00:00:06 → 00:00:10 เรายังเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะของความ
00:00:10 → 00:00:12 เหนือกว่าทางเพศมาตลอดตั้งแต่ยุคโบราณ
00:00:12 → 00:00:17 ตั้งแต่เรายังเป็นมนุษย์ถ้ำเอางี้ละกันนะ
00:00:17 → 00:00:21 คะแล้ววิวัฒนาการนี้มันมีมาตลอดนะคะโดย
00:00:21 → 00:00:23 เฉพาะมาทางประเทศอะไรก็ตามที่ยังไม่ยอม
00:00:23 → 00:00:27 รับว่าผู้หญิงจะนำผู้ชายได้ธรรมชาติของ
00:00:27 → 00:00:30 ผู้ชายมักจะชื่นชอบความเป็นผู้นำของตัว
00:00:30 → 00:00:34 เขาเองถูกไหมคะชอบการยอมรับชอบเป็นฝ่าย
00:00:34 → 00:00:37 ที่ปกป้องดูแลพูดง่ายๆคือชอบความเหนือ
00:00:37 → 00:00:38 กว่านั่นแหละ
00:00:38 → 00:00:40 [เพลง]
00:00:40 → 00:00:43 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:43 → 00:01:49 การโรงหมอกิตฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:01:49 → 00:01:52 มีความเก่งรอบด้านแถมยังสวยอีกต่างหากเรา
00:01:52 → 00:01:54 ยังรู้สึกว่าหืมอยากเป็นแบบนั้นบ้างใช่
00:01:54 → 00:01:57 ซ้อมไปหมดพร้อมมากค่ะเอ๊ะผู้ชายน่าจะชอบ
00:01:57 → 00:02:00 นะถ้าผู้หญิงที่เป็นแบบคุณศิริพรพูดเก่ง
00:02:00 → 00:02:04 ทั้งในบ้านนอกบ้านเก่งหาเงินบริหารจัดการ
00:02:04 → 00:02:08 นะฮะแล้วก็อะไรต่างๆเหล่านี้เยี่ยมค่ะนะ
00:02:09 → 00:02:14 วงเล็บถ้าเป็นโสดอ้าว
00:02:14 → 00:02:17 นะคะเพราะว่าผู้ชายเนี่ยถ้าผู้หญิงเก่ง
00:02:17 → 00:02:19 ครบเครื่องแบบนี้นะคะขี้มักจะไม่ค่อยกล้า
00:02:19 → 00:02:24 จีบนะคะเอ่อเพราะว่ากลัวอะไรคะผู้ชายมัก
00:02:24 → 00:02:26 จะกลัวถูกเปรียบเทียบทำให้ตัวเองในรู้สึก
00:02:27 → 00:02:30 ว่าด้อยกว่าหรือไร้ความสามารถนะคะเพราะ
00:02:30 → 00:02:33 ฉะนั้นตรงนี้มันแสลงใจผู้ชายมากนี่ถ้าเรา
00:02:33 → 00:02:35 ถามโดยทั่วๆไปก่อนว่าผู้ชายชอบผู้หญิง
00:02:36 → 00:02:40 เก่งไหมก็จะบอกว่าครึ่งนึงบอกว่าชอบชื่น
00:02:40 → 00:02:44 ชมผู้หญิงเก่งนะฮะอีกครึ่งนึงถ้าเป็นผู้
00:02:44 → 00:02:48 หญิงของฉันฉันไม่ชอบอ๋อฉันสามารถเป็นใคร
00:02:48 → 00:02:52 ก็ได้ที่ชื่นชมแต่ไม่เอามาเป็นตัวถามว่า
00:02:52 → 00:02:54 ทำไมอันนี้โดยทั่วๆไปนะคะคุณผู้ชายบางคน
00:02:54 → 00:02:58 อาจจะคิดๆๆค้านหรือว่าบอกไม่จริงผมไม่ใช่
00:02:58 → 00:03:01 อย่างนั้นลองดูนะคะลองดูค่อยๆฟังเราดูต่อ
00:03:01 → 00:03:04 ไปว่าเป็นยังไงนะคะก็เพราะว่าจะให้พาขอ
00:03:04 → 00:03:08 บอกว่าธรรมชาติของผู้ชายเนี่ยมนุษย์เรา
00:03:08 → 00:03:12 ยังเป็นสิ่งมีชีวิตนะคะที่มีลักษณะของของ
00:03:12 → 00:03:15 กันเขาเรียกอะไรความเหนือกว่าทางเพศมา
00:03:15 → 00:03:18 ตลอดถูกไหมคะตั้งแต่ยุคโบราณตั้งแต่เรา
00:03:18 → 00:03:22 ยังเป็นมนุษย์ถ้ำเอางี้ละกันนะคะจะแข็ง
00:03:22 → 00:03:25 ใช่จะแข็งแกร่งเป็นฝ่ายหาอาหารมาเลี้ยง
00:03:25 → 00:03:28 ผู้หญิงนะคะชอบใจผู้หญิงคนไหนก็เอากระบอง
00:03:28 → 00:03:30 ทุบและลากเข้าถ้ำอะไรประมาณนั้นน่ะนะคะ
00:03:30 → 00:03:34 แล้ววิวัฒนาการนี้มันมีมาตลอดนะคะโดย
00:03:34 → 00:03:38 เฉพาะมาทางประเทศทางแถบเอเชียนะคะหรือ
00:03:38 → 00:03:41 ประเทศอะไรก็ตามที่ยังไม่ยอมรับว่าผู้
00:03:42 → 00:03:45 หญิงจะนำผู้ชายได้นึกออกไหมคะมันก็จะเกิด
00:03:45 → 00:03:47 ความรู้สึกเหลื่อมล้ำทางเพศไหนทำไมเรา
00:03:47 → 00:03:50 ต้องมีการต่อสู้เรื่องสิทธิสตรีกันอยู่
00:03:50 → 00:03:52 ตลอดเวลาเราอยู่เมืองไทยเนี่ยบุญของผู้
00:03:52 → 00:03:55 หญิงไทยแล้วค่ะคุณสิรินธรขาที่คุณเอ่อผู้
00:03:55 → 00:03:58 หญิงไทยเนี่ยเราค่อนข้างได้รับสิทธิ
00:03:58 → 00:04:01 เสรีภาพค่อนข้างมากแล้วนะคะค่อนข้างมาก
00:04:01 → 00:04:04 แล้วแต่ลองดูสิคะในผู้บริหารระดับสูง
00:04:04 → 00:04:07 เนี่ยใครมากกว่ากันระหว่างหญิงกับชาย
00:04:07 → 00:04:11 นะคะไม่ว่าจะดูในสภาหรือดูในอะไรก็ตาม
00:04:11 → 00:04:14 เพราะฉะนั้นตรงนี้เนี่ยเราจะเห็นว่า
00:04:14 → 00:04:17 ธรรมชาติของผู้ชายนะคะมักจะชื่นชอบความ
00:04:17 → 00:04:21 เป็นผู้นำของตัวเขาเองถูกไหมคะชอบการยอม
00:04:21 → 00:04:24 รับชอบเป็นฝ่ายที่ปกป้องดูแลพูดง่ายๆคือ
00:04:24 → 00:04:27 ชอบความเหนือกว่านั่นแหละนะฮะใน
00:04:27 → 00:04:29 ประวัติศาสตร์เราจะเห็นว่าทำไมบูเช็ค
00:04:29 → 00:04:31 เทียนนะซึ่งถ้าเราค้นประวัติศาสตร์จริงๆ
00:04:31 → 00:04:34 เนี่ยบูเช็คเทียนเนี่ยเป็นจักรพรรดิดีๆ
00:04:34 → 00:04:36 ที่ทำให้ประเทศจีนเจริญก้าวหน้ามาก
00:04:36 → 00:04:39 เปลี่ยนแปลงการปกครองอะไรต่างๆแต่เธอก็
00:04:39 → 00:04:41 ถูกกล่าวหาว่าเป็นทรราชเป็นนั่นเป็นนี้
