:58 ถ้าเป็นเลือดออกในสมองเลยเลือดสมองแตก
00:11:58 → 00:12:01 เนี่ยแล้วมีเลือดออกปริมาณมากไปกดเบียด
00:12:01 → 00:12:05 สมองด้านข้างแล้วก็ส่งผลต่อการกดสมองที่
00:12:05 → 00:12:07 ควบคุมการหายใจก็ทำให้เสียชีวิตได้ครับ
00:12:07 → 00:12:10 อ่าก็คือหลักๆมีอยู่ 2 ชนิดแต่เดี๋ยวเรา
00:12:10 → 00:12:12 จะมาลงรายละเอียดกันอีกทีนึงว่าเอ๊ะอาการ
00:12:12 → 00:12:15 มันเป็นยังไงแต่ละชนิดเป็นยังไงแต่ถามอีก
00:12:15 → 00:12:17 1 คำถามค่ะอาจารย์เชื่อว่าคุณผู้ชมหลาย
00:12:17 → 00:12:20 ท่านที่รับชมแล้วก็รับฟังรายการอยู่วัน
00:12:20 → 00:12:22 นี้อาจารย์สงสัยว่าเอ๊ะมันเป็นโรคเดียว
00:12:22 → 00:12:25 กันหรือเปล่า heat stroke กับสokeกอัน
00:12:25 → 00:12:27 เดียวกันมั้คะอาจารย์คะอ่าเป็นคนละโรคกัน
00:12:27 → 00:12:29 ครับคนละโรคครับคือชื่อชื่อคล้ายกันเฉยๆ
00:12:29 → 00:12:32 นะครับก็คือโรคสโตรกเนี่ยเป็นโรคอ่าเ
00:12:32 → 00:12:34 เรียกว่าถ้าแปลเป็นภาษาไทยเนี่ยเป็นโรค
00:12:34 → 00:12:36 หลอดเลือดสมองเฉียบพลันนะครับก็อย่างที่
00:12:36 → 00:12:40 บอกไปว่าไม่ว่าจะตีบหรือว่าแตกนะครับแล้ว
00:12:40 → 00:12:42 ทำให้เกิดอาการผิดปกติทางระบบประสาทแบบ
00:12:42 → 00:12:46 เฉียบพลันตามมานะครับส่วนฮีทกเนี่ยก็คือ
00:12:46 → 00:12:49 เป็นปฏิยาของร่างกายที่ความผิดของร่างกาย
00:12:49 → 00:12:52 ที่เกิดจากการได้รับความร้อนขนาดสูงที่
00:12:52 → 00:12:54 ร่างกายจะปรับตัวได้ก็คือโรคลมแดดที่เรา
00:12:54 → 00:12:57 เคยได้ยินก็คือเป็นคนละโรคเพราะฉะนั้น
00:12:57 → 00:12:59 อย่างงนะคะคุณผู้ชมที่ถามแบบนี้เพราะว่า
00:12:59 → 00:13:02 หลายท่านอาจจะสงสัยว่าเอ๊ะมันเป็นโรค
00:13:02 → 00:13:04 เดียวกันหรือเปล่าเพราะมันเขียนเหมือนกัน
00:13:04 → 00:13:06 แล้วมันก็อ่านเหมือนกันนะคะอาจารย์
00:13:06 → 00:13:09 อาจารย์บอกแล้วนะคะว่าเป็นคนละโรคนะคะดัง
00:13:09 → 00:13:12 นั้นมาพูดถึงโรคสโตรกวันนี้หรือว่าโรค
00:13:12 → 00:13:16 หลอดเลือดสมองเฉียบพันครับอ่าโรคเนี้ยค่ะ
00:13:16 → 00:13:18 อาจารย์มันมีสาเหตุการเกิดมาจากอะไรได้
00:13:18 → 00:13:22 บ้างคะโอเคครับงั้นเดี๋ยวเรามาเริ่มกัน
00:13:22 → 00:13:24 ก่อนเลยนะครับก็คือมาพูดถึงโรคอ่าหลอด
00:13:24 → 00:13:27 เลือดสมองเฉ็บพลันก่อนนะครับก็คือในชื่อ
00:13:27 → 00:13:29 อันนี้คือชื่อเป็นทางการนะครับคือเจะใช้
00:13:29 → 00:13:31 เป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือว่าอาจจะเป็นโรค
00:13:31 → 00:13:34 หลอดเลือดสมองเฉียบพลันแต่ว่าถ้าพูดถ้า
00:13:34 → 00:13:36 พูดถึงเนี่ยคำว่าโรคหลดสมองเฉียบพลัน
00:13:36 → 00:13:38 เนี่ยมันจะสื่อตรงตัวมากกว่าโรคหลดสมอง
00:13:38 → 00:13:41 เฉยๆนะครับเพราะว่าอาการสตรกเนี่ยมันจะ
00:13:41 → 00:13:43 เป็นแบบเฉียบพลันนะครับค่ะครับแล้วก็ชื่อ
00:13:44 → 00:13:46 ไม่เป็นทางการที่ทางท่านผู้ชมอาจจะพอเคย
00:13:46 → 00:13:48 ได้ยินมันบ้างก็คือเช่นโรคอัมพฤกษ์อัมพาต
00:13:48 → 00:13:52 นะครับอันนี้ก็เป็นโรคที่เอ่อทางทางประชา
00:13:52 → 00:13:54 ชนทั่วไปก็จะพูดถึงกันบ่อยๆก็จะเข้าใจถ้า
00:13:54 → 00:13:57 เกิดได้ยินนะคะอาจารย์ใช่ครับซึ่งอ่าโรค
00:13:57 → 00:13:59 พวกนี้เนี่ย 3 ชนิดของตัวโรคเนี่ยก็คือจะ
00:14:00 → 00:14:02 มี 2 ชนิดอย่างที่บอกไปนะครับก็อันแรก
00:14:02 → 00:14:05 เนี่ยจะแยกเป็นอ่าตรงตรงนี้นะครับเป็น
00:14:05 → 00:14:08 กลุ่มหลอดเลือดสมองขาดเลือดจากหลอดเลือด
00:14:08 → 00:14:11 ตีบหรือว่าตันนะครับก็คือตีบกับตันเนี่ย
00:14:11 → 00:14:13 จะทำให้สมองขาดเลือดนะครับแล้วก็ต่อมา
00:14:13 → 00:14:16 เนี่ยอีกกลุ่มนึงก็คือเป็นกลุ่มที่เกิด
00:14:16 → 00:14:18 หลอดเลือดออกในสมองที่เกิดจากหลอดเลือด
00:14:18 → 00:14:21 สมองแตกนะหรือสาเหตุอื่นๆนะครับเราจะแบ่ง
00:14:21 → 00:14:23 เป็น 2 กลุ่มก่อนซึ่งเพราะว่าการแบ่งเป็น
00:14:23 → 00:14:26 2 กลุ่มเนี่ยมีความสำคัญเนื่องจากสาเหตุ
00:14:26 → 00:14:28 ของทั้ง 2 กลุ่มเนี่ยมีความแตกต่างกันนะ
00:14:28 → 00:14:32 ครับซึ่งเดี๋จะพูดถึงสาเหตุต่อไปนะครับ
00:14:32 → 00:14:34 ถามว่าโรคนี้ทำไมสิ่งสำคัญนะครับก็เพราะ
00:14:34 → 00:14:37 ว่าในอ่าปี 256 เนี่ยเามีการเก็บข้อมูลก็
00:14:37 → 00:14:39 มีผู้ป่วยเนี่ยที่ป่วยเป็นโรค่าหลอเลือด
00:14:40 → 00:14:42 สมองเฉียบพลันเนี่ย 300,000 กว่ารายนะ
00:14:42 → 00:14:44 ทั่วประเทศไทยนะครับแล้วก็มีผู้ป่วยที่
00:14:44 → 00:14:47 เสียชีวิตประมาณ 30,000 กว่ารายก็ประมาณ
00:14:47 → 00:14:51 10% นิดๆประมาณ 10% นะครับก็ถือว่าก็ไม่
00:14:51 → 00:14:54 น้อยนะครับถ้า 30,000 กว่า 30,000 กว่า
00:14:54 → 00:14:58 รายต่อปีนะครับอืครับโดยถ้าพูดถึงสาเหตุ
00:14:58 → 00:15:01 เนี่ยจริงๆทำสไลด์มาให้ดูแบบง่ายๆนะเพราะ
00:15:01 → 00:15:04 จริงสาเหตุเนี่ยมีค่อนข้างหลากหลายแต่ว่า
00:15:04 → 00:15:08 จะขอแตะสาเหตุที่มีความสำคัญนะครับก็แบ่ง
00:15:08 → 00:15:10 เป็น 2 กลุ่มนะครับอย่างที่เห็นในสไลด์เย
00:15:10 → 00:15:13 คือแบ่งครึ่งตรงนี้นะครับครึ่งด้านครึ่ง
00:15:13 → 00:15:15 แรกนะครับก็จะเป็นหลอดเลือดอ่าสมองตีบ
00:15:16 → 00:15:19 หรือตันนะครับแล้วก็ครึ่งที่ 2 ก็คือเป็น
00:15:19 → 00:15:22 เลือดออกในสมองหลอเลือดสมองแตกนะครับอื
00:15:22 → 00:15:23 ครึ่งแรกเนี่ยหลอดเลือดตีบหรือตันเนี่ย
00:15:23 → 00:15:26 หลักๆนะก็คือจะมีเกิดจากการตีบของตัวอ่า
00:15:27 → 00:15:30 หลอดเลือดในสมองเองนะในสมองของคนเราหรือ
00:15:30 → 00:15:33 ว่ามีการตีบของหลอดเอ่ออ่ามีการตีบหรือมี
00:15:33 → 00:15:35 หินปูนเกาะที่หลอดเลือดที่คอครับทำให้
00:15:36 → 00:15:38 เลือดไปเลี้ยงสมองได้ลดลงหรือในบางครั้ง
00:15:38 → 00:15:41 เนี่ยตัวหินปูนหรือว่าไขมันเนี่ยที่เกาะ
00:15:41 → 00:15:43 อยู่ที่หลอดเลือดที่คอเนี่ยอาจจะหลุดไป
00:15:43 → 00:15:46 อุดหลอดเลือดในสมองได้อีกอีกทีนึงนะครับ
00:15:46 → 00:15:50 อ้าแล้วก็กลุ่มหลักอ่ากลุ่มที่ 3 ก็คือใน
00:15:50 → 00:15:52 คนที่เป็นโรคหัวใจนะครับนี่ในคนที่เป็น
00:15:52 → 00:15:55 โรคหัวใจเนี่ยก็คือในคนที่อ่าหัวใจเต้น
00:15:55 → 00:15:58 ผิดจังหวะหรือว่าการบีบตัวของหัวใจไม่ดี
00:15:58 → 00:16:00 เนี่ยเป็นความเสี่ยงให้เกิดลิ่มเลือดใน
00:16:00 → 00:16:02 หัวใจนะครับแล้วก็ลิ่มเลือดเนี่ย
00:16:02 → 00:16:05 สามารถลอยเข้าไปอุดันในหลอดเลือดสมองได้
00:16:05 → 00:16:07 นะครับหัวใจเต้นผิดจังหวะก็เกี่ยวแล้วค่ะ
00:16:07 → 00:16:09 อาจารย์ใช่ครับเช่นโรคหัวใจเต้นพริ้วครับ
00:16:09 → 00:16:11 ก็ทำให้แบบเหมือนอ่าเกิดเลิ่มเลือดในหัว
00:16:11 → 00:16:13 ใจง่ายขึ้นแล้วก็เลิ่มเลือดพวกนี้สามารถ
00:16:13 → 00:16:16 หลุดอ่าไปตามหลอดเลือดแล้วก็ไปอุดในหลอด
00:16:16 → 00:16:19 เลือดสมองได้ทำให้มีอ่าหลอดเลือดมีการ
00:16:19 → 00:16:21 สมองขาดเลือดตามมานะครับอันนี้ก็จะเป็น
00:16:21 → 00:16:24 สาเหตุหลักลัดของกลุ่มแรกนะครับค่ะส่วน
00:16:24 → 00:16:26 สาเหตุของกลุ่มที่ 2 เนี่ยก็คือเป็นกลุ่ม
00:16:26 → 00:16:29 ที่เลื่อนออกในสมองหรือว่าหลอดเลือดสมอง
00:16:29 → 00:16:32 แตกนะครับก็จะมีสาเหตุหลายอย่างอ่ายกตัว
00:16:32 → 00:16:34 อย่างเช่นถ้าในที่เราพบกันบ่อยที่สุดนะ
00:16:34 → 00:16:36 ครับก็คือจะพบในคนที่เป็นโรคความดันโลหิต
00:16:36 → 00:16:39 สูงมานานๆพอเป็นความโลหิตสูงมานานๆเนี่ย
00:16:39 → 00:16:41 จะมีการเ้าเรียกว่าเพิ่มความดันต่อตัว
00:16:41 → 00:16:44 หลอดเลือดฝอยในสมองพวกนี้ครับแล้วก็หลอด
00:16:44 → 00:16:46 เลือดฝอยในสมองเนี่ยทำให้มีการโป่งพอง
00:16:46 → 00:16:49 แล้วก็ทำให้มีการแตกตามมาได้ครับก็เลยทำ
00:16:49 → 00:16:52 ให้มีเลือดออกในสมองตามมานะครับค่ะหรือ
00:16:52 → 00:16:55 สาเหตุอื่นอาจจะเป็นเช่นมีหลอดเลือดโป่ง
00:16:55 → 00:16:57 พองในสมองเ่อหลอดเลือดที่แบบเป็นหลอด
00:16:57 → 00:17:00 เลือดสมองใหญ่ที่มีการโปร่งพองก็เป็นได้
