สมองเสื่อมเกิดจากอะไรบ้าง และคนอายุน้อยก็สามารถเป็นได้ไหม

[PODCAST] Well-Being | EP.6 - อาหารบำรุงสมองเสริมความจำ | Mahidol Channel

จากช่อง : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 [เสียงดนตรี]

00:00:0300:00:06 You're listening to Mahidol Channel Podcast.

00:00:0600:00:08 Listen for a better life.

00:00:0800:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

00:00:1100:00:14 และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel

00:00:1400:00:16 โดย มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:1600:00:22 [เสียงดนตรี]

00:00:2200:00:25 เพราะเป้าหมายของเราทุกคน คือการมีชีวิตที่ดี

00:00:2500:00:28 มาพัฒนาตัวเราให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

00:00:2800:00:33 กับรายการ Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดี สร้างได้

00:00:3300:00:36 กับผม อาจารย์เต้ ระพี บุญเปลื้อง

00:00:3600:00:39 จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:3900:00:41 [เสียงดนตรี]

00:00:4100:00:45 สวัสดีครับ อยู่กับรายการ Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดี สร้างได้

00:00:4500:00:49 กับผม อ.เต้ ระพี บุญเปลื้อง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:5000:00:53 ไม่รู้ว่าคุณผู้ชมคุณผู้ฟัง รู้สึกเหมือนผมหรือเปล่านะครับ

00:00:5400:00:56 พออายุมากขึ้นแล้วนี่

00:00:5600:01:01 ความจำมันก็เริ่มจะแย่ลง เมื่อวันก่อนหาว่านาฬิกาอยู่ที่ไหน

00:01:0100:01:04 หาอยู่นาน แล้วก็พบว่า อ๋อ มันอยู่ที่ข้อมือนี่แหละ

00:01:0400:01:08 หรือคำบางคำที่เราอยากจะพูด แต่มันติดอยู่ที่ปากนี่แหละ

00:01:0800:01:13 3 วันก็แล้ว ยังนึกไม่ออกว่าคำที่จะพูดมันคืออะไร

00:01:1300:01:19 อาการอย่างนี้มันคืออาการแสดงถึง ความเสื่อมของสมองหรือเปล่า

00:01:1900:01:22 หรือว่ามันเป็นแค่การหลงลืมเท่านั้น

00:01:2200:01:25 วันนี้ครับ เราจะได้คุยกับคุณหมอเอ๋ครับ

00:01:2500:01:28 ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:01:2800:01:29 ภาควิชาอายุรศาสตร์

00:01:2900:01:33 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

00:01:3300:01:35 - คุณหมอเอ๋ครับ สวัสดีครับ - สวัสดีค่ะ

00:01:3500:01:37 คุณหมอเอ๋ครับ อาการที่ผมพูดเมื่อสักครู่นี้

00:01:3700:01:39 มันคือสมองเสื่อมหรือเปล่า

00:01:3900:01:42 จริง ๆ แล้วเรารู้จักคำว่าสมองเสื่อมก่อนเนอะ

00:01:4200:01:46 คำว่า "สมองเสื่อม" ก็คือ ฟังก์ชันหรือการทำงานของสมองมันลดลง

00:01:4600:01:50 เพราะฉะนั้น คนทั่วไป จะชอบเอาความจำที่เราลืมอะไรอย่างนี้

00:01:5000:01:51 แล้วก็จะมาบอกว่านี่คือสมองเสื่อม

00:01:5200:01:57 จริง ๆ แล้วความจำเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ของการทำงานของสมอง

00:01:5700:02:02 สมองมีหน้าที่อื่นอีกเยอะเลย ที่จะทำให้ทำงานได้เยอะแยะ

00:02:0200:02:05 เพราะฉะนั้น คงจะไม่ได้บอกว่า

00:02:0500:02:08 มันจะเป็นสมองเสื่อมกับการที่เราจำของไม่ได้

00:02:0800:02:10 แต่มันคงต้องมีหลาย ๆ อย่างร่วมกันนะคะ

00:02:1000:02:12 ข้อสังเกตคืออย่างนี้ค่ะ

00:02:1200:02:16 ถ้าสมมุติว่าของที่เราลืม เป็นของที่มันไม่สำคัญ

00:02:1600:02:19 เป็นของที่เราอาจจะไม่ได้ ให้ความสำคัญในขณะนั้น

00:02:1900:02:22 เราไม่ได้โฟกัส ณ ตรงนั้นอย่างนี้ค่ะ

00:02:2200:02:25 มันก็จะทำให้เราลืมง่าย ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่น

00:02:2500:02:27 อาจารย์อาจจะยุ่งกับอะไรสักอย่างหนึ่ง

00:02:2700:02:29 แล้วอาจารย์ก็ถอดแว่นวางเอาไว้

00:02:2900:02:31 หรือว่าอาจารย์จะเอาแว่น ขึ้นมาอยู่ข้างบนศีรษะ

00:02:3200:02:35 แล้วอาจารย์ก็ทำปุ๊บ พออาจารย์หยุดโฟกัสกับตรงนั้น

00:02:3500:02:36 แล้วอาจารย์ก็เริ่มมาหาแว่น

00:02:3600:02:38 อาจารย์ก็จำไม่ได้ว่าแว่นอาจารย์อยู่ตรงไหน

00:02:3800:02:39 นึกออกเลย

00:02:3900:02:42 แต่เพราะว่าอาจารย์ไม่ได้โฟกัสกับแว่น เป็นสำคัญ

00:02:4200:02:45 เพราะฉะนั้น มันหลุดโฟกัสไป อาจารย์ก็จะลืมได้อย่างนี้ค่ะ

00:02:4500:02:51 - ทีนี้อันนี้เขาจะเรียกว่า ขี้ลืมมากกว่า - อ๋อ ขี้ลืม

00:02:5100:02:54 ทีนี้จะมีอาจารย์ผู้ใหญ่ท่านนึงจะชอบบอกว่า

00:02:5400:02:56 ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เวลาคนไข้ลืมพวกนี้นะ

00:02:5600:03:00 แล้วมาถามเธอว่าฉันจะสมองเสื่อมหรือยัง ฉันจะความจำเสื่อมหรือยัง

00:03:0000:03:04 เกือบจะร้อยทั้งร้อย ยังปกติอยู่

00:03:0400:03:08 เพราะว่าส่วนใหญ่คนที่จะบอกว่าสมองเสื่อมนะคะ

00:03:0800:03:10 ส่วนใหญ่คนไข้มักจะไม่ใช่คนที่มาบอกหมอ

00:03:1000:03:11 อ๋อ

00:03:1100:03:13 - แต่จะเป็นคนดูแล ญาติที่ใกล้ชิด - คนข้าง ๆ

00:03:1300:03:16 ใช่ จะสังเกตว่าอันนั้นอันนี้อะไรอย่างนี้ค่ะ

00:03:1600:03:19 อันนึงที่เจอบ่อย ๆ คือ เรื่องของพฤติกรรมค่ะอาจารย์

00:03:1900:03:22 หลายคนพฤติกรรมเปลี่ยนไปนะคะ

00:03:2200:03:24 เขาเรียกว่าเป็นระบบเรื่องของพฤติกรรมถดถอย

00:03:2400:03:27 อารมณ์อาจจะไม่ค่อยนิ่ง

00:03:2700:03:29 การนอนหรืออะไรอย่างนี้จะผิดปกติไปนะคะ

00:03:2900:03:32 อันนี้ก็จะเป็นอันนึงที่เจอบ่อยนะคะ

00:03:3200:03:35 ส่วนใหญ่มันจะค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป

00:03:3500:03:40 จนบางทีเราสังเกตไม่ได้ เรามาอีกทีนึง เอ๊ะ เรารู้สึกว่ามันผิดปกติไปลักษณะนี้นะคะ

