00:00:00 → 00:00:04 แลคตาซอยงาดำเข้มประโยชน์ทุกคำหอมงาดำ
00:00:04 → 00:00:09 อร่อยมากมีโรคหัวใจแฝงต้องระวังภาวะหัวใจ
00:00:09 → 00:00:13 หยุดเต้นเฉียบพลันอันตรายถึง
00:00:13 → 00:00:16 ชีวิตรับมือภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
00:00:17 → 00:00:20 รู้จักวิธีปฐมพยาบาล
00:00:20 → 00:00:24 ฟิตเต็มร้อยกับ bufc รู้จักการกายภาพ
00:00:24 → 00:00:27 บำบัดด้วยการพันเทปติดตามเรื่องราวทั้ง
00:00:27 → 00:00:30 หมดได้ในรายการเ
00:00:30 → 00:00:36 วัน
00:00:36 → 00:00:40 นี้สวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่รายการ TNN
00:00:40 → 00:00:43 He เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิคุ้ม
00:00:43 → 00:00:47 กันรู้ทันโรคไปกับ TNN ค่ะและดิฉันหมอดาว
00:00:47 → 00:00:50 แพทย์หญิงชัดดาวจังวังกรแพทย์เฉพาะทาง
00:00:50 → 00:00:52 สาขาเวชศาสตร์ครอบครัวพร้อมที่จะรับหน้า
00:00:53 → 00:00:55 ที่เป็นผู้ดำเนินรายการพาคุณผู้ชมมาเข้า
00:00:55 → 00:00:59 ถึงสาระสุขภาพดีๆกันค่ะ
00:00:59 → 00:01:09 [เพลง]
00:01:09 → 00:01:13 และสำหรับสัปดาห์นี้นะคะเราจะมารู้จัก
00:01:13 → 00:01:17 ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันกันภาวะนี้นะ
00:01:17 → 00:01:19 คะหลายคนอาจจะสงสัยว่าจะเกิดกับเราหรือ
00:01:19 → 00:01:22 ไม่แม้กระทั่งว่าคนที่ออกกำลังกายนะคะแต่
00:01:22 → 00:01:25 ถ้าคุณออกกำลังกายหนักเกินควรหรือบางคน
00:01:25 → 00:01:28 ค่ะอาจจะมีภาวะหัวใจที่ผิดปกติแฝงอยู่
00:01:28 → 00:01:31 ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนี้อาจเกิดกับ
00:01:31 → 00:01:34 คุณได้ไปฟังพร้อมๆกันค่ะภาวะหัวใจหยุด
00:01:34 → 00:01:37 เต้นเฉียบพลันคือภาวะที่หัวใจทำงานผิด
00:01:37 → 00:01:41 ปกติจนไม่มีการบีบตัวหรือหยุดเต้นทันที
00:01:41 → 00:01:44 โดยไม่มีอาการเตือนล่วงหน้าเมื่อเกิดภาวะ
00:01:44 → 00:01:46 นี้จะไม่มีการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงส่วน
00:01:46 → 00:01:49 ต่างๆของร่างกายทำให้การทำงานของอวัยวะ
00:01:50 → 00:01:53 ผิดปกติซึ่งอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ
00:01:53 → 00:01:56 การทำงานของสมองเมื่อไม่มีเลือดมาเลี้ยง
00:01:56 → 00:01:59 ก็ทำให้หมดสติการช่วยเหลือจึงจำเป็นต้อง
00:01:59 → 00:02:03 ทำอย่างทันท่วงทีโดยในขณะที่ออกกำลังกาย
00:02:03 → 00:02:06 อย่างหนักร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงมาก
00:02:06 → 00:02:10 มายเช่นระดับน้ำตาลโปรตีนและเม็ดเลือดขาว
00:02:10 → 00:02:13 เพิ่มขึ้นนอกจากนี้การออกกำลังกายยังทำ
00:02:13 → 00:02:16 ให้เกล็ดเลือดมาเกาะเป็นกลุ่มกันมากขึ้น
00:02:16 → 00:02:18 ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่อาจทำให้เกิด
00:02:18 → 00:02:21 กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันในคน
00:02:21 → 00:02:24 ปกติร่างกายสามารถสร้างกระบวนการสลายลิ่ม
00:02:25 → 00:02:28 เลือดเพิ่มมากขึ้นในขณะเดียวกันทำให้หัก
00:02:28 → 00:02:31 ล้างหรือลดภาวะการเกาะเป็นกลุ่มของเกล็ด
00:02:31 → 00:02:34 เลือดแต่ผู้ที่มีภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ
00:02:34 → 00:02:37 อยู่เดิมจะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ
00:02:37 → 00:02:39 กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอย่างเฉียบพลัน
00:02:39 → 00:02:43 ได้ถ้าออกกำลังกายอย่างหักโหมเกินไปจาก
00:02:43 → 00:02:47 สถิตินะคะมีการเก็บข้อมูลพบว่ามีคนเสีย
00:02:47 → 00:02:51 ชีวิตกว่า 50,000 คนใน 1 ปีจากภาวะที่
00:02:51 → 00:02:54 เป็นโรคหัวใจเฉียบพลันสาเหตุส่วนใหญ่เกิด
00:02:54 → 00:02:57 จากหลอดเลืดแดงหัวใจอุตันเฉียบพลันทำให้
00:02:57 → 00:03:00 เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายและหัวใจหยุเต้น
00:03:00 → 00:03:03 ตามมาซึ่งจะพบได้ประมาณร้อยละ 40 ของผู้
00:03:03 → 00:03:06 ป่วยหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันและกล้ามเนื้อ
00:03:06 → 00:03:08 หัวใจตายเฉียบพลันทั้งหมดกล่าวคือถ้ามี
00:03:09 → 00:03:12 ผู้ป่วย 100 คนจะมี 40 คนที่เสียชีวิตทัน
00:03:12 → 00:03:15 ทีหลังจากมีอาการเนื่องจากหลอดเลือดที่
