00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:04 world vi The
00:00:04 → 00:00:09 Voice ผักที่เราบอกว่าเอ้ยมีลักษณะเป็น
00:00:09 → 00:00:13 เมือกเนี่ยก็คือเวลาผักเนี่ยนะมันโดนน้ำ
00:00:13 → 00:00:16 ในทางเดินอาหารของเราเนี่ยมันก็มีลักษณะ
00:00:16 → 00:00:19 การเกิดเจลการเกิดเมือกมันมีลักษณะคล้าย
00:00:19 → 00:00:23 กับน้ำลัดหน้าเช่นกระเจี๊ยบเขียวคือจริงๆ
00:00:23 → 00:00:26 แล้วเมือกมันน่ะคือใยอาหารที่ละลายน้ำได้
00:00:26 → 00:00:29 เวลามันโดนน้ำขึ้นมาเนี่ยมันก็จะทำให้
00:00:29 → 00:00:32 เกิดคล้ายกับกเจลมีความเป็นเจลเป็นเมือก
00:00:32 → 00:00:35 ก็จะไปเคลือบทางเดินอาหารของเราไว้แล้ว
00:00:35 → 00:00:37 มันก็จะช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายเพราะ
00:00:37 → 00:00:40 มันเป็นใยอาหารนะแล้วมันก็ช่วยในเรื่อง
00:00:40 → 00:00:43 ของชะลอการดูดซึมน้ำตรงน้ำตาลไขมงไขมัน
00:00:43 → 00:00:44 ทั้งหลาย
00:00:44 → 00:00:48 แหละฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทย
00:00:48 → 00:00:52 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพร
00:00:52 → 00:00:56 ค่ะ This Is tha PBS podcast วันนี้
00:00:56 → 00:00:59 มาติดตามรับฟังกันค่ะถึงเรื่องของผักค่ะ
00:00:59 → 00:01:02 เป็นเป็นผักมีเมือกอึ้ยผักมีเมือกคืออะไร
00:01:02 → 00:01:05 ยังไงเนาะไม่รู้เหมือนกันนะคะที่ช่วยใน
00:01:05 → 00:01:09 การเกี่ยวกับการขับถ่ายเขาบอกว่าของดีเออ
00:01:09 → 00:01:12 นะคะเดี๋ยวคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร
00:01:12 → 00:01:14 เอกราชบำรุงพืชจากวิทยาลัยการแพทย์
00:01:14 → 00:01:17 บูรณการมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตค่ะสวัสดี
00:01:17 → 00:01:21 ค่ะอาจารย์คะสวัสดีครับค่ะผักมีเมือกเฮย
00:01:21 → 00:01:24 นึกไม่ออกคืออะไรหรือจริงๆเราอาจจะรู้จัก
00:01:24 → 00:01:26 กันอยู่แล้วเพียงแต่ไม่รู้ว่าเอ้อ
00:01:26 → 00:01:29 อันเนี้ยเค้ามีคุณสมเค้ามีเมือกอยู่นะ
00:01:29 → 00:01:31 คุณสมบัติของเมือกเเนี่ยช่วยอะไรยังไงได้
00:01:31 → 00:01:34 บ้างเดี๋ยววันนี้ต้องขอความรู้จากอาจารย์
00:01:34 → 00:01:37 ครับนะคะว่าผักมีเมือกเนี่ยเขาช่วยใน
00:01:37 → 00:01:40 เรื่องการขับถ่ายเหรอคะใช่ครับผมจริงๆ
00:01:40 → 00:01:43 แล้วเนี่ยต้องบอกก่อนว่าไอ้ผักที่เราบอก
00:01:43 → 00:01:48 ว่าเอ้ยมีลักษณะเป็นเมือกเนี่ยเนาะก็คือ
00:01:48 → 00:01:53 เวลาผักเนี่ยนะมันโดนน้ำนะในทางเดินอาหาร
00:01:53 → 00:01:56 ของเราเนี่ยมันก็มีลักษณะของเอ่อการเกิด
00:01:56 → 00:02:01 เจลการเกิดเมือกขึ้นมาเมเมันมีลักษณะ
00:02:01 → 00:02:04 คล้ายกับน้ำลัดหน้าอนึกออกมครับเป็นเมือก
00:02:04 → 00:02:08 ๆเหนียวๆอาจารย์ยกตัวอย่างง่ายๆเลยเช่น
00:02:08 → 00:02:13 กระเจี๊ยบเขียวอ้าอ่าเคยไปลวกจิ้มน้ำพริก
00:02:13 → 00:02:16 ค่ะพวกนี้ใช่มั้ครับคือจริงๆแล้วเมือกมัน
00:02:16 → 00:02:20 น่ะคือใยอาหารที่ละลายน้ำได้อือ่าเวลา
00:02:20 → 00:02:22 เวลามันโดนน้ำขึ้นมาเนี่ยมันก็จะทำให้
00:02:22 → 00:02:26 เกิดคล้ายกับเจลมีความเป็นเจลเป็นเมือกออ
00:02:27 → 00:02:29 อ่าซึ่งมันก็จะไปเคลือบทางเดินอาหารของ
00:02:29 → 00:02:32 เราไว้อือนะครับแล้วมันก็ช่วยในเรื่องของ
00:02:32 → 00:02:36 ระบบขับทายนะเพราะมันเป็นใยอาหารนะแล้ว
00:02:36 → 00:02:38 มันก็ช่วยในเรื่องของชะลอการหลูดซึมน้ำ
00:02:38 → 00:02:41 ตรงน้ำตาลไขมงไขมันทั้งหลายแหล่อืนะครับ
00:02:41 → 00:02:44 ด้วยความที่มันเป็นเมือกอ่ามันก็จะไป
00:02:44 → 00:02:48 เคลือบทางเรินอาหารเคลือบผนังลำไส้ของเรา
00:02:48 → 00:02:50 ไว้จริงๆแล้วมันก็มีประโยชน์เยอะมากนะ
00:02:50 → 00:02:53 ทั้งเรื่องของระบบขับถ่ายซึ่งคนส่วนใหญ่
00:02:53 → 00:02:57 เป็นปัญหากันเยอะนะท้องผูกเนี่ยค่ะนะคือ
00:02:57 → 00:03:01 คนที่มีอาการคือไม่ได้ถ่ายทุกวันถ่ายทุก
00:03:01 → 00:03:05 วันนี่ปกตินะอื 2-3 วันที 2-3 วันทีนี้
00:03:05 → 00:03:08 ถือว่าไม่ปกติและแล้วก็ต้องดูลักษณะของ
00:03:08 → 00:03:11 อุจจาระด้วยนะว่าลักษณะของอุจจาระของคุณ
00:03:11 → 00:03:14 เนี่ยเป็นแบบไหนค่ะอ่าเพราะลักษณะของ
00:03:14 → 00:03:18 อุจจาระแต่ละคนเนาะบางคนเนี่ยโหแบบ 2-3
00:03:18 → 00:03:20 วันทีแล้วแถมยังถ่ายออกมาเนี่ยเป็นลักษณะ
00:03:20 → 00:03:24 อุจจาระเหมือนที่เราเรียกว่าแบบขี้แพ้ขี้
00:03:24 → 00:03:28 กระต่ายลูกกระสุนกลมๆอย่างเงี้ยครับอ่า
00:03:28 → 00:03:30 อ่ากลมๆเล็กๆอันเนี้ย
00:03:30 → 00:03:33 ก็จะแบบถือว่าอุจจาระอย่างเงี้ยอืเป็น
00:03:34 → 00:03:37 เป็นอะไรที่ไม่ใช่เป็นลักษณะอุจจาระที่ดี
00:03:37 → 00:03:41 อุจจาระที่ดีเนี่ยคือจะต้องมีลักษณะเป็น
00:03:41 → 00:03:45 ลำสวยยาวคล้ายกับกล้วยหอมไม่อ่อนเกินไป
00:03:45 → 00:03:48 ไม่นิ่มเกินไปนะซึ่งคุณผู้ฟังต้องบอกก่อน
00:03:48 → 00:03:51 ว่าอันนี้นี่อาจจะถ้าใครกำลังรับประทาน
00:03:51 → 00:03:54 อาหารอยู่อาจารย์ต้องขออภัยอาจารย์เปรียบ
00:03:54 → 00:03:55 เทียบกับกล้วยหอมแล้วแล้วทีนี้จะทำยังไง
