00:00:00 → 00:00:02 จริงมที่เขบอกว่าสุขภาพดีเริ่มต้นที่ลำ
00:00:02 → 00:00:05 ไส้แล้วอาหารแบบไหนที่จะช่วยฟื้นฟูทำให้
00:00:05 → 00:00:08 ลำไส้ของเรานั้นมีสุขภาพดีและผู้สูงอายุ
00:00:08 → 00:00:11 ควรจะดูแลลำไส้ของตัวเองอย่างไรบ้างนี่
00:00:11 → 00:00:13 คือหัวข้อที่เราจะคุยกันในบุพการีที่
00:00:13 → 00:00:16 เคารพคู่มือการดูแลพ่อแม่ของคน 7 ลูกใน
00:00:16 → 00:00:18 วันนี้นะ
00:00:18 → 00:00:21 ครับแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้เราเนี่ยมี
00:00:21 → 00:00:25 เป็นจำนวนแบบล้านๆตัวเลยฮะโอ้เหรอฮะแสดง
00:00:25 → 00:00:28 ว่าหลายๆคนอาจจะพูดติดตลกว่าจริงๆแล้ว
00:00:28 → 00:00:30 ร่างกายเราอ่ะแบคทีเรียเป็นเจ้าของเรา
00:00:30 → 00:00:32 เทรนกำลังพูดถึงเรื่องลำไส้บ่อยๆครับเรา
00:00:32 → 00:00:34 จะต้องดูแลลำไส้ดูแลแบคทีเรียในลำไส้ของ
00:00:34 → 00:00:39 เรายังไงครับที่มันจะช่วยทำให้เราสุขภาพ
00:00:39 → 00:00:44 ดีเรากินผักกินใยอาหารเข้าไปมันไปพองใน
00:00:44 → 00:00:46 ท้องมันก็อาจจะมีส่วนช่วยในการลดการดูด
00:00:46 → 00:00:50 ซึมไขมันไม่ดีลดการดูดซึมน้ำตาลเรามักจะ
00:00:50 → 00:00:53 ได้ยินคำโฆษณาอะไรต่างๆตลอดเวลาเวลาเขาจะ
00:00:53 → 00:00:55 พูดถึงตัวโปรไบโอติกตัวนี้ทำหน้าที่อะไร
00:00:55 → 00:00:59 ครับมอถ้าเกิดว่าเากินไม่ได้หรือกินไม่พอ
00:00:59 → 00:01:02 ต้องเสริมยังไงลครับสุขภาพของลำไส้มันไป
00:01:02 → 00:01:04 ไกลมากกว่าการขับถ่ายใช่แค่ตัวแบคทีเรีย
00:01:04 → 00:01:07 อย่างเดียวมันมีเรื่องพันธุกรรมการใช้
00:01:07 → 00:01:09 ชีวิตต่างๆอีกมากมายที่เข้ามาเป็นตัวตัว
00:01:09 → 00:01:12 เล่นใหญ่ๆในเรื่องของการเกิดมะเร็งเหมือน
00:01:13 → 00:01:16 กันบุพการีที่เคารพคู่มือการดูแลพ่อแม่
00:01:17 → 00:01:19 ของคนเจนลูกถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ก็อย่าลืม
00:01:19 → 00:01:22 กด Subscribe ไว้ด้วยนะครับช่วงนี้จะมี
00:01:22 → 00:01:25 เทรนด์ที่เรามักจะพูดกันอยู่บ่อยๆนะครับ
00:01:25 → 00:01:28 ว่าสุขภาพดีนั้นเริ่มต้นที่ลำไส้นะครับ
00:01:28 → 00:01:30 เพราะฉะนั้นเราต้องมาทำความความรู้จัก
00:01:30 → 00:01:32 หรือมาทำความเข้าใจกันหน่อยดีมั้ครับว่า
00:01:32 → 00:01:34 ลำไส้ของเรานี่ข้างในมันมีอะไรมันทำหน้า
00:01:34 → 00:01:38 ที่อะไรมันส่งผลยังไงต่อสุขภาพของเรามาก
00:01:38 → 00:01:41 น้อยแค่ไหนนะครับสิ่งที่เราได้ยินได้ฟัง
00:01:41 → 00:01:43 มานั้นถูกต้องอย่างไรบ้างนะครับวันนี้
00:01:44 → 00:01:47 เป็นอีกตอนนึงนะครับที่เราจะสนทนากับคุณ
00:01:47 → 00:01:49 หมอนัทนะครับจากเพจหมอนัทโภชนาการและช่อง
00:01:49 → 00:01:53 YouTube ดรนัทนิวทรินะครับอาจารย์แพทย์
00:01:53 → 00:01:55 เวชศาสตร์ครอบครัวและผู้เชี่ยวชาญด้าน
00:01:55 → 00:01:58 โภชนาบำบัดนะครับสวัสดีครับคุณหนัครับ
00:01:58 → 00:02:00 สวัสดีครับพี่วสัครับสวัสดีครับครับผมเน
00:02:00 → 00:02:02 กำลังพูดถึงเรื่องลำไส้บ่อยๆครับถ้างั้น
00:02:02 → 00:02:04 เอาพื้นฐานก่อนเลยดีมั้ยครับลำไส้เราทำ
00:02:04 → 00:02:06 หน้าที่อะไรครับหมโดยเบื้องต้นนะครับเรา
00:02:06 → 00:02:08 คิดว่าในสมัยก่อนเราคิดว่าลำไส้คงจะเป็น
00:02:08 → 00:02:11 แค่ย่อยอาหารอ่าขับถ่ายอะไรอย่างเงี้ย
00:02:11 → 00:02:14 ครับแต่ว่าในปัจจุบันเนี่ยองค์ความรู้ใน
00:02:14 → 00:02:16 หลายๆ10บปีที่ผ่านมาเราเริ่มเข้าใจว่า
00:02:16 → 00:02:19 จริงๆเรามีเพื่อนที่อยู่ในลำไส้เราซึ่ง
00:02:19 → 00:02:22 เราเรียกว่าจุลชีพซึ่งส่วนใหญ่ก็คือพวก
00:02:22 → 00:02:25 แบคทีเรียนะครับซึ่งปรากฏว่าเขาก็มีหน้า
00:02:25 → 00:02:28 ที่ที่ทำให้เรามีสุขภาพที่ดีเช่นเดียวกัน
00:02:28 → 00:02:31 นะครับในหลายๆมิตินะครับเอาเรียกง่ายๆก็
00:02:31 → 00:02:34 คือว่าในลำไส้เนี่ยนอกจากย่อยอาหารขับ
00:02:34 → 00:02:37 ถ่ายดูดซึมวิตามินเกลือแร่ต่างๆโปรตีนไข
00:02:37 → 00:02:39 มันอย่าเงี้ยครับครับมันก็มีหน้าที่
00:02:39 → 00:02:42 ฟังก์ชันที่ทำให้เรามีสุขภาพดีซึ่งในส่วน
00:02:42 → 00:02:45 นั้นก็อาจจะเป็นเรื่องการเอ่อระบบขับถ่าย
00:02:45 → 00:02:47 ที่สมบูรณ์ขึ้นลดลดความเสี่ยงในการเกิด
00:02:48 → 00:02:50 โรคมะเร็งหรือแม้กระทั่งบางอันอาจจะเร
00:02:50 → 00:02:53 เรื่องเรื่องของการเพิ่มภูมิต้านทานการ
00:02:53 → 00:02:55 เรื่องของการนอนหลับอะไรเงี้ยครับก็จะมี
00:02:55 → 00:02:58 หลายฟังก์ชันที่ปัจจุบันมีความรู้ความ
00:02:58 → 00:03:01 เข้าใจที่มากขึ้นนะแต่ผมคิดว่ามันยังอยู่
00:03:01 → 00:03:03 ในระยะต้นฉะนั้นอีกสักพักนึงเราจะเข้าใจ
00:03:03 → 00:03:05 เรื่องเหล่านี้มากขึ้นจากงานวิจัยครับ
00:03:06 → 00:03:08 ครับครับหน้าที่ของลำไส้ปกติที่เมื่อสัก
00:03:08 → 00:03:11 ครู่นี้คุณหมอนัดเล่ามานี่มันก็เป็นอะไร
00:03:11 → 00:03:13 ที่เราได้ยินกันมาแต่ไหนแต่ไหลแล้วแต่
00:03:13 → 00:03:16 ทำไมหลังๆนี่คนเริ่มมาพูดถึงเรื่องของ
00:03:16 → 00:03:20 ความสำความสำคัญของมันมากขึ้นครับเอ่อผม
00:03:20 → 00:03:23 คิดว่าด้วยเทคโนโลจีในช่วงประมาณสัก 20
00:03:23 → 00:03:25 ปีหลังนะครับที่เรามีเทคโนโลยีที่ความ
00:03:25 → 00:03:30 เข้าใจเนาะคือเอ่อในลำไส้เรามันจะมีแบค
00:03:30 → 00:03:32 นะครับซึ่งปัจจุบันข้อมูลทางทาง
00:03:32 → 00:03:36 พันธุศาสตร์เนี่ยเราค้นพบว่าโอ้แบคทีเรีย
00:03:36 → 00:03:38 ที่อยู่ในลำไส้เราเนี่ยมีเป็นจำนวนแบบ
00:03:38 → 00:03:43 ล้านๆตัวเลยฮะคือเรียกว่าคือคนเราหลายๆคน
00:03:43 → 00:03:45 นะฮะต้องบอกก่อนว่าตัวแบคทีเรียที่อยู่ใน
00:03:45 → 00:03:48 ลำไส้เราเนี่ยในแง่ของ DNA มากกว่ามนุษย์
00:03:48 → 00:03:51 ประมาณ 100 เท่าได้โอ้เหรอฮะเสงว่าหลายๆ
00:03:51 → 00:03:54 คนอาจจะพูดติดตลกว่าจริงๆแล้วร่างกายเรา
00:03:54 → 00:03:56 อ่ะจริงๆแล้วเป็นเจ้าแบคทีเรียเป็นเจ้า
00:03:56 → 00:03:58 ของเราอเพราะว่ายีนของเรามีแค่ประมาณ
00:03:58 → 00:04:01 23,000 ยีนแต่ว่าครับตัวแบคทีมีเป็นล้าน
00:04:01 → 00:04:04 ยีนเลยครับนะครับแต่ว่าปัญหาก็คือว่าเรา
00:04:04 → 00:04:07 เริ่มเข้าใจมันจำนวนนึงนะครับแต่เรายัง
00:04:07 → 00:04:10 เข้าใจมันแค่เพียงส่วนน้อยและไอ้ส่วนน้อย
00:04:11 → 00:04:13 ที่ทำความเข้าใจนน่ะมันมีประโยชน์กับร่าง
00:04:13 → 00:04:16 กายในแง่ของการส่งเสริมสุขภาพจึงทำให้คน
00:04:16 → 00:04:20 เริ่มมามองคือคนทั่วไปเริ่มมามองนะครับ
00:04:20 → 00:04:23 แล้วก็เริ่มที่จะทำเ่อการส่งเสริมสุขภาพ
00:04:23 → 00:04:25 ด้วยการหาสิ่งต่างๆที่ส่งเสริมทำให้
00:04:25 → 00:04:28 แบคทีเรียมันมีประโยชน์กับร่างกายมากขึ้น
00:04:28 → 00:04:31 ครับครับฝั่งของตัวนักวิจัยผมเองหรือว่า
00:04:32 → 00:04:33 ใครก็ตามที่เป็นนักวิจัยก็เริ่มที่จะ
00:04:33 → 00:04:36 ศึกษามันมากขึ้นว่ามันทำหน้าที่อะไรแล้ว
00:04:37 → 00:04:39 ทำยังไงให้มันทำหน้าที่ดีกับร่างกายอะไร
00:04:39 → 00:04:41 เงี้ยครับครับก็คือแสดงว่าโดยเทรนด์ของ
00:04:41 → 00:04:45 มันก็คือมีคนไปให้ความสนใจหรือกำลังศึกษา