00:03:4000:03:45 แล้วก็สมองเสื่อม ก็มักจะเจอในคนที่อายุมาก

00:03:4500:03:45 อืม

00:03:4500:03:47 อันนี้หมายถึงว่าทั่ว ๆ ไปเนอะ

00:03:4700:03:48 ก็จะเจอในคนที่อายุมาก

00:03:4800:03:52 โดยเฉลี่ยก็ 65 ปีขึ้นไป ก็จะเริ่มเจอเยอะขึ้นนะคะ

00:03:5200:03:54 ทีนี้ คงต้องมาตรวจค่ะ

00:03:5400:03:57 เพราะว่ามันจะเป็นฟังก์ชัน หรือเป็นการทำงานโดยรวมของสมอง

00:03:5700:04:00 แล้วคงไม่ได้พูดถึง เรื่องของความจำแค่อย่างเดียว

00:04:0000:04:03 ทีนี้อาการสมองเสื่อมครับ คุณหมอเอ๋ครับ

00:04:0400:04:07 มันเกิดขึ้นกับคนที่อายุสูงเท่านั้นหรือเปล่า

00:04:0700:04:09 หรือว่าคนที่อายุน้อยก็มีอาการสมองเสื่อมได้

00:04:1000:04:13 การทำงานของสมองเหมือนที่บอกค่ะ ว่าในอายุน้อยได้ไหม เจอได้ค่ะ

00:04:1300:04:18 แต่ส่วนใหญ่ ต้องใช้คำนี้นะคะ ส่วนใหญ่มักจะมีเหตุอื่น ๆ เหตุปัจจัยอื่น

00:04:1800:04:20 เวลาที่เราหา เราบอกว่า เอ๊ะ มันเกิดขึ้นของมันเอง

00:04:2000:04:22 หรือมันมีปัจจัยอื่น แล้วทำให้มันเป็น

00:04:2200:04:25 ยกตัวอย่างนะคะ เรามีเส้นเลือดไปเลี้ยงใช่ไหมคะ

00:04:2500:04:29 แล้วคน ๆ นี้ เขามีเส้นเลือดอุดตัน สัก 2 รอบ

00:04:2900:04:30 เป็น Stroke ซัก 2 รอบ

00:04:3000:04:34 แน่นอนค่ะ การทำงานของสมอง ไม่เหมือนเดิมแน่นอนใช่ไหมคะ

00:04:3400:04:36 อันที่สองค่ะ คนที่อาจจะเป็นเรื่องของสารเสพติด

00:04:3600:04:39 หรือสารพิษบางอย่างใช่ไหมคะ

00:04:3900:04:45 กินเข้าไปแล้วแบบว่า ความคิด ความจำ หรือว่าพฤติกรรมจะเปลี่ยนไปนะคะ

00:04:4500:04:47 อีกกลุ่มหนึ่งก็จะเป็นยาลดความอ้วนบางตัว

00:04:4700:04:50 ซึ่งถ้าเยอะเกินไป เพราะว่าตัวนั้น มันจะเป็นอนุพันธ์ของยาบ้า

00:04:5100:04:54 ถ้าได้เป็นระยะเวลายาวนาน ไม่เหมาะสมนะคะ

00:04:5400:04:59 ก็อาจจะทำให้การทำงานของสมองในภาพรวม ลดลงได้ ลักษณะนี้นะคะ

00:04:5900:05:01 แล้วก็อื่น ๆ อย่างเช่น

00:05:0100:05:04 มีโรคอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้มีผลกับสมองเนอะ

00:05:0500:05:07 สมมุติเป็นเบาหวานอย่างนี้ใช่ไหมคะ

00:05:0700:05:09 เป็นมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็เส้นเลือดมันตีบ

00:05:0900:05:12 มันก็อาจจะมีผลได้เหมือนกัน ลักษณะนี้ค่ะ

00:05:1200:05:15 ความเครียดมันทำให้เราสมองเสื่อมได้ไหม

00:05:1500:05:19 ความเครียด มันเหมือนกับว่าเป็นการที่เราใช้งาน

00:05:1900:05:21 ความเครียดในที่นี้มันก็จะเชิงบอกว่า

00:05:2100:05:22 อาจารย์เครียดมาก

00:05:2200:05:25 เวลาที่อาจารย์ทำงาน ในภาวะที่มันมีความตึงเครียดนี่

00:05:2500:05:28 คงต้องบอกว่า ประสิทธิภาพของการทำงานอาจจะไม่ได้ดีมากนัก

00:05:2800:05:31 อาจารย์มีความเครียดน้อย ๆ นี่ มันกระตุ้นอาจารย์นะ

00:05:3100:05:33 อาจารย์จะตื่นตัวตลอดเวลา อาจารย์นึกภาพออกไหม

00:05:3300:05:36 อาจารย์กำลังจะสอนแล้ว อาจารย์ยังทำสไลด์ไม่เสร็จนี่

00:05:3600:05:38 - เครียดมากแล้ว - เครียดแล้ว เครียดแล้วตอนนี้ใช่ไหมคะ

00:05:3800:05:40 แต่เป็นความเครียดที่อาจารย์จะนอนไม่หลับ

00:05:4000:05:43 แล้วอาจารย์ก็แบบ... ตอนนั้นนี่จะต้องทำให้เสร็จใช่ไหมคะ

00:05:4300:05:46 แต่ถ้าสมมุติว่า มันเครียดมาก ๆ นี่

00:05:4600:05:49 ตอนนั้นอาจารย์จะแบบ… รู้สึกมันเศร้ามาก มันหดหู่มาก

00:05:4900:05:51 อาจารย์จะทำอะไรไม่ได้อะไรอย่างนี้ค่ะ

00:05:5100:05:54 เพราะฉะนั้น จริง ๆ แล้ว ความเครียดนิด ๆ มันก็จะเป็นตัวกระตุ้น

00:05:5400:05:57 แต่มากเกินไปก็จะไม่โอเคนะคะ

00:05:5700:06:00 ทีนี้ถ้าอาจารย์อยู่ในความเครียดบ่อย ๆ นะคะ

00:06:0000:06:03 มันก็เหมือนกับว่าอาจารย์มีเครื่องจักร สมองอาจารย์เป็นเครื่องจักร

00:06:0300:06:06 แล้วอาจารย์ใช้งานมันแบบโอเวอร์โหลด ทำโอทีทุกวัน

00:06:0600:06:07 พังง่ายแน่นอน

00:06:0700:06:08 นึกออกไหมคะ

00:06:0800:06:10 ถ้าอาจารย์ไม่ใช้เลย

00:06:1000:06:12 มันก็จะฝืด มันก็จะมีปัญหาอยู่ดี

00:06:1200:06:14 เพราะฉะนั้น จริง ๆ มันก็ควรจะต้องใช้เนอะ

00:06:1400:06:16 แต่ว่าต้องมีช่วงเวลาให้เขาพักบ้าง

00:06:1600:06:20 เพราะฉะนั้น อาจารย์มีความเครียดได้ แต่อาจารย์ไม่ควรจะเครียดตลอดเวลา

00:06:2000:06:22 เพราะว่าเวลาที่อาจารย์มีความเครียดเยอะ ๆ

00:06:2200:06:24 สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคืออนุมูลอิสระ

00:06:2400:06:24 อืม

00:06:2400:06:26 การอักเสบ เห็นไหมคะ

00:06:2600:06:28 อันนี้ก็จะทำให้อาจารย์แย่ลงได้ค่ะ

00:06:2800:06:30 อ๋อ มันเชื่อมโยงกันไปหมดเลยนะครับ

00:06:3000:06:31 ถ้าสุขภาพของหลอดเลือดดี

00:06:3100:06:34 ถ้าเผื่อเรื่องของอนุมูลอิสระมันน้อยลง

00:06:3400:06:36 เรื่องของการอักเสบมันควบคุมได้

00:06:3600:06:39 มันก็จะทำให้การหล่อลื่นของสมองมันดีขึ้น

00:06:3900:06:42 เหมือนสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมอย่างนี้ค่ะ

00:06:4200:06:44 เพราะว่าสมองเรามันไม่มีสร้างใหม่แล้ว

00:06:4400:06:47 อาจารย์ก็ต้องทำให้มันอยู่ในสภาวะที่มัน...

