00:00:00 → 00:00:03 อาหาร 11 ชนิดที่ยิ่งทานยิ่งหิว
00:00:03 → 00:00:05 ยิ่งหิวท่านก็ยิ่งอ้วน
00:00:05 → 00:00:06 ลดความอ้วนกันไม่ได้สักที
00:00:06 → 00:00:09 ลองมาดูกันครับว่าอาหาร 11 อย่าง
00:00:09 → 00:00:11 ที่ไม่ผอมสักที ไม่หุ่นดีสักที
00:00:11 → 00:00:13 มันมีอะไรบ้างครับ
00:00:20 → 00:00:22 สวัสดีครับ ผมหมอท๊อปนะครับ
00:00:22 → 00:00:24 และนี่คือ DOCTOR TOP Channel
00:00:24 → 00:00:27 รายการสุขภาพที่ทั้งสนุกและมีสาระครับ
00:00:28 → 00:00:30 วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง
00:00:30 → 00:00:33 อาหาร 11 ชนิด ยิ่งทานยิ่งหิวครับ
00:00:33 → 00:00:35 และยิ่งหิวท่านก็ยิ่งอ้วน
00:00:35 → 00:00:37 ลดความอ้วนกันไม่ได้สักที
00:00:37 → 00:00:38 ลองมาดูกันครับว่า
00:00:38 → 00:00:42 อาหาร 11 อย่างที่ทำให้ท่านไม่ผอมสักที ไม่หุ่นดีสักที
00:00:42 → 00:00:44 มันมีอะไรบ้างครับ
00:00:44 → 00:00:46 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share
00:00:46 → 00:00:48 กด Subscribe และกดกระดิ่งนะครับ
00:00:48 → 00:00:49 ขอบคุณครับ
00:00:49 → 00:00:52 ก่อนที่เราจะไปต่อกันครับ
00:00:52 → 00:00:55 ผู้ใดเร่งรีบมีเวลาน้อย
00:00:55 → 00:00:58 ไปที่ 3 นาทีสุดท้ายเลยจะมีสรุปให้
00:00:58 → 00:01:00 มีเวลาค่อยกลับมาดูนะครับ
00:01:00 → 00:01:02 ลงรายละเอียดกัน เรามีสรุปไว้ให้เรียบร้อยนะครับ
00:01:02 → 00:01:07 เรามาเริ่มที่อาหารชนิดที่ 1 ที่ยิ่งกินยิ่งหิว
00:01:07 → 00:01:12 ก็คือ White bread หรือขนมปังขาวนั่นเอง
00:01:12 → 00:01:16 ขนมปังขาวหรือว่าข้าวสวย ข้าวขาว
00:01:16 → 00:01:20 ข้ามหอมมะลิของเราที่สวยใสหอมกรุ่นน่าทาน
00:01:20 → 00:01:22 คือต้องมีงี้ครับ ขนมปังที่ขัดสี
00:01:22 → 00:01:26 มันจะทำให้เกิดการ Spiking ของอินซูลินครับ
00:01:26 → 00:01:29 ก็คือพอเรากินอินซูลินเข้าไป อินซูลินจะหลั่งเลย
00:01:29 → 00:01:34 เพราะว่าอาหารที่ขัดสีพวกข้าวหรือขนมปัง
00:01:34 → 00:01:36 มีน้ำตาลที่แบบสูงมาก
00:01:36 → 00:01:38 แล้วก็กินเข้าไปอินซูลินหลั่งมาเลย
00:01:38 → 00:01:41 ปื้ดพุ่งขึ้น แต่ว่าลดลงอย่างรวดเร็ว
00:01:41 → 00:01:42 การ Spiking ของอินซูลิน
00:01:42 → 00:01:46 จะยิ่งมีผลทำให้เรามีอาการหิวมากขึ้น
00:01:46 → 00:01:48 ก็คือว่าอิ่มไปแป๊บเดียว แป๊บเดียวหิวและ
00:01:48 → 00:01:50 อิ่มไปแป๊บเดียว แป๊บเดียวหิวอีกและ
00:01:50 → 00:01:53 อันนี้ก็คือปัญหาของการ Spiking ของอินซูลิน
00:01:53 → 00:01:56 แล้วก็ยิ่งจะทำให้ยิ่งกินก็ยิ่งอ้วน
00:01:56 → 00:01:58 อันนี้อันตรายๆ มากเลยก็ต้องบอกว่า
00:01:58 → 00:02:02 มีวิจัยในผู้คนทั่วไป ไม่ใช่ผู้ป่วยอะ
00:02:02 → 00:02:05 มีวิจัยในคนประมาณ 9,000 คน ที่ทานขนมปังขาว
00:02:05 → 00:02:07 หรือว่าพวกแป้งขัดสีนะครับ
00:02:07 → 00:02:11 2 แผ่นต่อวัน นานเป็นระยะเวลา 5 ปี
00:02:11 → 00:02:13 เทียบกับคนที่ไม่ได้ทานนะครับ
00:02:13 → 00:02:19 มีโอกาสอ้วนมากกว่าถึง 40%
00:02:19 → 00:02:21 โอ้โห อ้วนกระจายนะครับ
00:02:21 → 00:02:24 อันนี้ก็ลองดูกันว่าถ้าท่านอยากลดความอ้วน
00:02:24 → 00:02:29 ผมว่าขนมปังที่ไม่ขัดสีหรือว่าพวกข้าวที่ไม่ขัดสี
00:02:29 → 00:02:32 เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอรี่
00:02:32 → 00:02:36 หรือว่าขนมปังโฮลวีทน่าจะเป็นทางออกที่ดี
00:02:37 → 00:02:41 มาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 2 ที่ยิ่งทานยิ่งหิว
00:02:41 → 00:02:45 อาหารชนิดที่ 2 ก็คือ น้ำผลไม้
00:02:45 → 00:02:48 โอ้โห น้ำผลไม้มันเป็นอาหารสุขภาพไม่ใช่เหรอ
00:02:48 → 00:02:49 แต่ไม่ใช่ครับ
00:02:49 → 00:02:51 น้ำผลไม้ถามว่ามีประโยชน์ไหม
00:02:51 → 00:02:54 ต้องตอบว่ามี แต่ถ้าท่านกินมากเกินไป
00:02:55 → 00:02:56 ก็มีโทษนะครับผม
00:02:56 → 00:02:58 ถามว่าเพราะว่าไรก็ต้องบอกว่า
00:02:58 → 00:03:02 น้ำผลไม้จริงๆ แล้วมันก็จัดอยู่ในกลุ่ม Healthy Drinks
00:03:02 → 00:03:04 ก็คือน้ำดื่มสุขภาพนั่นเอง
00:03:04 → 00:03:09 เพียงแต่ว่ามันเป็น Healthy Drinks ที่มันมีน้ำตาลสูงมากๆ
00:03:09 → 00:03:12 และน้ำตาลจากน้ำผลไม้
00:03:12 → 00:03:16 มันจะต่างจากน้ำตาลที่มาจากผลไม้เพียวๆ
00:03:16 → 00:03:19 เพราะต้องบอกว่าน้ำตาลที่อยู่ในน้ำผลไม้
00:03:19 → 00:03:22 ที่เราซื้อทานเป็นขวดเป็นกระป๋อง
00:03:22 → 00:03:25 มักจะใส่น้ำตาลอย่างอื่นเพิ่มมา
00:03:25 → 00:03:27 ไม่ใช่น้ำตาลที่มาจากน้ำผลไม้เพียวๆ
00:03:27 → 00:03:30 เพราะฉะนั้นจะมีความหวานมากกว่าปกติ
00:03:30 → 00:03:33 คือถามว่าทานได้ไหม ทานได้ครับ
00:03:33 → 00:03:39 แต่ว่าแนะนำว่าวันละไม่เกิน 1 แก้วหรือประมาณ 200cc
00:03:39 → 00:03:43 จะได้ประโยชน์ที่ดีแล้วก็ไม่อ้วน
00:03:43 → 00:03:45 หรือว่าไม่มีน้ำตาลสูงจนเกินไป
00:03:45 → 00:03:49 ก็ต้องบอกว่าน้ำผลไม้กับผมไม้ต่างกัน
00:03:49 → 00:03:51 เพราะว่าน้ำผลไม้ต้องบอกตามตรงว่า
00:03:51 → 00:03:54 โดยเฉพาะน้ำผลไม้ที่แยกกากออกไป
00:03:54 → 00:03:58 มีใยอาหารต่ำมากๆ บางทีไม่มีเลยนะครับ
00:03:58 → 00:04:02 ซึ่งใยอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญ ทำให้เราอิ่มนาน
00:04:02 → 00:04:05 ทำให้เราดูดซึมแคลอรี่น้อยลงแล้วก็ผอม
00:04:05 → 00:04:07 แล้วก็ทำให้เรามีการขับถ่ายที่ดี
00:04:08 → 00:04:10 ซึ่งใยอาหารสำคัญมากๆ
00:04:10 → 00:04:13 แล้วก็น้ำตาลที่ใส่ลงไปในพวกน้ำผลไม้
00:04:13 → 00:04:16 ก็มักทำให้อินซูลินมันขึ้นเร็วลงเร็ว
00:04:16 → 00:04:18 ก็คือเป็น Spiking ของอินซูลินเลเวล
00:04:18 → 00:04:21 ก็ทำให้เราหิวเร็วอันนี้ก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นคือ
00:04:21 → 00:04:23 พอกินไปแล้วแก้วหนึ่งยังไม่รู้สึกอิ่มเลย
00:04:23 → 00:04:24 ไปกินใหม่
00:04:24 → 00:04:26 กินไปแล้วแก้วหนึ่งยังไม่รู้สึกอิ่มเลย
00:04:26 → 00:04:28 ไปกินอย่างอื่นต่ออันนี้อันตรายมากๆ
00:04:29 → 00:04:32 ถ้าสมมุติอยากจะทานจริงๆ ผมมีเทคนิคแนะนำก็คือว่า
00:04:32 → 00:04:37 ให้เป็นสมูทตี้ปั่นผลไม้สด ไม่แยกกาก
00:04:37 → 00:04:42 หรือว่าจะผสมกับโยเกิร์ต ผสมกับโปรตีนพาวเดอร์
00:04:42 → 00:04:45 ซึ่งโยเกิร์ตกับโปรตีนพาวเดอร์จะให้โปรตีน
00:04:45 → 00:04:48 แล้วกลุ่มพวกนี้จะทำให้อินซูลินไม่ค่อย Spiking ครับ