00:04:45 → 00:04:47 เกี่ยวกับไอ้พวกแบคทีเรียต่างๆในลำไส้ของ
00:04:47 → 00:04:50 เรามากขึ้นใช่ครับเออครับเอ่อมีถึงขั้นใน
00:04:50 → 00:04:53 สมัยก่อนที่ถึงขั้นว่าเวลาที่เราท้องเสีย
00:04:53 → 00:04:57 ไม่สบายท้องหรือว่าขับถ่ายผิดปกติถึงขั้น
00:04:57 → 00:05:00 มีเรียกว่าเป็นการเอาอุจจาระของคนอื่น
00:05:00 → 00:05:03 ผ่านกระบวนการแล้วก็มา implant เข้าไปใน
00:05:03 → 00:05:06 ลำไส้ของมนุษย์อย่างนี้ก็เริ่มมีการศึกษา
00:05:06 → 00:05:09 ลักษณะคล้ายๆแบบเยครับว่าทำให้สุขภาพร่าง
00:05:09 → 00:05:11 กายดีขึ้นหรือเปล่าอย่างหรือไม่อย่างไรนะ
00:05:11 → 00:05:15 ครับมันก็เป็นฟิลใหม่ที่แบบต้องการคนผู้
00:05:15 → 00:05:17 เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่จะเข้าทำความ
00:05:17 → 00:05:19 เข้าใจเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆครับครับ
00:05:19 → 00:05:21 แล้วถ้าเอาความรู้ที่เรารู้กันอยู่
00:05:21 → 00:05:24 ปัจจุบันนี้ก่อนนะครับเราจะต้องดูแลลำไส้
00:05:24 → 00:05:27 ดูแลแบคทีเรียในลำไส้ของเรายังไงครับที่
00:05:27 → 00:05:30 มันจะช่วยทำให้เราสุขภาพดีทั้งในด้านต่าง
00:05:30 → 00:05:32 ๆเรื่องการกุงการกินอะไรแบบเครับผมว่ามัน
00:05:33 → 00:05:34 เป็นเป็นรายละเอียดนะครับแต่ว่าในเบื้อง
00:05:34 → 00:05:37 ต้นเนี่ยเราต้องมองว่าในร่างกายเราเนี่ย
00:05:37 → 00:05:40 มันมีความสมดุลในเรื่องของลำไส้อยู่นะ
00:05:40 → 00:05:43 ครับแล้วก็เอ่อในแง่ของการทำวิทยาศาสตร์
00:05:44 → 00:05:47 เนี่ยเราสามารถจะบ่งบอกเช่นคนทานผักทาน
00:05:47 → 00:05:49 ปลาเนี่ยเขาจะมีลักษณะของตัวแบคทีเรียใน
00:05:49 → 00:05:53 ลำไส้แบบนึงคล้ายๆกว้างๆแบบนึงนะครับคน
00:05:53 → 00:05:55 ที่ทานเนื้อสัตว์ก็จะเป็นลักษณะอีกแบบ
00:05:55 → 00:05:57 หนึ่งอ๋อมันจะไม่เหมือนกันนครับมันก็จะมี
00:05:57 → 00:05:59 ความไม่เหมือนกันซะทีเดียวนะครับครับแต่
00:05:59 → 00:06:02 ว่ามันเป็นรายละเอียดของตัวอ่าการกระจาย
00:06:02 → 00:06:05 ตัวของตัวแบคทีเรียต่างๆชนิดของมันอะไร
00:06:05 → 00:06:08 อย่างเงี้ยนะครับครับเพราะะนั้นก็บางคนก็
00:06:08 → 00:06:10 พยายามจะมองย้อนว่าอ๋อถ้าอย่างงั้นทานผัก
00:06:10 → 00:06:12 ทานปลาแล้วแบคทีเรียแบบนี้ดีเนี่ยแปลว่า
00:06:12 → 00:06:15 เราควรจะส่งเสริมให้คนกลุ่มนี้มี
00:06:15 → 00:06:18 แบคทีเรียแบบนี้ดีขึ้นมันเป็นเหมือนการ
00:06:18 → 00:06:21 ย้อนทางของวิทยาศาสตร์ว่าโอเคถ้าทานผัก
00:06:21 → 00:06:25 ทานปลาเมดิเตอเรเนียนไดเอทานน้ำพริกลวก
00:06:25 → 00:06:27 จิ้มมีลักษณะแบบนี้เนี่ยแสดงว่าแบคทีเรีย
00:06:27 → 00:06:31 ที่เกิดขึ้นในลำไส้มันต้องดีแน่ๆนะครับก็
00:06:31 → 00:06:33 จะเป็นการย้อนทางในการที่จะผลิตเอ่อตัว
00:06:34 → 00:06:37 เอ่ออาหารเสริมต่างๆนะครับให้มันดีต่อ
00:06:38 → 00:06:40 สุขภาพแล้วก็ใส่เข้าไปให้เราทานเป็นอาหาร
00:06:40 → 00:06:42 เสริมอะไรเงี้ยครับซึ่งกรณีแบบเนี้ยที่ผม
00:06:42 → 00:06:45 เรียกมันว่าก็คือเป็นการเรียกว่ากินอาหาร
00:06:45 → 00:06:48 เสริมเี่เรียกว่าโปรไบโอติกอคือการกินตัว
00:06:48 → 00:06:51 แบคทีเรียที่น่าจะมีรายงานการวิจัยว่ามัน
00:06:51 → 00:06:54 ดีต่อสุขภาพของตัวลำไส้ในประเด็นต่างๆใช่
00:06:54 → 00:06:57 เรานักเรามักจะได้ยินคำโฆษณาอะไรต่างๆ
00:06:57 → 00:07:00 ตลอดเวลาเวลาเขาจะพูดถึงตัวโปรบตัวนี้ทำ
00:07:00 → 00:07:02 หน้าที่อะไรครับมองก่อนก่อนจะย้อนไปถึง
00:07:02 → 00:07:04 โปรไบโอติกต้องแยกกันก่อนฮะจริงๆมันมี
00:07:04 → 00:07:06 Technical เมหลายตัวที่น่าจะต้องทำความ
00:07:06 → 00:07:10 เข้าใจคือมันมีคำว่าพรีไบโอติกพรีไบโอติก
00:07:10 → 00:07:14 ก็คือใยอาหารที่ร่างกายลำไส้ปกติย่อยไม่
00:07:14 → 00:07:17 ได้แล้วมันก็ไหลไปจนถึงลำไส้ลำไส้ใหญ่นะ
00:07:17 → 00:07:20 ครับแล้วก็เป็นอาหารให้ของแบคทีเรียพวก
00:07:20 → 00:07:22 อาหารของแบคทีเรียเรียกพรีไบโอติกเช่น
00:07:22 → 00:07:25 อะไรบ้างครับพวกกลุ่มนี้อ่ากล้วยดิบนะ
00:07:25 → 00:07:29 ครับในมะละกอดิบพวกนี้ก็จะมีพวกใยอาหาร
00:07:29 → 00:07:31 ที่ที่ร่างกายอาจจะย่อยไม่ได้นะครับแล้ว
00:07:31 → 00:07:34 ก็เข้าไปสู่เป็นอาหารสำหรับตัวแบคทีเรีย
00:07:34 → 00:07:37 ก็มีนะครับในกระเทียมในผักหลายๆชนิดนะ
00:07:37 → 00:07:39 ครับบล็อกโคลี่ต่างๆเนี่ยพวกนี้ก็เป็น
00:07:39 → 00:07:42 แหล่งของตัวใยอาหารที่ที่เป็นประโยชน์กับ
00:07:42 → 00:07:46 ตัวลำไส้ถ้ามองในภาพง่ายๆก็คือมันเป็นใย
00:07:46 → 00:07:49 อาหารทำให้เราถ่ายถ่ายคล่องอแต่จริงๆแล้ว
00:07:49 → 00:07:51 ฟังก์ชันมันก็ยังเป็นแหล่งพลังงานให้กับ
00:07:51 → 00:07:53 ตัวแบคทีเรียในร่างกายอีกเอและแบคทีเรีย
00:07:53 → 00:07:56 ที่มันกินของพวกนี้มันมันส่งมันช่วยอะไร
00:07:56 → 00:07:59 กับร่างกายเราบ้างครับเอ่อในตัวแบคทีเรีย
00:07:59 → 00:08:02 นะครับจะจพรีไบโอติกแบคทีเรียที่กระทรวง
00:08:02 → 00:08:05 อ่าได้รับรองนะครับเมื่อประมาณสัก 10
00:08:05 → 00:08:07 กว่าปีที่แล้วเนี่ยก็มีอยู่ประมาณ 20
00:08:07 → 00:08:09 กว่าชนิดนะครับแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์
00:08:09 → 00:08:10 เนี่ยเราเรียกว่า
00:08:10 → 00:08:13 โปรไบโอติกนะครับคือแบคทีเรียในร่างกาย
00:08:13 → 00:08:16 ปัจจุบันเนี่ยมีเป็นพันจริงๆที่เราเรียน
00:08:16 → 00:08:19 รู้นะในโลกนี้ประมาณ 1000 กว่าแต่เรารู้
00:08:19 → 00:08:22 จักมันจริงๆประมาณสัก 160 กว่าชนิดอืนะ
00:08:22 → 00:08:24 ครับและในจำนวนนั้นน่ะเป็นสิ่งที่ประเทศ
00:08:24 → 00:08:27 ไทยหรือหลายๆนักวิจัยหลายคนสนใจแค่ประมาณ
00:08:27 → 00:08:30 20 กว่าชนิดอยู่อืมครับนะครับเพราะ
00:08:30 → 00:08:32 ฉะนั้นก็ยังเป็นโอกาสในการศึกษาอีกมากมาย
00:08:32 → 00:08:35 ถามว่ามันทำอะไรนะฮะพวกโปรไบโอติกที่มัน
00:08:35 → 00:08:37 กินอาหารมันก็ต้องการอาหารเติบโตนะครับ
00:08:37 → 00:08:40 มันก็ไปช่วยในการกระตุ้นฮอร์โมนต่างๆนะ
00:08:40 → 00:08:42 ครับอย่างที่เราเคยได้ยินเรื่องเซโรโทนิน
00:08:42 → 00:08:45 นะฮะเซโรโทนินก็เป็นฮอร์โมนเกี่ยวข้องกับ
00:08:45 → 00:08:48 ความหิวความอิ่มหรืออารมณ์ต่างๆซึ่งเราไป
00:08:48 → 00:08:52 พบว่า 90 กว่าเปอร์เซ็นของเซโรโทนินเนี่ย
00:08:52 → 00:08:56 ถูกผลิตโดยในลำไส้ออเหรอฮะอ้าพอเราไปผมก็
00:08:56 → 00:08:58 เข้าใจว่าไอ้บรรดาฮอร์โมนมันต้องเกิดแบบ
00:08:58 → 00:09:01 ในสมองหรืออะไรงี้สมองใช่แต่ว่าเผอิญว่า
00:09:01 → 00:09:04 อันเนี้ยมันเป็นฮอร์โมนตัวอย่างนึงที่มัน
00:09:04 → 00:09:07 มันผลิตจากลำไส้นะครับแล้วมันก็มีตัว
00:09:07 → 00:09:10 แบคทีเรียเ่อเป็นตัวช่วยในการที่จะทำให้
00:09:10 → 00:09:12 มันผลิตมากขึ้นหรือมันน้อยลงอันนี้เป็น
00:09:12 → 00:09:15 แค่ตัวอย่างนึงนะครับแต่ยังมีฮอร์โมนต่าง
00:09:15 → 00:09:18 ๆที่นักวิจัยกำลังศึกษาต่างๆมากมายนั่น
00:09:18 → 00:09:21 หมายความว่าจริงๆแล้วมันมีส่วนช่วยทำให้
00:09:21 → 00:09:24 เกิดการปรับฮอร์โมนหลายๆตัวนะครับรวมทั้ง