00:06:4700:06:50 อยู่ในสภาวะที่มันจะสามารถอยู่ของมันได้นาน ๆ

00:06:5000:06:52 คุณหมอเอ๋พูดคำว่า ไม่มีการสร้างใหม่แล้ว

00:06:5200:06:53 มันแปลว่าอะไรครับ

00:06:5400:06:57 ก็คือเราจะไม่มีการเพิ่มจำนวนของ เซลล์ประสาทกันแล้วใช่ไหม

00:06:5700:06:59 มันไม่ได้เพิ่มแล้วค่ะ แต่ว่ามันก็คือเหมือนกับว่า

00:06:5900:07:01 มันจะมีขอบเขตในการปรับตัว

00:07:0100:07:04 ต้องบอกอย่างนี้ก่อนนะ เพราะเดี๋ยวคนจะบอกว่า อุ๊ย ตายแล้ว มันพัง

00:07:0400:07:06 ไม่หรอกค่ะ มันมีการปรับตัว

00:07:0600:07:08 สังเกตว่าคนไข้ที่เป็น Stroke เองก็ตามนี่

00:07:0800:07:12 พอถึงเวลาหนึ่ง ร่างกายก็จะมีการปรับตัวที่จะทำได้นะคะ

00:07:1200:07:14 แต่ว่ามันเป็นการปรับตัวของเซลล์สมอง

00:07:1500:07:18 ก็คือเซลล์สมองที่เคยทำหน้าที่แบบนี้

00:07:1800:07:20 อยู่ ๆ เพื่อนเซลล์สมองมาตายไป

00:07:2000:07:21 ก็เลยไปทำหน้าที่แทน

00:07:2100:07:24 เขาอาจจะมีการปรับตัวให้ทำงานได้ดีขึ้น อะไรอย่างนี้

00:07:2400:07:27 หรือว่าตัวที่มันอาจจะ ตอนแรกมันขาดเลือดไป

00:07:2700:07:29 พอมันมีเลือดมา บางส่วนมันก็จะดีขึ้น

00:07:2900:07:31 ส่วนที่ตายมันก็จะยังมีอยู่อะไรอย่างนี้ค่ะ

00:07:3100:07:33 แต่เหมือนกับเราก็คงมี reserve ค่ะ

00:07:3300:07:37 ไม่ได้หมายความว่า มันขาดไปปุ๊บ แล้วมันทำงานไม่ได้เลย 100% อะไรอย่างนี้

00:07:3700:07:40 คุณหมอเอ๋ เป็นคุณหมอที่เชี่ยวชาญเรื่องของโภชนาการ

00:07:4000:07:41 เรื่องของอาหารเลยแหละ

00:07:4200:07:44 ทีนี้ผมก็เลยจะเอาสองเรื่องนี้มาโยงกัน

00:07:4400:07:47 ว่ามันจะมีอาหารประเภทไหนไหม

00:07:4700:07:52 ที่จะช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง ซึ่งมันเป็นไปตามวัยครับ

00:07:5200:07:52 โอเค

00:07:5200:07:54 เอาง่าย ๆ ก่อน

00:07:5400:07:57 จริง ๆ สมองเรานี่ อันที่หนึ่งก็คือตัวสมองเองนะคะ

00:07:5700:07:59 แล้วก็ความเสื่อมที่จะเกิดขึ้น เกิดจากอะไร

00:07:5900:08:02 สมมุติว่าเส้นเลือดไปเลี้ยงสมองลดลง

00:08:0200:08:06 อาจารย์ก็จะมีปัญหา เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่มีผลต่อเส้นเลือด

00:08:0600:08:08 พวกคอเลสเตอรอล เบาหวาน ไขมัน

00:08:0800:08:11 อาจารย์นึกภาพออกใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นพวกนั้นก็ต้องไปจัดการให้ดี

00:08:1200:08:13 อันที่สอง

00:08:1300:08:16 กระบวนการที่อาจจะทำให้สมองเสื่อม เช่น

00:08:1600:08:17 อนุมูลอิสระ

00:08:1700:08:20 เพราะฉะนั้นพวกนี้พวกอาหาร

00:08:2000:08:22 หรือว่าอะไรก็ตาม ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระก็มาแล้ว

00:08:2300:08:24 การอักเสบที่เกิดขึ้น

00:08:2400:08:27 เพราะฉะนั้น อะไรก็ตามที่จะไปลดการอักเสบ ก็จะได้แล้ว

00:08:2700:08:33 อาหารประเภทไหนที่จะช่วยในการที่ทำให้ สุขภาพของหลอดเลือดของเรามันดี

00:08:3300:08:35 อาหารประเภทไหนที่จะช่วยลดอนุมูลอิสระ

00:08:3500:08:38 อาหารประเภทไหนที่จะลดการอักเสบ

00:08:3800:08:41 อันที่หนึ่ง ในเรื่องของเรื่อง พวกของสารต้านอนุมูลอิสระ

00:08:4100:08:45 เราจะได้ยินบ่อยมากเลย อย่างเช่น พวกสมุนไพรทั้งหลายที่เราจะได้ยินกัน

00:08:4500:08:48 พวกนี้จะมีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นตัวหลัก

00:08:4800:08:52 อ๋อ ต้องบอกว่าเวลาที่เราจะไปเลือก แล้วหลาย ๆ คนจะพูดนี่ คำถามคือ

00:08:5200:08:56 สิ่งที่เกิดขึ้น คุณสมบัติของสารนั้น ทำในหลอดทดลอง ทำในหนู

00:08:5600:08:57 หรือว่าทำในคน

00:08:5700:09:01 ส่วนของอาหาร ก็จะเป็นพวกผักผลไม้เป็นหลัก

00:09:0100:09:04 ที่จะทำให้มีพวกสารต้านอนุมูลอิสระ เยอะขึ้นใช่ไหมคะ

00:09:0400:09:07 - ช็อกโกแลตก็ได้ - ช็อกโกแลตก็ได้นะครับ

00:09:0700:09:08 ใช่ ช็อกโกแลตนะคะ

00:09:0800:09:10 อาจารย์คะ อาจารย์กินดาร์กช็อกโกแลตนะคะ

00:09:1000:09:11 อ้าว หรือครับ

00:09:1100:09:14 อาจารย์กินเป็นมิลค์ช็อกโกแลต หรือเป็นช็อกโกแลตหวานเรื่อย ๆ

00:09:1400:09:15 อาจารย์ก็อาจจะอ้วนขึ้นได้

00:09:1500:09:17 - นั่นคือน้ำตาลทั้งนั้น - เพราะฉะนั้นดาร์กช็อกโกแลตน่าจะดีกว่า ใช่

00:09:1700:09:19 ก็จะเป็นพวกผักผลไม้

00:09:1900:09:22 พวกนี้ก็จะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ค่อนข้างเยอะนิดนึงนะคะ

