00:00:00 → 00:00:11 [เพลง]
00:00:11 → 00:00:15 ตอนนี้คุณกำลังกินของสุกๆดิบๆอยู่หรือไม่
00:00:15 → 00:00:19 ถ้าใช่ระวังไว้เพราะอาจมีความเสี่ยงที่จะ
00:00:19 → 00:00:23 เป็นมะเร็งท่อน้ำดีมะเร็งท่อน้ำดีคือ
00:00:23 → 00:00:26 เนื้อร้ายที่เกิดขึ้นบริเวณท่อน้ำดี
00:00:26 → 00:00:29 ตำแหน่งใดก็ได้ตั้งแต่ท่อน้ำดีในตับ
00:00:29 → 00:00:33 ท่อน้ำดีขั้วตับตลอดจนท่อน้ำดีนอกตับซึ่ง
00:00:33 → 00:00:37 เป็นโรคมะเร็งที่พบได้มากในประเทศไทยและ
00:00:37 → 00:00:39 เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตด้วยมะเร็งเป็น
00:00:39 → 00:00:43 อันดับต้นๆของประเทศอีกด้วยมะเร็งท่อน้ำ
00:00:43 → 00:00:46 ดีเกิดจากการอักเสบเรื้อรังทำให้เซลล์ท่อ
00:00:46 → 00:00:49 น้ำดีกลายเป็นมะเร็งโดยมีปัจจัยเสี่ยง
00:00:49 → 00:00:53 สำคัญดังนี้การติดเชื้อพยาธใบไม้ในตับ
00:00:53 → 00:00:55 เกิดจากการรับประทานอาหารสุกๆดิบๆโดย
00:00:55 → 00:01:00 เฉพาะปลาน้ำจืดมีเกล็ดเช่นก้อยปลาดิบหรือ
00:01:00 → 00:01:04 ปลาร้าที่ไม่ผ่านการปรุงสุกภาวะนิ่วของ
00:01:04 → 00:01:06 ท่อน้ำดีในตับเป็นปัจจัยเสี่ยงที่พบได้
00:01:06 → 00:01:09 บ่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชากรในทวีป
00:01:09 → 00:01:14 เอเชียความผิดปกติแต่กำเนิดได้แก่ท่อน้ำ
00:01:14 → 00:01:18 ดีโป่งพองคล้ายถุงน้ำและภาวะรอยต่อ
00:01:18 → 00:01:22 ระหว่างท่อน้ำดีและท่อตับอ่อนผิดปกติทำ
00:01:22 → 00:01:25 ให้ท่อน้ำดีได้รับการระคายเคืองจากน้ำ
00:01:25 → 00:01:28 ย่อยตับอ่อนทำให้มีความเสี่ยงของมะเร็ง
00:01:28 → 00:01:31 ท่อน้ำดีภาวะท่อน้ำดีอักเสบเรื้อรัง
00:01:31 → 00:01:35 ปฐมภูมิที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดการ
00:01:35 → 00:01:38 อักเสบเรื้อรังของท่อน้ำดีเพิ่มความ
00:01:38 → 00:01:42 เสี่ยงของมะเร็งนอกจากนี้มะเร็งท่อน้ำดี
00:01:42 → 00:01:45 อาจเกิดได้ในผู้ป่วยลำไส้อักเสบเรื้อรัง
00:01:45 → 00:01:49 ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B หรือสีเรื้อรัง
00:01:49 → 00:01:53 ตับแข็งภาวะอ้วนเบาหวานบริโภคเครื่องดื่ม
00:01:53 → 00:01:56 แอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ซึ่งอาการของมะเร็ง
00:01:56 → 00:01:57 ช่อน้ำ
00:01:57 → 00:02:01 มักไม่แสดงอาการในระยะแรกแต่เมื่อโรคลุก
00:02:01 → 00:02:04 ลามมากขึ้นอาการก็จะปรากฏให้เห็นได้ดัง
00:02:04 → 00:02:08 ต่อไปนี้ตัวเหลืองตาเหลืองซึ่งเกิดจากการ
00:02:08 → 00:02:12 อุดตันของท่อน้ำดีปัสสาวะสีเข้มอุจจาระสี
00:02:12 → 00:02:16 ซีดลงคันบริเวณผิวหนังตามร่างกายมีอาการ
00:02:16 → 00:02:20 ปวดท้องเรื้อรังบริเวณใต้ชายโค้งขวาหรือ
00:02:20 → 00:02:25 ลิ้นปี่อ่อนเพียหรือมีไข้เบื่ออาหารและ
00:02:25 → 00:02:28 น้ำหนักลดส่งการป้องกันการเกิดมะเร็งท่อ
00:02:28 → 00:02:32 น้ำดีเบื้องต้นสามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยง
00:02:32 → 00:02:35 อาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุกเช่นปลาน้ำจืด
00:02:35 → 00:02:40 ดิบงดสูบบุหรี่แอลกอฮอล์ออกกำลังกายและ
