00:00:00 → 00:00:05 ปัญหาที่ผมเจอคือคนไข้น้ำหนักเกินเยอะจาก
00:00:05 → 00:00:08 ไลฟ์สไตล์ที่โจบอกเลยครับแล้วก็มาด้วย
00:00:08 → 00:00:11 เรื่องไอเรื้อหลังก็ส่วนใหญ่ก็หอบผืดอือๆ
00:00:11 → 00:00:15 ภูมิแพ้เนี่ย 2 โรคเลยฮะ Obesity แล้วก็
00:00:15 → 00:00:17 สุดท้ายก็เป็นพวกถ้าเป็นมากๆก็เป็น
00:00:17 → 00:00:19 Obesity Associate Hyperoventilation
00:00:19 → 00:00:24 พวก CO2 คั่งง่วงกลางวันมีปัญหานอนกรน
00:00:24 → 00:00:28 หยุดหายใจ OSA สุดท้ายก็ต้องผ่าตัดครับอื
00:00:28 → 00:00:32 ผ่าตัดนะผ่าตัดตัดปอดเอ้ยตัดๆตัดลำไส้
00:00:32 → 00:00:36 หรือว่าผูกลำไส้เด็กไทยหรือคนไทยเราที่
00:00:36 → 00:00:39 น้ำหนักเกินหรือเข้าสู่ภาวะอ้วนใช่มั้ย
00:00:39 → 00:00:44 ครับถ้าคิดว่าสาเหตุหลักๆมีมาจากอะไรผม
00:00:44 → 00:00:46 น่าจะบอกว่าพฤติกรรมแน่นอนครับเวลาผมแบบ
00:00:47 → 00:00:49 คุยกับทุกคนเนี่ยหรือคุยกับคนโดยภาพรวม
00:00:49 → 00:00:52 เนี่ยผมก็จะถามสมมุติเอายุ 30 ใช่มั้ยผม
00:00:52 → 00:00:54 ก็จะถามเว่าเมื่อตอนอายุ 20 อ่ะคุณหนัก
00:00:54 → 00:00:57 กี่กิโลถูกมั้ครับแล้วคุณรู้มั้ว่าร่าง
00:00:57 → 00:01:00 กายอ่ะมันเจริญเติบโตสูงสุดที่อายุกี่ปี
00:01:00 → 00:01:03 แล้วหลังจากอายุกี่ปีมันถึงเริ่มถดถอยถูก
00:01:03 → 00:01:05 มั้ครับแปลว่าจริงๆช่วงที่น้ำหนักเราจะ
00:01:05 → 00:01:06 ขึ้นสูงสุดมันควรจะเป็นช่วงที่เรา
00:01:06 → 00:01:09 โสเปิร์สสูงสุดแล้วถูกมั้ครับท็อปสูงสุด
00:01:09 → 00:01:11 อายุประมาณ 20 กระดูกคุณใหญ่สุดแล้วร่าง
00:01:11 → 00:01:14 กายคุณโตถึงจุดสูงสุดตรงนั้นแปลว่าหลัง
00:01:14 → 00:01:17 จากจุดนั้นไปไม่ควรจะเพิ่มถ้าคุณไม่ได้มี
00:01:17 → 00:01:20 โรคฮอร์โมนคุณไม่ได้ผิดปกติมันควรจะอยู่
00:01:20 → 00:01:23 ประมาณตรงนั้นใช่มั้ยครับแล้วปัจจุบัน
00:01:23 → 00:01:26 ทำไมมันถึงเพิ่มขึ้นมาอีก 20-30 กได้ดังๆ
00:01:26 → 00:01:28 ที่คุณก็เป็นผู้ชายคุณไม่ได้มีปัญหาหา
00:01:28 → 00:01:29 เรื่องฮอแบบผู้หญิงที่แบบคุณหนังคลอดอะไร
00:01:30 → 00:01:32 ถูกมั้ฮะแสดงว่ามันต้องมีอะไรที่มันผิด
00:01:32 → 00:01:34 ปกติอยู่ในร่างกายคุณแล้วคุณทำอะไรบ้างใน
00:01:34 → 00:01:37 ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอืจากอายุ 20 มาจนถึง
00:01:37 → 00:01:40 30 บางคนไปดูหน้าตัวเองจำหน้าไม่ได้เลย
00:01:40 → 00:01:44 ครับว่าเฮ้ยมันมีอะไรที่มันเปลี่ยนแปลง
00:01:44 → 00:01:47 ถูกมั้ครับในขณะที่บางคนตอนอายุ 20 อ้วน
