00:00:00 → 00:00:03 ลดน้ำหนักเท่านี้เรียกว่าเราหรือยังโรค
00:00:03 → 00:00:07 อ้วนคืออะไรแบบไหนถึงเรียกว่าอ้วนแล้วถ้า
00:00:07 → 00:00:10 เราอ้วนมันจะไปหนักหัวใครคลิปนี้มีคำตอบ
00:00:10 → 00:00:11 ค่ะ
00:00:11 → 00:00:16 [เพลง]
00:00:16 → 00:00:20 ก็จะมาคุยกันนะคะอย่าลืมกด like กด Share
00:00:20 → 00:00:22 กด Subscribe และอย่าลืมกดกระดิ่ง
00:00:22 → 00:00:24 คุ้กกิ้งเอาไว้จะได้ไม่พลาดเรื่องราวดีๆ
00:00:24 → 00:00:29 จากหมอนะคะ
00:00:29 → 00:00:33 โรคอ้วนคืออะไรคำว่าอ้วนเนี่ยไม่ใช่แค่
00:00:33 → 00:00:35 ตัวเลขบนตาสร้างเท่านั้นนะคะแต่โรคอ้วน
00:00:35 → 00:00:39 หมายความถึงภาวะที่มีไขมันสะสมตามที่ต่าง
00:00:39 → 00:00:42 ๆของร่างกายจนเกิดผลกระทบต่อสุขภาพตามมา
00:00:42 → 00:00:45 นั่นเองค่ะซึ่งนั่นก็แปลว่าคุณอาจไม่
00:00:45 → 00:00:48 จำเป็นต้องรอให้ตัวเลขน้ำหนักเยอะกว่าคน
00:00:48 → 00:00:51 อื่นมากๆคุณก็อาจจะได้รับการติดยศว่าอ้วน
00:00:51 → 00:00:55 ไปแล้วก็ได้ค่ะทีนี้เราจะรู้ได้ยังไงว่า
00:00:55 → 00:00:58 แบบไหนถึงเรียกว่าอ้วน 60 กิโลกรัม 70
00:00:58 → 00:01:01 กิโลกรัม 80 กิโลกรัมคุณรู้หรือไม่ว่าตัว
00:01:01 → 00:01:03 เลขบนเครื่องชั่งนั้นไม่เพียงพอที่จะบอก
00:01:03 → 00:01:06 ว่าเราอ้วนหรือไม่อ้วนเพราะว่าคนบางคนนะ
00:01:07 → 00:01:09 คะน้ำหนัก 90 กิโลก็จริงแต่ว่ากล้ามเนื้อ
00:01:09 → 00:01:12 ใหญ่เป็นมัดๆเลยค่ะแบบนี้จะได้เพราะอ้วน
00:01:12 → 00:01:15 หรือเปล่าในขณะที่คนบางคนน้ำหนักแค่ 60
00:01:15 → 00:01:18 กิโลเท่านั้นแต่กลับไว้พุงชนพุงป่องแบบ
00:01:18 → 00:01:22 นี้ล่ะนึกว่าอ้วนหรือเปล่าดังนั้นนะคะการ
00:01:22 → 00:01:24 จะบอกว่าใครว่าหรือไม่อ้วนจำเป็นต้องใช้
00:01:24 → 00:01:27 หลายๆวิธีในการบอกว่าคนนั้นมีภาวะอ้วน
00:01:27 → 00:01:30 หรือเปล่าซึ่งแต่ละคนก็จะเหมาะกับวิธีที่
00:01:30 → 00:01:34 แตกต่างกันไปค่ะวิธีแรกนะคะเราจะคิด BMI
00:01:34 → 00:01:38 Body Mass Index หรือค่าดัชนีมวลกาย
00:01:38 → 00:01:41 ที่เราคุ้นเคยกันดีนั่นเองค่ะโดยเราจะใช้
00:01:41 → 00:01:44 น้ำหนักส่วนด้วยส่วนสูงของเราตามสูตรนี้
00:01:44 → 00:01:47 นะคะโดยเราจะใช้น้ำหนักหน่วยเป็นกิโลกรัม
00:01:47 → 00:01:51 หารด้วยส่วนสูงในหน่วยของเมตรยกกำลัง 2
00:01:51 → 00:01:54 นั่นเองค่ะเมื่อเราคำนวณมาได้แล้วนะคะเรา