00:17:00 → 00:17:04 ครับโอหรือว่าอาจจะเป็นในผู้สูงอายุก็จะ
00:17:04 → 00:17:06 มีเค้าเรียกว่ามีสารเค้าเรียกว่าเป็น
00:17:06 → 00:17:10 โปรตีนที่ผิดปกติที่ไปอ่าเรียกว่าเราเป็น
00:17:10 → 00:17:12 เรียกว่าเป็นเบต้าไมลอยด์นะครับโปรตีน
00:17:12 → 00:17:15 เนี้ยก็คือมันจะไปเกาะที่หลอดเลือดแล้วก็
00:17:15 → 00:17:18 ทำให้หลอดเลือดผิดปกติแล้วก็มีเลือดออกใน
00:17:18 → 00:17:21 สมองในผู้สูงอายุได้ที่อายุสัก 70 หรือ 80
00:17:21 → 00:17:24 ปีขึ้นไปโดยที่ไม่เกี่ยวกับการที่มีความ
00:17:24 → 00:17:26 ดันโลหิตสูงนะครับแล้วก็กลุ่มอื่นๆที่อาจ
00:17:26 → 00:17:30 จะพบรองลงมาเช่นแบบในคนที่มีโรคเ้าเรียก
00:17:30 → 00:17:32 โรคเลือดแข็งตัวผิดปกติหรือว่าโรคเด็ด
00:17:32 → 00:17:35 เลือดต่ำก็สามารถทำให้มีภาวะเลือดออกใน
00:17:35 → 00:17:39 สมองได้เช่นกันครับโอ้โหพอดูอาจารย์พูด
00:17:39 → 00:17:42 แบบนี้แล้วรู้สึกว่ามันใกล้ตัวมากๆเลยนะ
00:17:42 → 00:17:45 คะแม้ว่าจะเป็นคนที่ไม่มีโรคประจำตัวก็
00:17:45 → 00:17:48 ตามอืแล้วเมื่อสักครู่อาจารย์บอกว่าเป็น
00:17:48 → 00:17:51 โรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันนั่นหมายความ
00:17:51 → 00:17:54 ว่าเราแทบจะไม่รู้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นตอน
00:17:54 → 00:17:57 ไหนคะอาจารย์เราอ่าส่วนใหญ่เดี๋เราไม่
00:17:57 → 00:17:59 สามารถคาดการได้ครับก็คือโดยส่วนใหญ่
00:17:59 → 00:18:02 เนี่ยปกติจะเกิดขึ้นแบบปุบปับขึ้นมาเลย
00:18:02 → 00:18:05 ครับแล้วก็มีอาการเลยครับแต่ว่าก็จะมีบาง
00:18:05 → 00:18:08 กลุ่มเหมือนกันที่จะมีอาการเตือนมาก่อนนะ
00:18:08 → 00:18:10 เป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือด
00:18:10 → 00:18:13 ชั่วคราวครับถ้าเป็นขาดเลือดชั่วคราว
00:18:13 → 00:18:16 เนี่ยก็จะมีอาการที่เกิดขึ้นเฉียบพลันแต่
00:18:16 → 00:18:18 ว่าหายเองได้ครับพวกนี้ก็ถือว่าเป็นอาการ
00:18:18 → 00:18:21 เตือนที่สำคัญก็คือถ้ามีเนี่ยก็แนะนำให้
00:18:21 → 00:18:25 รีบมาโรงพยาบาลเพื่ออ่าหาสาเหตุแล้วก็รับ
00:18:25 → 00:18:27 การรักษานะครับแต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นหลอด
00:18:27 → 00:18:30 เลือดสมองแตกเนี่ยหรือว่าเป็นลดเลือสมอง
00:18:30 → 00:18:33 เนี่ยมักจะไม่มีอาการนำมาก่อนนะครับซึ่ง
00:18:33 → 00:18:36 เป็นส่วนน้อยมากๆที่จะมีอาการนำมาก่อน
00:18:36 → 00:18:39 ครับอค่ะงั้นเราพูดภาพรวมดีกว่าคะอาจารย์
00:18:39 → 00:18:42 ว่าอะไรบ้างที่เป็นสัญญาณเตือนว่าเราควร
00:18:42 → 00:18:45 จะรีบไปตรวจหรือว่ารีบจะต้องไปพบแพทย์
00:18:45 → 00:18:48 แล้วเงี้ยค่ะโอเคครับงั้นเดี๋ยวมาเดี๋ยว
00:18:48 → 00:18:50 ผมโชว์เรื่องสัญญาณเตือนให้แบบตัวย่อ
00:18:50 → 00:18:53 ประจำง่ายๆนะครับก็ถ้าพูดถึงอาการหลัก
00:18:53 → 00:18:55 หรือว่าสัญญาณเตือนเนี่ยในโรคหลอดเลือด
00:18:55 → 00:18:57 สมองนะครับก็คือสิ่งแรกคืออาการเนี้ยจะ
00:18:57 → 00:19:00 ต้องเกิดขึ้นเฉียบพลันอถึงจะเข้าในกลุ่ม
00:19:00 → 00:19:03 นี้นะครับแล้วสัญญาณเตือนก็คือเน้นว่า
00:19:03 → 00:19:06 เป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราวนะครับครับ
00:19:06 → 00:19:08 โดยอาการและสัญญาณเตือนเนี่ยเราจะมีตัว
00:19:08 → 00:19:11 ย่อให้จำง่ายๆอยู่นี่เอามาจากของกลมจริงๆ
00:19:11 → 00:19:13 เป็นตัวย่อที่เริ่มจากต่างประเทศเขาคิดมา
00:19:13 → 00:19:16 ก่อนนะแล้วก็นี่ก็เป็นทางประเทศไทยก็กรม
00:19:16 → 00:19:19 ควบคุมโลกเขาก็มาทำเป็นตัว visual กราฟิก
00:19:19 → 00:19:22 ให้ดูง่ายๆเข้าใจง่ายๆขึ้นนะครับก็จะมี
00:19:22 → 00:19:25 ตัวย่ออยู่ 6 ตัวด้วยกันนะครับก็คือBฟast
00:19:25 → 00:19:29 หรือเป็นภาษาไทยก็ให้ไวนะอก็คืออาการที่
00:19:29 → 00:19:32 เกิดขึ้นไวแล้วก็ให้รีบมาโรงให้ไวนะครับ
00:19:32 → 00:19:35 เป็นฟ้าซึ่งตัว B เนี่ยอันแรกก็คือ B มา
00:19:35 → 00:19:38 จากบาanceนะครับคนไข้เนี่ยที่มีอาการเสีย
00:19:38 → 00:19:42 การทรงตัวที่แบบทรงตัวได้ไม่ดีเวียนศีรษะ
00:19:42 → 00:19:45 เดินเซที่เกิดขึ้นเฉียบพลันครับอยู่ขึ้น
00:19:45 → 00:19:47 เลยเงี้นะคะอาจารยก็ต้องรีบๆมาโรงพยาบาล
00:19:47 → 00:19:51 นะเพราะว่าเป็นอาการสัญญาณเตือนของโรค
00:19:51 → 00:19:55 หลอดเลือดสมองเฉียบพลันได้ตัวนะครับต่อมา
00:19:55 → 00:19:57 นะครับเป็นตัว E นะครับ E ย่อก็มาจากอาย
00:19:57 → 00:20:00 หรือว่าก็คือตาหรือว่าการมองเห็นนะครับ
00:20:00 → 00:20:03 การมองเห็นก็คือคนไข้เนี่ยอาการที่เป็นไป
00:20:03 → 00:20:07 ที่เป็นมาได้ก็คือมาด้วยแบบตาแบบมืดไปอาจ
00:20:07 → 00:20:10 จะมืดไปทั้ง 2 ข้างทันโดยทันทีนะหรือว่า
00:20:10 → 00:20:12 บางทีอาจจะไปมืดไปครึ่งซีกของทั้ง 2 ข้าง
00:20:12 → 00:20:14 ก็ได้นะครับคือหมายความว่าอยู่ดีๆอย่าง
00:20:14 → 00:20:17 สมมุติว่านั่งทำงานอยู่ดีๆแล้วตาดับไปเลย
00:20:17 → 00:20:18 อย่างเงี้เหรอคะอาจารย์ใช่ครับอยู่ดีๆก็
00:20:18 → 00:20:21 มืดไปเลยใช่ครับได้ทั้ง 1 ข้างและ 2 ข้าง
00:20:22 → 00:20:24 นะถ้า 1 ข้างเนี่ยจะเป็นหลอดเลือดที่ตา
00:20:24 → 00:20:26 แต่ถ้าเป็น 2 ข้างพร้อมกันเนี่ยจะเป็น
00:20:26 → 00:20:29 หลอดเลือดสมองครับโอครับนี้ก็เป็นตัวที่ 2
00:20:29 → 00:20:32 ที่ต้องให้รีบมาโรงพยาบาลนะครับตัวยอดตัว
00:20:32 → 00:20:34 ที่ 3 นะครับคือตัว F นะครับ F ก็ย่อมมา
00:20:34 → 00:20:37 จากเฟสนะครับก็คือใบหน้านะก็คือในคนที่มี
00:20:37 → 00:20:40 อาการปากเบี้ยวหน้าหน้าเบี้ยวเฉียบพลัน
00:20:40 → 00:20:43 เี่ก็แนะนำรีบมาโรงพยาบาลเช่นกันนะครับ
00:20:43 → 00:20:47 ค่ะครับต่อมานะครับตัว A นะครับ A ก็คือ
00:20:47 → 00:20:49 อาร์มนะครับก็คือแขนนะคือคนไข้ที่มีอาการ
00:20:49 → 00:20:52 แขนหรือขาอ่อนหรือขาอ่อนแดงหรือว่าแขน
00:20:52 → 00:20:55 หรือขามีการชาหรือชาครึ่งซีกนะครับอือื
00:20:56 → 00:20:58 ถ้ามีอาการแบบนี้เนี่ยก็แนะนำให้ดิมาโรง
00:20:58 → 00:21:01 พยาบาลเช่นกันนะครับค่ะอาจารย์ครับตัวที่
00:21:01 → 00:21:03 5 นะครับตัว S นะครับ S ก็คือ SPE หรือ
00:21:03 → 00:21:06 ว่า SPE ก็คือการพูดนะครับก็คือในคนที่มี
00:21:06 → 00:21:10 อาการพูดไม่ชัดพูดติดขัดพูดไม่ออกหรือว่า
00:21:10 → 00:21:13 สื่อสารไม่เข้าใจแบบรวดเร็วนะครับนี่ก็
00:21:13 → 00:21:15 แนะนำให้รีบมาโรงพยาบาลเช่นกันนะครับคือ
00:21:15 → 00:21:18 อาการนี้มันจะต้องเป็นฉับพลันเออเฉียบ
00:21:18 → 00:21:20 พลันคือต้องเป็นตอนนั้นเลยใช่ครับใช่ครับ
00:21:20 → 00:21:23 คือเป็นตอนนั้นหรือว่าเป็นในเวลาเป็นหลัก
00:21:23 → 00:21:26 นาทีหรือชั่วโมงครับค่ะอ๋ออออย่างบางคน
00:21:26 → 00:21:28 บอกว่าเอ๊ะเราเป็นคนพูดไม่ชัดอยู่แล้วคิด
00:21:28 → 00:21:31 นานอยู่แล้วอันนี้ไม่เกี่ยวนะคะถ้าเป็นมา
00:21:31 → 00:21:33 นานแล้วจะไม่จะไม่เกี่ยวครับก็จะเป็นจาก
00:21:33 → 00:21:35 สาเหตุอาจจะเป็นโรคสมองอย่างอื่นได้ครับ
00:21:35 → 00:21:38 ครับแต่ถ้าเป็นในกลุ่มสมองเฉียบพลันเนี่ย
00:21:38 → 00:21:40 มักจะเกิดในเวลาเป็นบางทีถ้าเร็วมากก็
00:21:40 → 00:21:43 วินาทีหรือโดยส่วนใหญ่โดยส่วนใหญ่มันจะ
00:21:43 → 00:21:45 เป็นนาทีหรือว่าชั่วโมงครับภายในไม่กี่
00:21:45 → 00:21:47 นาทีหรือไม่กี่ชั่วโมงครับอ่ะตัวที่ 5
00:21:47 → 00:21:49 ผ่านไปแล้วตัวสุดท้ายค่ะอาจารย์ตัวสุด
00:21:49 → 00:21:51 ท้ายคือตัว T หรือ Time นะก็คือเรื่อง
00:21:51 → 00:21:54 เวลานี้สำคัญนะคือถ้ามีอาการเนี่ยก็แนะนำ
00:21:54 → 00:21:57 ให้รีบโทรสายด่วน 1669 นะครับเพื่อเรียก
00:21:57 → 00:22:00 รถพยาบาลไปรับนะครับแล้วก็จะได้นำผู้ป่วย
00:22:00 → 00:22:03 ส่งรถพยาบาลโดยเร็วนะครับก็คือเวลาเนี่ย
00:22:03 → 00:22:05 ที่เราแนะนำให้รีบมาหลังจากมีอาการเนี่ย
00:22:05 → 00:22:08 ควรจะต้องรีบมาให้ถึงในเวลา 4 ชม.ครึ่งนะ
00:22:08 → 00:22:09 ครับ 4 ชม.
