มีวิธีใดที่ช่วยลดความเค็มในอาหารได้โดยไม่ต้องหักดิบ

ความเค็ม ความเสี่ยง กับการเลี่ยง และลดความเค็ม | โรงหมอ

จากช่อง : Thai PBS Podcast


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 This Is Thai PBS podcast View the

00:00:0300:00:05 world vi The

00:00:0500:00:08 Voice ความเค็มส่วนใหญ่ได้มาจากการกิน

00:00:0800:00:11 เกลือเครื่องปรุงรสใช่มั้ยครับซึ่งส่วน

00:00:1100:00:12 ใหญ่ก็จะเป็นสารที่เรียกว่าโซเดียม

00:00:1200:00:15 คลอไรด์ปัจจุบันพบว่าคนที่เป็นโรคที่เกิด

00:00:1500:00:17 จากการกินเคมเช่นความโลหิตสูงโลกไตเนี่ย

00:00:1700:00:20 พบคนไข้อายุน้อยลงเราเจอคนที่เรียน

00:00:2000:00:23 หนังสืออยู่มหาวิทยาลัย 20 25 เป็นความน

00:00:2300:00:25 โลหิตสูงแล้วความดันลิตสูงถ้าไม่รักษา

00:00:2500:00:28 เนี่ยโรคแทกซ้อนมันจะมาเยอะอเช่นโรคไตโรค

00:00:2800:00:32 หัวใจความดันเอัมพฤกษ์อพาตปัจจุบันคนไทย

00:00:3200:00:35 ที่ป่วยก็เป็นความิสูงเนี่ยพบถึง 23%

00:00:3500:00:38 เกือบๆ 1 ใน 4 ของผู้ใหญ่เนาะคนเดินมาตบ

00:00:3800:00:41 ท้องถนนผู้ใหญ่ 4 คนจะมีคนที่ความสิตสูง 1

00:00:4100:00:44 คนแล้วก็ต้องกินยาความสิสูง 1 คนคิดเป็น

00:00:4400:00:47 ตัวเลขจะประมาณ 13 ล้าน

00:00:4700:00:51 คนฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง

00:00:5100:00:57 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงพรค่ะ

00:00:5700:01:00 PS วันนี้มาติดตามรับฟังกันค่ะถึงเรื่อง

00:01:0000:01:04 ของเมนูรถเค็มนะคะซึ่งอจริงๆวันนี้เราก็

00:01:0400:01:07 จะโฟกัสไปที่เรื่องของเด็กๆนะคะที่อยู่ใน

00:01:0700:01:09 โรงเรียนด้วยแต่ว่าก่อนอื่นเราก็ต้องมาทำ

00:01:0900:01:11 ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของความเค็มกัน

00:01:1100:01:13 ก่อนเราจะต้องคุยกับท่านนี้ค่ะรอง

00:01:1300:01:15 ศาสตราจารย์นายแพทย์สุรศักดิ์กันตชูเวส

00:01:1500:01:19 สิริอาจารย์ประจำหน่วยโรคไตภรรควิชา

00:01:1900:01:21 อายุรศาสตร์คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล

00:01:2100:01:24 รามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดลค่ะสวัสดีค่ะ

00:01:2400:01:28 คุณหมอคะครับสวัสดีครับค่ะคุณหมอคะคุยกัน

00:01:2800:01:30 เรื่องของความเค็มอาแแหละแต่ว่าว่าเรา

00:01:3000:01:34 ก่อนจะไปคุยถึงว่าเอ๊ะในเด็กในวัยเรียน

00:01:3400:01:37 อะไรต่างๆเหล่านี้เนี่ยเค้ากินเค็มกันมาก

00:01:3700:01:39 น้อยแค่ไหนมีงานวิจัยอะไรต่างๆเหล่านี้

00:01:3900:01:41 ด้วยนะแต่ต้องคุยกันก่อนว่าในเรื่องของ

00:01:4100:01:44 การกินเค็มเนี่ยเคยได้ยินว่าความเค็มก็มี

00:01:4400:01:46 ประโยชน์นะคะคุณหมอแต่ว่าประโยชน์ที่ว่า

00:01:4600:01:49 เนี่ยหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าความเค็มยังมี

00:01:4900:01:51 ประโยชน์กับร่างกายยังไงบ้างค่ะความเค็ม

00:01:5200:01:54 ส่วนใหญ่ก็เป็นได้มาจากกันกินเกลือ

00:01:5400:01:57 เครื่องปรุงรสใช่มั้ยครับซึ่งส่วนใหญ่ก็

00:01:5700:01:59 จะเป็นสารที่เรียกว่าโซเดียมคลอไรด์แต่

00:01:5900:02:03 จริงๆสารที่มีเอ่อประโยชน์แล้วก็ควบคุม

00:02:0300:02:06 การทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตระบบกล้าม

00:02:0600:02:09 เนื้อระบบประสาทคือโซเดียมค่ะตัวโซเดียม

00:02:0900:02:13 เนี่ยมันอยู่ในอาหารหลายประเภทรวมทั้ง

00:02:1300:02:16 อาหารที่ไม่เค็มด้วยนะอย่างเช่นผงชูรสอก็

00:02:1600:02:20 คือโมโนโซเดียมกูเตค่ะผงฟูเือโซเดียม

00:02:2000:02:23 ไบคาร์บอเนตแต่จริงๆที่พบบ่อยปัจจุบันก็

00:02:2300:02:25 ยังเป็นโซเดียมคลอไรด์หรือว่าเกลือแกง

00:02:2500:02:28 เกลือแกงหรือว่าน้ำปลาซีอิ๊วนี่แหละอ่า

00:02:2800:02:30 อันนั้นก็เป็นแหล่งที่สำคัญอ่าฮะคือใน

00:02:3000:02:32 กรณีที่ร่าง

00:02:3200:02:36 กายเสียน้ำเสียเกลือแร่ความดันเลือดจะตก

00:02:3600:02:38 ความดันโลหิตต่ำอย่างเช่นเราท่องเสีย

00:02:3800:02:40 เงี้ยเราไปโรงพยาบาลหมอก็จะให้น้ำเกลือ

00:02:4000:02:43 ใช่อันนี้ก็จะทำพยุงความโลหิตให้กลับมา

00:02:4300:02:47 ปกตินะครับเพิ่มแรงดันเลือดอะไรต่างๆซึ่ง

00:02:4700:02:51 ก็ทำให้เอ่อร่างกายทำงานปกติไตทำงานปกติ

00:02:5100:02:54 อันนี้ก็คือในกรณีที่ร่างกายขัดเกลือแร่

00:02:5400:02:55 นะครับซึ่งอันนี้ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นที่

00:02:5500:02:58 เราต้องกินเกลือบ้างอืแต่ปัจจุบันคนไทย

00:02:5800:03:02 อาจจะกินเกลือมากเกนเกินไปโดยไม่รู้ตัวเ

00:03:0200:03:05 ไม่รู้ตัวด้วยบางทีก็อาจจะเป็นแว่าชินนะอ

00:03:0500:03:07 คือความเคยชินกับกินมาตั้งแต่เด็กค่ะ

00:03:0700:03:10 วัฒนะทำการกินกินอาหารหกดองหรือว่ากินปลา

00:03:1000:03:13 เค็มเนื้อเค็มตั้งแต่เด็กค่ะเราก็ทำให้

00:03:1300:03:15 ลิ้นเติดกับความเค็มเราก็ไม่รู้ตัวว่าเรา

00:03:1500:03:18 กินเค็มหรือบางทีเรากินเกลือแฝงเกลือแฝง

00:03:1800:03:21 ที่ไม่เค็มอย่างเช่นผงชูรสซุปก้อนอหรือ

00:03:2100:03:24 ว่าผงฟูขนมเบเกอรี่ต่างๆพวกนี้ก็จะเป็น

00:03:2400:03:26 เกลือแฝงที่เราไม่รู้ไม่รู้ตัวครับอค่ะ

00:03:2600:03:30 ซึ่งมันก็คือตัวที่เค้าเรียกว่ารวมกันกาก

00:03:3000:03:32 คำว่ากินเค็มถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้รู้สึก

00:03:3200:03:35 ว่าสิ่งนั้นจะเค็มก็ตามใช่ครับใช่ครับโห

00:03:3500:03:37 นี่เรากินมาตั้งเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ใช่

