00:00:00 → 00:00:02 ก็สวัสดีค่ะมาแดงถ้าแผนไทยค่ะวันนี้อยาก
00:00:02 → 00:00:05 จะมาตอบคำถามที่หลายคนถามกันมานะคะว่าคุณ
00:00:05 → 00:00:08 หมอตื่นขึ้นมารู้สึกขมปากขมปากขมคอคือ
00:00:08 → 00:00:11 เกิดจากอะไรนะคะมันก็ทำให้ดังไปหาข้อมูล
00:00:11 → 00:00:13 จากอะไรได้มาแล้วก็มาสรุปตามความเข้าใจ
00:00:13 → 00:00:15 ของเราเองนะคะเพราะว่าอาการรสชาติในปาก
00:00:15 → 00:00:19 ของคนเราเนี่ยมันบอกถึงความเสียสมดุลของ
00:00:19 → 00:00:22 ระบบภายในร่างกายได้ไม่เพียงแค่ของป่าค่ะ
00:00:22 → 00:00:25 หวานปากเคยรู้สึกไหมคะ 2 อาทิตย์ก่อนได้
00:00:25 → 00:00:27 คุณเป็นเองรู้สึกเหมือนว่าในปากหรือว่า
00:00:27 → 00:00:30 สื่อปากคือกินอะไรก็ไม่รู้รถคิดสูตรในปาก
00:00:30 → 00:00:33 อีกอันนึงคือเปรี้ยวอุ่นสึกว่าประโยชน์ใน
00:00:33 → 00:00:37 ปากเปรี้ยวขอแบบนี้ค่ะมันมีเหตุผลมีที่มา
00:00:37 → 00:00:39 ที่ไปวันนั้นจะมาเล่าถึงสาเหตุให้ฟังเรา
00:00:39 → 00:00:42 จะได้สามารถสังเกตอาการแล้วก็ปรับที่ต้น
00:00:42 → 00:00:45 เหตุของเราเองได้ค่ะก่อนอื่นต้องพูดถึง
00:00:45 → 00:00:47 น้ำลายก่อนนะคะน้ำลายก็ถือว่าเป็นน้ำ
00:00:47 → 00:00:49 อย่างในระบบเสมหะในร่างกายของคนเราเป็น
00:00:49 → 00:00:52 น้ำที่มีไฟย่อยค่ะเป็นน้ำที่มีความร้อน
00:00:52 → 00:00:54 สามารถของเขาก็ย่อยอาหารเป็นด่านแรกได้
00:00:54 → 00:00:56 เนาะตามปกติเวลาที่ไม่ได้กินอะไรเลยตื่น
00:00:56 → 00:00:59 มาเลยเนี่ยน้ำลายก็มีรสชาตินะคะเพียงกลับ
00:00:59 → 00:01:01 มาจะไม่จะทำอะไรทางหนึ่งยกไว้ว่าเออพอเรา
00:01:01 → 00:01:04 เริ่มกินอาหารนี้โอเคเราเริ่มรับได้นะแต่
00:01:04 → 00:01:06 ถ้าเกิดว่าอยู่ที่ตื่นขึ้นมายังได้กิน
00:01:06 → 00:01:09 อะไรเลยแล้วเราขมถ้ารู้สึกขมในปากนะคะให้
00:01:09 → 00:01:11 สังเกตว่าระบบปิดตะของเราเป็นเหตุถ้าไม่
00:01:11 → 00:01:14 ปิดอกรรมเริ่มก็ปิดตาหย่อนแต่ถ้ารู้สึก
00:01:14 → 00:01:16 หวานหวานในปากนะหรือยังไม่ได้กินอะไรเลย
00:01:16 → 00:01:19 เนี้ยเสมหะค่ะเสมหะเป็นเหตุแต่ถ้ารู้สึก
00:01:19 → 00:01:21 เปรี้ยวนะคะตื่นขึ้นมาแล้วเปรี้ยวปาก
