00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับในยุคปัจจุบันนะครับมีหลายคน
00:00:03 → 00:00:05 ให้ความสนใจเกี่ยวข้องกับเรื่องของอาหาร
00:00:05 → 00:00:07 การกินเป็นอย่างมากเลยแล้วก็ประเด็นร้อน
00:00:08 → 00:00:10 แรงในขณะนี้ก็คือเรื่องราวของ Ultra
00:00:10 → 00:00:12 Process Food นั่นเองนะครับวันนี้นะ
00:00:12 → 00:00:14 ครับผมก็เลยอยากจะหยิบยกเรื่องราวของ
00:00:14 → 00:00:17 Ultra Process Food มาอธิบายให้ฟังว่า
00:00:17 → 00:00:19 อาหารประเภทไหนที่จัดว่าเป็น Ultra
00:00:19 → 00:00:22 Process Food บ้างแล้วมันมีอันตรายต่อ
00:00:22 → 00:00:25 ร่างกายอย่างไรบ้างรวมทั้งเราจำเป็นจะ
00:00:25 → 00:00:26 ต้องกิน Ultra Process Food เนี่ยจะกิน
00:00:26 → 00:00:29 อย่างไรให้มันปลอดภัยมากที่สุดถ้าเราจะ
00:00:29 → 00:00:31 ต้องเลือก Ultra Process Food มากิน
00:00:31 → 00:00:34 เนี่ยมันจะมีวิธีในการเลือกอย่างไรบ้างนะ
00:00:34 → 00:00:37 ครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธนีธนียวเป็น
00:00:37 → 00:00:38 อาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
00:00:38 → 00:00:41 เชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤต
00:00:41 → 00:00:44 บำบัดนะครับก่อนอื่นก็ต้องขออธิบายคำว่า
00:00:44 → 00:00:47 process หรือกระบวนการก่อนนะครับว่ามัน
00:00:47 → 00:00:49 คืออะไรกันแน่นะครับกระบวนการที่ว่าเนี่ย
00:00:49 → 00:00:52 มันมีหลากหลายวิธีการนะครับแล้วก็อาจจะมี
00:00:52 → 00:00:56 การใช้ร่วมกันด้วยเช่นกันแต่จุดประสงค์
00:00:56 → 00:00:59 ของมันเนี่ยก็เป็นไปเพื่อปรับปรุงอาหาร
00:00:59 → 00:01:02 จากธรรมชาติให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น
00:01:02 → 00:01:05 นะครับเก็บได้นานไม่เสียง่ายและจุด
00:01:05 → 00:01:07 ประสงค์ที่ 2 ก็คือเป็นไปเพื่อความอร่อย
00:01:08 → 00:01:10 นั่นเองนะครับก็คืออาจจะมีการเติมสีเติม
00:01:10 → 00:01:12 กลิ่นเติมรสชาติต่างๆนะครับเพื่อความ
00:01:12 → 00:01:16 อร่อยดังนั้นเนี่ยพอเรารู้ว่ากระบวนการ
00:01:16 → 00:01:18 หรือ process เหล่านี้เนี่ยคืออะไรแล้ว
00:01:18 → 00:01:21 เนี่ยมันก็จะสามารถแบ่งอาหารออกมาได้เป็น
00:01:21 → 00:01:24 ทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกันประเภทแรกนะครับ
00:01:24 → 00:01:28 ก็คือเป็น unprocessed food หรือ minimal
00:01:28 → 00:01:30 Molly process food นั่นเองนะครับ
00:01:30 → 00:01:34 อันเนี้ยก็จะเป็นกลุ่มที่แทบจะไม่ได้มี
00:01:34 → 00:01:37 การเปลี่ยนแปลงอะไรเลยนับจากแต่เราได้มา
00:01:37 → 00:01:39 จากธรรมชาตินะครับก็ยกตัวอย่างเช่นเนื้อ
00:01:39 → 00:01:43 สัตว์ที่เราแล่มานะครับผักผลไม้ต่างๆหรือ
00:01:43 → 00:01:47 อาจจะมีการทำผ่านกระบวนการเล็กน้อยเช่น
00:01:47 → 00:01:49 ข้าวเป็นต้นเพราะว่าข้าวเนี่ยมันก็ต้องมี
00:01:49 → 00:01:51 การเอามันออกมาจากรวงข้าวหรืออาจจะมีการ
00:01:51 → 00:01:54 ขัดสีนะครับอันนั้นก็เรียกว่า Minary
00:01:54 → 00:01:56 Process Food ซึ่งถือว่าเป็นอาหารที่
00:01:56 → 00:02:00 ปลอดภัยมากที่สุดถ้าไม่นับเรื่องของการปน
00:02:00 → 00:02:04 เปื้อนสารเคมีจากสิ่งแวดล้อมในเวลาที่เรา
00:02:04 → 00:02:07 เอาผักเอาอะไรมากินหรือไปจับปลามาแล้วมัน
00:02:07 → 00:02:09 มีสารปลอดอยู่ในน้ำนะครับหรือว่าอ่า
00:02:09 → 00:02:12 เลี้ยงสัตว์อาจจะมีสารปนเปื้อนพวกนั้นก็
00:02:12 → 00:02:15 ถือว่ายังคงเป็นปัญหาอยู่แต่ว่ามันก็จะ
00:02:15 → 00:02:17 เป็นปัญหาน้อยเมื่อเทียบกับอาหารกลุ่ม
00:02:17 → 00:02:21 อื่นๆนะครับทีนี้กลุ่มที่ 2 นะครับก็จะ
00:02:21 → 00:02:23 เป็นกลุ่มที่เราเรียกว่า process
00:02:23 → 00:02:25 culinary ingredients นะครับก็คือจะ
00:02:26 → 00:02:29 เป็นส่วนประกอบที่เราเอาไปประกอบอาหารอีก
00:02:29 → 00:02:33 ทีหนึ่งยกตัวอย่างเช่นน้ำตาลเกลือน้ำมัน
00:02:33 → 00:02:35 ต่างๆนะครับน้ำมันก็ยกตัวอย่างเช่นอาจจะ
00:02:35 → 00:02:40 มีน้ำมันหมูน้ำมันงาน้ำมันเอ่อดอกคำฝอย
00:02:40 → 00:02:42 น้ำมันพืชน้ำมันถั่วเหลืองอะไรพวกนี้เป็น
00:02:42 → 00:02:44 ต้นอันนี้ก็จะจัดอยู่ในกลุ่มนี้นะฮะอัน
00:02:44 → 00:02:46 นี้ก็ยังไม่ได้ถือว่าอันตรายอะไรมากขนาด
00:02:46 → 00:02:48 นั้นนะครับแล้วก็คนปกติก็ไม่ได้กินมัน
00:02:48 → 00:02:52 เข้าไปทีเดียวเยอะๆด้วยนะครับอันที่ 3
00:02:52 → 00:02:54 process food อันนี้แหละคือการผ่าน