00:04:41 → 00:04:44 เพราะอะไรคะลึกๆและเธอคือผู้หญิงจริงไม่
00:04:44 → 00:04:47 จริงอะไรอย่างนี้เป็นต้นเพราะฉะนั้นโดย
00:04:47 → 00:04:50 ธรรมชาตินะฮะผู้ชายเนี่ยมักจะชอบความ
00:04:50 → 00:04:53 เหนือกว่าของผู้หญิงอยู่ดีเพราะฉะนั้นการ
00:04:54 → 00:04:57 ที่เขาชื่นชมผู้หญิงเนี่ยนะคะเอ่อไอ้ผู้
00:04:57 → 00:04:59 ชายในโลกที่เปิดกว้างขึ้นบางทีเขาก็บอก
00:04:59 → 00:05:02 ว่าโอ้ยผมมีแฟนแล้วแฟนผมหาเงินเก่งมากเลย
00:05:02 → 00:05:05 ได้เงินเดือนสูงกว่าผมอีกดีซะอีกไงผมไม่
00:05:05 → 00:05:07 ต้องห่วงเขาไม่ต้องไปหาเงินซื้อของให้เขา
00:05:07 → 00:05:12 ซื้อเองได้สบายใจนะคะอันนี้ก็คือในความ
00:05:12 → 00:05:17 รู้สึกแฟร้งๆแต่มันมีแต่นะฮะแต่ก็คือมัน
00:05:18 → 00:05:20 จะมีความยิ่งถ้าผู้ชายเนี่ยถูกผู้หญิง
00:05:20 → 00:05:22 เหนือกว่าทุกอย่างเนี่ยมันจะเหมือนกับตัว
00:05:22 → 00:05:25 เองเนี่ยถูกริดรอนสิทธิและบางทีไอ้อำนาจ
00:05:25 → 00:05:28 ในการหาเงินได้มากกว่าเนี่ยผู้หญิงบางคน
00:05:28 → 00:05:31 ไม่ระมัดระวังการวางตัวของตัวเองเข้าใจ
00:05:31 → 00:05:35 ไหมคะไม่ระมัดระวังการวางตัวของตัวเองทำ
00:05:35 → 00:05:38 ตัวเหนือกว่าสามีหรือบางทีชอบเอาคำนี้มา
00:05:38 → 00:05:39 พูดว่า
00:05:39 → 00:05:42 คุณไม่ต้องพูดอ่ะฉันน่ะหาทุกอย่างในบ้าน
00:05:42 → 00:05:47 นี้ฉันทั้งนั้นแหละคือผมลักษณะนี้นะฮะ
00:05:47 → 00:05:49 ยิ่งทำให้ผู้ชายเขารู้สึกด้อยแล้วเพราะ
00:05:49 → 00:05:51 ฉะนั้นผู้ชายรู้สึกด้อยแล้วเขาจะมีความ
00:05:51 → 00:05:55 สุขไหมคะนะตรงเนี้ยอาจารย์ขอใช้คำว่าผู้
00:05:55 → 00:05:58 หญิงเก่งและโอเคแต่อย่าเก่งเกินไปคำว่า
00:05:58 → 00:06:01 เกินไปเนี่ยก็หมายถึงอะไรที่มันมากเกินไป
00:06:01 → 00:06:04 นะคะเพราะฉะนั้นผู้หญิงเก่งเนี่ยไม่ได้
00:06:04 → 00:06:07 เสียหายเลยแต่ถ้าเราชอบแสดงออกบ่อยๆนะฮะ
00:06:07 → 00:06:10 เอาเอาผู้หญิงโสดก่อนแล้วกันนะถ้าผู้หญิง
00:06:10 → 00:06:13 โสดเนี่ยนะฮะแล้วแสดงออกบ่อยๆว่าดูแลตัว
00:06:13 → 00:06:16 เองได้ไม่ต้องพึ่งใครฉันหาเงินเก่งฉัน
00:06:16 → 00:06:19 อยู่คนเดียวได้ฉันไม่โง่ใครฉันไม่จำเป็น
00:06:19 → 00:06:22 ต้องมีใครในชีวิตเป็นโสดเถอะค่ะเพราะอะไร
00:06:22 → 00:06:24 คะผู้ชายเขาก็จะหมั่นไส้เล็กๆแล้วก็ถ้า
00:06:24 → 00:06:29 เป็นแบบนี้เขาก็ไม่จีบหรอกอ๋อคือเก่งได้
00:06:29 → 00:06:32 อยู่สดๆตายอยู่ติอ่า
00:06:32 → 00:06:35 ฉันดูแลตัวเองแบบอะไรอย่างเงี้ยเพราะ
00:06:35 → 00:06:38 ฉะนั้นเราฟังกันแล้วเนี่ยอยู่ที่ไหนมัน
00:06:38 → 00:06:41 อยู่ที่การวางตัวของผู้หญิงใช่ไหมคะถ้า
00:06:41 → 00:06:45 เราเก่งแต่เราไม่ทำตัวเหนือใครไม่ข่มใคร
00:06:45 → 00:06:49 ไม่ทำให้ใครหมั่นไส้นะฮะมันก็จะเป็นอะไร
00:06:49 → 00:06:52 ที่น่ารักอ่ะจริงๆมันอาจจะเป็นคำเดียวเลย
00:06:52 → 00:06:56 คำว่าหมั่นไส้มันทำให้ซึ่งหลายๆอย่างมัน
00:06:56 → 00:06:58 เกิดเหตุการณ์อะไรอย่างขึ้นมาได้ผู้ชาย
00:06:58 → 00:07:02 โคตรจะเบื่อค่ะน่าเบื่อมากถึงมากที่สุด
00:07:02 → 00:07:05 แต่ถ้าผู้หญิงหมั่นไส้กันน่ะคือไม่แปลกนะ
00:07:05 → 00:07:07 แต่ผู้ชายมีความรู้สึกคำว่าหมั่นไส้ขึ้น
00:07:07 → 00:07:11 มาเนี่ยมันต้องแบบขั้นกว่าจริงๆเพราะว่า
00:07:11 → 00:07:14 มันจะเกิดการแข่งขันกันทางเพศหลายคู่ที่
00:07:14 → 00:07:18 หย่าร้างกันเพราะสามีภรรยาแข่งกันเองโดย
00:07:18 → 00:07:22 ไม่รู้ตัวทั้งๆที่รักกันเนี่ยแหละแต่มัน
00:07:22 → 00:07:26 ศักดิ์ศรีต่างคนต่างจากสีนะฮะอันนี้ไม่
00:07:26 → 00:07:29 ได้พูดถึงว่ามีคนอื่นเขามาเกิดความรู้สึก
00:07:29 → 00:07:32 แบบนั้นนี่คือการแข่งกันเองระหว่างเพศ
00:07:32 → 00:07:35 เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าบางทีเนี่ยโดยเฉพาะ
00:07:35 → 00:07:38 ผู้ชายซึ่งอย่างที่บอกอ่ะค่ะเขาเป็นเพศ
00:07:38 → 00:07:41 ที่ต้องการศักดิ์ศรีต้องการความเหนือกว่า
00:07:41 → 00:07:43 ใครจะมาบอกว่าโอ๊ยผมไม่เป็นอย่างนั้นลึกๆ
00:07:43 → 00:07:46 เป็นอย่างนี้ทุกคนอันนี้มันคือมันคือ
00:07:46 → 00:07:48 ธรรมชาติเราต้องใช้คำนี้ไม่ได้แปลว่าเขา
00:07:48 → 00:07:50 เลวร้ายนะคะเพราะฉะนั้นเขาก็จะรู้สึก
00:07:51 → 00:07:53 เหมือนกับเขานี่ถูกย่ำยีศักดิ์ศรีของผู้
00:07:53 → 00:07:57 ชายนะฮะจนทำให้เขาไม่อยากเข้าใกล้อ่ะไม่
00:07:57 → 00:07:59 อยากเข้าใกล้ผู้หญิงคนเนี้ยถ้าชอบข่มชอบ
00:07:59 → 00:08:02 อะไรไปไหนก็วางตัวแล้วชอบขุดเรื่องเหล่า
00:08:02 → 00:08:04 นี้ขึ้นมาพูดถ้ายิ่งเวลาที่ผู้ชายเค้า
00:08:04 → 00:08:07 ด้อยกว่าหรืออะไรต่างๆเหล่านี้นะฮะจะเจอ