00:01:54 → 00:01:57 จะเอาค่า BMI ที่เราได้ไปเทียบกับตาราง
00:01:57 → 00:02:00 นี้ค่ะโดยค่าเบียร์มาปกติจะอยู่ระหว่าง
00:02:00 → 00:02:05 18.5 จนถึงไม่เกิน 23 ค่ะถ้าต่ำกว่า 18.5
00:02:05 → 00:02:09 จะถือว่าพร้อมจนเกินไปแต่ถ้าเกิน 23 ขึ้น
00:02:09 → 00:02:12 ไปจะเรียกว่ามีน้ำหนักเกินและถ้าใครเกิน
00:02:12 → 00:02:16 25 ขึ้นไปจะเรียกว่ามีภาวะอ้วนนั่นเอง
00:02:16 → 00:02:17 ค่ะ
00:02:17 → 00:02:20 หมอมีตัวอย่างการคำนวณ BMI มาให้ดูกันค่ะ
00:02:20 → 00:02:24 ไปดูที่คนแรกนะคะลุงป้อมค่ะอาชีพพนักงาน
00:02:24 → 00:02:27 บริษัทเป็นคนที่ไม่ค่อยจะออกกำลังกายสัก
00:02:27 → 00:02:29 เท่าไหร่โดนๆไปก็เหมือนกันล้มจะล้มอยู่
00:02:29 → 00:02:32 ตลอดเวลาเลย 1 ป้อมมีน้ำหนัก 85 กิโลกรัม
00:02:32 → 00:02:37 ส่วนสูง 175 เซนติเมตรหรือเท่ากับ 1.75
00:02:37 → 00:02:41 เมตรลุงป้อมจะมี BMI นะคะวิธีคิดใช้ 85
00:02:41 → 00:02:45 อาหารด้วย 1.75 ยกกำลัง 2 หมอคิดให้แล้ว
00:02:45 → 00:02:49 ค่ะเท่ากับ 27 จุดเจ็ดหกเมื่อนำค่านี้มา
00:02:49 → 00:02:53 เทียบในตารางนะคะจะพบว่าลุงป้อมมีภาวะ
00:02:53 → 00:02:57 อ้วนระดับหนึ่งค่ะที่นี่มาดูตัวอย่างนึง
00:02:57 → 00:03:00 นะคะตัวอย่างที่สองที่โต๊ะแล้วกันค่ะถ้า
00:03:00 → 00:03:03 พี่โตนะคะเป็นนักกีฬายกน้ำหนักเพาะกาย
00:03:03 → 00:03:06 แข็งแรงพิมพ์ไหวนะคะน้ำหนัก 100 กิโลกรัม
00:03:06 → 00:03:11 ค่ะส่วนสูง 180 cm นะคะหรือเท่ากับ 1.8
00:03:11 → 00:03:15 เมตรที่โตจะมี BMI เท่ากับ 100 หารด้วย
00:03:15 → 00:03:18 1.8 ยกกำลัง 2 คิดออกมาแล้วนะคะจะได้
00:03:18 → 00:03:22 เท่ากับ 30.8 6 นั่นเองเมื่อนำค่านี้มา
00:03:22 → 00:03:26 เทียบในตารางจะพบว่าพี่โตจะมีภาวะอ้วน
00:03:26 → 00:03:31 ระดับ 2 หือจริงหรอพี่ตัวอ้วนกว่าหนูป้อม
00:03:31 → 00:03:34 จริงหรอดังนั้นนะคะการใช้ bi เนอะจึงมี
00:03:34 → 00:03:37 ข้อจำกัดอยู่ค่ะก็คือจะไม่เหมาะกับการใช้
00:03:37 → 00:03:41 ในกลุ่มของนักกีฬาและนะพ่อกายที่มีกล้าม
00:03:41 → 00:03:43 เนื้อเยอะหรือมีมวลกระดูกเยอะนั่นเองค่ะ
00:03:43 → 00:03:47 ดังนั้นนะคะการจะใช้ค่า BMI ในการประเมิน
00:03:47 → 00:03:51 ภาวะอ้วนลงพุงจึงควรใช้ควบคู่กับเส้นรอบ
00:03:51 → 00:03:52 เอวเสมอค่ะ
00:03:52 → 00:03:56 สำหรับวิธีที่ 2 นะคะคือการวัดเพื่อนรอบ