00:04:48 → 00:04:51 และนี่คืออาหารอย่างที่ 2 ที่ยิ่งทานยิ่งหิวครับ
00:04:51 → 00:04:52 น้ำผลไม้
00:04:54 → 00:04:59 มาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 3 ที่ยิ่งทานแล้วยิ่งท่านหิว
00:04:59 → 00:05:03 ก็คือ Salty snacks หรืออาหารว่างที่มีรสเค็มๆ
00:05:03 → 00:05:05 ไม่พ้นมันฝรั่งอบกรอบครับ
00:05:05 → 00:05:07 หวาน มัน กรุบกรอบ อร่อยครับ
00:05:07 → 00:05:10 หรือว่าเป็นป๊อปคอร์นก็สุดยอดใช่ไหมครับ
00:05:10 → 00:05:15 คือต้องบอกว่าอาหารที่เป็นอาหารว่างกรุบกรอบและมีรสเค็ม
00:05:15 → 00:05:18 มี 2 ส่วนที่ทำให้ท่านอ้วนๆ สุด แล้วหิวบ่อยสุดๆ ก็คือ
00:05:18 → 00:05:21 1. ตัวขนมหรือตัวสแน็คเอง
00:05:21 → 00:05:23 มันทั้งกรอบ ทั้งมัน ทั้งเค็มนะครับ
00:05:23 → 00:05:28 มันหยุดไม่ได้ 3 คำไม่เคยพอต้องหมดถุงเท่านั้น
00:05:28 → 00:05:29 คือต้องบอกว่า
00:05:30 → 00:05:34 สแน็คหรืออาหารว่างพวกนี้มันถูกย่อยได้เร็ว
00:05:34 → 00:05:37 เป็นพวกเขาเรียก Simple Carbohydrates
00:05:37 → 00:05:40 ก็จะทำให้อิซูลินพุ่งขึ้นสูงแล้วก็ลงเร็ว
00:05:40 → 00:05:44 เมื่อไหร่ก็ตามที่ได้ยินผมพูดว่าอิซูลินพุ่งขึ้นสูง
00:05:44 → 00:05:46 มันจะเป็นอาหารที่หิว ทำให้ผิวง่าย
00:05:46 → 00:05:49 แล้วก็ทำให้อ้วนง่ายนะครับ
00:05:49 → 00:05:53 สาเหตุที่ 2 ที่ทำให้อ้วนสุดๆ สำหรับ Salty snacks ก็คือว่า
00:05:53 → 00:05:58 หลังจากทานท่านมักจะมีอาการโหยหาอาหารหวานตามมา
00:05:58 → 00:06:01 ให้ลองสังเกตเวลากินสแน็คปุ๊บ
00:06:01 → 00:06:06 แหม่ มันอยากจะเป๊ปซี่สักนิด โค้กสักหน่อย หรือว่าน้ำผลไม้
00:06:06 → 00:06:08 หรืออะไรน้ำหวานๆ สักนิด
00:06:08 → 00:06:11 มันจะเป็นอย่างนั้นเพราะว่าต่อมรับรสที่เรารับรสเค็มไป
00:06:11 → 00:06:13 มันส่งสัญญาณไปที่สมองของเราครับ
00:06:13 → 00:06:15 ทำให้เรารู้สึกอยากอาหารหวาน
00:06:15 → 00:06:18 ซึ่งมันมีกลไกซับซ้อนเราก็คงไม่ต้องไปรู้มันนะ
00:06:18 → 00:06:21 แต่ว่ามันทำให้เราอยากอาหารวาน ซึ่งมันไม่ดีไง
00:06:21 → 00:06:23 อารมณ์ว่าเรามีประมาณ 2 กระเพาะ
00:06:23 → 00:06:27 คือกระเพาะแรกเต็มไปด้วยขนมคบเขี้ยวที่มีรสเค็ม
00:06:27 → 00:06:31 แต่กระเพาะอาหารสำหรับกินของหวานยังว่างอยู่เลย
00:06:31 → 00:06:33 แล้วเราก็กินเข้าไปเต็มที่อย่างนี้ครับ
00:06:33 → 00:06:37 ไม่มีวันผอมนะครับ โหดร้ายมากสำหรับ Salty snacks
00:06:37 → 00:06:39 หรืออาหารว่างรสเค็มครับ
00:06:39 → 00:06:42 มาต่อกันที่อย่างที่ 4 ครับ
00:06:42 → 00:06:43 Fastfood
00:06:43 → 00:06:47 อาหารจานด่วนหรือที่เราเรียกว่า Junk food
00:06:47 → 00:06:51 เพราะว่าอาหารกลุ่มพวกนี้มา Trans Fats สูงมากๆ
00:06:51 → 00:06:54 แล้ว Trans Fats มีผลต่อระบบทางเดินอาหาร
00:06:54 → 00:06:57 ทำให้เกิด Inflammation หรือการอักเสบนั่นเองครับ
00:06:58 → 00:07:01 ทำให้ร่างกายส่งผลทำให้ไม่สามารถ
00:07:01 → 00:07:04 ควบคุมฮอร์โมนโดพามีน ซีโรโทนินได้
00:07:04 → 00:07:05 เกิดอะไรขึ้นครับ
00:07:05 → 00:07:09 ผลที่ตามมาคือไม่สามารถควบคุมความอยากอาหารได้
00:07:09 → 00:07:11 โอ้โห ยิ่งกินยิ่งหิวครับ
00:07:11 → 00:07:16 ก็ต้องบอกว่า Fastfood แล้วก็ขนมหวานหรือเค้ก
00:07:16 → 00:07:19 มักจะมาคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับ
00:07:19 → 00:07:21 ซึ่งทำให้อินซูลิน Spiking อีกแล้วครับ
00:07:21 → 00:07:23 ก็พวกนี้ยิ่งทำให้หิวเร็วใช่ไหมครับ
00:07:24 → 00:07:25 และยังไม่พอครับ
00:07:25 → 00:07:29 อาหาร Fastfood มักจะมีเกลือค่อนข้างมาก
00:07:29 → 00:07:32 หรือว่าเป็นพวกอาหารที่เป็น Processed food
00:07:32 → 00:07:35 ไส้กรอกหรือว่าแฮม มันก็มีรสเค็มด้วยนะครับ
00:07:35 → 00:07:39 ก็ทำให้หิวน้ำ พอเราหิวน้ำก็กินน้ำครับ
00:07:40 → 00:07:42 น้ำที่ขายกับ Fastfood ก็น้ำอัดลมครับ
00:07:43 → 00:07:44 ซัดกันเข้าไปเต็มที่ครับ
00:07:44 → 00:07:47 ยิ่งกินยิ่งอ้วนนั่นคืออาหารอย่างที่ 4
00:07:47 → 00:07:48 Fastfood ครับ
00:07:48 → 00:07:52 มาต่อกันที่อาหารอย่างที่ 5 นั่นก็คือ แอลกอฮอล์
00:07:52 → 00:07:57 แอลกอฮอล์บอกเลยว่าถ้าเมื่อไหร่ท่านดื่มมากกว่า 3 แก้ว
00:07:57 → 00:08:00 จะทำให้ฮอร์โมนแลคติน
00:08:00 → 00:08:02 ซึ่งเป็นฮอร์โมนควบคุมความหิว
00:08:03 → 00:08:05 มีประสิทธิภาพลดลงถึง 30%
00:08:05 → 00:08:07 แอลกอฮอล์ยิ่งทานมาก
00:08:07 → 00:08:11 ทำให้ร่างกายยิ่งอยากทานคาร์โบไฮเดรตมากยิ่งขึ้น
00:08:11 → 00:08:14 ท่านปกติทานแอลกอฮอล์ก็คงไม่ทานเปล่าๆ ใช่ไหมครับ
00:08:14 → 00:08:17 ก็ต้องมีกับแกล้ม กรุบกรอบ เค็มๆ
00:08:17 → 00:08:21 มันยิ่งคุยยิ่งสนุก ยิ่งเมามันนะครับ
00:08:21 → 00:08:23 กับแกล้มเค็มก็เค็มมาก
00:08:23 → 00:08:25 เพราะฉะนั้นดื่มแอลกอฮอล์แก้เค็มเข้าไปอีก
00:08:25 → 00:08:27 วนเวียนเป็นวัฏจักรไม่จบสิ้นนะครับ
00:08:27 → 00:08:31 ยิ่งกินยิ่งมัน ยิ่งมันยิ่งอ้วน ยิ่งอ้วนยิ่งเครียด
00:08:31 → 00:08:33 อันนี้ก็คือปัญหาของแอลกอฮอล์นะครับ
00:08:33 → 00:08:36 แล้วก็ตื่นเข้าไม่ไหวด้วย เพลียไปหมด
00:08:36 → 00:08:40 มาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 6 ก็คือ พาสต้า
00:08:41 → 00:08:44 ก็ต้องบอกว่าพาสต้ามันก็เหมือนพวกข้าวขัดสี
00:08:44 → 00:08:46 ข้าวขาวหรือว่าขนมปังขาว
00:08:46 → 00:08:48 ซึ่งกลุ่มพาสต้าก็ต้องบอกว่า
00:08:49 → 00:08:51 มีทั้งแบบขัดสีแล้วก็ไม่ขัดสี
00:08:51 → 00:08:54 เพราะฉะนั้นถ้าจะทานก็แนะนำให้ทานแบบไม่ขัดสี
00:08:54 → 00:08:56 ถ้าทานแบบขัดสีมันก็จะเหมือน
00:08:56 → 00:09:00 อารมณ์เราทานขนมปังขาวหรือว่าข้าวขาวนั่นเอง
00:09:00 → 00:09:02 แล้วก็พาสต้ามักจะผัดมากับเนย
00:09:02 → 00:09:05 มักจะผัดมากับ Processed food แฮมต่างๆ
00:09:05 → 00:09:07 ก็ยิ่งทำให้อ้วนเข้าไปใหญ่ครับ
00:09:07 → 00:09:12 และนี่คืออาหารอย่างที่ 6 ที่ยิ่งทานยิ่งหิวครับผม
00:09:12 → 00:09:15 มาต่อกันที่อาหารอย่างที่ 7
00:09:15 → 00:09:19 Monosodium glutamate หรือผงชูรส
00:09:19 → 00:09:21 ผงชูรสคือมีการวิจัยว่า
00:09:21 → 00:09:23 กลุ่มที่ทานอาหารใส่ผงชูรสเป็นประจำ
00:09:23 → 00:09:26 เทียบกับกลุ่มที่ทานอาหารที่ไม่ใส่ผงชูรส
00:09:26 → 00:09:30 พบว่ากลุ่มแรกอ้วนกว่าถึง 3 เท่า
00:09:30 → 00:09:31 3 เท่า!!!!