00:02:54 → 00:02:57 กระบวนการเต็มๆเพื่อที่จะรักษาให้อาหาร
00:02:57 → 00:03:00 มันอยู่ได้นานนะครับเช่นปลากระป๋องผลไม้
00:03:00 → 00:03:03 กระป๋องนะครับหรือว่าจะเป็นพวกหน่อไม้
00:03:03 → 00:03:05 กระป๋องอ่าถั่วกระป๋องพวกนี้เป็นต้นนะ
00:03:05 → 00:03:07 ครับหรือว่าขนมปังบางอย่างก็จะถือเป็น
00:03:07 → 00:03:09 process food เช่นกันนะครับซึ่งอันนี้
00:03:09 → 00:03:13 เนี่ยมันจะยังคงรูปของอาหารต้นทางยัง
00:03:13 → 00:03:15 เหมือนเดิมนะครับหน้าตายังเหมือนเดิมและ
00:03:15 → 00:03:18 จะมีส่วนประกอบข้างในอาจจะมีแค่ 2-3 ส่วน
00:03:18 → 00:03:21 ประกอบเท่านั้นเองเช่นในเงาะกระป๋องเนี่ย
00:03:21 → 00:03:23 มันก็อาจจะมีเงาะแล้วก็มีน้ำเชื่อมอยู่ใน
00:03:23 → 00:03:26 นั้นแค่นั้นเลยนะครับอันนี้ก็ถือว่ามี
00:03:26 → 00:03:28 ความอันตรายเพิ่มขึ้นมาเพราะว่ามันอาจจะ
00:03:28 → 00:03:30 มีสารการบูดสารการเสียหรือว่าสารแต่ง
00:03:30 → 00:03:33 กลิ่นแต่งสีแต่งรสบ้างนะครับแต่ว่าก็ยัง
00:03:33 → 00:03:36 ไม่ถึงขั้นอันที่จะพูดต่อไปนั่นก็คือ
00:03:36 → 00:03:39 Ultra Process Food นั่นเอง Ultra
00:03:39 → 00:03:42 Process Food เนี่ยจุดเด่นของมันก็คือ
00:03:42 → 00:03:45 มันแทบจะไม่หลงเหลือหน้าตาเค้าเดิมของ
00:03:45 → 00:03:48 อาหารอีกต่อไปแล้วนะครับแล้วก็จะมีการ
00:03:48 → 00:03:50 แต่งสีแต่งกลิ่นแต่งรสแบบจัดเต็มนะครับ
00:03:50 → 00:03:54 เก็บอยู่ได้นานราคาถูกหากินง่ายแถมอร่อย
00:03:54 → 00:03:57 อีกต่างหากนะครับยกตัวอย่างเช่นขนมกรุบ
00:03:57 → 00:03:59 กรอบทั้งหลายแหละที่เรากินกันนี่แหละอัน
00:03:59 → 00:04:02 นี้คือ Ultra Process Food นะครับอ่า
00:04:02 → 00:04:04 อันนี้ชัดเจนมากนอกเหนือจากนั้นก็ยกตัว
00:04:04 → 00:04:07 อย่างเช่นพวกน้ำอัดลมต่างๆนะครับมีการผสม
00:04:07 → 00:04:09 น้ำตาลจริงหรืออาจจะเป็นน้ำตาลเทียมก็ถือ
00:04:09 → 00:04:12 เป็น Ultra Process Food นะครับอ่า way
00:04:12 → 00:04:14 โปรteอันนี้ก็เป็น Ultra Process Food
00:04:14 → 00:04:17 เหมือนกันโดยเฉพาะถ้าเกิดมันมีการผสมน้ำ
00:04:17 → 00:04:20 ตาลเข้าไปอ่านี่ก็อาจจะมีเยอะใหญ่นะครับ
00:04:20 → 00:04:23 แต่ถ้าเป็นเป็น Isolated way เปล่าๆเลย
00:04:23 → 00:04:25 โดยที่ไม่มีอะไรอย่างอื่นเนี่ยยังถือว่า
00:04:26 → 00:04:29 ก้ำกึ่งระหว่าง process กับอันกับตัว
00:04:29 → 00:04:30 Ultra Process นะครับมันยังอยู่กึ่ง
00:04:30 → 00:04:32 กลางนะครับก็จะไม่ได้อันตรายเท่ากับการ
00:04:33 → 00:04:35 ที่มันมีน้ำตาลมีสารอื่นๆปรุงแต่งเพิ่ม
00:04:35 → 00:04:39 เข้าไปนะครับหรือผงผักน่ะผงผักเราก็ต้อง
00:04:39 → 00:04:42 แยกนะครับว่าถ้ามันเป็นผงผักที่แบบฟรีซ
00:04:42 → 00:04:45 dry มาอย่างเงี้ยอันเนี้ยเราจะถือว่าแค่
00:04:45 → 00:04:47 ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากนะครับอาจจะแค่
00:04:47 → 00:04:50 process เฉยๆแต่ถ้าเกิดมันมีการเติมสี
00:04:50 → 00:04:53 เติมรสให้มันกินง่ายนะครับเติมสารการบูด
00:04:53 → 00:04:55 เข้าไปแล้วอันนี้ก็จะกลายไปเป็นultตra
00:04:55 → 00:04:57 process food ทั้งๆที่หลายคนอาจจะคิด
00:04:57 → 00:04:59 ว่าเฮ้ยผงผักเนี่ยมันน่าจะเป็นอาหารที่
00:04:59 → 00:05:02 ปลอดภัยสิเปล่าครับมันอาจจะเป็น ultra
00:05:02 → 00:05:05 process food ก็ได้นะครับขึ้นอยู่กับ
00:05:05 → 00:05:07 ส่วนประกอบของมันซึ่งเราก็ต้องไปดูอีกที
00:05:07 → 00:05:11 นึงนะครับบางคนอาจจะคิดว่าอ่าโยเกิร์ต
00:05:11 → 00:05:13 โยเกิร์ตเนี่ยตัวดีเลยครับถ้าคุณไปดูมัน
00:05:13 → 00:05:17 อาจจะมีการเติมสีเติมกลิ่นเติมรสเติมสาร
00:05:17 → 00:05:19 กันเสียเข้าไปในนั้นและนั่นแหละครับ Ultra
00:05:19 → 00:05:22 Process ทั้งๆที่มันน่าจะเป็นอาหารที่
00:05:22 → 00:05:26 กินแล้วเอ้อมันมันมันน่าจะธรรมชาติเนาะ
00:05:26 → 00:05:29 เปล่าครับมันมีปัญหาซีเรียลที่เรากินนี่
00:05:30 → 00:05:32 ก็ Ultra Process Food เหมือนกันนะฮะ
00:05:32 → 00:05:35 หรือบางทีพวก GRA barารโปรตีนบารนี่ก็
00:05:35 → 00:05:37 Ultra Process Food นะครับบางคนอาจจะ
00:05:37 → 00:05:40 เคยได้ยินพวกเ่อ VAN Snack นะครับคำว่า
00:05:40 → 00:05:43 VAN ปุ๊บมันอ๋ออันนี้ทำมาจากพืชแน่นอน
00:05:43 → 00:05:46 มันจะต้องปลอดภัยเปล่าเลยครับมันอาจจะ
00:05:46 → 00:05:48 เป็น ultra process food ถ้ามีการผสม
00:05:48 → 00:05:51 ผสานอะไรอย่างอื่นเข้าไปเพื่อให้มันคงรูป