00:03:56 → 00:03:59 เอวค่ะโดยเรามีวิธีในการรู้ว่าเรามีภาวะ
00:03:59 → 00:04:02 อ้วนดีหรือเปล่าอย่างง่ายๆนะคะโดยการโดย
00:04:02 → 00:04:05 จากเส้นรอบเอวของเราค่ะโดยเส้นเป็นของเรา
00:04:05 → 00:04:09 ไม่ควรจะมีขนาดเกิน 00 ของเราหารด้วยสอง
00:04:09 → 00:04:13 ยกตัวอย่างนะคะเช่นสูง 160 เซนติเมตรก็
00:04:13 → 00:04:17 ไม่ควรจะมีรอบเอวที่ยาวเกิน 160 หารด้วย 2
00:04:17 → 00:04:20 หรือไม่ควรมีรอบเอวเกิน 80 เซนติเมตรนั่น
00:04:20 → 00:04:23 เองค่ะโดยวิธีวัดรอบเอวที่ถูกต้องนะคะจะ
00:04:23 → 00:04:27 วาดในท่ายืนนะคะปล่อยตัวตามสบายวัดผ่าน
00:04:27 → 00:04:31 สะดื่อนะคะโดยที่ใส่วัดเนี่ยจะต้องแนบกับ
00:04:31 → 00:04:34 ผิวหนังของเราไม่บิดหรือพับและไม่รัดแน่น
00:04:34 → 00:04:37 จนเกินไปนะคะแล้วก็อ่านค่าในด้านของ
00:04:37 → 00:04:41 เซนติเมตรและนำมาคำนวณค่ะสำหรับวิธีต่อไป
00:04:41 → 00:04:44 นะคะวิธีที่ 3 เป็นการวัดอัตราส่วน
00:04:44 → 00:04:47 ระหว่างรอบเร็วต่อรอบสะโพกหรือที่จะรู้
00:04:47 → 00:04:51 จักกันในชื่อของเวสเรโชนั่นเองค่ะหลายๆคน
00:04:51 → 00:04:54 อาจจะพอเกิดได้ยินมาบ้างเรื่องของรูปร่าง
00:04:54 → 00:04:57 ทรงแอปเปิ้ล Chef กับรูปร่างทรงแพ้ Chef
00:04:57 → 00:05:00 ซึ่งค่านี้สามารถบอกได้ค่ะว่าเราจะอยู่ใน
00:05:00 → 00:05:03 ไปไหนเลยค่านี้นะคะสามารถคำนวณได้ง่ายเลย
00:05:03 → 00:05:06 โดยการเอาความยาวรอบเอวของเราหารด้วยความ
00:05:07 → 00:05:10 ยาวรอบทรัพย์ของเราโดยขอแค่เป็นหน่วย
00:05:10 → 00:05:12 เดียวกันค่ะจะเดินเซนติเมตรหรือจะเป็น
00:05:12 → 00:05:15 นิ้วก็ได้โดยในผู้ชายนะคะไม่ควรจะมีค่า
00:05:15 → 00:05:18 เกิน 0.9 และในผู้หญิงไม่ควรจะมีค่าเกิน
00:05:18 → 00:05:22 0.85 ค่ะเมื่อเราได้ค่ามาแล้วนะคะคนไหน
00:05:23 → 00:05:26 ที่ได้เข้าเอวซิปเรโชสูงๆก็จะยิ่งมีรูป
00:05:26 → 00:05:28 ร่างใกล้เคียงกับแอปเปิ้ลเชฟมากขึ้นเท่า
00:05:28 → 00:05:31 นั้นค่ะก็คือมีรอบเร็วมากเมื่อเทียบกับ
00:05:31 → 00:05:34 รอบสะโพกซึ่งคนกลุ่มนี้นะคะจะมีความ
00:05:34 → 00:05:37 เสี่ยงต่อโรคต่างๆมากกว่าคนที่อยู่ใน
00:05:37 → 00:05:40 กลุ่มแพ้เชฟหรือกลุ่มที่มีค่าเว็บคลิป
00:05:40 → 00:05:42 ratio ต่ำนั่นเองค่ะ
00:05:42 → 00:05:45 ถ้าเราจะพูดถึงอันตรายและความเสี่ยงจาก