00:22:09 → 00:22:12 ครับเพราะว่าเป็นเวลาที่เรามีข้อมูลชัด
00:22:12 → 00:22:14 เจนว่าการให้ยาละลายลิ่มเลือดที่เป็นยา
00:22:14 → 00:22:18 ฉีดละลายลิ่มลวดเนี่ยสามารถช่วยให้อาการ
00:22:18 → 00:22:21 ทางประสาทดีขึ้นได้ครับอืเพราะฉะนั้นต้อง
00:22:21 → 00:22:24 จำตัวเลขไว้ให้ดีว่า 4 ชมครึ่งจะต้องไป
00:22:24 → 00:22:27 ถึงโรงพยาบาลอ่านั่นหมายความว่าถ้าเกิด
00:22:27 → 00:22:30 เรามีอาการเตือนอย่างที่อาจารย์บอกbeฟast
00:22:30 → 00:22:33 เนี่ยทั้งหมดเนี้ยหรือเราสามารถมีอาการใด
00:22:33 → 00:22:35 อาการนึงงี้ได้มั้คะอาจารย์อความจริงแค่
00:22:35 → 00:22:37 มีอาการเออหมายถึงว่าในในกลุ่มนี้เนี่ย
00:22:37 → 00:22:39 แค่มีอาการเดียวก็แนะนำให้มาเลยครับยิ่ง
00:22:40 → 00:22:43 มีหลายอาการก็ยิ่งอ่าโรคมันน่าจะมีเ่อบ่ง
00:22:43 → 00:22:45 ชี้ว่าโรคน่าจะมีความรุนแรงขึ้นแรงขึ้น
00:22:45 → 00:22:47 อ่าเพราะฉะนั้นคุณผู้ชมสังเกตหน้าจอตอน
00:22:47 → 00:22:49 นี้เลยที่ขึ้นอยู่ตอนนี้เดี๋ให้ทีมงาน
00:22:49 → 00:22:51 ขึ้นตัวใหญ่ๆอีกนิดนึงนะคะคุณผู้ชมจะได้
00:22:52 → 00:22:55 เห็นนะคะแล้วก็ลองไปสังเกตอาการของตัวเอง
00:22:55 → 00:22:59 ดูนะคะว่าเรามีอาการแบบนี้หรือเปล่านะคะ 5
00:22:59 → 00:23:02 ตัวนี้เลยนะคะBeฟastมีอะไรบ้างนะคะมี
00:23:02 → 00:23:06 เรื่องของการทรงตัวเรื่องของการอ่ามองไม่
00:23:06 → 00:23:09 ชัดหรือมองไม่เห็นตาดับไปเนี่ยนะคะปาก
00:23:09 → 00:23:12 เบี้ยวหน้าเบี้ยวแขนขาอ่อนแรงพูดไม่ชัด
00:23:12 → 00:23:14 หรือว่าลิ้นแข็งพูดไม่รู้เรื่องเนี่ยนะคะ
00:23:14 → 00:23:16 รวมไปถึงถ้าเกิดว่ามีอาการแบบนี้ต้องรีบ
00:23:16 → 00:23:20 มาหาหมอเลยอืบางทีคนใกล้ตัวก็ต้องสังเกต
00:23:20 → 00:23:22 ด้วยนะคะอาจารย์อย่างบางทีเจ้าตัวอาจจะ
00:23:22 → 00:23:24 ไม่รู้ใช่มั้ยคะใช่ครับเพราะอย่างทีอย่าง
00:23:24 → 00:23:26 อาการที่เจ้าตัวไม่รู้เช่นแบบบางคนอาจจะ
00:23:26 → 00:23:28 ถ้าพูดไม่ชัดเล็กน้อยเนี่ยบางทีเขาอาจจะ
00:23:28 → 00:23:31 ไม่ได้สังเกตนะครับนี้ก็คนใกล้คนใกล้ตัว
00:23:31 → 00:23:33 จะเป็นคนที่สังเกตได้ดีกว่าบางทีหน้า
00:23:33 → 00:23:35 เบี้ยวเล็กน้อยเนี่ยบางทีเถ้าเไม่ได้ส่อง
00:23:35 → 00:23:38 กระจกหรือไม่ได้อาจไม่ได้สังเกตใกก็
00:23:38 → 00:23:42 สังเกตเห็นได้ง่ายกว่าครับอืย้อนไปเรื่อง
00:23:42 → 00:23:45 ของเวลาค่ะอาจารย์ตัวสุดท้ายตัว T ถาม
00:23:45 → 00:23:47 ครับที่บอกว่า 4 ชม.ครึ่งควรจะมาถึงมือ
00:23:47 → 00:23:50 หมอแล้วถ้าเกิดเรามาถึงช้ากว่านั้นล่ะคะ
00:23:50 → 00:23:52 อาจารย์จะเกิดอะไรขึ้นบ้างค่ะครับการที่
00:23:53 → 00:23:56 เ่อมาถึงช้ากว่านั้นเนี่ยคือการรักษาหลัก
00:23:56 → 00:23:58 ต้องบอกว่าการรักษาในระยะเฉียบพลันเนี่ย
00:23:58 → 00:23:59 เราแบ่งเป็นการรักษา 2 อย่างนะครับเดี๋ยว
00:23:59 → 00:24:02 ผมโชว์การรักษาให้ดูก่อนเพื่อให้เข้าใจ
00:24:02 → 00:24:05 ง่ายขึ้นนะครับการรักษาในระยะเฉียบพลัน
00:24:05 → 00:24:07 เนี่ยเราจะแบ่งหลักๆเป็น 2 วิธีนะครับ
00:24:07 → 00:24:09 วิธีแรกเนี่ก็คือให้เป็นยาเค้าเรียกว่า
00:24:09 → 00:24:12 เป็นยาฉีดละลายลิ่มเลือดนะก็จะฉีดให้ทาง
00:24:12 → 00:24:14 ลิให้เอ้ยให้ทางหลอดให้ทางหลอดเลือดนะ
00:24:14 → 00:24:17 ครับให้ทางหลอดเลือดดำแล้วก็ยาพวกนี้
00:24:17 → 00:24:19 เนี่ยก็จะเข้าไปในหลอดเลือดเราแล้วก็จะ
00:24:19 → 00:24:21 เป็นลายลิ่มเลือดที่อุดตันอยู่ครับซึ่งยา
00:24:21 → 00:24:24 เนี้ยปัจจุบันเนี่ยข้อมูลที่ชัดเจนเนี่ย
00:24:24 → 00:24:27 ที่ทางสมาคมสมองประเทศไทยแนะนำเนี่ยก็คือ
00:24:27 → 00:24:30 อยู่ที่เวลา 4 ชม.ครึ่งนะครับ 4 ชม.ครึ่ง
00:24:30 → 00:24:32 ค่ะส่วนอีกการรักษานึงเนี่ยจะเป็นเค้า
00:24:32 → 00:24:35 เรียกว่าการรักษาที่เป็นใส่สายสวนทางหลอด
00:24:35 → 00:24:39 เลือดแดงเข้าไปลากอ่าลิ่มเลือดที่อุดตัน
00:24:39 → 00:24:41 ในรถหลอดเลือดสมองให้ออกมานะครับหลอด
00:24:41 → 00:24:43 เลือดทองหรือว่าสมองก็ได้นะครับให้ออกมา
00:24:43 → 00:24:47 ก็คือการรักษานี้เนี่ยก็คือจะมีเวลาที่
00:24:47 → 00:24:49 การรักษาเนี่ยอยู่ที่ 6 ชมงนะครับก็คือ
00:24:49 → 00:24:54 หลักๆอยู่ที่ 6 ช่โมงก็คือแต่ว่าการอใส่
00:24:54 → 00:24:57 เข้าไปดึงลิ่มเลือดออกมาเนี่ยจะทำได้
00:24:57 → 00:24:59 เฉพาะการอุดตันในหลอดหลอดเลือดคอหลอด
00:24:59 → 00:25:01 เลือดหลอดเลือดสมองส่วนต้นที่เป็นหลอด
00:25:01 → 00:25:04 เลือดที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่เท่านั้นนะ
00:25:04 → 00:25:06 ครับถ้าเกิดการอุดตันที่เป็นที่ส่วนปลาย
00:25:06 → 00:25:10 เนี่ยจะไม่สามารถใส่อุปกรณ์เข้าไปลากตัว
00:25:10 → 00:25:12 เลือดออกมาได้นะครับดังนั้นเนี่ยจึงแนะนำ
00:25:12 → 00:25:14 4 ชม.ครึ่งมากกว่านะครับเพราะว่าถ้าเป็น
00:25:14 → 00:25:17 แบบอ่าการอุดตันที่หลอดเลือดเล็กก็สามารถ
00:25:17 → 00:25:20 ช่วยได้ด้วยนะครับแต่ถ้าเกิดเกิน 4 4
00:25:20 → 00:25:23 ชม.ครึ่งไปแล้วถึง 6 ชมเนี่ยก็จะมีข้อมูล
00:25:23 → 00:25:25 ชัดเจนก็จะเป็นหลอดเลือดหลอดเลือดใหญ่
00:25:25 → 00:25:29 เป็นหลักนะครับโอ้โหครับแต่ว่ายังไงก็ตาม
00:25:29 → 00:25:31 เนี่ยมันจะมีอ่ากรณีที่แบบเจอไม่บ่อยเช่น
00:25:31 → 00:25:35 แบบมีหลอดเลือดสมองหลอดเลือดใหญ่ด้านหลัง
00:25:35 → 00:25:37 เ้าเรียกหลอดเลือดบารซิล่าอุตตันเนี่ย
00:25:37 → 00:25:39 เวลาการรักษาเนี่ยอาจจะเพิ่มได้ถึง 12
00:25:39 → 00:25:42 หรือ 24 ชมงนะครับแต่ยังไงก็ตามเนี่ยแนะ
00:25:42 → 00:25:45 นำให้มาให้มาไวที่สุด
00:25:45 → 00:25:47 ยิ่งเพราะว่ายิ่งมาไวเนี่ยพยากรณ์โรคหรือ
00:25:47 → 00:25:50 ว่าผลลัพธ์ในการรักษาก็ยิ่งดีครับอือ
00:25:50 → 00:25:53 เพราะสมมติว่าถ้าอันนี้คือถ้าหลอถ้าสมอง
00:25:53 → 00:25:55 ขาดเลือดไปเยอะเนี่ยเซลล์สมองตายไปเยอะ
00:25:55 → 00:25:57 การฟื้นตัวก็จะแย่นะครับอผมขอย้ำนิดนึงก็
00:25:57 → 00:26:00 คืออันนี้คือหมายถึงว่าเป็นการรักษาหลอด
00:26:00 → 00:26:03 เลือดอ่าตีบหรืออุตันนะครับนี่คือตีบหรือ
00:26:03 → 00:26:05 อุตันแต่ว่าเลือดออกเนี่ยการรักษาจะเป็น
00:26:05 → 00:26:07 อีกรูปแบบนึงอันนั้นคือแตกก็คืออีกอย่าง
00:26:07 → 00:26:10 นึงใช่มั้คะเดี๋เราจะมาพูดช่วงท้ายว่าถ้า
00:26:10 → 00:26:13 กรณีที่มันแตกไปแล้วเนี่ยจะต้องรักษายัง
00:26:13 → 00:26:15 ไงนะคะอาจารย์นะครับเดี๋ยวเมื่อกี้ย้อน
00:26:15 → 00:26:17 กลับมาคืออันนี้พูดถึงการรักษานะก็จะย้อน
00:26:17 → 00:26:20 มาถ้าเรารักษาไม่ทันเนี่ยอือจะมีผลข้าง
00:26:20 → 00:26:22 เคียงอะไรบ้างนะมีผลแทรกซ้อนอะไรบ้างนะ
00:26:23 → 00:26:26 ครับเดี๋มาดูกันนะครับก็คืออ่าผลภาวะแทรก
00:26:26 → 00:26:28 ซ้อนเนี่ยเราจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มก็คืออัน
00:26:28 → 00:26:31 แรกคือภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาทซึ่งมัก
00:26:31 → 00:26:33 จะเกิดเฉียบพลันเลยเช่นแบบเกิดในเป็นหลัก
00:26:33 → 00:26:37 ชั่วโมงหรือไม่กี่วันหลังจากเกิดเอ่อโรค
00:26:37 → 00:26:39 หลดเลือดสมองเฉียบพลันนะครับโดย 2 รูปแรก
00:26:39 → 00:26:43 เนี่ยจะเป็นรูปที่โชว์ลักษณะว่าโอเคเป็น
00:26:43 → 00:26:46 ภาวะแทรกซ้อนจากหลอดเลือดสมองอ่าจากการ
00:26:46 → 00:26:48 จากสมองขัดเลือดนะครับก็คือรูปแรกเนี่ยก็
00:26:48 → 00:26:52 คือเป็นสมองขัดเลือดบริเวณใหญ่ก็จะไปกด
00:26:52 → 00:26:54 เบียดสมองด้านข้างแล้วก็อาจจะมีแบบทำให้
00:26:54 → 00:26:57 เกิดภาวะทุพลภาพหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้
00:26:57 → 00:26:59 ถ้าบวมมากนะครับแล้วก็แบบที่ 2 ก็บริเวณ
00:26:59 → 00:27:02 ที่มีขาดเลือดเนี่ยก็มีโอกาสที่จะมีเลือด
00:27:02 → 00:27:05 ออกในบริเวณที่มีการขาดเลือดได้นะครับก็
00:27:05 → 00:27:09 ส่งผลเคบให้มีมีสมองบวมแล้วก็ถ้าเป็นมาก
00:27:09 → 00:27:11 ก็กดสมองให้ควบคุมการหายใจได้เช่นกันนะ
00:27:11 → 00:27:14 ครับส่วนถ้าเป็นเลือดถ้าเป็นอ่าเลือดออก
00:27:14 → 00:27:16 ในสมองเนี่ยครับก็ถ้าเป็นเลือดออกในสมอง
00:27:16 → 00:27:20 ขนาดใหญ่ก็สามารถไปกดเบียดตัวสมองข้าง
00:27:20 → 00:27:23 เคียงได้แล้วก็ถ้ามันใหญ่มากก็อาจจะไปกด
00:27:23 → 00:27:26 เ่อตัวสมองที่ควบคุมกับหายใจแล้วก็จุดหาย
00:27:26 → 00:27:29 ใจส่งผลต่อชีวิตได้นะครับอันนี้คือผลภาวะ
00:27:29 → 00:27:32 แทรกซ้อนที่เราพบในระยะเฉียบพลันนะครับ
00:27:32 → 00:27:35 ส่วนในระยะยาวเนี่ยหรือระยะกลางหรือระยะ
00:27:35 → 00:27:38 ยาวเนี่ยเราก็พบอ่าภาวะแทรกซ้อนได้หลาย
00:27:38 → 00:27:41 อย่างนะครับเช่นในระยะยาวเนี่ยก็คือถ้ามี
00:27:41 → 00:27:43 การขาดเลือดหรืออ่อนสมองบางจุดเนี่ยคนไทย
00:27:43 → 00:27:47 ก็จะมีปัญหาเรื่องความคิดความจำได้จะเกิด
00:27:47 → 00:27:49 ใช่ครับเกิดแบบถ้าเป็นมากก็เกิดเป็นภาวะ
00:27:49 → 00:27:52 สมองเสื่อมในระยะยาวได้หลงลืมสมองเสื่อม
00:27:52 → 00:27:56 ระยะยาวได้นะครับหรือบางคนเนี่ยก็คือถ้า
00:27:56 → 00:27:59 มารักษาช้าเนี่ยก็ทำให้เกิดนอนโรงพยาบาล
00:27:59 → 00:28:01 นานก็เกิดภาวะแทรกซ้อนได้เช่นจะมีแบบพวก
00:28:01 → 00:28:04 ปอดติดเชื้อนะครับปอดบวมปอดติดเชื้อหรือ
00:28:04 → 00:28:06 มีพวกติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ง่ายขึ้น
00:28:06 → 00:28:09 นะครับหรือว่าในระยะยาวเนี่ยถ้าเกิดอ่ามา
00:28:09 → 00:28:12 รักษาช้าแล้วก็การฟื้นตัวไม่ดีเนี่ยอาจจะ
00:28:12 → 00:28:15 คนไข้จะมีเกิดภาวะนอนติดเตียงกลับไปนอน
00:28:15 → 00:28:18 ติดเตียงที่บ้านเกิดอ่ามีมีโอกาสให้เกิด
00:28:18 → 00:28:22 การติดเชื้อทั้งปอดทั้งทะเลปัสสาวะได้
00:28:22 → 00:28:25 ง่ายขึ้นนะครับแล้วก็การที่คนไข้แบบขยับ
00:28:25 → 00:28:27 ไว้ลดลงก็เป็นความเสี่ยงต่อการมีพวกหลอด
00:28:27 → 00:28:29 เลือดดำอุดตันโดยเฉพาะแบบหลอดเลือดดำที่
00:28:29 → 00:28:33 ขาอุดตันได้ครับอือันนี้คือกรณีที่มารับ
00:28:33 → 00:28:36 การรักษาช้าช้ากว่า 4 ชม.