00:03:3700:03:40 มั้ยคะยิ่งแบบเด็กเล็กๆเนี่ยค่ะที่เมื่อ

00:03:4000:03:43 กี้คุณหมอบอกว่าเรากินเค็มแล้วเราเราติด

00:03:4300:03:45 เค็มเนี่ยไม่ได้ติดเป็นเพราะว่าเราโตแล้ว

00:03:4500:03:47 เราติดเค็มนะแต่เราติดเค็มมาตั้งแต่สมัย

00:03:4700:03:50 เด็กๆโดยที่เราไม่รู้ตัวอย่างเช่นแบบบาง

00:03:5000:03:53 ทีคุณพ่อคุณแม่ทำข้าวอ่ะคุณแม่ทำข้าวให้

00:03:5300:03:56 ลูกใส่อาจจะความหวานลงไปเพราะเด็กชอบกิน

00:03:5600:03:59 หวานเป็นของปกติแล้วก็อาจจะเหยาะซีอิ๊ว

00:03:5900:04:02 บ้างเืออะไรบ้างเพื่อให้มันมีรสชาติก็เลย

00:04:0200:04:04 กลายเป็นติดเค็มโดยที่แบบเราไม่คิดว่ามัน

00:04:0400:04:08 เค็มครับคืออาหารเด็กที่เช่นก่อนไปเรียน

00:04:0800:04:10 นะครับก่อนเข้าโรงเรียนเนี่ยเราก็จริงๆ

00:04:1000:04:13 แล้วการกินเครื่องปรุงรสเนี่ยเอาเอาน้อย

00:04:1300:04:15 ไม่จำเป็นต้องใส่มากหรอกก็เพียงพอเพราะ

00:04:1500:04:18 ว่าเด็กก็ตัวเล็กอ่าแต่ว่าปัจจุบันบางที

00:04:1800:04:20 เราไม่ทราบแม่ก็จะเอาลิ้นตัวเองเป็น

00:04:2000:04:23 มาตรฐานอกินโจ๊กความเค็มของตัวเองเป็น

00:04:2300:04:25 มาตรฐานก็จะทำให้เด็กได้รับโซเดียมไปเยอะ

00:04:2500:04:27 ได้เกลือไปเยอะเพราะว่าถ้าเกิดเทียบน้ำ

00:04:2700:04:29 หนักตัวนะฮะน้ำหนักตัวแม่กับน้ำหนักตัว

00:04:2900:04:32 ลูกเนี่ยอ 3 เท่าใช่มเพราะฉะนั้นเด็กก็จะ

00:04:3200:04:36 กินเค็มมากกว่าคนความต้องการ 3-4 เท่า

00:04:3600:04:39 แล้วก็พอเรากินเค็มเนี่ยมันจะติดลิ้นมัน

00:04:3900:04:41 จะชินชากับความเค็มเพราะฉะนั้นพอไปกิน

00:04:4100:04:44 อาหารต่อไปเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องกินเค็มระดับ

00:04:4400:04:48 นั้นก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ติดเค็มไปด้วย

00:04:4800:04:51 ค่ะแล้วปัจจุบันพบว่าคนที่เป็นโรคที่เกิด

00:04:5100:04:53 จากการกินเค็มเช่นความดโลหิตสูงโรคไต

00:04:5300:04:56 เนี่ยพบคนไข้อายุน้อยลงยกตัวอย่างฮใช่

00:04:5600:05:00 ความนโลหิตสูงปกติในอดีตเราพบ 30 35 ปี

00:05:0000:05:03 เริ่มเป็นค่ะเริ่มคือทำงานเป็นผู้จัดการ

00:05:0300:05:06 แล้วเป็นความันสูงอ่าความันสูงตามอ่า

00:05:0600:05:09 ตำแหน่งที่สูงขึ้นน่ะนะแต่ตอนนี้เราเจอคน

00:05:0900:05:12 ที่เรียนหนังสืออยู่มหาวิทยาลัย 20 25

00:05:1200:05:15 เป็นความิตสูงแล้วเฮ้ยคุณหมอเจอเจอมาก

00:05:1500:05:18 ขึ้นด้วยอายุแค่นี้เองนะคือแบใช่ 20 25

00:05:1800:05:20 ต้องแบบไปกินยาความดันโลหิตเราเจอประมาณ

00:05:2000:05:25 10 10 -15% โอ้เยอะๆมันมีนัยยะนะตัว

00:05:2500:05:28 เลขตรงเนี้ยตัวเลขก็ 100 คนกินยาความนา

00:05:2800:05:31 สัก 10 คนเราก็ตกใจแล้วในวัยที่อยู่

00:05:3100:05:33 มหาวิทยาลัยเนาะค่ะใช่ไม่ควรจะกินยาเลย

00:05:3300:05:37 เนาะใช่น่ากลัวเร่างกายเยังยังแข็งแรง

00:05:3700:05:39 อยู่อ่ะยังอยู่ในวัยที่แบบเขาสามารถเติบ

00:05:3900:05:41 โตได้แต่กลายเป็นว่าต้องมานั่งกินยาความ

00:05:4100:05:43 ดันใช่ครับก็น่ากลัวเพราะว่าถ้าเกิดเรา

00:05:4300:05:45 ความดันรู้สิสูงถ้าไม่รักษาเนี่ยโรคแทก

00:05:4500:05:48 ซ้อนมันจะมาเยอะอเช่นโรคไตโรคหัวใจความ

00:05:4800:05:52 ดันเอ่ออัมพฤกษ์อัมพาตอ่ะโรคต่างๆก็จะมา

00:05:5200:05:56 เยอะมากคค่ะถ้าอย่างงั้นในแต่ละวันเราไม่

00:05:5600:05:59 ควรกินเค็มเกินก็ถ้าเอาเป็นเกลือนะฮะ

00:05:5900:06:03 เกลือหนึ่งก็ประมาณ 1 ช้อนชาต่อคนต่อวัน

00:06:0300:06:07 ค่ะต่อคนต่อวันครับก็คือมื้อนึงเอาาง่ายๆ

00:06:0700:06:10 หัน 3 ก็เลยว่า 1 มื้อไม่เกิน 1/3 ช้อนชา

00:06:1000:06:13 ถ้าเป็นเกลืออแต่ถ้าเป็นน้ำปลาจะกินได้

00:06:1300:06:15 ถึง 4 ช้อนชาต่อวัน

00:06:1500:06:18 อูแต่ไม่ใช่ว่าใส่ใส่ทั้งเกลือใส่ทั้งน้ำ

00:06:1900:06:22 น้ำน้ำปลานะอย่างได้อย่างหนึ่งอถ้าเราแบบ

00:06:2200:06:24 พูดอย่างเดียวนะค่ะก็เกือน้ำปลามื้อละ

00:06:2400:06:27 ประมาณช้อนชานึงก็น่าจะเพียงพอนะครับอื

00:06:2700:06:30 นี่คือพอเหมาะแต่คนไทยจะจะการสำรวจนะฮะคน

00:06:3000:06:33 ไทยยจะกินประมาณ 2 ช้อนชาต่อวันต่อมื้อ

00:06:3300:06:36 อุยต่อมื้ออ้าวมันมี 3 มื้อเกินไปแล้ว 2

00:06:3600:06:40 เกินไป 2 เท่าก็คือประมาณ 6 ช้อนชานะ 6-8

00:06:4000:06:43 ช้อนชาซึ่งซึ่งเยอะเกินไปแล้วก็ปัจจุบัน

00:06:4300:06:47 คนไทยที่ป่วยก็เป็นความรสูงเนี่ยพบถึง 23%

00:06:4700:06:50 อ่ะเกือบๆ 1 ใน 4 ของผู้ใหญ่เนาะค่ะก็

00:06:5000:06:54 เรียกว่าเป็นอันที่น่ากลัวเพราะว่าคนเดิน

00:06:5400:06:56 มาตบนท้องถนนผู้ใหญ่ 4 คนจะมีคนที่เป็น

00:06:5600:06:58 ความสิตสูง 1 คนแล้วก็ต้องกินยาความสถิต

00:06:5800:07:01 สูง 1 คนคิดเป็นตัวเลขก็จะประมาณ 13 ล้าน

00:07:0100:07:03 คน

00:07:0300:07:06 โอ้โหรู้สึกตัวเลขนี่มันแบบสูงมากพอนับ

00:07:0600:07:09 เป็นแบบจำนวนคนอ่ะแต่ว่าก็เข้าใจได้ค่ะ

00:07:0900:07:12 เพราะว่าบางทีไปกินข้าวตามร้านอาหารอย่าง

00:07:1200:07:16 เงี้ยค่ะคุณหมอเจอพริกน้ำปลาอร่อยๆเข้าไป

00:07:1600:07:20 เเราก็สาดเขเต็มที่เลยนะคะในจานยังไม่รวม

00:07:2000:07:23 กับที่เขาปรุงใส่เหยาะซอสซีอิ๊วอะไรใดๆมา

00:07:2300:07:26 อีกนะยิ่งถ้าเกิดคนกินเค็มจะไม่รู้สึกว่า

00:07:2600:07:29 เค็มเลยอาจจะต้องยิ่งเติมหนักเลยใช่มั้คะ

00:07:2900:07:32 ใช่ลิ้นลิ้นคนไทยยมักจะชินกับความเค็มนะ

00:07:3200:07:34 พอเรากินเริ่มระยะหลังเรากินอาหารนอกบ้าน

00:07:3400:07:38 บ่อยแล้วก็พอกินเค็มานๆมันติดอ่ะพอไม่กิน

00:07:3800:07:40 เค็มรสึกอาหารมันรสชาติกร่อยไปหน่อยมัน

00:07:4000:07:44 ไม่อร่อยแล้วก็จะต้องเติมเพิ่มคราวนี้การ

00:07:4400:07:47 การเติมเพิ่มเนี่ยถ้าเติมรสชาติที่แบบจัด

00:07:4700:07:50 จ้านนะหมอแนะนำว่ากินเปรี้ยวจากน้ำมะนาว

00:07:5100:07:54 อ๋อกินเผ็ดจากพริกอันนี้ปลอดภัยไม่

00:07:5400:07:59 อันตรายเพราะว่ากินมีข้อมูลว่าการกินเผ็ด

00:07:5900:08:00 เนี่ย

00:08:0000:08:02 ป้องกันโรคหัวใจหลอดเลือดได้ลดความดันได้

00:08:0200:08:05 นะครับออเพราะฉะนั้นการกินเผ็ดในในคนไทย

00:08:0500:08:08 ก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่งค่ะแต่ว่ากินหวาน