00:09:31 → 00:09:33 โอ้โห ไม่ธรรมดานะครับ
00:09:33 → 00:09:37 แล้วยังพบว่า Monosodium glutamate หรือผงชูรส
00:09:37 → 00:09:41 มีผลต่อฮอร์โมนแลคตินที่ควบคุมความหิวของเรา
00:09:41 → 00:09:43 ทำให้มันทำงานได้ไม่ดีนะครับ
00:09:43 → 00:09:46 เพราะฉะนั้นเราจึงมีความอยากอาหารมากยิ่งขึ้น
00:09:46 → 00:09:48 ถามว่าทานได้ไหม ทานได้ครับ
00:09:48 → 00:09:50 แต่ว่าอย่าเยอะเกินไป
00:09:50 → 00:09:53 สามารถมีประโยชน์กับผู้ป่วยที่ไม่อยากอาหาร
00:09:53 → 00:09:54 ก็โอเค
00:09:54 → 00:09:56 แต่ว่าถ้าเราอยากลดความอ้วน
00:09:56 → 00:09:58 ก็ต้องเพลาๆ ลงหน่อยนะครับ
00:09:58 → 00:10:00 แล้วบางทีกินแล้วยิ่งหิวกระหายน้ำด้วยนะครับ
00:10:00 → 00:10:05 อันนี้ก็มีปัญหาหลากหลายอย่างตามมาสำหรับผงชูรส
00:10:05 → 00:10:07 แล้วบางท่านก็ทานแล้วปวดหัวด้วยครับ
00:10:07 → 00:10:09 อันนี้ถ้าใครทานแล้วปวดหัวแนะนำให้งด
00:10:09 → 00:10:11 สำหรับผงชูรสนะครับ
00:10:11 → 00:10:13 มาต่อกันที่อาหารอย่างที่ 8 ครับ
00:10:13 → 00:10:16 อาหารอย่างที่ 8 ก็คือ ซูชิโรว
00:10:17 → 00:10:20 มันต้องสุขภาพดิ มันเป็นปลาดิบ
00:10:20 → 00:10:23 เราก็ต้องบอกงี้ว่าปลาดิบก็คือปลาดิบ
00:10:23 → 00:10:26 ซูชิโรวมันก็คือซูชิโรว
00:10:26 → 00:10:28 มันไม่ใช่ปลาดิบเพราะอะไรครับ
00:10:28 → 00:10:31 เพราะซูชิโรวประกอบด้วยข้าว
00:10:31 → 00:10:35 ผมว่าสัก 60-70% มีปลาอยู่จิ๊ดนึง
00:10:35 → 00:10:36 มีปลาอยู่หน่อยนึงนะครับ
00:10:36 → 00:10:39 แถมไม่พอบางที่ใส่มายองเนส
00:10:39 → 00:10:40 ใส่นู่นใส่นี่นะครับ
00:10:40 → 00:10:42 โอ้โห ยิ่งกินยิ่งอ้วนนะครับ
00:10:42 → 00:10:44 คือต้องบอกว่าข้าวเยอะมากๆ
00:10:44 → 00:10:47 เพราะฉะนั้นแคลิฟอร์เนียโรลบอกว่า
00:10:47 → 00:10:52 ในโรลอันหนึ่งมีคาร์โบไฮเดรตถึง 30 กรัม
00:10:52 → 00:10:56 ซึ่ง 30 กรัม เท่ากับขนมปังขาว 3 แผ่น
00:10:56 → 00:10:57 3 แผ่น!!!
00:10:59 → 00:11:01 สุดโหดครับ สำหรับแคลิฟอร์เนียโรล
00:11:01 → 00:11:04 เพราะฉะนั้นก็อย่าพลาดสำหรับเรื่องของซูชิโรว
00:11:05 → 00:11:06 มันไม่ใช่อาหารสุขภาพนะครับ
00:11:06 → 00:11:09 มันเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง
00:11:10 → 00:11:12 มาต่อกันที่อาหารอย่างที่ 9
00:11:12 → 00:11:17 ก็คือ Artificial sweeteners หรือพวกสารให้ความหวาน
00:11:17 → 00:11:22 ซึ่งมีแคลอรี่ต่ำก็จริงหรือบางทีแคลอรี่ศูนย์เลยด้วยซ้ำ
00:11:22 → 00:11:27 เพียงแต่ว่าตัวมันจะกระตุ้นให้หลอดสมองเรา
00:11:27 → 00:11:32 ว่ามันหวานอะ อินซูลินก็พุ่งขึ้นแล้วก็ลง
00:11:32 → 00:11:34 มันจึงทำให้เราอยากอาหารอย่างอื่นตามมา
00:11:34 → 00:11:37 พอเรากินปุ๊บแทนที่เราจะอิ่ม
00:11:37 → 00:11:39 เราก็ไปอยากกินอย่างอื่น
00:11:39 → 00:11:40 มันก็ยิ่งอ้วนเข้าไปใหญ่
00:11:40 → 00:11:43 แล้วทำให้เราติดหวานด้วยว่ากินอะไรก็ต้องหวานไปหมด
00:11:43 → 00:11:47 ซึ่งมีโอกาสอ้วนมากกว่าไม่อ้วนครับ
00:11:47 → 00:11:50 เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ก็แนะนำให้ทานเป็นน้ำเปล่า
00:11:50 → 00:11:55 หรือว่าจะเป็นชาเขียวเย็น ชาอู่งหลง
00:11:55 → 00:11:57 หรืออะไรที่ไม่ใส่น้ำตาลก็จะดีกว่าครับ
00:11:57 → 00:11:59 และนี่ก็คืออาหารอย่างที่ 9 ครับ
00:11:59 → 00:12:01 น้ำตาลเทียม
00:12:02 → 00:12:04 มาต่อกันที่อาหารอย่างที่ 10 ครับ
00:12:05 → 00:12:09 Kids Cereal ก็คือซีเรียลของเด็กๆ นั่นเอง
00:12:09 → 00:12:12 ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วซีเรียลเป็นอาหารที่ดี
00:12:12 → 00:12:13 เป็นอาหารเช้าที่โอเคเลย
00:12:13 → 00:12:15 เพียงแต่ว่าถ้าเป็น Kids Cereal
00:12:15 → 00:12:20 จะเห็นว่าสีสันมันสวยงามแถมรสหวานอร่อย
00:12:20 → 00:12:22 เพราะว่าเด็กชอบทานเค้าก็เลยทำออกมา
00:12:23 → 00:12:26 เพียงแต่ว่าไอ่สีสันที่สวยงามมันเกิดจากการย้อมสี
00:12:26 → 00:12:30 ซึ่งตัวซีเรียลมันทำมาจากพวกแป้งที่มันขัดสีแล้ว
00:12:30 → 00:12:33 ก็คือออกแนวพวกข้าวขาวหรือขนมปังขาวนี่แหละ
00:12:33 → 00:12:35 และยังไม่พอ มีน้ำตาลมาเคลือบอีก
00:12:35 → 00:12:40 เพระาฉะนั้นทำให้ Blood sugar หรือว่าน้ำตาลในเลือด
00:12:40 → 00:12:43 สวิงไปสวิงมา อินซูลิน Spiking อีกแล้วครับ
00:12:43 → 00:12:46 หิวอีกแล้ว เวียนหัวอีกแล้ว อยากทานอีกแล้วครับ
00:12:46 → 00:12:48 ยิ่งกินยิ่งอ้วน ยิ่งอ้วนยิ่งหิว
00:12:48 → 00:12:50 มันไปกันใหญ่วนเวียนนะครับ
00:12:50 → 00:12:52 เพราะฉะนั้นถ้าอยากทานซีเรียลผมแนะนำว่า
00:12:53 → 00:12:56 แนะนำให้กินแบบเขาเรียกว่า โฮลเกรน ซีเรียล
00:12:56 → 00:12:58 หรือซีเรียลที่มีไฟเบอร์สูง
00:12:58 → 00:13:01 ดูข้างกล่องได้ว่าสำหรับการเสิร์ฟ 1 ครั้ง
00:13:01 → 00:13:03 แนะนำให้ไฟเบอร์มากกว่า 5 กรัม
00:13:04 → 00:13:08 และน้ำตาลน้อยกว่า 5 กรัมต่อการทาน 1 ครั้ง
00:13:08 → 00:13:10 และนี่ก็คือเทคนิคการทานซีเรียลครับ
00:13:10 → 00:13:13 มาต่อกันที่อาหารอย่างที่ 11 ครับ
00:13:13 → 00:13:16 ผมว่าอาหารนี้ทุกท่านคุ้นเคย
00:13:16 → 00:13:17 พิซซ่าครับ
00:13:17 → 00:13:20 พิซซ่ายิ่งกินยิ่งหิวครับ
00:13:20 → 00:13:22 เพราะอะไร คุณก็รู้ครับว่า
00:13:22 → 00:13:25 พิซซ่าชิ้นเดียวไม่เคยพอครับ
00:13:25 → 00:13:26 มีใครกินพิซซ่าชิ้นเดียว
00:13:26 → 00:13:28 โอ้โห น้อยมากผมบอกเลย
00:13:28 → 00:13:31 ต้องมีชิ้นที่ 2 ชิ้นที่ 3 ตามด้วยมีไก่ทอดบ้าง
00:13:31 → 00:13:34 เป๊ปซี่บ้าง สปาเก็ตตี้บ้างจัดเต็มนะครับ
00:13:34 → 00:13:38 ก็ต้องบอกว่าพิซซ่าประกอบด้วยแป้งขัดสี
00:13:38 → 00:13:40 ซึ่งแบบหนักอะ
00:13:40 → 00:13:44 แล้วก็มีน้ำมันมีชีส มี Processed meat ต่างๆ
00:13:44 → 00:13:47 ซึ่งทำให้อินซูลินพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วมาก
00:13:47 → 00:13:51 ก็ต้องบอกเลยว่าสำหรับพิซซ่าก็ค่อนข้างอันตรายนะครับ
00:13:51 → 00:13:54 เพราะฉะนั้นนานๆ กินที ไม่ได้ห้ามกิน
00:13:54 → 00:13:56 แต่ว่าสักเดือนหนึ่งก็กินสักครั้งหนึ่ง
