00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice Concept ของเรื่องของอาหารเนี่ย
00:00:08 → 00:00:10 เป็นยาเนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยโอหมันมีมาช้า
00:00:10 → 00:00:13 นานแล้วตั้งแต่ก่อนคริสตศักราช 400 ปี
00:00:13 → 00:00:17 สมัยฮิปโปเครติสเป็นบิดาแห่งวิชาการแพทย์
00:00:17 → 00:00:21 ค่ะอ่าแล้วท่านได้กล่าวไว้ว่า Let Food
00:00:21 → 00:00:23 be the Medicine and Medicine be
00:00:23 → 00:00:26 the Food ก็คือให้ใช้อาหารเป็นยานี่
00:00:26 → 00:00:29 แหละแต่ยาในที่เนี้ยอาจารย์ไม่อยากให้มอง
00:00:29 → 00:00:33 ว่าแบบรักษาโรคได้ 100% เราก็อยากให้ใช้
00:00:34 → 00:00:36 อาหารในเชิงของการป้องกันอย่างที่อาจารย์
00:00:37 → 00:00:41 เน้นย้ำเสมอคือการรักษาที่ดีคือการรักษา
00:00:41 → 00:00:43 สุขภาพไม่ใช่รักษา
00:00:43 → 00:00:48 โรคฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง
00:00:48 → 00:00:51 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:51 → 00:00:55 This Is Toy PBS podcast เอาล่ะค่ะ
00:00:55 → 00:00:58 คุณผู้ฟังวันนี้มาติดตามรับฟังกันนะคะถึง
00:00:58 → 00:01:01 เรื่องของอาหารบัตภาวะไขมันในเลือดสูง
00:01:01 → 00:01:05 อุ๊ยน่าสนใจมากเลยอาหารอะไรบำบัดได้บ้าง
00:01:05 → 00:01:08 นะคะพูดคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราช
00:01:08 → 00:01:10 บำรุงพืชจากวิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ
00:01:10 → 00:01:13 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตค่ะสวัสดีค่ะ
00:01:13 → 00:01:16 อาจารย์คะครับสวัสดีครับผมวันนี้มาถึง
00:01:16 → 00:01:19 ขั้นคำว่าใช้คำว่าบำบัดเลยบำบัดเลยก็จริง
00:01:19 → 00:01:22 ๆแล้วก็ถูกนะครับคุณรีเพราะว่าแหมเราก็
00:01:22 → 00:01:26 ไม่อยากถึงขั้นรักษาออ่าเพราะอาหารเนี่ย
00:01:26 → 00:01:29 แบบโอ๊ยคอนเซปของเรื่องของอาหารเนี่ยเป็น
00:01:29 → 00:01:31 ยาเนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยโอ้โหมันมีมาช้านาน
00:01:31 → 00:01:35 แล้วตั้งแต่ก่อนเอ่อคริสตคริสตศักราช 400
00:01:35 → 00:01:39 ปีสมัยฮิปโปเครติสเคยได้ยินมั้ยครับโเป็น
00:01:39 → 00:01:43 บิดาแห่งวิชาการแพทย์ค่ะอ่าแล้วท่านได้
00:01:43 → 00:01:46 กล่าวไว้ว่า Let Food be the Medicine
00:01:46 → 00:01:48 and Medicine be the Food ก็คือให้
00:01:48 → 00:01:52 ใช้อาหารเป็นยานี่แหละค่ะอ่าแล้วก็กินกิน
00:01:52 → 00:01:55 กินแบบยาเนี่ยก็คือมันมาจากอาหารนี่แหละ
00:01:55 → 00:01:59 อือ่าฉะนั้นแล้วเนี่ยเขาก็เลยเกิดคอนเซป
00:01:59 → 00:02:02 ขึ้นมาในแนวคิดขึ้นมานะครับของการใช้
00:02:02 → 00:02:05 อาหารนะในการเป็นยาแต่ยาในที่เนี้ย
00:02:05 → 00:02:09 อาจารย์ไม่อยากให้มองว่าแบบรักษาโรคได้
00:02:09 → 00:02:12 100% อืเดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดคิดว่าแบบกิน
00:02:12 → 00:02:14 แล้วเ้ยรักษาโรฉันกินแล้วแบบเฮ้ยฉันไปกิน
00:02:14 → 00:02:17 อาหารก็ได้ไม่ต้องกินยาอ่าแต่จริงๆแล้ว
00:02:17 → 00:02:21 เนี่ยเราก็อยากให้ใช้อาหารในเชิงของการ
00:02:21 → 00:02:24 ป้องกันค่ะอ่าหรือเป็นเริ่มปิ่มปิ่มแล้ว
00:02:24 → 00:02:27 นะไขมันเริ่มสูงแล้วนะคุณใช้อาหารในการ
00:02:27 → 00:02:31 บำบัดค่ะมันก็เลยมีเรื่องเรื่องของอาหาร
00:02:31 → 00:02:34 บำบัดโรคหรือโภชนะบำบัดก็คือใช้โภชนาการ
00:02:34 → 00:02:37 ใช้อาหารในการบำบัดให้มันบรรเทาทุเราเบา
00:02:37 → 00:02:41 บางลงแล้วถ้าปัญหามันเล็กน้อยเริ่มิมๆ
00:02:41 → 00:02:45 อาหารมันก็ช่วยในการควบคุมไข้มั่นนะให้
00:02:45 → 00:02:48 กลับอยู่ในระดับปกติได้แต่ถ้าปัญหามัน
00:02:48 → 00:02:52 โอโหเกินแล้วอ่ะมันสูงๆเกินไปแล้วแล้วมัน
00:02:52 → 00:02:55 ก็กลายเป็นว่าจะหวังเพียงพึ่งอาหารแล้ว
00:02:55 → 00:02:58 ไม่กินยาก็ไม่ได้แล้วถ้าจะใช้ยาก็ต้องใช้
00:02:58 → 00:03:02 อย่างสมเหตุสมผลแต่ทางที่ดีอย่างที่
00:03:02 → 00:03:05 อาจารย์เน้นย้ำเสมอคือการรักษาที่ดีคือ
00:03:05 → 00:03:09 การรักษาสุขภาพไม่ใช่รักษาโรคอ่านะแล้ว
00:03:09 → 00:03:12 เราต้องมารักษาสุขภาพโดยเฉพาะเรื่องของ
00:03:12 → 00:03:15 ระดับไขมันในเลือดที่เราจะพูดคุยกันในวัน
00:03:15 → 00:03:19 เนี้ยเนาะก็เป็นอีกหนึ่งโรคที่มีทุกบ้าน
00:03:19 → 00:03:23 นะต้องบอกเลยไม่ใครคนใดคนหนึ่งอ้าแต่ว่า
00:03:23 → 00:03:25 อันนี้ก็อยากจะฟังอาจารย์เรื่องนี้วันนี้
00:03:25 → 00:03:27 ด้วยเหมือนกันค่ะคุณผู้ฟังเพราะว่าผล
00:03:28 → 00:03:31 สำหรับการตรวจสุขภาพอเป็นอย่างไรบ้างครับ
00:03:31 → 00:03:36 โอ๊ยตัวแดงขึ้นมาเกินมา 20 นิดนึงแต่ว่า
00:03:37 → 00:03:39 เห็นมั้ยปิมๆอย่างที่อาจารย์บอกต้องใช้
