00:00:24 → 00:00:49 [เพลง]
00:00:49 → 00:00:52 Come on Come
00:00:52 → 00:01:03 on Come come on
00:01:04 → 00:01:06 ครับสวัสดีครับขอต้อนรับเข้าสู่บุพการี
00:01:06 → 00:01:09 ที่เคารพไลฟผ่านทางเพจมนุษย์ต่างวัยนะ
00:01:09 → 00:01:12 ครับกับผมประสานอิงคนันนะครับปกติเราก็จะ
00:01:12 → 00:01:15 พบกันตอนเช้าๆครับวันเสาร์หรืออาทิตย์
00:01:15 → 00:01:18 เวลาประมาณสัก 99:00 นแต่ว่าวันนี้เป็น
00:01:18 → 00:01:21 เหตุเฉพาะกิจนิดนึงนะครับเรามาพบกันตอน
00:01:21 → 00:01:26 เย็นวันนี้วันที่ 8 สิงหาคม 8 เดือน 8 นะ
00:01:26 → 00:01:29 ครับวันนี้เรามาพบกันตอน 19:00 นตรงนะ
00:01:29 → 00:01:33 ครับก็ตรงกับเอ่อการถ่ายทอดสดพิธีปิดการ
00:01:33 → 00:01:36 แข่งขันกีฬาโอลิมปิกพอดีเลยนะครับเพราะ
00:01:36 → 00:01:39 ฉะนั้นถ้าหากว่าคุณผู้ชมที่กำลังชมไลฟ์
00:01:39 → 00:01:41 นี่อยู่ก็ส่งข้อความเข้ามาทักทายนิดนึงก็
00:01:41 → 00:01:45 ได้นะครับว่าเรามีผู้ชมกำลังชมอยู่เสียง
00:01:45 → 00:01:47 หรือภาพนี่ชัดเจนหรือเปล่านะครับวันนี้
00:01:47 → 00:01:50 ประเด็นที่เราจะคุยกันผมคิดว่าน่าจะเหมาะ
00:01:50 → 00:01:53 กับเหตุการณ์สถานการณ์โควิดแบบนี้ครับ
00:01:53 → 00:01:56 เพราะว่าเราจะคุยกันเรื่องโควิดยิ่งแย่
00:01:56 → 00:02:00 พ่อแม่ยิ่งหดหู่ส่วนคุณลูกนั้นต้องทำ
00:02:00 → 00:02:03 อย่างไรบ้างนะครับเพราะว่าสำหรับพื้นที่
00:02:03 → 00:02:05 ของบุพการีที่เคารพนี้ก็จะเป็นพื้นที่ที่
00:02:06 → 00:02:09 เราจะเปิดโอกาสให้บรรดาคนเลูกนี่แหละครับ
00:02:09 → 00:02:11 มาแบ่งปันประสบการณ์
00:02:11 → 00:02:16 มาช่วยกันเคลียร์นะครับว่าถ้าหากว่าเรามี
00:02:16 → 00:02:19 ปัญหาในการดูแลเกี่ยวกับพ่อแม่เนี่ยเออ
00:02:19 → 00:02:21 เราเราจะรับมือกันยังไงบ้างวันนี้เราเลย
00:02:21 → 00:02:24 ก็จะมาคุยกันถึงเรื่องของการรับมือความ
00:02:24 → 00:02:27 เครียดของคุณพ่อคุณแม่ยุคโควิดนี่แหละ
00:02:27 → 00:02:30 ครับพะพูดถึงความเครียดไม่ทราบว่าคุณผู้
00:02:30 → 00:02:34 ชมนี่เครียดกันหรือเปล่าผมเชื่อว่าถ้าถาม
00:02:34 → 00:02:37 หลายๆคนก็น่าจะบอกว่าเครียดแน่นอนนะครับ
00:02:37 → 00:02:40 แต่ว่าแต่ละท่านนี่เครียดจากอะไรกันบ้าง
00:02:40 → 00:02:42 เพราะว่าโดยส่วนตัวผมเองเนี่ยถ้าถามว่า
00:02:42 → 00:02:45 เครียดหรือเปล่าบางทีก็บอกตัวเองว่าเอ๊ะ
00:02:45 → 00:02:48 ไม่เครียดแต่พอคิดไปซักคิดลึกๆไปสักระยะ
00:02:48 → 00:02:51 นึงก็เออจริงๆมันจะเรียกว่าเครียดหรรือ
00:02:51 → 00:02:53 เปล่ามันมีความไม่สบายใจอะไรอย่างเงี้นะ
00:02:53 → 00:02:56 ครับตื่นมาก็รู้สึกว่าเอ้อมันไม่สบายใจก็
00:02:56 → 00:02:58 เลยตั้งคำถามต่อไปว่าเอ้อจริงๆเราเครียด
00:02:58 → 00:03:00 เรื่องอะไรผมว่ามันมีมีสารพัดเรื่องเลยนะ
00:03:00 → 00:03:03 ครับสำหรับสถานการณ์เวลานี้ไม่ว่าจะเป็น
00:03:03 → 00:03:07 เรื่องข่าวสารไม่ว่าจะเป็นเรื่องความหวาด
00:03:07 → 00:03:10 กลัวว่าเออตัวเองจะไปสัมผัสผู้ติดเชื้อ
00:03:10 → 00:03:12 หรือเปล่าจะเป็นโควิดหรือเปล่าถ้าเป็น
00:03:12 → 00:03:16 แล้วจะไปหาทางรักษาที่ไหนนะครับผมเข้าใจ
00:03:16 → 00:03:18 ว่าหลายๆท่านก็น่าจะมีสภาวะเดียวกันนะ
00:03:18 → 00:03:21 ครับเพราะฉะนั้นแต่ละท่านกำลังเครียดหรือ
00:03:21 → 00:03:24 รู้สึกอย่างไรบ้างก็ลองแชร์ความคิดเห็น
00:03:24 → 00:03:27 เข้ามาได้นะครับเพราะว่าช่วงโควิดแบบนี้
00:03:27 → 00:03:30 นะครับผมคิดว่าไม่ว่าเจนไหนก็เครียดนะ
00:03:30 → 00:03:32 ครับตั้งแต่เด็กลงไปเลยเพราะว่าต้องเรียน
00:03:32 → 00:03:35 ออนไลน์นะครับในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้อง
00:03:35 → 00:03:38 คอยดูลูกๆเรียนออนไลน์อีกเหมือนกันในขณะ
00:03:38 → 00:03:41 ที่คนทำงานก็เป็นห่วงเรื่องปากท้องบริษัท
00:03:41 → 00:03:45 จะถูกปิดหรือเปล่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร
00:03:45 → 00:03:48 สำหรับผู้สูงวัยที่เป็นคุณพ่อคุณแม่คุณตา
00:03:48 → 00:03:50 คุณยายที่บ้านก็อาจจะกังวลใจด้วยเหมือน
00:03:50 → 00:03:53 กันว่าเออถ้าติดโควิดจะทำอย่างไรเพราะว่า
00:03:53 → 00:03:56 เป็นกลุ่มเสี่ยงในขณะเดียวกันก็ห่วงไปถึง
00:03:56 → 00:03:58 ลูกหลานอีกเหมือนกันนะครับว่าแล้วลูกพอ
00:03:58 → 00:04:02 ลูกหลานตกงานมีความไม่สบายใจหรือว่ามีลูก
00:04:02 → 00:04:05 หลานอยู่กรุงเทพฯแบบเนี้ยนะฮะก็ห่วงว่า
00:04:05 → 00:04:07 ลูกหลานจะปลอดภัยหรือเปล่านะครับผมเพราะ
00:04:07 → 00:04:11 ฉะนั้นโดยรวมๆผมชื่อว่าทุกเจนนี่ก็ต้อง
00:04:11 → 00:04:14 เจอปัญหาแล้วก็เจอความเครียดลักษณะนี้นะ
00:04:14 → 00:04:16 ครับเพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาคุยกันนะ
00:04:16 → 00:04:19 ครับเรื่องของความเครียดวิธีการรับมือการ
00:04:19 → 00:04:23 แก้ไขปัญหาโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเครียด
00:04:23 → 00:04:28 ของคุณพ่อคุณแม่นะครับวันนี้เราคุยกับ
00:04:28 → 00:04:30 วิทยากรขาประจำของของเราท่านเดิมนะครับ
00:04:30 → 00:04:33 นั่นก็คือศาสตราจารย์ดรอรัญญาตุ้ยคัมภีร์
00:04:33 → 00:04:37 หรือว่าอาจารย์กระตาอาจารย์กระแตนะครับ
00:04:37 → 00:04:41 อาจารย์สวัสดีครับค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีครับ
00:04:41 → 00:04:44 อาจารย์ครับวันนี้พบกันตอนเย็นนะครับ
00:04:44 → 00:04:47 อาจารย์ค่ะปรับเปลี่ยนเวลานิดนึงนะคะเรา
00:04:47 → 00:04:50 เฉพาะกิจหน่อยค่ะครับครับเจอกันตอนที่
00:04:50 → 00:04:52 เค้ามีพิธีปิดโอลิมปิกด้วยนะครับอาจารย์
00:04:52 → 00:04:54 ผมยังลุ้นอยู่ว่าจะมีผู้ชมมากน้อยซักแค่
00:04:54 → 00:04:58 ไหนนะครับคค่ะครับถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวเรา
00:04:58 → 00:05:02 ต้องเอ่อเชื้อเชิญบรรดาผู้ชมให้ดู 2 จอนะ
00:05:02 → 00:05:04 ครับดูบุพการีที่เคารพไปด้วยแล้วก็นั่งดู
00:05:05 → 00:05:08 พิธีปิดโอลิมปิกไปด้วยครับวันนี้เราคุย
00:05:08 → 00:05:09 กันเรื่องความเครียดครับผมเริ่มต้นถาม
00:05:10 → 00:05:13 อาจารย์ก่อนอาจารย์กระแทเครียดมยสภาวะแบบ
00:05:13 → 00:05:17 นี้ครับโอโหมันเป็นทุกคนล่ะค่ะคุณประสาน
00:05:17 → 00:05:20 คะบางทีเครียดแบบรู้ตัวกับเครียดแบบไม่
00:05:20 → 00:05:22 รู้ตัวอย่างที่คุณประสานบอกอ่ะเนาะบางที
00:05:22 → 00:05:26 เนี่ยอ่าใจเราบอกไม่เครียดแต่ร่างกายมัน
00:05:26 → 00:05:30 นำไปแล้วค่ะร่างกายมันจะตึงล้าเราหลหลัง
00:05:30 → 00:05:33 อินมนี่มาเต็มเลยนะคะเราก็จะรู้สึกรับรู้
00:05:33 → 00:05:37 ถึงความตึงต่างๆความตึงตัวเนี่ยค่ะอันนี้
00:05:37 → 00:05:41 ใจได้แต่กายเครียดค่ะเครียดมันก็แสดงออก
00:05:41 → 00:05:46 เหมือนกันออแสดงว่าเวลามันมีร่างเ่อสภาวะ
00:05:46 → 00:05:47 บางอย่างที่เกิดขึ้นทางร่างกายเนี่มัน
00:05:47 → 00:05:50 เริ่มบอกได้แล้วใช่มั้ยฮะว่าว่าเรากำลัง
00:05:50 → 00:05:52 อยู่ในภาวะความเครียดใช่่มครับอาจารย์ถูก
00:05:52 → 00:05:55 ต้องเลยค่ะอ้อครับ
00:05:55 → 00:06:01 ๆนี่มีคุณผู้ชมท่านหนึงเ่อคุณรุจิรัตน์
00:06:01 → 00:06:03 มั้งครับบอกว่าคุณตาคุณยายไม่เป็นอันทำ
00:06:03 → 00:06:06 อะไรเลยโทรมาถามเช้าเที่ยงเย็นนะครับสั่ง
00:06:06 → 00:06:09 ว่าไม่ให้ออกไปไหนที่ออฟฟิศผมมีหลายคนมาก
00:06:09 → 00:06:10 เลยนะครับอาจารย์น้องๆเพราะว่าเป็นคนต่าง
00:06:11 → 00:06:13 จังหวัดเนาะคุณพ่อคุณแม่ก็โทรมาเช็คบ้าง
00:06:13 → 00:06:15 ออกกองไปที่ไหนไปพื้นที่เสี่ยงหรือเปล่า
00:06:15 → 00:06:17 บางคนบอกว่าไม่ต้องทำงานทำการแล้วชวนกลับ
00:06:17 → 00:06:20 บ้านไปอยู่บ้านดีกว่าเพราะว่าช่วงนี้ก็
00:06:20 → 00:06:22 เป็นห่วงนะครับผมว่าเข้าใจว่าหลายๆบ้านน
00:06:22 → 00:06:24 กำลังจะเจอกัน
00:06:24 → 00:06:28 อยู่แบบนี้เลยค่ะบางทีก็หลายรอบต่อวันนะ
00:06:28 → 00:06:32 คะเพื่อให้แนบางทีพอมีข่าวมาทิงแล้วก็อ่า
00:06:32 → 00:06:35 ลูกหลานอาจจะทำงานในบริเวณนั้นที่เพบว่า
00:06:35 → 00:06:39 มีการติดเชื้อมันก็อดไม่ได้นะคะที่ต้องขอ
00:06:39 → 00:06:42 ถามหน่อยเถอะว่ายังอยู่ตรงนั้นมั้ยมี
00:06:42 → 00:06:45 เครื่องป้องกันหรือยังอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:06:45 → 00:06:48 ใช่ๆโดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ก็จะไปห่วงคุณ
00:06:48 → 00:06:51 ลูกมากเป็นพิเศษนะครับเอาล่ะครับอาจารย์
00:06:51 → 00:06:55 เราเข้าถึงคำถามเลยครับว่าในกรณีแบบเนี้ย
00:06:55 → 00:06:58 เราจะเห็นนะครับว่าผู้สูงวัยในบ้านหรือ
00:06:58 → 00:07:01 แม้กระทั่งคุณพ่อคุณแม่ของเรานี่ก็จะมีมี
00:07:01 → 00:07:03 ความเครียดเรืื่องแบบนี้นะครับแต่บางที