00:01:21 → 00:01:23 เปรี้ยวข้อเนี่ยเร็วขึ้นมาที่คอแล้วก็แบบ
00:01:23 → 00:01:26 นี้เหลืองเหลืองนี้นะคะเป็นที่โลหิตค่ะ
00:01:26 → 00:01:29 แล้วก็สุดท้ายทั้งสื่อปากจุดคอกินอะไรก็
00:01:29 → 00:01:31 ไม่รู้ลดแบบนี้ให้สังเกตให้ประกันที่ระบบ
00:01:31 → 00:01:33 กว่าต่างนะคะมาดูกันที่ร้านเลยอย่างแรก
00:01:33 → 00:01:35 เลยนะคะถ้าเกิดว่าตื่นขึ้นมารู้สึกว่าขม
00:01:35 → 00:01:38 ปากขมขอมาสังเกตที่ระบบติดตามภายในกัน
00:01:38 → 00:01:41 ก่อนนะคะมันไม่กำเริ่มมันก็หย่อนไม่งั้น
00:01:41 → 00:01:43 ไม่รู้สึกแบบนี้ค่ะถ้าไปปะกันเรื่อง
00:01:43 → 00:01:46 สังเกตยังไงบางคนจะเป็นเวลาที่มีไข้ค่ะ
00:01:46 → 00:01:48 สังเกตโดยมีไข้อบความร้อนดันขึ้นมาสูง
00:01:48 → 00:01:51 ปุ๊บน้ำในป่ามันจะแห้งน้ำยายแห้งน้ำมูก
00:01:51 → 00:01:54 แห้งพอมันแห้งพวกมันก็ทำให้มันงวดวันนี้
00:01:54 → 00:01:56 เราไปทำมันทำให้รู้สึกขมปากขมขอได้อีก
00:01:56 → 00:01:58 อย่างหนึ่งอาจจะเกิดมาจากการที่ระบบย่อย
00:01:58 → 00:02:00 ของเรามันร้อนอ่ะตัดร้อนหน้าร้อนเกิดจาก
00:02:00 → 00:02:03 การทำงานน่ะมันก็ดันให้พวกน้ำดีน้ำย่อย
00:02:03 → 00:02:06 พวกนี้มันค้นขึ้นมาหรือบางคนไม่กระเพาะ
00:02:06 → 00:02:08 อักเสบตับอักเสบก็เกี่ยวกันนะคะที่มาทำ
00:02:08 → 00:02:11 ให้การหลั่งของน้ำย่อยกันดีนะมันอืดทน
00:02:11 → 00:02:13 ขึ้นมาอยู่ได้ด้วยทำให้มันคบในอยู่ในปั่น
00:02:13 → 00:02:16 ข้อซึ่งเท่ากับว่ามันมาจากกิจกรรมเริ่ม
00:02:16 → 00:02:18 นึงนะคะแล้วก็ลองดูสิว่าทำไมข้างในเราไม่
00:02:18 → 00:02:21 ถึงร้อนหรืออักเสบเรานอนดึกกินน้ำน้อยกิน
00:02:21 → 00:02:24 อาหารที่มันหวานมันเผ็ดทอดที่มันยิ่ง
00:02:24 → 00:02:26 เพื่อความร้อนหรือเปล่าจะมีความเครียด
00:02:26 → 00:02:28 สะสมวิตกกังวลหรือว่าเราไม่ค่อยระบาย
00:02:28 → 00:02:31 เนี่ยเราก็หาทางฟื้นฟูถ้าเป็นภายในของการ
00:02:31 → 00:02:33 แล้วก็ลดความร้อนลงมาได้นะคะก็มีอันไหน
00:02:33 → 00:02:35 ถ้าไม่ใช่ปิดปากกำเริบจะเป็นพ่อปิตตะ
00:02:35 → 00:02:38 หย่อนติดปากข้างในของเรามันหย่อนมันทำให้