00:03:39 → 00:03:43 อาหารบำบัดและขนาดระวังแล้วนะคะแต่ว่าอาจ
00:03:43 → 00:03:47 จะระวังยังไม่พอเพราะฉะนั้นเอางี้อาจารย์
00:03:47 → 00:03:50 มาทำความเข้าใจกับภาวะไขมันในเลือดสูงกัน
00:03:50 → 00:03:52 สักนิดนึงก่อนย้ำกันสักนิดนึงก่อนนะมันจะ
00:03:53 → 00:03:56 ไปสู่ภาวะนี้ได้ยังไงจนถึงขั้นขนาดว่าเอา
00:03:56 → 00:03:58 แหละเราไม่อยากจะถึงขั้นนี้ที่จะต้องไป
00:03:58 → 00:04:02 นั่งกินยาในตอนท้ายไปหาหมอได้ถุงยากลับมา
00:04:02 → 00:04:06 แบบโอ้โหอย่างกระถุงช้อปปิ้งเบ้อเร่อบร่า
00:04:06 → 00:04:08 แล้วก็ต้องกินยากันอยู่ทุกวันถูกต้องกิน
00:04:08 → 00:04:11 เป็นงูกินหางดีไม่ดีกินยาตัวนี้ดันผลข้าง
00:04:11 → 00:04:13 เคียงเป็นแบบนี้ก็มากินยาตัวนี้นึกออก
00:04:13 → 00:04:17 มั้ยครับจนตับไตแบบว่าโอ้โหพังไปข้างนึง
00:04:17 → 00:04:20 อย่างเงี้ยมันก็ถึงต้องบอกว่าถ้าใช้ยาก็
00:04:20 → 00:04:23 ใช้อย่างสมเหตุสมผลงั้นแล้วเนี่ยถ้าคนที่
00:04:23 → 00:04:26 เริ่มระดับไขมันในเลือดสูงอาจารย์บอกเลย
00:04:26 → 00:04:29 ว่าจริงๆแล้วคำว่าไขมันในเลือดสูงเนี่ย
00:04:29 → 00:04:31 มันเป็นคำที่โอ๊ยเข้าใจได้ง่ายเนาะแต่
00:04:31 → 00:04:35 จริงๆแล้วถ้าทางการแพทย์จะใช้ให้อย่างแบบ
00:04:35 → 00:04:41 เป๊ะอ่าตรงประเด็นก็คือเขาเรียกว่าไขมัน
00:04:41 → 00:04:47 ในเลือดผิดปกติหรือดิลปิยอก็คือไขมันใน
00:04:47 → 00:04:49 เลือดผิดปกติไงครับเพราะคำว่าไขมันใน
00:04:49 → 00:04:52 เลือดสูงอ่ะเกิดเป็นไขมันบางตัวที่เราชอบ
00:04:52 → 00:04:54 เรียกกันว่าไขมันตัวดีอ่ะอมันสูงก็ไม่
00:04:54 → 00:04:57 เป็นไรนีู่ใช่เห็นมั้ยครับอ่าฉะนั้นแล้ว
00:04:57 → 00:05:00 เนี่ยถ้าภาษาทั่วๆไปเข้าใจง่ายคือใครมัน
00:05:01 → 00:05:03 ในเลือดสูงใครมาในเลือดสูงอ่าอ้าถ้าเกิด
00:05:03 → 00:05:06 คุณตัวดีสูงล่ะอ้ามันก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่
00:05:06 → 00:05:08 อ่าแต่ปัจจุบันเนี้ยคืออย่างที่บอกครับ
00:05:08 → 00:05:12 ว่าทางการแพทย์เรื่องของการตรวจระดับไข
00:05:12 → 00:05:14 มันในเลือดเนี่ยเราตรวจเป็นประจำกันทุกปี
00:05:14 → 00:05:16 อยู่แล้วแหละแล้วเราก็มักจะเจอปัญหาไขมัน
00:05:16 → 00:05:18 ในเลือดสูงซึ่งถ้าเรามาทำความเข้าใจก่อน
00:05:18 → 00:05:21 คำว่าระดับไขมันในเลือดเนี่ยจริงๆแล้ว
00:05:21 → 00:05:25 เนี่ยนะเขาเรียกว่าลิปิดโปไลก็คือเป็น
00:05:25 → 00:05:27 โปรไฟล์อ่ะว่าของไขมันในร่างกายเราเป็น
00:05:27 → 00:05:30 อย่างไรนะถ้าเจาะเลือดมาลักๆเนี่ยเขาจะดู
00:05:30 → 00:05:32 4 ตัวด้วยกันอ่าคุณลีเพิ่งไปตรวจสุขภาพ
00:05:32 → 00:05:35 มาก็จะเห็นเลยตัวแรกคือ Total
00:05:35 → 00:05:39 คอเลสเตอรอลคือคอเลสเตอรอลรวมอ่าใช่อ่า
00:05:39 → 00:05:42 ตัวที่ 2 ก็คือ ldl คอเลสเตอรอลหรือที่
00:05:42 → 00:05:46 เราเรียกว่าไขมันเลวไขมันร้ายอ่าเราก็ไป
00:05:46 → 00:05:48 ตาหน้ามันอย่าง
00:05:48 → 00:05:53 งั้นและตัวที่ 3 คือ hdl คอสเตอน่าคือไข
00:05:53 → 00:05:56 มันดีเห็นมั้ยพวกนี้จะมีนามสกุลว่า
00:05:56 → 00:05:58 คอเลสเตอรอลเหมือนกันหมดนะเพราะอะไรรู้
00:05:58 → 00:06:03 มั้ยครับเพราะมันเป็นตัวที่เป็นไอ้ไข
00:06:03 → 00:06:05 คอเลสเตอรอลรวมอ่ะที่เราเรียกว่า Total
00:06:05 → 00:06:08 คอเลสตอรอลอ่ะครับคุณรีมันก็เกิดจากไขมัน
00:06:08 → 00:06:10 ดีไขมันเลวที่เราเรียกนี่แหละ hdl
00:06:10 → 00:06:12 คอเลสเตอรอล ldl คอเลสเตอรอลนี่แหละแล้ว
00:06:12 → 00:06:16 บางคนที่ไขมันรวมสูงอค่ะแล้วแบบ
00:06:16 → 00:06:19 ู้ฉันต้องกินย้าหรือเปล่าฉันเสี่ยงต่อการ
00:06:19 → 00:06:22 เกิดโรคหัวใจและหล่อเลือดอะไรอย่างเงี้ย
00:06:22 → 00:06:24 ก็เข้าใจว่าเป็นแบบนั้นแต่จริงๆแล้วเนี่ย
00:06:24 → 00:06:27 บางทีตัวรวมสูงอ่ะมันอาจจะมาจากดีตัวดีก็
00:06:27 → 00:06:32 ได้ถูกมยเออใช่แต่ว่ามันในๆอ้ายลใช่
00:06:32 → 00:06:35 ฉะนั้นแล้วเนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยต้องบอก
00:06:35 → 00:06:38 ก่อนว่าคุณหมอโรคหัวใจเนาะคิลิหลายท่าน
00:06:38 → 00:06:42 และหน่วยงานทางด้านโรคหัวใจเองเนี่ยอ่าก็
00:06:42 → 00:06:44 ปัจจุบันเองเนี่ยเขาก็จะไม่มาดูตัว
00:06:44 → 00:06:47 คอเลสเตอรอลรวมและเพราะคอเลสเตอรอลรวม
00:06:47 → 00:06:51 เนี่ยมันรวมทั้งดีและดีไม่ดีแล้วเราจะดู
00:06:51 → 00:06:55 กว้างๆเนี่ยเฉยๆเนี่ยมันก็จะตกใจเอาได้
00:06:55 → 00:06:57 ฉะนั้นแล้วเนี่ยตัวเนี้ยเขาก็คิดว่าแบบ
00:06:57 → 00:07:01 อ่ะก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมานำมาพิจารณาอ่า
00:07:01 → 00:07:05 ก็จะดูเรื่องของ hdl นะ ldl แต่ ldl มัน
00:07:05 → 00:07:08 มีดีเทลลงลึกไปอีกเดี๋ยวจะเจาะลึกให้ฟัง
00:07:08 → 00:07:11 และก็อีกตัวนึงที่เป็นไขมันที่ไม่ดีกับ
