00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาเล่าเกี่ยวข้องกับ
00:00:02 → 00:00:06 โรค sle นะครับหรือโรค systemic lupus
00:00:06 → 00:00:10 นะครับเรียกสั้นๆว่าโลกลูบัสหรือว่าโรค
00:00:10 → 00:00:13 พุ่มพวงนั่นเองนะครับมันเป็นโรคที่มีราย
00:00:13 → 00:00:16 ละเอียดเยอะมากนะครับแล้วปกติทางการแพทย์
00:00:16 → 00:00:18 เราเนี่ยใช้เวลาเรียนเป็นเดือนนะครับบาง
00:00:18 → 00:00:21 ทีก็ต้องนานกว่านั้นรวมทั้งแต่ละระบบก็
00:00:21 → 00:00:25 ยังมีการที่ต้องลงเฉพาะเจาะจงลงไปอีกลึก
00:00:25 → 00:00:28 เลยนะครับในแง่ของการรักษานะครับแล้วมัน
00:00:28 → 00:00:30 ก็ไม่เหมือนกันต้องอยู่ในมือของผู้เชี่ยว
00:00:30 → 00:00:32 ชาญดังนั้นวันนี้ผมจะพยายามเล่าให้เท่า
00:00:32 → 00:00:35 ที่ผมจะเล่าได้แล้วกันนะครับแล้วก็แน่นอน
00:00:35 → 00:00:37 ว่ามันอาจจะลงลึกมากไปไม่ได้นะครับไม่
00:00:37 → 00:00:40 ฉะนั้นจะยาวเกินแล้วก็อาจจะมีการตกหล่น
00:00:40 → 00:00:43 บางรายละเอียดไปบ้างก็ต้องขออภัยไว้ณที่
00:00:43 → 00:00:45 นี้นะครับอ่าเดี๋ยวเราไปฟังกันเลยนะครับ
00:00:45 → 00:00:47 พบกับผมนะครับนายแพทย์ธานีธนียวรรณเป็น
00:00:47 → 00:00:49 อาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
00:00:49 → 00:00:51 เชี่ยวชาญโรคปลอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤต
00:00:51 → 00:00:52 บำบัดนะครับ
00:00:52 → 00:00:57 โรคลูปัส sle เนี่ยนะครับมันเป็นโรคที่
00:00:57 → 00:00:59 เกิดขึ้นกับผู้หญิงสักเป็นส่วนใหญ่นะครับ
00:00:59 → 00:01:01 ส่วนใหญ่ก็จะเจอในช่วงประมาณสักวัยรุ่นจน
00:01:01 → 00:01:04 ถึงประมาณอายุ 40 จะเริ่มแสดงอาการแล้วนะ
00:01:04 → 00:01:07 ครับแต่แน่นอนว่าก็มีบางคนที่เป็นตั้งแต่
00:01:07 → 00:01:10 อายุน้อยนะครับตั้งแต่เด็กหรือเป็นในช่วง
00:01:10 → 00:01:14 ที่อายุเยอะแล้วก็ได้นะครับแต่ว่ามันไม่
00:01:14 → 00:01:16 ค่อยเจอในช่วงพวกนั้นนะครับเราก็จะมีราย
00:01:16 → 00:01:18 ละเอียดที่มันแตกต่างกันไปอีกถ้าโรครูปัส
00:01:18 → 00:01:21 เจอในเด็กกับโรคลูบัสเจอในคนอายุเยอะนะ
00:01:21 → 00:01:24 ครับรายละเอียดก็จะแตกต่างกันไปนะครับผู้
00:01:24 → 00:01:26 ชายจะเจอน้อยกว่านะครับส่วนหนึ่งมันมี
00:01:26 → 00:01:28 ความเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนด้วยนะครับ
00:01:28 → 00:01:31 สาเหตุว่าทำไม sle ถึงเกิดขึ้นได้เรา
00:01:31 → 00:01:33 เชื่อว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับระบบ
00:01:33 → 00:01:36 พันธุกรรมนะครับและระบบพันธุกรรมอย่าง
00:01:36 → 00:01:38 เดียวไม่เพียงพอนะครับจะต้องมีปัจจัยทาง
00:01:38 → 00:01:40 ด้านสิ่งแวดล้อมแล้วก็ตัวกระตุ้นนะครับ
00:01:40 → 00:01:44 ที่ทำให้เกิดอาการขึ้นมาได้นะครับยกตัว
00:01:44 → 00:01:47 อย่างเช่นมันจะมียาบางชนิดเนี่ยทำให้เกิด
00:01:48 → 00:01:50 โรค sle ได้นะครับแล้วการที่เราหยุดยาพวก
00:01:50 → 00:01:53 นั้นอาการ sle ของเราอ่ะมันหายได้เลยนะ
00:01:54 → 00:01:56 ครับโรคพวกนี้เราจะเรียกว่า drug intues
00:01:56 → 00:01:59 sle ซึ่งเดี๋ยวจะได้กล่าวคร่าวๆต่อไปนะ
00:01:59 → 00:02:02 ครับว่าเออมันทำไมเป็นได้แล้ววินิจฉัยกัน
00:02:02 → 00:02:05 ได้ยังไงนะครับ sle เนี่ยเนื่องจากว่า
00:02:05 → 00:02:08 เป็นโรคที่ภูมิต้านทานของเราต่อต้านตัว
00:02:08 → 00:02:12 เองนะครับมันจนเกิดอาการได้ทุกระบบเลยนะ
00:02:12 → 00:02:15 ครับผมจะไล่อาการไปเป็นระบบระบบไปนะครับ
00:02:15 → 00:02:18 แล้วก็เวลาที่คุณหมอวินิจฉัยเนี่ยจะต้อง
00:02:18 → 00:02:21 อาศัยการซักประวัติว่าเรามีอาการในระบบ
00:02:21 → 00:02:24 ไหนนะครับแล้วบางระบบมันก็จะต้องตรวจร่าง
00:02:24 → 00:02:28 กายหรือตรวจดูผลเลือดรวมทั้งบางผลเลือด
00:02:28 → 00:02:30 เนี่ยก็มีความจำเพาะกับทางด้าน SME ซึ่ง
00:02:30 → 00:02:33 จะพูดคร่าวๆในวันนี้นะครับ
00:02:33 → 00:02:36 เราเริ่มกันด้วยปัญหาทางด้านผิวหนังก่อน
00:02:36 → 00:02:39 นะครับคนที่เป็น soe พวกนี้เนี่ยครับจะมี
00:02:39 → 00:02:42 ความไวต่อแสงจะมีการแพ้แสงได้ค่อนข้างที่
00:02:42 → 00:02:44 จะง่ายโดยเฉพาะถ้าออกแดดก็ผื่นขึ้นนะครับ
00:02:44 → 00:02:47 ผื่นที่เราเจอบ่อยๆนะครับมักจะเป็นผื่น
00:02:47 → 00:02:49 บริเวณโหนกแก้มตรงหน้าตรงนี้ลักษณะคล้าย
00:02:49 → 00:02:51 ผีเสื้อนะครับมันจะเป็นแดงๆอย่างนี้เป็น
00:02:51 → 00:02:56 ปืนตรงหน้าตรงนี้ผืนพวกนี้เราเลยเรียกมัน
00:02:56 → 00:02:58 ว่า Butterfly rash นะครับก็คือเป็น
00:02:58 → 00:03:01 ลักษณะเหมือนผีเสื้อนั่นเองผืนพวกนี้จะ
00:03:01 → 00:03:03 ขึ้นอยู่ชั่วคราวแล้วมันก็หายไปแต่เดี๋ยว
00:03:03 → 00:03:06 มันก็จะขึ้นอีกนะครับอ่าพื้นลักษณะอื่นๆ
00:03:06 → 00:03:09 ก็มีอีกนะครับเช่นเป็นตุ่มนูนกลมๆนะครับ
00:03:09 → 00:03:11 หรือว่าเป็นผื่นทั่วๆนะครับหรือบางกรณี
00:03:12 → 00:03:15 ถ้าเกิดจากยาเนี่ยจะมีกลุ่มอาการอันหนึ่ง
00:03:15 → 00:03:19 นะครับเรียกว่าเป็นสัตว์ชนิด
00:03:19 → 00:03:21 Q10
00:03:21 → 00:03:26 นะครับพวกนี้ผื่นลักษณะมันจะเป็นกลมๆแล้ว
00:03:26 → 00:03:28 ก็ขอบของผื่นมันจะแดงๆแต่ตรงกลางอ่ะมันจะ
00:03:28 → 00:03:31 เป็นสีที่เหมือนสีผิวของเรานะครับก็คือ
00:03:31 → 00:03:34 เหมือนเรามีเอาเอาวงกลมๆแดงๆอ่ะมาต่อกัน
00:03:34 → 00:03:36 เยอะๆนั่นเองนะครับวังจะเต็มไปหมดแล้ว
00:03:36 → 00:03:38 ส่วนใหญ่จะเป็นพวกตรงหน้าอกตรงหลังตรงคอ
00:03:38 → 00:03:40 ตรงหน้านะครับส่วนบนๆเนี่ยจะเป็นเยอะนะ
00:03:40 → 00:03:44 ครับพวกนี้อ่าส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากยา
00:03:44 → 00:03:46 ซึ่งเดี๋ยวเราจะบอกกันว่ายาอะไรที่มัน
00:03:46 → 00:03:48 เกี่ยวข้องกันบ้างนะครับเราก็การหยุดยา
00:03:48 → 00:03:51 เนี่ยทำให้อันนี้หายได้นะครับอ่านี่คือ
00:03:51 → 00:03:53 คร่าวๆเรื่องของผิวหนังแต่ว่ามันก็มีราย
00:03:53 → 00:03:56 ละเอียดอื่นๆอีกที่อยู่ในโรค SME ที่ทำ
00:03:56 → 00:03:58 ให้เป็นได้นะครับ
00:03:58 → 00:04:02 ต่อมาระบบกล้ามเนื้อและข้อต่อนะครับกล้าม
00:04:02 → 00:04:05 เนื้อหลายๆคนก็จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อได้
00:04:05 → 00:04:08 นะครับแต่ว่าอาจจะไม่ถึงขั้นที่ทำให้เกิด
00:04:08 → 00:04:10 กล้ามเนื้อสลายนะครับยังไม่ได้รุนแรงถึง
00:04:10 → 00:04:13 ขั้นนั้นแต่ในบางคนก็มีเหมือนกันนะแต่
00:04:13 → 00:04:15 ส่วนใหญ่จะแค่ปวดกล้ามเนื้อมากกว่านะครับ
00:04:15 → 00:04:19 เรื่องของข้อต่อนั้นก็อาจจะมีอาการปวดข้อ
00:04:19 → 00:04:22 ได้นะครับปวดข้อส่วนใหญ่เนี่ยมันเป็นได้
00:04:22 → 00:04:24 ทั้งข้อเล็กและข้อใหญ่นะครับเช่นข้อมือนะ
00:04:24 → 00:04:27 ครับข้อตรงนิ้วนะครับข้อศอกอะไรพวกนี้
00:04:27 → 00:04:31 เป็นได้แต่ว่ามันมักจะไม่มีอาการข้อที่
00:04:31 → 00:04:33 มันแบบโดนทำลายจนผิดรูปเหมือนในรูป
00:04:33 → 00:04:35 รูมาตอยด์พวกนั้นนะครับแต่จะมีอาการปวด
00:04:35 → 00:04:38 เจ็บได้นะครับนี่คืออาการของพวกข้อที่เรา
00:04:38 → 00:04:43 เจอในกรณีของโรคลูปัสนะครับอ่ะมิภายนอก
00:04:43 → 00:04:46 เราหายไปละเราดูไปละแล้วภายในล่ะมีอะไร
00:04:46 → 00:04:48 บ้างอันหนึ่งที่เจอก็คือเรื่องของระบบ
00:04:48 → 00:04:51 ประสาทนะครับระบบประสาทเราก็มีตั้งแต่
00:04:51 → 00:04:54 สมองและเส้นประสาทต่างๆนะครับแล้วสมองของ
00:04:54 → 00:04:56 เราเนี่ยมันก็เกี่ยวข้องกับจิตใจด้วยดัง
00:04:56 → 00:04:59 นั้นในคนที่เป็นโรค sle เข้าระบบประสาทนะ
00:04:59 → 00:05:02 ครับมีอาการได้หลากหลายเลยทีเดียวยกตัว
00:05:02 → 00:05:06 อย่างเช่นมีอาการทางจิตเวชนะครับอ่าเกิด
00:05:06 → 00:05:08 หลอนขึ้นมานะครับเอาพวกนี้ก็เจอได้นะครับ
00:05:08 → 00:05:11 แล้วก็เส้นประสาทอักเสบสมองอักเสบชนิด