00:02:38 → 00:02:40 เกิดความรู้สึกขมในปากความขมในวันนี้กลไก
00:02:40 → 00:02:43 ที่เชื่อมโยงกับระบบติดอะค่ะมันอาจจะทำ
00:02:43 → 00:02:45 ให้เราต้องมาสังเกตตัวเองว่าเฮ้ยที่เรา
00:02:45 → 00:02:47 รู้สึกผมปากเนี่ยแปลว่าร่างกายของเรา
00:02:47 → 00:02:50 กำลังจะบอกว่าข้างในมันยอดคือไฟหย่อนลม
00:02:50 → 00:02:53 มันก็หย่อนลมมันพัดช้าก็พัดพาเอาเลือดใน
00:02:53 → 00:02:56 ร่างกายของเราในให้มันไหลเดินช้าไปด้วยคน
00:02:56 → 00:02:58 ที่มีการแบบนี้จะสังเกตได้ท้องจะเย็นค่ะ
00:02:58 → 00:03:01 ระบบย่อยจะไม่ค่อยมีคนมือเท้าชาเลือดมัน
00:03:01 → 00:03:03 ไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนปลายได้ไม่ดีเป็น
00:03:03 → 00:03:06 ตะคริวเหน็บชารู้สึกไม่สดชื่นวิงเวียนๆ
00:03:06 → 00:03:09 แบบนี้อาการขนปากอาจจะเป็นตัวบอกเราอย่าง
00:03:09 → 00:03:12 หรือว่าไฟร่างกายของเรามันหย่อนก็จะ
00:03:12 → 00:03:14 สามารถแก้ได้ด้วยการที่พอมันปืนขนาดนี้
00:03:14 → 00:03:16 แล้วก่อนเนาะก็ทำให้ท้องอุ่นค่ะกินอาหาร
00:03:16 → 00:03:19 จุดไฟย่อยบ้างนะคะถ้าเกิดมือเท้าเย็น
00:03:19 → 00:03:21 อย่างเงี้ยอาจจะเอาเท้าแช่น้ำอุ่นมีการ
00:03:21 → 00:03:25 นวดเท้าออกกำลังกายกินอาหารจุดไฟย่อยทำ
00:03:25 → 00:03:27 อะไรก็ให้ร่างกายอบอุ่นความไฟย่อยมันถูก
00:03:27 → 00:03:30 ติดได้ดีไฟอุ่นกายเรามันขับเคลื่อนได้ดี
00:03:30 → 00:03:33 มันก็ทำให้ระบบต่างๆกลับมาสมดุลอาการของ
00:03:33 → 00:03:36 ป่าก็จะค่อยๆดีขึ้นค่ะ 2 ค่ะคือตื่นขึ้น
00:03:36 → 00:03:38 มารู้สึกว่าพี่ทำไมมันหวานกว่ายังไม่ได้
00:03:38 → 00:03:41 กินอะไรเลยจะกลับสิตามมาเลยครับก็ไม่หมด
00:03:41 → 00:03:43 ล่ะที่ปกติแล้วมันได้รู้สึกดีนะรู้สึกไม่
00:03:43 → 00:03:46 ดีอยู่ซ้ำแบบนี้ในทางแพทย์แผนไทยคือเสมหะ
00:03:46 → 00:03:48 เป็นเหตุค่ะคือปกติน้ำลายคนเราเนี่ยมันจะ
00:03:48 → 00:03:50 มีรสไวน์นี้อยู่แล้วในระบบเลือดเราก็
00:03:50 → 00:03:52 เหมือนกันนะคะมันจะลดกว่าในอยู่แล้วแต่
00:03:52 → 00:03:55 ถ้าเกิดหวานมากเกินไปโดยทางรู้สึกได้แปล
00:03:55 → 00:03:59 ว่ามีน้ำตาในระบบเสมหะมากเกินไปค่ะแบบนี้