00:05:51 → 00:05:54 อยู่ได้นานนะครับอ่ะเนี่ยก็จะเป็นสิ่งที่
00:05:54 → 00:05:57 หลายคนอาจจะพลาดได้โดยที่ไม่รู้ตัวด้วย
00:05:57 → 00:05:59 ซ้ำไปว่ามันคือปัญหาอะไรแล้วมันเป็น ultra
00:05:59 → 00:06:02 process food ด้วยนะครับ
00:06:02 → 00:06:06 ทีนี้เอ่ออีกอย่างนึงก็คือพวกglูตenฟรีนะ
00:06:06 → 00:06:09 ครับบางคนอาจจะเห็นglลูเตนฟรีเออคำว่า
00:06:09 → 00:06:12 กลูเตนมันก็กลูเตนฟรีน่าจะเป็นอะไรที่ดู
00:06:12 → 00:06:14 สุขภาพดีเนอะดูปลอดภัยเปล่าครับคุณต้อง
00:06:14 → 00:06:16 เข้าไปดูรายละเอียดเพราะว่าบางครั้งเนี่ย
00:06:16 → 00:06:19 มันมีน้ำตาลอยู่ในนั้นเยอะนะครับมันมีการ
00:06:19 → 00:06:21 ผสมอะไรอย่างอื่นเข้าไปเพื่อที่จะให้มัน
00:06:21 → 00:06:23 ไม่เสียอย่างเงี้ยก็จะเป็นอันตรายได้
00:06:23 → 00:06:25 เหมือนกันเพราะว่าถ้าเรากินเข้าไปนานๆตัว
00:06:25 → 00:06:27 นี้ก็ถือเป็น Ultra Process Food อย่าง
00:06:27 → 00:06:30 หนึ่งนะครับที่คนคุ้นเคยกันดีอย่างอื่นก็
00:06:30 → 00:06:32 ยกอย่างเช่นไส้กรอกอย่างเงี้ยอ่า Ultra
00:06:32 → 00:06:35 Process Food แน่นอนนะครับของดองของ
00:06:35 → 00:06:37 หมักอย่างเงี้ยอ่าแน่นอนนะครับก็มีส่วน
00:06:37 → 00:06:41 ร่วมพวกนี้เยอะเหมือนกันนะครับดังนั้นนี่
00:06:41 → 00:06:44 พวกนี้คือ Ultra Process Food ที่เรา
00:06:44 → 00:06:46 ควรจะต้องรู้นะครับแต่ก็มีอีกหลายอย่างนะ
00:06:46 → 00:06:50 ฮะทีนี้วิธีในการพิจารณาว่าอะไรคือ Ultra
00:06:50 → 00:06:52 Process Food กันแน่ให้เราดูอย่างี้
00:06:52 → 00:06:55 ครับถ้าเกิดว่ามันไม่หลงเหลือเค้าเดิม
00:06:55 → 00:06:57 อยู่แล้วเลยสักนิดเดียวเช่นอ่าบะหมี่กึง
00:06:57 → 00:06:59 เสร็จรูปอะไรอย่างเงี้ยนะครับแต่เดิมมัน
00:06:59 → 00:07:01 ไม่ควรจะเป็นหน้าตาแบบนั้นมันไม่หลงเหลือ
00:07:01 → 00:07:04 เค้าเดิมอยู่แล้วเนี่ยให้สงสัยเป็น ultra
00:07:04 → 00:07:07 process food อันที่ 2 ถ้าส่วนประกอบ
00:07:07 → 00:07:10 ของมันเนี่ยมีหลายอย่างเช่น 5-6 อย่าง
00:07:10 → 00:07:12 ขึ้นไปเนี่ยอันนี้ Ultra Process Food
00:07:12 → 00:07:15 ชัดเจนนะครับหรือถ้าเราไปเปิดดูเฮ้ยมันมี
00:07:15 → 00:07:16 สารเคมีอะไรเต็มไปหมดเลยเนี่ยชื่อแปลกๆ
00:07:17 → 00:07:19 ที่เราไม่เคยได้ยินบางผลเลยนะครับพวกเ
00:07:19 → 00:07:22 Ultra Process Food แน่ๆแน่ๆเลยนะครับ
00:07:22 → 00:07:26 ทีนี้ Ultra Process Food มันไม่ดียัง
00:07:26 → 00:07:30 ไงเออข้อแรกต้องบอกว่ามันให้พลังงานเยอะ
00:07:30 → 00:07:32 และเป็นพลังงานที่ดูดซึมได้เร็วมากจากน้ำ
00:07:32 → 00:07:37 ตาลล้วนๆนะครับถ้ามันเป็นอาหารกลุ่มอื่น
00:07:37 → 00:07:40 ที่มีผ่านกระบวนการเล็กน้อยพวกนั้นเนี่ย
00:07:40 → 00:07:43 นะครับมันจะยังมีน้ำตาลเหมือนกันแต่น้ำ
00:07:43 → 00:07:46 ตาลมันจะอยู่ในเซลล์ต่างๆเช่นในเนื้อ
00:07:46 → 00:07:49 สัตว์ในพืชนะครับมันก็จะอยู่ในเซลล์เพราะ
00:07:49 → 00:07:52 เซลล์มันยังไม่โดนแตกทำลายสลายไปนะครับ
00:07:52 → 00:07:54 มันก็จะทำให้การดูดซึมน้ำตาลในอาหารพวก
00:07:54 → 00:07:57 นั้นเนี่ยช้านะครับหรือมันอาจจะมีกากใย
00:07:57 → 00:08:00 ไฟเบอร์ที่คอยขัดขวางการดูดซึมของน้ำตาล
00:08:00 → 00:08:03 เหล่านี้ได้แต่ Ultra Process Food
00:08:03 → 00:08:06 เนี่ยมันไม่มีเซลล์อยู่แล้วอ่ะทุกๆอย่าง
00:08:06 → 00:08:09 มันแตกออกมานอกเซลล์แล้วครับน้ำตาลจะอยู่
00:08:09 → 00:08:12 นอกเซลล์แถมมันยังไม่มีกากใยไฟเบอร์คอย
00:08:12 → 00:08:14 ขัดขวางการดูดซึมน้ำตาลนั้นดังนั้นแล้ว
00:08:14 → 00:08:17 ล่ะก็ถ้าเรารับประทาน Ultra Process
00:08:17 → 00:08:19 Food เข้าไปเยอะๆเนี่ยสิ่งที่เกิดขึ้นก็
00:08:19 → 00:08:20 คือมันจะทำให้ร่างกายเราดูดเอาน้ำตาลพวก
00:08:21 → 00:08:24 นั้นน่ะเข้าไปเร็วมากเลยนะครับน้ำตาลที่
00:08:24 → 00:08:26 เข้าไปในร่างกายได้เร็วและเยอะข้อแรก
00:08:26 → 00:08:28 แคลอรี่มาแน่นอนข้อที่ 2 มันทำให้
00:08:29 → 00:08:32 อินซูลินเนี่ยครึ่งพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
00:08:32 → 00:08:34 นะครับกระตุ้นอินซูลินได้เร็วมากแล้วมัน
00:08:34 → 00:08:37 ก็จะมีน้ำตาลพุ่งขึ้นไปเร็วแล้วก็ตกลงมา
00:08:37 → 00:08:40 เร็วช่วงที่มันพุ่งขึ้นเนี่ยมันแหมมันจะ
00:08:40 → 00:08:42 ทำให้เรารู้สึกดีมากเลยรู้สึกเอร็ดอร่อย
00:08:42 → 00:08:46 นะครับมีความสุขแต่พอสักพักน้ำตาลในร่าง