00:07:11 → 00:07:15 สุขภาพคือไตกีเซอรายถูกต้องไตัวนี้แหละ
00:07:15 → 00:07:19 เป็นตัวร้ายที่เป็นผู้ร้ายผู้ก่อการร้าย
00:07:19 → 00:07:21 ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจแลหลอดเลือด
00:07:21 → 00:07:24 อืไตกิลเนี่ยค่ะอ่าแล้วบางคนก็บอกว่าเฮ้ย
00:07:24 → 00:07:28 ไตกิซมันมาจากไหนล่ะส่วนใหญ่ก็จะกินข้าว
00:07:28 → 00:07:30 แป้งน้ำตาล
00:07:30 → 00:07:33 นะสูงๆมันก็จะแปรเปลี่ยนสภาพไปเป็น
00:07:33 → 00:07:37 ไตกีสไลไอ้ไขมันเนี้ยสูงมากมันก็จะทำให้
00:07:37 → 00:07:38 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจแล้ว
00:07:38 → 00:07:43 หลอดเลือดอืแต่มีคนมาถามเหมือนกันว่าเพะ
00:07:43 → 00:07:45 เพะเห็นว่าไตกีเซอไลตัวเองอ่ะสูงแต่สูง
00:07:45 → 00:07:47 นิดเดียวนะคะไม่ได้เยอะนะสูงเท่าไหร่คั
00:07:47 → 00:07:50 Point นะคัพอยจริงๆแล้วไม่ควรเกิน 150
00:07:50 → 00:07:53 สำหรับไตกีสลายนิดนึงนิดนึงจริงๆไม่ถึง
00:07:53 → 00:07:57 หลัก 100 160 ไม่ถึงอก็ถือว่าปีมน้ำนี่
00:07:57 → 00:08:00 แหละกุรีถึงว่าสิว่าทำไมชวนคุยเรื่องนี้
00:08:00 → 00:08:04 นี่ต้องใช้อาหารบำบัดนัปราปรากฏว่าเค้า
00:08:04 → 00:08:07 ถามคำว่าไตรกีสไลยที่มันเกินตรงนี้เนี่ย
00:08:07 → 00:08:08 เป็นเพราะว่าไปดื่มเหล้ามาหรอไปกิน
00:08:08 → 00:08:12 แอลกอฮอล์เหรอนั่งงงเลยใช่ครับถ้าเกิดว่า
00:08:12 → 00:08:16 เป็นทฤษฎีนะสมัยก่อนก็มักจะแบบว่าเฮ้ยไกี
00:08:16 → 00:08:19 สไลดถึงสูงเพราะแอลกอฮอล์เห่าสปายไว
00:08:19 → 00:08:22 เบียร์อ่าอ่าเพราะพวกนี้มันก็มีแคลอรี่
00:08:23 → 00:08:25 สูงน้ำตาลสูงไตกีสไลดก็สูงเพราะสูงมากๆ
00:08:25 → 00:08:29 เข้าอีกนิดนึงคุณลีก็อาจจะก้าวเข้าสู่
00:08:29 → 00:08:33 เรื่องของไขมันเริ่มพอกตับไม่นะนึกออกมั้
00:08:33 → 00:08:36 ตับก็จะเริ่มอักเสบเป็นพังผืนอะไรอย่าง
00:08:36 → 00:08:40 งี้ถ้าเราไม่รีบแก้แต่พวกเนี้ยมันเป็นโรค
00:08:40 → 00:08:43 โรคที่เกิดขึ้นจากไลฟ์สไตล์องั้นแล้วเรา
00:08:43 → 00:08:47 ต้องใช้ไลฟ์สไตล์หรือลีลาชีวิตอ่าการกิน
00:08:47 → 00:08:49 อยู่หลับนอนออกกำลังกายของเรานี่แหละใน
00:08:49 → 00:08:52 การบำบัดศาสตร์การแพทย์ปัจจุบันที่กำลัง
00:08:52 → 00:08:55 เป็นเทรนมาค่ะนะในปัจจุบันเนี้ยก็คือ
00:08:55 → 00:08:58 เรื่องของ Lifestyle Medicine หรือการ
00:08:58 → 00:09:02 แพร่ที่เขาเรียกว่าเวชศาสตร์วิถีชีวิต
00:09:02 → 00:09:05 อ้าวอมีคำใหม่แล้วเหรอคะมีคำใหม่ครับไสล
00:09:05 → 00:09:08 Medicine หมอจบเฉพาะทางนี้มีแล้วนะครับอ
00:09:08 → 00:09:12 ปกติก็เวชศาสตร์ฟื้นฟูอะไอย่านู้นเอ่ามี
00:09:12 → 00:09:16 และอยู่ในแขนงของเวชศาสตร์ป้องกันก็คือ
00:09:16 → 00:09:19 ไสตล์ Medicine ก็คือคำว่า Medicine คือ
00:09:19 → 00:09:21 ยาใช่มั้ยครับการแพทย์ยา Medicine เนี่ย
00:09:21 → 00:09:25 ก็ใช้ไลฟ์สไตล์เนี่ยเป็นยาก็คือกินยังไง
00:09:25 → 00:09:28 ให้เป็นยานอนยังไงให้เป็นยาอ่าออกกำลัง
00:09:28 → 00:09:32 กายเป็นยาค่ะอ่าการบริหารจัดการความ
00:09:32 → 00:09:35 เครียดอารมณ์เป็นยาอ่าสิ่งแวดล้อมทั้ง
00:09:35 → 00:09:38 หลายแหล่มลพิษอย่างเงี้ยเขาจะมีอยู่ด้วย 6
00:09:38 → 00:09:40 องค์ประกอบ 6 พิลล่าด้วยกันของไลฟ์สไตล์
00:09:40 → 00:09:43 Medicine คือการใช้ชีวิตวิถีชีวิตของเรา
00:09:43 → 00:09:46 นี่แหละเป็นยาอืคือมันกลายเป็นว่าเราไม่
00:09:46 → 00:09:49 ต้องไปปรับตัวไปแบบอันนั้นก็ห้ามอันนี้ก็
00:09:49 → 00:09:52 ไม่ได้แต่ว่าเอาก็คุณวิถีชีวิตแบบไหนก็
00:09:52 → 00:09:54 เอาแบบนั้นเลยเอาที่คุณสะดวกแล้วก็ไม่ได้
00:09:54 → 00:09:57 ยากเกินไปใช่ก็ทำให้มันเป็นวิถีชีวิต
00:09:57 → 00:10:00 ประจำวันแล้วเราก็ดูแลสุขภาพของเราได้แบบ
00:10:00 → 00:10:03 องค์รวมอย่างเงี้ยพอเริ่มสูงปุ๊บคุณลีก็
00:10:03 → 00:10:05 จะต้องเริ่มและว่าอาหารการกินเราจะยังไง
00:10:05 → 00:10:08 อะไรเงี้ยแต่ไม่ต้องแบบว่าเฮ้ยไปสูงปุ๊บ
00:10:08 → 00:10:12 รีบกินยาเลยอย่างเงี้ยปับปรับพฤติกรรม
00:10:12 → 00:10:16 เพราะมันเกิดขึ้นจากพฤติกรรมก็นี่ไงถึง
00:10:16 → 00:10:19 ต้องมานั่งกินแก้กรรมที่อาจารย์ชอบพูดถึง
00:10:19 → 00:10:21 เนี่ยงงมากว่าแอลกอฮอล์ไม่ได้แตะนะคะไม่
00:10:21 → 00:10:24 ได้แตะแต่น่าจะเป็นเพราะว่าเออแต่แป้ง
00:10:24 → 00:10:26 หรืออะไรเงี้อาจจะเป็นไปได้เพราะบางทีก็
00:10:26 → 00:10:29 แบบ Enjoy กับการกินขนมปังอแป้งอาจารย์
00:10:29 → 00:10:33 บอกเลยมันจะถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นไตกีสไลออ
00:10:33 → 00:10:36 ที่เก็บสะสมในร่างกายต้นแขนต้นขาหน้าท้อง
00:10:36 → 00:10:38 ช่องพุงรวมไปถึงไตกีสไลที่อยู่ในเลือด
00:10:38 → 00:10:41 แล้วมันก็จะไปค่อยๆพอกพูนในตับนะแล้วเรา