00:05:45 → 00:05:49 โรคอ้วนนะคะและถ้าเราจะถามว่าเวลาเราอ้วน
00:05:49 → 00:05:52 เพื่อไปรษณีย์หนักหัวใครคำตอบแรกเลยนะคะ
00:05:52 → 00:05:55 หนักที่ตัวเราเองนั้นเองค่ะเพราะว่าความ
00:05:55 → 00:05:58 อ้วนนี้จะเป็นบ่อเกิดของการทำลายสุขภาพ
00:05:58 → 00:06:01 ต่างๆตามมาเยอะแยะมากมายมีรูปต่างๆจะไม่
00:06:01 → 00:06:04 ค่อยมาทยอยรุมเร้าเราเรื่อยๆยกตัวอย่างนะ
00:06:04 → 00:06:06 คะอันดับแรกที่อาจจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว
00:06:06 → 00:06:11 ข้อเสื่อมค่ะปวดข้อปวดเข่าปวดหลังรักษา
00:06:11 → 00:06:14 กี่หมอก็ไม่หายสักทีบางคนนะคะก็จะรู้สึก
00:06:14 → 00:06:19 แน่นๆหายใจไม่สะดวกมีปัญหานอนกรนในคนที่
00:06:19 → 00:06:22 เป็นหนักๆอาจจะมีการหยุดหายใจขณะหลับทำ
00:06:22 → 00:06:26 ให้นอนหลับไม่เต็มอิ่มตื่นมาไม่สดใสรวม
00:06:26 → 00:06:29 ถึงอาจจะเสี่ยงต่อโรคสามกษัตริย์ยอดฮิต
00:06:29 → 00:06:32 ค่ะโรคเบาหวานความดันไขมันในคนที่เป็น
00:06:32 → 00:06:35 หนักๆนะอาจจะเป็นโรคเปิดไฟและเอามาพฤกษ์
00:06:35 → 00:06:38 อัมพาตตามมาเลยก็ได้เสี่ยงไขมันพอกตับค่ะ
00:06:38 → 00:06:41 คุณอาจจะมีภาวะตับแข็งได้แม้ว่าคุณจะไม่
00:06:41 → 00:06:44 เคยดื่มอัลกอฮอล์มาตลอดเลยทั้งชีวิตก็ตาม
00:06:44 → 00:06:47 อีกอย่างนะคะเซลล์ไขมันของเราเนี่ยจะ
00:06:47 → 00:06:51 สร้างสารก่อการอักเสบมากมายมาทำให้เกิด
00:06:51 → 00:06:53 การอักเสบตามจุดต่างๆทั่วร่างกายของเรา
00:06:53 → 00:06:56 ปวดข้อปวดหลังกดเองบทเข่าปวดไปหมดทั่ว
00:06:57 → 00:07:01 ร่างกายและเซลล์ไขมันเนี่ยถ้าคุณต้านทาน
00:07:01 → 00:07:03 ของเราเข้ามาทำให้ภูมิต้านทางโดยรวมใน
00:07:03 → 00:07:06 ร่างกายของเราในต่ำลงไม่เหลือเพียงพอที่
00:07:06 → 00:07:09 จะไปต่อสู้กับเชื้อโรคร้ายต่างๆที่สำคัญ
00:07:09 → 00:07:13 นะคะการอ้วนเนี่ยจะทำให้ฮอร์โมนชะลอความ
00:07:13 → 00:07:16 แก่ของเราน้อยลงแก่วัยกับเพื่อนแน่นอนค่ะ
00:07:16 → 00:07:20 โอ้โหแพ็คเกจสุดคุ้มที่สุดเลยค่ะเป็น
00:07:20 → 00:07:24 หนึ่งได้แถมมาอีกเป็นสิบเลยที่นี้คงไม่มี
00:07:24 → 00:07:27 ใครอยากจะมีภาวะวันกันแล้วใช่ไหมคะยังมี
00:07:27 → 00:07:29 ปัญหาอีกหลายอย่างนะคะที่เรายังไม่ได้ลง
00:07:29 → 00:07:32 ลึกกันในวันนี้เวลาจะมาลงเลือกตั้งในคลิป
00:07:32 → 00:07:34 ถัดไปแน่นอนค่ะ