00:08:46 → 00:08:49 กายเราตกลงมาตอนนั้นแหละครับที่เราจะรู้
00:08:49 → 00:08:51 สึกตรงกันข้ามรู้สึกโหยรู้สึกหิวนะครับ
00:08:51 → 00:08:54 อยากกินอีกมันไม่อิ่มซักทีนะครับอ่าพวก
00:08:54 → 00:08:55 นี้มันก็จะไม่ค่อยอิ่มด้วยนะเพราะว่ามัน
00:08:56 → 00:08:58 ไม่ค่อยเต็มท้องมันมีแต่น้ำตาลอย่างเดียว
00:08:58 → 00:09:00 สักเยอะนะครับกากใยไฟเบอร์ไม่มีเลยถ้า
00:09:00 → 00:09:04 งั้นมันก็ทำให้เรามีโอกาสท้องผูกหรือมี
00:09:04 → 00:09:07 โอกาสที่จะมีปัญหาอย่างอื่นตามมาได้นะ
00:09:07 → 00:09:11 ครับต่อมาสารอาหารไม่มีพวกนี้แทบไม่มีสาร
00:09:11 → 00:09:13 อาหารอะไรเหลือเลยนะครับเช่นบางคนเ้าบอก
00:09:13 → 00:09:17 ว่าอ่ะขนมอันนี้ทำมาจากผักแล้วไปทำให้มัน
00:09:17 → 00:09:20 แห้งกรอบมีการเติมสารอะไรเออเราดูแล้วแบบ
00:09:20 → 00:09:23 อ๊ทำมาจากผักผักนี่มันน่าจะดีเนาะแต่
00:09:23 → 00:09:25 ปรากฏว่าถ้าไปดูแล้วเนี่ยมันไม่เหลือเค้า
00:09:25 → 00:09:27 โครงเดิมของผักเลยแล้วก็วิตามินเกลือแร่
00:09:27 → 00:09:29 ต่างๆมันแทบจะไม่เหลือเลยทีเดียวนะครับ
00:09:29 → 00:09:32 ดังนั้นอันเนี้ยก็ต้องระมัดระวังนะครับ
00:09:32 → 00:09:34 บางทีกากใยไฟเบอร์ที่มันมาก็ไม่มีเหลือ
00:09:34 → 00:09:37 เลยหรือมีก็มีน้อยนะฮะั้นน้ำตาลเนี่ยจะ
00:09:37 → 00:09:41 เป็นตัวปัญหามากๆเลยของกรณีของอาหารที่
00:09:41 → 00:09:43 มันเป็น ultra process food นะครับและ
00:09:43 → 00:09:45 น้ำตาลพวกนี้พอดูดซึมเข้าไปเยอะๆสิ่งที่
00:09:45 → 00:09:48 เกิดขึ้นนะครับคือไม่ใช่แค่เบาหวานนะมัน
00:09:48 → 00:09:51 จะมีเบาหวานไขมันสูงนะครับโรคเหล่าหล่อ
00:09:51 → 00:09:53 เลือดหัวใจโรคหล่อเลือดสมองนะครับบางคน
00:09:53 → 00:09:55 เขียนว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับมะเร็ง
00:09:56 → 00:09:58 โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้แล้วก็มะเร็งเต้านมนะ
00:09:58 → 00:10:00 ครับพวกเนี้ยมีส่วนเกี่ยวข้องนะโดยเฉพาะ
00:10:00 → 00:10:02 เรื่องของน้ำตาลถ้ามันเยอะขนาดนี้เป็น
00:10:02 → 00:10:06 ประจำนะครับแน่นอนครับการที่มีน้ำตาลขึ้น
00:10:06 → 00:10:09 ๆลงๆบางคนเนี่ยจะมีอาการติดน้ำตาลและถ้า
00:10:09 → 00:10:12 ไม่ได้กินเนี่ยหงุดหงิดนะครับหงุดหงิด
00:10:12 → 00:10:14 อารมณ์เสียแล้วพอจะลดน้ำตาลลงมาไม่ได้ลด
00:10:14 → 00:10:17 ง่ายนะครับลดยากนะฮะอ่านี่คือน้ำตาลเป็น
00:10:17 → 00:10:20 สิ่งที่เป็นปัญหาอันแรกอันที่ 2 น้ำตาล
00:10:20 → 00:10:23 เทียมน้ำตาลตานเทียมก็ไม่ได้ทำให้ทุกคน
00:10:23 → 00:10:24 ปลอดภัยเหมือนกันถึงแม้ว่ามันจะไม่มี
00:10:24 → 00:10:28 แคลอรี่นะครับแต่มันไปทำให้ระบบสมดุล
00:10:28 → 00:10:30 จุลินทรีย์ในลำไส้ของเราหรือที่เรียกว่า
00:10:30 → 00:10:34 กัดไมโครไบโอมเนี่ยมันเสียสมดุลที่
00:10:34 → 00:10:37 แบคทีเรียลำไส้ของเรามันเสียสมดุลไปแล้ว
00:10:37 → 00:10:40 เนี่ยมันอาจจะทำให้เราเกิดการติดเชื้อใน
00:10:40 → 00:10:43 ลำไส้ได้ง่ายนะครับเกิดการอักเสบต่างๆใน
00:10:43 → 00:10:45 ร่างกายของเราได้ง่ายนะครับเวลามีอักเสบ
00:10:45 → 00:10:48 ต่างๆในร่างกายที่เรื้อรังมันก็จะทำให้
00:10:48 → 00:10:51 เกิดโรคต่างๆตามมาได้เช่นโรคโรคหัวใจนะ
00:10:51 → 00:10:53 ครับโรคหล่อเลือดสมองซึ่งเอ่อมันเคยมี
00:10:53 → 00:10:55 วิจัยออกมาแล้วว่าน้ำตาลเทียมเหล่าเนี้ย
00:10:55 → 00:10:59 ก็ทำให้คนที่เค้ากินประจำมีความเสี่ยงต่อ
00:10:59 → 00:11:00 โรคหล่อเลือดหัวใจหล่อเลื่อนสมองได้เช่น
00:11:00 → 00:11:04 กันนะครับอ่ะตัวนี้ก็เป็นน้ำตาลเทียมตัว
00:11:05 → 00:11:09 ที่ 3 สารกันเสียสารกันบูดสารกันการจับ
00:11:09 → 00:11:11 แข็งตัวของพวกอ่าแป้งไม่ให้มันจับกัน
00:11:11 → 00:11:14 อย่างเงี้ยนะครับพวกเนี้ยก็มีหลากหลาย
00:11:14 → 00:11:16 ชนิดเลยนะครับแต่ละชนิดก็อาจจะส่งผลเสีย
00:11:16 → 00:11:18 ต่อร่างกายได้ไม่เหมือนกันนะครับแต่ว่า
00:11:18 → 00:11:21 มันก็ไม่มีอะไรดีแน่นอนนะครับนอกเหนือจาก
00:11:21 → 00:11:24 นี้ครับพวกสีพวกกลิ่นพวกรสชาติต่างๆนะ
00:11:24 → 00:11:27 ครับก็มีการแต่งเติมจากอย่างอื่นนะครับ
00:11:27 → 00:11:29 และหลายครั้งนะครับจะมีโซเดียมที่ค่อน
00:11:29 → 00:11:31 ข้างสูงด้วยเพราะว่าโซเดียมพวกเนี้ยมัน
00:11:31 → 00:11:34 เอาไว้ถนอมอาหารได้ดีนะครับมันจะไม่ค่อย
00:11:34 → 00:11:37 เสียไม่ค่อยเหม็นหืนดังนั้นคุณก็จะได้
00:11:37 → 00:11:40 โซเดียมเข้าไปแต่แค่นั้นยังไม่จบครับมัน