00:01:47 → 00:01:51 มากๆแต่พอ 30 กับตัวเล็กหน้าเด็กลงอย่าง
00:01:51 → 00:01:55 เห็นได้ชัดบางคนยิ่งโตยิ่งเด็กบางคนยิ่ง
00:01:55 → 00:01:57 โตยิ่งหน้าเด็กใช่มั้ฮะแสดงว่ามันต้องมี
00:01:57 → 00:02:00 ที่มันเป็นตัวควบคุมอยู่ซึ่งใหญ่สุดๆก็
00:02:00 → 00:02:02 คือเรื่องของพฤติกรรมถ้าเกิดลองไปสอบถาม
00:02:02 → 00:02:04 ดูก็จะเห็นว่าพฤติกรรมคือสิ่งที่เปลี่ยน
00:02:04 → 00:02:07 แปลงตอนเด็กเรากินอะไรตอนโตเรากินอะไรไป
00:02:07 → 00:02:10 ซักประวัติมาปุ๊บทุกคนเปลี่ยนกันหมดเลย
00:02:10 → 00:02:13 ครับตอนเด็กคือเรากินอาหารที่กลับบ้านพ่อ
00:02:13 → 00:02:16 แม่ทำให้กินอถูกมั้ครับส่วนใหญ่อาหารที่
00:02:16 → 00:02:19 บ้านมักจะเป็นอาหารที่ดีที่สุดอือเป็น
00:02:19 → 00:02:22 อะไรครับเป็นพวกอาหารที่มันไม่แปรรูปอือ
00:02:22 → 00:02:25 ข้าวอะไรที่มันจริงจังไม่มีฟาสฟู้ดอาหาร
00:02:25 → 00:02:28 เที่ยงก็กินในมหาลัยหรือว่ากินในโรงเรียน
00:02:28 → 00:02:31 อาหารเช้าก็กินจากที่บ้านไปอาจจะมี
00:02:31 → 00:02:32 process food มีอาหารที่แปรรูประหว่าง
00:02:33 → 00:02:35 ทางบ้างแต่มันน้อยแต่ทันทีที่คนนึงจบมา
00:02:35 → 00:02:37 ใช้ชีวิตทำงานในเมืองแล้ววิธีของแต่ละคน
00:02:37 → 00:02:40 มันเปลี่ยนไปเราไปอยู่ชีวิตเราเพิ่งบน
00:02:40 → 00:02:43 อาหารแปรรูปเยอะมากๆตอนเช้าเรากินอะไร
00:02:43 → 00:02:46 ครับข้าวเหนียวหมูปิ้งแซนวิชชาเย็นใส่น้ำ
00:02:46 → 00:02:49 ตาล 4 ช้อนชาตอนเย็นก็ซัดกาแฟใส่น้ำตาล
00:02:49 → 00:02:52 อีก 4 อีก 1 แก้วถูกมั้ยครับก่อนกลับบ้าน
00:02:52 → 00:02:54 เชานมไข่มุกไม่มีเวลาออกกำลังกายแล้ว
00:02:54 → 00:02:57 เพราะว่ารถติดอืวิถีชีวิตคนมันเปลี่ยนไป
00:02:57 → 00:02:59 ผมว่าประเด็นใหญ่สุดใหญ่มากๆเลยคือเรื่อง
00:02:59 → 00:03:01 ของพฤติกรรมแล้วคนกลุ่มนี้ยังไม่ได้
00:03:01 → 00:03:03 ตระหนักอะไรเยอะครับเพราะว่าเขายังไม่
00:03:03 → 00:03:05 เป็นโรคอคนกลุ่มนี้จะเริ่มมาหาแพทย์อีกที
00:03:05 → 00:03:08 นึงคือตอนที่ไปเจอกันที่โรงพยาบาลเลยคือ
00:03:08 → 00:03:11 ตอนอายุ 40-50 ก็คือเป็น NCD แล้วเป็นเบา
00:03:11 → 00:03:13 หวานแล้วแต่ปัจจุบันด้วยความที่คนเรา
00:03:13 → 00:03:16 เริ่ม Awet มากยิ่งขึ้นแล้วสิ่งมันเข้า
00:03:16 → 00:03:18 ถึงได้ง่ายขึ้นครับคนเราเริ่มมีเรื่องของ
00:03:18 → 00:03:20 โซเชียล Media เข้ามาถูกมั้ครับทำให้
00:03:20 → 00:03:22 เรื่องของเชฟมันกลายเป็นประเด็นที่มันถูก
00:03:22 → 00:03:24 เอาขึ้นมาเลเป็นประเด็นของโซเชียลมากยิ่ง