00:13:56 → 00:13:58 ก็จะทำให้ชีวิตท่านปลอดภัยขึ้นครับ
00:13:59 → 00:14:06 ผมก็ขอสรุปอาหาร 11 ชนิดที่ยิ่งทานยิ่งหิว
00:14:06 → 00:14:09 อันดับแรกก็คือ White bread หรือขนมปังขาวนั่นเอง
00:14:09 → 00:14:11 ยิ่งทานยิ่งหิวครับ
00:14:11 → 00:14:14 หรืออาจจะเปรียบเทียบกับพวกข้าวขาว
00:14:14 → 00:14:17 ข้าวขัดสีอันนี้ยิ่งทานก็ยิ่งหิว
00:14:17 → 00:14:19 ถ้าท่านอยากควบคุมน้ำหนัก
00:14:19 → 00:14:24 ขนมปังที่เป็นโฮลวีทหรือว่าข้าวกล้อง
00:14:24 → 00:14:27 ข้าวไรซ์เบอรี่เป็นทางออกที่ดีกว่า
00:14:27 → 00:14:29 แล้วก็ทำให้น้ำตาลของท่านไม่สวิง
00:14:29 → 00:14:32 คงที่อยู่เป็นระยะเวลาที่นานกว่านะครับ
00:14:32 → 00:14:34 ทำให้หิวช้ากว่าด้วย
00:14:34 → 00:14:37 ต่อมาอย่างที่ 2 น้ำผลไม้
00:14:37 → 00:14:40 โดยเฉพาะน้ำผลไม้ที่มีการเติมน้ำตาลเพิ่ม
00:14:40 → 00:14:43 ยิ่งกินยิ่งหิว น้ำตาลสวิงมาก
00:14:43 → 00:14:45 ถ้าท่านอยากทานผลไม้ อยากได้วิตามิน
00:14:45 → 00:14:49 แนะนำผลไม้เป็นชิ้นมากกว่า
00:14:49 → 00:14:52 มากกว่าที่จะทานผลไม้ที่เป็นน้ำผลไม้
00:14:52 → 00:14:54 แต่ถ้าจะทานน้ำผลไม้ไม่ได้ห้าม
00:14:54 → 00:14:57 วันหนึ่งไม่ควรเกิน 1 แก้วครับ
00:14:57 → 00:14:59 และถ้าอยากจะทานน้ำผลไม้จริงๆ
00:14:59 → 00:15:02 แนะนำเป็นสมูทตี้ปั่นนะครับ
00:15:02 → 00:15:05 เอาผลไม้มาปั่นไม่ต้องแยกกากเลย
00:15:05 → 00:15:09 อาจจะเติมโยเกิร์ต อาจจะเติมโปรตีนพาวเดอร์
00:15:09 → 00:15:11 เพื่อให้มีโปรตีนเสริมทำให้เราอิ่มนาน
00:15:11 → 00:15:13 นี่ก็คือเทคนิคการทานน้ำผลไม้ครับ
00:15:14 → 00:15:18 อาหารชนิดที่ 3 Salty snacks
00:15:18 → 00:15:21 พวกกรุบกรอบ โปเตโต้ชีสเค็มๆ
00:15:21 → 00:15:25 ยิ่งทานยิ่งหิว ยิ่งกระหายน้ำ ยิ่งอ้วนนะครับ
00:15:25 → 00:15:27 ต่อมาอันที่ 4 Fastfood
00:15:27 → 00:15:30 Fastfood อันตรายมากมีคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ดีสูง
00:15:30 → 00:15:33 เกลือมาก ยิ่งทานก็ยิ่งหิวครับ
00:15:33 → 00:15:36 อันดับที่ 5 แอลกอฮอล์
00:15:36 → 00:15:38 ถ้าท่านดื่มมากเกิน 3 แก้ว
00:15:38 → 00:15:42 จะยับยั้งฮอร์โมนแลคตินทำงานได้น้อยลงถึง 30%
00:15:42 → 00:15:44 30% ซึ่งเป็นฮอร์โมนควบคุมความหิวครับ
00:15:44 → 00:15:48 เพราะฉะนั้นยิ่งกินท่านยิ่งกินเยอะมากขึ้นกว่าเดิม
00:15:48 → 00:15:50 แล้วตัวแอลกฮอล์ก็มีแคลอรี่สูงด้วย
00:15:50 → 00:15:53 เพราะฉะนั้นอ้วนกระจายพุงพุ้ยกันเลยทีเดียว
00:15:53 → 00:15:55 อย่างที่ 6 คือพาสต้านะครับ
00:15:55 → 00:15:58 ก็คือพวกเส้นสปาเก็ตตี้ เส้นเฟตตูชินี่
00:15:58 → 00:16:03 ที่ขัดสีต่างๆ ก็คือเส้นสีขาวๆ สวยๆ
00:16:03 → 00:16:04 ยิ่งทานยิ่งหิว
00:16:04 → 00:16:08 แถมองค์ประกอบของมันมีทั้งเนย นม ชีส
00:16:08 → 00:16:12 Processed food ต่างๆ ทั้งแฮม ไส้กรอก
00:16:12 → 00:16:15 ก็ทำให้สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่
00:16:16 → 00:16:19 และอย่างที่ 7 Monosodium glutamate หรือผงชูรส
00:16:19 → 00:16:21 ก็ทำให้ท่านทั้งคอแห้ง ทั้งหิวบ่อย
00:16:21 → 00:16:25 และข้อที่ 8 ซูชิโรว คล้ายๆ จะเป็นอาหารสุขภาพ
00:16:25 → 00:16:28 แต่จริงๆ ไม่ใช่มีคาร์โบไฮเดรตสูงมากครับ
00:16:28 → 00:16:29 ซูชิโรวก็คือซูชิโรว
00:16:29 → 00:16:32 ไม่ใช่ปลาดิบครับ ต่างกันครับ
00:16:32 → 00:16:36 และต่อมาข้อที่ 9 น้ำตาลเทียม
00:16:36 → 00:16:39 หรือว่าเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลเทียม
00:16:39 → 00:16:40 แคลอรี่ 0% นี่แหละครับ
00:16:40 → 00:16:44 แต่ว่ามันหลอกร่างกายของเราให้รับทราบเป็นรสหวาน
00:16:44 → 00:16:46 เราจะอยากอาหารหวานมากยิ่งขึ้น
00:16:46 → 00:16:49 เพราะว่าอินซูลินเลเวลในร่างกายของเรา
00:16:49 → 00:16:51 มีการขึ้นลงอย่างรวดเร็วนะครับ
00:16:51 → 00:16:56 ต่อมาอาหารข้อที่ 10 Kids Cereal หรือซีเรียลของเด็ก
00:16:56 → 00:16:59 ซีเรียลของเด็กมีน้ำตาลสูงมาก
00:16:59 → 00:17:01 แล้วก็ไฟเบอร์ไม่ได้เยอะมากมายอะไรนะครับ
00:17:02 → 00:17:05 ก็จะทำให้ท่านยิ่งทานยิ่งหิวแล้วก็ยิ่งอ้วนด้วย
00:17:05 → 00:17:09 และอันสุดท้ายโหดสุดๆ ก็คือ พิซซ่า
00:17:09 → 00:17:14 ตัวพิซซ่ามีทั้งแป้งที่ขัดสีอย่างดีเลย
00:17:14 → 00:17:19 มีทั้งน้ำมัน มีทั้งชีส มีทั้งแฮม มีทั้งไส้กรอก
00:17:19 → 00:17:24 ก็ทำให้อินซูลินในร่างกายขึ้นลงพึ่บพั่บๆ
00:17:24 → 00:17:25 เรายิ่งทานยิ่งหิวนะครับ
00:17:25 → 00:17:27 แล้วพิซซ่าเราไม่เคยหยุดแค่ชิ้นเดียว
00:17:27 → 00:17:29 แถมยังต้องสั่งอย่างอื่นเพิ่มเติม
00:17:29 → 00:17:31 ถ้าอยากทานพิซซ่าจริงๆ แนะนำอย่างนี้ครับ
00:17:31 → 00:17:33 ใช้แป้งโฮลวีททำ
00:17:33 → 00:17:35 เนื้อก็ไม่ต้องผ่านการแปลรูป
00:17:35 → 00:17:39 เพราะฉะนั้นอาจจะต้องทำเองถ้าอยากทาน
00:17:39 → 00:17:44 ใส่ผักเข้าไปเยอะๆ หรือว่าใส่ชีสให้ลดลงหน่อย
00:17:44 → 00:17:46 รวมทั้งทาซอสที่มีน้ำตาลไม่มากนัก
00:17:46 → 00:17:48 หรืออาจจะใช้มะเขือเทศสดนะครับ
00:17:48 → 00:17:51 ซึ่งจะทำให้พิซซ่าของท่านเป็นพิซซ่าที่สุดยอด
00:17:51 → 00:17:53 และนี่คือ 11 อาหารที่ยิ่งทานยิ่งหิว
00:17:53 → 00:17:56 ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกๆ คน
00:17:56 → 00:17:58 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share
00:17:58 → 00:18:00 กด Subscribe และกดกระดิ่งครับ
00:18:00 → 00:18:01 ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
00:00:00 → 00:00:03 อาหาร 11 ชนิดที่ยิ่งทานยิ่งหิว
00:00:03 → 00:00:05 ยิ่งหิวท่านก็ยิ่งอ้วน
00:00:05 → 00:00:06 ลดความอ้วนกันไม่ได้สักที
00:00:06 → 00:00:09 ลองมาดูกันครับว่าอาหาร 11 อย่าง
00:00:09 → 00:00:11 ที่ไม่ผอมสักที ไม่หุ่นดีสักที
00:00:11 → 00:00:13 มันมีอะไรบ้างครับ
00:00:20 → 00:00:22 สวัสดีครับ ผมหมอท๊อปนะครับ
00:00:22 → 00:00:24 และนี่คือ DOCTOR TOP Channel
00:00:24 → 00:00:27 รายการสุขภาพที่ทั้งสนุกและมีสาระครับ