00:03:15 → 00:03:17 เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจอุดตันทำให้ไม่มี
00:03:18 → 00:03:20 เลือดไปเลี้ยงหัวใจเกิดภาวะทำให้หัวใจ
00:03:20 → 00:03:24 หยุดเต้นหรือเต้นกระตุกและเสียชีวิตทันที
00:03:24 → 00:03:27 โรคหัวใจอื่นๆที่เป็นสาเหตุสำคัญเช่นโรค
00:03:27 → 00:03:30 กล้ามเนื้อหัวใจหนาซึ่งเป็นสาเหตุของโรค
00:03:30 → 00:03:33 หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันในคนอายุน้อยและ
00:03:33 → 00:03:36 นักกีฬาโรคไหลตายซึ่งเกิดจากวงจรไฟฟ้าใน
00:03:37 → 00:03:40 หัวใจที่ผิดปกติสำหรับสาเหตุของภาวะโรค
00:03:40 → 00:03:44 หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันมีดังต่อไปนี้อายุ
00:03:44 → 00:03:48 น้อยกว่า 35 ปีส่วนใหญ่จะมีสาเหตุมาจาก
00:03:48 → 00:03:51 ความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจแต่หากมี
00:03:51 → 00:03:54 การออกกำลังกายเป็นประจำโดยเฉพาะในกลุ่ม
00:03:54 → 00:03:58 นักกีฬาร่างกายและหัวใจจะมีการปรับตัวจน
00:03:58 → 00:04:00 สามารถทำให้เล่นกีฬาได้อย่างดีหรือเป็น
00:04:00 → 00:04:04 เลิศได้โดยนักกีฬาไม่ทราบมาก่อนว่าตัวเอง
00:04:04 → 00:04:07 มีความผิดปกติอยู่แต่เมื่อมีการเล่นกีฬา
00:04:07 → 00:04:10 ที่หัวใจต้องทำงานหนักการทำงานของกล้าม
00:04:10 → 00:04:13 เนื้อหัวใจไม่สามารถดำเนินต่อไปได้จึงอาจ
00:04:13 → 00:04:18 ทำให้หัวใจหยุดเต้นได้อายุมากกว่า 35 ปี
00:04:18 → 00:04:21 ขึ้นไปส่วนใหญ่จะมีสาเหตุมาจากการอุบตัน
00:04:22 → 00:04:25 ของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจทำให้เวลา
00:04:25 → 00:04:29 ร่างกายออกแรงมากหัวใจจะทำงานมากขึ้นแต่
00:04:29 → 00:04:31 เลือดไม่สามารถมาเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจจ
00:04:31 → 00:04:34 ได้เพียงพอก็จะทำให้หัวใจหยุดเต้นได้
00:04:35 → 00:04:38 ปัจจัยเสี่ยงของภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบ
00:04:38 → 00:04:42 พลันซึ่งแบ่งได้ตามอายุมีดังต่อไปนี้ 1
00:04:42 → 00:04:45 ปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจวายเฉียบพลันในคน
00:04:45 → 00:04:48 ปกติทั่วไปมีโรคประจำตัวแทรกซ้อนเกี่ยว
00:04:48 → 00:04:51 ข้องกับหัวใจและหลอดเลือดสมอง 2 ปัจจัย
00:04:51 → 00:04:54 เสี่ยงต่อโรคหัวใจวายเฉียบพลันในผู้ที่มี
00:04:54 → 00:04:57 อายุน้อยผู้ที่มีภาวะโรคหัวใจแตกกำเนิด
00:04:57 → 00:04:59 และภาวะบางอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับ
00:04:59 → 00:05:02 กรพันธ์ 3 ปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจวาย
00:05:02 → 00:05:05 เฉียบพลันในผู้สูงอายุผู้ที่มีภาวะหลอด
00:05:05 → 00:05:08 เลือดหัวใจตีบและเส้นเลือดหัวใจตีบภาวะ
00:05:08 → 00:05:12 หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันมีความต่างจากภาวะ
00:05:12 → 00:05:15 หัวใจวายเฉียบพลันอย่างไรภาวะหัวใจหยุด
00:05:15 → 00:05:18 เต้นเฉียบพลันต่างกับภาวะหัวใจวายเฉียบ
00:05:18 → 00:05:21 พลันตรงที่กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน
00:05:21 → 00:05:25 หรือรู้จักกันว่าภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน
00:05:25 → 00:05:27 เกิดจากการไหลของเลือดเพื่อเลี้ยงส่วนของ
00:05:27 → 00:05:30 หัวใจถูกรบกวนทำให้เกล้ามเนื้อหัวใจบาง
00:05:30 → 00:05:33 ส่วนตายซึ่งส่วนมากเกิดจากการอุดตันของ
00:05:33 → 00:05:37 หลอดเลือดโคโรนารีที่เลี้ยงหัวใจโดยที่
00:05:37 → 00:05:40 หัวใจอาจจะไม่ได้หยุดเต้นขณะเกิดภาวะหัว
00:05:40 → 00:05:43 ใจวายเฉียบพลันซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา
00:05:43 → 00:05:46 อาจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายและเสียชีวิต
00:05:46 → 00:05:50 ได้แต่จริงๆแล้วภาวะหัวใจวายเฉียบพลันก็
00:05:50 → 00:05:53 คือสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจ
00:05:53 → 00:05:56 หยุดเต้นเฉียบพลันได้แต่ก็อาจเกิดจากภาวะ
00:05:56 → 00:05:59 อื่นๆได้อีกเหมือนกันส่วนใหญ่แล้วภาวะหัว
00:05:59 → 00:06:01 ใจวายเฉียบพลันมักจะเกิดจากการที่กล้าม
00:06:01 → 00:06:04 เนื้อหัวใจตายซึ่งนี่นับเป็นสาเหตุการ
00:06:04 → 00:06:07 เสียชีวิตอันดับต้นๆของทั้งผู้ชายและผู้