00:28:36 → 00:28:39 นะคะอาจารย์อืหรือบางคนอาจจะมาตอนที่
00:28:39 → 00:28:42 อาการมันหนักๆแล้วตอนที่มันเป็นนิดเดียว
00:28:42 → 00:28:45 ก็ไม่ยอมมาเงี้นะคะใช่ครับแล้วก็แนะนำให้
00:28:45 → 00:28:48 รีบมาให้ไวที่สุดครับก็คือ 169 เนี่ยแนะ
00:28:48 → 00:28:50 นำว่าจำเบอร์นี้ไว้เลยแล้วก็รีบโทรหรือ
00:28:50 → 00:28:52 ว่าถ้าเกิดถ้าใครบางคนใครบางคนเจะไม่
00:28:52 → 00:28:55 สามารถโทรได้ก็ถ้าญาติก็ช่วยดูแลครับต้อง
00:28:55 → 00:28:58 ต้องแนะนำให้รีบโทรแจ้งให้ไวที่สุดอาจจะ
00:28:58 → 00:29:01 ต้องไปขอข้างบ้านช่วยโทรให้หน่อยครับอื
00:29:01 → 00:29:04 คือ 1669 ต้องบอกว่าเป็นรถที่จะสามารถไป
00:29:04 → 00:29:06 หาตัวผู้ป่วยได้ไวที่สุดนะคะอาจารย์เพราะ
00:29:06 → 00:29:09 ฉะนั้นต้องจำเมนี้ไว้ให้ดีนะคะทีนี้เรา
00:29:09 → 00:29:12 พูดถึงอาการไปแล้วผลค้างเคียงที่จะเกิด
00:29:12 → 00:29:15 ขึ้นถ้าเกิดว่าเข้ารับการรักษาไม่ทันพูด
00:29:15 → 00:29:17 ถึงเรื่องปัจจัยเสี่ยงกันบ้างค่ะอาจารย์
00:29:17 → 00:29:21 เมื่อกี้เราพูดถึงว่ามีมีอาการเป็นแบบไหน
00:29:21 → 00:29:23 ไปแล้วปัจจัยเสี่ยงเห็นบอกว่ามันมี 2
00:29:23 → 00:29:25 อย่างมีปัจจัยเสี่ยงที่เราป้องกันได้กับ
00:29:25 → 00:29:27 ปัจจัยเสี่ยงที่ป้องกันไม่ได้ใช่มั้คะ
00:29:27 → 00:29:29 อาจารย์อืครับปัจจัยเสี่ยงเรามีอะไรบ้าง
00:29:29 → 00:29:31 คะอาจารย์โอเคครับเดี๋ยวจะโชว์ให้เห็นภาพ
00:29:31 → 00:29:34 ง่ายๆนะครับก็คือปัจจัยเสี่ยงเนี่ยแรกคือ
00:29:34 → 00:29:35 เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนไม่ได้นะ
00:29:35 → 00:29:38 ครับสำหรับโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือตันนะ
00:29:38 → 00:29:40 ครับก็จะมีหลายอย่างนะครับอย่างแรกก็คือ
00:29:40 → 00:29:43 อายุนะครับเพราะว่าเวลาที่เ่อคนเดาอายุ
00:29:43 → 00:29:46 มากขึ้นเนี่ยก็จะมีโอกาสที่หินปวนจะไป
00:29:46 → 00:29:48 เกาะในหลอดเลือดสมองมากขึ้นก็ทำให้หลอด
00:29:48 → 00:29:51 เลือดสมองตีบได้ง่ายขึ้นนะครับหรือว่าไม่
00:29:51 → 00:29:53 ว่าหรือว่าหินปวนนี่อาจจะไปเกาะที่ตัว
00:29:53 → 00:29:56 หลอดเลือดที่คอก็ได้เช่นกันนะครับก็
00:29:56 → 00:29:58 เสี่ยงต่อการเป็นหลอดเลือดสมองตีบหรือตัน
00:29:58 → 00:30:01 นะครับปัจจัยเสี่ยงที่ 2 เคือเพศนะครับ
00:30:01 → 00:30:04 เพศชายเนี่ยมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคหลือ
00:30:04 → 00:30:06 สมองตีบตันเนี่ยได้ง่ายกว่าเพศหญิงเล็ก
00:30:06 → 00:30:09 น้อยนะคือไม่ได้ไม่ได้สูงมากนะครับแต่ก็
00:30:09 → 00:30:10 มีเพิ่มความเสี่ยงเล็กน้อยถ้าถ้าเปรียบ
00:30:11 → 00:30:13 เทียบกันนะครับครับแล้วก็ปัจจัยเสี่ยงที่
00:30:13 → 00:30:16 3 ก็จะเป็นพวกแบบอ่าโรคเลือดผิดปกติบาง
00:30:16 → 00:30:18 อย่างแต่ต้องบอกว่าในประเทศไทยเราเจอน้อย
00:30:18 → 00:30:21 มากนะที่โรคเลือดผิดปกติที่แบบเป็นรูป
00:30:21 → 00:30:23 ร่างของเลือดผิดปกติเช่นเป็นรูปเคียวแล้ว
00:30:23 → 00:30:26 เลือเป็น second cellase นะครับอืครับ
00:30:26 → 00:30:29 แล้วก็ปัจจัยเสี่ยงอ่าที่สำคัญอย่างสุด
00:30:29 → 00:30:30 ท้ายที่ผมเปลี่ยนไม่ได้คือประวัติ
00:30:30 → 00:30:34 ครอบครัวนะครับก็คือในบุคคลเนี่ยที่มี
00:30:34 → 00:30:36 ประวัติครอบครัวว่าเคยมีคนในครอบครัวเช่น
00:30:36 → 00:30:39 พ่อแม่หรือว่าย่าสายตรงเนี่ยเป็นโรคหลือ
00:30:39 → 00:30:42 สมองตีบหรือตันเนี่ยก็มีโอกาสที่รุ่นลูก
00:30:42 → 00:30:44 รุ่นหลานจะมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
00:30:45 → 00:30:47 ตีมหรือตันได้ง่ายขึ้นครับก็คือเป็น
00:30:47 → 00:30:50 พันธุกรรมใช่มั้คะอาจารย์อืก็คือพวกนี้
00:30:50 → 00:30:52 เป็นอะไรที่เรายังไม่ได้แต่ยังไงก็ตาม
00:30:52 → 00:30:53 เนี่ยต้องบอกว่าปัจจัยสิ่งที่เราหลีก
00:30:53 → 00:30:56 เลี่ยงได้เนี่ยมันมีเยอะกว่านี่อันนี้
00:30:56 → 00:30:59 สำค่
00:30:59 → 00:31:01 ดังนั้นถ้าเราควบคุมปัจจัยเสียงพวกนี้ได้
00:31:01 → 00:31:04 เนี่ยก็จะสามารถอ่าป้องกันหรือว่าลดความ
00:31:04 → 00:31:07 เสี่ยงในการเกิดโรคหลดเลือดสมองตีบหรือ
00:31:07 → 00:31:10 ตันได้มากนะครับอืโดยถ้าเรามาไล่ดูแต่ละ
00:31:10 → 00:31:13 อันเนี่ยอันแรกก่อนนะครับก็มาดูอ่าอันแรก
00:31:13 → 00:31:15 ก็คือแปลว่าความดันโลหิตสูงนะครับก็คือ
00:31:15 → 00:31:18 ปกติความดันโลหิตของคนเราเนี่ยตัวบนเนี่ย
00:31:18 → 00:31:21 ก็คือจะไม่ควรเกิน 140 มม.ปล.หลอดนะครับ
00:31:21 → 00:31:24 ตัวล่างไม่ควรเกิน 90 มม.มม.ปล.ตอดนะครับ
00:31:24 → 00:31:27 การที่มีความดันโลหิตสูงนานๆเนี่ยก็เป็น
00:31:27 → 00:31:29 การส่งผลให้มีหลอดเลือดตีบหรือตันได้ง่าย
00:31:29 → 00:31:32 ขึ้นมีพวกอ่าหินปูนหรือไขมันไปเกาะหลอด
00:31:32 → 00:31:34 เลือดได้ง่ายขึ้นนะครับอ่าปัจจัยถึงที่ 2
00:31:34 → 00:31:37 ก็เป็นเรื่องน้ำตาลในเลือดนะครับก็จะคน
00:31:37 → 00:31:40 ที่ไอ้ผู้ป่วยเบาหวานก็มีความเสี่ยงในการ
00:31:40 → 00:31:42 อ่าเป็นโรคเลือดตีบหรือตันได้ง่ายขึ้นนะ
00:31:42 → 00:31:46 ครับอืออย่างที่ 3 ครับก็คืออ่าปริมาณไข
00:31:46 → 00:31:48 มันในเลือดนะครับหรือว่าพวกแบบอ่าพวก
00:31:48 → 00:31:51 คอเลสเตอรอลนะไขมันสูงเงี้นะคะอาจารย์ใช่
00:31:51 → 00:31:53 ครับไขมันโลหิตสูงก็ยิ่งไขมันสูงเนี่ย
00:31:53 → 00:31:56 เนี่ยก็จะทำให้อ่ามีโอกาสเสี่ยงมากขึ้นนะ
00:31:56 → 00:31:59 ครับโดยไขมันเนี่ยปกติจริงๆเราจะดูไขมัน
00:31:59 → 00:32:02 จะมีหลายๆตัวนะทั้งคอเลสเตอรอลแบบรวมมี
00:32:02 → 00:32:05 อ่าไขมันเลวดีไม่ดีครับโดยไขมันที่
00:32:05 → 00:32:07 สัมพันธ์กับโรคหลอดเลือดสมองตี่มากที่สุด
00:32:07 → 00:32:10 ก็คือไขมันเลวที่ชื่อว่า LDL หรือว่าไข
00:32:10 → 00:32:12 มันความเข้มข้นต่ำนะครับที่ที่คุณหมอจะ
00:32:13 → 00:32:15 ใช้ตัวเป็นตัวดูในการรักรักษาพวกหลอด
00:32:15 → 00:32:18 เลือดสมองตีบลดหลอดเลือดหัวใจตีบต่างๆนะ
00:32:18 → 00:32:21 ครับโอส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อมานะครับก็คือ
00:32:21 → 00:32:24 ผู้ป่วยที่มีอ่าคนที่มีปัญหานอนกลัวนั้น
00:32:24 → 00:32:28 หยุดนอนกลัวแล้วหยุดหายใจนอนหลับอันนี้ก็
00:32:28 → 00:32:31 เป็นความเสี่ยงได้เช่นกันนะครับค่ะความ
00:32:31 → 00:32:34 เสี่ยงต่อมาครับก็จะเป็นโรคหัวใจนะก็คือ
00:32:34 → 00:32:37 ในคนไข้ที่มีโดยเฉพาะหัวใจเต้นมีจังหวะชึ
00:32:37 → 00:32:39 หัวใจเต้นพริ้วนะครับพวกนี้เนี่ยทำให้
00:32:39 → 00:32:41 เกิดลิ่มเลือดหัวใจได้ง่ายแล้วก็ลิ่มเล็ด
00:32:41 → 00:32:44 กับอุตันในสมองได้นะครับเหลือจะเป็นโรค
00:32:44 → 00:32:47 หัวใจที่เ่อเป็นหัวใจบีบตัวได้น้อยกว่า
00:32:47 → 00:32:50 ปกติก็มีโอกาสเสี่ยงในการเกิดลื่มเลือด
00:32:50 → 00:32:53 ได้ง่ายขึ้นเช่นกันนะครับต่อมาก็เป็นภาวะ
00:32:53 → 00:32:57 อ่าโรคอ้วนลงพุงครับโรคอ้วนใช่ครับก็ยิ่ง
00:32:57 → 00:33:00 โรคอ้วนก็ทำให้เสี่ยงต่อโรคต่างๆตามมา
00:33:00 → 00:33:02 ทั้งอ่าความดันโลหิตสูงทั้งเบาหวานทั้งไข
00:33:02 → 00:33:06 มันในเลือดสูงก็ทำให้เกิดอ่าหลอเลือดรอ
00:33:06 → 00:33:08 เลือดสมองตีบได้ง่ายขึ้นนะครับแล้วก็การ
00:33:08 → 00:33:11 ดื่มพวกแบบอ่าสุราที่มากเกินไปนะไม่ว่าจะ
00:33:11 → 00:33:15 เป็นพวกแบบอ่าเหล้าเบียต่างๆในปริมาณที่
00:33:15 → 00:33:18 สูงมากเกินไปเนี่ยก็ทำให้เกิดโรคอ่าหลอด
00:33:18 → 00:33:20 เลือดสมองตีบได้ง่ายขึ้นนะคะแล้วก็ที่
00:33:20 → 00:33:22 สำคัญคันอย่างสุดท้ายคือเรื่องการสูบ
00:33:22 → 00:33:26 บุหรี่ยิ่งถ้าสูบมากสูบนานโอกาสเป็นโรค
00:33:26 → 00:33:29 หลอเลสมองตีก็ยิ่งมากขึ้นครับอืนี่นะคะ
00:33:29 → 00:33:33 นี่คือปัจจัยเสี่ยงที่เราป้องกันได้ครับ
00:33:33 → 00:33:35 เออแต่ถ้าเกิดว่าคุณผู้ชมท่านไหนที่ดู
00:33:35 → 00:33:39 แล้วแล้วบอกว่าตัวเองเข้าขายแล้ว
00:33:39 → 00:33:42 1 ในนี้ล่ะค่ะอาจารย์มีโรคนึงนี้ควรจะ
00:33:42 → 00:33:45 ต้องไปตรวจหรือยังคะจริงๆแนะนำไปตรวจเลย
00:33:45 → 00:33:48 ครับอครับหรือว่าในในบุคคลทั่วไปที่อ่า
00:33:48 → 00:33:51 วัยตั้งแต่ประมาณ 50 อายุ 50 ปีขึ้นไป
00:33:51 → 00:33:54 แล้วก็นำให้ตรวจสุขภาพประจำปีทุกปีเพื่อ
00:33:54 → 00:33:56 อ่าเพื่อคัดกรองว่ามีโรคต่างๆเหล่านี้
00:33:56 → 00:34:00 หรือเปล่านะเพราะว่าอยิ่งเราตรวจเจอไวเรา
00:34:00 → 00:34:04 ควบคุมหรือรักษาได้ไวนะครับก็ยิ่งป้องกัน
00:34:04 → 00:34:06 หรือว่าลดความเสี่ยงในการกดเ่อโรคหลอด
00:34:06 → 00:34:08 เลือดสมองตีบหรือตันในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น
00:34:08 → 00:34:13 ครับนะคะก็ลองดูนะคะว่าเราวันนี้เราอาจจะ
00:34:13 → 00:34:15 มีโรคประจำตัวแต่ว่าถ้าเกิดว่าเราคุมได้
00:34:15 → 00:34:19 ดีมันก็จะมีความเสี่ยงน้อยลงนะคะอาจารย์