00:07:03 → 00:07:06 เนี่ยเราไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่าเพราะ
00:07:06 → 00:07:08 ฉะนั้นคำถามแรกเลยครับอาจารย์ว่าเราจะ
00:07:08 → 00:07:12 สังเกตยังไงว่าผู้สูงวัยในบ้านของเรา
00:07:13 → 00:07:17 เนี่ยมีอาการเครียดแล้วครับอาจารย์อืนะคะ
00:07:17 → 00:07:20 ก็ง่ายง่ายที่สุดเลยนะคะความเครียดเนี้ย
00:07:20 → 00:07:22 มักจะแสดงออกมาทางด้านอารมณ์คันนี้เราจะ
00:07:22 → 00:07:25 เห็นได้ง่ายเป็นอย่างแรกเลยคนที่เครียด
00:07:25 → 00:07:28 เนี่ยจะเจ้าตัวจะรับรู้ว่ามันหงุดหงิด
00:07:28 → 00:07:32 ง่ายครับมันไม่ถูกใจง่ายโมโหง่ายอันเนี้ย
00:07:32 → 00:07:36 ก็เริ่มเริ่มีไยหรือมีอาการของเครียดะถ้า
00:07:36 → 00:07:39 เราถามท่านหรือมีโอกาสได้พูดคุยเนี่ยท่าน
00:07:39 → 00:07:42 บางทีท่านก็จะบ่นๆเออใจคอไม่ค่อยสงบเลย
00:07:42 → 00:07:46 ค่ะก็เป็นเป็นสาเหตุหนึเนาะที่มันเป็น
00:07:46 → 00:07:49 สัญญาณนึงที่บ่งบอกว่าเอาล่ะผู้สูงอายุใน
00:07:49 → 00:07:52 บ้านเราท่านอาจจะมีความเครียดแล้วนะคะ
00:07:52 → 00:07:55 หรืออารมณ์ที่ขึ้นขึ้นลงๆง่ายก็เป็น
00:07:56 → 00:07:59 เหมือนกันอ๋ออย่างพวกอารมณ์แปรปรวนหงุด
00:07:59 → 00:08:01 หงิดง่ายกับบางเรื่องที่บางทีอาจจะไม่เคย
00:08:01 → 00:08:03 หงุดหงิดพวกนี้มันก็เป็นทรายแสดงว่ากำลัง
00:08:03 → 00:08:06 เครียดแล้วใช่มั้ยครับใช่ค่ะกำลังเครียด
00:08:06 → 00:08:09 หรือว่ามีตัวที่มากระตุ้นแล้วล่ะทำให้ให้
00:08:09 → 00:08:12 เริ่มรู้สึกว่าไม่มั่นใจไม่มั่นคงเป็น
00:08:12 → 00:08:16 ห่วงกังวลมากกว่าปกติค่ะมีเรื่องอะไรที่
00:08:16 → 00:08:20 ที่ท่านอาจจะกังวลกลัวอยู่พอโควิดมามา
00:08:20 → 00:08:23 เติมท่านก็จะยิ่งใจคอไม่สงบไม่สบายมาก
00:08:23 → 00:08:26 ขึ้นอันนี้ก็เป็นสัญญาณนึงของความเครียด
00:08:26 → 00:08:31 เหมือนกันค่ะ
00:08:31 → 00:08:34 มีอีกอันนึงนะคะนอกจากทางอารมณ์เนี่ยค่ะ
00:08:34 → 00:08:37 คุณคุณประสาทแล้วท่านผู้ชมเราอาจจะสังเกต
00:08:37 → 00:08:41 ถึงความเครียดในในคุณพ่อคุณแม่ในผู้สูง
00:08:41 → 00:08:44 อายุในบ้านบางทีมันก็ไม่ออกมาทางอารมณ์นะ
00:08:44 → 00:08:47 คะถ้าท่านท่านก็ไม่ชินกับการแสดงอารมณ์
00:08:47 → 00:08:50 หงุดหงิดใส่ลูกหลานแต่ว่ามันจะออกมาทาง
00:08:50 → 00:08:55 สุขภาพค่ะในหลายท่านเนี่ยค่ะเวลาเครียดจะ
00:08:55 → 00:08:59 บ่นปวดนั่นปวดนี่แบบไม่สบาย
00:08:59 → 00:09:04 ดูแบบดูท่านท่านท่านจะปวดหัวปวดท้องหรือ
00:09:04 → 00:09:08 เคยเคยไม่สบายก็จะเป็นมากขึ้นนะคะถ้าเคย
00:09:08 → 00:09:12 ไม่สบายด้วยโรคเดิมนะคะก็จะอาการก็จะดู
00:09:12 → 00:09:16 เยอะขึ้นอันเนี้ยเราอาจจะต้องกลับไปดูว่า
00:09:16 → 00:09:19 ไม่สบายจากภาวะโรคหรือมันมีความเครียดบาง
00:09:19 → 00:09:21 ทีความเครียดมันก็มาจากสิ่งเหล่านี้
00:09:21 → 00:09:27 เหมือนกันนะคะท่านวลงไปดูอ่อนแอลงดูอาการ
00:09:27 → 00:09:31 เป็นมากขึ้นโดยอือโดยไม่เชื่อมโยงกับภาวะ
00:09:31 → 00:09:33 สุขภาพมากนักอย่าเงี้ยนะคะดูทั่วๆไปก็ดู
00:09:33 → 00:09:36 โอเคอยู่นะแต่ว่าทำไมดูท่านท่านพูดถึง
00:09:36 → 00:09:40 เรื่องนี้เยอะหรือบ่นถึงเรื่องนี้เยอะ
00:09:40 → 00:09:43 ครับอ๋ออย่างกรณีถ้าสมมุติว่าบางทีเราไป
00:09:44 → 00:09:46 ถามผู้สูงไวในบ้านหรือถามคุณพ่อคุณแม่
00:09:46 → 00:09:47 เนี่ยช่วงนี้เครียดหรรือเปล่าบางทีเาอาจ
00:09:47 → 00:09:50 จะบอกว่าไม่เครียดแต่จริงๆเขอาจจะเครียด
00:09:50 → 00:09:53 ก็ได้ใช่มครับมันอาจจะแสดงออกด้านอย่าง
00:09:53 → 00:09:56 อื่นค่ะที่ที่นั่นหมายถึงว่าสมดุลมันเสีย
00:09:56 → 00:10:01 ละครับมีเรื่องเข้ามาให้คิดมากมีเรื่อง
00:10:01 → 00:10:04 ให้มาให้กังวลมากอย่างเงี้ยค่ะท่านก็แสดง
00:10:04 → 00:10:08 ออกทางสุขภาพบ้างนะคะสภาพอารมณ์งอันนี้
00:10:08 → 00:10:10 เป็นสิ่งที่เราอยู่ใกล้เราอาจจะต้อง
00:10:10 → 00:10:14 สังเกตกันนะคะอืมแล้วสภาพอารมณ์อย่างที่
00:10:14 → 00:10:16 มี้อาจารย์บอกอ่ะครับเช่นอาจารย์จะสวิง
00:10:16 → 00:10:20 ง่ายจะหงุดหงิดง่ายจะอาจจะมีความไม่พึงพอ
00:10:20 → 00:10:23 ใจง่ายขึ้นนะครับนอกจากนี้ยังมีอาการอะไร
00:10:23 → 00:10:24 บังค
00:10:24 → 00:10:27 อาจารย์ถ้าเป็นถ้าเป็นเกี่ยวกับความ
00:10:27 → 00:10:31 เครียดใหญ่ๆจะจะจะอยู่ในเรื่องของอารมณ์
00:10:31 → 00:10:34 ไม่นิ่งไม่สงบโมโหง่ายหงุดหงิดออันเนี้ย
00:10:34 → 00:10:36 น่าจะเป็นอันเนี้ยเป็นอาการของความเครียด
00:10:36 → 00:10:39 ซะเป็นส่วนใหญ่นะคะเว้นแต่ว่าความเครียด
00:10:39 → 00:10:43 เนี้ยบางทีมันสะสมค่ะมันสะสมอย่างสภาพการ
00:10:43 → 00:10:47 ตอนเนี้ยแบบมันเรื่องโควิดเรื่องครับอ่า
00:10:47 → 00:10:50 การชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนไปของลูกหลาน
00:10:50 → 00:10:53 เรากระทบผู้สูงอายุเไปไหนมาไหนไม่ได้เี้
00:10:53 → 00:10:56 มันสะสมก็อาจจะเพิ่มมาเป็นความกังวลเพิ่ม
00:10:56 → 00:11:01 มาเป็นซึมเศร้าหดหูออืก็สังเกตได้แต่ว่า
00:11:01 → 00:11:03 ถ้าเป็นเรื่องความเครียดที่เป็นอาการ
00:11:03 → 00:11:05 เครียดเนาะเราก็จะพบว่าอาการมันจะอยู่
00:11:06 → 00:11:09 ประมาณเนี้ค่ะใจคอไม่เป็นสุขเลยหงุดหงิด
00:11:09 → 00:11:14 โอโหง่ายคิดมากแล้วก็ใจเมันก็จะฉุดสุขภาพ
00:11:14 → 00:11:17 กายที่ผู้สูงอายุเองก็อาจจะไม่ได้แข็งแรง
00:11:17 → 00:11:22 แต่ต้นก็จะแย่อืครับแล้วอย่างกรณีที่อาจ
00:11:22 → 00:11:24 จะเป็นคนที่เครียดง่ายอยู่แล้วนะครับ
00:11:25 → 00:11:27 อาจารย์พอเจอสถานการณ์แบบนี้ที่เข้าใจ
00:11:28 → 00:11:31 เข้าไปเข้าไปอีกผมก็ใว่าสภาพความรู้สึก
00:11:31 → 00:11:33 นี้มันน่าจะดับเบิ้ลเข้าไปหรือเปล่าครับ
00:11:33 → 00:11:37 ค่ะกระตุ้นกันใหญ่เลยค่ะมีการไปสำรวจนะคะ
00:11:37 → 00:11:40 คุณประสานในที่ผ่านมาโครงการของจุฬาเองก็
00:11:40 → 00:11:43 ได้มีการลงพื้นที่แล้วก็ได้มีการสำรวจคุย
00:11:43 → 00:11:46 กับผู้สูงอายุก็ถามผู้สูงอายุนะคะว่าอ่า
00:11:46 → 00:11:48 ท่านมีอาการดังนี้มั้ยอย่างที่ได้เล่าไป
00:11:48 → 00:11:51 ใจควไม่สงบไม่ผ่อนคลายหงุดหงิดอารมณ์ขึ้น
00:11:51 → 00:11:55 ลงง่ายท่านมีเหล่านี้ไนะคะก็มีประมาณ 7-8
00:11:55 → 00:11:58 รายการผู้สูงอายุตอนที่โควิดยังไม่มานะคะ
00:11:58 → 00:12:02 ฮะฮะอ่าก็จะมีรายงานว่าตัวเองมีครบอย่าง
00:12:02 → 00:12:06 เงี้ยอยู่ในเกณฑ์ที่เครียดเนี่ยประมาณ
00:12:06 → 00:12:08 12 ถึง
00:12:08 → 00:12:12 38% อืคือในคน 100 คนเนี่ยเกิน 10 เนาะ
00:12:12 → 00:12:15 เกิน 10 ถึง 40 ว่าอย่างงั้นเนาะออันนี้
00:12:15 → 00:12:18 ถือว่าเยอะนะครับอาจารย์ดูเยอะดูเยอะครับ
00:12:18 → 00:12:21 ซึ่งเครียดเนี่ยจะขึ้นอยู่กับหลายอย่าง
00:12:21 → 00:12:24 ค่ะว่าทำไมมันห่างมากบางทีทำไมบางบางพื้น
00:12:24 → 00:12:29 ที่บางชุมชนบางบ้านแค่ 12 ทั้งอืใช่ๆอ่ะ
00:12:29 → 00:12:32 นะทั้งชุมชนนะ 100 นึง 12 คนที่รู้สึกว่า
00:12:32 → 00:12:36 ตัวเองเครียดจัดการได้ค่ะที่เหลือจัดการ
00:12:36 → 00:12:40 ได้นะอีก 80 กว่าแต่มาบางบ้านเนี่ยทำไม
00:12:40 → 00:12:43 100 คนเนี่ยเรียกว่าครึ่งนึงเลยอ่ะ 38
00:12:43 → 00:12:46 หรือ 40 ใกล้ๆกันเนาะอครับครึ่งนึงเลยที่
00:12:46 → 00:12:49 เครียดตัวที่มันมันเข้ามามีผลมีปัจจัย
00:12:49 → 00:12:54 ร่วมเนี่ยค่ะอันนึงล่ะคือคือความการอยู่
00:12:54 → 00:12:56 ด้วยกันกับลูกหลานค่ะบ้านไหนที่อยู่กัน
00:12:56 → 00:13:00 ครบถ้วนนะคะมีลูกหลานอยู่อบอุ่นลูกหลาน
00:13:00 → 00:13:04 มั่นคงอันเนี้ยค่ะอยู่แถวๆ 12% ออก็จะ
00:13:04 → 00:13:06 น้อยหน่อยน้อยหน่อยค่ะน้อยหน่อยเรื่อง
00:13:06 → 00:13:09 ความสัมพันธ์ในบ้านความสัมพันธ์ที่ผู้สูง
00:13:09 → 00:13:12 อายุรู้สึกมั่นคงอยู่กันดีๆอย่างเงี้ยค่ะ
00:13:12 → 00:13:17 อันเนี้ 12 12 12 13% นะคะแต่ในบาง
00:13:17 → 00:13:21 บ้านที่ลูกหลานก็ยังรักกันนะคะแต่ลูกหลาน
00:13:21 → 00:13:25 ก็จะต้องดูแลทำมาหากินดูแลปากท้องอ่ะค่ะ
00:13:25 → 00:13:28 ในบางชุมชนที่ลูกหลานเพิ่งเริ่มโตเพิ่ง
00:13:28 → 00:13:31 เริ่มเริ่มที่จะเป็นเนเจอร์ห้างอย่าง
00:13:31 → 00:13:34 เงี้ยค่ะเป็นเนเจอร์ร้านบิ๊กซีอย่างเงี้ย
00:13:34 → 00:13:38 งานมันจะยุ่งมากมันจะไม่มีเวลากลับบ้านไป
00:13:38 → 00:13:41 ดูแลท่านอย่างเงี้ยในขณะเดียวกันท่านก็
00:13:41 → 00:13:45 ตั้งแต่ตั้งแต่เริ่มเป็นเริ่มยังไม่แก่นะ
00:13:45 → 00:13:47 คะท่านก็ทำงานมันก็ออกไม่ได้ท่าจะต้องออก
00:13:47 → 00:13:51 ไปค้าขายไปขายพวงมาลัยไปขายของขาย
00:13:51 → 00:13:53 ก๋วยเตี๋ยวอย่างเงี้ยค่ะสภาพเศรษฐกิจอื่น
00:13:53 → 00:13:57 ๆก็รุมเร้าเนาะในกลุ่มเนี้ยค่ะในกลุ่ม
00:13:57 → 00:14:00 กลุ่มพ่อแม่ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แบบ