00:09:24 → 00:09:27 ฮอร์โมนของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเนี่ยมัน
00:09:27 → 00:09:29 เริ่มมีงานศึกษาที่บอกว่าเอ้ยถ้าเกิดกิน
00:09:29 → 00:09:32 อย่างเช่นบิินแบคทีเรียเนี่ยน่าจะมีส่วน
00:09:32 → 00:09:34 ในการที่จะควบคุมโรคติดไม่ติดต่อเหือราง
00:09:35 → 00:09:37 เบาหวานความดันไขมันได้อืนะครับแต่มันก็
00:09:37 → 00:09:41 ยังต้องการข้อมูลอีกจำนวนพอสมควรนะครับ
00:09:41 → 00:09:43 ถามว่ามันทำอะไรนะฮะแบคทีเรียมันก็เหมือน
00:09:43 → 00:09:47 สิ่งมีชีวิตมันก็พอกินโปรไบโอติกก็คือ
00:09:47 → 00:09:49 อาหารของมันมันก็จะย่อยออกมาแล้วมันก็
00:09:49 → 00:09:53 ย่อยออกมาเป็นกรดไขมันอ่าอิ่มตัวบางชนิด
00:09:53 → 00:09:55 แล้วกรดไขมันอิ่มตัวเนี่ยมันถึงทำหน้าที่
00:09:55 → 00:10:00 ในการทำปฏิกิริยากับร่างกายของเราอืมีพว
00:10:00 → 00:10:03 หรือขั้นตอนของมันพอสมควรนะครับซึ่งเป็น
00:10:03 → 00:10:05 สิ่งที่นักวิจัยจะต้องทำทำการศึกษาแล้ว
00:10:06 → 00:10:09 บางอันก็เป็นผลพลอยได้ที่อาจจะดีหรือไม่
00:10:09 → 00:10:12 ดีนะครับส่วนไอ้ตัวไขมันตัวเนี้ยทางศัพท์
00:10:12 → 00:10:15 ทงเทคนิคเเรียกว่าโส biotic คือสิ่งที่
00:10:15 → 00:10:17 แบคทีเรียผลิตเพราะฉะนั้นมันก็มี
00:10:17 → 00:10:22 พีแล้วก็โพสตโพสออาหารแบคทีเรียแล้วก็
00:10:22 → 00:10:25 สิ่งที่แบคทีเรียผลิตอย่างเงี้ยครับในแต่
00:10:25 → 00:10:28 ว่าส่วนที่เวลาเราซื้อสินค้าอาหารเสริมมา
00:10:28 → 00:10:30 เนี่ยก็สิ่งที่เราเราทำได้ดีก็คือจะเป็น
00:10:30 → 00:10:33 การบางทีก็เป็นเอ่อโปรไบโอติกอย่างเดียว
00:10:33 → 00:10:35 คือตัวแบคทีเรียอย่างเดียวนะครับหรือว่า
00:10:35 → 00:10:39 เป็นผสมระหว่างพีกับโพลเพราะหลายๆคนบอก
00:10:39 → 00:10:41 เชื่อว่าเฮ้ยถ้าเรากินแต่โปรไบโอติกแต่
00:10:41 → 00:10:44 เราไม่ค่อยกินใยอาหารไม่ค่อยมีเวลาแล้ว
00:10:44 → 00:10:47 แบคทีเรียจะเอาอะไรกินบางคนก็บางผู้
00:10:47 → 00:10:49 ประกอบการก็ใส่ทั้ง 2 ตัวเข้าไปอครับนะ
00:10:49 → 00:10:51 ครับแต่แต่มีหลายสิ่งที่เรายังไม่ไม่ไม่
00:10:51 → 00:10:55 รู้มันก็คือเอ่อตกลงเราใส่อาหารเข้าไป
00:10:55 → 00:10:57 แล้วมันกินรือเปล่ามันมันได้ใช้จริงมั้ย
00:10:57 → 00:11:00 หรือบางครั้งเราใส่ใตัวแบคทีเรียไปหลายๆ
00:11:00 → 00:11:02 ตัวเนี่ยเราไม่รู้ว่าสังคมมันทะเลาะกัน
00:11:02 → 00:11:06 มั้ยอืมใช่มั้ยฮะโอยู่อยู่ในขั้นตอนของ
00:11:06 → 00:11:09 การศึกษาด้วยส่วนนึงครับเชการสศึกษาแล้ว
00:11:09 → 00:11:11 นมโป้งนมเปรี้ยวที่เรากินกันอยู่เนี่ยฮะ
00:11:11 → 00:11:14 อันนี้คือเรากินก็ส่วนใหญ่หลักๆก็คือเป็น
00:11:14 → 00:11:16 โปรไบโอติกโบติกเข้าไปซึ่งเราเชื่อว่ามัน
00:11:16 → 00:11:19 จะเข้าไปช่วยใชครับบริหารจัดการเรื่องการ
00:11:19 → 00:11:21 ย่อยอะไรในในในในลำไส้ของเรานะครับก็เป็น
00:11:21 → 00:11:24 ส่วนหนึ่งในการย่อยนะฮะในบางชนิดก็อาจจะ
00:11:24 → 00:11:26 ช่วยในเรื่องของการพักผ่อนนอนหลับได้ได้
00:11:26 → 00:11:28 ดีขึ้นมันเหมือนกับว่าถ้าเราทานอาหาร
00:11:28 → 00:11:31 ธรรมชาติไม่เพียงพอนะครับเ่อเราอาจจะ
00:11:31 → 00:11:34 จำเป็นต้องได้รับอาหารเสริมเข้าไปซึ่งอ
00:11:34 → 00:11:37 นี้ก็เป็นเทรน์ของปีนี้ปีถัดไปในการที่จะ
00:11:37 → 00:11:39 เอาอาหารเหล่านี้มาช่วยทำให้สุขภาพเราดี
00:11:39 → 00:11:44 ขึ้นอืครับแล้วกรณีแบบนี้คนหนุ่มสาวกับคน
00:11:45 → 00:11:50 มีอายุพวกบรรดาแบคทีเรียในลำไส้มันทำงาน
00:11:50 → 00:11:54 เหมือนกันมครับหรือว่าคนแต่ละวัยต้องการ
00:11:54 → 00:11:58 ตัวช่วยไม่เหมือนกันจริงๆเอ่อเป็นคำถาม
00:11:58 → 00:12:00 ที่ดีนะครับคนคนแต่ละคนในช่วงวัยต้องการ
00:12:00 → 00:12:03 ปริมาณอ่าแตกต่างกันในในเด็กก็อาจจะน้อย
00:12:03 → 00:12:06 หน่อยนะครับตีกลมๆกว้างๆก็คือประมาณวัยทำ
00:12:06 → 00:12:09 งานวัยสูงวัยเนี่ยประมาณสักเ่าโปรไบโอติก
00:12:10 → 00:12:13 อาจจะต้องการประมาณ 20 เ่อเอไฟเบอร์นะ
00:12:13 → 00:12:15 ครับเป็นพรีไบโอติกประมาณยอาหารต้องการ
00:12:15 → 00:12:19 ประมาณสัก 20 จนถึง 30 กรัมต่อวันนะครับ
00:12:19 → 00:12:21 ซึ่งเราก็อาจจะได้จากผักจากข้าวกล้องจาก
00:12:21 → 00:12:25 ผลไม้จากกล้วยอะไรพวกเยครับแต่ในบางคนก็
00:12:25 → 00:12:28 อาจจะไม่เพียงพออนะครับเพราะว่าบางคนอาจ
00:12:28 → 00:12:29 จะแบบ
00:12:29 → 00:12:32 ไม่สะดวกนะฮะหรือบางคนกินเนื้อกินสัตว์
00:12:32 → 00:12:34 กินเครื่องดื่มแล้วก็ใช้ชีวิตอย่างเร่ง
00:12:35 → 00:12:37 รีบไปวันๆอย่างเงี้ยครับเพราะฉะนั้นมันก็
00:12:37 → 00:12:39 มีเทรนดที่แบบว่าเอ้ยจะกินไฟเบอร์พอหรือ
00:12:39 → 00:12:42 ไม่พออะไรอย่าเงี้ยครับอือๆครับครับซึ่ง
00:12:42 → 00:12:44 บางคนก็เลยสนับบางคนเเราก็จะเห็นพวกคนที่
00:12:44 → 00:12:46 เข้ามาขายก็คือให้เราเติมเติมไฟเบอร์เข้า
00:12:46 → 00:12:48 ไปในร่างกายอย่างงั้นใช่มั้ยฮะครับแต่
00:12:48 → 00:12:51 สิ่งนึงที่ผมคิดว่าผมยังกังวลอยู่ก็คือ
00:12:51 → 00:12:55 ปกติเรากินเนี่ยมันมีการศึกษาจำนวนมากที่
00:12:55 → 00:12:58 ว่าเอ้ยเรากินตัวอาหารของตัวแบคทีเรียคือ
00:12:58 → 00:13:01 ตัวพรีไบโอติกเนี่ยครับครับเอ่อเราควรจะ
00:13:01 → 00:13:04 กินในมื้ออาหารหรือเปล่าเพราะว่าในหลายๆ
00:13:04 → 00:13:07 อันฟังก์ชันของมันคือการลดการดูดซึมไขมัน
00:13:07 → 00:13:11 ในเลือดเช่นสมมติเรากินผักกินใยอาหารเข้า
00:13:11 → 00:13:14 ไปมันไปพองในท้องมันก็อาจจะมีส่วนช่วยใน
00:13:14 → 00:13:17 การลดการดุดซึมไขมันไม่ดีลดการดูดซึมน้ำ
00:13:17 → 00:13:21 ตาลทำให้อาหารเหล่านั้นมันแทนที่จะดูดซึม
00:13:21 → 00:13:23 ไปเยอะมันก็เข้าสู่ลำไส้ใหญ่แล้วก็ขับ
00:13:23 → 00:13:26 ถ่ายออกมาอดังนั้นหลายๆครั้งเนี่ยเอ่อไม่
00:13:26 → 00:13:29 มั่นใจเหมือนกันว่าการกินพรีไบโอติกแยก
00:13:29 → 00:13:31 เช่นกินผักอย่างเดียวตอนเช้าแล้วก็กิน
00:13:31 → 00:13:33 เนื้อสัตว์อย่างเดียวตอนเย็นอย่างเงี้ย
00:13:33 → 00:13:36 ครับอตกลงแล้วมันจะส่งเสริมสุขภาพในแนว
00:13:36 → 00:13:38 ไหนนะครับเพราะฉะนั้นในปัจจุบันผมเองก็
00:13:38 → 00:13:40 ยังแนะนำคนไข้อยู่เหมือนเดิมว่าพยายามที่
00:13:40 → 00:13:43 จะทำให้ทุกอย่างมันเป็นมื้ออาหารให้ได้
00:13:43 → 00:13:45 มากที่สุดเพราะว่านั่นคือฟังก์ชันของสิ่ง
00:13:45 → 00:13:47 ที่เราจะต้องกินในแต่ละวันครับๆอันนี้
00:13:47 → 00:13:50 กรณีที่เป็นเป็นอาจจะเป็นคนหนุ่มสาวยัง
00:13:50 → 00:13:53 ไม่เข้าสู่เ่อคนมีอายุแล้วอย่างกรณีคนมี
00:13:53 → 00:13:55 อายุล่ะครับมันจะต่างกันออกไปแล้วใช่มั้ย
00:13:55 → 00:13:57 ฮะตอนนี้เอ่อผมคิดว่าไม่แตกต่างกันแต่ว่า
00:13:57 → 00:14:01 ผู้สูงอายุจะมีแนวโน้มที่เอ่อถ้าเกิดว่า
00:14:01 → 00:14:04 ทานส่วนใหญ่ทานผักทานปลาไม่ไม่ค่อยมี
00:14:04 → 00:14:07 ปัญหาแต่ว่าหลายๆครั้งมันเริ่มอะไรเรียก
00:14:07 → 00:14:10 เริ่มเริ่มกินได้น้อยลงอใช่ๆเวลาคนเจะพูด
00:14:10 → 00:14:12 ว่าคนแก่บอกไม่อยากกินเนื้อเพราะมันจะ
00:14:12 → 00:14:14 ย่อยง่ายนั่นหมายถึงว่าไอ้ตัวแบคทีเรียใน