00:02:40 → 00:02:43 บริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
00:02:43 → 00:02:45 เพื่อควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงเบา
00:02:45 → 00:02:48 หวานส่วนวิธีการรักษาหลักของมะเร็งท่อน้ำ
00:02:48 → 00:02:52 ดีในระยะแรกนั้นสามารถรักษาได้โดยการผ่า
00:02:52 → 00:02:55 ตัดแต่หากโรคลุกลามเกินกว่าที่จะผ่าตัด
00:02:55 → 00:02:59 ให้หายขาดได้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจพิจารณา
00:02:59 → 00:03:03 ใช้เคมีบำบัดหรือรังสีรักษาเป็นลำดับถัด
00:03:03 → 00:03:07 ไปเพราะฉะนั้นแนะนำว่าควรเลือกรับประทาน
00:03:07 → 00:03:11 อาหารที่ปรุงสุกสะอาดเพื่อเป็นการป้องกัน
00:03:11 → 00:03:14 ความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งช่อน้ำดีที่
00:03:14 → 00:03:18 สำคัญควรรีบพบแพทย์หากมีอาการเพื่อป้อง
00:03:18 → 00:03:23 กันการลุกล้ำนั่นเองครับ
00:03:23 → 00:03:29 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:11 [เพลง]
00:00:11 → 00:00:15 ตอนนี้คุณกำลังกินของสุกๆดิบๆอยู่หรือไม่
00:00:15 → 00:00:19 ถ้าใช่ระวังไว้เพราะอาจมีความเสี่ยงที่จะ
00:00:19 → 00:00:23 เป็นมะเร็งท่อน้ำดีมะเร็งท่อน้ำดีคือ
00:00:23 → 00:00:26 เนื้อร้ายที่เกิดขึ้นบริเวณท่อน้ำดี
00:00:26 → 00:00:29 ตำแหน่งใดก็ได้ตั้งแต่ท่อน้ำดีในตับ
00:00:29 → 00:00:33 ท่อน้ำดีขั้วตับตลอดจนท่อน้ำดีนอกตับซึ่ง
00:00:33 → 00:00:37 เป็นโรคมะเร็งที่พบได้มากในประเทศไทยและ
00:00:37 → 00:00:39 เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตด้วยมะเร็งเป็น
00:00:39 → 00:00:43 อันดับต้นๆของประเทศอีกด้วยมะเร็งท่อน้ำ
00:00:43 → 00:00:46 ดีเกิดจากการอักเสบเรื้อรังทำให้เซลล์ท่อ
00:00:46 → 00:00:49 น้ำดีกลายเป็นมะเร็งโดยมีปัจจัยเสี่ยง
00:00:49 → 00:00:53 สำคัญดังนี้การติดเชื้อพยาธใบไม้ในตับ
00:00:53 → 00:00:55 เกิดจากการรับประทานอาหารสุกๆดิบๆโดย
00:00:55 → 00:01:00 เฉพาะปลาน้ำจืดมีเกล็ดเช่นก้อยปลาดิบหรือ
00:01:00 → 00:01:04 ปลาร้าที่ไม่ผ่านการปรุงสุกภาวะนิ่วของ
00:01:04 → 00:01:06 ท่อน้ำดีในตับเป็นปัจจัยเสี่ยงที่พบได้
00:01:06 → 00:01:09 บ่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชากรในทวีป
00:01:09 → 00:01:14 เอเชียความผิดปกติแต่กำเนิดได้แก่ท่อน้ำ
00:01:14 → 00:01:18 ดีโป่งพองคล้ายถุงน้ำและภาวะรอยต่อ
00:01:18 → 00:01:22 ระหว่างท่อน้ำดีและท่อตับอ่อนผิดปกติทำ
00:01:22 → 00:01:25 ให้ท่อน้ำดีได้รับการระคายเคืองจากน้ำ
00:01:25 → 00:01:28 ย่อยตับอ่อนทำให้มีความเสี่ยงของมะเร็ง
00:01:28 → 00:01:31 ท่อน้ำดีภาวะท่อน้ำดีอักเสบเรื้อรัง
00:01:31 → 00:01:35 ปฐมภูมิที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดการ
00:01:35 → 00:01:38 อักเสบเรื้อรังของท่อน้ำดีเพิ่มความ
00:01:38 → 00:01:42 เสี่ยงของมะเร็งนอกจากนี้มะเร็งท่อน้ำดี
00:01:42 → 00:01:45 อาจเกิดได้ในผู้ป่วยลำไส้อักเสบเรื้อรัง
00:01:45 → 00:01:49 ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B หรือสีเรื้อรัง