00:14:00 → 00:14:02 มันยังจะต้องเกี่ยวข้องกับต้องทำมาหากิน
00:14:03 → 00:14:05 แล้วลูกหลานก็อยู่คนละที่ละทางเงี้ยมัน
00:14:05 → 00:14:08 ขึ้นไปได้เยอะเลยนะคะสิ่งนก็เป็นปัจจัย
00:14:08 → 00:14:11 ค่ะอันนี้คือก่อนโควิดนะคะอครับอาจารย์
00:14:11 → 00:14:14 ว่าหลังโควิดเนี่ถ้าเราเราได้มีโอกาสได้
00:14:14 → 00:14:19 ตรวจสอบกันได้ได้ถามไถยมันตัวเลขมันน่าจะ
00:14:19 → 00:14:23 ก็อาจจะทะลุไปถึง 38% ก็ได้ครับทะลุจาก
00:14:23 → 00:14:26 นั้นไปก็ได้ค่ะครับแสดงว่าปัจจัยนึงที่จะ
00:14:27 → 00:14:30 ช่วยทำให้ความคิดของผู้สูงมากหรือน้อยนี่
00:14:30 → 00:14:34 มันก็เอ่อการดูแลกับความสัมพันธ์ของคนใน
00:14:34 → 00:14:36 ครอบครัวนถิวเป็นปัจจัยสำคัญนะครับ
00:14:36 → 00:14:39 อาจารย์อย่างมากเลยค่ะถ้าเป็นคนไทยเรานะ
00:14:39 → 00:14:42 คะถ้าเป็นคนบ้านเราเนไม่ว่าจะเป็นสังคม
00:14:42 → 00:14:45 เมืองหรือสังคมชนบทเนี่ยค่ะอสิ่งแวดล้อม
00:14:45 → 00:14:48 อันนึงล่ะที่เป็นตัวที่ช่วยให้ผู้สูงอายุ
00:14:48 → 00:14:51 เราเนี่ยค่ะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เราหรือ
00:14:51 → 00:14:54 ว่าคนในบ้านเนี่ยรู้สึกมั่นคงแล้วป้องกัน
00:14:54 → 00:14:58 ได้ทุกโลกนี่คือความสัมพันธ์อืความ
00:14:58 → 00:15:01 สัมพันธ์ที่มีคุณคุณภาพนะครับคันห้องตัว
00:15:01 → 00:15:05 นี่มันบอกเลยอ่ะค่ะว่าปดหู่ข้างนอกปดหู่
00:15:05 → 00:15:09 จากจากสภาพแวดล้อมเนี่ยถ้าตัวนี้ยังไม่
00:15:09 → 00:15:13 มั่นคงด้วยเหตุต่างๆนานาเนี่ยค่ะมันก็จะ
00:15:13 → 00:15:14 ทำให้ตัว
00:15:15 → 00:15:18 เลขของความคนที่เครียดหรือว่าผู้สูงอายุ
00:15:18 → 00:15:22 ที่เครียดก็จะตามระดับขึ้นเลยค่ะอครับ
00:15:22 → 00:15:25 แล้วอย่างในกรณีที่ผู้สูงอายุอยู่อยู่ที่
00:15:25 → 00:15:28 บ้านแล้วเครียดอาจจะด้วยเหตุผลใดเหตุผล
00:15:28 → 00:15:30 หนึ่งรวมถึงสถานและการโควิดด้วยนะครับแต่
00:15:30 → 00:15:34 ว่าไม่มีคนไปช่วยแก้ไขไม่ได้ไม่ได้ไป
00:15:34 → 00:15:38 เยียวยาแบบเนี้ยครับความเครียดพวกนี้มัน
00:15:38 → 00:15:40 จะสะสมไปเรื่อยๆแล้วมันจะแสดงออกมาให้
00:15:40 → 00:15:41 เห็นใช่มั้ครับ
00:15:41 → 00:15:45 อาจารย์ใช่ค่ะในในผู้สงในผู้ใหญ่ผู้สูง
00:15:45 → 00:15:48 อายุแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันนะคะคุณประสา
00:15:48 → 00:15:51 ครับค่ะเราจะเห็นว่าแบบบางคนน่ะสิ่งแวด
00:15:51 → 00:15:54 ล้อมก็อย่างที่บอกว่าแบบลูกหลานก็ยุ่ง
00:15:54 → 00:15:58 ยุ่งอ่าทำมาหากินก็หรือจะต้องไปดูแลลูก
00:15:58 → 00:16:01 ของตัวเองเต้องดูแลงานของตัวเองเนี่ยบาง
00:16:01 → 00:16:05 บ้านผู้สูงอายุก็ปรับตัวได้นะคะก็ก็ก็คือ
00:16:05 → 00:16:08 ท่านแกล่งมาแต่ต้นอย่างเงี้ยค่ะอันนี้ก็
00:16:08 → 00:16:12 ช่วยได้เยอะนะคะอซึ่งหรือนะคะอ่าผู้สูง
00:16:12 → 00:16:16 อายุที่พื้นฐานดีอ่ะค่ะพื้นฐานดีคือ
00:16:16 → 00:16:20 สุขภาพกายก็ดีอครับนะคะสุขภาพใจของเดิมก็
00:16:20 → 00:16:24 ดีอยู่อืของเดิมก็ก็เรียกว่าลุยมามี
00:16:24 → 00:16:27 ประสบการณ์ชีวิตมาอันเนี้ยค่ะพอเจอความ
00:16:27 → 00:16:31 เครียด 12 ถึงถึงเกือบๆครึ่งร้อยเนี่ยไม่
00:16:31 → 00:16:35 เป็นไรไม่เป็นไรท่านก็ฟื้นตัวได้นะคะพอพอ
00:16:35 → 00:16:40 ตั้งหลักได้พอคลี่คลายพอพักมันก็ฟื้นตัว
00:16:40 → 00:16:44 ของมันได้ค่ะอันนี้บางบางท่านก็ฟื้นตัว
00:16:44 → 00:16:48 ได้แต่ในบางบ้านน่ะค่ะที่ที่ที่ผู้สูง
00:16:48 → 00:16:52 อายุอาจจะฟื้นตัวช้าแล้วก็จะนำไปสู่ปัญหา
00:16:52 → 00:16:56 ทางจิตใจอื่นๆนะคะก็อย่างบ้านที่ผู้สูง
00:16:56 → 00:17:01 อายุที่สุขภาพกายไม่ดี
00:17:01 → 00:17:04 นึกนึกถึงนึกถึงนึกถึงโรคที่เสี่ยงต่างๆ
00:17:04 → 00:17:08 อ่ะค่ะโรคเสี่ยงเช่นอครับรกเบาหวานความ
00:17:08 → 00:17:10 ดันอะไรอย่างเงี้นะคะซึ่งเราก็จะพบในผู้
00:17:10 → 00:17:13 สูงอายุเหมือนกันครับอันนี้ก็เป็นตระกูล
00:17:13 → 00:17:16 ncd ทั้งหลายเนี่ยนะครับใช่เลยค่ะใช่เลย
00:17:16 → 00:17:19 แล้วอย่างกรณีโรคซึมเศร้าล่ะครับอาจารย์
00:17:19 → 00:17:21 เพราะเดี๋ยวนี้เาบอกว่าจำนวนผู้สูงอายุ
00:17:21 → 00:17:23 ที่เป็นโรคซึมเศร้าก็เยอะขึ้นเรื่อยๆใช่
00:17:23 → 00:17:26 มั้ยครับเยอะขึ้นค่ะเมื่อหลายปีก่อนเคยมา
00:17:26 → 00:17:29 เป็นอันดับ 2 นะคะถัดจากควัยกลลางคน่ะค่ะ
00:17:29 → 00:17:32 ที่กรมสุขภาพจิตสำรวจไว้ประมาณสัก 3 ปี
00:17:32 → 00:17:35 ที่แล้วอ่ะค่ะโหเป็นอันดับ 2 เลยเหรอครับ
00:17:35 → 00:17:37 อันดับ 2 ค่ะแล้วหากอันดับ 1 ไม่เยอะนะคะ
00:17:37 → 00:17:42 ตีกู่กันมาออแล้วก็ตอนหลังมาก็ก็จะมี
00:17:42 → 00:17:45 เรื่องของวัยรุ่นแทรกขึ้นมาบ้างแต่ยังไง
00:17:45 → 00:17:48 จำนวนอันดับอาจจะเปลี่ยนแปลงแต่จำนวนผู้
00:17:48 → 00:17:50 สูงอายุที่ซึมเศร้าอ่ะไม่ได้เรียกว่าไม่
00:17:50 → 00:17:54 ได้ตกลงเลยค่ะก็ยังอมีจำนวนไม่น้อยที
00:17:54 → 00:17:59 เดียวค่ะที่มีปัญหาเรื่องของดูไม่ไม่ไม่
00:17:59 → 00:18:03 ร่าเริงไม่ยินดีกับสิที่เเคยยินดีแล้วก็อ
00:18:03 → 00:18:05 ไม่มีความสุขอย่างงั้นนะครับไม่มีความสุข
00:18:05 → 00:18:09 ใช่ครับอืเมื่อกี้เราคุยกันเรื่องสาเหตุ
00:18:09 → 00:18:12 ไปแล้วแล้วต่อไปนี่แหละครับอาจารย์คำถาม
00:18:12 → 00:18:16 ก็คือว่าพอเรารู้สึกว่าผู้สูงอายุที่บ้าน
00:18:16 → 00:18:19 เราเครียดด้วยเหตุผลอะไรต่างๆนานาเช่น
00:18:19 → 00:18:23 กลัวจะติดโรคบ้างเป็นห่วงลูกหลานทำงาน
00:18:23 → 00:18:25 อยู่ต่างที่บ้างอะไรอย่างเงี้ยนะครับ
00:18:25 → 00:18:27 สารพัดแล้วบางทีลูกหลานก็ตกงานก็เป็นห่วง
00:18:27 → 00:18:29 ลูกหลานอีกว่าลกหลานตกงานลูกหลานจะทำ
00:18:30 → 00:18:32 อย่างไรเอถ้าเป็นแบบนี้แล้วเนี่ยเราจะแก้
00:18:32 → 00:18:33 ยังไงครับ
00:18:34 → 00:18:39 อาจารย์ค่ะในในในผู้สูงอายุแรกสูดเนี่ย
00:18:39 → 00:18:43 มันต้องมันต้องเช็คก่อนนะคะว่าแบบท่าน
00:18:43 → 00:18:46 ท่านเครียดท่านกังวลหรือท่านเศร้าเนาะ
00:18:46 → 00:18:49 เพราะเพราะ 2-3 อย่างนี้มันก็ต่างกันนะคะ
00:18:49 → 00:18:53 ถ้าเรารู้เนี่ยเราก็จะสามารถที่จะดูแลได้
00:18:53 → 00:18:57 ตรงจุดถ้าเครียดเนี่ยค่ะมันผ่อนคลายมันก็
00:18:57 → 00:19:00 ดีขึ้นนะคะคุณาเพราะว่าความเครียดเนี่ย
00:19:00 → 00:19:03 ว่าไปแล้วอ่ะมันก็เป็นตัวที่กระตุ้นให้คน
00:19:03 → 00:19:06 ได้ลุกขึ้นมาทำนู่นทำนี่เปลี่ยนแปลงหรือ
00:19:07 → 00:19:09 ว่าจัดระบบชีวิตของตัวเองเนาะเพื่อให้มัน
00:19:09 → 00:19:12 เข้าที่เข้าทางแล้วก็เช่นในช่วงนี้ถ้า
00:19:12 → 00:19:15 สิ่งแวดล้อมด้านด้านพวกข่าวสารอะไรมาก
00:19:15 → 00:19:17 เวลาเรารู้ว่าสิ่งนี้มันทำให้เครียดเนี่ย
00:19:17 → 00:19:21 เราก็จะมีระยะสักนิดนึงอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:19:21 → 00:19:24 อันเนี้ยความเครียดที่เรารู้ตัวเยมันจัด
00:19:24 → 00:19:28 การได้ไม่ยากถอยมามันก็ดีขึ้นอืร่างกาย
00:19:28 → 00:19:31 มันยังไม่รวนนะค่ะแต่ก็ปล่อยให้ความ
00:19:31 → 00:19:34 เครียดสะสมเนาะถ้าเกิดว่าโอวันแล้ววัน
00:19:34 → 00:19:36 เล่าที่เราก็ไม่ค่อยรู้ตัวนะคะซึ้มซับไป
00:19:36 → 00:19:40 เรื่อยๆจนเริ่มรู้สึกว่าเอาความคิดออกจาก
00:19:40 → 00:19:43 หัวไม่ได้ห่วงลูกหลานมากๆอวันนึงต้องโทร
00:19:43 → 00:19:47 หาหลายรอบหรือว่าพอดูข่าวปุ๊บใจมันก็ไป
00:19:47 → 00:19:49 นึกถึงว่าเอ๊ะถ้ามันเกิดกับเราล่ะถ้ามัน
00:19:49 → 00:19:52 เกิดกับลูกกับเราล่ะเราจะรับได้มถ้ามัน
00:19:52 → 00:19:55 หมุนกันนอย่างเงี้แสดงว่ามันไม่ใช่แค่
00:19:55 → 00:19:58 เครียดเล้าอมันมีเรื่องของกลัววิตกกังวล
00:19:58 → 00:20:00 เข้ามาแล้วอันเนี้ยต้องหาสาเหตุค่ะว่า
00:20:00 → 00:20:04 อะไรมากระตุ้นอแล้วอย่างกรณีแบบนี้สมมุติ
00:20:04 → 00:20:06 ว่าห่วงลูกห่วงหลานแบบนี้ละครับอาจารย์
00:20:06 → 00:20:08 อาจารย์มีคำแนะนำมั้ยครับว่าจะแก้ไขยังไง
00:20:08 → 00:20:11 ครับลูกหลานต้องสังเกตหรือคุยถามอ่ะค่ะ
00:20:11 → 00:20:16 หรือสังเกตว่าก่อนที่ท่านจะโทรมาแบบโทมา
00:20:16 → 00:20:18 แบบเรียกว่าเต็มไปด้วยความกังวลเก่อนหน้า
00:20:18 → 00:20:21 นั้นท่านทำอะไรอย่างเงี้ยค่ะเผลอๆเราจะ
00:20:21 → 00:20:24 รู้ว่าเออท่านดูข่าวบางข่าวที่ที่เป็น
00:20:24 → 00:20:27 ข่าวที่แสดงความเห็นข่าวมันก็มีหลายแบบนะ
00:20:27 → 00:20:31 คะบางสื่อบางข่าวเนี่ยก็เสนอข่าวที่ที่
00:20:31 → 00:20:33 อาจจะไม่ได้ปนความเห็นน่ะค่ะเป็นเนื้อหา
00:20:33 → 00:20:37 ว่าวันนี้มีกี่รายกี่รายที่ติดโควิดทำให้
00:20:37 → 00:20:39 เรารู้ว่าพื้นที่ไหนติดอย่างเงี้ยค่ะแต่
00:20:40 → 00:20:43 ในบางบางสื่อก็จะมีการวิพากษ์หรือมีการ