00:09:2200:09:26 เพราะฉะนั้น ถ้าสังเกตก็คือ เวลาคนที่กินผักผลไม้เยอะขึ้นใช่ไหมคะ

00:09:2600:09:29 โรคหัวใจก็น้อยลง โรคหลอดเลือดสมองก็น้อยลง อะไรอย่างนี้

00:09:2900:09:31 มันก็จะไปด้วยกัน

00:09:3100:09:33 เวลาที่พูดถึงสารต้านอนุมูลอิสระ

00:09:3300:09:36 หลาย ๆ คนคงจะนึกสงสัยในใจแล้ว

00:09:3600:09:39 ว่าอนุมูลอิสระมันไม่ดีอย่างไร มันไปทำอะไรกับเซลล์เราเหรอ

00:09:3900:09:40 โอเคค่ะ

00:09:4000:09:42 พอเมื่อมีอนุมูลอิสระขึ้นมาปุ๊บนี่

00:09:4200:09:45 เขาก็จะต้องพยายามไปหาคู่

00:09:4500:09:48 ถ้ามันไม่มีคู่ปุ๊บ มันก็จะไปทำร้ายชาวบ้านถูกไหมอาจารย์

00:09:4800:09:50 เพราะฉะนั้น อาจารย์อย่าปล่อยให้มันโดดเดี่ยว

00:09:5000:09:52 อาจารย์ต้องมีอะไรไปจัดการมัน

00:09:5200:09:53 ชีวิตของเราก็เช่นกัน

00:09:5300:09:54 [เสียงหัวเราะ]

00:09:5400:09:57 แล้วก็ทีนี้ก็คือสารต้านอนุมูลอิสระ

00:09:5700:10:01 มันจะไปจับ แล้วทำให้ตัวนี้ มันไม่ไปทำร้ายเซลล์ของเรานะคะ

00:10:0100:10:04 มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาจะบอกว่า เวลาจะกินผักผลไม้นี่

00:10:0400:10:05 ให้อาจารย์เลือก 5 สี วันนึง

00:10:0500:10:07 เพราะว่าในผักแต่ละชนิด

00:10:0700:10:09 มันจะมีสารไม่เหมือนกัน

00:10:0900:10:11 เช่น สีเขียวก็จะมีชนิดหนึ่ง

00:10:1100:10:13 สีแดงก็จะมีชนิดหนึ่ง

00:10:1300:10:14 สีขาวก็จะมีชนิดหนึ่ง

00:10:1400:10:16 แล้วก็สีดำก็จะมีชนิดหนึ่งอะไรอย่างนี้

00:10:1600:10:21 เพราะฉะนั้นนี่ทุก ๆ อย่าง พออาจารย์กินปุ๊บ อาจารย์ก็จะได้สารอนุมูลอิสระในหลาย ๆ จุด

00:10:2100:10:23 เราก็เลยบอกว่าให้พยายามกินหลาย ๆ อัน

00:10:2300:10:25 แอปเปิลจะเป็นอีกตัวนึงที่อาจารย์จะได้ยิน

00:10:2500:10:26 ถ้าเป็นผักสีเขียวเข้ม ๆ

00:10:2600:10:29 ที่เป็นท็อปฮิตหน่อยก็จะเป็นพวกผักโขมแล้ว

00:10:2900:10:33 อย่างนี้ก็แสดงว่าคนที่ชอบกินผักผลไม้

00:10:3300:10:37 ก็จะได้ประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระ ที่อยู่ในอาหารเหล่านี้

00:10:3700:10:40 แล้วคนที่อาจจะไม่ค่อยได้ชอบผักสักเท่าไหร่

00:10:4000:10:43 ก็จะได้สารต้านอนุมูลอิสระจากทางไหนบ้างครับ

00:10:4300:10:45 ก็ถ้าเกิดย้อนกลับไปนี่ เราก็จะเคยได้ยินว่า

00:10:4500:10:50 โอเค กินน้ำมันใช่ไหมคะ กินน้ำมัน หรือว่ากินพวกของเนื้อสัตว์จะอาจจะไม่ดี

00:10:5000:10:51 จะมีเรื่องของคอเลสเตอรอล

00:10:5100:10:55 กลับไปที่เดิมเลย เส้นเลือดมันก็จะมีปัญหาถูกไหมคะ

00:10:5500:10:57 ถ้าสมมุติว่าอาจารย์กินเนื้อสัตว์เยอะ ๆ

00:10:5700:10:59 อาจารย์ก็อาจจะมีปัญหาได้เหมือนกันใช่ไหมคะ

00:10:5900:11:04 เพราะฉะนั้น จริง ๆ แล้ว พอมันกลับมาสู่ อาหารที่เป็น Healthy หรืออะไรอย่างนี้

00:11:0400:11:05 มันก็จะกลับมาที่จุดเดิมเลย

00:11:0500:11:09 เพราะว่าทุกอย่างมันเกี่ยวข้องกับเส้นเลือด เกี่ยวข้องกันหมดเลยใช่ไหมคะ

00:11:0900:11:10 ในส่วนของไข่เองนี่

00:11:1000:11:14 ในไข่แดง มันก็จะมีสารตัวนึงที่ชื่อว่า โคลีน

00:11:1400:11:18 แล้วโคลีนมันก็จะเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะไปเป็นสารสื่อประสาท

00:11:1800:11:22 มันก็ไม่ใช่เฉพาะในไข่แดงเนอะ มันก็จะมีในตับ ในอะไรอย่างนี้

00:11:2200:11:24 ก็มีอยู่เยอะเหมือนกันนะคะ

00:11:2400:11:26 เพราะฉะนั้น เราก็แค่กินอาหารให้มันครบถ้วน

00:11:2600:11:29 แล้วผู้ใหญ่เอง บางทีเขาไม่ยอม กินเนื้อแล้วค่ะ เขาก็กินน้อย

00:11:2900:11:32 แล้วไข่แดงก็ไม่กิน เพราะกลัวคอเลสเตอรอลโน่นนี่นั่น

00:11:3200:11:35 ก็เลยอาจจะบอกว่า กลุ่มนี้กินก็อาจจะได้ประโยชน์

00:11:3500:11:37 แต่ว่าต้องดูในรูปแบบของอาหารทั้งหมด

00:11:3700:11:39 โดยที่แพทเทิร์นคือ หนึ่ง ไขมันต้องต่ำ

00:11:4000:11:42 อาหารที่เป็นไขมันอิ่มตัวต้องต่ำด้วย

00:11:4200:11:45 แล้วไม่เคยมีใครพูดว่า กินคอเลสเตอรอลได้อันลิมิต

00:11:4500:11:48 เพียงแต่ว่าเมื่อก่อนที่ขีดไว้ ที่ 300 ไม่ใช่แล้ว

00:11:4800:11:50 แต่ให้เอาอาหารที่มีคอเลสเตอรอล

00:11:5000:11:54 ผสมลงไปในอาหาร ที่เรามองว่าเป็น Healthy Food อันนี้โอเค

00:11:5400:11:55 เพราะฉะนั้น คงไม่ผิด

00:11:5500:11:58 อันที่สาม เวลาที่อาจารย์กินไข่เข้าไป

00:11:5800:12:00 หรือว่าคอเลสเตอรอลในอาหาร

00:12:0000:12:03 แต่ละคนตอบสนองไม่เหมือนกัน เป็นกรรมพันธุ์

00:12:0300:12:05 แล้วทีนี้ อันนึงที่เจอร่วมกันก็คือ

00:12:0500:12:07 HDL หรือไขมันที่ดีมันสูงไง

00:12:0700:12:10 จริง ๆ ก็ไม่ได้มีใครผิด ไม่ได้มีใครถูก

00:12:1000:12:14 แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่า การเอาอาหารชนิดเดียวมาเป็นตัวตัดสิน