00:06:07 → 00:06:10 หญิงทั่วโลกโดยปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ
00:06:10 → 00:06:14 อายุโรคเบาหวานความดันโลหิตสูงไขมันใน
00:06:14 → 00:06:17 เลือดสูงและการสุบบุหรี่และสำหรับโรคดัง
00:06:17 → 00:06:19 ที่กล่าวไปนะคะจะต้องระมัดระวังตัวเอง
00:06:19 → 00:06:21 เป็นอย่างยิ่งค่ะเพราะการที่เราเป็นโรค
00:06:21 → 00:06:24 เหล่านี้จะทำให้เรามีความเสี่ยงในเรื่อง
00:06:24 → 00:06:28 ของกล้ามเนื้อหัวใจตายและภาวะของกล้าม
00:06:28 → 00:06:30 เนื้อหัวใจตายนั้นมีอาการอย่างไรไปฟังกัน
00:06:30 → 00:06:34 ค่ะอาการของกล้ำเนื้อหัวใจตายเสียบพลัน
00:06:34 → 00:06:37 ที่พบบ่อยได้แก่เจ็บหน้าอกกระทันหันซึ่ง
00:06:37 → 00:06:41 มักร้าวไปยังแขนซ้ายหรือด้านซ้ายของคอ
00:06:41 → 00:06:44 อาการหายใจลำบากคลื่นไส้อาเจียนใจสั่น
00:06:44 → 00:06:47 เหงื่อออกแต่ที่น่ากลัวคือประมาณ 1 ใน 4
00:06:47 → 00:06:50 ของผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตายจะไม่ค่อยมี
00:06:50 → 00:06:53 อาการแม้แต่อาการปวดเจ็บหน้าอกหรืออาการ
00:06:53 → 00:06:57 อื่นเตือนก่อนเลยในกรณีที่สงสัยควรเรียก
00:06:57 → 00:06:59 รถพยาบาลเพื่อนำส่งฮอกฉุกเฉินโดยเร็ที่
00:06:59 → 00:07:02 สุดเพื่อเข้ารับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
00:07:02 → 00:07:05 การถ่ายภาพเยทรงอกและการตรวจเลือดเพื่อดู
00:07:05 → 00:07:08 ความเสียหายของกล้ามเนื้อหัวใจโดยตัวชี้
00:07:08 → 00:07:11 วัดความเสียหายของกล้ามเนื้อหัวใจที่ใช้
00:07:11 → 00:07:16 บ่อยคือสัดส่วน cretin kess MB หรือ
00:07:16 → 00:07:21 ckmb และระดับสารินและในช่วงนี้นะคะเรา
00:07:21 → 00:07:24 จะมาลงลึกในรายละเอียดเกี่ยวกับภาวะหัวใจ
00:07:24 → 00:07:27 หยุดเต้นเฉียบพลันกันรวมไปถึงวิธีการรับ
00:07:27 → 00:07:30 มือการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกถูกต้อง
00:07:30 → 00:07:32 แล้ววันนี้ค่ะเราได้รับเกียรติจากแพทย์
00:07:32 → 00:07:35 ผู้เชี่ยวชาญอาจารย์จะมาให้คำแนะนำกับเรา
00:07:35 → 00:07:36 อย่างครบถ้วน
00:07:36 → 00:07:40 ค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มต้นที่คำถาม
00:07:40 → 00:07:41 แรกเลยนะ
00:07:41 → 00:07:49 [เพลง]
00:07:49 → 00:07:53 คะอุบัติการณ์ของภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบ
00:07:53 → 00:07:56 พลัเป็นอย่างไรคะถือว่าพบได้เยอะเหมือน
00:07:56 → 00:07:58 กันครับไม่ไม่ได้น้อยจนเกินไปจริงๆอุบัติ
00:07:58 → 00:08:01 การ์ในประเทศไทยเราคงไม่ทราบนะครับแต่ถ้า
00:08:01 → 00:08:04 อ้างอิงตามของฝั่งอเมริกาแล้วกันเ้าพบ
00:08:04 → 00:08:06 อย่างงี้ครับเพบว่าเอ่อมีคนที่เสียชีวิต
00:08:06 → 00:08:09 กระทันหันอยู่ที่บ้านเลยนะครับแบบไม่ทราบ
00:08:09 → 00:08:12 สาเหตุเนี่ยตกราวๆประมาณ 300,000 คนต่อปี
00:08:12 → 00:08:15 ซึ่งถ้าคิดคร่าวๆตกประมาณ 1000 กว่าคนต่อ
00:08:15 → 00:08:18 ปีเลยนะถือว่าเยอะพอสมควรแต่ถ้าอยู่ฝั่ง
00:08:18 → 00:08:22 ยุโรปก็จะตกราวๆสัก 40 คนใน 100,000 คนนะ
00:08:22 → 00:08:25 ครับคราวนี้เข้าใจว่าเราก็จะเจอเยอะหน่อย
00:08:25 → 00:08:27 เวลามันออกข่าวซึ่งส่วนมากเป็นนักกีฬานะ
00:08:27 → 00:08:30 ครับซึ่งก็จะเป็นนักกีฬาก็จะเป็นคนที่
00:08:30 → 00:08:32 อายุน้อยๆหน่อยเป็นเหมือนแบบคนที่แข็งแรง
00:08:32 → 00:08:35 ดีทำไมถึงมักเกิดในนักกีฬาคะอาจารย์ช่วย
00:08:35 → 00:08:38 เล่าตัวอย่างที่เกิดขึ้นได้มั้คะนกลาเกิด
00:08:38 → 00:08:41 อะไรนะครับถ้าส่วนมากเ่อจากการที่เราทราบ
00:08:41 → 00:08:43 ณปัจจุบันส่วนมากมักจะเกิดโรคที่เขาเป็น
00:08:43 → 00:08:46 มาตั้งแต่กำเนิดอยู่แล้วนะครับอ่ายกตัว
00:08:46 → 00:08:48 อย่างเช่นสมัยก่อนเรารู้ว่าเอ่อมักจะมี
00:08:48 → 00:08:51 โรคของกล้ามเนื้อหัวใจที่ผิดปกติตั้งแต่
00:08:51 → 00:08:53 กำเนิดแล้วนะครับเป็นโรคทาพันธุกรรมด้วย
00:08:53 → 00:08:56 แหละนะครับดีไม่ดีถ้าเราถามนักกีฬาคนนั้น
00:08:56 → 00:08:58 ได้ว่าพ่อแม่เค้าเป็นมั้ยนะครับพ่อแม่เ
00:08:58 → 00:09:00 อาจจะเป็นมาด้วยเหมเหมือนกันหมายถึงว่ามี
00:09:00 → 00:09:02 โรคนี้ด้วยเหมือนกันนะครับซึ่งก็ถือว่า
00:09:02 → 00:09:05 เป็นสาเหตุหลักๆในนักกีฬาเลยณปัจจุบันนะ
00:09:05 → 00:09:07 ครับไม่ว่านักกีฬาในบ้านเราหรือเมืองนอก
00:09:07 → 00:09:09 นะครับปัจจุบันก่อนที่จะเข้าไปแข่งเป็น