00:10:41 → 00:10:44 กินแป้งเยอะน้ำตาลเยอะน้ำหวานมากอาจารย์
00:10:44 → 00:10:46 เตือนคุณผู้ฟังทุกท่านเลยด้วยความหวังดี
00:10:46 → 00:10:49 เนื่องจากตอนนี้ประเทศไทยยเข้าสู่หน้า
00:10:49 → 00:10:52 ร้อนร้อนร้อนมากร้อนที่สุดและเราก็จะ
00:10:52 → 00:10:56 กระหายน้ำใช่อน้ำหวานนี่แหละน้ำหวานน้ำ
00:10:56 → 00:11:01 อัดรมชานมทั้งหลายแลลสชโอมันชื่นสดชื่น
00:11:01 → 00:11:04 อาจารย์บอกคุณรีลองกินน้ำเปล่าสิก็สดชื่น
00:11:04 → 00:11:09 แล้วนะน้ำเปล่าเอ่อเย็นเล็กน้อยก็ได้อ่า
00:11:09 → 00:11:11 ก็จะรู้สึกเลยว่าแบบเฮ้ยก็สดชื่นแล้ว
00:11:11 → 00:11:14 เพราะเราก็หายน้ำแต่ด้วยความที่เราอ่ะอาจ
00:11:14 → 00:11:18 จะมีทุนเดิมติดหวานอาฮะเราก็เลยไปกินน้ำ
00:11:18 → 00:11:21 หวานเยอะแล้วคนอ้วนช่วงหน้าร้อนเยอะนะบาง
00:11:21 → 00:11:24 ทีเราบอกว่าอูยหน้าร้อนฉันแบบร้อนเผาแบบ
00:11:24 → 00:11:28 เหมือนเผาผลาญสูเหงื่อออกเงอ่ามันโนเ
00:11:28 → 00:11:32 เอฟเฟคนะคือเหงื่อออกนะครับมันไม่ใช่รีด
00:11:32 → 00:11:35 มันหมูออกนึกออกมั้ยครับแล้วเราไม่ได้ไป
00:11:35 → 00:11:38 รีดมันออกเอออ่าฉะนั้นแล้วเนี่ยกินน้ำ
00:11:38 → 00:11:42 เปล่าเถอะอือ่าถ้าจะกินน้ำพวกเอ่อน้ำ
00:11:42 → 00:11:45 สมุนไพรอ่าคลายร้อนอย่างเงี้ยก็พยายามที่
00:11:46 → 00:11:49 จะไม่ใส่น้ำตาลหวานน้อยหรือจากหญ้าหวาน
00:11:49 → 00:11:52 อะไรพวกเนี้ยรอห้างกล้วยอย่างเงี้ยก็ได้
00:11:52 → 00:11:55 อ่าพวกเนี้ยน้ำอัญชันมะนาวที่เป็นหญ้า
00:11:56 → 00:11:59 หวานอย่างเงี้ยอ่ะมันมันก็ช่วยได้อูยเเรา
00:11:59 → 00:12:02 มาร้อนๆบนี้อาจารินน้ำเปล่ากินน้ำหวานแต่
00:12:02 → 00:12:05 ไม่หาวยก็ได้เกกฮวยไม่ใส่น้ำตาลอมันเไม่
00:12:05 → 00:12:09 งั้นเไม่เรียกน้ำหวานชื่นก็มีคนบอกว่าเ้า
00:12:09 → 00:12:12 น้ำหวานก็ต้องกินหวานๆดิเอ้าก็หวานหวาน
00:12:12 → 00:12:15 แบบธรรมชาติก็ได้หล่อห้างกล้วยก็ได้หกี่เ
00:12:15 → 00:12:19 ว่าไปใช่หรือขอหวานแค่ 10% อีก 90%
00:12:19 → 00:12:22 เดี๋ยวฉันจะไปฟาด
00:12:22 → 00:12:25 ทุเรียนได้ใช่่มไม่ได้หัดกว่าเดิมใช่นี่
00:12:25 → 00:12:28 แหละทุเรียนนี่แหละก็ทำให้นอกจากเบาหวาน
00:12:28 → 00:12:31 ขึ้นน้ำตาลขึ้นถ้ากินทิ้งเยอะๆอ่ะค่ะมัน
00:12:31 → 00:12:34 ก็ยังทำให้ไตกีสไลขึ้้นได้นะโอนี่ขนาด
00:12:34 → 00:12:36 แล้วแล้วอาหารประเภทแป้งคาร์โบไฮเดรตสูงๆ
00:12:36 → 00:12:40 มีผลทำให้ไตเกียสไลด์ขึ้นสูงโอ้โหแต่ละ
00:12:40 → 00:12:43 อย่างนี่แหละก็เป็นไขมันตัวร้ายเห็นมั้ยอ
00:12:43 → 00:12:45 แล้วแล้วไปตรวจมานี่ต้องกลับมาถามคุณรี
00:12:45 → 00:12:49 ว่าตอนนี้มีตัวไหนที่ขึ้นตัวแดงบ้างอมี
00:12:49 → 00:12:52 แค่นี้แหละค่ะไขมันไไตัวเดียวไตรกีสไลกับ
00:12:52 → 00:12:54 ไขมันที่มันเกินมานี่แหละไอ้ไขมันที่แบบ
00:12:54 → 00:12:57 ว่าเป็นตัวคอเลสเตอรอลรวมเออนี่แหละแต่
00:12:57 → 00:13:00 ว่าไขมันดียังมีนอยู่แต่ก็อยู่ในเกมไขมัน
00:13:00 → 00:13:03 ดีเท่าไหร่ครับไขมันดีเกิน 40 มั้ยอ่า
00:13:03 → 00:13:07 เพราะตัวเลขเนี่ยถ้ายิ่งผู้หญิงเนี่ย 50
00:13:07 → 00:13:11 ขึ้นไปยิ่งดีเกินแต่ว่าควรมีเยอะกว่านี้
00:13:11 → 00:13:14 หน่อยอ่าใช่ครับไขมันดีส่วนใหญ่จะต้องออก
00:13:14 → 00:13:18 กำลังกาย hdl ถึงจะเพิ่มขึ้นว่ายไม่ออก
00:13:18 → 00:13:21 เลยอ่าแต่บางคนก็แบบเอ้ยแล้วแต่กรรมพันธ์
00:13:21 → 00:13:24 ด้วยนะอ่ามันหลายปัจจัยแต่เราก็ไม่ต้องตก
00:13:24 → 00:13:27 ใจไปเพราะว่าทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ยนะมัน
00:13:27 → 00:13:29 ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยร่วมกันกันเหมือนตบ
00:13:29 → 00:13:32 มือข้างเดียวไม่ดังทุกวันเนี้ยคนเห็นค่า
00:13:32 → 00:13:35 ระดับ ldl คอเลสเตอรอลสูงเพราะ ldl ไม่
00:13:35 → 00:13:40 ควรเกิน 1230 อือ่าถ้าแบบเฮ้ย 100 นได้
00:13:40 → 00:13:43 เนี่ยต่ำกว่า 100 ได้ยิ่งดีแต่งานวิจัย
00:13:43 → 00:13:45 หลังๆนะครับเรื่องของไขมันในเลือดนะคุณ
00:13:45 → 00:13:49 ผู้ฟังต้องคอยติดตามทางการแพทย์เองเนี่ย
00:13:49 → 00:13:52 เริ่มทฤษฎีเริ่มขยับเขยื้อนแล้วนะอะไรอ่ะ
00:13:52 → 00:13:56 อ่าคนที่ ldl ที่เราตราหน้าเขาว่ามันเป็น
00:13:56 → 00:13:58 ไขมันเลวใช่มั้ยครับ ldl คอเลสเตอรอล
00:13:58 → 00:14:02 เนี่ยใครต่ำเกินก็ตายเร็วครับเอ้าเอ้า
00:14:02 → 00:14:05 ยิ่งต่ำยิ่งดีไม่ใช่หรอคะะไม่ใช่เลยตาย
00:14:05 → 00:14:08 เร็วครับงั้นแล้วมันอาจจะเป็นลักษณะ
00:14:08 → 00:14:11 เหมือนกับกราฟเป็นเหมือนกับตัว U หรือ
00:14:11 → 00:14:16 ระคังหงายงั้นแล้วใครที่มันต่ำเกินไปอือ
00:14:16 → 00:14:20 มันก็จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคโรคหัวใจแล้ว
00:14:20 → 00:14:24 หลอดเลือดอ่าหรือเสียชีวิตเร็วค่ะอ่าสูง