00:20:43 → 00:20:46 ให้ความเห็นซึ่งตรงเนี้ยมันกระตุ้นการคิด
00:20:46 → 00:20:50 ของของหลายท่านนะคะครับพอมันได้เริ่มคิด
00:20:50 → 00:20:53 แล้วมันหยุดไม่ได้มันต้องหาอะไรทำเพื่อจะ
00:20:53 → 00:20:56 ลดสิ่งที่คิดทำง่ายที่สุดโทรหาลูกหลาน
00:20:57 → 00:21:00 อย่างเงี้ยค่ะถ้ารู้สาเหตุนะคะเราก็อาจจะ
00:21:00 → 00:21:04 ได้ได้ชวนท่านดูอ่ะว่าเออแบบถ้าดูอย่าง
00:21:04 → 00:21:08 งี้เราดูเช้าๆสักแป๊บนึงดีมอืจากระยะจาก
00:21:08 → 00:21:10 ขอบเขตอย่างเงี้ยค่ะถ้ารู้มาจากความกังวล
00:21:10 → 00:21:14 เงยต้องเป็นรถตัวที่มันมันมากระตุ้นน่ะ
00:21:14 → 00:21:19 ค่ะก็คือลดเหตุมันลดเหตุค่ะครับลดเหตุค่ะ
00:21:19 → 00:21:22 อย่างเช่นว่าถ้าเสพข่าวมากจนทำให้ชีวิต
00:21:22 → 00:21:25 เกิดความวุ่นวายใจเกิดวิตกกังวลก็ต้องบอก
00:21:25 → 00:21:27 ว่าต้องลดๆลงหน่อยอะไรเงี้นะครับใช่ค่ะ
00:21:27 → 00:21:30 แต่มันไม่ง่ายนะคะคุณประสาใช่ครับมันไม่
00:21:30 → 00:21:32 ง่ายครับอาจารย์มันมีเมิอ่ะมีรู้สึกว่า
00:21:32 → 00:21:35 เอ้ยถ้าเราไม่ดูเนี่ยเราจะตกข่าวแล้วเรา
00:21:35 → 00:21:37 จะรู้สึกว่าเราไม่รู้โลกว่าเกิดอะไรขึ้น
00:21:37 → 00:21:40 เงี้ยขอนิดนึงอย่างเงี้ยค่ะแต่มันไม่ใช่
00:21:40 → 00:21:43 นิดนึงใช่ใช่เพราะผมเห็นส่วนใหญ่คนจะให้
00:21:43 → 00:21:46 คำแนะนำว่าเพล้าๆดยหน่อยแต่ถ้าสมมุติคน
00:21:46 → 00:21:49 ที่เป็นคนเสพติดข่าวอยู่แล้วนะครับแล้วก็
00:21:49 → 00:21:51 อยากจะอัปเดตสถานการณ์ตลอดเวลาบอกว่าถ้า
00:21:51 → 00:21:53 ไม่รู้นจะไประวังยังไงล่ะอะไรอย่างเงี้ย
00:21:53 → 00:21:57 บางทีเก็ก็ห้ามยากนะครับค่ะต้องเลือกช่อง
00:21:57 → 00:22:00 อ่ะค่ะบางทีไม่ใช่ว่าเลือกช่องสื่อนะคะ
00:22:00 → 00:22:03 เลือกช่องทางอ่ะค่ะบางบางบางผู้สูงอายุ
00:22:03 → 00:22:05 บางบ้านนะคะอย่างที่อาจารย์รู้จักเเขาจะ
00:22:05 → 00:22:08 เลือกไลนของลูกหลานค่ะเพลูกหลานจะกรอง
00:22:08 → 00:22:10 ข่าวมาให้มันก็มีข่าวเหมือนกันนะคะแต่
00:22:10 → 00:22:12 เป็นข่าวที่กรองจากไลนของลูกหลานน่ะค่ะ
00:22:12 → 00:22:15 ลูกหลานจะรู้ใจรู้ว่าอ๋อถ้าเป็นประมาณ
00:22:16 → 00:22:19 เนี้ยพ่อแม่รับได้อย่างเงี้ยค่ะครับแล้ว
00:22:19 → 00:22:22 แล้วข้อมูลอย่างเงี้ยท่านก็ไม่ตกข่าวใน
00:22:22 → 00:22:26 ขณะเดียวกันมันก็จะไม่ต้องให้ให้ความคิด
00:22:26 → 00:22:29 มันทำงานมากนักอ่ะค่ะอันนี้ก็
00:22:29 → 00:22:33 อปับพื้นที่ให้ท่านได้รับรู้ไม่ได้ปิด
00:22:33 → 00:22:36 กั้นนะคะในขณะเดียวกันก็ให้มีขอบเขตสัก
00:22:36 → 00:22:41 นิดนึงนะค่ะว่าได้แค่ไหนอืแค่ไหนถึงจะทำ
00:22:41 → 00:22:44 ให้สุขภาพยังโอเคอันนี้ต้องต้องกะเอาค่ะ
00:22:44 → 00:22:47 บางบ้านจะไม่เหมือนกันเนาบางบ้านก็ก็ได้
00:22:47 → 00:22:51 เยอะบางบ้านก็ได้น้อยครับการโกหกของลูก
00:22:51 → 00:22:56 หลานช่วยได้มครับอาจารย์เช่นบอกว่าเราไม่
00:22:56 → 00:22:59 เสี่ยงหลอกอะไรอย่างเงี้ยนะครับ
00:22:59 → 00:23:05 ท่านอ่าบน้ำร้อนมาก่อนเราอ่ะฮะเนาะแล้วก็
00:23:05 → 00:23:09 โลกเดี๋ยวนี้อมันมันมันมันเป็นเรียกว่า
00:23:09 → 00:23:13 กรรมมันเร็วติดจรวดนะในความว่าผลผลไม่ดี
00:23:13 → 00:23:16 จะมานะคือคืออะไรที่เกิดขึ้นเนี่ยมันย้อน
00:23:16 → 00:23:19 มันสะท้อนกลับมาได้เร็วมากค่ะทั้งทั้ง
00:23:19 → 00:23:23 สื่อต่างๆนะคะทั้งคนที่เกี่ยวข้องนี่มัน
00:23:23 → 00:23:25 ไปมาหาสุกันได้เร็วค่ะเพราะฉะนั้นสิ่งที่
00:23:25 → 00:23:29 เราพูดไม่จริงเนี่ยมันมันถูกดีทคได้เร็ว
00:23:29 → 00:23:33 ค่ะแล้วสิ่งที่มันหายไปเมื่ออีกฝั่งนึง
00:23:33 → 00:23:38 เช่นพ่อแม่ทราบว่าลูกพูดไม่ตรงความจริง
00:23:38 → 00:23:41 ผูู้้โกหกแม้ว่าจะเป็นโกหกแบบปรารถนาดีนะ
00:23:41 → 00:23:45 คะความเชื่อใจมันจะมันจะระแวงอ่ะค่ะคุณ
00:23:45 → 00:23:48 ภสาก็ยังรักลูกเหมือนเดิมนะแต่รักคนระแวง
00:23:48 → 00:23:51 มันมันนึกดูว่าถ้าคนมีความระแวงกันเนาะ
00:23:51 → 00:23:55 มันจะเช็คกันมากขึ้นน่ะค่ะอืจะคอยโทรถาม
00:23:55 → 00:23:57 กันมากขึ้นหรือว่าเป็นห่วงกันมากขึ้น
00:23:57 → 00:23:59 เพราะไม่แน่ใจว่าออันนี้มันพูดจริงหรือ
00:23:59 → 00:24:02 เปล่าเนี่ยนี้ข่าวจริงเนาคือกลับการว่า
00:24:02 → 00:24:04 โทรหนักกว่าเดิมอีกนะครับวันนึงโทร 3
00:24:04 → 00:24:06 ครั้งโกหกแล้วจับได้ครั้งนึงวันนึงโทร 6
00:24:06 → 00:24:08 ครั้งเลยอย่าเงี้นะความไม่แน่ใจมันจะสูง
00:24:08 → 00:24:11 เนาะหรือว่าถ้าท่านเกรงใจลูกท่านก็จะคิด
00:24:11 → 00:24:14 มากอ่ะท่านก็จะคิดมโนเอาไปเยอะเงี้คะไม่
00:24:14 → 00:24:19 น่าจะเป็นผลดีค่ะอืบอกน้อยบอกน้อยยังดี
00:24:19 → 00:24:22 กว่าโกหกบอกในสิ่งที่จำเป็นที่เราปั่น
00:24:22 → 00:24:25 กรองแล้วคิดว่าอ่ะพ่อแค่ประมาณเนี้ยความ
00:24:25 → 00:24:28 จริงประมาณเนี้ยท่านน่าจะรับได้อย่าอย่าง
00:24:28 → 00:24:31 เงี้ยค่ะอันเนี้ยได้ครับแต่พูดเรื่องนึง
00:24:31 → 00:24:33 ไปเป็นอีกเรื่องนึงอย่างเงี้ยค่ะหรือว่า
00:24:33 → 00:24:36 ไม่มีไม่เสี่ยงไม่เกี่ยวไม่ได้ไปที่นั่น
00:24:36 → 00:24:39 อะไรอย่างเงี้ยค่ะแล้วท่านมารู้ทีหลัง
00:24:39 → 00:24:43 อ้าวอเราก็จะห่วงหนักกว่าเดิมก็จะน่าจะ
00:24:43 → 00:24:45 หนักกว่าเดิมค่ะเพราะว่านั่นหมายความว่า
00:24:45 → 00:24:49 เราเราเราทำสิ่งที่เรียกว่าความมั่นคงทาง
00:24:49 → 00:24:53 ใจของท่านได้สังกรเนาะอืก็สะสมด้านที่
00:24:53 → 00:24:56 เป็นสำความสัมคัญให้ลดลงได้ครับแล้ว
00:24:56 → 00:24:58 อาจารย์แนะนำยังไงครับคือแนะนำให้เราบอก
00:24:58 → 00:25:02 ความจริงแล้วก็บอกด้วยเหตุด้วยผลทำให้ผู้
00:25:02 → 00:25:05 สูงวัยนี่มีความสบายใจขึ้นหรอ
00:25:05 → 00:25:08 ครับประเด็นที่ถ้าสามารถทำได้แล้วดีที่
00:25:08 → 00:25:11 สุดนะคะบอกบนจังหวะที่ท่านเปิดใจรักค่ะ
00:25:11 → 00:25:15 มันมีบางจังหวะเช่นบางบ้านที่อาจจะนั่งดู
00:25:15 → 00:25:17 ทีวีห่างๆกันเป็นจังหวะที่ได้คุยได้คุย
00:25:17 → 00:25:20 กันอย่างเงี้ยค่ะหรือกลับมาในช่วงที่แบบ
00:25:20 → 00:25:22 เตรียมกับข้าวอย่างเงี้ยถ้าท่านอยู่แถว
00:25:23 → 00:25:26 นั้นเราก็ไปป้วนเปี้ยนแล้วอาจจะค่อยบอกใน
00:25:26 → 00:25:30 บางจังหวะที่ท่านท่านท่านท่านพร้อมอ่ะค่ะ
00:25:30 → 00:25:34 อือ๋อเลือกเลือกจังหวะที่เหมาะสมใช่ค่ะ
00:25:34 → 00:25:37 อันนี้สำคัญค่ะถ้าบอกบนจังหวะเราว่าเรา
00:25:37 → 00:25:41 กลัวลืมนะคะต้องรีบบอกอันนี้ท่านอาจจะไม่
00:25:41 → 00:25:44 รับนะคะท่านอาจจะเอตอนนี้ฟังแล้วผ่าน
00:25:44 → 00:25:47 อย่างเงี้ยค่ะอืมถ้าบอกผิดจังหวะนี่อาจจะ
00:25:48 → 00:25:50 อาจจะสติแตกขึ้นมาได้อะไรเงี้ยนะครับอาจ
00:25:50 → 00:25:54 จะสติแตกด้วยค่ะครับครับแล้วถ้าอยู่ในก
00:25:54 → 00:25:56 ถ้ากรณีที่
00:25:56 → 00:25:59 ว่าคุณพ่อคุณแม่หรือู้สูงไวในบ้านที่เกิด
00:25:59 → 00:26:03 อาการเครียดไปแล้วล่ะครับเครียดเช่นแบบ
00:26:03 → 00:26:08 อ่ะฟังข่าวเรมีผู้สูงอายุซึ่งถือเป็น
00:26:08 → 00:26:10 กลุ่มเสี่ยงเนี่ยเสียชีวิตมากๆแล้วก็ยิ่ง
00:26:10 → 00:26:12 ยิ่งฟังก็รู้สึกว่ามันยิ่งใกล้ตัวมากขึ้น
00:26:12 → 00:26:15 เรื่อยๆยิ่งถ้าสมมุติว่ามีเพื่อนข้างบ้าน
00:26:15 → 00:26:19 คนรู้จักเสียชีวิตอ่าบางคนแบบว่าป่วยทั้ง
00:26:19 → 00:26:22 ครอบครัวในครอบครัวก็เสียชีวิตกันหลายคน
00:26:22 → 00:26:24 มีความเครียดสะสมอะไรอีกแบบนี้นะครับ
00:26:24 → 00:26:26 อาจารย์มีคำแนะนำมั้ยครับว่าจะช่วยแก้ไข
00:26:26 → 00:26:33 ยังไงได้บ้างค่ะอาจารย์ว่าอ่าการที่ที่มี
00:26:33 → 00:26:36 การสูญเสียเกิดขึ้นเนี่ยค่ะาว่าใจมันจะ
00:26:36 → 00:26:39 ต่างจากเครียดธรรมดานะคะอืเครียดเครียด
00:26:39 → 00:26:42 ที่เกิดขึ้นความกดดันต่างๆมันมีมันมีตัว
00:26:42 → 00:26:44 กระตุ้นมีสาเหตุที่ชัด
00:26:44 → 00:26:49 เนาะนะคะเช่นเสพข่าวเยอะหรือว่าอ่ามีความ
00:26:49 → 00:26:52 กดดันทางเศรษฐกิจทำมาหากินไม่ค่อยได้ฝืด
00:26:52 → 00:26:55 เคืองอะไรอย่างเงี้ยมีสาเหตุคนรู้สาเหตุ
00:26:55 → 00:26:58 ชัดแต่ว่าการสูญเสียเี่มันมันเป็นอีกแบบ
00:26:58 → 00:27:03 นึงอ่ะค่ะการสูญเสียนี่มันเป็นภาวะที่อคน
00:27:03 → 00:27:07 แบบใจหายอ่ะมันวงๆถ้าเป็นคนที่รู้จักหรือ
00:27:07 → 00:27:11 คนใกล้บ้านมีคนมาบอกว่าโอ๊ยตายละคุณพี่
00:27:11 → 00:27:14 ที่เรารู้จักค่ะหรือว่าท่านเคยไปวัดด้วย
00:27:14 → 00:27:18 กันอ้าวไปซะละอะไรอย่างเงี้ยท่านก็จะรู้
00:27:18 → 00:27:21 สึกว่าชีวิตมันหายไปส่วนนึงมันหายไปอาการ
00:27:21 → 00:27:24 อย่างเงี้ยค่ะมันมันจะต่างจากเทศธรรมดา
00:27:24 → 00:27:27 มันมีเรื่องของความโศกความอาลัยเข้ามา
00:27:27 → 00:27:30 เกี่ยวข้องอเนาะแล้วสิ่งนี้เนี่ยมันมัน
00:27:30 → 00:27:32 ค่อนข้างบั่นทอนผู้สูงอายุเยอะเหมือนกัน
