00:00:00 → 00:00:02 เวลาเราพูดถึงโรคหัวใจหรือว่า Stroke คือ
00:00:02 → 00:00:05 อาการที่หัวใจล้มเหลวสมองล้มเหลวจากการ
00:00:05 → 00:00:09 ที่ขาดเลือดเราก็มักจะนึกถึงคอเลสเตอรอล
00:00:09 → 00:00:12 ว่าเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เส้นเลือดของ
00:00:12 → 00:00:14 เราเนี่ยมันอุดตันแล้วก็เลือดไม่สามารถ
00:00:14 → 00:00:17 ที่จะไหลไปหล่อเลี้ยงอวัยวะสำคัญต่างๆของ
00:00:17 → 00:00:19 ร่างกายได้ใช่ไหมมครับพอพูดถึง
00:00:19 → 00:00:22 คอเลสเตอรอลเนี่ยหลายๆคนก็จะนึกถึง hdl
00:00:22 → 00:00:26 แล้วก็ ldl คือค่าของไขมันค่าของ
00:00:26 → 00:00:28 คอเลสเตอรอลที่เวลาเราไปเจาะเลือดแล้วก็
00:00:28 → 00:00:31 ตรวจสุขภาพประจำปีนะครับ hdl หลายๆคนก็
00:00:32 → 00:00:35 อ้อเราถูกสอนมาว่ามันคือ cholesterol ตัว
00:00:35 → 00:00:39 ดี ldl มันคือ Chester ตัวร้ายนี่คือความ
00:00:39 → 00:00:43 รู้พื้นฐานที่หลายๆคนมักจะรู้แล้วก็เข้า
00:00:43 → 00:00:45 ใจนะครับแต่จริงๆแล้วความรู้ที่ว่า hdl
00:00:45 → 00:00:48 คือ cal ตัวดี ldl คือ cholesterol ตัว
00:00:48 → 00:00:52 ร้ายเนี่ยมันก็ไม่ได้ผิดแต่มันก็ไม่ได้
00:00:52 → 00:00:55 ถูกต้อง 100% นะครับบางครั้งเนี่ยเราก็ไป
00:00:55 → 00:00:58 เจอคนที่ค่าเลือดเนี่ย hdl อยู่ในเกณฑ์ดี
00:00:58 → 00:01:02 ldl อยู่ในเกเกณฑ์ดีปริมาณคสอโดยรวมอยู่
00:01:02 → 00:01:05 ในเกณฑ์ดีแต่ก็เจอปัญหา heart attack
00:01:05 → 00:01:07 หรือว่า Stroke ได้เหมือนกันนะครับสิ่ง
00:01:07 → 00:01:09 ที่ผมอยากจะบอกก็คือว่าการที่เรารู้แค่
00:01:09 → 00:01:12 ว่า hdl คือ cholesterol ตัวดี ldl คือ
00:01:12 → 00:01:15 คสอตัวร้ายเนี่ยมันไม่เพียงพออีกต่อไป
00:01:15 → 00:01:18 แล้วนะครับเราจำเป็นต้องรู้แล้วก็เข้าใจ
00:01:18 → 00:01:22 เกี่ยวกับเรื่องของไขมันเรื่องของคสอแล้ว
00:01:22 → 00:01:24 ก็ความสัมพันธ์ระหว่างโรคหัวใจโรคทาง
00:01:24 → 00:01:26 cardiovascular disease ให้มันมากขึ้น
00:01:26 → 00:01:28 เพราะว่าวันเนี้ยเราอาจจะยังไม่ได้เป็น
00:01:28 → 00:01:31 โรคนี้หัวใจยังทำงานได้ดีอยู่เราอาจจะยัง
00:01:31 → 00:01:34 ไม่ได้เป็นสกแต่เราทุกคนมีความเสี่ยงที่
00:01:34 → 00:01:38 จะเป็นโรคหัวใจหรือว่าสกทุกๆคนเลยนะครับ
00:01:38 → 00:01:40 รวมไปถึงคนในครอบครัวของเราการที่เรามาทำ
00:01:40 → 00:01:43 ความเข้าใจเรื่องนี้สม่ให้ถูกต้องเนี่ย
00:01:43 → 00:01:45 ครับจะเป็นประโยชน์เวลาที่วันนึงเผื่อเรา
00:01:45 → 00:01:48 จะต้องเข้ารับการรักษาไปเจอคุณหมอเนี่ยจะ
00:01:48 → 00:01:52 ได้เข้าใจแล้วก็สามารถที่จะตัดสินใจเลือก
00:01:52 → 00:01:55 การรับการรักษาที่ถูกต้องและน่าจะเกิดผล
00:01:55 → 00:01:58 ดีกับตัวเรามากที่สุดเพราะการตัดสินใจ
00:01:58 → 00:02:01 เลือกทรีตเมนที่ไม่ตอบโจทย์สุขภาพของเรา
00:02:01 → 00:02:04 เนี่ยมันก็อาจจะทำให้อาการโรคหัวใจของเรา
00:02:04 → 00:02:06 เนี่ยมัน get worse คือแย่ลงแล้วก็ไม่ทำ
00:02:06 → 00:02:08 ให้มันดีขึ้นครับเพราะฉะนั้นวันนี้ Top
00:02:09 → 00:02:12 to ทำการบ้านหนักมากครับเพื่ออยากจะชวน
00:02:12 → 00:02:17 ทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ chal และก็
00:02:17 → 00:02:19 โรคหัวใจกันครับ This is the Standard
00:02:19 → 00:02:23 podcast Eye Opening for your
00:02:23 → 00:02:27 ears Top to podcast สุขภาพที่ใช้
00:02:27 → 00:02:31 วิทยาศาสตร์ไขปัญหาตั้งแต่หัวจด
00:02:31 → 00:02:35 เท้าก่อนอื่นขอเริ่มที่ไขมันก่อนนะครับ
00:02:35 → 00:02:38 เวลาพูดถึงไขมันหลายๆคนมักจะมองภาพลบว่า
00:02:38 → 00:02:41 ไขมันน่ะเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่จริงๆแล้วไข
00:02:41 → 00:02:43 มันนะครับไม่ว่าจะเป็นไตรกลีเซอไรด์หรือ
00:02:43 → 00:02:46 ว่าโคเลสเตอรอลเนี่ยเป็นสิ่งที่ร่างกาย
00:02:46 → 00:02:48 ของเราเนี่ยจำเป็นที่จะต้องใช้เพราะมัน
00:02:48 → 00:02:50 เป็นส่วนประกอบในส่วนต่างๆของร่างกายทำ
00:02:50 → 00:02:52 ให้ร่างกายเนี่ยทำงานได้อย่างปกติเพียง
00:02:53 → 00:02:54 แค่ว่าเราต้องมีไตรกลีเซอไรด์หรือว่า
00:02:54 → 00:02:57 โคเลสเตอรอลในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น
00:02:57 → 00:02:59 เองนะครับฟังก์ชันหลักๆของไตรกลีเซอไรด์
00:02:59 → 00:03:01 เนี่ยครับคือคือเป็นแหล่งสะสมพลังงานของ
00:03:01 → 00:03:04 เราร่างกายจะใช้ไตรกลีเซอไรด์ในกรณีที่
00:03:04 → 00:03:07 เ่อน้ำตาลแล้วก็แป้งเนี่ยมันมีไม่เพียงพอ
00:03:07 → 00:03:09 นะครับส่วนคอเลสเตอรอลเนี่ยโหเป็นส่วน
00:03:10 → 00:03:12 ประกอบในอวยวะสำคัญำคัญหลายอย่างเลยนะ
00:03:12 → 00:03:14 ครับไม่ว่าจะเป็นสมองแล้วเอาจริงๆเนี่ย
00:03:14 → 00:03:17 เซลล์ทุกเซลล์เนี่ยจะต้องมีคอเลสเตอรอล