00:14:14 → 00:14:16 ในลำไส้ของเรามันทำงานได้น้อยลงอย่างงั้น
00:14:16 → 00:14:19 หรือเปล่าครับมันก็เอแบคทีเรียอาจจะไม่
00:14:19 → 00:14:22 ได้ทำงานได้น้อยลงแต่ว่ามันก็ได้ใยอาหาร
00:14:22 → 00:14:24 น้อยลงใช่มั้ยครับเพราะยอาหารมันก็ได้จาก
00:14:24 → 00:14:27 ผักผักหลายชนิดก็อาจจะเหนียวเคี้ยวยาก
00:14:27 → 00:14:30 ครับใช่มั้ยครับเอ่าที่มีตัวพรีไบโอติก
00:14:30 → 00:14:33 อย่างเช่นกล้วยดิบนี่ก็ไม่ค่อยกินเพราะ
00:14:33 → 00:14:35 เดี๋ยวคือพรีไบโอติกเนี่ยถ้ากินมากๆก็
00:14:35 → 00:14:37 ท้องอืดได้อใช่มั้ยครับแล้วพรีไบโอติกถ้า
00:14:37 → 00:14:40 เกิดสมมุติกล้วยเเป็นกล้วยสุกละครับพวก
00:14:40 → 00:14:42 นี้โครงสร้างมันก็เปลี่ยนไปใช่มั้ยครับ
00:14:42 → 00:14:45 ผักหลายๆชนิดมันก็มันอย่างที่บอกว่ามันก็
00:14:45 → 00:14:48 แข็งฟันไม่ค่อยเคี้ยวไม่ค่อยได้อะไรเงี้ย
00:14:48 → 00:14:50 ครับส่วนใหญ่ผู้สูงอายุก็เลยกลายเป็นคน
00:14:50 → 00:14:52 ทานน้ำๆทานนิดๆหน่อยๆก็อิ่มแล้วเพราะ
00:14:52 → 00:14:56 ฉะนั้นโอกาสที่จะได้พวกเอ่อใยอาหารหรือ
00:14:56 → 00:14:58 ว่าโปรไบโอติกพวกนี้มันก็น้อยลงงครับๆ
00:14:58 → 00:15:00 ครับต้องเติมยังไงครับคุณมองกรณีแบบนี้
00:15:00 → 00:15:03 ถ้าเคี้ยวอ่ากินไม่ได้หรือว่ามีไม่เพียง
00:15:03 → 00:15:06 ไม่พอคือจริงๆโดยอาหารธรรมชาติมันมีของ
00:15:07 → 00:15:09 มันอยู่แล้วนะครับอ่าเบื้องต้นง่ายๆอย่าง
00:15:09 → 00:15:13 ข้าวขาวมีใยอาหารเราต้องพูดถึงตัวใยอาหาร
00:15:13 → 00:15:15 เนาะเพราะว่าตัวแบคทีเรียต่างๆก็อาจจะ
00:15:15 → 00:15:20 อยู่ในพวกอ่าในพวกกิมจิอยู่ในพวกของอะไร
00:15:20 → 00:15:23 อะไรต่างๆที่มันมีการหมักดองอะไรพวกนี้นะ
00:15:23 → 00:15:24 ฮะแต่มันก็อาจจะไม่ไม่เหมาะกับตัวผู้สูง
00:15:24 → 00:15:26 วัยเท่าไหร่แต่ว่าเรากำลังพูดถึงตัวใย
00:15:26 → 00:15:29 อาหารที่ผู้สูงอายุน่าจะได้อย่าเเปลี่ยน
00:15:29 → 00:15:33 ขวขาเป็นข้าวกล้องอนะครับการทานผักลวก
00:15:33 → 00:15:36 จิ้มพวกเครับก็อยู่ในมื้ออาหารได้ลกจิ้ม
00:15:36 → 00:15:39 ก็จะเป็นพวกน้ำจิ้มผักภาคอีสานใช่มั้ย
00:15:39 → 00:15:41 ครับผักต่างๆพวกนี้ก็จะมีใยอาหารสูงพวก
00:15:41 → 00:15:44 นี้ก็จะช่วยได้หรือแม้กระทั่งการกินพวก
00:15:44 → 00:15:47 ส้มตำนะครับหรือว่าแกงเรียงพวกเยครับพวก
00:15:47 → 00:15:50 นี้ก็จะเป็นแหล่งของอุดมไปด้วยของใยอาหาร
00:15:50 → 00:15:53 ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ได้หายากในประเทศไทยอๆ
00:15:53 → 00:15:55 แสดงว่าพวกนี้มันเข้าไปมันก็เป็นพูดง่ายๆ
00:15:55 → 00:15:57 มันก็เป็นเบื้องต้นมันก็คือเป็นกากใหญ่
00:15:57 → 00:16:00 สำหรับตัวพีโอติกก่อนใช่มั้ยฮะอมันเป็น
00:16:00 → 00:16:02 กากใญ่แล้วก็ช่วยให้ตัวแบคทีเรียมันทำงาน
00:16:02 → 00:16:04 ได้ดีขึ้นกากใหญ่ครับครับแล้วมันด้วยขั้น
00:16:04 → 00:16:06 ตอนเป็นยังไงหมออย่างสมมุติเรากินกากใญ่
00:16:06 → 00:16:10 เข้าไปแล้วมันจะช่วยต่อแบคทีเรียในลำไส้
00:16:10 → 00:16:13 เรายังไงก็ในเบื้องต้นอ่ากากใจพวกนี้มัน
00:16:13 → 00:16:15 กินแล้วมันก็เป็นใยอาหารนะครับทำให้เรา
00:16:15 → 00:16:19 อิ่มท้องลดการดูดซึมน้ำตาลเพราะว่าพวกนี้
00:16:19 → 00:16:21 ก็คือเเรียกว่าค่าดัชนีน้ำตาลมันจะไม่ไม่
00:16:21 → 00:16:25 ได้มากอันนี้คือผลทางตรงนะครับในขณะเดียว
00:16:25 → 00:16:27 กันพอมันเข้าไปสู่ลำไส้มันก็เหมือน
00:16:27 → 00:16:30 แบคทีเรียในลำไส้มันได้อาหารอาหารละมันก็
00:16:30 → 00:16:32 กินมันก็กินพวกนี้นะครับกินเสร็จแล้วมัน
00:16:32 → 00:16:36 ก็ผลิตผลงานของมันก็มันจะเป็นไขมันของมัน
00:16:36 → 00:16:38 ที่เราเรียกว่าชอ Chin fatty Acid มัน
00:16:38 → 00:16:41 ก็คือเป็นเค้าเรียกอะไรอ่ะคือพอมันกินไป
00:16:41 → 00:16:43 แล้วมันก็ขับมันก็ผลิตหรือว่าเราจะเรียก
00:16:43 → 00:16:46 ว่ามันขับถ่ายออกมาแล้วไขมันพวกนี้มันก็
00:16:46 → 00:16:49 ไปทำหน้าที่ต่างๆเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนใน
00:16:49 → 00:16:52 ลำไส้นะครับซึ่งหลายๆอันก็อาจจะส่งผลต่อ
00:16:52 → 00:16:55 ลำไส้โดยตรงหรือบางอันก็จะส่งผลโดยภาพรวม
00:16:55 → 00:16:57 ของฮอร์โมนของต่อมไร้ท่อต่างๆในร่างกาย
00:16:57 → 00:16:59 ครับมันส่งผลยังไงบ้างหมอจากที่เราที่ที่
00:16:59 → 00:17:01 เขคศึกษามาแล้วเรายืนยันมาแล้วเนี่ยฮะ
00:17:01 → 00:17:04 เอ่อมันมีหลายกรณีนะครับแต่ว่าอย่างของผม
00:17:04 → 00:17:08 เองตอนช่วงที่เรามีการศึกษาในอ่าเด็กใน
00:17:09 → 00:17:11 ต่างจังหวัดที่ทำอาหารกลางวันโรงเรียน
00:17:11 → 00:17:13 แล้วก็เราก็ให้อาหารกลางวันที่มันมี
00:17:13 → 00:17:16 คุณภาพมากขึ้นก็ปรากฏว่าพออาหารกลางวันมี
00:17:16 → 00:17:19 คุณภาพมากขึ้นเนี่ยตัวแบคทีเรียในลำไส้
00:17:19 → 00:17:21 ของเด็กเวลาเรามาศึกษาเนี่ยมันเหมือนกับ
00:17:22 → 00:17:24 ว่ามันสมบูรณ์มากขึ้นมันก็จะมีสมติ
00:17:24 → 00:17:27 แบคทีเรียอย่างเช่นิน bacterium นะครับ
00:17:27 → 00:17:29 ซึ่งพวกนี้มันเกี่ยวข้องกับคนที่เหมือน
00:17:29 → 00:17:32 คล้ายๆกับการทานผักทานปลาความสมบูรณ์ของ
00:17:32 → 00:17:34 ตัวแบคทีเรียพวกเมันก็มากขึ้นแต่ก็เป็น
00:17:34 → 00:17:38 ตัวอย่างให้เห็นว่าพอเราเปลี่ยนรูปแบบการ
00:17:38 → 00:17:40 บริโภคอาหารเนี่ยแบคทีเรียต่างๆที่มันมี
00:17:40 → 00:17:43 ประโยชน์มันก็เจริญเติบโตมากขึ้นนะครับ
00:17:43 → 00:17:46 หรือว่าในหลายๆกรณีที่เป็นการศึกษาใน
00:17:46 → 00:17:48 เรื่องของระบบการขับถ่ายอย่างเงี้ยครับก็
00:17:48 → 00:17:51 ทำให้ระบบการขับถ่ายสมบูรณ์มากขึ้นนะครับ
00:17:51 → 00:17:53 อะไรอย่าเงี้ก็มีอครับๆซึ่งพวกนี้มันก็จะ
00:17:53 → 00:17:55 ไปส่งผลต่ออย่างที่บอกฮะพอมันสมพอตัว
00:17:55 → 00:17:57 แบคทีเรียตรงนี้มันสมบูรณ์มากขึ้นมันก็จะ
00:17:57 → 00:18:01 ไปผลิตไอ้ไขมันต่างๆอ่ะซึ่งไอ้ไขมันต่างๆ
00:18:01 → 00:18:04 พวกนี้มันก็จะไปส่งผลต่อมต่างๆฮอรโมนต่าง
00:18:04 → 00:18:06 ๆในร่างกายมีอะไรยกตัวอย่างเช่นอะไรบ้าง
00:18:06 → 00:18:10 ครับคุณหมองโอ้คือจริงๆแบคทีเรียมันผลิต
00:18:10 → 00:18:12 ฮอร์โมนใือมันหรือมันจะส่งผลยังไงต่อร่าง
00:18:12 → 00:18:15 กายของเราบ้างก็ในหลายๆตัวอาจจะมันมีราย
00:18:15 → 00:18:18 ละเอียดของสโคปของมันนะครับแต่ว่าอย่าง
00:18:18 → 00:18:20 กรณีของตัวฮอร์โมนอย่างที่ผมเล่าตอนต้น
00:18:20 → 00:18:22 เรื่องของเซโรโทนินอย่างเงี้ยคือไขมันมัน
00:18:22 → 00:18:25 ก็ไปกระตุ้นทำให้มีการผลิตเซราตินที่มาก
00:18:25 → 00:18:27 ขึ้นเพราะฉะนั้นแน่นอนการนอนหลับต่างๆก็
00:18:27 → 00:18:30 ดีขึ้นเซราตินส่งผลต่อสมองทั้งๆที่มัน
00:18:30 → 00:18:32 ผลิตจากลำไส้นะครับเพราะฉะนั้นมันก็จะมี
00:18:32 → 00:18:36 การทำงานของมันที่ออกฤทธิ์เฉพาะที่แล้วก็
00:18:36 → 00:18:39 ออกลิทธิ์ผ่านระบบต่างๆไปจนถึงอวยวะ
00:18:39 → 00:18:41 อวัยยวะต่างๆก็มีเหมือนกันอะไรเงี้ยครับ
00:18:41 → 00:18:43 อือๆครับเซโรโทนินมันทำหน้าที่อะไรนะครับ