00:27:32 → 00:27:35 นะคะมันทำให้ท่านเ่าไปเหมือนกันเยอะเพราะ
00:27:35 → 00:27:39 ว่าไอ้เรื่องของความศบอาลัยจากการสูญเสีย
00:27:39 → 00:27:44 เนี่ยค่ะมันมันทำให้อนาคตที่เขาจะต้อง
00:27:44 → 00:27:47 อยู่เนี่ยโดยไม่มีคนเหล่านั้นไม่มีความ
00:27:47 → 00:27:50 ทรงจำเหล่านั้นพอนึกถึงแล้วมันไปหาไม่ได้
00:27:50 → 00:27:53 เพราะว่าท่านไม่อยู่แล้วคนคนั้นไม่อยู่อ
00:27:53 → 00:27:57 ครับมันก็มันก็ทำให้เกิดความไม่อยากอยู่
00:27:57 → 00:28:00 ขึ้นเหมือนกันนะคะอรู้สึกว่าโอ๊ยแบบชีวิต
00:28:00 → 00:28:03 มันแค่นี้แหละไม่อยากไปทำอะไรมากเลยก็ไม่
00:28:03 → 00:28:07 กินก็เฉาลงอะไรอย่างเงี้ยค่ะใช่มันสิ่ง
00:28:07 → 00:28:09 นี้มันเกิดกับผู้สูงอายุเราง่ายเหมือนกัน
00:28:09 → 00:28:12 มากกว่าในวัยอื่นๆนะคะเรียกได้ว่ามันมัน
00:28:12 → 00:28:16 สั่นคอนความความเชื่อความศรัทธาในชีวิต
00:28:16 → 00:28:18 เหมือนกันค่ะว่าเอ้ยมันเหมือนหมดอะไรตาย
00:28:18 → 00:28:20 อยากในการมีชีวิตอยู่อย่างงั้นนะครับ
00:28:20 → 00:28:23 อาจารย์อย่างั้นเลยคอย่างงั้นเลยมันไปสู่
00:28:23 → 00:28:26 จุดนั้นได้ได้ง่ายได้ง่ายแล้วถ้ากรณีเป็น
00:28:26 → 00:28:29 แบบนี้ลูกหลานจะรับมือยังไงดีครับอาจารย์
00:28:29 → 00:28:33 คือถ้าเราเราทราบว่าเราเห็นว่าท่านท่าน
00:28:33 → 00:28:35 รู้สึกเยอะหรือเป็นเยอะอ่ะค่ะครับหรือ
00:28:35 → 00:28:38 เศร้าเยอะดูบางคนไม่ออกทางเศร้าแต่โกรธนะ
00:28:38 → 00:28:44 คะออเหรอฮะโกรธดูขุ่นเคืองดูเคืองดู
00:28:44 → 00:28:48 ดูเรียกว่าเนี่ยถ้าเกิดมีคนเข้ามาช่วยเคง
00:28:48 → 00:28:51 ไม่เสียชีวิตเร็วแบบนี้อย่างเงี้ยค่ะโทษ
00:28:51 → 00:28:54 คนนั้นโทษคนนี้อาจจะโทษตัวเองด้วยนะคะว่า
00:28:54 → 00:28:58 เออถ้ารู้แล้วไปไปช่วยไปดูไปเป็นคนเป็น
00:28:58 → 00:29:00 โรงพยาบาลคงไม่เกิดเหตุอย่างงี้อย่าเงี้ย
00:29:00 → 00:29:03 ค่ะอืความโกรธความความคววามรู้สึกผิดมัน
00:29:03 → 00:29:06 จะมากกว่าความเครียดธรรมดาเหล่านี้มันจะ
00:29:06 → 00:29:09 เป็น mi Feeling เนาะการที่คนหนึ่งคนที่
00:29:09 → 00:29:12 เรารู้จักที่เราสนิทที่ใกล้ชิดที่ผุกพัน
00:29:12 → 00:29:16 เสียเพะโควิดอย่างเงี้ยค่ะอปดหูแล้วมันนำ
00:29:16 → 00:29:18 สิ่งนี้อารมณ์ที่เรียกว่าอารมณ์เข้มๆ
00:29:18 → 00:29:21 เหล่านี้มาเยอะเลยค่ะซึ่งคนรอบตัวถ้าเข้า
00:29:21 → 00:29:26 ใจอ่ะก็จะก็จะไม่ไปบอกยอย่าไปคิดมากคนเรา
00:29:26 → 00:29:30 คนก็มีใครๆเขาก็เสียกันทั้งนั้นพูดอย่าง
00:29:30 → 00:29:33 นี้ไม่ได้อ่ะค่ะเามันก็จะเนทำให้ท่านรู้
00:29:33 → 00:29:37 สึกว่าเอ้ยอเราทำอย่างงี้ไม่ควรใช่มั้ย
00:29:37 → 00:29:40 ยิ่งรู้สึกผิดแล้วก็ถอยหันออกมามากขึ้น
00:29:40 → 00:29:42 ค่ะเนาะอแล้วเราควรจะรีแอคยังไงครับ
00:29:42 → 00:29:44 อาจารย์เพราะว่าส่วนใหญ่ผมเห็นคนปลอบใจก็
00:29:44 → 00:29:46 จะพูดคล้ายๆเงี้นะอย่าเศร้าไปเลยไม่ใช่
00:29:46 → 00:29:49 ความผิดของเราอะไรแบบนี้นะครับเอมันเป็น
00:29:49 → 00:29:53 เรื่องธรรมดานะคนเรามันก็เกิดขึ้นได้สิ่ง
00:29:53 → 00:29:56 นี้อะไรอย่านะคะใชครับคนเรามันก็มีจุดที่
00:29:57 → 00:29:59 ต้องมาถึงวันนี้สักวันอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:29:59 → 00:30:03 หลายคนก็จะพูดแบบนี้เนาะซึ่งอครับมักจะ
00:30:03 → 00:30:06 ไม่ค่อยช่วยอ่ะค่ะครับเนาะมักจะไม่ค่อย
00:30:06 → 00:30:09 ช่วยแล้วอย่างงี้แล้วควรจะพูดยังไงดีครับ
00:30:09 → 00:30:14 อาจารย์ค่ะดีที่สุดเลยค่ะคือให้เวลาค่ะ
00:30:14 → 00:30:17 ให้เวลาเนาะแล้วก็แล้วก็ลองพูดให้เา้าได้
00:30:17 → 00:30:22 มีโอกาสพูดอ่ะค่ะอือยู่ด้วยแล้วพูดคุยพูด
00:30:22 → 00:30:26 คุยให้ท่านได้มีโอกาสได้ได้พูดถึงสิ่งที่
00:30:26 → 00:30:29 เกิดขึ้นได้พูดถึงคนที่จากไปได้พูดถึง
00:30:29 → 00:30:33 ท่านเคืองใครโกรธใครอย่างเงี้ยเธให้ได้
00:30:33 → 00:30:36 ระบายว่าอย่างงั้นเถอะค่ะได้มีโอกาสพูด
00:30:36 → 00:30:39 ได้ได้แสดงออกอันเนี้ยมันก็จะทำให้พอยิ่ง
00:30:39 → 00:30:42 พูดมันก็จะยิ่งเห็นตัวเองว่าอ๋อเราเป็น
00:30:42 → 00:30:46 ขนาดนี้อย่างเงี้ยสติมันจะค่อยๆมาค่ะเพ
00:30:46 → 00:30:49 การอยู่ด้วยเนี่ยลูกหลานอาจจะถ้ามีลูก
00:30:49 → 00:30:52 หลานที่มีเวลานะคะการให้เวลาเมันก็จะทำ
00:30:52 → 00:30:56 ให้ผู้สูงอายุอันนึงล่ะสบายใจล่ะว่าลูก
00:30:56 → 00:30:59 หลานอยู่รอบตัวครบเนาะอืสิ่งที่เกิดขึ้น
00:30:59 → 00:31:02 ความสูญเสียที่เกิดขึ้นเนี้ยอย่างน้อยอ่ะ
00:31:02 → 00:31:05 มันมีคนข้างๆที่ร่วมทุกขร่มสุขด้วย
00:31:05 → 00:31:09 อันเนี้ยช่วยได้เยอะค่ะแล้วก็ถ้าเกิดว่า
00:31:09 → 00:31:13 ชวนคุยในเรื่องที่อ่าท่านอยากทำอะไรใน
00:31:13 → 00:31:16 ช่วงนี้เพื่อที่จะจะแสดงถึงความอาลัยอะไร
00:31:17 → 00:31:20 อย่างเงี้ยนะคะอาจจะสวดมนต์อครับช่วยได้
00:31:20 → 00:31:23 ทำสังฆทานทิพย์อย่างเงี้ยค่ะก็ช่วยได้นะ
00:31:23 → 00:31:27 คะสังฆานทิพสังฆทานทิพย์เนาะไปวัดไม่ได้
00:31:28 → 00:31:32 ค่ะช่วงนี้นะคะเทำพิธีที่คิดว่าจะทำให้
00:31:32 → 00:31:36 สามารถที่จะสื่อถึงถึงความสูญเสียเนี่ยคะ
00:31:36 → 00:31:40 ลดความความเศร้าในใจจากการสูญเสียเนี่ยก็
00:31:40 → 00:31:43 สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยช่วยให้ท่านได้ได้มี
00:31:43 → 00:31:47 โอกาสได้แสดงออกได้ก้าวข้ามจังหวะเนี่ยย
00:31:47 → 00:31:51 ช่วยได้เยอะค่ะอืแต่มันมีช่วงเวลาของมัน
00:31:51 → 00:31:55 เหมือนกันนะคะคุณประสาครับว่าวัน 2 วัน
00:31:55 → 00:31:59 อารคือบางทีเรามีลิมิตเวลาเนาว่าเราจะ
00:31:59 → 00:32:01 อยู่กับท่านแค่ได้มากที่สุดในวัน 2 วัน
00:32:01 → 00:32:04 หลังจากนี้เราไม่ได้แล้วนะเวลาเราไม่มี
00:32:04 → 00:32:09 แล้วคะแต่ว่าแต่ว่าช่วงเวลาที่ที่ยิ่งคน
00:32:09 → 00:32:12 ที่สูญเสียเเป็นคนที่รักเป็นคนที่ใกล้ชิด
00:32:12 → 00:32:13 เค่ะมัน
00:32:14 → 00:32:18 ต้องการช่วงเวลาที่จะฟื้นตัวอแล้วต้องการ
00:32:18 → 00:32:21 การซัพพอร์ตแบบนี้เหมือนกันค่ะครับโดย
00:32:21 → 00:32:25 ทั่วไปในภาวะแบบเนี้คนต้องการ
00:32:25 → 00:32:29 ประมาณในอดีตนะคะในที่่าน่านมาเนี่ยมีมี
00:32:29 → 00:32:31 การดูจังหวะการฟื้นตัวนี่ต้องการประมาณ
00:32:31 → 00:32:36 100 วันอืมมันเป็นที่มาของคอนเซป 100
00:32:36 → 00:32:38 วันเนาะเวลามีคนเสียเนี่ยเขาก็จะเก็บไ 100
00:32:38 → 00:32:42 วันแล้วก็ค่อยค่อยพาท่านส่งท่านสู่สวรรค์
00:32:42 → 00:32:45 อะไรอย่างเงี้ยค่ะก็เป็นคเสพของการทำใจใน
00:32:45 → 00:32:48 ระยะเวลาอตั้งแต่วันแรกไปถึงวันที่ 100
00:32:48 → 00:32:53 เนี่ยค่ะมันจะมีความขึ้นลงของใจที่ต่าใน
00:32:53 → 00:32:58 24 ช่ม 48 ช่มหรือ 72 ช่วโมงแรกอ่ะ
00:32:58 → 00:33:02 อ่าบางทีลูกหลานต้องเข้าใจค่ะเวลาชวนท่าน
00:33:02 → 00:33:04 คุยท่านได้ระบายแล้วเนี่ยเหมือนท่านจะดี
00:33:04 → 00:33:07 ขึ้นมาแป๊บนึงนะคะพนี้เช้ากลับไปอยู่ที่
00:33:07 → 00:33:10 เดิมงี้คเอ้อใช
00:33:10 → 00:33:13 ปกติมันปกติเนาะแสดงว่ากรณีแบบนี้ลูกหลาน
00:33:13 → 00:33:17 ต้องเข้าใจแล้วก็ต้องอดทนด้วยไม่ใช่ไม่
00:33:17 → 00:33:19 ใช่ไปสั่งสอนแทนเนาะอย่างเช่นว่าอย่า
00:33:19 → 00:33:22 เศร้าเลยอย่าเศร้าเลยเศร้าไปก็เท่านั้น
00:33:22 → 00:33:24 อะไรเงี้ยฮะเคนตายไปแล้วอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:33:24 → 00:33:28 ครับใช่มั้ยฮะบางทีเราต้องยอมเป็นเป็นผู้
00:33:28 → 00:33:31 ฟังที่ดีแล้วก็ฟังความรู้สึกของของบรรดา
00:33:31 → 00:33:33 คุณพ่อคุณแม่คุณปู่คุณย่าว่าท่านรู้สึก
00:33:33 → 00:33:37 ยังไงนะครับค่ะแล้วพอเราฟังเห็นเราก็จะ
00:33:37 → 00:33:40 ช่วยจัดสิ่งแวดล้อมหรือว่าอ่าย้อนกลับไป
00:33:40 → 00:33:43 ที่ EP เก่าๆนะคะลูกหลานคนโปรดนี่จะได้
00:33:43 → 00:33:46 เข้ามาช่วยนะค่ะมาช่วยทำให้สบายใจอะไร
00:33:46 → 00:33:49 อย่างเงี้นะคะเราก็จะสามารถใช้รีซอร์ซที่
00:33:49 → 00:33:52 ครอบครัวเรามีนะคะช่วยให้ท่านได้ได้สด
00:33:52 → 00:33:55 ชื่นขึ้นได้ฟื้นตัวขึ้นนะคะอืการปรับ
00:33:55 → 00:33:58 อารมณ์อย่างเงี้ยมันใช้เวลาถ้าเกิดว่าเรา
00:33:58 → 00:34:02 เราช่วยช่วยปรับอารมณ์ได้ดีอย่างเงี้ยค่ะ
00:34:02 → 00:34:05 มันจะไม่นานค่ะ 2 อาทิตย์มันก็จะเริ่มแบบ
00:34:05 → 00:34:08 อยู่ตัวถ้าไม่มีตัวกระตุ้นเนี้ยนะคะก็ก็
00:34:09 → 00:34:13 น่าจะคลี่คลายภายใน่เวลาไม่นานเป็นหลัก
00:34:13 → 00:34:17 เดือนอย่างเงี้ยค่ะอันนี้คือดงว่าการฟัง
00:34:17 → 00:34:19 นี่ก็สำคัญนะครับ
00:34:19 → 00:34:23 อาจารย์อย่างมากเลยค่ะครับแต่ไม่ได้ฟัง
00:34:23 → 00:34:26 อย่างเดียวนะคะเราฟังแล้วเราอาจจะสะท้อน