00:08:0800:08:11 กับกินเค็มเนี่ยมีปัญหาเพราะฉนั้นมันทำ

00:08:1100:08:14 ให้เกิดโรคเบาหวานความดันต่างๆมากขึ้น

00:08:1400:08:18 ครับเพราะฉเต็มสตีมเลยครับๆผมก็แนะนำว่า

00:08:1800:08:20 ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามเติมเครื่องปรุงน้อย

00:08:2100:08:23 หน่อยโดยเฉพาะกินอาหารนอกบ้านนะก็ปรุงมา

00:08:2300:08:26 แล้วนะคนโต๊ะอาหารก็อย่าปรุงเพิ่มถ้ากิน

00:08:2600:08:28 ก็อย่างมากก็ตักพริกมาหน่อยอย่างั้นก็เือ

00:08:2800:08:31 เติมมะนาหน่อยก็น่าจะโอเคครับอือแล้วร่าง

00:08:3100:08:35 กายของเรามันกำจัดความ kmr ก็จากการผ่าน

00:08:3500:08:37 ไปทางปัสสาวะหรือเหงื่อหรืออะไรอย่าง

00:08:3700:08:40 เงี้ยแต่พอเรากินเกินน่ะมันยังไงคะคือคือ

00:08:4000:08:42 ก็ก็เวลาขับเกลือส่วนเกินออกมันต้องออก

00:08:4200:08:45 ทางไตนะ 90% นะออกทางไตออกทางเหงื่อ 10%

00:08:4500:08:48 อเพราะฉะนั้นถ้าเราเรากินกินเค็มมากเนี่ย

00:08:4800:08:50 มันจะมีทำให้เกิดแรงดันในเลือดสูงหรือ

00:08:5000:08:53 ความสำริสูงเชั่วคราวอชั่วขณะแล้วก็ทำให้

00:08:5300:08:56 ไตทำงานหนักในการขับเกลือออกค่ะคราวนี้

00:08:5600:08:58 ถ้าเกิดเรากินเค็มวันเดียวอาจจะไม่เป็นไร

00:08:5800:09:00 เพราเราก็ความดันสูงชั่วคราวแล้วก็ไตทำ

00:09:0100:09:04 งานหนักวันเดียวมันก็พอไปได้แล้วไีวันก

00:09:0400:09:06 วันุเกินจืดไตแล้วก็ได้พักใช่มั้ยค่ะแต่

00:09:0600:09:09 ถ้ากินเค็มทุกวันเนี่ยความดันสูงก็จะเป็น

00:09:0900:09:12 อยู่ต่อเนื่องแล้วก็โลกไตก็จะทำงานหนัก

00:09:1200:09:14 สุดท้ายเนี่ยไตมันก็เหนื่อยล้าแทนที่จะ

00:09:1400:09:17 ใช้ไตได้ 100 ปี 100 อายุ 100 ปีไตยังทำ

00:09:1800:09:20 งานได้ดีอาจจะใช้ไตได้ 60 ปีเพราะ 60 ปี

00:09:2000:09:24 ไตเสื่อมไตวายแล้วออุยก็น่ากแต่ว่าก็กิน

00:09:2400:09:26 ไม่เกินนะคะเ้าก็นี่คุณหมอบอกเกลือ 1

00:09:2600:09:29 ช้อนชาต่อคนต่อวก็ไม่เกินหรือวันนี้ใส่

00:09:2900:09:33 น้ำปลาเอ้อก็ไม่เกินครับแต่ว่าเท่าที่

00:09:3300:09:35 สำรวจดูคนไทยไม่ได้ใส่อย่างใดอย่างหนึ่ง

00:09:3500:09:38 นะคือใส่น้ำเกลือใส่ทน้ำปลาใส่ทั้งซีอิ๊ว

00:09:3800:09:41 ใส่ทั้งซอสปรุงรสใส่ทั้งผงชูรสใส่ทั้งซุป

00:09:4100:09:44 ก้อนมันเยอะแยะอ่าคือถ้ารวมๆกันมันเกินฮะ

00:09:4400:09:46 แต่ถ้ากินอย่างใดอย่างหนึ่งก็โอเคก็ไม่

00:09:4600:09:49 เกินนะครับโอเจอก๋วยเตี๋ยวเข้าไปนี่ก็

00:09:4900:09:52 หลายอย่างแล้วนะความเค็มใช่ๆใช่มั้คะคือ

00:09:5200:09:54 คือมันก็มีเทคนิคในการรดเกลือเดี๋ยวเราคง

00:09:5400:09:57 ได้คุยกันต่อนะอือแต่ว่าถ้ากินเค็มบ่อยๆ

00:09:5700:10:01 มันก็แน่นอนเรื่องไตเรื่องความดันถ้าเรา

00:10:0100:10:03 ไม่อยากมานั่งกินยาความดันก็ลดความเค็ม

00:10:0300:10:05 ความดันนี้มันอยู่ที่เรื่องของความเค็ม

00:10:0500:10:09 อย่างเดียวเลยเป่าคะประมาณเกือบ 50% น่ะ

00:10:0900:10:12 ครึ่งนึงน่ะเป็นจากการกินเค็มอออที่เหลือ

00:10:1200:10:15 จะเป็นจากอย่างอื่นมันก็เช่นสูบบุหรี่อ่า

00:10:1500:10:19 ดื่มแอลกอฮอล์ค่ะไม่ออกกำลังกายโอ้ย

00:10:1900:10:23 เครียดไม่กินผักผลไม้ต่างๆเหล่านี้ก็จะ

00:10:2300:10:26 เป็นสาเหตุของความลหิตสูงเหรือกรพันธ์อีก

00:10:2600:10:29 50% คือกินกินเค็มเกินไปโอ้โหมันมันยัง

00:10:2900:10:32 พอมีปัจจัยอื่นๆแต่เค็มนี่มาแล้วครึ่งนึง

00:10:3200:10:34 แล้วนะแรครับมาแรงสุดเลยครับคนผมคนมีคน

00:10:3400:10:38 ไข้หลายคนผมบอกให้รดเค็มเนี่ยค่ะลดยาความ

00:10:3800:10:41 ดันลงได้หยุดบางคนหยุดยาความดันด้วยนะอ

00:10:4100:10:44 ค่ะเพราะงดเค็มเท่านั้นเองครับเฮ้ยมีวิธี

00:10:4400:10:46 ธรรมชาติเพราะคนไข้ดีใจมากกินยามาเกือบ

00:10:4600:10:50 ตลอดชีวิตพอหยุดยาความดันก็ดีใจมากอืเ

00:10:5000:10:53 เคลดลับง่ายๆคือคุณอย่ากินเค็มลดเค็มลงมา

00:10:5300:10:55 เนี่ช่วยมากโอ้โหมันน่าจะทรมานเหมือนกัน

00:10:5500:10:58 นะคะคุณหมอเพราะว่าฉันกินเค็มมาตั้งแต่

00:10:5800:11:01 แบบโอสมัยตั้งแต่คุณแม่ทำกับคงกับข้าวให้

00:11:0100:11:03 กินแล้วถ้ายิ่งคุณแม่กินเค็มนี่ไม่ต้อง

00:11:0300:11:05 ห่วงเลยหรือทางบ้านกินเค็มนี่ได้อาหาร

00:11:0500:11:08 เค็มตั้งแต่เด็กแล้วจนกินจนชินจนไม่รู้

00:11:0800:11:12 สึกว่ามันเค็มเพราะลิ้นมันรับรสมันได้

00:11:1200:11:14 ความมันไปเรียบเรียบร้อยแล้วอะไรงี้ใช่

00:11:1400:11:16 มั้ยคะผมว่าเพราะนั้นเนี่ยแม่บ้านน่ะ

00:11:1600:11:18 สำคัญที่สุดเพราะแม่บ้านเป็นคนปรุงอาหาร

00:11:1800:11:21 ให้คนในครอบครัวถแม่บ้านกินเค็มพ่อแม่ก็

00:11:2100:11:25 กินเค็มลูกก็กินเคมหลานก็กินเค็มแล้วก็จะ

00:11:2500:11:28 กลายเป็นครอบครัวของเบาหวานความดันโรค