00:34:19 → 00:34:21 อ่ะคุณผู้ชมท่านไหนที่รับชมอยู่ตอนนี้นะ
00:34:21 → 00:34:24 คะผ่านทางช่องทาง YouTube สนดอก Channel
00:34:24 → 00:34:26 นะคะถ้าเกิดว่ามีคำถามเกี่ยวกับเรื่องของ
00:34:27 → 00:34:29 สตกนะคะที่เรากำลังพูดคุยกันกับอาจารย์
00:34:29 → 00:34:32 หมออยู่ตอนนี้นะคะท่านสามารถพิมพ์คำถาม
00:34:32 → 00:34:34 คอมเมนต์กันเข้ามาได้ทาง YouTube นะคะ
00:34:34 → 00:34:37 เดี๋ยวอาจารย์จะตอบสดๆในรายการเลยนะคะ
00:34:37 → 00:34:41 อาจารย์คะพูดถึงเรื่องของการตรวจสุขภาพ
00:34:41 → 00:34:44 เมื่อสักครู่นี้ที่อาจารย์บอกว่าอายุ 50
00:34:44 → 00:34:46 ประมาณ 50 ปีขึ้นไปควรจะไปตรวจสุขภาพ
00:34:46 → 00:34:49 ประจำปีแล้วถ้าเกิดว่าเราเป็นกลุ่มเสี่ยง
00:34:49 → 00:34:52 เห็นบอกว่าเราเรามีการตรวจที่ตรวจแล้ว
00:34:52 → 00:34:55 สามารถรู้ได้เลยว่าเส้นเลือดในสมองเราตี
00:34:55 → 00:34:57 ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์งี้ใช่มั้คะอาจารย์
00:34:57 → 00:35:00 อ่าครับก็คือการการวิธีการตรวจว่าดูว่ามี
00:35:00 → 00:35:02 หลอดเลือดสมองตีบเกิดเปอร์เซ็นต์เนี่ยก็
00:35:02 → 00:35:05 คือจะมีการตรวจหลักๆ 2 แบบนะครับก็คือดู
00:35:05 → 00:35:08 เrayคอมพิวเตอร์หลอดเลือดสมองหรือเrayแม่
00:35:08 → 00:35:11 เหล็กไฟฟ้าหลอดเลือดสมองนะครับซึ่งซึก็จะ
00:35:11 → 00:35:14 มีการฉีดสารทืบรังสีแล้วก็ตรวจ 2 วิธีนี้
00:35:14 → 00:35:16 ซึ่งสารทืบรังสีจะมีอ่าความแตกต่างกัน
00:35:16 → 00:35:20 ชนิดๆแตกต่างกันนะครับอือก็ตามก็คือต้อง
00:35:20 → 00:35:23 บอกว่าในปัจจุบันเนี่ยข้อบ่งชี้ทั้งในทาง
00:35:24 → 00:35:26 ประเทศไทยแล้วก็ต่างประเทศเนี่ยเราจะแนะ
00:35:26 → 00:35:28 นำให้การตรวจตรวจรับเลือดสมองพวกนี้เนี่ย
00:35:28 → 00:35:33 ก็เฉพาะในคนที่เคยมินมีประวัติว่าเป็นโรค
00:35:33 → 00:35:36 เลือดสมองตีบหรือตันมาก่อนหรือว่ามี
00:35:36 → 00:35:39 ประวัติที่สงสัยว่าอาจจะมีอากหรือว่ามี
00:35:39 → 00:35:41 พวกอากเช่นอาการเตือนว่าเป็นโรคหลดและ
00:35:41 → 00:35:44 สมองตีบหรือตันก็จะมีข้อบ่งชี้นะครับซึ่ง
00:35:44 → 00:35:47 ถ้าไม่มีข้อบ่งชี้เนี่ยเราก็ในปัจจุบันก็
00:35:47 → 00:35:48 สามารถไม่สามารถเบิกเพราะว่าแบบค่าใช้ตา
00:35:48 → 00:35:51 ่าตามพวกแบบสิประกันสุขภาพทั่วหน้าหรือ
00:35:51 → 00:35:53 ว่าไม่สามารถเบิกตามประกันชีวิตได้นะครับ
00:35:53 → 00:35:57 อ่าเพราะฉะนั้นอาจจะต้องมีอาการมาแล้ว
00:35:57 → 00:35:59 หรือเคยเคยเป็นโรคใดโรคหนึ่งที่อาจารย์
00:35:59 → 00:36:02 บอกมาแล้วแล้วก็มีอาการบงชี้ว่าเอ๊ะมันมี
00:36:02 → 00:36:05 ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นนะอันนั้นก็จะตรวจได้
00:36:05 → 00:36:07 ใช่มั้คะเออเพราะถ้าเกิดว่าฟังแบบนี้คุณ
00:36:07 → 00:36:09 ผู้ชมหลายท่านเอ๊ะเป็นห่วงสุขภาพจังเลย
00:36:09 → 00:36:11 เราไปตรวจได้มั้ยคนทั่วไปก็จะตรวจไม่ได้
00:36:11 → 00:36:14 นะคะอาจารย์อ่าครับก็อย่างพวกแบบสิทธิ์
00:36:14 → 00:36:16 การรักษาก็จะค่าใช้จ่ายจะไม่ไม่ได้ครอบ
00:36:16 → 00:36:19 คลุมตรงนี้ครับแล้วก็ต้องบอกว่าพวกแบบข้อ
00:36:19 → 00:36:22 มูลจากการ่าศึกษาวิจัยต่างๆเนี่ยก็ไม่ได้
00:36:22 → 00:36:25 มีคำแนะนำว่าให้ไปตรวจคัดกรองโดยที่ยัง
00:36:25 → 00:36:27 ไม่ได้มีอาการหรือไม่ได้ไม่ได้มีประวัติ
00:36:27 → 00:36:30 ที่สงสัยโรคหลือสมองตีหรือตันครับอแน่นอน
00:36:30 → 00:36:33 ว่าอยู่ดีๆจะเดินไปบอกคุณหมอว่าดิฉันขอมา
00:36:33 → 00:36:36 ตรวจอ่าดูว่าเส้นเลือดในสมองติดไปกี่
00:36:36 → 00:36:38 เปอร์เซ็นต์งี้ก็ไม่ได้นะคะครับก็ยังยัง
00:36:38 → 00:36:41 ไม่ไม่สามารถแบบใช้สิทธิ์พวกการรักษาที่
00:36:41 → 00:36:43 แบบเกี่ยวกับพวกเข้าภูมิค่าใช้จ่ายได้
00:36:43 → 00:36:45 ครับอแต่ว่าที่โรงพยาบาลเรามีมีตรวจตรวจ
00:36:45 → 00:36:49 อะไรถ้าคนไข้ที่เราสงสัยโอเคคนเนี้ยอ่า
00:36:49 → 00:36:51 อาการเหมือนโรคหลดเลือดสมองตีบหรือตัน
00:36:51 → 00:36:54 หรือว่ามีอาการที่แบบเหมือนประวัติสัญญาณ
00:36:54 → 00:36:57 เตือนแล้วก็เราก็จะตรวจให้ทุกรายอยู่นะ
00:36:57 → 00:37:01 ครับอ่านะคะก็ท่านไหนที่รับชมรายการวัน
00:37:01 → 00:37:03 นี้อยู่แล้วไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเา้า
00:37:03 → 00:37:06 สามารถตรวจได้เนี่ยก็ลองดูนะคะถ้าเกิดว่า
00:37:06 → 00:37:09 ตัวเองมีอาการโหม่งชี้หรือว่าเคยเป็นมา
00:37:09 → 00:37:11 แล้วเช่นปากเบี้ยวหน้าเบี้ยวแขนขาอ่อนแรง
00:37:11 → 00:37:14 เงี้นะคะอาจารย์ก็ลองมาตรวจดูมาเช็คดูว่า
00:37:14 → 00:37:17 เอ๊ะตอนนี้เส้นเรสมองเรายังอยู่ดีอยู่
00:37:17 → 00:37:20 หรือเปล่านะคะก็ดูได้นะคะทีนี้สอบถาม
00:37:20 → 00:37:24 เรื่องของอาการค่ะอาจารย์อาการของโรคหลอด
00:37:24 → 00:37:26 เลือดสมองเฉียบพลันถ้าเราเป็นแล้วเช่น
00:37:26 → 00:37:30 สมมุติว่าปากเบี้ยวแขนขาอ่อนแรงอ่ะครับ
00:37:31 → 00:37:34 เป็นแล้วสามารถกลับมาแบบครบ 100% งี้ได้
00:37:34 → 00:37:36 มั้คะสามารถรักษาให้กลับมาเป็นคนปกติงี้
00:37:36 → 00:37:38 ได้มั้คะครับถ้าพูดถึงหลอหลอเลือดสมองอ่า
00:37:38 → 00:37:41 เฉียบพลันโดยรวมทั้งหมดนะครับก็คือฮะ
00:37:41 → 00:37:44 พยากรณ์โรคเนี่ยประมาณ 10% นะ 10% เนี่ย
00:37:44 → 00:37:47 อาการกลับมาได้ใกล้เคียงกับแทบจะ 100% นะ
00:37:47 → 00:37:51 ก็คือ 10% แรกนะครับต่อมาเนี่ย 25% เนี่ย
00:37:51 → 00:37:54 ก็คืออาการดีขึ้นโดยเหลือความผิดปกติ
00:37:54 → 00:37:57 เพียงเล็กน้อยนะครับ 25% นะครับกลุ่มที่ 3
00:37:57 → 00:38:01 เนี่ย 40% เนี่ยอาการเ่อในระยะยาวเนี่ยมี
00:38:01 → 00:38:05 ความผิดปกติที่อ่ารุนแรงปานกลางหรือว่า
00:38:05 → 00:38:07 รุนแรงมากหลงเหลืออยู่นะครับเช่นต้องมี
00:38:07 → 00:38:10 การดูแลพิเศษเช่นบางคนอาจจะต้องแบบอ่ามี
00:38:10 → 00:38:13 คนช่วยดูแลเช่นช่วยอาบน้ำช่วยพาอ่าในการ
00:38:13 → 00:38:16 เดินต่างตัวเองต่างๆนะครับอือแล้วก็กลุ่ม
00:38:17 → 00:38:19 ที่ 4 เนี่ยก็คือประมาณ 10% เนี่ยจะต้อง
00:38:19 → 00:38:22 อ่าเรียกว่าได้รับการดูแลระยะยาวเช่นจะ
00:38:22 → 00:38:25 นอนติดเตียงประมาณ 10% นะครับแล้วก็โดย
00:38:25 → 00:38:27 เฉลี่ยกลุ่มสุดท้ายเนี่ยประมาณ 15% ก็
00:38:27 → 00:38:30 เสียชีวิตจากตัวทั้งหลอดเลือดสมองโดยตรง
00:38:30 → 00:38:32 หรือว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรด
00:38:32 → 00:38:35 หลอดเลือดสมองตามมาครับอค่ะแต่ละกลุ่มที่
00:38:35 → 00:38:38 เราเราจำแนกออกมาว่า 10% คือหายขาดอ่าแบบ
00:38:38 → 00:38:42 100% เลย 15% อาจจะหายขัดแค่ 50% เราวัด
00:38:42 → 00:38:45 จากอะไรคะอาจารย์จากระยะเวลาในการมาหาหมอ
00:38:45 → 00:38:46 หรือจากอาการที่มันรุนรุนแรงหรือไม่รุน
00:38:47 → 00:38:50 แรงเงี้ยค่ะอ๋อหมายถึงว่าเอ่อหมายถึงใน
00:38:50 → 00:38:52 ระยะยาวครับหมายถึงว่าก็คือเหมือนเช่น
00:38:52 → 00:38:54 สมมุติอ่ะเป็นหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน
00:38:54 → 00:38:58 เนี่ยมา 100 คนเนี่ยก็ 10 คนก็ในระยะยาว
00:38:58 → 00:39:00 เนี่ยเขาก็จะอาการดีขึ้นแทบจะ 100% นะ
00:39:00 → 00:39:04 ครับ 25 คนก็จะดีขึ้นโดยมีเหลือลงเหลือ
00:39:04 → 00:39:07 ความผิดปกติเล็กน้อยนะครับก็แยกๆเป็น 5
00:39:07 → 00:39:11 กลุ่มนะครับอค่ะเขาจะต้องกินยาตลอดชีวิต
00:39:11 → 00:39:14 งี้มั้ยคะอาจารย์ครับอ่าสำหรับการรักษานะ
00:39:14 → 00:39:17 เดี๋มีพูดมาพูดถึงการรักษาให้ดูง่ายๆนะ
00:39:17 → 00:39:21 ครับนี่ก็พูดถึงการรักษาเนี่ยในระยะยาวนะ
00:39:21 → 00:39:24 ครับก็คืออันนี้เป็นรูปภาพที่จะต้องบอก
00:39:24 → 00:39:27 ว่าเน้นเนื่องหลอดเลือดสมองตีบหรือตัน
00:39:27 → 00:39:29 เป็นหลักนะครับการรักษาแรกเนี่ยก็คือการ
00:39:29 → 00:39:32 ให้ยานะครับพูดถึงยาเนี่ยอันแรกเนี่ยเรา
00:39:32 → 00:39:34 จะต้องมาดูก่อนว่าโรคหลอดเลือดสมองตีบ
00:39:34 → 00:39:36 หรือตันเนี่ยเป็นจากอะไรนะครับเช่นสมมุติ
00:39:36 → 00:39:39 เป็นจากอ่าหลอดเลือดตีบจากมีหินปูนหรือมี
00:39:39 → 00:39:42 ไขมันเกาะเราก็พยายามต้านเกล็ดเลือดนะ
00:39:42 → 00:39:45 ครับแต่ถ้าเป็นอ่าหลอดเลือดอุดตันจากการ
00:39:45 → 00:39:48 ที่มีเลือดเนื่องจากหัวใจจากอ่าไปอุด
00:39:48 → 00:39:50 เนี่ยเราก็จะมีการเค้าเรียกว่าเป็นยากัน
00:39:50 → 00:39:52 เลือดแข็งตัวก็เป็นยาคนละกลุ่มกันนะครับ
00:39:52 → 00:39:54 ดังนั้นเนี่ยการที่เป็นโรคลดสมองตีบตัน
00:39:54 → 00:39:57 เนี่ยเราต้องหาให้ได้ก่อนว่าสาเหตุเนี่ย
00:39:57 → 00:40:00 เป็นจากอะไรแล้วก็จะได้ให้ยาถูกต้องตาม
00:40:00 → 00:40:03 สาเหตุนะครับค่ะครับการรักษาอื่นๆในระยะ
00:40:03 → 00:40:06 ยาวนะครับก็จะมีการรักษาการรักษาทาง
00:40:06 → 00:40:08 วิทยาศาสตร์ฟื้นฟูนะครับก็จะมีตั้งแต่การ