00:00:28 → 00:00:30 วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง
00:00:30 → 00:00:33 อาหาร 11 ชนิด ยิ่งทานยิ่งหิวครับ
00:00:33 → 00:00:35 และยิ่งหิวท่านก็ยิ่งอ้วน
00:00:35 → 00:00:37 ลดความอ้วนกันไม่ได้สักที
00:00:37 → 00:00:38 ลองมาดูกันครับว่า
00:00:38 → 00:00:42 อาหาร 11 อย่างที่ทำให้ท่านไม่ผอมสักที ไม่หุ่นดีสักที
00:00:42 → 00:00:44 มันมีอะไรบ้างครับ
00:00:44 → 00:00:46 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share
00:00:46 → 00:00:48 กด Subscribe และกดกระดิ่งนะครับ
00:00:48 → 00:00:49 ขอบคุณครับ
00:00:49 → 00:00:52 ก่อนที่เราจะไปต่อกันครับ
00:00:52 → 00:00:55 ผู้ใดเร่งรีบมีเวลาน้อย
00:00:55 → 00:00:58 ไปที่ 3 นาทีสุดท้ายเลยจะมีสรุปให้
00:00:58 → 00:01:00 มีเวลาค่อยกลับมาดูนะครับ
00:01:00 → 00:01:02 ลงรายละเอียดกัน เรามีสรุปไว้ให้เรียบร้อยนะครับ
00:01:02 → 00:01:07 เรามาเริ่มที่อาหารชนิดที่ 1 ที่ยิ่งกินยิ่งหิว
00:01:07 → 00:01:12 ก็คือ White bread หรือขนมปังขาวนั่นเอง
00:01:12 → 00:01:16 ขนมปังขาวหรือว่าข้าวสวย ข้าวขาว
00:01:16 → 00:01:20 ข้ามหอมมะลิของเราที่สวยใสหอมกรุ่นน่าทาน
00:01:20 → 00:01:22 คือต้องมีงี้ครับ ขนมปังที่ขัดสี
00:01:22 → 00:01:26 มันจะทำให้เกิดการ Spiking ของอินซูลินครับ
00:01:26 → 00:01:29 ก็คือพอเรากินอินซูลินเข้าไป อินซูลินจะหลั่งเลย
00:01:29 → 00:01:34 เพราะว่าอาหารที่ขัดสีพวกข้าวหรือขนมปัง
00:01:34 → 00:01:36 มีน้ำตาลที่แบบสูงมาก
00:01:36 → 00:01:38 แล้วก็กินเข้าไปอินซูลินหลั่งมาเลย
00:01:38 → 00:01:41 ปื้ดพุ่งขึ้น แต่ว่าลดลงอย่างรวดเร็ว
00:01:41 → 00:01:42 การ Spiking ของอินซูลิน
00:01:42 → 00:01:46 จะยิ่งมีผลทำให้เรามีอาการหิวมากขึ้น
00:01:46 → 00:01:48 ก็คือว่าอิ่มไปแป๊บเดียว แป๊บเดียวหิวและ
00:01:48 → 00:01:50 อิ่มไปแป๊บเดียว แป๊บเดียวหิวอีกและ
00:01:50 → 00:01:53 อันนี้ก็คือปัญหาของการ Spiking ของอินซูลิน
00:01:53 → 00:01:56 แล้วก็ยิ่งจะทำให้ยิ่งกินก็ยิ่งอ้วน
00:01:56 → 00:01:58 อันนี้อันตรายๆ มากเลยก็ต้องบอกว่า
00:01:58 → 00:02:02 มีวิจัยในผู้คนทั่วไป ไม่ใช่ผู้ป่วยอะ
00:02:02 → 00:02:05 มีวิจัยในคนประมาณ 9,000 คน ที่ทานขนมปังขาว
00:02:05 → 00:02:07 หรือว่าพวกแป้งขัดสีนะครับ
00:02:07 → 00:02:11 2 แผ่นต่อวัน นานเป็นระยะเวลา 5 ปี
00:02:11 → 00:02:13 เทียบกับคนที่ไม่ได้ทานนะครับ
00:02:13 → 00:02:19 มีโอกาสอ้วนมากกว่าถึง 40%
00:02:19 → 00:02:21 โอ้โห อ้วนกระจายนะครับ
00:02:21 → 00:02:24 อันนี้ก็ลองดูกันว่าถ้าท่านอยากลดความอ้วน
00:02:24 → 00:02:29 ผมว่าขนมปังที่ไม่ขัดสีหรือว่าพวกข้าวที่ไม่ขัดสี
00:02:29 → 00:02:32 เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอรี่
00:02:32 → 00:02:36 หรือว่าขนมปังโฮลวีทน่าจะเป็นทางออกที่ดี
00:02:37 → 00:02:41 มาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 2 ที่ยิ่งทานยิ่งหิว
00:02:41 → 00:02:45 อาหารชนิดที่ 2 ก็คือ น้ำผลไม้
00:02:45 → 00:02:48 โอ้โห น้ำผลไม้มันเป็นอาหารสุขภาพไม่ใช่เหรอ
00:02:48 → 00:02:49 แต่ไม่ใช่ครับ
00:02:49 → 00:02:51 น้ำผลไม้ถามว่ามีประโยชน์ไหม
00:02:51 → 00:02:54 ต้องตอบว่ามี แต่ถ้าท่านกินมากเกินไป
00:02:55 → 00:02:56 ก็มีโทษนะครับผม
00:02:56 → 00:02:58 ถามว่าเพราะว่าไรก็ต้องบอกว่า
00:02:58 → 00:03:02 น้ำผลไม้จริงๆ แล้วมันก็จัดอยู่ในกลุ่ม Healthy Drinks
00:03:02 → 00:03:04 ก็คือน้ำดื่มสุขภาพนั่นเอง
00:03:04 → 00:03:09 เพียงแต่ว่ามันเป็น Healthy Drinks ที่มันมีน้ำตาลสูงมากๆ
00:03:09 → 00:03:12 และน้ำตาลจากน้ำผลไม้
00:03:12 → 00:03:16 มันจะต่างจากน้ำตาลที่มาจากผลไม้เพียวๆ
00:03:16 → 00:03:19 เพราะต้องบอกว่าน้ำตาลที่อยู่ในน้ำผลไม้
00:03:19 → 00:03:22 ที่เราซื้อทานเป็นขวดเป็นกระป๋อง
00:03:22 → 00:03:25 มักจะใส่น้ำตาลอย่างอื่นเพิ่มมา
00:03:25 → 00:03:27 ไม่ใช่น้ำตาลที่มาจากน้ำผลไม้เพียวๆ
00:03:27 → 00:03:30 เพราะฉะนั้นจะมีความหวานมากกว่าปกติ
00:03:30 → 00:03:33 คือถามว่าทานได้ไหม ทานได้ครับ
00:03:33 → 00:03:39 แต่ว่าแนะนำว่าวันละไม่เกิน 1 แก้วหรือประมาณ 200cc
00:03:39 → 00:03:43 จะได้ประโยชน์ที่ดีแล้วก็ไม่อ้วน
00:03:43 → 00:03:45 หรือว่าไม่มีน้ำตาลสูงจนเกินไป
00:03:45 → 00:03:49 ก็ต้องบอกว่าน้ำผลไม้กับผมไม้ต่างกัน
00:03:49 → 00:03:51 เพราะว่าน้ำผลไม้ต้องบอกตามตรงว่า
00:03:51 → 00:03:54 โดยเฉพาะน้ำผลไม้ที่แยกกากออกไป
00:03:54 → 00:03:58 มีใยอาหารต่ำมากๆ บางทีไม่มีเลยนะครับ
00:03:58 → 00:04:02 ซึ่งใยอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญ ทำให้เราอิ่มนาน
00:04:02 → 00:04:05 ทำให้เราดูดซึมแคลอรี่น้อยลงแล้วก็ผอม
00:04:05 → 00:04:07 แล้วก็ทำให้เรามีการขับถ่ายที่ดี
00:04:08 → 00:04:10 ซึ่งใยอาหารสำคัญมากๆ
00:04:10 → 00:04:13 แล้วก็น้ำตาลที่ใส่ลงไปในพวกน้ำผลไม้
00:04:13 → 00:04:16 ก็มักทำให้อินซูลินมันขึ้นเร็วลงเร็ว
00:04:16 → 00:04:18 ก็คือเป็น Spiking ของอินซูลินเลเวล
00:04:18 → 00:04:21 ก็ทำให้เราหิวเร็วอันนี้ก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นคือ
00:04:21 → 00:04:23 พอกินไปแล้วแก้วหนึ่งยังไม่รู้สึกอิ่มเลย
00:04:23 → 00:04:24 ไปกินใหม่
00:04:24 → 00:04:26 กินไปแล้วแก้วหนึ่งยังไม่รู้สึกอิ่มเลย
00:04:26 → 00:04:28 ไปกินอย่างอื่นต่ออันนี้อันตรายมากๆ
00:04:29 → 00:04:32 ถ้าสมมุติอยากจะทานจริงๆ ผมมีเทคนิคแนะนำก็คือว่า
00:04:32 → 00:04:37 ให้เป็นสมูทตี้ปั่นผลไม้สด ไม่แยกกาก
00:04:37 → 00:04:42 หรือว่าจะผสมกับโยเกิร์ต ผสมกับโปรตีนพาวเดอร์
00:04:42 → 00:04:45 ซึ่งโยเกิร์ตกับโปรตีนพาวเดอร์จะให้โปรตีน
00:04:45 → 00:04:48 แล้วกลุ่มพวกนี้จะทำให้อินซูลินไม่ค่อย Spiking ครับ
00:04:48 → 00:04:51 และนี่คืออาหารอย่างที่ 2 ที่ยิ่งทานยิ่งหิวครับ
00:04:51 → 00:04:52 น้ำผลไม้
00:04:54 → 00:04:59 มาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 3 ที่ยิ่งทานแล้วยิ่งท่านหิว