00:18:43 → 00:18:46 คุณบอกมันมีเรื่องอารมณ์อารมณ์อ่าเรื่อง
00:18:46 → 00:18:50 การความอยากอาหารอ่าเราเราเรียกว่ามันมัน
00:18:50 → 00:18:53 เกี่ยวข้องกับอารมณ์ที่คล้ายๆกับเอ่อ
00:18:53 → 00:18:56 อารมณ์ดีอารมณ์ไม่ดีการควบคุมอารมณ์อะไร
00:18:56 → 00:18:58 พวกเนี้ยครับอืๆโอแต่มันก็น่าสนใจเนาะว่า
00:18:58 → 00:19:01 ไอ้ตัวแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้มันส่งผล
00:19:01 → 00:19:05 ต่อฮอร์โมนที่มันจะบอกกำหนดเรื่องอารมณ์
00:19:05 → 00:19:06 เรื่องความรู้สึกของเราด้วยครับมันเป็น
00:19:06 → 00:19:08 ส่วนนึงนะครับผมคิดว่ามันเป็นส่วนนึงแต่
00:19:08 → 00:19:12 ว่ามันก็เป็นตัวอย่างที่ดีตัวอย่างนึงว่า
00:19:12 → 00:19:15 มันมีหน้าที่ของมันนะครับแล้วย้ำสำคัญว่า
00:19:15 → 00:19:18 จริงๆแล้วเ่อในร่างกายเราเนี่ยเ่อ DNA
00:19:18 → 00:19:21 ของแบคทีเรียมันเยอะมากเรายังเข้าใจมัน
00:19:21 → 00:19:24 แค่ส่วนส่วนน้อยเพียงแต่ว่าพอเราเริ่ม
00:19:24 → 00:19:26 เข้าใจมันอ๋อมันมันก็มีประโยชน์ของมัน
00:19:26 → 00:19:28 อยู่เหมือนกันเนาอย่าเงี้ยครับแล้วถ้าถาม
00:19:28 → 00:19:31 ในเชิงในกลุ่มของผู้สูงวัยนี่แหละครับถ้า
00:19:31 → 00:19:35 สมมุติว่าบรรดาเอ่ออาหารที่มันเป็นที่จะ
00:19:35 → 00:19:38 ทำให้เกิดกากใหญ่ในเวลาเรากินเข้าไปเนี่ย
00:19:38 → 00:19:42 ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล้องมะละกอผักอะไรต่างๆ
00:19:42 → 00:19:45 ถ้าเกิดว่าเากินไม่ได้หรือกินไม่พอต้อง
00:19:45 → 00:19:49 เสริมยังไงล่ะครับจริงๆผมว่าจะจะจะทานไม่
00:19:49 → 00:19:53 พอเนี่ยก็ไม่เชิงนะครับแต่ว่าอย่างอ่าใน
00:19:53 → 00:19:57 ตัวใยอาหารมันมีอยู่ในมะเขือเทศอยู่ใน
00:19:57 → 00:20:03 ขึ้นช่าผักกาดขาวฟักทองบวบแมงรักแครอทพวก
00:20:03 → 00:20:06 นี้จริงๆแล้วมันคือผักที่หาได้ง่ายมากๆจะ
00:20:06 → 00:20:08 บอกว่ากินไม่ได้หรือหาไม่ได้ก็ไม่ไม่ไม่
00:20:08 → 00:20:12 เชิงนะครับอหลายๆคนก็ว่าไม่อยากให้ผมไม่
00:20:12 → 00:20:14 อยากให้เอาแบบเอาผักมาปั่นรวมกันแต่มันก็
00:20:14 → 00:20:17 เป็นอีกวิธีการหนึ่งนะครับแต่ผักพวกเนี้ย
00:20:17 → 00:20:19 ครับมันคิดง่ายๆคือเป็นผักลวกจิ้มพวก
00:20:19 → 00:20:21 แครอทมะเขือเทศพวกนี้หาได้อยู่แล้วครับ
00:20:21 → 00:20:24 เพราะฉะนั้นผมคิดว่าถ้าเกิดฟังคลิปนี้
00:20:24 → 00:20:27 แล้วเนี่ยเอ่อไม่ไม่ได้ยากเกินไปที่เราจะ
00:20:27 → 00:20:29 ทานสิ่งแบบนั้นอคือทานอย่างนึงไม่ได้ก็
00:20:29 → 00:20:32 ย้ายไปทานอีกอย่างนึงใช่สลับกันไปใช่ครับ
00:20:32 → 00:20:35 เพราะพวกนี้เนี่ยคือเรากินแบบเดิมซ้ำๆ
00:20:35 → 00:20:36 เนี่ยอย่างที่บอกว่าข้อมูลมันก็อาจจะยัง
00:20:37 → 00:20:39 ไม่ได้บอกว่ากินแบบเดิมซ้ำๆเราก็อาจจะได้
00:20:39 → 00:20:42 รูปแบบแบบเดิมแต่จริงๆแล้วอาหารไทยที่
00:20:42 → 00:20:44 ความหลากหลายต่างๆเนี่ยมันก็มีประโยชน์
00:20:44 → 00:20:47 ของมันแล้วส่งเสริมกับแบคทีเรียหลายๆชนิด
00:20:47 → 00:20:49 ครับซึ่งพวกนี้มันอยู่ในอาหารธรรมชาติ
00:20:49 → 00:20:51 อยู่แล้วบางทีเราไม่ต้องไปจำเป็นต้องไป
00:20:51 → 00:20:53 ซื้อหรืออะไรมาเติมก็ได้ใช่มั้ยครับเรา
00:20:53 → 00:20:55 ไม่จำเป็นต้องไปซื้อก็ได้ครับใชมีมีมี
00:20:55 → 00:20:58 เยอะมากๆเลยพวกเ่อผักริมรั้วหรือว่าผัก
00:20:58 → 00:21:01 ที่เราเราปลูกเองกล้วยก็มีคืออาหารไทยถ้า
00:21:01 → 00:21:04 นึกโอ๊ได้ได้มากมายยำวุ้นเส้นต่างๆที่มัน
00:21:04 → 00:21:08 มีเอ่อหัวหอมต้นหอมอะไรพวกนี้ครับก็มี
00:21:08 → 00:21:11 ส่วนที่จะช่วยส่งเสริมตัวแบคทีเรียพวกนี้
00:21:11 → 00:21:14 ได้คือไม่น่าขาดอครับเออใช่พอฟังคุณหมอ
00:21:14 → 00:21:15 นั้นรู้สึกเอ้ยมันมีมันมีอยู่ในหลายๆที่
00:21:15 → 00:21:18 มากเลยไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อแล้วก็ไปไป
00:21:18 → 00:21:20 ต้องไปไปเติมไปเสริมมันก็ได้ใช่มั้ครับ
00:21:20 → 00:21:22 กรณีที่เราบอกโอหจเป็นต้องหมดเงินไปกับ
00:21:22 → 00:21:24 การซื้ออาหารเสริมมาเติมสิ่งพวกนี้เข้าไป
00:21:24 → 00:21:27 ในร่างกายใช่ครับเพราะว่าเราหาหาได้ง่าย
00:21:27 → 00:21:31 แล้วก็บ้านเราอาหารเหล่านี้เนี่ยนึกๆไป
00:21:31 → 00:21:35 แล้วบมันมีอยู่ทั่วไปตามอะไรฮะเ่อตามซอย
00:21:35 → 00:21:37 ต่างๆที่แบบมีร้านอาหารต่างๆแล้วก็ไม่ได้
00:21:37 → 00:21:40 แพงมากเพียงแต่ว่าพอสังคมไทยยุคปัจจุบัน
00:21:40 → 00:21:43 อ่าเวลาอาจจะน้อยทุกคนต้องการแบบรวดเร็ว
00:21:43 → 00:21:45 เข้าว่าก็อาจจะต้องไปซื้อเสียสตางค์ซื้อ
00:21:45 → 00:21:49 อะไรเงี้ยครับอืแล้วในกรณีสมมุติว่าอาจจะ
00:21:49 → 00:21:52 เคี้ยวยากบทเคี้ยวยากพวกนี้ปั่นผสมรวม
00:21:52 → 00:21:56 อะไรงงี้ได้มั้ยครับได้ครับได้ครับก็ผัก
00:21:56 → 00:21:59 ต่างๆที่ผมอย่างยกตัวอย่างก็คงจะต้องไปหา
00:21:59 → 00:22:01 สูตรบนโลกออนไลน์ให้ทำยังไงให้มันอด้ว
00:22:01 → 00:22:05 อร่อยแต่ว่าแบบผักต้มต่างๆข้าวโพดอ่อน
00:22:05 → 00:22:08 เอ่อคะน้าบล็อกโคลี่หรือว่าแครอทพวกนี้
00:22:08 → 00:22:11 ครับมันสามารถปั่นปั่นรวมกันได้แต่แต่ว่า
00:22:11 → 00:22:13 ย้ำสำคัญว่าพวกนี้คือกลุ่มของพวก
00:22:13 → 00:22:16 คาร์โบไฮเดรตที่มันเป็นใยอาหารแต่ในขณะ
00:22:16 → 00:22:18 เดียวกันมันก็ตามมาด้วยกลุ่มของน้ำตาล
00:22:18 → 00:22:22 เนาะอย่าลืมว่าพวกนี้มันโดยตัวฟักทองเอง
00:22:22 → 00:22:26 อ่ามะละกอเองอะไกล้วยเองเนี่ยมันเป็น
00:22:26 → 00:22:29 แหล่งของพวกใยอาหารก็จริงแต่ว่าฮะมันสุด
00:22:29 → 00:22:32 ท้ายจำนวนนึงมันก็มีน้ำตาลแฝงในนั้นแล้ว
00:22:32 → 00:22:35 มันก็ส่วนใหญ่ยอาหารมันก็คือคาร์โบไฮเดรต
00:22:35 → 00:22:37 เพราะฉะนั้นมันไม่มีโปรตีนครับนะครับ
00:22:37 → 00:22:38 เพราะฉะนั้นถ้าเกิดกินอันนี้อย่างเดียว
00:22:38 → 00:22:41 ได้โพรไบโอติกน้ำตาลขึ้นอย่างน้ำตาลขึ้น
00:22:41 → 00:22:43 ก็ก็ก็ไม่ดีเหมือนกันมันต้องต้องคิดใน
00:22:43 → 00:22:46 ประเด็นความสมดุลของการทานด้วยครับครับ
00:22:46 → 00:22:48 ต้องระวังเรื่องนี้ด้วยไม่ใช่ไม่งั้น
00:22:48 → 00:22:50 เดี๋ยวบางคนคิดว่าอ่าต้องการโปรไบโอติก
00:22:50 → 00:22:53 แล้วก็กินอย่างเดียวซ้ำๆมันไปใช่ๆครับ
00:22:53 → 00:22:56 เพราะว่าผู้สูงอายุยังเป็นทุกวัยฮะยัง
00:22:56 → 00:22:59 เป็นวัยที่ต้องการโปรตีนแล้วก็ไขมันที่มี
00:22:59 → 00:23:01 ประโยชน์ครับนะครับซึ่งโปรตีนจะไม่ได้จาก
00:23:01 → 00:23:04 อาหารกลุ่มพวกนี้อืๆใช่มั้ยฮะโปรตีนจะได้
00:23:05 → 00:23:08 จากเนื้อสัตว์ไข่ไไก่หมูเพราะฉะนั้นก็ยัง
00:23:08 → 00:23:09 จำเป็นต้องได้พวกนั้นเพราะว่าไม่อย่าง
00:23:09 → 00:23:12 งั้นแล้วเนี่ยเ่อสุขภาพลำไส้ดีแต่กล้าม
00:23:12 → 00:23:15 เนื้อหายเพราะว่าโปรตีนกินไม่ถึงก็จะเป็น
00:23:15 → 00:23:17 อีกโรคนึงซึ่งกรณีแบบนี้คุณหมอนัก็เลยจะ
00:23:17 → 00:23:21 ก็ไม่ได้ก็ไม่แนะนำให้ผู้สูงอายุที่
00:23:21 → 00:23:24 ต้องการเนี่ยกากใยอาหารลดเนื้อสัตว์หรือ
00:23:24 → 00:23:27 ว่ากลายเป็นอ่าอะไรนะฮะเน้นผักผลไม้กลาย