00:40:08 → 00:40:12 ทำบำบัดเช่นมีการช่วยขยับแขนขาให้ผู้ป่วย
00:40:12 → 00:40:15 ฝึกขยับร่างกายฝึกเดินต่างๆนะครับแล้วก็
00:40:15 → 00:40:19 มีการรักษาที่ว่าเป็นกิจกรรมบำบัดก็มีการ
00:40:19 → 00:40:22 ให้ฝึกทำกิจกรรมต่างๆเช่นแบบการทานข้าว
00:40:22 → 00:40:24 การกิจกรรมช่วยเหลือตัวเองต่างๆนะครับการ
00:40:24 → 00:40:27 ทานข้าวอาบน้ำต่างๆเพื่อให้แบบเสามารถคน
00:40:27 → 00:40:30 อ่าผู้ป่วยเสามารถเนี่ยกลับไปทำประจำวัน
00:40:30 → 00:40:33 ได้ดียิ่งขึ้นนะครับแล้วก็ในคนที่มีปัญหา
00:40:33 → 00:40:36 เรื่องการพูดและการใช้ภาษาหรือการกลืนก็
00:40:36 → 00:40:40 จะมีการอ่ารักษาโดยทำอรรถบำบัดหรือภาษา
00:40:40 → 00:40:42 อังกฤษเรียก speech thay นะก็จะเป็นการ
00:40:42 → 00:40:46 ฝึกพูดฝึกสื่อสารฝึกหรือกลืนนะครับอันนี้
00:40:46 → 00:40:48 จะเป็นการรักษาหลักที่เราให้ในผู้ป่วยลด
00:40:48 → 00:40:51 ลดสมองตีบหรือตันนะครับส่วนการป้องกันนะ
00:40:51 → 00:40:54 ก็อย่างที่ว่าไปนะว่าเราก็ไปจัดการปัจจัย
00:40:54 → 00:40:57 เสี่ยงต่างๆที่ที่ปอ่าที่สามารถปรับ
00:40:57 → 00:40:59 เปลี่ยนและป้องกันได้นะครับแล้วก็มีการ
00:40:59 → 00:41:02 ออกกำลังกายหรือว่าการเพิ่มกิจกรรมทางกาย
00:41:02 → 00:41:05 นะถามว่าทำแค่ไหนพอนะก็คือถ้าอิงจากข้อ
00:41:05 → 00:41:08 มูลของอ่าสมาคมโรคหลับเลือดสมองของทาง
00:41:08 → 00:41:10 อเมริกานะครับเบอกว่าก็ถ้ามีกิจกรรมทาง
00:41:10 → 00:41:14 กายในระดับปานกลางเนี่ย 10 นาทีอ่าอ่าต่อ
00:41:14 → 00:41:16 อ่า 10 นาทีต่อครั้ง 4 ครั้งต่อสัปดาห์
00:41:16 → 00:41:19 ขึ้นไปเนี่ยกิจกรรมทางการระดับปานกลางที่
00:41:19 → 00:41:20 เขาพูดถึงเนี่ยก็คือหมายถึงว่ามีการออก
00:41:21 → 00:41:23 แดงแล้วอ่าร้องเพลงแล้วรู้สึกเหนื่อยร้อง
00:41:23 → 00:41:25 เพลงไม่ไหวอันนี้คือเป็นระดับปานกลางนะ
00:41:25 → 00:41:27 ครับหรือถ้าเป็นกิจกรรมทางกายเนี่ยถ้า
00:41:27 → 00:41:31 ระดับหนักก็คือแนะนำทำ 20 นาที 2 ครั้ง
00:41:31 → 00:41:34 ต่อสัปดาห์ขึ้นไปนะครับคำว่าระดับอ่าหนัก
00:41:34 → 00:41:38 ก็คือเวลาพูดแล้วพูดเ่อเวลาออกออกกำลัง
00:41:38 → 00:41:40 แล้วพูดพูดไม่ไหวครับเหนื่อยพูดไม่ไหว
00:41:40 → 00:41:43 ครับอันนี้คือระดับที่แบบออกกำลังกายแบบ
00:41:43 → 00:41:46 หรือกิจทางกายเลยค่ะแล้วก็มีการทานอาหาร
00:41:46 → 00:41:49 พวกอ่าที่มีข้อมูลชัดเจนเนี่ยจะเป็นเค้า
00:41:49 → 00:41:51 เรียกว่าเป็นอาหารทางเมดิเตอร์เรเนียน
00:41:51 → 00:41:54 เป็นที่มีประโยชน์นะก็คือฝั่งอาหารที่ทาง
00:41:54 → 00:41:57 ผู้คนหรือชาวที่อยู่แถบทะเลเมดิเนทานกัน
00:41:57 → 00:42:01 นะเช่นอาหารที่เป็นพวกแบบผักผลไม้ที่แบบ
00:42:01 → 00:42:04 ไม่เปลี่ยนไม่อ่าไม่มีการแปรรูปนะครับมี
00:42:04 → 00:42:07 การใช้ทั้งพวกน้ำมันมะกอกแทนพวกแบบน้ำมัน
00:42:07 → 00:42:09 ชนิดอื่นในการปรุงอาหารนะครับอาจจะมีการ
00:42:09 → 00:42:13 เพิ่มการทานพวกถั่วพวกธัญพืชพวกนี้ครับ
00:42:13 → 00:42:16 ค่ะอันนี้ก็คือการรักษาแล้วก็การป้องกัน
00:42:16 → 00:42:20 ในระยะยาวใช่มั้คะอาจารย์คะเออแล้วทีนี้
00:42:20 → 00:42:23 ย้อนไปเรื่องของการวินิจฉัยการตรวจกันมาก
00:42:24 → 00:42:26 นอกจากอ่าเครื่องที่เราคุยกันเมื่อกี้ว่า
00:42:26 → 00:42:29 เราสามารถไปสแกนดูว่าเส้นเลือดมันตีบกี่
00:42:29 → 00:42:31 เปอร์เซ็นต์เรามีการวินิจฉัยด้วยวิธีอื่น
00:42:31 → 00:42:34 อีกมั้คะอาจารย์ที่ทำให้รู้เลยว่าเราเป็น
00:42:34 → 00:42:37 โรคหลอดเลือดสมองโอเคครับสำหรับการ
00:42:37 → 00:42:40 วินิจฉัยนะครับก็คือยังไงอปัจจุบันเนี่ย
00:42:40 → 00:42:42 เราก็ยังเน้นในการเค้าเรียกเป็นใช้ภาพ
00:42:42 → 00:42:44 รังสีเลยสักแกนสมองเป็นหลักนะครับโดยถ้า
00:42:44 → 00:42:47 ในคนที่แบบมาไวมากๆเนี่ยน้อยกว่า 4 ชม.
00:42:47 → 00:42:50 ครึ่งเนี่ยเราก็จะอ่าทำการวินิจฉัยโดยการ
00:42:50 → 00:42:53 ตรวจ Xray คอมพิวเตอร์สมองนะครับเพื่อยืน
00:42:53 → 00:42:56 ยันว่าเป็นลักษของลักษณะของเป็นของสมอง
00:42:56 → 00:42:58 อ่าเป็นตีบเป็นตาอ่าเป็นขาดเลือดหรือว่า
00:42:58 → 00:43:01 เป็นเลือดออกนะครับแล้วก็ให้การรักษาตาม
00:43:01 → 00:43:03 นั้นนะครับเราก็จะตรวจสมองเป็นหลักแต่ถ้า
00:43:03 → 00:43:05 เกิดเอ่อมันก็จะมีการตรวจเพิ่มเติมอย่าง
00:43:06 → 00:43:10 เช่นถ้าในคนที่สมองขาเลือดเนี่ยยังเป็น
00:43:10 → 00:43:15 น้อยๆอยู่แต่ว่ามาเวลาเกินแบบ 4.5 4 ชม.
00:43:15 → 00:43:17 แต่ไม่ถึงนะครับแล้วอาการเข้ากับหลอด
00:43:17 → 00:43:20 เลือดใหญ่อุดันเนี่ยก็จะมีการตรวจ
00:43:20 → 00:43:23 คอมพิวเตอร์อ่าหลอดเลือดสมองต่อดูเพื่อ
00:43:23 → 00:43:25 ว่ามีการแบบอุดตันของหลอดเลือดสมองใหญ่
00:43:25 → 00:43:27 ชัดเจนอ่าหลอดเลือดสมองขนาดใหญ่ชัดเจนมย
00:43:27 → 00:43:30 ถ้าหลอดเลือดสมองใหญ่เป็นการอุดตันก็จะมี
00:43:30 → 00:43:33 การไปอ่านักศึกษาเพิ่มเติมโดยการใส่
00:43:33 → 00:43:36 อุปกรณ์เข้าไปดึงหลอดเลือดต่อดึงเลิ่ม
00:43:36 → 00:43:38 เลือดต่อนะครับแต่ยังไงก็ตามเนี่ยมันจะมี
00:43:38 → 00:43:40 ข้อกำหนดบางอย่างที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
00:43:40 → 00:43:43 เพื่อประเมินความเสี่ยงก่อนที่เราจะไปทำ
00:43:43 → 00:43:45 กับนักศึกษานี้ด้วยครับอือก็ต้องขึ้นอยู่
00:43:45 → 00:43:48 กับอาการขึ้นอยู่แต่ละคนแล้วก็ปัจจัยต่าง
00:43:48 → 00:43:50 ๆด้วยนะคะอาจารย์ครับแต่ในคนที่แบบถ้ามา
00:43:50 → 00:43:53 ในเวลาเกินแบบอ่าเกินเกิน 4 ช่โมครึ่งไป
00:43:53 → 00:43:56 แล้วหรือเกิน 6 ช่มงไปแล้วเนี่ยก็จะมีการ
00:43:56 → 00:44:00 ตรวจอ่าโดยการใช้เซเrเหล็กไฟฟ้าสมองอัน
00:44:00 → 00:44:03 นี้จะก็จะเพื่อยินยากวินิจฉัยได้นะแต่ก็
00:44:03 → 00:44:06 แต่ข้อจำกัดนะของไอซแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง
00:44:06 → 00:44:08 เนี่ยต้องบอกว่าเครื่องเนี่ยยังไม่ได้มี
00:44:08 → 00:44:11 ในตามโรงพยาบาลทุกที่นะครับแล้วก็ใช้เวลา
00:44:11 → 00:44:14 ทำนานนะครับดังนั้นเนี่ยก็เราก็จะพิจารณา
00:44:14 → 00:44:18 เป็นในอ่าผู้ป่วยเป็นเป็นหลายๆคนไปว่าผู้
00:44:18 → 00:44:21 ป่วยคนไหนที่จำเป็นต้องทำแต่ว่าปกติเนี่ย
00:44:21 → 00:44:23 ถ้าหล่อเrayแม่เหล็กอ่าคอมพิวเตอร์สมอง
00:44:23 → 00:44:26 เนี่ยเรามักจะเป็นการตรวจวินิจฉัยหลักที่
00:44:26 → 00:44:28 เราทำกันอยู่แล้วครับอือฮึแต่ของเรามีใช่
00:44:28 → 00:44:31 มั้คะอาจารย์มีมีทั้ง 2 เครื่องครับอ้าก็
00:44:31 → 00:44:35 ตรวจเฉพาะคนที่เข้าขายเท่านั้นเออก็คือคน
00:44:35 → 00:44:38 ที่มีอาการมาแล้วเท่านั้นนะคะแต่ถ้าใคร
00:44:38 → 00:44:41 ที่ฟังแล้วบอกว่าเอ๊ะเราไม่อยากเป็นก็
00:44:41 → 00:44:43 ต้องย้อนไปในเรื่องของการป้อง
00:44:43 → 00:44:45 ใช่ครับโรคนี้ป้องกันได้ถูกต้องมั้คะ
00:44:45 → 00:44:47 อาจารย์ครับอืก็คือป้องกันอย่างที่
00:44:47 → 00:44:49 อาจารย์ให้ดูเมื่อสักครู่นี้ว่าแนวทางการ
00:44:49 → 00:44:52 ป้องกันเราจะป้องกันด้วยวิธีอะไรบ้าง
00:44:52 → 00:44:55 อือฮึอย่างคนที่เป็นโรคประจำตัวอย่างงี้ล
00:44:55 → 00:45:00 คะอาจารย์เราจำเป็นที่จะต้องมามาตรวจทุกๆ
00:45:00 → 00:45:02 ปีมั้คะหมายถึงว่ามาตรวจดูเส้นเลือดใน
00:45:02 → 00:45:05 สมองเราเงี้ยค่ะอ๋อมันต้องตรวจตรวจบ่อย
00:45:05 → 00:45:07 แค่ไหนคะอาจารย์ถ้าโรคประจำตัวก็แล้วแต่
00:45:07 → 00:45:10 ว่าเป็นโรคไหนครับก็คือแล้วแต่ว่าคุมโรค
00:45:10 → 00:45:16 ประทมจูนั้นได้ดีมากน้อยแค่ไหนนะค่ะ
00:45:16 → 00:45:20 ว่าพวกนี้ดีมากถ้าแบบในช่วงที่ควบคุมได้
00:45:20 → 00:45:22 ไม่ดีบางทีคุณหมออาจจะนัดบ่อยนะเช่นแบบ
00:45:22 → 00:45:25 บางทีเดือน 2 เดือน 3 เดือนนะครับถ้าคุม
00:45:25 → 00:45:28 ดีก็อาจจะ 3-4 เดือนหรือนานกว่านั้นครับ
00:45:28 → 00:45:30 แล้วแต่ว่าคุมได้มนะแต่ว่าการตรวจพวกแบบ
00:45:30 → 00:45:33 เอ่อเrคอมพิวเตอร์หล่อเลือดสมองนี่ที่
00:45:33 → 00:45:35 อย่างที่แจ้งไปว่าถ้ายังไม่มีอาการที่
00:45:35 → 00:45:37 สงสัยเนี่ยเราก็ยังไม่ได้มีข้อบ่งชี้ชัด
00:45:37 → 00:45:41 เจนในการตรวจอืค่ะถ้าเราติดตามข่าวสารเรา
00:45:42 → 00:45:44 จะเห็นว่าก่อนหน้านี้คะอาจารย์มีคนที่
00:45:44 → 00:45:48 อายุน้อยก็เป็นได้เหมือนกันรูปนี้อืน่าจะ
00:45:48 → 00:45:51 เป็นน่าจะเป็นเน็ตไอดอลหรือว่ายูทูerชื่อ
00:45:51 → 00:45:54 ดังเหมือนกันที่บอกว่าอายุประมาณเลข 3
00:45:54 → 00:45:57 แล้วก็ป่วยเป็นสตรกอันนั้นอันนั้นมี
00:45:57 → 00:45:59 สาเหตุมาจากอะไรอาจารย์ทราบมั้ยคะครับ
00:45:59 → 00:46:02 ต้องบอกว่าส่วนใหญ่คนที่ป่วยเป็นสโตรกนี่
00:46:02 → 00:46:04 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุนะครับแต่ว่าไง
00:46:04 → 00:46:07 ก็ตามเนี่ยก็มีเอ่อสาเหตุบางสาเหตุที่ทำ