00:07:34 → 00:07:38 ก่อนที่เราจะจากกันในวันนี้นะคะเรามาสรุป
00:07:38 → 00:07:42 กันสักนิดนึงค่ะโรคอ้วนก็คือภาวะที่เรามี
00:07:42 → 00:07:46 ไขมันสะสมมากกว่าปกติส่วนทำลายสุขภาพของ
00:07:46 → 00:07:49 เราโดยเราจะไม่รู้แค่ตัวเลขน้ำหนักอย่าง
00:07:49 → 00:07:52 เดียวนะคะเราจะใช้หลายๆวิธีช่วยในการ
00:07:52 → 00:07:54 ประเมินว่าเรามีภาวะอ้วนลงพุงหรือเปล่า
00:07:54 → 00:07:58 เลยวิธีแรกนะคะเราจะดูจากค่าเบียร์ไมหรือ
00:07:58 → 00:08:01 ค่าดัชนีมวลกายและถ้าเราจะใช้น้ำหนักใน
00:08:01 → 00:08:04 หน่วยเป็นกิโลกรัมหารด้วยส่วนสูงในหน่วย
00:08:04 → 00:08:07 ของเมตรยกกำลัง 2 นะคะค่าปกติจะอยู่
00:08:07 → 00:08:11 ระหว่าง 18.5 จนถึงไม่เคย 23 ถ้าเกิน 25
00:08:11 → 00:08:15 ขึ้นไปจะถือว่าเป็นโรคอ้วนค่ะวิธีที่ 2
00:08:15 → 00:08:18 นะคะเราจะดูจากเส้นรอบเอวหรือเส้นรอบวง
00:08:18 → 00:08:22 ของเราไม่ควรจะเกิน 00 ของเราหารด้วยสอง
00:08:22 → 00:08:25 ค่ะวิธีที่ 3 นะคะเราจะดูจากอัตราส่วน
00:08:25 → 00:08:29 เช่นราเมลต่อรอบสะโพกหรือ vetiver โชว์
00:08:29 → 00:08:33 ค่ะดูราววิธีการคำนวณง่ายนะคะหรือว่าเส้น
00:08:33 → 00:08:36 รอบเอวหาด้วยเส้นรอบสะโพกในหน่วยเดียวกัน
00:08:36 → 00:08:40 ค่ะจะเป็นนิ้วหรือจะเซนติเมตรก็ได้และเรา
00:08:40 → 00:08:43 จะนำมาดูกันค่ะถ้าเป็นผู้ชายเนี่ยไม่ควร
00:08:43 → 00:08:46 จะมีค่าเกิน 0.9 ในผู้หญิงไม่ควรจะมีค่า
00:08:46 → 00:08:49 เกิน 0.85 ค่ะ
00:08:49 → 00:08:53 สำหรับเพื่อนๆคนไหนนะคะถ้ายังคงสงสัยว่า
00:08:53 → 00:08:57 เรามีภาวะว่าหรือเปล่าลองคอมเมนต์ส่วนสูง
00:08:57 → 00:09:00 น้ำหนักรอบเอวรอบสะโพกหรือสระลองคำอยู่
00:09:00 → 00:09:02 ห่างๆทิ้งไว้ในคอมเมนต์ให้เหมาะก็ได้นะคะ
00:09:02 → 00:09:05 เดี๋ยวหมอจะมาทยอยตรวจดูค่ะว่าแต่ละคนคิด
00:09:05 → 00:09:07 ถูกหรือเปล่าและขอ Spoil ไว้ก่อนเลยนะคะ
00:09:07 → 00:09:11 ในที่ศรัทธาไปหมอจะลงเจาะลึกเกี่ยวกับ
00:09:11 → 00:09:13 เรื่องของความอ้วนสาเหตุของความอ้วนปัญหา
00:09:13 → 00:09:17 ของโรคอ้วนและเราจะแก้ไขกันยังไงอย่าลืม
00:09:17 → 00:09:20 กดติดตามกดไลค์กดแชร์กด Subscribe ไว้นะ
00:09:20 → 00:09:23 คะเราจะได้มาเรียนรู้เรื่องนี้ก่อนใครรู้
00:09:23 → 00:09:33 ก่อนสุขภาพดีก่อนแล้วพบกันค่ะอ่ะ
00:09:33 → 00:09:35 ม.ค
00:09:35 → 00:09:49 [เพลง]