00:14:24 → 00:14:27 เกินก็ไม่ดีต่ไปก็ไม่ดีนะอาจารย์บอกเลย
00:14:27 → 00:14:31 จริงๆแล้วอ่ะมันเป็นหลักการสมดุลของชีวิต
00:14:31 → 00:14:34 โฮมสเตสของร่างกายถึงบอกไงว่าอะไรน้อยไป
00:14:34 → 00:14:37 ก็ไม่ดีแม้กระทั่งน้ำตาลในเลือดอ่ะอค่ะ
00:14:37 → 00:14:41 ถ้าคุณรีต่ำมากเกินเป็นไงครับช็อกนะมันก็
00:14:41 → 00:14:43 จะแบบว่าใช่ถ้าต่ำกว่า 70 มิลกรัม
00:14:43 → 00:14:46 เดซิลิตรถ้าสูงเกิน 100 เอ้ยไม่ดีแล้ว
00:14:46 → 00:14:49 เห็นมยโอทำไงให้มันบาานใช่ฉะนั้นแล้วนี่
00:14:49 → 00:14:52 แหละก็คือค่าที่แบบว่าอ่ะคุณต้องอยู่ใน
00:14:52 → 00:14:57 ช่วงนี้นะ 70 อัพ 80 จนถึงไม่เกิน 100
00:14:57 → 00:15:00 เห็นมั้ยครับอแล้วสูงไปกดีต่ำไปก็ไม่ดีไข
00:15:00 → 00:15:02 มันในเลือดก็เช่นเดียวกันงั้นแล้วเนี่ย
00:15:02 → 00:15:06 เมื่อก่อนเราก็พยายามที่จะกด ldl กด ldl
00:15:06 → 00:15:09 กด ldl แต่อย่างที่บอกครับว่าตบมือข้าง
00:15:09 → 00:15:13 เดียวไม่ดัง ldl เฉยๆมันไม่ร้ายค่ะถ้า ldl
00:15:13 → 00:15:17 นั้นเนี่ยตัวมันมีขนาดเล็กปัจจุบันเนี่ย
00:15:17 → 00:15:20 ในศาสตร์ Anti aging หรือ wnet เนี่ยค่ะ
00:15:20 → 00:15:23 นะเขาจะมีการตรวจอนุภาคของ ldl หลายโรง
00:15:23 → 00:15:26 พยาบาลมีแล้วนะครับอาจารย์เห็นโรงพยาบาล
00:15:26 → 00:15:30 รัฐก็เริ่มมีแล้วเลยขนาดนั้นเลยหอคะ ldl
00:15:30 → 00:15:33 หรือเขาเรียกว่า ldl particle size ว่า
00:15:33 → 00:15:36 ถ้ายิ่ง ldl ยิ่งเล็กมันยิ่งร้ายครับ
00:15:36 → 00:15:38 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจเนี่ย 3
00:15:38 → 00:15:42 เท่างั้นแล้วเนี่ยบางคน ldl เขาเนี่ยเฮ้ย
00:15:42 → 00:15:45 ไม่เกินอาจจะแบบเอ้ยอยู่ 100 นอะไรอย่าง
00:15:45 → 00:15:47 เงี้ยแต่ถ้ามันเป็นตัวเล็กแต่ถ้ามันตัว
00:15:47 → 00:15:49 เล็กถูกต้องเลยครับมันก็ร้ายเพราะอะไร
00:15:49 → 00:15:52 ครับมันง่ายต่อการมุดเข้าสู่เยื่อบุผนัง
00:15:52 → 00:15:55 หลอดเลือดนึกออกมั้ยครับตัวจิ๋วอ่ะเหมือน
00:15:55 → 00:15:59 เหมือนเหมือนฝุ่นอ่ะมันก็แทรกเข้าไปสู่
00:15:59 → 00:16:03 พรมได้ใต้พรมได้อ่าเพราะว่ามันตัวเล็ก
00:16:03 → 00:16:07 เจ้า Small ldl เนี่ยนะยิ่งตัวเล็กมันก็
00:16:07 → 00:16:10 ยิ่งร้ายอแล้วมันดันสัมพันธ์กับการกิน
00:16:10 → 00:16:13 แป้งกินน้ำตาลเยอะแล้วถ้าใครกินแป้งกิน
00:16:13 → 00:16:18 น้ำตาลเยอะไตกีโซไลจะสูงโอโหและจะมีพวกสน
00:16:18 → 00:16:20 ldl เนี่ยอยู่เยอะคือ ldl ตัวเล็กเนี่ย
00:16:20 → 00:16:22 อยู่เยอะอแล้วแล้วมันก็ง่ายต่อการมุดสู่
00:16:23 → 00:16:26 ผนังหลอดเลือดแล้วมันก็จะไปเจออนุมูล
00:16:26 → 00:16:28 อิสระถึงบอกไงว่าเฮ้ยมันไม่ใช่แค่ ldl
00:16:28 → 00:16:31 อย่างเดียเดียวนะขนาดของมันก็มีผลแล้ว
00:16:31 → 00:16:33 อนุมูลอิสระก็มีผลในร่างกายของเราถ้าเรา
00:16:33 → 00:16:36 มีอนุมูลอิสระเยอะมันจะไปทำปฏิกิริยากับ
00:16:36 → 00:16:39 ไอ้เจ้าพวก ldl ยิ่ง ldl ตัวเล็กมันก็
00:16:39 → 00:16:43 ยิ่งง่ายต่อการถูกจู่โจมทำปฏิกิริยาแล้ว
00:16:43 → 00:16:47 มันจะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันหรือที่เรา
00:16:47 → 00:16:51 เรียกว่าออกซิได ldl ขึ้นนะภาษาวิชาการ
00:16:51 → 00:16:55 อาจจะงงนะพูดง่ายๆว่าถ้าเป็นเหล็กเนี่ย
00:16:55 → 00:16:58 เราก็รู้แล้วว่าเฮ้ยเหล็กเนี้ยขึ้นสนิมอื
00:16:58 → 00:17:02 อ่าเกิดปฏิยาออกซิเดชันเหมือน ldl เนี่ย
00:17:02 → 00:17:04 จริงๆแล้วอยู่เฉยๆของมันเนี่ยมันไม่ร้าย
00:17:04 → 00:17:07 นะอ่าแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มันขึ้นสนิมมัน
00:17:08 → 00:17:11 เริ่มผุเริ่มก่อนและอแล้ว ldl ที่มันขึ้น
00:17:11 → 00:17:15 สนิมหรือออกซิไดซ์ ldl เนี้มันก็จะไปเกิด
00:17:15 → 00:17:18 ปฏิกิริยาขึ้นมาตรงเนี้ยที่ทำให้เป็นสิ่ง
00:17:18 → 00:17:21 แปลกปลอมและเพราะ ldl คือร่างกายสร้าง
00:17:21 → 00:17:24 ขึ้นโดยเป็นหลักนะครับจากตับอ่าจากอาหาร
00:17:24 → 00:17:27 เนี่ยประมาณสัก 15% 20% ที่มีผลไม่เกิน
00:17:27 → 00:17:30 นี้หลักๆคือคือตับของเราที่ผลิตขึ้นมา
00:17:30 → 00:17:35 งั้นแล้วถ้า ldl ผลิตขึ้นมาแล้วมันถูก
00:17:35 → 00:17:37 ปฏิกิริยาออกซิเดชั่นมันถือว่าเป็นสิ่ง
00:17:37 → 00:17:41 แปลกปลอมแล้วร่างกายไม่รู้จักอืพอร่างกาย
00:17:41 → 00:17:44 ไม่รู้จักปุ๊บเนี่ยเม็ดเลือดขาวครับมันจะ
00:17:44 → 00:17:47 มาจับกินเพราะมันคิดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม
00:17:47 → 00:17:49 ไงร่างกายเราอ่ะรู้จักตัว ldl ค่ะแต่
00:17:49 → 00:17:52 เมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นออกซิไดซ์ ldl มัน
00:17:52 → 00:17:54 ไม่มันเปลี่ยนมันไม่รู้จักอ่ะหน้าตาเธอ
00:17:54 → 00:17:57 เปลี่ยนไปถูกต้องเลยครับไอ้แจ ldl นี่