00:03:17 → 00:03:18 เป็นส่วนประกอบในเยื่อคุ้มเซลล์หรือว่า
00:03:18 → 00:03:21 เซลล์เมมเบนนะครับสำคัญมากๆเลยที่ทำให้
00:03:21 → 00:03:23 เซลล์เมนเนี่ยฟังก์ชันได้ปกติในการที่จะ
00:03:23 → 00:03:25 เลือกเอาสิ่งดีๆเข้ามาในเซลล์แล้วก็ป้อง
00:03:25 → 00:03:28 กันให้สิ่งที่มันไม่ดีเนี่ยอยู่นอกเซลล์
00:03:28 → 00:03:31 นะครับเรียกได้ว่าสำคัญมากนั่นคือสิ่งที่
00:03:31 → 00:03:33 เราต้องทำความเข้าใจนะครับอย่างที่ 2 คือ
00:03:33 → 00:03:36 พอพูดถึงไขมันนะครับไขมันเป็นสิ่งที่ไม่
00:03:36 → 00:03:39 ละลายน้ำถ้าเราเอาไขมันผสมน้ำปุ๊บเนี่ย
00:03:39 → 00:03:42 มันจะแยกตัวชัดเจนเลยเนาะเพราะฉะนั้นถ้า
00:03:42 → 00:03:45 เราอยากจะขนส่งไขมันในร่างกายนะครับเผอิญ
00:03:45 → 00:03:47 ว่าร่างกายเราเนี่ยใช้เลือดเป็นช่องทาง
00:03:47 → 00:03:49 คมนาคมหลักในร่างกายในการขนส่งสิ่งของ
00:03:49 → 00:03:52 ต่างๆไปเหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆทั่วร่าง
00:03:52 → 00:03:54 กายเนาะการขนส่งไขมันเนี่ยยากครับเพราะ
00:03:54 → 00:03:57 งั้นร่างกายเนี่ยก็พยายามหาวิธีว่าเอ้ย
00:03:57 → 00:04:00 เราจะส่งไขมันยังไงดีครับร่างกายก็เลยมี
00:04:00 → 00:04:03 วิธีการขึ้นมาคือสร้างยานพาหนะขึ้นมา
00:04:03 → 00:04:05 เพื่อใช้ในการขนส่งไขมันไม่ว่าจะเป็น
00:04:05 → 00:04:08 ไตรกีซาไลน์หรือว่าโคเลสเตอรอลก็ตามนะ
00:04:08 → 00:04:11 ครับซึ่งไอ้เจ้า vehicle หรือว่ายานพานะ
00:04:12 → 00:04:14 อันนั้นเนี่ยคือโปรตีนนั่นเองโปรตีนเนี่ย
00:04:14 → 00:04:17 อยากให้ทุกคนจินอการว่ามันคือรถยนต์รถ
00:04:17 → 00:04:21 บรรทุกหรือว่ามอเตอร์ไซค์ก็ได้ที่ขนขนของ
00:04:21 → 00:04:24 ที่เป็นกล่องไขมันอยู่ในกล่องนะครับทีนี้
00:04:24 → 00:04:28 เมื่อไหร่ก็ตามที่มีรถยนต์แล้วก็มีกล่อง
00:04:28 → 00:04:31 ไขมันอยู่บนรถเราจะเรียกไอ้รถยนต์คันนั้น
00:04:31 → 00:04:35 น่ะว่า Lip โปรตีนเริ่มคุ้นๆมยเพราะเรา
00:04:35 → 00:04:38 เคยได้ยินคำว่า hdl กับ ldl นะครับซึ่ง
00:04:38 → 00:04:41 hdl ชื่อเต็มๆของมันคือ High density
00:04:41 → 00:04:44 Lip โรตีน ldl ชื่อของมันคือ low
00:04:45 → 00:04:48 density ไพโปรตีนเพราะฉะนั้นจริงๆแล้ว
00:04:48 → 00:04:51 hdl กับ ldl เนี่ยมันไม่ใช่ไขมันแต่มัน
00:04:51 → 00:04:56 คือโปรตีนผสมไขมันก็คือรสที่เป็นโปรตีน
00:04:56 → 00:04:59 และบรรทุกไขมันอยู่นะครับทีนี้รสที่ใช้ขน
00:04:59 → 00:05:01 ส่งไขมันเนี่ยมันมีหลายประเภทครับประเภท
00:05:01 → 00:05:04 ที่ 1 ผมเปรียบเทียบว่ามันคือไอร์คือ
00:05:04 → 00:05:06 มอเตอร์ไซค์แล้วะกันนะครับไอ้เจ้าไรเดอร
00:05:06 → 00:05:08 หรือว่ามอเตอร์ไซค์เนี่ยนะครับมันจะทำ
00:05:08 → 00:05:11 หน้าที่ในการขนส่งไขมันที่ล่องลอยอยู่ใน
00:05:11 → 00:05:14 เลือดเนี่ยวิ่งกลับเข้าไปที่ตับเพราะงั้น
00:05:14 → 00:05:17 เมื่อไหร่ก็ตามที่มีไขมันอยู่ในเลือดเยอะ
00:05:17 → 00:05:19 ๆเป็นสิ่งที่ไม่ดีถูกมยเพราะมันอาจจะไป
00:05:19 → 00:05:22 บล็อกทางเดินของเส้นเลือดได้นะครับมันจะ
00:05:22 → 00:05:26 ทำให้ที่ในการไปเก็บไขมันเหล่านั้นที่
00:05:26 → 00:05:29 อยู่ในเลือดแล้วก็พาไขมันเหล่านั้นเนี่ย
00:05:29 → 00:05:33 ครับครับขับไปส่งที่ตับเพื่อลดปริมาณไข
00:05:33 → 00:05:36 มันออกจากเลือดไอ้เจ้ามอเตอร์ไซค์คันเนี้
00:05:36 → 00:05:39 นะครับที่แบกไขมันอยู่เนี่ยชื่อทางการของ
00:05:39 → 00:05:40 มันคือ
00:05:40 → 00:05:45 hdl หรือว่า High density Lip โรตีน
00:05:45 → 00:05:48 นั่นเองซึ่งคนมักจะเข้าใจว่ามันคือคสอตัว
00:05:48 → 00:05:50 ดีอ่ะแน่นอนครับจะคิดแบบนั้นก็ได้เพราะ
00:05:50 → 00:05:54 ว่ามันทำหน้าที่ในการกำจัดไขมันออกจาก
00:05:54 → 00:05:56 เลือดให้เข้าไปสู่ในตับไขมันจะได้ไม่มี
00:05:56 → 00:05:59 อยู่ในเลือดมากจนเกินไปนะครับทีนี้ยาน
00:05:59 → 00:06:03 พานะอีกตัวหนึ่งผมเปรียบเทียบว่ามันคือรถ
00:06:03 → 00:06:05 กระบะแล้วกันนะครับไอ้เจ้ารถกระบะเนี่ยจะ
00:06:05 → 00:06:10 ทำหน้าที่ในการขนส่งไขมันจากจุดนึงไปยัง
00:06:10 → 00:06:12 อีกจุดนึงในร่างกายของเรานะครับั้นไอ้
00:06:12 → 00:06:14 เจ้ารถกระบาเลยก็ทำหน้าที่ในการเหมือนกับ
00:06:14 → 00:06:16 ไปรษณีย์ไทยนะครับขนส่งไขมันไม่ว่าจะเป็น
00:06:16 → 00:06:19 คอเลสเตอรอลหรือว่าไตรกีซาไลน์นะฮะจากจุด
00:06:19 → 00:06:22 นึงไปยังอีกจุดนึงที่จำเป็นต้องใช้งานนะ
00:06:22 → 00:06:25 ครับไอ้เจ้ารถกระบะคันนี้ที่บรรทุกไขมัน
00:06:25 → 00:06:27 อยู่ชื่อทางการของมันเนี่ยครับเราเรียก
00:06:27 → 00:06:32 มันว่า L dl ก็คือ low density Lip
00:06:32 → 00:06:35 รตนถ้าฟังมาจุดเนี้ยจะเริ่มเห็นภาพว่า
00:06:35 → 00:06:36 จริงๆแล้ว