00:03:24 → 00:03:28 ขึ้นเพราะว่าอ่ะเรารู้ว่าคนที่แบบหุ่นดี
00:03:28 → 00:03:31 อ่าจะได้รับสิทธิ์ประโยชน์ในสังคมมากขึ้น
00:03:31 → 00:03:33 เช่นคุณอาจจะถูกสัมภาษณ์งานง่ายขึ้นโอกาส
00:03:33 → 00:03:35 ในการทำงานคุณอาจจะมากขึ้นเช่นคุณจะเป็น
00:03:35 → 00:03:38 แอร์คุณจะเป็นแบบเควินครูคุณอาจจะเป็น
00:03:38 → 00:03:40 อะไรก็ตามมันมากขึ้นมันทำให้คนถูกเอา
00:03:40 → 00:03:42 ประเด็นพวกเครับถูกเลสประเด็นขึ้นมาตรง
00:03:42 → 00:03:45 กลางมากยิ่งขึ้นมันก็เป็นข้อดีอีกข้อนึง
00:03:45 → 00:03:47 ทำให้คนเร็วเริ่มมาสนใจสุขภาพของเรามาก
00:03:47 → 00:03:49 ยิ่งขึ้นแล้วถูกซ้ำด้วยโควิดอ่ะครับเพราะ
00:03:49 → 00:03:51 เรารู้ว่าคนที่เป็น obesity มีความเสี่ยง
00:03:51 → 00:03:53 ในการเป็นโควิดที่มันสูงขึ้นที่มันอาการ
00:03:53 → 00:03:56 มันจะแย่ลงอืเพราะผมรู้สึกว่าตอนที่ผม
00:03:57 → 00:04:00 เป็นแพทย์เองเนี่ยทำไมเรื่องความอ้วนน่ะ
00:04:00 → 00:04:03 มันไม่ค่อยเห็นจะมีใครเน้นเลยเน้นน้อยมาก
00:04:03 → 00:04:06 ๆตอนที่ผมจบแพทย์ผมยังไม่รู้ว่าเราจะ
00:04:06 → 00:04:08 รักษาคนอ้วนยังไงทั้งๆที่เรารู้สึกว่านี่
00:04:08 → 00:04:11 คือปัญหาของคนทั้งประเทศตอนที่ผมไปทำงาน
00:04:11 → 00:04:14 ใช้ทุนแล้วก็เห็นคนที่เป็นเบาหวานมากมาย
00:04:14 → 00:04:16 ซึ่งทุกคนก็อ้วนหมดทำไมเรายิ่งนักศึกษา
00:04:16 → 00:04:18 ทำไมพวกเขามันไม่เคยผอมเลยทั้งที่เขาได้
00:04:18 → 00:04:22 ยาที่ถูกเขียนตามไกด์ไลน์ทุกอย่างอืใช่
00:04:22 → 00:04:25 มั้ครับแต่ตอนนั้นด้วยความที่
00:04:25 → 00:04:27 อ่านจะยังไม่ได้ตกผลึกเพียงพอเราก็ทำตาม
00:04:27 → 00:04:30 สิ่งที่เค้าสอนกันมาจนกระทั่งที่แบบเรา
00:04:30 → 00:04:32 เริ่มมาทำเรื่องของผมเริ่มมาทำเรื่องของ
00:04:32 → 00:04:34 อาหารนะครับเริ่มมาศึกษาจริงๆเราถึงรู้
00:04:34 → 00:04:36 ว่าเฮ้ยจริงๆมันมีอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น
00:04:36 → 00:04:40 ก็คือพฤติกรรมกับสิ่งที่เขาทำนั่นเองครับ
00:04:40 → 00:04:42 คือผมมองว่าลดน้ำหนักมันเป็นสิ่งที่มัน
00:04:42 → 00:04:46 จับต้องได้เลยครับแล้วมันเห็นผลดีทันที
00:04:46 → 00:04:49 เมื่อคุณน้ำหนักลดคุณสภาพคุณจะดีขึ้นความ
00:04:49 → 00:04:50 เสี่ยงในการเป็นโรคในอนาคตมันจะลดลงทันที
00:04:50 → 00:04:53 มันเป็นสิ่งที่มันจับต้องได้มากๆความอ้วน
00:04:53 → 00:04:55 มันเป็นอะไรที่
00:04:55 → 00:04:58 ดูเหมือนใกล้ตัวแล้วคนไม่ได้ตระหนักว่า
00:04:58 → 00:05:00 มันอันตรายเพราะมันไม่ใช่ตัวพาเราตายเป็น