00:03:55 → 00:03:58 ล่ะเนี่ยใช่ก็คือลักษณะแบบกล้วยหอมไม่ใช่
00:03:58 → 00:04:01 แบบเอ้ยเป็นเม็ดเนาะหรือเหลวเลยก็ไม่ดี
00:04:01 → 00:04:04 แข็งเลยอย่างเงี้ยก็ไม่โอเคนะก็ต้องเป็น
00:04:04 → 00:04:07 ลักษณะแบบเฮ้ยกล้วยหอมทีเดียวถ่ายงแบบว่า
00:04:07 → 00:04:10 อ่าถ่ายทีเดียวเลยอย่างเงี้ยครับก็คือ
00:04:10 → 00:04:13 สะดวกง่ายถ่ายคล่องแต่คล่องในที่นี้ไม่
00:04:13 → 00:04:16 ใช่อุ๊ยถ่ายเลวเอออ่าอันเนี้ยแล้วก็ต้อง
00:04:16 → 00:04:21 ถ่ายเป็นประจำทุกวันอืนะคุณผู้ฟังไปโหลด
00:04:22 → 00:04:24 ดูได้เลยในข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตว่าเฮ้ย
00:04:24 → 00:04:27 รูปร่างลักษณะหมองอุจจาระอันเนี้ยเราต้อง
00:04:27 → 00:04:31 สังเกตนะค่ะเพราะมันบ่งบอกภาวะสุขภาพของ
00:04:31 → 00:04:34 เราใช่ก็หันไปมองอยู่บ้างไม่ใช่อยู่บ้าง
00:04:34 → 00:04:37 ก็มองกดก่อนกดน้ำก็ต้องมองสิว่าเอ้ย
00:04:37 → 00:04:40 ลักษณะของเราเนี่ยเป็นยังไงนะอุจจาระของ
00:04:40 → 00:04:45 เรามันแบบเฮ้ยสรงโอเคมั้ยใช่แบบกำลังสวย
00:04:45 → 00:04:49 งามแล้วก็ไม่มีมูกเลือดปนนะถูกมั้ยเพราะ
00:04:49 → 00:04:52 บางทีแบบเฮ้ยเป็นมูกเลือดหรือเปล่าหรือมี
00:04:52 → 00:04:56 สีดำหรือมีอะไรที่มันแบบไม่ปกติและอ่ามัน
00:04:56 → 00:04:58 สังเกตจากอุจจาระนี่แหละของเรานี่แหละ
00:04:58 → 00:05:02 อาจารย์บอกเลยเพราะว่าเรากินสารพัดทุก
00:05:02 → 00:05:05 อย่างค่ะมันก็อุจจาระมันก็บ่งบอกเราได้
00:05:05 → 00:05:08 อ่ะมันคือมันคือของเสียอใช่ใชอ่ามันคือ
00:05:08 → 00:05:10 ของเสียที่ถูกขับออกมาจากร่างกายว่าแบบ
00:05:10 → 00:05:14 เฮ้ยมีลักษณะแบบไหนแล้วมันบ่งชี้ภาวะ
00:05:14 → 00:05:18 สมดุลสุขภาพเอ่อสมดุลลำไส้ของเราได้ด้วย
00:05:18 → 00:05:21 อืถ้ากินผักผลไม้เยอะหน่อยก็ับขับถ่ายงอก
00:05:21 → 00:05:24 คล่องใช่ครับผมแต่ถ้าเนื้อสัตว์เยอะหน่อย
00:05:24 → 00:05:27 ผักไม่ค่อยกินก็ยากนิดนึงถูกต้องฉะนั้น
00:05:27 → 00:05:30 แล้วพวกผักทั้งหลายแหล่โดยเฉพาะผักที่มี
00:05:30 → 00:05:32 เมือกที่คุณรีบอกครับว่าเฮ้ยมันจะช่วย
00:05:32 → 00:05:34 เรื่องของระบบขับถ่ายจริงๆแล้วผักทุกชนิด
00:05:34 → 00:05:36 แหละนะแต่ถ้ามีเมือกออย่างที่บอกแหละว่า
00:05:37 → 00:05:39 เออตัวมันเองส่วนใหญ่ก็จะมีคุณสมบัติเป็น
00:05:39 → 00:05:43 พรีไบโอติกด้วยอือ่ามีประโยชน์แบบเฮ้ย
00:05:43 → 00:05:46 เป็นอาหารของโปรไบโอติกหรือจุลินซีที่ดี
00:05:46 → 00:05:48 ซึ่งเราก็รู้ว่าเ้ยมันช่วยในเรื่องของ
00:05:48 → 00:05:51 เอ่อระบบขับถ่ายนะค่ะอ่าซึ่งไอ้เจ้าผัก
00:05:51 → 00:05:53 ที่มีเมือกอย่างเมื่อกี้อาจารย์บอกก็
00:05:53 → 00:05:55 กระเจี๊ยบเขียวอกระเจี๊ยบเขียวมันก็จะมี
00:05:55 → 00:05:58 ใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำได้เยอะอแล้วก็ช่วย
00:05:58 → 00:06:00 ในเรื่องของระบบขับถ่ายแล้วที่สำคัญเนี่ย
00:06:00 → 00:06:03 ด้วยความที่มันเป็นเมือกนะหรือเป็นเจล
00:06:03 → 00:06:07 เนี่ยมันก็จะเคลือบผนังลำไส้ไว้ก็จะลดการ
00:06:07 → 00:06:11 สัมผัสของสารพิษสารก่อมะเร็งอืที่จะ
00:06:11 → 00:06:14 สัมผัสกับลำไส้แล้วดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
00:06:14 → 00:06:17 สู่กระแสเลือดค่ะอ๋อแล้วไปทำลายทำพิษให้
00:06:17 → 00:06:20 กับเซลล์ต่างๆค่ะงั้นเลยไอ้ความเป็นเมือก
00:06:20 → 00:06:24 เองมันจะเคลือบผนังลำไส้ลดชะลอการดูดซึม
00:06:24 → 00:06:28 น้ำตาลไขมันนะแล้วก็ลดค่ะสารพิษทั้งหลาย
00:06:28 → 00:06:31 แหล่อือ่าเออแต่เเก่งเนาะคือเขารู้เเป็น
00:06:31 → 00:06:34 แบบอ้าฉันต้องไปเคลือบกระเฉันไปเคลือบลำ
00:06:34 → 00:06:36 ไส้อะไรอย่าเงี้ใช่ใช่ถูกต้องครับแล้วบาง
00:06:36 → 00:06:39 อย่างเนี่ยมันมีกลไกทางเคมีคือโครงสร้าง
00:06:39 → 00:06:43 ของมันเนี่ยโอจะมีหมู่วิทยาศาสตร์นะแบบ
00:06:43 → 00:06:47 คาร์บอกซิลิกกุปนะพอฟังปุ๊บอุ๊ยอะไรไม่
00:06:47 → 00:06:50 รู้อาจารย์นะคือแบบทางเคมีนะซึ่งมันก็จะ
00:06:50 → 00:06:53 อาศัยไอ้กลไกเนี้ยโครงสร้างทางเคมีเนี่ย
00:06:53 → 00:06:57 จับกับพวกสารพิษอือฮึแล้วพวกเนี้ยมันคือย
00:06:57 → 00:07:02 อาหารมันไม่ดูซึมงั้นแล้วเวลามันจับเนี่ย
00:07:02 → 00:07:05 พูดง่ายๆว่ามันเหมือนไปจับกับสารพิษค่ะไป
00:07:05 → 00:07:09 คีเลทสารพิษแล้วมันก็ออกมาทางอุจจาระสาร
00:07:09 → 00:07:12 พิษก็ไม่ได้ถูกุซึมอ๋ออกมาด้วยเลยเข้าสู่
00:07:12 → 00:07:15 ร่างกายเรามันก็ถูกออกไปเหมือนกินเข้าไป
00:07:15 → 00:07:17 แล้วถูกขับออกไปฉันจะไปจับเธอออกมาด้วย
00:07:17 → 00:07:20 กันเลยใช่ก็อารมณ์ประมาณที่ภาษาชาวบ้าน
00:07:20 → 00:07:22 ชอบพูดเ้ช่วยในกระบวนการดีท็อกซ์ดีท็อกซ์
00:07:22 → 00:07:26 อ่ะอ่าอก็คือขับสารพิษทั้งหลายแหล่สารก่อ
00:07:26 → 00:07:29 มะเร็งทั้งหลายแหล่นะครับมันก็จะช่วยไป
00:07:29 → 00:07:32 ตรงส่วนเนี้ยได้ด้วยนะครับอันนี้ก็คือ
00:07:32 → 00:07:35 เป็นประโยชน์เนาะแล้วมันไม่ใช่แค่
00:07:35 → 00:07:37 กระเจี๊ยบเขียวอย่างเดียวนะครับเรายังมี
