00:00:01 → 00:00:06 กินสิ่งนี้ทุกวันอันตรายกว่าน้ำตาลคนส่วน
00:00:06 → 00:00:09 ใหญ่นะมักจะคิดว่าน้ำตาลเนี่ยอันตรายสุด
00:00:10 → 00:00:12 และถ้าไม่อยากอ้วนไม่อยากเป็นเบาหวานไม่
00:00:12 → 00:00:17 อยากเป็นความดันไขมันหัวใจให้ลดละเลิกน้ำ
00:00:17 → 00:00:23 ตาลแต่คุณอย่าลืมนะว่าน้ำตาลเนี่ยก็คือ
00:00:23 → 00:00:25 คาร์โบไฮเดรตประเภทหนึ่งซึ่งหมอเฟิร์นไม่
00:00:25 → 00:00:27 ได้บอกว่าคาร์โบไฮเดรตไม่ดีนะ
00:00:28 → 00:00:30 คาร์โบไฮเดรตคือสารอาหารที่ร่างกาย
00:00:30 → 00:00:34 ต้องการก็จริงแต่คาร์โบไฮเดรตเค้ามีทั้ง
00:00:34 → 00:00:38 คาร์โบไฮเดรตที่ดีและคาร์โบไฮเดรตที่ไม่
00:00:38 → 00:00:41 ดีที่ต้องระวังเลยนะคุณดูภาพตรงนี้ขึ้น
00:00:41 → 00:00:46 เลยก็คือคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ดีตรงนี้
00:00:46 → 00:00:49 คาร์โบไฮเดรตที่ดีก็คือตามภาพเลยผักผลไม้
00:00:49 → 00:00:50 ก็มี
00:00:50 → 00:00:52 คาร์โบไฮเดรตหรือผักผลไม้ที่มี
00:00:52 → 00:00:55 คาร์โบไฮเดรตเยอะหน่อยก็คือผักประเภทหัว
00:00:55 → 00:00:57 เนาะมันข้าวโพดอะไรพวกเนี้ยก็มี
00:00:57 → 00:01:00 คาร์โบไฮเดรตส่วนคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ดีที่
00:01:00 → 00:01:04 คุณต้องระวังก็คือจากพวกขนมกรุบกรอบ
00:01:04 → 00:01:07 แครกเกอร์พลาสต้าเส้นสปาเกตตี้เบเกอรี่
00:01:08 → 00:01:11 วัฟเฟิลแพนเค้กซีเรียลหรือว่าอาหารแปรรูป
00:01:12 → 00:01:16 ต่างๆที่เขา้าทำมาจากแป้งขัดสีต่างๆแล้ว
00:01:16 → 00:01:20 ประเด็นคืออะไรรู้มั้ยเค้ามักจะเขียนใน
00:01:20 → 00:01:23 ฉลากหลอกคุณ
00:01:23 → 00:01:27 ว่าอาหารหรือสินค้าประเภทเนี้ยไม่มีน้ำ
00:01:27 → 00:01:32 ตาลแต่ถ้าไปดูดีๆนะคาร์โบไฮเดรตสูงมากๆ
00:01:32 → 00:01:35 สังเกตง่ายๆให้ทิกเลยตั้งแต่เปิดไลฟ์เลย
00:01:35 → 00:01:39 สังเกตง่ายๆนะคาร์โบไฮเดรตถ้าคุณไปดูฉลาก
00:01:39 → 00:01:43 คาร์โบไฮเดรตเยอะหรือสูงมากๆใยอาหารน้อย
00:01:43 → 00:01:47 แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าน้ำตาลสูงหรือไม่มี
00:01:47 → 00:01:49 น้ำตาลอีกซึ่งคาร์โบไฮเดรตก็คือน้ำตาล
00:01:49 → 00:01:53 นั่นแหละหรืออีกอย่างหนึ่งที่เห็นชัดเจน
00:01:53 → 00:01:57 เลยก็คือแป้งที่มันเป็นผงในรูปแบบผงมา
00:01:57 → 00:02:02 แล้วละเอียดเลยถือว่าอาหารสิ่งนี้ถือว่า
00:02:02 → 00:02:06 ผ่านการแปลรูปมาเยอะมากๆเพราะคุณไม่
00:02:06 → 00:02:08 สามารถตอบได้เลยถ้าเอาแป้งมาอยู่ตรงหน้า
00:02:08 → 00:02:10 เนี่ยคุณตอบไม่ได้เลยว่ามันคือแป้งอะไร
00:02:10 → 00:02:14 แป้งข้าวโพดแป้งแป้งมันฝรั่งแป้งข้าวชนิด
00:02:14 → 00:02:16 ใดนอกจากว่าคุณจะเป็นผู้เชี่ยวชาญใน
00:02:16 → 00:02:18 เรื่องนั้นนะแต่เอาที่คนปกติทั่วไปเห็น
00:02:18 → 00:02:21 แป้งเนี่ยแยกแทบไม่ออกว่ามันมาจากแหล่ง
00:02:21 → 00:02:26 อาหารใดซึ่งแป้งเราเนี่ยไม่มีวันแตกต่าง
00:02:26 → 00:02:30 สิ้นเชิงไม่มีทางที่จะเหมือนอาหารจริงที่
00:02:30 → 00:02:33 เราบริโภคกันหรือพูดง่ายๆคุณสามารถใช้คำ
00:02:33 → 00:02:34 นี้ก็ได้
00:02:34 → 00:02:39 นะคุณจะเรียกว่าแป้งสังเคราะห์ก็ได้เพราะ
00:02:39 → 00:02:44 สิ่งเแหละคือตัวที่มีผลต่อน้ำตาลในเลือด
00:02:44 → 00:02:48 ของคุณอย่างมากมันจะไปเพิ่มระดับน้ำตาลใน
00:02:48 → 00:02:51 เลือดให้ขึ้นสูงเยอะกว่าการที่คุณไปกิน
00:02:51 → 00:02:54 น้ำตาลโดยตรงอีกนะการกินแป้งที่ขัดสีมา
00:02:54 → 00:02:57 เยอะเป็นโงๆเนี่ยที่มันแฟแฝงมากับพวก
00:02:57 → 00:03:00 เนี้ยเบเกอรี่ทั้งหลายขนมทั้งหลายเนี่ย