00:05:00 → 00:05:02 ตัวหลักถูกมั้ยครับแต่มันเป็นเหมือนกับ
00:05:02 → 00:05:06 เ้าเรียกว่าคนส่งมีดอ่ะครับอืถูกมั้ยฮะ
00:05:06 → 00:05:09 ถ้าเราพูดถึงแบบโลกบางโลกมันเป็นมันเป็น
00:05:09 → 00:05:12 เพชรฆาตถูกมั้ครับผมว่าอ่าไอ้ Obesity
00:05:12 → 00:05:14 เนี่ยก็คือเหมือนกับเป็นคนที่พาเราไปแท่น
00:05:14 → 00:05:16 ประหารนะครับอเราจะรอถูกฆ่าเมื่อไหร่ไม่
00:05:16 → 00:05:19 รู้ครับด้วยโลกที่มันตามมาจากอันนั้นส่วน
00:05:19 → 00:05:22 ตัวผมรู้สึกคนไทยจริงๆแล้วพื้นฐานเป็นคน
00:05:22 → 00:05:27 ตัวเล็กหุ่นสลิมนะใช่ครับแต่ตั้งแต่มีมี
00:05:27 → 00:05:32 เทรนด์ของร้านสะดวกซื้อพวกไส้กรอกพวกขนม
00:05:32 → 00:05:36 หวานอะไรอย่างเงี้ยเข้ามาในชีวิตเนี่ย
00:05:36 → 00:05:40 ตั้งแต่เด็กเลยนะเริ่มติดเป็นพวกน้ำหวาน
00:05:40 → 00:05:43 ปั่นหรือว่าเป็นไส้กรอกอะไรอย่างเงี้ย
00:05:43 → 00:05:45 ตั้งแต่มันเข้ามาหรือขนมถุงที่มากขึ้น
00:05:45 → 00:05:49 เรื่อยๆเงี้ยไลฟ์สไตล์กลายเป็นครับแปลกอื
00:05:49 → 00:05:52 ผมว่ามันเป็นความมันเป็นไลฟ์สไตล์ที่มัน
00:05:52 → 00:05:55 ที่มันเร่งรีบของคนยุคปัจจุบันนะครับ
00:05:55 → 00:05:58 เพราะว่าแต่ก่อนเรากลับบ้านถูกมั้ครับเรา
00:05:58 → 00:06:01 สามารถกลับบ้านได้เพราะว่ารถมันไม่ติดเรา
00:06:01 → 00:06:03 สามารถกลับบ้านทุกวันได้นอนอยู่ที่บ้าน
00:06:03 → 00:06:05 ของพ่อแม่ซึ่งเขาก็มักจะทำอาหารให้เรากิน
00:06:05 → 00:06:08 แต่ปัจจุบันทุกคนต้องหลีกเร่งการจราจรมัน
00:06:08 → 00:06:10 อยู่คอนโดใช่มั้ครับหรืออยู่ใกล้ที่ทำงาน
00:06:10 → 00:06:12 ซึ่งแน่นอนครับเราอยู่คอนโดมันทำอาหารยาก
00:06:12 → 00:06:15 มากๆอยู่แล้วแค่เก็บฝาดก็เหนื่อยแล้วถูก
00:06:15 → 00:06:16 มั้ครับทำงานก็เหนื่อยทุกคนก็ต้องใช้การ
00:06:17 → 00:06:19 สะดวกซื้อหมดมันเป็นอะไรที่มันตอบโจทย์
00:06:19 → 00:06:21 กับชีวิตยุคปัจจุบันปัญหามันเกิดจากการ
00:06:21 → 00:06:24 กินถูกมั้ยครับ
00:06:24 → 00:06:26 เราต้องไปดูครับว่ามื้อไหนเป็นมื้อที่มี
00:06:26 → 00:06:29 ปัญหาที่สุดของเราแต่ละคนจะมีมื้อที่มี
00:06:29 → 00:06:31 ปัญหาไม่เหมือนกันมื้อที่มีปัญหาของผมคือ
00:06:31 → 00:06:34 มื้อที่มักจะกินได้แย่ที่สุดคือกินของที่
00:06:34 → 00:06:37 ไม่ควรจะกินมากที่สุดอชีวิตแต่ละคนจะมี
00:06:37 → 00:06:39 มื้อปัญหาไม่เหมือนกันบางคนเป็นมื้อเช้า
00:06:39 → 00:06:43 บางคนจะเป็นมื้อเย็นมื้อเที่ยงมักจะไม่
00:06:43 → 00:06:45 ค่อยมีคำว่ามื้อปัญหานี่คืออะไรฮะมื้อ