00:11:2800:11:31 อ้วนไปหมดนะนะตอนั้นคืออร่อยอร่อยพอสมควร

00:11:3100:11:33 ไม่ต้องอร่อยมากไม่ต้องอร่อยทุกมื้ออะไร

00:11:3300:11:36 เงี้ยนะครับอเออน่าสนใจมากแต่แต่ว่าบางที

00:11:3600:11:39 เนี่ยพอแบบอ่ะตอนเด็กๆคุณแม่ทำกับข้าวให้

00:11:3900:11:42 กินใช่มั้ยคะพอไปโรงเรียนงี้ค่ะคุณหมอเอา

00:11:4200:11:46 แล้วไม่รู้แหละที่โรงเรียนทำอาหารอะไรรูป

00:11:4600:11:48 แบบไหนยังไงบ้างนะเอาแค่ถูกหลักโภชนาการ

00:11:4800:11:51 ก็ยังมีข่าวคราวอยู่เรื่อยๆเลยเรื่องแบบ

00:11:5100:11:54 โอ้โหจะมาแบบเอ้ยต้องรสเค็มรสหวานนะใส่ใจ

00:11:5500:11:57 กันขนาดนี้เนี่ยหรือบางโรงเรียนก็มีโรง

00:11:5700:12:00 อาหารให้สำหรับเด็กๆในการที่ัเลือกแล้ว

00:12:0000:12:03 พ่อค้าแม่ขายที่เค้าไปทำกับคงกับข้าวให้

00:12:0300:12:05 เด็กเนี่ยตามโรงเรียนเนี่ยเราก็ไม่รู้ว่า

00:12:0600:12:08 เค้าใส่ความเค็มอะไรไปมากน้อยแค่ไหนอย่าง

00:12:0800:12:11 เงี้ยค่ะตรงเนี้ยเราเราจะทำยังไงได้บ้าง

00:12:1100:12:15 ที่แบบเออพยายามลูกอยกินเค็มนะหรืออะไร

00:12:1500:12:17 หรือด้วแต่มันด้วยความเคยชินน่ะเด็กก็อาจ

00:12:1700:12:20 จะยังรู้สึกว่าปรับไม่ได้ด้วยหรือเปล่า

00:12:2000:12:24 อะไรเงี้ยค่ะคือเด็กๆเนี่ยสอนได้แต่ว่า

00:12:2400:12:26 มันต้องมีสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการกิน

00:12:2600:12:30 เค็มหรือกินหวานน้อยด้วยอืคือเอาจจะแบบ

00:12:3000:12:32 ว่าเรู้ว่ากินหวานกินเคมมันไม่ดีเด็กมัก

00:12:3200:12:35 จะจำจากคุณครูนะเเชื่อคุณครูมากกว่าถ้า

00:12:3500:12:37 คุณครูสอนว่าอย่ากินหวานกินเค็มแต่เพราะ

00:12:3700:12:40 ไปไปร้านอาหารทุกร้านทำเค็มหมดเขาก็ไม่มี

00:12:4000:12:42 ทางเลือกถูกมั้ยฮะอเพราะะนั้นก็ต้องปรับ

00:12:4200:12:45 สิ่งแวดล้อมก็คือว่าอาหารกลางวันในโรง

00:12:4500:12:47 เรียนน่ะแม่ครัวมีความสำคัญมากเพราะนั้น

00:12:4700:12:51 ก็ต้องคุยกับแม่ครัวว่าลดความเค็มลงมา

00:12:5100:12:53 อย่างเช่นแต่ไม่ใช่หักดิบนะไม่ใช่ไม่ใส่

00:12:5300:12:56 เลยก็คืออาจจะลดมา 10% ก่อนค่ะอีก 3

00:12:5600:12:59 เดือนลดอีก 10% อีก 3 เดือนลด 10% ใน 1

00:12:5900:13:02 ปีจะลดได้ 30% โดยที่ลิ้นมันจะค่อยๆไว

00:13:0200:13:05 ขึ้นเด็กจะชินกับความเค็มที่น้อยลงอ๋อคือ

00:13:0500:13:08 หมายความว่าค่อยๆปรับไม่ใช่ว่าแบบไม่ใช่

00:13:0800:13:11 หักดิบอ๋อเพราะว่าพอพอเราปรับลิ้นมันจะไว

00:13:1100:13:13 เความไวของลิ้นต่อความเค็มเนี่ยมันจะ

00:13:1300:13:16 เปลี่ยนตามให้เรากินเค็มมากถ้ากินเค็มมาก

00:13:1600:13:17 ลิ้นจะไม่ไวถ้ากินเค็มน้อยลิ้นจะไวต่อ

00:13:1800:13:20 ความเค็มอแต่มันจะค่อยๆปรับธรรมชาติสร้าง

00:13:2000:13:22 มาลิ้นเราดีมากมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา

00:13:2200:13:26 ทีละ 30% ทีละ 10% รน้อยๆเช่นใส่น้ำปลา

00:13:2600:13:30 ช้อนนึงแล้วคราวนี้เราใส่ค่อนช้อนอ่าอีก 3

00:13:3000:13:33 เดือนลด 3/4 ช้อนอีก 3 เดือนลด 2/3 ช้อน

00:13:3400:13:37 ค่อยๆลดทีละน้อยทีละน้อยเออก็จะเป็นการ

00:13:3700:13:40 ค่อยๆปรับลิ้นคนคนกินเขจะยอมรับถ้าคุณหัก

00:13:4000:13:43 ไม่ไม่ใส่น้ำปลาเลยคนกินไม่ยอมรับเค้าก็

00:13:4300:13:46 ไม่กินใช่มั้ยฮะเออเพราะฉะนั้นก็ก็ทำได้

00:13:4600:13:49 เหมือนกับเราปัจจุบันสังคมเรามีกระแสกิน

00:13:4900:13:52 หวานน้้อยถูกมั้ยค่ะใช่นี่รณรงมา 30 ปี

00:13:5200:13:54 หวานน้อยจนกระทั่งปัจจุบันเนี่ยใครใส่

00:13:5400:13:57 กาแฟเนี่ยกาแฟเย็นสมมุติเราก็ชินกับความ

00:13:5700:14:01 ความว่าคำว่าหวานน้อยสั่งได้ใช่มั้แล้วคน

00:14:0100:14:04 ปัจจุบันพอเริ่มมีความกลัวต่อการกินหวาน

00:14:0400:14:07 เนี่ยเขาจะเริ่มสั่งนสั่งหวานน้อยแล้วก็

00:14:0700:14:09 ต่อไปก็จะเป็นหวานน้อยกี่เปอร์เซ็นต์อ่า

00:14:0900:14:13 ก็เป็นขั้นนะ 75% 50% 25% ตอนนี้ไปสั่ง

00:14:1300:14:17 ร้านกาแฟสั่งได้นะหวาน 25% หวาน 50% บาง

00:14:1700:14:19 คนบอกไม่หวานเลยอือันนี้สั่งได้ปัจจุบัน

00:14:1900:14:22 เนื่องจากลิ้นเราไวขึ้นมากๆเนี่ยคนที่

00:14:2200:14:25 สั่งหวาน 100% เนี่ยผมว่าน้อยมากค่ะใช่

00:14:2500:14:29 แต่บางทก็แบบว่า 50% นี้หรือ 25% อุ้ยนี่

00:14:2900:14:32 25% เหรอทำไมหรือเป็นเพราะว่าลิ้นเรา

00:14:3200:14:34 ปรับสภาพแล้วไม่รู้เหมือนกันค่ะคุณหมอว่า

00:14:3400:14:37 แบบเราก็จะรู้สึกว่าเอ๊ะปริมาณเท่านี้

00:14:3700:14:39 ทำไมมันหวานยังหวานอยู่หรือว่าเนี่ยกิน

00:14:3900:14:43 เค็มน้อยลงแล้วเฮ้ยทำไมมันยังเค็มอยู่คือ

00:14:4300:14:45 คือลิ้นเราอาจจะแบบไวมากๆลิ้นแต่ละคนจะ

00:14:4500:14:47 ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับเรากินหวานมาก

00:14:4700:14:51 น้อยมากมากน้อยแค่ไหนออืเพราะว่าคนเหมือน

00:14:5200:14:54 กับน้ำน้ำหวานแก้วเดียวเคน 2 คนกินจะบอก

00:14:5400:14:57 หวานไม่เท่ากันอันนี้เป็นธรรมชาติอืครับ

00:14:5700:14:59 แต่เอย่างน้อยเมีสูตรที่ค่อนข้างข้างไต

00:14:5900:15:01 ตัวในร้านร้านสะดวกซื้อร้านอะไรต่างๆเนาะ

00:15:0100:15:04 ้าใช่ๆแต่ว่าถ้าอยู่ในโรงเรียนบางทีก็

00:15:0400:15:07 เอ่อคงต้องอย่างที่คุณหมอบอกแหละว่าเป็น

00:15:0800:15:10 ความร่วมมือที่โรงเรียนต้องรณรงคกันจริงๆ

00:15:1000:15:13 จังๆไม่ใช่แค่ว่าอ่ะเราเจอกันสื่อภายนอก

00:15:1300:15:15 ก็เรื่องของความหวานแต่ความเค็มก็สำคัญ

00:15:1500:15:18 เพราะคุณหมอบอกว่ารณรงค์กันมาหลายปีแล้ว

00:15:1800:15:20 เหมือนกันแต่ใช่ครับแต่เชื่อว่าเดี๋ยวนี้

00:15:2000:15:24 ก็น่าจะคนห่ามาแบบกลัวมากขึ้นเกี่ยวตอน

00:15:2400:15:26 นี้คนก็ตื่นตัวในการกินอาหารที่เค็มน้อย

00:15:2600:15:30 ลงเพราะที่ผมสังเกตดูมีกระแสนะฮค่ะเอ่อ

00:15:3000:15:32 เครื่องปรุงลดโซเดียมหรือเครื่องปรุง

00:15:3200:15:33 เครื่องปรุงโซเดียมต่ำเช่นน้ำปลาลด

00:15:3300:15:36 โซเดียมสิวขาลโซเดียมเริมมีขขในท้องตลาด

00:15:3600:15:38 มากขึ้นค่ะแต่ก่อนมีมียี่ห้อเดียวอือตอน

00:15:3800:15:41 นี้มีมากอาจจะเป็นเกือบ 10 ยี่ห้อค่ะมี

00:15:4100:15:44 หลายสูตรมากไม่ไม่รวมทั้งน้ำมันหอยสีอิ๊ว

00:15:4400:15:46 ขาวซอสปรุงรถรถโซเดียมเกลือรถโซเดียมมี

00:15:4600:15:49 หมดแค่ะในท้องตลาดไปหาซื้อได้อือแต่ว่า

00:15:4900:15:51 ราคายังค่อนข้างสูงเล็กน้อยนะผมว่าราคา

00:15:5100:15:53 ยังแพงอยู่ถ้าเกิดเราคิดว่าเราไม่อยาก

00:15:5300:15:56 จ่ายแพงเราก็แค่ลดปริมาณลงในในสูตรปกติก็

00:15:5600:15:58 ได้ครับอค่ะแต่ไม่ได้หมายความว่าเคปรับ

00:15:5800:16:01 สูตรให้แบบเค็มน้อยลงแล้วอ่ะเราก็ยิ่งใส่

00:16:0100:16:05 หนักกว่าใช่ๆๆครับไม่ได้เหมือนเดิมครับก็

00:16:0500:16:09 คือเวลาตอนนี้ที่เอ่อสสสกับทางกรมอนามัย

00:16:0900:16:11 กับกระทรวงศึกษาธิการก็พยายามอาหารกลาง

00:16:1100:16:14 วันเด็กเนี่ยตอนนี้เรามีอาหารกลางวันที่

00:16:1400:16:16 บริการให้กับเด็กนักเรียนในชั้นประถมใช่

00:16:1600:16:19 มั้ยครับอ่าซึ่งที่ตอนนี้กำลังให้เน้น

00:16:1900:16:22 เรื่องของโภชนาการด้วยค่ะคือนอกจากบอกว่า

00:16:2200:16:24 อาหารต้องสะอาดปลอดภัยแล้วก็มีคุณค่าทาง

00:16:2400:16:27 อาหารครบถ้วนแล้วก็ต้องให้ไม่หวาดไม่เค็ม

00:16:2700:16:30 ด้วยค่ะตอนนี้ก็พยายามรลงทุกโรงเรียนเลย

00:16:3000:16:33 นะของกระทรวงศึกษาธิการค่ะของสปฐนี่นะ

00:16:3300:16:37 ครับแล้วก็เอ่อต่อไปก็กบอนามัยก็จะพยายาม

00:16:3700:16:40 จัดเป็นเอ่อสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมอย่าง

00:16:4000:16:43 เช่นในในร้วโรงเรียนเนี่ยอาจจะไม่มีอาหาร

00:16:4300:16:46 ที่หรือเครื่องดื่มที่หวานจัดขายหรือว่า

00:16:4600:16:50 ไม่มีขนมกรอบๆที่มันเค็มมากๆขายเอาแบบเอา

00:16:5000:16:54 ที่พอสมควรหรือขนาดรถชาติกำลังพอดีที่จะ

00:16:5400:16:56 มีขายมีจำหน่ายในโรงเรียนอันนี้ก็เป็นเ่อ

00:16:5600:16:59 มาตรการต่อไปในการที่จำกัด

00:16:5900:17:02 การตลาดของอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีความ

00:17:0200:17:04 เสี่ยงต่อสุขภาพไม่ว่าจะหวานจัดหรือเค็ม

00:17:0400:17:06 จัดอ่ะงั้นแสดงว่าถ้าจุดเริ่มต้นค่อยๆจาก

00:17:0600:17:09 โรงเรียนขยายยายกันไปเรื่อยๆเนี่ยกลาย

00:17:0900:17:12 เป็นว่าวันนึงผู้ประกอบการเองต้องปรับตัว

00:17:1200:17:15 เหมือนกันที่จะอาหารขบขนมขบเคี้ยวอะไร

00:17:1500:17:17 ต่างๆเนี่ยอเดี๋ยวนี้มันเยอะมากเลยค่ะคุณ

00:17:1700:17:20 ผู้ฟังแล้วแบบถ้าไปดูข้างซองเนี่ยนะคะถ้า

00:17:2000:17:24 อ่านพวกเอ่อข้อมูลโภชนาการเนี่ยก็จะรู้

00:17:2400:17:26 ว่าบางทีโซเดียมเนี่ยโหเป็นพันนะคะเป็น

00:17:2700:17:29 พันเลยกินซองเดียวนี่จบเลยนะวันนั้นไม่

00:17:2900:17:30 ต้องกินอะไรอย่างอื่นแล้วว่ะใช่ใช่เพราะ

00:17:3100:17:33 ปกติเราบอกว่ามื้อนึงไม่กวนไม่ควรจะเกิน

00:17:3300:17:35 600 วันนึงไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม

00:17:3500:17:39 โซเดียมอ่าถ้ากินซอง 1,500 นี่ก็จบแล้วก็

00:17:3900:17:41 หมดโควต้าของวันนั้นแล้วเพราะฉะนั้นก็

00:17:4100:17:44 อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีความเสี่ยงต่อ

00:17:4400:17:47 สุขภาพเนี่ยตอนนี้กมอนามัยกำลังพยายาม

00:17:4700:17:51 ร่างกฎหมายจำกัดการขายของอาหารเหล่านี้ใน

00:17:5100:17:54 โรงเรียนอค่ะเห็นว่าน่าจะมีเก็บภาษีใน

00:17:5400:17:57 อนาคตว่าแบบอ่ะถ้าเค็มมากก็โดนภาษีเยอะ

00:17:5700:17:59 หน่อยงี้ครับเรื่องเรื่องภาษีก็เป็นอีก

00:17:5900:18:01 เรื่องนึงนะครับที่ที่เนื่องจากเราไม่ไม่

00:18:0100:18:05 สามารถห้ามห้ามจำหน่ายได้เลยเพราะว่าบาง

00:18:0500:18:07 บางทีเค้าเค็มเค็มมากก็จริงอแต่ว่ามันก็

00:18:0700:18:10 ไม่ได้เป็นสิ่งที่แบบกินแล้วตายเลยมัน

00:18:1000:18:12 เป็นแบบระยะยาวใช่มั้ยเพราะฉะนั้นห้ามขาย

00:18:1200:18:14 ไม่ได้คือว่าถ้าคุณขายถ้าคุณลดความเค็มลง

00:18:1400:18:18 มาในระยะที่ปลอดภัยคุณก็ไม่เสียภาษีค่ะ

00:18:1800:18:20 แต่ถ้าคุณไม่ลดคุณก็ต้องเสียภาษีก็คือ

00:18:2000:18:23 เอ่อมีความเสี่ยงมากขึ้นก็เงินก็เข้ามาใน

00:18:2300:18:26 เรื่องของการรักษาพยาบาลในในประชาชนเพราะ

00:18:2600:18:28 เรามีสิทธิ์สุขภาพถ้วนหน้าถูกมั้ยครับค

00:18:2800:18:31 ทุกคนที่ป่วยก็รักษาฟรีแต่ว่าไอ้เสอาหาร

00:18:3100:18:34 ที่มีความเสียสุขภาพก็ต้องเอ่อมีการเก็บ

00:18:3400:18:36 ภาษีบ้างนะครับซึ่งอนี้ก็เป็นนโยบายใน

00:18:3700:18:39 อนาคตสำหรับเอ่อกระทรวงการคลังที่ต้อง

00:18:3900:18:41 พิจารณาว่าอาหารไหนที่มีความเสี่ยงต่อ

00:18:4100:18:44 สุขภาพนะครับค่ะก็คงต้องปรับตัวกันไปใน

00:18:4400:18:46 อนาคตแต่ว่าตอนนี้เราเริ่มเริ่มก่อนได้

00:18:4600:18:50 เลยไม่ต้องรอให้แบบว่าเอ่อถึงขั้นต้องมี

00:18:5000:18:53 การเสียภาษีหรืออะไรแต่ในฐานะผู้บริโภค

00:18:5300:18:55 เนี่ยเราเลือกบริโภคได้เพราะเดี๋ยวนี้ของ

00:18:5500:18:58 ที่เป็นเพื่อสุขภาพเยอะแยะมากมายแต่ว่า

00:18:5800:19:01 ว่ากระนั้นแหละคุณหมอว่าเราจะปรับตัวยัง

00:19:0100:19:04 ไงเพราะเรากินเค็มอ่ะกินเค็มจนชินมาอย่าง

00:19:0400:19:07 ของสุรีพรเองเนี่ยค่ะคุยกับคุณหมอมาก่อน

00:19:0700:19:09 หน้านี้เนี่ยกลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้ไม่กิน