00:03:00 → 00:03:05 สูงไม่พอเร็วด้วยนะคุณซึ่งอันตรายมากถ้า
00:03:05 → 00:03:08 คุณบริโภคสิ่งเหล่านี้ทุกวันพวกขนมปัง
00:03:08 → 00:03:10 เบเกอรี่ต่างๆเป็นอาหารเช้าอย่างเงี้ย
00:03:10 → 00:03:14 ยิ่งอันตรายเลยมื้อเช้าเนี่ยช่วงแรกอ่ะ
00:03:14 → 00:03:16 หลายคนอาจจะเถียงว่าก็กินอย่างี้มาทั้ง
00:03:16 → 00:03:19 ชีวิตแล้วตอนเด็กก็กินฝรั่งเขาก็กินกัน
00:03:19 → 00:03:22 ไม่เห็นเป็นไรเลยคุณฟังตรงนี้ก่อนช่วงแรก
00:03:22 → 00:03:25 ที่คุณเป็นวัยรุ่นหรือตอนที่คุณเป็นเด็ก
00:03:25 → 00:03:29 เนี่ยร่างกายกายจะยังรับมือได้ระดับหนึ่ง
00:03:29 → 00:03:31 ก็พูดง่ายๆตอนเด็กเนี่ยเรามีกิจกรรมเยอะ
00:03:32 → 00:03:33 เราชอบวิ่งเล่นไปเล่นกับเพื่อนบ้างอะไร
00:03:33 → 00:03:36 อย่างเงี้ยการที่คุณบริโภคแป้งเยอะเข้าไป
00:03:36 → 00:03:39 เยอะๆกินขนมปังอะไรอย่างเงี้ยกินเข้าไป
00:03:39 → 00:03:42 มันจะถูกเผ่าผลาญไปเป็นพลังงานที่คุณเอา
00:03:42 → 00:03:45 ไปเล่นกับเพื่อนเอาไปใช้ไปทำกิจกรรมแต่
00:03:45 → 00:03:48 ถ้าเมื่อไหร่ที่นิสัยนี้มันติดตัวตั้งแต่
00:03:48 → 00:03:50 เด็กจนถึงอายุปัจจุบันไม่ว่าคุณจะอายุ
00:03:50 → 00:03:53 เท่าไหร่ในตอนนี้ 40 50 60 อ่ะลองสำรวจ
00:03:53 → 00:03:56 ซิว่าคนที่ฟังหมอเฟิร์นอยู่ตอนเนี้ย
00:03:56 → 00:04:00 ส่วนใหญ่แล้วอายุเท่าไหร่อ่ามอเฟิร์นก็
00:04:00 → 00:04:03 เกือบ 30 แล้วน้อยอีกปีหน้าปีไหนไม่อยาก
00:04:03 → 00:04:07 พูดเลยแล้วคุณเนี่ยอายุเท่าไหร่พิมพ์มา
00:04:07 → 00:04:09 ได้เลยว่าคุณอายุเท่าไหร่แล้วตอนนี้แล้ว
00:04:09 → 00:04:13 ยังบริโภคแป้งข้าวขาวน้ำตาลอะไรเหมือน
00:04:14 → 00:04:18 เดิมหรือไม่พอถึงปัญหามันก็คือพอเราติด
00:04:18 → 00:04:21 นิสัยที่เราคิดว่าเราก็กินมาตลอดตั้งแต่
00:04:21 → 00:04:23 เด็กไม่เห็นเป็นไรเลยแต่พออายุของเรา
00:04:23 → 00:04:27 เปลี่ยนเราอายุเพิ่มขึ้นเราดันบริโภคแป้ง
00:04:27 → 00:04:30 เหล่านั้นเท่าเดิมหรือบางคนอัปเกรดมาก
00:04:30 → 00:04:33 กว่าเดิมด้วยซ้ำพลังงานก็ใช้น้อยกิจกรรม
00:04:33 → 00:04:35 ต่อวันก็น้อยไม่เหมือนตอนเด็กแล้วที่ต้อง
00:04:35 → 00:04:39 ไปเล่นของเล่นไปวิ่งเล่นต่างๆเนาะสุดท้าย
00:04:39 → 00:04:42 ไอ้พวกนี้นี่แหละที่มันเข้าสู่ร่างกาย
00:04:42 → 00:04:44 แป้งที่เข้าสู่ร่างกายก็จะเปลี่ยนไปเป็น
00:04:44 → 00:04:47 ไขมันสะสมเพราะว่ามันใช้ไปเป็นพลังงานไม่
00:04:47 → 00:04:50 หมดไงร่างกายก็มีกลไกว่าเก็บงั้นเก็บเป็น
00:04:50 → 00:04:53 ไขมันเผื่อฉุกเฉินแล้วะกันอ่าร่างกายเรา
00:04:53 → 00:04:55 ยังโบราณอยู่ที่ต้องเก็บไว้เผื่อแบบอด
00:04:55 → 00:04:57 มื้อกินมื้อเหมือนสมัยก่อนเนาะแต่
00:04:57 → 00:05:01 ปัจจุบันคือสั่งแอป Line Man Grab ก็
00:05:01 → 00:05:04 ได้กินแล้วแต่ตอนเนี้ยเราต้องเปลี่ยนตาม
00:05:04 → 00:05:07 ด้วยไม่ใช่ปล่อยให้มันเป็นเหมือนอดีตที่
00:05:07 → 00:05:10 เก็บใครมันสะสมไว้ซึ่งเราไม่มีภาวะ
00:05:10 → 00:05:13 ฉุกเฉินแล้วแทบไม่มีเลยอ่าสำหรับคุณนิยั
00:05:13 → 00:05:17 บอก 63 ปีอ่าเห็นมั้ยแต่ละคนเนี่ยก็ 50
00:05:17 → 00:05:21 60 70 บวกหมอเฟิร์นรู้ว่าแต่ละคนที่ฟัง
00:05:21 → 00:05:24 หมอเฟิร์ก็มีอายุระดับหนึ่งแล้วอ่าแต่ว่า
00:05:24 → 00:05:28 รักสุขภาพไงเห็นมยว่าเราอายุเพิ่มขึ้นเรา
00:05:28 → 00:05:31 ไม่จำเป็นต้องบริโภคเท่าเดิมเสมอไปคุณ
00:05:31 → 00:05:34 ต้องเปลี่ยนความคิดความเชื่อนี้ก่อนเนาะ
00:05:34 → 00:05:39 ซึ่งพอเรามีไขมันไปสะสมเยอะๆเยอะๆเนี่ยนะ
00:05:39 → 00:05:44 เดี๋มาเฟิร์นขึ้นรูปให้สิ่งอวัยวะแรกที่
00:05:44 → 00:05:47 เขาจะไปสะสมเลยนะก็หนีไม่พ้นตรงไหนรู้