00:06:36 → 00:06:40 ldl ที่เรามักจะพูดว่ามันคือไขมันตัว
00:06:40 → 00:06:44 ร้ายโคเลสเตอรอลตัวร้ายจริงๆแล้ว ldl มัน
00:06:44 → 00:06:48 เพียงแค่ทำหน้าที่ของมันในการขนส่งไขมัน
00:06:48 → 00:06:51 จากจุดนึงไปยังอีกจุดนึงเพราะว่ามัน
00:06:51 → 00:06:53 จำเป็นต้องใช้งานน่ะแล้วมันจำเป็นต้องขน
00:06:53 → 00:06:56 ส่งฮะเพราะฉะนั้นความรู้ที่บอกว่า ldl
00:06:56 → 00:06:59 คือไขมันตัวร้ายเป็นความรู้ที่เกือบเกือบ
00:06:59 → 00:07:02 จะถูกต้องแต่มันไม่ถูกซะทีเดียวเพราะว่า
00:07:02 → 00:07:06 ldl ทุกตัวไม่ใช่ตัวร้ายนะครับเพียงแค่
00:07:06 → 00:07:09 บางตัวเท่านั้นมันจะเป็นตัวร้ายถามว่า
00:07:09 → 00:07:12 เฮ้ยแล้วเราจะดูได้ไงว่าตัวไหนเป็นตัว
00:07:12 → 00:07:14 ร้ายอ่ะเปรียบเทียบอย่างนี้ครับสมมุติว่า
00:07:14 → 00:07:17 ในร่างกายเราเนี่ยครับต้องการขนส่งไขมัน
00:07:17 → 00:07:19 ทั้งหมด 100 กล่องไปยังกล้ามเนื้อเพราะ
00:07:19 → 00:07:21 ว่ากล้ามเนื้อกำลังต้องการไขมันเลยนะครับ
00:07:21 → 00:07:24 ทีนี้ร่างกายก็มี Option ว่ามีรถกระบะแต่
00:07:24 → 00:07:27 มีรถกระบะหลายขนาดมากเลยอ่ะมีทั้งรถกระบะ
00:07:27 → 00:07:30 คันเล็กรถกระบะคันใหญ่ถ้ารถกระบะคันใหญ่
00:07:30 → 00:07:32 เนี่ยมันก็สามารถจะขนไขมันได้ทีละเยอะๆ
00:07:32 → 00:07:34 ถูกมั้ยรถกระบะคันเล็กก็จะขนได้น้อยกว่า
00:07:34 → 00:07:37 สมมุติใช้รถกระบะคันใหญ่ที่สามารถจะขนได้
00:07:37 → 00:07:40 ทีละ 10 กล่องก็ต้องใช้เพียงแค่ 10 คัน
00:07:40 → 00:07:42 ถ้าเกิดว่าสามารถเลือกใช้รถกระบะคันเล็ก
00:07:42 → 00:07:44 ที่อาจจะขนได้ทีละกล่องก็ต้องใช้รถกระบะ
00:07:44 → 00:07:47 ทั้งหมด 100 คันทีนี้ทั้ง 2 กรณีเครับมัน
00:07:47 → 00:07:50 จะต้องวิ่งไปบนถนนเส้นเดียวกันถามว่า
00:07:50 → 00:07:53 เลือกแบบไหนรถจะติดมากกว่าแน่นอนการใช้รถ
00:07:53 → 00:07:57 กระบะคันเล็ก 100 คันก็จะทำให้การจราจร
00:07:57 → 00:08:00 ติดขัดมากกว่าการใช้รถกระบะคันใหญ่เพียง
00:08:00 → 00:08:03 แค่ 10 คันถูกมั้ยครับเพรางั้นผมเปรียบ
00:08:03 → 00:08:05 เทียบแบบนี้ว่าไอ้เจ้ารถกระบะที่ขนไขมา
00:08:05 → 00:08:08 เนี่ยมันคือ ldl เพราะฉะนั้นจริงๆแล้ว ldl
00:08:08 → 00:08:11 ในร่างกายของเราเนี่ยมันมีหลายขนาดก็
00:08:11 → 00:08:13 เหมือนกับรถกระบะที่มีหลายไซส์นะครับรถ
00:08:13 → 00:08:16 กระบะที่มีขนาดใหญ่นะครับก็เหมือนกับ ldl
00:08:16 → 00:08:19 ตัวใหญ่รถกระบะที่มีขนาดเล็กก็เหมือนกับ
00:08:19 → 00:08:21 ldl ตัวเล็กนะครับ ldl ตัวเล็กเนี่ยชื่อ
00:08:21 → 00:08:24 ทางการมันเรียกว่า Small dense ldl นะ
00:08:24 → 00:08:27 ครับในขณะที่ ldl ตัวใหญ่เนี่ยมันก็เรียก
00:08:27 → 00:08:30 ว่า ldl ปกติเพราะฉะนั้น ldl ทุกตัวไม่
00:08:30 → 00:08:32 ได้เป็นปัญหาแต่ตัวที่เป็นปัญหาเนี่ยคือ
00:08:33 → 00:08:36 Small แล้วก็ dense ldl ก็คือรถกระบะ
00:08:36 → 00:08:39 คันเล็กนั่นเองนะครับเดี๋ยวจะอธิบายให้
00:08:39 → 00:08:41 ฟังว่าทำไมไอ้เจ้า Small dce ldl หรือ
00:08:41 → 00:08:43 ว่ารถกระบะคันเล็กเนี่ยมันเป็นปัญหาแล้ว
00:08:43 → 00:08:45 ทำให้เพิ่มริสหรือว่าความเสี่ยงที่ทำให้
00:08:45 → 00:08:48 เกิดโรคหัวใจมากกว่ารดกระบะคันใหญ่หรือ
00:08:48 → 00:08:52 ว่า ldl ไซส์ใหญ่ๆนั่นเองนะครับอ่ะทีนี้
00:08:52 → 00:08:55 กลับมาที่การตรวจเลือดครับเอ๊ะทำไมคนบาง
00:08:55 → 00:08:59 คนฆ่า ldl ปกติแต่ว่าก็เป็นโรคหัวใจได้
00:08:59 → 00:09:02 เพราะว่าการตรวจ ldl ที่เราตรวจกันแบบ
00:09:02 → 00:09:04 เบสิคเนี่ยนะครับมันคือการตรวจสิ่งที่
00:09:04 → 00:09:06 เรียกว่า
00:09:06 → 00:09:10 ldlc มันคือการตรวจ Content คือปริมาณ
00:09:10 → 00:09:14 ของคอสอที่อยู่ใน ldl นะครับแต่ไม่ได้
00:09:14 → 00:09:17 เป็นการตรวจเลยว่าเอ๊ ldl นั้นน่ะเป็น ldl
00:09:17 → 00:09:20 ขนาดใหญ่หรือว่าเป็น ldl ขนาดเล็กเราจะ
00:09:20 → 00:09:23 ไม่ได้ข้อมูลนั้นเลยจากการตรวจเลือดแบบ
00:09:23 → 00:09:26 เบสิธรรมดานะครับอย่างที่ผมเปรียบเทียบไป
00:09:26 → 00:09:28 ค่า ldl ที่ได้มันก็เหมือนกับจำนวนกล่อง
00:09:28 → 00:09:31 ของไขมันที่เราต้องขนส่งแต่มันไม่ได้บอก
00:09:31 → 00:09:34 เลยว่าเอ๊ะจริงๆแล้วเนี่ยมันส่งด้วยรถ
00:09:34 → 00:09:37 กระบะคันใหญ่หรือว่ามันส่งด้วยรถกระบะคัน
00:09:37 → 00:09:40 เล็กนะครับจริงๆแล้วเนี่ยมันจะมีการตรวจ
00:09:40 → 00:09:43 ไขมันที่ Advance กว่าการตรวจไขมันทั่วไป
00:09:43 → 00:09:45 แบบที่เราเจาะเลือดแล้วก็ตรวจไขมันประจำ
00:09:45 → 00:09:47 ปีนะครับการตรวจไขมัน Advance นะครับเขา
00:09:47 → 00:09:50 จะเรียกว่าการตรวจ particle size หรือ
00:09:50 → 00:09:52 การตรวจ particle Number นะครับการตรวจ
00:09:52 → 00:09:54 ไขมันแบบ Advance เนี่ยมันจะไม่ได้ตรวจ