00:46:07 → 00:46:10 ให้เกิดในคนอายุน้อยได้เช่นอาจจะเป็นคน
00:46:10 → 00:46:12 อายุน้อยบางคนเนี่ยอาจจะเป็นโรคหัวใจบาง
00:46:12 → 00:46:14 อย่างนะเช่นหัวใจเต้นผิดจังหวัดหรือการ
00:46:14 → 00:46:16 หัวใจทำงานผิดปกติทำให้หัวใจบีบตัวได้ลด
00:46:17 → 00:46:20 ลงแล้วก็เกิดลิ่มเลือดไปอุดตันในสมองได้
00:46:20 → 00:46:23 นะครับหรือว่าอาจจะเป็นโรคอื่นๆเช่นเค้า
00:46:23 → 00:46:26 เรียกว่ามีอ่าโรคทำธุกรรมที่ทำให้หลอด
00:46:26 → 00:46:30 เลือดสมองมีผิดปกติหรือว่ามีการใช้พวกแบบ
00:46:30 → 00:46:33 อ่าสารบางอย่างพวกพวกสารเสพติดบางอย่างก็
00:46:33 → 00:46:36 เป็นความเสี่ยงในการเกิดพวกหลอดเลือดสมอง
00:46:36 → 00:46:39 ทั้งตีบหรือว่าทั้งตีบหรือว่าอาจจะเป็นทำ
00:46:39 → 00:46:42 ให้หลอดเลือดสมองแตกก็ได้เช่นกันนะครับอื
00:46:42 → 00:46:46 ค่ะอ่ะมีคุณผู้ชมที่รับชมอยู่ทาง YouTube
00:46:46 → 00:46:48 ของเรานะคะอาจารย์คุณเกรสนะคะถามเข้ามา
00:46:48 → 00:46:52 ว่ามีญาติตื่นเช้ามาพอตื่นขึ้นมาจำเหตุ
00:46:52 → 00:46:56 การณ์ระยะสั้นไม่ได้แต่จำระยะยาวได้ก็คือ
00:46:56 → 00:46:59 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะยาวจำได้คุย
00:46:59 → 00:47:01 ได้ปกติไม่มีอาการชาปากเบี้ยวอ่อนแรง
00:47:01 → 00:47:05 ครึ่งซีกแต่พาไปโรงพยาบาลเนี่ยปรากฏว่า
00:47:05 → 00:47:08 ความดันเนี่ยอยู่ที่ 250 อืมเหตุการณ์
00:47:08 → 00:47:10 นั้นผ่านมา 2 ปีแล้วแต่ถ้ามาถามคุณหมอตอน
00:47:11 → 00:47:13 เนี้ยอยากทราบว่าถ้าอาการแบบเนี้ยจะ
00:47:13 → 00:47:17 พยากรณ์โรคว่าเป็นโรคนี้มั้คะอ่าจริงต้อง
00:47:18 → 00:47:21 บอกว่าอากพวกอาการอาการหลักหรือว่าสัญญาณ
00:47:21 → 00:47:23 เตือนเนี่ยจะเป็นเ่อตามบีฟาสที่ว่าไปแต่
00:47:23 → 00:47:25 ว่าความจริงเนี่ยก็มีอาการบางอาการเหมือน
00:47:25 → 00:47:28 กันที่ที่อาจจะไม่ได้พูดถึงในบีฟาสเพราะ
00:47:28 → 00:47:31 ว่าเจอน้อยกว่านะครับเช่นอาการเช่นแบบอ่า
00:47:31 → 00:47:34 ความจำหายความความอยู่ดีความจำก็หายไปแบบ
00:47:34 → 00:47:36 เฉียบพลันนะครับหรือว่าสับสนเฉียบพลัน
00:47:36 → 00:47:39 เนี่ยในกลุ่มนี้เนี่ยต้องบอกว่าอาจจะเป็น
00:47:39 → 00:47:42 โรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันได้นะครับก็แนะ
00:47:42 → 00:47:44 นำให้มาตรวจแต่ยังไงก็ตามเนี่ยในกลุ่มใน
00:47:44 → 00:47:46 อาการเหล่านี้เนี่ยอาจจะเป็นสาเหตุอื่นก็
00:47:46 → 00:47:48 ได้เช่นบางทีอาการพวกนี้อาจจะเป็นอาการ
00:47:48 → 00:47:50 ส่วนหนึของพวกลมชักก็ได้เช่นกันนะครับดัง
00:47:50 → 00:47:53 นั้นเนี่ยแนะนำยังไงก็แนะนำให้รีบมาโรง
00:47:53 → 00:47:55 พยาบาลเพื่อให้ทางแพทย์ประเมินเพื่อให้
00:47:55 → 00:47:58 การวินิจฉัยและรักษาทันท่วงทีต่อไปครับ
00:47:58 → 00:48:03 อ่าคุณเกรสนะคะก็ลองลองพาญาติมาตรวจดู
00:48:03 → 00:48:05 ก่อนนะคะซึ่งต้องบอกว่าผ่านมานานเหมือน
00:48:06 → 00:48:08 กันนะคะ 2 ปีอาจารย์ถ้าเกิดว่าเป็นดัก
00:48:08 → 00:48:10 เนี่ยอาจจะอาจจะรุนแรงแล้วนะคะเพราะ
00:48:10 → 00:48:13 ฉะนั้นถ้ามีอาการเพียงเล็กน้อยเนี่ยอาจจะ
00:48:13 → 00:48:16 ต้องรีบพามาโรงพยาบาลเลยกับอีกเหตุการณ์
00:48:16 → 00:48:19 นึงค่ะอาจารย์ก็คืออ่าใช้ชีวิตปกตินี่
00:48:19 → 00:48:22 แหละแต่อยู่มาวันนึงเหมือนเป็นคนสมอง
00:48:22 → 00:48:26 เสื่อมจำเหตุการณ์แทบจะไม่ได้เลยแต่พอไป
00:48:26 → 00:48:28 ตรวจปุ๊บหมอบอกว่าไม่ได้เป็นสมองเสื่อม
00:48:28 → 00:48:32 อันนี้มีผลมาจากโรคนี้มั้คะอาจารย์เอ่อ
00:48:32 → 00:48:34 หมายถึงว่ามีอยู่ดีความจำก็แย่ลงจับพลัน
00:48:34 → 00:48:37 ใช่มั้ครับจำจำไม่ได้เงี้ยค่ะอ่าความจริง
00:48:37 → 00:48:39 ความจำหรือว่าความคิดแย่ลงจับพลันเนี่ย
00:48:39 → 00:48:42 อืออาจจะเป็นอ่าถ้าถ้าเป็นถ้าเป็นเฉียบ
00:48:42 → 00:48:44 พลันเนี่ยก็มีโอกาสมีโอกาสสูงที่จะเป็น
00:48:44 → 00:48:48 จากอ่าหลอดเลือดสมองตีบหรือว่าแต่าสมอง
00:48:48 → 00:48:50 ขาดเลือดหรือว่าเลือดออกสมองแล้วสมอง
00:48:50 → 00:48:52 เฉียบพลันได้นะครับแต่ยังไงก็ตามเนี่ยก็
00:48:52 → 00:48:55 มีสาเหตุอื่นที่เป็นได้นะครับเช่นแบบอาจ
00:48:55 → 00:48:58 จะอย่างที่บอกอเป็นพวกแบบสมองอักเสบก็มา
00:48:58 → 00:49:00 ด้วยแบบความจำแย่ลงเจ็บอ่าค่อนเจ็บพลัน
00:49:00 → 00:49:04 หรือค่อนข้างไวได้นะเป็นภาวะชักชนิดนึงก็
00:49:04 → 00:49:07 มาแบบนี้ได้นะหรือว่าการได้รับพวกแบบยา
00:49:07 → 00:49:10 หรือสารบางอย่างก็ทำให้มีอาการแบบนี้ได้
00:49:10 → 00:49:13 นะครับหรือว่ามีความผิดปกติของเลือดบาง
00:49:13 → 00:49:16 อย่างนะครับเช่นแบบมีค่าไตสูงผิดปกติค่ะ
00:49:16 → 00:49:19 นะครับหรือว่าในคนที่แบบเป็นโรคตับแล้วมี
00:49:19 → 00:49:22 ภาวะสับสนอ่าแย่ลงจากโรคตับก็ทำให้มี
00:49:22 → 00:49:24 อาการที่คล้ายคลึงกันที่แบบเป็นมาใน
00:49:25 → 00:49:27 ลักษณะแบบเป็นหลักชั่วโมงหรือเป็นหลักวัน
00:49:27 → 00:49:29 ได้นะหรือเป็นพวกเกลือแร่ผิดปกติเช่นแบบ
00:49:29 → 00:49:32 เกลือแร่โซเดียมในเลือดต่ำก็ทำให้มีอาการ
00:49:32 → 00:49:35 เกิดซึมลงหรือว่าสับสนในเวลาเป็นหลัก
00:49:35 → 00:49:37 ชั่วโมงหรือเป็นวันได้เช่นกันครับดังนั้น
00:49:37 → 00:49:39 เนี่ยอืออืยังไงก็ตามก็แนะนำให้รีบมาตรวจ
00:49:39 → 00:49:41 อยู่ดีนะเพราะสาเหตุมีได้หลายอย่างก็
00:49:41 → 00:49:44 แพทย์จะได้ประเมินแล้วก็ให้การรักษาแบบ
00:49:44 → 00:49:46 ทันท่วงทีครับเอาง่ายๆถ้าเกิดว่ามีอาการ
00:49:46 → 00:49:48 เกี่ยวกับสมองเนี่ยต้องรีบมาตรวจนะคะ
00:49:48 → 00:49:50 อาจารย์ใช่ครับยิ่งโดยเฉพาะอาการเกิดวัย
00:49:50 → 00:49:53 นะยิ่งยิ่งอาการที่เกิดวัยเกิดเฉียบพลัน
00:49:53 → 00:49:56 ในหลักเป็นนาทีหรือชั่วโมงเนี่ยมีโอกาส
00:49:56 → 00:49:58 เป็นโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันได้มาก
00:49:58 → 00:50:01 นะั้นเนี่ยแนะนำให้รีบมาตรวจครับอืก็ลอง
00:50:01 → 00:50:05 สังเกตอาการกันดูนะคะว่าอาการเราเป็นแบบ
00:50:05 → 00:50:08 ไหนนะคะอืเมื่อกี้เราพูดค้างไว้เรื่องของ
00:50:08 → 00:50:11 การรักษาค่ะอาจารย์เมื่อกี้ให้คุณผู้ชมดู
00:50:11 → 00:50:14 ไปแล้วว่าเส้นเลือดตีบกับตันอ่าแต่ถ้า
00:50:14 → 00:50:17 เกิดว่ามันแตกล่ะคะอาจารย์ครับอ่าโอเค
00:50:17 → 00:50:19 ครับถ้าเป็นหลอดเลือดแตกหรือดอกในสมอง
00:50:19 → 00:50:22 เนี่ยสิ่งแรกที่เราต้องดูคือดูอ่าต้องอ่า
00:50:22 → 00:50:25 ดูดูก่อนว่าสาเหตุเป็นจากอะไรนะเช่นถ้า
00:50:25 → 00:50:27 เป็นสาเหตุเป็นจากความดันโลหิตสูงเนี่ย
00:50:27 → 00:50:30 เราก็ต้องควบคุมความดันให้ดีนะครับครับ
00:50:30 → 00:50:34 แล้วก็ทั้งๆในระยะเฉียบพลันแล้วก็ระยะยาว
00:50:34 → 00:50:36 นะครับค่ะถ้าเป็นเลือดออกอ่าที่เป็นจาก
00:50:36 → 00:50:39 เป็นหลอดเลือดโป่งพองเนี่ยมันจะมีอ่าเขา
00:50:39 → 00:50:41 จะมีลักษณะบางอย่างที่สงสัยโลกนี้ก็เราก็
00:50:41 → 00:50:44 จะไปตรวจเ้าเรียกว่าเป็นเrayคอมพิวเตอร์
00:50:44 → 00:50:47 อือ่าดูหลอดเลือดสมองต่อแล้วก็จะมีการ
00:50:47 → 00:50:49 รักษาเพิ่มเติมเช่นเค้าเรียกคล้ายๆเป็น
00:50:49 → 00:50:53 อ่าใส่ขดลวดไปขยะอ่าไปตรงหลอดเลือดโป่ง
00:50:53 → 00:50:55 พองนั้นหรือว่าเค้าเรียกเป็นใส่อุปกรณ์
00:50:55 → 00:50:58 ที่คล้ายๆเป็นคลิปที่ไปหนีบที่หลอดเลือด
00:50:58 → 00:51:01 ที่โป่งพองนะครับหรือว่าบางทีถ้าเป็นเกิด
00:51:01 → 00:51:04 จากอ่าเกล็ดเลือดต่ำก็จะต้องแบบรีบให้
00:51:04 → 00:51:08 เกล็ดเลือดเพื่อให้ไม่ให้ตัวเลือดออกใน
00:51:08 → 00:51:11 สมองเนี่ยเป็นมากขึ้นนะครับหรือบางคนถ้า
00:51:11 → 00:51:13 เป็นอ่าเกิดจากการที่ทานยากันเล็กแข็งตัว
00:51:13 → 00:51:15 แล้วทำให้เลือดแข็งตัวผิดปกติก็จะมีการ
00:51:16 → 00:51:19 ให้ยาที่เป็นตัวแล้วเป็นยาต้านฤทธิ์ยา
00:51:19 → 00:51:21 แข็งเลือกอ่ายาที่การเลือดแข็งตัวผิดปกติ
00:51:21 → 00:51:25 ครับก็จะช่วยให้แบบอ่าลดอ่าขนาดของเลือด
00:51:25 → 00:51:27 ที่หรือหมายถึงว่าป้องกันไม่ให้เลือดที่
00:51:27 → 00:51:30 ออกมันออกมากขึ้นได้นะครับค่ะคือคือสำคัญ
00:51:30 → 00:51:33 เนี่ยเลือดออกเนี่ยจะมีอ่าต้องต้องพยายาม
00:51:33 → 00:51:36 หาสาเหตุให้ได้ก่อนนะว่าเป็นจากอะไรครับ
00:51:36 → 00:51:40 จะได้รักษาให้ถูกต้องตามสาเหตุนะครับค่ะ
00:51:40 → 00:51:44 อย่างเส้นเลือดแตกเนี่ยอ่าอาจารย์คะมี
00:51:44 → 00:51:48 โอกาสที่จะรอดชีวิตมั้คะอ่ามีครับแต่ยัง
00:51:48 → 00:51:50 ไงก็ตามเนี่ยโอกาสที่จะต้องบอกเสียชีวิต
00:51:51 → 00:51:53 เนี่ยจะสูงกว่าต่อเลือดหลอดเลือดตีบนะ
00:51:53 → 00:51:55 ครับก็คือคือโดยรวมเนี่ยประมาณเสียชีวิต
00:51:55 → 00:51:58 ประมาณ 15% แต่ถ้าในพลคนที่เป็นหลอดเลือด
00:51:58 → 00:52:00 แตกหรือเลือดอ่อนในสมองเนี่ยอาจจะเพิ่ม
00:52:00 → 00:52:02 ขึ้นในบางการศึกษาเที่ขึ้นมากถึง 30% ได้