00:05:11 → 00:05:14 ต่างๆก็เป็นได้นะครับเส้นประสาทอักเสบก็
00:05:14 → 00:05:18 อาจจะมีการที่มือชาแล้วก็มีการควบคุม
00:05:18 → 00:05:21 กล้ามเนื้อต่างๆได้ไม่ค่อยดีมีอาการอ่อน
00:05:21 → 00:05:24 แรงนะครับบางคนถ้าเป็นมากๆเส้นประสาท
00:05:24 → 00:05:26 เหมือนเสียก็จะอ่อนแรงไปเลยนะครับกล้าม
00:05:26 → 00:05:28 เนื้อของเรามันก็จะทำงานไม่ได้เพราะว่า
00:05:28 → 00:05:30 การที่มันจะทำงานได้เนี่ยมันจะต้องอาศัย
00:05:30 → 00:05:33 เส้นประสาทมาสั่งการมันแล้วเส้นประสาทเอา
00:05:33 → 00:05:36 เสียมันก็เลยสั่งงานไม่ได้นะครับบางคนมี
00:05:36 → 00:05:39 เส้นประสาทในกลุ่มที่ควบคุมระบบอัตโนมัติ
00:05:39 → 00:05:42 ของร่างกายมันเสียไปนะครับก็จะมีอาการ
00:05:42 → 00:05:45 ต่างๆเลยนะครับระบบอัตโนมัติของเราเนี่ย
00:05:45 → 00:05:47 ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าอัตโนมัติมันจะ
00:05:47 → 00:05:50 ควบคุมในสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมมันได้
00:05:50 → 00:05:53 ยกตัวอย่างเช่นความดันโลหิตการเต้นของหัว
00:05:53 → 00:05:56 ใจนะครับการเคลื่อนไหวของลำไส้นะพวกนี้
00:05:56 → 00:05:59 เป็นต้นดังนั้นคนพวกนี้บางจะมีเวลาลุกยืน
00:05:59 → 00:06:02 ปุ๊บความดันตกก็หน้ามืดได้นะครับหัวใจมัน
00:06:02 → 00:06:04 เดี๋ยวเต้นช้าหรือเต้นเร็วก็ได้นะครับ
00:06:04 → 00:06:08 ระบบลำไส้ของเราเนี่ยการควบคุมการบีบตัว
00:06:08 → 00:06:10 ก็ขึ้นอยู่กับระบบนี้ดังนั้นถ้าระบบ
00:06:10 → 00:06:13 ประสาทอัตโนมัติมันมีปัญหาไปก็บางคนก็จะ
00:06:13 → 00:06:16 มีท้องผูกบางคนก็มีคลื่นไส้อาเจียนเพราะ
00:06:16 → 00:06:18 ว่ากระเพาะมันไม่บีบตัวแบบนี้เป็นต้นนะ
00:06:18 → 00:06:21 ครับนี่ก็เจอได้ในระบบประสาทอัตโนมัติ
00:06:21 → 00:06:25 ทั้งหมดนะครับหลังจากระบบประสาทก็แน่นอน
00:06:25 → 00:06:27 ว่ามีระบบประสาทอีกอย่างหนึ่งคือเลี้ยง
00:06:27 → 00:06:29 เกี่ยวข้องกับการควบคุมเส้นประสาทที่อยู่
00:06:30 → 00:06:32 ตรงหน้าแล้วก็ตรงสมองเราทั้งหมดนะครับ
00:06:32 → 00:06:34 เส้นประสาทกลุ่มนี้เราจะเรียกมันว่า
00:06:34 → 00:06:36 trainle nerd นะครับซึ่งเป็นเส้นประสาท
00:06:36 → 00:06:39 ที่สำคัญมากๆในการควบคุมอวัยวะต่างๆเลยนะ
00:06:39 → 00:06:42 ครับเช่นควบคุมดวงตาถ้าเส้นประสาทที่ดวง
00:06:42 → 00:06:46 ตาเสียไปตามันก็อาจจะกรอกไปไม่ได้ในทาง
00:06:46 → 00:06:48 ที่มันควรจะไปนะครับการมองเห็นก็อาจจะ
00:06:48 → 00:06:51 เสียไปนะครับการได้กลิ่นก็มีปัญหาได้นะ
00:06:51 → 00:06:55 ครับการได้ยินการทรงตัวอ่าการที่เรากลืน
00:06:55 → 00:06:58 อะไรพวกนี้กลืนไม่ได้นะครับลิ้นก็อาจจะ
00:06:58 → 00:07:01 มีการเบนไปข้างใดข้างหนึ่งนะครับอ่ะพวก
00:07:01 → 00:07:03 เนี้ยก็เกิดขึ้นได้หรือหน้าหน้าตาของเรา
00:07:03 → 00:07:05 เนี่ยก็จะมีความผิดปกติไปก็ได้พวกนี้เป็น
00:07:05 → 00:07:09 ปัญหาที่ระบบประสาทนะครับถัดจากระบบนั้น
00:07:09 → 00:07:13 ไประบบอะไรดีก็เป็นระบบทางเดินอาหารนะ
00:07:13 → 00:07:16 ครับก็ทางเดินหายมีตั้งแต่ปากจนถึงทวาร
00:07:16 → 00:07:18 ของเราเลยนะครับซึ่งพวกเนี้ยจะเกิดการ
00:07:18 → 00:07:21 อักเสบได้ทุกที่นะครับถ้าเป็นในปากเนี่ย
00:07:21 → 00:07:24 มันมักจะมีแผลอยู่ในปากแต่แผลของโรค sle
00:07:24 → 00:08:30 เนี่ยมันจะไม่เจ็บนะครับมักจะไม่เจ็บนะ
00:08:30 → 00:08:33 ทางเดินอาหารไปแล้วต่อมาก็มาเป็นเรื่อง
00:08:33 → 00:08:36 ที่ผมถนัดแล้วนะครับเรื่องปอดนะครับอาการ
00:08:36 → 00:08:39 ทางระบบหายใจของ SME มีอะไรบ้างอันนี้
00:08:39 → 00:08:43 เยอะเลยนะครับบางคนมีอาการเจ็บหน้าอกนะ
00:08:43 → 00:08:46 ครับเจ็บเพราะว่าเจ็บตัวกล้ามเนื้อของรอบ
00:08:46 → 00:08:49 ๆหน้าอกนะครับนั้นสามารถเป็นได้เยื่อหุ้ม
00:08:49 → 00:08:52 ปอดอักเสบนะครับเราจะเรียกมันว่าฟูลไลเทส
00:08:52 → 00:08:54 นะครับเยื่อหุ้มเบาะอักเสบเนี่ยบางคนเวลา
00:08:54 → 00:08:58 หายใจเข้าจะมีอาการเจ็บแปลบเลยเหมือนโดน
00:08:58 → 00:09:00 มีดแทงเลยนะครับตรงบริเวณที่มันเกิดการ
00:09:00 → 00:09:01 อักเสบนะครับบางทีก็อาจจะเป็นข้างซ้าย
00:09:01 → 00:09:04 ข้างขวาข้างบนข้างล่างของทรวงอกหรือข้าง
00:09:04 → 00:09:06 หลังก็ได้นะครับตรงไหนก็ได้เลยที่มันเกิด
00:09:06 → 00:09:10 การอักเสบนะครับเจอได้มีอาการน้ำอยู่ใน
00:09:10 → 00:09:12 ช่องเยื่อหุ้มปอดก็ได้ซึ่งทำให้เรามี
00:09:12 → 00:09:15 อาการเหนื่อยหรือไอ้ตัวเนื้อปอดเราเนี่ย
00:09:15 → 00:09:18 มันกลายเป็นพังผืดนะครับในบางกรณีน่ากลัว
00:09:18 → 00:09:22 กว่านั้นอีกก็คือเลือดออกในปอดนะครับเรา
00:09:22 → 00:09:24 จะเรียกมันว่า The fuse Ultra hamdrate
00:09:24 → 00:09:27 นะครับคือเลือดออกเยอะแยะไปหมดใน Ford
00:09:27 → 00:09:29 อันนี้เป็นภาวะเร่งด่วนนะครับ
00:09:29 → 00:09:33 ครับภาวะ The futue of หรือ Dah ถ้ามี
00:09:33 → 00:09:36 หมอคนไหนเข้ามาฟังนะครับมันจะไม่มีอาการ
00:09:36 → 00:09:38 ไอแล้วออกมาเป็นเลือดเหมือนที่เราเข้าใจ
00:09:38 → 00:09:41 นะครับส่วนใหญ่แล้วเนี่ย 2 ใน 3 เนี่ยจะ
00:09:41 → 00:09:43 ไม่มีอาการไอออกมาเป็นเลือดนะครับแต่ว่า
00:09:43 → 00:09:46 เวลาตรวจเลือดเราจะเจอว่าค่าฮีโมโกลบิน
00:09:46 → 00:09:48 ของเราเนี่ยมันตกนะครับแล้วเจอแบบนั้นแต่
00:09:48 → 00:09:51 ว่าคนส่วนใหญ่ตอนแรกก็เข้าใจว่าเอ้ยเนี่ย
00:09:51 → 00:09:54 เป็น dis เนี่ยจะต้องมีการไอออกมาเป็น
00:09:54 → 00:09:56 เลือดไม่จริงครับส่วนใหญ่เราไม่มีนะฮะอัน
00:09:56 → 00:09:58 นี้ก็ต้องฝากไว้ด้วยนะครับ
00:09:58 → 00:10:01 นอกเหนือจากนี้ปอดมันเกิดพังผืดได้เปิด
00:10:01 → 00:10:04 เกิดการอักเสบในตัวเนื้อปอดได้แล้วก็มี
00:10:04 → 00:10:08 ภาวะพิเศษอันนึงก็คือปอดมันหดตัวหรือเรา
00:10:08 → 00:10:10 เรียกภาษาทางการแพทย์ว่า Thinking หลัง
00:10:10 → 00:10:15 Single นะครับขนาดของปอดมันเล็กลงอ่าคน
00:10:15 → 00:10:17 ไข้ก็จะมีอาการเหนื่อยเรื้อรังภาวะนี้
00:10:17 → 00:10:19 เนี่ยเรายังไม่แน่ใจว่าเออทำไมมันถึงเกิด
00:10:19 → 00:10:22 ได้นะครับแต่เราเชื่อว่าอาจจะเกิดจากการ
00:10:22 → 00:10:24 ที่มีการอักเสบของเยื่อหุ้มปอดเป็นเวลา
00:10:24 → 00:10:27 นานๆทำให้ตัวปอดของเราเนี่ยมันเราหายใจ
00:10:27 → 00:10:29 เข้าไม่ได้เพราะหายใจเข้าทีไรมันก็เจ็บ
00:10:29 → 00:10:32 ทุกทีก็เลยมีการเอ่อการที่ปอดมันไม่ขยาย
00:10:32 → 00:10:34 แล้วขนาดสุดท้ายมันก็เล็กลงไปตามนั้นนะ
00:10:34 → 00:10:37 ครับนี่ก็คือเป็นภาวะ drinking หรือปอด
00:10:37 → 00:10:40 มันหดมันปอดมันเล็กลงนั่นเองนะครับนี่คือ
00:10:40 → 00:10:42 อาการทางระบบทางเดินหายใจที่เราเจอได้นะ
00:10:42 → 00:10:43 ครับ
00:10:43 → 00:10:47 ต่อมาระบบข้างๆกันเลยมีปอดก็ต้องมีหัวใจ
00:10:47 → 00:10:50 นะครับระบบหัวใจเนี่ยคือเราจะมีเยื่อหุ้ม
00:10:50 → 00:10:52 หัวใจเยื่อหุ้มหัวใจก็จะเกิดการอักเสบได้
00:10:52 → 00:10:54 เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบออกจากเลขมันว่า
00:10:54 → 00:10:57 perican dietists กล้ามเนื้อหัวใจก็
00:10:57 → 00:11:00 อักเสบได้เราจะเรียกว่า myocadites นะ
00:11:00 → 00:11:03 ครับลิ้นหัวใจมีปัญหาได้ไหมได้ครับลิ้น
00:11:03 → 00:11:07 หัวใจเนี่ยเราอาจจะมีลิ้นตัวหนึ่งเรียก
00:11:07 → 00:11:09 ว่าลิ้นไม้ออลนะครับไมรัลจะเป็นลิ้นที่
00:11:09 → 00:11:12 คั่นระหว่างห้องหัวใจด้านบนซ้ายกับล่าง
00:11:12 → 00:11:15 ซ้ายลิ้นตัวนี้เนี่ยมันอาจจะปลิ้นได้เรา
00:11:15 → 00:11:18 จะเรียกมันว่า Microlab ซึ่งภาวะลิ้นหัว
00:11:18 → 00:11:20 ใจไม้ครอบปลิ้นเนี่ยจริงๆไม่ต้องรักษานะ
00:11:20 → 00:11:22 ครับมันไม่ต้องมันไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับ
00:11:22 → 00:11:24 ร่างกายแต่บางคนอาจจะมีอาการใจสั่นเป็น
00:11:24 → 00:11:27 บางครั้งนะครับได้นะครับถ้ามันกลิ้งไม่
00:11:27 → 00:11:29 มากก็ไม่ต้องทำอะไรกับมันนะส่วนใหญ่แล้ว
00:11:29 → 00:11:31 ก็ไม่ต้องทำอะไรเหมือนกันนะครับและทีนี้
00:11:31 → 00:11:34 มันจะมีภาวะพิเศษอันนึงเลยถ้ามีหมอเข้ามา
00:11:34 → 00:11:37 ฟังนะครับอ่ามีนักเรียนแพทย์เข้ามาฟังมัน
00:11:37 → 00:11:39 จะเรียกว่า List มันแซ็ก
00:11:39 → 00:11:41 endogative นะครับลิปมันแซ็คเนี่ยมัน
00:11:41 → 00:11:44 เป็นภาวะพิเศษก็คือไอ้ตัวลิ้นหัวใจมันจะ
00:11:44 → 00:11:47 มีตุ่มๆขึ้นมาตรงปลายลิ้นนะฮะไอ้ตุ่มๆตรง
00:11:47 → 00:11:48 นี้มันไม่เกิดอลังการทั้งสิ้นมันไม่มี
00:11:48 → 00:11:50 อาการจนกว่าไอ้ตุ่มเนี่ยบังเอิญถ้าโชค
00:11:50 → 00:11:53 ร้ายมันหลุดออกไปแล้วมันไปอุดเส้นเลือดใน
00:11:53 → 00:11:56 สมองอันนั้นก็แน่นอนว่าเกิดโรคอัมพฤกษ์
00:11:56 → 00:11:59 ได้นะครับก็หรือบางทีไปอุดเส้นเลือดที่ตา
00:11:59 → 00:12:01 ก็ตาบอดได้เหมือนกันนะครับอันนี้ก็เป็น
00:12:01 → 00:12:04 remin แซ็กแอนโดรคาร์ไดติกส์นะครับภาวะ
00:12:04 → 00:12:08 นี้เป็นภาวะพิเศษนะครับและถ้าปกติแล้ว
00:12:08 → 00:12:10 เนี่ยถ้าเรามีอะไรไปอยู่ที่ลิ้นหัวใจ
00:12:10 → 00:12:13 เนี่ยเวลาที่เราไปทำฟันหรือว่าเราต้องมี
00:12:13 → 00:12:16 การผ่าตัดอะไรเรามักจะให้ยาต้านแบคทีเรีย
00:12:16 → 00:12:19 หรือยาฆ่าเชื้อแอนตี้ไบโอติกพวกนี้ป้อง
00:12:19 → 00:12:21 กันการติดเชื้อเข้าไปที่ลิ้นหัวใจนะครับ
00:12:21 → 00:12:23 แต่ภาวะฤทธิ์มันแทร็กแอนโดรคกระต่ายติด
00:12:23 → 00:12:26 นี้ไม่ต้องกินครับนะไม่ต้องกินนะถ้ามีข้อ
00:12:26 → 00:12:29 สอบถามก็ตอบเลยว่าไม่ไม่จำเป็นจะต้องใช้
00:12:29 → 00:12:32 ยาอ่าต้านพวกเนี้ยในการแก้ไขในการป้องกัน
00:12:33 → 00:12:35 นะครับอีกอย่างหนึ่งของหัวใจที่สำคัญมาก
00:12:35 → 00:12:38 แล้วเกิดขึ้นในโรค sle ก็คือการนำไฟฟ้า
00:12:38 → 00:12:41 ของหัวใจมันอาจจะผิดปกติได้นะครับบางคนก็
00:12:41 → 00:12:45 นำไฟฟ้าไม่ได้นะครับก็หัวเข้าใจเราก็เต้น
00:12:45 → 00:12:47 ช้ามากจนกระทั่งเรามีอาการหอบเหนื่อยหน้า
00:12:47 → 00:12:50 มืดนะครับบางคนก็เสียชีวิตได้นะครับหรือ
00:12:50 → 00:12:53 มีการเต้นผิดปกติของหัวใจได้เพราะว่าทาง
00:12:53 → 00:12:56 เดินไฟฟ้าของหัวใจมันมีปัญหาไปแล้วนะครับ
00:12:56 → 00:13:00 และที่สำคัญโรค sle เนี่ยมันเป็นโรคแห่ง
00:13:00 → 00:13:03 การอักเสบนะครับคนที่มีโรคภูมิต้านทานต่อ
00:13:03 → 00:13:06 ต้านตัวเองทุกคนจะมีความเสี่ยงต่อการเกิด
00:13:06 → 00:13:09 โรคหลอดเลือดหัวใจและสมองเพิ่มขึ้นนะครับ
00:13:09 → 00:13:12 เพิ่มขึ้นแล้วคนที่เป็น see มีโอกาสเกิด
00:13:12 → 00:13:15 โรคหลอดเลือดหัวใจตีบสูงกว่าคนทั่วไปนะ
00:13:15 → 00:13:18 ครับมีโรคความดันโลหิตสูงก็ได้มีโรคหัวใจ
00:13:18 → 00:13:21 ติดก็ได้มีโรคเส้นเลือดสมองตีบก็ได้มัน
00:13:21 → 00:13:24 ไม่ใช่เป็นโรคที่เป็นอาการแสดงของ Soi
00:13:24 → 00:13:27 แต่มันเป็นโรคร่วมที่เราเจอได้บ่อยกว่าใน
00:13:27 → 00:13:30 คนทั่วๆไปนะครับอ่าดังนั้นเนี่ยเราจะต้อง
00:13:30 → 00:13:32 ไปว่ากันถึงเรื่องของปัจจัยสิ่งอื่นที่
00:13:32 → 00:13:34 นอกเหนือจาก soe sle เป็นปัจจัยเสี่ยง
00:13:34 → 00:13:37 ต่อการเกิดโรคหลอดเลือดต่างๆนะครับส่วน
00:13:37 → 00:13:40 ตัวมันเองแต่ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆที่เราเจอ
00:13:40 → 00:13:43 แล้วก็ต้องรักษาคู่ไปกับโรค sle ก็คือ
00:13:43 → 00:13:47 ความดันโลหิตสูงไขมันสูงนะครับอ่าพวกนี้
00:13:47 → 00:13:49 เป็นต้นเราจะเจอร่วมด้วยกันได้นะครับเรา
00:13:49 → 00:13:51 ต้องแก้ไขด้วยนะ
00:13:51 → 00:13:55 แล้วก็หัวใจเนี่ยมันจะมีหลอดเลือดอันนึง
00:13:55 → 00:13:57 ที่ออกไปเลี้ยงที่ปอดนะครับหลอดเลือดตัว
00:13:57 → 00:13:59 นั้นเนี่ยเราจะเรียกมันว่า promenari
00:14:00 → 00:14:02 altery นะครับตรงนี้เนี่ยนะครับมันอาจจะ
00:14:02 → 00:14:06 เกิดความดันในปอดสูงได้นะครับเรียกว่า
00:14:06 → 00:14:07 Pool Money hypertension ซึ่งมีการ
00:14:07 → 00:14:11 รักษาที่เฉพาะเจาะจงลึกลงไปอีกนะครับโรค
00:14:11 → 00:14:14 นี้ผมเคยพูดไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อนหรือ 3
00:14:14 → 00:14:17 ปีแล้วนะครับโรคความดันในปอดสูงภูมิไม่
00:14:17 → 00:14:20 ให้ซึ่งมีรายละเอียดในตัวมันเองค่อนข้าง
00:14:20 → 00:14:22 ที่จะเยอะนะครับถ้าใครสนใจก็ย้อนกลับไป
00:14:22 → 00:14:24 ฟังคลิปนั้นได้นะครับผมก็มีรายละเอียดไว้
00:14:24 → 00:14:29 ละนะฮะอ่ะระบบปอดและหัวใจทางเดินหายไปละ
00:14:29 → 00:14:32 ระบบอะไรอีกถึงระบบสำคัญแล้วครับระบบไต
00:14:32 → 00:14:36 ระบบไตนี่แหละครับมันจะมีปัญหาได้ก็คือ
00:14:36 → 00:14:39 เราจะเรียกมันว่า lupus The Fighters
00:14:39 → 00:14:42 นะครับมีอาการยังไงนะครับไตของเราถ้ามัน
00:14:42 → 00:14:46 อักเสบมากๆเนี่ยมันจะทำให้ไตไม่สามารถ
00:14:46 → 00:14:49 เก็บโปรตีนไว้ในเลือดได้มันก็จะรั่วออกไป
00:14:49 → 00:14:52 ในปัสสาวะนะครับเวลาโปรตีนเรารั่วออกไป
00:14:52 → 00:14:54 ทางปัสสาวะเนี่ยมันจะทำให้เราปัสสาวะออก
00:14:54 → 00:14:57 มาเป็นฟองเยอะๆเลยนะครับฟองเยอะแบบไหนที่
00:14:57 → 00:15:00 มันเรียกว่ามันมีปัญหานะครับเวลาที่เรา
00:15:00 → 00:15:02 ปัสสาวะลงไปในโถส้วมเนี่ยนะครับปกติทุกคน
00:15:02 → 00:15:04 จะต้องมีฟองอยู่แล้วแต่ฟอร์มพวกนี้มันจะ
00:15:04 → 00:15:07 แตกง่ายแตกๆๆแล้วก็หายไปแต่ฟองที่เกิดจาก
00:15:07 → 00:15:10 โปรตีนเยอะๆเนี่ยมันจะเหมือนเราเอาผงซัก
00:15:10 → 00:15:12 ฟอกเทลงไปในน้ำอ่ะครับแล้วเราตีให้มัน
00:15:12 → 00:15:14 เป็นฟองแล้วฟองมันจะไม่ค่อยหายไปไหนแล้ว
00:15:14 → 00:15:17 ก็จะเป็นฟองลูกใหญ่ๆนั่นแหละครับเป็น
00:15:17 → 00:15:20 ปัญหาที่เกิดจากโปรตีนในปัสสาวะมันสูง
00:15:20 → 00:15:22 ขึ้นจากการที่มันร่วงไปจากไตนะครับดัง
00:15:22 → 00:15:26 นั้นอันนั้นคือการบอกเลยว่าถ้าท่านมี
00:15:26 → 00:15:27 ปัสสาวะที่เป็นฟองแล้วฟองมันใหญ่แล้วมัน
00:15:27 → 00:15:29 ไม่หายไปไหนทั้งนั้นที่ทิ้งมันไว้นานๆ
00:15:29 → 00:15:32 แล้วอันนั้นสงสัยว่าท่านน่าจะมีโปรตีน
00:15:32 → 00:15:34 รั่วในปัสสาวะซึ่งอาจจะเป็นจะโรค sle
00:15:34 → 00:15:37 หรือโรคอื่นก็ได้นะครับดังนั้นก็ต้องแล้ว
00:15:37 → 00:15:40 แต่ว่าเออเราเป็นโรคอะไรอยู่นะครับอ่า
00:15:40 → 00:15:43 แล้วโรคไตอักเสบพวกนี้มันน่ากลัวเพราะว่า
00:15:43 → 00:15:46 ถ้าเรารักษามันไม่ทันไตมันจะวายไปเลยนะ
00:15:46 → 00:15:48 ครับอาจจำเป็นจะต้องล้างไตไปตลอดชีวิต
00:15:48 → 00:15:51 หรือจะต้องมีการปลูกถ่ายไตก็ได้นะครับอัน
00:15:51 → 00:15:54 นี้ก็ต้องรีบไปดูแลเหมือนกันนะฮะแล้วพอไต
00:15:54 → 00:15:57 เสียอะไรตามมาครับความดันโลหิตสูงครับ
00:15:57 → 00:16:00 ความเร็วสูงจะยิ่งทำให้ไตเสียเข้าไปใหญ่
00:16:00 → 00:16:02 แล้วความดันสูงก็เป็นความเสี่ยงต่อการ
00:16:02 → 00:16:05 เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจซึ่งในภาวะ sle
00:16:05 → 00:16:07 เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจหลอดเลือดสมองเยอะ
00:16:07 → 00:16:12 กว่าคนปกติอยู่แล้วนะครับอยู่แล้วนะฮะอ่า
00:16:12 → 00:16:14 ทีนี้
00:16:14 → 00:16:18 ระบบไตเราไปละต่อไประบบหลอดเลือดและเลือด
00:16:18 → 00:16:20 นะครับหลอดเลือดอย่างที่บอกมันอักเสบได้
00:16:20 → 00:16:23 ง่ายนะครับมันอักเสบได้ง่ายแล้วก็อาการ
00:16:23 → 00:16:25 ทางหลอดเลือดอย่างหนึ่งซึ่งเราเจอก็คือ
00:16:25 → 00:16:29 กลุ่มอาการที่เราเรียกว่า renoid นะครับ
00:16:29 → 00:16:33 คืออะไรมันก็คือเส้นเลือดส่วนปลายที่ปลาย
00:16:33 → 00:16:36 นิ้วเนี่ยเวลาเจออะไรเย็นๆนะครับมันจะหด