00:05:47 → 00:05:51 มั้ยให้ทายก็คืออวัยวะที่ชื่อว่าตับนั่น
00:05:51 → 00:05:54 เองเนี่ย 1 ในอาหารก็คือแป้งไม่ว่าคุณจะ
00:05:54 → 00:05:58 กินฟาสฟู้ดกินอะไรเนี่ยแฝงมาด้วยน้ำตาล
00:05:58 → 00:06:00 แฝงที่ไม่ได้อยู่ในรูปน้ำตาลโดยตรงหรือ
00:06:01 → 00:06:04 ว่าน้ำตาลตรงๆก็ด้วยแต่หลักๆวันนี้ก็คือ
00:06:04 → 00:06:06 ทอปิที่อันตรายกว่าน้ำตาลก็คือพวกแป้งขัด
00:06:06 → 00:06:10 สีเยอะๆเนาะมันก็ไปสะสมอยู่ที่ตับอวัยวะ
00:06:10 → 00:06:15 แรกแล้วพอสะสมเยอะๆเซลล์ที่มันเป็นเซลล์
00:06:15 → 00:06:19 ปกตินะโดนไขมันมาเบียดมาอยู่ด้วยเยอะๆคุณ
00:06:19 → 00:06:22 คิดว่าเซลล์ของคุณจะทำงานเหมือนเดิมมยคำ
00:06:22 → 00:06:26 ตอบก็คือไม่พอมันโดนเบียดเบียนฟังก์ชัน
00:06:26 → 00:06:30 การทำงานทั้งหลายก็ผิดปกติส่งผลให้เกิด
00:06:30 → 00:06:34 ภาวะเหล่านี้อย่างเช่นดื้อต่ออินซูลินและ
00:06:34 → 00:06:40 ไขมันใหม่ๆที่ตับมันพอกตับจนจนมันไม่ไหว
00:06:40 → 00:06:43 แล้วอ่ะตับไม่ไหวแล้วอ่ะอวัยวะถัดๆไปที่
00:06:43 → 00:06:47 จะโดนแพร่กระจายไปนะตับก่อนใช่มั้ยไปตับ
00:06:47 → 00:06:50 อ่อนก็ส่งผลต่ออินซูลินก็ไปดื้ออินซูลิน
00:06:50 → 00:06:52 ละเสี่ยงเป็นเบาหวานอีกถัดไปก็คือตาม
00:06:52 → 00:06:56 อวัยวะต่างๆโดยเฉพาะช่องท้องหรือพุงของ
00:06:56 → 00:06:58 คุณนั่นเองช่องท้องหรือพุงของคุณถ้าคุณ
00:06:58 → 00:07:02 เห็นแล้วคุณจะตกใจรูปนี้ดูสิ
00:07:02 → 00:07:06 ว่ามันเยอะแค่ไหนสังเกตง่ายๆว่าคุณมีไข
00:07:06 → 00:07:09 มันพอกตับหรือยังหรือว่ามีไขมันเยอะแค่
00:07:09 → 00:07:13 ไหนคุณลองลุกขึ้นยืนแล้วก้มหน้ามองลงไป
00:07:13 → 00:07:16 ว่าคุณยังเห็นเท้าของคุณหรือว่าคุณเห็น
00:07:16 → 00:07:19 พุงพิมพ์ตอบมาได้เลยว่าคุณเห็นพุงหรือ
00:07:19 → 00:07:22 เห็นเท้าอ่ะใครเห็นพุงก็พิมพ์ว่าพุงใคร
00:07:22 → 00:07:25 เห็นเท้าก็พิมพ์ว่าเท้าอ่ะสำรวจกันหน่อย
00:07:25 → 00:07:27 ว่าคุณเห็นอะไรเวลาที่ตัวเองยืนตรงแล้ว
00:07:28 → 00:07:31 ก้มหน้าลงเห็นพุงหรือเห็นเท้ามาก่อนกัน
00:07:31 → 00:07:34 ก่อนอื่นเลยนะไม่ไม่ใช่เรื่องน่าอายนะคน
00:07:34 → 00:07:37 ที่กล้าที่จะยอมรับตัวเองว่าตัวเองเห็น
00:07:37 → 00:07:41 พุงเนี่ยหมอเฟิร์นยอมรับนับถือมากๆที่คุณ
00:07:41 → 00:07:44 ยอมรับว่าสิ่งเนี้ยมันคือของจริงมันคือ
00:07:44 → 00:07:48 เรื่องจริงเพราะตราบใดที่คุณยังหลอกตัว
00:07:48 → 00:07:51 เองหรือว่าไม่กล้ายอมรับอนาคตจะไม่มีอะไร
00:07:51 → 00:07:55 เปลี่ยนเพราะสิ่งแรกข้อแรกของคนที่จะ
00:07:55 → 00:07:59 เปลี่ยนแปลงก็คือการยอมรับความจริงว่าฉัน
00:07:59 → 00:08:02 เป็นแบบนี้นะโอเคแล้วเราถึงจะรู้ไงว่า
00:08:02 → 00:08:05 ปัญหามันคือตรงนี้แล้วเราก็แก้ได้ถูกจุด
00:08:05 → 00:08:09 ไม่ใช่บอกว่าไม่อ่ะยังไม่เป็นก็พยายามดู
00:08:09 → 00:08:12 พยายามดูว่าแบบมันยังเห็นอยู่นี่หรือว่า
00:08:12 → 00:08:14 ยื่นเท้ามาอัน
00:08:14 → 00:08:18 นี้ไม่รู้จะพูดยังไงเนาะแต่ว่าชมไว้ก่อน
00:08:18 → 00:08:20 เลยว่าถ้าคนที่พิมพ์ว่าพุงมาเนี่ยคือคุณ
00:08:21 → 00:08:24 กล้าหาญมากๆที่ยอมรับเนี่ยเห็นมั้ยมีคน
00:08:24 → 00:08:26 พิมพ์ว่าพุงแล้วเยี่ยมมากๆเลยค่ะเนี่ย
00:08:26 → 00:08:29 ขั้นแรกของการเปลี่ยนแปลงก็คือการยอมรับ
00:08:29 → 00:08:32 เนาะแล้วเราค่อยมาหาเอ๊ะว่ามีวิธีแก้มั้ย
00:08:32 → 00:08:36 เพราะว่าพอเรารู้ปัญหาแล้วแน่นอนว่าทาง
00:08:36 → 00:08:40 แก้ไขมันมีแน่นอนอ่าถ้าตอนเนี้ยอย่างที่
00:08:40 → 00:08:44 บอกว่าถ้าคุณมีไขมันในช่องท้องแล้วก็เท่า
00:08:44 → 00:08:48 กับว่ามีไขมันที่ตับเช่นเดียวกันหรือไข