00:04:59 → 00:05:03 ก็คือ Salty snacks หรืออาหารว่างที่มีรสเค็มๆ
00:05:03 → 00:05:05 ไม่พ้นมันฝรั่งอบกรอบครับ
00:05:05 → 00:05:07 หวาน มัน กรุบกรอบ อร่อยครับ
00:05:07 → 00:05:10 หรือว่าเป็นป๊อปคอร์นก็สุดยอดใช่ไหมครับ
00:05:10 → 00:05:15 คือต้องบอกว่าอาหารที่เป็นอาหารว่างกรุบกรอบและมีรสเค็ม
00:05:15 → 00:05:18 มี 2 ส่วนที่ทำให้ท่านอ้วนๆ สุด แล้วหิวบ่อยสุดๆ ก็คือ
00:05:18 → 00:05:21 1. ตัวขนมหรือตัวสแน็คเอง
00:05:21 → 00:05:23 มันทั้งกรอบ ทั้งมัน ทั้งเค็มนะครับ
00:05:23 → 00:05:28 มันหยุดไม่ได้ 3 คำไม่เคยพอต้องหมดถุงเท่านั้น
00:05:28 → 00:05:29 คือต้องบอกว่า
00:05:30 → 00:05:34 สแน็คหรืออาหารว่างพวกนี้มันถูกย่อยได้เร็ว
00:05:34 → 00:05:37 เป็นพวกเขาเรียก Simple Carbohydrates
00:05:37 → 00:05:40 ก็จะทำให้อิซูลินพุ่งขึ้นสูงแล้วก็ลงเร็ว
00:05:40 → 00:05:44 เมื่อไหร่ก็ตามที่ได้ยินผมพูดว่าอิซูลินพุ่งขึ้นสูง
00:05:44 → 00:05:46 มันจะเป็นอาหารที่หิว ทำให้ผิวง่าย
00:05:46 → 00:05:49 แล้วก็ทำให้อ้วนง่ายนะครับ
00:05:49 → 00:05:53 สาเหตุที่ 2 ที่ทำให้อ้วนสุดๆ สำหรับ Salty snacks ก็คือว่า
00:05:53 → 00:05:58 หลังจากทานท่านมักจะมีอาการโหยหาอาหารหวานตามมา
00:05:58 → 00:06:01 ให้ลองสังเกตเวลากินสแน็คปุ๊บ
00:06:01 → 00:06:06 แหม่ มันอยากจะเป๊ปซี่สักนิด โค้กสักหน่อย หรือว่าน้ำผลไม้
00:06:06 → 00:06:08 หรืออะไรน้ำหวานๆ สักนิด
00:06:08 → 00:06:11 มันจะเป็นอย่างนั้นเพราะว่าต่อมรับรสที่เรารับรสเค็มไป
00:06:11 → 00:06:13 มันส่งสัญญาณไปที่สมองของเราครับ
00:06:13 → 00:06:15 ทำให้เรารู้สึกอยากอาหารหวาน
00:06:15 → 00:06:18 ซึ่งมันมีกลไกซับซ้อนเราก็คงไม่ต้องไปรู้มันนะ
00:06:18 → 00:06:21 แต่ว่ามันทำให้เราอยากอาหารวาน ซึ่งมันไม่ดีไง
00:06:21 → 00:06:23 อารมณ์ว่าเรามีประมาณ 2 กระเพาะ
00:06:23 → 00:06:27 คือกระเพาะแรกเต็มไปด้วยขนมคบเขี้ยวที่มีรสเค็ม
00:06:27 → 00:06:31 แต่กระเพาะอาหารสำหรับกินของหวานยังว่างอยู่เลย
00:06:31 → 00:06:33 แล้วเราก็กินเข้าไปเต็มที่อย่างนี้ครับ
00:06:33 → 00:06:37 ไม่มีวันผอมนะครับ โหดร้ายมากสำหรับ Salty snacks
00:06:37 → 00:06:39 หรืออาหารว่างรสเค็มครับ
00:06:39 → 00:06:42 มาต่อกันที่อย่างที่ 4 ครับ
00:06:42 → 00:06:43 Fastfood
00:06:43 → 00:06:47 อาหารจานด่วนหรือที่เราเรียกว่า Junk food
00:06:47 → 00:06:51 เพราะว่าอาหารกลุ่มพวกนี้มา Trans Fats สูงมากๆ
00:06:51 → 00:06:54 แล้ว Trans Fats มีผลต่อระบบทางเดินอาหาร
00:06:54 → 00:06:57 ทำให้เกิด Inflammation หรือการอักเสบนั่นเองครับ
00:06:58 → 00:07:01 ทำให้ร่างกายส่งผลทำให้ไม่สามารถ
00:07:01 → 00:07:04 ควบคุมฮอร์โมนโดพามีน ซีโรโทนินได้
00:07:04 → 00:07:05 เกิดอะไรขึ้นครับ
00:07:05 → 00:07:09 ผลที่ตามมาคือไม่สามารถควบคุมความอยากอาหารได้
00:07:09 → 00:07:11 โอ้โห ยิ่งกินยิ่งหิวครับ
00:07:11 → 00:07:16 ก็ต้องบอกว่า Fastfood แล้วก็ขนมหวานหรือเค้ก
00:07:16 → 00:07:19 มักจะมาคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับ
00:07:19 → 00:07:21 ซึ่งทำให้อินซูลิน Spiking อีกแล้วครับ
00:07:21 → 00:07:23 ก็พวกนี้ยิ่งทำให้หิวเร็วใช่ไหมครับ
00:07:24 → 00:07:25 และยังไม่พอครับ
00:07:25 → 00:07:29 อาหาร Fastfood มักจะมีเกลือค่อนข้างมาก
00:07:29 → 00:07:32 หรือว่าเป็นพวกอาหารที่เป็น Processed food
00:07:32 → 00:07:35 ไส้กรอกหรือว่าแฮม มันก็มีรสเค็มด้วยนะครับ
00:07:35 → 00:07:39 ก็ทำให้หิวน้ำ พอเราหิวน้ำก็กินน้ำครับ
00:07:40 → 00:07:42 น้ำที่ขายกับ Fastfood ก็น้ำอัดลมครับ
00:07:43 → 00:07:44 ซัดกันเข้าไปเต็มที่ครับ
00:07:44 → 00:07:47 ยิ่งกินยิ่งอ้วนนั่นคืออาหารอย่างที่ 4
00:07:47 → 00:07:48 Fastfood ครับ
00:07:48 → 00:07:52 มาต่อกันที่อาหารอย่างที่ 5 นั่นก็คือ แอลกอฮอล์
00:07:52 → 00:07:57 แอลกอฮอล์บอกเลยว่าถ้าเมื่อไหร่ท่านดื่มมากกว่า 3 แก้ว
00:07:57 → 00:08:00 จะทำให้ฮอร์โมนแลคติน
00:08:00 → 00:08:02 ซึ่งเป็นฮอร์โมนควบคุมความหิว
00:08:03 → 00:08:05 มีประสิทธิภาพลดลงถึง 30%
00:08:05 → 00:08:07 แอลกอฮอล์ยิ่งทานมาก
00:08:07 → 00:08:11 ทำให้ร่างกายยิ่งอยากทานคาร์โบไฮเดรตมากยิ่งขึ้น
00:08:11 → 00:08:14 ท่านปกติทานแอลกอฮอล์ก็คงไม่ทานเปล่าๆ ใช่ไหมครับ
00:08:14 → 00:08:17 ก็ต้องมีกับแกล้ม กรุบกรอบ เค็มๆ
00:08:17 → 00:08:21 มันยิ่งคุยยิ่งสนุก ยิ่งเมามันนะครับ
00:08:21 → 00:08:23 กับแกล้มเค็มก็เค็มมาก
00:08:23 → 00:08:25 เพราะฉะนั้นดื่มแอลกอฮอล์แก้เค็มเข้าไปอีก
00:08:25 → 00:08:27 วนเวียนเป็นวัฏจักรไม่จบสิ้นนะครับ
00:08:27 → 00:08:31 ยิ่งกินยิ่งมัน ยิ่งมันยิ่งอ้วน ยิ่งอ้วนยิ่งเครียด
00:08:31 → 00:08:33 อันนี้ก็คือปัญหาของแอลกอฮอล์นะครับ
00:08:33 → 00:08:36 แล้วก็ตื่นเข้าไม่ไหวด้วย เพลียไปหมด
00:08:36 → 00:08:40 มาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 6 ก็คือ พาสต้า
00:08:41 → 00:08:44 ก็ต้องบอกว่าพาสต้ามันก็เหมือนพวกข้าวขัดสี
00:08:44 → 00:08:46 ข้าวขาวหรือว่าขนมปังขาว
00:08:46 → 00:08:48 ซึ่งกลุ่มพาสต้าก็ต้องบอกว่า
00:08:49 → 00:08:51 มีทั้งแบบขัดสีแล้วก็ไม่ขัดสี
00:08:51 → 00:08:54 เพราะฉะนั้นถ้าจะทานก็แนะนำให้ทานแบบไม่ขัดสี
00:08:54 → 00:08:56 ถ้าทานแบบขัดสีมันก็จะเหมือน
00:08:56 → 00:09:00 อารมณ์เราทานขนมปังขาวหรือว่าข้าวขาวนั่นเอง
00:09:00 → 00:09:02 แล้วก็พาสต้ามักจะผัดมากับเนย
00:09:02 → 00:09:05 มักจะผัดมากับ Processed food แฮมต่างๆ
00:09:05 → 00:09:07 ก็ยิ่งทำให้อ้วนเข้าไปใหญ่ครับ
00:09:07 → 00:09:12 และนี่คืออาหารอย่างที่ 6 ที่ยิ่งทานยิ่งหิวครับผม
00:09:12 → 00:09:15 มาต่อกันที่อาหารอย่างที่ 7
00:09:15 → 00:09:19 Monosodium glutamate หรือผงชูรส
00:09:19 → 00:09:21 ผงชูรสคือมีการวิจัยว่า
00:09:21 → 00:09:23 กลุ่มที่ทานอาหารใส่ผงชูรสเป็นประจำ
00:09:23 → 00:09:26 เทียบกับกลุ่มที่ทานอาหารที่ไม่ใส่ผงชูรส
00:09:26 → 00:09:30 พบว่ากลุ่มแรกอ้วนกว่าถึง 3 เท่า
00:09:30 → 00:09:31 3 เท่า!!!!