00:06:45 → 00:06:49 ปัญหาคือมื้อที่เรากินพลาดอ่าเค้าอาจจะ
00:06:49 → 00:06:51 ไม่รู้ว่าพลาดครับแต่ความหมายของผมคือ
00:06:51 → 00:06:54 เป็นอาหารที่ทำลายร่างกายมันคมพลังงานสูง
00:06:54 → 00:06:57 ครับแต่คุณประโยชน์ต่ำอืใช่มั้ยครับอือ
00:06:57 → 00:07:00 เราต้องการอาหารที่พลังงานพอดีแต่
00:07:00 → 00:07:02 คุณประโยชน์สูงอืไอ้แต่พวกนี้คือเรียกว่า
00:07:02 → 00:07:05 อาหารที่มันพิถีพิถันแต่ละคนจะมีปัญหา
00:07:05 → 00:07:08 มื้ออาหารที่กินหลุดไม่เหมือนกันบางคน
00:07:08 → 00:07:11 เป็นมื้อเช้าบางคนเป็นมื้อเย็นมื้อเที่ยง
00:07:11 → 00:07:13 ผมมองว่าปัญหาไม่ค่อยเยอะเพราะปัญหามื้อ
00:07:13 → 00:07:16 เที่ยงส่วนใหญ่คนมักจะกินข้าวแกงใช่มั้ย
00:07:16 → 00:07:21 ครับกินอะไรที่มันง่ายๆเร็วๆตามคอร์ดมัก
00:07:21 → 00:07:22 ไม่ซึ่งใครผมว่าคนไทยมืเที่ยงมนุษย์
00:07:22 → 00:07:24 ออฟฟิศเนี่ยส่วนก็คือเข้าตามร้านอาหารตาม
00:07:24 → 00:07:26 สั่งกินซึ่งอาหารตามสั่งเแกงเป็นอะไรที่
00:07:26 → 00:07:29 คลีนมากสำหรับผมนะผมมองว่าคลีนในแง่ของ
00:07:29 → 00:07:32 มันคืออย่างน้อยคือมันไม่ได้แปรรูปอืถูก
00:07:32 → 00:07:34 มั้ครับอย่างน้อยคือมันเป็นข้าวเรามองรู้
00:07:35 → 00:07:37 ว่าเนี่ยมันหมูเรามองรู้นี่มันคือไก่ไอ้
00:07:37 → 00:07:39 นี่มันคือไข่ถูกมั้ฮะมันไม่ได้เอาไข่ไป
00:07:39 → 00:07:41 แปลรูปเป็นอะไรก็นี่คือไข่พันโล้มันคือ
00:07:41 → 00:07:43 ไข่มื้อเที่ยงผมว่าคนไทยเราไม่ค่อยมี
00:07:43 → 00:07:45 ปัญหาครับปัญหาของเราคือมื้อเช้าอ่านเร่ง
00:07:45 → 00:07:48 แสนเร่งรีบอืกับมื้อเย็นไปฉลองกับเพื่อน
00:07:48 → 00:07:50 แปลว่าคุณต้องทำอะไรกับชีวิตคุณแน่ๆไม่
00:07:50 → 00:07:54 มื้อเช้าก็มื้อเย็นออโอเคซึ่งเป็นสิ่งที่
00:07:54 → 00:07:56 ผมพลามสื่อแปลว่าคุณต้องทำอะไรกับมันแต่
00:07:56 → 00:08:00 จะทำด้วยวิธีไหนอยู่ที่การเลือกของเขา
00:08:00 → 00:08:03 ซึ่งผมก็มีวิธีในการแนะนำของผมอ่าเข้าใจ
00:08:03 → 00:08:08 แล้วฮะโอเคเห็นภาพเห็นภาพงั้นถ้าจะสรุปก็
00:08:08 → 00:08:11 คือถ้าคิดว่าปัญหาน้ำหนักเกินในบ้านเราก็
00:08:11 → 00:08:14 คือไลฟ์สไตล์แต่หนึ่งในวิธีที่หมอโจ้แนะ
00:08:14 → 00:08:18 นำก็คือหาให้เจอว่ามือปัญหาของเราคืออะไร
00:08:18 → 00:08:20 ใช่ผมจะนั่งคุยกับคนทุกคนที่เข้ามาปรึกษา
00:08:20 → 00:08:24 ศึกษาครับคือต้องนั่งทำนั่งไล่กันเลยว่า
00:08:24 → 00:08:27 กินมื้อแรกกี่โมงอืกินมื้อสุดท้ายกี่โมง
00:08:27 → 00:08:30 ครับแล้วก็มองดูว่าเ้ามี Eating period