00:08:07 → 00:08:10 ค่อนข้างค่ะที่ผู้ชายกับผู้หญิงคือสามี
00:08:10 → 00:08:13 ภรรยาแข่งกันเองอะไรอย่างนี้นะคะ
00:08:13 → 00:08:17 เพราะฉะนั้นเนี่ยผู้หญิงที่เก่งกว่าหรือ
00:08:17 → 00:08:19 ฉลาดกว่าผู้ชายเนี่ยนะฮะอาจารย์วิภาบอก
00:08:19 → 00:08:23 ต้องมีความเฉลียวด้วยถามว่าทำไมนะฮะเพราะ
00:08:24 → 00:08:25 ผู้หญิงที่รู้จักว่าตัวเองเก่งกว่าเนี่ย
00:08:25 → 00:08:28 ต้องไม่แสดงออกหรือแสดงอีโก้ของตัวเองมาก
00:08:28 → 00:08:31 เกินไปนะว่าตัวเองเนี่ยเก่งที่สุดเก่ง
00:08:31 → 00:08:35 กว่าฉลาดกว่าไม่ฟังใครนะคะแล้วก็ไม่ว่าจะ
00:08:35 → 00:08:38 เป็นกริยาท่าทางหรือคำพูดต้องระวังบางคน
00:08:38 → 00:08:40 บอกอุ๊ยฉันไม่เป็นอย่างนั้นแต่เป็นค่ะนะ
00:08:40 → 00:08:43 คะไม่รู้ตัวหรอกว่าตัวเองทำอะไรที่มันมัน
00:08:43 → 00:08:46 คอยรับผู้ชายเขาตลอดเวลาตัวจะไม่พายเองก็
00:08:46 → 00:08:51 เคยเจอคู่สามีภรรยาที่ว่าภรรยาก็ชื่นชม
00:08:51 → 00:08:54 สามีตัวเองนะว่าสามีตัวเองกะใหญ่เป็นใหญ่
00:08:54 → 00:08:57 เป็นโตอะไรเงี้ยค่ะแต่เผลอมาดุสามีต่อ
00:08:57 → 00:09:01 หน้าต่อหน้าทีละกำนันเนี่ยบางทีตวาดสามี
00:09:01 → 00:09:03 หรืออะไรอย่างเงี้ยสิ่งเหล่านี้มันมันไม่
00:09:03 → 00:09:06 โอเคไงคะนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:09:06 → 00:09:09 ผู้หญิงที่ฉลาดและเฉลียวเนี่ยจะต้องรู้
00:09:09 → 00:09:12 จักกาลเทศะนะฮะความเหมาะสมบางทีอยู่กัน
00:09:12 → 00:09:14 สองต่อสองคุณจะไปรับสามีนะไม่เป็นไรหรอก
00:09:15 → 00:09:17 แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นคุณต้องให้
00:09:17 → 00:09:20 เกียรติเค้าคุณต้องให้ความรู้สึกที่ดีต่อ
00:09:20 → 00:09:23 สังคมกับเขานะฮะเพราะว่าผู้ชายบางคนเขา
00:09:23 → 00:09:25 เป็นคนที่ละเอียดอ่อนน่ะบางทีเขารู้สึก
00:09:25 → 00:09:28 อ่ะใช่แล้วเค้าก็เก็บความเก็บช้ำในเอาไว้
00:09:28 → 00:09:32 แล้วก็ไปออกหรือวิธีอื่นซึ่งเดี๋ยวมาคุย
00:09:32 → 00:09:35 กันก็ได้ค่ะพอไปออกวิธีไหนบ้างนะคะเพราะ
00:09:35 → 00:09:37 ฉะนั้นผู้หญิงต้องรู้ว่าเมื่อไหร่
00:09:37 → 00:09:40 คนเก่งเมื่อไหร่ไม่ควรเก่งอย่าทำตัวบงการ
00:09:40 → 00:09:44 หรือเหนือกว่าผู้ชายนะอยู่ในการวางตัวที่
00:09:44 → 00:09:48 ดีพูดจาดีเห็นไหมคะพวกแม่ไม่พูดจาโจ้งจับ
00:09:48 → 00:09:51 หรือทำบับเขาอะไรอย่างนี้นะคะมีกริยาท่า
00:09:51 → 00:09:54 ทางที่ดีต้องให้เกียรติแล้วก็ให้ความ
00:09:54 → 00:09:57 เคารพนับถือต่อให้เขาเป็นสามีที่อายุน้อย
00:09:57 → 00:10:00 กว่าเราหรือว่าเขาด้อยในเรื่องอะไรต่อเรา
00:10:00 → 00:10:03 แต่ขณะนี้เขาเป็นสามีเราเราก็ต้องให้
00:10:03 → 00:10:06 เกียรติและให้ความนับถือเขาพอสมควรนะคะใน
00:10:06 → 00:10:09 กรณีที่สามีเด็กกว่าหรืออะไรกว่าเพราะ
00:10:09 → 00:10:12 เดี๋ยวนี้แล้วก็นิยมคู่ครองที่นะฮะเด็ก
00:10:12 → 00:10:14 กว่าหรืออะไรอย่างเงี้ยนะฮะ
00:10:14 → 00:10:17 จะไม่พายังชอบคำนี้อยู่เลยค่ะคุณศิริพร
00:10:17 → 00:10:20 ว่าถ้าเรารู้จักกาลเทศะอะไรเนี่ยนะคะ
00:10:20 → 00:10:24 เขาจะมีคำพูดหรือว่าผู้หญิงโง่มักจะเป็น
00:10:24 → 00:10:26 เหยื่อของผู้ชายฉลาด
00:10:26 → 00:10:30 แต่อาจารย์วิภาชอบต่อว่าแต่ผู้ชายฉลาดน่ะ
00:10:30 → 00:10:32 เป็นเหยื่อของผู้หญิงแกล้งโง่ค่ะนั่นคือ
00:10:32 → 00:10:35 คุณต้องแก้โง่ให้เป็นว่าเวลาที่คุณอยู่
00:10:35 → 00:10:37 กับสามีเนี่ยอยากให้คู่รักคู่ครองเรา
00:10:37 → 00:10:40 เนี่ยรู้สึกดีแค่ไหนเนี่ยนะฮะให้เขารู้
00:10:40 → 00:10:42 สึกภาคภูมิใจในตัวเองและภาคภูมิใจที่มี
00:10:42 → 00:10:46 เราเป็นคู่ชีวิตที่ดีด้วยเนี่ยนะคะบาง
00:10:46 → 00:10:48 ครั้งเราต้องแกล้งโง่กว่าเขาบางครั้งเรา
00:10:48 → 00:10:51 ต้องยอมโอนอ่อนต่อเขาอย่าไปทำอีโก้มากนัก
00:10:51 → 00:10:55 มันไม่น่ารักอ่ะนะคะเพราะคนเราเนี่ยไม่มี
00:10:55 → 00:10:57 ใครเก่งทุกเรื่องแล้วก็เก่งทุกวันเก่ง
00:10:57 → 00:11:00 ตลอดเวลามันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะเหมือนกับ
00:11:00 → 00:11:04 ว่าถ้าจะเก่งก็อาจจะเก่งนอกบ้านแต่พอเข้า
00:11:04 → 00:11:06 บ้านปุ๊บอาจจะเปลี่ยนบทบาทนิดนึงมันต้อง
00:11:06 → 00:11:09 ช่วยเหลือเกื้อกูลกันถูกไหมคะให้เกียรติ
00:11:09 → 00:11:11 กันและกันว่าเมื่อไหร่ควรจะนำเมื่อไหร่
00:11:11 → 00:11:14 ควรจะถอยนะฮะเรียกว่าอยู่ในสายกลางมันจึง
00:11:14 → 00:11:17 ไม่มีคำว่ามากเกินไปทำไมบางคู่เนี่ยผู้
00:11:17 → 00:11:20 หญิงทำงานนอกบ้านผู้ชายเนี่ยทำงานบ้าน