00:09:31 → 00:09:33 โอ้โห ไม่ธรรมดานะครับ
00:09:33 → 00:09:37 แล้วยังพบว่า Monosodium glutamate หรือผงชูรส
00:09:37 → 00:09:41 มีผลต่อฮอร์โมนแลคตินที่ควบคุมความหิวของเรา
00:09:41 → 00:09:43 ทำให้มันทำงานได้ไม่ดีนะครับ
00:09:43 → 00:09:46 เพราะฉะนั้นเราจึงมีความอยากอาหารมากยิ่งขึ้น
00:09:46 → 00:09:48 ถามว่าทานได้ไหม ทานได้ครับ
00:09:48 → 00:09:50 แต่ว่าอย่าเยอะเกินไป
00:09:50 → 00:09:53 สามารถมีประโยชน์กับผู้ป่วยที่ไม่อยากอาหาร
00:09:53 → 00:09:54 ก็โอเค
00:09:54 → 00:09:56 แต่ว่าถ้าเราอยากลดความอ้วน
00:09:56 → 00:09:58 ก็ต้องเพลาๆ ลงหน่อยนะครับ
00:09:58 → 00:10:00 แล้วบางทีกินแล้วยิ่งหิวกระหายน้ำด้วยนะครับ
00:10:00 → 00:10:05 อันนี้ก็มีปัญหาหลากหลายอย่างตามมาสำหรับผงชูรส
00:10:05 → 00:10:07 แล้วบางท่านก็ทานแล้วปวดหัวด้วยครับ
00:10:07 → 00:10:09 อันนี้ถ้าใครทานแล้วปวดหัวแนะนำให้งด
00:10:09 → 00:10:11 สำหรับผงชูรสนะครับ
00:10:11 → 00:10:13 มาต่อกันที่อาหารอย่างที่ 8 ครับ
00:10:13 → 00:10:16 อาหารอย่างที่ 8 ก็คือ ซูชิโรว
00:10:17 → 00:10:20 มันต้องสุขภาพดิ มันเป็นปลาดิบ
00:10:20 → 00:10:23 เราก็ต้องบอกงี้ว่าปลาดิบก็คือปลาดิบ
00:10:23 → 00:10:26 ซูชิโรวมันก็คือซูชิโรว
00:10:26 → 00:10:28 มันไม่ใช่ปลาดิบเพราะอะไรครับ
00:10:28 → 00:10:31 เพราะซูชิโรวประกอบด้วยข้าว
00:10:31 → 00:10:35 ผมว่าสัก 60-70% มีปลาอยู่จิ๊ดนึง
00:10:35 → 00:10:36 มีปลาอยู่หน่อยนึงนะครับ
00:10:36 → 00:10:39 แถมไม่พอบางที่ใส่มายองเนส
00:10:39 → 00:10:40 ใส่นู่นใส่นี่นะครับ
00:10:40 → 00:10:42 โอ้โห ยิ่งกินยิ่งอ้วนนะครับ
00:10:42 → 00:10:44 คือต้องบอกว่าข้าวเยอะมากๆ
00:10:44 → 00:10:47 เพราะฉะนั้นแคลิฟอร์เนียโรลบอกว่า
00:10:47 → 00:10:52 ในโรลอันหนึ่งมีคาร์โบไฮเดรตถึง 30 กรัม
00:10:52 → 00:10:56 ซึ่ง 30 กรัม เท่ากับขนมปังขาว 3 แผ่น
00:10:56 → 00:10:57 3 แผ่น!!!
00:10:59 → 00:11:01 สุดโหดครับ สำหรับแคลิฟอร์เนียโรล
00:11:01 → 00:11:04 เพราะฉะนั้นก็อย่าพลาดสำหรับเรื่องของซูชิโรว
00:11:05 → 00:11:06 มันไม่ใช่อาหารสุขภาพนะครับ
00:11:06 → 00:11:09 มันเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง
00:11:10 → 00:11:12 มาต่อกันที่อาหารอย่างที่ 9
00:11:12 → 00:11:17 ก็คือ Artificial sweeteners หรือพวกสารให้ความหวาน
00:11:17 → 00:11:22 ซึ่งมีแคลอรี่ต่ำก็จริงหรือบางทีแคลอรี่ศูนย์เลยด้วยซ้ำ
00:11:22 → 00:11:27 เพียงแต่ว่าตัวมันจะกระตุ้นให้หลอดสมองเรา
00:11:27 → 00:11:32 ว่ามันหวานอะ อินซูลินก็พุ่งขึ้นแล้วก็ลง
00:11:32 → 00:11:34 มันจึงทำให้เราอยากอาหารอย่างอื่นตามมา
00:11:34 → 00:11:37 พอเรากินปุ๊บแทนที่เราจะอิ่ม
00:11:37 → 00:11:39 เราก็ไปอยากกินอย่างอื่น
00:11:39 → 00:11:40 มันก็ยิ่งอ้วนเข้าไปใหญ่
00:11:40 → 00:11:43 แล้วทำให้เราติดหวานด้วยว่ากินอะไรก็ต้องหวานไปหมด
00:11:43 → 00:11:47 ซึ่งมีโอกาสอ้วนมากกว่าไม่อ้วนครับ
00:11:47 → 00:11:50 เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ก็แนะนำให้ทานเป็นน้ำเปล่า
00:11:50 → 00:11:55 หรือว่าจะเป็นชาเขียวเย็น ชาอู่งหลง
00:11:55 → 00:11:57 หรืออะไรที่ไม่ใส่น้ำตาลก็จะดีกว่าครับ
00:11:57 → 00:11:59 และนี่ก็คืออาหารอย่างที่ 9 ครับ
00:11:59 → 00:12:01 น้ำตาลเทียม
00:12:02 → 00:12:04 มาต่อกันที่อาหารอย่างที่ 10 ครับ
00:12:05 → 00:12:09 Kids Cereal ก็คือซีเรียลของเด็กๆ นั่นเอง
00:12:09 → 00:12:12 ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วซีเรียลเป็นอาหารที่ดี
00:12:12 → 00:12:13 เป็นอาหารเช้าที่โอเคเลย
00:12:13 → 00:12:15 เพียงแต่ว่าถ้าเป็น Kids Cereal
00:12:15 → 00:12:20 จะเห็นว่าสีสันมันสวยงามแถมรสหวานอร่อย
00:12:20 → 00:12:22 เพราะว่าเด็กชอบทานเค้าก็เลยทำออกมา
00:12:23 → 00:12:26 เพียงแต่ว่าไอ่สีสันที่สวยงามมันเกิดจากการย้อมสี
00:12:26 → 00:12:30 ซึ่งตัวซีเรียลมันทำมาจากพวกแป้งที่มันขัดสีแล้ว
00:12:30 → 00:12:33 ก็คือออกแนวพวกข้าวขาวหรือขนมปังขาวนี่แหละ
00:12:33 → 00:12:35 และยังไม่พอ มีน้ำตาลมาเคลือบอีก
00:12:35 → 00:12:40 เพระาฉะนั้นทำให้ Blood sugar หรือว่าน้ำตาลในเลือด
00:12:40 → 00:12:43 สวิงไปสวิงมา อินซูลิน Spiking อีกแล้วครับ
00:12:43 → 00:12:46 หิวอีกแล้ว เวียนหัวอีกแล้ว อยากทานอีกแล้วครับ
00:12:46 → 00:12:48 ยิ่งกินยิ่งอ้วน ยิ่งอ้วนยิ่งหิว
00:12:48 → 00:12:50 มันไปกันใหญ่วนเวียนนะครับ
00:12:50 → 00:12:52 เพราะฉะนั้นถ้าอยากทานซีเรียลผมแนะนำว่า
00:12:53 → 00:12:56 แนะนำให้กินแบบเขาเรียกว่า โฮลเกรน ซีเรียล
00:12:56 → 00:12:58 หรือซีเรียลที่มีไฟเบอร์สูง
00:12:58 → 00:13:01 ดูข้างกล่องได้ว่าสำหรับการเสิร์ฟ 1 ครั้ง
00:13:01 → 00:13:03 แนะนำให้ไฟเบอร์มากกว่า 5 กรัม
00:13:04 → 00:13:08 และน้ำตาลน้อยกว่า 5 กรัมต่อการทาน 1 ครั้ง
00:13:08 → 00:13:10 และนี่ก็คือเทคนิคการทานซีเรียลครับ
00:13:10 → 00:13:13 มาต่อกันที่อาหารอย่างที่ 11 ครับ
00:13:13 → 00:13:16 ผมว่าอาหารนี้ทุกท่านคุ้นเคย
00:13:16 → 00:13:17 พิซซ่าครับ
00:13:17 → 00:13:20 พิซซ่ายิ่งกินยิ่งหิวครับ
00:13:20 → 00:13:22 เพราะอะไร คุณก็รู้ครับว่า
00:13:22 → 00:13:25 พิซซ่าชิ้นเดียวไม่เคยพอครับ
00:13:25 → 00:13:26 มีใครกินพิซซ่าชิ้นเดียว
00:13:26 → 00:13:28 โอ้โห น้อยมากผมบอกเลย
00:13:28 → 00:13:31 ต้องมีชิ้นที่ 2 ชิ้นที่ 3 ตามด้วยมีไก่ทอดบ้าง
00:13:31 → 00:13:34 เป๊ปซี่บ้าง สปาเก็ตตี้บ้างจัดเต็มนะครับ
00:13:34 → 00:13:38 ก็ต้องบอกว่าพิซซ่าประกอบด้วยแป้งขัดสี
00:13:38 → 00:13:40 ซึ่งแบบหนักอะ
00:13:40 → 00:13:44 แล้วก็มีน้ำมันมีชีส มี Processed meat ต่างๆ