00:01:49 → 00:01:53 ตับแข็งภาวะอ้วนเบาหวานบริโภคเครื่องดื่ม
00:01:53 → 00:01:56 แอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ซึ่งอาการของมะเร็ง
00:01:56 → 00:01:57 ช่อน้ำ
00:01:57 → 00:02:01 มักไม่แสดงอาการในระยะแรกแต่เมื่อโรคลุก
00:02:01 → 00:02:04 ลามมากขึ้นอาการก็จะปรากฏให้เห็นได้ดัง
00:02:04 → 00:02:08 ต่อไปนี้ตัวเหลืองตาเหลืองซึ่งเกิดจากการ
00:02:08 → 00:02:12 อุดตันของท่อน้ำดีปัสสาวะสีเข้มอุจจาระสี
00:02:12 → 00:02:16 ซีดลงคันบริเวณผิวหนังตามร่างกายมีอาการ
00:02:16 → 00:02:20 ปวดท้องเรื้อรังบริเวณใต้ชายโค้งขวาหรือ
00:02:20 → 00:02:25 ลิ้นปี่อ่อนเพียหรือมีไข้เบื่ออาหารและ
00:02:25 → 00:02:28 น้ำหนักลดส่งการป้องกันการเกิดมะเร็งท่อ
00:02:28 → 00:02:32 น้ำดีเบื้องต้นสามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยง
00:02:32 → 00:02:35 อาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุกเช่นปลาน้ำจืด
00:02:35 → 00:02:40 ดิบงดสูบบุหรี่แอลกอฮอล์ออกกำลังกายและ
00:02:40 → 00:02:43 บริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
00:02:43 → 00:02:45 เพื่อควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงเบา
00:02:45 → 00:02:48 หวานส่วนวิธีการรักษาหลักของมะเร็งท่อน้ำ
00:02:48 → 00:02:52 ดีในระยะแรกนั้นสามารถรักษาได้โดยการผ่า
00:02:52 → 00:02:55 ตัดแต่หากโรคลุกลามเกินกว่าที่จะผ่าตัด
00:02:55 → 00:02:59 ให้หายขาดได้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจพิจารณา
00:02:59 → 00:03:03 ใช้เคมีบำบัดหรือรังสีรักษาเป็นลำดับถัด
00:03:03 → 00:03:07 ไปเพราะฉะนั้นแนะนำว่าควรเลือกรับประทาน
00:03:07 → 00:03:11 อาหารที่ปรุงสุกสะอาดเพื่อเป็นการป้องกัน
00:03:11 → 00:03:14 ความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งช่อน้ำดีที่
00:03:14 → 00:03:18 สำคัญควรรีบพบแพทย์หากมีอาการเพื่อป้อง
00:03:18 → 00:03:23 กันการลุกล้ำนั่นเองครับ
00:03:23 → 00:03:29 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:11 [เพลง]
00:00:11 → 00:00:15 ตอนนี้คุณกำลังกินของสุกๆดิบๆอยู่หรือไม่
00:00:15 → 00:00:19 ถ้าใช่ระวังไว้เพราะอาจมีความเสี่ยงที่จะ
00:00:19 → 00:00:23 เป็นมะเร็งท่อน้ำดีมะเร็งท่อน้ำดีคือ
00:00:23 → 00:00:26 เนื้อร้ายที่เกิดขึ้นบริเวณท่อน้ำดี
00:00:26 → 00:00:29 ตำแหน่งใดก็ได้ตั้งแต่ท่อน้ำดีในตับ
00:00:29 → 00:00:33 ท่อน้ำดีขั้วตับตลอดจนท่อน้ำดีนอกตับซึ่ง
00:00:33 → 00:00:37 เป็นโรคมะเร็งที่พบได้มากในประเทศไทยและ
00:00:37 → 00:00:39 เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตด้วยมะเร็งเป็น
00:00:39 → 00:00:43 อันดับต้นๆของประเทศอีกด้วยมะเร็งท่อน้ำ
00:00:43 → 00:00:46 ดีเกิดจากการอักเสบเรื้อรังทำให้เซลล์ท่อ
00:00:46 → 00:00:49 น้ำดีกลายเป็นมะเร็งโดยมีปัจจัยเสี่ยง
00:00:49 → 00:00:53 สำคัญดังนี้การติดเชื้อพยาธใบไม้ในตับ
00:00:53 → 00:00:55 เกิดจากการรับประทานอาหารสุกๆดิบๆโดย
00:00:55 → 00:01:00 เฉพาะปลาน้ำจืดมีเกล็ดเช่นก้อยปลาดิบหรือ