00:34:26 → 00:34:29 ให้สักนิดนึงเนาะเนามาฟังโอเข้าใจเนาะว่า
00:34:29 → 00:34:33 ที่ท่านเล่าเนี่ยแบบอย่างเงี้ยคือคือมัน
00:34:33 → 00:34:37 แย่เนาะมันมันเราก็เหมือนใจจะขาดเนาะ
00:34:37 → 00:34:41 เหมือนเราก็พอเสียเข้าไปแล้วเนี่ยพอพอคุณ
00:34:41 → 00:34:44 ป้าข้างบ้านไม่อยู่เนี่ยรู้นะว่าแบบนะคุณ
00:34:44 → 00:34:47 พ่อหรือคุณตาเนี่ยแบบมันเหมือนเราไม่มี
00:34:47 → 00:34:49 เพื่อนน่ะเนาะอะไรอย่างเงี้ยค่ะเราก็
00:34:49 → 00:34:53 respond ไปท่านก็จะเริ่มได้สติอ่ะค่ะได้
00:34:53 → 00:34:55 สติถ้าท่านบอกว่าอืเนี่ยมันไม่มีเพื่อน
00:34:55 → 00:34:58 เราก็อาจจะเติมได้ว่าไม่เป็นไรช่วงนี้เรา
00:34:58 → 00:35:01 มาอยู่เป็นเพื่อนเนาะหรือให้ให้ตี๋มาอยู่
00:35:01 → 00:35:03 เป็นเพื่อนดีมยอะไรอย่างเงี้ยค่ะเราก็จะ
00:35:03 → 00:35:06 เห็นทางออกค่ะระยะเยค่ะเป็นระยะที่จะต้อง
00:35:06 → 00:35:10 จัดเรียกได้ว่าจัดสมดุลใหม่สักนิดนึงเนาะ
00:35:10 → 00:35:14 เราอาจจะให้เวลาตรงนี้กับท่านออันนี้ก็
00:35:14 → 00:35:17 เรียกได้ว่าถ้าเกิดคนใกล้ชิดต้องต้องจาก
00:35:17 → 00:35:21 ไปแล้วเราสามารถทำได้อันนี้ก็ดีกว่ายาใดๆ
00:35:21 → 00:35:24 เลยค่ะไม่ต้องกินยาจิตเวทค่ะครับอืๆแล้ว
00:35:24 → 00:35:27 อย่างกรณีอันนี้เครียดจากการสูญเสียใช่
00:35:27 → 00:35:30 เลยครับอาจารย์แต่บางทีเครียดจากการเป็น
00:35:30 → 00:35:33 ห่วงลูกหลานแหละเพราะตอนเลูกหลานจำนวนไม่
00:35:33 → 00:35:38 น้อยนะครับอาจจะตกงานบ้างไม่ตกงานก็อาจจะ
00:35:38 → 00:35:42 โดนลดเงินเดือนพอเครู้ความจริงแบบนี้เข้า
00:35:42 → 00:35:45 บางทีเขาก็จะเริ่มเป็นห่วงแล้วว่าตายล
00:35:45 → 00:35:47 เดี๋ยวจะอยู่ได้ยังไงเงินจะพอใช้หรือ
00:35:47 → 00:35:50 เปล่าอย่างงั้นหรือเปล่าเอ่ออย่างงี้เรา
00:35:50 → 00:35:53 ในถ้าเราเป็นเป็นลูกหลานที่กำลังเผชิญกับ
00:35:53 → 00:35:58 ปัญหาแบบนี้เราจะบอกยังไงครับค่ะ
00:35:58 → 00:36:01 อันอันแรกสุดคือไม่โกหกค่ะไม่โกหกเป็น
00:36:01 → 00:36:04 ความสไม่โกหกเนาะอคือถ้าลดเงินเดือนก็บอก
00:36:04 → 00:36:06 เลยนะว่าลดเงิน
00:36:06 → 00:36:10 เดือนค่ะถ้าท่านถามก็คงต้องบอกค่ะว่าลดไป
00:36:10 → 00:36:12 เท่าไหร่เราอาจจะให้ข้อมูลนะว่ามันเรา
00:36:12 → 00:36:15 ลำบากกันช่วงนึงนะบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าช่วง
00:36:15 → 00:36:18 นี้เราอาจจะลำบากกันช่วงนึงนะเรากำลัง
00:36:18 → 00:36:22 ปรับว่าจะทำยังไงที่มันจะไม่กระทบมากหรือ
00:36:22 → 00:36:24 ถ้ากระทบต้องบอกว่าช่วงเนี้ยเราอาจจะน่า
00:36:24 → 00:36:27 ยุ่งๆนิดนึงนะมันลำบากจริงๆอย่างเงี้ยค่ะ
00:36:27 → 00:36:31 อืออืแล้วก็แล้วก็คือต้องต้องเข้าใจอย่าง
00:36:31 → 00:36:35 นึงอ่ะว่าความหดหู่จากโควิดเนี่ยค่ะมัน
00:36:35 → 00:36:40 กระทบเศรษฐกิจกระทบผู้คนกระทบสิ่งแวดล้อม
00:36:40 → 00:36:42 อือมันอาจารย์เรียกมันว่าความหดหู่แบบ
00:36:43 → 00:36:46 เครียดหมู่หรือหดหู่หมู่เงี้ค่ะมันเหมือน
00:36:46 → 00:36:51 มันเหมือนมันเหมือนอ่าคติรวมหมู่ทั้งหลาย
00:36:51 → 00:36:53 นะคะความเครียดความหวดหู่เนี่ยมันเป็น
00:36:53 → 00:36:56 collective เป็น collectivist ในสังคม
00:36:56 → 00:37:01 บ้านเราเนาะมันมันสครับมันไม่ใช่เร่องคอื
00:37:01 → 00:37:05 นะคะถ้าบรรยากาศเรายิ่งหดหูเข้าไปนะคะโอห
00:37:05 → 00:37:08 ตกงานให้เราสุดเศร้าเลยบรรยากาศอย่างนี้
00:37:08 → 00:37:11 แล้วเราก็จมอยู่กับมันเนี่ยมันก็มันก็
00:37:11 → 00:37:14 ช่วยเติมบรรยากาศให้พ่อแม่บ้านเราหดหูมาก
00:37:14 → 00:37:17 ขึ้นนะค่ะถ้าเรารู้ตรงเนี้ยเราก็อาจจะ
00:37:17 → 00:37:21 ต้องเริ่มที่จะปรับที่เราอ่ะค่ะอืครับจะ
00:37:21 → 00:37:24 ไม่เติมความหดหูในบ้านเนเติมพลังงานเข้า
00:37:24 → 00:37:28 ไปในบ้านโอเคมันเมันตกงานมันเครียดเนี่ย
00:37:28 → 00:37:31 เดี๋ยวต้องมาดูว่าเราจะอยู่กับตรงนี้ยัง
00:37:31 → 00:37:34 ไงมันจะมีทางที่เราจะอเสียน้อยที่สุดอย่า
00:37:34 → 00:37:37 เงี้ยค่ะครับจะต้องมาหาทางอย่างเงี้ยแล้ว
00:37:37 → 00:37:40 ก็พอเราเริ่มมีพลังงานถูกกระทบไม่เยอะ
00:37:40 → 00:37:42 ท่านก็จะลืมๆเหมือนกันนะคะแต่ถ้าเรา
00:37:42 → 00:37:45 เครียดเนี่ยท่านก็จะยิ่งอยิ่งเครียดหนัก
00:37:45 → 00:37:48 ไปด้วยยิ่งเครียดหนักค่ะเพเทางออกที่อัน
00:37:48 → 00:37:51 นึงที่อาจจะต้องตระหนักว่าความเครียดเมัน
00:37:51 → 00:37:53 เป็นเรื่องของกลุ่มเป็นเรื่องของหมู่ด้วย
00:37:53 → 00:37:58 นะคะถ้าเราสามารถลดตรงนี้ได้ครับไม่งั้น
00:37:58 → 00:38:01 เดี๋ยวก็จะเครียดเราใช่ค่ะเราเครียดก็จะ
00:38:01 → 00:38:03 จูงคนอื่นให้เครียดไปด้วยนะครับอย่างมาก
00:38:03 → 00:38:06 เลยค่ะยิ่งคนที่รักเราเนี่ยพอเราเครียด
00:38:06 → 00:38:09 เนี่ยท่านจะรู้สึกเป็นหลายเท่าเลยครับ
00:38:09 → 00:38:13 หลายเท่ามีคำถามเข้ามาครับอาจารย์
00:38:13 → 00:38:17 คุณคุณเอมี่ศิละมงครับผมไม่ได้หรือจคุณ
00:38:17 → 00:38:20 ไม่น่าจะอ่านถูกนะครับสอบถามบอกสอบถาม
00:38:20 → 00:38:22 อาจารย์นะครับบอกว่าถ้างานที่เราทำเกี่ยว
00:38:22 → 00:38:24 ข้องกับโควิดจะทำอย่างไรให้คนในครอบครัว
00:38:24 → 00:38:28 ไม่ต้องเป็นห่วงเป็นกังวลหรือเครียดฮะ
00:38:28 → 00:38:31 ค่ะอันนี้โอ้โหด่านบุคลากรด่านหน้านี่จะ
00:38:31 → 00:38:35 เข้าใจว่านะคะนะบุคลากรด่านหน้าบุคลากร
00:38:35 → 00:38:39 ที่ที่ดูแลดูแลแบบช่วยเหลือเยียวยาบรรเทา
00:38:39 → 00:38:43 อยู่ด่านหน้าทั้งหลายนี้กระทบเยอะนะคะถ้า
00:38:43 → 00:38:47 เราสามารถให้ท่านให้พ่อแม่ได้ได้เห็นวิธี
00:38:47 → 00:38:50 ป้องกันตัวของเราอค่ะเพราะพ่อแม่ก็จะรู้
00:38:50 → 00:38:53 เนาว่าโควิดเนี่ยมันติดต่อทางไหนค่ะ
00:38:53 → 00:38:55 อาจารย์ในช่วงนี้อาจารย์สังเกตเห็นหลาย
00:38:55 → 00:38:58 บ้านนะคะซึ่งทำได้ดีซึ่งอาจารย์ก็ว่าดีนะ
00:38:58 → 00:39:02 คะเค้าก่อนออกบ้านนี่เค้าเคจัดวางพื้นที่
00:39:02 → 00:39:05 ในบ้านเลยค่ะอืจัดวางว่ามุมเข้ามาบ้านจะ
00:39:05 → 00:39:09 มีมุมแอลกอฮอล์ตรงนี้นะคะถ้าพลาดจากจุด
00:39:09 → 00:39:12 จุดหน้าบ้านจุดประตูบ้านเนี้ยมันเข้ามา
00:39:12 → 00:39:14 ถึงโต๊ะหน้าบ้านก็จะมีอีก 1 1 จุดที่จะ
00:39:14 → 00:39:17 มีแอลกอฮอล์มีทั้งขวดใหญ่ขวดเล็กถ้าลืม
00:39:17 → 00:39:21 เนี่ยพกติดได้ตลอดพ่อแม่จะมั่นใจอ่ะค่ะ
00:39:21 → 00:39:24 ว่าลูกออกไปทำงานลูกมีอุปกรณ์มี equipment
00:39:24 → 00:39:27 ที่เพียงพอค่ะแล้วก็หมเล่าให้ท่านฟังว่า
00:39:27 → 00:39:30 เวลาเราทำงานเนี่ยมันมีชุดที่ปกป้องหรือ
00:39:30 → 00:39:33 ป้องกันเราแล้วเรามีวิธีป้องกันยังไง
00:39:33 → 00:39:37 อย่างเงี้ยค่ะอันนี้ก็ก็ช่วยได้ตามมาค่ะอ
00:39:37 → 00:39:41 แล้วก็อีกอันนึงอาจารย์ว่าเนาะเรื่องของ
00:39:41 → 00:39:44 บุคลากรด่านหน้าเนี่ยค่ะมันเป็นความภาค
00:39:44 → 00:39:47 ภูมิใจของทุกคนในสังคมแลลึกๆพ่อแม่ก็รู้
00:39:47 → 00:39:50 สึกภูมิใจที่ลูกได้ทำตรงนี้เนาะเราก็อาจ
00:39:50 → 00:39:53 จะดึงส่วนเนี้ยขึ้นมาให้ท่านได้ชุ่มชื่น
00:39:53 → 00:39:56 ใจอ่ะครับว่าลูกทำในสิ่งที่แบบช่วยสังคมอ
00:39:56 → 00:40:01 เป็นดันหน้าแล้วก็ลูกลูกมีเรียกว่าลูกลูก
00:40:01 → 00:40:04 ได้เรียนมาทางนี้เทนนิมาทางนี้เพราะ
00:40:04 → 00:40:08 ฉะนั้นเหมือนนักรบที่มีอาวุธอ่ะค่ะอืเนาะ
00:40:08 → 00:40:11 คนก็จะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นทำให้ทำให้เค
00:40:11 → 00:40:13 รู้จักงานแล้วก็มั่นใจได้ว่าเราสามารถดู
00:40:13 → 00:40:16 แลตัวเองได้มีการป้องกันตัวเองที่ดีอะไร
00:40:16 → 00:40:19 เงี้นะครับอาจารย์ค่ะครับต้องต้องต้อง
00:40:19 → 00:40:22 แสดงสิ่งนี้ให้ท่านได้เห็นเนาะ้าท่านได้
00:40:22 → 00:40:24 เห็นนี่มันก็จะลดได้ไม่มากก็น้อยอ่ะค่ะ
00:40:24 → 00:40:27 แล้วก็อครับบางบ้านใช้วิธี
00:40:27 → 00:40:30 โทรมารายงานก่อนที่ท่านจะโทรไปถามอ่ะค่ะ
00:40:31 → 00:40:34 ออก็รู้ว่าจังหวะเนาะจังหวะเนี้ยแบบเช้า
00:40:34 → 00:40:37 มาช่วงกลางวันหรือช่วงเย็นเนี่ยท่านจะ
00:40:37 → 00:40:40 เริ่มดูข่าวแล้วจะเริ่มถามเดักคอไวเลยค่ะ
00:40:40 → 00:40:44 โทรมาบอกเลยว่าตอนนี้อ่าอยู่ที่นี่อยู่
00:40:44 → 00:40:46 จุดนี้ปลอดภัยดีงเงี้ยการได้ยินเสียง
00:40:47 → 00:40:50 เนี่ยมันก็ทำให้ท่านแบบลดความกังวลตรงนี้
00:40:50 → 00:40:54 ลงไปได้แล้วก็จะไม่โทรหาแล้วไม่โทรบ่อยก็
00:40:54 → 00:40:57 รู้ว่าเดี๋ยวเขาจะโทรมาอย่างเงี้ยค่ะทำสิ
00:40:57 → 00:40:59 สามารถทำให้เป็นรูทีนอาจารย์ไม่แน่ใจว่า
00:40:59 → 00:41:01 อันนี้จะยากเกินไปหรือเปล่าค่ะถ้าเรา
00:41:01 → 00:41:04 สามารถทำรูทีนใหม่อย่างเงี้ยเนาะท่านก็จะ
00:41:04 → 00:41:07 มั่นใจว่าอ๋อลูกไปเยเนี่ยเช้าก็ได้ยิน