00:03:59 → 00:04:01 บ่งบอกชัดเจนว่าหมอเขาต้องลดการนำเข้าน้ำ
00:04:01 → 00:04:05 ตาลก็ไปนะคะรถของหวานลงรถอะไรที่มันมีน้ำ
00:04:05 → 00:04:07 ตาลเช่นแอปเปิลแป้งก็เกี่ยวนะคะแป้งสุด
00:04:07 → 00:04:10 ท่านก็เปลี่ยนเป็นน้ำตาลดีขนมเบเกอรี่พวก
00:04:10 → 00:04:14 ธัญพืชด้วยบางทีอ่อมเผือกมันข้าวโพดแบบ
00:04:14 → 00:04:16 นี้ก็เป็นแป้งที่สุดท้ายก็จะเป็นเป็นน้ำ
00:04:16 → 00:04:19 ตาลเหมือนกันหรือว่าน้ำผลไม้คนเราทดหวาน
00:04:19 → 00:04:21 มากๆแต่ก็สุขมันใช่เหมือนกันนะคะว่าช่วง
00:04:21 → 00:04:24 ที่ผ่านมาจะมีการกินหวานที่เราไม่รู้ตัว
00:04:24 → 00:04:26 มันแทรกอยู่ในอาหารในประจำวันวันนี้แหละ
00:04:26 → 00:04:29 เราก็ต้องคอยสังเกตคนละไลค์ประเภทไหนที่
00:04:29 → 00:04:32 มีน้ำตาลมากอาจจะต้องเลี่ยงอีกอย่างนึงนะ
00:04:32 → 00:04:34 คนที่กินหวานหรือว่ากินแป้งกินพวก
00:04:34 → 00:04:36 คาร์โบไฮเดรตเยอะๆที่เราไม่รู้ตัวเนี้ย
00:04:36 → 00:04:39 สุดท้ายในจะสะสมไปจะทำให้เราเกิดอาการทำ
00:04:39 → 00:04:41 ความร้อนตามมาได้นะคะเพราะว่าหวานเนี่ย
00:04:41 → 00:04:43 มันจะไปทำให้เสมหะงวดน้องสั่งแต่ว่าตัว
00:04:43 → 00:04:45 น้ำตาลเวรน้ำเนี่ยค่ะมันก็จะงวดเพราะอะไร
00:04:45 → 00:04:47 ที่มันว่างวดเนี่ยเราพอเรามันงวดปุ๊บมัน
00:04:47 → 00:04:50 จะเดินช้าก็มาเดินช้ามันเกิดเป็นความร้อน
00:04:50 → 00:04:53 สะสมได้ค่ะทำให้ตัดร้อนนะคะนานวันแล้วก็
00:04:53 → 00:04:56 ตอบร้อนก็ทำให้น้ำดีเนี่ยน้ำย่อยมันไหล
00:04:56 → 00:04:58 ออกมามากเกินไปทำให้เรากินเก่งหิวบ่อย
00:04:58 → 00:05:01 แล้วก็เป็นร้อนและได้สังเกตคนที่กินวัน
00:05:01 → 00:05:04 เดียวเนี่ยลิงจะเป็นฝ้าเป็นแบบพอกพูนหนา
00:05:04 → 00:05:06 ตัวขึ้นมามีความร้อนหรือไม่เหลืองแบบนี้
00:05:06 → 00:05:09 ค่ะก็อาจจะเป็นจุดนึงทำให้เราสังเกตตัว
00:05:09 → 00:05:12 เองได้ว่าเคยถ้าเราปากหวานถ้าเราลิ้นออก
00:05:12 → 00:05:14 หรือเหลืองมีฝ้าขาวนั้นๆอาจจะเป็นเพราะ
00:05:14 → 00:05:17 ว่าเรากินหวานมากเกินไปมีน้ำตาลในเลือด
00:05:17 → 00:05:19 มากเกินไปก็ขอให้ตัดต่อแต่เรื่องนี้นะคะ