00:07:37 → 00:07:44 เอ่อตัวอื่นๆอีกนะเช่นวดหางจระเข้อ่าคุลี
00:07:44 → 00:07:47 เคยเคยเคยกินอยู่ใช่มั้ยกินน้ำว่านหาง
00:07:47 → 00:07:50 จระเข้ค่ะว่านหางจระเข้นะที่เราเห็นนี่
00:07:50 → 00:07:53 แหละจริงๆแล้วเนี่ยมันมีประสิทธิภาพเอ่อ
00:07:53 → 00:07:57 ช่วยเรื่องของระบบขับถ่ายลดการอักเสบนะ
00:07:57 → 00:08:00 ช่วยบรรเทาเรื่องของลำไส้อักเสบอืนแล้วก็
00:08:00 → 00:08:03 ล้างสารพิษออแต่ไม่ค่อยได้กินบ่อย
00:08:03 → 00:08:06 อันเนี้ยใช่ก็นานๆแบบเฮ้ยบางคนก็แบบเฮ้ย
00:08:06 → 00:08:08 เอามากิน
00:08:08 → 00:08:09 เอ่อ
00:08:09 → 00:08:13 ใส่น้ำเชื่อมหวานน้อยหรือใส่แบบพวกหญ้า
00:08:13 → 00:08:16 ว้านหรืออะไรพอให้มันแบบอ่าอ๋อคือเอามาทำ
00:08:16 → 00:08:18 เป็นน้ำแล้วใส่เนื้อลงไปด้วยได้เอาเป็น
00:08:18 → 00:08:21 วุ้นเป็นลักษณะเหมือนเนื้อวุ้นแบบเรากิน
00:08:21 → 00:08:24 แบบน้ำใบเตยอย่างเงี้ยก็ใส่ว่านหางจระเข้
00:08:25 → 00:08:27 ได้อืเพราะว่าไม่เคยเห็นเอาาว่านหาง
00:08:27 → 00:08:31 จระเข้มาทำเป็นอาหารอะไรอย่างอื่นเลยนอก
00:08:31 → 00:08:33 จากเป็นน้ำพวกเนี้ยน้ำสมุนไพรอะไรพวกใช่
00:08:33 → 00:08:35 ครับน้ำสมุนไพรอย่างเงี้ยครับก็ก็เอามา
00:08:35 → 00:08:37 ได้เพราะว่าถ้ากระเจี๊ยบเขียวอ่ะเราก็จะ
00:08:37 → 00:08:40 เห็นว่าเฮ้ยเป็นแบบจิ้มน้ำพริกใส่ในแกง
00:08:40 → 00:08:42 เหลืองอ่าอ่าเอ๊ะอาจารย์แล้วอย่าง
00:08:42 → 00:08:45 กระเจี๊ยบเขียวเี่สมมุติว่าถ้าจะให้เมือง
00:08:45 → 00:08:48 มันยังอยู่ดีเนี่ยกระบวนการที่จะมาปรุง
00:08:48 → 00:08:51 อาหารประกอบอาหารเนี่ยเ่าอย่างแบบมาล่าก็
00:08:51 → 00:08:54 เอาไปปิ้งปิงจนมัน
00:08:54 → 00:08:57 เหี่ยวก็มีผลเห็นมั้ยเพราะว่ามันปิ้งไง
00:08:57 → 00:09:02 มันไม่มีน้ำพวกเมันอละายอือๆงั้นแล้ว
00:09:02 → 00:09:05 เนี่ยถ้าเรากินปิ้งโอหกระเจี๊ยบเขียววเรา
00:09:05 → 00:09:08 ก็ต้องมากินกินน้ำตามค่ะกินน้ำจากอาหาร
00:09:08 → 00:09:15 แต่ถ้าเราไปอยู่ในในแกงค่ะอ่าในต้มออมัน
00:09:15 → 00:09:17 ก็มีน้ำอยู่แล้วตัวมันสัมผัสกับน้ำอยู่
00:09:17 → 00:09:20 แล้วก็ซดน้ำได้อะไรใช่ซดน้ำได้หรือถ้าเรา
00:09:20 → 00:09:23 กินปิ้งย่างหรือเรากินสดเราก็กินน้ำตาม
00:09:23 → 00:09:27 แต่ถ้ามันสดเนี่ยค่ะเนาะหรือไปลวกเนี่ย
00:09:27 → 00:09:31 มันยังมีตัวตัวมันเองมีความชื้นมีน้ำอยู่
00:09:31 → 00:09:33 แต่ถ้าเกิดว่าเราไปปิ้งเนี่ยความร้อนมัน
00:09:33 → 00:09:37 จะไล่น้ำออกไปไงมันก็เลยดูทำไมมันแห้งอ่า
00:09:37 → 00:09:40 ความเมือกก็จะน้อยออ๋อเราก็ต้องอาศัยกิน
00:09:40 → 00:09:44 น้ำเข้าไปเพื่อให้เกิดความเมือกขึ้นมามัน
00:09:44 → 00:09:47 สามารถจะกลับมาฟูอีกเหรอใช่เหมือนกับเรา
00:09:47 → 00:09:50 กินวาดหางจระเข้อ่ะครับอืออ่าเราก็รู้มัน
00:09:50 → 00:09:54 จะฉำอ่ะเหมือนที่แบบอาจารย์ปลูกไว้หน้า
00:09:54 → 00:09:57 บ้านเลยนะเวลาคุณแม่ทำกับข้าวอุ้ยโดนน้ำ
00:09:57 → 00:10:00 มันอ่าก็เนี่ยแหละวิ่งออกมาเลยครับตัดไป
00:10:00 → 00:10:04 ตัดปึ๊บแบบนี่เลยขยี้เลยว่าหนังให้ฉ่ำๆ
00:10:04 → 00:10:09 เลยนะอันนี้ก็ช่วยได้อ๋อแบบนี้นี่เองใช่
00:10:09 → 00:10:11 ก็ช่วยได้หรือแม้กระทั่งเมื่อเช้าที่
00:10:11 → 00:10:14 อาจารย์บอกอาจารย์กินมาอะไรคะกูยใช่ถูก
00:10:14 → 00:10:17 ต้องครับกุยใชชกุยใช่เองนะก็เช่นเดียวกัน
00:10:17 → 00:10:21 มีใยอาหารสูงนะอันนี้ก็ช่วยในเรื่องของ
00:10:22 → 00:10:25 เอ่อระบบขับทายค่ะอ่ากุ้ยช่าแต่ถ้าเกิด
00:10:25 → 00:10:27 เรากินเป็นกุ้ยช่ายที่เป็นขนมกุ้ยช่ายที่
00:10:27 → 00:10:31 อาจารย์บอกว่าเฮ้ยเพิ่งไปฟาดมาที่ตลาดภูเ
00:10:31 → 00:10:34 เนี่ยกูใช่ตลาดภูเนี่ยก็ต้องกินแต่พอดีนะ
00:10:34 → 00:10:38 เลือกให้เจ้าที่มันแป้งบางหน่อยออ๋อ
00:10:38 → 00:10:41 เดี๋ยวๆนี้แป้งบังบังมากบบางมากแถบจะขาด
00:10:41 → 00:10:46 เลยซึ่งดีนะก็แป้งน้อยอ่าแป้งน้อยแล้วก็
00:10:46 → 00:10:49 แบบหุ้ยไส้ผักกุ้ยช่ายเยอะะแล้วก็ทะลัก
00:10:49 → 00:10:51 ออกมาถ้าเราไม่ได้เอากุ้ยช่ายไปทำปรุง
00:10:51 → 00:10:54 ประกอบอาหารผัดเผอะไรอื่นๆนะก็กินอยู่ใน
00:10:54 → 00:10:56 แบบเฮ้ยกุยช่าเงี้ยเราก็จะได้ประโยชน์
00:10:56 → 00:10:57 เหมือนกันหรือแม้กระทั่งผักบุ้งอย่าง
00:10:57 → 00:11:00 เงี้ยอาผักผักบุ้งก็เช่นเดียวกันนะครับ
00:11:00 → 00:11:03 ผักบุ้งเป็นผักมีเมือกอ้ามีเมือกเช่น
00:11:03 → 00:11:06 เดียวกันนะอันนี้ก็จะช่วยทำให้ระบบขับ
00:11:06 → 00:11:09 ถ่ายเราดีช่วยในเรื่องของการล้างสารพิษนะ
00:11:09 → 00:11:12 ฮะไอ้ผักมีเมือกทั้งหลายแหล่เนี่ยมันไม่
00:11:12 → 00:11:15 ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดเข้าสู่ร่าง
00:11:15 → 00:11:18 กายเรามันอยู่ที่ทางดนอาหารอใช่มั้ยครับ
00:11:18 → 00:11:20 เพราะพวกนี้มันเป็นยอาหารที่ไม่สามารถที่
00:11:20 → 00:11:24 จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เวลามันเกิดไอ้
00:11:24 → 00:11:27 มีเมือกเนี่ยด้วยความที่มันแบบฉ่ำอ่ะค่ะ
00:11:28 → 00:11:31 อ่าฉ่ำๆเลยก็จะทำให้อุจจาระเราเนี่ยนิ่ม