00:08:48 → 00:08:51 มันพอกตับเริ่มเยอะแล้วเนาะเพราะว่าไม่มี
00:08:51 → 00:08:54 ทางที่มันจะไปที่ท้องก่อนตับมันที่ตับ
00:08:54 → 00:08:57 เต็มแล้วแหละเต็มที่แล้วมันเลยขยายไปที่
00:08:57 → 00:09:01 ส่วนอื่นๆโดยเฉพาะช่องท้องแล้วพอตักมีไข
00:09:01 → 00:09:04 มันเยอะๆเนี่ยแน่นอนว่าอินซูลินของเราทำ
00:09:04 → 00:09:08 งานไม่มีทางเหมือนเดิมอีกต่อไปและพอ
00:09:08 → 00:09:11 อินซูลินทำงานไม่เหมือนเดิมอินซูลินคือ
00:09:11 → 00:09:14 ฮอร์โมนตัวหนึ่งที่สำคัญนะพูดคร่าวๆก่อน
00:09:14 → 00:09:17 อธิบายสั้นๆว่าเป็นฮอร์โมนที่ช่วยนำส่ง
00:09:17 → 00:09:20 น้ำตาลเข้าสู่เซลล์ทำให้เรามีพลังงานแต่
00:09:20 → 00:09:22 พออินซูลินทำงานผิดปกติมีภาวะดื้อต่อ
00:09:22 → 00:09:25 อินซูลินน้ำตาลที่เราบริโภคไปไม่ว่าจะ
00:09:25 → 00:09:27 คาร์โบไฮเดรตที่เปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลหรือ
00:09:27 → 00:09:30 น้ำตาลตรงๆก็แล้วแต่เถอะมันจะนำส่งเข้า
00:09:30 → 00:09:32 สู่เซลล์ไม่ดีทำให้กินเท่าไหร่เนี่ยก็ไม่
00:09:32 → 00:09:35 พอก็รู้สึกว่ายังหิวอยู่ยังเหนื่อยยังไม่
00:09:35 → 00:09:39 มีแรงผลสุดท้ายมันก็จะเป็นวงจรที่ว่าคุณ
00:09:39 → 00:09:42 ก็จะไปหาเครื่องดื่มชูกำลังไปกินกาแฟเยอะ
00:09:42 → 00:09:45 ๆหลายๆแก้วเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกมี
00:09:45 → 00:09:48 enerรgีมีพลังงานขึ้นมาทั้งๆที่ความจริง
00:09:48 → 00:09:50 แล้วสิ่งที่ต้องไปแก้ไขก็คือข้างข้างใน
00:09:50 → 00:09:53 กลับมาสำรวจว่ามีภาวะเหล่านี้มยแล้วค่อย
00:09:53 → 00:09:56 ไปแก้อย่างดื้ออินซูลินคุณก็แค่กลับมา
00:09:56 → 00:09:58 เปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่หมอเฟิร์น
00:09:58 → 00:10:02 กำลังจะบอกเนาะอ่าเรื่องนี้ก็คือถ้าเป็น
00:10:02 → 00:10:06 ไปเรื่อยๆก็เสี่ยงโรคที่เสี่ยงอันดับแรก
00:10:06 → 00:10:10 เลยนะก็ที่รู้ๆกันก็คือเบาหวานแต่ถ้ายัง
00:10:10 → 00:10:13 เป็นเรื่อยๆควบคุมน้ำตาลไม่ได้ยังกิน
00:10:13 → 00:10:15 เหมือนเดิมก็จะเป็นโรคอื่นๆที่เบาหวานก็
00:10:15 → 00:10:19 จะดึงโรคอื่นมาความดันไขมันหัวใจแล้วก็
00:10:19 → 00:10:21 ถ้าอักเสบบ่อยๆก็เสี่ยงที่จะเป็นมันเรง
00:10:21 → 00:10:24 ได้เหมือนกันแต่วันนี้เรารู้ตัวเร็วเรา
00:10:24 → 00:10:27 ยังปรับทันย้ำนะก่อนที่จะ
00:10:27 → 00:10:31 ไปทอปิถัดไปหมอเฟิร์นขอย้ำตรงนี้ก่อนว่า
00:10:31 → 00:10:33 คาร์โบไฮเดรตหรือแป้งที่หมอเฟิร์นพูดถึง
00:10:33 → 00:10:38 เนี่ยคือแป้งขัดสีที่เป็นผงๆที่มันแปรรูป
00:10:38 → 00:10:41 มาเยอะๆจนไม่สามารถบอกได้ว่าคือแป้งจาก
00:10:41 → 00:10:44 อะไรหรืออยู่ในเบกเกอรี่ที่ไม่ใช่มาจาก
00:10:44 → 00:10:47 แป้งในผักผลไม้นะอันนี้คือข้อยกเว้นเพราะ
00:10:47 → 00:10:50 ว่ามันมีอาหารมาด้วยมันไม่ได้กระทบพบต่อ
00:10:50 → 00:10:53 สุขภาพขนาดนั้นแต่แป้งอันตรายก็คือแป้ง
00:10:53 → 00:10:56 สังเคราะห์แป้งแปรรูปที่บอกไปข้างต้นใคร
00:10:56 → 00:10:59 ที่กำลังเข้าใจผิดเรื่องนี้อยู่เอาแต่
00:10:59 → 00:11:02 กลัวใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นคุณหรือคนใกล้
00:11:02 → 00:11:04 ตัวคนในครอบครัวหรือเพื่อนคุณก็ตามที่
00:11:04 → 00:11:08 เข้าใจผิดอยู่กลัวแต่น้ำตาลแต่ไม่กลัว
00:11:08 → 00:11:12 แป้งที่กินเข้าไปไม่กลัวขนมเบเกอร์ขนมปัง
00:11:12 → 00:11:16 ขนมเค้กไปบอกเขาด่วนเลยหรือแชร์ออกไปให้
00:11:16 → 00:11:19 เขาก็ได้ก่อนที่จะสายตอนนี้ยังทัน
00:11:19 → 00:11:22 เพราะอะไรเพราะคนที่ไม่รู้ก็คือคนที่ไม่