00:41:07 → 00:41:11 เสียงกลางวันลูกทำงานเราก็ยังได้ยินเสียง
00:41:11 → 00:41:15 ครับอันนี้ก็ช่วยได้อคือแทนที่จะหายไปเลย
00:41:15 → 00:41:17 หรือแทนที่จะปิดบังข้อเท็จจริงเราบอก
00:41:17 → 00:41:20 เรื่องข้อเท็จจริงว่าเราทำงานอย่างไรบ้าง
00:41:20 → 00:41:22 ทำให้เขาพูดนี้ก็ทำให้เขาได้ข้อมูลมากที่
00:41:22 → 00:41:24 สุดอันนี้น่าจะเป็นจุดหนึ่งที่ช่วยได้นะ
00:41:24 → 00:41:27 ครับที่ช่วยได้ค่ะแล้วมันก็สร้างความคิด
00:41:27 → 00:41:29 เขแข็งให้กับเด้วยเนาะแล้วอาจจะส่งผลกับ
00:41:29 → 00:41:33 ลูกเราที่เราฝากไว้กับพ่อแม่ลูกก็จะมั่น
00:41:33 → 00:41:36 ใจมากขึ้นนะคะว่าเออเห็นว่าแม่เนี่ยแมี
00:41:36 → 00:41:39 อะไรก็บอกคุณยายบอกคุณตาอะไรอย่างเงี้ย
00:41:39 → 00:41:44 ค่ะลูกก็จะมั่นใจมากมีสมีคำถามจริงๆก็น่า
00:41:44 → 00:41:46 จะเป็นความเห็นนะครับจากคุณฟาร์มสุข
00:41:46 → 00:41:49 บิ๊กไบบอกว่าลดการเสพข่าวด้านรบค่ะทำ
00:41:49 → 00:41:52 กิจกรรมร้องเพลงทำอาหารออกกำลังกายอันนี้
00:41:52 → 00:41:55 ก็คือเบี่ยงเบนความสนใจไปทำกิจกรรมอื่นไป
00:41:55 → 00:41:58 เลยใช่มครับค่ะอืเป็นการสร้างภูมิให้ตัว
00:41:58 → 00:42:01 เองด้วยนะคะอาจารย์ว่าครับเป็นการลงทุน
00:42:01 → 00:42:04 ให้กับตัวเองที่จะได้ปกป้องตัวเองจากจาก
00:42:04 → 00:42:07 ครับช่วงไหนอันนี้คำถามจากคุณอันธิกานี้
00:42:07 → 00:42:09 น่าจะตอบไปแล้วถามบอกว่าผู้สูงอายุที่
00:42:09 → 00:42:13 บ้านโทรมาทุกวัน 3 เวลาหลังอาหารถามถ่าย
00:42:13 → 00:42:16 ด้วยประโยคเดิมๆด้วยนะครับทำให้เราเกิด
00:42:16 → 00:42:19 ภาวะความเครียดไปด้วยเราจะพูดกับพวกท่าน
00:42:19 → 00:42:21 อย่างไรให้ท่านมีความกังวลน้อยลงและพูด
00:42:21 → 00:42:24 อย่างไรไม่ให้ท่านรู้สึก
00:42:24 → 00:42:27 แย่ค่ะอันนึงล่ะค่ะอาจารย์ว่าใช้เทคนิค
00:42:28 → 00:42:30 การโทรไปดักคอนะคะว่าถ้าเรารู้ว่าท่านจะ
00:42:30 → 00:42:34 โทรมาประมาณอย่างเงี้ยค่ะถ้าเราได้ได้อ่า
00:42:34 → 00:42:38 ได้สม่ำเสมอโทรไปไปเรียนท่านก่อนโทรไปบอก
00:42:38 → 00:42:41 ท่านก่อนหรือคุยท่านก่อนก็ช่วยได้ค่ะอการ
00:42:41 → 00:42:46 พูดเอาจารย์ว่าถ้าสามารถให้ความพูดให้
00:42:46 → 00:42:48 เห็นภาพว่าเราทำอะไรอย่างเงี้ยค่ะบนความ
00:42:48 → 00:42:51 เป็นจริงนะคะบนความเป็นจริงที่ไม่มากเกิน
00:42:51 → 00:42:54 ไปนะคะออันนี้ก็ช่วยได้ว่าเราอยู่ที่นี่
00:42:54 → 00:42:58 นะตอนนี้โอเคนะอยู่ในที่ที่ทำงานซึ่งคน
00:42:58 → 00:43:02 ไม่ได้เยอะอย่างเงี้ยค่ะเซที่มีการดูแล
00:43:02 → 00:43:05 ความปลอดภัยแล้วเราอยู่ที่นี่ไม่นานอยู่
00:43:05 → 00:43:07 ไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อจุดอะไรอย่างเงี้ย
00:43:07 → 00:43:10 ค่ะเราอาจจะเลือกจุดที่เราคิดว่าเป็นจริง
00:43:10 → 00:43:13 แล้วก็เป็นสิ่งที่ทำให้ท่านรู้สึกมั่นใจ
00:43:13 → 00:43:16 ถึงความปลอดภัยของเราตรงนี้ก็อยากให้สื่อ
00:43:16 → 00:43:20 สารนะคะถ้าสื่อสารได้สิ่งเนี้ยก็จะทำให้
00:43:20 → 00:43:24 มันสร้างความมั่นใจต่อกันเนาะแล้วก็ความ
00:43:24 → 00:43:28 กังวลความบนความไม่แน่ใจนะมันก็จะลดลงค่ะ
00:43:28 → 00:43:31 ครับความไม่แน่ใจความไม่เชื่อใจความไม่
00:43:31 → 00:43:34 แน่นอนเนี่ยคนก็จะเริ่มแบบอ๋อมันเป็น
00:43:34 → 00:43:39 อย่างงี้อืกังวลน้อยงครับโอคำถามนี้ผมว่า
00:43:39 → 00:43:41 น่าสนใจนะครับเบอกว่าทำอย่างอะไรดีให้ผู้
00:43:41 → 00:43:44 สูงไว้ที่บ้านเบอกผู้สูงอธิว่าไม่กลัว
00:43:44 → 00:43:48 โควิดเลยค่ะไม่กลัวจนลูกหลานกลัวแล้วก็
00:43:48 → 00:43:51 กังวลด้วยอ่าเช่นบางทีไม่ยอมเปลี่ยนหน้า
00:43:51 → 00:43:54 กากอนามัยด้วยนะครับบอกใช้ซ้ำหลายวันแบบ
00:43:54 → 00:43:56 นี้ควรเตือนยังไงดีเออจริงๆนะครับผมผม
00:43:56 → 00:43:59 เห็นหลายๆครอบครัวนะบางทีผู้สูงวัยเนี่ย
00:43:59 → 00:44:01 อาจจะกลัวโควิดน้อยกว่าคนหนุ่มสาวเพราะ
00:44:01 → 00:44:03 ว่าส่วนหนึ่งผมเข้าใจว่าอาจจะเสพข่าวน้อย
00:44:03 → 00:44:05 เขาไม่ได้อยู่กับโซเชียล Media ใช่มั้ย
00:44:05 → 00:44:07 ครับบางทีเขาก็ไม่รู้หรอกว่าหยอดคนเสีย
00:44:07 → 00:44:10 ชีวิตเท่าไหร่เตียงไม่มีอะไรเงี้ยฮะก็อาจ
00:44:10 → 00:44:13 จะดูข่าวบ้างแต่ว่ารู้ลึกเไม่รู้นะครับ
00:44:14 → 00:44:17 บางทีความกังวลก็บางทีจะน้อยกว่าเลยเลย
00:44:17 → 00:44:20 กลายเป็นทำให้บาทีลูกหลานจะดูว่าเอ้ยผู้
00:44:20 → 00:44:22 สูงวัยประมาทหรือเปล่าแล้วพอไปเตือนก็จะ
00:44:22 → 00:44:25 ไม่ฟังด้วยกรณีแบบนี้ทำยังไงครับอาจารย์อ
00:44:25 → 00:44:27 คะท่านท่านไม่ได้ปกป้องตัวเองนี่เป็นจุด
00:44:27 → 00:44:31 อ่อนเลยนะท่านไม่เครียดนะคะนะซึ่งตรงตรรง
00:44:31 → 00:44:32 ข้ามกับหัวข้อวันนี้ว่าผู้
00:44:33 → 00:44:36 สตรงข้ามกับหัวข้อเนาะเพท่านไม่เครียดนะ
00:44:36 → 00:44:39 คะเราอย่าไปทันให้ท่านเครียดเลยค่ะนะคะ
00:44:39 → 00:44:41 หมายถึงว่าแบบอาจจะไม่ได้ไม่ได้ให้ท่าน
00:44:41 → 00:44:45 แบบฟังข่าวที่น่ากลัวอย่างเงี้ยนะคะแต่
00:44:45 → 00:44:48 ว่าก็ยังต้องให้ข้อมูลอยู่ค่ะต้องให้ข้อ
00:44:48 → 00:44:52 มูลแล้วการการให้ข้อมูลเนี้ยคนใกล้ชิดมี
00:44:52 → 00:44:56 ความสำคัญคนใกล้ชิดในการรับรู้ของของคุณ
00:44:56 → 00:44:59 ตาคุณยายนะคะคนคุณพ่อคุณแม่เนาะเช่นเมี
00:44:59 → 00:45:02 เพื่อนบ้านอย่างเงี้ยค่ะซึ่งซึ่งได้รับ
00:45:02 → 00:45:05 รู้ข่าวตรงตรงนี้ค่ะอาจจะใส่ช่องตรงเนี้ย
00:45:05 → 00:45:07 ในการที่เขาบอกกล่าวกันนะคะว่าตอนนี้มัน
00:45:07 → 00:45:10 น่ากลัวนะปากซอยบ้านเรามีคนติดนะอะไร
00:45:10 → 00:45:13 อย่างเงี้ยค่ะอันนี้ก็จะช่วยให้ท่านได้
00:45:13 → 00:45:16 เกิด aware awareness ขึ้นเกิดความ
00:45:16 → 00:45:19 ตระหนักขึ้นมาว่าเออมันใกล้ตัวมากแล้วก็
00:45:19 → 00:45:23 มันก็ส่งผลมากอย่างเงี้ยค่ะสิ่งนี้ก็ก็
00:45:23 → 00:45:27 ไม่อยากให้นิ่งนอนใจนะคะให้ข้อมูลเยอะการ
00:45:27 → 00:45:31 ขู่เนแล้วกับการให้ข้อมูลใช่มฮะค่ะขู่นี่
00:45:31 → 00:45:35 อาจจะได้ได้ท่านท่านไม่ทำให้การขู่นี่คือ
00:45:35 → 00:45:37 ท่านไม่ทำให้เรารู้อ่ะค่ะครับท่านไม่ได้
00:45:37 → 00:45:41 กลัวโควิดนะคะถ้านเราขู่ท่านกลัวเราอออ
00:45:41 → 00:45:45 ครับนะะทสนใจนะครับอการให้ข้อมูลกับการ
00:45:45 → 00:45:47 ขู่นี่ไม่เหมือนกันนะไม่เหมือนกันค่ะไม่
00:45:47 → 00:45:50 เหมือนกันก็ส่งผลต่างกันด้วยนะคะแล้วอย่า
00:45:50 → 00:45:53 ลืมนะคะถ้าท่านได้แสดงออกตรงไหนว่าโอ้
00:45:53 → 00:45:56 ท่านเริ่มตระหนักนะคะเริ่มที่จะป้องกัน
00:45:56 → 00:45:59 ตัวเองอย่าลืมชมอย่าลืมเสริมแรงเลยค่ะ
00:45:59 → 00:46:02 อย่าลืมให้ความมั่นใจว่าแบบนี้แหละแบบนี้
00:46:02 → 00:46:07 แหละถูกต้องแบบนี้แหละที่ที่ตอนเนี้ยถ้า
00:46:07 → 00:46:10 คุณตาคุณยายทำแบบนี้คุณพ่อคุณแม่ทำแบบนี้
00:46:10 → 00:46:13 ลูกหลานสบายใจมากอย่าลืมชมสิ่งนี้ลงไปนะ
00:46:13 → 00:46:17 คะต้องชมด้วยอืค่ะต้องชมยให้ให้เสริมแรง
00:46:17 → 00:46:19 เนาะบางท่านอาจจะไม่ชอบให้ชมแต่ท่านต้อง
00:46:19 → 00:46:23 มีบางอย่างที่ทำแล้วเนี่ยท่านจะรู้สึกว่า
00:46:23 → 00:46:26 เออันเนี้ยท่านโอเคท่านชอบเี้อครับเป็น
00:46:26 → 00:46:29 เป็นการเสริมแรงนะครับเป็นการเสริมแรง
00:46:29 → 00:46:33 เนาะก็จะช่วยให้ให้พฤติกรรมที่ที่ไม่กลัว
00:46:33 → 00:46:36 โควิดเนี่ยค่ะอืเริ่มมากลัวเนี่ยมันมัน
00:46:36 → 00:46:40 เริ่มมีมีความตระหนักมีการระมัดระวัง
00:46:40 → 00:46:45 อย่างสม่ำเสมอมากขึ้นอืครับิอาจจะเป็นคำ
00:46:45 → 00:46:48 ถามสุดท้ายครับอาจารย์คือเมื่อกี้เราคุย
00:46:48 → 00:46:50 เรื่องคุณพ่อคุณแม่คุยเรื่องผู้สูงวใน
00:46:50 → 00:46:52 บ้านไปแล้วแต่เราคุยเรื่องคนทำงานไว
00:46:52 → 00:46:55 ประมาณประมาณงี้บ้างครับประมาณผมประมาณคน
00:46:55 → 00:46:57 ที่อาจจะอ่อนลงมาเนี่ย
00:46:57 → 00:46:59 แน่นอนว่ามีความเครียดทั้งเรื่องเครียด
00:46:59 → 00:47:01 เรื่องงานเครียดเรื่องปัญหาเศรษฐกิจต้อง
00:47:02 → 00:47:04 กลับมารับมือกับคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านที่มี
00:47:04 → 00:47:07 ความวิตกกังวลเราควรวางใจยังไงดีครับ
00:47:07 → 00:47:10 อาจารย์ที่ทำให้ไม่เครียดจนเกินไป
00:47:10 → 00:47:14 ครับค่ะอันนึงต้องต้องเข้าต้องต้องรับรู้
00:47:14 → 00:47:16 นะว่าเครียดที่เราเจออยู่ตอนเนี้ยมันเป็น
00:47:16 → 00:47:20 ระดับภัยวิบัติอ่ะค่ะอืมันอาจจะไม่ได้จัด
00:47:20 → 00:47:22 การด้วยวิธีธรรมดาเนาะมันไม่ได้เครียด
00:47:22 → 00:47:25 กระทบใจอย่างเดียวเนาะมันเครียดไปกระทบ
00:47:25 → 00:47:29 ถึงถึงความเชื่อมั่นในอนาคตของเราด้วยอ่ะ
00:47:29 → 00:47:32 ค่ะครับเนาะเพราะฉะนั้นตรงนี้ถ้าเรารู้