00:12:1400:12:16 ว่าอันนี้ดีหรือไม่ดี

00:12:1600:12:19 แต่คงต้องดูแพทเทิร์น หรือว่าการกินทั้งวันของเขาค่ะ

00:12:1900:12:22 พ่อแม่มักจะสอนลูกเสมอครับคุณหมอเอ๋ว่า

00:12:2200:12:26 อาหารเช้า มันเป็นอาหารมื้อที่สำคัญ

00:12:2600:12:29 สำหรับคนที่เป็นผู้ใหญ่ สำหรับคนที่สูงอายุแล้ว

00:12:3000:12:32 อาหารเช้ามันยังสําคัญอยู่ไหม

00:12:3200:12:35 แล้วมันจะทำให้สมองปลอดโปร่งไปได้ทั้งวัน จริงหรือเปล่าครับ

00:12:3500:12:38 อย่างนี้ค่ะอาจารย์ ต้องบอกว่า เวลาที่อาจารย์อดนอนปั๊บนี่

00:12:3800:12:40 เหมือนที่บอก ร่างกายอาจารย์ใช้พลังงาน

00:12:4000:12:43 ไม่แคร์เลยว่า พลังงานอาจารย์มาจากอะไรถูกไหมคะ

00:12:4300:12:46 เพราะฉะนั้น เมื่ออาจารย์ไม่กินอาหารปั๊บ อาจารย์ไม่มีน้ำตาลเข้าไปเนอะ

00:12:4600:12:46 อืม

00:12:4600:12:49 สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ร่างกายจะมีการสลายไขมัน

00:12:4900:12:53 หรือว่าสลายสิ่งที่เป็นพลังงานสะสม

00:12:5300:12:56 เพื่อจะให้มีน้ำตาลออกมา สร้างเป็นพลังงานนะคะ

00:12:5600:13:00 ซึ่งทั่วไป พลังงานสะสมอันแรก ที่เขามาใช้ มันจะอยู่ที่ตับ

00:13:0100:13:02 มันจะอยู่ได้ประมาณสัก 7-8 ชั่วโมง

00:13:0200:13:05 ซึ่งมันเพียงพอนะคะสำหรับการนอนหลับคืนนึง

00:13:0500:13:07 แต่ถ้าเกิดอาจารย์ยังไม่กินต่อจากนั้นอีกนี่

00:13:0700:13:09 ร่างกายอาจารย์จะเริ่มเอาไขมันมาใช้แล้ว

00:13:0900:13:10 อา...

00:13:1000:13:14 พออาจารย์เริ่มสลายไขมันมากขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นมันก็จะมี

00:13:1400:13:17 คล้าย ๆ กับเวลาที่อาจารย์เผาผลาญน้ำมัน เผาผลาญไม่สมบูรณ์น่ะ

00:13:1700:13:18 อืม

00:13:1800:13:22 มันก็จะมีสารตัวนึงที่เกิดขึ้น จากการสลายไขมันที่เราเรียกว่า คีโตน

00:13:2200:13:24 ทีนี้พอมันมีคีโตนปั๊บนี่

00:13:2400:13:25 สิ่งที่เกิดขึ้น

00:13:2500:13:30 มันจะทำให้เรารู้สึกเหมือนเบื่ออาหาร รู้สึกเหมือนคลื่นไส้ หรืออะไรแบบนี้

00:13:3000:13:33 ที่คนที่เขาจะอดอาหารอยู่นาน ๆ

00:13:3300:13:35 อันที่สองก็คือว่า

00:13:3500:13:38 พอเวลาน้ำตาลมันเริ่มตก หรือว่าไม่มีน้ำตาลเข้าไป

00:13:3800:13:42 ความกระฉับกระเฉงหรืออะไรอย่างนี้ มันจะไม่ค่อยดีมากนัก

00:13:4200:13:45 เพราะฉะนั้นพออาจารย์กินน้ำตาลเข้าไป แล้วอาจารย์รู้สึกสดชื่น

00:13:4500:13:47 อาจารย์รู้สึกโอเคถูกหรือเปล่า

00:13:4700:13:50 เพราะฉะนั้น เวลาที่เหมือนเราอดมาทั้งคืน

00:13:5000:13:53 แล้วพอตอนเช้าปุ๊บนี่ แล้วอาจารย์ยังไม่กินอีกนี่

00:13:5300:13:57 มันก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดอาจารย์ ก็ยังไม่ขึ้นสักทีอย่างนี้ค่ะ

00:13:5700:14:02 มันก็เลยทำให้รู้สึกแบบว่า มันอึน ๆ ไปทั้งวันอะไรประมาณนั้นนะคะ

00:14:0200:14:05 แล้วอันนี้ก็คือชื่อของอาหารเช้า ที่อาจารย์เรียกว่า Breakfast ใช่ไหมคะ

00:14:0500:14:07 ก็คือเป็นการเบรคหรือเป็นการหยุด

00:14:0700:14:10 Fast ที่แปลว่าอดอาหาร

00:14:1000:14:12 ก็อาจารย์อดมาทั้งคืนแล้วไง อาจารย์ก็มาเบรคตรงนี้

00:14:1200:14:14 ก็เลยเรียกว่าเป็น Breakfast

00:14:1400:14:16 ทีนี้ถามว่ามันจำเป็นไหม

00:14:1600:14:19 ก็ต้องบอกว่าในแง่ของสุขภาพที่ดีใช่ไหม

00:14:1900:14:22 พอเวลาที่อาจารย์ไม่ต้องการ จะเอาพลังงานสำรองมาใช้จนหมด

00:14:2200:14:23 อาจารย์ก็ต้องกินเข้าไป

00:14:2300:14:25 พอกินเสร็จปุ๊บ มันก็จะไปเก็บสะสมไว้

00:14:2500:14:26 อืม

00:14:2600:14:29 เพื่อจะให้อาจารย์ มีใช้ตลอดทั้งวันอย่างนี้ค่ะ

00:14:2900:14:32 แล้วถามว่ามีคนทำ บอกว่าอาจารย์กิน 2 มื้อหรือกิน 3 มื้อ

00:14:3200:14:33 ถ้าอาจารย์กิน 2 มื้อ

00:14:3300:14:35 อาจารย์จะมีความหิวมากกว่าคนที่กิน 3 มื้อ

00:14:3500:14:37 ลักษณะนี้นะคะ

00:14:3700:14:39 เพราะฉะนั้นเหมือนกับโดยทั่วไป

00:14:3900:14:43 เป็นลักษณะของการยอมรับในสังคมดีกว่าเนอะ

00:14:4300:14:46 ก็จะบอกอาจารย์ก็ต้องกิน 3 มื้อ หรืออาจจะมากกว่า

00:14:4600:14:53 แต่ถามว่าถ้ามันเป็นอันอื่นอีกล่ะ อย่างเช่น พระ ใช่ไหมคะ ถือศีล 8 อย่างนี้

00:14:5300:14:54 ท่านก็ฉันแค่ 2 มื้อเอง

00:14:5400:14:57 ท่านก็อยู่ได้ ผอม สุขภาพดี อายุยืน

00:14:5700:15:01 หน้าตาก็ดูอายุน้อยกว่าวัยอะไรประมาณนี้

00:15:0100:15:05 เพราะฉะนั้น มันคงไม่ได้บอกว่า มันเป็นความผิดที่กี่มื้อ

00:15:0500:15:08 อันนี้แล้วแต่คนเนอะ ว่าเราโอเคแค่ไหน

00:15:0800:15:11 มันอยู่ที่ปริมาณอาหารที่เรากิน ชนิดอาหารที่เราเลือก

00:15:1100:15:16 ส่วนมื้อเช้ามันก็คือจะทำให้ร่างกาย ตอนนี้เราใช้พลังงานสำรองไปแล้ว

00:15:1700:15:19 พอเราเริ่มกินมื้อเช้าปั๊บ มันเหมือนกับ start เริ่มใหม่

00:15:2000:15:24 อันที่สอง พอเราเริ่มกินปั๊บ มันก็จะทำให้การเผาผลาญเราเพิ่มขึ้น

00:15:2400:15:26 ถ้าเราไม่กิน การเผาผลาญมันจะดรอปลง

00:15:2700:15:28 มันจะไม่ยอมใช้พลังงาน

00:15:2800:15:32 เพราะมันจะรู้สึกว่าไม่มีอะไรลงมาให้กิน ลักษณะนี้ค่ะ

00:15:3200:15:34 เพราะฉะนั้น คนก็เลยจะบอกว่า โอเค มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญ

00:15:3400:15:37 เพราะว่ามันจะเหมือนกระตุ้นให้ ในแต่ละวันของอาจารย์

00:15:3700:15:38 มันตื่นตัวเพิ่มขึ้น

00:15:3800:15:39 กับอันที่สองก็คือ

00:15:4000:15:42 ฮอร์โมนทั้งหลายที่มันถูกสร้างขึ้นในตอนเช้า

00:15:4300:15:45 ไม่ว่าจะเป็นคอติซอลหรืออะไรก็ตาม

00:15:4500:15:49 พวกนี้มันก็จะช่วยทำให้อาจารย์ตื่นตัวขึ้น ลักษณะนี้เป็นต้น

00:15:4900:15:52 มีอยู่ช่วงหนึ่งครับ เขาก็จะมีการโฆษณาว่า

00:15:5200:15:55 แปะก๊วยนี่มันช่วย นี่ผมก็ไปกินมานะ

00:15:5500:15:56 อาจารย์กินโอวหนี่แปะก๊วยหรือเปล่า

00:15:5600:15:59 ไม่ใช่ครับ เป็นแปะก๊วยแล้วมาเป็นเม็ดเลยครับคุณหมอ

00:15:5900:16:01 - อ๋อ สีเหลืองใช่ไหมคะ อร่อยมาก - มาเป็นเม็ดเลย

00:16:0100:16:04 ไม่ใช่เป็นเม็ดคือ มันเป็นเม็ดวิตามินนี่แหละ

00:16:0400:16:07 อ๋อ เป็นแคปซูล โอเค

00:16:0700:16:08 - แคปซูลไปเลย - โอเคค่ะ

00:16:0800:16:10 ผมกินเข้าไปแล้วทำไมรู้สึกว่า...

00:16:1000:16:12 เฮ้ย มันปวดหัว

00:16:1200:16:15 มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่ามันมีฤทธิ์อะไรกับแปะก๊วยหรือเปล่า

00:16:1500:16:17 อาจารย์จ่ายตังค์ไปเยอะอาจารย์ก็เลยปวดหัว

00:16:1700:16:18 [เสียงหัวเราะ]

00:16:1800:16:21 จริง ๆ แล้ว ก็จะมีคนพูดถึงเรื่องของแปะก๊วย

00:16:2100:16:23 ว่ามันมีสารสกัดแปะก๊วยนะคะ

00:16:2300:16:25 เราไม่ต้องไปรู้จักชื่อมันก็ได้

00:16:2500:16:26 แต่ต้องบอกนิดนึงก่อนว่า

00:16:2600:16:29 สารสกัดนี่ มันเป็นสารสกัดของใบแปะก๊วยนะคะ

00:16:2900:16:30 ไม่ใช่เม็ด

00:16:3000:16:31 อ้าว ไม่ใช่เม็ดหรือครับ

00:16:3100:16:32 ไม่ใช่เมล็ด

00:16:3200:16:35 สีเหลือง ๆ ที่อาจารย์กินโอวหนี่แปะก๊วย อันนั้นไม่ใช่เลย

00:16:3500:16:37 หรือว่ากินเป็นบัวลอยน้ำขิงใส่เข้าไป

00:16:3700:16:38 อันนี้ไม่ใช่นะคะ

00:16:3800:16:41 ตัวที่เขาสกัดมา สกัดจากใบค่ะอาจารย์

00:16:4100:16:44 ทีนี้มันก็มีงานวิจัยที่ทำ เขาจะมียาเป็นเม็ดที่อาจารย์ว่า

00:16:4500:16:48 เป็นเม็ดหลอด อันนึงเป็นเม็ดแป้ง อันนึงเป็นแปะก๊วย

00:16:4800:16:49 แล้วให้กิน

00:16:4900:16:52 เริ่มจากคนที่อาจจะไม่มีปัญหาอะไรก่อนเลย

00:16:5200:16:52 อืม

00:16:5200:16:54 แล้วก็ให้กินไป 5 ปี

00:16:5400:16:55 แล้วดูว่า

00:16:5500:16:59 ติดตามไปว่าคนกลุ่มนี้ ทั้งสองอย่างนี้

00:16:5900:17:02 มันมีสมองเสื่อม มีภาวะสมองเสื่อม ลดลงหรือเปล่าหรืออะไรอย่างนี้

00:17:0300:17:04 สิ่งที่เกิดขึ้นคือไม่แตกต่างกัน

00:17:0400:17:08 ไม่ว่าอาจารย์จะกินเม็ดแป้ง หรืออาจารย์จะกินแปะก๊วยที่สกัด

00:17:0800:17:09 อันที่สองก็มีคนทำอีก

00:17:0900:17:12 ปรากฏว่ามันจะเริ่มเห็นชัดเจน แต่ตอนประมาณสักอายุ 70

00:17:1200:17:16 อาจารย์กินไปประมาณสัก 5-10 ปีก่อนหน้านั้น ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลย

00:17:1600:17:18 มันจะเริ่มเห็นแยกตอนหลัง

00:17:1800:17:20 เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เลยบอกว่า

00:17:2000:17:23 ถามว่าแนะนำไหม ตอบว่าไม่ได้ประโยชน์

00:17:2300:17:26 ไม่ได้ประโยชน์ สำหรับในส่วนของสารสกัดใบแปะก๊วย

00:17:2600:17:29 เราพูดถึงอาหารที่มันดี ต่อความทรงจำของเราแล้ว

00:17:2900:17:31 ต่อการทำงานของสมองของเราแล้ว

00:17:3100:17:31 ค่ะ

00:17:3100:17:34 มันมีอาหารที่มันไม่ค่อยดีไหมครับ

00:17:3400:17:36 สำหรับความทรงจำของเรา

00:17:3600:17:39 รวมทั้งพฤติกรรมต่าง ๆ ที่มันอาจจะทำลายสมองเรา

00:17:3900:17:41 มันคงไม่ใช่แค่สมองไงคะอาจารย์

00:17:4100:17:44 เมื่อกี๊เราคุยกันแล้วว่า อะไรที่มันดี แล้วเราก็บอกว่ามันเกิดจากอะไร

00:17:4400:17:46 เส้นเลือด ถ้าเส้นเลือดไม่ดี

00:17:4600:17:46 อืม

00:17:4600:17:48 อาจารย์ทำอะไรก็ได้ ที่มันมีเรื่องของคอเลสเตอรอลสูง

00:17:4800:17:51 ความดันสูง เบาหวาน แล้วเส้นเลือดอาจารย์พัง

00:17:5100:17:53 สมองอาจารย์ก็จะได้รับเลือดน้อยลง

00:17:5300:17:53 อืม

00:17:5300:17:55 ในแง่ของการทำงานโดยรวมก็จะแย่ลง

00:17:5500:17:57 หรืออาจารย์มีโอกาสจะเกิด Stroke อย่างนี้

00:17:5700:18:00 เกิดสักรอบสองรอบ สมองอาจารย์ก็พังเหมือนกัน

00:18:0000:18:03 เพราะฉะนั้น อาหารอะไรที่มีผลกับเส้นเลือด ก็ไม่โอเคทั้งนั้น

00:18:0300:18:08 เพราะฉะนั้น อาหารที่มีไขมันสูง และเป็นไขมันทรานส์หรือไขมันอิ่มตัว