00:09:09 → 00:09:12 นักกีฬาอาชีพเไม่ใช่เป็นการตรวจอยู่แลนะ
00:09:12 → 00:09:15 ครับความโชคร้ายของนักกีฬาก็คือถ้ามันโรค
00:09:15 → 00:09:17 บางอย่างที่มันตรวจพบเห็นชัดๆเนี่ยเคคง
00:09:17 → 00:09:19 ไม่ได้ไปเล่นกีฬาให้เราเห็นอยู่แล้วตั้ง
00:09:19 → 00:09:21 แต่แรกนะครับแต่ส่วนมากส่วนนึงมันจะเป็น
00:09:21 → 00:09:24 โรคที่ต่อเราเห็นภาพของหัวใจเลยเราส่อง
00:09:24 → 00:09:26 เข้าไปเห็นเลยหัวใจเป็นอย่างงี้นะครับทุก
00:09:26 → 00:09:28 อย่างมันดูปกติหมดเลยครับเพียงแต่ว่าการ
00:09:28 → 00:09:30 ทำงานของมันต่างหที่ผิดปกติแลมันจะทำงาน
00:09:30 → 00:09:33 ผิดปกติก็ตอนที่เขาไปออกกำลังกายเยอะๆ
00:09:33 → 00:09:35 เท่านั้นเองเพราะฉะนั้นถามว่ามันก็เลย
00:09:35 → 00:09:38 กลายเป็นว่าเขาก็เลยไม่ทราบหมายถึงตัวนัก
00:09:38 → 00:09:40 กีฬาเองก็เลยไม่ทราบนะครับหรรวมถึงคนที่
00:09:40 → 00:09:42 เราพยายามไปตรวจก็อาจจะไม่ทราบในตอน
00:09:42 → 00:09:44 เบื้องต้นก็ได้นะครับเพราะฉะนั้นมันก็เลย
00:09:44 → 00:09:46 ไปเกิดตอนที่เขาใช้แรงเยอะๆนั่นแหละนะ
00:09:46 → 00:09:49 ครับบอกแรงมากๆอาจารย์คะแล้วสาเหตุของ
00:09:49 → 00:09:53 ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันเกิดจากอะไรค
00:09:53 → 00:09:56 คะปกติขวๆพวกผมจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มครับง
00:09:56 → 00:09:58 สาเหตุไม่เหมือนกันนะครับแบ่ง่าวๆอายุ
00:09:58 → 00:10:02 ประมาณตัดที่สัก 35-40 ปีถ้าอายุเยอะเลย
00:10:02 → 00:10:04 นะครับอายุเกินสัก 35-40 ปีขึ้นไปส่วนมาก
00:10:04 → 00:10:07 แล้วสาเหตุมักจะเกิดจากโรคหลอดเลือดหัวใจ
00:10:07 → 00:10:12 ครับนะครับมีการอุดตันมีการเอ่ออุดกั้น
00:10:12 → 00:10:15 หลอดเลือดหัวใจแบบกทันๆแบบเกิดขึ้นทันที
00:10:15 → 00:10:17 ทันใดพวกนี้ก็สามารถทำให้เสียชีวิตกันหัน
00:10:17 → 00:10:20 ได้กลับกันถ้าเรามาพูดถึงเด็กๆนะครับหรือ
00:10:20 → 00:10:22 คนที่อายุไม่มากจนเกินไปนะครับอายุสัก
00:10:22 → 00:10:25 น้อยกว่า 35-40 ปีส่วนมากมักจะเป็นโรค
00:10:25 → 00:10:27 อะไรสักอย่างที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดนะ
00:10:27 → 00:10:30 ครับก็ยกตัวอย่างเช่นเขคอาจจะมีพันธุกรรม
00:10:30 → 00:10:33 ที่ิดปกติทำให้หัวใจเค้าผิดปกติก็ได้หรือ
00:10:33 → 00:10:35 หลอดเลือดเขาอาจจะผิดปกติผมหมายถึงว่า
00:10:35 → 00:10:37 หลอดเลือดมันมีการเดินทางที่ผิดปกตินะ
00:10:37 → 00:10:39 ครับไม่ได้มีการอุดตันอะไรก็ได้นะครับ
00:10:39 → 00:10:41 เพราะฉะนั้นก็จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มอย่างนี้
00:10:41 → 00:10:44 ครับผมภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันมี
00:10:44 → 00:10:47 สัญญาณเตือนหรือไม่คะตามชื่อเลยครับมัน
00:10:47 → 00:10:49 มันพอมันเฉียบพันธแปลว่ามันมันมักจะไม่มี
00:10:49 → 00:10:51 อะไรเตือนคราวนี้คงกลับไปที่สาเหตุเหมือน
00:10:51 → 00:10:53 เดิมครับถ้าแบ่งเป็น 2 กลุ่มกลุ่มที่อายุ
00:10:53 → 00:10:56 น้อยๆนะครับพวกเนี้ยความโชคร้ายของเขาคือ
00:10:56 → 00:10:58 มักจะไม่มีอะไรเลยครับเหมือนนักกีฬาที่
00:10:58 → 00:11:00 เล่นมาได้ทุกแมตช์เลยจนถึงจุดนึงที่มัน
00:11:00 → 00:11:02 แบบเป็นความโชคร้ายของเา้าจริงๆที่ถึง
00:11:03 → 00:11:05 จังหวะที่มันเกิดเรื่องเขาก็หัวใจหยุด
00:11:05 → 00:11:07 เต้นไปตรงนั้นเลยนะครับกลับกันถ้าสมมุติ
00:11:07 → 00:11:10 ว่าเป็นคนคนทั่วๆไปแล้วนะครับนะครับที่
00:11:10 → 00:11:12 ไม่ใช่นักกีฬาอันเนี้ยความโชคดีขึ้นมา
00:11:12 → 00:11:14 หน่อยนะครับเพราะว่าสาเหตุักจะเกิดจากโรค
00:11:14 → 00:11:16 หล่อเลือดหัวใจแปลว่าเขอาจจะมีอาการนำมา
00:11:16 → 00:11:19 ก่อนยกตัวอย่างเช่นอ่าออกแรงแล้วรู้สึก
00:11:19 → 00:11:22 เจ็บหน้าอกหรือบางคนมีหน้ามืดวนเวียนบาง
00:11:22 → 00:11:25 คนเป็นลมหมดสติเลยก็ได้นะครับกลุ่มเหล่า
00:11:25 → 00:11:28 นี้แหละนะครับที่อาจจะเป็นอาการนำที่มม
00:11:28 → 00:11:30 บอกว่าเ้าเป็นโรคหัวใจที่จะมีโอกาสเสีย
00:11:30 → 00:11:33 ชีวิตกระทันหันด้วยหัวใจหยุดเต้นเฉียบพัน
00:11:33 → 00:11:35 ได้ในอนาคตครับอาการของภาวะหัวใจหยุดเต้น
00:11:36 → 00:11:38 เฉียบพลันเป็นอย่างไรคะก่อนที่เขาจะเป็น