00:16:36 → 00:16:39 ตัวเลยเพราะหดตัวเสร็จปุ๊บบริเวณที่เลือด
00:16:39 → 00:16:41 เนี่ยมันเข้าไปไม่ได้มันก็จะซีดไปนะครับ
00:16:41 → 00:16:45 เช่นถ้าเรามีภาวะ renosenomenal เนี่ย
00:16:45 → 00:16:47 แล้วก็ไปห้องเย็นๆไปที่หนาวๆน้ำมือเรา
00:16:47 → 00:16:49 นิ้วมันอาจจะแบบขาวไปเลยทั้งนิ้วเลยก็ได้
00:16:49 → 00:16:51 ก็คือเลือดมันเข้าไปเลี้ยงไม่ได้พอปล่อย
00:16:51 → 00:16:53 ไว้นานๆมันก็มั่วนะครับอ่าพวกนี้เกิดได้
00:16:54 → 00:16:56 นะครับเราก็จะเจ็บมากด้วยนะฮะดังนั้นพวก
00:16:56 → 00:16:59 นี้ก็จะต้องมีการดูแลตัวเองในแง่ของการอบ
00:16:59 → 00:17:02 อ่าทำให้นิ้วเราอุ่นไว้ตลอดเวลาไม่ฉะนั้น
00:17:02 → 00:17:04 เนี่ยถ้านิ้วขาดเลือดมากๆมันปวดมากเลยนะ
00:17:04 → 00:17:07 ครับแล้วก็ทรมานมากเลยอ่ะโชคดีประเทศไทย
00:17:07 → 00:17:09 ส่วนใหญ่ไม่ค่อยหนาวหรอกครับมันจะไปหนาว
00:17:09 → 00:17:11 ที่ต่างประเทศนะครับแต่บางคนแม้กระทั่ง
00:17:11 → 00:17:14 จับเอ่อแก้วน้ำที่มีน้ำแข็งเนี่ยก็เกิด
00:17:14 → 00:17:16 เกิดอาการขึ้นมาละก็ต้องระวังในส่วนนี้
00:17:16 → 00:17:19 ด้วยเหมือนกันนะครับอาจจะต้องใช้อะไรหุ้ม
00:17:19 → 00:17:21 มันเอาทิชชู่หุ้มไว้แล้วก็ถือดื่มอย่าง
00:17:21 → 00:17:25 นั้นถึงจะถึงจะโอเคนะครับ
00:17:25 → 00:17:27 ระบบเลือดอื่นๆมีอีกเยอะเลยนะครับเช่น
00:17:27 → 00:17:31 อะไรบ้างเช่นเราเจอได้ว่าโรค sle ทำให้
00:17:31 → 00:17:34 เม็ดเลือดขาวต่ำเม็ดเลือดขาวต่ำนะครับ
00:17:34 → 00:17:38 เกิดเม็ดเลือดแดงต่ำก็ได้นะครับแล้วก็
00:17:38 → 00:17:40 เกล็ดเลือดต่ำก็ได้อาจจะมีทั้ง 3 อาการ
00:17:40 → 00:17:43 หรืออาจจะมีอาการใดอาการหนึ่งก็ได้นะครับ
00:17:43 → 00:17:47 รวมทั้งนอกจากนี้มันยังทำให้เราเนี่ยมี
00:17:47 → 00:17:51 การในบางคนจะมีโรคโรคหนึ่งแทรกซ้อนนะครับ
00:17:51 → 00:17:53 เราเรียกว่าเป็นโรค
00:17:53 → 00:17:56 แอนตี้ฟอสเฟตซินโดรมโรคนี้เนี่ยจะทำให้
00:17:56 → 00:17:59 เรามีการแข็งตัวของเลือดง่ายกว่าคนปกติทำ
00:17:59 → 00:18:02 ให้เกิดลิ่มเลือดไปอุดตันตามอวัยวะต่างๆ
00:18:02 → 00:18:05 ได้แล้วมันก็จะเกิดอาการขึ้นอยู่กับว่า
00:18:05 → 00:18:07 ลิ่มเลือดมันไปอุดตรงไหนนะครับเช่นอุดใน
00:18:07 → 00:18:09 สมองอันแน่นอนมันมีปัญหาทางด้านของ
00:18:09 → 00:18:12 อัมพฤกษ์อัมพาตนะครับบุตรที่ขานะครับเอ่อ
00:18:12 → 00:18:15 ขาก็บวมก็เจ็บถ้ามันไปอุดที่ปอดนะครับก็
00:18:15 → 00:18:18 หายใจไม่ได้นะครับไปอุดในอวัยวะในช่อง
00:18:18 → 00:18:20 ท้องก็มีปัญหาต่างๆแล้วแต่มันไปอุดตรงไหน
00:18:20 → 00:18:24 นะครับเพราะว่านี้ยังทำให้ผู้หญิงที่เป็น
00:18:24 → 00:18:27 โรค sle แท้งลูกง่ายนะครับ
00:18:27 → 00:18:29 ตั้งครรภ์กี่ทีก็แท้งแท้งบ่อยๆเนี่ยครับ
00:18:29 → 00:18:32 เราต้องสงสัยว่าเป็นภาวะ Anti Force
00:18:32 → 00:18:34 polymdrome หรือเปล่านะครับอันนี้
00:18:34 → 00:18:36 ประวัติแท้เยอะๆนี้ต้องระวังมากๆเพราะว่า
00:18:36 → 00:18:39 ต้องรักษานะครับแล้วบางครั้งเนี่ย
00:18:39 → 00:18:42 มันจะมีภาวะอันนึงที่น่ากลัวมากๆเลยเราจะ
00:18:42 → 00:18:45 เรียกว่าเป็นแคทๆ Perfect Anti Force
00:18:45 → 00:18:48 คืออยู่ๆเกิดลิ่มเลือดขึ้นมาทั้งร่างกาย
00:18:48 → 00:18:50 พร้อมกันเลยอวัยวะทุกอย่างมันจะวายพร้อม
00:18:51 → 00:18:53 กันหมดอันนี้โอ้โหน่ากลัวมากรักษายากมากๆ
00:18:53 → 00:18:56 เลยนะครับแล้วเราก็ต้องมีการดูแลพิเศษเลย
00:18:56 → 00:19:00 ในการที่จะไปแก้ไขมันนะฮะอ่าอันนี้เป็น
00:19:00 → 00:19:03 เรื่องของ sle ที่เกิดอาการต่างๆคร่าวๆนะ
00:19:03 → 00:19:06 ครับแต่มันก็จะมีอาการอื่นอีกซึ่งมัน
00:19:06 → 00:19:09 เกี่ยวข้องกับการรักษานะครับเพราะว่าการ
00:19:09 → 00:19:11 รักษาบางทีเราต้องใช้ยากดภูมิต้านทานใช้
00:19:11 → 00:19:13 สเตียรอยด์เราก็จะมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย
00:19:13 → 00:19:16 กว่าคนปกตินะครับเราก็จะมีกระดูกพรุนได้
00:19:16 → 00:19:18 ง่ายกว่าปกติซึ่งกระดูกพรุนนั้นผมบอกวิธี
00:19:18 → 00:19:22 ไว้แล้วว่ารักษายังไงนะครับในคนที่เป็น
00:19:22 → 00:19:24 โรคที่ต้องใช้ยาสเตียรอยด์นานๆอาจจะต้อง
00:19:24 → 00:19:27 มีการดูมวลกระดูกดีๆเราอาจจะต้องรักษาถึง
00:19:27 → 00:19:30 แม้ว่าเรายังอายุไม่เยอะก็ตามนะครับตรง
00:19:30 → 00:19:33 นี้ก็ต้องดูแลนะครับอ่าเรื่องของไขมันก็
00:19:33 → 00:19:35 อย่างที่บอกไปแล้วนะครับที่ต้องดูแลร่วม
00:19:35 → 00:19:37 ด้วยเรื่องของจิตใจเกี่ยวข้องด้วยนะครับ
00:19:37 → 00:19:39 อ่า
00:19:39 → 00:19:41 แล้วก็นอกเหนือจากนี้
00:19:41 → 00:19:45 มีอาการยิบย่อยอย่างอื่นอีกเช่นผมร่วงอัน
00:19:45 → 00:19:47 นี้เจอได้เรื่อยๆนะครับผมร่วง
00:19:47 → 00:19:52 แล้วก็อาจจะมีมันมีที่ผมขาดตกบกพร่องไป
00:19:52 → 00:19:54 แน่ๆนะครับแต่ว่านี่คือคร่าวๆที่ผมพอจะ
00:19:54 → 00:19:57 คิดได้เพราะมันมีอีกอย่างหนึ่งลืมไปเลยนะ
00:19:57 → 00:20:00 ครับเรื่องของระบบน้ำเหลืองนะครับใน sle
00:20:00 → 00:20:04 บางคนที่มีอาการกำเริบนะครับอาจจะคลำได้
00:20:04 → 00:20:05 ต่อมน้ำเหลืองโตนะครับต่อมน้ำเหลืองเราก็
00:20:05 → 00:20:07 มีหลายที่นะครับส่วนใหญ่จะอยู่ตรงข้อพับ
00:20:07 → 00:20:11 ต่างๆเช่นข้อคอตรงนี้รักแร้นะครับตรงด้าน
00:20:11 → 00:20:13 ในของแขนอย่างนี้นะครับขานี่นะครับหรือ
00:20:13 → 00:20:15 บางครั้งก็อยู่ในตัวร่างกายของเราแต่ว่า
00:20:15 → 00:20:17 เราทำไม่ได้เพราะมันอยู่ข้างในนะฮะพวก
00:20:18 → 00:20:20 นั้นก็เจอได้นะครับแล้วก็อาจจะมีตับมี
00:20:20 → 00:20:22 ม้ามโตได้ในกรณีที่ asoe เหมือนกันผม
00:20:22 → 00:20:25 กำเริบนะครับอาการที่ผมพูดไปทั้งหมดเนี่ย
00:20:25 → 00:20:28 ทุกคนไม่จำเป็นจะต้องมีครบทุกอย่างนะครับ
00:20:28 → 00:20:30 อาจจะมีแค่บางอย่างเท่านั้นนะครับก็ได้
00:20:30 → 00:20:32 เราก็ต้องไปไล่ดูว่าเรามีอาการอะไรนะฮะ
00:20:32 → 00:20:37 อ่ะทีนี้เวลาที่มาหาหมอแล้วหมอเขาจะรู้
00:20:37 → 00:20:39 ได้ไงว่าเราเป็นอะไรนะครับแน่นอนว่าซัก
00:20:39 → 00:20:41 ประวัติทั้งหมดก่อนแล้วก็ต้องซักประวัติ
00:20:41 → 00:20:44 ยาที่รับประทานด้วยนะครับยาที่รับประทาน
00:20:44 → 00:20:48 อะไรบ้างที่ทำให้เกิดโรค sle ที่เกิดจาก
00:20:48 → 00:20:51 ยาได้ซึ่งเราเรียกว่า Drop indust นะ
00:20:51 → 00:20:54 ครับมีเยอะแยะไปหมดนะครับแต่ก็ยกตัวอย่าง
00:20:54 → 00:20:56 เช่นยาไฮดรอลีนนะครับยาไฮดรอลีนตัวนี้
00:20:56 → 00:20:59 เนี่ยมันจะเป็นยาที่ใช้ในการลดความดัน
00:20:59 → 00:21:01 โลหิตแล้วก็ในบางครั้งเราใช้ในกรณีคนที่
00:21:01 → 00:21:04 เป็นโรคหัวใจวายด้วยนะครับเจอได้บ่อยนะ
00:21:04 → 00:21:07 ครับไฮดราซีนยาเรื่องของการเต้นผิดปกติ
00:21:07 → 00:21:11 ของหัวใจโพเคนามายด์นะครับยา metrilopa
00:21:11 → 00:21:14 นะครับพวกนี้นะฮะที่ใช้ในการเรื่องของ
00:21:14 → 00:21:16 ความดันโลหิตต่างๆนะครับ
00:21:16 → 00:21:20 มียาไอโซไนซิสที่ใช้ในการรักษาวัณโรคนะ
00:21:20 → 00:21:21 ครับเอ่อ
00:21:21 → 00:21:25 อย่ามิโนใส่ครีมนะครับยามิโนไซคลีนนี่บาง
00:21:25 → 00:21:26 ครั้งเราเอาไว้รักษาสิวนะครับอันนี้เจอ
00:21:27 → 00:21:29 ได้เรื่อยๆนะครับอันนี้เป็นยาคร่าวๆที่
00:21:29 → 00:21:32 เราเจอนะครับอย่างอื่นมีเหมือนกันนะครับ
00:21:32 → 00:21:34 แต่ว่าอาจจะเจอน้อยกว่าเช่นและกลุ่มที่
00:21:34 → 00:21:38 เอาไว้รักษาโรคลำไส้อักเสบนะครับหรือ
00:21:38 → 00:21:41 infly Brown disease ที่เรียกว่ากลุ่ม
00:21:41 → 00:21:45 Anti tnf Alpha เช่น inflixmap
00:21:45 → 00:21:47 ethanosed a darlymap พวกนี้เป็นต้นนะ
00:21:47 → 00:21:49 ครับแต่ว่าเราไม่ลงไปเลยดีกว่าเดี๋ยวจะงง
00:21:49 → 00:21:52 นะครับยา Proton Pump Inverter ที่เอา