00:13:44 → 00:13:47 ซึ่งทำให้อินซูลินพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วมาก
00:13:47 → 00:13:51 ก็ต้องบอกเลยว่าสำหรับพิซซ่าก็ค่อนข้างอันตรายนะครับ
00:13:51 → 00:13:54 เพราะฉะนั้นนานๆ กินที ไม่ได้ห้ามกิน
00:13:54 → 00:13:56 แต่ว่าสักเดือนหนึ่งก็กินสักครั้งหนึ่ง
00:13:56 → 00:13:58 ก็จะทำให้ชีวิตท่านปลอดภัยขึ้นครับ
00:13:59 → 00:14:06 ผมก็ขอสรุปอาหาร 11 ชนิดที่ยิ่งทานยิ่งหิว
00:14:06 → 00:14:09 อันดับแรกก็คือ White bread หรือขนมปังขาวนั่นเอง
00:14:09 → 00:14:11 ยิ่งทานยิ่งหิวครับ
00:14:11 → 00:14:14 หรืออาจจะเปรียบเทียบกับพวกข้าวขาว
00:14:14 → 00:14:17 ข้าวขัดสีอันนี้ยิ่งทานก็ยิ่งหิว
00:14:17 → 00:14:19 ถ้าท่านอยากควบคุมน้ำหนัก
00:14:19 → 00:14:24 ขนมปังที่เป็นโฮลวีทหรือว่าข้าวกล้อง
00:14:24 → 00:14:27 ข้าวไรซ์เบอรี่เป็นทางออกที่ดีกว่า
00:14:27 → 00:14:29 แล้วก็ทำให้น้ำตาลของท่านไม่สวิง
00:14:29 → 00:14:32 คงที่อยู่เป็นระยะเวลาที่นานกว่านะครับ
00:14:32 → 00:14:34 ทำให้หิวช้ากว่าด้วย
00:14:34 → 00:14:37 ต่อมาอย่างที่ 2 น้ำผลไม้
00:14:37 → 00:14:40 โดยเฉพาะน้ำผลไม้ที่มีการเติมน้ำตาลเพิ่ม
00:14:40 → 00:14:43 ยิ่งกินยิ่งหิว น้ำตาลสวิงมาก
00:14:43 → 00:14:45 ถ้าท่านอยากทานผลไม้ อยากได้วิตามิน
00:14:45 → 00:14:49 แนะนำผลไม้เป็นชิ้นมากกว่า
00:14:49 → 00:14:52 มากกว่าที่จะทานผลไม้ที่เป็นน้ำผลไม้
00:14:52 → 00:14:54 แต่ถ้าจะทานน้ำผลไม้ไม่ได้ห้าม
00:14:54 → 00:14:57 วันหนึ่งไม่ควรเกิน 1 แก้วครับ
00:14:57 → 00:14:59 และถ้าอยากจะทานน้ำผลไม้จริงๆ
00:14:59 → 00:15:02 แนะนำเป็นสมูทตี้ปั่นนะครับ
00:15:02 → 00:15:05 เอาผลไม้มาปั่นไม่ต้องแยกกากเลย
00:15:05 → 00:15:09 อาจจะเติมโยเกิร์ต อาจจะเติมโปรตีนพาวเดอร์
00:15:09 → 00:15:11 เพื่อให้มีโปรตีนเสริมทำให้เราอิ่มนาน
00:15:11 → 00:15:13 นี่ก็คือเทคนิคการทานน้ำผลไม้ครับ
00:15:14 → 00:15:18 อาหารชนิดที่ 3 Salty snacks
00:15:18 → 00:15:21 พวกกรุบกรอบ โปเตโต้ชีสเค็มๆ
00:15:21 → 00:15:25 ยิ่งทานยิ่งหิว ยิ่งกระหายน้ำ ยิ่งอ้วนนะครับ
00:15:25 → 00:15:27 ต่อมาอันที่ 4 Fastfood
00:15:27 → 00:15:30 Fastfood อันตรายมากมีคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ดีสูง
00:15:30 → 00:15:33 เกลือมาก ยิ่งทานก็ยิ่งหิวครับ
00:15:33 → 00:15:36 อันดับที่ 5 แอลกอฮอล์
00:15:36 → 00:15:38 ถ้าท่านดื่มมากเกิน 3 แก้ว
00:15:38 → 00:15:42 จะยับยั้งฮอร์โมนแลคตินทำงานได้น้อยลงถึง 30%
00:15:42 → 00:15:44 30% ซึ่งเป็นฮอร์โมนควบคุมความหิวครับ
00:15:44 → 00:15:48 เพราะฉะนั้นยิ่งกินท่านยิ่งกินเยอะมากขึ้นกว่าเดิม
00:15:48 → 00:15:50 แล้วตัวแอลกฮอล์ก็มีแคลอรี่สูงด้วย
00:15:50 → 00:15:53 เพราะฉะนั้นอ้วนกระจายพุงพุ้ยกันเลยทีเดียว
00:15:53 → 00:15:55 อย่างที่ 6 คือพาสต้านะครับ
00:15:55 → 00:15:58 ก็คือพวกเส้นสปาเก็ตตี้ เส้นเฟตตูชินี่
00:15:58 → 00:16:03 ที่ขัดสีต่างๆ ก็คือเส้นสีขาวๆ สวยๆ
00:16:03 → 00:16:04 ยิ่งทานยิ่งหิว
00:16:04 → 00:16:08 แถมองค์ประกอบของมันมีทั้งเนย นม ชีส
00:16:08 → 00:16:12 Processed food ต่างๆ ทั้งแฮม ไส้กรอก
00:16:12 → 00:16:15 ก็ทำให้สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่
00:16:16 → 00:16:19 และอย่างที่ 7 Monosodium glutamate หรือผงชูรส
00:16:19 → 00:16:21 ก็ทำให้ท่านทั้งคอแห้ง ทั้งหิวบ่อย
00:16:21 → 00:16:25 และข้อที่ 8 ซูชิโรว คล้ายๆ จะเป็นอาหารสุขภาพ
00:16:25 → 00:16:28 แต่จริงๆ ไม่ใช่มีคาร์โบไฮเดรตสูงมากครับ
00:16:28 → 00:16:29 ซูชิโรวก็คือซูชิโรว
00:16:29 → 00:16:32 ไม่ใช่ปลาดิบครับ ต่างกันครับ
00:16:32 → 00:16:36 และต่อมาข้อที่ 9 น้ำตาลเทียม
00:16:36 → 00:16:39 หรือว่าเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลเทียม
00:16:39 → 00:16:40 แคลอรี่ 0% นี่แหละครับ
00:16:40 → 00:16:44 แต่ว่ามันหลอกร่างกายของเราให้รับทราบเป็นรสหวาน
00:16:44 → 00:16:46 เราจะอยากอาหารหวานมากยิ่งขึ้น
00:16:46 → 00:16:49 เพราะว่าอินซูลินเลเวลในร่างกายของเรา
00:16:49 → 00:16:51 มีการขึ้นลงอย่างรวดเร็วนะครับ
00:16:51 → 00:16:56 ต่อมาอาหารข้อที่ 10 Kids Cereal หรือซีเรียลของเด็ก
00:16:56 → 00:16:59 ซีเรียลของเด็กมีน้ำตาลสูงมาก
00:16:59 → 00:17:01 แล้วก็ไฟเบอร์ไม่ได้เยอะมากมายอะไรนะครับ
00:17:02 → 00:17:05 ก็จะทำให้ท่านยิ่งทานยิ่งหิวแล้วก็ยิ่งอ้วนด้วย
00:17:05 → 00:17:09 และอันสุดท้ายโหดสุดๆ ก็คือ พิซซ่า
00:17:09 → 00:17:14 ตัวพิซซ่ามีทั้งแป้งที่ขัดสีอย่างดีเลย
00:17:14 → 00:17:19 มีทั้งน้ำมัน มีทั้งชีส มีทั้งแฮม มีทั้งไส้กรอก
00:17:19 → 00:17:24 ก็ทำให้อินซูลินในร่างกายขึ้นลงพึ่บพั่บๆ
00:17:24 → 00:17:25 เรายิ่งทานยิ่งหิวนะครับ
00:17:25 → 00:17:27 แล้วพิซซ่าเราไม่เคยหยุดแค่ชิ้นเดียว
00:17:27 → 00:17:29 แถมยังต้องสั่งอย่างอื่นเพิ่มเติม
00:17:29 → 00:17:31 ถ้าอยากทานพิซซ่าจริงๆ แนะนำอย่างนี้ครับ
00:17:31 → 00:17:33 ใช้แป้งโฮลวีททำ
00:17:33 → 00:17:35 เนื้อก็ไม่ต้องผ่านการแปลรูป
00:17:35 → 00:17:39 เพราะฉะนั้นอาจจะต้องทำเองถ้าอยากทาน
00:17:39 → 00:17:44 ใส่ผักเข้าไปเยอะๆ หรือว่าใส่ชีสให้ลดลงหน่อย
00:17:44 → 00:17:46 รวมทั้งทาซอสที่มีน้ำตาลไม่มากนัก
00:17:46 → 00:17:48 หรืออาจจะใช้มะเขือเทศสดนะครับ
00:17:48 → 00:17:51 ซึ่งจะทำให้พิซซ่าของท่านเป็นพิซซ่าที่สุดยอด
00:17:51 → 00:17:53 และนี่คือ 11 อาหารที่ยิ่งทานยิ่งหิว
00:17:53 → 00:17:56 ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกๆ คน
00:17:56 → 00:17:58 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share
00:17:58 → 00:18:00 กด Subscribe และกดกระดิ่งครับ
00:18:00 → 00:18:01 ขอบคุณครับ สวัสดีครับ