00:11:38 → 00:11:40 อ่ะครับเขาอาจจะรู้สึกใจสั่นก่อนนะครับ
00:11:40 → 00:11:43 เขาอาจจะรู้สึกเวียนหัวนะครับเขาอาจจะรู้
00:11:43 → 00:11:47 สึกเพลียนะครับแต่ด้วยเอ่อพอหัวใจมันหยุด
00:11:47 → 00:11:50 เต้นน่ะครับร่างกายเราจะทนได้ไม่นานล่ะ
00:11:50 → 00:11:52 ครับไม่ถึง 1 นาทีแน่นอนมันจะหมดสติไปเลย
00:11:52 → 00:11:55 ทันทีหลังจากนั้นเขาก็จะไม่รู้เรื่องแล
00:11:55 → 00:11:58 เพราะฉะนั้นอาการนำถามว่าอ่าเขาจะรู้สึก
00:11:58 → 00:12:01 ไงอย่ามากผมรู้สึกเขาก็คงรู้สึกใจสั่น
00:12:01 → 00:12:03 เหนื่อยเพลียหน้ามืดคล้ายจะเป็นลมแค่นั้น
00:12:03 → 00:12:06 เลยครับแล้วมันก็จะเร็วมากปุ๊บไปเลยแล้ว
00:12:06 → 00:12:08 ก็จะไม่รู้เรื่องละครับความน่ากลัวของ
00:12:08 → 00:12:11 ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันในนักกีฬาคือ
00:12:11 → 00:12:15 อะไรคะความน่ากลัวก็คือมันหยุดเต้นปุ๊บ
00:12:15 → 00:12:17 มันเสียชีวิตได้เลยทันทีนะครับนั่นแหละ
00:12:17 → 00:12:21 คือน่ากลัวที่สุดแล้วนะครับถ้าโชคดีขึ้น
00:12:21 → 00:12:24 มาหน่อยนะครับอาจจะหยุดเต้นแค่ชั่วคราว
00:12:24 → 00:12:27 ความหมายคือแค่ทำให้เขาหมดสติไปช่วงนึง
00:12:27 → 00:12:30 แล้วเคหัวจะเคกลับมาเต้นได้เองหรือมีคน
00:12:30 → 00:12:33 เข้าไปช่วยเทันนะครับความรุนแรงน้อยลงมา
00:12:33 → 00:12:35 หน่อยก็คือเายังมีชีวิตอยู่นั่นแหละแต่
00:12:35 → 00:12:37 ว่าพอหัวใจหยุดเต้นเลือดไม่สามารถไป
00:12:37 → 00:12:40 เลี้ยงสมองได้แปลว่าเขาก็จะอยู่ในลักษณะ
00:12:40 → 00:12:42 คล้ายๆเจ้าชายนิชาครับไม่สามารถช่วยเหลือ
00:12:42 → 00:12:45 ตัวเองได้นะหรือถ้าเขาโชคดีไปมากกว่านั้น
00:12:45 → 00:12:47 คือหยุดเต้นไปแค่ชั่วคราวที่เขาเป็นลม
00:12:47 → 00:12:49 ปุ๊บแล้วทุกอย่างก็ฟื้นขึ้นมาทันทีถามว่า
00:12:49 → 00:12:52 ความน่ากลัวมันขึ้นว่าเเจะเจอแบบไหนนะ
00:12:52 → 00:12:55 ครับน่ากลัวสุดก็เสียชวิตไปเลยนะครับน้อย
00:12:55 → 00:12:58 ที่สุดก็แค่เป็นลมหมดสติจะวินิจฉัยได้
00:12:58 → 00:13:02 อย่างไรคะว่าอาจจะเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น
00:13:02 → 00:13:04 เฉียบพลันแบ่งเป็น 2 กลุ่มแล้วกันนะครับ
00:13:04 → 00:13:06 เอาเป็นกลุ่มที่
00:13:06 → 00:13:08 เอ่อหัวใจหยุดเต้นไปแล้วแล้วพวกเราช่วย
00:13:09 → 00:13:11 กันมาแล้วหรือเขาตื่นขึ้นมาเองแล้วมาตรวจ
00:13:11 → 00:13:13 กับพวกเราพวกเนี้ผมว่าไม่ยากนะครับเพราะ
00:13:13 → 00:13:15 ว่าพวกเราจะพยายามหาอยู่แล้วว่ามันเกิด
00:13:15 → 00:13:18 อะไรขึ้นกับเขานะครับพอเราเกิดขึ้นอะไร
00:13:18 → 00:13:20 เกิดจากสาเหตุอะไรเราก็สามารถเข้าไปแก้ไข
00:13:20 → 00:13:23 ทางจุดๆนั้นได้ยกตัวอย่างเช่นสมมุติว่า
00:13:23 → 00:13:26 เขาเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจเ่อขาดเลือด
00:13:26 → 00:13:28 เฉียดพันธุนะครับถ้าพวกเราตรวจพบได้เร็ว
00:13:28 → 00:13:30 เราไปแค่ไขหลอดเลือดไปเปิดหลอดเลือดให้
00:13:30 → 00:13:33 เขาคได้เขาก็จะกลับมาใช้ชีวิตตามปกตินะ
00:13:33 → 00:13:35 ครับโอกาสที่จะกลับไปเป็นแบบนั้นก็จะน้อย
00:13:35 → 00:13:38 ลงนะครับถ้าเรักษาต่อเนื่องนะครับอีก
00:13:38 → 00:13:40 กลุ่มนึงสมมุติไม่เคยเป็นอะไรเลยนะครับนะ
00:13:40 → 00:13:44 ครับแต่ว่ามาบังเอิญตรวจพบด้วยอะไรบาง
00:13:44 → 00:13:46 อย่างนะครับยกตัวอย่างเช่นถ้ามาตรวจกับ
00:13:46 → 00:13:49 อ่าฝั่งพวกเราที่เป็นหมอลูกหัวใจเราอาจจะ
00:13:49 → 00:13:52 พบว่าคลื้นไฟฟ้าหัวใจเคผิดปกติหรือเรา
00:13:52 → 00:13:54 ตรวจร่างกายแล้วเ้าผิดปกติหรือเค้ามี
00:13:54 → 00:13:57 ประวัติคุณพ่อคุณแม่ที่มีปัญหาเสียชีวิตก
00:13:57 → 00:14:00 ทหารมาก่อนแล้วพวกเราคนพบเจอก่อนแล้วก็จะ
00:14:00 → 00:14:02 มีวิธีการที่จะป้องกันไม่ให้เขาคเกิด
00:14:02 → 00:14:04 อาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพันธุ์ในอนาคตได้
00:14:04 → 00:14:07 เหมือนกันครับก็ขึ้นอยู่กับว่าสุดท้าย
00:14:07 → 00:14:09 แล้วเเป็นอะไรนั่นแหละวิธีการก็จะมีหลาก
00:14:09 → 00:14:11 หลายแล้วก็แตกต่างกันไปครับผมภาวะหัวใจ
00:14:11 → 00:14:13 หยุดเต้นเฉียบพลันค่ะอาจารย์มีวิธีการ
00:14:13 → 00:14:16 รักษาได้อย่างไรบ้างคะต้องใช้คำว่าป้อง
00:14:16 → 00:14:18 กันไม่ให้เกิดซ้ำดีกว่าเพราะว่าพอมันหยุด