00:09:54 → 00:09:56 แล้วว่าเอ๊ะในในเลือดของเราเนี่ยมันมี
00:09:56 → 00:09:59 คอสอหรือของที่เราต้องขนทั้งหมดเนี่ย
00:09:59 → 00:10:01 เนี่ยเท่าไหร่แต่มันจะตรวจว่าจริงๆแล้วใน
00:10:01 → 00:10:05 เลือดของเราเนี่ยมีรถกระบะไซส์เล็กหรือ
00:10:05 → 00:10:08 ไซส์ใหญ่จำนวนเท่าไหร่แล้วมีแบบไหนมาก
00:10:08 → 00:10:10 กว่ากันนะครับมันก็จะได้ข้อมูลที่เป็น
00:10:10 → 00:10:13 ประโยชน์มากกว่าว่าเอ๊ะถ้าเกิดว่าเราเจอ
00:10:13 → 00:10:16 ว่าในเลือดของเราเนี่ยมีรถกระบะไซส์เล็ก
00:10:16 → 00:10:19 อยู่เยอะแสดงว่าเฮ้ยเสี่ยงสูงแต่ถ้าเกิด
00:10:19 → 00:10:21 ว่าเราเจอว่าเอ้ยในร่างกายของเราเนี่ยแม้
00:10:21 → 00:10:23 ว่าจะมี ldl เยอะแต่จริงๆแล้วเนี่ยมัน
00:10:23 → 00:10:26 ประกอบไปด้วยรถกระบะคันใหญ่ๆจำนวนเยอะมาก
00:10:26 → 00:10:29 กว่าก็จะไม่มีอันตรายเท่ากับคนที่เจอว่า
00:10:29 → 00:10:31 มีรถกระบะคันเล็กเยอะกว่านั่นเองครับตอนเ
00:10:32 → 00:10:34 อยากให้ทุกคนเริ่มเห็นภาพแล้วนะครับว่า
00:10:34 → 00:10:37 การขนส่งคสอจากจุดนึงไปยังอีกจุดนึงเนี่ย
00:10:37 → 00:10:40 ใช้รถกระบะซึ่งก็คือโปรตีนซึ่งผมกำลัง
00:10:40 → 00:10:41 เปรียบเทียบว่ามีรถกระบะคันเล็กและรถ
00:10:41 → 00:10:44 กระบะคันใหญ่ครับซึ่งรถกระบะคันเล็กเนี่ย
00:10:44 → 00:10:47 ผมเทียบกับ Small dense ldl รถกระบะคัน
00:10:47 → 00:10:49 ใหญ่เนี่ยผมเปรียบเทียบได้เหมือนกับเป็น
00:10:49 → 00:10:52 ldl ปกตินะครับแล้วผมก็บอกว่าไอ้เจ้ารถ
00:10:52 → 00:10:54 กระบะคันเล็กเนี่ยมันเป็นตัวที่ทำให้เกิด
00:10:54 → 00:10:57 เรื่องเป็นตัวที่เพิ่มความเสี่ยงมากกว่า
00:10:57 → 00:10:59 รถกระบะคันใหญ่ถามว่าว่าทำไมเดี๋ยวจะ
00:10:59 → 00:11:03 อธิบายต่อนะครับทนี้กลับมาที่เส้นเลือด
00:11:03 → 00:11:05 ของเราทุกคนจินตนาการเส้นเลือดของเรา
00:11:05 → 00:11:08 เหมือนกับสายยางนะครับเรื่องสายยางเนี่ย
00:11:08 → 00:11:10 ก็จะมีน้ำเปิดอยู่ซึ่งน้ำก็คือเลือดเนาะ
00:11:10 → 00:11:13 เวลาที่จะขนส่งเนี่ยอ่ะไอ้เจ้ารถคันนี้นะ
00:11:13 → 00:11:17 ครับมันก็จะขับไปอยู่ในสายยางนะครับจริงๆ
00:11:17 → 00:11:19 ผิวด้านในของหลอดเลือดเราเนี่ยครับมันก็
00:11:19 → 00:11:22 จะเรียบเนียนนะครับไม่ได้มีรูไม่มีร่อง
00:11:22 → 00:11:25 ไม่มีรอยแตกอะไรนะครับแต่ว่าผนังเส้น
00:11:25 → 00:11:27 เลือดเนี่ยมันก็สามารถที่จะชำรุดได้
00:11:27 → 00:11:29 เหมือนกันนะครับถามว่าพนังหนังเส้นเลือด
00:11:29 → 00:11:32 เนี่ยมันจะชำรุดได้จากกรณีไหนบ้างก็จะมี
00:11:32 → 00:11:34 ถ้าเกิดว่าเรากินน้ำตาลแล้วมีน้ำตาลใน
00:11:34 → 00:11:37 เลือดเยอะเรากินโคเลสเตอรอลมีคอเลสเตอรอล
00:11:37 → 00:11:42 อยู่ในเลือดเยอะเราสูบบุหรี่เรากินเหล้า
00:11:42 → 00:11:44 นะครับการสูบบุหรี่การกินเหล้าเนี่ยมันทำ
00:11:44 → 00:11:46 ให้เกิด Free Radical เยอะซึ่งเจ้า fre
00:11:46 → 00:11:49 Radical เนี่ยสามารถที่จะไปทำลายเซลล์
00:11:49 → 00:11:52 ที่บุผนังหลอดเลือดด้านในก็ทำให้มันเกิด
00:11:52 → 00:11:55 การทำลายได้นะครับเท่านั้นยังไม่พอครับ
00:11:55 → 00:11:58 ถ้าใครที่มีความดันสูงความดันสูงเนี่ย
00:11:58 → 00:12:01 ปั๊มสูงสๆเนี่ยแรงดันเยอะๆมันก็สามารถที่
00:12:01 → 00:12:04 จะทำลายผิวของเยื่อบุผนังด้านในหลอดเลือด
00:12:04 → 00:12:07 ได้นะครับแล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่ผนังหลอด
00:12:07 → 00:12:09 เลือดเนี่ยถูกทำลายจนเป็นรูเนี่ยนะครับ
00:12:09 → 00:12:12 หรือเกิดแครกอะไรก็ตามไอ้เจ้า ldl เนี่ย
00:12:12 → 00:12:16 มันสามารถที่จะมุดเข้าไปอยู่ในผนังหลอด
00:12:16 → 00:12:19 เลือดได้ครับเริ่มคิดตามได้มย ldl ทีนี้
00:12:19 → 00:12:21 มี 2 แบบเนาะเป็นรถกระบะคันเล็กกับกระบะ
00:12:21 → 00:12:24 คันใหญ่แน่นอน ldl ตัวเล็กนะครับก็สามารถ
00:12:24 → 00:12:28 ที่จะมุดเข้าไปตามรอยแตกรอยร้าวของเยื่อ
00:12:28 → 00:12:31 บุของเส้นเลือดได้ง่ายกว่านะครับตอนนี้
00:12:31 → 00:12:33 Small dce ldl หรือว่ารถกระบะอันเล็ก
00:12:33 → 00:12:35 เนี่ยมันฝังเข้าไปในผนังหลอดเลือดแล้วใช่
00:12:35 → 00:12:37 ไหมมครับแล้วพอผนังหลอดเลือดเนี่ยมันถูก
00:12:37 → 00:12:39 ทำลายเนี่ยมันก็จะปล่อยสารบางอย่างออกมา
00:12:39 → 00:12:41 สารที่ผนังหลอดเลือดเนี่ยมันปล่อยออกมานะ
00:12:41 → 00:12:43 ครับมันสามารถที่จะไปเปลี่ยนแปลงไอ้เจ้า
00:12:43 → 00:12:46 ldl หรือว่าโคเลสเตอรอลที่มันถูกฝังอยู่
00:12:46 → 00:12:48 เนี่ยให้แปลงร่างกลายสภาพไปเป็นสิ่งที่
00:12:48 → 00:12:51 เรียกว่า oxidized ldl นะครับซึ่งเจ้า
00:12:51 → 00:12:55 ออกซิ ldl เนี่ยครับมันสามารถที่จะไป
00:12:55 → 00:12:58 กระตุ้นหรือมันไปล่อ immune System เม็ด