00:11:22 → 00:11:25 รู้จริงๆนะคุณควเพราะความรู้ของเรามีหลาย
00:11:25 → 00:11:30 แบบเนาะการที่เรารู้ในสิ่งที่เรารู้กับ
00:11:30 → 00:11:33 รู้ในสิ่งที่รู้ว่าเราไม่รู้อะไรรู้ว่า
00:11:33 → 00:11:36 เรารู้อะไรหรืออีกที่ประเภทที่น่ากลัวก็
00:11:36 → 00:11:39 คือไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้อะไรเท่านั้นเอง
00:11:39 → 00:11:42 ดังนั้นความรู้เนี่ยสำคัญมากคนที่ไม่รู้
00:11:42 → 00:11:45 ว่ามีน้ำตาลซ่อนในแป้งอ่ะคุณคิดว่ามัน
00:11:45 → 00:11:48 เยอะมั้อ่ะเพราะว่าถ้ามันไม่เยอะมันจะไม่
00:11:48 → 00:11:53 มีโรคเรื้อรังเยอะขนาดนี้วันนี้หมอเฟินก็
00:11:53 → 00:11:56 อยากจะทำหน้าที่ตรงนี้ที่ให้คุณรู้เยอะ
00:11:56 → 00:11:58 ที่สุดคนที่ไม่รู้จะได้รู้แล้วปรับ
00:11:58 → 00:12:01 เปลี่ยนตัวทันเนาะเพราะแป้งเนี่ยสร้าง
00:12:01 → 00:12:05 ความเสียหายยิ่งกว่าน้ำตาลเสียอีกแล้วตอน
00:12:05 → 00:12:07 นี้คุณเข้าใจเรื่องนี้แล้วกังวลละแล้วเรา
00:12:07 → 00:12:10 ต้องทำยังไงต่อไปกลัวจะเป็นเบาหวานแล้วจะ
00:12:10 → 00:12:13 ลดความอ้วนได้มั้ยลดพุงลงได้มั้ยได้วิธี
00:12:13 → 00:12:18 การง่ายมากๆคุณฟังดีๆนะในเมื่อปัญหาหามัน
00:12:18 → 00:12:22 มาจากแป้งมันมาจากข้าวขาวมันมาจากแป้งขัด
00:12:22 → 00:12:26 สีเราก็ต้องไปแก้ตรงนั้นก็คือจำกัด
00:12:26 → 00:12:30 คาร์โบไฮเดรตต่อวันพูดง่ายหรือพูดง่ายๆก็
00:12:30 → 00:12:33 คือการรับประทานอาหารหรือวิธีการกินอาหาร
00:12:33 → 00:12:35 แบบ
00:12:35 → 00:12:38 คีโตเพราะว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราจำกัด
00:12:38 → 00:12:40 คาร์โบไฮเดรตต่อวันให้อยู่ไม่เกิน 50
00:12:40 → 00:12:43 กรัม 50 กรัมประมาณไหนประมาณข้าว 1 ทับพี
00:12:43 → 00:12:46 ต่อวันไม่ควรเกินนั้นหรือขนมปังแค่ครึ่ง
00:12:46 → 00:12:49 ก้อนอะไรแบบเนี้ยจำกัดถ้ามือใหม่ก็อาจจะ
00:12:49 → 00:12:51 กินได้บ้างแต่ว่าไม่ควรเกิน 50 กรัมเนาะ
00:12:51 → 00:12:54 แต่จริงๆแล้วถ้าลดไป
00:12:54 → 00:12:57 เลยลดให้ได้มากที่สุดไปเลยไม่มีเลยยิ่งดี
00:12:57 → 00:13:00 เพราะว่าพอมันเป็นคีโตเพราะว่าพอร่างกาย
00:13:00 → 00:13:04 เข้าสู่สภาวะคีโตเนี่ยก็คือมันจะดึงไขมัน
00:13:04 → 00:13:08 ที่มันสะสมอยู่ในตัวคุณตามอวัยวะต่างๆ
00:13:08 → 00:13:11 อย่างที่บอกไปตรงนี้เนาะมันจะดึงไขมันพวก
00:13:11 → 00:13:15 เนี้ยจากที่ร่างกายในโบราณเค้าเก็บไว้ใช้
00:13:15 → 00:13:18 ในยามฉุกเฉินเค้าก็จะดึงออกมาใช้ในยามเ
00:13:19 → 00:13:21 แหละเราเหมือนแกล้งให้ร่างกายอยู่ในภาวะ
00:13:21 → 00:13:26 ฉุกเฉินไงเพราะว่าทุกวันนี้เราทำให้มัน
00:13:26 → 00:13:29 ไม่ฉุกเราทำให้มันเก็บไปเยอะๆโดยที่ไม่
00:13:29 → 00:13:30 รู้ว่าจะฉุกเฉินเมื่อไหร่แต่ตอนเนี้ยเรา
00:13:30 → 00:13:35 รู้แล้วว่าพอเราทำให้เรากินคีโตเราจำกัด
00:13:35 → 00:13:38 การบริโภคคาร์โบไฮเดรตให้น้อยกว่า 50
00:13:38 → 00:13:40 กรัมหรือ 30 กรัมหรือว่าไม่บริโภค
00:13:40 → 00:13:43 คาร์โบไฮเดรตเลยให้มันอยู่ในประมาณเท่า
00:13:43 → 00:13:46 เนี้ยให้มันอยู่จำกัดให้น้อยที่สุดร่าง
00:13:47 → 00:13:50 กายก็จะดึงไขมันต่างๆเนี่ยออกไปใช้เป็น
00:13:50 → 00:13:53 พลังงานเห็นมั้ยร่างกายเก่งมากแล้วคุณ
00:13:53 → 00:13:55 อยู่ได้คุณไม่ต้องกลัวว่าไม่กินแป้งไม่
00:13:55 → 00:13:58 กินข้าวแล้วคุณจะอยู่ไม่ได้เพราะในอาหาร
00:13:58 → 00:14:01 ก็มีแป้งอยู่แล้วอย่างที่บอกว่าผักผลไม้
00:14:01 → 00:14:04 ก็มีแป้งคีโตคืองดอะไรได้บ้างคุณลองดู
00:14:04 → 00:14:05 ข้าง