00:21:52 → 00:21:54 ไว้รักษาโรคกระเพาะก็เกี่ยวข้องนะครับยา
00:21:54 → 00:21:56 สแตตินก็เกี่ยวข้องแต่ว่าโอกาสที่จะเกิด
00:21:56 → 00:21:59 จากยาพวกนี้มันน้อยมากๆดังนั้นเราไม่ต้อง
00:21:59 → 00:22:01 ไปกังวลนะครับอาการของ
00:22:01 → 00:22:04 ลูปัสที่เกิดจากยานั้นจะแตกต่างจากรูปัส
00:22:04 → 00:22:08 ทั่วๆไปนะครับส่วนใหญ่แล้วนะครับมันขึ้น
00:22:08 → 00:22:11 กับชนิดของยาด้วยแต่ว่าถ้าเราพูดทุกชนิด
00:22:11 → 00:22:13 ของยาวมันไม่ได้เดี๋ยวๆเรางงเข้าไปใหญ่นะ
00:22:13 → 00:22:16 ครับยิ่งเยอะนะเอาเป็นว่ามันมีอาการที่
00:22:16 → 00:22:19 เรียกว่า cirocitis นะครับซีโร่ไซติซก็
00:22:19 → 00:22:21 คือเรื่องของเยื่อหุ้มต่างๆอักเสบเช่น
00:22:21 → 00:22:23 เยื่อหุ้มปอดเยื่อหุ้มหัวใจหรือเยื่อหุ้ม
00:22:23 → 00:22:25 ช่องท้องมันอักเสบได้นะครับพวกนั้นก็จะมี
00:22:25 → 00:22:28 อาการเจ็บหรือมีอาการน้ำในช่องเยื่อหุ้ม
00:22:28 → 00:22:31 หัวใจเยื่อหุ้มปอดหรือว่าในในช่องท้องอัน
00:22:31 → 00:22:34 นั้นก็เป็นอาการซีโร่ไซติสบางคนก็มีอาการ
00:22:34 → 00:22:36 4 ข้อปวดกล้ามเนื้ออาจจะมีไข้ต่ำๆได้นะ
00:22:36 → 00:22:40 ครับบางคนก็อาจจะมีแผลในปากหรืออาจจะมี
00:22:40 → 00:22:42 ผื่นที่เมื่อกี้เราบอกกันก็คือผื่นที่เรา
00:22:42 → 00:22:45 เรียกว่าเป็นคิ้ว Q10
00:22:45 → 00:22:48 โทรมาโตซัสที่ลักษณะมักคล้ายๆกับเป็นวง
00:22:48 → 00:22:50 ที่ขอบสีแดงๆแล้วตรงกลางเป็นสีปกติของผิว
00:22:51 → 00:22:53 หนังและเป็นวงอย่างนี้มาต่อๆกันเยอะๆซึ่ง
00:22:53 → 00:22:55 ส่วนใหญ่อยู่ที่หน้าอกคอหน้าแล้วก็หลัง
00:22:55 → 00:22:58 ส่วนบนนะครับเจอแบบนั้นได้นะฮะอ่าอันนี้
00:22:58 → 00:23:01 เป็นเรื่องของดัด minus
00:23:01 → 00:23:05 เวลาที่เราตรวจนะครับนอกจากซักประวัติถาม
00:23:06 → 00:23:08 เรื่องยาตรวจร่างกายดูไอ้เรื่องข้อเรื่อง
00:23:08 → 00:23:11 ผื่นต่างๆแล้วคำศัพท์คำม้าคำต่อมลูกเหลือ
00:23:11 → 00:23:12 ให้ครบทุกอย่างฟังก่อนว่ามีเสียงประหลาด
00:23:12 → 00:23:15 อะไรหรือเปล่าแล้วนะครับเราก็มีการเจาะ
00:23:15 → 00:23:18 เลือดนะครับเจาะเลือดเพื่ออะไร 1 เพื่อ
00:23:18 → 00:23:21 วินิจฉัยอันที่ 2 คือเพื่อติดตามอากาศนะ
00:23:21 → 00:23:24 ครับเวลาที่เราวินิจฉัยเนี่ยนอกเหนือจาก
00:23:24 → 00:23:26 เจาะเลือดเราจะต้องมีการตรวจปัสสาวะด้วย
00:23:26 → 00:23:30 นะครับอ่ะแล้วตรวจอะไรบ้าง 1 ตรวจ CBC
00:23:30 → 00:23:32 comply ครับดูซิว่ามันมีอาการทางเลือด
00:23:32 → 00:23:36 หรือเปล่านะครับมีอาการเรื่องของเม็ด
00:23:36 → 00:23:37 เลือดมันมีปัญหามันต่ำมันอะไรอย่างนี้
00:23:37 → 00:23:40 หรือเปล่านะฮะต่อมาอันที่ 2 คือเราตรวจ
00:23:40 → 00:23:42 แอนตี้นิวเคลียร์แอนติบอดีนะครับตัวนี้
00:23:42 → 00:23:46 มันจะบอกว่าเรามีการเกิดภูมิต้านทานต่อ
00:23:46 → 00:23:47 ต้านตัวเองซ่อนอยู่ในร่างกายหรือเปล่า
00:23:47 → 00:23:50 Anti doublestrand DNA นะครับ Anti
00:23:50 → 00:23:55 symposan DNA แล้วถ้าเกิดว่าเราตรวจเรา
00:23:55 → 00:23:58 ก็จะมีตัวนึงคือ Anti SM หรืออันที่เม็ด
00:23:58 → 00:24:02 แอนติบอดีนะฮะและในบางคนนะครับที่มีอาการ
00:24:02 → 00:24:05 ที่เราสงสัยว่าเป็นจักรยานะครับเราจะตรวจ
00:24:05 → 00:24:08 ตัวพิเศษเช่น antihistol antibody นะ
00:24:08 → 00:24:11 ครับ Anti RO Anti LA นะครับตรงนี้เรา
00:24:11 → 00:24:16 ตรวจด้วยนะครับอ่าทำไมถ้ามีหมอเข้ามาฟัง
00:24:16 → 00:24:17 นะครับ Anti his Stone เนี่ยมันไม่ได้
00:24:17 → 00:24:21 ให้ผลบวกในทุกๆรูปัสอินดิวซ์ที่เกิดจากยา
00:24:21 → 00:24:24 นะครับบางอย่างเนี่ยฮิสโตแอนตี้ฮิสโตน
00:24:24 → 00:24:26 เนี่ยมันเป็น Negative เหมือนกันนะครับ
00:24:26 → 00:24:29 แต่ตัวหนึ่งซึ่งผมอยากจะตรวจคือแอนตี้ rov
00:24:29 → 00:24:32 คือ Anti roy ตัวเนี้ยมันมักจะมีความ
00:24:32 → 00:24:33 เกี่ยวข้องกับ
00:24:33 → 00:24:36 ที่ตัว sub acute Q10
00:24:36 → 00:24:41 โทรมาโตซัสถ้าผื่นพวกนี้หายตัว antierla
00:24:41 → 00:24:43 มักจะหายไปด้วยแต่ถ้าเกิดว่าเราเจอผื่น
00:24:43 → 00:24:48 ที่ลักษณะเหมือนตัวเนี่ยสักคิ้วนะครับ Q10
00:24:48 → 00:24:50 ตัวนี้นะครับแต่
00:24:50 → 00:24:52 antierla มันเป็น Negative เป็นลบเนี่ย
00:24:52 → 00:24:55 เราต้องสงสัยว่าผื่นนั้นเราวินิจฉัยผิด
00:24:55 → 00:24:58 หรือเปล่านะครับอีกอย่างหนึ่งซึ่งต้อง
00:24:58 → 00:25:00 ตรวจในกรณีของ
00:25:00 → 00:25:03 drugendueus ก็คือเรื่องของ anca นะครับ
00:25:03 → 00:25:08 แอ่งค่านะครับอ่าตัวนี้เนี่ยมันอาจจะเป็น
00:25:08 → 00:25:11 ผลบวกได้ในกรณีของ
00:25:11 → 00:25:13 เรื่องของ Dark indirlupus บางชนิดเช่น
00:25:13 → 00:25:17 รูปบัตรที่เกิดจากยากลุ่มไทรอยด์ยา
00:25:17 → 00:25:20 proprial tyoasal นะครับหรือยา
00:25:20 → 00:25:22 แมททีมาโซลอย่างนี้เกิดขึ้นได้นะครับเรา
00:25:22 → 00:25:24 ก็ต้องไปดูพวกนั้นด้วยเหมือนกันนะบางที
00:25:24 → 00:25:26 มันเกิดจากตัวนี้ที่มันผลเป็นบวกเราก็
00:25:26 → 00:25:28 ต้องไปดูว่ามันเป็นจากยาตัวไหนเพราะว่า
00:25:28 → 00:25:31 มันไม่จำเป็นจะต้องให้ผลบวกตัวใดตัวหนึ่ง
00:25:31 → 00:25:32 เท่านั้นเองนะครับ
00:25:32 → 00:25:37 นี่เป็นสิ่งที่เราต้องตรวจในเลือดปกติตัว
00:25:37 → 00:25:39 ที่เราเอาไว้ใช้ตรวจติดตามอาการได้คือ
00:25:39 → 00:25:42 แอนตี้ Double strand DNA นะครับ Anti
00:25:42 → 00:25:44 Double strand DNA ตัวนี้เนี่ยมันจะมี
00:25:44 → 00:25:47 การขึ้นลงตามว่าโลกมันกำเริบมากกำเริบ
00:25:47 → 00:25:50 น้อยนะครับอ่าตัวนี้เราจะตรวจเวลาทุกๆ
00:25:50 → 00:25:52 ครั้งที่เรามาตรวจติดตามนะครับอีกตัวนึง
00:25:52 → 00:25:55 ที่เราตรวจก็คือ esr และ crp มันจะเป็น
00:25:55 → 00:25:58 การบ่งบอกถึงการอักเสบในร่างกายมีข้อควร
00:25:58 → 00:26:00 รู้นิดหน่อยนะครับเกี่ยวข้องกับ 2 ตัวนี้
00:26:00 → 00:26:04 ถ้าคนที่เป็นโรคลูปัสนะแล้วรักษาอยู่แล้ว
00:26:04 → 00:26:06 อยู่ๆมันมีไข้ขึ้นมาเนี่ยเราต้องคิดว่า
00:26:06 → 00:26:08 เฮ้ยมันเกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อหรือมัน
00:26:08 → 00:26:10 เกี่ยวข้องกับตัวรูปปัสเนี่ยมันกำลัง
00:26:10 → 00:26:14 กำเริบและถ้าเราตรวจ esr cap เนี่ย esr
00:26:14 → 00:26:16 เนี่ยมันมักจะขึ้นในคนที่กำลังมีการ
00:26:16 → 00:26:19 อักเสบในร่างกายแต่ถ้าเกิดว่าค่า crp มัน
00:26:19 → 00:26:22 ขึ้นสูงมากๆเนี่ยเราต้องสงสัยว่ามันอาจจะ
00:26:22 → 00:26:25 มีการติดเชื้ออะไรบางอย่างนะครับอ่ะตรง
00:26:25 → 00:26:27 นี้ก็เป็นข้อที่เราเอามาใช้ในการดูซิว่า
00:26:27 → 00:26:29 มันมีปัญหาเรื่องการติดเชื้อร่วมด้วยหรือ
00:26:29 → 00:26:31 เปล่านะครับแต่ว่าค่าตัวนี้อย่างเดียวมัน
00:26:31 → 00:26:34 ทำให้เราสงสัยเท่านั้นแต่มันไม่ได้ยืนยัน
00:26:34 → 00:27:32 100% เต็มครับอ่า
00:27:32 → 00:27:35 ฉะนั้นการที่มันดึง comment ใช้เยอะๆค่า
00:27:35 → 00:27:37 C4 กับ C3 เนี่ยมันจะต่ำกว่ามันโดดเด่น
00:27:37 → 00:27:40 ออกไปหมดแล้วนะครับอ่าดังนั้นเราก็จะตรวจ
00:27:40 → 00:27:42 ตรงนี้ได้นะฮะแล้วก็อันนี้เสริมนิดนึง
00:27:42 → 00:27:44 เป็นความรู้พิเศษ
00:27:44 → 00:27:47 ถ้าเป็นในกรณีของ
00:27:47 → 00:27:50 งานวิจัยหรือที่โรงพยาบาลที่อเมริกาที่
00:27:50 → 00:27:54 เป็นศูนย์ใหญ่ๆเราจะสามารถตรวจเซลล์ Brown
00:27:54 → 00:27:58 C4 D ได้อันนี้ตัวประหลาดและที่หลายคน
00:27:58 → 00:28:01 อาจจะไม่รู้จักนะครับคือปกติเนี่ย
00:28:01 → 00:28:03 complement เวลาที่มันมีการใช้ไปเนี่ย
00:28:03 → 00:28:05 มันจะต้องไปเกาะตามอะไรสักอย่างถูกไหม
00:28:05 → 00:28:07 ครับบางส่วนเนี่ยมันจะลอยล่องลอยอยู่ใน