00:19:0900:19:12 น้ำซุปและนะคะเพกลัวเหมือนกันซึ่งก็เป็น

00:19:1200:19:15 ข้อดีอาจจะมีบ้างที่รู้สึกว่าเฮ้ยอยากอ่ะ

00:19:1500:19:17 เพราะว่าเอ้ยน้ำซุปมันอร่อยอ่ะอยากนิดนึง

00:19:1800:19:20 แต่ว่าก็ไม่ซดหมดชามก๋วยเตี๊ยวก็ไม่กิน

00:19:2000:19:23 น้ำหมดถ้วยอะไรขนาดนั้นและแต่มันก็ยังรู้

00:19:2300:19:26 สึกว่าบางวันก็อยากจะกินเค็มอยู่เงี้ยคุณ

00:19:2600:19:28 หมอเราพอที่จะแบบค่อยๆปรับหรือว่ามันมี

00:19:2800:19:33 ทฤษฎีอะไรที่เราแบบสามารถลดความเค็มได้

00:19:3300:19:37 คืออันแรกคือลดทีละน้อยอปงที่บอกลดทีย

00:19:3700:19:40 น้อยอย่าหักดิบอ่าลด 10% เนี่ยลิ้นจะบอก

00:19:4000:19:42 ไม่ได้หรือว่าเฮ้ยมันไม่ลิ้นไม่ค่อยรส

00:19:4200:19:45 ชาติไม่ค่อยเปลี่ยนนะใส่น้ำปลาลงไปค่อน

00:19:4500:19:48 ช้อนแทใส่ช้อนนึงเนาอ่าใช่ที่ 1 ปรับ 10%

00:19:4800:19:51 อันที่ 2 ก็ค่อยๆทำอย่างเช่น 10% ในแต่ละ

00:19:5100:19:54 1 เดือนอีกอีกเดือนหน้า 10% อีกเดือนนึง

00:19:5400:19:58 10% 3 เดือนลดได้ 30% ค่ะลิ้นจะค่อยๆไว

00:19:5800:20:00 ขึ้นคนแม่บ้านก็จะเ่อมีกำลังใจเพราะว่า

00:20:0100:20:02 ลูกบ้านยังกลับมากินข้าวบ้านเหมือนเดิม

00:20:0200:20:05 อ่าใช่มั้ยฮะค่ะอันที่ 2 คือต้องระวังพวก

00:20:0500:20:08 น้ำแกงน้ำซุปซึ่งที่ได้กล่าวไปแล้วอืถ้า

00:20:0800:20:11 วันนี้เรากินเค็มมื้อต่อไปเรากินจืดลงค่ะ

00:20:1100:20:14 ให้ไตเราได้พักบ้างอ่าอย่ากินเค็มทุกมื้อ

00:20:1400:20:17 ค่ะวันนี้ไปเลี้ยงฉลองไปกินปลาไปไป

00:20:1700:20:20 ปาร์ตี้มาวันรุ่งขึ้นกินเบาลงอือันที่ 3

00:20:2000:20:24 คือเ้าปรุงมาจากในในครัวแล้วมันโต๊ะอาหาร

00:20:2400:20:26 อย่าพยายามปรุงเพิ่มถ้าจะปรุงก็อย่างมา

00:20:2600:20:29 เติมพริกเติมน้ำเอ่อมะนาวความพอ่าเปรี้ยว

00:20:2900:20:32 กับเผ็ดอ่าใช่ครับสุดท้ายก็คือเรื่องของ

00:20:3200:20:34 อาหารตามสั่งถ้ากินนอกบ้านกินอาหารตาม

00:20:3400:20:37 สั่งจะถ้าคนที่ระวังจริงๆนะกินอาหารตาม

00:20:3700:20:39 สั่งดีกว่าถ้ากินอาหารที่เข้าอยู่ในหม้อ

00:20:3900:20:41 แกงแล้วแล้วก็ผัดเรียบร้อยแล้วเนี่ยปรับ

00:20:4100:20:44 ปรับเปลี่ยนไม่ได้เอาเกลือออกยากมากอค่ะ

00:20:4400:20:47 บอกก็ทำใหม่เช่นแบบว่าเอาข้าวผัดนะผัด

00:20:4700:20:49 ใหม่เอาเค็มน้อยไม่ใส่ผงชุรสอย่างเงี้ยค

00:20:4900:20:53 อ๋อต้องเพราะว่ามันมีโซเดียมแฝงผงชรสพวก

00:20:5300:20:55 นี้เออใช่ๆใช่ครับก็อันนี้ก็บอกง่ายๆก็

00:20:5500:20:58 คือบอกให้เทำใหม่เราก็จะได้กินอาหารที่รส

00:20:5800:21:01 รสชาติกลางๆแล้วก็เ่าดีต่อสุขภาพถ้าเกิด

00:21:0100:21:03 มันมันจืดจริงๆเราอาจจะเติมเพิ่มในตอน

00:21:0300:21:05 หลังได้ใช่มั้ยแต่ถ้าเกิดมันเค็มมากี่มัน

00:21:0500:21:08 ทำยากปับยาแล้วพอเรากินเค็มสักระยะนึงเ

00:21:0800:21:11 เอ้ยชินละแล้วกิกินช้อนแรกจะเค็มพอกินสัก

00:21:1100:21:13 หมดครึ่งชามแล้วก็จะไม่ไม่เค็มแล้วเพราะ

00:21:1300:21:15 ลิ้นมันเริ่มปรับแล้วะค่ะนะครับเพราะ

00:21:1500:21:17 ฉะนั้นก็อย่าให้อย่าให้ตัวเองชินกับความ

00:21:1700:21:20 หรืออันสุดท้ายคือไปออกกำลังกายเพิ่มหา

00:21:2100:21:24 ให้เสียเหงื่อให้ให้ให้เกลือออกไปทาง

00:21:2400:21:27 เหงื่อเพิ่มขึ้นถ้าคุณกินเค็มปั๊บคุณมือ

00:21:2700:21:30 ต่อก่อนอีกสัก 2 ชั่วโมงคุไปฟิตเนสค่ะไป

00:21:3000:21:32 วิวิ่งหน่อยขับเหงื่อหน่อยอ่อแล้วก็ลดน้ำ

00:21:3200:21:35 หนักด้วยแล้วก็ลดแคลอรี่ลดเกลือด้วยดีต

00:21:3500:21:37 สุขภาพด้วยค่ะอันนี้ก็เป็นเทคนิคนึงที่

00:21:3700:21:40 ที่ให้ออกกำลังกายครับอืแต่ว่าต้องค่อยๆ

00:21:4000:21:43 เป็นค่อยๆไปถ้าหักดิบมันจะเกิดอะไรกับเรา

00:21:4300:21:47 อ่ะคะหักดิบส่วนใหญ่ก็จะเป็นไม่เรื่องการ

00:21:4700:21:49 การยอมรับมากกว่าอืจริงๆไม่ได้อันตรายเลย

00:21:4900:21:51 เพราะว่าเกลือมันอยู่ในอาหารธรรมชาติอยู่

00:21:5100:21:53 แล้วเพียงพออยู่แล้วไม่ว่าจะกินข้าวกิน

00:21:5300:21:55 ผักกินเนื้อสัตว์กินอะไรพวกนี้มันมีเกลือ

00:21:5500:21:58 โดยธรรมชาติออมันเพียงพออยู่แล้วค่ะโดย

00:21:5800:22:00 เฉพาะถ้าคุณกินอาหารทะเลเนี่ยมันมีเกลือ

00:22:0000:22:03 อยู่ในเนื้อเนื้อเนื้อกุ้งเนื้อปลาอยู่

00:22:0300:22:06 แล้วค่ะก็รสขนาดนั้นรสชาติเพียงพอแต่ว่า

00:22:0600:22:09 มันจะเกิดความเรียกว่าคนเราติดกับความสุข

00:22:0900:22:11 กับการบริโภคน่ะเนาะใช่มั้ยเพเรากินจื่น

00:22:1100:22:13 จริงๆเราไม่เติมอะไเราจะรู้สึกว่ามันไม่

00:22:1300:22:15 มีความสุขแล้วก็เติมสักนิดนึงก็ได้ก็ผม

00:22:1500:22:19 ว่าเติมเล็กน้อยค่ะให้รสชาติกลางๆแล้วก็

00:22:1900:22:22 ค่อยๆๆปรับไปแล้วก็ค่อยๆชินครับอืสัก

00:22:2200:22:26 ประมาณระยะนึงไตของเราก็จะค่อยๆดีขึ้นใช่

00:22:2600:22:29 เราก็จะไตก็ทำงานเบาลงอเหมือนกับรถยนต์

00:22:2900:22:32 น่ะถ้าเราวิ่ง 200,000 กแป๊บเดียวก็พัง

00:22:3200:22:34 เครื่องพังถ้าเราวิ่ง 20,000 กเครื่องมัน

00:22:3400:22:36 ก็จะอยู่ได้นานใช่มั้ยครับเพราะสไตก็

00:22:3600:22:38 เหมือนกันถ้าเราทำงานหนักทุกวันก็อยู่ได้

00:22:3800:22:41 ไม่นานแสดงว่าสไตของเราก็ฟื้นฟูได้เหมือน

00:22:4100:22:43 กับที่เขาอะไรนะมีโครงการแต่ละปีก็คือพัก

00:22:4300:22:46 ตับ 3 เดือนอันนี้ก็พักไตได้เหมือนกันใช่

00:22:4600:22:49 ๆครับพักได้เหมือนกันคนที่กินกินเค็มแล้ว