00:11:40 → 00:11:42 ยังมีพวกน้ำมันต่างๆที่ใส่เข้าไปอีกนะ
00:11:42 → 00:11:45 ครับดังนั้นเราจะเห็นว่าส่วนผสมของ Ultra
00:11:45 → 00:11:47 Process Food เนี่ยมันเยอะมากมายแล้ว
00:11:47 → 00:11:50 แต่ละอันมันก็จะมีผลต่อร่างกายเรามากและ
00:11:50 → 00:11:53 ไม่ใช่แค่นั้นทั้งหมดนะครับมันยังถูกออก
00:11:53 → 00:11:56 แบบมาเพื่อให้อร่อยราคาถูกหาง่ายดังนั้น
00:11:56 → 00:11:59 เวลาคุณกินเข้าไปเนี่ยคุณเป็นไงอร่อย
00:11:59 → 00:12:02 อร่อยมันก็อยากกินอีกอยากกินอีกมันก็จะ
00:12:02 → 00:12:04 กินไปเรื่อยๆนะครับและพวกเนี้ยกินยังไงก็
00:12:04 → 00:12:07 ไม่อิ่มนะครับกินไปสักพักมันก็จะหิวเพราะ
00:12:08 → 00:12:10 ว่าน้ำตาลมันถูกดูดซึมเข้าไปแป๊บเดียวมัน
00:12:10 → 00:12:11 เข้าเร็วมันก็ออกเร็วเหมือนกันนะครับมัน
00:12:11 → 00:12:15 ลดลดเร็วด้วยดังนั้นเนี่ยมันก็จะทำให้คน
00:12:15 → 00:12:18 ที่กินอาหาร Ultra Process Food เนี่ย
00:12:18 → 00:12:21 กินโดยเฉลี่ยแล้วแคลอรี่มากกว่าคนที่กิน
00:12:21 → 00:12:24 อาหารปกติทั่วไปนะครับดังนั้นพวกเนี้ย
00:12:24 → 00:12:27 เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังมากๆเลยเพราะ
00:12:27 → 00:12:30 ว่าถ้าเรากินเป็นประจำกินนานๆโรคต่างๆถาม
00:12:30 → 00:12:34 หานะครับแล้วยิ่งเด็กสมัยเนี้ยก็จะติด
00:12:34 → 00:12:36 process food ได้ง่ายมากเพราะว่ามัน
00:12:36 → 00:12:39 โฆษณาเยอะโฆษณาเน้นไปที่เด็กแล้วมันอร่อย
00:12:39 → 00:12:41 และบางครั้งมาในรูปแบบของการโฆษณาเชิง
00:12:42 → 00:12:44 สุขภาพทำให้เรารู้สึกว่ามันน่าจะปลอดภัย
00:12:44 → 00:12:48 เช่นอ่าgrาโนolabarารอย่างเงี้ยนะครับ
00:12:48 → 00:12:52 หรือหรือแท่งโปรตีนนะครับหรือเป็น vegan
00:12:52 → 00:12:54 snack เป็นglลูตenฟ snack อะไรอย่าง
00:12:54 → 00:12:57 เงี้ยนะครับมันดูแล้วมีคำสุขภาพหรือเป็น
00:12:57 → 00:12:59 ซีเรียลที่เป็นซีเรียลแบบเอ่อทำมาจาก
00:12:59 → 00:13:02 สุขภาพแท้ไม่เติมโน้นไม่บอกว่าไม่เติมน้ำ
00:13:02 → 00:13:04 ตาหรือบางอย่างบอกว่าเออมีโซเดียมนะแต่
00:13:04 → 00:13:07 ของเราเป็น low โซเดียม
00:13:07 → 00:13:09 แต่คุณลองไปดูสิครับหน้าตาของมันไม่
00:13:09 → 00:13:11 เหมือนอาหารต้นทางสักอย่างเลยไม่มีเค้า
00:13:11 → 00:13:13 โครงเดิมอยู่เลยแล้วที่สำคัญครับยังมีการ
00:13:13 → 00:13:17 ผสมส่วนผสมอื่นๆเข้าไป 5 6 7 ชนิดอย่าง
00:13:17 → 00:13:19 เงี้ยเนี่ยมันคือสิ่งที่คุณจะต้องระมัด
00:13:19 → 00:13:23 ระวังะนะครับทีนี้พอเรารู้แล้วว่า Ultra
00:13:23 → 00:13:25 Press Food เนี่ยมันคืออะไรมันไม่ดียัง
00:13:25 → 00:13:30 ไงแล้วถ้าเราจะต้องกินมันเข้าไปมันจะกิน
00:13:30 → 00:13:33 ยังไงให้ปลอดภัยอ่าตรงนี้สำคัญเพราะว่า
00:13:33 → 00:13:36 มันคงเลี่ยงไม่ได้ครับเพราะว่ามันอร่อยนะ
00:13:36 → 00:13:39 ฮะขนมมันก็อร่อยคนก็ต้องอยากกินนะครับมัน
00:13:39 → 00:13:42 เลี่ยงไม่ได้หรอกครับนะฮะยังไงเราก็ต้อง
00:13:42 → 00:13:46 กินมันเข้าไปทีนี้ครับเวลากินเนี่ย
00:13:46 → 00:13:48 ประเด็นแรกเรารู้ว่ามันทำให้น้ำตาลใน
00:13:48 → 00:13:50 เลือดของเราพุ่งสูงขึ้นเร็วใช่มั้ยครับ
00:13:50 → 00:13:52 เพราะว่ามันดูดซึมได้เร็วดังนั้นถ้าเราจะ
00:13:52 → 00:13:55 กินเนี่ยแนะนำว่ากินก็กินหลังอาหารมื้อ
00:13:55 → 00:13:58 หลักก็จะดีที่สุดเพราะมันมีอาหารอยู่ใน
00:13:58 → 00:14:00 ท้องแล้วมันจะช่วยทำให้การดูดซึมน้ำตาล
00:14:00 → 00:14:03 จากอาหาร process food เนี่ยช้าลงหรือ
00:14:03 → 00:14:05 เราอาจจะกินคู่กับอาหารอย่างอื่นเช่น
00:14:05 → 00:14:08 ไฟเบอร์ผักนะครับหรือว่าเนื้อหรืออะไร
00:14:08 → 00:14:10 อย่างนี้ก็ได้นะครับทำให้มันสามารถช่วยใน
00:14:10 → 00:14:13 การแก้ไขภาวะนี้ได้นะอันนี้อันที่ 1 นะ
00:14:13 → 00:14:16 ครับและแน่นอนครับต้องลดปริมาณให้มันน้อย
00:14:16 → 00:14:18 ที่สุดถ้ามันเป็นไปได้นะครับอย่าไปกิน
00:14:18 → 00:14:19 เยอะเลยทีเดียวเพราะว่ามันจะเกิดปัญหา
00:14:19 → 00:14:22 ต่างๆตามมาเยอะแยะไปหมดนะครับจะยิ่งทำให้
00:14:22 → 00:14:24 เราติดหวานแล้วพอเราติดหวานการเลิกเนี่ย
00:14:24 → 00:14:26 มันไม่ได้เลิกง่ายครับเราต้องค่อยๆลดนะ
00:14:26 → 00:14:29 ครับจะไปหักดิบเลยทีเดียวเนี่ยสงสัยวัน
00:14:29 → 00:14:31 นั้นอาจจะอยู่ไม่รอดทั้งวันเพราะว่ามันจะ
00:14:31 → 00:14:33 หงุดหงิดมากเลยนะครับเวลาที่เราขาดของ
00:14:33 → 00:14:37 หวานในคนที่เคยกินมาก่อนนะครับต่อมานะ