00:08:30 → 00:08:32 อ่ะครับหมายถึงระยะเวลาในการกินทั้งหมด
00:08:32 → 00:08:34 เนี่ยวันละกี่ชั่วโมงแล้วมีระยะเวลาที่
00:08:34 → 00:08:37 ปอดอาหารเลยเนี่ยกี่ชั่วโมงมันก็ต้องมี
00:08:37 → 00:08:40 สัดส่วนที่เหมาะสมถูกมั้ครับร่างกายไม่
00:08:40 → 00:08:43 ได้ถูกดีไซน์มาให้เพื่อกินตลอด 24 ช่มง
00:08:43 → 00:08:46 ร่างกายต้องมีการพักที่เรียกว่ามีระยะฟีด
00:08:46 → 00:08:50 กับระยะฟาคือระยะอดฟีคือระยะกินมันต้อง
00:08:50 → 00:08:52 บาanceซกันผมจะนั่งดูสิ่งที่ผมสนใจเป็น
00:08:52 → 00:08:56 อย่างแรกคือของคนว่าเขากินมื้อแรกกี่โมง
00:08:56 → 00:08:59 แล้วมื้อสุดท้ายกี่โมงพอผมได้เวลาแล้วผม
00:08:59 → 00:09:02 ก็จะไปถามเขาว่ามื้อแรกคุณกินอะไรมื้อสุด
00:09:02 → 00:09:04 ท้ายคุณกินอะไรมื้อเที่ยงผมจะค่อนข้างไม่
00:09:04 → 00:09:06 ได้ความสสำคัญเยอะที่สุดผมสนใจมื้อแรกกับ
00:09:07 → 00:09:11 มื้อสุดท้ายกินอะไรก็นั่งซักถามไปเรื่อยๆ
00:09:11 → 00:09:14 ครับจนได้ภาพรวมมาแล้วว่าโอเคนะวิธีชีวิต
00:09:14 → 00:09:17 คนๆเนี้ยกินมื้อได้เวลาประมาณนี้มื้อเช้า
00:09:17 → 00:09:20 มักจะเป็นอาหารประเภทนี้ตามด้วยไอ้ตัวนี้
00:09:20 → 00:09:23 อ่ะเราก็เริ่มมองเห็นภาพแล้วจะค่อยๆแกะ
00:09:23 → 00:09:26 ปัญหาในเรื่องอาหารของเขาได้แล้วก็จะไป
00:09:26 → 00:09:28 แก้อาหารมื้อที่เป็นปัญหาที่สุดของเขา
00:09:28 → 00:09:30 ก่อนเป็นมื้อแรกมื้อเย็นบางคนอาจจะแก้ยาก
00:09:30 → 00:09:32 เพราะมันเป็นมื้อโซเชียลมื้อที่ต้องกลับ
00:09:32 → 00:09:35 ไปสั่งสรรค์กับครอบครัวกลับบ้านกับพ่อแม่
00:09:35 → 00:09:37 แต่มื้อเช้าสิ่งที่ผมพบคือมื้อเช้าเป็น
00:09:37 → 00:09:42 มึกที่อยู่กับตัวเองขับรถเข้าข้างทางคว้า
00:09:42 → 00:09:44 อะไรแปบเค้าเรียกไง GAP แอน Go ในร้าน
00:09:44 → 00:09:47 สะดวกซื้อบางแห่งตามด้วยเครื่องดื่มบาง
00:09:47 → 00:09:50 อย่างเออถ้าคุณไม่กินมันจะเป็นปัญหากับ
00:09:50 → 00:09:52 ชีวิตคุณมั้ยอืใช่มั้ยครับแล้วมันช่วยได้
00:09:52 → 00:09:55 เยอะมันช่วยได้เยอะครับอืเราเริ่มค่อยๆ
00:09:55 → 00:09:58 แกะพอย์ให้เค้าแล้วก็เริ่มอธิบายให้เค้า
00:09:58 → 00:10:02 ฟังว่าปัญหาของการกินจริงๆมันคืออะไรคน
00:10:02 → 00:10:04 เราจริงๆต้องกิน 3 มื้อจริงๆหรือเปล่าใคร
00:10:04 → 00:10:06 เป็นคนบอกเราว่าต้องกินมื้อเช้าตอน 7:00
00:10:06 → 00:10:09 น.มื้อเย็นตอน 18:00 น.หรือ 20:00 น.ถ้า
00:10:09 → 00:10:11 เรากินมื้อเช้าตอนเที่ยนมันจะเป็นอะไรมย
00:10:11 → 00:10:15 อืทุกคนก็จะมีเ้าเรียกว่าความรับรู้ไม่