00:11:31 → 00:11:35 อ๋อแล้วก็ขับถ่ายง่ายค่ะอไม่เสียเวลาเบ่ง
00:11:35 → 00:11:37 เยอะนึกออกมั้ยครับสะดวกง่ายถ่ายข้องพรวด
00:11:38 → 00:11:41 พรวดๆคแต่ไม่ใช่ท้องเสียนะใช่ไม่ได้ท้อง
00:11:41 → 00:11:44 เสียนะแต่อุจจาระก็จะนิ่มนะขับถ่ายง่ายลด
00:11:44 → 00:11:47 ปัญหาท้องผูกลดความเสี่ยงระบบทางเดิน
00:11:47 → 00:11:50 อาหารแล้วในผักบุ้งเองเนี่ยเบต้าคลีนสูง
00:11:50 → 00:11:52 ซึ่งเบต้าคีนเนี่ยจะเป็นสารที่ช่วยใน
00:11:52 → 00:11:56 เรื่องของการต้านมะเร็งได้ดีอือ่าลดความ
00:11:56 → 00:11:58 เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ดีในกลุ่ม
00:11:58 → 00:12:00 ของเบต้าโรตีนที่เป็นสารตั้งต้นของ
00:12:00 → 00:12:04 วิตามินเอเเนี่ยอนะครับอย่างงี้แสดงว่าก็
00:12:04 → 00:12:07 ต้องกินให้ถึงด้วยหรือเปล่าคะถูกต้องนะ
00:12:07 → 00:12:10 สำคัญเลยกินให้ถึงเ้าอาจารย์แล้วมึงจะกิน
00:12:10 → 00:12:14 ผักอ่ะยังไงให้ถึงเออง่ายมากนะวันนึง
00:12:14 → 00:12:17 เนี่ยเรากินอาหาร 3 มื้อเฉลี่ยเนี่ยผัก
00:12:17 → 00:12:21 เล็คอมเมนเลยแนะนำวันละ 6 ทัพพีนั่นคือ
00:12:21 → 00:12:24 มื้อละ 2 ทัพพีคุลีโอ้โหไม่ถึงเลย้อ้าไม่
00:12:24 → 00:12:26 ถึงไม่ถึงสักวันเลยมั้ซึ่งแสดงว่าเป็นคน
00:12:26 → 00:12:29 กลุ่มคนส่วนใหญ่เพราะจากข้อมูลการศึกษา
00:12:29 → 00:12:33 วิจัยหรือเซอร์เวย์สำรวจการบริโภคผัก
00:12:33 → 00:12:36 ผลไม้สำหรับคนไทยว่าเฮ้ยวันนึงเรากินผัก
00:12:36 → 00:12:39 ผลไม้นี่ตีรวมวันละ 100 เอ่อวันละ 400
00:12:39 → 00:12:42 กรัมใช่มั้ครับก็ประมาณแบบครึ่งกิโลก
00:12:42 → 00:12:44 เกือบครึ่งกิโลอ่ะ 400 กรัมอ่ะ 4 ขีดอ่ะ
00:12:44 → 00:12:48 พี่ไทยเรากินวันละ 140 กรัมอืไม่ถึงครึ่ง
00:12:48 → 00:12:51 ค่ะอ่ะเช้าเนี้ยกุรีกินผักอะไรไปแล้วบ้าง
00:12:51 → 00:12:53 ยังเลยอ่ะยังไม่ได้กินอะไรเลยยังไม่ได้
00:12:54 → 00:12:57 กินอะไรเลยนะจะบอกว่าไก็ไม่ใช่แล้วเห็นมี
00:12:57 → 00:13:01 น้ำอะไรวางอยู่บนโต๊ะไม่ได้ไอเลยค่ะแค่
00:13:01 → 00:13:04 ตื่นตื่นได้ก็ดีแล้วค่ะตอนนี้อเห็นมั้ยก็
00:13:04 → 00:13:07 ไม่ได้กินอืผักไปไปแล้ว 1 มื้ออ่าอาจารย์
00:13:07 → 00:13:10 เมื่อเช้ากินผักกุ้ยช่ายอ่ะกุ้ยช่ายมา 1
00:13:10 → 00:13:13 เอนะแต่อาจารย์ไม่ได้กินข้าวนะเพราะ
00:13:13 → 00:13:15 อาจารย์กินแป้งจากกุ้ยช่ายไงงอ้าไม่ได้
00:13:15 → 00:13:18 แป้งบางหรอคะแป้งบางครับแต่ว่ารดข้าวแล้ว
00:13:19 → 00:13:23 ก็กินแกงจืดไข่น้ำนะแล้วก็กินผัดดอกไม้
00:13:23 → 00:13:27 กวาดผัดตับอ๋อๆอ่าก็กินผักนะแต่อาจารย์
00:13:27 → 00:13:29 รู้แล้วว่าอาจารย์กินกุ้ยช่ายอือไอ้กิน
00:13:29 → 00:13:32 กุ้ยช่ายที่มันเป็นขนมกุยที่หอแป้งอ่ะค่ะ
00:13:32 → 00:13:36 มันมีแป้งอือฮึอ่าคืออาจารย์ก็เลยแทนที่
00:13:36 → 00:13:39 ข้าวอ่ะเฮ้ยไม่เอาข้าวนะอก็กินกุยช่ายนี่
00:13:39 → 00:13:41 แหละก็แป้งเนี่ยเพราะอาจารย์ฟาดไปกี่ลูก
00:13:41 → 00:13:46 ครับ 4 ลูกุย 4 ลูกเองเองเลยเองอาจารย์ก็
00:13:46 → 00:13:48 เลยแบบเฮ้ย 4 ลูกเนี่ยยเท่ากับฉันกินข้าว
00:13:48 → 00:13:51 2 ทัพพีโอ้โหฉันก็กินอย่าง Enjoy ก็กิน
00:13:51 → 00:13:54 ได้ 4 ลูกแล้วฉันก็ได้พักอนึกออกมั้ครับอ
00:13:54 → 00:13:56 ไส้เผือกด้วยนะมีกินไส้เผือกด้วยเพราะ
00:13:56 → 00:13:58 เป็นคนชอบ
00:13:58 → 00:14:02 เผือกเป็นคมกคาร์โบไฮเดรตคบเทิงซ้อนนะน้ำ
00:14:02 → 00:14:06 ตาลก็ไม่ได้ขึ้นสูงเร็วอ่ากินโซดกับแกง
00:14:06 → 00:14:10 กินเสร็จปุ๊บเฮ้ยมันแหมมันนะแจงจืดไข่น้ำ
00:14:10 → 00:14:17 กินกับผัดผักไขน้นะอ่าแล้วก็ยำทูน่าอืนะ
00:14:17 → 00:14:19 ให้มันถึงเครื่องหน่อยเนี่ยเมื่อเช้าที่
00:14:19 → 00:14:22 กินมาเนี่ยที่มาบอกอ่ะแต่ก็ไม่ได้กินข้าว
00:14:22 → 00:14:25 มื้อนึงไปแล้วเนี่ยผลักไปตั้งแบบว่า่ 2
00:14:25 → 00:14:29 อย่างใช่อ่ากุยชายเอยแล้วก็ผัดไอ้ดอกไม่
00:14:29 → 00:14:33 กวาดอ่าแล้วก็แล้วก็แล้วก็มีเอ่อมะเขือ
00:14:33 → 00:14:36 เทศกับหัวหอมที่อยู่แล้วก็ขึ้นช่ายที่
00:14:36 → 00:14:40 อยู่ในยำอูหน้าเห็นมั้ยพริกด้วยอาจารยบ
00:14:40 → 00:14:43 กิน 1 มื 1 มื้อไปแล้วโอ้โหเรายังไม่ได้
00:14:43 → 00:14:46 อะไรเลย 1 มื้อเห็นมั้ยก็แบบผัก 2 ทัพพี
00:14:46 → 00:14:49 อาจารย์ประเมินแล้วถึงออออ่าถ้าไม่ถึงค่ะ
00:14:49 → 00:14:53 อาจารย์ก็จะกินผลไม้เอามาเช้ากินมะละกออื
00:14:53 → 00:14:55 อ่าหลังมื้ออาหารเพราะบางคนบบเอ้ยกิน
00:14:55 → 00:14:57 มะละกกินผลไม้หลังมื้ออาหารเดี๋ยวท้องอืด
00:14:58 → 00:15:00 อ่ะอาจารย์ค่ะค่ะก็เลือกสิกินมะละกอ
00:15:00 → 00:15:02 อาจารยกินมะละกออาจารย์กินแก้วมังกรเอ
00:15:02 → 00:15:05 อย่างเงี้ยก็แบบเฮ้ยไม่อืดท้องฝรั่งก็มี
00:15:05 → 00:15:08 นะแต่ว่าถ้ามันแข็งถ้ามันไม่นิ่มไม่สุก
00:15:08 → 00:15:11 ไม่งอมเราก็ไม่ต้องไปกินเพราะไม่งั้น
00:15:11 → 00:15:13 เดี๋ยวท้องอืดอค่ะอ๋อทฝรั่งต้องเป็นแบบ
00:15:13 → 00:15:17 นิ่มๆใช่ใช่ฝรั่งแบบเฮ้ยนิ่มถ้าบางคนกิน
00:15:17 → 00:15:20 แล้วแบบอุ๊ยแข็งค่ะอันเนี้ยไม่โอเคแล้ว
00:15:20 → 00:15:23 โดยเฉพาะผู้สูงอายุอแล้วทำมากินผลไม้ปุ๊บ