00:14:05 → 00:14:08 บนกินได้หมดเลยเห็นมั้ผักผลไม้เนี่ยใช่
00:14:08 → 00:14:10 ว่าจะไม่มีคาร์โบไฮเดรตนะมีแต่มีน้อยแต่
00:14:10 → 00:14:13 สิ่งที่ไม่ควรกินเลยคืออะไรถ้าคุณอยากให้
00:14:13 → 00:14:17 ร่างกายอยู่ในสภาวะคีโตนะไม่ควรกินข้าว
00:14:17 → 00:14:19 ขนมปังอะไรก็ตามที่เป็นคาร์โบไฮเดรตน้ำ
00:14:19 → 00:14:24 ตาลน้ำหวานนมต่างๆคุณลองไล่ดูแต่ว่าพวก
00:14:24 → 00:14:27 ผักผลไม้กินได้หมดเลยอ่าแต่
00:14:27 → 00:14:30 ว่ามันข้าวโพดอะไรเงี้ยขอให้น้อยๆเพราะ
00:14:30 → 00:14:33 ว่ามันก็เป็นพืชประเภทหัวที่ยังมีแป้ง
00:14:33 → 00:14:36 เยอะอยู่เนาะถ้าจะกินแบบให้ลดเร็วๆรดพุง
00:14:36 → 00:14:41 เลยเงี้ยก็ต้องเน้นว่าให้แป้งน้อยๆหน่อย
00:14:41 → 00:14:45 อ่าเห็นมั้ยอ่ะเอางี้แล้วกันถ้ามีคนสนใจ
00:14:45 → 00:14:48 อย่างเงี้ยบอกว่าสนใจลดแต่พุงอย่างเดียว
00:14:48 → 00:14:51 ได้ไหมคะอ่าจริงๆวิธีเนี้ยมันลดได้ทุก
00:14:51 → 00:14:53 ส่วนในร่างกายเลยเนาะแต่ว่าส่วนใหญ่แล้ว
00:14:53 → 00:14:56 พุงเนี่ยมันจะเป็นที่สุดท้ายที่มันจะลด
00:14:56 → 00:14:58 เพราะว่าอย่างที่บอกว่ามันจะไปที่ตับไป
00:14:58 → 00:15:01 เอาไว้ต่างๆแล้วค่อยมาตามช่องท้องพุงก็
00:15:01 → 00:15:06 เลยเป็นที่สุดท้ายเนาะแต่ถ้าลดได้ลดไขมัน
00:15:06 → 00:15:09 ได้กินแบบขีโตได้ยังไงพุงก็ยุบแน่นอนถ้า
00:15:09 → 00:15:11 คุณสนใจเดี๋เฟิร์นจะมาพูดเรื่องนี้บ่อยๆ
00:15:11 → 00:15:13 แล้วก็สอนแบบละเอียดมากขึ้นเนาะให้พิมพ์
00:15:13 → 00:15:17 คำว่าคีโตไว้เลยถ้ามีคนสนใจเยอะๆเดี๋ยว
00:15:17 → 00:15:20 ไลฟ์ครั้งหน้าเดี๋หมอเฟิร์นลงรายละเอียด
00:15:20 → 00:15:23 เรื่องการกินแบบคีโตเนาะพิมพ์ว่าคีโตไว้
00:15:23 → 00:15:27 อ่าแค่คำว่าคีโตแค่นั้นก็พอพิมพ์ย้อนหลัง
00:15:27 → 00:15:30 ก็ได้หมอเฟิร์นอ่านคอมเมนต์ตลอดแล้วเรามา
00:15:30 → 00:15:33 สอนเรื่องคีโตกันคราวหน้าแล้วมันก็จะมีคำ
00:15:33 → 00:15:35 ถาม
00:15:35 → 00:15:40 ว่าแล้วขนมปังโฮวีทล่ะพวกที่มันใส่ธัญพืช
00:15:40 → 00:15:44 มาล่ะแล้วแป้งไม่ขัดสีล่ะได้มั้ยจริงๆถ้า
00:15:44 → 00:15:48 เอาตามความเป็นจริงเลยนะเนื้อในมันคือ
00:15:48 → 00:15:53 อะไรถ้าให้ตอบตรงๆเลยนะถ้ามันยังเป็นแป้ง
00:15:53 → 00:15:58 เซพืชมาโปะเนี่ยมันก็เหมือนแป้งก็คือน้ำ
00:15:58 → 00:16:00 เสียไอ้ธัญพืชทั้งหลายก็คือน้ำดีเหมือน
00:16:00 → 00:16:04 คุณเอาน้ำดีไปเติมใส่น้ำเสียซึ่งสิ่งที่
00:16:04 → 00:16:07 คนเรามนุษย์เราควรจะกินเนี่ยมันควรเป็น
00:16:07 → 00:16:10 อาหารที่ไม่ผ่านกระบวนการใดๆกระบวนการแปร
00:16:10 → 00:16:13 รูปต่างๆคืออาหารจริงที่เห็นตรงหน้าเนี่ย
00:16:13 → 00:16:15 ว่าแอปเปิ้ลเห็นตรงหน้าว่ากล้วยเห็นตรง
00:16:15 → 00:16:19 หน้าว่ามันเห็นตรงหน้าว่าเป็นสิ่งไหนเห็น
00:16:19 → 00:16:22 ชัดเจนบอกได้ว่ามันมาจากที่ไหนมันคืออะไร
00:16:22 → 00:16:25 อันนี้แหละคืออาหารจริงเนื้อก็เนื้อปลา
00:16:25 → 00:16:28 เนื้อสัตว์เนื้อไก่เนื้อหมูเนื้อวัวก็คือ
00:16:28 → 00:16:30 บอกได้หมดเลยอันนี้แหละคืออาหารที่เราควร
00:16:30 → 00:16:33 จะกินในทุกวันไม่ใช่กินอะไรที่เป็นก้อน
00:16:33 → 00:16:36 แล้วก็มีวัตถุมีอะไรก็ไม่รู้ในนี้เต็มไป
00:16:36 → 00:16:39 หมดเลยแป้ง 1 น้ำตาลสารอะไรไม่รู้อยู่ใน
00:16:39 → 00:16:41 เนี้ยอันเนี้ยคืออาหารที่ผ่านการแปรรูปมา
00:16:42 → 00:16:44 เยอะอันนี้คือให้ทิ้งไปให้หลีกเลี่ยงไป
00:16:44 → 00:16:45 เนาะ
00:16:45 → 00:16:48 อ่าเนี่ยแหละไม่ต้องไม่ใช่พยายามหลอกตัว
00:16:48 → 00:16:51 เองว่าอ่ะขนมปังนี้มันมีธัญพืชนะมันดีต่อ
00:16:51 → 00:16:55 หัวใจนะไม่เอาอ่าเราต้องยอมรับตัวเองก่อน