00:10:15 → 00:10:18 เหมือนกันส่วนใหญ่ก็จะรู้ว่ามื้อเช้าถ้า
00:10:18 → 00:10:21 ไม่กินจะสมองอันนี้ผมเจอเยอะมากอเดี๋ยวจะ
00:10:21 → 00:10:24 เป็นอัลไซเมอร์เดี๋ยวจะแบบสมองจะไม่จะไม่
00:10:24 → 00:10:26 เจริญเติบโตอันนี้เป็นสิ่งที่ผมเจอเยอะ
00:10:26 → 00:10:28 มากๆ
00:10:28 → 00:10:30 มื้อเช้าไม่กินไม่ได้เพราะว่าแม่บังคับ
00:10:30 → 00:10:33 อะไรแบบนี้อายุ 30 อ่ะนะครับอือะไรแบบ
00:10:33 → 00:10:36 นั้นเราแบบพอเราเริ่มคซี่เราก็จะเจอแบบ
00:10:36 → 00:10:39 ทุกคนก็จะมีปัญหามื้อเช้าคล้ายใช้กันอื
00:10:39 → 00:10:41 ครับแล้วถามว่าคุณกินอะไรในความเห็นผม
00:10:41 → 00:10:44 มื้อเช้าคือมื้อที่มีปัญหาสุดในคนทั่วไป
00:10:44 → 00:10:48 ที่ผมเจอนะแต่คนอื่นอาจจะไม่ใช่อืแสดงว่า
00:10:48 → 00:10:51 หมอโจ้จะเน้นเรื่องอาหารก่อนแล้วออกกำลัง
00:10:51 → 00:10:54 กายลดน้ำหนักตามมาผมให้น้ำหนักของอาหาร
00:10:54 → 00:10:58 คือ 80% 70% นะครับออ๋อเหรอฮะใช่ใช่ครับ
00:10:58 → 00:11:00 โดยส่วนตัวผมให้น้ำหนักกับการนิวทัคือ
00:11:00 → 00:11:05 ไดเอ็ดสูงมากใช่ออกกำลังใครก็คือในช่วง
00:11:05 → 00:11:07 ของการคุยในช่วงอาทิตย์แรกๆเนี่ยเราคุย
00:11:07 → 00:11:09 แต่เรื่องอาหารอย่างอืยังไม่อ่าเรื่องของ
00:11:09 → 00:11:12 Exercise แทบไม่คุยเลยครับอ Exercise จะ
00:11:12 → 00:11:15 มาคุยตอนหลังตอนที่เราสามารถ empow เขา
00:11:15 → 00:11:17 ได้แล้วตอนที่น้ำหนักเขาเริ่มลดอสุขภาพ
00:11:17 → 00:11:20 เขาเริ่มดีขึ้นเหนียงเขาเริ่มหายพวงเขา
00:11:20 → 00:11:22 เริ่มลดเเห็นอะไรที่มันเป็น positive
00:11:22 → 00:11:24 change กับตัวเองครับตอนเเราจะ convince
00:11:24 → 00:11:27 เขาไปออกจากกำลังกายให้มันง่ายมากเพราะ
00:11:27 → 00:11:30 เรากำกเเมีอะไรที่เเห็นแล้วว่าทำแล้วมัน
00:11:30 → 00:11:33 จะดีขึ้นอืถูกมั้ยครับเหมือนกับตอนที่เมา
00:11:33 → 00:11:35 นเนี่ยไปขายซิแพคเค้าเไม่ซื้อหรอกครับ
00:11:35 → 00:11:37 เค้ารู้สึกมันไกลเกินตัวเ้าไปแต่ถ้าบอก
00:11:38 → 00:11:40 ว่าเราลดเชฟเขาให้คุณกลับไปใส่กางเกงตัว
00:11:41 → 00:11:43 เดิมได้เมื่อสักปีที่แล้วเงี้ยมันคุยได้
00:11:43 → 00:11:46 ง่ายขึ้นแล้วมันทำได้จริงถ้าเกิดเราเจอ
00:11:46 → 00:11:48 ปัญหาจริงๆว่าคนๆนี้ไม่ได้ป่วยจากโรคบาง
00:11:48 → 00:11:51 อย่างเช่นอ่าไฮโปรไทรอยด์ถูกมั้ยครับหรือ
00:11:51 → 00:11:53 อะไรบางอย่างที่เรารู้ว่าเฮ้ยมันไม่ได้
00:11:53 → 00:11:55 แก้ด้วยนิวutัมันต้องแก้ด้วยเรื่องของ