00:01:00 → 00:01:04 ปลาร้าที่ไม่ผ่านการปรุงสุกภาวะนิ่วของ
00:01:04 → 00:01:06 ท่อน้ำดีในตับเป็นปัจจัยเสี่ยงที่พบได้
00:01:06 → 00:01:09 บ่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชากรในทวีป
00:01:09 → 00:01:14 เอเชียความผิดปกติแต่กำเนิดได้แก่ท่อน้ำ
00:01:14 → 00:01:18 ดีโป่งพองคล้ายถุงน้ำและภาวะรอยต่อ
00:01:18 → 00:01:22 ระหว่างท่อน้ำดีและท่อตับอ่อนผิดปกติทำ
00:01:22 → 00:01:25 ให้ท่อน้ำดีได้รับการระคายเคืองจากน้ำ
00:01:25 → 00:01:28 ย่อยตับอ่อนทำให้มีความเสี่ยงของมะเร็ง
00:01:28 → 00:01:31 ท่อน้ำดีภาวะท่อน้ำดีอักเสบเรื้อรัง
00:01:31 → 00:01:35 ปฐมภูมิที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดการ
00:01:35 → 00:01:38 อักเสบเรื้อรังของท่อน้ำดีเพิ่มความ
00:01:38 → 00:01:42 เสี่ยงของมะเร็งนอกจากนี้มะเร็งท่อน้ำดี
00:01:42 → 00:01:45 อาจเกิดได้ในผู้ป่วยลำไส้อักเสบเรื้อรัง
00:01:45 → 00:01:49 ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B หรือสีเรื้อรัง
00:01:49 → 00:01:53 ตับแข็งภาวะอ้วนเบาหวานบริโภคเครื่องดื่ม
00:01:53 → 00:01:56 แอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ซึ่งอาการของมะเร็ง
00:01:56 → 00:01:57 ช่อน้ำ
00:01:57 → 00:02:01 มักไม่แสดงอาการในระยะแรกแต่เมื่อโรคลุก
00:02:01 → 00:02:04 ลามมากขึ้นอาการก็จะปรากฏให้เห็นได้ดัง
00:02:04 → 00:02:08 ต่อไปนี้ตัวเหลืองตาเหลืองซึ่งเกิดจากการ
00:02:08 → 00:02:12 อุดตันของท่อน้ำดีปัสสาวะสีเข้มอุจจาระสี
00:02:12 → 00:02:16 ซีดลงคันบริเวณผิวหนังตามร่างกายมีอาการ
00:02:16 → 00:02:20 ปวดท้องเรื้อรังบริเวณใต้ชายโค้งขวาหรือ
00:02:20 → 00:02:25 ลิ้นปี่อ่อนเพียหรือมีไข้เบื่ออาหารและ
00:02:25 → 00:02:28 น้ำหนักลดส่งการป้องกันการเกิดมะเร็งท่อ
00:02:28 → 00:02:32 น้ำดีเบื้องต้นสามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยง
00:02:32 → 00:02:35 อาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุกเช่นปลาน้ำจืด
00:02:35 → 00:02:40 ดิบงดสูบบุหรี่แอลกอฮอล์ออกกำลังกายและ
00:02:40 → 00:02:43 บริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
00:02:43 → 00:02:45 เพื่อควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงเบา
00:02:45 → 00:02:48 หวานส่วนวิธีการรักษาหลักของมะเร็งท่อน้ำ
00:02:48 → 00:02:52 ดีในระยะแรกนั้นสามารถรักษาได้โดยการผ่า
00:02:52 → 00:02:55 ตัดแต่หากโรคลุกลามเกินกว่าที่จะผ่าตัด
00:02:55 → 00:02:59 ให้หายขาดได้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจพิจารณา
00:02:59 → 00:03:03 ใช้เคมีบำบัดหรือรังสีรักษาเป็นลำดับถัด
00:03:03 → 00:03:07 ไปเพราะฉะนั้นแนะนำว่าควรเลือกรับประทาน
00:03:07 → 00:03:11 อาหารที่ปรุงสุกสะอาดเพื่อเป็นการป้องกัน
00:03:11 → 00:03:14 ความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งช่อน้ำดีที่
00:03:14 → 00:03:18 สำคัญควรรีบพบแพทย์หากมีอาการเพื่อป้อง
00:03:18 → 00:03:23 กันการลุกล้ำนั่นเองครับ
00:03:23 → 00:03:29 [เพลง]