00:18:0800:18:10 ง่าย ๆ คือไขมันที่วางไว้แล้วเป็นไขเป็นก้อน

00:18:1000:18:12 อันนี้ต้องเลี่ยงแล้วถูกไหมคะ

00:18:1200:18:14 อันที่สอง น้ำตาลที่สูงมาก ๆ

00:18:1400:18:15 [เสียงหัวเราะ]

00:18:1500:18:17 ทีนี้น้ำตาลจะมาตรงนี้แล้ว

00:18:1700:18:18 น้ำหวาน น้ำตาลของอาจารย์นี่

00:18:1800:18:21 มันสูงมากนี่ มันก็อาจจะมีผลกับในคนไข้เบาหวาน

00:18:2100:18:23 หรือน้ำตาลในเลือดที่สูงมาก ๆ นี่

00:18:2300:18:27 มันก็จะทำให้เกิดสารตัวหนึ่ง เขาเรียก AGE

00:18:2700:18:29 สารตัวนั้นไปทำให้เส้นเลือดอาจารย์เสื่อมได้

00:18:2900:18:30 เอ้า

00:18:3000:18:33 เพราะฉะนั้นนี่ ก็จะต้องลดลงใช่ไหมคะ

00:18:3300:18:36 ที่เหลือก็จะเป็นเรื่องของความดัน เพราะฉะนั้นก็ลดโซเดียม

00:18:3600:18:38 เพราะอาจารย์กินโซเดียม ความดันมันก็จะสูงขึ้น มันก็จะแย่

00:18:3800:18:42 แอลกอฮอล์หรือยาเสพติดก็จะเป็นตัวที่ทำลาย

00:18:4200:18:44 เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรทำ

00:18:4400:18:46 บุหรี่ ก็ไม่ควรแล้วเพราะเส้นเลือดมันพัง

00:18:4600:18:49 อย่างนี้ค่ะ ก็จะเป็นตัวที่บอกว่า

00:18:4900:18:51 คงเป็นภาพรวมของสุขภาพมากกว่าที่จะบอกว่า

00:18:5100:18:54 เป็นโฟกัสของอาหาร ที่มันจะแย่กับสมองอย่างเดียว

00:18:5400:19:00 [เสียงดนตรี]

00:19:0000:19:04 เรารู้แล้วว่าพฤติกรรม หรือว่าอาหารประเภทไหนที่จะทำลายสมองของเรา

00:19:0400:19:10 ทีนี้มันมีเทคนิคอะไรไหมครับ ที่จะป้องกัน หรือทำให้การเสื่อมของสมองมันช้าลง

00:19:1000:19:13 จริง ๆ แล้วต้องบอกว่า มันก็เหมือนกับทั่ว ๆ ไปเนอะ

00:19:1300:19:15 ก็จะเป็นเหมือน 3 อ. ที่เรารู้จักกันใช่ไหมคะ

00:19:1600:19:19 ก็จะเป็นเรื่องของอาหาร ออกกำลังกาย และเรื่องของอารมณ์เนอะ

00:19:1900:19:22 ก็จะเริ่มจากเรื่องของออกกำลังกายก่อน จริง ๆ มันมีทั้งสองส่วนเลย

00:19:2200:19:24 ออกกำลังกายในส่วนที่เป็นร่างกาย

00:19:2400:19:26 แล้วก็ออกกำลังกายสมองด้วย

00:19:2600:19:27 อ๋อ ต้องออกกำลังกายสมองด้วย

00:19:2700:19:30 ทีนี้เวลาออกกำลังกายสมอง หรือบริหารสมองนี่

00:19:3000:19:33 มันจะต้องฝึกการคิดวิเคราะห์

00:19:3300:19:36 การคิดที่มันเป็นเหมือนกับ...เขาเรียกอะไรคะ

00:19:3600:19:40 มันไม่ใช่แค่แบบว่า...บอกให้ทำตาม หรืออะไรอย่างนี้

00:19:4000:19:42 แต่ว่ามันจะต้องมีการคิด อีกเลเวลนึงอะไรอย่างนี้

00:19:4200:19:45 - ต้องมีการใช้ตรรกะอย่างนี้ใช่ไหมครับ - ใช่ ใช่ค่ะ

00:19:4500:19:47 อาจารย์เล่นหมากฮอส

00:19:4700:19:48 หรืออาจารย์จะเล่นหมากรุกอย่างนี้

00:19:4800:19:51 อาจารย์ต้องคิดแล้วแหละ ว่าอาจารย์จะกันคนอื่นอย่างไร

00:19:5100:19:52 เราจะเดินอย่างไรในตาต่อไป

00:19:5200:19:54 ใช่ ๆ อย่างนี้ค่ะ

00:19:5400:19:56 สมมุติถ้าบอกว่า ที่เราพูดกันเรื่องไพ่อย่างนี้ค่ะ

00:19:5600:20:00 จะเป็นพวกไพ่นกกระจอกหรืออะไร ที่อาจารย์จะต้องมานั่งคิดเยอะ ๆ

00:20:0000:20:03 หรือว่าอาจารย์จะเป็นเหมือนกับว่า อาจารย์จะมีงานอดิเรก

00:20:0300:20:07 เป็น hobby เช่น จะต้องมีการฝึกคิด ฝึกวิเคราะห์ วาดรูป

00:20:0700:20:12 หรืออะไรก็ได้ที่อาจารย์จะได้ใช้ ฟังก์ชันของสมองเยอะขึ้นใช่ไหมคะ

00:20:1200:20:12 ครับ

00:20:1200:20:15 ทีนี้ในแง่ของเรื่องของอารมณ์

00:20:1500:20:18 นอกเหนือจากการพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ

00:20:1800:20:21 โดยทั่วไปก็ 6-8 ชั่วโมง แต่ว่าต้องเป็นหลับสนิทนะคะ

00:20:2100:20:26 แล้วก็มันจะช่วยทำให้มีเวลาที่สมอง หรือว่าร่างกายเราได้พักจริง ๆ นะคะ

00:20:2600:20:28 แล้วก็สุดท้ายก็คือ เรื่องของอาหารที่เราบอกกัน

00:20:2900:20:33 หลัก ๆ ก็คือ เป็นอาหารหลัก 5 หมู่ ที่ครบถ้วนใช่ไหมคะ

00:20:3300:20:37 เพราะฉะนั้น โดยทั่วไป อาหารที่เราจะพูดว่ามันจะช่วยนี่

00:20:3700:20:39 มันก็จะดูในเรื่องของปัจจัยเสี่ยง

00:20:3900:20:42 ยกตัวอย่างเช่น ทำให้เส้นเลือดเราดีขึ้นใช่ไหมคะ

00:20:4200:20:44 อาจจะทำให้เรื่องของอนุมูลอิสระมันลดลง

00:20:4400:20:47 หรือว่าจะมีสารต้านอนุมูลอิสระมากขึ้น

00:20:4700:20:49 อันถัดมาก็คืออาจจะช่วยลดเรื่องของการอักเสบ

00:20:5000:20:52 อาจจะมีอีกตัวหนึ่งที่คนพูดถึงก็คือ น้ำมันปลา

00:20:5200:20:56 เพราะว่าจริง ๆ แล้ว มันเป็นไขมัน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเซลล์

00:20:5600:20:59 เซลล์ทุกเซลล์นี่มันมีไขมันอยู่

00:20:5900:21:03 แล้วในสมองนี่มันก็จะมี... เขาเรียกว่า DHA

00:21:0300:21:04 ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเซลล์ใช่ไหมคะ

00:21:0400:21:07 เพราะฉะนั้น มันก็ควรจะต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม

00:21:0700:21:09 ถ้าเรากินน้อยไป

00:21:0900:21:14 อาจจะทำให้เซลล์พวกนี้ทนกับ ภาวะที่มีความเครียดหรืออะไรไม่ค่อยได้

00:21:1400:21:18 เพราะฉะนั้น อันนี้ก็จะเป็นสมดุลของ เรื่องของอาหารที่เขาจะเลือกมา

00:21:1800:21:21 ถ้าเรามองในรูปแบบของอาหารก็มักจะเป็นอันนี้

00:21:2100:21:21 ครับ

00:21:2100:21:23 คุณหมอเอ๋พูดถึงน้ำมันปลา

00:21:2300:21:23 ค่ะ

00:21:2300:21:27 มันอย่างเดียวกับน้ำมันตับปลาหรือเปล่าครับ

00:21:2700:21:29 เพราะว่าตอนเด็ก ๆ นี่ ผมกินน้ำมันตับปลาเยอะมากเลย

00:21:2900:21:31 อ๋อ โอเคค่ะ แสดงว่าตอนเด็ก ๆ อาจารย์ตัวเล็กค่ะ

00:21:3100:21:34 เขาเลยให้กินน้ำมันตับปลา

00:21:3400:21:36 เวลาที่เป็นน้ำมันปลากับน้ำมันตับปลานี่

00:21:3600:21:38 - วิธีการทำต่างกันค่ะอาจารย์ - อ๋อ หรือครับ

00:21:3800:21:42 เวลาที่เป็นน้ำมันตับปลา เขาจะเอาเครื่องใน รวมทั้งสมองปลามาทำ

00:21:4200:21:45 มาสกัดดีกว่า ใช้คำนี้ดีกว่านะคะ

00:21:4500:21:47 ในขณะที่ถ้าเป็นน้ำมันปลานี่

00:21:4700:21:48 เขาจะใช้ส่วนของเนื้อ แล้วก็หนัง

00:21:4900:21:51 แล้วก็มาสกัดเป็นน้ำมันออกมา

00:21:5100:21:53 ทีนี้คุณสมบัติของสารที่อยู่ในนั้น

00:21:5300:21:55 ถ้าเป็นน้ำมันตับปลา

00:21:5500:21:57 ส่วนใหญ่จะเป็นวิตามินดี วิตามินเอ

00:21:5700:21:59 จะมีน้ำมันปลาร่วมด้วยได้

00:21:5900:22:01 แต่ถ้าสมมุติว่าเป็นส่วนของน้ำมันปลา

00:22:0100:22:04 ก็จะเป็นส่วนของตัวน้ำมันที่ได้จากเนื้อปลา

00:22:0400:22:06 ซึ่งอันนี้ก็เรียกว่าเป็นกรดไขมันเนอะ

00:22:0600:22:10 หรือถ้าเป็นภาษาที่เป็นตัวย่อ ๆ ที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ

00:22:1000:22:12 เขาจะเขียนว่าเป็น DHA กับ DPA

00:22:1200:22:13 ลักษณะนี้ค่ะ

00:22:1400:22:18 สองตัวนี้จะมีคุณสมบัติในแง่ของ การลดเรื่องการอักเสบ

00:22:1800:22:23 แล้วก็ DHA เอง ก็จะเป็นส่วนประกอบของ เยื่อหุ้มเซลล์ในสมองด้วย อย่างนี้ค่ะ

00:22:2300:22:28 เพราะฉะนั้น ถ้าจะเลือกทาน ให้มันดีต่อระบบหลอดเลือดของเรา

00:22:2800:22:29 ก็น่าจะเป็นน้ำมันปลา

00:22:2900:22:30 อ๋อ ใช่ค่ะ

00:22:3000:22:33 แล้วก็เน้นในพวกที่มันเป็นผักผลไม้ เพื่อเพิ่มพวกสารต้านอนุมูลอิสระ

00:22:3400:22:36 ลดเรื่องของแอลกอฮอล์ หยุดสูบบุหรี่นะคะ

00:22:3600:22:40 แล้วก็เลี่ยงพวกที่เป็นสารเสพติด หรือว่าสารพิษทั้งหลาย

00:22:4000:22:42 ก็จะช่วยทำให้เส้นเลือดเราแข็งแรงขึ้นค่ะ

00:22:4200:22:43 ฟังคุณหมอเอ๋แล้วนะครับ

00:22:4300:22:47 วิธีในการที่จะบำรุงรักษาสมองของเรา

00:22:4700:22:50 รวมทั้งชะลอการเสื่อมสมองของเรานี่

00:22:5000:22:53 ก็เป็นหลักการ ที่ใช้ในการที่จะดูแลสุขภาพของเรานี่แหละ

00:22:5300:22:54 ใช่ค่ะ

00:22:5400:22:55 เรื่องของอาหาร

00:22:5500:22:57 ถ้าเราสามารถที่จะควบคุมอาหารได้

00:22:5700:23:02 ควบคุมค่าต่าง ๆ ที่เรามี ทั้ง blood pressure ทั้งแรงดันโลหิต

00:23:0200:23:04 เรื่องของไขมันในหลอดเลือด

00:23:0400:23:06 มันก็จะเป็นตัวช่วยเลยแหละ

00:23:0600:23:08 ที่จะทำให้หลอดเลือดของเรา มันสะอาด

00:23:0800:23:11 - แล้วก็ส่งเลือดไปเลี้ยงสมองได้ - ถูกต้องค่ะ

00:23:1100:23:13 ถ้าเราลดอนุมูลอิสระลงได้

00:23:1300:23:15 ถ้าเราลดการอักเสบลงได้

00:23:1500:23:18 จากการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

00:23:1800:23:22 นั่นแหละจะเป็นคีย์สำคัญ ในการที่จะบำรุงสมองของเราเลย

00:23:2200:23:27 วันนี้ต้องขอบคุณคุณหมอเอ๋นะครับ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:23:2700:23:28 ภาควิชาอายุรศาสตร์

00:23:2800:23:31 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

00:23:3100:23:33 ที่มาพูดคุยกับเรา

00:23:3300:23:37 คุณหมอเอ๋มีช่องทางที่จะได้พูดคุย กับคุณผู้ชมอยู่ด้วยใช่ไหมครับ

00:23:3700:23:41 ค่ะ ก็จะมีเป็นพอดแคสต์นะคะ อยู่ใน Mahidol Channel Podcast นี่แหละค่ะ

00:23:4100:23:45 เราจะพูดคุยกันในเรื่องของรูปแบบอาหาร ที่ปลอดภัยกับสุขภาพค่ะ

00:23:4600:23:49 ชื่อว่ารายการ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้

00:23:4900:23:53 สำหรับคุณผู้ฟังที่ชอบฟังเรื่องของอาหาร

00:23:5300:23:55 ผมว่า Food Choice นี่ เป็นทางเลือกที่ดีเลยแหละ

00:23:5500:23:59 ผมคิดว่าผมจะคอยติดตาม ทุก ๆ วันจันทร์ เวลา 18:00 น.

00:23:5900:24:05 เพื่อจะได้ Tips และ Trick ในการที่จะเลือก หรือไม่เลือกทานอาหารอะไรก็ตาม

00:24:0500:24:05 ยินดีค่ะ

00:24:0500:24:08 โอกาสหน้า หวังว่าจะได้พบกันบ่อย ๆ

00:24:0800:24:09 ยินดีค่ะ

00:24:0900:24:13 พบกับ Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดีสร้างได้

00:24:1300:24:16 ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.

00:24:1600:24:18 ที่ Mahidol Channel Podcast

00:24:1800:24:20 ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel

00:24:2000:24:22 YouTube Mahidol Channel

00:24:2200:24:23 Apple Podcasts

00:24:2300:24:24 Spotify

00:24:2500:24:26 Anchor

00:24:2600:24:26 Blockdit

00:24:2700:24:30 ดำเนินรายการโดยอาจารย์เต้ ระพี บุญเปลื้อง

00:24:3500:24:39 Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดีสร้างได้

00:24:3900:24:49 [เสียงดนตรี]