00:52:03 → 00:52:05 เลยครับที่มีการเสียชีวิตนะั้นเนี่ยต้อง
00:52:05 → 00:52:07 บอกว่าถ้าพูดถึงโอกาสการเสียชีวิตกับ
00:52:08 → 00:52:10 ทุกภาพเนี่ยเลือดออกในสมองหรือหลอดหลอด
00:52:10 → 00:52:13 เลือดแตกเนี่ยมีความเสี่ยงมากในการเกิด
00:52:13 → 00:52:16 ภาวะพวกนี้มากกว่าครับคืออย่างตีบตัน
00:52:16 → 00:52:18 เนี่ยเราเราก็ห่วงแหละแต่เราไม่ได้ห่วง
00:52:18 → 00:52:20 เยอะเหมือนแตกใช่มั้คะอาจารย์ครับเราจะ
00:52:21 → 00:52:24 หมายถึงว่าอันอ่าอันตรายในความรุนแรงหมาย
00:52:24 → 00:52:26 ถึงว่าความรุนแรงความรุนแรงจะจะมากกว่า
00:52:26 → 00:52:28 ครับแล้วก็เมื่อกี้ลืมพูดนิดนึงครับก็คือ
00:52:28 → 00:52:31 ในการรักษาอ่าสมองขาเลือดหรือว่าหลสมอง
00:52:31 → 00:52:33 ตีบหรือตันเฉียบพลันเนี่ยมันมีคำรักษาที่
00:52:33 → 00:52:36 ว่า Time is Brain อยู่ครับก็คือคำนี้
00:52:36 → 00:52:38 สำคัญก็คือหมายถึงว่าเวเวลาคือสมองก็หมาย
00:52:38 → 00:52:41 ความว่ายิ่งเราปล่อยให้เวลามันผ่านไปนาน
00:52:41 → 00:52:44 ขึ้นเนี่ยเซลล์สมองก็จะตายมากขึ้นนะครับ
00:52:44 → 00:52:46 แล้วก็พอเซลล์มีการตายมากขึ้นเนี่ยการ
00:52:46 → 00:52:49 ฟื้นตัวก็จะแย่ลงนะครับเพราะปกติเนี่ย
00:52:49 → 00:52:51 เซลล์สมองเนี่ยจะไม่ได้มีการสร้างใหม่แต่
00:52:51 → 00:52:53 ว่าจะมีการฟื้นตัวโดยเขาเรียกว่าเป็นการ
00:52:53 → 00:52:56 เชื่อมต่อของตัวเซลล์ประสาทแบบนี้ครับ
00:52:56 → 00:53:00 ยิ่งยิถ้าเซลล์สมองอ่ามีเหลือเยอะการการ
00:53:00 → 00:53:03 เชื่อมต่อก็มีโอกาสที่จะเกิดได้ง่ายขึ้น
00:53:03 → 00:53:06 ดีขึ้นแล้วก็พยากรณ์โรคในหรือว่าผลลัพธ์
00:53:06 → 00:53:11 ในระยะยาวก็มักจะดีกว่านะครับในคนที่อ่า
00:53:11 → 00:53:14 สมองอ่าขาดเลือดไปมากๆนะครับอ่าอาจารย์พอ
00:53:14 → 00:53:18 จะบอกได้มั้คะว่าสมองอ่ามันต้องตายไป
00:53:18 → 00:53:20 ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์มันถึงกลับมาเหมือน
00:53:20 → 00:53:22 เดิมไม่ได้แล้วเงี้ยคะเอ่อตรงนี้อาจจะไม่
00:53:22 → 00:53:25 ได้เท่าที่เท่าที่รู้เนี่ยอาจจะไม่ได้มี
00:53:25 → 00:53:28 ตัวเลขชัดเจนนะครับแต่ว่ามันจริงๆมัน
00:53:28 → 00:53:31 สำคัญว่าเป็นอ่าเป็นบริเวณไหนด้วยนะเพราะ
00:53:31 → 00:53:34 ว่าอาการของแต่ละบริเวณก็ไม่
00:53:34 → 00:53:39 แล้วก็คืออันแรกคือสภาพร่างกายของผู้ป่วย
00:53:39 → 00:53:41 เดิมนะครับนั่นคือในคนที่แบบอายุน้อยสมอง
00:53:41 → 00:53:44 เดิมดีอยู่เนี่ยโอกาสฟื้นตัวก็จะมีมาก
00:53:44 → 00:53:46 กว่าแต่ในคนที่เป็นผู้สูงอายุแล้วก็สมอง
00:53:47 → 00:53:49 เดิมเนี่ยมีรอยโรคเดิมอยู่มีความผิดปกติ
00:53:49 → 00:53:52 เดิมหรือสมองฝ่อเดิมเนี่ยโอกาสการฟื้นตัว
00:53:52 → 00:53:55 เนี่ยก็จะน้อยอ่าก็จะไม่ดีเท่าในคนที่
00:53:55 → 00:53:58 อายุน้อยหรือว่าสมองแต่เดิมดีอยู่แล้ว
00:53:58 → 00:54:01 ครับค่ะอ่ะที่ถามที่ถามอาจารย์หมอแบบนี้
00:54:01 → 00:54:04 ว่าถ้าเกิดว่าเส้นให้เลือดสมองแตกเนี่ย
00:54:04 → 00:54:06 มันมีเปอร์เซ็นต์ที่จะรอดชีวิตมากน้อย
00:54:06 → 00:54:10 ขนาดไหนเพราะไม่อยากให้หลายๆท่านไปถึงจุด
00:54:10 → 00:54:12 นั้นนะคะอาจารย์เราอยากจะให้สังเกตอาการ
00:54:12 → 00:54:15 ตัวเองก่อนว่าวันนี้เราอาจจะเป็นเส้น
00:54:15 → 00:54:17 เลือดในสมองเนี่ยมันอาจจะเป็นเฉียบพลัน
00:54:17 → 00:54:20 อาจจะมีอาการใดอาการหนึ่งโผล่ขึ้นมาก็ควร
00:54:20 → 00:54:23 รีบจะไปหาหมอไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนจนแบบ
00:54:23 → 00:54:25 ว่าจนให้มันแตกหรืออะไรอย่างเงี้ยนะคะ
00:54:25 → 00:54:27 เพราะบางทีถ้าเกิดว่าอาการมันเป็นรุนแรง
00:54:27 → 00:54:30 เนี่ยอาจจะรักษาไม่ทันนะคะอาจารย์อืก็
00:54:30 → 00:54:34 ต้องสังเกตอาการของตัวเองด้วยนะคะอ่ะคุณ
00:54:34 → 00:54:37 ผู้ชมมีคำถามมั้คะถ้าเกิดว่ามีคำถามพิมพ์
00:54:37 → 00:54:39 เข้ามาได้นะคะทาง YouTube สนอก Channel
00:54:39 → 00:54:42 ของเรานะคะเกี่ยวกับสตกนะคะอย่างที่หัว
00:54:42 → 00:54:45 ข้อวันนี้บอกเลยว่ารู้ทันสัญญาณเตือน
00:54:45 → 00:54:49 สโตรกรักษาไม่ทันอันตรายถึงชีวิตนะคะก็
00:54:49 → 00:54:51 ฟังอาจารย์หมอพูดไปแล้วนะคะว่ามันอันตราย
00:54:51 → 00:54:54 ยังไงบ้างแล้วมันต้องมีอาการยังไงบ้างการ
00:54:54 → 00:54:57 รักษาจะเป็นแบบไหนบ้างนะคะสุดท้ายค่ะอยาก
00:54:57 → 00:54:59 จะให้อาจารย์ทิ้งท้ายถึงวิธีการป้องกันละ
00:54:59 → 00:55:02 กันค่ะเราจะมีวิธีป้องกันยังไงบ้างสร้าง
00:55:02 → 00:55:05 ให้เราไม่ต้องไปถึงจุดนั้นเงี้ยคะอาจารย์
00:55:05 → 00:55:08 ครับก็วิธีป้องกันนะครับอย่างอย่างที่ได้
00:55:08 → 00:55:13 อ่าได้แจ้งไปนะครับก็พยายามอ่าลดปัจจัย
00:55:13 → 00:55:15 เสี่ยงนะครับลดปัจจัยเสี่ยงก็คือทั้งแบบ
00:55:15 → 00:55:18 การสูบบุหรี่ไม่สูบดีที่สุดนะครับแล้วก็
00:55:18 → 00:55:20 แอลกอฮอล์พวกดื่มสุราาแอลกอฮอล์เนี่ยก็
00:55:20 → 00:55:23 แนะนำให้ดื่มให้น้อยเช่นอย่างโดยถ้าเป็น
00:55:23 → 00:55:25 ทางสมาคมเราด้วยสมองอเมริกาเนี่ยเแนะนำ
00:55:25 → 00:55:28 ว่าถ้าผู้ชายเนี่ยไม่ควรดื่มเ่อเกิน 2
00:55:28 → 00:55:31 ริงต่อวันคำว่าคำว่า 1 ริงเนี่ย 1 ริง
00:55:31 → 00:55:33 หรือ 1 ดิดื่มเนี่ยหมายถึงก็คือเป็น
00:55:33 → 00:55:36 เบียร์กระป๋องเล็ก 1 กระป๋องหรือเป็น Y
00:55:36 → 00:55:39 ประมาณ 100 อ่า 100 ซีซ 100 มลตนะครับ
00:55:39 → 00:55:42 หรือว่าถ้าเป็นพวกแบบอ่าสุราวิสกี้ก็ไม่
00:55:43 → 00:55:46 เกินประมาณ 30-40 มลตนะครับก็คือผู้ชาย
00:55:46 → 00:55:50 เนี่ยควรจะไม่เกิน 2 ดื่มต่อวันผู้หญิง
00:55:50 → 00:55:52 เนี่ยไม่ควรเกิน 1 ดื่มต่อวันแต่ยังไงก็
00:55:52 → 00:55:55 ตามเนี่ยยิ่งน้อยก็ยิ่งดีนะครับเพราะว่า
00:55:55 → 00:55:57 ก็ลดความเสี่ยงในการเกิดทั้งหลอดเลือด
00:55:57 → 00:56:00 สมองแล้วก็จริงๆก็จะเป็นโรคอื่นๆด้วยเช่น
00:56:00 → 00:56:03 กันนะครับครับแล้วก็การพวกออกกำลังกาย
00:56:03 → 00:56:06 กิจกรรมทางกายเนี่ยในคนที่อ่าออกกำลังกาย
00:56:06 → 00:56:09 มีกิจทางกายมากกว่าก็มีโอกาสเสี่ยงในการ
00:56:09 → 00:56:11 เกิดลกเหลือสมองเฉียบพลันได้โดยเฉพาะพวก
00:56:11 → 00:56:14 ตีบได้น้อยกว่านะครับแล้วก็อ่าแนะนำ
00:56:14 → 00:56:16 เรื่องการตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อหาปัจจัย
00:56:16 → 00:56:18 เสี่ยงแล้วก็ถ้ามีปัจจัยเสี่ยงหรือมีโรค
00:56:18 → 00:56:21 เดิมก็ต้องพยายามควบคุมหรือรักษาปัจจัย
00:56:21 → 00:56:24 เสี่ยงนั้นให้ดีนะครับก็จะช่วยป้องกันโรค
00:56:25 → 00:56:28 หลอดเลือดสมองอ่าเจ็บพลันในอนาคตได้ครับ
00:56:28 → 00:56:32 อ่ะค่ะวันนี้ก็รู้ทันสัญญาณเตือนกันไป
00:56:32 → 00:56:35 แล้วนะคะว่าอาการแบบไหนที่เป็นสัญญาณ
00:56:35 → 00:56:38 เตือนของโรคสโตรกแล้วพอเป็นแล้วควรจะมาหา
00:56:38 → 00:56:42 หมอภายใน 4 ชม.ครึ่งนะคะจำตัวเลขนี้ให้ดี
00:56:42 → 00:56:45 แล้วก็ที่สำคัญอย่าลืมจำ 1669 ด้วยนะคะ
00:56:45 → 00:56:48 เป็นรถที่จะสามารถพาทุกท่านมาถึงมือหมอ
00:56:48 → 00:56:50 ได้เร็วที่สุดด้วยนะคะวันนี้ขอบพระคุณมาก
00:56:50 → 00:56:53 ๆเลยนะคะอาจารย์หมอที่มาพูดคุยให้ความรู้
00:56:53 → 00:56:56 แล้วก็ตอบคำถามเกี่ยวกับโรคศัตรูของเรา
00:56:56 → 00:56:59 หรือว่าโรคหลอดเลือดในสมองเฉียบพลันนะคะ
00:56:59 → 00:57:02 อาจารย์นายแพทย์ชยาศักดิ์วันทนียวงศ์ค่ะ
00:57:02 → 00:57:04 ท่านเป็นอาจารย์ประจำหน่วยวิชา
00:57:04 → 00:57:06 ปราสาทวิทยาภาควิชาอายุรศาสตร์คณะ
00:57:06 → 00:57:08 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขอบพระคุณ
00:57:08 → 00:57:12 อาจารย์มากๆค่ะครับและแน่นอนนะคะขอบพระ
00:57:12 → 00:57:14 คุณสำหรับการติดตามรับชมสำหรับรายการ
00:57:14 → 00:57:16 สุขภาพดีกับหมอสนอกวันนี้ด้วยนะคะท่านไหน
00:57:16 → 00:57:20 ที่รับชมสดๆวันนี้ไม่ทันนะคะก็สามารถกลับ
00:57:20 → 00:57:23 มาชมย้อนหลังทาง YouTube ของเราได้รวมไป
00:57:23 → 00:57:26 ถึงรายการของเรานะคะจะไปออกอากาศนะคะที่
00:57:26 → 00:57:29 NBT เชียงใหม่ช่อง 11 นะคะท่านก็สามารถ
00:57:29 → 00:57:32 ติดตามรับชมได้และท่านไหนที่บอกว่าเอ๊ะ
00:57:32 → 00:57:35 อยากฟังแต่เสียงนะคะก็ไปรับฟังได้ผ่านทาง
00:57:35 → 00:57:39 FM 100 นะคะสวท.ฝางแล้วก็หลายๆสวท.หลาย
00:57:39 → 00:57:41 ๆเครือข่ายที่นำรายการของเราไปออกอากาศ
00:57:41 → 00:57:44 ด้วยนะคะสัปดาห์หน้าค่ะจะเป็นประเด็น
00:57:44 → 00:57:48 สุขภาพเกี่ยวกับโรคอะไรต้องติดตามกันผ่าน
00:57:48 → 00:57:50 ทางหน้าเพจสุขภาพดีกับหมอสวนดอกนะคะวัน
00:57:50 → 00:57:53 นี้หมดเวลาลงแล้วค่ะทิพพร้อมกับอาจารย์
00:57:53 → 00:57:55 หมอแล้วก็ทีมงานลาทุกท่านไปก่อนนะคะ
00:57:55 → 00:58:04 ขอบพระคุณและสวัสดีค่ะ
00:58:04 → 00:58:12 [เพลง]