00:16:55 → 00:16:56 ว่า
00:16:56 → 00:17:02 อันเนี้ยมันไม่ใช่สิ่งที่จริงๆเนาะอ่ามี
00:17:02 → 00:17:04 คนพิมพ์คีโตเยอะเลยขอบคุณค่ะเดี๋ยวคราว
00:17:04 → 00:17:07 หน้าได้มาสอนแน่นอนเลยคีโตถ้าจะกินอย่าง
00:17:08 → 00:17:10 ที่บอกถ้าจะกินทำไมคุณไม่กินถั่วทันแนว
00:17:10 → 00:17:13 พืชเลยคุณจะเอามาผสมกับขนมปังทำไมนี่คือ
00:17:13 → 00:17:16 คำถามถามถ้าจะกินดีๆคุณก็กินของจริงไปเลย
00:17:16 → 00:17:20 คุณจะมากินของที่มันแปรนรูปไปเยอะๆทำไม
00:17:20 → 00:17:22 ที่มันมาผสมแป้งทำไมให้มันทำร้ายร่างกาย
00:17:23 → 00:17:26 เราเนาะพอถึงตรงนี้แล้วพอฟังจบไลฟ์นี้หมอ
00:17:26 → 00:17:30 เฟิร์นเชื่อว่ารู้เลยว่าหลายคนกระจ่าง
00:17:30 → 00:17:34 ขึ้นมาแน่เลยว่าทำไมถึงมีพุงทำไมถึงอ้วน
00:17:34 → 00:17:36 ทำไมถึงเป็นเบาหวานบางคนทำไมถึงป่วยทั้งๆ
00:17:36 → 00:17:39 ที่ไม่แตะน้ำตาลหรือกินน้ำตาลน้อยมากๆ
00:17:39 → 00:17:43 เพราะคีย์ก็คือแป้งขัดสีเบเกอรี่ขนมขนม
00:17:44 → 00:17:47 ปังทั้งหลายที่มันแฝงน้ำตาลมันแฝงมาใน
00:17:47 → 00:17:50 นั้นนั่นเองเห็นมั้ยแชร์ออกไปให้คนรู้
00:17:50 → 00:17:52 เยอะๆถ้าคุณชอบลายนี้เนาะแล้วจริงๆหมอ
00:17:52 → 00:17:56 เฟิร์เนี่ยเคยพูดเรื่องเนี้ยไว้หมด
00:17:56 → 00:17:59 แล้วตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วด้วยซ้ำซึ่งคน
00:17:59 → 00:18:02 ที่แต่บางคนน่าจะเพิ่งเคยตามหมอเฟิร์นอาจ
00:18:02 → 00:18:05 จะไม่เคยรู้ว่าหมอเฟิร์นมีหนังสือเสียง
00:18:05 → 00:18:07 เล่มนึงเนาะเป็นหนังสือเสียงที่ฟังผ่าน
00:18:07 → 00:18:08 YouTube Facebook เนี่ยนแหละแต่เป็น
00:18:08 → 00:18:11 ลิงก์ส่วนตัวเป็นหนังสือเสียงที่ชื่อว่า
00:18:11 → 00:18:13 วิชามารหน้าเด็กนี่ไง
00:18:13 → 00:18:15 คุณไม่จำเป็นต้องป่วยและคุณก็ไม่จำเป็น
00:18:16 → 00:18:19 ต้องแก่มันเป็น 17 เคล็ดลับชะลอวัยแบบ
00:18:19 → 00:18:21 ยั่งยืนนะว่าทำยังไงให้มีสุขภาพดีแบบยั่ง
00:18:21 → 00:18:24 ยืนเพราะคุณอย่างที่บอกว่าคุณไม่จำเป็น
00:18:24 → 00:18:26 ต้องป่วยและคุณไม่จำเป็นต้องแก่เพราะถ้า
00:18:26 → 00:18:29 คุณมีสุขภาพดีจากภายในเนี่ยจะบอกว่าการมี
00:18:29 → 00:18:32 หน้าเด็กแบบเนี้ยมันคือของแถมจากภายนอก
00:18:32 → 00:18:35 รายละเอียดเนื้อหาเป็นมีอะไรบ้างอ่ะหมอ
00:18:35 → 00:18:37 เฟิร์นก็จำไม่ค่อยได้เนาะทำไว้ปีที่แล้ว
00:18:37 → 00:18:40 ละเป็นเคล็ดลับที่คุณจะได้ก็คือกฎเหล็ก
00:18:40 → 00:18:43 ของการมีสุขภาพดีแบบยัง
00:18:43 → 00:18:46 ยืนโลกเนี้ยมีแค่ 2 สาเหตุกับ 1 โรคเท่า
00:18:46 → 00:18:50 นั้นก็คือเป็นสิ่งที่หมอเฟิร์นย่อยมาให้
00:18:50 → 00:18:52 เรียบง่ายที่สุดว่า simple ที่สุดว่าทำ
00:18:52 → 00:18:56 ยังไงให้คุณสุขภาพดียั่งยืนแล้วก็ใช้รอ
00:18:56 → 00:18:58 ไว้แบบง่ายๆเนาะเป็นเทคนิคเนี่ย 17 เคบ
00:18:58 → 00:19:01 รัดแล้วก็มีย่อยๆอีกเยอะแยะแถมดนตรี
00:19:01 → 00:19:04 คลาสสิคเข้าไปอีกอ่าถ้าคุณสนใจก็ไปฟังใน
00:19:04 → 00:19:08 เล่มนี้ก็ได้ก็เป็นข้อมูลที่ยังใช้ได้
00:19:08 → 00:19:10 จริงๆมันใช้ได้ตลอดกาลเพราะมันเป็นเบสิค
00:19:10 → 00:19:12 ของการมีสุขภาพ
00:19:12 → 00:19:16 บางคนทุกวันเนี้ยเราทำให้สุขภาพดีเป็น
00:19:16 → 00:19:19 เรื่องยากไปเองจริงๆแล้วมันง่ายมากๆซึ่ง
00:19:19 → 00:19:22 ถ้าใครสนใจก็ฟังในเล่มนี้ได้ฟังซ้ำได้
00:19:22 → 00:19:24 ตลอดชีวิตไม่มีลบมาฟังแบบเนี้ยคือมันเป็น
00:19:24 → 00:19:26 ลิงก์ YouTube ที่เหมือนคุณเข้ามาฟังกว่า
00:19:26 → 00:19:28 เฟิร์นแบบนี้ก็ได้หรือถ้าคุณฟังจาก