00:15:23 → 00:15:26 แล้วแบบอุ๊ยท้องอืดแล้วก็แบบเอ้ยกินผลไม้
00:15:26 → 00:15:29 ก่อนอาหารดีหรือหลังอาหารดีกินได้หมดแหละ
00:15:29 → 00:15:33 แต่ขอให้แบบท้องไม่อืดแล้วกินให้ถึงมื้อ
00:15:33 → 00:15:36 ไหนที่เรากินผักน้อยไม่ถึง 6 ทัพพีต่อวัน
00:15:36 → 00:15:38 นะครับทั้งวันเนี่ยอ่าก็คือมื้อละ 2
00:15:38 → 00:15:41 ทัพพีบางคนกิน 2 มื้ออาจารย์ก็ไม่ได้ห้าม
00:15:41 → 00:15:44 นะถ้าคุณกินถึงเอออ่าคุณกิน 2 มื้ออย่า
00:15:44 → 00:15:46 เงี้ยคุณรีน่าจะกิน 2 มื้อ 2 มื้อถึงอ่า
00:15:46 → 00:15:48 หรืออาจจะครบ 3 มื้ออาจารย์ก็คือเริ่ม
00:15:48 → 00:15:53 เที่ยงเย็นดึกนะแต่เดี๋ยวนี้ใช้ใช้การแบบ
00:15:53 → 00:15:56 กินผักเนี่ยจะไปสั่งโรงอาหารที่ทำงาน
00:15:56 → 00:15:58 เงี้ยคะเราก็ไม่รู้หรอกเไปปรุงหลังร้าน
00:15:58 → 00:16:01 แต่ลหลังๆมาเนี่ยเราบอกว่าพี่ผัดเป็นแบบ
00:16:01 → 00:16:05 น้ำได้มยไม่ใช้น้ำมันอ้าเห็นมมีเทคนิคไม่
00:16:05 → 00:16:08 ไม่เค็มค่ะในการลดแคลอรี่ใช่ไม่เค็มไม่
00:16:08 → 00:16:12 หวานค่ะอ่าแล้วก็รดมันรดบวมรดโลใช่แต่ว่า
00:16:12 → 00:16:15 ใส่พริกเพราะอาจารย์เคยบอกว่ากินพริกยัง
00:16:15 → 00:16:18 ดีกว่ากินหวานมันเค็มถูกต้องครับอย่าง
00:16:18 → 00:16:22 น้อยแเพิ่มการเผาผลาญของร่างกายเพิ่มเบอิ
00:16:22 → 00:16:24 ของร่างกายนะแล้วช่วยลดการอักเสบได้ด้วย
00:16:24 → 00:16:27 แต่จริงๆเน่าจะมีปนน้ำมันมาหน่อยแหแต่ไม่
00:16:27 → 00:16:29 น่าจะแบบว่าถึงขั้นแบบเพราะว่ากระทะที่
00:16:29 → 00:16:32 แล้วเก็ใช้น้ำมันใช้กระทะต่อเหมือนเวลา
00:16:32 → 00:16:35 สั่งส้มตำอ่ะเอ่าภรรยาแบบไม่กินเผ็ดไม่
00:16:35 → 00:16:39 เผ็ดแต่ถ้ามีพริกติดครกก่อนหน้านี้ตำเลย
00:16:39 → 00:16:41 ไม่ต้องพริก 1 เม็ดถ้าไม่มีพริกติดครก
00:16:42 → 00:16:45 พริก 1 เม็ดใช่ๆๆอันนี้ก็เหมือนกันกระทะ
00:16:45 → 00:16:48 เขามีความมันอยู่แล้วเนาะบางทีแบบเฮ้ยไม่
00:16:48 → 00:16:51 ใส่อันนี้ก็เป็นเทคนิคที่แบบลดแคลอรี่ใช่
00:16:51 → 00:16:56 ๆนะก็ช่วยก็ช่วยได้แล้วก็กินกินผักน้ำมัน
00:16:56 → 00:17:00 เล็กน้อยเนี่ยก็โอเคนะอมีบผบางนิดมีพวก
00:17:00 → 00:17:04 แคโรทีนอยด์พวกวิตามินที่ละลายในไขมันมัน
00:17:04 → 00:17:08 จำเป็นต้องอาศัยไขมันดูดซึมผักพวกนี้พวก
00:17:08 → 00:17:11 อะไรบ้างคะก็ผักใบเขียวทั้งหลายแหละก็มี
00:17:11 → 00:17:14 แบบตำลึงอย่างเงี้ยผักบุ้งอย่างเงี้ยหรือ
00:17:14 → 00:17:16 อาจารย์บอกอาจารย์กินมะละกอหลังมื้ออาหาร
00:17:16 → 00:17:19 ก็มีเบต้าคลีนแต่ถ้ามื้อนั้นอาจารย์บอก
00:17:19 → 00:17:21 อุ๊ยอาจารย์กินครีนบางคนกินครีนมากเลยยัง
00:17:21 → 00:17:25 กับกินแกบคือฝืดคอมากอาจารย์ไม่มีน้ำมัน
00:17:25 → 00:17:27 เราก็เลือกน้ำมันดีเราเลือกไขมันดี
00:17:27 → 00:17:30 โอเมก้าซโอเมก้า 9 จากน้ำมันมะกอกน้ำมัน
00:17:30 → 00:17:34 ลำข้าวอะไรพวกเงี้ยมันก็ได้ใชอ่าหรือน้ำ
00:17:34 → 00:17:36 มันที่ไม่ดีเราก็กินแต่น้อยหน่อยบางทีเรา
00:17:37 → 00:17:40 กินแบบเนี่ยผัดผๆทอดๆนอกบ้านก็เป็นไขมัน
00:17:40 → 00:17:42 ที่ไม่ค่อยดีหรอกแต่อย่างน้อยเนี่ย
00:17:42 → 00:17:45 อาจารย์บอกเลยมันก็ไม่ได้แบบออย่างน้อย
00:17:45 → 00:17:47 มันให้พลังงานอย่างน้อยมันช่วยในการดูด
00:17:47 → 00:17:49 ซึมวิตามินที่ละลายในไขมันไม่มีอะไรเลว
00:17:50 → 00:17:52 บริสุทธิ์และไม่มีอะไรดีบริสุทธิ์อือเนาะ
00:17:52 → 00:17:55 เวลาบอกอุยอันนี้ดีมากเลยอาจารย์นะข้าว
00:17:55 → 00:17:59 กล้องดีมากเลยฟาทีละหม้อเงี้ยไหวมไหวนึก
00:17:59 → 00:18:02 ออกมั้ยครับเะเออเรากินแบบเฮ้ยอาหารทอด
00:18:02 → 00:18:05 เนี่ยอย่ากินแบบน้ำมันมันไม่ดีนะอ่าใช้
00:18:05 → 00:18:08 น้ำมันปาล์ไขมันอิ่มตัวสูงโครงสร้างสาย
00:18:08 → 00:18:10 ยาวมันทอดแล้วมันกินเยอะไปก็ไม่ดีอ่ะแต่
00:18:10 → 00:18:13 อย่างน้อยมันมันก็ช่วยในการดูดซึมวิตามิน
00:18:13 → 00:18:16 ที่ละลายในไขมันอืงั้นแล้วมันไม่มีอะไร
00:18:16 → 00:18:16 ที่
00:18:17 → 00:18:21 แบบแบบโหมันแย่มากนะอันไหนที่มันมันเรา
00:18:21 → 00:18:24 รู้ว่ามันได้ไม่คุ้มเสียนะแต่มันก็ยังมี
00:18:24 → 00:18:27 ส่วนได้เราก็กินแต่น้อยหน่อยออ่าอันนี้
00:18:27 → 00:18:30 ทุกวันนี้ก็กินคลีนกินเจานเลยหมดจานเห็น
00:18:30 → 00:18:33 มยงั้นแล้วคุณลีต้องกินให้ถึงด้วยไม่ใช่
00:18:33 → 00:18:36 ว่าเฮ้ยกินไม่ถึงอีก 1 ผักที่อาจารย์ชอบ
00:18:36 → 00:18:40 กินเลยคือบวบครับอะไรคบวบหรอไม่ค่อยได้
00:18:40 → 00:18:42 กินเท่าไหร่เลยบวบแหบวบเนี่ยอาจารย์ชอบ
00:18:42 → 00:18:47 กินผัดไข่นะบวบเอามาผักไท่ตัวบวบเองนี่
00:18:47 → 00:18:49 แหละเป็นผักที่มีเมื่อช่วยระบบขับถ่ายได้
00:18:49 → 00:18:53 ดีโออ่าในแพทย์แผนไทยเขาก็ยังให้เป็นแบบ
00:18:53 → 00:18:57 เฮ้ยยาบำรุงอ่ามีฤทธิ์เป็นยาเย็นน่ะพวก
00:18:57 → 00:19:02 บวบเนี่ยอือือ่าดับพิษร้อนถอนพิษไข้อ๋อ
00:19:02 → 00:19:04 เอออันนี้แบบแนวแพทย์แผนไทยใช่ฮแล้วพวก
00:19:04 → 00:19:07 บวบอย่างเงี้ยก็มีคุณประโยชน์ในการที่