00:11:20 → 00:11:24 อยู่ในครัวรับส่งลูกอะไรต่างๆแต่เขาอยู่
00:11:24 → 00:11:27 ด้วยกันได้เพราะผู้หญิงเขาให้เกียรติสามี
00:11:27 → 00:11:31 ตลอดไม่เคยมาดูถูกว่าสามีเป็นทำงานบ้านก็
00:11:31 → 00:11:33 ทำงานบ้านเนี่ยมันก็คือการขอโทษนะคะ
00:11:33 → 00:11:35 อาจารย์วิชัยใช้คำว่าค้ำบัลลังก์อ่ะ
00:11:35 → 00:11:38 สมมุติผู้หญิงเป็นมีบัลลังก์เป็นราชินี
00:11:38 → 00:11:41 อยู่นอกบ้านแต่เขาสบายใจในบ้านได้เพราะ
00:11:41 → 00:11:44 สามีดูแลอย่างดีไม่ต้องห่วงลูกไม่ต้อง
00:11:44 → 00:11:47 อะไรต่ออะไรเพราะว่าผู้หญิงที่เก่งงานนะ
00:11:47 → 00:11:49 คะคุณศิริพรมักจะมีปัญหากับลูกทั้งนั้น
00:11:49 → 00:11:52 จริงไม่จริงนะคะเพราะฉะนั้นแต่ถ้าสามี
00:11:52 → 00:11:55 แปลงตัวเองให้มารับบทบาทนี้ได้ดีเนี่ยมัน
00:11:55 → 00:11:57 ก็ไม่เห็นจะเสียหายแต่เราต้องให้เกียรติ
00:11:57 → 00:12:00 ซึ่งกันและกันถูกไหมคะถ้าเรายิ่งไปบาป
00:12:00 → 00:12:03 เข้าไปอะไรเขาเนี่ยชีวิตครอบครัวมันก็ล้ม
00:12:03 → 00:12:06 เหลวหรือว่าชีวิตคู่ของคู่รักเนี่ยมันก็
00:12:06 → 00:12:07 ล้มเหลวในที่สุด
00:12:07 → 00:12:11 มันก็มีหลายปัจจัยอยู่จริงๆไม่ได้บอกว่า
00:12:11 → 00:12:13 ผู้ชายจะต้องออกไปทำงานนอกบ้านแล้วผู้
00:12:13 → 00:12:15 หญิงทำงานบ้านอย่างเดียวเดี๋ยวนี้มันก็
00:12:15 → 00:12:17 สลับกันได้แล้วยิ่งเดี๋ยวนี้เรามี
00:12:17 → 00:12:19 ฟรีแลนซ์เยอะใช่ไหมคะผู้ชายบางคนเนี่ยเขา
00:12:19 → 00:12:22 อาชีพฟรีแลนซ์คือเขาอยู่กับบ้านได้เขาอาจ
00:12:22 → 00:12:26 จะใกล้ชิดกับลูกมากกว่าเพราะฉะนั้นเอาผ้า
00:12:26 → 00:12:29 ซักนะคะรับส่งลูกอะไรอย่างนี้เขาทำได้ดี
00:12:29 → 00:12:31 กว่าในผู้หญิงอาจจะไปเก่งในเรื่องของการ
00:12:31 → 00:12:34 หาเงินบริหารจัดการนอกบ้านแต่มันอยู่ที่
00:12:34 → 00:12:37 การวางตัวเมื่อเรามาอยู่กับสามีเราก็จะ
00:12:37 → 00:12:40 กลายเป็นลูกแมวน้อยอะไรอย่างนี้กับสำหรับ
00:12:40 → 00:12:43 เขาก็ได้เหมือนทำมีไหมคะว่าเราต้องรู้จัก
00:12:43 → 00:12:45 บทบาทของเราที่กำลังจะเล่นเหมือนมันเป็น
00:12:45 → 00:12:47 ละครเรื่องนึงอ่ะใช่ลองไปเล่นบทบาทข้าง
00:12:47 → 00:12:50 นอกมาเรียบร้อยละกลับเข้าบ้านก็อีกบ่นหาด
00:12:50 → 00:12:53 นึงทำให้สามีเขารู้สึกนะฮะทำให้ผู้ชายเขา
00:12:54 → 00:12:57 รู้สึกว่าเขามีศักดิ์ศรีนะคะเขามีความภาค
00:12:57 → 00:13:00 ภูมิใจในตัวเองมันเป็นธรรมชาติของผู้ชาย
00:13:00 → 00:13:01 จริงๆใช่มั้ยคะอาจารย์ที่แบบว่ายังไงคือ
00:13:01 → 00:13:05 ต่อให้ยังไงเขาก็มีศักดิ์ศรีอาจารย์วิภา
00:13:05 → 00:13:08 ขอยืนยันไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็น lgbt
00:13:08 → 00:13:11 หรืออะไรก็ตามนะคะสีเค้าก็มีศักดิ์ศรีของ
00:13:11 → 00:13:15 ความเป็นคนนะฮะเพราะฉะนั้นในเมื่อเราเข้า
00:13:15 → 00:13:17 ใจธรรมชาติว่าผู้ชายเป็นอย่างนี้นะคะถ้า
00:13:17 → 00:13:20 เราสนองความต้องการของเขาได้โดยการที่ทำ
00:13:20 → 00:13:23 ตัวเป็นผู้หญิงที่เหมือนกับให้เขาปกป้อง
00:13:23 → 00:13:25 บ้างให้เค้าคุ้มครองบ้างให้เค้าเหนือกว่า
00:13:25 → 00:13:28 บ้างเนี่ยเออมันก็จะทำให้ชีวิตคู่เราโอเค
00:13:28 → 00:13:32 ถูกไหมคะทำอะไรไม่เป็นบ้างอ่า
00:13:32 → 00:13:34 เรียกร้องเรียกร้องความช่วยเหลือบ้างอะไร
00:13:34 → 00:13:37 อย่างนี้ค่ะโดยเฉพาะกับเขานะคะโดยเฉพาะ
00:13:37 → 00:13:40 กับเขาเดี๋ยวจะไปใช้วิธีนี้เปิดขวดน้ำไม่
00:13:40 → 00:13:42 ได้
00:13:42 → 00:13:46 อย่างนี้ค่ะมันก็จะมันต้องปรับกันไปจะไม่
00:13:46 → 00:13:48 พอใช้คำนี้นะคะเพราะนี้มันเป็นธรรมชาติ
00:13:48 → 00:13:52 ของต้องใช้คำว่าสัตว์เพศผู้เกือบทุกอย่าง
00:13:52 → 00:13:56 เกือบทุกอย่างนะคะที่มันเป็นลักษณะนั้น
00:13:56 → 00:14:00 ก็เป็นเป็นสิ่งที่คือหลายๆคนก็กังวล
00:14:00 → 00:14:03 เหมือนกันเพราะว่ามีอยู่เคสนึงค่ะอาจารย์
00:14:03 → 00:14:05 ที่รู้จักการเป็นพี่ที่รู้จักกัน
00:14:05 → 00:14:08 เขาก็แต่งงานมานานมากแล้วค่ะ
00:14:08 → 00:14:11 พี่ท่านมีก็คือเป็นลูกจ้างเหมือนกับเรา
00:14:11 → 00:14:14 สมัยก่อนก็เป็นแค่ลูกจ้างแต่ว่าภรรยาพี่
00:14:14 → 00:14:17 เขาเนี่ยโอ้โหหน้าที่การงานขึ้นไปโอ้โห
00:14:17 → 00:14:20 ใหญ่โตค่ะเราไม่รู้ว่าในระหว่างการซึ่ง
00:14:20 → 00:14:22 กันและกันเนี่ยเขาเป็นยังไงเพราะเราไม่
00:14:22 → 00:14:24 เคยเข้าไปคลุกคลีกับครอบครัวเขาแต่ว่า
00:14:24 → 00:14:28 เวลาที่พี่เขาเล่าให้เราฟังเนี่ยมันเจือ
00:14:28 → 00:14:33 ไปด้วยแววตาแล้วความรู้มันแบบมันเจืออยู่