00:17:57 → 00:17:59 เฮ้ยเปลี่ยนไปฉันไม่รู้จักอ่ะเหมือนเหล็ก
00:17:59 → 00:18:03 อ่ะขึ้นสนิมอ่ะอ้าเหล็กก็ยังรู้จักนะอ่า
00:18:03 → 00:18:05 แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ขึ้นสนิมมันผุแล้ว
00:18:05 → 00:18:08 หน้าตามันเปลี่ยนแล้วค่ะร่างกายเราก็รีบ
00:18:08 → 00:18:13 ส่งเม็ดเลือดขาวมาจับกินนะแล้วไอ้เจ้า
00:18:13 → 00:18:16 ออกซิได ldl ที่มันฝังตัวอยู่ที่เยื่อบุ
00:18:16 → 00:18:18 ผนังหลอดเลือดอ่ะครับที่ผนังหลอดเลือดเรา
00:18:18 → 00:18:20 เนี่ยเวลาโดนเม็ดเลือดขาวมาจับกินจับกิน
00:18:20 → 00:18:23 จับกินจับกินเข้าเนี่ยมันก็จะทำให้เกิด
00:18:23 → 00:18:29 เป็นตะกันค่ะไขมันอุดตันได้ใช่เลยเลยครับ
00:18:29 → 00:18:36 สะสมสะสมจนหลอดเลือดเราเนี่ยตีบตันแตกแตก
00:18:36 → 00:18:40 ตายตีบตันแตกตายนะแต่ถ้าตีบตันแตกไม่ตาย
00:18:40 → 00:18:43 ก็เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตโอยโอ๊ยฟังแต่ละ
00:18:43 → 00:18:46 อย่างเห็นแล้วเนี่ยมันขึ้นอยู่กับ
00:18:46 → 00:18:49 พฤติกรรมการกินของเราที่มีผลแล้วคนที่มี
00:18:49 → 00:18:52 ldl สูงก็ต้องไปดูว่าเฮ้ยตัวเล็กตัวใหญ่
00:18:52 → 00:18:55 จะเกิดออกซิไดซ์ ldl มั้ยแต่คุณก็ต้อง
00:18:55 → 00:18:57 ระวังนะไม่ใช่สูงแล้วคุณไม่เสี่ยงคุณก็
00:18:57 → 00:18:59 เสี่ยงแหละแต่อย่างที่อาจารยบอกตบมือข้าง
00:18:59 → 00:19:01 เดียวไม่ดังก็ต้องไปดูว่าคุณมีอนุมูล
00:19:02 → 00:19:04 อิสระเยอะมากน้อยแค่ไหนอ่าถ้า
00:19:05 → 00:19:07 อักเสบมากขึ้นในร่างกายมันก็ยิ่งไปกัน
00:19:08 → 00:19:10 ใหญ่เลยนะครับงั้นแล้วเนี่ยมันก็หลาย
00:19:10 → 00:19:13 ปัจจัยนะสำหรับตัว ldl
00:19:13 → 00:19:16 hdl ดีนะครับค่ะอ่าตัวดีใช่มั้ยยิ่งสูง
00:19:16 → 00:19:19 ยิ่งดีแต่หลังๆมีงานวิจัยออกมาแล้วสูง
00:19:20 → 00:19:24 เกินไปตายเร็วครับเอ้าเห็นมั้ยแม้กระทั่ง
00:19:24 → 00:19:28 hel ยิ่งสูงเราก็ว่ายิ่งดีสมัยก่อนทฤษฎ
00:19:28 → 00:19:31 หลังๆสูงเกินไปไม่ดีแล้วต่ำไปก็ไม่ดีแล้ว
00:19:31 → 00:19:34 ไอ้ทฤษฎี hdl ยิ่งสูงยิ่งดีเนี่ยมันก็ยัง
00:19:34 → 00:19:39 แบบยอยู่เรื่อยๆแต่อาจารย์บอกเลยว่ายิ่ง
00:19:39 → 00:19:41 สูงยิ่งดีเนี่ยมันก็มีเพดานทุกอย่างมัน
00:19:41 → 00:19:44 ต้องมีเพดานคุรีนึกออกมั้ยครับสูงเกินไป
00:19:44 → 00:19:47 อ่าหลังๆเนี่ยเฮ้ยคนที่ hdl สูงมากเกิน
00:19:47 → 00:19:49 เกิน 100 อย่างเงี้ยมันก็เริ่มผิดปกติและ
00:19:49 → 00:19:52 โอเาดูแลสุขภาพยังไง hdl สขาบางคนไม่ออก
00:19:52 → 00:19:55 กำลังเลยแต่ hl สูงขนาดนี้ถึงบอกว่า
00:19:55 → 00:19:58 เรื่องของระดับไขมันในเลือดเนี่ยมันก็มี
00:19:58 → 00:20:00 ค่าที่เหมาะสมโดยเฉพาะ ldl hdl ที่เรา
00:20:00 → 00:20:04 ชอบพูดว่าตัวดีตัวร้ายค่ะอ่าจริงๆแล้ว
00:20:04 → 00:20:07 เนี่ยก็ยังไม่อยากให้เรียกแบบนั้นเลยซะที
00:20:07 → 00:20:09 เดียวแต่ความเข้าใจง่ายๆของชาวแบบทั่วไป
00:20:09 → 00:20:12 ผู้บริโภคทั่วไปประชาชนทั่วไปเขาก็เรียก
00:20:12 → 00:20:16 ldl ว่าเป็นตัวร้าย sdl ว่าเป็นตัวดีแต่
00:20:16 → 00:20:18 จริงๆแล้วเนี่ยมันมีระดับของมันที่เหมาะ
00:20:18 → 00:20:21 สมนึกออกมั้ยครับอ่าโดยเฉพาะเรื่องของ ldl
00:20:21 → 00:20:25 เนี่ยนะเป็นอะไรที่เป็นปัญหาเยอะมากว่า
00:20:25 → 00:20:29 เฮ้ยสูงนะคนสูงกันแบบเยอะนะทีนี้ถ้าเราจะ
00:20:29 → 00:20:35 ใช้อาหารในการลดระดับ hdl นะมันไม่ใช่แค่
00:20:35 → 00:20:39 เอ่อ hl ลดลงอย่างเดียวนะมันต้องช่วยลด
00:20:39 → 00:20:42 อนุมูลอิสระด้วยถูกมั้ครับก็คือมันทั้ง 2
00:20:42 → 00:20:45 แฟกเตอร์่ะที่จะไปด้วยกันเพราะบางคนเนี่ย
00:20:45 → 00:20:48 ldl ฉันไม่สูงแต่อนุมูลอิสเยอะคุณก็เกิด
00:20:48 → 00:20:51 ldl สนิมเหล็กออกซิได ldl ได้ออ่าฉะนั้น
00:20:52 → 00:20:54 แล้วเนี่ยมันเกิดมันมันขึ้นอยู่กับอนุมูล
00:20:54 → 00:20:57 อิสระด้วยค่ะอ่าว่าแบบเฮ้ยคุณมีสูงหรือ
00:20:57 → 00:21:00 ไม่สูงบางคนคนสูงแต่อนุมูลอิสระไม่เยอะ
00:21:00 → 00:21:04 หรือสูงแต่ตัวใหญ่เห็นมั้ยมันหลายแฟตรนะ
00:21:04 → 00:21:07 แต่ที่แน่ๆเนี่ยโชชชัวร์องค์ความรู้ใน
00:21:07 → 00:21:10 ปัจจุบันที่แบบคอนเฟิร์มแน่นอนคือเรื่อง
00:21:10 → 00:21:13 ของการกินแป้งกินน้ำตาลเยอะมีผลทำให้
00:21:13 → 00:21:16 ไตกีสไลขึ้นสูงแล้วก็มีผลทำให้อนุมูล
00:21:16 → 00:21:19 อิสระเพิ่มขึ้นแล้วไปทำไปยาเกิดสนิมเหล็ก
00:21:19 → 00:21:23 ว้าอ่าอาหารอาหารที่ช่วยลด ldl
00:21:23 → 00:21:26 คอเลสเตอรอลลดอนุมูลอิสระได้ลดการอักเสบ
00:21:26 → 00:21:29 ของหลอดเลือดได้ก็คือในกลุ่มอแรกไอ้กลุ่ม
00:21:29 → 00:21:32 สำคัญสุดเลยคือน้ำมันครับน้ำมันที่ช่วยใน
00:21:32 → 00:21:36 การที่จะลดได้เนี่ยก็คือในกลุ่มของพวก