00:47:32 → 00:47:35 แบบเนี้ยเราอาจจะต้องเริ่มเริ่มจากอันแรก
00:47:35 → 00:47:39 สุดเนาะการการวางใจเนี่ยอาจจะไม่ใช่แค่
00:47:39 → 00:47:43 ว่าแค่ว่าเอ้ยทำใจให้สบายให้ผ่อนคลายอย่า
00:47:43 → 00:47:47 คิดมากให้คิดบวกสิ่งนี้ก็ทำก็ดีนะคะแต่
00:47:47 → 00:47:51 อีกสิ่งนึงอ่ะค่ะอาจารย์ว่าคนวัยวัยทำคน
00:47:51 → 00:47:55 ทำงานน่ะอาจจะย้อนกลับไปดูแลจัดใจตัวเอง
00:47:55 → 00:47:58 ว่าเรื่องเทำให้เราเสียขวัญเสียกำลังใจ
00:47:58 → 00:48:05 แค่อืเนาะอาจารย์ว่าหลายคนน่ะแบบพอเสีย
00:48:05 → 00:48:09 งานเศรษฐกิจดูไม่ดีแล้วงานมันไปไม่ได้
00:48:09 → 00:48:12 เนี่ยใจกระเจิงขวัญกระเจิงเลยค่ะความ
00:48:12 → 00:48:15 เชื่อมั่นในตัวเองความเชื่อมั่นในอนาคต
00:48:15 → 00:48:18 เี่ไม่เหลือเลยค่ะอาจารย์ว่าจุดเนี้ยอาจ
00:48:18 → 00:48:21 จะต้องเรียกกลับคืนมาให้เร็วที่สุดอย่าง
00:48:21 → 00:48:24 ประโยคที่ว่าเสียอะไรก็เสียได้แต่อย่าให้
00:48:24 → 00:48:29 เสียและกำลังใจอันคำสวยๆที่พูดเนาะแต่ว่า
00:48:29 → 00:48:32 มันมันสำคัญทีเดียวค่ะอาจจะต้องย้อนกลับ
00:48:32 → 00:48:35 ไปถึงว่าอ่าสิ่งที่มันทำให้หล่อเลี้ยงทำ
00:48:35 → 00:48:39 ให้เราเจอกับเรื่องยากๆงานยากๆเนี่ยเคยมี
00:48:39 → 00:48:42 อะไรที่ที่เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวเราเคยมี
00:48:42 → 00:48:45 อะไรที่เราให้ Value หรือให้คุณค่าอาจจะ
00:48:45 → 00:48:48 หยิบขึ้นมาครับหยิบขึ้นมาดูอ่ะค่ะหยิบ
00:48:48 → 00:48:51 ขึ้นมาใช้ในช่วงนี้อืแล้วบางคนแบบว่าคุณ
00:48:51 → 00:48:57 ค่าที่ตัวเองให้สม่ำเสมอเนี่ยคือคือหนัก
00:48:57 → 00:49:01 เอาเบาสู้ลุยงแกล่งอย่างเงี้ยค่ะอาจจะ
00:49:01 → 00:49:04 ต้องหยิบสิ่งนี้ขึ้นมาว่าในยามนี้แหละ
00:49:04 → 00:49:06 เป็นยามที่เราจะได้ใช้สิ่งเนี้ยเพื่อพู
00:49:06 → 00:49:09 ว่าไอ้สิ่งที่คุณค่าที่เราเห็นเนี่ยมัน
00:49:09 → 00:49:12 สามารถทำได้ใช้งานได้จริงอย่างเงี้ยค่ะอื
00:49:12 → 00:49:16 เเงินเราจะลดลงจากกระเป๋าหรือว่างานเราจะ
00:49:16 → 00:49:20 ลดลงครับเนาะหรือว่าบางคนก็จะศรัทธาเป็น
00:49:20 → 00:49:23 ความเชื่อความศรัทธาเนาะความเชื่อความ
00:49:23 → 00:49:25 ศรัทธาในพระเจ้าที่อาจจะบอกว่าช่วงจังหวะ
00:49:25 → 00:49:28 เนี้ยเป็นจังหวะที่พระเจ้าได้ทดสอบคนอย่า
00:49:28 → 00:49:31 เราเงี้ยค่ะเพราะฉะนั้นโดดยการนำทางของ
00:49:31 → 00:49:34 พระเจ้าเราจะทำให้ดีที่สุดอืประโยคเหล่า
00:49:34 → 00:49:37 นี้เนาะอาจารย์ว่ามันไม่ใช่แค่จัดใจนะเรา
00:49:37 → 00:49:40 อาจจะต้องมาจัดจิตวิญญาณของเราด้วยค่ะให้
00:49:40 → 00:49:42 รับมือกับภาวะอย่างเงี้ยเพราะว่าไม่ใช่
00:49:42 → 00:49:46 แค่ใจที่กระทบค่ะอาจารย์ว่ามันไปถึงสำนึก
00:49:46 → 00:49:48 ลึกๆของเราด้วยเนาะที่เราจะเริ่มรู้สึก
00:49:48 → 00:49:53 ว่าชีวิตมันเอาแน่อนอนไม่ได้ชีวิตมันอื
00:49:53 → 00:49:55 มันไม่ต้อง invest อะไรอีกแล้วอ่ะปล่อย
00:49:55 → 00:49:58 ให้มันมันวันไปวันๆอย่างเงี้ยค่ะหลายคน
00:49:58 → 00:50:01 อาจจะเริ่มถึงจุดจุดที่อย่างงั้นเนาะ
00:50:01 → 00:50:03 อาจารย์ว่าสิ่งึต้องเรียกกับกอบคู่กลับมา
00:50:03 → 00:50:07 ในคนวัยทำงานถ้าถึงจุดนั้นนะคือศัทธาที่
00:50:07 → 00:50:11 มีต่อต่อตัวเองต่อตัวเองนะครับนะคะแล้ว
00:50:11 → 00:50:14 อันนี้อันนี้ถ้าเรามีแล้วนะมั่นคงแล้วไอ้
00:50:14 → 00:50:16 เรื่องจัดข้างนอกเนี่ยจัดไปเถอะค่ะครับ
00:50:16 → 00:50:19 จัดสิ่งแวดล้อมให้มันเป็นรูทีนเข้าไว้นะ
00:50:19 → 00:50:22 คะตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผมเนี่ยใส่อะไรมัน
00:50:22 → 00:50:25 สีเดิมเข้าไว้ชุดเยมีแบบเดียวเข้าไว้อย่า
00:50:25 → 00:50:28 ไม่ให้ไม่ให้ต้องเปลืองพลังงานไปเลือกอ่ะ
00:50:28 → 00:50:32 ค่ะอืมครับอืถ้ายิ่งใช้พลังงานไปกับกับ
00:50:32 → 00:50:37 สิ่งเหล่านี้อืสิ่งอื่นเนี่ยมันทำให้ให้
00:50:37 → 00:50:39 เราไม่ concentrate แล้วก็ยิ่งเสียพลัง
00:50:39 → 00:50:42 งานเนาะก็ลดพลังงานไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น
00:50:43 → 00:50:46 จัดชีวิตให้มีโครงสร้างมากขึ้นครับทำใน
00:50:46 → 00:50:50 สิ่งที่ซ้ำมากขึ้นอันนี้ก็ช่วยได้เยอะค่ะ
00:50:50 → 00:50:54 อืช่วยทำให้พลังงานเี่มันใช้ได้ถูกที่ถูก
00:50:54 → 00:50:57 ทางในอย่างเงี้ยแล้วก็อาจารย์ว่าอีกอัน
00:50:58 → 00:51:01 นึงที่ทำได้ง่ายๆไม่เปลืองตังค์คือลดโลก
00:51:01 → 00:51:04 ส่วนตัวลงค่ะเหรอฮะบางทีเวลาเราเหนื่อย
00:51:04 → 00:51:07 เนาะเราก็จะเข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวไปอยู่
00:51:07 → 00:51:08 ในเกมไปอยู่ในกอง
00:51:08 → 00:51:12 กองกองซีรียส์เหรอคะครับอ่าเบอกก็ใช้
00:51:12 → 00:51:15 ซีรีส์เยียวยาเงี้ยฮะเออๆเยียวยาอะไร
00:51:15 → 00:51:17 อย่างเงี้ยค่ะเนาะมันก็ดีแต่มันไม่เกิด
00:51:17 → 00:51:20 productivity แล้วมันไม่เกิดเรียกว่ามัน
00:51:20 → 00:51:25 ไม่เกิดคุมคุ้มกันหมู่ในบ้านน่ะค่ะเวลาสน
00:51:25 → 00:51:30 ตัวลงอืให้เวลาที่รู้จักรู้ใจคนในบ้านมาก
00:51:30 → 00:51:33 ขึ้นนะคะว่าอะไรที่อยู่ด้วยกันแล้วแล้ว
00:51:33 → 00:51:36 มันโอเคให้เวลากับตรงนั้นอาจารย์ว่าตรงเ
00:51:36 → 00:51:40 มันจะเพิ่มพลังปกป้องของในบ้านได้มากขึ้น
00:51:40 → 00:51:44 เนาะอันนี้ก็ทำได้ง่ายๆออก็สามารถทำได้
00:51:44 → 00:51:48 ครับก็คือแสดงว่าอแสดงว่าถ้าเครียดนี่ไม่
00:51:48 → 00:51:51 ใช่ไม่ใช่ว่าหนีไปอยู่ในมุมตัวเองหนีไป
00:51:51 → 00:51:53 อยู่ในซีรียส์หนีไปอยู่อยู่อยู่ไปที่ที่
00:51:53 → 00:51:56 เราจะเก็บตัวเองได้แต่ทางที่ดีก็คือว่า
00:51:56 → 00:51:58 อาจจะต้องออกมาแชร์ซะด้วยซ้ำไปใช่มั้ย
00:51:58 → 00:52:01 ครับค่ะต้องมีบาานค่ะไม่มีอยู่ในโลกส่วน
00:52:01 → 00:52:04 ตัวอย่างเดียวเนาะเราอาจจะไปพักได้บางผล
00:52:04 → 00:52:09 แต่ว่าจะต้องออกมาที่จะจะมีมีความ
00:52:09 → 00:52:13 สัมพันธ์ออกมาดูคนดูคนในบ้านออกมารู้จัก
00:52:13 → 00:52:16 รู้ใจและอยู่ด้วยกันสร้างความสุขร่วมกัน
00:52:16 → 00:52:19 อีกแบบนึงนะคะอันนี้ก็เเรียกว่าร่วมทุกข์
00:52:19 → 00:52:22 ร่วมสุขเนาะเวลาเราฝ่าตรงนี้ไปได้เนี่ย
00:52:22 → 00:52:25 สักวันนึงพอโควิดหายก็จะมานั่งล้อมวงกัน
00:52:25 → 00:52:27 หัวเราะเออุยจำได้วันนั้นเป็นอย่างงั้น
00:52:27 → 00:52:30 อย่างค้าเราเข้าไปอยู่ในซีรีส์เยอะๆเราจะ
00:52:30 → 00:52:33 ไม่มีโมเมนนั้นนะคะเราก็ไมู่้จะไปพูดกับ
00:52:33 → 00:52:35 ซีรีส์ยังไงนะวันนั้นอนี้เราอะไรอย่าง
00:52:35 → 00:52:38 เงี้ยค่ะเรื่องราวมันมาจากการที่ได้อยู่
00:52:38 → 00:52:40 ร่วมกันนะค่ะเรื่องราวไม่ได้มาจากการที่
00:52:41 → 00:52:41 เรา
00:52:41 → 00:52:46 อยู่ก็คือชวนคนในบ้านนี่ฝ่าฟันไปด้วยกัน
00:52:46 → 00:52:48 ไปด้วยกันนะคะนะครับแลที่สำคัญก็คือว่า
00:52:48 → 00:52:52 ยังไงเสียต้องกอบกู้ความรู้สึกกอบกู้จิต
00:52:52 → 00:52:56 ใจของตัวเองขึ้นมาต้องไม่ต้องไม่ไม่หมดว
00:52:56 → 00:53:01 ังไว้นะครับค่ะครับริงมันทำนะคะจริงๆมัน
00:53:01 → 00:53:03 ทำยากแต่ยังไงมันก็ต้องทำใช่มั้ยครับ
00:53:03 → 00:53:07 อาจารย์ค่ะถ้าทำได้นะคะมันจะเรียกได้ว่า
00:53:07 → 00:53:10 มันน่าจะเอาอยู่กับสถานการณ์แบบเนี้ยค่ะ
00:53:10 → 00:53:13 เชื่อความศรัทธาที่เข้มแข็งที่เรามีต่อ
00:53:13 → 00:53:16 ต่อชีวิตต่อตัวเองเนี่ยอาจารย์ว่าใน
00:53:16 → 00:53:20 สถานการณ์อย่างก็น่าจะช่วยได้เยอะค่ะครับ
00:53:20 → 00:53:24 ครับเอาล่ะครับสำหรับคนที่อาจจะไม่ได้ดู
00:53:24 → 00:53:25 เราคุยกันวันนี้ครับอาจารย์เพราะดูพิธี
00:53:26 → 00:53:28 ปิดโอโอลิมปิกอยู่ช่วยเยใช้โอลิมปิก
00:53:28 → 00:53:30 เยียวยาตอนนี้โอลิมปิกหมดแล้วนะครับ
00:53:30 → 00:53:33 เดี๋ยวอาจเอาจจะย้อนกลับมาดูครับอาจารย์
00:53:33 → 00:53:35 เผื่อว่าจะเอาสิ่งนี้เราคุยกันไปช่วย
00:53:35 → 00:53:38 เยียวยาได้บ้างค่ะค่ะครับขอบพระคุณ
00:53:38 → 00:53:40 อาจารย์มากนะครับได้เลยค่ะครับขอบคุณครับ
00:53:40 → 00:53:43 อาจารย์ครับขอบคุณครับค่ะสวัสดีค่ะครับ
00:53:43 → 00:53:45 แล้ววันนี้ก็หมดเวลาลงแล้วครับเดี๋ยวยัง
00:53:45 → 00:53:48 ไงเรากลับมาพบกับอุปการีที่เคารพกันใหม่
00:53:48 → 00:53:51 นะครับจะพบกันทุกๆวันอาทิตย์ครับ 99:00 น
00:53:51 → 00:53:53 นะครับวันนี้เป็นกรณีพิเศษเลยมาพบกันตอน
00:53:53 → 00:53:56 19:00 นตรงนะครับคราวหน้าก็มาพบกันตอน
00:53:56 → 00:54:00 วันอาทิตย์ 99:00 นนะครับวันนี้ขอบพระคุณ
00:54:00 → 00:54:05 ที่ติดตามชมครับขอบพระคุณครับสวัสดีครับ
00:54:05 → 00:54:30 [เพลง]
00:54:30 → 00:54:34 Come on Come on
00:54:34 → 00:54:39 [เพลง]