00:11:55 → 00:11:58 ฮอร์โมนอซึ่งพวกนี้เราสามารถรู้ได้จากการ
00:11:58 → 00:12:00 ซักประวัติแล้วก็จากผลเลือดแล้วก็ประวัติ
00:12:00 → 00:12:04 เดิมถูกมั้ยครับอืใช่เคสที่หมอโจ้เคยทำ
00:12:04 → 00:12:07 หนักที่สุดกิโลแล้วก็ลดมาได้ถึงกิโลภายใน
00:12:07 → 00:12:10 กี่เดือนอ่อมากสุดใช่มั้ครับส่วนใหญ่ผม
00:12:10 → 00:12:13 โดยส่วนตัวผมไม่เคยรักษาเคสที่เป็น Morbid
00:12:13 → 00:12:16 Obesity เลยอเพราะว่าผมมองว่าเขาต้องควร
00:12:16 → 00:12:18 จะต้องไปโรงพยาบาลอือถูกมั้ยครับผมจะ
00:12:18 → 00:12:22 รักษาเคสที่ BMI ประมาณ 28 เงี้ยอือจริงๆ
00:12:22 → 00:12:24 28 มันก็ไม่ได้ถือว่าเยอะนะครับมันแค่
00:12:24 → 00:12:27 เป็นคนที่อ้วนแล้วคือพุงยื่นแต่ถามว่า
00:12:27 → 00:12:30 เป็นมอบที่ถึงขั้นแบบนอนกรนจนแบบเป็น OSA
00:12:30 → 00:12:33 จนแบบจะสลับตจะหลับตายมั้ยมันก็ไม่ใช่
00:12:33 → 00:12:36 เพราะคุณผมบอกคุณไปหาเซจอรี่ป่ะมันควรจะ
00:12:36 → 00:12:38 ต้องไปเจอMedicalิalเข้าก่อนใช่ก่อนจะมา
00:12:38 → 00:12:40 เจอผมเพราะว่าบางทีอาหารมันจะช้าไปใช่
00:12:40 → 00:12:42 เพราะเราเน้นเคสที่มันอยู่กลางๆที่คิดว่า
00:12:42 → 00:12:45 ทำแล้วทำได้ดีเพราะว่าผมต้องการจะพาเไป
00:12:45 → 00:12:49 ออกออกกำลังกายต่ออืซึ่งทำแล้วก็ดีครับ
00:12:49 → 00:12:51 ใช่แต่ผมใช้วิธีถ้าเกิดผมบอกตอนนี้คือผม
00:12:51 → 00:12:54 ก็จะชูงเขาเข้าสุดของการทำ intermittent
00:12:54 → 00:12:57 fasting อโดยส่วนตัวผมจะพาไปทางนั้นอื
00:12:57 → 00:13:00 งั้นเข้าใจบริบทก่อนนะครับถ้าสมมุติเรา
00:13:00 → 00:13:04 เกณฑ์เราแบบ BMI สูงมากเกิน 30 หรือว่า
00:13:04 → 00:13:07 เราเริ่มมีปัญหาอันเนื่องมาจากเอ่อภาวะ
00:13:07 → 00:13:11 น้ำหนักเกินนะโดยเฉพาะเนี่ยภาวะหยุดหายใจ
00:13:11 → 00:13:15 นะครับนอนกรนหรือมีปัญหาโรคเนี่ยผมว่าเรา
00:13:15 → 00:13:20 ปรึกษาแพทย์ก่อนเอ่อAdvisอหรือ diet
00:13:20 → 00:13:23 coach เนี่ยไปคู่กันได้แต่ว่าต้องรู้
00:13:23 → 00:13:25 ด้วยว่าเราอยู่ในจุดไหนแต่ถ้าเราเป็น
00:13:25 → 00:13:28 มนุษย์ออฟฟิศที่เราแค่เริ่มอ้วนเริ่มมี
00:13:28 → 00:13:30 แบบพุงยื่นอโอเคเรารู้สึกไลฟ์สไตล์เรามัน
00:13:30 → 00:13:34 ไม่ใช่ละอยากได้mนอร์ได้ coach อยากได้คน
00:13:34 → 00:13:36 ที่ช่วยประกบเราอันนั้นน่ะเป็นจังหวะที่
00:13:36 → 00:13:39 ดีผมว่าอืครับก็ต้องรู้ขอบเขตแล้วก็รู้
00:13:39 → 00:13:44 บริบทเนอะใช่ครับโอ้ฟังหมอโจ้นี้ผม
00:13:44 → 00:13:50 ภรรยาผมต้องชอบคลิปนี้แน่ๆฮะ 100% ฮะ Ah