00:14:37 → 00:14:40 ครับอาจจะกินน้ำเข้าไปเยอะหน่อยนะครับไป
00:14:40 → 00:14:43 ทดแทนนะพอเรากินน้ำเข้าไปมันจะเจือจังของ
00:14:43 → 00:14:45 พวกเนี้ยทำให้มันดูดซึมได้ช้าหน่อยอย่าง
00:14:45 → 00:14:49 น้อยก็ยังดีนะครับก็ช่วยในการเจือจางพวก
00:14:49 → 00:14:51 น้ำตาลพวกสารต่างๆนะครับให้มันมีอย่าง
00:14:51 → 00:14:53 อื่นไปปนบ้างนะครับแล้วก็กินหลังอาหาร
00:14:53 → 00:14:57 อย่างที่บอกไปนะฮะทีนี้ครับเวลาที่เรา
00:14:57 → 00:15:00 จำเป็นจะต้องเลือกเอา Ultra Process
00:15:00 → 00:15:03 Food มากินเนี่ยวิธีในการเลือกเนี่ยคือ
00:15:03 → 00:15:06 ดูยังไงนะครับข้อแรกนะครับขอให้เราเลือก
00:15:06 → 00:15:09 สิ่งที่มีส่วนประกอบน้อยที่สุดเท่าที่จะ
00:15:10 → 00:15:12 เป็นไปได้ถ้าเปิดมามี 10 อย่างเลยเอออย่า
00:15:12 → 00:15:14 ไปเอาอันนั้นเลยนะครับถ้ามันเหลือสัก 5
00:15:14 → 00:15:17 อย่างเออยังพอว่านะครับ 4-5 อย่างโอเค
00:15:17 → 00:15:20 อยู่นะครับอ่านี้คือเป็นหลักการเลือกนะ
00:15:20 → 00:15:22 ครับแล้วนอกเหนือจากนั้นก็ต้องไปดูปริมาณ
00:15:22 → 00:15:24 ของโซเดียมหรืออะไรสิ่งต่างๆด้วยนะครับ
00:15:24 → 00:15:27 เช่นอ่ะมีโซเดียมเยอะแค่ไหนวันนึงเนี่ย
00:15:27 → 00:15:29 ปกติเราไม่ควรจะกินโซเดียมเกิน 2 กรัมนะ
00:15:29 → 00:15:32 ครับแต่ถ้าเป็นนักกีฬาออกกำลังกายเยอะอ่ะ
00:15:32 → 00:15:34 แน่นอนมันมากกว่านั้นได้ปัญหาก็คือคนไทย
00:15:34 → 00:15:36 เนี่ยกินโซเดียมเกินเป็นประจำอยู่แล้วบาง
00:15:36 → 00:15:39 คนก็โน่น 7-8 กรัมต่อวันเลยเป็นเรื่อง
00:15:39 → 00:15:42 ธรรมดาในอาหารของเขานะครับบางคนจะบอกว่า
00:15:42 → 00:15:44 เฮ้ยฉันไม่ได้กินเค็มเลยแต่ว่าลิ้นของคุณ
00:15:44 → 00:15:46 มันชินไปแล้วกับสิ่งที่เค็มมันก็เลยไม่
00:15:46 → 00:15:48 รู้สึกว่าเค็มดังนั้นได้รับโซเดียมมากจน
00:15:48 → 00:15:52 เกินไปเกิดอะไรขึ้นครับความดาเลสูงนะครับ
00:15:52 → 00:15:55 โรคหัวใจกำเริบได้ง่ายเป็นโรคไตก็น้ำท่วม
00:15:55 → 00:15:58 ปอดน้ำท่วมขาหรือน้ำคั่งในร่างกายก็ได้
00:15:58 → 00:16:00 ง่ายขึ้นนะครับดังนั้นก็ต้องระมัดระวัง
00:16:00 → 00:16:03 เรื่องของโซเดียมด้วยนะฮะแคลอรี่ดูให้ดี
00:16:03 → 00:16:06 นะครับว่ามันมากน้อยแค่ไหนและนอกเหนือจาก
00:16:06 → 00:16:11 ดูว่าเอ่อมันผลิตได้มาตรฐานมั้ยนะครับ
00:16:11 → 00:16:13 พลังงานมันเท่าไหร่โซเดียมแค่ไหนน้ำตาลมี
00:16:13 → 00:16:16 แค่ไหนนะครับส่วนประกอบมีน้อยหรือยังนะ
00:16:16 → 00:16:19 ครับมันยังต้องระมัดระวังเรื่องของ
00:16:19 → 00:16:22 portion นะครับ Por ในที่เนี้ยคืออะไร
00:16:22 → 00:16:26 มันก็คือการบ่งบอกว่าในสมมุติว่าใน
00:16:26 → 00:16:30 กระป๋องนึงอ่ะมันเขียนว่าอันเนี้ยกินได้
00:16:30 → 00:16:34 กี่ครั้งเช่นอาจจะ 1 มีกี่นะครับทั้ง
00:16:34 → 00:16:36 กระป๋องเนี่ยอาจจะแบบมี 4 serving นะ
00:16:36 → 00:16:39 ครับเบอกว่าเออมี 4 เร่งต่อ 1 กระป๋องนะ
00:16:39 → 00:16:41 ครับและไอ้กระป๋องเนี้ยเขาก็เห็นพลังงาน
00:16:41 → 00:16:44 เช่น 250 กิลแคลอรี
00:16:44 → 00:16:47 ต่อ serving ถ้าคุณไม่ได้ดูอะไรคุณก็คิด
00:16:47 → 00:16:50 ว่าไอ้กระป๋องเทั้งกระป๋องมัน 250 ถูกมย
00:16:50 → 00:16:54 แต่ปรากฏว่าคุณลืมดูว่ามี 4 serving มัน
00:16:54 → 00:16:56 แปลว่าถ้าคุณกินทั้งกระป๋องก็คือ 250 *
00:16:56 → 00:17:00 4 ก็คือ 1,000 กแคลอรี่ไปแล้วนะครับนี่
00:17:00 → 00:17:03 คือสิ่งที่คุณจะต้องดูโซเดียมเหมือนกัน
00:17:03 → 00:17:06 บอกว่าอันนี้ low โซเดียมอ่ะ low โซเดียม
00:17:06 → 00:17:11 จริงนะมี 230 มลกันะโซเดียมแต่ต่อ 1
00:17:11 → 00:17:14 serving นะอันนี้มี 4 serving
00:17:14 → 00:17:18 เป็นไงกินไปกินไปเกินเลยนะครับก็ได้
00:17:18 → 00:17:20 โซเดียมเยอะเลยนะครับถ้าเกิดคุณกินไปที
00:17:20 → 00:17:23 เดียวทั้งกระป๋องนะครับดังนั้นเราก็ต้อง
00:17:23 → 00:17:27 ดูเรื่องของ serving ให้ดีด้วยนะครับดัง
00:17:27 → 00:17:29 นั้นพวกเนี้ยเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆในการ
00:17:29 → 00:17:32 เลือก Ultra Process Food และที่สำคัญ
00:17:32 → 00:17:35 อีกอย่างนึงนั่นก็คือถ้าเราจะกิน Ultra
00:17:35 → 00:17:38 Process Food ให้เราเปลี่ยนยี่ห้อไป
00:17:38 → 00:17:41 เรื่อยๆด้วยถามว่าทำไม
00:17:41 → 00:17:44 ถ้าเรากินแต่ยี่ห้อเดิมเป็นประจำเนี่ยมัน