00:12:58 → 00:13:00 เลือดขาขาวต่างๆเนี่ยให้มันวิ่งเข้ามาใน
00:13:00 → 00:13:03 ผนังหลอดเลือดได้เยอะขึ้นนะครับแล้วพอไอ้
00:13:03 → 00:13:06 เจ้า White Blood Sell จริงๆมันคือแครา
00:13:06 → 00:13:09 การคล้ายๆกับ packman นะครับมันวิ่งตะลุม
00:13:09 → 00:13:11 เข้ามาอยู่ในผนังหลอดเลือดนะครับมันก็จะ
00:13:12 → 00:13:15 มากินไขมันที่ฝังอยู่ในหลอดเลือดได้ครับ
00:13:15 → 00:13:18 จินอาการนะครับว่าตอนแรกไขมันฝังอยู่ใน
00:13:18 → 00:13:21 ผนังหลอดเลือดแล้วไขมันนั้นนะครับก็ถูก
00:13:21 → 00:13:23 สารบางอย่างที่ผนังหลอดเลือดที่ถูกทำร้าย
00:13:23 → 00:13:27 เนี่ยปล่อยมาแปลงสภาพให้เป็นไขมันพิเศษ
00:13:27 → 00:13:30 ที่ล่อให้ไอ้เจ้าเม็ดเลือดขาวเนี่ยวิ่ง
00:13:30 → 00:13:33 เข้ามากินได้ง่ายขึ้นพอเม็ดเลือดขาววิ่ง
00:13:33 → 00:13:36 เข้ามากินเนี่ยครับเม็ดเลือดขาวที่กิน ldl
00:13:36 → 00:13:38 หรือว่ากินออกซิ ldl เข้าไปแล้วเนี่ยตัว
00:13:38 → 00:13:41 มันก็จะใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้นนะครับ
00:13:41 → 00:13:43 ไอ้เจ้าผนังหลอดเลือดเนี่ยที่มันเป็นขนาด
00:13:43 → 00:13:46 ปกติเนี่ยมันก็จะบวมขึ้นบวมขึ้นบวมขึ้น
00:13:46 → 00:13:48 เรื่อยๆเท่านั้นยังไม่พอครับไอ้เจ้าเม็ด
00:13:49 → 00:13:51 เลือดขาวหลังจากที่กิน Small dce ldl
00:13:51 → 00:13:53 หรือว่า ldl เข้าไปแล้วเนี่ยครับมันก็
00:13:53 → 00:13:57 สามารถที่จะไปเรียกเซลล์อื่นๆเข้ามาออรวม
00:13:57 → 00:13:59 กันอยู่ในผนังหลอดเลือดผนังหลอดเลือดที่
00:14:00 → 00:14:03 มีความหนาปกติเนี่ยครับมันก็จะแบบนูนขึ้น
00:14:03 → 00:14:06 นูนขึ้นนูนขึ้นแล้วก็มาเบียดทำให้ช่องตรง
00:14:06 → 00:14:09 กลางเนี่ยมันเล็กลงเล็กลงเล็กลงไอ้การที่
00:14:09 → 00:14:11 ผนังมันนูนขึ้นนะครับชื่อทางการมันเรียก
00:14:11 → 00:14:13 ว่าพลานั่นเองนะครับมันคือสิ่งที่คนเข้า
00:14:14 → 00:14:17 ใจว่าไขมันอุดตันในเส้นเลือดซึ่งจริงๆ
00:14:17 → 00:14:19 แล้วมันก็คือการที่ไขมันเนี่ยมันอุดตัน
00:14:19 → 00:14:22 อยู่ในผนังหลอดเลือดทำให้ผนังหลอดเลือด
00:14:22 → 00:14:25 มันนูนขึ้นนูนขึ้นจนมันมาเบียดช่องทางการ
00:14:25 → 00:14:27 เดินเลือดให้มันเล็กลงนะครับพอรูมันตีบลง
00:14:27 → 00:14:30 เนี่ยมันก็ก็เพิ่มโอกาสที่ทำให้เกิด Blood
00:14:30 → 00:14:33 คอก็คือเลือดเนี่ยมันไปแข็งตัวแล้วก็อุด
00:14:33 → 00:14:36 ทางเดินของเลือดหรือไปเพิ่มโอกาสที่ทำให้
00:14:36 → 00:14:38 ไขมันเนี่ยมันไปอุดเอาไว้ป้องกันทางเดิน
00:14:38 → 00:14:40 ของเลือดเช่นกันแล้วพอเลือดเนี่ยมันไหล
00:14:40 → 00:14:43 ไม่ได้มันก็ทำให้หัวใจของเราสมองของเรา
00:14:43 → 00:14:46 อวัยวะสำคัญของเราเนี่ยมันขาดเลือดแล้วก็
00:14:46 → 00:14:49 ตายไปเทำให้เกิดหัวใจล้มเหลวหรือว่าภาวะ
00:14:49 → 00:14:53 สกนั่นเองนี่คือที่มาทั้งหมดว่า Stroke
00:14:53 → 00:14:56 หรือว่า Heart faia หัวใจล้มเหลวเนี่ย
00:14:56 → 00:14:58 มันเกิดขึ้นได้ยังไงนะครับมันก็เกิดจาก
00:14:58 → 00:15:02 การที่มีไขมัน ldl เนี่ยมันไปสะสมอยู่ใน
00:15:02 → 00:15:04 ผนังหลอดเลือดนะครับซึ่งมันจะสะสมอยู่ใน
00:15:04 → 00:15:07 ผนังหลอดเลือดได้เนี่ยผนังหลอดเลือดมันจะ
00:15:07 → 00:15:10 ต้องโดนทำลายก่อนนะครับแล้วตัว ldl ที่
00:15:10 → 00:15:12 สามารถจะมุดเข้าไปสะสมอยู่ในผนังหลอด
00:15:12 → 00:15:15 เลือดได้ง่ายกว่าก็คือสิ่งที่เรียกว่า
00:15:15 → 00:15:18 Small dense ldl ซึ่งผมเปรียบเทียบกัน
00:15:18 → 00:15:21 เหมือนกับรถกระบะคันเล็กที่สามารถจะมุด
00:15:21 → 00:15:24 แล้วก็ซอกสอนเข้าไปอยู่ในผนังหลอดเลือด
00:15:24 → 00:15:26 ได้ง่ายกว่ารถกระบะคันใหญ่หรือว่า ldl
00:15:26 → 00:15:29 ตัวโตๆที่มันฟี่หรือว่าขนาดใหญ่ๆนั่นเอง
00:15:29 → 00:15:31 ครับเพราะฉะนั้นขอทบทวนอีกครั้งนึงนะครับ
00:15:31 → 00:15:34 ว่า hdl กับ ldl จริงๆแล้วเนี่ยอ้ามันคือ
00:15:34 → 00:15:38 อะไรกันแน่นะครับ hdl นะครับคือคำที่ใช้
00:15:38 → 00:15:40 เรียกมอเตอร์ไซค์ที่ขนไขมันหรือว่า
00:15:41 → 00:15:43 คอเลสเตอรอลกลับไปที่ตับงั้นเป็นสิ่งที่
00:15:43 → 00:15:46 ดียิ่งมีเยอะยิ่งดีนะครับแต่ก็ไม่ใช่ว่า
00:15:46 → 00:15:50 hdl ทุกตัวเนี่ยมันจะดีเสมอไปนะครับบาง
00:15:50 → 00:15:52 ครั้งเนี่ย hdl เนี่ยก็ดอยแล้วก็เอ๋อได้
00:15:52 → 00:15:54 ครับไม่สามารถที่จะทำฟังก์ชันได้ดีได้เพ
00:15:54 → 00:15:56 งั้นเวลาที่เราไปตรวจเลือดเราก็เจอว่า
00:15:56 → 00:15:59 เฮ้ยค่า hdl เนี่ยเราสูงจังเลยเผลอๆสูง
00:15:59 → 00:16:02 กว่ามาตรฐานด้วยก็ไม่ได้สะท้อนว่า hdl
00:16:02 → 00:16:04 ทั้งหมดหรือไอร์ทั้งหมดที่คุณมีในเลือด
00:16:05 → 00:16:07 เนี่ยเป็นไอร์ที่ทำงานแล้วก็คอยไปเก็บไข
00:16:07 → 00:16:09 มันกับเข้าตับนะครับบางครั้งเนี่ยมันจะ
00:16:09 → 00:16:12 เป็นไอร์ที่ไม่ค่อยฟังก์ชันเพรางั้นอย่า
00:16:12 → 00:16:15 ประมาทไปนะครับกลุ่มที่ 2 นะครับคือ ldl
00:16:15 → 00:16:18 นะครับ ldl เนี่ยทำหน้าที่ในการขนส่งไข
00:16:18 → 00:16:21 มันทั้งคอเลสเตอรอลแล้วก็ไตรกีซาไลน์
00:16:21 → 00:16:24 เนี่ยไปยังอวัยวัต่างๆเมื่อมันจำเป็นต้อง
00:16:24 → 00:16:27 ใช้นะครับทีนี้การขนส่งเนี่ยมันใช้โปรตีน
00:16:27 → 00:16:30 อีกตัวนึงซึ่งผมเปรียบเทียบมันคือรถกระบะ
00:16:30 → 00:16:32 นะครับทีนี้รถกระบะที่ใช้ขนส่งเนี่ยก็มี
00:16:32 → 00:16:36 หลายไซส์รถกระบะคันเล็กรถกระบะคันใหญ่นะ
00:16:36 → 00:16:39 ครับและก็บอกแล้วว่ารถกระบะคันเล็กเนี่ย
00:16:39 → 00:16:42 คือตัวที่เป็นปัญหามากกว่ารถกระบะคันใหญ่
00:16:42 → 00:16:45 เพราะว่ารถกระบะคันเล็กเนี่ยมันสามารถที่
00:16:45 → 00:16:48 จะมุดแล้วก็ทะลุเข้าไปฝังอยู่ในผนังหลอด
00:16:48 → 00:16:51 เลือดได้ง่ายกว่ารถกระบะคันใหญ่นั่นเองนะ
00:16:51 → 00:16:52 ครับซึ่งเจ้ารถกระบะคันเล็กเนี่ยมันคือ
00:16:52 → 00:16:55 Small DS ldl นะครับเป็นสิ่งที่เราจะ
00:16:55 → 00:16:57 ควรระวังเพราะมันคือต้นเหตุสำคัญที่ทำให้
00:16:57 → 00:17:00 เกิดโรคหัวใจได้นะครับแต่ว่าการตรวจเลือด
00:17:00 → 00:17:03 ปกติคือค่า ldlc นะครับที่เราตรวจกันเป็น
00:17:03 → 00:17:06 ประจำเนี่ยมันวัด Content ของคอเลสเตอรอล
00:17:06 → 00:17:09 นะครับไม่ได้บอกเลยว่าเอ๊ไอ้เจ้ารถกระบะ
00:17:09 → 00:17:11 ที่ใช้ขนคอเลสเตอรอลเนี่ยมันเป็นคันเล็ก
00:17:12 → 00:17:14 หรือคันใหญ่มากกว่ากันซึ่งเราจะรู้ได้ว่า
00:17:14 → 00:17:16 ในเลือดเราเนี่ยใช้รถกระบะคันเล็กหรือคัน
00:17:17 → 00:17:19 ใหญ่มากกว่ากันก็ต่อเมื่อเราไปตรวจเลือด
00:17:19 → 00:17:22 แบบ Advance ขึ้นไปนะครับซึ่งตอนนี้ใน
00:17:22 → 00:17:24 เมืองไทยหลายๆที่ก็มีซึ่งส่วนใหญ่เนี่ย
00:17:24 → 00:17:27 คุณหมอมักจะตรวจให้ในกรณีที่คนไข้เนี่ยมี
00:17:27 → 00:17:29 ความซับซ้อนของโลกแล้วก็อยากจะวินิจฉัย
00:17:29 → 00:17:31 ให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นเพื่อ
00:17:31 → 00:17:34 ที่จะใช้ในการวางแผนการรักษาได้อย่างแม่น
00:17:34 → 00:17:36 ยำมากยิ่งขึ้นนะครับทีนี้เรามาดูดีกว่า
00:17:36 → 00:17:39 ครับว่าเราจะใช้ชีวิตยังไงอ่ะเพื่อที่จะ
00:17:39 → 00:17:42 ลดปริมาณของ Small dce ldl หรือว่าไอ้
00:17:42 → 00:17:44 เจ้ารถกระบะคันเล็กๆนะครับเพื่อที่จะลด
00:17:44 → 00:17:47 ความเสี่ยงการเกิดพลาหรือว่าไขมันอุดตัน
00:17:47 → 00:17:49 ในเส้นเลือดนะครับวิธีที่ 1 นะครับคือเรา
00:17:50 → 00:17:53 ต้องลดการกินแป้งแล้วก็ลดการกินน้ำตาลนะ
00:17:53 → 00:17:56 ครับหลายคนอาจจะสงสัยว่าเอ๊ยปัญหามันเกิด
00:17:56 → 00:17:57 จากคอเลสเตอรอลนี่นะทำไมเราต้องลด
00:17:57 → 00:18:00 คาร์โบไฮไฮเดรตกับน้ำตาลด้วยเป็นอย่างนี้
00:18:00 → 00:18:02 ครับปกติแล้วนะครับถ้าเกิดว่าเรากินน้ำ
00:18:02 → 00:18:05 ตาลหรือว่าแป้งเยอะเกินไปเนี่ยครับร่าง
00:18:05 → 00:18:08 กายมันจะเปลี่ยนน้ำตาลกับแป้งเนี่ยครับ
00:18:08 → 00:18:11 เป็นสิ่งที่เรียกว่าไตรกลีเซอไรด์ครับพอ
00:18:11 → 00:18:13 ร่างกายมีไตรกลีเซอไรด์เยอะเนี่ยนะครับ
00:18:13 → 00:18:16 แน่นอนต้องใช้รดกระบะและในการขนส่งเจ้า
00:18:16 → 00:18:19 ไตรกีซาไลน์ไปยังอวยวะต่างๆเพื่อที่จะ
00:18:19 → 00:18:22 เก็บเป็นไขมันนะครับเผอิญว่าการขนส่ง
00:18:22 → 00:18:26 ไตกีเซอไลนะครับส่วนใหญ่จะต้องใช้รถกระบะ
00:18:26 → 00:18:28 คันใหญ่นั่นเองครับเพรางั้นถ้าเกิดว่ามี
00:18:28 → 00:18:30 ไตกีซในเลือดเยอะนะครับรถกระบะคันใหญ่
00:18:31 → 00:18:33 เนี่ยก็จะถูกใช้แล้วก็จะถูกขนส่งเข้าไป
00:18:33 → 00:18:36 ยังอวัยวะต่างๆนะครับเพอรถกระบะคันใหญ่
00:18:36 → 00:18:38 มันถูกใช้แล้วเนี่ยมันก็เท่ากับว่าจะ
00:18:38 → 00:18:41 เหลือแต่รถกระบะคันเล็กๆเหลืออยู่ในเลือด
00:18:41 → 00:18:43 ของเราซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเพราะเราไม่
00:18:43 → 00:18:45 ต้องการให้มีรสกระบะคันเล็กอยู่ในเลือด
00:18:45 → 00:18:47 ครับเพราะฉะนั้นถ้าเราไม่อยากสูญเสียรถ
00:18:47 → 00:18:49 กระบะคันใหญ่ไปนะครับแล้วก็เหลือแต่รถ
00:18:49 → 00:18:51 กระบะคันเล็กๆเนี่ยเราทำยังไงก็ได้ครับ
00:18:51 → 00:18:54 ให้น้ำตาลในเลือดของเราเนี่ยมันไม่พุ่ง
00:18:54 → 00:18:56 สูงอยู่ตลอดเวลานะครับเพราะถ้าเกิดว่าเรา
00:18:56 → 00:18:59 กินอาหารที่มีน้ำตาลเยอะๆตลอดนะครับ
00:18:59 → 00:19:01 อินซูลินก็จะสูงนะครับแล้วเมื่อไหร่
00:19:01 → 00:19:04 อินซูลินสูงร่างกายเกิดภาวะ insulin
00:19:04 → 00:19:06 resistance ก็คือฉันไม่ฟังอินซูลินและก็
00:19:06 → 00:19:08 คืออินซูลินสูงฉันก็ไม่ดึงน้ำตาลออกจาก