00:19:28 → 00:19:30 Facebook ก็เข้าไปในลิงก์ Facebook ส่วน
00:19:30 → 00:19:34 ตัวกลุ่มปิดก็จะฟังได้เลยไม่ลบคลิปคลิป
00:19:34 → 00:19:37 ประมาณ 90 นาทีนี่แหละราคาเท่าไหร่คะราคา
00:19:37 → 00:19:41 ปกติ 5,900 แล้วเนาะเล่มเนี้ย
00:19:41 → 00:19:43 เล่มนี้แต่ถ้าฟังในไลฟ์นี้ยังให้พิเศษ
00:19:43 → 00:19:44 อยู่
00:19:44 → 00:19:48 3,33 แล้วกันหมอเฟิร์นชอบเลขตองเนาะแต่
00:19:48 → 00:19:51 พิเศษกว่าอยากให้คนไทยมีความรู้เรื่องนี้
00:19:51 → 00:19:55 เยอะๆหมอเฟิร์นขอให้ 5 คนแรกที่
00:19:55 → 00:20:00 2,999 บาทแล้วกันอ่ะอยากให้มันเข้าถึงคน
00:20:00 → 00:20:03 เยอะๆแล้วถ้าคุณรู้คีย์แค่ในเล่มเนี้ยคุณ
00:20:03 → 00:20:06 เอาไปใช้ได้ตลอดชีวิตเลยถ้าคุณสนใจก็
00:20:06 → 00:20:09 พิมพ์ว่าหนังสือเสียงแล้วะกันเนาะแล้วก็
00:20:09 → 00:20:11 เดี๋ยวแอดมินส่งลิงก์ให้ลงทะเบียนแล้วก็
00:20:11 → 00:20:15 ไปฟังฟังซ้ำๆให้มันอยู่ในหัวแล้วคุณก็จะ
00:20:15 → 00:20:18 ไม่มีทางทำร้ายตัวเองหรือตกม้าตายใน
00:20:18 → 00:20:21 เรื่องสุขภาพเลยที่ชื่อวิชามาหน้าเด็กไม่
00:20:21 → 00:20:24 ใช่อะไรพอคนมันสุขภาพดีอ่ะจากภายในมันจะ
00:20:24 → 00:20:27 ออกมาภายนอกเองยังไงคุณก็น่าเด็กแล้วมัน
00:20:27 → 00:20:31 มีเคล็ดลับเยอะมากๆในนั้นใครสนใจก็พิมพ์
00:20:31 → 00:20:34 หนังสือเสียงได้เลยเนาะ 5 คนแรกแต่คนที่ 6
00:20:34 → 00:20:38 ขออนุญาต 3,333 เนาะ 5 คนแรกยังได้ 2,900
00:20:38 → 00:20:42 อยู่โอเคโอเคคีโตเยอะมากรอบหน้าเราเจอกัน
00:20:42 → 00:20:46 ค่ะอยากลดพุงนั่นแหละทำแบบคีโตก็ช่วยได้
00:20:46 → 00:20:49 เหมือนกันเพิ่งเข้ามารับฟังค่ะอ่าถ้าชอบ
00:20:49 → 00:20:53 ไลฟ์ในวันนี้ฝากกดไลค์กดแชร์ไปให้เพื่อน
00:20:53 → 00:20:55 หรือคนที่คุณรักเยอะๆหรือคุณฟังซ้ำบ่อยๆ
00:20:55 → 00:20:58 แล้วเอาไปเล่าให้คนที่คุณรักฟังก็ได้เนาะ
00:20:58 → 00:21:01 เพราะว่าหลายคนตกมาตายในเรื่องแป้งเยอะ
00:21:01 → 00:21:05 มากๆก็อยากให้คนไทยสุขภาพดีกันทุกคนไม่
00:21:05 → 00:21:09 ใช่ว่ากลัวแต่น้ำตาลแล้วแป้งเนี่ย
00:21:09 → 00:21:12 กินกระหน่ำแล้วก็คิดว่ามันไม่เป็นไรไม่
00:21:12 → 00:21:14 ใช่เนาะวันนี้คุณก็กระจ่างในเรื่องนี้
00:21:14 → 00:21:16 แล้วถ้าไม่มีคำถามอะไรหมอเฟิร์นขออนุญาต
00:21:16 → 00:21:20 อวยพรแล้วกันขอให้คุณมีหุ่นดีสุขภาพดีสวย
00:21:20 → 00:21:23 หล่อกันมากขึ้นทุกวันสุขภาพดีมากขึ้นทุก
00:21:23 → 00:21:25 วันแล้วก็หน้าเด็กลงเด็กลงทุกวันขอบคุณ
00:21:25 → 00:21:27 ทุกคนที่เข้ามาฟังไลฟ์สดๆหรือว่าฟังย้อน
00:21:28 → 00:21:29 หลังแล้วก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาคอมเมนต์
00:21:29 → 00:21:32 คุยกันตลอดคุยย้อนหลังก็ได้หมอเฟิร์นก็
00:21:32 → 00:21:34 อ่านประจำเนาะหรือว่ามีคำถามอยากปรึกษา
00:21:34 → 00:21:37 เป็นพิเศษก็ทักไปที่ Line ก็ได้อ่ะลืม
00:21:38 → 00:21:39 ขึ้นชื่อ Line หรือ Line แ@แ@ @
00:21:39 → 00:21:42 หมอเฟิร์นเนาะ M O R S E R N คุณก็
00:21:42 → 00:21:45 ทักมาก็ได้หมอเฟิร์นก็ตอบอยู่แต่บางคนก็
00:21:45 → 00:21:48 อาจจะ 2-3 วันเพราะว่าแล้วแต่คิวเนาะแต่
00:21:48 → 00:21:51 ตอบทุกคนแน่นอนถ้าอยากปรึกษาพิเศษก็ทักมา
00:21:51 → 00:21:54 ได้หรือว่าสนใจหนังสือเสียงก็แอด Line ไป
00:21:54 → 00:21:57 บอกน้องแอดมินก็ได้หรือว่าแอดเป็นเพื่อน
00:21:57 → 00:22:01 กันเฉยๆก็ได้เผื่อมีอะไรดีๆในนั้นที่หมอ
00:22:01 → 00:22:03 เฟิร์นแชร์ประจำเนาะก็จะได้ข่าวสารข้อมูล
00:22:03 → 00:22:08 ใหม่ๆวันนี้ก็ไปจริงๆละสวัสดีทุกคนค่ะรัก
00:22:08 → 00:22:11 ทุกคนเหมือนเดิม