00:14:33 → 00:14:35 ในความเอ่อ
00:14:35 → 00:14:38 ในใจอยู่อย่างเงี้ยเออ
00:14:38 → 00:14:42 ภรรยาหน้าที่การงานดีแต่ตัวเขายังเป็นแค่
00:14:42 → 00:14:45 ลูกจ้างอยู่เลยครอบครัวภรรยาก็พรานจะดู
00:14:45 → 00:14:48 ถูกค่ะดูหมิ่นดูแคลนอะไรอย่างนี้ค่ะแต่
00:14:48 → 00:14:51 เขาก็อยู่ด้วยกันมาตั้งนานหลายปีนะเราก็
00:14:51 → 00:14:54 ยังสงสัยอยู่ว่าเอ๊ะทำไมพี่เขาถึงเกิด
00:14:54 → 00:14:57 ความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาค่ะแต่ตอนนั้นเรา
00:14:57 → 00:15:01 ก็ยังไม่สามารถให้คำอธิบายอะไรได้ชัดเจน
00:15:01 → 00:15:03 ว่ามันยังไงซึ่งเพราะว่าเราไม่ได้รู้ว่า
00:15:03 → 00:15:06 เวลาเขาอยู่ด้วยกันค่ะเป็นฟิลลิ่งแบบไหน
00:15:06 → 00:15:08 แต่อันนี้มันมีเรื่องของคนอื่นปัจจัย
00:15:08 → 00:15:11 อย่างคนรอบข้างมีส่วนทำให้เขารู้สึกแบบ
00:15:11 → 00:15:14 นี้เพราะว่าการแต่งงานของคนของคนไทยไม่
00:15:14 → 00:15:17 ใช่เรื่องของคนสองคนแต่เป็นเรื่องของโคตร
00:15:17 → 00:15:20 สังคมโคตรนะฮะเพราะฉะนั้นตรงนี้แน่นอนค่ะ
00:15:20 → 00:15:24 เสียดสีนินทาของคนรอบข้างก็จะอย่างงั้น
00:15:24 → 00:15:28 อย่างงี้แต่ถ้าภรรยาเขายังรักษาใจสามี
00:15:28 → 00:15:30 เค้าไว้ได้นั่นก็คือว่าใครจะพูดยังไงก็
00:15:30 → 00:15:34 ตามแต่เธอยังเป็นที่ต้องการของฉันฉันขาด
00:15:34 → 00:15:37 เธอไม่ได้แล้วให้ความรู้สึกที่ดีกับสามี
00:15:37 → 00:15:38 ตลอดเนี่ย
00:15:38 → 00:15:41 จะพยุงให้สามีอยู่ได้แต่เมื่อไหร่ก็ตาม
00:15:41 → 00:15:45 ท่าทีของภรรยานี่แหละมากดขี่เขามาข่มเขา
00:15:45 → 00:15:49 มาอะไรเขาก็สักวันเขาก็จะจังหวะแต่ค่ะนะ
00:15:49 → 00:15:52 คะแล้วเวลาที่ผู้ชายแต่มันจะออกวิธีต่างๆ
00:15:52 → 00:15:53 กันเช่น
00:15:53 → 00:15:56 อยู่ในบ้านฉันเป็นอีกไอ้กระจอกประจำบ้าน
00:15:56 → 00:16:01 ใช่ไหมฉันก็จะไประเริงข้างนอกนะคะเช่นการ
00:16:01 → 00:16:04 นอกใจตามมาการไปเป็นบ้านมีบ้านเล็กบ้าน
00:16:04 → 00:16:08 น้อยที่เขาจะเทิดทูนฉันว่าฉันใหญ่เหลือ
00:16:08 → 00:16:11 เกินยิ่งใหญ่เหลือเกินนะฮะไปหาภรรยาที่
00:16:11 → 00:16:14 ด้อยกว่าภรรยาเดิมนึกออกไหมเพื่อให้ตัว
00:16:14 → 00:16:16 เองเนี่ยรู้สึกว่าตัวเองได้อยู่เหนือใคร
00:16:16 → 00:16:19 สักคนนึงอะไรอย่างนี้มันก็จะเป็นผลพวงที่
00:16:19 → 00:16:22 ทำให้ชีวิตครอบครัวเราล่มสลายในที่สุด
00:16:22 → 00:16:26 หรืออาจจะไปหาวิธีหาเงินผิดๆนะคะเพื่อให้
00:16:26 → 00:16:29 ได้ศักดิ์ศรีของเงินเดี๋ยวนี้มันวัดกัน
00:16:29 → 00:16:31 ด้วยเงินใช่ไหมให้ฉันรวยๆขึ้นมาอะไรต่างๆ
00:16:31 → 00:16:35 เหล่านี้ค่ะนะคะก็เป็นวิถีทางที่จะออกใน
00:16:35 → 00:16:38 ทางที่ผิดทั้งนั้นที่คุณชลีพรบอกว่าเคส
00:16:38 → 00:16:41 นี้เขาทนมากันมาตั้งนานแล้วเขาก็ยังทนกัน
00:16:41 → 00:16:43 ต่อไปก็เพราะว่าเขายังทนไหว
00:16:43 → 00:16:46 แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งเขาทนไม่ไหวนะคะหรือ
00:16:46 → 00:16:49 ภรรยาเขาไม่ประคับประคองใจเขาในขณะที่พี่
00:16:49 → 00:16:53 น้องเนี่ยดูถูกเขาหรือว่าว่ากล่าวข่มเหง
00:16:53 → 00:16:56 เขาอะไรเงี้ยแล้วภรรยาไม่ปกป้องหรือภรรยา
00:16:56 → 00:16:59 ไม่ช่วยเขาเนี่ยให้เขารู้สึกดีขึ้นมันก็
00:16:59 → 00:17:02 อาจจะจบด้วยการหย่าร้างหรืออาจจะจบด้วย
00:17:02 → 00:17:05 การทำอะไรที่มันผิดไปอย่างนี้ค่ะมันกลาย
00:17:05 → 00:17:09 เป็นว่าเท่าที่เท่าที่ฟังหรือว่าอะไรก็
00:17:09 → 00:17:10 แล้วแต่เนี่ยกำลังรู้สึกว่าอย่างที่
00:17:10 → 00:17:13 อาจารย์เคยคุยกันกันบ่อยๆอ่ะเนาะว่าเรา
00:17:13 → 00:17:17 ขาดการสื่อสารได้เรารู้สึกยังไงเราต้อง
00:17:17 → 00:17:20 บอกถึงแม้ว่าเขาจะโอเคเหนือกว่าเราแต่ว่า
00:17:20 → 00:17:22 จริงๆเราต้องบอกใช่ไหมคะว่าตอนนี้กำลัง
00:17:22 → 00:17:25 รู้สึกแบบนี้อยู่มันกำลังเกิดเหตุการณ์
00:17:25 → 00:17:27 แบบนี้อยู่ใช่ค่ะใช่ไหมคะใช่ค่ะจะได้แบบ
00:17:27 → 00:17:31 แชร์กันว่าเอ้ยจริงๆไม่ได้อย่างนี้นะหรือ
00:17:31 → 00:17:34 อะไรแล้วบางทีอีกฝ่ายอาจจะไปคุยกับบุคคล
00:17:34 → 00:17:38 อื่นว่ามันไม่ใช่อย่างนี้นะหรือทำความ
00:17:38 → 00:17:42 เข้าใจใหม่แล้วก็จะได้เกิดโมเมนต์ที่คือ
00:17:42 → 00:17:44 ถ้าผู้หญิงแสดงออกชัดเจนเลยนะคะว่าที่เขา
00:17:44 → 00:17:47 สำเร็จทุกวันเนี้ยเพราะเขามีผู้ชายคน
00:17:47 → 00:17:50 เนี้ยอยู่เบื้องหลังเขาอะไรอย่างเงี้ยดี
00:17:50 → 00:17:53 กว่าจะไปหลบซ่อนใช้วิธีผิดๆอะไรอย่าง
00:17:53 → 00:17:55 เงี้ยนะคะที่ยิ่งทำให้ศักดิ์ศรีเขารู้สึก
00:17:55 → 00:17:58 ด้อยลงไปเช่นบางคนเนี่ยมีวิธีอย่างที่
00:17:58 → 00:18:58 ภรรยาเนี่ยอยากได้ของแพงๆ
00:18:58 → 00:19:02 [เสียงหัวเราะ]
00:19:02 → 00:19:05 สังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ทั้งโลกนี้ถ้า
00:19:05 → 00:19:08 เมื่อไหร่ก็ตามเราคิดในทางกลับกันถ้าผู้
00:19:08 → 00:19:11 ชายเหนือกว่าเราเป็นฝ่ายหาเงินได้อะไรได้
00:19:11 → 00:19:13 ทำไมผู้หญิงรู้สึกเฉยๆ
00:19:13 → 00:19:16 ใช่ไหมคะแต่เมื่อไหร่ที่ผู้หญิงหาเงินได้
00:19:16 → 00:19:20 ดีกว่าอะไรที่เหนือกว่าผู้ชายกับรู้สึก
00:19:20 → 00:19:23 แย่เพราะฉะนั้นตรงนี้เห็นไหมคะมันเป็น
00:19:23 → 00:19:25 สังคมโลกที่มันเป็นผู้ชายเป็นใหญ่อยู่
00:19:25 → 00:19:28 ทั้งนั้นแหละในความรู้สึกอ่ะมันถูกวางไว้
00:19:28 → 00:19:30 แบบเป็น
00:19:30 → 00:19:33 วัฒนธรรมเหรอคะหรือเป็นแบบที่แบบผู้ชาย
00:19:33 → 00:19:35 ต้องเป็นช้างเท่าหน้าอันนี้ได้ยินได้แต่
00:19:35 → 00:19:38 สมัยไหนแล้วปัจจุบันอาจจะเดินเท้าเดียว
00:19:38 → 00:19:39 กัน
00:19:39 → 00:19:43 ซ้ายขวาไปพร้อมๆกันใช่ค่ะก็บางคนก็มองใน
00:19:43 → 00:19:45 แง่ตลกนะที่ผู้หญิงเขาบอกว่าเออผู้ชายจะ
00:19:45 → 00:19:47 เป็นช้างเท้าหน้าก็เป็นไปแต่ฉันน่ะเป็น
00:19:47 → 00:19:49 ควาญช้าง
00:19:49 → 00:19:52 คอยบังคับอีกทีนึงค่ะเพราะฉะนั้นตรงนี้
00:19:52 → 00:19:55 มันก็เป็นการปรับตัวของทั้งสองฝ่ายมาก
00:19:55 → 00:19:57 กว่าเพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไปคือแน่นอน
00:19:57 → 00:19:59 ล่ะสมัยก่อนเนี่ยผู้ชายมีพละกำลังมากกว่า
00:19:59 → 00:20:02 เป็นฝ่ายหาอาหารเป็นฝ่ายหาเงินเข้าบ้าน
00:20:02 → 00:20:05 อะไรอย่างนี้ใช่ไหมปกป้องเพราะตัวใหญ่
00:20:05 → 00:20:09 กว่าสรีระที่ใหญ่กว่าแต่ว่าแต่ว่าใน
00:20:09 → 00:20:12 ปัจจุบันเนี่ยผู้หญิงอ่ะแล้วงานมันก็ทำ
00:20:12 → 00:20:13 เคียงบ่าเคียงไหล่กันอะไรกันอย่างเงี้ย
00:20:13 → 00:20:16 ค่ะเพราะฉะนั้นมันก็จำเป็นผู้ร่วมคิดร่วม
00:20:16 → 00:20:20 รู้ร่วมทำด้วยกันในชีวิตคู่นะคะค่ะแต่มัน
00:20:20 → 00:20:22 อยู่ที่การให้เกียรติกันและกันแล้วก็การ
00:20:22 → 00:20:24 วางตัวอย่างที่บอกวางตัวเป็นเรื่องสำคัญ
00:20:24 → 00:20:29 นะผู้หญิงบางคนฉันอาจจะเป็นนางพญาเสือดาว
00:20:29 → 00:20:31 นอกบ้านแต่พออยู่บ้านแล้วฉันเป็นแมวน้อย
00:20:31 → 00:20:34 ของสามีอะไรอย่างเงี้ยสามีเขาก็รับได้ไง
00:20:34 → 00:20:37 เขาก็รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเขาเองอ่าอะไร
00:20:37 → 00:20:40 อย่างเงี้ยค่ะเคยที่จริงอยู่เหมือนกันค่ะ
00:20:40 → 00:20:44 อาจารย์คุณผู้ฟังที่ว่าเราต้องแบบแกล้งทำ
00:20:44 → 00:20:48 เป็นไม่รู้หมายถึงว่าไม่ต้องรู้ทุกเรื่อง
00:20:48 → 00:20:51 นู้นเรื่องนี้รู้ไปซะหมดเลยทุกอย่างเอา
00:20:51 → 00:20:53 จริงๆเป็นคนเก่งรอบรู้รอบรู้แต่ก็ไม่ต้อง
00:20:53 → 00:20:56 รู้ไม่ต้องแสดงอวดบางอย่างต้องทำเป็น
00:20:56 → 00:20:58 เหมือนกับว่าใช้คำว่าทำเป็นเหมือนด้วยนะ
00:20:58 → 00:21:01 แกล้งโง่แกล้งโง่อันนี้คืออะไรอ่ะหรือแบบ
00:21:01 → 00:21:05 บางอย่างขอความช่วยเหลือหน่อยๆซึ่งแบบมัน
00:21:05 → 00:21:08 ก็จะทำให้ผู้ชายได้แสดงศักยภาพออกมาเฉิด
00:21:08 → 00:21:11 ฉายออกมาว่าเอ้ยเห็นไหมเนี่ย
00:21:11 → 00:21:14 แม้แต่เรื่องที่สมมุติว่าผู้ชายทำกับข้าว
00:21:14 → 00:21:17 เก่งนะก็ไม่เห็นเสียหายเลยที่เราจะอวดว่า
00:21:17 → 00:21:19 สามีเราเก่งทั้งนั้นมีแล้วหลอกนี่โง่
00:21:19 → 00:21:22 เรื่องทำกับข้าวมากไม่ใช่ว่าสามีเขาเก่ง
00:21:22 → 00:21:24 เรื่องทำกับข้าวเอ๊ยชั้นเก่งกว่าฉันทำ
00:21:24 → 00:21:27 อร่อยกว่าอีกแต่ฉันไม่มีโอกาสทำอะไรอย่าง
00:21:27 → 00:21:29 เงี้ยมันก็ไม่ได้ใช่ไหมคะหรือถ้าเรารู้
00:21:29 → 00:21:31 ว่าเขามีความสามารถพิเศษเรื่องไหนเช่นพระ
00:21:31 → 00:21:34 เครื่องนะฮะเรื่องฟุตบอลเรื่องอะไรอย่าง
00:21:34 → 00:21:37 เงี้ยเราก็พยายามหาโอกาสเชิดชูสามีให้คน
00:21:37 → 00:21:39 อื่นรู้ว่า
00:21:39 → 00:21:41 เรื่องนี้ต้องไปคุยกับพี่อะไรเลยพี่เบิ้ม
00:21:41 → 00:21:44 เก่งมากเรื่องพระอะไรอย่างนี้นะคะหรือว่า
00:21:44 → 00:21:47 เรื่องฟุตบอลต้องถามพี่เค้าเลยเนี่ยเราดู
00:21:47 → 00:21:48 ไม่รู้เรื่องเลยต้องให้พี่เขาคอยสอนว่า
00:21:48 → 00:21:51 กติกาเป็นไงอะไรเป็นยังไงอะไรอย่างนี้ค่ะ
00:21:51 → 00:21:54 นะคะเพื่อเพื่อให้เขาเก่งในบางเรื่องที่
00:21:54 → 00:21:57 เขาจะรู้สึกภาคภูมิใจที่จะเหนือกว่าเรานะ
00:21:57 → 00:22:00 ฮะฟังไปฟังมากลายเป็นว่าจริงๆคำว่าให้
00:22:00 → 00:22:04 เกียรติกันนี่มันสำคัญแล้วจริงๆแก้มวิภา
00:22:04 → 00:22:06 ก็มีความรู้สึกว่าถ้าเราทำให้คนที่เรารัก
00:22:06 → 00:22:09 อ่ะค่ะคุณศิริพรค่ะเราจะไปเสียเกียรติ
00:22:09 → 00:22:12 อะไรนะฮะคุณจะรักษาความรักที่ดีเอาไว้ใน
00:22:12 → 00:22:15 เพื่อผู้ชายคนนี้เขาดีทุกอย่างแล้วเขาก็
00:22:15 → 00:22:19 รักคุณรักครอบครัวรักลูกเออทำไมจะยอมโง่
00:22:19 → 00:22:22 นี่ๆหน่อยๆเนี่ยเป็นไรไปและไม่ได้ทำให้
00:22:22 → 00:22:25 ศักดิ์ศรีผู้หญิงเสียหายอะไรเลยนะคะไม่
00:22:25 → 00:22:27 ต้องเอาชนะคะคานกันแบบเป็นเอาตายไม่ได้
00:22:27 → 00:22:31 ศัตรูกันนะคะใช่ไหมคะแต่นี่บางคนเนี่ยวาง
00:22:31 → 00:22:34 ตัวไงจะต้องเป็น Super Woman ให้ได้ฉัน
00:22:34 → 00:22:36 จะต้องเก่งทุกเรื่องฉันจะต้องมี Ego
00:22:36 → 00:22:51 อย่างเงี้ยอยู่โสดเถอะค่ะ
00:22:51 → 00:23:03 [เพลง]
00:23:18 → 00:23:22 มันไม่โดดเด่นอะไรเออนี่ก็เป็นการชดเชยไง
00:23:22 → 00:23:24 เป็นการชดเชยทั้งตัวเขาเองที่เขาเคยมีต่อ
00:23:24 → 00:23:27 เพื่อนแต่เขาลืมนึกไปว่าเขาจะอยู่กับ
00:23:27 → 00:23:29 เพื่อนหรืออยู่กับแฟนไปตลอดชีวิตถูกไหมคะ
00:23:29 → 00:23:34 ถ้าเขาคิดได้แล้วพบว่าแฟนคือคู่ชีวิตที่
00:23:34 → 00:23:36 เราไม่ได้อยากจะพรากกันในสุดท้ายมันจะ
00:23:36 → 00:23:39 เป็นลมหายใจของกันและกันเขาจะต้องรู้จัก
00:23:39 → 00:23:43 ปรับที่จะลดตัวเองลงมาตอนแรกเนี่ยมันอาจ
00:23:43 → 00:23:46 จะทำเพื่อโชว์เพื่อนหรืออะไรก็แล้วแต่แต่
00:23:46 → 00:23:49 ถ้าเขาไม่ปรับตัวให้ทันมันก็จะอยู่กันไม่
00:23:49 → 00:23:52 ยืดในที่สุดแหละแล้วสุดท้ายผู้ชายก็จะรู้
00:23:52 → 00:23:54 สึกว่า
00:23:54 → 00:23:56 เขาแบบทุกทางเลย
00:23:56 → 00:24:00 เอาจริงๆรู้คือผู้ชายอาจจะไม่ได้มีอิสระ
00:24:00 → 00:24:05 ใช่กำหนดถูกควบคุมใช่ค่ะโดนอาจจะด้วยคำ
00:24:05 → 00:24:08 พูดหรืออะไรอย่างเงี้ยนะคะก็เป็นไปได้มัน
00:24:08 → 00:24:10 ก็อาจจะมีปมอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้ผู้
00:24:10 → 00:24:13 หญิงเป็นแบบนั้นหรือเขาเก่งจริงๆเองก็มี
00:24:13 → 00:24:16 นะแต่ท้ายสุดแล้วมันก็ไม่มีใครทนอยู่ได้
00:24:16 → 00:24:20 อ่ะค่ะเอาดีๆนะคะเพราะฉะนั้นสรุปว่าเก่ง
00:24:20 → 00:24:23 เกินไปผู้ชาย
00:24:23 → 00:24:26 เพราะว่ามันมีคำว่าเกินไป
00:24:26 → 00:24:30 นะคะคือถ้าผู้หญิงเก่งเนี่ยผู้ชายชื่นชม
00:24:30 → 00:24:33 ค่ะแต่ถ้าเก่งเกินไปโดยเฉพาะผู้หญิงของ
00:24:33 → 00:24:36 ฉันนะฮะผู้หญิงของฉันนี่เก่งเกินไปเนี่ย
00:24:36 → 00:24:38 ผู้ชายขี้มักจะไม่โอเคทั้งนั้นแหละค่ะคำ
00:24:39 → 00:24:42 ว่าเกินไปเนี่ยเกินไปของของผู้ชายคนนี้
00:24:42 → 00:24:45 อะไรอย่างเงี้ยค่ะแต่อาจจะไม่เกินไป
00:24:45 → 00:24:48 สำหรับคนอื่นก็ได้
00:24:48 → 00:24:51 เพราะถ้าถามว่าผู้หญิงเก่งเนี่ยหลายคนเขา
00:24:51 → 00:24:53 ชื่นชมจริงๆเขาชอบเขาโชว์ผู้หญิงคนนี้
00:24:53 → 00:24:56 เก่งจังเลยทั้งเก่งทั้งสวยทั้งทีไม่เอา
00:24:56 → 00:24:58 อ่ะอ่าไม่เอาอ่ะ
00:24:58 → 00:25:03 ก็นี่ไงเก่งแล้วทำไมไม่เอาอ่ะชื่นชมชื่น
00:25:03 → 00:25:08 ชมแต่ว่าไม่ไม่อยากมีคู่แบบนี้นะคะเพราะ
00:25:08 → 00:25:10 ว่ามีความรู้สึกเหนื่อยมีความรู้สึกว่า
00:25:10 → 00:25:13 มันไม่โอเคอะไรอย่างนี้ค่ะเดี๋ยวนี้ยิ่ง
00:25:13 → 00:25:17 แต่ว่าในโซเชียลเขาก็เฉิดฉายกันเยอะๆ
00:25:17 → 00:25:20 แต่ลองดูแล้วกันค่ะว่ากี่คู่ที่ยั่งยืน
00:25:20 → 00:25:24 ถูกไหมคะอีตอนคบกันเนี่ยควงกันมันก็โก้ดี
00:25:24 → 00:25:28 ในการที่จะไปอวดใครต่อใครว่าเก่งนะฮะหรือ
00:25:28 → 00:25:31 ดีหรือเลิศๆอะไรก็แล้วแต่อันนี้ก็ต้อง
00:25:31 → 00:25:34 อะไรนะเรเบลคาราเบล
00:25:34 → 00:25:37 เป็นคาราเมลเก่งแบบเต็มคาราเบลอ่ะนะคะแต่
00:25:37 → 00:25:40 ว่าพอมาอยู่ชีวิตคู่ด้วยกันแล้วเนี่ยมัน
00:25:40 → 00:25:44 ไม่ได้มันที่มักจะไม่ได้นะคะนอกจากคุณโชค
00:25:44 → 00:25:48 ดีไปเจอผู้ชายประเภทชอบแบบเนี้ยอ่า
00:25:48 → 00:25:50 มันมีไหมเนี่ย
00:25:50 → 00:25:53 มันก็คงจะหากันยากหน่อยก็อย่างที่บอกว่า
00:25:53 → 00:25:55 ธรรมชาติของผู้ชายเขาเป็นอย่างนี้โดย
00:25:55 → 00:25:58 ธรรมชาตินะคะนะคะก็ขีดเส้นใต้คำว่าเกินไป
00:25:58 → 00:26:01 ตัดออกเหลือแค่เก่งอย่างเดียว
00:26:01 → 00:26:05 เป็นที่ชื่นชอบแล้วก็เน้นการวางตัวของผู้
00:26:05 → 00:26:08 หญิงเองค่ะถ้าผู้หญิงวางตัวดีต่อให้เก่ง
00:26:08 → 00:26:11 แค่ไหนแล้ววางตัวดีเนี่ยไปได้ค่ะอื้อหือ
00:26:11 → 00:26:15 ยิ่งมีเสน่ห์มากกว่าเดิมด้วยวันนี้ได้แนว
00:26:15 → 00:26:18 ทางไปแล้วนะคะขอบคุณอาจารย์วิภาค่ะยินดี
00:26:18 → 00:26:19 ค่ะ
00:26:19 → 00:26:21 เอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังหมดเวลาแล้วนะคะพบกัน
00:26:21 → 00:26:24 ใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทาง Thai
00:26:24 → 00:26:26 PBS podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อนนะคะ
00:26:27 → 00:26:30 สวัสดีค่ะ
00:26:30 → 00:26:33 หน้าท้องที่ไม่มีพุงยื่นเป็นความปรารถนา
00:26:33 → 00:26:36 ของหลายๆคนการเกิดพุงแต่ละรูปแบบมีสาเหตุ
00:26:36 → 00:26:39 ต่างกันอย่างไรแพทย์หญิงกิตติยาศรีเลิศ
00:26:39 → 00:26:42 ฟ้าให้อายุรกรรมฝ่ายการแพทย์มาเล่าให้ฟัง
00:26:42 → 00:26:43 ครับ
00:26:43 → 00:26:46 รูปร่างพุงที่ต่างกันนะในแต่ละคนเนี่ยก็
00:26:46 → 00:26:49 จะมีสาเหตุที่แตกต่างกันวงกลมเนี่ยนะมัน
00:26:49 → 00:26:51 เป็นยังไงล่ะส่วนใหญ่เกิดจากการดื่ม
00:26:51 → 00:26:54 แอลกอฮอล์เป็นประจำนะไม่ว่าจะเป็นการดื่ม
00:26:54 → 00:26:56 เหล้าเบียร์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่น
00:26:56 → 00:26:59 ๆเพราะว่าแอลกอฮอล์นี้จะส่งผลต่อระบบย่อย
00:26:59 → 00:27:02 อาหารทำให้กระเพาะอาหารย่อยได้ยากนะเมื่อ
00:27:02 → 00:27:03 กินเข้าไปเนี่ยอาหารไม่ย่อยก็จะเกิดเป็น
00:27:03 → 00:27:07 ภูมิกลมๆยื่นออกมาได้ชัดเจนจะเห็นชัดเจน
00:27:07 → 00:27:11 การลดพุงกลมนี่ก็จะง่ายหน่อยก็โดยการปรับ
00:27:11 → 00:27:14 พฤติกรรมของตนเองนะงดการดื่มเครื่องดื่ม
00:27:14 → 00:27:17 ที่มีแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มต่างๆที่มี
00:27:17 → 00:27:20 ปริมาณน้ำตาลสูงพวกหมาน้อยนะก็คือจะมี
00:27:20 → 00:27:23 ลักษณะพุงด้านล่างห้อยแต่พุงด้านบนเนี่ย
00:27:23 → 00:27:26 เรียบปกติพวกนี้เกิดจากยังไงชอบรับประทาน
00:27:26 → 00:27:29 อาหารหวานมากเกินไปรวมถึงการกินข้าวขนม
00:27:29 → 00:27:32 ปังและอาหารที่มีน้ำตาลสูงเกิดกับคนที่
00:27:32 → 00:27:35 นั่งทำงานอยู่กับที่เป็นเวลานานๆไงรวมถึง
00:27:35 → 00:27:38 การไม่ออกกำลังเพราะฉะนั้นวิธีลดพุงหมา
00:27:38 → 00:27:40 น้อยก็คือรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง
00:27:40 → 00:27:44 ผักเขียวหรือธัญพืชลดการรับประทานอาหาร
00:27:44 → 00:27:47 ประเภทคาร์โบไฮเดรตถุงขยะก็จะเกิดจากความ
00:27:47 → 00:27:49 เครียดทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจเห็นไหม
00:27:49 → 00:27:52 ล่ะนั่งทำงานก็เกิดเครียดดิร่างกายจะเป็น
00:27:52 → 00:27:55 ยังไงล่ะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลใช่ไหมเพื่อ
00:27:55 → 00:27:57 ต่อสู้กับความเครียดส่งผลต่อระดับน้ำตาล
00:27:57 → 00:28:00 ในร่างกายทำให้อยากของหวานมากขึ้นทำให้
00:28:00 → 00:28:03 ระบบเผาผลาญของร่างกายเนี่ยทำงานได้ไม่
00:28:03 → 00:28:06 ปกติเขาก็จะผลิตไขมันขึ้นบริเวณหน้าท้อง
00:28:06 → 00:28:09 นอกจากความเครียดแล้วเนี่ยเกิดจากการรับ
00:28:09 → 00:28:12 ประทานอาหารไม่ตรงเวลารับประทานอาหาร
00:28:12 → 00:28:15 ประเภท Jang Food มากเกินไปรวมถึงการ
00:28:15 → 00:28:17 ดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มคาเฟอีนที่มากไป
00:28:17 → 00:28:21 พุ่งกว่ามีลักษณะวงกลมนะพุงป่องเนี่ยเกิด
00:28:21 → 00:28:23 จากรับประทานอาหารที่ย่อยยากมีแก๊สใน
00:28:23 → 00:28:25 กระเพาะและลำไส้ไงทำให้ท้องอืดซึ่งวิธี
00:28:25 → 00:28:28 การลดพุงป่องเนี่ยนะก็ไม่อันตรายเท่ากับ
00:28:28 → 00:28:31 พุงแบบอื่นเพราะว่าไงเพราะว่าการปรับ
00:28:31 → 00:28:33 เปลี่ยนการรับประทานอาหารที่มีกากใยผัก
00:28:33 → 00:28:37 ผลไม้ให้มากขึ้นนะฮะดื่มน้ำให้มากๆเพื่อ
00:28:37 → 00:28:40 ให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้
00:28:40 → 00:28:42 ดีเนี่ยนะฮะแล้วก็หลีกเลี่ยงการรับประทาน
00:28:42 → 00:28:44 อาหารจำพวกแป้งน้ำตาลเยอะงดรับประทาน
00:28:44 → 00:28:47 อาหารมื้อดึกเสริมด้วยการออกกำลังกายที่
00:28:47 → 00:28:49 เน้นช่วงเอวต้นขาแล้วก็ท่าที่เกร็งหน้า
00:28:49 → 00:28:52 ท้อง
00:28:52 → 00:28:57 This Is Choice PBS
00:28:57 → 00:29:00 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:29:00 → 00:29:04 ของไทยพีแดดสดค่ะ spotify Sound Google
00:29:04 → 00:29:07 podcast Apple ผ่อน Class และ YouTube
00:29:07 → 00:29:11 Channel Thai PBS ผ่อนคลายคลาสท้าย PBS
00:29:11 → 00:29:15 ค่ะ beautiful
00:29:15 → 00:29:20 [เพลง]