00:19:07 → 00:19:10 เป็นเหมือนผักมีมีเมือกเพราะอารมณ์บวบ
00:19:10 → 00:19:12 เนี่ยคุณลีไม่รู้เคยทำอาหารใช่มั้ยครับ
00:19:12 → 00:19:15 เคยทำคำข้าวใช่มั้ยอาจารย์ดูหน้าก็รู้
00:19:15 → 00:19:19 แล้วก็กระเจี๊ยบเขียวอ่ะก็จะเป็นฝักๆบวบ
00:19:19 → 00:19:23 มันก็เป็นคล้ายๆแตงป่ะฝักใช่ครับอ่านี่
00:19:23 → 00:19:26 แหละเดียกันอ่างั้นแล้วบวบเองมันก็จะมีมี
00:19:26 → 00:19:28 เมือกทั้งหลายแหล่ซึ่งอันเนี้ยช่วยใน
00:19:28 → 00:19:31 เรื่องเรื่องของระบบขับถ่ายได้ดีเอามาผัด
00:19:31 → 00:19:35 ไข่ไม่ใส่น้ำมันก็ได้บางทีก็ใส่น้ำนะแล้ว
00:19:35 → 00:19:38 ก็ผัดไข่อูแบบง่ายๆเลยเนี่ยอาจารย์ก็ชอบ
00:19:38 → 00:19:42 กินหรือเอาไปใส่ในแกงเรียงค่ะแกงเรียง
00:19:42 → 00:19:45 เนี่ยสะดวกง่ายถยคล่องเหมือนกันครับอ่าก็
00:19:45 → 00:19:49 มีพวกบวบพวกกระเจี๊ยบเขียวออืออ่าแล้วก็
00:19:50 → 00:19:53 มีฤทธิ์ต้านมะเร็งได้ดีค่ะเห็นมยอันเนี้ย
00:19:53 → 00:19:57 พวกเนี้ยมีแบบโหแบบสารพัดเลยที่ทำให้เรา
00:19:57 → 00:19:59 เนี่ยสะดวกง่ายถ่ายคอบค่ะเนาเพราะเรื่อง
00:19:59 → 00:20:01 ของระบบขับถ่ายเนี่ยเป็นอะไรที่สำคัญมาก
00:20:01 → 00:20:05 เลยนะอือเพราะเรากินๆกๆเข้ามาทุกวันเนี้ย
00:20:05 → 00:20:08 มันก็มีส่วนที่เป็นของเสียค่ะที่เราจะ
00:20:08 → 00:20:11 ต้องขับออกอืนะแล้วถ้าเกิดเราไม่ได้รับ
00:20:11 → 00:20:13 ประทานไฟเบอร์หรือใยอาหารโดยเฉพาะใยอาหาร
00:20:13 → 00:20:16 ที่มีคุณสมบัติ Beyond Fiber คำว่า
00:20:16 → 00:20:19 Beyond Fiber ก็คือใยอาหารตัวไหนที่
00:20:19 → 00:20:21 โปรไบโอติกจุลินทรีย์ที่อยู่ที่ลำไส้ของ
00:20:21 → 00:20:25 เราเนี่ยค่ะเกินเเอาไปใช้อือเนี่ย
00:20:25 → 00:20:29 โปรไบโอติกมากินพรีไบโอติกค่ะใยอาหารนั้น
00:20:29 → 00:20:33 จะได้เลื่อนวิทยฐานะโออัปเกรดกลายเป็นถูก
00:20:33 → 00:20:35 ต้องอัปเกรดขึึ้นมากลายเป็นพรีไบโอติกอีก
00:20:35 → 00:20:39 ด้วยอ๋อจากโรเป็นพีถูกต้องครับโมากินพรี
00:20:39 → 00:20:43 ได้เออไฟเบอร์ทุกตัวไม่ได้เป็นพรีไบโอติก
00:20:43 → 00:20:45 นะครับค่ะแต่ไฟเบอร์ส่วนใหญ่ที่เราพูดถึง
00:20:45 → 00:20:48 กันเมื่อสักครู่เนี้ยในพืชผักที่เราบอกไป
00:20:48 → 00:20:51 เนี่ยมันเป็นพรีไบโอติกด้วยนะแล้วมันก็จะ
00:20:51 → 00:20:54 ทำงานแบบเฮ้ยอ Two in1 เลยนอกจากคุณ
00:20:54 → 00:20:55 ประโยชน์ของไฟเบอร์แล้วฉันยังเป็น
00:20:55 → 00:20:59 พรีไบโอติกด้วยออแล้วโบติกมันก็ก็ช่วยใน
00:20:59 → 00:21:01 เรื่องของระบบขับถ่ายเช่นเดียวกันปรับ
00:21:01 → 00:21:04 สมดุลจุลินทรีย์ที่ลำไส้แล้วพวกผักที่มี
00:21:04 → 00:21:07 เมือกเหล่านี้ก็จะล้วนแล้วแต่มีประโยชน์
00:21:07 → 00:21:10 ในเรื่องของขับถ่ายในเรื่องของสมดุล
00:21:10 → 00:21:12 จุลินทรีย์ที่ลำไส้มันก็ช่วยในเรื่องของ
00:21:12 → 00:21:15 ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันเพราะระบบขับถ่าย
00:21:15 → 00:21:17 ของเราทุกวันเนี้ยมันไม่ใช่แค่กำจัดของ
00:21:17 → 00:21:21 เสียเอาถ่ายออกไปจบค่ะนะแต่มันช่วยลดความ
00:21:21 → 00:21:23 เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้อ่าใช่หมักหมม
00:21:23 → 00:21:26 อยู่อ่าไม่งั้นสิ่งปฏิกูลมูลฝอยโอก็หมัก
00:21:26 → 00:21:31 หมมกันเข้าไปอืแล้วก็ดีไม่ดีร่างกายก็พอ
00:21:31 → 00:21:34 มันคาอยู่ในร่างกายเยอะอ่ะมันเน่าอ่ะเออ
00:21:34 → 00:21:37 ใช่แล้วมันก็เกิดของเสียใช่แล้วร่างกาย
00:21:37 → 00:21:40 เรามันมีการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดเข้า
00:21:40 → 00:21:42 สู่ร่างกายนะครับไอ้ของเสียเหล่าเนี้ย
00:21:42 → 00:21:44 หรือสารพิษเหล่าเนี้ยแล้วมันก็ทำให้เกิด
00:21:44 → 00:21:48 โรคเรื้อรังสารพัดเลยอืนะมันสัมพันธ์กับ
00:21:48 → 00:21:52 โรคสารพัดมันไม่ใช่แค่มะเร็งอย่างเดียว
00:21:52 → 00:21:54 ค่ะโรคอื่นๆโรคเบาว้งเบาหวานร้วนแล้วแต่
00:21:54 → 00:21:57 สุขภาพลำไส้หมดเลยนะอ๋ออย่างที่อาจารย์
00:21:57 → 00:22:01 พูดบ่อยๆงามที่ใจงามที่ไส้ใช่ใบหน้าอ่าคน
00:22:01 → 00:22:05 จะงามงามที่ไส้ใช่ใบหน้านะแล้วที่เราบอก
00:22:05 → 00:22:07 ว่างามไส้แล้วมั้ยล่ะแล้วมันเป็นความงด
00:22:07 → 00:22:11 งามของลำไส้นะถ้าเราดูแลสุขภาพลำไส้ของ
00:22:11 → 00:22:13 เราดีสะดวกง่ายถ่ายข้องแล้วอาจารย์พูด
00:22:13 → 00:22:16 เสมอว่าชีวิตคนเราอ่ะไม่มีอะไรมากกินอิ่ม
00:22:16 → 00:22:19 นอนหลับขับถ่ายสะดวกผนวกอารมณ์แจ่มใสค่ะ
00:22:19 → 00:22:23 เชื่อมยสิ่งเหล่าเนี้ยมันคือสมสุขภาพลำ
00:22:23 → 00:22:26 ไส้นะบางคนกินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มค่ะเพราะ
00:22:27 → 00:22:29 จุลินทรีย์ที่ดีมันจะส่งสัญญาณสมองของเรา
00:22:29 → 00:22:32 เนี่ยเพราะจุลินทรีย์มันจะส่งนิวโรทมอ
00:22:32 → 00:22:35 หรือสารสื่อประสาทนิวโรไซขึ้นไปที่สมอง
00:22:35 → 00:22:38 ว่าเฮ้ยเรารู้สึกอิ่มนะค่ะฮอร์โมน
00:22:38 → 00:22:40 เซโรโทนินอย่างเงี้ยทำให้เราแบบเฮ้ยอิ่ม
00:22:40 → 00:22:44 สงบผ่อนคลายมันก็หลั่งจากที่ลำไส้ขึ้นไปอ
00:22:44 → 00:22:46 ค่ะเมลาโทนินที่เราบอกว่าเกี่ยวกับนอน
00:22:46 → 00:22:49 หลับใช่มั้ยครับคุณลีรู้มั้ยว่า 80 90%
00:22:49 → 00:22:52 สร้างที่ลำไส้นะออนักวิทยาศาสตร์คนพบว่า
00:22:52 → 00:22:55 เฮ้ยเมลาโทนินเนี่ยสร้างที่ลำไส้มากกว่า
00:22:55 → 00:22:58 ที่สมองแล้วคุณไส้ไม่ดีคุณก็นอนไม่หลับ
00:22:58 → 00:23:02 อ่ะค่ะเออเห็นมั้ยมันเกี่ยวข้องหมดเลย
00:23:02 → 00:23:04 แล้วผักที่เป็นเมือกเนี่ยส่วนใหญ่มันก็มี
00:23:04 → 00:23:07 คุณสมบัติเป็นพรีไบโอติกค่ะอ่ามันก็ช่วย
00:23:07 → 00:23:10 เรื่องของสุขภาพลำไส้ได้โอ้โหน่าหใจมันก็
00:23:10 → 00:23:13 ส่งสันสมันก็ส่งแบบเฮ้ยทำให้เรากินแล้ว
00:23:13 → 00:23:15 แบบเฮ้ยควบคุมความหิวความอิ่มได้ดีนะไม่
00:23:15 → 00:23:17 ใช่โอหกินแล้วเบรกเบรกแตกกินเท่าไหร่ก็
00:23:17 → 00:23:20 ไม่อิ่มนะกินช้างไม่เหลือกินเสือไม่อิ่ม
00:23:21 → 00:23:24 นะพวกนี้คือกินกินกินเต็มที่เลยนะมันก็
00:23:24 → 00:23:27 กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มนอนก็ไม่หลับเพราะ
00:23:27 → 00:23:29 ว่าสมดุลจุลินทรที่ลำไส้นะในเรื่องของ
00:23:29 → 00:23:32 เซโรโทนินเมลานินที่เกี่ยวข้องกับการเา
00:23:32 → 00:23:35 หลับมันก็หลั่งที่ลำไส้ขับทายก็ไม่สะดวก
00:23:35 → 00:23:37 อันนี้โดยตรงเลยเรื่องของระบบขับถ่าย
00:23:37 → 00:23:40 อารมณ์ก็ไม่แจ่มใสอุเครียดหงุดหงิดง่าย
00:23:40 → 00:23:43 โมโหไม่เนี่ยเพราะสมดุลฮอร์โมนต่างๆมัน
00:23:44 → 00:23:46 เกิดขึ้นที่ลำไส้คเพแล้วสุขภาพดีเขาถึง
00:23:46 → 00:23:51 บอกว่าเริ่มต้นที่ลำไส้ลำล้างได้มยคะอ่า
00:23:51 → 00:23:53 เอามาล้างก่อนเเอามาล้างสวนล้างลำไส้ใช่
00:23:53 → 00:23:56 มั้ยอาจารย์บอกเลยพวกที่ทำโคลอนไฮโดร
00:23:56 → 00:24:00 เทอราปีหรือสวนล้างลำไส้ออือๆนะต้องเติม
00:24:00 → 00:24:02 โปรไบโอติกเข้าไปนะเพราะเพราะว่าเราไป
00:24:02 → 00:24:06 ล้างเ้าออกมาด้วยเหรออ๋อหมดมันล้างออกหมด
00:24:06 → 00:24:08 อือนะเราต้องทำโดยแบบเฮ้ยแพทย์ผู้เชี่ยว
00:24:08 → 00:24:12 ชาญทีมพยาบาลนะแล้วก็ไม่ได้แบบทำบ่อยมาก
00:24:12 → 00:24:15 เกินไปก็ไม่ดีอีกนะเพราะว่ามันไออาจจะ
00:24:15 → 00:24:17 ล้างจะล้างอย่างเดียวไอ้ตัวที่ดี
00:24:17 → 00:24:20 โปรไบโอติกมันก็ถูกล้างออกไปด้วยเราก็
00:24:20 → 00:24:22 ต้องคอยเติมเข้าไปทั้งโปรไบโอติก
00:24:22 → 00:24:25 พรีไบโอติกนะจากพืชผักทั้งหลายแหละที่บอก
00:24:25 → 00:24:29 ไปนะครับมันก็ทำให้สุขภาพรำดีสุขภาพทาง
00:24:29 → 00:24:32 เดินอาหารดีระบบขับถ่ายเราดีเราก็จะกิน
00:24:32 → 00:24:35 อิ่มนอนหลับขับถ่ายสะดวกอารมณ์ของเราก็จะ
00:24:35 → 00:24:39 แจ่มใสครับอ่าพูดแต่ละอย่างมานี้คือแบบ
00:24:39 → 00:24:42 หิวแล้ว่ะหิวไม่ไหวเลยคุณผู้ฟังลองดู
00:24:42 → 00:24:44 เพราะว่าหลายท่านน่าจะทำกับข้าวเองอยู่
00:24:44 → 00:24:47 ที่บ้านแล้วลองเลือกผักเหล่านี้มาสลับ
00:24:47 → 00:24:50 หมุนเวียนเนาะอาจารย์เนาะให้ลำไส้เรา
00:24:50 → 00:24:53 เนี่ยนะเริ่มเน้นคำเหมือนอาจารย์แล้วให้
00:24:53 → 00:24:56 ลำไส้เราเนี่ยนะได้แบบสดใสงดงามทำหน้าที่
00:24:56 → 00:24:59 ได้อย่างดีแล้วเราก็จะเปปลังสดใสดูดซึม
00:24:59 → 00:25:02 อาหารได้เป็นอย่างดีด้วยเดี๋ยวลองทำตาม
00:25:02 → 00:25:04 ถ้าได้ผลยังไงเดี๋ยวค่อยมาบอกในโอกาสหน้า
00:25:04 → 00:25:07 วันนี้ขอบคุณอาจารย์ค่ะสวัสดีค่ะสวัสดี
00:25:07 → 00:25:10 ครับหมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่
00:25:10 → 00:25:12 ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทางไทย PB
00:25:12 → 00:25:15 podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อนนะคะมีความสุข
00:25:15 → 00:25:18 มากๆสวัสดีค่ะ This Is tha PBS
00:25:18 → 00:25:20 podcast สัตว์เลี้ยงช่วยผ่อนคลายให้หาย
00:25:20 → 00:25:23 เครียดได้แต่ถ้าจะเอาเข้าห้องนอนไปนอน
00:25:23 → 00:25:25 ด้วยอาจจะต้องคิดให้หนักหน่อยเพราะอะไร
00:25:25 → 00:25:27 ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายสัตวแพทย์ดรรดิ์
00:25:27 → 00:25:30 รุ่งเรืองกิดไกลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมา
00:25:30 → 00:25:33 บอกให้รู้ครับถ้าเกิดว่าเราอยู่บ้านเนี่ย
00:25:33 → 00:25:35 อยู่บ้านเดี่ยวๆของเราเองเนี่ยไม่แปลก
00:25:35 → 00:25:37 หรอกเราจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงยังไงก็ได้แต่
00:25:37 → 00:25:40 ทีนี้เนี่ยวิถีชีวิตของคนกรุงไม่ได้อยู่
00:25:40 → 00:25:42 บ้านอาจจะอยู่เป็นคอนโดเป็นอพาร์ตเมนต์
00:25:42 → 00:25:46 แล้วต้องอยู่กับคนหมู่มากดังนั้นเนี่ย
00:25:46 → 00:25:49 เวลาที่เราจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสักตัวนึง
00:25:49 → 00:25:51 จะเป็นสุนัขแมวหรือสัตว์อะไรก็แล้วแต่
00:25:51 → 00:25:54 เนี่ยสิ่งที่สำคัญคือต้องดูก่อนว่าสถาน
00:25:54 → 00:25:56 ที่เราอยู่นั่นน่ะเาอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์
00:25:56 → 00:25:59 หรือเปล่าปัจจุบันเนี่ยการเลี้ยงสุนัข
00:25:59 → 00:26:00 เลี้ยงแมวเนี่ยไม่เหมือนกับสมัยก่อนแล้ว
00:26:00 → 00:26:04 อ่ะสมัยก่อนเนี่ยคือเลี้ยงแบบปล่อยๆไม่
00:26:04 → 00:26:07 ได้ดูแลแต่เดี๋ยวนี้เนี่ยมีการเอาใจใส่มี
00:26:07 → 00:26:09 การอยู่เป็นเพื่อนกันมากขึ้นดังนั้นเนี่ย
00:26:09 → 00:26:12 หลายๆคอนโดหลายๆอพาร์ตเมนต์จะมีโซนที่
00:26:12 → 00:26:15 อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ทีนี้ความผูกพันต่าง
00:26:15 → 00:26:17 ๆเนี่ยก็ค่อนข้างเยอะอาจจะไม่ไม่เหมือน
00:26:17 → 00:26:20 สมัยก่อนที่แบบปล่อยให้นอนนอกบ้านและแต่
00:26:20 → 00:26:23 ตอนเนี้ยขยับเข้ามานอนในบ้านอยู่ด้วยกัน
00:26:23 → 00:26:26 กับคนเลยแทบจะกินข้าวด้วยกันร่วมเตียง
00:26:26 → 00:26:29 เคียงหมอนนอนอยู่บนเตียงด้วยกันค่ะก็มี
00:26:29 → 00:26:32 ถามว่าอันตรายมหรือว่ามีความเหมาะสมหรือ
00:26:32 → 00:26:34 เปล่าอันที่ 1 ขึ้นกับความผูกพันของ
00:26:34 → 00:26:36 ระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงตรงนั้นกับ
00:26:36 → 00:26:40 อีกอันนึงคือขึ้นอยู่กับสุขอนามัยทั้งของ
00:26:40 → 00:26:44 คนและของสุนัขการดูแลสุขอนามัยดูแลเรื่อง
00:26:44 → 00:26:47 ความสะอาดดูแลเรื่องการฉีดวัคซีนอะไรต่าง
00:26:47 → 00:26:50 ๆดูแลสุขภาพต่างๆของสุนัขของสัตว์เลี้ยง
00:26:50 → 00:26:54 ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมวเถ้าเราทำดีค่อน
00:26:54 → 00:26:57 ข้างสะอาดแล้วประกอบกับการที่เราไม่ได้มี
00:26:57 → 00:27:00 โรคหรือไม่ได้มีภาวะที่จะเสี่ยงต่อการแพ้
00:27:00 → 00:27:03 การระคายเืองอะไรต่างๆตรงนั้นไม่น่ามี
00:27:03 → 00:27:06 ปัญหาการเลี้ยงในห้องนอนการเลี้ยงที่ใกล้
00:27:06 → 00:27:08 ชิดมากๆมีโอกาสที่จะเกิดอันตรายได้มยมี
00:27:08 → 00:27:11 ต้องตอบว่ามีโอกาสที่จะเกิดได้ถ้าเราดู
00:27:11 → 00:27:14 สุขอนามัยของเขาไม่ดีตัวอย่างที่เห็นได้
00:27:14 → 00:27:18 ง่ายๆเลยคือกรณีที่คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับ
00:27:18 → 00:27:21 โรคระบบทเดินหายใจค่ะเช่นปัญหาเรื่องภูมิ
00:27:21 → 00:27:23 แพ้แล้วเกิดกวัดเกิดการโดนฝุดอะไรนิดนึง
00:27:23 → 00:27:25 ก็มีปัญหาเนี่ยคนที่มีปัญหาเหล่านั้นน่ะ
00:27:25 → 00:27:28 ถามว่าแนะนำให้เลี้ยงมั้ยก็จะไม่แนะนำอ
00:27:28 → 00:27:30 เพราะว่าที่ตัวผิวหนังของสัตว์เลี้ยง
00:27:30 → 00:27:33 เนี่ยของสุนัขของแมวบางทีอาจจะมีขนมีฝุ่น
00:27:33 → 00:27:36 ละอองมีอะไรสุดเล็กๆน้อยๆซึ่งถึงแม้ว่า
00:27:36 → 00:27:39 เราจะดูแลความสะอาดเป็นอย่างดีมันก็มี
00:27:39 → 00:27:42 โอกาสที่จะหลุดรอดมาได้แล้วถ้าคนที่แพ้ไป
00:27:42 → 00:27:45 หายใจเข้าไปไปสัมผัสเข้าไปก็ทำให้เกิด
00:27:45 → 00:27:48 อาการแพ้ปัญหาอีกระบบนึงคือระบบทางเดิน
00:27:48 → 00:27:50 อาหารระบบทางเดินอาหารที่พูดถึงคือการกิน
00:27:50 → 00:27:53 สัมผัสได้ด้วยการกินเข้าไปถ้าเกิดว่า
00:27:53 → 00:27:55 สุนัขสัตว์เลี้ยงของเราไม่สะอาดมี
00:27:55 → 00:27:58 แบคทีเรียที่ติดตามพื้นไปเดินย่ำอะไร
00:27:58 → 00:28:01 สกปรกเข้าไปแล้วเาก็เลียตัวเองเลียพื้น
00:28:01 → 00:28:04 เสร็จแล้วก็เราอุ้มมาเรานอนอยู่กับเรา
00:28:04 → 00:28:06 แล้วเก็มาเลียหน้าเลียตาเลียปากเราก็มี
00:28:06 → 00:28:08 โอกาสที่จะได้รับเชื้อแบคทีเรียตามตัว
00:28:08 → 00:28:10 สิ่งสกปกจากในร่างกายของเขาเนี่ยเข้ามาใน
00:28:11 → 00:28:12 ร่างกายอาจจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องท้อง
00:28:13 → 00:28:16 เสียปัญหาที่ 3 คือระบบผิวหนังแล้วก็ระบบ
00:28:17 → 00:28:19 ปกคลุมร่างกายอย่างเช่นอาจจะเกิดการระคาย
00:28:19 → 00:28:24 เคืองผิวหนังค่ะอาจเกิดการคันการเกาแล้ว
00:28:24 → 00:28:26 ก็ทำให้แบบว่าสาเหตุหลักๆคือมาจากไอ้พวก
00:28:26 → 00:28:28 เชื้อราเชื้อแบคทีเรียที่มาจากผิวหนังรวม
00:28:28 → 00:28:32 ถึงเชื้อปรสิทไอ้ตัวเห็บหมัดที่มีโอกาส
00:28:32 → 00:28:34 เกิดได้ที่มีโอกาสที่จะมากัดแลทำให้เกิด
00:28:34 → 00:28:37 การระคายเคืองอันที่สำคัญเลยคือโรคสัตว์
00:28:37 → 00:28:40 ติดต่อสู่คนโรคเนี้ยโรคสัตว์ติดต่อสู่คน
00:28:40 → 00:28:44 เนี่ยมีหลายโรคโรคพิษสุนัขบ้าโรคแมวข่วน
00:28:44 → 00:28:47 โรคหนูกัดโรคพยาธในทางเดินอาหารพยาธในทาง
00:28:47 → 00:28:49 เดินอาหารที่พูดถึงเนี่ยอย่างเช่นพยาธิ
00:28:49 → 00:28:51 ไส้เดือนกับพยาธิป่าขออันนี้จะปนมากับ
00:28:51 → 00:28:55 อุจจระของสัตว์ของสุนัขของแมวรวมถึงพยาธ
00:28:55 → 00:28:59 ตืดพยาธตืดเนี่ยมีหมัดเป็นเป็นตัวพาหะ
00:28:59 → 00:29:00 เนี่ยเพราะฉะนั้นเนี่ยโลคอย่างเงี้ยเป็น
00:29:00 → 00:29:03 โลคที่ติดต่อสู่คนได้ถ้าเราดูแลความสะอาด
00:29:03 → 00:29:06 อะไรต่างๆสุขาอนามัยเไม่ดีมันก็มีโอกาส
00:29:06 → 00:29:10 ที่จะติดมายัง
00:29:10 → 00:29:14 คน This Is Thai PBS
00:29:14 → 00:29:17 podcast ติดตามรายการของ Thai PBS
00:29:17 → 00:29:19 podcast ได้ทางเว็บไซต์
00:29:19 → 00:29:28 www.thaipbs.or.th
00:29:28 → 00:29:32 spotify YouTube Apple podcast และ
00:29:32 → 00:29:34 soundcloud
00:29:34 → 00:29:37 [เพลง]