00:23:27 → 00:23:30 เป็นมังวรัสอะไรไปคุณก็ไม่แนะนำหรือเปล่า
00:23:30 → 00:23:32 ครับครับไม่แนะนำอยู่แล้วครับเพราะว่า
00:23:32 → 00:23:36 เอ่อในผู้สูงอายุเนี่ยเราจะมีเทอมพวกเอ่อ
00:23:36 → 00:23:38 คือน้ำหนักไม่ได้อ้วนนะครับแต่ว่ากล้าม
00:23:38 → 00:23:41 เนื้อหายกล้ามเนื้อหายก็นำไปสู่
00:23:41 → 00:23:44 ประสิทธิภาพในการเดินครับประสิทธิภาพใน
00:23:44 → 00:23:48 การเ่อใช้ชีวิตประจำวันใช่มั้ยครับการ
00:23:48 → 00:23:51 รักษาสมดุลอ่าอาจจะพอไม่แข็งแรงก็อาจจะ
00:23:51 → 00:23:54 ล้มง่ายก็เกิดอุบัติเหตุได้ประสิทธิภาพใน
00:23:54 → 00:23:57 กล้ามเนื้อต่างๆมันก็มีเรื่องของการเสริม
00:23:57 → 00:23:58 โปรตีนก็อาจจะเป็นเรื่องของของความ
00:23:58 → 00:24:02 สมบูรณ์ความคิดอารมณ์ต่างๆแต่ที่เห็นชัดๆ
00:24:02 → 00:24:05 คือความแข็งแรงของมวลกล้ามเนื้อซึ่งทำให้
00:24:05 → 00:24:07 เขาคเคลื่อนไหวน้อยลงพอเคลื่อนไหวน้อยลง
00:24:07 → 00:24:10 ก็จะเกิดปัญหากับสุขภาพอื่นๆใช่มั้ยครับ
00:24:10 → 00:24:13 อันนี้อันนี้สำคัญมากแล้วขณะเดียวกันก็
00:24:13 → 00:24:15 ถ้ากินสมมุติว่ากินผักเนี่ยสิ่งที่มองใน
00:24:15 → 00:24:18 อีกมิตินึงก็คือสมมุติว่าเรากินผักปั่น
00:24:18 → 00:24:21 แทนที่จะกินแบบข้าวปลาทูลวกน้ำพริกลวก
00:24:22 → 00:24:25 จิ้มอืเราปั่นกินเลยนะครับในผู้สูงอายุ
00:24:25 → 00:24:28 ที่มีปัญหาโรคสุขภาพอย่างเช่นตัวน้ำตาล
00:24:28 → 00:24:30 สูงหรือว่าอ้วนอย่างเงี้ยครับมันเสมือน
00:24:30 → 00:24:34 ว่าเค้ากินอาหารเป็นมื้อที่ 4 อืนออกมั้ย
00:24:34 → 00:24:36 ฮะเพราะว่าเวลาเคกินเอาจจะกินแก้วนึงซึ่ง
00:24:36 → 00:24:40 ก็คงจะอิ่มมากนะฮะแล้วก็ถ้าในแง่ของการ
00:24:40 → 00:24:42 เผาผลาญเนี่ยมันจะคืออีกหนึมื้อที่ร่าง
00:24:42 → 00:24:45 กายต้องจัดการกับปริมาณน้ำตาลตรงนั้นั้น
00:24:45 → 00:24:48 ในบางคนที่มีปัญหาน้ำตาลเนี่ยก็มีโอกาส
00:24:48 → 00:24:51 ที่น้ำตาลจะเสิรชขึ้นได้อืนะครับบางคนกิน
00:24:51 → 00:24:54 น้ำเต้าหู้กินทรงเครื่องเสร็จแล้วกินสัก
00:24:54 → 00:24:57 18:00 นแล้ว 8:00 นกินข้าวอีกแล้วนะครับ
00:24:57 → 00:24:59 ก็จะเกิดปัญหาน้ำในเลือดที่ชูดขึ้นตั้ง
00:24:59 → 00:25:01 แต่ตอนช่วงเช้าเสร็จแล้วพอกินข้าวเช้าก็
00:25:02 → 00:25:04 ขึ้นไปอีกครับอ่าครับเ้าอย่างน้ำตู้ตอน
00:25:04 → 00:25:06 เช้าๆนี่มันมีน้ำตาลด้วยเหรอครับเพราะถ้า
00:25:06 → 00:25:08 สมมุติเรากินแบบไม่ใส่น้ำตาลได้ครับกิน
00:25:08 → 00:25:11 เราไม่ใส่น้ำตาลได้แต่ว่าเอ่อการที่ใส่
00:25:11 → 00:25:14 ทรงเครื่องแบบทั้งลูกเดือยทั้งวุ้นเม็ด
00:25:14 → 00:25:16 มังลักต่างๆพวกเครับมันก็เป็นแหล่งของ
00:25:16 → 00:25:19 สมมุติใส่ถั่วด้วยมันก็เป็นแหล่งพลังงาน
00:25:19 → 00:25:22 ที่ได้คาร์โบไฮเดรตได้โปรตีนเข้าไปด้วย
00:25:22 → 00:25:27 ซึ่งในกรณีคนไข้หลายๆคนเราเจอว่าเคไม่ไม่
00:25:27 → 00:25:29 ไม่ไม่โอเคกับกับตรงนี้คือน้ำตาลเขึ้น
00:25:29 → 00:25:32 เยอะอืบางคนเช่นแบบกินพวกเนี้ยน้ำตาลขึ้น
00:25:32 → 00:25:35 จากเดิมน้ำตาล 100 กว่าพอกินทรงเครื่อง
00:25:35 → 00:25:38 พวกนี้ขึ้นเป็น 2300 ก็มีครับนะครับเพราะ
00:25:38 → 00:25:40 ฉะนั้นแต่ละคนก็แบบถูกกับอาหารบางอย่าง
00:25:40 → 00:25:43 กับอาหารเ่ออีกอย่างนึงก็ไม่ถูกอะไรเงี้ย
00:25:43 → 00:25:45 ครับอืครับๆโอ้นี่ผมกินประจำเลยน้ำ
00:25:45 → 00:25:48 เต้าหู้ทรงเครื่องเป็นมืยาวเนี่ยครับแต่
00:25:48 → 00:25:51 ก็ก็อย่าลืมว่าคือผู้สูงอายุเเออกกำลัง
00:25:51 → 00:25:54 กายน้อยลงดังนั้นสิ่งที่เขากินเนี่ยมัน
00:25:54 → 00:25:57 ส่งผลบางครั้งอย่าไปมองแค่ว่าเอ้ยฉันจะลด
00:25:57 → 00:26:00 น้ำตาลจากตรงนู้นกินข้าวน้อยแต่ภาพรวมของ
00:26:00 → 00:26:02 การกินในแต่ละวันให้ให้ประเมินด้วยเหมือน
00:26:02 → 00:26:05 กันซึ่งพวกนี้พอเราใช้เทคโนโลยีในการแบบ
00:26:05 → 00:26:07 ตรวจน้ำตาลปลายนิ้วบ่อยๆเราก็เริ่มเห็น
00:26:07 → 00:26:11 อ๋อมิตรหน้าทำไมน้ำตาลเขาไม่ค่อยลงอะไรอ
00:26:11 → 00:26:13 กลับมาตรงเรื่องลำไส้นี่แหละครับแสดงว่า
00:26:13 → 00:26:17 ตอนนี้แม้ว่ามันจะเป็นเป็นเทรนด์ที่คนมัก
00:26:17 → 00:26:20 จะพูดถึงเรื่องนี้กันบ่อยๆแต่เราก็ต้อง
00:26:20 → 00:26:24 แต่จริงๆแล้วมันก็ยังยังต้องการการศึกษา
00:26:24 → 00:26:25 เพิ่มเติมกับอีกอย่างนึงถ้าเราอยากจะดูแล
00:26:26 → 00:26:29 ตัวเองมันก็เป็นเรื่องของอะไรนะอาหารการ
00:26:29 → 00:26:32 กินรอบๆตัวเราเหมือนกันเราไม่อาจจะต้อง
00:26:32 → 00:26:34 ไม่ถึงกับจะต้องโอ้โหตามเทรนด์แล้วต้องไป
00:26:34 → 00:26:38 ตามล่าหาอาหารเสริมอะไรต่างๆมามากินตาม
00:26:38 → 00:26:40 ที่เขาบอกกันใช่มั้ยครับคุณมครับเพราะว่า
00:26:40 → 00:26:43 จริงๆแล้วอ่าพวกพรีไบโอติกโปรไบโอติก
00:26:43 → 00:26:45 เนี่ยมันก็มีปริมาณที่เหมาะสมของมันอยู่
00:26:45 → 00:26:48 แล้วนะครับทีนี้ประเด็นที่อ่าอย่างเอา
00:26:48 → 00:26:50 กรณียอาหารพรีไบโอติกก่อนนะครับเรามี
00:26:50 → 00:26:53 ปริมาณเช่นคนนึงต้องการวันละกี่กรัมซึ่ง
00:26:53 → 00:26:56 ง่ายๆเลยถ้าเราเปลี่ยนข้าวๆเป็นข้าวกล้อง
00:26:56 → 00:26:59 เราก็ได้โบเอ่อเราได้พรีไบโอติกเพิ่มะเรา
00:26:59 → 00:27:02 ได้ยอาหารเพิ่มละนะครับทานโยเกิร์ตนะครับ
00:27:02 → 00:27:07 ทานนมเปรี้ยวทานผลไม้ผักสีเขียวหลายๆอัน
00:27:07 → 00:27:09 เราก็ได้อยู่แล้วนะครับเพียงแต่ว่าอย่าไป
00:27:09 → 00:27:11 ยึดติดว่ามันจะต้องได้ปริมาณกรัมเท่านู้น
00:27:11 → 00:27:14 เท่านี้เพราะว่ามันก็คงต้องใช้องค์ความ
00:27:14 → 00:27:17 รู้พอสมควรนะครับในขณะเดียวกันพวกอ่า
00:27:17 → 00:27:20 แบคทีเรียต่างๆพวกเยครับก็มันก็มีปริมาณ
00:27:20 → 00:27:23 ของมันแต่ว่าสิ่งที่เราจะต้องคำนึงก็คือ
00:27:23 → 00:27:27 ว่าจริงๆอยมีการกำหนดในในความปลอดภัยแล้ว
00:27:27 → 00:27:30 ก็ประสิทธิภาพของมันนะครับคือว่าตัว
00:27:30 → 00:27:32 โปรไบโอติกที่เราซื้อกินก็อาจจะต้องดู
00:27:32 → 00:27:35 เรื่องของคุณภาพความปลอดภัยความถูกต้อง
00:27:35 → 00:27:37 ของมันด้วยเหมือนกันนะครับเพราะว่า
00:27:37 → 00:27:40 โปรไบโอติกมันก็เป็นแบคทีเรียแบบอันนึง
00:27:40 → 00:27:42 ที่มันเปราะบางนะฮะบางยี่ห้อที่เราซื้อมา
00:27:42 → 00:27:45 ต้องแช่ตู้เย็นบาง้อยี่ห้อซื้อมาแล้วพอ
00:27:45 → 00:27:48 โดนความร้อนเราถือออกมานอกตู้เย็นลืมวาง
00:27:48 → 00:27:52 ไว้มันก็อาจจะตายไปทำให้สิ่งที่เรากินมัน
00:27:52 → 00:27:54 อาจจะกลายเป็นว่าไม่ไม่เหลือตัว
00:27:54 → 00:27:56 โปรไบโอติกเข้าไปในลำไส้ก็ได้มันก็มี
00:27:56 → 00:27:59 เงื่อนไขของมันครับอย่างอย่าผู้สูงอายุ
00:27:59 → 00:28:01 บางทีผมเห็นเขจะชอบบางทีบางท่านจะชอบกิน
00:28:01 → 00:28:03 นมเปรี้ยวอ่าก็บอกว่าช่วยทำให้ย่อยง่าย
00:28:03 → 00:28:05 แต่บางทีนมเปรี้ยวบางอย่างในนั้นไปเลือก
00:28:05 → 00:28:07 สูตรที่มันน้ำตาลสูงๆอันนี้ก็ต้องระวัง
00:28:07 → 00:28:09 เหมือนกันใช่มั้ยฮะก็ใช่ครับใช่ก็ต้อง
00:28:09 → 00:28:12 ระวังแล้วก็บางยี่ห้ออย่างที่บอกว่ามันก็
00:28:12 → 00:28:15 เป็นแบคทีเรียเฉพาะบางชนิดนะครับดังนั้น
00:28:15 → 00:28:17 องค์ความรู้เหล่านี้ที่เราต้องการบอกว่า
00:28:17 → 00:28:20 เฮ้ยเราต้องการตัวไหนกันแน่อาจจะต้องรอ
00:28:20 → 00:28:22 เวลาอีกสักพักนึงนะครับไม่งั้นเราก็อาจจะ
00:28:22 → 00:28:26 ได้อ่าเ่อตัวแบคทีเรียจากนมเปรี้ยวบาง
00:28:26 → 00:28:29 ชนิดไปเรื่อยๆไปเรื่อยเรื่อยๆนะครับแต่ใน
00:28:29 → 00:28:31 อนาคตเนี่ยเราต้องเรียนรู้ต่อไปว่าไอ้ตัว
00:28:31 → 00:28:35 แบคทีเรียที่อยอนุมัติประมาณ 20 กว่าชนิด
00:28:35 → 00:28:37 เนี่ยตกลงแล้วเราต้องการชนิดไหนกันแน่ใน
00:28:37 → 00:28:40 ปริมาณเท่าไหร่อือนะฮะเพราะว่ามันก็มีข้อ
00:28:40 → 00:28:42 ถกเถียงอยู่เหมือนกันว่าเวลาเรากิน
00:28:42 → 00:28:45 โปรไบโอติกหลายๆหลายๆชนิดเนี่ยมันทะเลาะ
00:28:45 → 00:28:47 กันมั้ยมันตีกันมั้ยหรือมันเสริมฤทธิ์กัน
00:28:47 → 00:28:49 มั้ยมันก็เป็นเรื่องที่ทางวิทยาศาสตร์
00:28:49 → 00:28:51 ต้องการศึกษาเพิ่มเติมครับๆแต่ที่เขาวาง
00:28:51 → 00:28:53 ขายกันอยู่ทุกวันนี้อยู่ตามนมเปรี้ยวอะไร
00:28:53 → 00:28:55 ทั่วๆไปอันนี้ก็ยังถือว่ายังยังยังทานได้
00:28:55 → 00:28:58 แล้วยังคิดว่าน่าจะยังจำเป็นสำหรับระบบ
00:28:58 → 00:29:01 อ่าเป็นอาหารสำหรับแบคทีเรียในลำไส้ของ
00:29:01 → 00:29:03 เราใช่มั้ยครับอ่าใช่ครับใช่ครับอันนี้
00:29:03 → 00:29:05 มันก็เป็นกลุ่มพวกตัวแบคทีเรียนั่นแหละ
00:29:05 → 00:29:07 ครับเพียงแต่ว่ามันก็มีปริมาณที่ไม่มากจน
00:29:07 → 00:29:11 เกินไปแล้วก็ในปริมาณที่เราทานก็มันไม่
00:29:11 → 00:29:13 ได้ส่งผลเสียต่อต่อร่างกายก็คิดว่ายังทาน
00:29:13 → 00:29:16 ได้แต่คำถามคือทานแล้วมีประโยชน์หรือไม่
00:29:16 → 00:29:18 อันเนี้ยผมคิดว่าก็เป็นอีกคำถามใหญ่นึง
00:29:18 → 00:29:20 เพราะว่ามันจะเหมารวมว่าทุกคนต้องการ
00:29:20 → 00:29:22 แบคทีเรียสมมุติแลคโตบาซิลัสเหมือนกัน
00:29:22 → 00:29:26 เนี่ยก็ก็อาจจะไม่ใช่แบบนั้นนะครับแล้วก็
00:29:26 → 00:29:30 จริงๆสุขภาพของลำไส้มันไปไกลมากกว่าการ
00:29:30 → 00:29:33 ขับถ่ายมันไปไกลเรื่องของการป้องกัน
00:29:33 → 00:29:37 มะเร็งซึ่งอาจจะป้องกันในปัจจุบันได้หรือ
00:29:37 → 00:29:39 ไม่อย่างไรมันไม่ใช่แค่ตัวแบคทีเรียอย่าง
00:29:39 → 00:29:41 เดียวมันมีเรื่องพันธุกรรมการใช้ชีวิต
00:29:41 → 00:29:44 ต่างๆอีกมากมายที่เข้ามาเป็นตัวตัวเล่น
00:29:44 → 00:29:46 ใหญ่ๆในเรื่องของการเกิดมะเร็งเหมือนกัน
00:29:46 → 00:29:48 อะไรเงี้ยครับครับๆใช่เพราะว่าผมเห็นว่า
00:29:48 → 00:29:50 ช่วงหลังๆนี้จะมีผู้ใหญ่จะค่อนข้างจะ
00:29:50 → 00:29:52 กังวลเกี่ยวกับไอ้พวกเรื่องการเป็นมะเร็ง
00:29:52 → 00:29:55 ลำไส้อะไรกันค่อนข้างมากเลยพวกนี้ถ้าเกิด
00:29:55 → 00:29:58 ตรวจเจอปัญหาก็อาจจะมีการการวางแผนการ
00:29:58 → 00:30:01 รักษาตั้งแต่เนิ่นๆได้ซึ่งก็อาจจะไม่
00:30:01 → 00:30:03 เกี่ยวข้องกับสิ่งที่กินครับนะครับสิ่ง
00:30:03 → 00:30:06 ที่กินเป็นแค่แค่แค่พาร์ทนึงเ่อแล้วก็
00:30:06 → 00:30:09 อย่ามองเข้าใจว่าเอ้ยฉันทานผักทานปลาเป็น
00:30:09 → 00:30:11 ปริมาณมากแล้วฉันไม่เป็นมะเร็งลำไส้วิธี
00:30:11 → 00:30:13 คิดแบบนี้ก็อาจจะไม่ถูกต้อง 100% เหมือน
00:30:13 → 00:30:16 กันครับแล้วในกรณีของผู้ใหญ่นะครับบรรดา
00:30:16 → 00:30:19 ผู้สูงอายุที่ไปหาคุณหมอนัทประจำประำผม
00:30:19 → 00:30:21 ว่าส่วนหนึ่งเขาก็ต้องมาปรึกษาเรื่องเนี้
00:30:21 → 00:30:24 ฮะโดยเฉพาะเรื่องการอะไรฮะการย่อยแก่แล้ว
00:30:24 → 00:30:27 ก็จุอายุมากแล้วย่อยยากนะฮะหรือไม่พอย่อย
00:30:27 → 00:30:29 ยากนำไปสู่เรื่องของการขับถ่ายยากท้องผูก
00:30:30 → 00:30:32 อะไรพวกเมีคุณหมอนมีคำแนะนำยังไงครับครับ
00:30:32 → 00:30:35 ก็เอ่อจริงๆแล้วต้องเข้าใจหลักการก่อนผู้
00:30:35 → 00:30:38 สูงอายุเดินกิจกรรมทางกายน้อยลงเคลื่อน
00:30:38 → 00:30:41 ไหวน้อยลงนอนมากขึ้นลำไส้มันก็อาจจะนิ่งๆ
00:30:41 → 00:30:44 เคลื่อนไหวน้อยลงนะครับ 2 คืออาจจะทานน้ำ
00:30:44 → 00:30:47 ไม่พอเพราะเ้ารู้สึกว่าวันๆไม่ได้ใช้พลัง
00:30:47 → 00:30:52 งานอะไรครับรวมถึงการใช้ยาที่มันผู้สูงยุ
00:30:52 → 00:30:54 ส่วนใหญ่ใช้ยาเยอะผมว่าไม่ต่ำกว่า 3-4
00:30:55 → 00:30:58 ตัวแน่นอนนะครับที่เราได้เจอบ่อยๆคือยา
00:30:58 → 00:31:00 พวกกลุ่มแคลเซียมนะครับซึ่งพวกนี้ทำให้
00:31:00 → 00:31:02 เกิดภาวะท้องผูกได้นะครับเคกินแคลเซียม
00:31:02 → 00:31:04 เพื่ออยากจะไปบำรุงกระดูกอะไรพวกนี้ึ
00:31:04 → 00:31:06 เปล่าครับใช่เพราะว่าผู้สูงอายุไปคลินิก
00:31:06 → 00:31:09 ผู้สูงอายุหรือว่าคลินิกกระดูกก็จะมี
00:31:09 → 00:31:12 กระดูกพุนกระดูกบางอ่านะครับแล้วแคลเซียม
00:31:12 → 00:31:15 ก็เป็นหนึ่งในยาที่มักจะถูกจ่ายบ่อยๆซึ่ง
00:31:15 → 00:31:18 พวกนี้ก็เกิดเกิดปัญหาท้องผูกครับยาแก้
00:31:18 → 00:31:21 ปวดพวกนี้ก็ทำให้ลำไส้มันนิ่งเพราะฉะนั้น
00:31:21 → 00:31:24 ต้องไปมองในเรื่องของระบบคือยาเนี่ยเป็น
00:31:24 → 00:31:28 สิ่งที่เรามองได้ว่ามันปรับได้มั้ยอืนะ
00:31:28 → 00:31:30 ครับบางครั้งกินยาไปเนี่ยบางทีต้องบอกว่า
00:31:30 → 00:31:33 ยาบางตัวจ่ายตลอดชีวิตครับโดยที่ลืมมา
00:31:34 → 00:31:36 นั่งทบทวนกันใหม่ว่าเอ้ยมันยังจำเป็นอยู่
00:31:36 → 00:31:39 หรือไม่ใช่มั้ยครับพวกนี้ก็ถ้าเกิดลดตัว
00:31:39 → 00:31:42 ปัญหามันก็จะทำให้การท้องผูกมันดีขึ้นได้
00:31:42 → 00:31:44 เร็วเพราะว่านี่คือตัวปัญหาใหญ่การการ
00:31:44 → 00:31:47 ดื่มน้ำก็ให้เพียงพอ 6-8 แก้วต่อวันก็
00:31:47 → 00:31:50 ช่วยได้ทำให้ระบบลำไส้ดีขึ้นการเคลื่อน
00:31:50 → 00:31:54 ไหวการขยับตัวก็ล้วนแต่ช่วยทำให้ภาวะท้อง
00:31:54 → 00:31:57 ผูกดีขึ้นอืนะครับในขณะเดียวกันถ้าเกิด
00:31:57 → 00:32:00 พูดพูดถึงในระยะยาวเวลาที่เราแนะนำนอก
00:32:00 → 00:32:02 เหนือจากการดื่นน้ำการเดินให้มากเพียงพอ
00:32:02 → 00:32:06 ผมว่าอาหารต่างๆของไทยเนี่ยช่วยทำให้การ
00:32:06 → 00:32:09 ขับถ่ายดีขึ้นโดยที่อาจจะไม่ต้องใช้ยา
00:32:09 → 00:32:12 เอ่ายาระบายยาระบายใช่มั้ยครับอย่างเช่น
00:32:12 → 00:32:16 การแนะนำการเอ่อทานผักเปลี่ยนอย่างที่ผม
00:32:16 → 00:32:19 บอกว่าเป็นข้าวกล้องทานผักเขียวอ่าผัก
00:32:19 → 00:32:22 ต่างๆเช่นที่ยอาหารสูงๆเช่นฟักทองมะละกอ
00:32:22 → 00:32:26 บล็อกเคอรี่แครอทถั่วต่างๆพวกเนี้ยมีใย
00:32:26 → 00:32:29 อาหารเพียงพอสำหรับการทำให้ขับถ่ายดีขึ้น
00:32:29 → 00:32:32 อยู่แล้วอืครับครับแล้วบางคนบอกว่าเอ้ย
00:32:32 → 00:32:35 อาจจะทานอาหารแบบนี้ไม่มากพอบางทีต้องการ
00:32:35 → 00:32:37 ยาระบายมาเป็นตัวช่วยพวกนี้มันจะส่งผลต่อ
00:32:37 → 00:32:42 ทำให้แบคทีเรียในลำไส้เรามันมันสูญไปหรือ
00:32:42 → 00:32:44 ว่ามันมีมันส่งผลกระทบอะไรพวกนี้มั้ยครับ
00:32:44 → 00:32:47 เอ่อยาถ่ายมีหลายหลายๆชนิดนะครับแต่ว่า
00:32:47 → 00:32:49 หลายๆชนิดที่เราใช้กันบ่อยเนี่ยอ่ามันก็
00:32:49 → 00:32:52 เป็นแค่กากใยอาหารอืเพื่อทำให้มันเกิดการ
00:32:52 → 00:32:55 รวมตัวหรือดูดน้ำเข้าไปแล้วก็ทำให้เกิด