00:17:44 → 00:17:47 จะมีโอกาสได้สารเคมีตัวเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก
00:17:47 → 00:17:50 ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนมันสะสมในร่างกายแล้วเรา
00:17:50 → 00:17:52 ขับออกไม่ทันแต่การที่เราเปลี่ยนยี่ห้อ
00:17:52 → 00:17:55 เนี่ยเรามีโอกาสที่จะไปสัมผัสกับสารเคมี
00:17:55 → 00:17:58 อีกตัวนึงนะครับไม่ได้เป็นการที่เราสะสม
00:17:59 → 00:18:01 สารเคมีตัวเดิมเพิ่มเป็น 2 เท่าแต่เป็น
00:18:01 → 00:18:04 การสะสมสารเคมีคนละอย่างกันนะครับแล้วพอ
00:18:04 → 00:18:06 คนละอย่างเนี่ยโอกาสที่มันจะขับออกมาได้
00:18:06 → 00:18:08 เนี่ยจะดีกว่าการสะสมอย่างใดอย่างหนึ่ง
00:18:08 → 00:18:11 มากจนเกินไปนะครับอ่ะตรงนี้เป็นสิ่งที่
00:18:11 → 00:18:14 ใช้ในการเลือกอาหารนะครับแล้วก็หลักการ
00:18:14 → 00:18:16 เดียวกับการที่เราจำเป็นจะต้องทานอาหาร
00:18:16 → 00:18:18 ให้มันหลากหลายเพราะว่าการที่เราทานอาหาร
00:18:18 → 00:18:20 หลากหลายเนี่ยนอกเหนือจากจะได้สารอาหาร
00:18:20 → 00:18:23 ที่ครบถ้วนครบหมู่แล้วมันยังเป็นการ
00:18:23 → 00:18:26 เฉลี่ยพิษอีกต่างหากหมายความว่าอะไรหมาย
00:18:26 → 00:18:28 ความว่าถ้าเกิดคุณกินของจากแหล่งเดียว
00:18:28 → 00:18:30 ตลอดเวลาเนี่ยมันอาจจะมีการปนเปื้อนของ
00:18:31 → 00:18:33 สารเคมีบางอย่างซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกระทั่ง
00:18:33 → 00:18:35 มันสะสมในร่างกายแล้วก็เกิดปัญหาขึ้นมาก็
00:18:35 → 00:18:38 ได้นะครับแต่ถ้าเกิดคุณไปกินอ่าอาหาร
00:18:38 → 00:18:40 เหมือนเดิมเนี่ยแต่จากหลายๆแหล่งเนี่ยมัน
00:18:40 → 00:18:43 จะมีพิษต่างๆที่มันไม่เท่ากันก็เป็นการ
00:18:43 → 00:18:45 เฉลี่ยมันลงไปนะครับดังนั้นอันนี้ก็เป็น
00:18:45 → 00:18:47 ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการรับประทานอาหาร
00:18:47 → 00:18:50 ที่มันหลากหลายแล้วก็สมดุนะครับอ่ะโอเค
00:18:50 → 00:18:52 ดังนั้นวันนี้ผมก็หวังว่าหลายคนจะรู้จัก
00:18:52 → 00:18:55 กับคำว่า Ultra Process Food นะครับคือ
00:18:55 → 00:18:58 ลักษณะของมันจะแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม
00:18:58 → 00:19:00 ของอย่างเดิมของอาหารต้นทางเลยแต่อาจจะพอ
00:19:00 → 00:19:02 มีเหลืออยู่ได้บ้างเช่นพวกถั่วเล็กๆน้อยๆ
00:19:02 → 00:19:05 อย่างงี้ก็ได้นะครับและมีส่วนผสมหลาย
00:19:05 → 00:19:08 อย่างเช่น 4-5 อย่างเป็นต้นนะครับนี่คือ
00:19:08 → 00:19:10 Ultra Process Food มันไม่ดีตรงที่มัน
00:19:10 → 00:19:13 มีน้ำตาลเยอะจะเป็นน้ำตาลจริงน้ำตาลเทียม
00:19:13 → 00:19:15 มีปัญหาทั้งคู่ถ้าเกิดกินประจำนะครับแล้ว
00:19:15 → 00:19:19 ก็สารการบูดสารการจับเป็นก้อนนะครับสาร
00:19:19 → 00:19:22 ที่ไปแต่งกลิ่นแต่งสีแต่งรสต่างๆพวกเก็
00:19:22 → 00:19:24 ถือเป็นสิ่งที่เรากินระยะยาวเป็นอันตราย
00:19:24 → 00:19:26 นะครับก่อให้เกิดโรคอ้วนโรคเบาหวานความ
00:19:26 → 00:19:28 ดันไขมันสูงโรคหล่อเลือดหัวใจหลอดเลือด
00:19:28 → 00:19:30 สมองบางคนบอกว่ามีความเกี่ยวข้องกับโรค
00:19:30 → 00:19:33 ทางด้านจิตเวทด้วยแล้วก็บางกรณีเราเจอว่า
00:19:33 → 00:19:35 มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของโรคมะเร็ง
00:19:35 → 00:19:37 อ่าโดยเฉพาะมะเร็งลำไส้มะเร็งเต้านมนะ
00:19:37 → 00:19:39 ครับพวกเนี้ยถ้าเกิดว่าคนไหนที่กินแล้ว
00:19:39 → 00:19:42 มันไม่มีกากใยไฟเบอร์ท้องผูกอ่ะแย่เข้าไป
00:19:42 → 00:19:44 ใหญ่นะครับแล้วก็วิธีกินยังไงให้มันปลอด
00:19:44 → 00:19:47 ภัยมากที่สุดเมื่อกี้ก็เล่าไปแล้วนะครับ
00:19:47 → 00:19:49 สุดท้ายนะครับก็อยากจะตอบคำถามเรื่องราว
00:19:49 → 00:19:52 ของอะไรคือ Ultra Process Food บ้างใน
00:19:52 → 00:19:54 สิ่งที่แบบหลายๆคนชอบลืมนะครับข้อแรกเช่น
00:19:55 → 00:19:56 Way โปรตีนเโปรตีนเป็น Ultra Process
00:19:57 → 00:19:58 Food นะครับแต่ว่าวิธีในการเลือกให้ปลอด
00:19:58 → 00:20:01 ภัยที่สุดก็คือคุณต้องไปดูส่วนประกอบขอ
00:20:01 → 00:20:04 ให้มันมีโปรตีนเปวเพียวๆอ่ะเยอะที่สุด
00:20:04 → 00:20:06 แล้วก็สารอย่างอื่นให้น้อยที่สุดเช่นพวก
00:20:06 → 00:20:09 น้ำตาลนะครับอ่าน้ำตาลต้องมีให้น้อยสาร
00:20:09 → 00:20:12 เคมีการจับเป็นก้อนหรืออะไรพวกเนี้ยให้มี
00:20:12 → 00:20:15 ให้น้อยที่สุดอันนั้นถือโอเคนะครับโปรตีน
00:20:15 → 00:20:18 จากถั่วโปรตีนจากพืชพยายามเลือกอันที่มัน
00:20:18 → 00:20:20 มีแค่โปรตีนอย่างเดียวอย่างอื่นไม่ต้องมี