00:22:4900:22:52 ไปกินเจือดแล้วลงไตก็จะดีขึ้นอืหรืออย่าง

00:22:5200:22:55 น้อยมันไม่เสื่อมลงค่ะก็มีมีวิธีการมาก

00:22:5500:22:58 มายนะครับก็ก็จะช่วยเหมือนกับว่าปกติไตเ

00:22:5800:23:00 ทำงานคือมันก็เสื่อมลงในทุกๆปีอยู่แล้ว

00:23:0000:23:03 แหละเพียงแต่ว่าเราไม่ไปเร่งให้มันเสื่อม

00:23:0300:23:05 เร็วถูกครับปกติไตมันก็ใช้งานได้ 100 ปี

00:23:0600:23:09 นะจนอืหมดอายุไข 100 ปีก็ไม่เป็นไรแต่ถ้า

00:23:0900:23:12 เราไปเร่งเ้ามากๆเจะทำงานทำได้แค่ 60 ปี

00:23:1200:23:15 เกษียณปั๊บก็ไตวายค่ะเพราะฉะนั้นเราก็

00:23:1500:23:19 ต้องโอ้โหกำเ่อจำกัดความเค็มในหลายๆอย่าง

00:23:1900:23:22 ตั้งแต่เด็กเลยคุณพ่อคุณแม่ดูแลอาหารให้

00:23:2200:23:25 ลูกอยู่ะไม่ต้องไปหยาดซีอิวหยอดอะไรเพิ่ม

00:23:2500:23:28 เติมเอาแบบให้เขาหัดกินจืดๆเข้าไว้ไม่

00:23:2800:23:32 อร่อยแต่ว่าก็ดีกว่าที่จะมานั่งกินยากัน

00:23:3200:23:35 ตอนโตอะไรแบบนี้ใช่มยคะแล้วก็มาที่ในโรง

00:23:3500:23:38 เรียนอ่ะตอนนี้ภาครัฐเองก็ให้ความสำคัญใน

00:23:3800:23:41 เรื่องนี้รณรงคในโรงเรียนไม่พอโอออกมานอก

00:23:4200:23:45 โรงเรียนก็ไม่ไม่ใช่ย่อยนะคคุณหมอครับเออ

00:23:4500:23:48 ใช่ตอนนี้ก็เราก็ต้องรณรงคทางทางสื่อนะผม

00:23:4800:23:51 ว่าทางสื่อสำคัญเพราะว่าประชาชนเนี่ยเขา

00:23:5100:23:54 ก็เเป็นคนเลือกใช่มั้ยคเสำคัญคือที่ 1

00:23:5400:23:57 ต้องรู้ตัวว่ากินเคมไม่ดีอันที่ 2 คือมี

00:23:5700:24:00 การถ้าพูดหลายๆครั้งเอาจจะคิดว่าเอ๊ะฉัน

00:24:0000:24:03 จะปรับเปลี่ยนยังไงอโดยที่ให้มีความสุข

00:24:0300:24:05 กับการกินเหมือนเดิมคนส่วนใหญ่ก็คืออย่าง

00:24:0500:24:07 งี้แต่มันเป็นความสุขอ่ะใช่มั้ยครับก็คือ

00:24:0700:24:12 ต้องลดทีละน้อยนะพอลดนความอร่อยมันจะ

00:24:1200:24:14 โปรแกรมใหม่ในสมองว่าอยู่ที่ความเค็มไม่

00:24:1400:24:17 มากอืเหมือนกับความอร่อยของกินน้ำหวานน่ะ

00:24:1700:24:20 แต่ก่อนเราโปรแกรมว่าต้องหวาน 100% อร่อย

00:24:2000:24:23 ปัจจุบันคนปัจจุบันเลือก 50% อร่อยะหวาน

00:24:2300:24:26 หวานกำลังพอดีละถ้า 100% หวานหวานเจี๊ยบ

00:24:2600:24:28 กินไม่ได้ใช่ๆอ่าเพราะว่ามันมันก็มี

00:24:2800:24:30 โปรแกรมของสมองซึ่งปรับเปลี่ยนได้ครับ

00:24:3000:24:32 ค่อยๆปรับทีละน้อยครับอืเพราะฉะนั้นก็ได้

00:24:3200:24:34 มีกำลังใจนะคะคุณผู้ฟังไม่ได้บบว่ามันจะ

00:24:3400:24:37 เป็นการหักดิบเกินไปหรืออะไรมันทุกอย่าง

00:24:3700:24:39 มันจะค่อยๆปรับไปเองอันนี้ก็ยืนยันด้วย

00:24:3900:24:42 เสียงตัวเองได้คนนึงเพราะว่าปรับคือเป็น

00:24:4200:24:44 คนไม่กินเค็มอยู่แล้วโดยพื้นฐานแต่ว่า

00:24:4400:24:47 ปรับความเค็มลงปึ๊บพอไปกินอะไรนิดนึงอ่ะ

00:24:4700:24:50 เฮ้ยทำไมมันเค็มจังเลยอ่ะแล้วก็จะรู้สึก

00:24:5000:24:52 ว่าเราไม่อยากจะแตะอะไรประมาณนี้เพราะว่า

00:24:5200:24:55 ตอนนี้ไตก็ยังน่าจะอยู่ถึง 100 ปีได้

00:24:5500:24:57 เหมือนกันนะคท้ายนี้ค่ะคุณหมอมีอะไรอยาก

00:24:5700:25:01 ฝากคุณ่อฟังหนยมั้ยคะคือผมว่าคือการที่จะ

00:25:0200:25:06 ลดการกินเค็มในตัวเราเนี่ยถ้าเป็นโดย

00:25:0600:25:09 เฉพาะเป็นแม่บ้านเนาค่ะมันดีต่อตัวเราต่อ

00:25:0900:25:13 ครอบครัวแล้วมันดีต่อสังคมอืใช่มั้ยถ้า

00:25:1300:25:16 เกิดครอบครัวเราแข็งแรงสังคมก็มีคนทำงาน

00:25:1600:25:19 มีไม่ต้องไปรักษาค่าเสียค่ารักษาพยาบาลนะ

00:25:1900:25:22 ค่ะแล้วเราก็ถ้าถ้ารถเค็มเนี่ยมันดีต่อ

00:25:2200:25:24 สุขภาพแต่เราก็ต้องค่อยๆลดทีน้อยเพื่อให้

00:25:2400:25:26 เรามีกำลังใจมีความสุขกับการบริโภคเหมือน

00:25:2600:25:29 เดิมมีเทคนิคหลายหลายแบบซึ่งเมื่อกี้ได้

00:25:2900:25:32 ได้กล่าวไปแล้วค่ะค่อยๆทำไปแล้วถ้าเกิด

00:25:3200:25:37 เราดีลูกเราดีอพ่อแม่เราดีไม่ไม่ป่วยมัน

00:25:3700:25:40 ก็เป็นประโยชน์กับทุกๆฝ่ายค่ารักษาพยาบาล

00:25:4100:25:43 ก็ไม่เสียไม่ต้องไปกินยาความดันแพงๆนะ

00:25:4300:25:46 ครับอันนี้ก็อยากจะให้ช่วยกันรวมทั้ง

00:25:4600:25:49 สังคมด้วยนะคือเรารณรงค์คือคนแม่ค้าเนี่ย

00:25:4900:25:52 ถ้าแม่ค้าผู้ประกอบการให้ความร่วมมือลดลง

00:25:5200:25:55 ทีละน้อยแล้วก็นอกจากนั้นก็มีโครงการที่

00:25:5500:25:58 แบบว่าเขียนป้ายรถเค็มสั่งได้อืหรือว่ารถ

00:25:5800:26:00 หวานสั่งได้ตอนนี้มีรถหวานสั่งได้ถ้ามีรถ

00:26:0000:26:03 ป้ารถเค็มสั่งได้ถ้าผู้บริโภคช่วยกันบอก

00:26:0300:26:07 แม่ค้าว่าเอาเค็มน้อยแม่ค้าก็จะจะทำเค็ม

00:26:0700:26:10 น้อยลงคือถ้าเไม่ถ้าลูกค้าไม่สั่งบางทีเ

00:26:1000:26:12 ไม่กล้าเนาะเ้าไม่กล้าปรับสูตรเดี๋ยว่าร

00:26:1200:26:15 รสชาติเปลี่ยนแล้วขายไม่ได้อนั้นก็ช่วยๆ

00:26:1500:26:17 กันนะครับค่ะก็อะไรที่มันเป็นโซเดียมแฝง

00:26:1700:26:19 มันมีอยู่ในอาหารเราเต็มไปหมดแล้วแล้ว

00:26:1900:26:21 ยิ่งเราไปเติมมันก็จะยิ่งหนักขึ้นไปมาก

00:26:2100:26:23 กว่าเดิมอย่างที่คุณหมอแนะนำคุณผู้ฟังไป

00:26:2300:26:25 แล้วนะคะแล้วก็จะได้ดูแลสุขภาพตัวเองให้

00:26:2500:26:27 ดียิ่งขึ้นกันไปแข็งแรงแข็งแรงค่ะอ่ะวัน

00:26:2700:26:30 นี้ต้องขอบคุณคุณหมอนะคะที่มาร่วมพูดคุณ

00:26:3000:26:32 พูดคุยในรายการกับเราในวันนี้ค่ะขอบคุณ

00:26:3200:26:35 ค่ะครับยินดีครับค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีครับ

00:26:3500:26:37 เอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังหมดเวลาแล้วนะคะพบกัน

00:26:3700:26:39 ใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทางไทย PBS

00:26:3900:26:43 podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อนนะคะสวัสดีค่ะ

00:26:4300:26:46 This Is Toy PBS podcast หนองนายปอด

00:26:4600:26:48 เกิดจากอะไรเป็นตัวกระตุ้นอาการของผู้

00:26:4900:26:51 ป่วยเป็นอย่างไรทำไมเสี่ยงเสียชีวิตผู้

00:26:5100:26:54 ช่วยศาตราจารย์นายแพทย์ศีระลาวทยแพทย์

00:26:5400:26:57 ศัลยกรรมประสาททรวงอกเฉพาะทางมาเล่าให้

00:26:5700:26:58 ฟังครับ

00:26:5800:27:01 อาการของตัวหนองในปอดนะครับผู้ป่วยเนี่ย

00:27:0100:27:06 มักจะมาด้วยอาการ 3 อันเลยนะครับไข้ไอ

00:27:0600:27:10 แล้วก็เหนื่อยไข้ไอหอบหรือไข้ไอเหนื่อยนะ

00:27:1000:27:12 ฮะทีนี้เนี่ยก็มันจะมันจะแยกกันแยาก

00:27:1200:27:16 ระหว่างว่าคนไข้เนี่ยเป็นไข้หวัดใหญ่นะ

00:27:1600:27:19 ครับหรือว่าเป็นเป็นไข้หวัดนะครับหรือว่า

00:27:1900:27:21 เป็นปอดอักเสบพวกนี้จะมาหน้าตาเหมือนกัน

00:27:2100:27:24 เลยคำว่าไข้เนี่ยมันเกิดจากการอักเสบขึ้น

00:27:2400:27:26 มาของร่างกายนะครับไม่ว่าจะมีสิ่งแปบปลอม

00:27:2600:27:28 อะไรก็ตามเช่นเป็นแบคทีเรีย

00:27:2800:27:31 ไวรัสหรืออะไรก็ตามนะครับพวกนี้เนี่ยทำ

00:27:3100:27:33 ให้เกิดกระตุ้นให้เกิดเป็นไข้ได้อย่างที่

00:27:3300:27:35 2 ถ้าสมมุติมีอาการที่มันลงปอนขึ้นมา

00:27:3500:27:39 เนี่ยคณไขก็มีอาการเหนื่อยเกิดขึ้นนะครับ

00:27:3900:27:41 ไม่เช่นการที่มีอาการในปออย่างเช่นมัน

00:27:4100:27:43 เกิดติดเชื้อในปอเป็นปัอักเสบขึ้นมานะ

00:27:4300:27:46 ครับพวกนี้เนี่ยก็สมผลทำให้เกิดอาการ

00:27:4600:27:48 เหนื่อยได้หรือว่ามันเกิดเป็นน้ำขึ้นมาทำ

00:27:4800:27:50 ให้เกิดเป็นเหนื่อยได้เช่นเดียวกันนะครับ

00:27:5000:27:54 ทีเไอ้คำไอ้คำว่าหนองในปอดหรือว่าบางคนก็

00:27:5400:27:56 จะเรียกว่าหนองในเยื่อหุ้มปอดเนี่ยนะครับ

00:27:5600:27:59 พวกนี้เนี่ยหรือว่าฝีในปอดพวกนี้ก็จะมี

00:27:5900:28:01 ความคล้ายคนกันแตกต่างกันนิดหน่อยนะครับ

00:28:0100:28:04 พวกนี้มันจะเริ่มต้นเลยเริ่มต้นจากการที่

00:28:0400:28:07 ร่างกายเราเนี่ยสูตดมสิ่งแปลกปลอมเข้าไกล

00:28:0700:28:10 นะครับเกิดปอดติดเชื้อขึ้นมาพอมันเกิดปอด

00:28:1000:28:12 ติดเชื้อขึ้นมาปุ๊บสิ่งที่เกิดขึ้นขึ้นมา

00:28:1200:28:15 เนี่ยมันก็จะมีอาการเขาเรียกว่ามีปอด

00:28:1500:28:17 อักเสบขึ้นมานะครับพอมันเกิดร่างกายปลอด

00:28:1700:28:19 อักเสบหรือปลอดติดเชื้อขึ้นมาปุ๊บเนี่ย

00:28:1900:28:21 ร่างกายก็จะมีการกระตุ้นขึ้นมาที่ทำให้

00:28:2100:28:24 เกิดน้ำหรือเกิดหนองบริเวณเยื่อหุ้มปอด

00:28:2400:28:26 เกิดขึ้นหรือหรือในบางรายเนี่ยอาจจะเป็น

00:28:2600:28:29 น้ำในตัวเนื้อปอดเก็ตามซึ่งเป็นฝีพอมัน

00:28:2900:28:31 ปล่อยทิ้งไว้คั่งไปเรื่อยๆคั่งไปเรื่อยๆ

00:28:3100:28:34 เนี่ยพวกนี้คนไข้ก็จะมีน้ำเกิดขึ้นแล้ว

00:28:3400:28:36 มันก็จะเหมือนกับเหมือนกับเวลาเราน้ำ

00:28:3600:28:39 เนี่ยที่มันฝังเนี่ยอยู่ในตรงพื้นหรือตรง

00:28:3900:28:41 อะไรพวกเนี้ยมันก็เริ่มทำการเป็นไงมันก็

00:28:4100:28:43 จะเริ่มเน่าขึ้นมาพวกนี้มันก็จะจากน้ำ

00:28:4300:28:46 อักเสบธรรมดาใสๆก็จะเริ่มกลายเป็นหนองอ

00:28:4600:28:48 ฉะนั้นผู้ป่วยเนี่ยก็จะเข้ามาปรึกษาเรา

00:28:4800:28:51 ด้วยอาการที่มาด้วยไข้ไอเหนื่อยแลเสร็จ

00:28:5200:28:54 แล้วแล้วเราจะรู้ยังไงว่าผู้ป่วยเเรา

00:28:5400:28:56 สงสัยว่าเป็นหนองหรือเป็นอะไรก็ตามเนี่ย

00:28:5600:28:58 ข้อที่ 1 นอกจากอาการที่เกิดขึ้นเนี่ยคนข

00:28:5800:29:01 อาจจะเริ่มมีอาการไอไอออกมาเป็นสหะเป็น

00:29:0100:29:04 หนองและไข้เนี่ยไข้ที่มันสูงเนี่ยมันจะ

00:29:0400:29:07 ไม่ใช่ไข้สูงธรรมดานะครับมันจะเป็นไข้สูง

00:29:0700:29:09 เป็นแบบฟันปลาเลยคำว่าฟันปลาหมายความว่า

00:29:0900:29:13 ไข้สูง 38 39 นะครับมีอาการหนาวสั่นร่วม

00:29:1300:29:16 ด้วยแล้วก็กินยาก็ไม่ลดพวกนี้เนี่ยโอ้โห

00:29:1600:29:19 ไข้สูงปี๊ดเลยกินยาเท่าไหร่ก็ไม่หายทุก

00:29:1900:29:21 อย่างเท่าไหร่ก็ไม่หายพวกนี้เนี่ยมี

00:29:2100:29:25 อันตรายถึงแก่ชีวิตได้

00:29:2500:29:30 เลย This Is Toy PBS

00:29:3000:29:33 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ

00:29:3300:29:36 Application ของ Thai PBS podcast

00:29:3600:29:39 spotify soundcloud Google podcast

00:29:3900:29:42 Apple podcast และ YouTube Channel

00:29:4200:29:46 Thai PBS podcast tha PBS podcast

00:29:4600:29:48 View the world via The Voice

00:29:4800:29:54 [เพลง]