00:14:18 → 00:14:21 ไปะแล้วก็เราคงพาเ้าฟื้นกลับมาหลังจาก
00:14:21 → 00:14:23 นั้นทำยังไงก็ตามให้เขาไม่กลับไปเป็นแบบ
00:14:23 → 00:14:25 เดิมเหมือนซ้ำนะครับอ่าอย่างแรกเลยคือหา
00:14:25 → 00:14:27 สาเหตุนั่นแหละครับว่าสาเหตุคืออะไรถ้า
00:14:27 → 00:14:30 สาเหตุนั้นเราสามารถแก้ไขได้มันก็คงจะไม่
00:14:30 → 00:14:33 เกิดอีกถ้าเป็นสาเหตุที่เราแก้ไขไม่ได้ยก
00:14:33 → 00:14:35 ตัวอย่างเช่นเ้ามีโรคทำพันธุกรรมบางอย่าง
00:14:35 → 00:14:38 ที่เราแก้ไม่ได้จริงๆหรือหัวใจเขาเสียไป
00:14:38 → 00:14:41 และนะครับจนเราแก้ไม่ได้จริงๆมันก็จะมี
00:14:41 → 00:14:44 การรักษาอย่างอื่นนะครับที่ที่จะช่วยเขา
00:14:44 → 00:14:47 ได้เราเจอคนที่เขาหัวใจยุดเต้นหยุดต่อ
00:14:47 → 00:14:49 หน้าเราทันทีถามว่าเราช่วยเยังไงใช่มั้ย
00:14:49 → 00:14:51 ครับปัจจุบันเราก็บอกเว่าหมายถึงว่าเรา
00:14:51 → 00:14:54 พยายามจะให้ประชาชนทุกคนสามารถช่วยชีวิต
00:14:54 → 00:14:56 ขั้นพื้นฐานได้ก็คือกดหน้าอกคนไข้นั่น
00:14:56 → 00:14:58 แหละครับแล้วก็จะมีเครื่องเครื่องนึงที่
00:14:58 → 00:15:00 เขาพยายามจะโปรโมทให้พกเราใช้เป็นเที่
00:15:00 → 00:15:04 เรียกว่าเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติหรือ
00:15:04 → 00:15:08 เรียกว่า aed านี้ถ้าถามมาในกรณีที่รอดมา
00:15:08 → 00:15:11 ถึงพวกผมแล้วบังเอิญว่าเาเป็นโรคอะไรก็
00:15:11 → 00:15:13 แล้วแต่ที่เรารักษาไม่ได้จริงๆหรือเราแก้
00:15:13 → 00:15:15 เหตุไม่ได้จริงๆแต่เรารู้นะว่าเ้ามีโอกาส
00:15:15 → 00:15:17 จะเกิดซ้ำนะครับเราก็ใช้หลักการเดียวกัน
00:15:17 → 00:15:19 เลยครับคือใช้เครื่อง AD นี่แหละนะครับ
00:15:19 → 00:15:21 เพียงแต่ว่าเปลี่ยนรูปแบบใหม่เป็นเครื่อง
00:15:21 → 00:15:23 ที่อยู่ในตัวคนไข้ได้เลยแต่ว่ามันจะมอง
00:15:23 → 00:15:26 หัวใจคนไข้ตลอดเวลาและเมื่อไหร่ก็ตามที่
00:15:26 → 00:15:29 หัวใจคนไข้หยุดเต้นหรือผิดปกติแบบรุนแรง
00:15:29 → 00:15:31 มันก็จะช่วยกระตุกรักษาได้ทันทีแบบ
00:15:31 → 00:15:33 อัตโนมัตินะครับก็เป็นวิธีการป้องกันไม่
00:15:33 → 00:15:35 ให้เกิดเรื่องอีกอย่างนึงอยากให้อาจารย์
00:15:35 → 00:15:38 ให้คำแนะนำค่ะสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจใน
00:15:38 → 00:15:41 การที่เขาคิดจะออกกำลังกายค่ะอาจารย์สิ่ง
00:15:41 → 00:15:44 ที่อยากฝากก็คือก็ให้ดูแลตัวเองให้ดีอ
00:15:45 → 00:15:47 ครับนะครับทั้งเรื่องอาหารการออกกำลังกาย
00:15:47 → 00:15:50 นะครับและถ้ามีโอกาสนะครับแนะนำให้ตรวจ
00:15:50 → 00:15:53 สุขภาพประจำปีด้วยนะครับเพราะผมเชื่อว่า
00:15:53 → 00:15:55 ไม่ว่าโปรแกรมตรวจสภาพสุขภาพที่ใดก็แล้ว
00:15:55 → 00:15:58 แต่นะครับจะรวมถึงการตรวจเรื่องหัวใจไป
00:15:58 → 00:16:00 ด้วยอยู่แล้วนะครับยิ่งเราสามารถค้นพบ
00:16:00 → 00:16:03 เอ่อโรคที่อาจจะก่อให้เกิดการเสียชีวิต
00:16:03 → 00:16:05 กับทนันหรือหัวใจติดหยุดเต้นกับทนันได้
00:16:05 → 00:16:08 เร็วเท่าไหร่โอกาสที่เราจะช่วยกันดูแล
00:16:08 → 00:16:11 เพื่อให้ป้องกันสิ่งเนี้ยก็จะมีโอกาส
00:16:11 → 00:16:13 เพิ่มมากขึ้นเท่านั้นขอบพระคุณอาจารย์ที่
00:16:13 → 00:16:15 มาให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของภาวะ
00:16:15 → 00:16:19 หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนะคะและช่วงนี้นะ
00:16:19 → 00:16:23 คะเราไปฟิตเต็มร้อยกับ bufc กันโดยที่ไป
00:16:23 → 00:16:26 รู้กันว่าวิธีการกายภาพบำบัดด้วยการพัน
00:16:26 → 00:16:29 เทปเป็นอย่างไรไปฟังพร้อมๆกันค่ะ
00:16:29 → 00:16:30 [เพลง]
00:16:30 → 00:16:31 [ปรบมือ]
00:16:31 → 00:16:36 [เพลง]
00:16:36 → 00:16:37 [ปรบมือ]
00:16:37 → 00:16:42 [เพลง]
00:16:42 → 00:16:46 สวัสดีครับผมนายมงคลแส่เท้านะครับตำแหน่ง
00:16:46 → 00:16:48 นักแกผ้าบำบัดประจำสโมสร True Bangkok
00:16:48 → 00:16:51 United นะครับวันนี้นะครับเราจะมาเรียน
00:16:51 → 00:16:54 รู้เกี่ยวกับการทำแกผ้าบำบัตในการพาเทปนะ
00:16:54 → 00:16:58 ครับอ่าสำหรับใครที่ชอบเล่นกีฬานะครับโดย
00:16:58 → 00:17:00 เฉพาะอ่ากีฬาฟุตบอลนะครับน่าจะเป็น
00:17:00 → 00:17:06 ประโยชน์อย่างมากครับ
00:17:06 → 00:17:09 [เพลง]
00:17:09 → 00:17:13 [ปรบมือ]
00:17:13 → 00:17:17 ผมสำหรับอ่าเทปชนิดแรกนะครับเราเรียกว่า
00:17:17 → 00:17:19 ผ้าล็อคนะครับเรียกง่ายๆว่าผ้าล็อคนะครับ
00:17:19 → 00:17:22 อันนี้คือจะใช้ในกรณีที่อย่างสมมุติว่า
00:17:22 → 00:17:25 ข้อเท้าเราหลวมหรือหลังจากการบาดเจ็บมานะ
00:17:25 → 00:17:27 ครับเราจะใช้เทปชนิดนี้นะครับเพื่ออ่า
00:17:28 → 00:17:31 เพิ่มความมั่นคงของข้อต่อต่างๆนะครับชนิด
00:17:31 → 00:17:34 ต่อมานะครับเเราเรียกว่าโ Band นะครับ
00:17:34 → 00:17:36 ชนิดนี้ก็คือมันทำหน้าที่ในการเพิ่มความ
00:17:36 → 00:17:39 มั่นคงของข้อเหมือนกันแต่ว่าอันนี้มันจะ
00:17:39 → 00:17:42 มีความยืดหยุ่นเยอะกว่านะครับจะใช้ในกรณี
00:17:42 → 00:17:45 อย่างเช่นคนที่ข้อเท้าหลวมแต่ไม่ต้องการ
00:17:45 → 00:17:48 ให้อ่าพันข้อเท้าแน่นเกินไปนะครับเราก็จะ
00:17:48 → 00:17:51 ใช้เทสชนิดนี้ได้แล้วก็ตัวสุดท้ายนะครับ
00:17:51 → 00:17:53 เราเรียกว่า kio T นะครับหรือเราเรียก
00:17:53 → 00:17:57 ง่ายๆว่า K เปตัวนี้นะครับจะใช้ในกรณีอ่า
00:17:57 → 00:17:59 อย่างเช่นการกระตุ้นกล้ามเนื้อเนื้อหรือ
00:17:59 → 00:18:01 การซัพพอร์ตกล้ามเนื้อนะครับใช้หลักๆคือ
00:18:01 → 00:18:08 เกี่ยวกับกล้ามเนื้อนะ
00:18:08 → 00:18:11 ครับเดี๋ยววันนี้นะครับเดี๋ยวเราจะมายก
00:18:11 → 00:18:14 ตัวอย่างการพันเทปสัก 2 ตัวอย่างก็ได้นะ
00:18:14 → 00:18:16 ครับอ่าอย่างแรกก็คือเดี๋ยวเรามาพันเทป
00:18:16 → 00:18:18 ข้อเท้ากันนะครับเพื่อเพิ่มความมั่นคง
00:18:18 → 00:18:21 ป้องกันกันบาดเจ็ดอะไรพวกนี้นะครับและอีก
00:18:21 → 00:18:24 อย่างนึงก็คือเดี๋ยวเรามาพันเทปเพื่อพยุง
00:18:24 → 00:18:26 กล้ามเนื้อสำหรับการพันข้อเท้านะครับหลัก
00:18:26 → 00:18:28 ๆแล้วนะครับเราจะพันเพื่อป้องกันไม่ให้
00:18:28 → 00:18:30 ข้อเท้าพลิกเข้าด้านในนะครับการพลิกเข้า
00:18:30 → 00:18:33 ด้านในของคอเท้าจะเกิดในการบาดเจ็บของนัก
00:18:33 → 00:18:36 กีฬาฟุตบอลค่อนข้างเยอะกว่าพลิกออกด้าน
00:18:36 → 00:18:39 นอกนะครับเดี๋ยววันนี้เรามาลองพันกันดูนะ
00:18:39 → 00:18:42 ครับหลักๆก็คือเราจะอ่าพันเพื่อป้องกัน
00:18:42 → 00:18:45 ไม่ให้พลิกเข้าด้านในครับผมโอเคครับมาถึง
00:18:45 → 00:18:48 วิธีการพันเ้อเท้านะครับพันการพันเ้อเท้า
00:18:48 → 00:18:51 นะครับด้วยเปินะครับ rigid เปนะครับหรือ
00:18:51 → 00:18:53 ว่าผ้าล็อคนั่นแหละมีหลากหลายวิธีให้
00:18:53 → 00:18:55 เลือกใช้นะครับแต่ว่าที่นิยมใช้กันมากที่
00:18:55 → 00:18:57 สุดนะครับก็คือเทคนิค Basket weep นะ
00:18:58 → 00:19:00 ครับอุปกรณ์ที่ใช้นะครับก็มีอ่าผ้าล็อคนะ
00:19:00 → 00:19:03 ครับแล้วก็ใช้ผ้า Under Rap นะครับเป็น
00:19:03 → 00:19:06 ผ้ารองนะครับพันนะครับเหนือตาตุ่มขึ้นมา
00:19:06 → 00:19:09 ประมาณฝ่ามือนึงนะครับอย่าให้มีรอยย่นนะ
00:19:09 → 00:19:12 ครับของผ้านะครับตัวนี้จะเป็นตัวช่วยป้อง
00:19:12 → 00:19:15 กันไม่ให้ผ้าล็อคติดกับขนนะครับจากนั้น
00:19:15 → 00:19:18 ใช้ผ้าล็อคนะครับทำจุดเกาะนะครับบริเวณ
00:19:18 → 00:19:21 ต้นกับบริเวณปลายนะครับอ่าเพื่อป้องกัน
00:19:21 → 00:19:24 การข้อเท้าพลิกออกด้านนอกนะครับเราจะดึง
00:19:24 → 00:19:28 จากด้านในนะครับไปหาด้านนอกนะครับโดยการ
00:19:28 → 00:19:31 การแปะเทปที่ฝั่งด้านในก่อนนะครับจากนั้น
00:19:31 → 00:19:37 ออกแรงดึงประมาณ 50% นะครับแปะที่จุดเกาะ
00:19:37 → 00:19:40 ฝั่งนี้นะครับสารตะกร้าโดยการแปะที่จุด
00:19:40 → 00:19:44 เกาะปลายนะครับด้านในนะครับอ้อมมาที่ N1
00:19:44 → 00:19:49 ไวนะครับและมาแปะส่วนปลายที่จุดเกาะอีก
00:19:49 → 00:19:52 ฝั่งนึงนะครับเราจะทำแบบนี้ครับประมาณ 2-3
00:19:52 → 00:19:55 ขั้นตอนครับเราจะพันโคเวอร์ปิดนะครับ
00:19:55 → 00:19:59 บริเวณส่วนปลายที่มีการแะของผ้าล็อคนะ
00:19:59 → 00:20:02 ครับเพื่อไม่ให้ผ้าล็อคหลุดนะครับเวลานัก
00:20:02 → 00:20:06 กีฬาทำการเคลื่อนไหวนะครับโอเคครับตอนนี้
00:20:06 → 00:20:09 เสร็จเรียบร้อยครับนักกีฬาพร้อมที่จะทำ
00:20:09 → 00:20:17 การฝึกซ้อมและแข่งขันต่อไป
00:20:17 → 00:20:20 ครับส่วนต่อมานะครับการพันเทปเพื่อพยุง
00:20:20 → 00:20:22 กล้ามเนื้อนะครับเดี๋ยวเรามาดูกันครับ
00:20:22 → 00:20:24 ครับลำดับต่อไปนะครับเดี๋ยวเรามาพันเท็ป
00:20:24 → 00:20:27 เพื่อพยุงเข่านะครับสมมุติว่าเวลาเราวิ่ง
00:20:27 → 00:20:30 แล้วเรารู้สึกปวดบริบเวณลูกซนะครับสามารถ