00:19:08 → 00:19:10 เลือดแล้วน้ำตาลในเลือดก็อยู่สูงตลอดเวลา
00:19:10 → 00:19:14 เนี่ยก็จะทำให้เกิดไตกีสไลเยอะแล้วทำให้
00:19:14 → 00:19:16 เกิดปัญหาว่ามี smalls cholesterol ใน
00:19:16 → 00:19:19 เลือดเยอะตามมาด้วยนะครับวิธีต่อมานะครับ
00:19:19 → 00:19:21 คือการลดการกิน saturated Fat นะครับ
00:19:21 → 00:19:24 หรือว่าไขมันที่มีความอิ่มตัวสูงครับ
00:19:24 → 00:19:26 เมื่อไหร่ก็ตามที่เรากิน saturated Fat
00:19:27 → 00:19:28 เข้าไปเยอะๆนะครับร่างกายจะผลิต
00:19:28 → 00:19:31 คอเลสเตอรอลออกมาในเลือดเยอะมากขึ้นนะ
00:19:31 → 00:19:34 ครับอย่างที่ผมบอกไปว่าคอเลสเตอรอลใน
00:19:34 → 00:19:36 เลือดเยอะอ่ะ 1 มันมีโอกาสที่จะไปทำลาย
00:19:36 → 00:19:38 ผนังหลอดเลือดนะครับแล้วถ้าผนังหลอดเลือด
00:19:38 → 00:19:41 เนี่ยโดนทำลายนะครับมีรูมีร่องต่างๆเนี่ย
00:19:41 → 00:19:43 ไขมันก็จะมุดเข้าไปสะสมได้นะครับเหตุผล
00:19:43 → 00:19:45 ที่ 2 นะครับถ้าเกิดว่าเรากิน saturated
00:19:45 → 00:19:47 Fat เยอะๆนะครับตับเนี่ยก็จะเข้าใจว่า
00:19:48 → 00:19:51 เอ้อเรามีไขมันที่อิ่มตัวเยอะและเราไม่
00:19:51 → 00:19:54 จำเป็นต้องไปดึงโคเลสเตอรอลออกมาจากเลือด
00:19:54 → 00:19:57 เยอะหรอกนะครับสิ่งที่เกิดขึ้นนะครับตับเ
00:19:57 → 00:20:00 ก็จะดึงโสเเนี่ยออกมาจากเลือดน้อยลงน้อย
00:20:00 → 00:20:03 ลงนะครับเราก็จะเหลือ ldl อยู่ในเลือด
00:20:03 → 00:20:05 เยอะขึ้นเยอะขึ้นนั่นเองนะครับกลับกันนะ
00:20:05 → 00:20:06 ครับถ้าเกิดว่าเรากินไขมันที่เป็น
00:20:06 → 00:20:09 unsaturated Fat นะครับตับเนี่ยก็จะยัง
00:20:09 → 00:20:11 รู้สึกว่าออเรายังต้องการที่จะดึง
00:20:11 → 00:20:13 คอเลสเตอรอลไปใช้นะครับเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:20:13 → 00:20:16 ตับเนี่ยก็จะหาวิธีในการส่ง hdl ไปดึงคสอ
00:20:17 → 00:20:19 กลับมาเยอะๆนะครับในเลือดของเราเนี่ยก็จะ
00:20:19 → 00:20:22 เหลือ ldl น้อยลงนั่นเองครับอย่างที่ 3
00:20:22 → 00:20:24 นะครับเราลดการกินแป้งลดการกินน้ำตาลไป
00:20:24 → 00:20:26 แล้วอย่างที่ 2 เราลดการกิน saturated
00:20:26 → 00:20:28 Fat ไปแล้วอย่างที่ 3 เรื่องการกิน
00:20:28 → 00:20:30 เหมือนกันครับคืออยากให้เพิ่มการกิน
00:20:30 → 00:20:33 โปรตีนเนาะเพราะว่าลดขาบลดไขมันเดี๋ยว
00:20:33 → 00:20:35 พลังงานเราจะไม่พอนะครับการกินโปรตีนเข้า
00:20:35 → 00:20:37 ไปเยอะๆอเป็นการเสริมกล้ามเนื้อเนี่ยครับ
00:20:38 → 00:20:41 ก็จะทำให้ร่างกายเนี่ยมีการเผาผลาญที่ดี
00:20:41 → 00:20:43 นะครับแล้วก็ทำให้ร่างกายเนี่ยยังได้รับ
00:20:43 → 00:20:45 พลังงานเพียงพอเป็นการเทรด Off กับการที่
00:20:45 → 00:20:47 เรากินคาร์โบไฮเดรตลดน้อยลงนะครับอย่าง
00:20:47 → 00:20:50 ที่ 4 เนี่ยคือการลดน้ำหนักตัวนะครับใคร
00:20:50 → 00:20:51 ก็ตามที่มีน้ำหนักตัวเยอะเนี่ยครับมีแนว
00:20:51 → 00:20:54 โน้มที่เราจะมีความดันเลือดสูงขึ้นแล้ว
00:20:54 → 00:20:56 บอกไปแล้วว่าความดันเลือดสูงนะครับก็อาจ
00:20:56 → 00:20:59 จะทำลายผนังหอเลือดแล้วก็ทำให้ไขมันเนี่ย
00:20:59 → 00:21:01 เข้าไปฝังอยู่ในผนังหลอดเลือดได้เยอะแล้ว
00:21:01 → 00:21:05 ก็ทำให้เกิดผลตามมาเยอะแยะจนเกิดการสะสม
00:21:05 → 00:21:08 ของไขมันในผนังหลอดเลือดและเกิดพลาแล้วก็
00:21:08 → 00:21:10 ทำให้ไขมันเนี่ยอุดตันในเส้นเลือดได้นะ
00:21:10 → 00:21:13 ครับอย่างที่ 5 นะครับคือการลดปริมาณ Free
00:21:13 → 00:21:15 Radical ที่จะเกิดขึ้นในร่างกายนะครับ
00:21:15 → 00:21:18 เพราะผมพูดไปแล้วนะครับว่าเมื่อไหร่ก็ตาม
00:21:18 → 00:21:21 ที่เจ้า ldl ที่มันฝังอยู่ในผนังหลอด
00:21:22 → 00:21:24 เลือดเนี่ยมันเจอกับ Free Radical เนี่ย
00:21:24 → 00:21:26 มันจะกลายเป็น oxidized ldl แล้วเจ้า
00:21:26 → 00:21:30 oxidized ldl เนี่ยมันก็จะไปล่อให้เจ้า
00:21:30 → 00:21:32 เม็ดเลือดขาวเนี่ยมากินได้ง่ายขึ้นนะครับ
00:21:32 → 00:21:34 แล้วก็ทำให้เกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด
00:21:34 → 00:21:36 ได้เร็วขึ้นแล้วก็ง่ายขึ้นนะครับเพราะ
00:21:36 → 00:21:39 ฉะนั้นพฤติกรรมอะไรก็ตามที่ทำให้เพิ่มฟรี
00:21:39 → 00:21:42 ิอเนี่ยไม่ดีต่อหัวใจทั้งนั้นนะครับไม่
00:21:42 → 00:21:44 ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่การกินเหล้าเครียด
00:21:44 → 00:21:47 หรือว่าการอดนอนนะครับอีกหนึ่งวิธีที่จะ
00:21:47 → 00:21:50 ลดปริมาณ Free Radical ได้คือการกินสิ่ง
00:21:50 → 00:21:57 ที่มี
00:21:57 → 00:21:59 แอนติออกซิแดนท์เพราะทำให้ metabolism
00:21:59 → 00:22:02 ของคาร์โบไฮเดรตแล้วก็ไขมันเนี่ยมันทำได้
00:22:02 → 00:22:04 ดีครับที่ผมพูดมาทั้งหมดนะครับผมอยากจะ
00:22:04 → 00:22:07 ให้ทุกคนเนี่ย realize ตระหนักว่าเวลาที่
00:22:07 → 00:22:09 เราไปตรวจเลือดหรือว่าตรวจไขมันในเลือดนะ
00:22:10 → 00:22:13 ครับแล้วเจอว่าเอ้ยค่า hdl ของเราค่า ldl
00:22:13 → 00:22:16 ของเราเนี่ยมันอยู่ในเกณฑ์ปกติแล้วเรา
00:22:16 → 00:22:19 สามารถที่จะใช้ชีวิตแบบรีกหน่อยได้มันอาจ
00:22:20 → 00:22:21 จะไม่ใช่อย่างนั้นนะครับเพราะข้อมูลที่
00:22:21 → 00:22:24 ได้ตรงนั้นเนี่ยมันไม่ได้สะท้อนถึงสิ่ง
00:22:24 → 00:22:27 ที่มันอยู่ในร่างกายจริงๆทั้งหมดนะครับ
00:22:27 → 00:22:29 เพราะมันบอกแค่เพียงว่าเรามีปริมาณของ
00:22:29 → 00:22:32 คอเลสเตอรอลที่ขนส่งอยู่ในเลือดเท่าไหร่
00:22:32 → 00:22:34 แต่มันไม่ได้บอกว่าในร่างกายของเราเนี่ย
00:22:34 → 00:22:38 มี Small dense ldl หรือว่าเจ้า ldl
00:22:38 → 00:22:40 ตัวเล็กนะครับหรือว่าที่บรรทุกด้วยรถ
00:22:40 → 00:22:43 กระบะคันเล็กที่เป็นตัวร้ายต้นเหตุของ
00:22:43 → 00:22:45 heart attack แล้วก็ Stroke เนี่ยเยอะ
00:22:45 → 00:22:48 แค่ไหนนะครับเราจะรู้ได้ก็แต่เมื่อไปทำ
00:22:48 → 00:22:51 การตรวจเลือดแบบ Advance ขึ้นไปอีกระดับ
00:22:51 → 00:22:53 นึงนะครับซึ่งถ้าเกิดว่าใครสนใจอยากจะ
00:22:54 → 00:22:56 ตรวจเลือดแบบ Advance ขึ้นไปหรืออยากจะ
00:22:56 → 00:22:58 ปรึกษาคุณหมอว่าเอ๊ะมีที่ไหนตรวจได้เนี่ย
00:22:58 → 00:23:00 สามารถจะเอาคีย์เวิร์ดพวกนี้ไปใช้ได้นะ
00:23:00 → 00:23:02 ครับเขาจะมีการตรวจที่เรียกว่า particle
00:23:02 → 00:23:05 analysis นะครับไอ้เจ้าการตรวจ particle
00:23:05 → 00:23:07 analysis เนี่ยครับมันคือเป็นการตรวจว่า
00:23:07 → 00:23:11 เอ้ยไอ้รถกระบะที่เราใช้บรรทุก ldl เนี่ย
00:23:11 → 00:23:14 มันเป็นขนาดเล็กหรือว่าขนาดใหญ่มีเยอะมาก
00:23:14 → 00:23:16 กว่ากันนะครับบอกได้เลยนะครับว่าเรามี
00:23:16 → 00:23:18 กระบะขนาดเล็กหรือกระบะใหญ่มากกว่ากัน
00:23:18 → 00:23:21 แล้วก็มากกว่าจำนวนเท่าไหร่นะครับซึ่ง
00:23:21 → 00:23:23 เวลาที่ผมพูดถึงรดกระบะเนี่ยครับจริงๆผม
00:23:23 → 00:23:26 เปรียบเทียบว่ามันคือโปรตีนตัวนึงนะครับ
00:23:26 → 00:23:30 ซึ่งโปรตีนตัวนั้นมันชื่อว่า a b ก็คือ a
00:23:30 → 00:23:34 ให p o เว้นวรรค B ให่นะครับโปรตีน a b
00:23:34 → 00:23:37 เครับเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญที่ทุกคนสามารถ
00:23:37 → 00:23:38 เอาไปใช้เสิร์ชต่อได้นะครับว่าเดี๋ยว
00:23:38 → 00:23:41 เนี้ยในวงการโรคหัวใจเนี่ยครับเขาให้ความ
00:23:41 → 00:23:44 สำคัญกับ a b มากๆนะครับว่าการวัด a b
00:23:44 → 00:23:48 เป็นการสะท้อนว่าเรามี ldl ตัวดีหรือว่า
00:23:48 → 00:23:51 ldl ตัวร้ายมากกว่ากันแล้วมันจะใช้ในการ
00:23:51 → 00:23:54 วางแผน Treatment ได้มีประสิทธิภาพมาก
00:23:54 → 00:23:55 กว่านั่นเองนะครับแต่ไม่ว่ายงไงก็ตามนะ
00:23:56 → 00:23:58 ครับไม่ว่าคุณจะมีโอกาสตรวจเลือดแบบเ bic
00:23:58 → 00:23:59 หรือว่าตรวจเลือแบบ Advance นะครับสิ่ง
00:24:00 → 00:24:02 ที่ทุกคนทำได้เพื่อที่จะลดความเสี่ยงที่
00:24:02 → 00:24:04 จะเกิด heart attack หรือว่า Stroke
00:24:04 → 00:24:06 เนี่ยคือการปรับเปลี่ยน Lifestyle ของเรา
00:24:06 → 00:24:09 ให้เป็นไสลที่ Healthy เพื่อที่จะลดโอกาส
00:24:09 → 00:24:11 การเกิด Small dce ldl นะครับทำยังไง
00:24:11 → 00:24:15 ได้บ้างลิมาแล้วนะครับเร็วๆเลยก็คือ 1 ลด
00:24:15 → 00:24:18 การกินน้ำตาลแล้วก็แป้งนะครับ 2 คือลดการ
00:24:18 → 00:24:21 กิน High saturated Fat 3 คือการกิน
00:24:21 → 00:24:24 โปรตีนเข้าไปเยอะๆนะครับ 4 คือการลด
00:24:24 → 00:24:26 ปริมาณ fre Radical ที่จะเกิดขึ้นในร่าง
00:24:26 → 00:24:28 กายนะครับมาจากไหนมาจากการที่เราพักผ่อน
00:24:29 → 00:24:31 ไม่เพียงพอมาจากการที่เราเครียดมาจากการ
00:24:31 → 00:24:33 ที่เราสูบบุหรี่มาจากการที่เรากินเหล้านะ
00:24:33 → 00:24:35 ครับอย่าทำนะครับ 5 ครับคือการเพิ่มการ
00:24:35 → 00:24:38 กินอาหารที่มี antioxidant เพื่อไปต่อสู้
00:24:38 → 00:24:41 กับ Free Radical นะครับ 6 นะครับคือการ
00:24:41 → 00:24:42 กินอาหารที่มี prebiotics แล้วก็
00:24:42 → 00:24:45 probiotics ให้สมดุลนะครับเพื่อที่จะไป
00:24:45 → 00:24:49 ทำให้อัตราการเผาผันทั้งคาร์โบไฮเดรตแล้ว
00:24:49 → 00:24:52 ก็ไขมันเนี่ยมีประสิทธิภาพมากที่สุดก็จะ
00:24:52 → 00:24:54 ลดความเสี่ยงที่จะทำให้ร่างกายของเรา
00:24:54 → 00:24:57 เนี่ยมี Small dce ldl หรือว่า ldl ตัว
00:24:57 → 00:24:59 ไม่ดีซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของ heart
00:24:59 → 00:25:02 attack แล้วก็ str
00:25:02 → 00:25:06 C Top To To the Standard podcast
00:25:06 → 00:25:11 Eye Opening for your
00:25:11 → 00:25:14 ears