00:28:07 → 00:28:13 กระแสเลือดเราเช่นuble
00:28:13 → 00:28:18 c5 ในอย่างนี้นะครับอันนี้ไม่ต้องสนใจจำ
00:28:18 → 00:28:20 ไม่ได้ช่างมันนะครับเอาผ่านๆไปเดี๋ยวผม
00:28:20 → 00:28:23 บังเอิญชอบเรื่องนี้ก็เลยรู้นะครับอ่าพวก
00:28:23 → 00:28:25 เนี้ยในเมื่อมันเป็นซูรูโปรเนี่ยมันไม่
00:28:25 → 00:28:27 แน่ไม่นอนบางทีมันขึ้นมันลงเราจะไม่ใช้
00:28:27 → 00:28:30 วัดแต่ตัวที่มันจะไม่หายไปไหนก็คือเซลล์
00:28:30 → 00:28:34 แบบ complement ในกรณีนี้ก็คือ 4D แปลว่า
00:28:34 → 00:28:37 C4 D เนี่ยจะเกาะกับเซลล์อะไรซักอย่าง
00:28:37 → 00:28:41 นึงนะครับโดยทั่วไปเราจะสามารถตรวจ C4
00:28:41 → 00:28:44 DB Cell ได้อ่าคือไอ้ตัวลิมโฟไซด์หรือ
00:28:44 → 00:28:47 เมล็ดข่าวชนิดเนี้ยมันจะมีไอ้ตัว
00:28:47 → 00:28:49 complement C4 Dex เกาะอยู่แล้วมัน
00:28:49 → 00:28:51 เกาะแบบแน่นๆหนาเลยนะครับตรงนี้เราวัดได้
00:28:51 → 00:28:55 นะครับอ่าเราจะวัดว่าเฮ้ยมันเกาะกับไอ้
00:28:55 → 00:28:57 ตัวเกล็ดเลือดเราหรือ C4 Down prade
00:28:57 → 00:28:59 เราก็ได้นะครับซึ่งพวกนั้นมันจะทำให้เกิด
00:28:59 → 00:29:02 อ่าลิ่มเลือดในร่างกายเรานะครับอันนี้อ่า
00:29:02 → 00:29:04 ที่ไทยไม่รู้มีหรือเปล่านะครับที่เมือง
00:29:04 → 00:29:06 นอกมีเหมือนกันแต่ว่าเป็นการตรวจพิเศษนะ
00:29:06 → 00:29:07 ครับสามารถตรวจตามได้
00:29:07 → 00:29:10 นอกเหนือจากการตรวจเลือดแล้วเรายังต้อน
00:29:10 → 00:29:13 ตรวจปัสสาวะดูโปรตีนนะครับนี่แน่นอนนะฮะ
00:29:13 → 00:29:15 ดูเคลียร์ทีนี้ว่าการทำงานของไตเรามี
00:29:15 → 00:29:18 ปัญหาอะไรหรือเปล่านะครับแล้วก็ในคนไหน
00:29:18 → 00:29:20 ที่เราสงสัยว่ามีภาวะแอนตี้ฟอสโซลิปิดว่า
00:29:20 → 00:29:23 มีเอ้ยมีลิ่มเลือดมันอุดตันบ่อยๆนะครับมี
00:29:23 → 00:29:25 การแท้งบ่อยๆพวกนี้เราก็จะต้องตรวจพิเศษ
00:29:25 → 00:29:28 เหมือนกันนะครับอ่าศาลนี้เราก็ทุกๆครั้ง
00:29:28 → 00:29:31 ที่มาหาหมอแล้วก็จะตรวจติดตามพวกนี้นะ
00:29:31 → 00:29:35 ครับทีนี้มาถึงว่าแล้วเรารักษายังไงอัน
00:29:35 → 00:29:37 นี้มันเริ่มยาวแล้วนะครับขอแบ่งประเด็น
00:29:37 → 00:29:40 เป็นคร่าวๆก่อนประเด็นข้าวข้อแรกก็คือว่า
00:29:40 → 00:29:43 อันนี้สำหรับคนทั่วไปนะครับสิ่งที่เรา
00:29:43 → 00:29:45 ต้องดูแลตัวเองก็คือ 1 พยายามหลีกเลี่ยง
00:29:45 → 00:29:49 แสงแดดแล้วก็ทาครีมกันแดด hpf อย่างน้อย
00:29:49 → 00:29:51 ก็ 55 นะครับถ้ามากกว่านั้นได้ก็ดีใส่
00:29:51 → 00:29:54 เสื้อแขนยาวถ้าจะต้องออกแดดนะครับอันนี้
00:29:54 → 00:29:57 เป็นสิ่งที่ต้องทำเลิกบุหรี่เลิกเหล้า
00:29:57 → 00:29:59 เลิกทุกอย่างที่มันไม่ดีต่อร่างกายนะครับ
00:29:59 → 00:30:02 มันจะยิ่งทำให้ตัวโรคมันแย่ลงได้นะครับ
00:30:02 → 00:30:04 การออกกำลังกายสำคัญมากถ้าท่านไม่ออก
00:30:04 → 00:30:07 กำลังกายร่างกายของท่านจะยิ่งอ่อนแอกล้าม
00:30:07 → 00:30:08 เนื้อจะยิ่งมีปัญหาปัญหาแล้วก็ตัวโรคมัน
00:30:08 → 00:30:12 จะเป็นอะไรที่มันทำให้รักษาได้ลำบากมาก
00:30:12 → 00:30:15 ขึ้นนะครับอันนี้ต้องระวังเรื่องนี้
00:30:15 → 00:30:17 เรื่องของการคุมกำเนิดอันนี้สำคัญสุดๆเลย
00:30:18 → 00:30:21 นะครับเพราะว่าการคุมกำเนิดในคนที่เป็น
00:30:21 → 00:30:23 sla ที่กำเริบแล้วถ้าเราคุมไม่ดีแล้วเรา
00:30:23 → 00:30:25 ตั้งครรภ์เนี่ยวันนี้อันตรายมากเลยนะครับ
00:30:25 → 00:30:29 รวมทั้งมันจะมีสิ่งที่เราต้องรู้ก็คือถ้า
00:30:30 → 00:30:32 เราจะตั้งครรภ์นะครับเราต้องบอกหมอเสมอ
00:30:32 → 00:30:34 เพราะว่าบางยาเนี่ยมันจะใช้ในคนตั้งครรภ์
00:30:34 → 00:30:36 ไม่ได้เนื่องจากว่ามันมีปัญหาต่อลูกเช่น
00:30:36 → 00:30:39 ยาที่เรียกว่า microsenalate morefitel
00:30:39 → 00:30:42 ตัวนี้ห้ามใช้ในคนตั้งครรภ์นะครับไม่งั้น
00:30:42 → 00:30:46 เดี๋ยวลูกมีปัญหาแย่เลยนะครับแล้วก็แม่
00:30:46 → 00:30:48 ที่เป็นรูปัสเนี่ยลูกอาจจะเป็นตอนนั้น
00:30:48 → 00:30:50 ด้วยนะครับตอนคลอดออกมาก็ต้องระวังในลูก
00:30:50 → 00:30:54 อีกทีนึงนะครับจะต้องมีการดูแลอย่างๆแบบ
00:30:54 → 00:30:56 เข้มงวดเลยนะครับอ่ะทีนี้
00:30:56 → 00:30:59 ยาคุมกำเนิดแล้ววิธีคุมกำเนิดเราใช้อะไร
00:30:59 → 00:31:02 ได้บ้างต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่าโรคลูปัส
00:31:02 → 00:31:05 นั้นเนื่องจากว่าหลายบางคนเนี่ยจะมีโอกาส
00:31:05 → 00:31:08 เกิดลิ่มเลือดในร่างกายได้ยากำเนิดชนิด
00:31:08 → 00:31:11 ที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนนั้นบางทีอาจจะต้อง
00:31:11 → 00:31:13 หลีกเลี่ยงโดยเฉพาะคนที่เคยมีลิ่มเลือด
00:31:13 → 00:31:15 หรือสงสัยว่าจะมีลิ่มเลือดอุดตันในร่าง
00:31:15 → 00:31:18 กายเราจะต้องไปใช้ยากลุ่มที่มี
00:31:18 → 00:31:20 โปรเจสเตอโรนอย่างเดียวนะครับเลยเป็น
00:31:20 → 00:31:22 project Storage Only Pure นะครับ
00:31:22 → 00:31:26 หรือจะเป็นยาฉีดที่เป็นยา progesterone
00:31:26 → 00:31:28 ก็ได้แต่ว่ายาพวกนั้นนะครับมันจะใช้ระยะ
00:31:28 → 00:31:31 นานๆไม่ได้เดี๋ยวกระดูกมันจะยิ่งพรุนนะ
00:31:31 → 00:31:34 ครับแล้วก็มีการใส่ห่วงอนามัยนะครับที่
00:31:34 → 00:31:37 เป็นห่วงแบบ copper Tea หรือจะเป็นพวก
00:31:37 → 00:31:40 Project Storage
00:31:40 → 00:31:43 ก็ได้ซึ่งตรงนี้ต้องไปปรึกษากับคุณหมอ
00:31:43 → 00:31:45 ทั้งด้านสูตรเต็มหน่วยเวทย์นะครับเราก็
00:31:45 → 00:31:48 อาจจะต้องบอกแน่นอนว่าเออเนี่ยเราเป็น sle
00:31:48 → 00:31:50 เราจะต้องระวังเรื่องของการเกิดลิ่มเลือด
00:31:50 → 00:31:52 นะครับนี่คือการคุมกำเนิดที่ต้องทำนะฮะ
00:31:52 → 00:31:56 พักผ่อนให้สม่ำเสมอนะครับออกกำลังกายสมอง
00:31:56 → 00:31:58 เสื่อมพักผ่อนให้ดีแล้วก็แน่นอนว่าทาน
00:31:58 → 00:32:00 อาหารเนี่ยไม่มีอาหารอะไรเฉพาะพิเศษหรือ
00:32:00 → 00:32:02 แต่อย่างใดนะครับทานให้มันสมดุลเป็นใช้
00:32:02 → 00:32:04 ได้นะครับอย่าขาดสารอาหารแล้วก็อย่าทาน
00:32:04 → 00:32:07 มากจนเกินไปนะครับบางทีหมอเขาจะต้องให้ยา
00:32:07 → 00:32:09 สเตียรอยด์เรามันจะทำให้เราหิวมากนะครับ
00:32:09 → 00:32:11 เราก็อาจจะต้องระวังว่าอย่าไปกินเยอะไม่
00:32:11 → 00:32:13 งั้นเดี๋ยวเราน้ำหนักเยอะแล้วที่นี่มี
00:32:13 → 00:32:15 ปัญหานะครับ
00:32:15 → 00:32:17 นอกเหนือจากนี้คือหมั่นตรวจร่างกายเลยถ้า
00:32:17 → 00:32:20 มีเรื่องการต้องไปตรวจแป๊บเมียการตรวจ
00:32:20 → 00:32:22 เต้านมเพราะว่ามะเร็งพวกนี้ก็เจอได้นะ
00:32:22 → 00:32:25 ครับเราก็ต้องตรวจติดตามไว้เสมอนะครับอ่า
00:32:25 → 00:32:26 ในผู้หญิงเนี่ยเราเจอกันบ่อยเราก็ต้อง
00:32:27 → 00:32:28 ตรวจติดตามไม่งั้นเดี๋ยวเราเกิดขึ้นมานี่
00:32:28 → 00:32:33 ก็ลำบากเข้าไปใหญ่นะครับโรคเอ่อภูมิต่อ
00:32:33 → 00:32:35 ต้านตัวเองอื่นๆที่เจอร่วมด้วยกับ Soi ก็
00:32:35 → 00:32:38 ยกตัวอย่างเช่นเป็นโรคไมแอซิเนตนะครับ
00:32:38 → 00:32:40 ซึ่งวันนี้ผมไม่พูดนะครับแต่ว่ามันเจอรูป
00:32:40 → 00:32:42 กันได้แล้วบางครั้งเราอาจจะต้องไปพยายาม
00:32:42 → 00:32:45 หาว่ามันมีโลกนี้หรือเปล่านะบางคนนะครับ
00:32:45 → 00:32:49 นี่คือการดูแลตัวเองคร่าวๆนะครับอ่าอาจจะ
00:32:49 → 00:32:50 มีประการนึงคือคนที่เป็นเจ้า assist
00:32:51 → 00:32:52 assle เนี่ยมันจะมีอยู่กลุ่มนึงแหละที่
00:32:52 → 00:32:56 พยายามกลุ่มโซฟาดังนั้นจะต้องพยายามระวัง
00:32:56 → 00:32:59 นิดนึงนะครับถ้าท่านแพ้ยาเสาะฝานะฮะอ่ะที
00:32:59 → 00:33:02 นี้มาถึงการรักษาละอันนี้ผมจะลงลึกมากไม่
00:33:02 → 00:33:05 ได้แต่ผมจะแบ่งคร่าวๆแล้วกันเป็น 3 กลุ่ม
00:33:05 → 00:33:07 นะครับกลุ่มอาการน้อยอาการปานกลางและ
00:33:07 → 00:33:10 อาการมากนะครับทุกกลุ่มไม่ว่ากลุ่มไหนนะ
00:33:10 → 00:33:13 ครับถ้าเป็นไปได้ควรจะได้รับยาตัวนึง
00:33:13 → 00:33:14 เรียกว่า
00:33:14 → 00:33:17 ไฮดรอกซีลนะครับเป็นยาต้านมาลาเรียนี่
00:33:17 → 00:33:20 แหละครับแต่ว่ามันจะมีผลดีต่อในโรค sle
00:33:20 → 00:33:24 นะครับยาตัวนี้ถ้าเป็นในคนที่น้ำหนักเยอะ
00:33:24 → 00:33:26 เราจะให้กินเยอะหน่อยน้ำหนักน้อยเราก็ให้
00:33:26 → 00:33:28 กินน้อยหน่อยจะไม่บอกว่ามันต้องกินเท่า
00:33:28 → 00:33:31 ไหร่กันแน่แล้วแต่คนนะครับแล้วก็ข้อเสีย
00:33:31 → 00:33:34 ของยาตัวนี้เนี่ยมันคือเราจะต้องมีการ
00:33:34 → 00:33:37 ตรวจตาทุกๆ 6 เดือนเพราะว่าบางคนนะครับ
00:33:37 → 00:33:40 บางคนเท่านั้นนะฮะมันทำให้เกิดจอประสาทตา
00:33:40 → 00:33:43 มันมีปัญหาแล้วก็ตาบอดแบบถาวรได้นะครับ
00:33:43 → 00:33:45 ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องตรวจตาเป็นประจำ
00:33:45 → 00:33:47 ถ้ามีการมองเห็นที่ผิดปกติไปต้องรีบไปหา
00:33:48 → 00:33:51 หมอตาทันทีนะครับอ่าอีกอย่างหนึ่งก็คือ
00:33:51 → 00:33:53 มันอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับทางด้านหัวใจ
00:33:53 → 00:33:56 นะครับมันจะทำให้ค่าตัวนึงมันยาวขึ้นคือ
00:33:56 → 00:33:59 ค่า qt interval มันยาวขึ้นซึ่งจะทำให้
00:33:59 → 00:34:01 หัวใจมันเต้นผิดปกติได้ดังนั้นเราอาจจะ
00:34:01 → 00:34:03 ต้องมีการตรวจนิดนึงนะครับว่าเออเรามี
00:34:03 → 00:34:05 ภาวะนี้ร่วมด้วยหรือเปล่าแต่ไฮดรอกซี่
00:34:05 → 00:34:08 โคลีนเนี่ยมันดีมากนะครับในการช่วยทำให้
00:34:08 → 00:34:11 ตัวโรคมันอ่าคุมอาการได้นะครับแล้วส่วน
00:34:11 → 00:34:13 ใหญ่มันจะดีสำหรับคนที่มีอาการปวดข้อ
00:34:13 → 00:34:15 อาการทางผิวหนังและการทางกล้ามเนื้อปวดๆ
00:34:15 → 00:34:17 พวกเนี้ยหรืออาการเพลียอาการไข้จาก sle
00:34:17 → 00:34:20 มันก็จะทำให้มันดีขึ้นได้นะครับในคนที่
00:34:21 → 00:34:23 เป็นน้อยๆเนี่ยก็ใช้ใช้แค่พวกนี้พอนะครับ
00:34:23 → 00:34:27 ไม่ต้องใช้อะไรอย่างอื่นเลยนะฮะอ่าแล้วก็
00:34:27 → 00:34:31 ถ้ามันเป็นเอ่อช่วงแรกๆเนี่ยบางคนอาจจะ
00:34:31 → 00:34:33 ปวดข้อเยอะหน่อยก็อาจจะกินยาแก้ปวดธรรมดา
00:34:33 → 00:34:36 ๆพวก NSX ต่างๆที่เราเคยพูดกันไปนิดนึงก็
00:34:36 → 00:34:39 ได้หรือบางคนอาจจะใช้ยาเพนนิโซโลนขนาดต่ำ
00:34:39 → 00:34:42 ๆเช่น 5 mg ต่อวันอย่างนี้แค่นั้นก็พอนะ
00:34:42 → 00:34:43 ครับแล้วส่วนใหญ่โรคมันก็จะดีขึ้นของมัน
00:34:43 → 00:34:44 เองนะ
00:34:44 → 00:34:48 ถ้าเป็นปานกลางล่ะปานกลางหมายความว่าเรา
00:34:48 → 00:34:50 เริ่มมีอาการของระบบภายในและใช้ระบบเลือด
00:34:50 → 00:34:53 เรามันเริ่มมีปัญหาแล้วนะแต่ว่ามันไม่มี
00:34:53 → 00:34:56 ปัญหาจนกระทั่งเรากังวลว่าเอาอวัยวะต่างๆ
00:34:57 → 00:34:58 ของเรามันจะเสียเช่นมันไม่ได้ขึ้นเป็น
00:34:58 → 00:35:00 ระบบประสาทมันไม่ได้ทำให้ไตเราเสียอะไร
00:35:00 → 00:35:02 แต่อย่างใดแต่มันเริ่มๆนะครับเรายังไม่
00:35:02 → 00:35:04 ค่อยมีอาการเยอะแต่มันเริ่มๆละพวกนี้
00:35:04 → 00:35:08 เนี่ยนอกเหนือจากให้ยา hydroxy chlorquid
00:35:08 → 00:35:11 แล้วเนี่ยมันมักจะต้องให้สติอยที่ขนาดสูง
00:35:11 → 00:35:13 ขึ้นมานิดนึงนะครับได้ตั้งแต่ส่วนใหญ่ก็
00:35:13 → 00:35:15 อยู่สักประมาณ 10-15 มิลลิกรัมของ
00:35:15 → 00:35:19 prednisolone พวกนั้นนะฮะแล้วก็ต้องดู
00:35:19 → 00:35:21 การตอบสนองด้วยเพราะบางครั้งถ้ามันตอบ
00:35:21 → 00:35:23 สนองไม่ดีนะครับเราอาจจะต้องใช้ยาตัวอื่น
00:35:23 → 00:35:26 เข้าไปเสริมนะครับไฮดรอกซิ่งคลอโรควีน
00:35:26 → 00:35:28 เนี่ยส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณสัก 2-3
00:35:28 → 00:35:30 เดือนกว่าจะออกฤทธิ์เต็มที่นะครับแล้วตัว
00:35:30 → 00:35:34 สเตียรอยด์เนี่ยเราจะต้องพยายามลดลงมาถ้า
00:35:34 → 00:35:35 สเตียรอยด์มันออกฤทธิ์เร็วที่สุดแต่ว่า
00:35:35 → 00:35:37 เราให้ระยะยาวจะมีปัญหาเต็มไปหมดนะครับ
00:35:37 → 00:35:40 เช่นไม่ว่าเป็นต้อกระจกต้อหินเบาหวานนะ
00:35:40 → 00:35:44 ครับความดันขึ้นนะฮะตัวบวมผิวหนังบางเกิด
00:35:44 → 00:35:47 แผลที่ตัวง่ายนะครับเอ่อหน้ากลมๆอ่าผิว
00:35:47 → 00:35:50 เอ่อตรงคอมันเป็นหนอกขึ้นมาหรือว่าเอ่อ
00:35:50 → 00:35:52 กล้ามเนื้อเรามันฝ่อไปอย่างเงี้ยนะครับ
00:35:52 → 00:35:54 นี่เป็นผลเสียของสเตียรอยด์แต่มันมี
00:35:54 → 00:35:56 ประโยชน์ในช่วงแรกแล้วมันทำงานเร็วที่สุด
00:35:56 → 00:35:58 นะครับดังนั้นเราใช้ในช่วงแรกและต้อง
00:35:58 → 00:36:00 พยายามหยุดในช่วงหลังนะครับถ้าหยุดไม่ได้
00:36:00 → 00:36:02 เราก็จะมีการให้ยากลุ่มที่เรียกว่า
00:36:02 → 00:36:05 สเตียรอยด์แฟริ่ง agent นะครับก็คือไปทด
00:36:05 → 00:36:06 แทนสเตียรอยด์แล้วมันไม่มีผลข้างเคียงพวก
00:36:06 → 00:36:08 นั้นแต่ก็มีผลข้างเคียงอย่างอื่นเหมือน
00:36:08 → 00:36:09 กัน
00:36:09 → 00:36:13 ทีนี้มาถึงกรณี sle ที่เป็นรุ่นแรงละรุ่น
00:36:13 → 00:36:16 แรงแปลว่าอะไรรุนแรงแปลว่ามันอาจจะไปทำ
00:36:16 → 00:36:18 ให้อวัยวะภายในของเราเนี่ยมันอาจจะเสียไป
00:36:18 → 00:36:21 ได้เลยก็คือเป็นหัวใจอักเสบรุนแรงนะครับ
00:36:21 → 00:36:25 หรือปอดอักเสบรุนแรงหรือระบบประสาทเรามี
00:36:25 → 00:36:27 ปัญหารุนแรงมากเลยหรือว่าเรามีการชักไป
00:36:27 → 00:36:30 เลยนะหรือบางคนมีอาการไตมันวายแบบรวดเร็ว
00:36:30 → 00:36:33 มากเลยนะครับค่า Clear cine สูงมากๆแบบ
00:36:33 → 00:36:36 นี้เราต้องรักษาโดยด่วนนะครับซึ่งอันนี้
00:36:36 → 00:36:39 แหละครับที่มันจะยากละนะการรักษาในแต่ละ
00:36:39 → 00:36:42 คนเนี่ยผมจะพูดเป็นเอ่อเรียกว่าเป็นแนว
00:36:42 → 00:36:44 ทางแล้วกันนะมันไม่ไม่อย่างนี้เป๊ะเพราะ
00:36:44 → 00:36:46 ว่ามันต้องดูคนไข้เป็นไรๆไปแล้วเราต้อง
00:36:46 → 00:36:49 ถามหมอเป็นรายๆไปเลยมันไม่ไม่มีสูตร
00:36:49 → 00:36:53 สำเร็จรูปนะครับแต่คร่าวๆนะครับก็คือถ้า
00:36:53 → 00:36:55 อาการรุนแรงมากแน่นอนว่าต้อง admit เข้า
00:36:55 → 00:36:58 โรงพยาบาลเรามักจะให้ Steroid Pulse นะ
00:36:58 → 00:37:00 ครับก็คือให้สเตียรอยด์ขนาดสูงมากๆเลย
00:37:00 → 00:37:04 เช่นยาเมทิลเพนนิโซโลนนะครับขนาด 1 กรัม
00:37:04 → 00:37:08 ต่อวันก็คือ 1000 mg นะครับเยอะมากๆเลย
00:37:08 → 00:37:10 ต่อวัน 3 วันติดเลยแล้วหลังจากนั้นเราก็
00:37:10 → 00:37:13 จะลดลงมาแล้วในบางคนเราจะต้องให้ยากลุ่ม
00:37:13 → 00:37:15 ที่เรียกว่าไซโครฟอร์ซประมาณเข้าไปตอน
00:37:15 → 00:37:18 นั้นด้วยนะครับเพื่อที่จะทำให้โรคมันสงบ
00:37:18 → 00:37:21 เร็วที่สุดนะครับพอเราให้สเตียรอย 3 วัน
00:37:21 → 00:37:23 ปุ๊บต่อได้ไซโครฟอร์ซ Smile นะฮะแล้วเรา
00:37:23 → 00:37:25 ก็จะลดยาสเตียรอยด์พวกนั้นเหลือ
00:37:25 → 00:37:27 เพรชนิโซโลนแต่ก็ยังขนาดสูงอยู่ดีก็คือ
00:37:27 → 00:37:30 เอ่อ 1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวันนะครับ
00:37:30 → 00:37:32 แต่ยังไม่ใช่เป็นผ่านร้านนี้จะลดลงมาเยอะ
00:37:32 → 00:37:36 นะแต่ก็ต้องให้ต่อนะครับทีนี้ไม่ใช่ให้
00:37:36 → 00:37:38 สเตียรอยด์แล้วก็ cycover ใหม่แล้วจบนะฮะ
00:37:38 → 00:37:41 ไม่จบนะครับมันจะต้องไม่มันจะต้องมีการ
00:37:41 → 00:37:44 ให้ยาตัวอื่นคู่ไปด้วยยาตัวอื่นเนี่ยมัน
00:37:45 → 00:37:47 จะเป็นยาที่ออกฤทธิ์ช้ากว่าแต่ว่าในระยะ
00:37:47 → 00:37:49 ยาวมันจะดีกว่ายกตัวอย่างเช่นยา
00:37:49 → 00:37:51 ไมโครฟินาเลทนะครับอ่า
00:37:51 → 00:37:52 ยา
00:37:52 → 00:37:56 แท็กโคไลมัสยา azi ฟรีนะครับอย่าไปมูแม็ก
00:37:56 → 00:37:57 อ่ะตรงนี้เป็นยาตัวใหม่แล้วเรามักจะให้
00:37:57 → 00:38:00 ร่วมกันนะครับแต่ว่าเอ่อ
00:38:00 → 00:38:02 เราจะให้ยากลุ่มไหนตัวไหนอันนี้ต้องถาม
00:38:02 → 00:38:05 หมอเป็นรายๆไปละครับเพราะว่าแต่ละคนไม่
00:38:05 → 00:38:07 เหมือนกันนะครับเอ่อ
00:38:07 → 00:38:11 พวกนี้มันก็จะมีเยอะแยะหลากหลายไปหมดนะ
00:38:11 → 00:38:14 ครับยาที่ผมถนัดที่สุดเลยที่ผมใช้แล้วก็
00:38:14 → 00:38:16 ใช้กับการปลูกถ่ายปอดด้วยก็จะเป็นยาธาตุ
00:38:16 → 00:38:19 โคลาไรซ์กับไมโครฟารีนนะครับพวกนี้เราจะ
00:38:19 → 00:38:21 ใช้ได้แล้วก็เรารู้ด้วยว่าทำยังไงกับมัน
00:38:21 → 00:38:23 ที่จะให้โรคอัญชันของแต่ถ้าเราไม่ใช้ตัว
00:38:23 → 00:38:26 นี้เราก็แน่นอนสเตียรอยด์ก่อนไซโครฟอร์ซ
00:38:26 → 00:38:28 สไมล์แล้วก็ตามด้วยยากลุ่มพวกนี้ในที่สุด
00:38:28 → 00:38:31 นะครับร่วมไปกับยาไฮดร็อกซี่โควีนที่เรา
00:38:31 → 00:38:34 บอกใครออกซี่โควินจริงๆถ้าทุกคนใช้ได้โดย
00:38:34 → 00:38:36 ไม่มีผลก็จะใช้เป็นผลนะครับเพราะว่ามันผล
00:38:36 → 00:38:39 ดีมากกว่าผลเสียในกรณีพวกนี้นะครับอันนี้
00:38:39 → 00:38:42 ก็คือเป็นวิธีในการรักษาตัว SME ที่มัน
00:38:42 → 00:38:44 เป็นรุนแรงแบบคร่าวๆแต่นอกเหนือจากนี้
00:38:44 → 00:38:47 อย่าลืมว่าจะต้องรักษาเรื่องอื่นๆเช่นเบา
00:38:47 → 00:38:49 หวานความดันไขมันอะไรพวกเนี้ยที่มันเกิด
00:38:49 → 00:38:53 มาร่วมกับ sle ด้วยนะครับแล้วก็แน่นอนว่า
00:38:53 → 00:38:56 เรื่องของกระดูกพรุนจากการใช้ยาพวกนี้อ่า
00:38:56 → 00:39:00 ต้องรักษาในคนที่มีวางแผนว่าจะตั้งครรภ์
00:39:00 → 00:39:02 จะต้องเอายาไมโครฟารีออกจะให้เป็นยากลุ่ม
00:39:02 → 00:39:07 อื่นเช่นยา azien พวกนี้ก็ได้ยาพวกนี้ถ้า
00:39:07 → 00:39:09 ใครสงสัยจริงๆถามมาเป็นยาแต่ละตัวดีกว่า
00:39:09 → 00:39:12 ครับเพราะว่าผลข้างเคียงของมันมันมีเฉพาะ
00:39:12 → 00:39:14 เจาะจงเยอะเหลือเกินนะครับแล้วมันไม่
00:39:14 → 00:39:16 สามารถที่จะบอกได้หมดทุกอย่างได้นะครับ
00:39:16 → 00:39:20 อ่าพวกยาพวกนี้ก็ก็เป็นตัวพิเศษนะที่เรา
00:39:20 → 00:39:23 จำเป็นจะต้องทราบนะครับการรักษาในแต่ละ
00:39:23 → 00:39:26 อวัยวะก็จะไม่เหมือนกันนะครับคนที่มี Anti
00:39:26 → 00:39:28 Force Syndrome คือเกิดลิ่มเลือดแล้วก็
00:39:28 → 00:39:30 ต้องกินยาหลายๆลิ่มเลือดซึ่งต้องกินไป
00:39:30 → 00:39:33 ตลอดชีวิตนะครับส่วนใหญ่แล้วมักจะต้องกิน
00:39:33 → 00:39:35 ไปตลอดชีวิตนะมีไม่กี่กรณีที่เราหยุดได้
00:39:35 → 00:39:39 นะฮะเพราะว่าการที่มันมีภาวะนี้เกิดขึ้น
00:39:39 → 00:39:41 มาแล้วมันมักจะเกิดซ้ำนะครับแล้วถ้ามัน
00:39:41 → 00:39:43 เกิดซ้ำเนี่ยบางทีมันอาจจะไม่ได้โชคดี
00:39:43 → 00:39:45 เหมือนครั้งแรกนะครับอาจจะเสียชีวิตได้
00:39:45 → 00:39:47 เลยนะฮะดังนั้นเราก็จะต้องกินเอาไว้ตลอด
00:39:47 → 00:39:49 นะฮะเรื่องพวก sle เนี่ยเป็นเรื่องที่มัน
00:39:49 → 00:39:52 เฉพาะมากเลยนะครับดังนั้นจะต้องสอบถามหมอ
00:39:52 → 00:39:55 ที่รักษาถามให้เข้าใจทุกอย่างเลยนะครับ
00:39:55 → 00:39:58 ถามให้เข้าใจทะลุปรุโปร่งก่อนที่จะออกมา
00:39:58 → 00:40:00 จากห้องเพราะว่ายาทุกอย่างที่เราใช้ใน sle
00:40:00 → 00:40:03 นี้มีผลข้างเคียงทั้งหมดไม่มีตัวไหนปลอด
00:40:03 → 00:40:05 ภัยสักตัวเลยนะครับ
00:40:05 → 00:40:08 แต่ว่าถ้ามันคุ้มค่าที่จะเราก็จะต้องใช้
00:40:08 → 00:40:11 นะครับเพราะว่าถ้าเราไม่ใช้ตาหมอแล้วเรา
00:40:11 → 00:40:14 ก็หลายๆคนเนี่ยเวลากลับบ้านมาแล้วแบบมัน
00:40:14 → 00:40:16 ถามผมอย่างนี้ยาตัวนี้มันอันตรายมีผลข้าง
00:40:16 → 00:40:17 เคียงหรือเปล่าเราไม่อยากจะกินไม่ได้นะ
00:40:17 → 00:40:19 ครับถ้าท่านไม่กินแล้วตัวโรคของท่านคุม
00:40:19 → 00:40:23 ไม่ได้นะบางทีท่านอาจจะสูญเสียอวัยวะไป
00:40:23 → 00:40:25 เลยก็ได้นะครับไตวายแล้วมันก็วายเลยนะ
00:40:25 → 00:40:27 ครับก็ต้องล้างไตไปตลอดชีวิตหรือต้องปลูก
00:40:27 → 00:40:30 ไข่ไตแล้วก็ไม่ได้ทุกคนปลูกไผ่ตายได้คือ
00:40:30 → 00:40:31 ร่างกายถ้ามันไม่ไหวก็ปลูกไม่ได้เหมือน
00:40:31 → 00:40:32 กัน
00:40:32 → 00:40:36 นี่แหละครับที่เราต้องมารักษามีอีกอย่าง
00:40:36 → 00:40:40 หนึ่งซึ่งผมลืมพูดไปก็คือเรื่องของอ่า SV
00:40:40 → 00:40:42 ซึ่งเกิดจากยานะครับ
00:40:42 → 00:40:45 ในสมัยที่ผมเรียนเนี่ยก็มีคนสงสัยว่าเอ๊ะ
00:40:45 → 00:40:49 ถ้าเรากลัวว่ายาตัวนี้ที่เราให้ไปเช่น
00:40:49 → 00:40:51 ไฮบารันซีนพวกนี้นะครับมันจะทำให้เกิดโรค
00:40:51 → 00:40:53 ลูปัสเนี่ยเราจำเป็นจะต้องตรวจคัดกรองดู
00:40:54 → 00:40:56 แอนติบอดี้หรือเปล่าเช่นตรวจหา ana ตรวจ
00:40:56 → 00:40:59 หาแอนตี้ฮิสโตนแอนตี้โอนอันที่ลาอะไรพวก
00:40:59 → 00:41:02 นี้หรือเปล่าคำตอบคือไม่ต้องตรวจครับนะ
00:41:02 → 00:41:05 ทำไมถึงไม่ต้องตรวจก็เพราะว่าหลายกรณี
00:41:05 → 00:41:07 เนี่ยมันจะมีค่าพวกเนี้ยที่สูงขึ้นมาได้
00:41:07 → 00:41:10 ได้แต่การที่ค่าพวกนี้มันสูงขึ้นมาได้ไม่
00:41:10 → 00:41:14 ได้แปลว่าท่านจะเกิด sle จากยานะครับมัน
00:41:14 → 00:41:16 คนละประเด็นกันเลยเราจะตรวจก็ต่อเมื่อ
00:41:16 → 00:41:19 เกิดอาการแล้วเท่านั้นตรวจเพื่อยืนยันถ้า
00:41:19 → 00:41:22 ตรวจแล้วยืนยันว่าอันนี้เป็นเราจึงหยุดยา
00:41:22 → 00:41:26 นะครับเอาถึงหยุดยาคนไข้ก็ไม่ต้องไป
00:41:26 → 00:41:28 เครียดนะครับว่าเราฆ่านี้มันสูงขึ้นเราจะ
00:41:28 → 00:41:30 เป็นหรือเปล่าในอนาคตส่วนใหญ่ไม่เป็นครับ
00:41:30 → 00:41:33 แล้วบางครั้งถ้าไปหยุดยาพวกนั้นเนี่ยมัน
00:41:33 → 00:41:35 กลับเกิดผลเสียขึ้นมาทำให้เราเสียโอกาสใน
00:41:35 → 00:41:38 การใช้ยาในการรักษาโรคที่เราเป็นอยู่ก็
00:41:38 → 00:41:41 ได้นะครับคนที่เป็นโรค slee ถ้าเป็นส่วน
00:41:41 → 00:41:43 ตัวของผมนะครับผมจะหลีกเลี่ยงยากลุ่มที่
00:41:43 → 00:41:46 เรียกว่า minocycline ถ้าไม่จำเป็นก็อย่า
00:41:46 → 00:41:48 ไปให้เพราะว่ามันมีปัญหาเหมือนกันนะครับ
00:41:48 → 00:41:52 ในกรณีที่เป็น slee นะฮะโรคนี้เนี่ยมัน
00:41:52 → 00:41:54 ยาวมากโดยสรุปแล้วก็คือมันเป็นโรคที่มี
00:41:54 → 00:41:57 เกิดขึ้นในผู้หญิงซะส่วนใหญ่นะครับในช่วง
00:41:57 → 00:42:01 วัยรุ่นจนถึงวัยผู้ใหญ่นะครับแล้วก็มียา
00:42:01 → 00:42:03 บางชนิดที่ทำให้เกิดอาการ sle ขึ้นมาได้
00:42:03 → 00:42:06 นะครับมีอาการได้ทุกระบบในร่างกายเลยนะ
00:42:06 → 00:42:08 ครับแต่ละคนอาการจะไม่เหมือนกันนะครับ
00:42:08 → 00:42:11 แล้วก็เวลาไปหาหมอแต่ละครั้งเนี่ยเราจะ
00:42:11 → 00:42:13 ซักประวัติตัวร่างกายดูพวกยาต่างๆแล้วก็
00:42:13 → 00:42:18 ตรวจเลือดดูค่า cvc ค่าไตนะครับดู
00:42:18 → 00:42:21 ดูค่าไขมันอะไรพวกนี้ด้วยนะครับเพราะว่า
00:42:21 → 00:42:23 เป็นโรคร่วมที่เราเจอด้วยกันได้ดูค่า
00:42:23 → 00:42:26 โปรตีนที่ออกมาจากไตนะครับแล้วก็ดูค่า
00:42:26 → 00:42:28 Double Brand DNA พวกนี้นะครับเพราะ
00:42:28 → 00:42:30 ว่ามันจะสูงขึ้นได้ถ้าโลกของท่านเป็นเยอะ
00:42:30 → 00:42:33 นะฮะเราก็ตรวจพวกนี้หมดทุกๆครั้งที่ไปหา
00:42:33 → 00:42:35 นะฮะยาก็แล้วแต่ว่าเป็นมากเป็นน้อยยังไง
00:42:35 → 00:42:37 นะครับแล้วก็มีโรคร่วมที่เราต้องไประวัง
00:42:37 → 00:42:40 ก็คือการตั้งครรภ์การคุมกำเนิดนะครับการ
00:42:40 → 00:42:43 งดบุหรี่การฉีดวัคซีนป้องกันต่างๆการพัก
00:42:43 → 00:42:46 ผ่อนที่เพียงพอการทานอาหารให้สมดุลการออก
00:42:46 → 00:42:48 กำลังกายการไม่เครียดการที่ต้องไปรักษา
00:42:48 → 00:42:51 กระดูกพรุนการที่ไปรักษาเรื่องของระบบจิต
00:42:51 → 00:42:55 ใจเยอะเลยครับสรุปคือทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง
00:42:55 → 00:42:58 แล้วก็รักษาตามหมอทั้งสงสัยอะไรก็ถามไป
00:42:58 → 00:43:00 เลยนะครับอ่ะวันนี้ก็แค่นี้นะครับคุยมา
00:43:00 → 00:43:02 ยาวมากเลยเรื่อง sle ถ้าใครมีอะไรสงสัยก็
00:43:02 → 00:43:04 สอบถามมาแล้วกันนะครับวันนี้เท่านี้นะ
00:43:04 → 00:43:08 ครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