00:20:30 → 00:20:33 นำอ่าเทคนิคนี้ไปใช้ได้นะครับทำได้ด้วย
00:20:33 → 00:20:36 ตัวเองครับผมอุปกรณ์หลักๆของเราก็จะมีอ่า
00:20:36 → 00:20:39 kac Test นะครับอ่า kco Test มันจะมี
00:20:39 → 00:20:42 เป็นบล็อกๆแบบนี้ให้นะครับอ่าเราเลือกมา
00:20:42 → 00:20:46 ซัก 5 บล็อกก็ได้ครับทั้งหมด 2 แผ่นพอเรา
00:20:46 → 00:20:49 ตัด kd Stage ได้แบบนี้นะครับเราแบ่ง
00:20:49 → 00:20:53 เป็น 1 2 แล้วก็ 3 ก็ได้นะครับหรือใครจะ
00:20:53 → 00:20:56 แบ่งเป็น A B C ก็ได้พอเราแบ่งได้แล้ว
00:20:56 → 00:21:01 นะครับเรามาฉีก K มีเทนะครับแบบนี้นะ
00:21:01 → 00:21:06 ครับจากนั้นเราเริ่มต้นดยการนะ
00:21:06 → 00:21:10 ครับเอาบล็อก a นะครับให้จุดสังเกตง่ายๆ
00:21:10 → 00:21:14 คือตุ่มกระดูกใต้อ่าลูกสบ้านะครับเอ็นลูก
00:21:14 → 00:21:17 สบ้านะครับแปะเข้าไป
00:21:17 → 00:21:21 ครับแบบนี้ครับแล้วก็ดึงเทปออกมาครับให้
00:21:21 → 00:21:24 ดึงเทปตรงนี้ครับตรงบล็อก B ที่เราแบ่ง
00:21:24 → 00:21:28 ไว้นะครับ 50-75 เพของความตึงตัวของเทปนะ
00:21:28 → 00:21:32 ครับแล้วก็อ้อมมาตรงนี้นะครับพอถึงบล็อก C
00:21:32 → 00:21:35 ที่เราฉีกไว้นะครับอ่าให้ดึงความตึงตัว
00:21:35 → 00:21:40 แค่ประมาณ 15% นะครับแบบนี้นะครับแล้ว
00:21:40 → 00:21:43 ก็ถูให้เรียบนะครับให้ให้เราแน่ใจว่ามัน
00:21:43 → 00:21:47 แนบสนิทกับอ่าผิวหนังของเรานะครับต่อไปนะ
00:21:47 → 00:21:49 ครับแผ่นที่ 2 นะครับเหมือนวิธีการเหมือน
00:21:49 → 00:21:51 กันนะครับครับแล้วก็เราก็จะเริ่มจากฝั่ง
00:21:51 → 00:21:53 นี้นะ
00:21:53 → 00:21:58 ครับเหมือนกันครับ 50-75 per ของความดึง
00:21:58 → 00:22:02 ตัวของเทปนะครับอ้อมมาตรงงนี้นะ
00:22:02 → 00:22:07 ครับแล้วก็ถูให้แน่ใจว่าเทปแนบสนิทกับผิว
00:22:07 → 00:22:11 หนังของเราสำหรับเทคนิคนี้นะครับสามารถนำ
00:22:11 → 00:22:15 ไปใช้อ่าได้นะครับสำหรับคนที่มีอการอ่า
00:22:15 → 00:22:19 ปวดบริเวณอ่าเอ็นลูกซาบ้านะครับเวลาวิ่ง
00:22:19 → 00:22:22 หรือว่าเวลาออกกำลังกายนะครับสามารถใช้
00:22:22 → 00:22:25 ใช้เทคนิคนี้ช่วยพยุงอ่าหัวเขาเราได้ครับ
00:22:25 → 00:22:30 ผม
00:22:31 → 00:22:32 [เพลง]
00:22:32 → 00:22:36 สำหรับท่านใดนะครับที่จะนำการพันเทปไปใช้
00:22:36 → 00:22:38 ประโยชน์นะครับสามารถนำไปใช้ตามที่อ่าได้
00:22:38 → 00:22:41 แนะนำไปข้างต้นนี้นะครับหรือว่าถ้าเกิด
00:22:41 → 00:22:44 ว่าใครที่แบบมีอาการบาดเจ็บมาแล้วหายแต่
00:22:44 → 00:22:47 ว่าความมั่นใจอ่ายังไม่มีนะครับก็สามารถ
00:22:47 → 00:22:49 นำอ่าวิธีการเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ได้นะ
00:22:49 → 00:22:52 ครับอ่าลองเอาไปทำดูครับผมคิดว่าน่าจะมี
00:22:52 → 00:22:57 ประโยชน์กับทุกๆคนครับผม
00:22:57 → 00:22:58 [เพลง]
00:22:58 → 00:22:59 [ปรบมือ]
00:22:59 → 00:23:03 [เพลง]
00:23:03 → 00:23:05 [ปรบมือ]
00:23:05 → 00:23:09 [เพลง]
00:23:09 → 00:23:12 เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสาระสุขภาพดีๆที่
00:23:12 → 00:23:15 TNN He นำมาฝากคุณผู้ชมกันในวันนี้หวัง
00:23:15 → 00:23:17 เป็นอย่างยิ่งว่าคุณผู้ชมจะสามารถนำสาระ
00:23:17 → 00:23:20 สุขภาพดีๆที่ได้ไปดูแลสุขภาพตัวเองและ
00:23:20 → 00:23:23 ครอบครัวให้แข็งแรงกัน้วนหน้านะคะและ
00:23:23 → 00:23:26 ขอบคุณคุณผู้ชมที่ติดตามรับชมรายการ TNN
00:23:26 → 00:23:28 Health มาโดยตลอดทั้งรายการค่ะคุณผู้ชม
00:23:28 → 00:23:31 สามารถติดตามรับชม tn Health ได้ทุกวัน
00:23:31 → 00:23:36 เสาร์ค่ะเวลาดี 15:00 น- 15:30 นที่นี่
00:23:36 → 00:23:39 TNN ช่อง 16 ค่ะและต้องไม่ลืมนะคะกดไลค์
00:23:39 → 00:23:42 กดแชร์กด Subscribe กดกระดิ่งติดตามกิ๊งๆ
00:23:42 → 00:23:45 เพื่อเป็นกำลังใจให้หมอดาวและทีมงาน TNN
00:23:45 → 00:23:47 help ทุกช่องทางโซเชียล Network ต่างๆ
00:23:48 → 00:23:50 ไม่ว่าจะเป็น YouTube tiktok Facebook
00:23:50 → 00:23:52 Instagram LINE official เพื่อที่จะ
00:23:52 → 00:23:55 เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้
00:23:55 → 00:23:58 ทันโรคไปด้วยกันค่ะและสำหรับวันนี้มาและ
00:23:58 → 00:24:01 ทีมงาน TE And He ต้องขอตัวลาคุณผู้ชม
00:24:01 → 00:24:04 ไปก่อนสำหรับวันนี้สวัสดี
00:24:04 → 00:24:27 [เพลง]
00:24:27 → 00:24:31 ค่ะ n