00:05:19 → 00:05:22 มาอันที่ 3 เลยก็คือรู้สึกว่าประโยชน์ค่ะ
00:05:22 → 00:05:25 ประโยคเปรี้ยวในโปรบอกได้ชัดเจนว่าตับ
00:05:25 → 00:05:29 ร้อนค่ะโลหิตร้อนเดือดร้อนวิธีทางแผนไทย
00:05:29 → 00:05:31 กับแผนจีนค่อนข้างตรงกันเรื่องเวลาเพราะ
00:05:31 → 00:05:33 ว่ากฎเปรี้ยวในประโยชน์ของตับไปทำแผนจีน
00:05:33 → 00:05:36 อาการคนที่กินเปรี้ยวมากเกินไปเนี่ยก็ทำ
00:05:36 → 00:05:38 ให้ปากมันร้อยแล้วก็ฟังก์ชั่นการทำการไม่
00:05:38 → 00:05:41 ดีเกิดโรคด้วยความร้อนได้ง่ายเพราะฉะนั้น
00:05:41 → 00:05:43 ค่ะถ้ารู้สึกเปรี้ยวปากเปรี้ยวขอเกษตรและ
00:05:43 → 00:05:46 วัดอะมันร้อนแล้วก็ทำให้ตีพวกทำดีนั้นย่อ
00:05:46 → 00:05:49 เนี่ยทนกันมาจนทั้งแสบคอเปรี้ยวขอไลน์ก็
00:05:49 → 00:05:52 คอยดูแลอยากให้ตอบร้อนเคยทำขึ้นเอาอันนึง
00:05:52 → 00:05:54 เกี่ยวกับเรื่องตับร้าตอบหย่อนเนาะมี
00:05:54 → 00:05:56 สาเหตุมากมายเลยเพราะว่าตัดใจวันนี้นะชุ
00:05:56 → 00:06:00 ล้างสร้างเสริมเจ็บรู้ก็คือขับและที่มัน
00:06:00 → 00:06:02 ถ้าเกินออกค่ะค่ะเพื่อที่จะรักษาสมดุลใน
00:06:02 → 00:06:04 ร่างกายเช่นพวกน้ำตาลน้ำมันไขมันพวกเนี้ย
00:06:04 → 00:06:07 ถ้ากินเยอะต่อไปยิ่งทำงานหนักนะคะล้างก็
00:06:07 → 00:06:10 คือล้างพวกของเสียออกจากร่างกายก็จะทำงาน
00:06:10 → 00:06:13 คู่กับไปขับออกทางปัสสาวะทำงานเข้ากับ
00:06:13 → 00:06:16 ระบบอันตังพวกลำไส้ใหญ่ลำไส้เล็กขับของ
00:06:16 → 00:06:19 โรคอุจจาระหรือว่าทำงานร่วมกับกิโลมาการ
00:06:19 → 00:06:21 หรือว่าพังพืดเอาคือออกก็คือทำให้ระบบ
00:06:21 → 00:06:24 ความร้อนในร่างกายเราสมดุลนั่นเองสร้าง
00:06:24 → 00:06:26 กับเสริมคือสร้างพลังงานค่ะเสริมคือตาม
00:06:26 → 00:06:29 ปกติเนี่ยมันจะสร้างพลังงานเก็บไว้มาก
00:06:29 → 00:06:32 กว่าจะต้องการอยู่แล้วก็จะสำรองเก็บไว้
00:06:32 → 00:06:34 สำรองไว้ที่ร่างกายต้องการใช้ดำจะได้เอา
00:06:34 → 00:06:37 ออกมาใช้งานได้ทานนะคะชาติเราลองไปดูเขา
00:06:37 → 00:06:40 ว่าเรามีการที่จะกำดักไหนที่ทำให้ปากของ
00:06:40 → 00:06:42 เรานี่มันล้ามันหย่อนมันทะมันต้องทำให้ 5
00:06:42 → 00:06:45 หน้าที่เราอย่ามากเกินไปก็ปรับให้ตรงนั้น
00:06:45 → 00:06:47 เราจะได้ไม่ต้องตอบแล้วก็การเปรี้ยวฝาก
00:06:47 → 00:06:50 เปรียวขอในจะรอคอยดูดคือนะคะสุดท้ายแล้ว
00:06:50 → 00:06:53 คือรสชาติตื่นค่ะตื่นในมันเป็นมาจากว่า
00:06:53 → 00:06:56 ตมีได้อย่าง 2 สาเหตุหนึ่งแล้วคือคนป่วย
00:06:56 → 00:06:59 ค่ะสังเกตเลยยังฟื้นไข้ไม่ดีขึ้นเลยอย่าง
00:06:59 → 00:07:02 งามรู้สึกปากติดคอคือระบบยังไม่ก่อเป็น
00:07:02 → 00:07:05 ปกติน่ากินอะไรก็ไม่อร่อยแบบนี้ก็ต้องชวน
00:07:05 → 00:07:08 ผู้ร่างกายค่ะเดี๋ยวพอไข้ลงอาการป่วยดี
00:07:08 → 00:07:10 ขึ้นเราก็จะกลับมากินอาหารรสได้เหมือน
00:07:10 → 00:07:12 เดิมแล้วค่อยเป็นไข้หวัดใหญ่จะเคยเป็นกัน
00:07:12 → 00:07:16 ว่าแดงดูดีสุดท้ายก็คือมาจากวาตภัยในย้อน
00:07:16 → 00:07:18 ค่ะคือลงในท้องมันไม่ค่อยเคลื่อนเกิด
00:07:18 → 00:07:21 อาการท้องอืดนะคะก็บอกด้วยทำงานได้ไม่ดี
00:07:21 → 00:07:23 แบบนี้ก็ทำให้เรารู้สึกว่ามันจืดปากจืดคอ
00:07:23 → 00:07:26 กินอะไรไม่อร่อยได้เหมือนกันนี้ก็ลองฝาก
00:07:26 → 00:07:28 ที่การจุดไฟย่อยดูนะคะทำไงก็ได้ให้เรา
00:07:28 → 00:07:31 กลับมามีไฟในร่างกายให้กันมาอุ่นกายรอมัน
00:07:31 → 00:07:33 กลับมาดีขึ้นอีกครั้งหนึ่งก็จะเป็นงานทำ
00:07:33 → 00:07:36 ให้ไฟดีลมดีและก็เกราะมารู้สึกกินอะไร
00:07:36 → 00:07:39 อร่อยในรสชาติในปากได้ดีขึ้นเรานี้ก็เป็น
00:07:39 → 00:07:42 สมมุติฐานที่แรงนำมาฝากอาจจะเป็นสาเหตุ
00:07:42 → 00:07:44 หนึ่งที่ทำให้เราขันกลับมามองตัวเองว่า
00:07:44 → 00:07:48 เคยรสชาติในป่าบงบอกถึงความเสี่ยงสมดุลใน
00:07:48 → 00:07:50 ร่างกายของเราได้พอเราสังเกตตัวเองไปมาก
00:07:50 → 00:07:53 ขึ้นเราจะดูว่าต้นเหตุมาจากอะไรแล้วจะได้
00:07:53 → 00:07:55 ปัดต้นเหตุใดถูกนะคะไม่ต้องพึ่งใหญ่อยู่
00:07:55 → 00:07:57 ค่ะเขาบอกว่าคุณจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็
00:07:57 → 00:07:59 น้อยนะคะอะเดี๋ยวครั้งต่อไปกับก็ได้ไหม
00:07:59 → 00:08:05 ค่ะมีแผนไทยลาไปก่อนสวัสดีค่ะอ่ะ