00:32:55 → 00:32:59 การขับถ่ายแน่นอนว่าครับมันเป็นการแก้ไข
00:32:59 → 00:33:01 ระยะสั้นได้เพราะอย่าลืมว่าถ้าไม่ถ่าย
00:33:01 → 00:33:04 เนี่ยปัญหาใหญ่เลยนะครับท้องผูกนี่โอความ
00:33:04 → 00:33:07 ดันขึ้นถ่ายไม่ออกไม่สบายตัวกินไม่ได้
00:33:07 → 00:33:10 คลื่นไส้อาเจียนดังนั้นก็บางครั้งก็มี
00:33:10 → 00:33:13 ความจำเป็นที่จะต้องใช้ตัวช่วยแต่ว่าหลาย
00:33:13 → 00:33:16 ๆครั้งผู้สูงอายุบอกว่ากินแล้วเดี๋ยวติด
00:33:16 → 00:33:19 เพราะว่ามันต้องการในปริมาณที่ที่มากมาก
00:33:19 → 00:33:23 ขึ้นเรื่อยๆผมก็มองว่าถ้าจำเป็นก็ใช้นะ
00:33:23 → 00:33:25 ครับแต่ว่าให้ย้อนกลับว่าเรายังสามารถทำ
00:33:25 → 00:33:28 หลายๆอย่างได้ได้ด้วยตัวเราเองการเดินการ
00:33:28 → 00:33:31 กินน้ำเมันง่ายๆเลยมันมันมันช่วยทำให้การ
00:33:31 → 00:33:33 ระบบการขับถ่ายดีขึ้นหรือแม้กระทั่งการ
00:33:33 → 00:33:36 ตั้งเวลาในการขับถ่ายก็จะเป็นตัวช่วยทำ
00:33:36 → 00:33:39 ให้แบบเออให้ให้รู้ว่าปวดหรือไม่ปวดก็
00:33:39 → 00:33:42 นั่งก่อนนะฮะให้เกิดความเคยชินนะครับถ้า
00:33:42 → 00:33:44 ถ้าสุดท้ายมันไม่ได้จริงๆก็ต้องปรึกษาผู้
00:33:44 → 00:33:47 เชี่ยวชาญว่าเอ้ยทำไมมันถึงเกิดปัญหาท้อง
00:33:47 → 00:33:49 ผูกนะครับแต่ว่าย้อนกลับไปที่มองเรื่อง
00:33:49 → 00:33:52 ของการใช้ยาก่อนเพราะว่ายาหลายตัวส่งผล
00:33:52 → 00:33:56 ต่อการเคลื่อนไหวลำไส้ของร่างกายอืมากๆนะ
00:33:56 → 00:33:59 ครับแล้วก็ผู้สายุหลายคนนะฮะเระบบการนอน
00:33:59 → 00:34:02 เสียเพราะฉะนั้นนอนเยอะๆลำไส้มันก็ไม่ไม่
00:34:02 → 00:34:05 ค่อยเคลื่อนตัวก็ต้องให้เขาแบบเอ่อได้
00:34:05 → 00:34:07 เคลื่อนไหวร่างกายป้างได้เดิมด้วยเคลื่อน
00:34:07 → 00:34:10 ไนะครับทานโยเกิร์ตนะครับทานนมเปรี้ยว
00:34:11 → 00:34:13 หรือว่าทานเ่าน้ำพริกตกจิ้งที่มันมีใย
00:34:13 → 00:34:15 อาหารต่างๆพวนี้ก็ช่วยได้ครับอืๆแสดงฟัง
00:34:15 → 00:34:17 ดูเหมือนมันเป็น 2 ด้านเหมือนกันนะครับ
00:34:17 → 00:34:20 เพราะบางทียามันอาจจะส่งผลต่อทำให้เรา
00:34:20 → 00:34:24 ท้องผูกไม่สามารถที่จะขับถ่ายได้แต่เราก็
00:34:24 → 00:34:25 ต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่เราเติมเข้าไปเนี่ย
00:34:25 → 00:34:27 มันจะช่วยยังไงได้บ้างด้วยนะครับใช่ๆใช่
00:34:27 → 00:34:30 ถูกครับูครับสุดท้ายแล้วครับคุณหมอถ้าเรา
00:34:30 → 00:34:36 จะดูแลอะไรล่ะฮะดูแลลำไส้ของเราให้ทำงาน
00:34:36 → 00:34:38 ได้ดีให้แบคทีเรียในลำไส้ของเรานี่สามารถ
00:34:38 → 00:34:43 ที่จะอะไรล่ะมีหาอาหารเข้าไปย่อยเข้าไปมี
00:34:44 → 00:34:45 พูดง่ายๆกินกินของเข้าไปเพื่อเป็นอาหาร
00:34:45 → 00:34:47 ให้สำหรับแบคทีเรียในลำไส้ของเราแล้วเป็น
00:34:47 → 00:34:50 ประโยชน์ถ้าดูกันที่มื้ออาหารดูกันง่าย
00:34:50 → 00:34:54 ๆเราสามารถดูยังไงได้บ้างนะครับเอ่อผมว่า
00:34:54 → 00:34:57 หลักการที่ดูง่ายๆก็คือว่าใยอาหารสิ่ง
00:34:58 → 00:35:00 ต่างๆที่เป็นอาหารของตัวแบคทีเรียอยู่ใน
00:35:00 → 00:35:03 ผักครับอยู่ในข้าวกล้องเพราะฉะนั้นถ้าใช้
00:35:03 → 00:35:07 หลักของอาหารจาน 211 ของสสสซึ่งจริงๆใน
00:35:07 → 00:35:10 หลายๆประเทศก็ใช้คล้ายๆแบบนั้นนะครับคือ
00:35:10 → 00:35:14 ผัก 50% แล้วก็เนื้อสัตว์ที่ไม่มันมากนัก
00:35:14 → 00:35:16 แล้วเสร็จแล้วก็มองพูดถึงการทาน
00:35:16 → 00:35:19 คาร์โบไฮเดรตเป็นพวกกลุ่มที่ใยอาหารสูง
00:35:19 → 00:35:23 ข้าวกล้องขนมปังฮวดหรือเป็นพวกผลิตภัณฑ์
00:35:23 → 00:35:26 จากถั่วที่เป็นถั่วแบบถั่วเขียวถั่วแดง
00:35:26 → 00:35:29 พวกนี้ครับก็จะช่วยทำให้เอ่อเราได้สาร
00:35:29 → 00:35:32 อาหารที่กลุ่มของยอาหารเพียงพอแล้วถ้ามอง
00:35:32 → 00:35:36 ลึกๆของอาหารกลุ่มแบบสสสแบบเนี้ยที่แบบ
00:35:36 → 00:35:38 ว่าผักครึ่งจานเนี่ยอันนี้คืออาหาร
00:35:38 → 00:35:41 คาร์โบไฮเดรตต่ำนะฮะออืใช่มั้ยฮะคือ
00:35:41 → 00:35:44 โปรตีนก็ไม่ได้มากเกินไปนะครับเ่า
00:35:44 → 00:35:46 คาร์โบไฮเดรตเ่อที่มันเป็นจากตัวข้าวจริง
00:35:47 → 00:35:49 ๆก็เป็นเชิงซ้อนละแล้วก็ที่เหลือก็จะเป็น
00:35:49 → 00:35:52 ใยอาหารปรากฏว่าในการทานลักษณะนี้เนี่ย
00:35:52 → 00:35:56 ไม่ได้ยากเพราะว่าเอาแค่เพลตอาหารมามอง
00:35:56 → 00:35:58 พวกนี้สามารถควบคุมน้ำตาลควบคุมน้ำหนัก
00:35:58 → 00:36:00 ได้ด้วยนะครับนั้นหลายๆครั้งเนี่ยเอ่อตอน
00:36:00 → 00:36:03 นี้ผมทำเรื่องของเบาหวานสงบคือคนไข้เบา
00:36:03 → 00:36:06 หวานหายได้หยุดยาได้นะครับก็มีหลายๆที่
00:36:06 → 00:36:09 ที่เสนอแนะว่าเขาจะใช้วิธีนี้นะครับหลายๆ
00:36:09 → 00:36:13 ที่บอกว่าเอ้ยใช้ไอดอาหารโลขาบปรากฏว่า
00:36:13 → 00:36:17 วิธีของสสสเนี่ยง่ายแล้วก็จริงๆก็เป็น
00:36:17 → 00:36:20 อาหารโลคาบตั้งแต่ต้นอยู่แล้วนะครับแต่
00:36:20 → 00:36:23 ต้องย้ำย้ำว่าการทานอาหารแบบเนี้ยเ่อ
00:36:23 → 00:36:26 สนับสนุนให้กินเป็นมื้อจบเป็นมื้อไม่ใช่
00:36:26 → 00:36:28 จบอันนี้เสร็จแล้ว
00:36:28 → 00:36:31 ก็ไปทำกินอย่างอื่นในมื้อถัดๆไปอีกอันนี้
00:36:31 → 00:36:33 ก็จะไม่เข้าหลักเกณฑ์การกินอาหารที่
00:36:33 → 00:36:35 สุขภาพดีครับคือคือพูดง่ายๆถ้ากินแบบนี้
00:36:35 → 00:36:38 ก็ต้องมื้อเช้ากลางวันเย็นมันก็ควรจะเป็น
00:36:38 → 00:36:40 แบบลักษณะแบบนี้ไม่ใช่ว่ากินแบบนี้แค่
00:36:40 → 00:36:43 มื้อเช้ามื้อกลางวันแต่มื้ออื่นก็ก็คือ
00:36:43 → 00:36:46 เราส่งเสริมให้กินแบบเอ่อไม่จุกจิกอ่ะ
00:36:46 → 00:36:51 ครับอ่าฮครับเพราะจริงๆถ้าพูดถึงจานอาหาร
00:36:51 → 00:36:55 แบบเนี้ยผักเต็มจานมันอิ่มแน่ๆอยู่แล้วฮะ
00:36:55 → 00:36:57 นะฮะเพียงแต่ว่าบางครั้งเราได้คซแบบมาว่า
00:36:58 → 00:37:00 เอ้ยอยากกินข้าวเยอะอยากกินอันนี้กินกิน
00:37:00 → 00:37:02 นิดหน่อยเดี๋ยวไขมันขึ้นอือสุดท้ายมันก็
00:37:02 → 00:37:05 เลยไม่อยู่ท้องอ่าเา้าก็เลยต้องไปกิน
00:37:05 → 00:37:07 จุกจิกไปเรื่อยอะไรงี้ครับครับเพราะ
00:37:07 → 00:37:09 ฉะนั้นตอนกินเราต้องดูกำหนดสัดส่วนของมัน
00:37:09 → 00:37:11 ด้วยเหมือนกันแต่ผมว่าจะยากก็ยากตรงผัก
00:37:11 → 00:37:13 นี่แหละเดี๋ยวนี้หากินผักนี่ไม่ง่ายนะนะ
00:37:13 → 00:37:17 ฮะก็อาจจะต้องต้องลองแพงด้วยแพงด้วยแพง
00:37:17 → 00:37:20 ด้วยแงดยใช่ๆก็หลายๆคนในต่างจังหวัดผม
00:37:20 → 00:37:22 เห็นเพื่อนๆหลายๆคนที่มีสวนอยู่หลังบ้าน
00:37:22 → 00:37:26 อะไรเงี้ครับเก็ปลูกทั่วๆไปมะละกอมะเขือ
00:37:26 → 00:37:28 อะไรพวกนี้ก็ก็เป็นออกทางเลือกนึงนะครับ
00:37:28 → 00:37:31 สำหรับคนที่อาจจะไม่มีเวลาใช่ๆๆจะยากตรง
00:37:31 → 00:37:33 คนเมืองนี่ลครับเพราว่าคนเมืองครับเอาล่ะ
00:37:33 → 00:37:35 ครับนนัทขอบคุณมากนะครับขอบคุณครับครับ
00:37:35 → 00:37:36 สวัสดี
00:37:36 → 00:37:39 [เพลง]
00:37:39 → 00:37:43 ครับบุพการีที่เคารพคู่มือการดูแลพ่อแม่
00:37:43 → 00:37:45 ของคนเจนลูกถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ก็อย่าลืม
00:37:45 → 00:37:50 กด Subscribe ไว้ด้วยนะครับ