00:21:36 → 00:21:41 โอเมก้า 9 นะพบมากในน้ำมันมะกอกรำข้าว
00:21:41 → 00:21:47 เมล็ดชาออ่าอโวกาโดนะครับนะแล้วพวกเนี้ย
00:21:47 → 00:21:50 จะช่วยลด ldl ได้และลดอนุมูลอิสระได้ก็จะ
00:21:50 → 00:21:52 ช่วยลดปัจจัยเสียงของการเกิดโรคหัวใจแล
00:21:52 → 00:21:55 หลอดเลือดได้เดี๋ยวจะกินอโวคาโดแบบว่าให้
00:21:55 → 00:21:58 หมดสวนเลยได้เลยได้เลยวันละลูกกำลังสวย
00:21:58 → 00:22:02 ครับอ่าเดี๋ยวเงินในกระเป๋ามันจะเบาและ
00:22:02 → 00:22:04 อีกตัวนึงที่เราบอกว่าเอ้ยร้ายใช่ไมมครับ
00:22:04 → 00:22:07 ไตกีสลายอ่ะอ่าอ่าคุณลีต้องกินกลุ่ม
00:22:07 → 00:22:11 โอเมก้า 3 โอเมก้า 3 ก็คือในพวกไขมันปลา
00:22:11 → 00:22:14 น้ำมันปลาอ่าถ้าไม่มีกระตังซื้อก็ไม่
00:22:14 → 00:22:18 จำเป็นต้องซื้อฟิชออยมากินนะเราก็กินจาก
00:22:18 → 00:22:22 ปลาก็ได้จะปลาทะเลปลาน้ำจืดได้หมดเลยนะ
00:22:22 → 00:22:25 ครับก็กินปลาทุกวันเป็นประจำไขมันจากปลา
00:22:25 → 00:22:29 ไตกิสไลดก็จะลดลงได้เออกินปลาจริงๆด้วยแฮ
00:22:29 → 00:22:32 ใช่แมต้องมากินเลยนะเพราะมันช่วยได้แล้ว
00:22:32 → 00:22:34 ทุกมื้อนอกจากน้ำมันอย่างที่อาจารย์บอกนะ
00:22:34 → 00:22:38 ครับต้องมีพวกผักนะถ้าคุณไม่กินผักคุณก็
00:22:38 → 00:22:41 ต้องเป็นข้าวกล้องอ่าพวกนี้ก็จะช่วยลด
00:22:41 → 00:22:44 ระดับไขมันในเลือดได้นะผักผลไม้ทั้งหลาย
00:22:44 → 00:22:47 แหล่มะเขือเทศเนี่ยอาจารย์บอกเลยว่ามีการ
00:22:47 → 00:22:51 ศึกษาวิจัยทางคลินิกนะในคนเลยมันช่วยลด
00:22:51 → 00:22:56 สดนแอได้อ๋ออ่ามันมีไลโคปีนในมะเขือเทศ
00:22:56 → 00:23:00 เนี่ยมันช่วยลด SM L ได้แล้วเนี่ยในมื้อ
00:23:00 → 00:23:03 อาหารของเรานะส่วนใหญ่เราพูดถึงมะเขือเทศ
00:23:03 → 00:23:06 แล้วก็อุ๊ยผิวพรรณใช่ดีบำรุงผิวพรรณแต่
00:23:06 → 00:23:09 จริงๆแล้วเนี่ยมันช่วยลดไอ้เจ้า ldl ตัว
00:23:09 → 00:23:13 เล็กตัวร้ายได้แล้วลดอนุมูลอิสระได้ดีโอ
00:23:13 → 00:23:15 มะเขือเทศอะไรก็ได้ใช่ครับผมเล็กใหญ่ได้
00:23:15 → 00:23:18 หมดมันมีไลโคปีนแค่มันมีไลโคปีนไลโคปีน
00:23:18 → 00:23:22 นี่แหละนะในในในมะเขือเทศเนี่ยมันก็ช่วย
00:23:22 → 00:23:26 ได้หรือแอปเปิ้ลแอปเปิลอ่าก็มีพวกใยอาหาร
00:23:26 → 00:23:29 ก็ลดการดูดซึมพวกไขมันทั้งหลายแหล่ได้
00:23:29 → 00:23:31 แล้วฝรั่งเถึงบอกไงว่า apple a day
00:23:32 → 00:23:34 Keep Doctor Away เคยได้ยินใช่มั้ย
00:23:34 → 00:23:38 ครับกินแอปเปิลวรผลก็จะห่างไกลโรคห่างไกล
00:23:38 → 00:23:42 หมออือ่าถ้าไม่ใช่แอปเปิ้ลโอของฝรั่ง
00:23:42 → 00:23:45 อาจารย์อยากกินผลไม้แบบไทยๆชมพู่เลยครับ
00:23:45 → 00:23:49 อ่ะชมพู่ไฟเบอร์สูงแล้วมันมีสารสีม่วงแดง
00:23:49 → 00:23:51 ที่ชมพู่อ่ะครับอสารนั้นเนี่ยช่วยในการลด
00:23:51 → 00:23:53 ระดับไขมันในเลือดได้เขาเรียก
00:23:53 → 00:23:56 แอนโทไซยานินเหมือนพืชตระกูลเบอร์รี่เลย
00:23:56 → 00:23:59 นะอชมพู่เนี่ยอุ้ยไม่น่าเชื่อว่าเขาจะ
00:23:59 → 00:24:02 สามารถขนาดใยอาหารสุขอาจารย์แนะนำเลยว่า
00:24:03 → 00:24:06 ช่วงหน้าร้อนเพราะน้ำมันก็สูงกินแล้วชื่น
00:24:06 → 00:24:09 ใจอ่าบางทีปอกแล้วแบบเฮ้ยแช่ตู้เย็นกิน
00:24:09 → 00:24:12 หลังมืออาหารอช่วยชะลอการดุดซึมไขมันน้ำ
00:24:12 → 00:24:15 ตาลนะหวานเล็กน้อยเพราะมันไม่ได้หวานจัด
00:24:15 → 00:24:17 อยู่แล้วชมพู่เนี่ยนะแล้วได้สาร
00:24:17 → 00:24:21 แอนโทไซยานินไปช่วยในการลดไขมันอุ๊ยนะพวก
00:24:21 → 00:24:26 นี้เพิ่งกินไปเลยแต่จิ้มพริกเกลือโอเมาตก
00:24:26 → 00:24:29 ม้าตายจงอีจิ้มแบบพริกเกลือน้ำตาลอะไรพวก
00:24:29 → 00:24:33 เนี้ยแหมมันจะมันจะดีอยู่แล้วเชียวมันจะ
00:24:33 → 00:24:35 ดีอยู่แล้วเชียวไกินลมันขึ้นเพราะอย่าง
00:24:35 → 00:24:38 งี้แหละเพราะว่าน้ำตาลไครับถึงบอกเนี่ย
00:24:38 → 00:24:41 เราเราเอาน้ำมันนะเลือกน้ำมันดีเลือกไข
00:24:41 → 00:24:47 มันดีกินพืชผักผลไม้ที่ไม่หวานจัดอมันก็
00:24:47 → 00:24:50 ช่วยในการลดระดับไขมัได้และอีกหนึ่งสิ่ง
00:24:50 → 00:24:53 ครับคุณผู้ชมองค์การอมัยโลคแนะนำเลยทุก
00:24:53 → 00:24:57 วันค่ะถั่วครับวันละ 1 กำมืออเพราะมันมี
00:24:57 → 00:25:00 กลุ่มไขมันดีถั่วอะไรก็ได้ถั่วอะไรก็ได้
00:25:00 → 00:25:04 ครับจะถั่วลิสงจะเม็ดมะม่วงหินมพานอ่าได้
00:25:04 → 00:25:07 หมดเลย 1 กำมือ 1 กำมือเป็นสนคของว่าง
00:25:07 → 00:25:10 ระหว่างมื้ออาหารอ๋อแล้วก็กินไปเรื่อยๆเร
00:25:10 → 00:25:12 ๆทั้งวันใช่ครับจะถั่วต้มอะไรอย่างเงี้ย
00:25:12 → 00:25:16 ได้หมดเลยอันเนี้ยเพราะว่ามันมีตัวพวกใย
00:25:16 → 00:25:19 อาหารพวกพรีไบโอติกแล้วมีไขมันดีสูงมี
00:25:19 → 00:25:21 วิตามินอีช่วยในการต้านโรคหัวใจแลหลอด
00:25:21 → 00:25:25 เลือดได้ดีค่ะอ่าลดไขมันได้ด้วยโอยตอนนี้