00:20:20 → 00:20:23 น้ำตาลอะไรไม่ต้องมีมันอาจจะไม่อร่อยนะ
00:20:23 → 00:20:25 แต่ว่าอย่างน้อยมันก็ปลอดภัยสามารถที่ทำ
00:20:25 → 00:20:28 ให้คุณกินได้นะครับโยเกิร์ตอย่างที่บอก
00:20:29 → 00:20:31 ครับไปเลือกอันที่มันไม่มีการเติมน้ำตาล
00:20:31 → 00:20:34 เติมอะไรพวกนี้ไปด้วยนะครับโปรตีนบาร์
00:20:34 → 00:20:36 กาโนล่าบารดูส่วนประกอบให้มันน้อยที่สุด
00:20:36 → 00:20:39 นะครับแล้วก็อย่าไปหลงเชื่อคำที่มันฟัง
00:20:39 → 00:20:44 แล้วดูสุขภาพดีเช่น VN เอ่อglลูตนฟีนะ
00:20:44 → 00:20:47 ครับ Low Fat นะครับไม่ว่ามันจะเขียนว่า
00:20:47 → 00:20:52 อะไรนะครับให้เราไปดูรายละเอียดด้วยว่า
00:20:52 → 00:20:54 มันมีส่วนประกอบอะไรบ้างถ้ามีส่วนประกอบ
00:20:54 → 00:20:56 เกิน 4-5 อย่างขึ้นไป Ultra Process แน่
00:20:56 → 00:21:00 ๆนะครับน้ำตาลมีแค่ไหนอันเนี้ยก็ต้องไปดู
00:21:00 → 00:21:02 นะครับเพราะว่ามันก็จัดเป็นหนึ่งใน ultra
00:21:02 → 00:21:05 process food ถ้าเรามีส่วนผสมแบบเต็มไป
00:21:05 → 00:21:09 หมดเลยนะครับอ่ะเอ่ออีกบางคนก็จะถามว่า
00:21:09 → 00:21:14 แล้วนมนมล่ะนมเป็นอะไรหรือเปล่านะครับนม
00:21:14 → 00:21:16 เปล่าที่แบบสมมุติเราคั้นออกมาจากเต้านะ
00:21:16 → 00:21:18 คือ unprocess ไม่ได้ผ่านอะไรเลยแต่มัน
00:21:18 → 00:21:21 ไม่ดีเพราะว่าอย่างที่ผมเคยทำคลิปไปครับ
00:21:21 → 00:21:23 นมดิบเนี่ยมันมีเชื้อโรคเยอะถ้าเรากิน
00:21:23 → 00:21:25 เข้าไปบางทีเราป่วยได้นะครับถ้าใครจำไม่
00:21:26 → 00:21:28 ได้ไปฟังคลิปเรื่องนมดิบนะครับแต่นมเนี่ย
00:21:28 → 00:21:31 มันต้องเอามาทำการผ่านพอ r ทำ UST พวก
00:21:31 → 00:21:33 เนี้ยเพื่อฆ่าเชื้อโรคเหล่านั้นนะครับ
00:21:33 → 00:21:36 อันเนี้ยเป็นกระบวนการก็จริงเป็น process
00:21:36 → 00:21:39 ก็จริงแต่เป็น process ที่ดี process ไม่
00:21:39 → 00:21:41 ได้แปลว่าอะไรที่แย่เสมอไปนะครับเช่นการ
00:21:42 → 00:21:45 ทำฟรี dry freeze dry ไม่ใช่ process
00:21:45 → 00:21:48 ที่แย่มันยังคงคุณค่าของสารอาหารไว้ได้ดี
00:21:48 → 00:21:50 อยู่นะครับแล้วถ้าเรามีแค่ process เท่า
00:21:50 → 00:21:52 นี้เนี่ยถือว่าเป็น process food แต่
00:21:52 → 00:21:54 เป็น process food ที่เรากินแล้วไม่มี
00:21:54 → 00:21:58 ปัญหานะครับหรือ process ของเราเนี่ยอ่า
00:21:58 → 00:22:01 ถ้านอกจากจะฟรี dry ไปแล้วนะครับแล้วก็
00:22:01 → 00:22:03 อาจจะมี process ชนิดอื่นๆเช่นที่เราทำ
00:22:03 → 00:22:05 กับนมเมื่อกี้อันนี้ก็ถือว่าปลอดภัยไม่
00:22:06 → 00:22:08 ได้มีปัญหาอะไรเลยนะครับการขัดสีข้าวก็
00:22:08 → 00:22:10 ไม่ได้มีปัญหาหามันก็เป็น process อย่าง
00:22:10 → 00:22:14 หนึ่งเหมือนกันนะครับอ่ะหรือฟรี dry พวก
00:22:14 → 00:22:17 ผลไม้อะไรอย่างเงี้ยเหล่านี้คือไม่ใช่
00:22:17 → 00:22:19 สิ่งที่มันเป็น process อันตรายแต่อย่าง
00:22:19 → 00:22:22 ไรดังนั้นวิธีเลือกเราก็ต้องเลือกแบบนี้
00:22:22 → 00:22:25 นะครับวิธีในการดูก็อย่างที่ผมเล่าไปข้าง
00:22:25 → 00:22:27 ต้นนะครับดังนั้นเนี่ยอาจจะมีอาหารหลาย
00:22:27 → 00:22:29 ประเภทที่ผมไม่ได้กล่าวถึงในวันนี้เพราะ
00:22:29 → 00:22:31 มันไม่มีทางหมดแน่นอนอาหารบนโลกนะมีเยอะ
00:22:31 → 00:22:34 แยะไปหมดดังนั้นวิธีจะดูว่ามัน Ultra
00:22:34 → 00:22:37 Process Food หรือไม่ก็อย่างที่ผมเล่า
00:22:37 → 00:22:40 ไปครับดูส่วนประกอบถ้ายิ่งมีเยอะนะครับ
00:22:40 → 00:22:42 เกิน 4-5 อย่าง Ultra Process Food ถ้า
00:22:43 → 00:22:45 เกิดว่าเค้าโครงของมันน่ะไม่เหลือเค้า
00:22:45 → 00:22:47 โครงเดิมอยู่เลย Ultra Process Food นะ
00:22:47 → 00:22:50 ครับแต่ถ้าเกิดมันยังลงคงเหลือเค้าโครง
00:22:50 → 00:22:52 เดิมอยู่เพียงแต่ว่ามันมีส่วนประกอบอย่าง
00:22:52 → 00:22:54 อื่นเต็มไปหมดเลย 5-6 อย่าง 7-8 อย่างนี่
00:22:54 → 00:22:56 ก็ Ultra Process Food เหมือนกันนะครับ
00:22:57 → 00:23:00 ถ้าจะกินก็อย่าไปกินเยอะนะครับกินร่วมกับ
00:23:00 → 00:23:02 อาหารอย่างอื่นเอาให้มันครบหมู่ด้วยนะ
00:23:02 → 00:23:04 ครับกินผสมกับอาหารปกติถ้าเป็นไปได้ไปกิน
00:23:04 → 00:23:07 หลังอาหารครับมันจะได้ช่วยลดการดูดซึมของ
00:23:07 → 00:23:10 น้ำตาลที่มันมากจนเกินไปนะครับโอเควันนี้
00:23:10 → 00:23:11 ก็หวังว่าทุกคนจะเข้าใจเพิ่มมากขึ้นนะ
00:23:12 → 00:23:15 ครับเท่านี้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดี