00:00:00 → 00:00:04 มีวิธีผอมด้วยผลไม้ที่คน 99 เปอร์เซ็นต์
00:00:04 → 00:00:09 ไม่รู้หลายๆคนนะครับพอเวลาจะนึกถึงการลด
00:00:09 → 00:00:12 น้ำหนักทีไรเนี่ยความคิดแรกๆเลยนะครับก็
00:00:12 → 00:00:15 คือการอะไรครับตัดแป้งตัดข้าวลด
00:00:15 → 00:00:17 คาร์โบไฮเดรตถูกต้องไหมครับเพราะคิดว่า
00:00:17 → 00:00:20 พวกนี้เนี่ยมันจะย่อยกลายเป็นน้ำตาลแล้ว
00:00:20 → 00:00:24 ทำให้เราอ้วนสะสมเป็นไขมันครับความคิดนี้
00:00:24 → 00:00:27 เลยส่งผลให้บางคนครับกลัวผลไม้ไปด้วยครับ
00:00:27 → 00:00:31 ซึ่งผลไม้เนี่ยเป็นอาหารธรรมชาติก็เลย
00:00:31 → 00:00:33 กลัวน้ำตาลผลไม้ด้วยครับเพราะผลไม้เนี่ย
00:00:33 → 00:00:37 มีรสหวานในคลิปนี้นะครับหมอแบงค์จะมาไข
00:00:37 → 00:00:41 ข้อข้องใจให้คุณคำว่าถ้าตกลงแล้วเนี่ยการ
00:00:41 → 00:00:44 กินผลไม้ทำให้คุณอ้วนจริงๆหรือเปล่าหรือ
00:00:44 → 00:00:48 การกินผลไม้ครับทำให้คุณผอมลงกันแน่ก่อน
00:00:48 → 00:00:50 อื่นเลยหักรายชมคลิปมาแบงค์ผ่านทาง
00:00:50 → 00:00:52 facebook นะครับสามารถกดติดตามได้ทาง
00:00:52 → 00:00:55 วิธีการนี้ครับหากใครชมคลิปมาแบงค์พันทาง
00:00:55 → 00:00:58 YouTube สามารถกดติดตามได้ทางวิธีการนี้
00:00:58 → 00:01:01 ครับผมเวลาที่เรานะก็จะประเมินว่าอาหาร
00:01:01 → 00:01:04 ไหนทำให้เราอ้วนหรือให้เราผอมกันแน่เนี่ย
00:01:04 → 00:01:08 เราจะกลับมาดูที่พลังงานแคลอรี่ที่เขาให้
00:01:08 → 00:01:10 ร่างกายแล้วครับสมมติว่าคนหนึ่งคนนะครับ
00:01:10 → 00:01:13 จากโครงน้ำหนักตัวอ้ะให้คงที่นะครับเอา
00:01:13 → 00:01:17 แค่คงที่เขาจะต้องกินปริมาณพลังงานประมาณ
00:01:17 → 00:01:21 2000 kcal ครับเราลองมาดูกันดีกว่าครับ
00:01:21 → 00:01:25 ว่าผลไม้เนี่ยจะกินให้ถึงสองพันแคลอรี่
00:01:25 → 00:01:28 เนี่ยให้คงน้ำหนักตัวนะครับยังไม่ทันอ้วน
00:01:28 → 00:01:31 เลยครับต้องกินเยอะขนาดไหนครับหมอยกตัว
00:01:31 → 00:01:33 อย่างผลไม้ตระกูลเบอร์รี่นะครับอันนี้คือ
00:01:33 → 00:01:36 บลูเบอร์รี่นั่นเองครับในตัวของบลูเบอรี่
00:01:36 → 00:01:39 นะครับ 100 กรัมเนี่ยให้พลังงานกับร่าง
00:01:39 → 00:01:43 กายคุณประมาณ 50 กิโลแคลครับเพราะฉะนั้น
00:01:43 → 00:01:45 การที่คุณจะกินบลูเบอร์รี่เนี่ยให้ได้
00:01:45 → 00:01:47 2000 kcal เนี่ยคุณจะต้องกิน
00:01:48 → 00:01:51 บลูเบอร์รี่มากถึง 4 กิโลกรัมครับ 4
00:01:51 → 00:01:54 กิโลกรัมมันเยอะขนาดไหนหมอแบงค์ตัดเป็น
00:01:54 → 00:01:57 ถ้วยตวงนะครับวัดได้ 40 4 ถ้วยตวงครับ
00:01:57 → 00:02:00 การที่คุณจะกินสี่ถ้วยตวงเข้ามีกระเพาะ
00:02:00 → 00:02:03 อาหารครับก็คือกระเพาะอาหารเรา 1 กระเพาะ
00:02:03 → 00:02:06 นะครับจะรับถ้วยตวงได้ประมาณ 4 ถ้วยตวง
00:02:06 → 00:02:09 ครับนั้นการที่คุณจะกินบลูเบอร์รี่ให้ถึง
00:02:09 → 00:02:12 2000 kcal เนี่ยคุณจะต้องยักษ์
00:02:12 → 00:02:15 บลูเบอร์รี่เข้ามาในกระเพาะอาหารของคุณ
00:02:15 → 00:02:18 น่ะถึง 11 กระเพาะอาหารนะครับเนี่ยการกิน
00:02:19 → 00:02:21 บลูเบอร์รี่แค่ส่งน้ำหนักตัวให้เท่าเดิม
00:02:21 → 00:02:24 นะยังยากเลยครับเพราะฉะนั้นการกิน
00:02:24 → 00:02:26 บลูเบอรี่นะครับนอกจากคุณจะไม่อ้วนขึ้น
00:02:26 → 00:02:29 แล้วนะครับส่งน้ำหนักตัวแทบจะไม่ได้นะ
00:02:29 → 00:02:32 ครับยังทำให้คุณผอมลงอย่างแน่นอนครับอ้าว
00:02:32 → 00:02:35 บ่แบงค์แบงค์ยกตัวอย่างผลไม้ที่มัน
00:02:35 → 00:02:37 แคลอรี่น้อยหรือเปล่า
00:02:37 → 00:02:41 งั้นเรามาดูทุเรียนกันดีกว่าครับทุเรียน
00:02:41 → 00:02:44 เนี่ยหลายๆคนก็จะเข้าใจว่าเป็นผลไม้ที่
00:02:44 → 00:02:48 พลังงานสูงถูกต้องนะครับกินแล้วอ้วนเรามา
00:02:48 → 00:02:51 ดูกันชัดๆเลยนะว่าจะกินทุเรียนยังไงให้
00:02:51 → 00:02:52 อ้วนนะครับ
00:02:52 → 00:02:55 มีทุเรียนนะครับในเนื้อทุเรียน 100 กรัม
00:02:56 → 00:02:58 นะครับให้พลังงานคุณ
00:02:58 → 00:03:01 150 แคลอรี่ครับอันนี้คือฆ่าประมาณนะการ
00:03:01 → 00:03:04 ที่คุณจะกินทุเรียนนะครับเพื่อส่งน้ำหนัก
00:03:04 → 00:03:07 ตัวเอาแค่ส่งแล้วนะตัวนะครับคุณจะต้องกิน
00:03:07 → 00:03:11 ทุเรียนมากถึง 1.3 กิโลด้วยกันครับโอ้โห
00:03:11 → 00:03:15 คุณจะกินเนื้อทุเรียนยังไงให้ได้ 1.3
00:03:15 → 00:03:19 กิโลครับยากมากๆเลยนะครับอันนี้คือแค่ส่ง
00:03:19 → 00:03:21 น้ำหนักตัวนะครับในคลิปนี้ครับมาแบงค์จะ
00:03:21 → 00:03:25 แถมความรู้เกร็ดความรู้นี้ให้ไปด้วยครับ
00:03:25 → 00:03:29 ขอฟังหมอดีๆนะผลไม้ครับที่คุณคำนวณ
00:03:29 → 00:03:33 แคลอรี่ได้ร่างกายเนี่ยจะได้รับจริงน้อย
00:03:33 → 00:03:36 กว่าแคลอรี่ที่คำนวณด้วยครับเพราะว่าอะไร
00:03:36 → 00:03:40 เพราะว่าในตัวผลไม้ครับมีปริมาณไฟเบอร์
00:03:40 → 00:03:43 ที่สูงครับมีปริมาณสารอาหารที่สูงครับมี
00:03:43 → 00:03:47 สันไฟโตนิวเทรียนท์นะครับที่ช่วยดูดซับ
00:03:47 → 00:03:50 น้ำตาลนะครับผมในงานวิจัยนี้น่าสนใจมาก
00:03:50 → 00:03:54 ครับเขานำคนสองกลุ่มที่คุมอาหารมาวัดกัน
00:03:54 → 00:03:57 นะว่ากลุ่มไหนเนี่ยปริมาณแคลอรีที่เข้า
00:03:57 → 00:04:00 ร่างกายเนี่ยน้อยกว่ากันนะครับกลุ่มหนึ่ง
00:04:00 → 00:04:03 ครับกินผลไม้มากๆครับกลุ่มนี้เรียกว่า
00:04:03 → 00:04:06 กลุ่ม low Fat ครับกินแป๊บประมาณ 11
00:04:06 → 00:04:08 เปอร์เซ็นต์ครับส่วนอีกกลุ่มนึงครับกิน
00:04:08 → 00:04:11 แฟลชประมาณห้าสิบแปดเปอร์เซ็นครับกิน
00:04:11 → 00:04:14 ผลไม้กับคาวบอยเด็ดน้อยมากๆครับผลปรากฏ
00:04:14 → 00:04:17 ว่านะครับกลุ่มที่กินคาร์โบไฮเดรตนะครับ
00:04:17 → 00:04:21 กินผลไม้มากๆเนี่ยใน 1 เดือนครับเขาจะมี
00:04:21 → 00:04:25 แคลอรี่หลงเหลือออกทางอุจจาระเนี่ยมาก
00:04:25 → 00:04:26 กว่าอีกกลุ่มมาถึง
00:04:26 → 00:04:30 2500 แคลอรี่เลยครับเพราะฉะนั้นปีนึง
00:04:30 → 00:04:32 ครับถ้าคุณกินผลไม้มากๆนะครับกลุ่ม
00:04:32 → 00:04:36 คาร์โบไฮเดรตสูงนะครับคุณจับประหยัด
00:04:36 → 00:04:39 แคลอรี่เนี่ยไม่เข้าไปในร่างกายได้มากถึง
00:04:39 → 00:04:42 3 หมื่นแคลอรี่เลยครับผมโอโห้เป็นไงครับ
00:04:42 → 00:04:45 นั่นเลยเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมนักเรียนของ
00:04:45 → 00:04:48 หมอแบงค์เป็นร้อยร้อยคนเนี่ยขับถ่ายกัน
00:04:48 → 00:04:52 วันนึง 2-3 ครั้งเป็นเรื่องปกตินะครับอัน
00:04:52 → 00:04:54 นี้เป็นตัวอย่างอาหารของนักเรียนของหมอ
00:04:54 → 00:04:57 แบงค์นะครับลองดูสิครับว่าแตกต่างยังไง
00:04:57 → 00:05:00 กับวิธีอื่นๆนะครับวิธีเนี่ยคุณจะกิน
00:05:00 → 00:05:04 ผลไม้ได้ไม่จำกัดเลยครับลองดูครับพี่ท่าน
00:05:04 → 00:05:07 นี้นะครับทานผลไม้มื้อนึงเยอะมากๆครับมัก
00:05:07 → 00:05:10 จะมีทุเรียนนะครับเป็นภูครับกินก่อนอาหาร
00:05:10 → 00:05:13 นะครับหลังจากนั้นก็กินข้าวมือปกติครับ
00:05:13 → 00:05:16 แล้วก็ปิดท้ายด้วยผลไม้อีกครับพี่ท่านี้
00:05:16 → 00:05:19 เนี่ยยังไม่ถึง 2 เดือนเลยครับรถไป 13
00:05:19 → 00:05:22 กิโลด้วยกันครับอ่ะลองมาดูนักเรียนท่าน
00:05:22 → 00:05:25 อื่นๆครับกินแบบเดียวกันครับรถแบบนี้
00:05:25 → 00:05:28 เดือนมี 3-5 กิโลเป็นเรื่องปกติครับผม
00:05:28 → 00:05:31 เพราะฉะนั้นข้อแรกนะครับที่หมอแบงค์อยาก
00:05:31 → 00:05:34 ให้ทุกคนจำไว้เลยนะครับก็คือผลไม้เนี่ย
00:05:34 → 00:05:39 คุณจะอิ่มก่อนอ้วนเสมอครับผลไม้ไม่มีวัน
00:05:39 → 00:05:42 ทำให้คุณอ้วนครับนอกจากคุณจะไม่อ้วนเพราะ
00:05:42 → 00:05:46 ผลไม้นะครับผลไม้จะทำให้คุณผอมลงได้ด้วย
00:05:46 → 00:05:49 ครับอ่ะอันนี้คือข้อแรกที่ต้องจำนะครับ
00:05:49 → 00:05:53 หลายคนก็จะมีคำถามแล้วว่าพอแบงค์แล้ว
00:05:53 → 00:05:56 ผลไม้นี้มันมีน้ำตาลฟรุกโตสไม่ใช่เหรอ
00:05:56 → 00:05:58 แล้วตกลงน้ำตาลฟรุกโตสเนี่ยมันดีกับ
00:05:58 → 00:06:01 สุขภาพของเราไหมทำให้เราอ้วนหรือเปล่ามา
00:06:01 → 00:06:05 ดูกันแบบนี้ครับโค้ชเวลาคนที่โทษฟุบโต๊ะ
00:06:05 → 00:06:08 นะครับเขาจะเข้าใจแค่ประมาณครึ่งเดียวนะ
00:06:08 → 00:06:08 ครับ
00:06:08 → 00:06:14 ฟรุกโตสเนี่ยที่อันตรายกับสุขภาพที่ทำให้
00:06:14 → 00:06:17 ตับเนี่ยมีไขมันพอกตับที่ทำให้คนเป็นเบา
00:06:17 → 00:06:19 หวานที่ทำให้คนอ้วนขึ้น
00:06:19 → 00:06:22 หูฟังดีๆนะครับเป็นฟรุกโตสจากการ
00:06:22 → 00:06:27 สังเคราะห์และแปรรูปครับคือฟรุกโตสจากน้ำ
00:06:27 → 00:06:30 เชื่อมน้ำตาลทรายนั่นเองครับทุกโต๊ะแบบ
00:06:30 → 00:06:33 นี้ทำให้คุณป่วยเป็นโรคได้แน่นอนไอ้อ้วน
00:06:33 → 00:06:37 ขึ้นอันนี้คุณเข้าใจถูกต้องละแต่ฟรุกโตส
00:06:37 → 00:06:40 ที่มาจากผลไม้นะครับให้ผลแตกต่างกันอย่าง
00:06:40 → 00:06:44 สิ้นเชิงเลยครับผมงานวิจัยนี้นะครับเขาดู
00:06:44 → 00:06:48 คนสองกลุ่มครับที่ควบคุมอาหารคล้ายๆกัน
00:06:48 → 00:06:52 แต่แตกต่างกันที่กลุ่มนึงกินผลไม้มากๆ
00:06:52 → 00:06:55 ครับอีกกลุ่มนึงจำกัดฟรุกโตสจากผลไม้ครับ
00:06:55 → 00:06:59 ผลปรากฏว่ากลุ่มที่กินผลไม้นะครับมากๆ
00:06:59 → 00:07:02 หน่อยเนี่ยลดไขมันได้ดีกว่ากลุ่มที่ไม่
00:07:02 → 00:07:06 ได้ทันผลไม้นะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าคุณ
00:07:06 → 00:07:09 อยากลดน้ำหนักอย่ากลัวฟลุ๊คโตสจากผลไม้
00:07:09 → 00:07:13 ครับเอามาแบงค์ยังไม่มั่นใจอยู่ดีอ่ะมัน
00:07:13 → 00:07:16 มีรสหวานนะครับทำให้น้ำตาลขึ้นแล้ว
00:07:16 → 00:07:19 เปลี่ยนเป็นไขมันหรือเปล่างั้นลองมาดูงาน
00:07:19 → 00:07:22 ต่อไปนี้นะครับงานวิจัยนี้เนี่ยเขาทดสอบ
00:07:22 → 00:07:25 โดยการให้คนหนึ่งคนนะครับกินน้ำตาลทราย
00:07:25 → 00:07:28 ละลายน้ำกินน้ำเชื่อมนะครับเข้าไปแล้ววัด
00:07:28 → 00:07:33 ระดับของน้ำตาลในเลือดครับผมผลปรากฏว่านะ
00:07:33 → 00:07:35 ครับคนที่กินน้ำตาลทรายเพียวๆเนี่ยผ่านไป
00:07:35 → 00:07:38 ประมาณ 30 นาทีนะครับน้ำตาลในเลือดพุ่ง
00:07:38 → 00:07:41 สูงอ่ะตาม grass นี้เลยนะครับเพราะผ่านไป
00:07:41 → 00:07:44 เก้าสิบนาทีนะครับน้ำตาลที่พุ่งขึ้นไป
00:07:44 → 00:07:47 เนี่ยลดต่ำลงมากกว่าปกตินะครับทำให้เกิด
00:07:47 → 00:07:51 ภาวะน้ำตาลต่ำนั่นเองครับผมอ่าอันนี้คือ
00:07:51 → 00:07:55 น้ำตาลทรายปกตินะครับงานวิจัยนี้ยังไม่จบ
00:07:55 → 00:07:58 แค่นั้นครับเขาเลยลองให้คนนึงครับกินน้ำ
00:07:58 → 00:08:02 ตาลทรายแบบเดิมครับแต่คราวเนี้ยเพิ่ม
00:08:02 → 00:08:05 ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เข้าไปด้วยครับผม
00:08:05 → 00:08:07 ผลไม้ที่เขาเอามาทดสอบครับก็คือ
00:08:07 → 00:08:10 แบล็คเคอเรนท์ครับกับลิงก่อน berry คือ
00:08:10 → 00:08:12 ตระกูลเบอร์รี่ชนิดนึงครับลองนึกผ้านะ
00:08:12 → 00:08:15 ครับเมื่อกี้กินน้ำตาลทรายเข้าไปเพียวๆ
00:08:15 → 00:08:17 น้ำตาลยังพุ่งสูงขนาดนั้นเลยอ่ะแล้วถ้า
00:08:17 → 00:08:21 เกิดว่ากินผลไม้เข้าปนะครับน้ำตาลจะจะ
00:08:21 → 00:08:24 พุ่งสูงขนาดไหนอ่ะอ่ะหลายคนจะเดาว่ามันมี
00:08:24 → 00:08:27 น้ำตาลในผลไม้ด้วยนะน้ำตาลของผู้สูงขึ้น
00:08:27 → 00:08:32 สินะคำตอบคือกลับกันเลยครับในกลุ่มที่กิน
00:08:32 → 00:08:35 น้ำตาลทรายร่วมกับแบล็คเคอเรนท์นะครับ
00:08:35 → 00:08:37 หรือว่าลิงเกิ้ลเบอร์รี่เนี่ยทำให้ระดับ
00:08:37 → 00:08:41 น้ำตาล 30 นาทีนะครับต่ำกว่าการกินน้ำตาล
00:08:41 → 00:08:44 แบบเพียวๆครับผมอ่าอาดูกราฟนะครับดูกราฟ
00:08:44 → 00:08:47 หลังจากนั้นเก้าสิบนาทีนะครับกลุ่มที่กิน
00:08:47 → 00:08:49 น้ำตาลทรายเพียวๆเนี่ยเกิดอาการน้ำตาลต่ำ
00:08:49 → 00:08:52 ใช่ไหมครับแต่กลุ่มที่กินแบล็คเคอเรนท์
00:08:52 → 00:08:55 ร่วมด้วยนะครับไม่มีอาการน้ำตาลต่ำแม้แต่
00:08:55 → 00:08:59 นิดเดียวเลยครับโอ้โหเป็นยังไงครับเป็น
00:08:59 → 00:09:02 ยังไงครับแปลว่าผลไม้เนี่ยมีฤทธิ์ในการ
00:09:02 → 00:09:06 ดูดซับน้ำตาลที่เข้ากระแสเลือดด้วยนะครับ
00:09:06 → 00:09:08 อ่านอกจากไม่ทำให้น้ำตาลเพิ่มแล้วยังดูด
00:09:08 → 00:09:12 ซับน้ำตาลด้วยครับผมยังไม่จบแค่นั้นครับ
00:09:12 → 00:09:16 มีอีกงานวิจัยหนึ่งครับลองดูว่าเอ๊ยงาน
00:09:16 → 00:09:19 วิจัยเดิม Group หรือเปล่านะครับงั้นก็
00:09:19 → 00:09:22 เลยให้ทดลองกินหนมปังขาวดูครับผลบทว่า
00:09:22 → 00:09:25 กระตุ้นอินซูลินพุ่งขึ้นสูงแบบนี้เลยครับ
00:09:25 → 00:09:29 อ่าดูเส้นขาวนะครับแต่อีกกลุ่มนึงครับให้
00:09:29 → 00:09:32 กินหนมปังขาวร่วมกับเบอรี่เหมือนเดิมนะ
00:09:32 → 00:09:35 ครับผลปรากฏว่ากลายเป็นเส้นดำครับปริมาณ
00:09:35 → 00:09:38 อินซูลินเนี่ยลดลงอย่างชัดเจนในกลุ่มที่
00:09:38 → 00:09:42 กินผลไม้ร่วมด้วยครับผมเพราะฉะนั้นข้อที่
00:09:42 → 00:09:45 2 ที่หมอแบงค์อยากให้ทุกคนจำเลยนะครับจง
00:09:45 → 00:09:49 อย่ากลัวฟรุกโตสในผลไม้ครับซุปโตสในผลไม้
00:09:49 → 00:09:53 ทำให้คุณผอมลงครับต้านโรคมะเร็งนะครับ
00:09:53 → 00:09:56 ต้านโรคเบาหวานต้านโรคอ้วนต้านความดัน
00:09:57 → 00:10:00 โลหิตสูงครับผมกินเข้าไปเลยครับผลไม้ที่
00:10:00 → 00:10:03 เป็นลูกๆครับผมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
00:10:03 → 00:10:07 กับฟรุกโตสสังเคราะห์ครับหรือว่านำเชื่อม
00:10:07 → 00:10:09 นั่นเองครับหรือว่าน้ำตาลทรายนั่นเองครับ
00:10:09 → 00:10:12 อันนั้นน่ะทำให้เราอ้วนครับผมนั่นเลยเป็น
00:10:12 → 00:10:15 สาเหตุที่ว่าองค์กรด้านสุขภาพใหญ่ๆนะครับ
00:10:15 → 00:10:19 เค้าแนะนำให้กินผลไม้ทั้งนั้นครับไม่ว่า
00:10:19 → 00:10:21 จะเป็น The Power start ดีนะครับแนะนำ
00:10:21 → 00:10:24 ให้กินผลไม้เพิ่มขึ้นนั่นเองครับองค์การ
00:10:24 → 00:10:28 อนามัยโลกก็แนะนำให้กินผลไม้เพิ่มขึ้น
00:10:28 → 00:10:31 ครับผมสมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกาครับก็แนะ
00:10:31 → 00:10:35 นำให้กินผลไม้มากขึ้นครับสมาคมโรคมะเร็ง
00:10:35 → 00:10:38 ครับกินผลไม้มากขึ้นเช่นเดียวกันครับ
00:10:38 → 00:10:41 เพราะฉันวันนี้ครับถ้าคุณอยากดูแลสุขภาพ
00:10:41 → 00:10:45 ลดน้ำหนักตัวด้วยครับแล้วคุณยังคงกลัว
00:10:45 → 00:10:49 ผลไม้คุณยังต้องจำกัดผลไม้แต่ว่าคุณมาผิด
00:10:49 → 00:10:52 ทางแล้วครับคุณจะลดน้ำหนักแบบไม่มีความ
00:10:52 → 00:10:54 สุขเลยครับแต่นักเรียนของหมอแบงค์นะครับ
00:10:54 → 00:10:58 ยิ่งผลไม้กันแบบหูอุตลุดนะครับมีความสุข
00:10:58 → 00:11:02 เพิ่มขึ้นนะครับถ้าใครอยากรู้วิธีในการ
00:11:02 → 00:11:05 ทานผลไม้ให้ผอมลงนะครับหมอแบงค์แนะนำวิธี
00:11:05 → 00:11:09 พลี loading เทคนิคนะครับรายละเอียดเนี่ย
00:11:09 → 00:11:13 จะติดตามได้ในคลิป 3 เขตลับความผอมที่คน
00:11:13 → 00:11:15 99 เปอร์เซ็นต์ไม่รู้นะครับเดี๋ยวหมอจะ
00:11:15 → 00:11:18 ทิ้งลิงค์ไว้ทุกคนไปเรียนเพิ่มนะครับพี่
00:11:18 → 00:11:21 loading เทคจะทำให้คุณกินผลไม้แล้วแบบมี
00:11:21 → 00:11:24 ความสุขมากๆเลยแล้วผอมลงด้วยครับผมสุด
00:11:24 → 00:11:27 ท้ายนี้นะครับบ่แบงค์อยากจะรู้ครับว่าถ้า
00:11:27 → 00:11:30 คุณนึกถึงผลไม้สักอย่างหนึ่งที่คุณกิน
00:11:30 → 00:11:33 แล้วมีความสุขครับที่คุณอยากกินมากๆเลยนะ
00:11:33 → 00:11:36 ครับแล้วมีความสุขคุณนึกถึงผลไม้ชนิดไหน
00:11:36 → 00:11:39 ครับช่วยคอมเม้นท์บอกมาแบงค์ใต้คลิปนี้
00:11:39 → 00:11:42 หน่อยนะครับผมมาแบงค์หวังว่านะครับทุก
00:11:42 → 00:11:45 ท่านจะมีความสุขในการทานอาหารเพิ่มขึ้น
00:11:45 → 00:11:48 ครับไม่กลัวผลไม้อีกต่อไปครับทานผลไม้
00:11:48 → 00:11:52 เพื่อลดความอ้วนนะครับเพื่อสุขภาพครับ
00:11:52 → 00:11:55 แล้วเราเจอกันในคลิปถัดไปครับอยู่กับผม
00:11:55 → 00:12:00 หมอแบงค์ดอกเกอร์แบงก์ Food Doctor