00:25:25 → 00:25:27 ช่วงนี้กินถั่วต้มบ่อยมากใช่เห็นมั้ยครับ
00:25:27 → 00:25:32 กินไขมันดีเพื่อลดไขมันที่ไม่ดีค่ะอ่ามัน
00:25:33 → 00:25:37 มันมันเลือกได้อย่างที่บอกแค่เปลี่ยนน้ำ
00:25:37 → 00:25:41 มันพุงประกอบอาหารในบ้านของเราเราก็ช่วย
00:25:41 → 00:25:43 ควบคุมไขมันได้ได้แล้วแล้วก็ผักผลไม้นี่
00:25:43 → 00:25:47 แหละครับกินอาหารให้เป็นยาในการบำบัดไข
00:25:47 → 00:25:50 มันในเลือดสูงเราจะได้ไม่ต้องกินยาทุก
00:25:50 → 00:25:53 มื้อประดุจอาหารอครับอยู่ที่พฤติกรรมค่ะ
00:25:54 → 00:25:56 อันนี้โดนมากับตัวเองแล้วนะคะนี้ขนาดคุย
00:25:56 → 00:26:00 กับอาจารย์เป็นประจำยังไม่รอดผลตรวจยัง
00:26:00 → 00:26:02 ไม่รอดเลยนะคะเดี๋ยวต้องไปปรับเปลี่ยน
00:26:02 → 00:26:04 พฤติกรรมการกินใหม่ค่ะวันนี้ได้แนวทางกัน
00:26:05 → 00:26:07 ไปแล้วนะคะจะลดภาวะไขมันืสูงได้ยังไง
00:26:07 → 00:26:10 อาหารช่วยได้ค่ะขอบคุณค่ะอาจารย์ขาสวัสดี
00:26:10 → 00:26:13 ค่ะสวัสดีครับหมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังพบ
00:26:13 → 00:26:15 กันใหม่ครั้งหน้าค่ะวันนี้ลาไปก่อนนะคะ
00:26:15 → 00:26:19 สวัสดีค่ะ This Is Toy PBS podcast
00:26:19 → 00:26:22 กลุ่มโรคหลอดเลือดหัวใจทำไมจึงเป็นปัญหา
00:26:22 → 00:26:25 ใหญ่ด้านสาธารณสุขของไทยสถิติเป็นอย่างไร
00:26:26 → 00:26:29 แพทย์หญิงกิตยาสีเลิศฟ้าแอายุรกรรมฝ่าย
00:26:29 → 00:26:33 การแพทย์ AIA มาเล่าให้ฟังครับคนไทยเนี่ย
00:26:33 → 00:26:36 เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดเนี่ย
00:26:36 → 00:26:38 เฉลี่ยชั่วโมงละ 8 คนรายงานของกระทรวง
00:26:39 → 00:26:43 สาธารณสุขปี 2565 นะพบการเสียชีวิตของคน
00:26:43 → 00:26:46 ไทยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมากถึง 70,000
00:26:46 → 00:26:50 รายโหเยอะนะแล้วก็คาดว่าจะแนวโน้มเพิ่ม
00:26:50 → 00:26:53 ขึ้นทุกปีอุยนะคะแต่ว่ากลุ่มหัวใจและหลอด
00:26:54 → 00:26:56 เลือดเนี่ยมันไม่ได้หมายถึงโรคหลอดเลือด
00:26:56 → 00:27:00 หัวใจตีบอย่างเดียวอืแเราจะให้ความรู้ว่า
00:27:00 → 00:27:02 กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดเนี่ยมันหมาย
00:27:02 → 00:27:06 ถึงอะไรบ้างหัวใจล้มเหลวหัวใจเต้นผิด
00:27:06 → 00:27:11 จังหวะอ๋อโรคหลอดเลือดหัวใจโรคของลิ้นหัว
00:27:11 → 00:27:15 ใจรั่วหัวใจตีบกล้ามเนื้อและเยื่อหุ้มหัว
00:27:15 → 00:27:19 ใจหัวใจพิการแต่กำเนิดเห็นมกลุ่มๆตรง
00:27:19 → 00:27:22 เนี้ยมีตั้งหลายโรคแต่ว่าโรคหลอดเลือดหัว
00:27:22 → 00:27:26 ใจตีบเนี่ยพบได้บ่อยที่สุดเป็นปัญหา
00:27:26 → 00:27:29 สุขภาพชนิดร้ายแรงเป็นสาเหตเหตุของการ
00:27:29 → 00:27:32 เสียชีวิตอันดับต้นๆของโลกและของไทยสมัย
00:27:32 → 00:27:36 ก่อนเนี้ยอาจจะพบมากในวัยสูงอายุแต่ว่า
00:27:36 → 00:27:40 ปัจจุบันเนี้ยพบในคนอายุน้อยลงเรื่อยๆนะ
00:27:40 → 00:27:42 เพราะว่าอะไรเพราะว่าคนไม่รู้ตัวว่าเป็น
00:27:42 → 00:27:46 โรคหลอดเลือดหัวใจตีบนะเพราะว่ามันอาจจะ
00:27:46 → 00:27:51 ไม่มีอาการในระยะแรกนะจนมามีเจ็บหน้าอกดน
00:27:51 → 00:27:53 หน้าอกแล้วเนี่ยหรือว่าหัวใจวายไปแล้ว
00:27:53 → 00:27:56 เนี่ยจะถึงรู้ว่าเป็นหลอดเลือหัวใจตีบ
00:27:56 → 00:28:00 เพราะฉะนั้นการรู้ทันสายเหตุการอ่าสามารถ
00:28:00 → 00:28:02 สังเกตอาการของโรคนี้แต่เนิ่นๆเนี่ยจะ
00:28:02 → 00:28:05 ช่วยให้เข้าสู่การรักษาได้รวดเร็วขึ้น
00:28:05 → 00:28:08 คราวนี้โลกหลอดเลือดหัวใจติบนี่เกิดจาก
00:28:08 → 00:28:10 การที่หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ
00:28:10 → 00:28:14 หัวใจมันแข็งตัวไงค่ะเนื่องจากการสะสมพอก
00:28:14 → 00:28:17 พูนของไขมันที่ผนังหลอดเลือดแล้วก็มีสะสม
00:28:17 → 00:28:20 คราผินปูนทำให้หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยง
00:28:20 → 00:28:23 หัวใจเนี่ยตีบแคบลงปริมาณเลือดแดงเนี่ย
00:28:23 → 00:28:26 ผ่านได้น้อยทำให้หลอดเลือดเไม่สามารถส่ง
00:28:26 → 00:28:29 เลือดไปยังหัวใจได้ปปกติเลือดไปเลี้ยงหัว
00:28:29 → 00:28:32 ใจกล้ามเนื้อหัวใจได้น้อยลงนะทำให้หัวใจ
00:28:32 → 00:28:36 ขาดเลือดหรือตีบแค่มากจนอุดตันไปเลยก็จะ
00:28:36 → 00:28:41 ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายและถึง
00:28:41 → 00:28:46 ชีวิต This Is Toy PBS
00:28:46 → 00:28:49 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:28:49 → 00:28:52 แอปพลิเคชันของ Thai PBS podcast
00:28:52 → 00:28:55 spotify soundcloud Google podcast
00:28:55 → 00:28:58 Apple podcast และ YouTube Channel
00:28:58 → 00:29:02 Thai PBS podcast Thai PBS podcast
00:29:02 → 00:29:04 View the world via The Voice
00:29:04 → 00:29:10 [เพลง]